love will happen when it wants #เพราะรักรออยู่ - ตอนที่ 19 - 05-24-2021
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: love will happen when it wants #เพราะรักรออยู่ - ตอนที่ 19 - 05-24-2021  (อ่าน 5976 ครั้ง)

ออฟไลน์ SUNSCREEN50

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
บทที่ 18





ผมที่ต้องตื่นนอนก่อนเวลาปกติ นั่งอึนมองดูไอ้ลิงที่ยืนหมุนไปหมุนมาอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า ไม่รู้ว่าจะอารมณ์ดีอะไรนักถึงได้ยิ้มจนปากจะฉีกไปถึงหู

จำได้รางๆ ว่าเมื่อตอนเช้ามืดมันมากระซิบบอกว่าจะกลับไปอาบน้ำแต่งตัวที่ห้อง ผมที่รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างก็เออออตอบรับออกไปเพราะอยากจะรีบนอนต่อ นึกว่าออกไปแล้วจะรออยู่ที่คอนโดเหมือนทุกวัน ที่ไหนได้ ไอ้กุนที่อยู่ในชุดพร้อมไปทำงานเต็มยศ มันจะกลับมาพร้อมกับของใช้ส่วนตัวและชุดอื่นๆ ของมันอีกหลายชุด แถมมันยังกำลังยัดเอาทุกอย่างไว้ในตู้เสื้อผ้าของผมหน้าตาเฉย

“ขนเสื้อผ้ามาอยู่ห้องคนอื่นเนี่ย เจ้าของห้องเขาอนุญาตแล้วหรอ” ผมถามเมื่อเสื้อตัวสุดท้ายถูกนำขึ้นแขวนในตู้แล้วเรียบร้อย

“ยัง แต่คิดว่าพี่คงอนุญาตแน่ๆ ” คนพูดทำหน้าระรื่น จ้อไปก็แทรกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของตัวเองไปตรงที่ว่างข้างกระเป๋าเดินทางของผมที่อยู่ในตู้ ก่อนจะหันขวับกลับมาทำหน้าเศร้าใส่ “หรือว่าพี่จะไม่อนุญาต”

โธ่ๆๆ ..

จากหน้าที่บานเป็นชามข้าวไอ้มอม ตอนนี้กลับเหี่ยวเป็นลูกโป่งแก๊สรั่วขึ้นมาเสียอย่างนั้น

นี่ถ้าเก๋มันมาเห็นก็คงจะต้องรีบวิ่งเข้าไปโอ๋ แล้วก็หันมาหาว่าผมไปแกล้งอะไรลูกรักของมันอีกแน่ๆ

แต่’โทษทีว่ะ นี่ไอ้ปอ ไม่ใช่ไอ้เก๋ ดูก็รู้แล้วเถอะว่าไอ้ลิงนี่มันแกล้งทำ

“ถึงไล่ก็ไม่ไปอยู่ดีไม่ใช่หรอ”

“ก็ถูกของพี่” คนที่ถูกจับไต๋ได้หัวเราะกับคำถามแกมแดกดันของผม มันปรี่มานั่งเบียดอยู่ข้างๆ ก่อนจะแตะริมฝีปากลงมาที่ไหล่ เพียงครู่เดียวก็ผละออกมาส่งยิ้มกว้างจนตาหยีให้ “แต่กุนรู้อยู่แล้วไง ว่าพี่ปอใจดี พี่ปอไม่มีทางไล่กุนกลับแน่ๆ ..”

เหอะ! พี่ปอไม่มีทางไล่กุนกลับแน่ๆ

ก็ชอบเป็นเสียอย่างนี้

“..ถูกไหมครับ”

ชอบพูดแบบนี้

ชอบทำหน้าแบบนี้

“ก็มึงมันเอาแต่ใจไงกุน”

“แปลว่าถูก”

มันรู้ดีไปเสียหมด..

“ก็ไม่เคยห้ามได้อยู่แล้วนี่”

ตามใจกันจนเคยตัวไปหมดแล้ว





ผมผลักสมาชิกใหม่ของห้องออกห่างตัวแล้วหนีไปอาบน้ำ ถึงแม้ว่าตอนออกมาจะไม่เจอกุนอยู่ในห้องนอนแล้ว แต่ก็รู้ว่าว่าอีกคนไม่ได้ไปไหนไกล เพราะยังคงได้ยินเสียงก๊อกแก๊กดังมาจากนอกห้อง โทรศัพท์กับกระเป๋าสตางค์ของไอ้กุนก็ยังคงวางอยู่ที่โต๊ะข้างเตียงไม่ได้ขยับไปไหน

..ถ้าให้เดาก็คงจะเตรียมหาอะไรรองท้องก่อนไปทำงานอยู่นั่นแหละ..

มือที่กำลังไล่ติดกระดุมเม็ดสุดท้ายเกิดชะงัก เพราะเงยหน้าขึ้นมาเห็นเงาสะท้อนของตัวเองที่กำลังยิ้มอยู่ในกระจก ก่อนภาพนั้นจะเปลี่ยนเป็นผมที่เม้มปากเข้าหากันแน่นเพื่อซ่อนรอยยิ้มของตัวเองเอาไว้

แค่คิดว่าไอ้กุนกำลังจะทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ ให้ ใจมันฟูจนต้องเผลอยิ้มออกมาแบบนี้เลยหรอ

ตายๆๆ นี่ถ้าไอ้ธีร์กับไอ้กรวยมาเห็นผมเสียอาหารเพราะเด็กนั่นแบบนี้ มีหวัง..

..โดนไอ้พวกนั้นล้อกันยับ





แต่งตัวเสร็จ ปรับอารมณ์และสีหน้าให้เป็นปกติได้ ประตูห้องนอนก็ถูกเปิดออก มันพอดีกันกับที่ชามโจ๊ก 2 ชามถูกไอ้กุนยกมาวางลงบนโต๊ะกินข้าว เนื้อโจ๊กสีขาวนวลตัดกับสีส้มเข้มของไข่ไก่ที่ลอยอยู่ด้านบนส่งกลิ่นหอมไปทั่วห้อง ผมชะโงกหน้าดูทั้ง 2 ชามก่อนจะเลือกเดินไปนั่งลงตรงชามที่มีเครื่องแน่นๆ ทั้งก้อนหมูสับ เครื่องใน และผักโรยต่างๆ

ไม่ใช่เลือกเพราะได้เครื่องเยอะกว่า แต่รู้ว่าชามนี้ของผมแน่ๆ เพราะไอ้กุนตักเอาของที่ตัวเองไม่ชอบกินมาใส่ในชามผมหมดแล้ว แค่นั้นยังไม่พอ ไอ้กุนมันยังยกปาท่องโก๋จิ๋วที่เราทั้งคู่ชอบกินเหมือนกันมาให้ผมทั้งหมดด้วย

แก้วน้ำเย็นถูกนำมาวางให้ข้างๆ ส่วนคนวางก็เดินวนไปนั่งประจำที่ชามโจ๊กเด็กของตัวเองที่มีเพียงก้อนหมูสับและไข่ลวกพร้อมแก้วน้ำอีกแก้วในมือ รู้สึกว่าตัวเองเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวอีกครั้งก็ตอนที่ไอ้กุนส่งยิ้มกลับมาให้

เพิ่งจะบ่นตัวเองเรื่องเผลอยิ้มไปเมื่อไม่ถึง 5 นาทีที่ผ่านมาแท้ๆ ตอนนี้เหมือนว่าจะลืมมันไปจนหมดแล้ว

ผมหุบยิ้ม ก้มหน้าลงเพื่อหลบสายตาแสนอบอุ่น ค่อยๆ ละเลียดตักไข่ลวกของตัวเองไปใส่ชามอีกฝั่งอย่างเบามือ

ไม่อยากมัวแต่คอยรับความน่ารักของไอ้กุนอยู่ฝ่ายเดียว และอย่างน้อยก็เพื่อเป็นรางวัลให้คนช่างเอาใจบ้าง แต่ไม่นึกเลยว่าความคิดนั้นจะผ่านมาในหัวของผมเพียงแค่วูบเดียว เพราะไอ้ลิงนั่นมันวิ่งเอามือใหญ่ๆ ของมันทั้งสองข้างมาตะปบเข้าที่ข้างแก้ม เพื่อบังคับให้ไปหา ก่อนจะกระแทกริมฝีปากของมันลงมาตรงที่เดียวกันกับของผมจนรู้สึกเจ็บ แล้วก็วิ่งกลับไปนั่งที่เดิมเหมือนกับเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทิ้งให้ผมกระฟัดกระเฟียดกับการกระทำของมันอยู่คนเดียว

นี่ผมหลงไปคิดว่าไอ้ลิงเจ้าเล่ห์นี่มันน่ารักได้ยังไงกัน

ไม่น่ายกไข่ให้มันเลยให้ตาย











วันจันทร์แรกของเดือนก็ยังคงน่าปวดหัวเป็นปกติ จะพิเศษก็ตรงที่วันนี้หัวข้อหลักของการประชุมประจำเดือนคือกิจกรรมที่เพิ่งผ่านมาเมื่อวาน พี่ชาติส่งยิ้มมาให้ด้วยความภูมิใจหลังจากที่ผมกล่าวจบรายงานในเรื่องที่ตัวเองรับผิดชอบ ส่วนผมเองก็ส่งยิ้มด้วยความโล่งใจกลับไปเหมือนกัน

เพราะกิจกรรมทุกอย่างผ่านไปด้วยดี พี่ชาติเลยบังคับให้ออกมารายงานด้วยตัวเองโดยที่ผมไม่เต็มใจนัก เพราะนึกไปถึงอีกด้าน ว่าถ้าเกิดงานไม่เป็นที่น่าพอใจขึ้นมา ต่อให้ผมอยากออกมายืนตรงนี้ขนาดไหนพี่ชาติก็คงไม่มีทางยอมให้ผมได้ออกมารับผิดเองแน่ๆ

ผู้มีอำนาจในบริษัทกล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยทำให้ทุกอย่างจบลงได้ด้วยดีตามระเบียบ และไม่ลืมที่จะกล่าวฝากเป็นการกดดันไปยังแผนกที่ต้องรับผิดชอบในครั้งหน้า จากที่ตอนแรกแอบบ่นพี่ชาติอยู่ในใจ ว่ามือไม่ดีจนจับได้เป็นแผนกแรก ตอนนี้เริ่มอยากจะกราบขอบคุณพี่ชาติขึ้นมาเสียแล้ว

เมื่อการประชุมครึ่งวันแรกจบลง ผมก็เริ่งฝีเท้ากลับมาที่ห้องทำงานของตัวเองทันที รีบจนลืมถามพี่ชาติไปเลยว่าจะกลับเข้ามาทันเริ่มประชุมในช่วงบ่ายไหม ต้องให้ผมเปิดประชุมแทนก่อนหรือเปล่า แต่กว่าจะนึกขึ้นมาได้ประตูห้องทำงานของผมก็ถูกผลักให้เปิดออกแล้ว ไอ้หมากุรีบกระดิกหางออกมารับ มันส่งคำถามเชิงเป็นห่วงเป็นใยจนเวอร์มาให้ ทำราวกับผมไม่ได้เพิ่งออกจากห้องประชุม แต่เพิ่งกลับมาจากสนามรบ

คนหิวแต่กินข้าวคนเดียวไม่ได้กุลีกุจอไปเตรียมเปิดกล่องข้าวเปิดขวดน้ำไว้ให้ พอเห็นผมเดินตามไปนั่งประจำที่ถึงได้ยอมตักข้าวเข้าปาก ก็นี่แหละ เหตุผลที่ทำให้ลืมพี่ชาติไปเสียสนิท เห็นแบบนี้แล้วจะไม่ให้รีบกลับมากินข้าวด้วยได้ยังไง

นั่งกินข้าวไปฟังไอ้กุนเล่าเรื่องที่ไปช่วยงานไอ้เก๋ไป แป๊บๆ ก็ถึงเวลาที่จะต้องเริ่มประชุมอีกครั้งในช่วงบ่าย พี่ชาติมาถึงหน้าห้องประชุมก่อนเริ่มประชุมเพียงไม่กี่นาที ขณะที่ทุกคนกำลังเสียดายที่พี่ชาติมาเข้าประชุมทันอยู่นั้น ไอ้กุนก็ขยับมากระซิบข้อความที่ทำให้ผมคิดไม่ตกตั้งแต่บ่ายจนถึงตอนนี้





‘เย็นนี้ผมมีนัดกับเพื่อนๆ พวกนั้นอยากให้พี่ไปด้วย ไปด้วยกันนะครับ’







“ไม่เข้าไปด้วยได้ไหม กูไม่รู้จักใครเลย” รถที่วันนี้ไม่ได้มุ่งหน้ากลับคอนโดเหมือนทุกวัน เกิดการต่อรองกันขึ้น อยู่ๆ ก็บอกแบบนั้น พอเลิกงานก็พามาเลย ไม่ถามความสมัครใจเลยสักคำ แบบนี้มันกักขังหน่วงเหนี่ยวกันชัดๆ

“ก็ไปทำความรู้จักกันนี่ไงครับ อีกอย่างผมบอกพวกนั้นไปแล้วว่าพี่จะไปด้วย”

ไม่รู้เพราะรูปถ่ายของผมที่อีกคนขยันโพสต์ลงบนช่องทางโซเชียลของตัวเองหรือว่าอะไร บรรดาเพื่อนๆ ของเจ้าของแอคเค้าท์ถึงได้ขยันเข้ามาถามกันเหลือเกินว่าผมคือใคร มีความสัมพันธ์ยังไงกัน ถึงได้ไปปรากฏภาพในช่องทางที่ไม่ใช่ของตัวเองอยู่บ่อยๆ แล้วไอ้คนโพสต์นี่ก็เหลือเกิน มันก็เลือกที่จะเมินคอมเม้นต์เหล่านั้น แต่ไปตอบคำถามอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวกับผมแทน

“นะครับพี่ปอ ไปด้วยกันนะครับ”

อ่ะ! อ้อน

อ้อนเข้าไป

อ้อนให้สุดๆ

“เออๆ ไปก็ไป แต่ไม่ดึกนะพรุ่งนี้ทำงาน”

“สี่ทุ่มปุ๊บออกจากร้านปั๊บเลย สัญญา! ”





กว่าจะมาถึงร้านท้องฟ้าก็เปลี่ยนไปเป็นสีดำสนิทแล้วเรียบร้อย ร้านอาหารที่กุนบอกว่านัดเพื่อนเอาไว้ นับว่าบรรยากาศดีใช่เล่น นี่ขนาดยังหัวค่ำอยู่ โต๊ะที่ตั้งเรียงรายอยู่ในส่วนเอ้าท์ดอร์ก็ถูกจับจองจนเต็มไปหมดทุกตัวแล้ว

“ไอ้กุน! ทางนี้! ”

ผมและกุนหันไปตามเสียงเรียกที่ดังขึ้นจากทางขวามือ โต๊ะจำนวน 12 ที่นั่งที่ดูแล้วน่าจะใหญ่ที่สุดในร้านแน่นไปด้วยหนุ่มและสาววัยรุ่น ทุกคนต่างยกมือขึ้นโบกทักทายคนมาใหม่พร้อมกับส่งสายตาล้อเลียนมาให้จนทำเอาผมเองก็ปั้นหน้าไม่ถูก

ไอ้กุนไม่รอช้าที่จะออกแรงดันที่หลังของผมเบาๆ เพื่อตรงไปหาเพื่อนๆ นับสิบ พอตกลงเรื่องที่นั่งได้ และเพื่อนๆ กล่าวทักทายกันเรียบร้อย คราวนี้ก็มาถึงคิวของคนแปลกหน้าอย่างผม

“ไอ้สัสกุน ใจคอมึงจะไม่แนะนำคนที่พามาด้วยให้พวกกูรู้จักหน่อยหรอ” ผู้ชายผิวคล้ำแดดที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามท้วงขึ้นเสียงดัง “ชื่ออะไรหรอครับ ผมบีมนะ”

“ชื่อพี่ปอ” ไม่รอให้ผมได้เปล่งเสียงออกมา ไอ้กุนก็ชิงตอบคำถามให้เสร็จสรรพ

“เชี่ยยย รุ่นพี่เลยหรอวะ สวัสดีครับพี่” พ่อหนุ่มที่ชื่อบีมยกมือขึ้นไหว้

เท่านั้นแหละ

ทุกคนในโต๊ะก็พากันยกมือไหว้ผมกันเป็นแถว คนโน้นก็เรียกพี่ปอ คนนี้ก็เรียกพี่ปอ รับไหว้กันแทบไม่หวาดไม่ไหว ผมถึงกับต้องหันไปยิ้มขอบคุณน้องพนักงานไปหนึ่งที เพราะอาหารที่น้องยกมาเสิร์ฟได้ช่วยชีวิตผมเอาไว้ เหล่าหนุ่มสาวผู้หิวโหยถึงได้ลดความสนใจจากผมลง แล้วหันไปให้ความสนใจกับอาหารที่อยู่ตรงหน้าแทน

โงกุนตอนที่อยู่กับเพื่อนก็เหมือนโงกุนตอนที่อยู่ในที่ทำงาน เจ้าตัวยังคงโดดเด่น และเป็นที่รักของกลุ่มเพื่อน แต่ความผิดปกติที่ผมสังเกตได้จากสายตาของทุกคนที่กำลังมองมา ก็คงจะหนีไม่พ้นตอนที่ไอ้คนข้างๆ คอยตักโน่นตักนี่มาให้ แถมยังคอยใส่ใจผมอยู่ตลอด โดยไม่ได้สนใจสายตาของเพื่อนตัวเองเลยสักนิด

“กูอยากรู้อย่างเดียวเลยนะ พี่ปอนี่เป็นอะไรกับมึงวะกุน”

หลังจากจัดการกับอาหารกันจนอิ่มท้อง เรื่องของผมและคนข้างๆ ก็ถูกยกขึ้นมาเป็นหัวข้อของการสนทนาอีกครั้ง

จริงๆ ก็เตรียมใจเอาไว้อยู่แล้วว่าจะต้องเจอคำถามประมาณนี้ แต่ก็ไม่ได้คิดเตรียมคำตอบเอาไว้

อย่าว่าแต่เพื่อนไอ้กุนเลยที่สงสัย ถ้าให้ผมนิยามความสัมพันธ์ของผมกับไอ้กุนในตอนนี้ผมเองก็คงอธิบายออกมาเป็นชื่อเรียกไม่ถูกเหมือนกัน

“นั่นดิวะ” เพื่อนอีกคนรีบตามมาสมทบ “ตกลงพี่ปอนี่ เป็นคนคุยใหม่ของไอ้กุนหรือเปล่าครับ”

“ไม่ใช่” กุนสวนคำตอบออกไปแทนผมทันทีโดยไม่ต้องคิด ผมเลยได้แต่ส่งยิ้มเพื่อยืนยันคำตอบนั้นไปอีกครั้ง จะว่าไปตั้งแต่เข้ามานั่งจนกินข้าวอิ่มไอ้กุนยังไม่ยอมปล่อยให้ผมได้ตอบคำถามใครเลยสักคน เพราะเจ้าตัวมันแย่งไปตอบเองเสียหมด

“งั้นก็เป็นแฟน”

“..ก็ยังไม่ชะ”

“โอ้ย ไอ้กุน มึงปล่อยให้พี่เขาพูดบ้างเถอะ ตั้งแต่มากูยังไม่ได้ยินเสียงเขาเลยเนี่ย”

หัวใจของผมกระตุกวูบพร้อมกับเสียงฮาครืนของทั้งโต๊ะที่ดังตามมา เมื่อหญิงสาวเพียงคนเดียวในโต๊ะโวยวายขึ้น ทุกคนมองเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องตลก และพากันมองข้ามจังหวะที่ไอ้กุนชะงักไปก่อนจะตอบคำถาม

ถึงจะไม่นาน แต่เพียงแค่นั้นก็ทำห้ผมก็รู้สึกได้

นั่นไม่ใช่เรื่องที่ควรจะมองข้าม

“ก็กูจะไม่ให้คุยอ่ะ พี่ปออย่าไปคุยกับพวกมัน” กุนยื่นมือข้างหนึ่งมาบังตรงช่วงปากของผมเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนมืออีกข้างมาบังตรงช่วงตาด้วย “อย่าไปมองพวกมันด้วย เสียสายตาหมด”

“โธ่ ไอ้ขี้หวง”





เพราะท่าทีของไอ้กุน ห้วข้อสนทนาเลยเปลี่ยนไปเป็นเรื่องอื่นอีกรอบ เสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะ เพราะต่างคนก็ต่างแย่งกันเล่าเรื่องราวของตัวเองช่วงที่ไม่ได้เจอกัน จะมีก็แต่ผมนี่แหละที่ยังคงสลัดเรื่องที่อยู่ในหัวไม่หลุด

ไม่ได้เป็นอะไรกัน..แต่ดันยอมมันไปเสียทุกเรื่อง

ไม่ได้เป็นอะไรกัน..แต่แค่รู้สึกว่าอีกคนมีอะไรผิดแปลกไป ก็ต้องเก็บเอามาคิดกระวนกระวายอยู่คนเดียวแบบนี้

ความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อเรียกหรอ?

ตลกและ

ไอ้ความสัมพันธ์เหล่านั้นมันจะไม่มีชื่อเรียกไปได้ยังไง มันจะไม่มีก็เพราะผมนี่แหละที่เป็นคนผลักมันออกไปจากตัว ผมนี่แหละที่ทำเป็นไม่สนใจ ผมนี่แหละที่ปฏิเสธสถานะที่ไอ้กุนตั้งใจจะมอบให้มาตลอด

ผมนี่แหละที่เป็นคนที่สงสัยในความสัมพันธ์ของเราสองคนมากที่สุด

เป็นผมเองนี่แหละที่ไม่ยอมรับในความสัมพันธ์ที่มันชัดเจนขนาดนี้

“กุน” ป้องมือไปกระซิบหาเจ้าของชื่อที่ข้างหู คนที่กำลังใช้ซ่อมหั่นเมล่อนที่สั่งมาล้างปากหลังอาหารก็เอียงตัวเข้ามาหาโดยอัตโนมัติ “เป็นแฟนกันปะ”

เคร้ง!

ซ่อมที่ตอนแรกอยู่ในมือไอ้กุนถูกทิ้งให้กระทบกับจานกระเบื้องเสียงดังลั่น นั่นทำให้ทุกคนในโต๊ะหันมามองที่ต้นตอของเสียงเป็นตาเดียว จากมุมนี้ของผมเห็นใบหูที่กำลังเปลี่ยนเป็นสีระเรื่อขึ้นแม้จะอยู่ในที่มืด ไอ้กุนเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนตรงหน้าก่อนจะค่อยๆ หันมาสบตากับผม คิ้วหนาเริ่มขมวดเข้าหากันช้าๆ สีหน้าตกใจเสียจนเก็บเอาไว้ไม่มิดของกุนทำให้ผมนึกขำ รู้สึกเอ็นดูมันจนต้องเลื่อนมือไปหมายจะดันคิ้วทั้งสองข้างแยกออกจากกันให้

ผมทำได้เพียงแค่แตะนิ้วลงไปเท่านั้น ไอ้กุนก็คว้ามือของผมไปแนบที่ตรงกลางระหว่างอกแทน

ตอนแรกก็ตกใจ แต่พอสัมผัสได้ถึงการสั่นรัวของก้อนเนื้อด้านใน ก็พานทำให้ผมใจเต้นแรงตามไปด้วย ทั้งหน้าทั้งตาตอนนี้ต่างก็พากันเห่อร้อนไปหมด คิดว่าตัวเองคงจะไม่เป็นอะไร เพราะเป็นฝ่ายจู่โจม แต่พอเอาเข้าจริงๆ กุนมันก็ทำผมเขินใช่เล่น

“ผมเหมือนจะตาย” ไอ้กุนพูดเสียงอ่อยราวกับย้ำว่ากำลังจะขาดใจขึ้นมาจริงๆ ส่วนทางผมที่เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่ามีสายตานับสิบจ้องมา ก็ค่อยๆ ขืนมือออก แต่พอทำแบบนั้นอีกฝ่ายก็ยิ่งออกแรงกำมันเอาไว้แน่นขึ้น “เดี๋ยวดิ ผมยังไม่ได้ตอบพี่เลยนะว่า โอ้ย”

มือข้างที่ว่างฟาดดังป๊าบลงไปบนปากที่กำลังพูดไปยิ้มไปจนไอ้กุนร้องเสียงหลง สายตาน่าเอ็นดูในตอนแรกกลับมาเป็นสายตาของไอ้ลิงเจ้าเล่ห์อีกครั้ง เจ็บภาษาอะไร ทำไมยังดูหน้าระรื่นขนาดนี้

“กูกลับก่อนนะ” อยู่ๆ ไอ้กุนก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มันออกแรงดึงมือที่ยังจับกันไว้อยู่เบาๆ เพื่อให้ลุกขึ้นตาม “กูมีธุระด่วนว่ะ ไว้นัดกันใหม่นะ”

ไม่ต้องรอคำอนุญาตจากเพื่อนคนไหนเพราะไอ้กุนไม่คิดจะรอฟังตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตอนนี้ผมเลยโดนไอ้กุนจับยัดมานั่งอยู่ในรถตำแหน่งเดียวกับตอนมา ส่วนตัวมันก็กำลังเดินอ้อมไปยังที่นั่งฝั่งคนขับ

ไอ้กุนขึ้นมาสตาร์ทรถ เปิดแอร์จนความเย็นเริ่มกระจายไปทั่ว แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะบังคับรถให้เคลื่อนตัวออกจากร้าน

“ยังไงครับคุณ”

“อะไรยังไง” ผมแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจในสิ่งที่มันพูด ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าอีกคนกำลังจะสื่อถึงอะไร “ออกรถดิ อยากกลับไปอาบน้ำแล้ว”

“เขินแหละ..รู้”

“เก่งเหลือเกินนน” รู้ว่าคนอื่นเขินก็ยังจะย้ำอยู่นั่น เปลี่ยนเรื่องเถอะ ผมว่าไม่น่าไหว “แล้วทิ้งเพื่อนออกมาแบบนี้ไม่เป็นอะไรหรอ”

พูดจบก็หันหน้าหนีออกนอกหน้าต่าง แสร้งมองกลับเข้าไปในร้านทั้งที่มองจากตรงนี้ก็มองเห็นแต่ต้นไม้ที่ปลูกเอาไว้แยกส่วนลานจอดรถกับส่วนร้านออกจากกัน

“พี่ปอครับ” ดูท่าแล้วไอ้ลิงนี่คงจะไม่ยอมให้ผมเปลี่ยนเรื่องได้ง่ายๆ เพราะนอกจากจะถูกเรียกด้วยน้ำเสียงไม้ตายแล้ว มือของผมยังถูกฉวยเอาไปกุมไว้ด้วย

ผมจำต้องหันมาสบตากับกุนอีกครั้ง มันส่งยิ้มมาให้แล้วยกมือที่รวบนิ้วมือทั้งห้าของผมเอาไว้ขึ้นไปจรดกับริมฝีปาก เขินจนอยากจะวิ่งลงจากรถไปเสียตอนนี้ ติดอยู่นิดเดียวตรงที่ผมไม่สามารถละสายตาออกจากดวงตาที่มีแค่ผมอยู่ในนั้นของไอ้กุนได้

“เป็นแฟนกันปะ”

ประโยคเดียวกัน ต่างก็แค่คนพูด

ผมว่าผมรู้แล้วว่าตอนที่นั่งอยู่ในร้านทำไมกุนมันถึงได้บอกว่ามัน เหมือนจะตาย

ก่อนนี้ถึงผมจะรู้สึกเขิน แต่ก็ไม่เคยรู้สึกว่าอาการหนักเหมือนอย่างตอนนี้เลยสักครั้ง

มันทั้งใจเต้น ทั้งหูอื้อ ทั้งหายในไม่ถูกจังหวะ ข้างในตัวมันรู้สึกยุบยิบๆ ไปหมด

แค่ยอมรับหัวใจของตัวเองเท่านั้น

ทำไมอะไรๆ มันก็ดูมีผลกับหัวใจไปเสียหมด

“เป็นแฟนกันนะครับ”

“อืม” รวมถึงเรื่องการขอเป็นแฟนที่เคยปฏิเสธแบบไร้เยื่อใยมาตลอดนี่ก็ด้วย “เป็น..”

ผมเหมือนจะตาย







#เพราะรักรออยู่

ขอบคุณทุกคนที่มาอยู่เป็นเพื่อนกันนะคะ
เพราะกำลังใจจากพวกคุณเลยนะเราถึงยังอยู่ได้ ขอบคุณมากจริงๆ ค่าาาา
เยิ้ปปปปป

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ แก่ เหี่ยว เคี้ยวยาก

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอยยยยยยย

สำลักความกุน ความปอ

ออฟไลน์ Sorrowkung

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
โงกุนน่ารักมากครับ o13

ออฟไลน์ anterosz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
น่ารักมากกกกกกก ชอบๆ ขออีกครับ

ออฟไลน์ SUNSCREEN50

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0




‘เพื่อนอ่ะนะ’

ผมถอนหายใจออกมาเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่ได้นับ ก็ไอ้ธีร์มันเอาแต่พูดประโยคประมาณนี้ให้ผมฟังผ่านสายโทรศัพท์มาตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อน บอกรำคาญจะวางสายก็โวยวาย เพื่อนอ่ะๆ อยู่นั่น

“มึงนี่นะ” พูดใส่ไอ้ธีร์ แต่ตั้งใจให้ไอ้ตัวดีที่นั่งเบียดเนียนแอบฟังอยู่ข้างๆ ได้ยินด้วย

ก็มันนี่แหละที่เป็นตัวต้นเหตุ ก็ว่าอยู่ว่ามัวแต่วุ่นวายอะไรอยู่แต่กับมือถือไม่ยอมไปอาบน้ำอาบท่า ที่แท้ก็ลงรูปผมในไอจีพร้อมกับแคปชั่นสั้นๆ ว่า ‘แฟน’ …

เท่านั้นแหละ

‘ดีใจนะที่มึงยอมเปิดใจ’ ผมระบายยิ้มออกมาเล็กๆ รู้ว่าที่ไอ้เพื่อนสนิทไม่ยอมวางสายไปสักที ก็เพราะรอทำใจเพื่อพูดอะไรเลี่ยนๆ แบบนี้อยู่ ถึงมันจะเกริ่นนำด้วยการด่านานไปหน่อยก็ตาม

‘เมื่อก่อนที่มึงเอาแต่พูดว่าอยากอยู่คนเดียว ไม่อยากมีใคร ไอ้กูก็หลงเป็นห่วง’ ปลายสายพูดกลั้วหัวเราะ ‘แต่กูเชื่อว่าไอ้กุนจะไม่ทำมึงเสียใจ’

“อือ กูก็หวังเอาไว้แบบนั้น” พูดแล้วก็หันไปมองหน้าคนที่เอาคางเกยไว้ที่ไหล่ ไอ้กุนส่งยิ้มมาให้ ตามด้วยสอดแขนเข้ามาเกี่ยวเอวผมเอาไว้หลวมๆ

‘แต่ถ้ามันทำ มึงมาบอกกู กูจะไปจัดการมันเอง ไอ้เด็กห่านี่เอามึงไปเป็นของมันจนได้ กูละยอมมันเลย’ ถึงจะรู้สึกเอะใจกับคำพูดของไอ้ธีร์ประโยคเมื่อครู่ แต่ก็ต้องปล่อยผ่าน เพราะมันดันตะโกนกลับมาจนผมต้องขยับโทรศัพท์ออกจากหู ‘กูรู้ว่ามึงแอบฟังอยู่ไอ้ลูกหมา ดูแลเพื่อนกูดีดีด้วย’

“ผมดูแลดีกว่าพี่แน่ๆ” กุนตอบกลับไปพอให้คนในสายได้ยินชัด แต่ขยับเข้ามากอดผมเอาไว้เสียจนแน่น

‘ปอมึงบอกมันด้วย อย่าเห่าดัง กูรำคาญ’








ในที่สุดคุณธีรยุทธ์ก็ยอมวางสาย

ผมที่อาบน้ำเรียบร้อยแล้วย้ายมานั่งพิงหัวเตียงไถโทรศัพท์รอไอ้ลิงที่เพิ่งวิ่งเข้าไปอาบน้ำบ้าง ไล่อ่านคอมเม้นใต้รูปภาพของตัวเองที่เพิ่งเป็นประเด็นไปได้ไม่นานลิงนั่นก็เดินเอามือยีผมตัวเองที่เช็ดจนเกือบแห้งแล้วออกมาจากห้องน้ำ กลิ่นแชมพูและครีมอาบน้ำที่ถึงจะไม่เคยได้ใช้แต่ก็คุ้นกลิ่นเป็นอย่างดีหอมฟุ้งไปทั่วห้อง จนผมต้องละสายตาจากจอมือถือมองคนที่กำลังกลัดกระดุมชุดนอนสีน้ำเงินเข้มของตัวเองอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า

จริงอย่างที่ไอ้ธีร์มันว่า..

ไม่น่าเชื่อว่ายังไม่ทันครบ 3 เดือนที่รู้จักกัน ผมก็ยอมไปตกลงเป็นแฟนกับอีกคนโดยง่าย กลืนทุกคำพูดที่ตัวเองเคยบอกว่าการเป็นโสดดียังไงไปจนหมด ไม่ได้มีความรู้สึกกลัวเลยสักนิดว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น เหตุการณ์จะซ้ำรอยเหมือนกับรักครั้งเก่าหรือเปล่า ยังไม่ทันจะได้รู้จักกันทุกมุมเลยด้วยซ้ำ

แต่ก็อย่างว่า..

..ความรักมันมีเหตุผลเสียที่ไหน

“ยังไม่ง่วงหรอครับ” พอปิดไฟสอดตัวเข้ามาใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันได้ กุนก็เอาปากมันมาชนที่ไหล่ ก่อนจะผละออกไปนั่งท่าเดียวกันโดยเว้นระยะห่างออกไปไม่ให้อึดอัด

“ง่วงดิ” ผมกดล๊อคโทรศัพท์แล้วเอาไปเสียบชาจแบตไว้ข้างเตียง ประชุมมาทั้งวัน พลังผมหมดไปตั้งแต่ตอนเลิกงานแล้ว กว่าจะกินข้าว กว่าจะกลับมาถึงห้อง จะไม่ให้ง่วงได้ยังไง..

ความคิดหยุดลงเพราะเห็นไอ้ลิงตัวดียื่นหน้าเข้ามาหา ใกล้จนระยะห่างเหลือไม่ถึงคืบ ไอ้กุนมองด้วยสายตาล้อเลียนแถมยังไม่ลืมส่งยิ้มประจำตัวมาให้

“อะไรอีก”

“รอกุนหรอ”

มือข้างหนึ่งถูกยกมาดันหน้าไอ้ลิงเจ้าเล่ห์ออก อย่างแรกเลยเพราะหมั่นไส้ ส่วนอย่างต่อไปก็เพราะทนเล่นเกมจ้องตากับมันไม่ไหว ดูสายตามันสิ.. อะไรจะเป็นประกายขนาดนั้น

“รู้ว่ารอก็ลีลาอยู่นั่น” ผมยังคงถือคติที่ว่า เล่นตัวเองเจ็บน้อยกว่า

ไหนๆ มันก็จับได้แล้ว คืนยังเถียง ยังไม่ยอมรับ คงจะเป็นผมเองนี่แหละที่เป็นฝ่ายเจ็บหนักเสียเอง เพราะไม่เคยเถียงชนะมันเสียที

“ดีใจจัง” คนพูดยอดผละออกไปนอนข้างๆ โดยง่าย แต่ไม่ทิ้งโอกาสที่จะคว้ามือของผมที่ตอนแรกแปะอยู่บนหน้าไปกุมเอาไว้ แต่เพราะไอ้ท่านี้ผมเลยต้องเอนตัวลงตามแขนที่ถูกดึงไปด้วย

ไม่ต้องโทษใครเลยงานนี้ มือก็มือของตัวเองแท้ๆ แต่ดันไม่ยอมดึงออก

“พรุ่งนี้เช้าพี่อยากกินอะไร เดี๋ยวลงไปซื้อมาไว้ให้”

“จะเอาใจอะไรนักหนา”

“พี่ไม่รู้จักช่วงโปรโมชั่นหรอ อื้อออ” มีคนโดนหยิกแก้มไปแล้วหนึ่งที ถึงจะเข้าใจว่าพูดเล่น ความหมั่นไส้นี่มันห้ามกันไม่ได้จริงๆ “เจ็บ”

“สมควร”

“ยังไม่หายเลยครับ” โดนโวยวายจากผู้เสียหาย เพราะหยุดมือที่ลูบไปมาตรงที่ตัวเองได้ทำการประทุษร้าย

เป็นไงล่ะ..

หยิกเองแล้วก็ต้องมาโอ๋เองอีกไอ้ปอ

“แล้วพรุ่งนี้..” มือผมถูกอีกมือทาบทับให้แนบสนิทไปกับแก้มที่กำลังขยับพูดถึงเมนูอาหารเช้า

เคยบอกไหมว่าไอ้กุนมันหล่อ ตอนทำหน้ากวนตีนก็หล่อ ทำหน้าหง๋อยเป็นหมามันก็หล่อ ขนาดตอนนี้หน้าครึ่งหนึ่งของมันจมอยู่กับหมอนเหมือนปลาตาเดียวมันก็ยังดูหล่อ อะไรวะ

ผมเนี่ย อะไรวะ

อยู่ๆ จะไปชมมันทำไม

“..สรุปว่ากินอะไรดีครับ”

“เอาไว้ค่อยไปหาอะไรกินพร้อมกันก็ได้ ไม่ต้องรีบตื่นหรอก”

มีคนมาคอยเอาใจ เตรียมโน่นเตรียมนี่ไว้ให้มันก็ดี แต่อยากให้มันได้พักผ่อนเยอะๆ มากกว่า

“อยากตื่นมาแล้วเจอผมนอนอยู่ข้างๆ ก็บ๊อก”

“เออ!” มันคงจะเป็นซีนโรแมนติกหากน้ำเสียงของไอ้กุนไม่ออกมายียวนขนาดนี้ ผมดึงมือของตัวเองกลับมาซุกใต้ผ้าห่ม ปิดเปลือกตาของตัวเองลงเตรียมตัวเข้านอนจริงๆ เสียที ขี้เกียจจะเถียงกับไอ้ลิงนี่ให้ยืดยาว ยันเช้าก็ไม่น่าจะจบ “ถ้าตื่นมาแล้วไม่เจอ ก็ไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีกเลย”

ตอนนั้นเองที่รู้สึกได้ว่ากุนขยับตัวเข้ามาใกล้ๆ ท่อนแขนที่น่าจะเย็นเพราะเพิ่งอาบน้ำเสร็จกลับอุ่นเมื่อมันพาดลงมาบนตัวของผม ความรู้สึกหยุ่นนุ่มถูกประทับลงมาที่กลางหน้าผาก ก่อนจะหายไปพร้อมอ้อมกอดที่ค่อยๆ ถูกกระชับขึ้น

“พี่ปอ” ถึงจะไม่ได้ลืมตา แต่ก็รู้ว่าอีกคนอยู่ห่างไปแค่ไม่ถึงคืบ แล้วน้ำเสียงแบบนี้นะ ฟังดูก็รู้แล้ว ไอ้ลูกหมามันกำลังจะอ้อนขออะไรผมแน่ๆ

“พี่ปอครับ” ใจอยากจะเมินเสียงที่เรียกชื่อตัวเองไป แต่ก็ทนไม่ไหวเมื่อโดนเรียกซ้ำ

ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นมอง กุนนอนอยู่สูงกว่าผมเล็กน้อยทำให้ต้องขยับองศาของสายตาขึ้น ยังไม่ทันฟังว่าอะไรคือสิ่งที่อีกคนอยากได้จนถึงกับต้องทำเสียงแบบนั้นกันแน่ ผมก็หลับตาลงอีกครั้ง

บอกมันไปกี่ทีแล้วนะ ว่าให้เลิกมองด้วยสายตาแบบนี้

ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ ยืดตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่เพียงแค่นั้นริมฝีปากก็ชนเข้ากับสิ่งเดียวกันของอีกคน ก่อนจะสุ่มทำแบบเดียวกันที่บริเวณใกล้ๆ อีก 5 ทีอย่างรวดเร็ว แล้วขยับตัวกลับมานอนในท่าเดิม

“นอนได้แล้วเนอะ”

“..ครับ..” มันจะไม่อะไรเลยถ้าไอ้คำว่า ‘ครับ’ ไม่เจือไปด้วยเสียงหัวเราะ

เอาหล่ะ

ผมว่าผมกำลังเขิน

ตอนทำก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะเขินไปด้วย คิดว่าแค่ทำๆ ไปจะได้ไปนอน แต่พอได้ยินเสียงไอ้กุนหัวเราะเบาๆ ตาผมก็ยิ่งบดเข้าหากัน แถมยังเผลอเม้มปากตัวเองไว้จนแน่นอีก พลาด

พลาดมากๆ

ดีที่ยังหลับตาเอาไว้เลยไม่เห็นว่าไอ้ลิงนั่นทำหน้ายังไงอยู่ แต่ที่รู้คือหน้าผมคงไม่ดีแน่ๆ และตอนนี้ก็คงจะหนักยิ่งกว่าเก่า

“โอ๋ๆ ..” มันกลั้นหัวเราะ ไอ้กุนมันกลั้นขำ ไอ้กุนมันนิสัยไม่ดี “ไม่แซวๆ..”

"..นอนได้แล้วเนอะ"

ไอ้นิสัย!















#เพราะรักรออยู่

กุนแทบจะไม่ใช่คนแล้ว แทบจะเป็นสัตว์ทุกชนิดบนโลกนี้แล้ว

มาแค่ครึ่งตอนก่อน ชิมลาง ง่าาา ถ้ามันมีตรงไหนแปลกๆ แปล่งๆ ก็คือนั่นแหละฮะคุณผู้ชม เพราะหายไปนานเหลือเกิน ครบปีรึยังนะ หรือเกินมาแล้ว

นานมากๆ แล้วที่ไม่ได้เขียนอะไรเลยเพราะเราจัดการความกังวลของตัวเองไม่ได้ วันนี้คิดถึงเลยกลับมาลองดู ก็ยังรู้สึกดีที่ได้เขียนเหมือนเดิม

ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจเลยนะคะ เกรงใจคนที่เข้ามาอ่านจริงๆ แล้วก็ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคนที่เข้ามาอ่านตอนนี้ด้วย (ไม่รู้จะมีหรือเปล่าขอบคุณไว้ก่อน) หวังว่าจะได้เจอกันในตอนต่อไปนะคะ แฮ่

หรือใครเวลาเหลือไปอ่านเรื่องที่จบแล้วของเราฆ่าเวลาดูได้นะคะ #เมื่อคืนนี้ผมฝันถึงคุณ
V
V
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70842.0#gsc.tab=0

ขอบคุณค่าาาา











 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด