ภายในห้องน้ำของบ้านพักริมชายหาดหลังผ่านความวุ่นวายในช่วงเช้า มีหนึ่งมนุษย์และปีศาจกำลังนั่งแช่อาบน้ำในอ่างเดียวกัน โดยมนุษย์เอนพิงแผงอกแกร่งของปีศาจที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง ซึ่งบัดนี้เอทอสได้แปลงกลับสู่รูปลักษณ์มนุษย์ปกติ เหตุเพราะรำคาญว่าต้องคอยระวังกรงเล็บคมจะบาดผิวขาวของมนุษย์
คำสาปช่วยสมานแผลบนมือโนอาร์ก็ดีอยู่หรอก แต่มันลบรอยที่ข้าทำเมื่อคืนไปด้วยเสียหมด ทำดีเกินหน้าที่จนน่าหงุดหงิดเสียจริง หากไม่มีสัญลักษณ์ครองคู่เป็นหลักฐาน เรื่องที่โนอาร์ตกเป็นเมียข้าแล้วคงเผลอคิดว่าเป็นแค่ฝันไป โนอาร์ได้แต่นั่งนิ่งเมื่อถ้อยเสียงทุ้มต่ำอบอุ่นดังก้องในความคิด ผสานความรู้สึกวูบวาบยามริมฝีปากร้อนของปีศาจพรมจูบขบเม้มบริเวณหลังคอเขาเล่นไปพลางระหว่างแช่อ่าง เจ้าชายน้ำแข็งเยือกเย็นก็คล้ายรู้สึกว่าตัวเขากำลังละลายอยู่ในอ้อมอกกว้างแข็งแรงของปีศาจ ซึ่งทั้งหมดมีสาเหตุจากเรื่องแปลกประหลาดตั้งแต่เขาตื่นขึ้นมา เขากลับได้ยินเสียงความคิดของปีศาจดังอยู่ในหัว บางความคิดก็เป็นการนินทาเขาแบบไม่เหลือดี แต่บางความคิดก็หยาบโลนเสียจนเขารู้สึกว่าผิวแก้มตัวเองกำลังร้อนผ่าว และนั่นทำให้มนุษย์ยังคงเงียบไม่คิดเล่าความผิดแผกนี้ให้ปีศาจทราบเพราะว่า
อยากลอบฟังความคิดเอทอสแบบนี้เรื่อยไป
สนุกมากไหมกับการแอบฟังความคิดข้า เจ้านี้ไม่มีความละอายเลยจริง ๆ “คุณ!” มนุษย์ผู้กำลังหลับตาพริ้มรับสัมผัสจูบตรงหลังคอพลางฟังความคิดปีศาจ เผลอหลุดท่าทีสะดุ้งเสี้ยวจังหวะหนึ่ง เมื่ออยู่ ๆ เสียงความคิดปีศาจก็เปลี่ยนเป็นการเหน็บแนมรู้ทันเขาโดยตรง
“มีอะไร ไม่ฟังความคิดข้าต่อแล้วหรือไง”
เสียงทุ้มหนักจากร่างสูงใหญ่ด้านหลังถามกลับต่อจากความคิด ส่งผลให้โนอาร์ต้องหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้าปีศาจ ซึ่งก็พบรอยยิ้มเยาะมากเล่ห์พร้อมนัยน์ตาดุสีอำพันแทะโลมกำลังจ้องมองเขาอยู่
“เอทอส คุณรู้ว่าผมแอบฟังความคิดคุณได้ตั้งแต่เมื่อไร”
“เจ้าฟังความคิดข้าเมื่อไรก็เมื่อนั้น แล้วเจ้าไม่คิดจะแปลกใจสงสัยเลย?” ปีศาจแกล้งตอบอย่างยียวน ก่อนเอ่ยถามมนุษย์กลับ
“ทีแรกก็สงสัยครับ แต่ผมจำได้ว่าอนันต์กับฟอเรสผู้มีพระคุณของคุณ ก็ทำแบบนี้ได้เหมือนกัน น่าจะเป็นเพราะพลังจากสัญลักษณ์ครองคู่ของปีศาจ”
โนอาร์อธิบายตามข้อสันนิษฐานของตนเอง พลางใช้ฝ่ามือขาวลูบผ่านมัดกล้ามบนแผงอกแกร่งสีแทน ตำแหน่งเดียวกับที่มีสัญลักษณ์รูปเปลวเพลิงปรากฏ ซึ่งความฉลาดของมนุษย์ทำให้เอทอสนึกเอ่ยชมภรรยารักของตนอยู่ในใจ ทว่าปีศาจกลับเผลอลืมว่าตอนนี้มนุษย์ยังฟังความคิดเขาได้อยู่ ดังนั้นวินาทีถัดมาบนใบหน้าขาวเรียบนิ่งจึงปรากฏรอยยิ้มมุมปากภูมิใจรับคำชม และเป็นร่างสูงใหญ่เองที่ต้องเอ่ยพูดขัดแก้เขิน
“อืม ก็อย่างที่เจ้าคิด ผลของสัญลักษณ์ครองคู่ทำให้เจ้ากับข้าสื่อสารกันได้โดยไม่ต้องใช้คำพูด ขอเพียงแค่ได้สัมผัสถูกตัวกัน แม้จะตายจากก็สามารถพูดคุยกันได้”
“…”
“เพราะเผ่าพันธุ์ปีศาจมีอายุขัยที่ยืนยาวหลายร้อยปี หากระหว่างนั้นคู่ครองเกิดเป็นอะไรไปก่อน พลังวิเศษนี้จะช่วยให้ยังคงรับรู้ถึงกันและกัน ฝ่ายที่อยู่ต่อจะได้ไม่ต้องฝืนทนใช้ชีวิตอย่างเดียวดาย”
เอทอสเล่าถึงเหตุผลที่มาของพลังก่อนจะเพิ่งสังเกตว่าโนอาร์นิ่งเงียบ เช่นนั้นฝ่ามือหนาอบอุ่นจึงยกขึ้นลูบผิวแก้มขาวของมนุษย์คล้ายต้องการปลอบประโลม ความอ่อนโยนของปีศาจช่วยปัดเป่าคลายความรู้สึกหน่วงลึกให้จางหาย และหลังได้รับการเยียวยา โนอาร์จึงขยับซุกหน้าคลอเคลียฝ่ามือใหญ่พร้อมเหลือบมองส่งสายตายั่วเย้า พลางเปลี่ยนหัวข้อพูดคุยเป็นเรื่องอื่นเพื่อหลีกหนีความจริงที่ไม่อยากนึกถึง
“จากความฝันเหมือนว่าฟอเรสจะยังมีชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่ง คุณพาผมไปทักทายพวกเขาได้ไหม”
“ได้ แต่ทำไมอยู่ ๆ เจ้าถึงอยากไปหาผู้มีพระคุณข้า” เอทอสถามกลับด้วยความสงสัยระคนระแวงคู่ครอง ทว่าคำตอบของโนอาร์กลับทลายความกังวลปีศาจอย่างหมดสิ้น
“ปกติคู่รักมนุษย์เมื่อมั่นใจจะพาคนรักไปแนะนำกับครอบครัว แต่ผมตัวคนเดียว ที่สำคัญคือเป็นเมียคุณแล้ว ถ้ามีโอกาสผมเลยอยากไปฝากเนื้อฝากตัวเป็นหลานสะใภ้กับผู้มีพระคุณของคุณบ้างน่ะครับ”
“ดูเหมือนเจ้าจะภูมิใจที่ได้เป็นเมียข้าเสียจริง ถูกใจอะไรในตัวข้าขนาดนั้น”
ร่างสูงใหญ่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงติดพร่า พลางใช้แขนแกร่งโอบดึงมนุษย์เบื้องหน้าเข้าตัวแนบชิด พร้อมนัยน์ตาสีอำพันดุที่ค่อยกลับเป็นสีแดงเลือดนกร้ายลึกอีกครา
“ทุกอย่างที่เป็นคุณ เอทอส โดยเฉพาะคุณเมื่อคืนผมยิ่งหลงรักจนโงหัวไม่ขึ้น ไม่รู้จะพูดอธิบายยังไงแล้ว”
“งั้นทำไมไม่ลองให้ร่างกายเจ้าพูดแทนล่ะ เพื่อข้าจะได้เข้าใจมากขึ้น”
ปีศาจเอ่ยหยอกเย้าด้วยน้ำเสียงทุ้มพร่า ท่อนแขนแข็งแรงที่โอบเอวมนุษย์ออกแรงอุ้มยกร่างขาวลอยสูงจากหน้าตักแกร่งเล็กน้อย ก่อนจะคลายแรงปล่อยให้อีกฝ่ายนั่งลงตามเดิม ทว่าคราวนี้กลับต่างไป เมื่อขณะหย่อนกายลงนั่งโนอาร์สัมผัสถึงส่วนร้อนแข็งขืนของบางสิ่งใต้ร่าง กำลังดุนดันสะกิดทิ่มตรงปากทางรักของเขาคล้ายอยากเข้าไปท่องเที่ยวสำรวจ ผสานนัยน์ตารัตติกาลที่เผลอสบนัยน์ตาดุสีแดงเลือดนกวาววามมากเล่ห์ โนอาร์ก็พลันรู้ทันทีว่าเอทอสอยากให้เขาอธิบายคำว่า ‘หลงรักจนโงหัวไม่ขึ้น’ ด้วยวิธีใด
ไม่นานหลังจากนั้นอุณหภูมิภายในห้องน้ำของบ้านพักริมชายหาดก็พลันสูงขึ้นอย่างประหลาด โดยมีเสียงครวญครางหวานดังสอดประสานไปกับเสียงกระทบเนื้อดุดันหยาบโลน เป็นการเผยสาเหตุต้นตอที่ทำให้บรรยากาศเย็นสบายในห้องน้ำ พลิกผันกลับกลายเป็นความร้อนแรงแทบหลอมละลาย
รถกระบะสีดำขับกลับถึงบ้านพักทรงไทยประยุกต์ในยามบ่ายแก่ ขณะนำรถขับเข้าจอดใต้ถุนบ้านนัยน์ตารัตติกาลของโนอาร์พลันเห็นเด็กหนุ่มวัยรุ่นกำลังขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์คู่ใจ ทว่าเมื่ออีกฝ่ายเห็นพวกเขากลับรีบลงจากมอเตอร์ไซค์แล้วมายืนรอคอยต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ซึ่งนั้นทำให้สองเจ้าบ้านที่เพิ่งกลับมาจากฮันนีมูนรู้ทันทีว่า ความสุขสงบเงียบของบ้านพักทรงไทยประยุกต์กำลังจะหมดไป
“สวัสดีครับอาเอทอส พี่โนอาร์ ผมเพิ่งทำความสะอาดบ้านเสร็จกำลังจะกลับพอดีเลย ถ้าผมดันไปเร็วกว่านี้คงคลาดกันเสียดายแย่ แล้วนี่อาเอทอสกับพี่โนอาร์ไปซื้อของกันเหรอครับ มีอะไรให้ผมช่วยถือไหม”
นาวาส่งเสียงทักทายเจื้อยแจ้วพร้อมคาดการณ์ทึกทักเอาเองเสร็จสรรพ ทว่าคำพูดเมื่อครู่ของเด็กหนุ่มกลับเตือนความจำโนอาร์ได้เป็นอย่างดีถึงเรื่องสำคัญที่หลงลืม ซึ่งนั่นทำให้ชายเลือดเย็นเริ่มมีทีท่ากระสับกระส่ายเล็กน้อย ร่างสูงใหญ่ข้างกายที่จับสังเกตเห็นจึงรีบเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เพราะคิดว่าสาเหตุอาจเกิดจากความเอาแต่ใจของเขาเมื่อครั้งอาบน้ำด้วยกันในบ้านพักริมหาด จนทำให้มนุษย์รู้สึกเป็นไข้ตัวร้อน
“ไม่สบายหรือเปล่า? อยากนอนพักไหม”
เสียงทุ้มต่ำแฝงความเป็นห่วงเอ่ยถามมนุษย์ข้างกาย พลางใช้หลังมือแตะหน้าผากวัดอุณหภูมิ ส่วนนาวาที่เห็นอาการของพี่ที่เคารพไม่สู้ดีก็เตรียมช่วยอาเอทอสประคองพี่โนอาร์เข้าบ้าน ทว่าคำพูดตอบกลับจากเจ้าของเรื่องกลับทำให้ทุกความห่วงใยเป็นกังวลพังทลายไม่เป็นท่า
“เปล่าครับ ผมเพิ่งนึกได้ว่าของในบ้านหมดแล้ว ตอนกลับก็ลืมเตือนให้คุณแวะห้าง... เอทอส ผมขอออกไปซื้อของทำมื้อเย็นแป๊บหนึ่งแล้วจะรีบกลับ”
“ไม่ต้อง เดี๋ยวข้าไปซื้อเอง จะเอาอะไรก็ส่งข้อความตามหลังมาแล้วกัน” ร่างสูงใหญ่ตอบกลับด้วยเสียงทุ้มหนักนิ่ง ๆ คล้ายไม่พอใจอะไรบางอย่าง ก่อนจะหันไปพูดกับหลานชายโดยพยายามปรับน้ำเสียงให้อ่อนลง
“นาวาถ้าวันนี้ไม่ติดอะไร อยู่รอกินมื้อเย็นที่บ้านอาก่อนก็ได้”
พอเอ่ยจบเอทอสก็เดินฮึดอัดกลับขึ้นรถกระบะแล้วขับออกไป ท่ามกลางสายตาฉวนของนาวา และนัยน์ตารัตติกาลแฝงความขบขันของโนอาร์ที่มองส่งรถกระบะของสามี ซึ่งเมื่อบ้านพักทรงไทยประยุกต์ไร้เงาเจ้าบ้านเป็นที่เรียบร้อย มนุษย์เจ้าแผนการถึงได้เลื่อนขยับหมากบนเกมกระดานแห่งความตายต่อ หลังรามือไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง
“อยากได้กระสอบทรายไว้เล่นที่บ้านเพิ่มไหม” โนอาร์น้ำเสียงเรียบเรื่อยเอ่ยถามเด็กวัยรุ่น เพราะจำได้ว่าครั้งหนึ่งอีกฝ่ายเคยเล่าว่าซื้อกระสอบทรายไว้แก้เบื่อช่วงที่ขาดคู่ซ้อมเนื่องจากเขาอยู่ในโรงพยาบาล ซึ่งก็ได้เห็นอาการตื่นเต้นดีใจของเด็กหนุ่มอย่างที่คาดการณ์
“อยากสิพี่โนอาร์! พี่จะซื้อให้ผมเหรอ”
“อืม เป็นรางวัลที่ช่วยดูแลบ้านเอทอสอย่างดี”
“ขอบคุณครับ! พี่โนอาร์ใจดีที่สุดเลย”
ชายอันตรายเพียงพยักหน้ารับคำขอบคุณเล็กน้อยก่อนเดินเข้าบ้านพักทรงไทยประยุกต์ ตั้งใจจะอาศัยโอกาสที่เอทอสไม่อยู่โทรสั่งการเหล่าตัวหมากต่อ ทว่าเหมือนปีศาจอยากจะเอาคืนเขามากเช่นกันถึงได้เอ่ยชวนนาวาอยู่ต่อ และผลคือชายเลือดเย็นต้องเดินหนีเด็กวัยรุ่นที่คอยไล่ตามพร้อมส่งเสียงคุยถามไม่ยอมหยุด แม้จะใช้สายตาเรียบนิ่ง คำพูดข่มขู่ หรือรุนแรงถึงขั้นใช้กำลังปิดปาก แต่ทั้งหมดกลับกลายเป็นนาวาเข้าใจว่ารุ่นพี่ชวนเล่นด้วย และนั่นยิ่งทำให้นาวาตามติดมากกว่าเดิม จนท้ายสุดโนอาร์จำต้องเลือกหนทางที่ไม่เคยคิดว่าคนอย่างเขาต้องใช้วิธีน่าอดสูถึงเพียงนี้ วิธีแกล้งปวดท้องแล้วรีบเดินหนีเข้าห้องน้ำ
“เรื่องส่งคนไปแฝงในบ้านภาคินไปถึงไหน” โนอาร์ซึ่งขณะนี้นั่งอยู่บนชักโครกเอ่ยถามปลายสายด้วยน้ำเสียงติดหงุดหงิด เพราะใครบางคนที่วนเวียนอยู่แถวหลังประตูห้องน้ำ
[เรียบร้อยดีไม่มีใครสงสัย แต่ก็โดนไล่ออกมาแล้ว ช่วงนี้เหมือนเจ้านักธุรกิจนั่นจะวางแผนอะไรสักอย่าง เห็นรีบออกจากโรงพยาบาลมาไล่คนรับใช้ทุกคนออก แต่ก็ยังพอใจดีให้เงินก้อนไปตั้งตัว สายที่แฝงอยู่ก็โดนด้วยเหมือนกัน]
[แล้วก็พักหลังชอบไปสถานีตำรวจบ่อย ๆ สงสัยไปคุยเรื่องคนร้ายที่บุกตึกบริษัทมั้ง... คนร้ายนั่นเป็นนายใช่ไหม โนอาร์?] มังกรรายงานข้อมูลที่รู้ตามจริงก่อนถามถึงสิ่งที่สงสัย ทว่าปลายสายกลับไม่ตอบคำถาม ซึ่งนั่นก็ไม่ต่างจากที่ชายหนุ่มคาดการณ์ไว้
“พรุ่งนี้เช้าไปรอที่ห้องใต้ดินบ้านร้าง มีของขวัญจะให้”
ชายเลือดเย็นเอ่ยตัดบทสนทนาพร้อมกดวางสายเมื่อรับรู้ข้อมูลที่ต้องการ ก่อนจะเริ่มโทรสั่งตัวหมากอื่น ๆ เพื่อนัดรวมในวันพรุ่งนี้ และถือโอกาสไปเช็กความเป็นอยู่ของวรรษที่โดนกักขังว่า บริการดูแลที่เขาตั้งใจทำถูกใจอีกฝ่ายมากน้อยเพียงใด รวมถึงดูความพร้อมในการร่วมสนุกในงานที่เขากำลังเตรียมจัด หลังจากงานของภาคินผู้โชคดีได้ลัดคิวก่อนใครจบลง
“อาเอทอส พี่โนอาร์เข้าห้องน้ำตั้งนานแล้วยังไม่ออกมาเลย ไม่รู้ว่าเป็นอะไรหรือเปล่า”
เสียงเจื้อยแจ้วหลังประตูห้องน้ำ ทำให้คนที่คุยงานเสร็จสักพักใหญ่แต่ยังนั่งแช่อยู่ที่เดิม จำต้องลุกออกไปโชว์ตัวเพื่อไม่ให้ปีศาจสุดที่รักเป็นห่วง ทว่าเสียงทุ้มหนักที่ดังลอดผ่านบานประตู กลับทำให้มือขาวซึ่งกำลังจับลูกบิดชะงักนิ่ง
“ไม่กี่ชั่วโมงก่อนอาเช็กเขาทุกซอกทุกมุม ทั้งข้างนอกและข้างในก็ดูปกติดี ทิ้งไว้แบบนั้นแหละเดี๋ยวอยากออกก็คงออกมาเอง นาวามากินเนื้อย่างกับอาดีกว่า อาซื้อมาเต็มเลย”
“อะไรคือข้างนอกข้างในเหรอออาเอทอส แต่ช่างเถอะผมชักหิวแล้วสิ งั้นผมไปเตรียมจานให้นะครับ”
และแล้วเสียงพูดคุยของปีศาจเจ้าบ้านกับมนุษย์วัยรุ่นก็เลือนหายไปจากบริเวณ เหลือเพียงฆาตกรน่าสงสารที่โดนปล่อยลืมอยู่ในห้องน้ำโดยไม่มีใครเหลียวแล
รุ่งเช้าวันถัดมาโนอาร์ไปสวนรฦกวัลย์กับเอทอสตามกิจวัตรปกติ ทว่าที่แปลกไปคือหลังจากส่งปีศาจเข้าสำนักงานเป็นที่เรียบร้อย ชายอันตรายกลับเดินมุ่งไปยังทางออกหาใช่เรือนกล้วยไม้อย่างทุกที พลางหยิบโทรศัพท์โทรหาใครบางคน ไม่นานนักก็มีรถยนต์สีขาวคันหนึ่งมาจอดรับคนรักนายใหญ่ก่อนขับหายไป ท่ามกลางเหล่าสายตาคนงานที่ลอบมองด้วยความสงสัยใคร่รู้
“ทำไมไม่ซื้อรถใหม่ล่ะจะได้ไปไหนสะดวก ถ้าขี้เกียจเสียเวลาหาเดี๋ยวจัดการให้ดีไหม คิดราคาพิเศษแบบคนกันเองเลย ไม่ถึงวันรถใหม่ก็มาจอดหน้าบ้านนายแล้ว” จินซึ่งขณะนี้รับบทสารถี ลองหยั่งเชิงขายของตามประสาพ่อค้า ทว่าคำตอบกลับจากลูกค้าเอาใจยาก กลับไม่มีความเกี่ยวข้องเลยแม้แต่น้อย
“หากระสอบทรายซ้อมมวยมาดี ๆ สักอัน แล้วเอาเลือดของสีครามที่เก็บไว้มาทำมนตร์มืดใส่ลงไป ให้ทุกครั้งที่ใช้กระสอบมวยนั่น สีครามก็เหมือนถูกต่อยชกด้วยเหมือนกัน”
“…นายอยากเอาไปซ้อมเล่นที่บ้านเหรอโนอาร์?”
คนฟังพยายามตามความคิดแยบยลของชายอันตราย ก่อนเอ่ยถามเพื่อเช็กความมั่นใจ ทว่ากลับได้เพียงความเงียบไร้คำตอบ เช่นนั้นจินก็ได้แต่ยอมสงบปากสงบคำปล่อยความอยากรู้ให้หลุดลอย เพราะหากตื๊อมากเข้าอาจเป็นเขาเองที่อายุสั้นโดยไม่รู้ตัว
หลังห้องโดยสารหวนคืนสู่ความสงบเงียบไม่นาน รถยนต์สีขาวก็ได้มาหยุดจอด ณ บ้านร่างเก่าที่เป็นจุดหมายโดยมีโนอาร์เดินนำลงไปยังชั้นใต้ดิน ซึ่งเป็นสถานที่กักขังของวรรษผู้คุมวิญญาณ
เมื่อลงมาด้านล่างพบมังกรยืนหลบมุมไม่สนใจใคร กับนายแพทย์หนุ่มที่เบื้องหลังเป็นพ่อค้าอวัยวะเถื่อนกำลังตรวจดูสุขภาพของวรรษ ซึ่งตอนนี้ถูกจับล็อกขึงกับเตียงในสภาพเปลือยกาย บริเวณปากมีท่อสายยางสำหรับให้อาหารเหลวสอดผ่านลำคอลงไปในกระเพาะ เช่นเดียวกับส่วนปลายองคชาตที่มีการสวนสายยางเพื่อการขับถ่าย วิธีการเหล่านี้เป็นการพยาบาลในผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ทว่าหากนำมาใช้กับคนปกติแข็งแรง ย่อมสร้างความทรมานอึดอัดแสนสาหัสไม่ต่างจากตกนรกทั้งเป็น
“ถูกใจไหม ไม่ต้องกินเอง ไม่ต้องฉี่หรือถ่ายด้วยตัวเอง ทุกอย่างมีคนคอยดูแลให้หมด” เจ้าของความคิดเลวทรามเอ่ยถามคนรับบริการ ซึ่งก็ถูกชายบนเตียงถลึงมองด้วยสายตาเคียดแค้นชิงชัง
“มองแบบนี้สงสัยคงเบื่อนอนเฉยๆ แต่อยู่แบบนี้ไปก่อนพอถึงเวลาของนายเมื่อไร รับรองว่ามีอะไรให้เล่นสนุกจนไม่มีวันลืม”
ชายเลือดเย็นกล่าวปลอบเอาใจของเล่นที่ต้องนอนคอยกว่าจะถึงคิว พลางไล่สายตาเรียบนิ่งชั่วร้ายมองสภาพน่าเวทนาของอีกฝ่ายเชิงสมเพช แล้วถึงผละออกไปคุยกับแพทย์หนุ่มเจ้าของไข้
“ร่างกายปกติแข็งแรงดีใช่ไหม” โนอาร์เอ่ยถามคล้ายเป็นห่วงคนบนเตียง ทว่าแท้จริงความห่วงใยที่ว่ากลับมีให้เพียงปีศาจ เพราะกลัวจะเกิดผลข้างเคียงกับร่างกายเอทอสผ่านทางมนตร์มืด
“ไม่ต้องห่วง ยังไงผมก็ต้องดูแลสินค้าอย่างดีอยู่แล้ว ถึงเวลาเก็บเกี่ยวแล้วคุณภาพไม่ได้ตามต้องการ คงเสียดายแย่”
นายแพทย์หนุ่มกล่าวตอบคู่ค้าคนสำคัญพลางเหลือบมองสินค้าบนเตียงเล็กน้อย สำหรับเขาโนอาร์เปรียบเสมือนแหล่งทำเงินมหาศาล อย่างครั้งก่อนอีกฝ่ายรับงานจัดการหญิงสาวรายหนึ่งเอามาทำเป็นตุ๊กตาหุ่นปั้น ทุกชิ้นส่วนอวัยวะเหลือจากงานนั้นโนอาร์ได้ยกให้เขาทั้งหมด ซึ่งในคราวนี้ก็คล้ายกับครั้งที่แล้วยกเว้นเพียงหัวใจที่สั่งให้เขาเอาไปเปลี่ยนถ่ายให้ใครบางคน
“อะนี่... ผลทดสอบความเข้ากันได้ของอวัยวะ ยินดีด้วยดูเหมือนจะไม่มีอะไรน่ากังวล”
ซองจดหมายสีขาวสะอาดยืนยันผลทดสอบถูกยื่นมาให้โนอาร์ เหตุเพราะก่อนหน้านี้ชายเลือดเย็นสั่งให้เขาเตรียมทุกอย่างให้พร้อมสำหรับการปลูกถ่ายเปลี่ยนหัวใจ ซึ่งการตรวจความเข้ากันได้ระหว่างผู้รับบริจาคกับตัวอวัยวะก็เป็นหนึ่งในขั้นตอนเช่นกัน
โนอาร์รับซองจดหมายมาเปิดดูเอกสารด้านใน สักพักหนึ่งใบหน้าเรียบนิ่งถึงเผยรอยยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะเรียกมังกรที่ยืนหลบมุมปลีกวิเวกไม่สุงสิงกับใครให้เดินมาหา
“ของขวัญที่บอก อีกไม่นานจะมีงานใหม่ให้ทำ คิดว่าของขวัญนี้คงทำให้ตั้งใจทำงานมากขึ้น”
น้ำเสียงเรียบเรื่อยเอ่ยขึ้น พร้อมยื่นจดหมายส่งให้ผู้รับที่แท้จริง มังกรรีบกวาดสายตาอ่านทุกตัวอักษรบนกระดาษอย่างละเอียด ทว่าจวบจนอ่านจบชายหนุ่มกลับเริ่มไล่อ่านใหม่ตั้งแต่บรรทัดแรก อ่านวนซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับต้องการสร้างความมั่นใจให้ตัวเองว่านี่มิใช่ความฝันที่เขาคิดไปเอง ซึ่งทุกการแสดงออกของชายหนุ่ม รวมถึงดวงตาเข้มแข็งเริ่มเลื่อมด้วยหยดน้ำใสที่พยายามสะกดกลั้น ล้วนอยู่ในสายตารัตติกาลมืดมิด เช่นนั้นโนอาร์จึงเรียกจินมารับทำหน้าที่สารถีพาเขากลับไปหาปีศาจ เพราะเป้าหมายในการคุมหมากดื้อรั้นให้กลับมาอยู่ในโอวาทเพื่อเตรียมใช้งานนั้น สำเร็จลุล่วงแล้ว
ชายเลือดเย็นกลับมาถึงสวนรฦกวัลย์เกือบไม่ทันช่วงพักเที่ยง ส่งผลให้โนอาร์ต้องรีบมุ่งตรงไปยังส่วนครัวของสำนักงาน ฆาตกรจัดแจงอุ่นมื้อกลางวันของตัวเองและปีศาจพลางชงกาแฟระหว่างรอ เมื่อเรียบร้อยจึงยกไปที่ห้องทำงานนายใหญ่เจ้าของสวน ซึ่งหลังได้รับคำอนุญาตจากคนด้านในแล้ว โนอาร์ถึงดันประตูเปิดก่อนเดินเข้าไปวางจานเตรียมโต๊ะ เสร็จแล้วถึงเอ่ยเรียกร่างสูงใหญ่ตรงโต๊ะทำงานที่ยังคงไม่ยอมเงยหน้าจากกองเอกสาร
“คุณวาง-”
“เจ้าแอบไปไหนมา” คำถามสวนกลับไม่ทันตั้งตัวถึงกับทำให้มนุษย์ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบตามจริงไร้การปิดบัง
“แค่ไปทักทายผู้คุมวิญญาณที่เคยเล่นงานผมนิดหน่อย แต่ผมพาจินไปด้วยคุณไม่ต้องกังวล แล้วใครเป็นคนมาฟ้องคุณ?”
“ใคร... สงสัยคงเป็นจมูกข้าเองที่มันบอกว่ากลิ่นอายวิญญาณเจ้าหายไป หลังจากเจ้าแสร้งเดินมาส่งข้าที่สำนักงาน”
ร่างสูงใหญ่ตอบกลับพลางวางปากกาเมื่อเซ็นเอกสารแผ่นสุดท้ายเรียบร้อย แล้วจึงเดินมานั่งโซฟาตำแหน่งประจำสำหรับทานมื้อเที่ยง โดยมีนัยน์ตารัตติกาลเจือความระแวงคอยลอบมองเฝ้าสังเกต
“ว่าไง รู้แล้วว่าจมูกข้าเป็นคนฟ้อง เจ้าจะทำอะไรต่อ” เอทอสแกล้งเค้นถาม พลางใช้นัยน์ตาดุสีอำพันจ้องกลับมนุษย์ไม่วางตา
“ไม่ทำอะไร เพราะเป็นจมูกของคุณเอง และคุณไม่ใช่ใครอื่นสำหรับผม” คำตอบจากมนุษย์ถึงกับทำให้ปีศาจกระตุกยิ้มเยาะเล็กน้อย ก่อนเสียงทุ้มต่ำจะเอ่ยคำถามถัดมาที่เริ่มแฝงความจริงจัง
“แล้วถ้าครั้งหน้า เป็นข้าที่ขัดขวางทุกแผนการของเจ้า เจ้าจะทำยังไง”
หลังชายเลือดเย็นได้ฟังคำถาม นัยน์ตารัตติกาลคล้ายดูยิ่งทวีความดำมืดร้ายลึก ทว่าวินาทีต่อมากลับอ่อนลงหวนคืนสู่ความสงบเรียบปกติ พร้อมรอยยิ้มมุมปากที่ปรากฏขึ้นบางเบาพลางตอบคำถามและชวนปีศาจกินข้าว ถือเป็นการตัดจบหัวข้อสนทนาเรื่องนี้ไปโดยปริยาย
“ถ้าคุณอยากเล่นด้วยเพราะเชื่อว่า สักวันชะตากรรมจะนำมาพวกนั้นไปสู่จุดจบอย่างที่ควรเป็น ผมคงห้ามอะไรไม่ได้ และผมจะเป็นชะตากรรมนั้นเอง”
ขณะที่ผู้คุมเกมเริ่มขยับเดินตัวหมาก ฝ่ายนักล่าปีศาจผู้ถูกไล่ต้อนก็เตรียมพร้อมรับมือเช่นกัน ผลพวงจากเหตุการณ์บุกตึกบริษัทและคำขู่ฝีมือโนอาร์ ทำให้ความมั่นใจของเหล่านักลงทุนและบริษัทในกลุ่มคู่ค้าลดลงอย่างมาก หลายฝ่ายเริ่มทยอยถอดถอนหุ้นยกเลิกการติดต่อธุรกิจ ส่งผลให้ยามนี้ตัวบริษัทเข้าสู่ระยะวิกฤตหนักเสี่ยงต่อการล้มละลาย ทว่าภาคินรู้ดีว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของสิ่งที่เข้าต้องเผชิญและเหลือเวลาตั้งรับไม่มากนัก ดังนั้นเมื่อชายผมเงินพอฟื้นตัวจึงรีบออกจากโรงพยาบาลแล้วจัดการภาระทุกสิ่งอย่างให้เรียบร้อย
ภาคินอาศัยเรื่องวิกฤตของตัวบริษัท จ้างเหล่าพ่อบ้านแม่บ้านทุกคนรวมถึงเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้าตอนช่วงเขาอยู่โรงพยาบาลออก ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนต่างปฏิเสธแต่แล้วสุดท้ายก็จำยอมเมื่อเขาเอ่ยปากไล่จริงจัง ถึงแม้นั่นจะทำให้หลายคนเสียความรู้สึก แต่เขาก็ต้องทำเพื่อปกป้องเหล่าครอบครัวคนสำคัญ
หลังหมดห่วงให้กังวล ภาคินถึงไปประสานงานขอกำลังจากเหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยอ้างว่าเขากำลังถูกไล่ล่าคุกคามเอาชีวิต และผู้กระทำเป็นคนเดียวกับผู้ร้ายก่อเหตุฆาตกรรมหลายสิบคดีที่ยังปิดไม่ได้ ซึ่งชายผมเงินอาสาเอาตัวเองเป็นตัวล่อเพื่อให้กลุ่มเจ้าหน้าที่ทั้งหมดระดมกำลังเข้าจับกุม
นักธุรกิจหนุ่มกับเหล่าตำรวจใช้เวลาร่วมกันวางแผนเตรียมการหลายสัปดหาห์จนแน่ใจว่าไร้ข้อผิดพลาด ภาคินจึงเริ่มสวมบทบาทนกต่อล่อลวงโนอาร์มาติดกับ ด้วยการบุกไปสวนกล้วยไม้รฦกวัลย์ในเช้าวันหนึ่ง เพราะมั่นใจว่าหากอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนในปกครองของปีศาจจอมเสแสร้ง ชายอันตรายย่อมไม่กล้าผลีผลามทำอะไรมากนัก
“อ้าวคุณ! เป็นเพื่อนนายน้อยเอทอสหนิใช่ไหม? หายหน้าหายตาไปตั้งนานจนลุงเกือบจำไม่ได้แล้ว ว่าไงวันนี้ก็มาหานายน้อยเหมือนกันเหรอ” ลุงสมัยเอ่ยทักทายชายผู้มีผมสีเงินสะดุดตา ที่เมื่อนานมาแล้วเคยแวะมาถามหานายใหญ่ของสวนอยู่บ่อย ๆ
“สวัสดีครับลุง วันนี้ผมมาหาโนอาร์น่ะครับ ไม่ทราบว่าอยู่ที่นี่หรือเปล่าครับ”
ภาคินตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม พลางสอดส่องสายตาหาเป้าหมาย ซึ่งก็พบว่าชายอันตรายสังเกตเห็นเขาอยู่ก่อนแล้ว และกำลังเดินมุ่งตรงมาทางนี้
“มีอะไรกันหรือเปล่าครับ” ผู้มาใหม่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“มาพอดีเลย เพื่อนนายน้อยมาหาคุณโนอาร์น่ะ ถ้างั้นเดี๋ยวลุงไปดูกล้วยไม้ก่อนนะ” ลุงสมัยกล่าวตอบคนรักนายใหญ่ของสวน ก่อนจะขอแยกตัวไปทำงานต่อ จวบจนกระทั่งบริเวณนี้เหลือเพียงนักล่าปีศาจและฆาตกร ภาคินจึงเริ่มเปิดหัวข้อสนทนา
“มาตามที่อยู่นี่คืนนี้ เฉพาะนายกับฉันเท่านั้น” นักล่าปีศาจเอ่ยด้วยท่าทีเหนือกว่า พร้อมยื่นกระดาษพับแผ่นหนึ่งให้โนอาร์ ทว่าชายเลือดเย็นกลับไม่คิดแม้แต่จะเหลียวมอง
“ไร้สา-”
“ถ้าอยากให้ไอ้ปีศาจนั่นมันอยู่อย่างสงบในช่วงบั้นปลายสุดท้าย ก็มาทำให้ทุกอย่างมันจบ ฉันจะรอที่นั่นจะมาหรือไม่ก็ตามใจ”
ว่าจบชายผมเงินก็ทิ้งกระดาษแจ้งสถานที่นัดพบลงพื้นเบื้องหน้าชายอันตราย พร้อมเดินกลับไปขึ้นรถยนต์ก่อนขับหายไป นัยน์ตารัตติกาลมืดมิดอยากคาดเดามองส่งนักล่าปีศาจจนลับตา แล้วจึงหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อโทรหาพ่อค้าเจ้าประจำ เพื่อให้จัดเตรียมยานพาหนะสำหรับไปร่วมงานที่ของเล่นเขาอุตส่าห์ลงทุนลงแรงทำขึ้น
[มีอะไรเหรอโนอาร์? หรือว่าเปลี่ยนใจอยากได้รถสักคัน]
“อืม เอาไปจอดไว้ตรงหน้าทางเข้าซอยบ้านของเอทอส คืนนี้”
(ต่อด้านล่าง)