555 ขอบคุณสำหรับทุกเม้นนะคะ
ส่วนที่คุณ zeazaiz ชี้จุดผิดให้ ขอบคุณด้วยนะคะ เดี๋ยวจะตามไปแก้ค่ะ
ส่วนคุณมันจิ เรื่องนี้ไม่แฟนตาซีขนาดน้านนนน อยากอ่านเหมือนกันเรื่องเต่ากลายเป็นคนเนี่ย หุหุ
ตอนนี้มีสลับมุมมองของตัวเอกนะคะ เรื่องนี้จะสลับไปสลับมา บอกไว้กันงง.......
ตอนที่ 3 : ละคร
แม้ผมจะรู้สึกโกรธและสะอิดสะเอียนที่ไอ้หน้าจืดอย่างไอ้บุ้งมาสารภาพรักแค่ไหน
ผมก็ไม่ใช่คนใจหยาบ พอที่จะฆ่าสัตว์ตัดชีวิตโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะครับ
วันนั้นที่เกือบจะฆ่าไอ้ปูนิ่มด้วยลูกเตะผม ความรู้สึกผิดยังคั่งค้างอยู่ในใจ
วันนี้ หลังจากผมเห็นไอ้บุ้งลงไปรดน้ำต้นไม้ที่หน้าบ้าน ผมก็ย่องเข้าไปในห้องของมัน
ไอ้ปูนิ่มว่ายน้ำไปมาอย่างสบายอุราอยู่ในอ่างแก้วบนโต๊ะข้างๆ หัวเตียงไอ้บุ้ง
พอเห็นผมไปจ้องมัน ไอ้ปูนิ่มก็หยุดว่ายชูคอมาจ้องตาผมเหมือนกัน
"ปูนิ่ม วันนี้กูมาดีนะ กูมาขอโทษเรื่องวันนั้น" ผมพูดพลางเอื้มมมือไปจับหัวมันเบาๆ เหมือนที่เห็นไอ้บุ้งทำ
แต่มือผมไม่ทันได้แตะมันหรอกครับ มันก็อ้าปากงับมือผมเข้าให้ ดีที่ผมหลบทัน
ถึงอย่างนั้นผมก็ได้แผลเลือดไหลซิบๆ
"ไอ้เชี่ยนี่ เจ้าเล่ห์เหมือนเจ้าของมึงเลยนะ อย่าเผลอนะมึงพอจะจับไปปล่อยถนนให้สิบล้อทับ" ผมอาฆาตไอ้ปูนิ่ม
......
"มึงมาทำไรลูกกู" เสียงไอ้บุ้งดังขึ้นที่หน้าประตูห้อง สงสัยมันเพิ่งมา
"เปล่า" ผมเดินไปที่ประตู เพื่อออกไปจากห้องไอ้บุ้ง
"กูไม่เชื่อ มึงเอาอะไรมีพิษมาให้ลูกกูกินเปล่า" มันขวางประตูไว้ไม่ให้ผมออกจากห้อง
"เฮ้ย มึงอย่าฟุ้งซ่าน" ทำตาขวางใส่ให้มันหลีกทาง
"กูเตือนไว้ก่อนนะ ถ้าไอ้ปูนิ่มเป็นอะไรไป กูจะฟ้องคุณหญิงแล้วกูจะอัดมึงให้เละเลย" ไอ้บุ้งขู่ฟ่อ
ผมมองร่างบอบบางและซีดเซียวที่ยืนถือจานผักบุ้งอยู่ตรงหน้าแล้วอยากหัวเราะ
"ไอ้เชี่ยนี่ สงสัยมันโกรธจนลืมตัว หุ่นขี้ก้างแบบนี้หมัดเดียวมึงก็ฟุบแล้ว" ผมคิดในใจ
"หลีกไป กูจะกลับห้อง" ผมเบื่อจะเถียงกับมัน
"เดี๋ยว ขอกูพิสูจน์ไรก่อน" มันว่าแล้วก็เดินไปหาไอ้ปูนิ่ม ยื่นผักบุ้งสดที่มันใส่จานมาด้วยไปให้เต่ากิน
"ทานอาหารเช้าก่อนลูก" มันบอกลูกมันแต่ไอ้ปูนิ่มก็นิ่งเฉยไม่ขยับ
"ทานสิลูก นี่ก็สายแล้วลูกยังไม่ได้กินไรเลยนะ" ไอ้บุ้งพยายามยื่นผักบุ้งให้ไอ้ปูนิ่มกินอยู่นานแต่ไอ้นั่นก็ไม่อ้าปากสักที
"มึงทำไรลูกกูบอกมานะ ไอ้ปูนิ่มมันไม่เคยเป็นแบบนี้"
"ไอ้เชี่ยนี่ มึงจะเอาสาระไรกับเต่าตัวเดียว"
"มึงอย่าพูดพล่อยๆนะ ถ้าเพื่อนกูเป็นไรไป กูไม่ยอมมึงแน่" มันขู่ผมฟ่อ
"เออ กูจะรอ" ผมพูดอย่างอารมณ์เสียก่อนจะออกจากห้องมันมา
"ไอ้เต่าเชี่ยนั่นมันสำออยอะไรวะ อยู่ๆไม่อยากกินไรขึ้นมาเฉยๆ" ผมด่าไอ้ปูนิ่มในใจ
....
เพราะวันนี้เป็นวันอาทิตย์ผมจึงได้พักสบายๆ ไม่ต้องไปมหาวิทยาลัย
แม่กับยายจันให้คนขับรถพาไปวัดตั้งแต่เช้าทั้งบ้าน
เหลือแต่ผมก็ไอ้หน้าจืดนั่นคนเดียว ขณะที่ผมนั่งเล่นดูทีวีอยู่ในห้องรับแขก พร้อมกับคุยโทรศัพท์กับน้องมาลินี
หวานใจคนล่าสุดของผมอยู่ เสียงออดประตูก็ดังขึ้น "ไอ้บุ้ง ๆ เปิดประตู" ผมตะโกนบอกไอ้บุ้งในห้องครัว
ก่อนจะคุยกับมาลินีต่อ
"คืนนี้เหรอว่างสิ ผับไหนเหรอ ไม่เอาดีกว่า เจอกันที่คอนโดดีกว่านะ ผมเบื่อผับ"
ผมนัดแนะมาลินีเพื่อหาความสุขกันที่คอนโดของเธอคืนนี้
"อืม ต้องวางแล้วนะมีแขก บายครับ" ผมรีบกดวางสายทันทีที่เห็นสุภาเดินตรงมายังห้องรับแขก
สุภาเป็นคู่ขาเก่าของผม รู้สึกผมจะได้กับเธอเพราะความเมาแค่ครั้งเดียวเมื่อหลายเดือนก่อน
แต่เธอก็ตื้อผมไม่เลิก ทั้งทางโทรศัพท์ จนผมต้องเปลี่ยนซิม
ทั้งที่มหาวิทยาลัย จนผมต้องเสียโอกาศดีๆ ที่จะได้สาวๆ มาควงไปหลายคน
นึกไม่ถึงวันนี้เธอจะบุกมาถึงบ้าน ถ้าเธอเข้าถึงแม่ผมอะไรจะเกิดขึ้น คู่ขาผมทุกคนรู้กฏดีว่าต้องไม่ผูกมัด
แต่คนนี้เธอจะจับผมให้ได้
"อ้าว สุภา สวัสดีครับ มีธุระไรเหรอครับถึงมาถึงนี่" ผมพูดพร้อมกับผายมือเชิญเธอนั่งเก้าอี้ตรงหน้า
แต่สุภากลับมานั่งชิดกับผม มือเธอลูบไล้บนขาผมไปมา "ก็คิดถึงที่รักนะสิคะ จะอะไรอีก"
ผมเห็นท่าไม่ดี ประจวบกับไอ้บุ้งยกน้ำออกมาเสริฟให้แขก แผนบางอย่างจึงเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว
" สุภานี่แฟนผม" ผมเอ่ยขึ้นหลังจากลุกขึ้นไปกอดเอวไอ้บุ้งไว้ในมือ
"อะ อะไรนะ" สุภามองหน้าผมและไอ้บุ้งที่ยืนอยู่สลับกันไปมา
"นี่แฟนพี่ครับ เราอยู่ด้วยกันมา สี่เดือนแล้ว" ผมย้ำ
"นี่ผู้ชายนะคะ พี่พี อย่าบอกนะว่าพี่เป็นเกย์" ผมพยักหน้ารับคำเธอ
"ภาไม่เชื่อ อย่ามาโกหกให้ตาย..." เสียงสุภาขาดไปทันทีเพราะผมจูบปากไอ้บุ้งที่ยืนงงอยู่นานให้ดู
แรกๆ ผมว่าจะแตะปากไอ้บุ้งสักแป๊ปเดียว แต่ปากไอ้บุ้งนิ่มดีอย่างไม่น่าเชื่อผมเลยบดปากมันเล่นไปมา
และเหมือนมันจะพูดอะไรเพราะริมฝีปากมันเผยออก ผมเลยได้จังหวะลองเอาลิ้นไปซุกไซ้ในปากมันดู
ความวาบหวามแปลกๆ ทำให้ผมใช้ลิ้นไปไล่พันลิ้นของไอ้บุ้งที่พยายามหนีอุตลุต
แต่ด้วยความช่ำชองของผม ในที่สุดลิ้นผมก็กระหวัดพันลิ้นไอ้บุ้งได้
ผมรุกเร้าความรู้สึกของตัวเองและร่างบอบบางในอ้อมกอดอย่างลืมตัว
"ไปตายซะ" เสียงสุภาพูดขึ้น พร้อมกับสาดน้ำเย็นในแก้วบนโต๊ะใส่ผมกับไอ้บุ้ง
แล้วเธอก็เดินลิ่วออกจากห้องรับแขกไปโดยไม่หันกลับมามองผมที่ยิ้มอย่างโล่งอกตามหลัง
"กูยอมเป็นเกย์ดีกว่าถูกจับแต่งงาน" ผมนึกในใจ
.....
ผมหันมาเผชิญหน้ากับไอ้บุ้งที่ยืนมองหน้าผมอยู่
"มึงเข้าใจสิ่งที่กูทำไหม" ผมถามมัน
"คิดว่านะ" มันตอบ แต่ไม่ยอมสบตาผม
"ก็แค่อยากไล่สุภาออกไปจากชีวิตกู มึงพอเข้าใจไหม"
"อือ" ริมฝีปากแดงเห่อเพราะถูกผมบดปากนั้นตอบเบาๆ
"เพราะงั้นเรื่องเมื่อกี้ กูขอบใจมึงมาก แต่ให้ลืมไปให้หมด เข้าใจนะ" ผมพูดเสียงเข้มหวังให้ไอ้บุ้งไม่คิดเลยเถิดไปไกล
"ได้ มึงไม่ต้องห่วงหรอก ขำๆ " มันเอ่ยพร้อมกับมองหน้าผมด้วยแววตาเฉยชา
"ดีแล้วมึงห้ามเข้าห้องกูและห่างๆ กูเอาไว้อย่าลืมข้อนี้นะ" ผมย้ำกับมันก่อนเดินขึ้นชั้นบน
เมื่อผมได้นอนแผ่อยู่บนที่นอนหัวผมกลับคิดถึงรสจูบของไอ้หน้าจืดนั่นอีกครั้ง
ความหวานซาบซ่านมันยังติดอยู่ริมฝีปาก "ไอ้เชี่ยเอ้ยแม่งมึงต้องวางยาอะไรให้กูกินแน่ๆ กูถึงฟุ้งซ่านขนาดนี้"
ผมอยากจะจับไอ้บุ้งขว้างออกจากหัวผมจริงๆ
จบตอนที่ 3