ขนุนลูกที่ 2
เพราะนิวและต้าต่างเป็นที่รู้จักของคนในคณะจึงไม่แปลกที่โลกออนไลน์ที่เพียงดีดตัวอักษรใส่ลงไปก็ทำให้เหล่าสาวกที่ติดตามนิวต้าทราบข่าวว่าในช่วงเวลาของเขาทั้งสองกำลังเกิดอะไรขึ้นบ้าง
คงไม่แปลกที่ทั้งสองจะเป็นที่รู้จักเพราะ 1 ในนั้นเป็นถึงเดือนคณะ ถ้าหากลงแข่งเวทีเดียวกันรับรองว่าความหล่อเหลานั้นกินกันไม่ลงทีเดียว
แต่เพราะต้าเจ้าของหน้าคมคายไม่สนใจประกวดจึงไม่ได้ขึ้นเวทีคัดตัวเดือนคณะกับเขาด้วย จึงมีแต่นิวที่ถูกรุ่นพี่ในตอนนั้นคะยั้นคะยอเข็นก้นให้ขึ้นเวทีจนคว้าตำแหน่งเดือนคณะมาได้ จนแล้วจนรอดก็สละสิทธิ์ในรอบประกวดเดือนมหาลัยเพราะดันเกิดอุบัติเหตุขาแพลงตอนเล่นบอลก่อนงานประกวดในครั้งนั้น
ทางเดินที่ทอดยาวเชื่อมอาคารหลังใหญ่เข้าด้วยกัน หากมองจากไกลๆ ก็จะเห็นว่าตอนนี้ระหว่างกลางของนิวและต้าเกิดหลุมอากาศเพราะความสูงของขนุนที่ไม่เสมอกับเพื่อน อีกทั้งเพราะขาที่สั้นกว่าความเร็วในการเดินเห็นจะต่างกัน แต่ขนุนก็ชินแล้วที่จะต้องเดินเร็วเพื่อตามให้ทันเพื่อนทั้งสองด้วยขาที่สั้นกว่าเล็กน้อย
ผ่านมาหนึ่งวันแล้วกับเหตุการณ์เมื่อวานที่ขนุนไปอุ้มหมาของใครกลับมาด้วยความมึนเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ตอนนี้ยังคงตามหาเจ้าของสุนัขอย่างแข็งขัน แต่ทว่าวันนี้ขนุนมีเรียนเช้าจึงต้องเอาเจ้าชิบะที่ไม่รู้แม้แต่ชื่อเรียกไปฝากป้าใต้หอให้ช่วยดูไว้ก่อน และหากมีคนมาถามหาก็ขอร้องไว้ว่าให้รีบติดต่อมาที่เบอร์ของขนุนตามที่จดไว้ให้
ตอนแรกขนุน นิวและต้าสันนิษฐานว่าเจ้าหมาตัวนั้นอาจจะโดนทิ้งเพราะไม่มีปลอกคอ แต่หมาพันธุ์ดีราคาแพงแบบนั้นใครมันจะทิ้งได้ลงคอ ทั้งความสะอาดและการดูแลขนเห็บหมัดแทบจะไม่มีให้เห็นบ่งบอกว่าได้รับการใส่ใจ กลิ่นแชมพูอ่อนๆ จากเจ้าชิบะก็เป็นเครื่องยืนยันได้ดีว่าคงไม่ใช่การถูกทิ้งอย่างที่คิด
ขนุนก็กลุ้มใจเหมือนกันที่ตามหาเจ้าของหมาไม่ได้สักที เป็นห่วงว่าเจ้าชิบะที่เริ่มตาเศร้าๆ กำลังคิดถึงเจ้าของของมันรึเปล่า ข้าวก็เริ่มทานน้อยเล็มเลียเหมือนแมวดมมากกว่าจะกิน เพราะที่บ้านของขนุนก็เคยเลี้ยงหมาบ้านพันธุ์ไทยอยู่เหมือนกัน มันทั้งซื่อสัตย์และรักเจ้าของสุดหัวใจ คนในบ้านออกไปไหนก็จะเดินตามไปส่งจนถึงประตูรั้วมองดูสุดสายตา พอคนกลับมาก็กระดิกหางดีใจกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขราวกับห่างหายกันไปแรมปี ทั้งที่บางครั้งแค่ออกไปซื้อของแค่หน้าปากซอย
เพราะอย่างนั้นขนุนเลยไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะหาเจ้าของให้เจ้าหมาตัวนั้น แต่ด้วยหน้าที่ของเขาแล้วยังไงก็ต้องมาเรียน แต่ก็ยังคงคอยชะเง้อหูฟังตามอง เผื่อว่าข่าวจากนิวกับต้าจะบอกได้ว่าเจ้าของหมาเป็นใคร
แต่ดูเหมือนว่าทวิตเตอร์ที่ต้ากับนิวลงไป สิ่งที่ดูจะทำให้ทุกอย่างร้อนเป็นไฟคงจะไม่พ้นแฮชแท็ก ขนุนอุ้มหมา ที่ตอนนี้เดินไปไหนมาไหนคนในคณะก็เรียกขนุนเป็นชื่อขนุนอุ้มหมากันไปหมดแล้ว
“เมื่อวานเห็นทวิตเตอร์ของพวกมึงแล้ว ตกลงเจอเจ้าของหมารึยังวะ”คนที่เดินเข้ามาทักทายเป็นคนที่ร้อยล้านเห็นจะเป็นแจ็กเพื่อนร่วมคณะ ที่มีบ้างบางครั้งที่ชักชวนกันไปร้านเหล้า นั่งกินนั่งดื่มพูดคุยกันบ้างในบางโอกาส แจ็กค่อนข้างเป็นที่รู้จักของเด็กปี 1 เพราะเป็นเฮดว๊ากที่เข้มได้ใจจนกาแฟคั่วบดเรียกพ่อ
“ยังไม่เจอ ไม่เห็นมีใครมาแสดงตัวเลย”ต้าเป็นคนตอบแล้วหันไปมองขนุนที่ก้มหน้ากดโทรศัพท์ตัวเอง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองแจ็ก
“ฝากแจ็กด้วยนะ เผื่อว่าบางทีอาจจะมีรุ่นน้องหรือรุ่นพี่ที่รู้จักเขาเป็นเจ้าของ เราอยากเจอเจ้าของหมาเร็วๆ สงสารมัน คงคิดถึงเจ้าของแล้ว”
“เออได้ ไว้กูจะลองช่วยหาให้อีกแรง วันหลังมึงก็อย่าอุ้มอะไรแปลกๆ เข้าห้องอีกล่ะ”
“อืม”
ก่อนไปแจ็กก็เอื้อมมือมาดีดหน้าผากขนุนอย่างขบขัน ตบไหล่ต้าเบาๆ สองสามทีแล้วโบกมือลาไป
“.......”
“เจ็บอ่า”คนถูกดีดหน้าผากยกมือขึ้นลูบตรงที่โดนดีด รอยแดงๆ โผล่ให้เห็นเพราะขนุนเป็นคนผิวขาว อย่าว่าแต่ความเห็นใจ แม้แต่คำปลอบโยนก็ไม่ได้จากเพื่อนทั้งสอง แถมยังโดนผลักหัวอย่างหมั่นไส้จาก 2 จตุรเทพเพื่อนซี้ไปคนละทีก่อนที่จะนิวกับต้าจะเดินลิ่วเข้าห้องเรียนไปก่อน
“รอด้วยดิ!”
ขนุนไม่ได้คิดโกรธเคืองอะไร เพียงแต่แอบมุ่ยหน้าเล็กน้อยแล้วรีบเดินตาม
จบคลาสช่วงเช้าด้วยการที่ขนุนแอบหลับในห้องเป็นพักๆ ไม่รู้เพราะแอร์มันเย็น อาจารย์สอนน่าเบื่อ หรือนอนไม่เต็มอิ่มกันแน่ แต่อาจจะเป็นอย่างหลังเพราะเมื่อคืนเขาแทบจะไม่ได้หลับตานอนสนิทสักเท่าไหร่นัก เพราะเจ้าชิบะที่กระโดดขึ้นลงบนเตียงของเขา แถมยังเห่ากระทั่งแมลงตัวเล็ก และที่สำคัญขนุนยังต้องจัดการเรื่องการขับถ่ายของเจ้าชิบะตัวนั้น
จะเรียกว่ากรรมตามสนองก็คงจะไม่แคล้ว
“ตอนเที่ยงพวกกูจะไปซื้อของกับพวกไอ้ช้าง มึงจะไปกับพวกกูด้วยไหม หรือจะกลับไปดูหมาก่อน”
“เราอยากไปด้วยนะนิว แต่ว่าคงต้องกลับไปดูหมาอ่ะ จะพาจูงเดินแถวๆ ทางไปร้านป๋าชุบ เจ้าของอาจจะอยู่แถวนั้น”
“ตามใจ งั้นกูกับไอ้ต้าจะไปกับพวกไอ้ช้าง เย็นๆ เสร็จแล้วเดี๋ยวจะแวะไปที่ห้องมึงก็แล้วกัน”
สามหนุ่มคุยกันหน้าห้อง แต่จู่ๆ ก็มีเสียงเรียกดังมาจากด้านหลังและวิ่งเหยาะเข้ามาทักทาย เจ้าของร่างสูงไว้ผมยาวแต่รวบผูกไว้ด้านหลังหน้าตาไว้เคราเป็นสไตล์ ถึงแม้จะยืนหันหลังให้ก็ทักไม่ผิดคน
“ไอ้นิวไอ้ต้าขนุน!”
เหมือนมีสิทธิพิเศษอยู่ในคำทักทาย ทุกคนต่างมีไอ้นำหน้าชื่อ แต่ขนุนกลับถูกยกเว้น ดูเป็นสองมาตรฐานที่เพื่อนๆ ก็ต่างยอมรับ จะเรียกว่าไอ้ขนุนกับหน้าตาน่ารักแบบนั้นก็เห็นจะใจไม่กร้านพอจะพูดใส่คนตัวเล็กกว่า
“เออมึงมาพอดีเลยไอ้ช้าง เดี๋ยวกูกับไอ้นิวจะไปกับพวกมึงสองคน งบที่ขอทางคณะไว้สำหรับซื้อของออกค่ายสัปดาห์หน้าอยู่ที่มึงใช่ป่ะ? ”
“พวกมึง กูมีเรื่องจะบอกว่ะ”ท่าทางละล่ำละลักของช้างดูกระสับกระส่าย
“มีอะไรเหรอช้าง ดูแปลกๆ ปวดหนักเหรอ? ”ขนุนช่างสังเกตเมื่อเห็นว่าเพื่อนดูสีหน้าแปลกๆ
“ไม่ช่ายยยย! คืองี้ว่ะ พอดีเงินส่วนที่ต้องซื้อของจิปาถะ พวกกูไปคำนวณแล้วมันไม่พอ ยังขาดอีกประมาณ 4,000 กว่าบาท แต่จะให้พวกเราออกกันเองมันก็เกินไป เลยมาปรึกษาว่าจะทำไงกันดี โครงการก็อนุมัติไปแล้วจะไปขอเพิ่มก็จะถูกอาจารย์แหกหน้ากลับมาอ่ะดิ”
“อ้าวเห้ย! แล้วจะเอาไงล่ะทีนี้ จะซื้อแบบประหยัดมันก็จะกลายเป็นขาดแคลนกันไปอีกลำบากสัดๆ อีก พวกปากกากระดาษ อุปกรณ์ต่างๆ โห่ววววว!”
ตอนนี้ดูเหมือนเรื่องปวดหัวจะแวะเวียนมาทักทายเหล่านักกิจกรรมของคณะอีกเรื่องหนึ่งแล้ว ความหมา(ของขนุน)ไม่ทันหายความขัดสน(ของคณะ)ก็เข้ามาแทรกอีก
เวลานั้นความเงียบและตึงเครียดกำลังครอบงำ ต่างคนก็ต่างมองหน้าเผื่อว่าจะเจอทางออกที่สดใส
“เอ้อ! เอางี้ไหม”
จู่ๆ ความเงียบก็ถูกทำลายด้วยเสียงของช้างที่เสนอความคิด ท่าทางไอเดียบรรเจิดทอประกายอยู่ในแววตาของช้าง
“เอาอะไรของมึง รีบๆ พูดมาให้ไวกูใจร้อน”นิวพูดขึ้น
“พวกเราก็ไปขอรับบริจาคดิวะ เด็กในมหาลัยมีตั้งหลายคณะ มีเป็นพันๆ คน คนละห้าบาทสิบบาทเดี๋ยวมันก็ได้เอง”
“มึงพูดเหมือนง่าย แต่ละคนกว่าจะควักเศษเหรียญออกมาหยอดกล่องได้ก็คิดแล้วคิดอีก ดูอย่างครั้งก่อนที่ขอบริจาคซื้อของไปให้เด็กบนดอยดิ ยากสัด! ยิ่งไปขอแบบฟรีๆ ได้โดนด่าตายห่าเลย”ต้าค้านขึ้นเมื่อมองไม่เห็นว่าจะทำได้
“นั่นสิช้าง จะไปขอแบบฟรีๆ คนเขาจะไว้ใจให้เหรอ เขาอาจจะคิดว่าเราหลอกเอาตังค์ไปสุรุ่ยสุร่ายก็ได้นะ หน้าตาช้างก็ดูไม่น่าไว้ใจอ่ะ”
“เอ่อขนุน มึงหลอกด่ากูป่ะ?”คนถูกชมตรงๆ หน้านิ่งไปครู่นึง
“เปล่า เราไม่ได้ว่าช้างเลยนะ”พูดไปก็ยิ้มกลบเกลือน ต้ากับนิวถึงกับเอามือป้องปากเพื่อไม่ให้หลุดขำ
“แล้วไป แต่เรื่องบริจาคใครว่าจะขอกันฟรีๆ เราก็หาอะไรทำแลกเงินดิ”
“ดนตรีเราเล่นไม่เป็นนะ”ขนุนส่ายหน้า
“กูก็ไม่เป็น”นิวถอนหายใจ
“กูตีฉาบเป็น อย่างอื่นอย่ามาถาม กูไม่ใช่สายดนตรี”
“กูก็คิดว่าดนตรีมันล้าสมัยไปแล้วเหมือนกัน มันไม่ดึงความสนใจคนว่ะ ใครๆ เขาก็ทำกันเกลื่อน”ช้างกอดอกมองไปรอบๆ ตัว 180 องศาจนกระทั่งมาหยุดสายตาที่ผู้ชายหน้าขาวๆ ตากลมๆ ตรงหน้าที่กำลังควักขนมเวเฟอร์ห่อเล็กห้าบาทออกมาจากกระเป๋าแล้วฉีกกินแก้หิวก่อนจะถึงมื้อเที่ยง
“ช้าง? มองเราทำไมอ่ะ ขนมเลอะปากเหรอ”หลังมือขาวปาดไปทั่วปาก แถมยังหันไปถาม 2 จตุรเทพที่ช่วยกันดูให้เป็นภาพที่ทำให้ช้างยืนมองตานิ่งเป็นปลาน็อกน้ำ
นี่ขนุนมันมีเพื่อนหรือมีพ่อกับแม่วะ ช้างคิดในใจแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา
“กูนึกออกแล้วว่าเราจะทำยังไงให้ได้เงินเยอะๆ ”
“ทำไงวะ?”
“หึ! ก็ใช้ขนุนอุ้มหมา ให้เป็นประโยชน์ดิวะ”
“หมายความว่าไงไอ้ช้าง มึงอธิบายดิ๊”ต้าขมวดคิ้ว ไม้แพ้คนอื่นๆ ที่สงสัยในความคิดบรรเจิดของช้าง แล้วเกี่ยวอะไรกับขนุนของพวกเขา
“ฟรีฮัก”เจ้าของไอเดียร์ยิ้มสุดมุมปากพร้อมกับยื่นแขนไปจับไหล่ขนุนไว้แน่นแล้วจ้องตา “ขนุน.....ช่วยไปฟรีฮักรับบริจาคเงินเพื่อคณะเราหน่อยได้ไหม”
“ไม่ได้/ไม่ได้”นิวต้าที่ยืนอยู่ซ้ายขวาช่วยกันปัดมือของช้างออกจากไหล่ขนุน แถมยังเอ่ยตอบพร้อมเพรียงกันอย่างไม่เห็นด้วย
“ทำไมวะ ดีออกจะตาย ตอนนี้ใครๆ ก็รู้จักขนุนอุ้มหมา ถ้าหากเอาชื่อเสียงของมันไปช่วยหาเงินนิดหน่อยเอง ไม่ดีเหรอที่จะเรียกคนมาบริจาคได้เยอะๆ น่ะ”
“มึงคิดน่ะถามเจ้าตัวแล้วรึยัง เขายินยอมหรือเปล่า”นิวหันไปมองขนุนที่เลียบปากแผล็บๆ “ว่าไงขนุน มึงเอาไง ไม่เต็มใจก็ปฏิเสธได้ ตัวมึงใจมึงลองคิดดู”
ทุกคนหยุดนิ่งมองดูขนุนที่ไม่ทันจะคิดก็ตอบออกไปซะแล้ว
“ก็ได้ เรายังไงก็ได้”แถมยังยิ้มรับเสียดิบดี แม้มีช็อกโกแลตติดฟันก็ยังดูน่ารักน่าหยิก
“มึงเอาจริงดิไอ้ขนุน ถามจริงนี่คิดยัง?”ต้าถามย้ำราวกับมองหาเหตุผลจากเจ้าของนัยน์ตาสดใสนั่น
“ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย เราไม่ได้เสียหายสักหน่อย จะได้ถือโอกาสนี้ตามหาเจ้าของหมาเลยด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกตั้งสองตัว ไม่คิดว่ามันโอเคเหรอ”
“Yessssss! วู้ววววว!” ผู้ที่ถูกสนองความคิดกระโดดดีใจเด้งเป้าตัวลอย “ขอบคุณว่ะขนุน มึงใจหล่อมาก แม้หน้าตาจะน่ารักก็เหอะ เดี๋ยวกูจะเอาเรื่องนี้ไปบอกกับพวกที่เหลือพร้อมส่งเรื่องถึงอาจารย์ แล้วกูจะโทรมานัดเวลา”
“วันไหน?”
“จะรอช้าอยู่ทำไมล่ะ ก็เย็นนี้เลยดิ!”
ตอนนี้เป็นเวลาที่ทุกคนกำลังลุ้นอยู่ว่าความคิดของช้างมันจะโอเคจริงไหม ก็เหลือแต่ขนุนที่จะต้องไปยืนอยู่กลางลานกิจกรรมที่ส่วนใหญ่มักจะมีนักศึกษาชวนกันไปนั่งอ่านหนังสือ ฟังเพลง พูดคุย กินขนมกันเยอะบริเวณนั้น ดูเหมือนกำลังใจที่มาก็จะขาดไปไม่ได้นั่นคือนิว ต้า ช้าง และคนอื่นๆ อีกสองสามคน และนอกเหนือจากนั้นก็มีแฟนของต้าคือจ๊ะเอ๋ที่อยู่คณะอักษรมาเป็นพี่เลี้ยงให้ขนุนด้วยในวันนี้ แถมเธอยังบอกว่าจะให้เพื่อนเธอที่แอบมันเขี้ยวขนุนมานานมาฟรีฮักขนุนให้หนำใจ
พูดแล้วคนฟังก็ถึงกับยิ้มเหงื่อตก
แต่ที่กลัวไปกว่านั้นคือ จะมีใครอยากมาฟรีฮักขนุนรึเปล่านี่สิ
“ป้ายเสร็จแล้ว ขนุนเอาไปแขวนคอแล้วยืนอยู่เฉยๆ ยิ้มกว้างๆ กับหมาหาเจ้าของก็พอแล้ว”
“ช้างแน่ใจนะว่ามันได้ผล”ขนุนถามย้ำ ตอนนี้เขาเองมากกว่าที่รู้สึกไม่มั่นใจ แต่ตอนกลับไปเอาเจ้าชิบะก็อาบน้ำมารอบนึงแล้ว กลิ่นตัวก็แทบจะไม่มี มีแต่กลิ่นสบู่ที่หอมอ่อนๆ เพราะขนุนไม่ชอบใส่น้ำหอม
“เออนา พวกกูมั่นใจว่ามึงทำได้ ไปเลยเพื่อนเดี๋ยวพวกกูช่วยถือกล่องบริจาคกันเอง”
ดูเหมือนภาระที่หนักหนาค่อยๆ กดทับลงมาบนหัวของขนุน
“ไปกันยัง? ”นิวถามเรียกความพร้อมแล้วตบไหล่ขนุนเบาๆ อย่างให้กำลังใจ พวกกับเพื่อนที่ยื่นมือเข้าขยี้หัวทุยๆ ให้กำลังใจเช่นกัน
“พวกมึงไปก่อน เดี๋ยวกูไปคุยโทรศัพท์แป๊บ”เป็นต้าที่ชี้มายังหน้าจอโทรศัพท์ที่สว่างวาบขึ้นก่อนจะขอตัวเดินไปคุยให้ห่างจากเสียงเจี๊ยวจ๊าวของสถานที่แห่งนี้
“อื้ม งั้นพวกเราไปกัน!”
ช้างนำทัพพร้อมกับโทรโข่งหนึ่งอันในมือ เสียงปรบมือเรียกความสนใจของเพื่อนที่ทำงานเป็นทีมเรียกได้ว่ามืออาชีพในการบากหน้าขอบริจาคเป็นอย่างมาก ขนุนเองเมื่อเห็นทุกคนเต็มที่ ตัวเองก็เต็มที่ไม่แพ้กัน ถึงกับฉีกยิ้มตั้งรับไว้เสียแต่เนิ่นๆ พร้อมกับจูงเจ้าหมาชิบะที่เดินตามเขาราวกับขนุนกลายเป็นเจ้าของไปแล้ว
เขากระตุกเชือกเบาๆ บอกให้เดินก็เดิน แถมพอบอกให้นั่งใกล้ๆ ที่ขนุนยืนก็ดันทำตามได้อีก
สงสัยถูกฝึกมาด้วยแล้วแน่เลย เจ้าของคงรักมาก
“สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคน วันนี้พวกเราชาวศิลปกรรมมาขอรับบริจาค เพื่อเป็นเงินสมทบทุนค่ายพี่น้องสร้างรักที่จะไปร่วมกันเป็นจิตอาสาซ่อมแซมบ้านของพี่ ป้า น้า อาทางภาคใต้ที่เกิดผลกระทบจากพายุ! ”ช้างตะเบ็งเสียงแปดหลอดผ่านโทรโข่งที่ดังก้อง เรียกกลุ่มคนให้หันมาสนใจได้เป็นอย่างดี ก่อนจะต่อความว่า
“เพื่อเป็นการขอบคุณน้ำใจของพี่น้องชาว มอM พวกเราจึงคัดมาแล้วสำหรับสิ่งตอบแทนในวันนี้!!!”
และดูเหมือนเสียงมันจะดังขึ้นไปอีกเป็นสองเท่า ขนุนที่ยืนหลบอยู่หลังช้างเริ่มใจเต้นตึกตักขึ้นมาราวกับต้องขึ้นเวทีประกวดอะไรสักอย่าง
“สิ่งตอบแทนก็คือ! เรามีบริการฟรีฮักจากขนุน มาร่วมกิจกรรมด้วยในครั้งนี้ เชิญขนุนอุ้มหมา!!! ออกมาได้เลยครับ!!!”
ยิ่งเสียงดังอย่างกับจะไปฆ่าใครตายของช้างดังเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่ ความสนใจก็หันมามองเกือบจะหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ และทันทีที่ขนุนก้าวออกมา สายตาที่มองมาก็เกิดประกายรอยยิ้ม บ้างก็ขบขัน ซุบซิบพูดคุยกันแล้วชี้ชวนให้มองไปในหน้าจอโทรศัพท์
ก็แน่ล่ะขนุนดังข้ามคืนเพราะต้าและนิวเชียว ตอนนี้ใครบ้างจะไม่คุ้นหูหรือรู้จักขนุนอุ้มหมา
“อย่ายิ้มอย่างเดียวนะครับ มารับฮักจากน้องขนุนหน่อยเร็วววว!”
“วู้ววววว!”
เสียงคอรัสขานรับได้จังหวะจนทุกอย่างดูสนุกไหลลื่น ขนุนไม่ได้รู้สึกเลยว่าตอนนี้ตัวเองต้องแบกหน้าที่บางอย่างอยู่ แต่กลับรู้สึกว่าเขามีคนคอยสนับสนุนและเป็นกำลังใจอยู่เบื้องหลัง อีกทั้งจังหวะนี้กลับมีเพลง คุ้นหู แต่เนื้อเพลงไม่เหมือนเดิมให้ขนุนได้เขินเล่นระหว่างรอคนใจกล้ามาเปิดฮักแรกของขนุน
“ขนุนน่ารัก คึกคักเวลาเมาเล่น เอิ้วๆ ขนุนตัวเป็นเป็น เวลาเมาเล่นน่ารัก น่ารัก!”
เพลงยอดฮิตที่ติดโพลตลอดกาลในวงวารของนักเรียน นักศึกษา เวลานี้ก็นำมาร้องเป็นเพลงเพื่อเรียกคะแนนให้ขนุนโดยเฉพาะ
ใครฟังก็ต่างหัวเราะชอบใจ หันไปมองเด็กศิลปกรรมที่ทำเสียงครึกครื้น แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าพอที่จะมาฟรีฮักน้องขนุนที่ยืนเก้อรออยู่กับเจ้าหมาชิบะที่นั่งลิ้นห้อยเรียกคะแนนสงสาร
แต่กลับมีบางคนลุกขึ้นมาหยอดกล่องบริจาคแล้วบ้างบางส่วน ก็นับว่าเวลาไม่ได้เสียเปล่าจริงๆ
และระหว่างที่ยืนรอฟรีฮักอย่างว่าง่าย สายตาทั้งสาวๆ และหนุ่มๆ ก็ต่างมองขนุนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ บางคนเคอะเขินเกินกว่าจะเข้ามาฟรีฮัก เพียงแต่ขอเข้ามาจับมือถ่ายรูปบ้างแล้วก็เดินกลับไป แค่นั้นขนุนเองก็กลับยิ้มแก้มแทบแตก จนก้อนแก้มเปลี่ยนเป็นสีแดงจางๆ ด้วยความสนุก
ขณะที่ทุกอย่างกำลังไปได้ดี มีมากที่ขอเข้ามาจับมือขนุนและก็มายืนแซวเรื่องอุ้มหมา บ้างก็เป็นรุ่นพี่ในคณะที่แวะเวียนมาร่วมด้วยแล้วจากไป อีกทั้งรุ่นน้องก็ใจดีถ่ายวิดีโอให้แฉถึงตัวจริงฉายา ขนุนอุ้มหมา ว่าน่ารักไม่แพ้หมาที่ยืนอยู่ข้างๆ
“อดทนนิดนึงนะ เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว บางทีเจ้าของแกอาจจะมารับแกเร็วๆ นี้ก็ได้”ขนุนหันไปพูดกับเจ้าหมาชิบะที่กระโดดปีนขาของเขาเล่น เหมือนมันเริ่มอยากจะเป็นอิสระเต็มที อยากจะไปวิ่งเล่นใช้พลังงานเหลือทนแล้ว
และตอนนั้นเอง ต้าที่ขอตัวไปคุยโทรศัพท์ก็โผล่หน้ามา ท่าทางอารมณ์ดีเหมือนมีเรื่องอยากจะมาบอก แถมในมือก็โบกโทรศัพท์ไปมาสีหน้าอยากจะเล่าใจแทบขาด
และตอนนั้นเอง ต้าที่ขอตัวไปคุยโทรศัพท์ก็โผล่หน้ามา ท่าทางอ
“เฮ้ยๆ! ไอ้ขนุน”
“อะไรต้า มีเรื่องอะไรเหรอ” ระหว่างที่ต้าเดินมาเพื่อนๆ ก็ต่างหยุดกิจกรรมที่ร้องเล่นกันอยู่ชั่วคราว สีหน้าเหมือนมีอะไรดีๆ ทำให้ใครๆ ก็อยากรู้
“กูมีข่าวดี มีรุ่นน้องที่กูรู้จักโทรมาบอกกูว่า เจอเจ้าของหมาแล้ว และบังเอิญมันรู้จักกับเขาไงตอนนี้เลยบอกให้มาเอาหมากลับ”
“มึงไม่ได้มั่วใช่ไหมไอ้ต้า”นิวชี้หน้าถามเอาคำตอบตรงๆ
“ไม่มั่ว กูชัวร์ แน่นอน!”
“จริงเหรอ ในที่สุดก็เหมือนพ้นบาปสักที ไม่ต้องตกนรกหมกไหม้เพราะพรากหมาไปจากเจ้าของแล้ว”คนที่ดีใจกว่าหมาก็เห็นจะเป็นขนุน “แต่จริงๆ ให้เราเอาไปให้ไม่ดีกว่าเหรอ เราเป็นคนพามันมา แล้วตกลงตอนนี้เจ้าของหมาอยู่ไหนอ่ะ เราอยากเจออยากขอโทษด้วย”
“ไม่ต้องไปหา โน่นไงมานี่แล้ว”
เมื่อต้าบอกแบบนั้นขนุนเลยวาดสายตาไปตามปลายนิ้วของต้าไปยังทิศทางที่ถูกต้อง ก่อนจะมองเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังเดินมา น่าแปลกที่จู่ๆ ทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ
ตอนนี้ขนุนไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย
ได้ยินแค่เสียงตึก ตัก ตึก ตัก ในอกซ้ายของตัวเอง และเหมือนกับเสียงรองเท้าที่กระทบกับพื้นเดินเข้ามาใกล้
ทั้งหมดเหมือนสะท้อนก้องอยู่ในหัวราวกับฉากภาพยนตร์ฉากหนึ่ง
ที่ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดนิ่งเมื่อคนคนนั้นก้าวมาหยุดตรงหน้าขนุน
ข้างหลังกลายเป็นภาพเลือนราง สิ่งที่ชัดเจนมีเพียงใบหน้าเจ้าของหมาชิบะตัวนี้เท่านั้น
ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ ขนุนถึงได้เสียอาการ แต่เท่าที่เพื่อนเห็นคือขนุนจ้อง ‘คณิน’ ตาไม่กะพริบ แถมยังอ้าปากเหวอๆ ยืนนิ่งซะจนเพื่อนคิดว่าเป็น 6 โมงเย็นเตรียมยืนเคารพธงชาติซะอีก
“ไอ้ขนุน! เป็นอะไร นี่พี่คณิน เป็นเจ้าของหมา เขามาทวงคืนแล้วเว้ย!”เสียงเรียกจากต้าเหมือนเรียกให้ขนุนตื่น เจ้าตัวถึงได้ทำหน้าเหลอหลา แล้วหันไปมองต้าสองมือเขย่าแขนเพื่อนก่อนพูดขึ้นไม่เกรงใจใคร
“ต้า ต้า!”
“อะไร! เขย่าจนหัวกูจะหลุด”
“เรา.....เราว่าเรากำลังเจอคนที่ใช่แล้วล่ะ”
“ห๊า! มึงบ้าป่ะไอ้ขนุนจู่ๆ ก็พูดออกมาแบบนั้น!”ต้าพยายามพูดเสียงลอดผ่านไรฟันไม่ให้อีกฝ่ายได้ยิน
“ต้าบอกเค้าที ว่าเราชอบพี่เค้า”
“ว่าไงนะไอ้ขนุน!!!”
---------------------------------
ฝากน้องขนุนในตอนต่อไปด้วยนคะ คอมเม้นต์ ติชม เป็นกำลังใจให้ด้วยน๊าาา
ขอบคุณนักอ่านล่วงหน้าค่ะ
โดย หลานฮวา