Last Room บันทึกประจำวันของเสือน้อย2:สงกรานต์ไม่อร่อยเลย(16/4/2020) p.6
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Last Room บันทึกประจำวันของเสือน้อย2:สงกรานต์ไม่อร่อยเลย(16/4/2020) p.6  (อ่าน 20085 ครั้ง)

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: Last Room บทที่ 12(16/10/2019) p.2
«ตอบ #60 เมื่อ16-10-2019 18:21:59 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: Last Room บทที่ 12(16/10/2019) p.2
«ตอบ #61 เมื่อ16-10-2019 19:26:58 »

อย่ารอจนสายไปล่ะ

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: Last Room บทที่ 12(16/10/2019) p.2
«ตอบ #62 เมื่อ16-10-2019 20:21:33 »

ระวังจะสายเกินไปแล้วจะหาว่าเจ้ไม่เตือน o18

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: Last Room บทที่ 12(16/10/2019) p.2
«ตอบ #63 เมื่อ17-10-2019 02:33:55 »

ยัยเกตถวา หล่อนมันร้ายจริงๆ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: Last Room บทที่ 12(16/10/2019) p.2
«ตอบ #64 เมื่อ17-10-2019 12:07:34 »

 :กอด1: :pig4: :pig4: :pig4: :กอด1:

ออฟไลน์ leGGyDan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
Re: Last Room บทที่ 12(16/10/2019) p.2
«ตอบ #65 เมื่อ17-10-2019 20:01:33 »

บทที่ 13

ประตูร้าน It’ sra เปิดออก เจ้าของร้านหนุ่มที่กำลังง่วนอยู่หลังเคาน์เตอร์ก็ร้องเชื้อเชิญไปตามอัตโนมัติ

“ยินดีต้อนรับครับ”

นักเดินทางที่เพิ่งมาถึง เป็นชายหนุ่มร่างสูงสวมเสื้อทันสมัยและแว่นตาสีดำ ในมือถือกระเป๋าเดินทางใบหนึ่งที่เขาหอบหิ้วลงมาจากรถญี่ปุ่นซึ่งจอดอยู่หน้าร้าน เขากวาดตามองไปรอบๆ อย่างสนอกสนใจก่อนจะเดินมาหยุดยืนตรงหน้าเคาน์เตอร์พลางพิจารณาดูเจ้าของร้านที่ยังก้มหน้าก้มตาชงกาแฟอยู่อย่างพิถีพิถัน

“ขอสั่งเครื่องดื่มหน่อยครับ”

“จะรับอะไรดีครับ” อิงค์ตอบก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองแล้วเขาก็ร้องเสียงดังจนบอยกับสารสาที่นั่งคุยกระหนิงกระหนิงกันอยู่ตรงโต๊ะใกล้ประตูสะดุ้งหันไปมอง

“ดาม!”

“ไอ้อิงค์!”

“เป็นไงมาไงถึงมาถึงน่านได้เนี่ย” อิงค์รีบออกมาจากหลังเคาน์เตอร์เพื่อให้การต้อนรับ

“เป็นเพราะคิดถึงแกไง” ดามหรือดัสกรว่า เขาเป็นหนึ่งในกลุ่มเพื่อนของอิงค์ตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยและเป็นคนที่สนิทกับอิงค์มากที่สุด

“นั่งก่อนๆ ดามกินไร เดี๋ยวเราเลี้ยงเอง”

“พูดงี้ไม่เกรงใจนะเว้ย” ดัสกรนั่งลงตรงหน้าเคาน์เตอร์ “เอามอคค่าเย็นๆ ชื่นใจมาแก้วนึง”

“ได้ตามที่ขอ” อิงค์ชงเครื่องดื่มเสิร์ฟให้พร้อมกับเค้กชอคโกแลตอีกสองชนิด “มาเหนื่อยๆ กินเยอะๆ นะ แล้วนี่ดามเป็นไงบ้าง”

“สบายดี” ดัสกรเริ่มต้นเล่าพลางดูดมอคค่าสลับกับตัดแบ่งขนมเค้กใส่ปากเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย เรื่องฝีมือของอิงค์นั้นเขาไม่แปลกใจอยู่แล้วเพราะเป็นหนูลองยาโดนให้ชิมมาตลอด “ทำอยู่บริษัทเดิมที่ฝึกงานน่ะแหละ พอดีคุยกับหน้าถูกคอเลยอยู่ยาวเลย”

“แล้วไอ้โอ๊ตกับแบงค์ล่ะ” อิงค์ถามถึงเพื่อนคนอื่น

“ก็อย่างที่เห็นในไลน์น่ะแหละ ไอ้โอ๊ตกลับไปทำงานบริษัทพ่อ ส่วนไอ้แบงค์ยังเรียนป.โทอยู่” ดัสกรบอก “ก่อนมานี่เพิ่งไปกินเหล้าด้วยกันมา มีแต่แกน่ะแหละที่ไม่ไป น่านนี่มันมีดียังไงถึงทำแกหลงจนไม่กลับไปหาแสงสีที่เมืองกรุงวะ ฉันขับมาตลอดทางไม่เห็นเจออะไรนอกจากป่ากับเขา เงี๊ยบเงียบ ห้างอะไรก็ไม่มีแกอยู่ได้ไงวะ”

“ก็เพราะมันสงบนี่แหละถึงได้ชอบ” อิงค์ตอบสั้นๆ

ดัสกรเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “แกชอบแบบนี้จริงดิ”

“อืม” อิงค์พยักหน้า “แล้วนี่ดามจะอยู่กี่วัน”

“ห้าวันน่ะ” ดัสกรบอก “ตั้งใจใช้วันลาพักร้อนทั้งหมดมาหาแกเลยนะเนี่ย”

“มันเหลือแล้วกลัวไม่ได้ใช้สิทธิ์มากกว่ามั้ง”

“อย่ามาทำเป็นรู้ทัน” ดัสกรหัวเราะกลบเกลื่อนที่โดนจับได้

สิงห์ที่เพิ่งเดินเข้าประตูมามองเจ้าของร้านกาแฟกับชายแปลกหน้าแล้วหันไปกระซิบถามบอย “นั่นใครน่ะเจ้าหนู”

“ผมก็แอบนั่งฟังจนหูจะเป็นตะคริวแล้วเนี่ยพี่สิงห์” บอยป้องปากกระซิบกระซาบ “เหมือนจะเป็นเพื่อนสนิทสมัยมหา’ ลัยน่ะ มาจากกรุงเทพเพิ่งมาถึงตะกี้แล้วจะอยู่เที่ยวห้าวัน”

สิงห์พยักหน้าพลางมองชายหนุ่มสองคนที่นั่งคุยหัวร่อต่อกระซิกอยู่ด้วยกันโดยอิงค์นั้นไม่มีทีท่าว่าจะหันมาเห็นเขาด้วยซ้ำทั้งที่ตัวก็ใหญ่ยืนเต็มหน้าประตูขนาดนี้

“เพื่อนแน่เหรอ”

บอยไหวไหล่ “พี่เขาว่าแบบนั้น ถ้าพี่สิงห์อยากรู้ก็ลองไปถามดูสิ”

“ได้ความยังไงมาเล่าให้พวกเราฟังด้วยนะคะ” สารสารีบบอก

สิงห์เดินไปที่เคาน์เตอร์แล้วกระแอมเบาๆ ครั้งหนึ่ง อิงค์ละสายตาจากเพื่อนคนนั้นขึ้นมามองเขา ในขณะที่ไอ้หนุ่มหน้ามนจากกรุงเทพนั่นยังเกาคางเล่นกับเสือน้อยอยู่

“พี่สิงห์มาได้ไงเนี่ย”

“คิดถึง” สิงห์ตอบพลางนั่งลงตรงหน้าเคาน์เตอร์ข้างดัสกร

“เมื่อเช้าเพิ่งเจอกันเอง” อิงค์ตอบยิ้มๆ

“ก็อยากเจออีก”

“พี่สิงห์จะกินอะไรครับ”

“อิงค์ชงอะไรมาฉันก็กินได้ทั้งนั้นแหละ”

“งั้นรอเดี๋ยวนะครับ… อ้าว กาแฟหมด ผมไปเอากาแฟหลังร้านก่อนนะ”

พออิงค์ออกไปจากเคาน์เตอร์ สิงห์ก็เหลือบตาไปมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างกัน และก็พบว่าอีกฝ่ายกำลังเท้าคางมองมาที่เขาอย่างไม่ปิดบัง

“มีอะไร” สิงห์ถามพลางพยายามเรียกร้องความสนใจจากเสือน้อยโดยการใช้ไม้ติดขนไก่แหย่ แต่มันก็ไม่ใยดีเขาเลยสักนิด และเปลี่ยนท่าจากนั่งหมอบเป็นนอนหงายเหยียดยาวหลับตาพริ้มให้ดัสกรเกาพุงเล่นอีก

“ผมเป็นเพื่อนสนิทอิงค์ชื่อดาม” ดัสกรแนะนำตัว แค่ประโยคหยอกล้อที่ตั้งใจแสดงความสนิทสนมกับอิงค์กับสายตาไม่เป็นมิตรที่มองมา เขาก็รู้แล้วว่าชายคนนี้ตั้งใจจะประกาศตัวเป็นศัตรูกับเขา แล้วเขาก็ยินดีเป็นเสียด้วย

“อือ” สิงห์ครางในลำคอ

“แล้วคุณล่ะเป็นใคร”

“เป็นคนที่คุยกันอยู่”

ดัสกรเลิกคิ้ว “ใช่เหรอ”

“ไม่เชื่อก็ถามอิงค์ดูเองสิ”

อิงค์เดินกลับมาจากหลังร้านพอดี ดัสกรจึงรีบชิงถามขึ้น

“ผู้ชายคนนี้เป็นใครน่ะอิงค์เห็นคุยกันสนิทสนมเชียว… แฟนเหรอ”

“เฮ้ย! ไม่ใช่”

“จริงอะ” ดัสกรแกล้งกระเซ้า

“ไม่ใช่จริงๆ”

“แล้วเขาเป็นใคร”

อิงค์เหลือบตามองสิงห์ที่หน้าตึงขึ้นมาเล็กน้อย นั่นยิ่งทำให้อิงค์ใจแป้วและเข้าใจผิดว่าเจ้าตัวไม่ชอบใจที่ให้คนอื่นมาแซวแบบนี้ “พี่สิงห์เป็นเจ้าของที่พักชื่อข่วงเมืองสิงห์ที่ฉันเอาขนมไปฝากขายน่ะ”

“เหรอ” ดัสกรลากเสียงพลางเหลือบตามองชายหนุ่มตัวโตที่มองตาขวางตอบกลับมา เขายกยิ้มนิดๆ คล้ายกับจะเยาะหยันให้แล้วหันกลับไปคุยกับอิงค์ต่อ “ฉันขอนอนด้วยนะอิงค์ นี่ตั้งใจจะมานอนกับแกเลยไม่ได้จองห้องพักมา”

“มานอนที่พักผมไหมครับ ยังมีที่พักเหลืออยู่ เพื่อนอิงค์ผมให้พักฟรีเลย” สิงห์แทรกขึ้นอย่างเป็นทางการทั้งที่ก่อนหน้านี้จะงับหัวกันอยู่แล้ว

“ข้อเสนอดีจัง แต่ผมขอรับแค่น้ำใจนะครับคุณสิงห์ พอดีไม่เจออิงค์นานเลยอยากนอนคุยกันยาวๆ เหมือนสมัยอยู่หอน่ะ” ดัสกรตอบก่อนจะหันไปหาเพื่อนสนิท “ได้ไหมแก ฉันรบกวนหรือเปล่า”

“ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” อิงค์รีบบอก “ห้องนอนเราอยู่ชั้นสอง ดามขึ้นเอาของไปเก็บได้เลย”

“เฮ้ย! ฉันเกรงใจว่ะ แกมีชุดที่นอนสำรองไหม เดี๋ยวฉันปูนอนที่พื้นดีกว่า จะได้ไม่รบกวนแกมาก” ดัสกรรีบพูดต่อเพราะรู้อยู่แล้วว่าอิงค์ไม่มีทางให้เขานอนพื้นแน่นอน

“รบกวนอะไร ไอ้นี่นี่อย่ามาเกรงใจไม่เข้าเรื่อง” อิงค์ว่า “ไป! เอาของขึ้นไปเก็บ จะเข้าห้องน้ำก็อยู่ในห้องนอนนั่นน่ะแหละ อยากได้อะไรเพิ่มก็เปิดตู้หาเอาได้เลย”

“ขอบใจนะเว้ย!” ดัสกรลุกไปโอบไหล่เพื่อนรักครั้งหนึ่งก่อนจะหันมาขยิบตาให้สิงห์แล้วคว้ากระเป๋าเดินทางขึ้นไปชั้นสองตามที่เจ้าของบ้านบอก

บอยที่นั่งสังเกตการณ์อยู่ไกลๆ กับสารสาป้องปากกระซิบกันสองคน

“งานนี้ต้องมีคนเจ็บว่ะ”

“รสาก็ว่างั้นแหละ” สารสาพยักหน้าพลางยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบ นึกเสียดายหน่อยๆ ที่ไม่ทันได้สั่งเค้ก ท่าทางวันนี้จะมีเรื่องให้นั่งยาวๆ ซะแล้ว

อิงค์หันไปยิ้มส่งเพื่อนจนคล้อยหลังจึงหันกลับมาและเห็นสิงห์นั่งหน้าบอกบุญไม่รับ เขารีบชงกาแฟที่ค้างไว้ให้เสร็จแล้วเสิร์ฟให้สิงห์ที่ยกขึ้นจิบเพียงเล็กน้อยก็วางลง “ขม”

“ผมก็ชงสูตรปกติที่ชงให้ทุกครั้งนี่นา เอางี้ เดี๋ยวผมชงให้ใหม่นะ”

“ไม่ต้อง ไม่อยากกินแล้ว”

“ทำไมล่ะครับ”

“ไอ้หมอนั่นเป็นใคร” สิงห์ถามเสียงห้วน

“เพื่อนครับ ชื่อดาม” อิงค์บอก “หรือว่าพี่สิงห์โกรธที่หมอนั่นมันแซวว่าเป็นแฟนผมเหรอ… ผมขอโทษแทนมันด้วยนะครับ ดามมันคนปากไว ชอบแซวแรงๆ น่ะแต่ไม่มีอะไรหรอก”

“ฉันไม่ได้หงุดหงิดหมอนั่น ฉันหงุดหงิดเธอนี่แหละ”

“อ้าว” อิงค์ร้อง ยังไม่ทันจะถามต่อสิงห์ก็ลุกขึ้นแล้วคว้ามือดึงไปหลังร้าน

เขาผลักร่างโปร่งหลังชนกำแพงแล้วเอามือข้างหนึ่งค้ำไว้เหนือหัว “ทำไมถึงบอกว่าฉันเป็นแค่คนรู้จักล่ะ”

“ก็… ก็มันเป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอครับ” อิงค์ตอบตะกุกตะกัก หน้าของสิงห์อยู่ห่างไปแค่คืบ สายตาคมดุดันจนเขาแทบไม่กล้ามองตรงๆ

“ตกลงเธอไม่ได้จีบฉันอยู่เหรอ” สิงห์ถามเสียงแข็ง

“ก็ใช่ แต่พี่สิงห์ยังไม่ตอบตกลงเป็นแฟนผมเลย ผมจะกล้าบอกใครๆ แบบนั้นได้ไงล่ะ”

“ทีฉันยังกล้าบอกใครๆ ว่าเธอเป็นคนที่ดูๆ กันอยู่เลย”

“ก็…” อิงค์ย่นปาก ก้มหน้าสำนึกผิดก่อนจะเหลือบตาขึ้นมองคนตัวสูงกว่าที่ส่งสายตาดุมาให้ แล้วเขาก็อดอมยิ้มจนแก้มแทบปริไม่ได้

“เป็นอะไร จู่ๆ ก็ยิ้ม”

“เขินคนแอบหึง”

สิงห์เหมือนได้สติขึ้นมานิดหนึ่ง เขากะพริบตาถี่ๆ แล้วพูดเสียงเบาลงเล็กน้อย “ไม่ได้หึงสักหน่อย”

“บ้านผมเรียกแบบนี้” อิงค์พูดยิ้มๆ “บ้านพี่เรียกไรล่ะ”

“ก็… รำคาญ”

“รำคาญก็รำคาญครับ” อิงค์ทำเป็นพยักหน้าทำความเข้าใจ “รำคาญคนที่มาเกาะแกะเนอะ”

“ก็…” สิงห์พ่นลมออกจมูก รู้สึกเสียฟอร์มนิดๆ เขาจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง “ตกลงจะให้ไอ้หมอนั่นค้างด้วยเหรอ”

“พี่ก็ได้ยินแล้วนี่”

“แล้วเธอก็จะนอนกับมัน”

“ก็ห้องผมนี่นา”

“แล้วฉันล่ะ” สิงห์ถามออกไปได้ในที่สุด “เธอจะให้ฉันนอนไหน”

“พูดยังกะปกติมานอนทุกวัน”

“ก็ช่วงนี้ไม่ปกติ”

อิงค์หลุดขำออกมาเล็กน้อย เขารู้สึกดีใจในความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ นี่ ทั้งยังเอ็นดูคนตัวโตที่จู่ๆ ก็หงุดหงิดงุ่นง่านขึ้นมากับเรื่องแค่นี้… นี่แสดงว่าเขาเข้าใกล้ความฝันเข้าไปทุกทีแล้วสินะ

แต่ตอนนี้… ขอเขาเข้าใกล้อย่างอื่นอีกนิดเถอะนะ

“พี่สิงห์ครับ”

“อะไร”

“ดีกันนะ” อิงค์กระซิบเสียงหวานพร้อมกับคล้องมือลงรอบคอคนตัวสูงกว่าแล้วดึงลงมาจูบ ซึ่งสิงห์ก็ตอบรับทันทีด้วยการสอดวงแขนกระชับรอบเอวสอบพลางเบียดกายเข้าหาจนร่างโปร่งนั้นแทบจมหายเข้าไปในอกแกร่ง

“พอก่อนครับ” อิงค์ผละริมฝีปากที่ยังดูดดึงไว้อย่างไม่รู้จักพอออกพร้อมกับยกมือขึ้นกันไว้ไม่ให้สิงห์จู่โจมเข้ามาได้อีก

“ทำไม”

“มันจะหยุดไม่ได้น่ะสิครับ” อิงค์หลุบตาลงมองส่วนสะโพกที่ยังสัมผัสกันแนบสนิท จนรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ดุนดันอยู่ใต้ร่มผ้านั่น

“ปิดร้านสักครึ่งชั่วโมงไม่ได้เหรอ” สิงห์กระเซ้าพลางเบี่ยงศีรษะไปขบเนื้ออ่อนที่ใบหูจนเป็นรอยฟันจางๆ เป็นคนอ่อยเขาแท้ๆ แต่กลับมาหักดิบเขากลางคันแบบนี้มันน่าลงโทษให้ลุกไม่ขึ้นจริงๆ “ไม่อยากกินกาแฟแล้ว แต่อยากกินคนชงมากกว่า”

“เดี๋ยวผมชดเชยให้น่า”

“เมื่อไหร่ล่ะ ได้ข่าวว่าหมอนั่นจะอยู่ห้าวัน”

“ก็วันที่หกน่ะแหละ”

“วางมัดจำมาเลยดีกว่า”

อิงค์ยิ้มก่อนจะเขย่งตัวขึ้นไปจุ๊บเบาๆ ครั้งหนึ่ง

“มัดจำน้อยจัง” สิงห์ว่า หากก็ยอมปล่อยมือแต่โดยดี “ฉันกลับก่อนนะ คืนนี้คงไม่มาแล้ว”

“เดี๋ยวผมไลน์หานะ ตอบด้วยล่ะ”

“อือ”

“ไปทำงานก่อนนะครับ ลูกค้ามาแล้ว”

พูดตบอิงค์ก็จัดเสื้อผ้าให้เข้าที่แล้วเดินแยกตัวออกไปก่อนเพื่อไม่ให้คนอื่นผิดสังเกต

สิงห์เดินตามออกมาทีหลัง เขาทำเป็นไม่สนใจคนที่กำลังชงกาแฟให้ลูกค้าอยู่แต่แอบทำมือไวยื่นไปบีบสะโพกแรงๆ ครั้งหนึ่ง

อิงค์เหลือบตาขึ้นมองค้อนเบาๆ แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ สิงห์ยกยิ้มมุมปากแล้วหันไปจะลูบหัวเสือน้อยสักครั้งก่อนกลับ แต่เจ้าลูกแมวส้มที่นอนแผ่ให้คนแปลกหน้าจากเมืองกรุงเกาพุงเล่นเมื่อสักครู่กลับหมอบตัวลงต่ำในท่าเตรียมพร้อมแล้วยกขาหน้าขึ้นตะปบเขา

สิงห์หลุบตาลงมองปลายนิ้วชี้ที่มีเลือดไหลซิบแล้วมองเลยไปยังเสือน้อยที่ยังทำท่าขู่ฟ่อใส่เขา

…แหม~ ไอ้ตัวเล็กนี่อย่าให้แม่เอ็งเผลอเชียวนะ พ่อจะพาไปให้พระอาจารย์ที่วัดอบรมซะให้เข็ด! …

ดัสกรเดินลงบันไดมาจากชั้นสองมองตามคนตัวโตที่เดินออกจากร้านไป เพราะอยู่มุมสูงเขาจึงมองเห็นว่าสิงห์แอบจับก้นเพื่อนของเขาโดยที่เจ้าตัวไม่ต่อว่า

เขาเดินเข้าไปหาอิงค์ กวาดตามองตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่อึดใจก่อนจะแสร้งยิ้มออกมาทำเหมือนไม่เห็นเรื่องเมื่อครู่ “ขอบใจที่ให้พักด้วยนะ”

“แล้วนี่ดามแพลนจะไปเที่ยวไหนบ้าง เราจะพาไป”

“ไม่ได้คิดเลย ตามใจแกเลยละกันว่าที่ไหนดีที่ไหนเด็ด แต่ที่แน่ๆ ต้องมีนั่นนะเว้ย!” ดัสกรบอกพลางทำท่ายกแก้วขึ้นซด

“ได้เลยเดี๋ยวจัดให้แต่ต้องรอปิดร้านก่อนนะ”

“ปิดกี่โมง”

“สองทุ่ม”

“ไม่มีปัญหา” ตอนนั้นเองที่ดัสกรเหลือบไปเห็นรอยแดงที่ใบหู เขายื่นมือออกไปจะจับดูให้ชัดๆ แต่อิงค์กลับเบี่ยงตัวหลบ “รอยอะไรน่ะ… เหมือนรอยฟัน”

“เสือน้อยกัด” อิงค์พยักเพยิดไปทางเจ้าแมวส้มที่นั่งตาแป๊วมองผู้ปกครองของมันอยู่อย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่ว่าจู่ๆ ก็กลายเป็นแพะรับบาปไปเสียได้ “เมื่อกี้เล่นกับมันแรงไปหน่อย”

ดัสกรเหลือบตามองเสือน้อยแล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย “แมวบ้านนายนี่ดุเหมือนกันนะ”

ในเมื่อเจ้าถิ่นเขาแสดงความเป็นเจ้าของขนาดนี้ คิดว่าคนต่างถิ่นอย่างเขาจะไม่กล้าเช็กอินล่ะสิ แต่ที่แน่ๆ อย่างน้อยเขาต้องทำให้ ‘แมวตัวโตเจ้าของรอยกัด’ นั่นรู้เสียหน่อยว่าใครมาก่อนมาหลัง


ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: Last Room บทที่ 13(17/10/2019) p.2
«ตอบ #66 เมื่อ17-10-2019 20:09:54 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

อ้าว......ยังไง ๆ  ที่ว่าคนมาก่อนเนี่ย  เป็นเพื่อนมาก่อนหรือเป็นแฟนมาก่อน?  แต่ไม่น่าจะแฟนอ่ะนะ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: Last Room บทที่ 13(17/10/2019) p.2
«ตอบ #67 เมื่อ17-10-2019 20:32:36 »

 :z1:


 :L2: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: Last Room บทที่ 13(17/10/2019) p.2
«ตอบ #68 เมื่อ17-10-2019 20:50:14 »

เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อหรือตั้งใจจุดไฟให้อิงค์

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: Last Room บทที่ 13(17/10/2019) p.2
«ตอบ #69 เมื่อ17-10-2019 21:49:47 »

 :mew1: :mew1: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Last Room บทที่ 13(17/10/2019) p.2
« ตอบ #69 เมื่อ: 17-10-2019 21:49:47 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
Re: Last Room บทที่ 13(17/10/2019) p.2
«ตอบ #70 เมื่อ17-10-2019 23:49:57 »

เอาหน่อยดาม ให้พี่สิงห์สะเทือนบ้างจ้า

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: Last Room บทที่ 13(17/10/2019) p.2
«ตอบ #71 เมื่อ17-10-2019 23:59:17 »

 งานนี้มีวางมวยแน่ๆ

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: Last Room บทที่ 13(17/10/2019) p.2
«ตอบ #72 เมื่อ18-10-2019 20:57:45 »

มีหึงๆ :hao7:

ออฟไลน์ leGGyDan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
Re: Last Room บทที่ 13(17/10/2019) p.2
«ตอบ #73 เมื่อ19-10-2019 07:59:38 »

บทที่ 14

“สวัสดีครับ”

เสียงเจื้อยแจ้วทักทายของชายหนุ่มเจ้าของร้านกาแฟดังขึ้นที่หน้าประตูข่วงเมืองสิงห์ตอนเช้าตรู่เหมือนเช่นทุกวัน ป้าสำลีกับมอญรีบกุลีกุจอออกมาต้อนรับ แต่ดูเหมือนว่าวันนี้ใครบางคนจะไวกว่า

สองพนักงานสาวของข่วงเมืองสิงห์จูงมือกันหลบเข้าหลังเสาเตรียมนินทาเจ้านายที่มายืนเฝ้าหน้าเคาน์เตอร์ ปากบอกไม่รักเขาแต่การกระทำสวนทางกันไปคนละโยชน์ แต่ยังไม่ทันจะเริ่มบทสนทนาทั้งสองก็สังเกตเห็นว่าสิงห์ยืนกอดอกทำหน้าตึงกว่าทุกวัน พวกเธอชะเง้อคอออกไปมองและเห็นต้นตอของบรรยากาศมาคุนั้นเป็นหนุ่มหล่อแปลกหน้าที่กำลังช่วยเจ้าของร้านกาแฟยกของกระหนุงกระหนิง

“อันนี้เอาวางตรงนี้ใช่ไหมอิงค์” ดัสกรถามพลางวางกล้องใส่ของลงบนโต๊ะ

“ขอบใจนะดาม” อิงค์วางของลงข้างกันแล้วหยิบขวดกาแฟออกมาจัดแจง

“ไอ้กล่องพวกนี้เหมือนจะเบาแต่ก็โคตรหนักเลยแล้วแบบนี้แกจะไม่ให้ฉันมาช่วยแกได้ไงวะ”

“เราก็ยกจนชินแล้วล่ะ แล้วตอนนี้ดามก็มาเที่ยวพักผ่อน เราจะใช้เพื่อนทำงานได้ไง”

“ก็เพราะเป็นเพื่อนน่ะสิถึงอยากช่วย นอกจากเพื่อนแล้วใครจะช่วยแกวะ” ดัสกรตั้งใจพูดดังๆ ให้ลอยลมไปกระทบหูคนที่ทำตาขวางใส่เขาอยู่และมันได้ผล สิงห์หน้าหงิกขึ้นอีก “เอาจริงๆ นะอิงค์ ฉันว่าแกกลับไปทำงานที่กรุงเทพดีกว่าไหม งานสบายกว่านี้แล้วได้เงินดีมีตั้งเยอะ หรือถ้าแกอยากจะเปิดร้านเองจริงๆ ทั้งฉัน ไอ้โอ๊ต ไอ้แบงค์ก็พร้อมจะช่วยแกอยู่แล้ว อยู่ไกลแบบนี้จะช่วยอุดหนุนเพื่อนก็ลำบาก”

“ก็ดีแล้ว” อิงค์ว่า “เพราะเราไม่อยากรบกวนพวกนายไง… แล้วก็เลิกกล่อมเราได้แล้ว บอกแล้วไงว่าไม่กลับ”

ดัสกรกลอกตา “ใจแข็งจริงๆ สิพับผ่า”

อิงค์หันไปยิ้มให้เพื่อนรัก “แค่เรื่องนี้ตามใจเราหน่อยน่า”

ดัสกรยกมือขึ้นมาทำเป็นนับนิ้ว “ก็ตามใจมาสามปีแล้วล่ะนะ ตั้งแต่แกรั้นจะไปอยู่คนเดียวที่ญี่ปุ่น ตอนนี้แกก็กลับมาหาพวกฉันที่เมืองไทยแล้ว เอาเป็นว่าฉันยอมรออีกสักพักก็ได้”

“ขอบใจนะที่ตามใจเรา” อิงค์บอกก่อนจะหยิบถุงขนมกับกาแฟที่แบ่งไว้ส่วนหนึ่งเดินไปหาคนที่กลับไปนั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์ “เอากาแฟกับขนมมาให้ครับ”

“นึกว่าจะไม่พูดด้วยซะแล้ว เห็นจิ๊จ๊ะอยู่แต่กับหมอนั่นสองคน” สิงห์ค่อยหน้ายืดออกเล็กน้อยพลางยื่นมืออออกไปรับถุงของฝากมาเปิดดู “เย็นนี้เธอว่างไหม”

“วันนี้ผมปิดร้านครึ่งวันครับ นัดกับดามไปไหว้พระ”

“จะไปวัดไหนบ้างล่ะ”

“ก็ที่พี่สิงห์เคยพาผมไป วัดพระธาตุเขาน้อย วัดภูมินทร์ วัดพระธาตุแช่แห้ง แล้วก็วัดช้างค้ำ”

“จะไหว้กันทั้งคืนเลยเหรอ โบสถ์เขาก็มีเวลาปิดนะ”

“ค่ำๆ ว่าจะไปร้านหมูกระทะนั่งจิบเบียร์” อิงค์บอก “ดามมันพวกขี้เหล้าน่ะครับ”

“เธอก็จะกินด้วยเหรอ”

“ปล่อยเพื่อนกินคนเดียวก็แปลกๆ สิครับ”

สิงห์เลิกคิ้ว “ระวังตัวให้ดีนะ เธอคออ่อนจะตาย”

“พี่สิงห์หมายความว่าไง”

“ก็ตามนั้นแหละ”

อิงค์เหลียวไปมองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังและส่งยิ้มหวานมาให้ราวกับรู้ตัวว่ากำลังถูกนินทา “ดามมันไม่ทำอะไรผมหรอกพี่สิงห์สบายใจได้ มันเป็นแค่เพื่อนจริงๆ ”

“เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อล่ะไม่ว่า” สิงห์เปรย

“มันคิดไม่คิดไม่ซื่อก็เรื่องของมัน เอาเป็นว่าผมไม่นอกใจพี่หรอกน่า”

“เชื่อได้เหรอ”

“เชื่อได้ดิ”

“อือ เชื่อก็เชื่อ กินเสร็จกลับบ้านส่งข้อความบอกด้วยนะ”

“รับทราบครับ” อิงค์รับคำยิ้มๆ “นี่ขนาดยังไม่ใช่แฟนยังหวงขนาดนี้ เป็นแฟนแล้วจะขนาดไหนหนอ~”

“จะจับล่ามโซ่ขังไว้ในห้อง”

“งานโซ่แส้กุญแจมือก็มาวุ้ย”

“พูดงี้อยากโดนเฆี่ยนเหรอ”

“ถ้าเป็นแส้พี่สิงห์ผมจะยื่นก้นรอเลย เฆี่ยนแรงๆ เลยนะ”

“ทะลึ่งแต่เช้าเลยนะเรา”

“พี่สิงห์ชวนผมลงล่างก่อนนะ”

“แล้วพรุ่งนี้ล่ะว่างไหม” สิงห์วกกลับเข้าเรื่อง

“พรุ่งนี้จะไปเที่ยวปัวครับ พอดีดามมันอยากไปดูทุ่งนากว้างๆ เขียวๆ ไกลสุดลูกหูลูกตาแบบที่คนอื่นเขาถ่ายภาพกันผมเลยว่าจะปิดร้านพาไปสักหน่อย” อิงค์บอก

“ลงทุนจังเลยนะ” สิงห์เหน็บเบาๆ “วันหยุดครึ่งวัน พรุ่งนี้ก็ปิดอีกวัน”

“ก็เพื่อนอุตส่าห์มาหาทั้งทีนี่นา”

“ไปถูกเหรอ ให้ฉันไปด้วยไหม”

“ไม่เป็นไรครับ ผมเกรงใจ”

สิงห์หน้ามุ่ยขึ้นมาเล็กน้อยที่อิงค์จะไปไหนมาไหนไกลหูไกลตาเขากับคนอื่นตั้งสองวัน แถมกลางคืนยังนอนห้องเดียวกันอีก “แล้วตกลงเธอจะมีคิวให้ฉันวันไหน

“พี่สิงห์จะชวนผมไปไหนหรือทำอะไรเหรอ”

“วันอาทิตย์นี้เธอจะไปงานวันเกิดพ่อฉันไม่ใช่เหรอ ฉันจะพาเธอไปหาชุดใหม่”

“ถึงขั้นต้องซื้อใหม่เลยเหรอครับ คุณเหมราชบอกว่างานเล็กๆ แค่กินข้าวเย็นด้วยกันเอง”

“ถ้าพ่อฉันว่าเล็กมันก็เล็กแหละ แต่แต่งตัวดีๆ ไปก็ดีกว่าใช่ไหมล่ะ”

“ผมก็พอมีชุดดีๆ อยู่นะ”

“มีชุดพื้นเมืองด้วยเหรอ” สิงห์ว่า “พ่อฉันชอบให้ใส่ผ้าไทยน่ะ ถึงจะบอกว่าไม่มีธีมแต่ใครๆ ก็ใส่มาเอาใจกันทั้งนั้น เธอแต่งแบบอื่นไปมันจะแปลกน่ะสิ ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายหรอกเดี๋ยวฉันซื้อให้เอง”

“ออกให้อีกแล้ว ป๋าจัง”

“สรุปว่างวันไหน”

“พรุ่งนี้ก็ได้ครับ” อิงค์บอก “ผมพาดามไปเที่ยวตอนเช้า แล้วกลับมาซื้อของกับพี่สิงห์ตอนเย็นดีไหมครับ”

“ตามนั้น”

“นี่อิงค์ จะแปดโมงแล้วนะ รีบกลับไปเปิดร้านกันเถอะ” ดัสกรแทรกขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเดินไปสตาร์ตมอเตอร์ไซค์รอ

“ผมไปก่อนนะครับ มะรืนเจอกัน” อิงค์กำลังจะผละจากไป สิงห์ก็เอื้อมมือมาคว้าตัวไว้แล้วพูดด้วยเสียงเบาให้ได้ยินกันแค่สองคน

“พรุ่งนี้บอกหมอนั่นให้เฝ้าร้าน ล็อกประตูปิดหน้าต่างให้ดีๆ ด้วยล่ะ”

“ทำไมเหรอครับ”

“ก็เพราะเธอจะไม่ได้กลับไปนอนที่ห้องน่ะสิ”

“แล้วจะไปไหน”

“ซื้อชุดมาแล้วก็ต้องลองใส่สิ ถ้าไม่หล่อจะได้เอาไปเปลี่ยน”

“ลองทั้งคืนเลยเหรอครับ” อิงค์แซวกลับ

“ชุดมันถอดง่ายแต่ใส่ยากน่ะ ค่ามัดจำที่ให้ไว้ฉันจะให้เธอจ่ายคืนให้คุ้มเลย” สิงห์บอกยิ้มๆ “พรุ่งนี้เจอกันนะ”

“ครับ”

ดัสกรมองเพื่อนรักที่เดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กลับมาขึ้นรถแล้วมองเลยไปยังคนตัวโตที่กลับไปนั่งลงหลังเคาน์เตอร์

เหตุผลที่อิงค์ไม่อยากกลับกรุงเทพนั้นเขาและเพื่อนๆ รู้ดีอยู่เต็มอก แต่ที่เขาสงสัยคือทำไมถึงเลือกมาอยู่ที่น่าน ที่นี่มีอะไรดีนักหนา ตอนจะเปิดร้านอะไรก็ไม่ยอมบอกหรือขอความช่วยเหลืออะไร ลงมือทำทุกอย่างคนเดียว เขามารู้อีกทีก็ได้รับข้อความว่าเปิดร้านเรียบร้อยแล้วให้มาเที่ยวได้ แต่กว่าจะเคลียร์งานของตัวเองได้ก็ใช้เวลาหลายเดือน พอเรียบร้อยปุ๊บถึงได้รีบจัดของลงกระเป๋าแล้วบึ่งมาหานี่ล่ะ

ถ้าเหตุผลเป็นเรื่องของความเงียบสงบจริงอย่างที่เจ้าตัวบอก เขาจะพอทำใจยอมให้อยู่แล้วไปๆ มาๆ เอาก็ได้ แต่ถ้าเหตุผลเป็นเพราะคนแล้วล่ะก็ เห็นทีคงจะยอมให้ไม่ได้ง่ายๆ

#############################################################

“หาชุดใหม่สำหรับงานวันเกิดเหรอคะคุณ” เกตถวาถามสามีที่กำลังง่วนอยู่กับการเลือกดูเสื้อผ้าในร้านผ้าไทยของโรงแรม

“คุณว่าชุดนี้สวยไหม” เหมราชหันมาขอความเห็นพลางหยิบเสื้อผ้าไหมสีเข้มขึ้นมา

“สวยค่ะ แต่มันไม่ดูวัยรุ่นไปหน่อยเหรอคะ”

“อ๋อ อันนี้ผมไม่ได้ใส่เอง ว่าจะส่งไปให้คุณอิสระน่ะ เขาอุตส่าห์สละเวลามางานวันเกิดผมแล้วก็ไม่อยากให้ต้องมากังวลเรื่องหาชุดอีก” เหมราชบอก “คุณช่วยผมเลือกหน่อยสิ ถามปู่กับอินถาก็ไม่ได้เรื่องเลย พวกนี้ไม่มีหัวแฟชั่น”

“ขอโทษด้วยครับคุณท่าน พอดีผมมีดีแค่เรื่องกินถึงได้รับหน้าที่ดูแลห้องอาหาร” ปู่กมลที่ยืนอยู่ถัดออกไปกับอินถาบอก

เกตถวานึกไม่ชอบใจขึ้นมาเล็กน้อยว่าทำไมเหมราชถึงเอ็นดูคนที่เพิ่งเจอกันครั้งสองครั้งนักหนา ชวนมางานวันเกิดก็เรื่องนึงแล้วนี่ถึงขนาดมาหาชุดให้อีก

แต่เธอก็ยังเก็บสีหน้าและอารมณ์ได้ดีก่อนจะหันไปเปิดดูชุดที่แขวนมากมายอยู่บนราวแล้วเลือกหยิบออกมาชุดหนึ่ง “ถ้าอย่างนั้นเอาเป็นแบบนี้ดีไหมคะ ครั้งก่อนที่มาที่นี่ เกตเห็นเขาใส่เสื้อสีขาว คิดว่าน่าจะชอบสีนี้ แล้วเขาก็เป็นผู้ชายตัวสูงใส่กับกางเกงผ้าตัวนี้ก็ดูเข้าทีดีนะคะ”

“จะว่าไปครั้งก่อนที่ผมไปชวนเขาที่ร้านอาหารสัตว์เขาก็ใส่เสื้อสีขาวนะ คุณนี่ช่างสังเกตจริงๆ ขอบคุณนะเกต ตั้งแต่คบกับคุณมา คุณไม่เคยทำให้ผมผิดหวังเลยสักเรื่อง”

“คุณก็ชมเกินไปค่ะ แค่เลือกชุดแค่นี้เอง”

“ผมพูดจริงนะ” เหมราชว่าก่อนจะหันไปหาพนักงานของร้าน “ห่อให้เรียบร้อย แล้วปู่ช่วยเอาไปให้คุณอิสระด้วยนะ”

“ครับคุณท่าน”

“ตายล่ะ ได้เวลาประชุมแล้ว ผมไปก่อนนะเกต เย็นๆ เจอกันนะจ๊ะ”

เกตถวายิ้มส่งสามี ครั้นพอเขาคล้อยหลังไปก็หันไปหากมลที่กำลังรับถุงใส่ของจากพนักงานมาพอดี

“เดี๋ยวเกตเอาไปให้คุณอิสระเองก็ได้ค่ะ” เธอเอ่ยพลางถือวิสาสะรับถุงมาเสียเอง

“จะดีเหรอครับคุณเกต คุณท่านฝากงานนี้ไว้กับผม” กมลกล่าว

“ปู่มีงานที่ต้องดูแลห้องอาหาร แล้วตอนนี้ก็ยังไม่ได้บาริสต้าคนใหม่ อินถาก็ต้องลงมือไปช่วยเองเป็นบางวัน แถมช่วงนี้ฝนตกบ่อย คนที่มาพักออกไปเที่ยวไหนไม่ได้ก็มาใช้บริการเยอะเสียด้วย ปู่กับอินถาไปดูแลตรงนั้นเถอะผิดพลาดไปจะแย่ นี่แค่เอาของไปส่ง งานง่ายๆ แค่นี้เองเกตทำได้อยู่แล้วค่ะ” เกตถวายิ้มหวานให้อย่างยินดี

กมลหันไปสบตาอินถา ถึงจะไม่ใคร่สบายใจที่ต้องรบกวนแต่ก็ยินยอมให้เธอทำตามต้องการ “รบกวนคุณเกตด้วยนะครับ”

“เกตจะตั้งใจเอาไปส่งอย่างดีเลยค่ะไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”

############################################################

ประตูหน้าร้าน It’ sra เปิดออก อิงค์ส่งเสียงต้อนรับไปอย่างเคย “สวัสดีครับ”

เกตถวาเหลียวมองรอบร้านอย่างสนอกสนใจก่อนจะเดินไปหยุดลงที่หน้าเคาน์เตอร์ เธอกวาดตามองชายหนุ่มเจ้าของร้านกาแฟตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่อึดใจจนอิงค์ที่โดนมองอยู่รู้สึกไม่ดีและเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ

“คุณลูกค้าจะรับอะไรดีครับ”

เกตถวาเงยหน้าขึ้นสบตาและยิ้มหวานให้ “สวัสดีค่ะ ฉันมาพบคุณอิสระค่ะ”

“ผมเองครับ”

“ขอโทษนะคะที่เมื่อครู่ฉันเสียมารยาทไปหน่อย พอดีสามีบอกฉันว่าให้มาหาผู้ชายหล่อๆ ที่หน้าตาคล้ายฉันน่ะค่ะ นึกแปลกใจอยู่ว่าจะหน้าตาแบบไหน ที่แท้ก็หน้าตาดีสมกับที่เขาว่าจริงๆ ” เธอจีบปากจีบคอพูด

“แล้วสามีคุณ…”

“ตายจริง ฉันนี่แย่จังมัวแต่พูดอะไรก็ไม่รู้ลืมแนะนำตัวไปได้… ฉันเป็นภรรยาของคุณเหมราชค่ะ ชื่อเกตถวา คุณอิสระเรียกฉันว่าพี่เกตก็ได้นะคะ”

“ครับ” อิงค์รับคำ “แต่ผมว่าผมเรียกคุณเกตดีกว่าเพราะอย่างไรคุณก็มีศักดิ์เป็นแม่พี่สิงห์”

เกตถวารู้สึกเสียหน้าเล็กๆ แต่ก็ยังปั้นยิ้มต่อได้ “แล้วแต่คุณอิสระสะดวกละกันค่ะ”

“แล้วคุณเกตมีธุระอะไรถึงมาหาผมถึงที่นี่ครับ”

“ฉันเอาของที่คุณเหมราชฝากมาให้ค่ะ” เกตถวายิ้มหวานพลางส่งของในมือให้ “เป็นชุดสำหรับใส่ไปงานวันเกิดคุณเหมราชน่ะค่ะ”

“ผมเกรงใจจังครับ ชวนไปงานแล้วยังให้ของอีก จริงๆ ควรเป็นฝ่ายผมที่ต้องเตรียมไปให้มากกว่า”

“อย่าเกรงใจเลยค่ะ รับไปเถอะ ชุดนี้สามีฉันตั้งใจเลือกเองกับมือเลยนะคะ หวังว่าถึงวันงานจะเห็นคุณใส่ไป”

ได้ยินดังนั้นอิงค์จึงต้องรับมา “ขอบคุณคุณเกตที่เอามาให้นะครับ ผมฝากขอบคุณคุณเหมราชด้วยนะครับสำหรับน้ำใจ”

“ได้ค่ะ” เกตถวาบอก “เจอกันวันอาทิตย์นะคะ”

“รอสักครู่นะครับ”

“อะไรคะ”

“เพื่อเป็นการขอบคุณที่เสียเวลามา ผมขอเลี้ยงกาแฟคุณเกตสักแก้วได้ไหมครับ”

“จะดีเหรอคะ ฉันแค่ถือของมาเฉยๆ เองไม่ได้ลำบากอะไรเลย”

“ดีสิครับ คุณเกตจะดื่มอะไรครับ”

“ขอเป็นลาเต้เย็นก็ได้ค่ะ คุณเหมราชบอกว่าคุณชงอร่อย”

“ได้เลยครับ” อิงค์รีบจัดการชงเครื่องดื่มส่งให้เธอ และส่งให้พร้อมกับขนมเค้กอีกชุดหนึ่ง “อันนี้ฝากไปทานด้วยนะครับ มีของคุณเกตกับคุณเหมราช แล้วก็ปู่กมลกับคุณอินถาด้วย”

“ขอบคุณนะคะ พวกเขาต้องดีใจมากแน่ๆ เลยค่ะ” เกตถวารับของมาแล้วเดินออกไปขึ้นรถที่เธอขับมา

เธอสตาร์ตรถขับออกไปและเพียงแค่พ้นหัวโค้งถนนเธอก็จอดรถชิดข้างทาง

“นึกว่าจะเป็นคนแบบไหน ก็แค่ผู้ชายบ้านๆ แถมยังปากดีอีก คนอุตส่าห์จะญาติดีด้วยแท้ๆ สงสัยสิงห์จะเสี้ยมกันมาสินะ”

เกตถวาเหลือบไปมองแก้วเครื่องดื่มกับถุงขนมเค้กที่วางอยู่บนเบาะข้างตัวด้วยสายตาเหยียดหยัน

“ใครจะไปกินของพรรค์นี้กัน” เธอเปิดกระจกรถแล้วโยนของทั้งหมดลงถังขยะข้างเสาไฟฟ้าก่อนจะขับออกไป

########################################################

“ผู้หญิงคนเมื่อกี้เป็นใครเหรออิงค์” ดัสกรที่เพิ่งเดินลงมาจากชั้นสองถาม

“ภรรยาคุณเหมราช แม่เลี้ยงพี่สิงห์น่ะ พอดีคุณเหมราชเขาชวนฉันไปงานวันเกิดเขาน่ะ คุณเกตเลยเอาชุดที่จะใช้ใส่ไปมาให้”

“ที่แกคุยกับคุณสิงห์เมื่อเช้าสินะ” ดัสกรลำดับเรื่องตาม “ตกลงแกกับเขานี่ไม่ได้เป็นแค่คนรู้จักกันสินะ”

“ก็คนรู้จักน่ะแหละ” อิงค์ยังปากแข็ง “แกก็เคยไปงานวันเกิดพ่อเรา ยังเป็นแค่เพื่อนเราเลยนี่นา”

“อื้อหือ ฟังแล้วเจ็บจี๊ดเลยแฮะ”

ตั้งแต่ตอนที่อิงค์เลิกราจากแฟนเก่าที่ชื่อเมย์ ดัสกรที่แอบชอบมานานก็สารภาพรักทันทีหวังจะหาจังหวะที่เจ้าตัวหัวใจอ่อนแอเข้าแทรก แถมยังมีใช้กำลังปลุกปล้ำกันเล็กน้อยด้วย ยอมรับว่าตอนนั้นยังวัยรุ่น ใจร้อน คิดน้อยไปหน่อย สุดท้ายก็ไม่สำเร็จแถมยังเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้อิงค์หนีไปกินเหล้าเมาคนเดียว แต่ที่หนักที่สุดคือขึ้นเครื่องบินหนีมาน่านนี่แหละ พอกลับกรุงเทพเจอหน้ากันก็ไม่ยอมพูดด้วย เขาทั้งขอโทษและตามง้อเช้าเย็น จนสุดท้ายเขาต้องสาบานต่อหน้าศาลพระภูมิบ้านอิงค์ตั้งหลายรอบว่าจะไม่ล้ำเส้นของความเป็นเพื่อนอีก นั่นล่ะอิงค์ถึงได้ยอมกลับมาคบกับเขาเหมือนเดิม

“ตกลงเป็นอะไรกัน สารภาพมาสิ ไม่ต้องมาอ้อมค้อม ฉันมองตาแกก็รู้ถึงไส้ติ่ง ว่าชอบเขาไปถึงไหนต่อไหนแล้ว”

“ไม่เท่าไหร่หรอก ถ้าตามที่พี่เขาบอกก็เรียกว่ากำลังดูๆ กันอยู่”

“แล้วนอนกันยัง”

“ก็หลายรอบแล้ว”

“กูไม่น่าถามเลยเว้ย! ” ดัสกรฟุบหน้าลงกับโต๊ะแล้วร้องเสียงดังด้วยความช้ำใจ “เต๊าะมาตั้งหลายปีไม่สำเร็จไม่พอ แถมยังปล่อยให้หนุ่มบ้านนอกที่ไหนก็ไม่รู้หลอกคาบไปแดกอีก”

“ก็ดามให้เราบอกตรงๆ เองนะ”

“เออๆ ก็ไม่ได้ว่าอะไร”

“แล้วพี่สิงห์ก็ไม่เป็นไม่ใช่หมาด้วย มาคาบไปดงไปแดกอะไร เขาเป็นพ่อเสือน้อยนะ” อิงค์หันไปลูบหัวเจ้าแมวส้มที่นอนหมอบอยู่ข้างแขนก่อนจะพูดด้วยเสียงสอง “ใช่ไหมครับ พี่สิงห์เป็นคุณพ่อเสือน้อยเนอะ”

เหมียวววว~

“ฉันว่าแมวมันร้องว่า ไม่อาววว~ ว่ะ” ดัสกรพึมพัมขึ้นมาจากวงแขน

“แล้วก็รู้ไว้ด้วยว่าเป็นฉันต่างหากที่เป็นคนหลอกฟันเขา เขาไม่ได้หลอกฟันฉัน”

ดัสกรเงยหน้าขึ้นมาเผชิญหน้ากับความจริงอีกครั้ง ตาแดงๆ พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล “แล้วถึงขั้นนอนด้วยกันกันหลายรอบแล้วทำไมยังไม่เป็นอะไรกันอีกล่ะ”

“ก็พี่สิงห์เขายังลืมแฟนเก่าที่ตายไปแล้วไม่ได้น่ะสิ”

“สู้กับคนตายยากนะแก” ดัสกรว่า “เพราะไม่ว่ายังไงคนๆ นั้นก็จะยังอยู่ในความทรงจำของเขาไปตลอด”

“ไม่ยากหรอก ยังไงก็ตายไปแล้ว กลับมาแย่งเขาคืนไปไม่ได้หรอก” อิงค์บอก “สู้กับคนเป็นสิยากกว่าเพราะอาจจะกลับมาหากันได้ทุกเมื่อ”

ดัสกรพยักหน้าตาม “ที่แกพูดมามันก็มีเหตุผล”

“เชียร์เราหน่อยสิ” อิงค์ว่า “พี่เขาบอกว่าอีกนิดเดียวก็จะจีบติดแล้วเนี่ย”

“ไม่อะ” ดัสกรเบะปาก “เกลียดขี้หน้าหมอนี่”

“ดามไม่อยากเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวเหรอ”

“อยากเป็นผัวเจ้าบ่าวมากกว่า”

“ดาม” อิงค์กดเสียงต่ำให้รู้ว่าไม่ประโยคนี้เขาไม่เล่นด้วย “เราตกลงกันแล้วใช่ไหม”

“ครับคุณเพื่อน ขอโทษครับ” ดัสกรรีบขอโทษ “เอาเป็นว่าสู้ๆ นะ” ปากบอกไปแบบนั้นแต่แอบไขว้นิ้วอยู่ข้างหลัง และแช่งให้เลิกกันไวๆ ...เอ๊ะ! หรือไม่ต้องแช่งนะ ก็เจ้าบอกเองนี่นาว่ายังไม่ได้เป็นอะไรกัน ก็ขอให้เป็นไปตามนั้นตลอดไปละกัน




ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: Last Room บทที่ 14(19/10/2019) p.3
«ตอบ #74 เมื่อ19-10-2019 08:17:38 »

ตัวเร่งเยอะ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: Last Room บทที่ 14(19/10/2019) p.3
«ตอบ #75 เมื่อ19-10-2019 08:39:10 »

  :L2: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: Last Room บทที่ 14(19/10/2019) p.3
«ตอบ #76 เมื่อ19-10-2019 09:42:18 »

 :pig4: :pig4: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: Last Room บทที่ 14(19/10/2019) p.3
«ตอบ #77 เมื่อ19-10-2019 10:31:20 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

แหม ๆ เจ้าดาม  แกอย่าไปร่วมมือกับยัยเกตุนั่นเด็ดขาดนะ

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
Re: Last Room บทที่ 14(19/10/2019) p.3
«ตอบ #78 เมื่อ19-10-2019 10:38:07 »

จุดจบของคนแบบเกตนี่จะเปนยังไงหรอ  :katai1:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: Last Room บทที่ 14(19/10/2019) p.3
«ตอบ #79 เมื่อ19-10-2019 11:35:14 »

เอาใจช่วยเหมือนกัน  :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Last Room บทที่ 14(19/10/2019) p.3
« ตอบ #79 เมื่อ: 19-10-2019 11:35:14 »





ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: Last Room บทที่ 14(19/10/2019) p.3
«ตอบ #80 เมื่อ20-10-2019 05:23:43 »

ขอให้ยัยเกต โป๊ะแตกเร็วๆนี้เถอะ หมั่นไส้

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: Last Room บทที่ 14(19/10/2019) p.3
«ตอบ #81 เมื่อ20-10-2019 20:47:53 »

ดามเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อจริงๆด้วย รำคาญยัยเกต รอวันที่พ่อพี่สิงห์รู้ความจริงว่านางร้ายขนาดไหน

ออฟไลน์ leGGyDan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
Re: Last Room บทที่ 14(19/10/2019) p.3
«ตอบ #82 เมื่อ21-10-2019 11:46:26 »

บทที่ 15


วันรุ่งขึ้น หลังจากอิงค์ส่งของในตอนเช้าเสร็จ ทั้งสองก็เดินทางโดยรถของดัสกรซึ่งเจ้าตัวเป็นคนขับลัดเลาะไปตามทุ่งนาและเนินเขาตามเส้นทางที่จีพีเอสบอกเพื่อไปยัง อ. ปัวซึ่งอยู่ห่างออกไปจากตัวเมืองราว 70 กิโลเมตร

การจะได้ภาพถ่ายทุ่งนาสีเขียวขจีสวยๆ นั้นสามารถมาท่องเที่ยวได้หลายเวลาขึ้นกับว่าชอบบรรยากาศแบบไหน สดชื่นยามเช้า สดใสตอนสายๆ หรือเงียบสงบปนเหงานิดๆ ก็มาช่วงเย็น แต่ดัสกรนั้นเห็นว่าไหนๆ มาแล้วก็อยากจะเก็บบรรยากาศหลายๆ แบบ ทั้งยังเป็นข้ออ้างในการกักตัวอิงค์ให้อยู่กับเขาได้ทั้งวันอีกด้วย

“มาอยู่ตั้งหลายเดือนฉันนึกว่าแกเที่ยวทั่วแล้วซะอีก ที่ไหนได้ยังไม่เคยไปเหมือนกัน” ดัสกรแซวคนที่อาสาจะพาเที่ยวแต่กลับไม่รู้ทางสักนิด

“ก็งานยุ่งนี่นา” อิงค์แก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ

“แล้วคุณสิงห์อะไรของแกเขาไม่พาไปไหนบ้างเหรอ”

“ก็พาไปหลายที่ แต่ก็อยู่แค่ในอำเภอเมืองน่ะ ยังไม่เคยออกไปไหนไกลๆ เลย”

“ยังดีที่คำตอบมีสถานที่เที่ยว ฉันนึกว่าแกจะบอกว่าเขาชวนแต่ขึ้นเตียงซะอีก”

“ไอ้นี่!”

“ก็ดูเขาเป็นคนแบบนั้น” ดัสกรพูดหน้าตาเฉย

“อาทิตย์ก่อนเพิ่งพาเสื้อน้อยไปทำวัคซีนแล้วก็ไปซื้ออาหารแมวด้วยกันมา”

“โรงพยาบาลกับร้านอาหารสัตว์นับเป็นที่เที่ยวด้วยเหรอวะ”

“อาทิตย์ก่อนโน้นก็ไปดูแข่งฟุตบอล ก่อนหน้านั้นก็ไปเดินเที่ยวกาด” อิงค์เล่าไปก็เขินไปเพราะทุกครั้งที่ไหนด้วยกันมักจะกลับมาจบที่เตียงทุกครั้งตามที่ดัสกรแซวจริงๆ นั่นแหละ “อาทิตย์ก่อนเขาก็เพิ่งซื้อผ้าห่มลายแมวให้ด้วย”

“อ้อ! ไอ้ผืนที่แกหวงหนักหวงหนาว่าห้ามฉันแตะเด็ดขาดใช่ไหม”

“ก็มันมีกลิ่นตัวพี่สิงห์ติดอยู่ นายเอาไปใช้เดี๋ยวกลิ่นก็เพี้ยนน่ะสิ”

“เบื่อคนอวดผัวว่ะ” ดัสกรย่นปาก ชักจะเหม็นความรักจนอยากเปลี่ยนเรื่องคุย ก็พอดีกับที่จีพีเอสซึ่งเปิดไว้ดันร้องเตือนขึ้นมาว่าพวกเขากำลังจะไปผิดทาง

“นั่นๆ ต้องเลี้ยวตรงนั้น ไอ้ดาม นายน่ะมัวแต่ชวนคุยไม่ดูทางเลย”

“เอ้า! โทษฉันคนเดียวได้ไงวะแกก็ไม่ดูเหมือนกัน” ดัสกรรีบหลบรถเข้าข้างทางแล้ววนรถกลับ

โชคดีที่วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใสหลังจากฝนตกๆ หยุดๆ ติดต่อกันมาหลายวัน พวกเขาจึงอยู่เที่ยวกันจนบ่ายคล้อยจึงขับรถกลับ แต่แล้วฟ้าที่โปร่งมาทั้งวันก็กลับกลายเป็นมืดครึ้มแล้วฝนก็ตกลงมาห่าใหญ่จนมองทางข้างหน้าแทบไม่เห็น ดัสกรแทบไม่แตะคันเร่งเนื่องจากต่างคนก็ไม่ชำนาญเส้นทางที่เป็นสันเขาและทุ่งนาถ้าพลาดนิดเดียวคือตกลงไปตายแน่นอน

และในขณะที่ค่อยๆ คลำทางกลับกันมาอยู่นั้นฟ้าก็ผ่าลงมาเปรี้ยงใหญ่ใส่ต้นไม้สูงที่อยู่ข้างทาง ลำต้นหนาค่อยๆ ปริแตกออกจากกันแล้วหักครืนล้มลงมาปิดทางเดินรถต่อหน้าต่อตา

“เอายังไงดีวะแก” ดัสกรขอความเห็น

“เราลองไปทางอื่นดู” อิงค์บอกพลางกดรีเฟรซแอปพลิเคชั่นแผนที่นำทางซึ่งใช้เวลาคำนวณอยู่อึดใจก็แสดงเส้นทางใหม่ที่อ้อมไปค่อนข้างไกล

อิงค์มองดูนาฬิกาซ้ำแล้วซ้ำเล่าสลับกับฝนที่ไม่มีทีท่าจะซาเม็ดลงและตัดสินใจส่งข้อความหาสิงห์ว่านัดวันนี้คงต้องขอยกเลิกเสียแล้ว

“ฝนตกหนักถึงขนาดมองทางไม่เห็นเลยเหรอ” สิงห์ถามกลับมา

“ใช่แล้วครับ แล้วจู่ๆ ฟ้าก็ผ่าใส่ต้นไม้ล้มมาขวางทางอีก”

“แล้วนี่ขับมาเส้นทางไหน”

“ผมก็บอกไม่ถูกเหมือนกันก็ขับมาเรื่อยๆ ตามจีพีเอสบอกน่ะครับ”

“เธอจอดรถเฉยๆ แล้วส่งโลเคชั่นมาเดี๋ยวฉันไปรับเอง”

“อย่าลำบากเลยครับ ฝนมันตกหนักมากจริงๆ ตามที่จีพีเอสคำนวณอีกสักชั่วโมงผมก็น่าจะถึงบ้านแล้วล่ะ” อิงค์พิมพ์ตอบไป

“พากันมาดีๆ ล่ะ แล้วเธอจะว่างไปซื้อชุดกับฉันวันไหน นี่ก็วันศุกร์แล้วนะ งานจัดวันอาทิตย์นี้นะอย่าลืม”

“ผมลืมบอกพี่สิงห์เลย เรื่องชุดน่ะผมไม่ลำบากพี่สิงห์แล้วล่ะครับ พอดีคุณเหมราชเตรียมมาให้แล้ว”

“แล้วยังไง เธอจะเบี้ยวนัดฉันเหรอ”

“ผมไม่ได้จะเบี้ยวนัดพี่สิงห์สักหน่อย แค่จะบอกว่าผมมีชุดแล้ว พี่ไม่ต้องซื้อให้ผมแล้ว”

“แต่ฉันอยากซื้อให้นี่นา”

“ถ้าผมไม่ใส่ชุดที่คุณเหมราชเตรียมมาให้มันก็จะดูไม่ดีน่ะสิครับ”

“แต่เธอไปกับฉันนะ”

“แต่เป็นงานคุณเหมราชนะครับ เขาอุตส่าห์เลือกเองแล้วให้คุณเกตถวาก็เอามาส่งให้ที่ร้าน ผมไม่ใส่ได้หรอก”

“เธอเจอกับเกตแล้วเหรอ”

“เธอสวยจังเลยนะครับแล้วก็ดูนิสัยดีด้วย”

“เกตพูดอะไรแปลกๆ กับเธอหรือเปล่า”

“ไม่นี่ครับ… ทำไมเหรอ”

“เปล่า”

“ผมว่าก็ดูเธอเป็นคนดีนะ ทำไมพี่สิงห์ถึงเกลียดเธอล่ะครับ”

“มันก็เรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับเธอเสียหน่อย!”

นั่นเป็นข้อความสุดท้ายที่สิงห์ส่งมาก่อนจะเงียบหายไป อิงค์จึงเปลี่ยนใจเป็นโทรหา แต่สิงห์ก็ไม่ยอมรับสาย เขาจึงได้แต่ทิ้งข้อความไว้

“ขอโทษครับที่ผมละลาบละล้วง”



โทรศัพท์สั่นเป็นครั้งที่สามจากสายโทรเข้า แต่สิงห์ก็ยังคงไม่สนใจ เขาไม่ได้โกรธที่อิงค์พูดถึงผู้หญิงคนนั้นก็แค่ไม่อยากได้ยินชื่อ ที่เขาตัดบทไม่คุยต่อและไม่รับสายเพราะรู้ตัวว่าเริ่มอารมณ์ไม่ดี จึงไม่อยากทำให้เรื่องมันบานปลายไปมากกว่านี้ เหมือนที่เคยทำพลาดมาก่อน

ตาคมจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างที่อากาศแจ่มใส ทั้งที่เป็นจังหวัดเดียวกันแท้ๆ เป็นเพราะฝนมันตกไม่ทั่วฟ้า... หรือเป็นเพราะใครบางคนกำลังโกหกเขาอยู่กันแน่นะ มันฟังดูมีเหตุผลที่ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย… ออกไปเที่ยวกับเพื่อนสนิท ฝนตกหนัก มีฟ้าผ่าต้นไม้ล้มจนต้องอ้อมไปอีกทาง ยกเลิกนัดไม่พอ ชุดที่นัดว่าจะไปซื้อด้วยกันก็มีคนใจดีซื้อมาให้แล้วอีกต่างหาก

ทำไมเขาถึงรู้สึกสังหรณ์ใจอะไรแปลกๆ เหมือนกับว่าเรื่องที่เคยเกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้วกำลังจะซ้ำรอยอีกครั้ง

…ฉันสามารถเชื่อใจเธอได้จริงๆ ใช่ไหม เธอจะไม่หลอกฉันเหมือนผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม…



ในที่สุดดัสกรก็สามารถประคองรถขับกลับมาจนถึง It’ sra ได้อย่างปลอดภัยแต่ก็เป็นเวลามืดค่ำแล้ว

เสือน้อยที่โดนทิ้งให้อยู่ตัวเดียวมาทั้งวันรีบมารอรับอิงค์ที่หน้าประตู มันตะกายขากางเกงเขาไม่หยุดจนเขาต้องอุ้มขึ้นพาดบ่าปลอบขวัญ

“เป็นไงเสือน้อย เหงาล่ะสิ ขอโทษนะที่กลับเสียมืดเลย”

“ดูท่าเจ้าตัวนี้มันติดแกน่าดูเลยนะ เห็นกลางคืนก็นอนด้วยกัน”

“ฉันต่างหากที่ติดมัน ตั้งแต่มีมันมานอนด้วยกลางคืนฉันหลับสนิทขึ้นเยอะเลย” อิงค์ยกตัวเสือน้อยขึ้นระดับสายตา มันยื่นหน้ามาเอาจมูกดุนๆ เขาจึงเอาปากไปจุ๊บเหนือปลายจมูกสีชมพูเบาๆ ครั้งหนึ่ง เสือน้อยร้องชอบใจแล้วตะกายไปเกาะไหล่ตรงที่ประจำของมัน

“ก็ดีแล้ว” ดัสกรยิ้มกับภาพตรงหน้า “นี่แกจะเอาอาหารให้เสือน้อยแล้วเล่นกับมันก่อนใช่ไหม งั้นฉันขอไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อนนะเหนียวตัวจะแย่แล้ว”

อิงค์อุ้มเสือน้อยไปวางหน้าจานข้าวของมันแล้วเทอาหารเม็ดใส่จานที่ว่างเปล่า ในระหว่างที่เสือน้อยกำลังกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อยอิงค์ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีกครั้ง

ข้อความขอโทษที่ส่งไปก่อนหน้านี้ยังไม่ถูกเปิดอ่าน สิงห์คงจะโกรธเขามากจริงๆ ที่ยุ่งเรื่องไม่เป็นเรื่องแถมยังเบี้ยวนัดอีก

อิงค์พิมพ์ข้อความต่อไปว่า

“ถึงบ้านแล้วครับ”

เขาเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าแล้วนั่งลงมองเสือน้อยกินอาหารไปเรื่อยๆ พลางคิดอะไรเรื่อยเปื่อย

ครู่หนึ่งดัสกรที่อาบน้ำเสร็จก็เดินมาหา “เป็นอะไรวะแก ทำไมทำหน้าเศร้าเชียว หรือว่าทะเลาะกับพี่สิงห์ของแกเรื่องที่วันนี้เบี้ยวนัด”

“อือ” อิงค์พยักหน้าหงอยๆ

“โอ๊ย~ เรื่องแค่นี้เอง แกง้อเขาไปหรือยัง”

“ส่งข้อความไปขอโทษแล้ว แต่เขาไม่ยอมอ่าน”

“เดี๋ยวก็อ่านน่า อาจจะกำลังวุ่นๆ อยู่ก็ได้ แกบอกว่าเขาเป็นเจ้าของโรงแรมไม่ใช่เหรอ คงรับแขกอยู่มั้ง มาๆ อย่ามัวแต่เครียดเลยแก มากินเหล้ากันดีกว่า” ดัสกรบอกพลางชูถุงที่ใส่ทั้งขวดเหล้าและเบียร์กระป๋องขึ้นมาให้ดู

“แล้วนั่นนายไปซื้อมาจากไหนเยอะแยะ”

“ก็ตอนแวะปั๊มเมื่อเช้าไง เมื่อกี้ฉันค้นตู้เย็นแกแล้วมีน้ำแข็งกับซาโซดาพร้อม”

“อันนั้นเราเอาไว้ชงเครื่องดื่มขาย”

“ขอกินก่อนน่า คืนนี้ไม่มีลูกค้ามาแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้เราซื้อใช้ มาๆ นั่งนี่” ดัสกรตบมือลงบนเก้าอี้เปล่าข้างตัวพลางจัดแจงชงเหล้า “เหมือนยังขาดกับแกล้มแฮะ”

อิงค์ถอนหายใจอย่างจนใจจะห้าม “มีถั่วแมคคาเดเมียที่ฉันซื้อมาไว้ทำขนมน่ะ พอใช้แก้ขัดได้ไหม”

ดัสกรตบตักฉาด “จัดมาเลยเพื่อน!”

พอกับแกล้มพร้อมดัสกรก็เริ่มตั้งวง หลังจากดื่มกันไปสักพัก แทนที่อิงค์จะอารมณ์ดีขึ้นก็กลับไม่พูดไม่จายิ่งกว่าเดิมและเอาแต่นั่งจิบเงียบๆ จนดัสกรต้องเอ่ยปากถาม

“เป็นอะไรวะแก”

“เปล่า”

“แล้วนั่งซึมกระทือทำไมวะ”

“อยู่ๆ ก็คิดถึงสมัยก่อนขึ้นมาว่ะ”

ดัสกรพยักหน้าเข้าใจ “อยู่คนเดียวมันก็เหงาแบบนี้แหละแก ฉันถึงบอกไงว่าให้แกกลับกรุงเทพ เหงายังไงก็ยังมีพวกฉันนะ”

เขาพยายามปลอบแต่อิงค์ก็ยังเงียบเหมือนเดิมเขาจึงใช้แรงจูงใจใหม่ถึงจะไม่ค่อยชอบใจนักก็ตาม

“แล้วไอ้คุณพี่สิงห์อะไรของแกนั่นน่ะ เขาดีกับแกไหม”

อิงค์พยักหน้า

“เออ ก็ดีแล้ว ถ้าเขาดูแลแกดีพวกฉันก็หมดห่วง นี่... เล่าให้ฟังหน่อยแกชอบเขาตรงไหน”

“ก็… ตรงที่เขาทำให้ฉันยิ้มได้อีกครั้งล่ะมั้ง”

ดัสกรขมวดคิ้ว “ทำไมต้องมีมั้งด้วยวะ อะไรของแกวะอิงค์ เมื่อเช้าแกยังทำตัวเป็นคนอวดผัว2019 อยู่เลย อย่ามาเหงียมน่า ฉันไม่ว่าอะไรแกหรอก ไม่ล้อด้วย เขามีอะไรเด็ด… ขนาดหรือลีลา” พยายามลากลงเรื่องใต้สะดือหวังดึงบรรยากาศให้ครึกครื้นขึ้นแต่อิงค์กลับหน้าซีดหนักกว่าเดิม

“เฮ้ย… อิงค์ มีอะไร บอกฉันได้นะ”

อิงค์ส่ายหน้า

“แกทำหน้าอมทุกข์ขนาดนั้นมันจะไม่มีได้ยังไงวะ”

“ก็… มันไม่มีอะไรจริงๆ นี่นา”

“งั้นก็ทำตัวให้ร่าเริงหน่อยสิ วันอาทิตย์นี้เขาจะพาแกไปงานวันเกิดพ่อเขาไม่ใช่เหรอ นี่แม่เลี้ยงเขาก็เพิ่งเอาชุดมาให้แกเมื่อวาน”

แต่คำพูดที่หวังปลอบใจของดัสกรกลับไปสะกิดเอาอะไรบางอย่างในใจอิงค์ให้เปิดออก เขาหันไปมองถุงของที่ได้รับมาจากเกตถวา แล้วจู่ๆ น้ำตาก็ไหลรินเป็นสาย มันมาจากความรู้สึกหนักอึ้งในหัวใจที่ไม่อาจบรรยายออกมาเป็นคำพูดให้ใครฟังได้

“เฮ้ย! ไอ้อิงค์ แกเป็นไรวะ ร้องไห้ทำไม” ดัสกรลนลานทำอะไรไม่ถูก เขารีบวางแก้วเหล้าลงแล้วโผเข้ากอดเพื่อนรักเอาไว้แน่น “ไม่เป็นไรๆ อิงค์ไม่เป็นไร ฉันอยู่นี่แล้ว แกไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวนะเว้ย”



เวลาผ่านไปสักพักสิงห์ก็เริ่มใจเย็นลง และรู้สึกงี่เง่าเต็มทีว่าจะมาหงุดหงิดอิงค์ทำไมกับเรื่องฟ้าฝนที่มันเหนือการควบคุม แล้วอิงค์เองก็ไม่เคยโกหกเขาสักครั้ง ไม่เหมือนผู้หญิงคนนั้นที่หักหลังเขาไปสักหน่อย

สิงห์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไล่อ่านดูข้อความอีกครั้ง เห็นข้อความล่าสุดส่งมาตอนเกือบสองทุ่มว่ามาถึงบ้านแล้ว ตอนนี้เพิ่งจะห้าทุ่ม อิงค์น่าจะยังไม่นอนเขาจึงส่งข้อความว่าจะไปหา ขอโทษทางโทรศัพท์ไม่ดีหรอก เขาขอไปง้อตรงๆ ดีกว่าอยู่ห่างกันแค่นี้เอง แล้วสิงห์ก็รีบแต่งตัวขับรถออกจากบ้านไป



เสียงข้อความเข้าโทรศัพท์ของอิงค์ดังขึ้น ดัสกรหยิบขึ้นมาดู เห็นข้อความว่าสิงห์กำลังจะมาหาก็ลังเลว่าจะปลุกคนที่ร้องไห้จนผล็อยหลับไปแล้วขึ้นมาดีหรือไม่

จู่ๆ อิงค์ก็ร้องไห้หนักมาก แต่ไม่ยอมพูดอะไรกับเขาสักคำ ซึ่งเหมือนกับวันนั้นเมื่อสามปีก่อนไม่มีผิด นั่นทำให้เขารู้สึกใจคอไม่ดีเลยเพราะเช้าวันรุ่งขึ้นอิงค์ก็ยังไม่พูดระบายเรื่องที่ทำให้ร้องไห้ให้ฟัง แต่เลือกจะทำเป็นยิ้ม เข้มแข็งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนที่จะเก็บกระเป๋าหนีเขาไปอยู่ญี่ปุ่น

ในขณะที่กำลังคิดอยู่นั่นเองเสียงรถมอเตอร์ไซค์ก็ขับมาจอดหน้าบ้านแล้ว ดัสกรชะโงกมองออกไปนอกต่างเห็นสิงห์หยุดยืนอยู่หน้าประตูครู่หนึ่งก่อนจะเปิดเข้ามาทั้งที่เขามั่นใจว่าล็อกเองกับมือ

ดัสกรนึกแปลกใจไม่น้อยที่อิงค์ให้กุญแจบ้านกับผู้ชายคนนั้น สองคนนี้สนิทกันถึงขั้นนั้นเลยเหรอ ขนาดตัวเขายังไม่เคยได้รับความไว้วางใจขนาดนี้เลย

แล้วดัสกรก็คิดแผนการหนึ่งขึ้นมาได้ ถึงจะไม่ดีนักแต่ก็โคตรคุ้ม ถ้าหากผู้ชายคนนี้ผ่านด่านนี้ไปได้เขาก็จะยอมรับและให้อิงค์อยู่ที่น่านต่อ แต่ถ้าไม่ได้เขาก็จะมีข้ออ้างพอจะลากอิงค์กลับกรุงเทพ

ว่าแล้วดัสกรก็ถอดเสื้อผ้าออกจนหมดแล้วมุดเข้าไปนอนใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับคนที่หลับไปแล้ว



สิงห์จอดรถอยู่หน้า It’ sra เห็นไฟปิดเงียบ ส่งข้อความไปหาอีกอิงค์ก็ไม่ยอมอ่านทั้งที่รถมอเตอร์ไซค์ของอิงค์และรถญี่ปุ่นของดัสกรก็จอดอยู่ข้างกัน

เขายืนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่าอิงค์เคยให้กุญแจบ้านเขาไว้ เขาหยิบมันออกมาคิดทบทวนอยู่อึดใจ เขาไม่ได้มีเจตนาร้ายก็แค่อยากมาคุยกันให้เรียบร้อยก่อนจะข้ามวัน เขาไม่อยากทำพลาดซ้ำรอยเดิมแบบที่ทำกับเกตถวาอีก

สิงห์เปิดประตูเข้าไป แวบแรกคือได้กลิ่นเหล้าคละคลุ้ง เขากวาดตามองไปเห็นขวดเหล้ากับโซดาล้มกลิ้งอยู่บนพื้น และบนเคาน์เตอร์มีแก้วสองใบที่ยังมีเหล้าเหลืออยู่ประมาณนึง

จู่ๆ สิงห์ก็รู้สึกใจคอไม่ดี คิดว่าหันหลังกลับไปก่อนอาจจะดีกว่า แต่สุดท้ายเขาก็อยากทำให้มันกระจ่างไปทุกๆ เรื่อง ทั้งเรื่องของอิงค์ และความรู้สึกของตัวเอง จนถึงตอนนี้เขายังคงเชื่อมั่นว่าอิงค์ไม่ได้มาหลอกลวงเขา ผู้ชายคนนั้นเป็นแค่เพื่อน และเพื่อนธรรมดาเขาก็กินเหล้าด้วยกันเป็นปกติอยู่แล้ว

สิงห์เดินขึ้นไปชั้นสอง น่าแปลก ทั้งที่ไม่คิดอะไรแท้ๆ แต่สองขากลับหนักอึ้งเหมือนมีมือที่มองไม่เห็นมารั้งไว้ว่าอย่าเพิ่งขึ้นไปตอนนี้เลย

เขาเดินมาจนถึงประตูห้องนอนในที่สุดและเปิดประตูเข้าไป แล้วภาพตรงหน้านั้นก็แทบทำให้เขาล้มทั้งยืน

ภาพคนสองคนนอนกอดกันแน่นบนเตียง

ดัสกรทำเป็นงัวเงียลืมตาขึ้นลุกขึ้นนั่ง ทำให้ผ้าห่มร่มลงมากองที่เอวเห็นร่างกายที่เปลือยเปล่าและชายหนุ่มอีกคนซึ่งยังหลับอยู่ก็ไม่ได้สวมอะไรติดกายเลยเช่นกัน “อ้าวคุณสิงห์มาทำอะไรตอนนี้ครับ”

“นี่... พวกเธอทำอะไรกัน” สิงห์พยายามควบคุมน้ำเสียงไม่ให้สั่น

ดัสกรไหวไหล่ “เปล่านี่ครับ แค่นอนเฉยๆ เอง อากาศมันหนาวน่ะเลยต้องนอนเบียดๆ กัน คุณอยากจะมานอนกับพวกเราอีกคนไหมล่ะ ผมไม่ถือหรอกนะ คนเยอะๆ สนุกดีออก”

“เชิญพวกเธอสนุกกันไปเถอะ!” สิงห์พูดเสียงดังจนเกือบตวาดด้วยความโกรธจนเลือดขึ้นหน้า แล้วผลุนผลันออกไป หมดสิ้นกันแล้วกับความไว้เนื้อเชื่อใจ ไม่ว่าใครหน้าไหนมันก็เหมือนๆ กัน ต่อจากนี้ไปเขาจะไม่เชื่อใจใครอีกแล้ว

บนเตียงที่เราเคยนอนด้วยกัน ใต้ผ้าห่มที่เขาเป็นคนซื้อให้ ไหนล่ะที่เคยบอกว่ารักเขาคนเดียว ที่ไม่ยอมบอกใครๆ ว่าเป็นอะไรกับเขา แม้แต่ตอนที่แนะนำกับไอ้หมอนั่นไม่ใช่เพราะเกรงใจเขาหรอก แต่เพราะกลัวว่าเขาจะจับได้ต่างหาก

ภาพของทั้งสองคนนอนกอดกันยังติดตรึงอยู่ในตาเช่นเดียวกันกับรอยยิ้มและทุกๆ ถ้อยคำที่เคยพูดกับเขา

“ขอบคุณครับ ผมจะห่มทุกคืนเลย”

สุดท้ายทุกๆ อย่างมันก็เป็นเรื่องโกหกทั้งเพ!

ได้... ในเมื่อเธอทำกับฉันแบบนี้ ถ้างั้นฉันจะขอเอาคืนบ้างมันก็คงสมน้ำสมเนื้อกันดีใช่ไหม เขาจะไม่ยอมเป็นคนโง่ที่ต้องทนเจ็บอยู่คนเดียวอีกต่อไปแล้ว ทั้งเธอทั้งผู้หญิงคนนั้น เราก็เจ็บไปด้วยกันทั้งหมดนี่แหละ!




ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: Last Room บทที่ 15(21/10/2019) p.3
«ตอบ #83 เมื่อ21-10-2019 12:38:39 »

 :เฮ้อ:



 :3123: :pig4: :pig4: :3123:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: Last Room บทที่ 15(21/10/2019) p.3
«ตอบ #84 เมื่อ21-10-2019 16:05:48 »

เฮ้อ ไปกันใหญ่

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: Last Room บทที่ 15(21/10/2019) p.3
«ตอบ #85 เมื่อ21-10-2019 17:45:33 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

อิดาม  อิเลวชาติ

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: Last Room บทที่ 15(21/10/2019) p.3
«ตอบ #86 เมื่อ21-10-2019 19:56:20 »

เอาเข้าไปหาเหาใส่หัวเพื่อนนี่สนุกนักใช่มั๊ย :z6:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: Last Room บทที่ 15(21/10/2019) p.3
«ตอบ #87 เมื่อ21-10-2019 21:16:58 »

ดามเห็นแก่ตัว นิสัยไม่ดีเลย

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: Last Room บทที่ 15(21/10/2019) p.3
«ตอบ #88 เมื่อ21-10-2019 22:29:59 »

 :mew6: :mew6:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: Last Room บทที่ 15(21/10/2019) p.3
«ตอบ #89 เมื่อ22-10-2019 00:04:28 »

ดาม ทำแบบนี้มันไม่โอเคเลยเด้อ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด