ภารกิจตามหา king
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภารกิจตามหา king  (อ่าน 215381 ครั้ง)

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
จบแบบ ต้องลุ้นอีกนะหมอ งั้นอย่าให้รอนานนะครับ  :z3:

Donpopper

  • บุคคลทั่วไป
อ้าว

แล้วอย่างนี้หนูคอนจะเป็นยังไง

แล้วพี่โปรดว่าจะอยู่ยังไงล่ะเนี่ย

tmarch

  • บุคคลทั่วไป
หว่าๆ

คอนจาตายจิงๆๆหรอเนี้ยๆ

อย่านะ....................... :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
คุณวัตรขอจบแบบแฮปปี้ไม่ได้เหรอ

 :m15:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
ขอบคุณค่ะ แต่มาต่อเร็ว ๆ นะคะ เป็นห่วง แจ๊กอ่ะค่ะ

คิคิ วันนี้ได้จิ้มคนคอยให้กำลังใจ  :z13:
ขอบคุณ คุณ ken_krub  ที่คอยให้กำลังใจ


ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ลมหายใจของใครคับ  :sad4:

thanawat

  • บุคคลทั่วไป
26 (ความทรงจำที่เหลือไว้)
   สายลมพัดผ่าน หอบเอาสายลมแห่งความรักและความคิดถึง กลับมาหาคนที่ยังรอคอยความหวัง แว่วเสียงนกร้องคลอเคลีย ดังขึ้นที่ริมหน้าต่างห้อง ชายหนุ่มตัวเล็กนั่งมองออกไปภายนอก ดูความวุ่นวายของโลกภายนอก
“ตื่นแล้วหรอลูกแม่” หญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาพร้อมถาดอาหาร คนที่นั่งอยู่ในห้องมองหน้าหญิงที่เรียกตัวเองว่าแม่อย่างสงสัย
“ตื่นนานหรือยัง เดี๋ยวแม่เช็ดตัวให้นะ” หญิงคนนั้นยังคงถามต่อ เอาถาดอาหารวางลงข้าง ๆ เตียง หาผ้าเช็ดตัวผืนขนาดกลาง ชุบน้ำอุ่น ๆ มาเช็ดตัวให้ ชายหนุ่มนั่งให้คนที่เรียกตัวเองว่าแม่เช็ดตัวให้อย่างทะนุถนอม สักพักประตูห้องเปิดออกอีกครั้ง
“เอ้า ตื่นนานหรือยังครับแม่” ชายตัวสูงก้าวเข้ามานั่งข้างหลังชายตัวเล็ก
“แม่ก็เพิ่งเข้ามา เห็นนั่งมองออกไปที่หน้าต่างโน้น”
“มาให้ผมทำให้ดีกว่าครับ แม่ลำบากมากแล้ว” ชายตัวใหญ่รับผ้ามาเช็ดตัวให้
“เดี๋ยวเช็ดตัวกินข้าวเสร็จพี่จะพาไปเดินเล่นนะ เพื่อน ๆ เขารออยู่” ชายหนุ่มชวนคุย
“จับถอดเลยดีไหมนี้ ไหนแก้เลยดีกว่าพี่เช็ดไม่ค่อยถนัด” ว่าแล้วก็มองหน้าผู้เป็นแม่ ซึ่งนางก็เข้าใจ โดยการเดินออกจากห้องพักไป
“เพื่อน ๆ เอาอยากพบ ยิ่งเจ้าเกรียงยิ่งมาหาทุกเย็น” ปากว่ามือก็เช็ดตัวให้คนตัวเล็กต่อไป
“เมื่อวานคริตก็โทรมา อยากมาเยี่ยม เราก็นอนหลับอยู่นั้น ก็เลยไม่กล้าปลุก” คนที่ถูกเช็ดตัวยังคงนั่งนิ่งดวงตาเหม่อลอย ไม่รับรู้และตอบสนองต่อสิ่งรอบข้าง
“วันนี้ใส่ชุดไหนดี วันก่อนส้มเช้งส่งชุดใหม่มาให้ ยังไม่ใส่เลย เดี๋ยวพี่ไปดูให้นะ” ว่าแล้วก็ปล่อยให้คนตัวเล็กนั่งอยู่คนเดียว ออกไปค้นดูเสื้อผ้าจากตู้ข้างนอก
“เสร็จแล้วหรอโปรด” เสียงแม่ถามขึ้น
“ครับแม่ กำลังหาเสื้อผ้า ที่เช้งส่งมาให้ไปลองใส่ดู” คนตัวโตตอบ พลางค้นดูตู้เสื้อผ้า
“โปรด แม่เกรงใจโปรดนะ” แม่ตัดสินใจเอยขึ้น ยิ่งเมื่อเห็นว่าที่ลูกเขยเอาใจใส่ดูแลลูกชายตัวเองไม่ขาดตกบกพร่อง
“ทำไมครับแม่ ทำไมแม่ต้องพูดอย่างนี้ด้วย” มาโปรดหันไปมองหน้าผู้เป็นมารดาของคนรัก
“แม่ไม่อยากให้ โปรดต้องมา ทนอยู่กับคนที่ไม่รับรู้อะไรเลย คนที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้” แม่พูดพร้อมน้ำตาที่ไหลร่วงลงมาอาบสองแก้ม
“แม่ครับ ผมรักลูกแม่ครับ รักมากด้วย ผมรักในตัวตนของเขา แม่ครับตอนที่เขาโดดเขามารับกระสุนแทนผม มันทำให้ผมรู้สึกเสียใจอย่างมาก แค่นี้มันคงยังไม่เท่ากับสิ่งที่คอนยอมสละชีวิตเพื่อผม” มาโปรดเอย พร้อมกับน้ำตาลูกผู้ชายคนหนึ่งที่ไหลรินออกมา
“นี้ก็สามเดือนกว่าแล้วนะลูก ที่ออกจากโรงพยาบาลมา แล้วน้องไม่รับรู้อะไรอีกเลย” แม่ทุกข์ใจหนักเข้าอีก
“จะนานกี่เดือนกี่ปีผมก็จะรอ รอให้น้องกลับมาครับแม่ กลับมาเป็นคนเดิม หรือไม่เดิมก็ขอให้รับรู้ว่าผมรักเขา” มาโปรดกลับเข้าห้องพร้อมชุดใหม่อีกครั้ง แม่ตามเข้ามาช่วยป้อนข้าว
“แม่ครับ” มาโปรดตะลึงกับภาพที่เห็น หันไปมองแม่ที่เดินตามหลังเข้ามา ภาพที่ปรากฏตรงหน้า เป็นภาพชายหนุ่มร่างเล็กร่างเปลือยเปล่า กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ติดหน้าต่าง มองออกไปข้างนอกห้อง ไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นภายในห้อง สามเดือนที่คนที่นอนในห้องนี้ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน นอนอยู่เฉพาะที่เตียงนอน แต่วันนี้กลับเห็นมานั่งที่ริมหน้าต่าง
“คอนลูกแม่” แม่ดีใจน้ำตาไหลริน กำลังจะวิ่งไปกอดลูกชาย
“อย่าเพิ่งครับแม่ ให้น้องอยู่แบบนั้นก่อนครับ ผมอยากให้น้องมีความสุข” มาโปรดพูดเบาๆ แล้วค่อย ๆ เดินไปที่คนที่นั่งริมหน้าต่าง
“โอ้ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อย่า ๆ ทำ ขะย่าๆๆๆ” ชายหนุ่มร่างเปลือยเปล่าคุ้ดคู่เอามือกุมศีรษะ ล้มตัวลงนอนกับพื้น
“คอน ๆ พี่อยู่นี้ครับพี่อยู่นี้” มาโปรดถลาเข้าไปกอดร่างที่ร้องโอยควาญนั้นไว้
“โปรดน้องเป็นอะไรลูก” แม่ถามจากอีกฝั่งเตียง มองดูลูกชายที่ร้องอย่างเจ็บปวดเวทนา ยิ่งทำให้ใจตัวเองไม่ดีขึ้น
“ไม่ทราบครับแม่” ชายหนุ่มตอบพร้อมอุ้มร่างที่นอนนิ่งนั้นไปที่เตียงนอน ค่อย ๆ ว่างลง เอาผ้าห่มมาห่มคลุมกาย แม่เข้ามานั่งอีกข้าง
“โธ่ ลูกแม่ เป็นอะไรหรือเปล่า บอกแม่บ้าง” แม่ก้มลงหอมที่หน้าผากและแก้มของคนที่นอนนิ่งนั้น มาโปรดเดินไปที่หน้าต่าง มองออกไปสำรวจสิ่งรอบ ๆ ที่ทำให้คนป่วยสามารถเดินจากเตียงนอนไปหาได้ และแล้วสายตาก็พลันไปเห็นนกกินปลีอกเหลืองสองตัวที่กำลังกินน้ำหวานแล้วร้องเรียกกันอยู่ที่ต้นไม้ เสียงร้องจะเป็นเสียงแหลมเสียงสูงบ้าง ต่ำบ้าง   
“แม่ครับผมลืมเสียสนิทเลย” มาโปรดหันมาคุยกับมารดาคนรัก
“มีอะไรลูก” แม่ตั้งใจฟัง มาโปรดกลับออกไปสักครู่ก่อนกลับเข้ามา พร้อมด้วยเครื่องเล่นตัวเล็ก ๆ แล้วเปิดเสียงเพลงบรรเลงเบา ๆ
“ผมลืมคนตรีบำบัดครับแม่” มาโปรดขึ้นมานั่งบนเตียงอีกคน แม่จึงลุกขึ้นไปดูอาหารและนั่งอยู่ห่าง ๆ ปล่อยให้คนรักกันปฏิบัติดูแลกันเอง คนที่นอนแน่นิ่งค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้น มองหน้าคนที่นั่งจ้องอยู่แล้ว คนที่นั่งอยู่ส่งยิ้มให้
“ยังไม่ใส่เสื้อผ้าเลย อายคุณแม่บ้างชิ” พลางชูชุดใหม่ที่เตรียมมาให้
“ชอบไหม” คนที่นอนนิ่งจ้องหน้าคนพูด
“เปล่า พี่หมายถึงเพลง” ว่าแล้วก็จับที่สันจมูกบีบเบา ๆ
“ไหนลุกมาใส่เสื้อผ้าก่อน เดียวจะได้กินข้าว เดี๋ยวเพื่อน ๆ จะมาเยี่ยมนะ” ว่าแล้วก็อุ้มคนตัวเล็กขึ้นแล้วจับใส่ผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่ ตามด้วยเสื้อผ้า จนเสร็จ แม่จึงเข้ามาป้อนข้าวลูกชายตัวเอง
“โปรดไปทานข้าวได้แล้วลูก จะได้ไปทำงาน เดี๋ยวตรงนี้แม่จัดการเองไม่มีปัญหาอะไรหรอก ไปทำงานเถอะ” แม่ไล่ออกจากห้อง
“ครับ เดี๋ยวผมไปทำงาน เที่ยง ๆ ผมจะมาดูอีกครั้งครับ ทานข้าวนะตัวเล็ก จะได้หายไว ๆ” ส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มมาให้ มันยิ่งทำให้ผู้เป็นแม่รู้สึกทุกข์ไปกับลูก 

“คนไข้ขาดออกซิเจนไปนานกว่า 10 นาทีครับ อาการตอนนี้โดยรวมปลอดภัยแล้วครับ แต่ต้องรอดูผลที่จะตามมา” หมอเข้ามาบอก ให้กับทุกคนรับรู้ ว่าตอนที่มีการเคลื่อนย้ายคนเจ็บนั้น คนเจ็บได้หมดสติไปอีกครั้ง หมอต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ตลอดเวลา
“ผลที่จะเกิดเป็นยังไงบ้างคะหมอ” ส้มเช้งพยายามถาม
“ก็อาจจะไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ เพราะทางเราตรวจพบสิ่งเสพติดอยู่ในร่างกายคนป่วยมากเกิน ซึ่งมันมีผลต่อระบบประสาทด้วย ซึ่งอันนี้ขึ้นอยู่กับคนป่วยเองว่าจะฟื้นฟูความรู้สึกนึกคิดได้แค่ไหน” หมอกล่าว
“หมายความว่ายังไงคะหมอ” ส้มเช้งไม่เข้าใจ
“เออ คือเราตรวจพบปริมาณสิ่งเสพติดมากเกินปริมาณที่ร่างกายคนเรารับได้อยู่ในร่างกายคนป่วย แล้วมันส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้คนป่วยฟื้นขึ้นมานั้นอาการไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์” 
“แล้วอย่างนี้จะมีโอกาสหายใช่ไหมคะหมอ” แม่รีบรุกต่อ
“ครับ แต่ผมก็ไม่แน่ใจชักทีเดียว บางทีการผ่าตัดอาจช่วยได้ แต่ต้องรอให้คนป่วยพร้อมกว่านี้ก่อนครับ ผมขอตัวไปดูคนไข้คนอื่นก่อนนะครับ” หมอออกจากห้องพักผู้ป่วย บรรดาญาติพี่น้องทุกคนมาล้อมรอบเตียงนอนของคนป่วยที่ตอนนี้มีสายอะไรต่อมิอะไรโยงไปหมด
“อย่างน้อยตอนนี้เราก็ได้พี่คอนกลับมาครับแม่” ชัยมงคลเข้ามาปลอดผู้เป็นมารดา
“แต่แม่ไม่อยากเห็นพี่เราต้องเจ็บปวด” แม่ว่าพร้อมน้ำตาที่ไหลริน
“หมอว่าอย่างไรบ้างครับ” คริตเข้ามา
“หัวหน้าครับ หมอบอกว่า พี่คอนเสพยา” ชัยรีบรายงาน
“จากความบังเอิญมากกว่า” คริตกล่าวหน้าตาตึงเครียด
“หมายความว่าไงครับบังเอิญ” ภูมิถามบ้าง
“จากสายที่รายงาน นายพลตูเมจะให้คนงานดื่มน้ำที่ผสมยาลงไป เพื่อที่จะไม่ให้ลูกน้องหนี ทุกคนต้องกลับมาดื่มน้ำนี้ตลอดไป จนกว่าร่างกายจะรับไม่ไหว ผมคิดว่าคอนก็คงจะได้รับผลจากการดื่มน้ำเข้าไป”
“ลูกพ่อ ต้องไม่เป็นอะไรนะ ต้องเข้มแข็งไว้” พ่อเข้ากอดร่างลูกชาย
“พวกเราเอาใจช่วยให้พี่คอนของเราดีขึ้นเถอะคะพ่อ”ส้มเช้งไปกอดพ่อบ้าง
“แล้วมาโปรดละ หัวหน้า ตั้งแต่มาฉันยังไม่เห็นเลย” แม่ได้สติเอยหาคนที่ตามช่วยลูกชาย 
“ตอนนี้ผมส่งทีมช่วยเหลือออกไปแล้วครับ” คริตกล่าว แต่ก็ถูกมองจากทุกคนที่อยู่ในห้อง
“คือย่างนี้ครับ ผู้กองอัศวินนั้นเข้าไปช่วยคอนออกมาก่อน แล้วต้องกลับไปช่วยลูกน้องอีกสองคนที่ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน แต่ทางรัฐบาลฝั่งโน้นเขาไล่เราออกมาก่อน เราจึงไม่สามารถรับตัวผู้กองและลูกทีมที่บาดเจ็บออกมาได้ ตอนนี้ทางเราก็เลยส่งคนลงพื้นที่และเข้าไปรับออกมาอีกครั้ง”
“ผู้กองจะได้ออกมาไหมครับ” ชัยมงคล อยากถามความแน่ใจ
“อันนี้ยังไม่รู้ครับ แต่ผมว่าผู้กองคงต้องออกมาได้” คริตตอบ
“ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย” แม่เริ่มอ่อนใจ สงสารลูกก็สงสาร สงสารคนที่ยังอยู่ในป่าก็สงสาร เกิดมารับรู้สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้จะทำอย่างไร
“หัวหน้าครับ เราได้รับการติดต่อครับ” ลูกน้องเข้ามารายงาน
“จากใคร” คริตรีบถามกลับไป
“ไม่แน่ใจครับ แต่เป็นสัญญาณเดียวกันกับที่แจ๊กเคยมีครับ”
“ลูกทีมติดต่อกับมา ให้ได้อย่างนี้ซิ จับพิกัดได้ไหม” พร้อมออกจากห้อง

“ผู้กองครับ เราเข้าไปตรงใต้น้ำตกนั้นดีไหมครับ” เกรียงสิทธิ์ชี้เข้าไป
“ดีเหมือนกัน จะได้หลบพวกที่ติดตามเราได้” มาโปรดจับคนที่ไร้สติให้มั่นคงแล้วรีบเข้าไปหลังม่านน้ำตก แล้วค่อย ๆ วางร่างลงจากบ่า ให้นอนลงตรงที่ราบ
“ทัก แกอย่าเป็นอะไรนะเว้ย” เกรียงสิทธิ์เอาน้ำมาลูบที่ใบหน้าเพื่อน
“อือ ดีแล้ว จะได้สดชื่นขึ้น” มาโปรดกล่าว พร้อมกับเดินไปที่น้ำตก กวักเอาน้ำขึ้นมาใส่หน้าให้ความสดชื่นและเรียกกำลังขึ้นมา
“เป็นไงฟื้นไหม” มาโปรดถามเกรียงสิทธิ์
“ครับกำลังฟื้นครับ” เกรียงสิทธิ์กล่าวแล้วหันไปดูแลเพื่อนต่อ
“ติดต่อศูนย์ได้ไหม” มาโปรดถามอีกครั้ง
“ผมให้ที่อยู่ครั้งสุดท้ายตอนที่เรากำลังปีนเขาขึ้นไป หลังจากนั้นแบตเตอรี่เราก็หมดครับ” เกรียงสิทธิ์รายงาน
“สงสัยเราต้องออกไปทางแม่น้ำนี้เสียแล้ว” มาโปรดพึมพำ เกรียงสิทธิ์ ยกนาฬิกาขึ้นดู
“ผู้กองครับ เราอาจโชคดีก็ได้ครับ” พลางชูนาฬิกาของตัวเองขึ้น
“ผมติดตั้งเครื่องติดตามไว้ที่เครื่องของคอน ทัก และก็ผม ระบบแมนแฟรมของผมยังออนไลน์ผมอยู่ที่บ้าน ถ้าเครื่องคอมชุดนี้ใช้ไม่ได้มันจะออนไลน์แทนครับ ตอนนี้ภาวนาให้ศูนย์ของคริตเห็นด้วยเถอะ ตอนที่ผมแก้ไขระบบของศูนย์ผมฝังระบบตัวนี้เข้าไปด้วย เป็นเครื่องสำรอง ผมจะลองส่งนะครับ” เกรียงสิทธิ์รีบออกมาหาที่แจ้ง กดตัวส่งสัญญาณที่ข้างตัวเรือนนาฬิกา พยายามกดย้ำ ๆ
“ขอให้ได้รับด้วยเถอะ ขอให้ได้ด้วยเถอะ” เกรียงสิทธิ์กล่าวเบาๆ
“ปัง ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ห่ากระสุนแหกอากาศเข้ามา
“เร็วเกรียง มันตามมาทันแล้ว” มาโปรดมาดึงเกรียงสิทธิ์เข้าที่หลบ
“ผู้กองครับ ผม....ผม...คง...ไม่รอด...ผู้กองงหนีไปก่อนครับ” เกรียงสิทธิ์ค่อย ๆ พูด มาโปรดมองดูที่ร่างของเกรียงสิทธิ์ที่ตอนนี้เลือดแดงฉานกำลังไหลออกมา
“พวกนายจะไม่ต้องเป็นอะไร ผู้กองให้สัญญา” มาโปรดดึงร่างของเกรียงสิทธิ์ลุกขึ้นหิ้วปีก
“ผมไม่ไหวครับผู้กอง” เกรียงสิทธิ์พยายามแข็งใจ
“ไปเราต้องไปด้วยกัน” มาโปรดไปฉุดร่างของพิทักษ์อีกคนแล้วดึงลงสูงแม่น้ำ
“ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ร่างทั้งสามจมหายลงสู่ก้นแม่น้ำ   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-03-2009 17:10:59 โดย thanawat »

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ทำไมมันเป็นแบบนี้ ไหนว่าคนดีเทวดาคุ้มครองไง

ม่ายยยยย  :z3:  :serius2: 

ออฟไลน์ tawada_j

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2
ลุ้นมากมาย

สู้ ๆ นะนคร

ขอบคุณพี่หมอและพี่วัตร

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






golf

  • บุคคลทั่วไป
บอกได้คำเดียวว่า  :m15: :monkeysad:

ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
เฮ้อ สงสารน้องจัง

ยาเสพติดมันไม่ดี ใครอย่าได้ไปลองเชียว

อย่านึกว่าเมิงแน่ เพราะว่ามันแน่กว่าเมิง

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
วันนี้อ่านเรื่องไหน ก็มีแต่บาดเจ็บ กับตาย  :เฮ้อ:

แต่ก็รู้ผลแล้วละว่า เป็นยังไง มารอตอนต่อไปอยู่นะครับ หมอ   :กอด1:

และหลบ กลัวปลัด ฯ  :z6:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
น้ำตาไหลเลย สงสารทุกคน

tmarch

  • บุคคลทั่วไป
จาจบยังไงหรอ

เนี้ยๆ

อ่านแล้วเครียดอ่ะ


สาูธุ

อย่าเป็นไรกันเลยน่ะ

 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ RealReal

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
อ่านะ คาดว่าเรื่องคงดำเนินไปได้ด้วยดี เพราะตอนนี้ใจเราไม่ได้หายว๊าบ ๆ เหมือนทุกตอน ฮ่า ๆๆ

ป.ล. เอาไป ๆ  :L2: :L2:  :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: จะได้มีแรงเขียนเยอะ ๆ อิอิ

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
ทำไมเป็นแบบนี้ :sad4:

nai_nai

  • บุคคลทั่วไป


 :m15: :m15: :m15:

ทำไมมันเศร้าจัง

น้ำตาไหลเลย สงสารทุกคน

โหดร้ายจริง ๆ เลย

 :impress3:

ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10
โอย ตื่นเต้นอ่ะ ลุ้น และ เศร้า
 มาต่อเร้ซๆ นะค้าบ รอหนังสือ พี่หมอ พี่วัตรด้วย o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






yunjaelover

  • บุคคลทั่วไป
    อ่านแล้วปลื้มพี่มาโปรดมากๆเลย ทำไมเป็นคนดี แบบนี้ อ่ะ สงสัยคุณปลัดจะเอานิสัยตัวเองมาเขียนหรือเปล่าเนี่ย ถ้าเป็นแบบนั้น ก็น่าปลื้มใจแทนคุณหมอ ได้คนดีๆ แบบนี้  แล้วตอนหน้านครจะหายเหมือนเดิมมั้ยอ่ะ ไม่อยากอ่านเรื่องเศร้าแล้ว

ขอบคุณนะค่ะ ..............+

ออฟไลน์ RAKDEK_KA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1798
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
หลังๆๆ มานี่ระทึกทุกตอนเลยอะ

ลุ้น ๆๆๆ  ทุกคนจะเป็นไงต่อไป

มาต่อเร็วๆ นะคะ พี่หมอ

 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13


thanawat

  • บุคคลทั่วไป
27(เพื่อนกูรักมึง )
   ดนตรีบำบัดทำให้ผู้ป่วยเริ่มที่จะตอบสนองต่อสิ่งรอบข้างมากขึ้น ก็ยังไม่เท่าที่ควร หลาย ๆ คนถือว่าเป็นนิมิตรหมายอันดีที่จะทำให้คนที่ไม่รับรู้สิ่งรอบข้างรู้อะไรมากขึ้น
“สวัสดีครับแม่” ทหารหนุ่มยกมือไหว้ตั้งแต่รั้วบ้าน
“เอ้า มาแล้วหรอลูก เข้ามาก่อน” แม่ออกไปตอนรับ
“เพื่อนผมอยู่ไหนครับ” มาถึงถามหาเพื่อนก่อน
“อยู่โน้นจ๊ะ มุมโปรดของเขา” แม่ชี้ไปที่ใต้ต้นมะม่วงใหญ่ เห็นคนป่วยยังนอนอยู่บนเปลไม้ไผ่สาน ข้าง ๆ มีวิทยุเทปวางอยู่
“ผมไปหาเพื่อนก่อนครับแม่” ทหารหนุ่มขอตัว
“อือ จ๊ะเดี๋ยวแม่เอาขนมไปให้ทานกัน เออ วันนี้ทำไมฉายเดียวได้”
“ขี้เกียจรอคนขาเป้ครับแม่” ตอบแม่แล้วเดินไปหาเพื่อน ก่อนถึงเพื่อนไปลากเอาเก้าอี้นอนมาสำหรับตัวเอง
“ดูพูดเข้า” แม่บ่นนิด ๆ เพราะถือว่าสนิทกัน
“วันนี้เป็นไงบ้างวะ” ถามไปอย่างนั้นเพราะรู้ว่าคนข้าง ๆ ไม่ตอบสนองอะไร
“วันนี้กันเบื่ออะ ก็เลยออกมาหา อยากหาอะไรกิน ไม่อยากกินกับข้าวโรงเลี้ยง คิดถึงฝีมือแม่ด้วย” คนกล่าวล้มตัวลงนอนข้าง ๆ มองดูใบหน้าข้างหน้าเหมือนคนข้าง ๆ หลายที่คนป่วยตอบสนองอย่างเช่นการกระพริบตาถี่ ๆ การหันมองบ้างอาจจะช้า การตั้งใจฟังเสียงเพลงบรรเลงแบบคลาสสิก ที่ผู้กองเปิดให้ฟัง
“วันนี้ กันอยากออกไปเที่ยวไกล ๆ เบื่อไอ้เป้นั้นด้วย ไม่รู้มันจะตามไปถึงไหน อยู่คนละกองร้อยก็” คนพูดเหมือนจะมาปรับทุกข์มากกว่า
“อยากให้คอนกลับมาเร็ว ๆ จะได้ไปเที่ยวด้วยกัน แต่ก็นั้นแหละ เราต้องอยู่กองร้อยไม่สามารถออกไปไหนได้ไกล จนกว่าจะปลดแต่ก็ดีที่คริตยอมรับเข้าทำงานด้วย ก็ดีหน่อยไม่ต้องมาตกงาน กว่าจะถึงวันนั้น อีกตั้งเจ็ดเดือนกว่า จะรอดไหมเรา”
“ขะ.....หย่า.......ขะย่า” คนป่วยลุกขึ้นนั่ง อย่างรวดเร็วจนทำให้คนที่นอนปรับทุกข์ลุกตามแทบไม่ทัน
“อะ....ไร เป็นอะไร คอนเป็นอะไร” รับเข้าไปจับตัวคนป่วย
“นอนลงก่อนนะ นอนก่อนครับกำลังใช้ความคิดใช่ไหม” พยายามถามคนป่วยช้า ๆ คนป่วยกระพริบตาถี่ ๆ นอนลงตามที่เพื่อนพยายามดันตัวลง
“ขะย่า  ขะย่า” คนป่วยกล่าวเบา ๆ จนต้องเอียงหูเข้าไปฟังใกล้ ๆ
“พูดใหม่ซิ ไม่ค่อยได้ยิน” หันกลับมากล่าวกับคนป่วย
“มีอะไรหรอลูก” เสียงแม่นั้นเอง กำลังถือจานของว่างมาให้
“เห็นคอนกำลังพูดถึงอะไรสักอย่างครับแม่”
“จ๊ะ เป็นมาได้สองสามวันแล้ว แม่ก็ดีใจที่เขาตอบสนองแล้ว หมอบอกว่าเป็นอาการที่คนป่วยพยายามรื้อฟื้นความทรงจำ แต่แม่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี เห็นแต่ผู้กองที่พยายามคุยกับเขาเหมือนกัน”
“อย่างนี้โอกาสหายก็เร็วซิครับแม่” เกรียงสิทธิ์รู้สึกดีใจ
“หมอก็ว่าอย่างนั้น ผู้กองจึงชวนเขาคุยไง” แม่เข้ามาดูลูกชาย
“แม่ครับผมว่าแม่พักผ่อนดีกว่าไหม ผมสังเกตแม่เหมือนไม่ได้พักผ่อนเลย ทางนี้ผมจะจัดการเองครับ จนกว่าผู้กองจะกลับมา ผมจะอยู่เป็นเพื่อนคอนเขาเอง”
“แม่รบกวนหรือเปล่า”
“ไม่ครับไม่รบกวน นี้เพื่อนผมครับ เราไม่ทิ้งกัน แม่ไปพักให้สบาย ๆ เถอะไม่ต้องห่วงครับ” เกรียงสิทธิ์เพราะเห็นแม่ออกจะอิดโรยมาก ๆ
“จ๊ะ ขอบใจลูกมากที่ยังรักและห่วงใยคอน ถ้าอย่างนั้นแม่ฝากด้วย แม่จะงีบสักพักหนึ่ง” ว่าแล้วก็กลับเข้าบ้านพักของผู้กอง สามเดือนกว่าที่มาอยู่แล้วนอนไม่เต็มอิ่มนักเพราะห่วงลูกชายนั้นเอง การมาอยู่ที่นี้ก็เพราะอยากมาดูแลลูกไม่อยากให้มาโปรดต้องเป็นภาระ
“ขะย่า.....ไป.....ไหน...” คนป่วยพูดต่อ เกรียงเข้าไปนั่งใกล้เพื่อน
“ขะย่าคืออะไรอยากรู้จัง อย่าหักโหมนะเว้ย” พูดกับเพื่อนต่อ
“ระวัง” เปลือกตาคนป่วยค่อย ๆ หลับลงอีกครั้ง
“อาว ทิ้งเราเลย อุตสาห์มาคุยด้วย” เกรียงสิทธิ์ได้แต่ส่ายศีรษะ
“อย่างนั้นขอตามด้วยคน” ว่าแล้วก็เอนตัวลงนอนข้าง ๆ คนป่วยจนหลับไปอีกคน

“ที่แท้มาอยู่นี้เอง กูตามหาซะทั่วกองพัน” พิทักษ์พึมพำ ก้าวขากระเพลกเข้ามาในบ้าน ตอนนี้ต้องรอให้กระดูกที่แตกเชื่อมกันก่อนถึงจะเดินได้ปกติ ถึงแม้ว่าจะด้ามด้วยเหล็กและเข้าเฝือกไว้ ก็พยายามจะมาหาเพื่อนรักให้ได้
“มารวมหัวกันว่าอะไรให้กูวะ แต่เออไอ้คอนมันเอ๋อหรออยู่นี้หว่า กูก็หึงไปได้” ว่าแล้วก็เดินไปที่ใต้ต้นมะม่วง หลังจากกลับมาจากออกศึกคราวนั้นความรู้สึกที่มีให้เพื่อนมันเริ่มจะรุ่นแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนบางครั้งต้องมานั่งคิดว่าตัวเองเป็นอะไรหรือเปล่า อยากเห็นหน้าอยากพูดคุยอยู่ร่ำไป ซึ่งไม่เคยเจออย่างนี้มาก่อน เห็นไอ้นี้มันไปหัวเราะกับคนนั้นคนนี้รู้สึกอยากจะไปตะบันหน้าไอ้คนที่เข้ามาพูดคุยด้วย
“นี้ ๆ ลุก” ใช้ไม้ค้ำยัน เขี่ยคนที่นอนอยู่
“อะไร อาว มาได้ไง อุตสาห์หลบ” บ่นมีบ่นเล็กน้อย
“จะหลบกูไปไหน กูหาเจอ” ว่าแล้วนั่งลงเบียดคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว
“ทับลงมาได้ ตัวก็ใหญ่” ลุกขึ้นให้คนที่เจ็บกว่านั่งแทน
“ไอ้นั้นก็ใหญ่” สวนกลับทันที ยิ้มแก้มแทบปริ จนเกรียงสิทธิ์ไม่อยากต่อล้อต่อเถียง จึงไปหาเอ้าอีกอีกตัวมานั่ง
“มึงมานานแล้วหรอ ไอ้บัดดี้” ถามเพื่อนขึ้น
“ก็นานจนหลับไปตื่นหนึ่ง ถ้าไม่โดนกวน” ตอบเบา ๆ เพราะกลัวคนที่หลับจะตื่นขึ้นมาก่อน
“กูไปหาที่กองร้อย หมู่ก็บอกว่าออกไปไหนไม่รู้ มึงแน่ทำเป็นแวบ ๆ ได้”
“อาว ก็เบื่อนี้หว่า กลับจากงานคราวนั้น ก็โดนสอบซะเดี้ยง” หมายถึงโดนสอบสวนจากกองพันจากที่โดนยิง โดนสอบจากองค์จากที่ไปแฮกข้อมูล
“แต่ก็ขอบใจมากนะมึง ที่มึงไม่ทิ้งกู” ลอบมองเพื่อนที่นั่งฝั่งตรงข้าม
“อย่ามาขอบใจเราเลย โน้นน่าจะของคุณผู้กองมากกว่า ผู้กองบาดเจ็บมากกว่าพวกเรา แต่ก็ยังพาพวกเราออกมาจนได้”
“มันก็หลาย ๆ อย่างละหว่า ถ้าไอ้นี้ มันไม่รับกระสุนแทนผู้กอง เราะได้ลงมาหรอ” ชี้ไปหาคนที่นอนอยู่บนเปลไม้ไผ่สาน
“อือ ก็รู้สึกขอบคุณขอบใจทั้งสองคนที่ทำให้พวกเรารอด” เกรียงสิทธิ์กล่าว
“ถ้ามีงานหน้าไปไหม” พิทักษ์เอย มองหน้าคนจะตอบตรง ๆ
“ไปซิ ไปแน่ รู้สึกชอบ”
“กูไปด้วย กูจะไปกับมึง” พิทักษ์กล่าว
“เรื่องไร ตัวเองยังเอาตัวไม่รอด จะเอาคนอื่นไปตายด้วยซิ” เกรียงสิทธิ์แย้งพอหอมปากหอมคอ รู้ว่าถ้าได้ไปอีก พิทักษ์เป็นเงาตามตัวแน่
“กูเป็นบัดดี้มึง แล้วกำลังจะพัฒนาเป็นอย่างอื่น” แซวเพื่อน
“กู....อือ....คิดว่าเสียเวลาเปล่า” เกรียงสิทธิ์กล่าวหลบสายตาเพื่อนที่มองมา ในสายตาที่มองมากกว่าเพื่อน
“ระวัง พี่โปรดระวัง” เสียงตะโกนจากคนที่หลับอยู่ทำให้ทั้งสองรีบลุกขึ้นมาดู
“มันละเมอ” พิพักษ์ชะโงกหน้าเข้าไปดู
“จิตใต้สำนึก กำลังทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นมั่ง แล้วอยากรู้ว่า ขะย่าคืออะไร” เกรียงสิทธิ์สงสัย
“คืออะไร ยังไง” พิทักษ์ถาม
“ก็หลายครั้งที่เรามา แล้วได้ยินคอนว่าถึง ขะย่า ก็เลยงงคืออะไร”
“สงสัยแฟนใหม่ไอ้คอน” พูดยังไม่ขาดคำ มะเหงกก็ลงกลางกระหม่อม
“ปากหรือนั้น อย่าให้ผู้กองได้ยิน เดี๋ยวเกิดเรื่อง” ปรามเพื่อน เพราะเกรียงสิทธิ์ก็เริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ของผู้กองกับคนที่นอนอยู่ขณะนี้มันลึกซึ้งแค่ไหน
“ได้ยินก็ดีซิว่า อยากเห็นผู้กองเราหึง” พิทักษ์พูดต่อ เกรียงสิทธิ์ทำหน้างง
“งงอะไร มึงทำเป็นเวอร์จิ้นจริง ยังดูไม่ออกหรอว่า ผู้กองคิดอะไรกับไอ้คอนยังไง ก็เหมือนกูที่กำลังคิดกับมึงนี้ไง” พร้อมส่งสายตาหวานหยาดย้อย ไปให้เพื่อน
“หึ ไม่ต้องมาเลย ไปไกล ๆ เลย” กลับไปนั่งที่เก้าอี้ หันหน้าไม่สบตาไอ้บัดดี้ที่กำลังจะเปลี่ยนสถานะ
“อาว เขินก็เป็นหรอ กูจะได้จีบเลย” พิทักษ์รุกต่อ
“เขินอะไร ก็แค่ไม่อยากคุยด้วย” เกรียงสิทธิ์กล่าว
“ให้มันแน่เถอะ หน้าแดงอย่างนั้น ไม่เขินก็ไม่รู้จะพูดไงแล้ว” เกรียงสิทธิ์ยกมือมาลูบที่ใบหน้า
“ฮั่นแน่” โดนแซวอีกจึงรู้ว่าเสียรู้เพื่อน จึงลุกขึ้นจะกลับเข้าบ้าน
“มึงจะไปไหน คิดจะหนีกูหรอ”
“ไม่ได้หนี จะไปหาข้าวมาทาน หิวแล้วโว้ย” ทำเสียงดังกลบเกลื่อน แล้วเดินเข้าบ้าน
“รอกูด้วยซิ กูก็หิว แม่ทำอะไรไว้ให้ทานวะ กูอยากกินน้ำพริกหนุ่มฝีมือแม่อีก” ใช้ไม้ค้ำยันตัวเองตามไป

‘วันนี้เราต้องเขาทางแม่ ผู้กองจะได้เห็นคุณค่าเราบ้าง’  เจ้มิ้นคิด พลางสำรวจตัวเองที่หน้าบ้านของผู้กองอัศวิน ยกสำหรับอาหารที่จะเอามาฝากกับแม่ของนครซึ่งเข้าใจว่าเป็นแม่ของมาโปรด ที่มาเยี่ยมลูก ตอนที่ลูกชายบาดเจ็บ ซึ่งตอนนั้นเจ้มิ้นก็ไม่ได้อยู่บ้าน ลงไป กรุงเทพฯ ไปหาญาติอยู่ตั้งสองเดือนกว่า ๆ กลับมาจึงรู้ว่าผู้กองบาดเจ็บ แต่ก็ยังหาเวลาปลีกตัวมาเยี่ยมไม่ได้ วันนี้เป็นโอกาสดีที่จะได้เอาใจแม่ย่า เมื่อมองทุกอย่างพร้อมแล้วก็เดินเข้าไปภายในบ้าน แต่ก็เงียบไม่มีเสียงอะไรสักอย่างที่ทำให้รู้ว่าคนอยู่บ้าน นอกจากเสียงเพลงคลอเบา ๆ ซึ่งมันก็ไม่น่าจะอยู่ในบ้านหลังนี้ ค่อย ๆ ย่องเข้าไปด้านหน้าบ้าน
“อาวเจ้มาทำอะไร” เสียงทักทำให้เจ้มิ้นหยุดกึก หันไปมองพลทหารสองนายที่ถือจานข้าวออกมาจากข้างบ้าน
“ก็มาหาแม่ผู้กอง ทำไม พลทหารรับใช้หรอเรานะถึงรู้จักฉันด้วย” ยืนตัวตรงเชิด ลำคดตั้งตรงอย่างกับคุณหญิงคุณนาย
“รู้ครับ ก็ไปกินข้าวร้านเจ้ วันก่อนไง” พิทักษ์กล่าว
“อาวไปกินตอนไหนไม่บอกกู” เกรียงสิทธิ์ถามคนที่ยืนข้าง ๆ
“กูไปกับเพื่อนนะ มันชวนกูไปแดกเหล้า” หันมาอธิบาย ยิ้มแห้ง ๆ เหมือนตัวเองผิด
“แล้วคุณแม่ผู้กองอยู่ไหม” เจ้มิ้นถามต่อ
“แม่....ผู้กอง.... ออ อยู่ครับ นอนครับเหนื่อยจากการดูแลเจ้าคอน” เกรียงสิทธิ์ตอบ
“แม่ผู้กองไหนวะ กูเห็นแต่แม่ไอ้คอน”พิทักษ์กระชิบ
“ก็ดูซิ ราศีคุณหญิงคุณนายจับ แต่หูเบา โง่เง่าจริง” เกรียงสิทธิ์กระซิบด่าตอบ
“ไปบอกท่านหน่อยซิว่า ฉันมาเอากับข้าวที่ร้านมาฝากท่านเยอะแยะ”
“ตอนนี้ผมไม่ว่างครับ อีกอย่างห้องนอนท่านผมไม่ล้วงเกิน เจ้นั่งคอยนะครับ อีกไม่นานผู้กองก็น่าจะกลับมาแล้ว” ว่าแล้วสองคนนั้นก็เดินไปหาเพื่อนที่ยังนอนอยู่
“อะไรวะ พวกพลทหารรับใช้พวกนี้ ไม่รู้ซะแล้วว่าใครเป็นใคร” ว่าแล้วก็เดินตามหลังสองพลทหารมา
“อะไรครับเจ้ จะมาทานกับพวกเราหรอ” เกรียงสิทธิ์หันมาเจอ
“ไม่หรอก แค่อยากมาบอก สถานะพลทหารรับใช้นะ ว่าอะไรควรไม่ควร” เจ้มิ้นเริ่มก่อน
“อะไรหรอครับที่ว่าควรไม่ควร” พิทักษ์กล่าวขึ้น
“อีกไม่นานฉันก็จะมาเป็นคุณนายบ้านนี้ หัดดูเงากะลาหัวบ้าง” เจ้มิ้นจิก
“ออ เรื่องนั้นหรือครับ ยากครับ นี้ละน้าที่เขาว่า ชะนีร้องโหยหวนหาผัว” เกรียงสิทธิ์กล่าวแล้วนั่งลงวางกับข้าวเตรียมทานกัน
“กรี๊ด ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มึงว่าใครไอ้พลทหารรับใช้” ชี้หน้าเกรียงสิทธิ์ พิทักษ์รีบเอามืออุดหูไว้
“ก็พูดตามที่คนอื่น ๆ เขาพูดกัน” เกรียงสิทธิ์ไม่ลดละ
“มึงว่ากูหรอ มึง” ปรี่เข้ามาหาเกรียงสิทธิ์ พิทักษ์ห่วงเพื่อนก็เลยเข้าขวางทางก่อน
“หลีกไปไอ้เป้ มึง” ผลักพิทักษ์ให้พ้นทาง พิทักษ์หงายหลังลงไปทับคนที่นอนบนเปลเต็ม ๆ แล้วเปลไม้ไผ่ก็พลิกคว่ำ ทำให้ร่างของคนเจ็บทั้งสองคนตกลงมากระทบกับก้อนหินที่ใช้ทำบล๊อกปลูกต้นไม้ดอกไม้ข้างรั้ว ส่วนอีกฝ่ายก็โยนตะกร้าอาหารหวานคาวเข้าหาคนที่นั่งอยู่เจ้าเต็มเปา จนเลอะเทอะไปหมด
“ไอ้คอน” เสียงของพิทักษ์ ทำให้เกรียงสิทธิ์ตั้งสติ เข้ามาดูเพื่อนก่อน
“ไอ้คอน ไอ้คอน อย่าเป็นอะไรนะเว้ย” เลือดจากศีรษะที่ไปกระทบกับก้อนหินไหลทะลักออกมา
“แม่ครับ แม่ครับ” เสียงตะโกนของเกรียงสิทธิ์ดังจนผู้เป็นแม่ที่นอนอยู่ตกใจรีบออกมาดู เจ้มิ้นทำอะไรไม่ถูก กลัวก็กลัว ไม่คิดว่าเหตุการณ์เล็ก ๆ จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้
“จะอยู่ทำไมวะไปดีกว่า” ขาพาตัวก้าวออกจากบ้านฉับ ๆ
“อะไรลูก” พอเปิดประตูออกมาภาพที่เห็น ทำให้ต้องรีบวิ่งไปดู
“เป็นอะไร เป็นอะไรลูกแม่ คอนลูกแม่เป็นอะไร” แม่เข้ามาดู ลูกชาย เกรียงสิทธิ์จึงไปดูบัดดี้ที่นอนร้องโอดโอยอยู่ข้าง ๆ
“หัวร้างข้างแตกเลยลูกพากันไปโรงพยาบาลเลย เร็ว” แม่กล่าว เกรียงสิทธิ์ตัดสินใจอุ้มเพื่อนออกไปหน้าบ้าน พอดีกับรถนายทหารวิ่งผ่านมา
“เป็นอะไร” นายทหารถาม
“หัวแตกครับ”
“งั้นเอาขึ้นมาเร็ว” นายทหารรีบกุลีกุจอเอาร่างไร้สตินั้นขึ้นรถ
“แม่ไปกับท่านก่อนกลับผมจะไปล้างตัวแล้วจะดูไอ้เป้นั้นด้วย” แม่รีบขึ้นรถตาม เกรียงสิทธิ์เข้ามาดูเพื่อน
“เป็นอะไรมากหรอเปล่า” พิทักษ์ยังคงนอนนิ่งอยู่
“ไอ้ทักเป็นอะไรหรือเปล่า” เกรียงสิทธิ์เขย่าเพื่อนแรง ๆ
“ห่วงกูด้วยหรอ” คำตอบที่ได้รับ พิทักษ์จึงดึงเกรียงสิทธิ์ให้เสียหลักล้มลงมาทับที่ร่างตัวเอง แล้วขโมยจูบริมฝีปากเพื่อน เกรียงสิทธิ์ตะลึง ยิ่งทำให้พิทักษ์ดูดปากอย่างดูดดื่ม
“เฮ้ย ไอ้ทักทำอะไร”
“หวานแกงเขียนหวาน” พิทักษ์เอย

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
 :z13: น้องหมอ กับคุณปลัด อิอิ  :z2: :z2: :z2:

ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10
โอย ค้างอีกแล้ว พี่หมอ  :m16:

คราวนี้ หัว นคร แตก ค.จำต้องกลับคืนมานะครับ :call:

กลัว อ่ะ กลัวจะจำไม่ได้หนักกว่าเดิม  :sad4:

golf

  • บุคคลทั่วไป
พี่หมอ คุณปลัด ทามไมทำอย่านี้

มันค้างงงงงงงงงงงงง :m31:

 :เฮ้อ:คอนหัวแตกอีกแล้ว

จะเป็นแบบในละครรึป่าว.....ที่หัวแตกแล้วความจำกลับมา :impress2:


รอตอนต่อไป :z2: :z2:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
555 ฮาได้อีกสองคนนี้

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
คนป่วยเจ็บตัวอีกแล้ว :sad4:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
สงสัยความจำจะกลับคืนแล้วแน่ๆ  เดาๆๆๆ

anisongchanon

  • บุคคลทั่วไป
 :-[
"เพื่อน กู รัก มึง ว่ะ" :จุ๊บๆ:

ภารกิจแรกก็เดี้ยงซะแล้วคอน เอ้ย  :เฮ้อ:

เกรียงสิทธิ์ น่าจะไป  :beat: เจ๊มิ้นซักทีสองที เซ็ง :seng2ped:



รอตอนต่อไป

สู้ๆ พี่วัตร

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด