สานฝันนิรันดร : ขอบคุณทุกคน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

๑.   สนใจสั่งจอง
5 (55.6%)
๒.   ขอคิดดูก่อน
4 (44.4%)
๓.   ไม่สนใจ
0 (0%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 5

ปิดการโหวต: 31-05-2012 00:47:21

ผู้เขียน หัวข้อ: สานฝันนิรันดร : ขอบคุณทุกคน  (อ่าน 212240 ครั้ง)

๐ขนมปัง๐

  • บุคคลทั่วไป
 :3123: :3123: :3123:

รอลุ้นความสัมพันธ์ของสเตฟาน กับภูริทัต ต่อไปครับ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
 :serius2: ผีดูดเลือดเริ่มอาละวาดในเมืองหลวงแล้ว ทุกคนจงระวัง  :z1:

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
น่ากลัวเริ่มหาเลือดกันแล้ว  ที่จริงชอบแบบเรียกเลือดนะ แต่เลือดแบบนี้ไม่เอา :z3:

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
ชักเป็นห่วงสานฝันกับภูริทัตซะแล้วสิ  o22

ออฟไลน์ cassper_W

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2052
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-1
อ่าว  เป็นแดรกคิวล่า    :a5:


ต่างจากที่จินตนาการไว้    กร๊ากกกกกก 

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ: น่าเป็นห่วงสานฝันที่สุด
โจชัวร์ตามมาถูกทางแล้วด้วย
บวก 1 ให้คนแต่งเช่นเคยจ้า  :L2:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
อันตรายใกล้สานฝันเข้ามาแล้ว

น่าเป็นห่วงจริงๆ

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
อะไรจะเกิดขึ้น คงพอเดาได้ แต่ถ้าเดาแล้วมันจะไม่สนุก

เอาเป็นว่ารอดีกว่า ขอบคุณนะครับ ตั้ม เป็นกำลังใจให้สู้ ๆ

+1 ให้ด้วยครับ

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
เง้อ เป็นผีดูดเลือดจริงๆ ด้วย  o22

แล้วสานฝันจะรอดพ้นไปได้อีกนานมั้ยละเนี่ย  :sad4:


ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ดาราฝ่ายไม่อยากจะเชิญออกมาก็เลือดสาดกระจายเลย  แต่กระจายแบบนี้ มัน  :m29:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
 :L2: เป็นกำลังใจให้น้องตั้มที่น่ารักสุดๆ
เพิ่งตามอ่านทันจ้า  แต่มาทันเอาตอนเลือดสาดกระจายนี่สิ
ขอเป็นเลือดสาดเหมือนกัน แต่เป็นสาดแบบเนี๊ยะ   :haun4: ได้ป่าว
แต่ว่าท่าจะอีกนานนะฉากที่รีเควสเนี่ย

แถมภูริทัตมีแววต้องกินแห้วละมั๊งเนี่ย

เพราะถ้าสเตฟานอินเลิฟด้วยเมื่อไหร่ ก็ต้องโดนตามเจอใช่ป่าว (เดาสุดฤทธิ์ อิๆๆ)

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
บทที่ ๑๕

“โห ... เอ็งนี่” รังสรรค์ส่ายหน้าเบาๆสีหน้าเบื่อหน่าย “ควายเรียกพ่อได้เลยนะเอ็ง”
“อ้าว ไมมาว่ากูแบบนี้วะ”
“คลุกวงในขนาดนั้นแล้วเสีอกหลับ ตกลงมึงเอาไงแน่วะ” รังสรรค์ยื่นหน้าเข้าไปไกล้
“แปลว่าไร ที่ว่าเอายังไง” ภูริทัตขมวดคิ้ว ยกมือเกาท้ายทอย
“ก็ตกลงมึงจะเอาเค้าเป็นเมียหรือเป็นแม่วะ” พูดจบก็ต้องหลบหมัดที่พุ่งเข้ามา
“ให้มาเป็นแม่มึงดิ๊ ถามแบบนี้หาเรื่องกันนี่หว่า”
“ก็ดูเอ็งทำ เค้าให้กอดขนาดนั้นแล้ว ทำไมไม่จัดการเลยล่ะวะ”
“ก็ตอนนั้นกูเคลิ้มๆหว่ะ รู้สึกอบอุ่นยังไงบอกไม่ถูก แล้วสายตาที่เค้ามองกู กูว่ามันไม่เหมือนคนทีชอบกูแบบนั้นหว่ะ กูเลยไม่ค่อยกล้า”
“เฮ๊ย...ฟังนะเว๊ยไอ้ทัต” รังสรรค์ตบไหล่เพื่อนเบาๆ “เท่าที่เอ็งเล่ามา สเตฟานเค้าอาจจะยังรู้สึกเหมือนเค้าเป็นพี่ชายคนโต แล้วเอ็งเป็นน้องชายคนเล็ก แต่ข้าว่ายังไงเค้าต้องมีใจมั่งหล่ะ”
“จริงเหรอวะ” สีหน้าของภูริทัตดีขึ้นทันที
“ข้าว่าข้าดูไม่ผิดนะ เหมือนเค้าจะสนใจเอ็งเป็นพิเศษ ... เอางี้” รังสรรค์โอบไหล่เพื่อนเข้ามาใกล้ๆ “เอ็งลองรุกทีละนิดสิวะ ถ้าเค้าไม่ชอบใจ เอ็งก็หยุด แล้วก็ขอโทษเค้าซะ แต่ถ้าเค้าไม่ขัดขืน” ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม “เอ็งก็จัดการซะ”
“แล้วกูจะรุกยังไงวะ”
“เดี๋ยวให้ไอ้ชาสอนให้แล้วกัน”
“ไม่เอาเว๊ย” ภูริทัตสะบัดตัว ลุกขึ้นยืน “เดี๋ยวข้าหาความรู้เองได้ ขืนให้พวกเอ็งสอนนะ .... บรื๊ออออ” ภูริทัตทำท่าขยะแขยง

ความจริงเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยากเลย ในเมื่อสื่อเร้าใจต่างๆหาได้ง่ายดาย ทั้งจากแหล่งขายหลายที่ หรือแม้แต่ในโลกอินเตอร์เนต แล้วใช่ว่าเขาจะไม่เคยดูสื่อเหล่านั้น ไม่ว่าแบบไหนเขาก็ดูมาแล้วเกือบทุกแบบ จะเว้นก็แต่พวกวิปริตผิดรูปแบบระหว่างคนกับสัตว์ หรือประเภททรมานแส้เฆี่ยนเทียนหยด ที่เขาได้ดูครั้งแรกก็รู้สึกรังเกียจ ฉะนั้นทางทฤษฎีเขาจึงมีความรู้อยู่เพียบพร้อม ขาดเพียงการปฏิบัติจริงเท่านั้น ซึ่งมันก็เกือบจะเกิดขึ้นตั้งแต่เขาอายุได้เพียง ๑๒ ปี หากแต่ชาวต่างชาติคนนั้นเห็นว่าเขายังเป็นเด็ก เขาจึงได้ผ่านคืนนั้นมาได้โดยไม่เกิดอะไรขึ้น แต่มันก็ทิ้งรอยบางอย่างไว้ในใจของเขาตลอดมา เมื่อคิดถึงความอ่อนโยนอบอุ่นของชาวต่างชาติคนนั้น และเมื่อมองไปยังคนที่กำลังล้างถ้วยชามอยู่ ก็ให้รู้สึกวาบหวามในใจไม่ได้ ชายหนุ่มเดินเข้าไปทางด้านหลัง แล้วรวบวงแขนกอดเอวอีกฝ่ายไว้หลวมๆ วางคางลงไปบนไหล่ จมูกสูดได้กลิ่นหอมอ่อนๆของออดิโคโลญชั้นดี
“สานฝัน” ภูริทัตเรียกเบาๆ
“ครับ” สเตฟานตอบ มือวางจานใบสุดท้ายลงไปบนตะแกรง “กอดผมแบบนี้ผมทำงานไม่สะดวกนะครับ”
ภูริทัตจึงคลายวงแขน แล้วถอยหลังออกมา ๒ ก้าว ยกมือขึ้นเกาท้ายทอยด้วยความขัดเขิน สเตฟานหยิบผ้าผืนเล็กขึ้นมาเช็ดมือ เมื่อเรียบร้อยแล้วก็แขวนผ้าไว้กับตะขอ แล้วหันมายิ้มให้ภูริทัต
ชายหนุ่มเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้อีกครั้ง ยกมือทั้งสองขึ้นแตะเอวอีกฝ่าย สเตฟานก้มลงมองมือของชายหนุ่ม แล้วกลับมามองหน้าชายหนุ่มด้วยความสงสัย ภูริทัตขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ แล้วจุมพิศที่แก้มขาวอมชมพูอย่างแผ่วเบา ไม่มีอาการขัดขืนใดๆ นอกจากรู้สึกว่าใบหน้าของอีกฝ่ายร้อนผ่าว ภูริทัตจึงเลื่อนมือที่จับเอวของอีกฝ่ายไว้ เปลี่ยนเป็นรวบตัวเข้ามากอด ริมฝีปากเลื่อนจากพวกแก้มอุ่น ไปประกบกับริมฝีปากสีชมพูอย่างแนบแน่น
จูบที่ขัดเขินค่อยๆเปลี่ยนเป็นรุนแรงขึ้น เนิ่นนานภูริทัตถึงได้รู้สึกว่าไร้การตอบสนองจากฝ่ายตรงข้าม จึงถอนริมฝีปากออกขยับใบหน้าห่างออกมามองดูใบหน้าของสเตฟาน แล้วก็พบว่าใบหน้าของอีกฝ่ายแดงกล่ำ ดวงตาปิดพริ้ม ริมฝีปากสีชมพูเปลี่ยนกลายสีแดงเพราะแรงจูบ แล้วเขายังรู้สึกได้ว่าร่างของอีกฝ่ายสั่นน้อยๆ
“สานฝัน” ภูริทัตเรียกชื่อเบาๆ อีกฝ่ายเหมือนจะตั้งสติได้ ลืมตาช้าๆ มองกลับมาด้วยแววตาสับสน “คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”
“ผม ... ผม” สเตฟานอึกอัก “ผมสับสน ผม...”
“คุณไม่ชอบผมบ้างเลยเหรอ” ภูริทัตตัดพ้อ มือที่โอบร่างสเตฟานไว้ เปลี่ยนมาจับมือทั้งสองข้างของอีกฝ่ายแล้วบีบเบาๆ
“ผมชอบคุณมาก ภูริทัต แต่ ...” สเตฟานเว้นระยะเหมือนจะคิดว่าควรจะพูดอย่างไร “ผมสับสน ผมพยายามคิดว่าคุณเป็นเหมือนน้องชายของผม ... ผมเคยมีน้องชายที่น่ารักมาก เรือนผมสีน้ำตาลเข้ม ดวงตากลมโต พอผมเห็นคุณผมคิดถึงเค้า”
“แล้วน้องคุณตอนนี้เป็นยังไงบ้าง” ภูริทัตเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่เริ่มไหลออกมาจากดวงตาของสเตฟาน
“เค้าไม่อยู่แล้ว เค้าตายไปเมื่ออายุได้ ๑๒”
ภูริทัตขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “แต่ผมน่ะ ๒๗ แล้วนะ คุณจะมาเห็นว่าผมเหมือนเค้าได้ยังไงกัน ถ้าคุณเห็นผมตอนผมอายุ ๑๒ แล้วคิดถึงเค้าละว่าไปอย่าง” พูดแล้วก็หัวเราะเบาๆ
“ผม...” สเตฟานก้มหน้าลง แล้วเงยหน้าขึ้นมา “ผมคิดว่าถ้าเค้ายังอยู่ เค้าคงโตเท่าๆกับคุณ สูงใหญ่ แล้วก็ดูงดงามเหมือนคุณตอนนี้”
“งดงาม” ภูริทัตทวนคำ แล้วก็หัวเราะออกมา ยกมือขึ้นเกาท้ายทอย “ผมเขินเลยนะเนี่ย มาบอกว่าผมงดงาม”
ท่าทางขัดเขินแบบชายหนุ่มของภูริทัต ทำให้สเตฟานยิ้มออกมา
“แต่ผมไม่อยากเป็นน้องนี่” ภูริทัตพูดขึ้นมาอย่างนึกขึ้นได้ แล้วยื่นหน้าเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา “ผมอยากเป็นคนรักของคุณ ได้มั๊ย สานฝัน”
เมื่อไม่ได้รับคำตอบ ชายหนุ่มจึงยกมือขึ้นเชยคางสเตฟาน แล้วประทับจูบลงไปบนริมฝีปากนุ่มอีกครั้ง ครั้งนี้ชายหนุ่มประกบริมฝีปากไว้เนิ่นนาน แล้วค่อยๆรวบร่างของอีกฝ่ายเข้ามากอดไว้แนบแน่น มือข้างหนึ่งก็ลูบไล้ไปตามไหล่และแผ่นหลัง ริมฝีปากที่ประกบไว้ก็เริ่มเคลื่อนไหวบดเบียดกับริมฝีปากอีกคู่ไปมา แล้วเริ่มดูดดุนไปทั่วทั้งริมฝีปาก เมื่อริมฝีปากของคนทั้งสองผละจากกัน ไม่มีคำพูดใดๆ มีแต่แววตาที่บ่งบอกถึงความปรารถนาในหัวใจ ภูริทัตจูงมือสเตฟานเข้าไปในห้องนอน แล้วทุกอย่างก็ดำเนินไปตามแรงปรารถนาแห่งหัวใจของคนทั้งสอง
..................................................................................
......................................
ถึงเขาจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ แต่ก็ยังดูออกว่าช่วงเวลา ๒ คืนที่ผ่านมา อีกฝ่ายหนึ่งเหมือนจะควบคุมความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ ไม่ได้ปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มที่เหมือนตัวเขา ตัดเรื่องที่ไม่มีใจให้เขาออกไป เพราะไม่ว่าเขาจะ ‘เสนอ’ ออกไปในรูปแบบไหน อีกฝ่ายก็ ‘สนอง’ ตอบต่อเขาโดยไม่มีการขัดขืน ทั้งสองคืนไม่รู้ว่าเขา ‘สุขสม’ ไปกี่ครั้ง แต่เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีความสุขทางร่างกายเหมือนเขาเลย ทำให้อดเกิดความเป็นห่วงขึ้นมาไม่ได้ หรือนอกจากการแพ้แสงแดดแล้ว สเตฟานยังมีโรคประจำตัวอะไรที่ไม่ยอมบอกต่อเขาอีก
“คิดอะไรอยู่ครับพี่” เสียงเรียกทำให้ภูริทัตหลุดออกมาจากห้วงความคิด
“ก็เรื่อยเปื่อยน่ะ ปูเป็นไงบ้าง ไม่เจอกันเลยนะ” ภูริทัตพูดแล้วก็หันไปทักทายปรีชา และรังสรรค์  ที่ทยอยนั่งลงบนโต๊ะในร้านอาหาร
“พี่คิดถึงผมด้วยเหรอ” กรกฏพูดด้วยใบหน้าดีใจ
“ก็ถามไปงั้นแหละ” ภูริทัตยักไหล่ ไม่สนใจกับท่าทางที่สลดลงของหนุ่มรุ่นน้อง
“เอ็งนี่ละน๊า พูดไม่คิดถึงใจคนฟังเลย” รังสรรค์ติง
“ปูก็ไม่ต้องน้อยใจไปนะ ทัตมันไม่ห่วง แต่พี่ห่วง” ปรีชาพูดหยอกล้ออีกฝ่ายด้วยสายตากรุ้มกริ่ม
“อ้าวมาว่ากู ... คิดยังไงก็พูดอย่างงั้น มันผิดตรงไหน” ภูริทัตไม่ยอมแพ้
“เออ ... เอ็งมันไม่เคยผิดซักอย่าง” รังสรรค์พูดอย่างเอือมระอา “สั่งข้าวดีกว่าหว่ะ น้องๆ”
รังสรรค์หันไปเรียกพนักงานในร้าน แล้วต่างคนก็สั่งอาหารและเครื่องดื่มที่ตนต้องการ ระหว่างนั้นก็คุยกันไปเรื่อยๆจนกระทั่งอาหารมื้อกลางวันจบลง

“พี่ทัต” กรกฏเรียกระหว่างที่กำลังเดินกลับบริษัท “ผมมีอะไรจะให้พี่ดู” กรกฎยื่นโทรศัพท์มือถือให้ภูริทัตดูรูปที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ
“อะไร” ภูริทัตดูภาพในจอที่กรกฏเลื่อนเปลี่ยนไปมาอย่างงงๆ
“ก็สเตฟานของพี่ไง ดูหงิมๆ ที่แท้ก็ชอบไปหาผู้ชายตามผัปตามบาร์” กรกฏแบะริมฝีปากอย่างเหยียดหยาม
“รูปพวกนี้ถ่ายมาเมื่อไหร่” ภูริทัตภามด้วยสีหน้าจริงจัง
“สองรูปแรกเมื่อคืนวันศุกร์ สามรูปหลังเมื่อคืนวันอาทิตย์” กรกฏตอบด้วยรอยยิ้มหยัน
“ไม่ผิดวันนะ” คราวนี้กรกฏเป็นฝ่ายงุนงง เมื่อภูริทัตถามด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ผิดหรอก ออกล่าผู้ชายมาหลายวันแล้ว ผมกลัวว่าพี่จะถูกหลอก เลยหาหลักฐานมาให้ดู”
“หลักฐานของคนหน้าคล้ายล่ะสิ ถ่ายในผัปมืดๆ จะแน่ใจได้ยังไงว่าเป็นคนเดียวกัน”
“ถ้าไม่ใช่แล้วมันจะเหมือนกันขนาดนี้ได้ยังไงล่ะ” กรกฏเถียงทั้งที่ใจเต้นตึกตัก เพราะรู้ดีว่าคนในรูปไม่ใช่คนที่ตนพูดถึง
“ยังไงก็คนละคนแน่ๆ ไม่ใช่สเตฟานเด็ดขาด แล้วที่หลังปูอย่าทำอย่างนี้อีก” ภูริทัตทำหน้าเบื่อหน่าย
“ทำไมพี่ไม่เชื่อผม พี่หลงเค้าจนไม่ลืมหูลืมตาเลยเหรอไง” กรกฏพูดด้วยความโมโห
“ถ้าพี่รักใครชอบใคร พี่ก็ยังไม่ถึงขนาดหลงหรอกนะ”
“หรือว่าพี่หาว่าผมโกหก”
“พี่ก็ไม่คิดว่าเราจะโกหกพี่หรอก แต่พี่ว่าเข้าใจผิดกันมากกว่า คนในรูปไม่ใช่สานฝันแน่ๆ”
“พี่รู้ได้ยังไง”
“ข้อแรก เค้าไม่ใช่คนแบบนั้น และข้อสองสำคัญมาก” ภูริทัตมองหน้ากรกฏแน่วนิ่ง ก่อนจะพูดต่ออย่างช้าๆทีละคำอย่างชัดเจน “ทั้งสองคืนนั่นน่ะ เค้าอยู่กับพี่ เราอยู่ด้วยกันที่บ้านพักในป่าต่างจังหวัด สานฝันเค้าไปอยู่ต่างจังหวัดตั้งแต่ปีใหม่ ดังนั้นไม่มีทางที่เค้าจะอยู่ในกรุงเทพฯได้หรอก”
พูดจบภูริทัตก็เดินจากไป ทิ้งให้กรกฏยืนโมโหอยู่คนเดียว

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
น้องปูทำการไม่สำเร็จ :laugh:

christmas

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งอ่านทันครับ

แล้วก็ชอบเรื่องนี้มาก แต่ว่าพออ่านตอนนี้แล้ว เอ่อ...กลัวใจกรกฎจัง เรื่องต้องเกิดแน่ๆ

เอาใจช่วย สานฝัน ละกันค้าบบบบบ..........


ออฟไลน์ PoP~Pu

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-5
หุหุ แผนการล้มเหลว เสียใจด้วยนะปู หุหุหุหุ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ได้กันแล้ว  :z1: ต่อไปจะเป็นงัยละเนี่ืย ลุ้นๆ

nartch

  • บุคคลทั่วไป
เหลวไม่เป็นท่าเลยนายปูเอ๊ยยยยย  :laugh:

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
น่าสงสารสานฝันมากๆ รักภูริทัตก้อเลยยอม
แต่ก้อนะ ปล่อยตัวได้ แต่ปล่อยใจไ่ม่ได้
ไม่งั้นโดนตามจับได้  :เฮ้อ:

บวก 1 ให้คนแต่งนะคะ  :L2:  ขอบคุณมากค่ะ ลุ้นจังเลยเรื่องนี้

chatkub

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณที่มาต่อครับ

ไงก็รอตอนต่อไปอยู่นะครับ

ออฟไลน์ ||WiTHOuT_YoU||

  • ที่รักของใครสักคน
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-6
    • MoSHI
ได้กันแต่เหมือนสานฝันจะไม่ค่อยเต็มใจหรือมีอารมณ์ร่วมเลยเนี่ย

 :serius2: :serius2: :serius2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
สงสัยที่สานฝันไม่กล้าปล่อยอารมณ์ เพราะกลัวโดนตามเจอแน่ ๆ เลย



ป.ล. แอบกลัวว่าน้องปูจะเป็นคนนำภัยมาเยือนสานฝันอ่ะ

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
 :sad11:  มาทักทายครับ หวังว่าเรื่องนี้จะไม่เศร้าเหมือนเรื่องที่แล้วนะครับคุณบุหรง

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
 ภูริทัต จะช่วย สานฝันของเขา ได้บ้างมั้ยเนี่ย  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
บทที่ ๑๖

ภูริทัตรู้สึกแปลกใจที่ทรงศักดิ์บอกเขาตั้งแต่ก่อนขึ้นรถ ว่าคืนนี้คงจะใช้เวลาในการเดินทางเกือบทั้งคืน เพราะในการสนทนากันระหว่างเขาและสเตฟานในหลายคืนที่ผ่านมา  อีกฝ่ายไม่ได้บอกให้เขารู้เลยว่าได้ย้ายไปพักที่อื่นแล้ว และหากเป็นเช่นนั้นจริง กว่าเขาจะได้เจอกับอีกฝ่ายหนึ่ง คงต้องเป็นคืนพรุ่งนี้ คิดแล้วก็ต้องถอนหายใจยาว เหลือบสายตามองไปยังทรงศักดิ์ ซึ่งปรับเก้าอี้ให้เอนนอน และเหมือนจะกำลังหลับสบาย จึงคิดได้ว่าควรจะนอนพักผ่อนจะดีกว่า

ระหว่างทางเขาถูกปลุกขึ้นสองครั้ง เมื่อรถตู้ที่นั่งมาแวะปัมป์น้ำมันที่อยู่ระหว่างทาง เพราะคนขับต้องการเข้าห้องน้ำ และหาอะไรกินในช่วงดึก เขาเองก็ลงมายืดเส้นยืดสายอยู่ข้างล่างทั้งสองครั้ง และเดินเข้าไปหาอะไรมากินเล่น จากร้านค้าที่เปิดบริการตลอด ๒๔ ชั่วโมง ภายในปัมป์นั่นเอง ในขณะที่ทรงศักดิ์ขอนอนอยู่บนรถเช่นเดิม แล้วเขาก็มาถึงจุดหมายในเวลาที่พระอาทิตย์เริ่มทอแสง

จุดหมายในครั้งนี้เป็นบ้านพักบนภูเขาในวนอุทยานแห่งชาติแห่งหนึ่ง อากาศยามเช้าเย็นสบาย และร่มรื่นด้วยหมู่ไม้นานาพันธ์ บรรยากาศคล้ายคลึงกับที่พักแห่งเดิม แต่ดูจะมีความเป็นส่วนตัวน้อยกว่า เพราะบ้านไม้หลังเดิมนั้นเป็นบ้านหลังเดียวจริงๆในป่ากว้างใหญ่ ดูเหมือนจะเป็นที่พักส่วนตัวของใครสักคน ที่สเตฟานหรืออาจจะเป็นคุณทรงศักดิ์ หยิบยืมใช้เป็นที่พักชั่วคราว แต่บ้านไม้หลายขนาดที่นี่ กลับปลูกเรียงรายกันอยู่ห่างๆ มีหมู่ไม้คั่นระหว่างบ้าน ซึ่งก็คงไม่ค่อยมีคนมากนัก เพราะไม่ใช่ช่วงฤดูพักผ่อน
“อากาศดีนะครับ” ทรงศักดิ์พูดขึ้นระหว่างที่ยืนรอคนขับรถติดต่อกับเจ้าหน้าที่ เพื่อขอกุญแจที่พัก
“ใช่ครับ” ภูริทัตตอบยิ้มๆ ดวงตายังมองไปรอบๆ
“เสียแต่ไกลไปหน่อย คุณเลยไม่ได้พบคุณท่านทันที กว่าจะได้พบก็คงเย็นนี้” ทรงศักดิ์พูดกลั้วหัวเราะ
“นั่นสิครับ น่าเสียดาย” ชายหนุ่มรู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย เพราะไม่รู้ว่าทรงศักดิ์รู้อะไรมากแค่ไหน
“เดี๋ยวเข้าที่พักแล้วพักผ่อนกันสักครู่แล้วกันนะครับ อาบน้ำกินอาหารเช้ากันให้เรียบร้อย แล้วค่อยว่ากันอีกทีว่าจะทำอะไรกันดีร ระหว่างรอให้ถึงเวลาค่ำ”
ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะตอบอะไร คนขับรถหนึ่งในสองซึ่งได้รับกุญแจจากเจ้าหน้าที่มา ก็บอกให้ทุกคนขึ้นรถเพื่อไปยังที่พัก ที่พักของภูริทัตเป็นเรือนไม้หลังเล็กๆ ปลูกราวกับจะซ่อนอยู่ในไม้พุ่มขนาดกลางหมู่ใหญ่ เมื่อไปถึงแล้วชายหนุ่มนำของเข้าไปเก็บ เมื่อเข้าไปในตัวบ้านก็พบว่าภายในจัดเหมือนห้องเอนกประสงค์ ด้านหนึ่งเป็นเตียงนอนขนาดใหญ่ ด้านปลายเตียงมีโต๊ะวางโทรทัศน์ ซึ่งสามารถหมุนกลับมาอีกด้าน ที่เป็นชุดโต๊ะเก้าอี้คล้ายโต๊ะกินข้าว มีโซฟายาววางอยู่ริมผนังด้านติดกับหน้าต่าง คงจะเอาไว้สำหรับนั่งเล่น อีกด้านดูเหมือนจะเป็นครัวขนาดเล็ก มีกระติกต้มน้ำร้อน เตาไมโครเวฟ และยังมีตู้เย็นขนาดเล็กอีก
“อีกซักสี่สิบนาทีพวกผมจะมารับไปทานอาหารเช้านะครับ” ทรงศักดิ์ที่เดินตามเข้ามาบอกกับชายหนุ่ม แล้วเดินออกจากห้องไป พร้อมกับคนขับรถทั้งสอง ที่เหมือนจะนำอะไรเข้าไปไว้ในห้องน้ำ โดยไม่ลืมปิดประตูให้เรียบร้อย

ภูริทัตนำเสื้อผ้าเข้าไปแขวนไว้ในตู้เสื้อผ้า ผลัดเปลี่ยนเป็นนุ่งผ้าเช็ดตัวเข้าไปอาบน้ำภายในห้องน้ำ แล้วก็ต้องถึงบางอ้อ เมื่อเห็นขวดแชมพู กล่องสบู่ หลอดยาสีฟัน แปรงสีฟัน ทุกอย่างมีขนาดเล็ก และบางชิ้นมีตราของโรงแรมซึ่งทรงศักดิ์เป็นผู้จัดการประทับอยู่ ชายหนุ่มถึงกับอมยิ้มกับความรอบคอบของผู้จัดการสูงวัยผู้นี้

เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาก ด้วยความที่ไม่อยากอุดอู้รออยู่ในห้อง จึงเดินออกไปนั่งเล่นบนชุดเก้าอี้ไม้หน้าบ้านพัก ไม่นานนัก รถตู้ก็มาจอดที่หน้าบ้าน ภูริทัตเดินลงไปเปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่ง รถตู้แล่นวนกลับเข้าไปบริเวณศูนย์ของเจ้าหน้าที่ บริเวณนั้นเองที่มีร้านอาหารตั้งอยู่ อาหารเช้าง่ายๆอย่างข้าวต้มหมูราดด้วยกระเทียมเจียว โรยหน้าด้วยผักชีเล็กน้อย เหมือนจะอร่อยมากกว่าปรกติ คงเป็นเพราะบรรยากาศที่แสนจะสดชื่นบนเขาแห่งนี้ด้วย
“อยากไปเที่ยวรอบๆมั๊ยครับ” ทรงศักดิ์ถามขึ้นเมื่อเสร็จสิ้นการกินอาหาร
“ไม่ดีกว่าครับ นั่งรถมาทั้งคืน พักหน่อยดีกว่า เอาไว้บ่ายๆค่อยคิดอีกที” ภูริทัตพูดพลางยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม
“งั้นกลับที่พักกันก็แล้วกันนะครับ ผมจะได้ให้เด็กๆเอาเค๊ก กับขนมต่างๆเก็บไว้ในตู้เย็น”

แล้วทุกคนก็ชวนกันกลับที่พัก ภูริทัตใช้เวลาในช่วงเช้านอนหลับไปจนเที่ยง แล้วออกมากินอาหารมื้อกลางวัน จากนั้นก็กลับเข้าไปดูรายการโทรทัศน์ภายในที่พัก ถ้ารู้สึกหิวก็จะหยิบขนมที่ทรงศักดิ์นำมาใส่ไว้ในตู้เย็นออกมากิน มีทั้งเค๊กชอคโกแลต แยมโรล เอแคร์ เค๊กผลไม้ นอกตู้เย็นยังมีกระปุกเครกเกอร์ กระปุกคุ๊กกี้ และกระปุกลูกกวาดหลากสี ชายหนุ่มมองดูแล้วก็นึกขัน ว่าทรงศักดิ์เห็นเขากินจุมากมายเลยหรือ ถึงได้เตรียมขนมไว้มากมายเช่นนี้ จนอาหารมื้อเย็นเสร็จสิ้นไปอีกมื้อ ภูริทัตก็เดินเล่นอยู่ภายในบริเวณบ้านพัก กระทั่งพระอาทิตย์ลับฟ้า จึงเดินกลับเข้าไปนั่งพักผ่อนภายในบ้านไม้หลังกระทัดรัดอีกครั้ง

นาฬิกาบนข้างฝาบอกเวลาเที่ยงคืน ภูริทัตถอนหายใจด้วยความหงุดหงิด คนที่เขาเฝ้ารอมาทั้งวัน จนถึงเวลานี้ยังไม่ปรากฏตัว ขณะที่กำลังกระวนกระวายอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูเบาๆ ภูริทัตลุกจากเก้าอี้โซฟาด้วยความรวดเร็ว แทบจะวิ่งไปเปิดประตูทีเดียว แล้วก็พบกับรอยยิ้มอันอบอุ่นทันทีที่เปิดประตู
“ขอโทษนะครับ พอดีมีเรื่องด่วนนิดหน่อย ผมเลยต้องไปจัดการให้เรียบร้อย”
ภูริทัตไม่ตอบคำ แต่จับข้อมือของอีกฝ่าย ดึงเข้ามาในบ้านอย่างแรง จนอีกฝ่ายตกใจ เมื่อปิดประตูแล้ว ก็หันกลับมามองหน้าคนที่ยืนอยู่เบื้อหน้าอย่างโกรธๆ สเตฟานเองก็ไม่ได้พูดอะไร รอยยิ้มเริ่มเปลี่ยนเป็นแววเสียใจ หันหลังเดินไปยังด้านที่เป็นเหมือนครัว หยิบแก้วกาแฟขึ้นมา แล้วหยิบซองกาแฟสำเร็จรูปฉีกออก เทผงสีน้ำตาลปนขาวลงไปในแก้ว แล้วกดกาน้ำร้อน ให้น้ำร้อนไหลลงสู่แก้วอย่างช้าๆ เสร็จแล้วก็ใช้ช้อนคนให้เข้ากัน ภูริทัตเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ไม้ นั่งมองกริยานั้นอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งตัวเองทนไม่ไหว เพราะสเตฟานเอาแต่ยืนจิบกาแฟในแก้ว ไม่หันมาทางเขาเลย
“ทำไมถึงได้มาซะไกลขนาดนี้” ภูริทัตถามเบาๆ แต่น้ำเสียงแสดงออกถึงความไม่พอใจ “กว่าจะมาถึงเสียเวลาน่าดู”
“ที่นั่นไม่ปลอดภัย ผมอยากออกห่างจากกรุงเทพฯให้มากที่สุด” สเตฟานยังคงยืนจิบกาแฟช้าๆอยู่ที่เดิม
“ไม่ไปต่างประเทศซะเลยล่ะ”
“ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน ตั้งแต่เมื่อต้นเดือน” คำตอบทำเอาภูริทัตฉุนกึ๊ก “แต่ตอนนี้ผมไม่อยากไปไหนแล้ว ใจจริงผมอยากจะกลับกรุงเทพฯตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว แต่ผมทำไม่ได้ ถ้าคุณคิดว่าการเดินทางมาที่นี่มันเสียเวลา ผมก็ขอโทษ” น้ำเสียงสั่นๆของสเตฟานทำเอาภูริทัตใจเสีย รีบลุกจากเก้าอี้เข้าไปยืนข้างหลังแล้วโอบกอดอีกฝ่ายไว้ วางคางไว้บนไหล่แล้วถูเบาๆ
“โธ่ ผมแค่ล้อเล่น ก็คุณปล่อยให้ผมรอทั้งวัน แล้วนี่ก็ตั้งค่อนคืนแล้วถึงเพิ่งจะมา ผมก็น้อยใจมั่งสิ”
“ผมก็บอกแล้วว่ามีธุระด่วน ผมเองก็ไม่รู้จะขอโทษคุณยังไงดี”
“งั้นผมบอกวิธีให้ วางแก้วก่อน” ภูริทัตกุลีกุจอดึงแก้วกาแฟจากมือสเตฟานออกไปวางลงบนโต๊ะ “ผมจะลงโทษคุณล่ะนะ”
พูดจบก็ประกบริมฝีปากลงจูบอย่างดูดดื่ม มือทั้งสองประคองร่างอีกฝ่ายไว้ พาเดินตรงไปยังเตียง ทั้งๆที่ริมฝีปากยังคงไม่ผละจากกัน เมื่อถึงเตียงก็ดันร่างสเตฟานให้นอนลงบนฟูกหนา ทาบร่างของตนลงไป ทั้งปากและจมูกคลอเคลียไปทั่วใบหน้า มือก็ไม่ยอมว่าง ปลดกระดุมเสื้อของอีกฝ่ายทีละเม็ดแล้วดึงเสื้อออกราวกับจะกระชาก เสื้อผ้าของทั้งสองถูดโยนลงพื้นทีละชิ้น โดยไม่มีใครสนใจว่ามันจะไปกองอยู่ตรงไหน อุณหภูมิรักที่เกิดขึ้นบนเตียงร้อนขึ้นทุกขณะ และเมื่อมันคุโชนจนถึงขีดสุดก็มอดดับลง ด้วยความสุขสมปนเหนื่ออ่อนของภูริทัต

“ผมคิดมากไปรึเปล่า ที่รู้สึกเหมือนคุณไม่ค่อยมีความสุข” ภูริทัตพูดพลางลูบไล้ปอยผมสีทองของอีกฝ่าย
“ทำไมคุณคิดอย่างนั้น” สเตฟานตอบแล้วแนบใบหน้าไปที่ต้นแขนของภูริทัต วงแขนที่โอบอยู่บนร่างหนากระหวัดแน่นขึ้น แล้วคลายออก
“ก็เวลาเรามีอะไรกัน เหมือนคุณจะฝืนๆ ไม่เห็นปล่อยตัวให้มีความสุขไปด้วย ไม่เหมือนผม”
“คุณรู้ได้ยังไงว่าผมฝืน”
“ก็ท่าทางคุณมันบอก ผมจะว่ายังไงดีล่ะ” ภูริทัตยกมือขึ้นเกาท้ายทอย “เอาเป็นว่าผมรู้สึกก็แล้วกัน ผมไม่สบายใจนะ”
“แล้วคุณมีความสุขมั๊ย ที่มามีอะไรกับผมแบบนี้”
“มีสิ ... ผมรักคุณนะ สานฝัน” ภูริทัตเชยคางสเตฟานขึ้นมา แล้วจ้องมองลงไปในดวงตาสีเขียวมรกต “แล้วคุณล่ะ”
“ผมก็รักคุณ ภูริทัต บางที..บางทีผมอาจจะรักคุณตั้งแต่ ‘วันแรก’ ที่ผมได้เจอคุณก็ได้”
“จริงเหรอ” ภูริทัตยิ้มกริ่ม “ถ้าอย่างนั้นคุณก็อย่าปิดกั้นความรู้สึกไว้สิ ปลดปล่อยมันออกมาให้หมด ให้ผมได้รับรู้ว่าคุณรักผมแค่ไหน นะ...สานฝัน ของผม”
“แต่ผมมีข้อแม้ ถ้าผมทำแบบนั้นคุณต้องทำตามที่ผมจะบอก”
“อะไรล่ะ”
“ตีสาม คุณต้องไปจากที่นี่ทันที”
“อะไรนะ” ภูริทัตพูดอย่างไม่เชื่อหู
“ยังไม่หมดนะ ครั้งต่อไปที่เรามีอะไรกัน คุณต้องไปทันที โดยไม่มีข้อแม้ คุณจำได้มั๊ย ครั้งแรกที่คุณมาหาผม คุณรับปากผมแล้วว่าจะทำตามที่ผมบอก ถ้าคุณทำได้ ผมจะไม่ฝืนตัวเองอีก”
ภูริทัตแทบไม่เชื่อหู ในสิ่งที่ได้ยิน ขบคิดเท่าไรก็ไม่เข้าใจในเหตุผลว่าทำไมสเตฟานถึงยื่นข้อแม้เช่นนี้
“ผมสงสัยซะแล้ว ว่าคุณรักผมจริงรึเปล่า” ในที่สุดเขาก็พูดในสิ่งที่ไม่อยากพูดออกไป
“รับปากผมสิ แล้วคุณจะรู้ว่าผมรักคุณแค่ไหน” น้ำเสียงของสเตฟาน ปนไปด้วยความรัก ความอาทร ไม่ได้ทำให้ภูริทัตรู้สึกเลยว่า เป็นการท้าทาย หรือประชดประชัน “บอกผมสิ ว่าคุณรับปาก แล้วผมจะได้เป็นของคุณอย่างแท้จริง” แววตาราวกับจะขอร้อง ทำให้ภูริทัตหมดความคลางแคลงใจ
“ได้ ผมรับปากคุณ ผมจะไปจากที่นี่ทันทีตอนตีสาม”
“ดวงใจน้อยๆของผม แล้วคุณจะรู้ว่าผมรักคุณมากแค่ไหน”
พูดจบสเตฟานก็ยื่นหน้าเข้าไปจูบภูริทัตอย่างดูดดื่ม จนภูริทัตเองก็ยังตกใจในความเร่าร้อนครั้งนี้ ชายหนุ่มสนองตอบอย่างรวดเร็ว และเสนอสัมผัสต่อมาในทันที แล้วชายหนุ่มก็ได้รู้ว่า ความสุขที่ผ่านมานั้นเป็นเพียงแค่ความสุขเล็กน้อยเท่านั้น ความสุขที่แท้จริงคือครั้งนี้ต่างหาก ทั้งร่างกายและหัวใจของทั้งสอง ราวกับจะผสานกันเป็นหนึ่งเดียวอย่างแท้จริง สัมผัสที่ตอบโต้กลับมา ทำให้เขารู้ว่าอีกฝ่ายรักเขามากแค่ไหน มันมากมายจนเขาเองยังคิดไม่ถึง เขาไม่รู้เลยว่าการแสดงออกครั้งนี้ เกิดจากความรู้สึกที่เก็บไว้มานานถึง ๑๕ ปี และสเตฟานมั่นใจแล้วว่า ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร อย่างน้อยเขาก็หาวิธีป้องกันคนที่เขารัก จากเงื้อมือของคนผู้นั้นได้อย่างแน่นอน

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
 :z13: น้องตั้ม  :z2: :z2:

ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
ความสุขครั้งนี้เดิมพันด้วยชีวิตเลยนะคะ.....จะรอดพ้นหรือเปล่าน้อ?

ออฟไลน์ ||WiTHOuT_YoU||

  • ที่รักของใครสักคน
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-6
    • MoSHI
สุขครั้งเดียว แต่ต้องหาทางแก้ตลอดชีวิตเลย

เหนื่อยใจแทนเลยนะเนี่ย  :z3: :z3:

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
อุปสรรคของความรักของทั้งสอง  :เฮ้อ:

เป็นกำลังใจให้ ตั้มนะครับ +1 ให้ด้วย  ขอให้ขยัน ๆ

รักษาสุขภาพด้วยนา อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย  :กอด1:

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
จะมีอะไรเกิดขึ้นหลังตีสามอ่ะ ลึกลับซับซ้อนจริง ๆ

ออฟไลน์ tutu

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
สู้ๆๆๆๆๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด