บุหรี่ที่ผมไม่ได้สูบ | บทที่ 6 (16/01/63)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: บุหรี่ที่ผมไม่ได้สูบ | บทที่ 6 (16/01/63)  (อ่าน 12003 ครั้ง)

ออฟไลน์ หะมายด์เอง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-1
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************


บุหรี่ที่ผมไม่ได้สูบ



Photo by Sajjad Zabihi on Unsplash



"กูออกไปสูบบุหรี่นะ"

"กูไปด้วย"

"มึงไม่สูบก็อยู่แดกเหล้ากับเพื่อนไปดิ"

"กูจะไปด้วย"

.

.

"อย่าเสียงดังสิวะ อือ..."

"ก็ระเบียงมันแคบ อ๊าาา"

"ชู่ววว เดี๋ยวคนอื่นได้ยิน"








twitter: @sompling

tag: #บุหรี่ที่ผมไม่ได้สูบ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-01-2020 23:15:47 โดย หะมายด์เอง »

ออฟไลน์ หะมายด์เอง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-1
บทนำ

 

     ในห้องสี่เหลี่ยมขนาด 23 ตารางเมตรดูคับแคบลงไปถนัดตาเมื่อเจ้าของห้องไม่ได้อยู่อาศัยเพียงแค่คนเดียวตามปกติ ค่ำคืนวันศุกร์หลังสอบกลางภาคเสร็จกลายเป็นค่ำคืนแห่งการสังสรรค์ไปโดยปริยาย ไม่ต้องนัดหมายก็เข้าใจได้ว่าตั้งแต่สองทุ่มเป็นต้นมาต้องรวมตัวกันที่ไหนพร้อมกับเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวอะไรบ้าง

     “เอ้าเฮ้ย ชน!!!”

     แก้วพลาสติกบรรจุเครื่องดื่มมึนเมาถูกยกชูขึ้นกลางวงอย่างพร้อมเพรียง ดนตรีที่เปิดจากโทรศัพท์ถูกแย่งกันสับเปลี่ยนไปเรื่อย จนกระทั่งเวลาล่วงเลยผ่านมาหลายชั่วโมง นาฬิกาดิจิตัลบนผนังขึ้นเลขศูนย์เรียงกันถึงสี่ตัว การดื่มอย่างบ้าคลั่งในช่วงเริ่มต้นจึงค่อยซาลงบ้าง เหลือเพียงความเฮฮากับเสียงหัวเราะจากฤทธิ์น้ำเมาที่ดังขึ้นเรื่อยๆ แทน

     "กูออกไปสูบบุหรี่นะ" ใครบางคนพูดขึ้นมากลางวงสนทนา ซองบุหรี่ส่วนกลางที่ร่อยหรอเหลือเพียงสามมวนถูกคว้าเอามาไว้กับตัว ก่อนที่ชายร่างสูงในสภาพเสื้อยืดกางเกงบ็อกเซอร์จะลุกขึ้นยืน

     "กูไปด้วย" ใครอีกคนซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ กันยันตัวเองลุกขึ้นจากพื้นบ้าง แก้วเบียร์ในมือถูกซดจนว่างเปล่าก่อนจะตั้งมันทิ้งเอาไว้

     "มึงไม่สูบก็อยู่แดกเหล้ากับเพื่อนไปดิ"

     "กูจะไปด้วย"

     "...ตามใจ" ร่างสูงใหญ่ยักไหล่เบาๆ หนึ่งทีแล้วก้าวฉับออกไปที่ระเบียง

     บรรยากาศด้านนอกแตกต่างจากภายในห้องพอสมควร หนึ่งคือเงียบสงบ สองคือร้อนจากพัดลมแอร์ที่เป่ากระทบร่าง ประตูระเบียงถูกเลื่อนปิดลงพร้อมผ้าม่านที่แนบกันสนิทจนไม่เหลือช่องว่างใดให้มองลอดผ่าน แว่วเสียงโหวกเหวกจากกลุ่มคนด้านในลอยออกมาเบาๆ ทว่าก็ไม่ดังพอให้รบกวนคนข้างห้อง ซึ่งนั่นต้องยกความดีความชอบให้กับการเก็บเสียงที่ยอดเยี่ยมของคอนโดแห่งนี้

     "เดี๋ยวก็บ่นเหม็นอีก” คนตัวสูงเท้าศอกลงกับราวระเบียงหลังจุดไฟรนที่ปลายแท่งนิโคตินเสร็จ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มตวัดมองใครอีกคนที่ตามกันออกมาด้วยหางตา

     "ก็มันเหม็นจริงๆ นี่หว่า” คนไม่สูบบุหรี่พูดกลั้วหัวเราะ ร่างที่แม้จะสูงใกล้เคียงกันทว่าขนาดตัวเล็กกว่าประมาณหนึ่งขยับเข้าไปยืนเท้าศอกอยู่ข้างๆ ใบหน้าเนียนแหงนขึ้นมองท้องฟ้าพลางพิจารณาดวงดาวที่ทอแสงจางๆ อย่างสนใจ เกิดเป็นความเงียบชั่วระยะเวลาหนึ่งที่ทั้งสองคนต่างทอดสายตาออกไปยังสถานที่ไหนสักที่ และปล่อยให้ความคิดในหัวทำหน้าที่ของมันไปอย่างเรื่อยเปื่อย

     กลิ่นฉุนจมูกของนิโคตินอัดแท่งแม้จะทำให้คนไม่ได้สูบระคายเคืองอยู่บ้าง แต่ ธีร์ธวัช หรือ ธีร์ กลับคุ้นชินกับมันเสียแล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาออกมายืนดมกลิ่นบุหรี่ทั้งที่รู้ดีอยู่แก่ใจว่ามันไม่ดีต่อสุขภาพ เอาจริงๆ ธีร์ธวัชก็ไม่ได้นึกอยากเป็นมะเร็งในอนาคตนักหรอก ทว่าช่วงเวลาที่เกิดขึ้นท่ามกลางกลิ่นเฝื่อนๆ แบบนี้มันก็ยากต่อการละทิ้งไป

     ช่วงเวลาที่เหลือเพียงแค่พวกเขาแค่สองคน...

     “ภพ” ธีร์ธวัชเรียกคนข้างกายหลังจากเห็นว่าบุหรี่หมดไปครึ่งมวนแล้ว เจ้าของชื่อ ตรีภพ เลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ ก่อนคีบเอาบุหรี่มาบี้ลงบนที่เขี่ย

     “ว่า?”

     “กูอยากสูบบุหรี่ว่ะ”

     “หมดแล้ว” คนตัวใหญ่กว่าชูบุหรี่มวนสุดท้ายที่ตัวเองเพิ่งจุดไฟไปให้อีกฝ่ายได้เห็น ทว่าธีร์ธวัชกลับฉีกยิ้มกว้างก่อนชี้นิ้วไปยังคนตรงหน้าอย่างอารมณ์ดี

     “เอาของมึงก็ได้”

     ....

     ..

     .

     “อ...อืม ไอ้ธีร์...” น้ำเสียงของตรีภพโดยปกติมักจะทุ้มต่ำและเต็มไปด้วยความมั่นใจ ณ ตอนนี้กลับแหบแห้งและสั่นพร่าจากอาการหอบถี่ ฝ่ามือขยุ้มเส้นผมสีดำสนิทของคนซึ่งนั่งอยู่กลางหว่างขาของเขาเอาไว้แน่น ทั้งใบหน้าที่มีไรหนวดขึ้นจางๆ ก็บิดเบี้ยวเหยเก

     ธีร์ธวัชช้อนตาขึ้นมองอากัปของอีกฝ่ายในขณะที่ริมฝีปากของเขาครอบครองส่วนอุ่นร้อนเอาไว้จนเต็มแน่น มุมปากยกขึ้นน้อยๆ แทนรอยยิ้มก่อนที่อุ้งมือนิ่มจะค่อยๆ บีบนวดและรูดรั้งไปตามความยาวของบางสิ่งตรงหน้าอย่างช่ำชอง

     ใบหน้าได้รูปที่แม้ไม่ได้หล่อเหลานักทว่าเครื่องหน้าที่เหมาะเจาะกลับสร้างเสน่ห์ให้น่ามองขยับขึ้นลงเป็นจังหวะจะโคน ริมฝีปากซึ่งชื้นแฉะไปด้วยน้ำลายอ้าออกกว้าง ค่อยๆ ปล่อยให้ส่วนใหญ่โตหลุดล่วงออกมาจากโพลงปากร้อน ลิ้นนุ่มรับหน้าที่ต่อโดยทันที มันกดคลึง กระดกสัมผัสกับส่วนปลาย แล้วค่อยขบเม้มผิวหนังบริเวณนั้นเล่นอย่างแผ่วเบา

     “อืม...” ตรีภพคำรามในลำคอเมื่อตัวตนของเขาถูกดูดคลึงอย่างรุนแรงหลังจากที่อีกฝ่ายหยอกล้อจนพอใจ กล้ามหน้าท้องที่โผล่พ้นเสื้อยืดสีอ่อนแขม่วเกร็งขึ้นเป็นร่องชัด รวมถึงใบหน้าหล่อเหลาคมคายก็เชิดขึ้นสูง ปลายนิ้มมือทั้งห้าออกแรงขยุ้มเส้นผมของธีร์ธวัชแน่นก่อนเป็นฝ่ายสวนสะโพกกระทั้นสิ่งนั้นเข้าไปในโพลงปากซึ่งดูดกลืนกันอย่างไม่ยอมแพ้อย่างรุนแรง

     “อึ่ก” ด้วยความยาวของมัน ลำคอของชายหนุ่มซึ่งนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นถูกกระแทกหนักๆ จนหลุดเสียงอึกอักออกมาอยู่หลายครั้ง ดวงตาสีนิลสนิทปริ่มไปด้วยหยาดน้ำตา ศีรษะของเขาคอนไหว ทั้งยังปวดกรามไม่น้อยสำหรับการพยายามเก็บไรฟันให้พ้นส่วนใหญ่โตซึ่งกำลังผุบเข้าผุบออกในช่องปาก

     ธีร์ธวัชครางอื้ออึงในลำคอเมื่ออีกฝ่ายสวนกายด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น เขายกมือขึ้นเกี่ยวกางเกงขาสั้นที่ตรีภพสวมใส่ กำมันไว้แน่นเพื่อยั้งตัวให้ยังนั่งอยู่กับที่ พร้อมดวงตาคู่สวยปรือมองคนซึ่งจับจ้องใบหน้าและการกระทำของตนเองไม่วางตา

     ของเหลวอุ่นร้อนพุ่งเข้ามาในลำคอหลังจากห้วงแห่งอารมณ์ทะยานถึงจุดสูงสุด มันไหลย้อนออกมาเมื่อตรีภพถอนกายออกไป เปื้อนเปรอะไปตามมุมปากข้างซ้ายก่อนจะหยดลงบนแผ่นอกนวลเนียนและตกกระทบลงพื้นในที่สุด

     ลมหายใจของคนทั้งคู่หอบหนักประสานกันอย่างรุนแรง ก่อนที่ธีร์ธวัชจะเป็นฝ่ายหัวเราะเบาๆ ขึ้นมาทำลายความเงียบเสียก่อน

     เขาผุดลุกขึ้นพร้อมกับกลืนบางอย่างในปากของตนเองลงท้องไป ในขณะเดียวกันก็ใช้หลังมือปาดคราบสีขุ่นออกจากใบหน้า

     “บุหรี่มึงยังดีเหมือนเดิม”

     ตรีภพได้แต่หัวเราะเบาๆ กับประโยคเย้าแหย่นั่น แขนแกร่งตวัดเอาคนที่ยืนอยู่ตรงเข้ามาในอ้อมแขน กดบ่าบังคับให้อีกฝ่ายนั่งลงบนตักตน แล้วนิ้วเรียวยาวก็จัดการรูดเอากางเกงขาสั้นซึ่งเป็นปราการด่านสุดท้ายของธีร์ธวัชออกจากตัว

     “อะไรไอ้ภพ” คนตัวเล็กกว่าไม่เท่าไหร่หันไปมองหน้าเจ้าของตักแกร่ง ทำเป็นเลิกคิ้วสงสัยทั้งที่ขายาวสองข้างพร้อมใจกันยกขึ้นเพื่อให้ใครอีกคนถอดกางเกงออกได้โดยง่าย

     “ทำมาเป็นถาม” ตรีภพกระซิบเสียงต่ำชิดใบหู “ดูดบุหรี่กูแล้วก็ต้องจ่ายค่าตอบแทน”

     สิ้นคำพูดเพียงเท่านั้น ส่วนที่เพิ่งปลดปล่อยออกมาก็ค่อยๆ แทรกกายเข้าไปในช่องว่างระหว่างก้นกลมทั้งสองก้อน ร่างเปลือยบนตักเครียดเกร็งเมื่อรับรู้ถึงบางสิ่งซึ่งกำลังสอดกายเข้ามา ท่วงท่าที่นั่งบนตักและถูกยกขาทั้งสองข้างขึ้นไม่นับว่าเป็นท่าที่ง่ายต่อการสอดใส่ในครั้งแรก ทว่าคนอย่างตรีภพก็ชอบเหลือเกินที่จะเปิดประเด็นร้อนด้วยอะไรประหลาดๆ

     แต่มันก็ไม่ได้เจ็บปวดขนาดนั้น

     “อ...อ๊ะ”

     ด้วยความที่ส่วนเชื่อมต่อนั้นได้ทำความรู้จักและคุ้นเคยกันอยู่บ่อยๆ มันจึงพอจะคุ้นชินกับขนาดซึ่งใหญ่พอสมควรสำหรับชาวเอเชีย ดังนั้นหลังจากผ่านความอึดอัดในช่วงแรกมาได้ ทีเหลือก็มีเพียงความรู้สึกดีๆ ที่สาดเข้าใส่ไม่จากคลื่นทะเลโหมกระพือในวันพายุคลั่ง

     “อ้ะ อ๊า”

     ผนังทั้งนุ่มและร้อนระอุภายในถูกครูดไปมาตามจังหวะการเคลื่อนไหว ตรีภพนั่งอยู่บนเก้าอี้พลาสติกสำหรับสูบบุหรี่ของเจ้าของห้องพลางขยับตัวอย่างระแวดระวังไม่ให้เกิดเสียงที่ดังเกิดไป แต่เพราะคนบนตักก็ไม่ได้ตัวเบานัก ดังนั้นไม่กี่นาทีร่างสูงก็เปลี่ยนเป็นผลักอีกฝ่ายติดไปกับประตูระเบียง ก่อนจะแนบกายเข้าไปจนแผงอกสัมผัสกับแผ่นหลังชื้นเหงื่อ

     “ไอ้ภพ อื้อ เบา”

     ตรีภพขบหลังคอของคนตรงหน้าแทนคำตอบ สะโพกแกร่งไม่ได้เบาแรงลงเลยสักนิด กระจกบานเลื่อนที่กั้นระหว่างพวกเขากับเพื่อนๆ ในห้องสั่นไหวเบาๆ จนน่ากลัวว่าจะมีใครหันมาสนใจ ธีร์ธวัชพยายามเกร็งร่างกายไม่ให้ไหวโยกตามแรงส่งของคนด้านหลัง ทว่ายิ่งเกร็งกล้ามเนื้อ ก็คล้ายว่าช่องทางส่วนนั้นบีบรัดสิ่งแปลกปลอมภายในไปด้วย

     “ธีร์มึง...อา” ตรีภพครางอื้ออึงหลังจากตัวตนของเขาถูกรัดแน่นและผนังด้านในก็ตอดตุบๆ ไม่เลิก แขนแกร่งรวบกอดอีกฝ่ายไว้แนบแน่น ทิ้งริมฝีปากจูบซับไปตามผิวกายเปลือยเปล่า สูดกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ปะปนกับกลิ่นบุหรี่จากลมหายใจของตนเข้าไปจนเต็มปอด

     “ภพ...ภพ”

     “อะ...ไอ้ธีร์ ของมึงแน่น” ยิ่งถูกกระตุ้นด้วยแรงบีบรัดที่ไม่ได้ตั้งใจ ตรีภพก็คล้ายลืมไปแล้วว่าพวกเขากำลังกระทำการบางอย่างภายใต้ความเงียบเชียบไม่ให้ใครรู้ สะโพกสอบอัดกระแทกตัวตนเข้าไปในโพลงร้อนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายใหญ่โตเบียดอีกฝ่ายพร้อมรวบกอดจนร่างกายแทบหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ริมฝีปากร้อนจูบพรมไม่เลิก ทั้งยังฉกเข้ามาขโมยจูบบนริมฝีปากของธีร์ธวัชครั้งแล้วครั้งเล่าจนมันบวมแดงจากแรงดูด

     "อ๊ะ อ๊า... เชี่ยภพขยับออกไปหน่อย"

     "อย่าเสียงดังสิวะ อือ... อ อืม" บทเพลงรักที่บรรเลงหนักหน่วงกำลังทำให้คนทั้งคู่เก็บงำความเสียวซ่านเอาไว้ไม่ไหว ตรีภพกดกระแทกเข้าไปไม่ยั้งแรงจนคนซึ่งแนบหน้าติดกับประตูกระจกตัวสั่นคลอนอย่างรุนแรงหลุดเสียงครางออกมาโดยไม่อาจกลั้น

     "ก็ระเบียงมันแคบ อ๊าาา"

     "ชู่ววว” ร่างสูงเลื่อนริมฝีปากมาแนบใบหูของคนในอ้อมแขน “เดี๋ยวคนอื่นได้ยิน"

     “กู...อึก กูไม่ไหว” ใบหน้าแดงระเรื่อส่ายไปมาเมื่อสิ่งนั้นกระแทกเข้ามาโดนจุดความรู้สึกของเขาที่ภายใน แต่ริมฝีปากกลับต้องขบกันแน่นเพียงเพราะหวั่นเกรงว่าเพื่อนๆ อีกสี่ห้าคนที่นั่งพูดคุยกันอยู่ภายในห้องจะได้ยิน

     “กูก็ไม่ไหวแล้วไอ้ธีร์” เสียงกระซิบแหบพร่านั้นเองที่ทำเอาร่างของธีร์ธวัชกระตุกเกร็งและปลดปล่อยออกมา

     ไม่นานนักภายในช่องทางนิ่มก็รู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ไหลเอ่อย้อนออกมาเปื้อนต้นขา ตรีภพถอนสะโพกออกไปแล้วแต่ยังไม่ยอมปล่อยแขนที่กอดกันเอาไว้แน่น

     “แฮก...แฮก”

     เสียงหอบหายใจหนักยิ่งกว่าในคราแรกดังแข่งกับพัดลมแอร์ที่เพิ่งกลับมาทำงานอีกครั้ง ดวงตาสีดำสนิทเหลือบกลับไปมองคนซึ่งยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง ก่อนที่ร่างโปร่งจะพลิกตัวหันกลับมาแล้วรั้งต้นคอคนตรงหน้าลงมาประกบปากจูบด้วยรอยยิ้ม

     “อืม...” กลิ่นบุหรี่ยังคงมีในลมหายใจของอีกฝ่าย

     ธีร์ธวัชเคยบอกแล้วว่าตัวเขาเองไม่ได้ชอบกลิ่นบุหรี่นัก มันทั้งเหม็นและทำให้ปวดหัวในบางครั้ง ทว่ารสจูบที่เคล้าไปด้วยร่องรอยของนิโคตินอัดแท่งในยามนี้ก็นับว่าน่าหลงใหลไม่น้อยเลยทีเดียว

     หรืออันที่จริงเขาไม่ได้ชอบบุหรี่จากปากของไอ้ภพหรอก

     เขาก็แค่ชอบจูบของมันเท่านั้นเอง

     ...จูบของเพื่อนสนิท...

     ไอ้ตรีภพ ปรีชาสกุล







__________________________________

สวัสดีค่า พลอยพรรณคนเดิมจาก "จรดฟ้า" กับ "เพื่อนวัยเด็ก" ค่า

หลังจากที่หายไปนานเพราะเรียนจบและได้เริ่มเข้าสู่ชีวิตวัยทำงานแล้ว

ตอนนี้ก็ได้เวลาดีงามมาเพื่อเปิดเรื่องใหม่ หวังว่าจะชอบกันนะค้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-07-2019 21:31:43 โดย หะมายด์เอง »

ออฟไลน์ holypumpkin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หื้อออออออ แอบรอตั้งแต่ยังเป็นทวีต คืออรุ่มแบบไม่ไหวแล้วววว

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
สถานะเพื่อนสนิทแบบนี้จะดราม่าไหมน้อ

 :pig4:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ lolli_candy99

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ singalone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
กรี๊ดดดดดดดดด เปิดเรื่องมาจุกๆมากจ้าาา รออ่านน๊าา

ออฟไลน์ หะมายด์เอง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-1
บทที่ 1




นิยามของคำว่าเพื่อน...คืออะไร

ธีร์ธวัชไม่ค่อยแน่ใจกับคำตอบของตนนักถ้าถูกถามมาแบบนี้ เพราะเขามีหลากหลายประโยคที่จะตอบออกไปเหลือเกิน
เพื่อน...ก็คงเป็นมนุษย์ปัญญาอ่อนที่มีวิถีชีวิตใกล้เคียงกัน

เพื่อน...ก็อาจจะเป็นใครสักคนที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คงไม่มีมีนิยามบทไหนของคำว่า ‘เพื่อน’ ที่จะบอกว่า คนเป็นเพื่อนกันสามารถ ‘เอา’ กันได้

“ธีร์"

ก็คงมีแต่เพื่อนแบบไอ้ที่กำลังกระซิบเรียกชื่อเขาอยู่นี่แหละมั้ง ที่นิยามของมันแตกต่างไปจากเพื่อนคนอื่นๆ

ธีร์ธวัชครางอือในลำคอเมื่อหัวไหล่ของเขาถูกเขย่า ดวงตาสีนิลเหลือบมองคนที่นั่งอยู่ริมขอบเตียงด้วยสีหน้ารำคาญ ฝ่ามือนิ่งคว้าข้อมือของเจ้าของห้องเอาไว้เพื่อหยุดการรบกวนที่น่าหงุดหงิดนี้ลง

“มีอะไร” เสียงของเขาแหบแห้งแบบคนเพิ่งตื่นนอน

ใบหน้าคมคายภายใต้กรอบเส้นผมสีน้ำตาลเข้มสั่นเบาๆ ก่อนจะกดเสียงต่ำเป็นการปรามเขาน้อยๆ ไปในตัว

“ลุกได้แล้ว แม่กูจะมาหา”

“แม่มึง?” ธีร์ธวัชเลิกคิ้วถาม “เพื่อนมานอนห้องคงมาเป็นไร”

เขาเถียงไปแบบนั้นเพราะตอนนี้เหนื่อยและง่วงเกินกว่าจะฝืนสังขารลุกไปอาบน้ำได้ ตั้งแต่เมื่อคืนที่แอบกินกันที่ระเบียงห้องคอนโดเพื่อน เขาซึ่งซัดเหล้าลงท้องไปอีกหลายกรึบก็โดนหิ้วกลับมาที่ห้องของตรีภพ ก่อนจะโดนจัดไปไม่ใช่น้อยๆ รู้ตัวอีกทีขอบฟ้าก็เริ่มมีแสงรำไร ร่างกายปวกเปียกจนยืนด้วยสองขาของตัวเองไม่ได้

นั่นแหละ...หมดสภาพแบบนั้นเลย

เพราะฉะนั้นในตอนที่นาฬิกาเพิ่งบอกเวลาเก้าโมงเช้า นายธีร์ธวัชคนนี้จะไม่ยอมลุกไปไหนเด็ดขาด แม้ว่าแม่เพื่อนจะมาหาก็ตาม
แค่เพื่อนมานอนด้วยที่หอ คุณแม่คงไม่ว่าอะไร...

“ไอ้ธีร์”

“อะไร” คนซึ่งกดหน้าลงบนหมอนคำรามเสียงอู้อี้ตอบกลับมา “จะนอนแล้ว เหนื่อย”

“แม่กูจะมา”

“รู้แล้ว”

“ธีร์...”

“อะไรอีกเล่า” ธีร์ธวัชชักเริ่มอารมณ์เสีย แต่พอตวัดตาขุ่นๆ หันไปมองเจ้าของห้อง ก็ต้องเงียบปากลงเมื่อพบกับใบหน้าจริงจังของเพื่อนสนิทที่สุดในกลุ่ม

“มึงต้องกลับ รอยเต็มตัวแบบนี้แม่สงสัยแน่ๆ” ปลายนิ้วเย็นชืดแตะลงมาบนซอกคอที่ขึ้นรอยสีกุหลาบอยู่หลายจ้ำ แม้จะสวมเสื้อนอนทว่าร่องรอยพวกนั้นก็ยังโผล่ออกมาประจานการกระทำสุดแสนจะร้อนแรงเมื่อคืนอยู่ดี

“อาจจะเป็นสาวมาดูดคอกูก็ได้” คนขี้เถียงก็ยังคงเถียงต่อไป แม้จะยอมตวัดผ้าห่มออกจากตัวและเดินโงนเงนไปยังห้องน้ำ “แต่ก็นะ กูเดินขาถ่างแบบนี้ เด็กอนุบาลแม่งยังรู้เลย”

“มึงบอกให้แรงๆ เอง”

ธีร์ธวัชยักไหล่โดยไม่หันกลับไปมอง “ก็กูชอบแบบแรงๆ”






ธีร์ธวัชอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะหอบเอาสารร่างใกล้หลับกลับมาที่ห้องพักของตนในตอนที่ยังไม่สิบโมงเช้าเลยด้วยซ้ำ ร่างโปร่งอ้าปากหาววอดใหญ่ นั่งโงนเงนอยู่บนวินมอเตอร์ไซค์จนพี่เขาต้องคอยสะกิดขาเพราะกลัววูบหลับแล้วตกลงพื้นถนน

“เฮ้อ” เสียงถอนหายใจดังลอดออกมาเมื่อร่างโปร่งทิ้งตัวลงบนเตียงแข็งๆ ในห้องของตัวเอง

ธีร์ธวัชอาศัยอยู่ในห้องพักราคาถูกย่านหลังมหา’ลัย เพราะต้องการที่จะอยู่คนเดียวโดยไม่มีเมททำให้เขาต้องประหยัดค่าใช้จ่ายในการเลือกห้องพักรายเดือนที่ราคาไม่แพงนัก ดังนั้นภายในห้องของเขาจึงเป็นเพียงห้องแคบๆ ที่เดินเข้ามาก็เจอเตียงนอนเลย แถมยังไม่มีเครื่องปรับอากาศภายในห้องอีกด้วย

แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้นอนหอหรอก ถ้าร้อนมากจริงๆ ก็จะหอบผ้าหอบผ่อนหนีไปหาห้องเพื่อนคนอื่นอยู่เพื่ออาศัยแอร์เย็นๆ ในวันที่ร้อนจนทนไม่ไหวจริงๆ

ซึ่งประเทศไทยมีวันแบบนั้นอยู่ราวๆ 360 วันตลอดปี

ช่วยไม่ได้ล่ะนะ เพื่อนในกลุ่มเขาส่วนใหญ่ก็เป็นลูกหลานคนมีตังค์ทั้งนั้น ขนาดไอ้ภพที่ว่าฐานะปานกลางยังมีรถขับพร้อมคอนโดขนาด 23 ตร.ม.ไว้เป็นของตัวเองเลย

และถูกแล้ว ห้องที่เขามักไปสถิตย์อยู่ด้วยก็คือห้องของไอ้ภพนั่นแหละ เพราะเขากับันสนิทกันที่สุดในกลุ่ม ไปไหนก็ไปกันแค่สองคนเพราะอีกสองคนที่เหลือติดเมีย หายหัวไปไหนไม่รู้จนขี้เกียจจะตามหาแล้ว

อ๋อ...และถ้าสงสัยว่ามันเป็นมายังไง ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาถึงได้เกินเลยมาจนกลายเป็นเฟรนด์วิทเบเนฟิทแบบนี้ ก็ตอบได้เลยว่า...

ไม่รู้ว่ะ

จริงๆ ทั้งเขาและมันก็เคยมีแฟนเป็นผู้หญิงมาก่อนนะ แต่ก็เลิกไปในเวลาไล่เลี่ยกันด้วยคนละเหตุผล เขาไม่รู้ว่าทำไมตรีภพถึงเลิกกับตังเม แฟนคนสวยที่เป็นถึงขวัญใจช่างภาพในการประกวดดาวเดือนตอนปีหนึ่ง ส่วนที่เขาเลิกกับแฟนคนล่าสุดก็เพราะความชอบกินอะไรไม่เหมือนกัน สุดท้ายก็กลายเป็นความอึดอัดและต้องแยกทางกันไป

ก็นะ ธีร์ธวัชเป็นผู้ชายไม่ชอบกินของหวาน ในขณะที่นาน่าก็ไม่ชอบกินอาหารรสจัดเช่นกัน มื้ออาหารระหว่างพวกเขาเลยไม่น่าสนุกสักเท่าไหร่

และนั่นก็เป็นเหตุผลที่พอกลับมามีสถานะโสดในระหว่างที่เพื่อนคนอื่นไม่โสดไปด้วย เขากับตรีภพจึงต้องไปไหนมาไหนด้วยกันสองต่อสองอยู่บ่อยๆ

แต่เรื่องแค่นั้นมันคงไม่ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ทางด้านนั้นหรอก

ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเองนี่แหละ

เป็นตัวเขาเองที่เผลอกดเข้าไปดู GAV ด้วยความสงสัย และค้นพบว่าตัวเองเกิดอารมณ์กับภาพเคลื่อนไหวของชายสองคนซึ่งกอดกระหวัดรัดกันอย่างแนบแน่น

ตอนแรกก็แค่ดูให้รู้

แต่ครั้งที่สองกลับเริ่มที่จะช่วยตัวเอง

และครั้งที่สามและต่อๆ ไปมันก็เริ่มหนักข้อ

เพราะความสงสัยที่ว่า ไอ้คนถูกเสียบมันรู้วึกดีขนาดนั้นเลยเหรอวะ นั่นจึงเป็นเหตุผลให้เขาสอดนิ้วมือของตัวเองเข้าไปที่ช่องทางด้านหลัง...ที่ห้องของไอ้ภพ...ในตอนที่มันไม่อยู่

ด้วยความที่ตอนนั้นเป็นเวลาสิบโมงกว่าๆ ซึ่งตรีภพมีเรียนวิชาเสรี ซึ่งเขาไม่มีเรียน ทำให้คนที่แวะมาอาศัยใช้เน็ตฟรีถือโอกาสเล่นพิเรนทร์กับตัวเองโดยไม่สนว่านี่มันคือห้องเพื่อน

และถูกต้อง

แจ็กพ็อตดันแตกเพราะทันทีที่กำลังทำความเข้าใจกับความรู้สึกแปลกปลอมในช่องทางของตัวเอง ประตูห้องของคอนโดก็เปิดผัวะออก พร้อมกับร่างเจ้าของห้องที่ยืนถือถุงกับข้าวหิ้วซึ่งน่าจะซื้อมาฝากกัน

ณ วินาทีนั้นความคิดในหัวตีกันยุ่งไปหมด

มันมีคำว่าชิบหายแล่นวนอยู่ในหัว เพราะตรีภพเอาแต่จ้องและยืนค้างอยู่ที่ประตูด้วยสีหน้าตกใจ

ธีร์ธวัชหน้าแดงก่ำ เสียงอิ๊อ๊ะจากจอคอมยังดังอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันร่างกายของเขาก็เปลือยเปล่า นิ้วสองนิ้วสอดอยู่ระหว่างแก้มก้นทั้งสอง มืออีกข้างค้างจับตัวตนกลางกายเอาไว้แนบแน่น

และเวลาก็หยุดภาพเอาไว้แบบนั้น จนกว่าจะมีใครรู้สึกตัวและเริ่มขยับก่อน

ธีร์ธวัชไม่แน่ใจว่าเขาจะทำยังไงกับสถานการณ์ในตอนนั้นดี มันแย่มาก และเต็มไปด้วยความชิบหายแบบบัดซบ

เขาอยากแก้ตัว แต่หลักฐานแม่คาตา...

อย่างรีบวิ่งไปใส่เสื้อผ้าในห้องน้ำ แต่ร่างกายก็ขยับไม่ได้เลย...

สุดท้าย เจ้าของใบหน้าเห่อร้อนก็ทำได้เพียงหลับหูหลับตาพูดออกไปอย่างไม่คิดชีวิตว่า

“ไอ้ภพ...เข้ามาเร็วๆ”

......และสุดท้าย ความหมายของคำว่า ‘เข้ามาเร็วๆ’ หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงก็เปลี่ยนไป






“อ๊ะ...ไอ้ภพ เข้ามาเร็วๆ สิวะ...อ๊าส์”

...เออนั่นแหละ

มันก็เริ่มต้นมาแบบกากๆ แบบนั้นเลย



----------------------------------- ๖๐ % -----------------------------------------------


Talk:
ต่อไปนี้จะอัพทุกวันอังคารค่า

เรื่องนี้เตรียมเลือดกันไว้ดีๆ นะคะ แฮ่

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ singalone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
กลัวใจดราม่ามากเลยจ้าาาาา เป็นกำลังใจให้คนเขียนน๊า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Mminky

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ยอมใจรอบแรกมาก

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 889
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ หะมายด์เอง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-1
บทที่ 1 (120%)


ธีร์ธวัชลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งในตอนที่ท้องฟ้ามืดไปแล้ว เขาอ้าปากหาววอดใหญ่ ขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงแข็งๆ และผ้าห่มเน่าซึ่งไม่ได้ซักมาหลายเดือน เส้นผมยุ่งเหยิงถูกขยี้จนพันกันยิ่งกว่าเก่าเมื่อคนที่นอนหลับทับตะวันรู้สึกมึนหัวและปวดหน่วงอยู่หน่อยๆ เขาใช้ปลายนิ้วขยี้เอาขี้ตาออกก่อนจะลูบหน้าตัวเองอย่างแรงเพื่อเรียกสติ ร่างกายสูงโปร่งกับการแต่งกายไม่เรียบร้อยพาสารร่างโงนเงนเดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมกับผ้าขนหนูหนึ่งผืน

ธีร์ธวัชใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำเพียงสิบห้านาทีก็ออกมาพร้อมผมที่เปียกชุ่มและร่างกายเปลือยเปล่า หน้าท้องแบนราบของเขามีร่องรอยของกล้ามเนื้อขึ้นนูนอยู่จางๆ ใบหน้าได้รูปเกลี้ยงเกลาหลังจากเพิ่งโกนหนวดเสร็จหมาดๆ ธีร์ธวัชนับว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มคนหน้าตาดีในมหาวิทยาลัย แม้ในความเป็นจริงจะไม่ได้มีสาวๆ มาตามกรี๊ดกร๊าดเหมือนในละคร แต่ก็นับได้ว่าชีวิตในฐานะนักศึกษาตลอดสองปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยพลาดจากการขอเบอร์สาวคนไหนเลยสักคน

ไลน์!


NINE: สามทุ่ม ที่เดิม


ในระหว่างที่ธีร์ธวัชกำลังแต่งตัวเพื่อจะออกไปหาอะไรกิน โทรศัพท์ที่เสียบสายชาร์ตไว้หัวเตียงก็ร้องคำรามลั่น และไม่ใช่เพียงครั้งเดียวเมื่อไลน์กลุ่มเพื่อนสนิทกำลังมีการสนทนากันอย่างเมามันส์



RRRUN: ออกอีกแล้ว?

NINE: วันนี้แฟนกูไม่อยู่

TRIPOB: แมวไม่อยู่

NINE: กูก็ร่าเริงไง!

กูจะแจ้ง :THEE



ธีร์ธวัชตอบไลน์กลุ่มไว้แค่นั้น ก่อนจะเดินกลับมาที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อเปลี่ยนชุดให้มันดูดีกว่าบ็อกเซอร์กับเสื้อยืดโง่ๆ ที่สวมอยู่ตอนนี้
เขาคว้ากางเกงขาสั้นสีเทากับเสื้อแฟชั่นออกมาสักตัว หวีผมหน้ากระจกเล็กน้อย พร้อมด้วยพรมน้ำหอมกลิ่นโปรด ก่อนที่จะพาตัวเองออกมาจากห้องพักในเวลาต่อมา โดยที่จุดหมายปลายทางคือร้านข้าวสักร้าน กับห้องของเพื่อนคนไหนสักคนเพื่อรอออกไปที่ร้านนั่งชิลพร้อมกันตอนสามทุ่ม

...ไม่รู้ป่านนี้แม่ไอ้ภพกลับไปรึยัง

ธีร์ธวัชขบคิดขณะนั่งลงบนเก้าอี้พลาสติกที่ร้านตามสั่งหน้าหอ เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอีกครั้ง เมินไลน์กลุ่มที่ยังคงตบตีเถียงกันไปมาเพื่อเลื่อนหาห้องแชทของใครสักคนที่มีแต่รายการโทรออกและโทรเข้า บทสนทนาที่เป็นตัวอักษรมีอยู่แค่สองสามครั้ง นั่นคือการถามว่าอยู่ไหน และการบอกว่ากำลังจะออกไปหาแล้ว

และครั้งนี้ธีร์ธวัชก็กดโทรออกแทนที่จะพิมพ์แชทส่งไปเช่นเดียวกัน

เสียงสัญญาณรอสายดังอยู่สักพักเจ้าของไลน์ TRIPOB ถึงได้กดรับ

[ว่าไง] เสียงทุ้มที่กรอกลงมาดูดุกว่าเสียงจริงเสียอีก ธีร์ธวัชเลยแกล้งกระแอมเบาๆ และปรับโทนน้ำเสียงของตนให้เข้มขึ้นบ้าง

“แม่มึงกลับยัง”

[กำลังจะไปส่ง]

“งั้นแวะมารับกูด้วย” เขาบอกขณะรับจานผัดกะเพรามาจากเจ๊เจ้าของร้าน “เดี๋ยวกูไปนังเล่นห้องมึง”

[อืม]

“เค แดกข้าวละ”

และสายสนทนาระหว่างกันก็ถูกตัดทิ้งไปหลังจากธีร์ธวัชหมดธุระแล้ว เขาสอดเครื่องมือสื่อสารใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง กะเวลาก็อีกสักพักกว่าตรีภพจะมา และเขาก็ขี้เกียจเกินกว่าจะเดินกลับขึ้นไปบนห้องอีกครั้ง ธีร์ธวัชจึงตัดสินใจค่อยๆ ละเลียดข้าวมื้อนี้อย่างช้าๆ รั้งรอจนกว่ารถยนต์สีน้ำเงินเข้มอันคุ้นตาจะแล่นเข้ามาจอดที่หน้าหอพัก...



TRIPOB: ถึงแล้ว



หลังจากที่กินข้าวจนอิ่มและนั่งเล่นเกมจบไปหลายตา ในที่สุดตรีภพก็ส่งข้อความมาบอกว่าถึงแล้ว ชายหนุ่มที่รออยู่นานแล้วรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ ควักเงินออกมาสี่สิบบาทเพื่อจ่ายค่าอาหาร ก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินออกไปยังรถยนต์ซีดานที่เจ้าของมันเพิ่งเอาไปล้างมาเสียสะอาดเอี่ยม

“โยว่” ธีร์ธวัชเปิดประตู ยกมือทักทายเพื่อนด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะกระโดดขึ้นไปนั่งยังเบาะข้างคนขับพลางแย่งโทรศัพท์ของอีกฝ่ายมาเปลี่ยนเพลงที่เล่นคลออยู่ในห้องโดยสาร

ตรีภพหันมามองอากัปไร้ความเกรงใจของเขาก่อนจะละสายตาไปด้วยความเคยชิน รถยนต์คันงานค่อยๆ เคลื่อนออกจากที่จอด มุ่งตรงสู่ถนนสายหลักที่จะนำพาพวกเขาทั้งสองไปยังคอนโดแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหา’ลัยของพวกเขานัก

เสียงดนตรีบีทหนักๆ ชวนให้คนที่ติดรถมาด้วยโยกศีรษะไปตามท้วงทำนอง ธีร์ธวัชคลอนหัวขณะจิ้มมือถือพิมพ์ตอบข้อความในกลุ่มไลน์กับเพื่อนๆ

“คืนนี้มึงไปด้วยไหม” เขาถามขึ้นเมื่อเห็นว่าในจำนวนคนที่ +1 ร่วมตกลงที่จะไปร้านนั่งชิลวันนี้ไม่มีตรีภพรวมอยู่ด้วย ดวงตาสีดำสนิทหันไปมองคนซึ่งกำลังตั้งใจมองถนนด้วยความสงสัย

“อาจจะไม่ไป”

“หืม?” เขาเลิกคิ้ว

ความจริงแล้วที่ติดรถมันมาถึงคอนโดก็เพราะกะจะอาศัยโดยสารไปที่ร้านด้วย แต่ท่าไอ้เจ้าของรถมันไม่ไป เขาจะยังได้ติดรถมันไปอีกหรือ

“มีงานค้างนิดหน่อย”

“อ้าว แล้วไม่บอกกูแต่แรก”

งานที่ตรีภพว่าก็คงหมายถึงพวกงานเอกสารของที่บ้านที่มันรับมาช่วยดูแลในบางส่วน ธีร์ธวัชเข้าใจได้ถึงธุระของเพื่อน แต่ภพก็น่าจะบอกกันก่อน เขาจะได้เลือกไปนั่งเล่นที่ห้องคนอื่นแทน

“นึกว่าวันนี้จะมานอนด้วย”

“อ่านไลน์บ้างนะครับที่รัก กูตอบตกลงไปตัวอย่างใหญ่” เขาว่าพลางยื่นหน้าจอบทสนทนาที่ตัวเองส่งสติกเกอร์โอเคตัวใหญ่ไปให้อีกฝ่ายดู แต่คนขับรถทำเพียงแค่ปรายตามองก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

“เดี๋ยวกูไปส่งร้าน”

“อ่ะ เพื่อนที่ดี” ธีร์ธวัชหัวเราะ รับน้ำใจนั้นอย่างไม่อิดออด “ถ้าจะให้ดีรับกูกลับด้วย”

“โทรมาแล้วกัน”

“ประเสิร์ฐชิบหายเลยคุณตรีภพ” คนอารมณ์ดีหัวเราะร่วนพลางตบบ่าแกร่งปั่กๆ เขาผิวปากหวือ หันกลับมาสนใจหน้าจอโทรศัพท์ต่อพร้อมทั้งฮัมเพลงคลอตามไปด้วย

มีสารถีไปรับไปส่งแล้ว สบายทั้งกาย สบายทั้งเงินในกระเป๋า






หลังจากนั่นร้องเพลงอยู่บนรถได้ไม่นานตรีภพก็หมุนพวงมาลัยเลี้ยวเข้ามายังรั้วคอนโดหรูอันแสนคุ้นตา ธีร์ธวัชมาเยือนที่นี่บ่อยยิ่งกว่าหอพักของตัวเองเสียอีก ดังนั้นตู้เสื้อผ้าในห้องของตรีภพจึงถูกเขาแย่งจับจองไปหนึ่งในสามส่วนทีเดียว

ตรีภพซื้อห้องที่นี่และอาศัยอยู่คนเดียวทำให้เขาเลือกขนาดห้องพักทีไม่กว้างนัก ทว่าการตกแต่งที่แบ่งสัดส่วนห้องนอนห้องนั่งเล่นอย่างชัดเจนก็ทำให้ดูน่าอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว เฟอร์นิเจอร์สีฟ้าหม่นเข้ากับผนังสีเทาอย่างถึงที่สุด ทั้งยังมีทีวีจอใหญ่ เตียงสุดนุ่ม และเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำที่ธีร์ธวัชรักมันมากที่สุดติดตั้งอยู่ภายใน เขาฉีกยิ้มร่าเมื่อเหยียบเข้ามาในห้องแอร์คอนดิชั่นเริ่มทำงาน

“พวกนั้นนัดสามทุ่ม”

“ก็ออกสามทุ่ม” ตรีภพว่าอย่างนั้นขณะถอดเสื้อผ้าออกจากตัว เสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนส์คงทำให้อคดอัดไม่น้อย และเจ้าของห้องก็ไม่ได้เกรงใจกับแขกไม่ได้รับเชิญที่มาเยือนอยู่บ่อยๆ ชายร่างสูงใหญ่จึงปลดเปลื้องเสื้อผ้าโชว์มัดกล้ามกับร่องซิกซ์แพ็กบนหน้าท้องอย่างไม่อาย

“ภพ”

“ว่า?”

“คิดยั่วกูเหรอ” คนที่กระโดดไปนั่งไขว่ห้างบนเตียงยิ้มเผล่

ตรีภพที่ถูกกวนทำเพียงแค่เลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะละมือออกจากเสื้อยืดตัวหนึ่งแล้วเดินย่ำเท้าเข้าไปหาใครบางคนที่เตียงนอน
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มจ้องไปยังรอยยิ้มยียวนไม่วางตา ฝ่ามือหน้าคว้าหมับเข้าที่ต้นแขนของอีกฝ่าย ใบหน้าคมโน้มลงต่ำก่อนกดจูบลงอย่างแรงบนริมฝีปากคู่นั้น

“อื้อ” ธีร์ธวัชครางอื้ออึงด้วยความตกใจในคราแรก แต่เมื่อเขาตั้งตัวได้ แขนทั้งสองข้างก็เลื่อนขึ้นโอบรอบลำคอแกร่ง ใบหน้าดูดีแหงนขึ้นจนสุด เผยอปากตอบรับรสจูบหวานล้ำที่แทรกแซงเข้ามาอย่างดูดดื่ม

ลิ้นร้อนสอดเข้ามาเกี่ยวกระหวัดราวกับต้องการดูดกลืนคูดไร้สาระพวกนั้นทิ้งไป ริมฝีปากล่างของธีร์ธวัชถูกดูดและขบเม้มอย่างรุนแรง ลมหายใจของเขาหอบกระชั้นเมื่อถูกชกชิงไปอย่างตะกละตะกราม

ไอ้พวกจูบเก่งเอ้ย!

คนบนเตียงได้แต่กร่นด่าในใจทั้งที่ปากยังพยายามต่อสู้กับความร้อนเร่านั้น ร่างกายของเขาตอบสนองดีเหลือเกินกับสัมผัสของคนตรงนั้น มันสั่นระริกทั้งยังเรียกร้องให้อีกฝ่ายบีบขย้ำลงมาอย่างไร้ปราณี

“แฮ่ก...แฮ่ก”

และในที่สุดจูบรุนแรงนี้ก็จบลงเมื่อธีร์ธวัชแทบไม่เหลือลมหายใจอีกแล้ว

ดวงตาสีน้ำตาลเข้มยังคงจับจ้องมายังใบหน้าแดงระเรื่อของเขา ธีร์ธวัชยอมรับว่าตอนนี้ตัวเขาเองไม่อาจสู้สบตากับตรีภพได้ ดังนั้นเขาจึงแกล้งเบนหน้าหนี ก่อนจะบ่นพึมพำเบาๆ

“แดกปากกูแทนข้าวเลยไหมล่ะ”

ตรีภพไม่สนใจประโยคประชดประชัน เขาส่ายหน้า ดีดกะโหลกเพื่อนไปหนึ่งทีแล้วบอกว่า “กูจะไปทำงานแล้ว”

“เออ ไปไหนก็ไป” ธีร์ธวัชครางหลับอย่างหมดแรง ลมหายใจของเขายังหอบถี่ๆ ทั้งร่างกายเบื้องล่างก็ถูกปลุกให้ตื่นตัวขึ้นมาแล้ว
เบื่อชิบหาย นิสัยไอ้ภพที่ชอบสะกิดแล้วปล่อยให้ค้างแบบนี้เนี่ย!



_________________________
หายไปครึ่งเดือนเลยค่า ติดทำโอทีที่บริษัททุกวันเลย งานเข้าใกล้เดดไลน์มาทุกที
ที่สัญญาจะอัพก็ไม่ได้อัพ ฮือออออ เราแจ้งไว้ในทวิตแล้ว แต่คาดว่าคงมีหลายๆ คนไม่เห็น
ขอโทษด้วยนะคะ  :hao5: :hao5: :hao5: ไม่มีข้อแก้ตัวเลย

จะรีบมาต่อให้ไวๆ และจะพยายามมาให้ได้ทุกวันอังคารค่า

รัก
พลอยพรรณ

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ภพน่าจะเป็นคนที่คิดเกินเลยก่อน หรือแค่เป็นคนเทคแคร์คนอื่นดีเฉยๆอะ

 :pig4:

ออฟไลน์ หะมายด์เอง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-1
บทที่ 2

 

ธีร์ธวัชมาถึงร้านนั่งชิลเอาตอนสามทุ่มครึ่ง เนื่องจากสารถีจำเป็นทำงานติดพันจนกว่าจะออกมาได้ โทรศัพท์ของเขาก็โดนเพื่อนๆ รุมโทรจิกยิ่งกว่าแม่ไก่



เขาเปิดประตูลงจากรถพลางโบกมือให้ตรีภพด้วยรอยยิ้มแทนคำขอบคุณ จากนั้นก็เดินดุ่มๆ ยื่นบัตรประชาชนให้ยามหน้าร้านตรวจ ก่อนจะสแตมป์สัญลักษณ์ที่ข้อมือแล้วเดินแทรกตัวเข้าไปภายในฝูงคับคลั่ง



ร้านนั่งชิลเป็นร้านเหล้าที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยมากที่สุด และเป็นร้านที่มีดนตรีสดเล่นให้ฟังวันละสองวง ดังนั้นจึงเป็นที่ถูกใจของเหล่าบรรดานักศึกษาที่ชื่นชอบการสังสรรค์ ด้วยบรรยากาศทึมๆ ที่มีแสงสว่างจากโคมไฟสีส้มไม่กี่ดวงเพียงอย่างเดียว กับพื้นที่นั่งของร้านก็กว้างพอจะจุคนได้เยอะ ทำให้ไม่ใครต่อใครก็นึกถึงร้านนี้เป็นร้านแรกเสมอถ้าจะอยากชวนเพื่อนออกมาเฮฮากัน



เวลานี้แม้จะดึกมากแล้วแต่คนภายในร้านก็ยังไม่มากเท่าช่วงวันศุกร์ แต่ถึงอย่างนั้นจำนวนโต๊ะที่ว่างเปล่าก็สามารถนับได้ด้วยมือเดียว ธีร์ธวัชส่ายหัวให้กับความขี้เมาของนักศึกษามอนี้ ก่อนที่จะเร่งฝีเท้าเพื่อเดินไปยังโต๊ะประจำซึ่งมีเพื่อนๆ นั่งรออยู่ก่อนแล้วครบทุกคน



“เฮ้ย ไอ้ธีร์มาแล้ว”



นาย เพื่อนชายหน้าตาออกไปทางจีนแท้ชี้ไม้ชี้มือมาที่เขา พร้อมทั้งส่งเสียงดังแข่งกับเสียงดนตรีที่ทางร้านเปิด ธีร์ธวัชยกยิ้มกว้าง เดินเข้าไปนั่งยังเก้าอี้ว่างพลางเอ่ยทักทายเพื่อนๆ ด้วยสายตา



ธีร์ธวัชเป็นคนเพื่อนเยอะ ด้วยความสำมะเรเทเมาพอสมควร ทำให้เขารู้จักคนนั้นคนนี้ไปทั่ว แต่ที่คบกันอยู่อย่างจริงๆ จังๆ ไปไหนไปกัน สอบตกก็สอบด้วยกัน ขับรถเมาแหกโค้งมาด้วยกันก็เห็นจะมีแค่สี่คนเท่านั้น



คนแรกคือตรีภพ เพื่อนสนิทที่สุดในกลุ่ม ด้วยสถานการณ์พาไปแล้วหนึ่ง ด้วยร่างกายเข้ากันดีเหลือเกินแล้วสอง เพราะเหตุนั้นเขาจึงตัดให้ภพขึ้นมาอยู่บนหัวตารางความสนิทของเพื่อนอย่างไม่ต้องคิดเยอะ



คนที่สองชื่อนาย ชื่อจริงชื่อ นราวุฒิ เป็นลูกคนจีนที่อาเตี่ยเป็นจีนแท้แต่ย้ายมาอยู่ในไทยตั้งแต่เด็กๆ ผิวของนายจึงขาวและเนียนละเอียดกว่าเขาอยู่มากโข รูปร่างก็ออกจะสูงเก้งก้าง ไม่ค่อยมีกล้ามเนื้อเนื่องจากเป็นคนขี้เกียจออกกำลังกาย แต่เพราะกินเบียร์หนักอยู่ช่งหนึ่ง คนที่ดูผอมแห้งจึงมีพุงกะทิเล็กๆ ให้เขาได้ล้ออย่างสนุก



ส่วนอีกสองคนที่เหลือชื่อ รัน กับดิส



รัน ชื่อจริงชื่อ รัชชัย เป็นผู้ชายเจ้าชู้ ที่แม้หน้าตาไม่ได้เข้าขั้นหล่อเหลา แต่เพราะการแต่งตัวและพูดจาสุภาพทำให้สามารถจีบสาวๆ ได้อย่างไม่น้อยหน้าใคร แต่ช่วงนี้เสือตัวนี้เหมือนจะสิ้นลายไปแล้ว เพราะดันไปหลงรักผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งรันบอกเองว่าคนนี้จริงจัง และหลงอย่างหนักจนบางทีตลอดทั้งสัปดาห์ก็ไม่เห็นหน้าเลยยกเว้นในห้องเรียน



และคนสุดท้ายคือดิส หรือเรียกเต็มๆ ว่า รัชพล ดิสเพิ่งเข้าร่วมกลุ่มมาเมื่อไม่กี่เดือนก่อน แต่ก็นับว่าสนิทสนมเนื่องจากวิถีชีวิตกับนิสัยเข้ากันได้ดี ดิสไม่ใช่ผู้ชายช่างจ้อนัก เขาเป็นผู้ฟังที่ดี แถมยังรับมุก ต่อมุก ชงมุกเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับนาย ทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งคนสำคัญในแก๊งค์ขึ้นมาทันที



แต่อย่างไรก็ตาม สามคนนี้มีแฟนกันหมดแล้ว และติดแฟนมากกกก!



“มาช้า หารเท่านะเว้ย” รันพูดขึ้นพร้อมยื่นแก้วที่เติมเบียร์จนเต็มส่งมาให้



ธีร์ธวัชรับมาแล้วกระดกไปหนึ่งอึกแทนการตอบรับ เขาหัวเราะเบาๆ โคลงหัวไปตามจังหวะดนตรี ก่อนจะบอกออกไปอย่างมั่นใจว่า



“กูหารอยู่แล้วน่า”



“ดีมาก!”



“เอ้า มากันครบแล้วก็ชนหน่อย” นราวุฒิที่ไล่เติมเบียร์ใส่แก้วให้เพื่อนทุกคนจนครบรีบตะโกนเรียกความสนใจ มือข้างขวาก็ชูแก้วของตัวเองขึ้นตรงหน้า จากนั้นเพื่อนๆ บนโต๊ะทั้งหมดก็ร่วมใจยกแก้วของตนขึ้นชนกันเบาๆ



แกร๊ง!



เสียงเนื้อแก้วกระทบขับให้บรรยากาศคึกคักขึ้นกว่าเดิม ทั้งสี่คนบนโต๊ะไม้ข้างๆ เวทีซึ่งยังไร้คนแสดงต่างพากันกระดกของเหลวสีอำพันในนั้นจนหมดแก้ว



“ฮ่าห์”



ธีร์ธวัชร้องฮ่าออกมาเมื่อซดเบียร์จนหมดแก้ว เขากระแทกแก้วลงบนโต๊ะ ใช้หลังมือปาดรอยเปื้อนที่คางและริมฝีปากออกก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง



“แฟนรู้หัวแตกแน่ๆ พวกมึง” เขาเอ่ยแซวพวกเพื่อนๆ ที่ต่างมีพันธะกันทั้งนั้น



นายได้แต่ยักไหล่เบาๆ “ก็อย่าให้รู้สิวะ”



“ส่วนกูรอด ขอวีซ่ามาแล้ว” ดิสว่าพลางเทเบียร์ลงแก้วอีกครั้ง



“เหมือนกัน แฟนกูน่ารัก ไม่งี่เง่า” และคนหลงแฟนก็ยิ้มกริ่มอย่างโอ้อวด



“เบื่อโว้ย” ธีร์ธวัชได้แต่ส่ายหัวกับตัวเอง



เขาไม่น่าเปิดประเด็นเรื่องนี้เลย ให้ตายเถอะ น่ารำคาญชะมัด



“พวกมึงทิ้งให้กูอยู่กับไอ้ภพสองคนแล้วยังจะมาอวดเมียให้กูฟังอีก น่ารำคาญๆๆๆๆ” คำว่าน่ารำคาญนี่เขาพูดไม่ยอมหยุดจนนายต้องยื่นขวดเบียร์มาให้ตรงหน้าเพื่ออุดปาก



“มึงก็รีบหาแฟนสิวะ”



“ไม่เอาอ่ะ” ธีร์ธวัชได้แต่ปฏิเสธข้อเสนอของเพื่อน “กูไม่ชอบมีแฟน”



“ก็อย่างนี้ตลอด” รันว่า



“ใช่” ดิสพยักหน้า



“งั้นก็เลิกบ่น” และนายก็ตัดบทด้วยสีหน้าเอือมระอาสุดฤทธิ์



ธีร์ธวัชได้แต่หัวเราะให้กับเพื่อนๆ ที่ไม่ว่าจะพูดเรื่องนี้ทีไรก็ยังคงเป็นแบบเดิม ราวกับกลอเทปย้อนดูอดีตทีเดียว มันน่าตลกที่ทุกครั้งที่เขาบ่นเรื่องเพื่อนๆ ติดแฟน พวกมันก็มักจะไล่เขาให้ไปหาแฟนสักคนจะได้เลิกบ่น แต่ธีร์ธวัชก็ยังคงปฏิเสธด้วยคำตอบเดิมทุกครั้งเช่นกัน



เขาไม่ชอบมีแฟน ไม่ชอบและยังไม่อยากมี



ชีวิตที่โสดแล้วยังสำมะเรเทเมา จะไปจูบปากใครก็ได้แบบนี้ยังถือว่าเป็นความสุขของเขาอยู่ และธีร์ธวัชยังไม่คิดอยากจะเลิกในตอนนี้ ดังนั้นเขาคงไม่ลากใครเข้ามาพัวพันกับวิถีคนเฮงซวยแบบเขาในตอนนี้หรอก



อ๋อ...ยกเว้นตรีภพไว้คนก็แล้วกันที่เขาลากเข้ามาพันกันยุ่งเหยิงจนขี้เกียจจะแก้ปมเชือกแล้ว



“เออ ว่าแต่ไอ้ภพไม่มาเหรอ” รันถามขึ้นมาหลังจากพวกเขานั่งเงียบได้เพียงสองสามนาที ตอนนี้ที่เวทีมีวงดนตรีเล็กๆ ขึ้นมาเซ็ตติ้งเครื่องแล้ว เสียงเพลงที่เปิดคลอปิดลงไปทำให้เสียงจอกแจกจอแจของผู้คนดังมากยิ่งขึ้น



“มันติดงาน”



“น่าเสียดาย วันนี้แกงค์นางฟ้ามาที่ร้านด้วย” รันว่า



“เกี่ยวอะไรกับแกงค์นางฟ้าวะ” ธีร์ธวัชถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจนัก แกงค์นางฟ้าที่หมายถึงกลุ่มรุ่นน้องหน้าตาดีจากคณะบัญชี ซึ่งดังมากๆ ในหมู่ผู้ชายแบบนั้นเกี่ยวอะไรกับตรีภพด้วย



“ก็น้องน้ำชอบมันน่ะสิ” และรันก็ได้ไขข้อข้องใจให้เขาอย่างกระจ่างแจ้ง



คนอื่นๆ เมื่อได้ฟังก็ส่งเสียงโห่ขึ้นมาด้วยคามอิจฉา



“น้องน้ำที่หมวยๆ นั่นน่ะนะ” ดิสถามขึ้นด้วยดวงตาวาววับ



“อืม คนนั้นแหละ”



“เชี่ยเอ้ย! กูอิจฉา” ดิสบ่นพึมพำ



“อยากขโมยเบ้าหน้าไอ้ภพมาเป็นของตัวเอง” และนายก็ได้แค่ครวญครางด้วยน้ำเสียงโหยหวน เพราะน้องน้ำที่รันเอ่ยถึงนับว่าเป็นสาวฮอตอันดับหนึ่งของแกงค์นางฟ้านั้นเลยก็ว่าได้ ด้วยความตัวเล็ก ผิวขาว หน้าหมวย แต่หน้าอกหน้าใจเกินขนาดตัวของเธอเอามากๆ น้องน้ำจึงเข้าสเปคมาตรฐานของชายไทยโดยสมบูรณ์



ธีร์ธวัชไม่ได้ออกความเห็นอะไร แม้ลึกๆ เขาจะแอบอิจฉาที่สวยระดับนั้นมาชอบเพื่อนของเขา แต่อีกใจก็ชินชาเสียแล้ว เพราะตรีภพจัดว่าเป็นผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งในมหา’ลัย แต่ด้วยความที่ไม่ทำกิจกรรม ภพจึงไม่ได้ลงประกวดดาวเดือนของคณะทั้งๆ ที่รุ่นพี่มาตื๊อจนเขานึกรำคาญแทน



บทสนทนาเรื่องแกงค์นางฟ้ายังคงไม่จบ เพราะพวกเขาสงสัยว่ารันรู้ได้ยังไงว่าน้องน้ำมาชอบตรีภพ รันจึงต้องเล่าให่ฟังว่าเขาเป็นพี่เทคกับเพื่อนของน้องเขา และเพราะอยู่กลุ่มเดียวกับภพ จึงถูกไหว้วานให้มาช่วยติดต่อให้ที



“น่าอิจฉา”



เสียงคร่ำครวญของคนหน้าตาไม่ดียังคงดังโหยหวนต่อไป โดยที่ธีร์ธวัชก็ร่วมวงโวยวายไปกับเขาด้วยในบางจังหวะ



เบียร์ขวดแล้วขวดเล่าค่อยๆ หมดลงจนต้องสั่งเพิ่มอีกหลายรอบ วันนี้พวกเขาตกลงว่าจะกินกันอย่างไม่มีลิมิต เนื่องจากคลาสเช้าและบ่ายของวันพรุ่งนี้ถูกยกไปแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องสงวนท่าทีกันอีกต่อไป



ดนตรีสดที่เล่นไปได้หลายเพลงทำให้บรรยากาศในร้านคึกคักมากจนธีร์ธวัชเริ่มรู้สึกสนุกไปด้วย แอลกอฮอล์ในร่างกายของเขาตอนนี้ไม่ได้ทำให้เมา แต่ก็เริ่มกรึ่มน้อยๆ แล้วเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงยิ้มได้กว้างมากกว่าเดิม หัวเราะง่ายกว่าเดิม และบ้ายุ เพื่อนท้าให้หมดแก้วก็ยกจนเกลี้ยงอย่างง่ายดาย



“กูไปห้องน้ำนะ” ดิสพูดขึ้นมากลางวงหลังจากพวกเขากำลังแหกปากร้องเพลงกันอย่างบ้าคลั่ง



นายกับรันที่เห็นแบบนั้นรีบยกมือขอไปด้วยทันที



“มึงเฝ้าโต๊ะไปนะไอ้ธีร์”



“เออ” ธีร์ธวัชพยักหน้ารับ เขายังคงกระดกเบียร์เข้าปากอย่างต่อเนื่อง และแม้จะเหลืออยู่บนโต๊ะคนเดียว แต่เพลงที่นักร้องกำลังร้องอยู่นั้นก็พอทำให้ไม่เบื่อได้ดีทีเดียว



เขาโยกหัว ส่งเสียงร้องไปกับโต๊ะข้างๆ อย่างไม่อาย ไม่รู้เมื่อไหร่เหมือนกันที่ยกแก้วไปชนกับเขา ถูกเทเหล้าผสมโค้กลงมาใส่แก้วแล้วยกกระดกผสมกับเบียร์ไปจนหมด คราวนี้จากที่ยังมีสติก็เริ่มเมาเหมือนหมาภายในเวลาไม่กี่นาที



และสุดท้ายความสนุกในค่ำคืนนี้ก็จบลงพร้อมกับวงดนตรีที่หอบเอาเครื่องดนตรีลงจากเวทีมา



ธีร์ธวัชนั่งตัวลอยอยู่กับที่โดยที่ดวงตาไม่โฟกัส เขาหันไปฉีกยิ้มให้เพื่อนใหม่ที่ไม่รู้จักเมื่อคนพวกนั้นกำลังจะลุกออกจากร้าน พวกไอ้นายชินชากับความเฟรนด์ลี่แบบนี้ของเขาแล้วจึงไม่ห้าม ช่วงหลังๆ ก็ไปชนแก้วกับคนกล่มนั้นด้วยเลยได้ร่วมวงเฮฮาไปด้วยกันหมด ตอนนี้สภาพของแต่ละคนจึงไม่ค่อยสมบูรณ์นัก



“จ่ายตังค์ไปแล้ว พรุ่งนี้ค่อยโอนให้กู” รันที่ดูจะมีสติที่สุดในวันนี้บอกหลัวจากเขาเป็นคนเคลียร์บิลทั้งหมดให้



“เดี๋ยวมึงนั่งแท็กซี่กลับไปกับกู” นายหันไปหาดิสแล้วบอกด้วยเสียงแหบแห้ง คงเพราะแหกปากกันไปเยอะ คอถึงได้พังจนแทบเปล่งเสียงไม่ออกแบบนี้



“แล้วมึงกลับยังไงไอ้ธีร์” รันหันมาถามธีร์ธวัช ซึ่งตอนนี้นั่งตาลอย มือก็ถือโทรศัพท์ไว้หลวมๆ น่ากลัวว่าจะล่วงตกจากมือ



“เดี๋ยวไอ้ภพมารับ”



“มึงนอนห้องมัน?”



“อือ อึ่ก” เขาตอบพลางสะอึกจนตัวสั่น “มันบอกใกล้ถึงแล้ว”



“โอเค งั้นออกไปรอหน้าร้านกัน”



รันเป็นคนนำพวกไร้สติให้ออกมายืนบนฟุตปาธข้างถนนได้อย่างทุลักทุเล แม้แต่ละคนจะมีสติ ประคองตัวเองเดินได้ไหม แต่ก็โวยวายเสียงดังกันใหญ่ ราวกับว่าเมื่อสักครู่ยังตะโกนคุยกันได้ไม่จุใจอย่างไงอย่างงั้น



“นั่นรถไอ้ภพนี่หว่า” นายหรี่ตาพร่าๆ ของตัวเองมองไปยังถนนหลังจากเห็นรถยนต์คันหนึ่งแล่นเข้ามาใกล้



รถยนต์คันนั้นแล่นเข้ามาใกล้ก่อนจะชะลอความเร็วแล้วจอดเทียบลงตรงหน้าพวกเขา ธีร์ธวัชฉีกยิ้มแป้น โบกมือทักทายเจ้าของรถที่ลดกระจกลงอย่างคนที่ยังดีดไม่เลิก



“มาแล้วเหรอคะที่รัก” ธีร์ส่งเสียงยานคางทักทายอย่างยียวน



“ดูแลมันด้วย” รันหิ้วปีกคนเมาตาเยิ้มไปยัดไว้ที่เบาะข้างคนขับ พร้อมกับคาดเซฟตี้เบลท์ให้เรียบร้อย



“อย่าอ้วกบนรถกู” ตรีภพส่งเสียงดุคนเมาบนรถตัวเอง ก่อนจะโบกมือลาเพื่อนๆ ทุกคนที่ยืนเกาะกระจกมองมายังเขาอย่างพร้อมเพรียง “โทษทีนะที่วันนี้ไม่ได้มาด้วย”



“ไว้คราวหน้า” นายว่าพร้อมโบกมือปัดๆ ว่าไม่เป็นไร



“กลับดีๆ” เจ้าของรถผงกหัวหนึ่งครั้งแล้วบอกลาเพื่อนทั้งสามคน เขาเลื่อนกระจกปิดก่อนจะหักพวงมาลัยเพื่อเบี่ยงตัวรถให้เคลื่อนกลับเข้าไปในถนน



“อือ” คนเมาครางงึมงำเมื่อร่างกายแตะสัมผัสอากาศเย็นฉ่ำของแอร์ภายในรถ ธีร์ธวัชเอียงศีรษะหันไปมองคนข้างกาย ไล่สายตาสำรวจโครงหน้าได้รูปกับดวงตาคมคายทรงเสน่ห์คู่นั้นอย่างแช่มช้า



“ภพ”



“ว่า?”



“น้องน้ำ ที่น่ารักๆ มาชอบมึงว่ะ” ไม่รู้ทำไมเขาถึงพูดเรื่องนี้ แต่พอพูดออกไปก็ชักสนใจปฏิกิริยาตอบกลับของตรีภพเหมือนกัน



“อืม” และคนฟังก็แค่พยักหน้าเสมือนรับรู้แล้ว...แค่นั้น



“แค่อืม?”



“แล้วกูต้องพูดอะไร”



“ไม่ดีใจเหรอวะ น้องน้ำเลยนะ หน้าหมวยสวยเอ็กซ์เซ็กซี่”



“ไม่”



“หือ?”



“ไม่ชอบแบบนั้น”



“แล้วชอบแบบไหน” ธีร์ถามขึ้น “สเปคมึงอ่ะ ชอบแบบไหน”



ดวงตาคมเหล่มามองกันเล็กน้อยก่อนตอบ



“ไม่รู้สิ”



“แต่กูรู้นะ” คนเมาหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นตรีภพเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม “กูรู้ว่ามึงชอบแบบไหน”



“แบบไหน?”



“แบบกูไง”



_______________

ไม่รู้ว่ายังมีคนอ่านอยู่ไหมนะคะ แต่ก็ยังจะอัพต่อไป

เราเข้าใจ เพราะเราอัพช้ามากเลยค่ะ แง้

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
"แบบกูไง" ที่ธีร์บอกคิดได้หลายอย่างมากเลย ธีร์หมายถึงแบบไหนกันนะ

รออ่านตอนต่อไปค่ะ เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ  :3123:

 :pig4:

ออฟไลน์ Pa'veaw

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-1
รออ่านอยู่เสมอจ้าาา นึกว่าจะโดนเทซะแล้ว


ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
พูดดีไป เดี๋ยวได้เอวเคล็ด555

ออฟไลน์ Moonoii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อ้ากกก สนุกมากเลยค่ะ อ่านง่าย ภาษาดี มาต่อเร็วๆนะคะ  :3123:

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
เราค่ะเรา เราเพิ่งมาตามมมมม เรารออ่านนะคะ เป็นกะลังใจให้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ singalone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
เรารออ่านอยู่ตลอดน๊าา

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ขี้อ่อยยยยยยยยย

ออฟไลน์ หะมายด์เอง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-1
บทที่ 3





“แบบกูไง” เจ้าของคำพูดฉีกยิ้มกรุ้มกริ่มพลางยักคิ้วยั่วโมโห ดวงตาสีน้ำตาลเข้มปรายมามองกันครู่เดียวก็หันกลับไปสนใจถนนต่ออย่างเย็นชา

แต่ธีร์ธวัชรู้...

ความคิดของตรีภพตอนนี้น่ะ เขารู้ดีเสียยิ่งกว่าตัวมันเองอีก

“ภพ”

“ว่า?”

“กูยังไม่เคยลองบนรถเลยนะ” ริมฝีปากบางยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยโดยไม่ได้หันไปมองคู่สนทนา น้ำเสียงหวานฉ่ำทิ้งปลายกระเซ่าราวกับดอกไม้ผลิใบยั่วเย้าหมู่แมลง ปลายนิ้วชี้แตะริมฝีปากล่างเล่นไปมาขณะเอ่ยประโยคต่อมาด้วยน้ำเสียงแบบเดิม “อยากลอง”

ธีร์ธวัชไม่รู้หรอกว่าใครอีกคนจะอยากลองเหมือนกันไหม แต่ในเวลาเพียงเสี้ยววินาทีหลังจากประโยคสุดท้ายหลุดพ้นริมฝีปากแดงก่ำจากฤทธิ์น้ำเมา รถยนต์สีน้ำเงินเข้มคันนี้ก็เลี้ยวจอดเข้าข้างทางในทันที

“อื้อ” คำพูดอีกหลายประโยคที่คนเมาเตรียมพรั่งพรูออกมาถูกปิดกั้นเอาไว้ด้วยลมหายใจและริมฝีปากร้อนระอุของใครอีกคน

ตรีภพขมวดคิ้ว ขบกัดริมฝีปากที่เอาแต่พ่นประโยคทะเล้นพวกนั้นอย่างหมดความอดทน เขาบดขยี้เพื่อลงโทษคนตรงหน้าอย่างรุนแรง กดหัวไหล่อีกฝ่ายให้จมติดเบาะรถยนต์จนได้ยินเสียงร้องประท้วงอื้ออึงดังขึ้นมาหลายระลอก คนตัวใหญ่กว่าไม่ได้สนใจแผ่นหลังของตัวเองที่ถูกบีบและข่วนอย่างหนัก ธีร์ธวัชเริ่มหายใจไม่ทันแล้วและกำลังต่อต้าน แต่เขาจะไม่หยุด และไม่มีทางหยุดจนกว่าจะพอใจ

“อ...อื้อ แฮกๆ ไอ้ภพ!” ธีร์ธวัชหอบหายใจอย่างหนักเมื่อเขาสามารถผลักคนที่อยู่ๆ ก็โถมตัวลงมาทับกันออกไปได้เสียที ดวงตาพร่าเลือนคล้ายจะวูบอยู่หลายรอบเนื่องจากหายใจไม่ทัน ทั้งริมฝีปากบนล่างก็ถูกกัดจนเจ็บ

นึกว่าดูดปากอยู่กับหมานะไอ้เหี้ย คนเมาได้แต่สบถอยู่ในใจ

หน้าของธีร์ธวัชหงิกงอหลังจากสัมผัสได้ถึงรสคาวของเลือดกับอาการเจ็บแสบที่บริเวณผิวปากล่าง เขาใช้ลิ้นดุนแถวนั้นเบาๆ ก่อนจะพบว่ามันมีแผลเกิดขึ้นจากฟันคมของคนตรงหน้าที่ขบลงมาอย่างไม่ปราณี

“ปากแตกเลยมึง” คนสร่างเมาแล้วส่ายหัวเบาๆ ด้วยความไม่พอใจ หัวคิ้วย่นจนหน้าผากเกิดร่องลึก ล้นสีสดยังคงดุนแผลเล่นไม่ยอมหยุด จนตรีภพต้องเอ่ยปากดุให้อีกฝ่ายเลิกทำแบบนั้นเสียที

“อย่าเล่นแผล”

“มึงทำปากกูแตก”

“ขอโทษ” ตรีภพเอ่ยตอบพร้อมโน้มหน้าลงมากดจูบผะแผ่วที่บริเวณแผล และเขาก็ไม่ได้ผละออกทันทีที่ริมฝีปากทั้งคู่สัมผัสกัน ลมหายใจผสมกลิ่นบุหรี่คละเคล้ากับลมหายใจของอีกฝ่ายที่เต็มไปด้วยกลิ่นของแอลกอฮอลล์ ธีร์ธวัชลุ่มหลงมัวเมาอีกแล้ว กลิ่นบุหรี่อ่อนๆ ที่ติดอยู่ในลมหายใจของคนตรงหน้า ดึงรั้งใบหน้าของเขาเอาไว้ไม่ให้ผละหนี แม้มันจะเป็นจูบจืดชืดที่ไม่มีการรุกล้ำ แต่ร่างโปร่งก็ยังคงหลับตาพริ้ม ซึมซับสัมผัสของอีกฝ่ายเอาไว้อย่างพึงพอใจ

“ภพ” เนิ่นนานกว่าเจ้าของกลิ่นบุหรี่จะผละออกไป ธีร์ธวัชที่ยังไม่สร่างเมาดีได้แต่หลุบตามองริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างโหยหา ไอ้หนูที่ใจกลางร่างกายตั้งโด่ขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่เสียแล้ว พอเป็นไอ้ภพทีไรน้องชายของเขาก็ดูจะรีบตื่นขึ้นมาทันทายเสียทุกที

“อะไร” ตรีภพเอ่ยตอบเสียงเรียกของเขาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ร่างสูงในชุดสบายๆ ถอยหลังกลับไปประจำที่นั่งของตนแล้ว แต่ธีร์ธวัชจะไม่ยอมให้บรรยากาศที่แสนเป็นใจนี้จบลงด้วยการที่อีกฝ่ายเหยียบคันเร่งเพื่อกลับคอนโดแน่ๆ

“กูอยาก”

“อยาก?”

“บนรถ ทำกับกู” ธีร์ธวัชไม่เคยอ้อมค้อมกับเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว

ร่างโปร่งภายใต้เสื้อผ้าที่เริ่มหลุดลุ่ยด้วยฝีมือของตัวเองขยับแข้งขาเพื่อแยกออกให้กว้างสักหน่อย ดวงตาสีดำขลับจ้องมองไปยังที่นั่งคนขับด้วยสายตาเชิญชวน

แค่เพียงเสี้ยววินาทีที่ดวงตาทั้งสองคู่สบกัน ตรีภพก็พ่นลมหายใจออกมายาวยืด ก่อนจะโน้มตัวไปปรับเบาะของอีกฝ่ายให้เอนลงจนสุด พร้อมกับโถมทั้งตัวไปคร่อมทับคนขี้เมาเอาไว้ใต้ร่าง

“แคบ” ตรีภพบ่นเมื่อศีรษะของเขาชนกับเพดานรถ คนมองฉีกยิ้มขบขันก่อนจะพลิกตัวสลับตำแหน่งให้อีกฝ่ายนั่งลงบนเบาะข้างคนขับแทน ก่อนที่ธีร์ธวัชจะยกสะโพกไปคร่อมทับตักแกร่งแล้วเริ่มขยับโยกไปมา เสียดสีบางส่วนที่ดุนดันกางเกงออกมาจนเห็นเป็นลำท่อนขนาดใหญ่

“กูทำเอง”

ปกติเขาไม่ชอบทำด้วยตัวเองหลอกนะ การขึ้นนั่งแล้วขย่มคนที่มีต้นขาแข็งปั่กแบบนี้มันออกจากเมื่อยไปสักหน่อย แต่เห็นแก่ที่อีกฝ่ายยอมตามใจให้เขาได้ ‘ลองทำบนรถ’ ธีร์ธวัชก็จะยอมทนเมื่อยให้ก็แล้วกัน

เขาตกลงกับตัวเองเสร็จสรรพก็จัดการถอดกางเกงของตนออกทั้งชั้นนอกชั้นใน หลังจากนั้นก็หันมาจัดการดึงกางเกงขาสั้นที่อีกฝ่ายสวมลงมากองที่ต้นขา ใช้มือข้างถนัดคว้าจับเอาส่วนแข็งขืนอันคุ้นเคยออกมาลูบไล้เล่น

ธีร์ธวัชกัดปากแน่นเมื่อเขาเริ่มมีอารมณ์มากกว่าเดิมหลังจากได้แตะสัมผัสร่างกายของอีกฝ่าย ตรีภพที่แม้จะนั่งอยู่เบื้องล่างก็ยังคงยอดเยี่ยม ฝ่ามืออุ่นลูบไล้ไปทั่วผิวกายของเขาพร้อมทั้งบีบขยำและสะกิดหน้าอกบ้างในตอนที่ลากฝ่ามือผ่าน ริมฝีปากร้อนและตอหนวดบางๆ บรรจงกดลงบนซอกคอของเขาแล้วดูดกลืนสร้างรอยคิสมาร์กจางๆ เอาไว้สองสามแห่ง

“อื้อ” ร่างโปร่งเกร็งกายจนเผลอบีบอวัยวะที่แข็งสู้มือจนแน่นเมื่อติ่งหูของเขาถูกเม้มหนักๆ และขบกัดหยอกล้อ ตรีภพรู้ดีว่าตรงไหนเป็นจุดอ่อนของเขา ใบหู...หลังคอ...และหน้าอก ทุกส่วนล้วนถูกแตะต้องหนักเบาสลับไปมาจนลมหายใจของคนถูกรุกรานเริ่มติดขัด

“อ๊ะ อา...” เขาร้องครวญครางโดยที่ไม่ได้หยุดมือรูดรั้งแก่นกายของอีกฝ่าย เสื้อผ้าที่สวมอยู่ถูกรูดถอดออกไปหมดแล้ว และยอดอกสีอ่อนซึ่งตั้งชันสู้อากาศหนาวภายในรถก็กำลังถูกลิ้นชื้นตวัดระรัวลงมาอย่างไม่มีสัญญาณเตือน ธีร์ธวัชสะดุ้งก่อนจะเชิดหน้าแอ่นอกเข้าหาอีกฝ่ายเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติ ร่างกายทุกส่วนตอบสนองสัมผัสร้อนเร้านั้นอย่างเคยชิน

ก็ทำความรู้จักกันมาหลายต่อหลายครั้ง ดังนั้นไม่ใช่แค่ตรีภพหรอกที่รู้ว่าเขาชอบให้สัมผัสยังไง

ธีร์ธวัชก็รู้ดีเหมือนกันว่าอีกฝ่ายชอบให้เขาขยับและส่งเสียงแบบไหนเช่นกัน

“อ...อ๊า ภพ...อือ” น้ำเสียงกระเซ่าถูกเอื้อนเอ่ยออกมาชิดริมหูของอีกฝ่าย ธีร์ธวัชทั้งร่างโอบกอดร่างที่ใหญ่กว่าตนสักหน่อยเอาไว้แน่น สะโพกสอบเปลือยเปล่าบดลงบนส่วนแข็งขืนที่กระตุกสู้สัมผัสอย่างไม่ยอมแพ้ มันเสียดสีกับแก่นกายของเขาไปมาจนเกิดเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ หยาดอารมณ์หยดลงมาช่วยเพิ่มความลื่นแก่การขยับมากขึ้น ธีร์ธวัชจึงยิ่งขยับโยกไปมาอย่างรุนแรง

“อ๊า” เขาครางพร้อมกับงับติ่งหูอีกฝ่ายคืนบ้าง ตอนนี้ตรีภพตัวเกร็งไปหมด ใบหน้าของอีกฝ่ายซบลงบนบ่าของเขา ขบกัดลงบนหัวไหล่เปล่าพลางใช้มือทั้งสองข้างค่อยๆ แหวกแก้มก้นของเขาออกจากกัน

รอยจีบพับด้านหลังของเขากระตุกรัดอากาศเมื่อถูกกระตุ้นด้วยปลายนิ้วที่บีบนวดไปมา สะโพกของเขาส่ายขยับหลับกับจังหวะแตะต้อง ถูไถแผ่นอกแบนราบไปกับหน้าอกแน่นของอีกฝ่ายเพื่อแลกเปลี่ยนไออุ่น แอร์ในรถเย็นเกิดไป ดังนั้นธีร์ธวัชจึงไม่ยอมผละอ้อมกอดทิ้ง ช่วงบนจึงกลายเป็นกอดกันกลม ในขณะที่บั้นท้ายของเขาโหย่งขึ้นสูง ลอยเด่นอยู่กลางอากาศเพื่อให้อีกฝ่ายแตะต้องได้อย่างถนัด

“เข้ามา” ธีร์ธวัชกระซิบเสียงพร่าเมื่อเพื่อนเฮงซวยเอาแต่นวดคลึงปากทางเข้าไม่ยอมสอดเข้ามาเสียที

ร่างกายของเขามันพร้อมแล้ว แทบไม่ต้องเบิกทางใดๆ ก่อนเพราะเขากับตรีภพไม่ได้ห่างหายจากเรื่องพวกนี้นานเกิดอาทิตย์ พวกเขามีความต้องการสูงยามเมื่ออยู่ด้วยกัน อาจจะเป็นเพราะติดใจรสรักของอีกฝ่าย เวลาอยู่ด้วยกันถึงหยุดคิดถึงสัมผัสร้อนเร้าพวกนั้นไม่ได้เลย

“ภพ”

“อืม” ตรีภพส่งเสียงอืมตอบกลับมาแม้ว่าเขาจะไม่ได้เอ่ยประโยคที่ว่า ‘เอาเข้ามาสักทีไอ้เหี้ย’ ออกไป

ธีร์ธวัชฉีกยิ้มพอใจเมื่ออีกฝ่ายสามารถเดาใจกันได้ เปลือกตาสีมุกปิดลงรอรับสัมผัสวาบหวาม ช่องทางด้านหลังค่อยๆ ถูกรุกรานเข้ามาด้วยนิ้วกลาง ก่อนจะตามด้วยนิ้วชี้และนิ้วนางที่ค่อยๆ ขยับขยายช่องทางของเขาให้มีขนาดกว้างขึ้น

“อึ่ก” นิ้วทั้งสามนั้นสอดเข้ามาจนสุดแล้ว และตตรีภพก็กระแทกลงบนจุดกระสันที่อีกฝ่ายรู้ดีว่าอยู่ที่ไหนอย่างแรง ร่างกายของคนที่อยู่ด้านบนจึงสั่นระริก ธีร์ธวัชเผลอหยุดหายใจไปเสี้ยววินาที ข่วนเล็บลงบนหลังของอีกฝ่ายด้วยความเสียวซ่าน

“ภพ...มึง อ๊า”

คราวนี้ตรีภพไม่ได้ตอบ เขาตั้งหน้าตั้งตาสอดนิ้วทั้งสามเข้าไปในร่างของอีกฝ่าย ทั้งริมฝีปากก็ยังไล่ชิมไปตามผิวเนื้อละเอียดเพื่อเล้าโลม

“อ๊ะ...พอแล้ว อาา เข้ามา”

สะโพกสอบที่ถูกรุกรานด้วยนิ้วเพียงสามนิ้วส่ายไปมาไม่หยุด กล้ามเนื้อบริเวณนั้นตอดรัดปลายนิ้วของตรีภพอย่างรุนแรง ราวกับกำลังต้องการประท้วงว่ามันไม่ต้องการสิ่งนี้

มีอย่างอื่นที่ดีกว่า

อย่างอื่นที่ธีร์ธวัชทนรอให้อีกฝ่ายสอดเข้ามาเองไม่ไหว จึงขยับสะโพกไปจ่ออยู่แก่นกายที่ถูกจับให้ตั้งตรง ก่อนจะกดบั้นท้ายลงไปจนส่วนนั้นแทรกเข้ามาในช่องทางด้านหลังทีเดียวมิดด้าม

“อ๊า!!”

มันแน่น... คับแน่นทั้งๆ ที่เข้าๆ ออกๆ กันอยู่ตลอด แต่ร่างกายของพวกเขาก็ยังมีขนาดที่เข้ากันได้ดี ราวกับถูกสร้างมาเพื่อรองรับกันและกัน

ดังนั้นธีร์ธวัชจึงตัดใจจากเซ็กส์ของตรีภพไม่ได้สักที

“อ๊ะ...อ๊ะๆๆๆ” ความคิดของคนด้านบนถูกตอกกระเจิงออกไปจนหมดเมื่ออยู่ๆ ตรีภพก็จับเอวของเขาเอาไว้และสวนสะโพกกระแทกเข้ามาอย่างรุนแรง

ร่างกายของธีร์ธวัชโยกคลอนอย่างหนัก ศีรษะโขกเพดานรถไปก็หลายที ทว่ามีเพียงความเสียวสะท้านเท่านั้นที่เขารับรู้

ธีร์ธวัชครางอื้ออึงไม่เป็นภาษา เขารั้งต้นคอของอีกฝ่ายเข้ามาบดจูบ ยอมให้อีกฝ่ายเสือกใสแก่นกายใหญ่โตนั้นเข้ามาในจังหวะที่ตรีภพเป็นคนควบคุม

มันดีไปหมด....

ขนาดของตรีภพครูดไปตามผนังของเขา ส่วนปลายกดโดนจุดกระสันอย่างแม่นยำ ทั้งช่องทางของเขาก็ตอดรัดถี่รัวจนได้ยินเสียงครางเบาๆ ดังออกมาจากลำคอของอีกฝ่าย ร่างกายของพวกเขาเข้ากันดีจนเกินไป คนหนึ่งสวนกายเข้าออก อีกคนบดควง ร่อนสะโพกรับจังหวะกระทั้น

คลื่นโถมกระทบชายฝั่งอย่างรุนแรงหลังจากพายุระลอกใหญ่พัดเข้ามา หยาดน้ำสีขาวขุ่นล้นทะลักเปื้อนไปตามร่างกายของคนทั้งคู่

เสียงหอบหายใจ ไอร้อนและกลิ่นเหงื่อ มีเสียงเพลงเบาๆ ที่เปิดทิ้งเอาไว้ตั้งแต่ต้นคลอเคล้าบรรยากาศยามเที่ยงคืนกว่าอันเงียบสงบ

ธีร์ธวัชหัวเราะเบาๆ ทั้งๆ ที่ยังหายใจเข้าปอดเฮือกๆ

“บนรถแม่งเหนื่อยกว่าบนเตียงอีก”

“เลิกอยากลองไปเรื่อยสักที” ตรีภพบ่นเมื่อเขาพบว่าช่วงเอวเริ่มปวดจากการขยับด้วยท่วงท่าที่ผิดปกติ ภายในรถมันแคบเกินกว่าจะทำอะไรกันได้สะดวกนัก แต่พอบ่นไปแบบนั้นคนดื้อก็เอาแต่หัวเราะไม่สนใจ

“ห้องสมุด ดาดฟ้า ห้องน้ำ ห้องเรียน....อ่า เหลืออะไรอีกวะภพ”

“...”

“อ๋อ วันหลังลองห้องลองเสื้อผ้ากัน”

“...ธีร์”

“น่าตื่นเต้นดีออก” คนบนตักยิ้มทะเล้นก่อนจะหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวม ไม่สนใจเสียงดุกับคิ้วที่กดลงจนแทบเป็นปมที่กลางหน้าผากของเจ้าของรถยนต์เลยสักนิด

จะทำไม เซ็กส์นอกสถานที่เร้าใจดีจะตายไป

“เออ ภพ” ธีร์ธวัชที่สวมเสื้อผ้าเสร็จแล้วและไล่เพื่อนตัวเองกลับไปประจำตำแหน่งคนขับรถเอ่ยขึ้นมาเมื่อพวกเขาออกเดินทางกันอีกครั้ง “มึงเปลี่ยนบุหรี่เหรอ”

“อืม อยากลอง”

“กูชอบนะ กลิ่นนี้ดี”

“เอาสักมวนไหม”

ธีร์ธวัชยักไหล่ “ไม่อ่ะ กูชอบดูดปากมึงมากกว่า”

แล้วเขาก็ได้รับการส่ายหน้าอย่างเอือมระอาจากตรีภพมาในทันที....






ชีวิตนักศึกษาของธีร์ธวัชก็มีแต่เรื่องสัปดนแบบข้างต้นนั่นแหละ การเป็นเซ็กส์เฟรนด์กับไอ้ภพนับว่าเป็นเรื่องที่สำราญที่สุดในชีวิตวัยนี้แล้วมั้ง ในเมื่อไม่มีแฟนก็อยู่แบบนี้ไปไม่เสียหาย

แต่เขาก็ลืมไปว่าการไม่มีแฟน และไม่คิดจะมีน่ะมันอาจจะเป็นความคิดของเขาแค่คนเดียว

“เอ่อ...พี่ภพคะ”

ธีร์ธวัชลืมไปได้ยังไงว่าไอ้เหี้ยภพมันหน้าตาดีและมีสาวๆ จ้องจะเขมือบมันลงท้องอีกกี่ชีวิต

“หนูชื่อน้ำ... หนูชอบพี่ค่ะ”

.....

...

..

.

ถ้าไอ้ห่าภพมีเมีย กูก็เอากับมันไม่ได้สิวะ!





______________
Talk: มาช้าดีกว่าไม่มานะค้าาาาา
เราทำโอทีทุกวันเลย ฮือ ต้องขอโทษที่หาเวลามาเขียนไม่ได้เลยค่ะ
แต่ไม่ทิ้งแน่นอน สัญญาเลยยยย เกี่ยวก้อย

หวังว่าจะยังรอกันอยู่นะคะ

ออฟไลน์ singalone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
เอาแล้วววว ภพอย่ารีบมีเมียน๊าาาาา

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
รอจ้า

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ธีร์ซนมาก!
แล้วธีร์กับภพก็เผ็ดมาก
ภพทำเป็นเอือมแต่ก็จัดเต็มตลอด
ถ้าภพมีแฟนขึ้นมาจริงๆธีร์จะทำไงนะ

แล้วน้องน้ำนี่จะมาไม้ไหนเป็นคนยังกันนะ  :hao3:

 :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-09-2019 02:02:37 โดย tasteurr »

ออฟไลน์ Januarysky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
ตัวกระตุ้นเผยชื่อมาล่ะ
ชะนีน้องน้ำนั่นเอง
 :mew2:

ออฟไลน์ หะมายด์เอง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-1
บทที่ 4

 

เวลาเรียนแค่สามชั่วโมงในภาคบ่ายมันช่างยาวนานในความคิด เมื่อธีร์ธวัชรู้สึกได้ถึงความว้าวุ่นในจิตใจตัวเอง

จากเหตุการณ์พักเที่ยง ที่น้องน้ำผู้น่ารักซึ่งธีร์ธวัชเองก็เคยแอบมองบ่อยๆ ได้บุกเข้ามาถึงตัวตรีภพและยื่นขนมคุ้กกี้ทำเองให้กับมือ พร้อมข้อความสารภาพรักท่ามกลางฝูงชนซึ่งกำลังพลุกพล่านอยู่ในโรงอาหารของคณะ อาการของไอ้ภพที่ดูเป็นมิตรกับน้องน้ำดูไม่น่าไว้ใจอย่างถึงที่สุด และมันทำให้เขานั่งไม่ติดที่จนกว่าจะได้รู้คำตอบว่าตรีภพคิดยังไงกับน้องเขา

เหมือนอยู่ๆ ชีวิตที่กำลังดำเนินไปอย่างมีความสุขก็จะถล่มลงไป แน่นอนว่าถ้าตรีภพมีแฟน ผลประโยชน์ในความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองก็ต้องจบลง...

ชายหนุ่มร่างโปร่งในชุดนักศึกษาที่ชายเสื้อเริ่มหลุดลุ่ยขยับตัวยุกยิก แอบเหลือบมองตรีภพในลุคหนุ่มเนิร์ดตั้งใจเรียนกับแว่นตาอันใหญ่ประดับบนใบหน้า ไอ้คนหล่อมันไม่แม้แต่จะหันมาสนใจเขาซึ่งจ้องอีกฝ่ายจนใบหน้าด้านข้างแทบพรุน แต่จะให้เปิดบทสนทนาตอนที่อีกฝ่ายกำลังตั้งใจเรียนก็ทำไม่ได้ ตรีภพเป็นความหวังของหมู่บ้าน มนุษย์เกียรตินิยมที่จะฉุดกระชากและลากพวกเราทั้งกลุ่มให้รอดพ้นจากเอฟ เพราะฉะนั้นถ้าขืนเขาเข้าไปสะกิดเรียกอีกฝ่ายยิกๆ ด้วยเรื่องไร้สาระ คงไม่ใช่แค่เท้าเดียวที่จะประทับลงมาบนหน้า

“เฮ้ออ” ดังนั้นธีร์ธวัชจึงได้แต่นั่งถอนหายใจเฮือกๆ หมุนปากกาในมือเล่นในขณะเหล่มองเพื่อนสุดที่รักซึ่งนั่งห่างกันไม่ถึงคืบอย่างทำอะไรไม่ได้ อีกชั่วโมงครึ่งกว่าคลาสช่วงบ่ายจะจบลง เขายังต้องอยู่กับความอัดอั้นตันใจนี้ไปจนถึงตอนนั้นเลยทีเดียว

นานทีเดียวกับความน่าเบื่อของวิชาภาคจะจบลง สไลด์ที่ฉายอยู่บนจอโปรเจคเตอร์ถูกปิดลงพร้อมกับอาจารย์ผู้สอนหอบหิ้วโน๊ตบุ๊คตัวเก่งเดินออกไป นักศึกษาภายในห้องต่างเร่งรีบกวาดข้าวของลงกระเป๋าก่อนจะแยกย้ายกันไปเป็นกลุ่มเป็นแก๊งค์

“กูไปก่อนนะ”

“กูด้วย”

“ไปแล้ว เดี๋ยวเมียรอ”

ก็คงจะยกเว้นแต่ผองเพื่อนของธีว์ธวัชที่พอจบคลาสก็รีบกดโทรศัพท์และโบกมือลาพวกเขาไปทันที แต่จะให้น้อยใจก็คงไม่ ธีร์ธวัชเองก็ต้องการเวลาส่วนตัวกับ ‘เพื่อนรัก’  ที่กำลังยัดสมุดเล่มบางกับปากกาหนึ่งด้ามกลับลงไปในเป้สีเข้มยี่ห้อกีฬาชื่อดังของตัวเอง

“ฟู่ว” ธีร์พ่นลมหายผ่านริมฝีปากออกมาขณะกวาดของอันน้อยนิดของตัวเองลงใส่กระเป๋าผ้า ขายาวภายใต้กางเกงยีนส์สีเข้มขยับลุกขึ้น นิ้วเรียวปลดกระดุมบนของเสื้อนักศึกษาออกพร้อมพับแขนเสื้อขึ้นถึงข้อศอก ใบหน้าภายใต้กรอบผมสั้นหันไปมองตรีภพด้วยความกดดัน

“วันนี้กูไปนอนด้วย”

ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเหลือบขึ้นมองคนที่ยืนค้ำหัวพลางเลิกคิ้วน้อยๆ “ไหนว่าวันนี้จะกลับไปซักผ้า”

“ค่อยซักวันหลัง” ธีร์ธวัชว่าขณะออกแรงลากแขนเพื่อนให้เดินออกมาจากห้องเรียน

ไม่มีคำถามจากเจ้าของห้องมากกว่านั้น ตรีภพก็แค่พยักหน้าและเดินนำไปยังที่จอดรถของตนเอง ธีร์ธวัชมักเอะอะไปค้างห้องของตรีภพอยู่บ่อยจนแทบจะยึดเป็นห้องของตัวเอง แต่พอชวนให้มาอยู่ด้วยกันธีร์ก็ได้แต่ส่ายหน้าและบอกว่าแบบนี้ดีอยู่แล้ว

“ภพเดี๋ยวแวะท็อปส์ให้กูด้วยนะ อยากหาอะไรกิน” ธีร์ธวัชเมื่อก้าวเท้าขยับก้นขึ้นมาประจำเบาะข้างคนขับก็ออกอาการสั่งทันที สารถีจำเป็นก็แค่พยักหน้าเอออออย่างว่าง่าย รถยนต์ซีดานสีน้ำเงินเข้มแล่นออกจากลานจอดข้างขณะไปตามถนนคุ้นตา แวะซูเปอร์มาร์เก็ตตามคำขอของธีร์ธวัชครู่หนึ่งก่อนจะมุ่งตรงกลับคอนโด

ถุงสีเขียวปั้มลายซูเปอร์มาร์เก็ตถูกหิ้วจนเต็มสองมือของคนซื้อ มีทั้งขนม เครื่องดื่ม และอาหารกล่องสำหรับสองคนบรรจุอยู่ภายใน ธีร์ธวัชต้องถือมันเองเพราะเจ้าของห้องบอกไว้ตั้งแต่เลือกซื้อของแล้วว่าจะไม่ช่วย

“ไอ้ห่าภพ ไอ้คนไม่มีน้ำใจ” ร่างโปร่งบ่นงึมงำ เดินลากขาท่าประหลาดเพราะน้ำหนักที่ถ่วงแขนทั้งสองข้างทำให้ต้องใช้แรงยกมหาศาล ทว่าตรีภพทำเพียงยิ้มมุมปากเป็นเชิงขำก่อนจะเดินจิ้มโทรศัพท์นำเข้าลิฟต์ไป

“หนักโว้ยย”

“บ่น” ภพว่า

ธีร์ธวัชได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันตัวเองขณะเหลือบหางตามองคนใจหยาบที่ไม่แม้แต่จะช่วยหิ้วไปสักถุง เขากระแทกเท้าปึงปังขณะเดินออกมาจากลิฟต์เพื่อไปยังห้องพัก

ตุบ!

ทันทีเท้าทั้งสองก้าวผ่านกรอบประตูเข้ามา ธีร์ธวัชก็รีบกองของทุกอย่างลงบนโซฟาก่อนจะทิ้งร่างนั่งแผ่ไปกับพื้นในโซนนั่งเล่นอย่างคนหมดอาลัยตายอยาก ตรีภพมองร่างโปร่งที่หอบหายใจเฮือกๆ ด้วยรอยยิ้มจาง เขาคว้ารีโมทแอร์ที่ติดอยู่บนผนังข้างประตูทางเข้ามากดเปิด จากนั้นคนตัวสูงก็เดิมเข้าไปยังมุมห้องนอนที่มีชั้นหนังสือวางกั้น ปลดเปลื้องชุดนักศึกษาที่ไม่ค่อยสบายตัวออกแล้วเปลี่ยนมาสวมเพียงเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นธรรมดา

ธีร์ธวัชเหล่ตามองทุกการเคลื่อนไหวของเจ้าของห้องอย่างสนใจ สมองของเขาคบคิดอะไรอยู่หลายอย่าง ซึ่งมันยังคงปั่นป่วนสมองและจิตใจของเขาจนว้าวุ่นไม่เลิก ริมฝีปากของธีร์คันยุบยิบคล้ายอยากพูดอยากถามอะไรบางอย่าง แต่พอสำรวจจังหวะเวลาก็พบว่าเขาไม่สามารถพูดโพล่งออกไปได้ในทันที

ชายหนุ่มตัดสินใจรอคอย เขายอมที่จะนั่งเล่นอยู่หน้าทีวีพร้อมไถโทรศัพท์ไปเรื่อยเปื่อย กาลเวลาไหลผ่านไปอย่างเชื่องช้าเมื่อมีใครบางคนจดจ่ออยู่กับมัน แต่จนแล้วจนเล่า จนกระทั่งขนมนมเนยและอาหารกล่องที่ซื้อมาถูกกินจนหมด ธีร์ธวัชก็ยังไม่เอ่ยปากถามอะไรออกไปอยู่ดี

ช่วงเวลาง่ายๆ อย่างการนั่งคุยกันไม่เกิดขึ้นเมื่อตรีภพเริ่มหยิบงานเอกสารของที่บ้านขึ้นมาทำ ธีร์ธวัชได้แค่นั่งมองแผ่นหลังกว้างตั้งตรงอยู่บนโต๊ะทำงานติดหน้าต่าง เสียงปลายนิ้วพรมแป้นพิมพ์เป็นจังหวะดังกลบความเงียบงันภายในห้อง 23 ตารางเมตรแห่งนี้

“เฮ้ออ” ธีร์ธวัชคิดว่าเขาช่างถอนหายใจบ่อยเสียจริง

แต่ในเมื่อเขายังไม่ได้คำตอบสำหรับคำถามที่ค้างคาใจ ธีร์ธวัชก็ยังคงถอนหายใจเฮือกๆ อยู่เหมือนเคย ชายหนุ่มส่ายหน้าเบาๆ เมื่อค้นพบว่าจังหวะเวลาไม่เป็นใจเลยสักนิด โดยปกติพวกเขาก็แยกย้ายกันทำกิจวัตรแบบนี้ ธีร์ธวัชจะนั่งเล่นนอนเล่นโทรศัพท์ หยิบเครื่องเกมของตรีภพออกมาต่อเล่น และปล่อยให้เจ้าของห้องได้นั่งทำงานไปโดยไม่ก่อกวน ซึ่งวันนี้เขาไม่ต้องการแบบนั้น

เข็มยาวของนาฬิกาบนผนังหมุนเวียนผ่านไปหลายรอบ เข็มสั้นกระดิกบอกเวลาสองทุ่มแล้ว และในที่สุดคนที่นั่งก้มก้มตาก็ขยับตัวลุกขึ้นมาจากเก้าอี้เสียที

“เสร็จงานแล้วเหรอ” ธีร์ธวัชเด้งตัวขึ้นจากการเกลือกกลิ้งบนพื้นห้อง จ้องมองใครอีกคนตาแป๋ว

ว่างสักทีๆๆๆๆๆ เขาพยายามส่งกระแสจิต

และมันได้ผล ตรีภพพยักหน้าพร้อมชี้ไปที่ระเบียง

“กูไปสูบบุหรี่นะ”

ชายหนุ่มค้นพบว่าเขาเจอช่วงเวลาที่เหมาะสมแล้ว

ร่างโปร่งกระโดดพลุงขึ้นมายืนตัวตรงแหน่ว ฉีกยิ้มร่าแล้วเดินตามตรีภพออกไปที่ระเบียงต้อยๆ

ระเบียงของคอนโดแห่งนี้ไม่ได้กว้างหนัก มันไม่พอที่จะวางเครื่องซักผ้าด้วยซ้ำ ทว่าการจุผู้ชายสองคนไว้ด้วยกันก็ไม่ได้ลำบากมากนัก ธีว์ธวัชเลื่อนประตูกระจกปิดก่อนจะขยับเข้าไปยืนเท้าแขนกับราวเหล็กกั้นข้างคนที่เริ่มรนไฟกับปลายบุหรี่มวนสีขาว

“ออกมาทำไม” ตรีภพเลิกคิ้วถาม

“มีเรื่องอยากคุยด้วย”

“หือ?”

กลิ่นบุหรี่เฝื่อนจมูกลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณเมื่อปลายแท่งนิโคตินถูกไฟรนจนแดงฉาน ธีร์ธวัชย่นจมูกน้อยๆ เมื่อได้กลิ่น แต่เขาก็ปล่อยให้ควันสีเทาลอยขมุกขมัวผ่านหน้าตัวเองไปโดยไม่ทักท้วงสิ่งใด

สายลมจากด้านนอกโชยมาปะทะร่างกายส่วนที่ยื่นออกไปพ้นระเบียงห้อง ดวงตาสีดำสนิททอดมองออกไปยังที่ไกลแสนไกล เขารวบรวมความคิดที่กระจัดกระจายอยู่ในหัวให้เป็นรูปเป็นร่าง เหล่มองคนตัวใหญ่กว่ากันที่ค่อยๆ พ่นมวนควันสีจางออกมาจากริมฝีปาก

“มึงจะคบกับน้องน้ำไหม”

“หืม” ดวงตาสีน้ำตาลเข้มหันมามองกันด้วยความสนใจ “คบ?”

“อืม”

“ถามทำไม”

เมื่อโดนย้อนกลับด้วยคำถาม ธีร์ธวัชก็จิ๊ปากอย่างหงุดหงิด

“ตอบกูมาเหอะ”

“...”

“กูจะได้ทำตัวถูกถ้ามึงจะไปมีแฟน”

ตรีภพไม่ได้ตอบคำถามเขาอย่างที่เขาอยากให้เป็น

ร่างสูงใหญ่ภายใต้ชุดไพรเวทเอนทั้งร่างกายและใบหน้าหันมาทางเขา ดวงตาคมเข้มคู่นั้นจ้องมองกันมาอย่างพิจารณา ธีร์ธวัชเดาความคิดของอีกคนไม่ออกในตอนนี้ เขาไม่รู้ว่าตรีภพกำลังคิดอะไร อีกฝ่ายยังวางตัวดูสบาย แต่บรรยากาศระหว่างพวกเรากลับอึดอัดอย่างน่าประหลาด

“มึงจะทำตัวยังไง” ภพถามอย่างจริงจัง

ธีร์ธวัชเลือกที่จะหันไปประจันหน้ากับอีกฝ่าย ดวงตาทั้งสองคู่สบกันอย่างเนิ่นนาน ก่อนที่ธีร์ธวัชจะฉีกยิ้มแหยๆ ออกมาแล้วหัวเราะด้วยเสียงหัวเราะที่แสนจะแห้งแล้ง

“ก็กลับไปเป็นเพื่อน...เพื่อนจริงๆ น่ะ”

มันเป็นความอึดอัดที่ไม่เคยเกิดขึ้นในขณะที่พวกเขาพูดถึงสถานะระหว่างกัน

ตรีภพไม่เคยพูดว่าเขาไม่ชอบการเป็น Friends with benefit ในขณะที่ธีร์ธวัชแสดงออกอย่างชัดเจนว่ายินดีที่จะได้รับผลประโยชน์ในส่วนนี้

แต่พวกเขาทั้งคู่กลับไม่เคยคิดเลยว่าถ้าหากข้ามเส้นของคำว่าเพื่อนที่ได้ขีดเอาไว้ตั้งแต่แรกมาแล้ว การจะก้าวกลับไปยืนอยู่หลังเส้นเส้นนั้น...ไม่ง่ายเลย

ธีร์ธวัชรู้ว่าเขากำลังรู้สึกแย่และกังวล การไม่สามารถมีอะไรกันได้เหมือนเดิมกลายเป็นความกังวลลำดับรองลงไปแล้วเมื่อเขาใช้เวลาทั้งวันในการครุ่นคิดเรื่องนี้ ที่แย่กว่าเรื่องเซ็กส์คือความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งคู่จะไม่มีทางเหมือนเดิม และธีร์ธวัชรู้สึกหวาดกลัวกับเรื่องที่ยังมาไม่ถึงนี้เหลือเกิน

“ธีร์”

“ว่า?”

“ตอนนี้กูมีแค่มึง”

“...” ธีร์ธวัชเลิกคิ้ว ส่งเสียงหืมอยู่ในใจ

“อืม” ตรีภพไม่ได้ขยายความหรือพูดประโยคนั้นซ้ำอีกครั้ง ใบหน้าหล่อเหลาพยักหน้าเบาๆ คล้ายยืนยันสิ่งที่อีกคนสงสัย บุหรี่มวนเดิมถูกสูบเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะโดนบี้ลงบนที่เขี่ยบุหรี่ทรงกลม กลิ่นเฝื่อนๆ ของมันยังไม่จางหายไปไหน ควันสีเทาจางๆ ยังมีให้เห็นในอากาศเลือนลาง

ธีร์ธวัชมองตามไอสีขุ่นนั้นไปอย่างเชื่องช้า สมองประมวลผลคำพูดของอีกฝ่ายอยู่สักพัก ก่อนที่อวัยวะในอกข้างซ้ายจะเริ่มเต้นกระหน่ำด้วยความดีใจ

“ภพ”

“...”

“จูบกูที” เขาบอกแบบนั้นแต่กลับเป็นฝ่ายคว้าคออีกฝ่ายเข้ามาใกล้ ริมฝีปากของพวกเขาสัมผัสกันในทันทีที่ร่างกายแนบชิด บั้นเอวของธีร์ธวัชถูกกอดไว้แน่น ในขณะที่ตัวเขาเองก็สอดปลายนิ้วเข้าไปตามไรผมสั้นที่เริ่มชื้นเหงื่อ

ควันขมุกขมัวในใจของเขาจางลงไปพร้อมกับควันบุหรี่ที่เคยลอยฟุ้ง สัมผัสนุ่มหยุ่นจากเรียวลิ้นร้อนที่สอดแทรกเข้ามาช่วงชิงความสับสนว้าวุ่นออกไปจนหมด พวกเขาทั้งคู่จูบกันในขณะที่ลมหายใจของอีกฝ่ายยังเต็มไปด้วยกลิ่นนิโคตินเจือจาง แต่ธีร์ธวัชก็ยอมรับกับตัวเองอย่างว่าง่ายว่าเขาชอบจูบที่ผสมรสชาติและกลิ่นฝาดเฝื่อนเช่นนี้ของตรีภพ

“มึงพูดแล้วนะว่ามีแค่กู” ริมฝีปากของพวกเขาผละออกจากกันทว่ายังคลอเคลียไม่ห่าง ธีร์ธวัชยิ้มร่าขณะทวงสัญญากับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงทะเล้น

“อืม”

“แล้วน้องน้ำล่ะ”

“ไม่ชอบ”

“น่ารักจะตาย”

“อยากให้กูชอบ?”

ธีร์ธวัชหัวเราะแล้วส่ายหน้า “ไม่อยาก กูยังลองไม่ครบทุกที่เลยมึงอย่าเพิ่งหนีไปมีแฟนนะ”

“ธีร์” เสียงดุมาอีกแล้ว

คนอารมณ์ดีดตัวออกจากอ้อมแขนแกร่งของอีกฝ่าย เขาฮัมเพลงเบาๆ ในลำคอแล้วเดินหนีกลับเข้ามาในห้อง ทิ้งให้ตรีภพเดินตามเข้ามาทีหลังด้วยสีหน้าคล้ายผู้ปกครองที่กำลังอ่านจดหมายเรียกเชิญจากทางโรงเรียน

“นี่ภพ”

“อะไร?”

“พรุ่งนี้ไปห้างกัน” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ประดับบนใบหน้าของผู้ชายที่นั่งไขว่ห้างแกว่งเท้าอยู่ปลายเตียง “กูอยากลองห้องลองเสื้อผ้าแล้วว่ะ”

“ไม่ไป”

“มึงปฏิเสธกูไม่ได้หรอกครับ คุณตรีภพ” ว่าแล้วธีร์ธวัชก็ผิวปากหวืออย่างคนมีความสุข แตกต่างจากใครอีกคนที่ขมวดคิ้วเป็นปมยุ่งกลางหน้าผากเสียแล้ว

 








วันหยุดที่อาจารย์ยกคลาสถูกใช้ไปอย่างสุรุ่นสุร่าย

ช่วงเช้าที่แสนขี้เกียจถูกผลาญไปกับการนอนแผ่อยู่บนเตียงอย่างเปล่าประโยชน์ ธีร์ธวัชขี้เกียจเกินกว่าจะลุกไปหาอะไรกินในตอนที่ท้องร้องโครกครากเสียด้วยซ้ำ ต่างจากตรีภพที่ลุกออกไปฟิตเนสส่วนกลางของคอนโดตั้งแต่สิบโมงเช้าและกลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องในตอนเที่ยง

ธีร์ธวัชบิดขี้เกียจเกลียวใหญ่ก่อนจะยอมลุกขึ้นมาล้างหน้าล้างตาเมื่อเพื่อนเจ้าของห้องเอ่ยชวนออกไปหาอะไรกิน เขาเดินลากขาในสภาพเมาขี้ตาเข้าไปในห้องน้ำ ถือวิสาสะขโมยเสื้อผ้าของตรีภพมาใส่โดยไม่ได้ขอ

“กินอะไร” หลังจากที่เอาน้ำเย็นๆ ราดหน้าราดหัวธีร์ธวัชก็ตื่นได้เต็มตาเสียที เขาเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมผ้าขนหนูที่ยังโปะอยู่บนผม ใช้ฝ่ามือขยี้ซับน้ำเบาๆ แล้วสาวเท้าเข้าไปคนตัวใหญ่กว่าซึ่งนั่งเอกเขนกดูรายการทีวีอยู่บนโซฟา

“มึงบอกจะไปห้าง”

“อ๊ะๆ ไอ้ภพ ชวนกูไปห้างงี้แสดงว่ามึงอยากลอง...ล่ะสิ” ธีร์หัวเราะเสียงแหลม เขายังคงยืนค้ำหัวเพื่อนอยู่ในขณะที่เอ่ยปากแซวไม่เลิก “ทำเป็นปฏิเสธมาตั้งนาน”

“นายชวนกินชาบู” และตรีภพก็ยังคงตัดบทสนทนาลามกพวกนั้นทิ้งไปอย่างหน้าตาย

ธีร์ถอนหายใจเฮือก ปาผ้าขนหนูในมือใส่อีกคนอย่างเซ็งในอารมณ์

“ขี้เกียจไปแล้ว” เขากระแทกเสียงไปแบบนั้น แสดงให้เห็นว่าโกรธเคือง แต่ตรีภพก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าเขาแค่แกล้งทำไปอย่างนั้น อีกฝ่ายเลยไม่ได้สนใจที่จะเข้ามาง้อหรือขอโทษ คนตัวสูงก็แค่หยิบโทรศัพท์ขึ้นกดต่อสายไปหาใครสักคน ก่อนจะกรอกเสียงต่ำๆ ลงไปในสายว่า

“ธีร์ขี้เกียจไปห้าง”

คนถูกพาดพิงขมวดคิ้ว กอดอกกระดิกปลายเท้ารอฟังว่าตรีภพจะพูดอะไรต่อ

“มาสิ”

มาที่ไหน?

ธีร์ธวัชได้แต่เลิกคิ้วอย่างสงสัย รั้งรอจนอีกฝ่ายกดวางสายจึงโพล่งถามออกไป

“ใครวะ”

“นาย”

“มึงชวนมาที่นี่?”

“ก็มึงขี้เกียจ” ตรีภพว่า “กูชวนมาทำสุกี้กินที่ห้อง”

“อ๋อ” ธีร์ธวัชก็ได้แต่พยักหน้า หลงลืมไปว่าเมื่อกี้กำลังแสดงละครว่าโกรธจนตัวสั่นอยู่ “ใครมาบ้าง”

“ทุกคน”

“งั้นไปซูเปอร์กัน” ธีร์เอ่ยชวนด้วยความกะตือรือร้น สารถีจำเป็นก็พยักหน้ารับพร้อมคว้ากุญแจและกระเป๋าสตางค์มาถือไว้ในมือ “ทำไมวันนี้พวกนั้นมีเวลาว่างให้เพื่อนฝูงได้เนี่ย”

“แฟนเรียน”

“กูว่าแล้ว” ธีร์ธวัชทุบกำปั้นลงบนอุ้งมืออีกข้าง “ถ้าแฟนว่างนะ กูไม่มีทางได้เห็นเงาหัวพวกนั้นหรอก”

ตรีภพไม่ได้ตอบอะไร เขารับฟังเสียงบ่นเรื่องเดิมๆ พวกนี้จนเลือกที่จะปล่อยมันผ่านไป รถยนต์ซีดานสีน้ำเงินเข้มค่อยๆ เคลื่อนออกจากซองจอดแล้วเลี้ยวไปตามเส้นถนนที่ทางคอนโดตีแบ่งเอาไว้ให้

และหลังจากนั้นอีกหนึ่งชั่วโมง พวกเขาทั้งสองก็กลับห้องมาพร้อมวัตถุดิบและเครื่องดื่มมากมายสำหรับการทำสุกี้ ที่ห้องของตรีภพมีอุปกรณ์เครื่องครัวพร้อมครบครันแม้เจ้าของห้องจะไม่ค่อยได้ใช้มันสักเท่าไหร่ โต๊ะญี่ปุ่นตัวใหญ่สองตัวถูกนำมากางตรงพื้นที่ว่างหน้าโซฟา หม้อไฟฟ้าตั้งเอาไว้ตรงกลางพร้อมถ้วยชามและน้ำจิ้มรสเด็ด ธีร์ธวัชช่วยล้างเนื้อหมูกับอาหารทะเลสดที่ซื้อมาพร้อมพัดเป็นชิ้นเล็ก ในขณะที่ตรีภพลงไปรับเพื่อนๆ ซึ่งมาถึงแล้วที่ชั้นล่าง

“ฮายย มายเฟรนด์” ใครสักคนตะโกนขึ้นมาหลังจากประตูห้องเปิดออก เป็นเจ้าของใบหน้าตี๋ดวงตาตี่เล็กอย่างนราวุฒินั่นเองที่ส่งเสียงร้องทักทายมาก่อนจะได้เห็นตัว

ธีร์ธวัชหันไปหาเพื่อนขณะที่ยังหั่นหมูไม่เสร็จ เขาฉีกยิ้มให้กับนาย รันและดิสที่ทยอยกันเดินเข้ามาในห้อง พื้นที่ 23 ตารางเมตรดูคับแคบไปถนัดตาเมื่ออัดแน่นไปด้วยผู้ชายตัวใหญ่ๆ ทั้งห้าคน

“มากูช่วย” รันวางกระเป๋าสะพายไว้บนโซฟาและเดินดุ่มๆ มาหาเขาที่โซนครัว

ธีร์ธวัชขยับเหลือพื้นที่ว่างให้เพื่อนมายืนข้างกันบนหน้าเคาท์เตอร์ บรรดาเนื้อเบคอน สามชั้น และสันคอสไลด์ที่บรรจุอยู่ในกล่องโฟมถูกนำออกมาจากถุงและยกไปเรียงที่โต๊ะญี่ปุ่น ผักส่วนหนึ่งมีรันคอยช่วยล้างและหั่นเป็นชิ้นพอเหมาะ ในขณะที่ด้านฝั่งหม้อไฟฟ้า ตรีภพก็เริ่มต้มน้ำและใส่คนอร์ก้อนลงไปเพื่อปรุงรสน้ำซุปสุกี้

“เฮ้ยไอ้ธีร์ มึงซื้อเบียร์มาด้วยเหรอ” เป็นดิสหรือนายรัชพลที่เดินเข้ามาเปิดประตูตู้เย็นและพบเจอกับบรรดาเครื่องดื่มจำนวนหลายสิบขวดแช่เอาไว้จนเต็มทุกชั้น และทันทีที่ได้ยินว่ามีแอลกอฮออล์ นราวุฒิซึ่งนั่งอ้าซ่าอยู่ปลายเตียงก็รีบวิ่งถลาเข้าไปมุดหัวดูของในตู้เย็นทันที

“เยอะซะด้วย” หนุ่มตี๋ฉีกยิ้มเริงร่า เอื้อมมือมาตบบ่าธีร์ธวัชเบาๆ ก่อนจะหยิบเบียร์ยี่ห้อดังมาเปิดหนึ่งขวด

ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเท่านั้นวัตถุดิบทุกอย่างก็ถูกตระเตรียมจนเสร็จ ชายหนุ่มทั้งห้าคนที่นานๆ ครั้งจะได้รวมตัวกันครบต่างนั่งหน้าสอนประจำที่หน้าหม้อสุกี้ไฟฟ้า เสียงน้ำเดือดและกลิ่นหอมๆ ทำให้แต่ละคนต่างรีบจับตะเกียบ อาวุธประจำกายขึ้นมาทันที

“กูไม่รอแล้ว” ธีร์ผู้ซึ่งไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้าจ้วงตะเกียบลงไปในหม้อ คว้าวุ้นเส้นและเนื้อหมูขึ้นมาก้อนใหญ่ทีเดียว และทันทีที่มีคนเปิด บรรดาตะเกียบที่เหลือก็ต่างพุ่งทะยานลงไปโกยผักโกยเนื้อมาใส่ถ้วยของตนอย่างรวดเร็ว

ในช่วงเวลาของการกินไม่มีเสียงพูดคุยใดๆ ดังออกมาจากชายทั้งห้า เสียงช้อนกระทบจานดังแกร๊งกร๊างทดแทนบทสนทนาที่เงียบฉี่ และจนกระทั่งความหิวโซค่อยๆ จางไปจึงมีใครสักคนเปิดปากพูดขึ้นมา

“ธีร์ มึงไม่ย้ายมาเป็นเมทภพถาวรไปเลยล่ะ” เป็นรัชชัย หรือรัน เพื่อนผู้เจ้าชู้แต่กำลังติดเมียอย่างหนักพูดขึ้นทำลายความเงียบ

ธีร์ธวัชเมื่อถูกเอ่ยชื่อถึงก็ได้แต่เคี้ยวเบคอนตุ้ยๆ ก่อนจะกลืนลงท้องและตอบออกมาอย่างไม่ใส่ใจว่า

“ไม่เอาอ่ะ เผื่อวันไหนกูอยากนอนคนเดียว”

“ไม่เห็นมึงจะนอนห้องตัวเองเลยสักวัน”

ธีร์หัวเราะให้กับคำประชดประชันของนาย “ก็ห้องไอ้ภพมีแอร์”

หลังจากเขาตอบออกไปแบบนั้นก็มีเสียงกร่นด่าถึงสันดานของเขากันให้ควัก แต่ธีร์ธวัชก็ได้แต่ยิ้มรับ แล้วโบ้ยให้เจ้าของห้องไปอย่างหน้าด้านๆ ว่า “ไอ้ภพไม่เห็นจะว่า”

และใช่ ตรีภพไม่เคยว่าเขาหรอกถ้าเขาจะมานอนด้วยแทบทุกวันโดยไม่ช่วยหารค่าไฟ ก็เพราะธีร์ธวัชน่ะใช้อย่างอื่นจ่ายแทนไปแล้ว และคงบอกคนอื่นไม่ได้ด้วยว่าทุกวันนี้เขาจ่ายค่าเช้าห้องให้ตรีภพด้วยอะไร

เห็นท่าทางนิ่งๆ และดูรำคาญเวลาเขาชวนทำเรื่องอย่างว่าแบบนั้นน่ะ จะบอกให้เลยนะว่าไอ้ภพน่ะตัวเซ็กส์จัดเป็นที่หนึ่ง

ถ้าคนที่เขาไม่อยากทำจริงๆ ต่อให้เต้นระบำเปลื้องผ้าอยู่ตรงหน้า คนมันจะไม่มีอารมณ์มันก็ไม่มีอารมณ์ แต่กับตรีภพที่เขาสะกิดเวลาไหนก็พร้อมจะพุ่งเข้าใส่น่ะเหรอ... ก็คิดเอาแล้วกัน

ธีร์ธวัชคลี่ยิ้มยียวนให้กับความคิดของตัวเอง เขาเหลือบตามองตรีภพที่นั่งเยื้องอยู่ฝั่งตรงข้าม มีรัชพลที่นั่งอยู่ข้างกันชวนคุยอะไรไปเรื่อยเปื่อย

“เออภพ กูอยากรู้ว่ะ” นราวุฒิที่เริ่มอิ่มบ้างแล้วชะโงกหน้าเข้าไปหาเจ้าของชื่อตรีภพอย่างคาดคั้น “กับน้องน้ำนี่ยังไงวะ”

“ทำไม?” ตรีภพขมวดคิ้วเหมือนไม่ค่อยอยากพูดถึงเรื่องนี้สักเท่าไหร่

“คนเขาลือกันให้ทั่วมอ เมียกูยังถามเลยนะว่ายังไง” นายยังว่าต่อ “น้องน้ำประกาศตัวกลางฝูงชนขนาดนั้น จะไม่ให้เป็นข่าวใหญ่ได้ยังไง”

“ใจกล้าแบบนี้สเป็กกูเลย” เป็นรัชชัยที่โพล่งขึ้นมาด้วยรอยยิ้มกะริ้มกะเรี่ย

“ฟ้องเมีย” ธีร์ธวัชไม่ปล่อยให้จังหวะการกลั่นแกล้งผ่านไป เขาพูดขึ้นพร้อมยกโทรศัพท์ และเสียงหัวเราะจากคนอื่นก็ดังประสานขึ้นเมื่อรันยู่หน้า ยกมือชูสองข้างอย่างจำยอม

“ยอมแล้วจ้า”

“เอ้า อย่านอกเรื่องดิ๊ ภพตอบกูมาเร๊ว” นราวุฒิผู้ขี้เสือกที่สุดในสามโลกจ้องตาเพื่อนไม่กระพริบ ขณะเดียวกันคนอื่นๆ ก็เงียบเพื่อตั้งใจฟังบ้าง

จะยกเว้นก็แต่ธีร์ธวัชที่ฉีกยิ้มกว้างเมื่อนึกย้อนไปถึงคำตอบของตรีภพซึ่งมีให้แก่เขา

เหอะ น้องน้ำก็ลีลาเด็ดสู้กูไม่ได้

“ไม่มีอะไร” ยิ่งตรีภพย้ำคำปฎิเสธ อารมณ์ของใครอีกคนก็ดูจะฟูพองราวกับลูกโป่งถูกสูบลม

“ไม่ชอบเลยเหรอวะ”

“ไม่”

“สักนิดเลยอ่ะ น้องเขาน่ารักนะ”

ตรีภพส่ายหน้า จึงตมมาด้วยเสียงโห่ของเพศชายอีกสามคน

“ไอ้คนหล่อเลือกได้” รันเบ้หน้าอย่างเซ็งในอารมณ์

“แล้วแบบไหนถึงจะถูกใจมึงวะภพ” รัชพลโพล่งขึ้นมาเมื่อไม่มีใครพูดอะไรต่ออีก และนั่นเป็นประโยคที่ดึงความสนใจของทุกคนกลับมาที่ตรีภพอีกครั้ง รวมถึงธีร์ธวัชที่หูพึ่งตั้งใจฟังด้วยอีกคน

“ที่ถูกใจ?”

“เออ แบบไหนที่มึงชอบ”

“...” ตรีภพเงียบคิดไปครู่หนึ่ง

ดวงตาสีน้ำตาลเข้มกวาดมองเพื่อนๆ ทุกคนจนกระทั่งมาหยุดสบกับดวงตาของธีร์ธวัช พวกเขาจ้องมองกันอย่างเงียบเชียบในเวลาเสี้ยววินาที ก่อนเสียงทุ่มต่ำจะเอ่ยออกมาอย่างชัดเจนว่า...






___________________________
Talk: หายไปเป็นเดือนเลยค่า กลับมาแล้ว
เรางานหนักมากจริงๆ เพิ่งได้ว่างก็รีบมาปั่นให้เลยนะคะ
ขอโทษที่ทำให้รอมากเลย แต่เรื่องนี้จะลงจนจบแน่นอน
เพราะเขียนพล็อตไว้จนจบเรื่องแล้ว แค่หาเวลาเขียนไม่ได้ แง้

ไม่รู้ยังมีคนอ่านอยู่ไหมนะคะ แต่ถ้ามีใครกดเข้ามาอ่านก็ขอขอบคุณมากๆ เลยค่า
รักทุกคนที่สุดเลย กอดดด  :L2: :L2: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ไม่ชัดเจนสักทีคู่นี้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด