รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562  (อ่าน 40097 ครั้ง)

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
ขนุน.....แก่แดดไปแล้วววววว

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
น้องหนุนลูก ร้ายมาก
ชวนพี่คณินไปดูหลอดไฟหรือดูอะไรกันแน่จ๊ะ

 :pig4:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
น้องงงง จะชวนพี่ไปดูหลอดไฟหรือไปทำอะไรจ๊ะ 5555

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ ทามากิบ๊อง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-4


ขนุนลูกที่ 24





   “ดันเข้าให้สุดเลยครับ นั่นแหละครับพี่คณิน”

   “แบบนี้เหรอ”

   “ครับ อีกนิดครับ”

   “แต่มันแน่นแล้วนะขนุน”

   “เชื่อผมเถอะครับ ยังได้อยู่”

   “จับดีๆ นี่เรากำลังสั่นอยู่รึเปล่า ไหวแน่นะ”

   “ไหวสิครับ พี่คณินเถอะไหวรึเปล่าถ้ากลัวให้ผมขึ้นข้างบนแทนมั้ย?”

   “ขนุนอยู่ล่างดีแล้ว ให้พี่ทำจะดีกว่า”

   “จะเสร็จรึยังครับ ผมเมื่อยจะแย่แล้ว”

   “พี่จะเสร็จแล้วอีกนิด....โอเค เราปล่อยได้เลย”

   “ให้ผมปล่อยแน่นะ”

   “อืม ปล่อยบันไดแล้วไปเปิดสวิตช์ไฟดู พี่ว่ามันน่าจะโอเคแล้วนะ หลอดเก่าไฟมันคงจะขาด ทนเดินห้องมืดๆ ได้ไงฮะเรา”

   “ก็มันเพิ่งจะดับตอนผมกลับจากบ้านนี่ครับ”

   แป๊ก!

   “โอ้! ไฟสว่างแล้ว ขอบคุณนะครับคิดว่าต้องเดินมืดๆ จนถึงพรุ่งนี้เช้าซะอีก เดี๋ยวพี่คณินรอผมที่นี่ก่อนนะครับ ผมเอาบันไดไปคืนพี่สุภาพข้างล่าง...”

   “ไม่ต้องๆ เดี๋ยวตอนกลับพี่เอาลงไปให้ มันหนัก”

   “.....”

   “แน่ะ! เป็นห่วงเหรอครับ รู้สึกบอบบางขึ้นมาเลย โอ๊ย...บันไดโคตรหนักผมถือไม่ไหวจริงๆ นั่นแหละ”

   “ถามจริงใครหิ้วบันไดมาตั้งไว้ในห้องคนเดียว”

   “แหะๆ ผมเองแหละ”ขนุนหัวเราะขำ ยกบันไดพับได้ไปพิงผนังห้องแบบสบายๆ

   “เนี่ยอยู่บ้านแม่คงปวดหัวกะเราแย่”

   “แม่อ่ะชินแล้วล่ะครับ เจอมาทุกรูปแบบ”

   “สงสารน้าสรจับใจ....”

   “พี่คณินว่าไงนะครับ”ขนุนที่ก้มลงไปห่อหลอดไฟดวงเก่าที่ไส้ขาดหันหน้ามาถามเพราะไม่ทันจะตั้งใจฟัง

   “เปล่าครับ ไม่มีอะไร”คณินไหวไหล่ยิ้มตอบ

   “ขอโทษนะครับที่ต้องให้มาช่วยเอาตอนนี้ พี่คณินเจ็บตัวอยู่แท้ๆ พรุ่งนี้ระบบแย่เลย”ขนุนถลาเข้าไปเกาะแขนแล้วซบหัวลงกับท่อนแขนของคณินตามด้วยลูกอ้อนชนิดที่น่าบีบจมูกนัก “ผมว่า ผมเลี้ยงน้ำพี่ตอบแทนดีกว่า นั่งก่อนครับ ห้องผมอาจจะรกไปหน่อยแต่ผมก็ถูพื้นแล้วนะ”

   คณินถูกขนุนลากให้นั่งลงตรงพื้นด้านข้างของเตียง ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เย็นแล้วหยิบบางอย่างออกมาหอบเต็มมือ แล้ววางมันลงตรงหน้าคณินเกือบครึ่งโหล

   “เบียร์?”

   “ก็ของพี่คณินนั่นแหละครับ มันเหลืออยู่ผมยังไม่ได้ดื่มสักกระป๋อง”

   “แต่เราเพิ่งดื่มเหล้ามา กินน้ำเปล่าจะดีกว่า”คณินส่งเสียงดุหรี่ตามองอย่างห้ามปราม

   “แต่ว่า.....”ขนุนกำกระป๋องเบียร์เย็นๆ จนจะเป็นวุ้นในมือแน่นน้ำลายสอ แล้วอ้อมไปซ่อนไว้ข้างหลังกะพริบตาปริบๆ รอคำอนุญาต “ผมไหวนะ สร่างเมาไปตั้งนานแล้วด้วย ให้ผมดื่มนะครับอยู่กับพี่คณินไม่เป็นไรหรอก”

   “แล้วจะรู้ได้ไงว่าไม่เป็นไร ไม่กลัวพี่จะทำอะไรเรารึไง”ขนุนถึงกับตาวาว

   “.....”

   “เดี๋ยว! เราจะไปไหน?”

   “เอ้า! ก็ไปอาบน้ำรอไงครับ? ”ไม่พูดอย่างเดียวแต่คนช่างอ่อยไม่เนียนอย่างขนุนแกล้งถลกคอเสื้อให้กว้างจนเปิดเห็นไหล่ขาวๆ

   โป๊ก!

   “โอ๊ย! ผมเจ็บ”

   “เดี๋ยวเถอะทะลึ่ง”คณินส่ายหน้ามองขนุนที่หัวเราะหงึกอารมณ์ดีตีเนียนเปิดกระป๋องเบียร์แล้วกระดกเข้าปากจนได้ แถมยังทำสีหน้าชื่นใจซะขนาดนั้นจะยื้อมาจากมือก็เห็นจะทำไม่ลง ก็คงมีแต่ต้องปล่อยให้ดื่มไปก่อนเท่าที่อยากจะกิน ดื่มไปคุยไปจนเผลอแป๊บเดียวกระป๋องเบียร์ตรงหน้าก็เหลือแต่กระป๋องเปล่า

   “ไม่อยากเชื่อเลยนะครับว่าพี่ลูกตาลจะหักหลังพี่คณินไปมีคนอื่นแบบนั้น ผมเข้าใจพี่นะครับ ถ้าพี่ไม่มีเวลามาเจอผม มารับผมไปกินข้าว มาชวนผมไปเที่ยว สัญญาว่าผมจะไม่ดื้อไม่งอแงเลย ผมรู้ว่าพี่อ่ะเหนื่อย ซืดดด...”คนพูดเพ้อซื้ดน้ำมูก

   “ขอบคุณที่ขนุนเข้าใจพี่ แต่เลิกคุยเรื่องนี้ไม่ดีกว่าเหรอ ตาแดงหมดแล้วเนี้ย”คณินส่ายหน้าที่ขนุนพาเขาวกคุยเรื่องพวกนี้ แถมคนที่มาตีโพยตีพายกลับไม่ใช่คณินแต่เป็นขนุนซะแทน

   เพราะตอนนี้ ต่อให้พูดชื่อคนรักเก่าเป็นร้อยๆ ครั้ง คณินก็ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว เพราะใจของเขามันเต็มไปด้วยผลไม้เมืองร้อนผลสุกสีเหลืองที่หวานชื่นใจคนนี้ จะมีที่เหลือเผื่อไปคิดถึงใครก็ ไม่มีทาง

   “เปล่า ผมแค่แสบตา...เป่าให้หน่อยสิครับ”

   “เป่าเปิ่วอะไรกัน ตาปลือขนาดนี้ง่วงก็ไปนอนเถอะ อย่าฝืนเข้าใจมั้ยครับ”คณินส่ายหน้าคว้ากระป๋องเบียร์เปล่า ออกจากมือขนุนที่เอนหัวซบไหล่ของเขาเป็นที่พักหัวแล้วถูไถไปมาเหมือนกับไข่ดาวที่ชอบอ้อนเขาแบบนี้เวลาต้องการอะไร

   แต่พอคณินพูดขึ้นให้ไปนอน ขนุนก็รีบดีดตัวนั่งตรงในความคิด แต่แท้จริงแล้วโคตรจะคอเอียง

   “ผมยังไม่ง่วง ผมอยากคุยกับพี่ไปนานๆ จริงๆ นะ.....ผมกลัว กลัวว่าถ้าผมหลับทุกอย่างจะหายไป ตื่นมาอีกครั้งพี่อาจจะกลายเป็นแค่ความฝันของผม แบบนั้นผมคงเจ็บแย่”

   “คิดมาก พี่ไม่หายไปไหนหรอกรู้มั้ย”คณินยิ้มบางมองขนุนที่พูดออกมาแบบนั้นราวกับไม่รู้ตัวว่าเผยด้านอ่อนแอออกมา

   ขนุนส่ายหน้าหันไปมองคณินด้วยแววตาหวั่นๆ “ผมไม่เชื่อหรอก”

   “พี่ไม่โกหกอยู่แล้ว เพราะอะไรรู้มั้ย? ”

   “ทำไมครับ”คนอยากรู้จ้องคณินตาใส แก้มขาวๆ กำลังแดงก่ำไปจนถึงใบหูเล็ก พนันได้เลยว่าสติของขนุนเหลือไม่ถึงครึ่ง อีกครึ่งคือความพยายามที่จะตื่นเพื่ออยู่กับคนตรงหน้าที่ไม่อยากให้ห่างไปไหน

   “ก็ถ้าหากโกหก จมูกพี่ก็จะยื่นยาวเป็นเมตรเลย”

   “อ้อ เหมือนไข่ดาว...”

   “ก็คงงั้นมั้ง”คณินหัวเราะกับคำตอบของขนุน “ยังไงขนุนก็ไม่ต้องกลัว ถึงจะหลับแล้วตื่นมา พี่ก็จะยังอยู่ข้างๆ เราไม่ไปไหนอยู่ดี”

   “ผมเชื่อพี่ได้ใช่มั้ย? ”ความรู้สึกของขนุนตอนนี้มันกำลังค่อยๆ อุ่นขึ้นในอก เขามองแววตาอบอุ่นของคณินที่บอกให้ขนุนมั่นใจ

   “เชื่อได้สิเพราะพี่รักขนุน เรื่องอะไรพี่ต้องหายไปจากเราด้วย”

   “อือ...ผมเข้าใจแล้ว”ขนุนพยักหน้าเอ่ยตอบเอนหัวซบลงไปที่อกกว้างแถมยิ้มซะจนแก้มแทบแตกเป็นฟองสบู่ คณินมองขนุนที่ซุกหน้าอยู่กับอกของตัวเองโคตรจะอ้อน ก่อนจะก้มลงไปหอมหัวเจ้าของเส้นผมสีบลอนด์สว่าง จนขนุนต้องเงยหน้าขึ้นมองตาปริบๆ

   “พี่คณินอ่ะ ผมยังไม่ได้สระผมเลย หัวเหม็นแน่ๆ ”ขนุนยกมือขึ้นจับหัวตัวเองเสียความมั่นใจ

   “ก็ไม่นิ พี่ดมแล้วยังหอมอยู่เลย”

   “ไม่จริง”

   “แล้วจะให้พี่ทำไงเราถึงเชื่อ”

   “ง้านนน...เดี๋ยวผมไปอาบน้ำแล้วให้พี่มาหอมใหม่ เอาตั้งแต่หัวตลอดตัวเลย”

   คณินหลุดหัวเราะกับสีหน้าจริงจังที่บอกจะไปอาบน้ำของขนุน แถมเจ้าตัวยังลุกขึ้นลนลานอีก ท่าทางจะไปอาบน้ำจริงๆ ตามที่พูด แต่ขืนคณินปล่อยให้ไปตอนนี้คงได้ไปนอนแน่นิ่งหัวฟาดชักโครกแน่ๆ

   คณินเลยรีบเดินตามแล้วดึงตัวเอาไว้ จูงมือเจ้าของร่างเล็กแล้วพาไปที่เตียง กดไหล่ให้ขนุนนั่งลง แล้วจัดการยกปลายเท้าขึ้นเตียงให้ทั้งสองข้าง

   “พรุ่งนี้ค่อยอาบ”

   “อาบพรุ่งนี้พี่ก็ไม่ได้หอมผมน่ะสิ”คนเซ้าซี้ดีดตัวลุกนั่ง มองคณินไม่วางตา

   ฟอด!

   “หอมแล้ว”จู่ๆ แก้มขาวๆ กลับถูกขโมยหอมไปฟอดใหญ่ ขนุนที่นั่งนิ่งตาโตเท่าไข่ห่านแทบปรับจูนคลื่นหัวใจตัวเองไม่ทัน ใจมันสั่นไปหมด

   “.....”

   “อีกข้างมั้ย เผื่อเราไม่แน่ใจ”คณินยิ้มกริ่มมองเจ้าของร่างเล็กที่นั่งแข็งทื่อมองเขาตาไม่กะพริบมาเกือบนาที

   “พี่ทำแบบนี้ ผมจะไม่ทนแล้วนะครับ”

   “แล้วพี่ต้องทำไงเราถึงจะไม่ต้องทน”คนตัวสูงขยับตัวโน้มไปข้างหน้า ก้มลงมองตาแล้วยิ้มมุมปากด้วยสายตากรุ้มกริ่ม นึกสนุกที่เห็นคนตรงหน้าดูเก็บกดแปลกๆ

   “ไม่ครับ ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นแค่นี้ผมก็หมดความอดทนแล้ว”

   สายตาหวานเชื่อมจ้องมองไปตรงหน้า ก่อนโผเข้ากดร่างสูงที่อยู่แค่เอื้อมลงกับเตียงแทบจะทันที แล้วเบี่ยงตัวเองขึ้นคร่อมค้ำแขนทั้งสองข้างไว้เหนือไหล่ของคณินอย่างห้าวหาญไม่สมกับตัว ทั้งปากเล็กที่เม้มสนิทเข้าหากันแล้วใช้ปลายลิ้นเลียไปที่ริมฝีปากที่แห้งผากของตนเอง พร้อมกับโน้มใบหน้าลงวางริมฝีปากทาบทับไปกับเรียวปากของคนตรงหน้าแช่นิ่งอยู่เพียงครู่ จึงผละออกมาในขณะที่ปลายจมูกรั้นคลอเคลียอยู่บนปลายจมูกของคณินไม่ห่าง

   “ผมรักพี่มากนะครับ มากจนไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำยังไงหรือหาเหตุผลอื่นใดมาประกอบ ถ้าพี่คณินรังเกียจที่ผมทำแบบนี้ก็บอกผมนะครับ”

   คณินส่ายหน้า ส่งสายตามองไปที่ใบหน้าเล็กของขนุนที่ดูเป็นกังวล แต่กลับไม่ได้พูดอะไรออกไป มีเพียงความรู้สึกที่ต้องการจะบอกคนตรงหน้าอีกครั้ง ว่าเขาคนนี้ก็รู้สึกดีไม่น้อยไปกว่ากันเลย

   ดีใจที่ได้ชอบคนตรงหน้า

   ดีใจที่ไม่ปฏิเสธความรู้สึกตัวเอง

   ดีใจที่ไม่ปล่อยให้โอกาสที่ได้รักใครสักคนหลุดลอย

   “จะปฏิเสธได้ยังไงในเมื่อหัวใจของพี่มันเต้นแรงเพราะเราซะขนาดนี้”

   พูดจบคนที่นิ่งไปกับทุกสิ่งยอมแม้กระทั่งให้อีกฝ่ายทำตามใจ ครั้งนี้กลับไม่ยอมให้ จึงดันตัวเองขึ้นนั่งดันร่างขนุนให้นั่งคร่อมตัก แล้วจัดการเข้าโอบประคองกรอบหน้าอย่างมีความหมาย สัมผัสเบาๆ ด้วยปลายนิ้วตรงริมฝีปาก ก่อนจะโน้มหน้าเข้าจูบริมฝีปากเล็กที่เย็นเยียบแนบสนิทลมหายใจสอดประสาน แล้วค่อยๆ ผละออกอย่างอ้อยอิ่ง

   เป็นคณินที่เอ่ยขึ้นเสียงแผ่วใกล้ใบหูที่แดงเรื่อจนขนุนหัวใจพองโตเป็นบอลลูนที่พร้อมออกท่องโลก

   “ทำตัวน่ากินสมชื่อขนาดนี้ รับผิดชอบความรู้สึกพี่มาซะดีๆ เลย”

   “กินเลยสิครับ ถ้าไม่อยากให้ผมกลายร่างเป็นผลไม้กินคนตรงหน้าแทน”

   “แน่ใจ”

   “อื้อ”

   ขนุนพยักหน้ารัวๆ ก่อนถูกอีกฝ่ายช่วงชิงจังหวะหายใจ จูบเบาๆ ที่แสนอ่อนโยนที่หลอมละลายให้ขนุนกลายเป็นเทียนเหลว ขณะเดียวกันความรู้สึกนุ่มละมุนจากริมฝีปากของคณินก็เริ่มกลายเป็นความรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมา เพียงไม่นานจูบที่หวานฉ่ำกลับดูเร่าร้อนขึ้น ไม่เพียงริมฝีปากที่ขยับขบเม้มไปบนริมฝีปากขนุนเบาๆ แต่ทุกอย่างกำลังก้าวขั้นไปมากกว่าที่ขนุนจินตนาการ เมื่อลิ้นอุ่นกำลังแทรกผ่านเข้ามาเกี้ยวกระหวัดลิ้นของเขาราวทักทาย ขนุนก็ช่างเรียนรู้ได้ไวเพราะทฤษฎีเต็มสมองจึงลองตอบรับในแบบที่ต้องการ จากจูบรสหวานก็แทบซาบซ่านจนไม่อยากจะผละออก

   มิหนำซ้ำ มือที่เอื้อมไปโอบกอดคณินก็หล่นเลื่อนไปตามแผ่นหลังกว้าง ก่อนจะแทรกปลายนิ้วเข้าใต้ร่มเสื้อสัมผัสกับร่างกายอุ่นๆ ของคนตรงหน้า แต่ดูเหมือนว่าคณินคงไม่อยากปล่อยให้ขนุนเป็นเด็กแก่แดด เขาเลยจัดการเก็บมือของขนุนมาไว้ด้านหน้ารวบแขนทั้งสองข้างไว้ในมือเดียว ก่อนจะผลักเจ้าของห้องจมลงกับเตียง แทรกตัวไประหว่างร่างเล็กจ้องมองแววตาเป็นประกายที่คล้ายตื่นเต้นจนออกทางสีหน้า

   “หยุดซนสักห้านาทีนะครับ”คณินก้มหน้าลงกระซิบบอกขนุนราวกับทุกอย่างเป็นความลับ จากนั้นจึงเลื่อนมือเข้าปลดกระดุมเสื้อของขนุนทีละเม็ดจนถึงเม็ดสุดท้าย ผิวกายที่อุ่นร้อนสัมผัสกับอากาศหนาวด้วยเครื่องปรับอากาศในทันทีรูขุมขนหดไปทั่วร่างกาย ผิวขาวๆ ขนลุกชันไปหมด

   มันเป็นวินาทีที่ขนุนแทบอยากจะเป็นบ้า หัวใจของเขามันสั่นระรัวไปหมด บางทีขนุนเพิ่งจะรู้สึกเขินคณินเป็นครั้งแรก เพราะแววตาที่เอาจริงเอาจังดูเป็นผู้ใหญ่นั้นทำขนุนแพ้ราบคาบ ปกติคณินไม่เคยแสดงออกแบบนั้น แต่เวลานี้มันต่างชั้นเกินไปแล้ว

   “กลัวมั้ย? ”

   “มะไม่กลัวครับ ผมรู้ว่าผู้ชายเขาทำกันแบบใช้ทาง....”

   จุ๊บ

   ขนุนไม่ทันจะพูดจบก็ถูกจูบปิดปากไปซะดื้อๆ และได้ผลมันทำให้คนพูดมากนิ่งเงียบไปได้เกือบนาที

   “ทฤษฎีเก็บไว้ ตอนนี้ถึงคราวสอบปฏิบัติแล้วครับ ผ่านรึเปล่าค่อยมารีเช็กกัน”

   “ใจผมโคตรเต้นแรงเลยตอนนี้...”ดวงตากลมใสกะพริบตาปริบๆ มองคณินเว้าวอนเหลือเกิน

   คณินถึงกับหัวเราะ เคาะปลายนิ้วเบาๆ ไปที่ปลายจมูกของขนุนแล้วพูดขึ้น “ต่อจากนี้ของจริงต่างหาก”

   ไม่พูดเปล่า คณินก็จัดการปิดปากของขนุนอีกครั้งด้วยจูบหนักๆ ค่อยๆ วางมือลงบนลำคอขาวแล้วไล่ไปตามลาดไหล่เล็กที่ไม่กว้างนัก สัมผัสผิวนุ่มขาวสะอาดแล้วค่อยๆ ลากผ่านอกราบและหยุดมือตรงยอดอกชมพูแล้วเกลี่ยปลายนิ้วเข้าสัมผัสหยอกล้ออยู่ตรงอกเล็กนั้นจนร่างขาวห่อไหล่ครางขึ้นในลำคอพร้อมกับตุ่มเม็ดเล็กตรงยอดอดสองข้างแข็งขึ้น

   มือหนาของคณินจึงเลื่อนไปสัมผัสอีกข้างพร้อมลากริมฝีปากอุ่นพรมจูบไปตามลำคอและไหล่เล็กจนขนุนวาบหวาม ตื่นเต้นไปหมดทุกการสัมผัสจากคนตรงหน้า เพราะความรู้สึกตื่นเต้นแขนขาวจึงโอบกอดไปรอบลำคอของคณิน หายใจเข้าออกเร็วขึ้นต่างจากปกติ

   การเห็นปกติกิริยาน่ารักแบบนั้นใครจะยั้งมือไหว ถึงร้องบอกให้คณินหยุดตอนนี้ก็คงเป็นไปไม่ได้ มือหนาจึงค่อยๆ เลื่อนผ่านเอวคอดเล็ก ที่ไม่หนาไม่บางจนดูอ้อนแอ้น แต่มันช่างรับกับมือคณินได้ดีไปทุกสัดส่วน กระทั่งมือหนาลากต่ำลงมาก่อนจะค่อยๆ เข้าปลดกระดุมซิปกางเกงของหนุนและดึงออกโยนกองไปที่พื้น คนตรงหน้าเหลือเพียงบ็อกเซอร์สีขาวติดตัวที่ชวนให้คณินอยากถอดมันออกซะทีเดียวตอนนี้

   
“ผมอยากถอดบ้าง...”จู่ๆ เสียงความคิดก็ดังขึ้น แน่นอนว่ามันมาจากคนตรงหน้าที่ยันตัวลุกทำมือหนุบหนับ

   “หืม?”

   “ผมอยากเป็นคนถอดเสื้อให้พี่อ่ะ ให้ผม...ถอด นะ”ถึงหน้าจะบอกว่าเขินสุดๆ ที่ตัวเองพูดออกมา แต่การกระทำล้ำหน้านั้นคณินต้องยอม

   เพียงยิ้มแล้วพยักหน้า ขนุนถึงกับปรี่เข้ามาเบียดตัวขาวๆ ที่เปล่าเปลือยเข้าใกล้ ยื่นมือจับสาบเสื้อของคณินแล้วซุกหน้าลงกับอกกว้างสูดหายใจเข้าเต็มปอดหน้าตาปริ่มเปรมเหลือเกิน

   “พี่คณินตัวหอม”

   “เป็นหมารึไง ดมเก่ง”

   “โฮ่งๆ เหมือนป่าว ทำดีแล้วขอรางวัลด้วยนะครับ”

   “อ้อนเก่งอีก”

   “ผมอ้อนพี่คนเดียวนะครับ พิเศษกว่าใคร”พูดไปมือก็ไล่ปลดกระดุมคนตรงหน้าไปทีละเม็ด ทันทีที่เสื้อสีขาวสะอาดตัวเก่งถูกถอดออกก็ถือเป็นอันสิ้นสุดคำร้องขอ คณินถึงได้จับคนตรงหน้าทุ่มลงแล้วจ้องเขม้นสายตาอยากจะฟัดแก้มขาวๆ เต็มที

   “ครั้งนี้ถึงตาพี่บ้างแล้ว”ปลายจมูกที่โน้มชนจมูกของขนุนเริ่มลากผ่านลกคอขาวก่อนจะขบเม้มเบาๆ แล้วจูบซับ ก่อนจะไล่ลงมาตรงอกขาวแล้วใช้ปลายลิ้นอุ่นตวัดเลียตุ่มไตที่แข็งขึ้นทั้งสองข้าง ขนุนถึงกับเม้มปากไม่สามารถพูดโต้ตอบอะไรได้ สมองกลับมีแต่ความว่างเปล่าจนขาวโพลน แทนที่ด้วยความรู้วูบไหวเต็มไปหมด

   แม้ปลายลิ้นจะเย้าหยอกส่วนอ่อนไหวตรงเนินอกราบสลับไปมา ทว่ามือของคณินกลับเลื่อนไปบนเนื้อผ้ากางเกงบ๊อกเซอร์พร้อมกับสัมผัสส่วนอ่อนไหวกลางลำตัวของขนุน ลูบขึ้นไปมาตามรูปร่างสัดส่วนของขนุนน้อยที่ค่อยๆ ตื่นตัวขึ้นจนคับแน่นผ่านเนื้อผ้า จนรู้สึกได้ว่าตัวเองก็ไม่ได้ต่างไปจากเจ้าของผิวขาว

   เพราะความอึดอัดคณินจึงสลัดกางเกงของเขาออก สายตาของขนุนจับจ้องร่างกายที่เคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกตื่นตัว หัวใจดวงเล็กเต้นแรงจนแทบนับจังหวะไม่ได้
 
   แล้วมือหนาก็เข้าสัมผัสส่วนกลางลำตัวของขนุนอย่างระมัดระวัง หากแต่การกระทำเช่นนั้นมันเสียววาบไปถึงช่องท้อง และยิ่งต้องขบริมฝีปากแน่นมืออุ่นที่กำรอบแท่งร้อนกำลังรูดรั้งนวดเฟ้นขึ้นลง ความซาบซ่านเกิดขึ้นตรงปลายเนื้อร้อนบัดนี้กำลังชื้นแฉะด้วยมือหนาที่รูดขึ้นลง เจ้าของกายขาวถึงกับหุบขาเรียวกระตุกเสียวจนไม่รู้จะทำยังไง

   ปากเล็กจึงต้องเผยอออก ครวญครางในลำคอหายใจทางปาก ขนุนไม่เคยรู้สึกดีเท่านี้มาก่อน มันดีเสียจนคนพูดจ้ออย่างเขาไม่มีเวลามาเพ้อรำพัน
 
   ลำคอขาวที่เงยขึ้นปล่อยช่องว่างให้คนหมั่นเขียวฝังจูบหนักๆ ไปอีกหนึ่งครั้ง พร้อมลมหายใจอุ่นที่เป่ารดรับรู้ถึงความสะท้านของคนตรงหน้า คณินก็เช่นกันที่ตกบ่วงขนุนอย่างจังจนปีนขึ้นมาแทบไม่ไหว คนตรงหน้านั้นน่ารักจนคณินอดใจไม่กอดไม่ได้ เลือดลมในกายมันสูบฉีดพลุ่งพล่านไปหมด แม้กระทั่งส่วนกลางลำตัวก็แข็งขึ้นจนอยากแนบชิดกับคนตรงหน้าแทบคลั่ง

   ส่วนนั้นของเขาจึงเข้าไปบดเบียดเสียดสีกับของขนุน ทักทายร่างกายตรงหน้าด้วยการรูดรั้งมันเข้าด้วยกันผ่านมือที่กอบกุมรวบไว้ สร้างความสะท้านจนไม่อาจหยุดเพียงเท่านี้

   “อือ....อ้า..”

   “ขนุน ตอบตามความจริง เราพร้อมที่จะมีอะไรกับพี่หรือเปล่า”เสียงหอบถามขึ้นดวงตาคมจ้องมองใบหน้าที่แดงเรื่อนัยน์ตาฉ่ำ

   ขนุนพยักหน้าเอื้อมมือกอดร่างตรงหน้าแน่น“ผมอยากมีอะไรกับพี่ จริงๆ นะ หยุดกลางคันแบบนี้ไม่เอา”

   “ใครบอกว่าพี่จะหยุดล่ะ”

   “ถ้าพี่หยุด ผมจะขอแข็ง...ไปแบบนี้จนเช้าเลย”

   “ใจกล้าเหลือเกินพ่อคนเก่ง”

   คนถามหัวเราะหงึก ก่อนจะกอดกายคนตรงหน้าอีกครั้ง ทว่าสิ่งที่ชวนหงุดหงิดใจหลังจากนี้นั้นคือการที่คณินต้องการถุงยางและขนุนก็มีมันให้เขาโดยที่ไม่ต้องรื้อหาแถมเจลมาให้อีก 1 ขวด คุ้มโปรโมชั่นจนน่าจับตีให้ก้นลายด้วยไม้มะยม

   “เรื่องถุงยางจากนี้เรามีเคลียร์กันนะครับ แต่ตอนนี้ขอลงทัณฑ์บนไว้ก่อน”

   “เดี๋ยวครับ! ผมขอออนท็อป”ขนุนดันตัวคนตรงหน้าไว้ เมื่ออะไรๆ มันเริ่มไม่ใช่อย่างที่คิด

   “ก็ลองล้มพี่ให้ได้ก่อนสิ”คณินไหวไหล่ ยอมนั่งให้ขนุนเข้ามากดเพื่อความเท่าเทียม

   “ถ้าผมทำได้...ผมจะเป็นฝ่ายกินพี่”ท่าทางน่ารักพยายามเหี้ยมขึ้นจนคณินแอบขำ และยิ่งขนุนโผเข้ามาจะกดคณินให้ล้มแต่ใครมันจะให้กันง่ายๆ ขนาดนั้น และขนุนเองที่ถูกล็อกตัวเอาไว้ กลายเป็นขนุนถูกจับให้อยู่ในท่าควบตักหันหน้าเข้าหาคนที่ตัวโตกว่า

   “ต่อให้บ้างก็ไม่ได้ เป็นพี่ต้องเสียสละมั้ย?”ขนุนหน้ามุ่ย

   “เรื่องนี้ไม่จำเป็นครับ”คณินกระตุกยิ้ม

   “แต่ผมทำได้”ขนุนพยายามจะเป็นฝ่ายนำ แต่แค่พยายามดันคนตรงหน้าก็ยากแล้ว มันเลยดูเก้ๆ กังๆ ไปหมดจนถูกติ

   “ไม่เชี่ยวพอไปเรียนมาใหม่ครับ”คนตัวโตกว่ายักคิ้วเย้ย ก่อนจะจัดการกินคนตรงหน้าเป็นลำดับถัดไป โดยยึดลำตัวของขนุนไว้ แล้วค่อยๆ เลื่อนมือหนาผ่านแผ่นหลังขาวลงต่ำเข้ากอบกุมสะโพก แล้วค่อยๆ เลื่อนนิ้วเรียวผ่านรอยแยก ใช้เจลชโลมเล็กน้อยจนขนุนรู้สึกได้ถึงความเย็นวาบที่ค่อยๆ แทรกผ่านลึกไปตามจีบแน่นที่ขมิบรัดเพราะความไม่คุ้นเคย สองมือกอดกระหวัดลำคอคณินแน่น เผลอส่งเสียงครางต่ำสุดกลั้นหมดท่าจะต่อต้านด้วยบรรยากาศนำพา

   คณินเองพยายามทำให้นุ่มนวลที่สุด หากแต่ช้าไปกว่านี้บางส่วนของเขาก็ทนรอไม่ไหวเช่นกัน จากปลายนิ้วที่ควานนวดไปรอบๆ จีบเล็ก ค่อยๆ ขยับเข้าออกช้าๆ เพื่อให้อีกฝ่ายคุ้นชินกระทั่งจุดสัมผัสบางอย่างที่ก้านนิ้วเน้นหนักกดโดน ความซาบซ่านก็พลันทำขนุนกระตุกเกร็งไปทั่วตัว แม้แต่ขนุนน้อยๆ ก็แข็งขืนจนบดเบียดหน้าท้องของคณินไปมา

   คณินเองก็แทบจะทนไม่ไหว ยิ่งเห็นกายขาวตรงหน้าสั่นสะท้านก็ยิ่งอยากรุนแรงใส่มากขึ้นเท่านั้น คนตัวโตที่เริ่มหมดความอดทนจึงกดร่างขาวให้จมลงกับเตียงอีกครั้งแทรกตัวตัวเข้าหากลางตัวขนุน และแยกเรียวขาให้เปิดกว้างออกดันเข่าให้ยกสูงขึ้น ก้มลงจูบซับเบาๆ ไปที่หน้าผากขนุน ไล่ลงมาตรงเปลือกตา ปลายจมูก ริมฝีปากที่จูบอย่างดูดดื่ม ก่อนจะจูบซับมาตามลำคอ แผ่นอกราบและหยุดหยอกล้อยอดอกชมพูดที่แข็งขึ้น ในขณะที่เบื้องล่างกำลังจดจ่อและค่อยๆ กดแท่งร้อนส่วนปลายไปยังจีบเล็กที่ผ่อนคลายขึ้น คณินเข้าไปทีละน้อยจนกระทั่งแกนกายจมหายไป แม้ไม่ได้ทั้งหมดเพราะคนตรงหน้าตอดรัดเขาแรงมากจนน่าตกใจ

   “ผ่อนคลายนะครับ พี่จะค่อยๆ ทำเบาๆ”

   “อือ....อ๊ะ อ้า.....ครับ”

   แม้จะตอบหากแต่สีหน้าของขนุนราวกับจะไม่ไหว และเมื่อคณินเริ่มขยับ ความเสียวซ่านก็แล่นพล่านไปทั่วร่างกายของทั้งสองอย่างไม่อาจหยุดได้ความรุนแรงเริ่มและเร่าร้อนเริ่มเผาให้ทั้งสองแทบหลอมรวมกัน เนื้อกระทบเนื้อสร้างเสียงหยาบโลนดังขึ้นภายในห้อง สอดประสานกับเสียงหอบหายใจถี่กระชั้นไปตามแรงสาวสะโพกควบหนักของอีกฝ่าย

   “ผมจะไม่ไหวแล้ว ผมอยากปล่อย ฮึก!”

   “พี่ยังกอดเราไม่อื่มเลย ไม่อนุญาตครับ”

   “ฮึก อ้า!”

   “เปลี่ยนท่าหน่อยมั้ย เผื่อจะดีขึ้น”

   ขนุนถูกกล่อม และเหมือนถูกหลอกไปด้วย เมื่อตัวเองยอมคว่ำหน้าแอ่นสะโพกให้อีกฝ่ายขนุนกลับพบว่ามันเสียวสุดๆ จนเขาแทบจะกัดหมอนขาดเป็นรูอยู่แล้ว และมิหนำซ้ำมือหนาที่กอดขนุนอยู่ด้านหลังกลับเลื่อนลงมาเย้าหยอกแกนกายของเขาที่ทรมานจนแทบอยากจะปล่อยซะเดี๋ยวนี้ แต่ก็กลับถูกบังคับให้แข็งไว้จนปวดหนึบไปหมด

   “พี่คณิน…..ใจร้ายอ่ะ”

   “อยากปล่อยเหรอ?”

   ขนุนพยักหน้ารัวๆ ทั้งๆ ที่หน้าแดงๆ ฝังอยู่บนหมอน จนคณินอยากจะแกล้งถึงได้รีบสาวสะโพกเข้าหาก้นขาวอีกครั้ง

   “อื้อ...อ้า อ้า!”

   “ขออีกนิดนะครับ แล้วเสร็จพร้อมกัน”

   คนพูดก้มลงงับใบหูเล็กเบาๆ แล้วจูบไปทั่วแผ่นหลังเล็กที่สั่นเกร็งไปหมด ก่อนจะขยับแท่งอุ่นร้อนที่พร้อมจะปลดปล่อยกระแทกถี่กระชั้น พร้อมเอื้อมมือหนาเข้ารูดรั้งให้อีกฝ่าย ในที่สุดสองร่างก็ขับหลั่งทุกหยาดหยดแห่งความสุขออกมาพร้อมกัน ก่อนจะทิ้งร่างให้นอนกอดตระกองแนบชิดไม่ห่าง

   แต่นั่นก็ไม่ได้ถึงความสุขทุกอย่างจะจบลง หากแต่มันเพิ่งเริ่มต้นกับพวกเขาต่างหาก

   “ผมรู้สึกเหมือนเพิ่งจะเมาเลย”เสียงหอบหายใจหนักๆ ของขนุนเอ่ยขึ้น แล้วพลิกตัวหันหน้าเข้าหาอกกว้าง ช้อนหน้าแดงๆ ขึ้นมองคณินสายตาเขินๆ แต่โคตรมีความสุขไปให้ แต่ดูยังไงคณินก็ยังดูสดชื่นต่างจากขนุนลิบลับ

   “ให้เมาตรงนี้ได้ แต่ที่อื่นห้ามพี่หวง ตอนนี้ตัวเราพี่แสดงความเป็นเจ้าของไปแล้ว”

   ขนุนหัวเราะ“แบบนั้นก็อดไปดื่มกับเพื่อนสิ”

   “ดื่มได้ แต่พี่ไปด้วย”

   “จะให้ตามไปเฝ้าทุกที่เลย”พูดไปขนุนก็กอดใหญ่ๆ ไปยังคนตรงหน้า ตาปลือๆ แวววาวซะจนฉ่ำแล้วฉ่ำอีก แถมยังชอบซุกหน้าลงกับอกกว้างไม่ปล่อยคลอเคลียยิ่งกว่าแมวอ้อนขออาหาร   

   “กอดแน่นแบบนี้พี่หายใจไม่ออกพอดี”

   “กอดแปลว่ารัก รักมากก็กอดมาก...”เสียงพึมพำยิ้มหวานอยู่คนเดียว อาการเหมือนคนที่กำลังจะเข้าสู่ห้วงนิทราเต็มที “พี่คณิน?”

   “หืม จู่ๆ ก็เรียก มีอะไรครับ? ”

   “ผมอยากบอกว่า วันนี้ผมมีความสุขมากเลย แม้จะเป็นวันที่พี่ต้องเจ็บตัว”

   คณินหัวเราะ อดหมั่นไส้เลยต้องกอดตอบไปแน่นๆ แล้วหอมลงกลางหัวขนุนไปหนึ่งฟอด “พี่ก็มีความสุขมากเหมือนกันครับ ขอบคุณนะขนุน สำหรับความรักความเชื่อใจที่มอบให้กัน”

   “ผมคงเกิดมาเพื่อรักพี่แน่ๆ ”

   “เว่อร์ไป”

   “.....”

   “แต่มันก็อาจจะใช่ก็ได้”คณินตอบออกไปเสียงแผ่ว ทำให้เขานึกถึงเรื่องบังเอิญที่มีจริงระหว่างเขากับขนุน

   “พี่คณินครับ”เสียงเรียกตาปลือ ยกมือขึ้นขยี้ตาตัวเองที่กำลังจะปิดให้ฝืนอีกนิด

   “ว่า? ”

   “ครั้งหน้า...ให้ผมเป็นฝ่ายทำบ้าง”

   คำพูดที่เหมือนเลื่อนลอยออกมาจากปากของขนุนฟังดูอ้อนวอน ทำเอาคนฟังชะงัก

   ตัวเท่าลูกหมาแต่ใจราชสีห์ไปอีก

   “ก็ลองดูครับ ถ้าทำได้ล่ะก็”ประโยคที่คล้ายจะยินยอมแต่ก็คงจะเป็นแค่คำตอบปลอบใจ และเขาไม่ควรดับความฝันขนุน อยากคิดอะไรตามใจทุกอย่าง แต่จะทำได้มั้ยมันก็อีกเรื่อง และแน่นอนว่าใครจะไปยอมกันง่ายๆ

   “.....”

   “ขนุน.....ง่วงแล้วเหรอครับ”จู่ๆ เสียงจ้อก็ขาดหายไป คนเป็นห่วงเลยถามขึ้น

   “อือ...”

   “งั้นนอนเถอะ พี่ไม่กวนเราแล้ว”

   “นอนด้วยกัน อย่าไปไหนนะครับ.....”เสียงพึมพำงึมงำอีกหลายๆ คำที่คณินแทบไม่ได้ยิน เพราะดูเหมือนขนุนจะง่วงจริง หลับจริงใส่เขาได้ทุกเมื่อ เพราะแบบนั้นคณินเลยเอื้อมมือดึงผ้าห่มคลุมตัวให้ขนุน อีกฝ่ายขยับตัวไปมาเล็กน้อย แต่ดูเหมือนมือที่กอดรั้งคณินเอาไว้คงจะไม่มีทางปล่อยง่ายๆ ไปแน่สำหรับคืนนี้

   “ฝันดีครับ”

   คนตัวโตทำได้เพียงราตรีสวัสดิ์แล้วรับกอดแน่นๆ จากขนุน คืนนี้แน่นอนว่าคณินคงต้องยอมเป็นตะคริวครึ่งซีกเพราะโดนกอดจนขยับตัวไปไหนไม่ได้อย่างแน่นอน








ติดตามตอนต่อไป >>>


----------------------------------------

ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ เดี๋ยวจะอัปจนจบ ชัวร์ๆ ฝากน้องหนุนด้วยนะคะ :impress:

หลานฮวา


ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
ทีแรกก็นึกว่าพลิกล็อค ใสๆ
ที่ไหนได้ ....

ออฟไลน์ ทามากิบ๊อง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-4


ขนุนลูกที่ 25





   แปะ

   แขนขาวที่ซุกอยู่ใต้ผ้าห่มโผล่ออกมาแล้วยืดเส้นยืดสาย วางมือลงไปอย่างคุนชิ้นราวกับกอดหมอนข้าง หากแต่สัมผัสที่เย็นนุ่มเด้งมือมันทำให้คนที่ตื่นก่อนเวลาอย่างขนุนย่นคิ้วยู่ จากนั้นจึงค่อยๆ ลืมตากะพริบถี่ๆ ปรับแสงที่ส่องผ่านม่านหน้าต่างผื่นใหญ่เข้ามา คนตัวเปลือยที่ขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มอย่างขนุนถึงอ้าปากเหวอเมื่อเงยหน้ามองขึ้นไปยังองศาชัดเจน เขาพบว่าคนที่นอนอยู่ข้างๆ ไม่ได้กระโดดออกมาจากความฝัน แต่มันคือเรื่องจริง

   ถึงแม้กิจกรรมในค่ำคืนก่อนหน้าในร่างกายของขนุนจะไหลเวียนไปด้วยแอลกอฮอล์ ตื่นมามีอาการแฮงค์นิดหน่อย แต่ความมีสติรับรู้นั้นแจ่มแจ้งในทุกการกระทำ เพียงแต่แอลกอฮอล์นั่นทำให้ขนุนใจกล้ามากกว่าเดินสิบเท่า

   นี่คงเป็นเรื่องที่ชวนดีใจขนขนุนแทบสำลักความสุข จนแก้มเย็นร้อนผะผ่าวแดงเรื่อขึ้นตาเป็นประกาย ยืนยันได้ดีจากเสียงหัวใจที่เต้นโครมครามในอก บวกกับสัมผัสที่ขนุนกอดแน่นอยู่ในตอนนี้ว่าจริงทุกสิ่งอย่าง

   จริงๆ ขนุนก็แอบคิดอยู่ว่าจุดเริ่มต้นของความรักมันเกิดขึ้นง่ายดายขนาดนี้เชียวเหรอ มันออกจะน่าหัวเราะไปหน่อยที่ความรักของเขามันเริ่มต้นจากหมาตัวหนึ่ง จากกอดหมาของเขา ก็กลายเป็นอยากจะกอดเจ้าของหมาจนสุดท้ายก็ได้กอดจริงๆ

   “โคตรจริง ไม่ฝันไปเองแน่ๆ ”

   คนดีใจรีบดันตัวลุกขึ้น คล้ายไม่อยากเสียงดังให้อีกฝ่ายตื่น อยากจะนั่งมองใบหน้าของคนรักที่พูดได้เต็มปากว่าแฟนจนกว่าจะตื่น แต่เมื่อขยับร่างกายความไม่ชอบใจบางอย่างก็ทำให้ขนุนนิ่วหน้า อาการเหมือนผ่านการเล่นกีฬามาอย่างหนักโดยไม่วอร์ม นั่นคือเรื่องของกล้ามเนื้อที่ตึงจนเจ็บ แต่มันก็ไม่ได้มากมายจนลุกไม่ไหว แต่ก็รู้สึกเฟลในใจที่ทำไมตัวเองไม่ได้เป็นฝ่ายรุก ทั้งๆ ที่อยากจะจับคนตรงหน้ากินตั้งแต่สบตาแรกพบด้วยซ้ำ

   ความคับข้องใจชวนให้สีหน้าเพิ่งตื่นในยามเช้าดูยุ่งเหยิงไม่ต่างจากผมเผ้าที่ชี้กระดกจนน่าขำ หัวใจที่เต้นตึกตักนำพาเจ้าของร่างเล็กค่อยๆ โผล่ตัวออกมานอกผ้าห่มจนแผ่นหลังขาวตลอดจนสะโพกขาวนวลเนียนสัมผัสกับความเย็นของเครื่องปรับอาการทำเอาขนลุกชันแข่งกับความตื่นตัวบางอย่างในยามเช้า

   ทันใดความคิดก็แล่นขึ้นในหัว ดวงตากลมใสแต่ยังคงบวมตุ่ยจากอาการเพิ่งตื่นดูเป็นประกายขึ้น ขนุนจะค่อยๆ ดึงผ้าห่มที่คณินห่มตัวอยู่ครึ่งท่อนออกช้าๆ แล้วพยายามพาตัวเองขึ้นคร่อมสวมบทเจ้าชายจูบรับรุ่งอรุณให้แก่คนตรงหน้า ดวงตาสดใสเกินเบอร์และรอยยิ้มสุดมุมปากที่กำลังคิดไม่ดีค่อยๆ เอนตัวลงวางริมฝีปากไปที่ท่อนไหล่ของคณิน แล้วไล่ไปยังซอกคอของอีกฝ่าย ก่อนจะถอยลงต่ำจูบซับไปบนอกกว้าง เสียงจ๊วบเล็บๆ จากริมฝีปากปากลากไปตามผิวของคนตรงหน้าจนต่ำลงมาจนถึงหน้าท้องจวนจะถึงไรขนอ่อน และเป้าหมายต่อไปของขนุนก็อยู่ไม่ไกลเกินปากเล็กจะเอื้อมถึง

   ทว่าคนที่แสร้งหลับและรู้สึกตัวตั้งแต่โดนคร่อมกลับดีดตัวลุกแล้วจัดการดันร่างของขนุนแสนซนที่คงเป็นญาติกับกล้วยหอมจอมซนลงกับเตียงในทันที พลิกเกมก่อนจบสกอร์ได้อย่างหักมุม

   “พี่คณิน!”

   “ซนแต่เช่าแบบนี้อันตรายรู้มั้ย”คณินส่ายหน้ายิ้ม มองขนุนที่หน้าหงอยเหมือนผิดหวังบางอย่าง

   “จะแกล้งหลับต่ออีกนิดผมก็ไม่ว่าหรอกนะ”

   “จะให้แกล้งหลับต่อได้ไงเล่นขึ้นคร่อมกันแบบนี้แต่เช้า”

   “ผมความจำดีนะ เมื่อคืนพี่บอกว่าให้ผมเป็นฝ่ายทำครั้งหน้า”

   “พี่พูดเหรอ? ”คณินทำหน้างง

   “รับปากแล้วด้วย”

   “เวลาเรียน จริงจังแบบนี้มั้ยครับพี่ถามจริง? ”

   “ถามแบบนี้เอาไม้เรียวมาตีผมเถอะ”

   คณินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะคนตรงหน้ากับความเอาแต่ใจนั้น ก่อนจะก้มหน้าลงไปปลอบด้วยจูบเบาๆ ตั้งแต่หน้าผาก เปลือกตา ปลายจมูก และริมฝีปาก จนอีกฝ่ายยิ้มได้ขึ้นมา

   “อยู่ให้พี่กอดแบบนี้ไปก่อน อย่าเพิ่งโตไปกว่านี้เลยนะ เดี๋ยวพี่จะรับไม่ไหว”

   “ผมมากกว่าครับที่จะรับไม่ไหวอ่ะ” สายตาทะลึ่งมองไปข้างล่างของอีกฝ่าย ก่อนจะเสนอไอเดียดีๆ ขึ้น แล้วยิ้มมุมปาก “ตอนเช้าแบบนี้...ให้ผมช่วยมั้ยครับ”

   “ใครสอนให้ยั่วกันแบบนี้ครับ”สายตาคมจ้องขนุนเขม้น

   ขนุนส่ายหน้าเอื้อมมือคล้องคอคนตรงหน้าแล้วกอดไว้แน่น “ผมแค่แสดงออก ใครบอกว่ายั่วกันครับ เปล่าสักหน่อย”

   “ให้ตายสิ พี่ล่ะยอมแพ้เราเลย”คณินถึงกับนวดขมับ

   “งั้น.....ให้พี่ยอมให้ผมกอดแล้วใช่มั้ย? ”

   “เก่งเมื่อไหร่ไว้มาคุยเรื่องนี้ครับ ตอนนี้ไปอาบน้ำ”คนพูดผละออกมาจนขนุนต้องกอดเข่าตัวเองหน้างอปากคว่ำ ถอนหายใจด้วยความเสียดาย มองร่างสูงที่ดูมีกล้ามเนื้อสมส่วนสะโพกแน่นๆ จนน่าตะปบ กำลังคว้าผ้าเช็ดตัวของขนุนที่พาดอยู่ตรงพนักเก้าอี้ขึ้นพันท่อนล่างหลวมๆ ดูยังไงส่วนกลางลำตัวมันก็ตื่นขึ้นจนดันผ้าเช็ดตัวจนนูนโป่ง คนเสียดายมองด้วยสายตาละห้อย

   “.....”

   “หืม? ทำไมไม่ลุกครับ ไม่อยากอาบน้ำเหรอ”คณินหันมาเท้าสะเอวเลิกคิ้วถามมุมปากจุดยิ้ม

   “อาบน้ำ? ”ขนุนทวนคำถาม จากหูที่งอลงอย่างกับหมาหงอยจู่ๆ ก็ตั้งตรงขึ้นสายตาเป็นประกาย มองคณินที่ยืนรอตรงหน้าแล้วรีบลุกจากเตียงลนลานทันที “อาบครับ ผมอาบด้วย!”



   “ใครไลน์อะไรมาเยอะแยะตั้งแต่เช้า”

   คนที่นั่งก้มหน้ามองหน้าจอมือถืออยู่ๆ ข้างๆ คนขับรถเงยหน้าขึ้นตอบ ก่อนกดปิดหน้าจอแล้วยัดใส่กระเป๋าเป้ที่นั่งกอดอยู่ “ไลน์กลุ่มเพื่อนน่ะครับ มันถามเรื่องผมกับพี่ เพราะต้าเห็นเราออกมาจากหอด้วยกันเมื่อกี้เลยเอามาแซวผม”

   คณินหัวเราะเอื้อมมือไปโยกหัวขนุนหยอกล้อ กลิ่นแชมพูหอมๆ ฟุ้งอยู่ในรถเป็นกลิ่นเดียวกัน “เพื่อนแซวอะไรถึงหน้างอขนาดนั้น”

   “ไม่มีอะไรหรอกครับ พวกนั้นก็กวนผมไปเรื่อย”ขนุนจะบอกได้ยังไงว่าเขาเสียหน้าให้กับเพื่อนเพราะลั่นปากไปว่าจะเป็นฝ่ายกดคณิน แต่เกิดความผิดพลาดทางเทคนิคทุกอย่างพลิกตาลปัตรไปหมด

   “แล้วโกรธมั้ย? ”

   “เปล่าครับ ผมโกรธพวกนั้นเป็นซะที่ไหน”

   “กินนี่หน่อยมั้ย เผื่อจะได้สดชื่นขึ้น”ระหว่างขับรถคณินก็ค้นเอาลูกอมขึ้นมาจากข้างประตูรถแล้วยื่นให้ขนุน มองขนุนที่รับลูกอมไปแต่ก็ไม่ได้แกะกิน “ไม่กินเหรอ เม็ดเดียวฟันไม่ผุหรอก หมออนุญาต”

   “ผมชอบเก็บมันไว้มากกว่ากินน่ะครับ คงเป็นนิสัยแปลกๆ ถ้าพี่คณินไปที่บ้านผมนะ ผมน่ะมีลูกอมที่เมื่อก่อนเคยมีคนให้เก็บใส่กล่องใส่โหลไว้เยอะเลยล่ะครับ”คนคุยเก็บลูกอมใส่กระเป๋าแล้วพูดขึ้น คณินแอบยิ้มแล้วตอบกลับไป และยังคงเก็บความลับบางอย่างเอาไว้

   “จริงเหรอ? งั้นเสาร์หน้าพี่ไปบ้านขนุนบ้างดีกว่า”

   “เอ๊ะ? ไปจริงหรือล้อเล่นครับ”

   “หรือเราไม่อยากให้พี่ไป กลัวคนที่บ้านไม่ยอมรับเหรอ ถ้างั้นพี่.....”ไม่พูดเปล่าแต่การทำหน้าสลดก็เป็นหนึ่งในการแสดง

   “ไม่ใช่ครับ ผมแค่ดีใจที่พี่อยากไปที่บ้านของผม ผมก็อยากแนะนำพี่ให้แม่รู้จักด้วย”เจ้าของใบหน้าแป้นแล้นหันมายิ้ม จนคนมองแทบจะหรี่ตาเพราะความเป็นประกายของรอยยิ้มกว้าง

   ยิ่งมองยิ่งน่ารักซะจนอยากจะจับมาหอมให้ช้ำไปทั้งตัว ติดอยู่ตรงที่คณินต้องประคองรถให้แล่นไปบนถนนอย่างปลอดภัยนี่สิ

   “ถ้าอยากให้ไปจริงๆ งั้นพี่ขอรางวัลเสริมแรงหน่อย”คนพูดเอียงแก้มและตัวไปด้านข้าง เคาะปลายนิ้วไปที่กรอบหน้า

   ฟอด!

   “พอมั้ยครับ”

   “อื้ม ค่อยมีเรี่ยวมีแรงขึ้นมาหน่อย”

   “พูดอย่างกับคนแก่อายุหกสิบแน่ะ”ขนุนหัวเราะ และสายตาก็เหลือบมองเห็นป้ายร้านบางอย่างข้างหน้าไกลๆ พอดี “พี่คณินครับ ช่วยแวะร้าน Love Pets ตรงป้ายสีเหลืองข้างหน้าให้หน่อยสิครับ”

   “เราจะซื้อเหรอ? ”

   “ครับ ผมว่าเราควรจะมีของติดไม้ติดมือกลับไปนะครับ”ขนุนหันไปมองคณินสีหน้าจริงจัง อีกฝ่ายพยักหน้ารับเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะป่านนี้ไข่ดาวคงจะคอยเจ้าของบ้านที่หายตัวไปข้ามวันข้ามคืนแย่แล้ว และเขาควรจะซื้อขนมขบเคี้ยวไปเอาใจเสียหน่อยเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายน้อยใจ

   และหลังจากทั้งสองแวะเข้าร้านขายของสัตว์ สิ่งที่ได้ก็แทบจะหิ้วกลับไปไม่หมด แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกขนมกินเล่นของสุนัขซะมากกว่า เพราะอาหารกระป๋องหรืออาหารเม็ดคณินซื้อตุนไว้ค่อนข้างเยอะแล้ว ติดไม้ติดมือมาอีกนิดก็เป็นพวกของเล่นโยนคาบ ไข่ดาวน่าจะทำได้ดีเพราะขนุนเคยเห็นอิทธิฤทธิ์คาบชามข้าวโยนใส่เขามาแล้ว

   ใครว่าหมาประชดไม่เป็น ก็ไข่ดาวนี่ไงจะหมาตัวไหนอีก

   และทันทีที่คณินมาถึงบ้าน หลังจากนำรถเข้าไปจอด ความเงียบที่ผิดปกติก็ทำให้เจ้าของบ้านถึงกับกุมขมับ แม้ขนุนจะพยายามช่วยเรียกหาเผื่อว่าเจ้าตัวแสบจะแอบไปฟุบหลับตรงไหนของบ้านบ้าง แต่ก็เปล่าเลย

   ไม่มีเสียงตอบรับจากการเรียกขานเลยแม้แต่น้อย

   “ผมว่าเราลองเดินออกไปตามหาในหมู่บ้านดูดีกว่านะครับ”

   “อื้มลองดู”

   “ไม่เป็นไรนะครับ เดี๋ยวก็เจอ”

   “ถึงพี่จะรู้ว่าไข่ดาวชอบแอบมุดหนีไปเที่ยว แต่ก็ไม่ชินที่จะรู้สึกกังวลใจแบบนี้ พี่ไม่น่าปล่อยให้ออกจากคอกกั้นก่อนไปข้างนอกเลย”

   “ไปเถอะครับ ผมช่วยตามหาเอง และที่สำคัญเจ้าไข่ดาวมันก็รักเจ้าของมาก มันไม่ทิ้งพี่คณินไปไหนไกลหรอกครับ”

   “แต่ก็เคยหนีไปไกลถึงแถวหอขนุนแล้วนะ เราลืมไปแล้วเหรอ”ขนุนอ้าปากเหวอ

   “จะจริงด้วย”

   “เดี๋ยวพี่ไปเอาจักรยาน จะลองปั่นหาดูแถวนี้ ขนุนรอพี่หน้าบ้านก่อนเผื่อไข่ดาวจะกลับมา”

   “ครับ”ขนุนพยักหน้า มองคณินที่รีบร้อนเดินอ้อมเข้าไปตรงโรงจอดรถข้างๆ แต่ในขณะที่ขนุนกำลังเปิดประตูรั่วเพื่อให้คณินนำจักรยานออกไปตามหาไข่ดาว จู่ๆ เสียงเห่าที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมาจากด้านนอก ขนุนรีบเดินออกไปดูก็พบว่าเป็นเจ้าไข่ดาวจริงๆ แต่ก็มาพร้อมกับใครบางคนที่เดินถือสายจูงมาด้วย

   และทันทีที่ขนุนโผล่หน้าออกไป เจ้าหมาสุดแสบก็วิ่งโร่ลากสายจูงเข้าหาขนุนอย่างดีอกดีใจ หางกวัดแกว่งจนจะเป็นใบพัดเรือ ปีนป่ายดูระริกระรี้วุ่นวายไปหมด ดูแล้วไร้ซึ่งความสำนึกผิดจริงๆ

   “ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าเป็นสุนัขของบ้านนี้หรือเปล่าคะ พอดีตอนเช้าเจอมันเดินอยู่แถวๆ หน้าบ้าน คุ้นๆ ว่าเคยเห็นอยู่ที่บ้านหลังนี้ด้วย เลยเดินมาส่ง”

   หญิงสาวที่อยู่ในวัยมัธยมปลายหน้าตาน่ารักถักเปียสองข้างตัดหน้าม้าดูสดใสถามขึ้น พร้อมกับยื่นเชือกจูงไปให้ขนุน และคงไม่ต้องพิสูจน์อะไรมากถึงสัมพันธภาพระหว่างเจ้าไข่ดาวกับขนุนที่ดูสนิทกันจนแทบจะเลียปาก

   “ใช่แล้วครับ ขอโทษจริงๆครับ คงรบกวนแย่เลย”ขนุนตอบกลับไป ย่อตัวลงขยี้หัวเจ้าหมาแสบที่แอบหนีเที่ยวอย่างหมั่นไส้แรงๆ จนหัวโยกหัวคลอน หญิงสาวที่จูงไข่ดาวมาส่งมองขนุนที่ลงโทษไข่ดาวด้วยความน่ารักจนอดยิ้มด้วยไม่ได้

   “ชื่อไข่ดาวรึเปล่าคะ พอดีเห็นที่ป้ายปลอกคอ”ท่าทางเคอะเขินเล็กน้อยพยายามชวนคุยถามขึ้น

   “ครับชื่อไข่ดาว ชอบหนีเที่ยวเป็นที่หนึ่งเลย”

   “เหรอคะ สงสัยจะชอบเที่ยวมากๆ ”

   “แต่ผมไม่ใช่เจ้าของไข่ดาวตัวจริงหรอกนะครับ แต่ก็ขอบคุณนะครับน้อง? ”

   “หนูชื่อข้าวค่ะ”

   “ครับน้องข้าว”

   และระหว่างที่เสียงคุยดังขึ้น คณินที่เข็นจักรยานออกมาก็ต้องแปลกใจ เมื่อเห็นว่าเจ้าไข่ดาวที่เขากำลังจะไปตามหากลับมาง่ายดายนัก แถมยังมีเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักมายืนยิ้มหวานอยู่ตรงหน้าบ้านเขาอีก

   “พี่คณินมาพอดีเลย พอดีน้องข้าวเขาเจอขนุนเลยพามาส่งน่ะครับ”

   “สวัสดีค่ะ”

   “อ่า ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ ขอโทษที่สุนัขไปรบกวนด้วย”

   “อื้อ ไม่เป็นไรค่ะ ที่บ้านก็ชอบสุนัขไม่ได้รบกวนอะไรเลย”

   “แล้วบ้านน้องข้าวอยู่ไหนครับ”ขนุนถามขึ้นและพยายามควบคุมไข่ดาวไม่ให้รบกวนไปด้วย

   “อยู่ลึกเข้าไปในท้ายซอยหมู่บ้านน่ะค่ะ”คนตอบมองขนุนยิ้มเขินๆ

   “งั้น...เพื่อเป็นการขอโทษ ให้พี่ไปส่งมั้ยครับ”คณินเสนอแล้วขึ้นคร่อมจักรยานรอ ขนุนมองคนเสนอตัวชะงักค้างไปเล็กน้อย ก่อนจะกลับมายิ้ม

   “ไปเถอะครับ ให้พี่คณินไปส่งจะได้ไม่ต้องเดินกลับไปอีก”

   “เอ่อ ก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”

   “ซ้อนจักรยานได้ใช่มั้ยครับ? ”คณินถามขึ้น

   “ได้ค่ะ”คนตอบพยักหน้าหงึก ท่าทางเคอะเขินพยายามขึ้นซ้อนด้านหลังตรงที่นั่งสำหรับคนซ้อน ใช้มือจับชายเสื้อด้านหลังคณินเล็กน้อยกันตก “ไปก่อนนะคะ” มือเล็กโบกลาขนุนก่อนที่คณินจะออกแรงปั่นจนไกลออกไป

   คนยืนมองส่งสายตาละห้อย ถอนหายใจเล็กน้อยแล้วเหลือบไปมองเจ้าหมาแสบที่เลียเท้าเขาจนน้ำลายเปื้อนเหนียวไปหมด

   “หิวหรืออะไร แอบหนีเที่ยวน่าจับตีก้นมั้ยไข่ดาว เราว่านายชักจะมากไปแล้วนะ ทำหน้าระรื่นแบบนั้นต่อหน้าเด็กผู้หญิงที่อ่อนต่อโลกได้ไง!”คนดุทำหน้าเข้มก่อนจะรั้งเชือกจูงบอกว่าให้เข้าบ้าน ไข่ดาวจึงรีบวิ่งนำหน้าทันทีที่ขนุนออกตัวเดิน ร่างเล็กแทบคะมำเพราะแรงดึงสายจูง

   หลังจากเข้าบ้านไปแล้วขนุนก็จัดการแกะห่อของกินเล่นสำหรับสุนัขป้อนให้ไข่ดาวเป็นอกไก่พันครั้นชี่ ดูเหมือนจะถูกใจในรสชาติซะจนขนุนป้อนให้ไม่ทัน

   “พอแล้ว กินเยอะเดี๋ยวก็อ้วก เก็บท้องไว้กินเมื่ออื่นบ้าง”ขนุนปิดปากถุงและเดินนำห่อขนมไปเก็บในครัว ไข่ดาวก็ยังคงวนเวียนเดินตามขนุนไม่ไปไหนส่งสายตาวิงวอนเหมือนอยากจะกินอีกให้หมดห่อ
 
   กระทั่งเสียงเปิดประตูรั้วหน้าบ้านเข้ามาขนุนถึงรู้ว่าเจ้าของบ้านกลับมาแล้ว
 
   “ไปซะนานจนผมคิดว่าพี่จะไม่กลับมาแล้วซะอีก”

   “ก็น้องเขาน่ารัก อัธยาศัยดี ที่ส่งนานเพราะมัวแต่คุยกันก่อนกลับ”คณินเดินเข้าไปเปิดตู้เย็นในครัว รินน้ำเย็นๆ ใส่แก้วแล้วกระโดดขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์ดื่มน้ำดับกระหาย แอบเหลือบตามองปฏิกิริยาของแฟนหนุ่มป้ายแดงอย่างขนุนแล้วอมยิ้ม

   “คงสนุกสินะครับ”ขนุนเริ่มหน้างอ แล้วเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าคณินกอดอกแน่นจ้องคนตรงหน้าเขม้น

   “ก็สนุกดี”คณินหัวเราะก่อนจะวางแก้วน้ำไว้ข้างตัวแล้วลงมายืนตรงหน้าขนุนไหวไหล่

   “พูดแบบนี้ไม่กลัวผมน้อยใจรึไงครับ ผมเป็นแฟนพี่นะหรือลืมไปแล้ว”

   “ก็เราถามพี่ พี่ก็ตอบตามความจริงไงครับ”

   “ตอบมาแบบนี้ ระวังผมงอแงใส่เข้าจริงๆ แล้วจะหนาวนะครับ”ขนุนสาวเท้าเข้าหาคนตัวสูงกว่าแล้วเงยหน้าสบตาคณินยักคิ้วข้างเดียวใส่อย่างเอาเรื่อง เพราะจับไต๋ได้ว่ากำลังถูกคณินแกล้ง

   “งอแงได้เลย แค่ขนุนคนเดียวพี่โอ๋ได้อยู่แล้ว”

   “จะโอ๋แน่นะครับ”ขนุนอมยิ้มจนแก้มกลมแดงเรื่อ คำพูดของคณินทำให้คนใจกล้าอย่างขนุนเขินได้อีกครั้ง

   “แน่นอนครับ”คณินส่งมือหนาเข้าบีบแก้มขาวเบาๆ ก่อนจะกอดแผ่นหลังเล็กแล้วพากันเดินออกมาด้านนอกโดยมีไข่ดาววิ่งเหยาะๆ ตามหลังเป็นเงาอย่างแนบเนียน และเมื่อขนุนทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา คณินตั้งท่าจะหย่อนตัวลงนั่งใกล้ๆ ทว่าไข่ดาวกลับตัดหน้ากระโดดขึ้นนั่งขั้นกลางเหมือนอยากมีส่วนร่วม จนต้องยอมให้อย่างเลี่ยงไม่ได้จนคณินต้องเปลี่ยนไปนั่งอีกด้านซะแทน

   และเมื่อคณินตั้งใจจะเอนตัวหนุนตักขนุนเหยียดตัวยาวตามแนวโซฟา เจ้าหมาแสบก็เหมือนรู้ทันความคิดรีบเอาหัวเกยตักขนุนตัดหน้า พอคณินจะจับมือขนุนไข่ดาวก็เลียหลังมือขนุนซะจนน้ำลายเยิ้มอีก

   ท่าทางวันนี้ไข่ดาวคงมีความในใจบางอย่างจะบอกคณินหลายอย่าง อาจจะเคืองเรื่องที่หายตัวไปตลอดคืนก็เป็นได้

   แต่ว่าการฟาดฟันนั้นผลสุดท้ายก็จบลงที่...ไข่ดาวโดนโยนใส่คอกด้านนอกของตัวบ้าน

   แกร็ก!

   “วันนี้อยู่ในคอกไปทั้งวันก็แล้วกัน”

   นั่นคือคำประกาศิตที่คณินประกาศกร้าวออกมาต่อหน้าไข่ดาวทันทีที่ล็อกประตูคอกได้สำเร็จ ขนุนถึงกับหัวเราะออกมา ไม่รู้ว่าจะสงสารฝ่ายไหนดีเลยทีเดียว

   “โหดไปมั้ยครับพี่คณิน ถึงกับต้องขังกันแบบนี้”ขนุนแซว

   “ใครขัดขวางความรักพี่ พี่จะสั่งขัง เราก็เหมือนกันอย่าตามใจไข่ดาวเกินไป หรือกับคนอื่นก็ห้ามแจกยิ้มให้ไปทั่ว คนเขาหลงเราทั้งหมู่บ้านแล้วพี่จะอยู่ยังไง”

   “เดี๋ยวครับ! พี่คณินกำลังหมายถึงอะไร? ”ขนุนถึงกับหุบยิ้มและเปลี่ยนสีหน้าเป็นงงงวยแทน เพราะนี่ไมใช่แค่เรื่องไข่ดาวแล้วแน่ๆ

   “ไม่รู้จริงๆ เหรอว่าน้องข้าวที่เอาไข่ดาวมาส่งเค้ามองเรา”

   “ห๊ะ? ผมเนี้ยนะ”

   “พี่ไปส่งน้องเขา แล้วเขาก็ถามชื่อขนุนจากพี่แถมยังอยากรู้อีกว่าเราอ่ะมีแฟนหรือยัง แบบนี้จะให้พี่รู้สึกยังไงครับ”

   “ไปส่งนานเพราะแบบนี้เหรอ”ขนุนถึงกับขำพรืดออกมากุมท้องหัวเราะคนที่หึงคนยันหมา

   “ก็ใช่”

   “แล้วพี่คณินตอบน้องข้าวว่าไงครับ”ขนุนถามอย่างอยากรู้ เดินตามเจ้าของบ้านเข้าด้านใน ก่อนจะวิ่งไปดักหน้ารอคำตอบ

   “พี่ก็ตอบว่า ขนุนมีแฟนแล้ว และแฟนก็หวงมากด้วย”

   “เหรอครับ”

   “และที่สำคัญ....แฟนขนุนเค้าชื่อคณิน เป็นผู้ชายที่ปั่นจักรยานมาส่งน้องไง”การส่งยิ้มที่ดูเหมือนอ่อนโยนทว่าระคนความสะใจในคำพูดนั้น

   ตอนนี้ขนุนเห็นแล้วล่ะว่า คนตรงหน้าไม่ใช่แค่หวงเขา แต่เอาตรงๆ คือหึงขึ้นตายิ่งกว่าเบาหวานซะอีก

   “ขนุน”

   “ครับ”

   “พี่ว่าบ่ายนี้เราไปบ้านขนุนกัน”

   “ดะเดี๋ยวครับ ใจเย็นๆ อะไรจะปุบปับขนาดนั้น ยังไงผมก็ไม่หนีไปไหนหรอกครับ”ขนุนยกมือขึ้นเป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ จนอีกฝ่ายถึงกับต้องเซตัวมาวางคางไว้ที่ไหล่ของขนุน ยกมือขึ้นกอดแผ่นหลังเล็กแล้วพูดพึมพำ

   “ก็หากมีใครมาวุ่นวาย พี่ก็จะได้ออกตัวเต็มที่ ว่าขนุนเป็นของพี่ห้ามใครมาวอแว”

   “ผมคิดนะครับ...ว่าผมน่ะหวงพี่คณินเป็นที่หนึ่ง แต่ตอนนี้ผมคงต้องยกตำแหน่งสามีแห่งชาติให้พี่ไปเลยดีกว่า”

   “แบบนี้พี่จะมีกะจิตกะใจอ่านหนังสือรึเปล่าเนี้ย”คณินผละตัวออกมาใช้สองมือโอบแก้มขาวที่ส่งสายตากลมโตดูเป็นประกายให้เขา

   “ก็อ่านสิครับ ผมจะอยู่เป็นเพื่อนทั้งวันเลย ยังไงตอนนี้ผมก็สนับสนุนให้ว่าที่คุณหมอเรียนจบนะครับ ผมอยากจะเป็นแฟนหมอที่หล่อและเก่งที่สุด”

   “เอางั้น? ”

   “แน่สิครับ ไปครับไปอ่าหนังสือ”

   ครืดดดด! ครืดดดด!

   “เดี๋ยวครับ เหมือนมีใครโทรมา”ขนุนชะงักเท้าขณะที่กำลังเดินตามหลังคณินไป เมื่อโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงมันสั่น ก่อนจะกดรับ โดยมีคณินกอดอกรั้งรออยู่ตรงหน้า เหมือนมองอย่างอยากรู้ว่าใครโทรเข้ามาตอนนี้

   “ว่าไงต้ามีอะไร...อื้ออยู่กับพี่คณิน”ขนุนมองตาคณินที่ยืนรออยู่ “ห๊ะ! ระเรื่องจริงรึเปล่า? ไม่ได้อำกันเล่นนะ”สีหน้าขนุนค่อยๆ ถอดสี มือกำโทรศัพท์จนแน่นอย่างตกใจจนตาเบิกโพลง มองคณินสลับกับพื้นบ้านท่าทางกังวลหนัก จนอีกฝ่ายสงสัย “อะอืม....เดี๋ยวเราพูดกับพี่คณินก่อนแล้วจะโทรกลับ โอเค”

   “มีเรื่องอะไรรึเปล่าขนุนดูหน้าไม่ค่อยดี”

   “คือพี่คณินครับ”ขนุนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ มองริมฝีปากสีช้ำที่ยังไม่หายดี กับรอยขีดเล็กๆ ตรงโหนกแก้มจากเหตุการณ์เมื่อคืนอย่างใจไม่ดี แต่ก็ต้องพูดออกไป “คือว่า.....”

   “หืม? ”คนตัวสูงเอื้อมมือมาวางไว้บนหัวของขนุนพยายามให้อีกฝ่ายเงยหน้ามองตาเขา

   “ต้าโทรมา แล้วก็บอกว่า.....เมื่อคืนนี้หลังจากที่เกิดเรื่อง และทุกคนแยกย้ายไปแล้วพี่ไม้เอก...เกิดอุบัติเหตุรถเสียหลักชนต้นไม้ครับ แล้วตอนนี้พักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล ต้าเพิ่งจะรู้เรื่องจากนิวแล้วก็โทรมาบอกผม คือว่าผมอยากจะไปดู.....”

   “โรงพยาบาลอะไร? ”

   “ครับ? ”ขนุนดูตกใจที่คณินไม่ได้คัดค้านเรื่องที่อยากจะไปเยี่ยมคนเจ็บและคู่กรณีเก่าอย่างไม้เอก

   “ไม่ห้ามเหรอครับ? ”

   “อยากห้าม แต่เรื่องมันเป็นแบบนี้พี่ก็ต้องแยกแยะ ยังไงหมอนั่นก็เป็นรุ่นพี่ที่ขนุนรู้จัก จะมาห้ามไม่ให้ไปเยี่ยมก็เกินไปหน่อย นอกเสียจากขนุนไม่อยากจะไป”

   “ขอบคุณมากนะครับที่เข้าใจ”

   “รีบไปกันเถอะ แต่พี่ไม่รับรองนะว่าอีกฝ่ายจะช็อกหรือเปล่าถ้าเห็นหน้าพี่ขึ้นมา”

   “พูดเรื่องน่ากลัวแบบนั้นไม่ดีนะครับพี่คณิน”

   “ขอโทษครับ แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ หากอาการไม่ร้ายแรงพี่ก็อยากจะเคลียร์เรื่องเมื่อคืนให้จบๆ ไปด้วย จะได้ไม่คาราคาซัง”คณินหันไปมองขนุนที่มีสีหน้ากังวลจนคิ้วผูกเป็นโบ “แต่พี่สัญญาว่าจะละมุนละม่อมครับ พี่ก็มีจรรยาบรรณของตัวเองหรอกนา มองพี่เป็นคนร้ายไปได้”

   “ก็ผมชักไม่แน่ใจแล้วนี่ครับ ตั้งแต่เห็นพี่คณินไปบวกกับพี่ไม้เอกเมื่อคืนอ่ะ”

   “ใครมันจะทนมองคนที่ตัวเองชอบถูกคนอื่นทำรุ่มร่าม เพราะคนนี้ พี่ หวง”คณินเน้นย้ำคำที่ทำเอาขนุนใจสั่น ตอนแรกก็เป็นห่วงรุ่นพี่อย่างไม้เอกดีอยู่หรอก ทว่าความรู้สึกนั้นเหมือนกับโดนคลื่นยักษ์ที่ชื่อว่าคณินซัดลงทะเลไปหมดแล้ว

   ทำเอาขนุนมองใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าตาละห้อย และอยากจะเข้าไปทำรุ่มร่ามคณินเหลือเกิน แต่ตอนนี้ต้องกัดฟันทน งานดูใจคนต้องมาก่อน










ติดตามตอนต่อไป >>>



------------------------------------------------


เหลืออีกนิดก็จะจบแล้ว ความใสๆ ของขนุนก็อาจไม่มีจริง 5555+
มี นอ. มอบฉายาให้ว่า อิเด็กหลงผัว บ่งบอกถึงความในใจของใครหลายคนได้ดีเลย  :laugh3:
ก็เขารักของเขา มันจะหลงก็คงไม่แปลกเนอะ ฮ่าๆๆ
ทวต.สกีมแท็ก #ขนุนอุ้มหมา   ตามแต่จะบันเทิงได้ค่ะ :man1:

ปล.ขอบคุณมากที่ติดตามอ่านค่าค่ะ

หลานฮวา

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ขนุนขี้อ่อยอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ WaterProof

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :ling1: มาต่อไวๆนะค้า สนุกมากชอบน้องหนุน

ออฟไลน์ ทามากิบ๊อง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-4


ขนุนลูกที่ 26





   เตียงผู้ป่วยไฟฟ้าที่สามารถปรับพนักพิงได้ตั้งอยู่ใจกลางห้องสี่เหลี่ยมสีขาว คนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยก้มมองสายน้ำเกลือที่ห้อยระโยงระยางจากหลังมือตนเองนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง รอบศีรษะมีผ้าพันแผล แต่ไม่มีส่วนอื่นได้รับบาดเจ็บไปมากกว่ารอยฟกช้ำ ทุกอย่างเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากความมึนเมาและความคุกรุ่นของอารมณ์ โชคดีที่ไม่ได้มีใครอื่นรับเคราะห์ไปด้วย

   ผู้ป่วยที่นั่งหน้านิ่งอย่างไม้เอกทำได้เพียงถอนหายใจก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนที่เรียกได้ว่าไม่ชอบเพราะเป็นเสี้ยนหนามตำใจอย่างคณิน ซึ่งตอนนี้ภายในห้องพักผู้ป่วยมีเพียงไม้เอกและคณินที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในการพูดคุย

   “ผมโคตรไม่ชอบหน้าคุณเลย”นั่นคือประโยคแรกที่ไม้เอกพูดขึ้น มันเหมือนความในใจที่อยากบอกและไม่ต้องการเสแสร้งปิดบังใดๆ

   “เรื่องนั้นคงไม่ต้องบอก” คณินหัวเราะในลำคอและพูดขึ้น “สำหรับเรื่องเมื่อคืนนี้คงไม่มีใครเห็นด้วยถ้าจะบอกว่าผมกับคุณญาติดีกัน”

   “ก็คงเป็นอย่างนั้น”เสียงแข็งตอบกลับไป

   “ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในห้องแล้ว อยากจะพูดอะไรก็พูดมาเลยดีกว่า คนอื่นคงรอเยี่ยมคุณอีกเยอะ”คณินดึงเก้าอี้ที่วางอยู่เข้ามานั่งอย่างใจเย็น ไขว่ห้างกอดอกเงยหน้ามองไม้เอกที่สบตากันนิ่ง ดูเหมือนอีกฝ่ายจะหายบ้า แต่มองจากสีหน้ากลับมีความกังวลอยู่ในแววตา

   “เมื่อคืน...ขนุนเป็นยังไงบ้าง”คำพูดที่มีสติบ่งบอกว่าคนก่อเรื่องรู้สึกแย่กับเหตุการณ์เมื่อคืนไม่น้อย

   “หมายถึง? ”

   “โกรธ หรือด่าผมให้คุณฟัง”ไม้เอกประสานมือกำแน่นจนเลือดไหลย้อนขึ้นผ่านสายน้ำเกลืออย่างเห็นได้ชัด ความกังวลใจทำให้คณินรับรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้แค่พูดลอยๆ

   “ถ้ารู้จักขนุนดีคุณก็ไม่ควรถาม แน่นอนว่าขนุนไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้นเพื่อบอกว่าคุณไม่ดียังไง และพอรู้ข่าวเรื่องอุบัติเหตุขนุนก็อยากมาเยี่ยมคุณอีก ถ้าผมเป็นขนุนอาจจะไม่อยากเจอหน้ารุ่นพี่อย่างคุณ แต่เพราะผมไม่ใช่ขนุนเรื่องราวมันถึงไม่ได้แย่แบบนั้น”

   “งั้นเหรอ ก็ดี”

   “มีอะไรจะพูดอีกรึเปล่า ถ้าจบแค่นี้ผมก็อยากจะพูดบ้าง”น้ำเสียงที่ไม่ได้กระโชกโฮกฮากแม้จะฟังรื่นหูแต่ก็ไม่นับว่าเป็นมิตรร้อยเปอร์เซ็นต์

   “เชิญ”

   “เรื่องขนุน”คณินผุดลุกขึ้นซุกมือสองข้างไว้ในกระเป๋ากางเกงท่าทางจริงจัง

   “.....”คนฟังหันไปมอง ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ กระทั่งไม้เอกพยักหน้าเบาๆ รู้ว่าคณินต้องการพูดอะไร จึงเป็นฝ่ายแทรกพูดขึ้นมาซะก่อน “เรื่องที่จะให้เลิกยุ่งกับขนุนใช่มั้ย? ”

   “ใช่ ผมไม่อยากต้องมาระแวงคนที่ขนุนยังให้ความเคารพว่าเป็นรุ่นพี่อย่างคุณ ถ้าจะคิดสักนิดผมยังพอเข้าใจหากจะให้คุณเป็นเพียงรุ่นพี่ร่วมคณะ ร่วมสถาบันที่ดี ผมพูดเรื่องนี้เพราะคิดว่าคุณคงโตพอที่จะมีเหตุผล”

   ไม้เอกหลับตาลงนิ่ง หัวของเขามันปวดตุบขึ้น ไม่ต่างจากอกซ้ายที่ปวดร้าวจนหายใจลำบาก เมื่อนึกถึงความสัมพันธ์ที่ไม่มีทางจะเดินไปข้างหน้า ระหว่างตนเองและรุ่นน้องอย่างขนุนที่เขาแทคแคร์อยู่นับปี ทุกอย่างไปได้สุดทางแค่รุ่นพี่กับรุ่นน้อง

   “ถึงคุณไม่พูดผมก็จะบอก ผมเสียใจที่ทำอะไรไม่คิดแบบนั้น นั่นเพราะขนุนเป็นรุ่นน้องที่ผมชอบมาตั้งแต่เข้าปี 1 แล้วจู่ๆ ความพยายามที่ทำกลับสูญเปล่าเพราะมีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มาตัดหน้า คุณเข้าใจความรู้สึกผมไหม เหมือนเลี้ยงดูมาอย่างดี แต่จู่ๆ ก็มีหมาคาบไปแดก”ไม้เอกฉีกยิ้มหน้านิ่งเชือดกันนิ่มๆ ด้วยคำพูด

   “หลอดด่ากันได้แนบเนียนดี”คณินไหวไหล่ เขาไม่ได้รู้สึกโกรธคนตรงหน้าเท่าเมื่อคืน ถึงจะจุกไปเล็กน้อยก็เถอะ

   “เพราะแบบนั้นผมถึงไม่พอใจ และไม่เข้าใจว่าทำไมขนุนถึงไม่คิดมองผมบ้าง หึ! น่าหัวเราะสินะ”

   “ไม่เลย ผมก็เคยผ่านจุดเสียใจในเรื่องความรักมาก่อน พูดเหมือนแก่ แต่ผมก็อายุมากกว่าคุณ 1 ปี ก็คงพอจะพูดได้ว่ามันไม่ได้แย่เพราะมันไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต”

   “คุณพูดเพราะคุณคือผู้ชนะ”

   “แต่ผมก็เคยแพ้มาก่อน”

   “มันก็แฟร์ดี”

   “ถ้าเข้าใจเรื่องนี้ ผมกับคุณก็คงจะลดความเกลียดขี้หน้ากันน้อยลงว่ามั้ย? ”การตอบโต้ไปมาเหมือนพาให้บรรยากาศตึงเครียดหย่อนลง น่าแปลกที่มันกลับแทนที่ด้วยคนสองคนที่แทบจะไม่กินเส้นกันมานั่งยิ้มให้กับบทสนทนาที่จบลงแบบนั้น

   “ก็คงอย่างนั้น แต่ขอโทษนะตอนนี้มันเลยเวลาทานยาแล้วมามากแล้ว”

   “ยาที่วางตรงนี้ใช่มั้ย? ”คณินอาสาลุกจากเก้าอี้เพื่อหยิบยากับแก้วน้ำดื่มให้อีกฝ่ายอย่างไม่ถือสาเรื่องก่อนหน้า และเหลือบตามองผนังห้องสีขาวที่มีนาฬิกาแขวนผนังบ่งบอกว่าตอนนี้เกือบจะบ่ายโมงแล้ว

   “ขอบคุณ”ไม้เอกรับแก้วน้ำไปและถ้วยยาใบเล็ก หลังดื่มน้ำเสร็จก็ยื่นส่งให้คณิน แต่ดูเหมือนมือของจะไม่ค่อยมีแรงถึงได้พลาดทำแก้วตกลงพื้นแตกเสียงดัง จนคนที่รอลุ้นอยู่หน้าประตูนอกห้องทั้งขนุน ต้า นิว และเพื่อนไม้เอกอย่างยิปถึงกับวิ่งพรวดเข้ามาแทบพังประตู ดูก็รู้ว่าเอาหูแนบประตูตลอดเวลาที่คณินพูดคุยกับไม้เอก ไม่อย่างนั้นคงไม่วิ่งตาเหลือกกันเข้ามา

   “ใจเย็นๆ นะครับ เกิดอะไรขึ้น!”คนตัวเล็กเข้ารั้งแขนคณินจนตัวเซ สีหน้าตาซีดจินตนาการถึงเหตุการณ์ขวัญผวา

    “เชี่ย! ขว้างแก้วกันด้วย ถ้าเข้ามาช้าไม่เสียบกันด้วยมีดรึไง”ต้าเกาะไหล่ขนุนมองเศษแก้วบนพื้นสลับกับมองคณินและไม้เอกที่หันมามองพวกเขาเป็นตาเดียว

   “เกิดอะไรขึ้นวะไอ้ไม้ มึงเป็นไรมากป่าว? ”ยิปเข้ามาสำรวจไม้เอกวุ่นวาย

   และมีเพียงหนุ่มหน้ามนอย่างนิวที่มองเหตุการณ์เงียบๆ สลับกับสังเกตบรรยากาศ ดูแล้วคงจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกระทั่งเสียงหัวเราะเบาๆ จากไม้เอกและคณินดังขึ้นเหมือนนัดจังหวะกันขำ   

   “ตกลงเกิดอะไรขึ้น นี่หัวเราะกลบเกลื่อนหรืออำกันเล่น”ขนุนมองคนทั้งสองสลับกันหน้าเอ๋อๆ

   คณินจัดการรวบหน้าขนุน ดันคางให้ปากที่อ้าอยู่ปิดลง “แค่แก้วตกแตก คิดว่าพี่จะก่อวิวาทกลางโรงพยาบาลรึไง”

   “ไม่มีอะไรจริงๆ เชื่อเถอะ”ไม้เอกช่วยยืนยันก่อนจะเอนตัวลงนอน ถอนหายใจสีหน้าผ่อนคลายขึ้น แต่ลึกๆ แล้วก็ยังคงเจ็บอยู่ข้างใน ทั้งร่างกายและความรู้สึก

   “แล้วตกลงเมื่อกี้คุยอะไรกันครับ”ขนุนโพล่งถามและคงไม่ใช่แค่ขนุนคนเดียวที่อยากรู้

   “เปล่า/เปล่า” แต่กลับได้คำตอบที่ปฏิเสธออกมาพร้อมเพรียงกันขนาดนั้นใครไม่สงสัยก็บ้าแล้ว แต่ด้วยถึงเวลาที่ต้องกลับ คณินจึงพาขนุนออกมาซะก่อน เรียกได้ว่ากึ่งบังคับให้ออกมาแล้วอ้างว่าให้คนป่วยพักผ่อนจึงจะยอม ทุกคนทยอยเดินออกไป กระทั่งคนสุดท้ายที่กำลังจะหันหลังก้าวออกจากห้อง กลับถูกเรียกเอาไว้ด้วยมีเรื่องบางอย่างจะพูด และตอนนี้โอกาสก็เหมาะแล้ว

   “เดี๋ยวนิว รอก่อน”

   “.....”คนถูกเรียกชะงักเท้า

   “ขอบคุณที่ช่วยพี่ไว้”สายตาจริงจังไม่มีความยียวนหรือหยอกล้อ มองรุ่นน้องที่หันหน้ามามองตัวเองก่อนจะเป็นฝ่ายขยับปากพูดขึ้นไม่ใส่ใจ

   “ผิดแล้ว ไปขอบคุณรถพยาบาลเถอะ ไม่ใช่ผม”

   “แต่คนที่เรียกรถพยาบาลให้ และยอมขึ้นรถมาส่งพี่ถึงโรงพยาบาลเป็นนิว”

   ได้ยินอย่างนั้น คนที่ไม่อยากสนใจกลับต้องนิ่งงัน สายตากลอกมองซ้ายขวาเหมือนหาคำตอบดีๆ “คนอื่นเขาก็ทำกัน เพราะผมเป็นคนเห็นเหตุการณ์ก็ต้องช่วยมั้ย?.....เมาแล้วยังจะขับบ้ารึเปล่าวะ!”เสียงบ่นพึมพำหลบสายตาของไม้เอกที่จ้องมองมาพร้อมมุมปากที่จุดยิ้มราวกับจับผิดใครบางคน

   “ยังไงก็เถอะ จะรับหรือไม่รับพี่ก็จะขอบคุณเรา ดูแล้วก็เป็นเด็กดีกว่าที่คิด”คนป่วยฉีกยิ้มมองรุ่นน้องที่ดูจะไม่อยากเห็นหน้าเขาสักเท่าไหร่ แต่กลับช่วยเขาไว้ในคืนเกิดเหตุ อาจจะเพราะความบังเอิญที่กลับทางเดียวกัน หรือเพราะเหตุผลอื่นๆ ก็ตาม

   “อย่ามาทำเป็นพูดดี ฟังแล้วขนลุก”

   “พี่ก็พูดดีกับนิวตลอดไม่ใช่รึไง มีแต่นิวที่หวงเพื่อนเหม็นขี้หน้าพี่แล้วชอบพูดกระแทกแดกดันกัน”

   “สาบานว่าพี่พูดดีกับผมตลอด ถึงพูดดีแล้วไง แต่พี่แม่งปากไม่ดี! ”คนเถียงหูแดงด้วยอารมณ์ร้อน

   “ปากไม่ดี นี่เคยชิม? ”

   “กวน! คิดว่าผมจะลืมรึไงว่าพี่ล้ออะไรผมไว้บ้าง”

   “ล้อ? ”ไม้เอกเหมือนครุ่นคิด ก่อนจะตอบขึ้นมาหน้านิ่ง “นิวหนึ่งนิ้ว...ฉายานั่นน่ะเหรอ? ”

   “เออ! นึกว่าหัวกระแทกพวงมาลัยรถจนความจำเสื่อม ก็ยังดีอยู่นี่ แบบนี้คงไม่ตายง่ายๆ ”พูดจบคนใจนักเลงก็เดินออกไปไม่กล่าวลา แถมยังทำหน้าไม่รับแขก

   “นิว!”อยู่ๆ คนป่วยก็ตะโกนเรียก

   “เรียกเพื่อ! ”

   “พรุ่งนี้มาเยี่ยมเอาโจ๊กมาฝากด้วย”

   “ใครมา!”

   “อยากกินน้ำเต้าหู้อ่ะ”คนป่วยทำเสียงอ้อน

   “ไม่ซื้อเว้ย!”

   “พี่จะรอนะ ”

   “ผม ไม่ มา จบมั้ย!”พูดจบก็ยกนิ้วกลางแสกหน้าแทนการโบกมือลาก่อนจะเดินออกไป

   ไม้เอกจึงอดที่จะยิ้มขำออกมาไม่ได้กับท่าทางฟึดฟัดนั่น

   เมื่อนึกถึงรุ่นน้องผู้ไม่เป็นมิตร ขึ้นชื่อเรื่องอารมณ์แสนร้อน ไม้เอกก็เพิ่งจะรู้ว่านอกจากนิสัยด้านลบแล้ว รุ่นน้องอย่างนิวกลับมีบางอย่างที่เขาไม่เคยรู้ โดยเฉพาะนิสัยลึกๆ ของนิว ที่เรียกความสนใจให้ไม้เอกหันไปมองอย่างไม่คิดฝัน

   จากเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา รุ่นน้องผู้ที่ไม่เคยทำตัวน่ารัก มองเขาเป็นอริตลอดเวลา วันหนึ่งกลับกลายมาเป็นคนที่กุมมือเขาแน่นในวันที่แย่สุดๆ ทั้งเสียงตื่นตกใจที่เรียกชื่อตลอดทางระหว่างรถพยาบาลวิ่งบนถนน ถึงจะมีถ้อยคำหยาบคายด่าทอเพื่อให้เขามีสติ แต่มันกลับกลายเป็นสิ่งที่ลืมได้ยากสุดๆ ไปแล้วในตอนนี้






   
   “ไอ้คณิน ขับรถให้มันนิ่มกว่านี้ได้มั้ยวะ กูมึนหัว!”อนาวินพูด

   “เปิดแอร์หน่อย ข้างหลังร้อนว่ะ เหงื่อกูออกไหลลงร่องตูดแล้ว”โจมขยับตัวโบกมือเรียกลม


   2 นาทีต่อมา

   “น้องขนุน เปลี่ยนเพลงให้พี่หน่อย เบื่อเพลงนี้แล้วอ่ะ”อนาวินสั่ง


   3 นาทีต่อมา

   “ไอ้คณิน กูหิวว่ะ แวะเซเว่นหน่อยดิ”อนาวินต้องการ

   “ถึงปั๊มยัง กูก็อยากเข้าห้องน้ำ”โจมเร่งเร้า


   10 นาทีต่อมา

   “ไอ้คณินกูอยาก.....”

   “พอ! ถ้าพวกมึงจะมาเรื่องมากขนาดนี้ กูยอมวนรถกลับกรุงเทพฯ แล้วไปส่งพวกมึงถึงหน้าบ้าน จะมาอยากอะไรนักหนาวะกูเวียนหัว”

   ในที่สุดคนขับก็บ่นออกมาอย่างรำคาญเพื่อนสองคนที่ถูกขนุนชวนให้มาเที่ยวบ้าน และเพื่อนเจ้ากรรมของคณินดันติดตามมาด้วยในที่สุด จนถูกคณิตแซะไปว่าแยกไม่ออกหรือว่าอันไหนชวนจริงหรือชวนตามมารยาท และในเมื่อตามกันสุดฤทธิ์สุดเดชขนาดนี้แล้ว คณินเลยให้ขนุนชวนเพื่อนอย่างนิวกับต้าเกทับไปด้วยกันเสียเลย ถือซะว่าไปเที่ยวบ้านเพื่อนช่วงวันหยุด

   “พวกกูผิดที่อยากโน่นนี่ หรือผิดที่มาด้วยกันแน่”อนาวินรู้ทันความคิด แค่เห็นแววตาเพื่อนสนิทก็รู้ใจ จึงแซวออกไปโต้งๆ

   “น้องๆ เขาไม่เห็นทำตัววุ่นวายเท่ามึงเลยไอ้วิน”

   “น้องขนุนครับ พี่วุ่นวายขนาดนั้นเลยเหรอ”อนาวินชะโงกหน้าไปถามขนุนที่นั่งข้างคนขับกำลังเปลี่ยนเพลงตามคำขอ และด้านหลังอนาวินก็ยังมีนิวและต้าอยู่ภายในรถคันโตที่มีถึง 7 ที่นั่ง

   “ก็นิดหน่อยครับ”

   “หึๆ ”เป็นคณินที่หัวเราะออกมา แล้วเอื้อมมือไปลูบหัวขนุนอย่างชื่นชม “ทำดีมากครับ คิดอะไรก็พูดไปเถอะ พี่รับประกันเอง”

   “เดี๋ยวนี้เข้าข้างกันใหญ่”

   “ผิดแล้วพี่ ไอ้ขนุนมันไม่เคยเข้าข้างพี่หรือพวกผมมาตั้งแต่ต้นแล้วต่างหาก”เสียงตะโกนของต้าดังมาจากด้านหลังแสดงความเห็น

   “เรายุติธรรมเสมอ”ขนุนถึงกับต้องปีนเบาะหันไปแย้งคนข้างหลัง

   “บ้านมึงสิ ลำเอียงตั้งแต่ต้นเหอะ ให้พี่คณินกินเนื้อ ส่วนพวกกูกินแต่ผักบุ้ง เห็นพวกกูเป็นเต่ารึไง? งี้เรียกว่ายุติธรรม มึงพูดไอ้ขนุน!”นิวเงยหน้าจากหน้าจอโทรศัพท์คัดค้าน ทำเอาทุกคนหัวเราะครืน อนาวินถึงกับแท็กมือกับรุ่นน้องอย่างนิว ส่วนโจมก็ยกมือกดไลก์ไปให้

   “เรื่องมันก็ผ่านไปแล้วนา เดี๋ยววันนี้ชดเชยให้ จะกินอะไรบอก”

   “มึงเลี้ยง? ”ต้าถาม ทุกคนก็รอฟังความใจใหญ่ของคนตัวเล็ก

   “เปล่า แม่จ่าย”

   “โห่! นึกว่าแน่”

   รถที่แล่นไปบนถนนท่ามกลางความครื้นเครงในที่สุดก็ถึงเป้าหมาย บ้านหลังน้อยตั้งอยู่กลางซอยที่ทุกคนกำลังมาเยือน ขนุนบอกเรื่องที่จะพาทุกคนมาเที่ยวที่บ้านล่วงหน้าแล้ว จึงไม่แปลกใจที่ในทันทีหลังจากรถมาถึง ประตูรั้วบ้านบานใหญ่ก็ถูกเปิดออกต้อนรับผู้มาเยือน และคนที่มารอเปิดประตูให้เป็นป้าขิม ที่ยิ้มหน้าชื่นตาบานกับเหล่าบรรดาหนุ่มๆ ทั้งหลาย

   “ป้าขิมสวัสดีครับ คิดถึงป้าจัง”ขนุนเดินเข้าไปกอดป้าขิมอย่างทุกที จนคนที่เพิ่งลงจากรถอย่างอนาวินและโจมเข้าใจผิดว่าเป็นแม่ของขนุน แต่ต้ากับนิวที่เคยมาแล้วจึงรู้ว่าใครเป็นใคร ส่วนคณินที่เดินมาจากรถเข้ายืนด้านหลังขนุน ยกมือไหว้คนตรงหน้าอย่างคุ้นเคย
 
   “เอ้า! สวัสดีค่ะคุณ....”สีหน้าประหลาดใจที่เห็นคณินกำลังจะทักทายอย่างคนรู้จัก ทว่าเสียงสดใสของเจ้าของบ้านตัวจริงอย่างประภัสสรก็เรียกหาขึ้นมาได้จังหวะ คณินจึงเพียงยิ้มให้ป้าขิมแล้วทำท่าจุ๊ปากขยิบตาให้ ทำเอาหัวใจคนแก่สั่นไหวเป็นเครื่องสลายไขมัน

   “มากันแล้วเหรอ”

   “ครับ”ขนุนวิ่งไปรับกอดจากผู้เป็นแม่ เล่นเอาอนาวินกับโจมมองตากันเลิกลัก เพราะตะลึงในความยังสาวยังสวยของคนตรงหน้า และแอบกระซิบกระซาบกันเสียยกใหญ่

   “กูว่าแม่ขนุนดูหน้าคุ้นๆ ว่ะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน”อนาวินพยายามนึก

   “เดี๋ยวนะ ถ้าจำไม่ผิด กูว่า...เคยเห็นในโทรทัศน์ว่ะ แต่เหมือนนานมาแล้ว”

   อนาวินคิดหัวแทบแตกกับความคาใจ “หน้าเหมือนดาราคนนึงสมัยก่อนที่แม่กูชอบดู ชื่อ...ชื่อ....”

   “ประภัสสร”นั่นเป็นคำตอบที่คณินเป็นคนเฉลย

   “เออใช่! ประภัสสร ที่แสดงละครภาคค่ำเมื่อก่อน จำได้แล้ว!”ดูเหมือนอนาวินจะภูมิใจที่ระลึกได้

   “งั้น.....แม่ขนุนก็เป็นดาราดิวะ”โจมตาลุกวาว หันไปมองสองแม่ลูกที่หน้าตาคล้ายคลึงกันจนลุกเกรียว ถึงว่าความน่ารักผิดมนุษย์มนานั้นมาจากใคร “ทำไมกูไม่รู้ให้เร็วกว่านี้วะ”

   “แม่กูถูกใจสิ่งนี้” อนาวินหันมาสบตากับโจมตาตื่น “อยากขอลายเซ็นไปให้แม่เลยว่ะ เดือนนี้ค่าขนมกูขึ้นฮวบแน่! ”

   “สวัสดีครับ/สวัสดีครับน้าสร”ต้ากับนิ้วยกมือไหว้ทักทาย มือเรียวของเธอยกขึ้นลูบหัวทั้งสองอย่างเอ็นดู ดีใจที่บ้านของเธอครึกครื้นขึ้นมาอีกครั้ง

   “สวัสดีค่ะหนุ่มๆ แล้วข้างหลังนั่นใครบ้างล่ะเนี้ย”ประภัสสรหรี่ตามอง อนาวินกับโจมเดินเข้ามาใกล้ท่าทีเกรงอกเกรงใจ ก่อนจะยกมือไหว้ทักทายโดยมีขนุนแนะนำให้รู้จัก ส่วนคณินเดินมาพร้อมกับป้าขิมที่ยังดูมึนงง

   “สวัสดีครับ”

   “ตายแล้ว! มาด้วยกันได้ยังไงเนี้ย”ประภัสสรถึงกับเบิกตากว้างพร้อมรอยยิ้มสดใส เดินเข้าไปสวมกอดร่างสูงอย่างดีใจ แม้จะเพิ่งเจอกันไปเมื่ออาทิตย์ก่อนหยกๆ การกระทำเช่นนั้นนำพาสายตาของหลายคนมองไปยังจุดเดียวกัน

   “ขอโทษที่มารบกวนอีกนะครับ”

   เธอส่ายหน้า จับไหล่จับแขนคณินบีบเบาๆ ราวกับไม่ได้เจอกันนมนาน “รบกวนอะไรกัน”

   “แม่! รู้จักรึไงถึงได้ไปคุยกันสนิทสนมขนาดนั้น”ขนุนเดินเข้ามาถามมองคณินสลับกับของตัวเองงงๆ เพราะจำได้ว่าไม่เคยบอกถึงเรื่องราวคนตรงหน้าให้แม่ฟัง หรือพามาให้รู้จักเลยสักครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกด้วยซ้ำที่ขนุนพาคณินมาบ้าน

   “พูดอะไรแปลกๆ แล้วนี่เจอกันแล้วทำไมไม่รีบบอกแม่บ้าง”

   “เจอกันแล้ว? เดี๋ยวแม่ พูดอะไรเกรงใจรอยหยักในสมองผมหน่อยเถอะครับ”ต่างคนก็ต่างงุนงงๆ ขนุนไม่เข้าใจในสิ่งที่ประภัสสรสื่อ ประภัสสรไม่เข้าใจที่ขนุนถามเธอแบบนั้นเช่นกัน เพราะเห็นชัดๆ ว่าขนุนกับคณินรู้จักกัน แล้วทำไมต้องมาสงสัยว่าเธอรู้จักคณินได้ยังไง ก็ในเมื่อเธอกับคณินเป็นคนคุ้นเคย

   “เอ๊ะ? ”คิ้วสวยขมวดมุ่น มองไปยังลูกชายของเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่ตรงหน้า ก่อนจะพูดขึ้น “คณิน? ”เธอเรียกชื่อเขาเบาๆ

   “ครับ”

   “นี่คณินบอกน้องยังว่าเราสองคนรู้จักกัน”

   คณินหุบยิ้มเล็กน้อย “ผมยังไม่ได้บอกครับน้าสร ก็กะว่าจะบอก”

   “แล้วนี่เพิ่งเจอกันหรือว่ายังไง”

   “ก็...เจอกันมาระยะหนึ่งแล้วล่ะครับ แต่ก็เพิ่งเอะใจในหลายๆ อย่าง”

   “นั่นไง ไปอธิบายกันเอาเองนะ”ประภัสสรส่ายหน้า แต่ก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไร “เอาล่ะหนุ่มๆ เข้าบ้านกันก่อนดีกว่าน้าเตรียมของทานเล่นกับน้ำเย็นๆ ไว้รอแล้ว ไปกันเถอะ ส่วนข้างนอกให้อยู่เคลียร์กันก่อน”เจ้าของบ้านกางแขนต้อนหนุ่มๆ ทั้งหลายเข้าบ้าน และหันไปสั่งความกับคณินให้คุยกันให้เรียบร้อย เพราะเธอขี้เกียจมาฟังเสียงโวยวายของลูกชายเจ้าปัญหา

   “พี่คณิน อธิบายเลย พี่ไปรู้จักแม่ของผมได้ยังไง แถมเหมือนพี่ยังรู้มาก่อนหน้าด้วยว่าแม่ของผมเป็นใคร? ”ขนุนกอดอกมองคณินตานิ่ง ชักกลัวๆ เบื้องหน้าเบื้องหลังของคณินขึ้นมา

   “อย่าทำหน้าดุสิ แบบนี้พี่กลัวแย่”

   “ผมไม่ได้ดุ แต่พี่คณินต่างหากทำตัวน่าสงสัย รีบคายความลับมา ไม่งั้นคืนนี้ผมนอนไม่หลับแน่ๆ ”ขนุนยกมือทั้งสองข้างขึ้นทึ้งหัวตัวเอง อยากรู้ใจจะขาด

   “เดี๋ยวหัวล้านนา” คณินคว้ามือเจ้าของคิ้วมุ่นให้ห่างจากเส้นผมสีบลอนด์ที่เขาชื่นชอบ แล้วกุมเอาไว้ไม่ปล่อย ร่างสูงมองตากลมใส และจมูกรั้นที่รับกับปากเล็กนั่นจนเขาอยากจะเข้าไปทำรุ่มร่าม แต่ก็เห็นแก่สถานที่และบุคคลจึงทำเพียงกุมมืออุ่นๆ ของขนุนให้แน่นเสียแทนแล้วพูดขึ้น

   “…..”

   “ขนุนจำได้มั้ยว่าตอนเด็กๆ ขนุนเคยเจอกับเด็กผู้ชายหน้าตาหล่อๆ ใจดีๆ แล้วก็ชอบให้ลูกอมกับขนุนทุกวัน”

   “เด็กผู้ชาย...ชอบให้ลูกอม? ก็พอจะจำได้รางๆ นะครับ แต่ผมจำลูกอมได้มากกว่าคนให้ซะอีก”

   “แล้วถ้าพี่จะบอกว่า คนที่ให้ลูกอมขนุนตอนนั้นเป็นพี่เอง เราจะเชื่อมั้ย? ”

   ได้ยินประโยคนั้นขนุนถึงกับเงยหน้าขึ้นมองคณินดวงตาเบิกโพลง ปากเล็กเผยอออกราวกับจะกินไข่ต้มได้ทั้งฟอง หัวใจของขนุนมันเต้นเร็วราวกับขึ้นจรวดพุ่งไปในชั้นบรรยากาศฉับพลัน มองหน้าคณินที่ฉีกยิ้มอยู่ตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ

   “ดะเดี๋ยวนะครับ! พี่คณินจะบอกว่าพี่เป็นเด็กคนนั้น ที่ชอบให้ลูกอมผม? ”

   “อืม.....โลกมันกลมจริงๆ นะว่ามั้ย พี่รู้จักแม่เราเพราะแม่ของพี่กับขนุนรู้จักกันมานานแล้ว คงสมัยที่ขนุนยังไม่ย้ายบ้านมาที่นี่ล่ะมั้ง”

   “ช่วยมากับผมตอนนี้เลยครับ!” แล้วคนที่ยืนเหวอกับเรื่องชวนตกใจพลันตั้งสติได้จึงรีบดึงมือคณินให้เร่งเดินตามตัวเองเข้าบ้านไป ลากขึ้นไปยังชั้นสองตรงไปยังห้องนอน ไม่ตอบคำถามใดต่อสหายที่เรียกถามไถ่เรื่องราว และทันทีที่ขนุนลากคณินไปถึงห้องนอน ก็รีบพุ่งไปที่ลิ้นชักเก็บของ หยิบเอากล่องที่บรรจุลูกอมคับแน่นออกมาแล้วเทลงไปบนเตียงนอนลนลาน และอีกขวดโหลใส่ๆ ที่เก็บไว้ในตู้ก็เอามาเทรวมกันอีก จนมองเห็นลูกอมรุ่นเก่าเก็บและเปลือกสีซีดที่ขนุนเก็บไว้กองทั่วเตียง

   “พี่บอกผมอีกทีได้มั้ย.....ว่าเจ้าของลูกอมทั้งหมดนี้เป็นของพี่จริงๆ น่ะ”ขนุนมองคณินและชี้ไปยังลูกอมที่กระจายอยู่บนเตียงนอนนัยน์ตาเป็นประกาย หัวใจเต้นระรัวไปหมดจนตัวสั่น

   คณินหัวเราะ พร้อมกับเดินไปหยิบลูกอมมาหนึ่งเม็ด เขาแกะเปลือกมันออกแล้วโยนเข้าปาก ความหวานยังคงเป็นอมตะและค่อยๆ ละลายไปทั่วปากเมื่อสัมผัสกับลิ้น “รสสตอเบอร์รี่ที่มีแค่รสหวานของน้ำตาล จำได้ว่าขายดีสุดๆ ตอนนั้นลำบากแทบแย่กว่าจะซื้อมาได้”

   “เป็นพี่คณินจริงๆ ด้วย”ขนุนถึงกับตัวแข็งทื่อ ประหลาดใจที่สุดในชีวิตกับการกลับมาพบกัน เขาเลือกที่จะไม่จดจำรายละเอียดของช่วงเวลานั้นเพราะมีเหตุการณ์การจากไปของพ่อที่ทำให้ขนุนลืมเลือนใบหน้าของคนคนนี้ไป กลับกันตอนนี้ขนุนรู้สึกราวกับย้อนไปในวัยเด็กอีกครั้ง ช่วงเวลาที่เขาอบอุ่นหัวใจที่สุด จนพานให้ความรู้สึกทั้งหมดมันเอ่อขึ้นมาตรงขอบตาจนร้อนผะผ่าวไปหมด

   “ไม่ร้องนะครับ เดี๋ยวคุณน้าจะหาว่าพี่รังแกน้อง”คณินฉีกยิ้ม ประคองกรอบหน้าที่กลั้นน้ำตาสุดกำลังจนดูน่าขบขัน แต่เหมือนขนุนจะกลั้นมันไว้ไม่อยู่ เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่คนตัวเล็กแสนเข้มแข็งจะอ่อนแอเพราะแพ้หัวใจของคนตรงหน้าแบบนี้ จนต้องปล่อยสะอื้นออกมาด้วยความรู้สึกยินดีท่วมท้น

   “ฮึกๆ ฮือๆ ผมกลั้นไม่อยู่ หยุดร้องไห้ไม่ได้ด้วย ไม่เท่เลยอ่ะ”พูดไปก็ร้องไห้ขี้มูกโป่งไปด้วย

   “อยากหยุดร้องมั้ย? ”

   “ฮึกๆ อยาก....”คนร้องสะอื้นซุกหน้าเอากลางอกร่างสูงผงกหัวหงึกๆ แล้วเงยหน้ามองคณินที่จับกรอบหน้าที่มีน้ำตาไหลเปื้อนแก้มเข้าจ้องมอง ก่อนปากน้ำตานั้นด้วยนิ้วหัวแม่มือเบาๆ แล้วส่งยิ้มบางไปให้ ตามด้วยลมหายใจที่เคลื่อนเข้าใกล้แล้วจึงกดริมฝีปากเข้าแนบชิดกับเรียวปากเล็กที่เค็มไปด้วยน้ำตา แล้วผละออกมาห่างเพียงเล็กน้อย

   “พี่โอ๋แล้วนะ อย่าร้องนะครับ”คนเป็นพี่พูดกระซิบใกล้หู ก่อนจะเลื่อนมือไปเชยคางและกดริมฝีปากเล็กให้เผยอออกเล็กน้อย แล้วค่อยๆ ส่งจูบรสหวานแทนที่ด้วยน้ำตาลจากลูกอมผ่านเรียวลิ้นชื้น ที่ดุนดันสัมผัสไปทั่วริมฝีปากเล็ก จนเสียงอื้ออึงดังในลำคอ

   มือเล็กที่เกาะกุมไหล่กว้าง ค่อยๆ เคลื่อนไปคล้องต้นคอของคนตรงหน้า ประสานมือเข้าด้วยกันกอดแน่นไม่ให้หลุด เสียงหายใจถี่ที่หอบประสานบ่งบอกถึงความเร่าร้อนของรสจูบที่ดูดดื่มยิ่งขึ้นจากปลายลิ้นที่เคลือบน้ำตาล กระทั่งสองร่างที่พากันโยนไปบนเตียงกว้างท่ามกลางลูกอมหลากสีที่กระจายไปทั่ว

   จนตอนนี้ขนุนลืมไปซะสนิทว่าตัวเองเพิ่งจะร้องไห้ แต่กลับกลายเป็นอยากร้องไห้ด้วยเหตุผลอื่นมากกว่า จากโพสิชั่นที่อยู่ข้างล่าง เมื่อทุกอย่างมันติดพรึบราวกับไฟลามทุ่ง ขนุนจึงไม่รอช้าปรับตำแหน่งของตัวเองให้อยู่เหนือร่างสูงในท่านั่งคร่อม แม้เสื้อผ้าดูยับยู่แต่นั่นก็ไม่ได้ใส่ใจในตอนนี้ ขนุนอยากจะจัดการกินหัวกินหางคนตรงหน้าที่มากระตุ้นเขาเสียมากกว่า

   คนที่รู้เท่าทันก็ไม่ยักนิ่งเฉย จึงดันตัวลุกนั่งให้ขนุนนั่งในตักหันหน้าเข้าหาซะแทน จัดการส่งจูบรสหวานที่ยังละลายอยู่ในปาก แล้วเข้าบดเบียดเรียวปากที่ฉ่ำวาวนุ่มนิ่ม เสียงหอบหายใจหืดหาดผ่านลำคอขาวที่เชิดรั้งขึ้นด้วยสีหน้าแดงก่ำเต็มไปด้วยอารมณ์ สถานการณ์ตอนนี้ทำคณินสติกระเจิงจนควบคุมตัวเองไม่อยู่

   ทว่ากลับมีเสียงโพล่งขึ้นมาขัดจังหวะเรียกสติของทั้งสองให้หันไปทางประตูใบหน้าหลอหลาตาเบิกกว้าง

   “ทั้งสองคน ทำอะไรกัน! ”












ติดตามตอนต่อไป >>>

-----------------------------------------------


เรียนว่า ตอนหน้าจบแล้วค่ะ

ฝากอุปการะคุณน้องหนุนด้วยนะคะ

แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ



ขอบคุณค่ะ
โดย หลานฮวา





ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
กว่าน้องจะรู้ความจริงเนาะ

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ตัดด
ฉับใครกันนะมาขัดจังหวะ  :ling1:

ออฟไลน์ ทามากิบ๊อง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-4





ขนุนลูกที่ 27





   ก๊อก ก็อก!

   “ได้ยินรึเปล่า แม่ถามว่าทำอะไรกัน สองคนไม่ได้ทะเลาะอะไรกันใช่มั้ยแม่เป็นห่วง”เพราะมีเสียงเตียงที่ขยับ และเสียงกล่องลูกอมที่หล่นกระแทกลงพื้นไม้ปาร์เกต์ คนที่มาตามอย่าประภัสสรถึงเข้าใจอะไรไปในทำนองนั้น และท่าทีของขนุนก็ดูแปลกๆ เหมือนไม่เข้าใจกันเธอจึงอดเป็นห่วงสองหนุ่มไม่ได้เลยขึ้นมาตาม

   “เปล่าครับน้าสร เดี๋ยวผมกับขนุนตามลงไปนะครับ ขอเวลาคุยกันอีกนิดนะครับ”

   “หนุนขอเวลาห้านาที เดี๋ยวตามลงไปครับแม่”

   “อื้ม ถ้ายืนยันอย่างนั้น...งั้นแม่ลงไปรอข้างล่าง รีบตามลงมาล่ะ”

   “ครับ / ครับน้าสร”

   เสียงฝีเท้าที่เดินจากไปทำเอาขนุนถึงกับซบหน้าลงกับไหล่กว้างร่างอ่อนระทวย แถมยังบ่นพึมพำอย่างเอาแต่ใจอีก “ถ้าไม่ใช่ที่บ้าน ผมไม่พลาดแน่”

   “ลุกได้แล้วเดี๋ยวทุกคนจะรอ”คณินบีบจมูกเล็กที่งองุ้มทำท่าทีอิดออดที่จะลงจากตัก คณินส่ายหน้าหัวเราะให้กับท่าทีแบบนั้นอย่างช่วยไม่ได้

   “แต่ว่าผม.....”

   “ทำไมอีก”คณินถามอย่างสงสัยที่ขนุนเอาแต่อ้อนเขาไม่ลงจากตักง่ายๆ

   “มันแข็งแล้วอ่ะ.....” ขนุนก้มลงไปมองขนุนน้อยที่ดันตื่นตัวขึ้นมาอย่างกดไม่ลง “ผมต้องไปเอาออกในห้องน้ำ พี่คณินลงไปแล้วบอกแม่ให้หน่อยว่าผมขออาบน้ำก่อน”

   “โกหกผู้ใหญ่มันบาป”

   “ก็ไปทั้งแบบนี้ไม่ได้”ขนุนหรี่ตาหน้าแดงก่ำ จนคณินถึงกับหัวเราะออกมา และจัดการดันเจ้าของห้องให้เข้าห้องน้ำไป แล้วลงมาด้านล่าง โดยมีเหล่าเพื่อนพ้องที่มองคณินตาเขม้น และคาดคั้นถึงเหตุการณ์ชวนสงสัยเพื่อเอาคำตอบให้ได้ คณินเลยเล่าให้ฟังแค่เรื่องที่รู้จักกับแม่ขนุนมาก่อนให้ฟังเท่านั้น

   ตอนนี้เป็นช่วงเวลาของความหิว ทุกคนจึงใช้เวลาช่วงนี้วุ่นอยู่กับการเตรียมอาหารและปาร์ตี้เล็กๆ ที่สวนหน้าบ้านของขนุน โดยมีเมนูปิ้งย่างและบาร์บีคิวเป็นเมนูหลัก ทุกคนแสนขยันช่วยกันเพื่อให้ได้กินไวๆ ถ่านไฟที่คอยประคบประหงมเกือบได้ที่แล้ว บาร์บีคิวเสียบไม้รสเด็ดของแม่ขนุนก็ตระเตรียมไว้พร้อมพรั่ง ปริมาณเพียงพอที่จะรับมือท้องของหนุ่มๆ ที่กำลังหิวได้เป็นอย่างดีที่สุด

   “คิดยังไงถึงอาบน้ำแล้วมากินปิ้งย่าง เดี๋ยวหัวเหม็นยังไงก็ต้องอาบน้ำอีกรอบอยู่ดี”

   “โถ่แม่ ก็คนมันร้อนนี่ครับ”ขนุนเกาคอแก้เก้อปลายหูเผลอแดงออกสื่อ ก่อนรับถาดจากมือแม่มาวางไว้   

   “น้าสรครับให้ผมช่วยทางนี้ดีกว่า ไปนั่งให้สบายเถอะครับ น้าสรเหนื่อยเยอะแล้ว”คณินเอ่ยอาสา ท่าทางเอาจริงเอาจังถึงกับต้องพับแขนเสื้อตัวยาวขึ้น เผยท่อนแขนที่ดูแข็งแรงอย่างคาดไม่ถึงแล้วตรงข้อมือยังมีสร้อยข้อมือที่ดูคุ้นตาซึ่งเป็นของสำคัญที่ใครบางคนให้คณินไว้ในวันเกิด

   เขาใส่มันตลอด ยกเว้นวันที่ต้องทำคลินิก แต่นั่นก็มากเพียงพอที่จะทำให้เจ้าของสร้อยมองแล้วมองอีกจนเขินคนเดียวหน้าร้อนไปหมด

   “ขอบใจนะคณิน”ประภัสสรหันไปพูดกับคณินวางมือไปแตะที่ท่อนแขนขอบคุณ ทว่าสายตาก็เหลือบไปมองลูกชายของตัวเองที่สงสายตากรุ้มกริ่มยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้ใครบางคนจนอยากจะดีดมะกอกใส่ เธอส่ายหน้ายิ้มแล้วกลับไปนั่งให้หนุ่มๆ บริการเครื่องดื่มให้

   “เสียดายจังเลยนะครับ เราไม่ได้พาไข่ดาวมาด้วย ผมว่าไข่ดาวคงสนุก”ขนุนพูดไปก็ช่วยคณินพลิกไม้บาร์บีคิว แอบดูดนิ้วที่โดนซอสแล้วเลียปากชิมรส

   “ไข่ดาวน่ะสนุก ส่วนพี่อ่ะเป็นทุกข์แน่ๆ คิดภาพหมาแสบที่เตลิดจนต้องเรียกคนทั้งบ้านไปช่วยตามหาดูสิ พี่ว่าฝากเลี้ยงอ่ะดีแล้ว”แค่คิดไม่แกรนก็จะกินสมอง

   “เดี๋ยวไข่ดาวก็งอน...นั่นผู้มีพระคุณของผมเลยนะที่ทำให้ได้เจอพี่อ่ะ”ขนุนกางปีกปกป้องไข่ดาวประหนึ่งพ่อสื่อ

   “หึ! เพราะแบบนี้ไง เดี๋ยวนี้เจ้าแสบถึงได้ใจนัก เราอ่ะทำหมาเสียหมา”คนตัวสูงหรี่ตามองคนข้างๆ ที่ตามใจจนไข่ดาวอย่างคาดโทษ

   “ผมเปล่าทำ” พูดไปก็เมินหน้าไปด้านอื่น มือก็หมุนไม้บาร์บีคิวไปจนไม่ได้ดูปลายนิ้วที่เผลอไปจิ้มตรงตะแกรงร้อน “โอ๊ย! ซี๊ดดด!”
   
   “ร้อนเหรอ! ระวังหน่อยสิ”คนเป็นพี่ที่มีสถานะเป็นแฟนรีบหันมาจับมือที่สะบัดไปมาด้วยความร้อนเข้าเป่าทันที

   “ฟู่วๆ เจ็บมากมั้ย พี่ว่าไปทายาก่อนดีกว่า”

   ขนุนมองคนตรงหน้าที่ดูลนลานแล้วเผลอหลุดหัวเราะออกมา “ไกลหัวใจครับ นิดเดียวผมไม่เป็นไรหรอก”

   “แน่ใจนะ? ”

   “ครับ ไม่เป็นไรจริงๆ โดนเป่านิ้วแบบนี้ผมก็หายเจ็บแล้ว แปลกจังเนอะ”พูดแล้วก็ยิ้มจนแก้มปริกับความเป็นห่วงของคนตรงหน้า

   “แฮ่ม! เกรงใจกันบ้าง...”เสียงแผ่วเหมือนพรายกระซิบดังอยู่ด้านหลัง

   “พี่คณินเหนื่อยไหมครับ ผมซับเหงื่อให้”ขนุนถามเตรียมดึงชายเสื้อขึ้นจนเห็นพุงขาวๆ จะซับเหงื่อให้

   “พุงโผล่ ปิดครับพี่หวง”

   “ขอโทษนะครับ! ต้องให้ขากถุยมะถึงจะสนใจกัน! กูยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้นะเว้ย”โจมประท้วงพร้อมแทรกไประหว่างกลางแล้วยื่นจานเปล่าไปตรงหน้าเร่งจะเอาของกิน คณินกับขนุนแอบหัวเราะเพราะก็เห็นอยู่แล้วแต่แกล้งเมินใส่

   “อ้อ เห็นแล้วครับ”ขนุนพูดไปก็หยิบไม้ที่สุกได้ที่ใส่จานให้แต่โดยดี ก่อนจะมีเสียงแหวกอากาศมาเสมือนบ้านตัวเอง

   “รีบๆ เอามาเร็วดิไอ้โจม ทางนี้หิ้ววววว!”เสียงเคาะซ่อมลงกับขอบแก้วน้ำโวยขึ้น และเจ้าของเสียงก็เป็นอนาวินที่นั่งรอเขมือบอย่างจริงจัง

   “พี่วินไม่กินมากไปเหรอ”นิวมองจานเปล่า ทั้งๆ ที่เพิ่งจะเดินไปเติมแท้ๆ

   “สุกแล้ว”คณินเอามาเติมให้อีกหลายไม้ ต้าที่ถือจานรอรีบถลาไปรับทันที พริบตาเดียวหมดไม่มีเหลือ

   ประภัสสรมองเหล่าหนุ่มๆ ที่กินกันอย่างสนุกสนานหยอกล้อหัวเราะครื้นเครง ก็ทำให้เธออดยิ้มออกมาไม่ได้ เสียงครึกครื้นแบบนี้ไม่ค่อยเกิดขึ้นในบ้าน และนานมากแล้วที่เธอไม่ได้เห็นขนุนสนุกเวลาอยู่กับเพื่อนคนอื่นๆ คนเป็นแม่อย่างประภัสสรทำไมจะไม่รู้ว่าอะไรที่เป็นความสุขที่สุดของลูก

   และในที่สุดงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เมื่อถึงเวลากินอิ่มก็ต้องนอนหลับ แน่นอนว่าคืนนี้ทุกคนค้างบ้านขนุนก่อนจะเดินทางกลับในรุ่งเช้า และบ้านของขนุนก็มีห้องพอสำหรับแขกที่มาเยือนเหลือแหล่
 
   โดยแยกให้ต้ากับนิวพักห้องเดียวกัน และห้องที่เหลือก็เป็นของอนาวินและโจมที่จัดแจงไว้ให้ ส่วนคณินแน่นอนว่าขนุนเสนอให้นอนด้วยกัน หลังจากเก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็ทยอยกันกลับห้องไปอาบน้ำนอน มีเพียงสองแม่ลูกที่ยังคงนั่งมองดาวนอกลานหน้าบ้านสองคน มืออุ่นๆ จากคนเป็นแม่วางลงไปบนหัวทุยๆ ที่เอนลงซบไหล่ของเธอ บรรยากาศผ่อนคลายตามประสาอยู่ด้วยกันสองแม่ลูก

   “พรุ่งนี้กลับแล้วใช่มั้ย”

   “ครับ”

   “หนุนเอาพวกของกินเล่นที่แม่เตรียมให้กลับไปด้วยนะครับ เวลาขี้เกียจออกไปข้างนอกก็เปิดเอามากินกับข้าวได้”

   “ที่ห้องหนุนยังมีเหลืออีกเยอะเลยอ่ะแม่ ปลากรอบเอย น้ำพริกเอย”

   “เอาไปเถอะ แบ่งต้ากับนิวด้วยก็ได้ ไหนจะเพื่อนพี่เค้าอีก จะเก็บไว้กินคนเดียวหมดทำไมกันล่ะ”

   “ก็ของอร่อยอย่าบอกใครไง หึ!”

   เธอหัวเราะบีบแก้มขาวๆ อย่างหมั่นไส้ “งกอะไรปานนั้นพ่อคุณ” เธอบนกระปอดกระแปดด้วยรอยยิ้ม

   “แม่ครับ”ท่ามกลางความเงียบจู่ๆ ขนุนก็เอ่ยเรียกขึ้นมา แล้วนั่งตัวตรงเหมือนต้องการจะพูดอะไรบางอย่างที่ดูจริงจัง

   สายตาที่มองมาประภัสสรดูก็รู้ว่าเจ้าลูกชายกำลังจะพูดเรื่องอะไร

   “.....”คนถูกเรียกไม่ได้ขานรับ หากแต่กลับหันหน้ารอฟังสิ่งที่ขนุนจะบอกอย่างตั้งใจ

   “เรื่องที่หนุนบอกแม่ก่อนหน้านี้ว่า.....มีคนที่ชอบจริงๆ จังๆ แล้ว แม่ยังไม่ลืมใช่มั้ย”

   “เรื่องสำคัญแม่จะลืมได้ไง ถามแปลกคน” เธอสบตาขนุนโดยไม่หลบตาแม้แต่น้อย อีกทั้งยังฉีกยิ้มบางรอให้อีกฝ่ายพูดต่อ ไม่ตัดโอกาสหรือกำลังใจใดๆ

   ขนุนกลืนน้ำลายอึกใหญ่สูดหายใจเข้าตัวกลมเป็นลูกโป่งแล้วพูดขึ้น “คือว่า.....แม่จะว่าอะไรไหมถ้าหนุนจะบอกว่าจริงๆ แล้วคนที่หนุนกำลังคบด้วยเป็น...”

   “เป็นผมเองครับ”

   เสียงที่ไม่ได้เล็ดลอดออกมาจากปากของขนุนดังลอยมาจากทางด้านหลัง และคนคนนั้นกำลังเดินมายังโต๊ะรับลบกลางสวนพร้อมกับในมือที่ถือเครื่องดื่มอุ่นๆ มาสองแก้ว แล้ววางไว้ตรงหน้าของประภัสสรและขนุน ก่อนจะนั่งลงในชุดใหม่ที่อาบน้ำเสร็จแล้ว

   “พี่คณิน...”ขนุนอ้าปากเหวอ

   “ผมกับขนุนเราสองคนกำลังคบกันครับน้าสร”

   ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบชั่วครู่ แล้วคณินก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง

   “ผมขอโทษที่ต้องบอกตรงๆ แบบนั้น และหวังว่าน้าสรจะเข้าใจเราสองคนนะครับ” สีหน้าที่พูดออกมาอย่างเถรตรงไม่ปิดบังมองประภัสสรที่นิ่งเงียบ มีเพียงสายตาของเธอที่จ้องมองคณินราวกับเป็นคนแปลกหน้า

   “แม่ ไม่โกรธหนุนใช่มั้ย”หัวใจขนุนแทบเหลวเป็นน้ำเมื่อเห็นท่าทีนิ่งเงียบของผู้เป็นแม่ที่ไม่แม้แต่จะเอ่ยคำใด สีหน้าและแววตาดูเปลี่ยนไปจากเดิมสิ้นเชิงจนในอกของขนุนวูบหวั่นไปหมด

   “คณิน...”ในที่สุดประภัสสรก็เอ่ยชื่อคนที่ต้องการพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังจนเย็นวาบไปหมด

   “ครับ”คณินขานรับอย่างไม่อิดออด เพราะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเขาก็ยังคงยืนยันว่าจะไม่ปล่อยมือจากขนุนแน่นอน

   “รู้ใช่มั้ยว่าน้ามีขนุนเป็นครอบครัวเพียงแค่คนเดียวที่น้ารักมากที่สุด”

   “แม่.....”

   “ผมรู้ครับน้าสร”เสียงหนักแน่นตอบออกไปไม่หลบสายตา

   “ถ้าคณินรู้แล้ว.....ก็ช่วยสัญญากับน้าว่าจะดูแลน้องให้สมกับที่น้ารักของน้าสุดหัวใจได้หรือเปล่า”พลันรอยยิ้มบางๆ ของประภัสสรกลับคลี่ออกแทนสีหน้าเย็นเยียบ ขนุนแปลกใจที่จู่ๆ ท่าทีของแม่เปลี่ยนไป ไม่ต่อว่าเขาสักคำอย่างที่คิดไว้

   “แม่...แม่ไม่โกรธ? ไม่ตกใจเหรอ? ”

   “เด็กโง่ แม่จะโกรธทำไม แล้วเรื่องตกใจก็มีบ้างแต่ก็พอรู้แล้วล่ะตั้งแต่ที่แม่เห็นทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน แม่เป็นแม่น่ะทำไมจะไม่รู้ว่าลูกของแม่คิดอะไร และรู้สึกยังไง หนุนลืมไปแล้วเหรอว่าเราอยู่ด้วยกันมาตลอดทั้งชีวิตไม่เคยห่าง ถ้าแม่จะมาโกรธเพราะหนุนต้องการจะมีความสุขแม่คงเป็นแม่ที่แย่มาก แล้วแม่ก็เคยบอกหนุนแล้วว่าอะไรที่ถูกที่ควร หนุนทำแล้วมีความสุขแม่ก็มีความสุขด้วย”

   คนฟังถึงกับน้ำตาคลอ ขนุนเองก็ไม่ได้เป็นเด็กที่ดีที่เก่งไปซะทุกอย่าง ไม่ได้โชคดีไปซะทุกเรื่อง แต่มีอย่างหนึ่งที่ขนุนไม่เคยอิจฉาใครคือการที่เขามีคนที่รักและห่วงใยที่สุดในโลกอยู่ตรงหน้า

   “ขอบคุณครับแม่”

   และอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุดก็ไม่เคยทอดทิ้งเขาไปไหนเช่นกัน

   “ผมสัญญาครับว่าจะดูแลขนุนให้มีความสุขอย่างที่น้าสรทำ”

   “น้ารู้ว่าคณินทำอย่างที่น้าบอกได้.....แต่! ก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้ตามใจน้องไปซะทุกอย่างหรอกนะ”

   “อ้าวแม่! ไหงจบด้วยการปลั๊ฟลูกตัวเองงี้ล่ะ”ขนุนโวยขึ้นผละออกจากอกคนเป็นแม่หน้าหดเล็ก

   “ก็เรามันดื้อ บางครั้งก็เอาแต่ใจ แถมทำตัวหุนหันพลันแล่น ด่วนตัดสินใจก่อนจะใช้สมองซะอีก จะไม่ให้ห่วงได้ยังไง”

   “โถ่แม่.....แม่ก็รู้ว่าหนุนเชื่องจะตาย”

   “เหรอ? งั้นก็ทำให้ได้อย่างปากบอก เอาเถอะตอนนี้ก็ดึกมากแล้วแม่จะไปนอนแล้วล่ะ”ประภัสสรอ้าปากหาวทำทีง่วงนอนสุดๆ และก่อนที่จะลุกเดินออกไปก็ไม่ลืมหันมาพูดกับใครอีกคน “ขอบใจนะคณินสำหรับนมอุ่นๆ ”

   “ครับน้าสร”คณินยิ้มรับ มองเจ้าของบ้านที่เดินเข้าบ้านไป จากนั้นจึงทิ้งตัวลงนั่งข้างกายขนุนแล้วกอดอกมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่ถอนหายใจราวกับคนหมดเรี่ยวหมดแรงพร้อมกระตุกยิ้มขึ้นพอใจ

   “ทำไมยิ้มกับผมแบบนั้นครับ”

   “พี่รู้สึกเหมือนได้อำนาจสืบทอดอะไรทำนองนั้น”

   “ทั้งตัวและหัวใจผมก็ให้พี่หมดแล้ว เรื่องอื่นก็ทำเป็นมองไม่เห็นบ้างก็ได้นะครับ”คนตาใสเลื่อนก้นเข้าชิดกับคณินแล้วแอบกระแซะๆ ไหล่เข้าไปใกล้อย่างกับลูกหมาขาดความอบอุ่น

   “พี่ง่วงแล้วไปนอนดีกว่า”คณินทำเป็นไม่รับรู้ ลุกขึ้นทันทีหลังจากพูดจบแล้วเดินเข้าบ้านไปในทันที ขนุนมองร่างสูงที่เดินหายเข้าบ้านไปหน้าเหวอ เมื่อได้สติจึงได้รีบลุกและวิ่งตามเข้าบ้านไป

   “พี่คณินอ่ะ รอด้วยสิครับบบบ!”




   “ใครบอกว่าจะนอนไหงเดินสำรวจห้องผมไปทั่วแบบนั้นล่ะครับ”ขนุนที่นั่งมองร่างสูงจากบนเตียงที่เดินเหินไปทั่วห้องของตัวเองอย่างไม่เข้าใจ แถมยังสอดส่องสายตาไปทั่ว

   “ก็พี่อยากรู้ว่าตลอดมาเราอยู่ที่นี่แบบไหน”

   “เดินตรวจอย่างกับคนคุมหอใน”

   “บ่นเหรอ? ”

   “เปล่าครับ มานอนเถอะผมง่วงแล้ว”เจ้าของยิ้มกว้างเอนตัวลงนอนพร้อมกับตบเบาๆ ไปที่หมอนอีกใบ คณินหันไปมองส่ายหน้าหัวเราะให้กับท่าทีแบบนั้น

   “ก็ได้ครับ”คณินใจอ่อน แต่ขณะที่กำลังจะเดินไปปิดสวิตช์ไฟใกล้ประตูห้อง สายตาก็ดันเหลือบหันไปมองเห็นขวดผลิตภัณฑ์บางอย่างที่ตั้งอยู่ตรงโต๊ะกระจกหลังขวดโลชั่นที่ดูเหมือนคุ้นตาจึงเดินไปหยิบมาพลิกดู

   “มีอะไรเหรอครับ? ”

   “นี่มัน? ”

   “อ๋อ เป็นเอสเซ้นส์โลชั่นน่ะครับ สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่ายอ่อนโยนสุดๆ เป็นสินค้าตัวใหม่ของแม่เลย ผมเคยบอกรึยังครับว่าแม่ทำเกี่ยวกับพวกผลิตภัณฑ์พวกนี้ ใช้ดีนะครับบอกต่อเลย”ลูกกตัญญูช่วยพรีเซนท์งานของครอบครัวอย่างภาคภูมิใจ แถมยังลุกเดินมาเปิดลิ้นชักแล้วหยิบหากล่องใหม่ที่ยังไม่เปิดออกมาใช้ยื่นให้คณิน

   “.....”คนรับขมวดคิ้ว แล้วมองหน้าขนุนหยิบขวดที่เปิดใช้แล้วจากมือคณินมาเหยาะลงบนหลังมือของตัวเอง หยดน้ำสีใสแต่มีความหนืดเล็กน้อยลงบนหลังมือขาว ใช้นิ้วชี้วนจนแห้งแต่ทิ้งกลิ่นหอมสดชื่นเอาไว้

   “อันนี้มีกลิ่นอ่อนๆ ของดอกคามิลเลียด้วยนะครับ ใช้แล้วผิวนุ่มมาก”ขนุนยังคงบรรยายต่อไปท่ามกลางความนิ่งงันของคณิน

   แต่จู่ๆ คณินก็คว้ามือของขนุนแล้วยกขึ้นใช้ปลายจมูกสูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆ คณินจำกลิ่นนี้ได้ไม่ลืม ก่อนจะดึงขนุนที่พรีเซ้นส์ผลิตภัณฑ์ได้อย่างยอดเยี่ยมเข้ากอดจมอกโอบเอวขังไว้ในวงแขนแข็งแรง

   “อะไรครับ จู่ๆ ก็...”ขนุนตาวาวกับความดิบเล็กๆ ที่เพิ่งเจอกับตัวเองอย่างไม่เข้าใจ ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเพราะอะไรคณินถึงมองเขาขนาดนั้น แถมยังจ้องซะจนใกล้ใบหน้าขาวเนียนที่ทาแป้งเด็กบางๆ ไม่วางตาอีก

   “ขนุน พี่ถามตรงๆ เราตอบพี่ตรงๆ ”

   “อะ...อะไรครับ”

   “คืนแรกที่เรามีอะไรกัน เจลที่ใช้เราซื้อมารึเปล่า? ”

   “เปล่าครับ”คนตอบเขินแก้มร้อนแอบเกาท้ายทอยแก้เก้อ

   “ถ้าไม่ได้ซื้อ.....งั้นอันนี้ใช่ตัวเดียวกับ.....”

   ขนุนหัวเราะแห้งฉีกยิ้มหน้าตื่นสุดๆ “ก็ชะใช่ครับ” คำตอบที่ได้ทำเอาคณินถึงกับสะอึก

   “ไม่ใช่เจล แต่เป็นเอสเซ้นส์ของน้าสรเหรอ? ”คณินไม่เคยรู้สึกผิดกับใครเท่านี้มาก่อน เขาไม่ทันได้เอะใจว่าสิ่งที่ใช้ในตอนนั้นใช่เจลอย่างที่ขนุนบอกหรือเปล่า อารมณ์มันพาไปคว้าอะไรก็ใช้จนไม่ได้สังเกต

   เขาโดนขนุนต้มจนเปื่อย

   “มันก็แทนกันได้นี่ครับ ลื่นๆ เหมือนกันแถมยังชุ่มชื้นอีก ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรนี่ครับ”ขนุนมองตาใส

   “พี่รู้แต่ว่ามัน.....”ภาพของแม่ขนุนลอยเข้ามาในหัวจนคณินถึงกับกุมขมับ ไม่คิดไม่ฝันว่าต้องมาใช้ผลิตภัณฑ์ผิดประเภทได้ถึงขนาดนี้

   “มัน.....รู้สึกดีมากไม่ใช่เหรอครับ แล้วผมก็เจ็บน้อยด้วยสำหรับครั้งแรกอ่ะ ตอนที่พี่คณินใส่เข้ามาก็ไม่เจ็บมากอย่างที่คิด ผมยังรู้สึกกลัวแต่อันนี้ก็ช่วยชีวิตผมไว้เยอะเลย.....!”คนเล่าเป็นฉากๆ พูดชักแม่น้ำทั้งห้าจนคณินต้องรีบเอามือหยุดปากขนุนไว้ ใบหน้าของคณินเพิ่งเคยร้อนผ่าวยิ่งกว่าอยู่หน้าเตาปิ้งย่างก็คราวนี้

   จะบอกว่ามันจั๊กจี้ที่ฟังเรื่องแบบนี้จากปากของขนุนก็คงจะใช่ ยิ่งดวงตากลมใสนัยน์ตาเหมือนไม่ได้คิดอะไรมันทำให้คณินแพ้.....แพ้อย่างราบคาบเลยทีเดียว มันคือความน่ารักที่สอดไส้ความลามกได้อย่างแนบเนียนจนน่ากลัว

   “เราน่ะ...จะพูดตรงไปไหน แคร์ใจพี่หน่อยเถอะ”คณินเลื่อนมือออกประคองไปที่แก้มขาวแอบหยิกเบาๆ วางสายตาไปที่รอยยิ้มทะเล้นที่ช่วงนี้เขามักเห็นมันบ่อยจนใจจะละลายหมดแล้ว แม้จะรู้อุปนิสัยเถรตรงต่อความรู้สึกของขนุน แต่ก็อดทำใจให้ชิ้นซะทีเดียวเลยก็ไม่ได้

   “ทำไมครับ พี่คณินเขินเหรอ”

   “ให้ตายเหอะ เรานี่มันร้าย”

   “นั่นไง เขินอยู่จริงๆ ด้วย แบบนี้ก็เข้าทางผมน่ะสิ”

   “ไม่ต้องเปลี่ยนประเด็น พี่ควรจะฟ้องน้าสรเรื่องนี้ดีมั้ย”คณินได้ทีเอาคืน

   “อย่านะครับ นะนะนะน้า....”มือขาวเข้ากระตุกเสื้อ ทั้งส่งสายตาวิงวอนพร้อมกับถูแก้มกับอกกว้างอ้อนขั้นสุด เพราะหากแม่รู้ขนุนโดนตีก้นลายแน่

   “งั้นก็จ่ายค่าปิดปาก”คณินเดินไปเลื่อนเก้าอี้ตรงโต๊ะอ่านหนังสือที่กลายเป็นที่สุ่มของสารพันออกมานั่งพิพากษาคดี

   “แน่ใจนะครับว่าจะเอาค่าปิดปาก”ขนุนเลิกคิ้วมองร่างสูงที่นั่งกอดอกไหวไหล่ให้ขนุนแก้ปัญหา
 
   “แน่สิ อย่างน้อยก็เป็นความลับที่เรารู้กันแค่สองคน”คณินหวังว่าเขาจะได้รู้อะไรบางอย่างที่มันพิเศษกว่าคนอื่น

   ขนุนขมวดคิ้วคิด เคาะปลายนิ้วไปที่ริมฝีปากแดงที่เม้มเข้าหากันราวกับเป็นเรื่องยากจนคิ้วยุ่ง ทว่าความคิดหนึ่งก็จุดประกายขึ้น สองเท้าก้าวเร็วไปหยุดอยู่ตรงหน้าคณิน แล้ววาดเท้าขึ้นคร่อมในตักใช้แขนสองข้างเกี่ยวคลองลำคอ ส่งสายตากรุ้มกริ่มเลื่อนใบหน้าเข้ากระซิบใกล้หู

   “งั้นผมกับพี่มาทำเรื่องที่เป็นความลับระหว่างเราสองคนกันดีไหมครับ น่าตื่นเต้นดีออก”

   “นี่คือค่าปิดปาก? ”คณินเผลอหลุดขำ

   “ผมจะปิดปากพี่ให้แน่นเลย”พูดจบขนุนก็จัดการกดริมฝีปากของตัวเองเข้าจูบคนตรงหน้าแนบสนิท มุมปากที่หยักยิ้มกำลังขยับและพยายามชิมรสชาติความหวานของอีกฝ่าย ในเมื่อคนตรงหน้าช่างยั่วเขานัก คณินก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนจะต้านทานขนุนได้ยังไง ไอ้เรื่องเกรงใจเจ้าบ้านมันขาดผึ่งนานไปแล้วตั้งแต่โดนนั่งตัก

   จูบปิดปากที่ดูร้อนแรงบดเบียดริมฝีปากซึ่งกันและกันไม่ห่าง ทั้งลิ้นอุ่นร้อนที่เข้าดุนดันตวัดหยอกล้อเกิดเสียงดูดเม้มริมฝีปากเป็นระยะจนยากจะผละออกจากกัน น้ำใสๆ ไหลซึมตรงมุมปากแต่ก็ถูกละเลียดเช็ดด้วยริมฝีปากนุ่มนิ่มของอีกฝ่าย

   เสียงครางต่ำในลำคอราวกับทั้งสองกำลังอดทนอดกลั้น สะโพกเล็กที่คร่อมเหนือตักเริ่มขยับส่ายไปมาเสียดสีบางอย่างที่กำลังแข็งขืนเข้าหากัน สองมือหนาที่ไม่คิดจะยุ่มย่ามไปมากกว่านี้แต่กลับวางอยู่ที่แผ่นหลังแคบ และเลื่อนไปที่สะโพกกลมราวผลพีชสุกนิ่มลูกใหญ่เต็มมือพร้อมขยำนวดเฟ้นแรงขึ้น

   กระทั่งเสียงหอบหายใจถี่ที่ปลุกเร้าร่างกายให้ร้อนรุ่มก็ข่มไว้ในลำคอ ก่อนจะพากันย้ายไปยังเตียงนอน และจัดการถอดกางเกงตัวบางของขนุนโยนทิ้งไม่ใส่ใจ อะไรจะไปน่ามองกว่าคนตัวขาวที่รอให้เขากินตรงหน้า และดูเหมือนว่าเครื่องของเขามันเริ่มจะร้อนแล้วเหมือนกัน ท้ายที่สุดแล้วความหน้ามืดก็ทำให้คณินต้องหยิบคว้าของบางอย่างเพื่อนำมาใช้แทนเจลหล่อลื่นอีกครั้ง

   ความรู้สึกผิดเก่าไม่ทันหายความรู้สึกผิดใหม่ก็เข้ามาแทน

   ขอโทษครับน้าสร มันฉุกละหุกจริงๆ

   “คราวนี้.....ผมได้ผู้สมรู้ร่วมคิดแล้ว พี่จะไปฟ้องแม่ไม่ได้แล้วนะครับ”เสียงแหบพร่าสั่นเครือในอกเอ่ยขึ้น ปากเล็กขบเม้มริมฝีปากตนเองหนักๆ เมื่อคณินกำลังส่งปลายนิ้วเพียงหนึ่งข้อเข้าชำแรกจีบสวยที่ตอดรัดเขาแน่นไม่คลาย

   “ยังไงก็เจ้าเล่ห์อยู่ดีนะเรา”คณินจัดการปิดปากเล็กที่ช่างเจรจาได้น่ากัด ก่อนจะดันปลายนิ้วเข้าลึกจนกายขาวกระตุกเกร็งสั่นสะท้านเสียวซ่านยกสะโพกลอยไม่ติดเตียง ตามนิ้วหนาที่ดันเข้าวนไปมาและคว้านหาจุดกระสั่นที่อยู่ลึกเข้าไป ทุกอย่างมันลื่นและง่ายขึ้นเมื่อมีเอสเซ้นส์โลชั่น

   “อื้อ...อึก!”

   “เจ็บรึเปล่า”คณินผละจูบจากริมฝีปาก แล้วเข้าขบเม้มเบาๆ ที่ลำคอขาว ไล่มาจนถึงไหล่เล็กผ่านเนื้อผ้า ใช้มือร้อนอีกข้างสอดเข้าใต้เสื้อตัวเก่งลูบขึ้นผ่านสีข้างลำตัวร่างเล็กเข้าสัมผัสสะกิดหยอกเย้ายอดอกเม็ดเล็กที่กำลังแข็งเป็นไตเพราะความเสียวซ่าน อีกครั้งที่ขนุนบิดเร่าด้วยความวาบหวามเอื้อมมือคว้าลำคอของคณินแน่นเข้ากอดแล้วกระซิบ

   “ผะผมรู้สึกดีมาก รีบๆ เถอะครับ...ผมไม่ไหวแล้ว”

   “ก็ลองทำตัวให้น่ากอดกว่านี่สิครับ จะเร่งให้”

   “ทำยังไงให้น่ากอดกว่านี้...แค่นี้ไม่พอเหรอครับ”คนพูดขบเม้มริมฝีปากส่งสายตาหวานเชื่อมอ้อนวอนร่นเสื้อขึ้นเปิดอก จนใจคนมองเต้นระส่ำทำเอาใจคณินแทบกระดอนออกนอนอก

   “พี่ขอห้ามเลยนะ อย่าไปทำสีหน้าท่าทางและส่งสายตาแบบนี้ให้ใครเห็นเด็ดขาด!”

   “ทำไมเหรอครับ”

   “รู้แล้วยังจะถาม”พูดแล้วก็ก้มหน้าไปกัดปลายจมูกของขนุนเบาๆ อย่างหมั่นไส้ คนถูกกัดหัวเราะชอบใจ ก่อนจะใช้จังหวะเย้าหยอกของอีกฝ่ายตะกายขึ้นไปอยู่บนตัวของคณิน สะโพกขาวเปลือยเปล่าที่โด่งรับอยู่กลางอากาศโน้มตัวลงต่ำกำลังจะจัดการส่วนล่างของคนตรงหน้าที่อยากจะหาโอกาสมานานแล้วแต่ถูกหยุดซะทุกที

   แต่ใครจะไปรู้ ว่าจู่ๆ สิบนาทีให้หลังกลับต้องชะงักค้าง เพราะเสียงเคาะประตูรัวๆ หน้าห้องของขนุนชุดใหญ่ไม่เกรงใจเจ้าบ้านแม้แต่เสี้ยวความคิดก็ว่าได้

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก!

   จนทั้งสองต้องผละออกจากกันด้วยจำใจทั้งที่ทุกอย่างกำลังไปได้สวย แม้จะอยากหลับหูหลับตาเดินหน้าต่อแต่ไอ้เสียงเร่งเร้าให้เปิดประตูอยู่หน้าห้องคงไม่สามารถทำอะไรต่อมิอะไรได้อย่างมีความสุขแน่ๆ






   
ต่อด้านล่างค่ะ

ออฟไลน์ ทามากิบ๊อง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-4
ต่อ



ผาง!

   คนที่เดินไปเปิดประตูเป็นคณิน ส่วนขนุนก็นั่งหายใจหืดหาดปรับอารมณ์แทบไม่ทันกับความพังของอารมณ์ที่ถูกขัดจังหวะ ส่วนผู้ที่ยืนอยู่หน้าห้องจะเป็นใครไปไม่ได้หากไม่ใช่เพื่อนพ้องของขนุนและคณิน ที่มีแกนนำหลักอย่างอนาวินยืนโบกกล่องเกมเศรษฐีไปมา

   “ทำอะไรวะกว่าจะมาเปิดประตูโครตรนาน กูเคาะจนมือเจ็บหมดแล้ว”อนาวินนำทีมเดินเข้าไปในห้องขนุนตามด้วยลูกทีมที่เดินพรวดพราดเข้ามาและจับจองหาที่นั่งตรงกลางห้องอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลงใดๆ

   “เดี๋ยว! มึงมาทำอะไรในห้องขนุน”คณินมองเหวอเข้าไปยืนกลางวง

   “เอ้า ก็มาชวนเล่นเกมเศรษฐีไง กูนอนไม่หลับและบังเอิญเจอมันอยู่ในห้องที่กูนอนเลยชวนนิวกับต้ามาเล่นที่ห้องนี้”

   คณินถึงกับคิ้วกระตุกยิ้มสยองไปให้อนาวิน สบถผ่านไรฟันอย่างอาฆาตและอนาวินก็เห็นและรับรู้ แต่อีกฝ่ายกลับยกคิ้วแล้วกระตุกยิ้มร้ายพร้อมกับเขยิบเข้ามาใกล้ มองขนุนที่นั่งแก้มแดงปลั่งสภาพดูไม่น่าจะตื่นจากนอน แล้วมาหยุดสายตาที่เพื่อนสนิทอย่างคณินแล้วพูดขึ้น พร้อมฮัมซาวด์แทร็คท่อนยอดฮิตของภาพยนตร์เรื่อง star wars ช่วงเปิดตัวตัวร้ายอย่าง Darth Vader

   “ดา ดา ดา ด่า ด้า ดา…..หึ! จะทำอะไรหัดเกรงใจเพื่อนฝูงบ้างเว้ย บ้านมันเงียบ และห้องกูก็อยู่ใกล้ห้องขนุนนะครับ”

   “แล้วเวลานี้ใช่เวลามาเล่นเกมเศรษฐีรึไง!”คนรักเพื่อนอย่างคณินถึงกับวางส้นลงบนหลังเท้าเพื่อนตัวดีที่ขวางคอเขาเสียเหลือเกิน

   “ไอ้ขนุน นั่งหนีบขาหนีบแข้งอยู่ทำไม ลงมานั่งเล่นด้วยกันดิวะ”ต้าแหล่ตามองไปยังขนุนที่นั่งห้อยขาอยู่บนเตียง ท่าทางดูยับๆ เยินๆ เหมือนเพิ่งกลิ้งเกลือกบนเตียงไปสิบรอบ

   “เล่นไปเลย เราไม่สะดวก”ขนุนพยายามปรับระดับเสียง ยิ้มให้ดูปกติ

   “หืม? มึงดูหน้าแดงๆ ป่วยไข้ไม่สบายเปล่าวะ”นิวช่างสังเกตมาแต่ไหนแต่ไรหรี่ตามอง ลุกไปอังหน้าผากขนุนดู มันเป็นความคุ้นชินที่จะต้องเป็นห่วง “ตัวมึงก็ไม่ได้ร้อน”

   “ก็เปล่า”

   “เอ๊ะ! อันนี้ขวดเอสเซ้นส์โลชั่นของใครวะ? ”โจมคว้าขวดที่กลิ้งอยู่ตรงพื้นใกล้ๆ เข้าสำรวจมอง ขนุนถึงกับตาเบิกกว้างกลืนน้ำลายอึกใหญ่

   “ของผมเองครับ”

   “พอดีเลย งั้นพี่ขอนิดนะเพิ่งอาบน้ำหน้าแห้งๆ อยู่พอดี”อนาวินคว้าหมับไปจากมือโจมก่อนจะเหยาะน้ำสีใสหนืดลงบนฝ่ามือแล้วลูบไปทั่วหน้า

   “ดะเดี๋ยวครับขวดนั้น.....”ขนุนเหมือนต้องการจะออกปากห้าม แต่ดูจะไม่ทันซะแล้ว

   “สดชื่นดีว่ะ ผิวนุ่มขึ้นมาเลย ลองดูๆ ”แล้วอนาวินก็เริ่มให้ทุกคนได้ลองกันถ้วนหน้า คณินยืนตัวเอียงจนต้องค้ำโต๊ะกลืนน้ำลายไม่รู้จะบอกกล่าวไปอย่างไรดีว่าเอสเซ้นส์ขวดนั้นเข้าเพิ่งจะใช้มันชโลมบางอย่างที่ไม่ใช่หน้าไป

   “ตามสบายเลยพวกมึง อยากจะทำอะไรก็เชิญ”

   จะปฏิเสธอนาวินก็จะดราม่าใส่ เลยต้องจำใจเป็น 1 ใน 5 ผู้เล่น ยกเว้นขนุนที่เลือกนั่งมองอย่างสงบๆ อยู่ข้างหลังของคณินเกยคางอย่างลูกหมาไปที่ไหล่กว้างมองเกมตรงหน้าอย่างเศร้าใจ

   เล่นไปได้ประมาณ 5 นาที ผู้เล่น 1 คนซึ่งก็คือนิวจำต้องออกจากเกมเพราะเริ่มโวยวายหน้างอกับปลายสายที่กดวางไปแล้วประมาณ 3 รอบแต่ก็ยังโทรเข้ามาหาอีกจนขนุนอดแซวไม่ได้ว่าแฟนโทรตาม คนร้อนตัวเลยขอดีดตัวออกจากเกมแล้วกลับห้องไปเคลียร์เรื่องส่วนตัว กระทั่งต้าก็เริ่มง่วงงุนจัดการขายหุ่นเพื่อจบเกม เหลืออนาวินและโจมที่ขาดผู้เล่นเลยตัดสินใจเลิกอย่างยอมแพ้

   “จะตี 1 แล้วกลับๆ ห้องไปนอนได้แล้ว ขนุนก็หลับแล้วเห็นมะ”คณินบุ้ยหน้าไปทางขนุนที่ตอนนี้นอนหนุนตักเขาหลับไปบนพื้น

   “เออๆ เก็บของแปบ”

   “กูช่วยเก็บ”

   “มีน้ำใจ? ”

   “พวกมึงจะได้ออกไปไวๆ ”อนาวินขำ มองคณินที่มีขนุนหนุนหัวอยู่ในตัก และพยายามเอื้อมมือยาวๆ ช่วยเก็บของ ดูระวังกลัวขนุนตื่น เหมือนพ่อลูกอ่อนไม่มีผิด

   “คณิน...พวกกูดีใจกับมึงด้วย”คนก้มหน้าก้มตาเก็บของเงยหน้าขึ้นมอง เพื่อนที่จู่ๆ ก็พูดขึ้น

   “ดีใจ? อะไรวะ”

   “ก็รู้ๆ กัน ยังไงพวกกูก็เป็นเพื่อนที่....ไม่ดีไม่เลว ที่อยากเห็นเพื่อนมีความสุขอีกครั้ง กูชอบสีหน้าอารมณ์ของมึงในตอนนี้มากกว่าแต่ก่อนเยอะ”โจมปิดฝากล่องเกม

   “กูเชียร์ไม่ผิดคนจริงๆ ” อนาวินมองขนุนที่นอนหลับอยู่ “ยังไงก็อย่าลืมบุญคุณกูด้วยล่ะ”

   “กลับไปได้แล้วพวกมึงอ่ะ”

   “แม่งไล่จัง ไปแล้ว”

   “ไอ้วิน ไอ้โจม...ขอบใจพวกมึง”



   ภายหลังจากที่ทุกคนออกไปหมดแล้ว คณินเลยจัดการปลุกขนุนให้ลุกขึ้นไปนอนดีๆ ที่เตียง แต่กลับงัวเงียพลิกตัวเอาหัวไปหนุนแขนตัวเองแทน

   “บนพื้นมันหนาว ปวดหลังด้วย ไปนอนดีๆ บนเตียงครับ”แม้จะตั้งใจส่งเสียงหวานกระซิบข้างหู แต่อีกฝ่ายท่าทางจะรักการนอนมากกว่าอื่นใดในตอนนี้

   “.....”

   “ขนุน.....”แม้จะเรียกชื่อ เขย่าตัวเบาๆ แล้วก็ยังคงไม่มีท่าทีจะลุกไปนอนเอง คณินเลยจัดการสอดมือเข้าให้ร่างเล็กแล้วช้อนอุ้มขึ้นเหมือนเด็กๆ พาไปวางที่เตียงดึงผ้าห่มคลุมตัวให้ถึงอก คณินเดินไปปิดไฟแล้วขึ้นเตียงสอดขาใต้ผ้าห่มเบาๆ และค่อยๆ สอดแขนใต้หัวของขนุนให้ใช้แขนตัวเองต่างหมอน อีกมือก็เข้าโอบเอาคนตัวเล็กเข้าอ้อมกอด กดปลายจมูกหอมหัวสูดกลิ่นแชมพูอ่อนๆ จากกลุ่มผมนุ่ม ขนุนขยับตัวเล็กน้อยเข้าซุกใบหน้าราวกับหาความอุ่น คณินคลี่ยิ้มขยับท่อนแขนกอดความสุขของเขาที่กำลังนอนหลับอย่างถนอม

   จากความคิดที่ไม่เคยรู้สึกกับขนุนไปมากกว่าพี่น้อง แต่วันหนึ่งเขากลับต้องมาหลงขนุนหัวปักหัวปำแบบนี้มันโคตรน่าตลก แต่นั่นแหละคือความจริงที่เป็นไปแล้ว

   โชคชะตามันน่ากลัวจริงๆ 

   เราไม่มีทางรู้ใจตนเองกระทั่งกำลังจะเสียมันไป และนั่นก็จริงอีก คณินเกือบจะเสียขนุนให้ไม้เอก ถึงตอนนั้นเขาเพิ่งจะมารู้ใจตัวเองว่าหากเสียคนคนนี้ความสุขของเขาจะหายไปถึง 99.99 เปอร์เซ็นต์ และคณินก็คิดถูกที่เปิดใจรับขนุนอย่างไม่ตั้งข้อแม้ใดๆ

   “ขอบคุณนะที่ขนุนให้โอกาสพี่ได้มีความรักอีกครั้ง พี่อาจไม่ได้เก่งพอจะปกป้องขนุนทุกเรื่อง แต่พี่สัญญาว่าจะดูแลขนุนให้เหมือนกับดูแลฟันแท้ที่มีแค่ชุดเดียวในชีวิตให้ดีที่สุด”คณินพึมพำกับคนที่หลับ เขาไม่รู้จะเปรียบเทียบความสำคัญของคนตรงหน้ายังไงให้มากพอกับความรู้สึกทั้งหมดของตัวเอง ‘ฟันแท้’ ที่เหมือนรักแท้มีเพียง 1 เดียว คงตอบโจทย์มากที่สุดในตอนนี้

   แต่ใครจะไปรู้ว่าคนที่หลับกลับตื่นขึ้นมาซะอย่างนั้น

   “ถ้าผมเป็นฟันแท้ พี่คณินคงต้องเป็นเหงือกให้ผมแล้วล่ะ เพราะเราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป”พูดจบขนุนก็หัวเราะไหล่สั่น

   “นี่ตื่นเพราะพี่ หรือเพราะไม่ได้หลับ? ”

   “ผมหลับจริงนะ แต่ก็ตื่นตั้งแต่โดนอุ้มแล้วล่ะ”คนสารภาพผงกหัวขึ้น มองใบหน้าคณินผ่านแสงไฟจากโคมไฟดวงเล็กตรงมุมห้องด้วยความสุขใจ

   “เจ้าเล่ห์นะ”

   “ก็อยากรู้ว่าพี่จะทำยังไง ดูแลดีขนาดนี้ผมใจเต้นแรงเลย จับดูสิครับ”

   “แล้วอยากใจเต้นแรงกว่านี้มั้ย”คณินพลิกตัวตะแคงข้างยันศีรษะขึ้นสบตาขนุนโต้ตอบไม่ลดให้ นับวันจะแสบไม่แพ้ไข่ดาว

   “หืมมมม....พูดแบบนี้อย่าให้ผมทายนะครับ ต้านิวบอกว่าผมเป็นพวกคิดบวกเสมอ”

   คณินหัวเราะยื่นปลายนิ้วไปจิ้มจมูกขนุนเบาๆ เป็นการเอ็นดู จะทำแรงก็กลัวจมูกน้อยๆ จะช้ำ “งั้นพี่เฉลย? ”

   “อือ พูดมาเลยครับ อยากรู้เหมือนกันว่าพี่จะทำอะไรให้ผมใจเต้นแรงกว่านี้”

   “วันหยุดครั้งหน้า...ไปภูเก็ตกัน”

   “ห๊ะ! ไปไกลจัง ไปทำไมครับ”ขนุนดีดตัวลุกขึ้นนั่งตาวาว คณินลุกขึ้นเดินไปเปิดไฟแล้วมานั่งประจันหน้ากับขนุนต่อ มองดูสายตาขี้สงสัยแบบขำๆ แล้วเขยิบเข้ากระซิบใกล้ใบหูเล็ก กระตุกยิ้มบางตรงมุมปาก

   มันคือสิ่งที่คณินคิดไว้ก่อนแล้ว แต่ไม่มีโอกาสจะบอกคนตรงหน้า และดูท่าวันนี้ก็เหมาะที่สุด

   “พี่จะพาไปเจอพ่อกับแม่”

   “เจอ?...เหรอครับ!”
   
   “อื้ม...ในฐานะคนสำคัญของครอบครัวพี่ เราอยากจะไปกับพี่รึเปล่า”น้ำเสียงนุ่มทุ้มอยู่ในใจ อบอุ่นจนทำให้ความประหม่าจางหายไปเป็นปลิดทิ้ง

   “พูดแบบนี้ไม่ขอแต่งงานเลยล่ะครับ”

   “งั้นซ้อมแต่งกันตอนนี้เลยมั้ย”คณินตอบกลับพร้อมดึงผ้าห่มขึ้นคลุมครึ่งหัวของขนุน โผล่เพียงกรอบหน้าได้รูปและรอยยิ้มเคอะเขินที่ซ่อนอยู่ภายใต้ดวงตาระยิบระยับซึ่งกำลังจับจ้องใบหน้าหล่อเหลาที่จุดยิ้มกระชากใจขนุน จนก้อนเนื้อในอกเต้นแรงแทบระเบิด
 
   “พี่คณิน ผมเขิน”ขนุนสารภาพจำนนด้วยหลักฐาน ที่แก้มกลมสองข้างแดงระเรื่อไปถึงใบหู

   “ขนุน คุณจะรับคณินเป็นสามีของคุณไหม คุณสัญญาว่าจะซื่อสัตย์ต่อเขา ทั้งในยามสุขและยามยาก ในยามไข้และสบายดี จะรักเขาและให้เกียรติเขาชั่วชีวิตของคุณหรือไม่? ”

   “เดี๋ยวครับ….ละเล่นงี้เลยเหรอครับ”ขนุนมองงงในความเล่นใหญ่ของคนตรงหน้าท่าทีจริงจังจนขนลุก ทว่าคนฟังก็เขินหนักจนหน้าร้อนฉ่าแทบจะมุดเข้าไปใต้ผ้าห่มอยู่แล้ว

   “ว่าไง? ”ปลายนิ้วโป้งแกล้งเกลี่ยขอบตาขนุนเบาๆ กระตุ้นให้เร่งตอบ

   “ให้ผมตอบ...จริงเหรอ ถ้าตกลงงั้นผมก็ไม่ได้เป็นสามีพี่ใช่มั้ย? ” อีกหนึ่งจิตหนึ่งใจก็กลัวลั่นปากไปแล้วไม่สามารถกลับลำได้    

   เป็นสามีก็ไม่ได้เป็นฝ่ายรุกน่ะสิ! ขนุนกังวลในใจไปหลายขุมจนแอบกัดฟันคิดหนัก

   “คำตอบพี่ล่ะ”อีกคนก็เร่งเร้า แต่เพราะกลัวปลาใหญ่หลุดมือมีหรือขนุนจะไม่คว้าไว้ซะก่อน

   “ครับ แต่ว่าผมน่ะอยากรุ.....อุบ”ประโยคเพียงครึ่งถูกกลืนหายเข้าลำคอเพราะจูบปิดปากกะทันหัน

   “พูดมากนา เวลานี้เป็นของพี่ต่างหาก”

   “จะทำเรื่องตื่นเต้นเหรอครับ”

   “ขัดขืน? ”

   “เปล่า สมยอมครับ”

   จนแล้วจนรอด ความรักย่อมชนะทุกสิ่ง แม้ใจจริงจะอยากมีวันทำแต้มปิดเกมด้วยการเป็นฝ่ายนำก็ตาม แต่แค่นี้ขนุนใจกว้างอยู่แล้ว ไม่ได้อยากโวยวายเอาชนะความรักของเขาเพราะเอาเข้าจริงๆ ขนุนก็สมยอมให้คนตรงหน้าไม่อิดออดอยู่แล้ว ทุ่มเทแค่ไหนไม่รักสุดหัวใจคงไม่ยอมกันถึงขนาดนี้

   แต่ถึงอย่างไร...ขนุนก็ยังมีหวังอยู่ว่า

   รับวันนี้ รุกอีกทีวันหน้าก็ไม่สาย!

   คนตัวเล็กใจใหญ่ วาดหวังไว้เช่นนั้น






- E N D -






------------------------------
คงไม่ทิ้งคำว่าติดตามตอนต่อไปไว้แล้วนะคะ เพราะในที่สุดก็จบแล้ว :hao5:

ขอบคุณนักอ่านที่เอ็นดูขนุนตัวละครที่ไม่ถึงกับโดดเด่น แต่ไม่ได้มาเล่นๆ ในเรื่องรักๆ นะคะ ฮ่าๆๆ

ใครอยากพูดคุยควันหลง ใน ทวต.ติด #ขนุนอุ้มหมา มาเมาท์กันได้ค่ะ

หรือตาม ทวต.ได้ที่ @LAANHAWA ได้เลยค่ะ ^^



ขอบคุณอีกครั้งค่t //ไหว้ย่อ.......ละลุกไม่ขึ้น ---เข่าไม่ดี ฮ่าๆๆ

โดย หลานฮวา

ออฟไลน์ perzear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
 :mew1: :mew1:

น้อนนนนนนนนน  น่ารักซะจนอยากอุ้มกลับบ้าน 

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
 :m20: หื่นไม่ดูเวลากะสถานที่ ต้องมานั่งเล่นเกมเศรษฐีดีมั่ยล่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
ขนุนยังคงเป็นขนุน ความขนุนนี่มัน ...>"<

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ
น้องขนุนน่ารักน่าเอ็นดูปนน่าหมั่นเขี้ยวมาก อยากหยิกแก้มน้อง
พี่คณินก็ดี๊ดี

 :pig4:

ออฟไลน์ Toey0810

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
น้องขนุนนนนทำไมน่ารักแบบนี้....ขอบคุณสำหรับเรื่องที่สุก และน่ารักแบบนีนะค่ะ อ่านไปอมยิ้มไป อารมณ์ดีก่อนนอนเลย  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ cass-meyz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
หนุนลูกกกกกกก
หนูจะอ่อยพี่เค้าแบบนั้นไม่ได้
แม่ใจไม่ดีเลยยยย  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ cass-meyz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ขนุนน่ารักมากกกกกกกก
ความหวานนี้ไม่เกรงใจคนโสดเลยอ่ะ

ปล. ขอบคุณคนเขียนมากนะคะ นิยายสนุกมากกก  :pig4:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Quatree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
 :pig4: ขนุนน่ารักมาก

ออฟไลน์ มนุษย์บิน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 407
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ขนุนเจ้าเด็กน่าฟัดดดดดดตั้งแต่ตอนแรกจนจบน่าฟัดไปหมดดดดดดดด

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
ขนุนน่ารักมากกกกก
พี่คณินก้ดีมากกอะ ตอนแรกนีกว่าจะนิ่งๆคูลๆ
สรุปก้คือขี้หึงมาก ขี้หวงมาก งอแงด้วยบางที
แต่ก้ลงตัวกันที่สุดแลัว 55555555
ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารักๆแบบนี้นะคะ

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด