32
ใจผมมีแค่คุณ
(กร + คีย์)
ความวุ่นวายภายในร้าน keyword cafe เกิดขึ้นให้ได้เห็นกันทุกวันจนเป็นเรื่องชินตาของคนในร้าน ไม่ว่าจะจากเจ้าของร้าน พนักงาน หรือแม้แต่จากตัวลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเองก็ตาม
วันนี้เหตุของความวุ่นวายที่เกิดขึ้น มาจากการที่คุณเจ้าของร้านคนเก่งกำลังยืนโวยวายแสดงท่าทางที่เอาแต่ใจ ใส่เพื่อนรักที่ยืนอยู่ใกล้ๆกัน
ดีหน่อยที่ช่วงเวลานี้ไม่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการภายในร้าน ไม่อย่างนั้นคนเป็นเจ้าของร้านคงโดนเพื่อนรักที่พ่วงตำแหน่งพนักงานในร้านตีมือ จนเป็นรอยช้ำแน่ๆ
"ไอ้ที รอบก่อนที่งานจัดเลี้ยงบริษัทป๊ากู มึงทำขนมอร่อยทำไมวะ" คีย์ตวัดสายตามองนาทีด้วยสายตาขุ่นเคืองเล็กน้อย
"เดี๋ยวก่อนนะ มันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอที่เราทำขนมอร่อย คนอื่นจะได้ต่อว่าร้านของพวกเราและทีมงานของป๊าไม่ได้ไง"
"ไม่รู้อะ กูพาล" คนพาลหน้าง้ำงอด้วยความขัดใจจนจมูกกับปากแทบจะถึงกันอยู่แล้ว
"พาลเรา?" สีหน้าของนาทีในตอนนี้กำลังบ่งบอกว่าเจ้าตัวไม่เข้าใจในสิ่งที่คีย์กำลังโวยวายเลยสักนิด
"เออ เพราะมึงทำดี ป๊ากูเลยจ้างมึงตลอด แล้วเมื่อไหร่ที่ป๊าจ้างมึง กูก็ต้องไปช่วยมึงด้วย มันทำให้กูต้องไปงานเลี้ยงของบริษัทป๊าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"
"เอาละ ไหนว่ามาสิ ทำไมถึงงอแงขนาดนี้" นาทียืนกอดอกมองคีย์ที่ตอนนี้กำลังกลายร่างเป็นเด็กน้อยจอมเอาแต่ใจ
"มึงก็รู้กูไม่ชอบงานแบบนี้ ขนาดกูใส่ชุดยูนิฟอร์มของร้านไป ป๊ายังลากกูไปแนะนำกับคนนู้นที คนนี้ที กูไม่ชอบอะ"
"แต่ต่อไปคีย์อาจจะต้องกลับไปช่วยงานป๊า ซึ่งเรื่องการพบปะผู้คนมันเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว ฝึกไว้ก็ไม่เสียหายไม่ใช่เหรอ"
"ไม่! บริษัทป๊าให้เฮียคีตดูแลไปอะดีแล้ว กูไม่ไหวหรอก สมองกูบอบบาง"
คีตหรือคีตะที่คีย์พูดถึง คือพี่ชายแท้ๆของคีย์ที่อายุห่างกัน 4 ปี
"เริ่มเอาแต่ใจอีกแล้วนะคีตกานต์ ไหนบอกความต้องการมาสิว่าอยากได้อะไร คีย์อยากให้เราปฏิเสธคุณจอยใช่ไหม ถ้าเกิดว่าเขามาติดต่อเรื่องงานอีกครั้ง"
"ไม่ได้ดิ จะปฏิเสธลูกค้าด้วยเหตุผลส่วนตัวได้ยังไง อีกอย่างป๊ากระเป๋าหนักจะตาย แหล่งทำเงินของร้านเลยนะ"
"..." นาทีตวัดสายตามองคีย์นิ่งๆ
"มึงอย่ามองแบบนั้นดิ กูก็แค่ไม่ชอบเวลาต้องเจอผู้คนเยอะๆเอง อีกอย่างถ้าแนะนำปกติทั่วๆไปก็พอไหว แต่อันนี้อะไรจ้องแต่จะหาลูกเขยให้ตัวเองอยู่เรื่อย ถามลูกก่อนไหมว่าอยากได้ไหม"
"อ่อ สรุปไม่พอใจที่ป๊าเป็นพ่อสื่อหาสามีให้ เลยมางอแงกับเรา"
"มันก็ไม่ใช่แบบนั้น" คีย์เอ่ยออกมาเบาๆไม่เต็มเสียงนัก
"เรื่องนี้ทางแก้ปัญหาง่ายมาก"
"ทำไงวะ" คีย์สีหน้าตื่นด้วยความอยากรู้
"ถ้าคีย์ไม่อยากให้ป๊าหาสามีให้ คีย์ก็บอกป๊าไปเลย ว่าคนที่ป๊าแนะนำคีย์ไม่สนใจหรอก เพราะตอนนี้ในหัวใจของคีย์มีแค่คุณกรคนเดียว"
"ไอ้ที้~"
"ฮ่าๆๆ" นาทีหัวเราะอย่างอารมณ์ดีที่สามารถแหย่คีย์ให้เขินได้
"มึงคิดว่าท้องอยู่ แล้วกูจะไม่กล้าทำอะไรเหรอ เดี๋ยวมึงเจอฝ่ามือพิฆาต นี่แนะ!"
"ฮ่าๆๆ คีย์เขินน่ารักจังเลย"
"มึง! กูจะหยิกมึงให้แก้มช้ำเลย มานี่!"
"พอแล้วคีย์ เราเจ็บนะ"
"เออ พอก็ได้ ถ้าไม่ติดว่ามึงท้องนะ โดนหนักแน่" คีย์ชี้นิ้วคาดโทษนาทีไว้ "ว่าแต่มึงเถอะ เป็นไงบ้าง ตอนนี้โอเคไหม โอเคไหมที่หมายถึงทุกๆเรื่อง" คีย์เปลี่ยนน้ำเสียงเป็นจริงจังยามที่เอ่ยถามเพื่อนรักออกไป
หลายวันก่อนคีย์ได้รับรู้เรื่องราวของนาทีมาบ้างพอสมควร ถามว่าเป็นห่วงไหม คีย์ยอมรับเลยว่าเป็นห่วงมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากนอกจากคอยมอง ให้กำลังใจและยืนอยู่ข้างๆ
คีย์คิดอยู่นานว่าจะถามเรื่องนี้กับนาทีดีไหม บางเรื่องคีย์เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากๆจะให้ถามแบบตรงๆห้วนๆก็คงไม่ใช่เรื่องที่ดี ไม่รู้ต้องถามแบบไหนเพื่อไม่ให้ไปสะกิดใจคนฟังจนบอบช้ำอีกครั้ง แต่ถ้าไม่ถามและไม่ได้รับการยืนยันจากเพื่อนความป็นห่วงก็จะไม่ลดลง
คีย์ละเกลียดช่วงเวลาแบบนี้เป็นที่สุด เรื่องช่วงเวลาที่ไม่รู้ว่าจะหันซ้ายหรือหันขวาดี ใครบอกว่าสนิทกันแล้วจะพูดอะไรก็ได้ ไอ้คีย์คนนี้ขอเถียงขาดใจ ยิ่งสนิทยิ่งต้องรักษาน้ำใจ ถนอมน้ำใจ และให้เกียรติซึ่งกันและกัน เพราะบางเรื่องราวไม่ใช่เรื่องที่จะเอาความสนิทมาตัดสินใจแทนกันได้
คีย์ได้แต่หวังว่า คำถาม น้ำเสียงและแววตาของเขาที่ส่งไปยังนาที นาทีจะสามารถรับรู้และเข้าใจได้ ว่าสิ่งที่เขาจะสื่อคือเรื่องไหน
"ตอนนี้เราโอเคมากๆ โอเคที่หมายถึงโอเคในทุกๆเรื่อง ขอบคุณนะคีย์"นาทียิ้มตอบพร้อมเอ่ยคำขอบคุณ "น้องคีย์ไม่ต้องกังวลน้า~"
"หมดกันอารมณ์ซึ้งของกู ขอบีบปากมึงหน่อยเถอะ กูหมั่นไส้มาก"
กริ๊ง! กริ๊ง!
เสียงกระดิ่งดังขึ้นยามที่กระทบกับบานประตูเมื่อโดนเปิดออก เป็นสัญญาณบ่งบอกให้สองเพื่อนรักที่กำลังตบตีกันอยู่สงบศึกและหันมาต้อนรับลูกค้าที่เดินเข้ามาใช้บริการร้านกาแฟแทน
"สวัสดีครับพี่บัว ไม่เจอกันหลายวันสวยขึ้นหรือเปล่าครับเนี่ย" คีย์เอ่ยทักทายลูกค้าสาวรุ่นพี่ที่สนิทสนมกันดีด้วยท่าทางทะเล้น
"เหมาหมดร้าน คิดเท่าไหร่คะ" บัวชมพูเอ่ยหยอกกลับด้วยความอารมณ์ดี
"โธ่พี่บัว ผมชมจริงๆนะครับ วันนี้สีลิปสติกสวยมากเลยครับ"
"ถ้าน้องคีย์จะพูดขนาดนี้ พี่ขอโทรหาบอสแป๊บนึงนะคะ"
"โทรทำไมครับ" คีย์ถามด้วยสีหน้างุนงง
"จะซื้อตึกไว้ให้น้องคีย์ขายกาแฟค่ะ แลกกับการให้น้องคีย์ชมพี่ทุกวัน"
"ฮ่าๆๆ" ทั้งสามคนหัวเราะออกมาพร้อมๆกันเมื่อจบประโยคชวนขำของบัวชมพู
"วันนี้รับอะไรดีครับพี่บัว" นาทีเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นว่าบัวชมพูพูดหยอกล้อกับคีย์เสร็จเรียบร้อยแล้ว
"พี่ขออเมริกาโน่เย็นแก้วนึงค่ะ"
"ครับ... คีย์ของพี่บัวอเมริกาโน่เย็นนะ" นาทีรับเมนูจากบัวชมพู ก่อนจะหันไปบอกคีย์ที่กำลังยืนรอออร์เดอร์อยู่หน้าเครื่องชงกาแฟ
"ดื่มกาแฟเวลานี้ คืนนี้จะนอนหลับเหรอครับพี่บัว" นาทีถามออกไปด้วยความเป็นห่วง เนื่องจากตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสามโมงกว่าแล้ว
"กาแฟไม่มีผลต่อการนอนของพี่ค่ะน้องที แต่จะมีผลต่อพลังงานในร่างกายมากกว่า ถ้าวันไหนดื่มกาแฟไม่ถึงสองแก้ว พี่มีความรู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีแม้แต่แรงจะเดินเลยค่ะ" บัวชมพูอธิบายแบบติดตลก ทำให้นาทีที่ยืนฟังเผลอขำออกมาเล็กน้อย
"แต่อะไรที่มากไปมันก็ไม่ดีทั้งนั้นนะครับ ยังไงพี่บัวต้องดูแลสุขภาพด้วยนะครับ... จะว่าไป ฟังดูเหมือนผมยุ่งเรื่องส่วนตัวของคนอื่นเลย ขอโทษนะครับ"
"ไม่เลยค่ะ น้องทีไม่ต้องขอโทษ พี่รู้ว่าน้องทีเตือนด้วยความเป็นห่วงจริงๆ ขอบคุณนะคะ นี่พี่ก็ลดลงแล้วนะ เมื่อก่อนอย่างต่ำต้องสามแก้วต่อวัน"
"ครับ"
"ว่าแต่เจ้าหมูน้อยตูนตูนไม่อยู่เหรอคะวันนี้ ไม่เห็นวิ่งดุ๊กดิ๊กอยู่ในร้านเลย" ในขณะที่ถามนาทีสายตาของบัวชมพูก็กวาดหาเด็กชายตุลย์ไปด้วยจนทั่วร้าน
"ไปเข้าห้องน้ำกับเปอร์ครับ เดี๋ยวก็คงมาแล้วครับ"
"อ่อ ค่ะ"
"ป้าบัว!"
บัวชมพูถามหายังไม่ทันขาดคำเสียงเล็กๆก็ตะโกนเรียกมาแต่ไกล
"ตูนตูน"
"ป้าบัว ตูนตูนสวัสดีครับ" เด็กชายตุลย์ยกมือไหว้คุณป้าอย่างสวยงามตามแบบฉบับที่โรงเรียนได้สอนไว้ไม่มีผิดเพี้ยน
"สวัสดีครับ ขอป้าบัวกอดหน่อยได้ไหมครับ คิดถึงจังเลย"
"คับ" ไม่รอช้าเด็กชายตุลย์วิ่งเข้าสู่อ้อมกอดของป้าบัวที่ย่อตัวรอรับอย่างเต็มแรง
เพราะรู้จักและเห็นหน้าค่าตากันมาตั้งแต่หนุ่มน้อยคนนี้ยังแบเบาะ บัวชมพูเทียวแวะมาเล่น เทียวซื้อของมาฝากให้ตลอดทุกครั้งที่มีโอกาส ความสนิทสนมของบัวชมพูและเด็กตุลย์จึงมีมากพอสมควร
"ป้าบัวคิดถึงตูนตูนจริงๆเลยน้า" บัวชมพูกอดเด็กชายแน่นโยกตัวไปมาสลับซ้ายขวา
"ตูนตูนก็คิดถึงป้าบัวจริงๆเลยน้า" เด็กชายตุลย์พูดตามคนเป็นป้าด้วยน้ำเสียงออดอ้อน โดยที่ไม่รู้เลยว่าการกระทำแบบนั้นมันยิ่งทำให้เด็กชายเองดูน่ารักและคนฟังก็ยิ่งหลงเข้าไปกันใหญ่
"โอ๊ยไม่ไหว น้องทีค่ะ พี่ขอขโมยกลับบ้านได้ไหมคะ"
"จะไหวเหรอพี่บัว ตัวแค่นี้แต่กินเก่งมากเลยนะ ผมบอกไว้ก่อน กลัวพี่หมดตัว" คีย์เอ่ยบอกในขณะกำลังวางแก้วกาแฟให้กับบัวชมพู " กาแฟได้แล้วนะครับ"
"ต่อให้หมดตัวพี่ก็ยอมค่ะ ไปอยู่กับป้าบัวไหมตูนตูน ไปไหมครับ"
"โอ๊ะ อากร"
ยังไม่ได้ทันที่จะได้ตอบคำถามของบัวชมพู เด็กชายตุลย์ก็โดนดึงความสนใจโดยชายผู้มาใหม่ที่เดินหน้านิ่งเข้ามาภายในร้าน ทิ้งให้ป้าบัวของเจ้าตัวยืนหน้าเศร้าอยู่คนเดียว เพราะยังเล่นกับหลานไม่สมใจเลย
"สวัสดีครับสุดหล่อ" กรเอ่ยทักทายเด็กชายตุลย์ที่ยืนยิ้มแป้นแล้นมองมาทางเขาอยู่ ก่อนจะยื่นมือไปขยี้หัวเด็กชายเบาๆด้วยความเอ็นดู
"ตูนตูนสวัสดีคับ... อากรป๊าม่ายมาด้วยหรอคับ"
"ป๊าของน้องตุลย์กำลังประชุมอยู่กับอาขุนครับ อีกสักพักถึงจะมานะ"
"อีกสักพักหรอคับ"
"ครับ อีกสักพัก"
เด็กชายตุลย์พยักหน้ารับรู้ ก่อนจะรีบวิ่งไปหาหม่าม้าของตัวเองที่ยืนอยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์
"หม่าม้า อีกสักพักนานเท่าไหนคับ เท่าอีกสักแป๊บหรือป้าวคับ อากรบอกว่าอีกสักพักป๊าจะมา ตูนตูนจะได้รู้ว่าต้องทนคิดถึงป๊าอีกนานหรือป้าว"
"โอ๊ย! หมูตุ้บ อย่าพูดจาน่ารักอย่างนี้ดิ อาคีย์ใจไม่แข็งแกร่งพอหรอกนะ"
คีย์ที่ได้ยินคำพูดคำจาที่แสนจะน่ารักของหลานชายถึงกับทนไม่ไหวต้องร้องโอดครวญขึ้นมา ซึ่งไม่ต่างจากผู้ใหญ่คนอื่นๆที่ตอนนี้กำลังอมยิ้มให้กับความน่ารักช่างถามของเด็กชายตุลย์ ไม่เว้นแม้กระทั่งพ่อหนุ่มหน้านิ่งอย่างกร ที่ตอนนี้ก็ยืนอมยิ้มน้อยๆให้กับความน่ารักของหลานชายเช่นกัน
"เลิกงาานแล้วเหรอคุณ" คีย์เอ่ยทักเมื่อเห็นว่ากรกำลังเดินมาหาตน
"ใช่"
"คุณหาอย่างอื่นทำก่อนไหมอีกตั้งสองสามชั่วโมงกว่าร้านจะปิด"
"ไม่เป็นไร ผมตั้งใจมาหาคุณอยู่แล้ว... ไหนมีอะไรให้ช่วยบ้าง" กรพับแขนเสื้อตัวเองขึ้นจนถึงศอก มองหางานภายในร้านว่ามีอะไรที่ตัวเองพอจะช่วยได้บ้าง
"พี่กรกับพี่คีย์มีนัดกันเหรอครับ" เปอร์ที่ยืนอยู่ไม่ไกลและได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่เอ่ยถามขึ้นด้วยความอยากรู้
"ไม่ยุ่งสักเรื่องมึงจะตายไหม"
"คีย์มีนัดกับคุณกรเหรอวันนี้"
"ก็ประมาณนั้น"
การตอบคำถามที่แตกต่างกันของคีย์ ทำให้เปอร์ที่ได้ยินถึงกับหน้าง้ำงอเลยทีเดียว แบบนี้เขาเรียกว่าสองมาตราฐานชัดๆ
"ถ้าอย่างนั้นคีย์กลับบ้านก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวที่เหลือเรากับคนอื่นๆจัดการเอง คุณกรมารอแล้วด้วย ถ้ารอปิดร้านอีกนานเลย"
"เฮ้ย! ทำแบบนั้นได้ไง"
"ได้สิค่ะพี่คีย์ นานๆทีเลิกงานเร็วบ้างไม่เป็นไรหรอกค่ะ"
"นั่นดิพี่คีย์ ไม่ต้องห่วงร้านหรอก เดี๋ยวพวกผมช่วยดูแลเอง พี่ไปเดตกับพี่กรด้วยความสบายใจได้เลย"
"เดตบ้านมึงสิไอ้เปอร์"
"งั้นเอาใหม่ พี่ไปซื้อของเข้าเรือนหอได้ตามสบายเลย"
"ไอ้เหี้ยเปอร์" ไม่ด่าเปล่า ผ้าเช็ดโต๊ะที่ก่อนหน้านี้อยู่ในมือของคีย์ ตอนนี้ได้ปลิวไปปะทะกับหน้าของเปอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"เขินทีไรรุนแรงกับน้องตลอด ถ้าหน้าหล่อๆของผมเป็นสิวขึ้นมาพี่จะรับผิดชอบยังไงไหว" เปอร์หยิบผ้าเช็ดโต๊ะที่คาอยู่บนหน้าของตัวเองออก แล้วโยนทิ้งไว้ตรงโต๊ะข้างๆ
"ขอให้ฝีขึ้นหน้ามึงแทนสิว"
"พอเลยทั้งสองคน" นาทีที่เห็นว่าศึกระหว่างเจ้านายและลูกน้องคงไม่จบลงง่ายๆ จึงรีบเข้าห้ามก่อนที่มันจะลามไปมากกว่านี้ "เถียงอะไรเกรงใจพี่บัวบ้าง"
"ไม่เป็นไรค่ะน้องที ตามสบายเลย" บัวชมพูอมยิ้มพร้อมผายมือเป็นเชิงบอกให้ทุกๆคนทำตัวตามสบายได้เลย
"เห็นไหมพี่บัวไม่ถือ" คีย์หันหน้ามาบอกนาที โดยที่มีเปอร์ยืนพยักหน้าช่วยยืนยันคำพูดคีย์อีกแรง
"เดี๋ยวเถอะทั้งสองคน" นาทีว่าเสียงดุ ส่ายหน้าด้วยความเหนื่อยใจ เมื่อกี้ละเถียงกันจะเป็นอย่างตาย ทีอย่างนี้ละเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย "เลิกทำหน้าทะเล้น แล้วไปเก็บของเลย คุณกรรอนานแล้ว"
"ไม่เป็นไรครับคุณนาที ผมตั้งใจมารออยู่แล้ว" กรบอกกับนาทีด้วยความสุภาพ เพื่อจะบอกให้รู้ว่าเขารอได้จริงๆ
"ผมรู้ครับว่าคุณกรรอได้ แต่ผมก็อยากให้คีย์เลิกงานก่อนเวลา แล้วไปผ่อนคลายตัวเองบ้าง เพราะตั้งแต่เปิดร้านมา ผมยังไม่เห็นคีย์เลิกงานก่อนเวลาเลย ... ยังไม่ไปเก็บของอีกเหรอ" คุยกับกรเสร็จ นาทีก็หันกลับมาดุเพื่อนรักของตัวเองที่ยังยืนหน้างออยู่ที่เดิมอีกครั้ง
"เออๆ ก็ได้ ร้านนี้ใครเป็นเจ้าของกันแน่วะแม่ง ถ้ากูไม่เห็นว่ามึงเปรียบเสมือนแม่กูนะไอ้ที กูไม่ยอมหรอก" บ่นเสร็จคีย์ก็รีบเดินเข้าไปหลังร้านเพื่อเก็บของทันที
"ฝากพาคีย์ไปทานอาหารอร่อยๆด้วยนะครับคุณกร" นาทีขยิบตาให้กรหนึ่งที ก่อนจะพูดต่อ "เดตให้สนุกนะครับ"
"ขอบคุณครับ"
ใช้เวลาเก็บของไม่นานคีย์ก็เดินออกมาพร้อมกระเป๋าเป้ของตัวเอง จากนั้นก็สั่งงานคนนู้นนิด คนนี้หน่อย ก็เดินออกประตูไป แต่ระหว่างที่กำลังเดินไปยังประตู คีย์ก็ได้ยินบทสนทนาแว่วๆลอยเข้ามาในหู
"น้องทีค่ะ จะว่าพี่ขี้เสือกก็ได้นะคะ แบบว่าคุณกรกับน้องคีย์เขาเป็น แบบ... เอิ่ม... เป็น..." บัวชมพูมีอาการพูดไม่ออก เพราะไม่รู้ว่าต้องถามแบบไหนดีให้ดูไม่หยาบคายและสอดรู้สอดเห็นจนเกินไป
"เป็นแฟนกาน อากรกับอาคีย์เป็นแฟนกานคับ"
ไม่ต้องถามให้หนักใจ ไม่ต้องลุ้นในคำตอบ เพราะ ณ เวลานี้เด็กชายตุลย์ได้ทำหน้าที่กระจายข่าวสารให้อาคีย์ของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนคนเป็นอาอย่างคีย์ก็ได้แต่กู่ร้องอยู่ภายในใจ...
หมูตุ้บบบบบ! เล่นอาคีย์อีกแล้วเหรอ...
.............................................
"คุณซื้อเนื้อไปด้วยสิ ผมอยากกินผัดกะเพราเนื้ออะ"
คีย์พยักหน้ารับ เอื้อมมือไปหยิบเนื้อมาไว้ในรถเข็นที่มีกรคอยเข็นอยู่จำนวนสองแพ็ก
ในตอนแรกกรตั้งใจที่จะพาคีย์ไปกินอาหารอร่อยๆตามที่นาทีแนะนำ แต่เป็นคีย์ที่บอกว่าไหนๆก็เลิกงานเร็วแล้ว อยากที่จะกลับไปทำกับข้าวกินที่ห้องมากกว่า ซึ่งกรก็ไม่ขัดใจอยู่แล้ว ว่าที่เมียว่าไง เขาว่าตาม เดินตามเมีย เขาว่าจะเจริญ
"คุณ ทำกะหล่ำปลีผัดน้ำปลาด้วยได้ไหม"
"พูดมาขนาดนี้ ถ้าผมไม่ทำให้คงดูใจร้ายน่าดู" แม้ว่าปากจะบ่นเหมือนไม่พอใจ แต่มือก็กำลังเลือกหยิบกะหล่ำปลีเพื่อนำไปผัดให้กรอย่างตั้งใจ
"คุณกรจริงๆด้วย"
เสียงของคนมาใหม่ทำให้กรและคีย์ที่กำลังเลือกกระหล่ำปลีต้องหันไปมอง
"ผมเห็นคุณกรมาแต่ไกลเลย แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะใช่คุณกรไหม พอมาใกล้ๆจึงเห็นชัดว่าใช่จริงๆด้วย ดีใจมากๆเลยครับที่ได้เจอกันอีก"
"อ่าครับ คุณเทียน มาคนเดียวเหรอครับ" เพราะว่าเป็นคู่ค้าคนสำคัญของบอส ทำให้กรต้องรักษามารยาทเอาไว้
"ครับ พอดีผมมาซื้อของ แล้วคุณกรล่ะครับ มาคนเดียวเหมือนกันเหรอครับ"
"เปล่าครับ พอดีว่าผม..."
"อ่อ มากับเพื่อนนี่เอง สวัสดีครับ ผมเทียนครับ" เทียนเอ่ยทักทายคีย์ด้วยสีหน้าเป็นมิตร
"ครับ ผมคีย์ครับ" คีย์ทักทายพร้อมยิ้มตอบกลับไปตามมายาทที่ควรจะทำ
"ครับ ... คุณกรทานข้าวหรือยังครับ ถ้าไม่รังเกียจเราไปทานข้าวด้วยกันไหมครับ"
"กรจะกินผัดกะเพราใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคีย์ไปดูใบกระเพราตรงนู้นก่อนนะ" ก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดแทรก แต่พอได้ยินคำชวนแบบนั้นมันรู้สึกแสลงหูของคีย์ยังไงชอบกล จนเผลอทำนิสัยไม่ดีออกมา "ถ้ากรคุยเสร็จแล้วเดินตามมานะ จะได้ไม่เสียเวลาซื้อของ เดี๋ยวต้องกลับไปทำกับข้าวอีก มัวแต่ชักช้าได้ทานข้าวเย็นค่ำกันพอดี... ยังไงแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ เชิญคุยกันตามสบายเลย"
"เดี๋ยวก่อนคุณ" กรยื่นมือไปคว้าข้อมือของคีย์ไว้ ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินออกไป " ผมต้องขอโทษคุณเทียนด้วยนะครับ พอดีว่าผมมีนัดทานข้าวกับแฟนแล้ว"
"แฟนเหรอครับ" เทียนถามออกไปด้วยสีหน้าจืดเจื่อน ยามเมื่อรู่ว่าคนที่ตัวเองชอบตั้งแต่แรกเจอมีแฟนแล้ว
"ครับ คีย์เขาเป็นแฟนผมครับ เมื่อกี้ยังไม่ทันแนะนำให้รู้จักเพราะคุณเทียนแทรกขึ้นมาเสียก่อน ถ้ายังไงแล้ว ผมต้องขอตัวก่อนนะครับ แฟนผมเขาชอบโมโหหิว ผมไม่อยากโดนงอน ไว้เจอกันนะครับ"
กรโน้มตัวลงเล็กน้อยเป็นการขอตัวลา ก่อนจะประสานมือของตัวเองเข้ากับมือของคีย์แน่น จากนั้นก็จับจูงกันไปเลือกซื้อใบกะเพราะที่วางขายอยู่ไม่ไกล ทิ้งให้เทียนมองตามตาละห้อย ด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบในอก
ยังไม่ทันจะได้เริ่ม ก็อกหักซะแล้วเรา ไอ้เราก็ไม่ใช่ประเภทชอบแย่งของใครด้วยสิ นัดเจรจากันครั้งหน้า คงไม่ต้องเลือกชุดให้เหนื่อยแล้วสินะ เฮ้ออออ...
...............................................................
"เลิกหึงผมได้แล้วคุณ"
"ใครหึงคุณไม่ทราบ หลงตัวเอง"
"แล้วไอ้ที่หน้าบึ้งมาตั้งแต่ที่ห้างจนถึงห้องแบบนี้ หมายความว่าไงครับ"
"ผมแค่หิวเหอะ" คีย์ตอบเสียงขึ้นจมูก คนไม่ยอมรับความจริงยังคงเถียงอย่างไม่ลดละ
"โอเค ไม่หึงก็หึง ไหนคนไม่หึงมานั่งตรงนี้แป๊บนึงสิ"
กรดึงของที่อยู่ในมือคีย์ออกมาตั้งไว้บนโต๊ะภายในครัวแทน จากนั้นก็จูงมืออีกคนให้เดินตามมา แม้ตอนแรกคีย์จะมีอาการอิดออดบ้างตอนที่โดนดึงมือไปเดินตามไป แต่สุดท้ายคีย์ก็ยอมเดินตามไปแต่โดยดี
"ไหนเป็นอะไรบอกผมหน่อย หรือมีอะไรจะถามผมไหม"
"ถามได้?"
"ทุกอย่างที่คุณต้องการรู้"
"ดี! คุณเทียนคนนั้นเป็นใคร แล้วรู้จักกันได้ยังไง เจอกันบ่อยไหม แล้วที่สำคัญ คุณรู้หรือเปล่าว่าคุณเทียนอะไรนั่นเขาชอบคุณ" คีย์ก็ไม่ได้อยากที่จะงี่เง่า แต่ยามที่เห็นสายตาของคุณเทียนเวลาที่มองมายังกร มันทำให้ใจมันคันยุบยิบ รู้สึกหวงคนตรงหน้าจนอยากจะประกาศให้ทั้งโลกรู้ว่า ไอ้คนหน้านิ่งๆคนนี้ เป็นคีตกานต์คนนี้คนเดียว
"มาเป็นชุดเลยนะคุณ"
"จะไม่ตอบ?" คีย์เลิกคิ้วถามอย่างเอาเรื่อง
"ใจเย็นสิคุณ ผมก็จะตอบอยู่นี่ไง คุณเทียนเขาเป็นคู่ค้าคนสำคัญของบอส ผมเจอเขาตอนที่ไปคุยงานกับบอส ถามว่าเจอบ่อยไหม ก็บ่อยอยู่นะ...ฟังก่อนสิคุณ อย่าเพิ่งแยกเขี้ยว" กรเอ่ยปรามคีย์ที่กำลังขู่ฟ่อๆเหมือนลูกแมวฝึกหัดอยู่ข้างๆ
"..."
"ผมจะบอกว่าเจอกันเฉพาะเวลามีนัดคุยกันเท่านั้น ไม่เคยเจอนอกเวลางานเลยสักครั้ง มีแค่วันนี้ที่บังเอิญเจอกัน ส่วนเรื่องที่เขาชอบผมนั้น ผมไม่ได้สนใจหรอก ชอบไม่ชอบก็เรื่องของเขา"
"..."
"รู้แค่ว่าผมไม่ได้ชอบเขาก็พอแล้ว และไม่มีวันที่จะชอบเขาด้วย"
"ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย" เมื่อได้รับคำตอบที่น่าพอใจ อารมณ์ครุกกรุ่นในตอนแรกก็เบาบางลงจนอารมณ์กลับมาเป็นปกติดังเดิม
"เลิกหึงผมได้แล้วนะคุณ"
"ก็บอกว่าไม่ได้หึงไงเล่า"
"ไม่หึงเลยเนอะ ก่อนหน้านี้ใครกันนะที่แทนตัวเองว่าคีย์ เรียกผมว่ากร ใครกันน้า~"
"หยุดเลยนะ ห้ามแซว"
"ผมไม่ได้จะแซวสักหน่อย แค่จะบอกว่าน่ารักดี ผมชอบนะเวลาที่คุณหึง" กรขยับหน้าเข้ามาใกล้คีย์ จนปลายจมูกเกือบจะชนกัน
"ถอยออกไปเลยนะ" คีย์เบี่ยงหน้าหลบ พยายามใช้มือดันหน้าของกรให้ถอยห่างออกไป แต่เหมือนว่ามันจะไม่เป็นผลสักเท่าไหร่ "อย่าหาเรื่องฉวยโอกาสนะคุณ ตอนที่คุณโมเมว่าผมเป็นแฟนคุณ ผมยังไม่ได้คิดบัญชีเลยนะ"
"โมเมที่ไหนกันคุณ ผมพูดเรื่องจริง"
"เรื่องจริงอะไรใครแฟนคุณไม่ทราบ"
"ตอนนี้ไม่ อีกไม่นานก็เป็น ผมขอเบิกสิทธิ์ล่วงหน้าก่อนไง ขนาดเงินเดือนยังเบิกล่วงหน้าได้เลยนะคุณ"
"ฮึ๋ย คุณนี่มันจริงๆเลย เพี๊ยะ" ด้วยความหมั่นไส้บวกกับตัวเองทำอะไรอีกคนไม่ได้ จึงเลือกที่จะตีต้นแขนอีกคนหนักๆ เพื่อระบายความอัดอั้นลงไป
"โอ๊ย! เจ็บนะคุณ คุณเป็นพวกเขินแล้วชอบใช้ความรุนแรงจริงๆสินะ"
"พูดมาก จะกินไหมข้าวอะ ถ้ากินก็มาช่วยกันทำ"
"เดี๋ยวคุณ ผมยังพูดไม่จบ"
คีย์ที่กำลังลุกยืน โดนกรดึงข้อมือโดยไม่ทันตั้งตัว จึงทำให้คีย์เซถลาไปนั่งลงบนตักกรพอดิบพอดีเหมือนจับวาง
"ปล่อยนะคุณ" คีย์รู้สึกหน้าร้อนผ่าวอย่างไม่บอกไม่ถูก เมื่อเห็นท่านั่งชวนอายของตัวเอง
"อย่าดิ้นสิคุณ ผมแค่มีเรื่องจะพูดด้วย...เรื่องที่ผมโมเมว่าคุณเป็นแฟนในวันนี้ผมขอโทษ"
"..."
"มันอาจจะทำให้คุณไม่ชอบใจ"
"ก็ไม่ได้ไม่ชอบใจ" คีย์ก้มหน้าพูดออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน
"ขอบคุณครับ" กรยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูให้กับท่าทางของคีย์ "แต่ผมอยากจะบอกว่า ไม่ว่ายังไงผมก็จะขอคุณมาเป็นแฟนให้ได้ คุณบอกให้ผมรอผมก็จะรอ"
"..."
"เรื่องที่คุณหึงผมวันนี้ผมดีใจนะ ที่อย่างน้อยๆมันก็ทำให้ผมรู้ว่าคุณก็มีความรู้สึกดีๆให้ผมเหมือนกัน"
"..."
"และผมอยากจะบอกให้คุณรู้ไว้นะ... ไม่ว่าใครกี่คนที่เข้ามาหาผม ผมก็ไม่สนใจหรอก เพราะใจของผมตอนนี้มันเป็นของคุณไปทั้งหมดแล้ว"
"..."
"กรชอบคีย์นะครับ" น้ำเสียงทุ้มห้าวน่าฟังกระซิบอ่อนโยนใกล้ๆกับหูของคีย์ ชวนให้ใจคนฟังในเวลานี้เต้นตึกตักอย่างควบคุมไม่อยู่
"..."
"ไม่สิ ต้องบอกว่า กรรักคีย์นะครับ ถึงจะถูก...กรรักคีย์นะครับ"
คีย์ก้มหน้าก้มตา ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบตากับกรแม้แต่น้อย ทำได้แค่เพียงพยักหน้าบอกให้อีกคนรู้ว่าตัวเองรับรู้สิ่งที่อีกคนต้องการที่จะบอกแล้ว และในตอนนี้คีย์รู้สึกว่าตัวเองกำลังเขินกรอย่างหนักจนตัวแทบจะระเบิดกับคำบอกรักของกรที่อยู่ๆก็พูดมันขึ้นมาจนแทบตั้งตัวไม่ทัน
คีย์ใช้เวลารวบรวมความกล้าและสติของตัวเองอยู่ครู่นึงก่อนจะพูดบางอย่างออกมาจนทำให้กรถึงกับหูอื้อไปชั่วขณะ
"ชอบ"
"อะไรนะคุณ" เพราะเสียงที่เบาเกินไปของคีย์ทำให้กรต้องถามย้ำอีกครั้ง
"ชอบกร"
"..."
"คีย์ชอบกร"
"0_0"
"ไม่สิ ต้องบอกว่า คีย์รักกร ถึงจะถูก..."
เพราะคำพูดก่อนหน้าของกรที่บ่งบอกถึงความไม่มั่นใจ เนื่องจากคีย์ไม่เคยเอ่ยคำว่าชอบ ไม่พูดถึงคำว่ารัก ไม่มีการหารือเรื่องสถานะ ปล่อยให้เรื่องมันลื่นไหลไปตามทางของมัน จึงเป็นธรรมดาที่ฝ่ายวิ่งตามจะเหนื่อยล้าและไม่มั่นใจ
ช่วงเวลาที่ผ่านมา กรดีกับเขาเสมอ ดูแลเอาใจใส่ พวกเราต่างเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันมากขึ้น กรให้เกียรติเขาเสมอ ไม่เคยรีบเร่งจนทำให้เขาอึดอัด
คีย์รู้ตัวเองว่าเขาชอบกร ไม่สิ ต้องบอกว่าหลงรักกรเข้าเต็มๆ แต่ก็ยังทำเป็นปากแข็งไม่ยอมพูดมันออกไป มันเป็นเพราะความกลัวที่มีความเห็นแก่ตัวเล็กๆเข้ามาเป็นส่วนเกี่ยวข้อง
วันนี้คีย์ยังโชคดีที่กรยังเลือกเขาและมั่นคงกับเขาไม่เปลี่ยนแปลง แต่ภายภาคหน้าใครจะรู้ ถ้าเขายังคงปากแข็งและมัวแต่กลัว เขาอาจจะต้องเสียสิ่งดีๆในชีวิตไปจริงๆก็ได้ เพราะใครๆก็อยากได้ความชัดและความมั่นใจ ไม่ใช่ความหวังริบหรี่ที่สร้างขึ้นมาปลอบประโลมตัวเองแต่มองไม่เห็นปลายทาง
เหตุกาณ์ของคุณเทียนในวันนี้อาจจะไม่ใช่เหตุผลทั้งหมดที่ทำให้เรื่องราวระหว่างเรามันเปลี่ยนแปลงไป แต่เหตุการณ์เล็กๆเหตุการณ์นี้มันนำพาให้เราทั้งคู่ได้เปิดอกคุยกันและเข้าใจกันมากขึ้น
มันคงถึงเวลาแล้วสินะที่เขาจะต้องตอบแทนความรัก ความทุ่มเท สิ่งที่ดีๆที่กรมอบให้เขามาตลอด
คีย์ยื่นมือทั้งสองข้างไปประคองใบหน้าของกรไว้ เพื่อที่ทั้งตัวคีย์และกร จะได้มองเห็นกันและกันชัดเจน
"คีย์ก็รักกรเหมือนกัน"
จบคำพูดของคีย์ ริมฝีปากบางของคีย์ก็โดนริมฝีปากหนาของกรเข้าครอบครองทันที ไม่เว้นช่องว่างไว้ให้ได้หายใจ แม้จะเคยจูบกันมาแล้วหลายครั้ง แต่จูบครั้งนี้มันช่างมีความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป
ความรู้สึกดีใจ โล่งใจ มีความสุข รักใคร่ ทะนุถนอม ความครอบครอง ทุกอย่างมันผสมปนเปกันไปเต็มเสียหมด จูบครั้งนี้จึงมีทั้งจังหวะนุ่มนวลชวนเคลิบเคลิ้ม จังหวะเนิบช้าที่ชวนให้หลงใหล หรือจะเป็นบางจังหวะที่ดุดันจน ร้อนแรง จนรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัว
จุ้บ!
เสียงน่าอายดังขึ้นยามที่ริมฝีปากทั้งสองแยกออกจากกัน
"กรรักคีย์" กรกระซิบบอกคำรักกับคีย์อีกครั้ง ในขณะที่ริมฝีปากยังคงแนบชิดกันอยู่ไม่ห่างไปไหน
"คีย์ก็รักกร"
สิ้นเสียงบอกคำรักของคีย์ ทั้งสองคนเหมือนเป็นแม่เหล็กที่ดูดเข้าหากัน ต่างฝ่ายต่างมอบจูบสุดลึกล้ำให้แก่กันอย่างไม่มีใครยอมใคร
อ่า~ ดูเหมือนว่าวันนี้เมนูผัดกะเพราคงต้องยกเลิกไปก่อน ปากแตกและบวมเจ่อขนาดนี้ ถ้าจะให้กินผัดกะเพราคงไม่ไหว...ข้าวต้มไปก่อนก็แล้วกัน
..................................................
TBC.
พี่กร ให้น้องไปทำกับข้าวก๊อน เดี๋ยวผักเหี่ยวหมด
ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ