My Valenthia #วิวาห์ในแดนฝัน (Omegaverse) : บทที่29-30 [P.10] --- 26/08/62 ---
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: My Valenthia #วิวาห์ในแดนฝัน (Omegaverse) : บทที่29-30 [P.10] --- 26/08/62 ---  (อ่าน 33579 ครั้ง)

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
เด่วๆ จะจัดการอะไร ไม่นะ!!!!! :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
นั่นพวกที่คิดจะแย่งตำแหน่งกับพ่อของซินเธียใช่ไหม และนั่นก็เป็นเหตุที่ทำให้พ่อของซินเธียเลือกที่จะให้ซินเธียแต่งออกมาเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับซินเธียใช่ไหมค่ะ แล้วตอนนี้พ่อของซินเธียเป็นยังไงบ้างแล้วเนี่ย ทำไมพวกนั้นถึงแย่งจม.ไปได้กันคงไม่ใช่เกิดอันตรายกับพ่อซินเธียนะ

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
เอาใจช่วยคุณแม่และคุณพ่อมือใหม่ให้ผ่านเรื่องร้ายๆไปด้วยดี จัดการคนที่คิดไม่ดีกับเจ้าแฝดให้เข็ดไปเลยย

ขอบคุณคนเขียนนะคะ

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
แงงงตัวร้ายมาทำไมม เป็นห่วงพ่อน้องซินเธียกับเด็กแฝดดด
แอชลีย์ดูแลลูกเมียดีๆนะะะะ

ออฟไลน์ monrita

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
บทที่ 27




   เพราะเป็นครรภ์แฝดการดูแลเลยต้องพิถีพิถันมากเป็นพิเศษ นอกจากอาหารการกินแล้ว การออกกำลังกายเบาก็เป็นสิ่งหนึ่งในชีวิตประจำวันของซินเธีย ยิ่งนับเวลาที่จะได้พบหน้าสองแฝดใกล้มามากเท่าใดการเตรียมพร้อมก็ยิ่งต้องมีมากขึ้น


   เช้าวันนี้หลังจัดการอาหารมื้อใหญ่จบลงก็ใช้เวลาย่อยอีกราวครึ่งชั่วโมง ผู้เชี่ยวชาญด้านสูติสำหรับโอเมก้าได้เดินทางมาเปิดคลาสเรียนเล็กๆ สำหรับคุณแม่ลูกแฝดถึงคฤหาสน์คิม


   เจน คือผู้เชี่ยวชาญทางด้านโอเมก้าซึ่งแอชลีย์จ้างมาเป็นพิเศษผ่านแพทย์ประจำตัวของซินเธียอีกทอดหนึ่ง เธอจะมาที่นี่สัปดาห์ละหนึ่งครั้งเพื่อให้คำแนะนำสำหรับเตรียมตัวคลอด อย่างระยะนี้ซินเธียกำลังฝึกเรื่องการหายใจสำหรับคลอดด้วยตนเองอยู่


สำหรับเด็กแฝดแล้ว โอกาสในการคลอดก่อนกำหนดจะสูงกว่าครรภ์ปกติที่มีเด็กเพียงคนเดียว ตอนนี้เหลือเวลาอีกราวหนึ่งเดือนครึ่งก็จะได้พบหน้าลูกแล้ว ถึงอย่างนั้นเขาก็อดตื่นเต้นนับวันรอไม่ได้


ฝ่ายแอชลีย์ คิม ก็ดูท่าจะเตรียมตัวไม่น้อย เพื่ออยู่เป็นเพื่อนภรรยาของเขา พออายุครรภ์มากขึ้นขนาดหน้าท้องก็ยิ่งขยายใหญ่จนแม้แต่การนั่งอยู่เฉยๆ ยังอึดอัด จะลุกจะเดินทำอะไรดูลำบากไปเสียหมด จะปล่อยให้อยู่คนเดียวก็ไม่วางใจ พักหลังมานี้ชายหนุ่มเลยหยุดงานค่อนข้างบ่อย บางสัปดาห์แทบจะขลุกตัวอยู่ในคฤหาสน์เสียด้วยซ้ำ


ขนาดตอนนั้นได้ยินว่าทางครอบครัวตระกูลไลได้ให้กำเนิดคุณหนูตัวน้อยออกมาแล้ว เจ้าตัวยังไม่คิดจะไปเยี่ยมตามมารยาทเลย ได้แต่บอกว่าเรื่องเยี่ยมนั้นค่อยไปครั้งหน้าก็ยังไม่สาย วินเทอร์ฟอลหรือก็ไม่ได้กว้างใหญ่อะไร แถมยังมีการบ่นว่าสำหรับลูกคนที่สองน่ะ มีอะไรน่าตื่นเต้นมากกัน ประโยคนี้ชายหนุ่มรำพึงคล้ายไม่ใส่ใจแต่กลับดูสวนทางกับพฤติกรรมของตนเองอยู่เนืองๆ 


สัปดาห์หน้าคุณผู้นำตระกูลคนเก่งจำเป็นจะต้องเดินทางไปยังอีสเทิร์นพอร์ตอีกครั้งเพื่อตรวจสอบเรื่องของการขนส่ง หลังทำการตกลงเรื่องเช่าท่าเรือจากทางตระกูลแลมเบิร์ตธุรกิจอัญมณีของชายหนุ่มก็กำลังไปได้สวย เงินเข้ามากว่าเงินออก เติบโตไปตามเป้าหมายสร้างความพอใจกันทั้งสองฝ่าย แต่จะปล่อยให้งานดำเนินไปโดยที่นายใหญ่ไม่ไปดูแลสักครั้งก็ไม่ถูกต้องนักต่อให้มีคนดูแลแทนอยู่ก็ตาม อย่างน้อยก็ต้องเดินทางไปตรวจสอบเพื่อรับทราบความเคลื่อนไหวถึงหน้างานอย่างน้อยสามเดือนครั้ง


แอชลีย์กำลังคิดหนักว่าควรจะเลื่อนการเดินทางไปตรวจสอบออกไปก่อนดีหรือไม่ จะให้ไปคนเดียวโดยทิ้งภรรยาท้องแก่เอาไว้ลำพังดูไม่ใช่เรื่องดี จะพาติดตามไปด้วยก็ต้องคิดให้รอบคอบ เรื่องนี้จึงกำลังอยู่ในช่วงพิจารณาอย่างหนัก และชายหนุ่มก็ยังคิดไม่ตก


อันที่จริงซินเธียไม่คิดมากว่าตนจะต้องไปด้วยหรือต้องรออยู่ที่นี่คนเดียว แต่ถ้าเป็นอย่างหลังก็แอบวูบโหวงอยู่ในใจเช่นกัน พูดตามตรงตั้งแต่เดินทางมายังแดนเหนือแห่งนี้มันก็เกือบจะครบหนึ่งปีแล้ว เราอาจจะไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา แต่ก็ยังไม่เคยห่างกันข้ามวันข้ามคืนเลยสักครั้ง ต่อให้อยู่ในช่วงงานยุ่งมากแค่ไหนแอชลีย์ก็มักจะกลับมานอนที่คฤหาสน์ทุกครั้งไม่ว่าดึกแค่ไหนชายหนุ่มไม่เคยค้างคืนที่อื่นเลยสักครั้ง


ซินเธียยกมือขึ้นลูบหน้าท้องนูนใหญ่ของตัวเองพลางประคองไปด้วยขณะเดินไปยังสวนด้านหลังของตัวคฤหาสน์ ตอนนี้วินเทอร์ฟอลเข้าสู่ช่วงฤดูกาลแห่งชีวิตแล้ว สีเขียวของต้นไม้ใบหญ้า สีสันสดใสของดอกไม้บานสะพรั่งเต็มสวนด้านหลังกลายเป็นภาพแปลกตา หิมะเลือนหายไปแทนที่ด้วยความสดชื่น กลิ่นหอมและเหล่าผีเสื้อโบยบิน


เมื่อมองไปมุมหนึ่งของสวนจะพบเรือนเพาะชำเล็กๆ มันพึ่งถูกสร้างเสร็จเมื่อไม่นานมานี้ ด้านในปลูกต้นมะเขือเทศเชอร์รี่เอาไว้มากมาย พอคิดถึงตรงนี้ซินเธียอดจะยิ้มน้อยๆ ให้กับเจ้าของความคิดไม่ได้


‘ปลูกในเรือนเพาะชำ จะได้ทานตลอดทั้งปี’


เจ้าตัวเขาว่าเอาไว้อย่างนั้น แต่ให้มองในด้านเหตุผลก็น่าเชื่อถือ วินเทอร์ฟอลมีสภาพอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี ยิ่งช่วงครึ่งปีหลังจะอากาศหนาวมากเป็นพิเศษ นอกจากหิมะสีขาวปกคลุมไปทั่วแล้วทั้งต้นไม้ใบหญ้าก็แทบจะไม่สามารถเจริญเติบโตได้คล้ายถูกแช่แข็งเอาไว้ใต้ผืนเกล็ดน้ำแข็ง ส่วนเจ้าต้นมะเขือเทศเหล่านี้เองก็คงจะแข็งตายก่อนได้เก็บเกี่ยว


“มองอะไรอยู่”


เหม่อมองนู่นมองนี่ไปเรื่อยคนที่กำลังอยู่ในความคิดก็เดินเข้ามาหา ร่างกายสูงใหญ่ขยับมาชิดกันด้านหลัง สองแขนแข็งแรงโอบประคองหน้าท้องนูนซ้อนทับมือของเด็กหนุ่มเอาไว้อีกทอดหนึ่ง จรดปลายจมูกลงบนขมับสูดรับกลิ่นหอมจากกายบาง


“เปล่าครับ” เขาตอบทั้งที่สายตายังคงทอดมองออกไปแสนไกลไร้จุดพัก


“ไปเดินเล่นกัน” เอ่ยชิดใบหู สองมือเริ่มขยับเปลี่ยนมาลูบไล้เนินหน้าท้องอย่างเพลิดเพลิน คนฟังเลยชักไม่แน่ใจว่าประโยคนี้เจ้าตัวเขาตั้งใจเอ่ยกับใครกันแน่


“บอกใครครับ”


“ทั้งสามคนนั่นแหละ”


ที่ถามน่ะเพราะต้องการหยอกเย้าส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งเพราะสงสัยจริง ก็คุณพ่อเขาเดี๋ยวนี้เริ่มพูดคุยกับลูกเก่งขึ้นมานิดหนึ่งแล้ว ถึงบางครั้งจะเหมือนคุยกับซินเธียมากกว่า แต่เขารู้ว่าคนตัวโตที่กำลังกอดกันอยู่นี้ตั้งใจเล่าให้เด็กๆ ฟังต่างหากล่ะ


จากเรื่องงานที่ปกติไม่นำมาคุยกันก็เริ่มเล่ามากขึ้น วันนี้ไปทำอะไรมาบ้าง พรุ่งนี้จะออกไปไหน ทำอะไร เป็นเรื่องราวธรรมดา ง่ายๆ แต่ก็ค่อนข้างได้ผลดี เดี๋ยวนี้ทั้งฟรานซิสกับเฟย์ลินน์ก็คุ้นเคยกับคุณพ่อเขามากขึ้น แค่ได้ยินเสียงดังอยู่ใกล้ถ้ายังตื่นอยู่เด็กๆ ก็มักจะแสดงปฏิกิริยาออกมาแล้ว


ส่วนเรื่องหนังสือนิทานนั้น... ลืมไปชั่วคราวก่อนเถอะ เอาไว้ลูกรู้ความกว่านี้ค่อยลองให้แอชลีย์พยายามอีกครั้ง ถึงตอนนั้นทักษะการเล่านิทานของคุณพ่อคงจะพัฒนาขึ้นบ้าง


บางครั้งซินเธียก็เล่าเรื่องในดินแดนทางใต้เหมือนกัน เล่าให้พวกเขารู้ว่าที่ทางใต้น่ะ มีท่านตาอยู่ ท่านใจดีแล้วก็อ่อนโยนมาก นอกจากนั้นก็ยังมีท่านลุงอีกหนึ่งคน ถึงตอนอยู่ในธอร์นความสัมพันธ์ระหว่างซินเธียกับท่านอาจะไม่นับว่าดีอะไรมาก เนื่องจากอีกฝ่ายไม่ค่อยอยากจะมายุ่งเกี่ยวกับหลานที่เป็นโอเมก้าอย่างเขาเสียเท่าไหร่ แต่ว่าท่านก็ไม่เคยพูดจาว่าร้ายหรือทำตัวแย่อะไร เราเหมือนต่างคนต่างอยู่กันมากกว่า


ตอนบ่ายของวสันต์ฤดู สายลมโชยอ่อนพัดพากลีบดอกไม้สีม่วงให้ปลิวไสวไปตามแนวระเบียงทางเดิน ซินเธียเงยหน้าขึ้นมาเหล่ามวลไม้สีสดนั้นด้วยดวงตาประกายระยิบระยับ


สถานที่ที่ชายหนุ่มพาเขามาในวันนี้คือฮิลตัน แอชลีย์เล่าว่าเด็กๆ ในวินเทอร์ฟอลจะถูกพามาศึกษาร่วมกันในสถานที่แห่งนี้ มีผู้ดูแลคือตระกูลฮิลตันซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง ด้านบทเรียนมีให้เลือกศึกษามากมายไม่ว่าจะเป็นการแพทย์ การต่อสู้ หรือความรู้แขนงต่างๆ ตามความสนใจของผู้ศึกษา


บรรยากาศของที่นี่ดีมาก ตัวอาคารถูกตั้งอยู่ในระยะห่างที่สามารถเดินไปมาหาสู่กันได้โดยสะดวก ไม่ได้กว้างใหญ่จนดูเว่อวังแต่ก็ไม่ได้คับแคบจนอึดอัด มีต้นไม้ร่มรื่นและสวนสำหรับพักผ่อนขนาดเล็ก นอกจากตึกเรียกกับสนามฝึกซ้อมอันกว้างขวางแล้วก็ยังมีหอพักสำหรับทุกคนด้วย


“ในอนาคตฟรานกับเฟรย์ก็ต้องเข้ามาอยู่อาศัยที่นี่หรือครับ” เขาเงยหน้าถามคนข้างกาย พอคิดว่าลูกๆ จะต้องห่างจากบ้านมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่อายุสิบห้ามันก็อดจะวูบโหวงไม่ได้เช่นกัน พวกเขายังไม่โตเป็นผู้ใหญ่ด้วยซ้ำ


“สามารถกลับมานอนที่บ้านได้” แอชลีย์อธิบาย “อันที่จริงก็ไม่ได้บังคับหรอก แต่คนส่วนใหญ่หากไม่ได้มาจากตระกูลชั้นสูงการมาพักอาศัยอยู่ในฮิลตันย่อมสะดวกสบายกว่า บางครั้งคนจากจัตุรัสไวท์สแควร์ก็เดินทางมาร่วมเรียนด้วยเช่นกัน”


ตอนแอชลีย์ยังอยู่ในฮิลตัน ชายหนุ่มเองก็เดินทางกลับไปพักผ่อนที่คฤหาสน์สัปดาห์ละครั้งสองครั้งเช่นกัน คนหลายคนอยู่ในช่วงวัยที่ต้องการอิสระและการสร้างความสัมพันธ์ หาเพื่อน หาคนรัก พอได้มาอยู่ในรั้วแห่งนี้แล้วเรื่องที่บ้านก็กลายเป็นสิ่งน่าเบื่อเพราะในฮิลตัลมีกิจกรรมให้ทำมากมายนอกเหนือจากตารางเรียนปกติ


ต่อให้เป็นคนอย่างคุณชายคาร์ลิน ไล ก็ยังลอบแอบไปขลุกอยู่ในป่าด้านหลังฮิลตันบ่อยครั้ง เขาก็ไม่รู้หรอกว่าสถานที่แห่งนั้นมีอะไรดีๆ ซ่อนอยู่หรือไม่ มันก็เป็นแค่ป่า ทะเลสาบ ถิ่นที่อยู่อาศัยของพวกพิกซี่ สำหรับเขาแล้วไม่นับว่าน่าสนใจอะไร โดยเฉพาะเจ้าสิ่งมีชีวิตเล็กๆ เหล่านั้น เพียงแค่เดินเข้าไปใกล้อาณาเขตของพวกมันก็พากันแตกกระเจิงหนีหายไปหมด แอชลีย์ยังไม่เคยเจอในระยะประชิดเลยสักครั้ง


“คงสนุกน่าดู” ซินเธียลองจินตนาการภาพตามคำบอกเล่าของสามี ในแดนใต้น่ะไม่มีอะไรแบบนี้หรอก “แล้วที่เรากำลังจะไปกันคือที่ไหนหรือครับ”


“ใกล้แล้วล่ะ” คนตัวสูงว่า สองแขนก็คอยประคองร่างเจ้าเนื้อของคนเป็นภรรยาไปตามระเบียงทางเดินอย่างไม่รีบร้อน


จุดหมายของพวกเขาคล้ายเป็นสวนอะไรสักอย่าง พอเดินเข้าไปแล้วรอบกายเต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่อายุหลายร้อยปี คาดว่าหนึ่งต้นคงต้องใช้คนจำนวนสองถึงสามคนถึงจะสามารถโอบได้มิด


แต่ทั้งอายุหรือขนาดของมันก็ไม่ได้ทำให้ซินเธียตื่นตาตื่นใจเท่ารวงไม้สีม่วงเหล่านั้นเลยสักนิด วิสทีเรียเหล่านี้ขนาดของมันสูงใหญ่แผ่กิ่งก้านจนบดบังแสงอาทิตย์ยามบ่ายไปจนหมดสิ้น ส่งผลให้สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความชุ่มชื้น รวงไม้สีม่วงทั้งหนาทั้งยาวเรียงร้อยกันเป็นช่อมากมายยิ่งทำให้มันดูงดงามและแปลกตาจนไม่สามารถจะละสายตาไปไหนได้


ปลายผมปลิวตามสายลมเอื่อยที่ยังคงพัดวูบเป็นระยะ กลีบดอกไม้ลอยละลิ่วอยู่บนอากาศโชยเอากลิ่นหอมแตะปลายจมูกเบาบาง มือใหญ่เอื้อมขึ้นมาช่วยปัดกลีบดอกที่ปลิวมาติดเส้นผมออกให้ก่อนจะทัดปอยผมไปยังหลังใบหู การกระทำแสนอ่อนโยนเหล่านี้ไม่ว่าจะเมื่อไหร่จิตใจของเด็กหนุ่มก็ไม่เคยชินชาเลยสักครั้ง


“ที่เคยบอกเอาไว้ ชอบหรือไม่”


มันก็ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้วจนแม้แต่ซินเธียเองก็ยังหลงลืมไปในบางครา ทว่าชายหนุ่มกลับจดจำและทำตามคำกล่าวนั้นโดยไม่บิดพลิ้ว เคยบอกว่าจะพามา ก็พามาจริง


เหมือนวันนั้นจะเป็นวันที่หิมะสีขาวปกคลุมไปทั่วทั้งวินเทอร์ฟอล ซินเธียแค่บ่นออกมาเรื่อยเปื่อยว่าต้นไม้ในคฤหาสน์นั้นแห้งเหี่ยวไปจนสิ้นไม่มีสิ่งไหนให้ชื่นชม อีกคนเลยกล่าวว่าจะพามายังสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งก็คงหมายถึงสวนวิสทีเรียแห่งนี้


ถ้อยคำนั้นจะบอกว่าเป็นคำสัญญายังพูดไม่ได้เต็มปากเลยด้วยซ้ำ ก็แค่บทสนทนาไร้ที่มาที่ไปของเราทั้งสอง ไม่ยึดถือเป็นเรื่องจริงจังอะไร ต่อให้แอชลีย์ทำเป็นลืมเลือนก็ไม่ใช่เรื่องน่าโกรธเคืองอันใด


ซินเธียนั่งลงบริเวณม้านั่งแถวนั้น สูดลมหายใจรับเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอด นานครั้งได้ออกมาเดินเล่นข้างนอกบ้างก็ดีเหมือนกัน เขารู้สึกผ่อนคลายไม่น้อยทั้งร่างกายและจิตใจ


“ถึงมันอาจจะเหงาไปบ้าง แต่ถ้าลูกๆ ได้มาอยู่ในสถานที่ดีๆ แบบนี้เราก็วางใจ” เด็กหนุ่มกล่าวเลื่อนลอยใบหน้าเปื้อนยิ้ม สายตาทอดมองรวงไม้สีม่วงด้วยท่าทางหย่อนอารมณ์ ได้ยินเสียงคนข้างกายตอบรับมาคำหนึ่ง


“อืม”


สองคนพูดเรื่องราวไร้สาระไปเรื่อย ถึงแม้ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นซินเธียเสียมากกว่า บทสนทนาส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องราวในอนาคตของลูกๆ ต่อให้มันจะเป็นอนาคตอันยาวไกล แต่ก็รู้สึกมีความสุขยามได้เอ่ยถึง


ชีวิตอันแสนเรียบง่าย หากเป็นแบบนี้ตลอดไปคงดีไม่น้อย


 
วันถัดมาซินเธียได้รับจดหมายหนึ่งฉบับ ครั้งแรกที่คุณพ่อบ้านนำมาแจ้งเด็กหนุ่มยังแสดงสีหน้างุนงง ทว่า เมื่อพลิกดูตราประทับของตระกูลแล้วริมฝีปากอิ่มก็คลี่ยิ้มทันที เขาให้คุณพ่อบ้านช่วยนำชาและของว่างมาให้ส่วนตัวเองก็เดินออกไปทรุดตัวนั่งตรงโต๊ะเหล็กดัดสีขาวในสวน


บ่ายวันนี้อากาศดีมาก ไม่หนาวเย็นจนเกินไป ท้องฟ้าแจ่มใสเช่นเดียวกับอารมณ์ของเด็กหนุ่มในวันนี้


มือเรียวสวยบรรจงเปิดซองจดหมายออกแผ่วเบา ในบรรดาจดหมายหลายสิบฉบับที่เขาเขียนไปนับว่านี่เป็นจดหมายตอบกลับฉบับแรกจากท่านพ่อหากไม่นับวันแต่งงานครั้งนั้น


ในเนื้อความไม่ได้เขียนอะไรยืดยาว เริ่มต้นด้วยการทักทายตามปกติแต่เมื่ออ่านไปเรื่อยๆ รอยยิ้มบนใบหน้าหวานก็ค่อยๆ จางลงทีละน้อย


‘ซินเธีย ขอโทษที่พ่อไม่ค่อยได้เขียนจดหมายตอบกลับมา ด้วยปัญหาสุขภาพในขณะนี้ซึ่งมันแย่ลง จากตอนแรกก็คิดว่าเป็นเพียงโรควัยชราธรรมดาทั่วไป ตอนนี้พ่อคิดว่าตัวเองคงไม่ค่อยไหวเท่าไหร่นัก ได้แต่นอนอยู่บนเตียงทั้งวัน ทั้งเหนื่อยและอ่อนล้า...’


‘พอได้ยินว่าลูกกำลังมีข่าวดี หัวใจคนชราคนนี้ก็เริ่มมีกำลังขึ้น พ่ออยากเจอลูกกับหลานนะ ความจริงแล้วก็ไม่ได้อยากให้ลูกต้องลำบากเดินทางไกลในช่วงเวลาแบบนี้ มันคงยุ่งยากน่าดู แต่อย่างน้อยก็อยากเห็นหน้าทั้งสองคนเผื่อว่าวันข้างหน้าอาจจะไม่มีโอกาสได้พบกัน’


ท่านพ่อกำลังป่วยหรือ


เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว ใบหน้าปรากฏแววกังวลใจออกมาเด่นชัด เดิมสุขภาพของท่านก็ไม่นับว่าแข็งแรงนัก หรือจะพูดให้ถูก สุขภาพกายก็เป็นผลกระทบมาจากสภาพทางใจ เพราะสูญเสียท่านแม่ไปทำให้ราชาแห่งธอร์นคนปัจจุบันไม่อาจปกครองดินแดนทางใต้ได้อย่างมั่นคงอีกต่อไป


หรือว่าช่วงหลายเดือนมานี้อาการของท่านจะทรุดลงกันนะ


ขณะกำลังครุ่นคิดกับตัวเองระหว่างตั้งใจพับจดหมายกลับลงไปในซองดังเดิมซินเธียก็พบว่าในซองจดหมายไม่ได้มีกระดาษเพียงแผ่นเดียว แต่ด้วยความตื่นเต้นเต็มไปด้วยความคิดถึงผู้เป็นบิดาและกระดาษทั้งสองแผ่นนั้นบางมากจนแทบจะติดกันเป็นเนื้อเดียวทำให้ครั้งแรกไม่ได้สังเกตว่ากระดาษในมือตนนั้นแท้จริงแล้วมันซ้อนกันมาสองแผ่น


เมื่อคลี่กระดาษแผ่นที่สองออกมา หัวคิ้วก็ยิ่งขมวดยิ่งขึ้น ในจดหมายไม่ได้ลงชื่อผู้เขียนหรือเกริ่นข้อความใดมาก เป็นข้อความสั้นๆ ไม่กี่บรรทัด ใจความโดยรวมพูดถึงเบื้องหลังการแต่งงานครั้งนี้ว่าแท้จริงแล้วทางฝั่งคนแดนเหนือได้ประโยชน์ใดจากทางแดนใต้บ้าง


‘แอชลีย์ คิม เพียงต้องการครอบครองเหมืองแร่บริสุทธิ์อันเป็นสมบัติตกทอดของทางตระกูลวาเลนเท่านั้น’

น้ำหนักของหมึกยามจรดปลายปากกาเพื่อเขียนข้อความเหล่านี้ดูเข้มเป็นพิเศษคล้ายว่าต้องการเน้นย้ำให้เป็นใจความสำคัญ


เหมืองแร่ของตระกูลวาเลนเป็นเหมืองที่มีอัญมณีล้ำค่าอยู่มากทั้งยังไม่ได้รับการขุดเจาะ มูลค่าของมันไม่อาจประเมินออกมาได้ หากผู้ใดได้ครอบครองก็คงอยู่อย่างสุขสบายไปชั่วชีวิตเผื่อแผ่ไปถึงลูกหลานหลายต่อหลายรุ่น


เรื่องสมบัติตระกูลซินเธียรับทราบ หากแต่ข้อแลกเปลี่ยนในส่วนนี้เด็กหนุ่มไม่ได้รับรู้ด้วย นัยน์ตาสีเงินกวาดอ่านทุกตัวอักษรอย่างเงียบงัน ใบหน้าเรียบนิ่งไร้ซึ่งความรู้สึก


นอกเหนือจากข้อแลกเปลี่ยนนั้น ในจดหมายยังบอกเล่าไปในเชิงว่าร้าย ชักนำให้เกลียดชังผู้นำตระกูลคิมถึงความกระหายอำนาจ ความเห็นแก่ตัว และอีกหลายถ้อยคำ โดยรวมแล้วสรุปได้ว่าการแต่งงานในครั้งนี้ นอกจากทางตระกูลคิมจะได้อำนาจครึ่งหนึ่งของทางแดนใต้ และอำนาจนั้นคงมีมากขึ้นเมื่อซินเธียคลอดอัลฟ่าชายออกมาให้พวกเขาสักคน นอกจากนั้น เหมืองแร่...


นับเป็นการแต่งงานที่มีแต่ได้ไม่มีเสีย คนที่เสียเปรียบกลับกลายเป็นซินเธียเสียเองที่มองดูแล้วเขาได้อะไรจากการแต่งงานครั้งนี้บ้าง?


นั่นสินะ


เด็กหนุ่มพับจดหมายทั้งสองฉบับกลับลงซองดังเดิมก่อนจะยกแก้วชาขึ้นมาจิบ ดวงตาสีเงินส่องประกายราวคริสตัลทอดมองไปยังผืนฟ้าแสนกว้างไกลไร้จุดพัก มือข้างหนึ่งก็คอยลูบหน้าท้องนูนใหญ่ของตัวเองไปด้วยในตอนที่กำลังใช้ความคิด


ถามว่าเขาได้ประโยชน์ใดจากการแต่งงานครั้งนี้ ก็คงจะไม่มีจริง ถูกต้องแล้ว


แต่ทุกวันนี้ชีวิตของเด็กหนุ่มมีความสุขดี ไม่มีสิ่งใดขาดเหลือ ได้อาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังโต ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดีจากชายผู้ได้ชื่อว่าเป็นสามี และล่าสุด พวกเขากำลังจะมีทายาทอันเกิดมาจากเลือดเนื้อเชื้อไขของเราทั้งสองคน


สิ่งเหล่านี้ซินเธียไม่นับว่ามันคือประโยชน์ที่ตนเองควรได้รับ แต่มันมากกว่าคำว่าผลประโยชน์ หากเป็นสิ่งที่มากกว่านั้น มีค่ามากยิ่งกว่านั้น


ส่วนเรื่องที่ว่าแอชลีย์ คิม ได้อะไรจากทางวาเลนไปบ้าง เรื่องจำพวกนี้ซินเธียทำใจยอมรับมานานแล้ว ในเมื่อการแต่งงานครั้งนี้มันก็มาจากคำว่าผลประโยชน์ตั้งแต่ต้น ทันทีที่เขาตกปากรับคำกับท่านพ่อ ยอมพาตัวเองขึ้นรถม้าเดินทางไกลมาถึงแดนเหนือนั่นหมายถึงว่าเขาได้คิดไตร่ตรองและยอมรับทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว และจะไม่เสียใจภายหลัง


เพราะแบบนั้นจึงไม่ได้คิดคาดหวังสิ่งใดตั้งแต่แรก แม้แต่ความรักจากชายหนุ่ม


อำนาจทางแดนใต้คงไม่ใช่สิ่งมีค่าอะไรในสายตาคนแดนเหนืออย่างแอชลีย์อยู่แล้ว ถึงซินเธียจะไม่ค่อยเข้าใจความคิดของชายหนุ่ม ทั้งไม่เข้าใจว่าอะไรทำให้อีกฝ่ายตกลงยอมแต่งงานกับตนเองและรับเข้าตระกูลมาอาศัยอยู่ร่วมกันในตอนแรก


ตอนนี้เขากระจ่างแล้วจากความจริงในจดหมาย อืม ข้อเสนอนี้ก็นับว่าใครปฏิเสธไปก็คงโง่งมเต็มที เพราะเรื่องนี้ด้วยหรือเปล่านะ แอชลีย์ถึงสามารถขยายเขตการค้าของตัวเองและตกลงทำสัญญากับฮิลล์ แลมเบิร์ต โดยไม่เกรงกลัวว่าคู่ค้าในครั้งนี้จะได้สมญานามว่าเป็นพ่อค้าหน้าเลือดเพียงใด


ทว่า เรื่องไหนก็ไม่สำคัญเท่าอาการป่วยของท่านพ่ออีกแล้ว ซินเธียกังวลใจเรื่องนี้มากกว่า เขาอยากจะรีบกลับไปดูท่านให้เร็วที่สุด จากเนื้อความในจดหมายทำเอาเขาร้อนใจไม่น้อย อาการของท่านน่าเป็นห่วงมาก ดูแล้วกำหนดการกลับไปยังทางใต้คงจะต้องเลื่อนจากเดือนหน้ามาเป็นภายในสัปดาห์นี้แทน


 ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี


ตกลงกับตัวเองได้แล้วก็รอจนกระทั่งคนเป็นสามีกลับมา ซินเธียนำเรื่องราวที่ได้รับรู้ผ่านจดหมายฉบับแรกไปถ่ายทอดให้อีกคนฟังรวมถึงแผนการเดินทางของตัวเองด้วย


แอชลีย์ขมวดคิ้วหน้าตึงไปทันทีหลังได้ยินคำกล่าวนั้น “จะไปเลยหรือ”


เรื่องการกลับไปคลอดยังบ้านเกิดหรือบ้านเดิมภรรยาของคนแดนใต้นั้นชายหนุ่มก็พอทราบมาบ้าง จะไปน่ะไปได้ ถึงอย่างไรก็คิดตามไปด้วยอยู่แล้ว เข้าใจว่าธรรมเนียมการปฏิบัติของแต่ละดินแดนย่อมมีความแตกต่างกัน จะให้ตนทำตัวเป็นคนใจแคบสั่งให้อีกคนต้องขัดหลักปฏิบัติที่ยึดถือกันมาช้านานมันก็ไม่ใช่เรื่อง แต่ช่วงเวลานี้เขาเองก็ต้องไปจัดการธุระสำคัญที่อีสเทิร์นพอร์ต จะเลื่อนก็ไม่ได้ ซ้ำจะปล่อยอีกคนไปลำพังก็นึกกังวล


จะให้ยืดเวลาออกไป ซินเธียคงไม่ยอมแน่ จากที่ฟังดูเหมือนปัญหาสุขภาพของลิมเบิร์ก วาเลนจะหนักมากจริง ช่างเป็นการตัดสินใจแสนยากเย็น


“ครับ อย่างน้อยก็อยากรีบกลับไปดูแลท่านสักหน่อย” ซินเธียกล่าว


“ถ้าอย่างนั้นเธอล่วงหน้าไปก่อน แล้วฉันจะรีบตามไปก็แล้วกัน”


การเดินทางจากวินเทอร์ฟอลไปยังธอร์น คำนวณจากตอนส่งตัวเจ้าสาวคราวนั้นใช้เวลา 5 วัน แต่ครั้งนี้ถึงจะเป็นธุระเร่งด่วนแต่การเดินทางจะเร่งรีบมากไม่ได้ รถม้าไม่เหมือนรถยนต์ หากใช้ความเร็วมากเกินไปซินเธียคงนั่งไม่สบายตัวนัก


หลังจากใช้ความคิดอยู่นานจนความเคร่งเครียดปรากฏออกมาให้เห็นทางสีหน้า แอชลีย์ก็ถอนหายใจ ยอมรับออกมาในที่สุด


วันมะรืนเขาจะขับรถไปส่งซินเธียจนถึงเขตชายแดนด้วยตนเองก่อน พยายามย่นระยะเวลาในการเดินทางให้มากที่สุดจนถึงเส้นทางที่ไม่สามารถใช้รถยนต์ได้จริงๆ ค่อยให้อีกคนขึ้นรถม้าต่อไป เดินทางอีกราว 3 – 4 วัน ส่วนตัวเองก็รีบไปสะสางธุระให้เสร็จแล้วค่อยตามไปทีหลัง ตอนนั้นอีกคนคงใกล้จะเข้าอาณาเขตของธอร์นพอดี


“อย่ากังวลเลยนะครับ” เด็กหนุ่มยืดตัวขึ้นจรดกลีบปากลงบนมุมปากของคนตัวสูงแผ่วเบา มือก็ช่วยนวดหัวคิ้วคลายความเครียดขึงจากการใช้ความคิดให้ “เราจะดูแลตัวเองให้ดี คุณเสร็จจากทางนั้นแล้วค่อยตามมานะ”


อัลฟ่าหนุ่มพรูลมหายใจ ภรรยาเขาพูดออกมาขนาดนี้แล้วยังจะต้องทำอะไรได้อีก สุดท้ายก็ได้แต่รวบร่างนุ่มนิ่มนั้นเข้ามาในวงแขน แนบผิวแก้มลงกับศีรษะของเด็กหนุ่มพร้อมปิดดวงตาลง


“เอาตามที่เธอว่าก็แล้วกัน”



TBC
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-08-2019 22:08:42 โดย monrita »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
ใครมายุแยงนายเอก-พระเอกของเรากัน

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
ลุงหรือเปล่าที่เป็นตัวร้าย

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
โอ๊ยยยยยย เริ่มแล้ว
ขอให้ปลอดภัยทั้งแม่ทั้งแฝดนะ  :hao5: :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
หวังว่าพ่อของซินเธียจะไม่เป็นอะไรนะ

ออฟไลน์ Funnycoco

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เขารักกันจ้าาาา ใส่ร้ายยังไง :katai2-1:เขาก็ไม่โกรธกัน

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ G-NaF

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
กำลังหวานเลย

ออฟไลน์ Dark_Sky

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :ling2:สนุกมาค่ะ มาอัพบ่อยๆนะคะ

ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
อย่าเป็นอะไรนะซินเธียและแฝด

ออฟไลน์ bnmshhhhhhh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่านรวดเดียวจบเลย สนุกมาก :L1:

ออฟไลน์ Sillyfoolstupid

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-0
มันเป็นกลลวง น้องงงง อย่าไปปปปป

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ต้องมีเรื่องร้ายแน่ๆเลย แงงง ขอให้เด็กๆกับซินเธียปลอดภัยด้วยเถอะ เพี้ยง!!! :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ monrita

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0

บทที่ 28





คืนนั้นซินเธียเข้านอนไวกว่าปกติเล็กน้อยเพื่อการพักผ่อนอย่างเพียงพอ รุ่งเช้าก็นั่งทานอาหารอย่างสบายใจ กลับแดนใต้ครั้งนี้เด็กหนุ่มได้ขอให้แม่ครัวทำขนมหลายอย่างที่สามารถเก็บไว้ได้นานหน่อยเพื่อนำไปฝากท่านพ่อกับแคลร์ ทั้งสองคนจะต้องดีใจมากแน่ๆ ระหว่างคิดใบหน้าหวานก็ผุดรอยยิ้มสดใส สองมือบรรจงจัดขนมแพ็คใส่กล่องด้วยตนเองทุกอย่าง


มีทั้งคุกกี้ธัญพืชสูตรเพื่อสุขภาพ ใบชาขึ้นชื่อของวินเทอร์ฟอลอีกจำนวนหนึ่ง สองอย่างนี้นำมาทานคู่กันยามบ่ายคงสุขใจไม่น้อย... ไม่สิ ช่วงบ่ายอากาศร้อนเกินไปคงไม่เหมาะกับการจิบชาอีกทั้งชาวแดนใต้ส่วนใหญ่จะยังคงออกไปล่าสัตว์หากินนอกบ้าน เอาเป็น เปลี่ยนไปทานช่วงเช้าเป็นของรองท้องก่อนอาหารจานหลักก็นับว่าไม่เลว เด็กหนุ่มพยักหน้ากับตัวเองเบาๆ มือก็จัดแจงวางคุกกี้ลงในกล่องพลาสติกอย่างดี


นอกจากพวกของว่างแล้วยังมีผลไม้อบแห้งอีกหลายอย่าง มะเขือเทศเชอรี่อีกตะกร้าใหญ่ คิดไปคิดมาก็เหมือนว่าการกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดครานี้จะมีข้าวของมากมายกว่าสมัยที่ซินเธียย้ายเข้าเสียอีก


“ขนอะไรไปเยอะแยะ” เจ้าบ้านตัวสูงเดินเข้ามาในครัว มองภรรยาจัดแจงขนมหลายต่อหลายกล่อง ก็พอจะรู้มาบ้างว่าอาหารการกินของทางใต้ไม่เหมือนกัน ยิ่งพวกของว่างยามบ่ายยิ่งคล้ายเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับคนเหล่านั้น การนำกลับไปเป็นของฝากคงเป็นอะไรที่แปลกตาสำหรับคนที่นั่นพอควร


แต่นี่...มันก็ดูออกจะเยอะไปเสียหน่อย


“เราอยากให้ท่านพ่อลองชิม” เด็กหนุ่มเล่าด้วยใบหน้าอารมณ์ดี “ท่านเป็นคนชอบตื่นเช้ามาก และชอบไปนั่งมองพระอาทิตย์ขึ้นแถวเนินเขาหลังหมูบ้านทุกวัน มันคงจะดีหากท่านมีของว่างพกติดตัวไปด้วย”


พอเห็นอีกคนแสดงความห่วงใยต่อบิดาปานนั้นก็ไม่คิดขัดอะไร แอชลีย์ยืนมองอีกคนจัดการอะไรต่อไปเงียบๆ จนกระทั่งแล้วเสร็จทุกอย่างแล้วถึงได้สั่งให้คนขนไปขึ้นรถ


แอชลีย์ตั้งใจจะไปส่งอีกคนถึงเขตชายแดนวินเทอร์ฟอลแล้วขับต่อไปอีกหน่อยจนสิ้นสุดเส้นทางที่เป็นถนน เพื่อจะร่นระยะเวลาในการเดินทางให้สั้นลง ถึงจะไม่มากแต่อย่างน้อยการได้นั่งรถยนต์แบบนี้ย่อมสบายกว่ารถม้าเป็นไหนๆ คนทั้งสองขับด้วยรถส่วนตัวคันประจำของแอชลีย์ ส่วนข้าวของจำเป็นอื่นๆ รวมเสื้อผ้าอีกเล็กน้อยของซินเธียได้ถูกสั่งให้ล่วงหน้าไปรอยังจุดนัดพบก่อนแล้ว


เมื่อพวกเขาเดินทางไปถึงจุดสิ้นสุดของถนน รถม้าก็เตรียมพร้อมออกเดินทาง ซินเธียเดินออกมาจากรถด้วยความช่วยเหลือของคนตัวสูงประคองลงมา ดวงตากลมโตมองเข้าไปยังเส้นทางเบื้องหน้าซึ่งเป็นป่าลึก อากาศบริเวณนี้อบอุ่นกว่าวินเทอร์ฟอลมาก เขาถอดเสื้อคลุมขนสัตว์ส่งให้แอชลีย์เหลือเพียงเสื้อผ้าเนื้อเบาสบายเหมาะสมกับการเดินทางไกลในป่า รองเท้าก็เปลี่ยนเป็นบูตยาวครึ่งหน้าขา พอได้กลับมาสวมชุดแบบฉบับคนแดนใต้แบบนี้แล้วมันค่อนข้างแปลกไปเหมือนกัน แม้ชุดที่สวมจะไม่ได้ดูทะมัดทะแมงพอดีตัวอย่างเมื่อก่อนหากแต่เป็นเสื้อแขนกุดตัวในขนาดสบายตัวสวมทับด้วยเสื้อคลุมผ้าชิฟฟอนสีน้ำเงินเข้มช่วยพรางหน้าท้องนูน


ดูเหมือนซินเธียจะคุ้นชินกับชีวิตในแดนเหนือมากเกินไปเสียแล้ว


นอกจากคนคุ้มกันขบวนเดินทางจำนวนหนึ่งแล้วแมรี่ก็ได้รับมอบหมายให้ติดตามมาดูแลซินเธียอีกด้วย ซึ่งขณะนี้เด็กสาวกำลังตั้งหน้าตั้งตาปูเบาะหนานุ่มอยู่ภายในตัวรถม้า โดยสารด้วยม้าไม่เหมือนเครื่องยนต์ยิ่งเป็นป่าลึกที่ไม่สามารถควบคุมอะไรได้เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนด้านในจึงมีการปูเบาะซ้อนกันหลายชั้น นอกจากนี้ยังมีน้ำชากับของว่างรองท้องอีก กล่องปฐมพยาบาล หมอนอิง ทุกอย่างล้วนจัดเตรียมเอาไว้อย่างเพียบพร้อม


“คงส่งได้แค่นี้” ชายหนุ่มหันหน้ามาหาแล้วเอ่ยเสียงเบา ซินเธียมองสบเข้าไปในดวงตาอำพันคู่นั้นมันเจือไปด้วยความเป็นห่วง กังวล และอาวรณ์ ต่อให้ไม่ต้องพูดคำใดออกมาเขาก็เข้าใจความรู้สึกอีกฝ่ายได้ดี


ตั้งแต่ได้พบกันครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ซินเธียกับแอชลีย์จะต้องแยกห่าง ลึกๆ แล้วหัวใจมันก็แอบวูบโหวงไม่น้อยที่อีกหลายวันต่อไปนี้คงไม่มีร่างกายอุ่นๆ ของอีกคนคอยโอบกอดยามหลับนอน


ยังไม่ทันจะเดินทางเขาก็คิดถึงอีกคนเสียแล้วสิ ไม่รู้เป็นเพราะอยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือเปล่าพอต้องห่างคู่ของตัวเองมันถึงได้รู้สึกโหยหา ไม่สบายใจมากเป็นพิเศษ


ซินเธียสวมกอดคนตัวสูง ปิดดวงตาลงซึมซับกลิ่นหอมและความอบอุ่นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนต้องห่างกัน ซึ่งอีกฝ่ายเองก็กระชับอ้อมกอดแน่นไม่ต่าง เขาแนบแก้มลงบนศีรษะคนในอ้อมแขนใช้เวลาครู่ใหญ่ถึงได้คลายลงเปลี่ยนเป็นเลื่อนลงไปกุมสองมือบางเอาไว้แทน


อัลฟ่าหนุ่มจับจ้องดวงหน้านวลกระจ่างโดยไม่พูดสิ่งใด ทว่า หลากหลายถ้อยคำอัดแน่นในดวงตานั้น ยกมือขึ้นช่วยเกลี่ยปอยผมยาวขึ้นไปเหน็บไว้ข้างใบหู มืออีกข้างซ้ายที่จับกันไว้ก็กระชับแน่น กล่าวถ้อยคำเสียงทุ้ม


“ดูแลตัวเองนะ”


“อื้อ”


และเลื่อนมือไปลูบหน้าท้องนูนที่ถูกซ่อนอยู่ในผ้าเนื้อโปร่งแผ่วเบาคล้ายบอกลาเด็กๆ ไม่ต่างจากคนแม่ ลูบจนพอใจแล้วถึงได้พาอีกคนขึ้นไปนั่งบนรถม้า ยืนมองเจ้าตัวจัดท่าทางจนได้นั่งสบายแล้วก็กวาดสายตาเพื่อตรวจความเรียบร้อยจนมั่นใจแล้วว่าไม่มีสิ่งใดขาดเหลือก็ไม่ลืมกล่าวกำชับอีกเป็นครั้งท้ายสุด ก่อนที่จะปิดประตูรถ


เวลานี้ทุกคนก็ต่างมีสิ่งที่ตัวเองจำเป็นต้องทำ ละทิ้งไม่ได้ สิ่งเดียวที่สมควรในยามนี้ที่สุดก็คงจะเป็นรีบกลับไปจัดการงานของตัวเองให้เรียบร้อยโดยเร็วเพื่อจะได้ตามไปสมทบภายหลัง


“แล้วฉันจะรีบตามไป”


ซินเธียได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าหงึกหงักตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม


“เราจะรอนะ”





คณะเดินทางไม่ได้เร่งรีบจนข้ามวันข้ามคืนแต่ก็ไม่ได้เอื่อยเฉื่อยมาก มีหยุดพักวันละ 2 เวลาคือช่วงบ่ายเพื่อรับประทานอาหารและให้ท่านชายได้ออกไปเดินยืดเส้นยืดสายบ้าง การต้องนั่งๆ นอนๆ ท่าเดิมอยู่ในรถคับแคบครึ่งวันสำหรับคนทั่วไปก็นับว่าน่าอึดอัดปวดเมื่อยพอแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนท้องแก่แบบซินเธีย บางครั้งระหว่างทางเขายังต้องไหว้วานให้แมรี่ช่วยบีบนวดขาคลายเหน็บชาเป็นระยะ


อีกช่วงคือตอนเย็นเพื่อค้างแรม คนของแอชลีย์ที่ตามมาดูแลนั้นมีทักษะในการเดินป่าสูง พวกเขาทำงานได้อย่างไม่ติดขัดแถมยังรวดเร็ว เมื่อถึงเวลาหยุดพักคนเหล่านั้นจะรีบแยกย้ายกันไปทำงานของตนโดยไม่ต้องเอ่ยปากซ้ำให้เหนื่อย คนกลุ่มหนึ่งไปตั้งกระโจมสำหรับใช้นอนพักผ่อน อีกกลุ่มหนึ่งก่อกองไฟ อีกกลุ่มหนึ่งเตรียมอาหาร


ในเรื่องอาหารการกินแน่นอนว่ามันคงไม่ได้อุดมสมบูรณ์เหมือนอยู่ในคฤหาสน์ แม้จะมีเสบียงติดมาให้เพียงพอสำหรับเดินทางตลอด 5 วันก็นำติดมาได้แค่อาหารแห้งกับพวกเนื้อจำนวนหนึ่ง สองวันแรกยังสามารถนำเนื้อมาปรุงอาหารได้ แต่หลังจากนั้นเก็บไว้นานจะเน่าเสียเอาได้เนื่องด้วยพอพ้นอาณาเขตของแดนเหนือมาแล้วอากาศก็ไม่ได้หนาวเย็นอีกต่อไป ก็คงเหลือเพียงอาหารสำเร็จรูปเท่านั้น หากวันไหนล่าสัตว์เล็กอย่างนกหรือกระต่ายได้ก็ถือว่าโชคดีไป วันไหนได้ตั้งกระโจมใกล้แหล่งน้ำก็พอจะจับปลามาย่างได้


การใช้ชีวิตกลางป่าคาดเดาอะไรไม่ได้ หากเป็นคุณชายตระกูลอื่นคงน้ำตานองหน้าไปแล้ว แค่เรื่องอาหารก็ย่ำแย่พอทนยังไม่นับพื้นที่หลับนอนให้ได้มากสุดแค่ใช้ผ้าปูกับพื้นกับอาศัยเบาะรอง หมอนอิงจำนวนหนึ่ง ทว่า ต่อให้มีสิ่งเหล่านี้มันก็ยากที่จะป้องกันไม่ให้ตื่นมาพร้อมกับอาหารปวดเมื่อยเนื้อตัวอยู่ดี


เรื่องข้าวของทุ่นแรงลืมไปได้เลย การเดินทางไกลกลางป่านั้นไม่สามารถนำข้าวของอะไรมาได้มาก พยายามนำมาแต่สิ่งจำเป็นเท่านั้นก็เพียงพอ หนึ่งเพื่อลดภาระในการขนย้าย ลดความล่าช้าในการเดินทาง ยิ่งของติดตัวน้อยเท่าใด ขบวนเดินทางเล็กเท่าใด ระยะเวลาในการเดินทางก็จะยิ่งรวดเร็วมากขึ้น เวลาเกิดเรื่องไม่คาดฝันก็ไม่ต้องมาคอยพะวงห่วงของมีค่า


ซินเธียนั้นไม่ได้รู้สึกลำบากอะไร เขาชินกับวิถีชีวิตแบบนี้อยู่แล้ว คนแดนใต้นอนกลางดินกินกลางทรายเป็นเรื่องปกติ ลำบากกว่านี้ก็สัมผัสมานับพัน โดยเฉพาะการออกล่าสัตว์ในแต่ละครั้งกินเวลาหนึ่งถึงสองวัน นานสุดเป็นสัปดาห์ก็ยังมี ทุกครั้งพวกเราจะนำติดตัวไปเพียงกระบอกน้ำ อาวุธประจำตัวแล้วแต่ถนัด ไม่ว่าจะเป็นดาบ มีดพก ธนู หรือแม้แต่หอก อาหารก็อาศัยไปหาเอาดาบหน้า โชคดีล่าสัตว์ได้สักตัวก็นำมาย่าง วันไหนจับไม่ได้ก็ต้องใช้ผลไม้ป่าประทังชีวิต นอกจากเก็บไว้เป็นเสบียงในช่วงหน้าแล้งแล้วสัตว์บางชนิดสามารถนำมาทำเครื่องนุ่งห่มได้


พวกเราใช้ชีวิตกันแบบนั้น


การเดินทางราบรื่นดี ซินเธียเดินทางมาถึงแดนใต้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว หากเร่งเดินทางต่อกันแต่เช้าโดยไม่หยุดพักคาดว่าวันพรุ่งนี้คงเข้าสู่อาณาเขตของธอร์นไม่เกินช่วงเย็น ป่าเขารอบๆ จะหนาทึบเป็นพิเศษ ยิ่งใกล้ทางเข้าธอร์นเท่าไหร่ความหนาแน่นของต้นไม้จะยิ่งมากขึ้น ทางเข้าจะเป็นหุบเขาสองลูกติดกัน ตรงกลางมีช่องแคบขนาดพอให้ขบวนรถม้าผ่านเข้าไป เมื่อทะลุผ่านออกมาได้จะเจอกับทุ่งหญ้าราบกว้างสุดลูกหูลูกตาอันเป็นสถานที่อาศัยของชาวธอร์น


ขณะนี้ตะวันใกล้ตกดินแล้วคณะเดินทางจึงหยุดพักตั้งกระโจมกันชั่วคราว เป็นโชคดีว่าสถานค้างแรมคืนนี้อยู่ติดลำน้ำ ซินเธียเดินออกมายืดเส้นยืดสายคลายความเมื่อยขบหลังนั่งมาครึ่งค่อนวันระหว่างรอคนของตระกูลคิมช่วยกันสร้างกระโจม ทิศตะวันออกแว่วเสียงน้ำดังมาคาดว่าเดินเท้าต่อไปอีกประมาณสองสามร้อยเมตรคงเจอน้ำตก


ดีหน่อยวันนี้จะได้อาบน้ำชำระกาย


เด็กหนุ่มหมายมาดไว้ดังนั้น เมื่อเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยก็พาตัวเองไปจัดการธุระตรงริมธารทันที ด้วยความไม่สะดวกในหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะด้านสรีระทำให้ต้องใช้ความรวดเร็วในการจัดการตัวเองมิอาจทำตัวสบายอารมณ์นอนแช่น้ำเล่นดังวัยเยาว์ได้ เมื่อขจัดความเหนอะออกไปจากร่างกายแล้วท่านชายก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมา เดินกลับไปยังบริเวณกระโจมเพื่อรับประทานอาหารมื้อเย็น


ตะวันคล้อยลงแทนด้วยดวงจันทร์กระจ่าง รอบกายมืดมิด มีเพียงแสงรำไรจากดวงจันทร์และกองไฟ ซินเธียนั่งทอดอารมณ์ดวงตากลมสีเงินสะท้อนประกายไฟวาววับไม่ได้จับจ้องตรงไหนเป็นพิเศษ แม้จะเริ่มดึกแล้วหากทว่าเด็กหนุ่มยังไม่ค่อยอยากนอน เขานั่งพิงกับต้นไม้ต้นหนึ่งสองบ่ามีผ้าผืนบางคลุมเอาไว้ ดินแดนทางใต้แม้จะมีอากาศอบอุ่นแต่กลางคืนก็เย็นพอสมควร นั่งตากไอน้ำค้างนานเข้าก็ทำให้ป่วยได้เช่นกัน คิดอะไรไปเรื่อยอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงล้วงห่อผ้ากำมะหยี่ออกมาจากเสื้อตัวนอก


ห่างออกไปไม่ไกลนัก เด็กสาวสังเกตว่าท่านชายกำลังนั่งมองของบางอย่างในมือก็นึกสนใจเลยเอ่ยปากถามออกไป


“สิ่งนั้นคือ...”


ซินเธียหันตามเสียง พอได้ยินคำถามนั้นก็หันกลับไปมองสิ่งที่อยู่ในมือของตนพลางระบายรอยยิ้ม “กำไลสองวงนี้เราเตรียมเอาไว้ฟรานกับเฟรย์” กล่าวไปพร้อมใช้ปลายนิ้วไล้สิ่งที่ว่าไปด้วยความทะนุถนอม


“มันสวยมากเลยค่ะ ต้องเหมาะกับคุณชายทั้งสองมากแน่ๆ” เด็กสาวจดจ้องดวงตาไม่กะพริบ มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นของดีมีค่า โดยเฉพาะอัญมณีสีฟ้าใสที่ประดับอยู่บนนั้น


ซินเธียไม่ได้ตอบสิ่งใด ทำเพียงระบายรอยยิ้มนำกำไลทั้งสองวงออกมาสวมลงบนข้อมือของตน สิ่งนี้นอกจากสามารถขยับขยายได้ตามขนาดข้อมือแล้วยังมีกลไกพิเศษอยู่อีกหนึ่งคือมันมีขนาดพอดีกับข้อมือผู้อื่นจะไม่สามารถแย่งชิงไปได้หากไม่รู้วิธีปลดล็อกที่ถูกต้อง วิธีการไม่ได้ซับซ้อนถ้ารู้จุดหากเป็นเจ้าของก็สามารถถอดออกได้ง่ายดาย แต่หากใครคิดแย่งชิงฉุดดึงออกไปดึงให้ตายก็ดึงไม่ออก


“วันพรุ่งนี้เราก็จะได้พบกับท่านตาแล้วนะ” เขาลูบหน้าท้องขณะคุยเล่นกับเด็กๆ “ท่านเป็นคนใจดีมากๆ หากพวกลูกโตขึ้นอีกหน่อย เขาจะต้องพาไปสอนล่าสัตว์แน่นอน”


“ครั้งแรกมันทั้งตื่นเต้นและน่ากลัว เราจะเริ่มจากสัตว์ง่ายๆ อย่างกระต่ายป่าหรือกวางก่อนฝึกความคุ้นชิน พอลูกโตขึ้นอีกนิดเราก็จะเปลี่ยนไปเริ่มมองหาสัตว์ประเภทนักล่า นิสัยดุร้ายขึ้น...”


“ตอนนั้นแม่จำได้ว่าติดตามท่านตาออกไปล่าครั้งแรกตอนอายุ 15” นั่นเพราะตัวเขาเป็นโอเมก้าเลยได้ออกไปสำรวจทุ่งกว้างช้ากว่าเด็กคนอื่นในรุ่นเดียวกัน หากเป็นอัลฟ่าพวกเขาจะได้เริ่มฝึกใช้ชีวิตในป่าตั้งแต่ช่วง 10 ขวบ


ซินเธียเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ต่ออีกราวสิบนาทีการเคลื่อนไหวในท้องก็หยุดลงคล้ายว่าได้เวลาพักผ่อนสำหรับสองแฝดแล้วเขาถึงได้หยุดคุยแล้วเปลี่ยนมาฮัมเพลงลูบเนินท้องนูนราวกับกำลังขับกล่อมให้ทั้งสองคนนอนหลับฝันดีแทน จมอยู่กับตัวเองครู่ใหญ่ก็รู้สึกถึงสายตาคู่หนึ่งจับจ้องตนเลยหันไปมอง


แมรี่นั่งกอดเข่าจับจ้องหน้าท้องของท่านชายอย่างเอาเป็นเอาตาย พอได้สติก็สะดุ้งน้อยๆ เพราะว่าตนเผลอแสดงท่าทีโจ่งแจ้งจนซินเธียจับได้


“มีอะไรหรือเปล่า” บางทีเด็กสาวอาจมีบางอย่างอยากจะกล่าวถึงได้มองมาแบบนั้น


“เอ่อ คือว่า...” เธออ้อมแอ้มกล่าวความต้องการของตัวเองเสียงเบา “แมรี่ขอลองจับคุณชายทั้งสองได้ไหมคะ” พอเห็นซินเธียเลิกคิ้วฉงนก็รีบโบกไม้โบกมือว่าคำพูดของตนช่างไร้สาระนัก หากมันทำให้ท่านชายรู้สึกแย่ก็ต้องขออภัย ด้วยความกลัวถูกตำหนิกับพฤติกรรมหาญกล้าทั้งยังเสียมารยาทของตน เธอเลยขยับตัวออกห่างผู้เป็นนายอีกนิดเป็นการลงโทษตัวเอง ทว่า คำขอนั้นไม่ได้ทำให้ซินเธียรู้สึกโกรธเคืองอะไร กลับกัน ท่านชายส่งยิ้มน้อยๆ มาให้แล้วเรียกให้เธอเข้ามาใกล้ๆ


“จับได้”


“จริงหรือคะ!” เธอกระตือรือร้นขยับข้ามา “ขอบคุณค่ะท่านชาย”


ได้ลองสัมผัสคุณชายน้อยทั้งสองเป็นครั้งแรก หัวใจของเด็กสาวตื้นตันเป็นอย่างมาก ตลอดเวลาเธอเฝ้าแอบมองดูพัฒนาการของคุณชายแฝดคู่นี้มาตั้งแต่รู้ข่าวดีใหม่ๆ ระหว่างนั้นก็คอยจัดเตรียมหาอาหาร ของบำรุงดีๆ มาให้ท่านชายอวยพรให้คุณชายน้อยทั้งสองแข็งแรงเสมอ ยามได้มองเห็นเจ้านายทั้งสองให้ความรักพวกเขา แมรี่ก็นึกอิจฉาอยากลองสัมผัสบ้าง ทว่า ตอนอยู่คฤหาสน์เธอไม่ใจกล้าพอจะเอ่ยคำขอนี้ออกไป คุณพ่อบ้านก็เข้มงวดมากแล้ว ยิ่งคุณแอชลีย์ไม่ต้องพูดถึง เพียงถูกสายตาคมกริบคู่นั้นจ้องมองมาขาทั้งสองข้างของเธอก็สั่นไปหมด ขืนพูดเรื่องขวัญกล้าแบบนี้ออกไปมิวายถูกไล่ตะเพิดเป็นแน่ ตอนนี้มีโอกาสได้อยู่กับท่านชายสองคนไร้สายตาสอดส่องดูแลจากคุณพ่อบ้านจึงสามารถรวบรวมความกล้าได้อีกครั้ง


ด้านซินเธียก็ไม่ได้นึกรังเกียจอะไร แมรี่เป็นเด็กดีเขาเองก็นึกเอ็นดูอยู่ไม่น้อย เธอช่วยดูแลในหลายเรื่องตลอดเวลาก็มีแต่ความจริงใจ ใสซื่อตามแบบฉบับเด็กสาวไร้ประสบการณ์ชีวิต อาจจะเป็นระยะเวลาไม่นานที่เราได้พบกันแต่สำหรับซินเธียแล้วแมรี่ถือเป็นคนข้างตัวที่เขาให้ความสนิทสนมมากสุดในบรรดาสาวใช้คนอื่นในคฤหาสน์ เธอช่วยดูแลให้ตั้งแต่เรื่องทั่วไปจนกระทั่งเรื่องส่วนตัวอย่างการหวีผม จัดเตรียมเสื้อผ้ายาม


ในความคิดของซินเธีย แมรี่เป็นเด็กวัย 16 ปี นิสัยร่าเริง สดใสสมวัย บางครั้งอาจดูโผงผางไปบ้างแต่ก็รู้กาลเทศะ อ่านสถานการณ์เป็น สิ่งไหนควร สิ่งไหนมิควรไม่ต้องรอให้เอ่ยปากมากอีกทั้งยังเรียนรู้ไว ทำงานเป็น มันจึงไม่ใช่เรื่องยากเลยกับการจะทำให้ซินเธียรู้สึกเอ็นดูเธอมากเป็นพิเศษ


แมรี่รู้ว่าท่านชายเป็นคนใจกว้าง ได้ลองจับๆ ลูบๆ ครู่เดียวก็หดมือกลับออกมานั่งดังเดิมอย่างรู้หน้าที่ หลังส่งน้ำขิงให้ผู้เป็นนายดื่มก่อนนอนแล้วทั้งสองสนทนากันต่ออีกเล็กน้อยก่อนจะแยกย้ายกันพักผ่อน


รุ่งเช้าทั้งคณะเตรียมออกเดินทางกันต่อแต่เช้าเพื่อจะได้ไม่ถึงจุดหมายหลังตะวันตกดิน ซินเธียเอนกายพิงหมอนอิงอย่างผ่อนคลาย จิตใจวันนี้แจ่มใสเป็นพิเศษ นับดูแล้วมันก็เกือบจะครบหนึ่งปีแล้วหลังจากบ้านเกิดมาเพียงลำพัง ไม่รู้ตอนนี้จะมีสิ่งไหนเปลี่ยนแปลงไปบ้าง


แต่ก็คงไม่กระมัง ชาวธอร์นนิสัยเรียบง่ายไม่นิยมความเปลี่ยนแปลงอดีตเคยใช้ชีวิตเช่นไร ปัจจุบันก็เป็นเช่นนั้น ขณะกำลังนั่งลูบหน้าท้องพูดคุยเล่นกับแมรี่ไปด้วยระหว่างทาง บทสนทนาเกี่ยวกับอาหารการกินของทางแดนใต้ว่าเป็นแบบไหนรถม้าก็หยุดกะทันหัน และเพราะการบังคับหยุดแบบนั้นทำเอาม้าเองก็ตั้งตัวไม่ทัน ได้ยินเสียงมันร้องคล้ายกำลังยกขาหน้าขึ้นส่งผลให้ภายในตัวรถม้าสั่นสะเทือนเล็กน้อย


เด็กหนุ่มหาหลักจับยึดได้ กำลังจะเปิดหน้าต่างออกไปสอบถามเป็นอันต้องชะงักเมื่อหนึ่งในผู้ติดตามที่ยืนอยู่ใกล้ประตูหน้าต่างกล่าวจริงจังในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความตึงเครียด


“ท่านชายอย่าพึ่งออกมาครับ”


“เกิดอะไรขึ้น” เขารู้สึกถึงลางอันตรายบางอย่าง สองมือยกขึ้นกุมหน้าท้องตามสัญชาตญาณ ทว่า ก็ไม่กล้าทำตัวตื่นตระหนก


“ดูเหมือนเรากำลังถูกล้อมครับ”






(ต่อข้างล่างค่ะ)

ออฟไลน์ monrita

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ล้อม?


หมายความว่าอย่างไร

เรื่องโจรดักปล้นไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ ทว่า ต้องไม่ใช่กับบริเวณทางเข้าธอร์นแบบนี้ ตามปกติแล้วหากไม่ใช่คนในเมืองก็ไม่น่าจะมีคนต่างถิ่นมาเพ่นพ่าน ยิ่งเป็นคนในยิ่งไม่ใช่ ชาวธอร์นถึงจะชอบความรุนแรงนิสัยเลือดร้อนไปบางแต่สภาพความเป็นอยู่ในเมืองหรือตามหมูบ้านแถบเชิงเขาแม้ไม่ได้หรูหราเหมือนเมืองอื่นแต่ก็ไม่ได้ย่ำแย่จนต้องปล้นสะดม ทุกครัวล้วนสามารถล่าสัตว์ หาของป่ามาดำรงชีพได้ไร้ซึ่งความเดือดร้อนเรื่องเงินทอง


แล้วคนกลุ่มนี้เป็นใครกัน


เด็กหนุ่มเม้มริมฝีปากแน่น เกิดความตึงเครียด พ้นแนวป่าตรงนี้ไปอีกไม่ไกลก็จะถึงหุบเขาอันเป็นทางเข้าแหล่งที่ตั้งของธอร์นแล้ว


ขณะกำลังพยายามครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้เสียงต่อสู้โรมรันจากภายนอกก็ดังขึ้น แม้แอชลีย์จะส่งผู้ติดตามมาคอยดูแลซินเธียด้วยระหว่างเดินทาง ทั้งคนเหล่านั้นยังเป็นผู้มีฝีมือซึ่งคัดเลือกมาอย่างดีแล้วแต่วัดกันที่จำนวนมันอย่างไรก็เสียเปรียบ ฟังจากเสียงแล้วกลุ่มคนปริศนาเหล่านั้นมาพร้อมอาวุธประเภทดาบ!


“ปัง!” เสียงปืนดังขึ้นทำเอาคนในห้องโดยสารสะดุ้ง โดยเฉพาะเด็กสาวอย่างแมรี่ที่ไม่คุ้นชินกับการต่อสู้


“ทะ ท่านชาย เกิดอะไรขึ้นกันคะ ละ แล้วนั่น...” เธอเอ่ยไม่เป็นคำเนื้อตัวสั่นเทา ซินเธียได้แต่เม้มริมฝีปากได้แต่บีบมือของแมรี่เอาไว้แน่น เสียงต่อสู้ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ดีว่าฝ่ายศัตรูยังพอถูกคนของตระกูลคิมสกัดกั้นเอาไว้ไม่ให้เข้าถึงตัวได้อยู่แต่ก็ไม่รู้จะเป็นแบบนี้ไปได้อีกนานเท่าไหร่ เขาทำได้เพียงรอดูสถานการณ์ ด้วยสภาพร่างกายตอนนี้จะให้ไปรนหาที่ตายจะดูเป็นเรื่องโง่งม


นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่


“ท่านชาย ผมจะต้านทางนี้ให้ครับคุณรีบหนีไป” ผู้ติดตามคนเดิมกล่าวด้วยน้ำเสียงตึงเครียด พูดไปเสียงปืนก็ดังขึ้นอีกนัด สถานการณ์ตอนนี้ทางซินเธียกำลังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ต่อให้มีอาวุธแต่ทางนั้นก็มีอาวุธซ้ำยังมีครบมือกว่าทั้งจำนวนคนและอุปกรณ์ราวกับเตรียมการมาเป็นอย่างดี กระสุนปืนยังพอสกัดกั้นพวกเขาไม่ให้เข้ามาใกล้มากได้บ้าง แต่คงต้านเอาได้อีกไม่นาน สิ่งสำคัญในตอนนี้แม้จะเป็นทางเลือกที่ไม่ดีนักสำหรับท่าชายวาเลนเธีย แต่ทางเลือกมีไม่มาก ในฐานะหัวหน้าผู้คุ้มกันเขาจะให้คนหนึ่งหลบหนีล่วงหน้าไปแจ้งข่าวกับท่านแอชลีย์ ส่วนตัวเองจะคุ้มกันพาท่านชายหนีเข้าไปไปอีกทาง


“ระหว่างนี้พวกเราจะหลอกล่อพวกมันให้” ผู้ติดตามอีกคนตะโกนมา น้ำเสียงมีความเหนื่อยหอบ


“มาครับ”


ซินเธียเปิดประตูออกทางด้านหลังรถม้าด้วยความทุลักทุเล ใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีเหลือบมองไปยังกลุ่มที่กำลังตะลุมบอนกันอยู่ด้านหน้าขบวน ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อสังเกตเห็นชุดของโจรกลุ่มนั้น ชุดหนังสัตว์สีเข้มเข้ารูปพร้อมดาบคู่ใจ ชายฉกรรจ์นับสิบมัดผมยาวผิวสีคล้ำเข้ม ลักษณะเด่นชัดบอกได้ทันที


ไม่ ไม่สิ พวกเขาไม่ใช่โจร


นั่นมันคนจากธอร์น!


เขากัดฟันวิ่งหลบออกไปอีกทางมุ่งไปทางป่าทิศตะวันออก ในใจรู้สึกปั่นป่วนกลั่นกรองออกมาเป็นความรู้สึกนึกคิดแทบไม่ได้ ทั้งสับสน ทั้งไม่เข้าใจ เหตุใดคนกลุ่มนั้น...


“หยุดนะ! คิดจะหนีเรอะ” วิ่งห่างออกมาได้สักพัก เสียงกัมปนาทดังไล่หลังมาประมาณ 3-4 คน ทั่วทั้งร่างกายของซินเธียเกร็งเขม็ง สัญชาตญาณตื่นตัววิ่งไปด้านหน้าอย่างไม่คิดชีวิตโดยมีแมรี่คอยช่วยประคอง


“ยะ แย่แล้ว พวกมันตามมาแล้วค่ะ” แมรี่ร้องอย่างร้อนรน ทางข้างหน้าก็มีแต่ป่ารก นอกจากจะต้องวิ่งอย่างไม่มีเวลาคิดเรื่องเหนื่อยแล้วยังต้องคอยประคองท่านชายระวังไม่ให้ไปสะดุดหรือชนต้นไม้ต้นไหนเข้า มืออีกข้างก็คอยช่วยกันปัดเถาวัลย์ไม้เลื้อยต่างๆ ออกไปด้วย


“ท่านชายรีบหนีไปหาที่ปลอดภัยหลบซ่อนก่อนครับ ผมให้คนแยกไปแจ้งข่าวท่านแอชลีย์แล้ว” หัวหน้าผู้ติดตามคนนั้นกล่าว ใบหน้าเต็มไปด้วยความเครียดเส้นเลือดใต้ขมับเต้นตุบๆ กับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน “ผมจะถ่วงเวลามันให้เอง”


พวกตนถูกฝึกมาเป็นอย่างดีขอเพียงไม่บาดเจ็บหนักก็สามารถวิ่งระยะไกลด้วยความรวดเร็วโดยไม่เหน็ดเหนื่อย ขอเพียงวิ่งออกไปให้พ้นเขตนี้ก็จะสามารถหาช่องทางสื่อสารกับผู้เป็นนายใหญ่ได้ แต่กว่าจะถึงเวลานั้นจนกระทั่งแอชลีย์ คิมตามมาสมทบคงต้องใช้เวลาอย่างน้อยก็พ้นคืนนี้ไป เขาทำสิ่งใดไม่ได้มากไปกว่าการต้องทุ่มเทสกัดกั้นพวกมันให้ถึงที่สุด อย่างน้อยขอเพียงท่านชายหาที่ซ่อนตัวได้นับว่าดีแล้ว


อัลฟ่าคนนี้ย่อมต้องมีฝีมือมากอย่างแน่นอน แต่คนจากแดนใต้เองก็มีพละกำลังน่ากลัวพอกัน ยิ่งมากันหลายคนแบบนี้อย่างไรก็เสียเปรียบ แต่พวกเขาไม่มีทางเลือกมากนัก หากเป็นซินเธียในยามปกติคงหันหน้าเข้าสู้แบบไม่เกรงกลัว ทว่า ตอนนี้เขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้ จึงได้กัดฟันพาตัวเองวิ่งไปอีกด้านอย่างจำใจ


ไม่รู้วิ่งกันออกมาได้เท่าไหร่แล้ว เสียงต่อสู้ยังดังแว่วมาจากที่ไกลๆ เป็นระยะ ใบหน้านวลเริ่มซีดเผือดเม็ดเหงื่อผุดขึ้นตามกรอบหน้าหวาน มือที่คอประคองหน้าท้องเองไว้กำจิดลงไปบนเนื้อผ้าจนกลายเป็นขยำ เพราะออกแรงวิ่งมาเป็นเวลานานความปวดหนึบเริ่มแล่นขึ้นมาเล่นงานเข้าแล้ว


“อดทนอีกนิดก่อนนะคะท่านชาย” แมรี่เองก็อ่อนล้าพอกัน เธอเป็นแค่เด็กสาวรับใช้คนหนึ่งที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วยซ้ำ เรี่ยวแรงทั้งหมดของชีวิตก็ถูกรีดเค้นออกมาใช้กับการวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนจนใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว ตามชายกระโปรงขาดรุ่งริ่งจากการถูกทั้งหนามทั้งกิ่งไม้เกี่ยวเอาระหว่างทาง ตามเนื้อตัวของคนทั้งสองก็เต็มไปด้วยรอยขีดข่วนไม่น้อย ผมเผ้ายุ่งเหยิงกันทั้งนายและบ่าวมีสภาพอิดโรยไม่ต่างกัน


พวกเขาวิ่งหนีกันออกมาอย่างไร้ทิศทาง มองไปทางไหนก็เต็มไปด้วยป่ารกร้างเขียวขจีคล้ายกันไปหมดจนตาลาย ขณะนี้แสงจากดวงตะวันเองก็เริ่มเลือนรางแล้วบ่งบอกว่าอีกไม่นานมันกำลังจะตกดิน


“ไหวไหมคะ” ตัวเองก็คล้ายคนสิ้นใจเข้าไปทุกที แต่คนเป็นนายนั้นกลับยิ่งน่าเป็นห่วงอยู่ หากเป็นคุณชายทั่วไปรับรองว่าคงหมดแรงไปนานแล้วแต่ร่างกายของซินเธียนั้นแตกต่างจากโอเมก้าปกติ เขาฝึกฝนการต่อสู้มาตั้งแต่วัยเยาว์ ร่างกายแข็งแรง ผ่านการฝึกเอาตัวรอดมาแล้วหลากหลายรูปแบบในป่า แม้ความไม่สะดวกทางร่างกายตอนนี้จะทำเอาพลังกายของเด็กหนุ่มอ่อนแอลงไปมาก ที่กัดฟันทนวิ่งมาได้ถึงตอนนี้ก็เพราะแรงฮึดต้องการเอาชีวิตรอดล้วนๆ ไม่รู้เหตุผลของคนกลุ่มนั้น ยิ่งไม่เข้าใจว่าทำไมต้องตามมาหมายเอาชีวิตกันแบบนี้


ในความคิดของซินเธียตอนนี้มีเพียงเรายังไม่อยากตาย ยิ่งลูกๆ ก็ยิ่งไม่อยากเสียไป เขาจึงต้องอดทน อดทนให้ถึงที่สุดแม้ตอนนี้จะฝืนขีดจำกัดร่างกายมาพอสมควร ภาพด้านหน้าเริ่มพร่าเลือนจนต้องสะบัดศีรษะเรียกสติอยู่หลายครั้ง


“เรา... ปวดท้อง”


ซินเธียเค้นเสียงออกมาจนฟังดูแหบพร่า นอกจากจะเหนื่อยจนแทบขาดใจแล้วทั้งคอยังแห้งจนพูดออกมาไม่เป็นคำ ริมฝีปากอิ่มแห้งและซีดเผือดสองมือกำทั้งเสื้อของเด็กสาวและของตัวเองแน่นจนยับยู่ยี่


แมรี่เริ่มกระวนกระวาย เมื่อได้ยินเสียงครางอย่างเจ็บปวดของท่านชายดังมาเป็นระยะ เธอรีบสอดส่องหาที่หลบซ่อน ไม่อาจฝืนให้ซินเธียวิ่งต่อไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว ยิ่งตอนนี้แสงกำลังหมดลงไปทุกที ไม่เกินชั่วโมงพระอาทิตย์จะต้องตกดินเป็นแน่


“นั่น!” เด็กสาวร้องออกมาดีใจเมื่อสายตามองฝ่าความมืดเจอกับก้อนหินขนาดใหญ่คล้ายปากทางเข้าถ้ำ


นอกจากพวกโจรใจโฉดเหล่านั้นแล้วก็ยังมีสัตว์ป่าที่ต้องระวังอีก ยิ่งมืด ก็ยิ่งน่ากลัว ตอนนี้พอเจอสถานที่พอให้ซ่อนตัวเด็กสาวก็ดีใจจนน้ำตาแทบนองหน้า แรงที่แห้งเหือดไปก็ถูกรวบรวมฮึดขึ้นมาอีกครั้งเพื่อพยุงซินเธียเข้าไปหลบชั่วคราว


หน้าทางเข้าถูกปกคลุมไปด้วยไม้เลื้อยรกรุงรัง ต้นไม้บริเวณโดยรอบก็หนาทึบหากไม่สังเกตดีๆ อาจมองผ่านไปได้โดยง่าย


ซินเธียถูกความเจ็บปวดเล่นงานจนสติเริ่มเลือนหาย ดวงตาทั้งสองปิดสนิทอย่างพยายามอดกลั้นความเจ็บปวดพอถูกประคองให้นั่งลงก็เอนตัวลงพิงกับผนังถ้ำทันที


ด้านในนี้ทั้งมืด ทั้งอับชื้นมองเข้าไปแทบไม่เห็นจุดสิ้นสุด แมรี่ไม่กล้าพาซินเธียเข้าไปลึกมากจึงเลือกเดินเข้ามาประมาณร้อยเมตรด้วยกลัวว่าจะเจอสัตว์ไม่พึงประสงค์ภายในแต่จะให้หลบกันอยู่บริเวณปากถ้ำก็กลัวจะถูกเจอ


“เป็นอย่างไรบ้างคะ” เธอใช้แขนเสื้อซับเหงื่อตามกรอบหน้า เห็นผู้เป็นนายหลับตาส่ายหน้าเบาๆ ไม่ทราบว่าหมายถึงอะไร สองมือขยำชายเสื้อของตัวเองแน่นท่าทางทรมานอย่างถึงที่สุดทำเอาเด็กสาวรู้สึกกระวนกระวาย กวาดสายตาสำรวจไปทั่วตามตัว


“นี่มัน!” เธอตะลึงค้างเมื่อสังเกตเห็นว่ามีน้ำสีใสเริ่มซึมออกมาจากส่วนล่างจำนวนหนึ่ง มือไม้สั่นจนทำอะไรไม่ถูกกับสถานการณ์ตรงหน้า


“ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี” เธอลุกลี้ลุกลนนั่งแทบไม่ติดราวกับหนูติดจั่น ประสบการณ์ทางด้านคลอดแทบไม่มีทั้งเป็นผู้คลอดและผู้ทำคลอด อาการของท่านชายตอนนี้ก็บอกไม่ได้ว่าเป็นแบบไหน จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปก็อันตราย


“...ใน..” ซินเธียพูดเสียงแผ่ว อาการปวดหน่วงนี้มาเป็นระยะ ระดับความรุนแรงก็ไม่เท่ากัน แต่ที่แน่นอนคือยังไม่มีแววว่าจะหยุดลง เขาหอบหายใจ รอจนกระทั่งความปวดหายไปชั่วคราวแล้วถึงได้เค้นเสียงออกมาประโยคหนึ่งอย่างยากลำบาก


“วิ่งออกไป...”


เด็กสาวเงี่ยหูฟัง “วิ่งออกไปไป ไปไหนคะ”


“ออกไป... น่าจะ... มีหมู่บ้าน” เขาสูดลมหายใจเข้าลึก “ไป ตามคนมา”


บริเวณนี้อยู่ในอาณาเขตของธอร์นแล้ว ตามชายแดนมักจะมีหมู่บ้านเล็กบ้านน้อยปลูกอยู่กระจายกันออกไป พวกเขาเป็นคนในดินแดนใต้แต่ไม่ใช่ชาวเมือง ส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านที่ฐานะค่อนข้างข้นแค้น อยู่ไม่เป็นหลักแหล่งแน่นอน อาศัยเก็บของป่าเข้าไปขายในตัวเมืองแลกข้าวหรือเนื้อดีๆ บางครอบครัวก็ทำอาชีพนายพรานเป็นหลัก เพราะถึงจะบอกว่าคนในดินแดนนี้ชอบล่าสัตว์กันเป็นวิสัยแต่ก็ไม่ได้ออกไปล่าทุกวัน ยิ่งจากตระกูลที่มีฐานะหน่อยมักจะทำเป็นกิจกรรมเพื่อความสนุกสนานมากกว่า พวกเขาไม่จำเป็นต้องหาอาหารด้วยตนเองเสมอไป มีเงินมากก็จับจ่ายซื้อขายได้


“แต่ว่า” บอกตามตรงว่าเธอไม่กล้าทิ้งเขาเอาไว้ลำพังเลย


“ไป” ซินเธียพูดด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้นอีกระดับ เพราะตนเองก็เริ่มจะไม่ไหวแล้ว หากเกิดเรื่องไม่คาดฝันอย่างการต้องคลอดก่อนกำหนดเขาคงไม่สามารถจัดการได้ด้วยตนเอง ความหวังในตอนนี้คือขอให้เจอหญิงชาวบ้านสักคน แมรี่แม้จะเป็นเพียงเด็กสาวแต่ก็เคลื่อนไหวคล่องแคล่ว อาศัยความมืดในตอนนี้น่าจะพอหลบซ่อนตัวได้บ้าง


หวังว่ากลุ่มคนที่ตามล่ามาจะหยุดชั่วคราว หรือไม่ก็ยังตามมาไม่เจอถึงบริเวณนี้ เขาภาวนาในเรื่องที่แทบไม่มีโอกาสเป็นไปได้


แมรี่เม้มริมฝีปากใช้ความคิดอย่างหนัก อาการของท่านชายน่าเป็นห่วงมากจริงๆ เธอมองผู้เป็นนายอีกสองสามครั้งในที่สุดก็ตัดสินใจวิ่งออกไปต่อให้หวาดกลัวแค่ไหนก็ตาม


“แข็งใจไว้ก่อนนะคะ แมรี่จะรีบกลับมา”



TBC

ออฟไลน์ PoPoe

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ขอให้เดินทางปลอดภัย :hao5:

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :ling1: :ling1: :ling1:
เจ้าแฝดกับซินเธียต้องปลอดภัยนะะะะะะะะ
แอชลีย์รีบมาช่วยเร็ววววววววววว
อย่ามาม่าน้าเค้าอยากเห็นทั้งสองคนเลี้ยงลูกอยู่น้าาา

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :call:  ทุกอย่างขอให้ปลอดภัย​นะ​

ออฟไลน์ theindiez

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
สู้ๆนะเจ้าแฝด อดทนไว้ก่อนนะ

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
แฝดใจเย้นก่อนนะ

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ยังไม่ทันถึงบ้านเลย  :ling2:
ขอให้ปลอดภัย

ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
 :katai1: :katai1: :katai1:

ขอให้คุณแม่และเจ้าแฝดปลอดภัย

คุณพ่อแอชรีบมาช่วยน้องเร็วๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด