บทที่ 19.2
ขอรักสักครั้งจะได้ไหม
Jaokom’s talk
“ ผมรักลูกชายคุณพ่อครับ”
“ ......”
“ ......”
“ .....”
หลังจากที่ผมฝ่าฝันทุกอย่างมาได้ก็ถึงคราวที่ผมจะสารภาพและยอมรับความรู้สึกกับพ่อของไอ้พีตรงๆ ถึงแม้ว่าผมจะเดินดุ่มๆเข้ามาและถามว่าใครเป็นพ่อของไอ้พี ก็มีผู้ชายค่อนข้างสูงวัยยกมือขึ้น ผมไม่รอช้าเดินไปหาพ่อของพีและพูดออกมา
“ เอ่อ..อย่างไงนะครับ” ท่านถามผมอีกรอบ ก่อนที่ท่านจะเดินพาผมแยกออกมาจากตัวบ้านที่ตอนนี้เต็มไปด้วยผู้คนที่ผมขาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนบ้าน
“ ผมขอโทษครับที่ผมพูดออกไปโต่งๆแบบนั้น โดยที่ไม่ได้แนะนำอะไรกับท่านเลย ผมกรมรินทร์นะครับเป็นรุ่นพี่ที่คณะของพี ผมมีความรู้สึกดีๆกับลูกชายของท่าน ผมอยากทำให้มันถูกต้อง ขอโทษที่ผมมาบอกท่านอย่างกระทันแบบนี้ แต่ผมไม่สามารถปล่อยให้เวลามันผ่านไปนานแล้วครับ” เมื่อได้โอกาสผมก็จัดการพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา สีหน้าของพ่อพีดูอึ้งๆไปเล็กน้อย แต่พยายามปรับสีหน้าให้ดูปกติที่สุด
“ พี นี่ปฐพีใช่ไหมครับ” ท่านถามย้ำอีกรอบเหมือนไม่อยากจะเชื่อ
“ ครับ ปฐพี”
ผั๊วะ!!!
ตุบ
“ โอ๊ย” อยู่ๆพ่อของไอ้พีก็ปล่อยหมัดใส่หน้าผมเข้าเต็มๆจนผมเองที่ไม่ทันได้ตั้งหลักและรู้ล่วงหน้าว่าพ่อมันจะต่อยผมแบบนี้ ทำให้ผมล้มไปกองอยู่กับพื้นทันที
“ โอะ! ผมไม่ได้ฝันไป”
อย่าบอกนะครับว่านี่คือการทดสอบว่าตัวเองไม่ได้ฝันไปของพ่อไอ้พี! พ่อลูกทำไมเหมือนกันอย่างนี้หวะ เมื่อท่านรู้ตัวว่าไม่ได้ฝัน ทำให้ท่านก้มลงมาพยุงผมให้ค่อยๆลุกขึ้นนั่งและหาน้ำหาท่าให้ผมกิน ส่วนไอ้ที่บวมๆบนหน้าผมก็ทำเป็นไม่สนใจหรือรู้สึกว่าท่านเป็นคนทำ ถ้าไม่ใช่พ่อไอ้พีนะครับมีดวนกันสักตั้งแน่นอน เย็นไว้กรมมึงจะมาขอลูกเขาก็ต้องทำตัวเป็นมิตรหน่อย
“ อ่า มันเป็นมาอย่างไงไอ้หนุ่ม” เมื่อปล่อยให้เวลาผ่านไปได้สักพักพ่อท่านก็เอ่ยถามผมขึ้น
“ ขอโทษที่ไม่ได้ติดต่อมาล่วงหน้านะครับ พอดีผมรีบไปหน่อย อีกอย่างผมกลัวว่าถ้าพ่อผมเปลี่ยนใจ แล้วมันจะไม่ทัน” เพราะเรื่องนี้ผมคุยกับพ่อเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากที่ผมพยายามพิสูจน์ตัวเองตามที่พ่อจัดหามาให้ ทั้งการห้ามติดต่อกับไอ้พีเพื่อดูว่าผมจะเปลี่ยนใจไหม ปล่อยข่าวลือ หรือแม้กระทั่งพาไปเจอกับคู่หมั้นไม่เป็นทางการอย่างมัท และผมเองก็พึ่งมารู้ว่าไอ้เรื่องคู่หมั้นพ่อก็เป็นคนกุเรื่องขึ้นมา ทั้งๆที่ฝ่ายของมัทไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย พ่อผมแม่งโคตรร้าย
“ แล้วพ่อเอ็งไปใคร ทำงานอะไร”
“ พ่อผมอัศวินครับ เป็นนักการเมือง”
“ อ่อ อย่าบอกนะว่าคุณอัศวิน?! ที่คราวนั้นไอ้พีโดนต่อยนี่ใช่เรื่องเดียวกันไหม” เมื่อผมพูดชื่อพ่อและอาชีพของพ่อผมออกไป พ่อของไอ้พีก็มีทีท่าตกใจขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเจนจากน้ำเสียงและท่าทาง
“ อ่า ครับ เรื่องเดียวกัน”
หมับ!
อยู่ๆเหตุการณ์ที่ผมไม่ทันได้คาดฝันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่ออยู่ๆพ่อของไอ้พีดึงผมเข้ามากอดแน่นอยู่นาน ส่วนผมก็ทำอะไรไม่ได้เลยปล่อยให้พ่อของไอ้พีกอดไปอย่างนั้นจนกว่าจะพอใจ
“ น้ำตาจะไหล” พ่อของพีผลักผมออกก่อนจะยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาตัวเองที่ปริมๆออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง เหมือนว่าท่านตื้นตันอะไรบางอย่าง
“ ลุงปลื้มพ่อเรามานานมาก เคยคิดว่าอยากมีลูกสาวจะได้ไปอ่อยลูกของท่านอัศวิน อยากเป็นทองแผ่นเดียวกัน ไม่คิดว่า ฮื่ออออ ไอ้พีจะสานฝันให้ลุง” ภาพตอนนี้ของผมคืนนั่นอ้าปากค้างไปกับท่าทางของพ่อไอ้พี “ ขอกอดอีกทีนะพ่อหนุ่ม” และแล้วท่านก็กอดผมอีกครั้งจนได้
“ อนุญาตใช่ไหมครับ?”
“ เอาไปเลยครับ เอาไปเลย สินสอดทองหมั่นอะไรไม่ต้อง จะแต่งหรือไม่แต่งไม่ว่าขอแค่พาลุงไปพบพ่อของพ่อหนุ่มหน่อยนะลูก ลุงปลื้ม” จากท่าทางผมก็คิดได้ว่าน่าจะปลื้มพ่อผมมากๆ “ เรียกว่าพ่อก็ได้ลูก ไหนๆก็จะเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้ว ไหนลองเรียกพ่อซิ”
“ พ่อ?”
“ น้ำตาไหลรอบสอง!!” แล้วความวุ่นวายก็มาเยือนผมอีกรอบ ผมไม่แปลกใจเลยว่าไอ้พีมีนิสัยแบบนี้มาจากใคร เขาเรียกว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ อันนี้ผมยืนยัน
“ ใครอะพ่อ” เสียงของผู้หญิงวัยกลางคนที่เดินมาพร้อมกับตระกร้าใส่ของมองผมกับพ่อของพีด้วยสายตางงงวยและไม่เข้าใจสถานการณ์ว่าทำไมสามีของเธอถึงกับต้องร้องไห้ออกมาในขณะที่มือทั้งสองข้างจับมือของผมเอาไว้ “มันมาทวงหนี้หรอพ่อ?”
“ ไม่ใช่แม่” พ่อรีบยกมือปฏิเสธ “ นี่ลูกเขย” และชี้มาทางผม ส่วนแม่ของไอ้พีก็หันมามองผมอย่างไม่เข้าใจเหมือนกัน
“ ลูกเขย? เราไม่มีลูกสาวนะพ่อ”
“ ก็นั่นแหละ ผัวไอ้พีมัน”
“ ห้ะ??!! จะเป็นลม”
“ แม่ครับ” ผมรับลุกขึ้นไปประคองแม่ของไอ้พีและพยุงเธอมานั่งที่เก้าอี้ไม้ข้างๆพ่อที่นั่งยิ้มอยู่คนเดียว โดยไม่ได้อธิบายอะไรให้ภรรยาของเขาฟัง และหน้าที่นั้นก็ต้องตกเป็นของผม
“ คือ ผมขอโทษอีกครั้งนะครับ พอดีว่าผมชอบลูกชายของคุณแม่เลยอยากมาขออนุญาตให้ผ้ใหญ่รับรู้” เอาจริงๆนะครับผมก็เขินๆแหละที่ต้องมาพูดอะไรแบบนี้
“ มันจะเป็นไปได้อย่างไง” เหมือนว่าสติของแม่หลุดออกไปแล้ว โดยที่เธอได้สนใจในสิ่งที่ผมพูดเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งผมเริ่มต้นอธิบายใหม่
“ คือ...ผมชอบพีครับ ชอบแบบคนรักเลยอยากจะมาขออนุญาต...”
“ เข้าใจๆ แต่ถามหน่อยนะลูก ไอ้พีมันมีดีอะไรขนาดที่ทำให้คนหล่อๆมีชาติตระกูลมาชอบมันได้” พีมีดีอะไรหรอครับ ผมขอคิดดูก่อน แต่เท่าที่ผมพยายามคิดแล้วนั้น
“ ไม่มีครับ”
“ อื้ม แม่พอจะเข้าใจ” ท่านเองก็พยักหน้าเห็นด้วยกับผม... ไอ้พี กูขอโทษ
“ แล้วตกลงผมกับพีจะคบกันได้ไหมครับ?”
“ ตามใจเลย แม่ไม่ห้าม ดูจากพ่อน่าจะอาการหนัก” เธอเหล่มองไปทางสามีของตัวเองที่นั่งเพ้ออยู่ข้างๆ เหมือนว่าพ่อท่าจะจินตนาการอะไรบางอย่าง เพราะเห็นมือยื่นออกมาจับอากาศเหมือนว่ากำลังน่าจะซ้อมจับมือพ่อของผมอยู่แน่ๆ
“ แล้วพีอยู่ไหนหรอครับ?” เมื่อเห็นว่าทางผู้ใหญ่เปิดทางให้ผมหมดแล้ว ผมก็ถามหาไอ้ตัวการที่มันบังอาจมาขโมยหัวใจของผมไป
“ อ่อ มันไม่กลับบ้าน มันบอกว่ากลับไม่กี่วันขี้เกียจนั่งรถ”
“ ห้ะ???” ผมแทบจะไม่อยากเชื่อรูหูตัวเองเมื่อได้ยินในสิ่งที่แม่พูด ไอ้พีไม่ได้กลับบ้าน? แล้วไอ้ฉากที่ผมจะขอมันเป็นแฟนที่กลางทุ่งนามีบรรยากาศสวยๆแบบธรรมชาติ มีควายเป็นสักขีพยานนี่...พังหมดแล้วครับ พังไปต่อนหน้าต่อตา..เมื่อรู้ว่าไอ้พีมันยังคงอยู่กรุงเทพฯ
ติ๊ดดดด
และเป็นจังหวะเดียวกับโทรศัพท์ที่ผมชาร์ตอยู่แถวนั้นดังขึ้นและปรากฏเบอร์ของตัวต้นเหตุ
( พี่!!!!!!!! ไปทำไมบ้านผมมมม) ทันทีที่กดรับสายไอ้พีก็โวยวายออกมาเสียงดังลั่น จนผมต้องรีบเอาโทรศัพท์ออกจากหูทันที
“ .....”
( พี่กรมมม ฮื่ออออออ)
“ ไอ้พี ทำไมไม่กลับบ้าน?”
( ผมไม่รู้ พี่ ผมอยู่บ้านพี่)
“ ไปทำอะไรบ้านกู?” ผมถามออกมาอย่างไม่เข้าใจว่ามันไปทำอะไรบ้านผม อย่าบอกนะว่าไอ้พีมันจะไปหาพ่อผมเหมือนที่ผมมาหาพ่อมันวันนี้
( ก็ไปขอพี่คบกับพ่อพี่อีกรอบ) ว่าแล้ว! ทำไมซื้อหวยไม่ถูกแบบนี้หวะ
“ รออยู่นั่นแหละ เดี๋ยวไปหา” จะรอช้าอยู่ทำไมหละครับ ก็ในเมื่อมันอยู่นั้นผมก็เลือกที่จะไปหามันเองดีกว่า ผมไม่อยากให้มันเดินทางมาเดี๋ยวอันตรายเปล่าๆ
( พี่จะมากี่โมง)
“ น่าจะ” ผมก้มมองนาฬิกาตัวเองไม่นานก่อนจะตอบมันไป “ เกือบๆเช้า นอนที่ห้องกูก็ได้ เดี๋ยวโทรบอกพ่อให้”
( อย่างนั้นก็ได้ครับพี่ รีบมานะ คิดถึง) ถึงแม้ว่ามันจะเป็นคำพูดที่ดูง่ายๆไม่มีอะไรมาก แต่อยากจะบอกเลยว่าคำพูดแบบนั้นมันทำให้ผมยิ้มออกมาได้ ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนหรือไกลเท่าไหร่ ผมก็จะเดินทางไปหามัน รอก่อนนะครับไอ้น้องผี...ของผม
“ ขออนุญาตลากลับก่อนนะครับ” เมื่อวางสายจากไอ้พีผมก็รีบขอตัวลาท่านทั้งสอง ไว้ผมจะมาหาท่านอีกรอบพร้อมไอ้พี แต่ครั้งนี้ผมต้องรีบกลับไปจัดการไอ้เด็กผีที่บังอาจทำให้ผมคิดว่ามันกลับบ้าน เอาจริงๆผมก็ผิดเองด้วยแหละครับที่มาโดยไม่ยอมบอก ก็ผมกะว่าจะเซอร์ไพร์สเป็นไงหละครับเจอเซอร์ไพร์สกลับสมใจ แต่ถือว่าคุ้มครับในการมาครั้งนี้ พ่อกับแม่ของพีก็ดูเป็นมิตร ตอนแรกผมคิดว่าจะโดนมากกว่านี้แต่ก็ถือว่าเป็นวันที่ดีสำหรับผมวันหนึ่งเหมือนกัน
03.00 น.
เจ้ากรมเดินทางกลับมาถึงบ้านในช่วงเวลาใกล้รุ่งของอีกวัน ตลอดทั้งทางเขาไม่รู้สึกเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย แต่เขากลับรู้สึกสุขใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ความรู้สึกที่บ่มเพาะมาเป็นเวลาอย่างยาวนาน มาวันนี้เขาทำให้ทุกอย่างมันถูกต้องแล้ว แบบนี้ใช่ไหมที่เขาเรียกว่าความรัก...
เจ้ากรมเดินเข้ามาในห้องที่ตอนนี้ตกอยู่ในความมืดและสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิเย็นๆของแอร์ บ่งบอกว่ามีคนนอนอยู่ในห้องเขา จะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ไอ้เด็กผี เจ้ากรมเดินเข้ามานั่งที่ข้างๆเตียงก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบที่หน้าผากของพีเบาๆให้หายคิดถึง ส่วนคนที่ถูกจูบก็ไม่รู้เรื่องอะไรปล่อยให้เจ้ากรมจูบแล้วจูบอีก จนกระทั่งเจ้ากรมตัดสินใจเดินเข้าไปอาบน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายของตน ก่อนจะออกมาด้วยชุดนอนสบายๆ
ตุบ
เจ้ากรมก้มลงนอนนาบข้างๆพี ก่อนจะดึงตัวของพีเข้ามากอดและซุกหน้าลงบนซอกคอขาวๆของพีด้วยความรู้สึกสุขใจและสบายใจ เมื่อครั้งนี้เขาสามารถที่จะกอดพีได้โดยที่ไม่ต้องกังวลถึงเรื่องต่างๆ เพราะเขาได้เคลียร์ทุกอย่างสำหรับรักครั้งนี้ วันแรกที่เจอเขายังจำได้ติดตาว่าไอ้เด็กแสบที่นอนอยู่มันทำให้เขาลืมไม่ลงกับความอยากรู้อยากเห็นของมัน ถ้าถามว่าเขาชอบพีตรงไหน เขาก็คงตอบได้ว่าเขาชอบความแสบของพี ใครจะไปคิดว่าแค่เกรียนแตกไปวันๆมันทำให้เขาชอบได้อย่างไร เขาเองก็ตอบไม่ได้ และเสน่ห์อย่างหนึ่งที่เขาไม่เคยบอกใครเลยนั่นก็คือความตั้งใจของพี ที่พยายามทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ถนัดและเคยเรียนรู้มาก่อน ถึงแม้ว่ากว่าจะทำก็ลีลาอยู่พอสมควร แต่ปลายทางที่สุดแล้วพีก็ทำมันออกมาได้ดี และสิ่งนั้นแหละมั้งคือสิ่งที่เขาชอบอีกอย่าง ถ้าจะให้บรรยายวันนี้ก็น่าจะไม่หมด ถึงแม้ว่าเขาจะบอกว่าไม่รู้ว่าสิ่งไหนในตัวพีที่เขาชอบ แต่เขาพอจะรู้แล้วว่าทุกสิ่งทุกอย่างในตัวของพีที่ทำให้เขาชอบ และหลงมันมากขนาดนี้ รอยยิ้มบางๆของเจ้ากรมปรากฎขึ้นบนใบหน้าอย่างไม่รู้ตัว เวลาที่เขาคิดถึงพีทีไรเขาก็จะยิ้มออกมาแบบนี้ทั้งๆที่เขาไม่อยากที่จะยิ้มมันคงเรียกว่ายิ้มจากภายในสาภายนอกหละมั้ง
“ พีพี่รักพีนะครับ” เจ้ากรมไม่รู้ว่าการที่เขากระซิบที่ข้างๆหูของคนในอ้อมกอดจะได้ยินหรือรับรู้หรือไม่ แต่เขาเพียงแค่ต้องการที่อยากจะบอกให้รู้ เพราะความรู้สึกรักมันอัดแน่นเข้ามาในหัวใจของเขาจนต้องพูดมันออกมาอย่างไม่สามารถที่จะเก็บไว้ได้อีกต่อ
“ ขอบคุณที่เข้ามาเติมเต็มนะ” เจ้ากรมกระชับอ้อมแขนและดึงตัวของพีให้เข้ามากอดมายิ่งขึ้น
“ พี่ครับ” และแล้วเจ้ากรมก็ต้องตกใจเมื่ออยู่ๆพีพลิกตัวหันหน้าเข้ามาหาเจ้ากรมที่นอนตะแคงอยู่ที่เดิม ถึงแม้ว่าจะมือแต่รอยยิ้มของพีมันก็เด่นชัดอยู่เหมือนกันจนเขาเองก็เผลอยิ้มตามคนตรงหน้าออกมา
“ แกล้งหลับ?”
“ ก็พี่เสียงดัง ผมก็ตื่นดิพี่”
“ หึ ตื่นนานยัง” เจ้ากรมถามหยั่งเชิงเพื่อรอดูว่าคนตรงหน้าจะตอบว่าอะไร
“ นานพอที่จะได้ยินคำว่ารักครับ”
“ แล้ว...รักพี่ไหมครับ” เจ้ากรมพูดสวนขึ้นมาทันที ทำให้คนตรงหน้าถึงกับเงียบอย่างทำอะไรไม่ถูก จนเจ้ากรมขยับตัวเข้ามาใกล้เรื่อยๆ “ไม่รักพี่หรอครับ?”
“ พี่...” พีพูดตะกุกตะกักออกมาอย่างไม่เคยเป็น
“ ว่าไง หื้ม” เจ้ากรมเอื้อมมือมาจับใบหน้าของพีเบาๆ
“ ก็รักครับ” พีพูดออกมาเสียงเบา
“ อะไรนะ”
“ โว้ยยย พี่แม่ง ก็รู้ว่าผมเขินยังจะมาย้ำอีก” เมื่อทำอะไรไม่ได้สุดท้ายพี่ก็ต้องโวยวายกลบเกลื่อนออกมาจนเจ้ากรมหัวเราะออกมาน้อยๆ
“ โวยวายนะมึง”
“ อย่าพูดมึงดิพี่ ไม่โรแมนติกสเลย”
“ โรแมนติกไม่มีเอส”
“ จะพูด!” อารมณ์โรแมนติกในตอนแรกค่อยๆหายไปในพริบตา “ พี่กรมผมรักพี่ รักเชี่ยๆ รักฉิบหายเลย อยากโดนจะแย่ละเนี่ย”
“ .....”
“ ก็พูดซึ้งๆไม่ถนัด ก็เอาความจริงในหัวใจของผมไปก็แล้วกัน” เจ้ากรมเงียบไปในทันทีที่พีพูดออกมาแบบนั้น เพราะเขาติดใจคำหลังมากกว่า ว่าพีอยากโดน
“ ว่าจะไม่ทำแล้วนะ พึ่งกลับมาเหนื่อยๆ แต่เด็กมันพูดแบบนี้พี่ก็ต้องจัด”
“ พี่ หมายความว่าไง” พีพยายามไม่ทำเสียงให้ดูมีพิรุธแต่นั่นก็ไม่สามารถหยุดยั้งเจ้ากรมที่กำลังถอดเสื้อออกและโยนทิ้งลงบนพื้นห้องอย่างไม่ใยดี
“ เป็นแฟนกับกูนะ”
“ ห้ะ????” พี่รีบลุกขึ้นมานั่งทันทีที่เจ้ากรมพูดออกมาแบบนั้น เพราะเขาเองไม่ทันได้ตั้งตัวว่าเจ้ากรมจะขอเขาเป็นแฟนในเวลาแบบนี้
“ รีบตอบจะได้เสียตัวเลย”
“ ห้ะ?? พี่บ้าปะเนี่ยพี่กรม”
“ มีอะไรกับแฟนตัวเองไม่ผิดหนิ”
“ แต่ผม...” ไอ้พีเองก็ไม่กล้าที่จะตอบว่าเขาไม่ได้เตรียมตัวมา ถึงแม้จะพอศึกษามาบ้างว่าครั้งแรกกับผู้ชายด้วยกันมันจะเป็นอย่างไร
“ เป็นแฟนกับพี่นะครับ” เมื่อเห็นว่าพี่ยังคงไม่ตอบ เจ้ากรมจึงค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปใกล้และจับมือพีขึ้นมาแนบที่อกของเขาทันที “ นะครับ”
“ เออ! เป็นก็เป็น ไอ้ฉิบหายมาเสียตัวอะไรวันเน้” เจ้ากรมไม่รอให้สิ้นเสียง เขาก้มหน้าลงประกบจูบพีทันทีอย่างหื่นกระหาย เขาจะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม
“ เดี๋ยวพี่” พี่พยายามผลักเจ้ากรมให้ออกห่าง เพราะยังคงงงกับสถานการณ์ตรงหน้าอยู่ เพราะตอนนี้เจ้ากรมทุ่มพี่ลงบนเตียงส่วนตัวของเขาไม่รอช้าขึ้นคร่อมพีทันที “ ใจเย็นๆนะ” พีจับมือของเจ้ากรมให้ออกห่าง
“ เป็นแฟนพร้อมกับเป็นเมียก็ดีนะครับ”
“ ม่ายยยยยยยยยยย”
PS. เดินทางมาถึงตอนสุดท้ายจริงๆแล้วใจหายเหมือนกันนะ ฮื่อออออ ไรท์ไม่อยากจบเลย แต่ตอนพิเศษขออนุญาตสงวนไว้ในเล่มนะคะทุกคน ส่วนกิจกรรมต่อไปอาจจะเป็นบทสัมภาษณ์และความเกรียนของของพีต่อ อย่าพึ่งอัลฟอลหรืออัลเฟบกันนะคะ เดี๋ยวมีของมาแจก
PS. สุดท้าย อยากจะบอกอะไรไรท์หรือกับพี่กรมและน้องพีไหมเอ่ยยยย บอกกันได้เลยนะคะ
PS. ส่วนเรื่องพี่คินติดตามได้เลยนะคะ "ผมรักพี่นะครับ" สนุกไม่แพ้กันนะ
สุดท้ายขอขอบคุณทุกคนจริงๆที่มาอยู่กับไรท์จนถึงวันนี้ ไม่คิดว่าจะมีคนเอ็นดูและเกลียดอิพี่กรมขนาดนี้ ไรท์ขอขอบพระคุณจากใจจริง จริงๆนะคะ แล้วพบกันเรื่องใหม่เด้อออ