สานฝันนิรันดร : ขอบคุณทุกคน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

๑.   สนใจสั่งจอง
5 (55.6%)
๒.   ขอคิดดูก่อน
4 (44.4%)
๓.   ไม่สนใจ
0 (0%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 5

ปิดการโหวต: 31-05-2012 00:47:21

ผู้เขียน หัวข้อ: สานฝันนิรันดร : ขอบคุณทุกคน  (อ่าน 212263 ครั้ง)

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ยิ่งอ่านยิ่งชอบ  :impress2:
แล้วจะรออ่านจ้า

beboy

  • บุคคลทั่วไป
ชอบครับ  ขอบคุณมากครับ

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
รอน้องตั้มได้เสมอจ๊ะ

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
มารออ่านค่ะ  :L2:

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
มารอด้วยคน :3123:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
บทที่ ๑๑

กริ๊งๆๆ .....
เสียงโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะเล็กๆตรงหัวเตียงดังขึ้น ภูริทัตเดินเข้ามาภายในห้องพอดี จึงรีบเดินไปยกหูโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วนั่งลงบนเตียงก่อนจะกรอกเสียงลงไปในหูโทรศัพท์
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีครับ ทรงศักดิ์บอกว่าคุณต้องการคุยกับผม” เสียงที่พูดมาเป็นเสียงที่ชายหนุ่มจำได้ดี
“สานฝัน” ภูริทัตเรียกชื่อคนที่อยู่อีกปลายสายด้วยความดีใจ “คุณไปต่างจังหวัด ทำไมไม่บอกผมเลย” ชายหนุ่มตัดพ้อ
“ต้องขอโทษด้วย ผมตัดสินใจกระทันหัน ไม่ได้บอกใครเลย นอกจากทรงศักดิ์ เพราะเขาต้องทำงานให้ผม”
“แล้วตอนนี้คุณอยู่ไหน”
“ไม่ไกลจากกรุงเทพฯนัก”
“เหรอครับ ถ้าอย่างนั้นวันหยุดผมไปหาคุณได้มั๊ย” เสียงทางปลายสายเงียบไปสักครู่
“ถ้าคุณจะมาหาผม คุณต้องปฏิบัติตามที่ผมบอก”
“มีอะไรมั่งล่ะ คงไม่ต้องถึงกับต้องแต่งสูท หรือม่อฮ่อมหรอกนะ” ภูริทัตพูดอย่างกระตือรือร้นแฝงแววขี้เล่น ทางปลายสายหัวเราะมาเบาๆ
“ข้อแรกคุณต้องไม่ถามถึงเหตุผลของสิ่งที่ผมให้คุณทำ ข้อสองคุณมาหาผมและอยู่กับผมได้ในช่วงกลางคืน ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น คุณจะต้องไปอยู่อีกที่หนึ่งที่ผมจัดไว้ให้”
“ทำไมล่ะ”
“ยังไม่ทันที่คุณจะมาหาผม คุณก็ผิดกฏข้อแรกซะแล้ว”
“โธ่ ... คุณจะให้ผมทำตามทันทีเลยเหรอครับ” ภูริทัตโอดครวญ
“อะไรที่ผมอธิบายได้ ผมก็จะบอก อย่างข้อนี้ ตอนกลางวันผมต้องนอนพักผ่อน แล้วคุณจะทำอะไรล่ะครับ”
“แล้วมีข้อสามมั๊ยครับ” ... เดี๋ยวถึงเวลาก็มีอะไรให้ทำเองนั่นแหละ ... ภูริทัตคิดในใจ
“สำหรับข้อสามก็คือ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมแล้วคุณมีข้อสงสัย ให้กลับไปดูข้อแรกใหม่”
“ฮ่าๆๆ คุณนี่ขี้โกงดีจริง”
“เรียกว่ารอบคอบดีกว่านะครับ” เสียงหัวเราะเบาๆมาจากทางปลายสาย
“แล้วผมจะไปหาคุณได้ยังไงล่ะ”
“คุณจะมาหาผมวันไหนล่ะครับ”
“ศุกร์นี้เลยได้มั๊ย ผมคิดถึงคุณ อยากเจอคุณเต็มทีแล้ว ความจริงอยากไปหาที่โรงแรมตั้งแต่เมื่อวานด้วยซ้ำไป แต่พอโทรฯไป ถึงได้รู้ว่าคุณไปต่างจังหวัดซะแล้ว ทำไมคุณตัดสินใจกระทันหันจัง”
“เอาไว้ผมจะเล่าให้ฟังตอนเราเจอกันแล้วกันนะครับ วันศุกร์ ... พรุ่งนี้สินะครับ เลิกงานแล้วคุณไปที่โรงแรม แล้วทรงศักดิ์จะจัดการทุกอย่างเอง แล้วเจอกันนะครับ”
“เดี๋ยวสิครับ จะไม่คุยกับผมต่ออีกหน่อยเหรอ” เสียงของภูริทัตเหมือนจะออดอ้อน
“เดี๋ยวพรุ่งนี้เราเจอกัน ค่อยคุยกันก็ได้นี่ครับ นี่มันก็ดึกแล้วคุณจะได้พักผ่อน พรุ่งนี้จะได้ตื่นไปทำงานอย่างสดชื่น นะครับ แล้วพรุ่งนี้เราเจอกัน”
“ครับ พรุ่งนี้เจอกันครับ”
ภูริทัตวางหูโทรศัพท์ลง แล้วล้มตัวลงนอนหงายลงบนเตียง กางแขนแผ่ออกไปจนสุด พึมพำเรียกชื่อคนที่คิดถึงออกมา พลางยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี
“สานฝัน ...”

หลังจากที่โทรศัพท์คุยกับทรงศักดิ์ ถึงเรื่องของภูริทัตเรียบร้อยแล้ว สเตฟานก็เดินออกมาภายนอกบ้าน ท่ามกลางความมืดมิด ปราศจากความสว่างจากแสงซึ่งมนุษย์สังเคราะห์ขึ้น ทำให้มองเห็นประกายของดวงดาวบนท้องฟ้าได้อย่างชัดเจน กลางป่าที่แวดล้อมไปด้วยเงาไม้ เสียงของแมลงที่กรีดเสียงในยามค่ำคืน บรรยากาศของธรรมชาติแตกต่างจากแสงสีเสียงของตัวเมืองอย่างสิ้นเชิง ทำให้คิดไปถึงบ้านเกิดที่เคยแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติเช่นเดียวกัน บ้านที่ก่อสร้างด้วยไม้และอิฐ แสงสว่างจากโคมไฟ ความอบอุ่นจากเตาผิงในเวลาที่อากาศเย็น คิดไปถึงทุ่งกว้างที่เคยขี่ม้าเล่นท่ามกลางแสงอาทิตย์อันอบอุ่น เหล่าเพื่อน ครอบครัว และบริวาร ซึ่งล้วนล้มหายตายจากไปตามกาลเวลา และบางคนที่จากไปด้วยน้ำมือของเขาเอง

คิดมาถึงตอนนี้ก็ต้องทอดถอนใจ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่อาจแก้ไขอะไรได้ ความดุร้าย ความโหดเหี้ยม และการกระทำของเขา ซึ่งเกิดจากอำนาจบงการของคนผู้นั้น มาถึงบัดนี้เขาสามารถควบคุมมันได้ แต่ก็ยังไม่อาจหลุดพ้นจากมันโดยสิ้นเชิง นอกจากนี้เขายัง ‘กลายพันธ์’ ออกไปจากการถ่ายทอดพลังมาจากผู้ที่เขาได้พบโดยบังเอิญ ทำให้ได้รับพลังอำนาจใหม่มา และทำให้พลังอำนาจเดิมของเขานั้นเพิ่มขึ้น เขาสามารถสร้างสิ่งที่เหมือนเป็นกำแพงแก้ว กั้นจิตของเขาไว้ เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายหาเขาพบได้โดยง่าย แต่ในเวลาจิตของเขาไม่มั่นคง กำแพงแก้วนั้นก็อาจมีรอยโหว่ ทำให้อีกฝ่ายสามารถรับรู้ถึงจิตของเขา และติดตามมาจนพบตัวได้ แม้เพียงวูบเดียวที่เกิดขึ้นในวันนั้น ก็อาจเป็นอันตรายมาถึงตัวเขาและคนใกล้ชิด เขาจึงต้องออกมาจากกรุงเทพฯให้เร็วที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้อีกฝ่ายหาเขาพบ แม้ว่าโอกาสในการเป็นไปได้จะมีน้อยมาก แต่เขาก็ควรป้องกันไว้ก่อนจะเป็นการดีกว่าที่จะให้มันเกิดขึ้นได้

ระหว่างที่คิดอยู่นั้น สเตฟานก็เดินออกห่างจากตัวบ้านเข้าไปสู่หมู่ไม้ ถึงแม้ยามค่ำคืนจะมืดมิด แต่เขาก็สามารถมองเห็นได้ดุจเวลากลางวัน มองเห็นได้แม้แต่ลายเส้นภายในใบไม้ใบใหญ่ของต้นไม้ที่รายรอบทาง เขาเดินลึกเข้าไปมากแล้วหยุดยืนอยู่กลางหมู่ไม้ สเตฟานหลับตาพริ้ม กางแขนทั้งสองข้างออก ราวกับอากาศที่สงบนิ่งมีการเคลื่อนไหว กิ่งก้านของต้นไม้โดยรอบสั่นไหวน้อยๆ เสื้อผ้าและเส้นผมของสเตฟานกระพือไหวราวกับโดนลมพัดโหม ทั้งๆที่ในเวลานั้นไม่มีเลมเลยแม้แต่น้อย หากใครมีตาทิพย์คงมองเห็นไอสีขาวระเหยออกมาจากต้นไม้ที่รายรอบ แล้วจับกลุ่มเคลื่อนเข้าล้อมรอบตัวเขาไว้ ไอขาวหมุนวนอยู่รอบตัว แล้วค่อยๆซึมหายเข้าไปในร่างกายจนหมด และเมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ประกายตาสีเขียวมรกตเปล่งประกายราวกับจะล้อกับแสงดาว และใบหน้าสีขาวอมชมพูราวกับจะเปล่งปลั่งมากขึ้นกว่าเดิม
..............................................................................
........................................
“กระเป๋าอะไรวะนั่น” รังสรรค์ถามขึ้นเมื่อเจอกับภูริทัตหน้าลิฟท์ ภายในตึกของบริษัทในตอนเช้าวันศุกร์
“เดี๋ยวเย็นนี้จะไปต่างจังหวัดหน่อยหว่ะ” ภูริทัตตอบ
“จังหวัดไหนวะ แล้วไปทำไม”
“ไม่รู้” ภูริทัตยักไหล่ “สานฝันไม่ได้บอก บอกแต่ว่าให้ไปขึ้นรถที่โรงแรม”
“จะไปหาคุณสเตฟานเหรอวะ” รังสรรค์เปลี่ยนเป็นถามเสียงเบา
“เออ” ภูริทัตยิ้มกว้าง ลืมคิดไปว่ารังสรรค์รู้ได้อย่างไรว่าสเตฟานอยู่ต่างจังหวัด
การสนทนาหยุดลง เมื่อลิฟท์เปิดประตู ทั้งสองคนจึงเดินเข้าไปในลิฟท์ พร้อมกับคนอีกหลายคนที่ต้องการขึ้นไปยังชั้นต่างๆบนอาคาร ตอนกลางวันภูริทัตก็ปลีกตัวไม่ทานข้าวร่วมกับเพื่อนๆ บอกว่ามีธุระจะต้องไปจัดการให้เรียบร้อย และในตอนเย็นเมื่องานเลิก ก็รีบไปยังโรงแรม ตามเวลาที่นัดหมายกับทรงศักดิ์ไว้ ในเวลาประมาณ ๖ โมงเย็น

“คุณภูริทัตทานอะไรมารึยังครับ” ทรงศักดิ์ถามชายหนุ่ม
“ยังเลยครับ แล้วนี่ต้องนั่งรถนานมั๊ยครับ” ภูริทัตถามเพื่อจะได้คิดว่า ควรทานอาหารก่อนหรือไม่
“ก็หลายชั่วโมงอยู่เหมือนกัน ผมคิดอยู่แล้วว่าคุณต้องรีบมา ก็เลยจัดอาหารไว้ให้ ไม่ทราบว่าจะทานก่อน หรือจะทานในรถดีครับ”
“ทานในรถก็ได้ครับ ไปตอนนี้จะได้ถึงเร็วๆ” ภูริทัตตอบโดยไม่ต้องคิด เพราะต้องการพบคนที่คิดถึงโดยเร็วที่สุด
“งั้นเชิญที่รถเลยครับ ผมจัดไว้เรียบร้อยแล้ว” ทรงศักดิ์ยิ้มอย่างพอใจ เพราะเป็นอย่างที่เขาคิด ชายหนุ่มคนนี้ซื่อตรง ไม่อ้อมค้อม
รถที่ทรงศักดิ์จัดไว้เป็นรถตู้ ภายในนั่งได้ราวๆ ๖ คนไม่รวมที่นั่งด้านหน้า มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครับ ทั้งโทรทัศน์ ตู้เย็นขนาดเล็ก โต๊ะวางอาหารติดกับเก้าอี้ ซึ่งสามารถพับเก็บได้ มีคนขับรถ ๒ คน ไว้ผลัดเปลี่ยน ที่น่าแปลกใจก็คือ ทรงศักดิ์เองก็ติดตามไปด้วย เมื่อขึ้นรถแล้วทรงศักดิ์จึงจัดการหยิบอาหารซึ่งบรรจุในกล่อง ให้กับชายหนุ่มและตนเอง ทานไปคุยกันไปถึงเรื่องการงานของภูริทัต และในตอนหนึ่งของการสนทนา ทรงศักดิ์ก็ถามในเรื่องที่เขาสงสัย
“คุณภูริทัตคิดว่าโรงแรมของเราเป็นยังไงมั่งครับ”
“ก็ดีนี่ครับ บรรยากาศดี อาหารอร่อย ราคาก็เหมาะสม”
“แล้วห้องพักล่ะครับ”
“ก็ดีนะครับ ผมว่าห้องกว้างขวาง เครื่องอำนวยความสะดวกครบครับ สั่งอะไรก็สะดวกรวดเร็ว”
“คุณภูริทัตเคยเข้าพักเหรอครับ”
“จะว่างั้นก็คงได้ครับ” ภูริทัตหัวเราะเบาๆ พลางลูบคลำท้ายทอย “คือตอนเด็กผมเคยมาพักครั้งนึงกับ เอ้อ...กับคนที่ผมรู้สึกเหมือนเป็นญาติน่ะครับ ตอนนั้นยังจำได้ว่าดึกมากแล้ว เค้าสั่งอาหารให้ผม พอผมอาบน้ำเสร็จออกมาก็เจออาหารเต็มโต๊ะเลย แล้วตอนเช้าก็มีคนเอาเสื้อผ้าที่ส่งซักมาให้ ทั้งๆที่เพิ่งส่งไปเมื่อกลางดึก  ผมยังจำได้เลยว่าอาหารเช้าแบบ อเมริกันบุฟเฟห์วันนั้นอร่อยมากๆเลย ผมกินซะเต็มที่”

ดวงตาของทรงศักดิ์ เต็มไปด้วยความพอใจในคำตอบที่ได้รับ มันเป็นการยืนยันได้แล้วว่า ชายหนุ่มคนนี้คือเด็กชายในตอนนั้นจริงๆ พลางคิดว่าดวงชะตาช่างเล่นตลกนัก ที่ทำให้คนสองคนที่เคยเจอกันในอดีตมาพบกันอีกครั้ง

ฝ่ายหนึ่งเปลี่ยนจากเด็กชายตัวผอมเก้งก้าง มาเป็นชายหนุ่มที่ทั้งหล่อเหลา สง่างาม แต่กลับจดจำอีกฝ่ายไม่ได้ ในขณะที่อีกฝ่ายยังคงรูปลักษณ์เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งยังจดจำอีกฝ่ายหนึ่งได้ทันทีที่ได้พบ  ถึงแม้กาลเวลาจะทำให้อีกฝ่ายเปลี่ยนแปลงไปโดยแทบจะสิ้นเชิง

สิ่งที่เหมือนกันก็คือ ต่างเก็บอีกฝ่ายไว้ในความทรงจำของตน แต่จะด้วยความรู้สึกอย่างไร เขาเองก็ไม่รู้ กงล้อแห่งชะตากรรมจะนำพาทั้งสองไปยังจุดใดก็ตาม ขอเพียงอย่าให้ชายหนุ่มผู้นี้นำพาอันตรายใดๆมาสู่ ‘คุณท่าน’ ที่แสนดีของเขาเลย

ออฟไลน์ ||WiTHOuT_YoU||

  • ที่รักของใครสักคน
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-6
    • MoSHI
  :z13:
 :z13:
 :z13:

จิ้มก่อนอ่านที่หลัง เด๊วมาเมนต์ต่อก๊าบ

สงสัยจะมีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ ที่คนในความทรงจำมาพบกัน

โดนมีสักขีพยานมายืนยัน

 :z2: :z2: :z2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-02-2009 18:44:41 โดย MoSHI »

ออฟไลน์ tutu

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
 :mc4:


ใช่คนที่ตามหา.....

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
จะได้เจอกันข้างนอกบ้างแล้ว :impress2:

ออฟไลน์ Shumi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
"ใครคนนั้น" ใกล้ถึงเวลาที่จะมาปรากฏตัวแล้วสิเนี่ย

น่าตื่นเต้นจังเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
ถึงความกระจ่างยังไม่ชัดเจน แต่ภูริทัต ก็มีความรู้สึกที่ดี ๆ ให้สานฝัน

ส่วนอีกคนนั้นเล่า รู้อยู่แก่ใจแล้ว แต่ความจำเป็นบางอย่างทำให้ยังพูดอะไรไม่ได้

 :เฮ้อ: มันเป็นความอึดอัด แต่ก็ต้องรอถึงจันทร์หน้า .....

ขอบคุณมากนะ ตั้ม +1 ให้ด้วยนะครับ เป็นกำลังใจให้และรักษาสุขภาพด้วยนะครับ อากาศร้อน

ระวังเป็นหวัดแดดนะ ตอนนี้คนเป็นมากมาย กายกองเลย เป็นห่วง

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
ชักจะเริ่มสงสาร สานฝัน ซะแล้ว

ภูริทัตคงรักจริงหวังแต่ง  :laugh:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

ไฉไล

  • บุคคลทั่วไป
ท่าทางคำขอคุณทรงศักดิ์จะมิเป็นผลป่ะ เอิ้กๆ
 เพราะดูท่า สานฝัน คงจะอ่อนไหว กับ ภูริทัตอยู่มิใช่น้อยนะนั่นโฮ่ะๆ
กลัวว่า ...จิตที่ฝึกมา อาจจะมีรูโหว่ ขึ้นมาอีกอ่าดิ อิอิ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
มันจะออกแนวลึกลับมากเลย ยิ่งอ่านยิ่งยอากรู้ มีพลังด้วย แล้วใครกัรที่ตามสานฝัน  :z10:

ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
จะว่าภูริทัตจำไม่ได้ก็ไม่เชิงเนอะ....เพราะฝังใจเลยตามติดไม่ปล่อยเลย

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 o13 o13 o13
อยากรู้จังใครคือคนที่เคยควบคุมสเตฟานได้จิงนะ
เนื้อเรื่องใกล้แล้วละที่ความจริงจะปรากฎยิ่งอ่านแล้วอยากอ่านต่อไวๆจัง

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
มาเป็นแฟนเรื่องนี้ด้วยอีกคนค่ะ
ลึกลับ ชวนให้ค้นหาดี
สเตฟานเป็นอะไรกันแน่ แต่ที่แน่ๆคือน่าสงสารจังเลย คงเป็นอมตะ เพราะชื่อสานฝันนิรันดร
แต่ก็มีผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่า คอยติดตามอยู่ และคงเป็นไปในทางลบ
ถ้าหากสเตฟานเผลอเปิดใจให้กับภูริทัตมากขึ้น ก็นำไปสู่การเปิดจิต นำภัยมาสู่ตัวได้อีก
ยิ่งอ่านยิ่งอยากรู้มากขึ้น คู่นี้จะลงเอยกันยังไง ทั้งคู่จะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง จะลงท้ายด้วยความสุขหรือความเศร้า
ติดตามต่อไปค่ะ
บวก 1 ขอบคุณนะคะ  :L2:


ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
คราวนี้ภูริทัตจะได้รู้ซักทีละมั๊งว่าสานฝันเป็นใคร

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
ชะตากรรม หรือ พรหมลิขิต ?

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ยิ่งอ่านยิ่งมีแต่จุดที่ทำให้อยากรู้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆๆ

สนุกมากค่ะ  :m4:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
นิรันดรนั้นนานนัก แต่รักนี้นานกว่านั้น

chatkub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นอีกเรื่องที่น่าติดตามดีครับ

อ่านแระสนุกดี

มาต่อไวๆนะครับ

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
จะได้เจอกันอีกแล้ว

หน้าตาสานฝันไม่เปลี่ยน แต่เด็กน้อยที่โตขึ้นกลับจำไม่ได้ น่าสงสารนะเนี่ย

จำกันให้ได้ไว ๆ นะ


รอลุ้นตอนต่อไปค่า  :L2:


ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
รอลุ้นด้วยคน :impress2:

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
วันนี้วันจันทร์ :laugh:

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
ไปๆ มาๆ เริ่มได้กลิ่นแปลกๆ ซะแล้วสิ
หวังว่าคงไม่มีเรื่องร้ายอะไรนะ


ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
บทที่ ๑๒

“สานฝัน” ภูริทัตเรียกพลางกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปหาคนที่ยืนอยู่หน้าบ้านไม้ ทันทีที่ลงจากรถ เมื่อไปถึงตัวก็เอื้อมมือไปจับมือสเตฟานไว้แน่น “ผมคิดถึงคุณจัง”
“ผมก็คิดถึงคุณ” คำพูดนี้ทำให้ภูริทัตยิ้มกว้าง แล้วก็เห็นคนตรงหน้าขมวดคิ้วเล็กน้อย จึงหันหลังไปมองตามสายตาที่แสดงสงสัยของสเตฟาน ก็มองเห็นทรงศักดิ์ยืนอยู่ข้างหลังเขา
“ผมตามมาด้วย เผื่อคุณท่านต้องการอะไรเพิ่มเติมน่ะครับ” ชายสูงอายุพูดอย่างนอบน้อม
“มีคนรถมาถึง ๒ คนหากมีอะไรผมก็สั่งกับพวกเขาได้ คุณไม่น่าลำบากเลย” คำพูดของสเตฟานแสดงถึงความห่วงใย มากกว่าการตำหนิ
“ผมเกรงว่าจะไม่ถูกใจท่าน ผมเลยมาเองดีกว่า เผื่อจะมีเรื่องฉุกเฉินอะไร ผมคงจัดการได้ดีกว่าน่ะครับ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ขอบใจมาก เอาของเข้าไปเก็บแล้วพวกคุณรีบไปพักผ่อนแล้วกัน พรุ่งนี้ต้องมากันแต่เช้าอีก อ้อ...พรุ่งนี้เช้าน่ะให้คนขับรถมาเพียงคนเดียวก็พอ คุณไม่ต้องมาด้วย หากมีอะไรผมจะบอกกับคนขับรถ”
“ครับ ท่าน” ทรงศักดิ์ตอบด้วยความนอบน้อม แล้วเดินไปบอกให้คนขับรถทั้งสองนำสิ่งของที่จัดมา เข้าไปไว้ในที่ที่เหมาะสมภายในบ้านไม้
“คุณเดินทางมาคงเหนื่อย ผมจะพาไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนก็แล้วกัน”

สเตฟานพาชายหนุ่มข้าไปในบ้านไม้ ภูริทัตมองดูสภาพของตัวบ้านอย่างคร่าวๆ บ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ด้านหน้ามีห้องรับแขกและประตูเข้าไปสู้ห้องอื่นๆอีกหลายห้อง สเตฟานพาเขาเดินเข้าไปในห้องซึ่งเป็นห้องนอน มีเตียงขนาดใหญ่ ตู้เสื้อผ้าใบย่อม โต๊ะวางของ ๒-๓ ตัว บานหน้าต่างของห้องนั้นเปิดกว้าง ทำให้มีอากาศถ่ายเทเข้ามาอย่างเต็มที่ บานมุ้งลวดทำให้ไม่ต้องกลัวว่าจะมีแมลงหรือยุงเข้ามากร้ำกราย
“ห้องอาบน้ำอยู่ทางนี้ ผมเตรียมผ้าเช็ดตัวไว้ให้แล้ว ส่วนเสื้อผ้าคุณจะใช้ของผมในตู้ก็ได้ ตอนเช้าจะได้ไม่ต้องจัดกระเป๋าอีก” สเตฟานเดินไปเปิดบานประตูไม้ ทางด้านหนึ่งของห้อง “ตามสบายนะครับ ผมจะไปคุยกับทรงศักดิ์หน่อย” พูดแล้วสเตฟานก็เดินออกจากห้องไป

ภูริทัตอาบน้ำอย่างสบายอารมณ์ เสร็จแล้วก็ออกมาเปิดตู้เสื้อผ้าเลือกกางเกงผ้าฝ้ายขายาว กับเสื้อยืดสีฟ้าอ่อนแขนสั้นออกมาสวมใส่ สายตามองไปเห็นชุดคลุมผ้าแพรหลายตัวแขวนอยู่ในตู้ ทำให้คิดไปถึงเรื่องเมื่อวัยเด็กขึ้นมา
“สานฝัน คุณอยู่ไหนน่ะ” ภูริทัตเรียกด้วยเสียงค่อนข้างดัง เมื่อออกมาจากห้องนอนแล้วไม่พบใครแม้แต่คนเดียว
“ผมอยู่ในครัว” เสียงตอบลอดออกมาจากประตูด้านหนึ่ง
ภูริทัตเดินไปตามเสียง ก็เห็นสเตฟานกำลังจัดถ้วยกาแฟอยู่
“ทานกาแฟกันที่ไหนดี ห้องนั่งเล่น หรือว่าข้างนอก” สเตฟานพูดพลางรินกาแฟ จากโถแก้วของเครื่องต้มกาแฟ ลงไปในแก้วเคลือบ แล้ววางลงบนถาดที่มีกระปุกน้ำตาล นม และครีมเทียมวางอยู่ก่อนแล้ว
“ข้างนอกดีกว่า อากาศน่าจะเย็นดี” ภูริทัตพูดแล้วเดินเข้าไปยกถาดกาแฟ “ผมยกไปเอง”
“โต๊ะอยู่ทางขวานะครับ เดี๋ยวผมตามออกไป”
ภูริทัตพยักหน้ารับ แล้วเดินออกไปอย่างอารมณ์ดี เมื่อออกจากบ้านแล้วมองไปทางขวา ก็มองเห็นโต๊ะไม้กลมขนาดย่อม มีเก้าอี้ไม้วางอยู่รอบ กลางโต๊ะมีเชิงเทียน ปักเทียนไข ๓ เล่ม จึงเดินไปวางถาดกาแฟลงบนโต๊ะ นั่งลงบนเก้าอี้ แล้วตักน้ำตาลและครีมเทียมเติมลงไปในแก้วกาแฟ ที่ยกออกมาวางไว้นอกถาดสำหรับตัวเอง
“ของผมน้ำตาล ๒ ครีม ๒ นะครับ” เสียงของสเตฟานมาพร้อมกับเจ้าตัวที่นั่งลงตรงข้าม จานขนาดย่อม มีเค๊กชอคโกแลตชิ้นโตอยู่ ๒ ชิ้น ถูกวางลงแทนที่แก้วกาแฟที่ถูกยกออกจากถาด “อาหารว่างยามดึกครับ” สเตฟานพูดยิ้มๆ ยื่นมือรับแก้วกาแฟที่ภูริทัตส่งให้
“โอ้โห ... น่ากินจังเลย ของชอบผมเลยนะเนี่ย ขออนุญาตนะครับ” ภูริทัตพูดแล้วหยิบช้อนตักเค๊กคำโตเข้าปาก เคี้ยวเบาๆสีหน้ายิ้มแย้ม แสดงถึงความพอใจในรสชาดของมัน “อร่อยจังครับ”
สเตฟานมองดูชายหนุ่มกินเค๊กอย่างเอร็ดอร่อย พลางจิบกาแฟในแก้วช้าๆ
“คุณไม่กินเหรอ”
“ไม่ล่ะครับ แค่เห็นคุณกินผมก็อิ่มแล้ว”
“โห ... พูดยังกะว่าผมกินเป็นพายุ” ภุริทัตบุ้ยปากด้วยความไม่พอใจ
“ไม่ใช่แบบนั้น” สเตฟานหัวเราะเบาๆ  “ผมหมายถึงคุณกินอย่างเอร็ดอร่อย ทำให้ผมรู้สึกไปด้วย”
“จริงสินะ คุณคงเพิ่งกินอาหารเช้าล่ะสิ” ภูริทัตพูดยิ้มๆ “ความจริงผมก็กินอะไรมาแล้วตอนอยู่ในรถ แต่พอเห็นเค๊กนี่แล้วอดไม่ได้”
“ในตู้เย็นยังมีอีกนะครับ ผมให้เตรียมมาสองปอนด์ แล้วยังมีสลัดผัก กับสปาเกตตี้ ถ้าจะกินคงต้องอุ่นหน่อย”
รายการอาหารที่ได้ยิน ทำให้ภูริทัตนิ่งไป
“มีอะไรรึเปล่าครับ” สเตฟานถามเบาๆ
“ผมคิดถึงเรื่องเก่าๆน่ะ จำได้มั๊ย ผมเคยเล่าให้คุณฟังว่าได้เจอคนที่คล้ายๆคุณ”
สเตฟานไม่ตอบ แต่ยิ้มให้ชายหนุ่มอย่างอบอุ่น
“ตอนนั้นเค้าสั่งอาหารให้ผมกิน มีสปาเกตตี้ สลัดผัก แล้วก็เค๊กชอคโกแลต” ภูริทัตจ้องมองเข้าไปในดวงตาสีเขียวมรกต “แล้วเค้าก็ยิ้มให้ผมแบบนี้แหละ ยิ้มอย่างอ่อนโยนและอบอุ่น”
“ขอบคุณนะครับ ที่ให้ผมได้เป็นตัวแทนของคนที่คุณคิดถึง” สเตฟานพูดอย่างอ่อนโยน
“ไม่ใช่นะ ไม่ใช่” ภูริทัตรีบพูด “ผมไม่เคยคิดว่าคุณเป็นตัวแทนเค้าเลยนะ ผมแค่บอกว่าคุณดูคล้ายๆเค้าเท่านั้นเอง”
“ครับ ผมเข้าใจ” สเตฟานยิ้มกว้าง “ผมเพียงอยากจะบอกว่า ดีใจที่มีส่วนคล้ายคนสำคัญของคุณ”
“สานฝัน คุณเองก็สำคัญสำหรับหรับผมนะ” ภูริทัตส่งสายตาที่มีความหมายให้คนตรงหน้า
สเตฟานรู้ถึงความหมายที่ส่งผ่านออกมาทางสายตาของชายหนุ่ม รู้สึกได้ว่าหัวใจของตนเองเต้นแรงขึ้น ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างที่ไม่อาจควบคุมได้ พอรู้สึกตัวก็หลบสายตาของคนที่จ้องมองมา เสทำเป็นก้มหน้าจิบกาแฟในแก้ว พยายามควบคุมสติให้มั่นคง เพื่อไม่ให้ ‘เกราะ’ เกิดช่องโหว่ขึ้นได้

ภูริทัตมองดูใบหน้าที่แดงระเรื่อ กับท่าทางของสเตฟาน แล้วอดคิดไม่ได้ว่า คนตรงหน้าคงกำลัง ‘เขินอาย’ ทำให้อดขันไม่ได้เหมือนกัน เพราะคิดมาตลอดว่าชาวต่างชาติน่าจะกล้าแสดงออกในเรื่องนี้มากกว่านี้ แต่กิริยาของคนตรงหน้า ราวกับคนไทยรุ่นเก่า ที่ไม่ค่อยกล้าแสดงออกในเรื่องเช่นนี้นัก
“สานฝัน ทำไมคุณถึงมาที่นี่ล่ะ ดูแล้วมีแต่ป่า เห็นคุณทรงศักดิ์บอกว่าคุณตัดสินใจกระทันหัน ผมนึกว่าคุณมีธุระอะไรที่ไหนซะอีก ไม่คิดว่าจะมาอยู่กลางป่าแบบนี้”
“มันกระทันหันจริงๆ” สเตฟานตอบแล้วนิ่งไป ทำท่าครุ่นคิด “มีคนกำลังตามหาผมอยู่ แต่ผมไม่ต้องการพบคนเหล่านั้น”
“คุณก็เลยหลบมาที่นี่”
“ใช่”
“แล้วถ้าคุณหลบไม่พ้นล่ะ”
“ไม่รู้สิ ผมไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรจะเกิดขึ้น”
“สานฝัน คนพวกนั้นเป็นใครเหรอ คุณถึงต้องหลบหนีแบบนี้ หรือว่าคุณไปทำอะไรไว้ จนต้องหนีให้พ้นมือกฏหมาย”
สเตฟานหัวเราะในลำคอ ดวงตาแสดงออกถึงความขบขัน
“กฎหมายไม่มีความหมายสำหรับผมหรอก ... ผมหมายความว่าผมไม่ได้ทำอะไรผิด ถึงต้องกลัวว่าจะต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายของประเทศนี้ หรือของประเทศไหนที่ผมเคยอยู่มาก็ตาม”
“แล้วคนพวกนั้นเค้าจะตามหาคุณทำไม หรือเป็นพวกมาเฟีย พวกเรียกค่าไถ่ พวกมิจฉาชีพ” ภูริทัตหน้าตาตื่น จนสเตฟานเปล่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ
“ไม่ใช่หรอก ผมว่าเราคุยกันเรื่องอื่นดีกว่า”
“สานฝัน” ภูริทัตเรียกแล้วลุกขึ้นเดินมาโอบสเตฟานทางด้านหลัง แนบแก้มลงไปบนเส้นผมสีทองอันอ่อนนุ่ม “หากพวกนั้นตามคุณจนพบ หากพวกนั้นคิดจะทำร้ายคุณ ผมจะปกป้องคุณเอง” ชายหนุ่มกระซิบด้วยเสียงแผ่วเบา
สเตฟานยกมือขึ้นแตะหลังมือภูริทัตเบาๆ อีกฝ่ายพลิกฝ่ามือขึ้นกุมมือนุ่มไว้ แล้วบีบเบาๆ เหมือนจะย้ำคำพูดนั้น ให้เป็นดังคำมั่นสัญญา โดยที่ไม่ได้เห็นใบหน้าที่แสดงถึงความขบขันปนไปด้วยความเอ็นดูของอีกฝ่าย

“เป็นไรวะ ท่าทางไม่ค่อยสนุกเลย” ปรีชาถามรังสรรค์ที่นั่งอยู่ข้างๆ
ทั้งสองคนกำลังนั่งกันอยู่ที่โต๊ะเล็กๆ ภายในผัปฉพาะกลุ่มแห่งหนึ่ง ชายหลากหลายวัยภายในผัปแห่งนั้น บ้างก็นั่งดื่มเหมือนพวกเขา บ้างก็ยืนอยู่ตามมุมต่างๆ บ้างก็เต้นรำกันอยู่บนที่ว่างกลางผัป ซึ่งจัดเป็นที่สำหรับเต้นรำกันโดยเฉพาะ
“คิดถึงเจ้าทัตเหรอไง” ปรีชาถามอีก
“คิดให้โมโหเหรอวะ หนีไปเที่ยวไม่ชวนเพื่อนฝูง”
“งั้นก็ปู” ปรีชายื่นหน้าเข้าไปถามใกล้ๆ
“ฮ่าๆๆ” รังสรรค์หัวเราะ “คิดถึงทำไม”
“อ้าว คบกันอยู่ไม่ใช่เหรอวะ”
“เปล่า” รังสรรค์ยักไหล่ “แค่ชั่ววูบหว่ะ”
“อย่างนั้นข้าจีบต่อ”
“ตามใจเอ็งสิ แต่ปูมันชอบเจ้าทัตอยู่ เอ็งก็รู้”
“เราก็รู้เหมือนกันว่าทัตมันไม่ได้สนใจอะไรนี่หว่า ตอนนี้ทัตมันกำลังหลงสานฝันของมัน” ปรีชาหัวเราะเบาๆ
“สานฝันเหรอ” ปรีชาทำท่าครุ่นคิด “สเตฟาน ... สานฝัน”
“เข้าใจตั้งชื่อเน๊อะ นายว่าม๊ะ” ปรีชาหมุนแก้วในมือ “น่าหลงไหลจนต้องเก็บไปฝัน พอตื่นแล้วก็ต้องสานต่อ”
“อ้าว เมื่อกี้ยังทำท่าสนใจเจ้าปู ตอนนี้ตาเชื่อมคิดถึงคนอื่นซะแล้ว”
“หรือนายว่าไม่น่าคิดล่ะ หล่อๆแบบนั้นเป็นแบบไหนก็ยอมวะ” พูดแล้วปรีชาก็หัวเราะร่วน
“แต่ข้าไม่ชอบความฝันหว่ะ ความจริงมันน่าสนใจกว่าเยอะ” รังสรรค์พูดจบก็ยักคิ้ว พร้อมกับส่งยิ้มให้ชายหนุ่มหน้าตาคมคายกลุ่มหนึ่ง ที่หันมามองเขาและปรีชา

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
มารอตอนกลางคืน จะเป็นยังไงนะจะบอกความจริงกันไม๊

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
เพ้อหากันใหญ่เลยสองหนุ่ม :laugh:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด