❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 32 [End]]★04/03/21★ P:10
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 32 [End]]★04/03/21★ P:10  (อ่าน 73693 ครั้ง)

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 2]★10/12/20★ P:01
«ตอบ #30 เมื่อ10-12-2020 21:32:20 »

ชอบจิน น่ายัก

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 2]★10/12/20★ P:01
«ตอบ #31 เมื่อ10-12-2020 22:21:15 »

น้องจินน่ารัก  :L2:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 2]★10/12/20★ P:01
«ตอบ #32 เมื่อ10-12-2020 22:42:31 »

สนุกดีครับ ใช้ภาษาได้ดีเลย รอติดตามครับ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 2]★10/12/20★ P:01
«ตอบ #33 เมื่อ10-12-2020 23:20:10 »

เห้อออ ทำไมแม่ใจร้ายกับเด้กน่ารักนะ

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 2]★10/12/20★ P:01
«ตอบ #34 เมื่อ12-12-2020 20:41:15 »

เรนเหมาะเป็นพี่เลี้ยงเด็กมากๆ  แต่กับพ่อเด็กนี่ป่วนน่าดู 55555

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 2]★10/12/20★ P:01
«ตอบ #35 เมื่อ12-12-2020 23:10:09 »

 :m18: :m18: :m18:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 2]★10/12/20★ P:01
«ตอบ #36 เมื่อ13-12-2020 14:32:11 »

น้องมีปมกับแม่สินะ

ออฟไลน์ oiruop

  • เ รื่ อ ง โ ง่ โ ง่ นี่ ฉ ล า ด นั ก ⊙﹏⊙∥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 490
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
    • https://www.facebook.com/book.yaoi?fref=ts
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 2]★10/12/20★ P:01
«ตอบ #37 เมื่อ21-01-2021 19:05:29 »

สนุก รอติดตาม   :L2: :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ darin

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1088
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2267/-46
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 4]★28/01/21★ P:02
«ตอบ #38 เมื่อ28-01-2021 15:10:25 »


ตอนที่ 4

เด็กกวนประสาท



เสียงเคาะกระจกรถไม่หนักไม่เบาดึงสายตาเหมันต์ให้หันไปมอง สิ่งแรกที่เขาเห็นคือรอยยิ้มกว้างของคนที่เพิ่งย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้าน เจ้าตัวทำท่าขอให้เขาลดกระจกลง

“มีอะไร”

“คุณเหมกำลังจะไปบริษัทหรือเปล่าครับ”

“ใช่”

รอยยิ้มที่กว้างขึ้นแบบทันตาเห็นทำให้เหมันต์อดระวังไม่ได้

“ผมขอติดรถไปด้วยได้ไหมครับ”

“รู้เหรอว่าพี่จะไปไหน”

“ผมเดาว่าคุณเหมกำลังจะไปบริษัทใช่ไหมครับ”

“แล้วถ้าไม่ใช่” เหมันต์แกล้งถาม เขาอยากรู้ว่าเด็กหนุ่มจะตอบว่าอย่างไร

“ผมกำลังจะไปมหา’ ลัยครับ” เสียงตอบกลับร่าเริง คำตอบแบบนี้มันช่าง...

“แล้ว?” ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้น

“แล้ว..” ดวงตาคนพูดเป็นประกาย “แล้วแต่คุณเหมจะกรุณาเลยครับผมลงตรงไหนก็ได้”

เหมันต์มองใบหน้าสดใสนั้นครู่หนึ่งก่อนพยักหน้า “ขึ้นมา”

“ขอบคุณครับ” เจ้าตัวยกมือไหว้ จากนั้นเดิมอ้อมหน้ารถมายังที่นั่งข้างคนขับ เปิดประตูขึ้นมานั่งเคียงข้างเขา

เหมันต์ขับรถออกจากประตู ขับไปตามถนนในหมูบ้านจนถึงถนนใหญ่ เขาเลี้ยวซ้ายขับตรงไปอีกไม่กี่เมตรจากนั้นจอดรถเข้าข้างทาง

“ตรงนี้เหรอครับ” คนถามหันมามองหน้า เหมันต์ยิ้มโดยไม่คิดจะตอบ

เด็กหนุ่มพยักหน้าว่าเข้าใจแล้ว รอยยิ้มค่อยๆ กว้างขึ้น สายตาที่มองมาบ่งบอกว่ารู้ทัน แต่กลับไม่มีท่าทางไม่พอใจให้เห็นแม้แต่น้อย

“ขอบคุณมากครับ”

เสียงปลดเข็มขัดนิรภัยดังขึ้น ตามด้วยมือที่เอื้อมไปจับที่เปิดประตู

“เดี๋ยว” เหมันต์เรียกเมื่อเด็กหนุ่มทำท่าจะลงไปจริงๆ เป็นเพราะหลายวันมานี้เขารู้สึกว่าตนเองโดนหยอกล้อโดยเด็กที่อายุอ่อนกว่า จึงคิดจะแกล้งอีกฝ่ายบ้างก็เท่านั้น ไม่คิดว่าเด็กหนุ่มจะว่าง่ายขึ้นมา

“ครับ?” คนขานรับหันหน้ากลับมา ทำสีหน้าแปลกใจว่าเขาเรียกทำไม

ให้ตายเถอะ! เขารู้ว่าเจ้าเด็กนี่รู้อยู่เต็มอกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ยังทำหน้าซื่อตาใสใส่ ทำให้เขากระอักกระอ่วนใจ จะทิ้งอีกฝ่ายไว้ตรงนี้เขาก็ไม่ใช่คนใจร้ายขนาดนั้น แต่จะเอ่ยปากว่าให้ไปด้วยกันก็คล้ายตัวเองกำลังง้ออีกฝ่ายอยู่ สุดท้ายจึงเลือกใช้คำพูดกำปั้นทุบดินแทน

“ใครบอกว่าพี่จอดส่งนาย”

“อ่า..ครับ” เจ้าตัวดีทำสีหน้าเข้าอกเข้าใจเขา แต่ดันไม่ซ่อนรอยยิ้มในดวงตา

เหมันต์ทำเป็นมองไม่เห็นเสีย เขากดโทรศัพท์โทรหาเลขา สั่งงานสองสามประโยคก่อนวางสาย ชายหนุ่มเคลื่อนรถออกจากข้างทาง ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงปกติ

“จะไปมหา’ ลัยใช่ไหม”

“ใช่ครับ”

“อืม”

เขาไม่พูดอะไรอีก เด็กหนุ่มก็เช่นกัน


• • • • •


“ทางนี้”

เรนส่งยิ้มให้คิมหันต์เมื่ออีกฝ่ายยกมือเรียก เขาเดินตรงเข้าไปหา หยิบกระเป๋าที่ใช้จองโต๊ะส่งคืนให้เจ้าของแล้วจึงนั่งลง

“มึงมากับพี่เหมเหรอ”

“รู้ได้ยังไง” เรนหยิบของออกจากกระเป๋า ไม่ได้หันไปมองคนถาม

“เมื่อกี้กูโทรไปหาพี่เหมมา”

“อ๋อ” เขาส่งเสียงในลำคอให้รู้ว่าเข้าใจแล้ว

“ถามจริงมึงไม่ถูกชะตากับพี่เหมเหรอวะ”

เรนชะงักมือ หันไปมองเพื่อนรักที่กำลังมองมาเช่นกัน

“เปล่า ทำไมมึงคิดแบบนั้น”

“ปกติมึงมีมารยาทกับผู้ใหญ่จะตาย แล้วทำไมอยู่กับพี่กูถึงกลายเป็นคนกวนประสาทไปได้วะ”

“คุณเหมบอกอย่างนั้นเหรอ”

“เออ พี่เหมเรียกมึงว่าเด็กกวนประสาท”

เรนยกยิ้มมุมปาก เขาย่อมรู้คำตอบอยู่แก่ใจแต่จะพูดออกไปได้หรือ

“กูไม่รู้ตัว” นี่คงเป็นวิธีเลี่ยงที่ง่ายที่สุดแล้ว

“ไม่ใช่ก็แล้วไป กูแค่รู้สึกว่ามันแปลกๆ ฟังแล้วไม่เหมือนมึงเลย กูเลยลองถามดู”

“ไม่มีอะไรไม่ได้ไม่ถูกชะตา กูชอบพี่มึง” เรนบอกยิ้มๆ

“ดี กูจะได้หายห่วง” คิมหันต์พูดด้วยความโล่งอกตอนนี้เขาสบายใจแล้ว เรนหันหน้ากลับมา ริมฝีปากของเขายังยกยิ้มบาง

ว่ากันว่าความรู้สึกที่ยากจะปิดบังคือความรู้สึก ‘รัก’ และ ‘เกลียด’ ถึงอยากซ่อนเร้นมากแค่ไหน แต่เพราะความรู้สึกนั้นอัดแน่นอยู่ในใจจึงมักเผยออกมาโดยไม่รู้ตัว เขาเพิ่งได้ใกล้ชิดกับเหมันต์และยังไม่อยากถูกอีกฝ่ายจับได้ในตอนนี้ เพราะอย่างนั้นเขาจึงเลือกปิดบังความรักด้วยความรู้สึกอื่นแทน

‘เด็กกวนประสาท’ รอยยิ้มของเรนคลี่ออกกว้างขึ้นเมื่อนึกถึงสีหน้าของใครบางคน อืมม ดูเหมือนวิธีนี้จะได้ผลดีเสียด้วย

• • • • •

กาแฟสองแก้วถูกวางลงบนโต๊ะในมุมเงียบสงบของร้าน คิมหันต์มองเพื่อนที่นั่งลงฝั่งตรงข้าม หลังเลิกเรียนเรนบอกกับเขาว่ามีเรื่องอยากคุยด้วย สีหน้าของอีกฝ่ายจริงจังจนเขาแปลกใจ

“มีอะไรวะ” คิมหันต์ถามขึ้นก่อนด้วยความอยากรู้

“เรื่องหนูจิน”

“จิน?” หัวคิ้วของคิมหันต์ยกขึ้น “ทำไม?”

“กูอยากรู้ว่าพี่สะใภ้มึงตอนที่เลี้ยงหนูจินดุไหมวะ”

“พี่เพลงเหรอ?” คิมหันต์แปลกใจไม่น้อยเพราะไม่คิดว่าเพื่อนรักจะถามถึงเรื่องนี้

“อืม” เรนพยักหน้า “ดุมากไหม ตีลูกบ้างหรือเปล่า”

“ไม่นะ” คิมหันต์ส่ายหน้า

“ไม่เหรอ” เรนคล้ายคนเดินสะดุด ความไม่แน่ใจปรากฏขึ้นบนใบหน้า

“ไม่ กูไม่เคยเห็น อีกอย่างพี่เพลงเป็นคนอ่อนหวาน พูดเพราะ ขนาดทะเลาะกับพี่เหมใหญ่โตยังไม่เคยอาละวาดเลย มีอะไร? ทำไมจู่ๆ มึงถึงถามเรื่องนี้ขึ้นมาวะ”

“กูแค่สงสัย..” เรนตัดสินใจเล่าปฏิกิริยาของเด็กชายจิรันที่มีต่อแม่ลูกคู่นั้นให้คิมหันต์ฟัง ต่อด้วยเรื่องที่เขาพูดคุยกับพี่เลี้ยงของเด็กชาย

หลังฟังจบคิมหันต์นั่งนิ่ง สีหน้าครุ่นคิดอย่างหนัก ใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะหลุดคำพูดออกมา

“ก็เป็นไปได้”

“แต่มึงบอกว่าพี่สะใภ้มึงไม่เคยดุจินไม่ใช่เหรอ” เรนยังไม่สามารถหาจุดเชื่อมโยงเรื่องราวเข้าหากันได้

“ไม่ดุ” คิมหันต์ยังยืนยันคำเดิม “แต่กูเคยได้ยินพี่เพลงพูดกับจินบ่อยๆ ว่าให้เงียบ”

“มันก็ปกติหรือเปล่าวะ” เรนไม่แน่ใจนัก เพราะใช่ว่าจะไม่เคยได้ยินประโยคแบบนี้มาก่อน

“ตอนนั้นกูก็คิดว่ามันปกติถึงไม่ได้เอะใจอะไร แต่พอวันนี้มาคิดดูกูว่ามันอาจมีส่วนก็ได้ แล้วท่าทางแบบนี้” คิมหันต์ยกนิ้วชี้ขึ้นแตะริมฝีปากตัวเองแล้วออกเสียง ‘ชู่ว’ เบาๆ “กูเคยเห็นพี่เพลงทำ ไม่ใช่แตะปากตัวเองแต่แตะปากจิน”

ภาพที่เด็กชายจินยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปากเด็กชายวัยสี่ขวบวันนั้นวนกลับเข้ามาในความคิดของเรน ถ้าจะบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกันแล้วเด็กชายจินไปเอาท่าทางแบบนั้นมาจากไหน

“มีครั้งหนึ่งกูแวะเอาของไปให้พี่เหมที่บ้านตอนกลางวัน พี่เหมไปทำงานส่วนพี่เพลงอยู่บ้านกับจิน วันนั้นจินงอแงนิดหน่อย กูได้ยินพี่เพลงพูดกับจินว่า ‘วันนี้หนูไม่น่ารักเลยค่ะ ถ้าเป็นเด็กดีของแม่ต้องเงียบนะคะ’ ที่กูจำเรื่องนี้ได้เพราะตอนนั้นกูคิดว่า..โห..หลานกูฉลาดฉิบพี่เพลงพูดนิดเดียวก็เงียบกริบเลย ไม่เอะใจสักนิดว่ามันจะมีผลมากขนาดนี้”

“มันก็ยังไม่แน่ว่าจะใช่สาเหตุหรือเปล่า” เรนยังลังเล

คิมหันต์ถอนหายใจเบาๆ “แต่ถ้าถามกูตอนนี้กูเชื่อไปแล้วเจ็ดสิบเปอร์เซ็นนะ ยิ่งพี่มดบอกมึงว่าสี่ห้าเดือนมานี้จินดีขึ้นก็ยิ่งเข้าเค้า เพราะมันตรงกับเวลาที่พี่เพลงย้ายออกไปพอดี มึงเองก็คิดแบบนี้ไม่ใช่เหรอถึงมาถามกู”

“อืม” เรนยอมรับ

“มึงบอกพี่เหมเถอะ” คิมหันต์ตัดสินใจ จะใช่หรือไม่ใช่ จริงหรือไม่จริงก็ควรต้องบอก

“มึงเป็นคนบอกดีกว่า กูเป็นคนนอกคงไม่ดีถ้าจะไปกล่าวหาแม่ของลูกชาย ถึงจะเลิกกันไปแล้วก็เถอะ”

“โทษทีกูลืมคิดไป งั้นวันนี้กูไปพร้อมมึงจะได้คุยกับพี่เหมเลย”

“อืม” เรนเห็นด้วยเพราะเรื่องนี้จะช้าไม่ได้

• • • • •

เสียงเคาะประตูห้องนอนดังขึ้น เรนไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองเพราะมั่นใจว่าเป็นคิมหันต์ สายตายังติดพันกับหนังสือที่อ่านอยู่

“เข้ามาเลย” เขาร้องบอก

เสียงเปิดประตูตามมาด้วยเสียงฝีเท้าหนักๆ เดินมาหยุดยืนที่ข้างเตียง เพราะห้องเงียบเกินไปเรนจึงเงยหน้าขึ้นมอง เขาตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเป็นใครก่อนจะรีบเก็บอาการ หดขาที่เหยียดยาวเปลี่ยนเป็นนั่งขัดสมาธิ วางหนังสือในมือลง

“มีอะไรหรือเปล่าครับ แล้วคิมล่ะครับ”

“กลับไปแล้ว ฝากพี่บอกเราด้วย”

“อ๋อครับ” เขาเดาได้ทันทีว่าเหมันต์มาด้วยเรื่องอะไร เพียงแต่ไม่รู้ว่ามาด้วยอารมณ์ไหน

“คิมเล่าเรื่องจินให้พี่ฟังแล้ว” ร่างสูงนั่งลงบนเตียงห่างจากเขาไม่มากนัก

“ครับ”

“วันนั้นที่ร้านอาหารทำไมถึงไม่บอกพี่ว่าเกิดอะไรขึ้น”

“ผมเล่าแล้ว” เรนพูดเสียงเบา

“แต่ไม่ทั้งหมด”

“ผมไม่รู้ว่าตัวเองคิดมากไปหรือเปล่าเลยยังไม่ได้เล่าครับ”

“จินเป็นลูกชายของพี่ ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่พี่ควรต้องรู้ จะคิดมากไปหรือคิดน้อยไปไม่ใช่สิ่งที่เราจะเป็นคนตัดสินใจ”

“ขอโทษครับคราวนี้ผมผิดจริงๆ” เรนนึกเสียใจ เหมันต์พูดถูกเขาไม่ควรปิดบังอีกฝ่ายและไม่มีสิทธิ์จะทำแบบนั้นด้วย

“ขอบใจมาก”

“ครับ?” เรนตั้งหลักไม่ทัน เพราะคิดว่าเหมันต์เข้ามาเพื่อตำหนิเขาเท่านั้น

“เรื่องจิน ขอบใจเรามาก”

“แต่ผมทำไม่ถูก” เรนพูดเสียงอ่อยเพราะยังรู้สึกผิดไม่หาย

“เรื่องที่ควรติก็ติ เรื่องที่ควรขอบคุณก็ต้องขอบคุณ ถ้าไม่ได้เราบางทีพี่อาจไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับจิน”

“คุณเหมคิดว่าใช่เหรอครับ” เรนถามด้วยเสียงแผ่วเบา อันที่จริงเขาไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเขาสามารถถามอีกฝ่ายได้หรือไม่

“คิดว่า”

คำตอบแสนสั้นและไม่ชี้ชัดย่อมหมายความว่าอีกฝ่ายไม่อยากพูดเรื่องนี้กับตน แต่ก่อนที่เขาจะเอ่ยปากขอโทษที่ละลาบละล้วงเสียงทุ้มก็ดังขึ้นเสียก่อน

“หลังคิมเล่าข้อสงสัยให้ฟัง พี่เลยเรียกมดพี่เลี้ยงจินมาถาม พอเอามาปะติดปะต่อกันแล้วก็เป็นไปได้มาก เรื่องนี้ถ้าจะโทษว่าเป็นความผิดของใครสักคนก็ต้องโทษพี่” เสียงถอนหายใจดังขึ้น คนตรงหน้าดูอ่อนล้า ไม่เข้มแข็งเหมือนที่คุ้นตา

“พี่อยากให้เพลงเป็นคนเลี้ยงลูกเอง เพราะเชื่อว่าไม่มีใครเอาใจใส่ลูกได้ดีไปกว่าพ่อกับแม่ จะได้กล่อมเกลาเขาให้ออกมาเป็นเด็กดี พี่ขอเพลงแบบนั้นแต่ตัวเองกลับมัวแต่ยุ่งกับงาน กว่าจะกลับบ้านก็ค่ำมืด การเลี้ยงเด็กไม่ใช่เรื่องง่าย”

“ครับ ไม่ง่ายเลย” เรนพูดเสียงเบา เขาอยากปลอบโยนอีกฝ่ายแต่ทำได้แค่ส่งรอยยิ้มเข้าใจไปให้ ในใจยิ่งชื่นชมเหมันต์มากยิ่งขึ้นที่ไม่ได้ผลักความผิดไปให้ภรรยาเพียงผู้เดียว

“แม้แต่สาเหตุที่จินเป็นแบบนี้พี่ก็ยังต้องให้คนอื่นบอก” เสียงพูดขมขื่น คงไม่มีใครผิดหวังและรู้สึกผิดไปมากกว่าคนตรงหน้าแล้ว เรนรับรู้ได้จากสีหน้าและความเจ็บปวดในน้ำเสียงของอีกฝ่าย

“มันเป็นเรื่องบังเอิญครับ ถ้าผมไม่ได้เห็นการกระทำของจินวันนั้นผมก็คงไม่เอะใจเหมือนกัน หรือถ้าวันนั้นผมเล่าให้คุณเหมฟังทั้งหมดคุณเหมคงรู้ก่อนผมแล้ว”

สายตาคมกริบจ้องมองเขานิ่งจนเรนทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ ก่อนจะเห็นมุมปากของอีกฝ่ายยกขึ้นเล็กน้อย ทำให้ใบหน้านั้นดูผ่อนคลายขึ้น

“เราพูดจาแบบนี้ก็เป็น พี่นึกว่าเป็นแค่กวนประสาทพี่”

“...” คนกำลังปลอบทำไมเปลี่ยนโหมดไวนักเล่า

เหมันต์ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงทำให้เขาต้องแหงนหน้ามอง

“พักผ่อนเถอะ”

“ครับ ยังไงผมก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ”

“อืม พี่รับคำขอโทษ”

“ผมก็รับคำขอบคุณครับ” เรนส่งยิ้มกว้างให้ร่างสูง อีกฝ่ายหัวเราะเบาๆ ส่ายศีรษะไปมา

“ชมได้ไม่เกินห้านาทีสินะ”

“อันนี้ผมก็ถือว่าเป็นคำชมครับ”

“หึ” เสียงหัวเราะดังในลำคอ เรนมองใบหน้าที่คลายความเศร้าไปบ้างแล้วด้วยสายตาพอใจ

“ไปล่ะ”

“ครับ”

เรนมองตามแผ่นหลังกว้างไปจนประตูห้องนอนปิดสนิทลง เขายกยิ้มบาง

“ฝันดีนะครับ”

วันนี้ยังไม่ได้บอกก็ไม่เป็นไร สักวันเขาจะพูดมันออกมาด้วยความมั่นใจ










ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 4]★28/01/21★ P:02
«ตอบ #39 เมื่อ28-01-2021 16:49:40 »

ชอบเรื่องอันอบอุ่นหัวใจแบบนี้  :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 4]★28/01/21★ P:02
« ตอบ #39 เมื่อ: 28-01-2021 16:49:40 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 4]★28/01/21★ P:02
«ตอบ #40 เมื่อ28-01-2021 21:10:47 »

ความเครียดของคนเป็นแม่มากดดันลูกเหรอ

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 4]★28/01/21★ P:02
«ตอบ #41 เมื่อ28-01-2021 22:15:43 »

เป็นครั้งแรกที่คุยกันเป็นงานเป็นการอ่ะนะ  :laugh:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 4]★28/01/21★ P:02
«ตอบ #42 เมื่อ28-01-2021 22:22:19 »

ติดตามจ้า~

ออฟไลน์ kong6336

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 4]★28/01/21★ P:02
«ตอบ #43 เมื่อ28-01-2021 23:12:41 »

หนูจินต้องกลับมาร่าเริง สดใสเร็วๆ น๊าาาาาา

ออฟไลน์ darin

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1088
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2267/-46
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 5]★29/01/21★ P:02
«ตอบ #44 เมื่อ29-01-2021 16:14:21 »



ตอนที่ 5

อากาศดี



“คุณเหมครับ”

เปลือกตาของเหมันต์แทบไม่ขยับ เป็นเพราะเมื่อคืนเขานั่งทำงานจนดึก กว่าจะเข้านอนก็เป็นเวลาเกือบตีสองแล้ว ทำให้ยากจะฝืนลืมตาขึ้นมา

“คุณเหมครับ” เสียงเรียกดังขึ้นเล็กน้อย แต่เมื่อไม่ได้รับการตอบรับเช่นเดิม แรงเขย่าเบาๆ ที่ไหล่จึงเกิดขึ้น

“คุณ...”

เสียงที่ดังซ้ำๆ ปลุกเขาตื่นขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด เหมันต์ลืมตาขึ้นทันทีด้วยสีหน้าไม่พอใจ จึงเห็นใบหน้าของใครบางคนลอยอยู่ตรงหน้า สายตาสองคู่สบกันนิ่ง เขารู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นว่าใบหน้าของเด็กหนุ่มขึ้นสีแดงเรื่อ

“นี่ถ้าเป็นในละคร ถึงฉากนี้เราต้องจูบกันโดยบังเอิญแล้วใช่ไหมครับ”

“....”

ดูเหมือนเขาจะคิดมากไปเอง เหมันต์ได้คำตอบทันที

“ขยับไปได้แล้ว” เขาพูดเสียงดุ เด็กหนุ่มยกยิ้มกว้าง ถอยตัวออกห่างด้วยท่าทางเกียจคร้าน รอจนเขาลุกขึ้นนั่งแล้วถึงพูดขึ้น

“ขอโทษที่เข้ามาโดยพลการนะครับ ผมเคาะประตูหลายครั้งแล้วแต่ไม่มีเสียงตอบเลยเป็นห่วง กลัวคุณเหมไม่สบาย”

“พี่สบายดี เรามีอะไร” เหมันต์ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงจึงถามความต้องการของเด็กหนุ่มไปตรงๆ

คนที่ยืนอยู่คลี่ยิ้มกว้าง หูตาแพรวพราว เห็นแบบนี้ทีไรเขาอดระแวงไม่ได้สักที

“วันนี้อากาศดีครับ” เสียงพูดร่าเริง

มาแบบนี้..

“เราไปปิกนิกกันดีไหมครับ”

“ไม่” เหมันต์ตอบทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด ตั้งแต่จำความได้จนถึงตอนนี้เขาไม่เคยไปเลยสักครั้ง

“ผมอยากพาจินไปครับคิดว่าแกน่าจะชอบ แต่เดาว่าคุณเหมคงไม่อนุญาตผมเลยมาชวน”

เพราะกลัวไม่ได้ไปเลยมาชวน เจ้าเด็กนี่กำลังบอกว่าเขาเป็นตัวแถมใช่ไหม!

“ไปด้วยกันนะครับ”

เหมันต์อยากปฏิเสธ แต่เมื่อคิดถึงลูกชายแล้วก็ได้แต่ถอนใจ เขารู้ว่าลูกชายย่อมอยากไป

“เดี๋ยวพี่อาบน้ำแล้วจะลงไป”

“ครับ” รอยยิ้มที่กว้างอยู่แล้วยิ่งกว้างมากขึ้น คนเอ่ยชวนออกจากห้องไปด้วยท่าทางสบายใจ

เหมันต์ถอนหายใจ เขารู้สึกเหมือนมีบางอย่างไม่ถูกต้องแต่ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ดูเหมือนว่าที่ผ่านมาเขาไม่เคยปฏิเสธเจ้าเด็กนี่ได้เลย

• • • • •

เหมันต์ไม่แน่ใจว่าครั้งสุดท้ายที่เขามาสวนสาธารณะคือเมื่อไหร่ อาจจะเป็นสมัยเรียนมหา’ ลัย ครั้งที่ยังมีเวลาว่างมากพอ แต่ก็เป็นเพียงแค่การเดินเล่นเป็นเพื่อนคนรักสมัยเรียนเท่านั้น เขาไม่เคยนั่งเล่นจริงจังมาก่อน

เสื่อผืนใหญ่ถูกปูลงบนหญ้าใต้ความร่มรื่นของต้นไม้ กล่องแซนวิช กล่องขนม ขวดน้ำ แก้วน้ำ ตะกร้าของเล่นของใช้ วางเตรียมไว้พร้อมสรรพ

ส่วนเด็กชายจินนี่เป็นครั้งแรกสำหรับเขาเช่นกัน เด็กชายตัวน้อยยิ้มร่า เขาหันมองรอบตัวด้วยความสนใจ สายตาเห็นกระรอกน้อยอยู่ใต้ต้นไม้จึงเดินเข้าไปหาแต่พอเขาเข้าไปใกล้ก็หายขึ้นไปบนต้นไม้เสียแล้ว

“ดูอะไรอยู่ครับ”

เด็กชายจินหันไปตามเสียง เขายิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าเป็นใคร เด็กชายชี้นิ้วขึ้นไปบนต้นไม้ เสียดายที่ไม่เห็นแม้แต่เงาของกระรอกแล้ว

“ต้นไม้?” เรนทายจากสิ่งที่เด็กชายชี้ให้ดู

หนูน้อยส่ายหน้าไปมา ในหัวกำลังคิดว่าจะบอกอย่างไรดีนะ เขาชอบอาเรนที่แสนใจดีคนนี้มากเสียด้วยสิดังนั้นเขาต้องเป็นเด็กดี

เด็กชายยกมือขึ้นพยายามทำมือเป็นรูปกระรอกตัวน้อย แต่เขาไม่สามารถทำมันออกมาได้อย่างใจคิด จึงเงยหน้าขึ้นมองอย่างจนใจ สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาคือรอยยิ้มและดวงตาที่อ่อนโยนของอาเรน

“อาทายไม่เก่ง จินใบ้ให้หน่อยได้ไหมครับ”

ให้ใบ้เหรอ? เด็กชายเอียงคอน้อยๆ ถ้าเขาพูดมากไปอาเรนจะปวดหัวหรือเปล่า เขาไม่อยากให้อาเรนปวดหัว เด็กชายตัวน้อยตัดสินใจส่ายหน้า

เรนส่งยิ้มให้โดยไม่คาดคั้น เขาจับมือเด็กชายพาเดินกลับไปหาผู้เป็นพ่อ เมื่อเด็กชายนั่งเรียบร้อยแล้ว เขาส่งแซนวิชในกล่องไปให้พร้อมกับชวนหนูน้อยคุยเรื่องอื่น โดยไม่พูดถึงเรื่องเมื่อครู่นี้อีก



เมื่อเรนเห็นว่าเด็กชายอิ่มแล้วเขาจึงเก็บกล่องแซนวิชลงตะกร้า หยิบของเล่นกล่องหนึ่งออกมาเทลงบนเสื่อ มันคือกระดาษแข็งรูปสัตว์ชนิดต่างๆ

“เรามาเล่นเกมทายสัตว์กันดีกว่าครับ”

เหมันต์เลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นเด็กหนุ่มตรงหน้าจงใจพูดกับเขาไม่ใช่ลูกชาย

“ผมจะเป็นคนใบ้แล้วคุณเหมเป็นคนทายนะครับ”

เหมันต์กำลังจะอ้าปากบอกว่าเขาไม่เล่นและไม่คิดจะเล่นแน่นอน แต่เมื่อเห็นสายตาอีกฝ่ายตกลงมองลูกชายตัวน้อย ก็คล้ายจะรับสารบางอย่างได้

“ได้” ทุกครั้งที่ยอมตกลงเขาจะบอกตัวเองเสมอว่าเพื่อลูกชายตัวน้อย ไม่ใช่เพราะเอาชนะเด็กหนุ่มไม่ได้

“งั้นเริ่มเลยนะครับ” คนพูดยิ้มกว้าง สายตาตกลงมองรูปสัตว์ต่างๆ ที่วางอยู่บนเสื่อ แต่เมื่อเห็นว่าเขามองตามเจ้าตัวก็ร้องออกมา

“ไม่ได้สิครับห้ามมอง” มือได้รูปยื่นมาปิดที่ตาของเขาอย่างรวดเร็ว เหมันต์รับรู้ได้ถึงความนุ่มของฝ่ามือที่ทาบทับ

“หลับตาครับห้ามโกง”

“พี่..” เหมันต์อยากเถียงว่าไม่ได้โกง เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าต้องหลับตา ในเมื่ออีกฝ่ายยังไม่ได้บอกกติกาของเกม

“เอาตัวไหนดีครับจิน ตัวนี้ดีไหม” เสียงปรึกษาที่ได้ยินเพียงเสียงเดียวดังเข้าหู ดูเหมือนอีกฝ่ายไม่คิดให้เขาแก้ตัว

“โอเคครับผมเลือกได้แล้ว ผมจะเริ่มใบ้แล้วนะ”

“อืม” เหมันต์รับคำในลำคอ

“เริ่มจาก..มีหู”

!!

“ตัวใหญ่ครับ”

“...”

กว่าเขาจะได้ข้อมูลมากพอก็เล่นเอาอยากซัดเจ้าเด็กกวนประสาทนี่เข้าให้สักป๊าบ



หลังจากที่เขาทายคำใบ้อย่างอดทนถึงสองครั้ง และต้องใบ้ให้เด็กหนุ่มทายอีกสองครั้ง เรนก็หันไปทางลูกชายของเขา

“จินอยากเล่นบ้างไหมครับ สนุกนะ” เสียงถามอ่อนโยนปราศจากแรงกดดันใดๆ

เด็กชายจินรีบพยักหน้า เขาชอบสัตว์เป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงอยากเล่นด้วย โดยลืมคิดถึงบางอย่างไป

“ถ้าอย่างนั้นให้จินเป็นคนใบ้แล้วอาจะเป็นคนทายเอง”

เหมันต์สบตากับคนพูด แม้จะพอเดาได้บ้างแต่เพิ่งแน่ชัดว่าการเล่นเกมครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่ออะไร

เด็กชายจินหยิบรูปแมวขึ้นมา แต่พอจะทำมืออธิบายอย่างทุกครั้งถึงเห็นว่าดวงตาของอาเรนปิดอยู่ เขารู้สึกตกใจจึงหันไปมองพ่อที่นั่งอยู่ข้างกายเพื่อขอความช่วยเหลือ มือใหญ่วางลงบนศีรษะของเขา น้ำเสียงที่พูดอ่อนโยนและให้กำลังใจ

“จินใบ้เลยครับ อาเรนหลับตาอยู่ถ้าลูกไม่บอกอาเรนจะไม่รู้ ลูกต้องช่วยอาเรน”

ช่วย? เด็กชายจินมองกระดาษแข็งรูปแมวที่อยู่ในมือ เขาละล้าละลังเล็กน้อยแต่เมื่อเห็นรอยยิ้มของผู้เป็นพ่อ เขาก็มีกำลังใจขึ้นมา

“นุ่ม” เด็กชายพูดช้าๆ

“นุ่มเหรอครับ งั้นอาทายว่าเป็นสิงโต” เรนเลือกที่จะทายให้ห่างจากคำใบ้

เด็กชายส่ายศีรษะไปมาโดยลืมไปว่าอาเรนมองไม่เห็น เหมันต์จึงบอกให้เขาพูดออกมา

“ไม่..ใช่”

“จินช่วยใบ้ให้อาเรนอีกนิดสิครับ”

“ตัว..เล็ก”

“นุ่มด้วยตัวเล็กด้วย อะไรหนอ” เรนแกล้งทำหน้าคิด “หนูหรือเปล่าครับ”

เด็กชายส่ายหน้าอีกครั้ง เขาครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะส่งเสียงน่ารักออกมา

“เมี้ยว~”

เรนกับเหมันต์กลั้นขำพร้อมกัน อย่างนี้ไม่เรียกว่าใบ้แล้วต้องเรียกว่าบอกตรงๆ เลย

“อารู้แล้ว! แมวใช่ไหมครับ” เรนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดีใจ เมื่อได้ยินเสียงเด็กชายตัวน้อยตบมือเขาก็ลืมตาขึ้นมา

“อาทายถูกเพราะจินช่วย” เรนเอ่ยปากชมเด็กชาย

“เก่งมากครับ” เหมันต์ดึงลูกชายเข้าไปกอด เขากดริมฝีปากลงบนกระหม่อมเพื่อแสดงความรัก เด็กชายอมยิ้ม ดีใจที่ช่วยอาเรนได้ ดวงตาแฝงความลังเลเล็กน้อยก่อนเสียงเล็กๆ จะดังขึ้น

“ซา..หนุก”

แม้เป็นคำสั้นๆ แต่เป็นคำที่เด็กชายจินพูดขึ้นมาด้วยตัวเอง เหมันต์รีบถามลูกชายด้วยความยินดี

“จินชอบเล่นเหรอครับ”

เด็กชายพยักหน้าน้อยๆ เขามองพ่อด้วยสายตากังวล กลัวว่าตัวเองจะทำผิดไปเพราะเด็กดีต้องไม่เล่นไม่ซน

“ถ้าอย่างนั้นเรามาเล่นกันอีกดีไหมครับ”

เด็กชายจินพยักหน้าเร็วๆ ด้วยความดีใจ เหมันต์มองรอยยิ้มสดใสของลูกชายด้วยความสุข เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับเรนโดยไม่ตั้งใจ รอยยิ้มขอบคุณถูกส่งไปให้โดยไม่มีคำพูดใดหลุดออกมา

• • • • •

ก่อนจะกลับเหมันต์พาลูกชายมาที่สนามเด็กเล่นในสวนสาธารณะ เขาปล่อยให้เด็กชายนั่งเล่นทรายอย่างที่ชอบ เรนยืนอยู่ข้างร่างสูง มองเด็กชายจินที่กำลังสนุกกับการตักทราย

“เมื่อวานพี่ไปพบจิตแพทย์เด็กมา อาทิตย์หน้าจะพาจินไปหา”

เรนหันไปมองด้วยสายตาแปลกใจ เขาไม่คิดว่าเหมันต์จะเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง

“วันนี้ขอบใจเรามาก” ดวงตาที่หันมาสบประสานหมือนดูดกลืนวิญญาณของเขาไป หัวใจของเรนเต้นไม่เป็นส่ำ เขาพ่ายแพ้ให้กับความอ่อนโยนในดวงตาคู่นั้น

“มองแบบนี้อย่าบอกว่าชอบผมขึ้นมานะครับ”

“...”

เนิ่นนานกว่าเหมันต์จะหัวเราะออกมา เขาส่ายศีรษะเล็กน้อยโดยไม่พูดอะไร หันหน้ากลับไปให้ความสนใจกับลูกชายแทน

“ไม่ใช่เหรอครับ เฮ้อ..น่าเสียดาย”

“หึๆ” เหมันต์อดหัวเราะไม่ได้เมื่อได้ยินเสียงแกล้งผิดหวังของอีกฝ่าย

เรนลอบยิ้ม เขามองใบหน้าด้านข้างของเหมันต์ ชายหนุ่มที่เขาหลงรักมาเนิ่นนาน ถึงแม้ตอนนี้เขายังไม่ใกล้อีกฝ่ายมากพอ แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้ไกลจนท้อใจ ไม่ว่าสุดท้ายจะจบด้วยความสมหวังหรือผิดหวังอย่างน้อยวันนี้เขาก็ได้พยายามแล้ว

“เย็นนี้อยากทานอะไร”

เรนถูกดึงให้หลุดจากภวังค์ เขาต้องเรียกสติตัวเองกลับมาถึงจะเข้าใจคำถาม

“แล้วแต่เลยครับผมทานอะไรก็ได้”

“เราเลือกเถอะ พี่อยากเลี้ยงถือว่าแทนคำขอบคุณเรื่องจิน”

“งั้นผมไม่เกรงใจนะครับ” เรนส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ไปให้

“ตามใจเรา”

“ตกลงครับ” เรนตอบรับแบบไม่อิดออดให้เสียเวลา เขาผิวปากเบาๆ เดินเข้าไปเล่นเป็นเพื่อนเด็กชายจิน สมองก็คิดไปด้วยว่าเขาควรพูดตรงๆ ไหมว่าอยากกินอีกฝ่าย ไหนๆ เจ้าตัวก็บอกว่าจะตามใจเขาแล้วนี่













ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 5]★29/01/21★ P:02
«ตอบ #45 เมื่อ29-01-2021 16:23:00 »

ฮั่นเเน่น้อนเรน รุกเก่งนะเรา

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 5]★29/01/21★ P:02
«ตอบ #46 เมื่อ29-01-2021 17:35:32 »

 :fox2:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 5]★29/01/21★ P:02
«ตอบ #47 เมื่อ29-01-2021 19:33:37 »

น้องเรน...นนนนนน   o13

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 5]★29/01/21★ P:02
«ตอบ #48 เมื่อ29-01-2021 19:38:03 »

 :-[ :o8:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 5]★29/01/21★ P:02
«ตอบ #49 เมื่อ29-01-2021 19:44:24 »

เรนเก่งมาก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 5]★29/01/21★ P:02
« ตอบ #49 เมื่อ: 29-01-2021 19:44:24 »





ออฟไลน์ Mitra

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 5]★29/01/21★ P:02
«ตอบ #50 เมื่อ29-01-2021 20:08:53 »

น้องจินน่ารักมากเลย
สู้ๆ นะลูก

ออฟไลน์ darin

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1088
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2267/-46
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 6]★30/01/21★ P:02
«ตอบ #51 เมื่อ30-01-2021 15:02:49 »



ตอนที่ 6

ใจเอย



เขตดนัยเดินเข้าไปในห้องทำงานของเหมันต์ เขาส่ายศีรษะเล็กน้อยเมื่อเห็นเพื่อนรักยังคงง่วนอยู่กับการเซ็นเอกสารบนโต๊ะ

“ถ้าฉันไม่มารับนายคงเบี้ยวอีกล่ะสิ”

“เดี๋ยวจะไป” เหมันต์ตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้นมอง

“ไปบ้านหรือไปงาน” เขตดนัยพูดอย่างรู้ทัน เขาดึงเก้าอี้ด้านหน้าโต๊ะทำงานออกนั่ง

“ไปเถอะฉันขี้เกียจฟังคนบ่นถึงนาย ไม่สนุกค่อยกลับ” ชายหนุ่มหยิบหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาเปิดดูฆ่าเวลา

“โรสเหรอ” น้ำเสียงคนพูดไม่ใส่ใจนัก

“ก็รู้นี่หว่า เกิดอะไรขึ้นวะก็เห็นดีๆ กันอยู่ ตกลงนายไม่ชอบเหรอ”

“ไม่ใช่ไม่ชอบแต่ไม่คิดจะแต่งงานอีก”

“เพราะเพลงเหรอ” พวกเขาเป็นเพื่อนเรียนมหา’ ลัยเดียวกัน เขตดนัยจึงรู้ตื้นลึกหนาบางของเรื่องนี้ดี

“ไม่ใช่เพราะเพลง แต่เพราะฉันไม่ชอบความอึดอัดของการใช้ชีวิตคู่ มันไม่มีความสุข”

“มันก็เรื่องเดียวกันหรือเปล่าวะ” เขตดนัยบ่นกับตัวเอง เขายังจำสภาพเพื่อนหนึ่งปีก่อนหย่าได้ ถ้าจะใช้คำว่าไม่มีความสุขคงน้อยไป เล่นเอาเขาเชื่อไปเลยว่าการที่คนสองคนทะเลาะเอะอะโวยวายใส่กันดีกว่า อย่างน้อยก็ได้ระบายสิ่งที่อยู่ในใจออกมาบ้าง การสงสัยตลอดเวลาแต่ไม่พูด ร้องไห้แต่ไม่บอกว่าเพราะอะไร เสียใจแต่ไม่คิดจะปรับความเข้าใจ ความอึมครึมในชีวิตคู่แบบนั้นน่ากลัวกว่าเป็นไหนๆ

“ก็ถ้าเข้ากันได้ทำไมนายไม่ลองพูดกับโรสตรงๆ ว่านายไม่อยากแต่งงานอีก ให้เธอตัดสินใจเอาเอง”

“เคยพูดแล้ว”

“พูดแล้ว?” เขตดนัยเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ

“ฉันอยากชัดเจนก็เลยพูด”

“โรสตกลงสานสัมพันธ์ต่อเหรอ” เขาเดาแบบนั้นเพราะเห็นว่าหญิงสาวยังสนใจในตัวของเหมันต์อยู่

“ใช่”

“งั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรนี่”

“บอกตรงๆ ว่าฉันไม่แน่ใจ”

เขตดนัยยักไหล่ เรื่องแบบนี้เขาก็ตอบไม่ได้เช่นกัน ใจคนนั้นยากแท้หยั่งถึง

• • • • •

เด็กชายจินหยิบหนังสือนิทานเล่มหนึ่งมาส่งให้กับเรน เขาชอบให้คุณอาเรนอ่านนิทานก่อนนอนให้ฟัง

“เล่มนี้เมื่อคืนก็อ่านแล้วนี่ครับ จินชอบเหรอ”

เด็กชายพยักหน้าน้อยๆ เขาปีนขึ้นไปนอนบนเตียง ดึงผ้าห่มขึ้นมากอด แนบหน้ากับหมอนนุ่ม เตรียมพร้อมจะฟังนิทานก่อนนอน

เรนมองเด็กชายตัวน้อยด้วยสายตาเอ็นดู เขาจัดผ้าห่มให้คลุมมิดชิดยิ่งขึ้น ดูให้เด็กชายนอนในท่าที่สบายแล้วจึงเปิดหนังสือนิทานออกอ่าน

เรนพลิกหน้าหนังสือไปเรื่อยๆ อ่านจนจบเล่ม ปกติแล้วเมื่อเขาอ่านจบเด็กชายจะหลับพอดีหรือบางทีก็หลับไปก่อนแล้ว แต่คราวนี้แม้ตาจะปรือแค่ไหนก็ไม่ยอมนอน

เรนวางหนังสือลงข้างตัว ใช้มือลูบผมนุ่มของเด็กชายจิน

“ทำไมยังไม่นอนครับ”

หนูน้อยเหลือบสายตาไปยังประตูห้อง

“รอคุณพ่อเหรอครับ”

เด็กชายตัวน้อยพยักหน้า

“คุณพ่อโทรมาบอกว่าคืนนี้ให้จินนอนก่อนได้เลยไม่ต้องรอ วันนี้คุณพ่อมีธุระจะกลับดึก ถ้าง่วงก็นอนเถอะครับ พรุ่งนี้ตื่นมาก็เจอแล้ว”

เด็กชายจินส่ายหน้าพยายามบอกว่าไม่ง่วง แต่สุดท้ายก็ฝืนไม่ไหว เรนเห็นแบบนั้นก็ยิ้มด้วยความเอ็นดู เขาลุกขึ้นจากเตียง ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้จนถึงคอ ดูให้แน่ใจว่าเด็กชายอุ่นสบายดีแล้ว

“ฝันดีนะครับ” เรนลูบศีรษะเด็กชายเบาๆ

เด็กชายตัวน้อยที่ง่วงเต็มที่แล้วดึงมือของเขา สายตาง่วงงุนมองมาอย่างรอคอย

เรนใช้เวลาครู่หนึ่งก่อนจะเข้าใจ ทุกคืนเหมันต์จะส่งลูกชายเข้านอนด้วยการหอมที่หน้าผาก หนูน้อยก็จะหอมแก้มพ่อกลับคืน เขาจึงทำแบบนั้นบ้าง

“กู๊ดไนท์ครับ” เรนก้มลงจรดจมูกลงบนหน้าผากเด็กน้อยก่อนเอียงแก้มให้อีกฝ่ายหอม

เมื่อเห็นเด็กชายหลับตาลงแล้ว เรนจึงเดินไปปิดไฟกลางห้องเหลือเพียงแสงจากโคมไฟ เมื่อพี่เลี้ยงเข้ามานอนก็จะปิดเอง

เรนปิดประตูห้องอย่างแผ่วเบา เขามองประตูที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องของเด็กชายจิน ดูเหมือนคนที่คิดถึงเจ้าของห้องจะไม่ได้มีเพียงเด็กชายจินคนเดียว



ดึกมากแล้วแต่เขายังนอนไม่หลับ เรนเดินลงมายังชั้นล่าง เขาเข้าไปในห้องครัวตั้งใจจะหาอะไรดื่มสักแก้ว

“อุ๊ยคุณเรน!” ดูเหมือนเขาจะทำให้แม่ครัวตกใจเสียแล้ว

“รบกวนหรือเปล่าครับ” เรนทักยิ้มๆ

“ไม่ค่ะ ป้าเพิ่งทำความสะอาดครัวเสร็จกำลังจะออกไปพอดี เชิญคุณเรนตามสบายเลยค่ะ”

“ขอบคุณครับ” เด็กหนุ่มรอจนแม่ครัวออกไปแล้วจึงจัดการธุระของตัวเอง เขาเลือกหยิบกระป๋องเบียร์ออกมาจากตู้เย็น เหมันต์เคยอนุญาตไว้เขาถึงกล้าหยิบ

ห้องรับแขกยังเปิดไฟสว่างจ้าคงเพราะเจ้าของบ้านยังไม่กลับ เรนนั่งลงบนโซฟากว้าง หยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋ากางเกง

เขาเปิดอินสตาแกรม พิมพ์บางชื่อลงไปเพียงครู่เดียวก็ขึ้นมา

rossarin

ครั้งหนึ่งคิมหันต์เคยเปิดบัญชีนี้ให้เขาดู ตอนนั้นเขาทำเหมือนไม่สนใจแต่กลับจดจำชื่อนี้ได้เป็นอย่างดี

‘แฟนใหม่พี่ชาย’ คิมหันต์บอกเขาแบบนั้น แต่เพียงไม่นานอีกฝ่ายก็มาแก้ข่าวว่าเป็นแค่คนคุยๆ กันยังไม่ได้คบ เขายังจำความรู้สึกโล่งอกในตอนนั้นได้อยู่เลย

เรนยกยิ้มบางเมื่อเห็นรูปที่เพิ่งขึ้นมา เขาแค่เดาเล่นๆ แต่ไม่คิดว่าจะได้เห็นจริงๆ ภาพถ่ายเซลฟี่ที่ด้านหลังติดคนในโต๊ะมาด้วย ไม่ต้องขยายก็เห็นว่าคนที่นั่งไหล่ชิดกับหญิงสาวเจ้าของบัญชีเป็นใคร

เรนอดหัวเราะออกมาไม่ได้ ดูเถอะแม้ในตอนที่รู้สึกเศร้าแบบนี้ เขาก็ยังอดคิดไม่ได้ว่าเหมันต์ที่อยู่ในชุดสูทสีเข้มนั้นหล่อบาดตา ถ้าไม่เป็นเพราะเขาหลงรักอีกฝ่ายอยู่ คงพูดไปแล้วว่าสองคนนี้ดูเหมาะสมกันมาก สาวสวยหนุ่มหล่อ เห็นแบบนี้แล้วก็อดอิจฉาเล็กๆ ไม่ได้

อันที่จริงเขาไม่เคยคิดว่าที่ตรงนั้นต้องเป็นของเขา สิ่งที่คิดมีเพียงถ้าได้ยืนอยู่ตรงนั้นก็คงดี สำหรับเขาแล้วเดิมทีมันก็เป็นแค่ความฝัน ที่ไม่รู้ว่าจะต้องตื่นขึ้นมาวันไหน



อาจเพราะมัวแต่จมอยู่กับความคิดของตัวเอง เขาจึงไม่ได้ยินเสียงรถที่แล่นเข้ามา รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ร่างสูงเดินผ่านประตูบ้านเข้ามา

เหมันต์ชะงักเท้าเมื่อเห็นคนที่นั่งอยู่ เขาเลิกคิ้วขึ้น “ยังไม่นอนเหรอ”

เรนยกกระป๋องเบียร์ที่วางอยู่บนโต๊ะให้อีกฝ่ายดู “วันนี้ครึ้มอกครึ้มใจครับ”

“มีเรื่องดีๆ เหรอ”

“จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ” เรนยกยิ้มมุมปาก เมื่อภาพบางภาพช่วยสะกิดเตือนเราไม่ให้หลงทางจนเกินไป ก็น่าจะถือว่าเป็นเรื่องที่ดีได้

“งั้นก็ตามสบาย” เหมันต์บอกเด็กหนุ่ม เขาอยากขึ้นไปอาบน้ำเต็มที

“คุณเหมครับ”

ชายหนุ่มหยุดฝีเท้า หันกลับไปมอง

“หิวไหมครับ”

“หือ?” เหมันต์มองเรนด้วยสายตาแปลกใจ

“เห็นป้าจิตบอกว่าคุณเหมไปงานเลี้ยง ผมเดาว่าคงทานไม่อิ่มท้อง ให้ผมทำอะไรให้ทานไหมครับ”

“เราทำเป็นเหรอ”

“ครับ” เสียงตอบรับหนักแน่น ดวงตาคนพูดบ่งบอกถึงความเชื่อมั่นในตัวเอง

“เอาสิ พี่ก็หิวอยู่จริงๆ นั่นแหละ เราทำอะไรเป็นบ้าง”

“ต้มมาม่าครับ” คนตอบไม่เสียเวลาคิด รอยยิ้มภาคภูมิใจนั้นช่างบาดตา

“มาม่า?” เหมันต์ปวดหัวขึ้นมา ทำไมเขาถึงลืมไปนะ ไม่ควรคาดหวังกับเจ้าเด็กกวนประสาทนี่เลย

“ทำไมทำหน้าผิดหวังแบบนั้นล่ะครับ”

เหมันต์อดหัวเราะไม่ได้เมื่อเห็นสีหน้ากระเง้ากระงอดของอีกฝ่าย ไม่คิดว่าเจ้าเด็กนี่ก็ทำหน้าตาแบบนี้เป็น

“เชื่อผมสิครับ ดึกๆ แบบนี้มาม่านี่แหละเด็ดสุด ซดน้ำร้อนๆ เส้นนุ่มๆ เอาสเต็กมาแลกยังไม่ยอมเลยครับ”

“แต่พี่ยอมนะ”

“...”

เหมันต์ต้องกลั้นขำเมื่อเห็นใบหน้ามู่ทู่ของอีกฝ่าย สายตาตกลงมองเบียร์สามกระป๋องที่วางบนโต๊ะรับแขก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเขาถึงได้เห็นท่าทางประหลาดอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ถึงจะดูตลกไปหน่อยแต่จะว่าไปก็น่ารักดี แถมยังทำให้เขาอารมณ์ดีอีกด้วย

“แน่ใจใช่ไหมว่าเราจะไม่ทำครัวพี่ไหม้” เหมันต์ไม่ได้อยากทาน แต่เห็นความมุ่งมั่นของอีกฝ่ายแล้วคิดว่ายอมหน่อยก็คงไม่เป็นไร

“สบายมากครับ” คนพูดอวดตัว

“งั้นก็ได้ พี่จะขึ้นไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวลงมาทาน”

“ได้เลยครับ เดี๋ยวผมทำแบบร้อนๆ ไว้รอ”

“ขอบใจ”

“แต่ว่า..” คนพูดมีน้ำเสียงลังเล

“อะไร?”

“มาม่าอยู่ไหนเหรอครับ”

“...”

มีไม่กี่ครั้งที่เหมันต์จะอับจนคำพูด ไม่ใช่สิดูเหมือนตั้งแต่รู้จักกับเจ้าเด็กนี่เขาก็หมดคำพูดได้เกือบทุกวัน เหมันต์ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ

“ตามมา” ร่างสูงเดินนำคนตัวเล็กกว่าไปยังห้องครัว

“คุณเหมรู้เหรอครับว่าอยู่ตรงไหน”

“ไม่รู้” เหมันต์ตอบหน้าตาย

“โธ่~”

น้ำเสียงดูถูกเล็กๆ นั้นทำให้เขาหัวเราะเสียงดัง



เหมันต์ใช้เวลาเกือบยี่สิบนาทีในการทำธุระส่วนตัว เขาสวมชุดนอนสีเทาเข้ม ตัวเสื้อแบะกระดุมกว้างเดินลงมาจากชั้นบน กลิ่นหอมลอยมาแตะจมูกตั้งแต่เท้ายังก้าวไม่ถึงห้องครัว

“นั่งเลยครับ ผมเพิ่งทำเสร็จ ไม่กล้ารีบทำกลัวเส้นบะหมี่จะอืด” ดูเหมือนอีกฝ่ายจะกะเวลาที่เขาอาบน้ำได้พอดี บะหมี่ในชามจึงดูเหนียวนุ่มน่าทาน

“มาม่าต้มยำทะเลครับ ใส่ทุกอย่างที่หาได้ในตู้เย็น”

“ดูแล้วใช่ไหมว่าไม่มีอะไรเสีย”

“ต้องดูด้วยเหรอครับ” คนถามมองเขาตาปริบๆ เหมันต์เกือบพ่นน้ำซุปที่เพิ่งตักขึ้นชิมออกมา

“ล้อเล่นครับทานได้” ดวงตาแพรวพราวตรงหน้าดูก็รู้ว่าเจ้าตัวกำลังกลั้นขำอยู่

“เป็นยังไงบ้างครับอร่อยไหม” คนพูดสีหน้ารอคอยคำชมอย่างตั้งใจ เหมันต์นึกอยากแกล้งแต่จนใจที่มันอร่อยจริงๆ

“อร่อย”

“เห็นไหมครับผมบอกแล้ว ทานมาม่าตอนดึกๆ อร่อยที่สุด”

“อ้วนที่สุดด้วย” เหมันต์อดขัดไม่ได้

สายตาคนตรงหน้าตกลงมองคอเสื้อที่แบะออกของเขา ก่อนจะตวัดสายตาไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว

“คุณเหมไม่อ้วนหรอกครับ หุ่นดีออกปานนี้”

“ปานไหน” เหมันต์นึกสนุกจึงถามขึ้น

“อยากรู้ก็ลองไปส่องกระจกดูเองเถอะครับ เห็นแบบไหนก็หล่อปานนั้นแหละ”

“หึๆ”

ดูเหมือนเสียงหัวเราะของเขาจะไปยั่วอีกฝ่ายเข้า กุ้งในชามจึงถูกฉกไปแบบไม่ทันได้ตั้งตัว

เหมันต์ส่ายศีรษะด้วยความอ่อนใจ แต่ใบหน้ากลับประดับด้วยรอยยิ้ม ดูเหมือนอีกฝ่ายจะพูดถูก การทานมาม่าต้มร้อนๆ ในเวลาแบบนี้ทำให้รู้สึกดีจริงๆ



“ไปนอนเถอะ” เหมันต์เอ่ยปากเมื่อเดินถึงหน้าห้องนอนของอีกฝ่าย เขากำลังจะเดินเลยไปแล้วเมื่อเด็กหนุ่มเรียกชื่อเขาขึ้นมา

“คุณเหมครับ”

“หือ?” เหมันต์หันกลับไปในจังหวะที่ริมฝีปากร้อนแตะเข้าที่แก้มของเขาพอดี แม้จะเพียงผิวเผินก็ตาม

!!!

“หนูจินไม่ยอมนอนจะรอคุณพ่อครับ ผมเลยรับฝากมาให้”

“รับฝาก?”

“ครับ ผมจุ๊บที่หน้าผากหนูจินแทนให้แล้วด้วย” คนพูดยิ้มกว้าง

“...”

“ราตรีสวัสดิ์ครับ ฝันดี”

เหมันต์ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเสียงประตูห้องก็ปิดลงแล้ว ชายหนุ่มไม่รู้สักนิดว่าในขณะที่เขายืนมึนงงอยู่นั้น ด้านหลังประตูมีคนหัวใจเต้นราวกับกลองรัว ใบหน้าแดงก่ำและกำลังพร่ำด่าตัวเองที่ดื่มเบียร์มากจนเกินไป











ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 6]★30/01/21★ P:02
«ตอบ #52 เมื่อ30-01-2021 15:53:24 »

ชอบที่เรนค่อยๆหยอด

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 6]★30/01/21★ P:02
«ตอบ #53 เมื่อ30-01-2021 16:04:12 »

งุ้ย..ยยยย เขินแทน  :o8:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 6]★30/01/21★ P:02
«ตอบ #54 เมื่อ30-01-2021 17:32:36 »

แอลกอฮอลล์ ทำให้ความยับยั้งช่างใจลดลง ความรู้สึกที่เก็บไว้จึงเผยออกมา
อร๊ายยยย ขอแอบไปกร๊้ดดก่อนนะ
 :-[ :-[

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 6]★30/01/21★ P:02
«ตอบ #55 เมื่อ30-01-2021 21:41:41 »

สู้ๆนะเรน

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 6]★30/01/21★ P:02
«ตอบ #56 เมื่อ31-01-2021 01:22:54 »

เรารุกจีบแด๊ดดี้แล้วเหรอ เจ้าเด็กมันร้ายว่ะ  :laugh: :ling1:

ออฟไลน์ kong6336

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 6]★30/01/21★ P:02
«ตอบ #57 เมื่อ31-01-2021 03:00:09 »

อาเรนของน้องจินหยอดเก่งจังเลย :laugh:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 6]★30/01/21★ P:02
«ตอบ #58 เมื่อ31-01-2021 03:48:16 »

จ้าาาา ลงทุนฝุดๆ

ออฟไลน์ darin

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1088
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2267/-46
Re: ❤ ฝนหลงฤดู ❤ [ตอนที่ 7]★31/01/21★ P:03
«ตอบ #59 เมื่อ31-01-2021 13:34:48 »




ตอนที่ 7

ชอบ



เหมันต์ตื่นแล้วเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง หลังจากเขาเอ่ยปากอนุญาตลูกชายตัวน้อยก็เดินเข้ามาพร้อมกับเด็กหนุ่มที่เพิ่งจูบแก้มเขาไปเมื่อคืน

“ว่าไงครับ” เหมันต์อุ้มลูกชายขึ้นมาบนเตียง เด็กชายขยับเข้าไปใกล้ผู้เป็นพ่อ ยื่นมือน้อยไปแตะที่แก้มแล้วส่งยิ้มกว้างไปให้

“หือ?” เหมันต์เลิกคิ้วขึ้น “อะไรเอ่ย”

เด็กชายจินเอามือกลับมาแตะที่ริมฝีปากของตัวเองก่อนแตะที่แก้มของพ่ออีกครั้ง เหมันต์ยิ่งแปลกใจมากขึ้น เขาเดาไม่ถูกว่าลูกชายหมายถึงอะไร

“ผมบอกจินว่าจูบแก้มราตรีสวัสดิ์คุณเหมให้แล้วครับ สงสัยอยากถามว่าจริงไหม” เสียงอธิบายมาจากเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ เหมันต์เงยหน้าขึ้นมอง เห็นอีกฝ่ายส่งรอยยิ้มมาให้ เขาไม่ได้พูดอะไรเพียงลดสายตาลงมองลูกชาย

“จินฝากมาเหรอครับ”

เด็กชายตัวน้อยรีบพยักหน้า ดวงตาเป็นประกายสดใส เหมันต์เห็นแล้วอดใจไม่ไหวจึงดึงลูกชายเข้ามาหอมแก้มแรงๆ ทีหนึ่ง ให้สมกับความน่ารักของอีกฝ่าย

“พ่อได้รับแล้วครับ”

หนูน้อยยิ้มด้วยความดีใจ ยกแขนขึ้นกอดคอผู้เป็นพ่อให้สมกับความคิดถึงที่เมื่อคืนไม่ได้เจอหน้า

“เมื่อคืนจะไม่ยอมนอนครับ ผมต้องบอกว่าเดี๋ยวเช้านี้ก็เจอคุณพ่อแล้วถึงจะยอม แต่ก่อนนอนก็ขอให้ผมทำเหมือนที่คุณเหมทำทุกคืน”

เหมันต์มองคนพูดด้วยสายตาค้นคว้า

“มันแปลกๆ ใช่ไหมครับ”

เหมันต์ไม่คิดว่าเด็กหนุ่มจะพูดขึ้นมา ใช่ เขารู้สึกแปลกและข้องใจในการกระทำของอีกฝ่าย

“เมื่อคืนผมลืมคิดไปว่ามันไม่สมควรหรือเปล่า แถมยังกลับไปนอนไม่รู้เรื่องรู้ราว ถ้าไม่เห็นสีหน้าคุณเหมเมื่อกี้ผมคงยังไม่รู้ตัว ขอโทษนะครับ”

“ไม่เป็นไร” เหมันต์ไม่ถือสาเพราะเขาไม่ติดใจอะไรแล้ว ดูท่าเจ้าเด็กนี่ก็แค่คิดน้อยไปเท่านั้น

“สายแล้วคุณเหมอาบน้ำเถอะครับ ผมจะพาจินลงไปทานข้าวเช้า เดี๋ยวเจอกันข้างล่างครับ”

“อืม” เหมันต์หอมแก้มลูกชายซ้ายขวาก่อนส่งหนูน้อยให้กับเรน



เสียงประตูปิดลง เรนพ่นลมหายใจออกมา หัวใจของเขายังคงเต้นไม่เป็นจังหวะ หลังจากที่คิดอยู่เกือบทั้งคืน เช้านี้เขาจึงไปที่ห้องของเด็กชายจิน บอกหนูน้อยว่าถึงเมื่อคืนไม่ได้ราตรีสวัสดิ์คุณพ่อก็ไม่เป็นไร เขาได้จูบราตรีสวัสดิ์แทนให้แล้ว ลองไปถามคุณพ่อดูก็ได้

เรนมองเด็กชายจินด้วยความรู้สึกผิด เอ่ยขอโทษในใจว่า ‘อาขอโทษนะครับที่ใช้หนูเป็นข้ออ้าง แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้อาคงไม่กล้าเจอหน้าคุณพ่อของหนูอีก’

เด็กชายจินเห็นสายตาที่คุณอามองมา เขาเอียงหน้าน้อยๆ สงสัยว่าคุณอาเป็นอะไรทำไมถึงทำหน้าเศร้าอย่างนั้น เพราะอยากปลอบใจจึงยกมือน้อยขึ้นจับแก้มอีกฝ่าย ส่งรอยยิ้มอบอุ่นไปให้ อาเรนเป็นอะไรหนอ ทำไมเศร้าจัง

“ไปทานข้าวกันครับ” เรนส่งยิ้มตอบเด็กชาย กระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น

• • • • •

“มึง” คิมหันต์ใช้ศอกกระทุ้งเพื่อนรัก เมื่อเห็นว่าใครยืนรออยู่หน้าห้องเรียน หญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งเผยลักยิ้มที่แก้ม เดินตรงเข้ามาหาพวกเขา

“ลูกหว้า” เรนส่งยิ้มทักทายไปให้

“กำลังจะไปทานข้าวกลางวันหรือเปล่า”

“ใช่ ไปด้วยกันสิ” คิมหันต์เป็นคนตอบพร้อมเอ่ยชวน เพื่อนที่สนิทกันในคณะต่างรู้ว่าอีกฝ่ายคิดอย่างไรกับเรน แม้ไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจน แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้ปิดบังความรู้สึกที่มี

“คิม” เรนเรียกเพื่อนรัก “มึงไปทานกับพวกไอ้ป้างได้ไหม”

คิมหันต์เลิกคิ้ว มองหน้าเพื่อนรักประหนึ่งจะถามว่าพูดจริงใช่ไหม พลางคิดในใจว่าพอเห็นผู้หญิงมึงก็ถีบหัวเพื่อนส่งแบบนี้เลยเหรอวะ

“กูมีเรื่องอยากคุยกับลูกหว้า”

“อ๋อ เออ..ได้ งั้นเดี๋ยวเจอกันตอนขึ้นเรียน” คิมหันต์ย่อมต้องตอบตกลง ใครจะรู้ว่าในใจของเขาอยากรู้อยากเห็นมากเพียงใด เพียงแต่ต้องรักษาอาการต่อหน้าผู้หญิงเท่านั้น

“เออ เดี๋ยวเจอกัน” เรนตบไหล่ของคิมหันต์ ส่งยิ้มให้ลูกหว้าก่อนเดินนำอีกฝ่ายไป บางเรื่องควรทำให้ชัดเจน

• • • • •

เรนเลือกร้านกาแฟเล็กๆ ที่ตั้งอยู่หลังมหา’ ลัย ในซอยที่ไม่มีคนพลุกพล่านนัก พวกเขามาที่นี่หลังจากทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว

“ให้หว้าทายไหม” คนตรงหน้าพูดอย่างอารมณ์ดี รอยยิ้มเล็กๆ ทำให้เกิดรอยบุ๋มที่แก้ม

“ทายอะไร”

“ก็เรื่องที่เรนอยากคุยกับหว้าไง”

“เอาสิ” เรนส่งยิ้มอ่อนโยนให้กับคนตรงหน้า สำหรับเขาแล้วลูกหว้าเป็นผู้หญิงที่น่ารักคนหนึ่ง น่าเสียดายที่เขาชอบคนอื่นไปแล้ว

“เรนจะบอกว่าไม่ได้ชอบหว้า อยากให้หว้าตัดใจใช่ไหม”

“ผมชอบหว้า” เรนบอกด้วยสายตาจริงใจ “เพียงแต่ไม่ได้ชอบแบบนั้น”

“อันนี้เรียกว่าพูดปลอบใจ” ลูกหว้าหัวเราะเบาๆ ในน้ำเสียงร่าเริงแอบแฝงความเศร้าเอาไว้

“เปล่าผมพูดจริง หว้าเป็นผู้หญิงที่น่ารักมากนะ”

“จริงเหรอ” ลูกหว้าส่งสายตาล้อเลียน

“จริงสิ เพียงแต่ผมมีคนที่ชอบแล้ว”

ลูกหว้านิ่งเงียบ หัวใจของเธอกำลังร่วงหล่น แต่ก็เป็นเพียงครู่เดียวเท่านั้น เธอสูดลมหายใจเข้าช้าๆ ส่งยิ้มบางให้อีกฝ่าย “อืม เข้าใจแล้ว”

“ผมชอบผู้ชาย”

!!! ดวงตาของลูกหว้าเบิกกว้าง ฉายแววตื่นตะลึงอย่างปิดไม่มิด ก่อนจะรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แต่เธอก็ยังพูดอะไรไม่ออก

“ผมพูดเรื่องจริง ไม่ได้ล้อลูกหว้าเล่น คนที่ผมชอบเป็นผู้ชาย” รอยยิ้มที่ส่งมาให้อ่อนโยนแต่หนักแน่น ความรู้สึกหลากหลายพุ่งเข้ากระทบจิตใจของเธอ แต่มีความรู้สึกหนึ่งเด่นชัดขึ้นมา นั่นคือความรู้สึกขอบคุณ

“เรนไม่ต้องบอกหว้าก็ได้”

“ผมอยากบอก ผมเองก็แอบชอบใครบางคนอยู่เหมือนกัน ดังนั้นผมจึงเข้าใจความรู้สึกของหว้าดี”

ลูกหว้ามองใบหน้าที่สงบนิ่งของคนที่เธอชอบ เข้าใจในความหมายที่อีกฝ่ายต้องการบอก เรนกำลังบอกเธอว่าเขาไม่ได้รังเกียจความรู้สึกของเธอ เพราะเขาเข้าใจมันเป็นอย่างดี

“ขอบคุณนะ ขอบคุณที่บอก”

“ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณลูกหว้า”

“จะขอบคุณหว้าทำไม” ลูกหว้าหัวเราะเบาๆ “ขอบคุณที่หว้าชอบเรนเหรอ”

“ใช่ ใครจะกล้าคิดว่าผู้หญิงดีๆ แบบหว้าจะมาชอบ ว่าแต่ทำไมหว้าถึงชอบผมล่ะ”

“อืม..” ลูกหว้าทำหน้าคิด “เพราะคิมหันต์มีแฟนแล้วมั้ง”

พวกเขาสองคนสบตากันก่อนจะหัวเราะออกมา

แม้ว่าไม่อาจเป็นคนรักได้ อย่างน้อยเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันก็ยังดี ลูกหว้าคิดแบบนั้น ทำไมเธอต้องตัดคนดีๆ อย่างเรนออกจากชีวิตเพียงเพราะไม่สมหวังด้วยเล่า ความสัมพันธ์ในโลกนี้ยังมีอีกมากมาย แค่เราดีต่อกันไว้ก็พอ

• • • • •

คิมหันต์วางถุงใบใหญ่ลงบนโต๊ะทำงานของพี่ชาย เขาแวะมาหาอีกฝ่ายที่บริษัทในช่วงเย็น

“อะไรเหรอ” เหมันต์มองถุงที่วางอยู่ตรงหน้า

“แม่ฝากกิมจิมาให้พี่เหมครับ” คิมหันต์ชี้ให้เรนนั่งเก้าอี้ที่ตั้งอยู่หน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ ตัวเขาก็นั่งลงเช่นกัน

“เดี๋ยวพี่โทรไปขอบคุณแม่เอง ว่าแต่เราเถอะมีอะไรหรือเปล่า”

“ไม่มีครับ” คิมหันต์ส่ายหน้า เขามาเพราะแม่ขอให้เอาของมาให้พี่ชายเท่านั้น

“มาแค่นี้?” เหมันต์เลิกคิ้วขึ้น

“ครับ แม่เพิ่งหัดทำกิมจิเลยอยากให้พี่เหมได้ลอง คะยั้นคะยอให้ผมเอามาให้วันนี้เลย สงสัยอยากอวดฝีมือ”

“ถ้าแค่นี้ทำไมไม่ฝากเพื่อนเราเอากลับไป”

“เอ่อ..” คิมหันต์กะพริบตาปริบๆ เขาลืมไปได้ยังไงว่าตอนนี้เพื่อนของเขาอยู่บ้านเดียวกับพี่ชายแล้ว เขาแค่ทำทุกอย่างตามความเคยชินเท่านั้น

“ทำไมไม่เตือนกันเลยวะ” คิมหันต์หันไปมองเพื่อนรัก เขารู้สึกว่าตัวเองโง่พิกล

เรนหัวเราะเบาๆ ก่อนตอบ “ใครจะรู้ว่ามึง..เอ้ย! นายมาเพราะเรื่องแค่นี้ ถ้ารู้ก็เตือนแล้วสิ”

“เออ กูโง่เอง” คิมหันต์กำลังเซ็งจึงลืมเปลี่ยนสรรพนามเมื่ออยู่ต่อหน้าพี่ชาย

“ไหนๆ ก็มาแล้วแวะไปทานข้าวเย็นที่บ้านสิ จะได้เจอหลานด้วย” เหมันต์เสนอ

“ไม่ดีกว่าครับ เอาไว้เสาร์อาทิตย์ผมค่อยแวะไป”

“ตามใจนาย”

“ถ้าอย่างนั้นผมฝากเรนกลับบ้านด้วยเลยนะครับ ไหนๆ ก็มานี่แล้ว”

เหมันต์เลื่อนสายตาไปมองใบหน้าเปื้อนยิ้มของเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน พร้อมเอ่ยปากถาม “พี่ต้องเซ็นเอกสารกองนี้ให้เสร็จก่อน เราจะรอไหม”

“รอครับ” คำตอบที่ได้รับรวดเร็วทันใจ เหมันต์พยักหน้า ความคิดที่จะตอบรับคำชวนทานอาหารเย็นของหญิงสาวคนสนิทเป็นอันต้องพับเก็บ คงต้องเป็นคราวหน้าแล้ว



เหมันต์ขับรถออกจากตึกหลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง โดยมีเด็กหนุ่มร่วมบ้านนั่งอยู่เคียงข้าง เขาอดเหลือบสายตาไปมองไม่ได้

“เป็นยังไงบ้าง มีที่ไหนถูกใจหรือยัง”

“หมายถึงห้องพักเหรอครับ” เด็กหนุ่มหันมามอง

“ใช่” เหมันต์พยักหน้า

“กำลังดูๆ อยู่ครับ ที่ถูกใจก็ไม่ว่างเลย” คนพูดถอนหายใจ น้ำเสียงเป็นกังวล

“แต่ยังไงผมจะพยายามหาให้ได้เร็วที่สุดนะครับ จะได้ไม่รบกวนคุณเหมนานเกินไป”

“ไม่ต้องรีบ” เหมันต์พูดไปแล้วก็รู้สึกว่าไม่ถูกต้อง เขาอยากให้เด็กหนุ่มย้ายออก แต่พอเห็นใบหน้าเหนื่อยๆ ของอีกฝ่ายปากดันพูดไปอีกทาง

“ผมอยู่นานก็ไม่เป็นไรเหรอครับ” ดวงตาที่มองมาเต็มไปด้วยความหวัง มันเป็นประกายวิบวับเสียจนตาพร่า แล้วจะให้เขาพูดอะไรได้อีก

“ไม่เป็นไร พี่แค่ถามดูเผื่อมีอะไรให้ช่วย”

“ขอบคุณครับ” น้ำเสียงที่ตอบกลับมาใสซื่อจริงใจทำให้เขารู้สึกผิดนิดๆ ช่างเถอะอยู่อีกหน่อยจะเป็นอะไรไป เมื่อคิดได้อย่างนั้นเขาจึงเปลี่ยนเรื่องคุย

“แฟนคิมสวยไหม”

คนถูกถามไม่ตอบ เมื่อในรถเกิดความเงียบขึ้นเหมันต์จึงหันไปมอง สายตาประสานเข้ากับดวงตาเป็นประกายของอีกฝ่าย

“จะหลอกถามผมเหรอครับ”

“จะหลอกทำไม คิมไม่ได้ปิดพี่เรื่องมีแฟน”

“ผมก็ไม่ได้บอกว่าคุณเหมจะหลอกถามเรื่องมีแฟนนี่ครับ”

“งั้นพี่ถามตรงๆ เลยว่าคู่นั้นอยู่ด้วยกันนานหรือยัง”

“คุณเหมต้องถามคิมเองครับ เรื่องแบบนี้ผมตอบแทนไม่ได้”

“ถ้าอย่างนั้นเราตอบอะไรได้บ้าง”

“อืม..ตอบได้ว่าผมยังไม่มีแฟนครับ”

“หึๆ” เหมันต์หัวเราะในลำคอ “เรื่องนี้พี่ไม่ได้ถาม”

“ถามสิครับ คุณเหมถามว่าผมตอบอะไรได้บ้างผมก็ตอบแล้ว”

“งั้นพี่ถามเรื่องของเราก็ได้ ที่บอกว่ายังไม่มีแฟนแล้วเคยมีไหม”

“ไม่เคยครับ”

“ไม่มีเลยเหรอ!” เหมันต์อดแปลกใจไม่ได้ หน้าตาของเด็กหนุ่มถือว่าพอใช้ได้ สติปัญญาก็น่าจะฉลาดไม่อย่างนั้นจะกวนเขาได้ขนาดนี้หรือ

“ไม่มีครับ มีแต่คนที่ชอบ”

“ทำไมไม่จีบล่ะ”

“กำลังจะจีบครับ”

“ขอให้สำเร็จนะพี่เอาใจช่วย”

“ขอบคุณครับ” คนถูกอวยพรยิ้มกว้างเสียจนเหมันต์แปลกใจ ไม่เพียงดีใจเท่านั้นเจ้าตัวดูเหมือนจะขำมากเสียด้วย

“ขำอะไรของเรา”

“เปล่าครับผมแค่ดีใจ”

“ดีใจ?”

“ครับ มีคนอวยพรเพิ่มอีกคนโอกาสที่จะสำเร็จน่าจะเพิ่มขึ้นอีกนิดหนึ่ง”

“เกี่ยวด้วยเหรอ” เหมันต์หัวเราะคำพูดของเด็กหนุ่ม “มันขึ้นอยู่กับตัวนายมากกว่าว่าจะทำให้คนๆ นั้นชอบได้ไหม”

“แล้วคุณเหมคิดว่าผมพอมีโอกาสไหมครับ คิดว่าผมมีดีพอไหม”

“นายเหรอ?” เหมันต์เลื่อนสายตาไปมอง เขาชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าดวงตาอีกคู่ดูจริงจังแค่ไหน

“ชอบมากเลยเหรอ”

“ครับ” น้ำเสียงที่ตอบหนักแน่น

เหมันต์นึกถึงสิ่งที่เด็กหนุ่มทำเพื่อลูกชายของเขา เสียงที่พูดจึงอ่อนโยนลง “พี่ตอบแทนผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ว่านายมีโอกาสไหม แต่นายเป็นคนดี”

“ดีพอที่จะจีบใครสักคนไหมครับ”

“พอสิ นายดีพอ”

“ถ้าอย่างนั้นผมจะพยายามครับ ถึงจะเป็นไปได้ยากแค่ไหนก็ตาม”

“คิดถูกแล้ว ยากแล้วยังไง ไม่ยากแล้วยังไง ดีกว่ามานั่งเสียใจทีหลัง”

“ตกลงครับ ไม่ว่าเขาจะปฏิเสธหรือตอบรับผมก็จะลองดูสักตั้ง”

“พยายามเข้าล่ะ”

น้ำเสียงมุ่งมั่นที่ได้ยินทำให้เหมันต์อดยิ้มไม่ได้ จมลืมเอะใจว่าเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านข้าง ใช้คำว่า ‘เขา’











 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด