[END] เพียงควัน -- บทส่งท้าย-- 31/08/19
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [END] เพียงควัน -- บทส่งท้าย-- 31/08/19  (อ่าน 77066 ครั้ง)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 21-- 17/08/19
«ตอบ #300 เมื่อ17-08-2019 22:59:29 »

บีบหัวใจอีกแล้ว

ออฟไลน์ MeiHT

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 21-- 17/08/19
«ตอบ #301 เมื่อ17-08-2019 23:09:21 »

นักอ่านทุกคนมากอดกันกงนี้
ไม่ว่ามันจะจบยังไงก็ขอบคุณนะคะที่แต่งเรื่องนี้ขึ้นมา แง

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 21-- 17/08/19
«ตอบ #302 เมื่อ17-08-2019 23:24:06 »

มีเรื่องให้บีบหัวใจทุกตอนเลย
ทีนี้พ่อแม่มาครบแล้ว
แสงน่าจะถือโอกาสพูดคุยร่ำลากัน
หรือแสงควรจะอยู่ แล้วพลีสควรจะไป
ไม่มีทางไหนดีเลย

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 21-- 17/08/19
«ตอบ #303 เมื่อ18-08-2019 00:22:07 »

บอกเถอะ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 21-- 17/08/19
«ตอบ #304 เมื่อ18-08-2019 00:53:03 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ PKT

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 21-- 17/08/19
«ตอบ #305 เมื่อ18-08-2019 01:31:42 »

โอยยย แบกคนเดียวไม่ไหว

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 21-- 17/08/19
«ตอบ #306 เมื่อ18-08-2019 02:03:17 »

 o18


 :L2: :pig4: :L2:

 o13

ออฟไลน์ Miawncha

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 21-- 17/08/19
«ตอบ #307 เมื่อ18-08-2019 08:44:16 »

เนื้อหาไม่ดิ่งมาก แต่โคตรเศร้าเลยเวลานึกถึงตอนที่ต้องจากกันอีกครั้ง TT

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 21-- 17/08/19
«ตอบ #308 เมื่อ18-08-2019 09:51:04 »

เนื้อหาแบบอึน ๆ ไปทุกวันอะ อ่านแล้วเครียดตาม

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 21-- 17/08/19
«ตอบ #309 เมื่อ18-08-2019 10:35:09 »

แสงทำเรื่องที่ติดค้างอยู่ในใจ

ให้หมดเถอะ

แล้วเวลาพลีสกลีบมา

พลีสจะได้ไม่รู้สึกผิดไปมากกว่านี้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 21-- 17/08/19
« ตอบ #309 เมื่อ: 18-08-2019 10:35:09 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 21-- 17/08/19
«ตอบ #310 เมื่อ18-08-2019 17:32:33 »

เสียน้ำตาอีกล๊าววว

ออฟไลน์ beedy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 21-- 17/08/19
«ตอบ #311 เมื่อ18-08-2019 21:57:58 »

 :monkeysad: :monkeysad: ร้องไห้ทุกตอน

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2019
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 21-- 17/08/19
«ตอบ #312 เมื่อ19-08-2019 14:43:10 »

 :hao5:
 :pig4:

ออฟไลน์ เต้าหู้ไข่

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +279/-5
    • twitter
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 22-- 21/08/19
«ตอบ #313 เมื่อ21-08-2019 02:44:29 »

ตอนที่ 22
จะรักแค่เธอไปจนวันตาย


"พี่แสง"

"..."

"นั่นพี่ใช่ไหม"

ผมไม่ได้โต้ตอบอะไรกลับไปต่อความสงสัยของสายป่านที่ตั้งคำถามขึ้นมาตรงๆ อย่างไม่ทันตั้งตัว สายตาของพ่อกับแม่ต่างมองมาด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนสายป่านจะหันบอกกับพวกเขา

"พ่อ แม่ นั่นพี่แสง พี่แสงของเรา"

"พูดอะไรเพ้อเจ้อน่ะสายป่าน"

"เขาคือพี่แสงจริงๆ นะแม่ ต้องเป็นพี่แสงแน่ๆ อะ!"

เสียงดังของสายป่านที่เอาแต่พูดซ้ำๆ ว่าผมคือแสงทำให้ถูกพ่อดุไปหนึ่งครั้งจึงยอมเงียบ ก่อนที่ทั้งพ่อและแม่จะหันมาหาผมที่ยังเอาแต่นิ่ง

"หนูคือคนที่โทรหาป้าใช่ไหมจ้ะ"

"ครับ"

"ขอบคุณมากเลยนะคะที่โทรมาบอกแล้วก็ยังอยู่เป็นเพื่อนสายป่านด้วย"

"คือ..." ผมอึกอัก พูดอะไรไม่ออก หันมองสายป่านที่ยังจ้องมาไม่ละ

"ที่สายป่านพูดน่ะ อย่าไปสนใจเลย สงสัยจะหัวกระแทกหรือไม่ก็คิดถึงพี่ชายตัวเองมากไปหน่อย ก็เลยพูดอะไรเพ้อเจ้อออกมา ยังไงลุงกับป้าต้องขอบคุณเราอีกครั้งนะ" พ่อพูดขำๆ ก่อนแม่พยักหน้าเบาๆ ด้วยรอยยิ้ม แต่ความสับสนกำลังทำให้ผมลังเลใจ ควรเลือกที่จะเงียบต่อไปหรือตัดสินใจบอกว่าสิ่งที่สายป่านคิดมันไม่ผิดแม้แต่น้อย

"ผม..."

"เชิญทางนี้เลยครับ" บุรุษพยาบาลคนเดิมก้าวเข้ามาแทรกระหว่างบทสนทนา ก่อนที่ทั้งพ่อและแม่จะหันไปสนใจสายป่านก่อน แม่หันมาบอกขอบคุณผมอีกครั้งแล้วเดินตามสายป่านกำลังถูกย้ายไปอีกห้อง สายตาของน้องยังหันมองแม้ถูกพาออกไปไกลแล้ว ผมจึงตอบคำถามนั้นด้วยเสียงแผ่วเบาที่สายป่านคงจะไม่ได้ยิน

"พี่เอง"

"..."

"นี่พี่เอง"

 

ในระหว่างทางที่กำลังเดินกลับ ความคิดที่กำลังสับสนทำทุกอย่างอื้ออึงอยู่ในหัวอย่างน่าอึดอัด ไม่ได้พูดคุยอะไรกับตามที่เดินตามหลังผมมาเงียบๆ เพราะเสื้อผ้าที่เลอะเลือดของผม ทำให้ตามต้องทิ้งระยะห่างไกลไปจากผมสามสี่ก้าว แต่ก็คงพอที่จะได้ยินคำพูดของผมในระดับเสียงปกติ

"ตาม"

"ฮึ?"

"เราไม่รู้ว่าเราคิดผิดหรือเปล่าที่ไม่ยอมบอกกับครอบครัวว่าเราเป็นใคร เราเลือกที่จะไม่บอกเพราะเราไม่คิดว่าเราจะอยู่ได้นานกว่านี้และต่อให้เราบอกพวกเขาจะเชื่อหรือเปล่าก็ไม่รู้ เราตายไปตั้งนานแล้ว บางทีพ่อกับแม่อาจจะอยู่ในจุดที่กำลังทำใจได้แล้วมันจึงดีกว่าถ้าเราเลือกที่จะไม่บอกว่าเรากลับมา อีกอย่างเราอยู่ในร่างพลีส ไม่ใช่คนอื่นแต่เป็นเด็กคนนั้นที่พ่อแม่เรายังไม่รู้ด้วยซ้ำ จริงๆ แล้วพลีสอาจจะไม่ได้อยากมาหาพ่อกับแม่เรา ไม่ได้อยากให้ครอบครัวเรารู้จัก แล้วมันจะเป็นยังไงถ้าวันหนึ่งพลีสกลับมา แล้วถ้าการจากไปอีกครั้งของเรามันทำให้พ่อกับแม่ต้องเจ็บปวดอีกครั้งเหมือนที่เราได้ทำกับเธอ แค่กับเธอเราก็รู้สึกผิดมากแล้ว แค่เธอคนเดียวเราก็..."

คำพูดผมหยุดชะงักทำได้แค่ถอนหายใจออกมาแทน ความอัดอั้นของผมถูกร่ายยาวออกมาอย่างไม่มีเว้นวรรคก็เพื่อระบายความรู้สึกทั้งหมดที่ผมมีให้ตามฟังแต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังไม่รู้จริงๆ ว่าผมควรจะทำยังไงดี 

"เราไม่รู้แล้วว่าเราต้องทำอะไรไหม"

"..."

"เราไม่รู้จริงๆ เราแค่..."

"..."

"เราก็แค่..."

"..."

"อยากกอดเธอว่ะ"

ความปรารถนาถูกพูดออกไปในวินาทีเดียวสองแขนของคนข้างหลังก็ยกขึ้นโอบกอดผมอย่างที่หัวใจร้องขอ ผมนิ่งไปครู่หนึ่งด้วยไม่รู้ว่าตามขยับมายืนใกล้ขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไร การถูกโอบกอดจากด้านหลังทำให้ผมไม่ได้มองหน้าของตาม แต่ได้ยินเสียงชัดเจนดี เสียงที่กำลังปลอบผมเบาๆ 

"ไม่เป็นไรนะ เรารู้ว่ามันยาก แต่ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรหรอก"

เราต่างคนต่างไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วมันจะเป็นยังไงแต่คำว่าไม่เป็นอะไรมันก็ช่วยปลอบโยนให้ความรู้สึกที่อึดอัดเบาบางลง เพื่อเหลือพื้นที่ในความคิดให้ผมได้ค้นหาคำตอบว่าผมจะตัดสินใจกับเรื่องนี้ยังไงดี

เราเดินต่อเรื่อยๆ จนมาถึงหอตาม ตามดึงดันจะเป็นฝ่ายไปส่งผมที่บ้านแต่ผมยืนยันจะส่งตามตรงนี้ เถียงกันไปมาก็จบลงด้วยการยอมบอกลากันตรงนี้

"กลับดีๆ นะ"

"อื้ม"

"เราขึ้นห้องแล้วนะ"

"โอเค"

ตามหันหลังให้ผมแล้วเดินเข้าตึกไป ผมเองก็ก้าวเท้าออกมาจากตรงนั้น ในจังหวะเดียวกันฝนที่ลงเม็ดปรอยๆ มาก่อนหน้านี้ก็พลันตกซู่ลงมาเม็ดหนาเหมือนจะกลั่นแกล้งกัน หรือไม่บางที...ก็เป็นใจให้กัน

ว้า...กลับไม่ได้ละ

ผมรีบก้าวเท้าเร็วๆ เข้าไปในตึก พุ่งตัวไปหาตามที่หันมาตกใจเล็กน้อย

"ฝนตก กลับไม่ได้ละ"

"ฮะ เดี๋ยว..."

"เราขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ" ว่าแล้วก็คว้ากุญแจห้องจากมือตามแล้ววิ่งนำไปก่อน จัดการถอดเสื้อผ้าเลอะเลือดโยนไประเบียงหลังแล้วเปลี่ยนตัวใหม่ ผมไม่ได้กะจะนอนที่นี่เพราะไม่ได้บอกที่บ้านพลีสเอาไว้ก่อนแล้วพรุ่งนี้ก็ยังต้องไปโรงเรียนด้วย จึงตั้งใจจะกลับตอนที่ฝนหยุดตก

ผมทำตัวตามสบายเหมือนกับว่านี่เป็นเพียงหนึ่งวันธรรมดาที่ได้อยู่กับตามเฉกเช่นตอนที่ยังมีชีวิต ม้วนตัวอยู่ในผ้าห่มผืนเดิม นอนกลิ้งอยู่บนเตียงนุ่ม พูดคุยเรื่องที่อยากคุย เปิดเพลงเพราะฟังเคล้าคลอเสียงฝน บรรยากาศแบบนี้มันโคตรจะ... 

"น่ากินเบียร์"

"ฮะ?" ผมเด้งตัวขึ้นจากที่นอนเมื่อได้ยินตามพูดอย่างนั้น

"อากาศแบบนี้น่ากินเบียร์" ไม่พูดเฉยๆ ยังเดินไปหยิบเบียร์หนึ่งกระป๋องจากตู้เย็น เปิดกระดกหน้าตาเฉย ตามเดินไปเลื่อนบานหน้าต่างเปิดออกเล็กน้อยแล้วยืนจิบเบียร์อยู่ตรงนั้น

"เมื่อก่อนเธอไม่เคยคิดจะแตะแอลกอฮอล์สักหยด เดี๋ยวนี้กลายเป็นคนขี้เมาได้ไง"

"ไม่ได้ขี้เมาซะหน่อย"

"อยากลืมเราเหรอ"

ตามหันกลับมามองผม เลิกคิ้วขึ้นนิดๆ ดูสงสัยกับประโยคก่อนหน้า

"ก็กินให้เมาเพื่อที่จะได้ลืมเราไง"

มุมปากของตามขยับขึ้นยิ้มนิดๆ แล้วสวนกลับ

"เวลาเมา คิดถึงกว่าเดิมอีก" พูดแค่นั้นแล้วหันกลับไปเหม่อมองนอกหน้าต่างอย่างเดิม ผมเองเผยยิ้มบางๆ ก่อนเดินไปยืนข้างๆ

"ขอกินบ้างสิ"

"ไม่ได้"

"ทำไมไม่ได้"

"พลีสยังเป็นนักเรียน"

"พลีสอายุยี่สิบแล้ว"

"เธอรู้จักร่างกายพลีสดีพอหรือเปล่า กินเข้าไปจะเป็นอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้"

"ไม่เป็นอะไรหรอกน่า เราไม่ได้กินเบียร์มาสามปีแล้วนะ นานจนลืมรสชาติมันไปแล้วเนี่ย"

"ลืมไปเถอะ ไม่ใช่รสชาติที่ต้องจดจำ"

"โธ่!"

"ไม่ให้กิน"

"กระป๋องเดียว"

"ก็บอกว่าไม่..." คำพูดของตามหยุดชะงักตอนที่ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนปลายจมูกแทบชน ความน่ารักจากใบหน้าพลีสและความออดอ้อนจากจริตของผม พูดจาด้วยอารมณ์ดราม่าเพื่อทุบหัวใจแข็งๆ ของอีกคนให้อ่อนยวบ

"นี่มันอาจจะเป็นเบียร์กระป๋องสุดท้ายก่อนที่เราจะต้องจากโลกนี้ไปก็ได้นะ"

"..."

"ตามใจ"

"หึ!" ตามทำหน้าบึ้ง ก่อนยื่นกระป๋องเบียร์ในมือส่งให้ ปริมาณที่ยังเหลืออยู่มากกว่าครึ่งกระป๋องเพียงพอต่อความต้องการของผม ยกเบียร์ขึ้นดื่มรับรสชาติที่ขาดหายไปจากชีวิตนานกว่าสามปี จิบเบียร์เย็นเฉียบท่ามกลางพายุฝนกระหน่ำและลมเย็นที่พัดกระทบใบหน้า หากแต่ว่าร่างกายอบอุ่นด้วยท่อนแขนของตามที่โอบเอวผมเอาไว้ให้เราได้ยืนคู่กันอย่างชิดใกล้...เวลานี้ดีชะมัด 

 

"พรึบ!"

 

"กรี๊ด!"

ผมหลับตาแน่นเพราะเสียงกรีดร้องของตามดังกระแทกแก้วหูเนื่องมาจากไฟที่ดับกะทันหัน มือที่โอบเอวกลายเป็นรัดแน่น ร่างกายที่ชิดใกล้กลายเป็นเบียดจนแทบจะเข้ามาสิงร่าง แม้มืดสนิทจนมองไม่เห็นอะไรแต่ผมก็เดาได้ว่าตามกำลังทำหน้ายังไง   

"ปล่อยเราก่อน เดี๋ยวเราไปหยิบมือถือ"

"ไม่เอา!"

"งั้นก็อยู่มืดๆ แบบนี้แหละ"

"ก็ไม่เอา!"

"งั้นก็ปล่อยสิ"

"ไปด้วยกันๆๆ" ตามพูดรัว ก่อนกุมมือผมเอาไว้แล้วเดินช้าๆ ไปควานหาโทรศัพท์ที่อยู่บนเตียง ก่อนเปิดไฟฉายจากโทรศัพท์ห้องจึงสว่างขึ้นมา ถึงอย่างนั้นตามก็ยังไม่ยอมปล่อยมือผมออก   

"กลัวอะไร"

"กลัวผี"

"เราก็ผีนะ"

ตามนิ่งไปตอนได้ยินผมพูดเช่นนั้น เลื่อนสายตามองมือที่ยังกุมกันอยู่ ผมจึงยกสองมือของเราขึ้นมาตรงหน้า

"เธอจับมือผีอยู่นะเนี่ย"

ตามยิ้มออกมาบางๆ แล้วนั่งลงบนเตียง ผมเองก็พลอยต้องนั่งลงตามไปด้วยเพราะมือที่ไม่ยอมปล่อยซ้ำยังจับแน่นกว่าเดิม ความเงียบทำงานอยู่เนิ่นนาน ผ่านใบหน้าเรียบเฉยของตามผมรู้เพียงแค่ว่าเขากำลังคิดอะไรบางอย่าง แต่ไม่อาจคาดเดาว่ามันคืออะไร ขณะเดียวกันในหัวผมเองก็มีหนึ่งความคิดผุดขึ้นมาเช่นกัน ไม่ใช่ผีทุกตัวที่จะชอบความมืด อย่างน้อยๆ ก็ไม่ใช่ผีแบบผม เพราะยิ่งมืดเท่าไรก็ยิ่งเดียวดายเท่านั้น

"จริงๆ ความมืดไม่ได้น่ากลัวเท่าไรหรอก..."

"ความเหงาต่างหาก"

ผมหันมองตามที่โต้ตอบกลับมาในทันทีที่ผมเว้นวรรคประโยค ราวกับว่าเมื่อครู่เรากำลังคิดเรื่องเดียวกันอยู่จึงเข้าใจความรู้สึกนั้น ไม่รู้ว่าที่ผ่านมาตามต้องใช้เวลาไปกับความเหงามากมายเท่าไรแล้วหลังจากนี้ไปจะมีวันที่ตามต้องกลับไปเหงาอีกหรือเปล่า ผมเองไม่อาจอยู่เพื่อเฝ้าดูหรือว่าปลอบใจ สิ่งเดียวที่ผมพอจะทำได้ก็คงจะมีแค่คำขอร้องโง่ๆ

"ตาม ต่อไปนี้อย่าเหงาอีกเลยนะ"

"..."

"อย่าร้องไห้อีก"

"..."

"อย่าเศร้าหรือว่าเสียใจถ้าเราไม่อยู่แล้ว"

"..."

"ทำได้ไหม"

ใครจะไปทำได้วะ...เหมือนผมได้ยินคำนั้นผ่านใบหน้าของตามที่กำลังแสดงให้เห็น แต่แล้ววินาทีเดียวตามก็ปรับสีหน้าเป็นเผยรอยยิ้มบางๆ แล้วพยักหน้ารับ

"อืม...ทำได้"

แม้รู้ดีว่ามันเป็นคำตอบที่เพียงเพื่อให้ผมสบายใจแต่ผมก็เชื่อว่าในสักวัน ตามจะทำเช่นนั้นได้จริงๆ เพราะตามของผมเข้มแข็งที่สุดในโลกเลย เรายิ้มให้กันอยู่นานครู่หนึ่ง ก่อนที่ผมจะหันมองไฟที่คิดว่ามันดับนานเกินไปแล้ว ตั้งใจจะลุกไปที่หน้าต่าง เพื่อดูว่าบริเวณยังดับอยู่เหมือนกันไหม แต่ในตอนที่ลุกขึ้นก็เกิดอาการมึนเหมือนหัวหมุนติ้ว ทิ้งร่างลงกลับไปนั่งที่เดิมคล้ายคนกำลังหมดเรี่ยวแรง

"เป็นอะไรหรือเปล่า"

ผมได้ยินเสียงตาม แต่ไม่ชัดนัก

"แสงเป็นอะไร"

ผมไม่ได้ยินเสียงตามอีกแล้วเพราะในหูถูกแทนที่ความอื้ออึง ดวงตาก็พร่าเบลอเหมือนใบหน้าของตามกำลังเลือนหายไปช้าๆ ราวกับสติสุดท้ายกำลังจะดับลง...

"แสง!"

"..."

"แสงเทียน!"

ทั้งเสียงและภาพกลับมาชัดเจนรวมถึงสติที่ย้อนกลับมา ผมกระพริบตาถี่มองตามที่แสดงสีหน้าตกใจ ถามผมซ้ำแล้วซ้ำอีก

"เป็นอะไรหรือเปล่า"

"เหมือนจะเมา"

"เมา?"

"อือ มึนหัว" อาจจะเป็นเพราะร่างกายของพลีสเพิ่งจะทำความรู้จักกับแอลกอฮอล์เป็นครั้งแรกจึงตอบสนองด้วยความมึนเมาได้อย่างง่ายดาย ผมคิดไปอย่างนั้น และทั้งๆ ที่ถูกเตือนแล้วว่าอย่าดื่มแต่ผมยังดื้อก็เลยโดนดุไปตามระเบียบ

"ก็บอกแล้วไงว่านี่มันร่างกายพลีส"

"ก็ใครจะไปคิดว่าคอจะอ่อนขนาดนี้เล่า ครึ่งกระป๋องเองเมาได้ไงวะเนี่ย" ผมบ่นอุบ เหลือบตามองตามที่ยืนเท้าเอวอยู่ตรงหน้า ปากกำลังจะบ่นต่อแต่ผมเบรกเอาไว้ด้วยการยกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปากแล้วส่ายหน้าเบาๆ ตามจึงกลืนคำพูดพวกนั้นลงไปแล้วถอนหายใจออกมาแทน

"งั้นเดี๋ยวเราไปส่งที่บ้าน"

"ไม่กลับแล้ว"

"ไม่กลับได้ไง เดี๋ยวที่บ้านพลีสว่าเอา"

"ก็เราจะนอนกับเธอ"

"ไม่ได้"

"ได้!"

"ก็บอกว่าไม่ได้ อย่ามาดื้อ ลุกเร็ว!"

"ไม่เอา ไม่กลับๆๆๆ!" ผมโวยลั่นตอนที่ตามกำลังดึงผมให้ลุก แล้วขัดขืนด้วยการทิ้งตัวลงไปนอนบนเตียง จะฝังร่างกายอยู่ตรงนี้ไม่ขยับไปไหนแต่ลืมไปว่าพลีสตัวเล็กนิดเดียว สองมือของตามยื่นเข้ามาช้อนตัวอุ้มผมออกจากเตียงอย่างง่ายดาย ผมจึงได้แต่ดิ้นพล่าน

"เราไม่กลับอะ! เราจะนอนที่นี่!"

"ไม่ได้นะ"

"ขืนกลับไปสภาพนี้ มีหวังโดนหนักกว่าไม่กลับอีก เดี๋ยวเราโทรบอกพี่หน่อยเองว่าจะนอนบ้านเพื่อน พี่หน่อยรู้ พี่หน่อยเข้าใจ"

"แน่ใจนะ"

"แน่ใจสิ วางเราลงได้แล้ว"

ตามพยักหน้ารับ ก่อนเดินกลับไปที่เตียงเพื่อวางผมลงบนนั้น จังหวะที่ตามปล่อยมือออกผมยกสองแขนของตัวเองขึ้นคล้องคอตามเอาไว้แล้วโน้มลงมาใกล้ อีกฝ่ายเผลอตกใจแล้วใช้สองแขนยันตัวเองเอาไว้กับเตียงเพื่อเว้นระยะห่าง ทำได้เพียงมองหน้า มองให้ลึกลงไปในแววตาคู่นั้นที่สบสายตากันอยู่เนิ่นนาน อีกไม่นานนับจากนี้ผมก็จะไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าตามอีกแล้ว ช่วงเวลานี้จึงมีความหมาย

ผมไม่แน่ใจว่าสติที่เกือบจะดับวูบไปเมื่อครู่มันใช่อาการมึนเมาหรือเปล่า แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้ผมหวั่นกลัว ครั้งนี้ผมอาจจะหลับไปแล้วไม่ได้ตื่นขึ้นมาในร่างของพลีสอีก คืนนี้ผมจึงไม่อยากกลับบ้านเพราะมันอาจจะเป็นคืนสุดท้ายที่จะได้อยู่กับตามแล้ว 

นิ้วมือของผมยกขึ้นสัมผัสใบหน้าของตาม ลากไล้ปลายนิ้วไปทุกส่วนตั้งแต่ข้างแก้ม ริมฝีปาก ปลายจมูก จนไปหยุดอยู่ที่ดวงตา เรารู้ดีว่าเราติดอยู่ในหนึ่งข้อจำกัดที่ทำให้เราไม่ควรใกล้กันกว่านั้นด้วยเหตุผลที่ว่ามันไม่ใช่ร่างกายของผม แต่ความปรารถนาที่รบเร้าอยู่ในใจก็ทำให้ผมต้องโกงพลีสด้วยการหยิบยืมริมฝีปากของเขามาใช้อีกครั้ง

ปลายนิ้วสัมผัสเบาๆ ที่เปลือกตาของตามก่อนเขาจะหลับตาลง ผมบรรจงจูบตามผ่านริมฝีปากของพลีส แต่ความรู้สึกที่หยั่งลึกลงไปมันก็ยังคงเป็นของผม เมื่อเราหลับตาจิตนาการจึงพาเราล่องลอยวนกลับคืนไปสู่อดีตในวันที่ยังมีเรา ในภาพลวงที่ห้วงแห่งความคิดได้สมมติขึ้น ผมได้ร่างกายผมกลับคืนเพื่อให้ผมกับตามได้สัมผัสใกล้ชิด รอยจูบนั้นเติมเต็มความปรารถนาอย่างลึกซึ้งและยาวนาน ให้มันเป็นจูบลาก่อนที่ผมจะตายอีกครั้ง ให้มันเป็นจูบสุดท้าย...ก่อนที่ผมจะหายไปตลอดกาล

 

...

 

"ตื่นได้แล้ว"

         
เสียงเรียกของใครบางคนปลุกผมให้ตื่นทั้งที่ยังไม่อยากลุก ยื้อเวลาหลับตาต่อแต่ก็ถูกเรียกอีกซ้ำๆ จึงต้องขยับเปลือกตาขึ้นมอง แสงในตอนเช้าที่ลอดผ่านผ้าม่านเข้ามานั้นไม่สว่างพอที่จะเห็นอะไรได้ชัดเจน สติที่ยังไม่ตื่นดีกับดวงตาที่พร่าเบลอกำลังจ้องมองใครบางคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ใบหน้าเคร่งเครียด คิ้วขมวดกำลังเท้าเอวมอง...ยมทูตเหรอ

"ยังไม่ไปได้ไหมครับ"

"ไม่ได้"

"ขอเวลาอีกหน่อยไม่ได้เหรอ"

"ไม่ได้"

"ใจร้ายจัง" ผมพูดเบาๆ ก่อนหลับตาลงไปอีกที มีคำสั่งสั้นๆ ให้ผมลุกขึ้นในตอนนี้ จึงต้องปฏิบัติตามอย่างไม่อาจขัดขืนในโชคชะตา วันนี้แล้วสินะที่ผมต้องไป...

"เธอต้องไปโรงเรียนนะ"

"ฮะ?"

"เดี๋ยวก็สายหรอก"

เด้งพรวดขึ้นจากที่นอนตอนที่ตื่นเต็มตา ก้มมองร่างกายตัวเองสลับกับตามที่ยืนเท้าเอวอยู่ตรงหน้า ก่อนที่ตามจะย้ำอีกทีให้ผมรู้ตัวแน่ชัดว่ายังมีชีวิต

"เราเรียกตั้งนานไม่ยอมลุกสักที เกือบจะทุบให้ตื่นอยู่แล้ว แล้วยังจะมาขอเวลาอะไร"

"ก็...อากาศดีไง ยังไม่อยากตื่น"

"จะสายแล้ว รีบไปอาบน้ำ เราซักชุดนักเรียนเมื่อคืนให้แล้วแต่รีดไม่เป็น ใส่ได้ไหม"

"ไม่เป็นไร ใส่อย่างนั้นก็ได้"

ผมบอกกับตามแล้วเดินเข้าห้องน้ำ จัดการอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดเมื่อวาน ก่อนที่ตามจะออกมาส่งผมด้วย ทั้งที่ผมงอแงอยากอยู่กับตามมากกว่าที่จะมาโรงเรียนก็เถอะแต่สุดท้ายก็ถูกลากมาถึงโรงเรียนจนได้

"ตั้งใจเรียนนะลูก เดี๋ยวตอนเย็นพ่อมารับ" พูดล้อเล่นพลางยกมือเคาะหัวผมเบาๆ ผมจึงสวนกลับด้วยคำพูดล้อเล่นเช่นกัน ถึงความหมายที่พูดนั้นมันจะจริงก็ตาม

"อยากอยู่กับพ่อมากกว่า ไม่อยากมาโรงเรียนเลย"

"อย่าดื้อสิลูก เดี๋ยวพ่อตีเลย"

"ก็อยากอยู่กับพ่อ! อยากอยู่กับพ่อ! หนูจะอยู่กับพ่อ!"

 

"เพียะ!"

 

คำพูดหยุดชะงักตอนถูกดีดหน้าผากจนหน้าเกือบหงาย ตามหัวเราะลั่นตอนที่ผมได้แต่ยกมือลูบหน้าผากพลางมองตาขวางแล้วโต้ตอบด้วยใบหน้าบูดๆ

"ไปแล้ว!"

"มาให้พ่อกอดที"

ผมหลุดยิ้มขยับตัวเข้าไปกอดตาม สองมือของตามก็โอบร่างผมเอาไว้แน่น แล้วพูดเบาๆ ที่ข้างหูด้วยประโยคที่ทำให้หัวใจของผมได้รู้สึกเช่นเดียวกัน

 

"อีกสักวันก็ยังดีเนอะ"

 

...

 

"พี่พลีส"

ผมหันไปมองไอ้ปั้นที่นั่งอยู่ข้างหลัง ปากมันเรียกพี่แต่เอาตีนสะกิดตูดผม มันน่าตบให้หัวทิ่มจริงๆ

"การบ้านคณิตเสร็จยัง"

"ระดับกู"

"ลอกหน่อย"

"มึงควรพยายามทำอะไรด้วยตัวเองบ้างนะ" ผมพูดแค่นั้นแล้วหันกลับมา ไอ้ปั้นโน้มตัวมาด่าใกล้ๆ หู ผมกำลังจะสวนกลับแต่มือถือที่วางอยู่ใต้โต๊ะสั่นขึ้นมาก่อนจึงละความสนใจจากมันไปรับโทรศัพท์

"ครับแม่"

(พลีส เมื่อคืนหน่อยบอกว่าพลีสไปนอนบ้านเพื่อนเหรอ)

"อ๋อ...ครับ"

(พลีสไปสนิทกับเพื่อนขนาดไปนอนบ้านเขาได้เลยเหรอ)

"ครับ ก็...สนิทกันครับ"

(เพื่อนคนไหน)

"คือ..."

(เพื่อนชื่ออะไร)

"ข้าวปั้นครับ"

ทันทีที่ผมพูดชื่อมัน ไอ้ปั้นก็ชะโงกหน้าเข้ามาอย่างสอดรู้

(ให้แม่คุยกับเพื่อนหน่อยได้ไหมลูก)

"แม่...แม่จะคุยกับปั้นเหรอ"

ไอ้ปั้นทำตาโต ชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง ก่อนที่ผมจะขอร้องให้มันช่วยด้วยการบอกผ่านใบหน้าออดอ้อน จนแทบจะยกมือไหว้เพราะแม่พลีสเอาแต่พูดซ้ำว่าอยากคุยกับมัน ไอ้ปั้นจึงยอมตกลงแล้วคว้าโทรศัพท์ไปจากมือผม

"สวัสดีครับคุณแม่ ครับ ผมข้าวปั้นครับ เมื่อคืนพี่พลีสนอนบ้านผมครับ สนิทกันครับ โอ๊ย สนิทกันมาก ทำไมมานอนบ้านผม...อ๋อ ติวเลขครับ พี่พลีสมาติวเลขให้ สอนการบ้านผมด้วยแล้วเมื่อคืนฝนตกหนักก็เลยชวนนอนที่บ้านครับ ครับ ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ไม่ได้ไปเกเรที่ไหนแน่นอนครับ ได้ครับคุณแม่ ครับผม"

ขอบคุณการแสดงอันแนบเนียนของปั้นที่ทำให้เอาตัวรอดจากเรื่องนี้ได้ เมื่อปั้นกดวางสาย ผมจึงยื่นมือไปขอโทรศัพท์คืนแต่อีกฝ่ายไม่ยอมคืนให้ซ้ำยังดึงมือหนีพลางหรี่ตามองแล้วเอ่ยปากถาม

"มึงไปนอนที่ไหนมา"

"เรื่องของกู"

"เรื่องของมึงแล้วเอาชื่อกูไปอ้างทำไม"

"เออน่า! เอามือถือคืนมา"

"เอาการบ้านคณิตมาแลก"

ผมได้แต่ส่งเสียงไม่พอใจก่อนต้องยอมเอาการบ้านไปแลกเพื่อตอบแทนที่มันช่วย ปั้นคืนโทรศัพท์มาให้แต่ยังไม่วายทำเสียงแซวด้วยความกวนตีน

"แรดเหมือนกันนะเราเนี่ย"

"ไอ้ห่า!"

"พลีส" เสียงเรียกของเพื่อนอีกคนดังแทรกเข้ามา ผมจึงหันไปมองก่อนที่เธอจะยื่นม้วนกระดาษแผ่นหนึ่งให้ผม

"ครูฝากมาคืน"

"อะไรเหรอ"

"ก็ภาพที่พลีสวาดในวิชาศิลปะแล้วได้โชว์ที่บอร์ดไง เขาเปลี่ยนภาพชุดใหม่เลยเอาของเก่าคืนให้"

ผมฟังคำอธิบายจากเพื่อนคนนั้นพลางกางภาพนั้นออกแล้วเผลอตกใจเมื่อได้เห็นภาพวาดฝีมือพลีส เป็นภาพลูกแอปเปิ้ลระบายสีไม้ที่เหมือนของจริงอย่างกับภาพสามมิติ ไม่รู้ว่ามีพรสวรรค์ด้านนี้ด้วย ผมเผลอออกปากชื่นชมความสามารถของพลีสจนอีกฝ่ายทำหน้างงๆ ว่าผมจะชมตัวเองทำไม จึงม้วนกระดาษนั้นเสียบเข้าไปในกระเป๋าแล้วทำได้แค่ยิ้มนิดๆ ให้เพื่อน

 

หนึ่งวันที่โรงเรียนผ่านไปอย่างช้าๆ อาจเป็นเพราะว่าผมคิดรอคอยเวลาเลิกเรียนมากเกินไป หันมองนาฬิกาอยู่บ่อยครั้งจนแทบไม่ได้สนใจบทเรียนจนกระทั่งการรอคอยสิ้นสุดลงตอนที่หมดชั่วโมงสุดท้าย ผมเก็บกระเป๋าออกจากห้องเป็นคนแรกๆ แล้วรีบเดินยังไปยังหน้าโรงเรียน กวาดสายตามองหาตามที่บอกว่าจะมารับ หันไปเห็นตามก็รีบวิ่งเข้าไปหาอีกคนที่กางแขนรอ แล้วรวบร่างผมเข้าไปกอด

"รอนานไหม"

"ไม่นานเลย"

"ไปไหนกันดี"

"หาอะไรกิน" ตามบอกแล้วเปลี่ยนเป็นจับมือผมพาเดินออกไปจากหน้าโรงเรียน เราตกลงกันว่าจะกินข้าวไข่เจียวร้านประจำ เป็นหนึ่งมื้อที่เรียบง่ายก่อนตบท้ายด้วยไอติมอีกคนละแท่ง ก่อนที่ผมจะเดินมาส่งตามที่หน้าหอเหมือนเคย

"พรุ่งนี้เจอกันไหม"

มันยากที่จะตอบคำถามง่ายๆ นั้น เพราะไม่มีอะไรที่จะยืนยันว่าวันพรุ่งนี้ของผมจะมาถึงจึงไม่อาจให้สัญญา

"ถ้ายังมีพรุ่งนี้"

"..."

"คงได้เจอกัน"

ตามพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม ก่อนปล่อยมือออกจากผมแล้วบอกลา ผมถอยหลังออกมาแล้วแต่ก็ก้าวกลับเข้าไปอีกเพื่อขอกอดอีกสักที

"ขอกอดหน่อย"

ตามอ้าแขนรับแต่ในวินาทีนั้นก็ผลักผมออกจนตัวปลิวแล้วตะโกนลั่น 

"ไปไกลๆ เลย!"

 

"ฟึ่บ!"

 

ร่างของผมที่เกือบจะล้มแต่ถูกรับเอาไว้ด้วยสองมือของใครบางคน จากที่กำลังงงว่าตามทำอย่างนั้นทำไม ก็เข้าใจกระจ่างตอนที่เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของฝ่ามือที่รับร่างของผมเอาไว้

"พี่ต่อ"

พี่ต่อปล่อยมือออกจากผม ขณะที่ตามก็ทำหน้าเลิกลัก แก้ไขสถานการณ์ด้วยการแถรัวๆ ให้พี่ต่อฟังโดยที่พี่เขายังไม่ได้เอ่ยปากถาม   

"พลีสมาตื้อให้ตามพาไปหาพี่ต่ออยู่ได้ บอกว่าไม่ไปๆ ก็ตามมาถึงนี่เลย"

เล่นใหญ่เอาเรื่อง...

"นี่ไง พี่ต่อมาพอดี ไปคุยกันสิ ไปเลยๆ"

ผมเบิกตากว้างมองตาม อีกคนก็ส่งซิกด้วยการพยักเพยิดใบหน้า คิดว่าพี่ต่อจะไม่เห็นหรือไงวะ แต่สุดท้ายแล้วผมก็ตัดสินใจชวนพี่ต่อมานั่งคุยเพราะมีบางเรื่องต้องพูดกับเขาอยู่เหมือนกัน แต่สถานการณ์ช่างน่าอึดอัดเหลือเกินเพราะพี่ต่อนั้นเอาแต่เงียบ ผมก็ได้แต่ถามอะไรโง่ๆ

"พี่ต่อมาหาพี่ตามเหรอครับ"

"ครับ อยู่บ้านแล้วเหงา ก็เลยว่าจะมาชวนตามกินข้าว"

"อ๋อ แล้วพี่หายดีแล้วใช่ไหมครับ ที่ล้มวันก่อน"

"ครับ"

เดดแอร์...

หลังจากคิดทบทวนดูแล้วก็รู้ตัวว่าผมไม่ควรปล่อยให้เรื่องระหว่างพี่ต่อกับพลีสเป็นแบบนี้ แอบถอนหายใจเบาๆ แล้วหันไปหาเขาอีกที

"พี่ต่อหายไปเลย ไม่เห็นติดต่อมา ไม่ตอบข้อความผมด้วย"

"ขอโทษครับ"

"พี่เป็นอะไรหรือเปล่า"

"พอดีพี่งานยุ่งๆ"

"พี่ไม่ได้ไปทำงานตั้งหลายวันแล้ว ผมรู้"

พี่ต่อก้มหน้าเงียบ ผมจึงยกมือขึ้นแตะปลายคางให้พี่ต่อเงยหน้าขึ้นมอง

"พี่เป็นอะไรครับ"

"..."

"บอกผมเถอะ"

"พี่เพิ่งจะจำอะไรบางอย่างได้"

"..."

"เป็นเรื่องไม่ดีเลย"

ผมพยักหน้ารับเพื่อให้เขาได้พูดต่อ

"พี่ไม่รู้ว่านอกจากเรื่องนั้นมันยังมีอะไรที่พี่ลืมมันไปอีกหรือเปล่า ถ้าหากว่าพี่เคยเป็นคนไม่ดีหรือเคยทำอะไรที่แย่กว่านั้นมันก็คงจะน่าผิดหวัง"

ผมยังคงรู้สึกผิดที่ดึงเอาพี่ต่อเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องราววุ่นวายที่เกิดขึ้น ทั้งที่ความจริงแล้วมันไม่ใช่ความผิดของเขาสักนิดเลย เราทุกคนต่างเอาแต่โทษตัวเองอย่างไม่จบสิ้น พี่ต่อก็เช่นกัน ในตอนนี้ผมละทิ้งความพยายามที่จะเป็นพลีส แล้วยืนอยู่หน้าพี่ต่อในฐานะของแสง เอ่ยบางคำที่ผมสมควรจะพูดมาเนิ่นนาน

"ผมขอโทษนะครับ"

พี่ต่อแสดงสีหน้าสงสัยเมื่อผมพูดคำนั้นออกไป

"ให้อภัยผมด้วย"

ถึงสีหน้านั้นจะดูไม่เข้าใจเลยแต่พี่ต่อก็ไม่ได้ถามอะไรอีก ผมยื่นมือไปจับมือพี่ต่อเอาไว้เพื่ออยากให้เขาได้มั่นใจ

"พี่ต่อ"

"..."

"พี่ไม่ต้องรู้สึกผิดกับเรื่องที่เคยเกิดขึ้นอีกแล้วและไม่มีเรื่องไหนที่พี่จะต้องผิดหวังในตัวเองหรือว่าใครจะต้องผิดหวังในตัวพี่"

"..."

"เพราะว่าพี่เป็นคนดีจริงๆ"

"..."

"เชื่อผมนะครับ"

ใบหน้าที่นิ่งเงียบๆ เผยรอยยิ้มบางๆ แล้วพยักหน้ารับ บทบาทของการเป็นแสงจึงจบลงเพียงเท่านั้น ผมกลับไปเป็นพลีสแล้วแกล้งทำเป็นพูดด้วยน้ำเสียงงอนๆ

"แต่พี่หายไปแบบนี้ ไม่ดีเลยนะครับ"

"พี่แค่รู้สึกแย่กับตัวเองเลยไม่อยากให้น้องรู้สึกไม่ดีไปด้วย พี่ขอโทษนะครับ"

"ยิ้มให้ผมก่อน"

"ครับ?"

"ยิ้มกว้างๆ เลย"

พี่ต่อหลุดยิ้มให้ผมเห็น เป็นยิ้มที่อบอุ่นอย่างที่เขาเคยเป็น ผมหวังว่าหลังจากนี้พี่ต่อจะละทิ้งเรื่องราวในวันนั้นและกลับมาเป็นพี่ต่อที่แสนดีคนเดิม

"ว่าแต่..."

ผมเลิกคิ้วขึ้นมองพี่ต่อที่เว้นวรรคคำพูด ก่อนยกมือที่ประสานจับกันอยู่ขึ้นมาตรงหน้า

"เราจับมือกันแบบนี้ได้แล้วเหรอครับ"

"เอ่อ..."

"ถ้าทำได้ พี่ไม่ปล่อยแล้วนะ"

ผมรีบดึงมือตัวเองออกมาก่อนแล้วสวนกลับไป

"ไว้ผมมาบอกวันหลังว่าได้หรือไม่ได้"

หรือมีความหมายจริงๆ ว่าเอาไว้ให้พลีสตัวจริงมาบอกดีกว่า...

ออฟไลน์ เต้าหู้ไข่

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +279/-5
    • twitter
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 22-- 21/08/19
«ตอบ #314 เมื่อ21-08-2019 02:45:03 »

ผมบอกลาพี่ต่อตรงนั้นแล้วกลับมาที่บ้านพลีสอีกครั้ง เจอพ่อกับแม่นั่งอยู่ที่โซฟาพอดี แอบโดนแม่ดุนิดหน่อยที่กลับบ้านซะดึกดื่นแต่ถูกพ่อเปลี่ยนความสนใจไปที่ม้วนกระดาษซึ่งโผล่ออกมาจากกระเป๋านักเรียน   

"ภาพวาดเหรอพลีส"

"ใช่ครับ"

"ขอพ่อดูหน่อยสิ"

พ่อดึงม้วนกระดาษนั้นไปแล้วกางออก ก่อนส่งเสียงตกใจเล็กๆ เมื่อได้เห็นภาพวาดนั้นแล้วพลิกโชว์ให้แม่ดูด้วย

"สวยจัง"

"ผม...ผมวาดเอง" ได้ทีก็เลยโอ้อวดเสียหน่อย ทั้งๆ ที่ความจริงพลีสเป็นคนวาดก็เถอะ

"เก่งนี่ ไม่รู้มาก่อนเลยว่าพลีสวาดภาพได้ดีขนาดนี้"

"เก่งมากเลยลูก"

คำชื่นชมของพ่อกับแม่พลีสทำให้ผมเผลอยิ้มกว้างราวกับตัวเองเป็นเจ้าของภาพวาดนั้น สงสัยว่ารอยยิ้มของผมมันจะกว้างเกินไปหน่อย จึงถูกพี่หน่อยแซวเข้าอย่างล้อเล่น

"ยิ้มใหญ่เลยนะคะ"

"ครับ มีความสุขครับ"

ผมนึกไปถึงคราวก่อนที่เคยเอาผลสอบวิชาคณิตให้พวกเขาดู ทั้งๆ ที่มันได้คะแนนเกือบเต็มแต่ตอนนั้นกลับถูกกดดันให้พยายามมากกว่าเก่า เทียบกับวันนี้ที่ถูกชมไม่หยุดปากผมจึงดีใจแทนพลีส หากว่าพลีสได้ยินก็คงจะยิ้มกว้างไม่ต่างจากผม เมื่อพ่อกับแม่หันมองผมจึงได้บอกบางอย่างกับพวกเขาไป

"เวลาที่ผมทำอะไรได้ดี ก็อยากให้พ่อกับแม่ชมผมบ้าง"

"..."

"ถึงจะไม่ใช่คำชื่นชมที่ยิ่งใหญ่อะไร แต่มันก็ทำให้เด็กคนหนึ่งได้รู้สึกภูมิใจในตัวเองและผมหวังว่าพลีส...หมายถึงผมจะทำได้ดีกว่านี้ครับ"

ฝ่ามือของแม่ยกขึ้นลูบหัวผมเบาๆ ด้วยรอยยิ้มที่ดูอบอุ่น

"เข้าใจแล้วจ้ะ"

"..."

"คนเก่งของแม่"

รับรู้ถึงหัวใจที่เต้นแรงขึ้นมาเฉยๆ จึงคิดว่าเจ้าของหัวใจนั้นคงจะได้ยินมันเช่นกัน...รู้สึกดีใช่ไหมล่ะพลีส   

 

...

 

เช้าวันนี้ผมถูกปลุกให้ตื่นด้วยความเจ็บปวดบางอย่างในร่างกาย ปวดหัวตุบๆ เปลือกตาหนักอึ้งยากที่จะขยับลืม คล้ายเหมือนตอนเป็นไข้ ลมหายใจก็ร้อนผ่าว แต่เพราะความร้อนที่รับรู้ได้ผ่านลมหายใจนั้น กลับทำให้ผมยิ้มกว้างออกมาซะเฉยๆ...ได้อีกวันสินะ 

ลุกจากเตียงแล้วตรงเข้าห้องน้ำ แต่ในจังหวะที่ผมถอดเสื้อออกก็เกิดความรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาที่ท้องข้างที่โดนแทง ก้มมองไปยังตรงนั้นก็พลันตกใจจนดวงตาเบิกกว้าง ไม่เพียงแค่ความเจ็บปวดแต่ยังปรากฏบาดแผลและเลือดที่ไหลนอง สองขาผมทรุดฮวบลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวด ผมกัดฟันลุกขึ้นยืน ตั้งสติแล้วบอกกับตัวเองว่ามันเป็นแค่ภาพสมมติ ทั้งบาดแผลและความเจ็บปวดนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจริง ความเจ็บปวดจึงค่อยๆ เลือนหายแต่หัวใจยังคงเต้นแรงเหมือนจะทะลุออกมานอกอก ผมยันตัวเองนั่งพิงกับผนังห้องน้ำเพื่อให้ร่างกายได้สงบลง

การแจ้งเตือนจากเบื้องบนสร้างบาดแผลสมมติให้ผมได้เจ็บปวดแต่ร่างกายที่อ่อนแรงลงเพราะพิษไข้นั้นเป็นเรื่องจริงและทั้งหมดนั้นมันก็ทำให้ผมรู้ตัวเป็นอย่างดีว่าเวลานั้นมันใกล้เข้ามาทุกที 

"น้องพลีส"

"ครับ"

ผมหันมองพี่หน่อยที่เรียกผมเอาไว้ก่อนที่จะออกจากบ้าน

"ลืมแซนด์วิชค่ะ"

"จริงด้วย" ผมว่าแล้วรับถุงแซนด์วิชที่พี่หน่อยอุตส่าห์เตรียมให้เป็นอาหารเช้า ก่อนพี่หน่อยจะไล่สายตามองผมหัวจรดเท้าคล้ายสำรวจความเรียบร้อยและเจอจุดบกพร่องที่รองเท้าข้างหนึ่งซึ่งผูกเชือกเอาไว้ลวกๆ

"เดี๋ยวก็เดินสะดุดจนได้"

"ผมทำเองครับ!" ผมกำลังจะชักเท้าหนีแต่ไม่ทันพี่หน่อยที่ก้มลงผูกเชือกรองเท้าข้างนั้นให้เรียบร้อย ทั้งรู้สึกขอบคุณและขอโทษอยู่ในใจที่ต้องปล่อยให้พี่หน่อยทำเรื่องเล็กน้อยแบบนั้นให้แต่ถึงอย่างไรพี่หน่อยก็ยังลุกขึ้นมายิ้มให้ผมเสมอ เมื่อผมก้าวเท้าออกมาจากบ้านและหันกลับไปอีกครั้งพี่หน่อยก็ยังยืนมองอยู่ตรงนั้น

"พี่หน่อยครับ"

"คะ"

"ผมไปแล้วนะครับ"

อาจเป็นคำล่ำลาครั้งสุดท้ายและดูเหมือนว่าพี่หน่อยจะเข้าใจความหมายที่ผมสื่อออกไปได้ดี ก้าวเท้าเข้ามาหาแล้วยกมือขึ้นกอดผมแน่นๆ หนึ่งที

 

"โชคดีนะคะ"

 

...

 

ตามโทรหาผมในระหว่างที่เดินทางมาโรงเรียน บอกกับผมว่าจะมารับในตอนเย็นนั่นทำให้ผมนึกถึงสมัยก่อนตอนที่เรายังเป็นเด็กม.ปลาย ตามขี่มอเตอร์ไซค์มารับผมที่โรงเรียนเกือบทุกวัน ทั้งๆ ที่โรงเรียนตัวเองอยู่ไกลมาก วันหยุดก็โผล่มาที่บ้าน หอบเอาวัตถุดิบสำหรับทำอาหารมาอ้อนให้แม่ผมทำกับข้าวให้กินบ่อยๆ ตอนนั้นแม่ผมคงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ตามร่างกายจ้ำม่ำน่ากอดแบบนั้นสินะ

"ไอ้พี่พลีส!"

 

"วิ้ง"

 

ผมได้ยินเสียงตะโกนของปั้นดังกว่าความเป็นจริงก่อนถูกแทนที่ด้วยเสียงวิ้งในหูจนต้องหลับตาแน่นในจังหวะที่สองขาหมดแรงทรุดฮวบลงกับพื้นอย่างไม่อาจควบคุม

"เฮ้ย! กูยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะเว้ย!"

ผมสั่นหน้าเรียกสติก่อนเงยขึ้นมองปั้นที่ยกมือค้างยังไม่ได้ทันได้แตะต้องตัวผมเลยสักนิด ก่อนมันจะใช้มือค้างนั้นที่ค้างอยู่ยื่นมาจับแขนผมช่วยพยุงขึ้น

"เป็นอะไรป่ะเนี่ย"

"ตกใจเสียงมึงนั่นแหละ"

"เวอร์!"

"ก็จะตะโกนทำไมล่ะ"

"ไม่สบายป่ะเนี่ย ตัวร้อนเชียว"

ผมส่ายหน้าปฏิเสธก่อนเดินเข้าห้องเรียน อาการปวดหัวมาทักทายเป็นระยะในระหว่างวันแต่ยังพอทนไหว ไม่คิดว่าปั้นมันจะสนใจสังเกตอาการของผม เพราะอยู่ดีๆ มันก็ลงไปห้องพยาบาลแล้วเอายามาให้ ได้ยาสองเม็ดนั้นช่วยไว้จึงรู้สึกดีขึ้น เห็นมันชั่วอย่างนี้ก็พึ่งพาได้เหมือนกันแฮะ

และก็เป็นอีกวันที่หันมองนาฬิกาเพื่อรอเวลาเลิกเรียนอย่างใจจดใจจ่อ หมดคาบสุดท้ายปุ๊บก็ไม่รออะไร วันนี้ออกจากห้องเป็นแรกเลยด้วยซ้ำ เดินไปยังหน้าโรงเรียนก่อนทั้งสายตาและสองขาจะไปหยุดอยู่ที่ใครบางคน เป็นคนที่ผมมองหาซึ่งเข้ามาปรากฏอยู่ในสายตาแต่กลับสร้างความแปลกใจ

ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นตามแต่การแต่งกายนั้นไม่คุ้นตา ด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวสวมทับด้วยกางเกงสีดำขนาดพอดีตัวจึงเห็นช่วงขายาวๆ ได้ชัด รวมไปถึงรองเท้าสีเดียวกันที่ทำให้ตามดูเรียบร้อยผิดหูผิดตาไปมาก ผมก้าวเท้าช้าๆ เข้าไปหาด้วยไม่แน่ใจว่าเป็นตัวจริงหรือเปล่า ก่อนที่รอยยิ้มกว้างของอีกฝ่ายจะยืนยันกับผมว่านั่นคือตาม

"แต่งตัวหล่อไปไหนเนี่ย"

"มารับเธอไง"

"ต้องขนาดนี้?"

ตามยักไหล่หน่อยๆ ก่อนพยักหน้าเป็นเชิงให้ผมเดินตามไปหยุดอยู่ที่รถยนต์คันหนึ่งที่จอดอยู่ริมถนน รีโมทในมือตามถูกกดเพื่อปลดล็อกก็ยิ่งงงหนักเข้าไปอีก ผมคิดว่าผมรู้จักตามดีพอ ตามไม่ใช่คนที่จะทำตัวหล่อเพื่อมารับผมอย่างเดียวหรอก สภาพแบบนี้ต้องมีอะไรมากกว่านั้นแต่ไม่ยอมบอกกับผมแน่ๆ เมื่อผมถามซ้ำก็เอาแต่ยิ้มกลบเกลื่อน และด้วยสายตาของผมที่เอาแต่จ้องมองแม้แต่ตอนที่เปิดประตูรถเข้าไปนั่งแล้ว ตามจึงต้องจำนนยอมบอกกับผม

"ไปสัมภาษณ์งานมา"

"จริงเหรอ!"

"เออ จ้องอยู่ได้"

"แล้วได้งานไหม"

ตามพยักหน้ารับก่อนที่ผมจะหลุดยิ้มกว้าง ยกสองมือขึ้นขยี้หัวตามด้วยความดีใจ

"เก่งจริงๆ เลยไอ้ลูกหมู!"

"ไม่ใช่หมูแล้ว"

"น้องตามใจโคตรหล่อที่สุดเลยคร้าบ!" เลื่อนจากหัวลงมาขย้ำแก้มสองข้างอย่างมันเขี้ยว ก่อนที่ตามจะปัดมือผมออกด้วยหน้ายุ่งๆ

"พอเลย"

ผมลดมือตัวเองลงแต่ปากยังหุบยิ้มไม่ได้ก่อนที่ตามจะขับรถออกไป ในตอนนั้นก็ยังเอาแต่มองหน้าตาม ความชื่นชมถูกเอ่ยออกมาอีกครั้งจากใจจริง

"เธอเก่งจริงๆ เลยนะ"

"เก่งอะไร ยังไม่ได้เริ่มงานเลย บางทีอาจจะโดนไล่ออกตั้งแต่อาทิตย์แรกก็ได้"

"แล้วทำไมอยู่ดีๆ ถึงไปสัมภาษณ์งาน ไม่เห็นบอกกันบ้างเลย"

"จริงๆ แม่เอาใบสมัครมาให้สักพักหนึ่งแล้วแหละ แต่เราเพิ่งตัดสินใจ"

ผมพยักหน้าตาม ก่อนที่เขาจะพูดต่อ

"คิดว่ามันคงจะถึงเวลาแล้วที่จะทำให้พ่อกับแม่สบายใจ แล้วเธอก็จะได้ไม่ต้องห่วงด้วย"

ผมพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม ก่อนยกมือขึ้นลูบหัวตามเบาๆ เพื่อบอกกับเขาว่าสิ่งที่ตามได้ทำมันดีที่สุดแล้ว

"แต่เราไม่ลืมฝรั่งเศสนะ วันหนึ่งเราจะไป ถึงจะไม่ได้ไปด้วยกัน..." ประโยคหลังเสียงแผ่วลงไปนิดดูผิดหวังเล็กน้อย ผมจึงโต้ตอบด้วยคำปลอบโยน

"ไปสิ"

"..."

"เราจะไปกับเธอทุกที่นั่นแหละ"

ตามปล่อยมือข้างหนึ่งจากพวงมาลัยแล้วกุมมือผมเอาไว้ไปตลอดทาง ตามบอกว่าจะพาผมไปกินข้าวที่อร่อยที่สุดในโลก ผมเดาไม่ออกว่าเป็นที่ไหนเพราะตอนที่อยู่กับตามก็ไม่เห็นว่าจะมีร้านไหนที่ไอ้ลูกหมูมันไม่อร่อยเลยสักร้าน จนกระทั่งรถถูกจอดที่หน้าร้านแห่งหนึ่งซึ่งคุ้นเคยเป็นอย่างดี ผมนิ่งไปครู่หนึ่งตอนเห็นหน้าร้านแล้วหันมองตาม

"ร้านนี้?"

"อือ"

"บ้านเราเนี่ยนะ!"

"ใช่ กับข้าวของแม่เธอ อร่อยที่สุดในโลก" พูดหน้าตาเฉยแล้วเปิดประตูรถลงไปก่อน ผมเองก็ปลดเข็มขัดนิรภัยออกช้าๆ สายตายังจับจ้องไปที่ร้าน ขณะลังเลที่จะเปิดประตูรถลงไป ตามก็เดินมาเปิดให้

"ตาม"

"ลงมาเถอะ"

"แต่ว่า..."

"ไม่ใช่เราคนเดียวที่เธอจากไปโดยไม่ได้บอกลา"

คำพูดของตามทำลายทุกความลังเลทั้งหมดที่มี ตามช่วยคิดคำตอบที่ผมเคยถามด้วยความสับสนว่าผมควรจะทำอย่างไรดีกับเรื่องนี้ มือที่กำลังจับมือผมแล้วพาเดินเข้าไปช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผมได้ก้าวเท้าเข้าบ้านอย่างกล้าหาญ ทันทีที่เปิดประตูร้านเข้าไป ก็ถูกต้อนรับด้วยรอยยิ้มของพ่อแม่และสายป่าน

"มากันแล้วเหรอ"

"เข้ามาเลยลูก"

สายป่านกระโดดเข้ามากอดผมโดยไม่ได้สนขาที่กำลังใส่เฝือก ถึงจะยังไม่ได้บอกความจริงให้รู้ แต่ผมคิดว่าน้องคงปักใจเชื่อไปแล้วว่าผมคือใคร

"พี่" สายป่านเรียกผมแค่นั้นโดยไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่ในความรู้สึกราวกับว่าผมได้ยินเสียงเรียกผ่านแววตาคู่นั้น เสียงสมมติของสายป่านจึงปรากฏขึ้นในหัวซ้ำแล้วซ้ำอีก

พี่แสง....พี่แสง...

"ครับ"

"..."

"พี่เอง"

สายป่านกอดผมแน่นกว่าเดิม ก่อนที่แม่จะเอ่ยปากพูด

"สายป่านทำไมไปกอดพี่เขาแน่นขนาดนั้นล่ะลูก"

"ก็หนูรักพี่"

"ปล่อยพี่เขาได้แล้ว อึดอัดแย่"

"ไม่ปล่อย"

"เด็กคนนี้นี่!" เมื่อพ่อยกมือท่าจะตี สายป่านจึงยอมปล่อยผมออก ก่อนถูกตามชวนเข้าไปยังเคาน์เตอร์เพื่อทำเครื่องดื่มกิน หรือความจริงแล้วก็เพื่อเปิดโอกาสให้ผมได้คุยกับพ่อแม่แต่พอเหลือแค่เราสามคนผมก็เกร็งจนเอาแต่ยืนนิ่ง

"นั่งก่อนสิจ้ะ"

ผมหย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้อีกตัวอย่างเก้ๆ กังๆ หันมองพ่อที่เอ่ยปากถาม

"หิวหรือยัง"

"ยังครับ"

"ตามบอกว่าจะชวนพลีสมากินข้าวด้วย ลุงกับป้าก็ดีใจ จะได้ตอบแทนที่พลีสช่วยสายป่านเอาไว้วันก่อน"

"ผมก็ดีใจครับ"

"ที่จริง เราเคยเจอกันแล้วใช่ไหม"

ผมเงยหน้าขึ้นมองแม่แต่ไม่ได้พูดอะไร ก่อนที่แม่จะอธิบายต่อ

"ป้าจำเราได้ คนที่กินโกโก้แล้วอร่อยจนน้ำตาไหล"

ผมหลุดหัวเราะ คิดไปถึงวันที่มาหาแม่ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในร่างพลีสครั้งแรก ผมเผลอร้องไห้ตอนมองหน้าแม่อย่างไม่อาจกลั้นน้ำตาเอาไว้และดูเหมือนว่าในตอนนี้ความรู้สึกนั้นมันก็วนกลับมาอีกครั้ง

"ผมขอโทษที่ไม่ได้กลับมาอีก"

"ที่บอกว่าจะกลับมากินโกโก้อีกเหรอจ้ะ"

ผมได้แต่ยิ้มเมื่อแม่เข้าใจไปแบบนั้น ก่อนคำพูดที่เหลือของผมจะถูกพูดต่อ

"ขอโทษที่ไม่ได้กลับมานะครับ"

"..."

"ขอโทษที่ต้องผิดสัญญา"

"..."

"ขอโทษที่ทำให้พ่อกับแม่ต้องรอ"

จบคำพูดนั้นทั้งพ่อและแม่ก็พากันเงียบไป สายตานิ่งงันจ้องมองผมอยู่นานครู่หนึ่ง ก่อนที่ผมจะเห็นแววตาของแม่เอ่อไปด้วยน้ำตาแต่ว่ากลับถูกรอยยิ้มกลบเกลื่อน

"ป้าคงจะเพ้อเจ้อไปเหมือนสายป่าน เพราะพลีสดูเหมือนแสงมากจริงๆ"

"ลุงก็คงจะเป็นบ้าไปด้วย เพราะตอนที่มองหน้าพลีส เหมือนลุงได้ยินว่าเรากำลังบอก ผมนี่แหละแสง ผมคือแสง บ้าจังแฮะ" ทั้งพ่อและแม่พากันหัวเราะแต่มันก็แค่ชั่วครู่เดียวก่อนที่สีหน้าของทั้งสองคนจะกลับมานิ่งเงียบ ผมหลับตาลงช้าๆ พลันน้ำตาก็ไหลออกมาจนได้ ไม่อาจบังคับน้ำเสียงที่สั่นเครือ ก่อนเอ่ยเรียกคนตรงหน้า

"พ่อ"

"..."

"แม่"

"..."

"แสงเอง"

แค่เพียงเท่านั้น อ้อมแขนของพ่อกับแม่ก็โผเข้ากอดโดยไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติม เราสื่อสารกันผ่านน้ำตาและอ้อมกอดที่โหยหา ร้องไห้จนเพียงพอต่อความคิดถึงจึงคลายกอดออกจากกันช้าๆ พ่อกับแม่ยังไม่ทันได้พูดอะไรก็ถูกแทรกด้วยเสียงของสายป่านที่ทิ้งไม้ค้ำยันแล้วกระโดดเข้ามากอดผมจากด้านหลัง เรียกว่าล็อกคอดีกว่า

"หนูบอกแล้วไม่มีใครเชื่อ!"

"อ้วน"

"พี่แสงจริงๆ ด้วย! พี่แสงของหนู!"

"อ้วน! พี่จะตายแล้ว!" ผมยกมือตบแขนอวบๆ ของสายป่านที่ล็อกคอผมอยู่ ก่อนน้องจะปล่อยผมออกท่ามกลางเสียงหัวเราะของพ่อกับแม่และตามที่ยืนยิ้มอยู่ห่างๆ

"ผมขอโทษที่เพิ่งจะมาบอก"

"..."

"ในวันที่มันช้าไปแล้ว"

เราทั้งหมดพากันเงียบไปอีกที ด้วยทั้งหมดเข้าใจดีกว่าผมไม่อาจอยู่ที่นี่ได้นานกว่านี้ ผมเพียงกลับมาเพื่อบอกลาแล้วก็จากไป ระยะเวลานั้นสั้นเสียยิ่งกว่าความฝันแต่ถึงอย่างนั้นพ่อกับแม่ก็ยังคงยิ้มออกมาและเอ่ยถ้อยคำปลอบใจ

"ไม่เป็นไรลูก"

"..."

"แค่กลับมาเพื่อบอกลา แค่นี้ก็พอแล้ว"

หยดน้ำตาพลันไหลลงมาอีกครั้งเมื่อพ่อกับแม่เข้าใจผมดี คนที่ผมเป็นห่วงก็คือสายป่านที่แสดงสีหน้าผิดหวังออกมาแต่ครู่เดียวก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม สองแขนยกขึ้นโอบผมเอาไว้อีกครั้งแล้วซบหน้าลงมาที่ไหล่

"หนูเคยเสียพี่ไปแล้ว"

"..."

"อีกครั้งก็คงไม่เป็นไร" 

เจ้าอ้วนของผมเข้มแข็งกว่าที่คิดจึงหมดห่วง ผมได้กลับมากินกับข้าวฝีมือแม่ที่ทำแต่ของโปรดของผมเอาไว้ น้ำตาและความเสียใจถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะผ่านบทสนทนาเรื่องวันวานที่ยังตรึงอยู่ในความทรงจำ จบจากมื้ออาหารก็มานอนดูหนังกับสายป่าน ซึ่งเป็นคำขอสุดท้ายของน้องที่จะทดแทนในสิ่งที่ผมเคยผิดสัญญาเอาไว้คราวก่อน ระหว่างนั่งดูหนัง ผมหันฟังสองคนข้างๆ ที่กำลังงอแงใส่กันแล้วหันมาฟ้องผม   

"พี่แสง พี่ตามแย่งขนมหนู"

"แบ่งมั่งสิ"

"พี่ก็เอาถุงใหม่สิ"

"ขี้เกียจแกะ"

"พี่อะ!"

"อย่ามาหวงน่า กินคนเดียวอ้วนนะ"

สายป่านทำหน้ายุ่ง ก่อนยอมทิ้งตัวลงนอนข้างๆ ตามแกล้งหันไปกอดน้องแล้วหยิกแก้มด้วยใบหน้าที่ดูมันเขี้ยว สายป่านกอดกลับแล้วออกปากบ่น

"พี่ตามผอมแล้ว กอดไม่อุ่นเลย"

"ผอมแต่แข็งแรงนะ มานอนนี่มา" ตามว่าแล้วกางแขนออกให้สายป่านมานอนหนุนแขน รวมถึงอีกข้างให้ผมได้หนุนด้วย ก่อนความสนุกของหนังจะดึงความสนใจให้สองคนนั้นเลิกเถียงกันได้ ส่วนผมไม่ได้สนใจหน้าจอนั้นมากนัก เพราะเอาแต่คิดถึงอะไรหลายๆ อย่าง

ผมเพิ่งเข้าใจว่าความปรารถนาจะยิ่งใหญ่ในตอนที่เรายังมีชีวิตอยู่ ผมเคยฝันไกลและต้องการอะไรมากมายกว่านี้ แต่พอถึงวินาทีที่จะต้องตาย ชีวิตกลับก็ไม่ขออะไรเยอะ แค่ได้กินกับข้าวกับครอบครัวสักมื้อ นอนดูหนังดีๆ เรื่องหนึ่งกับคนที่ผมรัก...มันก็เพียงพอแล้วจริงๆ

แม้มันอาจจะยากที่จะต้องบอกลาโดยที่เราทั้งหมดรู้ดีว่าผมจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีกแต่ผมว่าเราทำได้ดีด้วยการที่เรายังคงยิ้มได้ ทั้งพ่อแม่และสายป่านรวมถึงตัวผม ผมบอกทุกอย่างที่อยากพูดไปหมดแล้ว ไม่ลืมที่จะบอกให้แม่ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังและทำแก้วแตกให้น้อยลง บอกให้พ่อซื้อโน้ตบุ๊กใหม่จะได้ไม่เสียบ่อย บอกให้สายป่านตั้งใจเรียนและดูแลพ่อกับแม่แทนผมและคงไม่คำล่ำลาคำไหนดีไปกว่าการบอกรักในตอนที่ยังมีโอกาสได้พูดอยู่ ผมจึงไม่ลังเลที่จะเอ่ยคำนั้นซ้ำไปซ้ำมา สวมกอดกันอีกครั้งจนกระทั่งถึงเวลาที่ต้องกล่าวลากันจริงๆ

"ผมไปนะครับ"

"ไปดีนะแสงเทียน"

"โชคดีนะลูก"

"บ๊ายบายพี่แสง"

หลังจากนี้พวกเขาอาจจะร้องไห้ก็ได้ แต่วันนี้เราจากลากันไปด้วยรอยยิ้ม เพื่อให้ผมได้จดจำภาพเหล่านั้นเป็นวันสุดท้าย แทนที่ภาพจำของความทรมานสาหัสที่เคยฝังลึกอยู่ในใจ ซึมซับทุกอย่างตรงนี้เอาไว้เพื่อเติมเต็มความทรงจำให้สวยงาม โอกาสที่ผมได้รับมาในช่วงเวลาหนึ่งนั้นเพียงพอที่จะทำให้ผมได้ปลดปล่อยทุกความรู้สึกที่ผมมีและยินดีที่จะจากโลกนี้ไปอย่างไร้กังวล



"ลาก่อนครับ"
 

...

 

ผมมาอยู่ที่หอตามอีกครั้ง อีกไม่นานตามก็จะต้องย้ายออกจากที่นี่เพื่อกลับไปอยู่ที่บ้าน เราจึงอยากใช้เวลาอยู่ที่นี่เป็นวันสุดท้ายเพื่อให้เราได้นึกถึงความทรงจำเก่าๆ ที่รวมกันอยู่ตรงนี้ ผมเพิ่งจะซื้อแจกันสำหรับใส่ดอกกุหลาบใบใหม่มาแทนใบเก่าที่แตกไป แล้ววันนี้ผมก็ได้รับดอกกุหลาบจากตามที่ไม่เคยหลงลืมว่าผมชื่นชอบมันขนาดไหน

"จริงๆ เธอไม่ต้องซื้อกุหลาบให้เราทุกวันก็ได้ หรือไม่ก็ใช้ของปลอมสิ จะได้อยู่ได้นาน"

"ของปลอมมันไม่สวย"

"แต่ซื้อทุกวันมันก็เปลืองเงิน"

"ไม่เป็นไร"

"..."

"เจ้าของร้านดอกไม้สวยดีก็เลยอยากอุดหนุน"

"เดี๋ยวเหอะ!"

ตามหลุดหัวเราะก่อนปักกุหลาบหนึ่งดอกลงในแจกัน ผมตั้งใจลุกไปหยิบแก้วเพื่อจะเอาน้ำมาใส่แจกัน แต่พอเดินเข้าไปถึงห้องน้ำก็เกือบล้มลงเพราะขาที่ไร้แรงไปซะเฉยๆ ดีที่สองมือของผมค้ำขอบอ่างล่างหน้าเอาไว้ได้ทัน สะบัดหัวที่หนักอึ้งและฝืนดวงตาที่เกือบจะปิดลงครั้งแล้วครั้งเล่า รวบสติมองหน้าพลีสที่เห็นอยู่ในกระจก

อีกแป๊บเดียว...ขออีกแค่แป๊บเดียว...ช่วยพี่ด้วยนะพลีส  

ผมเดินกลับไปที่เดิม เทน้ำลงในแจกันในปริมาณที่คิดว่าพอดีแล้ว ก่อนเดินไปนั่งข้างๆ ตามที่หยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมาจากชั้นแล้วเปิดให้ผมดูดอกกุหลาบแห้งดอกหนึ่งที่ถูกทับเอาไว้ในนั้น

"กุหลาบที่เธอปลูก"

"มันออกดอกด้วยเหรอ" ผมตื่นเต้นเพราะตอนที่มีชีวิตไม่เคยประสบความสำเร็จในการปลูกกุหลาบให้ออกดอกเลยสักต้น

"ใช่ แต่ไม่นานมันก็ตายตามเธอไป"

ผมยิ้มนิดๆ ขยับปลายนิ้วลูบกลีบกุหลาบที่แห้งเหี่ยวนั้นอย่างเบามือ

"มันตายแล้ว"

"..."

"แต่มันก็ยังสวยอยู่เลยนะ"

ผมเลื่อนสายตามองตามที่กล่าวคำนั้นออกมา อาจไม่ได้หมายความถึงกุหลาบเพียงอย่างเดียวเท่านั้น สิ่งที่ตามกำลังสื่อสารผ่านแววตาคู่นั้น ผมเข้าใจเป็นอย่างดี

"ตาม"

"ฮึ?"

"ถ้าเป็นวันนี้ล่ะ"

เป็นคำถามสั้นๆ ที่ไม่ต้องขยายความ ตามก็เข้าใจดี ขยับตัวไปนั่งพิงหัวเตียงพร้อมกับดึงมือผมไปด้วย ขยับปลายนิ้วโป้งจากมืออุ่นที่เกาะกุมเอาไว้ลูบไล้หลังมือผมเบาๆ แล้วบอกกับผม

"ที่จริงเราก็สูญเสียเธอไปแล้ว ที่เธอกลับมาคงจะเป็นพรจากพระเจ้าที่ประทานให้เราเพียงชั่วคราว มันเป็นฝันที่ยาวนานและดีที่สุดสำหรับเราแล้ว"

"..."

"ถ้าต้องเป็นวันนี้"

"..."

"ก็ไม่เป็นไร"

ตามรักษาสัญญาที่บอกกับผมว่าจะไม่ร้องไห้อีกผ่านความเข้มแข็งทั้งหมดที่เขามี เราจึงทำได้แค่ยิ้มให้กัน และนี่คงจะเป็นนาทีที่ผมต้องเอ่ยคำล่ำลาอย่างที่ได้ทำกับคนอื่น

"ตาม เธอเป็นความรักที่ดีที่สุดสำหรับเราเลยนะ"

"เธอก็เหมือนกัน"

ตามกระชับกอดแล้วพูดต่อให้ผมได้ฟัง

"ขอบคุณนะ ที่วันนั้นเธอเปิดประตูร้านให้เราเข้าไปหลบฝน"

นั่นเป็นวันแรกที่ทำให้เราได้รู้จักกัน...

"ขอบคุณสำหรับโอวันติลร้อน ผ้าขนหนู และรอยยิ้ม ทั้งหมดนั่นมันทำให้เราหลงรักเธอ"

อันที่จริงผมหลงรักตามก่อนและทั้งหมดนั้นคือความตั้งใจ...

"ขอบคุณที่ครั้งหนึ่งเธอเข้ามาเป็นแสงที่สว่างที่สุดในชีวิตเรา"

กลายเป็นผมที่ไม่อาจกลั้นน้ำตาแต่ว่ากลบเกลื่อนมันเอาไว้ด้วยรอยยิ้มแล้วหันไปหยิบกระเป๋าสตางค์เพื่อเปิดเอาบางอย่างจากในนั้นออกมา เป็นแหวนหนึ่งวงที่ตามเคยให้ผมเอาไว้ในตอนที่ยังมีชีวิต เมื่อเขาเห็นก็จำมันได้ในทันที

"อยู่ที่เธอได้ไง"

"แม่ให้เรามา แม่บอกว่าถอดมาจากศพเราเลย ยังมีเลือดติดอยู่เลยเนี่ย"

"แสง!"

ผมหลุดหัวเราะที่ได้แกล้ง ก่อนใช้อีกมือดึงมือตามมาจับเอาไว้

"เรื่องของเราในชาตินี้มันจบลงแล้ว ขอโทษที่เราไม่อาจมีชีวิตยืนยาวกว่านี้ได้"

"..."

"ความทรมานยาวนานพอแล้ว หลังจากนี้เธอมีชีวิตเป็นของตัวเองนะ"

ผมค่อยๆ สวมแหวนวงเดิมนั้นให้กับตาม น้ำตาไหลผ่านใบหน้าแล้วหยดลงบนฝ่ามือข้างนั้นพอดี ผมบอกกับตามด้วยคำพูดสุดท้าย

"ตัวเราจากไปแต่จะทิ้งความรักเอาไว้กับเธอ"

"..."

"ไว้เจอกันใหม่ในฝันนะตาม"

ตามยกมือประคองหัวผมให้ซบลงบนไหล่แล้วกระชับกอดเอาไว้อย่างอบอุ่น แสงสุดท้ายดับลงช้าๆ ขณะที่ดวงตาหลับลงอย่างไม่อาจทนฝืน ภาพความทรงจำทั้งหมดปรากฏชัดก่อนที่เลือนหายและเสียงสุดท้ายที่ได้ยินก็คือคำบอกลาจากตามที่เอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา

"ลาก่อนที่รัก"

วันพรุ่งนี้ตามก็จะต้องตื่นฟื้นจากความฝัน ส่วนผมก็จะหลับใหลไปชั่วนิรันดร์...คงเหลือไว้เพียงควัน เถ้าถ่าน และความทรงจำ

 

 

 
________________________________________________________________________________________

เรื่องของตามกับแสงจบลงตรงนี้อย่างไม่มีปาฏิหาริย์แต่ก็หวังว่าจะทำให้ทุกคนได้ประทับใจไปกับการจากลาที่เราได้ตั้งใจให้เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่แรกนะคะ ส่วนตอนหน้าจะเป็นบทสรุปสุดท้ายของคนที่ยังมีชีวิตอยู่ เอาไว้มาบอกลากันในตอนหน้านะคะ 

 

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 22-- 21/08/19
«ตอบ #315 เมื่อ21-08-2019 03:21:21 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

แสงปลดพันธนาการทุกอย่างแล้ว 

รอดูบทสรุปของพลีสหล่ะ  เชื่อว่าเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นแน่นอน

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 22-- 21/08/19
«ตอบ #316 เมื่อ21-08-2019 03:38:03 »

มันไม่สนุกเลยนะ​ กับการต้องมานอนร้องไห้​ลั่นห้องตอนตีสามตีสี่อย่างนี้​ หายใจไม่ออก​ ตาก็ปวดหัวก็ปวด​ จะนอนก็นอนไม่ได้เพราะอารมณ์​เสียใจยังเต็มพิกัดอยู่​
**นานมากแล้วนะที่ไม่ได้ร้องไห้หนักเพราะอ่านนิยายอย่างนี้​ เรื่องนี้มันสุดยอดจริงๆค่ะ o13 o13 o13​ ให้สามนิ้วกับความหมอนเปียกน้ำตา

ออฟไลน์ nonlapan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 22-- 21/08/19
«ตอบ #317 เมื่อ21-08-2019 09:17:09 »

เจ็บปวดหัวใจจังค่ะ  :hao5:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 22-- 21/08/19
«ตอบ #318 เมื่อ21-08-2019 09:48:45 »

ยิ้มทั้งน้ำตา

อบอุ่นในหัวใจทั้งที่เศร้าแทบตาย


โอ๊ย ฉันสงสารทุกคน

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 22-- 21/08/19
«ตอบ #319 เมื่อ21-08-2019 10:52:06 »

บีบหัวใจมาก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 22-- 21/08/19
« ตอบ #319 เมื่อ: 21-08-2019 10:52:06 »





ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 22-- 21/08/19
«ตอบ #320 เมื่อ21-08-2019 13:59:34 »

เข้าใจว่าไม่มีปาฏิหาริย์เรื่องแสงกับตามแน่ ตั้งแต่ที่บอกว่าเผาร่างแสงไปแล้วน่ะ
แต่ที่กลัวใจคือ กลัวเรื่องราวของตาม พลีส และพี่ต่อ

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 22-- 21/08/19
«ตอบ #321 เมื่อ21-08-2019 14:10:06 »

 มันเป็นบทสรุปที่ดีของทุกคน โอกาสหลังความตาย สำหรับคนติดในบ่วงทุกข์ที่สามารถกลับมาคลายปมทุกอย่างในชีวิตได้
เป็นความมหัศจรรย์ที่ไม่อาจมีได้ในชีวิตจริง แต่โลดแล่นได้ในตัวหนังสือ อ่านแล้วสนุก รอคอยในทุกตอน
  :pig4: :L2:

ออฟไลน์ beedy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 22-- 21/08/19
«ตอบ #322 เมื่อ21-08-2019 15:21:34 »

ขอบคุณนิยาดีๆแบบนี้นะครับ เหมือนที่มีคำกล่าวว่า งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกลา มีพบต้องมีจาก มันเป็นกฏของธรรมชาติ เชื่อว่าทั้งแสงและตาม รวมถึงครอบครัวต่างก็มีความสุข เพราะความรักกำเนิดขึ้นภายในหัวใจและจะอยู่ไปชั่วนิจนิรันด์

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 22-- 21/08/19
«ตอบ #323 เมื่อ21-08-2019 16:15:46 »

 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 22-- 21/08/19
«ตอบ #324 เมื่อ21-08-2019 18:00:54 »

ไม่หน่วง แต่เราร้องไห้ ทำไมลึกซึ้งมากมายขนาดเน้

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 22-- 21/08/19
«ตอบ #325 เมื่อ21-08-2019 20:15:28 »

ลาก่อนแสง
ฉันรู้จักเธอฝ่ายเดียว
เลยเป็นฉันที่ร้องไห้คนเดียวหน้าคอมฯ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 22-- 21/08/19
«ตอบ #326 เมื่อ21-08-2019 20:42:54 »

 o18

 :L2: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ Ain

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 22-- 21/08/19
«ตอบ #327 เมื่อ21-08-2019 22:06:56 »

จุกค่ะไม่รู้จะเม้นอะไรดี
 :z3:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 22-- 21/08/19
«ตอบ #328 เมื่อ21-08-2019 23:36:31 »

 :mew6: :mew6: :mew6: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
Re: เพียงควัน -- ตอนที่่ 22-- 21/08/19
«ตอบ #329 เมื่อ29-08-2019 15:46:02 »

รอ

อยู่

นะ


และ


ที่


สำ


คัญ


รอ


เรื่อง


ใหม่


ด้วย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด