A Poor Fox
“ข้อ 8 อยากเล่นอันนั้น” ผมชี้ไปที่เจ็ตสกีข้างหน้า เห็นฝรั่งหลายคนกำลังขับกันสนุกในตอนเช้าที่แดดยังไม่แรงมาก
“มันอันตรายนะครับ” สนบอก แขนข้างขวาของเรารวบเอวผมให้เข้าไปใกล้
แค่คืนเดียว...สนก็ทำตัวเหมือนเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเสียแล้ว
“ใครสนล่ะ” ผมแกะมือใหญ่ออกจากตัว แต่เจ้าสนไม่ยอมปล่อย
“ผมนี่ไง สน” เขาบอกพร้อมกับยิ้มกว้าง
เด็กนี่ช่างไม่กลัวหูตาสัปประรดของนายใหญ่เอาเสียเลย
“ปล่อย ก่อนที่จะมีคนเห็น” ผมบอกเจ้าเด็กที่ดูอิดออด
“อ่า...ครับ” เขาปล่อยมือออกพร้อมกับพวงแก้มขึ้นสีแดง ตัวก็โต...แต่กลับขี้อาย
ผมโคลงหัวไปมาก่อนจะเดินมาหาร้านเช่าเจ็ตสกีบริเวณหาด
“เท่าไหร่ครับ”
เจ้าหน้าที่บอกว่าชั่วโมงละ 500 ผมควักตังค์จ่ายโดยไม่ได้ต่อรองอะไร
“คุณภาพไม่ฟังผมเลยครับ”
สนยืนบ่นอยู่ข้างกัน ในขณะที่ผมกำลังเลือกเจ็ทสกีคันใหญ่สีแดงดำ
“ผมเป็นห่วงนะครับ”
“ขึ้นสองคนได้นะครับพี่” เจ้าหน้าที่บอกพร้อมกับยื่นเสื้อชูชีพมาให้เราสองตัว
สนรับมันมาไว้ในมือ
“งั้นผมไปด้วยนะ”
ผมยิ้มรับ
“เอาสิ"
.
.
.
.
“คุณภาพ คุณภาพ! อ๊าก”
คนที่อยากมาด้วยตะโกนเป็นเด็กเลย ตัวใหญ่เสียเปล่า เขากอดผมแน่นในขณะที่ผมบิดเร่งให้เจ็ทสกีออกไปให้ไกลจากชายฝั่ง
ผมชะลอเมื่อเราออกห่างจากฝั่งมาไกลมากแล้ว ลมที่ตีหน้ากับทะเลสีฟ้าใช้ความรู้สึกที่ดีชะมัด
“คุณภาพ”
“อะไร”
“ผมเหมือนจะเป็นลมเลย” คนที่กอดกันอยู่บอก เขาวางคางเกยไว้บนไหล่ผม มือนั้นกอดเอวกันไว้แน่น ส่วนผมเอาแต่ขำ
“ลองขับดูไหม” ผมถามเขา เห็นหน้าซีดแบบนั้นเล้วตลกเป็นบ้า
เราสลับที่กัน ผมปล่อยให้สนขับวนไปเรื่อยๆ ส่วนตัวผมเองแนบแก้มเข้ากับหลังสน มองท้องน้ำและท้องฟ้าสีฟ้า มองเส้นขอบฟ้า มองนกที่กำลังบินไปที่ไหนสักที่
...อิสระนี่ดีจริงๆ ...
“อ้าว ทำไมดับ” สนบอกเมื่อเครื่องดับลง เขาพยายามสตาร์ทมันอีกหลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล
“ไหน ขอดูหน่อย” ผมตีมือให้เขาปล่อยมือออกจากปุ่มสตาร์ท ก่อนเอื้อมมือไปลองกดเองแล้วบิดแฮนด์ดู แต่ทำยังไงก็ไม่ติด
“ไม่ติดจริงๆ ครับ”
สนหน้าเสีย เขาหมุนตัวมาจ้องหน้าผม
“เดี๋ยวครบชั่วโมงเจ้าของเขาก็ออกมาตามเอง คิดมาก” ผมแตะมือเข้าที่แก้มเขา
สนแนบแก้มลากลงบนมือ เขามองผมด้วยสายตาหวานเชื่อม
“อะไรสน”
เขายิ้มกว้าง
ผมหลุบตามองต่ำ ผมเกลียดรอยยิ้มแบบนั้น...ยิ้มของคนมีความสุข
“ผมอยากอยู่แบบนี้ตลอดไปเลยครับ” เขาว่า มือใหญ่เชยคางผมขึ้นก่อนจะป้อนจูบให้กัน
...เป็นจูบที่เท่าไหร่ของเราก็ไม่รู้...
“ผมรักคุณภาพมาตั้งแต่เด็ก เฝ้าคิดถึงแต่วันที่จะได้กอดคุณ” เขากระซิบไม่ห่าง ปากและจมูกโด่งเวียนทั้งจูบและหอม
ในเสี้ยววินาทีที่เราสบตากัน...เขาก็ขอในสิ่งที่ผมให้ไม่ได้
“คุณภาพ...เป็นของผมได้ไหม”
“นี่คือสิ่งที่อยากได้เหรอ” ผมถามพร้อมกับดันไหล่หนาของเขาออก
เราคุยกันก่อนหน้านี้ว่าถ้าเขาเรียนจบเขาจะขออะไรก็ได้กับผม
“ไม่ใช่ครับ...สิ่งที่อยากได้เมื่อคืนผมได้มันมาแล้ว” สนยิ้ม ก่อนจะถอดเสื้อชูชีพออก เขาถอดเสื้อยืดแขนยาวของตัวเองออกวางและผูกมันหลวมๆ บนหัวผม
“กลัวคุณร้อน ตรงต้นคอถ้าแดดเผามากๆ มันจะแสบร้อน เมื่อคืนผมเห็นว่ามันแดงไปหมด” เขาบอก ทั้งๆ ที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเขาเหลือแค่กางเกงขาสั้นและแผ่นอกหนาสีแทน และเหงื่อซึม
ผมมองตาสีเข้มของสน มองแผ่นอกหนาไล่ลงไปยังกล้ามเนื้อหน้าท้อง นึกแปลกใจ...ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคนที่เจอทุกวันเร้าอารมณ์ขนาดนี้
ผมวางมือบนอกสีเข้ม สีของตัวเขาตัดกับสีมือของผมโดยสิ้นเชิง
“ถึงผมจะไม่ได้เป็นของสน...แต่สนเป็นของผมได้นะ”
คราวนี้เป็นผมที่ขยับเข้าไปชิดกับเขาเอง เราจูบกันจนลืมไปว่าอยู่ที่ไหน เสียงลมและน้ำไม่ได้ดังเท่าเสียงจูบเฉอะแฉะ...
“คุณ…”
เราสบตากันอีกครั้ง
“อย่าขยับนะ” ผมบอกเมื่อมือซนพยายามจะถอดเสื้อชูชีพผมออกบ้าง.
ผมยิ้มเมื่อเห็นว่ากางเกงผ้าร่มขาสั้นของสนมันนูนเด่น...เด็กนี่คึกดีจัง ผมใช้นิ้วชี้เกี่ยวขอบยางยืดออก ให้สิ่งที่กำลังคับแน่นได้ออกมาหายใจ
เมื่อคืนเราทำกันตอนมืด ผมไม่ค่อยใส่ใจนักว่าเขาจะเป็นยังไง
แต่ตอนนี้กลับมองเห็นทุกอย่างเห็นชัด ผมแตะสิ่งที่โผล่พ้นขอบกางเกงออกมาพร้อมกับมองหน้าคนตรงข้าม
“คุณภาพ...”
“อะไร”
“แกล้งผมเหรอ อื้ม...”
ผมขำหน้าตาบิดเบี้ยวของเขา มือใหญ่เอื้อมมาจะจับตัวผมอีกรอบ
“บอกว่าอย่าจับ” ผมตีมือเขาอีกครั้ง
สนขำ แต่ก็ยอมเก็บมือไป
ผมมองไปทั่วผืนน้ำ รอบตัวเราไม่มีอะไรเลย มองเห็นแค่ทะเลเวิ้งว้าง
“คุณจะทำให้ผมเป็นบ้า” เขาซบหน้าลงกับไหล่ผม เสียงลมหายใจหอบข้างหูและกลิ่นน้ำหอมของสนทำเอาผมมีอารมณ์
ผมดึงกางเกงของสนลง ควักสิ่งนั้นออกมาก่อนจะรูดรั้งจนสุดความยาว ไม่นานนักมันก็แข็งเต็มที่
“คุณครับ ขอผมจับนะ” สนขอร้อง เขาแตะมือลงที่ขอบกางเกงของผม ผมถึงได้อนุญาต
“ช่วยหน่อย ทำให้หน่อย” ทันทีที่ขอร้อง มือใหญ่ก็ล้วงเข้าไปในกางเกง
เขาดึงมันออกมา ก่อนจะรวบของผมกับของเขาชิดกัน ผมปล่อยมือออกจากสิ่งนั้น แต่โน้มคอเขาลงมาจูบแทน เราเล้าโลม อ้อยอิ่ง เหมือนอยากซึมซับความตื่นเต้นนี้ไว้
“เมื่อคืน...ผมทำดีไหมครับ” เขากระซิบถามพร้อมกับกำเราติดไว้ด้วยกัน ตรงนั้นของสนร้อนและแข็งจนผมตัวลอย
“ดีสิ เก่งมาก” ผมชมเด็กคนเก่ง
“ที่ได้เอาคุณ เหมือนผมฝันไปเลยครับ”
“อยากทำบ่อยๆ ไหม” ผมถามพร้อมกับจูบไปทั่วลำคอหนา
“อยากได้คุณทุกคืน ขังคุณไว้..ให้เป็นของผมคนเดียว”
“อ๊ะ…” ผมเสร็จจนตาพร่า สะโพกกระดกลอยไม่ติดเบาะ สนจับต้นคอผมให้แหงนหน้าขึ้น เขาตะโบมจูบ ก่อนจะตั้งใจเสร็จใส่หน้าท้องผม
น้ำเหนียวข้นเลอะไปทั่วหน้าท้องแบนเรียบ สนยังไม่ละจูบออก แต่เราได้ยินเสียงเรืออยู่ไม่ไกล
“เขามารับแล้วครับ”
.
.
.
“เป็นไงบ้าง สนุกไหม” พี่ภาคย์กลับบ้านมาหลังเลิกงาน เขาเป็นพวกบ้างาน ถึงได้ทำงานทุกวัน
“สนุกครับ” ผมตอบรับพี่ชายทั้งๆ ที่ไม่เข้าใจว่าสนุกคืออะไร... เที่ยงคราวนี้ไม่ได้สนุกเหมือนตอนเด็กๆ แต่ก็ตื่นเต้นดี
ตื่นเต้นตรงที่กำลังลุ้นว่าพี่ภาคย์จะรู้หรือเปล่านะ...ว่าผมไม่ได้ทำตามสัญญา
“ได้ยินว่าแช่น้ำจนตัวเปื่อยเลยนี่” เขานั่งลงตรงข้ามกัน
“ครับ”
“ตัวเล็ก” พี่ภาคย์เอียงหน้ามองกัน
“ครับ? "
“ให้พี่ทาที่หลังให้ไหม” เขาคงเห็นว่าผมกำลังทาเจลว่านหางจรเข้ที่สนให้มา เพราะตัวผมไหม่ไปทั้งตัว
“เอาสิครับ”
ผมถอดเสื้อออก ปล่อยให้เขาไล้มือไปทั่วแผ่นหลัง
“วันนี้แม่ของตัวเล็กมาถาม ว่าทำไมตัวเล็กไม่กลับไปนอนฝั่งนั้น”
ผมเลิกคิ้ว...แต่ก็ปัดความสงสัยทุกอย่างทิ้งไป ตั้งแต่ที่เรากลับมาสัญญากันอีกครั้ง ผมก็ไม่เคยกลับไปนอนห้องตัวเองหรือกลับไปที่บ้านอีกฝั่งเลย
“พี่ชายเลยบอกไปว่าเราทำ...งานที่ห้องพี่จนดึก”
เจ้าของห้องกอดผมไว้ ความอบอุ่นของเขาแผ่ซ่านไปทั่วอก แต่ความเกลียดชังนั้นยังฝังอยู่ทุกอณูความคิด
“ครับ”
ผมหันกลับไปรับจูบแผ่วเบา ถึงจะได้จูบกับใครมากมาย ยังไงจูบของเขาก็ดีที่สุด
“เพราะพี่หรือเปล่า ตัวเล็กถึงได้ยิ้มน้อยลง หัวเราะน้อยลง”
ผมพลิกตัวหันมาเขา พี่ภาคย์รู้ตัวว่าเขาเป็นต้นเหตุทั้งหมด
“แต่ถ้าพี่ไม่ทำแบบนั้น ตัวเล็กก็จะหนีพี่ไปอีกใช่ไหม” เขาแนบแก้มเข้ากับแก้มผม แต่แค่เสี้ยววินาทีท่าทางอ่อนโยนก็เปลี่ยนไปฉับพลัน มือใหญ่ที่ลูบหลังกันอยู่เอื้อมขึ้นมาบีบคอกันแน่น
...หมาป่าตัวร้ายตื่นขึ้นมาในตอนเกือบสามทุ่ม..
“ถ้าฉันไม่ขังแกไว้! แกก็จะหนีหายไปแบบตอนนั้น! มันสมควรตายแล้ว!”
ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงกลัวแทบตาย แต่ตอนนี้กลับแตะมือบนมือเขา เพื่อบอกว่าผมเจ็บ
“ชู่ว”
เขาตระหนก มือที่บีบคอกันไว้สั่นเทา แววตาที่เคยวาวโรจน์หม่นแสงลงอย่างเห็นได้ชัด
...เหมือนหมาป่าหลงทาง...
ผมสอดมือเข้าไปจับกับมือใหญ่ ซบหน้ากับอกเขา ออดอ้อน...ออเซาะ
“ผมไม่อยู่สองวัน พี่ภาคย์คิดถึงผมไหม”
เสียงหัวใจเขาเต้นถี่ เสียงหอบหายใจของเขาค่อยๆ ผ่อนลง ผมกอดเขา ลูบแผ่นหลังชื้นเหงื่อพร้อมกับพรมจูบใบหน้าหล่อเหลา
“กลัวไหม จะหนีพี่ไปอีกไหม พี่ชายขอโทษ” เขากระซิบแผ่ว
“ผมอยู่นี่” ผมปลอบเขา
“ตัวเล็กก็รู้ ชีวิตพี่มีแค่ตัวเล็ก”
คำบอกเล่าของเขาจุดยิ้มผมขึ้นมา...ดีใจเหลือเกินที่อ่านเกมส์ทั้งหมดขาด
.
.
.
“พี่ชายที่รักไปไหนล่ะวันนี้” คิมถามผมในบ่ายวันจันทร์ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง วันนี้คิมหยุดงาน ส่วนผมแค่ไม่ไปทำงาน
“ทำงาน” ผมตอบคิม ก่อนจะมองไปรอบตัว
...วันนี้มีคนตามแค่คนเดียว...
“แล้วเขากล้าปล่อยมึงมาข้างนอกได้ไง”
“อ้อนนิดหน่อย” ผมตอบตามจริง
เมื่อคืนทำให้หมาป่าอิ่มไปหลายครั้ง พี่ชายถึงได้ปล่อยให้ผมได้พักตามใจ อันที่จริงหลังจากตกลงทำสัญญากับเขาแล้ว...ไม่ทำงานยังได้เลย
“ข้อไหนแล้ว”
“9”
“เร็วนี่” คิมเย้าพร้อมกับอมยิ้ม
“งั้นข้อ 9 จะทำอะไรดี” คนถามถามด้วยแววตาระยับ ผมเอนหลังลงกับพนักพิง รู้สึกเบื่อกว่าที่เคย
“ไม่รู้สิ อยากตายแล้ว” ผมบอกตามจริง
คิมโบกมือไปมา
“ยังไม่ได้เอามึงเลย มึงสัญญาแล้ว”
ผมเลิกคิ้วมองคนมักมาก ก่อนจะส่งไฟล์บางอย่างให้
“เอาไปดูแก้ขัด”
คิมเปิดดู เขาบ่นว่ามืดไปหน่อยแต่พอเห็นว่าคนในคลิปคือผมเขาก็ยิ้ม
“ใคร?”
“เด็กที่บ้าน”
“พี่ชายมึงไม่เอาตายเหรอวะ” คิมถาม แต่ตาก็ยังจ้องอยู่ที่จอ
คำพูดของคิมทำให้ผมคิดอะไรบางอย่างออก....หรือจะเอาให้ให้ดูดีนะ
จะได้เห็นทั้งความทรมานของเขา และเผื่อเขาจะได้ฆ่าผมให้จายทีเดียว
“มึงคิดว่าเขาจะฆ่ากูไหม” ผมถามคิม แต่หมอนั่นกลับส่ายหน้า
“เขาจะฆ่ามัน” คิมชี้เข้าไปในจอ ก่อนจะหันมาหาผม
“ส่วนมึง เขาคงใช้วิธีอื่น”
ผมโคลงหัวไปมา ขี้เกียจใช้ความคิดเหลือเกิน
“เด็กนี่รูปร่งดี หน้าตาดีนี่หว่า” คิมยังนั่งดูคลิปความยาวเกือบสองชั่วโมง นัยตามันดูสนุกจนผมอดอิจฉาไม่ได้
“ดีขนาดนั้นเลยเหรอ” ผมถามพร้อมกับเอี้ยวหน้าไปมองในจอ เห็นสนกำลังทั้งกระแทรกทั้งตะโบมจูบกันบนเตียง ถึงจะมือไปหน่อย แต่ก็เห็นสิ่งในพลุบเข้าออกในร่างกายได้ชัด
แต่ก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าคิมสนุกยังไง
“มึงขาดจินตนาการไงภาพ ลองคิดสิว่าถ้าตอนนี้ไอ้เด็กนี่กำลังเอามึงพร้อมกับกู จะรู้สึกยังไง”
ผมมองคนพูดแล้วคิดตาม
“ก็คงเสียวดี แต่พอเสร็จแล้วกูก็เหนื่อย” ผมตอบตามจริง ทำเอาคิมขำร่วน
“ความสุขชีวิตคนเรามันมีไม่กี่อย่างหรอกภาพ เที่ยว กิน นอน เอา”
ผมส่ายหน้าไปมา นึกถึงความสุขอย่างเดียวที่อยากได้คือ...อิสระ
และเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น...จินตนาการทั้งหมดของผมก็ดับลง
‘น้องภาพ เย็นนี้กลับบ้านมาหาแม่นะ วันนี้คุณพ่อจะกลับบ้าน’
.
.
.
“ข้อ 9 กูรู้แล้วว่าจะทำอะไร”
คิมมองหน้าผม ผมลุกขึ้นแล้วต่อสายหาคนขับรถ
“ทำอะไรวะ”
“ทำให้คนที่ทิ้งกูไว้ข้างหลังได้เห็น ว่าการที่เขาละเลยกูมันเป็นยังไง”
.
.
.
.
TBC.
#20เหตุผลก่อนตาย