สานฝันนิรันดร : ขอบคุณทุกคน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

๑.   สนใจสั่งจอง
5 (55.6%)
๒.   ขอคิดดูก่อน
4 (44.4%)
๓.   ไม่สนใจ
0 (0%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 5

ปิดการโหวต: 31-05-2012 00:47:21

ผู้เขียน หัวข้อ: สานฝันนิรันดร : ขอบคุณทุกคน  (อ่าน 239703 ครั้ง)

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
เป็นของกันและกันอย่างแท้จริง แต่แลกด้วยชีวิต
 :เฮ้อ: วิธีที่สานฝันคิดป้องกันไว้ จะสำเร็จมั้ยเนี่ย
จะเกิดการสูญเสียอะไรหรือเปล่านะ

บวก 1 ให้นะคะ สนุกและลุ้นดีค่ะ

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
จะมีความสุขทั้งทีลำบากจริงๆ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
เป็นข้อเสนอที่ใจร้ายจริงๆๆ  :monkeysad:

chatkub

  • บุคคลทั่วไป
รอตอนต่อไปนะครับ

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
มันจะคุ้มกันจริงๆม๊ายยยยย....สานฝัน
จะหนีทันจริงๆเหรอ
พวกนั้นมาอยู่กทมแล้วนะ  :serius2:
แล้วภูจะบีบคั้นสานฝันของชั้นไปถึงไหนเนี่ย
เดี๋ยวเลิกเชียร์ซะเลย   :m16:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
โหย ... ไม่มีครายกลัวสเตฟาน หรือ สานฝันเลยเหรอ มีแต่คนเชียร์ เอิ๊กๆๆๆ  :laugh:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
บทที่ ๑๗

“ไม่ ....” เสียงตะโกนร้องด้วยความโมโหของโจชัวร์ ตามด้วยเสียงแตกของแก้วไวน์ ที่ถูกเขวี้ยงกระทบฝาผนัง
ไลล่า และไป่เทียนมองสบตากันด้วยความวิตก ... เกิดอะไรขึ้นกับโจชัวร์
“ข้าไม่ยอม เจ้าต้องเป็นของข้าคนเดียว ข้าไม่ยอม” โจชัวร์ยังคงตะโกนร่ำร้องด้วยความโมโห เดินวนพล่าน กำหมัดแน่น หน้าตาที่สวยงามหล่อเหลาตอนนี้ดูราวอสูรร้าย ดวงตาสีแดงส่องประกายแวววาว ราวกับจะแผดเผาทุกอย่างให้เป็นผุยผง ความแค้นต่อสิ่งที่ได้รับรู้จากจิตของคนที่ตนตามหามานาน ทำให้ขุ่นใจจนแทบคลั่ง
ทั้งสองคนต่างมองดูโจชัวร์ บางครั้งก็หันมาสบตากันบ้าง แต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไร เพราะท่ามกลางความโกรธเกรี้ยว ที่พวกตนไม่เคยเห็นมาก่อนแบบนี้ หากพูดอะไรผิดพลาดไป อาจหมายถึงการสิ้นสุดของชีวิตตนก็ได้
“สเตฟาน ... เจ้า ... เจ้า...” โจชัวร์เค่นเสียงออกจากไรฟัน “เจ้าบังอาจนัก ... เจ้าจะเป็นของใครไม่ได้ นอกจากข้า”

... ปล่อยข้าเถอะ โจชัวร์ ข้ารักมนุษย์คนนี้ ปล่อยข้าเถอะ หากท่านเห็นแก่ข้าจริง ท่านควรปล่อยข้า ... หลังจากผ่านไปนาน ในที่สุดก็มีเสียงแผ่วเบา ส่งเข้ามาภายในจิตของโจชัวร์
“ไม่มีวัน ไม่มีวันที่ข้าจะปล่อยเจ้า เจ้าจงมาหาข้า ที่นี่ และเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงเฉียบขาด เพราะคิดว่าตนมีอำนาจเหนือกว่าอีกฝ่าย และสามารถควบคุมได้เหมือนที่เคยเป็น
... ไม่ ข้าไม่กลับไปหาท่าน และท่านจะไม่มีวันพบตัวข้า ถึงแม้ท่านจะติดตามจิดของข้าได้ และออกเดินทางเดี๋ยวนี้ก็ตาม กว่าท่านจะมาถึงที่ๆข้าอยู่ ก็รุ่งสางแล้ว ท่านจะทำอะไรได้ ยิ่งกว่านั้น ข้าก็คงจากไปไกลแล้ว ...
“เจ้า ... ทำไมถึงไม่ทำตามที่ข้าสั่ง หรือว่า ...” แล้วโจชัวร์ก็ทำท่าเหมือนครุ่นคิด “ทำไมตลอดเวลาที่ผ่านมาข้าถึงตามจิตของเจ้าไม่ได้ ไม่ใช่เพียงข้า ไม่ว่าผู้ใดในเผ่าพันธ์ก็ไม่รู้สึกถึงจิตของเจ้า”
... ข้าเปลี่ยนไปแล้วโจชัวร์ ท่านควบคุมข้าไม่ได้แล้ว ตอนนี้ข้ามีอำนาจเหนือกว่าท่าน ...
“ไม่จริง ถ้าเจ้ามีอำนาจเหนือข้าจริง ทำไมเจ้าต้องหลบข้า แล้วทำไมข้าถึงยังตามจิตของเจ้าได้” ความสุขุมเริ่มกลับคืนมา ดวงตาสีแดงกล่ำเริ่มเปลี่ยนเป็นสีฟ้าทีละน้อย จนกลายเป็นสีฟ้าสดใส ใบหน้าก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสงบลง
... นั่นเพราะท่านยังคงเป็นผู้ให้กำเนิดข้า เป็นผู้ทำให้ข้ากลายเป็นแวมไพร์ นั่นเป็นกฎตายตัวของพวกเรา ที่ไม่มีสิ่งใดสามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่พลังอำนาจไม่ใช่สิ่งตายตัว ท่านควรยอมรับ เพราะการที่ท่านควบคุมข้าไม่ได้ คือข้อพิสูจน์ ...
“ข้าไม่เชื่อ” โจชัวร์แค่นเสียง ความโกรธเริ่มกลับมาอีกครั้ง “ข้าจะตามหาเจ้าให้พบ และเจ้าต้องกลับมาเป็นของข้า”
คราวนี้ไม่มีเสียงใดๆตอบกลับมา อีกฝ่ายปิดกั้นจิตเสียแล้ว
“อ๊ากกกกกกกก....” โจชัวร์ตะโกนก้องด้วยความโมโห มองไปรอบๆตัว เพื่อจะหาที่ระบาย แต่ทั้งไลล่าและไป่เทียนไม่อยู่ในห้องเสียแล้ว จึงต้องเดินออกจากห้อง มุ่งหน้าไปหาเหยื่อที่จะมารองรับทั้งตัญหา และความโกรธเกรี้ยวของเขา

“ไปแล้ว” เสียงไลล่ากระซิบบอกไป่เทียน ทั้งสองคนยืนเบียดกันอยู่ที่มุมหนึ่งของซอกหลืบ
“น่าสงสารเหยื่อคราวนี้ ท่าจะน่วม” ไป่หลงระบายลมหายใจอย่างโล่งอก “นี่ถ้าไม่ชวนกันออกมาไม่รู้จะโดนอะไรมั่ง”
“นั่นสิ อารมณ์เสียแบบนี้ ถ้าไม่ฝังเขี้ยวใส่พวกเรานะ ชั้นจะยกเหยื่อของชั้นให้เธอเลย” ไลล่าพูดติดตลก
“ยังมาทำตลกอีก เกือบตายกันทั้งคู่ล่ะไม่ว่า” ไป่เทียนดุ “ไหนๆเจ้านายก็ไปแล้ว พวกเราไปหาเหยื่อกันมั่งดีกว่า ไม่รู้จะได้รึเปล่า อีกไม่กี่ชั่วโมงก็สว่างแล้ว”
แล้วทั้งสองคนก็ยิ้มให้กัน พากันเดินตรงไปยังลิฟท์ เพื่อออกไปหาเหยื่อตามสถานที่เริงรมย์กันต่อไป
..................................................................................
..........................................
“ไปเถอะครับ พวกทรงศักดิ์มารอแล้ว” สเตฟานพูดพลางยิ้มน้อยๆให้ภูริทัต
“ไปบอกคุณทรงศักด์ไว้ตั้งแต่ตอนไหน ว่าจะให้ผมกลับตอนตี๓” ภูริทัตแปลกใจ
“ตั้งแต่เมื่อตอนหัวค่ำ ผมแวะไปหาทรงศักดิ์ ให้จัดการเรื่องคืนห้องพักให้เรียบร้อย จะได้ไม่ฉุกละหุก” สเตฟานเอื้อมมือไปจับปกเสื้อของภูริทัตให้เรียบร้อย
“ทำยังกับรู้ล่วงหน้า หรือคุณคิดไว้แล้วว่าจะให้ผมกลับตอนตี ๓” ภูริทัตเอื้อมมือไปจับมือนุ่มไว้
“เพราะผมตั้งใจไว้แล้ว กลับตอนนี้ก็จะถึงกรุงเทพฯประมาณเที่ยง คุณจะได้ใช้เวลาอีกครึ่งวันเพื่อพักผ่อน”
“อ้าว แล้วทำไมคุณถึงทำเหมือนมันเป็นข้อแม้ ที่ผมต้องทำตาม เพื่อจะให้คุณรับปากผมเรื่องนั้น”
“ผมล้อคุณเล่น เหมือนที่คุณแกล้งโกรธผมไง” สเตฟานพูดกลั้วหัวเราะ
“อ้าว” ภูริทัตทำหน้าเหรอหรา
“ไปเถอะครับ พวกนั้นรอแย่แล้ว”
“ผมยังไม่อยากกลับเลย” ภูริทัตเว้าวอน ดึงตัวสเตฟานเข้ามากอด
“คุณรับปากแล้วนะ ต้องทำสิครับคนดี แล้วสัปดาห์หน้าถ้าคุณอยากพบผมอีก ก็เดินทางมาหาผม”
“ผมอยากมาหาคุณทุกวันเลย” ภูริทัตยังคงอ้อยอิ่ง รั้งร่างสเตฟานเข้ามากอด “ไม่ได้เจอกัน ผมคิดถึงแย่ จะทำงานได้มั๊ยเนี่ย”
“ถ้าถูกไล่ออก ผมไม่รับเข้าทำงานหรอกนะ” สเตฟานพูดติดตลก แล้วผละร่างออกมาจากอ้อมกอด ยื่นหน้าเข้าไปจุมพิศที่แก้มของชายหนุ่มเบาๆ “ผมรักคุณ ภูริทัต”
อ้อยอิ่งอยู่นาน ภูริทัตจึงได้ยอมออกจากบ้านไม้ไปขึ้นรถ เพื่อเดินทางกลับเข้าสู่กรุงเทพฯ สเตฟานมองดูรถที่แล่นออกไปจนลับสายตา แล้วกลับเข้าไปในบ้านไม้ นั่งลงบนโซฟาตัวยาวอย่างสบาย แล้วเริ่มส่งกระแสจิต คุยกับคนที่ตนต้องการ
..................................................................................
..........................................
สเตฟานทอดถอนหายใจ ผ่านมาหลายร้อยปีโจชัวร์ยังคงเหมือนเดิม ทั้งถือทิฐิ แข็งกร้าว ซ่อนความโหดเหี้ยมไว้ภายในใจ ทำไมเวลาหลายร้อยปีไม่ทำให้โจชัวร์ได้คิดอะไรได้บ้างเลยหรือ การดำเนินชีวิตที่เข่นฆ่ามนุษย์ทำให้บางคนในเผ่าพันธ์ถูกตามล่า รวมถึงตัวเขาเองเมื่อตอนที่กลายมาเป็นแวมไพร์ใหม่ๆ เพื่อนบางคนกลายเป็นเหยื่อของเขาและโจชัวร์ รวมทั้งคนในครอบครัวอีกหลายชีวิต ตอนนั้นเขายังอยู่ในอำนาจของโจชัวร์ ถูกบังคับแม้แต่เรื่องความสัมพันธ์บนเตียงที่แสนจะรังเกียจ มีใครบ้างจะเป็นสุขกับคนที่เข่นฆ่าคนในครอบครัวของตนได้ เมื่อเขาเริ่มควบคุมตัวเองได้บ้าง จึงเริ่มหลบหนี แต่ก็ถูกตามจิตจนพบเสมอ จนกระทั่งเขาหนีเข้าไปในหุบเขาแห่งหนึ่งในตะวันออกกลาง ที่นั่นเองที่เขาได้พบกับ ‘กรีนอายส์’

‘กรีนอายส์’ แวมไพร์ที่มีสภาพร่างกายเหมือนคนชราภาพ บ่งบอกถึงช่วงเวลาของชีวิตที่ผ่านมา อาจจะมากถึงหลายพันปี และที่นั่นเอง เขาได้รับการถ่ายทอดวิธีการปิดกั้นจิตจากแวมไพร์ตนอื่น วิธีการดำเนินชีวิตโดยไม่ต้องอาศัยโลหิตมนุษย์ รวมทั้งวิธีทำลายความอมตะของแวมไพร์ด้วยกัน

สเตฟานถอนใจอีกครั้ง เริ่มรู้สึกถึงความเจ็บปวดในบางส่วนของร่างกาย เพราะการปลดปล่อยอารมณ์ที่แท้จริงของเขาออกมา ยิ่งทำให้ภูริทัตบุกรุกเขาอย่างรุนแรงกว่าที่เคยเป็น แต่ถึงร่ายกายจะเจ็บปวด ดวงใจกลับอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด เมื่อคิดถึงรอยยิ้มกับวงหน้าภายใต้เรือนผมสีน้ำตาลเข้ม
“ภูริทัต เด็กน้อยของผม ... ที่รักของผม ผมจะอยู่กับคุณได้นานเท่าไรกันนะ”
ใบหน้าที่เปี่ยมสุขกลับเศร้าสลดลง เมื่อคิดถึงความแตกต่างกันของเผ่าพันธ์ สเตฟานถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะกระชับปกเสื้อให้แน่นเข้า แล้วเดินออกจากเรือนไม้ไป
เมื่อสเตฟานเดินผ่านต้นไม้ใหญ่ กิ่งก้านที่อยู่ในระดับต่ำสั่นไหวน้อยๆ ราวกับมีลมพัด หากมองเห็นได้ จะมองเห็นสิ่งที่เป็นเหมือนหมอกสีขาวบางเบา พุ่งออกมาจากลำต้นเข้าหาชายหนุ่ม แล้วซึมหายเข้าไปในร่างกาย ที่กำลังเดินช้าๆอย่างมีสมาธิอยู่ตลอดเวลา แล้วสักพัก ร่างของสเตฟานก็ค่อยๆเลือนหาย ราวกับสูญสลายไปกับอากาศ
..................................................................................
..........................................
เพราะความที่ต้องคอยระมัดระวังตัว ไม่ให้พวกมนุษย์รู้ถึงการคงอยู่ของเผ่าพันธ์ มันทำให้ต้องระมัดระวังกับเหยื่อให้มากขึ้น กฎที่เขาตราไว้สำหรับตัวเขาเองและ ‘ลูก’ ก็คือต้องไม่ดูดเลือดเหยื่อจนถึงแก่ชีวิต และต้องสะกดจิดไม่ให้เหยื่อจำพวกเขาได้ สุดท้ายพวกตนจะต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับเหยื่อรายเดิมอีกเป็นครั้งที่สอง ทั้งสามข้อเป็นเหมือนกฎเหล็กที่ทุกคนต้องยึดถือโดยเคร่งครัด และได้รับการปฏิบัติตามเป็นอย่างดี ทั้งจากแวมไพร์ตนอื่นๆด้วยเช่นกัน แต่ด้วยความโกรธเกรี้ยวที่ยังเหลืออยุ่ เขาเกือบจะสังหารเหยื่อรายนี้เข้าเสียแล้ว

 ชายหนุ่มร่างเล็ก ใบหน้าคมคายไม่น้อย เมื่อมองดูอย่างพิจารณา ก็พบว่าเขาเคยเห็นชายหนุ่มคนนี้หลายครั้ง และมักจะถูกชายหนุ่มคนนี้มองเขาอย่างสนใจอยู่ทุกครั้งที่ได้เห็น บางครั้งก็เห็นชายหนุ่มคนนี้ยกสิ่งที่เรียกว่า โทรศัพท์มือถือ ขึ้นมา คงจะเป็นการถ่ายรูป เขารู้มาว่าด้วยเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ มนุษย์สามารถสร้างเครื่องมือสื่อสารขนาดเล็ก ที่ทำงานได้หลากหลาย รวมทั้งการถ่ายรูป หรือการบันทึกภาพเขานั่นเอง นับว่าเป็นโชคที่ทุกครั้งท่ามกลางชุมชน เขาใช้พลังสร้างภาพของตัวเองให้สามารถปรากฏอยู่ในกระจก และสื่อบันทึกภาพได้ แต่ต่อไปเขาควรจะระวังตัวให้มากขึ้น มันคงเป็นที่น่าสงสัยไม่น้อย หากมีคนบันทึกภาพเขาหรือ ‘ลูก’ ของเขาไว้ แต่เมื่อนำไปดูกลับไม่ปรากฏภาพออกมาให้เห็น

โจชัวร์แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว หันไปมองร่างเล็กๆที่อยู่บนเตียงอีกครั้งหนึ่ง ลีลาการร่วมรักของชายหนุ่มคนนี้ ทำให้เขาพอใจได้ไม่น้อยทีเดียว ยิ่งเขาโหมกระหน่ำเพราะความโกรธเกรี้ยว ก็เหมือนชายหนุ่มคนนี้จะยิ่งพอใจ น่าเสียดายที่เขาไม่ต้องการใครอีก ไลล่า และไป่เทียน เพียงแค่ ๒ คน ก็ทำให้เขาปวดหัวได้มากพอแล้ว อีกประการหนึ่ง คนที่เขาปรารถนาจริงๆมีเพียงคนเดียวเท่านั้น
“สเตฟาน เจ้าหนีข้าไม่พ้นหรอก”

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
 :z13: น้องตั้ม


ตัวร้ายโผล่แล้ววุ้ย  :z2: :z2:

ออฟไลน์ ||WiTHOuT_YoU||

  • ที่รักของใครสักคน
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-6
    • MoSHI
ชีวิตที่สงบสุข ได้หมดลงแล้ว

คราวนี้ต้องมานั่งแก้ปัญหา กะหาทางหนีหละเนี่ย

 :z3: :z3:

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
ก็โหดซะขนาดนี้ใครจะอยากอยู่ด้วย o21

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
โหย ... ไม่มีครายกลัวสเตฟาน หรือ สานฝันเลยเหรอ มีแต่คนเชียร์ เอิ๊กๆๆๆ  :laugh:


คุณบุหรงทักมายังงี้...แสดงว่าสเตฟานก็มีด้านมืดๆ ใช่มั้ยค่ะเนี่ย...เหอๆ ตอนนี้ไม่เห็น แถมเหมือนถูกทรมานมานานแล้วสงส๊าร สงสารค่ะ

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
ในเมื่อรู้วิธีฆ่าแล้ว ทำไมไม่ทำอ่ะ  :m28:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
งั้นตอนนี้สเตฟานไม่ดื่มเลือดแล้วดิ สูบพลังงานชีวิตจากธรรมชาติแทนหรอ  :confuse:

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
เริ่มเข้มข้นขึ้น ก็เล่นประกาศตัวขนาดนั้น

มาคอยดูความโหด ของโจชัว หรือว่าโจชัวจะใช้คนตัวเล็กเป็นคนจัดการ

เรื่องภูริทัต กับ สานฝัน  มารอลุ้นกันต่อดีกว่า

เป็นกำลังใจให้นะครับ ตั้ม ขยันจริง พักนี้  :กอด1:

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
สานฝันรักกะภูริทัตมาก ๆ ยั่วให้โจชัวร์อกแตกตายไปเลย  o18


namtaan

  • บุคคลทั่วไป
อ่านยังไงๆก้อสงสารสานฝันอยู่ดี
สานฝันรู้วิธีฆ่า... แล้วจะฆ่าได้มั้ยเนี่ย  :เฮ้อ:
เอาใจช่วยสานฝันกะภูริทัต

บวก 1 ให้คนแต่งด้วยจ้า  :L2:

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
เหยื่อรายล่าสุดของโจชัวร์คือปูใช่มั๊ยเนี่ย
เป็นไงหล่ะ นายปู  :m16:
แอบถ่ายรูปเค้าดีนัก โดนล่อซะเลย
ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว  :เฮ้อ:

salapaw

  • บุคคลทั่วไป
ตกลงสานฝันเป็นนางเอกช่ายป่ะคะ

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
ตกลงสานฝันเป็นนางเอกช่ายป่ะคะ
:o
ม่ายชายนะครับ เรื่องนี้ไม่มีนางเอก มีได้งายอะ ผิดคอนเส็ป Thaiboy's Love หมดสิ
มีแต่นายเอกฮับ  :laugh:

salapaw

  • บุคคลทั่วไป
พิมพ์ผิดๆๆๆ

แล้วพี่บุหรงเนี่ย มาต่อวันไหนบ้างคะ

ช่วงนี้สอบแต่เปิดทุ้กวัน เลยถามก่อน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
บทที่ ๑๘

“ปูไม่สบายหว่ะ นอนอยู่โรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อวาน” รังสรรค์บอกเพื่อนๆ เมื่อมาพบกันที่ร้านอาหารในตอนกลางวัน
“อ้าว เป็นอะไรไปล่ะ” ปรีชาถามด้วยความเป็นห่วง
“นั่นดิ๊วะ ไปทำอะไรมา จู่ๆไม่สบายขนาดต้องเข้าโรงพยาบาล” ภูริทัตถามบ้าง รังสรรค์หันมามองหน้า ทำตาขวางใส่
“ไม่รู้เว๊ย เมื่อเช้าแม่น้องเค้าโทรมาลางาน เห็นว่าจะออกจากโรงพยาบาลวันนี้เย็นๆ แล้วพรุ่งนี้อาจจะลางานอีกวัน”
“เหรอ” ภูริทัตรับรู้ แล้วก็ตักข้าวเข้าปากต่อ
“ไม่ห่วงน้องมั่งเหรอวะ” รังสรรค์ถาม
“ไม่ได้เป็นอะไรมากไม่ใช่เหรอไง เย็นนี้ก็ออกจากโรงพยาบาลแล้วนี่” ภูริทัตยังคงตอบเหมือนไม่สนใจ
“แหม ...” ปรีชาลากเสียงยาว “เป็นไม่มากก็ห่วงได้เว๊ย ไอ้ใจหิน”
“ใจหินก็ยังดีวะ อย่าใจหมาเป็นใช้ได้ ฮ่าๆๆ” ภูริทัตไม่ยินดียินร้ายกับคำแซวของเพื่อน เพราะกำลังมีความสุขกับเมื่อวันหยุดที่ผ่านมา
“เย็นนี้ข้าจะไปรับน้องมันออกจากโรงพยาบาล ไปด้วยกันมั๊ย” รังสรรค์ชวน
“เอาดิ๊” ปรีชารีบรับคำชวน
“แต่ข้าขอตัวหว่ะ อย่าเพิ่งด่า” ภูริทัตรีบพูดเมื่อเห็นรังสรรค์ขยับปาก “รถเอ็งน่ะนั่งได้กี่คนเชียววะ แล้วไปรับปูมัน คนที่บ้านมันอยู่ด้วยรึเปล่า ถ้าอยู่ก็ต้องนั่งรถเอ็งกลับ อย่างน้อยพ่อกับแม่เค้าก็ ๓ คน รวมพวกเอ็งอีก ๒ ยังพอไหว แต่ถ้าข้าไปด้วย จะกลับกันยังไงวะ”
รังสรรค์และปรีชาจำนนด้วยเหตุผลของภูริทัต จึงเปลี่ยนเรื่องคุย ภูริทัตพยายามหาเรื่องโน้นเรื่องนี้มาชวนคุย เพราะกลัวเพื่อนๆจะถามถึงวันหยุดที่ผ่านมา ซึ่งเขาเองไม่อยากจะเล่ามากนัก ไม่ใช่ว่าจะปิดบังเพื่อน แต่เรื่องบางเรื่อง เขาเองก็ไม่รู้จะหาเหตุผลมาอธิบายอย่างไร โดยเฉพาะรังสรรค์ซึ่งเป็นคนขี้สงสัย

เย็นวันนั้นจึงมีแต่รังสรรค์และปรีชาที่ไปรับกรกฏที่โรงพยาบาล
“พี่ทัตไม่มาเหรอครับ” กรกฏถาม ใบหน้าสลดลง
“มันจะมาอยู่เหมือนกันแหละ แต่คิดว่าปูคงเป็นไม่มาก แล้วกลัวรถจะไม่พอนั่ง ก็เลยไม่มา” รังสรรค์แก้ตัวแทนเพื่อน
“แล้วนี่มีปูคนเดียวเหรอ” ปรีชาถาม
“แม่กลับไปแล้วพี่ เพราะรู้ว่าเดี๋ยวพี่ๆจะมา”
“งั้นไปหาอะไรกินกันก่อนดีมะ แล้วค่อยกลับบ้าน” ปรีชาเสนอ
เมื่อทุกคนเห็นพ้องต้องกัน ก็พากันไปยังร้านข้าวต้มชื่อดัง ด้วยรถของรังสรรค์

“แล้วตกลงเป็นอะไรน่ะ ถึงต้องนอนโรงพยาบาลตั้ง ๒ วัน” รังสรรค์ถามขึ้นตอนหนึ่งบนโต๊ะอาหาร
“โลหิตจางน่ะพี่ จู่ๆก็เป็น” กรกฎตอบพลางหลบสายตา
“เหรอ แล้วนี่มันรอยอะไรที่คอน่ะ” ปรีชาถามพลางจ้องมองรอยแดงเล็กๆสองจุด บนลำคอของเพื่อนรุ่นน้อง รอยแดงนั้นดูเด่นอยู่กลางผิวขาวสะอาด
“เอ๋ รอยอะไรเหรอพี่ชา” กรกฏทำหน้างงๆ
“นี่ไง” ปรีชาเอาแตะเบาๆตรงรอยแดง แล้วลูบไล้อย่างมีชั้นเชิง ทำเอากรกฏเสียววูบ ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสี แดง
“อ้าว ไอ้ชา หลอกแกล้งน้องมันล่ะสิ” รังสรรค์พูดกลั้วหัวเราะ
“ไม่ได้แกล้งเว้ย ไม่เชื่อเนายดูเอง ไหนปู หันไปให้สรรค์มันดูหน่อยดิ๊”
กรกฎเอียงตัว หันลำคอไปให้รังสรรค์ดู
“เออ จริงด้วย จะว่าเป็นรอยตัวอะไรกัดก็ไม่ใช่ รอยอะไรแน่ แล้วเมื่อคืนวันเสาร์ปูไปไหนมารึเปล่า”
“เอ้อ ...” กรกฏอึกอัก
“นั่นแน่ แอบไปเที่ยวไหนมาล่ะสิ ไม่เห็นชวนพี่เลย” ปรีชาพยายามพูดให้เป็นเรื่องขำ
“ปูแค่เหงาๆ เลยไปเที่ยวผัปที่ไปบ่อยๆเท่านั้นเอง พอเช้าขึ้นมามันก็วูบๆ เลยให้รถไปส่งที่โรงพยาบาล แล้วรอยนี่ถ้าพี่ชาไม่ทัก ปูก็ไม่รู้หรอก”
“เดี๋ยว” รังสรรค์ขัดจังหวะก่อนที่ปรีชาจะพูดอะไร “แล้วปูไปไหนแต่เช้าเหรอ”
“ปู ... เอ้อ ... ปู”
“เอ็งจะคาดคั้นอะไรน้องมัน จะวางตัวเป็นแฟนเร๊อะไง” ปรีชารีบช่วย เมื่อเห็นปูอึกอัก
“ไม่ได้คาดคั้น” รังสรรค์ทำหน้าเหนื่อยหน่าย “ก็มันสงสัย  ถ้าไม่ได้ไปทำอะไรมา จู่ๆมันจะไม่สบายได้ไง แล้วดูท่าทางปูสิ เหมือนปิดๆบังๆ มีอะไรแน่ๆ เล่ามาซะดีๆ พี่ไม่ชอบคนโกหก”
“ก็ปูรู้สึกผิดนี่นา พี่สรรค์เตือนแล้วเตือนอีก ปูยังพลาดจนได้” กรกฏทำท่าเหมือนจะร้องไห้
“ไปทำอะไรอีกล่ะ” รังสรรค์ทำหน้าเอือมระอา
“ปูก็จำไม่ค่อยได้ คืนนั้นเหมือนปูจะเข้าไปคุยกับฝรั่งคนนึง แล้วก็ชวนกันออกมานอกผัป จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย ปูจำไม่ได้จริงๆนะพี่ พอเช้าตื่นขึ้นมา ก็นอนอยู่ที่ห้องในโรงแรม ออกมานั่งรถแล้วมันวูบๆพิกล เลยให้รถแทกซี่ไปส่งที่โรงพยาบาล”
“เรานี่นะ” รังสรรค์ส่ายหน้าเบาๆ
“แปลว่าปูถูกฝรั่งหลอกเข้าโรงแรมเหรอ แล้วนี่มันทำอะไรมั่ง ข้าวของอยู่ครบรึเปล่า” ปรีชาหน้าตาตื่น
“ไม่รู้เหมือนกันนะพี่ มันเบลอๆจำอะไรไม่ค่อยได้เลย ไม่รู้ตัวเลยนะว่าเข้าโรงแรมไปกับเค้าได้ยังไง แต่ข้าวของอยู่ครบนะพี่ไม่มีอะไรหาย ค่าห้องฝรั่งคนนั้นก็จ่ายไว้เรียบร้อย”
“สรุปก็ไปนอนกับเค้ามานั่นแหละ เรานี่นะ พี่เตือนแล้วไงอย่าทำแบบนั้น เจ้าทัตมันไม่ชอบ” รังสรรค์เตือน
“ทำไมพี่ไม่พูดตรงๆเลยล่ะ ว่าพี่ทัตเค้าไม่ได้ชอบปู เค้ามีแต่สเตฟานอะไรนั่นแหละ จริงสิ พูดแล้วก็นึกขึ้นได้” ปูหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วเปิดรูปให้คนทั้งสองดูทีละรูปจนหมด
“ไปถ่ายมาตอนไหน” รังสรรค์ถาม คิ้วขมวดมุ่น
“ก็ช่วงคืนวันศุกร์ วันเสาร์ สัปดาห์ที่แล้ว พวกพี่ว่าไง” กรกฏหันไปมองคนทั้งสองสลับไปมา
“เหมือนมาก แต่ดูคนนี้จะมาดเท่ห์กว่านะ” ปรีชาพูดอย่างสนใจ
“ใช่ เหมือนมากเลย จนเกือบจะคิดว่าเป็นคนคนเดียวกัน แต่ผิดกันนิดหน่อย”
“พวกพี่ดูออกด้วยเหรอ”
“ดูไม่ออกก็แย่แล้วปู ดูสิ คนนี้น่ะผมออกสีบรอนซ์ ไม่ก็เงิน แต่สเตฟานน่ะเค้าผมสีทอง แค่นี้ก็แยกได้แล้ว” ปรีชาชี้ไปที่คนในรูป
“ปูก็คิดว่าเป็นเพราะไฟในผัป” กรกฏแก้ตัว
“ที่สำคัญนะ ตอนนี้สเตฟานเค้าอยู่ต่างจังหวัด เจ้าทัตน่ะไปหาทุกเย็นวันศุกร์ กลับเย็นวันอาทิตย์มาจะเดือนนึงแล้ว ไม่มีทางหรอกจะมาโผล่อยู่ที่กรุงเทพฯน่ะ”
“เหรอ ผมก็เพิ่งรู้” กรกฏพูดเสียงอ่อยๆ
“ก็เรามันทำตัวล่องหนไปไหนล่ะ คราวหน้าคราวหลังก็ทำให้เหมือนเดิม ถึงทัตมันไม่ค่อยสนใจ แต่พอหายไปมันก็ถามถึง มีเพื่อนมีพี่เพิ่มขึ้นมันไม่เสียหายหรอก” รังสรรค์พยายามพูดปลอบ ให้กรกฏคิดในแง่ดี
“ครับ” กรกฏรับคำ แต่ในใจยังนึกถียง ...ไม่อยากจะได้มาเป็นพี่ซะหน่อย อย่างพี่ทัตน่ะต้องได้มาเป็นคู่รักถึงจะดี

กว่าคนทั้งสามจะออกมาจากร้าน ฟ้าก็มืดลงแล้ว บนฟุตบาทมีร้านค้าตั้งอยู่เต็มไปหมด ทั้งสามคนชี้ชวนให้ดูร้านค้าต่างๆ ขณะที่รถติดไฟแดง แล้วสายตาของรังสรรค์ก็สะดุดเข้ากับร่างหนึ่ง ชายหนุ่มผมสีทอง ใบหน้าสีขาวอมชมพู ริมฝีปากแดงระเรื่อ สวมเสื้อโค๊ตสีเขียวขี้ม้า กำลังเดินข้ามถนนช้าๆไปทางสวนสาธารณะ
“สเตฟาน” รังสรรค์พึมพัมเบาๆ มองตามร่างนั้นไป แต่เหมือนว่าร่างนั้นจู่ๆก็จางหายไปในอากาศ เขาขยี้ตาแล้วจ้องมองดูอีกครั้ง ไม่มีแม้แต่เงาร่างของคนที่คิดว่ามองเห็น
“ไฟเขียวแล้ว ไอ้สรรค์” ปรีชาบอกเสียงดัง
รังสรรค์จึงมุ่งสมาธิกลับมาที่การขับรถเหมือนเดิม
.............................................................................
...................................
“สวัสดียามดึก หวังว่าคงไม่ทำให้คุณตกใจนะ” เสียงทักทายดังขึ้นเบาๆ ตรงประตูห้อง ทำให้ทรงศักดิ์ต้องเงยหน้าจากเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะ
“คุณท่าน” ทรงศักดิ์ค่อนข้างแปลกใจกับการปรากฏตัวของสเตฟาน ภายในห้องทำงานของเขา ยามดึกเช่นนี้ “มาได้ยังไงครับนี่”
“ผมไปได้ทุกที่ที่เคยไป และต้องการจะไปอีกครั้ง คุณก็รู้ ขอผมนั่งหน่อยนะ” ไม่รอคำตอบ สเตฟานก็เดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ยาว ที่จัดไว้รับแขกในมุมหนึ่งของห้อง
“มีอะไรรึเปล่าครับ” ทรงศักดิ์ถาม เมื่อนั่งลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆ
“เตรีมพาสปอร์ตไว้ จัดการให้ภูริทัตด้วย” สเตฟานเหลียวมองไปรอบๆห้อง ที่มีชั้นหนังสือและตู้เอกสาร เรียงรายอยู่เต็มผนังห้อง “ห้องนี้ไม่เปลี่ยนเลยนะ ไม่จัดซะหน่อยเหรอ”
“ไม่ต้องจัดหรอกครับท่าน แค่ห้องทำงาน เรื่องพาสปอร์ตผมมีอยู่แล้ว คุณภูริทัตก็น่าจะมี”
“ผมไม่แน่ใจเหมือนกัน พอดีผมเพิ่งจะตัดสินใจ เอาเป็นว่าทางภูริทัตคุณช่วยจัดการให้ผมด้วยแล้วกัน”
“จะให้เดินทางไปไหนเหรอครับ”
“คงใกล้ๆนี่แหละ ฮ่องกง มาเลเซีย หรือไม่ก็สิงคโปร์ แล้วผมจะบอกคุณอีกที ส่วนผมจะกลับบ้านซะหน่อย”
“บ้านที่อังกฤษหรือครับ”
“ใช่ ... คืนนี้ผมจะใช้ห้องที่โรงแรมนะ ผมจะไปซักประมาณตี๒ หรือตี ๓”
“ครับ ผมให้คนจัดไว้ให้พร้อมที่จะใช้ได้อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว จะให้จัดอะไรเพิ่มมั๊ยครับ”
“ถ้าเหมือนเดิมก็ไม่ต้องหรอก ขอบใจมากนะทรงศักดิ์ ผมไปล่ะ”
พูดจบร่างของสเตฟานก็ค่อยๆเลือนหายไป ทรงศักดิ์ไม่แปลกใจนัก เพราะเขาเห็นการ ‘เดินทาง’ แบบนี้ของสเตฟานมานานหลายสิบปีแล้ว คิดแล้วมันก็คงเหมือนในนวนิยาวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่า ‘เทเลพอท’ ของผู้มีพลังจิตนั่นเอง แต่เขารู้ดีว่าคุณท่านของเขา ไม่เพียงเป็นผู้มีพลังจิตเท่านั้น แต่เป็นแวมไพร์ที่มีพลังจิตกล้าแข็ง และยังแปลกกกว่าแวมไพร์ที่อยู่ในความคิดของขา

แวมไพร์ที่ดุร้าย ล่าหญิงสาวหรือชายหนุ่มรูปงามเพื่อสูบโลหิตเป็นอาหาร หากชมชอบใครจะจะทำให้คนผู้นั้นกลายเป็นแวมไพร์ ด้วยการถ่ายเลือดตนเองเข้าไปในร่างกายคนผู้นั้น

แต่นายท่านของเขาแสนจะสุภาพ อ่อนโยน รักใคร่ผู้เป็นลูกน้อง ไม่ได้ดื่มกินโลหิตของมนุษย์เป็นอาหาร เหมือนแวมไพร์ตนอื่น แต่พลังชีวิตของมนุษย์ ก็จำเป็นต่อการต่อชีวิตเหมือนกัน ดังนั้นบางครั้ง นายท่านจึงจำเป็นต้อง ‘สูบ’ พลังชีวิตของมนุษย์บ้าง แต่นั่นแทบจะไม่มีผลใดๆเลยต่อมนุษย์ผู้นั้น นอกจากจะรู้สึกอ่อนเพลียไปบ้าง ในช่วงเวลาวันหนึ่งหรือสองวันเท่านั้น

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
สานฝันกำลังจะหนีไปตั้งหลักหรือปล่าวนะ
แล้วกลัวภัยมาถึงภูริทัตหรือยังไงถึงต้องให้ออกนอกประเทศ
แต่ว่าท่าทางปูจะเป็นคนที่พาความเดือดร้อนมาสู่สานฝันและภูริทัตซะหละมั้ง

บวก 1 ให้คนแต่งจ้า สนุก และลุ้นได้ตลอดเลย  :L2:

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
ฮั่นแน่ จะไปไหนกันน่ะ  :impress2:

christmas

  • บุคคลทั่วไป
สนุกจังค้าบ  ลุ้นๆ

แต่ว่าสานฝันจะพาภูริทัตไปด้วยทำไมอ่ะ  อยากรู้จัง
แต่ถ้าคิดเล่นๆก็อาจจะพากันไปฮันนิมูนก็ได้มั้งเน๊อะ   อิอิ

อ๊ะ ไม่อยากคิดเองเล่นๆ เอาเป็นว่ารออ่านต่อดีกว่าค้้าบบบบบ..........แฮะแฮะ

ออฟไลน์ ||WiTHOuT_YoU||

  • ที่รักของใครสักคน
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-6
    • MoSHI
เอ๊ะ หรือว่าสเตฟานพาทัตไปฮันนีมูนหว่า

ไปกันสองต่อสองไกลๆ

 :m20: :m20: :m20:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ว่าแล้ว สานฝันสูบพลังชีวิต เรื่องเริ่มเข้มข้นแล้ว อยากอ่านต่อแล้ว  :impress2:

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
รู้สึกว่าโจชัวร์จะเข้าใกล้สานฝันเข้ามาทุกทีๆ

ลุ้นๆๆ มาต่อไวๆ นะคะ  :L2:

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
แอร๊ยยยยย...สเตฟานจะพาภูไปฮันนิมูนแล้ววว  :o8: ฮิ้ววววว




ปล. น้องตั้มเขียนดีอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลเรื่องเรทติ้งหรอกจ๊ะ
      แต่ถ้าน้องอยากเพิ่มเรทติ้งด้วยเรื่องที่คุณก็รู้ว่าอะไร 
      พี่ก็ยินดีอ่าน(มากกกกกกกก-มากที่ซู๊ดดดดด)  :-[

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
จะหนีไปนอกเลยเหรอ :laugh:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
สานฝันกำลังจะทำอย่างไรอะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด