บทที่ 7.1
ลุยงานหรือลุย.............ปู๊ดดดดดดด
เช้าวันต่อมา
ผมตื่นขึ้นมาด้วยอาการที่รู้สึกปวดท้องหนัก ผมรู้สึกถึงไส้มันบิดไปเพื่อบีบให้อึออกมา เหมือนตอนที่ผมเคยกินยาถ่ายในช่วงที่ผมอึไม่ออก แต่ตอนนี้ผมไม่ได้กินแล้วทำไมไอ้อาการนี้มันถึงกลับมาเหมือนครั้งนั้น
พรึบ
ผมลุกขึ้นทันทีก่อนจะตรงไปที่ห้องน้ำโดยที่มีทั้งสองอุดก้นเอาไว้ไม่ให้อะไรๆมันไหลออกมาก่อน เมื่อผมเห็นทางสว่างอยู่ด้านหน้า ไม่รอช้าพุ่งตัวเข้าไปอึอย่างเร็วพลัน
แหมะ ปู๊ดดด
สิ่งที่ออกมาทั้งของแข็งและของเหลวในตอนนี้ทำให้ผมรู้สึกโล่งทันที ผมเอื้อมมือไปหยิบสายยางมาฉีดเพื่อทำความสะอาด แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ลุกใส่กางเกงออกไปด้านนอก ผมก็รู้สึกปวดอีกครั้งจนผมต้องนั่งต่อเพื่อระบายออกมาให้หมดไส้หมดพุง
ปึงๆๆ
“ ใครอยู่ในนั้น!!” เสียงของพี่เทพเคาะประตูห้องน้ำแรงๆจนอึที่กำลังจะออกถึงกับหดหายเข้าไปเลยทีเดียว
“ ผมพี่ ผมอึอยู่ๆ” ผมตะโกนบอกไอ้พี่เทพออกไป
“ กูจะแตกแล้ว!!”
“ ห้องน้ำข้างล่างละพี่”
“ ไอ้กรมกับไอ้วินยึดหมด! มึงอย่าพูดมากรีบออกมา” พี่เทพก็ยังไม่ลดละความพยายามโดยการเคาะประตูห้องน้ำแถมยังแหกปากไปด้วย ก็คือคนมันก็ปวดอันนี้ผมเข้าใจแต่จะให้ทำอย่างไงละครับผมก็ปวดเหมือนกัน
“ พี...กูจะไม่ไหวแล้ว.....” เสียงของพี่เทพดูขาดๆหายๆไป จังหวะนั้นผมรีบเร่งตัวเองด้วยการแบ่งจนเส้นเลือดในสมองเกือบจะแตก
โครกกกกก
ผมกดชักโครกเป็นอันว่าธุระของผมเสร็จแล้ว
“ ไปต่อได้พี่” ผมเปิดประตูออกมาเจอพี่เทพนั่งกุมท้องของตัวเองอยู่ด้วยสีหน้าซีดเซียว
“ พยุงกูที...” ผมก้มลงไปพยุงไอ้พี่เทพให้ลุกขึ้นพาพี่มันเดินเข้าไปในห้องน้พ
“ ให้ช่วยถอดกางเกงไหม”
“ ถอดตีนกูหนิ ออกไปเลยมึง” ผมเดินหัวเราะชอบใจออกมาจากห้องน้ำได้ไม่ถึงสิบก้าว ไอ้อาการปวดท้องของผมก็กำเริบขึ้นอีกครั้ง!
ปึง!!!
“ พี่เทพพี่ผมปวดท้อง!!” ถึงคราวที่ผมต้องไปเคาะประตูห้องน้ำพี่เทพคืนเพราะตอนนี้ข้าศึกบุกประชิดประตูหลังพร้อมโจมตีก้นผมเต็มที่แล้ว
“ ถ้าพี่ไม่ออกตอนนี้ผมจะขี้หน้าห้องละนะ!!”
“ เออ!!!!”
ไอ้ฉิบหายเอ้ย!! ทำไงดีวะ ยิ่งจะออกขนก็ยิ่งลุกหนาวๆสั้นๆไปทั้งตัว รู้สึกเลยว่าครั้งนี้ผมไม่น่าจะรอดถ้าพี่เทพไม่ออกมาใน
เวลา
สาม
สอง
หนึ่ง
ปู๊ดดดดดดด
จัดชุดใหญ่ไฟกะพริบครับผม ตอนนี้ผมไม่สนใจอะไรแล้วนั่งจมกองขี้ของผมเฝ้าหน้าประตูไอ้พี่เทพไป พี่มันจะออกตอนไหนผมไม่สนเพราะผมจะนั่งขี้ตรงนี้! ที่นี่! ตลอด......ปู๊ดดดด!!!
ทั้งผมพี่กรมพี่เทพและพี่วินตอนนี้เราสี่คนมานั่งให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาลหลังจากที่อาการของผมไม่ไหว ไม่ใช่แค่ผมแต่เป็นทั้งหมดที่ไม่ไหว พี่กรมที่มีแรงเหลือเยอะสุดโทรไปหาพี่คินให้มารับพาพวกผมมาโรงพยาบาล สภาพของทุกคนตอนนี้คือนอนหน้าซีดให้น้ำเกลือเรียงเป็นแถวโดยที่มีพี่คินนั่งเฝ้าอยู่
“ หมอครับต้องให้อีกเท่าไหร่” ผมได้ยินเสียงหมอคุยกับพี่คินดังเข้ามาในโสตประสาททำให้ผมค่อยๆลุกขึ้นนั่งบนเตียงผู้ป่วย ภาพที่ผมเห็นคือพี่กรมพี่เทพพี่วินนอนเรียงเป็นแถวหน้ากระดานถัดจากผมไป
“ ปวดขี้อีกแล้วหรอ?” พี่คินเดินมาถามผมนิ่งๆ ผมได้แต่ส่ายหน้าให้พี่มันแทนคำตอบ
“ พวกมึงเล่นอะไรกันวะ”
“ ม่ายรู้ค้าบบ” เสียงที่ผมตอบคือแหบและแห้งที่สุดเท่าที่ผมจะเคยเป็น ไม่ได้เกี่ยวกับที่ผมท้องเสียแต่น่าจะเป็นตอนที่ผมตะโกนเถียงกับพี่เทพมันมากกว่า
“ ไอ้เทพหนักสุด หมอบอกอาจจะต้องนอนโรงพยาบาล”
“ สาเหตุมาจากอารายอ่าค้าบ”
“ อาหารเป็นพิษครับ”
หวับ!!
ทันทีที่หมอตอบพี่ๆที่อยู่เตียงข้างๆต่างหันหน้ามาทางผมเป็นตาเดียว ด้วยสายตาที่บ่งบอกเหมือนกันว่าถ้าหายเมื่อไหร่ผมชะตาขาดแน่ๆ
“ อาหารที่พวกคุณทานไป หมอตรวจจากอุจาระพบว่าเป็นยาถ่ายที่ใช้กับสัตว์” ยาถ่ายที่ใช้กับสัตว์? What the fuc*!! ผมสาบานผมไม่รู้เรื่อง ผมไม่ได้ผสมอะไรทั้งนั้น
“ ผี อย่าบอกนะว่ากล่องนั้น...คือกล่องอกไก่ที่มีฝาปิดสีฟ้า?” พี่กรมพยายามลุกขึ้นมาถามผมที่นั่งหน้าเอ๋ออยู่บนเตียงเช่นเดียวกับพวกพี่ๆที่เหลือ
“ เอ่อ..ครับ”
“ สัดเอ้ย!” เป็นครั้งที่สองที่ผมได้ยินพี่กรมสบถออกมาเสียงดังและหยาบที่สุด “ มันเป็นของเฉลิม กูให้กินวันละชิ้นเพื่อให้มันระบายอึออก เฉลิมชอบไม่อึ ไอ้ผี! มึงไม่ถามก่อนวะ”
“ ขอโทษค้าบ ผมไม่รู้” พี่กรมส่ายหัวทันที ผมเอาอาหารของเฉลิมมาทำให้ทุกคนกินอย่างนั้นหรอวะ? ยาถ่ายของสัตว์ตามที่หมอบอกจริงๆด้วย ฮื่ออออ น้องพีผิดไปแล้ว
“ ถ้ายังปวดท้องอยู่บอกหมอเลยนะครับ”
“ ดีที่กูไม่มา” พี่คินยิ้มออกมาเมื่อพี่มันมองสภาพพวกผมทั้งสี่คน
“ สองร้อยกูก็จ่าย ไอ้พีมึง” ผมได้ยินเสียงพี่วินที่แอบด่าผมเบาๆ แต่คนที่หนักที่สุดอย่างพี่เทพไม่พูดอะไรออกมาเพราะพี่เขาหลับไปด้วยความเพลีย
“ ไอ้พีทำเป็นเล่นถึงตายเลยนะมึง” พี่กรมยังไม่วายบ่นผมอีกรอบ
“ ผมไม่ได้ตั้งใจ จังหวะนั้นผมหิวหยิบอะไรได้ก็กินหมดอะพี่” ผมยกมือไหว้ขอโทษพี่กรมอีกครั้งด้วยความรู้สึกผิดจริงๆ ถ้าผมรู้ว่าไอ้อกไก่นั้นมันเป็นอกไก่ของเฉลิมผมก็จะไม่หยิบออกมาทำอาหารให้พี่มันกินแน่นอน
“ ช่างมัน”
ผมนอนให้น้ำเกลืออยู่อีกหลายนาทีกว่าจะหมดถุงที่หมอเตรียมเอาไว้ ตอนนี้พี่ๆทุกคนให้น้ำเกลือกันเสร็จหมดแล้วส่วนอาการพี่เทพดีขึ้นมากจนไม่ต้องนอนโรงพยาบาลเหมือนที่หมอบอก ทำให้ตอนนี้พวกเรานั่งอัดกันอยู่บนรถของพี่คินมุ่งหน้ากลับบ้านพี่กรม
“ ไอ้เทพ นอนพักบ้านกูก่อนค่อยขับกลับ” พี่กรมพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าพี่เทพฟุบหน้าหลับลงบนไหล่ของพี่วินที่นั่งอยู่ข้างๆ
“ อื้ม” ผมก็พึ่งเคยเห็นพี่เทพสิ้นฤทธิ์ก็คราวนี้แหละครับ
“ เดี๋ยวกูทำที่เหลือต่อเอง” พี่คินที่ไม่เป็นอะไรอยู่คนเดียวพูดขึ้นขณะที่สองมือของเขาขับรถอยู่
“ ผมช่วยด้วย” ด้วยความที่ผมรู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผมยื่นมือเข้าไปช่วยพี่คิน เพราะจากที่ผมคาดเดาสถานการณ์จากตัวเองแล้วนั้น ผมว่าผมไหว! ผมจะเป็นกำลังสำคัญในการไถ่บาปครั้งนี้
เมื่อมาถึงบ้านของพี่กรมเป็นที่เรียบร้อย พี่วินพี่เทพพากันขึ้นไปนอนด้านบนห้องที่พี่กรมเตรียมไว้ให้ ส่วนผมพี่กรมพี่คินลงมือคิดนโยบายขึ้นมา โดยใช้ประเด็นการศึกษาที่ผมเสนอมาเป็นนโยบายหลักจากนโยบายพวกผมคิดไปคิดมาจนจะกลายเป็นการปฏิรูปทั้งระบบใหม่ โดยอิงจากการเปรียบเทียบในประเทศฟินแลนด์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีติดอันดับการศึกษาดีที่สุดในโลก
“ แต่ประเทศฟินแลนด์ที่ผมศึกษามานะพี่ตอนแรกการศึกษาก็ต่ำกว่ามาตรฐานมากๆ แต่ผู้นำเขากล้าที่จะเสี่ยงกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง” หลังจากที่ผมนั่งดูภาพยนตร์สาระคดีเรื่อง Where to Invade Next? ที่พี่กรมเปิดให้ผมดู อันนี้ผมแนะนำเลยนะครับ ถ้าใครอยากลองเปิดมุมมองใหม่ดูประเทศที่เขามีการพัฒนาผมว่ามันน่าจะดีมากๆสำหรับการเอามาอะแดปใช้กับประเทศของเรา
“ เราจะจับจุดตรงไหน?” พี่คินถามผมที่กำลังนั่งเขียนโครงร่างอยู่
“ ถ้าผมจะเริ่มที่การรับบรรจุข้าราชการครูให้เข้มขึ้นกว่าเดิมเพื่อลดปัญหาการที่เรารับครูที่ไม่มีคุณภาพเข้ามาสอนนักเรียน”
“ คิดว่าจะทำได้ไหม?” พี่กรมถามผมด้วยสายตาจริงจัง ตอนนี้พี่กรมตื่นขึ้นมาหลังจากที่พี่มันได้นอนพักอยู่สักพัก ทำให้ตอนนี้มีผมพี่คินและพี่กรมที่ยังสามารถทำงานไหวอยู่
“ ครับพี่ ผมทำได้”
“ แต่กูว่านะเราแก้ที่เรื่องรับบรรจุมันยากไป มันน่าจะกระทบแล้วน่าจะไม่ยอมถ้าเรามองจากหลักความเป็นจริง มันต้องเริ่มจากอะไรที่เบาๆก่อนอย่าพึ่งวู่วาม หาอะไรที่มันสามารถเปลี่ยนแปลงเล็กๆก่อน ดูเหมือนอย่างรัชกาลที่ 5 ดิกว่าที่ท่านจะปฎิรูปได้ใช้เวลากี่สิบปีต้องรื้อระบบใหม่จากอำนาจที่ขุนนางยึดถือมาเนินนานมาเป็นการรวมศูนย์อำนาจที่อยู่ส่วนกลาง” ผมนั่งฟังที่กรมอธิบาย ก็จริงถ้าผมเริ่มที่ครูก่อนมันน่าจะเกิดเป็นข้อขัดแย้งแน่ๆ ยิ่งข้าราชการครูเป็นข้าราชการอัตราส่วนเมื่อเทียบกับสายงานอื่นก็ถือว่าเป็นอันดับที่เยอะมาก ดังนั้นอย่าพึ่งเล่นประเด็นนี้เอาเป็นเรื่องเบาๆก่อนแล้วกัน
“ ครับพี่ครับ” ผมจดข้อเสนอของพี่มันลงในกระดาษว่าผมควรหาข้อมูลหรือหาทางออกอะไรเพิ่มอีก
“ งั้นร่างมาให้ดูก่อนนะ เดี๋ยวกูคิดกับไอ้คินอีกนโยบายเพื่อเอาไว้ฉุกเฉิน” หลังจากที่พี่กรมแบ่งหน้าที่ให้ผม ผมแยกตัวออกมาทำคนเดียวทั้งหาข้อมูล ทั้งร่างแผนต่างๆ มันยากนะครับเพราะผมไม่มีประสบการณ์และความรู้ด้านนี้เลย ถ้าผมติดหรือขัดอะไรผมจะเดินไปถามพี่กรมให้ช่วยอธิบาย ส่วนไหนที่มันยังไม่เข้าที่พี่กรมก็จะเกลาให้ใหม่และให้ผมใส่ไอเดียของตัวเอง พี่กรมไม่ได้บรีฟงานจนผมอึดอัด แต่เขาให้อิสระแก่ผมในการคิดทุกอย่าง นั้นคือสาเหตุที่ทำให้ผมตั้งใจกับงานชิ้นนี้เอามากๆ ผมจะพยายามสะท้อนถึงปัญหาและแนวทางในการแก้ไขออกมาให้มากที่สุดเท่าที้เด็กคนหนึ่งจะทำได้ จนเวลาผ่านไปในช่วงค่ำของคืนนี้
“ อ่ะ กินก่อน” พี่กรมยกขนมมาวางให้ผมตรงหน้าในคืนที่สองที่ผมจะต้องนอนบ้านพี่กรม พรุ่งนี้เหลืออีกหนึ่งวันสำหรับการร่างโครงการนโยบาย
“ ขอบคุณครับพี่” พี่กรมนั่งลงที่พื้นข้างๆผม พร้อมกับเอื้อมมือมาหยิบกระดาษที่ผมร่างเอาไว้ขึ้นมาดู
“ ตรงนี้กูว่าแก้ดีไหม เปลี่ยนจากการให้งบอุดหนุนในจำนวนที่เยอะเป็นลดลงมาครึ่งหนึ่งและให้จัดเป็นโครงการย่อยคือต่อยอดนักเรียนที่มีผลการเรียนดี ดีกว่าไหม? ให้เป็นโควตาในทุกระดับชั้นตามจำนวนขนาดของโรงเรียน เช่น ถ้าโรงเรียนขนาดเล็กให้โควต้าสำหรับทุนเรียนจนจบมหาวิทยาลัยหนึ่งคนต่อหนึ่งระดับชั้น เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนรู้สึกแอคทีฟมากกว่าการที่เราแจกเงิน มันทำให้เด็กไม่รู้คุณค่าของเงินที่ได้มา” ยังไม่ทันที่ผมจะหยิบคุกกี้ขึ้นมากินพี่กรมก็จัดคอมเม้นต์ชุดใหญ่จนผมต้องละจากขนมมาหยิบดินสอเพื่อจดในสิ่งที่พี่กรมแนะนำมา “ เน้นการแข่งขันให้ดูกดดันและเข้มข้นเผื่อว่าเด็กจะเห็นคุณค่าว่าทุกสิ่งไม่ได้ให้มาฟรี บ้านเราอยู่กับของฟรีมากไปมันก็ทำให้คนทำอะไรไม่เป็นเลย เห็นอย่างนโยบายแจกเงินให้กับชาวบ้านที่มีรายได้น้อยไหม มึงคิดว่าอย่างไง”
“ ก็....ไม่ได้ทำอะไรให้มันดีขึ้นเลยครับ ผมว่านะมันค่อนข้างที่ดูจะใช้เงินแก้ปัญหาแล้วอีกอย่างเงินพวกนี้มันก็ไปกระจุกตัวอยู่ที่ผู้ประกอบการ”
“ คุ้นๆไหม เขาเรียกว่าอะไร”
“ ประชานิยม...ใช่ไหมพี่” พี่กรมไม่ได้ตอบอะไรออกมาเพียงแค่ส่งยิ้มมาให้ผมเท่านั้น “ เลิกพูดเนอะพี่เดี๋ยวจะเกินเลยไปมากกว่านี้”
“ มึงทำงานไป ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจก็ถามนะ” พี่กรมวางกระดาษที่ผมร่างลงบนโต๊ะ ทำให้ผมเปลี่ยนโหมดมาโฟกัสที่เรื่องที่ผมจะทำอยู่ตอนนี้
“ โอเคเลยพี่ ผมเคยเห็นโครงการนี้อยู่นะ แต่บางโรงเรียนไม่มี บางโรงเรียนมี ผมว่าเราควรจะจริงจังไปเลย มีแบบแผนส่งไปที่โรงเรียนต่างๆออกเป็นกฎกระทรวงเลยก็ยิ่งดี”
“ ความคิดยิ่งใหญ่แต่ทำไม่ได้ก็ตกม้าตายนะครับ อย่าลืมว่าอยู่กับหลักความเป็นจริง” พี่กรมรีบพูดดักขึ้นมาก่อน วันนี้ผมยังไม่ได้เกรียนใส่ใครเลย เหงาปากโคตร!
“ แล้วที่ร่างคร่าวๆผมขาดอะไรบ้างครับ” ผมยื่นกระดาษอีกแผ่นให้พี่กรมดู
“ เกือบทุกอย่าง”
ไอ้ฉิบหาย! ผมร้องอุทานขึ้นมาในใจเมื่อพี่กรมมันบอกผมแบบนั้น ที่ผมทำมาทั้งหมดมันคืออะไร!!!
“ แล้วมันมีอันที่ผมใช้ได้ไหมพี่?” ถามอย่างมีความหวังสุดๆ
“ ก็มี Fact ที่ใช้ได้อยู่ การบ้านคือไปคิดชื่อนโยบาย วัตถุประสงค์ ข้อสมมติฐานพื้นฐาน และก็วิธีการมา หลักๆก็มีเท่านี้” ผมก้มมองในเศษกระดาษเพื่อหาดูว่าสิ่งที่พี่กรมพูดมามันมีอยู่ในนั้นไหม ปรากฏว่าไม่มีครับ ไม่มีอะไรเลย
“ ผมเหนื่อยแล้วววว” ผมเหยียดตัวลงบนโต๊ะเมื่อเห็นว่างานที่ตั้งใจทำมันยังไม่ไปไหนแม้แต่ครึ่งเดียว ท้อครับยอมรับเลย
“ สู้ดิ เดี๋ยวก็เสร็จ” พี่กรมมันเอามือมาวางไว้บนศีรษะของผมพร้อมกับลูบเบาๆเหมือนว่าพี่มันต้องการจะให้กำลังใจ “ เชื่อว่าน้องผีทำได้” ผมเงยหน้าขึ้นมามองหน้าพี่กรมที่พูดออกมาแบบนั้น
“ พี่ครับ ผมยังไม่เชื่อตัวเองเลยนะพี่”
“ แต่กูเชื่อในตัวมึงนะ”
“ พี่....” ไม่รู้ซิครับ ผมดีใจที่มีคนมาพูดว่าเชื่อใจผม ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีใครสักคนเลยที่พูดว่าเชื่อใจในตัวของผม พวกเขามองว่าผมเป็นแค่เด็กเกรียนๆๆไม่เอาไหนสักอย่าง แม้กระทั่งแม่ของผม....
‘ พี แม่ว่าลูกเรียนที่มหาวิยาลัยใกล้บ้านเถอะ’ ผมยังจำได้ดีในวันที่ผมสอบติดมหาวิทยาลัยใกล้บ้านได้ในรอบโควต้า ตอนนั้นผมดีใจที่ผมสอบได้ แต่มันก็ไม่ใช่เป้าหมายที่ผมต้องการ
‘ ผมไม่อยากเรียนที่นั้น ผมอยากเรียนที่...... แม่อย่าห้ามผมเลย’
‘ ถ้าพีสอบไม่ติดละ....’ เพราะวันที่รายงานตัวเป็นวันเดียวกับวันที่ผมต้องมาสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ผมต้องการ
มหาวิทยาลัยที่ชื่อว่าเข้ายาก มหาลัยที่เป็นอันดับต้นๆของสายที่ผมอยากจะเรียน ผมรู้ตัวเองว่าผมไม่เก่ง ผมรู้ตัวเองว่าผมทำอะไรได้มีดีสักอย่าง แต่เรื่องนี้ผมตั้งใจ ผมอดหลับอดนอนอ่านหนังสือรัฐศาสตร์ ผมอดหลับอดนอนหาความรู้เพิ่มเติมใหม่ๆ ผมเปิดมุมมองด้วยการเอาตัวเองเข้ามาอยู่ท่ามกลางข่าวบ้านเมืองทั้งในและต่างประเทศ ผมทิ้งเวลาส่วนตัวทั้งหมดทุ่มเทไปกับมันทุกอย่าง ความพยายามที่ผมทุ่มไปผมขอใช้แม้ว่าผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไรก็ตาม...
‘ ผมจะลอง’
‘ พี แต่แม่ว่าเอาที่นี่เถอะนะ แม่ว่าอย่างไงลูกก็ไม่ติด’ คำพูดที่หลุดปากของแม่มันเหมือนเป็นคำสบประมาทที่ทำให้ผมผลักดันตัวเองมากกว่าเดิม ไม่มีแม้แต่การให้กำลังใจ สายตา คำพูดที่ดูถูก มันทำให้ผมสู้ สู้จนผมทำตามความฝันของผมสำเร็จในวันที่ประกาศว่าผมมีชื่ออยู่บนหน้าเว็บ วันนั้นทำให้ผมได้พิสูจน์ตัวเองว่าทำผมตั้งใจ ไม่มีอะไรที่ผมจะทำได้
“ พี...”
“ .....”
“ พี! ร้องไห้ทำไม”
“ ห้ะ..” ผมได้สติก็ตอนที่พี่กรมมันกุมหน้าของผมเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง ผมเตะที่ใบหน้าของตัวเองที่ตอนนี้เต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่ผมเองก็ไม่รู้ตัวเหมือนกัน
“ ถ้าไม่ไหวก็พักก่อน อย่าฝืน” ผมพยักหน้าให้พี่กรมที่ตอนนี้เขาค่อยๆใช้นิ้วเกลี่ยที่น้ำตาของผมเบาๆ “ ร้องไห้ทำไม หื้มม”
“ แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยครับ” ผมค่อยๆเอาหน้าออกมาจากมือของพี่กรมพร้อมกับยกแขนเสื้อมาปาดเช็ดน้ำตาบ้านี่ลวกๆ อารมณ์ดราม่ากูมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน! แค่คิดถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากนั้นมันก็ไหลออกมาทุกทีเลยแหละครับ
“ ไอ้เด็กผีเอ้ย เช็ดแบบนั้นมันก็เจ็บดิวะ!” พี่กรมมันปัดมือของผมออกกก่อนที่จะยื่นมือของเขามาเช็ดให้แทนจนผมสะบัดและพลักตัวเองให้ออกห่างจากพี่กรม
“ พี่ผมอะไม่เจ็บหรอกครับ ผมอ่ะเข้มแข็งพอ”
“ โถ่ ไอ้ลูกหมา เมื่อกี้มึงยังร้องไห้อยู่เลย” ไอ้พี่กรมมันส่ายหน้าให้ผมทันที
“ อารมณ์มันดราม่าก็งี้แหละพี่” ผมเฉไฉมาหยิบกระดาษที่ร่างเอาไว้ อย่างไงผมก็ต้องทำให้เสร็จครับ เหลือเวลาอีกหนึ่งวันผมต้องสู้ พี่กรมมันเป็นใครไม่รู้ยังมาเชื่อใจผม แล้วผมจะไม่เชื่อใจตัวเองได้ไงว่าผมทำไม่ได้ ผมต้องทำได้เท่านั้น นั่นคือคำตอบของผม!!!
“ ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยลุยต่อ”
“ พี่ไปนอนเถอะครับ เดี๋ยวผมตามไปขอแก้ตรงนี้ก่อน”
“ เออ อย่าดึกมากก็แล้วกัน” พี่กรมลุกออกจากที่ผมกลับไปนั่งที่เดิมของเขา จนกระทั่งเวลาผ่านไปผมคิดวัตถุประสงค์ของนโยบายได้แล้ว ผมเลยตัดสินใจพอแค่นี้ก่อนพรุ่งนี้ผมค่อยกลับมาลุยใหม่ ถ้าผมโหมทำถึงเช้าผมว่ามันจะให้งานออกมาไม่มีประสิทธิภาพ สุดท้ายผมก็ต้องมาแก้ใหม่อีกอยู่ดี เอาเป็นว่าผมขอไปพักก่อนก็แล้วกัน เจอกันพรุ่งนี้เช้านะครับ
PS. ไอ้น้องแสบอีกแล้ววววววววววววว ฉันชอบพี่กรมสอนมาก อบอุ่นสุดดด
PS. ส่วนใครที่ส่งสัยในเรื่องรัฐศาสตร์ถามได้น้า ถ้าตอบได้เดี๋ยวไรท์มาตอบจ้าาาา
#เม้นต์ให้น้องด้วยน้าาาาา พลีสสสสสสสสส