- โปรดอย่ากีดกันผมกับชานมไข่มุก - [ตัวอย่าง]ตอนพิเศษ : อยากจะชวนเธอกินชานม~ P.12
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: - โปรดอย่ากีดกันผมกับชานมไข่มุก - [ตัวอย่าง]ตอนพิเศษ : อยากจะชวนเธอกินชานม~ P.12  (อ่าน 47988 ครั้ง)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
แอบคิดไม่ได้ว่าคุณ​คนแรก​คือเจ้าของร้านชานมร้านนั้น

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
คุณเค้าตีเนียนจับมือน้องพิชญ์แทนค่าชานมเฉย 55555

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Stiiiii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
คุณคนเเรกชื่ออะไรนะคะ ๕๕๕๕

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น้องพิชญ์ไม่แอบคิดบ้างเหรอครับ ว่าคุณคนแรกเป็นเจ้าของร้านชานมร้านนั้น //เพราะเราเองก็แอบคิด ^^"

ออฟไลน์ KizzllKizz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
มันต้องดราม่าตรงที่คุณคนแรกเป้นเจ้าของร้านชานมหน้าปากซอยแน่ๆ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
คุณคนแรกต้องเกี่ยวข้องกับร้านชานมหน้าปากซอยแน่ๆเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'


ตอนที่ 15 : เส้นทางของกฤต



   และแล้วคุณคนแรกก็ได้เบอร์โทรศัพท์ผมด้วยประการฉะนี้

   เย็นนั้นเขาเปิดประเดิมทันที ด้วยการมายืนคร่อมมอเตอร์ไซค์หน้าตายรอผมปิดร้าน มือถือโทรศัพท์กดโทรออก

   “จะโทรมาทำไม” ผมก็บ้าจี้รับอีกแหน่ะ

   “เห่อ”

   เห่อบ้าเห่อบออะไร ผมกดวางสาย ปิดประตูเหล็กม้วนลง ก่อนจะเดินไปรับหมวกกันน็อกมาสวม แล้วยื่นหน้าให้คุณคนแรกช่วยคาดสายใต้คางแน่นๆ ก่อนจะนั่งซ้อนหลัง ลูบท้องคิดว่าวันนี้จะกินอะไรดี

   คุณคนแรกพาผมไปร้านเย็นตาโฟที่มีขายหมูสะเต๊ะด้วย พวกเรากินกันจนพุงกาง เดินเล่นย่อยอาหาร จนเริ่มดึกก็กลับห้อง เหมือนเดิมเช่นทุกวัน แต่ที่ต่างจากเดิม คือผมที่ยืนยึกยัก ถอดหมวกกันน็อกส่งให้เขาด้วยปากที่คันยิบๆ

   “ลืมอะไรรึเปล่า”

   “ลืมอะไร” มองหน้าที่ไม่ได้ตั้งใจจะกวน แต่ถามตรงแบบซื่อใส ผมก็อยากจะต่อยหน้าคุณคนแรกขึ้นมาดื้อๆ

   “วันนี้ยังไม่ได้กำลังใจเลย” ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง ไอ้เรารอมาตั้งแต่เช้า แปะโป้งกันน่ะไม่ว่าหรอก แต่เหรียญสองบาทที่เป็นทั้งกำลังใจ ทั้งของสะสมประจำร้านจะลืมไม่ได้นะเข้าใจมั้ย!

   แล้วดูสิ จนแทบจะแยกย้ายกลับที่กลับทางตัวเองแล้ว เขายังลืมสนิท น่าโมโหสุดๆ

   เป็นฝ่ายจีบกันไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมผมต้องเป็นฝ่ายทวงด้วย ฮึ่ย

   ยิ่งคิดผมก็ยิ่งจ้องเขาแบบคาดโทษ แต่คุณคนแรกกลับหัวเราะพรืดแล้วยิงยาว หัวเราะจนตัวสั่น มองผมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่มีทีท่าสำนึกผิดสักนิด

   ผมที่โกรธจนหน้าแดง...หรือไม่ก็อายจนหน้าแดงหันหลังเตรียมชิ่ง ไม่ให้ก็ไม่ให้ ไม่ง้อเฟ้ย!

   “จะรีบไปไหน” คุณคนแรกคว้าต้นแขนทันที เขายังคงยิ้มมุมปาก ด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์อย่างบอกไม่ถูก “มารับกำลังใจก่อนสิ”

   แค่เห็นก็รู้ตัวแล้วว่าต้องโดนแกล้งโดนกวนแน่ๆ ผมหันกลับอย่างอิดออดเล็กน้อย การจะยื่นมือออกไปเพื่อรอรับเหรียญสองบาทแบบไม่พูดอะไรสักคำเพื่อให้เขารู้ว่ายังโกรธอยู่

   “มาใกล้ๆ” คุณคนแรกที่นั่งคร่อมมอเตอร์ไซค์อยู่นั้นเอ่ยเรียก

   ผมจำใจเดินเข้าไปใกล้อีก จนขาเราแนบชิดติดกันด้วยระยะที่ไม่ปลอดภัยต่อหัวใจ พลันคุณคนแรกยืดตัวขึ้น อย่างรวดเร็ว โดยที่ผมไม่ทันเตรียมตัว

   คุณคนแรกหอมแก้มผมดังฟอด!

   หอมไม่พอ ยังทำเสียงดังจนผมยืนอึ้งอีกต่างหาก คุณคนแรกยืดตัวแล้วก็กลับไปนั่งพาดแขนกับแฮนด์มอเตอร์ไซค์เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่สีหน้าค่อนข้างท้าทายว่าผมจะตอบสนองยังไง

   ตอบสนองยังไงน่ะเหรอ

   ผมยังประมวลผลไม่เสร็จด้วยซ้ำ ลูบแก้มตัวเองกึ่งเหม่อ ปรับอารมณ์ที่กระเจิงไกลถึงดาวอังคารไม่ทัน

   “ทำอะไร” ขนาดเสียงถามยังเบาหวิว

   “ให้กำลังใจ”

   “แต่กำลังใจฉันหมายถึง...” ผมพยายามอย่างมากที่จะคงสติตัวเองไว้ “คือเงินสามสิบบาทค่าชานมไข่มุกที่ควรจะมีเหรียญสองบาทในนั้น!”

   คุณคนแรกร้องอ๋อ เป็นอ๋อที่ยาวนานเป็นพิเศษ ก่อนจะหยิบถุงเหรียญออกมา บรรจงนับแล้วยื่นให้ผมอย่างว่าง่าย

   “โทษที ลืมน่ะ”

   เขาลืมแต่ผมคงไม่ลืมไอ้การฉวยโอกาสเมื่อกี้แน่! มองหน้าตายๆ แบบหน้าซื่อตาใสนั่นแล้วก็ไม่รู้จะท้วงดีมั้ย สรุปแล้วเขาจงใจลืมหรือแค่ฉวยโอกาสทีเผลอ งงไปหมดแล้ว

   ผมแบมือรับเหรียญมากำแน่น ไม่รู้จะตอบสนองยังไง สุดท้ายก็ทนอัดอั้นไม่ไหว เดินหนีขึ้นห้องไปเลย

   เสียงหัวเราะดังแว่วจากด้านหลัง ไม่วายคนอารมณ์ดีแถวนี้ที่มีความสุขจนน่าหมั่นไส้ คุณคนแรกมองส่งผมอยู่นาน จนใกล้จะลับตานั่นแหละถึงสวมหมวกกันน็อก แล้วค่อยขับออกไป

   ผมรู้ได้ไงน่ะเหรอ

   ก็พอเดินเข้ามาในตึกปุ๊บ ก็แอบหลบอยู่หลังกำแพงเหล่มองปั๊บ

   เป็นการกระทำที่ขนาดผมเองยังอดด่าตัวเองไม่ได้

   โคตรบ้าจริงๆ ไอ้พิชญ์

   






   สรุปเมื่อวานผมมัวแต่ทะเลาะกับตัวเองจนลืมบอกคุณคนแรกเรื่องเปิดเพจ

   เพิ่งมีโอกาสได้บอกก็ตอนเขาแวะมาหาช่วงหลังเคารพธงชาติ สั่งชานมไข่มุกแล้วยืนดูดชวนคุยเหมือนทุกวัน ผมยื่นโทรศัพท์ให้เขาเห็นชื่อเพจ ทันทีที่คุณคนแรกเห็นว่ามีคนกดถูกใจหลายสิบคนก็คิ้วขมวดทันที

   เขามองผมด้วยสายตาเรียบนิ่ง แต่น่าแปลกที่ดันจับอารมณ์ได้ว่า...อีกฝ่าย...กำลัง...งอน

   งอนเรื่องอะไร

   หรือว่าเพราะไม่ได้เป็นคนแรกที่รู้ว่าผมเปิดเพจ ไม่ได้เป็นคนแรกที่กดถูกใจ

   ไม่ว่าจะเป็นอย่างไหน...ก็ไม่ใช่ความผิดของผมสักหน่อย

   ฉะนั้นผมจะไม่ง้อ!

   แต่นึกดูดีๆ แม้ช่วงเที่ยงเมื่อวานคุณคนแรกจะรีบจนไม่ได้เล่า แต่ตอนเย็นก็ยังคุยได้นี่นา ผมรู้สึกผิดนิดหน่อย ไม่อยากจะยอมรับนักว่าก็เพราะเขามัวแต่เห่อเบอร์โทรศัพท์ แล้วยังให้กำลังใจแบบถึงเนื้อถึงตัว สมองเลยปลิวหาย ลืมหมดแล้วว่าเปิดเพจ

   และถ้าเจาะลึกอีกสักนิด โดยไม่นับความสัมพันธ์เกินเลยระหว่างเรา...เขา...เป็นถึงลูกค้าคนแรกของร้าน แล้วยังเป็นลูกค้าประจำมาทุกวันไม่เคยขาด เลเวลสูงถึงระดับห้า มารู้ทีหลังก็น่าน้อยใจจริงๆ นั่นแหละ พิจารณาแล้วแม้ไม่อยากง้อผมก็ต้องง้อ

   “นี่...ฉันให้พวงกุญแจเลยก็ได้นะ”

   บัตรสะสมแต้มเลเวลห้าของคุณคนแรกยังเหลืออีกสามช่อง เท่ากับว่าผมยอมละเว้นชานมให้ตั้งสามแก้ว

   แต่คุณคนแรกไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ แม้จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดไลค์ก็เถอะ

   “นายจะเป็นคนแรกที่ได้พวงกุญแจฮีโร่พิชพิชเวอร์ชั่นหนึ่งไปครอบครองเลยนะ” ผมหยิบพวงกุญแจขึ้นมาแกว่ง น้ำเสียงติดจะอ้อนนิดๆ เหมือนเวลาเจอกับลูกค้าหรือคุยกับแม่ ได้ผล คุณคนแรกหายขมวดคิ้วแล้ว แต่มองพวงกุญแจ...เอ่อ...มองผมอย่างสนใจ

   ผมแกว่งพวงกุญแจแรงขึ้น

   “อยากได้มั้ย อยากได้รึเปล่า”

   “อยาก”

   ผมลอบถอนหายใจ คุณคนแรกหายงอนแล้ว ง้อง่ายเหมือนกันแฮะ

   “อยากได้อย่างอื่น”

   ...ที่แท้ก็ยังพูดไม่จบ!

   “อยากได้อะไร” ผมเก็บฮีโร่พิชพิชผู้ถูกเมิน

   “ไปดูหนังรอบดึกกัน”

   เอ๊ะ เขาชวนเดตใช่มั้ย เอ๊ะ ใช่รึเปล่า คงจะใช่ละมั้ง!

   รู้อยู่แก่ใจแต่ดันถามตัวเองไม่หยุด ผมก็เป็นพวกย้ำคิดย้ำทำแบบนี้ละครับ อย่าสนใจเลย

   “ไม่เอาหนังผีนะ”

   “ได้”

   บทจะชวน บทจะตกลง ก็ง่ายดายปานนี้เลย ผมถึงกับเหม่อมองฟ้า

   “วันนี้ปิดร้านเร็วหน่อย?”

   “ได้”

   นี่ก็รับปากเร็วเกินไปแล้ว ผมอยากจะดึงทึ้งผมตัวเอง ไหนใครที่บอกว่าเล่นตัว ขอแค่ไม่เป็นฝ่ายเปิดปากก่อน ก็แทบจะตกลงไปซะทุกอย่างเลยนะคนเรา

   ได้คำตอบที่น่าพอใจ คุณคนแรกก็ส่งแก้วเปล่าฝากทิ้งตามธรรมเนียม

   เอาน่า คิดในแง่ดีว่าวันนี้เป็นวันเสาร์ โรงเรียนประถมปิด คนเลยค่อนข้างน้อยอยู่แล้ว ร้านชานมผมเปิดทุกวันไม่มีหยุดราชการ ปิดเร็วสักครั้งคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง

   






   คุณคนแรกพาผมไปห้างสรรพสินค้าใกล้ที่พัก แน่นอนว่าพวกเราได้ดูหนังรอบสุดท้ายของโรง กับคำถามที่ว่า...จะดูเรื่องอะไรดี

   เขายกการตัดสินใจให้ผม

   หนังผีตัดออกเป็นอันดับแรก หนังรักโรแมนติกตัดออกมาเป็นอันดับสอง มัน...เขินน่ะครับ ฉะนั้นถ้าให้เซฟสุด คงต้องเลือกหนังตลก

   ผมหยุดมองโปสเตอร์หนังไทยที่เพิ่งเข้าโรง คุ้นๆ ว่าเป็นเรื่องที่กฤตรับบทเป็นตัวประกอบ

   คุณคนแรกเข้าใจผิด คิดว่าผมเลือกแล้ว เดินไปซื้อตั๋วแล้วยื่นให้ด้วยหน้าตายๆ เล่นเอาผมแทบจะอยากตายขึ้นมาเลย!

   การดูหนังกับคนที่คุยกันอยู่ โดยบนจอมีหนังหน้าของแฟนเก่าลอยวนเวียนนั้นเป็นอะไรที่ชวนกระอักกระอ่วนไม่เลว ผมเหลือบมองคุณคนแรกเป็นระยะ มั่นใจว่าเขาต้องจำหน้ากฤตได้ ถ้าเปลี่ยนเป็นผม ชวนคนที่จีบอยู่มาดูหนังครั้งแรกแล้วเจออะไรแบบนี้ คงรู้สึกแย่น่าดู

   แต่เขาดันสนุกกับหนังสุดๆ ไปเลยซะงั้น

   เห็นคุณคนแรกขำไปกับมุกตลกของหนังไทย ผมก็พลอยผ่อนคลาย มือหยิบป็อปคอร์นเข้าปาก เริ่มจดจ่อกับเนื้อเรื่องตรงหน้า ในใจลอบชมว่าแม้จะเป็นภาพยนตร์เรื่องแรก แสดงบทตัวประกอบ แต่กฤตก็ทำได้ดีเกินคาด แฟนเก่าของผมคนนั้นไม่ชอบการแสดง เพราะมีรายละเอียดเยอะ แล้วยังต้องใช้ความจำ ต้องรักษาภาพลักษณ์ไม่ให้ปาร์ตี้หนักเท่าแต่ก่อน เห็นอีกฝ่ายเติบโตไปอีกขั้น ไม่เหลาะแหละแล้ว ผมก็ดีใจด้วย

   เพลินกับหนังไปสักพัก พอเหลือบสายตามาอีกทีก็แทบสะดุ้งเพราะคุณคนแรกดันเป็นฝ่ายมองผมซะงั้น

   ไม่รู้ว่าแอบมองกันนานแค่ไหนแล้ว จะเท่ากับที่ผมเหล่เขาในช่วงครึ่งเรื่องแรกรึเปล่าก็ไม่มั่นใจ แต่ท่าทางนั้นยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิด เมื่อกี้ตอนกฤตออก ผมยิ้มกว้างไปมั้ยนะ แสดงชัดว่าชื่นชมรึเปล่า คุณคนแรกจะเข้าใจผิดมั้ยเนี่ย

   เมื่อกล่องป็อปคอร์นซึ่งกั้นกลางระหว่างเราว่างเปล่า ผมเลยหยิบมาวางบนตัก แล้ววางมือหงายออกอยู่ตรงที่เท้าแขน

   คุณคนแรกตอบสนองช้ากว่าที่คิดนิดหน่อย แต่สุดท้ายเขาก็วางมือทาบทับลงมา ค่อยๆ ประสานนิ้วเชื่องช้า ไม่น่าเชื่อว่าการกระทำที่เรียบง่ายนี้จะทำให้ความเชื่อมั่นย้อนคืนมา ความกระวนกระวาย กลัวอีกคนคิดมาก หรือความสับสน กลัวอีกคนยังตัดใจไม่ขาด ถูกลบเลือนในเสี้ยวนาทีนั้น พวกเราสองคนดูหนังอย่างสนุกสนานจริงๆ

   จนออกจากโรงนั่นแหละ

   ผมถึงเพิ่งตระหนักรู้ว่าเป็นครั้งแรกที่พวกเราจับมือแบบประสานนิ้วแนบแน่นขนาดนี้

   ปกติเวลาเราเดินจับมือ จะเป็นแค่การทาบมือจับหมับ พอเดินออกจากโรงผมเลยยุกยิกนิดหน่อย ซึ่งสุดท้ายคุณคนแรกก็ค่อยๆ ถอดนิ้วออก แล้วเปลี่ยนมาจับมือแบบธรรมดาแทน

   หนังเลิกตอนสามทุ่มครึ่ง ห้างปิดแล้ว ทุกอย่างมืดสนิท มีเพียงแสงไฟสลัวนำไปลานจอดรถ ก็ไม่รู้นะว่าเขินอะไร คนที่มาดูหนังรอบดึกด้วยไม่ได้มีเยอะแยะ แถมแต่ละคนก็ใช่ว่าจะสนใจกัน แต่คนมันเขิน ช่วยไม่ได้จริงๆ ครับ

   ผมชอบความเงียบเวลาอยู่กับคุณคนแรกเสมอ มันอบอวล ชวนอุ่นใจ อย่างที่ไม่เคยเกิดกับใคร เขาทำให้คนไม่ชอบอยู่นิ่งอย่างผมสงบได้ และมันก็เป็นความรู้สึกที่ดี

   เมื่อกลับถึงห้อง ผมก็เปิดโทรศัพท์ โพสแรกที่เด้งขึ้นมาคือภาพของกฤตที่กล่าวขอบคุณสำหรับยอดหนังทำเงินทะลุล้านแรก ผมกดไลค์ คอมเมนต์แสดงความยินดีด้วย

   กฤตคอมเมนต์ตอบว่าขอบคุณ

   กับแฟนเก่าก็แค่เท่านี้ ผมเปลี่ยนไปเปิดหน้าเพจร้านชานมตัวเอง คิดว่าจะทำยังไงให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ถ้าจะลองซื้อโฆษณา ควรจะซื้อโพสไหนดีล่ะ

   ให้ออกไอเดียน่ะทำได้ แต่พอต้องทำการตลาดจริงจังขึ้นมาไม่ค่อยสันทัดเท่าไหร่ ผมนั่งเกยคางกับเตียง ครุ่นคิดว่าจะทำยังไงดีนะ สุดท้ายก็ลองเข้าเพจร้านชานม JOY ศึกษาวิชาว่าเขาโพสยังไง ดึงลูกค้าแบบไหน และส่วนใหญ่ใครเป็นคนโต้ตอบบ้าง

   ส่องเพลินจนตาใกล้ปิด ผมก็อาบน้ำเตรียมนอน ขนาดฝันยังเป็นภาพชานม

   โดยไม่รู้เลยว่า...พรุ่งนี้จะมีพายุทอนาโดรออยู่!


   ----------

   

         "เขาทำให้คนไม่ชอบอยู่นิ่งอย่างผมสงบได้ และมันก็เป็นความรู้สึกที่ดี"

   ^ เราชอบประโยคนี้มากค่ะ สื่อความสัมพันธ์ของทั้งคู่ได้ดีมากๆ เลย เป็นความเรียบง่ายแต่ตรงตัว

   เรื่องนี้เราตั้งใจแต่งแบบน่ารัก หวานๆ รสชาติแบบชานมไข่มุก

   ฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่าไม่มาม่าหนัก และไม่ลากเรื่องยาว เราเน้นที่ความเนียนค่อยๆ จีบของคุณคนแรกและการเติบโตของพิชญ์ค่ะ

   

    #ผมกับชานมไข่มุก

   

เพจ : มาจะกล่าวบทไป
Twitter : MajaYnaja

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
          พายุอะไรคะ

 รออ่านตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
วั๊ยๆๆถึงขั้นเนียมหอมแก้มกันแล้ว  ว่าแต่รู้จักชื่อคุณคนแรกหรือยังนะ    :hao3:

ทอนาโดลูกใหญ่ป่ะ กลัวจัง  :hao4:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เอาจะหมี่เหลืองอะไรอีก

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'


ตอนที่ 16 : คลิปหลุด




   เช้าที่แสนสดใส ผมยืนรอคุณคนแรกมารับด้วยจิตใจสุขสงบ ก่อนจะถูกทำลายเมื่อสายเรียกเข้าก็ดังขึ้น

   แม้จะไม่ใช่เบอร์ที่บันทึกไว้ แต่ผมไม่ลืมตัวเลขสิบหลักที่เคยโทรหาและรับสายตลอดสองปี

   กฤต!

   (( พิชญ์ทำอะไรลงไป!! ))

   “ห๊ะ” ผมที่ยืนเคี้ยวหมูปิ้งเพลินๆ เกือบจะสำลักเข้าให้แล้ว “นายพูดอะไร ฉันไปทำอะไร”

   (( ก็เรื่องคลิปไง!! ))

   นานครั้งจะได้ยินกฤตตะโกนดังขนาดนี้ เขาโมโหมาก และเป็นการโมโหแบบไม่ใช่หึงจนสติแตกด้วย

   “คลิปอะไร”

   (( ก็คลิป...ที่พิชญ์ถ่าย ))

   กฤตเอ่ยเสียงเครือ คล้ายกำลังจะร้องไห้ อะไรกันเนี่ย โกรธแล้วร้องไห้ต่อเนี่ยนะ

   “ใจเย็นๆ นะกฤต ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอออกตัวก่อนว่าฉันไม่ได้เป็นคนทำ” ผมงงไปหมดแล้ว ถึงอย่างนั้นก็แสดงความบริสุทธิ์ใจไว้ก่อน

   (( แต่คลิปนั้นพิชญ์เป็นคนถ่าย!! ))

   ต่อจากโกรธ ร้องไห้ ก็คือความเกรี้ยวกราด ขี้หูผมแทบเต้นระบำกับเสียงตวาดของกฤต ผมกดพักสายชั่วคราว เปิดเข้าหน้าเพจของกฤต พบว่ามีคนพูดเรื่องคลิปอะไรก็ไม่รู้เต็มหมด เลยลองเสิร์ชหาดู แล้วก็เจอกับเวปเถื่อนที่ปล่อยคลิปสยิว...จั่วหัวดักว่า ‘คลิปฉาว! พระเอกดาวรุ่งหน้าใหม่เอากับเพศเดียวกัน’

   ถึงตอนนี้ผมก็เริ่มมือสั่น เดาออกว่าเป็นคลิปอะไร

   เปิดดูแค่สามวินาทีก็กดออกแทบไม่ทัน ชัดแล้ว คลิปนั้นคือคลิปตอนกฤตนอกกายผมไปมีอะไรกับชายชู้!

   จะเรียกชายชู้มั้ยก็ไม่เชิง เพราะเป็นแค่การหลับนอนคืนเดียวแล้วแยกย้าย ถึงอย่างนั้นผมก็พร้อมจะสลัดเขาทิ้งทันที ความรู้สึกของการเห็นคนรักกำลังทำรักกับคนอื่น ไม่ใช่อะไรที่น่าปลื้มปิตินักหรอก

   รู้ว่าอะไรเป็นอะไรผมก็สูดหายใจเข้าลึก พอดีกับคุณคนแรกที่ขับมารับพอดี

   “เป็นอะไร” เขาเห็นผมหน้าซีดมือสั่นก็ชิงถามก่อนเลย

   “เรื่องมันยาว” ผมขึ้นมอเตอร์ไซค์คุณคนแรก ต่อหูฟังแล้วรับหมวกกันน็อกมาสวม จากนั้นก็กดเปิดสายกฤตที่พักไว้ ช่วงเวลาที่หายไป กฤตคงจะร้อนใจและด่ากราด เดาจากเสียงตะโกนว๊ากๆ ที่เริ่มจะแหบแห้งภายในเวลาไม่กี่นาที

   (( พิชญ์! ยังฟังอยู่มั้ย!!! ))

   “ฉันยังฟังอยู่” ผมพยายามจะระงับอารมณ์ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเหลือเชื่อเกินไป “ถึงจะเชื่อยากไปหน่อย แต่ฉันยืนยัน ฉันไม่ได้ทำ ไม่ได้เป็นคนปล่อยคลิป”

   (( แต่นายเป็นคนถ่าย!! ))

   ผมไม่มั่นใจว่าเสียงตะโกนทะลุแก้วหูนั้นดังไกลไปถึงคุณคนแรกรึเปล่า

   “ฉันเป็นคนถ่าย” แต่ถึงเสียงกฤตจะดังไม่ถึง เสียงผมน่ะได้ยินชัดแน่นอน “แต่หลังบอกเลิกฉันก็ลบทิ้ง คลิปบาดตาแบบนี้ใครจะบ้าเก็บไว้ดูเล่น ฉันรู้สึกแย่จนลบคลิปเสร็จก็เอาโทรศัพท์ไปขายทิ้งเลยนะ”

   กฤตเงียบไปวูบหนึ่ง เขาย่อมจำได้ว่าผมขายโทรศัพท์เครื่องเดิมไปแล้ว แต่เขาคงคาดไม่ถึงว่าผมจะเอาไปขายทิ้งด้วยเหตุผลว่าเขาเป็นต้นเหตุ

   (( งั้นจะเป็นใครได้ล่ะ ))

   น้ำเสียงของกฤตฟังสิ้นหวังมาก

   “ฉันส่งให้นาย นายคงไม่ได้เผลอให้ใครเห็นใช่มั้ย”

   (( เราก็ลบทิ้งแล้วเหมือนกัน ไม่มีใครเคยเห็นแน่นอน ))

   “ถ้างั้นก็เหลือคนเดียว” ผมเอ่ย ด้วยสีหน้าฝืนทน แบบที่ไม่อยากจะเชื่อตัวเองว่าจะต้องซัดทอดถึงคนคนนี้

   (( ใคร ))

   “ภูมิ” ผมหลับตา พิงหน้าซบกับแผ่นหลังของคุณคนแรก “วันนั้น...หลังถ่ายคลิปเสร็จ ฉันส่งไปให้นาย แล้วก็ส่งไปให้ภูมิ”

   อย่าลืมสิว่าภูมิเป็นเพื่อนรักผม

   “ภูมิสนับสนุนให้ฉันคบกับนายมาตลอด ถ้าจู่ๆ บอกเลิก เขาต้องมาถามแน่ ฉันไม่อยากอธิบาย ไม่อยากพูดถึง ก็เลยส่งคลิปนั้นไป...”

   จะโทษว่าผมคิดน้อยก็ได้ แต่พวกคุณครับ ใครเลยจะเชื่อว่าวันหนึ่งกฤตจะผันตัวเป็นดารา และใครเลยจะเชื่อว่าภูมิจะบ้าขนาดเอาคลิปโพสลงโซเชียล

   เขาทำไปเพื่ออะไร

   คำตอบนั้น...เกรงว่าจะเดาได้ไม่ยาก

   “ขอโทษนะกฤต”

   เจ้าของชื่อพูดอะไรไม่ออก เป็นสถานการณ์ที่หาคนโทษยาก ผมส่งคลิปให้เพื่อนรัก ก็สมเหตุสมผลดีไม่ใช่เหรอ และคลิปนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าเขาไม่นอกกายผมก่อน

   กฤตตัดสายทันที

   ความสัมพันธ์กับแฟนเก่ารอบนี้น่าจะย่ำแย่ที่สุด

   ผมโทรหาภูมิต่อ

   แน่นอนว่าเขาปิดเครื่อง

   ไม่ได้การแล้ว ผมกระตุกเสื้อคุณคนแรกหลายทีจนเขาแวะจอดข้างทาง

   “ขอโทษนะ แต่วันนี้ฉันคงปิดร้าน นายไปก่อนเถอะ” แม้จะไม่ใช่คนปล่อยคลิป แต่ผมก็มีส่วน คงอยู่เฉยไม่ได้หรอก โชคดีที่วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ลูกค้าน้อยกว่าวันเสาร์อีก

   “จะไปไหน”

   ผมอึกอัก จะบอกได้ยังไงล่ะว่าไปบ้านของภูมิ

   ไม่รู้ว่าไอ้ที่พูดอธิบายกับกฤตนั้นเขาจับใจความได้แค่ไหน เพราะคุณคนแรกน่าจะยังไม่เห็นคลิป

   “เดี๋ยวไปส่ง”

   “จะดีเหรอ” ผมเกรงใจ เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาเลย

   “รีบไม่ใช่เหรอ เร็วสิ”

   กลายเป็นโดนเขาเร่งซะงั้น ผมบอกที่อยู่ของภูมิ คุณคนแรกก็ขับมอเตอร์ไซค์ทันที ความเร็วนั้นเล่นเอาต้องกอดเอวเขาแน่น หลับตาปี๋ ร้องโอดครวญในใจ

   โอย ถึงจะรีบก็ไม่ต้องบิดคันเร่งขนาดนี้ก็ได้!

   




   บ้านของภูมิเป็นตึกแถวราคาปานกลาง

   ชั้นแรกเปิดร้านขายอุปกรณ์กีฬาที่พ่อของเขาดูแล ข้างหน้าเป็นร้านข้าวแกงที่แม่ของภูมิทำเองกับมือ ไปถึงผมก็ยกมือไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งสองท่าน ก่อนจะถามหาไอ้เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดทันทีโดยไม่คิดเกริ่นให้มากความ

   พ่อกับแม่ภูมิน่ะชินแล้วกับการที่ผมกับภูมิไปไหนมาไหนด้วยกัน โดยขี้เกียจถามว่าไปทำอะไร เพราะแต่ละครั้งแทบจะได้คำตอบไม่ซ้ำกันเลย

   “อ้าว ภูมิไม่ได้ไปกับพิชญ์เหรอ เห็นมันเก็บของไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว นึกว่าไปค้างกับพิชญ์ซะอีก”

   พ่อแม่ของภูมิยังไม่รู้ว่าผมเปิดร้านชานมไข่มุก คงยังคิดว่าแม้เรียนจบแล้ว แต่ผมยังเที่ยวเล่นเป็นบ้าเป็นบอกับลูกชายของพวกเขา

   “ภูมิไม่ได้มากับผมนะครับ”

   “งั้นพ่อก็ไม่รู้แล้วล่ะ เจ้านั่นมาถึงก็บอกว่าจะค้างที่อื่นสักหลายวัน แล้วก็หายหัวไปเลย”

   เป็นคำตอบที่...ไม่ผิดจากที่คิดเท่าไหร่ ถ้ามันอยู่ก็นับว่ากล้ามาก เพราะภูมิน่าจะรู้อยู่แล้วว่าหากคลิปถูกเผย ผมต้องโดนกฤตสงสัย และผมจะรู้ตัวการได้ไม่ยาก ในเมื่อคนที่มีคลิปในครอบครองมีแค่สามคนเท่านั้น

   และสิ่งแรกที่ผมทำเมื่อเห็นหน้ามันคืออะไรน่ะเหรอ

   ไม่พ้นต่อยซ้ายต่อยขวา อัดสักยกแล้วค่อยคุย!!

   “พอเดาได้มั้ยครับว่าภูมิไปค้างที่ไหน”

   “ไม่รู้หรอก ปกติเราสองคนตัวติดกันจะตายไม่ใช่เหรอ ถ้าพิชญ์ไม่รู้ พ่อก็ไม่รู้แล้ว”

   ขอย้ำอีกครั้ง ในสายตาคนนอก ทุกคนเข้าใจว่าผมกับภูมิเป็นเพื่อนรักกัน

   แต่ถ้าขยายความสักนิด จะพบว่าภูมิเป็นฝ่ายตามพบ เกาะติดผม ฉะนั้นเมื่ออยู่ในจุดที่ถามว่าแล้วไอ้ภูมิอยู่ไหน สมองผมพลันว่างเปล่า นึกอะไรไม่ออกเลย

   มาเสียเที่ยวจนได้

   ผมเข้าเฟซไอ้ภูมิ พบว่ามันลบทิ้งไปเรียบร้อย นี่มันจงใจหนีความผิดชัดๆ แล้วผมทำอะไรได้มั้ย ก็ไม่ได้ไง

   เจ็บใจชะมัด!

   “กลับกันเถอะ” ผมหันพูดกับคุณคนแรกด้วยน้ำเสียงติดหงุดหงิด เคืองตัวเองที่เพิ่งมารู้ตัวว่า...ผมแทบจะไม่รู้จักเพื่อนคนนี้เลยนอกจากมันติดการพนัน และชอบยืมเงินกันเป็นว่าเล่น นี่สินะ ผลเสียของการถูกตามใจจนเคยตัว แต่ไหนแต่ไร ผมเป็นฝ่ายนั่งเฉยๆ รอให้คนอื่นเข้าหาตลอด พอมาถึงจุดที่ต้องเป็นฝ่ายตามหาบ้าง บอกตรงๆ...หัวโล่งมาก!

   “อย่าหน้างอสิ” คุณคนแรกใช้นิ้วโป้งลูบแก้มผมเบาๆ

   “คำขอนี้ยากจังเลย”

   คุณคนแรกเปลี่ยนมาลูบหัวผม พลันอารมณ์สงบลงมานิดหน่อย และพอกลับมาถึงหน้าร้านชานมไข่มุกตอนแปดโมง เงาร่างสูงโปร่งคุ้นตาก็ทำให้ผมอยากจะขยี้หัวให้ยุ่งกระเซิง

   กฤต!

   “พิชญ์!!” กฤตไม่พูดพร่ำทำเพลง เห็นผมปุ๊บก็ไม่รอให้ลงจากรถมอเตอร์ไซค์ดี ปราดเข้ามาด้วยสีหน้าหาเรื่องแบบหัวร้อนเต็มที่ คุณคนแรกเห็นท่าไม่ดี เตรียมยกแขนขึ้นบัง แต่ขอโทษนะครับ ผมยกเท้าถีบเปรี้ยงเข้ากลางอกฤตที่โผมาแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ

   กฤตผงะถอยไปหลายก้าว เห็นผมเดินลงจากรถมอเตอร์ไซค์โดยที่ยังไม่ถอดหมวกกันน็อก ดัดนิ้วกำหมัดพร้อมลุย ก็เพิ่งได้สติว่าแม้ผมจะตัวเล็กกว่าเขา ผอมเพรียวปลิวลม แต่ก็เคยเรียนศิลปะการต่อสู้หลายแขนง แม้จะไม่ถึงขั้นสำเร็จวิชาสูงสุด แต่ก็เพียงพอสำหรับเตะต่อยคนธรรมดา

   คนโกรธจนคลั่งถอยหลังชิดประตูเหล็กม้วนร้านผมทันควัน อีกนิดแทบจะยกมือไหว้

   “พิชญ์ เดี๋ยว ใจเย็นนะ”

   “นายนั่นแหละที่ต้องใจเย็น” เห็นเขามีอารมณ์คุยกันดีๆ ภาษาคน ผมก็ถอดหมวกกันน็อกส่งคืนให้คุณคนแรก...ซึ่ง...มองผมด้วยสายตาประหลาดใจสุดขีด ตายละไอ้พิชญ์ จีบกันมาเกือบสองเดือน เผยแต่มุมน่ารักอ่อนหวาน(?) เจอมาดนี้เข้าไป คุณคนแรกคงไม่ปอดแหกวิ่งหนีไปหรอกนะ

   ผมเหลือบมองคนที่กำลังศึกษาดูใจอย่างกังวลเล็กน้อย เห็นคุณคนแรกยังไม่ไปไหน ก็พอจะใจชื้นขึ้นมาบ้าง

   “ใจเย็นรึยังกฤต ถ้าเย็นแล้วก็คุยกันดีๆ อย่าใช้กำลัง”

   “ครับ” กฤตกลืนน้ำลายก่อนตอบ และนั่นทำให้ผมเพิ่งสังเกตว่าทำหน้าโทรมอย่าบอกใคร เหมือนเพิ่งร้องไห้มา สภาพสิ้นหวัง หมดหนทาง ความสงสารพลันกัดกินขึ้นมาในใจ

   “เราแค่อยากจะถามพิชญ์ว่า...ภูมิอยู่ไหน เราติดต่อไม่ได้เลย”

   “มันปิดเครื่อง ปิดช่องทางการติดต่อทุกทาง นี่ฉันก็เพิ่งไปบ้านมันมา แต่ไอ้ภูมิไม่อยู่บ้าน เก็บข้าวของหนีหายไปไหนไม่รู้”

   “เชี่ย!”

   “ฉันจะพยายามหาตัวภูมิให้ แต่นายก็รู้ใช่มั้ย ว่าถึงหาเจอ...คลิปนั้นก็ถูกปล่อยไปแล้ว”

   “รู้สิ! เพราะรู้ ถึงได้อยากหาตัวคนทำ!!! เพราะเราทำอะไรอย่างอื่นไม่ได้แล้ว!!!!” กฤตตะโกนเสียงดังลั่น ทำให้คุณยายร้านปักเสื้อชะโงกหน้ามาดู

   ผมรีบยิ้มประจบว่าไม่เป็นอะไร คุณยายเองก็ทำสัญลักษณ์โอเค มองระหว่างกฤตกับคุณคนแรกด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย น่าจะเข้าใจผิดแล้วว่าผมกำลังมีปัญหารักสามเส้า...

   “ฉันขอโทษ”

   “ไม่ พิชญ์ นายไม่ผิด แต่เพราะ...เพราะ...แม่งเอ๊ย!!” กฤตตวาดอย่างหัวเสีย ก่อนจะเตะใส่ประตูเหล็กม้วนของผมดังโครม แน่นอนว่าประตูไม่สะดุ้งสะเทือน แต่กฤตลงไปกุมเท้าเจ็บมาก

   ผมละไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

   “นายกลับไปก่อนเถอะ อยู่ตรงนี้นานๆ ใช่ว่าจะดี” ผมเอ่ย เพราะเสียงตะโกนของกฤตทำให้ร้านค้าแถวนี้เริ่มชะโงกหน้าดู แม้คุณยายจะถอนตัว แต่ใช่ว่าร้านถ่ายเอกสาร ร้านอาหารตามสั่ง และลูกค้าบางส่วนที่ต่อแถวร้านชานมไข่มุกตรงหน้าปากซอยจะมองผ่าน แม้เขาจะเป็นดาราหน้าใหม่ ไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่เกรงว่าในตอนนี้...คงไม่มีใครไม่รู้จักกฤตแล้วละมั้ง

   ในฐานะพระเอกหนังโป๊

   กฤตรีบสวมผ้าปิดปากทันที เขายังฟึดฟัดโมโห แต่ไม่รู้จะเอาไปลงกับใคร ตัวการก็หนีหาย จะโทษผมก็ไม่ได้อีก

   “ถ้าเจอภูมิแล้วบอกด้วยนะ”

   “อืม”

   นี่แหละครับผมกับแฟนเก่า

   ไม่ต่อยกันตายก็บุญโขแล้ว

   กฤตเดินออกไปหน้าปากซอยแล้วเรียกแท็กซี่ ส่วนผมเปิดร้านชานมตามปกติ คุณคนแรกเองก็ยังยืนอยู่ที่เดิม เพิ่มเติมคือลงจากรถมอเตอร์ไซค์ที่ลากไปจอดริมทางแล้ว

   ผมตัวเกร็งนิดหน่อย ถ้าเขาถามว่าเกิดอะไรขึ้น เรื่องยาวละทีนี้ ใช่ว่าอยากปกปิด แต่ผม...ไม่รู้จะเล่ายังไง ผมเล่าเรื่องส่วนตัวไม่เก่งน่ะครับ

   “ลูกถีบสวยนะ”

   แต่คุณคนแรกยังอ่านอารมณ์เก่งเหมือนเดิม

   “ขอบคุณ”

   “ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอก” คุณคนแรกทำท่าโทรศัพท์ “อยากไปไหนก็โทรมา คิดซะว่าเป็นไลน์แมน”

   คนกวนหน้าตายก็ดีแบบนี้ อย่างน้อยก็ทำให้ผมยิ้มออกในสถานการณ์ที่ไม่ควรจะยิ้มได้

   “ขอบคุณ...ฉันหมายถึง ขอบคุณมาก มาก”

   ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ ขอบคุณที่ไม่ถามซอกแซก ขอบคุณที่ยังอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน

   “ยินดีเสมอ”


   -------------------

   

   ตอนนี้ก็เผยมุมอีกด้านของพิชญ์นะคะ สมกับที่เรียนมาเยอะ จนทุกคนหัวหมุนตามไม่ทัน ตอนวัยรุ่นพิชญ์นี่แสบจริงๆ ขอย้ำค่ะ

   แต่ถึงแสบแค่ไหน พออยู่กับคุณคนแรก ก็กลายเป็นคนน่ารักๆ ขี้เขินคนนึงเนอะ

   

   

   #ผมกับชานมไข่มุก

   

เพจ : มาจะกล่าวบทไป
Twitter : MajaYnaja

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
คุณ​คน​แรก​คงจะตะลึง​

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ KizzllKizz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ภูมิทำไปเพื่ออะไรน่ะ

ออฟไลน์ JanTi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
อ้าวภูมิ ทำแบบนี้ทำไมอ่ะ ขายข่าวเอาเงินหรอ

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ภูมิคงรู้ว่าจะมาขอเงินพิชญ์ไม่ได้แล้ว เลยขายคลิปเพื่อเอาเงินไปล้างหนี้ล่ะมั้ง.  :hao4:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
         ภมิถ้าทำไปเพราะร้อนเงินจนขายอนาคตคนๆ
หนึ่งได้นี่นะชั่วมาก

ออฟไลน์ ρℓuto

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ไม่ใช่ว่าภูมิกับกฤตมีซัมติงกันแล้วมาแค้นทีหลังงี้นะ

ออฟไลน์ Stiiiii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เพื่อนรักเพื่อนร้าย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด