พิมพ์หน้านี้ - ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 14 ขาสั่นระริกเลยผม 11-12-2020

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => ข้อความที่เริ่มโดย: MJTogether ที่ 23-08-2020 12:07:17

หัวข้อ: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 14 ขาสั่นระริกเลยผม 11-12-2020
เริ่มหัวข้อโดย: MJTogether ที่ 23-08-2020 12:07:17
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************

###ผลงานในเล้าเป็ด###

ท่านรองจอมโหด VS เด็กฝึกงานจอมเฮี้ยว (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=72171.0#gsc.tab=0)

Yes or NO ใช่หรือไม่ ? ความรูสึกนี้! (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=72123.msg4042797#msg4042797&gsc.tab=0)

รักไสยไสยของนายแว่น (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=72262.0#gsc.tab=0)



:กอด1: :กอด1: :กอด1:###รักไสยไสยของนายแว่น### :กอด1: :กอด1: :กอด1:

          คนหนึ่งชื่ออาทิตย์แต่เสือกทำตัวเหมือนราหู ส่วนอีกคนชื่อนเรศแต่เสือกชอบทำตัวทุเรศ มันจึงทำให้เกิดเรื่องราวความรักไสยไสยที่ไอ้แว่นหรือนายอาทิตย์ไม่ได้ต้องการเล๊ยยย!!!

หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น###
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 24-08-2020 17:45:27
 :pig2:
รออ่านเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น###
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 25-08-2020 00:29:54
รองับ
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น###
เริ่มหัวข้อโดย: MJTogether ที่ 25-08-2020 20:59:39
:pig2: :pig2: :pig2: :pig2:

Introduce

“กูล่ะรำคาญผมไอ้แว่นมันเหลือเกินว่ะ”
“เออ ดูแว่นแม่งดิหน้าตาโคตรโบราณเลย”
“แล้วพวกมึงจะไปยุ่งอะไรกับมันวะ”
“นั่นดิ เสือกเรื่องชาวบ้าน ทำงานของพวกมึงให้เสร็จก่อนเถอะ”
   ผมได้ยินบทสนทนานี้มาหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ได้สนใจอะไร เพราะมันดีแล้วแหล่ะที่คนมองผมว่าเป็นแบบนั้น เพราะอะไรน่ะเหรอ?? อย่าให้ผมได้พูดเล๊ยยย มันคงเป็นเวรกรรมของคนที่เกิดมาหน้าตาดีมากล่ะมั้ง!
“ไอ้ไข่ย้อย หยิบปากกาให้กูหน่อย”
“ไอ้เชี่ยต๊กโต๋ กูชื่อไข่นุ้ยเถอะ”
“กูชื่อโต๋ ต้องให้กูบอกกี่ครั้งไอ้สัด!!”
“พวกมึงจะพูดกันดีๆซักวันได้มั้ยวะ กูรำคาญพวกมึงจริงๆ”
“จ๊ะจ๋ามึงนี่เหมือนแม่พวกมันเข้าไปทุกวันแล้ว”
“กูก็จะเป็นแม่มึงด้วยอีกคน เลิกแดกแล้วเอากระดาษไปตัดให้กูหน่อย”
   เสียงโวยวายของทั้งสี่คนดังมาเป็นระยะๆแต่คนอื่นๆในภาคคงจะชินกับพวกมันแล้ว เพราะเล่นโวยวายกันมาตั้งแต่อยู่ปี่หนึ่ง จนจะจบปีสองก็ยังเหมือนเดิมไอ้ ‘แก๊งสี่ยอดกุแมว’
‘แมวส้ม’หัวหน้าแก๊งค์ ‘โต๋หรือต๊กโต๋’ ชื่อเหมือนคนเหนือแต่ไม่ได้เป็นคนเหนือ คนอะไรชื่อตุ๊กแก โคตรประหลาดผิดกับหน้าตา มันเป็นคนหน้าตาดีหรือที่เรียกว่า ‘หล่อ ขาว สูงยาวเข่าดี’ แต่มีนิสัยเสียคือเจ้าชู้หน้าม่อ ใครมาเสนอต๊กโต๋สนองหมดทุกคน เรียกได้ว่า ‘ฟันไม่เลือก’
‘แมวสลิด’หรือ ‘ไข่นุ้ย’ แต่มักจะถูกเพื่อนๆเรียกว่าไอ้ไข่ย้อย หนุ่มใต้ผิวคล้ำ ตัวเตี้ย ปากหมาหน้าด้าน มักจะคอยแอบนินทา ‘รูปลักษณ์ภายนอก’ ของผมบ่อยๆ ซึ่งมันก็ไม่เคยมองตัวเองเลยว่าไม่ได้ดูดีไปกว่า ’รูปลักษณ์ภายนอก’ ของผมซักเท่าไร
‘แมวสีสวาด’หรือ ‘จ๊ะจ๋า’ สาวสวยคนเดียวในกลุ่ม หน้าตาน่ารักแต่ไม่ใช่สเปคผม ปากหมาพอๆกับไอ้ไข่ย้อย เป็นสุดยอดคุณแม่ของทีมสี่ยอดกุแมว มักจะคอยห้ามปรามไอ้ 2 แมวแรกที่ผมแนะนำไปไม่ให้มาบูลลี่ผม
แมวสุดท้าย แมวเซา’ ชื่อเหมือนไม่ใช่แมว แต่ขี้เซาเหมือนแมวอ้วนที่นอนทั้งวัน ตื่นมาก็แดก แดกเสร็จก็นอนต่อ เรียกได้ว่านิ่งเป็นหลับขยับเป็นแดกก็ว่าได้ มันชื่อเล่นว่า ‘ไอ้บดินทร์’ ชื่อจริงก็ ‘ไอ้บดินร์’ ตัวอ้วนๆ ตาตี่ๆแถมรอยหยักในสมองมีน้อยอีกต่างหาก
ที่ผมแนะนำเจ้าพวกแก๊งสี่ยอดกุแมวนั้น พวกมันไม่ได้ตั้งชื่อแก๊งเองหรอกครับ ย้อนไปตอนปีหนึ่งที่ทีมพวกมันสี่คนถูกเรียกให้ออกไปเต้นท่าแมวเหมียวตอนรับน้อง ซึ่งทั้งสี่คนก็เต้นกันแบบสุดเหวี่ยงไม่ลืมหูลืมตาจนทำให้พวกรุ่นพี่เรียกพวกมันว่า ‘สี่ยอดกุแมว’ โดยมีไอ้ต๊กโต๋เป็นหัวหน้าแก๊ง ส่วน ‘แมวส้ม’ ‘แมวสลิด’ ‘แมวสีสวท’ ‘แมวเซา’ เป็นโค้ดลับที่ผมตั้งขึ้นมาเอง

:pig2: :pig2: :pig2: :pig2:

หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### 0 Introduce 25-08-2020
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 25-08-2020 21:58:56
รองับ
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### 0 Introduce 25-08-2020
เริ่มหัวข้อโดย: MJTogether ที่ 02-09-2020 20:41:17
:pig2: :pig2: :pig2: :pig2:
ตอนที่ 1 ตุ๊กแกตัวผู้กับตุ๊กแกตัวเมีย        

         หลังจากที่แนะนำแก๊งค์สี่ยอดกุแมว ก็มาถึงตาผมบ้าง เพื่อนในคณะที่ผมไม่คิดอยากจะคบเป็นเพื่อนวักเท่าไรมักจะเรียกผมว่า ‘ไอ้แว่น’ บ้าง ‘ไอ้ราหู’ บ้าง เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็คงเพราะ ทรงผม แว่นตา การแต่งตัว ของผมที่ค่อนข้างออกไปในแนวยาจกหน่อยๆ ตกยากนิดๆ โดยรวมๆแล้วใกล้เคียงกับคำว่า ‘ราหู’ อยู่เหมือนกัน อันนี้ผมยอมรับ
“จะว่าไป ดูๆแล้วไอ้แว่นมันก็ตัวสูงนะ”
แมวสีสวาดพูดปากยื่นปากยาวมาเข้าหูผมอีกจนได้
“เออจริง สูงกว่าไอ้โต๋อีกมั้งน่ะ”
“ไอ้โต๋มึงสูงเท่าไร”
“กู ?...180 เซน ไมอ่ะ?”
“มึงว่าไอ้แว่นมันสูงกว่ามึงมั้ย”
“กูจะไปรู้เหรอ ไม่เคยไปวัดกับมันนิ”
   กรุณาอย่าพยายามเข้ามาอยู่ในโลกของผมเลยครับ ให้ผมอยู่เฉยๆ เงียบๆแบบนี้แหละดีแล้ว จะนินทาอะไรก็ทำไปเถอะ
   ไอ้ต๊กโต๋ทำท่าจะเดินเข้ามาหาผม สงสัยอยากจะมาวัดความสูงกับผม ก็แน่แหละ ไอ้เจ้านี่มันเป็นพวกใครดีใครเด่นกว่าไม่ได้ ผมว่ามันเป็นคนหลงตัวเองหน่อยๆ หน้าด้านนิดๆ ซึ่งมันขัดกับหน้าตามาก
   ไอ้ต๊กโต๋หรือไอ้ตุ๊กแกมันเดินเข้ามาหาผมที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอีกฟากของห้อง อย่าเข้ามาใกล้กู๊ เดี๋ยวเชื้อเจ้าชู้จะมาติดผม ผมเป็นคนรักเดียวใจเดียวนะ รักน้องลิซ่ายังไงก็ยังรักเหมือนเดิม ติดตามคอนเสิร์ตตลอด เฝ้าหน้าจอคอมจนแทบจะสิงเข้าไปแล้วอยู่แล้ว กดไลค์กดแชร์ให้ทุกวัน ที่ทำงานพิเศษเก็บตังก็เพื่อจะบินไปหาน้องเขานี่แหละ แต่ไม่รู้เขาจะให้เข้าประเทศหรือเปล่า…
“นี่ไอ้แว่นมึงสูงเท่าไร”
“…”
“กูถามไม่ตอบ มึงสูงเท่าไร??”
แล้วมึงจะตะโกนเพื่อ?? หูกูไม่ได้หนวก น้ำลายมึงกระเด็นใส่แว่นกูแล้วเนี่ย ต้องแอบไปเช็ดในส้วมอีกตามเคย
“185…”
“เฮ้ย!! สูงกว่ากูอีก”
แต่ผมก็สูงกว่ามันไม่มากหรอกแค่สี่ห้าเซนได้มั้ง ไอ้นี่มันหล่อแล้วยังสูงอีก
“ทำไมมึงไม่ไปตัดผมให้มันเหมือนผู้เหมือนคนหน่อยวะ เห็นแล้วรำคาญลูกกะตาฉิบหาย”
ไอ้ตุ๊กแกมันพูดโดยไม่หายใจเลย หรือมันแอบหายใจทางเหงือก?
“…”
 “เอ้า! ไอ้นี่พูดด้วยก็ไม่ยอมพูดด้วย”
“ไอ้โต๋มึงอย่าไปแหย่ไอ้แว่นมัน กลับมาทำงานของมึงให้เสร็จกูจะรวบรวมไปส่งแล้ว”
จ๊ะจ๋าห้ามไอ้ตุ๊กแกไม่ให้เสือกเรื่องของผมตามเคย เธอมักจะคอยจัดระเบียบดูแลลูกๆทั้งสามตัวให้อยู่ในกรอบเสมอ แล้วไม่วายอยากจะเข้ามาช่วยจัดระเบียบผมด้วยอีกคน
“ไอ้แว่นของมึงเสร็จยังจะฝากกูไปด้วยมั้ย?”
“…เดี๋ยวเราไปส่งเอง”
แล้วผมก็ต้องปฏิเสธไปแทบทุกครั้ง แต่เธอก็ยังเสือกไม่เลิก สงสัยว่ามันคงซึมซับเข้าไปในสายเลือดแล้ว ไอ้ความ ‘เสือก’ ที่ว่าเนี่ย
“…ก็แล้วแต่มึง”
ผมไม่อยากให้ใครเข้ามาวุ่นวายในชีวิตมากนัก เพราะมีเรื่องที่ไม่สามารถบอกใครได้อยู่เรื่องหนึ่ง…ที่ผมปกปิดมาเกือบสองปี เรื่องนั้นมันทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปตลอดกาล
 ผมมักจะถูกเรียกว่า‘ราหู’ บ้าง ‘ไอ้แว่น’ บ้าง ก็เพราะว่าลักษณะภายนอกของผมนี่ก็…โอตากุดีๆนี่เอง ใส่แว่นกรอบโตๆ นุ่งกางเกงเอวสูงๆแล้วคาดเข็มขัดแน่นเปี๊ย เสื้อก็สีมอๆตุ่นๆ รองเท้าก็ไม่ได้ซักมา…สี่ห้าเดือนแล้วมั้งถ้าจำไม่ผิด แต่ผมเรียนเก่งนะที่ 1 ของรุ่นเลยก็ว่าได้ นั่นก็เป็นเพราะว่าเป็นเรื่องที่ผมไม่ต้องปกปิดอะไรน่ะสิ
“ไอแว่น มึงขยับไปดิ กูจะนั่งตรงนี้”
ไอ้ตุ๊กแก!!ก็กูนั่งอยู่ตรงนี้ทุกวันมึงเสือกอะไรด้วยเนี่ย
“ก็ผมนั่งตรงนี้ตลอด…”
“ยังจะเถียง ไปนั่งข้างหลัง เดี๋ยวอ้อมแอ้มเขาจะมานั่ง”
อ่อ…เก็บที่ติดกันไว้ให้ดาวคณะคนสวยนั่ง เลยให้ผมขยับที่ให้ สุภาพบุรุษจริงๆมึง จริงๆแล้วคงหวังเคลมเขาอ่ะดิ…หรือว่าเคลมไปแล้ว??
“ไอ้โต๋มึงก็ให้ไอ้แว่นมันนั่งนั่นแหละ ตามันยิ่งไม่ดีอยู่ มึงมานั่งนี่”
“แล้วอ้อมแอ้มจะนั่งตรงไหนล่ะ”
“ไอ้ไข่ย้อย มึงขยับไปเร็วๆ”
คุณแม่ผู้จัดการให้ได้ทุกสิ่งอย่าง ดูเหมือนเธอจะหวังดีกับผมบ่อยๆนะ ก็มีแต่ ’จ๊ะจ๋า’ ที่ยังคุยกับผมบ้าง
“เชี่ย! ไข่นุ้ย กูชื่อไข่นุ้ย เดี๋ยวกูก็ไม่ขยับให้หรอก”
ไอ้ตุ๊กแกทำท่าจะถีบไอ้ไข่ย้อย พวกมันจะกัดกันอย่างนี้ทุกวัน แต่ก็ไม่เคยโกรธกันจริงๆซักที
“จ๊ะจ๋า เดี๋ยวกูไปซื้อเป๊บซี่ก่อนนะ มึงจองที่ให้กูด้วย”
“ไอ้บดินทร์วันนี้มึงกินไปกี่ขวดแล้ว ท้องจะแตกแล้วมั้งน่ะ”
“ยัง เพิ่งกินไปสามขวดเอง กูว่าจะไปซื้ออีกสองขวด”
“…”
“เฮ้อออ!! เรื่องของมึง จะไปไหนก็ไป”
“เออ! ไอ้แว่นรายงาน อ.ฉวีวรรณที่ให้จับกลุ่มห้าคน มึงจะอยู่กลุ่มพวกกูมั้ย?”
“…”
“พวกกูมีสี่คน รวมมึงก็เป็นห้าคนพอดี”
“…ก็ได้”
ก็คงต้องเป็นอย่างนั้น แต่มันก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้องทำงานกลุ่มโดยไปอาศัยอยู่กลุ่มไอ้สี่ยอดกุแมวมัน ผมล่ะเบื่อ…ผมเคยไปขอเอางานกลุ่มมาทำเป็นงานเดี่ยวแต่อาจารย์ไม่ยอม อ้างว่ามันเป็นงานกลุ่มต้องทำเป็นกลุ่ม ทั้งๆที่ผมก็ทำคนเดียวได้สบายๆอยู่แล้ว ก็คนมันเก่งอ่ะ
Rrrrrr!!
เสียงมือถือผมดังขึ้น ผมจึงเก็บหนังสือแล้วก็งานเดินเลี่ยงๆออกมาจากห้อง จริงๆแล้วก็ไม่ค่อยมีใครสนใจผมซักเท่าไรหรอก
“มีอะไร?”
[เย็นนี้มึงกลับเร็วหน่อยได้มั้ย กูจะให้ช่วยดูบัญชีหน่อย]
“แล้วทำไมมึงไม่ดูเอง”
[ก็กูโง่ มึงก็ช่วยกูหน่อยดิน้าท่านอ๋องน้า]
“…เออ แค่นี้”
หลังจากเลิกเรียนผมก็รีบกลับไปทำงานพิเศษต่อ จริงๆแล้วที่พักกับที่ทำงานพิเศษมันก็คือที่เดียวกันแหละ ทำงานเสร็จก็ขึ้นไปนอนได้เลย บางทีน้ำก็ไม่อาบเพราะผมขี้เกียจ
“รีบไปเปลี่ยนชุดสิมึง”
“…ทำไม?”
“ก็มึงแต่งตัวอย่างนี้ใครเขาอยากจะเข้าร้านกันวะ โกนหนวดด้วย!”
“…สัด เรื่องมากจริง”
“ก็สาวๆที่เขามา เขาก็มาดูมึงนี่แหละครับท่านอ๋อง”
“กูไม่สัตว์จะได้มาดูกู แล้วมึงก็เลิกเรียกกูแบบนั้นซักทีเหอะ”
“ก็สาวๆเขาชอบเรียกมึงแบบนี้ กูก็เรียกตามไง”
“…”
   เสียงเพลงในร้านเหล้าดังกระหึ่ม มีทั้งสาวสวยและไม่สวยหนุ่มหล่อและไม่หล่อทะยอยกันเข้ามาใช้บริการในร้านแห่งนี้เป็นประจำ เพราะนอกจากติดใจในบรรยากาศและราคายังไม่แพงแล้ว สาวๆและหนุ่มๆต่างติดใจในรูปร่างหน้าตาของเด็กชงเหล้าที่พ่วงตำแหน่งพนักงานบัญชี พนักงานเก็บกวาดหลังร้านเลิก และอีกสารพัดตำแหน่งเพราะทั้งร้านก็มีกันอยู่ 5 คน
“ท่านอ๋องหุ่นแซ่บมากอ่ะเธอ”
“ช่ายๆหล่อมากด้วยอ่ะ อยากได้เบอร์จัง”
“ยากๆ คราวก่อนยัยลูกตาลไปขอยังไม่ให้เลย”
“จริงเหรอ นั่นมันดาวบัญชีเลยนะ ยังไม่ได้เหรอ?”
“เออสิ หรือว่าท่านอ๋องเป็นเกย์”
“ก็ไม่น่ะ วันก่อนพี่เจเจไปอ่อย ท่านอ๋องยังไม่สนเลย”
“นั่นก็เดือนเศรษฐศาสตร์เลยนะ โหแต่ละคนเด็ดๆทั้งนั้นเลย”
“นั่นดิแล้ว ใครกันที่จะถูกใจท่านอ๋องกันล่ะเนี่ย”
“เขาอาจจะชอบแบบธรรมดาๆก็ได้นะ”
เสียงเพลงดังกระหึ่มแต่บทสนทนาที่มีแต่เรื่องของผมเข้าไปเกี่ยวข้องก็ยังดังมาเข้าหูจนได้ มันเป็นเรื่องปกติที่ผมได้ยินอยู่ที่วี่ทุกวัน ผมว่าผมก็อยู่ของผมดีๆนะ ติดออกจะไม่ไปยุ่งกับใครที่ไหนซะมากกว่าแต่ก็ยังมีคนมาวุ่นวายอยู่บ่อยๆ แล้วเวลานินทาผมกันนี่ก็ไม่ค่อยจะเกรงใจกันเลย เสียงดังฉิบหาย
“น้องคะ พี่ขอเบอร์ได้มั้ยคะ?”
“…ไม่ได้ครับ”
“ไอดีไลน์ก็ได้ค่ะ”
“…ไม่มีครับ”
“เฟสบุ๊คล่ะคะ”
“ผมไม่เล่น”
“อ่า…ค่ะ”
   ผมมักจะปฏิเสธสาวๆหรือหนุ่มๆแบบนี้เสมอเกือบทุกวันที่มาทำงานพิเศษ แต่เวลาอยู่ในมหาวิทยาลัยมักจะไม่มีใครเข้าใกล้ผมเกินกว่า 10 เมตรหรอก
“ว่าไงไอ้คะน้องโต๋ พี่ไม่เห็นหลายวันเลย”
“เรียนหนักน่ะพี่ ว่าแต่…วันนี้ผมไปค้างด้วยได้มั้ยครับ?”
“ได้สิคะ”
สาวนมตู้มคนเดียวกับที่ขอเบอร์ ขอไลน์ ขอเฟสผม เหอะ! หลังจากที่ไม่ได้สิ่งที่เธอต้องการจากผม เธอก็มุ่งหน้าไปที่ไอ้ตุ๊กแกที่เพิ่งเดินเข้ามาในร้านที่ยังไม่ทันครบ 5 นาทีเลย เปลี่ยนใจง่ายจริงๆ แต่วันนี้มันมาคนเดียว ผมยังไม่เห็นแก๊งค์สี่ยอดกุแมวของมันเลย
“แล้ววันนี้มาคนเดียวเหรอคะ”
“ก็…คิดถึงพี่ไงครับ เลยรีบมาเพื่อนผมยังทำงานไม่เสร็จเลย”
“เหรอคะ ดีใจจัง”
มันก็ตอแหลไปเรื่อย จริงๆแล้วผมได้ยินมันพูดแบบนี้กับทุกคนแหละ
“น้องโต๋รู้จักน้องอ๋องมั้ยคะ”
“ใครนะครับ?”
“ก็น้องเสื้อดำที่ชงเหล้าอยู่ตรงบาร์น่ะค่ะ”
“อ่อ…ไม่รู้จักหรอกครับ แต่ได้ยินว่าเป็นญาติเจ้าของร้าน”
“เหรอ พี่คิดว่ารู้จัก เห็นน้องโต๋ออกจะกว้างขวาง”
“ทำไมเหรอครับ?”
“คือ…พี่อยากได้เบอร์น้องเค้าน่ะ”
“…เอาเบอร์ผมดีกว่า ผมแถมเบอร์บ๊อกเซอร์ให้ด้วยนะครับ”
“อิอิ ได้สิคะ”
แล้วสองคนนั้นก็มองสบตากัน จ้องกันจนจะได้เสียกันอยู่แล้ว นี่มันร้านเหล้านะครับไม่ใช่โรงแรม
หลังจากที่ไอ้ตุ๊กแกมันนัดแนะกับตุ๊กแกตัวเมียเสร็จมันก็เดินมาที่บาร์ที่ผมยืนชงเหล้าอยู่
“เบียร์ขวดนึง”
“ครับ”
ผมต้องพยายามทำตัวไม่ให้เหมือนที่มหาวิทยาลัยเพราะกลัวว่ามันจะจำผมได้
“นี่นาย!”
“ครับ?”
“ชื่ออะไรเราอ่ะ”
“…ชื่ออ๋องครับ”
“หน้าตาดีนี่ ทำงานมานานรึยัง ? ทำไมเพิ่งเคยเห็น”
“…”
“ถามทำไมไม่ตอบ?”
“ผมเพิ่งมาได้อาทิตย์เดียว”
แสดงว่ามันจำผมไม่ได้เลย…แต่ก็ดีแต่ผมไม่อยากคุยกับมันเลยไอ้หหน้าม่อเนี่ย
“ขอไลน์หน่อยสิ”
“ผมไม่เล่น”
“งั้นขอเบอร์”
“ผมไม่มีมือถือ”
“เล่นตัวจังนะ คิดว่าหน้าตาดีรึไง!!”
“…ผมขอตัว”
แล้วผมก็เดินหนีมาหลังร้าน คนอะไรม่อได้ทุกที่ ก็รู้หรอกว่าหล่อ เห็นมีรูมันจะเอาหมดเลยรึไง ผมตัวใหญ่กว่ามันอีกนะ
“มาทำอะไรหลังร้าน ไปเฝ้าในร้านให้กูหน่อย”
“นี่ร้านมึงป่ะ? มันจะเป็นร้านกูอยู่แล้ว แม่งกูทำทุกอย่างเลย”
“เออน่า มึงอยากได้บิ๊กไบ๊ค์ไม่ใช่เหรอเดี๋ยวกูช่วยออกตัง”
“ตังกูก็มีเหอะ กูแค่รอรุ่นที่กูอยากได้ออกมาก่อน”
“จ้า!!! พ่อคนรวยตังเยอะ แต่ไปช่วยกูหน่อย แม่ง!ไอ้อาร์ทยังไม่กลับมาเลย กูก็รอเฉ่งมันอยู่เนี่ย”
“ทำไมมันยังไม่กลับ?”
“มันบอกว่ามันยังทำงานอะไรซักอย่างส่งอาจารย์ไม่เสร็จนี่แหละ”
“…”
ไอ้โอมมันเป็นเจ้าของร้าน มันเป็นพี่ไอ้อาร์ทแล้วมันก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของผมเอง ทั้งร้านมีกันอยู่ 5 คน พวกผม 3 คนแล้วก็ลูกน้องไอ้โอมมันอีก 2 คน แต่ผมฉลาดสุดเลยเหนื่อยสุด ส่วนไอ้อาร์ทโง่สุดก็เลยสบายไป
ผมจำใจเดินกลับเข้าไปในร้าน ต้องมายืนทำหน้ามึนที่บาร์ชงเหล้าให้ไอ้พวกขี้เมากิน จริงๆผมก็ดื่มแหละแต่คอไม่ค่อยแข็ง อย่างอื่นแข็งกว่า…ก็หัวนี่แหละครับที่แข็งอย่าคิดมาก…
 “แอบหนีไปไหนมา?”
“ไปขี้มาครับ”
“…”
ไอ้ตุ๊กแกมันทำหน้าอึ้งๆ ตกใจกับคำตอบกูเซ่ ทำไมคนหน้าตาดีจะขี้ไม่ได้รึไง? แต่มึงก็ยังตามมารังควานกูอีกนะ หน้ามันเริ่มแดงๆแล้ว สงสัยมันกินไปหลายขวดแล้ว
“แล้วได้เรียนมั้ย?”
“…ผมจบป.6 ไม่ได้เรียนต่อ”
โกหกแม่ง จะถามอะไรกูนักหนาทีตอนนั่งเรียนด้วยกันไม่เห็นอยากจะสัมภาษณ์กูเลย แต่ลืมไปมันจำผมไม่ได้นี่หว่า
“นี่ นายหน่ะยังซิงอยู่รึเปล่า?”
 “…”
WTF ถามอะไรกูเนี่ย ? มึงจะอยากรู้เพื่อ? หรือว่ามันคิดมิดีมิร้ายกับผมอยู่ เห็นกูเนิร์ดๆแบบนี้กูก็สู้คนนะครับ
“ถามทำไมไม่ตอบ?”
“…ผมขอไม่ตอบครับ”
เรื่องของกูเหอะจะซิงจะหรือไม่ซิงก็เรื่องของกระจ๊วยกู เสือกอะไรไอ้ตุ๊กแกตอแหล
“น้องโต๋ ไปกันเถอะค่ะ”
“ได้ครับพี่”
มันก็จ่ายเงินแล้วก็ถูกแม่ตุ๊กแกตัวเมียลากให้ตามไปที่รังมัน สาวสวยนมตู้มกอดแขนออเซาะไปกับไอ้ต๊กโต๋ นมคุณเธอเบียดอยู่กับต้นแขนไอ้ตุ๊กแกจนเหมือนแขนมันถูกหนีบไว้ตรงกลาง แต่ก็น่าสงสารเธอนะครับ เมื่อคืนฝนตกสงสัยคงตากฝนนานเลยเป็นปอดบวม ลืมบอกให้ไปหาหมอ เดี๋ยวลูกค้าปอดบวมตายยอดขายร้านเหล้าที่ผมเกือบจะได้เป็นเจ้าของร้านจะตก

จบตอนที่ 1

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### 1 ตุ๊กแกตัวผู้กับตุ๊กแกตัวเมีย 02-09-2020
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 03-09-2020 07:25:36
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### 1 ตุ๊กแกตัวผู้กับตุ๊กแกตัวเมีย 02-09-2020
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 03-09-2020 11:05:51
อะไรนี้
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### 1 ตุ๊กแกตัวผู้กับตุ๊กแกตัวเมีย 02-09-2020
เริ่มหัวข้อโดย: MJTogether ที่ 09-09-2020 19:38:11
:pig2: :pig2: :pig2: :pig2:

ตอนที่ 2 เกิดมาหน้าดีไม่พอแถมยังซวยด้วย

           ผมมีความลับอยู่อย่างหนึ่งที่ไม่เคยบอกใคร จะมีก็แต่ไอ้อาร์ทกับไอ้โอมที่รู้ ซึ่งพวกมันเป็นลูกของลุงผมเอง หรือที่เรียกกันว่าลูกพี่ลูกน้องนั่นแหละ มันเป็นญาติสองคนที่เหลือของผม
ไอ้โอมมันอายุ 27 ปี ตอนแรกตกงานเลยมาช่วยงานร้านเหล้าของพ่อมัน เมื่อปีที่แล้วพ่อมันตายเพราะอุบัติเหตุ ไอ้โอมมันเลยเข้ามาดูแลแทนอย่างจริงจัง มันเป็นพี่ใหญ่ของบ้าน และมักตักเตือนเรื่องที่ผมทำผิดอยู่บ่อยๆ
ไอ้อาร์ทมันเป็นน้องไอ้โอม แก่ว่าผม 1 ปี มันเรียนอยู่ปีสามคณะศิลปกรรมซึ่งอยู่ติดกับคณะผม ไอ้อาร์ทเป็นพี่ที่มักพึ่งพาไม่ค่อยได้เพราะเวลาผมทำเรื่องเหลวไหลก็มีมันนี่แหละเป็นผู้ช่วย เราเลยมักจะโดนไอ้โอมด่ากันอยู่บ่อยๆ
 “เธอดูคนที่กำลังชงเหล้าคนนั้นดิ ที่ใส่เสื้อดำๆอ่ะ โคตรหล่อเลย”
“จริงๆ คนที่ใส่เสื้อฟ้าก็หล่อนะ ดูแล้วหน้าตาคล้ายๆกัน”
“อืม…เจ้าของร้านก็หล่อ ที่นี่คัดหน้าตากันรึไงนะ!”
“แต่คนเสื้อดำ ดูดิบๆ เถื่อนๆดีนะ”
เสื้อฟ้าน่ะไอ้อาร์ทส่วนผมก็ใส่เสื้อดำเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ก็ยังดีที่ยังใช้คำว่า ดิบๆ เถื่อนๆ ไม่มี คำว่า ’ถ่อย’ ผสมมาด้วย ผมมักจะถูกพูดถึงแบบนี้ประจำเมื่อมาช่วยงานที่ร้านเหล้าไอ้โอมมัน จะเรียกว่าช่วยงานก็คงไม่ได้หรอก เรียกว่าเฝ้าให้มันเลยก็ได้เพราะผมย้ายมาอยู่ที่ชั้นสองของร้านตั้งแต่เมื่อเดือนก่อนแล้ว
“ทำไมเวลามึงอยู่ที่มหาลัยไม่ทำตัวแบบนี้วะ?”
“แล้วมึงจะทำไม!”
“กูก็ไม่ได้อยากเสือกหรอกหรือว่ามันเกี่ยวกับเรื่องนั้น?”
“เออ!”
ต้องย้อนไปสมัยที่ผมยังเรียนอยู่ ม.ปลาย มันมี่เรื่องที่ทำให้ผมต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อความอยู่รอด ! มันเป็นความลับมาตลอดเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา
“แม่ง! กูล่ะสงสารมึงจริงๆ”
“เออ! ทำงานของมึงไป!”
“ร้านนี้เด็ดจริงๆว่ะ”
“เออ สาวๆโคตรแจ่มเลย”
“หนุ่มก็แจ่ม มึงดูคนชงเหล้าเสื้อดำกับเสื้อฟ้าดิ เป็นกิ๊กกันป่ะวะ”
“เอาอีกแล้วนะจ๊ะจ๋า มึงจะจับคู่ผู้ชายหน้าตาดีทุกครั้งที่เห็นไม่ได้หรอกนะ”
   มีกลุ่มชายหญิงเดินกันมา 4 คน เสียงคุ้นๆนะ ผมเงิยหน้าไปมอง เอาอีกแล้ว! ไอ้แก๊งสี่ยอดกุแมว มันจะมาตามล้างตามผลาญผมไปถึงไหน ไปผุดไปเกิดกันได้แล้วไป๊!!
“ไอ้โต๋มึงรู้จักร้านนี้ได้ไงวะ?”
“คราวก่อนน้องชมพู่มากูมา”
“อ่อ ผู้หญิงอีกแล้ว มึงนี่มันสเน่ห์แรงจริงๆ”
“แล้วน้องบอลของกูล่ะ มึงเขี่ยทิ้งไปแล้วเหรอ?”
“อืม…น้องมันก็ดีนะ แต่ตามกูแจเลย กูเลยเลิกไปแล้ว”
“ไอ้น้องบอลที่เป็นเดือนคณะสังคมอ่ะนะ”
“เออดิ มันกิ๊กกั๊กกันอยู่เป็นเดือนเลยนะ”
เหอะ! ไอ้ตุ๊กแก ได้ทั้งผู้ชายผู้หญิงเลยนะมึง มีดีแค่หน้าตาจริงๆ
“มึงไม่ลองจีบคนเสื้อดำดูอ่ะ โคตรหล่อเลย เห็นแล้วกูฟินมาก”
จ๊าจ๋าคนสวยอย่าพยายามเอาไอ้ตุ๊กแกนั่นมายัดเยียดให้ผมเลย หลอนเปล่าๆ
“บ้าเหรอมึง! ตัวเท่าควาย กูชอบตัวเล็กๆน่ารักๆหรอก กูกลัวหมีตะปบกูตายซะก่อน”
เฮ้ย!!ไอ้ตุ๊กแก วอนซะแล้ว เดี๋ยวว่าผมเป็นควาย เดี๋ยวว่าเป็นหมี จะเอาไงมึงว่ามาเลย
“แต่พี่เขาโคตรเท่เลยน้า มึงว่ามั้ยไอ้บดินทร์”
“ไอ้บดินทร์!”
“เชี่ย มันหลับ มึงก็ช่างกล้า ในร้านเสียงดังขนาดนี้ยังหลับได้อีก”
“ไอ้ไข่ย้อยมึงเรียกมันดิ๊”
“ช่างมันดิ จะได้ไม่ตื่นมาแย่งเหล้ากูแดก”
นี่ล่ะครับ บทสนทนาของพวกมัน 4 คน ไม่เคยมีสาระประโยชน์อะไรหรอก นอกจากโชวความเจ้าชู้ของไอ้ตุ๊กแก ความเป็นสาววายของจ๊ะจ๋า ความกากของไอ้ไข่ย้อย และความขี้เซาของไอ้บดินทร์มัน
“นั่นมันพวกเพื่อนร่วมภาคมึงไม่ใช่เหรอ?”
“ภาคเดียวกับกู แต่ไม่ใช่เพื่อนกู”
“เมื่อไรมึงจะได้ใช้ชีวิตปกติกับเขาซักที”
“มึงนี่ก็จะเสือกอะไรกับเรื่องของกูนักหนา ตัวมึงเอาให้รอดก่อนเถอะ”
“เรื่องอะไร กูรอดตลอดแหละ”
“ไอ้โอมบอกว่าถ้ามึงตกอีกมันจะตัดเงินมึง”
“…เชี่ยโอม ไอ้พี่เลว กูจะไปเตะมัน!”
“แน่ใจเหรอมึงอ่ะ?”
“แหะๆ…ไม่แน่ มึงอย่าไปฟ้องมันนะว่ากูด่ามันอ่ะ”
“เออๆ หยิบแก้วเปล่าให้กูสองใบ”
   พวกเราสองคน ไม่เคยได้ลืมตาอ้าปากได้ถ้าหากไอ้โอมมันโกรธ เพราะมันเป็นคนที่ส่งเสียพวกเรา  ถึงพ่อแม่ผมจะมีเงินเก็บให้ก้อนใหญ่ใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด แต่บางเรื่องก็ต้องอาศัยไอ้โอมมัน ที่สำคัญแม่งตัวใหญ่กว่าผมอีก ถ้าเรียกตามไอ้สี่ยอดกุแมวมันเรียก ไอ้โอมก็เป็นโคตรควายโคตรหมีแหละ หน้าก็โหดเหมือนนักโทษหนีคดี ไม่รู้ว่ามันอายุ 27 หรือ 37 กันแน่
“ไอ้อ๋องวันนี้มึงช่วยเช็คสต๊อกเหล้าให้กูหน่อย บางตัวกูว่าต้องสั่งเข้าเพิ่มแล้ว”
ไอ้โอมมันเดินออกมาจากหลังร้าน คงเดินไปดูศต๊อกของมา
“เออ กูเช็คให้”
“ไอ้อาร์ทเมื่อไรมึงจะเอาอย่างไอ้อ๋องมั่ง ไอ้ห่า! ช่วยงานอะไรกูไม่ได้เลย”
“ก็กูไม่ได้ฉลาดเหมือนไอ้อ๋องมันนี่”
“…มึงก็ยังอุตส่าห์ยอมรับว่าตัวเองโง่เนอะ!!”
“ท่านอ๋อง ไอ้โอมมันว่ากูโง่อ่ะ”
“…ไอ้โอม มึงก็อย่าไปว่ามันดิ๊ กูรำคาญ”
“ท่านอ๋องรำคาญไอ้โอมมันใช่มั้ย”
“รำคาญมึงนี่แหละ!”
ไม่รู้เป็นอะไร ไอ้อาร์ทมันชอบมาฟ้องผม คิดว่าผมคงช่วยไม่ให้ไอ้โอมกระทืบมันได้รึไงกัน!
“ง่ะ ไม่เข้าข้างกูเลย ไอ้ท่านอ๋องชั่ว”
เฮ้อ! รอบๆตัวผมนี่มันจะมีคนปกติบ้างซักคนมั้ยวะ!
ไอ้สองตัวนี่ก็กัดกันได้ทุกวัน เป็นพี่น้องกันแท้ๆ ผมก็เลยต้องเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยให้ตลอด
“เธอ ดูสามคนนั้นยืนด้วยกันดิ โคตรฟินเลย”
“อืม โคตรเท่อ่ะ ไม่รู้จะเลือกใครดี หล่อทุกคนเลย”
“ใช่ หน้าหล่อ หุ่นแซ่บ น่ากัดกล้ามมว๊ากกก!!”
สามสาวสองลูกค้าประจำ ไม่รู้มากินเหล้าหรือมาดูคนชงเหล้ากันแน่ มาเกือบทุกวันสายเปย์จริงๆ เป็นลูกค้าวีไอพีของร้านเลยก็ว่าได้ บางทีก็ลวนลามผมอยู่บ่อยๆ ก็พวกลูบแขน หยิกแก้มอะไรงี้ ไม่ได้ลามกอะไรมากมาย
“สวัสดีค่ะ น้องโต๋ วันนี้ดูหล่อเป็นพิเศษเลย”
“แหม ผมก็หล่อทุกวันแหละครับ”
“อืมๆ จริงค่ะ แล้วหลังจากนี้ จะไปไหนต่อคะ”
“ผมไปค้างห้องพี่เชอร์รี่ได้มั้ยล่ะครับ”
“ได้สิจ๊ะ”
แล้วสาวสวยนามว่าเชอร์รี่กับเพื่อนก็เดินแยกออกไป หลังจากนัดแนะให้หนุ่มรุ่นน้องไปค้างที่ห้อง คงมากกว่าแค่นอนค้างเฉยๆอ่ะครับ
“อีกแล้วนะมึงอ่ะ”
“ไปตรวจเลือดบ้างนะ เผื่อเป็นเอดส์”
“เฮ้ย!! กูป้องกันทุกครั้งน่า”
   บางทีผมก็รำคาญเหมือนกันนะที่ต้องมานั่งฟังอะไรแบบนี้บ่อยๆ แต่ก็อยากหาประสบการณ์เลยมาช่วยงานร้านไอ้โอมมัน ได้ผลจริงๆ ได้ทำตั้งแต่ตำแหน่งคนทำความสะอาดยันตำแหน่งผู้จัดการร้านเลย
“ไอ้อ๋องมึงไปเปลี่ยนทิชชูในห้องน้ำให้ที ลูกค้าบอกว่าหมดแล้ว”
“ไอ้อาร์ทไปไหน?”
“กูใช้มันไปซื้อไฟแช็ก มึงไปให้หน่อยห้องน้ำชายนะ”
“…เออ แม่งใช้กูตลอด”
“กูไม่ว่าง ถ้าว่างก็ไม่กล้าใช่มึงหรอกครับท่านอ๋อง”
“…”
ประชดประชันเก่ง ขนาดไม่กล้ายังใช้กูไปเปลี่ยนทิชชูในส้วม ถ้ากล้าไม่ใช้กูขัดส้วมเลยล่ะ โหมดแม่บ้านโอเพ่น! พอเข้าไปในห้องน้ำก็เห็นไอ้ตุ๊กแกมันยืนล้างมืออยู่ ผมก็ไม่ได้สนใจมัน เข้าไปเปลี่ยนทิชชูในห้องน้ำด้านหลังมัน ยังดีที่ผมไม่ต้องขัดส้วมด้วยเพราะมันเป็นหน้าที่ลูกน้องไอ้โอมมัน
“นี่นายชื่ออ๋องใช่มั้ย?”
“…”
ผมทำเป็นไม่ได้ยินเสียงมัน ขี้เกียจคุย รำคาญมัน
“ถามไม่ได้ยินเหรอ?”
“…คุณมีอะไรรึเปล่า?”
“เปล่า…”
จะเรียกกูเพื่อ? ไอ้หน้าหล่อนี่! ว่างนักเหรอมึงอ่ะ แต่ช่างมันเถอะหน้ามันแดงๆคงเมาล่ะมั้ง ไม่อยากถือสาคนเมา
“นี่นาย!”
“…”
อะไรอี๊ก ?? มันเรียกผมอีกละ ผมทำเป็นไม่ได้ยินเลยแกล้งเนียนเดินออกจากห้องน้ำ
‘พรึ่บ’
ไอ้ตุ๊กแกมันกระชากแขนผม มึงจะทำอะไรกู๊ จะลวนลมกูในห้องน้ำเหรอะ!!
“ถุงยางมึงตก”
มันชี้ไปที่รองเท้าผม ผมเลยมองตามก็เห็นตีนผมเหยียบซองสี่เหลี่ยมเล็กๆอยู่ ไอ้ผมก็ใสซื่อ ยืนงงๆอยู่
“…ม…ไม่ใช่ของผม”
กูยังซิงไม่เคยพก ไอ้ห่า!! ของไอ้ตุ๊กแกมันแน่นอน
“เหรอ…งั้นมึง…ก็ยังซิงอยู่ล่ะสิ”
“…ผ…ผมขอตัว”
ผมรีบเดินออกมาจากห้องน้ำทันที ไอ้เชี่ย!! มาถามเรื่องอะไรแบบนี้ จะให้กูตอบยังงายยย ยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ อีก กูหลอนนน
เช้านี้ผมก็แต่งตัวไปเรียนอย่างเช่นทุกวัน ใส่เสื้อสีมอๆตัวใหญ่ๆ กางเกงเอวสูง รองเท้าสีเน่าๆที่ไม่ค่อยได้ซัก สวมแว่นตารูปร่างโบราณๆอย่างเช่นเคย ผมไม่ได้สายตาผิดปกติหรอกแค่ใส่ปกปิดใบหน้าเฉยๆเท่านั้นเอง
วันนี้ตอนเย็นพวกปีสองถูกรุ่นพี่ให้มารวมตัวที่หอประชุมบอกว่ามีเรื่องจะแจ้ง คงไม่พ้นจะใช้งานอะไรอีกแน่นอน รุ่นพี่เรียกมักไม่ค่อยมีเรื่องดีๆหรอกครับ
พวกพี่ปีสามออกมายืนหน้าหอประชุม 4-5 คน โดยมีปีสองนั่งอยู่ที่พื้นห้องเป็นแถวๆคล้ายๆรับน้อง
“วันนี้ที่พวกพี่ๆเรียกน้องๆปีสองประชุมเพราะว่าเราจะมีงานเกษตรแฟร์ที่จะจัดที่จังหวัดเชียงราย เราต้องการปีสองซัก 10 คนไปช่วยงานค่ะ มีใครอาสาจะไปช่วยงานพวกพี่มั้ยครับ”
ว่าแล้วเชียว บรรยากาศมันใช่ งานใช้แรงงานก็มา
“พอดีว่ามีพี่ปีสามจะไปประมาณ 20 คนค่ะ เลยอยากได้ปีสองไปช่วยงานหน่อย ใครจะไปลงชื่อได้ที่พี่นะคะ”
“พี่แล้วไปกี่วันครับ?”
“5 วัน 4 คืนครับน้อง”
เงียบ…อย่างนี้แหะครับภาคผมไม่ค่อยมีใครเสนอตัวหรอก อย่างคราวที่แล้วจัดบูธจ๊อบแฟร์ก็ไม่มีใครอาสาเลยต้องจับฉลากกัน แล้วผมก็ซวยไงแต่เป็นงานที่จัดที่หมาวิทยาลัยก็ไม่ต้องเตรียมอะไรมากมาย
“น้องๆเงียบมาก…งั้นใช้วิธีเดิมเนอะ! จับฉลากกันดีกว่าค่ะ”
รุ่นพี่เหมือนจะรู้นะ เตรียมกล่องใส่ฉลากออกมาแล้ว
“เอาล่ะค่ะเดี๋ยวน้องๆออกมาจับได้เลยพี่ต้องการ 10 คนนะคะ อยู่ฟรีกินฟรีไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลยแค่ไปช่วยจัดบูธเท่านั้นเองค่ะ”
พวกปีสองทยอยออกไปจับฉลาก หวังว่าคราวนี้ผมคงไม่ซวยจับได้อีกหรอกนะ แต่เชียงรายผมก็ยังไม่เคยไปเลย
แก๊งค์สี่ยอดกุแมวทยอยเดินออกไปจับ ท่าทางแต่ละคนนี่ทำหน้าเบื่อหน่ายกันอย่างชัดเจนโดยเฉพาะไอ้แมวส้มตุ๊กแก ทำหน้าโคตรเบื่อโลก ทีเห็นผู้หญิงทำหน้ากระดี๊กระด๊าเหมือนแมวได้กินปลาทู
“น้องๆเปิดฉลากดูรึยังครับ”
“เปิดแล้วค่า/ครับ”
“เห็นอะไรมั้ย?”
“ไม่เห็นค่า/ครับ/มีตัวเลขครับ”
“เอาล่ะครับ ใครที่ได้หมายเลข 1-10 ต้องไปเป็นทีมสตาฟจัดบูธ ส่วนใครได้กระดาษเปล่าไม่ต้องไปครับ”
“ไม่ไปได้มั้ยครับ/ค่ะ”
ดูทั้งภาคจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างมากครับ ไม่มีใครอยากไปเลย!
“ไม่ได้ครับ ใครได้หลายเลข 1-10 ออกมาโชวตัวหน่อยค่ะ พี่จะให้ลงชื่อไว้ก่อนเนอะ เดี๋ยวพวกเราชิ่งพี่จะได้ตามถูก”
ปีสองคนที่ได้เลข 1-10 ทยอยเดินออกไปที่หน้าห้องประชุม รวมถึงตัวผมด้วย !! เฮ้ยยย! โดนอีกแล้ว ทำไมดวงซวยอย่างนี้วะ!
“ว้าวๆสี่ยอดกุแมวได้ทั้งทีมเลยเหรอ ดีมากๆ ลงชื่อที่พี่เลยค่ะ”
เหอะ! ต้องไปกับทีมไอ้ตุ๊กแกจนได้ ยิ่งไม่ค่อยอยากจะเจอมันอยู่ด้วย กลัวมันจำได้
“อ้อน้องแว่นก็มา ดีครับทีมเราจะได้ดูฉลาดๆ แต่ท่าจะให้ดีน้องน่าจะไปตัดผมหน่อยนะพี่ว่า”
อย่าดีกว่าครับ เดี๋ยวความลับแตก ให้ผมอยู่อย่างนี้แหละดีแล้ว
“นัดกันเลยดีกว่าเนอะ วันมะรืนให้น้องๆทั้ง 10 คน มารอที่หน้าหอประชุมเวลาห้าโมงเย็นเพื่อเตรียมขนของขึ้นรถ เราจะออกเดินทางกันตอนหนึ่งทุ่มตรงครับ”
“ใครไม่มาพวกพี่ๆจะไปตามล่าที่หอพักนะคะ เพราะพวกพี่ๆมีที่อยู่ของพวกเราทุกคนแล้ว”
พวกพี่ๆแม่งก็เก่งเนอะรู้ไปหมด ถ้ามีคนไม่มาพวกพี่มันคงไปตามลากคอที่หอกันจริงๆ
“เอาล่ะครับทุกคนแยกย้ายกันได้ ขอบคุณทุกคนที่สละเวลามานะครับ”
หลังจากนั้นพวกปีสองก็แยกย้ายกัน ผมว่าผมน่าจะต้องไปทำบุญล้างซวยบ้างแล้วล่ะ เพราะมันอาจจะเป็นกรรมที่ผมไม่ค่อยได้เข้าวัดทำบุญก็ได้ ชีวิตเลยจะซวยๆหน่อย เกิดมาหน้าตาดีก็มีกรรมพออยู่แล้ว

จบตอนที่ 2

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### 2 เกิดมาหน้าดีไม่พอแถมยังซวยด้วย 09-09-2020
เริ่มหัวข้อโดย: MJTogether ที่ 20-09-2020 09:19:12
:pig2: :pig2: :pig2: :pig2:

ตอนที่ 3 ไอ้ลูกชายไม่เข้าใจกู๊


           วันนี้พวกปีสองที่ถูกบังคับให้ไปช่วยงานเกษตรแฟร์ที่จัดขึ้นที่เชียงราย กำลังทยอยเดินทำหน้ามุ่ยมารวมตัวที่หอประชุม หน้าตาบ่งบอกชัดเจนว่าไม่อยากไปร่วมงานอย่างแรง! รวมถึงตัวผมเองด้วย
ไอ้โอมมันก็ไม่อยากให้ผมไปเพราะไม่มีคนช่วยงานที่ร้านเหล้า มันบอกว่าไอ้อาร์ทพึ่งไม่ค่อยได้ แล้วไม่ให้กูลาออกจากมหาวิทยาลัยมาทำงานที่ร้านเหล้ามึงอย่างถาวรเลยล่ะ ไอ้ห่า!!
“เอ้าน้องๆปีสอง ทำหน้าตาให้เบิกบานกันหน่อยค่ะ พี่ๆไม่ได้พาไปรบน้า แค่ให้ไปช่วยจัดบูธเอง”
“ช่ายๆ อยู่ฟรีกินฟรี ได้ไปพักรีสอร์ทเลยน้า”
“บรรยากาศดีมากครับ ไม่ร้อนพี่ๆคอนเฟิร์ม”
   แต่ละคนก็ไม่ได้ทำหน้าตาให้เบิกบานสดชื่นขึ้นแต่อย่างใด แต่ก็ยังช่วยกันยกสิ่งของที่เตรียมไปจัดบูธขึ้นรถ อุปกรณ์ที่เตรียมไปจัดงานก็พวกป้ายให้ความรู้เกี่ยวกับความรู้เรื่องสมุนไพรต่างๆ ใบปลิวแผ่นพับอีกหลายกล่อง
   แต่ละคนก็จับคู่กันนั่งบนรถบัส และแน่นอนผมก็ได้นั่งคนเดียว ดีซะอีกนั่งสบายเพราะขาผมยาวถ้านั่ง 2 คนจะเบียดกัน พวกเราต้องนั่งรถเกือบ 10 ชั่วโมง เราก็นั่งกันไปโงกแล้วโงกอีก หลับแล้วก็ตื่นตื่นแล้วก็หลับกันไปหลายรอบก็ยังไม่ถึงเลย
“เอ้าน้องๆ ลงรถครับถึงแล้ว”
“ของยังไม่ต้องยกลงนะคะ เดี๋ยวพี่ปล่อยให้เอาสัมภาระส่วนตัวเข้าไปเก็บในห้องพักก่อนเนอะ”
“4 คืน 5 วันเราต้องพักที่นี่ แต่ก็ไม่ต้องห่วงน้าเพราะมหาวิทยาลัยเราเหมาที่พักไว้แล้ว จะมีแค่พวกเรานี่แหละค่ะ”
“เดี๋ยวน้องๆมาเข้าแถวจับเบอร์เลือกห้องพักก่อนค่ะ”
“ไม่ต้องจับเบอร์ไม่ได้เหรอครับ จับคู่กันเองก็ได้นะครับพี่”
ไอ้ตุ๊กแกมันเสนอความคิดเห็น ก็ดีเหมือนกันนะ เพราะผมดวงค่อนข้างซวยอาจจะได้คู่เป็นมันก็ได้ซึ่งผมไม่อยากได้เลยจริงๆ
“ไม่ได้ครับ ต้องจับฉลากเพราะพี่ๆอยากให้น้องๆได้จับคู่กับพวกพี่ๆด้วย ชายหญิงแยกแถวนะครับ”
“โหพี่ ไม่เอาได้เปล่า”
มีเสียงปีสองบ่นง๊องแง๊งๆ แต่รุ่นพี่ใจโฉดมันก็ไม่สนใจ บังคับให้จับฉลากกันทุกคน
“จับได้เลขห้องแล้วก็มารับกุญแจที่พี่นะคะ”
“ครับ/ค่ะ”
เสียงอ่อยมากอ่ะแต่ละคน โดนบังคับให้มาช่วยงาน แล้วยังโดนบังคับให้พี่อยู่ร่วมกับรุ่นพี่อีก เฮ้ออ!
“ไอ้โต๋มึงได้หมายเลขอะไรวะ ของกูได้เลข 17”
ไอ้ไข่ย้อยมันพูดขึ้นเมื่อเราทยอยเดินหาหมายเลขห้องพัก ของผมได้หมายเลข 13 เป็นเลขที่มองเห็นความซวยลางๆมาแต่ไกล เมื่อกี๊แวะไปขอกุญแจมา รุ่นพี่บอกว่าคู่บัดดี้ไปเอามาก่อนแล้ว
“ของกูเลข 14 อยู่กับพี่หมวยปีสาม ยังดีนะสนิทกับพี่เขาอยู่เหมือนกัน กูไม่อยากอยู่กับคนไม่สนิทเลยอ่ะ”
จ๊ะจ๋าผู้หญิงคนเดียวที่อยู่ในกลุ่มสี่ยอดกุแมวพูดขึ้น
“ของไอ้บดินทร์ได้เบอร์ 9 อยู่กับพี่หน้าโหดปีสี่ สงสารฉิบหาย”
“เอ้าไอ้โต๋ ตกลงมึงได้เลขอะไร ยังไม่ตอบเลย”
“กูดูไม่ออกนี่มันเลขอะไรวะเลข 8 หรือเลข 3 วะ”
“ไหนเอามาดูดิ…อ๋อเลข 3 เขียนเหมือนเลข 8 เลย”
“ห้องกูไปทางนี้ กูไปก่อนเดี๋ยวมาเจอกันที่ส่วนกลางนะ”
รีสอร์ทที่นี่ห้องพักแยกกันอยู่ห่างพอสมควร มีห้องพักประมาณ 20 ห้อง ลำพังพวกเรามาพักก็เกือบเต็มแล้วครับ ผมก็เดินไปตามป้ายบอกว่าห้องของผมต้องเลี้ยวซ้ายเดินไปซักพักก็เจอป้ายบอก มีใครคนนึงกำลังไขกุญแจห้องหมายเลข 13 อยู่... คงไม่ต้องให้ผมบอกว่าเป็นใครหรอกมั้ง
“…”
ผมไปยืนข้างๆมันที่กำลังเปิดประตูห้องเข้าไป
“…ไอ้แว่น มึงก็อยู่ห้องนี้เหรอ?”
“…กูคิดว่าจะได้อยู่กับรุ่นพี่สวยๆซะอีก”
มันพูดแล้วก็ยิ้มที่มุมปาก แบบที่หลายๆคนมองว่าหล่อวัวตายควายล้ม หล่อฉิบหายวายวอด
ผมก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ไม่ค่อยอยากเสวนากับกัน
“กูขออาบน้ำก่อนแล้วกัน เหนียวตัวฉิบหาย”
“…”
เรื่องของมึงเถ๊อะ! แต่ว่า…ผมลืมอะไรไปรึเปล่าวะนึกไม่ออก… จัดของก่อน ตอนนี้แค่สิบโมง เที่ยงๆรุ่นพี่บอกให้ไปรวมตัวกินข้าวที่ส่วนกลาง ช่วงบ่ายค่อยไปสถานที่จัดงาน สถานที่จัดงานก็เป็นมหาวิทยาลัยในพื้นที่นี่แหละครับ รุ่นพี่บอกว่าต้องนั่งรถเป็นชั่วโมงเหมือนกันกว่าจะถึง
“มึงไม่อาบบ้างเหรอ นั่งรถมาตั้งหลายชั่วโมง”
“อาบครับ”
นึกออกแล้วครับว่าผมลืมอะไร ฉิบหายล่ะทีนี้ !! ลืมไปเลยว่าเวลาอยู่ห้องพักก็ต้องมีการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ไอ้ตุ๊กแกมันต้องจับได้แน่นอนเลย แล้วผมจะทำยังไงดีเนี่ย!!
“เหรอ? งั้นกูออกไปเดินเล่นข้างนอกนะ ไม่ได้เอากุญแจไป มึงเป็นคนเก็บเลยก็แล้วกัน”
“…ครับ”
“เอาเบอร์มึงมาด้วยเผื่อกูเข้าห้องไม่ได้จะได้โทรตาม”
“…”
ไม่อยากให้เบอร์มันเลยให้ตายสิพระเจ้าจ๊อด!! เอาวะ วันหลังค่อยบล็อกมันก็ได้ หลังจากที่ไอ้ตุ๊กแกมันออกไป ผมก็อาบน้ำนอนอ่านการ์ตูนเล่นไปพลางๆ ผมเอาติดมาด้วย 2-3 เล่ม
เวลาเที่ยงผมก็ออกมาจากห้องพัก ไปรวมกันที่ส่วนกลางของรีสอร์ทเพื่อกินข้าวกลางวัน ผมก็นั่งกินปกติของผมไปจนมีไอ้ตุ๊กแกเดินเข้ามาที่โต๊ะที่ผมนั่งอยู่คนเดียว
“ทำไมมึงไม่ไปนั่งกับคนอื่น?”
มันก็เรื่องของกูป่ะวะ มึงจะทำไมกูเนี่ย!
“…”
“เอากุญแจมาหน่อยกูลืมของ”
ผมก็ให้กุญแจมันไป แล้วก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อไป
หลังจากนั้นงานใช้แรงงานก็มา พวกเราเด็กคณะเกษตร ม.xxx ก็เดินทางไปยังมหาวิทยาลัยในพื้นที่เพื่อเตรียมจัดบูธงานเกษตรแฟร์
“เอาล่ะครับ งานจะเริ่มพรุ่งนี้แต่วันนี้เราจะเตรียมจัดบูธกันก่อน เราต้องเตรียมให้เสร็จก่อนห้าโมงเย็นนะครับ”
“หลังจากเตรียมเสร็จเรียบร้อย รถจะกลับไปส่งที่รีสอร์ทแล้วจะนัดทุกคนรวมตัวกันเวลา 2 ทุ่มเพื่อคุยรายละเอียดงานนะคะ”
ใช้แรงงานยังไม่พอ ยังต้องไปรอคุยงานอีกนัดคุย 2 ทุ่ม กว่าจะตกลงกันได้ก็คงเที่ยงคืนล่ะมั้ง
หลังจากประชุมเสร็จผมก็รีบชิ่งไปเข้าที่พักก่อนแต่ลืมไปว่ากุญแจอยู่ที่ไอ้ตุ๊กแกมัน
“นี่…”
“ห๊ะ! อะไรของมึง?”
“ผมขอกุญแจห้องหน่อย”
“อ่อ…แล้วก็ไม่พูด ทีเวลาตอบคำถามอาจารย์ล่ะคล่องปรื๋อ”
มันล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบกุญแจออกมา แต่ไม่ยอมส่งให้
“…”
ก็ไม่อยากคุยกับมึงไงไอ้ตุ๊กแกหน้าหล่อ
“นี่มึงไม่คิดจะตัดผมซักหน่อยเหรอ?”
“…”
“เออ! พูดด้วยก็ไม่พูดด้วย จะไปไหนก็ไปเลยไป”
มันโยนกุญแจมาให้ ผมรับเกือบไม่ทัน ดีนะไม่ตกลงไปในอ่างปลา ไอ้ห่าเดี๋ยวต้องลำบากกูลงไปงมอีก
ผมรีบกลับมาห้องอาบน้ำเตรียมตัวมุดผ้าห่มนอน ใครจะรู้เวลาหลับมันอาจจะแอบดูผม ผมเลยใส่แว่นแม่งนอนเลย!
“หลับแล้วเหรอวะไอ้แว่น”
ผมได้ยินเสียงกุกกักๆ ไอ้ตุ๊กแกมันกลับมาแล้ว ผมได้ยินเสียงมันบ่นงึมงัมๆ
“แม่งนอนคุมโปงเลย ตลกฉิบหาย”
เสียงมันเงียบไปแล้ว คงไปอาบน้ำ ผมไม่อยากให้ใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของผมซักเท่าไร เพราะอดีตที่ผ่านมามันค่อนข้างน่ากลัวไปซักหน่อย
“เอาล่ะน้องๆตื่นกันรึยังคะ หน้าตาแต่ละคนเหมือนยังไม่อยากตื่นกันเลยเนอะ”
“เดี๋ยวกินข้าวเสร็จเราจะเดินทางไปมหาวิทยาลัย xxx กันเลยนะครับ”
แน่นอนแหล่ะครับไม่ค่อยมีใครอยากตื่นกันหรอก ยิ่งรู้ว่าวันนี้จะต้องไปตะโกนเชิญชวนให้คนเข้าบูธ ยืนแจกเอกสารพร้อมทั้งอธิบายข้อมูลต่างๆ ก็ยิ่งไม่อยากไปกันใหญ่
“เดี๋ยวน้องแว่นเป็นคนช่วยอธิบายข้อมูลนะคะ ส่วนน้องโต๋ให้ไปยืนแจกเอกสารค่ะ”
“ทำไมต้องเป็นผมล่ะครับพี่?”
ไอ้ตุ๊กแกมันนถามพี่ปีสี่คนสวยขึ้น มันยิ้มจนปากจะฉีกไปถึงหูแล้ว
“ก็น้องโต๋หน้าหล่อที่สุดไงคะ ก็เลยต้องเอาไปช่วยเรียกแขก”
“เหรอครับ แต่มันก็จริงนะครับ”   
กิจกรรมวันแรกผ่านไปด้วยดี ไอ้ตุ๊กแกทำหน้าที่เรียกแขกได้ดี ทั้งสาวๆหนุ่มๆต่างมหาวิทยาลัย เดินเข้าบูธมหาวิทยาลัยเราไม่ขาดสาย ผมก็ทำหน้าที่ของผมไปเรื่อยๆจนจบงาน
“วันนี้เราเก็บบูธได้เลยค่ะ พรุ่งนี้ค่อยมาต่อกัน หลังจากกลับที่พักก็ตามสบายเลยนะวันนี้ไม่มีประชุมต่อนะคะ”
“พวกน้องๆผู้ชายช่วยกันยกของไปเก็บที่รถครับ”
งานใช้แรงงานก็มาอีกตามเคย เกิดเป็นผู้ชายก็งี้แหละครับ ต้องรับหน้าที่ทำงานแบกหามงานกรรมกรตลอด สาวๆก็ช่วยเก็บอุปกรณ์ชิ้นเล็กชิ้นน้อยขึ้นรถ วันนี้โคตรเนื่อยคงนอนหลับสนิทดี
“ไอ้แว่นกูยังไม่กลับห้องนะ ดึกๆลุกมาเปิดประตูให้กูด้วย”
มันใช่หน้าที่กูมั้ยนั่น ต้องมาเปิดประตูให้มึงตอนดึกๆเนี่ย
“ไอ้แว่นมึงได้ยินกูมั้ย”
“…ครับ”
เป็นภาระกูอีกไอ้ตุ๊กแกจอมแรดเอ้ยยย!มันคงแอบไปเที่ยวข้างนอกแน่นอนเลย ช่างมัน! รุ่นพี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่อย่าเสือกเมามาให้เป็นภาระกูอีกล่ะ
หลังจากกินช้าวเย็นผมก็กลับห้องมาอาบน้ำนอนอ่านการ์ตูนเล่น นอนไปนอนมาก็เผลอหลับไป
‘ก๊อกๆ’
   ใครมาเคาะเรียกวะกำลังหลับเพลินๆเลย ไม่สนใจแม่ง!
“ไอ้แว่นๆเปิดประตู”
อืม…น้องลิซ่าอย่าเพิ่งปาย… รอพี่แว่นด้วยยย อยากเจอน้อง ฝันเห็นก็ยังดี อยากถูกหวยจะได้ไปเที่ยวเกาหลี
“ไอ้แว่น เปิดเดี๋ยวนี้ ช…ช่วยกูด้วย”
หืม!เสียงไอ้ตุ๊กแก ทำไมเสียงมันสั่นแปลกๆ
“ป…เปิดประตู”
เออ !! มาขัดขวางกูแม้กระทั่งตอนฝันเห็นน้องลิซ่า ผมก็จำใจลุกไปเปิดประตู
พอผมเปิดประตู ไอ้ตุ๊กแกมันก็ผวาเข้ามากอดผมเลย อ๊ากกก!! อย่ากอดกู กูหลอน กูอยากกอดน้องลิซ่าคนเดียวเท่าน้านนน
“ช…ช่วยกูหน่อย กูร้อน”
แล้วให้กูทำไงอ่ะ เอาน้ำแข็งให้มึงกินเหรอ
“ก…ร้อนมาก…อา…”
ฉิบหาย! มันเป็นอะไรวะ แล้วอะไรมันดันอยู่ที่ต้นขาผมวะ
“แว่น…ช่วยกู”
มันหอบแล้วก็หายใจหนักๆ หน้ามันแดงๆ มันเป็นอะไรเนี่ย
“ป…ปวดท้องเหรอ เดี๋ยวผมไปเรียกเจ้าหน้าที่ที่พักให้นะ”
“ม…ไม่ต้อง”
เฮ้ยๆๆมันลูบตูดผมอ่ะ มึงทำอาไร๊ ปล่อยกู๊!!
“ด…เดี๋ยวก่อนครับ ป…ไปนอนที่เตียงเดี๋ยวผมไปเรียกรุ่นพี่นะ”
“ไม่…มึงช่วยกูหน่อย”
มันลูบไม่เลิก ผมเลยพยุงมันโยนลงไปที่เตียง
‘ผลั่ก’
ไอ้ตุ๊กแกมันเริ่มถอดเสื้อ…มันคงชอบถอดเสื้อนอน แต่ตัวขาวฉิบหาย หัวนมชมพูด้วยอ่ะ แต่ผมว่าตัวมันแดงๆนะ
ม…มันถอดกางเกง เอิ่ม คงไม่มีอะไรมั้ง มันคงชอบถอดกางเกงนอน แต่ขาข๊าวขาว เรียวด้วย น้ำลายหก เอ้ยไม่ใช่!!
“ไอ้แว่นม…มาช่วยกูหน่อย…”
“ช…ช่วยอะไร เดี๋ยวผมไปเรียกรุ่นพี่ดีกว่านะ”
อย่ามาเรียกกู๊ ผมหันหลังเตรียมไปเรียกรุ่นพี่มาดูดีกว่า เผื่อไอ้ตุ๊กแกมันไม่สบาย
‘หมับ’
“เฮ้ยย!”
ไอ้ตุ๊กแกมันกระโดดมาจับตูดผมอีกแล้ว มึงจะอะไรกับตูดกูนักหนา ปล่อยกู๊!!
“มึงก็ช่วยกูหน่อย กูโดนยามา”
“ย…ยาอะไร”
พูดตะกุกตะกักเลยกู ผมหันไปจ้องหน้ามัน หน้ามันแดงๆ เหงื่อชื้นที่หน้าผาก ตามันฉ่ำๆนะ มันกัดปากมองมาที่ผม
ด…เดี๋ยวก่อน อาการนี้มัน…
“ยาปลุกเซ็กส์ไง”
ฉิบหาย!! ลางร้ายบอกว่าผมกำลังจะเสียซิง ไม่อาว…พ่อแก้วแม่แก้วช้วยด้วยผมกำลังจะถูกผู้ชายปล้ำ!!
ไม่พูดเปล่าไอ้ตุ๊กแกมันจับผมโยนไปที่เตียง แล้วตามมาค่อมไว้ ตัวมันเหลือแต่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวที่มีอะไรตุงๆอยู่ข้างในด้วย หวังว่ามันคงเป็นแค่มะเขือม่วงที่มันใส่ไว้ในบ๊อกเซ่อร์…ที่ไหนเล่า!!!
“ช่วยกูหน่อย ขอยืมตูดมึงแป๊บเดียว”
ไอ้สัด! ตูดมันขอยืมกันไม่ได้!! ผมหลับตาปี๋ ใช้สมองอันชาญฉลาดของตัวเองคิดว่าจะทำยังไงดี
“เอ่อ…เดี๋ยวผมไปบอกเพื่อนคุณให้นะ ให้เขาหาผู้หญิงให้”
“ไม่ไหว กูรอไม่ได้…นะแว่นนะ”
มันกระซิบที่หูผม จั๊กจี้ว่ะ มันค่อยๆไล้เลียที่ติ่งหูผม ซุกไซ้ที่ซอกคอ อ๊ากก!! มันกำลังทำผมเคลิ้ม
“อา…เดี๋ยว…ผ…ผมไม่”
“อืม…แว่นมึงเกะกะจัง”
มันถอดแว่นผมออก ม่าย!!เอาแว่นกูคืนมา ผมจะแย่งกลับแต่มันโยนฟิ้วไปตกข้างเตียงแล้ว ถึงมันจะไม่ใช่แว่นสายตาแต่มันก็แพงนะเฟ้ย!
“ไอ้แว่น!! ทำไมมึง??”
ไอ้ตุ๊กแกมันตาเหลือกแล้ว อาไรอี๊กกก???
“ม…มึงคือคนที่ร้านเหล้า”
ฉิบหาย!!! ความลับแตก
“…ม…ไม่ใช่”
“หึ!! ใช่มึงจริงๆ”
“อ๊ะ! เดี๋ยวโต๋…ผ…อย่า”
มันกัดที่ซอกคอผม แม่งเป็นหมาเหรอ เจ็บจี๊ดๆไอ้โรคจิตเอ๊ยย!!
“มึงอยู่เฉยๆแว่น กูไม่อยากใช้กำลัง”
“ปล่อยนะ…อา…”
มันล้วงเข้ามาในกางเกงบอลผมแล้ว ลูบไล้น้องชายผมไปมาดูชำนาญจริงนะมึงน่าหมั่นไส้!!
“อืม…อย่า”
เคลิ้มครับ อา…รู้สึกดี…ไม่!! มันกำลังจะปล๊ำผมนี่หว่า
“อา…โต๋อย่า…ปล่อยผม อื้อ…”
มันจูบปิดปากผม เรียวลิ้นมันค่อยๆลุกล้ำเข้ามาในปากผม อา…ไอ้ตุ๊กแกมันจูบเก่งฉิบหาย
“อืม…อา”
เสียงครางของมันดังขึ้น เสียงน่ารักจัง…มือของมันก็ยังไม่หยุด มันดันชายเสื้อผมขึ้นมาถึงคอแล้ว เฮ้ยๆๆผมจะยอมไม่ได้นะ
“อา…อืมมม”
ไอ้ตุ๊กแกใช้ปลายลิ้นไล้เสียหัวนมสีน้ำตาลของผมไปมา เสียวว่ะ! ไอ้นี่มันเก่งเกินไปแล้ว!! ผมจะทำยังไงเนี่ย รู้สึกว่าตูดไม่ปลอดภัย
“ด…เดี๋ยวโต๋ ผ…ผมใช้มือทำให้นะ”
“…”
มันเงียบ แต่เงยหน้ามามองผม หน้ามันบ่งบอกว่าอารมณ์ขึ้นสุดๆ แต่ก็ดูเซ็กซี่ดี…อา…นี่ผมเป็นอะไรวะ!! รู้สึกเคลิ้มจัดเลย! ไอ้น้องชายในกางเกงก็ไม่ให้ความร่วมมือเลย
“…หึ! ของมึงนี่ใหญ่นะ”
อย่ามาชมกู๊ กูเขิน เอ่อ…ไม่ใช่สิ…
“อา…อืมมมม อย่า…”
ไอ้ตุ๊กแกมัน!! ใช้ปากทำให้ โอ!! แม่เจ้า พระเจ้าจ๊อด !! หลวงพ่อ ช่วยด้วย!! ครั้งแรกของผม…เสียวฉิบหายยยย ไม่เอาไม่เคลิ้ม
“ซี๊ดดดด ต…โต๋…ม่ายยยย”
ไม่ไหวแล้ว ผมจะยอมง่ายๆไม่ได้!! จะทำไงดี จะลุกวิ่งหนีก็ไม่ไหว…ไอ้น้องชายก็ไม่เป็นใจเล๊ยยยแข็งสู้ลิ้นมันอี๊กก ลูกชายไม่เข้าใจกู…

จบตอนที่ 3
 
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 3 ไอ้ลูกชายไม่เข้าใจกู๊ 20-09-2020
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 23-09-2020 22:38:15
 :laugh:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 3 ไอ้ลูกชายไม่เข้าใจกู๊ 20-09-2020
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 24-09-2020 21:42:07
 :m20:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 3 ไอ้ลูกชายไม่เข้าใจกู๊ 20-09-2020
เริ่มหัวข้อโดย: MJTogether ที่ 03-10-2020 17:59:23
         
   :pig2: :pig2: :pig2: :pig2:


ตอนที่ 4 ในที่สุดก็xxxจนได้

            ตอนนี้ผมกำลังหาทางหนีไอ้ตุ๊กแกที่มันกำลังกลัดมันปลุกปล้ำผม ผมจะทำยังไงดี?? จะยอมมันดีมั้ย ?? หรือผมจะเตะก้านคอมันให้สลบดีวะ!
“เดี๋ยว…อา…”
ผมไม่ไหวแล้ว ทำไมมันเก่งนักวะ!
“อยู่เฉยๆไอ้แว่น จะได้ไม่เจ็บตัว”
“ปล่อย…อืม”
“อา…”
เดี๋ยวๆ! ไอ้ตุ๊กแกมันทำท่าจะแหย่นิ้วเข้ามาในตูดผม ซึ่งมันทำให้ผมยอมไม่ได้ จะเสียซิงทั้งทีจะเป็นรับไมได้เด็ดขาด!
ผมจับมันพลิกลงใต้ร่างผม ก่อนที่จะจู่โจมที่ซอกคอมัน ถึงผมจะยังซิงแต่ทฤษฎีผมแน่นมาก…
“เฮ้ย! ไอ้แว่นปล่อยกูนะ”
มันยังแรงไม่ตกขนาดโดนยามาขนาดนี้ แต่ผมก็ไม่ยอมให้มันเอาง่ายๆหรอก
“อา…”
มันเริ่มคราง เมื่อผมลูบไล้ไอ้ตุ๊กแกน้อยไปมา
“อืม…”
มันเคลิ้มครับ ทั้งๆที่ผมแหย่นิ้วเข้าไปในช่องทางแคบๆของมัน มันยังไม่รู้ตัวเลย แล้วผมก็เพิ่มจำนวนนิ้วเข้าไปอีก ข้างในไอ้ตุ๊กแกมันร้อนมาก แถมยังบีบรัดนิ้วมือผมซะแรงอีกต่างหาก สติผมก็ชักจะเริ่มกระเจิงแล้ว
“อือ…เจ็บ”
หน้าไอ้ตุ๊กแกมันแดงจัด นอนบิดตัวไปมา ปากมันแดงจนผมทนไม่ไหวจูบมันหนักๆไปหลายที
“อืม…อา…”
เราจูบกันอย่างดุเดือด ไอ้ตุ๊กแกมันชำนาญมากดูดปากดูดลิ้นผมจนรู้สึกเสียวไปหมด
“อา…”
ผมทนไม่ไหวเลยเอานิ้วออก แล้วแทนที่ด้วยไอ้แว่นน้อยแต่ไม่น้อยของผมแทน ตัวไอ้ตุ๊กแกมันกระตุก ข้างในมันแน่นมาก แต่ผมก็ยังดันเข้าไปได้จนสุด
“อ๊า! เจ็บ…ไม่เอา...เอามันออกไป”
ไอ้ตุ๊กแกมันขัดขืน แต่ผมก็ไม่หยุดหรอก ถ้าผมไม่ทำ ผมเองนี่แหละจะถูกมันจับกดแทน
“กูจะช้าๆ”
ผมกระซิบบอกมัน
“เบาๆ...อือ...เจ็บ...กูเจ็บ”
มันบอกให้เบาๆ แสดงว่ามันให้ผมเอาได้? แสดงว่ามันสมยอมแล้ว?
“อีกนิด...”
“มึง…ช้าๆ”
“อืม…มันแน่น…ผ่อนคลายหน่อย”
ผมกระซิบบอกมันที่ข้างหู มันสะดุ้งเล็กน้อย จุดอ่อนมันอยู่ที่หูสินะ
“อือ…”
ผมเริ่มขยับสะโพกเบาๆเพื่อเปิดทาง ข้างในไอ้ตุ๊กแกมันร้อนแล้วก็ตอดรัดไอ้ลูกชายผมแน่นมาก
“อืม…อา”
ผมครางเบาๆ ความรู้สึกนี้มันเป็นอย่างนี้เอง อา...เสียวดีฉิบหาย ไอ้ตุ๊กแกมันทำหน้าเบ้ สงสัยจะยังไม่หายเจ็บ ผมว่ามันน่าจะชินได้แล้วนะ คนอย่างมันอ่ะ!
“ช้าๆ...กูเจ็บ”
สงสัยมันยังเจ็บจริงๆ แต่ผมอารมณ์ขึ้นแล้ว ถอยหลังไม่ได้แล้ว! ผมดูดติ่งหูมันหนักๆ มันเลยรัดไอ้ลูกชายผมแน่นกว่าเดิมอีก
“มึง…น่าจะชิน”
“ไอ้เหี้ย! อ๊ะ…กูไม่เคย”
ไม่เคย?? ข้างหลังอ่ะเหรอ? จริงเหรอ?
“…”
อย่างมันเนี่ยนะไม่เคย ? ไม่น่าเป็นไปได้! มันต้องโกหกผมแน่ๆ แต่ผมไม่สนใจแล้ว ผมกระแทกเอวไม่ยั้งเลย ความรู้สึกมันดีมากๆ อา…ผมใกล้เสร็จแล้ว
“อืม...อา...”
ไอ้ตุ๊กแกมันครางหนักๆหลายครั้ง มันกอดคอผมแน่น ผมรู้สึกว่าแสบหลังคงเป็นเพราะมันจิกเล็บลงมาแน่ๆ แต่ตอนนี้ช่างมันก่อน
“ซี๊ด...”
“อืม...ไอ้แว่น...กูจะเสร็จ...อา”
ผมก็เหมือนกันเลยเร่งความเร็วขึ้นอีก
“อืม...อ๊ะ...อา...”
เราเสร็จผมกัน ตอนนี้ผมกับมันนอนซบกอดกันแล้วก็หายใจเข้าออกแรงๆ หมดแรงด้วยกันทั้งคู่ ซักพักไอ้ลูกชายผมมันก็ตื่นตัวอีกรอบ ผมพลิกตัวไอ้ตุ๊กแกนอนคว่ำลงที่เตียง ตอนนี้ตัวลายลายเป็นตุ๊กแกสมชื่อไปแล้ว ก็เพราะผมทั้งดูดทั้งกัดมันเต็มไปหมด ก็มันมันเขี้ยวไง
“เดี๋ยว...ไม่”
“มึงไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธกู”
ใช่! เพราะมึงเริ่มก่อน มึงทำให้กูต้องเสียซิงที่ผมอุตสาห์เก็บรักษาไว้ตลอด 20 ปีให้มึง?  ทีนี้ก็ตากูมั่งล่ะ ผมจับหน้ามันกดลงบนเตียงแล้วยกสะโพกมันขึ้นมา
“อ๊า...”
มันร้องหลงเมื่อผมยัดไอ้ลูกชายเขาไปอีกครั้ง...
ผมจำไม่ได้ว่าเสร็จไปกี่รอบแต่เท่าที่รู้ตอนนี้ไอ้ตุ๊กแกมันสลบไปแล้ว ผมเลยหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้มันแบบลวกๆเปลี่ยนเสื้อผ้าให้มัน เสร็จแล้วตัวเองก็ไปอาบน้ำ ผมเหนียวตัวมาก สังสัยคงเพราะเหงื่อออกมากเสร็จแล้วก็เข้านอน
 ประสบการณ์ถูกเปิดซิงไม่ค่อยสวยงามเท่าไร เกือบถูกจับกดเลยจำใจจับมันกดซะก่อน ไม่งั้นผมคงไม่รอดเสียตูดให้มันแน่ นอนดีกว่าเกือบเช้าแล้วไม่รู้ว่าไอ้ตุ๊กแกมันตื่นมาจะทำหน้ายังไง
ผมตื่นมาก่อนทั้งที่ได้นอนไป 2-3 ชั่วโมงเอง หันไปมองไอ้ตุ๊กแกมันยังไม่ตื่น สภาพเรายับเยินทั้งคู่ เหมือนคนไม่ได้นอน หน้าแดง ผมชี้โด่ชี้เด่ หมดสภาพคนหน้าดีทั้งสองคน ผมรีบไปอาบน้ำก่อนดีกว่า...
หลังจากที่ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ไอ้ตุ๊กแกมันก็ยังไม่ขยับเขยื้อน ไม่ใช่ว่ามันตายไปแล้วเหรอเนี่ย! เดี๋ยวก็ได้เวลารวมตัวกันไปเปิดบูธแล้ว
“ไอ้โต๋ตื่น”
ผมใช้ตีนเขี่ยขามันเบาๆ แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ผมเรียก แต่ขามันขาวมากอ่ะ
“โต๋ตื่นได้แล้ว”
ยังเงียบ มันคงไม่ได้ตายไปแล้วจริงๆหรอกนะ ผมลองเขย่าตัวมันดู
“อือ...”
เสียงมันครางในลำคอเบาๆ รู้สึกว่าตัวมันร้อนๆ ผมลองคลำๆตัวมันดู ตัวมันร้อนจริง คงเป็นไข้ ผมคงต้องไปตามรุ่นพี่แล้ว ผมออกจากห้องเดินไปที่จุดรวมตัว เจอพี่ปีสี่เลยเดินเข้าไปบอก
“เอ่อ...คือพี่ครับ โต๋ไม่สบายตัวร้อนมากเลย”
“เหรอ! เดี๋ยวพี่ไปขอยาที่ส่วนกลางมาให้นะ”
“เดี๋ยวผมไปด้วย”
ผมกับเดินไปกับพี่ปีสี่ที่ผมจำชื่อไม่ได้ ตัวแกเตี้ยกว่าผมหลายเซนอยู่ เป็นรุ่นพี่ดันเสือกตัวเตี้ยกว่าผมอีก
“เอายาไปให้โต๋กินนะ แต่ต้องกินข้าวก่อน แต่พี่รีบเดี๋ยวไปไม่ทันเปิดบูธ ทำไงดีวะ!”
พี่แกยืนบ่นพึมพำๆ เป็นรุ่นพี่ที่ดูท่าทางจะพึ่งไม่ค่อยได้ ผมคิดผิดหรือคิดถูกที่บอกพี่แกวะ!
“เดี๋ยวผมเอาไปให้กินเอง แล้วเดี๋ยวจะสั่งข้าวต้มที่รีสอร์ทด้วย แต่ผมคงไปออกบูธด้วยไม่ได้หรอกครับ”
“…แต่นายกับโต๋เป็นคนดูแลบูธนะ”
“แต่เขาป่วย แล้วก็ไม่มีใครคอยดู”
“...ก็ได้ งั้นพี่ฝากด้วยนะ ถ้าอาการหนักก็โทรบอกแล้วกัน”
“ครับ”
ถ้ารอโทรบอกพี่ ผมว่าไอ้ตุ๊กแกมันตายก่อนพอดี ถ้าอาการมันหนักมากจริงๆ ผม...คงต้องแบกมันไปหาหมอ ผมก็รู้สึกผิดหน่อยๆที่ทำให้มันเป็นไข้
ผมเดินไปสั่งข้าวต้มให้ไปส่งที่ห้อง แล้วเข้าห้องไปดูไอ้ตุ๊กแกมัน ตัวมันยังร้อนอยู่ เลยเตรียมผ้าชุบน้ำเช็ดตัวมัน ตัวมันแดงเป็นจ้ำๆเต็มไปหมด มันคือร่องรอยจากเมื่อคืน ผมแอบคิดว่าถ้าเป็นรุ่นพี่คนอื่นมาดูแลมันแทนผมแล้วมาเห็นร่องรอยนี้มันจะเป็นยังไงนะ
“อือ...”
เสียงไอ้ตุ๊กแกมันครางตอนผมเช็ดตัว มันทำให้ผมนึกถึงเรื่องเมื่อคืน จริงๆผมก็ไม่ได้ติดใจอะไรมันนักหรอก ที่ผมทำไปมันแค่เป็นการป้องกันตัวเท่านั้นเอง...จริงๆนะ!
“โต๋กินข้าวก่อน”
ผมยื่นถ้วยข้าวต้มส่งให้มัน
“กูไม่กิน”
“มึงต้องกิน!”
“กูบอกว่าไม่กินไง!”
เสียงมันดังขึ้น จนเกือบเหมือนตะโกน
“แต่มึงต้องกินแล้วก็กินยา”
“หึ! ไอ้แว่น...หรือจะให้เรียกว่าท่านอ๋องดี กูจะไปบอกทุกคนว่ามึงเป็นคนๆเดียวกัน”
ป่วยเกือบตายยังเสือกปากดี ผมไม่น่าไปหาข้าวหายาให้มันกินเลย
“...ถ้ามึงพูด...กูก็จะพูดเรื่องเมื่อคืน”
“...มึง!...”
มันชี้หน้าผม มือมันสั่นมากอ่ะ นึกว่ามึงเป็นโรคพาร์กินสันเหอะ
“กูทำไม? ถ้ามึงกล้าพูดกูก็กล้า มึงจะลองดูมั้ยล่ะ?”
“ไอ้...เหอะ จริงๆแล้วนี่คือตัวตนที่แท้จริงของมึงล่ะสิ”
“...”
“ทำเป็นเด็กดี เด็กเรียนที่แท้ก็พอๆกับกูแหละวะ”
“มึงอยากพูดอะไรก็พูดไป แต่ต้องกินข้าวก่อน”
“กูบอกว่าไม่กินก็ไม่กินสิ!”
มันทำหน้าแบบหมดความอดทนกับผมเต็มที ทีมึงจับไอ้ลูกชายกูเข้าปากกูยังไม่บ่นซักคำเลย
“แต่มึงต้องกิน อย่าให้กูต้องจับยัดเข้าปากมึง”
ผมขู่มัน แล้วทำท่าจะเอาข้าวยัดปากมันจริงๆ มันเลยยอมกิน แต่กินไปได้นิดเดียวก็วางถ้วยข้าวต้มลง
“...”
 “เอายาไปกิน”
มันรับยาไปแล้วกินเข้าไป เออให้มันว่าง่ายๆมั่ง อย่าให้กูต้องลงมือ ผมรู้ว่าเวลาผมโกรธหรือเอาจริงมันทำให้หลายๆคนไม่กล้าหือซักเท่าไร ดูตัวอย่างไอ้โอมเมื่อก่อนมันทำรถผมพัง ผมโกรธมันต่อยมันคว่ำเลย ทั้งที่มันตัวใหญ่กว่าผมอีก เราตีกันซักพัก ผลปรากฏว่าผมชนะ แต่หน้าตาเราเยินด้วยกันทั้งคู่ ผมก็ไม่ได้อยากจะคุยหรอก แต่ผมต้องไปเรียนชกมวยอยู่พักนึงเลยหลังจากเกิดเรื่องนั้นขึ้น
“กินยาแล้วไปนอน กูก็จะนอน เมื่อคืนแทบไม่ได้นอนเลย”
“ก็มึง...”
“มึงเริ่มก่อน อย่ามาโทษกู ความจริงกูช่วยมึงเอาไว้ด้วยซ้ำไป”
“ไอ้สัด!”
ผมบีบคางมันจนปากที่ซีดๆของมันจู๋เลย ตลกฉิบหาย
“อย่ามาด่ากู กูไม่ชอบ”
“อ่อยอูอูเอ็บ”
“อย่าพูดมาก”
“ไอ้เอวแอ่อึงเอาอูอั้งอ๋ายอั๊ง”
มันพูดไม่รู้เรื่องเพราะผมบีบคางมันอยู่ แต่ก็พอจะรู้ว่ามันยังไม่เลิกด่าผม
“หุบปากซะ กูไม่อยากคุยกับมึง!”
ผมปล่อยมัน มันเลยสบัดหน้าหนีแล้วนอนหันหลังให้ น่ารักตายห่าแหละ! เราก็ไม่ได้พูดอะไรกันต่อ ผมก็นอนของผม ส่วนมันก็นอนของมันไป
ผมตื่นขึ้นมาอีกทีก็เกือบเที่ยง รู้สึกหิวเลยโทรไปสั่งข้าว แล้วก็ไม่ลืมสั่งข้าวต้มมาเผื่อไอ้ตัวดีมันด้วย
“กูไม่อยากกินข้าวต้ม”
มันทำน้าบูดเมื่อเห็นชามข้าวต้มวางตรงหน้า
“มึงอย่าเรื่องมาก”
ตัวมันไม่ร้อนเท่าตอนแรกแล้ว ผมแอบคลำๆดูก่อนที่มันจะตื่น แต่มันก็ยังต้องกินยา
“กูจะเข้าห้องน้ำ”
“...ก็เรื่องของมึง”
มันช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว ผมก็จะไม่ยุ่งกับมันอีก
มันเดินโขยกเขยกเข้าห้องน้ำไป คงจะเจ็บตูดสินะ สมน้ำหน้าเสือกหาเรื่องเอง ผ่านไปซักพักมันก็เดินออกมา คงอาบน้ำเพราะดูหน้าตามันสดชื่นขึ้น ผมก็ว่าอยู่ อย่างมันคงไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก
“แล้วเมื่อคืนมึงไปทำอะไรมา?”
ผมถามมันขณะที่นั่งกินข้าวไปด้วย
“...”
มันไม่ตอบ หันมามองผมด้วยหางตาอีก
“กูถามว่าไปทำอะไรมา?”
ผมตะคอกใส่มัน ต้องให้กูขึ้นเสียงอยู่เรื่อย! ดีนะกินข้าวหมดแล้ว ไม่งั้นข้าวติดคอตายเลย
“…กินเหล้า”
มันเบะปากใส่แล้วตอบผม อยากจะเอาสลิปเปอร์ตีปากมันจริงๆ
“แล้วทำไมโดนยา?”
“กูจะไปรู้เหรอ!!”
มันตะคอกกลับ ดูท่ามันคงไม่รู้จริงๆ ไม่รู้ว่าไอ้โง่ที่ไหนวางยามัน แต่มันก็อีกนั่นแหละเสือกไม่ดูตาม้าตาเรือ มาต่างถิ่นเสือกทำซ่า
“นั่นสิ ถ้ารู้สภาพคงไม่เป็นแบบเมื่อคืน”
“เรื่องเมื่อคืนมึงอย่าพูดมากนะ”
“ใครจะพูดลง จะให้พูดว่ากูเอาผู้ชายหรือไง?”
“ไอ้เหี้ย! มึงหุบปากนะ”
“ทำยังกะมึงไม่เคยงั้นแหละ”
“ไอ้เลว! กูก็บอกแล้วว่ากูไม่เคย”
ถ้าผมคิดไม่ผิด มันคงจะไม่เคยใช้ข้างหลังจริงๆนั่นแหละ แต่ผมก็เดาเอาเองล้วนๆ เพราะผมก็ไม่รู้หรอกว่าคนที่เคยหรือไม่เคยมันเป็นยังไง แต่ก็ไม่ค่อยอยากเชื่อมันเพราะเห็นมันควงทั้งผู้หญิงผู้ชาย
“...มึงยังไม่เลิกด่ากูนะ”
“แล้วมึงจะทำไม!!”
อย่ามาท้ากูนะครับ เดี๋ยวกูจัดให้ ผมลุกไปคว้าตัวมันจับกดลงบนเตียง แล้วตะคอกใส่มัน
“อย่ามาท้าทายกู มึงยังไม่รู้จักกูดีพอ!”
“ปล่อยกูนะ! ไอ้แว่น”
“อย่าทำให้กูโมโห เพราะถ้ากูโมโห กูทำอะไรได้มากกว่าที่มึงคิดอีก”
ผมจ้องตามันที่ ขณะที่จับหน้ามันกดลงที่เตียง หน้ามันบู้บี้เลย ตลกชมัด
“...ปล่อย”
เสียงมันอ่อยลง หน้าเริ่มแดง สงสัยหายใจไม่ออก ผมปล่อยมือเพราะกลัวมันจะหายใจไม่ออกตายซะก่อน
“กินข้าวแล้วกินยาซะ อย่าให้กูพูดรอบสอง”
“...”
ไอ้ตุ๊กแกมันไปนั่งที่โต๊ะ ยกชามข้าวต้มมากินเงียบๆ ผมก็นั่งดูเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไรอีก หลังจากที่มันกินข้าวกินยา มันก็เดินไปนอนที่เตียงอย่างเรียบร้อยและไม่มีปากไม่มีเสียงอีกเลย

จบตอนที่ 4

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 4 ในที่สุดก็xxxจนได้ 03-10-2020
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 03-10-2020 23:10:50
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 4 ในที่สุดก็xxxจนได้ 03-10-2020
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 03-10-2020 23:36:17
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 4 ในที่สุดก็xxxจนได้ 03-10-2020
เริ่มหัวข้อโดย: MJTogether ที่ 05-10-2020 11:44:12
:pig2: :pig2: :pig2: :pig2:

ตอนที่ 5 ใครก็ได้ช่วยผมด้วย!!

        ไอ้ตุ๊กแกมันหลับไปนานแล้ว ผมก็นอนอ่านหนังสือการ์ตูนไปเรื่อยๆ จริงๆก็ไม่ได้อยากจะเล่นบทโหดกับมันหรอกครับ แต่รำคาญที่มันชอบเถียงชอบท้าทาย ถ้าเป็นตอนปกติในห้องเรียนผมจะไม่ค่อยมีปากมีเสียงกับใครเขาหรอก ผมเป็นคนง่ายๆสบายๆอยู่แล้ว
   หลังจากที่มันหลับผมก็แอบไปลูบๆคลำๆตัวมันดู อย่าเข้าใจผิดนะครับแค่อยากรู้ว่ามันตัวหายร้อนแล้วรึยังต่างหากไม่ได้คิดพิศวาสมันซักนิดเลย ถึงแม้เมื่อคืนมันจะทำให้ผมรู้สึกดีมากๆก็เถอะ แต่ว่าผมก็ไม่ได้เต็มใจนี่ครับ แต่จะว่าไปไข้มันลดลงจนเกือบจะเป็นปกติแล้ว เป็นง่ายหายง่ายจริงๆ
‘ก๊อกๆ’
ห้าโมงกว่าแล้วมีคนมาเคาะประตูห้องพัก สงสัยรุ่นพี่คงจะกลับกันมาแล้ว ผมหยิบแว่นมาใส่แล้วทำหัวฟูๆออกไปเปิดประตู
“ครับ?”
“น้องโต๋เป็นยังไงบ้างคะ ไข้ลดรึยัง?”
มีรุ่นพี่ผู้หญิงมากับพี่ปีสี่คนเมื่อเช้าในมือถือถุงมาด้วยน่าจะเป็นถุงข้าวต้มกับถุงยา
“ลดแล้วครับ พี่เข้ามาก่อนก็ได้”
รุ่นพี่ทั้งสองคนเข้ามาในห้อง ผมเลยไปปลุกไอ้ตุ๊กแกมัน รุ่นพี่ก็ถามอาการแล้วเอาข้าวต้มให้มันกิน ดูท่าทางมันไม่ค่อยอยากกินซักเท่าไร ก็แน่ล่ะครับ สามมื้อมานี่มันได้กินแต่ข้าวต้ม เป็นผมคงอ้วกไปแล้ว หลังจากไอ้ตุ๊กแกมันกินข้าวกินยามันก็ไม่พูดไม่จามุดผ้าห่อมนอนต่อเลย
“มึงไม่อาบน้ำก่อนรึไง?”
“…”
ไม่มีสัญญาณตอบรับ มันคงไม่อยากคุยกับผมซักเท่าไร
“หรือจะให้กูอาบให้?”
‘พรึ่บ’
“ไอ้สัด กูยังเจ็บตูดอยู่นะ!”
“…มึงคิดว่ากูจะทำอะไรมึงรึไง?”
“…”
“เมื่อคืนกูก็ไม่ได้อยากเอามึงนักหรอก…”
“ไอ้เหี้ย! แต่มึงเอากูตั้งหลายรอบ”
“หึ! หรือมึงติดใจ?”
“สัด!”
ไม่รู้ว่าหน้ามันแดงเพราะไข้หรือมันอายกันแน่ แต่ที่แน่ๆไอ้คำด่าคำสุดท้ายมันเสียงเบามากจนผมเกือบจะไม่ได้ยินเลย
“แล้วมึงจะอาบเองหรือให้กูอาบให้?”
“ก…กูอาบเอง”
มันสบัดผ้าห่มออกแล้วลุกขึ้นยืน แล้วค่อยๆเดินท่าเป็ดเจ็บตูดเข้าห้องน้ำไป ดูท่าเดินมันแล้วก็ขำฉิบหาย
“ฮ่าๆ”
ไอ้ตุ๊กแกหันควับมามอง ผมชอบเวลามันมองผมด้วยหางตานะ
“หัวเราะอะไรของมึง?”
“เปล่า…จะไม่ให้กูช่วยอาบจริงๆเหรอ?”
“ไอ้สัด! ไม่ต้อง!”
‘ปัง’
ปิดเบาๆก็ได้มั้งเดี๋ยวประตูห้องน้ำรีสอร์ทพัง ต้องได้จ่ายเงินชดใช้เขาหรอก แต่ไอ้ตุ๊กแกมันด่าผมหลายครั้งอยู่นะ ลืมคิดบัญชีกับมันเลย
วันรุ่งขึ้นไอ้ตุ๊กแกมันก็รีบตื่นแต่เช้าแล้วแต่งตัวออกมาจากห้องก่อนผม ดูมันทำตัวแปลกๆ ดูรีบร้อนพิกล แต่ก็ช่างเหอะมันจะเป็นอะไรก็เรื่องของมันสิ
ที่บูธเกษตรแฟร์มันก็ดูจะหาทางหลบหน้าผมตลอด ไม่มองหน้าไม่พูดจา แต่ก็อีกนั่นแหละผมก็ไม่ได้อยากจะสนใจมันซักหน่อย
ผมเข้ามาในห้องพักก่อนก็อาบน้ำแล้วใส่บ๊อกเซอร์นอนอ่านการ์ตูน มาช่วยงานภาคนี่มันเหนื่อยเหมือนกันนะแต่ก็เหลืออีกแค่วันเดียวเท่านั้นก็จะได้กลับแล้ว
‘แก่ก’
   เสียงไอ้ตุ๊กแกมันเปิดประตูห้องเข้ามาแล้ว แต่มันก็คงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไม่พูดไม่จาตามเคย แต่ผมก็ไม่ได้สนใจซักนิด
“…”
ผมเห็นมันเหลือบตามองผม ตอนนี้ผมไม่ได้ใส่แว่นแล้วก็รวบผมมัดไว้เพื่อไม่ให้มันเกะกะเวลาอ่านการ์ตูน เพราะผมก็ไม่ได้จำเป็นต้องปกปิดหน้าตาของตัวเองกับมันแล้ว
“มองอะไร?”
“…เปล่า”
โกหกไม่เนียน ผมเห็นมันแอบมองผมแน่นอนแต่ก็เรื่องของมัน ไอ้ตุ๊กแกมันสบัดหน้าหนีแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป แล้วมันก็เป็นอย่างนี้จนถึงวันกลับไอ้ตุ๊กแกมันไม่พูดอะไรกับใครเลย
“นี่น้องแว่น พี่ถามอะไรหน่อยค่ะ?”
จริงๆแล้วผมไม่ได้ชื่อแว่นนะครับพี่ เรียกจนเป็นน้องแว่นไปแล้ว
“ครับ?”
อยู่ดีๆพี่ปีสามก็ลุกออกมาจากที่นั่งบนรถบัสที่เรากำลังจะเดินทางกลับแล้วเข้ามาถามผมแบบงงๆ
“คือพี่ถามหน่อย น้องโต๋เขาเป็นอะไรรึเปล่า?”
“ยังไงครับ?”
“คือตั้งแต่ป่วยน้องโต๋ก็แปลกๆ ไม่คุยเล่นหรือแซวใครเลยอ่ะค่ะ”
“…อ่อครับ คือเขาอาจจะยังไม่หายดีมั้งพี่”
“เหรอคะ? อืมคงอาจจะใช่เนอะ?”
พี่ปีสามกลับไปนั่งที่เดิม ไอ้ตุ๊กแกมันก็นั่งอยู่กับแก๊งค์ของมัน
“ไอ้โต๋มึงเป็นอะไรของมึง หรือว่ายังไม่หายดี?”
“นั่นสิ ดูมึงเงียบๆ เป็นอะไรรึเปล่าวะ?”
 “อืม กูปวดหัวนิดหน่อย กูนอนนะ”
แต่มันก็แปลกไปจริงๆแหละครับ เพราะเวลาปกติมันจะเฮฮาปาจิงโกะอะไรของมันไปตามเรื่อง แต่นี่กับแก๊งค์ของมันเองยังไม่คุยเลยหรือว่าจะเป็นเรื่องคืนนั้น ?
การเดินทางยังอีกยาวไกลผมนอนเอาแรงดีกว่าวันนี้คงไม่พ้นต้องไปช่วยไอ้โอมที่ร้านเหล้าแน่นอนเลย หลังจากที่นอนไปหลายตื่น พอตื่นมาอีกทีก็เกือบถึงมอแล้ว ปวดเมื่อยตัวไปหมด ขาผมก็ยิ่งยาวๆอยู่
‘Rrrrrrrrrrrr’
ไอ้โอมโทรมา คงเพราะมันจะรู้ว่าผมกำลังกลับ สงสัยมีเรื่องอะไรจะให้ผมช่วยอีกแล้ว เพราะปกติมันไม่ค่อยโทรหาผมหรอกถ้าไม่มีเรื่องอะไรให้ช่วย
“ว่า?”
[มึงจะมาถึงกี่โมง?]
“น่าจะอีกชั่วโมงนึง มีไร?”
[มาช่วยกูดูร้านหน่อย ไอ้อาร์ทพอมันรู้ว่ามึงจะกลับวันนี้เสือกหายไปไหนก็ไม่รู้กูโทรก็ไม่รับสาย]
“เชี่ย! จะไม่ให้กูได้พักมั่งรึไง?”
[เออน่า ช่วยกูหน่อยเดี๋ยวกูเพิ่มเงินให้]
“…เออถ้าทันนะ”
   ว่าแล้วไม่มีผิดแล้วไอ้เวรอาร์ทมันเสือกหายหัวไปไหนวะเนี่ย ต้องลองโทรหามันซักหน่อย
‘ตื๊ดดดด’
เสือกปิดเครื่องอีก ถ้ามันกลับมาผมจะกระทืบมันซักทีสองที
หลังจากที่รถบัสมาถึงมอ พวกเราก็ช่วยกันขนของเก็บเข้าที่ แล้วก็แยกย้ายกันกลับ ยังดีที่พรุ่งนี้ไม่มีเรียนไม่งั้นคงได้โดดเรียนแน่นอนเลย
“มึงมากับกูหน่อย..”
ผมกระซิบบอกไอ้ตุ๊กแกตอนที่มันยืนอยู่คนเดียวเพราะไม่อยากให้ใครสังเกตเห็นหรือได้ยินอะไร
“ม…มีอะไร?”
“มาเหอะน่า อย่าลีลา”
มันเดินตามผมมาโดยที่ไม่ค่อยเต็มใจนัก
“ม…มึงจะทำไม?”
“มึงเป็นอะไร?”
“อ…อะไร?”
“ก็มึงทำตัวแปลกๆ รุ่นพี่เขาเลยมาถาม”
“ม…มันก็เรื่องของกู”
“แต่มึงทำตัวผิดสังเกต หรือว่าตูดมึงยังไม่หายดี?”
“สัด!มึงหุบปากนะ ก็เพราะมึงนั่นแหละ”
“กูผิดเหรอ กูเริ่มก่อนงั้นเหรอ??”
“…เออมึงไม่ผิด เชี่ยเอ๊ย!”
“มึงด่ากูอีกแล้วนะ”
“เออไอ้สัด! ไอ้เหี้ย!!”
ผมบีบคางมันแล้วจ้องตามันอีกรอบ มันยังไม่เข็ดที่โดนไปคราวก่อน
“กูบอกแล้วว่ามึงอย่ามาด่ากู กูไม่ชอบจำเอาไว้ด้วย แล้วก็ทำตัวให้มันปกติหน่อย”
“อ่อยอู”
ผมปล่อยคางมัน แต่มันก็จ้องตาผมกลับ
“ตัวจริงมึงนี้ก็ร้ายกาจนะ ไม่เห็นเหมือนไอ้แว่นเด็กเนิร์ดตอนเรียนเลย”
“…”
“ปากดีแถมโรคจิตอีก…”
“หึ…”
   ผมเดินออกมาจากมุมตึกที่แอบไปคุยกับมัน แล้วเดินกลับหลังมอ ไม่ไกลเท่าไรเพราะมีทางลัด แต่คงต้องถอยรถใหม่ซักคัน เพราะคันเก่าโดนไอ้โอมมันทำพังยับเยินไปแล้ว
‘Rrrrrrrrrr’
[ว่าไงมึงโทรหากู?]
“สัด!อาร์ททำไมมึงปิดเครื่อง?”
[เอ่อ…กูอยู่กับเด็กกูแล้วมึงมีไร?]
“พี่มึงสิโทรตาม มึงกลับมาโดนมันเตะแน่”
[เชร็ดด! ซวยแล้ว ท่านอ๋องมึงต้องช่วยกูนะ]
“เรื่องของมึงสิชอบแส่หาเรื่อง”
[โหย!! ท่านอ๋องอ่ะ ไม่ช่วยลูกช้างตัวน้อยๆเลย]
“…รำคาญแค่นี้”
[เดี๋ยว!!...ตื๊ดดดดด]
ไอ้อาร์ทเสือกติดเด็ก ไอ้คำว่าเด็กของมันจริงๆแล้วก็ไม่ใช่เด็ก แต่เป็นสาวใหญ่มากกว่า มันขอบคนอายุมากกว่า ไอ้พวกขาดความอบอุ่น เดือดร้อนกูตลอด
หลังจากกลับมาจากเชียงรายชีวิตผมก็กลับมาเป็นปกติไปเรียนแล้วกลับมาก็ช่วยงานไอ้โอมที่ร้านเหล้า เสียงเพลงดังในร้านเป็นบรรยากาศที่ค่อนข้างคุ้นเคยสำหรับผมแล้ว
“วันนี้ท่านอ๋องดูมีออร่ามาอ่ะแก”
“ใช่ๆโคตรหล่อเลยแต่หน้าดุไปหน่อย”
“วันนั้นพี่มะตูมไปขอเบอร์แต่ท่านอ๋องเดินหนีไปเลย”
“แต่น้องโต๋ก็น่ารักนะ แต่ไม่เห็นหลายวันแล้ว”
“อ๋อน้องไปงานนอก เพิ่งกลับมาแต่ชั้นโทรหาก็ไม่รับ”
   ผมได้ยินกลุ่มยัยเชอร์รี่คู่ขาไอ้ตุ๊กแกมันพูดกัน เท่าที่ฟังถ้าไม่มีชื่อผมก็มีชื่อไอ้ตุ๊กแกมันนี่แหละ แต่ได้ยินว่ามันไม่รับโทรศัพท์หรือว่ามันยังไม่หายบ้าอีก แต่นี่ก็ผ่านไปเป็นอาทิตย์แล้ว ตอนเจอมันในห้องเรียนก็ดูเหมือนว่ามันกลับมาทำตัวปกติแล้วนี่หว่า ดี๊ด๊าจ๋ากับสาวๆไปตามเรื่องของมัน แต่ก็ช่างเหอะเรื่องของมันก็ไม่เกี่ยวกับผมซักนิด
 “ไอ้อ๋องวันนี้มึงไม่ต้องอยู่ช่วยเก็บร้านหรอก กูจะให้ไอ้อาร์ทมันทำคนเดียวโทษฐานที่วันนั้นมันหนีงาน”
“…อือ งั้นกูไปนอนแล้ว”
“เออๆขอบใจมากหว่ะ แล้วมึงจะไปถอยรถวันไหน?”
“คงซักอาทิตย์หน้า”
“อืมๆเดี๋ยวกูไปช่วยดู”
   หลังจากที่ยืนขาแข็งมาหลายชั่วโมง ผมก็ได้กลับมาห้อง พอมาถึงก็รีบอาบน้ำอยากนอนฉิบหาย หลังจากอาบน้ำผมก็สวมบ๊อกเซอร์ตัวเดียวแล้วกระโดดขึ้นเตียงทันที
‘ก๊อกๆ’
   ใครมาเคาะประตูตอนตี 1 วะ ? หรือว่าจะเป็นไอ้โอมไปไหนบอกให้กลับก่อนได้ เสือกมาตามจะไม่ให้กูได้หลับได้นอนมั่งรึไง!!
‘พรึ่บ’
“มีไร? นี่กูยังไม่ได้นอนเลยนะ!”
“…”
ไอ้ตุ๊กแก!! มันรู้จักห้องผมได้ยังไงเนี่ย! แล้วตามมาถูกอีก แล้วมันมาทำไม??
“…มึงมาทำไม?”
“เพราะมึงคนเดียว!!”
“อะไรของมึง!!”
กลิ่นเหล้าหึ่งเชียว หน้าก็แดงคงไม่ได้โดนใครวางยามาอีกหรอกนะ
“เพราะมึงไง? มึงทำให้กูเป็นแบบนี้”
“อะไรของมึง? กูไปมอมเหล้ามึงตอนไหน?”
“ไอ้สัด! ไม่ใช่”
เอ้า!! ด่ากูอีก กูไปทำอะไรให้มึ๊งง!!
“ไอ้โรคจิต ไอ้เลว…ฮือๆ”
“เดี๋ยวมึงหยุดเลย จะแหกปากร้องทำไม? เข้ามาก่อน เดี๋ยวชาวบ้านชาวช่องเขาก็ด่าเอา”
ผมลากมันเข้ามาในห้อง จะปล่อยมันตะโกนด่าร้องไห้หน้าบวมอยู่หน้าห้องแบบนี้ไม่ได้เดี๋ยวใครมาได้ยินผมซวยอีก
“ปล่อยกู…ฮือๆๆ”
อ้าวไอ้เวรร้องหนักกว่าเก่า ผมไปฆ่าแมวส้มมันตายรึไง?
“มึงเป็นอะไร?”
“กู ฮึก…ฮือๆ”
พูดไม่รู้เรื่องเลย เอากะมันสิ
“พูดดีๆ กูฟังไม่รู้เรื่อง!”
“ก็มึงฮึก...กู..ฮือๆ แล้วกูก็…ฮึก…ฮือๆ”
โอ้ย!! ฟังมันไม่รู้เรื่องเลย จะประสาทแดก สูดเข้าไปขี้มูกน่ะ จมูกแดงหมดแล้ว
“มึงไปล้างหน้าล้างตาก่อน แล้วค่อยมาคุยประสาทจะแดกตาย”
“…กูไม่ไป…ฮือๆ”
“มึงต้องไป! ดูหน้ามึงทุเรศขนาดไหนไปเดี๋ยวนี้”
ผมลากมันเข้าไปในส้วมแล้วรีบออกมาก่อนที่จะปิดประตูให้มัน ร้องไห้จนหน้าตาทุเรศได้ขนาดนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ทั้งขี้มูกขี้ตาย้อย เมื่อกี๊ผมเห็นมันแอบเอาขี้มูกมาป้ายที่บ๊อกเซอร์ผมด้วย เปลี่ยนตัวใหม่ดีมั้ยเนี่ย!
ซักพักไอ้ตุ๊กแกมันก็ออกมาจากห้องน้ำ เอาผ้าขนหนูที่ผมใช้เช็ดไอ้แว่นน้อยที่ไม่น้อยแล้วตากไว้ ไปถูหน้าถูตาไปด้วย ดีช่างมันสมน้ำหน้า ผมจะไม่บอกมันแน่นอน
“ไหนมึงลองเล่ามาดิ มึงเป็นอะไร?”
“ไอ้เหี้ย!”
“มึงพูดให้มันดีๆ”
“ก็มึง…”
“กูทำไม?”
“ก…กูไปหาน้องออยมา”
“…แล้วยังไง ทำไมมึงไม่เล่าให้มันจบๆ ลีลาจริงๆ”
“แล้วกู…กู”
“ไอ้โต๋มึงอย่าลีลา!”
“ก็กูไม่แข็ง!!”
“ห๊ะ! อะไรไม่แข็ง? ”
“ก็น้องชายกูไม่แข็ง ฮือๆ”
น้องชายไม่แข็ง? ไอ้นั่นอ่ะนะไม่แข็ง? แล้วมึงจะร้องเพื่อ?
“แล้วมันเกี่ยวกับกูยังไง?”
“ก็เพราะมึงไง!”
“เพราะกู?”
เพราะกูทำให้น้องชายมึงไม่แข็ง? กูต้องรับผิดชอบเหรอ? มันใช่เหรอวะ??
“เออ! เพราะมึงนั่นแหละ ฮือๆ”
“เดี๋ยวมึงอย่าเข้ามาใกล้กู”
“ฮือๆกู…มึง…ฮึก…ต้องรับผิดชอบ ฮือๆ”
ใครหลายๆคนมาเห็นผมกับไอ้ตุ๊กแกตอนนี้ก็อาจจะมีคนขำ แต่บางคนอาจจะขำไม่ออก สภาพหนุมหล่อหุ่นดีผิวขาวร้องไห้ขี้มูกโป่ง เอามือปาดขี้มูกแล้วก็น้ำตาไปมา พยายามวิ่งเข้ามากอดผมแล้วก็เอามือที่เลอะทั้งน้ำตาทั้งขี้มูกมาป้ายที่บ๊อกเซอร์สีดำของผม
“ไอ้โต๋มึงหยุด!! อย่าเข้ามา!”
“ฮึก…มึงต้องรับผิดชอบ…ฮือๆ”
“มึงปล่อยกู!!”
“ฮึก…กูไม่ปล่อย…มึงต้องรับผิดชอบ…มาให้กูเสียบซะดีๆ”
ใครก็ได้ช่วยผมด้วย!!

จบตอนที่ 5

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 5 ใครก็ได้ช่วยผมด้วย!! 05-10-2020
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 05-10-2020 22:26:53
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 5 ใครก็ได้ช่วยผมด้วย!! 05-10-2020
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 07-10-2020 13:15:22
 :hao7:
 :3123:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 5 ใครก็ได้ช่วยผมด้วย!! 05-10-2020
เริ่มหัวข้อโดย: MJTogether ที่ 10-10-2020 08:12:23
:pig2: :pig2: :pig2: :pig2:

ตอนที่ 6 กูต้องแก้แค้น (พาร์ทโต๋)

ย้อนไปเมื่อสี่ชั่วโมงก่อน…
“พี่โต๋วันนี้ไปค้างห้องน้องออยมั้ยคะ?”
“เอาสิคะ เลิกเรียนพี่โทรหานะคะ”
   ก็ดีเหมือนกันตั้งแต่กลับมาจากเชียงรายผมก็ยังไม่ได้นอนกับใครอีกเลย ครั้งนี้เกินเจ็ดวันแล้วเป็นการทำลายสถิติของผมเลยก็ว่าได้
   ผมไม่ได้เจ้าชู้นะครับ เพราะจะเรียกเจ้าชู้หลายใจมันก็ไม่ได้เพราะผมไม่ได้คบใครเลยต่างหาก ใครมาเสนอก็สนองก็เท่านั้นเอง เสร็จก็แยกทางติดใจกันก็แค่คอลไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย
   ผมไม่ได้หลงตัวเองนะ แต่คิดว่าตัวเองก็หน้าตาดีพอสมควร รูปหล่อสูงยาวเข่าดีที่สำคัญเอวก็ดีมากด้วย ก็เลยมีทั้งสาวๆหนุ่มๆมารุมตอม แต่บอกไว้ก่อนว่าผมไม่ใช่ขี้หมานะครับ
 ‘Rrrrrrrrrr’
พี่เชอร์รี่โทรมา นี่ก็อีกคนสาวๆในสังกัดของผมเองพี่แกจัดว่าเด็ดที่สุดที่เคยเจอ แต่ทำตัววุ่นวายไปหน่อยชอบโทรจิกบางทีก็รำคาญเหมือนกัน แต่วันนี้ผมมีเดทกับน้องออย ไม่รับสายพี่เชอร์รี่จะดีกว่าเดี๋ยวใจอ่อนอีก วันนี้ต้องให้โอกาสน้องออยบ้าง
“พี่โต๋มาเร็วจังค่ะ”
“ก็พี่คิดถึงน้องออยไงคะ ไปกันรึยังเอ่ย?”
“ไปสิคะ”
   น้องออยปีหนึ่งโคตรเฟี้ยว กระโปรงสั่นจู๋เสื้อนักศักษารัดติ้วจนกระดุมแทบจะกระเด็นมาโดนหน้าผมละ คนนี้นมโตสุดเท่าที่เคยเจอแต่ลีลายังสู่พี่เชอร์รี่ไม่ได้
“พี่โต๋ถอดเสื้อให้ออยหน่อยสิคะ”
พี่ว่าไม่ต้องก็ได้มั้งครับ แค่น้องออยเบ่งกล้ามแบบซุปเปอร์ไซย่าตอนแปลงร่างกระดุมก็คงจะกระเด็นหลุดมาเองแหละ
“ได้สิคะ”
อืม…เหมือนอารมณ์มันไม่ได้ยังไงไม่รู้ ไอ้อาการตื่นเต้นๆ ความรู้สึกกระดี๊กระด๊าหายไปไหนหมดวะ!
“อืม…พี่โต๋”
ผมนอนลงบนเตียงลองให้น้องเขาช่วยดีกว่าเผื่อจะมีความรู้สึกขึ้นมาหน่อย
“เดี๋ยวออยทำให้นะคะ”
“เอาเลยค่ะ พี่พร้อมเสมอ”
น้องเขาก็ลูบๆคลำๆไปซักพัก ผมว่ามันไม่ใช่อ่ะ ผมไม่รู้สึกอยากอะไรเลย นี่ผมเป็นอะไรไปวะเนี่ย ใครตอบที??
“พี่โต๋อ่ะ ไม่ร่วมมือเลย”
“เอ่อ…พี่อาจจะเหนื่อยก็ได้ค่ะ”
“…แล้วทีนี้ทำไงคะ?”
“เอิ่ม แบบว่าพ…พี่กลับก่อนดีกว่าเนอะ”
ผมรีบแต่งตัวแล้วออกมาจากห้องน้องออยทันที ให้ตายเถอะ!! นี่ผมตายด้านไปแล้วเหรอะวะเนี่ย!!
ผมกลับมานอนตาค้างบนเตียง หรือว่ามันเป็นเรื่องปกติ ใครๆเขาก็เป็นกันมั้งไอ้อาการแบบนี้ ช่างมันเถอะนอนดีกว่า นอนไปได้ซักพักก็ไม่หลับ คิดไปถึงตอนที่อยู่เชียงราย ตอนนั้นโดนวางยาแล้วก็ xxx กับไอ้แว่น เชี่ย!! พอนึกแล้วก็โมโหตัวเองไม่น่ารนหาที่เสือกอยากเที่ยว แล้วไปคนเดียวดันไปโดนวางยาตอนไหนก็ไม่รู้ ซวยโคตรๆดันเสียตูดให้อ้แว่นไป คิดๆแล้วก็แค้น แม่งเอากูตั้งหลายรอบเพิ่งจะหายเอวยอก แต่เวลามันไม่ใส่แว่นนี่โคตรน่ากลัว ตาดุฉิบหาย แต่หุ่นแม่งโคตรดีหน้าก็หล่อ เอ๊ย!! นี่กูคิดอะไรวะเนี่ย แต่ตอนที่มันถอดเสื้อนอนโชวหุ่นแซ่บๆของมันงี้ โห!! น้ำลายไหล!!
“ฉิบหาย!!”
ไอ้โต๋น้อย!!! ทำไมมึงเป็นคนอย่างนี้ ไอ้ลูกชายสุดที่รากกก มาแข็งตอนนึกถึงหน้าไอ้แว่นได้ไงวะ!
“อา…บ้าจริง!!”
ผมนอนสไลด์โต๋น้อยอยู่บนเตียงโดยนึกหน้าไอ้แว่นมันไปด้วย คิดแล้วก็เจ็บใจฉิบหาย ทีเห็นนมตู้มๆของน้องออยทำเป็นสลบไสล แต่พอมานึกถึงตอนที่ไอ้แว่นกำลังควงเอวทำไมไอ้โต๋น้อยไม่รักดี อยากจะร้องไห้เป็นภาษาสเปน…
“อืม…”
‘พรึ่บๆ’
“อ๊า!!!”
เสร็จเพราะนึกถึงหน้าไอ้แว่น!! มึง!! มึงอย่าอยู่เลย!! วันนี้มึงกับกูไม่ใครก็ใครต้องตายกันไปข้างนึงแน่ๆคอยดู!!
ผมอาบน้ำแต่งตัวแล้วเดินลงบันไดมาก็เจอไอ้ไข่นุ้ยกำลังเดินลงไปข้างล่างเหมือนกัน
“อ้าวไอ้ไข่นุ้ยมึงจะไปไหน?”
“อ้าวไอ้โต๋แล้วมึงอ่ะ?”
“กูถามมึงก่อน…”
 “กูว่าจะไปกินเหล้าบ้านพี่ก้องว่ะ มึงจะไปด้วยมั้ย?”
อ้อ!ไอ้พี่ก้องคณะข้างๆ รู้สึกว่าจะเป็นคณะศิลกรรม
“…เออไปดิ กูก็กำลังอยากพอดี”
“เฮ้ย!อยากอะไรพูดให้ดีๆ”
“อยากแดกเหล้าสิวะ! ตอนนี้กูไม่มีอารมณ์อยากอย่างอื่นหรอก”
“สงสัยคงงั้นเพราะตั้งแต่มึงกลับมาจากเชียงรายก็ดูซึมๆไป เป็นไข้แล้วจู๋หดได้เหรอวะ?”
“ไอ้สัด พูดมากไปๆ เดี๋ยวกูขับรถไป”
“เออดี รถกูน้ำมันหมดพอดี”
ไอ้ไข่นุ้ยเป็นเพื่อนในกลุ่มสี่ยอดกุแมวของผมเอง สมาชิกคนอื่นๆก็จะมีไอ้บดินทร์ตัวอ้วนที่แดกทั้งวันกับอีจ๊ะจ๋าที่ปากไม่ได้สวยเหมือนหน้าตา แต่ผมจะสนิทกับไอ้ไข่นุ้ยมากที่สุดคงเพราะนิสัยเหมือนกัน ไม่ใช่นิสัยดีนะครับบอกไว้ก่อน ผมกับมันอยู่หอพักเดียวกันส่วนไอ้สองตัวนั่นเช่าห้องอยู่ที่อื่น
“พี่ก้องที่อยู่ศิลกรรมป่ะวะ?”
“เออ แต่เห็นว่าพี่แกชวนเพื่อนมาอีกสองสามคนมั้ง”
“อ่อ…ไม่เป็นไร แดกที่ไหนกับใครก็เหมือนกันแหละ แล้วเพื่อนพี่เขาชื่ออะไร?”
“เห็นว่ามีชื่ออาร์ทกับแล้วก็พี่เจมส์ คนหลังนี้กูเพิ่งรู้จัก”
“ใครวะทำไมกูไม่เห็นรู้?”
“คืนก่อนที่กูชวนมึงไปกินเหล้าหลังมอแล้วมึงไม่ไปไง”
“เหรอ”
“กูก็นึกว่ามึงจะกลับตัวกลับใจลาไปออกไปบวชซะแล้ว”
“ก…กูก็แค่ป่วย คนป่วยห้ามกินเหล้าไง”
ผมนั่งซึมอยู่หลายวันเหมือนกันหลังจากเสียตูดครั้งแรกให้ไอ้แว่นมัน เจ็บฉิบหายเดินไม่ถนัดอยู่หลายวัน แต่ก็ต้องทำใจมันเกิดขึ้นแล้วกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว
“แล้วมึงไปเจอไอ้พี่เจมส์นี่ได้ยังไง?”
“อ่อ…มึงไม่รู้…ก็พี่เจมส์เป็นเพื่อนกับพี่ก้องส่วนพี่อาร์ทเป็นน้องเจ้าของร้านเหล้าหลังมอไง”
“ห๊ะ!”
‘โป๊ก’
“เชี่ย!มึงจะเบรกทำมั้ย หัวกูแตกมั้ยเนี่ย!”
“…”
อาร์ทน้องเจ้าของร้านเหล้า! มันก็ต้องรู้จักไอ้แว่นน่ะสิ ได้การละกูต้องแก้แค้น แต่ไอ้แว่นมันน่ากลัวอ่ะ…หรือว่าจะลองสืบๆดูก่อน เออเอางี้แหละ!
“เอ้าไอ้น้องสองคนเข้ามาก่อน นี่ไอ้อาร์ทกับไอ้เจมส์เพื่อนกู ส่วนนั่นไอ้ไข่นุ้ยกับไอ้โต๋ ไอ้ไข่นุ้ยมันเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนเก่ากูเอง”
“ดีพี่/เออมาๆนั่งก่อน”
“ไอ้สองคนนี้กูเห็นบ่อยที่ร้านเหล้าพี่กูนี่หว่า”
“ใช่ครับพวกผมไปกันบ่อยๆ”
“เออๆมา กูชงเหล้าให้ กูบอกไว้ก่อนว่ากูเทพมาก ฝึกมาเยอะ”
“ขอบคุณครับพี่ วันหลังผมไปร้านพี่ พี่ก็ลดราคาให้ผมมั่งดิ”
“ยากว่ะ กูมันลูกเมียน้อย”
“เหรอครับ? ผมขอโทษทีผมไม่รู้”
“ฮ่าๆมึงตลกว่ะไอ้น้องโต๋ กูล้อเล่น กูน้องเจ้าของร้านจริงๆ แต่มันไม่ค่อยรักกูเท่าไรหรอกมันโอ๋ไอ้อ๋องมากกว่ากูอีก แต่กูก็น้องมันนะ”
พี่แกทำท่าจะร้องไห้อยู่แล้ว แต่ ‘ไอ้อ๋อง?’ มันก็คือก็ไอ้แว่นสินะ แต่พี่แกเริ่มเมาละ เสียงเริ่มยานๆ หน้าเริ่มแดงๆละ แต่ก็ดีครับ คนเมามักจะเล่าอะไรออกมาโดยที่ไม่ค่อยรู้ตัวซักเท่าไร
“เอ้าชนแก้ว”
“ไม่เมาไม่เลิก”
“หมดแก้วววว”
   ผมซัดไปหลายแก้วแต่ก็ได้ข้อมูลเรื่องไอ้แว่นมาพอสมควร รู้แล้วว่ามันก็เป็นน้องของเจ้าของร้านเหล้าอีกคน แล้วก็รู้ด้วยว่ามันอาศัยอยู่ที่ไหน!! รอกูก่อนนะไอ้แว่นถ้ากูไม่เมาตายซะก่อนอ่ะนะ เอิ้ก!
“ไอ้โต๋มึงจะปายหนาย?”
“ผมจะปายซื้อเหล้ามาเพิ่ม”
“เออดีๆซื้อน้ำแข็งมาด้วย”
“คร๊าบบบ”
ผมชักมึนๆสงสัยกินเยอะไปหน่อย
“รถจอดอยู่หนายวะ…อ้อตรงนี้เอง…อิอิมานี่มาลูกพ่อ รอกูก่อนนะอ้ายแว่นนนน มึงเสร็จกูแน่!”
ผมขับรถมาจอดรถที่ลานจอดรถร้านเหล้า ไม่รู้ขับมาถึงได้ยังไงเหมือนกัน แต่ดึกแล้วรถไม่เยอะเท่าไร แล้วตอนนี้ที่ลานจอดรถไม่มีรถเหลือแล้วด้วยวังเวงฉิบหาย
อ่อตรงนี้มีบันได ได้ยินว่ามันอยู่ชั้นสอง ผมเดินโซซัดโซเซขึ้นบันไดไป ทุลักทุเลฉิบหาย ปวดหัวด้วยไม่น่าแดกเยอะเล๊ยแล้วจะสู้ไอ้แว่นมันไหวเหรอวะเนี่ยมันยิ่งตัวโตๆอยู่
‘ก๊อกๆ’
มันจะอยู่มั้ยวะ ถ้าไม่อยู่ผมก็เสียเที่ยวแย่ คิดแล้วก็แค้นใจ อยากร้องไห้เพราะลูกชายตายด้าน
‘พรึ่บ’
“มีไร? นี่กูยังไม่ได้นอนเลยนะ!”
“…”
มันอยู่ แต่มัน…มันแก้ผ้า!! ฉิบหายน้ำลายไหล เฮ้ยไม่ใช่! เกือบส่างเมาเลย แม่งหุ่นโคตรแซ่บ ซิกแพ็คโคตรเซ๊กซี่ ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงหน่อยๆ ในคงนอนอยู่ อ้าว!มันยังใส่บ๊อกเซอร์อยู่นี่หว่า แหม!!เกือบต้องเซนเซอร์เลย
“…มึงมาทำไม?”
“เพราะมึงคนเดียว!!”
“อะไรของมึง??”
“เพราะมึงไง? มึงทำให้กูเป็นแบบนี้”
“อะไรของมึง? กูไปมอมเหล้ามึงตอนไหน?”
“ไอ้สัด! ไม่ใช่”
ผมยืนร้องไห้ไปด่ามันไป ไม่องไม่อายมันแล้วเว้ย!
“ไอ้โรคจิต ไอ้เลว…ฮือๆ”
“เดี๋ยวมึงหยุดเลย จะแหกปากร้องทำไม? เข้ามาก่อน เดี๋ยวชาวบ้านชาวช่องเขาก็ด่าเอา”
มันลากผมเข้าห้องทั้งที่ผมยังร้องไห้ขี้หูขี้ตากรัง เอ้ย! ไม่มีขี้หู ผมแอบเอามือป้ายขี้มูกแล้วไปป้ายบ๊อกเซอร์มันอีกที ดีสมน้ำหน้าบ๊อกเซอร์มึงเลอะขี้มูกกูแล้ว
“ปล่อยกู…ฮือๆๆ”
   พอเข้ามาในห้องผมก็แหกปากร้องไห้หนักกว่าเดิม มันคับแค้นใจไงลูกชายไม่แข็งต่อหน้าสาวยังพอว่าแต่ดันเสือกมาแข็งเพราะคิดถึงหน้าไอ้แว่นมัน ข้อนี้ผมรับไม่ด้ายยยย!
หลังจากที่ผมโวยวายไปซักพักไอ้แว่นมันก็ทำหน้างงๆ แถมขึ้นเสียงใส่ผมอีก
“มึงไปล้างหน้าล้างตาก่อน แล้วค่อยมาคุยประสาทจะแดกตาย”
“…กูไม่ไป…ฮือๆ”
“มึงต้องไป! ดูหน้ามึงทุเรศขนาดไหนไปเดี๋ยวนี้เลย”
ไอ้สัด ไอ้เลวทรามสามหาวมาว่ากูหน้าทุเรศ กูออกจะหล่อพอๆกับเจมส์จิ มึงมาว่ากูอย่างนี้ได้ยังงายยย
แล้วผมก็ถูกจับยัดเข้าห้องน้ำ ล้างก็ได้วะ โห! ห้องน้ำมันมีแต่สบู่เหลวขวดเดียว แล้วมันเอาอะไรล้างหน้า ซันไลต์รึเปล่า ? ไหนดูซิ ไม่มี !! หรือว่ามันล้างหน้าด้วยสบู่เหลวแต่หน้าแม่งโคตรใสเลยถึงมันจะไม่ขาวเท่าผมอ่ะนะ
ผมรีบล้างหน้าแล้วก็เอาผ้าขนหนูของมันนี่แหละเช็ดหน้า แต่มันดูเปียกๆอยู่นะแต่ก็หอมใช่ได้ ขอยืมหน่อยแล้วกัน
“ไหนมึงลองเล่ามาดิ มึงเป็นอะไร?”
“…”
บทสนทนาของเราผ่านไปได้ด้วยดี ไม่ใช่แล้ว!! ผมร้องไห้อีกรอบ พูดไปก็ร้องไห้ไป พูดเองก็ยังงงเอง ไอ้แว่นทำหน้าเอือมระอาเต็มทน
“มึงปล่อยกู!!”
“ฮึก…กูไม่ปล่อย…มึงต้องรับผิดชอบ…มาให้กูเสียบซะดีๆ”
มึงต้องเอาตูดมาให้กูเสียบคืนซะดีๆ
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง
‘แฮ่กๆ’
‘แฮ่กๆ’
เสียงหอบของเราดังแข่งกับเสียงแอร์ ไอ้แว่นมันนอนสลบบนเตียง ส่วนผมนอนตายอยู่ที่โซฟา อย่าเข้าใจผิดครับไม่มีใครได้ใครเสียตูดกันทั้งนั้น เราตีกันอยู่เป็นชั่วโมงได้ ทั้งผมกับมันเลยหมดแรงพักยกกันชั่วคราว จากที่เมาๆส่างเลย!!
“มึงตายรึยัง?”
“ยัง…กูยังไม่ตาย”
“กูขอเตือนไว้ก่อน ถ้ามึงยังจะเล่นแบบนี้อีก กูกระทืบมึงแน่ไอ้โต๋”
“ไอ้สัด! แล้วทีมึงเอากูอ่ะ ให้กูเอาคืนหน่อยไม่ได้รึไง?”
“มึงอย่ามาตลก มึงเป็นคนเริ่มเองไม่ใช่กู”
“แต่มึง…ท…ทำไม…”
“ทำไมอะไร?”
“แล้วทำไมมึงไม่หยุด? ตีกูให้สลบก็ยังจะดีกว่า”
“แล้วถ้าเป็นมึง? มีคนมาอมลูกชายมึง มึงจะหยุดได้มั้ยล่ะ?”
“…”
เถียงไม่ออก บอกไม่ถูก หน้าชาสตั๊นไปสามวิ
“เห็นมั้ย? มึงก็เถียงไม่ออก”
“แต่…ครั้งเดียว…ก็ได้ป่ะวะ…แต่มึง…”
“…”
เออ มึงก็เงียบเหมือนกันแหละวะ เอากูไปตั้งกี่รอบ…แล้วกี่รอบวะจะได้เอาคืนถูก
“กี่รอบ?”
“อะไรกี่รอบ?”
“ก็มึงอ่ะ เอา…เอากูไปกี่รอบ?”
“ห๊ะ!...สี่…”
“ไอ้เหี้ย!! มึงไม่คิดว่าเป็นครั้งแรกของกูมั่งวะ มึงจะฆ่ากูรึไง?”
“กูจะไปรู้เหรอ เห็นมึงแรดๆ ก็คิดว่าไม่ใช่ครั้งแรกสิ”
“…ไอ้เลว ไอ้สัด!”
“เดี๋ยวๆ มึงด่ากูอีกแล้วนะ”
เออ!มึงจะทำไม มึงจะจับกูกดให้หายใจไม่ออกตายอีกรึไง?
“เออกูไม่ด่าแล้ว…แต่คราวหน้ามึงต้องให้กูเอาสี่ครั้ง กูถึงจะเลิกยุ่งกับมึง”
“…ถ้ามึงทำได้มึงลองดู!”
“เออ! กูทำแน่อย่ามาท้ากู”
“อ่อ…กูลืมบอกมึงไปอย่าง…”
“อ…อะไร?”
อย่าบอกว่ามึงเป็นโรคเอดส์นะ ถึงกูจะมั่วกูก็มั่วอย่างมีหลักการนะ กูยืดอกพกถุงทุกครั้งนะครับ มึงแหละวันนั้นไม่ได้ใส่ถุงแน่กูจำได้
“กูเคยเรียนต่อยมวย”
“ล…แล้วไง?”
“แล้วกูก็เคยต่อยคน”
กูก็เคยเหอะ อย่ามาขู่กูไม่กลัว!
“แล้วไอ้คนที่กูต่อยมันน่ะมันเข้าโรงบาล”
“ม…มันเป็นไข้เลือดออกเหรอ?”
“หึ…มันโดนกูเตะซี่โครงหักไปสามซี่”
“…”
ฉิบหาย!! แล้วกูจะเอากี่ซี่ดี? คิดผิดหรือคิดถูกที่จะแก้แค้นเนี่ย!!

จบตอนที่ 6

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 6 กูต้องแก้แค้น (พาร์ทโต๋) 10-10-2020
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 10-10-2020 09:48:50
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 6 กูต้องแก้แค้น (พาร์ทโต๋) 10-10-2020
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 10-10-2020 10:09:22
 :haun4:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 6 กูต้องแก้แค้น (พาร์ทโต๋) 10-10-2020
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 10-10-2020 20:37:32
 :laugh:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 6 กูต้องแก้แค้น (พาร์ทโต๋) 10-10-2020
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 10-10-2020 21:04:31
 :m20:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 6 กูต้องแก้แค้น (พาร์ทโต๋) 10-10-2020
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าน้อย ที่ 16-10-2020 09:37:32
สนุกน่ารักดี
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 6 กูต้องแก้แค้น (พาร์ทโต๋) 10-10-2020
เริ่มหัวข้อโดย: MJTogether ที่ 18-10-2020 12:16:57
:pig2: :pig2: :pig2: :pig2:

ตอนที่ 7 ผมเป็นคนไสยไสยอย่าทำผมเล๊ยย

หลังจากตบตีกันไปซักพักผมกับไอ้ตุ๊กแกก็สงบศึกกันชั่วคราวเพราะหมดแรงและง่วงเต็มที ผมนอนอยู่บนเตียงส่วนมันนอนหอบอยู่ที่โซฟา
“วันนี้กูนอนนี่นะ”
“…ไม่ได้”
“ทำไม?? กูแค่ขอนอนแค่นี้เอง มึงจะให้กูขับรถกลับตอนตี 3 เนี่ยนะ”
“…งั้นมึงต้องนอนเฉยๆแล้วก็ห้ามเข้ามาใกล้กูเกิน 10 เมตร”
“…ห้องมึงกว้างขนาดนั้น?”
“…นั่นแหละ ห้ามเข้ามาใกล้กูแล้วก็ห้ามรักหลับกูด้วย”
“ไอ้สัด! ยังกะกูอยากทำตายห่า”
“…หุบปากแล้วก็นอนไป”
   แต่ก็ไม่น่าไว้ใจมันซักเท่าไร กลัวว่าพอตอนดึกมันจะกระโดดมาขืนใจผมน่ะสิ แล้วผมจะนอนหลับมั้ยวะเนี่ย!!
“ทำไมมึงต้องปลอมตัวด้วย หนีคดีเหรอ?”
“…”
“กูถามมึงดีๆนะ”
“เรื่องของกู!”
“เหอะ!! กูก็ไม่ได้อยากรู้หรอก เผื่อมึงหนีคดีฆ่าข่มขืนมากูจะได้ระวังตัว”
“… กูต้องหนีมึงมากกว่ามั้งนอนได้แล้วหนวกหู”
“…”
   บ้าบออ่ะดิ แทนที่ผมจะต้องเป็นคนระวังตัวไม่ใช่มันเถอะ! ทำมาเป็นกลัว แล้วตอนที่อม...ลูกชายผมล่ะไม่คิด
“นี่...มึงจะไม่ยอมกูหน่อยเหรอ?”
“หุบปากไปกูจะนอน”
“ไม่งั้นกูจะตามตอแยมึงไปตลอดนะ”
“...กูเตือนมึงแล้ว!! ถ้ามึงยังไม่เลิกกูจะจับมึงโยนไปนอกห้องกูเดี๋ยวนี้เลย”
“...ก๊ะได้!”
   หลังจากมันเงียบเสียงไปซักพักผมก็หลับตาลง นี่เหตุการณ์แบบนั้นมันกำลังจะเกิดกับผมเป็นครั้งที่สองแล้วเหรอวะเนี่ย คิดแล้วก็ขนลุกเลย
   แสงแดดในตอนเช้าเริ่มแยงตา ผมเลยต้องลืมตาขึ้น เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับเพราะมัวแต่ระแวงกลัวไอ้ตุ๊กแกมันจะลุกมาปล้ำเอาตอนดึกๆ เฮ้อ! เสียสุขภาพจิตหมด
“เฮ้ยยย!!!”
“…อืม..”
ได้ตุ๊กแก!! มันปีนขึ้นมานอนบนเตียงผมตั้งแต่เมื่อไรวะเนี่ย
‘โครม’
“โอ้ย!! เจ็บตูด อะไรวะเนี่ย!”
“มึงขึ้นมานอนบนเตียงกูได้ยังไง?”
“อะไรของมึง? แต่เช้าเลย เจ็บนะเว้ยถีบมาได้”
“แล้วใครใช้ให้มึงขึ้นมานอนบนเตียงกูล่ะ!”
“ไอ้สัด! ก็นอนที่โซฟามันมันเมื่อยอ่ะ”
“มึงกลับบ้านมึงไปเลย!!”
“ดูๆไปมึงหุ่นมึงก็เซ็กซี่เหมือนกันนะ”
มันมองผมด้วยสายตาที่หื่นฉิบหายเลย!!
“มึงหยุดเลย กับบ้านมึงไป!”
“จริงๆนะ ถ้ามึงให้กูเอาคืน กูจะไม่มายุ่งกับมึงอีกเลยนะๆ”
มันพูดพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ หน้าตาก็ดีแต่ด้านไปนะผมว่า
“ถ้ามึงเข้ามาอีกกูจะถีบมึงอีกจริงๆ”
“...กูกลับก็ได้”
หลังจากเกือบจะเกิดสงครามอีกรอบในตอนเช้า ตอนนี้ผมก็อยู่ในชุดเตรียมไปเรียน ไอ้ตุ๊กแกมันกลับไปนานละ ผมว่าผมต้องเอาแอลกอฮอล์มาเทราดฆ่าเชื่อห้องผมแล้วล่ะ
“ไอ้โต๋เมื่อคืนมึงไปไหน? หายหัวไปเลยปล่อยกูต้องนอนห้องพี่ก้อง”
“กู...กลับห้องไง กูเมากูเลยลืมมึง โทษทีว่ะ”
“เหรอ!! ไม่ใช่ว่าไปนอนบ้านสาวอีกนะมึงอ่ะ”
“เปล๊า! ไม่มี”
“ไอ้ตอแหล ไม่น่าเชื่อถือเลย”
“...หุบปากมึงไป ไหนเอาการบ้านมาลอกดิ”
   เสียงกลุ่มสี่ยอดกุแมวของไอ้ตุ๊กแกมันดังมาเป็นระยะๆ ตอนนี้ผมนั่งหลบอยู่มุมๆห้องเพราะไม่อยากเจอมัน นี่กลายเป็นว่าผมต้องหนีมันซะงั้น
   หลังจากเรียนเสร็จผมก็เตรียมตัวกลับห้อง คืนนี้ต้องไปช่วยไอ้โอมมันที่ร้านอีก พรุ่งนี้ผมว่าจะไปถอยมอเตอร์ไซค์ใหม่ซักหน่อย หลังจากที่โดนไอ้โอมมันเอาไปทำพังเมื่อนานมาแล้ว
“ไงมึงได้ข่าวว่าจะไปถอยรถใหม่?”
“…”
ไอ้อาร์ทเดินหน้ามึนมาคุยกับผมหลังจากเก็บกวาดร้านเสร็จ คืนนี้คนไม่เยอะเท่าไร เนื่องจากไม่ใช่วันหยุด แต่นี่ขนาดเป็นวันเปิดเรียนก็ยังมีคนมาเที่ยวตลอด ไม่เอาเวลาไปอ่านหนังสือหนังหากันบ้างหล่ะไม่ใหวจริงๆ
 “จะถอยแบบคันเก่าป่ะวะ กูอยากได้มั่งจริงๆ”
“กูบอกไว้ก่อน คราวนี้กูไม่ให้ใครยืมรถกูแน่”
 “เออ! กูไม่ยืมก็ได้ แต่กูถามอะไรหน่อยดิ มึงกับไอ้น้องโต๋นี่ยังไง?”
“…อะไรยังไง โต๋ไหน??”
ผมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แต่หรือว่าไอ้อาร์ทมันรู้เรื่อง ฉลาดไปหมดแหละมันยกเว้นเรื่องเรียนนะมึงอ่ะ
“ก็วันนั้นกูไปกินเหล้าห้องไอ้ก้อง แล้วน้องมันก็ถามแต่เรื่องมึง กูเมาๆก็ตอบไปมั่งแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมากหรอก”
อ่อ…ไอ้สัดอาร์ทนี่เอง ไม่พูดมากห่าอะไร? ถ้ามึงไม่พูดมากไอ้ตุ๊กแกมันจะตามมาถูกห้องได้ยังไง? ไม่เคยจะช่วยอะไรกูได้แล้วยังหาเรื่องเดือดร้อนมาให้อีก ถีบมันซักทีดีมั้ยครับ??
“เปล่า…เรื่องของกู”
“มีเรื่องอะไรก็ปรึกษากูได้ กูช่วยมึงได้นา”
“…คราวก่อนไม่ใช่ว่ามึงช่วยเหรอ กูถึงเกือบจะซวย”
“เออน่าคราวนี้กูช่วยมึงได้แน่ๆ”
“ไอ้สัดไม่ต้อง หุบปากของมึงไป”
“เอ้า!ก็คนอยากช่วยอ่ะ”
“งั้นช่วยไปไกลๆตีนกูหน่อยก็แล้วกัน ชักจะคันๆตีนอยากถีบคน”
“จ้า! ไปแล้วจ้า โหดจุง”
โผล่มากวนตีนแล้วก็วิ่งเผ่นหนีไปละ รอบๆตัวผมนี่มีแต่คนจัญไรๆทั้งนั้นเลยนะครับ
“ไอ้โอมกูกลับห้องแล้วนะ”
“เออ…ใจหว่ะ พรุ่งนี้มึงจะไปดูรถใช่มั้ย ให้กูไปช่วยดูมั้ย??”
“ไม่ต้องเสือกกูไปดูเอง”
“แค้นฝังหุ่นนะมึงอ่ะ”
“เรื่องของกู!!”
ตั้งแต่รู้จักพวกมึงสองพี่น้องมากูก็เห็นแววซวยมาแต่ไกลแล้ว แต่มันก็เป็นญาติที่เหลือของผมสองคน ไม่รักมันก็ไม่รู้จะไปรักหมาที่ไหนแล้ว เอ…หรือว่าผมจะหาหมามาเลี้ยงดี
‘พลั่ก’
หลังจากยืนมาค่อนคืนก็เพิ่งจะได้กลับมาห้อง ยังดีที่พรุ่งนี้ไม่มีเรียนจะได้นอนตื่นสายๆได้
“…”
“ไง! กลับดึกจังวะ?”
“มึงเข้ามาในห้องกูได้ยังไง?”
หลังจากที่ไขกุญแจห้องเข้ามาก็พบว่า มีใครคนนึงนอนเล่นมือถืออยู่ที่โซฟา มันก็คือ ‘ไอ้ตุ๊กแกนั่นเอง’ เห็นมันแล้วก็อารมณ์เสียเลย อาการคันตีนเริ่มอีกละ
“กูแอบเอากุญแจห้องมึงไปปั๊มไว้ไง”
“…หน้าด้านนะมึงอ่ะ ระวังกูแจ้งความข้อหาบุกรุก”
แล้วก็ข้อขอกระทำชำเรากูด้วย ระวังตัวไว้เหอะมึง
“”
“ไอ้โต๋ มึงออกไปเดี๋ยวนี้เลย”
“ใจเย็นๆก่อน กูมีเรื่องอยากจะของร้องมึงหน่อย”
“กูบอกให้ออกไป”
“ฟังกูก่อนดิ กูอุตส่าห์มารอมึงตั้งสองชั่วโมงแหนะ”
คงจะจริงก็มันเล่นเอาขนมของกินมาแกะกินเต็มพื้นไปหมด ห้องกูไม่ใช่ที่สาธารณะนะครับ
“งั่นมึงรีบพูดแล้วรีบออกจากห้องกูไป”
“คือแบบ…ตอนนี้อ่ะกู…ของกูใช้งานไม่ได้ไงแล้ว…”
“เดี๋ยว! กูไม่ได้อยากรู้ปัญหาของมึงเลย ออกไปจากห้องกูได้แล้ว”
“เดี๋ยวสิกูยังพูดไม่จบเลย”
“งั้นอย่าลีลา”
“คือกูจะบอกว่า ก็แบบ…กูจะ…ขอยืมน้องชายมึงหน่อย”
“ห๊ะ! มึงประสาทรึไง?? มึงออกไปเดี๋ยวนี้เลย!!”
“นะ! ถือว่าช่วยกูหน่อย สองสัปดาห์มาเนี่ยกูไปหาพี่เชอร์รี่ น้องออย น้องชมพู่ น้องบอล แล้วแต่มันก็ยังไม่ได้ไง ยังไงมึงก็ช่วยกูหน่อยน้า”
“ก็เรื่องของมึงสิ หรือไม่มึงก็ไปหาหมอสิ”
“คือ…มันไม่ใช่ว่าจะใช้ไม่ได้ไง แต่…กับมึง…มันยังใช้ได้อยู่”
“ยังไง? กูไม่เข้าใจ”
“ก็กู…คิดว่าถ้าใช้กับมึงมันจะยังใช้ได้ไง”
“มึงจะให้กูยกตูดให้มึงลองว่างั้นเถอะ?”
“เออ…ก็ประมาณนั้น”
“ไอ้เหี้ยโต๋ มึงออกไปเดี๋ยวนี้ก่อนที่กูจะจับมึงโยนออกไป”
“ก็ถ้า…มึงไม่ให้กูเอา…งั้นมึง…เอากู…ก๊ะได้”
ว้อท!!! นี่มันเสียสติไปแล้ว?? คราวก่อนที่เชียงรายทำเป็นร้องห่มร้องไห้จะเป็นจะตาย มาคราวนี้มาขอให้ผมเอาถึงที่ ผมว่ามันควรจะไปหาหมอรักษาได้แล้วมั้งเนี่ย
“กูให้มึงพูดใหม่ มึงว่าไงนะ?”
“ก็กู…ยอมให้มึงเอาก๊ะได้ไง อย่าให้กูพูดหลายรอบ กูก็อายเป็นนะไอ้สัด”
“…มึงกลับไปเลย ถ้ามึงอยากขนาดนั้นก็ไปหาคนอื่น”
“ไอ้เหี้ย แล้วทีตอนนั้นกูบอกให้มึงหยุดแล้วทำไมมึงไม่หยุด? แล้วตอนนี้กูเดือดร้อนทำไมไม่ช่วย ก็กูเสียตูดให้มึงไปแล้ว มีรอบสองรอบสามมันก็เหมือนกันนั่นแหละ”
มันตะโกนหน้าแดงเลย นี่มึงโกรธหรือมึงอาย? แต่คนอย่างมึงไม่น่าอายเป็นนะ…
“งั้นเป็นคนอื่นก็ได้นี่ เด็กของมึงอ่ะมีเยอะไม่ใช่เหรอ?”
“ก็เด็กกูมีแต่รับไง พวกนั้นไม่เคยรุกเถอะ น้ามึงช่วยกูหน่อยน้า”
อย่ามาทำหน้าอ้อนวอน มันดูน่าถีบมากกว่า
“กูนับหนึ่งถึงสามถ้ามึงไม่ออกไปกูจะถีบมึงออกไปเอง”
“ไม่ กูไม่กลับ!!”
หลังจากที่มันพูดจบ ไอ้ตุ๊กแกมันก็ถอดเสื้อยืดกับกางเกงออกแล้วโยนทิ้งไปอย่างไม่ใยดี จนทั้งตัวของมันเหลือแต่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวแล้ว
แต่แม่ง!! โคตรขาวเลย หัวนมชมพูด้วย หน้าท้องแบนราบมองเห็นขนอ่อนรำไรๆแล้ว โอ๊ยใจเต้นตึ๊กตั๊กเลย ใจเย็นๆลูกพ่อ อย่ามาทรยศกันตอนนี้นะ
“เฮ้ย! เดี๋ยวมึงจะถอดเสื้อผ้าทำไม๊?? ใส่กลับเดี๋ยวนี้นะ”
“นะ ช่วยกูหน่อย กูไม่ไหวแล้ว”
“เดี๋ยว!! หยุดเลย”
‘พลั่ก’
ไอ้ตุ๊กแกมันผลักผมลงที่โซฟาแล้วทาบตัวลงมา สายตามันนี่หื่นเอาเรื่องเหมือนกัน แล้วทำไมปากมึงถึงน่าจูบขนาดนั้น…เฮ้ย! ไม่ใช่!! แล้วมึงจะเอามึงล้วงเข้ามาในเสื้อกูทำไม๊?? แล้วๆกูก็จะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน!!
“นี่…เดี๋ยว มึงหยุดก่อน”
“มึงอยู่เฉยๆก็ได้เดี๋ยวกูทำเอง”
“เฮ้ย!! ไม่ม…หยุดนะ”
เหมือนคราวก่อนไม่ผิด คราวที่แล้วผมเสร็จมันไปก็เพราะแบบนี้แหละ แล้วคราวนี้หล่ะผมจะรอดมั้ยเนี่ย!! ไอ้ตุ๊กแกมันลอกคราบผมออก จริงๆผมว่าผมมีกำลังมากกว่ามันนะ แต่ไหงตอนนี้หมดแรงเอาซะดื้อๆเลย
“หุ่นมึงนี่โคตรเซ็กซี่เลย…”
มันลูบหน้าท้องผมไปมา จนผมรู้สึกสยิวไปหมด
“ไอ้โต๋มึงหยุดเลย วันนี้มึงไม่ได้โดนยามาอีกใช่มั้ย?”
“เปล่า กูแค่อยากเฉยๆ”
มันพูด พร้อมกับไล้เลียริมฝีปากตัวเองไปมา แม่งเซ็กซี่หว่ะ! โอ้ยสติๆ กลับมาก๊อนนน!! เวลามึงพูดอะไรช่วยนึกถึงกูด้วย กูไสยๆ เพิ่ง0tเสียซิงไปหยกๆเองหน้า
‘จุ๊บ’
“อา…อย่า…”
มันจูบที่หน้าท้องผมพร้อมกับขบดูดเบาๆจนตัวผมสั่นสะท้าน มือของมันลูบไล้บ๊อกเซอร์ผมไปมาจนไอ้ลูกชายคนเก่งที่เพิ่งเคยใช้งานไปครั้งเดียวเริ่มเกิดปฏิกิริยา แต่มึงก็เก่งไปนะไอ้เรื่องแบบนี้เนี่ย
“หึ! กูว่ามึงอย่าปฏิเสธเลย ดูลูกชายมึงดิสู้มือกูแล้ว”
“ไอ้โรคจิต ปล่อยกู...อืม…”
“มึงก็โรคจิตเหมือนกูแหละ อา…แม่งโคตรใหญ่เลย”
มันรูดบ๊อกเซอร์ผมลงแล้วจ้องมองไอ้ลูกชายไม่รักดีของผมที่มันกำลังแม่เบี้ยอยู่ตอนนี้ แม่งช่างไม่รักดีจริงๆทำท่าขู่ฟ่อๆแล้ว ขายขี้หน้าพ่อมึงมั้ย??
“กูว่ามึงใจเย็นๆก่อนดีมั้ย อ๊ะ!”
ไอ้ลูกชายกูไม่ใช่ไอติม จะมาดูมาเลียแบบนี้ม่ายด้ายยย
“อืม…”
“อ…ไอ้โต๋…อา”
ผมจะฟ้องรองกับใครได้?? คุณปวีณาช่วยผมได้มั้ย ผมกำลังจะถูกขืนใจรอบที่สองแล้ววว อย่าน้า!!ผมไสยๆอย่าทำผมเล้ยยย!!

จบตอนที่ 7

ไอ้โต๋มันจะแรดๆหน่อยนะครับ  :katai5:

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 7 ผมเป็นคนไสยไสยอย่าทำผมเล๊ย 18-10-2020
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 18-10-2020 23:35:49
 :hao3:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 7 ผมเป็นคนไสยไสยอย่าทำผมเล๊ย 18-10-2020
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 18-10-2020 23:46:28
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 7 ผมเป็นคนไสยไสยอย่าทำผมเล๊ย 18-10-2020
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 19-10-2020 22:02:43
 :mew3:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 7 ผมเป็นคนไสยไสยอย่าทำผมเล๊ย 18-10-2020
เริ่มหัวข้อโดย: MJTogether ที่ 25-10-2020 08:37:47
:pig2: :pig2: :pig2: :pig2:

ตอนที่ 8 ผมพลาดอีกละ

        ตอนนี้ผมตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน ไอ้ลูกชายตัวดีกำลังถูกจู่โจมอย่างหนัก และผมก็ไร้กำลังต่อสู้ใจ หนึ่งอยากเรียกกำลังเสริมแต่อีกใจก็รู้สึก…เสียวดีฉิบหาย…
“อา…เดี๋ยว…อืม…”
“อืม…”
ไอ้ตุ๊กแกมันดูดมันเลียโดยไม่เกรงใจผมเลย เล่นเอาผมเก็บเสียงครางเอาไว้ไม่อยู่จริงๆ
“ซี๊ดด…มึงหยุดก่อน!!”
“ทำไมหล่ะ? กูว่ามึงชอบนะ”
“…กูเมื่อย…”
โซฟามันก็ตัวนิดเดียวตัวผมเลยขอบโซฟาไปเยอะ ปวดหลังฉิบหาย
“หรือมึงจะให้กูหยุด? กูว่า…มึงคงไม่อยากให้กูหยุดจริงๆหรอกจริงมั้ย?”
เออจริง กูยอมรับมึงโคตรเก่งเลย ทำเอากูเกิดอาการอยากขึ้นมาละ
“ป…ไปที่เตียง”
“หึ! ก็แค่นั้น”
“แต่ก็ไม่ให้มึงเอากูหรอกนะบอกไว้ก่อนแล้วก็แค่ครั้งเดียวด้วย!”
“เออ…กูบอกแล้วไงว่าให้มึงเอากูก็ได้ กูอุตส่าห์ทำใจเกือบสองอาทิตย์ มึงโชคดีขนาดไหนแล้วจำเอาไว้ด้วย!”
“ห๊ะ?? กูต้องดีใจเหรอ นี่มึงมีบุญคุณกับกูเหรอ??”
“เออดิ กูอุตส่าห์มาให้เอาฟรีๆ”
เหรอครับ?? มันเป็นความโชคดีของผมเหรอ ?? นี่ผมควรจะดีใจเหรอเนี่ย งงๆนะครับ แล้วผมกับมันก็เดินโทงเทงๆเข้าห้องนอนมา อย่าหวังจะให้ผมอุ้มมันเข้าห้องนะครับ ตัวอย่างกะควายใครจะไปอุ้มไหว
“แล้วมึงมีถุงยางมั้ย? ห้องกูไม่มีหรอกนะ”
ก็อย่างที่ผมเคยบอก ผมมันไสยไสยไง ไม่มีหรอกไอ้ของพวกนั้นน่ะ
“กูเอามาด้วยทั้งถุงยางทั้งเจลแหละ กูจำไซส์ลูกชายมึงได้”
ไอ้ตุ๊กแก!! มึงนี่โคตรน่ากลัวเลย ยังมีหน้ามาบอกว่าจำขนาดลูกชายผมได้อีก
“…ร…เหรอ??”
ผมคิดถูกหรือคิดผิดที่จะให้มันยืมไอ้ลูกชายผม แต่มันบอกว่าแค่ครั้งเดียวแล้วมันจะไม่มายุ่งกับผมนี่นา คงไม่เป็นไรมั้ง
“มึงนอนลง”
“ห๊ะ!...อ…อืม”
ผมนอนลงบนเตียงของตัวเอง นี่ห้องนอนผมนะ แต่รู้สึกว่าบรรยากาศมันไม่เหมือนเดิมเลย รู้สึกเหมือนกังจะโดนขืนใจยังไงไม่รู้
ไอ้ตุ๊กแกมันขึ้นมานั่งค่อมบนตัวผม ดูแล้วโคตร X เลย แล้วมันก็เอาเจลที่ถือติดมือมาด้วยเทลงในมือ โอ้พระเจ้าจอร์จ!! มันเบิกทางของมันเอง เล่นเองเออเองนักเลงพอ!
“อืม…”
หน้าตามันโคตรอีโรติก!! นี่เวลามันมีอะไรกับคนอื่นมันทำหน้าอย่างนี้รึเปล่าวะ?? ผมล่ะอยากรู้จริงๆ
“อา…”
เสียงครางมันโคตรทำให้ผมใจสั่นเลย ไม่ๆๆๆอย่าไปหลงกลมัน แค่ครั้งเดียวเท่านั้นแล้วมันบอกจะไม่มายุ่งกับผมอีก ผมต้องอดทน!!
หลังจากมันจัดแจงของมันเสร็จมันก็ค่อยๆเอาไอ้ลูกชายของผมยัดเข้าไป อา…โคตรเสียว!!
“อา…”
“อืม…ของมึง…โคตรใหญ่เลยนะ”
ไม่ต้องชมมากกูรู้ตัวดี มันเป็นสิ่งที่กูภูมิใจมากแต่มันก็มักจะทำให้กูขายขี้หน้าด้วยเหมือนกัน
“อืม…อา”
มันก้มตัวลงมาจูบผมไอ้ตุ๊กแกมันสอดลิ้นเข้ามาในปากผม แล้วมันก็ใช้ลิ้นเกี่ยวปลายลิ้นผมแล้วดูดเบาๆ อา…รู้สึกดีฉิบหายไอ้ผมก็จูบไม่ค่อยจะเป็นเลยปล่อยให้มันจูบไป
“อืม…”
มันขยับสะโพกขึ้นลงช้าๆเหงื่อตามตัวและใบหน้าของไอ้ตุ๊กแกลามกมันเริ่มออก ตอนนี้เนื้อตัวมันแดงไปหมด
“อา…อืม…”
มันเริ่มส่งเสียงคราง มือมันก็ยันอยู่ที่หน้าท้องของผม รู้สึกวูบวาบๆพิลึก
“อืม…ซี๊ดดด”
ผมเริ่มทนไม่ไหวเลยเปลี่ยนท่าจับมันนอนลงแล้วเป็นคนจัดการเองเลยครับ ก็อย่างที่บอกไอ้ลูกชายผมมันรอไม่ไหวไง
“อา…ตรงนั้น…ดี…อืม”
เสียงไอ้ตุ๊กแกครางอยู่ข้างๆหู เสียงมันเพราะจริงๆ
“อืม…”
ผมยังคงขยับสะโพกใส่มันไม่ยั้ง ก็ช่วยไม่ได้มันอยากมาเอง ผมไม่ได้บังคับมันนะครับ บอกไว้ก่อนเดี๋ยวจะหาว่าผมใจร้าย
“อา…จริงๆแล้วมึงก็อยากเหมือนกันนั่นแหละ…อ๊ะ…เบาๆสิ”
“หุบปาก มึงอย่าพูดมาก”
“ฮ่าๆ…อ๊า!! อย่ากัด มึงเป็นหมารึไง?”
“หึ…”
ยกหนึ่งผ่านไป…ยกสอง…ยกสาม…สรุปว่าโดยรวมแล้วผมเอามันไปสามรอบ!!! ไม่อยากจะเชื่อตัวเอง ไม่คิดว่าผมจะควบคุมตัวเองไม่ได้ขนาดนี้เลย
“มึงนี่…โคตรเลยว่ะ!”
ไอ้ตุ๊กแกมันนอนยิ้มหน้าบานอยู่บนเตียง ขณะที่ผมนั่งเป็นหมาหงอยขาดน้ำอยู่ข้างเตียง รู้สึกเสียหน้ามากครับ
“มึงกลับไปได้แล้ว!”
“อะไรองมึง เอากูเสร็จก็ไล่อย่างนี้เหรอ”
“…”
“กูนอนนี่แหละ ไม่มีแรงขยับตัวแล้ว”
“เฮ้ย!! ไม่ได้นะ”
“กูเจ็บตูดไอ้สัด แม่งมึงนี่ไม่รู้จักยับยั้งอะไรเลยใส่มาได้ไม่ยั้งเลย”
“…”
“แต่โคตรเด็ด ฮ่าๆ กูชอบๆวันหลังเอาใหม่”
“ไหนว่าแค่ครั้งเดียวไง? แล้วมึงจะเลิกยุ่งกับกู!”
“ครั้งเดียว มึงแน่ใจเหรอ กูว่ามึงเอากูไปสามครั้งนะ”
“…มึงเงียบไปเลย จะนอนก็นอนไป”
ขี้เกียจจะเถียงกับมัน เถียงไปก็คงไม่ชนะ เพราะไอ้ลูกชายผมมันทรยศแท้ๆเลย ผมเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ พออาบเสร็จออกมาไอ้ตุ๊กแกมันก็หลับไปแล้ว ผมเลยล้มตัวลงนอนไม่อยากจะคิดมาก คิดซะว่าถูกแมวบ้ามันกัดเอาก็แล้วกัน
ตื่นตอนเช้ามาก็ไม่เห็นไอ้ตุ๊กแกมันแล้ว แสดงว่ามันตื่นก่อนแล้วกลับบ้านมันไปแล้ว…ก็ดีครับ ไม่ค่อยอยากมองหน้ามันซักเท่าไร ไม่มีอะไรหรอกแค่อายมันน่ะครับ
วันนี้ผมต้องแวะไปรับลูกชายคนใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม…’บิ๊กไบค์’ นั่นเอง คันนี้สีดำเหมือนเดิมเพราะเป็นสีโปรดของผมเอง
“นี่กุญแจครับน้องแล้วก็ขอบคุณมากครับ มีปัญหาก็ติดต่อที่นามบัตรพี่ได้เลยครับ”
“ครับ”
หลังจากออกมาจากร้าน ผมว่าจะแวะไปซื้อของซักหน่อย จะว่าไปรถใหม่นี่มันขี่นิ่มดีจริงๆไม่เสียแรงที่เก็บตังซื้อ
‘พลั่ก’
“ขอโทษครับ!”
ผมกำลังเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อก็ชนกับใครคนนึงเข้า พอเงยหน้าไปมองเท่านั้นแหละ…เจอมันอีกแล้ว ‘ไอ้ตุ๊กแก’
“อ่อ…ไอ้แว่…เอ้ยไอ้อ๋อ…อุ๊บบบ”
ผมรีบเอามือปิดปากมันทันทีเพราะมันไม่ได้มาคนเดียว มีเพื่อนมันซึ่งก็คือไอ้บดินทร์ที่นิ่งเป็นหลับขยับเป็นแดกตามมาด้วย ในมือของไอ้บดินทร์ถือของกินมาเต็มไม้เต็มมือ ผมลากไอ้ตุ๊กแกมายืนข้างร้านโดยที่มีไอ้บดินทร์ยืนมองอย่างงงๆ
“อึงอะอากอูอาอำไอ?”
มือผมยังอุดปากมันอยู่ ทำให้มันพูดฟังไม่รู้เรื่อง
“เมื่อกี๊มึงจะเรียกกูว่าอะไร?”
ผมปล่อยมือ แต่มือผมเลอะน้ำลายมันมันด้วยอ่ะ ผมทำท่าจะหาที่เช็ดมือ
“ก็เรียกชื่อมึงไง แหมทำเป็นรังเกียจกู เมื่อคืนเรายังแลกน้ำลายกันอยู่เลยนะ!!”
“มึงพูดเบาๆดิ ไม่กลัวคนอื่นได้ยินรึไง?”
“ไม่กลัว มึงจะทำไม? กูจะไปป่าวประกาศให้ทั่วเลยว่ามึงคือไอ้อ๋อง ไอ้หน้าหล่อที่ทำงานที่ร้านเหล้า”
“มึงหยุดเลย! ถ้ามึงเอาไปพูดกูก็จะบอกว่ามึงโดนกูเอาไปสองรอบแล้ว”
“เอ่อ…มึงใจเย็นๆก่อนน้า กูล้อเล่นกูไม่พูดหรอก”
เหอะ! ทีงี้แหละทำมาเป็นกลัว
“…งั้นมึงก็อย่าไปบอกใคร ถ้ากูรู้มึงโดนแน่!”
“เออน่า ก…กูไปได้ยัง”
“เออ!! ไปได้แล้ว”
หวังว่ามันคงไม่เอาไปพูดจริงๆหรอกนะ เพราะผมก็คงไม่กล้าเอาเรื่องที่มีอะไรกับมันไปประกาศปาวๆหรอก ผมก็อายเป็นเหมือนกันนา
“ไอ้โต๋ นั่นมันไอ้อ๋องน้องเจ้าของร้านเหล้าหลังมอไม่ใช่เหรอ?”
“มึงรู้ได้ไง? กูเห็นมึงเอาแต่แดกแล้วก็หลับ”
“ตอนกูกินกูก็ลืมตาป่ะวะ แล้วใช่มั้ย ทำไมมึงรู้จักอ่ะ?”
“ม…ไม่ใช่ กูเข้าใจผิด”
“จริงเหรอ แต่หน้ามึงมีพิรุธ?”
“…ทีงี้ทำมาฉลาด เรื่องเรียนมึงฉลาดขนาดนี้มั้ยฮะ?”
“กูจะไปรู้เหรอ ก็เห็นเขาลากมึงออกไปอ่ะ แต่จะว่าไป กูก็เพิ่งเคยเห็นคนที่หน้าหล่อกว่ามึงก็ไอ้คนเมื่อกี๊นี่แหละ”
“ชมมันทำไม? เดี๋ยวกูถีบเลย”
ผมยังแอบฟังมันคุยกับไอ้บดินทร์อยู่ กลัวว่ามันจะพูดมากแต่เท่าที่ฟังก็พอจะวางใจได้แล้ว
“ไหนวะรถใหม่ กูยังไม่เห็นเลย?”
“…อยู่หลังร้าน แล้วอย่าให้รู้นะว่ามึงไปทำอะไรรถกูอีก!”
“เออ…กูไม่กล้าแล้วแม่งเล่นซ้อมกูเกือบตาย กูเป็นพี่มึงนะ”
“แล้วไง!”
“จ้าท่านอ๋องจอมโหดและโคตรโฉดโคตรหล่อ”
“…”
รอบตัวผมมีแต่คนไม่ปกติเต็มไปหมดเลย คงมีแต่ผมคนเดียวที่ปกติ?   
คืนนี้เป็นคืนวันศุกร์คนเยอะเป็นพิเศษ เพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุดหลายๆคนก็ไม่ต้องกังวลว่าจะตื่นไปเรียนไม่ได้ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ไม่ใช่มาดื่มเหล้านะครับผมมาเป็นชงเหล้าหรอก
“ไม่น่าเชื่อเนอะว่าคออ่อนๆอย่างมึงนี่จะชงเหล้าเก่ง”
“…”
“เห็นหน้าเข้มๆไม่ใส่โซดาอย่างมึงนี่คออ่อน กูหล่ะอยากจะขำให้ฟันร่วง”
“เดี๋ยวฟันมึงได้ร่วงด้วยตีนกู ไปยกเบียร์มาสองลังดิ”
“คร๊าบบ”
ไอ้อาร์ทมันกวนตีนได้ตลอด ขนาดมันโดนเตะโดนถีบก็ยังเสือกกวน ทนมือทนตีนดีจริงๆ แต่ก็จริงแหละผมดื่มเหล้าไม่ค่อยเป็น เรียกได้ว่าคออ่อนเลยแหละ
“เฮ้ย! มีคนตีกันหน้าร้านเหล้า!!”
“ไปดูเร็ว เห็นว่าเป็นเด็กเกษตร ไม่รู้เป็นไงบ้าง”
ฉิบหายละมีคนตีกัน แล้วใครดันมาตีกันแถวนี้วะ ผมกับไอ้อาร์ทรีบวิ่งออกไปดูที่หน้าร้าน แล้วไอ้โอมมันไปไหนวะเนี่ย??
‘ผลัวะ’
“กูบอกแล้วว่ามึงอย่ามายุ่งกับแฟนกู”
“ไอ้สัด ใครอยากจะไปยุ่งกับแฟนมึง”
‘พรึ่บ’
จะเรียกว่าคนตีกันก็ไม่ถูก เพราะสิ่งที่ผมเห็นเป็นผู้ชายสองคนกำลังแลกหมัดกันซะมากกว่า
“แล้วมึงมายุ่งกับน้องนุ่นของกูทำไม?”
“กูไม่ได้ไปยุ่งกับน้องเขา”
‘ผลัวะ’
“กูเห็นมึงยิ้มหวานให้น้องเขานี่หว่า!”
“กูบอกว่าไม่ได้ยุ่งก็ไม่ได้ยุ่งดิวะ”
‘ผลัวะ’
นั่นมันไอ้ตุ๊กแกนี่หว่า แล้วอีกคนน่าจะเป็นเด็กถาปัตเพราะหน้ามันคุ้นๆเห็นมันมากินเหล้าที่นี่บ่อยๆ
“เฮ้ย!มีอะไรกัน??”
ไอ้สองคนนั้นชะงักเพราะเสียงไอ้โอมที่ตะโกนมันโผล่มาจากหลังร้าน เสียงมันนี่ทรงพลังจริง ดังเหมือนจริงเสียงฟ้าผ่าจริงๆ
“พวกมึงมาทำอะไรที่หน้าร้านกู? กูเคยบอกแล้วว่าถ้าใครมาตีกันที้ร้านกูไม่เอาไว้แน่”
“เอ่อ…คือ…พี่”
“มึงคณะอะไร?”
ไอ้โอมมันหันไปทางไอ้เด็กถาปัต ซึ่งตอนนี้มันยืนตัวสั่น ดูเหมือนจะฉี่ราดแล้วมั้งน่ะ ก็แล้วใครจะไม่กลัวมันบ้างล่ะตัวยังกะคิงคองแถมตะคอกเสียงดังอีกต่างหาก
“ถ…ถาปัตครับ”
“เดี๋ยวกูจะบอกให้ไอ้เบิ้มให้จัดการมึง”
“พ…พี่รู้รักพี่เบิ้มด้วยเหรอครับ?”
ไอ้เด็กถาปัตเริ่มหน้าซีดแทนที่จะแดงเพราะโดนไปหลายหมัด สงสารมันนะครับ ก็ไอ้โอมอ่ะมันรู้จักหมดมหาวิทยาลัยเลยมั้ง เผลอๆรู้จักอธิการบดีด้วย
“แล้วมึงอ่ะคณะไหน?”
ไอ้โอมมันหันไปทางไอ้ตุ๊กแกที่หน้าไม่ได้ซีดแต่แดงเพราะโดนต่อยแล้วก็มีเลือดออกที่มุมปาก หมดมาดคนหล่อลำดับที่สองทันที ส่วนอันดับที่หนึ่งคือผมเอง แต่ผมไม่ได้คิดเองเออเองนะ ก็ไอ้บดินทร์ไงมันพูดผมจำได้
“ผมอยู่คณะเกษตรชื่อโต๋”
เออไอ้นี่มันเจ๋ง บอกคณะแถมบอกชื่อแซ่ด้วย คนจริง 2020!!
“เหรอ เฮ้ย! ไอ้อ๋องมึงมาดูมันดิ”
อย่ามาเรียกกู๊! กูอยู่ของกูเฉยๆ ผมทำท่าหันหลังเพื่อจะแอบชิ่ง
“เอ่อ…ผมขอโทษนะที่มาก่อเรื่อง”
“มึงสองคนเคลียร์กันดิ แล้วอย่ามาก่อเรื่องที้ร้านกู ถ้าเคลียร์กันไม่ได้กูจะไม่ให้พวกมึงเข้าร้านกูอีกต่อไป”
สรุปว่าไอ้สองตัวนั่นมันต้องมานั่งประจันหน้าคุยกันที่หลังร้าน แล้วไอ้โอมมันก็ให้ผมมานั่งเฝ้า เพราะมันบอกว่าถ้าหากไอ้สองตัวนี่มันตีกันอีก ก็ให้ผมกระทืบให้สลบไปทั้งสองคนเลย แล้วจะให้ผมมายุ่งกับพวกมันทำไมวะ
“มึงสองคนถ้าเคลียร์กันไม่จบกูจะให้ไอ้อ๋องกระทืบพวกมึงสองคน พวกมึงรู้มั้ยไอ้อ๋องเนี่ยมันล้มนักมวยเจ๋งๆในค่ายมาหลายคนละ”
พูดอย่างกะกูเป็นนักฆ่าไปได้ กูไม่เคยทำอะไรใครก่อนหรอกนะ
“ที่กูเตือนอ่ะ กูพูดเรื่องจริงนะขนาดกระเทยกับเกย์รวมทีมกันเป็นสิบมันยังเตะซี่โครงหักมาแล้วเลย”
“…”
หันไปมองไอ้สองคนนั่นมันอ้าปากค้างเลย ไอ้สัด! แมลงวันจะบินเข้าปากพวกมันอยู่ละ ทำไมชีวิตผมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยวะ นอกจากคำว่าซวย ผมก็นึกไม่ออกเลยว่าจะมีคำไหนเหมาะกับผมเท่านี้มาก่อน

จบตอนที่ 8

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 8 ผมพลาดอีกละ 25-10-2020
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 25-10-2020 09:15:05
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 8 ผมพลาดอีกละ 25-10-2020
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 26-10-2020 23:18:52
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 8 ผมพลาดอีกละ 25-10-2020
เริ่มหัวข้อโดย: MJTogether ที่ 01-11-2020 09:34:33
:pig2: :pig2: :pig2: :pig2:

ตอนที่ 9 ผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบๆ

ตอนนี่ผมกำลังนั่งทำหน้าที่เป็นกรรมการให้มวยคู่เอกคือไอ้ตุ๊กแกกับไอ้เด็กถาปัตที่ต่อยตีกันเพราะเรื่องผู้หญิงเอาเข้าจริงๆผมก็อยากจะเชื่อไอ้เด็กถาปัตมากกว่าไอ้ตุ๊กแกอยู่แล้วเพราะผมคิดว่ามันเป็นคนที่ชอบไปยุ่งกับผู้หญิงก่อนแน่นอน
“มึงสองคนรีบเคลียร์เร็วๆ กูจะไปนอนแล้ว”
“จ…จริงเหรอที่มึง เอ๊ย! พี่เตะคนซี่โคลงหักอ่ะครับ”
“จริง…แล้วไม่ต้องเรียกกูว่าพี่กูอยู่ปีสอง มึง…น่าจะอยู่ปีสูงใช่มั้ย”
“อ…อ่อนกว่าผมอีก ผมอยู่ปีสาม”
ทีงี้ทำมาเป็นพูดเพราะ หน้าแข้งผมมันก็เป็นสิ่งที่ทำให้คนอื่นพูดเพราะขึ้นมาได้เหมือนกันครับ
“กูไม่มีอะไรจะพูด กับน้องนุ่นกูไม่มีอะไรจริงๆ”
“แล้วที่มึงยิ้มหวานให้น้องเขาล่ะ”
“ไอ้เหี้ย! มึงฟังกูอยู่ป่ะเนี่ย กูบอกว่าไม่มีอะไรกับเด็กมึงก็คือไม่มีไง”
“แล้วสองอาทิตย์ก่อนที่มึงนัดกันที่ห้องน้องเขาล่ะ กูเห็นมึงยืนอยู่หน้าหอน้องเขาอ่ะ”
“…อ่อ”
ทำมา ‘อ่อ’ กูว่าละ นิสัยมันคงไม่เปลี่ยนง่ายๆหรอก แล้วทำมาเป็นตอแหลว่าทำกับใครไม่ได้ นี่มันมาหลอกฟันผมชัดๆเลย
“ไอ้โต๋มึง ไหนมึงบอกว่า? มึงไม่…”
ฉิบหาย ผมจะอารมณ์ขึ้นทำไมวะ ก็มันเรื่องของมันนี่หว่า ไม่เอาไม่เสือกแล้ว
“ห๊ะ ก…กูเปล่า วันนั้นมันไม่มีอะไร”
มันหันมาทางผมแล้วปฏิเสธ
 “ก็วันนั้นกูไปห้องน้องออยแล้วเจอกับน้องนุ่น สองคนนั้นเป็นเพื่อนกันแล้วก็อยู่หอเดียวกัน”
“จ…จริงเหรอ?”
“เออ กูไม่มีอะไรกับเด็กมึง คือเมื่อก่อนกูมีกับน้องออยไง แต่ตอนนี้กูไม่มีแล้ว”
มันหันมาสบตาผมอีกรอบ คือยังไง ? อยากให้ผมเชื่องั้นเหอะ…
“…”
แล้วทำไมผมต้องมานั่งฟังเรื่องของมันสองตัววะเนี่ย
“ง…งั้นกูขอโทษก็ได้ที่เข้าใจมึงผิด”
“แม่งมึงคิดว่าขอโทษแล้วกูจะหายเจ็บเหรอ??”
“งั้นมึงจะให้กูทำยังไง?”
“พอเลยพวกมึงสองคน เคลียร์แล้วก็กลับไปได้แล้ว รำคาญจริงๆ”
“แต่…”
“มึงหุบปากไอ้โต๋ แล้วก็มึงด้วยไอ้ปีสูงจะไปไหนก็ไป!”
“ค…ครับ”
จบเรื่องปัญญาอ่อนซักที ง่วงฉิบหายกี่โมงกี่ยามแล้ววะเนี่ย!!
‘ฮ้าว!’
ผมยืนหาวอยู่ที่หลังร้าน ส่วนไอ้ตุ๊กแกมันกำลังโทรศัพท์หน้ามุ่ยอยู่
“ม…มึงไปส่งกูหน่อย…”
“ห๊ะ! อะไรของมึง?”
“ก็มันดึกแล้วกูไม่มีรถ”
“แล้วมึงมายังไง?”
“กูมากับไอ้ไข่นุ้ย แต่มันไม่รับสายกูไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน”
“…ก็เรื่องของมึงสิ!”
“ถ้ามึงไม่ไปส่งกู งั้นกูขอนอนห้องมึงแล้วกัน”
“…ไม่ได้…”
“ทำไม กูก็เคยนอนมาแล้วสองครั้งป่ะวะ”
ถ้าให้มันค้างด้วย ไม่ปลอดภัยต่อร่างกายของผมแน่ๆ แต่ไม่อยากไปส่งมันอ่ะ รถเพิ่งถอยมาไม่อยากให้มันซ้อนท้ายเป็นคนแรก
“กุไม่ให้ค้าง!”
“เหอะ!...งั้นมึงต้องไปส่งกู”
“…เออ! รอแป๊บ”
“จ้า”
มันรับคำแล้วยิ้มตอแหลมาทางผม ผมว่ามันทำตัวแปลกๆนะ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร มันคงแปลกๆแบบนี้แหละมั้ง ผมเลยเดินไปหยิบกุญแจรถในร้านแล้วออกมาคว้าบิ๊กไบค์สตาร์ทรอไอ้ตุ๊กแกมัน
“นี่รถมึงเหรอโคตรเท่เลย”
“…”
“แม่งโคตรหล่อ กูอยากได้นะแต่แม่กูไม่ให้ขับ”
“ให้มันเร็วๆได้มั้ยวะกูง่วง”
“อ่อ…เออๆ ว่าแต่รถมึงยังใหม่ๆอยู่เลยเพิ่งซื้อเหรอ?”
“เร็วๆอย่าถามมาก!”
“แล้วหมวกกันน็อคกูล่ะ”
“ไม่มี กูมีลูกเดียว”
“แล้วให้กูใส่อะไรอ่ะ?”
“…”
“งั้นถอดของมึงมาให้กูดิ”
“กูไม่ให้!”
“อะไรว้า แล้วถ้ามึงขี่ล้มแล้วหัวกูฟาดพื้นตายทำไงอ่ะ”
“มึงจะไม่ตายเพราะรถล้มหรอกแต่จะตายเพราะถูกกูกระทืบมึงนี่แหละ”
ลีลาเยอะกวนตีนวอนหน้าแข้งตลอด
“หึ! ดุเหมือนหมาเลย”
ผมเห็นมันทำปากยุกยิกๆอยู่ในกระจกรถมันต้องบ่นอะไรผมแน่ๆ
“มึงว่าอะไรนะ?”
“เปล๊า!”
มันกอดเอวผมแน่นเลยตอนที่ผมออกรถ คงกลัวตกรถ แต่มันใช้มือลูบๆคลำที่หน้าท้องผมแปลกๆแฮะ
ผมขับบิ๊กไบค์ไปส่งไอ้ตุ๊กแกที่หอพักซึ่งไม่ไกลจากหลังมอซักเท่าไร กว่ามันจะลงจากรถได้ก็ยังลีลาเยอะแถมยังเอามือถือถ่ายรูปรถผมไปอีก กว่าผมจะขับรถกลับถึงห้อง ต้องอาบน้ำอีกแล้วเมื่อไรจะได้นอนเนี่ย แต่…ถ้าจิตใจคนเราสะอาด ก็ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำหรอกใช่มั้ยครับ…
   หลังจากที่วันนี้ผมนอนทั้งวัน ตื่นมาอีกทีก็เกือบตอนเย็น ไม่ได้ทำห่าอะไรเลยก็ต้องมาช่วยไอ้โอมมันที่ร้านอีกแล้ว วันนี้คนก็เยอะเช่นเคยไม่มีที่ไปกันรึไงวะ?? แล้วไอ้พวกสี่ยอดกุแมวนี่อีก มาได้มาดีมาเกือบทุกวันสงสัยบ้านมันคงรวยมากเนอะ! ผมเห็นมันสามคนนั่งคุยกันมาซักพักละ แต่ผมยังไม่เห็นได้ตุ๊กแกมันเลย สงสัยหน้าบวมไม่อยากออกมาโชว
“เฮ้ยไอ้โต๋มาแล้ว”
 “อ้าวแล้วทำไมหน้ามึงมันเยินแบบนี้วะไปฟัดกับหมาที่ไหนมา?”
พูดยังไม่ทันขาดคำ ตายยากจริงๆแต่หน้ามันก็เยินหน่อยๆ คิดว่าจะบวมกว่านี้ซะอีกเห็นก็แลกหมัดกันไปหลายหมัดอยู่ แก้มช้ำนิดหน่อย แล้วก็มีรอยช้ำที่มุมปากไม่มาก
“ก็มีเรื่องกับเด็กถาปัตดิวะ”
“เฮ้ยแล้วมันเป็นใครวะ?”
“มึงจะไปแก้แค้นให้มันรึไง?”
“เปล่าหรอกจ๊ะจ๋า ก็ถ้ากูรู้ว่ามันเป็นใครเวลาเห็นมันจะได้หลบให้ไวเลยไง”
“โธ่นึกว่าแน่นะไอ้บดินทร์ แล้วไอ้โต๋มึงไปมีเรื่องได้ไงว?ะ ดูดิความหล่อลดลงเกือบ 80 % เลย”
“มึงหุบปากไปจ๊ะจ๋า ปากมึงนี่ไม่เข้ากับหนังหน้าเลยนะ”
“งั้นมึงก็ชมว่ากูสวยอ่ะดิ?”
“เออ! สวยแต่ปากหมาไง”
“เชอะ! ไอ้หน้าเยิน”
“เออแล้วเมื่อคืนมึงกลับยังไงวะ? พอมีเรื่องกูเห็นมึงโดนลากไปหลังร้านกูก็นั่งรออยู่หน้าร้าน ไม่กล้าเข้าไปกลัวพี่เจ้าของร้านจะกระทืบเอา พอผ่านไปซักพักกูไปถามพี่เจ้าของร้านเขาก็บอกว่ามึงกลับไปแล้ว”
“โหรักูมากนะมึงอ่ะ ทิ้งกูเฉยเลยไม่ตามกูไปหลังร้านวะ”
“เอ้า! มึงดูพี่เจ้าของร้านดิตัวอย่างกะคิงคอง แล้วไอ้ท่านอ๋องอะไรนั่นอีก ตาดุฉิบหาย ขืนเข้าไปยุ่งกูก็โดนกระทืบดิวะ”
ผมเห็นด้วยที่ว่าไอ้โอมเหมือนคิงคอง แต่ผมก็ไม่ได้โหดขนาดนั้นหรอกน่า แต่พวกมึงจะนินทาอะไรก็ให้มันเบาๆหน่อยเหอะ
“ไอ้สัด! มึงเพื่อนกูป่ะเนี่ย”
“แล้วที่ไอ้ไข่นุ้ยมันถามว่ามึงกลับยังไงไม่เห็นตอบวะ?”
“ห๊ะ! อ่อ…เอ่อกู…”
“อะไรของมึงอ้ำอึ้งๆอยู่นั่นแหละ กูโทรหาก็เสือกไม่รับสาย”
หืม?? ไหนไอ้ตุ๊กแกมันว่าเพื่อนมันไม่รับสาย แล้วเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่!!
“มึงเบาๆดิ เดี๋ยวพี่เจ้าของร้านเขาก็ได้ยินหรอก”
ไอ้ตุ๊กแกมันเหลือบตามาเห็นผมยืนอยู่ข้างเคาน์เตอร์ แต่เสียใจด้วยกูได้ยินหมดแล้ว
“เออๆ แล้วมึงกลับยังไง?”
“เอ่อกู…กูโบกรถกลับไง”
“เหรอ มันมึรถให้มึงโบกเหรอวะดึกขนาดนั้น?”
“ม…มีสิวะ”
ตอแหลแล้วต้องไปให้สุด แล้วก็มาหยุดที่ตีนกู อย่าให้กูรู้น้าว่ามึงมาหลอกอะไรกูอ่ะ!
“เออว่าแต่ไอ้คนที่ยืนที่เคาน์เตอร์นั่น…มันไอ้ท่านอ๋องใช่มั้ย?”
“มึงถามทำไมไอ้บดินทร์มึงชอบเขาเหรอ?”
“อีจ๊ะจ๋ามึงอย่ามาวายแถวนี้ กูแค่คิดว่ามันหน้าคุ้นๆ”
“คุ้นยังไง?”
“ก็วันนั้นกูเจอที่หน้าเซเว่น เห็นมันลากไอ๋โต๋ไปคุยกันลับๆล่อๆอ่ะดิ”
“เฮ้ย! จริงเหรอวะไอ้โต๋ แต่แบบนี้ไม่ใช่สเปคมึงนี่หว่า”
“อ…ไอ้บดินทร์มันเข้าใจผิด กูทักผิดคนกูคิดว่าเป็นพ…พี่อาร์ทไง น้องเจ้าของร้านอ่ะที่วันนั้นไปกินเหล้าด้วยกันไง เนอะไอ้ไข่นุ้ยเนอะ?”
“เหรอ แต่จะว่าไปก็คล้ายๆกัน แต่กูว่าท่านอ๋องหล่อกว่า”
“จ๊ะจ๋ามึงชอบมันเหรอ? กูเห็นแต่มึงชอบจับคู่ผู้ชายหล่อๆ”
“เปล่า! กูว่าท่านอ๋องก็เหมาะกับมึงดีนะไอ้โต๋ ถ้าพวกมึงจิ้นกันกูว่าคงฟินน่าดู”
ฟินจริงครับ เอ๊ย!!ไม่ใช่แล้ว อย่าเข้าใจผิดผมไม่ได้อยากกอดมันเล้ยยย
“จ…จ๊ะจ๋าม…มึงอย่าพูดไป”
“ไอ้โต๋มึงหน้าแดง เมาแล้วเหรอวะ โหหูมึงโคตรแดงเลย”
แล้วทำไมไอ้ตุ๊กแกมันต้องหน้าแดง??
“ป…เปล่าก…กูแค่รู้สึกร้อนเฉยๆ”
“มึงไม่สะบายป่ะเนี่ย? กลับก่อนมั้ยกูไปส่ง”
แต่ผมก็รู้สึกหนาวๆร้อนๆเหมือนกันหรือว่าผมจะเป็นไข้ อึ๋ย! ขนลุกเลย มีลางสังหรณ์แปลกๆเหมือนมีอะไรมันบ่งบอกว่าจะซวย!
“ป…เปล่ากูไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย”
“แล้ววันนี้มึงจะไปค้างบ้านใครป่ะเนี่ย?”
“ไม่ไป”
“เฮ้ย!! จริงดิ/จริงเหอวะ??”
“สงสัยน้ำจะท่วมโลก มนุษย์ต่างดาวจะมาเยือนไอ้โต๋ไม่ไปค้างบ้านสาว”
“แปลกรึไง ? กูว่าจะเลิกทำตัวแบบนั้นแล้ว”
“ห๊ะ!!นี่มึงจะไปบวชเหรอ?”
“สัด!! ไม่ใช่เว้ย!”
“ล…แล้วมึงเป็นอะไร นี่มึงป่วยจริงๆเหรอ?”
“เปล่า…”
“หรือว่าน้องชายมึงไม่ทำงาน?”
“เฮ้ย! ม…ไม่ใช่”
“หรือว่ามึงเจอตัวจริง?”
“ห๊ะ!…อ…อาจจะใช่”
“เฮ้ย!ฉลองๆ ไอ้โต๋จะมีแฟน พี่ครับขอเบียร์เพิ่มหน่อยครับ”
พวกมันตะโกนมาทางผม จะว่าไปพวกมึงไม่ต้องตะโกนก็ได้ครับโต๊ะก็ใกล้แค่เนี้ย กูได้ยินหมดแล้วครับว่าพวกมึงคุยอะไรกัน ผมหยิบเบียร์ไปวางที่โต๊ะมันเพิ่มสี่ขวด
“ขอบคุณครับพี่”
“…”
ไอ้ตุ๊กแกมันมองหน้าผมแล้วไม่ได้พูดอะไร แต่ผมสังเกตุเห็นว่ามันหลบๆสายตาผมอยู่เหมือนกันเสือกเป็นอะไรขึ้นมาอีกหล่ะ?
ผมเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์ แต่เห็นว่าไอ้ตุ๊กแกมันเหลือบมามองทางนี้บ่อยๆ
“ใครวะ? คณะอะไรแล้วสวยมั้ย?”
“หรือว่าผู้ชาย น่ารักมั้ย?”
“จ๊ะจ๋าทำไมมึงต้องคิดว่าเป็นผู้ชายวะ?”
“เอ้าก็กูอยากให้เป็นอ่ะ ว่าไงตอบมา?”
“ย…ยังไม่รู้ กูแค่กำลังจะเริ่มจีบ”
“ห๊ะ! อะไรของมึง ยังไม่ได้คบกันเรอะ?”
“ก็…แบบ…กูก็ยังแน่ใจไง”
“อ๋อรักแรกของมึงสินะ กูล่ะสงสารแฟนในอนาคตของมึงจริงๆ”
“ทำไมกูจะมีไม่ได้รึไง?”
“ก็ถ้ามึงมีแฟน แล้วไอ้กิ๊กกั๊กที่เหลือของมึงอ่ะ จะไม่มาตบตีแย่งชิงกันเหรอไง?”
“อ่า…แต่กูว่าเขาคงสู้ได้สบายๆเลย”
“ไอ้โต๋พูดอย่างกับว่าคนที่มึงกำลังจะจีบเป็นนักมวยอย่างนั้นแหละ”
“อ่า…ก็เกือบๆใช่”
“เชร้ดดด!! นี่มึงจะจีบนักมวยเหรอ”
“จริงดิ?? โคตรเท่อ่ะ มีแฟนเป็นสาวนักเตะใต้เข็มขัดอะไรงี้”
‘ฮัดชิ้ว!!’
สงสัยผมจะเป็นหวัดแล้วจริงๆแหละครับ รู้สึกหนาวๆร้อนๆยังไงพิกล…

จบตอนที่ 9

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 9 ผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบๆ 01-11-2020
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 01-11-2020 21:36:19
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 9 ผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบๆ 01-11-2020
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 01-11-2020 22:19:26
ตามม
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 9 ผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบๆ 01-11-2020
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 01-11-2020 23:34:02
 :hao5:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 9 ผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบๆ 01-11-2020
เริ่มหัวข้อโดย: MJTogether ที่ 08-11-2020 13:20:17
:pig2: :pig2: :pig2: :pig2:

ตอนที่ 10 คุณหมอครับ! ผมสงสัยว่าผมกำลังจะเป็นโรคหัวใจ?


          ผมว่าช่วงนี้ผมควรไปทำบุญบ้างซะแล้วมั้ง เพราะรู้สึกเหมือนจะมีใครซักคนตามหลอกหลอนอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับประวัติศาสตร์กำลังจะซ้ำรอยเหมือนตอนเรียน ม.ปลาย เพราะบางทีก็รู้สึกเหมือนว่ามีใครคอยแอบดูอยู่ตลอด บางทีก็ดูเหมือนว่าข้าวของในห้องเปลี่ยนที่วางบ้าง ล่าสุดเหมือนว่าบ็อกเซอร์ตัวที่ใส่บ่อยๆจะหายไป
“พวกมึงสองคนมีใครแอบเข้าไปทำอะไรในห้องกูรึเปล่า?”
ผมลองถามไอ้อาร์ทกับไอ้โอมขณะที่เรากำลังนั่งกินข้าวในช่วงก่อนเปิดร้าน
“…ใครเขาอยากเข้าห้องมึง? มืดยังกะบ้านผีสิง”
“ถ้าพวกกูแอบเข้าไปแล้วถ้ามึงรู้มึงก็กระทืบกูตายอ่ะดิ กูไม่กล้าหรอก อีกอย่างพวกกูไม่มีกุญแจเหอะ”
 “มึงถามทำไม? มีอะไรรึเปล่า?”
“บ็อกเซอร์กูหาย แล้วก็รู้สึกเหมือนมีใครคอยแอบดูอยู่ตลอดเลย”
“อีกแล้วเหรอมึง? มึงนี่โคตรซวยเลย”
“เออจริง! จะว่าไปกูก็ออกจะหล่อ ไม่เห็นเคยเจอแบบมึงเลย”
“ก็ใครเสนอมึงก็เอาหมด ไม่เหมือนไอ้อ๋องมันนี่”
“ไอ้โอมมึงว่ากูเหรอ?”
“เออ! มึงจะทำไม?”
“…ม…ไม่ทำไม”
ไอ้ที่พวกมึงถามกูไอ้ตอนแรกก็คิดว่าจะหาวิธีช่วยเหลือ ที่แท้แค่อยากเสือกเฉยๆอ่ะดิ
“พวกมึงไม่ช่วยกูแล้วยังจะทำให้กูรำคาญมากกว่าเดิมอีกนะ”
“ค…คร้าบบบ!”
   หลังจากไม่ได้อะไรจากไอ้สองพี่น้องนี่ซักเท่าไร ผมก็ต้องมายืนขาแข็งชงเหล้าที่เคาน์เตอร์อย่างเคย พรุ่งนี้ไม่ใช่วันหยุดแต่ก็ยังมีคนมานั่งดื่มเหล้ากันเยอะ ว่างกันจริงๆเลยนะ
“น้องอ๋องคะ ขอเบียร์สองขวดสิ”
มีผู้หญิงคนนึงสวยมาก ใส่ซีทรูสีดำสุดเซ็กซี่ หน้าโคตรสวยแต่ดูโคตรน่ากลัวเลยแบบว่า…น่ากลัวว่าจะถูกจับกิน…
“นี่ครับ”
ผมวางเบียร์สองขวดไว้ตรงหน้าเธอ พี่คนสวยส่งสายตายั่วยวนสุดๆมาให้ ผมไม่หลงกลหรอกครับ เพราะผมชอบแบบใสๆน่ารักๆอ่ะครับ
“ขวดนี้พี่เลี้ยง”
เธอดันขวดเบียร์ที่เปิดแล้วมาตรงหน้าผมหนึ่งขวด
“ผมดื่มไม่เป็นครับ”
“เหรอคะ? อิอิ…น่ารักจัง”
แค่พี่แกยิ้ม ผมก็หลอนแล้วครับ คนอะไรยิ้มได้น่ากลัวขนาดนั้น
“…”
“พี่ขอเบอร์หรือไลน์ได้มั้ย แล้วพี่…ชื่อแตงโมนะ”
ปากแดงๆดูยั่วยวนกับใครหลายๆคน แต่มันใช้ไม่ได้กับผมหรอกนะครับบอกเลย อย่างผมชอบแบบธรรมชาติๆอ่ะครับ
“…”
“งั้น…ถ้าไม่ให้เบอร์หรือไลน์น้องอ๋องต้องดื่มเบียร์ที่พี่ให้”
ผมลังเลไม่อยากแจกเบอร์แจกไลน์แต่เบียร์ก็เสือกกินไม่เป็น เอาไงดีวะ?
“ว่าไงคะ? ให้เบอร์พี่มาก็จบแล้ว นะคะพี่อยากคุยกับน้องอ๋องค่ะ”
เห็นหน้าพี่คนสวยยื่นเข้ามาใกล้แล้วผมก็หลอนหนัก เลยคว้าขวดเบียร์มาถือไว้แล้วกลืนน้ำลายลงคอ นับหนึ่งถึงห้าเอาก็เอาวะดีกว่ามีผู้คนสวยแต่โคตรอันตรายตามมาหลอกมาหลอน
‘อึกๆ’
ผมกระดกเบียร์ลงคอ รสชาติไม่เห็นอร่อยเลยแต่ทำไมถึงชอบกินกันจัง เห็นกินกันเข้าไปได้ทุกวี่ทุกวัน
“ว้า! พี่คิดว่าจะยอมให้เบอร์พี่ซะอีก น้องอ๋องสมคำล่ำลือว่ายากจริงๆเลย”
จริงๆแล้วผมใจง่ายต่างหาก พลาดท่าเสียทีให้ไอ้ตุ๊กแกไปสองรอบแล้ว…จะว่าไปชักมึนๆซะแล้ว เบียร์ขวดเดียวก็ไม่ไหวแล้ว อ่อนจังวะกู เฮ้อออ!
ผมหลบเข้ามาหลังร้านเพราะเดี๋ยวอีกไม่นานร้านก็จะปิด ปล่อยให้ไอ้สองตัวนั่นมันดูกันเองแล้วกัน แค่เบียร์ขวดเดียวทำเอาผมเดินเซได้ คิดดูก็แล้วกันว่าผมอ่อนขนาดไหน
“เป็นอะไรวะมึง?”
เสียงใครมากระซิบข้างหู…พอเงยหน้าไปมอง…อืม…ก็ผมซื้อหวยก็คงรวยกันไปแล้วแหละ
“กูถามว่าเป็นอะไร? เห็นเดินเซๆ”
“เปล่า”
ไอ้ตุ๊กแกมันโผล่มาจากไหนวะ?  ตามกลิ่นกูมาเหรอะ? เป็นแมวที่จมูกดีจริงๆ
“เฮ้ยมึง! เดินดีๆดิ เดี๋ยวก็ล้มหน้าแหกกูช่วยพยุงมั้ย?”
“ม…ไม่ต้อง”
ผมรีบสะบัดแขน เมื่อไอ้ตุ๊กแกทำท่าจะเข้ามาพยุง อย่าเข้ามาใกล้กู กูไม่อยากพลาดเป็นครั้งที่สาม
“เดี๋ยวกูช่วย มึงจะล้มแล้วนั้น ถ้าล้มไปหน้าแหกไม่หล่อกูไม่รู้ด้วยนา”
“…”
นอกจากจะมึนๆแล้วตอนนี้ผมเริ่มจะปวดหัวแล้วด้วย
“เร็ว…กูพาไปส่งห้องมึง”
มึงจะไม่ทำอะไรกูแน่นะ? กูห่วงสวัสดิภาพตัวเองตอนนี้มากเพราะไม่มีแรงขัดขืนเลย
“…”
“ตัวมึงนักจังวะ”
ไอ้ตุ๊กแกมันพยุงผมเดินขึ้นบันไดมาอย่างทุลักทุเล แต่ก็มายืนหน้าห้องได้อย่างไร้รอยขีดข่วน
“เปิดประตูดิ กุญแจมึงอยู่ไหน?”
ผมล้วงหยิบลูกกุญแจในกระเป๋ากางเกง แต่จะว่าไปคุ้นๆว่าไอ้ตุ๊กแกมันก็มีลูกกุญแจของผมอยู่ หรือว่ามันทิ้งไปแล้ว ช่างมันเหอะตอนนี้ผมปวดหัวเอามากๆเลย
“ม…มึง…กลับไปได้แล้ว”
“เออ! มึงเข้าไปข้างในก่อนเดี๋ยวล้มหัวฟาดตาย”
“…”
มันพยุงผมเข้ามาในห้อง ค่อยๆปล่อยผมลงนอนที่โซฟา มันค่อยๆแกะกระดุมเสื้อผม!!!
“ม…มึงจะทำอะไร?”
สถานการณ์ล่อแหลม กระดุมเสื้อผมหลุดออกหมดแล้ว มันพยายามปลดเข็มขัดผมอีก โอย! ใครก็ได้ช่วยผมที
“ก็เห็นมึงนอนไม่สบาย กูไม่ทำอะไรมึงหรอกน่า”
มันหยุดเมื่อปลดเข็มขัดผมออก เห็นมันเดินหายไปในห้องน้ำ ผมพยายามจะพยุงตัวเองขึ้นเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมันรอบที่สาม
“มึงนอนก่อน กูเช็ดตัวให้”
ม่าย!! อย่าทำกู!!! กูขอร้อง!!
“เฮ้ย! ม…ไม่ต้อง”
“เหอะน่า มึงยังเคยเช็ดให้กูเลย”
นั่นมึงไม่สบาย นี่กูแค่เมาไม่เช็ดก็คงไม่ตายหรอก มันวางกะละมังกับผ้าขนหนูแล้วหันมาถลกหนังผมแทน ผมขยับตัวไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์เบียร์หรืออะไรกันแน่ ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวผมเหลือแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียวเท่านั้น ว่าแต่…บ็อกเซอร์ตัวเก่งของผมหายไปไหนวะ
“อืม…”
มันค่อยๆใช้ผ้าขนหนูซับที่น้าผมเบาๆ ดูทำไมมันดูอ่อนโยนจัง? หวังว่ามันคงจะไม่ขืนใจผมหรอกนะ เพราะหากมันคิดจะทำตอนนี้ผมคงขัดขืนมันไม่ได้แน่นอน
“มึงอย่าครางดิวะ กูยิ่งคิดไม่ค่อยดีอยู่”
“ค…คิดอะไร ม…มึงคิดอะไร?”
“ป…เปล่า”
มันค่อยๆเช็ดตามซอกคอ ไล่ลงมาที่หน้าอก ลักษณะการเช็ดตัวของมันแปลกๆ ดูมันเช็ดวนๆนานผิดปกติ ถึงผมจะไม่ค่อยมีแรงขัดขืน แต่ผมก็ยังพอมีสติรับรู้อยู่นะครับ
‘อึก’
เสียงอะไร เหมือนผมจะได้ยินเสียงมันกลืนน้ำลาย หรือว่าผมหูฝาดไป?
“อา…”
มันใช้ผ้าขนหนูเช็ดวนที่หน้าท้องผมอยู่หลายรอบ ความรู้สึกเย็นสบายทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย
“สัด!กูบอกว่าอย่าคราง ”
ดูมันเริ่มโมโห อะไรของมัน ไม่อยากเช็ดให้ก็ไม่ต้องสิ กลับบ้านมึงไปเลย!
“พ…พอแล้ว”
“เออ กูก็ไม่อยากเช็ดแล้ว”
มันคว้าผ้าขนหนูกับกะละมังแล้วเดินหายไปในห้องน้ำอีกรอบ อารมณ์แปรปรวนจริงวุ้ย ประจำเดือนมารึไง?
“กูกลับแล้วนะ”
“อืม…ขอบใจ”
เมื่อผมได้ยินเสียงมันปิดประตูก็ค่อยโล่งอกมั่นใจได้ว่าคืนนี้จะไม่เสร็จมันแน่ก็เลยเผลอหลับไป
ตื่นมาอีกทีก็ต้องรีบอาบน้ำเพื่อรีบไปเรียนให้ทัน ยังดีที่ไม่มีอาการเมาค้าง
“ไอ้แว่น!เอางานจารย์สมรมาลอกมั่งดิวะ”
ไอ้ไข่นุ้ยที่วันๆไม่เคยจะอยากมาคุยกับผมเข้ามาขอลอกการบ้าน เมื่อคืนกูยังเห็นมึงไปแรดที่ร้านเหล้าอยู่เลย มีปัญญาแรดแต่ไม่มีปัญญาทำการบ้าน
ผมส่งงานไปให้มันลอก ให้มันไปจะได้จบๆรำคาญมัน
“กูขอลอกมั่งดิ กูก็ยังไม่ได้ทำ”
ไอ้บดินทร์ตัวอ้อนก็มาขอลอกอีกคน ตกลงแก๊งค์พวกมึงนี่ไม่มีใครทำมาเลยรึไง?
“พวกมึงก็อย่าไปวุ่นวายกับไอ้อ๋อ…ไอ้แว่นมันนักสิ มาลอกของอีจ๊ะจ๋านี่”
“ไม่เอาอ่ะ ของมันทำไม่ค่อยถูก ของไอ้แว่นแน่นอนกว่า”
“ปากดีไอ้บดินทร์ เดี๋ยวกูตบคอหัก ไอ้โต๋มึงก็ลอกให้มันเร็วๆกูจะเอาไปส่งแล้ว”
สรุปว่าทั้งกลุ่มมีจ๊ะจ๋ามันทำมาคนเดียว ถึงจะไม่ค่อยถูกแต่ก็ยังดีกว่าไอ้พวกขี้ลอกที่ไม่ยอมทำมา
“ไอ้แว่นมึงจะฝากกูส่งมั้ย?”
ยังคงเป็นจ๊ะจ๋าที่ถามผมแบบนี้ตลอด นี่ถ้าจ๊ะจ๋ามันใสๆน่ารักๆแบบสเปคผม ผมก็อาจจะจีบมันนะ แต่แบบนี้ไม่เอาหรอก เพราะผมไม่อยากคอยแบกมันกลับหอเวลามันเมาน่ะสิ
“ม…ไม่ต้อง เดี๋ยวผมเอาไปส่งเอง”
“เดี๋ยวกูเอาไปส่งให้ก็ได้”
‘ห๊ะ!’
ผมและเพื่อนๆแก๊งค์มันหันควับไปมองไอ้ตุ๊กแกที่อาสาจะเอางานผมไปส่งให้ ร้อยวันพันปีไม่เห็นมันจะสนใจผม วันนี้มันเป็นอะไรของมัน?
“ไอ้โต๋มึงป่วยอีกแล้วเหรอ?”
“หรือมึงเมาค้าง? แต่เมื่อคืนมึงก็กินไม่มากนี่หว่า”
“ว่าแต่ว่าเมื่อคืนมึงบอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำแล้วหายไปเลย กลับมาอีกทีร้านก็เกือบปิด หายไปไหนมาวะ?”
“เออกูว่าจะถามอยู่พอดี กูก็นึกว่ามึงหนีกลับไปก่อน”
“ป…เปล่า กูขี้นานไง”
“น่าสงสัย เดี๋ยวนี้มึงชักจะทำตัวแปลกๆ บางทีก็หายตัวไป กูชักเริ่มสงสัยซะแล้ว”
“หรือว่า…?”
“อ…อะไร?”
“หรือว่ามึงแอบไปตามจีบคนที่มึงแอบชอบวะ?”
“เออ นั่นสิ เดี๋ยวนี้มึงชอบทำตัวลับๆล่ออยู่ด้วย”
“ห๊ะ!…เอ่อ…”
“ว่าไงไอ้โต๋?”
“เออดิ กูไปแอบดูเขา”
ใครคือผู้โชคร้ายคนนั้น ผมล่ะอยากรู้จริงๆ น่าสงสารเขานะครับ ถ้าเป็นผมผมจะไปทำบุญแก้ซวย 9 วัดเลย
“จริงดิ? แน่นอนว่ะ คนนี้มึงจริงจัง?”
“อ…เออ”
“กูไม่เคยเห็นมึงวิ่งตามใครขนาดนี้เลย”
“ทำไม? กูจริงจังไม่ได้รึไง?”
“เปล่า…กูดีใจไงที่ลูกชายกูจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนซักที”
“ใครเป็นลูกชายมึงอีจ๊ะจ๋าพูดให้ดี”
“เออๆ ช่างมัน เอางานมากูจะไปส่งแล้ว”
ไอ้ไข่นุ้ยมันก็เอางานมาคืนผมหลังจากลอกเสร็จ ผมเลยรีบเดินออกมาขี้เกียจจะฟังเรื่องไร้สาระของพวกมัน แต่ไอ้ตุ๊กแกมันจะจริงจังกับใครเขาได้จริงๆเหรอ? ผมเห็นมันลอยไปลอยมาเป็นถุงพลาสติกไม่ย่อยสลายจนจะสองปีอยู่แล้ว ไม่เห็นมันจะคบใครจริงจังซักที แต่ก็เรื่องของมันดิผมไม่สนใจหรอก
“มึง!”
“…”
“ไอ้แว่น!”
มีคนเดินตามผมมาแล้วมันก็เรียกผม มันเป็นเสียงไอ้ตุ๊กแกแต่ผมไม่สนใจหรอกแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน
“ไอ้อ๋อง+”
‘ควับ’
ผมรีบหันไปมอง นี่มึงจะมาเรียกเสียงดังแบบนี้ไม่ได้! ผมมองซ้ายมองขวาไม่ใครอยู่แถวนี้เลยค่อยโล่งอก
“มีอะไร? แล้วอย่ามาเรียกกูแบบนี้ในมหาลัยอีก!”
ผมส่งสายตาอำมหิตไปให้มัน 1 EA เพราะกลัวว่าใครจะมาได้ยิน ไม่งั้นชีวิตผมคงขาดความสงบสุขไปอีกนาน
“กูเรียกแล้วมึงไม่ได้ยินนี่”
“แล้วมึงมีอะไร?”
“ก…งานอ่ะ กูไปส่งให้มั้ย?”
มึงจะมาไม้ไหนอี๊ก?? จะหาเรื่องหลอกฟันกูอีกรึไง? บอกไว้เลยคราวนี้กูไม่ยอมมึงง่ายๆแน่ ภูมิต้านทานกูสูงขึ้นแล้ว ไม่เสร็จมึงอีกแน่นอนบอกเลย!!
“ไม่ต้อง! กูไปส่งเอง”
“…แล้วมึงอยากกินหรืออยากได้อะไรมั้ย?”
“ห๊ะ??”
“คือแบบ…ถ้ามึงอยากกินหรืออยากได้อะไรกูจะไปซื้อให้ไง”
“…”
ไอ้ตุ๊กแกมันต้องโดนผีเข้าแน่ๆครับ มันถึงมาทำดีกับผม หรือว่ามันจะมาหลอกฟันผมจริงๆ ผมไม่หลงกลมันหรอกนะ
“ว่าไง?”
สีหน้าท่าทางมันดูหวังดีสุดๆยิ้มจนเห็นฟันขาวๆ มันขยับเข้ามาให้จนหน้ามันห่างกับผมไม่ถึงห้าเซนแล้ว ผมรีบถอยหลังกลัวผีมันจะเปลี่ยนใจเข้ามาสิงร่างผมแทน
“ม…ไม่ต้อง กูไม่เอา!”
‘ปัก’
หลังผมชนกับผนังตึกเรียน โดยที่ไอ้ตุ๊กแกมันยืนค้ำอยู่ด้านนอก มองดีๆก็เหมือนนักเลงกำลังข่มขู่เด็กแว่นอย่างผมเพื่อรีดไถเงินจริงๆ
“ทำไมอ่ะ? กูอุตส่าห์จะไปซื้อให้มึงเลยน้า ไม่อยากได้อะไรเหรอ?”
“ม…ไม่ หลบไป”
ทำไมแก้มมันขาวจังวะ? ไม่มีสิวหรือจุดอะไรเลย แล้วตอนที่ปากมันขยับเวลาพูดแล้วมันก็ยิ้มที่มุมปาก มันทำให้ผมนึกไปถึงตอนที่เราจูบกัน ก็ไอ้ปากแดงๆแบบธรรมชาตินี่มันดูยั่วยวนจน…น่าจูบอีก… เฮ้ย!! ไม่ใช่!! ผมสบัดหัวอย่างแรง นี่มันใช่เวลาจะมาคิดมั้ยวะ?? แล้วมึงก็อย่ายื่นหน้าเข้ามาให้ขนาดนั้น หัวใจผมเต้นแรงจนเหมือนจะหัวใจวายตายแล้ว
“อ๋องมึงเป็นอะไร? ยังไม่หายปวดหัวเหรอ กินยามั้ย?เดี๋ยวกูไปเอาให้”
“ไม่ต้อง! กูไม่ได้เป็นอะไร แล้วมึงก็หลบไปด้วย”
“เอ้า!! อะไรของมึงอ่ะ”
ไม่รู้! กูก็ไม่รู้ว่ากูเป็นอะไร?? หรือเมื่อคืนกูนอนน้อยไปหน่อย?
ไอ้ตุ๊กแกมันขยับเปิดทางให้ ผมก็รีบเดินจ้ำอ้าวออกมาเลย หัวใจยังเต้นแรงไม่หาย
“เป็นอะไรของมึง? ดูทำหน้าเข้า เป็นอะไรไหนบอกหมอซิ?”
หมอที่ไหนจะปัญญาอ่อนเหมือนมึงไอ้อาร์ท?
“ยังไง? ทำอะไร? กูไม่ได้เป็นอะไร!”
“เอ้า! ก็มึงอ่ะทำหน้าเหมือนอยากจะกินหัวใครเขา แต่ปกติหน้ามึงก็โหดอยู่แล้ว แต่วันนี้ดูโหดกว่าเก่า”
“เปล่า…”
“มีอะไรปรึกษาหมอได้นะ จะให้ไปตีกับใครก็บอกหมอพร้อมเสมอ”
หมอพ่องสิ!ชวนไปตีกับคนอื่น
“มึงอ่ะนะ? คราวนั้นเห็นวิ่งหางจุกตูด”
“คราวนั้น ก…ก็พวกนั้นมันมีหลายคนไง กูหลบมาตั้งหลักเฉยๆ”
“สัด! ปล่อยกูตีกับพวกมันเป็นชั่วโมงกว่าจะมาช่วย”
“แต่พอกูไปก็เห็นไอ้พวกนั้นมันนอนตายกันเกลื่อน ส่วนมึงก็แค่หัวแตกเองนี่หว่า แล้วคราวนี้มึงเป็นอะไร?”
“ไม่รู้…กูก็ยังไม่รู้เลยว่ากูเป็นอะไร”
“อะไรของมึง? เป็นเหี้ยอะไรก็ยังไม่รู้ มันมีเหรอวะไอ้โรคนี้อ่ะ?”
“มึงว่ากูเป็นเหี้ย? เดี๋ยวกูจะถีบมึงให้ลงไปนอนกับมันในน้ำเลย”
“เปล่าคร้าบบบ! ขอประทานอภัยท่านอ๋องคร้าบบบ!”
ยังมาทำหน้าทะเล้นกวนตีน คุยกับไอ้อาร์ททีไรเหมือนความดันจะขึ้น ว่าแต่ผมเป็นอะไรวะ? ทำไมต้องใจเต้นแรงเวลาไอ้ตุ๊กแกเข้ามาใกล้ ทำไมเห็นปากแดงๆของมันแล้วอยากจูบ? หรือว่าผมจะเป็นโรคหัวใจ? ผมอายุแค่ยี่สิบเองนะยังไม่อยากตายเร็วนะครับคุณหมอ

จบตอนที่ 10

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 10 คุณหมอครับ! ผมสงสัยว่าผมกำลังจะเ 08-11-2020
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 08-11-2020 19:20:31
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 10 คุณหมอครับ! ผมสงสัยว่าผมกำลังจะเ 08-11-2020
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 09-11-2020 23:07:10
 :hao5:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 10 คุณหมอครับ! ผมสงสัยว่าผมกำลังจะเ 08-11-2020
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 11-11-2020 23:11:53
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 10 คุณหมอครับ! ผมสงสัยว่าผมกำลังจะเ 08-11-2020
เริ่มหัวข้อโดย: MJTogether ที่ 15-11-2020 16:55:27
:pig2: :pig2: :pig2: :pig2:

ตอนที่ 11 บ๊อกเซอร์ที่หายไปของผม

อาทิตย์นี้เกือบทั้งอาทิตย์ผมรู้สึกเสียวสันลังวาบๆอยู่ตลอดเวลาเหมือนถูกใครคอยตามอยู่ตลอด แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกครับ ย้อนไปสมัยผมอยู่ ม.6 ก็เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน ตอนนั้นเกือบประสาทแดกเลย พอเอาเรื่องไปปรึกษาไอ้สองพี่น้องนั่น ตอนแรกๆเหมือนจะดีเพราะพวกมันก็ช่วยแต่ตอนหลังๆปัญหาเกือบบานปลายแต่ผมก็เอาตัวรอดมาได้ พอขึ้นมหาวิทยาลัยก็คิดว่าไม่น่าจะเกิดเรื่องแบบเดิมอีกเพราะผมเปลี่ยนแปลงตัวเองไปมากพอสมควร แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าตอนนี้ไอ้ปัญหาเดิมๆกำลังตามมาหลอกมาหลอนผมอีกครั้ง
“ไอ้แว่น เอาตรงๆนะกูรำคาญผมมึงเหลือเกิน เรียนอยู่ห้องเดียวกับมึงมา 2 ปีแล้วเนี่ยกูยังไม่รู้ว่าหน้าตามึงเป็นยังไงเลย”
“เออจริง! กูว่าหุ่นมึงก็ดีนะ สูงๆดีแต่ช่วยไปตัดผมให้มันดีๆแล้วก็ใส่เสื้อผ้าที่มันดีกว่านี้ได้มั้ยเห็นแล้วรำคาญจริงๆ”
“…”
ไอ้ไข่นุ้ยกับจ๊ะจ๋ามันบ่นแบบนี้มันมาซักพักแล้ว ไอ้ผมก็เบื่อขี้เกียจจะไปใส่ใจกับพวกมัน แต่พวกมันก็บ่นมาตั้งแต่ต้นคาบแล้ว
“นี่มึงไม่คิดที่จะตอบกูหน่อยรึไง?”
“พวกมึงก็อย่าไปยุ่งกับมันนักสิ!”
ไอ้ตุ๊กแกมันจะมาไม้ไหนอี๊ก ปกติมันก็เป็นหนึ่งในพวกมันที่ชอบว่าผมแบบนี้บ่อยๆนะ
“อะไรของมึงไอ้โต๋ ทีเมื่อก่อนมึงยังว่ามันอยู่เลย”
“ป…เปล่า ม…ไม่มีอะไร”
รู้สึกมันจะหน้าแดงขึ้น หรือว่ามันป่วย ไอ้ตุ๊กแกเหมือนร่างกายมันจะป่วยเอาง่ายๆเหมือน
ผมคิดว่าคงถูกไอ้พวกนี้บ่นไม่เลิกเลยเดินออกมาเข้าห้องน้ำ
“ม…มึง!”
มีเสียงคนเรียกแต่ไม่เต็มเสียงนักผมเลยหันไปมอง ไอ้ตุ๊กแกอีกแล้วมันจะจองเวรกับผมไปถึงเมื่อไรกัน
“อะไร??”
ผมตอบมันไปเสียงห้วนๆ รำคาญมันเพราะตั้งแต่รู้จักมันชีวิตผมก็กลับมาวุ่นวายอีกครั้ง
“อ่ะ…กูให้”
มันยื่นถุงอะไรซักอย่ามาให้
“อะไร ให้ทำไม??”
“ขนมกูซื้อมาฝาก”
ห๊ะ! มันเนี่ยนะซื้อขนมมาให้ท่าทางผีจะเข้าสิงมันแล้ว จะว่าไปก็รู้สึกหลอนเลย
“ม…ไม่เอา”
มึงจะมาไม้ไหน? จะมาทำอะไรกูอี๊ก? กูโดนไปสองดอกแล้วก็กลัวว่าจะมีดอกที่สามไง! ถึงแม้ว่ามันจะรู้สึกดีก็ตาม…ฉิบหายละ!!กูคิดอะไรวะเนี่ย!!
“เอาไปเถอะกูซื้อมาฝาก”
“…”
“เร็วๆ กูต้องไปแล้ว”
ว่าแล้วมันก็ยัดถุงขนมใส่มือผม ตอนที่มือเราสัมผัสกันมันเหมือนมีกระแสไฟสปาร์คกัน มันจี๊ดดดเลย อา…ไอ้ตุ๊กแกมันหน้าแดงอีกละ ถ้าไม่รู้จักมันมาก่อนผมคิดว่ามันอาจจะเกิดอาการเขินนะเนี่ย แต่นี่มันไอ้ตุ๊กแกไงคงไม่น่าใช่…
“ห๊ะ!...อ…อืม”
แล้วทำไมผมต้องตื่นเต้นด้วยวะ ใจเต้นแรงเหมือนเพลงจังหวะร็อคเลย คงต้องไปหาหมอตรวจโรคหัวใจจริงๆซักที
“เป็นอะไรของมึงอี๊ก? ดูลอยๆไปโดนตัวไหนมาอีกล่ะ?”
“เหี้ยไร?? เปล่าซักหน่อย”
ไอ้อาร์ทเดินเข้ามาจากหลังร้าน วันนี้ร้านปิดแต่ผมก็ไม่รู้จะไปสิงอยู่ที่ไหนเลยเข้ามานั่งเล่นในร้าน แต่กูไม่ได้เป็นอะไร มีอะไรเลย กูไม่ได้กำลังคิดถึงไอ้ตุ๊กแกมันซักนิดเลยสาบานได้
“แล้วนั่นถุงอะไรอ่ะ ? ขนมมั้ย?กูกินมิ่งดิหิวอยู่พอดี”
เห็นของกินไม่ได้ไอ้นี่ ขอตลอดแต่ปกติผมก็ไม่หวงนะของกินจะหวงก็แต่รถเท่านั้นแหละ
“ไอ้สัด! ไม่ให้อันนี้ของกู”
แต่อันนี้ไม่ให้ไงจะเก็บไว้กินคนเดียว
“มึงจะหวงอะไรนักหนา? ปกติไม่ค่อยหวงขนมนี่หว่า น่ากินทั้งนั้นเลยมึงซื้อมาจากไหนวะ”
“มึงปล่อยเลยกูไม่ให้!”
“ไอ้ขี้หวงนอกจากหวงรถแล้วยังหวงขนมอีก”
“เหอะ! กูกลับห้องละ”
ต้องรีบกลับเดี๋ยวไอ้อาร์ทแย่งขนม ไม่ได้เลยถุงนี้ผมหวงมาก…
“อ้าวน้องโต๋นั่งรอใครรึเปล่า ให้พี่นั่งเป็นเพื่อนมั้ยคะ?”
“เอ่อ…ป…เปล่าครับ”
พอหันไปมองตามเสียงก็เห็นพี่ปีสูงคนนึง รู้สึกว่าจะชื่อส้มหรือเชอร์รี่อะไรซักอย่างนี่แหละ พี่แกเป็นหนึ่งในกิ๊กไอ้ตุ๊กแกแต่ตอนนี้พี่คนสวยกำลังลวนลามไอ้ตุ๊กแกมันด้วยสายตาผู้หญิงสมัยนี้น่ากลัวจริงๆ
ส่วนผมกะจะเดินไปเอารถที่ลานจอดรถ ก็บังเอิญเห็นไอ้ตุ๊กแกมันซะก่อนก็เลยต้องแอบมันอยู่ในซอกตึกนี่แหละเพราะไม่อยากเจอมันซักเท่าไร
“พักนี้น้องโต๋ไม่ไปหาพี่ที่ห้องเลยอ่ะค่ะ พี่คิดถึ๊งคิดถึง”
“เอ่อ…ผมไม่ค่อยว่างครับ พอดีเรียนหนัก”
ตอแหล!! ก็ไม่เห็นมึงจะเรียนอะไรซักเท่าไร แล้วคณะเราก็ไม่ได้เรียนยุ่งขนาดนั้นนี่หว่า
“พี่เหงามากเลย แล้ววันนี้น้องโต๋ว่างมั้ย? ไปหลังมอกันค่ะ พี่อยากเมา”
ผมเห็นพี่คนสวยลูบแขนไอ้ตุ๊กแกไปมา แล้วรู้สึกว่าส้นตีนเหมือนจะกระตุกยิกๆยังไงก็ไม่รู้
“เอ่อ…พอดีผมต้องทำงาน คงไปกับพี่เชอร์รี่ไม่ได้อ่ะครับ”
ไอ้ตุ๊กแกมันตอบปฏิเสธไป แปลกนะครับปกติรีบตอบรับสาวๆที่ชวนจะตายไป แต่วันนี้มันมาแปลกจริงๆ
“ว้า! เสียดายแย่เลย แต่ไม่เป็นไร น้องโต๋พอจะรู้จักน้องอ๋องมั้ยคะ? ที่ทำงานที่ร้านเหล้าอ่ะค่ะ”
หืม?? ชื่อกูอีกละ จะหลีไอ้ตุ๊กแกมันก็ทำไปดิ จะมายุ่งอะไรกับกูอีกแล้ววะ!!
“ครับ? มีอะไรเหรอครับ?”
“อ๋อ! คือพอดีว่า วันก่อนเพื่อนพี่สิไปขอเบอร์น้องเขาแต่น้องไม่ให้ เลยถามน้องโต๋ว่าพอจะรู้จักมั้ยช่วยแนะนำให้พี่รู้จักหน่อยค่ะ”
อ๋อ! ยัยพี่คนสวยสยองคนนั้นเองเกือบทำให้กูไม่รอดเงื้อมมือไอ้ตุ๊กแกมัน แต่วันนั้นมันก็แปลกที่ยอมถอยทัพไปง่ายๆ
“พอดีผมไม่สนิทนะครับ”
“เหรอ? ผิดหวังจัง น้องอ๋องนี่หล่อเนอะ คือแบบเท่มากอ่ะ หุ่นดี๊ดี”
“จริงครับ…”
“อะไรนะคะ ? พี่ได้ยินไม่ถนัด”
เออนั่นสิผมก็ได้ยินไม่ถนัด เมื่อกี๊ไอ้ตุ๊กแกมันพูดว่าอะไรนะ??
“อ…อ๋อเปล่าครับ แต่ผมได้ยินมาว่าไอ้อ๋องอะไรนั่นมันมีแฟนแล้วนะครับ เห็นว่าแฟนมันหน้าตาดีมากเลย”
 “เหรอ? พี่กับเพื่อนๆไม่เคยได้ยินข่าวเลย พี่ว่าพวกพี่ก็ไปร้านนั้นบ่อยนะ”
เหยยย!! จริงเหรอวะ? ทำไมกูก็ไม่เคยได้ยินเลย นี่กูมีแฟนแล้วเหรอวะ?
“เอ่อ…อันนี้ผมก็ไม่รู้ ผมก็ได้ยินมาอีกที แต่น่าจะเชื่อถือได้นะครับ”
ไปได้ยินมาจากใครกัน? เดี๋ยวพ่อจะไปเตะให้ใส้แตกเลยเสียชื่อกูหมด
“เหรอ? งั้นพี่ไปก่อนนะคะ นัดเพื่อนไว้ ว่าแต่น้องโต๋จะไม่ไปจริงๆเหรอคะ?”
“ไม่ล่ะครับ”
พี่เชอร์รี่มะละกอกล้วยส้มก็ลุกออกไปจากโต๊ะ ผมก็ต้องไปแล้วล่ะครับ แอบฟังจบละเดี๋ยวไอ้ตุ๊กแกมันเห็นจะเสียหน้าอีก
“มึงแอบฟังกูเหรอ?”
“เฮ้ย!”
ผมสะดุ้งสุดตัวที่มีคนมากระซิบระยะกระชั้นชิด ฉิบหาย!ไอ้ตุ๊กแกมันมาตอนไหนวะ? แล้วมันยังรู้อีกว่าผมกำลังแอบฟัง
“ทำไมต้องตกใจขนาดนั้น กูถามว่ามึงแอบฟังกูอยู่เหรอ?”
“ป…เปล่า กูไม่ได้แอบฟัง”
“ถ้ามึงแอบฟังจริงกูก็ไม่ได้ว่าอะไร”
เอาอีกละ! ไอ้ตุ๊กแกมันกักตัวผมให้อยู่ในซอกตึกอีกแล้ว ชอบจริงๆไอ้ท่านี้ ถามจริงๆมึงอยากไถตังกูปะเนี่ย!กูไม่มีหรอกนะพกมาแค่ยี่สิบเอง
“กูบอกว่าไม่ได้แอบฟัง”
เสียงผมแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน เพราะไอ้ตุ๊กแกมันยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีกแล้วไง! แต่พอมองหน้ามันจริงๆจังๆแล้ว ไอ้นี่มันก็มีเสน่ห์จริงๆ หน้าขาวๆ ขนตายาวๆเข้ากับตาคมๆของมันมาก จมูกโด่งแต่รั้นนิดๆ ปากแดงๆแบบธรรมชาติ น่าจูบฉิบหาย…เอาอีกละกูเป็นอะไรกับปากมันมากมั้ยเนี่ย!
‘อึก’
ผมนี่กลืนน้ำลายเลย ปากไอ้ตุ๊กแกมันลอยไปมาอยู่ใกล้ๆ ได้ยินเสียงลมหายใจมันแผ่วเบา แต่ใจผมนี่สิเต้นดังยิ่งกว่ากลองโยธวทิตอีกมันจะได้ยินรึเปล่าวะ!
“มึงเป็นอะไรรึเปล่าหน้าแดงๆไม่สบายเหรอ?”
อย่ามาขยับปากใกล้ๆปากกู ตอนนี้ภูมิคุ้มกันกูต่ำใจกูยิ่งง่ายๆอยู่ มึงจะทำกูใจแตกอีกรอบแล้ว
“ป…เปล่า”
“อ๋อง…กูจ…จูบมึงได้มั้ย?”
ห๊ะ! อย่ามาถามกูอย่างนั้น กูใสๆซื่อๆ อย่ามาหลอกล่อกู ฮือ…อยากร้องไห้
“ม…มึงจะท…”
“หืม? ได้มั้ย?”
มึงก็ไม่ต้องถามแล้วมั้งปากมึงจะโดนปากกูอยู่แล้วอ่ะ ผมกลั้นหายใจหลับตาปี๋ รอว่าเมื่อไรไอ้ตุ๊กแกมันจะลงมือซักที
“…”
ทำไมมันนานจังวะ? ไม่จูบมาซักที? ผมค่อยๆหลี่ตามองก็เห็นได้ตุ๊กแกมันมองอยู่ที่ริมฝีปากผมหน้ามันแดงมากอ่ะหรือว่ามันเขินผมจริงๆ?
“แม่ง!”
ไม่ลงมือซักทีวะ? ผมจับหัวไหล่ไอ้ตุ๊กแกมันแล้วดันให้ตัวมันเข้าไปชิดผนังตึกแทน แล้วจู่โจมที่ปากมันทันที แม่งกูจูบเองก็ได้เสือกให้รอนานเสียเวลา!
“อืม…”
ผมกดเรียวปากบดกับริมฝีปากมันเบาๆ นุ่มนิ่มฉิบหาย รู้สึกมันเขี้ยวเลยกัดกลีบปากล่างมันเบาๆ รู้สึกดีมากอ่ะ แต่ไม่รู้จะเปรียบกับใครเพราะเคยจูบมันอยู่คนเดียวนี่แหละ
ไอ้ตุ๊กแกมันกดท้ายทอยผมเข้าไปหา กลายเป็นว่าผมถูกมันจู่โจมแทน มันสอดลิ้นเข้ามาในโพรงปากผมแล้วดูดลิ้นผม ห่า!อย่าดูดแรงดิวะเดี๋ยวผมขึ้นจะทำไง? ช่วงนี้ยิ่งใจง่ายอยู่ด้วย แต่ผมก็ไม่ยอมแพ้ดูดลิ้นมันกลับมั่ง
“อา…”
   ผมเคยบอกว่าไอ้ตุ๊กแกมันจูบเก่งมาก ครั้งนี้ก็เช่นกัน มันจูบจนขาผมสั่นแล้วเนี่ย พอก๊อนเดี๋ยวไอ้ลูกชายกูมันก็ทำขายหน้าอี๊ก!
   ไอ้ตุ๊กแกมันถอนเรียวปากออก โห!ตามันเยิ้มเลย ไอ้สัด!กูขึ้นจริงๆละ ใครก็ได้ช่วยผมหน่อย
‘ผลัก’
เฮ้ย! ได้ตุ๊กแกมันดันตัวผมให้กลับไปหันหลังชนผนังตึกอีกครั้ง นี่ถ้ามีอีกรอบผมอ้วกเลยนะเนี่ยเวียนหัวฉิบหาย
“แค่จูบแค่นี้มึงเกิดอารมณเลยเหรอ?”
“…”
ฉิบหาย!มันรู้อีก แล้วมึงไม่เกิดอารมณ์รึไงตาหวานเยิ้มขนาดนั้น?
“กูก็ขึ้นแล้วเหมือนกัน…”
ผมหันซ้ายหันขวาแต่ไม่เห็นใครเดินผ่าน ก็แน่แหละตึกนี้ไม่ค่อยมีคนเข้ามาใช้งานอยู่แล้ว
“…”
“แล้วมึงจะเอายังไง?”
ไอ้ตุ๊กแกมันถามผมขณะที่เรายืนมองตากันอยู่ มันเบียดตัวเข้ามาจนแนบชิด ทำให้ผมรู้สึกว่าไอ้ลูกชายของพวกเรามันกำลังจะไฟท์กันอยู่แล้ว สู้ๆลูกพ่อ
“ก็เอามึงน่ะสิ!”
มาขนาดนี้แล้ว มีครั้งที่หนึ่งแล้ว ก็ต้องมีครั้งที่สอง พอมีครั้งสองมันก็ต้องมีครั้งที่สามจริงมั้ยครับ?
“หึ!”
ไอ้ตุ๊กแกมันแสยะยิ้มดูแล้วตอแหลดี แล้วมือของมันก็เริ่มเลื้อยเข้ามาในชายเสื้อผม เผลอไม่ได้มือไวตลอดนะมึงเนี่ย! คราวก่อนเช็ดตัวกูก็ลวนลามกูไปทีนึงละ หลังจากที่ไอ้ตุ๊กแกมันลูบไล้เนื้อตัวผมจนมันพอใจ มันก็เปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นเป้าผมแทน มันปลดเข็มขัดออกแล้วค่อยๆปลดกระดุมสแล็คผมช้าๆ ดูใจเย็นนะมึงอ่ะช่ำชองเหลือเกิน
“อืม…”
มันล้วงเข้าไปในบ๊อกเซอร์แล้วจับไอ้ลูกชายผมไม่ให้ดิ้นหนี เอาตรงๆตอนนี้ผมก็หนีไปไหนไม่ได้แล้วต้องสู้อย่างเดียวเลย มันลูบไล้ไปมาเบาๆทำเอาใจผมเต้นแรงขึ้นมาอีก
ไอ้ตุ๊กแกมันโน้มคอผมลงมาแล้วบดริมฝีปากของมันกับเรียวปากผมอย่างหนักหน่วง ริมฝีปากมันร้อนมากจนผมเผลอสอดเรียวลิ้นเข้าไปข้างในโพรงปากมันบ้าง ไอ้ผมมันก็คนใสๆไงก็เลยเลียนแบบมันล้วนๆ
“อา…”
เราจูบกันอยู่ซักพัก ผมก็ไม่รู้จะเอามือไปวางไว้ตรงไหนเลยแกะกระดุมกางเกงยีนส์มันแล้วล้วงไอ้ลูกชายน้อยของมันออกมาบ้าง มันลูบมาผมก็ลูบกลับไม่โกง
“อืม…”
ลูกชายได้ตุ๊กแกมันจะเล็กกว่าของผมหน่อยแต่โคตรขาวเลยแลดูน่ารักๆดี
มือของเราก็ผลัดกันลูบๆชักๆให้กันส่วนปากเราก็เหมือนจะไฟท์กันให้ตายไปข้างนึงเลย
“อืม…อา”
เสียงหอบหายใจของเราเล็ดลอดออกมาเมื่อเราผละริมฝีปากออกจากกัน
“อา…ถึงลีลามึงจะยังไม่ได้เรื่องซักเท่าไรแต่มือมึงนี่สุดยอดว่ะ”
แหม! ทำมากระแทกแดกดันกู กูก็ทำให้มึงร้องครางดังลั่นห้องมาแล้วเถอะ!
“อ๊ะ!มึงอย่ากดแรงกูเจ็บ”
แก้แค้นไงมึงมาว่ากูลีลาไม่ได้เรื่องก่อน ส่วนเรื่องมือกูเซียนอยู่แล้วเพราะทำเองบ่อย
“หึ!”
ตอนนี้สองมือของเราผลัดกันทำมาหากินอย่างหนักหน่วง อา…ผมใกล้ละ
“อืม…อา…”
เสียงไอ้ตุ๊กแกมันครางเวลาผมชักให้ฟังดูแล้วเพราะดีฉิบหาย แต่มึงจะอะไรกับหัวนมกูมากไปนะ ลูบๆดึงๆอยู่นั่นแหละ แต่ก็เสียวๆดีเหมือนกัน ผมเลยเอามั่งบีบตูดแม่งเลย
“อ๊ะ!”
ดูมันจะชอบนะครับ ร้องเสียงหลงเลย ผมเลยกดสะโพกมันเข้ามาชิดอีกแล้วล้วงเข้าไปบ๊อกเซอร์มันบ้าง อา…เด้งดีฉิบหาย
“อืม…อ๋องกูไม่ไหวละ”
“กู…ก็เหมือนกัน”
ตอนนี้มันจับไอ้ลูกชายของพวกเรารวบไว้ด้วยกันแทน ส่วนผมก็ยังมันมือกับการขยำตูดเด้งๆของมัน
“อา…ซี๊ดดด”
ไอ้ตุ๊กแกมันเหงื่อไหลซึมที่ใบหน้า หน้าตาของมันตอนนี้คือแบบโคตรเซ็กซี่เลยว่ะ เห็นแล้วมันเขี้ยวผมเลยจูบมันอีกรอบ เราแลกลิ้นกันซักพัก ผมก็รู้สึกเกร็งหน้าท้องเพราะใกล้จะถึง
“อื้อ…”
อา…เราเสร็จพร้อมกันโดยที่ปากยังบดกันอยู่อย่างนั้น ผมพิงผนังตึกกอดเอวมันไว้กลัวมันจะหงายหลังไปซะก่อน ก็เล่นเอาตัวเหี่ยวเป็นผักแบบนี้ เสียงลมหายใจของเรายังดังเป็นระยะๆ
หลังจากเลิกหอบไอ้ตุ๊กแกมันก็ล้วงเอาผ้ามาเช็ดที่หน้าท้องของผมที่มีทั้งน้ำของมันแล้วก็ของผมเต็มไปหมด ทำไมมันเลอะแต่หน้าท้องผมวะ แต่มึงก็ยังพกไอ้ของพวกนี้ด้วยนะ ว่าแต่ผ้าที่มันเอามาเช็ดนี่มันคุ้นๆนะครับ สีเหมือนบ๊อกเซอร์ที่หายไปของผมเลย
“นี่ผ้าอะไร?”
“ห๊ะ! เอ่อ…”
ไอ้ตุ๊กแกมันทำหน้าเลิ่กลั่กเหมือนเด็กโดนจับได้ว่าขโมยขนม
“นี่มันบ๊อกเซอร์กูนี่!”
“ม…ไม่ใช่ ของกู๊”
“ทำไมมึงทำหน้ามีพิรุธ?”
“เปล๊า! กูไม่รู้ ไม่ใช่ของมึง กูไม่ได้ขโมยมาจากห้องมึงเล้ยย!”
เชี่ย! ว่าแล้วไง! กูว่าอยู่ว่าทำไมหาไม่เจอ แม่งเข้าไปขโมยในห้องกูมานี่เอง แสบนักนะมึง!!
“แล้วมึงเข้าไปในห้องกูได้ไง?”
“กูไม่มีกุญแจห้องมึงนะ กูไม่ได้เอาไปปั๊มไว้เลย”
ฉิบหาย!! ผมนึกออกแล้ว…คราวก่อนที่มันเข้าไปในห้องผม ดูเหมือนว่ามันจะเป็นคนเอาลูกกุญแจผมไปปั๊มแล้วเปิดประตู้เข้าไปได้เอง
“เอาลูกกุญแจที่มึงไปปั๊มไว้คืนมาแล้วก็คืนบ๊อกเซอร์กูมาด้วย!”
“ม…ไม่ให้”
“ไอ้โต๋เอามาเดี๋ยวนี้ทั้งสองอย่าง!”
“ไม่ให้”
“มึง!”
“…”
ไอ้ตุ๊กแกมันตาเหลือก รีบคว้าบ๊อกเซอร์ตัวเก่งของผมพร้อมทั้งใส่เกียร์หมาวิ่งหายไปจากมุมตึกแล้ว ให้ตายสิโดนพรากพรหมจรรย์ยังไม่พอมึงยังจะขโมยบ๊อกเซอร์กูไปอี๊ก แล้วมึงจะพกของแบบนั้นเดินไปเดินมาในมหาวิทยาลัยไม่ได้!!

จบตอนที่ 11
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 11 บ๊อกเซอร์ที่หายไปของผม 15-11-2020
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 16-11-2020 22:34:45
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 11 บ๊อกเซอร์ที่หายไปของผม 15-11-2020
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 16-11-2020 23:12:36
 :heaven
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 11 บ๊อกเซอร์ที่หายไปของผม 15-11-2020
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 17-11-2020 18:01:22
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 11 บ๊อกเซอร์ที่หายไปของผม 15-11-2020
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 19-11-2020 06:52:30
 o22
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 11 บ๊อกเซอร์ที่หายไปของผม 15-11-2020
เริ่มหัวข้อโดย: MJTogether ที่ 21-11-2020 16:34:08
:pig2: :pig2: :pig2: :pig2:

ตอนที่ 12 ความลับแตก

แล้วผมก็เสียบ๊อกเซอร์ตัวเก่งไปอย่างถาวร แล้วไอ้ตุ๊กแกมันจะเอาไปทำไมวะ! ใส่ก็คงไม่ได้เพราะดูทรงแล้วไซส์มันเล็กกว่าผมแน่นอน อันนี้ผมแน่ใจเพราะเคยจับมาแล้ว…วันนี้ผมคงต้องเปลี่ยนลูกบิดห้องใหม่ หรือว่าจะเปลี่ยนวันหลังดี ? เผื่อไอ้ตุ๊กแกมันจะ…
   ผมเดินออกมาจากมุมตึก หันซ้ายหันขวาไม่เห็นใครเลยไปคว้าบิ๊กไบค์ลูกรักขี่กลับห้อง คันนี้ยังไม่มีใครได้แตะนอกจาก…ไอ้ตุ๊กแก…ที่ผมจำใจให้มันนั่งซ้อนท้ายเป็นสก๊อยเมื่อหลายวันก่อน เฮ้อ! มันอีกละ ไม่รู้จะตามหลอกตามหลอนผมไปถึงไหน
“วันเสาร์กูไม่เข้าร้านนะ”
“มึงจะไปไหนว้า? ไม่อยู่ช่วยกูเหรอ?มึงก็รู้ว่าไอ้อาร์ทมันพึ่งไม่ค่อยได้”
“เชี่ยไรไอ้โอม!”
“ห๊ะ!!มึงว่าอะไรนะไอ้อาร์ท?”
“ป…เปล่าคร้าบบบ”
“…กูจะไปธุระ”
ผมนัดร้านซ่อมรถไว้ว่าจะเอาไอ้ลูกชายไปโมซักหน่อย ตั้งแต่ได้มายังไม่ได้โมอะไรเลย
“ไปไหนอ่ะ? กูไปด้วยดิ”
“เสือก”
“ง่ะ ใจร้ายจุง”
“มึงไม่ต้องเลยไอ้อาร์ทหาเรื่องหนีงาน รถที่มึงอยากได้ใหม่อ่ะจะเอามั้ย?”
“เอาดิคร้าบบบคุณพี่”
ไอ้อาร์ทมันก็เสือกอยากได้บิ๊กไบค์บ้าง มันบอกว่าเอาไว้ให้สก๊อยน่ารักๆซ้อน รถของมันก็มีอยู่นะครับ แต่เป็นเวฟ 100 ปาดบาะเรียบแปล้ มันยังเคยบอกว่าเวลาเบรคแล้วนมชนหลังมันจั๊กจี้ดี แต่เท่าที่ผมเจอมามันไม่ใช่อย่างนั้นสิ เห็นเจอแต่ไข่เบียดตูด…
ตอนนี้ผมกำลังนั่งเรียนอยู่ในคลาส ขณะที่นั่งจดงานไปก็รู้สึกขนลุกซู่ พอหันไปมองก็เห็นไอ้ตุ๊กแกมันจ้องผมอยู่ตาไม่กระพริบเลย มึงจะอะไรกับกูอี๊ก!! เมื่อวานก็ล่อซะกูเข่าอ่อนไปทีนึงแล้ว วันนี้ยังจะมาจ้องนี่ถ้าก็เป็นปลาทองนี่กูท้องไปแล้วนะ แล้วไอ้รอยยิ้มหลอนๆที่มันยิ้มให้นี่ก็ทำเอาผมเสียวสันหลังอีกแล้ว
“ไอ้โต๋เสาร์นี้มึงว่างมั้ย?”
“ห๊ะ! อ…อืม มึงมีไร?”
มันละสายตาจาผมแล้วหันไปฟังเพื่อนมันแทน
“กูถามว่าวันเสาร์มึงว่ามั้ย? จะให้ไปช่วยเลือกเสื้อกูว่าจะซื้อไปจีบสาว”
“เออมึงเป็นอะไรไอ้โต๋? พักนี้ดูมึงตาลอยๆชอบกล”
“ป…เปล่า…”
“หรือว่า…”
“อ…อะไร!”
“มึงยังไปตามตื๊อสาวนักมวยคนนั้นใช่มั้ย? นี่เขาตกลงเป็นแฟนกับมึงรึยัง?”
“ยัง…ไม่ต้องเสือกเรื่องของกูหลอกน่า ไอ้ไข่ย้อยมึงจะไปกี่โมง?”
“สายๆดิ ไปรถกูก็ได้ จะได้ไม่เปลืองน้ำมันรถมึง”
“มันก็ต้องอย่างนั้นแหละ”
เสียงที่ไอ้แก๊งค์นั้นมันคุยกันผมก็ได้ยินทุกคำแหละ ดังฉิบหายห้องก็เล็กแค่เนี๊ย วันๆไม่ทำอะไรกันถ้าไม่นั่งลอกการบ้านกันก็ไปกินเหล้าหลังมอทำตัวไร้สาระไปวันๆ
หลังจากหมดคาบเรียนผมก็เตรียมตัวกลับ วันนี้ยังต้องไปช่วยไอ้โอมที่ร้านเหมือนเคย ตอนนี้ผมมีเงินเก็บเยอะอยู่เหมือนกัน แต่ก็ยังไม่มากพอเพราะหลังจากเรียนจบคิดว่าจะซื้อคอนโดซักห้อง คงต้องเอาเงินที่พ่อกับแม่เก็บไว้ให้ออกมาเสริม
“นี่...แว่น”
เสียงไอ้ตุ๊กแกตามมาหลอกมาหลอนอีกแล้ว มึงจะตามกูมาทำไม๊? มันจะอะไรกับกูนักหนาวะ
“อ๋อง”
‘ควับ’
บอกว่าอย่ามาเรียกชื่อนี้แถวนี้ เดี๋ยวมาได้ยินกูก็ซวยดิวะ!
“กูบอกมึงแล้วนะว่าอย่ามาเรียกชื่อนี้ที่นี่!”
“ก็กูเรียกมึงไม่ได้ยินอ่ะ”
“แล้วมึงจะมาเรียกกูทำไม? ออกไปอยู่ห่างๆกู 300 เมตรเลย”
อย่าเข้ามาใกล้กู เดี๋ยวมึงลวนลามกู กูก็ใจออ่อนอีก
“แหมมึงก็!”
อะไร? แล้วไอ้ที่มายืนบิดไปบิดมานี่มึงเป็นอะไร? คันหลังเหรอกูเอาตีนช่วยเกาให้มั้ย?
“…”
“วันนี้มึงอยู่ที่ร้านมั้ย?”
“ถามทำไม?”
คิ้วชักกระตุกๆรู้สึกว่าว่าคืนนี้จะซวยอีกแล้ว
“ก็เมื่อคืนก่อน กูไป…แล้วไม่เห็นมึงไง เจอแต่พี่อาร์ท”
สงสัยผมคงทำบัญชีอยู่หลังร้าน ทำมันทุกหน้าที่อ่ะผม ตั้งแต่เด็กเสิร์ฟยันผู้จัดการร้านเลย ว่าแต่มันสนิทกับไอ้อาร์ทได้ยังไง ได้ยินว่าไปกินเหล้าด้วยกันแค่ครั้งเดียว
“มึงไปสนิทกับไอ้อาร์ทตอนไหน?”
“ม…มึงหึงเหรอ?”
ไอ้ตุ๊กแกมันยิ้มตาหยี แต่เชี่ยเถอะ! หน้าอย่างกูเนี่ยนะจะหึงมึง? แค่ได้กัน 2-3 ครั้งอย่ามาหลงตัวเอง แล้วกูก็ไม่ได้เต็มใจด้วยเถอะ มึงขืนใจกูชัดๆ
“กูเนี่ยนะ?...กูพูดแบบนั้นเหรอ?”
“ก็เห็นมึงถาม”
“กูกลัวว่ามึงจะไปหลอกถามอะไรไอ้อาร์ทมัน มันยิ่งโง่ๆอยู่”
“กูไม่ถามหรอก เพราะกูถามมาหมดแล้ว”
“…”
ไอ้สัดอาร์ทไอ้ญาติชั่ว ไว้ใจไม่ได้เลย แล้วมันเล่าอะไรไปบ้างวะเนี่ย! อยากจะกลับไปถีบหน้ามันซักทีสองที
“แล้วมึงมีอะไร?”
ผมทำท่าจะเดินหนีแต่มันก็คว้าแขนผมไว้ซะก่อน มือไวใจเร็วจริงๆ อีกเดี๋ยวคงล้วงเข้ามาในกางเกงผมแน่นอน
“คือวันเสาร์นี้มึงว่างมั้ย? กูอยากเลี้ยงข้าวมึง”
ห๊ะ! มึงเนี่ยนะจะชวนกูไปกินข้าว บ้าไปแล้วครับ! มันจะมาหลอกฟันผมอีกล่ะไม่ว่า ทำเป็นเลี้ยงข้าวแล้วพากูหลังจากนั้จะพากูเข้าโรงแรมม่านรูดล่ะสิ
“…มึงจะมามาไม้ไหน? เลิกยุ่งกับกูดีว่า”
“ทำไมกูจะยุ่งกับมึงไม่ได้? กูให้มึงเอาไปตั้งหลายรอบแล้วนะ”
“…”
เชี่ย! ทวงบุญคุณที่ให้กูเอา? แบบนี้ก็ได้เหรอ? มึงมาเสนอเองนะกูผิดเหรอ? ขี้เกียจคุยกับมันละ ยิ่งพูดเหมือนยิ่งถูกลวนลามทางคำพูดยังไงไม่รู้ ผมก็หวงเนื้อหวงตัวเหมือนกันนะครับ
“เดี๋ยว!”
ไอ้ตุ๊กแกมันกระชากผมให้เข้าไปใกล้ ฉิบหายละ! ระยะอันตราย ถึงลีลามึงจะเด็ดแต่กูก็ไม่หลงกลคนเจ้าชู้อย่างมึงหรอก!
“ป…ปล่อยกู”
“ทำไม? มึงกลัวกูจะทำอะไรมึงเหรอ?…หึๆ”
กูล่ะเกลียดจริงไอ้รอยยิ้มแบบเหนือกว่าของมึงเนี่ย! แล้วยังยื่นหน้ามาใกล้ๆอีก กูจะให้มึงอยู่เหนือก็เฉพาะตอนนั้น…เท่านั้นแหละเว้ย! ผมสบัดตัวแล้วรีบเดินหนีออกมา ไม่ใช่อะไรกลัวเกิดเหตุการณ์เหมือนเมื่อวานอีก ขายังสั่นไม่หายเลย แล้วไหนว่าวันเสาร์จะไปเที่ยวกับไอ้ไข่นุ้ย? แล้วนี่ทำมาเป็นชวนไปเลี้ยงข้าว มันมาหลอกผมนี่หว่าใช้ไม่ได้เลย! ก็คิดอยู่ว่าถ้ามันชวนอีกซักรอบสองรอบก็อาจจะพิจารณาตอบรับมันไป…เห็นว่ามันจะเลี้ยงหรอกนะถึงยอม
บ่ายวันเสาร์ผมก็ขี่ไอ้ลูกรักออกมาที่อู่ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยซักเท่าไร เจ้าของอู่เป็นเพื่อนไอ้โอมมัน มันเคยพามาแนะนำให้รู้จัก
“สวัสดีครับเฮีย”
“เออดี คันนี้เหรอวะที่จะเอาให้เปลี่ยนท่อ?”
“ครับ”
“รุ่นใหม่เลยนี่หว่า มึงลองมาเลือกดูว่าจะเอาแบบไหน?”
เฮียโต้งเจ้าของอู่ที่ผมเอารถมาเปลี่ยนท่อ เฮียแกเป็นเพื่อนกับไอ้โอม เห็นว่าสนิทกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยก็อย่างว่าไอ้โอมมันรู้จักตั้งแต่ภารโรงยันอธิการบดีแหละครับ มันใหญ่โตแถวนี้อยู่
“แล้วไอ้โอมมันเป็นไงบ้าง? กูไม่ได้เข้าไปร้านมันเลย”
“มันก็ยังไม่ตายนะครับเท่าที่เห็น”
“ฮ่าๆตลกนะมึงอ่ะ”
ก็จริงอ่ะครับก็ยังเห็นมันยังมีชีวิตอยู่ดี ก็ไร้สาระปัญญาอ่อนเหมือนน้องมันแหละ หลังจากดูลูกน้องเฮียเขาเปลี่ยนท่อให้เสร็จผมก็ได้ไอ้ลูกชายสุดหล่อคืน พอมีท่อใหม่มาเพิ่มก็รู้สึกว่าหล่อขึ้นอีกเป็นกอง พอขี่ออกมาซักพักก็เห็นท้องฟ้าเริ่มมืดสังสัยฝนทำท่าจะตกรีบกลับดีกว่าเดี๋ยวเปียกไข่
ผมจอดซื้อข้าวที่ร้านสะดวกซื้อก่อนกลับเพราะที่ห้องไม่มีอะไรกินเลย พอออกมาจากร้านก็เจอใครคนนึงยืนอยู่ข้างรถ ให้ตายสิวะ! นี่มันไม่มีที่ไปเลยรึไง?
“…”
“หึหึ…ไปสงกูหน่อย”
รอยยิ้แบบนี้อีกละ คิดว่าหล่อที่ยิ้มออกมาอย่านั้นน่ะ แบบนี้มันไม่ได้เรียกหล่อเฟ้ย! มันเรียกน่ารัก!! เฮ้ย!! ไม่ใช่ นี่ผมเป็นอะไรวะเนี่ย!!
“ไม่ไป”
“น่าไปส่งกูหน่อย เนี่ยฝนจะตกแล้วเนี่ย”
ผมเงยหน้ามองท้องฟ้า ก็จริงอย่างมันว่า แต่อย่ามาอ่อยกูซะให้ยาก วันนี้กูใจแข็งมากบอกเลย
“ก็เรื่องของมึงสิ”
ผมไม่สนใจขึ้นคร่อมรถแล้วสตาร์ท แต่รู้สึกว่ารถมันหนักขึ้น
“ไอ้โต๋มึงลงไป!”
“น่าไปส่งกูหน่อยนะ ถ้ามึงไม่ไปส่งกู กูจะไปบอกคนอื่นให้ทั่วเลยว่ามึงคือไอ้อ๋องร้านเหล้า”
“…”
แล้วผมจะทำอะไรได้! ถึงจะอยากจับมันโยนลงรถไปแค่ไหนก็ต้องอดทน เพราะความจนมันน่ากลัว…เอิ่มไม่ใช่ละ!
ผมสวมหมวกกันน็อกเสร็จก็บิดออกมาเลยไม่สนใจว่าไอ้ข้างหลังมันจะโวยวายขนาดไหน บิดมันเต็มที่เผื่อไอ้ตุ๊กแกมันจะล่วงลงไปเอง แต่ที่ไหนได้มันกอดเอวผมแน่นเลย แถมมือของมันยังเลื้อยเข้ามาในเสื้อผมอีก แถมมันยังลูบๆคลำแถวหน้าท้องผม จนผมต้องจอดรถแล้วเปิดหมวกกันน็อกมาด่ามัน
“เหี้ยโต๋!ถ้ามึงยังไม่เลิกลูบ กูจะถีบมึงลงรถกูแล้วนะ”
“แหม! แค่นี้ทำเป็นหวงตัว ทีมึงทั้งลูบทั้งขยำตูดกู กูยังไม่ว่าอะไรเลย!”
“…”
ไม่น่าเลยผม ไม่น่าหลวมตัวเลย นับวันมันนี่ยิ่งเอาใหญ่ซักวันเถอะผมจะต้องจัดการกับมันให้ได้!
“เปียกหมดแล้วมึงอ่ะ ขึ้นไปห้องกูก่อนมั้ย?”
พอถึงหอพักของไอ้ตุ๊กแกมัน มันก็อ้อยอิ่งกว่าจะยอมลงจากรถได้ อยากจะถีบมึงจริงๆ
“…ไม่”
มึงคิดเหรอว่ากูจะหลงเชื่อมึง? มึงจะหลอกกูไปขืนใจอะดิ กูรู้กูโดนมาหลายรอบละ!
“กูไม่ทำอะไรมึงหรอกน่า ไปเร็ว!”
“กูไม่ไป”
“มาเถอะน่า”
ไอ้ตุ๊กแกมันกระชากผมทั้งที่ใส่หมวกกันน็อกอยู่ แต่แรงมันดีฉิบหายกระชากผมให้เดินตามเข้าหอมันได้อ่ะ พอเริ่มคิดว่ามันจะทำอะไรผมอีกก็ชักจะหนาวๆร้อนๆขึ้นมาเลย
“อ่ะ! ผ้าเช็ดตัว มึงเช็ดตัวก่อนนะ เดี๋ยวกูหาเสื้อผ้าให้เปลี่ยน”
หืม? ผิดคาด คิดว่ามันจะกระชากผมเข้าไปจูบหรือผลักผมลงที่เตียงมันซะอีก รู้สึกผิดหวังเล้กน้อย อ่า…ไม่ใช่ละ ทำไมพักนี้ผมสติหลุดบ่อยๆวะ
แต่พอมองไปรอบๆห้องมัน ก็ดูกว้างดีนะ สะอาดด้วยทีไปห้องกูกินขนมทิ้งไว้เกลื่อนเลย
ผมก็เช็ดตัวอย่างลวกๆไมใช่อะไร ต้องมีสติไว้ก่อนเผื่อมันโจมตีจะได้ตั้งรับทัน
“อ่ะเสื้อ มึงเปลี่ยนก่อนเดี๋ยวเป็นหวัด อาทิตย์หน้ามีสอบ”
ไอ้ตุ๊กแกมันยื่นเสื้อยืดมาให้อย่างเดียว มันคงเห็นว่ากางเกงผมไม่ค่อยเปียกซักเท่าไร แต่เสื้อนี่สิมันเป็นสีชมพูนี่สิ ไม่ค่อยอยากจะรับมาใส่เลย ส่วนที่มันพูดว่าสอบคือสอบย่อยเก็บคะแนน แต่ง่ายโคตรผมไม่อยากจะคุย
“อ…อืม”
ผมรับเสื้อมาอย่างระมัดระวังตัวสุดๆ เสียวง่ะ
“ฮ่าๆ มึงไม่ต้องกลัวกูหรอกน่า”
“อ…อะไร กูกลัวอะไรมึง?”
“ก็ดูมึงทำหน้าเข้า วันนี้กูไม่ทำอะไรมึงหรอก”
“เอ้า!ไปเปลี่ยนเสื้อดิ”
ผมกางเสื้อดูเป็นไซส์แอล ปกติผมใส่ไซส์เอ็กซ์แอลนะ แล้วจะใส่ได้มั้ยวะเนี่ย!
“ใหญ่สุดแล้วน่ะ ลองใส่ก่อน”
มันพยักหน้าให้ผมลองใส่เสื้อสีชมพูหวานแหววของมัน น่ารักไปมั้ย…เสื้ออ่ะ
“ไม่มีสีอื่นเหรอ?”
ผมลังเล ปกติไม่ค่อยชอบสีนี้ซักเท่าไร ส่วนใหญ่เสื้อผ้าที่ผมมีมักเป็นสีดำ เทาหรือน้ำตาลอะไรอย่างนั้นมากกว่า
“ไม่มี เร็วๆชักช้ากูเปลี่ยนใจไม่รู้นะ”
มันทำท่าเดินเข้ามาใกล้ แถมยกมือขึ้นมาทำท่าเหมือนจะมาลูบอะไรผมอีก อย่าเข้าม๊า!เดี๋ยวกูก็ยอมอีกอ่ะ ผมรีบหันหลังถอดเสื้อตัวเองออกแล้วรีบใส่เสื้อของไอ้ตุ๊กแกมันทันที ทำลายสถิติโลกเปลี่ยนเสื้อเสร็จภายใน 5 วินาที
พอหันหน้ากลับไปมองก็เห็นไอ้ตุ๊กแกมันยิ้มหวานหยดย้อยเลย เป็นอะไรของมึงอี๊ก??
“มึง…ใส่เสื้อตัวนี้แล้วน่ารักดี…แต่ผิดไซส์ไปหน่อย”
ผมได้ยินมันชมว่าน่ารักแล้วรู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้ รู้สึกว่าโรคหัวใจที่ผมสงสัยว่ากำลังเป็น มันกำเริบอีกแล้ว…
เรายืนมองหน้ากันอยู่อย่างนั้น ในใจมันรู้สึกแปลบๆ ในท้องมันรู้สึกมวนๆ ในหัวรู้สึกมึนๆงงๆ ทำไมหลายอาการจังวะ! หลังจากที่ยืนทำใจสงบนิ่งซักพักก็มองออกไปนอกหน้าต่างห้องมันก็เห็นว่าฝนซาแล้ว
“กูจะกลับแล้ว…”
“อืม…ขอบคุณที่มาส่งนะ”
วันนี้มันแปลกจริงๆ ปกตินี่ลากผมขึ้นเตียงโบ๊ะบ๊ะไปแล้ว แต่วันนี้มันแปลกไม่เข้าใกล้ผมเลย ยืนยิ้มอยู่ห่างๆ หรือว่ามันจะเลิกบ้าแล้ว??
“อืม”
ผมเดินมาจากห้องไอ้ตุ๊กแก ก็เห็นผู้หญิงคนนึงยืนอยู่ที่บันไดทางขึ้น หน้าคุ้นๆเหมือนเคยเห็นที่ไหน แต่ก็ไม่ได้สนใจเดินผ่านลงมายืนที่รถ ฝนหยุดตกแล้ว ก้าวขาขึ้นรถแล้วก็เตรียมสวมหมวกกันน็อกก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนนึงพูดขึ้น
“น้องอ๋องใช่มั้ยคะ?”
ผมเงิยหน้ามองผูหญิงที่ถามในระยะไม่ไกลนัก ก็นึกขึ้นได้ว่าเป็นผู้หญิงที่เคยเลี้ยงเบียร์ผมที่ร้านแล้วก็นึกขึ้นได้อีกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นกิ๊กของไอ้ตุ๊กแกมัน…
“ไม่ใช่ครับ คุณคงจำคนผิด”
“พี่ว่าพี่จำไม่ผิดหรอกค่ะ”
“…”
อะไรของป้าครับ ผมยิ่งรีบๆอยู่ หน้าตาก็สวยดีอยู่หรอก แต่ไม่ต้องยิ้มหลอนขนาดนั้นก็ได้
“หรือจะให้พี่เรียกว่าน้องแว่นดีคะ?”
ฉิบหาย! ความแตกเหรอะวะ ?แต่ไม่น่าใช่ไม่น่าจะมีใครรู้ว่าผมคือไอ้แว่น
“ขอโทษนะผมรีบ คุณคงจำคนผิด”
“ไม่ผิดแน่นอนค่ะ เพราะพี่ได้ยินมาจากน้องโต๋”
ได้ยินมาจากไอ้ตุ๊กแก?? นี่มันเอาเรื่องผมไปเที่ยวเล่าให้คนอื่นฟังเรอะ? จะมากไปแล้ว! ผมก็ว่าแล้วว่าคนอย่างมันนี่เชื่อไม่ได้! เดี๋ยวเถอะมึง!
“คุณคงเข้าใจผิด ผมไม่รู้จักคนชื่อแว่นอะไรนั่น”
“ลักษณะน้องอ๋องกับน้องแว่นเหมือนกันหุ่นก็คล้ายกัน”
โหป้า!! จำแม้กระทั่งหุ่นกูได้? เอฟซีกูป่ะเนี่ย?หลอนเลย!
“ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดเรื่องอะไร ขอตัวก่อน”
แล้วผมก็บิดรถหนีมาเลย ไม่รู้ยัยป้านั่นจะเชื่อตามที่ผมปฏิเสธหรือเปล่า แต่ตอนนี้ต้องหนีมาตั้งหลักก่อน คิดแล้วก็โมโหอย่าให้กูเจอหน้านะไอตุ๊กแกตัวแสบจะเอาให้ยับเลยคอยดู!!

จบตอนที่ 12

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 12 ความลับแตก 21-11-2020
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 21-11-2020 22:23:32
 :hao5:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 12 ความลับแตก 21-11-2020
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 21-11-2020 22:43:20
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 12 ความลับแตก 21-11-2020
เริ่มหัวข้อโดย: MJTogether ที่ 28-11-2020 12:42:59
:pig2: :pig2: :pig2: :pig2:

ตอนที่ 13 กูไม่รู้ กูเปล่า...(พาร์ทโต๋)

              หลังจากที่ไอ้อ๋องกลับไปแล้ว ผมก็กลับมาหายใจสะดวกอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านั้นมันรู้สึกหายใจหายคอไม่ค่อยสะดวก จริงๆก็เป็นแบบนี้มาหลายวันแล้วเพราะอะไรน่ะเหรอ? ก็เพราะว่าผมหลงมันไปแล้วน่ะสิ แต่ก็ไม่รู้ว่าความหลงนี้มันจะเหมือนความรักรึเปล่า…เพราะผมไม่เคยรักใครแล้วเรื่องนี้ทำให้ผมคิดหนักยิ่งกว่าคิดเรื่องการเรียนซะอีก เอาเป็นว่าผมหลงมันจริงๆเข้าแล้ว แต่หลังจากที่รู้ตัวว่าสะดุดลงหลุมไอ้อ๋องไปแล้วก็อยากจะทึ้งหัวตัวเองให้ตาย จากที่จะแก้แค้นตอนที่ถูกวางยาแล้วเผลอไปมีอะไรกับมัน ก็ดันกลายเป็นหลงไหลมันเข้าให้แล้ว ไม่อยากจะยอมรับแต่มันก็เป็นไปแล้วจริงๆ
   กลายเป็นว่าตอนนี้สายตาของผมก็จับจ้องอยู่แต่ที่มันตลอด แม้ว่าในห้องเรียนมันจะทำตัวซกมกๆ ใส่แว่นหนาเตอะ แต่งตัวเชยๆแต่ผมก็รู้ว่าภายใต้รูปเงาะนั้นมันมีเทพบุตรสิงอยู่ เอ่อ…มันเป็นคำเปรียบเปรยนะครับ ไอ้อ๋องมันยังไม่ตาย… ผมถึงขั้นลงทุนคอยแอบเดินตามมันไปทุกที่ แอบเอากุญแจห้องมันที่ผมเอาไปปั๊มไขเขาไปขโมยบ๊อกเซอร์ของมันมา อย่าหาว่าผมโรคจิตนะครับ แค่อยากเก็บไว้เป็นที่ระทึก เอ้ย!ระลึกเฉยๆ
   จริงๆผมก็ไม่รู้ว่าไปแอบหลงมันตอนไหนและได้ยังไง เพราะปากมันหมามาก อยากจะพาไปหาหมอให้ผ่าเอาหมาในปากมันออกอยู่เหมือนกันแต่ไม่กล้ากลัวมันถีบเอา จะว่าชอบนิสัยมันก็คงไม่ใช่อีก เพราะมันก็ไม่ได้นิสัยดีอะไรเลย ผมไม่เคยเห็นมันจะช่วยเหลืออะไรใครซักคน ยิ่งถ้าเจอเด็กหกล้มร้องให้อยู่มันคงเตะซ้ำเข้าให้ แล้วถ้าพูดถึงเรื่องลีลาบนเตียงยิ่งไม่ได้เรื่องเข้าไปใหญ่ต้องคอยให้ผมขึ้นให้ตลอด ผมเดาว่ามันยังซิงแล้วผมก็คงเป็นคนแรกของมันแน่ๆ ส่วจูบมันก็จูบไม่ได้เรื่องเลยกลายเป็นผมนี่นำให้ตลอด แต่พอครั้งที่สองมันเริ่มเก่งไอ้นี่มันหัวไวจริงๆ ผมคงต้องสอนมันบ่อยๆ แต่เอาเป็นว่าข้อสันนิษฐานที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นไปได้มากที่สุดก็น่าจะเป็นหน้าตาแล้วก็หุ่นมันนี่แหละครับ หุ่นมันแซ่บอย่าบอกใครเลย หน้าอกมันโคตรแข็ง วีเชฟคือแบบทำให้น้ำลายหกเลือดกำเดาพุ่งมากครับ แต่ส่วนที่เร้าใจผมที่สุดๆก็คงเป็นซิกแพคของมันเพราะโคตรเซ็กซี่เลย มันแบบแข็งปั้กเลย ลูบแล้วเพลินมือดีฉิบหาย ผมได้ลูบหลายทีละติดใจสุดๆ
“เป็นอะไรวะไอ้โต๋?
มึงทำหน้าแบบโคตรฟินอ่ะ นึกถึงใครอยู่วะ?”
“ก็นึกถึงคนที่กูกำลังจีบอ่ะดิ”
ตอนนี้ผมไม่ได้ปิดบังอะไรไอ้พวกนี้มันแล้ว เพราะถามมากน่ารำคาญเหลือเกิน แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นใครเดี๋ยวพวกมันตกใจ แล้วก็ยังไม่อยากยอมรับเท่าไรว่าแอบหลงไอ้อ๋องมันจนหัวปักหัวปำ กลัวเสียฟอร์มเพราะปกติแล้วมีแต่คนมาแอบชอบผมกันทั้งนั้น
“เป็นไงวะ ไหนเล่าดิ?”
“ก็ไม่ยังไงเขายังไม่ชอบกูหรอก”
“เป็นไปได้เหรอวะที่มีคนไม่ชอบมึงเนี่ย?”
มีสิวะ! ก็ไอ้อ๋องนี่ไง ด่ากูยังกะอะไรดีรังเกียจกูจะตาย ที่กูได้มัน 2-3 ครั้งนี่กูเริ่มก่อนตลอด
“กูก็คนป่ะ มันก็ต้องมีแหละคนที่ไม่ได้ชอบกู”
“แล้วไงมึงยอมเหรอหรือมึงจะเลิกจีบ?”
“ไม่ได้เลิก กูต้องวางแผนก่อนดิ”
เพราะก่อนหน้านี่ผมก็ได้ไปแอบรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับไอ้ท่านอ๋องสุดหล่อไว้หมดแล้วครับ หลังจากนี้ผมก็จะดำเนินการตามแผนของผมที่วางไว้ ต้องอ่อยให้มันเสร็จผมให้ได้ ยังไงผมก็ถอยไม่ได้แล้ว ผมต้องเอามันมาเป็นของผมให้ได้
“น้องโต๋พี่มีเรื่องอยากถามค่ะ?”
พี่เชอร์รี่อดีตกิ๊กเบอร์สองของผมเองครับ ที่ต้องบอกว่าอดีตเพราะว่าหลังจากได้กับไปอ๋องครั้งแรกผมก็ไม่เคยไปมีอะไรกับใครอีกเลย ผมตัดบรรดากิ๊กของผมออกจากกองมรดกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“มีอะไรเหรอครับ?”
“คือพี่ถามหน่อยค่ะ น้องแว่นกับน้องอ๋องนี่คนเดียวกันใช่มั้ยคะ?”
“…”
ฉิบหายพี่เชอร์รี่รู้ได้ยังไงวะ? ผมยังไม่เคยเอาไปพูดกับใครเลยนะ
“พอดีพี่ได้ยินน้องโต๋คุยกับน้องแว่นอ่ะค่ะ”
“ครับ? เอ่อ…ผมว่า…พี่น่าจะได้ยินผิดหรือไม่ก็เข้าใจผิด”
“แต่พี่ได้ยินน้องโต๋เรียกน้องแว่นว่าอ๋อง”
ซวยจริงๆละ พี่แกได้ยินจริงๆด้วย ทำไงล่ะทีนี้
“เอ่อ…คือ”
“คือพี่ก็ไม่ได้อะไรหรอกค่ะ พี่แค่…อยากได้เบอร์น้องอ๋อง พี่อยากคุยน่ะค่ะ”
ไม่ได้นะ พี่จะมาแย่งของผมไม่ได้ ผมเจอก่อนแล้วก็เยี่ยวรดจองไว้แล้ว ถึงมันจะไม่ใช่…เยี่ยวก็ตาม
“พ…พี่อยากจะคุยกับมันเรื่องอะไรเหรอครับ”
พี่เขาคงอยากคุยแบบน้องชายมั้ง พี่เขาไม่มีน้องชายนี่นา ฮ่าๆ กูก็คิดมาก
“พี่จะจีบค่ะพี่ชอบน้องเค้า”
“ไม่ได้!”
“อะไรนะคะ?”
“เอ่อ…คือ ผ…ผมว่าพี่เข้าใจผิดแล้วครับ สองคนนั้นมันคนละคนกัน ไม่เห็นเหมือนกันเลย”
“แล้วน้องโต๋สนิทกับน้องอ๋องมั้ยคะ”
“ม…ไม่ครับ”
ไม่เลยครับแค่เคยเอากัน 2-3 ครั้งเองครับ ตอนนี้อยากสนิทมากติดที่ว่ามันชอบเดินหนีนี่แหละครับ
“จริงเหรอคะ?”
“ค…ครับ”
“แต่พี่เห็นน้องอ๋องเดินออกมาจากห้องน้องโต๋เมื่อวาน”
“ห๊ะ…เอ่อ ม…ไม่ใช่หรอกครับ พี่เชอร์รี่คงตาฝาดล่ะมั้งครับ”
พี่ก็อย่าถามกูเยอะสิ เดี๋ยวกูหลุด ถ้าไอ้อ๋องรู้เข้ามันกระทืบกูตายแน่ อดได้ลูบหน้าท้องแน่นๆของมันอีกแน่นอนครับ
“แน่ใจเหรอคะว่าไม่ได้โกหกพี่”
“น…แน่ครับ”
“พี่ต้องตามสืบให้ได้ เพราะคนนี้พี่อยากได้มากว่าแต่น้องโต๋ช่วงนี้ไม่โทรหาพี่เลยค่ะ”
“เอ่อ…พอดีผม…ผมมีคนที่กำลังจีบอยู่ครับ”
ผมตัดสินใจบอกพี่แกไป เพราะยังไงซะก็คงไม่กลับไปซบอกพี่เขาแล้ว เห็นผมแรดๆแบบนี้ผมก็จีบทีละนะครับ แต่เรื่องถูกจีบก็อีกเรื่อง ภูมิใจแทนพ่อแม่จริงๆ
“เหรอคะ?…อืมเสียดายเนอะ ถ้าอกหักก็ติดต่อพี่ได้นะคะ พี่ยินดีปลอบใจให้ค่ะ”
ที่พี่แกยอมปล่อยผมง่ายๆก็คงเพราะตอนที่จะคบกันก็ตกลงกันไว้ว่าถ้าหากเจอคนที่ใช่ ก็ตัวใครตัวมันได้เลยไม่มีข้อผูกมัด
“ค…ครับ”
“พี่ไปก่อนนะคะ จะไปตามสืบเรื่องของน้องอ๋องต่อ ว่าแต่น้องแว่นกับน้องอ๋องนี่ไม่ใช่คนคนเดียวกันแน่เหรอ?”
“จ…จริงครับ ร้อยเปอร์เซ็นต์ พี่ก็ดูไอ้แว่นมัน เฉิ่มเชยจะตายไม่เห็นเหมือนไอ้อ๋องซักนิด”
“อืทม…พี่ก็ว่างั้นแหละ ไม่เห็นเหมือนเลยเนอะ!”
ยังดีน้าที่พี่เชอร์รี่ไม่ค่อยฉลาด แกเลยเรียนก็ไม่ค่อยเก่ง มีดีที่สวยอย่างเดียว
‘Rrrrrrrrrr’
   เบอร์ใครวะแปลกๆพวกโรคจิตปะเนี่ย แต่อย่าคิดว่าผมจะกลัว ผมตอกกลับมาหลายรายละไอ้พวกนี้ บอกเลยผมไม่อ่อน
“ใครครับ?”
[กูเอง!]
แหม! เสียงดุจริงวุ้ยไอ้พวกโรคจิตเนี่ย
“กูไหนครับ ไม่มีเพื่อนชื่อกูครับ โทรผิดรึเปล่าครับ?”
[…]
“ไอ้โรคจิต ถ้าไม่พูดกูจะวางล่ะนะ”
[กูเอง…อ๋อง]
“หืม? อ๋อง? ม…มีอะไรครับ?”
เปลี่ยนเป็นเสียงสองให้ไว ดีใจจนน้ำตาจะไหล ไอ้อ๋องโทรหา ความรักของผมคงจะสมหวังแล้วสินะ สวรรค์ช่างมีตารับรู้ความดีของผม
[มาหากูที่ห้อง…]
“ม…มีอะไรรึเปล่า?”
อย่าบอกนะวะคิดถึงผม อยากเจอ? ติดใจ? อร๊ายยยเขินอ่ะตัวเอง!
[เดี๋ยวนี้!]
‘ตื๊ดๆๆๆ’
อะไรวะ? พูดยังไม่ทันรู้เรื่องก็วางสาย คิดว่าหล่อจะทำยังไงก็ได้เหรอ? คิดว่าหุ่นดีเซ็กซี่จะสั่งกูยังไงก็ได้ใช่มั้ย?? ได้!! กูจะไปหาเดี๋ยวนี้แหละครับดีใจจนเนื้อเต้นเลยหว่ะ แวะซื้อถุงยางซักล่องดีกว่า…หรือว่าจะเอาสองกล่องดี เอาแบบ 0.01 มันจะชอบมั้ยน้า??
‘ก๊อกๆ’
“เข้ามา”
ทำมาเสียงเข้ม จริงๆก็อยากเจอกูเถอะ ปากแข็งอยู่ได้ตั้งนานไอ้หล่อเอ้ย!
“มึงเรียกกูมามีอะไร?”
ต้องวางฟอร์มไว้ก่อน ทำให้มันรู้ว่าผมไม่ไช่ขี้ไก่ แต่ก็เป็นขี้เป็ด แฮร่! แต่หน้าตามันดูน่ากลัวอ่ะ กูรู้ว่ามึงหล่อมากแต่ไม่ต้องเก๊กหน้าขนาดนั้นก็ได้ป่ะวะ กูชักเริ่มกลัวแล้ว ไม่เล่นนะ SM เพลย์อ่ะ กูกลัวเจ็บ…
“มึงเอาเรื่องของกูไปพูดใช่มั้ย?”
“ร…เรื่องอะไรของมึง?”
เรื่องอะไรล่ะ เรื่องที่มึงเอากูไปแล้ว 2 ครั้ง เรื่องที่มุมตึกหรือเรื่องซิกแพคของมึงล่ะ? กูไม่เคยเอาไปเล่าเล้ยย กูกะจะเก็บไว้ดูคนเดียว…
“ก็เรื่องที่กูปลอมตัวอยู่เนี่ย!”
มันตบโซฟาดังปุ๊เลย ไม่ได้เชิญกูนั่งใช่มั้ย?
“ก…กูไม่ได้พูด”
อย่าแยกเขี้ยวกูกลัวแล้ววว
“แล้วเด็กมึงรู้ได้ยังไง?”
“ด…เด็กไหน พ…เชอร์รี่อ่ะเหรอ?”
อ๋อย! น่ากลัวอ่ะ มันกัดฟันดังกรอดๆแล้วอ่ะ ทำท่าเตรียมพร้อมจะกระโดดกัดคอกูแล้ว! อย่านะ! ถ้าจะกัดกูกูให้กัดปากไอ้อย่างเดียวนะ
“อ่อ…มึงก็รู้นี่ว่าใคร”
“ก…กูไม่ได้พูดนะ กูไม่เคยพูด”
“มึงออกไปจากห้องกูเดี๋ยวนี้!”
เอ้ามาไล่กูอีก! ฮึก…กูจะร้องแล้วอ่ะ ทำไมไม่เชื่อกูอ่ะ? กูยังไม่เคยเอาไปพูดเลย
“กูบอกให้ออกไป!”
มันตะคอกอีกรอบ แม่ง! ไอ้หน้าหล่อใจเหี้ยม ไอ้หุ่นดีเซ็กซี่แต่ไม่มีน้ำใจ อย่าตะคอกดังน้ำตากูจะไหล
“…”
“กูบอกไว้ก่อน ฮึก…ว่ากูไม่ได้เป็นคนพูด ฮือๆ กูบอกมึงแล้วว่ากูจะไม่พูด กูก็ไม่พูด ฮึก…ฮือๆ”
ไม่ไหวละบ่อน้ำตาแตก กั้นเอาไว้ไม่อยู่จริงๆ มันคงเห็นว่าผมเป็นคนที่ไว้ใจไม่ได้ เออสิ! กูมันเลวขืนใจมึงก่อนไง! ไม่มีอะไรดีอยู่แล้วนี่!
“…”
“ใช่ซี้กูมันเลวไง ฮึก…ใจง่ายยอมมาให้มึงเอาถึงที่นี่ มันก็เหมือนไม่มีค่าอะไรอยู่แล้วนี่ ฮือๆ”
ผมร้องไห้โดยที่ไม่อายมันเลย น้ำหูน้ำตาไหลพราก รู้สึกเค็มๆในปากไม่รู้ว่ารสชาติน้ำตาหรือน้ำมูก แต่ช่างมันเถอะ ในเมื่อมันก็เคยเห็นผมในสภาพแย่ๆมาแทบทุกอย่างแล้ว ผมก็จะไม่อายอะไรมันแล้ว ผมกำลังจะเดินออกมาแต่ยังไม่ลืมเอากล่องถุงยางที่ซื้อมาขว้างใส่หน้ามัน กล่องปลิวไปโดนหัวคิ้วมันดังปั่ก ช่างแม่งสมน้ำหน้ามัน ขอให้คิ้วแตกหมดหล่อไปเลย
“เดี๋ยว!”
อย่ามาง้อกูซะให้ยากบอกเลยตอนนี้กูใจแข็งมาก ถ้าจะง้อกูต้องจูบกูก่อน
“อ…อะไร?”
ผมสูดน้ำมูกดังฟืดก่อนที่จะถามมัน แล้วรีบถกเสื้อเช็ดน้ำตาเผื่อมันเข้ามากอด น้ำตาจะได้ไม่เปียกเสื้อมัน นี่กูหวังดีหรอกนะ
“เอากุญแจห้องที่มึงแอบเอาไปปั๊มคืนมาก่อนค่อยไป”
“ฮือๆ ไอ้เชี่ย! แม่ง!”
ผมล้วงกุญแจในกระเป๋ากางเกงปาใส่หน้ามันทันที แต่มันเสือกหลบได้ กูไม่เอาแล้วก็ได้ไอ้เลวหน้าหล่อชอบทำร้ายจิตใจกู กูอุตส่าห์พกลูกกุญแจกับบ๊อกเซอร์มึงติดตัวตลอด แล้วมึงทำอย่างนี้กับกูได้ไง??
ผมรีบวิ่งออกมาจากห้องมัน คิดว่าจะเริ่มตัดใจจากมันละ ไม่เอาแล้วก็ได้ไอ้คนหล่อหุ่นเซ็กซี่เนี่ย
พอกลับมาถึงหอแล้วดูหน้าตาในกระจก โห!ดูไม่ได้เลยหมดสภาพคนหน้าตาดีของโลกนี้ไปเลย เพราะมันคนเดียวไอ้แว่นอ๋อง อย่าให้กูเลิกชอบมึงได้นะ แม่ง!กูจะต่อยให้ปากแตกเลย
“มึงเป็นอะไรวะไอ้โต๋ ตาบวมมากนี่มึงร้องไห้เหรอ?”
“เปล่า…กูนอนดึก”
กูไม่ได้นอนเถอะ หลังจากกลับจากห้องไอ้อ๋องคืนวันเสาร์ก็นอนไม่หลับลากยาวยันวันอาทิตย์ น้ำก็ไม่ได้อาบ นอนร้องไห้จนตาบวมปูดเป็นลูกมะนาว พอวันจันทร์มาก็เจอไอ้พวกขี้เสือกถามจนได้
“ทำอะไรวะหรือว่ามึงแอบไปหาสาวที่ไหน?”
“เออ! กูว่าละมึงจะชอบใครจริง เดี๋ยวก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก”
“จ๊ะจ๋า…ในสายตาพวกมึง กูมันเลวขนาดนั้นเลยเหรอวะ?”
“ห๊ะ…เอ่อ ก็ไม่นะ”
ผมจงใจพูดดังๆให้ไอ้แว่นอ๋องมันได้ยิน ผมรู้ว่ามันได้ยินเรื่องที่ผมคุยกันตลอดแหละ แล้วผมก็รู้ว่ามันคิดว่าผมเลว หลายใจ ชอบมั่วกับคนอื่นไปทั่ว
“ใช่ซี้ก็กูเลวจริงถึงแม้กูจะกลับตัวกลับใจได้ก็ไม่มีใครเชื่อกูอยู่ดี”
“ก…ก็ไม่ขนาดนั้น มึงเป็นคนดีนะหลายอย่างเลย ชอบช่วยเหลือเพื่อนไง”
“ใช่ๆมึงรักสัตว์”
ไอ้บดินทร์ไอ้ไข่นุ้ยรีบช่วยกันชื่นชมผมกันใหญ่คงกลัวผมโกรธ แต่ก็จริงนะครับ ผมเป็นคนจิตใจดีนะ เห็นใครลำบากก็ช่วย เห็นแมวจรก็ยังช่วยเลยใจดีจะตาย ผิดกับไอ้แว่นอ๋องที่มีดีแค่หล่อ เอ่อ…แล้วก็เรียนเก่ง อืมแต่มันก็ชงเหล้าเก่งด้วยนี่หว่า เฮ่ยๆไม่ใช่ๆ อย่าไปชมมันก็โกรธมันอยู่
“หรือว่ามึงอกหักรักคุด? ปรึกษากูได้นะ”
“มึงยังไม่มีแฟนเถอะอีจ๊ะจ๋า”
“เออ! แต่ทฤษฎีกูแน่นมาก”
“แล้วมึงจะทำยังไงถ้ามีคนเข้าใจมึงผิด?”
“ก็บอกความจริงเข้าไปดิมันจะยากอะไร”
“ถ้าบอกแล้วมันไม่เชื่อ?”
“มึงก็จับกดไปเลย”
อันนี้อีจ๊ะจ๋าไม่ได้พูด เป็นไอ้บดินทร์มึงคิดว่ากำลังเล่นมวยปล้ำอยู่หรือไง หรือมึงกำลังเล่นซู่โม่แต่น่าจะเป็นอย่างหลังเพราะหุ่นมึงให้
‘ผัวะ’
“มึงตีกูทำไมเนี่ย?”
“แนะนำไม่ได้ก็ไม่ต้องเสือกพูด”
ไอ้ไข่นุ้ยบ้องหูไอ้บดินทร์ไปทีนึง ผมล่ะสะใจฉิบหาย ลองให้ผมจับไอ้อ๋องกดมันได้กระทืบผมแบนแต๊ดแต๋ แต่มันก็มีวิธีอยู่เหมือนกัน อย่างไอ้อ๋องผมรู้จุดอ่อนมันดี แต่งอนอ่ะตอนนี้ยังไม่อยากใช้วิธีนั้นเลย
“แล้วมึงจะเอายังไงต่อ?”
จ๊ะจ๋ามันหันมาถาม ในกลุ่มผมนอกจากผมที่ดูปกติสุดก็จะมีอีจ๊ะจ๋านี่แหละที่พอจะเป็นที่พึ่งของเพื่อนๆได้
“ยังไม่รู้เลย…”
   ใช่ครับผมยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อ คงต้องรอให้ไอ้อ๋องมันหายโกรธก่อนค่อยเดินหน้าต่อ ไอ้ที่ผมร้องโวยวายก็ไม่ได้จะเลิกชอบมันจริงๆหรอก เพราะถ้าเลิกชอบคนคนนึงง่ายๆขนาดนั้น ก็ไม่มีใครเขาอกหักกันหรอก แต่ถ้ามันถึงขีดสุดแล้วจริงๆก็คงต้องตัดใจ
   ผมเดินผ่านหน้ามันไปเพื่อจะเดินไปกินข้าวที่โรงอาหาร ผมแอบเหล่แล้วเห็นว่ามันมองผมด้วยหางตาทะลุแว่นออกมาเลย มันคงโกรธผมมากจริงๆ เพราะปกติมันจะไม่สนใจใครหรือมองใคร แต่คราวนี้มันมองผม ผมก็ทำเป็นไม่สนใจบ้าง แต่ในใจนี่เจ็บแปล๊บๆเลย แอบชอบใครแล้วเขาไม่ชอบตอบนี้มันก็เจ็บเหมือนกันนะครับ ผมเข้าใจหัวอกคนที่แอบชอบผมแล้วผมไม่เล่นด้วยแล้วล่ะ กรรมมันคงสนองผมเข้าให้แล้ว…

จบตอนที่ 13


:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 13 กูไม่รู้ กูเปล่า...(พาร์ทโต๋) 28-11-2020
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 28-11-2020 20:51:14
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 13 กูไม่รู้ กูเปล่า...(พาร์ทโต๋) 28-11-2020
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 28-11-2020 21:46:50
 :katai2-1:



เสือร้องไห้
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 13 กูไม่รู้ กูเปล่า...(พาร์ทโต๋) 28-11-2020
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 29-11-2020 20:17:58
 :hao5:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 13 กูไม่รู้ กูเปล่า...(พาร์ทโต๋) 28-11-2020
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 30-11-2020 06:40:55
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 13 กูไม่รู้ กูเปล่า...(พาร์ทโต๋) 28-11-2020
เริ่มหัวข้อโดย: MJTogether ที่ 11-12-2020 17:34:51
:pig2: :pig2: :pig2: :pig2:

ตอนที่ 14 ขาสั่นระริกเลยผม


   ชีวิตผมกลับมาปกติอีกครั้งเพราะมีความรู้สึกว่าไม่มีใครมาคอยตามหลอกตามหลอนอย่างเคย บางทีไอ้คนที่ตามผมมันอาจะเบื่อเลยเลิกตามไปเองแล้ว เพราะที่ไปผมไม่เยอะ ไม่ที่มหาวิทยาลยก็ร้านเหล้ามีอยู่แค่นี้แหละ แล้วลูกกุญแจผมก็ยึดคืนมาจากไอ้ตุ๊กแกแล้ว คงไม่มีใครแอบเข้ามาขโมยบ๊อกเซอร์ผมอีก หวังว่ามันคงไม่ปั๊มไว้หลายดอกหรอกนะ
   ตั้งแต่เกิดมาครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่มีคนทำให้ผมโกรธได้มากขนาดนี้ ครั้งแรกสมัย ม.6 ที่ถูกรุ่นพี่กระเทยที่เรียนจบไปแล้วแอบตามติดชีวิตผม แม่งตามผมทุกที่ ไปเรียนก็ตามกลับหอก็ตาม ขนาดผมไปเดินห้างมันก็ยังตามอีก เรียกได้ว่าตามหลอกตามหลอนหลอนทุกที่ พอผมจับได้ก็สารภาพออกมาว่าแอบชอบผม พอผมปฏิเสธมันก็เลยไปตามพวกที่เป็นกระเทยกับเกย์อีกหลายคนมาทำร้ายผม ผมก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรกับคนกลุ่มนี้แค่คิดว่าพอถูกปฏิเสธก็ถึงกับต้องพาพวกรุมทำร้ายมันไม่แฟร์สำหรับผมเลย แต่หลังจากนั้นผมก็กระทืบพวกนั้นจนหมอบแล้วพวกมันก็ไม่โผล่มาให้เห็นอีกเลย แต่ก็เกือบจะมีเหตุการณ์ซ้ำๆแบบนั้นอีกหลายรอบ ทั้งรุ่นน้องที่โรงเรียนแอบดักรอตามซอกตึก เพื่อนต่างโรงเรียนมาดักรอที่หน้าโรเงเรียนบ่อยๆ มีทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่เข้ามาวุ่นวายทำเอาผมประสาทแดกเป็นปี พอเข้ามหาวิทยาลัยผมก็เลยเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อหลบหนีจากบุคคลเหล่านั้นซะเลย
“วันนี้ไอ้โต๋มันไม่มาเรียนอีกแล้วเหรอ?”
“อืม”
“อะไรวะ! อาทิตย์นี้มันมาเรียนวันเดียวเองนะ”
“มันบอกว่าไม่สบาย กูว่าวันนี้กูจะไปแวะดูมันซักหน่อย”
“เอ้า! ก็มึงหอเดียวกันทำไมถึงเพิ่งจะคิดได้?”
“กูก็ตะโกนถามมันทุกวันแหละ มันก็บอกว่าไม่เป็นอะไร บอกกูไม่ต้องสนใจไง”
“นี่มึงเพื่อนมันป่ะเนี่ย?”
“แล้วมึงก็เพื่อนมันปะ?”
ผมเดินหนีออกมา ไม่ได้อยากได้ยินชื่อมัน ฟังแล้วสแลงหู ไปดีกว่าเดี๋ยวกินข้าวไม่อร่อย
“ไอ้อ๋องไปเอาเบียร์มาเพิ่มลังนึงดิ”
“ไอ้อาร์ทมึงไปเอามา”
“เชี่ยไร! ไอ้โอมมันใช้มึงอ่ะ”
“งั้นไอ้อาร์ทมึงไปเอามาสองลัง”
“ทำไมใช้กูอีกแล้วอ่ะ?”
“ก็มึงโง่สุด”
“อะไรวะ มึงเป็นพี่กูป่ะเนี่ยไม่อ่อนโยนเลย ใช้แต่กูตลอด”
ผมเบื่อไอ้สองตัวนี้ฉิบหาย มันกัดกันมาเป็นชั่วโมงแล้วไม่เหนื่อยมั่งรึไง? คนยิ่งหงุดหงิดๆอยู่ แล้วทำไมไอ้ตุ๊กแกมันไม่มาร้านเลยวะ? เรียนก็ไม่เข้า ผมว่ามันคงโกรธผมเหมือนกันแหละ เพราะวันที่ผมโทรเรียกมันมาที่ห้องผมก็พูดใส่มันไปแรงอยู่เหมือนกัน มันเลยร้องห่มร้องไห้เหมือนสัตว์เลี้ยงมันโดนรถชนตายขนาดนั้น ตอนนั้นผมแอบเห็นมันเช็ดขี้มูกขี้ตาแล้วก็น่าขำฉิบหายแต่ผมโกรธมันมากกว่าไงตอนนั้น เวลามันเดินผ่านผมก็ยังไม่อยากจะมองหน้ามันเลย ที่ผมอยากจะเจอมันตอนนี้นี่อยากด่ามันหรอกนะไม่ใช่อะไร…
“เดี๋ยวกูกลับก่อนนะ กูมีธุระ”
“ไปไหนวะไอ้หล่อดึกๆดื่นๆ?”
“เสือก!”
“แงง! ทำไมพวกมึงไม่มีใครอ่อนโยนกับกูเลยซักคน น้อยใจอ่ะ”
“…”
“เดี๋ยวกูถีบไปปิดร้าน!”
หลังจากออกมาหลังร้านผมก็รีบสตาร์ทรถออกมาทันที ตั้งใจว่าจะไปด่าไอ้ตุ๊กแกมันที่หอให้หายโมโหซักหน่อย แต่รู้สึกว่าในกระเป๋ามีอะไรตุงๆ อ่อ…กล่องถุงยาง แม่ง! ไอ้ตุ๊กแกมันก็เหลือแดกจริงๆ ก็วันที่มันมาที่ห้องผมแล้วร้องโวยวาย ก่อนมันจะกลับก็ขว้างไอ้กล่องถุงยาง 0.01 มาโดนหัวผมดังปั๊กเลย ผมเลยจำใจเก็บไว้จะทิ้งก็เสียดายของ เพราะมันก็ไม่ใช่จะถูกๆ ผมยังต้องเก็บตังค์ไว้ซื้อคอนโดอีก เลยเก็บเอาไว้เองก็แค่…เผื่อได้ใช้ไง
‘ก๊อกๆ’
ตอนนี้ผมยืนอยู่หน้าห้องไอ้ตุ๊กแกมัน อย่างที่บอกกะจะมาด่ามันเฉยๆที่เอาเรื่องผมไปพูด แล้วก็จะด่าต่อเรื่องที่มันไปยอมไปเรียนแค่นั้นเองไม่มีอะไรเลยจริงๆนะ
“ใครครับ? ไอ้ไข่นุ้ยเหรอ? กูไม่เป็นไรมึงไม่ต้องเข้ามาหรอก กูขี้เกียจเปิดประตู”
“…”
“ถ้าขายประกันผมไม่ซื้อนะครับผมมีแล้ว”
“กูเอง!”
“กูไหนครับ ผมไม่มีเพื่อนชื่อกู”
เหมือนเดจาวู แค่เดินมาเปิดประตูนี่มันยากตรงไหน??
‘ปึง!’
ผมเลยเตะประตูแม่งเลย คนยิ่งโมโหๆอยู่
“เชี่ยแม่ง? จะเตะทำไมวะ? ถ้าประตูกูพังจะทำยังไง?”
ไอ้ตุ๊กแกมันเปิดประตูออกมา ในสภาพที่ค่อนข้างเยิน ผมเผ้ายุ่งเหยิง ตาแดงกล่ำแถมปูดเป็นลูกมะนาวอีก แต่พอมันเห็นว่าเป็นผมตามันก็เบิกกว้างกว่าเดิม
“ม…มึงมาทำไม?”
“…”
มันทำท่าจะปิดผมเลยเอาตีนยันประตูไว้ ดีนะวันนี้ผมใส่รองเท้าผ้าไป ไม่ใช่หูหนีบไม่งั้นตีนแตกไปแล้ว ผมก้าวเข้าไปในห้องมันแล้วปิดล็อกประตู
“ม…มึงอย่าเข้ามานะ! กูโกรธอยู่”
“…”
ควรจะเป็นกูมั้ยครับที่โกรธฦฦ ผมเดินเข้าไปใกล้มัน มันทำหน้าตื่นๆแล้วถอยหลังจนติดผนังห้อง
“ทำไมมึงไม่ไปเรียน?”
“เรื่องของกู! มึงจะถามทำไม?”
“กวนตีนนะมึงอ่ะ”
มันทำท่าจะเบี่ยงตัวหลบ ผมเลยใช้สองแขนยันผนังห้องกั้นไม่ให้มันหนี ไอ้ตุ๊กแกมันหน้าแดงผมว่ามันคงโกรธผมมากแน่ๆ
“แล้วมึงจะทำไม?”
เสียงมันเริ่มแผ่วเบาลง แต่ผมก็ได้ยินชัดเจนเพราะหน้าของเราห่างกันไม่ถึงคืบ
“ทำไมมึงต้องเอาเรื่องกูไปพูด?”
ผมต้องพยายามพูดออกไปไม่ให้เสียงสั่น เพราะตอนนี้ในใจผมแกว่งฉิบหาย
“กูไม่ได้พูด!”
“น้ำหน้าอย่างมึงมันเชื่อได้เหรอ?”
ไอ้ตุ๊กแกมันเม้มปากแน่น จนริมฝีปากมันเริ่มซีดแล้ว
“ไม่เชื่อก็เรื่องของมึง แต่กู ไม่ ได้ พูด”
“…”
มันพูดเน้นที่ละคำ หน้ามันแดงจัด จนลามไปถึงหูแล้วก็ลำคอที่เคยขาวๆของมัน มันคงจะโกรธจัด ผมว่าปากมันเริ่มสั่นแล้วด้วย  พอเห็นปากแดงๆของมันขยับ ใจที่เริ่มแกว่งๆของผมมันก็ดันเต้นแรงขึ้นมาซะงั้น ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ ผมแกล้งขยับเข้าไปเบียดมัน จนไม่เหลือช่องว่างระหว่างเรา ผมได้กลิ่นสบู่จากตัวมันหอมอ่อนๆ มันคงเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ
“ม…มึงจะทำอะไร?”
มือของมันดันอยู่ที่หน้าอกผม ผมก็เลยคว้าเอวมันให้กระชับเข้ามาอีก ตามันเบิกกว้างกว่าเดิมคงจะตกใจ ผมว่าไอ้ตุ๊กแกตอนที่มันดูตื่นๆน่ารักกว่าตอนที่มันยั่วยวนผมอีกนะ
“แล้วมึงคิดว่ากูจะทำอะไรหล่ะ?”
ผมกระซิบที่ข้างหูมัน ผมเริ่มไล้เลียติ่งหูมันเบาๆตัวมันสะดุ้งเล็กน้อย
“อ๊ะ!”
“หึ!”
มันส่งเสียงร้อง ผมใช้มือทั้งสองข้างตะปบที่สะโพกมัน แล้วบีบขยำหนักๆหลายครั้ง ตูดมันโคตรเด้งเลย เพลินมือดีจริงๆ
“นี่…มึงอย่านะ!”
ไอ้ตุ๊กแกมันร้องท้วง ผมเลยล้วงเข้าไปในกางเกงผ้าของมันคราวนี้ได้สัมผัสตรงๆ เลยทำให้รู้ว่าตูดของมันนอกจากจะเด้งสู้มือดีแล้วยังเนียนอีกต่างหาก ผมชักจะติดใจแล้วจริงๆ
“ทำไม? ทำยังกะมึงไม่เคย”
“มึงคิดจะทำอะไร?”
“ก็จะเอามึงไง”
“…ปล่อยกู”
ยิ่งมันดันผมออกห่างเท่าไร ผมก็ยิ่งเบียดตัวเองเข้าไปมากขึ้นเท่านั้น ก็ลองดูสิว่าใครจะแน่กว่ากัน
“ทีมึงยังไปให้กูเอาถึงที่ห้อง แล้วทำไมกูจะมาเอามึงที่นี่ไม่ได้?”
“ไอ้เชี่ยอ๋อง อ๊ะ!”
ผมบีบเค้นตูดงอนๆของมันอย่างมันเขี้ยว ไอ้ลูกชายผมมันก็รู้งานดีเหลือเกินเพราะมันเริ่มเตรียมพร้อมละ ผมเลยกระชับสะโพกไอ้ตุ๊กแกเข้ามาแล้วเสียดสีไอ้ลูกชายของเราไปมา
“อ๊ะ! เดี๋ยว”
“อะไรอีกของมึงก็ขึ้นแล้วป่ะ? หรือมึงจะไม่เอา?”
มันหลบสายตาผมที่จ้องมองมัน งงกับมันเหมือนกันเพราะบางทีก็ยั่วผมซะจนผมไปไม่ถูก แต่บางทีมันก็มีท่าทีขัดขืน แต่ผมก็รู้สึกได้ว่าตอนนี้ไอ้ลูกชายของมันก็ดูจะให้ความร่วมมือดี
“ป…ไปที่เตียง”
เสียงไอ้ตุ๊กแกมันกะซิบ เล่นเอาผมขนลุกสู้ๆเลย แม่ง!แค่เสียงครางกระเส่าของมัน ก็ทำเอาผมนี่เคลิ้มได้ ไอ้ตุ๊กแกมันร้ายจริงๆ
มันพาผมเดินไปที่เตียงแล้วผลักผมนอนลงไป แล้วไอ้ตุ๊กแกมันก็ขึ้นมานั้งบนตัวผมตอนนี้มันถอดกางเกงออกไปแล้ว มึงนี่ก็ใจกล้าเนอะ! แต่ไอ้ลูกชายมันยังไม่เต็มที่ซักเท่าไร มันก็ถอดเสื้อตัวเองออกแล้วโยนลงไปข้างเตียง ท่าถอดเสื้อมึงนี่จะฮอตไปไหน?? ผมกลืนน้ำลายดังเอื๊อกเลย! แม่งหัวนมตั้งแล้วอ่ะ โคตรอยากกัดเลย ผมจะหันมาชอบสีชมพูก็ไอ้ตอนนี้แหละ!
 ผมทำท่าจะคว้าเอวมันเข้าหาตัวแต่ก็ถูกมันใช้มือยันหน้าอกไว้แล้วจับผมถลกหนังออก เสื้อยืดของผมถูกโยนไปกองข้างเตียงเหมือนกัน แล้วมือของมันก็เลื่อนขึ้นมาจับที่คางผมและมันก็ยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ
“มึงอยู่เฉยๆกูยังโกธมึงอยู่นะ”
   นี่ตกลงกูผิดใช่มั้ย? กูกะจะมาจัดการมึงให้ ‘ยับ’ แต่กลายเป็นกูกำลังจะถูกมึงจัดการแทนแล้วมั้งเนี่ย
“…”
แล้วผมจะพูดอะไรได้ ก็คงเป็นเหมือนทุกครั้งแหละ ผมก็คงถูกมันจูงจมูกต่อไป…มอๆ
มันโน้มตัวลงมาแล้วจูบที่ปากผมเบาๆ มันเริ่มกัดที่ริมฝีปากล่างผมหลายครั้งแต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไร กลับคิดว่ารู้สึกดีซะอีก ผมได้ยินเสียงอะไรซักอย่างแต่ไม่ได้สนใจ เพราะกำลังถูกไอ้ตุ๊กแกมันล่อลวงอยู่ไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นหรอก มันค่อยๆสอดลิ้นเข้ามาในปากผมแล้วใช้ปลายลิ้นไล่ต้อนผมอย่างหนักหน่วง
“อืม…”
ผมเคยบอกว่าไอ้ตุ๊กแกมันจูบเก่ง แต่ต้องเปลี่ยนคำพูดใหม่เป็นโคตรเก่งต่างหาก!
‘คลิ๊ก’
“อื้อ!”
เสียงโละหะกระทบกันดังคลิ๊ก ผมเงยหน้าขึ้นไปมองที่หัวเตียงก็พบว่ามือของตัวเองถูกกุญแจมือสีชมพูที่มีก้อนฟูๆล็อกไว้กับเล็กหัวเตียงเรียบร้อยแล้ว ให้ตายเถอะ! ผมเริ่มจะกลับมาเกลียดสีชมพูอีกรอบแล้ว
“มึงรู้อะไรมั้ย?”
ไอ้ตุ๊กแกมันยันตัวขึ้นไปนั่งบนเอวผม แล้วก็ส่งยิ้มยียวนกวนประสาทที่สุดมาให้
“…”
“ที่กูไม่ไปเรียนก็เพราะว่ากูรอมึงมานี่แหละ”
“ห๊ะ!”
ผมลองขยับแขน เผื่อว่ากุญแจมือมันจะหลุด แต่ปรากฏว่ามันแน่นมาก
“กูรู้คนอย่างมึงอ่ะใจอ่อนจะตาย เดี๋ยวมึงต้องมาดูกูซักวัน”
“…”
ผมพูดไม่ออกบอกไม่ถูกแต่ที่รู้ๆตอนนี้ รู้สึกจุกมากแต่ไม่ใช่ด้านบนข้างซ้ายนะครับ มันเป็นด้านล่างต่างหากก็มันเล่นบดสะโพกไปมาขนาดนั้น
“อา…ไอ้โต๋ฝากไว้ก่อนเถอะมึง!”
“หึ! มึงจะทำอะไรกูได้หืม ? เอากูน่ะเหรอ? เอาดิกูชอบ”
“…”
ยางอายคงไม่มีเหลือบนหน้าหล่อร้ายของมันแล้ว
มันจัดการถอดกางเกงยีนส์ผมออก เหลือแต่บ๊อกเซอร์สีดำที่นูนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด มันทำท่าจะโยนกางเกงยีนส์ผมไปข้างเตียงเหมือนอย่างเคย แต่มีเสียงกรอบแกรบๆ มันเลยคลำกระเป๋ากางเกงแล้วก็ทำหน้าแปลกใจ ไอ้ตุ๊กแกมันล้วงเข้าไปในกระเป๋าดูแล้วหยิบออกมาดู โป๊ะแตก! มันเป็นกล่องถุงยาง!
“นี่มึงตั้งใจจะมาเอากูจริงๆใช่มั้ย??”
มันยิ้ม แต่มันไม่ได้หวานหยดย้อยอะไรเลย แต่มันเป็นยิ้มที่ดูแล้วเจ้าเล่ห์ที่สุดต่างหาก!
“เออ! แล้วไง??”
กล้าทำก็ต้องกล้ารับ กูมันแมนๆอยู่แล้ว
“มึงติดใจกูเหรอ?”
“หึ! อย่าฝัน!”
กูแค่ติดใจตูดเด้งๆของมึงเถอะ ไม่ใช่ติดใจมึงเล๊ย
“กูจะทำให้มึงขาดกูไม่ได้เลยไอ้อ๋องมึงคอยดูก็แล้วกัน!”
ไอ้ตุ๊กแกโต๋มันโน้มตัวลงมาแล้วกัดที่ซอกคอผม สัด!เจ็บจี๊ดเลย
 “อ๊ะ!”
มันไซร้ที่ซอกคอผม ดูดจนเกิดเสียงดัง ผมเดาว่าต้องเป็นรอยแน่ๆ เท่านั้นยังไม่พอ มันค่อยๆพรมจูบมาที่เนินอก แล้วใช้ลิ้นไล้วนที่หัวนมสีน้ำตาลของผม ก็ผมไม่ได้ตัวขาวเหมือนมันนี่จะได้มีหัวนมชมพูกะเขาอ่ะ
“อา…”
แม่งจริงดิวะ ผมต้องนอนให้มันย่ำยีแบบนี้จริงๆเหรอ คิดแล้วก็ขนลุกสู้ๆเลย
“อ๊ะ! ไอ้โต๋กูเจ็บ”
มันกัดหัวนมผมแล้วเลียเบาๆ ตบหัวแล้วลูบหลังนะมึงอ่ะ
“มึงรู้มั้ยไอ้อ๋อง? แม่งหุ่นมึงนี่โคตรน่ากัดเลย…”
“…”
ก็พอรู้ ไม่งั้นมึงคงไม่ลูบๆคลำๆทำตาเป็นประกายขนาดนี้หรอก  แต่ชมอย่างเดียวก็พอ ไม่ต้องกัดหรอกกูกลัวเจ็บ
 “อืม…”
ผมก็ต้องปล่อยให้ไอ้ตุ๊กแกมันลูบไล้หน้าท้องผมจนอิ่ม ซึ่งมันทำให้ตัวผมนี่เกร็งจน ’แข็ง’ เลย แล้วมันก็ล้วงต่ำเข้าไปด้านในบ๊อกเซอร์ของผม ไอ้ลูกชายตัวดีที่มักชอบทำเรื่องขายหน้าให้ผม ก็ต้อนรับขับสู้กับมือมันดีอย่างเคย พอโดนหลายๆครั้งมันคงจะชิน จะทำให้กูขายหน้าไปถึงไหนถามหน่อย?
“อา…อืม”
“หึ! คิดว่าจะแน่ มึงไม่ทันกูหรอกไอ้อ๋อง”
เออจริง! กูสู้มึงไม่ได้ซักอย่าง อยากทำอะไรก็เชิญเลย จะขึ้นจะขย่มอะไรก็ตามใจมึงแต่อย่าให้กูมาเสียเที่ยวก็แล้วกัน ไม่หมดกล่องห้ามหยุด!
หน้าท้องผมเกร็งขึ้นมากระทันหันเมื่อปลายลิ้นร้อนแตะลงมาที่ไอ้ลูกชายตัวดี
“อืม…ซี๊ดดดด…อา”
หลังจากนั้นก็คงไม่ต้องบอกนะครับว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้…
เช้านี้ผมตื่นขึ้นมาด้วยความมึนงง เพดานห้องแบบนี้ไม่ใช่ห้องกูนี่หว่า พอมองที่มือตัวเอง ก็เห็นข้อมือที่มีรอยแดง มันไม่ได้เป็นรอยใหญ่โตอะไรหรอก ที่มองก็แค่อยากรำลึกถึงที่มาของมันต่างหาก ที่มาของการถูกไอ้ตุ๊กแกมันย่ำยีอีกครั้ง เล่นเอาผมเสียไปหลายน้ำเลยทีเดียว จะว่าไปผมก็ปวดหน้าขาหน่อยๆ แล้วก็รู้สึกว่าขาอ่อนล้ายังไงก็ไม่รู้
หลังจากยกแรกผ่านไป ไอ้ตุ๊กแกมันก็ปล่อยมือผมป็นอิสระ พอมือผมหลุดได้เท่านั้นแหละ ผมก็รีบจับมัน ‘กด’ต่อทันที่ ไม่ได้หรอกครับ ไอ้นี่น่ะมันแผนสูงชอบหลอกล่อผมให้ติดกับได้ง่ายๆ ผมเลยต้องเอาคืนบ้าง พอหันไปมองไอ้ตุ๊กแกที่ตอนนี้มันยังหลับอยู่ ดูท่าทางมีความสุขเหลือเกิน ลบคราบหน้าตาเยินๆของมันเมื่อวานไปแทบหมดสิ้น เหลือแต่ไอ้หนุ่มรูปหล่อที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ สงสัยได้น้ำดี เพราะจริงๆแล้วมันก็…ของผมเองแหละ!
 ผมลุกขึ้นยืนแล้วเซนิดหน่อย แม่งขาสั่นหว่ะ! พอมองไปรอบๆ ก็เห็นว่าห้องนี้มันเหมือนผ่านสงครามย่อมๆมาเลย เสื้อผ้ากระเด็นกระดอนกันไปคนละทิศคนละทาง ถุงยางใช้แล้วเกลื่อนห้อง ผมต้องเดินด้วยขาที่สั่นๆเพื่อไปเก็บรวบรวมเสื้อยืด กางเกงยีนส์แล้วก็บ๊อกเซอร์ที่มันกระเด็นไปคนละทิศคนละละทางมาสวม พอสวมเสื้อผ้าเสร็จหันไปมองมัน เห็นตูดมันโผล่พ้นผ้าห่มมาก็ชักมันเขี้ยว เลยเดินไปฟาดตูดมันทีนึง
‘เพี้ยะ’
“อื้อ…ใครวะ…”
เสียงมันยังงัวเงียอยู่ มันนอนบ่นงึมงำๆ แต่ไม่ยังยอมลืมตา บทจะร้อนแรงก็สุดๆใครฉุดไม่อยู่จริงมึงเนี่ย! เล่นเอากูขาสั่นไปหมด ผมเดินออกมาจากห้องมันเพื่อกลับห้องตัวเอง ยังนะครับผมยังไม่ได้หายโกรธมันเรื่องที่มันเอาเรื่องผมไปพูดนะ แค่ลดลงนิดนึง นิดเดียวเท่านั้น! เพราะนี่แค่มาเก็บดอกเฉยๆ ถ้าเกิดผมรู้สึกโกรธมันขึ้นมาอีก ผมก็อาจจะมาเก็บดอกอีกนะครับ คราวหน้าอาจจะมีทบต้นด้วยก็ได้ แต่ผมว่าไอ้ 0.01 นี่มันใช้ดีจริงๆ คงต้องไปซื้อเตรียมไว้ซักโหลแล้วล่ะ

จบตอนที่ 14

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 14 ขาสั่นระริกเลยผม 11-12-2020
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 11-12-2020 18:56:52
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 14 ขาสั่นระริกเลยผม 11-12-2020
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 11-12-2020 21:22:04
 o13 :hao6:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 14 ขาสั่นระริกเลยผม 11-12-2020
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 11-12-2020 22:14:51
 :laugh:


หิวโซกันทั้งคู่เลยยยย
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 14 ขาสั่นระริกเลยผม 11-12-2020
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 12-12-2020 20:08:45
 :hao3:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 14 ขาสั่นระริกเลยผม 11-12-2020
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 14-12-2020 13:20:49
เนี้ย!!ชอบบบความเสแสร้งแกล้งไสยไสยแต่ดุมากกกกของท่านอ๋อง  :oo1: และโต๋ไหวนะ ท่าไหนก็บ่ยั่น  :impress2: 55555 อ่านไปก็เพลินดี ทั้งขำโต๋และชอบความดุของนายแว่น แต่แอบหมั่นไส้นายแว่นว่ะ เอออย่าให้ถึงวันโต๋จะตัดใจจากเธอแล้วกัน วันนั้นจะรู้สึก ตอนนี้โต๋กำลังพยายามถ้าเต็มที่แล้ว ยังไม่ยอมรับอีก คงตัดใจ วันนั้นแหละจะหัวเราะเยาะนายแว่น ชิ 5555

ปล.ขอแนะนำสิ่งที่อยากให้ปรับเปลี่ยนจริงๆคือการเว้นวรรคของแต่ละฉาก จะห่าง2,3 บรรทัดก็ว่าไป ให้ห่างหน่อยแต่ก็ไม่ห่างมาก มีเคาะบรรทัด มีย่อหน้า ถ้าจัดดีนี้น่าสนใจกว่านี้เลย ส่วนตัวเรามองว่าบรรทัดติดกันพรืดแบบนี้อ่านยาก มันชวนให้ขี้เกียจด้วย ลองพิจารณาดูนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ขอบคุณสำหรับการแต่งนิยายและมาอัพในนี้ให้ได้อ่านกัน รอตอนต่อไปเลย จะเป็นยังไงต่อ  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 14 ขาสั่นระริกเลยผม 11-12-2020
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 15-12-2020 00:26:35
แอบมาส่องทุกวันเลย
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 14 ขาสั่นระริกเลยผม 11-12-2020
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 06-05-2021 23:10:10
รอข้ามคืน
หัวข้อ: Re: ###รักไสยไสยของนายแว่น### ตอนที่ 14 ขาสั่นระริกเลยผม 11-12-2020
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 15-05-2021 22:31:31
 :pig4: :pig4: :pig4: