#ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #ก็จะดื้อ [omegaverse] ตอนที่ 34 : ตอนจบ [25/03/21] p.11  (อ่าน 88661 ครั้ง)

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
น่ารักกกกก :heaven

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
น่ารักกันจริงๆ

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2
ก็จะดื้อ 32


เด็กชายภาณินคือยอดนักน่ารักแห่งบ้าน

ด้วยดวงตากลมโตแก้มยุ้ยปากกระจับเล็กที่ได้มากจากแม่ จมูกสันขนตายาวผิวขาวจัดตามฉบับลูกเสี้ยวฝรั่งที่ได้มาจากฝั่งพ่อ มองจากภายนอกก็พอจะมองออกว่าเพศรองของเด็กชายภาณินก็คงเป็นโอเมก้าอย่างแน่นอน
ภาสมองลูกชายตัวเองที่กำลังหัดติดกระดุมชุดอนุบาลสีชมพูด้วยความเอ็นดู พอเกิดมาแว่นสายตาสั้นที่เขาใส่อยู่ทุกวันก็กลายเป็นติดฟิลเตอร์เอ็นดูลูกฝังเข้าไปอีกชั้นหนึ่ง ทุกอย่างที่ลูกเขาทำนั้นมันดูน่ารักไปหมด ลูกชายเขาโตมาเหมือนตะนิดแทบจะทุกอย่าง การพูดการจาการทำตัว

... และนั่นทำให้เขาหนักใจอย่างถึงที่สุด

“แด๊ดดี้” เสียงใสดังขึ้นพร้อมกับแรงเขย่าเบาๆ ทำให้ภาสลืมตาตื่นขึ้น ความมืดสนิทของเพดานห้องเป็นสัญญาณให้รู้ว่าถูกปลุกขึ้นในตอนกลางคืน
“...”
“แด๊ดดี้คับ Wake up, Please.” เสียงเล็กเรียกพร้อมกับแรงสะกิดยิกๆ อีกรอบทำให้ภาสผุดตัวขึ้นนั่ง
“ปานิน?”
“แด๊ดดี้คับ ปานินปวดพีพี กลัวคุณผี อยากไปพีพีคับ” ลูกแมวเขย่าแขนคนเป็นพ่อยิกๆ พร้อมกับเบะปากอ้อนให้พาไปเข้าห้องน้ำ
“พีพีออกมาแล้วเหรอ”
“โน ยังคับ ปานิน just ปวดพีพี”
“โอเคๆ ป่ะ ไปครับ” ภาสขยี้ตาเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดโคมไฟให้พอเห็นทางไปห้องน้ำ เจ้าแสบปีนขึ้นกอดคอคนเป็นพ่อพร้อมกับหลับตาปี๋ กลัวคุณผีที่สุดในโลก
“แด๊ดดี้อยู่กับปานิน stay with me”
“ครับ แด๊ดดี้อยู่” ภาสวางลูกแมวลงกับพื้น เจ้าตัวงอแงนิดหน่อยกลัวว่าคนเป็นพ่อจะแกล้งทิ้งให้อยู่ในห้องน้ำคนเดียว ถึงปกติจะชอบนั่งปุ๋งคนเดียวแบบเด็กแสนเก่ง แต่พอเป็นกลางคืนก็กลายเป็นเด็กเก่งนิดนิดแทนเพราะกลัวคุณผีในห้อง
“แด๊ดดี้ไม่ไป”
“ไม่ไปครับ เร็วรีบพีพี แด๊ดดี้เปิดไฟไว้เดี๋ยวมัมตื่น” พูดไปงั้น ตะนิดไม่ตื่นง่ายๆ หรอก ต่อให้เขาเปิดไฟฉายส่องหน้ายังไม่ตื่นเลยมั้ง
เด็กชายปานินรีบถอดกางเกงปีนบันไดขึ้นไปนั่งโถแบบที่ถูกเคยฝึกให้ใช้ ซึ่งก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีก็ทำธุระเสร็จ ลูกแมวกดชักโครก ล้างทำความสะอาดปานินน้อยก่อนจะวิ่งจุ๊ดๆ ไปปีนบันไดล้างมือตบท้ายด้วยรีบวิ่งไปเกาะขาคนเป็นพ่อด้วยความกลัว
“แด๊ดดี้ ปานินกัว”
“ป่ะ ไปนอนต่อกัน”
“แด๊ดดี้อุ้ม” ภาสโน้มตัวยกก้อนแป้งขึ้นแนบอกก่อนจะพาออกจากห้องน้ำเตรียมพากลับขึ้นเตียงที่ซึ่งอยู่ห่างจากห้องน้ำเพียงไม่กี่เมตร แต่สำหรับลูกแมวกลัวผีคงเป็นระยะทางที่ไกลมาก จากไม่กี่เมตรก็กลายเป็นหลายกิโล พอกลับมาถึงเตียงเด็กชายภาณินก็คลานดุ๊กๆ เข้าไปหาแม่แมวที่นอนหลับสนิทอยู่
ภาสมองภาพตรงหน้าด้วยความอ่อนใจ
ประหนึ่งเห็นแมวสองตัวนอนซุกกัน ใจเหลวจนอยากจะโน้มตัวไปฟัดแรงๆ แต่ก็ได้แค่คิด เพราะหากเขาปลุกตะนิดตื่นตอนนี้มีหวังได้โดนงอนไปอีกหลายอาทิตย์ โทษฐานรบกวนการนอน
ภาสล้มตัวนอนข้างๆ ลูกแมวที่ซุกแม่ตัวสั่นกลัวคุณผีมาหลอก แต่ผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีแรงถีบเข้าที่หน้าก็แสดงให้รู้ว่าลูกชายตัวดีของเขาหลับสนิทแล้ว นอนดิ้นแขนไปทางขาไปทางแถมยังหันเท้ามาเสยคางเขาเต็มๆ

เห้อ...
น่ารัก

หลังจากที่ถูกปลุกเพราะลูกชายปวดฉี่ ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงภาสก็ถูกปลุกด้วยแรงจิ้มแถวแก้ม พอลืมตาตื่นขึ้นก็เห็นเป็นใบหน้าน่ารักของลูกชายที่ปีนมานอนกองบนอก แก้มโมจินุ่มนั่นถูกดันขึ้นก้อน ปากกระจับเล็กสีแดงฉีกยิ้มกว้างจนตาปิด

“ปานิน...”
“แด๊ดดี้ good morning” ปากเล็กจุ๊บเหม่งคนเป็นพ่อพร้อมกับดึงตัวมานอนซบอกอุ่นต่อ ภาสเอนหัวไปมองนาฬิกาข้างเตียงก็เห็นเลขแปดรางๆ

แปดโมงวันเสาร์... 

“ตื่นเช้าจังนะ วันนี้วันหยุดนะครับ” ภาสเอ่ยเสียงต่ำให้กับนาฬิกาปลุกกลิ่นแป้งบนอก ทั้งๆ ที่เป็นวันหยุดควรจะได้นอนยาวๆ แต่ก็โดนปลุกโดยเจ้าก้อนลูกชายเสียอย่างนั้น
“ปานินตื่นแล้ว”
“...”
“ปลุกมัมแล้ว”
“...”
“มัมดุ”
“หึ” ภาสขำพรืดก่อนจะดันตัวลุกขึ้นนั่งทำให้ลูกชายที่นอนซบอกอยู่กลิ้งตกไปนอนแอ้งแม้งบนเตียง พอมองไปซ้ายมือก็เห็นว่าตะนิดยังคงหลับสนิทกอดตุ๊กตาปลาฉลามนุ่นแตกกรนเบาๆ อยู่
“แด๊ดดี้”
“ครับ”
“ปานินแป๊กๆ แต่มันไม่เข้า” ปานินเดินคลานมาโชว์เสื้อนอนลายโดเรม่อนของตัวเองให้คนเป็นพ่อดู

กระดุมไม่ยอมเข้ารัง
ยัดจนนิ้วเจ็บแล้วด้วย!

“กระดุมมันใหญ่เหรอ ไหน” ภาสอุ้มลูกชายขึ้นนั่งบนตักพรางสำรวจว่าทำไมกระดุมถึงไม่ยอมเข้ารังดุมให้ลูกชายเขา
“แด๊ดดี้”
“หืม”
“วันจันทร์นิปานินจะไปโรงเรียนแนะ”
“เก่งครับ”

...ใช่ เก่ง
แล้วแถมยังทำคนเป็นพ่อเหงาด้วย ภาสได้แต่คิดแล้วก็โหวงในใจ แค่เข้าอนุบาลไม่กี่ชั่วโมงเขาก็เหงาจนซึม ถ้าลูกโตขึ้นแยกไปอยู่มหาลัยคงเหงามากกว่าเดิม คงไม่ต้องพูดถึงแม่แมวที่นอนกรนน้ำลายยืดอยู่บนเตียงคงได้มีน้ำตาแตกกันบ้างแหละ

“แด๊ดดี้”
“ครับ”
“แด๊ดดี้มีย่นๆ” นิ้วป้อมอ้วนจิ้มจึ้กเข้าให้ที่คิ้วคนเป็นพ่อ
“...”
“แด๊ดดี้เหงาไหม ถ้าปานินมะอยู่ โลนลี่ไหมคับ”
“เหงาสิครับ”
“me too! ปานินก็เหงาเวลาแด๊ดดี้ไปทำงาน”

สิ่งแรกที่วิ่งเข้ามาในหัวภาสนั่นก็คือ
... ลาออกดีไหม ลูกอ้อนขนาดนี้แล้ว

“เห้อ แด๊ดดี้ไม่อยากทำงานแล้วครับ อยากอยู่กับปานินทั้งวัน”
“ไม่เอา แด๊ดดี้ขี้บ่น”

อ้าว...
ภาสถึงกับชะงักกึ้กแทบเกือบกัดลิ้นตัวเอง

“...”
“แด๊ดดี้ๆ”
“...” ไม่ตอบ งอนลูก
“แด๊ดดี้ปานินอยากมีน้อง”
“ห๊ะ” ถึงกับหลุดอุทานออกมา มือใหญ่คลายออกเล็กน้อยเมื่อเจ้าตัวแสบหมุนตัวหนี
“อาภูบอกว่าอยากมีน้องให้มาบอกแด๊ดดี้”
“...”
“แด๊ดดี้ทำยังไงถึงจามีน้องให้ปานิน”
“แด๊ดดี้ทำหลายอย่างเล--”

ปั้ก!!
ภาสถึงกับตัวโยกกับแรงเตะปริศนาแถมบริเวณหลัง ดีที่มือจับเอวลูกไว้ เจ้าตัวแสบเลยไม่ได้ไถตกหน้าตักไป พอมองกลับไปก็พบว่าแม่แมวตื่นแล้วแถมยังแก้มแดงไปยันหูอีกต่างหาก

“พี่ภาส!”
“อ้าว ตื่นแล้วเหรอ”
“มัมมมมมมมมม” เด็กชายตัวป้อมขยับตัวดุ๊กดิ๊กออกจากอ้อมกอดพ่อกระโดดไปกอดแม่แมว
“ตื่นเช้าทำไมอ่ะดื้อ วันนี้วันเสาร์”
“ปานินไม่ดื้อ!!!”
“ดื้อ!!!”
“ดื้อนิดนิด!!!”
“ก็แปลว่าดื้อรึป่ะ” ลูกแมวพองแก้มไม่พอใจ

ก็ดื้อ แต่ดื้อนิดนิดนี่!
อยากจะงอนๆ แต่ก็นึกได้ว่ามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องอ้อน

“มัมคับ มัมทำยังไงถึงมีปานิน ปานินอยากมีน้อง อาภูบอกให้บอกมัม” เด็กชายภาณินนอนทับอกแม่แมวพร้อมกับเอนแก้มซบจนขึ้นแก้มนูนขึ้นเป็นก้อน
“...”
“มัม?”
“ทะ ทำหลายอย่าง” ตะนิดตอบอ้อมแอ้มพร้อมกับยกขาขึ้นเตะขาอัลฟ่าหนุ่มที่นั่งยิ้มอยู่แถวขอบเตียง
“หลายอย่างอะไรอ่ะะะะะะ” ลูกแมวงอแงลั่นเมื่อตัวเองไม่เข้าใจที่ผู้ปกครองทั้งคู่อธิบาย
“พี่ภาส!!”
“อะไร ให้พี่ตอบได้เหรอ”
“ไม่ใช่ ให้พี่ไปจัดการภูเขา!!”
“มัมมมมมม ปานินอยากมีน้องงงงงง” ลูกแมวไถแก้มอ้อนเต็มที่
“หยุดเลยดื้อ ตื่นเช้าแล้วงอแงนะเราอ่ะ”
“แด๊ดดี้อ้อนมัม”
“อ้อนไงดีล่ะ แด๊ดดี้อ้อนไม่เก่ง” ภาสหัวเราะเมื่อถูกตะนิดหันมาค้อนใส่ด้วยสายตา
“คิสๆ มัมชอบคิสๆ เดี๋ยวปานินปิดตา!!!” ลูกแมวมุดเข้าโปงผ้าห่มพร้อมกับหลับตาปี๋อย่างรู้งาน
“พี่ภาสว่าลูกเราแก่แดดเพราะน้องชายพี่ไหม” ตะนิดขมวดคิ้วมองก้อนใต้โปงผ้าพร้อมกับส่งสัญญาณตบหัวโทรจิตไปให้ภูเขาที่อยู่อีกที่
“หึ ปานินไปแปรงฟันก่อนไปครับ” ภาสเคาะก้อนใต้โปงผ้าให้มุดออกมา ซึ่งลูกแมวก็มุดออกมาหน้าบู้บี้
“บู่วววววววววว”
“Come on เดี๋ยวไปเที่ยวกันวันนี้”
“ก็ด้ะ” ก้อนแป้งจิ๋วยู่หน้าแต่ก็ยอมปีนเตียงลงไปเข้าห้องน้ำเองแต่โดยดี พอลูกชายเดินเข้าห้องน้ำไป ภาสก็รีบหันมาหาตะนิด
“แมวดื้อ”
“ไร”
“มาอ้อนหน่อยมา”
“อารมณ์ไหนเนี่ย” ตะนิดขมวดคิ้ว
“Morning kiss หน่อย” ภาสโน้มตัวจูบแมวดื้อเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ ดันให้ตะนิดลงไปนอน แมวดื้อต่อต้านเล็กน้อยแต่พอถูกดึงสติด้วยสัมผัสที่สอดประสานก็เคลิ้มยกแขนขึ้นคล้องคออัลฟ่าหน้าดุคู่ชีวิต เสียงฟูกเสียดสีสอดคล้องไปกับเสียงหายใจหอบ ตะนิดงับริมฝีปากล่างของอัลฟ่าหนุ่มไว้ก่อนจะแล่บลิ้นเลียปลายคางมน
“ลูกอยู่ พี่ภาส”
“ทีหลังจะห้ามก็อย่ามาเลียคางพี่แบบนี้” ภาสซุกจมูกลงกับลำคอสูดดมกลิ่นแป้งผสมกลิ่นพีชเข้าเต็มปอด
“ก็ไม่ได้ห้ามรึป่ะ แค่บอกว่าลูกอยู่”
“ตะนิด หาเรื่อง” ภาสเอ่ยดุ เมื่อเท้าเล็กยกขึ้นดันเบาๆ บริเวณกลางตัวเขา
“เรื่องอะไรดีก๊าบบบ” ตะนิดหัวเราะพร้อมกับยกมือขึ้นนวดแก้มคนแก่กว่าไปมา   
“เรื่องอะไรดีล่ะ พี่เริ่มเบื่อถุงยางแล้วนะช่วงนี้”
“เห้ยๆ พี่ภาส” ตะนิดรีบยกมือขึ้นปิดปากอัลฟ่าหนุ่มที่คร่อมทับตัวอยู่ ดวงตากลมรีบมองไปที่ประตูห้องน้ำ พอเห็นว่าปิดอยู่ถึงค่อยวางใจ เจ้าลูกแมวมักจะปิดประตูอึเองทุกเช้าเป็นปกติ เพราะถูกฝึกให้นั่งถ่ายเองทุกเช้าจะได้ชินกับการใช้โถ
“หลังปานินเข้าอนุบาล คงมีเวลาว่างเยอะขึ้น”
“...”
“ตอนลูกไปโรงเรียน พี่จะฟัดเราให้จมเตียงเลยแมวดื้อ”
“เห้ยยยย เปิดโหมดเสี่ยโรคจิตทำไมอ่ะ” ตะนิดรีบคว้าคุณนุ่มเบอร์ห้ามากำเป็นอาวุธ
“ไม่ได้ทำมาสักพักแล้วนะ” อุ้งมือใหญ่ไล่นวดไปตามเอวคอดนุ่มนิ่ม
“อื้อ...”

พอมีลูกก็เรียกได้ว่าห่างเรื่องบนเตียงไปเหมือนกัน มีบ้างแต่ก็ไม่ถี่ ส่วนมากก็จะเป็นแค่เพียงช่วยภายนอกด้วยเวลาที่มีจำกัดแค่ตอนลูกหลับ ช่วงฮีทของตะนิดที่หายไปพักใหญ่ พอกลับมาก็จะกินยาเลื่อนไม่ก็ฉีดยาระงับตลอดแทบไม่ได้ปล่อยให้จัดการตามธรรมชาติ เนื่องจากต้องคอยดูแลเจ้าตัวเล็กที่ติดหนึบ ถึงจะสนุกเวลาเล่นกับคุณอาคุณลุงทั้งหลาย แต่พอหันมาไม่เจอแด๊ดดี้หรือมัมอยู่ใกล้ๆ ก็จะร้องไห้จ้าทันที

“อยากถูๆ จัง”
“ลูกอยู่” ถึงจะตอบแบบนั้นแต่ตะนิดก็ยอมให้อีกฝ่ายกัดๆ ดมๆ ลำคอตามใจชอบ ทำเอาภาสอยากจะโทรเรียกแฝดพี่ให้มายืมลูกไปเที่ยวทันที
“รู้แล้ว”
“บิ๊บๆ” ตะนิดส่งเสียงพร้อมกับเลื่อนมือไปบีบก้นแข็งๆ ของอัลฟ่าหนุ่มไปหนึ่งที
“บีบด้านหลังระวังด้านหน้าตื่นจะเดือดร้อนนะแมวดื้อ”
“ใครเดือดร้อน ไม่ใช่นิดอ๊ะเป่า”   
“ปานินบอกอยากมีน้อง”
“ใจเย็นหน่อยได้ไหมพี่ภาส”
“เราน่ะ ใจเย็นหน่อย อย่าเล่นให้มาก” ภาสเอ่ยดุอีกรอบเมื่อแมวดื้อยกขาขึ้นตวัดรัดเอวเขาไม่พอยังจะใช้ส้นเท้ากระทุ้งหลังเป็นจังหวะอีก
“แด๊ดดี้ มัม ปานินไปเล่นด้านล่างนะคับ” เสียงเล็กของลูกแมวดังขึ้นพร้อมกับเสียงปิดประตูห้องนอนให้เสร็จสรรพ ทำเอาภาสและตะนิดหันไปมองประตูที่ถูกปิดอย่างรวดเร็วด้วยความมึนงง
“...”
“ภูเขามันสอนอะไรลูกเราอ่ะพี่ภาส”
“มัม แด๊ดดี้ รีบๆ คิสนะ ปานินหิว” ตะนิดหันไปมองประตูพร้อมกับยกมือขึ้นบีบคางอัลฟ่าหนุ่มด้านบนตัวเป็นการบอกทางอ้อมว่าต้องหยุดลวนลามได้แล้ว
“พอแล้ว ไปทำข้าวให้ดื้อกินก่อน”
“ฮื่อ” อัลฟ่าหนุ่มส่งเสียงขัดใจแถมยังโน้มตัวลงงับแก้มนิ่มไปอีกหนึ่งที
“ฮื่ออะไรพี่ภาส”
“อาทิตย์หน้าเอาภาณินไปฝากภูไว้สักอาทิตย์ไหม น่าจะใกล้ถึงช่วงเราฮีทแล้ว”
“นิดกินยาได้”
“แต่พี่อยากทำตอนเราฮีท”
“พี่ภาส!!!!” แมวดื้อโวยวายลั่นพร้อมกับแก้มแดงจัด ไม่เคยจะชินสักทีกับภาสเวอร์ชั่นเสี่ยลามก ตะนิดยกเท้าขึ้นถีบคนตัวโตจนกลิ้งไปนอนราบในจังหวะเดียวกับที่ภาสเองก็ตวัดแขนโอบเอวบางไว้ เลยกลายเป็นว่าแม่แมวถูกจับขึ้นนั่งทับอยู่บนตัวแทน
“อ้าว ท่าโปรดเลยนี่” ภาสหัวเราะในลำคอ
“พี่ภาส!!!” หมัดแมวฟาดป้าปเข้าให้ที่อกแน่น ภาสได้แต่ยิ้มจนตีนกาขึ้น จะว่าไปก็ได้ภาณินมาก็ท่านี้แหละ ท่าโปรดที่สุดของตะนิด ไม่เคยสักครั้งที่ทำกันแล้วเจ้าแมวไม่ขอปีนขึ้นมาขย่ม
“ไม่เล่นแล้วแมวดื้อ เดี๋ยวยาว” เป็นภาสเองที่เอื้อมมือขึ้นไปลูบหัวแม่แมวเบาๆ แล้วดันตัวให้อีกคนลงจากอก ขืนเล่นไปมากกว่านี้เดี๋ยวจะหยุดไม่อยู่เอง
“อาทิตย์หน้า...”
“...”
“ฮีทนิดจะมาอาทิตย์หน้า”
“...”
“ถุงยางไม่ต้องก็ได้...” ตะนิดเขี่ยต้นแขนล่ำของอัลฟ่าหนุ่มเบาๆ ก่อนจะรีบหันตัวเดินไปทางประตู แต่ทว่ายังไม่ทันได้หมุนลูกบิดมือใหญ่ก็ตีเข้าให้ที่ประตูดังปึ้ง เงาดำที่ทาบทับทำเอาตะนิดขนลุกซู่
“แมวดื้อ”
“พะ พะ พี่ภาส”
“ดื้อ”
ภาสกดจูบลงบนต้นคอขาวก่อนจะอ้าปากแยกเขี้ยวงับย้ำลงไปที่รอยพันธะด้วยแรงระดับนึง ทำเอาตะนิดตัวสั่นสะท้านรีบยกมือขึ้นจิกต้นแขนร่างสูงไว้แน่น
“พี่ภาส อย่า เดี๋ยวฮีทนิดมาก่อนกำหนด” เป็นที่รู้กันว่ารอบการฮีทของคู่พันธะที่เป็นคู่แห่งโชคชะตามักจะรวนกว่าคู่พันธะปกติ ซึ่งการกัดหลังคอก็เป็นหนึ่งในตัวกระตุ้นชั้นดี
“อีกหนึ่งอาทิตย์”
“...”
“อีกหนึ่งอาทิตย์ พี่จะไม่ทนแล้ว”

อั้ยหยาาาาาาาาา
ตะนิดตาเหลือกทันที เหมือนเผลอไปกดโดนสวิตช์ปิดเปิดอะไรสักอย่างเข้าให้แล้ว

“มัม! แด๊ดดี้! Are you okay? ปานินมาจ้วยแล้ว” เสียงลูกบิดดังแกร่กๆ เป็นสัญญาณว่าลูกแมวพยายามเปิดประตูห้อง ภาสเลยจำต้องดันตัวออกปล่อยให้ลูกเปิดประตูเข้ามา
“...”
“มัม!! ทำไมหน้าแดง”
“ปะ เปล่า ไม่ได้แดง!!”
“แล้วแด๊ดดี้ทำไมปวดท้อง”
“...” ภาสที่ยืนงอตัวกุมเป้ากางเกงได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ปานินไปกินแพนเค้กดีกว่าไป”
“แต่แด๊ดดี้ปวดท้อง....”
“แด๊ดดี้ปวดพูพู” ตะนิดรีบหลอกลูกก่อนจะอุ้มลูกแมวขึ้นพาวิ่งออกมาจากห้องนอน แน่นอนว่าปานินที่ไม่เข้าใจสถานการณ์ได้แต่หัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจที่คนเป็นแม่อุ้มวิ่งเล่นแต่เช้า

อาทิตย์หน้า....
ตายแน่ จ๊ากกกกกกกกกกกกก
 
 

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
ชื่อภาณิน หรือ ปานิน

ออฟไลน์ tiger2006

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
เย้ มีน้อนอีกคน

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ต้องแฝดแล้วล่ะงานนี้

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
แด๊ดดี้จัดให้! ปานิน จะมีน้องแล้วลู้กก
มันเข้ว อยากฟัดเจ้าก้อนแป้งโมจิน้อย

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
อยากให้ถึงอาทิตย์หน้าไวๆ.... :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2
ก็จะดื้อ 33


โดยปกติชีวิตของตะนิดมักจะวนเวียนอยู่กับการไปปาร์ตี้กับเพื่อนที่ผับโอเมก้า ไปชอปปิ้งตามห้างแล้วก็จบท้ายด้วยการซื้อการ์ตูนเรื่องสองเรื่องกลับมาอ่าน ส่วนภาสนั้นโดยปกติก็จะวนเวียนอยู่กับการคุยงาน นั่งฟังพอตแคสท์ตามร้านกาแฟในวันพักผ่อน

แต่เมื่อมีลูกแล้วนั้น...

“ฉวนฉัด!!! ปานินอยากไปฉวนฉัด” เสียงเล็กตะโกนลั่นบ้านพร้อมกับหอบตุ๊กตาควายวิ่งมาพาคนเป็นพ่อที่นั่งดูทีวีอยู่
“เราเพิ่งไปซาฟารีเวิลด์มาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเองนะ”
“แด๊ดดี้ ปานินอยากไปดูดอฟิ่นกับจีร๊าบ”
“ไปควาเรี่ยมแทนไหม”
“ฉวนฉัด”
“อืม...”
“พี่ภาส นิดว่าต้องไปซื้อของเข้าบ้านแล้วนะ ทิชชู่หมด” ตะนิดที่เพิ่งออกจากห้องน้ำเอ่ยบอกพลางเดินออกมาที่ห้องนั่งเล่น ว่าแต่ไอ้ก้อนแสบนั่นทำตาแป๋วใส่ทำไมกัน
“มัม!!!”
“ห๊ะ?”
“ปานินอยากไปฉวนฉัด”
“อีกแล้วเหรอ ไปจนลิงคิดว่าเป็นหนึ่งในฝูงแล้วนะ” พูดจริงไม่จ้อจี้ บางทีตะนิดก็เห็นลิงที่สวนสัตว์มักจะจ้องปานินไม่วางตา เดาว่าอยากอุ้มกลับฝูงก็เป็นได้
“ปานินอยากไปฉวนฉัด”
“ตั้งออโต้พูดประโยคนี้เรอะ”
“ปานินอยากไปฉวนฉัด”
“แล้วไง”
“แด๊ดดี้~ ปานินตุ๊บแก้มอ้อนๆ” พออ้อนคนเป็นแม่ไม่สำเร็จก็หันไปง้อคนพ่อแทนด้วยการถูหัวกับแก้มพ่อพร้อมกับปล่อยคอมโบจุ๊บแก้มสิบที

ถามว่าได้ผลไหม...
ภาสก็ขอตอบดังๆ ว่าได้มาก

อัลฟ่าหน้าดุใจเหลวเป๋วคว้าเจ้าก้อนแป้งมาฟัดพุงไปหนึ่งที ลูกชายเขาน่ารักที่สุดในโลกนี้แล้ว ดูแก้มยุ้ยๆ ปากแดงๆ นี่สิ

หรือเขาควรเริ่มโปรเจคสร้างสวนสัตว์ขึ้นมาใหม่แถวบ้านดี

“ไว้พรุ่งนี้ได้ไหมอ้วน วันนี้อยากไปซื้อของเข้าบ้านก่อน”
“...” ก้อนแป้งพองตัวเองทันที มือป้อมกอดไม่พอใจ ไม่โต้ตอบ ไม่คุยด้วย ไม่หายใจด้วย แสดงออกชัดเจนว่างอน งอนมาก งอนที่สุด!!!
“แต่วันนี้แวะซื้อเค๊บซีกับจะเวนเจ้นได้”
“จะเวนเจ้น!!!” ปานินรีบกระโดดขึ้นชูมือ

จะเวนเจ้นนนนน!!!
ไอจิมรสสติ๊กกี้ชูวี่!!!

“เห็นแก่กินจัง ลูกใครอ่ะ”
“...” ภาสแอบกระตุกยิ้มมุมปาก จะลูกใคร เรื่องกินนี่ก็ได้แม่มาล้วนๆ
“แด๊ดดี้ ปานินจ้อบเชอรี่”
“...”
“ปานินก็เลยจาเก็บไว้ให้คนที่ปานินจ้อบด้วย”
“เก็บไว้ให้แด๊ดดี้เหรอ น่ารั--”
“ไว้ให้ยุงเต้อ ปานินรักยุงเต้อ” พูดจบก็วิ่งดุ๊กๆ ไปนั่งเล่นเลโก้ต่อ ปล่อยคนเป็นพ่อกำหมัดอยู่บนโซฟา ตะนิดเห็นแล้วก็ได้แต่เดินมาตบบ่าอัลฟ่าหนุ่มเป็นการปลอบใจ
“ตะนิด... กระทืบคนนี่ผิดไหม”
“ผิดพี่ภาส”
“แต่คนนั้นมันไม่เอาเรื่องพี่หรอกนะ”
“ก็ผิดอยู่ดี”
“งั้นพี่แอบๆ กระทืบ”
“อย่ารังแกบอสนิด” ตะนิดบีบแก้มอัลฟ่าหน้าดุเบาๆ เป็นการดึงสติ
“มันไปทำอะไรนักหนาให้ลูกเราตกหลุมรักตัวปักหัวปำ” ภาสดึงแว่นออกพร้อมกับยกมือขึ้นนวดขมับ
“นั่นสิ แต่นิดถามแล้วก็ไม่ใช่คู่แห่งโชคชะตานะ เพราะพี่เต้อเจอคู่แห่งโชคชะตาแล้วตอนไปฮันนีมูน แต่ก็ไม่ได้อะไรกันต่อเพราะก็มีพี่ชินอยู่”
“พี่แทบไม่ให้มันมาเจอปานินแต่ลูกก็ยังพูดถึงมันตลอด”
“แอชเชอร์เรียนที่เดียวกับปานิน เดี๋ยวก็ได้เจอกันบ่อย”
“งั้นก็ย้ายโรงเรียน”
“วู้ว พี่ภาส ทำตัวเป็นเด็กไปได้ ป่ะ ไปแต่งตัว นิดอยากไปซื้อของเข้าบ้าน” ตะนิดขำในลำคอพร้อมกับตบแก้มอัลฟ่าหน้าดุเบาๆ

เย็นวันเสาร์แห่งครอบครัวของอาทิตย์นี้ก็เป็นการมาเดินซุปเปอร์มาเก็ต ภาสรับหน้าที่เข็นรถ ปานินรับหน้าที่ยิบขนมและตะนิดรับหน้าที่หยิบขนมของปานินออก เป็นอะไรที่เล็กน้อยแต่ภาสกลับรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ออกมาซื้อของเข้าบ้าน
สิ่งของที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากจำนวนคนในบ้านที่เพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งคน จากน้ำอัดลมของตะนิดและเบียร์ของเขา ปัจจุบันก็มีนมกับน้ำผลไม้เพิ่มเข้ามา จากที่หยิบแปรงสีฟันแค่สองอันก็เริ่มต้องหยิบแปรงสีฟันเด็กเข้ามาเพิ่ม

การมองสิ่งของที่เพิ่มขึ้น
ก็สามารถกลายเป็นความสุขเล็กๆ ได้

“อือ ต่อไปก็น่าจะเป็นผงแป้งแพนเค้ก”
“ตะนิดฝากรถเข็นไว้ก่อนนะ พี่จะไปหยิบของ”
“ปานินไปด้วยแด๊ดดี้!!!”
“อื้อ” ตะนิดพยักหน้าพร้อมกับปล่อยให้ก้อนแป้งปีนแขนขึ้นไปขี่คอพ่อ คู่พ่อลูกเดินหายไป ตะนิดก็หันกลับมาสนใจกับของที่ตัวเองหา ดวงตากลมไล่แบรนด์แป้งสำเร็จรูปสำหรับทำแพนเค้กก่อนจะพบว่าแป้งแบรนด์โปรดเล่นกระโดดไปอยู่เสียแทบจะบนสุด
“โอ้โห...” ตะนิดเขย่งพร้อมกับเอื้อมมือสุดแขนแต่ก็ไม่ถึง จังหวะนั้นเองจู่ๆ ก็มีมือปริศนาเอื้อมมาจากด้านหลัง มันใกล้เสียจนตะนิดสัมผัสได้ถึงแผ่นหลังของตัวเองที่แนบไปกับแผ่นอกอุ่น สัญชาตญาณทำให้โอเมก้าน้อยต้องย่นคอหลบ
“โอ๊ะ ทำให้ตกใจเหรอครับ”
“...” ตะนิดกะพริบตาปริบๆ มองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกแปลกๆ ปลายจมูกสัมผัสได้ถึงกลิ่นที่คุ้นเคยแม้จะเบาบางมากแต่ก็พอจำได้ว่าคือกลิ่นอะไร

มะ มีกลิ่นลาเวนเดอร์อ่อนๆ ด้วย...
... ไม่ใช่กลิ่นพี่ภาสแน่นอน
น้ำหอมกลิ่นลาเวนเดอร์งั้นเหรอ?

“พอดีเห็นหยิบไม่ถึง จะหยิบอันนี้นี้รึเปล่าครับ” คนตรงหน้าเอื้อมกระปุกแป้งแพนเค้กขนาดใหญ่มาให้
“ขะ ขอบคุณครับ”
“ไม่เป็นไรครับ เล่นเอาไปไว้ซะสูงเลย”
“...”
“ว่าแต่...”
“...”
“หน้าแดงๆ นะครับ เป็นอะไรรึเปล่า” แม้จะเป็นคนแปลกหน้าแต่ตะนิดก็รู้ได้ทันทีว่าอีกคนเป็นอัลฟ่า สัญชาตญาณสั่งให้รีบหนี แต่เพราะกลิ่นลาเวนเดอร์ที่ลอยอยู่ทำให้สมองตัดสินใจทุกอย่างช้าลง
“...”
“ไหวรึเปล่าครับคุณ” มือใหญ่เอื้อมมือจับแขนตะนิดไว้ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีการตอบสนองแปลกๆ

ในจังหวะที่โดนคว้ามือไว้ ตะนิดก็รู้สึกแปล๊บที่บริเวณหลังคอ ดวงตากลมเบิกกว้างแทบจะทันที

เขาจะฮีท!!!!


“ปานฉัดป่ากาบวนท่าที่หนึ่ง!!!!”

เสียงเล็กตะโกนคำที่โดนอาภุเขาพูดจนจำติดปากดังขึ้นพร้อมกับปานินที่วิ่งเข้ามากัดขาคนแปลกหน้าที่ยืนอยู่กับคนเป็นแม่ ฟันเล็กกัดเข้าสุดแรงจนเจ้าของขากระเถิบถอยหลังแทบล้ม

“โอ๊ะ... มันเจ็บนะครับหนูน้อย” 
“แง่งงงง” ลูกแมวยังคงงับแน่น มือเล็กสะบัดทุบตีศัตรูสุดแรงพร้อมกับน้ำตาไหลพราก

คนนี้แกล้งมัม!! คนนี้แกล้งมัม!!! 

“เด็กที่ไหนวะเนี่ย...”
“ขออภัยแทนลูกชายผมด้วยนะครับ” เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมกับแรงโอบเบาๆ บริเวณเอวของตะนิด อัลฟ่าหนุ่มหน้าดุกดจมูกลงหอมลงบนหัวภรรยาไปหนึ่งที มือใหญ่อีกข้างที่ขยำกล่องซีเรียลของลูกจนบี้แบนปากล่องลงบนรถเข็นพร้อมกับกระดิกนิ้วให้ลูกชายหยุดการใช้ปราณสัตว์ป่าที่จำมาจากในการ์ตูน
“พี่ภาส นิดจะฮีท”
“พี่ได้กลิ่นแล้ว ไหวไหมแมวดื้อ”
“มันจะฮีทก่อน... ก่อนเวลา” ตะนิดหันตัวซุกเข้ากับอกแกร่ง สูดดมกลิ่นลาเวนเดอร์ที่คุ้นเคยเข้าเต็มปอดเท่านั้นทั้งร่างก็สั่นสะท้าน
“ปานินมาหาแด๊ดดี้ครับ” ภาสกดหัวตะนิดเข้าแนบบ่าพร้อมกับรีบเรียกลูกชายที่แปลงร่างเป็นลูกหมากัดขาคนไม่ปล่อย
“ฮึก แด๊ดดี้!! คนนี้แก้งมัม!!!” ก้อนแป้งจิ๋วผละเขี้ยวออกมาโวยวายลั่น
“come here ปานิน  we need to go แล้ว อ้อ ต้องขอโทษด้วยนะครับ นี่นามบัตรผม ถ้าจะเรียกค่าเสียหายอะไรรบกวนติดต่อมาอีกที” ภาสหยิบนามบัตรจากกระเป๋าเงินออกมายื่นให้อัลฟ่าแปลกหน้าที่ยืนอยู่พร้อมกับกระดิกนิ้วเรียกลูกหมาจิ๋วให้เดินกลับมาซึ่งปานินก็ยอมปล่อยขาคนนิสัยไม่ดีอย่างรวดเร็วพร้อมกับรีบวิ่งดุ๊กๆ ไปกอดลูบๆ ขาคนเป็นแม่
“มัม... ไม่เจ็บน้า ปานินโอ๋ๆ ฟู่วววว”
“รีบกลับบ้านกันดีกว่า ปานินวันนี้ไปนอนกับลุงคณิตหรืออาภูดีครับ”
“ปานินจะอยู่กับมัม ปานิน protect มัม”
“วันนี้ไปอยู่กับลุงๆ ให้แด๊ดดี้ได้ไหม”
“แต่...”
“ปานินอยากมีน้องไม่ใช่เหรอ?”
“แต่มัมโดนแก้ง ปานินเปนอัดฉะวิน”
“วันหนึ่งปานินจะมีคนที่ปานินจะเป็นอัศวินให้เขาได้ในอนาคต...”
“...”
“ส่วนมัม”
“...”
“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแด๊ดดี้นะครับ”

มือซ้ายที่ประคองตะนิดและมือขวาที่คว้าก้อนแป้งจิ๋วขึ้นมาอุ้ม ความแข็งแรงของพ่อทำให้เจ้าลูกแมวยอมถอนตัวเองออกจากการเป็นอัศวินปกป้องมัมแต่โดยดี

พอเป็นเรื่องปกป้องมัม
... ปานินสู้แด๊ดดี้ไม่ได้เลย

ดวงตากลมของเด็กวัยสี่ขวบกว่าเจือด้วยน้ำตา ปลายนิ้วเล็กขยำคอเสื้อคนเป็นพ่อแน่นพร้อมกับฝังเขี้ยวลงบนบ่าพ่อด้วยความขัดใจ

อยากเข้มแข็งกว่านี้ อยากปกป้องมัม!!!
วันหนึ่งปานินจะเข้มแข็งแล้วปกป้องมัมจากทุกคนให้เหมือนแด๊ดดี้ให้ได้เลย!!!

สุดท้ายเด็กชายปานินก็ถูกนำไปฝากไว้ที่บ้านของฝั่งพ่อโดยมีอาภูยิ้มแป้นต้อนรับตั้งแต่หน้าประตูบ้าน โดยปกติเจ้าตัวคงร้องไห้จ้าไม่ยอมห่างพ่อกับแม่ แต่วันนี้กลับยอมโบกมือบ๊ายบายหยอยๆ แม้น้ำตาจะร่วงเป็นเม็ดแต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากรั้งไว้เหมือนเคย
ตะนิดไม่ได้ลงมาส่งลูกเพราะอาการใกล้จะฮีทเต็มทน ส่วนภาสก็ทำเพียงหอมแก้มลูกชายไปหนึ่งฟอดพร้อมกับกำชับว่าเดี๋ยวอีกสองสามวันจะมารับ เด็กชายปานินพยักหน้าและชูนิ้วโอเคเป็นคำตอบ แต่พอรถยนต์คันหรูออกตัวไป เจ้าลูกแมวก็ทรุดลงกับพื้นปล่อยโฮออกมาลั่นทำเอาใจคนเป็นอาเป็นลุงเหลวต้องนั่งยองๆ ลงไปน้ำตาไหลเป็นเพื่อนหลาน
ตัดภาพกลับมาที่ฝั่งผู้ปกครอง ภาสได้แต่ขับรถด้วยความเคร่งเครียด มือแกร่งจับพวงมาลัยรถด้วยความแน่นในระดับที่ปวดตุ้บๆ บริเวณฝ่ามือ กลิ่นแป้งผสมพีชแสนคุ้นเคยเริ่มฉุนขึ้นเรื่อยๆ จนแทบคุมสติไม่อยู่
“พี่ภาส...”
“หืม”
“อื้อ เพราะฉีดยาระงับบ่อยรึเปล่า”
“ทำไมล่ะ”
“นิดรู้สึก... รู้สึกมากกว่าทุกที” ตะนิดเบียดตัวเองเข้ากับเบาะพร้อมกับขดขาขึ้นเสียดสีตัวเองไปมา
“จะถึงบ้านแล้ว”
“นิดอยากขย่ม”
“...”

แมวดื้อเตรียมเปิดโหมด ‘ดื้อ’ อย่างเต็มตัว

ใจจริงอยากเลี้ยวเข้าโรงแรมที่ใกล้ที่สุดแต่ก็ติดที่ว่าแมวดื้อของเขาเวลาฮีทมักจะชอบทำในห้องที่มีแต่กลิ่นเขามากกว่า พอถึงบริเวณบ้านเขาก็ปักรถเข้าไปแบบไม่ได้ตั้งใจอะไรมาก ยังไม่ทันได้ปลดเข็มขัดนิรภัยดี ตะนิดก็ตะกายขึ้นมานั่งทับเสียก่อน

“ตะนิด ไปทำบนห้องดีๆ “
“อื้อ ไม่เอา เอาตอนนี้” มือเล็กดึงแว่นสายตาออกก่อนจะยื่นหน้าเข้ามางับจมูกอัลฟ่าหนุ่มอย่างออดอ้อน
“บนรถมันแคบ”
“พี่ภาส จูบ”
“แมวดื้อ”
“อื้อ ดื้อนิดนิด”

ภาสหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อแม่แมวล้อเลียนลูกแมวออกมาในเวลาแบบนี้เสียงั้น

“ขอพี่ถอดเบลท์ก่อน เห้ยๆ ตะนิด” ภาสรีบดึงแขนตะนิดไว้เมื่อเจ้าแม่แมวดื้อจู่ๆ ก็ยกมือขึ้นถอดเสื้อตัวเอง
“พี่ภาส นิด นิดอยากลองบนรถ”
“...”
“พี่ภาส...”
“คันอื่นได้ไหม”
“...”
“คันนี้มีคาร์ซีทลูกอยู่ด้านหลัง พี่รู้สึกเขินแปลกๆ”
“อื้อ เบนซ์” สติใกล้หายเต็มที แม่แมวทิ้งตัวลงถูเนื้อตัวเองกับอัลฟ่าหนุ่มไปมา
“เบนซ์ภาคินยืมไป”
“บะ บีเอ็มล่ะ เจ้าแปดอ่ะ” และตะนิดหมายถึงซีรี่ส์แปด ส่วนเจ้าแปดคือชื่อที่ปานินใช้เรียกรถคันนั้นตามภูเขา ภาสเหลือบมองเจ้ารถหรูที่จอดนิ่งในโรงรถแล้วก็ถอนหายใจ
“คันนี้แหละ”
พูดจบภาสก็เลื่อนมือขึ้นนวดแผ่นหลังบางส่วนมืออีกข้างก็เอื้อมไปปลดเข็มขัดนิรภัยออก ตะนิดช่วยเอื้อความสะดวกให้ด้วยการถอดเสื้อรอ พอถอดเสื้อตัวเองเสร็จแม่แมวก็จัดการใช้สองมือดันหน้าอัลฟ่าหนุ่มขึ้นมาจูบ
สมัยก่อนตะนิดอาจจะไม่ค่อยมีประสบการณ์กับการจูบมากนัก แต่หลังจากผ่านสนามมาหลายสนาม แม่แมวก็จัดการโชว์สเตปที่สั่งสมมา ตะนิดแล่บลิ้นเลียริมฝีปากอีกฝ่ายพร้อมกับหยอกล้อกับปลายลิ้นอัลฟ่าหนุ่มไปมา และนั่นทำเอาภาสปวดหนึบที่กลางตัวอย่างรุนแรง

น่ารัก...
น่ารักเป็นบ้าเลย...

“พี่ภาส...”
“หืม”
“นิดว่านิด...”
“...”
“แฉะหมดแล้ว”


ตะนิดก็คือตะนิด
มาอีกแล้วไอ้คำพูดคำจาลามกไม่รู้ตัว ทั้งๆ ที่เป็นคำที่ดูลามกมากแต่เจ้าตัวกลับขมวดคิ้วมุ่ยแตะที่ก้นตัวเองพร้อมกับกระเถิบก้นให้อยู่บนตักอัลฟ่าหนุ่มไม่ไปแปะลงบนเบาะด้วยความกลัวว่าเมือกใสจะเปื้อนเบาะแล้วซักออกยาก

“เราทำอะไรเนี่ย” ภาสเอ่ยถามเมื่อแมวดื้อขยับตัวหยิบเสื้อตัวเองที่ถอดมารองไว้ที่ก้น
“เดี๋ยวมันเปื้อนเบาะ กางเกงนิดบาง”
“...”

อยากจะบอกว่าเดี๋ยวได้เปื้อนกว่านี้อีกเยอะ แต่กลัวสัญชาตญาณแม่บ้านของแม่แมวจะตื่นเลยไม่พูดดีกว่า ภาสรีบเบี่ยงเบียนความสนใจตะนิดด้วยการบีบก้นนุ่มผ่านเนื้อผ้าไปเบาๆ พร้อมกดจูบลงบนเนินอกขาว พอมีลูกแล้วตะนิดดูจะอุดมสมบูรณ์ขึ้นกว่าเดิม บีบตรงไหนก็เนื้อแน่นเต็มมือไปหมด

“พี่ภาส พี่ภาส...อื้อ”
“แมวดื้อของพี่” ภาสรู้ตัวเองดีว่าตอนนี้ตัวเองนั้นหอบหายใจดังเหมือนคนหื่นกระหาย มือที่จากบีบเคล้นบริเวณสะโพกค่อยๆ ลากขึ้นลูบไปตามแผ่นหลังเล็กซึ่งแมวดื้อก็ยกก้นอำนวยความสะดวกให้แต่โดยดี
“อื้อ พี่ภาส ถอด ถอดกางเกง พอแล้ว อยากขย่มแล้ว” ตะนิดเบะก้มตัวเลียหูอัลฟ่าหนุ่มอย่างออดอ้อน
“กางเกงใคร?”
“นิด กางเกงตะนิด” แมวดื้อยกมือชี้ตัวเอง
“หึ” ภาสจับแมวดื้อให้นั่งหันหลังแนบอกแกร่งลงมา มือซ้ายสอดเข้าใต้แขนเล็กไปลูบหน้าท้องโมจิ ส่วนมือขวาก็สอดเข้าไปปลดกระดุมกางเกง ดีที่ตะนิดใส่กางเกงตัวที่ถอดง่ายมาวันนี้ ถ้าใส่กางเกงยีนส์ก็คงได้มีพับแผนทำบนรถทิ้งกันไปบ้าง
 พอรูดกางเกงทิ้งลงไปกองที่ข้อเท้าได้ แม่แมวก็เตะกางเกงทิ้งก่อนจะเตรียมหันตัวขึ้นขย่มเป้าหมาย แต่เป้าหมายก็รู้ทันเลยรีบล็อคแขนกอดเอวไว้
“พี่ภาส!! นิดอยากขย่ม!!”
“ใจดีกับพี่หน่อยแมวดื้อ มาถูๆ ก่อน”
“ถูด้วย ขย่มด้วย”
“จ๊าก”
“นั่นบทนิด!!!”
“หึ ก็เราลามก”
“นิดไม่ลามก”
“ลามกนิดนิด”
“พี่ภาสอย่าแซวลูก”

ภาสหัวเราะในลำคอพร้อมกับกดจูบลงบนขมับชื้นเหงื่อ ข้อดีของการทำพันธะคือเมื่อเข้าช่วงฮีทและรัท เขาและตะนิดจะมีสติมากกว่าตอนไม่ทำพันธะเนื่องจากการชินกลิ่น เขาและตะนิดไม่ได้กลิ่นฟีโรโมนของคนอื่นอีกตั้งแต่วันนั้น ต่อให้มีโอเมก้ามาฮีทตรงหน้าถ้าไม่ใช่ตะนิดเขาก็ไม่รัท และต่อให้ตะนิดฮีทที่ไหนฟีโรโมนของตะนิดก็จะไม่ทำให้อัลฟ่าคนอื่นรัท

ชีวิตเขาตอบสนองกับฟีโรโมนแค่ของตะนิด
และตะนิดก็ตอบสนองฟีโรโมนกับแค่ของเขา

... เราคือคู่พันธะกันอย่างสมบูรณ์

 มือใหญ่สอดเข้าไปใต้กางเกงสีขาวของตะนิด จริงๆ แค่เทียบขนาดมือของเขาก็แทบจะเท่าต้นขาแมวดื้ออยู่แล้ว พอสอดเข้าไปมือเขาเลยดันผ้าบางนั่นจนเห็นหลังมือนูนขึ้นชัดเจนกว่าแค่มือเดียวก็บังตะนิดน้อยจนมิด

...น่ารักไปทั้งตัว
แต่ขืนชมออกไปแม่แมวได้มีโกรธแน่
รายนี้ล่ะมั่นใจเรียกหนอนน้อยตัวเองว่ามังกรยักษ์มาตลอด แถมยังพาลูกเรียกปานินน้อยว่ามังกรจัมโบ้อีก

“พี่ภาส อื้อ ฮึก พี่ภาส นิดอยากขย่ม พี่ภาส” แมวดื้อเงยหน้าขึ้นเลียปลายคางมนอย่างออดอ้อน
“ใจเย็นๆ” ภาสปล่อยให้แมวดื้อเลียๆ งับๆ คางไป ส่วนมือก็ยังคงขยับเสียดสี ดวงตาคมใต้แว่นกรอบเหลี่ยมทอดมองใบหน้าดื้อที่เปลี่ยนไปตามอารมณ์ที่ทะยานสูงขึ้น ดวงตากลมโตเจือน้ำตาปรือมองเขา เรียวปากเล็กแล่บลิ้นเลียแก้มเขาจนต้องยอมหันไปประกบปากจูบ
“ไม่เอาแล้ว อ๊ะ ฮึก พี่ภาส นิดจะ... อื้อ” มือเล็กทั้งสองข้างชูขึ้นขยำหัวอัลฟ่าหนุ่มพร้อมกับปลดปล่อยออกมา แม่แมวกระตุกตัวอยู่พักหนึ่งก่อนจะรวบรวมสติรีบหันตัวขึ้นตั้งท่าประจำ ซึ่งภาสก็เตรียมพร้อมรับมือ
“พักก่อนไหม...”
“ไม่!!”

หนักแน่นเชียว...

แม่แมวจัดแจงท่าพร้อมกับจัดเตรียมทุกอย่างด้วยตัวเอง อัลฟ่าหนุ่มยกมือขึ้นประคองก้อนพีชเต็มไม้เต็มมือก่อนที่ความนุ่มนิ่มจะโอบรัดเสียจนต้องส่งเสียงคำรามผ่านไรฟัน ภาสเงยหน้าขึ้นมองแม่แมวที่เชิดขึ้นเปิดให้เห็นลำคอขาวเนียน
“พะ พี่ภาสคับ”
“พูดเพราะทำไม”
“ไม่... นิดหมายถึง มัน มันคับ” ตะนิดจิกบ่าคนตัวสูงแน่นพร้อมกับค่อยๆ ทิ้งน้ำหนักลงจนแนบชิดไปทุกพื้นที่ ตะนิดถอนหายใจอย่างโล่งอก ในขณะเดียวก็รู้สึกอึดอัดคับแน่นไปหมด
“ไหวไหม”
“มันใหญ่ขึ้นไหม หนอนจิ๋วพี่ภาสเนี่ย” แม่แมวบ่นอุบแต่ก็แอบยกสะโพกขึ้นลงเองเบาๆ
“ใหญ่นิดนิด”
“พี่ภาสอย่าแซวปานิน”
“หึ”
“พี่ภาส เนี่ย มันอยู่ประมาณนี้เลย” ตะนิดเอนตัวออกพร้อมกับจับบริเวณหน้าท้องตัวเองด้วยมือที่ชื้นแฉะไปด้วยคราบเหนียว วัดให้พอเห็นภาพว่าเจ้าหนอนจิ๋วนั้นขยายคับไปถึงตรงไหน ซึ่งมือเล็กก็ชี้อยู่ตรงแถวสะดือ ความเซ็กซี่ของทุกองค์ประกอบท่าทางนั่นทำเอาภาสแทบหน้ามืด

จะยั่วไปถึงไหนกัน
ก็หลงแทบตายอยู่ทุกวันแล้ว

“อย่ายั่วพี่ แมวดื้อ”
“ไม่ดื้อ”
“ดื้อ” ภาสยกนิ้วตะนิดขึ้นมางับเบาๆ 
“นิดไม่ดื้อ”
“รัก”
“...”
“จะดื้อกว่านี้ก็รัก”
“...”
“พี่รักเรานะ ตะนิด”
 
กลิ่นพีชผสมแป้งเด็กและกลิ่นลาเวนเดอร์ฟุ้งกระจายสอดประสานกันทันทีที่สิ้นประโยค ตะนิดรู้สึกได้ถึงความรู้สึกถูกรักที่ส่งมาจากสายตาอัลฟ่าดุ หลังคอบริเวณรอยกัดรู้สึกเจ็บแปล๊บก่อนจะแปลเปลี่ยนเป็นอุ่นวาบ

“ตะนิดก็รักพี่ภาส”
“...”
“รักนิดนิดนะแด๊ดดี้”
“หึ”

ภาสหลุดหัวเราะออกมาทันทีก่อนจะค่อยๆ โน้มตัวประทับริมฝีปากลงไปบนแผ่นอกบางบริเวณหัวใจ

การทำพันธะอย่างสมบูรณ์นอกเหนือจากการกัดหลังคอ
...คือความรู้สึกรักที่มัดกันไว้อย่างพอดีทั้งสองฝ่าย

ท่ามกลางบรรยากาศแสนอบอุ่น ดวงตาใต้แว่นกรอบเหลี่ยมที่ท่วมท้นไปด้วยความรัก มองพิจารณาใบหน้าคู่ชีวิตที่ขึ้นสีแดงระเรื่อไปจนถึงใบหู แม่แมวฉีกยิ้มกว้างจนตาปิดดูน่ารักเสียจนภาสอยากฟัดแก้มแรงๆ ให้กลิ่นแป้งติดจมูก

“พี่ภาส...”
“ครับ”
“รอบนี้อย่าเพิ่งรัทนะ”
“...”
“นิดอยากทำเยอะๆ”
“...”
“ทำน้องให้ปานินกันนะ” 

ภาสรอบถอนหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อนให้กับความน่ารักปนยั่วยวนของแมวดื้อบนตัว ตั้งแต่รู้จักตะนิดมา เขาถึงเพิ่งเข้าใจคำว่าน่ารักจนใจเจ็บ มือใหญ่ที่ไล้ลูบตามสันหลังเอื้อมไปลูบไปลูบมาบริเวณหน้าท้องโมจินุ่มยุ้ยแทน

“แมวดื้—“
“มีปานินแล้ว คนต่อไปชื่อปาไรดีพี่ภาส ปาดุก? ปาหมอสี?”
“จุ๊บๆ กันแมวดื้อ”
“เอ๊ะ แต่—“

...อา จริงด้วย
ภารกิจต่อไปคือช่วยลูกเรื่องชื่อต่อจากตะนีอีกสินะ


 

ออฟไลน์ tiger2006

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
ใครเนี่ย มีกลิ่นมากระตุ้นตะนิดหรือเปล่า

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ขอแฝดดด

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอน้องปานินน้า~

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
หลุดจากตะนี ก็ยังมีปลาดุก ปลาหมอสี
โอ้ยยย ตะนิด!555555555

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
55555 เป็นภาสนี่อยู่ยาก ตะนิดก็ป่วนหนึ่ง ภาณินก็ป่วนสอง
แต่จับมัดรวมแล้ว มีเจ้าก้อนดื้อในบ้านให้หนุบหนับ น่ารักไปหมด

โอยยย ใจบางไปหมดแล้วค่ะ ตะนิดฮีท ภาสจะไปไหนรอดได้อีก

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
ปาดุก :m20: :m20: :m20: :m20:

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2
ก็จะดื้อ 35



ช่วงเวลาฮีทของตะนิดยาวนานอยู่ประมาณสามวันก็เริ่มดีขึ้น

แต่ก็เป็นสามวันที่เรียกได้ว่า



‘เต็มอิ่ม’



ได้นอนกอดซุกกันเต็มอิ่ม อาจจะมีหยุดพักไปกินข้าวบ้างแต่สุดท้ายก็จบลงที่ฟัดกันไปมาบนเตียง เปลี่ยนสถานที่ร่วมรักไปพื้นที่ต่างๆ ในบ้านแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน เป็นสามคืนที่ร้อนแรงและเต็มไปด้วยความรักที่ท่วมท้น



แต่ทว่าก็เหงาหูเสียจนโหวงในบางครั้ง



ตะนิดลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับเด้งตัวขึ้นนั่ง ดวงตากลมหยีเล็กน้อยเมื่อรู้สึกปวดแถวๆ สะโพกกับต้นขาจากศึกรักร้อนแรงเมื่อคืนที่เขาและพี่ภาสจัดกันเสียจนตัวเองสลบเหมือดไปตอนไหนก็ไม่รู้ตัว แต่พอตั้งสติได้สิ่งแรกที่ตะนิดมองหาคือก้อนปานิน

เจ้าตัวแก้มยุ้ยขี้ดื้อที่มักจะตื่นก่อนคนแรกเสมอแล้วก็มักจะคอยทำหน้าที่แทนนาฬิกาปลุกที่ดีไล่จิ้มไล่ปุ๋งใส่หน้าคนเป็นพ่อเป็นแม่ให้รีบตื่นไปทำอาหารเช้าให้



อา...

อยู่กับภูเขานี่นา



“แมวดื้อ...” เสียงอู้อี้ของภาสดังขึ้นพร้อมกับแขนล่ำที่พาดโอบรอบเอวบางก่อนที่ร่างสูงจะซุกจมูกตัวเองเข้ากับพุงนุ่มนิ่มสูดดมกลิ่นแป้งผสมพีชเข้าเต็มปอด

“พี่ภาส”

“หืม”

“ไปรับปานินกัน”

“อื้อ ไปสิ”

“ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ก็ดีนะ”

“...”

“แต่มีลูกอยู่ด้วยดีกว่าเนาะ” แมวดื้อโน้มตัวลงจุ๊บแก้มสากที่มีตอหนวดของสามีเบาๆ

“อื้อ”

ภาสเห็นด้วยแบบไม่มีอะไรจะโต้แย้ง

สำหรับเขาแล้ว การได้ใช้ช่วงเวลากับตะนิดมันเป็นอะไรที่ดีมาก การที่ได้ยินเสียงแมวดื้อครางลั่นบ้านแบบที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวชอบทำแต่พอมีลูกก็ต้องคอยเก็บเสียงทุกครั้งที่มีโอกาสได้แอบทำเวลาเจ้าก้อนลูกแมวดูการ์ตูน ได้ฟัดแม่แมวเต็มที่แบบไม่ต้องยั้งติดกันทั้งวันทั้งคืน แต่สุดท้ายภาสเองก็คิดถึงเสียงเรียกแด๊ดดี้เล็กๆ ที่มักจะดังอยู่ทั้งวันด้วยเหมือนกัน

“ป่านนี้คงรอให้ไปรับแย่แล้ว”

“แต่ไม่โทรมาเลยนะ” ภาสหยิบแว่นขึ้นมาสวมก่อนจะคว้ามือถือมาเชคก็พบว่าไม่มีการติดต่อมาจากน้องชายเลย ถึงจะมีส่งรูปมาให้บ้างสองสามรูปแต่ก็ไม่มีเนื้อความที่ว่าเจ้าลูกแมวงอแงอยากให้มารับเหมือนปกติ

“อื้อ ไปรับลูกกัน นิดคิดถึงลูก” กลายเป็นแม่แมวที่เริ่มงอแงแทน

“ปะ อาบน้ำกัน”

“พี่ภาสไม่ลามก”

“แค่อาบน้ำ” ภาสถอดแว่นออกก่อนจะอุ้มแม่แมวขึ้นแนบอกซึ่งแน่นอนว่าตะนิดก็ตวัดขารัดไว้ตามสันชาตญาณ

“แค่อาบน้ำแต่พี่ภาสก็...” แม่แมวดึงหูคนพ่อทันทีเมื่อรู้ถึงอะไรบางอย่างดันอยู่บริเวณก้น

“ป่ะ ถูๆ กัน”

“จ๊ากกกก หมายถึงถูสบู่ใช่ไหม”



และใช่...

ไม่ได้จบแค่ถูสบู่หรอก



กว่าจะอาบน้ำเสร็จก็เล่นเอาตะนิดแทบหมดแรง ขนาดเขาไม่ฮีท อีกฝ่ายก็ไม่รัท แต่ก็ยังฟัดเขาเสียจนเสียงแหบเสียงแห้ง ตะนิดแอบเหลือบตามองอัลฟ่าหนุ่มที่กำลังคว้าเสื้อยืดมาสวมแล้วก็ได้แต่คิด



พี่ภาสนี่จะอึดเกินวัยไปรึเปล่า!

พอลูกไม่อยู่หน่อยนี่ไม่ปล่อยให้ขาแตะพื้นห้องเลยนะ!!!!

แล้วไอ้ลอนหน้าท้องนั่นมันอะไรเนี่ย วันๆ ก็สลับอยู่แค่บ้านกับออฟฟิส เอาเวลาที่ไหนไปปั้นหน้าท้องมาให้ดูเซ็กซี่ขนาดนั้น ยิ่งแก่ยิ่งฮอตมันเป็นแบบนี้เองเหรอ!!!



“จ้องพี่ทำไมแบบนั้น” ภาสขมวดคิ้วงงเมื่อหันกลับมาเจอแม่แมวกอดอกขมวดคิ้วทำหน้าเหมือนแมวกำลังดุอาหารเม็ด

“พี่ภาส...”

“หืม?”

“ถ้าพี่ภาสจะเป็นคนฮอตๆ นิดก็จะฮอตๆ บ้างนะ”

“พี่ไม่รู้ว่าเราคิดอะไรอยู่แต่หยุดคิดเถอะ” ภาสรีบยกปางห้ามคิดไปเรื่อยขึ้นมาทันทีที่ตะนิดพูดจบ แมวดื้อมักจะมีความคิดอะไรแปลกๆ อยู่ในหัวเสมอ และทุกไอเดียนั่นมักจะอันตรายอยู่เสมอด้วยเหมือนกัน

“พี่ภาสแบบกล้ามแน่น หุ่นดี แต่นิดอ้วนเอา”

“เราไม่ได้อ้วน”

“คณิตเรียกนิดว่าแม่หมู”

“คณิตแค่แกล้งเรา” แล้วก็แกล้งมาตลอดด้วยไม่ใช่รึไง ภาสได้แต่คิดแต่ไม่ได้พูดออกไป

“นิดว่าจะออกกำลังกายแล้ว ไปฟิตเนสกับคณิตดีกว่า”

“...”

“นิดจะได้หุ่นดีมีซิกส์แพคแบบพี่ภาสบ้าง”

“...”

แน่นอนว่าภาสไม่ห้ามหรอก เพราะรู้ดีว่าอย่างตะนิดน่ะออกกำลังได้ไม่เกินหนึ่งอาทิตย์หรอก เดี๋ยวก็บ่นปวดกล้ามเนื้อแล้วก็ไปจบที่นั่งกินสเวนเซ่นกับปานินเหมือนเดิม



“ถ้านิดฮอตๆ แล้ว พี่ภาสต้องหวงนิดชัวร์ นิดขอบอก”

“ไม่ฮอตพี่ก็หวงอยู่ดี” ภาสถอนหายใจแล้วเดินไปหยิบนาฬิกามาใส่ เชคของอะไรให้เรียบร้อยก่อนออกจากบ้าน โดยที่มีแม่แมวเดินตามต้อยๆ ตามภาษาคนเพิ่งออกจากฮีทแล้วติดกลิ่น

“ถ้านิดมีซิกส์แพคนิดจะถ่ายอวดลงไอจี”

“...” ภาสเลือกไม่โต้ตอบเพราะคงไม่ได้มีให้อวดหรอก เผลอๆ อีกไม่กี่เดือนนี้น่าจะได้อวดหน้าท้องตามที่เจ้าตัวอยากนั่นแหละ

...แต่คงไม่ใช่ท้องซิกส์แพค

น่าจะเป็นท้องลูกคนที่สองมากกว่าซึ่งแน่นอนว่าภาสก็ไม่พูดออกไปให้แม่แมวนึกขึ้นได้หรอก

ในที่สุดก็แต่งตัวเสร็จได้เวลาขับรถไปรับลูก ตะนิดดูจะกระวนกระวายเป็นพิเศษหลังจากที่ปานินไม่โทรมางอแงเหมือนทุกครั้งที่เอาไปฝากไว้ที่บ้านอื่น พอรถจอดเทียบหน้าบ้านตะนิดก็รีบก้าวขาลงจากรถ เพียงแค่ขาเตะพื้น เสียงเล็กก็หวีดดังลั่น

“มัม!!! แด๊ดดี้!!!” ปานินตะโกนลั่นพร้อมกับเตรียมสับเกียร์มาหาคนเป็นแม่



...แต่ทว่า

จู่ๆ ลูกแมวก็ชะงักตัว แล้วก็ยืนอยู่นิ่งๆ ทำเอาทั้งภาสและตะนิดงงจนต้องรีบเดินเข้าไปหา



“ปานินเป็นอะไร” ตะนิดนั่งยองๆ ลูบหัวลูกแมวที่ยืนก้มหน้าดึงชายเสื้อตัวเองไม่ยอมส่งเสียงอ้อนแบบที่เคยทำ

“ปานินเป็นเข็มแข็ง”

“...”

“อาภูบอกถ้าปานินเป็นพี่คนโตแล้วต้องเข้มแข็ง”

“...”

“ปานินไม่งอแงให้มัมรีบมารับแล้ว ปานินเข้มแข็ง ปานินอยู่ได้ ฮึก”



เป็นเข้มแข็งแต่น้ำตาหยดเป็นเม็ดทำเอาใจคนเป็นแม่เหลวไปหมด



“ปานิน ต่อให้เป็นพี่ก็อ่อนแอได้ ไม่ต้องรีบโตหรอก ไหน ใครคิดถึงมัมยกมือขึ้น” ตะนิดคว้าเจ้าก้อนลูกแมวขึ้นอุ้ม แค่นั้นลูกแมวก็ปล่อยโฮออกมาลั่น มือเล็กกอดคอคนเป็นแม่แน่น

“ฮึก ปานินครับ ฮืออออออออ ปานินคิดถึงมัม ปานินคิดถึงแด๊ดดี้ ฮึก”

“โอ๋ๆ” ตะนิดตบตูดลูกชายไปมา ส่วนภาสก็ได้แต่ถอนหายใจเดินมาหอมหัวลูกไปหนึ่งฟอด ตอนเห็นเจ้าตัวยืนนิ่งๆ ไม่วิ่งเข้ามาหาก็ใจหายหมด คิดว่าลูกเป็นอะไร พอรู้ว่าไปรับบทเรียนการเป็นพี่ชายมาจากอาที่เป็นน้องคนสุดท้ายของบ้านก็ได้แต่ตวัดตามองไปในบ้านที่มีเหล่าอัลฟ่าตระกูลภ.ยืนอยู่

... เดี๋ยวค่อยคิดบัญชีแล้วกัน

ภูเขาโดนคาดโทษคดีเร่งให้ลูกชายเขารีบโต เพิ่งจะสี่ขวบแถมน้องที่ว่ายังไม่ทันได้เจาะรังไข่เลยด้วยซ้ำ วุ่นวายไม่เข้าเรื่องจริงๆ

“แด๊ดดี้อุ้ม”

“มาครับ” ภาสคว้าลูกแมวมากอดพร้อมกับฟัดแก้มยุ้ยชื้นน้ำตาไปหนึ่งที

“แด๊ดดี้ ถ้ามีปาทองแล้ว แด๊ดดี้จะยังรักปานินไหม”

“รักสิ” แต่ปาทองนี่อะไรนะ? ทดไว้ก่อนในใจว่ามีสิ่งไม่ถูกต้องเกิดขึ้นในสารระบบของลูกชาย

“แด๊ดดี้ต้องห้ามลืมรักปานินนะ ฮึก” ก้อนแป้งเบะปากฮือพร้อมกับเอียงแก้มถูตอหนวดคนเป็นพ่ออย่างออดอ้อน

“แด๊ดดี้จะลืมรักเราได้ยังไง ไม่มีทาง”

“ฮึก ปานินจะดื้อนิดนิด พอมีปาทอง ปานินจะดื้อนิดนิดนิด เหลือดื้อแค่จิ๋วๆ เองแด๊ดดี้”

“จะดื้อบิ๊กๆ หรือจิ๋วๆ แด๊ดดี้กับมัมก็รักปานินอยู่ดี”

“ฮึก ปานินคิดถึงแด๊ดดี้กับมัมคับ”

“หึ”

“อาภูซื้อของเล่นเต็มเลย แล้วก็ แล้วก็ มีการ์ตูนด้วย”

“เป็นไง สนุกไหม”

“สนุกมากกกกก”

“หึ”

“แต่แด๊ดดี้”

“ครับ?”

“ต่อให้มีของเล่นพันชิ้น มีเลโก้ มีดาบเลเจ้อ มีกัปตันอะเมริก้าฉิบตัว”

“...”

“แต่ปานินก็ไม่เอา ถ้าไม่มีแด๊ดดี้กับมัมให้ปานินกอด” ก้อนแป้งกระชับกอดคอคนเป็นพ่อ พร้อมกับเอื้อมมือป้อมอีกข้างคว้าปอยผมคนเป็นแม่



มาบ้านอาภูกับบ้านลุงคณิตทีไรต้องมีของเล่นใหม่ให้เล่นอยู่ตลอด ได้ดูการ์ตูนเรื่องใหม่ๆ ได้กินขนมเยอะๆ แต่พอหันมาไม่เจอแด๊ดดี้กับมัมให้กอดแล้วปานินไม่ชอบที่สุดเลย เด็กน้อยวัยสี่ขวบกว่าคิดในใจพรางปาดน้ำตาป้อยๆ



“ปานินมานี่มา” ตะนิดอ้าแขนให้ภาสส่งลูกชายให้ ซึ่งภาสก็แงะก้อนแป้งส่งมอบให้แต่โดยดี

“มัม มัมมีปาทองในท้องอ๊ะยัง” พอกลับเข้าสู่อ้อมกอดแม่ ก้อนแป้งจิ๋วก็ทำการบีบแก้มแม่แมวไปมา ไม่ลืมจุ๊บๆ ด้วยสามที

“ยังหรอก”

“โห่ ปานินให้ปาทองยืมมัมกับแด๊ดตั้งหลายวัน ทำไมไม่มา ปาทองดื้อบิ๊กๆ เหรอ”

“ปาทองกำลังตีกับปลาตัวอื่นอยู่”

“ปาทองเป็นไฟ๊เต้อเหรอมัม”

“ใช่แล้ว ปานินต้องบอกให้น้องสู้ๆ”

“ฉู้ๆ! ฉู้กันๆ ปาทองฉู้ๆ”

“ไหนใครอยากกินสเวนเซ่น”

“ปานิน!!!! จะเวนเจ้นนนนนนนนน”

“ไหนใครอยากไปซาฟารีเวิลด์”

“ปานินนนนนนน”

“ไหนใครปุ๋งคนเดียวตอนกลางคืนได้แล้วว”

“ปานิ— เอ๊อะ มัม ปานินยังทำไม่ได้น้า”



ภาสมองสองแม่ลูกที่หัวเราะคิดคักไปขึ้นรถแล้วก็ได้แต่อมยิ้มออกมาเบาๆ เขาเคยคิดไว้ตั้งแต่ช่วงเจอตะนิดแรกๆ แล้วว่าตะนิดเป็นเหมือนความวุ่นวายที่เข้ามาในชีวิต เป็นเสียงที่ดังในวันที่ปกติจะเงียบสงบ เป็นเหมือนพีชเปรี้ยวๆ ที่เมื่อกินแล้วคงตาหนีไปข้างก่อนที่จะทิ้งรสหวานไว้ปลายลิ้น และพอมีปานินเข้ามาก็เหมือนความวุ่นวายนั้นทวีคูณเป็นสองเท่า นี่ยังไม่นับว่าถ้าเกิดเด็กในท้องที่ตามมามีจำนวนมากกว่าหนึ่ีงคนชีวิตเขาคงวุ่นวายกว่านี้ไปอีกเท่าตัว



ถึงจะเป็นความวุ่นวาย

... แต่ก็เป็นความวุ่นวายที่ทำให้โลกสดใส



เวลาที่ค่อยๆ ผลัดเปลี่ยนไป ตะนิดที่เริ่มหันมาลองจิบกาแฟแล้วรู้สึกว่าไม่ขมอย่างที่คิด ภาสเองที่เริ่มทาครีมลดรอยตีนกาที่เพิ่มขึ้นทุกวันพอๆ กับผมหงอกที่เริ่มๆ แอบแซมขึ้นจนแมวดื้อต้องคอยถอนให้ จานแพนเค้กที่จากปกติต้องทำเผื่อก้อนแป้งแค่หนึ่งก้อนก็กลายเป็นสามจานตามจำนวนเด็กที่เพิ่มขึ้น



“มัมมมมมมมม ปูริกับปูรินทะเลาะกันอีกแล้ว ปานินห้ามแล้ว!!!” เสียงปานินโวยวายลั่นบ้านก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปหาคนเป็นแม่ที่กำลังเป่าผมให้อัลฟ่าร่างใหญ่

“ทะเลาะเรื่องอะไรอีกล่ะคราวนี้”

“ไปดูลูกไป” ภาสตบก้นแม่แมวเบาๆ ก่อนจะรับไดร์เป่าผมมาไดร์เอง

“ว่าแต่เราใส่เสื้อกลับด้านป่ะปานิน”

“จ๊ากกก ปานินใส่เสื้อกลับด้าน!!!”



ภาณินในวัยเจ็ดขวบตัวเริ่มยืดสูงกว่าเด็กในวัยนี้ทั่วไปแต่ความเด็กก็ยังคงเด๋อด๋าตามวัย ผมสีน้ำตาลอ่อนและดวงตาสีเทาอมน้ำตาลอ่อนแสดงความลูกครึ่งชัดเจนว่าได้มาจากฝั่งพ่อ แต่ใบหน้าที่หวานและดูดื้อนั้นยังคงชัดเจนว่าได้มาจากตะนิดล้วนๆ



“ฮึก ฮือออออออ มัม มัม”

“มะน้อง น้อง มะดู้ ปูริงยื่อ”

“มัม ปูริ ปูริแก้ง”



ตะนิดเดินเข้ามาโซนคอกเล่นเด็กก่อนจะชะเง้อดูก้อนสองแฝดในวัยใกล้จะสองขวบ คนพี่อย่างภูริที่ดูหน้าดุเหมือนคนพ่ออย่างกับแกะส่วนคนน้องอย่างภูรินทร์ก็หน้าเหมือนพ่อไม่ต่างกันแต่ทว่าขี้แยมากแทบจะร้องไห้ทุกสามเวลาหลังอาหาร



“ไหนทะเลาะอะไรกัน”

“ฮึก มะ ฮึก ปูริ ปูริ หยำ” หยำคือไร? ตะนิดลูบหัวแฝดคนเล็กที่วิ่งหยองๆ เข้ามาฟ้องทั้งน้ำตา

“ปูริม่ายหยำ ปูริงจื้อปูริปูริ”

“ฮืออออออออ”

“ฮึก ปูริม่ายหยำ ฮือออออ”



อ้าว พูดอะไรไม่รู้เรื่องแล้วก็ร้องไห้กันหมดเลย

อะไรเนี่ยยยยยย



“ไม่ร้องๆ เดี๋ยวไปกินติมกัน กินติม ใครอยากกินไอติมมม”

“ติมๆ ปูริติมๆ”

“ฮึก ติมๆ” ก้อนแป้งขี้แยเดินมายืดแขนให้แม่อุ้มส่วนก้อนแป้งคนพี่เดินไปพยายามปีนรั้วนวมออก ตะนิดถอนหายใจก่อนจะใช้มือซ้ายอุ้มปูรินและใช้มือขวาดึงเสื้อปูริให้ลอยก่อนที่จะเจ้าแสบจะปีนคอกแล้วหน้าขว้ำ ปานินที่เพิ่งเปลี่ยนเสื้อเสร็จรีบวิ่งมาช่วยแม่แมวอุ้มน้องแฝดพี่ลงพื้นก่อนจะขยี้หัวน้องชายเบาๆ

“ปูริอย่าดุน้องมากซี่”

“ม้าหยุ”

“ถ้าขี้ดุมาก พี่จะเรียกปูริว่าปาทองนะ”

“อื้อ มะอาวปาตอง”

“เพราะงั้นอย่าดุน้องบ่อยเข้าใจไหม”

“อื่อ ฮุก ปานินหยุ”

“ไอไม่ดุ I just don’ t like when you tease your brother and make him cry like that” พี่ชายคนโตกอดอกสอน

“มะหนุ”

“say sorry ก่อน because I saw that you yelled at him มะกี้นะ”

“อื๊อ” น้องคนพี่เอียงคองงใส่ประโยคยาวๆ แต่ก็พอเข้าใจว่ากำลังโดนดุเลยทำหน้าเศร้ากอดขาพี่ชาย

“คัมออนปูริ เซย์ ซอ-รี่”

“อื่อ จอจี้”

“เซย์ให้ใคร?”

“ปูริง”

“อาฮะ then?”

“จอจี้ปูริง”

“Good boy”

“ปูริ ปูริ” พอได้รับคำขอโทษเจ้าแฝดน้องในอ้อมกอดก็ดิ้นดุ๊กดิ๊กขอลงจากอกแม่ไปหาแฝดพี่ก่อนจะกอดกันกลมให้พี่ชายและแม่ถอนหายใจ



ความแฝดนี่นะ

ทะเลาะกันยังไงสุดท้ายก็กอดกันกลมอยู่ดี



“ตะนิดเดี๋ยววันนี้เอารถไปจอดที่ออฟฟิศพี่ก่อนได้ไหมแล้วค่อยนั่งบีทีเอสไปห้าง รถติดมากเลย” ภาสที่เพิ่งเดินลงมาจากห้องนอนเสยผมลวกๆ ก่อนจะก้มลงก้อนแฝดขึ้นอุ้มแนบอก มือซ้ายแฝดพี่ มือขวาแฝดน้อง และจบท้ายที่โน้มตัวลงจุ๊บเหม่งปานิน

“ได้ๆ เดี๋ยวนิดไปเตรียมน้ำส้มให้แฝดก่อน”

“ปานินช่วยยย”

“ว่าไงแฝด ตีกันยามเช้าเหรอครับ”

“แด๊ดดิ ตุ๊บๆ ปูริน”

“แด๊ดดิ ป่อยปูริ ป่อยยย”



ภาสเอียงคอเมื่อโดนแฝดน้องดึงไปจุ๊บแก้มส่วนแฝดคนพี่ใช้มือดันคางเพราะอยากลงพื้น แน่นอนว่าภาสก็เลือกฟัดแก้มคนน้องคนมีเสียงดังคิกคักก่อนจะหันไปจุ๊บแก้มแฝดพี่ที่โวยวายลั่นไม่ชอบให้คนพ่อหอม แน่นอนว่าพาปล่อยลงพื้นคนพี่ก็ออกตัววิ่งเข้าครัวตามพี่ชายกับแม่ไปทันที ส่วนแฝดน้องก็ล็อคคอกอดไว้แน่นไม่ยอมลง

ภาสถอนหายใจยาวเหยียด จะพูดว่าไงดี ตอนที่หมอบอกว่าได้ถูกแฝดเขาก็แสนจะดีใจ มาทีเป็นคู่ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าพอออกมาแล้วแฝดพี่จะดันดูต่อต้านแถมอารมณ์เสียง่ายคล้ายแฝดพี่ของตะนิดไปด้วย ตอนที่เริ่มโตมาขี้โวยวายไม่ยอมฟังใครภาสก็แสนจะหนักใจ ถึงจะยังดีที่ยอมลงให้ตะนิดกับภาณินแต่คนเป็นพ่ออย่างเขาก็อดน้อยใจไม่ได้ที่ลูกชายไม่ค่อยอ้อน

อ้อ ถึงภูริจะนิสัยคล้ายคณิตแต่แฝดน้องอย่างภูรินทร์ก็ไม่ได้คล้ายตะนิดไปสักทีเดียว มีขี้แงไปบ้างแต่ไม่ค่อยดื้อ ค่อนไปทางเรียบร้อยนั่งเล่นอะไรเงียบๆ บอกให้ทำอะไรก็ทำ อ้อนบ้างแต่ก็ไม่อ้อนมากเพราะขี้เขิน

สำหรับครอบครัวตอนนี้ภาสพูดได้คำเดียวว่าเขารู้สึกมีความสุขกับทุกอย่าง และแน่นอนว่าถึงก่อนหน้านี้จะมีความคิดที่อยากมีฟาร์มลูกแมวเยอะๆ แต่การเลี้ยงเด็กไม่ใช่เรื่องง่ายเอาเสียเลย ตะนิดและเขาแทบจะไม่มีเวลาส่วนตัวแต่พอมีโอกาสได้คลุกวงในกันก็จัดเต็มตลอด

...เต็มจนกลัวว่าจะติดลูกแมวมาอีกโดยที่มีอยู่ก็เลี้ยงกันแทบไม่ไหว

ถึงใส่ถุงยางป้องกันก็ยังมีเปอร์เซ็นต์ที่จะตั้งท้องได้อยู่ดี สุดท้ายเขาเลยพับแผนทำฟาร์มแมวทิ้งด้วยการทำหมันอัลฟ่า ฟังดูน่ากลัวแต่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เขายังคงฟัดแมวดื้อได้อย่างเต็มเหนี่ยวปลดปล่อยทุกหยาดหยดไว้เหมือนทุกครั้งทั้งตอนแมวดื้อฮีทและไม่ฮีท ยังคงน็อตได้เหมือนเดิมเพียงแต่ไม่สามารถขยายฟาร์มแมวได้อีกต่อไป ซึ่งแน่นอนว่าทุกอย่างผ่านการตกลงกันอย่างดีระหว่างเขาและตะนิดแล้ว

“แด๊ดดิ ติมๆ”

“หืม?”

“ปูริน ติมๆ”

“อ่า ใช่แล้ววันนี้ไปกินไอศกรีมกัน”

“แด๊ดดิ ทูทูปูริน”

“อ่า ทูทูเหรอ เราวางไว้ไหนล่ะ” ภาสเอียงคอหาตุ๊กตากระต่ายคุณนุ่มเบอร์ศูนย์ของลูกชายคนเล็ก ส่วนของแฝดพี่จะเป็นตุ๊กตาเสือเน่าๆ ซึ่งก็วางแหมะอยู่ด้วยกันกลางบ้าน จะว่าไปสอดส่องสายตาทั่วบ้านตอนนี้ทั้งบ้านที่เคยโล่งก็กลายเป็นเต็มไปด้วยของเล่นของลูกชายทั้งสาม ห้องนั่งเล่นที่เคยมีแค่โซฟาก็มีคอกเด็กขนาดใหญ่กว่าวางไว้สำหรับให้เจ้าแสบเข้าไปเล่นกับปีนขอบหัดเดิน

“ทูทู~”

“ปะพี่ภาส นิดเตรียมของเสร็จแล้ว” ตะนิดโผล่ออกมาพร้อมกับกระเป๋าใบเล็กๆ ไว้พกของใช้สำหรับเด็กแฝด

“โกโกกกกกก”

“ติมติม!!!”

“จ๊ากกกก มัม ปานินใส่รองเท้าสลับข้าง”

“จ๊ากกกกก มัมก็ด้วย”

“ต๊ากกก ปูริงดั้ว”

“...”

“...”



ภาสและภูริได้แต่ยืนมองภาพตรงหน้านิ่งๆ ภาสมองลูกชายคนเล็กบนแขนตัวเองที่บ้าจี้จ๊ากไปตามแม่กับพี่ชาย ทั้งๆ ที่ตัวเองใส่รองเท้าลายหมีสองข้างอยู่ครบไม่มีสลับแถมยังหัวเราะคิกคักเหมือนการใส่รองเท้าสลับข้างคือการเล่นอะไรสักอย่าง

หลังจากนั้นภาสก็รับหน้าที่ขับรถพาครอบครัวมาจอดที่ออฟฟิศกลางเมืองเพื่อแวะเข้าไปประชุมงานเล็กน้อยก่อนที่จะเตรียมไปเที่ยวกับครอบครัวต่อ และเพื่อหลีกเลี่ยงการต้องนั่งเบื่อในรถกับความรถติดนรก ครอบครัวจึงเลือกใช้บีทีเอสที่ประหยัดเวลาแทน



“แด๊ด เดี๋ยวไอว่าจะแวะไปซื้อหนังสือด้วย”

“ไปอควาเรี่ยมไหม”

“โน แด๊ดไปกับน้องเถอะ ไอเบื่อแล้ว” ภาสหัวเราะในลำคอ จากปานินที่โวยวายอยากไปสวนสัตว์ตอนนั้นกลายเป็นเบื่อไปเสียแล้ว

“แล้วแฝดอยากไปไหม อควาเรี่ยม”

“ไป!!! ไปเอี้ยมๆ!!!”

“ไป ปูริงไป” สองแฝดที่ยืนจับมือตะนิดอยู่รีบชูมือขึ้นฟ้าเป็นการบอกว่าอยากไปมากๆ

ตอนนั้นเองที่รถไฟก็เข้าชานชะลามา ทันทีที่ประตูเปิดคนก็เริ่มทยอยเดินกันเข้าไป ภาณินที่เห็นว่าตัวเองจะได้เข้าช้ากว่าจึงเลือกเดินแทรกเข้าไปก่อน พอแฝดน้องเห็นพี่นำเข้าไปก็รีบสะบัดมือแม่ออกแล้ววิ่งแซงคิวตามพี่ชายเข้าไปด้วย

“ภูริ!! ปานิน!!!” ตะนิดโน้มตัวลงอุ้มแฝดน้องยื่นให้ภาสก่อนจะรีบเดินตามเข้าขบวนไป ภาสกะพริบตามองภาพตรงหน้าก่อนจะยกยิ้มออกมา



สถานการณ์คุ้นๆ แฮะ...



“เย้! ปูริชานะ!!”

“ไอถึงก่อน ไอชนะหรอก”

“ภูริ ปานิน อย่าทำแบบนี้อีกนะ มัมจะโกรธแล้วนะ” ตะนิดรีบเดินเข้ามาอุ้มแฝดพี่ขึ้นพร้อมกับขมวดคิ้วดุ ไม่ลืมหันส่งสายตาพิฆาตใส่ลูกชายคนโตด้วย

“มัม แอมซอรี่”

“...มัม อย่าโกด หงึ”

“อย่าสะบัดมือแล้ววิ่งแบบนี้อีกนะ ตกใจหมดเลย ไอ้ปุ๋งนี่!”

“...”

“แล้วก็ต่อให้รีบแค่ไหนเราก็ต้องเข้าคิว มาแซงแบบนี้ไม่ได้ เข้าใจไหมภาณิน”

“ครับ แอมซอรี่มัม”

“หงึ มัม”

“เด็กไม่ดีเลยครับ ทีหลังต้องเข้าคิวรอนะ คนเขาต่อแถวกันมาตั้งนาน แล้วก็ห้ามสะบัดมือวิ่งแบบนี้อีกด้วย หลงไปจะทำไง ดื้อใหญ่แล้วนะภูริ”

“จอจี้คับ” ลูกแมวเบะปากเตรียมจะร้องไห้แต่ก็ฮึบไว้เต็มที่ ภาสมองภาพตรงหน้าก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ ทำเอาตะนิดเอียงคองง

... อารมณ์ไหน จู่ๆ ก็หัวเราะตอนดุลูกวุ้ย

ถึงงั้นก็ไม่ได้ถามอะไรออกไปเพราะขบวนรถเริ่มออกตัว พอถึงสถานีที่ต้องการจะลงจนกระทั่งเดินเข้าห้างมาแต่อัลฟ่าข้างกายก็ยังยกยิ้มไม่หยุดจนต้องหันไปถามคลายความสงสัย

“พี่ภาส เมื่อกี้บนขบวนหัวเราะไรอ่ะ”

“ตลกดี”

“ฮะ?”

“โตขึ้นมากเลยนะเราน่ะ แมวดื้อ”

“ฮะ? อะไรของพี่ภาสอ่ะ เนี่ย ประชุมงานเยอะแล้วอ๊องกาแฟแน่เลย”

“ปานิน สมัยก่อนแด๊ดเคยโดนเด็กไม่ดีแซงคิวแบบนี้ด้วย”

“เหรอครับ”

“ใช่ แด๊ดจับได้เขาก็โวยวายเล่นละครใหญ่เลยว่าแด๊ดเป็นเสี่ยโรคจิตมาจับตัวเขา ตอนนั้นแด๊ดต้องเคลียร์กับยามอยู่นานมากจนเกือบไปทำธุระไม่ทัน แด๊ดจำได้เลยว่าโกรธเด็กบ้านั่นมาก”



เอ๊ะ

สตอรี่คุ้นๆ



“ทำไมเขาทำแบบนั้นล่ะแด๊ด”

“นั่นสิ แย่ใช่ไหม”

“โซแบด แย่มาก แล้วแด๊ดทำไงต่อ อย่าบอกนะว่าแด๊ดยอมอ่ะ เป็นปานิน ปานินไม่ยอมนะ”

“อืม แด๊ดก็ไม่ยอม”

“แล้วแด๊ดจัดการไงอ่ะ”

“อืม...”

“...”

“แด๊ดแต่งงานกับเขาแล้วมีลูกด้วยกันสามคน”

“โอ๊ะ...”

“ตอนนี้เขากลายเป็นคนสอนลูกแทนแล้วว่าห้ามแซงคิว เป็นไง แด๊ดจัดการเด็ดขาดไหม” ภาสอมยิ้มจนแว่นยกเมื่อแม่แมวหน้าแดงไปยันหู วีรกรรมวัยเด็กที่เคยทำไว้ฉายชัดเจนขึ้นบนหน้า



อะไรอะ ผ่านไปเกือบสิบปีแล้วยังจะจำได้อีก!!!

วัยรุ่นเลือดมันร้อนนี่นา!!!



“มัมมมม ยูเป็นแบดบอยมาก่อนเหรอ” ปานินหันหน้ามาแซวแม่ทันที

“พี่ภาสกระชากคอเสื้อนิดเลยนะ นิดจำได้”

“วันต่อมาเราก็มานอนคาอกพี่กลางห้างนะจำได้ไหม”

“ก็ ก็พี่ภาส...”

“กลับบ้านไปยังพกไม้เบสบอลมาด้วยอีก”

“อึก พี่ภาสหยุดเลยนะ”

“อ้อ แถมยังขย่—”

“อันนี้ไม่ได้!!!” ตะนิดรีบยกมือขึ้นบีบปากอีกคนทันทีทันใด



ประเด็นนี้มันได้ที่ไหนเล่า!!!!!



ภาสขยับปากจุ๊บฝ่ามือเล็กทำเอาตะนิดสะดุ้งรีบดึงมือกลับ พอพิจารณามองใบหน้าดื้อแล้วก็อดที่จะยกยิ้มต่ออย่างเสียไม่ได้ ตะนิดดูโตขึ้นกว่าวันแรกที่เจอกันมาก ทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและนิสัยภายใน จากเด็กที่เขากล้าพูดได้เลยว่าเป็นเด็กนิสัยไม่ดี ดูวางใจให้ทำอะไรแทบไม่ได้ กลับกลายมาเป็นแม่ที่ดูแลลูกทั้งสามคนแถมสามีอย่างเขาได้ดีผิดจากที่ทุกคนคาดไว้อย่างน่าตกใจ



“วู้ ไปหาไรกินกันดีกว่า ปานินอยากกินไร”

“ต้มๆ ไหมมัม”

“ชาบู?”

“ก็ได้นะ”

“ชาบือออ ชาบือออออ ปูริหม่ำ ชาบือออออ”

“ชาบืออออ ปูริงดั้ว”



บทสนทนากลับไปสู่เรื่องการกินอีกรอบ ภาสมองกลุ่มก้อนแก็งแมวที่สุมหัวกันเลือกร้านอาหารก่อนจะเดินเข้าไปหอมแก้มแม่แมวหนึ่งฟอดแล้วตามด้วยหอมหัวลูกแมวที่เหลือ



“มัมชอบว่าปานินดื้อ จริงๆ มัมก็ดื้อเหมือนกันนะ”

“อะไรตะนี มัมดื้อนิดนิด”

“อย่าล้อปานิน!! แล้วปานินไม่ได้ชื่อตะนีด้วย!!!”

“ใช่ ขี้ดื้อ” ภาสกดจมูกหอมขมับแม่แมวไปหนึ่งฟอด สูดกลิ่นพีชผสมแป้งเด็กเข้าปอด



แม้ตอนที่เจอกันครั้งแรกแล้วรู้ตัวว่าตะนิดคือคู่แห่งโชคชะตาเขาจะรู้สึกว่าตัวเองซวยเสียเหลือเกินที่ได้คู่เป็นเด็กกะโปโลที่ดูดื้อจนขี้เกียจดุ แต่ตอนนี้สิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตเขากลับเป็นเจ้าเด็กดื้อในวันนั้น อยากให้ดื้ออยู่ในสายตาทุกนาที อยากตื่นมาฟังเสียงดื้อๆ บ่นหงุงหงิงทุกเช้า อยากกอดแล้วดมกลิ่นแป้งเด็กผสมพีชอ่อนๆ ให้สุดปอดก่อนนอนทุกวัน



“แมวดื้อ”

“อะไรพี่ภาส”

“เราน่ะดื้อบิ๊กบิ๊ก”

“ก็จะดื้ออ่ะ ทำไม มีปัญหาเหรอ”

“ไม่ดื้อกับพี่ได้ไหม”

“ไม่ได้ ก็จะดื้อ”





อยากจะดุแมวดื้อตัวนี้ไปอีกนานๆ

....นานที่แปลว่าตลอดชีวิต



-- [END]

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
ขอบคุณคนแต่งค่า :mew1:

ออฟไลน์ tiger2006

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด