รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562  (อ่าน 39984 ครั้ง)

ออฟไลน์ ทามากิบ๊อง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-4
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ




------------------------------------------

เหตุเกิดเพราะนิสัยแปลกๆ ของ 'ขนุน'
แปลกเพราะเวลาเมา เขาจะชอบ 'อุ้ม'
เมาครั้งล่าสุดก็ไปอุ้ม 'หมา'
แต่ทว่าอุ้มครั้งนี้ ใครจะรู้ว่า เจ้าของหมาน่าอุ้มกว่ากันเยอะ


**********
คณิน : ชื่อขนุนใช่มั้ยเรา?
ขนุน : ครับ ผมชื่อขนุน
คณิน : ชื่อน่ารักดี
ขนุน : คนก็น่ารักนะครับ

**************

เรื่องนี้เป็นนิยายสาย feel good  :-[ ขอเวลาสัก 5 นาทีลองอ่านดูนะคะ

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-07-2019 20:56:51 โดย ทามากิบ๊อง »

ออฟไลน์ ทามากิบ๊อง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-4



ขนุนลูกที่ 1




   “ดีจังเลยนะ ต้ามีจ๊ะเอ๋ ทั้งสองคนดูมีความสุขกันทั้งคู่”

   “จู่ๆ ทำไมถึงเอาเรื่องนี้มาพูดอีก กูก็บอกไปตั้งหลายครั้งแล้วว่าถ้าอยากมีแฟนมึงก็ต้องจีบ จีบ จีบ จีบ ไม่ใช่มองตาแล้วความรักจะเข้ามาหามึงเองได้ สมัยนี้ใครเร็วใครได้มึงเข้าใจป่ะครับ”

   “ต้าไม่เข้าใจหรอก ว่าเรายังไม่เจอคนที่ใช่อ่ะ แม่บอกว่าถ้าเราใจเต้นกับใครถึงแม้จะไม่รู้จักกัน คนคนนั้นก็อาจเป็นคนที่ใช่สำหรับเราก็ได้ แต่ตอนนี้เรายังไม่เจอเลย เราต้องรออีกนานแค่ไหนเหรอ”

   “ถุย! ไอ้ขนุนเน่าเอ้ยยยย!”

   คนอยากมีความรักกำลังพล่ามด้วยแววตาเชื่อม พร้อมกับวางแก้วที่มีของเหลวสีน้ำตาลเข้มลงกับโต๊ะ คนรับฟังก็อยากจะตบกบาลเข้าให้ นิยามคนที่ใช่ของเพื่อนมันฟังดูน้ำเน่ายิ่งกว่าละครหลังข่าวเสียอีก

   “เพ้อให้พอ เพ้อจนจบปี 4 เลยมั้ยไอ้ขนุน มองความจริงบ้างเถอะพ่อคุณทูนหัวของบ่าว”

   “พูดแล้วก็ง่วง เราว่าจะขอกลับก่อน”คนพูดหน้ามุ่ย ก่อนยกมือมาขยี้ตาตัวเองคล้ายอยากจะล้มตัวลงนอนเต็มที จริงๆ ยังอยากอยู่ต่อ แต่คงเพราะเมื่อคืนนอนดึกด้วยเลยรู้สึกฝืนๆ

   “ให้กูไปส่ง”

   “ไม่ต้องเรากลับเองได้สบายมาก ไม่ต้องห่วงด้วย”มือเล็กโบกไปมาตรงหน้าปฏิเสธ

    แต่เพราะท่าทางแบบนั้นเพื่อนอย่างต้าที่นั่งพูดคุยด้วยถึงกับต้องถามบางอย่าง

   “ไอ้ขนุน มองมือกูแล้วบอกว่าตอนนี้กูชูกี่นิ้ว”สีหน้าจริงจังมองเพื่อนตาเขม็ง

   “ก็.....หนึ่งนิ้ว”

   “เออถูก แล้วนี่อ่ะ? ”

   “3 นิ้ว”

   “สามนิ้วน่ะมันมะเขือไอ้นิวไหม นี่มันขวดโซดาเว้ย! ”คนถามเหวี่ยงขวดสีใสที่หยิบมาทดลองสติของคนตรงหน้าไปไว้ด้านหลัง ส่ายหน้ากับการทดสอบที่ไม่ผ่านเกณฑ์ แล้วนั่งยืดไหล่ผายส่ายหน้าไปมา

   “อ้าวเหรอ มันมืดเลยมองไม่ชัด แต่ถ้าขนาดสามนิ้วใหญ่เท่าขวดโซดาคงต้องพานิวไปหาหมอแล้วนะ แหะๆ”

   “ไม่ต้องมาแหะๆ แล้วพูดนอกเรื่องเลย นี้เมาแล้วใช่ป่ะเนี่ย? ถึงว่ามึงดูเพ้อๆ ”

   “นินทาอะไร ได้ยินชื่อกูเมื่อกี้แว่วๆ ”

   “เปล่าไม่มี” คนตอบทำเสียงสูงขึ้นจมูก “กูกำลังเช็กอาการไอ้ขนุนอยู่ มันบอกจะกลับเองไม่ให้ใครไปส่ง กูก็กลัวใจไปก่อนว่ามันจะไหวไหม นี่ก็ครึ่งขวดไปแล้วมะ แม่งกินเข้มอย่างกับน้ำหวาน เห็นเงียบๆ แต่แดกเพียบสัดๆ ”คนบ่นย่นหน้านิ่วยกมือขึ้นขยี้หัวขนุน ทำเอาหัวสั่นหัวคลอนเป็นตุ๊กตาหน้ารถโดยที่เจ้าตัวไม่ได้ถือสา หากแต่ชินแล้วซะมากกว่า

   “ว่าไงไอ้ขนุน มึงไหวป่ะเนี่ย”นิวยื่นหน้ามาใกล้ตะปบมือไปที่ไหล่บางของเพื่อนรัก สูดกลิ่นแอลกอฮอล์ที่ขนุนกระดกเข้าไปวัดค่าดีกรีด้วยการคาดคะเน

   “ไหวดิ นี่ยังไม่เมาเลยกินไปไม่กี่แก้วเอง เรากลับเองได้ต้ากับนิวอยู่สนุกต่อเหอะ เมื่อคืนเผลอเล่นเกมโทรศัพท์ดึกเลยนอนไม่อิ่ม เดี๋ยวจะกลับไปนอนก่อน เพราะพรุ่งนี้ยังต้องออกไปซื้อของกันไม่ใช่เหรอ”

   เจ้าของดวงตากลมโตกะพริบตาปริบๆ ยกมือขึ้นเกาแก้มตัวเองที่เริ่มแดงเรื่อจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ ผงกหัวสองสามครั้งจนผมหน้าม้าเส้นเล็กละเอียดสีบลอนด์สว่างจากการทำสีผมด้วยแรงยุยงของต้าเพื่อเปลี่ยนบุคลิกกำลังกระเพื่อมเพราะไม่ได้จัดทรงเข้าที่

   ต้ายืนมองดูเพื่อนช่างเนียน เนียนแม้กระทั่งโกหกว่าตัวเองไม่ได้เมา จมูกเล็กๆ ขยับย่นใช้หลังมือขาวขยี้เบาๆ ก่อนจะยืนทรงตัวบนพื้นนิ่งๆ ฉีกยิ้มกว้างเห็นฟันหน้าเรียงสวยครบทุกซี่ แล้วกระชับสายกระเป๋าสะพายเฉียงเตรียมตัวกลับหอ

   “ให้กูไปส่งมึงก่อนดีกว่าแล้วกูค่อยย้อนกลับมา”

   “ต้าไม่ต้อง จ๊ะเอ๋ยังอยู่ต้าหายไปมันเสียมารยาทนะ อย่าห่วงเลยแค่นี้สบายมาก”คนที่ยืนเต็มความสูงแล้ว เต็มที่ได้แค่ระดับไหล่ของต้าที่เป็นเพื่อนร่วมหอพูดขึ้นนิ่มๆ จ๊ะเอ๋ที่พูดถึงคือแฟนของต้าที่กำลังจับกลุ่มพูดคุยอยู่กับเพื่อนผู้หญิงในร้านเหล้านั่งเล่นในคืนนี้
 
   “ไอ้ขนุนขอมือหน่อย”

   “นิวจะเอามือเราไปทำอะไร? ”ถึงจะสงสัยแต่ก็ยอมยื่นมือทั้งสองไปวางไว้บนฝ่ามือนิวอย่างว่าง่าย

   “ก็ดูว่ามึงหยิบของอะไรติดไม้ติดมือไปรึเปล่าน่ะสิ”

   “เราไม่ได้เอาอะไรไปเลยนะ ในกระเป๋าก็ไม่มี”ท่าทางจริงจังจับกระเป๋ารูปซิปเปิดให้เพื่อนดู

   “เออๆ ”

   สาเหตุที่เพื่อนต้องถามแบบนั้นไม่ใช่เพราะขนุนน้อยของพวกเขาเป็นพวกลักเล็กขโมยน้อยอะไรหรอก แต่เพราะเวลาขนุนเมามักจะชอบหยิบของแปลกๆ ติดมือไปโดยไม่รู้ตัว แต่ดูเหมือนครั้งนี้ทั้งต้าและนิวจะเช็กจนแน่ใจแล้วว่าเพื่อนของเขายังคงมีสติเกินครึ่งจึงปล่อยให้กลับหอไปก่อนได้

   มันเป็นเรื่องปกติที่สุดสัปดาห์ทั้งขนุน ต้าและนิวซึ่งเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะศิลปกรรมที่จะมาอาบแสงสีปาร์ตี้ก้งเหล้ากันที่ร้าน ‘ป๋าชุบ’ ใกล้ๆ กับมหาลัย พอสาแก่ใจกันแล้วก็พากันหิ้วกลับหอไปนอน  มีคนเคยเปรียบว่าขนุนเป็นดอกไม้บานในดงดอกงิ้ว ซึ่งเอาบุคลิกน่ารักน่าหยิกมาเทียบกับผองเพื่อนที่คบค้าอยู่ด้วย

   ถึงขนุนจะมีบุคลิกอ่อนยวบเป็นเต้าหูแต่ใจสู้คอแข็งไม่แพ้ชายฉกรรจ์ เพื่อนถึงไหนขนุนถึงนั่น ขอเพียงนอนต่อวันให้ได้ 10 ชั่วโมงก็พอ แต่ดูเหมือนวันนี้คนที่ขอตัวกลับก่อนเพราะบอกว่าง่วงเป็นขนุน ถึงจะชื่อว่าขนุนรูปร่างก็ไม่ได้อ้วนฉุจนกลิ้งแทนเดินได้

   ตรงข้ามที่ขนุนกลับมีสรีระที่สมส่วนไม่ถึงกับผอมแห้งจนเกินไป จับบีบจับกอดก็มีเนื้อหนังเต็มไม้เต็มมือ แม้ไม่ได้สูงใหญ่อย่างเพื่อนสองคนที่คบกันมาตั้งแต่ปี 1 แต่ก็ถือว่าเป็นมาตรฐานชายไทย แน่นอนนอนว่าความสูงที่ 170 ต้นๆ ดูจะไม่สมชายดังว่าหากเทียบกับนิวและต้าที่แตะ 180 อัปไปแล้ว แต่เรื่องหน้าตาขนุนก็ได้แม่มาเยอะ

   ใครบ้างจะไม่รู้จักดาราเก่าอย่างประภัสสร ที่ตอนนี้แม้จะลาจอแก้วมาเป็นแม่บ้านเต็มตัวก็ยังคงเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่มาก โดยเฉพาะในรุ่นแม่ๆ ทั้งหลาย

   ทั้งปากเล็กที่ใครๆ ก็คงจะคิดว่าแค่จะอ้าปากกัดซาลาเปาก็คงไม่ได้ แต่ขนุนก็สามารถงับไข่ต้มเข้าปากได้ทั้งลูกแถมเคี้ยวหน้าตาเฉยไม่สะทกสะท้าน ก็มีแต่จะติดคอให้เพื่อนวิ่งวุ่นหาน้ำมาล้างคอให้ ไหนจะยังดวงตากลมใสเหมือนจะดูเลื่อนลอยบ้างในบางที แต่ขอบอกว่าหากมองอ้อนใครทีไรใจเพื่อนอย่างนิวกับต้าเป็นอันต้องสยบให้ขนุนแทบทุกครั้ง เพราะแบบนี้แหละเพื่อนในคณะคิลปกรรมจึงเรียกต้าและนิวว่าเป็น 2 จตุรเทพผู้ปกปักรักษาต้นขนุน เพื่อไม่ให้ใครมาริอาจคล้องผ้าสามสีขลุกแป้งขูดหวยได้

   “เรากลับแล้วนะ ฝากบอกจ๊ะเอ๋ด้วยว่าวันหลังจะแก้ตัวใหม่”

   “กลับดีๆ ขนุน มีอะไรก็โทรมาเบอร์กู ไม่ก็ไอ้ต้าเลย”สองเพื่อนจตุรเทพโบกมือลามองส่งเจ้าของชื่อโลกจำจนสุดสายตา และแอบขมวดคิ้วสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าขนุนน้อยของพวกเขาแอบเดินเอียงไปหลายองศา

   ด้วยเหตุที่ว่าหอพักก็อยู่ไม่ไกลจากร้านเหล้าป๋าชุบ ขนุนเลยเลือกที่จะเดินทางไกลเป็นลูกเสือสำมะเลเทเมากลับไปแทน เจ้าของใบหน้าค่อนไปทางน่ารักมากกว่าจะพูดว่าหล่อเหลา กำลังเดินเลียบริมถนนไปตามเส้นทางที่คุ้นชิน อาจจะหลงซอยไปบ้างแต่ก็สามารถโผล่ออกมายังถนนเส้นหลักได้ก็นับว่าสัญญาณ GPS ในตัวยังดี

   กระทั่งเดินไปไม่ถึงไหน สายตาของขนุนที่กวาดมองทางก็สบเข้าให้กับบางอย่างที่คุดคู้งอตัวอยู่ริมฟุตบาท เสียงเท้าของขนุนที่ก้าวเข้าไปหาทำให้เจ้าสี่ขาสะดุ้งตื่นเงยหน้าไปมองมนุษย์แปลกหน้าทันที

   “มานอนทำไมตรงนี้ ไม่หนาวเหรอ”

   ขนุนจ้องมองสิ่งมีชีวิตตรงหน้าแถมยังนั่งกอดเข่าชวนคุยด้วยเป็นกิจจะลักษณะ ทั้งหัวเราะที่เห็นเจ้าสี่ขาตรงหน้าทำคิ้วขยับไปมาเอียงหัวซ้ายขวาราวกับรับฟังเขา ดูขบขันจนขนุนนั่งหัวเราะอารมณ์ดีเชียว




เช้าวันต่อมา

   ก๊อก ก๊อก!   

   “ไอ้ขนุนตื่นยังเปิดประตูดิ๊!”

   “.....”

   ดูเหมือนเสียงเรียกที่ยืนตะโกนอยู่หน้าห้องจะไม่เป็นผล นิวที่เคาะประตูหนักๆ เริ่มกดโทรศัพท์โทรหาเจ้าของห้องอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าห้าสายที่โทรเข้าไปไม่มีการกดรับ แม้คนที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องจะได้ยินเสียงเรียกเข้าที่ตัวเองโทรไปก็ตาม

   “มาแล้ว นี่กุญแจสำรองห้องไอ้ขนุน”ต้าที่เดินออกมาจากห้องตัวเองที่ห่างออกไปประมาณ 4 ห้องควงลูกกุญแจก่อนจะโยนให้นิวเป็นคนไขเข้าไป

   “นอนยันเที่ยงป่านนี้ไม่ลุกก็ตายคาห้องอ่ะ วันนี้ต้องออกไปซื้อของเตรียมค่ายอาสาอีก”เจ้าของใบหน้าคมคายเซ็ตผมมาพร้อมออกไปพบผู้คนบ่นกระปอดกระแปดเพราะความขี้เซาหรือเมาจนโงหัวไม่ขึ้นของขนุน

   บางทีบุคลิกภายนอกก็หลอกตาประชาชนอย่างที่เห็น อาทิเช่น ขนุน

   “ก็คงยังนอนอยู่อีกนั่นแหละ มึงก็รู้ว่าไอ้ขนุนนอนเยอะอย่างกับแมว”

   สองคนที่คุยกันค่อยๆ เปิดประตูเข้ามาและปิดลงตามปกติ ผ้าห่มที่คลุมโปงเป็นก้อนอยู่บนเตียงแถมยังเปิดแอร์ซะจนเย็นฉ่ำคงเดาไม่ผิดอย่างที่สองคนคิดไว้ ต้ายืนเท้าสะเอวส่ายหน้าหัวเราะคว้ารีโมทแอร์ที่วางอยู่ตรงโต๊ะอ่านหนังสือของขนุนมาปิดให้ ส่วนนิวก็เข้าไปกระตุกผ้าห่มตั้งใจเรียกเพื่อนอย่างขนุนให้ตื่นไปช่วยถือของ

   ทว่าทันใดนั้นกลับมีบางอย่างโผล่พรวดออกมาจากใต้ผ้าห่ม ทำเอานิวถึงกับผงะดีดตัวหนีจนสะดุดขาตัวเองล้มตึงก้นประแทกกับพื้นเสียงดังอย่างกับช้างล้ม

   ตึง!

   ส่วนต้าที่เห็นเหตุการณ์ก็อุทานสิงสาราสัตว์ออกมาต่อสู้เสียงลั่น

   “ไอ้เหี้ย!!!”

   ดูเหมือนเสียงที่ดังขึ้นทำเอาขนุนตกใจตื่น ถึงได้ดันตัวลุกขึ้นมาขยี้ตาดูเหตุการณ์นิ่วหน้าเล็กน้อยเพราะรู้สึกปวดหัวครึ่งซีก ผมเผ้าก็ดูชี้ฟูไม่สามัคคี เจ้าตัวเผลอเพิ่มความยุ่งเหยิงเข้าไปด้วยการเอามือมาเกาหัวตัวเองแกรกๆ อย่างสะลึมสะลือเป็นปกติของคนเพิ่งตื่นและแฮงค์เล็กน้อย แต่เพราะสีผมที่ดูสว่างราวกับแสงแดดยามเช้าภาพของคนตรงหน้าอย่างกับเทวดาน้อยๆ ที่ทำเรื่องปวดหัว

   “อ้าวต้านิว มาตั้งแต่เมื่อไหร่? ”

   “ไม่ต้องมาถามเลยไอ้ขนุน! นี่มึงเมาจนไปอุ้มหมาของใครกลับหอมาเนี้ย! ฉิบหายแล้ว เจ้าของไม่หากันตาเหลือกเลยรึไง เหี้ยเอ้ยเพื่อนกู!!!”

   มันคงจะดีกว่าถ้าเห็นเพื่อนหิ้วใครมานอนสักคน แต่ตรงหน้ากลับไม่ใช่ นี่มันหมาชัดๆ

   “หมา? ”ขนุนชะงักมือจิกผมค้างแล้วค่อยๆ หันไปสบตากับเจ้าหมาพันธุ์ชิบะตัวสีน้ำตาลที่นั่งลิ้นห้อยอยู่บนเตียงของเขาไม่หือไม่อือสักแอะ แถมเห่าไล่กันสักนิดก็ไม่มี หนำซ้ำยังเดินเข้ามาใกล้แล้วเข้าเลียหน้าเลียตาขนุนอย่างกับสายสัมพันธ์แน่นแฟ้น

   “หึ! ไหนเมื่อคืนมึงบอกพวกกูว่าไม่ได้เมา แล้วนี่เอาอะไรกลับมามึงดู! ”ขนุนตาถลึงหันกลับมามองหน้านิวกับต้าที่ดุยิ่งกว่าพ่อกับแม่เสียอีก

   “เรา เราไม่ได้อุ้มมา.....”เสียงเนิบช้าตะกุกตะกักไม่มั่นใจในความทรงจำของตัวเองทำเอาเพื่อทั้งสองต่างยืนกุมขมับกันถ้วนหน้า ทิ้งให้ไอ้ขนุนเพื่อนยากนั่งมองตากับเจ้าหมาชิบะที่ไม่รู้ว่าเข้ามาในห้องเขาได้ยังไง

   “กูว่าวันนี้ต้องเปลี่ยนแผนแล้วล่ะไอ้นิว ของเขิงไม่ต้องซื้อมันละ”

   “ทำไมอ่ะ? ”ขนุนขยับปากพูด ถึงเขาจะเพิ่งตื่นแต่ก็จำได้แม่นว่าวันนี้นัดไปซื้อของกับช้างเพื่อนที่คณะอีกคน

   “ยังจะถามว่าทำไมอีก ก็หาเจ้าของหมาก่อนไงไอ้ขนุน!”ด้วยความหมั่นไส้ ต้าถึงกับเดินเข้ามาผลักหัวตัวต้นเหตุที่ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ขนุนก่อเรื่อง

   ครั้งก่อนเมื่อเดือนที่แล้วก็ทำ ยังดีที่แค่เอาแสตนดี้พี่โป๊ปมาจากหน้าร้านสะดวกซื้อแถวปากซอย อายนิดหน่อยที่ต้องพาขนุนไปขอโทษขอโพยกันถึงที่ แต่โชคดีที่เด็กพาร์ตไทม์เป็นรุ่นน้องที่รู้จักเลยเข้าใจหัวอกพี่มันที่มีเพื่อนแบบนี้



   และในเวลาต่อมา แอ็กเคานต์ทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กของ 2 จตุรเทพก็ทวิตขึ้นโลกออนไลน์ พร้อมภาพถ่ายเจ้าสุนัขชิบะเพศผู้ตัวสีน้ำตาลอ่อนท้องขาว ที่กำลังนั่งลิ้นห้อยอยู่ในห้องของขนุนขึ้นโพสต์ โดยเจ้าของห้องกำชับไว้ว่า ห้ามบอกว่าคนที่อุ้มหมาตัวนี้มาคือใคร เพราะไม่มั่นใจว่าบางทีมันอาจจะเดินตามเขามาเอง

   นั่นคือคำแก้ตัวของขนุน ที่ในใจลึกๆ ก็ตะโกนอยู่ว่า.....เอ็งนั่นแหละตัวการไอ้ขนุน!
   แต่ในความคิดของต้ากับนิว ขนาดรูปปั้นเด็กยิ้มแต่งชุดไทยหน้าหอขนุนยังเคยอุ้มขึ้นห้องเลย นับประสาอะไรกับหมาตัวนึง ใครๆ เขาก็รู้กันหมดแล้วว่านิสัยขนุนเป็นอย่างไร

Twitter
New101 @Newww 1 ชั่วโมง
ฝากเพื่อนๆ ตามหาเจ้าของน้องหมาหน่อยครับ ขอโทษที่เพื่อนผมทำตัวไม่น่ารักแอบพามันมา #ขนุนอุ้มหมา #สุนัขหาย


ตาต้า @TATA 1 ชั่วโมง
เจ้าชิบะของใครหลังไมค์มารับกลับได้ครับ เพื่อนผมเมาเรื้อนพรากมันมา #ขนุนอุ้มหมา #สุนัขหาย   


   และภายในไม่กี่ชั่วโมงทวิตต์ของนิวและต้าก็ต่างได้รับการตอบรับจากเพื่อนในโลกออนไลน์เพื่อช่วยตามหาเจ้าของตัวจริง โดยติดแอชแท็ก #ขนุนอุ้มหมา แม้จะห้ามว่าไม่ให้ติดชื่อแต่ก็ติดแอชแท็กไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

   และมุมหนึ่งของห้อง ทว่าคนที่อุ้มหมามากลับได้แต่นั่งมองเจ้าชิบะสีน้ำตาลกินข้าวที่คลุกกับปลากระป๋องอย่างรู้สึกผิด

   เพื่อนทั้งสองถามหาที่มาของเรื่องที่เกิดก็ยังบอกไม่ได้เลยว่าเอาหมามาจากไหน แต่อาจเพราะสถานที่มันมืดและเลือนราง ขนุนเองก็เลยไม่สามารถบอกพิกัดได้ แต่จะเอาไปปล่อยทิ้งไว้ให้ตามหาเจ้าของเองก็ดูจะไร้ความรับผิดชอบเกินไปหน่อย

   ไหนๆ ก็มาอยู่ถึงในห้องเขาแล้วก็ต้องดูแลจนกว่าเจ้าของที่แท้จริงจะมารับกลับไปนั่นแหละ

   “อิ่มไหม ถ้าไม่อิ่มเดี๋ยวไปซื้อลูกชิ้นปิ้งมาให้ ขอโทษที่ไม่รู้ว่าแกมาอยู่ในห้องเราได้ไง”

   นิวหันไปมองตามเสียงพึมพำตรงมุมห้อง ก็เห็นขนุนคุยกับเพื่อนใหม่ราวกับคุ้นเคยแถมยังลูบหัวทุยๆ ของเจ้าชิบะที่เต็มใจหลับตาพริ้มราวกับมองขนุนเป็นเจ้าของ

   “น่าสงสาร.....”

   ต้าหันไปมองตามสายตาของนิวแล้วถาม“ขนุนเหรอ? ”

   “หมา!”

   “ก็เพื่อนใครล่ะว่ะ”

   “กูกับมึงนี่ไง มิน่าน้าสรแม่ไอ้ขนุนถึงมีเครื่องเซ่นให้พวกเราทุกเทศกาล ตั้งแต่เริ่มคบเป็นเพื่อนกับมันมากูก็เพิ่งจะรู้ซึ้งเอาวันนี้”

   “มึงเพิ่งจะรู้เหรอ”ต้าไหวไหล่กอดอกตัวเองมองขนุน ถึงยังไงสำหรับพวกเขา ถึงจะไม่มีของตอบแทนพวกเขาก็ยินดีดูแลขนุนให้อยู่แล้ว ใครมันจะไปทนไหวที่เห็นตาใสๆ แล้วไม่เข้าไปช่วยเหลือ ยิ่งมันอ้อนเอ่ยมาคำเดียวพวกเขาก็แทบจะเด็ดดาวมาให้

   ปกติชีวิตขนุนก็ดูแลตัวเองได้หมด ไม่ได้ถูกเลี้ยงมาแบบตามใจ แต่ค่อนข้างเอาใจใส่เสียมากกว่า หากอยู่กับขนุนนานๆ ก็จะรู้ว่าน้อยครั้งที่ปากจิ้มลิ้มนั่นจะหลุดคำสบถหยาบคาย หรือคำสมัยพ่อขุนรามออกมาให้ได้ยิน ต้ากับนิวก็เคยถามไปว่า เคยพูดกราดด่าใครด้วยคำหยาบบ้างไหม แบบสถุลสุดอะไรสุดจนลืมบ้านเลขที่

   ส่วนคำตอบที่แสนชื่นใจก็คือไม่ จนนิวกับต้าเกือบจะได้เห็นปีกใสๆ เป็นนางฟ้าตัวน้อยจากขนุนอยู่แล้วเชียว ถ้าหากขนุนไม่เอ่ยกับพวกเขาว่า

   ‘แต่เราก็ไม่รังเกียจที่เพื่อนจะพูดคำหยาบหรอกนะ เพราะเรารู้ว่าหาความสุภาพจากเพื่อนสมัยนี้ไม่มีแล้ว ต้ากับนิวข้องใจอะไรอีกถามเราได้นะ’

   ‘พวกกูควรถามให้มึงด่าอีกเหรอ’

   ‘บ้าเหรอ เราไม่ได้ด่า’

   ‘จ้า คุณขนุน’

   ความอึ้งครอบงำ บางครั้งก็เห็นเงาดำๆ อบอวลอยู่รอบตัวขนุนในบางที

   ตอนนั้นเหมือนนิวและต้าถูกตบหน้ากลางสีแยกเหม่งจ๋าย เหมือนจะโดนด่าแต่สีหน้ายิ้มละมุนดอกไม้บาน มันก็เลยทำให้พวกเขาโกรธขนุนไม่ลงจริงๆ ทุกอย่างจะดูซอฟลงเมื่อขนุนยิ้ม แม้แต่โลกก็จะละลายไปด้วย

   “แล้วต่อจากนี้จะเอาไงกันดีวะ ทั้งหมาทั้งคน”

   “มึงยังต้องถามกูอีกเหรอไอ้นิว”

   สองสายตาที่สบประสานมองหน้ากันอย่างรู้ใจ ต่างพ่นลมหายใจออกมาพร้อมเพรียงกันอย่างมิได้นัดหมาย

   จะทำยังไงได้ก็ในเมื่อขนุนอุ้มหมามาแล้ว ก็ต้องหาเจ้าของน่ะสิ!

   แต่เจ้าของเป็นใครก็ยังไม่มีใครรู้เบาะแส









----------------------------------

ฝากเรื่องใหม่ไว้พิจารณาด้วยนะคะ ผิดพลาดอย่างไรก็ขออภัยด้วย
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ :กอด1:


ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ q.tr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2

ออฟไลน์ ทามากิบ๊อง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-4

ขนุนลูกที่ 2



   เพราะนิวและต้าต่างเป็นที่รู้จักของคนในคณะจึงไม่แปลกที่โลกออนไลน์ที่เพียงดีดตัวอักษรใส่ลงไปก็ทำให้เหล่าสาวกที่ติดตามนิวต้าทราบข่าวว่าในช่วงเวลาของเขาทั้งสองกำลังเกิดอะไรขึ้นบ้าง
 
   คงไม่แปลกที่ทั้งสองจะเป็นที่รู้จักเพราะ 1 ในนั้นเป็นถึงเดือนคณะ ถ้าหากลงแข่งเวทีเดียวกันรับรองว่าความหล่อเหลานั้นกินกันไม่ลงทีเดียว

   แต่เพราะต้าเจ้าของหน้าคมคายไม่สนใจประกวดจึงไม่ได้ขึ้นเวทีคัดตัวเดือนคณะกับเขาด้วย จึงมีแต่นิวที่ถูกรุ่นพี่ในตอนนั้นคะยั้นคะยอเข็นก้นให้ขึ้นเวทีจนคว้าตำแหน่งเดือนคณะมาได้ จนแล้วจนรอดก็สละสิทธิ์ในรอบประกวดเดือนมหาลัยเพราะดันเกิดอุบัติเหตุขาแพลงตอนเล่นบอลก่อนงานประกวดในครั้งนั้น

   ทางเดินที่ทอดยาวเชื่อมอาคารหลังใหญ่เข้าด้วยกัน หากมองจากไกลๆ ก็จะเห็นว่าตอนนี้ระหว่างกลางของนิวและต้าเกิดหลุมอากาศเพราะความสูงของขนุนที่ไม่เสมอกับเพื่อน อีกทั้งเพราะขาที่สั้นกว่าความเร็วในการเดินเห็นจะต่างกัน แต่ขนุนก็ชินแล้วที่จะต้องเดินเร็วเพื่อตามให้ทันเพื่อนทั้งสองด้วยขาที่สั้นกว่าเล็กน้อย
   
   ผ่านมาหนึ่งวันแล้วกับเหตุการณ์เมื่อวานที่ขนุนไปอุ้มหมาของใครกลับมาด้วยความมึนเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ตอนนี้ยังคงตามหาเจ้าของสุนัขอย่างแข็งขัน แต่ทว่าวันนี้ขนุนมีเรียนเช้าจึงต้องเอาเจ้าชิบะที่ไม่รู้แม้แต่ชื่อเรียกไปฝากป้าใต้หอให้ช่วยดูไว้ก่อน และหากมีคนมาถามหาก็ขอร้องไว้ว่าให้รีบติดต่อมาที่เบอร์ของขนุนตามที่จดไว้ให้

   ตอนแรกขนุน นิวและต้าสันนิษฐานว่าเจ้าหมาตัวนั้นอาจจะโดนทิ้งเพราะไม่มีปลอกคอ แต่หมาพันธุ์ดีราคาแพงแบบนั้นใครมันจะทิ้งได้ลงคอ ทั้งความสะอาดและการดูแลขนเห็บหมัดแทบจะไม่มีให้เห็นบ่งบอกว่าได้รับการใส่ใจ กลิ่นแชมพูอ่อนๆ จากเจ้าชิบะก็เป็นเครื่องยืนยันได้ดีว่าคงไม่ใช่การถูกทิ้งอย่างที่คิด

   ขนุนก็กลุ้มใจเหมือนกันที่ตามหาเจ้าของหมาไม่ได้สักที เป็นห่วงว่าเจ้าชิบะที่เริ่มตาเศร้าๆ กำลังคิดถึงเจ้าของของมันรึเปล่า ข้าวก็เริ่มทานน้อยเล็มเลียเหมือนแมวดมมากกว่าจะกิน เพราะที่บ้านของขนุนก็เคยเลี้ยงหมาบ้านพันธุ์ไทยอยู่เหมือนกัน มันทั้งซื่อสัตย์และรักเจ้าของสุดหัวใจ คนในบ้านออกไปไหนก็จะเดินตามไปส่งจนถึงประตูรั้วมองดูสุดสายตา พอคนกลับมาก็กระดิกหางดีใจกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขราวกับห่างหายกันไปแรมปี ทั้งที่บางครั้งแค่ออกไปซื้อของแค่หน้าปากซอย

   เพราะอย่างนั้นขนุนเลยไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะหาเจ้าของให้เจ้าหมาตัวนั้น แต่ด้วยหน้าที่ของเขาแล้วยังไงก็ต้องมาเรียน แต่ก็ยังคงคอยชะเง้อหูฟังตามอง เผื่อว่าข่าวจากนิวกับต้าจะบอกได้ว่าเจ้าของหมาเป็นใคร

   แต่ดูเหมือนว่าทวิตเตอร์ที่ต้ากับนิวลงไป สิ่งที่ดูจะทำให้ทุกอย่างร้อนเป็นไฟคงจะไม่พ้นแฮชแท็ก ขนุนอุ้มหมา ที่ตอนนี้เดินไปไหนมาไหนคนในคณะก็เรียกขนุนเป็นชื่อขนุนอุ้มหมากันไปหมดแล้ว

   “เมื่อวานเห็นทวิตเตอร์ของพวกมึงแล้ว ตกลงเจอเจ้าของหมารึยังวะ”คนที่เดินเข้ามาทักทายเป็นคนที่ร้อยล้านเห็นจะเป็นแจ็กเพื่อนร่วมคณะ ที่มีบ้างบางครั้งที่ชักชวนกันไปร้านเหล้า นั่งกินนั่งดื่มพูดคุยกันบ้างในบางโอกาส แจ็กค่อนข้างเป็นที่รู้จักของเด็กปี 1 เพราะเป็นเฮดว๊ากที่เข้มได้ใจจนกาแฟคั่วบดเรียกพ่อ

   “ยังไม่เจอ ไม่เห็นมีใครมาแสดงตัวเลย”ต้าเป็นคนตอบแล้วหันไปมองขนุนที่ก้มหน้ากดโทรศัพท์ตัวเอง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองแจ็ก

   “ฝากแจ็กด้วยนะ เผื่อว่าบางทีอาจจะมีรุ่นน้องหรือรุ่นพี่ที่รู้จักเขาเป็นเจ้าของ เราอยากเจอเจ้าของหมาเร็วๆ สงสารมัน คงคิดถึงเจ้าของแล้ว”

   “เออได้ ไว้กูจะลองช่วยหาให้อีกแรง วันหลังมึงก็อย่าอุ้มอะไรแปลกๆ เข้าห้องอีกล่ะ”

   “อืม”

   ก่อนไปแจ็กก็เอื้อมมือมาดีดหน้าผากขนุนอย่างขบขัน ตบไหล่ต้าเบาๆ สองสามทีแล้วโบกมือลาไป

   “.......”

   “เจ็บอ่า”คนถูกดีดหน้าผากยกมือขึ้นลูบตรงที่โดนดีด รอยแดงๆ โผล่ให้เห็นเพราะขนุนเป็นคนผิวขาว อย่าว่าแต่ความเห็นใจ แม้แต่คำปลอบโยนก็ไม่ได้จากเพื่อนทั้งสอง แถมยังโดนผลักหัวอย่างหมั่นไส้จาก 2 จตุรเทพเพื่อนซี้ไปคนละทีก่อนที่จะนิวกับต้าจะเดินลิ่วเข้าห้องเรียนไปก่อน

   “รอด้วยดิ!”

   ขนุนไม่ได้คิดโกรธเคืองอะไร เพียงแต่แอบมุ่ยหน้าเล็กน้อยแล้วรีบเดินตาม



   จบคลาสช่วงเช้าด้วยการที่ขนุนแอบหลับในห้องเป็นพักๆ ไม่รู้เพราะแอร์มันเย็น อาจารย์สอนน่าเบื่อ หรือนอนไม่เต็มอิ่มกันแน่ แต่อาจจะเป็นอย่างหลังเพราะเมื่อคืนเขาแทบจะไม่ได้หลับตานอนสนิทสักเท่าไหร่นัก เพราะเจ้าชิบะที่กระโดดขึ้นลงบนเตียงของเขา แถมยังเห่ากระทั่งแมลงตัวเล็ก และที่สำคัญขนุนยังต้องจัดการเรื่องการขับถ่ายของเจ้าชิบะตัวนั้น

   จะเรียกว่ากรรมตามสนองก็คงจะไม่แคล้ว

   “ตอนเที่ยงพวกกูจะไปซื้อของกับพวกไอ้ช้าง มึงจะไปกับพวกกูด้วยไหม หรือจะกลับไปดูหมาก่อน”

   “เราอยากไปด้วยนะนิว แต่ว่าคงต้องกลับไปดูหมาอ่ะ จะพาจูงเดินแถวๆ ทางไปร้านป๋าชุบ เจ้าของอาจจะอยู่แถวนั้น”

   “ตามใจ งั้นกูกับไอ้ต้าจะไปกับพวกไอ้ช้าง เย็นๆ เสร็จแล้วเดี๋ยวจะแวะไปที่ห้องมึงก็แล้วกัน”

   สามหนุ่มคุยกันหน้าห้อง แต่จู่ๆ ก็มีเสียงเรียกดังมาจากด้านหลังและวิ่งเหยาะเข้ามาทักทาย เจ้าของร่างสูงไว้ผมยาวแต่รวบผูกไว้ด้านหลังหน้าตาไว้เคราเป็นสไตล์ ถึงแม้จะยืนหันหลังให้ก็ทักไม่ผิดคน

   “ไอ้นิวไอ้ต้าขนุน!”

   เหมือนมีสิทธิพิเศษอยู่ในคำทักทาย ทุกคนต่างมีไอ้นำหน้าชื่อ แต่ขนุนกลับถูกยกเว้น ดูเป็นสองมาตรฐานที่เพื่อนๆ ก็ต่างยอมรับ จะเรียกว่าไอ้ขนุนกับหน้าตาน่ารักแบบนั้นก็เห็นจะใจไม่กร้านพอจะพูดใส่คนตัวเล็กกว่า

   “เออมึงมาพอดีเลยไอ้ช้าง เดี๋ยวกูกับไอ้นิวจะไปกับพวกมึงสองคน งบที่ขอทางคณะไว้สำหรับซื้อของออกค่ายสัปดาห์หน้าอยู่ที่มึงใช่ป่ะ? ”

   “พวกมึง กูมีเรื่องจะบอกว่ะ”ท่าทางละล่ำละลักของช้างดูกระสับกระส่าย

   “มีอะไรเหรอช้าง ดูแปลกๆ ปวดหนักเหรอ? ”ขนุนช่างสังเกตเมื่อเห็นว่าเพื่อนดูสีหน้าแปลกๆ

   “ไม่ช่ายยยย! คืองี้ว่ะ พอดีเงินส่วนที่ต้องซื้อของจิปาถะ พวกกูไปคำนวณแล้วมันไม่พอ ยังขาดอีกประมาณ 4,000 กว่าบาท แต่จะให้พวกเราออกกันเองมันก็เกินไป เลยมาปรึกษาว่าจะทำไงกันดี โครงการก็อนุมัติไปแล้วจะไปขอเพิ่มก็จะถูกอาจารย์แหกหน้ากลับมาอ่ะดิ”

   “อ้าวเห้ย! แล้วจะเอาไงล่ะทีนี้ จะซื้อแบบประหยัดมันก็จะกลายเป็นขาดแคลนกันไปอีกลำบากสัดๆ อีก พวกปากกากระดาษ อุปกรณ์ต่างๆ โห่ววววว!”

   ตอนนี้ดูเหมือนเรื่องปวดหัวจะแวะเวียนมาทักทายเหล่านักกิจกรรมของคณะอีกเรื่องหนึ่งแล้ว ความหมา(ของขนุน)ไม่ทันหายความขัดสน(ของคณะ)ก็เข้ามาแทรกอีก

   เวลานั้นความเงียบและตึงเครียดกำลังครอบงำ ต่างคนก็ต่างมองหน้าเผื่อว่าจะเจอทางออกที่สดใส

   “เอ้อ! เอางี้ไหม”

   จู่ๆ ความเงียบก็ถูกทำลายด้วยเสียงของช้างที่เสนอความคิด ท่าทางไอเดียบรรเจิดทอประกายอยู่ในแววตาของช้าง

   “เอาอะไรของมึง รีบๆ พูดมาให้ไวกูใจร้อน”นิวพูดขึ้น

   “พวกเราก็ไปขอรับบริจาคดิวะ เด็กในมหาลัยมีตั้งหลายคณะ มีเป็นพันๆ คน คนละห้าบาทสิบบาทเดี๋ยวมันก็ได้เอง”

   “มึงพูดเหมือนง่าย แต่ละคนกว่าจะควักเศษเหรียญออกมาหยอดกล่องได้ก็คิดแล้วคิดอีก ดูอย่างครั้งก่อนที่ขอบริจาคซื้อของไปให้เด็กบนดอยดิ ยากสัด! ยิ่งไปขอแบบฟรีๆ ได้โดนด่าตายห่าเลย”ต้าค้านขึ้นเมื่อมองไม่เห็นว่าจะทำได้

   “นั่นสิช้าง จะไปขอแบบฟรีๆ คนเขาจะไว้ใจให้เหรอ เขาอาจจะคิดว่าเราหลอกเอาตังค์ไปสุรุ่ยสุร่ายก็ได้นะ หน้าตาช้างก็ดูไม่น่าไว้ใจอ่ะ”

   “เอ่อขนุน มึงหลอกด่ากูป่ะ?”คนถูกชมตรงๆ หน้านิ่งไปครู่นึง

   “เปล่า เราไม่ได้ว่าช้างเลยนะ”พูดไปก็ยิ้มกลบเกลือน ต้ากับนิวถึงกับเอามือป้องปากเพื่อไม่ให้หลุดขำ

   “แล้วไป แต่เรื่องบริจาคใครว่าจะขอกันฟรีๆ เราก็หาอะไรทำแลกเงินดิ”

   “ดนตรีเราเล่นไม่เป็นนะ”ขนุนส่ายหน้า

   “กูก็ไม่เป็น”นิวถอนหายใจ

   “กูตีฉาบเป็น อย่างอื่นอย่ามาถาม กูไม่ใช่สายดนตรี”

   “กูก็คิดว่าดนตรีมันล้าสมัยไปแล้วเหมือนกัน มันไม่ดึงความสนใจคนว่ะ ใครๆ เขาก็ทำกันเกลื่อน”ช้างกอดอกมองไปรอบๆ ตัว 180 องศาจนกระทั่งมาหยุดสายตาที่ผู้ชายหน้าขาวๆ ตากลมๆ ตรงหน้าที่กำลังควักขนมเวเฟอร์ห่อเล็กห้าบาทออกมาจากกระเป๋าแล้วฉีกกินแก้หิวก่อนจะถึงมื้อเที่ยง

   “ช้าง? มองเราทำไมอ่ะ ขนมเลอะปากเหรอ”หลังมือขาวปาดไปทั่วปาก แถมยังหันไปถาม 2 จตุรเทพที่ช่วยกันดูให้เป็นภาพที่ทำให้ช้างยืนมองตานิ่งเป็นปลาน็อกน้ำ

   นี่ขนุนมันมีเพื่อนหรือมีพ่อกับแม่วะ ช้างคิดในใจแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา

   “กูนึกออกแล้วว่าเราจะทำยังไงให้ได้เงินเยอะๆ ”

   “ทำไงวะ?”

   “หึ! ก็ใช้ขนุนอุ้มหมา ให้เป็นประโยชน์ดิวะ”

   “หมายความว่าไงไอ้ช้าง มึงอธิบายดิ๊”ต้าขมวดคิ้ว ไม้แพ้คนอื่นๆ ที่สงสัยในความคิดบรรเจิดของช้าง แล้วเกี่ยวอะไรกับขนุนของพวกเขา

   “ฟรีฮัก”เจ้าของไอเดียร์ยิ้มสุดมุมปากพร้อมกับยื่นแขนไปจับไหล่ขนุนไว้แน่นแล้วจ้องตา “ขนุน.....ช่วยไปฟรีฮักรับบริจาคเงินเพื่อคณะเราหน่อยได้ไหม”

   “ไม่ได้/ไม่ได้”นิวต้าที่ยืนอยู่ซ้ายขวาช่วยกันปัดมือของช้างออกจากไหล่ขนุน แถมยังเอ่ยตอบพร้อมเพรียงกันอย่างไม่เห็นด้วย

   “ทำไมวะ ดีออกจะตาย ตอนนี้ใครๆ ก็รู้จักขนุนอุ้มหมา ถ้าหากเอาชื่อเสียงของมันไปช่วยหาเงินนิดหน่อยเอง ไม่ดีเหรอที่จะเรียกคนมาบริจาคได้เยอะๆ น่ะ”

   “มึงคิดน่ะถามเจ้าตัวแล้วรึยัง เขายินยอมหรือเปล่า”นิวหันไปมองขนุนที่เลียบปากแผล็บๆ “ว่าไงขนุน มึงเอาไง ไม่เต็มใจก็ปฏิเสธได้ ตัวมึงใจมึงลองคิดดู”

   ทุกคนหยุดนิ่งมองดูขนุนที่ไม่ทันจะคิดก็ตอบออกไปซะแล้ว

   “ก็ได้ เรายังไงก็ได้”แถมยังยิ้มรับเสียดิบดี แม้มีช็อกโกแลตติดฟันก็ยังดูน่ารักน่าหยิก

   “มึงเอาจริงดิไอ้ขนุน ถามจริงนี่คิดยัง?”ต้าถามย้ำราวกับมองหาเหตุผลจากเจ้าของนัยน์ตาสดใสนั่น

   “ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย เราไม่ได้เสียหายสักหน่อย จะได้ถือโอกาสนี้ตามหาเจ้าของหมาเลยด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกตั้งสองตัว ไม่คิดว่ามันโอเคเหรอ”

   “Yessssss! วู้ววววว!” ผู้ที่ถูกสนองความคิดกระโดดดีใจเด้งเป้าตัวลอย “ขอบคุณว่ะขนุน มึงใจหล่อมาก แม้หน้าตาจะน่ารักก็เหอะ เดี๋ยวกูจะเอาเรื่องนี้ไปบอกกับพวกที่เหลือพร้อมส่งเรื่องถึงอาจารย์ แล้วกูจะโทรมานัดเวลา”

   “วันไหน?”

   “จะรอช้าอยู่ทำไมล่ะ ก็เย็นนี้เลยดิ!”


   
   ตอนนี้เป็นเวลาที่ทุกคนกำลังลุ้นอยู่ว่าความคิดของช้างมันจะโอเคจริงไหม ก็เหลือแต่ขนุนที่จะต้องไปยืนอยู่กลางลานกิจกรรมที่ส่วนใหญ่มักจะมีนักศึกษาชวนกันไปนั่งอ่านหนังสือ ฟังเพลง พูดคุย กินขนมกันเยอะบริเวณนั้น ดูเหมือนกำลังใจที่มาก็จะขาดไปไม่ได้นั่นคือนิว ต้า ช้าง และคนอื่นๆ อีกสองสามคน และนอกเหนือจากนั้นก็มีแฟนของต้าคือจ๊ะเอ๋ที่อยู่คณะอักษรมาเป็นพี่เลี้ยงให้ขนุนด้วยในวันนี้ แถมเธอยังบอกว่าจะให้เพื่อนเธอที่แอบมันเขี้ยวขนุนมานานมาฟรีฮักขนุนให้หนำใจ

   พูดแล้วคนฟังก็ถึงกับยิ้มเหงื่อตก

   แต่ที่กลัวไปกว่านั้นคือ จะมีใครอยากมาฟรีฮักขนุนรึเปล่านี่สิ

   “ป้ายเสร็จแล้ว ขนุนเอาไปแขวนคอแล้วยืนอยู่เฉยๆ ยิ้มกว้างๆ กับหมาหาเจ้าของก็พอแล้ว”

   “ช้างแน่ใจนะว่ามันได้ผล”ขนุนถามย้ำ ตอนนี้เขาเองมากกว่าที่รู้สึกไม่มั่นใจ แต่ตอนกลับไปเอาเจ้าชิบะก็อาบน้ำมารอบนึงแล้ว กลิ่นตัวก็แทบจะไม่มี มีแต่กลิ่นสบู่ที่หอมอ่อนๆ เพราะขนุนไม่ชอบใส่น้ำหอม

   “เออนา พวกกูมั่นใจว่ามึงทำได้ ไปเลยเพื่อนเดี๋ยวพวกกูช่วยถือกล่องบริจาคกันเอง”

   ดูเหมือนภาระที่หนักหนาค่อยๆ กดทับลงมาบนหัวของขนุน

   “ไปกันยัง? ”นิวถามเรียกความพร้อมแล้วตบไหล่ขนุนเบาๆ อย่างให้กำลังใจ พวกกับเพื่อนที่ยื่นมือเข้าขยี้หัวทุยๆ ให้กำลังใจเช่นกัน

   “พวกมึงไปก่อน เดี๋ยวกูไปคุยโทรศัพท์แป๊บ”เป็นต้าที่ชี้มายังหน้าจอโทรศัพท์ที่สว่างวาบขึ้นก่อนจะขอตัวเดินไปคุยให้ห่างจากเสียงเจี๊ยวจ๊าวของสถานที่แห่งนี้

   “อื้ม งั้นพวกเราไปกัน!”

   ช้างนำทัพพร้อมกับโทรโข่งหนึ่งอันในมือ เสียงปรบมือเรียกความสนใจของเพื่อนที่ทำงานเป็นทีมเรียกได้ว่ามืออาชีพในการบากหน้าขอบริจาคเป็นอย่างมาก ขนุนเองเมื่อเห็นทุกคนเต็มที่ ตัวเองก็เต็มที่ไม่แพ้กัน ถึงกับฉีกยิ้มตั้งรับไว้เสียแต่เนิ่นๆ พร้อมกับจูงเจ้าหมาชิบะที่เดินตามเขาราวกับขนุนกลายเป็นเจ้าของไปแล้ว

   เขากระตุกเชือกเบาๆ บอกให้เดินก็เดิน แถมพอบอกให้นั่งใกล้ๆ ที่ขนุนยืนก็ดันทำตามได้อีก
 
   สงสัยถูกฝึกมาด้วยแล้วแน่เลย เจ้าของคงรักมาก

   “สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคน วันนี้พวกเราชาวศิลปกรรมมาขอรับบริจาค เพื่อเป็นเงินสมทบทุนค่ายพี่น้องสร้างรักที่จะไปร่วมกันเป็นจิตอาสาซ่อมแซมบ้านของพี่ ป้า น้า อาทางภาคใต้ที่เกิดผลกระทบจากพายุ! ”ช้างตะเบ็งเสียงแปดหลอดผ่านโทรโข่งที่ดังก้อง เรียกกลุ่มคนให้หันมาสนใจได้เป็นอย่างดี ก่อนจะต่อความว่า

   “เพื่อเป็นการขอบคุณน้ำใจของพี่น้องชาว มอM พวกเราจึงคัดมาแล้วสำหรับสิ่งตอบแทนในวันนี้!!!”

   และดูเหมือนเสียงมันจะดังขึ้นไปอีกเป็นสองเท่า ขนุนที่ยืนหลบอยู่หลังช้างเริ่มใจเต้นตึกตักขึ้นมาราวกับต้องขึ้นเวทีประกวดอะไรสักอย่าง

   “สิ่งตอบแทนก็คือ! เรามีบริการฟรีฮักจากขนุน มาร่วมกิจกรรมด้วยในครั้งนี้ เชิญขนุนอุ้มหมา!!! ออกมาได้เลยครับ!!!”

   ยิ่งเสียงดังอย่างกับจะไปฆ่าใครตายของช้างดังเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่ ความสนใจก็หันมามองเกือบจะหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ และทันทีที่ขนุนก้าวออกมา สายตาที่มองมาก็เกิดประกายรอยยิ้ม บ้างก็ขบขัน ซุบซิบพูดคุยกันแล้วชี้ชวนให้มองไปในหน้าจอโทรศัพท์

   ก็แน่ล่ะขนุนดังข้ามคืนเพราะต้าและนิวเชียว ตอนนี้ใครบ้างจะไม่คุ้นหูหรือรู้จักขนุนอุ้มหมา

   “อย่ายิ้มอย่างเดียวนะครับ มารับฮักจากน้องขนุนหน่อยเร็วววว!”

   “วู้ววววว!”

   เสียงคอรัสขานรับได้จังหวะจนทุกอย่างดูสนุกไหลลื่น ขนุนไม่ได้รู้สึกเลยว่าตอนนี้ตัวเองต้องแบกหน้าที่บางอย่างอยู่ แต่กลับรู้สึกว่าเขามีคนคอยสนับสนุนและเป็นกำลังใจอยู่เบื้องหลัง อีกทั้งจังหวะนี้กลับมีเพลง คุ้นหู แต่เนื้อเพลงไม่เหมือนเดิมให้ขนุนได้เขินเล่นระหว่างรอคนใจกล้ามาเปิดฮักแรกของขนุน

   “ขนุนน่ารัก คึกคักเวลาเมาเล่น เอิ้วๆ ขนุนตัวเป็นเป็น เวลาเมาเล่นน่ารัก น่ารัก!”

   เพลงยอดฮิตที่ติดโพลตลอดกาลในวงวารของนักเรียน นักศึกษา เวลานี้ก็นำมาร้องเป็นเพลงเพื่อเรียกคะแนนให้ขนุนโดยเฉพาะ

   ใครฟังก็ต่างหัวเราะชอบใจ หันไปมองเด็กศิลปกรรมที่ทำเสียงครึกครื้น แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าพอที่จะมาฟรีฮักน้องขนุนที่ยืนเก้อรออยู่กับเจ้าหมาชิบะที่นั่งลิ้นห้อยเรียกคะแนนสงสาร

   แต่กลับมีบางคนลุกขึ้นมาหยอดกล่องบริจาคแล้วบ้างบางส่วน ก็นับว่าเวลาไม่ได้เสียเปล่าจริงๆ

   และระหว่างที่ยืนรอฟรีฮักอย่างว่าง่าย สายตาทั้งสาวๆ และหนุ่มๆ ก็ต่างมองขนุนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ บางคนเคอะเขินเกินกว่าจะเข้ามาฟรีฮัก เพียงแต่ขอเข้ามาจับมือถ่ายรูปบ้างแล้วก็เดินกลับไป แค่นั้นขนุนเองก็กลับยิ้มแก้มแทบแตก จนก้อนแก้มเปลี่ยนเป็นสีแดงจางๆ ด้วยความสนุก   

   ขณะที่ทุกอย่างกำลังไปได้ดี มีมากที่ขอเข้ามาจับมือขนุนและก็มายืนแซวเรื่องอุ้มหมา บ้างก็เป็นรุ่นพี่ในคณะที่แวะเวียนมาร่วมด้วยแล้วจากไป อีกทั้งรุ่นน้องก็ใจดีถ่ายวิดีโอให้แฉถึงตัวจริงฉายา ขนุนอุ้มหมา ว่าน่ารักไม่แพ้หมาที่ยืนอยู่ข้างๆ

   “อดทนนิดนึงนะ เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว บางทีเจ้าของแกอาจจะมารับแกเร็วๆ นี้ก็ได้”ขนุนหันไปพูดกับเจ้าหมาชิบะที่กระโดดปีนขาของเขาเล่น เหมือนมันเริ่มอยากจะเป็นอิสระเต็มที อยากจะไปวิ่งเล่นใช้พลังงานเหลือทนแล้ว

   และตอนนั้นเอง ต้าที่ขอตัวไปคุยโทรศัพท์ก็โผล่หน้ามา ท่าทางอารมณ์ดีเหมือนมีเรื่องอยากจะมาบอก แถมในมือก็โบกโทรศัพท์ไปมาสีหน้าอยากจะเล่าใจแทบขาด

   และตอนนั้นเอง ต้าที่ขอตัวไปคุยโทรศัพท์ก็โผล่หน้ามา ท่าทางอ

   “เฮ้ยๆ! ไอ้ขนุน”

   “อะไรต้า มีเรื่องอะไรเหรอ” ระหว่างที่ต้าเดินมาเพื่อนๆ ก็ต่างหยุดกิจกรรมที่ร้องเล่นกันอยู่ชั่วคราว สีหน้าเหมือนมีอะไรดีๆ ทำให้ใครๆ ก็อยากรู้

   “กูมีข่าวดี มีรุ่นน้องที่กูรู้จักโทรมาบอกกูว่า เจอเจ้าของหมาแล้ว และบังเอิญมันรู้จักกับเขาไงตอนนี้เลยบอกให้มาเอาหมากลับ”

   “มึงไม่ได้มั่วใช่ไหมไอ้ต้า”นิวชี้หน้าถามเอาคำตอบตรงๆ

   “ไม่มั่ว กูชัวร์ แน่นอน!”

   “จริงเหรอ ในที่สุดก็เหมือนพ้นบาปสักที ไม่ต้องตกนรกหมกไหม้เพราะพรากหมาไปจากเจ้าของแล้ว”คนที่ดีใจกว่าหมาก็เห็นจะเป็นขนุน “แต่จริงๆ ให้เราเอาไปให้ไม่ดีกว่าเหรอ เราเป็นคนพามันมา แล้วตกลงตอนนี้เจ้าของหมาอยู่ไหนอ่ะ เราอยากเจออยากขอโทษด้วย”

   “ไม่ต้องไปหา โน่นไงมานี่แล้ว”

   เมื่อต้าบอกแบบนั้นขนุนเลยวาดสายตาไปตามปลายนิ้วของต้าไปยังทิศทางที่ถูกต้อง ก่อนจะมองเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังเดินมา น่าแปลกที่จู่ๆ ทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ

   ตอนนี้ขนุนไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย

   ได้ยินแค่เสียงตึก ตัก ตึก ตัก ในอกซ้ายของตัวเอง และเหมือนกับเสียงรองเท้าที่กระทบกับพื้นเดินเข้ามาใกล้

   ทั้งหมดเหมือนสะท้อนก้องอยู่ในหัวราวกับฉากภาพยนตร์ฉากหนึ่ง

   ที่ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดนิ่งเมื่อคนคนนั้นก้าวมาหยุดตรงหน้าขนุน

   ข้างหลังกลายเป็นภาพเลือนราง สิ่งที่ชัดเจนมีเพียงใบหน้าเจ้าของหมาชิบะตัวนี้เท่านั้น

   ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ ขนุนถึงได้เสียอาการ แต่เท่าที่เพื่อนเห็นคือขนุนจ้อง ‘คณิน’ ตาไม่กะพริบ แถมยังอ้าปากเหวอๆ ยืนนิ่งซะจนเพื่อนคิดว่าเป็น 6 โมงเย็นเตรียมยืนเคารพธงชาติซะอีก

   “ไอ้ขนุน! เป็นอะไร นี่พี่คณิน เป็นเจ้าของหมา เขามาทวงคืนแล้วเว้ย!”เสียงเรียกจากต้าเหมือนเรียกให้ขนุนตื่น เจ้าตัวถึงได้ทำหน้าเหลอหลา แล้วหันไปมองต้าสองมือเขย่าแขนเพื่อนก่อนพูดขึ้นไม่เกรงใจใคร

   “ต้า ต้า!”

   “อะไร! เขย่าจนหัวกูจะหลุด”

   “เรา.....เราว่าเรากำลังเจอคนที่ใช่แล้วล่ะ”

   “ห๊า! มึงบ้าป่ะไอ้ขนุนจู่ๆ ก็พูดออกมาแบบนั้น!”ต้าพยายามพูดเสียงลอดผ่านไรฟันไม่ให้อีกฝ่ายได้ยิน

   “ต้าบอกเค้าที ว่าเราชอบพี่เค้า”

   “ว่าไงนะไอ้ขนุน!!!”








---------------------------------
ฝากน้องขนุนในตอนต่อไปด้วยนคะ คอมเม้นต์ ติชม เป็นกำลังใจให้ด้วยน๊าาา :hao5:
ขอบคุณนักอ่านล่วงหน้าค่ะ  :กอด1:

โดย หลานฮวา


ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
น้องขนุนน่ารักจริงๆ
พระเอกจะเป็นคนนิสัยแบบกันนะ
อย่าทำให้ขนุนเสียใจน๊าาาาา

 :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
น้องขนุนนนนน
ไม่ต้องฝากเพื่อนหรอก หนูบอกพี่คณิณด้วยตัวเองเลยย

 :pig4:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ขนุนลูกกกกกกกกกกกกกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
น้องขนุนใจเย็นๆ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น้องขนุนน่ารักก มาต่อเร็วๆน้าสนุกมากๆ :กอด1:

ออฟไลน์ q.tr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น้องงงงงงงงง  :hao7:

ออฟไลน์ ทามากิบ๊อง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-4

ขนุนลูกที่ 3


   
   ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าของขนุนตอนนี้นับได้ว่าดูจะเป็นที่สนใจของสาวๆ ที่เดินผ่านไปมาไม่น้อย ใครบ้างจะพลาดมองของดีนอกรัว มอM ที่พลัดหลังเข้ามาได้จัดว่าอย่างแจ่ม จะว่าพลัดหลงก็คงจะไม่ถูกต้องนัก เรียกว่าตั้งใจมาจะดีกว่า จุดประสงค์ที่คณินมาถึงมอM ในขณะที่ตัวเองเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ของ มอP ก็เพื่อมารับ ‘ไข่ดาว’ สุนัขของตัวเองที่ถูกอุ้มไป

   และตอนนี้ทั้งๆ ที่คนตรงหน้าคณินบอกว่าอยากจะขอพูดด้วย แต่เขากลับต้องมานั่งเพื่อให้ขนุนจ้องมองตาไม่กะพริบ

   แต่จะไม่ให้ขนุนมองก็คงจะแปลก เพราะเจ้าตัวถึงกับเอ่ยปากบอกอย่างเถรตรงกับเพื่อนสนิทว่าเจอคนที่ใช่อย่างไม่อายปากต่อสาธารณชน จนคนเป็นเพื่อนอย่างต้าที่พาคณินมาต้องเอ่ยปากบอกขอโทษที่เพื่อนพูดเรื่องเพ้อเจ้อให้คณินกระอักกระอ่วนใจ

   “มีอะไรจะพูดรึเปล่า”เสียงทุ้มนุ่มและฟังรื่นหูเรียกขนุนที่นั่งอยู่ตรงหน้า หากจะบอกว่าเสียงนั้นเข้ากับหน้าตาก็เห็นจะเป็นอย่างนั้น ตอนนี้ขนุนเหมือนตกอยู่ในภวังค์ที่ตัวเองสร้างขึ้น นั่งมองใบหน้าสะอาดสะอ้านดูดี ผิวพรรณขาวใส เครื่องหน้าที่ประกอบกันล้วนถูกวางไว้อย่างเหมาะสมจนน่าชมน่ามอง คณินดูเป็นผู้ใหญ่และพึ่งพาได้จนน่าอิจฉา

   “มี มีครับ”เป็นประโยคแรกๆ ที่ขนุนพูดขึ้นหลังจากเอาแต่มองคณินจนเจ้าตัวรู้สึกได้

   “.....”

   “ผมอยากจะขอโทษครับ ที่วันนั้นผมอุ้มเจ้าไข่ดาวมา จริงๆ แล้วผมเมานิดหน่อย พี่คณินคงหาไข่ดาวแย่เลย”คนตัวเล็กกว่าพูดสรรพนามเมื่อทราบว่าอีกฝ่ายอายุมากกว่าตัวเองถึง 2 ปีแถมยังเป็นนักศึกษาคณะทันตะอีกด้วย เรียกได้ว่าหน้าตาดีแล้ว ยังเรียนเก่งอีกต่างหาก

   “จริงๆ แล้วพี่เพิ่งจะรู้ว่าไข่ดาวหายไปก็เป็นตอนเย็นของเมื่อวานแล้ว เพราะพี่เองก็ไม่ได้อยู่บ้านในวันที่ไข่ดาวหายไป เพราะความซนมันคงพยายามลอดรั้วออกมาเที่ยวเล่น และคงมาไกลจนกลับบ้านไม่ถูก”

   “มิน่าล่ะครับ ผมถึงไม่เคยเห็นไข่ดาวแถวๆ หอ”

   “ขอบคุณที่ดูแลไข่ดาวให้นะ ชื่อขนุนใช่มั้ยเรา? ”

   “ครับ ผมชื่อขนุน” ท่าทางที่ตอบอย่างกระตือรือร้นทำให้คณินที่ดูหน้านิ่งๆ เผลอหยักยิ้มบางออกมาตรงมุมปาก

   “ชื่อน่ารักดีนะเรา”

   “คนก็น่ารักนะครับ”

   “หืม? ”

   “กินน้ำก่อนไหมครับจะละลายหมดแล้ว”ขนุนแกล้งไม่ย้ำประโยคที่ตัวเองพูดออกไป แต่เลือกที่จะเลื่อนน้ำแตงโมปั่นที่ซื้อมาให้แทนคำขอโทษเรื่องไข่ดาว ตากลมใสยังคงมองคนตรงหน้าไม่ปิดบัง

   “.....”

   ระหว่างที่คณินคว้าน้ำแตงโมปั่นขึ้นมาดื่ม ท่วงท่าละอิริยาบถต่างๆ ก็อยู่ในสายตาของขนุน สังเกตแม้กระทั่งท่อนแขนที่พับแขนเสื้อนักศึกษาขึ้นมาถึงศอกด้วยอากาศที่ค่อนข้างอบอ้าว ไล่มองไปตามท่อนแขนที่มีเส้นเอ็นปูดโบนไปหลังมือดูแข็งแรง ขยับเคลื่อนไหวก็ดูน่าดึงดูดใจไปหมด โดยเฉพาะลาดไหล่ที่ดูมีกล้ามเนื้อ กว้างขวางจนขนุนต้องย้อนกลับมามองตัวเอง

   “พี่คณินชอบออกกำลังกายเหรอครับ? ”

   “ก็มีบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเล่นกีฬาหลังเลิกเรียนแก้เครียดกับเพื่อนน่ะ แต่ก็ไม่บ่อยมาก”

   “แล้วมีสาวๆ มาชอบเยอะไหมครับ”คนตาใสยิงคำถามออกไป

   “แค่กๆ ”

   คนที่ดื่มน้ำแตงโมปั่นอยู่ถึงกับสำลักเล็กๆ ไม่คิดว่าจะถูกถามเรื่องแบบนี้จากคนตัวเล็กตรงหน้าที่เจอกันครั้งแรก

   “ขอโทษครับที่ผมถามอะไรแบบนั้น แค่อยากรู้น่ะครับ เพราะพี่คณินดูดีมากเลย”

   “อืม ขอบคุณนะ ถึงจะไม่ชินที่จะมีผู้ชายมาชมก็เถอะ”

   “งั้นผมก็เป็นคนแรกที่ชมพี่คณินสินะครับ ดีจัง”ขนุนยิ้มออกมาจากความรู้สึกอย่างเป็นธรรมชาติ จนคณินที่มองดูคู่สนทนาที่เถรตรงก็อดตกใจไม่ได้ แต่ดูๆ ไปแล้วก็คิดว่าขนุนก็เป็นคนคนหนึ่งที่ดูน่ารัก พูดคุยด้วยได้อย่างไม่ต้องฝืนเกร็ง

   “ก็คงจะอย่างนั้น”คนตัวโตกว่าพยักหน้ายิ้มรับ หัวเราะเบาๆ กับท่าที่สดใสของขนุน แต่พอเหลือบมองไปด้านหลังของขนุนไกลๆ ก็เหมือนจะมีเพื่อนที่คอยดูแลอยู่ห่างๆ หรือห่วงด้วยหรือไม่ก็ไม่แน่ใจ

   “พี่คณินครับ ถ้าหากไม่ว่าอะไร ว่างๆ ผมขอไปเล่นกับไข่ดาวได้ไหมครับ”

   “อ่า.....ก็ได้นะ ปกติพี่ก็ไม่ค่อยได้เล่นกับไข่ดาวสักเท่าไหร่ พองานเริ่มเยอะเวลาอ่านหนังสือก็เยอะตามไปด้วย บางทีก็ไปข้างนอกกับเพื่อนจนรู้สึกผิดกับไข่ดาวด้วยเหมือนกัน”

   “ถ้าอย่างนั้นพี่คณินรอแป๊บนะครับ”

   ขนุนหมุนตัวไปหากระเป๋าที่ตัวเองวางอยู่ข้างๆ หยิบปากกาขึ้นมาและใช้ใบเสร็จจากร้านสะดวกซื้อที่ติดอยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมา แล้วบรรจงเขียนบางอย่างลงไปพร้อมกับยื่นให้คณิน

   “นี่เบอร์ของผมนะครับ พี่คณินอย่าลืมโทรมาบอกผมด้วยนะครับว่าไข่ดาวบ้านอยู่ที่ไหน ไว้ว่างๆ ผมจะไปหา ขอบคุณที่ไม่รังเกียจนะครับ”

   “ไอ้ขนุน! มาทำงาน!”

   เสียงตะโกนเรียกก็พอจะรู้แล้วว่าตอนนี้ขนุนโดดงานมาคุยกับคณินนานเกินไปแล้ว เพราะเจ้าตัวจะต้องไปฟรีฮักรับบริจาคเงินอีก

   “เพื่อนเรียกแล้ว ดูเหมือนจะยุ่งๆ อยู่”

   “ก็ประมาณนั้นครับ”ท่าทางของขนุนก็ดูเสียดายนิดหน่อยที่ไม่ได้คุยกับคณินต่อ อีกฝ่ายแม้จะเพิ่งจะเจอกับขนุนแต่ความน่ารักอย่างเป็นธรรมชาติก็เผลอทำให้คณินจดจำเจ้าของชื่อขนุนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

   “กำลังรับบริจาคเงินอยู่เหรอ? ”คณินลุกขึ้นพร้อมกับเดินมาหาขนุนที่ลุกเตรียมไปทำหน้าที่ของตัวเอง

   “ครับ เอาไปค่ายอาสา มีอะไรหรือเปล่าครับ”

   “งั้นพี่ขอร่วมบุญด้วย”คนตัวสูงที่แค่ขยับกลิ่นหอมอ่อนๆ ก็ลอยเข้าจมูกขนุนจนเจ้าของฟันขาวแอบสูดดมแบบเนียนๆ จนรูจมูกขยับ

   “ขอบคุณมากครับ ดีจังเราได้ทำบุญร่วมกัน สาธุนะครับ”คณินควักเงินในกระเป๋าตัวเองจำนวนหนึ่งยื่นให้ขนุน อีกฝ่ายรับไปด้วยความเต็มใจพร้อมกับก้มไหวเสียดิบดี

   “พี่ยินดี”

   “พอดีว่าพวกเราบริจาคเงินโดยการฟรีฮัก พี่คณินให้ผม.....ผมก็คงต้องให้บ้างแล้ว”คนตัวโตที่ยืนอยู่ก็คงจะไม่ทันตั้งตัวเช่นกัน เมื่อขนุนเดินเข้ามาใกล้ ใกล้มาก แล้วยื่นมือเข้าสวมกอดคณินแน่นเต็มรัก
 
   “.....”

   “ฟรีฮักวันนี้พี่คณินเป็นคนแรกที่ผมกอดเลยนะครับ”

   กอดไปก็พูดไปด้วย เล่นเอาคณินตามขนุนไม่ทัน ตั้งสติได้อีกทีก็เห็นเจ้าของรอยยิ้มโบกมือล่ำลาอยู่ไกลๆ แล้ว

   ขนุนวิ่งเหยาะๆ ไปหายังกลุ่มเพื่อน ที่ต้อนรับเขาโดยการผลัดกันขยี้เส้นผมสีบลอนด์จนดูยุ่งเหยิงเพราะหมั่นไส้ คณินเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวให้กับผู้ชายตัวเล็กที่ให้นิยามคำว่าน่ารักได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ และเพื่อนของขนุนก็คงจะคิดแบบนั้นเหมือนกัน

   “กลับบ้านกันไข่ดาว หน้าตาแกดูเศร้าๆ เพราะจะไม่ได้อยู่กับขนุนรึไง เจ้าหมาสองใจ! ”

   คณินแอบดุเจ้าชิบะที่ยืนจ้องมองคนที่วิ่งจากไปตาเขม็งหูตั้ง หากไม่จับเชือกไว้ก็คงจะวิ่งตามไปแน่

   จริงๆ ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าไข่ดาวจอมซนจะชอบแอบหนีจากบ้านมาเที่ยวเล่นข้างนอก ครั้งนี้อาจจะออกมาไกลไปหน่อยและที่สำคัญดันโดนขนุนอุ้มกลับไปซะอีก

   คณินไม่โทษไข่ดาวที่แอบหนีมาซนนอกบ้าน

   ไม่โทษขนุนที่แอบอุ้มไข่ดาวไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ

   แต่ลึกๆ คงโทษตัวเองมากกว่าที่ไม่ได้สนใจไข่ดาวเท่าที่ควรนัก เขาก็รู้สึกผิดกับเจ้าไข่ดาวไม่น้อย เลยไม่ได้ปฏิเสธที่หากจะมีใครอยากมาเล่นกับไข่ดาวจริงๆ

   เริ่มต้นไข่ดาวถูกนำมาเลี้ยงด้วยความรักของคณินและลูกตาล หญิงสาวที่เคยได้ใจของคณินไปครองถึง 3 ปี นับอายุไข่ดาวก็คงจะ 3 ปีเช่นกัน แต่แล้วความสัมพันธ์ที่ไม่ยั่งยืนและลงรอยก็ทำให้ทั้งสองต้องเลิกรากันไปเมื่อ 5 เดือนที่แล้ว กลับไปเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่แม้แต่จะทักทายกัน

   จบลงด้วยดีไม่มีอยู่จริงในความสัมพันธ์ที่เรียกว่าคู่รัก การเลิกราต่อกันมักทิ้งบาดแผลเสมอ

   ต่างฝ่ายต่างเจ็บข้อนั้นคณินรู้ดี และก็เจ็บมานานจนเหมือนรอยแผลเป็นที่ไม่ยอมจางไปเสียที

   นับจากนั้นไข่ดาวก็อยู่ในความปกครองของคณิน ไข่ดาวถูกเลี้ยงดูให้กินอิ่มและใช้ชีวิตแบบเหงาๆ ไม่ต่างจากคนเลี้ยงสักเท่าไหร่ ยิ่งช่วงเลิกกับลูกตาลใหม่ๆ ก็มีไข่ดาวนี่แหละที่เลียน้ำตาให้เขา

   แต่ยิ่งคณินเรียนชั้นปีที่สูงขึ้น แน่นอนว่าเวลาก็จะเทไปให้การเรียนซะส่วนใหญ่ ไข่ดาวจึงได้รับการเอาใจใส่ไม่ได้มากมายเช่นแต่ก่อนนัก แต่คณินก็ไม่ได้ถึงกับทอดทิ้ง




มอP

   “ไงมึง ไปรับไข่ดาวกลับมาแล้วเหรอ ไปซะนานจนกูคิดว่ามึงจะไม่กลับมาแล้วซะอีก”

   ทันทีที่คณินลงจากรถและเดินเข้าไปหากลุ่มเพื่อนที่มหาลัย เจ้าของความสูงที่แพ้คณินไปเพียง 2 เซนชื่อว่าอนาวินพูดขึ้นหยอกล้อ

   “กูคุยกับขนุนนานไปหน่อย”

   “นี่มึงเรียนหนักจน.....สมองมึงมีปัญหาถึงขั้นเครียดหนักไปคุยกับขนุนเลย? มึงยังมีกูอยู่นะเว้ยไอ้คณิน”อนาวินนิ่วหน้าชี้ไปที่หัวของตัวเองเชิงแสดงให้เห็นภาพ

   เพี๊ยะ!

   “กู ไม่ ได้ บ้า!”คณินตบกบาลเพื่อนรักอย่างไม่ยั้งมือสีหน้านิ่งปราศจากรอยยิ้มอย่างที่เป็น ไม่ได้เป็นเพราะพันธุกรรมหรือนิสัย แต่เป็นเพราะความรู้สึกเจ็บบางอย่างที่กลายเป็นความเคยชิน น้อยมากที่จะเห็นรอยยิ้มของคณินผ่านมาก็จะ 5 เดือนแล้ว

   “สมน้ำหน้า กวนตีนนักเป็นไงเจอของแข็ง สายเฉียบก็ต้องเป็นงี้”โจมอีกคนที่กางหนังสือแล้วเอาหน้าซุกพักสายตาหันไปยิ้มเยาะเพื่อตัวดี

   “คณินไม่อ่อนโยน หึ! ”คนโดนฟาดกะโหลกทำท่าทีเอียงงอน ก่อนหันไปถามอย่างจริงจังไม่เล่นหลอก “ตกลงขนุนนี่คือ? ”   

   “ขนุนเป็นคน คนที่อุ้มไข่ดาวไป”

   “ไอ้คนที่ถูกติดแฮชแท็กขนุนอุ้มหมานั่นน่ะเหรอ”โจมสนใจหัวเราะน้อยๆ กับเรื่องตลกที่พูดออกมา

   “ใช่ เขาชื่อขนุน เป็นรุ่นน้องอยู่มอM ”

   “แล้วตกลงอุ้มไอ้ไข่ดาวไปเพื่อ? ”

   “เมา เห็นบอกมางั้น” ทันทีที่คณินบอกออกไปเพื่อนทั้งสองถึงกับหลุดขำออกมาสองมือตบโต๊ะไม้จนขาโต๊ะสั่น

   “นี่เมาจริงอ่ะ กูคิดว่าเรื่องกุขึ้นให้มันตลก กูอยากเห็นหน้าคนเมาที่อุ้มหมาจริงๆ ว่าจะหน้าตาเป็นไง”โจมปิดหนังสือหันไปมองเพื่อนที่นั่งล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วยิ้มบางอย่างไม่รู้ตัว

   “มันยังไง นี่มึงยิ้มคนเดียวได้ด้วย? ”คนเห็นคงจะไม่ได้มีแค่โจม แต่อนาวินก็มองเห็นด้วยเช่นกัน รอยยิ้มที่กำลังกลับมาทีละน้อยของคณินคนซม ที่ซ่อนยิ้มเพราะอกหักมาเกือบ 5 เดือนแล้ว

   “ไม่ได้ยิ้ม”

   “จะมาปฏิเสธแล้วลุกหนีแบบนี้ได้ไงวะไอ้คณิน! ”

   “ถึงเวลาเรียนแล้ว”

   “กูรู้ แต่มึงตอบกูมาก่อน ไม่งั้นกูเรียนไม่รู้เรื่อง ”

   “จะให้ตอบอะไร”

   “ก็ที่มึงยิ้มคนเดียว หมายความว่าไงหรือน้องขนุนจะมีดีอะไรทำให้คุณคณิน ยิ้มน้อยได้ในรอบปีขนาดนี้”

   “ทำไมกูต้องบอก”

   “เอ๊ะ! ไอ้คณินกูจะฟ้องแม่มึงคอยดู! ”

   “อนาวินครับ เอาเวลาอยากรู้เรื่องคนอื่นไปเข้าเรียนเถอะครับ เดี๋ยวคุณจะจบไม่สวยนะครับ”

   “กูรู้นาไอ้โจม หงุดหงิดโว้ย! ไปเรียนก็ได้”

   และระหว่างที่ต่างพากันขึ้นตึกไประหว่างทางโทรศัพท์ของคณินก็ดังขึ้น เจ้าของโทรศัพท์หงายหน้าจอที่สว่างวาบขึ้นมาดู ปรากฏว่าเป็นแม่ของเขาที่โทรมา

   “พวกมึงไปก่อนเลย เดี๋ยวกูคุยโทรศัพท์กับแม่ก่อน”

   อนาวินและโจมพยักหน้ารับรู้ โบกมือเข้าใจแล้วพากันเดินไปก่อน คณินเลือกที่จะหามุมเงียบๆ คนไม่พลุกพล่านเพื่อที่จะหาความเป็นส่วนตัวก่อนกดรับโทรศัพท์

   “สวัสดีครับแม่”

   [คณิน สะดวกคุยรึเปล่า]

   “สะดวกครับ แม่มีอะไรรึเปล่า?”

   [ไม่ได้มีอะไรสำคัญหรอก แค่คิดถึง อยากได้ยินเสียง]

   “ผมก็คิดถึงแม่ครับ”

   [อยู่คนเดียวเหงารึเปล่าลูก ของที่ส่งไปให้ได้รับรึเปล่า]

   “ได้แล้วครับ ขอบคุณมากนะครับจริงๆ แม่ไม่ต้องลำบากนั่งหลังแข็งถักเสื้อให้ผมก็ได้ เดี๋ยวจะปวดหลังผมไม่ช่วยหรอกนะ”คนตัวโตกรอกเสียงนุ่มลงไปหยอกล้อแม่ตัวเองที่ตอนนี้อยู่ทางภาคใต้ บ้านอีกหลังที่ปลูกไว้เป็นบ้านตากอากาศ แต่ไปๆ มาๆ แม่กลับติดใจและขอใช้ชีวิตบั้นปลายที่นั่นกับพ่อ

   ซึ่งคณินก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร ถึงบ้านเก่าจะอยู่ในตัวเมืองที่ผู้คนพลุกพล่าน เป็นใจกลางของความทันสมัย แต่ยังไงมันก็ไม่ได้มีความสุขไปซะทุกวัน แถมควันพิษยังหนาแน่นไปทุกหย่อมหญ้า แน่นอนว่ามันจะไปดีต่อร่างกายได้อย่างไร และคณินก็ตั้งใจไว้ว่า เรียนจบเมื่อไหร่ก็อาจจะไปทำงานอยู่ใกล้ๆ ครอบครัวเหมือนกัน

   “แล้วพ่อล่ะครับ”

   [รายนั้นว่างจากงานก็ออกไปตีกอล์ฟนอกรอบกับเพื่อนน่ะ คนที่น่าจะห่วงเรื่องปวดหลังควรจะเป็นพ่อเราซะมากกว่า]

   “ผมเป็นห่วงทั้งสองคนนั่นแหละครับ”

   [คณิน]

   “ครับแม่”

   [เอ่อ.....แม่ไม่ได้จะยังไงหรอกนะ แต่ช่วงนี้ลูกยังโอเคอยู่ใช่มั้ย? ]

   “หากแม่หมายถึงเรื่องลูกตาล ไม่ต้องห่วงครับผมทำใจได้แล้ว”

   [นั่นสินะ แม่ไม่น่าห่วงให้มากเลย คนแก่ก็ขี้กังวลแบบนี้แหละ]

   อารีเป็นแม่ของคณิน ที่ทั้งสองค่อนข้างจะสนิทกันมาก คณินเล่าเกือบทุกเรื่องให้แม่ของตัวเองฟังตั้งแต่คบหากับลูกตาลกระทั่งเลิกราและผิดหวังในรัก และความทุกข์ใจของคณินก็ปิดแม่ไม่มิด ความไม่ปกติของท่าทีและความหม่นหมองบางอย่างแม่ของเขารู้สึกได้ จึงคอยถามไถ่อยากให้ลูกชายคนโตกลับมามีรอยยิ้มสดใสอีกครั้ง

   “เรื่องมันผ่านไปแล้วครับ ผมเริ่มทำใจได้แล้ว”

    [ก็ดีแล้ว แม่ดีใจที่ลูกคิดได้แบบนั้นนะ คนดีๆ ที่จะทำให้ลูกแม่มีความสุขอาจจะกำลังรออยู่ก็ได้]

   “แต่เสียงของแม่เหมือนจะยังไม่ไว้ใจผมนะครับ”คณินแอบหยอกล้อแม่ของตัวเองไป

   [โถ่ จะว่าแม่อีกแล้วสินะ จริงสิ แม่มีอีกเรื่องจะไหว้วานคณินหน่อยน่ะ]

   “เรื่องอะไรครับ”

   [จำร้านผ้าไหมที่แม่ไปซื้อประจำได้หรือเปล่า]

   “จำได้ครับ แม่อยากได้เหรองั้นเดี๋ยวผมจะไปซื้อแล้วส่งไปให้”

   [ไม่ใช่หรอก แม่ไม่ได้อยากจะได้เอง แต่พอดีอีกไม่กี่วันจะถึงวันเกิดเพื่อนแม่น่ะ แต่เพราะแม่คงจะขึ้นไปไม่ไหวเพราะปวดเข่าเลยอยากจะไหว้วานคณินให้ไปเอาผ้าที่แม่สั่งไว้แล้วเอาไปฝากไว้ให้หน่อยได้รึเปล่า] คณินเองก็ไม่ได้รู้มากนักว่าแม่ของเขาคบค้าสมาคมกับเพื่อนคนไหนบ้าง แต่ก็ยอมรับปากไป

   “ได้ครับ วันไหนยังไงบอกผมได้เลย เดี๋ยวผมจะจัดการให้ครับ”

   [ดีมากเลย ถ้าจะให้ดีอย่าลืมซื้อพวกขนมขบเคี้ยวติดไม้ติดมือไปฝากด้วยนะ ได้ยินเสียงได้คุยกันเท่านี้แม่ก็สบายใจแล้ว]อีกปลายสายถอนหายใจหลุดโล่งเหมือนยกภูเขาออกจากอก

   “ครับ งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้วผมวางสายนะครับ บังเอิญว่าใกล้ถึงเวลาเรียนแล้ว”

   [จ้า แม่รักลูกนะคณิน]

   “ครับ ฝากความคิดถึงถึงพ่อด้วยครับ”

   หลังจากที่คณิณวางสายจากแม่ไม่ถึงสองนาที จู่ๆ เสียงข้อความแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ตอนแรกก็คงคิดว่าเป็นข้อความจากค่ายโทรศัพท์มาแจ้งโปรเน็ตต่างๆ หรือไม่ก็พวกเพลงรอสาย แต่เปล่าเลย มันกลับเป็นข้อความจากหมายเลขที่โทรศัพท์ที่คณินไม่คุ้นตา แต่เมื่อลองกดเปิดเข้าไปอ่านก็รู้ในทันทีว่าเป็นใคร

   ‘ขอโทษที่ใจร้อนหาเบอร์พี่คณินมาโดยไม่ได้บอกนะครับ(รอพี่ติดต่อมาไม่ไหว) อันนี้เบอร์ผมเอง กลัวพี่ทำเศษกระดาษเบอร์ผมหายน่ะ อย่าโทษต้าที่บอกเบอร์พี่กับผมนะ ผมไปขู่บังคับขอมาเอง ไม่งั้นเพื่อนผมต้องตีผมแน่เลย ว่างๆ จะไปเล่นกับไข่ดาวนะครับ //ขนุน’

   อ่านข้อความจบ คณินถึงกับส่ายหน้ายิ้ม แล้วไม่ลืมที่จะเมมเบอร์โทรศัพท์ของขนุนเอาไว้ และเข้าไปแอดไลน์ด้วยเสียเลยเพราะกลัวขนุนจะมาทวงเขาเรื่องนี้อีก

   เด็กอะไรขี้ตื๊อนัก

   แม้ปากบ่นแต่นิ้วกลับพิมพ์ข้อความส่งผ่านทางไลน์ของอีกฝ่ายไป ทั้งๆ ที่เพิ่งจะเจอกันไปไม่กี่ชั่วโมงแต่คณินกลับรู้สึกว่า ระยะเวลาไม่ใช่ปัญหาของมิตรภาพ แถมขนุนก็ดูเป็นเด็กดี หากคณินไม่เอ็นดูเขาก็คงจะใจดำเป็นถ่านแล้ว

   พี่ไม่ว่าเพื่อนขนุนหรอกครับ แต่พี่ขอตีก้นคนขี้ใจร้อนได้มั้ย

   คณิตกดส่งไป พร้อมกับสติ๊กเกอร์หน้าดุ แต่นอกจอสี่เหลี่ยมในมือคนตัวโตกลับยิ้มออกมาก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าไปส่ายหน้ายิ้มบางให้กับคนชื่อขนุน



   “ขนุนเหรอ?.....ก็น่ารักดี”










ติดตามตอนต่อไป >>>

ฝากขนุนน้อยให้ได้ไปต่อในตอนต่อไปด้วยนะคะ

ทวิตเตอร์ #ขนุนอุ้มหมา มาเมาท์มอยกันได้น๊าาาา ><

 :oni3: :oni3: :oni3: :oni3:
ขนุน ขนุน ขนุน ขนุน ขนุน ขนุน ขนุน ขนุน ขนุน
 สะกดจิตกันไป เดินตลาดก็ขอให้นึกถึงขนุนด้วยนะคะ ฮ่าๆๆ



โดย หลานฮวา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-02-2019 17:27:52 โดย ทามากิบ๊อง »

ออฟไลน์ rainiefonnie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
โอ้ยยยยยยขนุนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ wutwit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 259
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
มาตามความน่ารักของขนุน ดูซิพี่คณินจะไปไหนรอด

ออฟไลน์ q.tr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
หนุนรู้กกกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ขนุนนนนอ่านไปก็มีแต่คำว่าน่ารักน่ารักน่ารักเต็มไปหมด :L2: :-[

ออฟไลน์ ทามากิบ๊อง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-4


ขนุนลูกที่ 4




   “เป็นอะไรไอ้ขนุน กูเห็นมึงหน้าเซื่องซึมเป็นส้วมตันมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ท้องอืดถ่ายไม่คล่องรึไง หรือปวดหัวปวดตัวตรงไหน บอกหมอซิครับ”คนห่วงใยเพื่อนเอามือเสียหน้าผากขนุนให้เห็นหน้าชัดๆ

   “นิวอ่า ก็เมื่อวานที่เราขอเบอร์พี่คณินจากต้าไป.....”พูดแล้วขนุนก็ถอนหายใจ

   “แล้วยังไง พูดให้จบ”

   “เราก็เลยส่งข้อความไปหาพี่คณิน แล้วพี่เขาก็ดุมาอ่ะว่าอยากจะตีคนขี้ใจร้อน พี่เขาโกรธรึเปล่าที่เราไปละลาบละล้วงเอาเบอร์พี่เขามาจากจากต้าแบบนั้น”

   “โถ่ทูนหัวของบ่าว....”นิวแสร้งเห็นใจก่อนจะผลักหัวเพื่อนรักที่ทำหน้าตาละห้อยอย่างหมั่นไส้ แล้วพูดใส่หูขนุนไปว่า“เออ! สมควรมึงอ่ะ ก็รู้นะว่ามึงอ่ะไม่ได้คิดแต่จะกินลาบ แต่จะล้วงพี่เขาด้วยอ่ะดิ หน้าตาน่ารักแบบนี้ใครสอนให้แรดห๊ะไอ้ขนุน!”

   “โธ่นิวเราไม่ได้ชอบใครไปทั่วนะ แล้วก็อย่าซ้ำเติมได้มั้ย แค่นี้ก็กลุ้มใจจะแย่อยู่แล้ว กินไม่ได้นอนไม่ค่อยหลับอยู่เนี่ย เราผอมไปใช่มั้ยอ่ะ”ขนุนหน้ามุ่ยโรคมโนถามหา ก่อนที่ต้าจะเดินมาในมือถือน้ำกับลูกชิ้นทอดที่เพิ่งจะซื้อมาจากโรงอาหารของคณะ มาพร้อมกับจ๊ะเอ๋ที่ช่วยถือของกินเล่นพวกผลไม่มาอีกสองถุงใหญ่ๆ

   “ไหนมึงบอกกลุ้มกินไม่ได้ นี่คว้าของกินคนแรกเลยนะไอ้ขนุน!”

   “ก็เราหิวแล้ว”คนเปลี่ยนใจคว้าลูกชิ้นปลายัดใส่ปากคำโตเข้าไปสองลูกอัดแน่นจนแก้มกลมเคี้ยวแก้มตุ่ย  นิวมองขนุนจนนึกในใจไปว่า ‘กูห่วงมันเพื่อ? ก็รู้ๆ สันดาน’

   “แล้วพี่คณินติดต่อกลับมาอีกไหม? ”

   “ไม่เลย แล้วเราก็ไม่กล้าส่งข้อความไปหาด้วย ยังทำใจไม่ได้อ่ะกลัวใจว่าพี่เขาจะรำคาญเอาจริงๆ ”ขนุนคว้าน้ำอัดลมเข้ามาดูด เพื่อนนั่งมองตาดูคนทุกข์ตรงหน้าที่บอกว่ากลุ้มจนกินไม่ได้

   “แล้วทำไมไม่ลองขอโทษไปดู เราว่าแบบนี้จะดีกว่านะขนุน”

   “จ๊ะเอ๋ว่างั้นเหรอ?”

   “นี่อย่าบอกนะว่ามึงไม่ได้ตอบอะไรพี่เขากลับไปสักข้อความจริงๆ อ่านแล้วนิ่ง? แล้วก็มากลุ้มอยู่แบบนี้”ต้ากอดอกมองเพื่อนตรงหน้า ที่เช็ดปากด้วยหลังมือก่อนนิวจะหาทิชชู่ยื่นมาให้ เป็นอะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่เหมือนต้องดูแลกัน

   “ยังเลย เราไม่กล้า”

   “ก็ไหนบอกมึงเจอคนที่ใช่ เอาแต่กลุ้มเดี๋ยวขนุนจะลายเป็นแห้วนะเว้ย”

   “แต่เราคิดๆ ดูแล้วก็ควรจะขอโทษแหละนะ”ขนุนควักโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาเปิดไลน์ของคณินขึ้นมาอีกครั้ง และขอตัวไปหาที่สงบๆ เป็นการส่วนตัวเสียดื้อๆ

   ตอนนี้ขนุนเดินวนไปวนมาอยู่ใต้ต้นไม้ประมาณสิบรอบ เพื่อนๆ ในคณะที่เดินผ่านไปมาทักทายกันไปแล้วประมาณยี่สิบคน ขนุนถึงได้ตัดสินใจพรมนิ้วลงไปบนแป้นพิมพ์

   ขนุน : สวัสดีครับพี่คณิน

   เมื่อรวบรวมความกล้าได้แล้วขนุนจึงเริ่มต้นด้วยการทักทาย ตอนนี้ก็เป็นเวลาประมาณสี่โมงเย็นแล้ว อีกฝ่ายอาจจะกำลังว่างอยู่ก็เป็นไปได้ และเป็นไปตามคาด ไม่ถึงหนึ่งนาทีบนหน้าจอก็ปรากฏข้อความว่า ‘อ่านแล้ว’ ขนุนเลยลุ้นสุดตัว ตากลมใสจ้องจนหน้าจอแทบทะลุ

   Kanin : ดีครับน้องขนุน

   แค่เห็นข้อความตอบกลับมาขนุนถึงกับกระโดดตัวลอย เพื่อนที่นั่งอยู่ตรงศาลาใกล้ๆ ถึงกับมองท่าทีน่าหมั่นไส้ของขนุนจนอยากจะลงมาจับไปเฆี่ยนให้หลังลาย

   นิวอดไม่ได้เลยทำปากพะงาบๆ ด่าทอให้คนตัวเล็กอ่านปาก จาก 1 ในจตุรเทพที่เหมือนโดนเมินแล้วงอนใส่เหมือนลูกไม่รัก ลูกดื้อ ลูกจะไปมีแฟน ขนุนทำเพียงยิ้มตาหยี่ส่งไปให้เหมือนโลกใบใหม่เป็นสีชมพู

   ขนุน : พี่คณินครับ.....พี่โกรธผมเรื่องเบอร์โทรศัพท์อยู่รึเปล่า ผมกลุ้มมากเลย

   Kanin : หายไปเป็นวันๆ เพราะเรื่องนี้?

   ขนุน : อือ

   Kanin : ก็โกรธ...

   ขนุน : ส่งสติ๊กเกอร์ร้องไห้

   ขนุน : ผมขอโทษครับ วันหลังจะไม่ทำอีกแล้ว

   Kanin : พี่จะเชื่อเราได้รึเปล่า? รู้หน้าไม่รู้ใจ

   ขนุน : แล้วอยากรู้ข้างในรึเปล่าล่ะครับ....เอ่อ ผมหมายถึงหัวใจ

   Kanin : งั้นให้พี่เปิดห้องรอเลยมะ?

   ขนุน : ห๊ะ!!!

   Kanin : ตกใจอะไร พี่หมายถึงห้องผ่าตัด จะผ่าดูใจเราซะหน่อย

   คณินยิ้มบางกับหน้าจอโทรศัพท์ แม้ไม่ได้เห็นหน้าอีกฝ่ายก็อดจินตนาการแล้วขำไม่ได้

   ขนุน : อ๋อ ครับ เล่นมุกจนผมดีใจเก้อ

   Kanin : เด็กแก่แดด

   ขนุน : สติ๊กเกอร์ยิ้มแหะๆ

   ขนุน : สรุปว่า.....ไม่โกรธผมแล้วใช่มั้ยครับ?

   Kanin : หากจะให้หายโกรธจริงๆ งั้นทำงานแก้ตัวให้พี่ 1 อย่างแล้วกัน

   ขนุน : งานอะไรครับ?

   แล้วหลังจากนั้น แผนที่โลเคชั่นก็ถูกแชร์ที่ตั้งมาในหน้าแชต ขนุนเบิกตาโพลงพร้อมกับอ่านข้อความที่คณินส่งมา

   Kanin : มาเล่นเป็นเพื่อนไข่ดาวให้หน่อยครับ เหมือนมันจะเหงา 

   แค่เห็นอีโมติคอนยิ้มโผล่มาแค่รูปเดียว ขนุนถึงกับน้ำตาซึมผงกหัวให้กับหน้าจอแชตอย่างกับคนบ้า และท่าทางซอยเท่ายิกๆ อยู่กับที่เหมือนจะวิ่งหรือจะทำอะไรสักอย่างชวนให้คนที่เดินผ่านไปมามองดูขบขัน แถมเจ้าก้อนเนื้อในอกของขนุนก็พองโตอย่างกับลูกโป่ง

   ขนุน : ถ้าพี่คณินเหงาก็เรียกผมไปเล่นด้วยได้เหมือนกันนะครับ

   Kanin : อ้อนเก่ง?

   ขนุน : ไม่ได้อ้อนครับ จิตอาสามาเองล้วนๆ 

   Kanin : แล้วเจอกันน้องขนุน หลงก็โทรมาล่ะจะไปรับ

   ผมไม่หลงทางหรอก แต่อาจจะหลงพี่คณินจนกู่ไม่กลับซะมากกว่านี่สิ!

   ขนุน : ชอบคุณครับพี่คณิน

   ความตั้งใจที่ไม่ให้ดูตั้งใจแอบบอกชอบพี่เขาไปทำขนุนใจเต้นแรง ต้าบอกให้ขนุนเก็บอาการไว้ซะบ้าง เดี๋ยวพี่คณินจะแตกตื่นไปซะก่อน

   Kanin : ชอบ?

   ขนุน : *ขอบ ขอโทษครับ นิ้วมันเบียด เดี๋ยวถึงแล้วผมจะทักไปนะครับ

   Kanin : OK

   จบบทสนทนาผ่านข้อความออนไลน์แล้ว แต่ดูเหมือนนอกจอนั้นยังคงติดลมบนอยู่ไม่น้อย แก้มขาวๆ ตุ่ยๆ ของขนุนมันถึงได้จับกันเป็นก้อนกลมแล้วแดงเรื่อซะขนาดนั้น



   
   “เดี๋ยวขนุนนี่มึงจะไปไหนครับ? ”ต้าถามเสียงเข้มเมื่อเห็นว่าอยู่ดีๆ ขนุนก็มาเก็บโกยข้าวของตัวเองที่ฝากวางไว้ก่อนหน้าลงกระเป๋า

   “ไปเล่นกับไข่ดาว”เสียงใสพูดขึ้นเหมือนเป็นเรื่องของกิจวัตรประจำวัน
“ห๊ะ! ไข่ดาว? ”นิวยู่หน้าคว้าสายกระเป๋าขนุนไว้เป็นการยื้อกลายๆ แอบเล็งสายตาเข้มไปที่เจ้าของแก้มขาวที่แดงเรื่อจางๆ

   “ก็ไข่ดาวหมาพี่คณิน”

   “นี่มึงรู้ว่าบ้านพี่เขาอยู่ที่ไหนเหรอ? ”

   “ไม่รู้ แต่เดี๋ยวก็รู้เองล่ะ”

   “สนิทกันไวไปไหม มึงเพิ่งเจอเขาเองนะ”นิวกอดอกถามหรี่ตามองขนุน

   “จำเป็นด้วยเหรอว่าเราจะต้องวางตัวเหินห่างเพียงเพราะเพิ่งรู้จักกัน ผิดแล้วนิว ต้าสอนเราว่าใครไวใครได้”

   “ไอ้ต้า มึงสอน?”นิวหันหน้าขวับจ้องเขม้นไปที่เพื่อนรัก

   “กะก็ ก็เคยพูดไปแบบนั้น ก็มันบ่นๆ ว่าอยากเจอคนที่ใช่กูก็เลยปลุกระดมความคิดมันนิดหน่อย”

   “ถ้าไม่มีอะไรแล้วเราไปนะ”

   “ไหนบอกเขาโกรธมึงอยู่ไงไอ้ขนุน”

    “ก็ตอนนี้เรากำลังไถ่โทษอยู่น่ะ ดูเหมือนพี่คณินก็ไม่ได้โกรธอะไรเรามาก เรากังวลไปเองนั่นแหละ จริงๆ น่าจะทักไปตั้งนานแล้ว”คนพูดแกะมือนิวออกจากกระเป๋าตัวเองที่ยื้อไว้ แถมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เสียจนเห็นฟันซี่ขาวๆ
 
   “ตกลงจะไปเล่นกับหมาหรือคนห๊ะขนุน เรางงกับความลั้นลาบนใบหน้าขนุนมากเลยนะ”

   “จ๊ะเอ๋ล่ะก็ ก็ต้องกับไข่ดาวดิ”

   “ตกลงนี่มึงจะไปหาผู้ชาย งั้นพวกกูไปด้วย.....ใช่มั้ยไอ้ต้า”นิวพยักพเยิดหน้าให้กับเพื่อนพร้อมกับยืนขึ้นเตรียมพร้อม

   “ทำไมนิวต้องตามเราไปอ่ะ เราไปเองได้พี่คณินส่งโลเคชั่นให้แล้วอยู่ไม่ไกลจากมอเอง”

   “แต่มึงเพิ่งรู้จักพี่เขานะ ไว้ใจได้รึเปล่าก็ไม่รู้ วันแรกเจอหน้า วันที่สองจะหนีตามแล้วว่างั้น มึงนี่นะ”คนบ่นกุมขมับ อดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้ ไม่ใช่เพราะขนุนบอบบางอะไรแบบนั้นหรอก แต่ห่วงว่าจะไว้ใจคนอื่นมากไปหรืออีกอย่างก็ไปทำให้คนอื่นเขาปวดหัวนี่สิ

   “นานะนิว เราไปไม่นานเองต้าก็รู้ว่าพี่คณินเขาไม่มีประวัติด่างพร้อยอะไรใช่มะ รับรองว่ากลับถึงหอแล้วจะโทรบอก”ขนุนเอื้อมมือไปกระตุกแขนเสื้อนิวเป็นการขอร้อง แววตาออดอ้อนมันช่างเจิดจ้าเสียจนคนถูกวอแวทานทนไม่ไหว

   “เออๆ ยังไงก็โทรมาแล้วกัน”

   “อืม เราไปก่อนนะ”สองมือเล็กยกขึ้นโบกมือล่ำลาเพื่อนฝูง ก่อนจะเดินเริงร่าออกไป

   “มึงก็อย่าห่วงมันนักเลยไอ้นิว มันโตแล้ว”

   “กูไม่ได้ห่วง”คนหน้าตึงทำปากแข็ง

   “กูรับรองนา พี่คณินเขาโอเคอยู่ รุ่นน้องที่รู้จักก็คอนเฟิร์มมาว่าคนคนนี้เขาดีจริง”

   “ดีจริงคือยังไง? ”

   “มึงจะซักซะจนกูสะอาดเลยรึไง”

   “ก็อธิบายมาดิวะ”

   “ก็ครอบครัวเขาเท่าที่รู้ก็เป็นผู้ดีเก่าที่ไม่ค่อยออกสื่อ ตระกูลที่ก่อตั้งมูลนิธิช่วยเหลือคนต่างๆ แล้วยกให้เป็นสาธารณประโยชน์สังคมเสียส่วนใหญ่ ง่ายๆ คือทำงานกันเบื้องหลัง น้อยคนจะรู้ ถ้าบอกนามสกุลมึงต้องบรรลุโสดาบันแน่”

   “ก็บอกมาดิวะ ต่อมความเผือกก็ทำงานแล้วเนี่ย”นิวทำท่าตัวสั่นเหวี่ยงก้นไปเบียดใกล้ต้าแล้วหนีบคอไว้

   “น่าสนใจ เราก็อยากรู้แล้วต้า พูดมาให้หมด”จ๊ะเอ๋ตาถลน

   ความอยากรู้ เข้าแล้วออกยาก

   “ดิเรกราชรังสรรค์”

   “เชรดดดด! นั่นนามสกุลคนหรือชื่อวัด”

   “เออใช่ ไปเปิดป๋ากู๋แล้วถ่างตาดูเอา วัดตระกูลพี่คณินเขาก็บริจาคมาแล้วมึงจะเอาอะไรอีก ดีพอมั้ยล่ะมึง”

   “ชิบ! ทำเอาพวกกูเหมือนไร้สกุลรุนชาติขึ้นมาบัดดล”นิวถึงกับหน้าซีดตัวอ่อน

   “สรุปแล้วกูว่า ไอ้ที่ต้องห่วงน่ะคือพี่เขามากกว่า ไม่ใช่ไอ้ขนุน”



   
   ใจกลางสวนสาธารณะแห่งหนึ่งไม่แปลกที่จะมีผู้คนพลุกพล่านบ้างปั่นจักรยาน บ้างก็มาวิ่งออกกำลังกาย ผู้คนมากหน้าหลายตาหากจะหาใครสักคนที่รู้จักก็คงจะไม่ใช่เรื่องง่าย ภารกิจเล็กๆ ของขนุนตอนนี้คือการตามหาพี่คณินท่ามกลางผู้คนให้เจอ

   โลเคชั่นที่คณินส่งมานั้นเป็นสวนสาธารณะใกล้บ้าน และมันก็ไม่ได้ไกลไปจากมหาลัยของขนุนมากนัก การเดินทางค่อนข้างสะดวกเพราะมีรถเมย์ผ่าน อาจต้องเดินเท้าบ้างก็ไม่ได้ลำบากนัก ขนุนใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาทีนิดๆ เพราะรถค่อนข้างติดและใช้เวลาในการเดินตามหาคณินอีกประมาณ 15 นาที

   แต่นั่นก็เร็วมากแล้วที่เจอโดยไม่ต้องโทรหาว่าอยู่ส่วนไหน คงเป็นความน่าอัศจรรย์ใจเล็กๆ ที่แรงดึงดูดจากคนที่ชอบจะทำให้ขนุนตาไวมองหาคณินเจอได้เร็วขนาดนี้

   ทว่ากว่าจะเข้าไปหาขนุนก็แอบมองเจ้าของร่างสูงอยู่หลังต้นไม้ห่างไปประมาณ 10 เมตร มองดูคณินที่จับสายจูงเจ้าไข่ดาว ใช้ตัวเองเป็นหลักปักนิ่งให้อิสระกับไข่ดาวได้วิ่งเล่นไปรอบๆ ตัวเขา ขยับตัวบ้างในบางครั้งเมื่อไข่ดาวพยายามดึงรั้งเชือกจูกไปสูดดมตามโคนต้นไม้ ท่าทางเงอะๆ งะๆ เวลาที่ไข่ดาววิ่งพุ่งไปหาคนที่วิ่งออกกำลังกายคล้ายจะจู่โจมด้วยความอยากเล่น ขนุนก็ได้เห็นคนตัวโตผงกหัวขอโทษ แล้วหันไปดุเจ้าไข่ดาวที่เห่าเถียงกลับมา

   ขนุนรู้ว่ามันคงเป็นเรื่องตลกที่จู่ๆ จะชอบใครคนหนึ่งภายในเสี้ยววินาทีของการสบตา แต่ก็ไม่ได้อยากให้มองว่ามันเป็นเรื่องของคนใจง่าย จริงๆ แล้วมันไม่ง่ายต่างหากที่ผ่านมาทั้งชีวิตขนุนเพิ่งจะเจอคนคนนี้

   หากใจง่ายจริงๆ ขนุนคงมีแฟนไปตั้งนานแล้ว ล่าสุดคงไม่ใช่ไอติม แฟนสาวสมัยประถมต้นที่ชื่นชอบให้เขาเป็นตุ๊กตานั่งผูกผมให้ทั้งวันกับป้อนใบไม้กับก้อนหินใส่ปากเขาแล้วบอกว่ามันคืออาหาร พอเขาปฏิเสธก็ถูกเจ้าหล่อนร้องไห้ใส่บอกขนุนว่าไม่เล่นด้วยแล้ว แถมยังผลักเขาเสียจนหงายหลังล้มและร้องไห้ไปอีกคน

   แต่ก็โชคดีที่ตอนนั้นมีคนใจดีเป่าเหม่งให้บอกไม่เป็นไรแถมยังจูงมือไปฟ้องครูประจำชั้นเป็นเพื่อนด้วย

   แค่คิดสมัยเด็กๆ มันก็เป็นเรื่องน่าขำจริงๆ

   “โฮ่ง! โฮ่ง!”
   
   ขณะที่ขนุนยืนคิดอะไรเพลินๆ บวกกับมองคณินจนเหม่อลอย เสียงเห่าราวกับเรียกก็มากระโจนใส่เขาเป็นที่เรียบร้อยแถมยังทำเอาคนตัวเล็กหงายหลังก้นกระแทกพื้นหญ้า

   “เป็นอะไรรึเปล่า? ”เสียงถามไถ่ที่อยู่ตรงหน้าเป็นคณินที่วิ่งตามขนุนซึ่งเผลอหลุดมือมา

   “ไม่เป็นไรครับ....แผล็บๆ แผล็บๆ”

   คนจะตอบหมาก็เลีย เลียหน้าเลียบปากเบอร์ใหญ่จนขนุนไม่มีจังหวะที่จะลุกได้เลยเพราะเจ้าไข่ดาวเข้าจู่โจมหน้าขนุนซะจนเปียกชื้น

   ท่าทางดีอกดีใจหางสะบัดจนแทบจะหลุด เป็นท่าทีที่โอเวอร์เอคชั่นของไข่ดาวจนคณินต้องดึงสายจูงแรงขึ้นเพื่อลากเจ้าไข่ดาวออกมา แล้วมองดูภาพคนตัวเล็กกว่าที่ขลุกขลักอยู่กับพื้น

   “ลุกไหวไหม?”เจ้าของมือใหญ่ยื่นมือมาตรงหน้า ขนุนเอื้อมมือไปจับก่อนจะถูกดึงตัวให้ลุกขึ้นด้วยอึดใจเดียว

   “หึหึๆ”

   “พี่คณินหัวเราะอะไรครับ”

   “เปล่าครับ”คณินส่ายหน้ามองดูขนุนที่เอามือปัดก้นปัดตัวเพื่อเอาเศษดินเศษใบไม้ออก“สงสัยไข่ดาวจะจำเราได้ เลยดีใจซะยกใหญ่”

   “หมามันคงจำกลิ่นได้ล่ะมั้งครับ ใช่มั้ยเจ้าไข่ดาว”

   ขนุนหันไปพูดด้วยกับเจ้าหมาหน้าตาฉลาดที่ยอมสงบแต่ก็ยังเงยหน้ามองขนุนหูตั้งหางกระดิก คุ้นกันจนขนุนสงสัยว่าไปสนิทกันจริงจังตอนไหน ล่าสุดก็แค่นอนด้วยกันเอง

   “ขอโทษนะที่ต้องให้เรามาไกลหน่อย แถมโดนต้อนรับซะแบบนี้”คนตัวสูงกว่าเอื้อมมือมาช่วยหยิบเศษใบไม่ที่อยู่บนเส้นผมให้ขนุนอย่างไม่ถือสา ขนุนเผลอนิ่งมองตามท่าทีเป็นธรรมชาติของคณินจนเผลอคลี่ยิ้มออกมาจนแก้มเปียกๆ ร้อนผ่าวขึ้น

   “ไม่เป็นไรหรอกครับ เรื่องเล็กน้อย แล้วพี่คณินอยู่คนเดียวเหรอครับ มีใครมาด้วยรึเปล่า”ขนุนแกล้งถามแล้วชะเง้อมอง

   “ไม่ได้มาคนเดียว ก็มีไข่ดาวมาด้วย”

   “ไข่ดาวไม่ได้เป็นคนนี่ครับ”

   “เถียงเก่งนะเรา เอ้า รับไปสิหน้าที่เราแล้วนะ”แล้วจู่ๆ พี่คณินก็ยื่นสายจูงที่อยู่ในมือตัวเองให้คนตัวเล็กตรงหน้า ขนุนมองมือคณินก่อนจะยื่นมือไป แต่ไม่ทันที่การส่งมอบจะเสร็จสิ้นจู่ๆ เจ้าตัวยุ่งอย่างไข่ดาวก็วิ่งรั้งสายจูงไปข้างหน้าเหมือนจะวิ่งตามคนปั่นจักรยานไป จนทำให้คณินเสียการทรงตัวจากแรงกระชาก ตัวกระแทกเข้าหาคนตัวเล็กกว่าอย่างขนุนจนเกือบจะหงายหลังล้มไปอีกรอบ

   แต่เหมือนครั้งนี้โชคดีจะเข้าข้าง เพราะนอกจากจะไม่ต้องลงไปนอนวัดขนาดกับพื้นรอบที่สองแต่กลับได้ลำแขนแข็งแรงเข้าตวัดหาโอบประคองแผ่นหลังเอาไว้ทันท่วงที

   วินาทีตัวเอียงไปด้านหลังเกือบ 45 องศาก็ว่าระทึกจนหัวใจตกวูบไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว กลับไม่เท่าการเจอใบหน้าหล่อเหลาของคณินที่ชิดใกล้จนปลายจมูกแตะหน้าผากได้ขนาดนี้ ยิ่งวินาทีขนุนเงยหน้าขึ้นสบตาคณิน อย่าว่าแต่หัวใจที่เต้นรัวเร็วจนนับครั้งต่อวินาทีไม่ได้ ร่างกายแทบไม่ต้องพูดถึง

   เพราะขนุนแข็งไปหมดทั้งตัวแล้วววววว!










ติดตามตอนต่อไป >>>



ฝากติดตามน้องขนุนในตอนต่อไปด้วยนะคะ :o8:

โดย หลานฮวา

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ง้อววว :hao7: เขินนนน้องไข่ดาวก็คือกามเทพนั้นเอง น้องขนุนน่ารักแถมยอดเก่งอีกเอ็นดูน้อง :-[ รอตอนต่อไปจ้า :3123: :pig4:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ที่สาธารณะลูกขนุน อย่าเพิ่งลากพี่เค้าเข้าพุ่มไม้นะ 5555

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
ขนุนลูก

สรุปคือต้องห่วงคนพี่ซินะ

 :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
ถึงจะมาแบบสั้นๆแต่ถ้าขยันลง

ก็ได้นะ คริๆ ขนุนน่ารักมาก ไข่ดาวน่ารักด้วยกอดดดดด

ออฟไลน์ ทามากิบ๊อง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-4
ขนุนลูกที่ 5



   
   “ขอบใจมากนะช่วยพี่ได้เยอะเลย”

   “ว่างๆ ก็เรียกใช้บริการอีกได้นะครับ ผมว่างเสมอ”พูดไปขนุนก็เอามือขยี้หัวไข่ดาวที่หลับตาพริ้มเหมือนกับยิ้มชอบใจให้ขนุนขยี้จนน้ำลายแทบไหล ขนสีน้ำตาลนุ่มมือมันเพลินจนขนุนเองก็อดที่จะลูบไปทั้งตัวไข่ดาวไม่ได้ ลูบไปมาเจ้าสี่ขาก็หงายท้องให้ซะแล้ว

   ขาดความอบอุ่นรึไงเจ้าไข่ดาว ลูบแค่นี้ก็เคลิ้มแล้ว

   “ให้พี่ไปส่งมั้ย? ”

   “ไม่ต้องหรอกครับ ผมกลับเองได้ใกล้แค่นี้เอง ถ้าพี่ไปส่งเดี๋ยวต้ากับนิวจะดุผมอีกว่ารบกวนพี่คณินมากไป ทั้งๆ ที่เราเพิ่งจะรู้จักกัน”

   “พี่ไม่ได้รู้สึกว่าเราเพิ่งจะรู้จักกันสักหน่อย แต่เราเนี่ยมีคนเป็นห่วงเยอะจริงๆ ”

   “ไม่หรอกครับ ก็มีแค่นิวกับต้าสองคนนี่แหละ คนอื่นก็ไม่ได้เป็นถึงขนาดนี้”ขนุนพูดไปก็ยู่ปากไปด้วย ไม่รู้สาเหตุเหมือนกันว่าต้ากับนิวจะห่วงเขาทำไมนักหนา

   “เพิ่มพี่ไปอีกคนได้ไหม? ”

   “แอ๊ะ? ”

   “ตกใจอะไร พี่ก็อยากได้น้องชายแบบขนุนเหมือนกัน พี่รู้สึกเอ็นดูขนุนเหมือนน้องคนนึงนะ”

   คนพูดส่งสายตาอ่อนโยนเอื้อมมือมาโยกหัวขนุนและสอดนิ้วเข้าใต้เส้นผมละเอียดสีบลอนด์ที่ดูระยิบระยับอย่างเอ็นดู ทว่าคนที่ถูกเอ็นดูกลับหน้าเสียเป็นนมบูดขึ้นมาซะงั้น





   “พี่คณินไม่รู้อะไรเลย เราไม่ได้อยากเป็นน้องชายสักหน่อย”

   เสียงพึมพำงึมงำอยู่คนเดียวขณะก้าวลงจากรถเมย์สาธารณะ หน้างองุ้มอย่างกับไปกินอะไรผิดสำแลงมาเดินเตะฝุ่น เตะก้อนหิน เตะกิ่งไม้ เตะใบไม่ยกเว้นแตะหมาไปเรื่อย เพราะแค่คำว่าน้องชายจากปากพี่คณินมันทิ่มตำหัวใจดวงน้อยๆ ของขนุนเหลือเกินจนเจ้าตัวแทบอยากจะลงไปแดดิ้นต่อหน้าคนพูด แต่ก็ทำไม่ได้

   ก็แน่ละใครมันจะไปคิดล้ำเส้นอย่างขนุนตัวดี

   เส้นทางที่ขนุนกลับหอยังคงเป็นเส้นทางเก่า แต่ทว่าก่อนหน้าต้ากับนิวโทรมาบอกไปเจอกันที่ร้านป๋าชุบ ร้านเหล้า ร้านประจำที่ชอบไปถึงคนเยอะและต่อให้ต้องขี่คอกันนั่งก็ไม่ค่อยจะเปลี่ยนร้าน ขนุนเลยต้องเดินเลี้ยวเข้าซอยเปลี่ยนเส้นทางไปยังสถานที่นัดแนะ และระหว่างที่ขนุนเดินใจลอยกำลังจะเดินไปอีกฝั่งนั้น คนที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวก็ลืมไปสนิทว่าตัวเองกำลังข้ามถนน กระทั่งเสียงแตรรถที่บีบดังลั่นพุ่งเข้ามาขนุนจึงได้รู้ตัว

   ปี๊น ปี๊นนนน!

   เอี๊ยดดดดดด!

   เสียงห้ามล้อที่ครูดไปกับพื้นถนนเบรกรถไว้ได้กะทันหัน ขนุนหันไปมองรถคันสีขาวที่ล้อเกือบจะมาเกยบนร่างตัวเองเข่าอ่อนจนทรุดนั่ง ดวงตากลมใสเบิกโพลงสั่นระริก มือไม้อ่อนแรงใบหน้าซีดเซียว

   ยมบาลกวักมือเรียกแล้วมั้ยล่ะขนุน!

   “กะเกือบไปแล้ว”น้ำเสียงแผ่วพึมพำอย่างตกใจปากสั่น ก่อนที่เจ้าของรถจะก้าวลงมาอย่างลนลาน

   “ปะเป็นอะไรรึเปล่า ไม่ได้โดนชนใช่มั้ย?”เสียงตื่นตกใจเอ่ยถามขึ้น เจ้าของเสียงเล็กเป็นผู้หญิงตัวบางที่เข้ามาดูขนุนพร้อมกับย่อตัวลงตรงหน้าท่าทางตกใจไม่แพ้กัน เสียงเล็กสั่นจนฟังออกว่าดูตกใจแค่ไหน

   “ผะผม ผมไม่เป็นไรครับ ไม่ได้โดนชน”

   “ตกใจหมดเลย ดีแล้วที่ไม่ได้เป็นอะไร”ท่าทางโล่งอกช่วยพยุงขนุนให้ลุกขึ้น ตอนนี้เองที่ขนุนเพิ่งจะสังเกตเห็นหน้าตาของผู้โชคร้ายเพราะความเหม่อลอยของขนุนเอง

   “ผมขอโทษนะครับที่ไม่ทันได้ดูรถ”ขนุนเงยหน้าสบตากับเจ้าของกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่มีหน้าตาสะสวยรูปร่างดีที่มองขนุนด้วยความเป็นห่วง ไม่ได้คิดที่จะโวยวายเพราะขนุนเป็นเหตุ
 
   สวยแล้วยังใจดีจนขนุนนึกชื่นชมอยู่ในใจ

   “ช่างเถอะแต่ไม่เป็นอะไรแน่นะ ให้พาไปโรงพยาบาลเช็กดูมั้ย”

   “ไม่ต้องครับ ผมโอเค”ขนุนโบกมือปฏิเสธ เมื่อสติค่อยๆ กลับคืนมากขึ้น “ขอโทษอีกครั้งนะครับที่ทำให้เดือดร้อนไปด้วย”

   “อื้อ ไม่เป็นไร นี่อยู่มอM เหรอ? ”ใบหน้าหวานก้มลงมองยูนิฟอร์มนักศึกษาของขนุน และขนุนก็มองเธอเช่นกัน จากรูปร่างท่าทางที่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าแม้เจ้าตัวจะไม่ได้อยู่ในชุดนักศึกษาก็พอเดาได้ว่าคงจะอายุมากกว่า

   “ครับ สินกำปี 2 มอM”

   “แล้วชื่ออะไร”

   “ขนุนครับ”

   “ขนุนเหรอ”ผู้หญิงสวยตรงหน้าขนุนพึมพำรับรู้พยักหน้า ก่อนจะหยิบนามบัตรของตัวเองยื่นให้ขนุน “อันนี้ของพี่ มีสองเบอร์ในบัตร พี่เรียกอยู่มอP ปี4 มีปัญหาอะไรก็โทรมานะ ตอนนี้ถ้าไม่เป็นอะไรงั้นพี่ขอไปก่อนพอดีว่ามีธุระน่ะ เราโอเคใช่มั้ย? ”คนถามยังดูห่วงความรู้สึกขนุน

   “ครับ ผมโอเคดี มากๆ ด้วย”

   เมื่อได้รับการยืนยันจากขนุนว่าไม่เป็นไรแล้วก็ถอนหายใจโล่งอกออกมาอีกครั้ง ดูเหมือนเธอก็ยังตกใจเรื่องเมื่อครู่ไม่หาย แต่เมื่ออีกฝ่ายยืนยันดิบดีว่าไม่เป็นไรจึงเบาใจกลับขึ้นรถไปพร้อมคำกล่าวลาท่าทางรีบร้อนเพราะมีนัดเร่งด่วน

   ขนุนมองตามเจ้าของรถคันสีขาวที่ทั้งใจดีไม่เอาเรื่องเขา ซ้ำยังให้ความเป็นห่วง ทั้งๆ ที่เขาเองต่างหากที่เป็นฝ่ายผิด

   “สวยแล้วใจดีแบบนี้ยังมีอยู่บนโลกด้วยเหรอ ใครได้เป็นแฟนคงโชคดีที่สุดในโลกแน่ๆ ”

   ขนุนพูดกับดินฟ้าอากาศชื่นชมไม่หาย ก่อนสายเรียกเข้าจากเพื่อนจะย้ำเตือนให้รู้ว่าตัวเองมีนัดหลังจากนี้ ขนุนเลยรีบยัดกระดาษแผ่นเล็กใส่กระเป๋ากางเกงอย่างรีบร้อนไม่แม้แต่จะก้มมองดูตัวเลขบนบัตร ขนุนเร่งฝีเท้าที่อ่อนเปลี้ยเพราะเรื่องเมื่อครู่ไปยังร้านป๋าชุบตามเดิมไม่เปลี่ยนแผน




   
   “อะไรนะไอ้ขนุน มึงโดนรถชน! ”

   “ไม่ได้โดน แค่เกือบน่ะ พอดีเราเหม่อไปหน่อย”ขนุนเล่าสาเหตุที่ตัวเองมาสายให้กับเพื่อนในกลุ่มได้ฟัง วันนี้คนที่มาร่วมสังสรรค์ด้วยไม่ได้มีแค่นิวและต้า ยังมีแจ็กเฮดว๊ากกับช้างทีมสันทนาการอีกด้วย ที่มาเพราะรวมตัวกันหัวหลักๆ ก็เพราะเรื่องโครงการอาสาที่ใกล้จะถึงไม่กี่วันนี้แล้ว กินไปด้วยคุยไปด้วยจะได้ไม่เสียเวลา แต่อาจเสียเรื่องเพราะต่างพากันพูดคุยออกนอกทะเลไปไกลไม่กลับเข้าฝั่งกันเสียที

   “เหม่ออะไรของมึง เกือบเป็นเรื่องแล้วมั้ยล่ะ ว่าแต่เจ็บตรงไหนรึเปล่าวะ หมุนตัวให้กูดูดิ๊”ต้าจับตัวขนุนหมุนไปสองสามรอบสำรวจ เห็นเพียงกางเกงที่เปื้อนฝุ่นเป็นคราบที่ก้น

   “เห็นป่ะว่าไม่เจ็บตรงไหน แค่เข่าอ่อนเพราะตกใจน่ะ”ขนุนพูดไปก็เอาเหล้าเขาปากเหมือนดื่มน้ำดับกระหาย

   “แล้วเหม่อเรื่องอะไร สีหน้ามึงก็ดูไม่สดชื่นเลย”นิวเอ่ยถาม คนอื่นๆ ก็อยากรู้ด้วย

   “เราเป็นได้แค่น้องชายอ่ะ”ขนุนมุ่ยหน้าถอนหายใจแล้วเอาหน้าทิ่มลงกับโต๊ะเหมือนเด็กงอแง

   “น้องชายอะไรวะ? ”ช้างเอ่ยถาม และหันไปสั่งน้ำแข็งมาเพิ่มบวกโซดาอีก 2 ขวด

   “ก็พี่คณินบอกเอ็นดูเราเหมือนน้องชาย แต่เราไม่อยากถูกพี่คณินเอ็นดูแบบนั้น”สีหน้าเง้างอนทำจมูกกับปากติดกันเงยหน้าขึ้นเก่าหัวตัวเองยิกๆ

   “รึมึงอยากให้เขาดูเอ็นรึไง”นิวประชดผลักหัวอย่างหมั่นไส้

   “แบบนั้นยังโอเคกว่า”ตาใสตอบตรงไปตรงมา ไม่หวั่นแม้จะเป็นเรื่องใต้สะดือ

   พรืดดดดดด!

   “แค่กๆ ”คนที่เอาเหล่าจ่อปากอยู่ถึงกับสำลักพรวด แจ็กที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ช่วยเอามือตบหลังช้างเบาๆ

   “ขนุน มึงอย่าเออออกับอะไรแบบนี้ได้มั้ย มันทำลายภาพพจน์หน้าตา”ช้างยกมือขึ้นกุมขมับ ได้ยินมาบ้างแล้วเรื่องที่ขนุนชอบคณิน และวันนั้นช้างก็อยู่ในเหตุการณ์เลยพลอยรับรู้ทุกอย่างไปด้วย แถมขนุนไม่ได้ปิดบัง เถรตรงจนเพื่อนต้องยกมือไหวให้อ้อมค้อมเสียบ้าง

   “เดี๋ยวนะนี่กูตกข่าวอะไรไปรึเปล่า คณินคือใคร? ”แจ็กยกมือถามกดปลายบุหรี่ลงกับถ้วยแก้วแล้วตั้งใจฟังขนุนพูด

   “พี่คณินคือพี่คณิน”

   “พอเลยกูอธิบายเอง”ต้ายกมือห้ามแล้วพูดขึ้น “คณินเป็นรุ่นพี่มอP เจ้าของหมาที่ไอ้ขนุนอุ้มมา แล้วไอ้ขนุนก็ดันสะเออะไปชอบเขา บอกว่าเป็นคนที่ใช่”นักแสดงหลักได้แต่นั่งพยักหน้าแล้วเท้าคางส่งสายตาเนือยๆ ไม่ยิ้ม

   “มึงเป็นเกย์เหรอไอ้ขนุน!”แจ็กตาถลนมองหน้าเจ้าของปากชมพูที่เคี้ยวน้ำแข็งดับความร้อนรุ่มกลุ้มใจ

   “เราไม่ได้เป็น ให้นึกภาพเดินจูงมือจูบปากกับแจ็กเราก็แขยงแล้ว แต่พี่คณินคนเดียวที่เราใจเต้นแรงด้วยก็เท่านั้น รู้สึกชอบต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ”

   “ครับ คุณขนุน”แจ็กนึกภาพตามที่ขนุนพูดถึงกับยอมแพ้ในเหตุผล

   “เอานาไอ้ขนุน จะเครียดทำไมมาดื่มกันดีกว่า ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ.....พี่ตูนว่าไว้”

   นิวยกมือขึ้นกอดคอขนุนเขย่าตัวเบาๆ ปลอบใจในแบบของตัวเอง ขนุนพยักหน้าว่าง่ายรับแก้วเหล้ามาจากช้างที่สนับสนุนให้ขนุนกลับมาร่าเริง

   “วันนี้พวกกูให้มึงเมาได้ กูรับรองว่าจะไมให้มึงเอาอะไรติดไม้ติดมือกลับห้องแน่นอน”

   ต้าตบไหล่คนตัวเล็กกว่า สีหน้าต้าก็ไม่สู้ดีเท่าไหร่ไปกว่าขนุนนัก แต่ก็ยังยิ้มเพราะเพื่อนยังสำคัญเสมอ

   “อื้ม.....เรารอคำนี้มานานแล้ว”ขนุนหยักยิ้มเลิกคิ้วดีใจ ก่อนจะเอื้อมมือไปชงเองชนิดที่เข้มจนขนตูดลุกซู่ คนอื่นๆ ที่มองขนุนก็ได้แต่มองตานิ่ง เหมือนคำปลอบใจจะได้ผลดีเกินคาด

   อะไรจะฟื้นสภาพจิตใจได้เร็วขนาดนี้

   “ทุกคนไม่กินเหรอ.....ถึงไม่กินก็หารเท่ากันนะ แต่วันนี้เราไม่สบายใจทุกคนจะเลี้ยงปลอบใจเราใช่มั้ย”เจ้าของแก้มกลมโยนถั่วใส่ปาก กลอกตากลมใส่มองสมาชิกร่วมโต๊ะที่นั่งนิ่งแววตาเว้าวอน

   “พูดมากนา เออๆ มึงกินไปเลย กินให้แก้มแตกไปเลยดีมั้ยห๊ะ”คนหมั่นไส้ยื่นมือไปหยิกแก้มจนแดงเป็นจ้ำ

   “ถ้าแก้มเราช้ำขึ้นมาเดี๋ยวไม่หล่อทำไงอ่ะ”ขนุนเบี่ยงหน้าหนีมือเพื่อนที่ยื่นมาเป็นระวิง

   “จะเอาหล่อไปทำไมในเมื่ออยากมีผัว”แจ็กแสยะปากส่ายหน้าเริ่มเคาะบุหรี่อีกมวนจากซองขึ้นคาบที่ปาก

   “ผัว?”ขนุนขมวดคิ้วเหมือนมีสิ่งที่ผิดเพี้ยนอยู่ในรูปประโยคของแจ็ก “ไม่ใช่ซะหน่อย”

   “ไม่ใช่อะไรก็ไหนมึงบอกชอบพี่คณินเข้าไง”ช้างถามแล้วดึงแก้วในมือขนุนมาเติมน้ำแข็ง

   “ดะเดี๋ยว!!! ไอ้ขนุน นี่มึงอย่าบอกนะว่ามึง.....”คนนั่งข้างอย่างนิวผงะเหมือนรู้ทันขึ้นมา มองขนุนที่นั่งหน้าตาใสเลียปากแผล็บกินเกลือที่ติดริมฝีปากจากเม็ดถั่วอย่างไม่สะทกสะท้าน

   “ฉิบหายแล้ว!”ช้างเอามือทาบอกปากพึมพำมองเพื่อนที่หน้าตาเป็นสัตว์กินพืช แต่จิตใจโคตรไฮยีน่า

   “อย่าบอกนะว่ามึงจะกดพี่คณินน่ะ! ”นิวอุทานจนโต๊ะข้างๆ หันมามอง

   “เราผิดเหรอ”

   “เหี้ยแล้วววววว!”บุหรี่ที่คาบอยู่คาปากของแจ็กเป็นอันตกพื้นในทันที ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เจอะได้เจออะไรแบบนี้

   “กูโทรหาแม่มึงแป๊บ!”

   “นิวก็อย่าลืมบอกแม่ด้วยล่ะว่าไปขอพี่คณินให้เราด้วย”

   “สัด! ”




   อีกไม่กี่วันพวกขนุนและผองเพื่อนก็จะต้องไปออกค่ายอาสากันแล้ว เงินที่รวบรวมได้ทะลุเป้าอย่างน่าชื่นใจ แถมยังมีเงินเหลือเล็กน้อยที่จะได้ซื้อของเพิ่มเติมนำไปใช้ในการไปค่ายครั้งนี้ด้วย เป้าหมายคือการลงไปช่วยซ่อมแซมบ้านให้กับคนที่โดนพายุ ทำเท่าที่ทำได้ร่วมกันกับภาครัฐที่มีโครงการอยู่ก่อนหน้าแล้ว

   การเอาแรงเข้าแลกก็เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ทางคณะจัดขึ้นทุกปี ก็แล้วแต่ว่าจะเขียนโครงการไปที่ไหนหรือทำอะไร

   ของทุกอย่างที่จำเป็นก็ดูเหมือนจะเตรียมพร้อมแล้ว แม้จะต้องสละเวลาในช่วงเย็นเพื่อมาเตรียมงานก็ถือว่าคุ้ม มีทั้งรุ่นน้องและรุ่นพี่หรือปีเดียวกันที่ลงชื่อเข้าร่วม หัวหน้าโครงการหลักที่ต้องรับผิดชอบคือปี 2 ของทุกปี

   “อันนี้ให้เราวางไว้ไหน? ”ขนุนหอบไวนิลพับใหญ่เข้ามาในห้องเก็บของ กลิ่นใหม่ของหมึกที่เพนต์ลงบนผ้าใบกลิ่นแรงจนต้องย่นจมูก

   “เอากองไว้ที่มุมห้องนั่นแหละเดี๋ยววันไปจะหาไม่เจอ”ช้างชี้นิ้วไปที่มุมห้องว่างเปล่าให้ขนุนเอาของไปวาง คนตัวเล็กท่าทีเงอะงะ แจ็กที่ทนมองไม่ไหวเข้าไปรับช่วงถือต่อ

   “ขอบใจมากแจ็ก”

   “จะไปช่วยทำไม ฝึกไว้จะได้มีเรี่ยวมีแรงไปกดคนอื่น ถ้าตัวแค่นี้จะไปกดใครได้วะ”

   “ช้างอย่าแซวเราดิ เดี๋ยวเราก็โตทันคนอื่นแล้ว”

   “ไอ้ขนุนเสร็จรึงยังกูหิวข้าวแล้วเนี่ย”

   “ต้ารอเดี๋ยว กำลังจะเสร็จแล้ว”

   “พวกกูสองคนไม่ไปนะพวกมึงไปกันเถอะ”

   “อ้าวแล้วแจ็กกับช้างไม่หิวเหรอ”

   “พวกกูนัดน้องรหัสไว้เดี๋ยวต้องไปเลี้ยงข้าวพวกมันอีก”

   “ไม่เหมือนเราเลยอ่ะ มีแต่น้องอยากจะมาเลี้ยง”

   “ชิ! อย่ามาอวด พูดมากเดี๋ยวบีบปากให้”

   “แจ็กช่วยหน่อย ช้างดูจะเกรี้ยวกราดเพราะอิจฉาเรา”ขนุนเดินไปหลบหลังแจ็กที่ส่ายหน้าให้กับท่าทีกวนๆ ด้วยเสียงนิ่งๆ ของขนุน

   “เอาน่าไอ้ช้าง ไปๆ เดี๋ยวนักการจะมาปิดห้องแล้ว หรืออยากโดนขังนอนอยู่ในนี้” แจ็กผู้สยบช้างยื่นแขนไปเกี่ยวคอคนตัวโตเข้าใต้รักแร้ และหนีบผมออกมาจากห้องอีกคน ก่อนจะส่งผมให้กับนิวและต้าที่ยืนรออยู่ข้างนอก

   ผมโบกมือลาทั้งแจ็กและช้างที่ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซต์ขับออกไปกันสองคนโดยที่แจ็กเป็นคนขับ

   “ไปได้แล้ว วันนี้กินอะไรดี”นิวถามขึ้น

   “ก๋วยเตี๋ยว”ต้าเสนอดีดนิ้วดังเป๊าะ

   “แต่เราอยากกินข้าว”

   “ไม่ กูอยากกินหมูกระทะ”

   “.....”

   ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ ดูเหมือนไม่มีใครอ่อนข้อให้หรือรู้สึกแกรงใจไปกินอย่างที่คนอื่นเสนอ

   “แต่เมื่อวานพวกเราก็เพิ่งกินก๋วนเตี๋ยวไปนะต้า เปลี่ยนอย่างอื่นมั่งดิ”

   “ก็อยากกินอีก”

   “งั้นโอน้อยออก ใครชนะไปกินตามคนนั้น โอเคมะ”

   “ก็ได้ ยุติธรรมดี ออมมือให้เราบ้างนะเราอยากกินข้าว”พูดไปขนุนก็ถูมือทั้งสองข้างเตรียมพร้อมสุดๆ แต่ไม่ทันไรเสียงโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงของขนุนก็ดังขึ้น เจ้าของโทรศัพท์ขอเวลานอกเพื่อนทั้งสองจึงรออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และดูจากสายตาวาวที่มองไปยังหน้าจอก็รู้ได้เลยว่าคนที่โทรมาไม่ธรรมดาซะแล้ว

   และทันทีที่ขนุนกดรับเสียงเรียกชื่อก็ทำให้ต้าและนิวมองตากันอย่างไม่ได้นัดหมาย

   “ต้านิว! ไปกินข้าวกันมื้อนี้มีเจ้ามือเลี้ยงแล้ว”

   “ใครวะ? ”

   “พี่คณิน”

   “กูว่าแล้ว แต่สายตาแบบนี้ตกลงมึงหิวข้าวหรือหิวอะไร”

   “ต้าก็พูดตรงไป”คนตอบบิดตัวเล็กน้อยจิ้มนิ้วชี้เข้าหากันกะพริบตาปริบๆ ให้กับเพื่อนทั้งสอง “เราไม่ได้หิวพี่คณินสักหน่อย”

   “ขนุน! พวกกูสั่งให้มึงเก็บอาการแบบนั้นเดี๋ยวนี้เลย เข้าใจมั้ย! เห็นอีกกูถีบมึงแน่”

   “ต้าเราไม่น่ารักเหรอ? ”

   “ไม่! ไม่น่ารอดไอ้พวกเอาไม่เลือกเข้าใจมะ แค่นี้พวกกูก็กระอักกลิ่นฟีโรโมนหาผู้ของมึงจะอ้วกแล้ว จิ๊!”

   “เดี๋ยวนี้ต้ากับนิวชอบพูดแรงใส่เราอยู่เรื่อย”ขนุนมุ่ยหน้ายืนจ้องสองเพื่อนเกลอตาเขม้น เหมือนจะโกรธแต่เอาเข้าจริงก็ทำไม่ได้

   “พวกกูไม่ได้พูด ด่าเว้ย!”นิวจิ้มนิ้วไปที่หัวทุยๆ ของขนุนอย่าหมั่นไส้ที่ทำหน้าซีเรียสส่ายหน้าไปมากวนๆ

   “หยาบคายระวังไม่มีใครรัก บู่!”

   “เด็กเอ้ย!”

   “ด่าไปเลย เราไปหาที่อ้อนใหม่ก็ได้”ขนุนทำท่าทีแข็งกร้าวกอดอกเชิดหน้าอย่างมีทางไป

   “ใคร?”

   “ก็พี่คณินไง ใจดีไม่เหมือนเพื่อนแถวนี้หรอกนะ”

   “จะแปรพรรคว่างั้น!”นิวยกคิ้วเหลือบตามองคนตัวเล็กกว่าแล้วเอาศอกค้ำหัวขนุน

   “ช่ายยยย! พรรคที่จะล้อม.........พร้อมที่จะรัก เคยได้ยินป่าว หึ!”คนเล่นมุกยักคิ้วสองสามจึ๊กสะบัดผมเส้นเล็กสีบลอนด์สว่างให้เข้าทรงแล้วกระแอมกระไอยืดออกอย่างภาคภูมิ

   “ตัวเท่าลูกหมากระเหี้ยนกระหือรือจริงนะมึง!”นิวจิ๊ปากส่ายหน้ากับความฮึกเหิมของขนุน

   “กูจะฟ้องน้าสร!”ส่วนต้าก็ควักโทรศัพท์ขึ้นมาทำท่าจะกดโทรออก

   ทั้งนิวและต้าก็เพิ่งเข้าใจวันนี้ว่าอะไรคืออาการก้านมะยมในมือสั่นมาก

   ขนุนที่พวกเขาดูแลกำลังโตอย่างก้าวกระโดด และจะกระโดดไปกดคนอื่นเขาอีกทั้งที่ก่อนหน้ากับเรื่องพวกนี้ขนุนก็ไม่ได้คิดจริงจังอะไรขนาดนั้น วันๆ ก็เอาแต่เหม่อมองคนอื่นที่ดูเท่าไหร่ก็ไม่ถูกใจสักที จะว่าไม่มีคนเข้ามาก็ไม่ใช่ ทั้งผู้หญิงและผู้ชายขนุนก็มีให้เลือกอยู่มาก แต่เพราะตรรกะที่พร่ำพูดถึงเรื่องฝังหัวมี่แม่สอนว่า เมื่อเจอคนที่ใช่หัวใจจะเต้นแรง ก็ทำให้ขนุนไม่ลองคบกับใครสักที

   หากถามว่าขนุนมีทีท่าจะชอบผู้ชายรึเปล่าก็เห็นจะไม่ เพราะก่อนหน้านี้ก็ยังมีรุ่นพี่ปี 3 อย่างไม้เอกมาวอแวอยู่เลย รายนั้นทั้งแทคแคร์ดูแลดีมาตลอดตั้งแต่ขนุนเป็นเด็กเฟรชชี่ปี 1 จนตอนนี้ก็ไม่ได้เปลี่ยน จะว่าหายหน้าไปก็คงจะเป็นเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วก็ว่าได้ เพราะเจ้าตัวดันเกิดอุบัติเหตุรถชนแขนหักเลยต้องพักยาว นั่นก็ไม่ได้แปลว่าอีกฝ่ายจะหายไปเพราะตัดใจจากขนุน
 
   สำหรับขนุนแล้วบุคลิกภายนอกอาจจะดูบอบบางน่ารักน่าหยิกเป็นกรรมพันธุ์ แต่หากมองลึกเข้าไปในดวงตาอันใสซื่อและร้ายบริสุทธิ์นั้นแล้ว ขนุนก็ไม่ได้ต่างไปจากสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าบุรุษเพศชายแม้แต่น้อย

   อย่าให้ภาพพจน์มาหลอกตาได้ นั่นคือคำเตือน!










ติดตามตอนต่อไป >>>


ขอบคุณที่แวะเวียนเข้ามาอ่านค่ะ
หวังว่าน้องขนุนจะช่วยคลายเครียด แก้เบื่อ แก้เซ็ง แก้เมารถ ให้นักอ่านได้บ้างนะคะ ฮ่าๆ
ฝากติดตาม ให้กำลังใจ กันด้วยนะคะ  :m13:



โดย หลานฮวา

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-02-2019 14:01:01 โดย ทามากิบ๊อง »

ออฟไลน์ nikpook

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น้องขนุนจะกดพี่เขาจริงหรอ ถามพี่เขาก่อนมั้ย5555 แต่ก็อยากเห็นน้องกดอยู่นะ :-[ ชอบคำนี้มากกระเหี้ยนกระหือรือ55555 คือเหมาะกับขนุนในตอนนี้จริงๆ ขำตอนโดนบอกว่าเป็นน้องชายด้วย น้องขนุนต้องสู้ต้องมีสักวันที่เป็นของหนู นักเขียนก็สู้ๆนะเราเป็นกลจให้ สนุกมากๆมาต่อเร็วน้า :กอด1: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด