...เวรกรรมตามทันในภพนี้..ตอนพิเศษ ผ้ากันเปื้อน...=> หน้าที่ 17 (26/09/2020)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...เวรกรรมตามทันในภพนี้..ตอนพิเศษ ผ้ากันเปื้อน...=> หน้าที่ 17 (26/09/2020)  (อ่าน 91935 ครั้ง)

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
 : 222222:
รอวันพฤหัส เมื่อไหร่จะมาถึงน้าาา

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เอ็นดู้ว คุณหลวง เอ้ย ร่มธรรม

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5

ออฟไลน์ G-NaF

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
คุณบัวติ่งป๋อจ้าน อิมเมจป๋อคูลกายกระแทกเข้ามาเลยคับ 555

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ยิ่งตอนพี่ธาดาบอกว่าครองคุยเก่งกับคนที่เล่นเกม เล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีมด้วยกันนี่มันป๋อชัดๆ 55555
น้องจะดุจะประหยัดคำพูดไปไหนครับ พี่ร่มเขาทำตัวไม่ถูกแล้ว เอ็นดูพี่ร่มเขาเหลือเกิน

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
โอ๊ยย น้องครองภพดุเกิ๊นน สงสารพี่ร่มธรรมบ้างสิ

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
เวรกรรมตามทันในภพนี้
By: Dezair
………………………
ตอนที่ 3


ครองภพไม่ใช่คนใส่ใจคนอื่น แต่ความรู้สึกบางอย่างในใจทำให้เขาทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นร่มธรรมก้มหน้าก้มตาอยู่กับเครื่องทำกาแฟด้วยท่าทีเศร้าสร้อย


 เขาดูออกว่าอีกฝ่ายเหนื่อยล้ามาหลายวันแล้ว นับตั้งแต่เข้าฉากกับเขาแล้วลืมบท แต่วันนี้เจ้าตัวก็ยังเลิกกองแล้วมาทำงานต่อ แสดงน้ำใจอย่างน่าชิงชังด้วยการให้ลูกจ้างกลับก่อนเวลาเลิกงาน ส่วนตนเองดูแลร้านเพียงลำพัง แล้วยัง...ขยันโปรยน้ำใจไม่หยุด แม้กระทั่งกับเขาที่ไม่น่าคบหาขนาดนี้   


คนอะไรแบบนี้


   แล้วคนอย่างร่มธรรม...ทำไมเขาต้องสนใจขนาดนี้


   ชายหนุ่มวัย 22 ถอนหายใจยาวอย่างหงุดหงิด


ไม่เพียงแค่หงุดหงิดความมีน้ำใจจนเกินพอดีของร่มธรรมแล้วแบกรับทุกอย่างมาเป็นภาระตนเอง แต่ยังหงุดหงิดหัวใจตนเองที่...เป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาร่มธรรมเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ นับตั้งแต่รู้จักกันอย่างเป็นทางการ


   “แซนวิชได้แล้ว” 


เจ้าของร้านที่อยู่ดูแลร้านเพียงลำพังกลายร่างเป็นพนักงานเสิร์ฟยกจานแซนวิชมาให้ถึงโต๊ะ


ร้านจะปิดในอีกครึ่งชั่วโมง ลูกค้าเหลือเพียงแค่โต๊ะของหญิงสาวคนหนึ่งด้านในเท่านั้น ครองภพกวาดตามองเลยเอ่ยปาก


   “นั่งสิ”


เป็นอีกครั้งที่ร่มธรรมกะพริบตาปริบๆกับคำชวน


   “ไม่มีลูกค้าแล้วไม่ใช่หรือ ร้านก็จะปิดแล้ว นั่งกับผมคงไม่เป็นไร” คนพูดปลดผ้าปิดปากปิดจมูกลงแล้ว เผยใบหน้าไร้เครื่องสำอาง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังหล่อเหลาสมกับเป็นนักแสดงหนุ่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคนหนึ่งของวงการในเวลานี้


   ครองภพโชคดี ไม่ว่าจะรูปลักษณ์หรือทุกอย่างในชีวิตของเขาล้วนผลักดันให้ยืนอยู่บนเส้นทางสายนี้ได้อย่างสง่าผ่าเผย


   เจ้าของร้านทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม แล้วเผลอถอนหายใจเบากับสิ่งที่ตกค้างอยู่ในใจมาตลอดทั้งวัน


   ระหว่างพวกเขามีแต่ความเงียบ


คนหนึ่งนั่งนิ่งราวกับสติไม่อยู่กับตัว อีกคนนั่งดื่มกาแฟและทานแซนวิชอย่างเงียบๆ


ทั้งๆที่ความเงียบควรจะทำให้อึดอัด แต่สำหรับร่มธรรมในเวลานี้ มันกลับทำให้ผ่อนคลาย ไม่ต้องพูดไม่ต้องเล่า แต่พอหันมองรอบกายกลับพบว่ามีคนนั่งเคียงข้าง


   แม้คนที่นั่งเคียงข้างจะไม่ได้ตั้งคำถามหรือจ้องมองเขาอย่างสนอกสนใจเลยสักนิดก็ตามที

   “ถ้ามีอะไรจะเล่า ผมฟังได้”


...ไม่สิ เหมือนจะไม่สนใจแต่จริงๆก็สนใจ ไม่อย่างนั้นจะเรียกร่มธรรมให้นั่งด้วยทำไม …


ชายหนุ่มรุ่นพี่หัวเราะออกมาเบาๆ รู้สึกว่าครองภพน่ารักน่าเอ็นดูมากขึ้นทุกที


   “หัวเราะอะไร” คนถูกมองว่าน่าเอ็นดู ทำหน้าเคร่งไม่สมกับความน่าเอ็นดูสักนิด ทว่าน่าประหลาดที่ร่มธรรมก็ยังมองว่าผู้ชายคนนี้น่ารักน่าเอ็นดูอยู่ดี


   “แล้วถ้าพี่ไม่มีอะไรจะเล่าล่ะ” จากคนหน้าสลดเมื่อครู่นี้ กลายเป็นยิ้มแย้มแจ่มใส รอยยิ้มบางบนใบหน้าของชายหนุ่มวัย 28 ส่งให้เขาน่ามองขึ้นไปอีก


   “งั้นก็ไม่ต้องเล่า” คำตอบยังคงสั้นห้วนไม่สนใครทั้งสิ้นสมเป็นครองภพ ทว่าเพราะเป็นอย่างนั้น ร่มธรรมเลยรู้สึกสบายใจที่เขาเองก็ไม่ต้องให้ความสนใจกับคนข้างกายเหมือนที่มอบให้คนรอบข้างเสมอมา


   ร่มธรรมที่ใครต่อใครพูดกันว่าเป็นคนดี นึกถึงคนอื่นอยู่เสมอ จะมีใครรู้บ้างว่าเพราะเขายอมวางเรื่องของตนเองลงก่อนแล้วคิดถึงผู้อื่น ดังนั้นเมื่อหันมาคิดเรื่องของตนเองก็เมื่อตอนที่พลังชีวิตหมดไปกับเรื่องของผู้อื่นแล้ว แต่ยามอยู่กับครองภพ อาจจะเพราะอีกฝ่ายทำท่าราวกับไม่สนใจ และไม่ต้องให้ความสำคัญกับเจ้าตัว ร่มธรรมจึงผ่อนแรงที่ต้องมอบให้ลงไปด้วย


   พอไม่ต้องใช้พลังงานมากเท่าตอนที่อยู่กับคนอื่น ก็พลอยเป็นรู้สึกสบายใจขึ้นมา ส่วนเหตุผลอื่นนอกเหนือจากนั้นที่ทำให้เขารู้สึกอยากคบหากับครองภพ ร่มธรรมเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน อาจจะเพราะต้องทำงานร่วมกัน อาจจะเพราะทั้งชีวิตไม่เคยมีเพื่อนลักษณะแบบนี้ หรืออาจจะเพราะ...ถูกชะตา


   “ทำไมน้องครองถึงมาเป็นนักแสดงหรือ”


   “เพราะชอบ” คำตอบสั้น ชวนให้ไม่น่าคุยต่อ


   “สมเป็นน้องครองเลยแหะ ชอบก็เลยทำ”


   “ถ้าไม่ชอบจะทำทำไม”


   “แล้วทำไมถึงชอบล่ะ”


 คราวนี้ครองภพนิ่งไปเล็กน้อย พลางเอนตัวพิงพนัก เขานิ่งคิดอยู่อึดใจหนึ่งก่อนจะตอบ


   “ผมไม่ชอบพูด แล้วก็พูดไม่เก่ง แต่เวลาได้แสดง ได้ร้องเพลง ได้เต้น ผมกลับรู้สึกว่ามันมีวิธีอีกมากที่จะเล่าเรื่องสักเรื่องให้คนรอบข้างเข้าใจ อีกอย่าง...ผมอยากเป็นคนถ่ายทอด อยากเป็นทางเลือกหนึ่งให้คนได้รู้ว่ามันมีนิยายเรื่องนี้ มีละครเรื่องนี้ มีเพลงเพลงนี้”


เป็นคำตอบยาวๆที่ร่มธรรมคาดไม่ถึง


หนึ่งคือเพราะไม่คิดว่าคนอย่างครองภพที่พูดกับเขานับคำได้จะตอบยาวขนาดนี้


และสองคือคิดไม่ถึงว่าครองภพจะชอบงานแสดงด้วยเหตุผลนี้


   ทั้งๆที่พูดไม่เก่ง ไม่ชอบพูด แต่ก็ยังขวนขวายหาวิธีอื่นในการแสดงออกและถ่ายทอดความรู้สึก เมื่อหาพบแล้วก็ทุ่มเทอยู่กับมันอย่างบ้าคลั่ง


   ครองภพเป็นนักพยายามตัวยง และมุ่งมั่นกับสิ่งที่ชอบสิ่งที่อยากอย่างไม่คิดจะรามือ


   “แล้วคุณล่ะ...” คราวนี้คนถามกลายเป็นฝ่ายชายหนุ่มรุ่นน้องบ้าง


   “…ทำไมออกจากวงการไปเมื่อ 6 ปีก่อน”


ร่มธรรมนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบ


   “อ่า...พี่ชายขอน่ะ”


   “แล้วทำไมตอนนี้ถึงกลับมา”


   “ก็...พี่สาวชวน...”


   “ทำไมถึงมีแต่ชื่อคนอื่น นี่ชีวิตคุณหรือใคร” 


คนถูกถามได้แต่กะพริบตาปริบๆ รู้สึกเหมือนถูกกระทุ้งอีกรอบ องอาจและครองภพสมกับเชื้อสายเดียวกัน ต่อให้คำพูดจะไม่เหมือนกัน แต่ก็ถอดใจความมาอย่างเดียวกันไม่มีผิดเพี้ยน


   ‘ชีวิตร่มเป็นของร่ม’


   ‘นี่ชีวิตคุณหรือใคร’


   “ชีวิตคนเราไม่ได้มีทางเลือกที่จะทำทุกอย่างตามใจตัวเอง” อย่างน้อยก็ร่มธรรมคนหนึ่ง แม้จะรู้ว่าชอบอะไร อยากทำอะไร และมีความสามารถด้านไหน แต่ปัจจัยหลายอย่างนำพาให้เขาต้องออกจากเส้นทางสายนี้ หรือต่อให้เป็นปัจจัยเพียงข้อเดียวแต่สำคัญที่สุดประการหนึ่งอย่างคำขอร้องของพี่น้อง ร่มธรรมก็ไม่อาจยืนหยัดกับความต้องการของตนเองได้แล้ว


   “คุณชอบงานแสดงรึเปล่า”


   “ชอบ...”


   “อยากเป็นนักแสดงไหม”


   “อยาก...”


   คนอายุน้อยกว่าจ้องคนตรงหน้าราวกับจะบอกว่า ในเมื่อเป็นสิ่งที่ทั้งชอบทั้งอยาก แล้วทำไมร่มธรรมถึงจะละทิ้ง


   “แต่...” หนุ่มรุ่นพี่กำลังจะอธิบายความเป็นจริงในชีวิตของเขา แต่ครองภพไม่คิดว่าตนเองจำเป็นต้องฟังเหตุผลของใคร สิ่งที่เขาเห็นคือหน้าตาเศร้าหมองดูไม่ได้ อีกทั้งยังดูเหนื่อยล้าเกินกว่าที่ควรจะเป็น วิ่งรอกทั้งงานแสดง ทั้งดูแลร้านกาแฟ ยังไม่รวมที่ต้องเรียกให้เมสเซ็นเจอร์วิ่งเอกสารไปให้เซ็นถึงกองถ่าย


ทั้งๆที่ชอบงานแสดง อยากเป็นนักแสดง แต่กลับรับงานเรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้ายและจะออกจากวงการอีกครั้ง


   คนประเภทไหนกัน เข้าๆออกๆจากสิ่งที่ตนเองต้องการ เอื้อมมือมาจับแล้วก็วาง ทั้งๆที่มีความสามารถที่จะไขว่คว้า


   “คนบางคนไม่รู้ว่าโอกาสเข้ามาในชีวิตก็เลยปล่อยโอกาสไป คนประเภทนี้เรียกว่าโง่ แต่คนบางคนรู้ว่าโอกาสเข้ามาในชีวิตแต่ก็ยังปล่อยให้มันออกไป คนประเภทหลังนี่…เรียกว่าขี้ขลาด” ครองภพพูดเพียงเท่านั้น ก่อนจะคว้าแก้วอเมริกาโน่เย็นแล้วลุกจากไป ทิ้งเอาไว้เพียงร่มธรรมที่ได้แต่นั่งตะลึงงัน


   ‘ขี้ขลาด’


   เจ้าของคำพูดจากไปแล้ว แต่คำสุดท้ายในประโยคนั้นยังดังก้องอยู่ในหัวของร่มธรรม


   ถูกด่า...ในวันที่ต้องถ่ายละครและต้องกลับมาดูแลร้านจนค่ำมืด


   วันนี้สวรรค์ไม่รักไม่พอ นรกยังสาปแช่งส่งคนด่าที่ชื่อครองภพมาให้อีกต่างหาก


   ...ใจร้ายทั้งสวรรค์ ทั้งนรก ทั้งครองภพเลยนะครับ...


………………….


ไม่มีใครอยากเป็นคนโง่ หรือคนขี้ขลาด ร่มธรรมเองก็เช่นกัน แต่ความรู้สึกของพี่ชายคนรองก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะมองข้าม ส่วนความรู้สึกของตนเอง...มองข้ามได้หรือ?


อาชีพในวงการ เส้นทางที่ต้องการ โอกาสที่อยากได้


   ชายหนุ่มวัย 28 ผู้ทำงานอย่างหนักถึงกับถอนหายใจเบา ไม่รู้ว่าเหนื่อยล้าหรือหนักใจ


วันนี้ไม่มีคิวถ่าย แต่ชีวิตไม่เคยได้พัก เขาเข้าออฟฟิศแต่เช้า ตอนเที่ยงออกมาทานข้าวก็ยังเลือกที่จะเข้าไปทานที่ร้านกาแฟของตนเอง เพราะอยากสอดส่องกิจการด้วย แต่ไม่รู้ว่าสอดส่องประเภทใด สุดท้ายก็เอาแต่นั่งเหม่อ มัฟฟินที่อุ่นร้อนกลายเป็นเย็นชืด ส่วนอเมริกาโน่เย็นก็กลายร่างเป็นกาแฟผสมน้ำแข็งละลายไปหมด


   “ร่ม” เสียงหนึ่งดังขึ้นทำเอาร่มธรรมสะดุ้งเงยหน้ามอง รินฤดีมองหน้าน้องชายแล้วก็ขมวดคิ้วก่อนจะทรุดตัวลงนั่งฝั่งตรงข้าม


   “ไม่รู้ว่าวันนี้พี่รินจะเข้าร้าน” ร่มธรรมเอ่ยปากพลางยิ้ม


   “มีคนโทร.ไปบอกว่าแกอยู่นี่”


   “ใคร? ในร้านนี้มีสายสืบด้วยหรือ?” คนเป็นน้องหยอก ทว่ารินฤดีไม่แก้ต่าง หล่อนไม่ได้บอกว่ามีสายลับอยู่รอบตัวร่มธรรม ตั้งแต่เด็กในร้านไปจนถึงรปภ.ที่คอนโด


   “แล้วนี่แกเข้าออฟฟิศอีกไหม?”


   “คงไม่เข้าแล้วครับ ว่าจะดูร้านหน่อย หมู่นี้เห็นว่าลูกค้าเยอะ สวนกระแสเศรษฐกิจ”


ร่มธรรมไม่รู้ว่าในโลกอินเตอร์เน็ตกำลังเกิดกระแสตามรอยร้านกาแฟที่มีคนพบครองภพ และหนึ่งในร้านเป้าหมายที่ใครๆก็ว่าน่าจะใช่คือร้าน ร.รอ


   “เหนื่อยรึเปล่า”


คำถามนั้นทำเอาคนทำงานสองอย่างสามอย่างถึงกับนิ่งไป ก่อนจะหัวเราะเบา


“ทำงานก็ต้องเหนื่อยสิพี่ริน แต่ผมไหว”


“ร้านนี้จะเลิกทำก็ได้นะ พี่ไม่ซีเรียส แล้วไอ้โรจน์ก็ซีเรียสไม่ได้ด้วย มันเองก็แทบจะไม่เข้าร้านด้วยซ้ำ”


เห็นรินฤดีเอาแต่ใจอย่างนั้น แต่ถ้าต้องมาทนเห็นน้องชายนั่งเหม่อ ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอย่างนี้ หล่อนก็พร้อมจะตัดเรื่องบางเรื่องที่ไม่สำคัญทิ้ง


ส่วน...เรื่องสำคัญอย่างการเป็นนักแสดง แน่นอนว่าเพราะหล่อนดูออกว่าเป็นความฝันของเขา ให้อย่างไรก็จะสนับสนุนไปให้สุดทาง


   ร่มธรรมเม้มปากเพราะไม่รู้ว่าควรจะพูดดีหรือไม่ แต่...ถ้ากับรินฤดี เขายังไม่กล้าพูด แล้วเขาจะกล้าพูดกับรุ่งโรจน์ได้อย่างไรกัน


   ว่าเขาอยาก...อยากเป็นนักแสดง


   หรืออย่างน้อยๆ ขอแค่ได้หยิบจับงานแสดงบ้างก็ยังดี


   “พี่ริน...ถ้าผม...จะ...” 


แต่...สีหน้าของรุ่งโรจน์ยังติดอยู่ในสมอง ทำเอาคำพูดของร่มธรรมติดอยู่กลางคอ เขาไม่รู้เหตุผลว่าทำไมรุ่งโรจน์ถึงไม่อยากให้เขาทำงานในวงการบันเทิง แต่สิ่งที่เขารู้คือรุ่งโรจน์ดูไม่สบายใจเลยกับสิ่งที่เขาเป็นอยู่ ทั้งๆที่สีหน้าเช่นนั้นเขาไม่เคยเห็นมา 6 ปีแล้ว


   “จะ...เอ่อ...ไม่...ไม่มีอะไร ผมจะเอามัฟฟินไปอุ่น พี่รินเอาอะไรไหม”


รินฤดีส่ายหน้า ทว่าดวงตายังจับจ้องน้องชายที่กำลังลุกจากโต๊ะ


“ร่มจะทำอะไรก็ทำเถอะ” ร่มธรรมชะงัก


“พี่รินว่าอะไรนะ”


“บอกว่าถ้าร่มอยากจะทำอะไรก็ทำ ขอให้รู้ว่าพี่พร้อมสนับสนุนร่มทุกอย่าง”


“เอ่อ...อ่า...ผม...ผมแค่...จะเอามัฟฟินไปอุ่น”


“นอกจากเรื่องอุ่นมัฟฟินก็ได้ ร่มอยากทำอะไรก็ทำ เรื่องบางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องทำตามใจคนอื่นมากนักหรอก” ร่มธรรมเม้มปาก จากกำลังจะลุกขึ้นยืนกลายเป็นทรุดตัวลงนั่งที่เดิมแล้วถอนหายใจ


“แต่คนอื่นที่ว่า...คือพี่โรจน์...”


ครอบครัวที่เหลือกันเพียง 3 คนพี่น้องที่ไม่มีใครมีคนรักหรือคู่สมรส มองทางไหนก็มีแต่พี่มีแต่น้อง แล้วอย่างนี้จะให้ร่มธรรมใจร้ายกับพี่ชายคนรองที่โตมาด้วยกันได้อย่างไร


“แล้วยังไง ไอ้โรจน์บอกอะไรต้องทำตามตลอดเหรอ”


“ก็...ก็ไม่ได้หมายความแบบนั้น แต่...พี่โรจน์...”


“ไอ้โรจน์บอกให้ร่มออกมาทำธุรกิจแทนพ่อ แต่มันไม่เคยบอกเลยว่าทำไมไม่อยากให้แสดงละคร คนเป็นล้านอยากให้ลูกหลานเข้าวงการ แต่โรจน์กลับอยากให้แกออกมา จะบอกว่าอยากรักษาธุรกิจของพ่อ พ่อก็ไม่เห็นเคยขอร้องให้พวกเราสานต่อนี่นา แต่พอพ่อตาย ไอ้โรจน์กลับเอามาอ้างให้แกออกจากวงการ แบบนี้มันแปลก”


ร่มธรรมเงียบ เม้มปากครุ่นคิดในสิ่งที่เขาเองก็สงสัยมาตลอด


“แล้วไอ้โรจน์ก็ไม่เคยบอกอะไรพี่เลยเหมือนกัน” รินฤดีนิ่วหน้า ในฐานะพี่สาวคนโตก็ควรได้รู้ความลับบ้าง แต่นี่อะไร เรื่องนี้เกี่ยวกับน้องชายคนเล็กแท้ๆ แต่หล่อนกลับไม่ได้รับอนุญาตให้รู้


“ก็พี่รินรู้แล้วเงียบที่ไหน พี่โรจน์คงไม่อยากบอก”


“หาว่าพี่ปากโป้งเรอะ? เออ ก็ใช่ ถ้าพี่รู้ ร่มก็ต้องรู้ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับร่ม แล้วร่มก็ไม่ใช่เด็กๆแล้ว ร่มควรมีสิทธิได้รู้ว่าทำไมถึงถูกขอให้ออกจากวงการทั้งๆที่มันเป็นสิ่งที่ร่มรัก”


รินฤดีเห็นสีหน้าลำบากใจของน้องชายแล้วก็ยิ่งสงสาร จริงอยู่ว่าหล่อนเองก็รู้เห็นความรู้สึกของรุ่งโรจน์ที่ไม่ต้องการให้น้องชายคนเล็กกลับเข้าวงการ แต่รุ่งโรจน์เคยสนใจใยดีสีหน้าลำบากใจของร่มธรรมยามที่ต้องทำในสิ่งที่รุ่งโรจน์ต้องการบ้างไหม


ออกจากวงการทั้งๆที่กำลังไปได้ดี


ทำธุรกิจของพ่อทั้งๆที่ไม่ใช่สิ่งที่ชอบ


ในขณะที่คนบังคับอย่างรุ่งโรจน์กลับลอยตัว รับราชการตำรวจอย่างที่อยากทำอย่างนั้นหรือ


พี่สาวคนโตรู้ดีว่าคำพูดของหล่อนจะกลายเป็นการสนับสนุนให้น้องคนเล็กดื้อแพ่ง แต่จะให้ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของร่มธรรม หล่อนก็ทำไม่ลง


“ถ้าร่มอยากทำก็ทำเถอะ ชีวิตคนมันไม่แน่ไม่นอน วันนี้มีลมหายใจก็ทำในสิ่งที่อยากทำ แต่ถ้าจะเป็นนักแสดงเต็มตัว ก็ต้องดูกระแส อายุไม่ใช่น้อยๆ นายทุนอาจจะไม่อยากสนับสนุนเพราะอายุการใช้งานสั้น ”


“เรื่องนั้นผมเข้าใจ”


“งานบริษัทส่วนหนึ่งก็แบ่งมาที่พี่ ส่วนร้านกาแฟนี่ ถ้าทำไม่ไหวก็จ้างคนเพิ่มเอา หรือถ้าดูแล้วจ้างคนเพิ่มแล้วไม่คุ้มก็ปิดไป ไม่งั้นก็ให้คนอื่นเซ้งต่อ”


ร่มธรรมพยักหน้ารับรู้ มองรินฤดีอย่างขอบคุณแล้วก็เพิ่งสังเกตว่าหล่อนไม่ได้มามือเปล่า แต่ถือซองเอกสารมาด้วย พอเห็นสายตาน้องชาย หญิงสาวก็วางซองลงตรงหน้า


“พี่รู้ว่าร่มรักไอ้โรจน์ แต่พี่ก็อยากให้ร่มรักตัวเองด้วย ร่มรู้จักผู้กำกับฉายใช่ไหม ทีมงานของผู้กำกับฉายบอกพี่ว่าเขาอยากให้ร่มเข้าไปแคสต์บท...นี่เป็นรายละเอียด”


ร่มธรรมตะลึงงัน พูดไม่ออก เขามองพี่สาวสลับกับเอกสารบนโต๊ะอย่างคาดไม่ถึง ทว่าพอจะยื่นมือออกไปจับ ใบหน้าของพี่ชายคนรองกลับผุดขึ้นมาในสมอง ทำเอามือหยุดค้างอยู่กลางอากาศ


ท่าทางเหมือนจะคว้าแต่ไม่อาจคว้าได้อย่างต้องการทำเอาหญิงสาวสะท้อนใจ


ร่มธรรมรักรุ่งโรจน์เพียงใด บอกได้จากที่เขาเอาความต้องการของรุ่งโรจน์เป็นฐานในการตัดสินใจเรื่องสำคัญของชีวิต แต่มันไม่ยุติธรรมเลยที่รุ่งโรจน์กลับไม่เคยบอกเหตุผลว่าทำไมถึงต้องการให้ร่มธรรมถอยห่างออกจากวงการนี้


“ร่ม...ชีวิตเป็นของแก”


ราวกับร่มธรรมถูกกระทุ้งด้วยประโยคซ้ำๆกับที่องอาจและครองภพเคยพูด


“งานของผู้กำกับฉายอยู่ตรงหน้าแก จะปล่อยมันไปจริงๆหรือ”


ร่มธรรมสบตาพี่สาวแล้วได้แต่เม้มปาก คำตอบในใจของเขามีเพียงแค่อย่างเดียว


‘ชีวิตร่มเป็นของร่ม’


‘นี่ชีวิตคุณหรือชีวิตใคร’


‘ชีวิตเป็นของแก’


ร่มธรรมสูดลมหายใจลึก ชีวิตนี้เป็นของเขา ถ้ามีโอกาส เขาก็ไม่ควรทิ้งมันไป


ชายหนุ่มตัดสินใจแล้ว เขาเอื้อมมือไปจับซองเอกสารนั้น ดวงตาวาววับแน่วแน่


………………………

(มีต่อด้านล่างค่ะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-01-2020 20:04:20 โดย Dezair »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8

ครองภพได้ยินเรื่องที่ร่มธรรมตอบรับการเข้าร่วมแคสต์บทในโปรเจ็คใหม่ของผู้กำกับฉาย แน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นความลับ แต่ที่เขารู้เพราะลุงปากโป้งของเขามาเล่าสู่กันฟังตอนแวะเอาของมาให้


องอาจคุยโวว่าเพราะทักษะการแสดงตีบทแตกกระตุ้นให้ร่มธรรมยอมรับงานใหม่ จากที่ว่าจะรับงานแสดงซีรี่ส์เป็นเรื่องสุดท้ายเลยตัดสินใจขยายเวลาออกไป ตอนนั้นเองที่ชายหนุ่มเพิ่งรู้ว่านอกจากเขาแล้ว องอาจก็พูดเช่นเดียวกัน


แต่...ใครจะพูดซ้ำกับใครก็ช่าง หรือร่มธรรมจะตัดสินใจอยู่ในวงการต่อก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขา


ทั้งๆที่คิดเช่นนั้น แต่พอเจอร่มธรรมในอีกไม่กี่วันถัดมาที่กองถ่าย รายนั้นก็ส่งยิ้มจางทักทาย ครองภพเพียงแค่มองแล้วเฉยเหมือนทุกที แต่อีกฝ่ายดูไม่จะหยุดแต่เพียงเท่านั้น พอสบโอกาสอยู่กันเพียงลำพังในห้องแต่งตัว เสียงทุ้มนุ่มก็ดังขึ้นอีก


“น้องครอง...ขอบคุณนะ”


ตอนนั้นครองภพกำลังนั่งเล่นเกมโทรศัพท์มือถือจึงเงยหน้ามองอย่างงุนงงปนหงุดหงิดที่ถูกขัดจังหวะ แต่เจ้าของเสียงกลับยังยิ้มแล้ววางแก้วเก็บความเย็นลงตรงหน้า


“ขอบคุณที่เตือนสติพี่ นี่อเมริกาโน่เย็น เห็นไปทีไรก็สั่ง ก็เลยเอามาให้ ส่วนแก้วนี่เป็นของสมนาคุณของทางร้าน ปกติต้องเป็นลูกค้าเจ้าประจำถึงจะให้นะ แต่นี่...พี่ให้เป็นกรณีพิเศษ”


“เตือนสติอะไร” รายละเอียดประโยคหลังๆนั่น ครองภพไม่ฟังสักนิด


“ก็...เรื่องที่บอกว่าพี่ขี้ขลาด”


คนอายุน้อยกว่าชะงักไปเล็กน้อย อันที่จริงก็ไม่ได้คิดจะพูดจารุนแรงขนาดนั้น เพียงแต่หลุดปากเพราะหงุดหงิดที่เห็นคนที่รักในการแสดง มีความสามารถและตั้งใจจริงอย่างร่มธรรมจะออกจากวงการบันเทิง


ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว นี่จะเดินตามทางซ้ำรอยเดิมเป็นครั้งที่สอง ต่อให้ไม่ใช่คนขี้หงุดหงิดอย่างครองภพ เป็นใครก็ทนสงบปากสงบคำไม่ได้ทั้งนั้น


“พี่ขี้ขลาดจริงๆนั่นล่ะ แต่ไม่เคยมีใครพูดตรงๆก็เลยไม่เคยยอมรับกับตัวเองเลย”


ร่มธรรมยอมรับความจริง เขาไม่กล้าแม้แต่จะคว้าสิ่งที่ตนเองต้องการมาไว้ในมือ ไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงบอกให้รุ่งโรจน์รับรู้ว่าเขาต้องการอะไร ไม่กล้า...แม้แต่จะยืนหยัดในสิ่งที่ตนเองรัก


คำว่า ‘ขี้ขลาด’ อาจจะน้อยไปด้วยซ้ำ


“ทั้งๆที่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่พี่กลับไม่กล้าสู้เพื่อให้ได้มันมา”


“แล้วตอนนี้สู้รึยัง” คำถามดังขึ้นจากข้างกาย ทำเอาคนอายุมากกว่าหันมอง


“ก็...ไปแคสต์งานใหม่แล้วนะ เรียกว่าสู้ได้ไหม” ร่มธรรมพูดแล้วหัวเราะ หน้าตาดูสดใสกว่าก่อนหน้านี้มากนัก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีแววไม่แน่ใจปรากฏ


ในยามที่ไม่ต้องสวมบทบาท ครองภพไม่ใช่คนแสดงอารมณ์เก่ง แต่เขากลับเก่งที่จะอ่านความรู้สึกคนอื่น ดังนั้นในหลายๆครั้งจึงทำตัวเฉยชาไปเสีย จะได้ไม่ต้องรับรู้ว่าใครรู้สึกต่อเขาเช่นไร แต่...สำหรับร่มธรรม ไม่เพียงครองภพจะยอมอ่านความรู้สึกที่ปรากฏร่องรอยเพียงเล็กน้อยในแววตาและสีหน้า แต่ยังตั้งคำถามจากสิ่งที่รับรู้ด้วย


“แล้วมีอะไรที่ยังไม่ได้สู้มั้ย”


ร่มธรรมนิ่งไปอึดใจหนึ่ง รอยยิ้มจางหาย แม้จะตัดสินใจแล้วที่จะเดินหน้าในเส้นทางสายนี้ แต่เรื่องรุ่งโรจน์ก็ยังเป็นประเด็นที่เขารีรอ ร่มธรรมยังสร้างความกล้าให้ตนเองเข้าไปพบพี่ชายคนรองเพื่อบอกความต้องการที่แท้จริงไม่ได้เลย


“อ่า...พี่ชายของพี่...เขาไม่อยากให้พี่เป็นนักแสดงน่ะ ก็เลย...”


“คุณรู้ไหม ว่าทำไมพ่อกับแม่ไม่เคยห้ามผมเลย ไม่ว่าผมจะทำอะไร”


จู่ๆ คนไม่ค่อยพูดก็ตั้งคำถามขึ้นมาอีก ร่มธรรมหันไปมอง ก่อนจะส่ายหน้า


“เพราะพ่อผมเสียไปตั้งแต่ยังเด็กน่ะสิ”


คนฟังชะงักกึก กะพริบตาปริบๆ หากมีสติสักนิด เจ้าตัวคงเห็นแววขบขันของคนพูดหน้าตายที่ได้เห็นสีหน้าเด๋อด๋าของหนุ่มรุ่นพี่


“อ...เอ่อ...ขอโทษ...” ร่มธรรมมึนงงกับเหตุผลของคนตรงหน้า เลยพูดผิดพูดถูกบริบทไปหมด


“ขอโทษทำไม คุณไม่ได้ฆ่าพ่อผม”


ใครบอกว่าครองภพเป็นคนสงบปากสงบคำ ร่มธรรมขอเถียง เพราะเวลาคนพูดน้อยคิดจะพูดขึ้นมา เล่นเอาเก้อกันไปข้าง


“เอ่อ...อ่า...จริงด้วย...คือ...”


“แต่ต่อให้พ่อยังอยู่ ผมคิดว่าพ่อก็คงไม่ว่าอะไร ส่วนแม่...ถ้าผมอยากทำอะไร ไม่เคยห้าม”


“โชคดีจัง”


“เพราะผมแสดงให้เห็นเสมอว่าผมจริงจัง” ประโยคต่อมาของชายหนุ่มวัย 22 ทำเอาคนฟังหันมอง


“...ผมจริงจังกับทุกอย่างที่ผมทำ เพราะมันมาจากเรื่องที่ผมชอบ แม่ผมรู้เงื่อนไขนี้”


“...คุณเคยแสดงให้พี่ชายของคุณเห็นรึเปล่าว่าคุณจริงจังกับอาชีพนักแสดงมากแค่ไหน หรือพอเขาบอกว่าไม่ให้ทำ คุณก็เลิกทำ”



ร่มธรรมเป็นคนจริงจังกับงาน ทุกสิ่งที่ผ่านมือเขาล้วนถูกสรรสร้างขึ้นอย่างตั้งอกตั้งใจ แต่...เขากลับไม่มีแรงจริงจังในการงัดข้อกับรุ่งโรจน์เลย


ชายหนุ่มรุ่นพี่หันมองคนพูดอย่างคาดไม่ถึง ทั้งๆที่ครองภพอายุน้อยกว่าเขาถึง 6 ปี แต่อีกฝ่ายกลับเต็มไปด้วยความตั้งอกตั้งใจและพลังเต็มเปี่ยม ต่อให้เขาเป็นบุพการีของครองภพ หากเจ้าตัวออกปากว่าจะทำอะไร เขาก็คงไม่อยากขัดขวาง


เป็นคนที่ ‘ทำ’ ด้วยความตั้งใจ ‘ทำ’ อย่างจริงจัง และ ‘ทำ’ โดยมีความชอบเป็นฐานสำคัญ


พอคิดได้อย่างนั้น เขาก็เผลอยิ้มออกมาอย่างไม่ทันรู้ตัว จนคนอายุน้อยกว่าขมวดคิ้ว


“ยิ้มอะไร”


“อ่า...รู้สึกว่าตัวเองโชคดี” ครองภพขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม


“ก็...น้องครองบอกเมื่อกี้ว่าสิ่งที่ทำเป็นสิ่งที่ชอบ แล้ว...น้องครองก็ไม่ค่อยชอบพูด แต่ก็ยังดุพี่คราวก่อน แล้วครั้งนี้ก็ยังเตือนสติพี่อีก”


ครองภพขมวดคิ้วคิดตาม


...ทำในสิ่งที่ชอบ...สิ่งที่ทำเป็นสิ่งที่ชอบ...


...แต่ทั้งๆที่ไม่ชอบพูด กลับเตือนสติร่มธรรมถึงสองครั้ง…


ดวงตาเรียวเบิกโพลง เลือดลมในตัววิ่งพล่าน คอหูแดงก่ำ เมื่อตีความได้ว่าเจ้าคนอายุมากกว่าเชื่อมโยงไปเรื่อยเปื่อยทั้งๆที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลยสักนิด


“ผมไม่ได้ชอบที่จะเตือนสติคุณ!” เขาลุกพรวดพูดเสียงแข็งหน้าตาถมึงทึง ทว่าร่มธรรมกลับไม่ถือสา มองใบหน้าหล่อเหลาที่ขึ้นสีราวกับจะลุกเป็นไฟในอีกไม่กี่วินาที ไม่รู้ว่าเพราะเขินหรือโกรธกันแน่


“พี่ก็ไม่ได้บอกว่าน้องครองชอบที่จะเตือนพี่ พี่แค่บอกว่ารู้สึกว่าตัวเองโชคดี” ร่มธรรมพลิกลิ้น ทั้งๆที่ความจริงแล้วเขาหยอกอย่างที่อีกฝ่ายเข้าใจ แต่เห็นท่าทางขู่ฟ่อแล้วนึกเอ็นดู จะสงสารไม่ให้หน้าแดงหูแดงมากกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้


ครองภพมองอีกฝ่ายอย่างเข่นเขี้ยว แต่ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าสะบัดหน้าหมุนตัวจะเดินออกจากห้อง แต่ไม่วายถูกเรียกไว้อีก


“น้องครอง อเมริกาโน่ล่ะ”


“ผมไม่รับ!”


“แต่ยังไงก็ขอบคุณนะ” เสียงของร่มธรรมดังไล่หลัง แต่ครองภพไม่คิดหันกลับไปแล้ว


ทว่า...ตอนขึ้นรถกลับคอนโดในวันนั้น อเมริกาโน่จากร้าน ร.รอ ก็ถูกผู้จัดการส่วนตัวของครองภพหิ้วติดมือมาด้วย แถมยังบอกด้วยว่าคนฝากมาบอกว่ายกให้ทั้งแก้วเก็บความเย็นเลย


“พี่ณุเอาไปให้หมดนั่นล่ะ!” คนไม่ค่อยแสดงอารมณ์กลับทำหน้าหงุดหงิดเต็มประดาจนวิษณุยังงุนงง


“แก้วก็ไม่เอาเหรอ”


“ไม่เอา!”


“ร้าน ร.รอ นะ”


“ผมบอกว่าไม่เอา!”


“คุณร่มพูดไว้ไม่ผิดเลย”


คราวนี้คนหงุดหงิดหันกลับมามอง “เขาพูดว่าไง”


“เขาบอกว่ายังไงครองก็ไม่เอา แต่ถ้าครองไม่เอาก็ให้พี่บอกครองว่าแทนค่านายหน้าที่ทำให้คุณร่มรับงานใหม่ ว่าแต่...สรุปคุณร่มแกจะกลับเข้าวงการเต็มตัวแล้วเหรอ พี่ไม่รู้เลยนะเนี่ย”


“ผมก็ไม่รู้!” ครองภพกระแทกเสียงอย่างไม่อยากจะเสวนาเรื่องของคนที่ชื่อร่มธรรมอีก แต่เมื่อรถจอดที่หน้าคอนโดของเขา วิษณุยัดแก้วใส่มือพร้อมกำชับว่าพรุ่งนี้จะมารับตามเวลาที่นัดไว้ ชายหนุ่มไม่ได้เขวี้ยงแก้วทิ้งไป แต่ยอมเดินถือกลับขึ้นห้องของตนเองด้วยใบหน้าบูดบึ้ง


ไม่รู้ว่าบูดใคร แต่วิษณุคิดว่าไม่ได้บูดตนแน่ หรืออาจจะบูดร่มธรรม


บูดอะไรก็ตามเถอะ ขออย่าให้บูดตกค้างติดตัวไปทำงานวันพรุ่งนี้เลย พระเอกดังตกงานตอนอายุเพิ่งจะ 22 จะกลายเป็นข่าวดังยิ่งกว่าสมัยร่มธรรมลาออกจากวงการบันเทิงตอนอายุเท่ากันซะอีกนะ!


........................


ร่มธรรมรู้ว่าเวลาไม่เคยคอยใคร


หลังจากไปแคสต์บทในซีรี่ส์เรื่องใหม่ของผู้กำกับฉายแล้ว ชายหนุ่มก็ไม่รอให้ทางนั้นตอบรับ เขารู้ตัวดีว่าต่อให้ผู้กำกับฉายจะปฏิเสธเขา แต่ความต้องการของเขาอยู่ที่เส้นทางสายนี้ เขาบอกรินฤดีแล้วว่าถ้ามีงานใดเสนอมา ให้รับทุกบท อย่างน้อยได้ลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อพาตนเองกลับเข้ามาในวงการที่อยากทำ ก็ดีกว่าปล่อยมันให้หลุดลอยออกจากมือ


แต่...เพราะรุ่งโรจน์เป็นคนสำคัญในชีวิต แม้จะรู้ดีว่าทางที่ตนเลือกย่อมทำให้พี่ชายผิดหวัง แต่เขาก็ไม่อาจปิดบังได้อีก ชายหนุ่มตัดสินใจนัดทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาพี่น้อง และเขาเป็นคนเริ่มพูดทุกอย่างเอง


“พี่โรจน์ ผมมีเรื่องจะขอ”


รุ่งโรจน์รู้ดีว่านี่ไม่ใช่เรื่องปกติ เห็นสีหน้าท่าทางจริงจังของน้องชายคนเล็กแล้วก็ใจหายวาบ ทว่าพอจะอ้าปากแย้งไม่ให้พูดสิ่งใด ใบหน้าหล่อเหลาของร่มธรรมกลับเต็มไปด้วยความตั้งอกตั้งใจและจริงจัง


...จริงจังเสียจน...เสียงของคนเป็นพี่ไม่อาจเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปาก


   “ผมอยากเป็นนักแสดง”


   “เราคุยเรื่องนี้กันแล้ว!” นายตำรวจหนุ่มท้วงเสียงเข้ม


   “ใช่...พี่เคยขอผมมาแล้ว ตอนนั้นผมยอมออกจากวงการเพื่อมาดูธุรกิจของพ่อ จนตอนนี้ธุรกิจก็อยู่ตัวแล้ว มันผ่านมาแล้ว 6 ปี วันนี้ผมได้กลับไปเล่นละครอีกครั้ง ความรู้สึกของผมก็ยังเป็นเหมือนเดิม...ผมรักการแสดง ผมอยากเล่นละคร”


พี่ชายคนรองนิ่งงัน ด้วยไม่คิดว่าจะได้ยินน้องชายพูดคำนี้


   “ให้ผมทำงานในวงการต่อไปได้ไหม”


แม้ปากจะอยากแย้ง แต่สีหน้าจริงจังและความรู้สึกที่ร่มธรรมแสดงออก บอกให้รู้ว่าไม่อาจทัดทานสิ่งใดได้อีกแล้ว


   ร่มธรรมโตแล้ว เขามีชีวิตของเขา และเวลานี้...เขาเลือกแล้ว


   เขาเลือกที่จะกลับเข้าไปสู่เส้นทางที่เขาต้องการ


   …การเป็นนักแสดง...


   รุ่งโรจน์หลับตาลง ถอนหายใจยาว


   วงล้อโชคชะตา...กำลังหมุน


   ทัดทานไม่ได้อีกแล้ว


………………….


นับจากนั้น ร่มธรรมกลับเข้าสู่วงการบันเทิงเต็มตัวอีกครั้งหลังจากห่างหายไป 6 ปี


นอกจากซีรี่ส์ที่แสดงร่วมกับครองภพแล้ว ทีมงานของผู้กำกับฉายเห็นพ้องให้เขารับบทนำ ในขณะเดียวกัน รินฤดีก็ตอบรับให้น้องชายเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับบริษัทเครื่องครัวที่เคยปฏิเสธไป


   หลังจากนั้นไม่นาน ก็เกิดเป็นเสียงฮือฮาไปทั่ววงการบันเทิง เมื่อมีกระแสข่าวเกี่ยวกับโปรเจ็คใหม่ของผู้กำกับฉายซึ่งผันตัวจากผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง มาจับงานซีรี่ส์ในแพล็ตฟอร์มใหม่


อดีตพระเอกแห่งชาติหวนกลับเข้าวงการในวัย 28 ปีมารับบทนักแสดงนำในงานของผู้กำกับมากฝีมือ


โปรเจ็คนี้มีนักแสดงนำร่วมอีกคนคือพระเอกหนุ่มยอดนิยมที่ชื่อ ‘ครองภพ’


   ...โชคชะตา...


ถูกขีดไว้แล้ว และไม่อาจมีใครขัดขวางได้อีก


ไม่มีวันถูกขัดขวางได้อีกแล้ว


...........


...


‘ไม่! ไม่! อย่าขอรับคุณหลวง!!! อย่ากลับไป!!! อย่ากลับไปเจอมัน!!!!’


เสียงตะโกนของชายฉกรรจ์ดังก้องในห้วงความมืด แต่ไม่อาจส่งไปถึงร่มธรรมได้เลย


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)


   เราควรจะบอกพี่โรจน์ดีมั้ยคะว่ามีเด็กบางคนเสี้ยมให้พี่ร่มดื้อแพ่ง ฮ่าฮ่า (นี่ขนาดออกตัวว่าไม่อยากจะพูดกับพี่ร่มมากนะ ก็ยังเสี้ยมจนเขาลุกขึ้นมาได้ขนาดนี้)


   ร่มธรรมเป็นคนประเภทที่มีปัจจัยในชีวิตหลายอย่างเลยค่ะ ไม่ใช่ว่าเขาไม่จริงจัง แต่เพราะเขาจริงจังกับทุกอย่าง ก็เลยพยายามที่จะให้ความสำคัญกับทุกอย่าง ถ้าเทียบกับครองภพแล้ว ร่มธรรมคือคนที่มองรอบๆ ส่วนครองภพคือม้าแข่งที่มองพุ่งไปข้างหน้าอย่างเดียว การที่ครองภพดุว่าร่มขี้ขลาดก็เลยไม่จริงซะทีเดียวนะ แต่...จะว่าไงดี ผู้ชายปากร้ายอ่ะค่ะ ก็จะน่าตีในทุกๆตอน ฮ่าฮ่า


   ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตาม และทุกกำลังใจ ขอบคุณพื้นที่บอร์ดด้วยค่ะ


   เจอกันพฤหัสหน้าค่ะ


ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
หูยยยย มีเขิน มีเขิน ตอนที่ “ผมไม่ได้ชอบที่จะเตือนสติคุณ!”
เป็นไงละ เข้าทางคนอายุมากกว่าเสียนี่ ระวังรอยยิ้มพี่ร่มไว้ละกัน
 :-[ :-[
ว่าแต่ ... คนที่คอยห้ามคุณหลวงเนี่ยคือพี่โรจน์ใช่ไหม
 :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 710
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
เขิลมากมาย ทำไรไม่ได้ ขอโวยวายไว้ก่อน :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
อีเสียงตะโกนที่ไม่มีใครได้ยินนี่
มาทุกรอบเลย สงสารเขาจังนะคะ
หล่อนต้องการเก็บคุณหลวงไว้เองใช่ไหม
ขัดขวางตั้งกะชาติที่แล้วยันชาตินี้

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
พี่โรจน์แอบรู้อะไรมา...บอกกันบ้างสิ  :katai2-1:

ออฟไลน์ BitterCucumber

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เสียงชายฉกรรจ์ปริศนามาอีกแล้ว ชอบโผล่มาตอนที่ร่มธรรมไปเจอกับครองภพ  สงสัยแค้นครองภพมาตั้งแต่ชาติก่อนแน่ๆ ถึงไม่อยากให้ไปเจอขนาดนั้น คงเป็นผีบ่าวซักคนนึงที่ชอบร่มธรรมในตอนนั่นแต่ไม่ได้ครอบครองงี้ป่ะ อมก. จะเดาไปเรื่อยๆ :hao7: :hao7:

พี่รุ่งโรจน์นี่เป็นคนในชาติก่อนแล้วจำอดีตได้อ่ะป่าวหรือมีหมอดงหมอดูมาทักไม่ให้น้องเข้าวงการ เพราะเดี๋ยวจะไปเจอครองภพ

สนุกมากจ้า ลุ้นดี เดาสนุกเลย55555

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
พี่ร่ม ของน้องครอง

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
พี่โรจน์ต้องรู้อะไรแน่ๆ  :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
พี่โรจน์ต้องรู้อะไรแน่ๆ
เสียงนั้นเป็นใครกันแน่  :katai1:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
พี่โรจน์รู้อะไรทำไมไม่บอกกัน

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1090
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
ต่างคนก็ต่างมีเหตุผลของตัวเอง
พี่ร่มน่าสงสาร ประนีประนอมกับทุกฝ่าย ก็จะเหนื่อยมากที่สุด

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
น้องบอกว่าไม่ชอบพูดเตือนสติไงพี่ร่ม 555555555555555
แต่ทำบ่อยเกิ๊นนนนน คนพี่เข้าใจเองเออเองเรียบร้อยแล้ว
พาร์ทนี้ยาวสะใจมากเลยค่ะ
แต่ยังคงเส้นคงวาว่าเสียงปริศนาก็ยังมาแค่ท้ายตอน 5555  :ling3: :ling3:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
พี่โรจน์ไปรู้เรื่องอะไรมา

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
วงล้อชีวิตหมุนติดแล้ว

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ว้าววว ดีใจที่ได้กลับมาอ่านนิยายคุณบัวอีกค่ะ

ดูเนื้อเรื่องแล้วไม่ซับซ้อนนะ แต่ตอนนี้สับสนเบาๆ
คืออยากรู้ว่าผูกพันอะไรกันไว้ ทำไมถึงต้องมาแก้กันภพนี้
แล้วทำไมถึงไม่อยากให้เจอกัน มันร้ายแรงมากหรอ

โรจน์รู้อะไรมา ทำไมไม่บอกน้อง จะได้ระวังตัว
ร่มฝันก็จริง แต่ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร มีผลยังไง

แล้วใครที่คอยส่องตามครองด้วยความแค้น

ครองคือคนที่จะเปิดใจกับคนสนิทเท่านั้น
แต่น้องก็ไม่ใช่คนแข็งกระด้างอะไร
ดูจากในกอง ทุกคนก็ดูปลื้มด้วยซ้ำ

ร่มเอ้ย ตัวเราใจเรา มันก็จริงค่ะ ยอมลาวงการ
ตอนนี้ก็อยากกลับมาอีก เพราะใจมันร่ำร้อง


ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
หรือพี่โรจน์จะรู้อนาคตแต่ถ้ารู้ควรเตือนไม่ใช่หรือจะได้ระวัง ไม่ใช่มาห้ามกันแบบนี้

ออฟไลน์ ppwct

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
มันจะไม่น่ากลัวใช่มั้ยคะ แงงง รอติดตามนะคะ :katai2-1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด