###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 14 ขาสั่นระริกเลยผม 11-12-2020
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 14 ขาสั่นระริกเลยผม 11-12-2020  (อ่าน 7702 ครั้ง)

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ MJTogether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
:pig2: :pig2: :pig2: :pig2:

ตอนที่ 9 ผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบๆ

ตอนนี่ผมกำลังนั่งทำหน้าที่เป็นกรรมการให้มวยคู่เอกคือไอ้ตุ๊กแกกับไอ้เด็กถาปัตที่ต่อยตีกันเพราะเรื่องผู้หญิงเอาเข้าจริงๆผมก็อยากจะเชื่อไอ้เด็กถาปัตมากกว่าไอ้ตุ๊กแกอยู่แล้วเพราะผมคิดว่ามันเป็นคนที่ชอบไปยุ่งกับผู้หญิงก่อนแน่นอน
“มึงสองคนรีบเคลียร์เร็วๆ กูจะไปนอนแล้ว”
“จ…จริงเหรอที่มึง เอ๊ย! พี่เตะคนซี่โคลงหักอ่ะครับ”
“จริง…แล้วไม่ต้องเรียกกูว่าพี่กูอยู่ปีสอง มึง…น่าจะอยู่ปีสูงใช่มั้ย”
“อ…อ่อนกว่าผมอีก ผมอยู่ปีสาม”
ทีงี้ทำมาเป็นพูดเพราะ หน้าแข้งผมมันก็เป็นสิ่งที่ทำให้คนอื่นพูดเพราะขึ้นมาได้เหมือนกันครับ
“กูไม่มีอะไรจะพูด กับน้องนุ่นกูไม่มีอะไรจริงๆ”
“แล้วที่มึงยิ้มหวานให้น้องเขาล่ะ”
“ไอ้เหี้ย! มึงฟังกูอยู่ป่ะเนี่ย กูบอกว่าไม่มีอะไรกับเด็กมึงก็คือไม่มีไง”
“แล้วสองอาทิตย์ก่อนที่มึงนัดกันที่ห้องน้องเขาล่ะ กูเห็นมึงยืนอยู่หน้าหอน้องเขาอ่ะ”
“…อ่อ”
ทำมา ‘อ่อ’ กูว่าละ นิสัยมันคงไม่เปลี่ยนง่ายๆหรอก แล้วทำมาเป็นตอแหลว่าทำกับใครไม่ได้ นี่มันมาหลอกฟันผมชัดๆเลย
“ไอ้โต๋มึง ไหนมึงบอกว่า? มึงไม่…”
ฉิบหาย ผมจะอารมณ์ขึ้นทำไมวะ ก็มันเรื่องของมันนี่หว่า ไม่เอาไม่เสือกแล้ว
“ห๊ะ ก…กูเปล่า วันนั้นมันไม่มีอะไร”
มันหันมาทางผมแล้วปฏิเสธ
 “ก็วันนั้นกูไปห้องน้องออยแล้วเจอกับน้องนุ่น สองคนนั้นเป็นเพื่อนกันแล้วก็อยู่หอเดียวกัน”
“จ…จริงเหรอ?”
“เออ กูไม่มีอะไรกับเด็กมึง คือเมื่อก่อนกูมีกับน้องออยไง แต่ตอนนี้กูไม่มีแล้ว”
มันหันมาสบตาผมอีกรอบ คือยังไง ? อยากให้ผมเชื่องั้นเหอะ…
“…”
แล้วทำไมผมต้องมานั่งฟังเรื่องของมันสองตัววะเนี่ย
“ง…งั้นกูขอโทษก็ได้ที่เข้าใจมึงผิด”
“แม่งมึงคิดว่าขอโทษแล้วกูจะหายเจ็บเหรอ??”
“งั้นมึงจะให้กูทำยังไง?”
“พอเลยพวกมึงสองคน เคลียร์แล้วก็กลับไปได้แล้ว รำคาญจริงๆ”
“แต่…”
“มึงหุบปากไอ้โต๋ แล้วก็มึงด้วยไอ้ปีสูงจะไปไหนก็ไป!”
“ค…ครับ”
จบเรื่องปัญญาอ่อนซักที ง่วงฉิบหายกี่โมงกี่ยามแล้ววะเนี่ย!!
‘ฮ้าว!’
ผมยืนหาวอยู่ที่หลังร้าน ส่วนไอ้ตุ๊กแกมันกำลังโทรศัพท์หน้ามุ่ยอยู่
“ม…มึงไปส่งกูหน่อย…”
“ห๊ะ! อะไรของมึง?”
“ก็มันดึกแล้วกูไม่มีรถ”
“แล้วมึงมายังไง?”
“กูมากับไอ้ไข่นุ้ย แต่มันไม่รับสายกูไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน”
“…ก็เรื่องของมึงสิ!”
“ถ้ามึงไม่ไปส่งกู งั้นกูขอนอนห้องมึงแล้วกัน”
“…ไม่ได้…”
“ทำไม กูก็เคยนอนมาแล้วสองครั้งป่ะวะ”
ถ้าให้มันค้างด้วย ไม่ปลอดภัยต่อร่างกายของผมแน่ๆ แต่ไม่อยากไปส่งมันอ่ะ รถเพิ่งถอยมาไม่อยากให้มันซ้อนท้ายเป็นคนแรก
“กุไม่ให้ค้าง!”
“เหอะ!...งั้นมึงต้องไปส่งกู”
“…เออ! รอแป๊บ”
“จ้า”
มันรับคำแล้วยิ้มตอแหลมาทางผม ผมว่ามันทำตัวแปลกๆนะ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร มันคงแปลกๆแบบนี้แหละมั้ง ผมเลยเดินไปหยิบกุญแจรถในร้านแล้วออกมาคว้าบิ๊กไบค์สตาร์ทรอไอ้ตุ๊กแกมัน
“นี่รถมึงเหรอโคตรเท่เลย”
“…”
“แม่งโคตรหล่อ กูอยากได้นะแต่แม่กูไม่ให้ขับ”
“ให้มันเร็วๆได้มั้ยวะกูง่วง”
“อ่อ…เออๆ ว่าแต่รถมึงยังใหม่ๆอยู่เลยเพิ่งซื้อเหรอ?”
“เร็วๆอย่าถามมาก!”
“แล้วหมวกกันน็อคกูล่ะ”
“ไม่มี กูมีลูกเดียว”
“แล้วให้กูใส่อะไรอ่ะ?”
“…”
“งั้นถอดของมึงมาให้กูดิ”
“กูไม่ให้!”
“อะไรว้า แล้วถ้ามึงขี่ล้มแล้วหัวกูฟาดพื้นตายทำไงอ่ะ”
“มึงจะไม่ตายเพราะรถล้มหรอกแต่จะตายเพราะถูกกูกระทืบมึงนี่แหละ”
ลีลาเยอะกวนตีนวอนหน้าแข้งตลอด
“หึ! ดุเหมือนหมาเลย”
ผมเห็นมันทำปากยุกยิกๆอยู่ในกระจกรถมันต้องบ่นอะไรผมแน่ๆ
“มึงว่าอะไรนะ?”
“เปล๊า!”
มันกอดเอวผมแน่นเลยตอนที่ผมออกรถ คงกลัวตกรถ แต่มันใช้มือลูบๆคลำที่หน้าท้องผมแปลกๆแฮะ
ผมขับบิ๊กไบค์ไปส่งไอ้ตุ๊กแกที่หอพักซึ่งไม่ไกลจากหลังมอซักเท่าไร กว่ามันจะลงจากรถได้ก็ยังลีลาเยอะแถมยังเอามือถือถ่ายรูปรถผมไปอีก กว่าผมจะขับรถกลับถึงห้อง ต้องอาบน้ำอีกแล้วเมื่อไรจะได้นอนเนี่ย แต่…ถ้าจิตใจคนเราสะอาด ก็ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำหรอกใช่มั้ยครับ…
   หลังจากที่วันนี้ผมนอนทั้งวัน ตื่นมาอีกทีก็เกือบตอนเย็น ไม่ได้ทำห่าอะไรเลยก็ต้องมาช่วยไอ้โอมมันที่ร้านอีกแล้ว วันนี้คนก็เยอะเช่นเคยไม่มีที่ไปกันรึไงวะ?? แล้วไอ้พวกสี่ยอดกุแมวนี่อีก มาได้มาดีมาเกือบทุกวันสงสัยบ้านมันคงรวยมากเนอะ! ผมเห็นมันสามคนนั่งคุยกันมาซักพักละ แต่ผมยังไม่เห็นได้ตุ๊กแกมันเลย สงสัยหน้าบวมไม่อยากออกมาโชว
“เฮ้ยไอ้โต๋มาแล้ว”
 “อ้าวแล้วทำไมหน้ามึงมันเยินแบบนี้วะไปฟัดกับหมาที่ไหนมา?”
พูดยังไม่ทันขาดคำ ตายยากจริงๆแต่หน้ามันก็เยินหน่อยๆ คิดว่าจะบวมกว่านี้ซะอีกเห็นก็แลกหมัดกันไปหลายหมัดอยู่ แก้มช้ำนิดหน่อย แล้วก็มีรอยช้ำที่มุมปากไม่มาก
“ก็มีเรื่องกับเด็กถาปัตดิวะ”
“เฮ้ยแล้วมันเป็นใครวะ?”
“มึงจะไปแก้แค้นให้มันรึไง?”
“เปล่าหรอกจ๊ะจ๋า ก็ถ้ากูรู้ว่ามันเป็นใครเวลาเห็นมันจะได้หลบให้ไวเลยไง”
“โธ่นึกว่าแน่นะไอ้บดินทร์ แล้วไอ้โต๋มึงไปมีเรื่องได้ไงว?ะ ดูดิความหล่อลดลงเกือบ 80 % เลย”
“มึงหุบปากไปจ๊ะจ๋า ปากมึงนี่ไม่เข้ากับหนังหน้าเลยนะ”
“งั้นมึงก็ชมว่ากูสวยอ่ะดิ?”
“เออ! สวยแต่ปากหมาไง”
“เชอะ! ไอ้หน้าเยิน”
“เออแล้วเมื่อคืนมึงกลับยังไงวะ? พอมีเรื่องกูเห็นมึงโดนลากไปหลังร้านกูก็นั่งรออยู่หน้าร้าน ไม่กล้าเข้าไปกลัวพี่เจ้าของร้านจะกระทืบเอา พอผ่านไปซักพักกูไปถามพี่เจ้าของร้านเขาก็บอกว่ามึงกลับไปแล้ว”
“โหรักูมากนะมึงอ่ะ ทิ้งกูเฉยเลยไม่ตามกูไปหลังร้านวะ”
“เอ้า! มึงดูพี่เจ้าของร้านดิตัวอย่างกะคิงคอง แล้วไอ้ท่านอ๋องอะไรนั่นอีก ตาดุฉิบหาย ขืนเข้าไปยุ่งกูก็โดนกระทืบดิวะ”
ผมเห็นด้วยที่ว่าไอ้โอมเหมือนคิงคอง แต่ผมก็ไม่ได้โหดขนาดนั้นหรอกน่า แต่พวกมึงจะนินทาอะไรก็ให้มันเบาๆหน่อยเหอะ
“ไอ้สัด! มึงเพื่อนกูป่ะเนี่ย”
“แล้วที่ไอ้ไข่นุ้ยมันถามว่ามึงกลับยังไงไม่เห็นตอบวะ?”
“ห๊ะ! อ่อ…เอ่อกู…”
“อะไรของมึงอ้ำอึ้งๆอยู่นั่นแหละ กูโทรหาก็เสือกไม่รับสาย”
หืม?? ไหนไอ้ตุ๊กแกมันว่าเพื่อนมันไม่รับสาย แล้วเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่!!
“มึงเบาๆดิ เดี๋ยวพี่เจ้าของร้านเขาก็ได้ยินหรอก”
ไอ้ตุ๊กแกมันเหลือบตามาเห็นผมยืนอยู่ข้างเคาน์เตอร์ แต่เสียใจด้วยกูได้ยินหมดแล้ว
“เออๆ แล้วมึงกลับยังไง?”
“เอ่อกู…กูโบกรถกลับไง”
“เหรอ มันมึรถให้มึงโบกเหรอวะดึกขนาดนั้น?”
“ม…มีสิวะ”
ตอแหลแล้วต้องไปให้สุด แล้วก็มาหยุดที่ตีนกู อย่าให้กูรู้น้าว่ามึงมาหลอกอะไรกูอ่ะ!
“เออว่าแต่ไอ้คนที่ยืนที่เคาน์เตอร์นั่น…มันไอ้ท่านอ๋องใช่มั้ย?”
“มึงถามทำไมไอ้บดินทร์มึงชอบเขาเหรอ?”
“อีจ๊ะจ๋ามึงอย่ามาวายแถวนี้ กูแค่คิดว่ามันหน้าคุ้นๆ”
“คุ้นยังไง?”
“ก็วันนั้นกูเจอที่หน้าเซเว่น เห็นมันลากไอ๋โต๋ไปคุยกันลับๆล่อๆอ่ะดิ”
“เฮ้ย! จริงเหรอวะไอ้โต๋ แต่แบบนี้ไม่ใช่สเปคมึงนี่หว่า”
“อ…ไอ้บดินทร์มันเข้าใจผิด กูทักผิดคนกูคิดว่าเป็นพ…พี่อาร์ทไง น้องเจ้าของร้านอ่ะที่วันนั้นไปกินเหล้าด้วยกันไง เนอะไอ้ไข่นุ้ยเนอะ?”
“เหรอ แต่จะว่าไปก็คล้ายๆกัน แต่กูว่าท่านอ๋องหล่อกว่า”
“จ๊ะจ๋ามึงชอบมันเหรอ? กูเห็นแต่มึงชอบจับคู่ผู้ชายหล่อๆ”
“เปล่า! กูว่าท่านอ๋องก็เหมาะกับมึงดีนะไอ้โต๋ ถ้าพวกมึงจิ้นกันกูว่าคงฟินน่าดู”
ฟินจริงครับ เอ๊ย!!ไม่ใช่แล้ว อย่าเข้าใจผิดผมไม่ได้อยากกอดมันเล้ยยย
“จ…จ๊ะจ๋าม…มึงอย่าพูดไป”
“ไอ้โต๋มึงหน้าแดง เมาแล้วเหรอวะ โหหูมึงโคตรแดงเลย”
แล้วทำไมไอ้ตุ๊กแกมันต้องหน้าแดง??
“ป…เปล่าก…กูแค่รู้สึกร้อนเฉยๆ”
“มึงไม่สะบายป่ะเนี่ย? กลับก่อนมั้ยกูไปส่ง”
แต่ผมก็รู้สึกหนาวๆร้อนๆเหมือนกันหรือว่าผมจะเป็นไข้ อึ๋ย! ขนลุกเลย มีลางสังหรณ์แปลกๆเหมือนมีอะไรมันบ่งบอกว่าจะซวย!
“ป…เปล่ากูไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย”
“แล้ววันนี้มึงจะไปค้างบ้านใครป่ะเนี่ย?”
“ไม่ไป”
“เฮ้ย!! จริงดิ/จริงเหอวะ??”
“สงสัยน้ำจะท่วมโลก มนุษย์ต่างดาวจะมาเยือนไอ้โต๋ไม่ไปค้างบ้านสาว”
“แปลกรึไง ? กูว่าจะเลิกทำตัวแบบนั้นแล้ว”
“ห๊ะ!!นี่มึงจะไปบวชเหรอ?”
“สัด!! ไม่ใช่เว้ย!”
“ล…แล้วมึงเป็นอะไร นี่มึงป่วยจริงๆเหรอ?”
“เปล่า…”
“หรือว่าน้องชายมึงไม่ทำงาน?”
“เฮ้ย! ม…ไม่ใช่”
“หรือว่ามึงเจอตัวจริง?”
“ห๊ะ!…อ…อาจจะใช่”
“เฮ้ย!ฉลองๆ ไอ้โต๋จะมีแฟน พี่ครับขอเบียร์เพิ่มหน่อยครับ”
พวกมันตะโกนมาทางผม จะว่าไปพวกมึงไม่ต้องตะโกนก็ได้ครับโต๊ะก็ใกล้แค่เนี้ย กูได้ยินหมดแล้วครับว่าพวกมึงคุยอะไรกัน ผมหยิบเบียร์ไปวางที่โต๊ะมันเพิ่มสี่ขวด
“ขอบคุณครับพี่”
“…”
ไอ้ตุ๊กแกมันมองหน้าผมแล้วไม่ได้พูดอะไร แต่ผมสังเกตุเห็นว่ามันหลบๆสายตาผมอยู่เหมือนกันเสือกเป็นอะไรขึ้นมาอีกหล่ะ?
ผมเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์ แต่เห็นว่าไอ้ตุ๊กแกมันเหลือบมามองทางนี้บ่อยๆ
“ใครวะ? คณะอะไรแล้วสวยมั้ย?”
“หรือว่าผู้ชาย น่ารักมั้ย?”
“จ๊ะจ๋าทำไมมึงต้องคิดว่าเป็นผู้ชายวะ?”
“เอ้าก็กูอยากให้เป็นอ่ะ ว่าไงตอบมา?”
“ย…ยังไม่รู้ กูแค่กำลังจะเริ่มจีบ”
“ห๊ะ! อะไรของมึง ยังไม่ได้คบกันเรอะ?”
“ก็…แบบ…กูก็ยังแน่ใจไง”
“อ๋อรักแรกของมึงสินะ กูล่ะสงสารแฟนในอนาคตของมึงจริงๆ”
“ทำไมกูจะมีไม่ได้รึไง?”
“ก็ถ้ามึงมีแฟน แล้วไอ้กิ๊กกั๊กที่เหลือของมึงอ่ะ จะไม่มาตบตีแย่งชิงกันเหรอไง?”
“อ่า…แต่กูว่าเขาคงสู้ได้สบายๆเลย”
“ไอ้โต๋พูดอย่างกับว่าคนที่มึงกำลังจะจีบเป็นนักมวยอย่างนั้นแหละ”
“อ่า…ก็เกือบๆใช่”
“เชร้ดดด!! นี่มึงจะจีบนักมวยเหรอ”
“จริงดิ?? โคตรเท่อ่ะ มีแฟนเป็นสาวนักเตะใต้เข็มขัดอะไรงี้”
‘ฮัดชิ้ว!!’
สงสัยผมจะเป็นหวัดแล้วจริงๆแหละครับ รู้สึกหนาวๆร้อนๆยังไงพิกล…

จบตอนที่ 9

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ MJTogether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
:pig2: :pig2: :pig2: :pig2:

ตอนที่ 10 คุณหมอครับ! ผมสงสัยว่าผมกำลังจะเป็นโรคหัวใจ?


          ผมว่าช่วงนี้ผมควรไปทำบุญบ้างซะแล้วมั้ง เพราะรู้สึกเหมือนจะมีใครซักคนตามหลอกหลอนอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับประวัติศาสตร์กำลังจะซ้ำรอยเหมือนตอนเรียน ม.ปลาย เพราะบางทีก็รู้สึกเหมือนว่ามีใครคอยแอบดูอยู่ตลอด บางทีก็ดูเหมือนว่าข้าวของในห้องเปลี่ยนที่วางบ้าง ล่าสุดเหมือนว่าบ็อกเซอร์ตัวที่ใส่บ่อยๆจะหายไป
“พวกมึงสองคนมีใครแอบเข้าไปทำอะไรในห้องกูรึเปล่า?”
ผมลองถามไอ้อาร์ทกับไอ้โอมขณะที่เรากำลังนั่งกินข้าวในช่วงก่อนเปิดร้าน
“…ใครเขาอยากเข้าห้องมึง? มืดยังกะบ้านผีสิง”
“ถ้าพวกกูแอบเข้าไปแล้วถ้ามึงรู้มึงก็กระทืบกูตายอ่ะดิ กูไม่กล้าหรอก อีกอย่างพวกกูไม่มีกุญแจเหอะ”
 “มึงถามทำไม? มีอะไรรึเปล่า?”
“บ็อกเซอร์กูหาย แล้วก็รู้สึกเหมือนมีใครคอยแอบดูอยู่ตลอดเลย”
“อีกแล้วเหรอมึง? มึงนี่โคตรซวยเลย”
“เออจริง! จะว่าไปกูก็ออกจะหล่อ ไม่เห็นเคยเจอแบบมึงเลย”
“ก็ใครเสนอมึงก็เอาหมด ไม่เหมือนไอ้อ๋องมันนี่”
“ไอ้โอมมึงว่ากูเหรอ?”
“เออ! มึงจะทำไม?”
“…ม…ไม่ทำไม”
ไอ้ที่พวกมึงถามกูไอ้ตอนแรกก็คิดว่าจะหาวิธีช่วยเหลือ ที่แท้แค่อยากเสือกเฉยๆอ่ะดิ
“พวกมึงไม่ช่วยกูแล้วยังจะทำให้กูรำคาญมากกว่าเดิมอีกนะ”
“ค…คร้าบบบ!”
   หลังจากไม่ได้อะไรจากไอ้สองพี่น้องนี่ซักเท่าไร ผมก็ต้องมายืนขาแข็งชงเหล้าที่เคาน์เตอร์อย่างเคย พรุ่งนี้ไม่ใช่วันหยุดแต่ก็ยังมีคนมานั่งดื่มเหล้ากันเยอะ ว่างกันจริงๆเลยนะ
“น้องอ๋องคะ ขอเบียร์สองขวดสิ”
มีผู้หญิงคนนึงสวยมาก ใส่ซีทรูสีดำสุดเซ็กซี่ หน้าโคตรสวยแต่ดูโคตรน่ากลัวเลยแบบว่า…น่ากลัวว่าจะถูกจับกิน…
“นี่ครับ”
ผมวางเบียร์สองขวดไว้ตรงหน้าเธอ พี่คนสวยส่งสายตายั่วยวนสุดๆมาให้ ผมไม่หลงกลหรอกครับ เพราะผมชอบแบบใสๆน่ารักๆอ่ะครับ
“ขวดนี้พี่เลี้ยง”
เธอดันขวดเบียร์ที่เปิดแล้วมาตรงหน้าผมหนึ่งขวด
“ผมดื่มไม่เป็นครับ”
“เหรอคะ? อิอิ…น่ารักจัง”
แค่พี่แกยิ้ม ผมก็หลอนแล้วครับ คนอะไรยิ้มได้น่ากลัวขนาดนั้น
“…”
“พี่ขอเบอร์หรือไลน์ได้มั้ย แล้วพี่…ชื่อแตงโมนะ”
ปากแดงๆดูยั่วยวนกับใครหลายๆคน แต่มันใช้ไม่ได้กับผมหรอกนะครับบอกเลย อย่างผมชอบแบบธรรมชาติๆอ่ะครับ
“…”
“งั้น…ถ้าไม่ให้เบอร์หรือไลน์น้องอ๋องต้องดื่มเบียร์ที่พี่ให้”
ผมลังเลไม่อยากแจกเบอร์แจกไลน์แต่เบียร์ก็เสือกกินไม่เป็น เอาไงดีวะ?
“ว่าไงคะ? ให้เบอร์พี่มาก็จบแล้ว นะคะพี่อยากคุยกับน้องอ๋องค่ะ”
เห็นหน้าพี่คนสวยยื่นเข้ามาใกล้แล้วผมก็หลอนหนัก เลยคว้าขวดเบียร์มาถือไว้แล้วกลืนน้ำลายลงคอ นับหนึ่งถึงห้าเอาก็เอาวะดีกว่ามีผู้คนสวยแต่โคตรอันตรายตามมาหลอกมาหลอน
‘อึกๆ’
ผมกระดกเบียร์ลงคอ รสชาติไม่เห็นอร่อยเลยแต่ทำไมถึงชอบกินกันจัง เห็นกินกันเข้าไปได้ทุกวี่ทุกวัน
“ว้า! พี่คิดว่าจะยอมให้เบอร์พี่ซะอีก น้องอ๋องสมคำล่ำลือว่ายากจริงๆเลย”
จริงๆแล้วผมใจง่ายต่างหาก พลาดท่าเสียทีให้ไอ้ตุ๊กแกไปสองรอบแล้ว…จะว่าไปชักมึนๆซะแล้ว เบียร์ขวดเดียวก็ไม่ไหวแล้ว อ่อนจังวะกู เฮ้อออ!
ผมหลบเข้ามาหลังร้านเพราะเดี๋ยวอีกไม่นานร้านก็จะปิด ปล่อยให้ไอ้สองตัวนั่นมันดูกันเองแล้วกัน แค่เบียร์ขวดเดียวทำเอาผมเดินเซได้ คิดดูก็แล้วกันว่าผมอ่อนขนาดไหน
“เป็นอะไรวะมึง?”
เสียงใครมากระซิบข้างหู…พอเงยหน้าไปมอง…อืม…ก็ผมซื้อหวยก็คงรวยกันไปแล้วแหละ
“กูถามว่าเป็นอะไร? เห็นเดินเซๆ”
“เปล่า”
ไอ้ตุ๊กแกมันโผล่มาจากไหนวะ?  ตามกลิ่นกูมาเหรอะ? เป็นแมวที่จมูกดีจริงๆ
“เฮ้ยมึง! เดินดีๆดิ เดี๋ยวก็ล้มหน้าแหกกูช่วยพยุงมั้ย?”
“ม…ไม่ต้อง”
ผมรีบสะบัดแขน เมื่อไอ้ตุ๊กแกทำท่าจะเข้ามาพยุง อย่าเข้ามาใกล้กู กูไม่อยากพลาดเป็นครั้งที่สาม
“เดี๋ยวกูช่วย มึงจะล้มแล้วนั้น ถ้าล้มไปหน้าแหกไม่หล่อกูไม่รู้ด้วยนา”
“…”
นอกจากจะมึนๆแล้วตอนนี้ผมเริ่มจะปวดหัวแล้วด้วย
“เร็ว…กูพาไปส่งห้องมึง”
มึงจะไม่ทำอะไรกูแน่นะ? กูห่วงสวัสดิภาพตัวเองตอนนี้มากเพราะไม่มีแรงขัดขืนเลย
“…”
“ตัวมึงนักจังวะ”
ไอ้ตุ๊กแกมันพยุงผมเดินขึ้นบันไดมาอย่างทุลักทุเล แต่ก็มายืนหน้าห้องได้อย่างไร้รอยขีดข่วน
“เปิดประตูดิ กุญแจมึงอยู่ไหน?”
ผมล้วงหยิบลูกกุญแจในกระเป๋ากางเกง แต่จะว่าไปคุ้นๆว่าไอ้ตุ๊กแกมันก็มีลูกกุญแจของผมอยู่ หรือว่ามันทิ้งไปแล้ว ช่างมันเหอะตอนนี้ผมปวดหัวเอามากๆเลย
“ม…มึง…กลับไปได้แล้ว”
“เออ! มึงเข้าไปข้างในก่อนเดี๋ยวล้มหัวฟาดตาย”
“…”
มันพยุงผมเข้ามาในห้อง ค่อยๆปล่อยผมลงนอนที่โซฟา มันค่อยๆแกะกระดุมเสื้อผม!!!
“ม…มึงจะทำอะไร?”
สถานการณ์ล่อแหลม กระดุมเสื้อผมหลุดออกหมดแล้ว มันพยายามปลดเข็มขัดผมอีก โอย! ใครก็ได้ช่วยผมที
“ก็เห็นมึงนอนไม่สบาย กูไม่ทำอะไรมึงหรอกน่า”
มันหยุดเมื่อปลดเข็มขัดผมออก เห็นมันเดินหายไปในห้องน้ำ ผมพยายามจะพยุงตัวเองขึ้นเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมันรอบที่สาม
“มึงนอนก่อน กูเช็ดตัวให้”
ม่าย!! อย่าทำกู!!! กูขอร้อง!!
“เฮ้ย! ม…ไม่ต้อง”
“เหอะน่า มึงยังเคยเช็ดให้กูเลย”
นั่นมึงไม่สบาย นี่กูแค่เมาไม่เช็ดก็คงไม่ตายหรอก มันวางกะละมังกับผ้าขนหนูแล้วหันมาถลกหนังผมแทน ผมขยับตัวไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์เบียร์หรืออะไรกันแน่ ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวผมเหลือแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียวเท่านั้น ว่าแต่…บ็อกเซอร์ตัวเก่งของผมหายไปไหนวะ
“อืม…”
มันค่อยๆใช้ผ้าขนหนูซับที่น้าผมเบาๆ ดูทำไมมันดูอ่อนโยนจัง? หวังว่ามันคงจะไม่ขืนใจผมหรอกนะ เพราะหากมันคิดจะทำตอนนี้ผมคงขัดขืนมันไม่ได้แน่นอน
“มึงอย่าครางดิวะ กูยิ่งคิดไม่ค่อยดีอยู่”
“ค…คิดอะไร ม…มึงคิดอะไร?”
“ป…เปล่า”
มันค่อยๆเช็ดตามซอกคอ ไล่ลงมาที่หน้าอก ลักษณะการเช็ดตัวของมันแปลกๆ ดูมันเช็ดวนๆนานผิดปกติ ถึงผมจะไม่ค่อยมีแรงขัดขืน แต่ผมก็ยังพอมีสติรับรู้อยู่นะครับ
‘อึก’
เสียงอะไร เหมือนผมจะได้ยินเสียงมันกลืนน้ำลาย หรือว่าผมหูฝาดไป?
“อา…”
มันใช้ผ้าขนหนูเช็ดวนที่หน้าท้องผมอยู่หลายรอบ ความรู้สึกเย็นสบายทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย
“สัด!กูบอกว่าอย่าคราง ”
ดูมันเริ่มโมโห อะไรของมัน ไม่อยากเช็ดให้ก็ไม่ต้องสิ กลับบ้านมึงไปเลย!
“พ…พอแล้ว”
“เออ กูก็ไม่อยากเช็ดแล้ว”
มันคว้าผ้าขนหนูกับกะละมังแล้วเดินหายไปในห้องน้ำอีกรอบ อารมณ์แปรปรวนจริงวุ้ย ประจำเดือนมารึไง?
“กูกลับแล้วนะ”
“อืม…ขอบใจ”
เมื่อผมได้ยินเสียงมันปิดประตูก็ค่อยโล่งอกมั่นใจได้ว่าคืนนี้จะไม่เสร็จมันแน่ก็เลยเผลอหลับไป
ตื่นมาอีกทีก็ต้องรีบอาบน้ำเพื่อรีบไปเรียนให้ทัน ยังดีที่ไม่มีอาการเมาค้าง
“ไอ้แว่น!เอางานจารย์สมรมาลอกมั่งดิวะ”
ไอ้ไข่นุ้ยที่วันๆไม่เคยจะอยากมาคุยกับผมเข้ามาขอลอกการบ้าน เมื่อคืนกูยังเห็นมึงไปแรดที่ร้านเหล้าอยู่เลย มีปัญญาแรดแต่ไม่มีปัญญาทำการบ้าน
ผมส่งงานไปให้มันลอก ให้มันไปจะได้จบๆรำคาญมัน
“กูขอลอกมั่งดิ กูก็ยังไม่ได้ทำ”
ไอ้บดินทร์ตัวอ้อนก็มาขอลอกอีกคน ตกลงแก๊งค์พวกมึงนี่ไม่มีใครทำมาเลยรึไง?
“พวกมึงก็อย่าไปวุ่นวายกับไอ้อ๋อ…ไอ้แว่นมันนักสิ มาลอกของอีจ๊ะจ๋านี่”
“ไม่เอาอ่ะ ของมันทำไม่ค่อยถูก ของไอ้แว่นแน่นอนกว่า”
“ปากดีไอ้บดินทร์ เดี๋ยวกูตบคอหัก ไอ้โต๋มึงก็ลอกให้มันเร็วๆกูจะเอาไปส่งแล้ว”
สรุปว่าทั้งกลุ่มมีจ๊ะจ๋ามันทำมาคนเดียว ถึงจะไม่ค่อยถูกแต่ก็ยังดีกว่าไอ้พวกขี้ลอกที่ไม่ยอมทำมา
“ไอ้แว่นมึงจะฝากกูส่งมั้ย?”
ยังคงเป็นจ๊ะจ๋าที่ถามผมแบบนี้ตลอด นี่ถ้าจ๊ะจ๋ามันใสๆน่ารักๆแบบสเปคผม ผมก็อาจจะจีบมันนะ แต่แบบนี้ไม่เอาหรอก เพราะผมไม่อยากคอยแบกมันกลับหอเวลามันเมาน่ะสิ
“ม…ไม่ต้อง เดี๋ยวผมเอาไปส่งเอง”
“เดี๋ยวกูเอาไปส่งให้ก็ได้”
‘ห๊ะ!’
ผมและเพื่อนๆแก๊งค์มันหันควับไปมองไอ้ตุ๊กแกที่อาสาจะเอางานผมไปส่งให้ ร้อยวันพันปีไม่เห็นมันจะสนใจผม วันนี้มันเป็นอะไรของมัน?
“ไอ้โต๋มึงป่วยอีกแล้วเหรอ?”
“หรือมึงเมาค้าง? แต่เมื่อคืนมึงก็กินไม่มากนี่หว่า”
“ว่าแต่ว่าเมื่อคืนมึงบอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำแล้วหายไปเลย กลับมาอีกทีร้านก็เกือบปิด หายไปไหนมาวะ?”
“เออกูว่าจะถามอยู่พอดี กูก็นึกว่ามึงหนีกลับไปก่อน”
“ป…เปล่า กูขี้นานไง”
“น่าสงสัย เดี๋ยวนี้มึงชักจะทำตัวแปลกๆ บางทีก็หายตัวไป กูชักเริ่มสงสัยซะแล้ว”
“หรือว่า…?”
“อ…อะไร?”
“หรือว่ามึงแอบไปตามจีบคนที่มึงแอบชอบวะ?”
“เออ นั่นสิ เดี๋ยวนี้มึงชอบทำตัวลับๆล่ออยู่ด้วย”
“ห๊ะ!…เอ่อ…”
“ว่าไงไอ้โต๋?”
“เออดิ กูไปแอบดูเขา”
ใครคือผู้โชคร้ายคนนั้น ผมล่ะอยากรู้จริงๆ น่าสงสารเขานะครับ ถ้าเป็นผมผมจะไปทำบุญแก้ซวย 9 วัดเลย
“จริงดิ? แน่นอนว่ะ คนนี้มึงจริงจัง?”
“อ…เออ”
“กูไม่เคยเห็นมึงวิ่งตามใครขนาดนี้เลย”
“ทำไม? กูจริงจังไม่ได้รึไง?”
“เปล่า…กูดีใจไงที่ลูกชายกูจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนซักที”
“ใครเป็นลูกชายมึงอีจ๊ะจ๋าพูดให้ดี”
“เออๆ ช่างมัน เอางานมากูจะไปส่งแล้ว”
ไอ้ไข่นุ้ยมันก็เอางานมาคืนผมหลังจากลอกเสร็จ ผมเลยรีบเดินออกมาขี้เกียจจะฟังเรื่องไร้สาระของพวกมัน แต่ไอ้ตุ๊กแกมันจะจริงจังกับใครเขาได้จริงๆเหรอ? ผมเห็นมันลอยไปลอยมาเป็นถุงพลาสติกไม่ย่อยสลายจนจะสองปีอยู่แล้ว ไม่เห็นมันจะคบใครจริงจังซักที แต่ก็เรื่องของมันดิผมไม่สนใจหรอก
“มึง!”
“…”
“ไอ้แว่น!”
มีคนเดินตามผมมาแล้วมันก็เรียกผม มันเป็นเสียงไอ้ตุ๊กแกแต่ผมไม่สนใจหรอกแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน
“ไอ้อ๋อง+”
‘ควับ’
ผมรีบหันไปมอง นี่มึงจะมาเรียกเสียงดังแบบนี้ไม่ได้! ผมมองซ้ายมองขวาไม่ใครอยู่แถวนี้เลยค่อยโล่งอก
“มีอะไร? แล้วอย่ามาเรียกกูแบบนี้ในมหาลัยอีก!”
ผมส่งสายตาอำมหิตไปให้มัน 1 EA เพราะกลัวว่าใครจะมาได้ยิน ไม่งั้นชีวิตผมคงขาดความสงบสุขไปอีกนาน
“กูเรียกแล้วมึงไม่ได้ยินนี่”
“แล้วมึงมีอะไร?”
“ก…งานอ่ะ กูไปส่งให้มั้ย?”
มึงจะมาไม้ไหนอี๊ก?? จะหาเรื่องหลอกฟันกูอีกรึไง? บอกไว้เลยคราวนี้กูไม่ยอมมึงง่ายๆแน่ ภูมิต้านทานกูสูงขึ้นแล้ว ไม่เสร็จมึงอีกแน่นอนบอกเลย!!
“ไม่ต้อง! กูไปส่งเอง”
“…แล้วมึงอยากกินหรืออยากได้อะไรมั้ย?”
“ห๊ะ??”
“คือแบบ…ถ้ามึงอยากกินหรืออยากได้อะไรกูจะไปซื้อให้ไง”
“…”
ไอ้ตุ๊กแกมันต้องโดนผีเข้าแน่ๆครับ มันถึงมาทำดีกับผม หรือว่ามันจะมาหลอกฟันผมจริงๆ ผมไม่หลงกลมันหรอกนะ
“ว่าไง?”
สีหน้าท่าทางมันดูหวังดีสุดๆยิ้มจนเห็นฟันขาวๆ มันขยับเข้ามาให้จนหน้ามันห่างกับผมไม่ถึงห้าเซนแล้ว ผมรีบถอยหลังกลัวผีมันจะเปลี่ยนใจเข้ามาสิงร่างผมแทน
“ม…ไม่ต้อง กูไม่เอา!”
‘ปัก’
หลังผมชนกับผนังตึกเรียน โดยที่ไอ้ตุ๊กแกมันยืนค้ำอยู่ด้านนอก มองดีๆก็เหมือนนักเลงกำลังข่มขู่เด็กแว่นอย่างผมเพื่อรีดไถเงินจริงๆ
“ทำไมอ่ะ? กูอุตส่าห์จะไปซื้อให้มึงเลยน้า ไม่อยากได้อะไรเหรอ?”
“ม…ไม่ หลบไป”
ทำไมแก้มมันขาวจังวะ? ไม่มีสิวหรือจุดอะไรเลย แล้วตอนที่ปากมันขยับเวลาพูดแล้วมันก็ยิ้มที่มุมปาก มันทำให้ผมนึกไปถึงตอนที่เราจูบกัน ก็ไอ้ปากแดงๆแบบธรรมชาตินี่มันดูยั่วยวนจน…น่าจูบอีก… เฮ้ย!! ไม่ใช่!! ผมสบัดหัวอย่างแรง นี่มันใช่เวลาจะมาคิดมั้ยวะ?? แล้วมึงก็อย่ายื่นหน้าเข้ามาให้ขนาดนั้น หัวใจผมเต้นแรงจนเหมือนจะหัวใจวายตายแล้ว
“อ๋องมึงเป็นอะไร? ยังไม่หายปวดหัวเหรอ กินยามั้ย?เดี๋ยวกูไปเอาให้”
“ไม่ต้อง! กูไม่ได้เป็นอะไร แล้วมึงก็หลบไปด้วย”
“เอ้า!! อะไรของมึงอ่ะ”
ไม่รู้! กูก็ไม่รู้ว่ากูเป็นอะไร?? หรือเมื่อคืนกูนอนน้อยไปหน่อย?
ไอ้ตุ๊กแกมันขยับเปิดทางให้ ผมก็รีบเดินจ้ำอ้าวออกมาเลย หัวใจยังเต้นแรงไม่หาย
“เป็นอะไรของมึง? ดูทำหน้าเข้า เป็นอะไรไหนบอกหมอซิ?”
หมอที่ไหนจะปัญญาอ่อนเหมือนมึงไอ้อาร์ท?
“ยังไง? ทำอะไร? กูไม่ได้เป็นอะไร!”
“เอ้า! ก็มึงอ่ะทำหน้าเหมือนอยากจะกินหัวใครเขา แต่ปกติหน้ามึงก็โหดอยู่แล้ว แต่วันนี้ดูโหดกว่าเก่า”
“เปล่า…”
“มีอะไรปรึกษาหมอได้นะ จะให้ไปตีกับใครก็บอกหมอพร้อมเสมอ”
หมอพ่องสิ!ชวนไปตีกับคนอื่น
“มึงอ่ะนะ? คราวนั้นเห็นวิ่งหางจุกตูด”
“คราวนั้น ก…ก็พวกนั้นมันมีหลายคนไง กูหลบมาตั้งหลักเฉยๆ”
“สัด! ปล่อยกูตีกับพวกมันเป็นชั่วโมงกว่าจะมาช่วย”
“แต่พอกูไปก็เห็นไอ้พวกนั้นมันนอนตายกันเกลื่อน ส่วนมึงก็แค่หัวแตกเองนี่หว่า แล้วคราวนี้มึงเป็นอะไร?”
“ไม่รู้…กูก็ยังไม่รู้เลยว่ากูเป็นอะไร”
“อะไรของมึง? เป็นเหี้ยอะไรก็ยังไม่รู้ มันมีเหรอวะไอ้โรคนี้อ่ะ?”
“มึงว่ากูเป็นเหี้ย? เดี๋ยวกูจะถีบมึงให้ลงไปนอนกับมันในน้ำเลย”
“เปล่าคร้าบบบ! ขอประทานอภัยท่านอ๋องคร้าบบบ!”
ยังมาทำหน้าทะเล้นกวนตีน คุยกับไอ้อาร์ททีไรเหมือนความดันจะขึ้น ว่าแต่ผมเป็นอะไรวะ? ทำไมต้องใจเต้นแรงเวลาไอ้ตุ๊กแกเข้ามาใกล้ ทำไมเห็นปากแดงๆของมันแล้วอยากจูบ? หรือว่าผมจะเป็นโรคหัวใจ? ผมอายุแค่ยี่สิบเองนะยังไม่อยากตายเร็วนะครับคุณหมอ

จบตอนที่ 10

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ MJTogether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
:pig2: :pig2: :pig2: :pig2:

ตอนที่ 11 บ๊อกเซอร์ที่หายไปของผม

อาทิตย์นี้เกือบทั้งอาทิตย์ผมรู้สึกเสียวสันลังวาบๆอยู่ตลอดเวลาเหมือนถูกใครคอยตามอยู่ตลอด แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกครับ ย้อนไปสมัยผมอยู่ ม.6 ก็เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน ตอนนั้นเกือบประสาทแดกเลย พอเอาเรื่องไปปรึกษาไอ้สองพี่น้องนั่น ตอนแรกๆเหมือนจะดีเพราะพวกมันก็ช่วยแต่ตอนหลังๆปัญหาเกือบบานปลายแต่ผมก็เอาตัวรอดมาได้ พอขึ้นมหาวิทยาลัยก็คิดว่าไม่น่าจะเกิดเรื่องแบบเดิมอีกเพราะผมเปลี่ยนแปลงตัวเองไปมากพอสมควร แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าตอนนี้ไอ้ปัญหาเดิมๆกำลังตามมาหลอกมาหลอนผมอีกครั้ง
“ไอ้แว่น เอาตรงๆนะกูรำคาญผมมึงเหลือเกิน เรียนอยู่ห้องเดียวกับมึงมา 2 ปีแล้วเนี่ยกูยังไม่รู้ว่าหน้าตามึงเป็นยังไงเลย”
“เออจริง! กูว่าหุ่นมึงก็ดีนะ สูงๆดีแต่ช่วยไปตัดผมให้มันดีๆแล้วก็ใส่เสื้อผ้าที่มันดีกว่านี้ได้มั้ยเห็นแล้วรำคาญจริงๆ”
“…”
ไอ้ไข่นุ้ยกับจ๊ะจ๋ามันบ่นแบบนี้มันมาซักพักแล้ว ไอ้ผมก็เบื่อขี้เกียจจะไปใส่ใจกับพวกมัน แต่พวกมันก็บ่นมาตั้งแต่ต้นคาบแล้ว
“นี่มึงไม่คิดที่จะตอบกูหน่อยรึไง?”
“พวกมึงก็อย่าไปยุ่งกับมันนักสิ!”
ไอ้ตุ๊กแกมันจะมาไม้ไหนอี๊ก ปกติมันก็เป็นหนึ่งในพวกมันที่ชอบว่าผมแบบนี้บ่อยๆนะ
“อะไรของมึงไอ้โต๋ ทีเมื่อก่อนมึงยังว่ามันอยู่เลย”
“ป…เปล่า ม…ไม่มีอะไร”
รู้สึกมันจะหน้าแดงขึ้น หรือว่ามันป่วย ไอ้ตุ๊กแกเหมือนร่างกายมันจะป่วยเอาง่ายๆเหมือน
ผมคิดว่าคงถูกไอ้พวกนี้บ่นไม่เลิกเลยเดินออกมาเข้าห้องน้ำ
“ม…มึง!”
มีเสียงคนเรียกแต่ไม่เต็มเสียงนักผมเลยหันไปมอง ไอ้ตุ๊กแกอีกแล้วมันจะจองเวรกับผมไปถึงเมื่อไรกัน
“อะไร??”
ผมตอบมันไปเสียงห้วนๆ รำคาญมันเพราะตั้งแต่รู้จักมันชีวิตผมก็กลับมาวุ่นวายอีกครั้ง
“อ่ะ…กูให้”
มันยื่นถุงอะไรซักอย่ามาให้
“อะไร ให้ทำไม??”
“ขนมกูซื้อมาฝาก”
ห๊ะ! มันเนี่ยนะซื้อขนมมาให้ท่าทางผีจะเข้าสิงมันแล้ว จะว่าไปก็รู้สึกหลอนเลย
“ม…ไม่เอา”
มึงจะมาไม้ไหน? จะมาทำอะไรกูอี๊ก? กูโดนไปสองดอกแล้วก็กลัวว่าจะมีดอกที่สามไง! ถึงแม้ว่ามันจะรู้สึกดีก็ตาม…ฉิบหายละ!!กูคิดอะไรวะเนี่ย!!
“เอาไปเถอะกูซื้อมาฝาก”
“…”
“เร็วๆ กูต้องไปแล้ว”
ว่าแล้วมันก็ยัดถุงขนมใส่มือผม ตอนที่มือเราสัมผัสกันมันเหมือนมีกระแสไฟสปาร์คกัน มันจี๊ดดดเลย อา…ไอ้ตุ๊กแกมันหน้าแดงอีกละ ถ้าไม่รู้จักมันมาก่อนผมคิดว่ามันอาจจะเกิดอาการเขินนะเนี่ย แต่นี่มันไอ้ตุ๊กแกไงคงไม่น่าใช่…
“ห๊ะ!...อ…อืม”
แล้วทำไมผมต้องตื่นเต้นด้วยวะ ใจเต้นแรงเหมือนเพลงจังหวะร็อคเลย คงต้องไปหาหมอตรวจโรคหัวใจจริงๆซักที
“เป็นอะไรของมึงอี๊ก? ดูลอยๆไปโดนตัวไหนมาอีกล่ะ?”
“เหี้ยไร?? เปล่าซักหน่อย”
ไอ้อาร์ทเดินเข้ามาจากหลังร้าน วันนี้ร้านปิดแต่ผมก็ไม่รู้จะไปสิงอยู่ที่ไหนเลยเข้ามานั่งเล่นในร้าน แต่กูไม่ได้เป็นอะไร มีอะไรเลย กูไม่ได้กำลังคิดถึงไอ้ตุ๊กแกมันซักนิดเลยสาบานได้
“แล้วนั่นถุงอะไรอ่ะ ? ขนมมั้ย?กูกินมิ่งดิหิวอยู่พอดี”
เห็นของกินไม่ได้ไอ้นี่ ขอตลอดแต่ปกติผมก็ไม่หวงนะของกินจะหวงก็แต่รถเท่านั้นแหละ
“ไอ้สัด! ไม่ให้อันนี้ของกู”
แต่อันนี้ไม่ให้ไงจะเก็บไว้กินคนเดียว
“มึงจะหวงอะไรนักหนา? ปกติไม่ค่อยหวงขนมนี่หว่า น่ากินทั้งนั้นเลยมึงซื้อมาจากไหนวะ”
“มึงปล่อยเลยกูไม่ให้!”
“ไอ้ขี้หวงนอกจากหวงรถแล้วยังหวงขนมอีก”
“เหอะ! กูกลับห้องละ”
ต้องรีบกลับเดี๋ยวไอ้อาร์ทแย่งขนม ไม่ได้เลยถุงนี้ผมหวงมาก…
“อ้าวน้องโต๋นั่งรอใครรึเปล่า ให้พี่นั่งเป็นเพื่อนมั้ยคะ?”
“เอ่อ…ป…เปล่าครับ”
พอหันไปมองตามเสียงก็เห็นพี่ปีสูงคนนึง รู้สึกว่าจะชื่อส้มหรือเชอร์รี่อะไรซักอย่างนี่แหละ พี่แกเป็นหนึ่งในกิ๊กไอ้ตุ๊กแกแต่ตอนนี้พี่คนสวยกำลังลวนลามไอ้ตุ๊กแกมันด้วยสายตาผู้หญิงสมัยนี้น่ากลัวจริงๆ
ส่วนผมกะจะเดินไปเอารถที่ลานจอดรถ ก็บังเอิญเห็นไอ้ตุ๊กแกมันซะก่อนก็เลยต้องแอบมันอยู่ในซอกตึกนี่แหละเพราะไม่อยากเจอมันซักเท่าไร
“พักนี้น้องโต๋ไม่ไปหาพี่ที่ห้องเลยอ่ะค่ะ พี่คิดถึ๊งคิดถึง”
“เอ่อ…ผมไม่ค่อยว่างครับ พอดีเรียนหนัก”
ตอแหล!! ก็ไม่เห็นมึงจะเรียนอะไรซักเท่าไร แล้วคณะเราก็ไม่ได้เรียนยุ่งขนาดนั้นนี่หว่า
“พี่เหงามากเลย แล้ววันนี้น้องโต๋ว่างมั้ย? ไปหลังมอกันค่ะ พี่อยากเมา”
ผมเห็นพี่คนสวยลูบแขนไอ้ตุ๊กแกไปมา แล้วรู้สึกว่าส้นตีนเหมือนจะกระตุกยิกๆยังไงก็ไม่รู้
“เอ่อ…พอดีผมต้องทำงาน คงไปกับพี่เชอร์รี่ไม่ได้อ่ะครับ”
ไอ้ตุ๊กแกมันตอบปฏิเสธไป แปลกนะครับปกติรีบตอบรับสาวๆที่ชวนจะตายไป แต่วันนี้มันมาแปลกจริงๆ
“ว้า! เสียดายแย่เลย แต่ไม่เป็นไร น้องโต๋พอจะรู้จักน้องอ๋องมั้ยคะ? ที่ทำงานที่ร้านเหล้าอ่ะค่ะ”
หืม?? ชื่อกูอีกละ จะหลีไอ้ตุ๊กแกมันก็ทำไปดิ จะมายุ่งอะไรกับกูอีกแล้ววะ!!
“ครับ? มีอะไรเหรอครับ?”
“อ๋อ! คือพอดีว่า วันก่อนเพื่อนพี่สิไปขอเบอร์น้องเขาแต่น้องไม่ให้ เลยถามน้องโต๋ว่าพอจะรู้จักมั้ยช่วยแนะนำให้พี่รู้จักหน่อยค่ะ”
อ๋อ! ยัยพี่คนสวยสยองคนนั้นเองเกือบทำให้กูไม่รอดเงื้อมมือไอ้ตุ๊กแกมัน แต่วันนั้นมันก็แปลกที่ยอมถอยทัพไปง่ายๆ
“พอดีผมไม่สนิทนะครับ”
“เหรอ? ผิดหวังจัง น้องอ๋องนี่หล่อเนอะ คือแบบเท่มากอ่ะ หุ่นดี๊ดี”
“จริงครับ…”
“อะไรนะคะ ? พี่ได้ยินไม่ถนัด”
เออนั่นสิผมก็ได้ยินไม่ถนัด เมื่อกี๊ไอ้ตุ๊กแกมันพูดว่าอะไรนะ??
“อ…อ๋อเปล่าครับ แต่ผมได้ยินมาว่าไอ้อ๋องอะไรนั่นมันมีแฟนแล้วนะครับ เห็นว่าแฟนมันหน้าตาดีมากเลย”
 “เหรอ? พี่กับเพื่อนๆไม่เคยได้ยินข่าวเลย พี่ว่าพวกพี่ก็ไปร้านนั้นบ่อยนะ”
เหยยย!! จริงเหรอวะ? ทำไมกูก็ไม่เคยได้ยินเลย นี่กูมีแฟนแล้วเหรอวะ?
“เอ่อ…อันนี้ผมก็ไม่รู้ ผมก็ได้ยินมาอีกที แต่น่าจะเชื่อถือได้นะครับ”
ไปได้ยินมาจากใครกัน? เดี๋ยวพ่อจะไปเตะให้ใส้แตกเลยเสียชื่อกูหมด
“เหรอ? งั้นพี่ไปก่อนนะคะ นัดเพื่อนไว้ ว่าแต่น้องโต๋จะไม่ไปจริงๆเหรอคะ?”
“ไม่ล่ะครับ”
พี่เชอร์รี่มะละกอกล้วยส้มก็ลุกออกไปจากโต๊ะ ผมก็ต้องไปแล้วล่ะครับ แอบฟังจบละเดี๋ยวไอ้ตุ๊กแกมันเห็นจะเสียหน้าอีก
“มึงแอบฟังกูเหรอ?”
“เฮ้ย!”
ผมสะดุ้งสุดตัวที่มีคนมากระซิบระยะกระชั้นชิด ฉิบหาย!ไอ้ตุ๊กแกมันมาตอนไหนวะ? แล้วมันยังรู้อีกว่าผมกำลังแอบฟัง
“ทำไมต้องตกใจขนาดนั้น กูถามว่ามึงแอบฟังกูอยู่เหรอ?”
“ป…เปล่า กูไม่ได้แอบฟัง”
“ถ้ามึงแอบฟังจริงกูก็ไม่ได้ว่าอะไร”
เอาอีกละ! ไอ้ตุ๊กแกมันกักตัวผมให้อยู่ในซอกตึกอีกแล้ว ชอบจริงๆไอ้ท่านี้ ถามจริงๆมึงอยากไถตังกูปะเนี่ย!กูไม่มีหรอกนะพกมาแค่ยี่สิบเอง
“กูบอกว่าไม่ได้แอบฟัง”
เสียงผมแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน เพราะไอ้ตุ๊กแกมันยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีกแล้วไง! แต่พอมองหน้ามันจริงๆจังๆแล้ว ไอ้นี่มันก็มีเสน่ห์จริงๆ หน้าขาวๆ ขนตายาวๆเข้ากับตาคมๆของมันมาก จมูกโด่งแต่รั้นนิดๆ ปากแดงๆแบบธรรมชาติ น่าจูบฉิบหาย…เอาอีกละกูเป็นอะไรกับปากมันมากมั้ยเนี่ย!
‘อึก’
ผมนี่กลืนน้ำลายเลย ปากไอ้ตุ๊กแกมันลอยไปมาอยู่ใกล้ๆ ได้ยินเสียงลมหายใจมันแผ่วเบา แต่ใจผมนี่สิเต้นดังยิ่งกว่ากลองโยธวทิตอีกมันจะได้ยินรึเปล่าวะ!
“มึงเป็นอะไรรึเปล่าหน้าแดงๆไม่สบายเหรอ?”
อย่ามาขยับปากใกล้ๆปากกู ตอนนี้ภูมิคุ้มกันกูต่ำใจกูยิ่งง่ายๆอยู่ มึงจะทำกูใจแตกอีกรอบแล้ว
“ป…เปล่า”
“อ๋อง…กูจ…จูบมึงได้มั้ย?”
ห๊ะ! อย่ามาถามกูอย่างนั้น กูใสๆซื่อๆ อย่ามาหลอกล่อกู ฮือ…อยากร้องไห้
“ม…มึงจะท…”
“หืม? ได้มั้ย?”
มึงก็ไม่ต้องถามแล้วมั้งปากมึงจะโดนปากกูอยู่แล้วอ่ะ ผมกลั้นหายใจหลับตาปี๋ รอว่าเมื่อไรไอ้ตุ๊กแกมันจะลงมือซักที
“…”
ทำไมมันนานจังวะ? ไม่จูบมาซักที? ผมค่อยๆหลี่ตามองก็เห็นได้ตุ๊กแกมันมองอยู่ที่ริมฝีปากผมหน้ามันแดงมากอ่ะหรือว่ามันเขินผมจริงๆ?
“แม่ง!”
ไม่ลงมือซักทีวะ? ผมจับหัวไหล่ไอ้ตุ๊กแกมันแล้วดันให้ตัวมันเข้าไปชิดผนังตึกแทน แล้วจู่โจมที่ปากมันทันที แม่งกูจูบเองก็ได้เสือกให้รอนานเสียเวลา!
“อืม…”
ผมกดเรียวปากบดกับริมฝีปากมันเบาๆ นุ่มนิ่มฉิบหาย รู้สึกมันเขี้ยวเลยกัดกลีบปากล่างมันเบาๆ รู้สึกดีมากอ่ะ แต่ไม่รู้จะเปรียบกับใครเพราะเคยจูบมันอยู่คนเดียวนี่แหละ
ไอ้ตุ๊กแกมันกดท้ายทอยผมเข้าไปหา กลายเป็นว่าผมถูกมันจู่โจมแทน มันสอดลิ้นเข้ามาในโพรงปากผมแล้วดูดลิ้นผม ห่า!อย่าดูดแรงดิวะเดี๋ยวผมขึ้นจะทำไง? ช่วงนี้ยิ่งใจง่ายอยู่ด้วย แต่ผมก็ไม่ยอมแพ้ดูดลิ้นมันกลับมั่ง
“อา…”
   ผมเคยบอกว่าไอ้ตุ๊กแกมันจูบเก่งมาก ครั้งนี้ก็เช่นกัน มันจูบจนขาผมสั่นแล้วเนี่ย พอก๊อนเดี๋ยวไอ้ลูกชายกูมันก็ทำขายหน้าอี๊ก!
   ไอ้ตุ๊กแกมันถอนเรียวปากออก โห!ตามันเยิ้มเลย ไอ้สัด!กูขึ้นจริงๆละ ใครก็ได้ช่วยผมหน่อย
‘ผลัก’
เฮ้ย! ได้ตุ๊กแกมันดันตัวผมให้กลับไปหันหลังชนผนังตึกอีกครั้ง นี่ถ้ามีอีกรอบผมอ้วกเลยนะเนี่ยเวียนหัวฉิบหาย
“แค่จูบแค่นี้มึงเกิดอารมณเลยเหรอ?”
“…”
ฉิบหาย!มันรู้อีก แล้วมึงไม่เกิดอารมณ์รึไงตาหวานเยิ้มขนาดนั้น?
“กูก็ขึ้นแล้วเหมือนกัน…”
ผมหันซ้ายหันขวาแต่ไม่เห็นใครเดินผ่าน ก็แน่แหละตึกนี้ไม่ค่อยมีคนเข้ามาใช้งานอยู่แล้ว
“…”
“แล้วมึงจะเอายังไง?”
ไอ้ตุ๊กแกมันถามผมขณะที่เรายืนมองตากันอยู่ มันเบียดตัวเข้ามาจนแนบชิด ทำให้ผมรู้สึกว่าไอ้ลูกชายของพวกเรามันกำลังจะไฟท์กันอยู่แล้ว สู้ๆลูกพ่อ
“ก็เอามึงน่ะสิ!”
มาขนาดนี้แล้ว มีครั้งที่หนึ่งแล้ว ก็ต้องมีครั้งที่สอง พอมีครั้งสองมันก็ต้องมีครั้งที่สามจริงมั้ยครับ?
“หึ!”
ไอ้ตุ๊กแกมันแสยะยิ้มดูแล้วตอแหลดี แล้วมือของมันก็เริ่มเลื้อยเข้ามาในชายเสื้อผม เผลอไม่ได้มือไวตลอดนะมึงเนี่ย! คราวก่อนเช็ดตัวกูก็ลวนลามกูไปทีนึงละ หลังจากที่ไอ้ตุ๊กแกมันลูบไล้เนื้อตัวผมจนมันพอใจ มันก็เปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นเป้าผมแทน มันปลดเข็มขัดออกแล้วค่อยๆปลดกระดุมสแล็คผมช้าๆ ดูใจเย็นนะมึงอ่ะช่ำชองเหลือเกิน
“อืม…”
มันล้วงเข้าไปในบ๊อกเซอร์แล้วจับไอ้ลูกชายผมไม่ให้ดิ้นหนี เอาตรงๆตอนนี้ผมก็หนีไปไหนไม่ได้แล้วต้องสู้อย่างเดียวเลย มันลูบไล้ไปมาเบาๆทำเอาใจผมเต้นแรงขึ้นมาอีก
ไอ้ตุ๊กแกมันโน้มคอผมลงมาแล้วบดริมฝีปากของมันกับเรียวปากผมอย่างหนักหน่วง ริมฝีปากมันร้อนมากจนผมเผลอสอดเรียวลิ้นเข้าไปข้างในโพรงปากมันบ้าง ไอ้ผมมันก็คนใสๆไงก็เลยเลียนแบบมันล้วนๆ
“อา…”
เราจูบกันอยู่ซักพัก ผมก็ไม่รู้จะเอามือไปวางไว้ตรงไหนเลยแกะกระดุมกางเกงยีนส์มันแล้วล้วงไอ้ลูกชายน้อยของมันออกมาบ้าง มันลูบมาผมก็ลูบกลับไม่โกง
“อืม…”
ลูกชายได้ตุ๊กแกมันจะเล็กกว่าของผมหน่อยแต่โคตรขาวเลยแลดูน่ารักๆดี
มือของเราก็ผลัดกันลูบๆชักๆให้กันส่วนปากเราก็เหมือนจะไฟท์กันให้ตายไปข้างนึงเลย
“อืม…อา”
เสียงหอบหายใจของเราเล็ดลอดออกมาเมื่อเราผละริมฝีปากออกจากกัน
“อา…ถึงลีลามึงจะยังไม่ได้เรื่องซักเท่าไรแต่มือมึงนี่สุดยอดว่ะ”
แหม! ทำมากระแทกแดกดันกู กูก็ทำให้มึงร้องครางดังลั่นห้องมาแล้วเถอะ!
“อ๊ะ!มึงอย่ากดแรงกูเจ็บ”
แก้แค้นไงมึงมาว่ากูลีลาไม่ได้เรื่องก่อน ส่วนเรื่องมือกูเซียนอยู่แล้วเพราะทำเองบ่อย
“หึ!”
ตอนนี้สองมือของเราผลัดกันทำมาหากินอย่างหนักหน่วง อา…ผมใกล้ละ
“อืม…อา…”
เสียงไอ้ตุ๊กแกมันครางเวลาผมชักให้ฟังดูแล้วเพราะดีฉิบหาย แต่มึงจะอะไรกับหัวนมกูมากไปนะ ลูบๆดึงๆอยู่นั่นแหละ แต่ก็เสียวๆดีเหมือนกัน ผมเลยเอามั่งบีบตูดแม่งเลย
“อ๊ะ!”
ดูมันจะชอบนะครับ ร้องเสียงหลงเลย ผมเลยกดสะโพกมันเข้ามาชิดอีกแล้วล้วงเข้าไปบ๊อกเซอร์มันบ้าง อา…เด้งดีฉิบหาย
“อืม…อ๋องกูไม่ไหวละ”
“กู…ก็เหมือนกัน”
ตอนนี้มันจับไอ้ลูกชายของพวกเรารวบไว้ด้วยกันแทน ส่วนผมก็ยังมันมือกับการขยำตูดเด้งๆของมัน
“อา…ซี๊ดดด”
ไอ้ตุ๊กแกมันเหงื่อไหลซึมที่ใบหน้า หน้าตาของมันตอนนี้คือแบบโคตรเซ็กซี่เลยว่ะ เห็นแล้วมันเขี้ยวผมเลยจูบมันอีกรอบ เราแลกลิ้นกันซักพัก ผมก็รู้สึกเกร็งหน้าท้องเพราะใกล้จะถึง
“อื้อ…”
อา…เราเสร็จพร้อมกันโดยที่ปากยังบดกันอยู่อย่างนั้น ผมพิงผนังตึกกอดเอวมันไว้กลัวมันจะหงายหลังไปซะก่อน ก็เล่นเอาตัวเหี่ยวเป็นผักแบบนี้ เสียงลมหายใจของเรายังดังเป็นระยะๆ
หลังจากเลิกหอบไอ้ตุ๊กแกมันก็ล้วงเอาผ้ามาเช็ดที่หน้าท้องของผมที่มีทั้งน้ำของมันแล้วก็ของผมเต็มไปหมด ทำไมมันเลอะแต่หน้าท้องผมวะ แต่มึงก็ยังพกไอ้ของพวกนี้ด้วยนะ ว่าแต่ผ้าที่มันเอามาเช็ดนี่มันคุ้นๆนะครับ สีเหมือนบ๊อกเซอร์ที่หายไปของผมเลย
“นี่ผ้าอะไร?”
“ห๊ะ! เอ่อ…”
ไอ้ตุ๊กแกมันทำหน้าเลิ่กลั่กเหมือนเด็กโดนจับได้ว่าขโมยขนม
“นี่มันบ๊อกเซอร์กูนี่!”
“ม…ไม่ใช่ ของกู๊”
“ทำไมมึงทำหน้ามีพิรุธ?”
“เปล๊า! กูไม่รู้ ไม่ใช่ของมึง กูไม่ได้ขโมยมาจากห้องมึงเล้ยย!”
เชี่ย! ว่าแล้วไง! กูว่าอยู่ว่าทำไมหาไม่เจอ แม่งเข้าไปขโมยในห้องกูมานี่เอง แสบนักนะมึง!!
“แล้วมึงเข้าไปในห้องกูได้ไง?”
“กูไม่มีกุญแจห้องมึงนะ กูไม่ได้เอาไปปั๊มไว้เลย”
ฉิบหาย!! ผมนึกออกแล้ว…คราวก่อนที่มันเข้าไปในห้องผม ดูเหมือนว่ามันจะเป็นคนเอาลูกกุญแจผมไปปั๊มแล้วเปิดประตู้เข้าไปได้เอง
“เอาลูกกุญแจที่มึงไปปั๊มไว้คืนมาแล้วก็คืนบ๊อกเซอร์กูมาด้วย!”
“ม…ไม่ให้”
“ไอ้โต๋เอามาเดี๋ยวนี้ทั้งสองอย่าง!”
“ไม่ให้”
“มึง!”
“…”
ไอ้ตุ๊กแกมันตาเหลือก รีบคว้าบ๊อกเซอร์ตัวเก่งของผมพร้อมทั้งใส่เกียร์หมาวิ่งหายไปจากมุมตึกแล้ว ให้ตายสิโดนพรากพรหมจรรย์ยังไม่พอมึงยังจะขโมยบ๊อกเซอร์กูไปอี๊ก แล้วมึงจะพกของแบบนั้นเดินไปเดินมาในมหาวิทยาลัยไม่ได้!!

จบตอนที่ 11
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ tiger2006

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 334
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ MJTogether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
:pig2: :pig2: :pig2: :pig2:

ตอนที่ 12 ความลับแตก

แล้วผมก็เสียบ๊อกเซอร์ตัวเก่งไปอย่างถาวร แล้วไอ้ตุ๊กแกมันจะเอาไปทำไมวะ! ใส่ก็คงไม่ได้เพราะดูทรงแล้วไซส์มันเล็กกว่าผมแน่นอน อันนี้ผมแน่ใจเพราะเคยจับมาแล้ว…วันนี้ผมคงต้องเปลี่ยนลูกบิดห้องใหม่ หรือว่าจะเปลี่ยนวันหลังดี ? เผื่อไอ้ตุ๊กแกมันจะ…
   ผมเดินออกมาจากมุมตึก หันซ้ายหันขวาไม่เห็นใครเลยไปคว้าบิ๊กไบค์ลูกรักขี่กลับห้อง คันนี้ยังไม่มีใครได้แตะนอกจาก…ไอ้ตุ๊กแก…ที่ผมจำใจให้มันนั่งซ้อนท้ายเป็นสก๊อยเมื่อหลายวันก่อน เฮ้อ! มันอีกละ ไม่รู้จะตามหลอกตามหลอนผมไปถึงไหน
“วันเสาร์กูไม่เข้าร้านนะ”
“มึงจะไปไหนว้า? ไม่อยู่ช่วยกูเหรอ?มึงก็รู้ว่าไอ้อาร์ทมันพึ่งไม่ค่อยได้”
“เชี่ยไรไอ้โอม!”
“ห๊ะ!!มึงว่าอะไรนะไอ้อาร์ท?”
“ป…เปล่าคร้าบบบ”
“…กูจะไปธุระ”
ผมนัดร้านซ่อมรถไว้ว่าจะเอาไอ้ลูกชายไปโมซักหน่อย ตั้งแต่ได้มายังไม่ได้โมอะไรเลย
“ไปไหนอ่ะ? กูไปด้วยดิ”
“เสือก”
“ง่ะ ใจร้ายจุง”
“มึงไม่ต้องเลยไอ้อาร์ทหาเรื่องหนีงาน รถที่มึงอยากได้ใหม่อ่ะจะเอามั้ย?”
“เอาดิคร้าบบบคุณพี่”
ไอ้อาร์ทมันก็เสือกอยากได้บิ๊กไบค์บ้าง มันบอกว่าเอาไว้ให้สก๊อยน่ารักๆซ้อน รถของมันก็มีอยู่นะครับ แต่เป็นเวฟ 100 ปาดบาะเรียบแปล้ มันยังเคยบอกว่าเวลาเบรคแล้วนมชนหลังมันจั๊กจี้ดี แต่เท่าที่ผมเจอมามันไม่ใช่อย่างนั้นสิ เห็นเจอแต่ไข่เบียดตูด…
ตอนนี้ผมกำลังนั่งเรียนอยู่ในคลาส ขณะที่นั่งจดงานไปก็รู้สึกขนลุกซู่ พอหันไปมองก็เห็นไอ้ตุ๊กแกมันจ้องผมอยู่ตาไม่กระพริบเลย มึงจะอะไรกับกูอี๊ก!! เมื่อวานก็ล่อซะกูเข่าอ่อนไปทีนึงแล้ว วันนี้ยังจะมาจ้องนี่ถ้าก็เป็นปลาทองนี่กูท้องไปแล้วนะ แล้วไอ้รอยยิ้มหลอนๆที่มันยิ้มให้นี่ก็ทำเอาผมเสียวสันหลังอีกแล้ว
“ไอ้โต๋เสาร์นี้มึงว่างมั้ย?”
“ห๊ะ! อ…อืม มึงมีไร?”
มันละสายตาจาผมแล้วหันไปฟังเพื่อนมันแทน
“กูถามว่าวันเสาร์มึงว่ามั้ย? จะให้ไปช่วยเลือกเสื้อกูว่าจะซื้อไปจีบสาว”
“เออมึงเป็นอะไรไอ้โต๋? พักนี้ดูมึงตาลอยๆชอบกล”
“ป…เปล่า…”
“หรือว่า…”
“อ…อะไร!”
“มึงยังไปตามตื๊อสาวนักมวยคนนั้นใช่มั้ย? นี่เขาตกลงเป็นแฟนกับมึงรึยัง?”
“ยัง…ไม่ต้องเสือกเรื่องของกูหลอกน่า ไอ้ไข่ย้อยมึงจะไปกี่โมง?”
“สายๆดิ ไปรถกูก็ได้ จะได้ไม่เปลืองน้ำมันรถมึง”
“มันก็ต้องอย่างนั้นแหละ”
เสียงที่ไอ้แก๊งค์นั้นมันคุยกันผมก็ได้ยินทุกคำแหละ ดังฉิบหายห้องก็เล็กแค่เนี๊ย วันๆไม่ทำอะไรกันถ้าไม่นั่งลอกการบ้านกันก็ไปกินเหล้าหลังมอทำตัวไร้สาระไปวันๆ
หลังจากหมดคาบเรียนผมก็เตรียมตัวกลับ วันนี้ยังต้องไปช่วยไอ้โอมที่ร้านเหมือนเคย ตอนนี้ผมมีเงินเก็บเยอะอยู่เหมือนกัน แต่ก็ยังไม่มากพอเพราะหลังจากเรียนจบคิดว่าจะซื้อคอนโดซักห้อง คงต้องเอาเงินที่พ่อกับแม่เก็บไว้ให้ออกมาเสริม
“นี่...แว่น”
เสียงไอ้ตุ๊กแกตามมาหลอกมาหลอนอีกแล้ว มึงจะตามกูมาทำไม๊? มันจะอะไรกับกูนักหนาวะ
“อ๋อง”
‘ควับ’
บอกว่าอย่ามาเรียกชื่อนี้แถวนี้ เดี๋ยวมาได้ยินกูก็ซวยดิวะ!
“กูบอกมึงแล้วนะว่าอย่ามาเรียกชื่อนี้ที่นี่!”
“ก็กูเรียกมึงไม่ได้ยินอ่ะ”
“แล้วมึงจะมาเรียกกูทำไม? ออกไปอยู่ห่างๆกู 300 เมตรเลย”
อย่าเข้ามาใกล้กู เดี๋ยวมึงลวนลามกู กูก็ใจออ่อนอีก
“แหมมึงก็!”
อะไร? แล้วไอ้ที่มายืนบิดไปบิดมานี่มึงเป็นอะไร? คันหลังเหรอกูเอาตีนช่วยเกาให้มั้ย?
“…”
“วันนี้มึงอยู่ที่ร้านมั้ย?”
“ถามทำไม?”
คิ้วชักกระตุกๆรู้สึกว่าว่าคืนนี้จะซวยอีกแล้ว
“ก็เมื่อคืนก่อน กูไป…แล้วไม่เห็นมึงไง เจอแต่พี่อาร์ท”
สงสัยผมคงทำบัญชีอยู่หลังร้าน ทำมันทุกหน้าที่อ่ะผม ตั้งแต่เด็กเสิร์ฟยันผู้จัดการร้านเลย ว่าแต่มันสนิทกับไอ้อาร์ทได้ยังไง ได้ยินว่าไปกินเหล้าด้วยกันแค่ครั้งเดียว
“มึงไปสนิทกับไอ้อาร์ทตอนไหน?”
“ม…มึงหึงเหรอ?”
ไอ้ตุ๊กแกมันยิ้มตาหยี แต่เชี่ยเถอะ! หน้าอย่างกูเนี่ยนะจะหึงมึง? แค่ได้กัน 2-3 ครั้งอย่ามาหลงตัวเอง แล้วกูก็ไม่ได้เต็มใจด้วยเถอะ มึงขืนใจกูชัดๆ
“กูเนี่ยนะ?...กูพูดแบบนั้นเหรอ?”
“ก็เห็นมึงถาม”
“กูกลัวว่ามึงจะไปหลอกถามอะไรไอ้อาร์ทมัน มันยิ่งโง่ๆอยู่”
“กูไม่ถามหรอก เพราะกูถามมาหมดแล้ว”
“…”
ไอ้สัดอาร์ทไอ้ญาติชั่ว ไว้ใจไม่ได้เลย แล้วมันเล่าอะไรไปบ้างวะเนี่ย! อยากจะกลับไปถีบหน้ามันซักทีสองที
“แล้วมึงมีอะไร?”
ผมทำท่าจะเดินหนีแต่มันก็คว้าแขนผมไว้ซะก่อน มือไวใจเร็วจริงๆ อีกเดี๋ยวคงล้วงเข้ามาในกางเกงผมแน่นอน
“คือวันเสาร์นี้มึงว่างมั้ย? กูอยากเลี้ยงข้าวมึง”
ห๊ะ! มึงเนี่ยนะจะชวนกูไปกินข้าว บ้าไปแล้วครับ! มันจะมาหลอกฟันผมอีกล่ะไม่ว่า ทำเป็นเลี้ยงข้าวแล้วพากูหลังจากนั้จะพากูเข้าโรงแรมม่านรูดล่ะสิ
“…มึงจะมามาไม้ไหน? เลิกยุ่งกับกูดีว่า”
“ทำไมกูจะยุ่งกับมึงไม่ได้? กูให้มึงเอาไปตั้งหลายรอบแล้วนะ”
“…”
เชี่ย! ทวงบุญคุณที่ให้กูเอา? แบบนี้ก็ได้เหรอ? มึงมาเสนอเองนะกูผิดเหรอ? ขี้เกียจคุยกับมันละ ยิ่งพูดเหมือนยิ่งถูกลวนลามทางคำพูดยังไงไม่รู้ ผมก็หวงเนื้อหวงตัวเหมือนกันนะครับ
“เดี๋ยว!”
ไอ้ตุ๊กแกมันกระชากผมให้เข้าไปใกล้ ฉิบหายละ! ระยะอันตราย ถึงลีลามึงจะเด็ดแต่กูก็ไม่หลงกลคนเจ้าชู้อย่างมึงหรอก!
“ป…ปล่อยกู”
“ทำไม? มึงกลัวกูจะทำอะไรมึงเหรอ?…หึๆ”
กูล่ะเกลียดจริงไอ้รอยยิ้มแบบเหนือกว่าของมึงเนี่ย! แล้วยังยื่นหน้ามาใกล้ๆอีก กูจะให้มึงอยู่เหนือก็เฉพาะตอนนั้น…เท่านั้นแหละเว้ย! ผมสบัดตัวแล้วรีบเดินหนีออกมา ไม่ใช่อะไรกลัวเกิดเหตุการณ์เหมือนเมื่อวานอีก ขายังสั่นไม่หายเลย แล้วไหนว่าวันเสาร์จะไปเที่ยวกับไอ้ไข่นุ้ย? แล้วนี่ทำมาเป็นชวนไปเลี้ยงข้าว มันมาหลอกผมนี่หว่าใช้ไม่ได้เลย! ก็คิดอยู่ว่าถ้ามันชวนอีกซักรอบสองรอบก็อาจจะพิจารณาตอบรับมันไป…เห็นว่ามันจะเลี้ยงหรอกนะถึงยอม
บ่ายวันเสาร์ผมก็ขี่ไอ้ลูกรักออกมาที่อู่ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยซักเท่าไร เจ้าของอู่เป็นเพื่อนไอ้โอมมัน มันเคยพามาแนะนำให้รู้จัก
“สวัสดีครับเฮีย”
“เออดี คันนี้เหรอวะที่จะเอาให้เปลี่ยนท่อ?”
“ครับ”
“รุ่นใหม่เลยนี่หว่า มึงลองมาเลือกดูว่าจะเอาแบบไหน?”
เฮียโต้งเจ้าของอู่ที่ผมเอารถมาเปลี่ยนท่อ เฮียแกเป็นเพื่อนกับไอ้โอม เห็นว่าสนิทกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยก็อย่างว่าไอ้โอมมันรู้จักตั้งแต่ภารโรงยันอธิการบดีแหละครับ มันใหญ่โตแถวนี้อยู่
“แล้วไอ้โอมมันเป็นไงบ้าง? กูไม่ได้เข้าไปร้านมันเลย”
“มันก็ยังไม่ตายนะครับเท่าที่เห็น”
“ฮ่าๆตลกนะมึงอ่ะ”
ก็จริงอ่ะครับก็ยังเห็นมันยังมีชีวิตอยู่ดี ก็ไร้สาระปัญญาอ่อนเหมือนน้องมันแหละ หลังจากดูลูกน้องเฮียเขาเปลี่ยนท่อให้เสร็จผมก็ได้ไอ้ลูกชายสุดหล่อคืน พอมีท่อใหม่มาเพิ่มก็รู้สึกว่าหล่อขึ้นอีกเป็นกอง พอขี่ออกมาซักพักก็เห็นท้องฟ้าเริ่มมืดสังสัยฝนทำท่าจะตกรีบกลับดีกว่าเดี๋ยวเปียกไข่
ผมจอดซื้อข้าวที่ร้านสะดวกซื้อก่อนกลับเพราะที่ห้องไม่มีอะไรกินเลย พอออกมาจากร้านก็เจอใครคนนึงยืนอยู่ข้างรถ ให้ตายสิวะ! นี่มันไม่มีที่ไปเลยรึไง?
“…”
“หึหึ…ไปสงกูหน่อย”
รอยยิ้แบบนี้อีกละ คิดว่าหล่อที่ยิ้มออกมาอย่านั้นน่ะ แบบนี้มันไม่ได้เรียกหล่อเฟ้ย! มันเรียกน่ารัก!! เฮ้ย!! ไม่ใช่ นี่ผมเป็นอะไรวะเนี่ย!!
“ไม่ไป”
“น่าไปส่งกูหน่อย เนี่ยฝนจะตกแล้วเนี่ย”
ผมเงยหน้ามองท้องฟ้า ก็จริงอย่างมันว่า แต่อย่ามาอ่อยกูซะให้ยาก วันนี้กูใจแข็งมากบอกเลย
“ก็เรื่องของมึงสิ”
ผมไม่สนใจขึ้นคร่อมรถแล้วสตาร์ท แต่รู้สึกว่ารถมันหนักขึ้น
“ไอ้โต๋มึงลงไป!”
“น่าไปส่งกูหน่อยนะ ถ้ามึงไม่ไปส่งกู กูจะไปบอกคนอื่นให้ทั่วเลยว่ามึงคือไอ้อ๋องร้านเหล้า”
“…”
แล้วผมจะทำอะไรได้! ถึงจะอยากจับมันโยนลงรถไปแค่ไหนก็ต้องอดทน เพราะความจนมันน่ากลัว…เอิ่มไม่ใช่ละ!
ผมสวมหมวกกันน็อกเสร็จก็บิดออกมาเลยไม่สนใจว่าไอ้ข้างหลังมันจะโวยวายขนาดไหน บิดมันเต็มที่เผื่อไอ้ตุ๊กแกมันจะล่วงลงไปเอง แต่ที่ไหนได้มันกอดเอวผมแน่นเลย แถมมือของมันยังเลื้อยเข้ามาในเสื้อผมอีก แถมมันยังลูบๆคลำแถวหน้าท้องผม จนผมต้องจอดรถแล้วเปิดหมวกกันน็อกมาด่ามัน
“เหี้ยโต๋!ถ้ามึงยังไม่เลิกลูบ กูจะถีบมึงลงรถกูแล้วนะ”
“แหม! แค่นี้ทำเป็นหวงตัว ทีมึงทั้งลูบทั้งขยำตูดกู กูยังไม่ว่าอะไรเลย!”
“…”
ไม่น่าเลยผม ไม่น่าหลวมตัวเลย นับวันมันนี่ยิ่งเอาใหญ่ซักวันเถอะผมจะต้องจัดการกับมันให้ได้!
“เปียกหมดแล้วมึงอ่ะ ขึ้นไปห้องกูก่อนมั้ย?”
พอถึงหอพักของไอ้ตุ๊กแกมัน มันก็อ้อยอิ่งกว่าจะยอมลงจากรถได้ อยากจะถีบมึงจริงๆ
“…ไม่”
มึงคิดเหรอว่ากูจะหลงเชื่อมึง? มึงจะหลอกกูไปขืนใจอะดิ กูรู้กูโดนมาหลายรอบละ!
“กูไม่ทำอะไรมึงหรอกน่า ไปเร็ว!”
“กูไม่ไป”
“มาเถอะน่า”
ไอ้ตุ๊กแกมันกระชากผมทั้งที่ใส่หมวกกันน็อกอยู่ แต่แรงมันดีฉิบหายกระชากผมให้เดินตามเข้าหอมันได้อ่ะ พอเริ่มคิดว่ามันจะทำอะไรผมอีกก็ชักจะหนาวๆร้อนๆขึ้นมาเลย
“อ่ะ! ผ้าเช็ดตัว มึงเช็ดตัวก่อนนะ เดี๋ยวกูหาเสื้อผ้าให้เปลี่ยน”
หืม? ผิดคาด คิดว่ามันจะกระชากผมเข้าไปจูบหรือผลักผมลงที่เตียงมันซะอีก รู้สึกผิดหวังเล้กน้อย อ่า…ไม่ใช่ละ ทำไมพักนี้ผมสติหลุดบ่อยๆวะ
แต่พอมองไปรอบๆห้องมัน ก็ดูกว้างดีนะ สะอาดด้วยทีไปห้องกูกินขนมทิ้งไว้เกลื่อนเลย
ผมก็เช็ดตัวอย่างลวกๆไมใช่อะไร ต้องมีสติไว้ก่อนเผื่อมันโจมตีจะได้ตั้งรับทัน
“อ่ะเสื้อ มึงเปลี่ยนก่อนเดี๋ยวเป็นหวัด อาทิตย์หน้ามีสอบ”
ไอ้ตุ๊กแกมันยื่นเสื้อยืดมาให้อย่างเดียว มันคงเห็นว่ากางเกงผมไม่ค่อยเปียกซักเท่าไร แต่เสื้อนี่สิมันเป็นสีชมพูนี่สิ ไม่ค่อยอยากจะรับมาใส่เลย ส่วนที่มันพูดว่าสอบคือสอบย่อยเก็บคะแนน แต่ง่ายโคตรผมไม่อยากจะคุย
“อ…อืม”
ผมรับเสื้อมาอย่างระมัดระวังตัวสุดๆ เสียวง่ะ
“ฮ่าๆ มึงไม่ต้องกลัวกูหรอกน่า”
“อ…อะไร กูกลัวอะไรมึง?”
“ก็ดูมึงทำหน้าเข้า วันนี้กูไม่ทำอะไรมึงหรอก”
“เอ้า!ไปเปลี่ยนเสื้อดิ”
ผมกางเสื้อดูเป็นไซส์แอล ปกติผมใส่ไซส์เอ็กซ์แอลนะ แล้วจะใส่ได้มั้ยวะเนี่ย!
“ใหญ่สุดแล้วน่ะ ลองใส่ก่อน”
มันพยักหน้าให้ผมลองใส่เสื้อสีชมพูหวานแหววของมัน น่ารักไปมั้ย…เสื้ออ่ะ
“ไม่มีสีอื่นเหรอ?”
ผมลังเล ปกติไม่ค่อยชอบสีนี้ซักเท่าไร ส่วนใหญ่เสื้อผ้าที่ผมมีมักเป็นสีดำ เทาหรือน้ำตาลอะไรอย่างนั้นมากกว่า
“ไม่มี เร็วๆชักช้ากูเปลี่ยนใจไม่รู้นะ”
มันทำท่าเดินเข้ามาใกล้ แถมยกมือขึ้นมาทำท่าเหมือนจะมาลูบอะไรผมอีก อย่าเข้าม๊า!เดี๋ยวกูก็ยอมอีกอ่ะ ผมรีบหันหลังถอดเสื้อตัวเองออกแล้วรีบใส่เสื้อของไอ้ตุ๊กแกมันทันที ทำลายสถิติโลกเปลี่ยนเสื้อเสร็จภายใน 5 วินาที
พอหันหน้ากลับไปมองก็เห็นไอ้ตุ๊กแกมันยิ้มหวานหยดย้อยเลย เป็นอะไรของมึงอี๊ก??
“มึง…ใส่เสื้อตัวนี้แล้วน่ารักดี…แต่ผิดไซส์ไปหน่อย”
ผมได้ยินมันชมว่าน่ารักแล้วรู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้ รู้สึกว่าโรคหัวใจที่ผมสงสัยว่ากำลังเป็น มันกำเริบอีกแล้ว…
เรายืนมองหน้ากันอยู่อย่างนั้น ในใจมันรู้สึกแปลบๆ ในท้องมันรู้สึกมวนๆ ในหัวรู้สึกมึนๆงงๆ ทำไมหลายอาการจังวะ! หลังจากที่ยืนทำใจสงบนิ่งซักพักก็มองออกไปนอกหน้าต่างห้องมันก็เห็นว่าฝนซาแล้ว
“กูจะกลับแล้ว…”
“อืม…ขอบคุณที่มาส่งนะ”
วันนี้มันแปลกจริงๆ ปกตินี่ลากผมขึ้นเตียงโบ๊ะบ๊ะไปแล้ว แต่วันนี้มันแปลกไม่เข้าใกล้ผมเลย ยืนยิ้มอยู่ห่างๆ หรือว่ามันจะเลิกบ้าแล้ว??
“อืม”
ผมเดินมาจากห้องไอ้ตุ๊กแก ก็เห็นผู้หญิงคนนึงยืนอยู่ที่บันไดทางขึ้น หน้าคุ้นๆเหมือนเคยเห็นที่ไหน แต่ก็ไม่ได้สนใจเดินผ่านลงมายืนที่รถ ฝนหยุดตกแล้ว ก้าวขาขึ้นรถแล้วก็เตรียมสวมหมวกกันน็อกก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนนึงพูดขึ้น
“น้องอ๋องใช่มั้ยคะ?”
ผมเงิยหน้ามองผูหญิงที่ถามในระยะไม่ไกลนัก ก็นึกขึ้นได้ว่าเป็นผู้หญิงที่เคยเลี้ยงเบียร์ผมที่ร้านแล้วก็นึกขึ้นได้อีกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นกิ๊กของไอ้ตุ๊กแกมัน…
“ไม่ใช่ครับ คุณคงจำคนผิด”
“พี่ว่าพี่จำไม่ผิดหรอกค่ะ”
“…”
อะไรของป้าครับ ผมยิ่งรีบๆอยู่ หน้าตาก็สวยดีอยู่หรอก แต่ไม่ต้องยิ้มหลอนขนาดนั้นก็ได้
“หรือจะให้พี่เรียกว่าน้องแว่นดีคะ?”
ฉิบหาย! ความแตกเหรอะวะ ?แต่ไม่น่าใช่ไม่น่าจะมีใครรู้ว่าผมคือไอ้แว่น
“ขอโทษนะผมรีบ คุณคงจำคนผิด”
“ไม่ผิดแน่นอนค่ะ เพราะพี่ได้ยินมาจากน้องโต๋”
ได้ยินมาจากไอ้ตุ๊กแก?? นี่มันเอาเรื่องผมไปเที่ยวเล่าให้คนอื่นฟังเรอะ? จะมากไปแล้ว! ผมก็ว่าแล้วว่าคนอย่างมันนี่เชื่อไม่ได้! เดี๋ยวเถอะมึง!
“คุณคงเข้าใจผิด ผมไม่รู้จักคนชื่อแว่นอะไรนั่น”
“ลักษณะน้องอ๋องกับน้องแว่นเหมือนกันหุ่นก็คล้ายกัน”
โหป้า!! จำแม้กระทั่งหุ่นกูได้? เอฟซีกูป่ะเนี่ย?หลอนเลย!
“ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดเรื่องอะไร ขอตัวก่อน”
แล้วผมก็บิดรถหนีมาเลย ไม่รู้ยัยป้านั่นจะเชื่อตามที่ผมปฏิเสธหรือเปล่า แต่ตอนนี้ต้องหนีมาตั้งหลักก่อน คิดแล้วก็โมโหอย่าให้กูเจอหน้านะไอตุ๊กแกตัวแสบจะเอาให้ยับเลยคอยดู!!

จบตอนที่ 12

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ MJTogether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
:pig2: :pig2: :pig2: :pig2:

ตอนที่ 13 กูไม่รู้ กูเปล่า...(พาร์ทโต๋)

              หลังจากที่ไอ้อ๋องกลับไปแล้ว ผมก็กลับมาหายใจสะดวกอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านั้นมันรู้สึกหายใจหายคอไม่ค่อยสะดวก จริงๆก็เป็นแบบนี้มาหลายวันแล้วเพราะอะไรน่ะเหรอ? ก็เพราะว่าผมหลงมันไปแล้วน่ะสิ แต่ก็ไม่รู้ว่าความหลงนี้มันจะเหมือนความรักรึเปล่า…เพราะผมไม่เคยรักใครแล้วเรื่องนี้ทำให้ผมคิดหนักยิ่งกว่าคิดเรื่องการเรียนซะอีก เอาเป็นว่าผมหลงมันจริงๆเข้าแล้ว แต่หลังจากที่รู้ตัวว่าสะดุดลงหลุมไอ้อ๋องไปแล้วก็อยากจะทึ้งหัวตัวเองให้ตาย จากที่จะแก้แค้นตอนที่ถูกวางยาแล้วเผลอไปมีอะไรกับมัน ก็ดันกลายเป็นหลงไหลมันเข้าให้แล้ว ไม่อยากจะยอมรับแต่มันก็เป็นไปแล้วจริงๆ
   กลายเป็นว่าตอนนี้สายตาของผมก็จับจ้องอยู่แต่ที่มันตลอด แม้ว่าในห้องเรียนมันจะทำตัวซกมกๆ ใส่แว่นหนาเตอะ แต่งตัวเชยๆแต่ผมก็รู้ว่าภายใต้รูปเงาะนั้นมันมีเทพบุตรสิงอยู่ เอ่อ…มันเป็นคำเปรียบเปรยนะครับ ไอ้อ๋องมันยังไม่ตาย… ผมถึงขั้นลงทุนคอยแอบเดินตามมันไปทุกที่ แอบเอากุญแจห้องมันที่ผมเอาไปปั๊มไขเขาไปขโมยบ๊อกเซอร์ของมันมา อย่าหาว่าผมโรคจิตนะครับ แค่อยากเก็บไว้เป็นที่ระทึก เอ้ย!ระลึกเฉยๆ
   จริงๆผมก็ไม่รู้ว่าไปแอบหลงมันตอนไหนและได้ยังไง เพราะปากมันหมามาก อยากจะพาไปหาหมอให้ผ่าเอาหมาในปากมันออกอยู่เหมือนกันแต่ไม่กล้ากลัวมันถีบเอา จะว่าชอบนิสัยมันก็คงไม่ใช่อีก เพราะมันก็ไม่ได้นิสัยดีอะไรเลย ผมไม่เคยเห็นมันจะช่วยเหลืออะไรใครซักคน ยิ่งถ้าเจอเด็กหกล้มร้องให้อยู่มันคงเตะซ้ำเข้าให้ แล้วถ้าพูดถึงเรื่องลีลาบนเตียงยิ่งไม่ได้เรื่องเข้าไปใหญ่ต้องคอยให้ผมขึ้นให้ตลอด ผมเดาว่ามันยังซิงแล้วผมก็คงเป็นคนแรกของมันแน่ๆ ส่วจูบมันก็จูบไม่ได้เรื่องเลยกลายเป็นผมนี่นำให้ตลอด แต่พอครั้งที่สองมันเริ่มเก่งไอ้นี่มันหัวไวจริงๆ ผมคงต้องสอนมันบ่อยๆ แต่เอาเป็นว่าข้อสันนิษฐานที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นไปได้มากที่สุดก็น่าจะเป็นหน้าตาแล้วก็หุ่นมันนี่แหละครับ หุ่นมันแซ่บอย่าบอกใครเลย หน้าอกมันโคตรแข็ง วีเชฟคือแบบทำให้น้ำลายหกเลือดกำเดาพุ่งมากครับ แต่ส่วนที่เร้าใจผมที่สุดๆก็คงเป็นซิกแพคของมันเพราะโคตรเซ็กซี่เลย มันแบบแข็งปั้กเลย ลูบแล้วเพลินมือดีฉิบหาย ผมได้ลูบหลายทีละติดใจสุดๆ
“เป็นอะไรวะไอ้โต๋?
มึงทำหน้าแบบโคตรฟินอ่ะ นึกถึงใครอยู่วะ?”
“ก็นึกถึงคนที่กูกำลังจีบอ่ะดิ”
ตอนนี้ผมไม่ได้ปิดบังอะไรไอ้พวกนี้มันแล้ว เพราะถามมากน่ารำคาญเหลือเกิน แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นใครเดี๋ยวพวกมันตกใจ แล้วก็ยังไม่อยากยอมรับเท่าไรว่าแอบหลงไอ้อ๋องมันจนหัวปักหัวปำ กลัวเสียฟอร์มเพราะปกติแล้วมีแต่คนมาแอบชอบผมกันทั้งนั้น
“เป็นไงวะ ไหนเล่าดิ?”
“ก็ไม่ยังไงเขายังไม่ชอบกูหรอก”
“เป็นไปได้เหรอวะที่มีคนไม่ชอบมึงเนี่ย?”
มีสิวะ! ก็ไอ้อ๋องนี่ไง ด่ากูยังกะอะไรดีรังเกียจกูจะตาย ที่กูได้มัน 2-3 ครั้งนี่กูเริ่มก่อนตลอด
“กูก็คนป่ะ มันก็ต้องมีแหละคนที่ไม่ได้ชอบกู”
“แล้วไงมึงยอมเหรอหรือมึงจะเลิกจีบ?”
“ไม่ได้เลิก กูต้องวางแผนก่อนดิ”
เพราะก่อนหน้านี่ผมก็ได้ไปแอบรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับไอ้ท่านอ๋องสุดหล่อไว้หมดแล้วครับ หลังจากนี้ผมก็จะดำเนินการตามแผนของผมที่วางไว้ ต้องอ่อยให้มันเสร็จผมให้ได้ ยังไงผมก็ถอยไม่ได้แล้ว ผมต้องเอามันมาเป็นของผมให้ได้
“น้องโต๋พี่มีเรื่องอยากถามค่ะ?”
พี่เชอร์รี่อดีตกิ๊กเบอร์สองของผมเองครับ ที่ต้องบอกว่าอดีตเพราะว่าหลังจากได้กับไปอ๋องครั้งแรกผมก็ไม่เคยไปมีอะไรกับใครอีกเลย ผมตัดบรรดากิ๊กของผมออกจากกองมรดกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“มีอะไรเหรอครับ?”
“คือพี่ถามหน่อยค่ะ น้องแว่นกับน้องอ๋องนี่คนเดียวกันใช่มั้ยคะ?”
“…”
ฉิบหายพี่เชอร์รี่รู้ได้ยังไงวะ? ผมยังไม่เคยเอาไปพูดกับใครเลยนะ
“พอดีพี่ได้ยินน้องโต๋คุยกับน้องแว่นอ่ะค่ะ”
“ครับ? เอ่อ…ผมว่า…พี่น่าจะได้ยินผิดหรือไม่ก็เข้าใจผิด”
“แต่พี่ได้ยินน้องโต๋เรียกน้องแว่นว่าอ๋อง”
ซวยจริงๆละ พี่แกได้ยินจริงๆด้วย ทำไงล่ะทีนี้
“เอ่อ…คือ”
“คือพี่ก็ไม่ได้อะไรหรอกค่ะ พี่แค่…อยากได้เบอร์น้องอ๋อง พี่อยากคุยน่ะค่ะ”
ไม่ได้นะ พี่จะมาแย่งของผมไม่ได้ ผมเจอก่อนแล้วก็เยี่ยวรดจองไว้แล้ว ถึงมันจะไม่ใช่…เยี่ยวก็ตาม
“พ…พี่อยากจะคุยกับมันเรื่องอะไรเหรอครับ”
พี่เขาคงอยากคุยแบบน้องชายมั้ง พี่เขาไม่มีน้องชายนี่นา ฮ่าๆ กูก็คิดมาก
“พี่จะจีบค่ะพี่ชอบน้องเค้า”
“ไม่ได้!”
“อะไรนะคะ?”
“เอ่อ…คือ ผ…ผมว่าพี่เข้าใจผิดแล้วครับ สองคนนั้นมันคนละคนกัน ไม่เห็นเหมือนกันเลย”
“แล้วน้องโต๋สนิทกับน้องอ๋องมั้ยคะ”
“ม…ไม่ครับ”
ไม่เลยครับแค่เคยเอากัน 2-3 ครั้งเองครับ ตอนนี้อยากสนิทมากติดที่ว่ามันชอบเดินหนีนี่แหละครับ
“จริงเหรอคะ?”
“ค…ครับ”
“แต่พี่เห็นน้องอ๋องเดินออกมาจากห้องน้องโต๋เมื่อวาน”
“ห๊ะ…เอ่อ ม…ไม่ใช่หรอกครับ พี่เชอร์รี่คงตาฝาดล่ะมั้งครับ”
พี่ก็อย่าถามกูเยอะสิ เดี๋ยวกูหลุด ถ้าไอ้อ๋องรู้เข้ามันกระทืบกูตายแน่ อดได้ลูบหน้าท้องแน่นๆของมันอีกแน่นอนครับ
“แน่ใจเหรอคะว่าไม่ได้โกหกพี่”
“น…แน่ครับ”
“พี่ต้องตามสืบให้ได้ เพราะคนนี้พี่อยากได้มากว่าแต่น้องโต๋ช่วงนี้ไม่โทรหาพี่เลยค่ะ”
“เอ่อ…พอดีผม…ผมมีคนที่กำลังจีบอยู่ครับ”
ผมตัดสินใจบอกพี่แกไป เพราะยังไงซะก็คงไม่กลับไปซบอกพี่เขาแล้ว เห็นผมแรดๆแบบนี้ผมก็จีบทีละนะครับ แต่เรื่องถูกจีบก็อีกเรื่อง ภูมิใจแทนพ่อแม่จริงๆ
“เหรอคะ?…อืมเสียดายเนอะ ถ้าอกหักก็ติดต่อพี่ได้นะคะ พี่ยินดีปลอบใจให้ค่ะ”
ที่พี่แกยอมปล่อยผมง่ายๆก็คงเพราะตอนที่จะคบกันก็ตกลงกันไว้ว่าถ้าหากเจอคนที่ใช่ ก็ตัวใครตัวมันได้เลยไม่มีข้อผูกมัด
“ค…ครับ”
“พี่ไปก่อนนะคะ จะไปตามสืบเรื่องของน้องอ๋องต่อ ว่าแต่น้องแว่นกับน้องอ๋องนี่ไม่ใช่คนคนเดียวกันแน่เหรอ?”
“จ…จริงครับ ร้อยเปอร์เซ็นต์ พี่ก็ดูไอ้แว่นมัน เฉิ่มเชยจะตายไม่เห็นเหมือนไอ้อ๋องซักนิด”
“อืทม…พี่ก็ว่างั้นแหละ ไม่เห็นเหมือนเลยเนอะ!”
ยังดีน้าที่พี่เชอร์รี่ไม่ค่อยฉลาด แกเลยเรียนก็ไม่ค่อยเก่ง มีดีที่สวยอย่างเดียว
‘Rrrrrrrrrr’
   เบอร์ใครวะแปลกๆพวกโรคจิตปะเนี่ย แต่อย่าคิดว่าผมจะกลัว ผมตอกกลับมาหลายรายละไอ้พวกนี้ บอกเลยผมไม่อ่อน
“ใครครับ?”
[กูเอง!]
แหม! เสียงดุจริงวุ้ยไอ้พวกโรคจิตเนี่ย
“กูไหนครับ ไม่มีเพื่อนชื่อกูครับ โทรผิดรึเปล่าครับ?”
[…]
“ไอ้โรคจิต ถ้าไม่พูดกูจะวางล่ะนะ”
[กูเอง…อ๋อง]
“หืม? อ๋อง? ม…มีอะไรครับ?”
เปลี่ยนเป็นเสียงสองให้ไว ดีใจจนน้ำตาจะไหล ไอ้อ๋องโทรหา ความรักของผมคงจะสมหวังแล้วสินะ สวรรค์ช่างมีตารับรู้ความดีของผม
[มาหากูที่ห้อง…]
“ม…มีอะไรรึเปล่า?”
อย่าบอกนะวะคิดถึงผม อยากเจอ? ติดใจ? อร๊ายยยเขินอ่ะตัวเอง!
[เดี๋ยวนี้!]
‘ตื๊ดๆๆๆ’
อะไรวะ? พูดยังไม่ทันรู้เรื่องก็วางสาย คิดว่าหล่อจะทำยังไงก็ได้เหรอ? คิดว่าหุ่นดีเซ็กซี่จะสั่งกูยังไงก็ได้ใช่มั้ย?? ได้!! กูจะไปหาเดี๋ยวนี้แหละครับดีใจจนเนื้อเต้นเลยหว่ะ แวะซื้อถุงยางซักล่องดีกว่า…หรือว่าจะเอาสองกล่องดี เอาแบบ 0.01 มันจะชอบมั้ยน้า??
‘ก๊อกๆ’
“เข้ามา”
ทำมาเสียงเข้ม จริงๆก็อยากเจอกูเถอะ ปากแข็งอยู่ได้ตั้งนานไอ้หล่อเอ้ย!
“มึงเรียกกูมามีอะไร?”
ต้องวางฟอร์มไว้ก่อน ทำให้มันรู้ว่าผมไม่ไช่ขี้ไก่ แต่ก็เป็นขี้เป็ด แฮร่! แต่หน้าตามันดูน่ากลัวอ่ะ กูรู้ว่ามึงหล่อมากแต่ไม่ต้องเก๊กหน้าขนาดนั้นก็ได้ป่ะวะ กูชักเริ่มกลัวแล้ว ไม่เล่นนะ SM เพลย์อ่ะ กูกลัวเจ็บ…
“มึงเอาเรื่องของกูไปพูดใช่มั้ย?”
“ร…เรื่องอะไรของมึง?”
เรื่องอะไรล่ะ เรื่องที่มึงเอากูไปแล้ว 2 ครั้ง เรื่องที่มุมตึกหรือเรื่องซิกแพคของมึงล่ะ? กูไม่เคยเอาไปเล่าเล้ยย กูกะจะเก็บไว้ดูคนเดียว…
“ก็เรื่องที่กูปลอมตัวอยู่เนี่ย!”
มันตบโซฟาดังปุ๊เลย ไม่ได้เชิญกูนั่งใช่มั้ย?
“ก…กูไม่ได้พูด”
อย่าแยกเขี้ยวกูกลัวแล้ววว
“แล้วเด็กมึงรู้ได้ยังไง?”
“ด…เด็กไหน พ…เชอร์รี่อ่ะเหรอ?”
อ๋อย! น่ากลัวอ่ะ มันกัดฟันดังกรอดๆแล้วอ่ะ ทำท่าเตรียมพร้อมจะกระโดดกัดคอกูแล้ว! อย่านะ! ถ้าจะกัดกูกูให้กัดปากไอ้อย่างเดียวนะ
“อ่อ…มึงก็รู้นี่ว่าใคร”
“ก…กูไม่ได้พูดนะ กูไม่เคยพูด”
“มึงออกไปจากห้องกูเดี๋ยวนี้!”
เอ้ามาไล่กูอีก! ฮึก…กูจะร้องแล้วอ่ะ ทำไมไม่เชื่อกูอ่ะ? กูยังไม่เคยเอาไปพูดเลย
“กูบอกให้ออกไป!”
มันตะคอกอีกรอบ แม่ง! ไอ้หน้าหล่อใจเหี้ยม ไอ้หุ่นดีเซ็กซี่แต่ไม่มีน้ำใจ อย่าตะคอกดังน้ำตากูจะไหล
“…”
“กูบอกไว้ก่อน ฮึก…ว่ากูไม่ได้เป็นคนพูด ฮือๆ กูบอกมึงแล้วว่ากูจะไม่พูด กูก็ไม่พูด ฮึก…ฮือๆ”
ไม่ไหวละบ่อน้ำตาแตก กั้นเอาไว้ไม่อยู่จริงๆ มันคงเห็นว่าผมเป็นคนที่ไว้ใจไม่ได้ เออสิ! กูมันเลวขืนใจมึงก่อนไง! ไม่มีอะไรดีอยู่แล้วนี่!
“…”
“ใช่ซี้กูมันเลวไง ฮึก…ใจง่ายยอมมาให้มึงเอาถึงที่นี่ มันก็เหมือนไม่มีค่าอะไรอยู่แล้วนี่ ฮือๆ”
ผมร้องไห้โดยที่ไม่อายมันเลย น้ำหูน้ำตาไหลพราก รู้สึกเค็มๆในปากไม่รู้ว่ารสชาติน้ำตาหรือน้ำมูก แต่ช่างมันเถอะ ในเมื่อมันก็เคยเห็นผมในสภาพแย่ๆมาแทบทุกอย่างแล้ว ผมก็จะไม่อายอะไรมันแล้ว ผมกำลังจะเดินออกมาแต่ยังไม่ลืมเอากล่องถุงยางที่ซื้อมาขว้างใส่หน้ามัน กล่องปลิวไปโดนหัวคิ้วมันดังปั่ก ช่างแม่งสมน้ำหน้ามัน ขอให้คิ้วแตกหมดหล่อไปเลย
“เดี๋ยว!”
อย่ามาง้อกูซะให้ยากบอกเลยตอนนี้กูใจแข็งมาก ถ้าจะง้อกูต้องจูบกูก่อน
“อ…อะไร?”
ผมสูดน้ำมูกดังฟืดก่อนที่จะถามมัน แล้วรีบถกเสื้อเช็ดน้ำตาเผื่อมันเข้ามากอด น้ำตาจะได้ไม่เปียกเสื้อมัน นี่กูหวังดีหรอกนะ
“เอากุญแจห้องที่มึงแอบเอาไปปั๊มคืนมาก่อนค่อยไป”
“ฮือๆ ไอ้เชี่ย! แม่ง!”
ผมล้วงกุญแจในกระเป๋ากางเกงปาใส่หน้ามันทันที แต่มันเสือกหลบได้ กูไม่เอาแล้วก็ได้ไอ้เลวหน้าหล่อชอบทำร้ายจิตใจกู กูอุตส่าห์พกลูกกุญแจกับบ๊อกเซอร์มึงติดตัวตลอด แล้วมึงทำอย่างนี้กับกูได้ไง??
ผมรีบวิ่งออกมาจากห้องมัน คิดว่าจะเริ่มตัดใจจากมันละ ไม่เอาแล้วก็ได้ไอ้คนหล่อหุ่นเซ็กซี่เนี่ย
พอกลับมาถึงหอแล้วดูหน้าตาในกระจก โห!ดูไม่ได้เลยหมดสภาพคนหน้าตาดีของโลกนี้ไปเลย เพราะมันคนเดียวไอ้แว่นอ๋อง อย่าให้กูเลิกชอบมึงได้นะ แม่ง!กูจะต่อยให้ปากแตกเลย
“มึงเป็นอะไรวะไอ้โต๋ ตาบวมมากนี่มึงร้องไห้เหรอ?”
“เปล่า…กูนอนดึก”
กูไม่ได้นอนเถอะ หลังจากกลับจากห้องไอ้อ๋องคืนวันเสาร์ก็นอนไม่หลับลากยาวยันวันอาทิตย์ น้ำก็ไม่ได้อาบ นอนร้องไห้จนตาบวมปูดเป็นลูกมะนาว พอวันจันทร์มาก็เจอไอ้พวกขี้เสือกถามจนได้
“ทำอะไรวะหรือว่ามึงแอบไปหาสาวที่ไหน?”
“เออ! กูว่าละมึงจะชอบใครจริง เดี๋ยวก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก”
“จ๊ะจ๋า…ในสายตาพวกมึง กูมันเลวขนาดนั้นเลยเหรอวะ?”
“ห๊ะ…เอ่อ ก็ไม่นะ”
ผมจงใจพูดดังๆให้ไอ้แว่นอ๋องมันได้ยิน ผมรู้ว่ามันได้ยินเรื่องที่ผมคุยกันตลอดแหละ แล้วผมก็รู้ว่ามันคิดว่าผมเลว หลายใจ ชอบมั่วกับคนอื่นไปทั่ว
“ใช่ซี้ก็กูเลวจริงถึงแม้กูจะกลับตัวกลับใจได้ก็ไม่มีใครเชื่อกูอยู่ดี”
“ก…ก็ไม่ขนาดนั้น มึงเป็นคนดีนะหลายอย่างเลย ชอบช่วยเหลือเพื่อนไง”
“ใช่ๆมึงรักสัตว์”
ไอ้บดินทร์ไอ้ไข่นุ้ยรีบช่วยกันชื่นชมผมกันใหญ่คงกลัวผมโกรธ แต่ก็จริงนะครับ ผมเป็นคนจิตใจดีนะ เห็นใครลำบากก็ช่วย เห็นแมวจรก็ยังช่วยเลยใจดีจะตาย ผิดกับไอ้แว่นอ๋องที่มีดีแค่หล่อ เอ่อ…แล้วก็เรียนเก่ง อืมแต่มันก็ชงเหล้าเก่งด้วยนี่หว่า เฮ่ยๆไม่ใช่ๆ อย่าไปชมมันก็โกรธมันอยู่
“หรือว่ามึงอกหักรักคุด? ปรึกษากูได้นะ”
“มึงยังไม่มีแฟนเถอะอีจ๊ะจ๋า”
“เออ! แต่ทฤษฎีกูแน่นมาก”
“แล้วมึงจะทำยังไงถ้ามีคนเข้าใจมึงผิด?”
“ก็บอกความจริงเข้าไปดิมันจะยากอะไร”
“ถ้าบอกแล้วมันไม่เชื่อ?”
“มึงก็จับกดไปเลย”
อันนี้อีจ๊ะจ๋าไม่ได้พูด เป็นไอ้บดินทร์มึงคิดว่ากำลังเล่นมวยปล้ำอยู่หรือไง หรือมึงกำลังเล่นซู่โม่แต่น่าจะเป็นอย่างหลังเพราะหุ่นมึงให้
‘ผัวะ’
“มึงตีกูทำไมเนี่ย?”
“แนะนำไม่ได้ก็ไม่ต้องเสือกพูด”
ไอ้ไข่นุ้ยบ้องหูไอ้บดินทร์ไปทีนึง ผมล่ะสะใจฉิบหาย ลองให้ผมจับไอ้อ๋องกดมันได้กระทืบผมแบนแต๊ดแต๋ แต่มันก็มีวิธีอยู่เหมือนกัน อย่างไอ้อ๋องผมรู้จุดอ่อนมันดี แต่งอนอ่ะตอนนี้ยังไม่อยากใช้วิธีนั้นเลย
“แล้วมึงจะเอายังไงต่อ?”
จ๊ะจ๋ามันหันมาถาม ในกลุ่มผมนอกจากผมที่ดูปกติสุดก็จะมีอีจ๊ะจ๋านี่แหละที่พอจะเป็นที่พึ่งของเพื่อนๆได้
“ยังไม่รู้เลย…”
   ใช่ครับผมยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อ คงต้องรอให้ไอ้อ๋องมันหายโกรธก่อนค่อยเดินหน้าต่อ ไอ้ที่ผมร้องโวยวายก็ไม่ได้จะเลิกชอบมันจริงๆหรอก เพราะถ้าเลิกชอบคนคนนึงง่ายๆขนาดนั้น ก็ไม่มีใครเขาอกหักกันหรอก แต่ถ้ามันถึงขีดสุดแล้วจริงๆก็คงต้องตัดใจ
   ผมเดินผ่านหน้ามันไปเพื่อจะเดินไปกินข้าวที่โรงอาหาร ผมแอบเหล่แล้วเห็นว่ามันมองผมด้วยหางตาทะลุแว่นออกมาเลย มันคงโกรธผมมากจริงๆ เพราะปกติมันจะไม่สนใจใครหรือมองใคร แต่คราวนี้มันมองผม ผมก็ทำเป็นไม่สนใจบ้าง แต่ในใจนี่เจ็บแปล๊บๆเลย แอบชอบใครแล้วเขาไม่ชอบตอบนี้มันก็เจ็บเหมือนกันนะครับ ผมเข้าใจหัวอกคนที่แอบชอบผมแล้วผมไม่เล่นด้วยแล้วล่ะ กรรมมันคงสนองผมเข้าให้แล้ว…

จบตอนที่ 13


:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ tiger2006

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 334
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ MJTogether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
:pig2: :pig2: :pig2: :pig2:

ตอนที่ 14 ขาสั่นระริกเลยผม


   ชีวิตผมกลับมาปกติอีกครั้งเพราะมีความรู้สึกว่าไม่มีใครมาคอยตามหลอกตามหลอนอย่างเคย บางทีไอ้คนที่ตามผมมันอาจะเบื่อเลยเลิกตามไปเองแล้ว เพราะที่ไปผมไม่เยอะ ไม่ที่มหาวิทยาลยก็ร้านเหล้ามีอยู่แค่นี้แหละ แล้วลูกกุญแจผมก็ยึดคืนมาจากไอ้ตุ๊กแกแล้ว คงไม่มีใครแอบเข้ามาขโมยบ๊อกเซอร์ผมอีก หวังว่ามันคงไม่ปั๊มไว้หลายดอกหรอกนะ
   ตั้งแต่เกิดมาครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่มีคนทำให้ผมโกรธได้มากขนาดนี้ ครั้งแรกสมัย ม.6 ที่ถูกรุ่นพี่กระเทยที่เรียนจบไปแล้วแอบตามติดชีวิตผม แม่งตามผมทุกที่ ไปเรียนก็ตามกลับหอก็ตาม ขนาดผมไปเดินห้างมันก็ยังตามอีก เรียกได้ว่าตามหลอกตามหลอนหลอนทุกที่ พอผมจับได้ก็สารภาพออกมาว่าแอบชอบผม พอผมปฏิเสธมันก็เลยไปตามพวกที่เป็นกระเทยกับเกย์อีกหลายคนมาทำร้ายผม ผมก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรกับคนกลุ่มนี้แค่คิดว่าพอถูกปฏิเสธก็ถึงกับต้องพาพวกรุมทำร้ายมันไม่แฟร์สำหรับผมเลย แต่หลังจากนั้นผมก็กระทืบพวกนั้นจนหมอบแล้วพวกมันก็ไม่โผล่มาให้เห็นอีกเลย แต่ก็เกือบจะมีเหตุการณ์ซ้ำๆแบบนั้นอีกหลายรอบ ทั้งรุ่นน้องที่โรงเรียนแอบดักรอตามซอกตึก เพื่อนต่างโรงเรียนมาดักรอที่หน้าโรเงเรียนบ่อยๆ มีทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่เข้ามาวุ่นวายทำเอาผมประสาทแดกเป็นปี พอเข้ามหาวิทยาลัยผมก็เลยเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อหลบหนีจากบุคคลเหล่านั้นซะเลย
“วันนี้ไอ้โต๋มันไม่มาเรียนอีกแล้วเหรอ?”
“อืม”
“อะไรวะ! อาทิตย์นี้มันมาเรียนวันเดียวเองนะ”
“มันบอกว่าไม่สบาย กูว่าวันนี้กูจะไปแวะดูมันซักหน่อย”
“เอ้า! ก็มึงหอเดียวกันทำไมถึงเพิ่งจะคิดได้?”
“กูก็ตะโกนถามมันทุกวันแหละ มันก็บอกว่าไม่เป็นอะไร บอกกูไม่ต้องสนใจไง”
“นี่มึงเพื่อนมันป่ะเนี่ย?”
“แล้วมึงก็เพื่อนมันปะ?”
ผมเดินหนีออกมา ไม่ได้อยากได้ยินชื่อมัน ฟังแล้วสแลงหู ไปดีกว่าเดี๋ยวกินข้าวไม่อร่อย
“ไอ้อ๋องไปเอาเบียร์มาเพิ่มลังนึงดิ”
“ไอ้อาร์ทมึงไปเอามา”
“เชี่ยไร! ไอ้โอมมันใช้มึงอ่ะ”
“งั้นไอ้อาร์ทมึงไปเอามาสองลัง”
“ทำไมใช้กูอีกแล้วอ่ะ?”
“ก็มึงโง่สุด”
“อะไรวะ มึงเป็นพี่กูป่ะเนี่ยไม่อ่อนโยนเลย ใช้แต่กูตลอด”
ผมเบื่อไอ้สองตัวนี้ฉิบหาย มันกัดกันมาเป็นชั่วโมงแล้วไม่เหนื่อยมั่งรึไง? คนยิ่งหงุดหงิดๆอยู่ แล้วทำไมไอ้ตุ๊กแกมันไม่มาร้านเลยวะ? เรียนก็ไม่เข้า ผมว่ามันคงโกรธผมเหมือนกันแหละ เพราะวันที่ผมโทรเรียกมันมาที่ห้องผมก็พูดใส่มันไปแรงอยู่เหมือนกัน มันเลยร้องห่มร้องไห้เหมือนสัตว์เลี้ยงมันโดนรถชนตายขนาดนั้น ตอนนั้นผมแอบเห็นมันเช็ดขี้มูกขี้ตาแล้วก็น่าขำฉิบหายแต่ผมโกรธมันมากกว่าไงตอนนั้น เวลามันเดินผ่านผมก็ยังไม่อยากจะมองหน้ามันเลย ที่ผมอยากจะเจอมันตอนนี้นี่อยากด่ามันหรอกนะไม่ใช่อะไร…
“เดี๋ยวกูกลับก่อนนะ กูมีธุระ”
“ไปไหนวะไอ้หล่อดึกๆดื่นๆ?”
“เสือก!”
“แงง! ทำไมพวกมึงไม่มีใครอ่อนโยนกับกูเลยซักคน น้อยใจอ่ะ”
“…”
“เดี๋ยวกูถีบไปปิดร้าน!”
หลังจากออกมาหลังร้านผมก็รีบสตาร์ทรถออกมาทันที ตั้งใจว่าจะไปด่าไอ้ตุ๊กแกมันที่หอให้หายโมโหซักหน่อย แต่รู้สึกว่าในกระเป๋ามีอะไรตุงๆ อ่อ…กล่องถุงยาง แม่ง! ไอ้ตุ๊กแกมันก็เหลือแดกจริงๆ ก็วันที่มันมาที่ห้องผมแล้วร้องโวยวาย ก่อนมันจะกลับก็ขว้างไอ้กล่องถุงยาง 0.01 มาโดนหัวผมดังปั๊กเลย ผมเลยจำใจเก็บไว้จะทิ้งก็เสียดายของ เพราะมันก็ไม่ใช่จะถูกๆ ผมยังต้องเก็บตังค์ไว้ซื้อคอนโดอีก เลยเก็บเอาไว้เองก็แค่…เผื่อได้ใช้ไง
‘ก๊อกๆ’
ตอนนี้ผมยืนอยู่หน้าห้องไอ้ตุ๊กแกมัน อย่างที่บอกกะจะมาด่ามันเฉยๆที่เอาเรื่องผมไปพูด แล้วก็จะด่าต่อเรื่องที่มันไปยอมไปเรียนแค่นั้นเองไม่มีอะไรเลยจริงๆนะ
“ใครครับ? ไอ้ไข่นุ้ยเหรอ? กูไม่เป็นไรมึงไม่ต้องเข้ามาหรอก กูขี้เกียจเปิดประตู”
“…”
“ถ้าขายประกันผมไม่ซื้อนะครับผมมีแล้ว”
“กูเอง!”
“กูไหนครับ ผมไม่มีเพื่อนชื่อกู”
เหมือนเดจาวู แค่เดินมาเปิดประตูนี่มันยากตรงไหน??
‘ปึง!’
ผมเลยเตะประตูแม่งเลย คนยิ่งโมโหๆอยู่
“เชี่ยแม่ง? จะเตะทำไมวะ? ถ้าประตูกูพังจะทำยังไง?”
ไอ้ตุ๊กแกมันเปิดประตูออกมา ในสภาพที่ค่อนข้างเยิน ผมเผ้ายุ่งเหยิง ตาแดงกล่ำแถมปูดเป็นลูกมะนาวอีก แต่พอมันเห็นว่าเป็นผมตามันก็เบิกกว้างกว่าเดิม
“ม…มึงมาทำไม?”
“…”
มันทำท่าจะปิดผมเลยเอาตีนยันประตูไว้ ดีนะวันนี้ผมใส่รองเท้าผ้าไป ไม่ใช่หูหนีบไม่งั้นตีนแตกไปแล้ว ผมก้าวเข้าไปในห้องมันแล้วปิดล็อกประตู
“ม…มึงอย่าเข้ามานะ! กูโกรธอยู่”
“…”
ควรจะเป็นกูมั้ยครับที่โกรธฦฦ ผมเดินเข้าไปใกล้มัน มันทำหน้าตื่นๆแล้วถอยหลังจนติดผนังห้อง
“ทำไมมึงไม่ไปเรียน?”
“เรื่องของกู! มึงจะถามทำไม?”
“กวนตีนนะมึงอ่ะ”
มันทำท่าจะเบี่ยงตัวหลบ ผมเลยใช้สองแขนยันผนังห้องกั้นไม่ให้มันหนี ไอ้ตุ๊กแกมันหน้าแดงผมว่ามันคงโกรธผมมากแน่ๆ
“แล้วมึงจะทำไม?”
เสียงมันเริ่มแผ่วเบาลง แต่ผมก็ได้ยินชัดเจนเพราะหน้าของเราห่างกันไม่ถึงคืบ
“ทำไมมึงต้องเอาเรื่องกูไปพูด?”
ผมต้องพยายามพูดออกไปไม่ให้เสียงสั่น เพราะตอนนี้ในใจผมแกว่งฉิบหาย
“กูไม่ได้พูด!”
“น้ำหน้าอย่างมึงมันเชื่อได้เหรอ?”
ไอ้ตุ๊กแกมันเม้มปากแน่น จนริมฝีปากมันเริ่มซีดแล้ว
“ไม่เชื่อก็เรื่องของมึง แต่กู ไม่ ได้ พูด”
“…”
มันพูดเน้นที่ละคำ หน้ามันแดงจัด จนลามไปถึงหูแล้วก็ลำคอที่เคยขาวๆของมัน มันคงจะโกรธจัด ผมว่าปากมันเริ่มสั่นแล้วด้วย  พอเห็นปากแดงๆของมันขยับ ใจที่เริ่มแกว่งๆของผมมันก็ดันเต้นแรงขึ้นมาซะงั้น ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ ผมแกล้งขยับเข้าไปเบียดมัน จนไม่เหลือช่องว่างระหว่างเรา ผมได้กลิ่นสบู่จากตัวมันหอมอ่อนๆ มันคงเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ
“ม…มึงจะทำอะไร?”
มือของมันดันอยู่ที่หน้าอกผม ผมก็เลยคว้าเอวมันให้กระชับเข้ามาอีก ตามันเบิกกว้างกว่าเดิมคงจะตกใจ ผมว่าไอ้ตุ๊กแกตอนที่มันดูตื่นๆน่ารักกว่าตอนที่มันยั่วยวนผมอีกนะ
“แล้วมึงคิดว่ากูจะทำอะไรหล่ะ?”
ผมกระซิบที่ข้างหูมัน ผมเริ่มไล้เลียติ่งหูมันเบาๆตัวมันสะดุ้งเล็กน้อย
“อ๊ะ!”
“หึ!”
มันส่งเสียงร้อง ผมใช้มือทั้งสองข้างตะปบที่สะโพกมัน แล้วบีบขยำหนักๆหลายครั้ง ตูดมันโคตรเด้งเลย เพลินมือดีจริงๆ
“นี่…มึงอย่านะ!”
ไอ้ตุ๊กแกมันร้องท้วง ผมเลยล้วงเข้าไปในกางเกงผ้าของมันคราวนี้ได้สัมผัสตรงๆ เลยทำให้รู้ว่าตูดของมันนอกจากจะเด้งสู้มือดีแล้วยังเนียนอีกต่างหาก ผมชักจะติดใจแล้วจริงๆ
“ทำไม? ทำยังกะมึงไม่เคย”
“มึงคิดจะทำอะไร?”
“ก็จะเอามึงไง”
“…ปล่อยกู”
ยิ่งมันดันผมออกห่างเท่าไร ผมก็ยิ่งเบียดตัวเองเข้าไปมากขึ้นเท่านั้น ก็ลองดูสิว่าใครจะแน่กว่ากัน
“ทีมึงยังไปให้กูเอาถึงที่ห้อง แล้วทำไมกูจะมาเอามึงที่นี่ไม่ได้?”
“ไอ้เชี่ยอ๋อง อ๊ะ!”
ผมบีบเค้นตูดงอนๆของมันอย่างมันเขี้ยว ไอ้ลูกชายผมมันก็รู้งานดีเหลือเกินเพราะมันเริ่มเตรียมพร้อมละ ผมเลยกระชับสะโพกไอ้ตุ๊กแกเข้ามาแล้วเสียดสีไอ้ลูกชายของเราไปมา
“อ๊ะ! เดี๋ยว”
“อะไรอีกของมึงก็ขึ้นแล้วป่ะ? หรือมึงจะไม่เอา?”
มันหลบสายตาผมที่จ้องมองมัน งงกับมันเหมือนกันเพราะบางทีก็ยั่วผมซะจนผมไปไม่ถูก แต่บางทีมันก็มีท่าทีขัดขืน แต่ผมก็รู้สึกได้ว่าตอนนี้ไอ้ลูกชายของมันก็ดูจะให้ความร่วมมือดี
“ป…ไปที่เตียง”
เสียงไอ้ตุ๊กแกมันกะซิบ เล่นเอาผมขนลุกสู้ๆเลย แม่ง!แค่เสียงครางกระเส่าของมัน ก็ทำเอาผมนี่เคลิ้มได้ ไอ้ตุ๊กแกมันร้ายจริงๆ
มันพาผมเดินไปที่เตียงแล้วผลักผมนอนลงไป แล้วไอ้ตุ๊กแกมันก็ขึ้นมานั้งบนตัวผมตอนนี้มันถอดกางเกงออกไปแล้ว มึงนี่ก็ใจกล้าเนอะ! แต่ไอ้ลูกชายมันยังไม่เต็มที่ซักเท่าไร มันก็ถอดเสื้อตัวเองออกแล้วโยนลงไปข้างเตียง ท่าถอดเสื้อมึงนี่จะฮอตไปไหน?? ผมกลืนน้ำลายดังเอื๊อกเลย! แม่งหัวนมตั้งแล้วอ่ะ โคตรอยากกัดเลย ผมจะหันมาชอบสีชมพูก็ไอ้ตอนนี้แหละ!
 ผมทำท่าจะคว้าเอวมันเข้าหาตัวแต่ก็ถูกมันใช้มือยันหน้าอกไว้แล้วจับผมถลกหนังออก เสื้อยืดของผมถูกโยนไปกองข้างเตียงเหมือนกัน แล้วมือของมันก็เลื่อนขึ้นมาจับที่คางผมและมันก็ยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ
“มึงอยู่เฉยๆกูยังโกธมึงอยู่นะ”
   นี่ตกลงกูผิดใช่มั้ย? กูกะจะมาจัดการมึงให้ ‘ยับ’ แต่กลายเป็นกูกำลังจะถูกมึงจัดการแทนแล้วมั้งเนี่ย
“…”
แล้วผมจะพูดอะไรได้ ก็คงเป็นเหมือนทุกครั้งแหละ ผมก็คงถูกมันจูงจมูกต่อไป…มอๆ
มันโน้มตัวลงมาแล้วจูบที่ปากผมเบาๆ มันเริ่มกัดที่ริมฝีปากล่างผมหลายครั้งแต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไร กลับคิดว่ารู้สึกดีซะอีก ผมได้ยินเสียงอะไรซักอย่างแต่ไม่ได้สนใจ เพราะกำลังถูกไอ้ตุ๊กแกมันล่อลวงอยู่ไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นหรอก มันค่อยๆสอดลิ้นเข้ามาในปากผมแล้วใช้ปลายลิ้นไล่ต้อนผมอย่างหนักหน่วง
“อืม…”
ผมเคยบอกว่าไอ้ตุ๊กแกมันจูบเก่ง แต่ต้องเปลี่ยนคำพูดใหม่เป็นโคตรเก่งต่างหาก!
‘คลิ๊ก’
“อื้อ!”
เสียงโละหะกระทบกันดังคลิ๊ก ผมเงยหน้าขึ้นไปมองที่หัวเตียงก็พบว่ามือของตัวเองถูกกุญแจมือสีชมพูที่มีก้อนฟูๆล็อกไว้กับเล็กหัวเตียงเรียบร้อยแล้ว ให้ตายเถอะ! ผมเริ่มจะกลับมาเกลียดสีชมพูอีกรอบแล้ว
“มึงรู้อะไรมั้ย?”
ไอ้ตุ๊กแกมันยันตัวขึ้นไปนั่งบนเอวผม แล้วก็ส่งยิ้มยียวนกวนประสาทที่สุดมาให้
“…”
“ที่กูไม่ไปเรียนก็เพราะว่ากูรอมึงมานี่แหละ”
“ห๊ะ!”
ผมลองขยับแขน เผื่อว่ากุญแจมือมันจะหลุด แต่ปรากฏว่ามันแน่นมาก
“กูรู้คนอย่างมึงอ่ะใจอ่อนจะตาย เดี๋ยวมึงต้องมาดูกูซักวัน”
“…”
ผมพูดไม่ออกบอกไม่ถูกแต่ที่รู้ๆตอนนี้ รู้สึกจุกมากแต่ไม่ใช่ด้านบนข้างซ้ายนะครับ มันเป็นด้านล่างต่างหากก็มันเล่นบดสะโพกไปมาขนาดนั้น
“อา…ไอ้โต๋ฝากไว้ก่อนเถอะมึง!”
“หึ! มึงจะทำอะไรกูได้หืม ? เอากูน่ะเหรอ? เอาดิกูชอบ”
“…”
ยางอายคงไม่มีเหลือบนหน้าหล่อร้ายของมันแล้ว
มันจัดการถอดกางเกงยีนส์ผมออก เหลือแต่บ๊อกเซอร์สีดำที่นูนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด มันทำท่าจะโยนกางเกงยีนส์ผมไปข้างเตียงเหมือนอย่างเคย แต่มีเสียงกรอบแกรบๆ มันเลยคลำกระเป๋ากางเกงแล้วก็ทำหน้าแปลกใจ ไอ้ตุ๊กแกมันล้วงเข้าไปในกระเป๋าดูแล้วหยิบออกมาดู โป๊ะแตก! มันเป็นกล่องถุงยาง!
“นี่มึงตั้งใจจะมาเอากูจริงๆใช่มั้ย??”
มันยิ้ม แต่มันไม่ได้หวานหยดย้อยอะไรเลย แต่มันเป็นยิ้มที่ดูแล้วเจ้าเล่ห์ที่สุดต่างหาก!
“เออ! แล้วไง??”
กล้าทำก็ต้องกล้ารับ กูมันแมนๆอยู่แล้ว
“มึงติดใจกูเหรอ?”
“หึ! อย่าฝัน!”
กูแค่ติดใจตูดเด้งๆของมึงเถอะ ไม่ใช่ติดใจมึงเล๊ย
“กูจะทำให้มึงขาดกูไม่ได้เลยไอ้อ๋องมึงคอยดูก็แล้วกัน!”
ไอ้ตุ๊กแกโต๋มันโน้มตัวลงมาแล้วกัดที่ซอกคอผม สัด!เจ็บจี๊ดเลย
 “อ๊ะ!”
มันไซร้ที่ซอกคอผม ดูดจนเกิดเสียงดัง ผมเดาว่าต้องเป็นรอยแน่ๆ เท่านั้นยังไม่พอ มันค่อยๆพรมจูบมาที่เนินอก แล้วใช้ลิ้นไล้วนที่หัวนมสีน้ำตาลของผม ก็ผมไม่ได้ตัวขาวเหมือนมันนี่จะได้มีหัวนมชมพูกะเขาอ่ะ
“อา…”
แม่งจริงดิวะ ผมต้องนอนให้มันย่ำยีแบบนี้จริงๆเหรอ คิดแล้วก็ขนลุกสู้ๆเลย
“อ๊ะ! ไอ้โต๋กูเจ็บ”
มันกัดหัวนมผมแล้วเลียเบาๆ ตบหัวแล้วลูบหลังนะมึงอ่ะ
“มึงรู้มั้ยไอ้อ๋อง? แม่งหุ่นมึงนี่โคตรน่ากัดเลย…”
“…”
ก็พอรู้ ไม่งั้นมึงคงไม่ลูบๆคลำๆทำตาเป็นประกายขนาดนี้หรอก  แต่ชมอย่างเดียวก็พอ ไม่ต้องกัดหรอกกูกลัวเจ็บ
 “อืม…”
ผมก็ต้องปล่อยให้ไอ้ตุ๊กแกมันลูบไล้หน้าท้องผมจนอิ่ม ซึ่งมันทำให้ตัวผมนี่เกร็งจน ’แข็ง’ เลย แล้วมันก็ล้วงต่ำเข้าไปด้านในบ๊อกเซอร์ของผม ไอ้ลูกชายตัวดีที่มักชอบทำเรื่องขายหน้าให้ผม ก็ต้อนรับขับสู้กับมือมันดีอย่างเคย พอโดนหลายๆครั้งมันคงจะชิน จะทำให้กูขายหน้าไปถึงไหนถามหน่อย?
“อา…อืม”
“หึ! คิดว่าจะแน่ มึงไม่ทันกูหรอกไอ้อ๋อง”
เออจริง! กูสู้มึงไม่ได้ซักอย่าง อยากทำอะไรก็เชิญเลย จะขึ้นจะขย่มอะไรก็ตามใจมึงแต่อย่าให้กูมาเสียเที่ยวก็แล้วกัน ไม่หมดกล่องห้ามหยุด!
หน้าท้องผมเกร็งขึ้นมากระทันหันเมื่อปลายลิ้นร้อนแตะลงมาที่ไอ้ลูกชายตัวดี
“อืม…ซี๊ดดดด…อา”
หลังจากนั้นก็คงไม่ต้องบอกนะครับว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้…
เช้านี้ผมตื่นขึ้นมาด้วยความมึนงง เพดานห้องแบบนี้ไม่ใช่ห้องกูนี่หว่า พอมองที่มือตัวเอง ก็เห็นข้อมือที่มีรอยแดง มันไม่ได้เป็นรอยใหญ่โตอะไรหรอก ที่มองก็แค่อยากรำลึกถึงที่มาของมันต่างหาก ที่มาของการถูกไอ้ตุ๊กแกมันย่ำยีอีกครั้ง เล่นเอาผมเสียไปหลายน้ำเลยทีเดียว จะว่าไปผมก็ปวดหน้าขาหน่อยๆ แล้วก็รู้สึกว่าขาอ่อนล้ายังไงก็ไม่รู้
หลังจากยกแรกผ่านไป ไอ้ตุ๊กแกมันก็ปล่อยมือผมป็นอิสระ พอมือผมหลุดได้เท่านั้นแหละ ผมก็รีบจับมัน ‘กด’ต่อทันที่ ไม่ได้หรอกครับ ไอ้นี่น่ะมันแผนสูงชอบหลอกล่อผมให้ติดกับได้ง่ายๆ ผมเลยต้องเอาคืนบ้าง พอหันไปมองไอ้ตุ๊กแกที่ตอนนี้มันยังหลับอยู่ ดูท่าทางมีความสุขเหลือเกิน ลบคราบหน้าตาเยินๆของมันเมื่อวานไปแทบหมดสิ้น เหลือแต่ไอ้หนุ่มรูปหล่อที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ สงสัยได้น้ำดี เพราะจริงๆแล้วมันก็…ของผมเองแหละ!
 ผมลุกขึ้นยืนแล้วเซนิดหน่อย แม่งขาสั่นหว่ะ! พอมองไปรอบๆ ก็เห็นว่าห้องนี้มันเหมือนผ่านสงครามย่อมๆมาเลย เสื้อผ้ากระเด็นกระดอนกันไปคนละทิศคนละทาง ถุงยางใช้แล้วเกลื่อนห้อง ผมต้องเดินด้วยขาที่สั่นๆเพื่อไปเก็บรวบรวมเสื้อยืด กางเกงยีนส์แล้วก็บ๊อกเซอร์ที่มันกระเด็นไปคนละทิศคนละละทางมาสวม พอสวมเสื้อผ้าเสร็จหันไปมองมัน เห็นตูดมันโผล่พ้นผ้าห่มมาก็ชักมันเขี้ยว เลยเดินไปฟาดตูดมันทีนึง
‘เพี้ยะ’
“อื้อ…ใครวะ…”
เสียงมันยังงัวเงียอยู่ มันนอนบ่นงึมงำๆ แต่ไม่ยังยอมลืมตา บทจะร้อนแรงก็สุดๆใครฉุดไม่อยู่จริงมึงเนี่ย! เล่นเอากูขาสั่นไปหมด ผมเดินออกมาจากห้องมันเพื่อกลับห้องตัวเอง ยังนะครับผมยังไม่ได้หายโกรธมันเรื่องที่มันเอาเรื่องผมไปพูดนะ แค่ลดลงนิดนึง นิดเดียวเท่านั้น! เพราะนี่แค่มาเก็บดอกเฉยๆ ถ้าเกิดผมรู้สึกโกรธมันขึ้นมาอีก ผมก็อาจจะมาเก็บดอกอีกนะครับ คราวหน้าอาจจะมีทบต้นด้วยก็ได้ แต่ผมว่าไอ้ 0.01 นี่มันใช้ดีจริงๆ คงต้องไปซื้อเตรียมไว้ซักโหลแล้วล่ะ

จบตอนที่ 14

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ tiger2006

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 334
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :laugh:


หิวโซกันทั้งคู่เลยยยย

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
เนี้ย!!ชอบบบความเสแสร้งแกล้งไสยไสยแต่ดุมากกกกของท่านอ๋อง  :oo1: และโต๋ไหวนะ ท่าไหนก็บ่ยั่น  :impress2: 55555 อ่านไปก็เพลินดี ทั้งขำโต๋และชอบความดุของนายแว่น แต่แอบหมั่นไส้นายแว่นว่ะ เอออย่าให้ถึงวันโต๋จะตัดใจจากเธอแล้วกัน วันนั้นจะรู้สึก ตอนนี้โต๋กำลังพยายามถ้าเต็มที่แล้ว ยังไม่ยอมรับอีก คงตัดใจ วันนั้นแหละจะหัวเราะเยาะนายแว่น ชิ 5555

ปล.ขอแนะนำสิ่งที่อยากให้ปรับเปลี่ยนจริงๆคือการเว้นวรรคของแต่ละฉาก จะห่าง2,3 บรรทัดก็ว่าไป ให้ห่างหน่อยแต่ก็ไม่ห่างมาก มีเคาะบรรทัด มีย่อหน้า ถ้าจัดดีนี้น่าสนใจกว่านี้เลย ส่วนตัวเรามองว่าบรรทัดติดกันพรืดแบบนี้อ่านยาก มันชวนให้ขี้เกียจด้วย ลองพิจารณาดูนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ขอบคุณสำหรับการแต่งนิยายและมาอัพในนี้ให้ได้อ่านกัน รอตอนต่อไปเลย จะเป็นยังไงต่อ  :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
แอบมาส่องทุกวันเลย

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด