ขนุนลูกที่ 24
“ดันเข้าให้สุดเลยครับ นั่นแหละครับพี่คณิน”
“แบบนี้เหรอ”
“ครับ อีกนิดครับ”
“แต่มันแน่นแล้วนะขนุน”
“เชื่อผมเถอะครับ ยังได้อยู่”
“จับดีๆ นี่เรากำลังสั่นอยู่รึเปล่า ไหวแน่นะ”
“ไหวสิครับ พี่คณินเถอะไหวรึเปล่าถ้ากลัวให้ผมขึ้นข้างบนแทนมั้ย?”
“ขนุนอยู่ล่างดีแล้ว ให้พี่ทำจะดีกว่า”
“จะเสร็จรึยังครับ ผมเมื่อยจะแย่แล้ว”
“พี่จะเสร็จแล้วอีกนิด....โอเค เราปล่อยได้เลย”
“ให้ผมปล่อยแน่นะ”
“อืม ปล่อยบันไดแล้วไปเปิดสวิตช์ไฟดู พี่ว่ามันน่าจะโอเคแล้วนะ หลอดเก่าไฟมันคงจะขาด ทนเดินห้องมืดๆ ได้ไงฮะเรา”
“ก็มันเพิ่งจะดับตอนผมกลับจากบ้านนี่ครับ”
แป๊ก!
“โอ้! ไฟสว่างแล้ว ขอบคุณนะครับคิดว่าต้องเดินมืดๆ จนถึงพรุ่งนี้เช้าซะอีก เดี๋ยวพี่คณินรอผมที่นี่ก่อนนะครับ ผมเอาบันไดไปคืนพี่สุภาพข้างล่าง...”
“ไม่ต้องๆ เดี๋ยวตอนกลับพี่เอาลงไปให้ มันหนัก”
“.....”
“แน่ะ! เป็นห่วงเหรอครับ รู้สึกบอบบางขึ้นมาเลย โอ๊ย...บันไดโคตรหนักผมถือไม่ไหวจริงๆ นั่นแหละ”
“ถามจริงใครหิ้วบันไดมาตั้งไว้ในห้องคนเดียว”
“แหะๆ ผมเองแหละ”ขนุนหัวเราะขำ ยกบันไดพับได้ไปพิงผนังห้องแบบสบายๆ
“เนี่ยอยู่บ้านแม่คงปวดหัวกะเราแย่”
“แม่อ่ะชินแล้วล่ะครับ เจอมาทุกรูปแบบ”
“สงสารน้าสรจับใจ....”
“พี่คณินว่าไงนะครับ”ขนุนที่ก้มลงไปห่อหลอดไฟดวงเก่าที่ไส้ขาดหันหน้ามาถามเพราะไม่ทันจะตั้งใจฟัง
“เปล่าครับ ไม่มีอะไร”คณินไหวไหล่ยิ้มตอบ
“ขอโทษนะครับที่ต้องให้มาช่วยเอาตอนนี้ พี่คณินเจ็บตัวอยู่แท้ๆ พรุ่งนี้ระบบแย่เลย”ขนุนถลาเข้าไปเกาะแขนแล้วซบหัวลงกับท่อนแขนของคณินตามด้วยลูกอ้อนชนิดที่น่าบีบจมูกนัก “ผมว่า ผมเลี้ยงน้ำพี่ตอบแทนดีกว่า นั่งก่อนครับ ห้องผมอาจจะรกไปหน่อยแต่ผมก็ถูพื้นแล้วนะ”
คณินถูกขนุนลากให้นั่งลงตรงพื้นด้านข้างของเตียง ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เย็นแล้วหยิบบางอย่างออกมาหอบเต็มมือ แล้ววางมันลงตรงหน้าคณินเกือบครึ่งโหล
“เบียร์?”
“ก็ของพี่คณินนั่นแหละครับ มันเหลืออยู่ผมยังไม่ได้ดื่มสักกระป๋อง”
“แต่เราเพิ่งดื่มเหล้ามา กินน้ำเปล่าจะดีกว่า”คณินส่งเสียงดุหรี่ตามองอย่างห้ามปราม
“แต่ว่า.....”ขนุนกำกระป๋องเบียร์เย็นๆ จนจะเป็นวุ้นในมือแน่นน้ำลายสอ แล้วอ้อมไปซ่อนไว้ข้างหลังกะพริบตาปริบๆ รอคำอนุญาต “ผมไหวนะ สร่างเมาไปตั้งนานแล้วด้วย ให้ผมดื่มนะครับอยู่กับพี่คณินไม่เป็นไรหรอก”
“แล้วจะรู้ได้ไงว่าไม่เป็นไร ไม่กลัวพี่จะทำอะไรเรารึไง”ขนุนถึงกับตาวาว
“.....”
“เดี๋ยว! เราจะไปไหน?”
“เอ้า! ก็ไปอาบน้ำรอไงครับ? ”ไม่พูดอย่างเดียวแต่คนช่างอ่อยไม่เนียนอย่างขนุนแกล้งถลกคอเสื้อให้กว้างจนเปิดเห็นไหล่ขาวๆ
โป๊ก!
“โอ๊ย! ผมเจ็บ”
“เดี๋ยวเถอะทะลึ่ง”คณินส่ายหน้ามองขนุนที่หัวเราะหงึกอารมณ์ดีตีเนียนเปิดกระป๋องเบียร์แล้วกระดกเข้าปากจนได้ แถมยังทำสีหน้าชื่นใจซะขนาดนั้นจะยื้อมาจากมือก็เห็นจะทำไม่ลง ก็คงมีแต่ต้องปล่อยให้ดื่มไปก่อนเท่าที่อยากจะกิน ดื่มไปคุยไปจนเผลอแป๊บเดียวกระป๋องเบียร์ตรงหน้าก็เหลือแต่กระป๋องเปล่า
“ไม่อยากเชื่อเลยนะครับว่าพี่ลูกตาลจะหักหลังพี่คณินไปมีคนอื่นแบบนั้น ผมเข้าใจพี่นะครับ ถ้าพี่ไม่มีเวลามาเจอผม มารับผมไปกินข้าว มาชวนผมไปเที่ยว สัญญาว่าผมจะไม่ดื้อไม่งอแงเลย ผมรู้ว่าพี่อ่ะเหนื่อย ซืดดด...”คนพูดเพ้อซื้ดน้ำมูก
“ขอบคุณที่ขนุนเข้าใจพี่ แต่เลิกคุยเรื่องนี้ไม่ดีกว่าเหรอ ตาแดงหมดแล้วเนี้ย”คณินส่ายหน้าที่ขนุนพาเขาวกคุยเรื่องพวกนี้ แถมคนที่มาตีโพยตีพายกลับไม่ใช่คณินแต่เป็นขนุนซะแทน
เพราะตอนนี้ ต่อให้พูดชื่อคนรักเก่าเป็นร้อยๆ ครั้ง คณินก็ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว เพราะใจของเขามันเต็มไปด้วยผลไม้เมืองร้อนผลสุกสีเหลืองที่หวานชื่นใจคนนี้ จะมีที่เหลือเผื่อไปคิดถึงใครก็ ไม่มีทาง
“เปล่า ผมแค่แสบตา...เป่าให้หน่อยสิครับ”
“เป่าเปิ่วอะไรกัน ตาปลือขนาดนี้ง่วงก็ไปนอนเถอะ อย่าฝืนเข้าใจมั้ยครับ”คณินส่ายหน้าคว้ากระป๋องเบียร์เปล่า ออกจากมือขนุนที่เอนหัวซบไหล่ของเขาเป็นที่พักหัวแล้วถูไถไปมาเหมือนกับไข่ดาวที่ชอบอ้อนเขาแบบนี้เวลาต้องการอะไร
แต่พอคณินพูดขึ้นให้ไปนอน ขนุนก็รีบดีดตัวนั่งตรงในความคิด แต่แท้จริงแล้วโคตรจะคอเอียง
“ผมยังไม่ง่วง ผมอยากคุยกับพี่ไปนานๆ จริงๆ นะ.....ผมกลัว กลัวว่าถ้าผมหลับทุกอย่างจะหายไป ตื่นมาอีกครั้งพี่อาจจะกลายเป็นแค่ความฝันของผม แบบนั้นผมคงเจ็บแย่”
“คิดมาก พี่ไม่หายไปไหนหรอกรู้มั้ย”คณินยิ้มบางมองขนุนที่พูดออกมาแบบนั้นราวกับไม่รู้ตัวว่าเผยด้านอ่อนแอออกมา
ขนุนส่ายหน้าหันไปมองคณินด้วยแววตาหวั่นๆ “ผมไม่เชื่อหรอก”
“พี่ไม่โกหกอยู่แล้ว เพราะอะไรรู้มั้ย? ”
“ทำไมครับ”คนอยากรู้จ้องคณินตาใส แก้มขาวๆ กำลังแดงก่ำไปจนถึงใบหูเล็ก พนันได้เลยว่าสติของขนุนเหลือไม่ถึงครึ่ง อีกครึ่งคือความพยายามที่จะตื่นเพื่ออยู่กับคนตรงหน้าที่ไม่อยากให้ห่างไปไหน
“ก็ถ้าหากโกหก จมูกพี่ก็จะยื่นยาวเป็นเมตรเลย”
“อ้อ เหมือนไข่ดาว...”
“ก็คงงั้นมั้ง”คณินหัวเราะกับคำตอบของขนุน “ยังไงขนุนก็ไม่ต้องกลัว ถึงจะหลับแล้วตื่นมา พี่ก็จะยังอยู่ข้างๆ เราไม่ไปไหนอยู่ดี”
“ผมเชื่อพี่ได้ใช่มั้ย? ”ความรู้สึกของขนุนตอนนี้มันกำลังค่อยๆ อุ่นขึ้นในอก เขามองแววตาอบอุ่นของคณินที่บอกให้ขนุนมั่นใจ
“เชื่อได้สิเพราะพี่รักขนุน เรื่องอะไรพี่ต้องหายไปจากเราด้วย”
“อือ...ผมเข้าใจแล้ว”ขนุนพยักหน้าเอ่ยตอบเอนหัวซบลงไปที่อกกว้างแถมยิ้มซะจนแก้มแทบแตกเป็นฟองสบู่ คณินมองขนุนที่ซุกหน้าอยู่กับอกของตัวเองโคตรจะอ้อน ก่อนจะก้มลงไปหอมหัวเจ้าของเส้นผมสีบลอนด์สว่าง จนขนุนต้องเงยหน้าขึ้นมองตาปริบๆ
“พี่คณินอ่ะ ผมยังไม่ได้สระผมเลย หัวเหม็นแน่ๆ ”ขนุนยกมือขึ้นจับหัวตัวเองเสียความมั่นใจ
“ก็ไม่นิ พี่ดมแล้วยังหอมอยู่เลย”
“ไม่จริง”
“แล้วจะให้พี่ทำไงเราถึงเชื่อ”
“ง้านนน...เดี๋ยวผมไปอาบน้ำแล้วให้พี่มาหอมใหม่ เอาตั้งแต่หัวตลอดตัวเลย”
คณินหลุดหัวเราะกับสีหน้าจริงจังที่บอกจะไปอาบน้ำของขนุน แถมเจ้าตัวยังลุกขึ้นลนลานอีก ท่าทางจะไปอาบน้ำจริงๆ ตามที่พูด แต่ขืนคณินปล่อยให้ไปตอนนี้คงได้ไปนอนแน่นิ่งหัวฟาดชักโครกแน่ๆ
คณินเลยรีบเดินตามแล้วดึงตัวเอาไว้ จูงมือเจ้าของร่างเล็กแล้วพาไปที่เตียง กดไหล่ให้ขนุนนั่งลง แล้วจัดการยกปลายเท้าขึ้นเตียงให้ทั้งสองข้าง
“พรุ่งนี้ค่อยอาบ”
“อาบพรุ่งนี้พี่ก็ไม่ได้หอมผมน่ะสิ”คนเซ้าซี้ดีดตัวลุกนั่ง มองคณินไม่วางตา
ฟอด!
“หอมแล้ว”จู่ๆ แก้มขาวๆ กลับถูกขโมยหอมไปฟอดใหญ่ ขนุนที่นั่งนิ่งตาโตเท่าไข่ห่านแทบปรับจูนคลื่นหัวใจตัวเองไม่ทัน ใจมันสั่นไปหมด
“.....”
“อีกข้างมั้ย เผื่อเราไม่แน่ใจ”คณินยิ้มกริ่มมองเจ้าของร่างเล็กที่นั่งแข็งทื่อมองเขาตาไม่กะพริบมาเกือบนาที
“พี่ทำแบบนี้ ผมจะไม่ทนแล้วนะครับ”
“แล้วพี่ต้องทำไงเราถึงจะไม่ต้องทน”คนตัวสูงขยับตัวโน้มไปข้างหน้า ก้มลงมองตาแล้วยิ้มมุมปากด้วยสายตากรุ้มกริ่ม นึกสนุกที่เห็นคนตรงหน้าดูเก็บกดแปลกๆ
“ไม่ครับ ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นแค่นี้ผมก็หมดความอดทนแล้ว”
สายตาหวานเชื่อมจ้องมองไปตรงหน้า ก่อนโผเข้ากดร่างสูงที่อยู่แค่เอื้อมลงกับเตียงแทบจะทันที แล้วเบี่ยงตัวเองขึ้นคร่อมค้ำแขนทั้งสองข้างไว้เหนือไหล่ของคณินอย่างห้าวหาญไม่สมกับตัว ทั้งปากเล็กที่เม้มสนิทเข้าหากันแล้วใช้ปลายลิ้นเลียไปที่ริมฝีปากที่แห้งผากของตนเอง พร้อมกับโน้มใบหน้าลงวางริมฝีปากทาบทับไปกับเรียวปากของคนตรงหน้าแช่นิ่งอยู่เพียงครู่ จึงผละออกมาในขณะที่ปลายจมูกรั้นคลอเคลียอยู่บนปลายจมูกของคณินไม่ห่าง
“ผมรักพี่มากนะครับ มากจนไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำยังไงหรือหาเหตุผลอื่นใดมาประกอบ ถ้าพี่คณินรังเกียจที่ผมทำแบบนี้ก็บอกผมนะครับ”
คณินส่ายหน้า ส่งสายตามองไปที่ใบหน้าเล็กของขนุนที่ดูเป็นกังวล แต่กลับไม่ได้พูดอะไรออกไป มีเพียงความรู้สึกที่ต้องการจะบอกคนตรงหน้าอีกครั้ง ว่าเขาคนนี้ก็รู้สึกดีไม่น้อยไปกว่ากันเลย
ดีใจที่ได้ชอบคนตรงหน้า
ดีใจที่ไม่ปฏิเสธความรู้สึกตัวเอง
ดีใจที่ไม่ปล่อยให้โอกาสที่ได้รักใครสักคนหลุดลอย
“จะปฏิเสธได้ยังไงในเมื่อหัวใจของพี่มันเต้นแรงเพราะเราซะขนาดนี้”
พูดจบคนที่นิ่งไปกับทุกสิ่งยอมแม้กระทั่งให้อีกฝ่ายทำตามใจ ครั้งนี้กลับไม่ยอมให้ จึงดันตัวเองขึ้นนั่งดันร่างขนุนให้นั่งคร่อมตัก แล้วจัดการเข้าโอบประคองกรอบหน้าอย่างมีความหมาย สัมผัสเบาๆ ด้วยปลายนิ้วตรงริมฝีปาก ก่อนจะโน้มหน้าเข้าจูบริมฝีปากเล็กที่เย็นเยียบแนบสนิทลมหายใจสอดประสาน แล้วค่อยๆ ผละออกอย่างอ้อยอิ่ง
เป็นคณินที่เอ่ยขึ้นเสียงแผ่วใกล้ใบหูที่แดงเรื่อจนขนุนหัวใจพองโตเป็นบอลลูนที่พร้อมออกท่องโลก
“ทำตัวน่ากินสมชื่อขนาดนี้ รับผิดชอบความรู้สึกพี่มาซะดีๆ เลย”
“กินเลยสิครับ ถ้าไม่อยากให้ผมกลายร่างเป็นผลไม้กินคนตรงหน้าแทน”
“แน่ใจ”
“อื้อ”
ขนุนพยักหน้ารัวๆ ก่อนถูกอีกฝ่ายช่วงชิงจังหวะหายใจ จูบเบาๆ ที่แสนอ่อนโยนที่หลอมละลายให้ขนุนกลายเป็นเทียนเหลว ขณะเดียวกันความรู้สึกนุ่มละมุนจากริมฝีปากของคณินก็เริ่มกลายเป็นความรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมา เพียงไม่นานจูบที่หวานฉ่ำกลับดูเร่าร้อนขึ้น ไม่เพียงริมฝีปากที่ขยับขบเม้มไปบนริมฝีปากขนุนเบาๆ แต่ทุกอย่างกำลังก้าวขั้นไปมากกว่าที่ขนุนจินตนาการ เมื่อลิ้นอุ่นกำลังแทรกผ่านเข้ามาเกี้ยวกระหวัดลิ้นของเขาราวทักทาย ขนุนก็ช่างเรียนรู้ได้ไวเพราะทฤษฎีเต็มสมองจึงลองตอบรับในแบบที่ต้องการ จากจูบรสหวานก็แทบซาบซ่านจนไม่อยากจะผละออก
มิหนำซ้ำ มือที่เอื้อมไปโอบกอดคณินก็หล่นเลื่อนไปตามแผ่นหลังกว้าง ก่อนจะแทรกปลายนิ้วเข้าใต้ร่มเสื้อสัมผัสกับร่างกายอุ่นๆ ของคนตรงหน้า แต่ดูเหมือนว่าคณินคงไม่อยากปล่อยให้ขนุนเป็นเด็กแก่แดด เขาเลยจัดการเก็บมือของขนุนมาไว้ด้านหน้ารวบแขนทั้งสองข้างไว้ในมือเดียว ก่อนจะผลักเจ้าของห้องจมลงกับเตียง แทรกตัวไประหว่างร่างเล็กจ้องมองแววตาเป็นประกายที่คล้ายตื่นเต้นจนออกทางสีหน้า
“หยุดซนสักห้านาทีนะครับ”คณินก้มหน้าลงกระซิบบอกขนุนราวกับทุกอย่างเป็นความลับ จากนั้นจึงเลื่อนมือเข้าปลดกระดุมเสื้อของขนุนทีละเม็ดจนถึงเม็ดสุดท้าย ผิวกายที่อุ่นร้อนสัมผัสกับอากาศหนาวด้วยเครื่องปรับอากาศในทันทีรูขุมขนหดไปทั่วร่างกาย ผิวขาวๆ ขนลุกชันไปหมด
มันเป็นวินาทีที่ขนุนแทบอยากจะเป็นบ้า หัวใจของเขามันสั่นระรัวไปหมด บางทีขนุนเพิ่งจะรู้สึกเขินคณินเป็นครั้งแรก เพราะแววตาที่เอาจริงเอาจังดูเป็นผู้ใหญ่นั้นทำขนุนแพ้ราบคาบ ปกติคณินไม่เคยแสดงออกแบบนั้น แต่เวลานี้มันต่างชั้นเกินไปแล้ว
“กลัวมั้ย? ”
“มะไม่กลัวครับ ผมรู้ว่าผู้ชายเขาทำกันแบบใช้ทาง....”
จุ๊บ
ขนุนไม่ทันจะพูดจบก็ถูกจูบปิดปากไปซะดื้อๆ และได้ผลมันทำให้คนพูดมากนิ่งเงียบไปได้เกือบนาที
“ทฤษฎีเก็บไว้ ตอนนี้ถึงคราวสอบปฏิบัติแล้วครับ ผ่านรึเปล่าค่อยมารีเช็กกัน”
“ใจผมโคตรเต้นแรงเลยตอนนี้...”ดวงตากลมใสกะพริบตาปริบๆ มองคณินเว้าวอนเหลือเกิน
คณินถึงกับหัวเราะ เคาะปลายนิ้วเบาๆ ไปที่ปลายจมูกของขนุนแล้วพูดขึ้น “ต่อจากนี้ของจริงต่างหาก”
ไม่พูดเปล่า คณินก็จัดการปิดปากของขนุนอีกครั้งด้วยจูบหนักๆ ค่อยๆ วางมือลงบนลำคอขาวแล้วไล่ไปตามลาดไหล่เล็กที่ไม่กว้างนัก สัมผัสผิวนุ่มขาวสะอาดแล้วค่อยๆ ลากผ่านอกราบและหยุดมือตรงยอดอกชมพูแล้วเกลี่ยปลายนิ้วเข้าสัมผัสหยอกล้ออยู่ตรงอกเล็กนั้นจนร่างขาวห่อไหล่ครางขึ้นในลำคอพร้อมกับตุ่มเม็ดเล็กตรงยอดอดสองข้างแข็งขึ้น
มือหนาของคณินจึงเลื่อนไปสัมผัสอีกข้างพร้อมลากริมฝีปากอุ่นพรมจูบไปตามลำคอและไหล่เล็กจนขนุนวาบหวาม ตื่นเต้นไปหมดทุกการสัมผัสจากคนตรงหน้า เพราะความรู้สึกตื่นเต้นแขนขาวจึงโอบกอดไปรอบลำคอของคณิน หายใจเข้าออกเร็วขึ้นต่างจากปกติ
การเห็นปกติกิริยาน่ารักแบบนั้นใครจะยั้งมือไหว ถึงร้องบอกให้คณินหยุดตอนนี้ก็คงเป็นไปไม่ได้ มือหนาจึงค่อยๆ เลื่อนผ่านเอวคอดเล็ก ที่ไม่หนาไม่บางจนดูอ้อนแอ้น แต่มันช่างรับกับมือคณินได้ดีไปทุกสัดส่วน กระทั่งมือหนาลากต่ำลงมาก่อนจะค่อยๆ เข้าปลดกระดุมซิปกางเกงของหนุนและดึงออกโยนกองไปที่พื้น คนตรงหน้าเหลือเพียงบ็อกเซอร์สีขาวติดตัวที่ชวนให้คณินอยากถอดมันออกซะทีเดียวตอนนี้
“ผมอยากถอดบ้าง...”จู่ๆ เสียงความคิดก็ดังขึ้น แน่นอนว่ามันมาจากคนตรงหน้าที่ยันตัวลุกทำมือหนุบหนับ
“หืม?”
“ผมอยากเป็นคนถอดเสื้อให้พี่อ่ะ ให้ผม...ถอด นะ”ถึงหน้าจะบอกว่าเขินสุดๆ ที่ตัวเองพูดออกมา แต่การกระทำล้ำหน้านั้นคณินต้องยอม
เพียงยิ้มแล้วพยักหน้า ขนุนถึงกับปรี่เข้ามาเบียดตัวขาวๆ ที่เปล่าเปลือยเข้าใกล้ ยื่นมือจับสาบเสื้อของคณินแล้วซุกหน้าลงกับอกกว้างสูดหายใจเข้าเต็มปอดหน้าตาปริ่มเปรมเหลือเกิน
“พี่คณินตัวหอม”
“เป็นหมารึไง ดมเก่ง”
“โฮ่งๆ เหมือนป่าว ทำดีแล้วขอรางวัลด้วยนะครับ”
“อ้อนเก่งอีก”
“ผมอ้อนพี่คนเดียวนะครับ พิเศษกว่าใคร”พูดไปมือก็ไล่ปลดกระดุมคนตรงหน้าไปทีละเม็ด ทันทีที่เสื้อสีขาวสะอาดตัวเก่งถูกถอดออกก็ถือเป็นอันสิ้นสุดคำร้องขอ คณินถึงได้จับคนตรงหน้าทุ่มลงแล้วจ้องเขม้นสายตาอยากจะฟัดแก้มขาวๆ เต็มที
“ครั้งนี้ถึงตาพี่บ้างแล้ว”ปลายจมูกที่โน้มชนจมูกของขนุนเริ่มลากผ่านลกคอขาวก่อนจะขบเม้มเบาๆ แล้วจูบซับ ก่อนจะไล่ลงมาตรงอกขาวแล้วใช้ปลายลิ้นอุ่นตวัดเลียตุ่มไตที่แข็งขึ้นทั้งสองข้าง ขนุนถึงกับเม้มปากไม่สามารถพูดโต้ตอบอะไรได้ สมองกลับมีแต่ความว่างเปล่าจนขาวโพลน แทนที่ด้วยความรู้วูบไหวเต็มไปหมด
แม้ปลายลิ้นจะเย้าหยอกส่วนอ่อนไหวตรงเนินอกราบสลับไปมา ทว่ามือของคณินกลับเลื่อนไปบนเนื้อผ้ากางเกงบ๊อกเซอร์พร้อมกับสัมผัสส่วนอ่อนไหวกลางลำตัวของขนุน ลูบขึ้นไปมาตามรูปร่างสัดส่วนของขนุนน้อยที่ค่อยๆ ตื่นตัวขึ้นจนคับแน่นผ่านเนื้อผ้า จนรู้สึกได้ว่าตัวเองก็ไม่ได้ต่างไปจากเจ้าของผิวขาว
เพราะความอึดอัดคณินจึงสลัดกางเกงของเขาออก สายตาของขนุนจับจ้องร่างกายที่เคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกตื่นตัว หัวใจดวงเล็กเต้นแรงจนแทบนับจังหวะไม่ได้
แล้วมือหนาก็เข้าสัมผัสส่วนกลางลำตัวของขนุนอย่างระมัดระวัง หากแต่การกระทำเช่นนั้นมันเสียววาบไปถึงช่องท้อง และยิ่งต้องขบริมฝีปากแน่นมืออุ่นที่กำรอบแท่งร้อนกำลังรูดรั้งนวดเฟ้นขึ้นลง ความซาบซ่านเกิดขึ้นตรงปลายเนื้อร้อนบัดนี้กำลังชื้นแฉะด้วยมือหนาที่รูดขึ้นลง เจ้าของกายขาวถึงกับหุบขาเรียวกระตุกเสียวจนไม่รู้จะทำยังไง
ปากเล็กจึงต้องเผยอออก ครวญครางในลำคอหายใจทางปาก ขนุนไม่เคยรู้สึกดีเท่านี้มาก่อน มันดีเสียจนคนพูดจ้ออย่างเขาไม่มีเวลามาเพ้อรำพัน
ลำคอขาวที่เงยขึ้นปล่อยช่องว่างให้คนหมั่นเขียวฝังจูบหนักๆ ไปอีกหนึ่งครั้ง พร้อมลมหายใจอุ่นที่เป่ารดรับรู้ถึงความสะท้านของคนตรงหน้า คณินก็เช่นกันที่ตกบ่วงขนุนอย่างจังจนปีนขึ้นมาแทบไม่ไหว คนตรงหน้านั้นน่ารักจนคณินอดใจไม่กอดไม่ได้ เลือดลมในกายมันสูบฉีดพลุ่งพล่านไปหมด แม้กระทั่งส่วนกลางลำตัวก็แข็งขึ้นจนอยากแนบชิดกับคนตรงหน้าแทบคลั่ง
ส่วนนั้นของเขาจึงเข้าไปบดเบียดเสียดสีกับของขนุน ทักทายร่างกายตรงหน้าด้วยการรูดรั้งมันเข้าด้วยกันผ่านมือที่กอบกุมรวบไว้ สร้างความสะท้านจนไม่อาจหยุดเพียงเท่านี้
“อือ....อ้า..”
“ขนุน ตอบตามความจริง เราพร้อมที่จะมีอะไรกับพี่หรือเปล่า”เสียงหอบถามขึ้นดวงตาคมจ้องมองใบหน้าที่แดงเรื่อนัยน์ตาฉ่ำ
ขนุนพยักหน้าเอื้อมมือกอดร่างตรงหน้าแน่น“ผมอยากมีอะไรกับพี่ จริงๆ นะ หยุดกลางคันแบบนี้ไม่เอา”
“ใครบอกว่าพี่จะหยุดล่ะ”
“ถ้าพี่หยุด ผมจะขอแข็ง...ไปแบบนี้จนเช้าเลย”
“ใจกล้าเหลือเกินพ่อคนเก่ง”
คนถามหัวเราะหงึก ก่อนจะกอดกายคนตรงหน้าอีกครั้ง ทว่าสิ่งที่ชวนหงุดหงิดใจหลังจากนี้นั้นคือการที่คณินต้องการถุงยางและขนุนก็มีมันให้เขาโดยที่ไม่ต้องรื้อหาแถมเจลมาให้อีก 1 ขวด คุ้มโปรโมชั่นจนน่าจับตีให้ก้นลายด้วยไม้มะยม
“เรื่องถุงยางจากนี้เรามีเคลียร์กันนะครับ แต่ตอนนี้ขอลงทัณฑ์บนไว้ก่อน”
“เดี๋ยวครับ! ผมขอออนท็อป”ขนุนดันตัวคนตรงหน้าไว้ เมื่ออะไรๆ มันเริ่มไม่ใช่อย่างที่คิด
“ก็ลองล้มพี่ให้ได้ก่อนสิ”คณินไหวไหล่ ยอมนั่งให้ขนุนเข้ามากดเพื่อความเท่าเทียม
“ถ้าผมทำได้...ผมจะเป็นฝ่ายกินพี่”ท่าทางน่ารักพยายามเหี้ยมขึ้นจนคณินแอบขำ และยิ่งขนุนโผเข้ามาจะกดคณินให้ล้มแต่ใครมันจะให้กันง่ายๆ ขนาดนั้น และขนุนเองที่ถูกล็อกตัวเอาไว้ กลายเป็นขนุนถูกจับให้อยู่ในท่าควบตักหันหน้าเข้าหาคนที่ตัวโตกว่า
“ต่อให้บ้างก็ไม่ได้ เป็นพี่ต้องเสียสละมั้ย?”ขนุนหน้ามุ่ย
“เรื่องนี้ไม่จำเป็นครับ”คณินกระตุกยิ้ม
“แต่ผมทำได้”ขนุนพยายามจะเป็นฝ่ายนำ แต่แค่พยายามดันคนตรงหน้าก็ยากแล้ว มันเลยดูเก้ๆ กังๆ ไปหมดจนถูกติ
“ไม่เชี่ยวพอไปเรียนมาใหม่ครับ”คนตัวโตกว่ายักคิ้วเย้ย ก่อนจะจัดการกินคนตรงหน้าเป็นลำดับถัดไป โดยยึดลำตัวของขนุนไว้ แล้วค่อยๆ เลื่อนมือหนาผ่านแผ่นหลังขาวลงต่ำเข้ากอบกุมสะโพก แล้วค่อยๆ เลื่อนนิ้วเรียวผ่านรอยแยก ใช้เจลชโลมเล็กน้อยจนขนุนรู้สึกได้ถึงความเย็นวาบที่ค่อยๆ แทรกผ่านลึกไปตามจีบแน่นที่ขมิบรัดเพราะความไม่คุ้นเคย สองมือกอดกระหวัดลำคอคณินแน่น เผลอส่งเสียงครางต่ำสุดกลั้นหมดท่าจะต่อต้านด้วยบรรยากาศนำพา
คณินเองพยายามทำให้นุ่มนวลที่สุด หากแต่ช้าไปกว่านี้บางส่วนของเขาก็ทนรอไม่ไหวเช่นกัน จากปลายนิ้วที่ควานนวดไปรอบๆ จีบเล็ก ค่อยๆ ขยับเข้าออกช้าๆ เพื่อให้อีกฝ่ายคุ้นชินกระทั่งจุดสัมผัสบางอย่างที่ก้านนิ้วเน้นหนักกดโดน ความซาบซ่านก็พลันทำขนุนกระตุกเกร็งไปทั่วตัว แม้แต่ขนุนน้อยๆ ก็แข็งขืนจนบดเบียดหน้าท้องของคณินไปมา
คณินเองก็แทบจะทนไม่ไหว ยิ่งเห็นกายขาวตรงหน้าสั่นสะท้านก็ยิ่งอยากรุนแรงใส่มากขึ้นเท่านั้น คนตัวโตที่เริ่มหมดความอดทนจึงกดร่างขาวให้จมลงกับเตียงอีกครั้งแทรกตัวตัวเข้าหากลางตัวขนุน และแยกเรียวขาให้เปิดกว้างออกดันเข่าให้ยกสูงขึ้น ก้มลงจูบซับเบาๆ ไปที่หน้าผากขนุน ไล่ลงมาตรงเปลือกตา ปลายจมูก ริมฝีปากที่จูบอย่างดูดดื่ม ก่อนจะจูบซับมาตามลำคอ แผ่นอกราบและหยุดหยอกล้อยอดอกชมพูดที่แข็งขึ้น ในขณะที่เบื้องล่างกำลังจดจ่อและค่อยๆ กดแท่งร้อนส่วนปลายไปยังจีบเล็กที่ผ่อนคลายขึ้น คณินเข้าไปทีละน้อยจนกระทั่งแกนกายจมหายไป แม้ไม่ได้ทั้งหมดเพราะคนตรงหน้าตอดรัดเขาแรงมากจนน่าตกใจ
“ผ่อนคลายนะครับ พี่จะค่อยๆ ทำเบาๆ”
“อือ....อ๊ะ อ้า.....ครับ”
แม้จะตอบหากแต่สีหน้าของขนุนราวกับจะไม่ไหว และเมื่อคณินเริ่มขยับ ความเสียวซ่านก็แล่นพล่านไปทั่วร่างกายของทั้งสองอย่างไม่อาจหยุดได้ความรุนแรงเริ่มและเร่าร้อนเริ่มเผาให้ทั้งสองแทบหลอมรวมกัน เนื้อกระทบเนื้อสร้างเสียงหยาบโลนดังขึ้นภายในห้อง สอดประสานกับเสียงหอบหายใจถี่กระชั้นไปตามแรงสาวสะโพกควบหนักของอีกฝ่าย
“ผมจะไม่ไหวแล้ว ผมอยากปล่อย ฮึก!”
“พี่ยังกอดเราไม่อื่มเลย ไม่อนุญาตครับ”
“ฮึก อ้า!”
“เปลี่ยนท่าหน่อยมั้ย เผื่อจะดีขึ้น”
ขนุนถูกกล่อม และเหมือนถูกหลอกไปด้วย เมื่อตัวเองยอมคว่ำหน้าแอ่นสะโพกให้อีกฝ่ายขนุนกลับพบว่ามันเสียวสุดๆ จนเขาแทบจะกัดหมอนขาดเป็นรูอยู่แล้ว และมิหนำซ้ำมือหนาที่กอดขนุนอยู่ด้านหลังกลับเลื่อนลงมาเย้าหยอกแกนกายของเขาที่ทรมานจนแทบอยากจะปล่อยซะเดี๋ยวนี้ แต่ก็กลับถูกบังคับให้แข็งไว้จนปวดหนึบไปหมด
“พี่คณิน…..ใจร้ายอ่ะ”
“อยากปล่อยเหรอ?”
ขนุนพยักหน้ารัวๆ ทั้งๆ ที่หน้าแดงๆ ฝังอยู่บนหมอน จนคณินอยากจะแกล้งถึงได้รีบสาวสะโพกเข้าหาก้นขาวอีกครั้ง
“อื้อ...อ้า อ้า!”
“ขออีกนิดนะครับ แล้วเสร็จพร้อมกัน”
คนพูดก้มลงงับใบหูเล็กเบาๆ แล้วจูบไปทั่วแผ่นหลังเล็กที่สั่นเกร็งไปหมด ก่อนจะขยับแท่งอุ่นร้อนที่พร้อมจะปลดปล่อยกระแทกถี่กระชั้น พร้อมเอื้อมมือหนาเข้ารูดรั้งให้อีกฝ่าย ในที่สุดสองร่างก็ขับหลั่งทุกหยาดหยดแห่งความสุขออกมาพร้อมกัน ก่อนจะทิ้งร่างให้นอนกอดตระกองแนบชิดไม่ห่าง
แต่นั่นก็ไม่ได้ถึงความสุขทุกอย่างจะจบลง หากแต่มันเพิ่งเริ่มต้นกับพวกเขาต่างหาก
“ผมรู้สึกเหมือนเพิ่งจะเมาเลย”เสียงหอบหายใจหนักๆ ของขนุนเอ่ยขึ้น แล้วพลิกตัวหันหน้าเข้าหาอกกว้าง ช้อนหน้าแดงๆ ขึ้นมองคณินสายตาเขินๆ แต่โคตรมีความสุขไปให้ แต่ดูยังไงคณินก็ยังดูสดชื่นต่างจากขนุนลิบลับ
“ให้เมาตรงนี้ได้ แต่ที่อื่นห้ามพี่หวง ตอนนี้ตัวเราพี่แสดงความเป็นเจ้าของไปแล้ว”
ขนุนหัวเราะ“แบบนั้นก็อดไปดื่มกับเพื่อนสิ”
“ดื่มได้ แต่พี่ไปด้วย”
“จะให้ตามไปเฝ้าทุกที่เลย”พูดไปขนุนก็กอดใหญ่ๆ ไปยังคนตรงหน้า ตาปลือๆ แวววาวซะจนฉ่ำแล้วฉ่ำอีก แถมยังชอบซุกหน้าลงกับอกกว้างไม่ปล่อยคลอเคลียยิ่งกว่าแมวอ้อนขออาหาร
“กอดแน่นแบบนี้พี่หายใจไม่ออกพอดี”
“กอดแปลว่ารัก รักมากก็กอดมาก...”เสียงพึมพำยิ้มหวานอยู่คนเดียว อาการเหมือนคนที่กำลังจะเข้าสู่ห้วงนิทราเต็มที “พี่คณิน?”
“หืม จู่ๆ ก็เรียก มีอะไรครับ? ”
“ผมอยากบอกว่า วันนี้ผมมีความสุขมากเลย แม้จะเป็นวันที่พี่ต้องเจ็บตัว”
คณินหัวเราะ อดหมั่นไส้เลยต้องกอดตอบไปแน่นๆ แล้วหอมลงกลางหัวขนุนไปหนึ่งฟอด “พี่ก็มีความสุขมากเหมือนกันครับ ขอบคุณนะขนุน สำหรับความรักความเชื่อใจที่มอบให้กัน”
“ผมคงเกิดมาเพื่อรักพี่แน่ๆ ”
“เว่อร์ไป”
“.....”
“แต่มันก็อาจจะใช่ก็ได้”คณินตอบออกไปเสียงแผ่ว ทำให้เขานึกถึงเรื่องบังเอิญที่มีจริงระหว่างเขากับขนุน
“พี่คณินครับ”เสียงเรียกตาปลือ ยกมือขึ้นขยี้ตาตัวเองที่กำลังจะปิดให้ฝืนอีกนิด
“ว่า? ”
“ครั้งหน้า...ให้ผมเป็นฝ่ายทำบ้าง”
คำพูดที่เหมือนเลื่อนลอยออกมาจากปากของขนุนฟังดูอ้อนวอน ทำเอาคนฟังชะงัก
ตัวเท่าลูกหมาแต่ใจราชสีห์ไปอีก
“ก็ลองดูครับ ถ้าทำได้ล่ะก็”ประโยคที่คล้ายจะยินยอมแต่ก็คงจะเป็นแค่คำตอบปลอบใจ และเขาไม่ควรดับความฝันขนุน อยากคิดอะไรตามใจทุกอย่าง แต่จะทำได้มั้ยมันก็อีกเรื่อง และแน่นอนว่าใครจะไปยอมกันง่ายๆ
“.....”
“ขนุน.....ง่วงแล้วเหรอครับ”จู่ๆ เสียงจ้อก็ขาดหายไป คนเป็นห่วงเลยถามขึ้น
“อือ...”
“งั้นนอนเถอะ พี่ไม่กวนเราแล้ว”
“นอนด้วยกัน อย่าไปไหนนะครับ.....”เสียงพึมพำงึมงำอีกหลายๆ คำที่คณินแทบไม่ได้ยิน เพราะดูเหมือนขนุนจะง่วงจริง หลับจริงใส่เขาได้ทุกเมื่อ เพราะแบบนั้นคณินเลยเอื้อมมือดึงผ้าห่มคลุมตัวให้ขนุน อีกฝ่ายขยับตัวไปมาเล็กน้อย แต่ดูเหมือนมือที่กอดรั้งคณินเอาไว้คงจะไม่มีทางปล่อยง่ายๆ ไปแน่สำหรับคืนนี้
“ฝันดีครับ”
คนตัวโตทำได้เพียงราตรีสวัสดิ์แล้วรับกอดแน่นๆ จากขนุน คืนนี้แน่นอนว่าคณินคงต้องยอมเป็นตะคริวครึ่งซีกเพราะโดนกอดจนขยับตัวไปไหนไม่ได้อย่างแน่นอน
ติดตามตอนต่อไป >>>
----------------------------------------
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ เดี๋ยวจะอัปจนจบ ชัวร์ๆ ฝากน้องหนุนด้วยนะคะ
หลานฮวา