Dear my flower #ช่างสักรักคุณครู
6 : We were promised sufferingsสามเดินตามคนตัวเล็กกว่าเข้าบ้าน สายตามองแต่หลังคอขาวสลับกับบั้นท้ายใต้กางเกงสีครีม รู้ว่ามันไม่ดีแต่ก็ไม่อยากละสายตาออกไปไหน
“ห้องน้ำอยู่ตรงนี้ครับ” แป้งเดินนำเข้ามาในบ้านตัวเอง พร้อมกับชี้บอกแขกไปที่บริเวณห้องน้ำที่ติดกับห้องนั่งเล่น
ช่างพยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าไป คุณครูเลยได้ทีรีบวิ่งไปเก็บซากอารยธรรมตรงห้องนั่งเล่น อันได้แก่เศษกระดาษและใบเสร็จที่กระจัดกระจายเต็มโต๊ะไม้ บนโซฟาและเก้าอี้บริเวณนั้นมีกางเกงและเสื้อที่ยังไม่ซักวางพาดอยู่
แป้งอยู่คนเดียวจนชินเลยค่อนข้างขี้เกียจจัดให้มันเป็นระเบียบ คุณครูวิ่งวุ่นอยู่สักพัก ไม่นานนักสามก็เดินออกมา
“มองอะไร” สามถามคนที่ดูหน้าตาตื่น เขาดึงชายเสื้อออกนอกกางเกง ปลดกระดุมเม็ดบนให้เห็นรอยสักรูปต้นสนและพับแขนเสื้อขึ้นท่าทางผ่อนคลาย ผิดกับเจ้าของบ้าน
“ผมนึกว่าคุณสามจะถ่ายหนัก เลยให้เอารถเข้ามาจอด” แป้งบอกพร้อมกับยิ้มแห้งเมื่อเห็นว่าคุณสามเข้าห้องน้ำแค่ 3 นาทีเอง ...คนอุตส่าห์โบกรถให้ตั้งนาน...
สามลอบขำ โมจินี่ชอบคิดไปเองจริงๆ
“ทำอะไร” คนตัวใหญ่ถามพลางมองถังขยะพลาสติกในมือ
“คือมันรกครับ ผมชอบวางพวกใบเสร็จกับถุงพลาสติกกองๆ ไว้” คุณครูตอบพลางหัวเราะแหะ นานๆ มีแขกมาบ้านที ก็อยากให้เห็นบ้านที่สะอาดมากกว่านี้
คุณช่างกระแอมแก้เก้อ ก่อนจะมองไปรอบๆ บ้านกึ่งไม้ ที่ตรงห้องนั่งเล่นเปิดโล่งสูงไปถึงชั้น 3 สามารถมองเห็นห้องข้างบนและบันไดเชื่อมต่อกันได้หมด เลยอดสงสัยไม่ได้ว่าประตูบานไหนกัน...ที่เป็นห้องนอนของโมจิ
“บ้านสวยดี” เขาบอกก่อนจะแกล้งทำทีเป็นมองไปข้างบน
แป้งยิ้มรับ อันที่จริงบ้านหลังนี้ใครได้เข้ามาก็มักชมและสงสัย เพราะบ้านปกติจะแยกชั้นชัดเจน แต่บ้านเขากลับได้คุณน้าแท้ๆ ที่เป็นสถาปนิกมาช่วยออกแบบให้ด้านในเปิดโล่งมองเห็นถึงคานของหลังคาชั้น 3 เพื่อให้บ้านโปร่ง ผนังปูนเปลือยสลับกระจกทำให้ตอนกลางวันได้รับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่
“ข้างบนเป็นห้องนอนเหรอ? ”
“ใช่ครับ ผมนอนชั้น 2” แป้งชี้ไปที่ประตูห้องนอนชั้น 2 ที่มองเห็นจากด้านล่าง
คุณช่างเลิกคิ้วให้กับความตรงไปตรงมาของคุณครู
“แล้วชั้น 3 ทำอะไร”
“เป็นระเบียงปลูกต้นไม้ครับ อีกห้องเป็นห้องดูหนัง อีกห้องไม่ได้ใช้” แป้งอธิบาย
คนตัวโตมองไปรอบๆ ช่วงนี้เขาตกแต่งร้านอยู่สองสาขา มีหนึ่งสาขาที่ตั้งอยู่ในห้างแบบ open-air พอเห็นการตกแต่งของบ้านโมจิแล้วนึกชอบ
“ใครออกแบบให้”
“คุณน้าครับ เป็นสถาปนิก”
“อยากดูชั้นบน พอดีช่วงนี้กำลังแต่งร้าน” คุณน้าน้องสิบบอกตามตรง
แป้งเห็นอีกคนสนใจด้านบนมากเลยอาสา โดยที่ไม่ได้คิดเผื่อหรือติดใจสงสัยกับท่าทีของอีกคนเลย
“เดี๋ยวผมพาขึ้นไปดู” เขาเดินนำคุณสามขึ้นบันได อยากอวดชั้นสามที่มีทั้งระเบียงต้นไม้และห้องดูหนังกว้างขวาง
คุณช่างก้าวตามหลังเจ้าของบ้าน วิวกลมๆ ของโมจิข้างหน้าทำเขายิ้มกริ่ม กลิ่นกายหอมอ่อนๆ ทำเอาแขกของบ้านเริ่มคิดอะไรไม่ดี
“อยู่คนเดียวไม่เหงาเหรอ” สามถามเพราะคาดคะเนดูแล้วบ้านหลังนี้น่าจะมีห้องนอนประมาณ 4-5 ห้องนอน แต่แป้งกลับอยู่คนเดียว
“ชินแล้ว” คุณครูบอก
แต่เดิมบ้านหลังนี้พ่อแม่เขาสร้างเผื่อแป้งและครอบครัวในอนาคต แป้งรู้ว่าพ่อแม่คงหวังว่าเขาจะมีภรรยาและหลานอยู่ในบ้านหลังใหญ่ เลยตั้งในสร้างบ้านหลังใหญ่แบบนี้
“ตรงนี้เป็นระเบียงครับ” เจ้าของบ้านเปิดประตูกระจกออกไป
ลมเย็นตีหน้าเพราะออกแบบให้ตรงกับทางที่ลมผ่าน ช่วงที่ไม่มีฝุ่นคุณครูจะเปิดไว้ให้อากาศถ่ายเทไปทั่วบ้าน แต่ช่วงนี้ฝุ่นเยอะ เลยขึ้นมาระเบียงเฉพาะตอนรดน้ำต้นไม้
“ปลูกเองเหรอ” สามถามถึงไม้อุ้มน้ำในกระถางหลายใบ
“ครับ” คุณครูตอบรับพร้อมกับจามฟึดฟัดเพราะฝุ่น พวกเขาถึงได้เดินกลับมาในตัวบ้านแทน
“อันนี้ห้องดูหนัง” แป้งเปิดประตูเข้าไปในห้องที่ติดกับระเบียง ปูด้วยพรมสีเข้มนุ่มเท้า มีทีวีจอยักษ์และลำโพงคู่ใหญ่ ถึงจะเปิดไฟแล้วก็ยังมืดสลัว ตรงกลางห้องมีโซฟาเบดสองตัวตั้งติดกัน
“ห้องแบบนี้อยู่ได้ทั้งวัน” สามบอกพร้อมกับมองไปรอบๆ
“จริงครับ ช่วงไหนติดเกมหรือซีรีย์ ผมจะขนขนมกับข้าวขึ้นมาแล้วขลุกอยู่ในนี้ทั้งวัน บางทีขนหมูกระทะขึ้นมา” คุณครูตอบเขินๆ
“กินในห้องนี่เนี่ยนะ? ”
“จริงๆ ชอบกินมากกว่าดูหนัง” แป้งตอบพร้อมกับขำ
สามมองลักยิ้มตรงแก้มบุ๋มกับฟันขาวสะอาด เขาลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะโคลงหัวไปมา
“แบบนี้เลยอ้วนไง” คนปากไวแซว นึกชอบเวลาเห็นหน้าตาไม่พอใจของอีกคน
“ผมอ้วนแล้วมันทำไม” เจ้าของบ้านบ่นอุบ
ก็ไม่ทำไม...สามไม่เคยคิดเลยว่าคุณครูอนุบาลของหลานชายจะน่าฟัดขนาดนี้ ขนาดได้ลองฟัดไปแล้ว...ก็ยังรู้สึกไม่พอ รู้ตัวอีกคนก็ขยับตัวเข้าไปชิดคุณครูแล้ว
“คุณสาม...”
สามวางมือลงบนขอบกางเกงอีกคน ปกติผู้ชายจะไม่ค่อยมีสะโพก แต่ครูแป้งกลับมี มันทำให้เวลามองแล้วสะดุดตา
“กางเกงตัวนี้ ทิ้งได้แล้วนะ”
“ทำไมต้อง...” แป้งก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมคุณสามต้องมาใส่ใจกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ด้วย
“ทำไม ไม่พอใจเหรอ” เขาเลิกคิ้วมองคนที่เอาแต่บ่นอุบอิบ
“รู้ไหมทำไมวันนี้ถึงมาหา” คุณช่างปล่อยมือออกจากเอวอีกคน ก่อนจะนั่งลงบนโซฟาหนัง
ส่วนโมจิส่ายหน้าไปมา เพราะไม่รู้จริงๆ
“รู้ไหมทำไมวันนี้ถึงพาไปกินข้าว พาไปซื้อกางเกงใหม่” ดวงตาคมหรี่มองคนที่เอาแต่ทำหน้างง
“แล้วรู้ไหมทำไมถึงพาไปคอนเสิร์ต”
“บัตรมันเหลือไงครับ” คราวนี้คุณครูตอบทันควัน ทำเอาคนรอฟังถึงกับขมวดคิ้วแน่น
“รู้อะไรบ้างเนี่ยโมจิ”
เรื่องที่คุณสามชอบพูดคำว่าโมจิ...แป้งก็ยังไม่เข้าใจเลย
”ไม่รู้เลยเหรอว่าเข้ามาที่บ้านนี้ทำไม”
จากที่คิดว่าทุกอย่างเป็นเรื่องบังเอิญ...คุณครูก็เริ่มคิดว่ามันแปลกๆ
“แน่ใจเหรอแป้ง ว่าคืนนั้นยอมให้ทำเพราะว่าเมา”
แป้งมองหน้าคนถาม เขาเมาก็จริง...แต่ก็อยากลอง คุณครูหน้าแดงไปถึงหูเมื่อนึกถึงเรื่องคืนนั้น
“มานี่” สามตบปุเข้าที่พื้นที่ข้างตัว
สถานการณ์ตอนนี้เหมือนบนเตียงที่โรงแรมคืนนั้น คุณน้าน้องสิบไม่ได้บังคับ...แต่กำลังเชิญชวน
“คุณสามต้องการอะไร” คราวนี้แป้งถามคำถามแทนที่จะก้าวเข้าไปหาเหมือนเคย
“คิดว่าผมต้องการอะไร”
ไม่ใช่ว่าแป้งไม่รู้ แต่คุณครูไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นเขา
คุณน้าน้องสิบมองคนที่อ้าปากแล้วหุบเหมือนอยากจะพูดอะไรอยู่หลายครั้ง แต่โมจิแรมต่ำเลยน่าจะประมวลผลไม่ทัน
คนตัวโตลุกขึ้นแล้วยื่นมือมาบีบก้นแน่นอย่างมันเขี้ยว!
“โมจิเอ้ย! ”
“คุณสาม! ” แป้งปัดมืออีกคนออกเป็นพัลวัน
“โมจิคืออะไร? ” คนโดนก่อกวนถามหน้ายุ่ง เห็นอีกคนยิ้มจนเห็นเขี้ยว
“แก้ม...” สามเลี่ยงคำว่าแก้มก้น ”แก้มอ้วนเหมือนโมจิ” เขาก้มลงจูบแก้มเจ้าของบ้านฟอดใหญ่
“ห้ะ” คนที่โดนหาว่าอ้วนเหมือนโมจิยกมือถูหน้าตัวเองแรงๆ พร้อมกับเดินตามแขกของบ้านออกมาจากห้องนั้น
แป้งมองแผ่นหลังกว้างด้วยความไม่เข้าใจ เขาไม่รู้ว่าคุณสามคิดอะไรอยู่ แต่เรื่องที่จะไม่ทำเด็ดขาดเลยคือ...แป้งไม่เคยคิดจะเข้าข้างตัวเอง
.
.
.
สามเป็นลูกคนกลางในบรรดาพี่น้อง 5 คน เขาเกิดมาในบ้านที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร ทั้งโรงงานอาหารแปรรูป และร้านอาหารหลายแห่ง ถึงสามจะเห็นของพวกนั้นมาตั้งแต่เด็ก แต่เขากลับไม่ได้ชอบการบริหารหรือจัดการ เขาชอบศิลปะ
สามเคยสอบติดมหาวิทยาลัยศิลปะชื่อดังทั้งในไทยและต่างประเทศ แต่พ่อแม่ก็ไม่ยอมให้เรียน สุดท้ายก็ต้องเรียนบริหารธุรกิจ เขาเป็นคนที่ค่อนข้างดื้อเงียบ ที่จริงตอนวัยรุ่นก็ดื้อมาก พยายามเรียกร้องความสนใจอยู่หลายครั้ง แต่ว่ากันว่าลูกคนกลาง...มักจะเป็นคนที่พ่อแม่ไม่ให้ความสนใจ
สามเริ่มสักครั้งแรกตามคำชวนของเพื่อน จนได้มาเจอพี่คู้ และจับพลัดจับผลูมาเป็นช่างสักอยู่ถึงตอนนี้ พอเริ่มโตเขาถึงรู้ว่าการเรียกร้องความสนใจไม่ได้ผลเท่ากับการยื่นหมูยื่นแมว เขาทำงานกับที่บ้านแลกกับเงินเดือนสูงลิ่วเพื่อมาใช้ในสิ่งที่ตัวเองชอบ
อันที่จริงสามในวัย 22 ย่าง 23 ค่อนข้างจะมุทะลุ เขาไม่รู้จักรอ ออกจะเอาแต่ใจและนิสัยเด็ก แต่เพราะทำงานช่วยที่บ้านมามาก เขาถึงเป็นจอมวางแผน
ช่างเจอโมจิครั้งแรกตอนไปรับหลานชายวัยอนุบาล 1 จะว่าโรคจิตก็ได้ แต่เขาชอบมองลักยิ้ม กับสะโพกผายของคุณครูอนุบาลสอง ตอนน้องสิบเลื่อนชั้น สามภาวนาแทบตายว่าขอให้ได้อยู่ห้องโมจิ
..และแล้วคำขอก็เป็นจริง
ในตอนที่กำลังคิดว่าจะเข้าหาคุณครูของหลานยังไงดี...เหยื่อก็โผล่มาถึงร้านสัก
ลักษณะภายนอกของแป้งตรงกับสเป็กเขาทุกอย่าง ทั้งหน้าตา รูปร่าง ถึงสามจะชอบวางแผน...แต่ก็ไม่ได้คิดว่าแผนนั้นจะมาไกลขนาดนี้
.
.
.
ในตอนที่กำลังจะก้าวเท้าลงจากบันไดชั้น 2 แขกของบ้านก็เดินวนมาห้องที่แป้งชี้ให้ดู
“นี่ห้องนอนคุณเหรอ” สามชี้ไปยังห้องขนาดใหญ่สุดในชั้น
“ครับ” เจ้าของบ้านตอบรับ ก่อนจะรู้ตัว...ว่าพลาดแล้วก็ตอนที่สามบิดลูกบิดแล้วเดินเข้าไป
“เอ๊ะ คุณสาม! ” คุณครูก้าวเท้าตามจอมบุกรุก นึกไม่ชอบใจที่อีกคนถือวิสาสะเข้ามาในห้องตัวเอง แต่พอมองเห็นว่าคนตัวโตยืนมองไปรอบห้องก็ปิดปากฉับ
“ห้องสวยนี่”
“คุณสาม...” แป้งเรียกเสียงแผ่ว มองใบหน้าคมสันด้วยสายตาสงสัย
“นี่ไม่รู้จริงเหรอว่าทำไมผมถึงอยากเข้าบ้าน”
แป้งขมวดคิ้วแน่น มองร่างกายสูงใหญ่ที่ถือวิสาสะนั่งลงบนเตียงตัวเองด้วยความไม่พอใจ แต่พอมองเห็นบางสิ่งที่ตัวเองเผลอวางไว้บนเตียงก็เบิกตากว้าง สมองตื้อไปชั่วขณะ จากที่จะดุอีกคนเลยรีบบอก
“ออกจากห้องนี้เถอะครับ” แป้งเดินเข้ามาหาแขก แต่แขกของบ้านกลับส่ายหน้า
“เข้ามาแล้ว...คิดว่าจะออกง่ายๆ เหรอ” สามมองตรงไปยังเจ้าของบ้าน...บางทีโมจิวัย 28 คงไม่รู้ว่าคนเด็กกว่านั้นคิดอะไรไปไกลแล้ว
เจ้าของบ้านเริ่มหน้าเสีย สายตาล่อกแล่กเมื่อเห็นว่ามือใหญ่ของอีกคนวางลงบนเตียงใกล้ๆ กับ...กับ…ความลับของเขา!
สามมองตามสายตาเจ้าของห้อง ก่อนจะพบกับหนังสือหนึ่งเล่ม พอเห็นว่ามันคือหนังสืออะไรก็อดเดาะลิ้นไม่ได้
โมจินะโมจิ
“นี่คืออะไร” สามชูหนังสือเล่มบางแต่ไม่ธรรมดาให้ดู ในนั้นมีภาพของหนุ่มๆ หน้าตาหล่อเหลา บางคนสวมชั้นใน แต่บางคนก็ไม่...
“อย่าจับนะ” แป้งอยากจะร้องไห้! นี่มันห้องส่วนตัวเขา แล้วของพวกนี้ก็เป็นของส่วนตัวเขานะ!
“เสียงดังใส่ผมเหรอโมจิ” สามทำหน้านิ่ง แต่ในใจหลุดขำไปแล้ว
ในตอนที่แป้งจะก้าวเท้าเข้ามาแย่งออกจากมือ คนตัวสูงกว่าก็ลุกขึ้นแล้วชูของสิ่งนั้นขึ้นสุดมือ
“คุณสาม! ” เจ้าของห้องทั้งโกรธและอาย โตขนาดนี้แล้วทำไมยังต้องมาแกล้งกันแบบนี้อีก
“แล้วนั่นคืออะไร? ” สามถามถึงแท่งสีเงินที่ชาร์จไฟอยู่ตรงหัวเตียง
“พะ...พาวเวอร์แบงค์” แป้งตอบเสียงเบา มือขาวกำแน่น ตอนนี้โมโหจนแทบจะต่อยคนได้!
“พอดีเลย ยืมมาชาร์จแบตมือถือหน่อย” สามล้อ เกือบจะหยิบมันออกมาจากแท่นชาร์ตแล้ว ถ้าไม่โดนอีกคนตวาดใส่หน้า
“คืนมานะ! ” โมจิเวอร์ชันโมโหตะโกนเสียงดัง สามว่าเวลาโมโหเด็กอนุบาลสองต้องเป็นแบบนี้แน่เลย...น่ากลัวเหลือเกิน
แต่คนที่เด็กกว่าก็ยังสนุก
“บอกมาตามตรง แล้วจะคืนให้” เขาเย้าคนที่โมโหจนหน้าแดง
คุณครูเม้มปากแน่น อีกคนเลยยื่นหน้าเข้ามาใกล้ จมูกโด่งเกลี่ยอยู่ตรงลักยิ้มบุ๋ม
“อยากบอก หรืออยากสาธิตวิธีใช้” สามไม่ได้ตั้งใจจะขู่เลย เขาแค่อยากแกล้ง เขามันเป็นจอมเรียกร้องความสนใจอยู่แล้ว พออีกคนโมโหขนาดนี้เลยสนุก
แป้งกัดปากแน่น ถึงจะบอกว่าโมโห...แต่ก็ไม่เคยมีเรื่องกับใคร
“งั้นผมไปเอง! ” เจ้าของบ้านยอมแพ้ แต่หมุนตัวเดินออกมาจากห้องได้สองก้าวอีกคนก็ดึงเข้าไปกอดแล้วหัวเราะลั่น
“คุณครูโมโหได้ขนาดนี้เลยเหรอ” สามขำไปกอดอีกคนไป
“ผมไม่สนุกนะ! ” คุณครูบอกเสียงดัง แต่ในตอนที่คนตัวโตลูบหลังไปมากลับรู้สึกสงบลงโดยประหลาด
“ไม่แกล้งแล้ว อายอะไรแค่เรื่องหนังสือโป๊ เราเคยกอดกันทั้งคืน” สามก้มลงบอกเจ้าของบ้านที่ดูเหมือนจะอ้าปากค้างไปแล้ว
“อะไร เขินแล้วจะหนีออกจากบ้านตัวเองเหรอ? ”
“ก็ไม่รู้” เจ้าของบ้านตอบเสียงฉุน “กอดกันอะไร” แป้งบ่นงุบงิบ พอได้ยินเสียงขำก็เปลี่ยนเรื่อง
“ตกลงคุณสามเข้ามาทำอะไรกันแน่? ”
“เช้าวันนั้น...หนีออกมาก่อนทำไม? ”
แป้งยังไม่ได้คำตอบด้วยซ้ำ พอโดนถามกลับเลยเริ่มมึน
“ไม่ได้หนี” แป้งไม่ได้หนีจริงๆ แต่ขลุกอยู่ในบ้านทั้งวันทั้งคืน
“มาตกลงกันก่อน หลังจากนี้ห้ามหนีไปไหน”
“ก็บอกว่าไม่ได้หนี” โมจิเถียง สามเลยก้มลงงับปากสีสด
“เข้าใจยังว่าเข้ามาในนี้ทำไม” ช่างสักคลอเคลียริมฝีปากตัวเองไปกับแก้มขาว ลมหายใจตรงแก้มและกอดอุ่นของคนตัวใหญ่ทำเจ้าของบ้านไม่มีแรงแม้จะผลักออก
ถึงแป้งจะอ่อนประสบการณ์...แต่แค่นี้ก็รู้แล้วว่าคุณสามอยากได้อะไร
“ของเล่นอันนี้” สามหยิบแท่งสีเงินที่ยาวเหมือนปากกาแต่อ้วนกว่าหน่อยขึ้นมาถือ พร้อมกับเสียเข้าที่ติ่งหูแดงจัด กระซิบข้างหูเจ้าของห้อง
“กับของผม...อะไรดีกว่า”
พวกเขาสบตากันแค่ชั่ววินาที คุณครูก็นอนอยู่บนเตียงแล้ว
“คุณสาม...พอ” ถึงปากจะบอกให้พอ แต่ร่างกายตอบรับกับสัมผัสนั้น...เหมือนกับติดใจเสียมากมาย
สัมผัสร้อนและเฉอะแฉะตรงปากย้ายไปตรงซอกคอและไหล่ลาด คุณครูพยายามดันไหล่ของอีกคนออก แต่ก็พบว่าแขนตัวเองไมมีแรงเอาเสียเลย ในเวลาชั่วพริบตา เสื้อเชิ้ตทำงานของพวกเขาทั้งคู่ก็ลอยหวือลงข้างเตียง
เหมือนแป้งเคยอ่านหนังสือสักเล่มที่เล่าว่าเซ็กซ์เป็นเรื่องน่าตื่นเต้น พอได้ลอง...ก็จะติดใจ ยิ่งมองหน้าและดูแรงอารมณ์ของคนที่คล่อมอยู่ข้างบนแล้ว คำปฏิเสธก็ถูกกลืนลงกลับไปที่เดิม
พวกเขาเป็นเหมือนแม่เหล็กคนละขั้วที่ดูดเข้ากันอย่างรุนแรง แป้งเหมือนจะปฏิเสธในคราที่ตกใจ แต่กลับกอดแผ่นหลังเปลือยลายต้นไม้ไว้แน่นในตอนที่พึงใจ มือขาวป่ายปะไปทั่วแผ่นหลังกว้าง กล้ามเนื้อแข็งแรงของคุณสามดีกว่านายแบบในหนังสือเล่มนั้นอีก
แป้งเป็นเหมือนคนหลายคน เขามีด้านมืดที่อยากลอง และบังเอิญว่าช่างสาม...ตรงกับสิ่งที่เขาอยากลอง
เสียงจูบดังมูมมามไปทั่วห้อง คนตัวสูงรู้สึกว่าคนใต้ร่างเหมือนอยากจะจูบเขากลับ แต่กลับดูงกๆ เงิ่นๆ
“วิวดี” สามบอกเมื่อพลิกตัวลงมานอนที่เตียงกว้าง จับเอวคอดไว้มั่นมือ ปล่อยให้อีกคนได้ลองทำบ้าง
เจ้าของห้องมองแผ่นอกหนาของอีกคนกระเพื่อมขึ้นลงถี่ด้วยแรงหายใจกระสัน สามจับมือร้อนวางบนอกตึงของตัวเอง พลางลอบดูปฏิกิริยาตื่นเต้นแต่พอใจของอีกคน
แป้งชักมือออกจากอกหนาลายต้นสนทันที พยายามบอกให้ตัวเองลุกออกจากสิ่งที่กำลังดุนดันก้นและร่างกายสูงใหญ่ เพราะเอาแต่จ้องเลยถูกดึงตัวมาตรงปลายเตียง
สามลุกขึ้นยืนพร้อมกับปลดซิปกางเกงตัวเองออก เขาดึงส่วนที่ดันผ้าจนปวดหนึบออกมาข้างนอก แล้วนั่งลงตรงเกาอี้ตรงโต๊ะทำงานข้างเตียงก่อนจะดึงอีกคนให้ลุกมาหา แล้วบอกโดยไร้ความเขินอาย
โมจิมีสิ่งที่อยากลอง...เขาก็มีสิ่งที่อยากลองเหมือนกัน
“คุกเข่าลง...ทำให้หน่อย”
แป้งส่ายหน้าไปมา หัวใจเต้นเหมือนจะหลุดออกมา
“ทำไม่เป็น” คุณครูบอกเสียงเบา
สามเลิกคิ้วมอง มือเขาสาละวนกับการปลดซิปและกางเกงแน่นของอีกคน ตรงนั้นของแป้งชุ่มชื่นจนกางเกงสีครีมเปียกเป็นวงกว้าง ช่างที่นั่งอยู่เงยหน้างับอกขาวนุ่ม...เขากระซิบแผ่ว
“หืม...จริงเหรอครับ ทำเหมือนที่เคยดูสิ”
“อื้อ ดูอะไร” แป้งจิกเล็บลงบนไหล่คนที่นั่งอยู่ ความเสียวแปลบตรงอกวิ่งลงไปตรงกลางลำตัว รู้ตัวอีกทีทั้งกางเกงและชั้นในก็กองอยู่บนปลายเท้า
สามยิ้มเยาะคนที่ตัวอ่อนแรงเหมือนขี้ผึ้งลนไฟ มือเขาลูบไปตามขาอ่อนทั้งด้านในด้านนอก แตะนิดแตะหน่อยโมจิก็แทบจะละลายแล้ว เขาให้มือข้างที่ถนัดรูดรั้งตัวเองที่กำลังกระตุกหงึกหงัก ส่วนอีกมือลูบไปที่รอยแยกกลางตัวของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเก้าอี้ นิ้วกลางหวิดจะสอดลึกหลายครา
“ทำให้หน่อย”
แป้งกัดปากแน่น...พอๆ กับเบี่ยงตัวหลบมือที่กำลังลูบไปทั่วกาย
“แป้ง...อมให้หน่อย”
ที่สุดก็ยอมคุกเขาลงเมื่อโดนสายตาคมมองตรงมา ตาสีเข้มของคุณสามทั้งอ้อนวอนและสั่งในคราวเดียวกัน
“ถ้างับจะโดนจับยัด...แต่ไม่ใช่ที่ปาก” สามบอกเสียงเรียบ
แป้งขมวดคิ้วพร้อมกับเงยหน้าจ้องใบหน้านิ่งของอีกคน ปฏิเสธไม่ได้ว่าคำขู่และสายตาเอาจริงนั่นยิ่งทำให้มีอารมณ์
“เชี่ยเอ้ย” สามสบถในตอนที่ปากอุ่นครอบลงบนแกนกลางลำตัว มันแข็งจะเหมือนจะแตก เขาซี้ดปาด อยากกระทุ้งเข้าไปลึกในคอแต่ก็ทำได้แค่ลูบแก้มอีกคนเพื่อให้กำลังใจ
ช่างสักมองต่ำลงไปยังคนที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงระหว่างขา ปากที่เหมือนเจลลี่สีสดเม้มตรงส่วนปลายพร้อมกับดูดเบาๆ ตาหวานเยิ้มคอยเหลือบขึ้นมองปฏิกิริยาเขาอยู่ตลอดเวลา
“มองอะไรโมจิ” สามโน้มตัวลงไปบีบก้นกลมก่อนจะใช้อีกมือล็อกคออีกคนไว้
“อือ อื้อ อื้อ…”
“เก็บฟันดีๆ ” เขาตบแก้มบอกคนที่อมลึกลงไปในคอ คนปกติถ้ากลัวจะต้องหลับตาปี๋ แต่แป้งกลับจ้องเขาตาเยิ้ม
“ไม่เบาจริงๆ ” สามกระดกสะโพกเข้าไปในลำคอลึก ไม่ได้กลัวอีกคนจะสำลักด้วยซ้ำ
...ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแป้งเพิ่งทำเป็นครั้งแรก…
จนเมื่อมือร้อนดันหน้าขาเขาออก สามถึงได้ถอนความใหญ่โตนั้นออกมา
“หันหลัง! ” เขาสั่งพร้อมกับกำตัวตนตัวเองแน่น สาวมันสุดความยาวด้วยมือข้างที่ถนัด อีกข้างแหวกโมจินุ่มออกให้เห็นรูเล็ก
ช่างสักมองต่ำลงไปยังคนที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงระหว่างขา ปากที่เหมือนเจลลี่สีสดเม้มตรงส่วนปลายพร้อมกับดูดเบาๆ ตาหวานเยิ้มคอยเหลือบขึ้นมองปฏิกิริยาเขาอยู่ตลอดเวลา
สามถูไถส่วนปลายขึ้นลงกับร่องชื้น ไม่นานก็คำรามลั่น
“แม่ง...โคตรดี” ปลายทางของความเครียดคือของเหลวสีขาวที่ชุ่มแฉะไปทั่วก้นขาว สามจูบส่วนปลายของตัวเองติดกับช่องทางนั้นหลายต่อหลายครั้ง เขาอยากดันมันเข้าไป แต่ก็ทำได้เพียงระบายอารมณ์กับการบีบเนื้อขาวให้ติดมือ
ถึงปากบอกจะยัดเข้าไป...แต่ก็ไม่อยากทำให้เจ็บ
.
.
.
เช้านี่เป็นครั้งที่สองที่คุณครูวัย 28 ตื่นมาพร้อมคนอื่นบนเตียง เมื่อคืนด้วยข้ออ้างว่าวันนี้ต้องทำงาน เขากับคุณน้าน้องสิบเลยไม่ได้ทำจนจบ
แต่ถ้าเมื่อคืนเป็นคืนวันศุกร์หรือวันหยุด...มันคงไม่จบแค่นี้
สามหมุ่นคิ้วเมื่อคนในอ้อมกอดขยับตัวยุกยิก เมื่อคืนกว่าจะหลับกันได้ก็ดึกมาก เพราะคุณครูเอาแต่ตื่นตูม เหมือนจะระแวงไปทุกอย่าง พอจับฟัดด้วยปากและมือรอบที่สองถึงได้หลับคาอก
“คะ..คุณสาม”
“อือ ตื่นเช้าจัง” เขาบอกพร้อมกับหาวหวอดแต่มือใหญ่ไม่ยอมปล่อยอีกคนออกจากอก
ว่ากันว่าเด็กขาดความอบอุ่นจะชอบอะไรนุ่มๆ ...เรื่องนี้สามไม่เถียงเลย
“ผมต้องไปทำงาน” แป้งบอกเสียงเบา เขาหลบตาไปมองหน้าต่างห้องบ้าง มองผ้าปูเตียงยับยู่ยี่บ้าง ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นเสื้อผ้าของตัวเองที่กระจายไปทั่วพื้น
“ผะ..ผม ผม…” คุณครูเครื่องรวนไปแล้ว
สามอมยิ้มก่อนจะจูบลงบนลักยิ้มบุ๋ม
“อะไร จะหนีไปไหนอีก”
“เปล่า จะไปอาบน้ำ” คนตอบว่าพลางซุกหน้าเข้ากับหมอน รู้สึกเหมือนเลือดมาเลี้ยงที่หน้าจนร้อนไปหมด
“มองหน้าผมก่อน ห้ามหนี รับโทรศัพท์ ตอบแชตด้วย เข้าใจไหม”
คนถูกสั่งเม้มปากแน่น...เพราะสิ่งที่คุณช่างบอก ไม่ต่างอะไรจากคู่รักเลย
“ตกลงไหม” สามถามพร้อมกับจูบที่ไหล่เปลือย ซุกหน้าลงกับซอกคออุ่น ไม่รู้ว่าเพราะชื่อแป้งหรือเปล่า...ตัวถึงได้หอมนุ่มเหมือนกลิ่นแป้ง
“ตงลงไหม? ” สามถามย้ำพร้อมกับวาดมือไปทั่วอกและลำตัวด้านหน้า อดไม่ได้ที่จะขยำเนื้อตรงท้องน้อยให้ติดมือ
“อ๊ะ..คุณสาม! ”
“จะตกลงได้ยัง? ” สามคว้าหมับเข้าที่ก้นกลม
“ตกลงๆๆ ” แป้งลุกขึ้นนั่งบนเตียง จ้องตาคนที่เนียนมานอนด้วยทั้งคืนด้วยสีหน้าเขินปนไม่พอใจ มือนั่นลูบที่ก้นตัวเองเบาๆ
สามหลุดขำในที่สุด
“ขำอะไร? ” แป้งถามหน้ายุ่ง
“โมจิหน้าหมูเอ้ย”
“คุณสาม! ”
“เสียงดังแต่เช้าเลย” ช่างบอกพร้อมกับกอดอีกคนไว้ ฝ่ามือใหญ่ลูบหลังเบาๆ เหมือนตบหัวแล้วลูบหลังพิกล แต่ถึงแบบนั้นคนโดนกอดก็อมยิ้มจนเห็นลักยิ้มสวย
“ไปอาบน้ำ เดี๋ยวไปส่งนะ”
.
.
.
“ใครมาส่งคะ” ครูชมพู่ประจำอนุบาล 3/2 ถามคนที่วันนี้ไม่ได้นั่งรถสาธารณะมาอย่างเคย แต่ดันลงมาจากรถเก๋งคันสวย
“เอ่อ เพื่อนครับ” แป้งยิ้มรับ พร้อมกับไหว้คุณครูหลายๆ คนในห้องนั้น
ไม่เข้าใจว่าทำไมวันนี้บรรยากาศในห้องทำงานถึงแปลกไป ทุกคนจ้องเขาเหมือนเป็นเด็กที่ทำความผิดแล้วเชิญเข้าห้องปกครองมากกว่าเป็นคุณครูที่นั่งทำงาน
“ครูแป้งเห็นภาพในกลุ่มคุณครูเมื่อคืนยังคะ” ครูเก๋เดินมากระซิบ
คนที่ยุ่งอยู่กับแขกมือปลาหมึกตั้งแต่ดึกจนเช้าส่ายหน้าเป็นพัลวัน ปกติในกรุปจะเอาไว้ส่งงานกับส่งภาพสวัสดีตอนเช้า ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ
แป้งหยิบมือถือขึ้นมาเปิดแชตรวมของคุณครูในโรงเรียนอนุบาล เขาเห็นรูปตัวเองกับคุณสามที่ห้างเมื่อวานหลายรูป ดูเผินๆ เหมือนก็เพื่อนเดินเที่ยวด้วยกัน จนกระทั่งถึงรูปสุดท้าย เป็นรูปที่สามรวบตัวเขาเข้าไปแกล้งทำเหมือนจะจูบตรงลานจอดรถ แต่ก็แค่แกล้ง…
ทั้งหมดนั่น...มันถูกส่งมาจากไอดีของครูแมว
“ใครถ่ายครับ”
“มีคนส่งมาให้ครูแมวค่ะ” ครูพิกุลที่นั่งเงียบมานานออกปาก ส่วนครูแมวนั่งมองอยู่ไม่ไกลกัน
“คุณก็รู้ว่าโรงเรียนเรามีกฎห้ามครูกับผู้ปกครองของเด็กๆ สนิทสนมกัน”
กฎที่ว่าเกิดขึ้นเพราะเคยมีผู้ปกครองมีปัญหากับเรื่องคะแนนสอบ และเรื่องการช่วยเหลือที่นอกเหนือจากหน้าที่ เนื่องจากเคยมีครูที่สนิทกับผู้ปกครองคนหนึ่งมากเกินไป ทำให้พ่อแม่เด็กหลายๆ คนไม่พอใจ
ดูเหมือนจะหยุมหยิม...แต่ก็เคยเป็นปัญหาจริงๆ
“ผมกับคุณสามไม่ได้คบกันเพราะเรื่องแบบนั้นครับ” แป้งบอกปัด เขากับคุณสามไม่ได้รู้จักกันส่วนตัวเพราะน้องสิบหรือจากที่โรงเรียน แต่จะบอกได้ยังไงว่าไปเจอที่ร้านสัก
ครูแมวที่นั่งฟังมาสักพักเหยียดยิ้ม
“แล้วแบบครูแป้ง คบกับผู้ชายแบบไหนล่ะคะ?”
แป้งขมวดคิ้วแน่น
“จะบอกว่าเป็นเพื่อนกันเหรอคะ ถ้าบริสุทธิ์ใจก็อธิบายได้นี่”
แป้งพูดอะไรไม่ออกเลย จะบอกว่าเป็นเพื่อนกัน แค่บังเอิญเจอกัน...ก็เป็นเรื่องไม่จริงทั้งนั้น
ท่วมกลางบรรยากาศกระอักกระอ่วน ทุกอย่างก็แย่ลงเมื่อได้รับคำถามที่ไม่สมควร
“ดูท่าทางจากในรูป คือพวกคุณคงไม่ใช่แค่คนรู้จัก รักร่วมเพศหรือเปล่าคะ? ”
“ครูแมวคะ คำถามพวกนี้ไม่เหมาะนะคะ! ” ครูเก๋บอกออกมาทันที เธอเหลืออดกับอะไรหลายอย่างเหมือนกัน ทั้งหมดนั่นเป็นเรื่องส่วนตัว รูปพวกนั้นมาจากเวลาเลิกงาน
การที่ครูเก๋ผู้อายุน้อยกว่าออกปากว่าคนที่แก่กว่า...ก็เหมือนหักหน้ากัน
“ไม่เหมาะตรงไหนคะ ครูเก๋ก็รู้ว่าเพศแบบครูแป้งชี้นำเด็กได้! ” นิ้วชี้นั่นชี้มาตรงหน้าคนที่นั่งอยู่ตรงกลาง
แป้งที่เงียบมาสักพักยิ้มให้กับตัวเอง เขาคว้ากระเป๋าทำงานและอุปกรณ์การสอนออกจากห้องนั้นด้วยมือที่สั่นจนแทบจะควบคุมไม่ได้
เรื่องพวกนี้แป้งรู้ตัวดีอยู่แล้ว...แต่แค่ไม่รู้ว่าทำไมสิ่งที่เขาเป็นถึงได้ผิด
.
.
.
วันนี้เขาสอนเด็กๆ ด้วยบรรยากาศไม่สู้ดีนัก แต่ดีที่ไม่มีใครซนหรือดื้อ วิชาวาดรูปตามใจชอบดูเหมือนจะทำให้เด็กๆ มีความสุขกับภาพวาดและสีสันตรงหน้า แป้งพยายามโฟกัสกับสิ่งที่ตัวเองทำ เขารักที่ทำมาโดยตลอด แต่วันนี้กลับเป็นวันแรกที่เขารู้สึกว่าการทำงานนั้นไม่มีความสุขเลย
.
.
.
“Rrrr” ส่วนไอ้โทรศัพท์ก็ดังลั่นมาตั้งแต่เลิกงาน เขารำคาญเลยปิดมันลง
“แป้ง เป็นอะไร” สามถามคนที่โทรหาตั้งแต่เลิกงานแล้วไม่รับทั้งๆ ที่ตกลงกันไว้แล้ว ถึงต้องตามมาหาที่บ้านเพราะกลัวโมจิจะหนีไปอีก ไม่ได้คิดเลยว่าจะมาเจอคนที่มักยิ้มอยู่เสมอนั่งหงอยอยู่ตรงโซฟา
“แป้ง…” สามเรียกอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไรกลับมา ถึงได้นั่งลงข้างคนที่ทำหน้าตาบูดบึ้ง
“ทำหน้าเป็นหมูอ้วน” เขาแหย่พร้อมกับแตะมือลงบนลักยิ้มบุ๋ม
“ถ้าผมมันน่าเกลียดมากก็อย่ามายุ่งกับผมสิ! ”
คนที่ขับรถมาหาถึงบ้านขมวดคิ้วแน่น เขายังไม่ได้บอกเลยว่าน่าเกลียด…
“แป้ง…มานี่” สามรวบอีกคนเข้ามากอด อยากจะทำให้อารมณ์ดีขึ้น ค่อยคุยกัน
“ปล่อย! ” คราวนี้เหมือนโมจิจะโมโหจริง เพราะผลักคนตัวใหญ่ออกเต็มแรง
“เป็นอะไร…” ช่างสักกดเสียงต่ำ ทันทีที่มือแตะลงบนกลุ่มผมหนา น้ำตาหยดเล็กก็ไหนลงบนแก้มที่สามชอบหนักหนา
“คุณสามนั่นแหละเป็นอะไร มายุ่งกับผมทำไม”
“แป้ง…”
.
.
.
TBC.
_____________________________________
นี่แหละเน้อ ความแหย่เขาทีเล่นทีจริง
ขอบคุณที่มาอ่านด้วยกันนะคะ #ช่างสักรักคุณครู