เล่มที่ 1 ตอนที่ 24 ร่างกายมีปัญหา
เย่ฝานเดินมาหาหยางเฟย หยางเฟยก็มองเย่ฝานที่มีท่าทีขึงขัง ไม่รู้ทำไมจึงรู้สึกหวาดเกรงขึ้นมา “เย่ฝาน นายมีอะไรหรือเปล่า?
“คำจารึกที่คุณให้ผมดูก่อนหน้านั้น องค์หญิงที่แต่งพระสวามีสิบแปดคน ถูกฝังอยู่ที่นี่ใช่ไหม?” เย่ฝานถาม
หยางเฟยคิ้วกระตุก ถามอย่างอึกอักว่า “เย่ฝาน ทำไมนายถึงคิดอย่างนั้นล่ะ?”
เย่ฝ่านตอบ “มีสิบแปดโลงศพ! มีสิบแปดโลงที่รายล้อมหนึ่งโลงศพที่เหมือนเป็นโลงหลักเอาไว้!”
หยางเฟย “…”
“คำจารึกที่คุณให้ผมอ่าน สอดคล้องกับลักษณะของที่นี่พอดีเลย” เย่ฝานอธิบาย
หยางเฟยมองเย่ฝานด้วยความตื่นตระหนก ยังไม่ได้เข้าไปในสุสานเลย ทำไมเย่ฝานถึงรู้เรื่องนี้ได้ เขามีตาวิเศษหรืออย่างไร?
“ใช่หรือไม่ครับ!” เย่ฝานถามซ้ำ
“เป็นที่แห่งนี้จริงๆ นั่นแหละ” หยางเฟยตอบ
เย่ฝานขมวดคิ้วทันที “แย่แล้วล่ะ จากข้อความที่คุณให้ผมดู ลักษณะตัวอักษรดูออกว่าเป็นตัวหนังสือในสมัยราชวงศ์ฮั่น ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าสุสานนี้มีประวัติยาวนานถึงสองพันปีมาแล้ว?”
หยางเฟย “…” เก่งจริงๆ! เจ้าหมอนี่บางครั้งก็เหมือนเป็นอัจฉริยะ แต่บางทีกลับเหมือนคนปัญญาอ่อน!
เย่ฝานลูบคางของตนพร้อมกล่าว “ถ้าในนั้นมีผีดิบ ต้องแย่แน่ๆ”
หยางเฟยหัวเราะพลางพูดว่า “มีคุณจางแห่งเขาหลงหู่อยู่ทั้งคน ไม่ต้องกังวลหรอกน่า”
เย่ฝานหันมามองจางเหวินเทาแวบหนึ่งและพูดว่า “อืม ใช่ ให้เขาดูแลพวกคุณก็แล้วกัน ส่วนผมจะปกป้องไป๋อวิ๋นซีคนเดียวเท่านั้น”
หยางเฟย “…”
…
ไป๋อวิ๋นซีสวมเสื้อคลุมยาวนั่งอยู่ข้างกองไฟ เย่ฝานนั่งลงข้างๆ เขาพลางเอ่ยถามว่า “นายจะลงไปในสุสานไหม?”
ไป๋อวิ๋นซีพยักหน้าและตอบ “ฉันต้องลงไปอยู่แล้ว ไม่งั้นฉันจะมาที่นี่ทำไม”
เย่ฝานกะพริบตาแล้วกล่าวว่า “นายลงไปที่นั่นไม่ได้นะ”
“เพราะอะไร?” ไป๋อวิ๋นซีถามเสียงเรียบ
“เจ้าของสุสานนั่นเป็นคนบ้ากาม ถ้าเห็นว่านายรูปงามอย่างนี้ มันจะต้องทนไม่ได้แน่ๆ ให้คนขี้เหร่พวกนั้นลงไปก็พอแล้ว” เย่ฝานตอบกลับ
หยางเฟย “…” คนขี้เหร่ เจ้าหมอนี่หมายถึงใครกัน!
ไป๋อวิ๋นซี “...คนบ้ากาม เหมือนกับนายน่ะเหรอ?”
เย่ฝานส่ายหน้า “ไม่ใช่สักหน่อย! ฉันเป็นสุภาพบุรุษต่างหากล่ะ”
ไป๋อวิ๋นซี “…”
“นายอยากกินถังหูลู่ไหม” เย่ฝานหยิบถังหูลู่ออกมาหนึ่งไม้
ไป๋อวิ๋นซีมองกระเป๋าสะพายของเย่ฝาน แล้วพูดอย่างประหลาดใจว่า “กระเป๋าใบนี้ของนายไม่ได้ใหญ่สักเท่าไร แต่ใส่ของได้เยอะจัง!”
เย่ฝานหัวเราะและไม่ได้กล่าวอะไร กระเป๋าสะพายของเขามียันต์จัดเก็บข้าวของอยู่ในนั้นสองแผ่น เวลาหยิบของออกมาดูเหมือนว่านำออกจากกระเป๋า แต่แท้จริงแล้วนำออกมาจากยันต์ที่ว่านั่นต่างหาก
“กระเป๋าสะพายของฉันใบนี้ดูเหมือนไม่ใหญ่ แต่จริงๆ บรรจุของได้เยอะนะ!”
ไป๋อวิ๋นซี “...เอามาสิ”
“อะไรเหรอ?” เย่ฝานถาม
“ก็ถังหูลู่ไง!” ไป๋อวิ๋นซีตอบกลับอย่างเย็นชา
เย่ฝานแววตาเป็นประกาย ถามด้วยความดีใจว่า “นายอยากกินเหรอ?”
ไป๋อวิ๋นซีเปล่งเสียงฮึมเบาๆ เย่ฝานมอบถังหูลู่ให้เขาอย่างมีมารยาท
หยางเฟยมองไป๋อวิ๋นซีอย่างแปลกใจ เขาแอบคิดในใจว่าไปอวิ๋นซีเป็นคนหยิ่งทะนงมาแต่ไหนแต่ไร แต่เขากลับยินดีรับถังหูลู่จากเย่ฝานได้ มันช่างแปลกจริงๆ
เย่ฝานมองไป๋อวิ๋นซี ก็เห็นว่าใบหน้าของเขาขาวซีด ไป๋อวิ๋นซีหันไปเห็นว่าเย่ฝานจ้องอยู่จึงเอ่ยถาม “นายจ้องฉันทำไม?”
“นายเป็นยังไงบ้าง…” ตอนแรกเย่ฝานดูออกเพียงว่าไปอวิ๋นซีมีร่างไขกระดูกหงส์บริสุทธิ์แฝงอยู่ จึงทำให้มีธาตุเย็นในร่างกาย แต่ครั้งนี้ได้เข้าใกล้ขนาดนี้ และพระอาทิตย์กำลังจะตกดินแล้ว พลังหยินในร่างของไปอวิ๋นซียิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เย่ฝานรู้สึกว่าเขาไม่ได้มีแค่ร่างไขกระดูกหงส์บริสุทธิ์แฝงอยู่เท่านั้น
“ร่างเทียนหยิน หรือว่านายเกิดในวันเดือนปีที่เป็นธาตุหยิน?” เย่ฝานถามด้วยเสียงต่ำลง
ในอาณาจักรผู้ฝึกตนนั้น ผู้ฝึกตนหญิงที่มีร่างเทียนหยินมักเป็นที่หมายปองของผู้คน ผู้ฝึกตนที่ติดขัดในการฝึกเพื่อทะลวงขั้น หากได้ร่วมหลับนอนกับผู้ฝึกตนที่มีร่างเทียนหยิน คนผู้นั้นก็จะสามารถทะลวงจุดจินตันได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นผู้ฝึกตนหญิงที่มีร่างเทียนหยินจึงเปรียบดั่งสิ่งล้ำค่าในอาณาจักรของผู้ฝึกตน
ไป๋อวิ๋นซีจ้องมองเยฝ่านด้วยสีหน้าถมึงทึง ไป๋อวิ๋นซีร่างกายอ่อนแอ โรคภัยรุมเร้าตั้งแต่เล็ก บ้านตระกูลไป๋ย่อมต้องเชิญหมอมารักษาแล้วหลายคน เมื่อหมอหมดหนทางรักษา ก็ต้องจำใจเชิญนักพรตมารักษาด้วยเช่นกัน แม้จะเชื่อในเรื่องพวกนี้ได้ไม่สนิทใจก็ตาม
ในบรรดาอาจารย์ที่เคยเชิญมานั้น มีอาจารย์ท่านหนึ่งได้บอกว่าไป๋อวิ๋นซีเกิดในวันเดือนปีที่เป็นธาตุหยิน เป็นร่างเทียนหยิน อาจารย์ชี้แนะให้แก้เคล็ดโดยให้เลี้ยงดูเขาอย่างเด็กผู้หญิง ทำให้ปู่ของเขาโมโหมาก
อาจารย์ท่านนั้นยังกล่าวอีกว่ามีนักพรตชั่วร้ายมากมายที่ตามหาคนที่เกิดในวันเดือนปีที่พิเศษอย่างนี้ เพื่อจับคนเหล่านั้นมาสร้างเครื่องมืออวิชชา หรือไม่ก็ใช้เพื่อทำพิธีศาสตร์มืดมนตร์ดำต่างๆ ดังนั้นจึงให้ปู่ของเขาแก้ใบวันเดือนปีเกิดของเขาเสียใหม่ แล้วห้ามแพร่งพรายวันเดือนปีเกิดที่แท้จริงของเขาให้ใครรู้ง่ายๆ
“นายดูผิดแล้วล่ะ” ไป๋อวิ๋นซีพูด
เย่ฝานเอียงศีรษะแล้วพูดว่า “ไม่ถูกต้องเหรอ? ฉันดูผิดไปเหรอ!”
ไป๋อวิ๋นซีกัดถังหูลู่เลือกที่จะไม่ตอบอะไรกลับไป
เย่ฝานจ้องไปยังไป๋อวิ๋นซี ทำตากะพริบปริบๆ แล้วถามออกไป “นายจะนอนกับฉันไหม”
ไป๋อวิ๋นซีตบหน้าของเย่ฝานหนึ่งฉาดพลางพูดว่า “ไอ้โรคจิต”
เย่ฝาน “…”
ไป๋อวิ๋นซีหัวเราะอย่างดูแคลน แล้วมุดเข้าไปในเต็นท์
เย่ฝานลูบใบหน้าของตนอย่างอดกลุ้มใจไม่ได้