33 (ความไม่เข้าใจ)
ชายร่างหนาบิดรถจักรยานยนต์ฝ่าเปลวแดด ที่ร้อนระอุ ใบหน้าที่มุ่งมั่นเต็มเปี่ยมด้วยความรัก จะไปหาคนรัก หลังจากที่พักเอาแรงได้หนึ่งวันเต็ม ใจโหยหาคนรัก ไม่อยากจะอยู่ห่างกันเลย อยากเห็นหน้าทุก ๆ ที่ ไปไหนไปด้วยกัน วันนี้ก็เช่นกัน รีบบิดคันเร่งไปพบคนรัก
“เตี่ย สวัสดีครับ” ชายหนุ่มผมเกรียนผิวเข้ม ยกมือไหว้พ่อของแฟน
“ออ อาทัก ลื้อมาหาอาตี๋หรอ อีไม่อยู่ อรไปไหนแล้วไม่รู้” ปากพูดมือก็สารวนกับการคิดเงินให้ลูกค้า
“แล้วได้บอกไหมครับ ว่าไปไหน” ชายหนุ่มถามอีกครั้ง
“เห็นอีบอกว่าเพื่อน ๆ นัดเที่ยว อีไม่ได้บอกลื้อหรออาทัก” เตี่ยวถามกลับ
“ไม่ครับไม่ได้บอก” พิทักษ์ถอดใจ ส่งสัญญาณมาแล้วเชียวว่าจะมาหา
“ใครก็ได้ มาช่วยยกของพวกนี้เข้าชั้นหน่อย” เสียงแม่ดังมาจากหลังร้าน พิทักษ์จึงเดินเลยเข้าไปช่วย ยกกล่องสินค้าต่าง ๆ
“ออ ทักหรือลูก ตี๋เล็กมันไม่อยู่ไม่ได้บอกหรอลูก”แม่ยกสินค้าลงมาเรื่อย ๆ
“เปล่าครับ จะเอาไปไหวตรงไหนครับ” พิทักษ์ยกของขึ้นบ่า
“โน้นตรง ที่พวกคนงานเขาอยู่โน้นลูก ช่วยที ไม่มีใครช่วยเลย” แม่บ่นตามหลัง
“ขอบคุณคะพี่ เอาวางตรงนี้เลยคะ เดี๋ยวหนูจัดเอง” น้องคนงานกล่าวขอบคุณ
“ถ้าตี๋เล็กอยู่ก็คงได้ช่วยกันทำบ้าง” แม่บ่น
“มีอะไรให้ผมช่วยอีกไหมครับ”
“หมดแล้วลูก ไปเถอะ ไปห้องรับแขกก็ได้ หรือจะไปห้องตี๋เล็กก็ไป” แม่ไล่ พิทักษ์ไปที่ห้องรับแขกที่อยู่หลังร้าน จะเป็นห้องที่ใช้ดูทีวีกินข้าวและรับแขกไปในตัว พิทักษ์เลือกโซฟาตัวในสุดที่มีแจกันดอกไม้ขนาดใหญ่ตั้งบังตาไว้ หยิบหนังสือคอมที่เจ้าของบ้านคนเล็กถนัดมาอ่านฆ่าเวลา เผื่อกลับมาแล้วจะได้เจอกันเลย ยอมรับว่าคิดถึงมาก ๆ หนังสือเรียนกับคนเรียนมีถูกกันนี้กระไร อ่านไปได้สักพักหนังตาก็หย่อนลงเรื่อย ๆ จนหลับไป
“เอ้ย พวกมึงจะไปไหนกันวะ” ดำเอ่ยขึ้น
“ก็จะไปไหนก็ไป อยากเที่ยวตลาดร้านค้าก่อน” มดกล่าวตอบ
“จะทำอะไรก็เร็ว ๆ ก็แล้วกัน เดี๋ยวกลับไม่ทันเรือหมด” เกรียงสิทธิ์กล่าว
“ก็ดีซิคะ ยะอยากนอนพักซักคืนจะได้บรรยากาศไหมน่า” ยะเดินมาคล้องแขนเกรียงสิทธิ์ ๆ มองหน้าเพื่อน ขอความช่วยเหลือ
“ยะ มาตรงนี้กับพวกเราซิ จะไปดูของสวย ๆงามๆ” แจ๋วเห็นใจเพื่อน เพราะปิยะก็เริ่มทำเกินงามแล้ว
“ก็ยะไม่อยากจะไปนี้ ยะจะไปกับเกรียง” ปิยะออกอาการไม่ชอบใจ
“ไปเถอะครับ เดี๋ยวพวกผมรอที่ร้านครับ” เกรียงสิทธิ์รักษาน้ำใจ
“ก็ได้คะ แล้วเจอกันอีกนะคะ” ปิยะส่งสายตาหวาน มาให้ แล้วเดินตามเพื่อนสาวสองคนไป
“มึงนี้เสน่ห์แรงจังวะ กูว่าอีกระเทยนี้มันไม่ปล่อยมึงแน่ไอ้เกรียง” ดำแซวเพื่อน
“เฮ้ย ไม่เอา แฟนกูรู้ โดนแน่” เกรียงสิทธิเผลอกล่าวออกไป
“ฮะฮ้า ข่าวใหม่ ข่าวใหญ่ น้องหมวยเล็กนั้นหรอวะ” บรรพ์ถามเพื่อความแน่ใจ เพราะข่าวแว่วออกมาว่า ผู้ใหญ่สองฝ่ายเคย ๆ คุยกันไว้นาแล้ว
“เฮ้ ไม่ใช่นะเว้ย” เกรียงสิทธิ์รีบปฏิเสธ
“อาว แล้วเป็นใครวะ มึงไปมีตอนไหน สมัยเรียน ตรี กูก็ดูมึงไม่เห็นว่ามึงจะสนใจใคร” ดำกล่าวพลางเดินไปหาร้านประจำ ที่เคยมานั่งกัน
“เออ บอกไม่ได้ ตอนนี้ เดี๋ยวพวกมึงก็เอาไปพูดเสีย ๆ หาย ๆ” เกรียงสิทธิ์พยายามหลบสายตาที่จ้องมอง
“สงสัยลูกสาวผู้พัน แน่ๆ” บรรพ์แหย่
“เออ น้องเขาน่ารักดี” ตอบเพื่อนแกมประชด จะได้จบ ๆ เรื่อง
“อย่างนี้คนที่นี้ก็อกหักเป็นแถบ ๆ ยิ่งยายหมวยเล็กนะมึงเอ้ย อกหักดังเปราะเลย” แล้วเสียงหัวเราะของพองเพื่อนสองคนก็ดังขึ้น
เกรียงสิทธิ์นั่งคิดถึงหมวยเล็ก เป็นลูกของเฮีย สมบูรณ์ผู้รับเหมาก่อสร้าง หมวยเล็กมีอายุอ่อนกว่าเกรียงสิทธิ์ปีหนึ่งพอดี สมัยเด็ก ๆ เตี่ยของเกรียงสิทธิ์เคยพูดคุยกับเตี่ยของหมวยเล็กทำนองการสู่ขอ ตอนที่เรียนประถมหมวยเล็กจะติดพี่ตี๋เล็กแจ เช่นกัน ไปไหนก็จะไปด้วย ไม่ถอยห่าง
“เตี่ย บอกว่า โตขึ้นหมวยจะเป็นเมียพี่ตี๋” ปากน้อย ๆ รูปกระจับพูดจ้อย ๆ ออกมา
“พี่ตี๋จะต้องไม่ทำให้หมวยเสียใจ หมวยจะเป็นเมียที่ดี” มันเป็นคำพูดสมัยเด็ก ๆ
“พี่ยังไม่รู้เลย พี่อาจไม่แต่งกับหมวยก็ได้” เกรียงสิทธิ์ปฏิเสธ จากนั้นเสียงร้องไห้ก็ดังลั่น เกรียงจึงต้องเอาอกเอาใจหมวยเป็นพิเศษ เพราะความเอาแต่ใจตัว พอโตขึ้นมาก็เริ่มห่าง ๆกันไป และยิ่งช่วงหลัง ๆ ที่เกรียงไปเป็นทหาร หมวยจะมาหาเตี่ยกับแม่นาน ๆ ครั้ง ส่งข้าวส่งน้ำเป็นธรรมดา
“คิดอะไรไอ้เกรียง” ดำทำลายห้วงความคิด
“เปล่า ๆไม่ได้คิดอะไร” เกรียงสิทธิ์ปฏิเสธ ขณะเดียวกันเหล้าลาวก็ลำเลียงเข้ามา พร้อมกับแกล้ม ลิ้นจี้(ลิ้นย่าง) หมากขามป้อม (มะขามป้อม) และอะไร ๆ อีกหลาย ๆ อย่าง
“มันกำลังคิดถึงน้องที่ค่ายมัน อย่าไปสนใจมันเลยวะ คนกำลังมีความรัก” บรรพ์สัพยอก
“เฮ้ ธรรมดา ต้องเข้าใจ เอ้าดื่ม” เกรียงสิทธิ์ชนแก้ว กับเพื่อน ๆ
“อาวเฮีย ว่าไงคะมาถึงนี้เลย” แม่ของเกรียงออกไปรับแขกคนสำคัญ
“ก็มา เยี่ยมเยี่ยน ได้ยินว่าเจ้าตี๋เล็กกลับมาแล้ว” เฮียสมบูรณ์กล่าว
“ออ อีกลับมาแล้วจริง ๆ แต่ตอนนี้อีไม่อยู่” เตี่ยออกจากเคาร์เตอร์เก็บตังส์ให้ลูกน้องทำต่อ
“สวัสดีคะเตี่ย สัสดีคะแม่” หญิงสาว สวย หมวยน่ารัก ที่เดินตามมาที่หลัง ยกมือไหว้
“จ้า สวัสดีจ้าหมวยเล็ก โตเป็นสาวสวยแล้วนะ” หญิงสาวยืนบิดกระมิดกระเมี้ยน
“ไป ๆ ไปข้างในกันก่อน คอยคุยกันมาเหนื่อย ๆ อาสุนีขอน้ำเย็น ๆ ” เตี่ยหันไปสั่งลูกน้อง เข้าไปห้องรับแขก
“หมวยเอาตุ๋นยาจีนมาฝาก เตี่ยกับแม่ด้วยคะ” หมวยชูโถตุ๋นยาจีนให้ดู
“จ้าขอบใจลูกมาก ๆ” แม่กล่าว
“หมวยจัดเสิร์ฟเลยคะ” หมวยเล็กเลี่ยงไปจัดตุ๋นยาจีนให้เตียกับแม่ของตี๋เล็ก
“ดีจังนะ น่ารักมากๆ ใครได้เป็นศรีสะใภ้ คงโชคดี” แม่กล่าวตามหลัง
“มาวันนี้ มีธุระเรื่องอะไรหรือ อาสมบูรณ์” เตี่ยพูดขึ้น
“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก อั๊ว มาสั่งสิ้นค้าที่ตลาด ได้ยินว่าอาตี๋เล็กกลับมาแล้ว ก็เลยมาดูมันหน่อย” เฮียสมบูรณ์กล่าว คำว่าตี๋เล็กปลูกคนที่นอนหลับอยู่โซฟาข้างในสุด แต่ก็ยังไม่ลุกขึ้น
“อีก็สบายดี ตอนนี้ออกไปกับเพื่อน ๆ ก็เที่ยว ๆ กันนะ” เตี่ยตอบ
“หรอ ก็อย่างนี้แหละ ไปฝึกมา ก็เปิดหูเปิดตาบ้าง”
“แล้วนี้ทานอะไรกันมาหรอยังคะเฮีย” แม่เอยถาม
“ออ ยังหรอก ก็ว่าจะมาชวนพวกเราไปทานกัน ไปร้านหมวยสิไหม” เฮียสมบูรณ์เอยปากชวน
“มาแล้วคะเตี่ย แม่” หมวยเล็กยกตุ๋นยาจีนให้ทั้งสอง และพ่อของตัวเองอีก
“อืม อร่อยเนาะ” แม่เอย
“ก็หมวยเล็กเขาทำ ว่าจะเอามาฝากเจ้าตี๋เล็กมันด้วย” พ่อเป็นคงชงลูกสาว
“หรอจริงหรอลูก ดีจริง ๆ อยากให้เจ้าตี๋เล็กมันมาชิมฝีมือหมวยจังลูก” แม่เอยชม
“อีไปเป็นลูกสะใภ้บ้านใคร โชคดีจริง ๆ” เตี่ยเสริม
“ออ มาวันนี้ก็อยากมาคุยเรื่องที่เราคุยกันไว้ เมื่อตอนที่พวกนี้ยังเล็ก ๆ อยู่นะ” เตี่ยทำหน้าสงสัยเมื่อเฮียสมบูรณ์เอย
“ก็เรื่องที่เราจะเป้นทองแผ่นเดียวกันไง” แล้วเฮียสมบูรณ์ก็หัวเราะอารมณ์ดี หมวยเล็กก้มหน้าเขินอาย
“อันนี้มันก็ขึ้นอยู่กับเด็กแล้วมั่งเฮีย” แม่เป็นคนบอก
“เออ แล้วตี๋เล็กมันมีใครหรือยัง” เฮียสมบูรณ์ถาม
“ยัง อั๊วรับประกัน ว่าตี๋เล็กยังไม่มีใคร” เตี่ยตอบอย่างใจเย็น
“งั้นก็ดีซิ หมวยเล็กก็ยังไม่มีใคร”
“จะเอาอย่างนั้นเลยหรอ ถามเด็กมันหรือยัง” แม่เป็นคนเอยขึ้น หันหน้าไปมองสามี
“ก็หมั่น ๆ ไว้ก่อนก็ได้นี้หน่า ออกจากราชการ ก็ให้อีแต่งกันเลย” เตี่ยสนับสนุน
“จะเอาอย่างนั้นเลยหรอ ว่าไงหมวยเล็ก” เฮียสมบูรณ์หันไปถามลูกสามที่นั่งบิดไปบิดมาไม่ตอบ
“ฉันว่าเอาไว้ถามเจ้าตี๋เล็กก่อนไหมเตี่ย” แม่พยายามไม่หักหาญน้ำใจลูก เพราะอย่างน้อยเขาก็ต้องมีสิทธิ์ที่จะเป็นคนเลือก
“ไม่เป็นไหร่ซ้อ วันนี้เราแค่มาพูดคุยกันเฉย เอาไว้ให้เด็กเขาเจอกันก่อน แล้วค่อยมาพูดกันใหม่” เฮียสมบูรณ์ไม่เร่งรัด เพราะจะเหมือนว่าเป็นคนมาเร่ขายลูกสาวให้คนอื่น
“แต่ที่มาก็อยากเป็นดองทองแผ่นเดี๋ยวกันกับทางนี้ ที่จริงก็มีคนมาสนใจหมวยเล็กหลายคน แต่ผมก็ถือว่าเราเคย ๆ คุยกันไว้แล้วก็เลยอยากมาลองคุยดู” เฮียสมบูรณ์พูดให้ตัวเองดูดีขึ้น
“ออ ไม่หรอก ฉันก็อยากให้ลูก ๆ รักกันจะได้อยู่กันยืดยาว ว่าไงหมวยเล็ก อยากมาเป็นลูกแม่หรอ” หมวยเล็กยิ่งอาย จึงลุกขึ้นเดินเลี่ยงเข้าไปข้างใน
“อุ้ย” เสียงอุทานจากสาวเจ้า
“อะไรหมวยเล็ก” แม่รีบเดินมาดู
“ไม่มีอะไรครับ น้องเขาตกใจผมครับ” พิทักษ์ลุกขึ้นจากโซฟา
“อาวทักหรือลูก แม่นึกว่าอยู่ข้างบน”
“พอดีผมเข้ามาอ่านหนังสือก็เลยหลับอยู่ตรงนี้ครับ” แม่พนักหน้าเข้าใจ
“ออ นี้หมวยเล็ก หมวยเล็กจ๊ะนี้พิทักษ์เพื่อนตี๋เล็กนะ” หมวยเล็กยิ้มให้อย่างเปิดใจ พิทักษ์จึงเลี่ยงออกมา
“ใครอะซ้อ” เฮียสมบูรณ์ถาม
“ออ เพื่อนตี๋เล็ก มารอตี๋เล็กเหมือนกัน” แม่กลับมานั่ง พิทักษ์เดินเลี่ยงออกไปหน้าร้าน
“ไว้ใจได้หรือ” เฮียสมบูรณ์ไม่ไว้ใจ
“เขามาอยู่แล้วครั้งหนึ่งก็ไม่มีอะไรเสียหายนี้” แม่อธิบาย
“ระวังน่า ดูชักไม่น่าไว้ใจ เกิดเป็นโจร เป็นขโมยเข้ามาตีสนิทกับตี๋เล็ก มันจะไม่ยกเค้าบ้านเราเลยหรอ” เฮียสมบูรณ์เรื่องใส่ไฟ
“ไม่หรอก อีเป็นคนดี อั๊วเคยลองใจอีแล้ว” เตี่ยกล่าว
“หรอ ทำยังไง อั๊วจะได้ลองทำบ้าง” เฮียสมบูรณ์ถาม
“ก็อั๊วลองเอาเงินวางที่โต๊ะหน้าห้องชั้นบน อีก็เดินผ่านไปมาไม่เห็นจับแตะต้องเลย”
“ทำให้ตายใจหรือเปล่า แล้วย้อนกลับมายกเค้าที่หลัง” เฮียสมบูรณ์ไม่ค่อยเชื่อ
“หึ คงไม่หรอ ฉันดูอยู่ ก็ช่วยงานช่วยการบ้านนี้ดี ที่แรกฉันก็ไม่ไว้ใจ แต่เห็นเขาสนิทกันมากก็คงไม่มีอะไรมากมั่ง” แม่กล่าวเสริม
“ว่าแต่อั๊วหิวแล้วเหมือนกัน ไปเถอะไปหาอะไรทานกัน” เตี่ยชวนทุกคนออกไปที่ร้านหมวยสิ
“สุนี พิทักษ์ละไปไหนแล้ว”
“กลับแล้วค่ะเจ้ เห็นเดินออกมาจากข้างในก็เลยออกไปหน้าร้านสตาร์ทรถกลับไปแล้วคะ”
“อีไม่ฝากอะไรไว้ให้ตี๋เล็กหรอ” หมายถึงให้บอกอะไรบ้างหรือเปล่า สุนีสั้นศีรษะ ทุกคนจึงออกไปทานข้าวข้างนอก
“เป็นไง มด ได้เยอะไหมผู้บ่าวเมืองลาว” ดำแซวเพื่อนที่หอบหิ้วของพะรุงพะรัง
“ก็ได้นะ เยอะแยะไปหมด” ประชดเพื่อน แล้วนั่งลง
“อือ หิวน้ำ มีอะไรทานบ้าง ว้า มีแต่กลับแกล้ม” แจ๋วมองอาหารบนโต๊ะ
“ก็สั่งใหม่ซิวะ” บรรพ์กล่าว
“เกรียง เราซื้อสายนี้มาฝาก” ปิยะเข้าหาเกรียงสิทธิ์ทันที พร้อมชูเชือกถักของฝากมาให้ดู
“เออ ครับ ไม่ต้องลำบากก็ได้ครับ” เกรียงสิทธิ์เกรงใจ
“ไม่เป็นไร ยะอยากให้เกรียงไว้ดูต่างหน้า”
“ฮู้ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เว่อนะปิยะ เพื่อนฉันนะโว้ย” แจ๋วเหลืออด ปิยะหันมาค้อนวงใหญ่ให้เพื่อนสาว
“น้องยะคนสวย อย่าเอาไปให้มันเลย ยังไงมันก็ไม่สนน้องยะหรอกครับ เพราะมันมีแฟนอยู่แล้ว” บรรพ์เห็นทีทั้งประชดทั้งกัด ปิยะหันมามองหน้าเกรียงสิทธิ์
“จริงหรอคะ แต่ไม่เป็นไร ยะยอมรับได้” ไม่มีอาการสะทกสะท้านใด ๆ
“จริงหรอ เกรียง ว้าอย่างนี้ฉันก็อกหักซิวะ อุตสาห์แอบชอบแกอยู่” แจ๋วแซว เกรียงสิทธิ์ได้แต่ยิ้ม ๆ
“ถามมันเอาเองถ้าไม่เชื่อ” ดำแซวต่อ
“ลูกสาวนายพัน” บรรพ์ใส่ไฟ
“ไม่เชื่อหรอ ไม่จริงใช่ไหมคะเกรียง” ปิยะอดทนไม่ไหว
“จริงครับ” เกรียงสิทธิ์พุดตัดปัญหา มองหน้าเพื่อนสองคนรู้สึกขอบคุณ
“ไม่เชื่อหรอก สามคนเนี้ยสร้างเรื่องโกหก” ปิยะไม่ยอมแพ้
“เอ้า เรื่องจริงหาว่าโกหก ทีเรื่องโกหกชอบนัก” ดำพูดให้
“แล้วว่าที่คู่หมั่นที่สมัยเด็กละเกรียง” มดถามขึ้น
“หมวยเล็กนั้นหรอ” เกรียงถอนหายใจ
“มีใครอีกละเนี้ย” ปิยะบ่นอุบอิบ
กว่าจะกลับก็ปาเข้าเกือบหกโมงเย็น ต้องรีบกลับเพราะเรือมีเที่ยวสุดท้ายตอนหกโมงเย็น สภาพแต่ละคนเมามาย เกรียงสิทธิ์ทอสังขารกลับมาถึงบ้านก็ปาไปทุ่มกว่าเกือบสองทุ่ม
“ตี๋เล็ก ดื่มขนาดนี้เลยหรอ” แม่ออกมารับ
“ไม่เมาครับแม่ สบายมาก ๆ” ปากว่าไม่เมาแต่ตาแทบจะปิด
“น้องมาหาเมื่อกลางวันก็ไม่เจอ มันน่านักนะ” เกรียงสิทธิ์นั่งลงแทบบันไดทางเข้าร้าน
“มานั่งตรงนี้ได้ไง ไปลุกขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า” แม่พยายามดึงลูกชายขึ้น
“แม่ขาให้หนูช่วยคะ” เสียงแหลมแต่มีลูกกระเดือก
“จ๊ะ ๆ ขอบใจจ๊ะ” แม่กล่าวขอบคุณ
“ไม่เป็นไรคะ ยะก็ตามเกรียงมาส่งคะ” ปิยะแนะนำตัวเอง แม่มองหน้าลูกชายแล้วมองหน้าคนพูด ตายแล้วลูกฉันคบกับคนอย่างนี้ด้วยหรอ
“หรั่ง ๆ มาเอาน้องเข้าไปหน่อย” แม่เรียกคนในร้านออกมาเอาลูกชาย ไม่อยากให้คนที่ไม่รู้จักเข้าไปในบ้าน
“ไม่เป็นคะ คุณแม่เดียวหนูไปส่งถึงห้องก็ได้” ปิยะอาสา
“แม่สวัสดีคะ ปิยะกลับกันได้แล้ว” แจ๋วเข้ามาลากเพื่อนกลับออกมา
“ออกแจ๋วหรอลูก ขับรถดี ๆ นะ” แม่สั่งเพื่อนลูกชาย แล้วหันมาดูลูกตัวเอง
“เออ ลืมไปวันนี้ทักมาหาลูกนะ อยู่ช่วยร้านเราตั้งนานจึงกลับ”
“ใครหรอ แม่ ไอ้ทักหรอ” อาการเมาสักครู่สร่างทันที
“อือ วันนี้เฮียสมบูรณ์ก็มาคุยเรื่องการหมั่นหมายของลูกกับหมวยเล็ก” พลางพยุงลูกชายขึ้นชั้นบน
“ห๊าอะไรแนะแม่” เกรียงสิทธิ์นิ่ง
“แล้วไอ้ทักอยู่ด้วยหรือเปล่า” กลั้นลมหายใจถาม
“อยู่ ก็อยู่ในห้องนั้นด้วย” เมื่อได้รับคำตอบจากแม่ อาการเมาหายเป็นปลิดทิ้งเลย วิ่งลงชั้นล่าง แทบจะล้มลุกคลุกคลาน
“แม่ผมยืมรถหน่อยนะ” ตะโกนกลับมาบอกแม่
“แล้วนั้นจะไปไหน” ยังไม่ทันไหน
“โครม” ตรงหน้าบ้านพอดี