พิมพ์หน้านี้ - รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 28-01-2019 19:27:16

หัวข้อ: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 28-01-2019 19:27:16
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ




------------------------------------------

เหตุเกิดเพราะนิสัยแปลกๆ ของ 'ขนุน'
แปลกเพราะเวลาเมา เขาจะชอบ 'อุ้ม'
เมาครั้งล่าสุดก็ไปอุ้ม 'หมา'
แต่ทว่าอุ้มครั้งนี้ ใครจะรู้ว่า เจ้าของหมาน่าอุ้มกว่ากันเยอะ


**********
คณิน : ชื่อขนุนใช่มั้ยเรา?
ขนุน : ครับ ผมชื่อขนุน
คณิน : ชื่อน่ารักดี
ขนุน : คนก็น่ารักนะครับ

**************

เรื่องนี้เป็นนิยายสาย feel good  :-[ ขอเวลาสัก 5 นาทีลองอ่านดูนะคะ

หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ? ll อัปเดต 28/01/2562 ll
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 28-01-2019 19:33:26



ขนุนลูกที่ 1




   “ดีจังเลยนะ ต้ามีจ๊ะเอ๋ ทั้งสองคนดูมีความสุขกันทั้งคู่”

   “จู่ๆ ทำไมถึงเอาเรื่องนี้มาพูดอีก กูก็บอกไปตั้งหลายครั้งแล้วว่าถ้าอยากมีแฟนมึงก็ต้องจีบ จีบ จีบ จีบ ไม่ใช่มองตาแล้วความรักจะเข้ามาหามึงเองได้ สมัยนี้ใครเร็วใครได้มึงเข้าใจป่ะครับ”

   “ต้าไม่เข้าใจหรอก ว่าเรายังไม่เจอคนที่ใช่อ่ะ แม่บอกว่าถ้าเราใจเต้นกับใครถึงแม้จะไม่รู้จักกัน คนคนนั้นก็อาจเป็นคนที่ใช่สำหรับเราก็ได้ แต่ตอนนี้เรายังไม่เจอเลย เราต้องรออีกนานแค่ไหนเหรอ”

   “ถุย! ไอ้ขนุนเน่าเอ้ยยยย!”

   คนอยากมีความรักกำลังพล่ามด้วยแววตาเชื่อม พร้อมกับวางแก้วที่มีของเหลวสีน้ำตาลเข้มลงกับโต๊ะ คนรับฟังก็อยากจะตบกบาลเข้าให้ นิยามคนที่ใช่ของเพื่อนมันฟังดูน้ำเน่ายิ่งกว่าละครหลังข่าวเสียอีก

   “เพ้อให้พอ เพ้อจนจบปี 4 เลยมั้ยไอ้ขนุน มองความจริงบ้างเถอะพ่อคุณทูนหัวของบ่าว”

   “พูดแล้วก็ง่วง เราว่าจะขอกลับก่อน”คนพูดหน้ามุ่ย ก่อนยกมือมาขยี้ตาตัวเองคล้ายอยากจะล้มตัวลงนอนเต็มที จริงๆ ยังอยากอยู่ต่อ แต่คงเพราะเมื่อคืนนอนดึกด้วยเลยรู้สึกฝืนๆ

   “ให้กูไปส่ง”

   “ไม่ต้องเรากลับเองได้สบายมาก ไม่ต้องห่วงด้วย”มือเล็กโบกไปมาตรงหน้าปฏิเสธ

    แต่เพราะท่าทางแบบนั้นเพื่อนอย่างต้าที่นั่งพูดคุยด้วยถึงกับต้องถามบางอย่าง

   “ไอ้ขนุน มองมือกูแล้วบอกว่าตอนนี้กูชูกี่นิ้ว”สีหน้าจริงจังมองเพื่อนตาเขม็ง

   “ก็.....หนึ่งนิ้ว”

   “เออถูก แล้วนี่อ่ะ? ”

   “3 นิ้ว”

   “สามนิ้วน่ะมันมะเขือไอ้นิวไหม นี่มันขวดโซดาเว้ย! ”คนถามเหวี่ยงขวดสีใสที่หยิบมาทดลองสติของคนตรงหน้าไปไว้ด้านหลัง ส่ายหน้ากับการทดสอบที่ไม่ผ่านเกณฑ์ แล้วนั่งยืดไหล่ผายส่ายหน้าไปมา

   “อ้าวเหรอ มันมืดเลยมองไม่ชัด แต่ถ้าขนาดสามนิ้วใหญ่เท่าขวดโซดาคงต้องพานิวไปหาหมอแล้วนะ แหะๆ”

   “ไม่ต้องมาแหะๆ แล้วพูดนอกเรื่องเลย นี้เมาแล้วใช่ป่ะเนี่ย? ถึงว่ามึงดูเพ้อๆ ”

   “นินทาอะไร ได้ยินชื่อกูเมื่อกี้แว่วๆ ”

   “เปล่าไม่มี” คนตอบทำเสียงสูงขึ้นจมูก “กูกำลังเช็กอาการไอ้ขนุนอยู่ มันบอกจะกลับเองไม่ให้ใครไปส่ง กูก็กลัวใจไปก่อนว่ามันจะไหวไหม นี่ก็ครึ่งขวดไปแล้วมะ แม่งกินเข้มอย่างกับน้ำหวาน เห็นเงียบๆ แต่แดกเพียบสัดๆ ”คนบ่นย่นหน้านิ่วยกมือขึ้นขยี้หัวขนุน ทำเอาหัวสั่นหัวคลอนเป็นตุ๊กตาหน้ารถโดยที่เจ้าตัวไม่ได้ถือสา หากแต่ชินแล้วซะมากกว่า

   “ว่าไงไอ้ขนุน มึงไหวป่ะเนี่ย”นิวยื่นหน้ามาใกล้ตะปบมือไปที่ไหล่บางของเพื่อนรัก สูดกลิ่นแอลกอฮอล์ที่ขนุนกระดกเข้าไปวัดค่าดีกรีด้วยการคาดคะเน

   “ไหวดิ นี่ยังไม่เมาเลยกินไปไม่กี่แก้วเอง เรากลับเองได้ต้ากับนิวอยู่สนุกต่อเหอะ เมื่อคืนเผลอเล่นเกมโทรศัพท์ดึกเลยนอนไม่อิ่ม เดี๋ยวจะกลับไปนอนก่อน เพราะพรุ่งนี้ยังต้องออกไปซื้อของกันไม่ใช่เหรอ”

   เจ้าของดวงตากลมโตกะพริบตาปริบๆ ยกมือขึ้นเกาแก้มตัวเองที่เริ่มแดงเรื่อจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ ผงกหัวสองสามครั้งจนผมหน้าม้าเส้นเล็กละเอียดสีบลอนด์สว่างจากการทำสีผมด้วยแรงยุยงของต้าเพื่อเปลี่ยนบุคลิกกำลังกระเพื่อมเพราะไม่ได้จัดทรงเข้าที่

   ต้ายืนมองดูเพื่อนช่างเนียน เนียนแม้กระทั่งโกหกว่าตัวเองไม่ได้เมา จมูกเล็กๆ ขยับย่นใช้หลังมือขาวขยี้เบาๆ ก่อนจะยืนทรงตัวบนพื้นนิ่งๆ ฉีกยิ้มกว้างเห็นฟันหน้าเรียงสวยครบทุกซี่ แล้วกระชับสายกระเป๋าสะพายเฉียงเตรียมตัวกลับหอ

   “ให้กูไปส่งมึงก่อนดีกว่าแล้วกูค่อยย้อนกลับมา”

   “ต้าไม่ต้อง จ๊ะเอ๋ยังอยู่ต้าหายไปมันเสียมารยาทนะ อย่าห่วงเลยแค่นี้สบายมาก”คนที่ยืนเต็มความสูงแล้ว เต็มที่ได้แค่ระดับไหล่ของต้าที่เป็นเพื่อนร่วมหอพูดขึ้นนิ่มๆ จ๊ะเอ๋ที่พูดถึงคือแฟนของต้าที่กำลังจับกลุ่มพูดคุยอยู่กับเพื่อนผู้หญิงในร้านเหล้านั่งเล่นในคืนนี้
 
   “ไอ้ขนุนขอมือหน่อย”

   “นิวจะเอามือเราไปทำอะไร? ”ถึงจะสงสัยแต่ก็ยอมยื่นมือทั้งสองไปวางไว้บนฝ่ามือนิวอย่างว่าง่าย

   “ก็ดูว่ามึงหยิบของอะไรติดไม้ติดมือไปรึเปล่าน่ะสิ”

   “เราไม่ได้เอาอะไรไปเลยนะ ในกระเป๋าก็ไม่มี”ท่าทางจริงจังจับกระเป๋ารูปซิปเปิดให้เพื่อนดู

   “เออๆ ”

   สาเหตุที่เพื่อนต้องถามแบบนั้นไม่ใช่เพราะขนุนน้อยของพวกเขาเป็นพวกลักเล็กขโมยน้อยอะไรหรอก แต่เพราะเวลาขนุนเมามักจะชอบหยิบของแปลกๆ ติดมือไปโดยไม่รู้ตัว แต่ดูเหมือนครั้งนี้ทั้งต้าและนิวจะเช็กจนแน่ใจแล้วว่าเพื่อนของเขายังคงมีสติเกินครึ่งจึงปล่อยให้กลับหอไปก่อนได้

   มันเป็นเรื่องปกติที่สุดสัปดาห์ทั้งขนุน ต้าและนิวซึ่งเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะศิลปกรรมที่จะมาอาบแสงสีปาร์ตี้ก้งเหล้ากันที่ร้าน ‘ป๋าชุบ’ ใกล้ๆ กับมหาลัย พอสาแก่ใจกันแล้วก็พากันหิ้วกลับหอไปนอน  มีคนเคยเปรียบว่าขนุนเป็นดอกไม้บานในดงดอกงิ้ว ซึ่งเอาบุคลิกน่ารักน่าหยิกมาเทียบกับผองเพื่อนที่คบค้าอยู่ด้วย

   ถึงขนุนจะมีบุคลิกอ่อนยวบเป็นเต้าหูแต่ใจสู้คอแข็งไม่แพ้ชายฉกรรจ์ เพื่อนถึงไหนขนุนถึงนั่น ขอเพียงนอนต่อวันให้ได้ 10 ชั่วโมงก็พอ แต่ดูเหมือนวันนี้คนที่ขอตัวกลับก่อนเพราะบอกว่าง่วงเป็นขนุน ถึงจะชื่อว่าขนุนรูปร่างก็ไม่ได้อ้วนฉุจนกลิ้งแทนเดินได้

   ตรงข้ามที่ขนุนกลับมีสรีระที่สมส่วนไม่ถึงกับผอมแห้งจนเกินไป จับบีบจับกอดก็มีเนื้อหนังเต็มไม้เต็มมือ แม้ไม่ได้สูงใหญ่อย่างเพื่อนสองคนที่คบกันมาตั้งแต่ปี 1 แต่ก็ถือว่าเป็นมาตรฐานชายไทย แน่นอนนอนว่าความสูงที่ 170 ต้นๆ ดูจะไม่สมชายดังว่าหากเทียบกับนิวและต้าที่แตะ 180 อัปไปแล้ว แต่เรื่องหน้าตาขนุนก็ได้แม่มาเยอะ

   ใครบ้างจะไม่รู้จักดาราเก่าอย่างประภัสสร ที่ตอนนี้แม้จะลาจอแก้วมาเป็นแม่บ้านเต็มตัวก็ยังคงเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่มาก โดยเฉพาะในรุ่นแม่ๆ ทั้งหลาย

   ทั้งปากเล็กที่ใครๆ ก็คงจะคิดว่าแค่จะอ้าปากกัดซาลาเปาก็คงไม่ได้ แต่ขนุนก็สามารถงับไข่ต้มเข้าปากได้ทั้งลูกแถมเคี้ยวหน้าตาเฉยไม่สะทกสะท้าน ก็มีแต่จะติดคอให้เพื่อนวิ่งวุ่นหาน้ำมาล้างคอให้ ไหนจะยังดวงตากลมใสเหมือนจะดูเลื่อนลอยบ้างในบางที แต่ขอบอกว่าหากมองอ้อนใครทีไรใจเพื่อนอย่างนิวกับต้าเป็นอันต้องสยบให้ขนุนแทบทุกครั้ง เพราะแบบนี้แหละเพื่อนในคณะคิลปกรรมจึงเรียกต้าและนิวว่าเป็น 2 จตุรเทพผู้ปกปักรักษาต้นขนุน เพื่อไม่ให้ใครมาริอาจคล้องผ้าสามสีขลุกแป้งขูดหวยได้

   “เรากลับแล้วนะ ฝากบอกจ๊ะเอ๋ด้วยว่าวันหลังจะแก้ตัวใหม่”

   “กลับดีๆ ขนุน มีอะไรก็โทรมาเบอร์กู ไม่ก็ไอ้ต้าเลย”สองเพื่อนจตุรเทพโบกมือลามองส่งเจ้าของชื่อโลกจำจนสุดสายตา และแอบขมวดคิ้วสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าขนุนน้อยของพวกเขาแอบเดินเอียงไปหลายองศา

   ด้วยเหตุที่ว่าหอพักก็อยู่ไม่ไกลจากร้านเหล้าป๋าชุบ ขนุนเลยเลือกที่จะเดินทางไกลเป็นลูกเสือสำมะเลเทเมากลับไปแทน เจ้าของใบหน้าค่อนไปทางน่ารักมากกว่าจะพูดว่าหล่อเหลา กำลังเดินเลียบริมถนนไปตามเส้นทางที่คุ้นชิน อาจจะหลงซอยไปบ้างแต่ก็สามารถโผล่ออกมายังถนนเส้นหลักได้ก็นับว่าสัญญาณ GPS ในตัวยังดี

   กระทั่งเดินไปไม่ถึงไหน สายตาของขนุนที่กวาดมองทางก็สบเข้าให้กับบางอย่างที่คุดคู้งอตัวอยู่ริมฟุตบาท เสียงเท้าของขนุนที่ก้าวเข้าไปหาทำให้เจ้าสี่ขาสะดุ้งตื่นเงยหน้าไปมองมนุษย์แปลกหน้าทันที

   “มานอนทำไมตรงนี้ ไม่หนาวเหรอ”

   ขนุนจ้องมองสิ่งมีชีวิตตรงหน้าแถมยังนั่งกอดเข่าชวนคุยด้วยเป็นกิจจะลักษณะ ทั้งหัวเราะที่เห็นเจ้าสี่ขาตรงหน้าทำคิ้วขยับไปมาเอียงหัวซ้ายขวาราวกับรับฟังเขา ดูขบขันจนขนุนนั่งหัวเราะอารมณ์ดีเชียว




เช้าวันต่อมา

   ก๊อก ก๊อก!   

   “ไอ้ขนุนตื่นยังเปิดประตูดิ๊!”

   “.....”

   ดูเหมือนเสียงเรียกที่ยืนตะโกนอยู่หน้าห้องจะไม่เป็นผล นิวที่เคาะประตูหนักๆ เริ่มกดโทรศัพท์โทรหาเจ้าของห้องอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าห้าสายที่โทรเข้าไปไม่มีการกดรับ แม้คนที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องจะได้ยินเสียงเรียกเข้าที่ตัวเองโทรไปก็ตาม

   “มาแล้ว นี่กุญแจสำรองห้องไอ้ขนุน”ต้าที่เดินออกมาจากห้องตัวเองที่ห่างออกไปประมาณ 4 ห้องควงลูกกุญแจก่อนจะโยนให้นิวเป็นคนไขเข้าไป

   “นอนยันเที่ยงป่านนี้ไม่ลุกก็ตายคาห้องอ่ะ วันนี้ต้องออกไปซื้อของเตรียมค่ายอาสาอีก”เจ้าของใบหน้าคมคายเซ็ตผมมาพร้อมออกไปพบผู้คนบ่นกระปอดกระแปดเพราะความขี้เซาหรือเมาจนโงหัวไม่ขึ้นของขนุน

   บางทีบุคลิกภายนอกก็หลอกตาประชาชนอย่างที่เห็น อาทิเช่น ขนุน

   “ก็คงยังนอนอยู่อีกนั่นแหละ มึงก็รู้ว่าไอ้ขนุนนอนเยอะอย่างกับแมว”

   สองคนที่คุยกันค่อยๆ เปิดประตูเข้ามาและปิดลงตามปกติ ผ้าห่มที่คลุมโปงเป็นก้อนอยู่บนเตียงแถมยังเปิดแอร์ซะจนเย็นฉ่ำคงเดาไม่ผิดอย่างที่สองคนคิดไว้ ต้ายืนเท้าสะเอวส่ายหน้าหัวเราะคว้ารีโมทแอร์ที่วางอยู่ตรงโต๊ะอ่านหนังสือของขนุนมาปิดให้ ส่วนนิวก็เข้าไปกระตุกผ้าห่มตั้งใจเรียกเพื่อนอย่างขนุนให้ตื่นไปช่วยถือของ

   ทว่าทันใดนั้นกลับมีบางอย่างโผล่พรวดออกมาจากใต้ผ้าห่ม ทำเอานิวถึงกับผงะดีดตัวหนีจนสะดุดขาตัวเองล้มตึงก้นประแทกกับพื้นเสียงดังอย่างกับช้างล้ม

   ตึง!

   ส่วนต้าที่เห็นเหตุการณ์ก็อุทานสิงสาราสัตว์ออกมาต่อสู้เสียงลั่น

   “ไอ้เหี้ย!!!”

   ดูเหมือนเสียงที่ดังขึ้นทำเอาขนุนตกใจตื่น ถึงได้ดันตัวลุกขึ้นมาขยี้ตาดูเหตุการณ์นิ่วหน้าเล็กน้อยเพราะรู้สึกปวดหัวครึ่งซีก ผมเผ้าก็ดูชี้ฟูไม่สามัคคี เจ้าตัวเผลอเพิ่มความยุ่งเหยิงเข้าไปด้วยการเอามือมาเกาหัวตัวเองแกรกๆ อย่างสะลึมสะลือเป็นปกติของคนเพิ่งตื่นและแฮงค์เล็กน้อย แต่เพราะสีผมที่ดูสว่างราวกับแสงแดดยามเช้าภาพของคนตรงหน้าอย่างกับเทวดาน้อยๆ ที่ทำเรื่องปวดหัว

   “อ้าวต้านิว มาตั้งแต่เมื่อไหร่? ”

   “ไม่ต้องมาถามเลยไอ้ขนุน! นี่มึงเมาจนไปอุ้มหมาของใครกลับหอมาเนี้ย! ฉิบหายแล้ว เจ้าของไม่หากันตาเหลือกเลยรึไง เหี้ยเอ้ยเพื่อนกู!!!”

   มันคงจะดีกว่าถ้าเห็นเพื่อนหิ้วใครมานอนสักคน แต่ตรงหน้ากลับไม่ใช่ นี่มันหมาชัดๆ

   “หมา? ”ขนุนชะงักมือจิกผมค้างแล้วค่อยๆ หันไปสบตากับเจ้าหมาพันธุ์ชิบะตัวสีน้ำตาลที่นั่งลิ้นห้อยอยู่บนเตียงของเขาไม่หือไม่อือสักแอะ แถมเห่าไล่กันสักนิดก็ไม่มี หนำซ้ำยังเดินเข้ามาใกล้แล้วเข้าเลียหน้าเลียตาขนุนอย่างกับสายสัมพันธ์แน่นแฟ้น

   “หึ! ไหนเมื่อคืนมึงบอกพวกกูว่าไม่ได้เมา แล้วนี่เอาอะไรกลับมามึงดู! ”ขนุนตาถลึงหันกลับมามองหน้านิวกับต้าที่ดุยิ่งกว่าพ่อกับแม่เสียอีก

   “เรา เราไม่ได้อุ้มมา.....”เสียงเนิบช้าตะกุกตะกักไม่มั่นใจในความทรงจำของตัวเองทำเอาเพื่อทั้งสองต่างยืนกุมขมับกันถ้วนหน้า ทิ้งให้ไอ้ขนุนเพื่อนยากนั่งมองตากับเจ้าหมาชิบะที่ไม่รู้ว่าเข้ามาในห้องเขาได้ยังไง

   “กูว่าวันนี้ต้องเปลี่ยนแผนแล้วล่ะไอ้นิว ของเขิงไม่ต้องซื้อมันละ”

   “ทำไมอ่ะ? ”ขนุนขยับปากพูด ถึงเขาจะเพิ่งตื่นแต่ก็จำได้แม่นว่าวันนี้นัดไปซื้อของกับช้างเพื่อนที่คณะอีกคน

   “ยังจะถามว่าทำไมอีก ก็หาเจ้าของหมาก่อนไงไอ้ขนุน!”ด้วยความหมั่นไส้ ต้าถึงกับเดินเข้ามาผลักหัวตัวต้นเหตุที่ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ขนุนก่อเรื่อง

   ครั้งก่อนเมื่อเดือนที่แล้วก็ทำ ยังดีที่แค่เอาแสตนดี้พี่โป๊ปมาจากหน้าร้านสะดวกซื้อแถวปากซอย อายนิดหน่อยที่ต้องพาขนุนไปขอโทษขอโพยกันถึงที่ แต่โชคดีที่เด็กพาร์ตไทม์เป็นรุ่นน้องที่รู้จักเลยเข้าใจหัวอกพี่มันที่มีเพื่อนแบบนี้



   และในเวลาต่อมา แอ็กเคานต์ทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กของ 2 จตุรเทพก็ทวิตขึ้นโลกออนไลน์ พร้อมภาพถ่ายเจ้าสุนัขชิบะเพศผู้ตัวสีน้ำตาลอ่อนท้องขาว ที่กำลังนั่งลิ้นห้อยอยู่ในห้องของขนุนขึ้นโพสต์ โดยเจ้าของห้องกำชับไว้ว่า ห้ามบอกว่าคนที่อุ้มหมาตัวนี้มาคือใคร เพราะไม่มั่นใจว่าบางทีมันอาจจะเดินตามเขามาเอง

   นั่นคือคำแก้ตัวของขนุน ที่ในใจลึกๆ ก็ตะโกนอยู่ว่า.....เอ็งนั่นแหละตัวการไอ้ขนุน!
   แต่ในความคิดของต้ากับนิว ขนาดรูปปั้นเด็กยิ้มแต่งชุดไทยหน้าหอขนุนยังเคยอุ้มขึ้นห้องเลย นับประสาอะไรกับหมาตัวนึง ใครๆ เขาก็รู้กันหมดแล้วว่านิสัยขนุนเป็นอย่างไร

Twitter
New101 @Newww 1 ชั่วโมง
ฝากเพื่อนๆ ตามหาเจ้าของน้องหมาหน่อยครับ ขอโทษที่เพื่อนผมทำตัวไม่น่ารักแอบพามันมา #ขนุนอุ้มหมา #สุนัขหาย


ตาต้า @TATA 1 ชั่วโมง
เจ้าชิบะของใครหลังไมค์มารับกลับได้ครับ เพื่อนผมเมาเรื้อนพรากมันมา #ขนุนอุ้มหมา #สุนัขหาย   


   และภายในไม่กี่ชั่วโมงทวิตต์ของนิวและต้าก็ต่างได้รับการตอบรับจากเพื่อนในโลกออนไลน์เพื่อช่วยตามหาเจ้าของตัวจริง โดยติดแอชแท็ก #ขนุนอุ้มหมา แม้จะห้ามว่าไม่ให้ติดชื่อแต่ก็ติดแอชแท็กไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

   และมุมหนึ่งของห้อง ทว่าคนที่อุ้มหมามากลับได้แต่นั่งมองเจ้าชิบะสีน้ำตาลกินข้าวที่คลุกกับปลากระป๋องอย่างรู้สึกผิด

   เพื่อนทั้งสองถามหาที่มาของเรื่องที่เกิดก็ยังบอกไม่ได้เลยว่าเอาหมามาจากไหน แต่อาจเพราะสถานที่มันมืดและเลือนราง ขนุนเองก็เลยไม่สามารถบอกพิกัดได้ แต่จะเอาไปปล่อยทิ้งไว้ให้ตามหาเจ้าของเองก็ดูจะไร้ความรับผิดชอบเกินไปหน่อย

   ไหนๆ ก็มาอยู่ถึงในห้องเขาแล้วก็ต้องดูแลจนกว่าเจ้าของที่แท้จริงจะมารับกลับไปนั่นแหละ

   “อิ่มไหม ถ้าไม่อิ่มเดี๋ยวไปซื้อลูกชิ้นปิ้งมาให้ ขอโทษที่ไม่รู้ว่าแกมาอยู่ในห้องเราได้ไง”

   นิวหันไปมองตามเสียงพึมพำตรงมุมห้อง ก็เห็นขนุนคุยกับเพื่อนใหม่ราวกับคุ้นเคยแถมยังลูบหัวทุยๆ ของเจ้าชิบะที่เต็มใจหลับตาพริ้มราวกับมองขนุนเป็นเจ้าของ

   “น่าสงสาร.....”

   ต้าหันไปมองตามสายตาของนิวแล้วถาม“ขนุนเหรอ? ”

   “หมา!”

   “ก็เพื่อนใครล่ะว่ะ”

   “กูกับมึงนี่ไง มิน่าน้าสรแม่ไอ้ขนุนถึงมีเครื่องเซ่นให้พวกเราทุกเทศกาล ตั้งแต่เริ่มคบเป็นเพื่อนกับมันมากูก็เพิ่งจะรู้ซึ้งเอาวันนี้”

   “มึงเพิ่งจะรู้เหรอ”ต้าไหวไหล่กอดอกตัวเองมองขนุน ถึงยังไงสำหรับพวกเขา ถึงจะไม่มีของตอบแทนพวกเขาก็ยินดีดูแลขนุนให้อยู่แล้ว ใครมันจะไปทนไหวที่เห็นตาใสๆ แล้วไม่เข้าไปช่วยเหลือ ยิ่งมันอ้อนเอ่ยมาคำเดียวพวกเขาก็แทบจะเด็ดดาวมาให้

   ปกติชีวิตขนุนก็ดูแลตัวเองได้หมด ไม่ได้ถูกเลี้ยงมาแบบตามใจ แต่ค่อนข้างเอาใจใส่เสียมากกว่า หากอยู่กับขนุนนานๆ ก็จะรู้ว่าน้อยครั้งที่ปากจิ้มลิ้มนั่นจะหลุดคำสบถหยาบคาย หรือคำสมัยพ่อขุนรามออกมาให้ได้ยิน ต้ากับนิวก็เคยถามไปว่า เคยพูดกราดด่าใครด้วยคำหยาบบ้างไหม แบบสถุลสุดอะไรสุดจนลืมบ้านเลขที่

   ส่วนคำตอบที่แสนชื่นใจก็คือไม่ จนนิวกับต้าเกือบจะได้เห็นปีกใสๆ เป็นนางฟ้าตัวน้อยจากขนุนอยู่แล้วเชียว ถ้าหากขนุนไม่เอ่ยกับพวกเขาว่า

   ‘แต่เราก็ไม่รังเกียจที่เพื่อนจะพูดคำหยาบหรอกนะ เพราะเรารู้ว่าหาความสุภาพจากเพื่อนสมัยนี้ไม่มีแล้ว ต้ากับนิวข้องใจอะไรอีกถามเราได้นะ’

   ‘พวกกูควรถามให้มึงด่าอีกเหรอ’

   ‘บ้าเหรอ เราไม่ได้ด่า’

   ‘จ้า คุณขนุน’

   ความอึ้งครอบงำ บางครั้งก็เห็นเงาดำๆ อบอวลอยู่รอบตัวขนุนในบางที

   ตอนนั้นเหมือนนิวและต้าถูกตบหน้ากลางสีแยกเหม่งจ๋าย เหมือนจะโดนด่าแต่สีหน้ายิ้มละมุนดอกไม้บาน มันก็เลยทำให้พวกเขาโกรธขนุนไม่ลงจริงๆ ทุกอย่างจะดูซอฟลงเมื่อขนุนยิ้ม แม้แต่โลกก็จะละลายไปด้วย

   “แล้วต่อจากนี้จะเอาไงกันดีวะ ทั้งหมาทั้งคน”

   “มึงยังต้องถามกูอีกเหรอไอ้นิว”

   สองสายตาที่สบประสานมองหน้ากันอย่างรู้ใจ ต่างพ่นลมหายใจออกมาพร้อมเพรียงกันอย่างมิได้นัดหมาย

   จะทำยังไงได้ก็ในเมื่อขนุนอุ้มหมามาแล้ว ก็ต้องหาเจ้าของน่ะสิ!

   แต่เจ้าของเป็นใครก็ยังไม่มีใครรู้เบาะแส









----------------------------------

ฝากเรื่องใหม่ไว้พิจารณาด้วยนะคะ ผิดพลาดอย่างไรก็ขออภัยด้วย
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ :กอด1:

หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ? ll ขนุนลูกที่ 1 *อัปเดต 28/01/2562 ll
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 28-01-2019 23:04:20
 :laugh:


 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ? ll ขนุนลูกที่ 1 *อัปเดต 28/01/2562 ll
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 29-01-2019 00:24:47
 :mc4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ? ll ขนุนลูกที่ 1 *อัปเดต 28/01/2562 ll
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 29-01-2019 11:58:52
ขนุนน้อยยยย
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ? ll ขนุนลูกที่ 2 *อัปเดต 29/01/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 29-01-2019 17:30:24

ขนุนลูกที่ 2



   เพราะนิวและต้าต่างเป็นที่รู้จักของคนในคณะจึงไม่แปลกที่โลกออนไลน์ที่เพียงดีดตัวอักษรใส่ลงไปก็ทำให้เหล่าสาวกที่ติดตามนิวต้าทราบข่าวว่าในช่วงเวลาของเขาทั้งสองกำลังเกิดอะไรขึ้นบ้าง
 
   คงไม่แปลกที่ทั้งสองจะเป็นที่รู้จักเพราะ 1 ในนั้นเป็นถึงเดือนคณะ ถ้าหากลงแข่งเวทีเดียวกันรับรองว่าความหล่อเหลานั้นกินกันไม่ลงทีเดียว

   แต่เพราะต้าเจ้าของหน้าคมคายไม่สนใจประกวดจึงไม่ได้ขึ้นเวทีคัดตัวเดือนคณะกับเขาด้วย จึงมีแต่นิวที่ถูกรุ่นพี่ในตอนนั้นคะยั้นคะยอเข็นก้นให้ขึ้นเวทีจนคว้าตำแหน่งเดือนคณะมาได้ จนแล้วจนรอดก็สละสิทธิ์ในรอบประกวดเดือนมหาลัยเพราะดันเกิดอุบัติเหตุขาแพลงตอนเล่นบอลก่อนงานประกวดในครั้งนั้น

   ทางเดินที่ทอดยาวเชื่อมอาคารหลังใหญ่เข้าด้วยกัน หากมองจากไกลๆ ก็จะเห็นว่าตอนนี้ระหว่างกลางของนิวและต้าเกิดหลุมอากาศเพราะความสูงของขนุนที่ไม่เสมอกับเพื่อน อีกทั้งเพราะขาที่สั้นกว่าความเร็วในการเดินเห็นจะต่างกัน แต่ขนุนก็ชินแล้วที่จะต้องเดินเร็วเพื่อตามให้ทันเพื่อนทั้งสองด้วยขาที่สั้นกว่าเล็กน้อย
   
   ผ่านมาหนึ่งวันแล้วกับเหตุการณ์เมื่อวานที่ขนุนไปอุ้มหมาของใครกลับมาด้วยความมึนเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ตอนนี้ยังคงตามหาเจ้าของสุนัขอย่างแข็งขัน แต่ทว่าวันนี้ขนุนมีเรียนเช้าจึงต้องเอาเจ้าชิบะที่ไม่รู้แม้แต่ชื่อเรียกไปฝากป้าใต้หอให้ช่วยดูไว้ก่อน และหากมีคนมาถามหาก็ขอร้องไว้ว่าให้รีบติดต่อมาที่เบอร์ของขนุนตามที่จดไว้ให้

   ตอนแรกขนุน นิวและต้าสันนิษฐานว่าเจ้าหมาตัวนั้นอาจจะโดนทิ้งเพราะไม่มีปลอกคอ แต่หมาพันธุ์ดีราคาแพงแบบนั้นใครมันจะทิ้งได้ลงคอ ทั้งความสะอาดและการดูแลขนเห็บหมัดแทบจะไม่มีให้เห็นบ่งบอกว่าได้รับการใส่ใจ กลิ่นแชมพูอ่อนๆ จากเจ้าชิบะก็เป็นเครื่องยืนยันได้ดีว่าคงไม่ใช่การถูกทิ้งอย่างที่คิด

   ขนุนก็กลุ้มใจเหมือนกันที่ตามหาเจ้าของหมาไม่ได้สักที เป็นห่วงว่าเจ้าชิบะที่เริ่มตาเศร้าๆ กำลังคิดถึงเจ้าของของมันรึเปล่า ข้าวก็เริ่มทานน้อยเล็มเลียเหมือนแมวดมมากกว่าจะกิน เพราะที่บ้านของขนุนก็เคยเลี้ยงหมาบ้านพันธุ์ไทยอยู่เหมือนกัน มันทั้งซื่อสัตย์และรักเจ้าของสุดหัวใจ คนในบ้านออกไปไหนก็จะเดินตามไปส่งจนถึงประตูรั้วมองดูสุดสายตา พอคนกลับมาก็กระดิกหางดีใจกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขราวกับห่างหายกันไปแรมปี ทั้งที่บางครั้งแค่ออกไปซื้อของแค่หน้าปากซอย

   เพราะอย่างนั้นขนุนเลยไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะหาเจ้าของให้เจ้าหมาตัวนั้น แต่ด้วยหน้าที่ของเขาแล้วยังไงก็ต้องมาเรียน แต่ก็ยังคงคอยชะเง้อหูฟังตามอง เผื่อว่าข่าวจากนิวกับต้าจะบอกได้ว่าเจ้าของหมาเป็นใคร

   แต่ดูเหมือนว่าทวิตเตอร์ที่ต้ากับนิวลงไป สิ่งที่ดูจะทำให้ทุกอย่างร้อนเป็นไฟคงจะไม่พ้นแฮชแท็ก ขนุนอุ้มหมา ที่ตอนนี้เดินไปไหนมาไหนคนในคณะก็เรียกขนุนเป็นชื่อขนุนอุ้มหมากันไปหมดแล้ว

   “เมื่อวานเห็นทวิตเตอร์ของพวกมึงแล้ว ตกลงเจอเจ้าของหมารึยังวะ”คนที่เดินเข้ามาทักทายเป็นคนที่ร้อยล้านเห็นจะเป็นแจ็กเพื่อนร่วมคณะ ที่มีบ้างบางครั้งที่ชักชวนกันไปร้านเหล้า นั่งกินนั่งดื่มพูดคุยกันบ้างในบางโอกาส แจ็กค่อนข้างเป็นที่รู้จักของเด็กปี 1 เพราะเป็นเฮดว๊ากที่เข้มได้ใจจนกาแฟคั่วบดเรียกพ่อ

   “ยังไม่เจอ ไม่เห็นมีใครมาแสดงตัวเลย”ต้าเป็นคนตอบแล้วหันไปมองขนุนที่ก้มหน้ากดโทรศัพท์ตัวเอง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองแจ็ก

   “ฝากแจ็กด้วยนะ เผื่อว่าบางทีอาจจะมีรุ่นน้องหรือรุ่นพี่ที่รู้จักเขาเป็นเจ้าของ เราอยากเจอเจ้าของหมาเร็วๆ สงสารมัน คงคิดถึงเจ้าของแล้ว”

   “เออได้ ไว้กูจะลองช่วยหาให้อีกแรง วันหลังมึงก็อย่าอุ้มอะไรแปลกๆ เข้าห้องอีกล่ะ”

   “อืม”

   ก่อนไปแจ็กก็เอื้อมมือมาดีดหน้าผากขนุนอย่างขบขัน ตบไหล่ต้าเบาๆ สองสามทีแล้วโบกมือลาไป

   “.......”

   “เจ็บอ่า”คนถูกดีดหน้าผากยกมือขึ้นลูบตรงที่โดนดีด รอยแดงๆ โผล่ให้เห็นเพราะขนุนเป็นคนผิวขาว อย่าว่าแต่ความเห็นใจ แม้แต่คำปลอบโยนก็ไม่ได้จากเพื่อนทั้งสอง แถมยังโดนผลักหัวอย่างหมั่นไส้จาก 2 จตุรเทพเพื่อนซี้ไปคนละทีก่อนที่จะนิวกับต้าจะเดินลิ่วเข้าห้องเรียนไปก่อน

   “รอด้วยดิ!”

   ขนุนไม่ได้คิดโกรธเคืองอะไร เพียงแต่แอบมุ่ยหน้าเล็กน้อยแล้วรีบเดินตาม



   จบคลาสช่วงเช้าด้วยการที่ขนุนแอบหลับในห้องเป็นพักๆ ไม่รู้เพราะแอร์มันเย็น อาจารย์สอนน่าเบื่อ หรือนอนไม่เต็มอิ่มกันแน่ แต่อาจจะเป็นอย่างหลังเพราะเมื่อคืนเขาแทบจะไม่ได้หลับตานอนสนิทสักเท่าไหร่นัก เพราะเจ้าชิบะที่กระโดดขึ้นลงบนเตียงของเขา แถมยังเห่ากระทั่งแมลงตัวเล็ก และที่สำคัญขนุนยังต้องจัดการเรื่องการขับถ่ายของเจ้าชิบะตัวนั้น

   จะเรียกว่ากรรมตามสนองก็คงจะไม่แคล้ว

   “ตอนเที่ยงพวกกูจะไปซื้อของกับพวกไอ้ช้าง มึงจะไปกับพวกกูด้วยไหม หรือจะกลับไปดูหมาก่อน”

   “เราอยากไปด้วยนะนิว แต่ว่าคงต้องกลับไปดูหมาอ่ะ จะพาจูงเดินแถวๆ ทางไปร้านป๋าชุบ เจ้าของอาจจะอยู่แถวนั้น”

   “ตามใจ งั้นกูกับไอ้ต้าจะไปกับพวกไอ้ช้าง เย็นๆ เสร็จแล้วเดี๋ยวจะแวะไปที่ห้องมึงก็แล้วกัน”

   สามหนุ่มคุยกันหน้าห้อง แต่จู่ๆ ก็มีเสียงเรียกดังมาจากด้านหลังและวิ่งเหยาะเข้ามาทักทาย เจ้าของร่างสูงไว้ผมยาวแต่รวบผูกไว้ด้านหลังหน้าตาไว้เคราเป็นสไตล์ ถึงแม้จะยืนหันหลังให้ก็ทักไม่ผิดคน

   “ไอ้นิวไอ้ต้าขนุน!”

   เหมือนมีสิทธิพิเศษอยู่ในคำทักทาย ทุกคนต่างมีไอ้นำหน้าชื่อ แต่ขนุนกลับถูกยกเว้น ดูเป็นสองมาตรฐานที่เพื่อนๆ ก็ต่างยอมรับ จะเรียกว่าไอ้ขนุนกับหน้าตาน่ารักแบบนั้นก็เห็นจะใจไม่กร้านพอจะพูดใส่คนตัวเล็กกว่า

   “เออมึงมาพอดีเลยไอ้ช้าง เดี๋ยวกูกับไอ้นิวจะไปกับพวกมึงสองคน งบที่ขอทางคณะไว้สำหรับซื้อของออกค่ายสัปดาห์หน้าอยู่ที่มึงใช่ป่ะ? ”

   “พวกมึง กูมีเรื่องจะบอกว่ะ”ท่าทางละล่ำละลักของช้างดูกระสับกระส่าย

   “มีอะไรเหรอช้าง ดูแปลกๆ ปวดหนักเหรอ? ”ขนุนช่างสังเกตเมื่อเห็นว่าเพื่อนดูสีหน้าแปลกๆ

   “ไม่ช่ายยยย! คืองี้ว่ะ พอดีเงินส่วนที่ต้องซื้อของจิปาถะ พวกกูไปคำนวณแล้วมันไม่พอ ยังขาดอีกประมาณ 4,000 กว่าบาท แต่จะให้พวกเราออกกันเองมันก็เกินไป เลยมาปรึกษาว่าจะทำไงกันดี โครงการก็อนุมัติไปแล้วจะไปขอเพิ่มก็จะถูกอาจารย์แหกหน้ากลับมาอ่ะดิ”

   “อ้าวเห้ย! แล้วจะเอาไงล่ะทีนี้ จะซื้อแบบประหยัดมันก็จะกลายเป็นขาดแคลนกันไปอีกลำบากสัดๆ อีก พวกปากกากระดาษ อุปกรณ์ต่างๆ โห่ววววว!”

   ตอนนี้ดูเหมือนเรื่องปวดหัวจะแวะเวียนมาทักทายเหล่านักกิจกรรมของคณะอีกเรื่องหนึ่งแล้ว ความหมา(ของขนุน)ไม่ทันหายความขัดสน(ของคณะ)ก็เข้ามาแทรกอีก

   เวลานั้นความเงียบและตึงเครียดกำลังครอบงำ ต่างคนก็ต่างมองหน้าเผื่อว่าจะเจอทางออกที่สดใส

   “เอ้อ! เอางี้ไหม”

   จู่ๆ ความเงียบก็ถูกทำลายด้วยเสียงของช้างที่เสนอความคิด ท่าทางไอเดียบรรเจิดทอประกายอยู่ในแววตาของช้าง

   “เอาอะไรของมึง รีบๆ พูดมาให้ไวกูใจร้อน”นิวพูดขึ้น

   “พวกเราก็ไปขอรับบริจาคดิวะ เด็กในมหาลัยมีตั้งหลายคณะ มีเป็นพันๆ คน คนละห้าบาทสิบบาทเดี๋ยวมันก็ได้เอง”

   “มึงพูดเหมือนง่าย แต่ละคนกว่าจะควักเศษเหรียญออกมาหยอดกล่องได้ก็คิดแล้วคิดอีก ดูอย่างครั้งก่อนที่ขอบริจาคซื้อของไปให้เด็กบนดอยดิ ยากสัด! ยิ่งไปขอแบบฟรีๆ ได้โดนด่าตายห่าเลย”ต้าค้านขึ้นเมื่อมองไม่เห็นว่าจะทำได้

   “นั่นสิช้าง จะไปขอแบบฟรีๆ คนเขาจะไว้ใจให้เหรอ เขาอาจจะคิดว่าเราหลอกเอาตังค์ไปสุรุ่ยสุร่ายก็ได้นะ หน้าตาช้างก็ดูไม่น่าไว้ใจอ่ะ”

   “เอ่อขนุน มึงหลอกด่ากูป่ะ?”คนถูกชมตรงๆ หน้านิ่งไปครู่นึง

   “เปล่า เราไม่ได้ว่าช้างเลยนะ”พูดไปก็ยิ้มกลบเกลือน ต้ากับนิวถึงกับเอามือป้องปากเพื่อไม่ให้หลุดขำ

   “แล้วไป แต่เรื่องบริจาคใครว่าจะขอกันฟรีๆ เราก็หาอะไรทำแลกเงินดิ”

   “ดนตรีเราเล่นไม่เป็นนะ”ขนุนส่ายหน้า

   “กูก็ไม่เป็น”นิวถอนหายใจ

   “กูตีฉาบเป็น อย่างอื่นอย่ามาถาม กูไม่ใช่สายดนตรี”

   “กูก็คิดว่าดนตรีมันล้าสมัยไปแล้วเหมือนกัน มันไม่ดึงความสนใจคนว่ะ ใครๆ เขาก็ทำกันเกลื่อน”ช้างกอดอกมองไปรอบๆ ตัว 180 องศาจนกระทั่งมาหยุดสายตาที่ผู้ชายหน้าขาวๆ ตากลมๆ ตรงหน้าที่กำลังควักขนมเวเฟอร์ห่อเล็กห้าบาทออกมาจากกระเป๋าแล้วฉีกกินแก้หิวก่อนจะถึงมื้อเที่ยง

   “ช้าง? มองเราทำไมอ่ะ ขนมเลอะปากเหรอ”หลังมือขาวปาดไปทั่วปาก แถมยังหันไปถาม 2 จตุรเทพที่ช่วยกันดูให้เป็นภาพที่ทำให้ช้างยืนมองตานิ่งเป็นปลาน็อกน้ำ

   นี่ขนุนมันมีเพื่อนหรือมีพ่อกับแม่วะ ช้างคิดในใจแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา

   “กูนึกออกแล้วว่าเราจะทำยังไงให้ได้เงินเยอะๆ ”

   “ทำไงวะ?”

   “หึ! ก็ใช้ขนุนอุ้มหมา ให้เป็นประโยชน์ดิวะ”

   “หมายความว่าไงไอ้ช้าง มึงอธิบายดิ๊”ต้าขมวดคิ้ว ไม้แพ้คนอื่นๆ ที่สงสัยในความคิดบรรเจิดของช้าง แล้วเกี่ยวอะไรกับขนุนของพวกเขา

   “ฟรีฮัก”เจ้าของไอเดียร์ยิ้มสุดมุมปากพร้อมกับยื่นแขนไปจับไหล่ขนุนไว้แน่นแล้วจ้องตา “ขนุน.....ช่วยไปฟรีฮักรับบริจาคเงินเพื่อคณะเราหน่อยได้ไหม”

   “ไม่ได้/ไม่ได้”นิวต้าที่ยืนอยู่ซ้ายขวาช่วยกันปัดมือของช้างออกจากไหล่ขนุน แถมยังเอ่ยตอบพร้อมเพรียงกันอย่างไม่เห็นด้วย

   “ทำไมวะ ดีออกจะตาย ตอนนี้ใครๆ ก็รู้จักขนุนอุ้มหมา ถ้าหากเอาชื่อเสียงของมันไปช่วยหาเงินนิดหน่อยเอง ไม่ดีเหรอที่จะเรียกคนมาบริจาคได้เยอะๆ น่ะ”

   “มึงคิดน่ะถามเจ้าตัวแล้วรึยัง เขายินยอมหรือเปล่า”นิวหันไปมองขนุนที่เลียบปากแผล็บๆ “ว่าไงขนุน มึงเอาไง ไม่เต็มใจก็ปฏิเสธได้ ตัวมึงใจมึงลองคิดดู”

   ทุกคนหยุดนิ่งมองดูขนุนที่ไม่ทันจะคิดก็ตอบออกไปซะแล้ว

   “ก็ได้ เรายังไงก็ได้”แถมยังยิ้มรับเสียดิบดี แม้มีช็อกโกแลตติดฟันก็ยังดูน่ารักน่าหยิก

   “มึงเอาจริงดิไอ้ขนุน ถามจริงนี่คิดยัง?”ต้าถามย้ำราวกับมองหาเหตุผลจากเจ้าของนัยน์ตาสดใสนั่น

   “ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย เราไม่ได้เสียหายสักหน่อย จะได้ถือโอกาสนี้ตามหาเจ้าของหมาเลยด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกตั้งสองตัว ไม่คิดว่ามันโอเคเหรอ”

   “Yessssss! วู้ววววว!” ผู้ที่ถูกสนองความคิดกระโดดดีใจเด้งเป้าตัวลอย “ขอบคุณว่ะขนุน มึงใจหล่อมาก แม้หน้าตาจะน่ารักก็เหอะ เดี๋ยวกูจะเอาเรื่องนี้ไปบอกกับพวกที่เหลือพร้อมส่งเรื่องถึงอาจารย์ แล้วกูจะโทรมานัดเวลา”

   “วันไหน?”

   “จะรอช้าอยู่ทำไมล่ะ ก็เย็นนี้เลยดิ!”


   
   ตอนนี้เป็นเวลาที่ทุกคนกำลังลุ้นอยู่ว่าความคิดของช้างมันจะโอเคจริงไหม ก็เหลือแต่ขนุนที่จะต้องไปยืนอยู่กลางลานกิจกรรมที่ส่วนใหญ่มักจะมีนักศึกษาชวนกันไปนั่งอ่านหนังสือ ฟังเพลง พูดคุย กินขนมกันเยอะบริเวณนั้น ดูเหมือนกำลังใจที่มาก็จะขาดไปไม่ได้นั่นคือนิว ต้า ช้าง และคนอื่นๆ อีกสองสามคน และนอกเหนือจากนั้นก็มีแฟนของต้าคือจ๊ะเอ๋ที่อยู่คณะอักษรมาเป็นพี่เลี้ยงให้ขนุนด้วยในวันนี้ แถมเธอยังบอกว่าจะให้เพื่อนเธอที่แอบมันเขี้ยวขนุนมานานมาฟรีฮักขนุนให้หนำใจ

   พูดแล้วคนฟังก็ถึงกับยิ้มเหงื่อตก

   แต่ที่กลัวไปกว่านั้นคือ จะมีใครอยากมาฟรีฮักขนุนรึเปล่านี่สิ

   “ป้ายเสร็จแล้ว ขนุนเอาไปแขวนคอแล้วยืนอยู่เฉยๆ ยิ้มกว้างๆ กับหมาหาเจ้าของก็พอแล้ว”

   “ช้างแน่ใจนะว่ามันได้ผล”ขนุนถามย้ำ ตอนนี้เขาเองมากกว่าที่รู้สึกไม่มั่นใจ แต่ตอนกลับไปเอาเจ้าชิบะก็อาบน้ำมารอบนึงแล้ว กลิ่นตัวก็แทบจะไม่มี มีแต่กลิ่นสบู่ที่หอมอ่อนๆ เพราะขนุนไม่ชอบใส่น้ำหอม

   “เออนา พวกกูมั่นใจว่ามึงทำได้ ไปเลยเพื่อนเดี๋ยวพวกกูช่วยถือกล่องบริจาคกันเอง”

   ดูเหมือนภาระที่หนักหนาค่อยๆ กดทับลงมาบนหัวของขนุน

   “ไปกันยัง? ”นิวถามเรียกความพร้อมแล้วตบไหล่ขนุนเบาๆ อย่างให้กำลังใจ พวกกับเพื่อนที่ยื่นมือเข้าขยี้หัวทุยๆ ให้กำลังใจเช่นกัน

   “พวกมึงไปก่อน เดี๋ยวกูไปคุยโทรศัพท์แป๊บ”เป็นต้าที่ชี้มายังหน้าจอโทรศัพท์ที่สว่างวาบขึ้นก่อนจะขอตัวเดินไปคุยให้ห่างจากเสียงเจี๊ยวจ๊าวของสถานที่แห่งนี้

   “อื้ม งั้นพวกเราไปกัน!”

   ช้างนำทัพพร้อมกับโทรโข่งหนึ่งอันในมือ เสียงปรบมือเรียกความสนใจของเพื่อนที่ทำงานเป็นทีมเรียกได้ว่ามืออาชีพในการบากหน้าขอบริจาคเป็นอย่างมาก ขนุนเองเมื่อเห็นทุกคนเต็มที่ ตัวเองก็เต็มที่ไม่แพ้กัน ถึงกับฉีกยิ้มตั้งรับไว้เสียแต่เนิ่นๆ พร้อมกับจูงเจ้าหมาชิบะที่เดินตามเขาราวกับขนุนกลายเป็นเจ้าของไปแล้ว

   เขากระตุกเชือกเบาๆ บอกให้เดินก็เดิน แถมพอบอกให้นั่งใกล้ๆ ที่ขนุนยืนก็ดันทำตามได้อีก
 
   สงสัยถูกฝึกมาด้วยแล้วแน่เลย เจ้าของคงรักมาก

   “สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคน วันนี้พวกเราชาวศิลปกรรมมาขอรับบริจาค เพื่อเป็นเงินสมทบทุนค่ายพี่น้องสร้างรักที่จะไปร่วมกันเป็นจิตอาสาซ่อมแซมบ้านของพี่ ป้า น้า อาทางภาคใต้ที่เกิดผลกระทบจากพายุ! ”ช้างตะเบ็งเสียงแปดหลอดผ่านโทรโข่งที่ดังก้อง เรียกกลุ่มคนให้หันมาสนใจได้เป็นอย่างดี ก่อนจะต่อความว่า

   “เพื่อเป็นการขอบคุณน้ำใจของพี่น้องชาว มอM พวกเราจึงคัดมาแล้วสำหรับสิ่งตอบแทนในวันนี้!!!”

   และดูเหมือนเสียงมันจะดังขึ้นไปอีกเป็นสองเท่า ขนุนที่ยืนหลบอยู่หลังช้างเริ่มใจเต้นตึกตักขึ้นมาราวกับต้องขึ้นเวทีประกวดอะไรสักอย่าง

   “สิ่งตอบแทนก็คือ! เรามีบริการฟรีฮักจากขนุน มาร่วมกิจกรรมด้วยในครั้งนี้ เชิญขนุนอุ้มหมา!!! ออกมาได้เลยครับ!!!”

   ยิ่งเสียงดังอย่างกับจะไปฆ่าใครตายของช้างดังเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่ ความสนใจก็หันมามองเกือบจะหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ และทันทีที่ขนุนก้าวออกมา สายตาที่มองมาก็เกิดประกายรอยยิ้ม บ้างก็ขบขัน ซุบซิบพูดคุยกันแล้วชี้ชวนให้มองไปในหน้าจอโทรศัพท์

   ก็แน่ล่ะขนุนดังข้ามคืนเพราะต้าและนิวเชียว ตอนนี้ใครบ้างจะไม่คุ้นหูหรือรู้จักขนุนอุ้มหมา

   “อย่ายิ้มอย่างเดียวนะครับ มารับฮักจากน้องขนุนหน่อยเร็วววว!”

   “วู้ววววว!”

   เสียงคอรัสขานรับได้จังหวะจนทุกอย่างดูสนุกไหลลื่น ขนุนไม่ได้รู้สึกเลยว่าตอนนี้ตัวเองต้องแบกหน้าที่บางอย่างอยู่ แต่กลับรู้สึกว่าเขามีคนคอยสนับสนุนและเป็นกำลังใจอยู่เบื้องหลัง อีกทั้งจังหวะนี้กลับมีเพลง คุ้นหู แต่เนื้อเพลงไม่เหมือนเดิมให้ขนุนได้เขินเล่นระหว่างรอคนใจกล้ามาเปิดฮักแรกของขนุน

   “ขนุนน่ารัก คึกคักเวลาเมาเล่น เอิ้วๆ ขนุนตัวเป็นเป็น เวลาเมาเล่นน่ารัก น่ารัก!”

   เพลงยอดฮิตที่ติดโพลตลอดกาลในวงวารของนักเรียน นักศึกษา เวลานี้ก็นำมาร้องเป็นเพลงเพื่อเรียกคะแนนให้ขนุนโดยเฉพาะ

   ใครฟังก็ต่างหัวเราะชอบใจ หันไปมองเด็กศิลปกรรมที่ทำเสียงครึกครื้น แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าพอที่จะมาฟรีฮักน้องขนุนที่ยืนเก้อรออยู่กับเจ้าหมาชิบะที่นั่งลิ้นห้อยเรียกคะแนนสงสาร

   แต่กลับมีบางคนลุกขึ้นมาหยอดกล่องบริจาคแล้วบ้างบางส่วน ก็นับว่าเวลาไม่ได้เสียเปล่าจริงๆ

   และระหว่างที่ยืนรอฟรีฮักอย่างว่าง่าย สายตาทั้งสาวๆ และหนุ่มๆ ก็ต่างมองขนุนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ บางคนเคอะเขินเกินกว่าจะเข้ามาฟรีฮัก เพียงแต่ขอเข้ามาจับมือถ่ายรูปบ้างแล้วก็เดินกลับไป แค่นั้นขนุนเองก็กลับยิ้มแก้มแทบแตก จนก้อนแก้มเปลี่ยนเป็นสีแดงจางๆ ด้วยความสนุก   

   ขณะที่ทุกอย่างกำลังไปได้ดี มีมากที่ขอเข้ามาจับมือขนุนและก็มายืนแซวเรื่องอุ้มหมา บ้างก็เป็นรุ่นพี่ในคณะที่แวะเวียนมาร่วมด้วยแล้วจากไป อีกทั้งรุ่นน้องก็ใจดีถ่ายวิดีโอให้แฉถึงตัวจริงฉายา ขนุนอุ้มหมา ว่าน่ารักไม่แพ้หมาที่ยืนอยู่ข้างๆ

   “อดทนนิดนึงนะ เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว บางทีเจ้าของแกอาจจะมารับแกเร็วๆ นี้ก็ได้”ขนุนหันไปพูดกับเจ้าหมาชิบะที่กระโดดปีนขาของเขาเล่น เหมือนมันเริ่มอยากจะเป็นอิสระเต็มที อยากจะไปวิ่งเล่นใช้พลังงานเหลือทนแล้ว

   และตอนนั้นเอง ต้าที่ขอตัวไปคุยโทรศัพท์ก็โผล่หน้ามา ท่าทางอารมณ์ดีเหมือนมีเรื่องอยากจะมาบอก แถมในมือก็โบกโทรศัพท์ไปมาสีหน้าอยากจะเล่าใจแทบขาด

   และตอนนั้นเอง ต้าที่ขอตัวไปคุยโทรศัพท์ก็โผล่หน้ามา ท่าทางอ

   “เฮ้ยๆ! ไอ้ขนุน”

   “อะไรต้า มีเรื่องอะไรเหรอ” ระหว่างที่ต้าเดินมาเพื่อนๆ ก็ต่างหยุดกิจกรรมที่ร้องเล่นกันอยู่ชั่วคราว สีหน้าเหมือนมีอะไรดีๆ ทำให้ใครๆ ก็อยากรู้

   “กูมีข่าวดี มีรุ่นน้องที่กูรู้จักโทรมาบอกกูว่า เจอเจ้าของหมาแล้ว และบังเอิญมันรู้จักกับเขาไงตอนนี้เลยบอกให้มาเอาหมากลับ”

   “มึงไม่ได้มั่วใช่ไหมไอ้ต้า”นิวชี้หน้าถามเอาคำตอบตรงๆ

   “ไม่มั่ว กูชัวร์ แน่นอน!”

   “จริงเหรอ ในที่สุดก็เหมือนพ้นบาปสักที ไม่ต้องตกนรกหมกไหม้เพราะพรากหมาไปจากเจ้าของแล้ว”คนที่ดีใจกว่าหมาก็เห็นจะเป็นขนุน “แต่จริงๆ ให้เราเอาไปให้ไม่ดีกว่าเหรอ เราเป็นคนพามันมา แล้วตกลงตอนนี้เจ้าของหมาอยู่ไหนอ่ะ เราอยากเจออยากขอโทษด้วย”

   “ไม่ต้องไปหา โน่นไงมานี่แล้ว”

   เมื่อต้าบอกแบบนั้นขนุนเลยวาดสายตาไปตามปลายนิ้วของต้าไปยังทิศทางที่ถูกต้อง ก่อนจะมองเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังเดินมา น่าแปลกที่จู่ๆ ทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ

   ตอนนี้ขนุนไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย

   ได้ยินแค่เสียงตึก ตัก ตึก ตัก ในอกซ้ายของตัวเอง และเหมือนกับเสียงรองเท้าที่กระทบกับพื้นเดินเข้ามาใกล้

   ทั้งหมดเหมือนสะท้อนก้องอยู่ในหัวราวกับฉากภาพยนตร์ฉากหนึ่ง

   ที่ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดนิ่งเมื่อคนคนนั้นก้าวมาหยุดตรงหน้าขนุน

   ข้างหลังกลายเป็นภาพเลือนราง สิ่งที่ชัดเจนมีเพียงใบหน้าเจ้าของหมาชิบะตัวนี้เท่านั้น

   ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ ขนุนถึงได้เสียอาการ แต่เท่าที่เพื่อนเห็นคือขนุนจ้อง ‘คณิน’ ตาไม่กะพริบ แถมยังอ้าปากเหวอๆ ยืนนิ่งซะจนเพื่อนคิดว่าเป็น 6 โมงเย็นเตรียมยืนเคารพธงชาติซะอีก

   “ไอ้ขนุน! เป็นอะไร นี่พี่คณิน เป็นเจ้าของหมา เขามาทวงคืนแล้วเว้ย!”เสียงเรียกจากต้าเหมือนเรียกให้ขนุนตื่น เจ้าตัวถึงได้ทำหน้าเหลอหลา แล้วหันไปมองต้าสองมือเขย่าแขนเพื่อนก่อนพูดขึ้นไม่เกรงใจใคร

   “ต้า ต้า!”

   “อะไร! เขย่าจนหัวกูจะหลุด”

   “เรา.....เราว่าเรากำลังเจอคนที่ใช่แล้วล่ะ”

   “ห๊า! มึงบ้าป่ะไอ้ขนุนจู่ๆ ก็พูดออกมาแบบนั้น!”ต้าพยายามพูดเสียงลอดผ่านไรฟันไม่ให้อีกฝ่ายได้ยิน

   “ต้าบอกเค้าที ว่าเราชอบพี่เค้า”

   “ว่าไงนะไอ้ขนุน!!!”








---------------------------------
ฝากน้องขนุนในตอนต่อไปด้วยนคะ คอมเม้นต์ ติชม เป็นกำลังใจให้ด้วยน๊าาา :hao5:
ขอบคุณนักอ่านล่วงหน้าค่ะ  :กอด1:

โดย หลานฮวา

หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ? ll ขนุนลูกที่ 2 *อัปเดต 29/01/2562
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 29-01-2019 18:08:07
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ? ll ขนุนลูกที่ 2 *อัปเดต 29/01/2562
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 29-01-2019 18:35:44
น้องขนุนน่ารักจริงๆ
พระเอกจะเป็นคนนิสัยแบบกันนะ
อย่าทำให้ขนุนเสียใจน๊าาาาา

 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ? ll ขนุนลูกที่ 2 *อัปเดต 29/01/2562
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 29-01-2019 20:58:46
น้องขนุนนนนน
ไม่ต้องฝากเพื่อนหรอก หนูบอกพี่คณิณด้วยตัวเองเลยย

 :pig4:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ? ll ขนุนลูกที่ 2 *อัปเดต 29/01/2562
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 29-01-2019 21:01:54
ขนุนลูกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ? ll ขนุนลูกที่ 2 *อัปเดต 29/01/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 29-01-2019 21:28:42
 :z1:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ? ll ขนุนลูกที่ 2 *อัปเดต 29/01/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 29-01-2019 22:29:59
น้องขนุนใจเย็นๆ
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ? ll ขนุนลูกที่ 2 *อัปเดต 29/01/2562
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-01-2019 13:15:58
 :m20:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ? ll ขนุนลูกที่ 2 *อัปเดต 29/01/2562
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 30-01-2019 13:16:26
น้องขนุนน่ารักก มาต่อเร็วๆน้าสนุกมากๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ? ll ขนุนลูกที่ 2 *อัปเดต 29/01/2562
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 30-01-2019 21:52:29
น้องงงงงงงงง  :hao7:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ? ll ขนุนลูกที่ 3 *อัปเดต 01/02/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 01-02-2019 19:59:45

ขนุนลูกที่ 3


   
   ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าของขนุนตอนนี้นับได้ว่าดูจะเป็นที่สนใจของสาวๆ ที่เดินผ่านไปมาไม่น้อย ใครบ้างจะพลาดมองของดีนอกรัว มอM ที่พลัดหลังเข้ามาได้จัดว่าอย่างแจ่ม จะว่าพลัดหลงก็คงจะไม่ถูกต้องนัก เรียกว่าตั้งใจมาจะดีกว่า จุดประสงค์ที่คณินมาถึงมอM ในขณะที่ตัวเองเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ของ มอP ก็เพื่อมารับ ‘ไข่ดาว’ สุนัขของตัวเองที่ถูกอุ้มไป

   และตอนนี้ทั้งๆ ที่คนตรงหน้าคณินบอกว่าอยากจะขอพูดด้วย แต่เขากลับต้องมานั่งเพื่อให้ขนุนจ้องมองตาไม่กะพริบ

   แต่จะไม่ให้ขนุนมองก็คงจะแปลก เพราะเจ้าตัวถึงกับเอ่ยปากบอกอย่างเถรตรงกับเพื่อนสนิทว่าเจอคนที่ใช่อย่างไม่อายปากต่อสาธารณชน จนคนเป็นเพื่อนอย่างต้าที่พาคณินมาต้องเอ่ยปากบอกขอโทษที่เพื่อนพูดเรื่องเพ้อเจ้อให้คณินกระอักกระอ่วนใจ

   “มีอะไรจะพูดรึเปล่า”เสียงทุ้มนุ่มและฟังรื่นหูเรียกขนุนที่นั่งอยู่ตรงหน้า หากจะบอกว่าเสียงนั้นเข้ากับหน้าตาก็เห็นจะเป็นอย่างนั้น ตอนนี้ขนุนเหมือนตกอยู่ในภวังค์ที่ตัวเองสร้างขึ้น นั่งมองใบหน้าสะอาดสะอ้านดูดี ผิวพรรณขาวใส เครื่องหน้าที่ประกอบกันล้วนถูกวางไว้อย่างเหมาะสมจนน่าชมน่ามอง คณินดูเป็นผู้ใหญ่และพึ่งพาได้จนน่าอิจฉา

   “มี มีครับ”เป็นประโยคแรกๆ ที่ขนุนพูดขึ้นหลังจากเอาแต่มองคณินจนเจ้าตัวรู้สึกได้

   “.....”

   “ผมอยากจะขอโทษครับ ที่วันนั้นผมอุ้มเจ้าไข่ดาวมา จริงๆ แล้วผมเมานิดหน่อย พี่คณินคงหาไข่ดาวแย่เลย”คนตัวเล็กกว่าพูดสรรพนามเมื่อทราบว่าอีกฝ่ายอายุมากกว่าตัวเองถึง 2 ปีแถมยังเป็นนักศึกษาคณะทันตะอีกด้วย เรียกได้ว่าหน้าตาดีแล้ว ยังเรียนเก่งอีกต่างหาก

   “จริงๆ แล้วพี่เพิ่งจะรู้ว่าไข่ดาวหายไปก็เป็นตอนเย็นของเมื่อวานแล้ว เพราะพี่เองก็ไม่ได้อยู่บ้านในวันที่ไข่ดาวหายไป เพราะความซนมันคงพยายามลอดรั้วออกมาเที่ยวเล่น และคงมาไกลจนกลับบ้านไม่ถูก”

   “มิน่าล่ะครับ ผมถึงไม่เคยเห็นไข่ดาวแถวๆ หอ”

   “ขอบคุณที่ดูแลไข่ดาวให้นะ ชื่อขนุนใช่มั้ยเรา? ”

   “ครับ ผมชื่อขนุน” ท่าทางที่ตอบอย่างกระตือรือร้นทำให้คณินที่ดูหน้านิ่งๆ เผลอหยักยิ้มบางออกมาตรงมุมปาก

   “ชื่อน่ารักดีนะเรา”

   “คนก็น่ารักนะครับ”

   “หืม? ”

   “กินน้ำก่อนไหมครับจะละลายหมดแล้ว”ขนุนแกล้งไม่ย้ำประโยคที่ตัวเองพูดออกไป แต่เลือกที่จะเลื่อนน้ำแตงโมปั่นที่ซื้อมาให้แทนคำขอโทษเรื่องไข่ดาว ตากลมใสยังคงมองคนตรงหน้าไม่ปิดบัง

   “.....”

   ระหว่างที่คณินคว้าน้ำแตงโมปั่นขึ้นมาดื่ม ท่วงท่าละอิริยาบถต่างๆ ก็อยู่ในสายตาของขนุน สังเกตแม้กระทั่งท่อนแขนที่พับแขนเสื้อนักศึกษาขึ้นมาถึงศอกด้วยอากาศที่ค่อนข้างอบอ้าว ไล่มองไปตามท่อนแขนที่มีเส้นเอ็นปูดโบนไปหลังมือดูแข็งแรง ขยับเคลื่อนไหวก็ดูน่าดึงดูดใจไปหมด โดยเฉพาะลาดไหล่ที่ดูมีกล้ามเนื้อ กว้างขวางจนขนุนต้องย้อนกลับมามองตัวเอง

   “พี่คณินชอบออกกำลังกายเหรอครับ? ”

   “ก็มีบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเล่นกีฬาหลังเลิกเรียนแก้เครียดกับเพื่อนน่ะ แต่ก็ไม่บ่อยมาก”

   “แล้วมีสาวๆ มาชอบเยอะไหมครับ”คนตาใสยิงคำถามออกไป

   “แค่กๆ ”

   คนที่ดื่มน้ำแตงโมปั่นอยู่ถึงกับสำลักเล็กๆ ไม่คิดว่าจะถูกถามเรื่องแบบนี้จากคนตัวเล็กตรงหน้าที่เจอกันครั้งแรก

   “ขอโทษครับที่ผมถามอะไรแบบนั้น แค่อยากรู้น่ะครับ เพราะพี่คณินดูดีมากเลย”

   “อืม ขอบคุณนะ ถึงจะไม่ชินที่จะมีผู้ชายมาชมก็เถอะ”

   “งั้นผมก็เป็นคนแรกที่ชมพี่คณินสินะครับ ดีจัง”ขนุนยิ้มออกมาจากความรู้สึกอย่างเป็นธรรมชาติ จนคณินที่มองดูคู่สนทนาที่เถรตรงก็อดตกใจไม่ได้ แต่ดูๆ ไปแล้วก็คิดว่าขนุนก็เป็นคนคนหนึ่งที่ดูน่ารัก พูดคุยด้วยได้อย่างไม่ต้องฝืนเกร็ง

   “ก็คงจะอย่างนั้น”คนตัวโตกว่าพยักหน้ายิ้มรับ หัวเราะเบาๆ กับท่าที่สดใสของขนุน แต่พอเหลือบมองไปด้านหลังของขนุนไกลๆ ก็เหมือนจะมีเพื่อนที่คอยดูแลอยู่ห่างๆ หรือห่วงด้วยหรือไม่ก็ไม่แน่ใจ

   “พี่คณินครับ ถ้าหากไม่ว่าอะไร ว่างๆ ผมขอไปเล่นกับไข่ดาวได้ไหมครับ”

   “อ่า.....ก็ได้นะ ปกติพี่ก็ไม่ค่อยได้เล่นกับไข่ดาวสักเท่าไหร่ พองานเริ่มเยอะเวลาอ่านหนังสือก็เยอะตามไปด้วย บางทีก็ไปข้างนอกกับเพื่อนจนรู้สึกผิดกับไข่ดาวด้วยเหมือนกัน”

   “ถ้าอย่างนั้นพี่คณินรอแป๊บนะครับ”

   ขนุนหมุนตัวไปหากระเป๋าที่ตัวเองวางอยู่ข้างๆ หยิบปากกาขึ้นมาและใช้ใบเสร็จจากร้านสะดวกซื้อที่ติดอยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมา แล้วบรรจงเขียนบางอย่างลงไปพร้อมกับยื่นให้คณิน

   “นี่เบอร์ของผมนะครับ พี่คณินอย่าลืมโทรมาบอกผมด้วยนะครับว่าไข่ดาวบ้านอยู่ที่ไหน ไว้ว่างๆ ผมจะไปหา ขอบคุณที่ไม่รังเกียจนะครับ”

   “ไอ้ขนุน! มาทำงาน!”

   เสียงตะโกนเรียกก็พอจะรู้แล้วว่าตอนนี้ขนุนโดดงานมาคุยกับคณินนานเกินไปแล้ว เพราะเจ้าตัวจะต้องไปฟรีฮักรับบริจาคเงินอีก

   “เพื่อนเรียกแล้ว ดูเหมือนจะยุ่งๆ อยู่”

   “ก็ประมาณนั้นครับ”ท่าทางของขนุนก็ดูเสียดายนิดหน่อยที่ไม่ได้คุยกับคณินต่อ อีกฝ่ายแม้จะเพิ่งจะเจอกับขนุนแต่ความน่ารักอย่างเป็นธรรมชาติก็เผลอทำให้คณินจดจำเจ้าของชื่อขนุนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

   “กำลังรับบริจาคเงินอยู่เหรอ? ”คณินลุกขึ้นพร้อมกับเดินมาหาขนุนที่ลุกเตรียมไปทำหน้าที่ของตัวเอง

   “ครับ เอาไปค่ายอาสา มีอะไรหรือเปล่าครับ”

   “งั้นพี่ขอร่วมบุญด้วย”คนตัวสูงที่แค่ขยับกลิ่นหอมอ่อนๆ ก็ลอยเข้าจมูกขนุนจนเจ้าของฟันขาวแอบสูดดมแบบเนียนๆ จนรูจมูกขยับ

   “ขอบคุณมากครับ ดีจังเราได้ทำบุญร่วมกัน สาธุนะครับ”คณินควักเงินในกระเป๋าตัวเองจำนวนหนึ่งยื่นให้ขนุน อีกฝ่ายรับไปด้วยความเต็มใจพร้อมกับก้มไหวเสียดิบดี

   “พี่ยินดี”

   “พอดีว่าพวกเราบริจาคเงินโดยการฟรีฮัก พี่คณินให้ผม.....ผมก็คงต้องให้บ้างแล้ว”คนตัวโตที่ยืนอยู่ก็คงจะไม่ทันตั้งตัวเช่นกัน เมื่อขนุนเดินเข้ามาใกล้ ใกล้มาก แล้วยื่นมือเข้าสวมกอดคณินแน่นเต็มรัก
 
   “.....”

   “ฟรีฮักวันนี้พี่คณินเป็นคนแรกที่ผมกอดเลยนะครับ”

   กอดไปก็พูดไปด้วย เล่นเอาคณินตามขนุนไม่ทัน ตั้งสติได้อีกทีก็เห็นเจ้าของรอยยิ้มโบกมือล่ำลาอยู่ไกลๆ แล้ว

   ขนุนวิ่งเหยาะๆ ไปหายังกลุ่มเพื่อน ที่ต้อนรับเขาโดยการผลัดกันขยี้เส้นผมสีบลอนด์จนดูยุ่งเหยิงเพราะหมั่นไส้ คณินเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวให้กับผู้ชายตัวเล็กที่ให้นิยามคำว่าน่ารักได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ และเพื่อนของขนุนก็คงจะคิดแบบนั้นเหมือนกัน

   “กลับบ้านกันไข่ดาว หน้าตาแกดูเศร้าๆ เพราะจะไม่ได้อยู่กับขนุนรึไง เจ้าหมาสองใจ! ”

   คณินแอบดุเจ้าชิบะที่ยืนจ้องมองคนที่วิ่งจากไปตาเขม็งหูตั้ง หากไม่จับเชือกไว้ก็คงจะวิ่งตามไปแน่

   จริงๆ ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าไข่ดาวจอมซนจะชอบแอบหนีจากบ้านมาเที่ยวเล่นข้างนอก ครั้งนี้อาจจะออกมาไกลไปหน่อยและที่สำคัญดันโดนขนุนอุ้มกลับไปซะอีก

   คณินไม่โทษไข่ดาวที่แอบหนีมาซนนอกบ้าน

   ไม่โทษขนุนที่แอบอุ้มไข่ดาวไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ

   แต่ลึกๆ คงโทษตัวเองมากกว่าที่ไม่ได้สนใจไข่ดาวเท่าที่ควรนัก เขาก็รู้สึกผิดกับเจ้าไข่ดาวไม่น้อย เลยไม่ได้ปฏิเสธที่หากจะมีใครอยากมาเล่นกับไข่ดาวจริงๆ

   เริ่มต้นไข่ดาวถูกนำมาเลี้ยงด้วยความรักของคณินและลูกตาล หญิงสาวที่เคยได้ใจของคณินไปครองถึง 3 ปี นับอายุไข่ดาวก็คงจะ 3 ปีเช่นกัน แต่แล้วความสัมพันธ์ที่ไม่ยั่งยืนและลงรอยก็ทำให้ทั้งสองต้องเลิกรากันไปเมื่อ 5 เดือนที่แล้ว กลับไปเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่แม้แต่จะทักทายกัน

   จบลงด้วยดีไม่มีอยู่จริงในความสัมพันธ์ที่เรียกว่าคู่รัก การเลิกราต่อกันมักทิ้งบาดแผลเสมอ

   ต่างฝ่ายต่างเจ็บข้อนั้นคณินรู้ดี และก็เจ็บมานานจนเหมือนรอยแผลเป็นที่ไม่ยอมจางไปเสียที

   นับจากนั้นไข่ดาวก็อยู่ในความปกครองของคณิน ไข่ดาวถูกเลี้ยงดูให้กินอิ่มและใช้ชีวิตแบบเหงาๆ ไม่ต่างจากคนเลี้ยงสักเท่าไหร่ ยิ่งช่วงเลิกกับลูกตาลใหม่ๆ ก็มีไข่ดาวนี่แหละที่เลียน้ำตาให้เขา

   แต่ยิ่งคณินเรียนชั้นปีที่สูงขึ้น แน่นอนว่าเวลาก็จะเทไปให้การเรียนซะส่วนใหญ่ ไข่ดาวจึงได้รับการเอาใจใส่ไม่ได้มากมายเช่นแต่ก่อนนัก แต่คณินก็ไม่ได้ถึงกับทอดทิ้ง




มอP

   “ไงมึง ไปรับไข่ดาวกลับมาแล้วเหรอ ไปซะนานจนกูคิดว่ามึงจะไม่กลับมาแล้วซะอีก”

   ทันทีที่คณินลงจากรถและเดินเข้าไปหากลุ่มเพื่อนที่มหาลัย เจ้าของความสูงที่แพ้คณินไปเพียง 2 เซนชื่อว่าอนาวินพูดขึ้นหยอกล้อ

   “กูคุยกับขนุนนานไปหน่อย”

   “นี่มึงเรียนหนักจน.....สมองมึงมีปัญหาถึงขั้นเครียดหนักไปคุยกับขนุนเลย? มึงยังมีกูอยู่นะเว้ยไอ้คณิน”อนาวินนิ่วหน้าชี้ไปที่หัวของตัวเองเชิงแสดงให้เห็นภาพ

   เพี๊ยะ!

   “กู ไม่ ได้ บ้า!”คณินตบกบาลเพื่อนรักอย่างไม่ยั้งมือสีหน้านิ่งปราศจากรอยยิ้มอย่างที่เป็น ไม่ได้เป็นเพราะพันธุกรรมหรือนิสัย แต่เป็นเพราะความรู้สึกเจ็บบางอย่างที่กลายเป็นความเคยชิน น้อยมากที่จะเห็นรอยยิ้มของคณินผ่านมาก็จะ 5 เดือนแล้ว

   “สมน้ำหน้า กวนตีนนักเป็นไงเจอของแข็ง สายเฉียบก็ต้องเป็นงี้”โจมอีกคนที่กางหนังสือแล้วเอาหน้าซุกพักสายตาหันไปยิ้มเยาะเพื่อตัวดี

   “คณินไม่อ่อนโยน หึ! ”คนโดนฟาดกะโหลกทำท่าทีเอียงงอน ก่อนหันไปถามอย่างจริงจังไม่เล่นหลอก “ตกลงขนุนนี่คือ? ”   

   “ขนุนเป็นคน คนที่อุ้มไข่ดาวไป”

   “ไอ้คนที่ถูกติดแฮชแท็กขนุนอุ้มหมานั่นน่ะเหรอ”โจมสนใจหัวเราะน้อยๆ กับเรื่องตลกที่พูดออกมา

   “ใช่ เขาชื่อขนุน เป็นรุ่นน้องอยู่มอM ”

   “แล้วตกลงอุ้มไอ้ไข่ดาวไปเพื่อ? ”

   “เมา เห็นบอกมางั้น” ทันทีที่คณินบอกออกไปเพื่อนทั้งสองถึงกับหลุดขำออกมาสองมือตบโต๊ะไม้จนขาโต๊ะสั่น

   “นี่เมาจริงอ่ะ กูคิดว่าเรื่องกุขึ้นให้มันตลก กูอยากเห็นหน้าคนเมาที่อุ้มหมาจริงๆ ว่าจะหน้าตาเป็นไง”โจมปิดหนังสือหันไปมองเพื่อนที่นั่งล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วยิ้มบางอย่างไม่รู้ตัว

   “มันยังไง นี่มึงยิ้มคนเดียวได้ด้วย? ”คนเห็นคงจะไม่ได้มีแค่โจม แต่อนาวินก็มองเห็นด้วยเช่นกัน รอยยิ้มที่กำลังกลับมาทีละน้อยของคณินคนซม ที่ซ่อนยิ้มเพราะอกหักมาเกือบ 5 เดือนแล้ว

   “ไม่ได้ยิ้ม”

   “จะมาปฏิเสธแล้วลุกหนีแบบนี้ได้ไงวะไอ้คณิน! ”

   “ถึงเวลาเรียนแล้ว”

   “กูรู้ แต่มึงตอบกูมาก่อน ไม่งั้นกูเรียนไม่รู้เรื่อง ”

   “จะให้ตอบอะไร”

   “ก็ที่มึงยิ้มคนเดียว หมายความว่าไงหรือน้องขนุนจะมีดีอะไรทำให้คุณคณิน ยิ้มน้อยได้ในรอบปีขนาดนี้”

   “ทำไมกูต้องบอก”

   “เอ๊ะ! ไอ้คณินกูจะฟ้องแม่มึงคอยดู! ”

   “อนาวินครับ เอาเวลาอยากรู้เรื่องคนอื่นไปเข้าเรียนเถอะครับ เดี๋ยวคุณจะจบไม่สวยนะครับ”

   “กูรู้นาไอ้โจม หงุดหงิดโว้ย! ไปเรียนก็ได้”

   และระหว่างที่ต่างพากันขึ้นตึกไประหว่างทางโทรศัพท์ของคณินก็ดังขึ้น เจ้าของโทรศัพท์หงายหน้าจอที่สว่างวาบขึ้นมาดู ปรากฏว่าเป็นแม่ของเขาที่โทรมา

   “พวกมึงไปก่อนเลย เดี๋ยวกูคุยโทรศัพท์กับแม่ก่อน”

   อนาวินและโจมพยักหน้ารับรู้ โบกมือเข้าใจแล้วพากันเดินไปก่อน คณินเลือกที่จะหามุมเงียบๆ คนไม่พลุกพล่านเพื่อที่จะหาความเป็นส่วนตัวก่อนกดรับโทรศัพท์

   “สวัสดีครับแม่”

   [คณิน สะดวกคุยรึเปล่า]

   “สะดวกครับ แม่มีอะไรรึเปล่า?”

   [ไม่ได้มีอะไรสำคัญหรอก แค่คิดถึง อยากได้ยินเสียง]

   “ผมก็คิดถึงแม่ครับ”

   [อยู่คนเดียวเหงารึเปล่าลูก ของที่ส่งไปให้ได้รับรึเปล่า]

   “ได้แล้วครับ ขอบคุณมากนะครับจริงๆ แม่ไม่ต้องลำบากนั่งหลังแข็งถักเสื้อให้ผมก็ได้ เดี๋ยวจะปวดหลังผมไม่ช่วยหรอกนะ”คนตัวโตกรอกเสียงนุ่มลงไปหยอกล้อแม่ตัวเองที่ตอนนี้อยู่ทางภาคใต้ บ้านอีกหลังที่ปลูกไว้เป็นบ้านตากอากาศ แต่ไปๆ มาๆ แม่กลับติดใจและขอใช้ชีวิตบั้นปลายที่นั่นกับพ่อ

   ซึ่งคณินก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร ถึงบ้านเก่าจะอยู่ในตัวเมืองที่ผู้คนพลุกพล่าน เป็นใจกลางของความทันสมัย แต่ยังไงมันก็ไม่ได้มีความสุขไปซะทุกวัน แถมควันพิษยังหนาแน่นไปทุกหย่อมหญ้า แน่นอนว่ามันจะไปดีต่อร่างกายได้อย่างไร และคณินก็ตั้งใจไว้ว่า เรียนจบเมื่อไหร่ก็อาจจะไปทำงานอยู่ใกล้ๆ ครอบครัวเหมือนกัน

   “แล้วพ่อล่ะครับ”

   [รายนั้นว่างจากงานก็ออกไปตีกอล์ฟนอกรอบกับเพื่อนน่ะ คนที่น่าจะห่วงเรื่องปวดหลังควรจะเป็นพ่อเราซะมากกว่า]

   “ผมเป็นห่วงทั้งสองคนนั่นแหละครับ”

   [คณิน]

   “ครับแม่”

   [เอ่อ.....แม่ไม่ได้จะยังไงหรอกนะ แต่ช่วงนี้ลูกยังโอเคอยู่ใช่มั้ย? ]

   “หากแม่หมายถึงเรื่องลูกตาล ไม่ต้องห่วงครับผมทำใจได้แล้ว”

   [นั่นสินะ แม่ไม่น่าห่วงให้มากเลย คนแก่ก็ขี้กังวลแบบนี้แหละ]

   อารีเป็นแม่ของคณิน ที่ทั้งสองค่อนข้างจะสนิทกันมาก คณินเล่าเกือบทุกเรื่องให้แม่ของตัวเองฟังตั้งแต่คบหากับลูกตาลกระทั่งเลิกราและผิดหวังในรัก และความทุกข์ใจของคณินก็ปิดแม่ไม่มิด ความไม่ปกติของท่าทีและความหม่นหมองบางอย่างแม่ของเขารู้สึกได้ จึงคอยถามไถ่อยากให้ลูกชายคนโตกลับมามีรอยยิ้มสดใสอีกครั้ง

   “เรื่องมันผ่านไปแล้วครับ ผมเริ่มทำใจได้แล้ว”

    [ก็ดีแล้ว แม่ดีใจที่ลูกคิดได้แบบนั้นนะ คนดีๆ ที่จะทำให้ลูกแม่มีความสุขอาจจะกำลังรออยู่ก็ได้]

   “แต่เสียงของแม่เหมือนจะยังไม่ไว้ใจผมนะครับ”คณินแอบหยอกล้อแม่ของตัวเองไป

   [โถ่ จะว่าแม่อีกแล้วสินะ จริงสิ แม่มีอีกเรื่องจะไหว้วานคณินหน่อยน่ะ]

   “เรื่องอะไรครับ”

   [จำร้านผ้าไหมที่แม่ไปซื้อประจำได้หรือเปล่า]

   “จำได้ครับ แม่อยากได้เหรองั้นเดี๋ยวผมจะไปซื้อแล้วส่งไปให้”

   [ไม่ใช่หรอก แม่ไม่ได้อยากจะได้เอง แต่พอดีอีกไม่กี่วันจะถึงวันเกิดเพื่อนแม่น่ะ แต่เพราะแม่คงจะขึ้นไปไม่ไหวเพราะปวดเข่าเลยอยากจะไหว้วานคณินให้ไปเอาผ้าที่แม่สั่งไว้แล้วเอาไปฝากไว้ให้หน่อยได้รึเปล่า] คณินเองก็ไม่ได้รู้มากนักว่าแม่ของเขาคบค้าสมาคมกับเพื่อนคนไหนบ้าง แต่ก็ยอมรับปากไป

   “ได้ครับ วันไหนยังไงบอกผมได้เลย เดี๋ยวผมจะจัดการให้ครับ”

   [ดีมากเลย ถ้าจะให้ดีอย่าลืมซื้อพวกขนมขบเคี้ยวติดไม้ติดมือไปฝากด้วยนะ ได้ยินเสียงได้คุยกันเท่านี้แม่ก็สบายใจแล้ว]อีกปลายสายถอนหายใจหลุดโล่งเหมือนยกภูเขาออกจากอก

   “ครับ งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้วผมวางสายนะครับ บังเอิญว่าใกล้ถึงเวลาเรียนแล้ว”

   [จ้า แม่รักลูกนะคณิน]

   “ครับ ฝากความคิดถึงถึงพ่อด้วยครับ”

   หลังจากที่คณิณวางสายจากแม่ไม่ถึงสองนาที จู่ๆ เสียงข้อความแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ตอนแรกก็คงคิดว่าเป็นข้อความจากค่ายโทรศัพท์มาแจ้งโปรเน็ตต่างๆ หรือไม่ก็พวกเพลงรอสาย แต่เปล่าเลย มันกลับเป็นข้อความจากหมายเลขที่โทรศัพท์ที่คณินไม่คุ้นตา แต่เมื่อลองกดเปิดเข้าไปอ่านก็รู้ในทันทีว่าเป็นใคร

   ‘ขอโทษที่ใจร้อนหาเบอร์พี่คณินมาโดยไม่ได้บอกนะครับ(รอพี่ติดต่อมาไม่ไหว) อันนี้เบอร์ผมเอง กลัวพี่ทำเศษกระดาษเบอร์ผมหายน่ะ อย่าโทษต้าที่บอกเบอร์พี่กับผมนะ ผมไปขู่บังคับขอมาเอง ไม่งั้นเพื่อนผมต้องตีผมแน่เลย ว่างๆ จะไปเล่นกับไข่ดาวนะครับ //ขนุน’

   อ่านข้อความจบ คณินถึงกับส่ายหน้ายิ้ม แล้วไม่ลืมที่จะเมมเบอร์โทรศัพท์ของขนุนเอาไว้ และเข้าไปแอดไลน์ด้วยเสียเลยเพราะกลัวขนุนจะมาทวงเขาเรื่องนี้อีก

   เด็กอะไรขี้ตื๊อนัก

   แม้ปากบ่นแต่นิ้วกลับพิมพ์ข้อความส่งผ่านทางไลน์ของอีกฝ่ายไป ทั้งๆ ที่เพิ่งจะเจอกันไปไม่กี่ชั่วโมงแต่คณินกลับรู้สึกว่า ระยะเวลาไม่ใช่ปัญหาของมิตรภาพ แถมขนุนก็ดูเป็นเด็กดี หากคณินไม่เอ็นดูเขาก็คงจะใจดำเป็นถ่านแล้ว

   พี่ไม่ว่าเพื่อนขนุนหรอกครับ แต่พี่ขอตีก้นคนขี้ใจร้อนได้มั้ย

   คณิตกดส่งไป พร้อมกับสติ๊กเกอร์หน้าดุ แต่นอกจอสี่เหลี่ยมในมือคนตัวโตกลับยิ้มออกมาก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าไปส่ายหน้ายิ้มบางให้กับคนชื่อขนุน



   “ขนุนเหรอ?.....ก็น่ารักดี”










ติดตามตอนต่อไป >>>

ฝากขนุนน้อยให้ได้ไปต่อในตอนต่อไปด้วยนะคะ

ทวิตเตอร์ #ขนุนอุ้มหมา มาเมาท์มอยกันได้น๊าาาา ><

 :oni3: :oni3: :oni3: :oni3:
ขนุน ขนุน ขนุน ขนุน ขนุน ขนุน ขนุน ขนุน ขนุน
 สะกดจิตกันไป เดินตลาดก็ขอให้นึกถึงขนุนด้วยนะคะ ฮ่าๆๆ



โดย หลานฮวา
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ? ll ขนุนลูกที่ 3 *อัปเดต 01/02/2562
เริ่มหัวข้อโดย: rainiefonnie ที่ 01-02-2019 21:01:19
โอ้ยยยยยยขนุนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ? ll ขนุนลูกที่ 3 *อัปเดต 01/02/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 01-02-2019 21:46:41
 :z1:


 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ? ll ขนุนลูกที่ 3 *อัปเดต 01/02/2562
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 02-02-2019 08:46:37
มาตามความน่ารักของขนุน ดูซิพี่คณินจะไปไหนรอด
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ? ll ขนุนลูกที่ 3 *อัปเดต 01/02/2562
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 02-02-2019 19:41:40
หนุนรู้กกกกก
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ? ll ขนุนลูกที่ 3 *อัปเดต 01/02/2562
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 04-02-2019 20:43:47
ขนุนนนนอ่านไปก็มีแต่คำว่าน่ารักน่ารักน่ารักเต็มไปหมด :L2: :-[
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ? ll ขนุนลูกที่ 4 อัปเดตแล้ว 08/02/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 08-02-2019 20:38:41


ขนุนลูกที่ 4




   “เป็นอะไรไอ้ขนุน กูเห็นมึงหน้าเซื่องซึมเป็นส้วมตันมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ท้องอืดถ่ายไม่คล่องรึไง หรือปวดหัวปวดตัวตรงไหน บอกหมอซิครับ”คนห่วงใยเพื่อนเอามือเสียหน้าผากขนุนให้เห็นหน้าชัดๆ

   “นิวอ่า ก็เมื่อวานที่เราขอเบอร์พี่คณินจากต้าไป.....”พูดแล้วขนุนก็ถอนหายใจ

   “แล้วยังไง พูดให้จบ”

   “เราก็เลยส่งข้อความไปหาพี่คณิน แล้วพี่เขาก็ดุมาอ่ะว่าอยากจะตีคนขี้ใจร้อน พี่เขาโกรธรึเปล่าที่เราไปละลาบละล้วงเอาเบอร์พี่เขามาจากจากต้าแบบนั้น”

   “โถ่ทูนหัวของบ่าว....”นิวแสร้งเห็นใจก่อนจะผลักหัวเพื่อนรักที่ทำหน้าตาละห้อยอย่างหมั่นไส้ แล้วพูดใส่หูขนุนไปว่า“เออ! สมควรมึงอ่ะ ก็รู้นะว่ามึงอ่ะไม่ได้คิดแต่จะกินลาบ แต่จะล้วงพี่เขาด้วยอ่ะดิ หน้าตาน่ารักแบบนี้ใครสอนให้แรดห๊ะไอ้ขนุน!”

   “โธ่นิวเราไม่ได้ชอบใครไปทั่วนะ แล้วก็อย่าซ้ำเติมได้มั้ย แค่นี้ก็กลุ้มใจจะแย่อยู่แล้ว กินไม่ได้นอนไม่ค่อยหลับอยู่เนี่ย เราผอมไปใช่มั้ยอ่ะ”ขนุนหน้ามุ่ยโรคมโนถามหา ก่อนที่ต้าจะเดินมาในมือถือน้ำกับลูกชิ้นทอดที่เพิ่งจะซื้อมาจากโรงอาหารของคณะ มาพร้อมกับจ๊ะเอ๋ที่ช่วยถือของกินเล่นพวกผลไม่มาอีกสองถุงใหญ่ๆ

   “ไหนมึงบอกกลุ้มกินไม่ได้ นี่คว้าของกินคนแรกเลยนะไอ้ขนุน!”

   “ก็เราหิวแล้ว”คนเปลี่ยนใจคว้าลูกชิ้นปลายัดใส่ปากคำโตเข้าไปสองลูกอัดแน่นจนแก้มกลมเคี้ยวแก้มตุ่ย  นิวมองขนุนจนนึกในใจไปว่า ‘กูห่วงมันเพื่อ? ก็รู้ๆ สันดาน’

   “แล้วพี่คณินติดต่อกลับมาอีกไหม? ”

   “ไม่เลย แล้วเราก็ไม่กล้าส่งข้อความไปหาด้วย ยังทำใจไม่ได้อ่ะกลัวใจว่าพี่เขาจะรำคาญเอาจริงๆ ”ขนุนคว้าน้ำอัดลมเข้ามาดูด เพื่อนนั่งมองตาดูคนทุกข์ตรงหน้าที่บอกว่ากลุ้มจนกินไม่ได้

   “แล้วทำไมไม่ลองขอโทษไปดู เราว่าแบบนี้จะดีกว่านะขนุน”

   “จ๊ะเอ๋ว่างั้นเหรอ?”

   “นี่อย่าบอกนะว่ามึงไม่ได้ตอบอะไรพี่เขากลับไปสักข้อความจริงๆ อ่านแล้วนิ่ง? แล้วก็มากลุ้มอยู่แบบนี้”ต้ากอดอกมองเพื่อนตรงหน้า ที่เช็ดปากด้วยหลังมือก่อนนิวจะหาทิชชู่ยื่นมาให้ เป็นอะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่เหมือนต้องดูแลกัน

   “ยังเลย เราไม่กล้า”

   “ก็ไหนบอกมึงเจอคนที่ใช่ เอาแต่กลุ้มเดี๋ยวขนุนจะลายเป็นแห้วนะเว้ย”

   “แต่เราคิดๆ ดูแล้วก็ควรจะขอโทษแหละนะ”ขนุนควักโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาเปิดไลน์ของคณินขึ้นมาอีกครั้ง และขอตัวไปหาที่สงบๆ เป็นการส่วนตัวเสียดื้อๆ

   ตอนนี้ขนุนเดินวนไปวนมาอยู่ใต้ต้นไม้ประมาณสิบรอบ เพื่อนๆ ในคณะที่เดินผ่านไปมาทักทายกันไปแล้วประมาณยี่สิบคน ขนุนถึงได้ตัดสินใจพรมนิ้วลงไปบนแป้นพิมพ์

   ขนุน : สวัสดีครับพี่คณิน

   เมื่อรวบรวมความกล้าได้แล้วขนุนจึงเริ่มต้นด้วยการทักทาย ตอนนี้ก็เป็นเวลาประมาณสี่โมงเย็นแล้ว อีกฝ่ายอาจจะกำลังว่างอยู่ก็เป็นไปได้ และเป็นไปตามคาด ไม่ถึงหนึ่งนาทีบนหน้าจอก็ปรากฏข้อความว่า ‘อ่านแล้ว’ ขนุนเลยลุ้นสุดตัว ตากลมใสจ้องจนหน้าจอแทบทะลุ

   Kanin : ดีครับน้องขนุน

   แค่เห็นข้อความตอบกลับมาขนุนถึงกับกระโดดตัวลอย เพื่อนที่นั่งอยู่ตรงศาลาใกล้ๆ ถึงกับมองท่าทีน่าหมั่นไส้ของขนุนจนอยากจะลงมาจับไปเฆี่ยนให้หลังลาย

   นิวอดไม่ได้เลยทำปากพะงาบๆ ด่าทอให้คนตัวเล็กอ่านปาก จาก 1 ในจตุรเทพที่เหมือนโดนเมินแล้วงอนใส่เหมือนลูกไม่รัก ลูกดื้อ ลูกจะไปมีแฟน ขนุนทำเพียงยิ้มตาหยี่ส่งไปให้เหมือนโลกใบใหม่เป็นสีชมพู

   ขนุน : พี่คณินครับ.....พี่โกรธผมเรื่องเบอร์โทรศัพท์อยู่รึเปล่า ผมกลุ้มมากเลย

   Kanin : หายไปเป็นวันๆ เพราะเรื่องนี้?

   ขนุน : อือ

   Kanin : ก็โกรธ...

   ขนุน : ส่งสติ๊กเกอร์ร้องไห้

   ขนุน : ผมขอโทษครับ วันหลังจะไม่ทำอีกแล้ว

   Kanin : พี่จะเชื่อเราได้รึเปล่า? รู้หน้าไม่รู้ใจ

   ขนุน : แล้วอยากรู้ข้างในรึเปล่าล่ะครับ....เอ่อ ผมหมายถึงหัวใจ

   Kanin : งั้นให้พี่เปิดห้องรอเลยมะ?

   ขนุน : ห๊ะ!!!

   Kanin : ตกใจอะไร พี่หมายถึงห้องผ่าตัด จะผ่าดูใจเราซะหน่อย

   คณินยิ้มบางกับหน้าจอโทรศัพท์ แม้ไม่ได้เห็นหน้าอีกฝ่ายก็อดจินตนาการแล้วขำไม่ได้

   ขนุน : อ๋อ ครับ เล่นมุกจนผมดีใจเก้อ

   Kanin : เด็กแก่แดด

   ขนุน : สติ๊กเกอร์ยิ้มแหะๆ

   ขนุน : สรุปว่า.....ไม่โกรธผมแล้วใช่มั้ยครับ?

   Kanin : หากจะให้หายโกรธจริงๆ งั้นทำงานแก้ตัวให้พี่ 1 อย่างแล้วกัน

   ขนุน : งานอะไรครับ?

   แล้วหลังจากนั้น แผนที่โลเคชั่นก็ถูกแชร์ที่ตั้งมาในหน้าแชต ขนุนเบิกตาโพลงพร้อมกับอ่านข้อความที่คณินส่งมา

   Kanin : มาเล่นเป็นเพื่อนไข่ดาวให้หน่อยครับ เหมือนมันจะเหงา 

   แค่เห็นอีโมติคอนยิ้มโผล่มาแค่รูปเดียว ขนุนถึงกับน้ำตาซึมผงกหัวให้กับหน้าจอแชตอย่างกับคนบ้า และท่าทางซอยเท่ายิกๆ อยู่กับที่เหมือนจะวิ่งหรือจะทำอะไรสักอย่างชวนให้คนที่เดินผ่านไปมามองดูขบขัน แถมเจ้าก้อนเนื้อในอกของขนุนก็พองโตอย่างกับลูกโป่ง

   ขนุน : ถ้าพี่คณินเหงาก็เรียกผมไปเล่นด้วยได้เหมือนกันนะครับ

   Kanin : อ้อนเก่ง?

   ขนุน : ไม่ได้อ้อนครับ จิตอาสามาเองล้วนๆ 

   Kanin : แล้วเจอกันน้องขนุน หลงก็โทรมาล่ะจะไปรับ

   ผมไม่หลงทางหรอก แต่อาจจะหลงพี่คณินจนกู่ไม่กลับซะมากกว่านี่สิ!

   ขนุน : ชอบคุณครับพี่คณิน

   ความตั้งใจที่ไม่ให้ดูตั้งใจแอบบอกชอบพี่เขาไปทำขนุนใจเต้นแรง ต้าบอกให้ขนุนเก็บอาการไว้ซะบ้าง เดี๋ยวพี่คณินจะแตกตื่นไปซะก่อน

   Kanin : ชอบ?

   ขนุน : *ขอบ ขอโทษครับ นิ้วมันเบียด เดี๋ยวถึงแล้วผมจะทักไปนะครับ

   Kanin : OK

   จบบทสนทนาผ่านข้อความออนไลน์แล้ว แต่ดูเหมือนนอกจอนั้นยังคงติดลมบนอยู่ไม่น้อย แก้มขาวๆ ตุ่ยๆ ของขนุนมันถึงได้จับกันเป็นก้อนกลมแล้วแดงเรื่อซะขนาดนั้น



   
   “เดี๋ยวขนุนนี่มึงจะไปไหนครับ? ”ต้าถามเสียงเข้มเมื่อเห็นว่าอยู่ดีๆ ขนุนก็มาเก็บโกยข้าวของตัวเองที่ฝากวางไว้ก่อนหน้าลงกระเป๋า

   “ไปเล่นกับไข่ดาว”เสียงใสพูดขึ้นเหมือนเป็นเรื่องของกิจวัตรประจำวัน
“ห๊ะ! ไข่ดาว? ”นิวยู่หน้าคว้าสายกระเป๋าขนุนไว้เป็นการยื้อกลายๆ แอบเล็งสายตาเข้มไปที่เจ้าของแก้มขาวที่แดงเรื่อจางๆ

   “ก็ไข่ดาวหมาพี่คณิน”

   “นี่มึงรู้ว่าบ้านพี่เขาอยู่ที่ไหนเหรอ? ”

   “ไม่รู้ แต่เดี๋ยวก็รู้เองล่ะ”

   “สนิทกันไวไปไหม มึงเพิ่งเจอเขาเองนะ”นิวกอดอกถามหรี่ตามองขนุน

   “จำเป็นด้วยเหรอว่าเราจะต้องวางตัวเหินห่างเพียงเพราะเพิ่งรู้จักกัน ผิดแล้วนิว ต้าสอนเราว่าใครไวใครได้”

   “ไอ้ต้า มึงสอน?”นิวหันหน้าขวับจ้องเขม้นไปที่เพื่อนรัก

   “กะก็ ก็เคยพูดไปแบบนั้น ก็มันบ่นๆ ว่าอยากเจอคนที่ใช่กูก็เลยปลุกระดมความคิดมันนิดหน่อย”

   “ถ้าไม่มีอะไรแล้วเราไปนะ”

   “ไหนบอกเขาโกรธมึงอยู่ไงไอ้ขนุน”

    “ก็ตอนนี้เรากำลังไถ่โทษอยู่น่ะ ดูเหมือนพี่คณินก็ไม่ได้โกรธอะไรเรามาก เรากังวลไปเองนั่นแหละ จริงๆ น่าจะทักไปตั้งนานแล้ว”คนพูดแกะมือนิวออกจากกระเป๋าตัวเองที่ยื้อไว้ แถมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เสียจนเห็นฟันซี่ขาวๆ
 
   “ตกลงจะไปเล่นกับหมาหรือคนห๊ะขนุน เรางงกับความลั้นลาบนใบหน้าขนุนมากเลยนะ”

   “จ๊ะเอ๋ล่ะก็ ก็ต้องกับไข่ดาวดิ”

   “ตกลงนี่มึงจะไปหาผู้ชาย งั้นพวกกูไปด้วย.....ใช่มั้ยไอ้ต้า”นิวพยักพเยิดหน้าให้กับเพื่อนพร้อมกับยืนขึ้นเตรียมพร้อม

   “ทำไมนิวต้องตามเราไปอ่ะ เราไปเองได้พี่คณินส่งโลเคชั่นให้แล้วอยู่ไม่ไกลจากมอเอง”

   “แต่มึงเพิ่งรู้จักพี่เขานะ ไว้ใจได้รึเปล่าก็ไม่รู้ วันแรกเจอหน้า วันที่สองจะหนีตามแล้วว่างั้น มึงนี่นะ”คนบ่นกุมขมับ อดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้ ไม่ใช่เพราะขนุนบอบบางอะไรแบบนั้นหรอก แต่ห่วงว่าจะไว้ใจคนอื่นมากไปหรืออีกอย่างก็ไปทำให้คนอื่นเขาปวดหัวนี่สิ

   “นานะนิว เราไปไม่นานเองต้าก็รู้ว่าพี่คณินเขาไม่มีประวัติด่างพร้อยอะไรใช่มะ รับรองว่ากลับถึงหอแล้วจะโทรบอก”ขนุนเอื้อมมือไปกระตุกแขนเสื้อนิวเป็นการขอร้อง แววตาออดอ้อนมันช่างเจิดจ้าเสียจนคนถูกวอแวทานทนไม่ไหว

   “เออๆ ยังไงก็โทรมาแล้วกัน”

   “อืม เราไปก่อนนะ”สองมือเล็กยกขึ้นโบกมือล่ำลาเพื่อนฝูง ก่อนจะเดินเริงร่าออกไป

   “มึงก็อย่าห่วงมันนักเลยไอ้นิว มันโตแล้ว”

   “กูไม่ได้ห่วง”คนหน้าตึงทำปากแข็ง

   “กูรับรองนา พี่คณินเขาโอเคอยู่ รุ่นน้องที่รู้จักก็คอนเฟิร์มมาว่าคนคนนี้เขาดีจริง”

   “ดีจริงคือยังไง? ”

   “มึงจะซักซะจนกูสะอาดเลยรึไง”

   “ก็อธิบายมาดิวะ”

   “ก็ครอบครัวเขาเท่าที่รู้ก็เป็นผู้ดีเก่าที่ไม่ค่อยออกสื่อ ตระกูลที่ก่อตั้งมูลนิธิช่วยเหลือคนต่างๆ แล้วยกให้เป็นสาธารณประโยชน์สังคมเสียส่วนใหญ่ ง่ายๆ คือทำงานกันเบื้องหลัง น้อยคนจะรู้ ถ้าบอกนามสกุลมึงต้องบรรลุโสดาบันแน่”

   “ก็บอกมาดิวะ ต่อมความเผือกก็ทำงานแล้วเนี่ย”นิวทำท่าตัวสั่นเหวี่ยงก้นไปเบียดใกล้ต้าแล้วหนีบคอไว้

   “น่าสนใจ เราก็อยากรู้แล้วต้า พูดมาให้หมด”จ๊ะเอ๋ตาถลน

   ความอยากรู้ เข้าแล้วออกยาก

   “ดิเรกราชรังสรรค์”

   “เชรดดดด! นั่นนามสกุลคนหรือชื่อวัด”

   “เออใช่ ไปเปิดป๋ากู๋แล้วถ่างตาดูเอา วัดตระกูลพี่คณินเขาก็บริจาคมาแล้วมึงจะเอาอะไรอีก ดีพอมั้ยล่ะมึง”

   “ชิบ! ทำเอาพวกกูเหมือนไร้สกุลรุนชาติขึ้นมาบัดดล”นิวถึงกับหน้าซีดตัวอ่อน

   “สรุปแล้วกูว่า ไอ้ที่ต้องห่วงน่ะคือพี่เขามากกว่า ไม่ใช่ไอ้ขนุน”



   
   ใจกลางสวนสาธารณะแห่งหนึ่งไม่แปลกที่จะมีผู้คนพลุกพล่านบ้างปั่นจักรยาน บ้างก็มาวิ่งออกกำลังกาย ผู้คนมากหน้าหลายตาหากจะหาใครสักคนที่รู้จักก็คงจะไม่ใช่เรื่องง่าย ภารกิจเล็กๆ ของขนุนตอนนี้คือการตามหาพี่คณินท่ามกลางผู้คนให้เจอ

   โลเคชั่นที่คณินส่งมานั้นเป็นสวนสาธารณะใกล้บ้าน และมันก็ไม่ได้ไกลไปจากมหาลัยของขนุนมากนัก การเดินทางค่อนข้างสะดวกเพราะมีรถเมย์ผ่าน อาจต้องเดินเท้าบ้างก็ไม่ได้ลำบากนัก ขนุนใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาทีนิดๆ เพราะรถค่อนข้างติดและใช้เวลาในการเดินตามหาคณินอีกประมาณ 15 นาที

   แต่นั่นก็เร็วมากแล้วที่เจอโดยไม่ต้องโทรหาว่าอยู่ส่วนไหน คงเป็นความน่าอัศจรรย์ใจเล็กๆ ที่แรงดึงดูดจากคนที่ชอบจะทำให้ขนุนตาไวมองหาคณินเจอได้เร็วขนาดนี้

   ทว่ากว่าจะเข้าไปหาขนุนก็แอบมองเจ้าของร่างสูงอยู่หลังต้นไม้ห่างไปประมาณ 10 เมตร มองดูคณินที่จับสายจูงเจ้าไข่ดาว ใช้ตัวเองเป็นหลักปักนิ่งให้อิสระกับไข่ดาวได้วิ่งเล่นไปรอบๆ ตัวเขา ขยับตัวบ้างในบางครั้งเมื่อไข่ดาวพยายามดึงรั้งเชือกจูกไปสูดดมตามโคนต้นไม้ ท่าทางเงอะๆ งะๆ เวลาที่ไข่ดาววิ่งพุ่งไปหาคนที่วิ่งออกกำลังกายคล้ายจะจู่โจมด้วยความอยากเล่น ขนุนก็ได้เห็นคนตัวโตผงกหัวขอโทษ แล้วหันไปดุเจ้าไข่ดาวที่เห่าเถียงกลับมา

   ขนุนรู้ว่ามันคงเป็นเรื่องตลกที่จู่ๆ จะชอบใครคนหนึ่งภายในเสี้ยววินาทีของการสบตา แต่ก็ไม่ได้อยากให้มองว่ามันเป็นเรื่องของคนใจง่าย จริงๆ แล้วมันไม่ง่ายต่างหากที่ผ่านมาทั้งชีวิตขนุนเพิ่งจะเจอคนคนนี้

   หากใจง่ายจริงๆ ขนุนคงมีแฟนไปตั้งนานแล้ว ล่าสุดคงไม่ใช่ไอติม แฟนสาวสมัยประถมต้นที่ชื่นชอบให้เขาเป็นตุ๊กตานั่งผูกผมให้ทั้งวันกับป้อนใบไม้กับก้อนหินใส่ปากเขาแล้วบอกว่ามันคืออาหาร พอเขาปฏิเสธก็ถูกเจ้าหล่อนร้องไห้ใส่บอกขนุนว่าไม่เล่นด้วยแล้ว แถมยังผลักเขาเสียจนหงายหลังล้มและร้องไห้ไปอีกคน

   แต่ก็โชคดีที่ตอนนั้นมีคนใจดีเป่าเหม่งให้บอกไม่เป็นไรแถมยังจูงมือไปฟ้องครูประจำชั้นเป็นเพื่อนด้วย

   แค่คิดสมัยเด็กๆ มันก็เป็นเรื่องน่าขำจริงๆ

   “โฮ่ง! โฮ่ง!”
   
   ขณะที่ขนุนยืนคิดอะไรเพลินๆ บวกกับมองคณินจนเหม่อลอย เสียงเห่าราวกับเรียกก็มากระโจนใส่เขาเป็นที่เรียบร้อยแถมยังทำเอาคนตัวเล็กหงายหลังก้นกระแทกพื้นหญ้า

   “เป็นอะไรรึเปล่า? ”เสียงถามไถ่ที่อยู่ตรงหน้าเป็นคณินที่วิ่งตามขนุนซึ่งเผลอหลุดมือมา

   “ไม่เป็นไรครับ....แผล็บๆ แผล็บๆ”

   คนจะตอบหมาก็เลีย เลียหน้าเลียบปากเบอร์ใหญ่จนขนุนไม่มีจังหวะที่จะลุกได้เลยเพราะเจ้าไข่ดาวเข้าจู่โจมหน้าขนุนซะจนเปียกชื้น

   ท่าทางดีอกดีใจหางสะบัดจนแทบจะหลุด เป็นท่าทีที่โอเวอร์เอคชั่นของไข่ดาวจนคณินต้องดึงสายจูงแรงขึ้นเพื่อลากเจ้าไข่ดาวออกมา แล้วมองดูภาพคนตัวเล็กกว่าที่ขลุกขลักอยู่กับพื้น

   “ลุกไหวไหม?”เจ้าของมือใหญ่ยื่นมือมาตรงหน้า ขนุนเอื้อมมือไปจับก่อนจะถูกดึงตัวให้ลุกขึ้นด้วยอึดใจเดียว

   “หึหึๆ”

   “พี่คณินหัวเราะอะไรครับ”

   “เปล่าครับ”คณินส่ายหน้ามองดูขนุนที่เอามือปัดก้นปัดตัวเพื่อเอาเศษดินเศษใบไม้ออก“สงสัยไข่ดาวจะจำเราได้ เลยดีใจซะยกใหญ่”

   “หมามันคงจำกลิ่นได้ล่ะมั้งครับ ใช่มั้ยเจ้าไข่ดาว”

   ขนุนหันไปพูดด้วยกับเจ้าหมาหน้าตาฉลาดที่ยอมสงบแต่ก็ยังเงยหน้ามองขนุนหูตั้งหางกระดิก คุ้นกันจนขนุนสงสัยว่าไปสนิทกันจริงจังตอนไหน ล่าสุดก็แค่นอนด้วยกันเอง

   “ขอโทษนะที่ต้องให้เรามาไกลหน่อย แถมโดนต้อนรับซะแบบนี้”คนตัวสูงกว่าเอื้อมมือมาช่วยหยิบเศษใบไม่ที่อยู่บนเส้นผมให้ขนุนอย่างไม่ถือสา ขนุนเผลอนิ่งมองตามท่าทีเป็นธรรมชาติของคณินจนเผลอคลี่ยิ้มออกมาจนแก้มเปียกๆ ร้อนผ่าวขึ้น

   “ไม่เป็นไรหรอกครับ เรื่องเล็กน้อย แล้วพี่คณินอยู่คนเดียวเหรอครับ มีใครมาด้วยรึเปล่า”ขนุนแกล้งถามแล้วชะเง้อมอง

   “ไม่ได้มาคนเดียว ก็มีไข่ดาวมาด้วย”

   “ไข่ดาวไม่ได้เป็นคนนี่ครับ”

   “เถียงเก่งนะเรา เอ้า รับไปสิหน้าที่เราแล้วนะ”แล้วจู่ๆ พี่คณินก็ยื่นสายจูงที่อยู่ในมือตัวเองให้คนตัวเล็กตรงหน้า ขนุนมองมือคณินก่อนจะยื่นมือไป แต่ไม่ทันที่การส่งมอบจะเสร็จสิ้นจู่ๆ เจ้าตัวยุ่งอย่างไข่ดาวก็วิ่งรั้งสายจูงไปข้างหน้าเหมือนจะวิ่งตามคนปั่นจักรยานไป จนทำให้คณินเสียการทรงตัวจากแรงกระชาก ตัวกระแทกเข้าหาคนตัวเล็กกว่าอย่างขนุนจนเกือบจะหงายหลังล้มไปอีกรอบ

   แต่เหมือนครั้งนี้โชคดีจะเข้าข้าง เพราะนอกจากจะไม่ต้องลงไปนอนวัดขนาดกับพื้นรอบที่สองแต่กลับได้ลำแขนแข็งแรงเข้าตวัดหาโอบประคองแผ่นหลังเอาไว้ทันท่วงที

   วินาทีตัวเอียงไปด้านหลังเกือบ 45 องศาก็ว่าระทึกจนหัวใจตกวูบไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว กลับไม่เท่าการเจอใบหน้าหล่อเหลาของคณินที่ชิดใกล้จนปลายจมูกแตะหน้าผากได้ขนาดนี้ ยิ่งวินาทีขนุนเงยหน้าขึ้นสบตาคณิน อย่าว่าแต่หัวใจที่เต้นรัวเร็วจนนับครั้งต่อวินาทีไม่ได้ ร่างกายแทบไม่ต้องพูดถึง

   เพราะขนุนแข็งไปหมดทั้งตัวแล้วววววว!










ติดตามตอนต่อไป >>>



ฝากติดตามน้องขนุนในตอนต่อไปด้วยนะคะ :o8:

โดย หลานฮวา
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ? ll ขนุนลูกที่ 4 อัปเดตแล้ว 08/02/2562
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-02-2019 20:55:50
 o13
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ? ll ขนุนลูกที่ 4 อัปเดตแล้ว 08/02/2562
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 08-02-2019 22:22:38
ง้อววว :hao7: เขินนนน้องไข่ดาวก็คือกามเทพนั้นเอง น้องขนุนน่ารักแถมยอดเก่งอีกเอ็นดูน้อง :-[ รอตอนต่อไปจ้า :3123: :pig4:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ? ll ขนุนลูกที่ 4 อัปเดตแล้ว 08/02/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 08-02-2019 22:44:02
 :z1:


 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ? ll ขนุนลูกที่ 4 อัปเดตแล้ว 08/02/2562
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 08-02-2019 23:16:36
ที่สาธารณะลูกขนุน อย่าเพิ่งลากพี่เค้าเข้าพุ่มไม้นะ 5555
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ? ll ขนุนลูกที่ 4 อัปเดตแล้ว 08/02/2562
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 09-02-2019 12:57:12
ขนุนลูก

สรุปคือต้องห่วงคนพี่ซินะ

 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ? ll ขนุนลูกที่ 4 อัปเดตแล้ว 08/02/2562
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 09-02-2019 19:27:37
ถึงจะมาแบบสั้นๆแต่ถ้าขยันลง

ก็ได้นะ คริๆ ขนุนน่ารักมาก ไข่ดาวน่ารักด้วยกอดดดดด
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 5 (ก้านมะยมสั่นมาก) อัปเดตแล้ว 16/02/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 16-02-2019 13:51:25
ขนุนลูกที่ 5



   
   “ขอบใจมากนะช่วยพี่ได้เยอะเลย”

   “ว่างๆ ก็เรียกใช้บริการอีกได้นะครับ ผมว่างเสมอ”พูดไปขนุนก็เอามือขยี้หัวไข่ดาวที่หลับตาพริ้มเหมือนกับยิ้มชอบใจให้ขนุนขยี้จนน้ำลายแทบไหล ขนสีน้ำตาลนุ่มมือมันเพลินจนขนุนเองก็อดที่จะลูบไปทั้งตัวไข่ดาวไม่ได้ ลูบไปมาเจ้าสี่ขาก็หงายท้องให้ซะแล้ว

   ขาดความอบอุ่นรึไงเจ้าไข่ดาว ลูบแค่นี้ก็เคลิ้มแล้ว

   “ให้พี่ไปส่งมั้ย? ”

   “ไม่ต้องหรอกครับ ผมกลับเองได้ใกล้แค่นี้เอง ถ้าพี่ไปส่งเดี๋ยวต้ากับนิวจะดุผมอีกว่ารบกวนพี่คณินมากไป ทั้งๆ ที่เราเพิ่งจะรู้จักกัน”

   “พี่ไม่ได้รู้สึกว่าเราเพิ่งจะรู้จักกันสักหน่อย แต่เราเนี่ยมีคนเป็นห่วงเยอะจริงๆ ”

   “ไม่หรอกครับ ก็มีแค่นิวกับต้าสองคนนี่แหละ คนอื่นก็ไม่ได้เป็นถึงขนาดนี้”ขนุนพูดไปก็ยู่ปากไปด้วย ไม่รู้สาเหตุเหมือนกันว่าต้ากับนิวจะห่วงเขาทำไมนักหนา

   “เพิ่มพี่ไปอีกคนได้ไหม? ”

   “แอ๊ะ? ”

   “ตกใจอะไร พี่ก็อยากได้น้องชายแบบขนุนเหมือนกัน พี่รู้สึกเอ็นดูขนุนเหมือนน้องคนนึงนะ”

   คนพูดส่งสายตาอ่อนโยนเอื้อมมือมาโยกหัวขนุนและสอดนิ้วเข้าใต้เส้นผมละเอียดสีบลอนด์ที่ดูระยิบระยับอย่างเอ็นดู ทว่าคนที่ถูกเอ็นดูกลับหน้าเสียเป็นนมบูดขึ้นมาซะงั้น





   “พี่คณินไม่รู้อะไรเลย เราไม่ได้อยากเป็นน้องชายสักหน่อย”

   เสียงพึมพำงึมงำอยู่คนเดียวขณะก้าวลงจากรถเมย์สาธารณะ หน้างองุ้มอย่างกับไปกินอะไรผิดสำแลงมาเดินเตะฝุ่น เตะก้อนหิน เตะกิ่งไม้ เตะใบไม่ยกเว้นแตะหมาไปเรื่อย เพราะแค่คำว่าน้องชายจากปากพี่คณินมันทิ่มตำหัวใจดวงน้อยๆ ของขนุนเหลือเกินจนเจ้าตัวแทบอยากจะลงไปแดดิ้นต่อหน้าคนพูด แต่ก็ทำไม่ได้

   ก็แน่ละใครมันจะไปคิดล้ำเส้นอย่างขนุนตัวดี

   เส้นทางที่ขนุนกลับหอยังคงเป็นเส้นทางเก่า แต่ทว่าก่อนหน้าต้ากับนิวโทรมาบอกไปเจอกันที่ร้านป๋าชุบ ร้านเหล้า ร้านประจำที่ชอบไปถึงคนเยอะและต่อให้ต้องขี่คอกันนั่งก็ไม่ค่อยจะเปลี่ยนร้าน ขนุนเลยต้องเดินเลี้ยวเข้าซอยเปลี่ยนเส้นทางไปยังสถานที่นัดแนะ และระหว่างที่ขนุนเดินใจลอยกำลังจะเดินไปอีกฝั่งนั้น คนที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวก็ลืมไปสนิทว่าตัวเองกำลังข้ามถนน กระทั่งเสียงแตรรถที่บีบดังลั่นพุ่งเข้ามาขนุนจึงได้รู้ตัว

   ปี๊น ปี๊นนนน!

   เอี๊ยดดดดดด!

   เสียงห้ามล้อที่ครูดไปกับพื้นถนนเบรกรถไว้ได้กะทันหัน ขนุนหันไปมองรถคันสีขาวที่ล้อเกือบจะมาเกยบนร่างตัวเองเข่าอ่อนจนทรุดนั่ง ดวงตากลมใสเบิกโพลงสั่นระริก มือไม้อ่อนแรงใบหน้าซีดเซียว

   ยมบาลกวักมือเรียกแล้วมั้ยล่ะขนุน!

   “กะเกือบไปแล้ว”น้ำเสียงแผ่วพึมพำอย่างตกใจปากสั่น ก่อนที่เจ้าของรถจะก้าวลงมาอย่างลนลาน

   “ปะเป็นอะไรรึเปล่า ไม่ได้โดนชนใช่มั้ย?”เสียงตื่นตกใจเอ่ยถามขึ้น เจ้าของเสียงเล็กเป็นผู้หญิงตัวบางที่เข้ามาดูขนุนพร้อมกับย่อตัวลงตรงหน้าท่าทางตกใจไม่แพ้กัน เสียงเล็กสั่นจนฟังออกว่าดูตกใจแค่ไหน

   “ผะผม ผมไม่เป็นไรครับ ไม่ได้โดนชน”

   “ตกใจหมดเลย ดีแล้วที่ไม่ได้เป็นอะไร”ท่าทางโล่งอกช่วยพยุงขนุนให้ลุกขึ้น ตอนนี้เองที่ขนุนเพิ่งจะสังเกตเห็นหน้าตาของผู้โชคร้ายเพราะความเหม่อลอยของขนุนเอง

   “ผมขอโทษนะครับที่ไม่ทันได้ดูรถ”ขนุนเงยหน้าสบตากับเจ้าของกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่มีหน้าตาสะสวยรูปร่างดีที่มองขนุนด้วยความเป็นห่วง ไม่ได้คิดที่จะโวยวายเพราะขนุนเป็นเหตุ
 
   สวยแล้วยังใจดีจนขนุนนึกชื่นชมอยู่ในใจ

   “ช่างเถอะแต่ไม่เป็นอะไรแน่นะ ให้พาไปโรงพยาบาลเช็กดูมั้ย”

   “ไม่ต้องครับ ผมโอเค”ขนุนโบกมือปฏิเสธ เมื่อสติค่อยๆ กลับคืนมากขึ้น “ขอโทษอีกครั้งนะครับที่ทำให้เดือดร้อนไปด้วย”

   “อื้อ ไม่เป็นไร นี่อยู่มอM เหรอ? ”ใบหน้าหวานก้มลงมองยูนิฟอร์มนักศึกษาของขนุน และขนุนก็มองเธอเช่นกัน จากรูปร่างท่าทางที่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่าแม้เจ้าตัวจะไม่ได้อยู่ในชุดนักศึกษาก็พอเดาได้ว่าคงจะอายุมากกว่า

   “ครับ สินกำปี 2 มอM”

   “แล้วชื่ออะไร”

   “ขนุนครับ”

   “ขนุนเหรอ”ผู้หญิงสวยตรงหน้าขนุนพึมพำรับรู้พยักหน้า ก่อนจะหยิบนามบัตรของตัวเองยื่นให้ขนุน “อันนี้ของพี่ มีสองเบอร์ในบัตร พี่เรียกอยู่มอP ปี4 มีปัญหาอะไรก็โทรมานะ ตอนนี้ถ้าไม่เป็นอะไรงั้นพี่ขอไปก่อนพอดีว่ามีธุระน่ะ เราโอเคใช่มั้ย? ”คนถามยังดูห่วงความรู้สึกขนุน

   “ครับ ผมโอเคดี มากๆ ด้วย”

   เมื่อได้รับการยืนยันจากขนุนว่าไม่เป็นไรแล้วก็ถอนหายใจโล่งอกออกมาอีกครั้ง ดูเหมือนเธอก็ยังตกใจเรื่องเมื่อครู่ไม่หาย แต่เมื่ออีกฝ่ายยืนยันดิบดีว่าไม่เป็นไรจึงเบาใจกลับขึ้นรถไปพร้อมคำกล่าวลาท่าทางรีบร้อนเพราะมีนัดเร่งด่วน

   ขนุนมองตามเจ้าของรถคันสีขาวที่ทั้งใจดีไม่เอาเรื่องเขา ซ้ำยังให้ความเป็นห่วง ทั้งๆ ที่เขาเองต่างหากที่เป็นฝ่ายผิด

   “สวยแล้วใจดีแบบนี้ยังมีอยู่บนโลกด้วยเหรอ ใครได้เป็นแฟนคงโชคดีที่สุดในโลกแน่ๆ ”

   ขนุนพูดกับดินฟ้าอากาศชื่นชมไม่หาย ก่อนสายเรียกเข้าจากเพื่อนจะย้ำเตือนให้รู้ว่าตัวเองมีนัดหลังจากนี้ ขนุนเลยรีบยัดกระดาษแผ่นเล็กใส่กระเป๋ากางเกงอย่างรีบร้อนไม่แม้แต่จะก้มมองดูตัวเลขบนบัตร ขนุนเร่งฝีเท้าที่อ่อนเปลี้ยเพราะเรื่องเมื่อครู่ไปยังร้านป๋าชุบตามเดิมไม่เปลี่ยนแผน




   
   “อะไรนะไอ้ขนุน มึงโดนรถชน! ”

   “ไม่ได้โดน แค่เกือบน่ะ พอดีเราเหม่อไปหน่อย”ขนุนเล่าสาเหตุที่ตัวเองมาสายให้กับเพื่อนในกลุ่มได้ฟัง วันนี้คนที่มาร่วมสังสรรค์ด้วยไม่ได้มีแค่นิวและต้า ยังมีแจ็กเฮดว๊ากกับช้างทีมสันทนาการอีกด้วย ที่มาเพราะรวมตัวกันหัวหลักๆ ก็เพราะเรื่องโครงการอาสาที่ใกล้จะถึงไม่กี่วันนี้แล้ว กินไปด้วยคุยไปด้วยจะได้ไม่เสียเวลา แต่อาจเสียเรื่องเพราะต่างพากันพูดคุยออกนอกทะเลไปไกลไม่กลับเข้าฝั่งกันเสียที

   “เหม่ออะไรของมึง เกือบเป็นเรื่องแล้วมั้ยล่ะ ว่าแต่เจ็บตรงไหนรึเปล่าวะ หมุนตัวให้กูดูดิ๊”ต้าจับตัวขนุนหมุนไปสองสามรอบสำรวจ เห็นเพียงกางเกงที่เปื้อนฝุ่นเป็นคราบที่ก้น

   “เห็นป่ะว่าไม่เจ็บตรงไหน แค่เข่าอ่อนเพราะตกใจน่ะ”ขนุนพูดไปก็เอาเหล้าเขาปากเหมือนดื่มน้ำดับกระหาย

   “แล้วเหม่อเรื่องอะไร สีหน้ามึงก็ดูไม่สดชื่นเลย”นิวเอ่ยถาม คนอื่นๆ ก็อยากรู้ด้วย

   “เราเป็นได้แค่น้องชายอ่ะ”ขนุนมุ่ยหน้าถอนหายใจแล้วเอาหน้าทิ่มลงกับโต๊ะเหมือนเด็กงอแง

   “น้องชายอะไรวะ? ”ช้างเอ่ยถาม และหันไปสั่งน้ำแข็งมาเพิ่มบวกโซดาอีก 2 ขวด

   “ก็พี่คณินบอกเอ็นดูเราเหมือนน้องชาย แต่เราไม่อยากถูกพี่คณินเอ็นดูแบบนั้น”สีหน้าเง้างอนทำจมูกกับปากติดกันเงยหน้าขึ้นเก่าหัวตัวเองยิกๆ

   “รึมึงอยากให้เขาดูเอ็นรึไง”นิวประชดผลักหัวอย่างหมั่นไส้

   “แบบนั้นยังโอเคกว่า”ตาใสตอบตรงไปตรงมา ไม่หวั่นแม้จะเป็นเรื่องใต้สะดือ

   พรืดดดดดด!

   “แค่กๆ ”คนที่เอาเหล่าจ่อปากอยู่ถึงกับสำลักพรวด แจ็กที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ช่วยเอามือตบหลังช้างเบาๆ

   “ขนุน มึงอย่าเออออกับอะไรแบบนี้ได้มั้ย มันทำลายภาพพจน์หน้าตา”ช้างยกมือขึ้นกุมขมับ ได้ยินมาบ้างแล้วเรื่องที่ขนุนชอบคณิน และวันนั้นช้างก็อยู่ในเหตุการณ์เลยพลอยรับรู้ทุกอย่างไปด้วย แถมขนุนไม่ได้ปิดบัง เถรตรงจนเพื่อนต้องยกมือไหวให้อ้อมค้อมเสียบ้าง

   “เดี๋ยวนะนี่กูตกข่าวอะไรไปรึเปล่า คณินคือใคร? ”แจ็กยกมือถามกดปลายบุหรี่ลงกับถ้วยแก้วแล้วตั้งใจฟังขนุนพูด

   “พี่คณินคือพี่คณิน”

   “พอเลยกูอธิบายเอง”ต้ายกมือห้ามแล้วพูดขึ้น “คณินเป็นรุ่นพี่มอP เจ้าของหมาที่ไอ้ขนุนอุ้มมา แล้วไอ้ขนุนก็ดันสะเออะไปชอบเขา บอกว่าเป็นคนที่ใช่”นักแสดงหลักได้แต่นั่งพยักหน้าแล้วเท้าคางส่งสายตาเนือยๆ ไม่ยิ้ม

   “มึงเป็นเกย์เหรอไอ้ขนุน!”แจ็กตาถลนมองหน้าเจ้าของปากชมพูที่เคี้ยวน้ำแข็งดับความร้อนรุ่มกลุ้มใจ

   “เราไม่ได้เป็น ให้นึกภาพเดินจูงมือจูบปากกับแจ็กเราก็แขยงแล้ว แต่พี่คณินคนเดียวที่เราใจเต้นแรงด้วยก็เท่านั้น รู้สึกชอบต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ”

   “ครับ คุณขนุน”แจ็กนึกภาพตามที่ขนุนพูดถึงกับยอมแพ้ในเหตุผล

   “เอานาไอ้ขนุน จะเครียดทำไมมาดื่มกันดีกว่า ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ.....พี่ตูนว่าไว้”

   นิวยกมือขึ้นกอดคอขนุนเขย่าตัวเบาๆ ปลอบใจในแบบของตัวเอง ขนุนพยักหน้าว่าง่ายรับแก้วเหล้ามาจากช้างที่สนับสนุนให้ขนุนกลับมาร่าเริง

   “วันนี้พวกกูให้มึงเมาได้ กูรับรองว่าจะไมให้มึงเอาอะไรติดไม้ติดมือกลับห้องแน่นอน”

   ต้าตบไหล่คนตัวเล็กกว่า สีหน้าต้าก็ไม่สู้ดีเท่าไหร่ไปกว่าขนุนนัก แต่ก็ยังยิ้มเพราะเพื่อนยังสำคัญเสมอ

   “อื้ม.....เรารอคำนี้มานานแล้ว”ขนุนหยักยิ้มเลิกคิ้วดีใจ ก่อนจะเอื้อมมือไปชงเองชนิดที่เข้มจนขนตูดลุกซู่ คนอื่นๆ ที่มองขนุนก็ได้แต่มองตานิ่ง เหมือนคำปลอบใจจะได้ผลดีเกินคาด

   อะไรจะฟื้นสภาพจิตใจได้เร็วขนาดนี้

   “ทุกคนไม่กินเหรอ.....ถึงไม่กินก็หารเท่ากันนะ แต่วันนี้เราไม่สบายใจทุกคนจะเลี้ยงปลอบใจเราใช่มั้ย”เจ้าของแก้มกลมโยนถั่วใส่ปาก กลอกตากลมใส่มองสมาชิกร่วมโต๊ะที่นั่งนิ่งแววตาเว้าวอน

   “พูดมากนา เออๆ มึงกินไปเลย กินให้แก้มแตกไปเลยดีมั้ยห๊ะ”คนหมั่นไส้ยื่นมือไปหยิกแก้มจนแดงเป็นจ้ำ

   “ถ้าแก้มเราช้ำขึ้นมาเดี๋ยวไม่หล่อทำไงอ่ะ”ขนุนเบี่ยงหน้าหนีมือเพื่อนที่ยื่นมาเป็นระวิง

   “จะเอาหล่อไปทำไมในเมื่ออยากมีผัว”แจ็กแสยะปากส่ายหน้าเริ่มเคาะบุหรี่อีกมวนจากซองขึ้นคาบที่ปาก

   “ผัว?”ขนุนขมวดคิ้วเหมือนมีสิ่งที่ผิดเพี้ยนอยู่ในรูปประโยคของแจ็ก “ไม่ใช่ซะหน่อย”

   “ไม่ใช่อะไรก็ไหนมึงบอกชอบพี่คณินเข้าไง”ช้างถามแล้วดึงแก้วในมือขนุนมาเติมน้ำแข็ง

   “ดะเดี๋ยว!!! ไอ้ขนุน นี่มึงอย่าบอกนะว่ามึง.....”คนนั่งข้างอย่างนิวผงะเหมือนรู้ทันขึ้นมา มองขนุนที่นั่งหน้าตาใสเลียปากแผล็บกินเกลือที่ติดริมฝีปากจากเม็ดถั่วอย่างไม่สะทกสะท้าน

   “ฉิบหายแล้ว!”ช้างเอามือทาบอกปากพึมพำมองเพื่อนที่หน้าตาเป็นสัตว์กินพืช แต่จิตใจโคตรไฮยีน่า

   “อย่าบอกนะว่ามึงจะกดพี่คณินน่ะ! ”นิวอุทานจนโต๊ะข้างๆ หันมามอง

   “เราผิดเหรอ”

   “เหี้ยแล้วววววว!”บุหรี่ที่คาบอยู่คาปากของแจ็กเป็นอันตกพื้นในทันที ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เจอะได้เจออะไรแบบนี้

   “กูโทรหาแม่มึงแป๊บ!”

   “นิวก็อย่าลืมบอกแม่ด้วยล่ะว่าไปขอพี่คณินให้เราด้วย”

   “สัด! ”




   อีกไม่กี่วันพวกขนุนและผองเพื่อนก็จะต้องไปออกค่ายอาสากันแล้ว เงินที่รวบรวมได้ทะลุเป้าอย่างน่าชื่นใจ แถมยังมีเงินเหลือเล็กน้อยที่จะได้ซื้อของเพิ่มเติมนำไปใช้ในการไปค่ายครั้งนี้ด้วย เป้าหมายคือการลงไปช่วยซ่อมแซมบ้านให้กับคนที่โดนพายุ ทำเท่าที่ทำได้ร่วมกันกับภาครัฐที่มีโครงการอยู่ก่อนหน้าแล้ว

   การเอาแรงเข้าแลกก็เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ทางคณะจัดขึ้นทุกปี ก็แล้วแต่ว่าจะเขียนโครงการไปที่ไหนหรือทำอะไร

   ของทุกอย่างที่จำเป็นก็ดูเหมือนจะเตรียมพร้อมแล้ว แม้จะต้องสละเวลาในช่วงเย็นเพื่อมาเตรียมงานก็ถือว่าคุ้ม มีทั้งรุ่นน้องและรุ่นพี่หรือปีเดียวกันที่ลงชื่อเข้าร่วม หัวหน้าโครงการหลักที่ต้องรับผิดชอบคือปี 2 ของทุกปี

   “อันนี้ให้เราวางไว้ไหน? ”ขนุนหอบไวนิลพับใหญ่เข้ามาในห้องเก็บของ กลิ่นใหม่ของหมึกที่เพนต์ลงบนผ้าใบกลิ่นแรงจนต้องย่นจมูก

   “เอากองไว้ที่มุมห้องนั่นแหละเดี๋ยววันไปจะหาไม่เจอ”ช้างชี้นิ้วไปที่มุมห้องว่างเปล่าให้ขนุนเอาของไปวาง คนตัวเล็กท่าทีเงอะงะ แจ็กที่ทนมองไม่ไหวเข้าไปรับช่วงถือต่อ

   “ขอบใจมากแจ็ก”

   “จะไปช่วยทำไม ฝึกไว้จะได้มีเรี่ยวมีแรงไปกดคนอื่น ถ้าตัวแค่นี้จะไปกดใครได้วะ”

   “ช้างอย่าแซวเราดิ เดี๋ยวเราก็โตทันคนอื่นแล้ว”

   “ไอ้ขนุนเสร็จรึงยังกูหิวข้าวแล้วเนี่ย”

   “ต้ารอเดี๋ยว กำลังจะเสร็จแล้ว”

   “พวกกูสองคนไม่ไปนะพวกมึงไปกันเถอะ”

   “อ้าวแล้วแจ็กกับช้างไม่หิวเหรอ”

   “พวกกูนัดน้องรหัสไว้เดี๋ยวต้องไปเลี้ยงข้าวพวกมันอีก”

   “ไม่เหมือนเราเลยอ่ะ มีแต่น้องอยากจะมาเลี้ยง”

   “ชิ! อย่ามาอวด พูดมากเดี๋ยวบีบปากให้”

   “แจ็กช่วยหน่อย ช้างดูจะเกรี้ยวกราดเพราะอิจฉาเรา”ขนุนเดินไปหลบหลังแจ็กที่ส่ายหน้าให้กับท่าทีกวนๆ ด้วยเสียงนิ่งๆ ของขนุน

   “เอาน่าไอ้ช้าง ไปๆ เดี๋ยวนักการจะมาปิดห้องแล้ว หรืออยากโดนขังนอนอยู่ในนี้” แจ็กผู้สยบช้างยื่นแขนไปเกี่ยวคอคนตัวโตเข้าใต้รักแร้ และหนีบผมออกมาจากห้องอีกคน ก่อนจะส่งผมให้กับนิวและต้าที่ยืนรออยู่ข้างนอก

   ผมโบกมือลาทั้งแจ็กและช้างที่ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซต์ขับออกไปกันสองคนโดยที่แจ็กเป็นคนขับ

   “ไปได้แล้ว วันนี้กินอะไรดี”นิวถามขึ้น

   “ก๋วยเตี๋ยว”ต้าเสนอดีดนิ้วดังเป๊าะ

   “แต่เราอยากกินข้าว”

   “ไม่ กูอยากกินหมูกระทะ”

   “.....”

   ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ ดูเหมือนไม่มีใครอ่อนข้อให้หรือรู้สึกแกรงใจไปกินอย่างที่คนอื่นเสนอ

   “แต่เมื่อวานพวกเราก็เพิ่งกินก๋วนเตี๋ยวไปนะต้า เปลี่ยนอย่างอื่นมั่งดิ”

   “ก็อยากกินอีก”

   “งั้นโอน้อยออก ใครชนะไปกินตามคนนั้น โอเคมะ”

   “ก็ได้ ยุติธรรมดี ออมมือให้เราบ้างนะเราอยากกินข้าว”พูดไปขนุนก็ถูมือทั้งสองข้างเตรียมพร้อมสุดๆ แต่ไม่ทันไรเสียงโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงของขนุนก็ดังขึ้น เจ้าของโทรศัพท์ขอเวลานอกเพื่อนทั้งสองจึงรออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และดูจากสายตาวาวที่มองไปยังหน้าจอก็รู้ได้เลยว่าคนที่โทรมาไม่ธรรมดาซะแล้ว

   และทันทีที่ขนุนกดรับเสียงเรียกชื่อก็ทำให้ต้าและนิวมองตากันอย่างไม่ได้นัดหมาย

   “ต้านิว! ไปกินข้าวกันมื้อนี้มีเจ้ามือเลี้ยงแล้ว”

   “ใครวะ? ”

   “พี่คณิน”

   “กูว่าแล้ว แต่สายตาแบบนี้ตกลงมึงหิวข้าวหรือหิวอะไร”

   “ต้าก็พูดตรงไป”คนตอบบิดตัวเล็กน้อยจิ้มนิ้วชี้เข้าหากันกะพริบตาปริบๆ ให้กับเพื่อนทั้งสอง “เราไม่ได้หิวพี่คณินสักหน่อย”

   “ขนุน! พวกกูสั่งให้มึงเก็บอาการแบบนั้นเดี๋ยวนี้เลย เข้าใจมั้ย! เห็นอีกกูถีบมึงแน่”

   “ต้าเราไม่น่ารักเหรอ? ”

   “ไม่! ไม่น่ารอดไอ้พวกเอาไม่เลือกเข้าใจมะ แค่นี้พวกกูก็กระอักกลิ่นฟีโรโมนหาผู้ของมึงจะอ้วกแล้ว จิ๊!”

   “เดี๋ยวนี้ต้ากับนิวชอบพูดแรงใส่เราอยู่เรื่อย”ขนุนมุ่ยหน้ายืนจ้องสองเพื่อนเกลอตาเขม้น เหมือนจะโกรธแต่เอาเข้าจริงก็ทำไม่ได้

   “พวกกูไม่ได้พูด ด่าเว้ย!”นิวจิ้มนิ้วไปที่หัวทุยๆ ของขนุนอย่าหมั่นไส้ที่ทำหน้าซีเรียสส่ายหน้าไปมากวนๆ

   “หยาบคายระวังไม่มีใครรัก บู่!”

   “เด็กเอ้ย!”

   “ด่าไปเลย เราไปหาที่อ้อนใหม่ก็ได้”ขนุนทำท่าทีแข็งกร้าวกอดอกเชิดหน้าอย่างมีทางไป

   “ใคร?”

   “ก็พี่คณินไง ใจดีไม่เหมือนเพื่อนแถวนี้หรอกนะ”

   “จะแปรพรรคว่างั้น!”นิวยกคิ้วเหลือบตามองคนตัวเล็กกว่าแล้วเอาศอกค้ำหัวขนุน

   “ช่ายยยย! พรรคที่จะล้อม.........พร้อมที่จะรัก เคยได้ยินป่าว หึ!”คนเล่นมุกยักคิ้วสองสามจึ๊กสะบัดผมเส้นเล็กสีบลอนด์สว่างให้เข้าทรงแล้วกระแอมกระไอยืดออกอย่างภาคภูมิ

   “ตัวเท่าลูกหมากระเหี้ยนกระหือรือจริงนะมึง!”นิวจิ๊ปากส่ายหน้ากับความฮึกเหิมของขนุน

   “กูจะฟ้องน้าสร!”ส่วนต้าก็ควักโทรศัพท์ขึ้นมาทำท่าจะกดโทรออก

   ทั้งนิวและต้าก็เพิ่งเข้าใจวันนี้ว่าอะไรคืออาการก้านมะยมในมือสั่นมาก

   ขนุนที่พวกเขาดูแลกำลังโตอย่างก้าวกระโดด และจะกระโดดไปกดคนอื่นเขาอีกทั้งที่ก่อนหน้ากับเรื่องพวกนี้ขนุนก็ไม่ได้คิดจริงจังอะไรขนาดนั้น วันๆ ก็เอาแต่เหม่อมองคนอื่นที่ดูเท่าไหร่ก็ไม่ถูกใจสักที จะว่าไม่มีคนเข้ามาก็ไม่ใช่ ทั้งผู้หญิงและผู้ชายขนุนก็มีให้เลือกอยู่มาก แต่เพราะตรรกะที่พร่ำพูดถึงเรื่องฝังหัวมี่แม่สอนว่า เมื่อเจอคนที่ใช่หัวใจจะเต้นแรง ก็ทำให้ขนุนไม่ลองคบกับใครสักที

   หากถามว่าขนุนมีทีท่าจะชอบผู้ชายรึเปล่าก็เห็นจะไม่ เพราะก่อนหน้านี้ก็ยังมีรุ่นพี่ปี 3 อย่างไม้เอกมาวอแวอยู่เลย รายนั้นทั้งแทคแคร์ดูแลดีมาตลอดตั้งแต่ขนุนเป็นเด็กเฟรชชี่ปี 1 จนตอนนี้ก็ไม่ได้เปลี่ยน จะว่าหายหน้าไปก็คงจะเป็นเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วก็ว่าได้ เพราะเจ้าตัวดันเกิดอุบัติเหตุรถชนแขนหักเลยต้องพักยาว นั่นก็ไม่ได้แปลว่าอีกฝ่ายจะหายไปเพราะตัดใจจากขนุน
 
   สำหรับขนุนแล้วบุคลิกภายนอกอาจจะดูบอบบางน่ารักน่าหยิกเป็นกรรมพันธุ์ แต่หากมองลึกเข้าไปในดวงตาอันใสซื่อและร้ายบริสุทธิ์นั้นแล้ว ขนุนก็ไม่ได้ต่างไปจากสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าบุรุษเพศชายแม้แต่น้อย

   อย่าให้ภาพพจน์มาหลอกตาได้ นั่นคือคำเตือน!










ติดตามตอนต่อไป >>>


ขอบคุณที่แวะเวียนเข้ามาอ่านค่ะ
หวังว่าน้องขนุนจะช่วยคลายเครียด แก้เบื่อ แก้เซ็ง แก้เมารถ ให้นักอ่านได้บ้างนะคะ ฮ่าๆ
ฝากติดตาม ให้กำลังใจ กันด้วยนะคะ  :m13:



โดย หลานฮวา

หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 5 (ก้านมะยมสั่นมาก) อัปเดตแล้ว 16/02/2562
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 16-02-2019 14:08:35
น้องขนุนจะกดพี่เขาจริงหรอ ถามพี่เขาก่อนมั้ย5555 แต่ก็อยากเห็นน้องกดอยู่นะ :-[ ชอบคำนี้มากกระเหี้ยนกระหือรือ55555 คือเหมาะกับขนุนในตอนนี้จริงๆ ขำตอนโดนบอกว่าเป็นน้องชายด้วย น้องขนุนต้องสู้ต้องมีสักวันที่เป็นของหนู นักเขียนก็สู้ๆนะเราเป็นกลจให้ สนุกมากๆมาต่อเร็วน้า :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 5 (ก้านมะยมสั่นมาก) อัปเดตแล้ว 16/02/2562
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-02-2019 14:23:19
 :pig4:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 5 (ก้านมะยมสั่นมาก) อัปเดตแล้ว 16/02/2562
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 16-02-2019 17:20:17
ขนุน
มัน
ร้าย
อย่า
ใว้
ใจ
ตา
ใสๆ
ที่
เห็น
เพราะ
มัน
หลอก
ตา
วง
วาร
พี่
คณิน
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 5 (ก้านมะยมสั่นมาก) อัปเดตแล้ว 16/02/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 16-02-2019 19:10:58
 :L2: :pig4:

นี่เรามโนว่าพี่สาวคนนั่นคือแฟนเก่าพี่คณิน 55
ขำความนิสัยไม่เข้ากับหน้าของขนุน
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 5 (ก้านมะยมสั่นมาก) อัปเดตแล้ว 16/02/2562
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 16-02-2019 19:45:08
พี่สาวคนนั้นคือใครหว่า
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 5 (ก้านมะยมสั่นมาก) อัปเดตแล้ว 16/02/2562
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 16-02-2019 20:29:11
พี่คนนั้นพี่ลูกตาลมั้ยอะ

ขนุนลูกกจะไปกดพี่เขาหรอ ไข่ดาววิ่งเข้าหายังจะล้มเลยนะ
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 5 (ก้านมะยมสั่นมาก) อัปเดตแล้ว 16/02/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 16-02-2019 20:55:41
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 5 (ก้านมะยมสั่นมาก) อัปเดตแล้ว 16/02/2562
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 16-02-2019 20:59:47
 :pig4:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 6 อัปเดตแล้ว 26/02/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 26-02-2019 19:57:24



ขนุนลูกที่ 6





   ใครจะรู้ว่าฝันสลายกลางอากาศเป็นยังไง เมื่อจู่ๆ คนที่ชวนไปกินข้าวมื้อดึกอย่างคณินเป็นอันต้องเบี้ยวนัด ขนุนแทบแบะปากร้องไห้ลงแดดิ้นหลังจากไล่สายตาอ่านข้อความผ่านไลน์ หน้าเหวอๆ เหมือนโดนบอกเลิกกลางอากาศหันไปมองต้ากับนิวแววตาว่างเปล่า จนทั้งสองเกือบจะเข้าใจว่ามีใครตายเลยเข้าเขย่าตัวขนุนจนหัวโยกหัวคลอน ถามไถ่จนรู้จากปากเจ้าตัวว่าคณินยกเลิกนัด คนหมั่นไส้โบกหัวขนุนไปคนละทีแล้วหนีบคอไปซดก๋วยเตี๋ยวแก้โมโหหิว

   หลังจากกินเสร็จขนุนก็กลับหอมากับต้าและแยกย้ายกับนิวที่ไม่ได้อยู่หอเดียวกันระหว่างทาง ขนุนเดินไหล่ตกถอนหายใจเป็นวรรคเป็นเวรอย่างกับหมดอาลัยคนทั้งโลก

   “เดินดีๆ ขนุน มึงจะห่อตัวห่อไหลให้เป็นห่อหมกเลยรึไง แค่เขาไม่ว่างกะทันหันมึงก็เป็นเอามากนะ”ต้าส่ายหน้าโยกหัวขนุน แล้วคนตัวสูงกว่าก็ยืดแขนยาวกอดคอขนุนเดินเข้าลิฟต์ไป

   “ก็เกือบจะได้โอกาสเจอกันทั้งทีมันก็ต้องเฟลเป็นธรรมดาดิต้า เสียใจอ่ะ”

   “มึงก็รู้ว่าเด็กทันตะเขาเรียนหนัก ก็เข้าใจหน่อยดิวะไหนแล็บไหนสอบ ไหนจะต้องอ่านหนังสืออีก วุ่นชายฉิบหายกูเห็นมานักต่อนักทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องที่บ่นให้ฟัง”

   “มันก็จริง เราจะทำตัวงี่เง่าไม่ได้”

   “เดี๋ยวนะ! นี่มึงอยู่สถานะไหนครับ พูดอย่างกับเป็นแฟนพี่เขาไปแล้วอย่างนั้นแหละ วุ้!”ต้าส่ายหน้าควักกุญแจห้องรอเพราะประตูลิฟต์กำลังเปิด

   “ก็อนาคตไงต้า ดวงในมือถือเราส่งมาว่า เราจะได้โชคเป็นสัตว์สองเท้านะ อาจจะเป็นเนื้อคู่ว่ามั้ย”

   “มึงจะเสยผมทำหลอเชี่ยอะไร อย่าเพ้อเจ้อ สัตว์สองเท้าเดี๋ยวกูให้ตอนนี้เลยก็ยังได้ ไปนอนได้แล้ว! ถึงห้องมึงแล้วเนี้ยแหกตาดู หรือให้กูไปตบตูดกล่อมนอน”

   “ต้าก็ เราไม่เด็กแล้วนะ”เจ้าของปากชมพูยู่ปากจนอีกฝ่ายทนไม่ได้ต้องยื่นมือมีบีบปากเข้าให้จนร้องเสียงอู้อี้

   “สำออย! บีบนิดบีบหน่อยทำสะดิ้ง”

   “ปากไม่ฟูดูไม่น่าจุ๊บจะทำไงอ่า เรารักษาบำรุงทุกคืนเลยนะ”ขนุนแตะปากตัวเองเบาๆ แล้วเม้มเบาๆ เช็กดูว่ายังโอเคดีไหม

   “คร้าบบบบ ผมขอโทษครับ”ต้ายกมือไหว้ท่วมหัวเป็นเชิงหยอกล้อ ก่อนจะส่ายหน้าระอาใจ

   “จริงสิต้า พรุ่งนี้ถ้าเรานอนตื่นสายอย่าลืมมาปลุกด้วย”

   “ไม่! กู ไม่ ปลุก! ไปนอนได้แล้ว”ขนุนหันมายิ้มให้ต้าเพราะรู้ว่าต้าก็ปฏิเสธไปงั้นๆ ก่อนผลุบเข้าห้องตัวเองโบกมือลาแล้วปิดประตู ต้ามองประตูไม้ตรงหน้าถอนหายใจหนักๆ ยิ้มระอาให้กับประตูไม้ตรงหน้าก่อนเดินกลับห้องตัวเองที่ห่างไปเพียงไม่กี่ห้องในชั้นเดียวกัน

   ขนุนเดินเข้าห้องมาก็จัดการโยนกระเป๋าลงบนโต๊ะมุมห้องที่นั่งทำงาน เล่นคอมฯ กินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม สารพัดกิจกรรม แล้วไปสลัดชุดนักศึกษาออกตั้งแต่เสื้อยันกางเกง จนเหลือเพียงบ็อกเซอร์ตัวเดียวเปล่าเปลี่ยวใจ เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อดูว่าพรุ่งนี้มีชุดใส่ไปเรียนพอหรือเปล่า แต่ก็เป็นที่น่ายินดีว่ามีเสื้อ แต่กางเกงนั้นกลับหมดเกลี้ยง ขนุนเลยเดินเกาพุงขาวๆ ที่ข่วนจนเป็นรอยแดงไปคุ้ยในตะกร้าผ้าซัก เพราะอยากจะขึงลมกางเกงสักตัวที่ดูสกปรกน้อยที่สุดเอามาใส่แก้ขัดไปก่อน เพราะหากจะซักคงแห้งไม่ทันใส่

   แต่ขณะที่รื้อกางเกงสแล็กสีดำขึ้นมาสะบัดนั้น เศษกระดาษหรือเรียกได้ว่านามบัตรใบหนึ่งก็ร่วงออกมาจากกระเป๋ากางเกง ขนุนก้มลงไปหยิบรีดด้วยมือให้เรียบนิดหน่อยก่อนจะอ่านชื่อเจ้าของบัตรที่ใช้ในการโฆษณาขายกระเป๋าแบรนด์เนมออนไลน์ออกเสียง

   “ลูกตาล...”

   ขนุนอ่านเสียงพึมพำเบาๆ ระลึกได้ว่าคือรุ่นพี่ผู้หญิงที่เจอกันด้วยอุบัติเหตุเมื่อวันก่อน ขนุนเพียงโยนนามบัตรใส่ไว้ในลิ้นชัก เลือกกางเกงที่มาใส่ในวันพรุ่งนี้ตากไว้ แล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ





   “กูไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตนี้จะต้องมาส่องผู้ชาย”

   “ก็ประสบกการณ์ชีวิตไงนิว เอาน่า ไหนๆ ก็ยอมมาแล้วอยู่เป็นเพื่อนกันก่อนเหอะนะ จะให้เรามาเดินอยู่แถวนี้คนเดียวมันก็ยังไงอยู่”

   “แล้วมึงก็ลากพวกกูมาเป็นเป้าสายตาด้วยสินะ สัด!”นิวคนใจร้อนยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ยีหัวตัวเองเป็นรอบที่สิบ เพราะดันตกปากรับคำขนุนมาเดินทางมายังมหาลัยที่คณินเรียนอยู่ แถมพอเดินเข้ามาในส่วนที่เป็นพื้นที่ของคณะทันตะ ก็ตกเป็นเป้าสายตามองแปลกของผู้คนไปในทันที คงสงสัยว่าลิงสามตัวมาอยู่ที่นี่ได้ไง

   ทำตัวมีพิรุธกันสุดฤทธิ์ คนนึงเกาะเสาทางเดินหลังคาเชื่อมชะเง้อคอยาว ส่วนอีกคนหันมองสายขวาตาเลิกลักเพราะเกรงสายตาคนผ่านไปมา ส่วนอีกคนก็หน้าตาบึ้งตึงถอนหายใจเป็นรอบที่ร้อย

   “มึงแน่ใจว่าพี่คณินเขานัดมึง ไม่ได้เบี้ยวเหมือนเมื่อวานอีก”ต้าเท้าสะเอวมองขนุนที่ชะเง้อคอยาวมองทางเหมือนเด็กไม่มีผิด

   “แน่ใจ เราคุยไลน์กับพี่คณินแล้วเมื่อคืน พี่เขาบอกว่าจะเรียนเสร็จหลัง 5 โมงเย็น บ่ายมีพรีคลินิกแต่อาจจะช้านิดนึง”

   “กูยืนรอจนขาตะคริวแดกแล้วเนี่ย”นิวบ่น

   “รอแป๊บเดียวเอง เดี๋ยวก็ออกมาแล้วพรุ่งนี้ก็จะไปค่ายคงไม่ได้เจอพี่คณินเขาตั้งสองสามวัน เดี๋ยวเราก็เป็นไข้ใจไม่สงสารเหรอ”ขนุนส่งสายตาวิงวอน

   “เออๆ จะรอแค่อีกครึ่งชั่วโมงนะ”นิวยื่นคำขาด ขนุนพยักหน้า

   “ขนุนกูถามจริงว่าที่พยายามติดต่อ พยายามตามพี่เขาแบบนี้มึงคิดจริงจังจริงๆ เหรอวะ”

   คนถามมองลึกเข้าไปในแววตาของขนุนที่หันมาสบตากับต้าสีหน้าเปลี่ยนเป็นจริงจังก่อนขยับปากพูด

   “อะแฮ่ม!....บอกตรงๆ ตั้งแต่วันที่ได้พบเธอ ตั้งแต่ยังไม่รู้ว่าเธอชื่ออะรายยยย ใจข้างในก็ยอมแพ้ แม้เธอไม่เคยบอก ว่าเธอคิดกับฉันว่ายังไง....”

   ปึก!

   “โอ๊ย!”

   “กูถาม! ไม่ใช่ให้มึงมาร้องเพลงเสียงเพี้ยนๆ ใส่หน้ากู”ต้าสับสันฝ่ามือลงกลางหัวทุยๆ ของขนุนที่ส่วนสูงน้อยหน้ากว่าตัวเองไปถึง 5 เซนอย่างเหลืออด คนถูกทุบลูบหัวตัวเองขมวดคิ้วยุ่งเป็นโบ

   “ก็เพลงมันได้อ่ะ นั่นบอกความรู้สึกเราทั้งหมดเลยนะ ความรู้สึกเราทุกอย่างมันกะทันหันจริงๆ ความรักก็เหมือนผี เวลาจะเข้าสิงใครจำเป็นต้องบอกเหรอ”

   “เปรียบเทียบได้สยองขวัญเหี้ยๆ ”นิวส่ายหน้าจิ๊ปากให้กับขนุน ที่เปลี่ยนอิริยาบถเป็นนั่งยองลงกับพื้นเฝ้าทางอย่างกับหมา

   “เราก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องสนใจพี่คณินขนาดนั้น แต่นิวกับต้ารู้มั้ยว่าเราไม่เคยรู้สึกใจเต้นแรงกับใครแบบนี้มาก่อนเลย มันเหมือนมีบางอย่างสะกิดใจเราให้สนใจเขาทั้งๆ ที่ไม่ต้องพยายามสั่งให้สมองเข้าใจว่าทำไมต้องเป็นคนนี้ มันเป็นเรื่องแปลกแต่จริงนะ อย่าถามเลยว่าทำไมต้องเป็นพี่คณินเลย เพราะเราเองก็หาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มายืนยันให้ไม่ได้หรอก”

   อีกครั้งที่ในคำตอบของขนุนไม่ได้มีความล้อเล่นมาเจือปน มันเป็นความใสของความรู้สึกข้างในจริงๆ

   “นิวกับต้าจะรังเกียจเรามั้ยถ้าเราจะชอบผู้ชายจริงๆ ”

   “มึงจะเป็นยังไงพวกกูไม่เคยรังเกียจ เข้าใจคำว่าเพื่อนจริงๆ รึเปล่าถึงถามพวกกูแบบนี้”

   “ก็มีหลายคนไม่ใช่เหรอที่รับเรื่องพวกนี้ไม่ได้”ขนุนกดสายตาลงต่ำมองพื้น ไม่ใช่ว่าไม่เคยรับรู้หรือไม่เคยเห็น ที่คนคิดต่างชอบต่างมักถูกเหยียด

   เหยียดโดยที่พวกเขาบริสุทธิ์ ไม่ได้ไปทำร้ายใคร

   “แต่พวกกูไม่ใช่หนึ่งในนั้น.....เข้าใจมั้ยห๊ะ”น้ำเสียงเข้มของนิวมาพร้อมกับมือหนักๆ ที่ยื่นไปยืดแก้มกลมๆ ของคนตรงหน้าอย่างมันเขี้ยว

   “เจ็บ เจ็บ เจ็บ เจ็บ....”คนถูกดึงแก้มครวญออกมาก่อนจะถูกยีหัวซ้ำจากต้าจนผมที่จัดทรงมาอย่างดีชี้โด่ชี้เด่ดูยุ่งเหยิง

   “เลิกดราม่าใส่พวกกูสักที มึงจะชอบหรือไม่ชอบอะไรก็แล้วแต่มึงดิ ใครว่าอะไรล่ะ เอาที่มึงสบายใจ”

   “พูดแล้วห้ามคืนคำ”

   “เออ”นิวขานรับขึ้นเหมือนจะไม่สนใจแต่ก็ต้องสนใจคนตรงหน้าอยู่ดี อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาให้กับท่าทางกระตือรือร้นออกนอกหน้าของขนุน

   “เรารักทั้งสองคนเลย”คนตัวเตี้ยกว่าอ้าแขนสองแขนกว้างแล้วโอบเพื่อนสองคนในกอดเดียว ทำเอาคนที่เดินผ่านไปมาไม่มองก็คงจะแปลกแล้ว

   “พอๆ อย่าดึงซีนเศร้า เชี่ยเอ้ยให้กูร้องไห้กับคำบอกรักมึงด้วยมะ”ต้าดันหน้าผากขนุนออกเอ่ยประชด ส่วนนิวก็แกะมือคนขี้อ้อนออก

   “เอาคำบอกรักของมึงไปบอกคนที่มึงชอบโน่น”ต้าบุ้ยหน้าไปทางด้านหลังของขนุน

   “พี่คณินมาแล้ว! ”พลันสายตาของขนุนหันไปมอง และหยุดอยู่ที่กลุ่มนักศึกษาชายสามคนที่เดินเรียงกันมา เรียกได้ว่าลมพัดใบไม่ปลิว การก้าวเท้าสม่ำเสมอแทบจะพร้อมเพรียง หากมีเพลงคงเหมือนเป็นการเปิดตัววงบอยกรุ๊ป แต่ที่ขนุนสะดุดตามากที่สุดก็คงจะไม่แคล้วเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาขาวใสใต้ตาคล้ำนิดๆ อย่างคณิน ถึงกับทำให้ขนุนพูดเพ้อออกมาตาปรือ

   “ยิ่งเราเห็นหน้าพี่คณิน เราก็ยิ่งอยากจะล้วง....”

   “เดี๋ยวๆ ล้วงเลิ้งอะไรของมึง!”ต้ายกมือปางห้ามญาติก่อนที่ขนุนที่หน้าตาใสซื่อจะพูดจาฟ้าผ่าออกมา

   “ล้วง? ก็ล้วงหัวใจเราให้พี่เขาไปต้มยำทำแกงน่ะสิ”ขนุนยิ้มตาหยี่ในแววตาซ่อนเร้นในสิ่งที่ไม่ใช่แค่หัวใจที่จะล้วงอย่างแน่นอน

   “แล้วไป”

    “แต่กูสงสัย สองคนนั้นใครวะที่เดินมากับพี่คณิน? ”นิวหรี่ตามองถามขนุนที่ส่ายหน้างงๆ เหมือนกัน

   “ไม่รู้สิ คงจะเป็นเพื่อนพี่คณินล่ะมั้ง เห็นบอกว่ามีเพื่อนสนิทสองคนชื่อพี่โจมกับพี่วิน”

   ต้ากับนิวพยักหน้า ขนุนเดินเข้าไปหาคณินที่ฉีกยิ้มขึ้นเมื่อเห็นว่าใครมา รอยยิ้มอบอุ่นที่ดูสุภาพบวกกับชุดนักศึกษาทันตแพทย์ยิ่งทำให้เข้ากับบุคลิกหล่อเหลาได้ไม่มีที่ติ จนทำให้ขนุนถึงกับเผลอทาบมือขาวไปบนตัวเสื้อที่คณินใส่อยู่แล้วเอ่ยปากชมด้วยสีหน้าชื่นชม

   “มองยังไงผมก็ชอบ.....ชอบชุดพี่คณินแบบนี้มาก ดูดีจังครับ...”พูดไม่ทันไรมือยาวๆ ของนิวก็เกี่ยวคอเสื้อของขนุนให้ถอยห่าง ไม่ห้ามเดี๋ยวมันจะเกินงาม

   “มึงทักอย่างเดียวมือไม่ปลาหมึกได้มะ”นิวพูดลอดผ่านซี่ฟันแต่ตายังยิ้มให้กับรุ่นพี่ต่างมหาลัยตรงหน้า

   “สวัสดีครับผมต้า แล้วก็นิวเป็นเพื่อนขนุน ผมกับพี่เราเคยเจอกันครั้งก่อนหน้านี้แล้วจำได้ไหมครับ”

   “อ้อพี่จำได้ เราที่เจ้าฟางที่ติดต่อเรื่องไข่ดาวให้ใช่มั้ย”

   “ครับ ฟางเป็นรุ่นน้องแต่เรียนที่นี่ บ้านใกล้กันเลยรู้จัก”

   “งั้นเหรอ ครั้งก่อนขอบใจมากนะ”

   “ครับ”

   “จริงสิ ลืมแนะนำไปเลย สองคนนี้เพื่อนพี่นะ”คณินบุ้ยหน้าไปให้รู้จักกับอนาวินและโจมที่ยืนอยู่ข้างๆ ให้แนะนำตัวทำความรู้จักกันเอง

   “พี่ชื่ออนาวิน เรียกวินเฉยๆ ก็ได้”

   “ส่วนพี่ชื่อโจม ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

   “ขนุนใช่มั้ย ที่อุ้มไข่ดาวไปอ่ะ?”อนาวินทักทายเจ้าของดวงตากลมใสที่ยิ้มน้อยๆ

   “คะครับ”

   “อา.....คนนี้นี่เอง หน้าตาน่ารักนะเรา แต่ได้ขาวว่าเมาเอาเรื่อง”อนาวินพูดหยอกล้ออย่างเป็นกันเอง มองขนุนที่ชำเลืองตามองคณินบ่อยด้วยสายตาเชื่อมอย่างกับเพื่อนของเขาเป็นขนมหวาน

   “ก็บางครั้งครับ แต่มีต้ากับนิวคอยดูอยู่เลยจะไม่ค่อยบ่อยนัก”ขนุนหันไปสบตากับต้าและนิว หันไปยิ้มแห้งให้กับวินที่รู้เรื่องราวของตัวเองมาบ้างแล้ว

   “ตอนนี้อย่าเพิ่งคุยอะไรมากเลย กูหิวแล้วเนี้ย พวกน้องไม่หิวรึไงครับ? ”โจมท้วงขึ้นยกมือลูบท้องตัวเองตัดบทสนทนา

   “นั่นสิ พวกขนุนอยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ย ว่าไงต้า นิว? ”คณินหันไปถามความเห็นรุ่นน้อง

   “พวกผมกินง่ายอยู่ง่าย อะไรก็ได้ครับ”

   “งั้นไปชาบู กูอยากกินปูอัด”อนาวินเสนอ ทุกสายตาหันไปมองเหมือนตำหนิ

   “ปูอันเซเว่นก็มีขายมะ”โจมกระทุ้งศอกเพื่อนตัวเองที่ทำตัวเหมือนดั่งสุภาษิตที่ว่า ฆ่าช้างเอางา ยอมเสียค่าหัวแพงๆ เพื่อไปกินปูอัดไม่กี่ชิ้น

   “ก็ดีนะครับ ผมก็อยากกินอยู่พอดี”

   “งั้นก็ชาบู”คณินตอบรับ

   “ทีกูล่ะแม่งขัดจัง ทีน้องนุ่งนี่ยอมตลอด”อนาวินแซวคณินที่ทำเป็นไม่ได้ยินและเกาะไหล่ขนุนเดินนำ คนถูกจับนิดแตะหน่อยอย่างขนุนถึงกับเอี้ยวหน้ามองหลังไปยังนิวและตาแล้วยิ้มหน้าชื่นอย่างเนียนๆ

   “มึงบอกกูทีว่าไอ้ขนุนไม่ใช่เพื่อนกู”นิวถอนหายใจบ่นกับต้ากระปอดกระแปด

   “ไปครับ ไม่ต้องเกรงใจมื้อนี้พวกพี่เลี้ยงเอง”อนาวินที่เดินตามหลังมาแตะบ่าของนิวกับต้าคล้ายดันให้เดินร่วมกันไป

   “เอ่อ.....พี่วินครับ”ต้าอึกอักเหมือนจะพูดบางอย่าง

   “หืม?”

   “ถ้าเพื่อนผมมันวอแวเพื่อนพี่หนักไปก็ขอโทษด้วยนะครับ พอดีขนุนมันขาดความอบอุ่น”

   อนาวินหัวเราะไม่คิดอะไร “ก็ดีแล้ว” แค่เห็นสีหน้าขนุนก็รู้แล้วว่ารายนั้นดูจะถูกใจเพื่อนเขาเป็นพิเศษ อนาวินก็อยากให้เพื่อนอย่างคณินเดินออกมาจากโลกสีเทาๆ เสียที ชีวิตจะได้มีสีสันบ้าง เลิกยึดติดกับอดีตพังๆ เพราะความรักที่ไปไม่สวยซะที

   “เมื่อกี้พี่พูดว่าอะไรนะครับ?”

   “ไม่มีอะไร ไปเหอะสองคนโน้นไปไกลแล้ว”อนาวินขยิบตาให้ต้าอย่างเป็นกันเอง ทำเหมือนเมื่อครู่แค่เผอเรอออกมาซะอย่างนั้น




ร้านชาบู

   หม้อใบกลมที่แบ่งออกเป็นสองฝั่งด้วยน้ำซุปสีดำและน้ำต้มยำรสแซ่บ ควันสีขาวที่ลอยฟุ้งไปในอากาศหายวับไปกับตาแทนที่ด้วยกลิ่นหอมของน้ำซุปและบรรดาเนื้อและผักที่ถูกเทลงไปในหม้อเพื่อต้มรวมกันให้ทันใจคนกิน ไม่นานของที่ถูกเทลงไปก็ถูกคีบตักใส่จานและราดด้วยน้ำจิ้มสุกี้รสเด็ดของร้าน ตักเข้าปากเคี้ยวแล้วกลืนลงท้องอย่างไม่มีใครยอมใคร คอนโดภาชนะที่ใส่วัตถุดิบถูกกวาดลงหม้อจนเกลี้ยงซ้อนสูงนับสิบชั้นจนพนักงานต้องมาเก็บกลับไปอยู่หลายรอบ
 
   การพูดคุยในช่วงต้นระหว่างรอน้ำซุปเดือดและก่อนของที่สั่งจะมาก็ทำให้พวกขนุนและคณินสนิทสนมกันได้ในระดับหนึ่ง ช่องว่างระหว่างอายุและความเป็นรุ่นพี่ก็ค่อยๆ ลดลง การพูดคุยถูกคอมากขึ้น กระทั่งของทุกอย่างมาเสิร์ฟบทสนทนาจึงสั้นลงเพราะมัวแต่วุ่นอยู่กับมื้ออาหารตรงหน้า แต่ก็นับว่าเป็นมื้อสานสัมพันธ์ฉันพี่น้องโดยแท้ ดูได้ไม่ยากจากคณินกับขนุนเป็นตัวอย่าง

   “พี่คณินกินกุ้งไหมครับเดี๋ยวผมแกะให้”

   “มา พี่แกะให้เองดีกว่า”คณินคีบกุ้งที่อยู่ในจานขนุนมาไว้ในจานตัวเองก่อนจะยอมมือเปื้อนแกะเปลือกกุ้งให้แล้วส่งกลับไปให้ขนุน

   “ขอบคุณครับ”คนถูกเอาใจยิ้มหน้าบานคีบกุ้งใส่ปากเคี้ยวจนแก้มตุ่ย

   “อันนี้อร่อยนะครับพี่คณินกินดู”ขนุนคีบหมูสามชั้นสไลด์แบบบางที่ไม่มีอะไรพิเศษนอกจากความรู้สึกของคนที่คีบให้ใส่จานคณินเป็นการตอบแทน

   “น้องขนุนครับ พี่ก็อยากกินแต่คีบไม่ถึงรบกวนหน่อยได้มั้ยครับ”โจมแทรกขึ้นเหมือนจงใจเรียกสองคนนั้นให้กลับเข้าสู่โลกที่มีเพื่อนและพี่นั่งหัวโด่ร่วมโต๊ะอยู่ด้วย

   “พี่โจมอยากกินอะไรครับ?”

   “อะไรก็ได้ครับ”

   แล้วขนุนก็คีบให้

   “ผักบุ้งไหมครับ บำรุงสายตา”

   “กูอยากทุบหน้ามึงมากไอ้ขนุน ลำเอียงสัดๆ อ่ะ”ต้ามองผักบุ้งในจานของโจมประท้วงให้กับความไม่ยุติธรรม และมองเนื้อในจานของคณิน เกิดอยากจุ่มหัวขนุนลงไปในหม้อชาบู

   นี่มันสองมาตรฐานชัดๆ !

   “ก็พี่โจมบอกว่าอะไรก็ได้ หมูยังไม่สุกเลยจะกินได้ไงอ่ะ”

   “มึงตักให้พี่คณินหมดต่างหาก พวกกูนั่งกินแต่ผักจนจะเป็นมังสวิรัติกันหมดแล้วเห็นมะ”นิวจิ๊ปากเหน็บแนมขนุนเปิดเผย อนาวินอดขำไม่ได้เห็นด้วยกับความคิดของเพื่อนขนุน

   “เอ้าเหรอ ก็นึกว่าชอบกินแต่ผักกัน”

   “เอานาๆ ขนุนก็ไม่ต้องตักให้พี่แล้ว แค่นี้พี่ก็จะกินไม่หมดแล้วครับ”พูดไปคณินก็กวักมือเรียกเติมน้ำให้ขนุนแล้วเลื่อนแก้วให้

   “พี่โจมไมโกรธผมใช่มั้ยอ่า”ขนุนหันไปมองโจมที่ส่ายหน้ายิ้มๆ จะโกรธลงได้ยังไงเล่นทำสีหน้าที่ฆ่าไม่ลงแบบนั้น โจมก็รู้ว่าน้องไม่ได้ตั้งใจ แถมที่พูดให้ขนุนตักให้ก็แค่อยากจะแกล้งก็เท่านั้น

   “พี่ไม่ได้โกรธ คิดมากนา นี่มันบุพเฟ่นะครับน้องขนุน จะกินอะไรก็สั่งได้อีก อย่าวอรี่”

   “เห็นมะพี่โจมไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย นิวกับต้าอยากกินอะไรอีกเดี๋ยวเราสั่งให้”ขนุนหยิบกระดาษออเดอร์มาเตรียมจะสั่งเพิ่ม อนาวินโบกมือปฏิเสธเพราะเริ่มอิ่มเต็มทีแล้ว ส่วนต้าก็สั่งเพิ่มไปแค่เนื้อปลาส่วนนิวก็ลุกไปตักของหวานแก้เลี่ยนล้างปาก

   หลังอาหารคาวจบลงก็ตบท้ายกันด้วยของหวานเป็นไอศกรีม ช่วงเวลาของการเริ่มบทสนทนาจึงเริ่มขึ้นอีกครั้งแบบสบายๆ

   ขนุนไม่ลืมที่จะเล่าว่าพรุ่งนี้พวกเขาจะต้องออกค่ายอาสาร่วมกับรุ่นน้อง และอาจจะไปถึงสามวัน ประเด็นสำคัญไม่ใช่กิจกรรมที่จะนำเสนอต่อคณินว่าตัวเองทำอะไรบ้าง แต่ประสงค์หลักแค่อยากบอกคณินอ้อมๆ ว่า ตัวเองไม่อยู่อยากให้รู้ว่าควรจะนึกถึงกันบ้าง

   ขนุนถึงจะดูเหมือนไม่คิดอะไรท่าทางเปิดเผยทั้งความคิดและการกระทำ แต่บางครั้งความคิดก็ซับซ้อนจนเพื่อนอย่างต้าและนิวก็คาดไม่ถึงเช่นกัน

   หลังจากใช้เวลาอยู่ในร้านชาบูถึง 2 ชั่วโมงกว่าๆ ออกมาท้องฟ้าก็มืดสนิท คณินเห็นว่ามันค่อนข้างดึกแล้วเลยอาสาที่จะไปส่ง แต่ขนุนกลับยืนกรานว่าจะกลับกับเพื่อนเอง คณินเลยขัดไม่ได้แถมเจ้าคนตัวเล็กแต่ใจใหญ่ยังขออาสาเดินไปส่งคณินถึงรถที่จอดอยู่หลังร้านในพื้นที่ที่ทางร้านจำกัดไว้ให้สำหรับลูกค้า ส่วนต้ากับนิวก็บอกว่าจะคอยอยู่หน้าร้าน นั่นหมายความว่าเพื่อนทั้งสองรู้งานและรู้ใจขนุนเป็นที่สุด

   ทั้งอนาวินและโจมก็ขอเดินไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ คณินไม่ต้องรอเพราะขับรถแยกคันกันมา

   “พี่คณินพรุ่งนี้มีเรียนเช้าเหรอครับ”

   “อืม เช้าเกือบทุกวัน อย่างช้าก็เริ่มเก้าโมง ปี 4 ก็จะเริ่มมีเข้าคลินิกบ้างช่วงนี้พี่กำลังเก็บเคสทำฟันอยู่”

   “เหรอครับ แล้วแบบนี้ไข่ดาวตอนกลางวันไม่เหงาแย่เหรอ”

   “ก็คงจะเหงานั่นแหละ แต่พี่ก็มีเวลาให้แค่ตอนกลับบ้าน หรือบางทีก็ต้องเอาไปฝากเลี้ยงที่โรงแรมสัตว์เวลาพี่ยุ่งจริงๆ ”คณินเดินไปก็เล่าให้ขนุนฟังไม่ปิดบัง

   “เอ่อ.....ถ้าพี่คณินไว้ใจผม และไม่คิดว่าผมเป็นคนอื่นคนไกล.....คือว่า.....”ขนุนก้าวเท้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าคณินหลังจากที่เดินมาจนถึงรถปาเจโร่คันสีดำ ที่มีเจ้าของความสูงเหนือกว่าขนุนไปถึง 1 ช่วงบ่ายืนพิงประตูรถกอดอกตั้งใจฟังในสิ่งที่ขนุนต้องการพูด
 
   คิ้วได้รูปขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ดวงตาคู่คมสบตากับขนุน คณินมองคนตัวเล็กกว่าที่ขยี้ปลายจมูกตัวเองไปมาจนแดงเถือกมองดูตลกจนเผลอยิ้มออกมา

   “มีอะไรก็พูดมาครับ ขยี้จนจมูกเราแดงไปหมดแล้ว”แขนยาวๆ เอื้อมมือมาจับมือขนุนให้ลดจากใบหน้าดึงคนตัวเล็กกว่าให้เข้ามาใกล้อีกนิดทันทีที่มีรถขับผ่านหลังขนุนไป ระยะใกล้ใจทำเอาขนุนแอบหวั่น กลัวว่าจะเผลอปากลั่นพูดอะไรไม่เข้าท่าจนคณินกระเจิง ขนุนรู้ว่าความสัมพันธ์ที่ยืนยาวจะต้องค่อยเป็นค่อยไป และมีช่องว่างระหว่างกัน จึงได้แต่เก็บกลั้นความรู้สึกล้นปริ่มเอาไว้

   “ขอบคุณครับ ผมแค่จะบอกว่า ถ้าพี่ไม่ว่างดูแลไข่ดาว และพี่คณินไว้ใจก็มาฝากผมได้นะครับ”

   คนอาสาลูบแก้มผ่าวๆ ของตัวเองเบาๆ เดิมทีขนุนก็ไม่ได้รังเกียจสัตว์เลี้ยงออกจะชอบด้วยซ้ำแต่ติดตรงที่ว่ายังรับผิดชอบไม่พอจะดูแลมันทั้งชีวิต เรื่องช่วยดูแลไข่ดาวจึงกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยที่เต็มใจ แถมไข่ดาวยังน่ารักน่ากอดขนาดนั้น

   “ขนุนบอกว่าอยู่หอ เอาสัตว์เลี้ยงไปไว้ที่ห้องได้เหรอ”คณินเลิกคิ้วมองว่าคนตรงหน้าจะตอบว่าไง

   “ผมค่อนข้างจะสนิทกับเจ้าของหอน่ะครับ เลยไม่เป็นไร”

   “แบบนั้นพี่ว่าไม่ดีหรอก อย่าเลย”คณินปฏิเสธเสียงเรียบ ขนุนหน้าถอดสีไปเล็กน้อยก็รู้ว่าใครมันจะไปวางใจคนพร่ำเพรื่อให้ดูแล

   “.....ครับ”

   “เพราะว่าแบบนั้นมันรบกวนข้างห้องเขาน่ะ” พูดจบคณินก็เปิดประตูรถแล้วก้มลงไปควานหาอะไรสักอย่างโดยไม่สนใจสีหน้าของขนุน

   “.....”

   “แต่พี่ว่าวิธีของพี่มันโอเคกว่านะ ไม่รบกวนคนอื่น แต่ต้องรบกวนขนุนแล้วล่ะ”รอยยิ้มหยักจุดขึ้นที่มุมปากพร้อมจะกระชากหัวใจดวงน้อยๆ ของขนุนเหลือเกิน เมื่อคณินคว้ามือของขนุนขึ้นมาแล้วหย่อนโลหะสีเงินเย็นเยียบลงบนฝ่ามือของขนุน ขนุนซึ่งก้มมองสีหน้าประหลาดใจ

   “อะไรครับ?”

   “กุญแจสำรองที่บ้านของพี่น่ะ ถ้าอยากมาเล่นกับไข่ดาวก็มาได้ทุกเมื่อ แบบนี้เรียกว่าไว้ใจพอรึเปล่าครับ”

   ปากเล็กๆ เผยอขึ้นดวงตาเบิกโพลงนิ่งค้าง คณินหัวเราะน้อยๆ วางมือหนักๆ ลงบนกลุ่มผมสีบลอนด์ที่นุ่มละเอียดอย่างเอ็นดู ขยี้เบาๆ แล้วส่งรอยยิ้มนัยน์ตาเป็นประกาย ตอกย้ำให้ขนุนยิ่งรู้สึกว่า
.

.

   ถ้าไม่ใช่คนนี้ คงจะไม่ได้แล้ว
.
.
.
   ‘พี่ทำแบบนี้ ผมถือว่าพี่อ่อยผมแล้วนะครับ’   









ติดตามตอนต่อไป >>


ฝากน้องหนุนไว้เช่นเคยค่ะ  :hao5:
ช่วยเอ็นดูน้องหนุนด้วยนะคะ  :o8:



โดย หลานฮวา
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 6 อัปเดตแล้ว 26/02/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 26-02-2019 21:39:48
อู้ววววหูววว อ่อยเบอร์แรง

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 6 อัปเดตแล้ว 26/02/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 27-02-2019 00:11:27
 :laugh:

 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 6 อัปเดตแล้ว 26/02/2562
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 27-02-2019 08:00:47
พี่คนิณชักศึกเข้าบ้านแล้ว


ขนุนมันร้าย


อย่าใว้ใจเด็กแบ๊ว

55555555
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 6 อัปเดตแล้ว 26/02/2562
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 01-03-2019 13:56:07
พี่มันอ่อยยย  :hao3:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 7 อัปเดตแล้ว 1/03/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 01-03-2019 20:10:42



ขนุนลูกที่ 7



   มินิบัสคันเล็กที่เดินทางไกลจากภาคกลางลงสู่ภาคใต้และย้อนกลับมาเมื่อภารกิจค่ายอาสาเสร็จสมบูรณ์ ตอนไปแต่ละคนสีหน้าครื้นเครงเหมือนจะออกไปแตะขอบฟ้า แต่หลังจากกลับมาหน้าคล้ำแทบจะคลานลงจากรถด้วยความเหนื่อยล้า แต่ความเหน็ดเหนื่อยครั้งนี้ก็นับว่าเป็นประโยชน์ให้ใครหลายๆ คนได้ลงมือทำดีสักครั้งในชีวิต

   ไปอาบเหงื่อ ตากแดด คลุกฝุ่น เก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว
   
   “เป็นไงขนุน เหนื่อยมากมั้ย? ”เสียงใสๆ ของคนที่มายืนรอพวกเขาไม่ใช่ใครแต่เป็นจ๊ะเอ๋แฟนต้า สาวสวยคณะอักษรที่ปันจักรยานมาหาถึงหน้าคณะ

   “เหนื่อยนั่งรถซะมากกว่า ตูดชาไปหมดแล้ว”มือเล็กยกขึ้นขยี้ตาที่ดูเหมือนว่าจะนอนหลับไม่ได้สนิทสักเท่าไหร่ สังเกตได้จากถุงใต้ตาที่แปะอบู่บนใบหน้างัวเงียของขนุน

   “ดูแต่ละคนหน้าตาแขนคล้ำกันเยอะเลย ตากแดดกันทั้งวันป่ะเนี่ย? ”จ๊ะเอ๋พลิกท้องแขนของขนุนสำรวจด้วยความเป็นห่วงจนเคยชิน ลืมไปเลยว่าตัวเองมารอแฟนหนุ่มที่แทบจะไม่ชะเง้อมองหาแม้แต่น้อย

   “โอ๊ยยยยที่รัก เค้าไม่ไหวแล้ว อย่าเพิ่งถามอะไรเลยขอกลับไปนอนก่อนได้มั้ย”ต้าเดินตัวลอยมาแทรกกลางระหว่างขนุนกับจ๊ะเอ๋เรียกร้องความสนใจแล้วพักคางไว้ที่ไหล่บาง อีกฝ่ายลูบหลังให้เป็นกำลังใจจนเพื่อนพ้องเหม็นความรักแบะปากตาคว่ำกันเป็นแถว

   “กลับมาล่ะอ้อนจัง แฟนกูอยู่ไหนวะ! ไม่เห็นมารับบ้างเลยโว้ยยยย!”เสียงช้างที่เดินลงมาจากรถโวยวายประชดเพราะตัวเองยังหาแฟนไม่ได้ ตามหลังมาด้วยแจ็กเฮดว๊ากที่แบกสัมภาระของฝากลงมาเต็มไม้เต็มมือ บอกจะเอาไปฝากแม่กับน้องที่บ้านดูพะรุงพะรังเหมือนรถกับข้าวเคลื่อนที่

   “เค้าก็อยู่นี่ไงตะเอง ช่วยถือของเค้าหน่อยดิ ปวดแขนจะแย่แล้ว”แจ็กเดินมาสวมรอยแฟนจำเป็นของช้างให้ เข้าถูไถใบหน้ากับไหลล่ำๆ  ท่าทางแกล้งตุ้งติ้งทำเอาเพื่อนๆ รุ่นพี่รุ่นน้องป้องปากหัวเราะด่ากราดถึงความบัดสีบัดเถลิงและท่าทางออกสาวเกินหน้าเกินตา

   “อย่ามาคลอไอ้แจ็กกูร้อน สัด! แล้วไม่ต้องมาเนียนให้กูช่วยถือของด้วย ซื้ออย่างกับไม่เคยซื้อของ”

   “กูคนมีน้ำใจเว้ย เอาไปแจกทั้งนั้น”

   “ของแม่กับน้องมึงถุงเดียวป่ะ ที่เหลือน่ะของมึงทั้งนั้น”

   “แล้วทุกครั้งที่มึงมาห้องกู ก็มึงไม่ใช่รึไงที่แดกของกูเกลี้ยงเหมือนล้างตู้เย็น”

   “พวกมึงไปล้างตู้เย็นกันตอนไหน”

   “ไอ้สัดต้า!”ช้างคำรามขึ้นดันหน้าแจ็กให้ออกห่างอย่างรังเกียจขึ้นมา เมื่อถูกพาดพิงเรื่องเสียๆ หายๆ

   “สอนเราบ้างดิ ล้างตู้เย็นอ่ะ”ขนุนตาวาวขึ้น

   “กูไหวล่ะขนุน อย่าพูดแบบนี้ กูใจสั่นเพราะมึงหมด”ช้างเอามือทาบอกตัวเองกับท่าทีสนใจเรื่องใต้สะดือออกนอกหน้าของขนุน แม้จะทำใจมาบ้างแล้วแต่ไอ้ตาใสๆ ที่พูดเรื่องหลุมดำแล้วมันไม่ไหวกับใจช้างจริงๆ

   “พวกมึงอ่ะเลิกพูดมากแล้วไสหัวมาช่วยขนของลงจากรถก่อนดิ๊! ”นิวตะโกนมาจากข้างรถที่เปิดอ้าออกก่อนทุกสภาพร่างจะรีบกรูเข้าไปช่วยขนก่อนที่นิวคนหัวร้อน 2019 จะสำแดงอิทธิฤทธิ์

   หลังจากขนของและสัมภาระต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้านอย่างหมดสภาพ บ้างก็กลับหอไปพักผ่อนเอาแรงเตรียมมาเรียนในวันพรุ่งนี้ ต้าและขนุนยังคงกลับด้วยกัน และแยกย้ายเข้าห้องตัวเองเพื่อไปอาบน้ำพักผ่อน ขนุนโยนกระเป๋าและทิ้งตัวลงนอน เปิดแอร์เย็นฉ่ำอย่างที่ชอบ มือเอื้อมคว้าพวงกุญแจที่วางไว้ในโถแก้วบนโต๊ะข้างเตียงขึ้นมาดูแกว่งเล่นไปมากลางอากาศอมยิ้มอยู่คนเดียวอยู่หลายนาที

   “กุญแจสำรองที่บ้านของพี่น่ะ ถ้าอยากมาเล่นกับไข่ดาวก็มาได้ทุกเมื่อ แบบนี้เรียกว่าไว้ใจพอรึเปล่าครับ”

   ประโยคที่ดังขึ้นซ้ำๆ ในหัวมันทำให้ขนุนมีความสุขทุกครั้งที่นึกถึงเจ้าของกุญแจช่อนี้
 
   แก้มขาวที่คล้ำแดดขึ้นมาเล็กน้อยค่อยๆ จับตัวเป็นก้อนเมื่อเจ้าของปากชมพูฉีกยิ้มกว้างขึ้น แล้วกอดกุญแจในมือพร้อมกลิ้งไปมาบนเตียงหลายสิบตลบเพราะความมโนเก่งเกินตัว

   “ผมจะเก็บรักษากุญแจไว้เป็นอย่างดีเลยครับพี่คณิน”

   ขนุนม้วนตัวเขินอายอยู่คนเดียวสักพัก ก่อนจะเผลอหลับไปทั้งรอยยิ้มและไม่ได้อาบน้ำ เก็บเอาคณินเข้าไปอยู่ในความฝัน ขังไว้ในโลกที่ขนุนสามารถจินตนาการได้เท่าที่ต้องการ





   “โอ๊ย ปวดตัวไปหมด อยากจะกลับไปอาบน้ำแล้วล้มตัวลงนอนสุดๆ ”

   “มึงจะนอนก็อย่าลืมอาทิตย์หน้ามีสอบแล็บ 2 ตัว เลือกเอาว่าจะนอนหรือตายไปเลย”

   “คุณคณินครับ อย่าพูดเรื่องน่าสยองแบบนั้นตอนที่คนกำลังต้องการจะพักผ่อนจิตใจได้มะ” พูดแล้วอนาวินก็พรูลมหายใจออกจากปากยาวเหยียด “อาทิตย์นี้กูนอนรวมๆ ไม่ถึง 8 ชั่วโมงด้วยซ้ำ”

   “นี่แค่เบาะๆ กูเห็นรุ่นพี่ปี 5 แม่งผีดิบเดินได้อ่ะ กูชักหวั่นๆ เหมือนกันแล้วว่ะว่าจะมีชีวิตรอดมั้ย”โจมจกกระเป๋าเสื้อเดินนำไปยังตู้กดเครื่องดื่มดูโรยรา ก่อนจะกดซื้อน้ำชาเขียวผสมน้ำผึ่งมา 1 ขวด

   “พอๆ เลิกพูดเรื่องเรียนชั่วคราว”คนพูดแย่งน้ำจากในมือของโจมมากระดกแล้วส่งกลับให้เจ้าของ และหันไปมองคณินที่ยืนกดโทรศัพท์ “จริงสิ น้องขนุนของมึงหายหน้าไปหลายวัน ยังไม่กลับจากค่ายอีกเหรอวะ?”

   “กลับมาแล้ว”

   “รู้ได้ไง”โจมแกล้งถามเดินเข้าไปใกล้เพื่อนเกลอแล้วเอามือตะปบไหล่เบาๆ แอบเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์ของคณินเนียนๆ

   “ขนุนไลน์มาบอกกูเมื่อเช้า แล้วบอกว่าจะเข้าไปเล่นกับไข่ดาวตอนบ่ายที่บ้าน แล้วกูก็ให้กุญแจสำรองไปแล้ว”คณินตอบออกไปไม่ปิดบังสีหน้าปกติสุดๆ แล้วหันไปพยักหน้าเป็นเชิงรับไหว้รุ่นน้องผู้หญิงที่เดินผ่านไปเป็นกลุ่ม ใครบ้างจะไม่รู้จักสมบัติของคณะอย่างคณิน ความดีงามและงานดีที่มีไม่กี่คนให้สาวๆ ได้ชุ่มฉ่ำหัวใจ แต่น่าเสียดายตรงที่คณินไม่ได้ชอบสังสรรค์เฮฮากับคนอื่นมากนัก ไปไหนมาไหนโดยส่วนใหญ่ก็มีแต่อนาวินและโจม นานๆ ครั้งถึงจะเข้าร่วมกิจกรรมใหญ่ๆ ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างงานบายเนียร์หรืองานเลี้ยงสายรหัสเท่านั้น

   ใครๆ ก็เลยลงความเห็นว่าสมบัติที่หาตัวจับยากรองจากดาวเดือนมหาลัยก็คือนายคณิน ดิเรกราชรังสรรค์นี่แหละ

   “ไปบ้านมึง? แล้วมึงยังให้กุญแจไปอีก! ”โจมหน้าเหวอๆ เมื่อได้ยินเรื่องที่ไม่เคยรู้มาก่อนแบบนั้น ปกติเพื่อนรักอย่างคณินแทบจะไม่เปิดบ้านให้ใครเข้าไปยุ่มย่ามสักเท่าไหร่นักนอกจากพวกเขา หรืออดีตคนพิเศษอย่างลูกตาล

   “ทำไม? ”

   “มึงยังจะถามว่าทำไมอีก ปกติมึงไม่ชอบให้ใครมารุกล้ำความเป็นส่วนตัวไม่ใช่เหรอครับ แต่นี่ถึงกับให้ไปบ้านกูว่าไม่ธรรมดา ถามจริงนะเว้ย มึงชอบน้องขนุนขนาดนั้นเลย? ”อนาวินจ้องคณินตาเขม่น จับพิรุธเพื่อนสุดฤทธิ์สุดเดช

   “อย่ามองกูด้วยสายตาแบบนั้น กูคิดกับขนุนแค่น้องชายคนนึง มึงก็เห็นว่าขนุนเป็นเด็กคุยง่าย นิสัยน่ารัก พวกมึงยังชอบเลยไม่ใช่รึไง”

   “พวกกูไม่เถียง กูยกน้องหนุนเป็นเบสออฟเดอะบอยไปเลยก็ยังได้ มอบสายสะพายคล้องคอให้เลยเอ้า! แต่กูแค่ถามเพื่อความมั่นใจแค่นั้น ก็เห็นสนิทกันไวอย่างกับอะไรดีใช่มะไอ้โจม”อนาวินหาพวก

   “คิดมากแล้วพวกมึงอ่ะ”

   “เอาดีๆ นะเว้ยคณิน กูไม่ห้ามถ้ามึงจะเปลี่ยนใจจากน้องชายมาเป็นเมีย”อนาวินได้ทีแซวคณินสนุกปาก ปกติไม่มีเรื่องอะไรให้กระแนะกระแหนเท่าไหร่นัก แต่พอมีขนุนทุกอย่างมันดูสนุกไปหมด เพื่อนอย่างโจมกับอนาวินเลยมีเรื่องให้ล้อคนที่ใจแทบกลายเป็นหินให้ได้ร้อนตัวขึ้นมาบ้าง

   “มึงก็พูดดีๆ เดี๋ยวน้องเขาเสียหาย”คณินพูดเสียงเข้มละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์ที่กำลังคุยไลน์อยู่กับคนที่อนาวินนินทาลับหลังอย่างตำหนิ

   “ปกป้องว่างั้น? แหมรักน้องรักนุ่งจริงๆ แต่มึงลืมไปป่ะว่าขนุนเป็นผู้ชาย จะหวงอะไรปานนั้นครับ พวกกูก็พูดเล่นๆ ไปงั้น”โจมไหวไหล่กอดอกมองคณินที่ส่ายหน้าระอากับเพื่อนที่ชอบต้อนเขาให้จนมุมในเรื่องที่ไม่เข้าท่า

   ตอนนี้กับขนุนแล้ว.....คณินไม่ได้คิดมากไปกว่ารุ่นน้องคนนึง ความน่ารัก ความสดใสและบวกกับบุคลิกที่ตรงไปตรงมาทำให้คณินรู้สึกว่าเขาจะไม่เงียบเหงาอีกต่อไปถ้ามีขนุนเป็นเพื่อนอยู่เคียงข้างอีกคน

   และมันก็เป็นเรื่องแปลกที่คณินก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมเขาถึงได้รู้สึกว่าขนุนไม่ใช่คนอื่นไกลมาตั้งแต่ต้น ไม่เคยรู้สึกว่าเป็นคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกัน แต่มันมีความรู้สึกผูกพันที่มากกว่านั้นอยู่ในความรู้สึก

   “กูจะกลับบ้านแล้ว หมดเรื่องจะแซวแล้วใช่มะ”คณินหันไปถามอย่างรู้ทันก่อนเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกง

   “รีบเพราะน้องหนุนอยู่บ้าน? ”

   “อืม เห็นว่ากำลังรับศึกหนักกับไข่ดาว กูจะไปดูหน่อยชักเป็นห่วง”เจ้าของส่วนสูง 185 เซนติเมตรปัดปลายจมูกหลบสายตาอนาวินกับโจมเล็กน้อยก่อนจะขอตัวแยกออกไปทิ้งให้สองเพื่อนสนิททั้งคิด วิเคราะห์ แยกแยะกันสนุก
 
   “ไอ้โจม มึงคิดอย่างที่กูคิดหรือเปล่า B1”

   “กูก็คิดเหมือนอย่างที่มึงคิดแหละ B2 ”

   “กูว่าแม่งมันไม่น่าจะธรรมดาแล้ว”อนาวินกอดอกมองคณินที่เดินหนีไป ระหว่างทางก็มีสาวๆ แอบเหลือบสายตามองทำท่าเขินอาย กระซิบหยอกล้อกันเป็นเรื่องชินตา
   
   “แต่มันเสือกไม่รู้ตัวนี่ดิ กูล่ะสงสารน้องขนุนตงิดๆ ”

   “มองจากดาวอังคารยังรู้เลยว่าน้องหนุนปลื้มมันขนาดไหน”

   “แล้ว.....กูกับมึงเมื่อไหร่จะเลิกเสือกเรื่องไอ้คณินแล้วกลับบ้านไปนอนสักทีวะ”

   “เออ จริง”
   




   เป็นเวลาประมาณ 6 โมงเย็นกว่าๆ ที่คณินขับรถจากมหาลัยเข้าไปยังหมู่บ้านที่ซึ่งเคยเป็นบ้านที่พ่อกับแม่อาศัยอยู่ร่วมกัน แต่หลังจากทั้งสองย้ายถิ่นฐานไปอยู่ต่างจังหวัดหลีกเลี่ยงความวุ่นวายในเมืองกรุงฯ เมื่อหลายปีก่อน คณินก็เลยต้องอาศัยอยู่คนเดียวในบ้านหลังใหญ่ที่มีถึง 5 ห้องนอนไม่นับรวมห้องนั่งเล่น ห้องหนังสืออีก ก็นับว่าใหญ่ไปมากสำหรับการอยู่คนเดียว แต่เพราะมีไข่ดาวที่ช่วยบำบัดความเหงาได้บ้างคณินเลยชินที่จะอยู่คนเดียวกับอีกหนึ่งตัวแบบนี้

   ตั้งแต่เลิกกับลูกตาลไปเมื่อ 5 เดือนก่อน นับจริงๆ ก็ไม่ได้เร็วนักสำหรับคนลืมช้าอย่างคณิน เพราะหากเขาเปิดใจให้กว้างกว่านี้อีกนิดสาวๆ ที่รอแจกเบอร์หรือพร้อมจะยืนอยู่ข้างๆ ในฐานะแฟนคนใหม่ก็มีไม่น้อยเลยทีเดียว

   ทันทีที่คณินมาถึงบ้าน กระทั่งนำรถไปจอดด้านในความเงียบที่ผิดปกติช่างย้อนแย้งกับแสงไฟภายในบ้านที่เปิดสว่างจ้าอยู่มาก ร่างสูงก้าวเท้าของเขาเข้าไปในบ้านตัวเองมองดูรองเท้าผ้าใบที่ถอดทิ้งไว้หน้าบ้านผ่านๆ และมั่นใจว่าเป็นของขนุน และในตอนนั้นคณินก็รู้ในทันทีว่าทั้งคนและหมานั้นหายไปอยู่ที่ไหน

   “โฮ่ง! โฮ่ง!”

   เสียงเห่าที่ดังก้องไปทั่วบ้านมาจากห้องน้ำที่อยู่ด้านในของตัวบ้านชั้นล่าง ภายในห้องน้ำขนาดกว้างกลับปรากฏร่างเล็กที่กำลังอาบน้ำให้เจ้าไข่ดาวอย่างทุลักทุเล ด้วยนิสัยของไข่ดาวที่ขี้เกียจอาบน้ำเป็นที่หนึ่งจึงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับขนุนเลยแม้แต่นิดเดียว

   “ไม่ๆ ไข่ดาวอยู่นิ่งๆ เปียกไปด้วยเลยเนี้ย หยุดดิ้นได้แล้วนา!”

   เสียงดุที่แม้แต่เด็กก็ไม่กลัวทำให้คณินที่แอบย่องไปมอง อดที่จะหัวเราะไม่ได้

   สภาพดูแล้วไม่จืดทั้งคนทั้งหมา

   ในขณะที่ขนุนพยายามล้างแชมพูออกจากตัวไข่ดาว เจ้าหมาสุดแสบก็เล่นสะบัดขนซะจนฟองแชมพูกระจายไปทั่วห้องน้ำ กระเด็นลอยไปติดบนหัวขนุนก็ไม่เว้น แม้จะจับลงอ่างอาบน้ำแล้วแต่กลับยิ่งดูวุ่นวายเข้าไปอีก ยกแรกที่ขนุนพยายามอุ้มไข่ดาวยัดลงอ่างอย่าได้พูดถึง ทั้งยืดขาดันแขนขัดขืนสุดฤทธิ์อภินิหารเหลือล้น

   จะว่าน่าสงสารก็ใช่น่าหัวเราะก็ไม่เชิง

   สภาพขนุนตอนนี้คือเปียกมะลอกมะแลกตั้งแต่หัวจรดเท้า

   “จะเสร็จแล้ว อยู่นิ่งๆ เดี๋ยวจะเช็ดตัวให้ พี่คณินกลับมาแกจะได้ไม่โดนดุที่เล่นซนจนเละเทะไปทั้งตัวขนาดนี้”

   ขนุนบ่นกับไข่ดาวเป็นวรรคเป็นเวร มือหนึ่งรั้งสายจูงอีกมือก็คว้าผ้าเช็ดตัวเอามาห่มให้เจ้าตัวหน้าขนที่เลียหน้าขนุนแผล็บๆ ขณะที่คนตัวเล็กพยายามห่อหมาให้เป็นแหนมแล้วอุ้มไข่ออกจากห้องน้ำพยายามไม่ให้ทุกอย่างเละเทะไปกว่านี้แล้ว แค่สภาพภายในห้องน้ำก็ราวกับสงครามเวียดนามครั้งที่ 2 ไม่มีผิด

   ทว่าจังหวะที่หันขนุนหันไปถึงกับสะดุ้งตกใจเมื่อเห็นคณินยืนทนโท่อยู่หน้าห้องน้ำเงียบๆ หัวใจขนุนแทบกระโดดออกมานอกอก
 
   “พี่คณิน! กลับมาทำไมไม่ให้สุ้มให้เสียง ผมตกใจหมด”ขนุนพ่นพรูลมหายใจออกมา

   “เราเหอะ นี่ทำอะไรอยู่ตัวเปียกไปหมด”เจ้าของบ้านใช้สายตาสำรวจมองขนุนในชุดนักศึกษาที่หัวจรดเท้าลงมามีหยดน้ำเกาะชุ่มไปทั้งตัว

   “ผมแค่พยายามอาบน้ำให้ไข่ดาวแต่ว่า.....ผมทำดีที่สุดแล้วนะครับ”สายตาเว้าวอนพยายามบอกให้คณินรู้ว่ามันไม่ง่ายเลยจริงๆ กับภารกิจนี้ คณินไม่ใช่ไม่รู้ว่าเจ้าไข่ดาวอาบน้ำยากเย็นแค่ไหน ขนาดเขาเองยังต้องเอาไปส่งที่ร้านให้ช่วยอาบให้นับประสาอะไรกับขนุนที่โดนเจ้าแสบเล่นงานจนเปียกไปทั้งตัวแบบนี้

   “อย่าทำหน้าเศร้า พี่ไม่ได้จะว่าเราแค่เป็นห่วงเฉยๆ ”คณินส่ายหน้ายิ้มๆ ให้ขนุนสบายใจ จังหวะนั้นไข่ดาวก็ดิ้นกระโดดออกจากผ้าที่ขนุนห่อไว้ ด้วยความตกใจเลยพยายามจะวิ่งไล่จับ แต่ทว่าคณินกลับคว้าแขนห้ามไว้ซะก่อน หากช้ากว่านี้คงได้เห็นภาพการ์ตูนเรื่องทอมแอนด์เจอร์รี่วิ่งวุ่นไปรอบบ้านแน่ๆ

   “ถ้าไม่จับไว้เดี๋ยวไข่ดาวทำพื้นเปียกนะครับ”ขนุนตาวาวมองเห็นไข่ดาวที่วิ่งปรู๊ดออกไปทางหน้าบ้านเหมือนกับบ้าคลั่งไปแล้ว

   “พื้นเปียกก็เช็ดให้แห้งได้ เราก็เหมือนกันตัวเปียกแบบนี้เดี๋ยวก็เป็นหวัด”คนตัวสูงยื่นมือมาขยี้ผมของขนุนที่เปียกชื้นให้สลัดน้ำออก คนถูกขยี้เส้นผมหลับตาปี๋ก้มหน้าจนคางชิดอก หัวใจดวงน้อยกำลังทำงานหนักขึ้นอีกครั้งก็เพราะสัมผัสที่อีกฝ่ายไม่ได้คิดอะไร

   “จริงๆ ผมก็ไม่ได้ตั้งใจให้เปียก แต่ฝักบัวมันสะบัดเพราะไข่ดาวจ้องจะงับฝักบัวอย่างเดียวเลย”

   “พี่รู้ เราน่ะไปเปลี่ยนชุดเถอะ เรื่องไข่ดาวเอาไว้ทีหลัง”ขนุนก้มมองชุดของตัวเอง

   “แต่ผมไม่มี.....”

   “ของพี่เราใส่ได้อยู่แล้ว”เจ้าของบ้านพูดเสร็จก็เปลี่ยนจากจับตรงท่อนแขนของขนุนเลื่อนลงมาจับตรงข้อมือเบาๆ แล้วดึงให้เดินตามขึ้นไปบนชั้นสอง

   ขนุนมองมือคณินที่กุมข้อมือตัวเองอึ้งๆ สัมผัสได้ว่ามือคู่นั้นทั้งใหญ่และอบอุ่นแค่ไหน ความใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ กลับยิ่งทำให้หัวใจของคนคาดหวังจู่ๆ ก็เต้นเร็วขึ้นเป็นเท่าตัว สายตาวิบวับเงยหน้ามองไปยังแผ่นหลังกว้างด้วยความรู้สึกตื่นเต้นไปซะหมด

   พี่คณินจับมือ! อยากตัดแขนเอาไปเก็บไว้จริงๆ ให้ตายเถอะ!

   “พี่คณินจะพาผมไปไหนครับ”

   “ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องน้ำข้างล่างไม่ค่อยมีคนใช้พวกสบู่แชมพูเลยมีแต่ของไข่ดาว เรามาใช้ห้องน้ำที่ห้องพี่ข้างบนจะดีกว่า พี่จะได้หาชุดให้เปลี่ยนด้วย”

   “จะดีเหรอครับ”

   แบบนี้โคตรจะดีเลยครับพี่คณิน

   “ไม่ต้องเกรงใจหรอก”

   จริงๆ ไม่อยากจะเกรงใจหรอกครับ ได้เข้าห้องนอนพี่คณิน แล้วเมื่อไหร่จะได้เข้าไปอยู่ในใจพี่เขาสักทีนะ

   “ครับ”

   ขนุนใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำของคณินประหนึ่งเดินอยู่ในสวนวันเดอร์แลนด์หลังจากที่สลัดชุดเปียกๆ ชื่นๆ ของตัวเองออกก็ใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กพันรอบเอวพอเป็นพิธี ถ้าไม่อยากรู้อยากเห็นก็คงไม่ใช่ขนุน

   ดังนั้นแล้วขนุนเลยแอบสำรวจข้าวของเครื่องใช้ภายในห้องน้ำของคณินด้วยความสนใจ เดินไปมุมกระจกตรงอ่างล้างหน้าก็ไล่สายตาสำรวจไม้เว้นมีดโกนตลอดจนครีมโกนหนวดแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่หน้ากระจก ถัดไปก็เป็นโซนอาบน้ำ

   “ซืดดดด....หอมจัง”ขวดแชมพูออร์แกนิคที่ขนุนไม่คุ้นตาถูกเปิดฝาแล้วสูดดมเข้าเต็มปอด กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งขนุนเคยได้กลิ่นผ่านๆ แท้แล้วมีที่มาจากของใช้เหล่านี้

   ดูเหมือนการได้เข้ามาในโลกของคนที่ชอบ จะทำให้ขนุนมีความสุขเป็นพิเศษจนลืมเวลาไปซะสนิท คณินเห็นว่าขนุนเข้าไปนานและเงียบผิดปกติเลยเคาะเรียกถามไถ่ด้วยเป็นห่วง ตอนนั้นเองขนุนจึงได้เร่งอาบน้ำล้างตัวแล้วใส่เสื้อผ้าที่คณินเตรียมไว้ให้อย่างรวดเร็วก่อนจะออกมาท่าทีเก้ๆ กังๆ
 
   สาเหตุคงเพราะเสื้อผ้าที่สวมใส่ จะดมตรงไหนก็มีแต่กลิ่นของคนที่ชอบทั้งนั้น

   ตอนนี้ผมคงตายตาหลับแล้วจริงๆ

   “ถ้าอีก 5 นาทียังไม่ออกมาพี่คงได้พังประตูเข้าไปเพราะคิดว่าเราเป็นลมอยู่ในห้องน้ำแล้ว”คณินที่ยืนรออยู่หน้าประตูเดินเข้ามาหาขนุนทันทีที่อีกฝ่ายโผล่หน้าออกมาจากห้องน้ำ และต้อนรับด้วยการคลุมผ้าขนหนูผืนเล็กสีขาวสะอาดลงบนหัวทุยๆ ของขนุนก่อนจะลงมือเช็ดผมให้เบาๆ

   คนถูกดูแลยิ่งกว่าแขก VIP ถึงกับเผลอมองใบหน้าอารมณ์ดีของคณินนิ่งค้างราวกับในห้วงวินาทีนั้นทุกอย่างหยุดการเคลื่อนไหว ความใจดีของคณินกำลังทำให้หัวใจของขนุนน้อยแทบจะระเบิดอยู่ตรงนี้

   “มะไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมเช็ดเอง”ขนุนสบตากับคณินที่ขมวดคิ้วได้รูปเข้าหากัน และหยุดมือไว้ครู่หนึ่ง

   “พี่เช็ดให้เจ็บเหรอ? ”

   “ปะเปล่าครับ ไม่ใช่อย่างนั้น”

   ขนุนจะบอกได้ไงว่าขืนทำแบบนี้ต่อไปไม่ใช่แค่ใจที่พองโต แต่อย่างอื่นมันก็มีโอกาสโตเหมือนกัน

   “งั้นก็อยู่นิ่งๆ ไปครับ”ตบท้ายด้วยประโยคกระชากใจและรอยยิ้มดีต่อใจจนคนตัวเล็กกว่าแทบจะละลายหายไปตรงนั้น

   พี่คณินทำแบบนี้.....ผมจะไม่ไหวจริงๆ นะ

   ขนุนคร่ำครวญอยู่ในใจปล่อยให้คณินเช็ดผมให้อย่างกับเป็นไข่ดาวอวตารอีก 1 ตัว หนำซ้ำคณินยังลากขนุนให้ไปนั่งแหมะอยู่ตรงขอบเตียงแล้วเสียบสายไดร์เป่าผมจัดการเป่าแห้งให้ครบวงจรเข้าไปอีก

   ระยะห่างที่คณินยืนอยู่ตรงหน้ามันไม่ได้ไกลไปจากใบหน้าของขนุนเลยแม้แต่น้อย การขยับตัวไปมาสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าแม้จะเป็นเสื้อนักศึกษาทันตแพทย์ที่เห็นอยู่ แต่ขนุนก็กลับกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่จินตนาการไปถึงสิ่งที่อยู่ใต้ร่มผ้าจนหน้าแดงเปลี่ยนสี

   วันรุ่นสุขภาพดีและมีจินตนาการสร้างสรรค์อย่างขนุนก็คงไม่ยากที่จะคิดได้ไกลถึงนอกกาแล็กซี
 
   “เรานี่ก็ผมนุ่มดีเหมือนกันนะ”

   “เอ๊ะ? อาครับ”ขนุนมัวแต่หมกมุ่นจนตกสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงคณินพูดขึ้น

    “ขนาดเราทำสีสว่างแบบนี้ก็ไม่เสีย ดูแลดีเหมือนกันนะ”

   “จริงๆ ผมก็ไม่ได้ดูแลมากหรอกครับ เรื่องสีผมต้ากับนิวบอกว่ามันน่าจะเหมาะกับตัวผม ผมก็เลยหลวมตัวไป ผมว่าจะเปลี่ยนไปทำเป็นสีธรรมชาติตามเดิมแล้วล่ะครับเพราะมันดูเด่นเกินไป”

   มือหนากว่าแตะลงบนกลุ่มผมสีบลอนด์สว่างและลูบไปมาเพื่อจัดทรงให้หลังจากเป่าแห้งเสร็จแล้ว คณินก็เคยเห็นคนที่ทำสีผมสว่างๆ แบบนี้มานักต่อนักไม้เว้นรุ่นพี่รุ่นน้องในมหาลัย แต่ก็ไม่เคยสะดุดตาและรู้สึกเลยว่ามันน่าสนใจมากกว่าที่คิด
 
   “ทำไมล่ะ พี่ว่ามันเหมาะกับขนุนนะ น่ารักดี”

   น่ารักดี!

   น่ารักดี!!

   น่ารักดี!!!

   แค่คำชมธรรมดาที่เคยฟังมาเป็นร้อยๆ ครั้งก็ไม่เคลิ้มดีใจเท่าครั้งนี้

   “ถ้าพี่บอกแบบนั้นผมจะทำสีแบบนี้ไปจนแก่เลยครับ”

   “เอาจริง? ”

   “ครับ…..เอาจริงๆ ไม่ล้อเล่น”ขนุนฉีกยิ้มประทุษร้ายในความหมายที่คณินพูดไปซะแล้ว

   “หัวล้านขึ้นมาอย่ามาโทษพี่แล้วกัน”คณินบีบปลายจมูกรั้นเบาๆ ก่อนจะเดินไปปลดปลั๊กไดร์เป่าผมและเก็บเข้าที่ ขนุนมองตามร่างสูงที่เดินไปมาให้ห้องราวกับตัวเองอยู่ในความฝัน อบอวลไปด้วยการมีตัวตนของคนที่หลงใหลได้ปลื้ม จนความรู้สึกเหล่านั้นกำลังล้นปริ่มออกมา

   “พี่คณินครับ”

   หัวใจของขนุนมันพองโต

   “ครับ”

   “คือว่า.....”

   ถึงจะรู้อยู่ผลอยู่แล้วก็อยากจะบอก

   “ผมชอบพี่คณินนะครับ”

   น้ำเสียงที่ฟังชัดเจนดังออกมาจากปากขนุน คณินที่ก้มอยู่แถวๆ ลิ้นชักเงยหน้าขึ้นมาใบหน้าแต้มไปด้วยรอยยิ้มละมุน เจ้าของร่างสูงผิวขาวท่าทีอ่อนโยนหัวเราะเบาๆ ให้กับคนตัวเล็กกว่าที่เดินมายืนอยู่ข้างหลังในชุดเสื้อแขนยาวมีฮูดกับกางเกงขายาวของคณินที่จ้องตาเขาเว้าวอนเหลือเกิน

   คณินเลยไม่ลังเลที่จะตอบกลับไปเช่นกัน

   “ครับ พี่ก็ชอบขนุนเหมือนกัน”มืออุ่นๆ เอื้อมมาวางบนหัวขนุนแล้วขยี้เบาๆ แล้วเลื่อนลงมาตบบ่าสองสามทีเบาๆ

   “เอ่อ.....”

   ผมไม่ได้หมายถึงแบบนั้น.....

   “อ้อนแบบนี้หิวแล้วใช่มั้ย? งั้นออกไปหาอะไรกินกันก่อน ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง จะชวนนิวกับต้าออกมากินด้วยกันก็ได้นะ”

   “ก็.....ดีครับ”

   กร่อยกว่าน้ำบาดาลก็คือสีหน้าของขนุนในตอนนี้

   “ดูทำหน้าแปลกๆ เจ็บอะไรตรงไหนรึเปล่าครับ”

   “คือเหมือนมดจะกัดน่ะครับ”ขนุนแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ เกาไปที่อกซ้ายตำแหน่งหัวใจใบหน้าฝืนยิ้มสุดๆ

   “เอ๊ะ? ในห้องพี่มีมดเหรอ แต่แม่บ้านเพิ่งมาทำความสะอาดนะ สงสัยต้องให้มาทำใหม่อีกรอบ”

   จะบอกว่ามดตัวนั้นก็คือคนตรงหน้าก็ไม่กล้าพูดไป ดูเหมือนว่าอุปสรรค์ครั้งใหญ่คือกำแพงความรู้สึกของคณินนี่แหละ









ติดตามตอนต่อไป >>>



------------------------------

เป็นตอนที่ไม่รู้จะขำหรือสงสารน้องหนุนดี 5555+

อยากจะบอกว่าหนุนใจเย็นๆ ลูกกกกกก พี่เขาอาจจะยังงงๆ กับความรู้สึกของหนุนอยู่

ยังไงก็อย่าลืมมาลุ้นกันต่อในตอนต่อไปว่าน้องหนุนจะทำยังไงเพื่อพิชิตใจพี่คณิน

เห็นใสๆ แต่น้องหนุนก็วร๊ายใช่เล่นนะคะ รอออกลายกันต่อไป ฮ่าๆๆ

ใครเล่นทวิตเตอร์ ไปส่งเสียงเชียร์น้องหนุนกันได้ แฮชแท็ก #ขนุนอุ้มหมา ได้เลยค่า

แล้วเจอกันตอนหน้าค่าาาา


โดย หลานฮวา
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 7 อัปเดตแล้ว 1/03/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 02-03-2019 00:06:27
 :z1:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 7 อัปเดตแล้ว 1/03/2562
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 02-03-2019 11:25:46
พี่คณินตีทึนหรือไม่รู้จริงๆ 555
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 8 อัปเดตแล้ว 4/03/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 04-03-2019 18:31:49

ขนุนลูกที่ 8




   “ไอ้เหี้ยกูขำ ฮ่าๆ”

   เสียงหัวเราะครืนของช้างทำเอาลูกค้าคนอื่นๆ ของร้านไอศกรีมที่ฮิตติดตลาดมาอย่างยาวนานซึ่งนั่งอยู่โต๊ะถัดไปหันมามอง พนักงานสาวสวยที่ยืนแทคแคร์ลูกค้าก็ชะเง้อมองว่าเกิดอะไรขึ้น

   “โคตรตลกเลยว่ะขนุน กูยอมใจนับถือมึงเรื่องนี้เลย”แจ็กปาดน้ำตาที่ปริ่มอยู่ตรงหางตาเพราะหัวเราะมากเกินไปกับเรื่องสุดเฟลที่ขนุนเล่าให้ฟัง

   จะเป็นเรื่องไหนไปได้นอกจากเรื่องที่ขนุนบอกชอบคณินแล้วตบท้ายด้วยการถูกพาไปกินจิ้มจุ่มเพราะคณินคิดว่าเขาอ้อนเพราะหิว

   “เหี้ยเอ้ย! แบบนี้เขาเรียกว่ารุกมากลาภหายป่ะวะ”ช้างส่ายหน้าขำๆ ตักไอศกรีมรสมะนาวเข้าปากที่รสชาติเปรี้ยวจี๊ดแล้วยังไม่จี๊ดเท่าเรื่องของขนุน

   “ตอนนั้นหัวใจของเราเจ็บแปลบเลยอ่ะ เหมือนถูกฮุกเข้ากลางอก พี่คณินช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยจริงๆ ทั้งๆ ที่เราก็พูดออกไปซะขนาดนั้น”

   “กูบอกมึงแล้วใช่มั้ยว่าอย่าผลีผลาม แค่พี่เขาทำดีกับมึงหน่อยมึงก็อย่าไหลไปทั้งตัวสิวะ รู้จักมั้ย คำว่าหักห้ามใจ”

   “โถ่ต้า แต่ตอนนั้นมันได้อารมณ์มากเลยนะfeelingมาเต็มๆ เราเลยกล้าที่จะพูดแบบนั้นออกไปต่อหน้าพี่คณิน”

   “มึงจะอารมณ์มาเต็มแค่ไหน แต่มึงก็โพล่งทุกอย่างที่คิดออกไปไม่ได้เว้ย! ไอ้บักหำน้อย! ”นิวยื่นมือไปบีบปากชมพูที่หวานด้วยไอศกรีมรสวนิลาก่อนจะสะบัดทิ้งอย่างหมั่นไส้

   คนถูกรังแกนวดปากตัวเองเบาๆ เท้าคางวางช้อนถอนหายใจเฮือก แจ็กกับช้างที่นั่งอยู่ตรงข้ามเลิกคิ้วสูงหยุดอารมณ์ขำเมื่อเห็นว่าขนุนน้อยกำลังกลุ้มเรื่องรักๆ ใคร่อย่างจริงจัง คนเป็นเพื่อนจะอยู่เฉยได้ยังไง

   “นี่ขนุน กูจะบอกอะไรให้นะ พลังของความรักสามารถเปลี่ยนโลกได้ทั้งใบ จะไปกลุ้มใจทำไมกับแค่จะเปลี่ยนใจใครสักคน มันอยู่ที่ตัวมึงแล้วว่าจะล้มกี่ครั้งเพื่อไปถึงชัยชนะ จะสู้หรือขอยอมแพ้ คิดเอาง่ายๆ แบบนั้นแล้วกัน”

   แปะ! แปะ!

   เสียงปรบมือจากรอบโต๊ะดังขึ้นเมื่อช้างพูดจบ เจ้าตัวถึงกับโยนเชอร์รี่เข้าปากด้วยความเท่

   “กูไม่คิดเลยว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้มาจากปากมึง”นิวจิ๊ปากพยักหน้าให้กับความแน่ของช้าง

   “ถึงรูปจะชั่ว ตัวคล้ำ ต่ำตมในบางที แต่ใจช้างหล่อมากจริงๆ ”

   “เดี๋ยว! ขนุนนี่มึงกำลังชมกูป่ะ? ”

   “งงอะไร เราชมช้างอยู่นะที่ให้กำลังใจเรา”

   “เหรอ? ”คนอื่นๆ เม้มปากกลั้นขำกันสุดฤทธิ์ บทจะซื่อก็ต้องยกให้ช้าง บทจะปากร้ายเป็นกรดก็ต้องยกให้ขนุน

   “จริงดิ เราโชคดีจริงๆ ที่มาเดินเล่นเจอช้างกับแจ็ก กินเต็มที่เลยนะ แต่ไม่ต้องสั่งเพิ่มเดี๋ยวเราเลี้ยงเอง”ขนุนยิ้มได้กว้างขึ้น ส่วนคนถูกเลี้ยงไอศกรีมไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเปล่า

   จริงๆ แล้วทั้งสี่คนไม่ได้นัดกันมา ขนุนแค่จำเป็นต้องมาห้างสรรพสินค้าเพื่อมองหาของขวัญวันเกิดสักชิ้นให้กับแม่ของตัวเองที่กำลังจะถึงในอีกไม่กี่วันก็เท่านั้น หลังจากซื้อของเสร็จแล้วก็บังเอิญเจอช้างกับแจ็กแถวๆ เกมเซนเตอร์จึงชวนกันมาหาที่พูดคุยสบายๆ จนกลายเป็นว่าหัวข้อสนทนาจะเบี่ยงเบนไปในเรื่องของขนุนที่เกินจะต้านขำไว้ได้

   และช่วงหลังมานี้หลังจากไปค่ายอาสา อาจเพราะผลพวงที่ได้ทำงานร่วมกันมากขึ้นขนุน ต้า นิว แจ็กและช้างก็ดูเหมือนจะพูดคุยกันได้ถูกคอเป็นพิเศษ บวกกับทั้งสองก็ดูเป็นคนโผงผางและจริงใจ หลายเรื่องจึงคุยให้ฟังได้ไม่ตะขิดตะขวงใจมากนัก

   โดยเฉพาะขนุนที่ไม่ได้คิดจะปิดเรื่องส่วนตัวกับใครอยู่แล้ว เพราะยิ่งปิดก็มีแต่คนอื่นจะคุ้ย สู้เปิดเผยตรงๆ ไปยังดีเสียกว่าอ้อมค้อม อ้อมเมือง

   “เออจริงสิ นี่พวกมึงรู้รึยังเรื่องที่พี่ไม้จะกลับมาเรียนแล้ว”ช้อนด้ามยาวที่กำลังจ้วงตักไอศกรีมของขนุนเป็นอันหยุดชะงักเมื่อได้ยินสิ่งที่แจ็กพูดขึ้น

   “หายแล้วเหรอวะ เห็นว่ากันว่าแขนหัก”ต้าขมวดคิ้วเหลือบหันไปมองขนุนที่ตั้งใจฟัง

   “คืออย่างนี้ กูได้ยินไอ้พอสมันบอกว่าจริงๆ พี่ไม้ไม่ได้แขนหักตามที่ใครๆ เค้าลือกันหรอก แต่เพราะหัวแตกเย็บไปหลายเข็ม ไอ้ตรงที่ถูกเย็บแม่งต้องโกนผมทิ้งใช่มะ แล้วมึงลองนึกถึงขุนช้างที่ตรงกลางหัวผมหายดูดิ ใครมันจะกล้ามา เรียนวะ เสียฟอร์มไม่ว่า แต่ขายหน้าไม่ได้ไง”

   “อ้าว! แล้วที่ปล่อยข่าวว่าแขนหักก็โกหกกันอ่ะดิ”ขนุนวางช้อนแล้วพูดขึ้น ตอนแรกก็นึกเป็นห่วงแต่พอได้ยินเรื่องนี้จากปากของช้างก็รู้สึกตกใจขึ้นมา

   “มึงตกใจผิดเรื่องมะไอ้ขนุน เจ้าพ่อแทคแคร์ของมึงกำลังจะกลับมาแล้วนะเว้ย”ต้าเตือนความจำ
เพราะใครๆ เขาก็รู้ว่าไม้เอกรุ่นพี่ในคณะเล็งขนุนไว้ ไม่ประกาศบอกให้ใครรู้ก็พอจะรู้สึกได้
 
   “คราวนี้มึงก็หาเสาหลบให้ดี กูไม่ออกหน้ารับแทนให้หรอกนะ”นิวเอนหลังพิงพนักเก้าอี้กอดอกมองไอศกรีมที่ละลายในถ้วยแววตาไม่อ่อนโยน ขนุนรู้ว่านิวไม่ค่อยชอบไม้เอกสักเท่าไหร่ ปีหนึ่งคงจำฝังใจตอนเข้าค่ายรับน้อง ที่ถูกไม้เอกล้อว่าเป็นนิว 1 นิ้ว

   เชื่อเถอะว่าไม่มีใครภูมิใจกับขนาดแค่นั้น ซึ่งความจริงแล้วเป็นยังไงนิวก็ไม่ได้เฉลย แต่ที่รู้ๆ คือไม่เลือกต่อสู้แต่แอบต่อต้าน

   “ไม่เอานานิว เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่ไม่ใช่เหรอ”

   “กูเลิกเป็นเพื่อนมึงตอนนี้เลยก็ได้ ถ้าต้องไปข้องแวะกับ.....”

   “มันก็ผ่านมาแล้วมึงก็เลิกฝังใจเหอะ มึงไม่ใช่นิว 1 นิ้วก็อย่าไปซีดิวะ พี่ไม้เอกก็แค่ล้อมึงเล่นป่ะ ใครๆ เขาก็มีฉายาตอนรับน้อง”แจ็กเอื้อมมาตบบ่าให้กำลังใจเพื่อนแต่ก็แอบขำอยู่ดี มันเป็นเรื่องดังมากเลยในตอนนั้น

   “งั้นต้า....ช่วยเราหน่อยนะ เป็นไม้กันหมาให้หน่อยก็ยังดี”

   “กูเป็นคน ไม่ใช่ไม้เว้ย!”

   “ใจร้ายอ่ะ ต้า.....ช่วยเราหน่อยนะ”ขนุนหันไปมองต้าตาสายตาเว้าวอน ปากเล็กเม้มสนิทเข้าหากัน หัวคิ้วได้รูปยกสูงชนชิด คนถูกสายตาอ้อนวอนสะกดจิตถึงกับต้องกระแอมไอ

   “แฮ่มๆ แจ็ก ช้าง พวกมึง.....”

   “พวกกูอิ่มแล้ว”ไม่ทันที่ต้าจะได้พูดอะไร คนไม่อยากข้องเกี่ยวก็รีบพูดตัดหน้าซะทันที ใครๆ ก็รู้ว่าการเข้าไปขวางคอรุ่นพี่ มันเป็นเรื่องหาเหาใส่หัว

   “เอาตัวรอดเป็นยอดคนนะขนุน มึงทำได้มาตลอดไม่ใช่เหรอ สู้ๆ นะเว้ย”แจ็กเอื้อมมือมาตบบ่าขนุน ยิ้มให้กำลังใจ จริงๆ ไม้เอกก็ไม่ได้เลวร้ายหรือน่ากลัวประหนึ่งอันธพาล แค่ทำตัวน่ารำคาญเพราะลูกช่างตื๊อก็เท่านั้นเอง หน้าตาจะว่าขี้เหร่ก็ไม่ใช่ออกจะดูดีมีสาวติดตรึมคงถูกต้องมากกว่า ที่ใครๆ ไม่อยากจะยุ่งเรื่องของขนุนเพราะระบบรุ่นพี่รุ่นน้องมันแรงการทำอะไรที่ไม่ให้เกียรติกันค่อนข้างจะเป็นดาบสองคม

   “พวกกูไปล่ะ ขอบใจที่เลี้ยงไอติม ไว้ครั้งหน้ากูเลี้ยงน้ำคืน”ช้างยกนิ้วก่อนจะดันแจ็กให้ลุกเดินออกไป แล้วหันมาขยิบตาให้ขนุนอีกรอบ

   ขนุนมองสองคนที่กุลีกุจอออกไป ปากพะงาบๆ เหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ก็ไม่ทัน

   “ไปซะแล้ว”

   “ถ้าอิ่มแล้วก็กลับ กูขี้เกียจนั่งแล้ว”นิวลุกขึ้นพยายามหาเรื่องอื่นขึ้นมาพูดแทน ขนุนรู้ว่าถึงนิวกับต้าจะทำเป็นเมินเรื่องไม้เอกแต่พอเอาเข้าจริง ด้านหลังของสองคนนี้นี่แหละที่พอจะพึ่งได้

   และระหว่างที่ขนุนกำลังเดินพูดคุยกับเพื่อนทั้งสองหลังจากออกมาจากร้านไอศกรีม ดูเหมือนว่าความบังเอิญจะทำให้ขนุนต้องเดินชนไหล่เข้าให้กับใครคนหนึ่ง จนต้องหันไปพูดขอโทษด้วยความไม่ได้ตั้งใจ

   “ขอโทษครับ”

   “ขอโทษค่ะ อ้าว! นี่ขนุนใช่ป่ะ”เสียงแหลมเล็กชี้นิ้วมาที่ขนุน

   “พี่.....”ขนุนเพ่งสายตาระลึกว่าคนที่คุ้นหน้าเป็นใคร “พี่ลูกตาล!”

   “ใช่ๆ พี่เอง เป็นไงบ้างหลังจากวันนั้น ไม่ได้เคล็ดขัดยอกตรงไหนใช่มั้ย? ”

   “ไม่เลยครับ สบายมาก”ขนุนพูดคุยกับสาวตรงหน้าโดยที่นิวกับต้าได้แต่มองตาค้าง สงสัยไปหมดว่าคนที่ขนุนคุยด้วยเป็นใคร ทำไมถึงไม่เคยรู้จักหรือเห็นหน้ามาก่อน

   “ไอ้ขนุน ผู้หญิงสวยประดุจนางฟ้าคนนี้เป็นใครวะ ทำไมพวกกูไม่รู้จัก”นิวหนีบคอขนุนให้หันหลังไปแล้วรัวถามคำถามที่ค้างคาใจออกมาเสียงแผ่ว

   “อ้อ! ยังจำตอนที่เราบอกว่าเกือบโดนรถชนได้ป่ะ พี่ลูกตาลเป็นคนที่ขับรถวันนั้นแหละ”

   “เข้! ถ้าวันนั้นกูเป็นมึงนะจะไปนอนโรงพยาบาลให้เค้าแทคแคร์สักเดือนเลย”

   “บ้าน่ะต้า เราจะไปทำงั้นทำไม ไม่ได้เจ็บตรงไหนสักหน่อย”

   “มึงไม่ได้เจ็บแต่มึงโง่ไง”นิ้วจิ้มนิ้วไปที่หน้าผากขนุน ก่อนจะปล่อยให้หันกลับมาคุยกับคู่สนทนาต่อ

   “เอ่อ.....แล้วพี่ลูกตาลมาทำอะไรครับ เห็นเดินมาคนเดียว”

   “พอดีพี่มีนัดทานข้าวกับเพื่อนน่ะ ไปกินด้วยกันมั้ย? ”รอยยิ้มหวานเอ่ยชวน นิวกระทุ้งศอกขนุนเบาๆ เหมือนเป็นสัญญาณบางอย่าง

   “ไม่เป็นไรครับ ผมกำลังจะกลับแล้ว พี่ลูกตาลไปเถอะครับเดี๋ยวจะสาย”ขนุนฉีกยิ้มให้กับลูกตาล

   “โอเค งั้นไว้คราวหน้าถ้าเจอกันอีกไว้พี่จะเลี้ยงข้าวทำขวัญย้อนหลังแล้วกันนะ”

   “โอเคครับ”

   “อ้อ.....เพื่อนพี่มาพอดีเลย พี่ไปก่อนนะ ไว้เจอกัน”ขนุนมองเจ้าของร่างบางสมส่วนที่เดินด้วยรองเท้ากีฬายี่ห้อดังในชุดนักศึกษาท่าทาคล่องแคล่วยกมือขึ้นทักผู้ชายคนหนึ่งที่เดินเข้ามาหา

   “งานดีฉิบหายเลยสัด! กูว่านั่นไม่ใช่เพื่อนชัวร์ๆ ”นิวหรี่ตามองตามลูกตาลที่เดินหายลับไปตรงทางลงบันไดเลื่อนพร้อมกับเพื่อนชายที่ดูสนิทสนมเกินเหตุ

   “กูก็คิดเหมือนมึงนั่นแหละ”ต้าตอบนิวยกนิ้วขึ้นลูบคางสากๆ ไปมา

   “จะไปยุ่งอะไรกับพี่เค้า ไปเหอะกลับกันได้แล้ว”

   เป็นขนุนที่ต้องลากแขนของทั้งสองคนให้เดินหน้า ใครว่าผู้ชายไม่ขี้เสือกไม่จริงหรอกขนุนยืนยันได้







   เป็นเวลากว่าสองทุ่มครึ่งแล้วที่เจ้าของห้องสี่เหลี่ยมยังคงเกลือกกลิ้งอยู่บนเตียงนอนขนาด 5 ฟุตพร้อมกับอากาศที่เย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศที่ตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 20 องศา ในมือถือโทรศัพท์แนบกับใบหูเงยหน้าขึ้นมองเพดานห้องสีขาว พร้อมกับกรอกเสียงนุ่มนิ่มลงไปในสาย

   “แม่ก็รู้ว่าหนุนไม่ลืมอยู่แล้วล่ะครับ วันเกิดแม่ทั้งทีจะพลาดได้ยังไง ปีนี้แม่จะเชิญใครมาเป็นพิเศษรึเปล่าน๊า”

   [จะมีใครอีกก็แค่เราสองคนแล้วก็ป้าขิมก็พอแล้ว แม่แก่แล้วนะไม่ใช่เด็กๆ ที่ต้องทำอะไรให้วุ่นวาย แค่หนุนกลับมาแม่ก็ดีใจแล้วครับ]

   “แม่เหงามั้ย หนุนไม่ได้กลับบ้านตั้งหลายวันแล้ว มัวแต่ยุ่งๆ แถมเพิ่งกลับจากค่ายอีก”

   เนื่องจากบ้านขนุนที่อยู่ต่างจังหวัดห่างออกไปจากใจกลางเมืองกรุงฯ แต่ก็ไม่ได้ไกลมากหากนั่งรถก็แค่สองชั่วโมงกว่าก็ถึง แต่เพราะไม่อาจไปเช้าเย็นกลับได้ขนุนจึงต้องมาอยู่หอและได้ต้าเป็นเพื่อนข้างห้องและเพื่อนในคณะที่คอยดูแลช่วยเหลือกัน

   [ถ้าบอกไม่เหงาเราจะงอนแม่รึเปล่าล่ะ] น้ำเสียงหวานพูดหยอกล้อหัวเราะเบาๆ ให้กับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างอ่อนโยน

   “อาจจะงอนนั่นแหละ แต่แม่ครับถ้าเหงาจะหาพ่อใหม่ให้หนุนก็ไม่ว่านะ”

   [พูดอะไรน่ะหนุน แก่แดดจริงๆ นะเราเนี่ย]

   “ก็หนุนกลัวแม่เหงาจริงๆ นี่ครับ หนุนรับได้นะหนุนโตแล้วและรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ไม่อยากให้แม่ต้องฝืนอยู่คนเดียวนะครับ หากมีใครสักคนที่พอจะอยู่ดูแลกันได้หนุนโอเคเลย”

   [หนุนครับ แม่มีหนุนคนเดียวแม่ก็มีความสุขแล้วนะ ไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่านี้แล้ว ถึงพ่อจะหนีแม่กับหนุนไปอยู่บนสวรรค์ซะก่อน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพ่อเราหอบเอาความสุขของแม่ไปด้วยซะหน่อยนี่ครับ แม่ยังมีหนุนทั้งคน]

   เสียงอ่อนฟังแล้วอบอุ่นใจพลอยให้ขนุนรู้สึกมีความสุขไปด้วย แม่ยังคงรักษาความสุขในส่วนนั้นไม่หล่นหาย แม้ว่าสองแม่ลูกจะไม่ได้มีทุกอย่างครบถ้วนอย่างครอบครัวอื่นเขา แต่ขนุนก็ยังมีแม่ที่รักและเข้าใจเสมอมา

   ทว่าบางสิ่งที่ขาดหายไป แม้จะพยายามเติมเต็มเท่าไหร่มันก็ไม่อาจทดแทนกันได้ แต่ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้าย ขนุนยังคงใช้ชีวิตอย่างตรงไปตรงมาและมีความสุขในทุกวันอย่างที่แม่เคยสอน
   
   “ใครจะไปรู้ล่ะครับ แม่อาจจะแอบมีใครในใจไม่บอกหนุนก็ได้”

   [จะไปมีได้ยังไง] เสียงขบขันในความคิดของลูกชาย ทำให้คนเป็นแม่อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้

   “ก็ไม่แน่นี่ครับ แม่หนุนออกจะทั้งสาวทั้งสวย”

   [ชมแบบนี้จะอ้อนเอาอะไรครับ]

   “เปล่านะ”

   [ว่าแต่หนุนเถอะ แอบไปมีฟงมีแฟนแล้วไม่บอกแม่ด้วยรึเปล่า ไม่เห็นเล่าอะไรให้แม่ฟังบ้างเลยช่วงนี้] ขนุนได้ยินแม่พูดแบบนั้นก็นึกแปลกใจในเซ้นส์ความรู้สึกของแม่จริงๆ เดิมทีขนุนก็ไม่ได้ปกปิดเรื่องพวกนี้กับแม่ แต่เพราะไม่มีให้คุยเลยไม่ได้พูดถึง แต่หากล่าสุดเขาเองก็ยังไม่ได้บอกแม่เรื่องที่แอบไปปันใจให้คณินนี่สิ

   “ก็.....มีแล้วครับคนที่ชอบ แต่แม่อย่าเพิ่งคั้นหนุนนะ เพราะคนที่หนุนชอบเค้ายังมองไม่เห็นความรู้สึกของหนุนเลย”พูดไปขนุนก็ถอนหายใจ ใบหน้าของคณินที่ยิ้มละมุนมองเขาเป็นน้องชายที่แสนน่ารักกำลังลอยคว้างอยู่บนเพดานเต็มไปหมด

   [หนุนครับ ไม่ใช่ว่าหนุนไปทำอะไรให้เขาไม่ชอบใจหรอกนะ? ]

   “โถ่แม่ครับ หนุนไม่ใช่คนอย่างนั้นซะหน่อย เรื่องนี้ถ้าคืบหน้าหนุนจะรายงานแม่อีกทีนะครับ เพราะตอนนี้ไม่มีอะไรให้เล่าต่อเลยจริงๆ ”

   [ก็ได้ แม่ไม่คั้นหนุนหรอก ลูกชายของแม่จะมีความรักทั้งที]

   “ครับ แถมเป็นคนที่ใช่ เห็นแล้วหัวใจเต้นแรงเหมือนที่แม่บอกเลย”ขนุนดีดตัวลุกขึ้นนั่งหยิบหมอนเข้ามากอดเสียแน่น

   [ความรักต้องใจเย็น ไม่วู่วามและรีบร้อนนะครับหนุน] เสียงเตือนเบาๆ เหมือนเข้าไปนั่งในความคิดของลูกชาย

   “แหะๆ โอเคครับแม่”

   [นี่ก็ดึกแล้ว แม่ว่าเรานอนพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้มีเรียนอีกใช่มั้ยล่ะ แม่ก็จะทำบัญชีแล้วก็จะนอนแล้วเหมือนกัน] เพราะทางบ้านของขนุนที่มีแม่เป็นเสาหลัก รายได้ก็มาจากการขายผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและอาหารเสริม และเพราะประภัสสรแม่ของขนุนเป็นดาราเก่าที่ยังคงได้ออกสื่อบ้างเพื่อโปรโมทสินค้า รวมถึงฐานแฟนคลับและคนรู้จักในวงการยังมีอยู่มาก กิจการที่ทำอยู่จึงค่อนข้างไปได้สวย จึงมีสินค้ากระจายจำหน่ายไปทั่วประเทศ

   “แม่ครับ หนุนรักแม่นะ แม่พักผ่อนเยอะๆ อย่าทำงานหนักมากนะ บอกป้าขิมด้วยว่าหนุนคิดถึงเดี๋ยวอาทิตย์หน้าไปหานะครับ”

   [ครับ ฝันดีแล้วก็ตั้งใจเรียนนะหนุน]

   ทันทีที่สิ้นสุดการโทร ขนุนก็ล้มตัวลงนอนแผ่หลากางแขนกางขาอีกครั้ง ตำเตือนเบาๆ ของแม่ยังคงทำขนุนประหลาดใจไม่หาย

   “นี่แม่มีสปายสายสืบเรื่องเรารึไง ทำไมถึงรู้ได้นะ”








   “พี่ขนุน พอดีมีรุ่นพี่บอกน้ำให้เอาอันนี้มาให้ค่ะ”ผู้หญิงตัวเล็กแค่ค่อนข้างท้วมเดินมากับเพื่อนอีกสามคนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี มาพร้อมกับยื่นกระดาษสีขาวที่พับไว้ บอกให้ขนุนรับมัน

   “รุ่นพี่? ใครเหรอน้ำ”

   รุ่นน้องเหมือนถูกสั่งมาเลยได้แต่ส่ายหน้าแล้วยิ้มอย่างเดียว

   “บอกไม่ได้ซะด้วย ใครวะ? ”ต้าเดินมาทางด้านหลังของขนุนก้มลงมองกระดาษในมือขนุนครุ่นคิด

   “น้ำกับเพื่อนบอกไม่ได้จริงๆ ค่ะ ขอโทษด้วยนะพี่”

   “อื้ม ไม่เป็นไร”ขนุนพยักหน้าเข้าใจ เพราะหากเขาเปิดมันออกอ่านก็คงรู้ล่ะว่าใครส่งมา

   “พี่ขนุนคะ”

   “ครับ? ”ขนุนเลิกคิ้วขานรับยิ้มกว้างอย่างที่เคย

   “เปล่าค่ะ แค่จะถามว่า น้ำเห็นพี่ขนุนลงรูปหมาในไอจี ใช่ตัวที่พี่ตามหาเจ้าของป่ะคะ”ที่หมายถึงคงจะเป็นรูปเมื่อก่อนหน้าที่ขนุนไปบ้านของคณินและเล่นกับไข่ดาว เพราะความน่ารักขนุนเลยถ่ายรูปไข่ดาวแล้วอัปลงไอจีเล่นๆ แต่ไม่คิดว่าจะมีใครมาถามถึง

   “ไข่ดาวน่ะเหรอ อืมใช่ น่ารักใช่มั้ยล่ะ”ขนุนฉีกยิ้มให้รุ่นน้องที่พยักหน้าเห็นด้วย แล้วพากันสะกิดกระทุ้งศอกกันไปมาเหมือนมีเรื่องอยากจะพูดต่อ แต่กำลังหาคนกล้าในกลุ่ม

   “เอ่อ.....แล้วตกลงเจ้าของหมาใช่คนที่ชื่อ พี่คณินที่เรียนทันตะป่ะคะ? ”เพื่อนของน้องน้ำที่สวมแว่นตากรอบกลมรับกับใบหน้าดันขาแว่นขึ้นลงถามไถ่ด้วยความอยากรู้ ท่าทางตื่นเต้นกันน่าดู

   “เอ๊ะ? พวกน้องรู้จักชื่อพี่คณินได้ไง”ต้าถามออกไปเพราะตั้งแต่วันที่คณินมารับไข่ดาวไป เขาก็ไม่ได้มาที่นี่อีกเลย

   “พอดีพวกหนูชอบส่องพวกเพจ Handsome guy” พูดไปน้องคนที่ใส่แว่นก็บิดเขิน “ในเพจมันมีภาพพี่คณินอยู่ด้วยพวกหนูเลยจำได้ ก็เลยอยากมาถามเพื่อความแน่ใจ”

   “ก็.....อาจจะใช่คนเดียวกันมั้ง พี่เองก็ไม่เคยเห็นภาพในเพจที่พวกน้องๆ ชอบดูกัน”ขนุนยกมือขึ้นเกาแก้มตัวเองเขินๆ เมื่อรู้ว่าคณินก็เหมือนจะป๊อปในหมู่สาวๆ ไม่น้อย

   “ถ้ายังไง ฝากบอกพี่คณินด้วยนะคะว่าพวกหนูปลื้มพี่เค้ามาก”ท่าทางเหมือนเจอดาราทำเอาขนุนถึงกับเงอะๆ งะๆ กับความติ่งจ๋าของพวกรุ่นน้องในคณะทันที

   “ถ้าใช่คนเดียวกัน พี่จะบอกให้”

   “ขอบคุณมากค่ะพี่ขนุนอุ้มหมา”

   แล้วพวกนางๆ หนูๆ ทั้งหลายก็ลั้นลาจากไปโดยแปะแฮชแท็กทิ้งไว้ให้ขนุนซะด้วย ขนุนส่ายหน้าไม่คิดว่าจะยังมีใครจำเรื่องไร้สาระอะไรแบบนั้นอยู่อีก

   “ไม่คิดมาก่อนเลยว่าพี่คณินจะเป็นที่รู้จักขนาดนี้”ขนุนพลิกกระดาษในมือไปมาแต่ยังไม่เปิดอ่าน ก่อนจะหาที่นั่งในโรงอาหารเพื่อหาข้าวเที่ยงกินหลังจากเลิกคลาสเรียนรวม

   “ก็เขาหน้าตาดีขนาดนั้นกูไม่สงสัย”

   “แล้วเราหน้าตาไม่ดีพอเหรอ”ขนุนทำตาแป๋วถามความเห็นเพื่อนทั้งสองที่หัวเราะออกมา

   “มึงไปเพจ Cute boy โน่นไป Handsome guy ไม่มีที่ยืนสำหรับมึงหรอก”

   หลังจากพูดคุยกันพอสนุก ช่วงเวลาหาโต๊ะนั่ง ห้ำหั่นกับความหิวโหยของนักศึกษา กับฝ่าคนแน่นไปซื้อข้าวแกงก็ใช้เวลาไปไม่น้อย ก่อนที่ทุกอย่างตรงหน้าจะถูกเคลียร์จนจานข้าวว่างเปล่า กวาดเข้าท้องเกลี้ยงจนคุ้มค่าเงินที่จ่าย

   “มึงเปิดจดหมายดิ๊ไอ้ขนุน กูอยากรู้แล้วเนี้ยว่าใครส่งมา อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลยนะ กูอยากเสือกว่ะ”

   นิวเหวี่ยงตัวมานั่งเบียดขนุน รินน้ำเปล่าใส่แก้วให้กับคนที่เพิ่งกินข้าวเสร็จ แล้ววาดแขนขึ้นวางบนไหล่ของคนตัวเล็กกว่าที่กระดกน้ำเปล่าเข้าปากกลืนลงคอไปหลายอึก

   ขนุนคาดคะเนอยู่ในใจแล้วว่า บางทีสิ่งที่เขาได้มาไม่ควรจะเปิดอ่านก็ได้ มันเหมือนมีอะไรบางอย่างบอกเตือนอยู่ข้างใน ขนุนเลยทำเป็นเมินเฉยเก็บกระดาษใส่กระเป๋าแล้วกินข้าวให้อิ่มก่อนที่จะกินอะไรไม่ลง แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ ขนุนเลยตัดสินใจคลี่กระดาษออกแล้วหันไปให้ทั้งสองอ่านโดยตัวเองรอลุ้นจากสีหน้าของทั้งสองแทน

   ความนิ่งเฉยของนิวกับต้าเกิดขึ้นครู่หนึ่ง ขนุนหันไปสบตากับต้าและนิวเบาๆ

   “ว่าไง? เป็นไงบ้าง? ”ไม่มีคำตอบใดๆ จากเพื่อนทั้งสอง มีเพียงฝ่ามือที่พร้อมใจกันวางแหมะลงบนหัวของขนุนแล้วลูบเบาๆ ประหนึ่งปลอบโยนด้วยแววตาเห็นใจ

   “มานี่มาไอ้ขนุน”ต้ายื่นท่อนแขนกว้างเข้ากอดขนุนตบหลังแปะๆ และไม่ได้พูดอะไรต่อ ด้วยความสงสัยสุดกำลังขนุนเลยตัดสินใจพลิกกระดาษแล้วอ่านมันด้วยตัวเอง

   ‘เย็นนี้ไปกินข้าวด้วยกันนะครับ หวังว่าขนุนคงจะไม่ปฏิเสธ’

   “มันมาแล้วว่ะ”นิวไหวไหล่ยิ้มให้กำลังใจขนุน ที่ตอนนี้ทำกระดาษหลุดร่วงจากมือไปแล้ว

   “จริงๆ แล้วเรื่องที่มึงมีโชคเป็นสัตว์สองเท้า กูว่าอันนี้ชัวร์”ต้าพ่นขำออกมาที่เห็นใบหน้าของขนุนเหี่ยวลงจนเหลือแค่หยิบมือ แทบจะจุ่มหัวลงไปในจานข้าวตรงหน้า

   “เอานาๆ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ปี 1 มึงยังผ่านมาได้เลย”

   “ไว้พวกกูจะเลี้ยงเหล้าปลอบใจ อย่าทำหน้าบูดดิไอ้ลูกหมา”ต้าขยี้หัวขนุนเบาๆ เพราะจนใจไม่รู้ว่าต้องทำยังไง จะให้คำแนะนำว่าปฏิเสธไปว่าไม่ชอบแบบหักดิบเลยก็ไม่ได้ เดี๋ยวจะพาซวยกันไปทั้งรุ่น และที่สำคัญไม้เอกก็ยังไม่เคยพูดชัดๆ ออกจากปากเลยว่าชอบขนุนแบบพิศวาสออกมาตรงๆ หากไปพูดหักหน้าแล้วถูกตอบกลับมาว่า เขาแค่เอ็นดูแต่พวกมึงคิดไปเองมันก็คงจะหน้าแหกและจบไม่สวยเช่นกัน

   “เห้อ.....เครียดๆ แบบนี้อยากได้กำลังใจเป็นพี่คณินขึ้นมาเลย อยากกอดแน่นๆ อีกสักครั้ง”

   “หน้าตามึงฝันละเมอมาก หลับกลางวันอยู่เหรอคร๊าบบบบ”

   “เดี๋ยวฝันเราก็จะเป็นจริงแล้วต้า เรากำลังพยายามอยู่ เตรียมยินดีล่วงหน้ากับเราไว้เลยก็ได้นะ”ขนุนยักคิ้วปากคาบไมจิ้มฟัน

   “แน่ใจว่าพี่เขาจะเอามึง? ”นิวส่ายหน้าจิ๊ปากรัวๆ

   “เราตอบนิวตอนนี้ไม่ได้หรอก แต่ถ้าถามว่าเราอยากเอาพี่เขาไหม ก็ตอบเลยว่ามากกกกก!”ขนุนใส่ความต้องการของตัวเองลงไปด้วยการยกมือวาดความหมายที่บอกว่ามาในอากาศเท่าฝืนฟ้า

   “ไอ้ขนุน!”

   “โอ๊ยยยย! นิวกับต้าทุบเราทำไม”ขนุนหยี่ตาเมื่อเห็นมือเพื่อนที่เตรียมจะง้างทุบหลังเป็นรอบที่สอง

   “ก็มึงลามก! ”

   “เราพูดความในใจไม่ได้รึไง ทีนิวกับต้ายังพูดเรื่องแบบนี้ได้เลย”ขนุนเถียงเสียงแข็ง

   “พูดได้ แต่ใช่ตรงนี้มั้ย!”

   เหมือนถูกสะกิดให้รู้ตัว เพราะโต๊ะที่พวกเขานั่งมีคนอื่นนั่งร่วมอยู่ด้วยนับได้คร่าวๆ จากเก้าอี้ตัวยาวก็เห็นจะสิบคนได้ เรียกได้ว่าทุกสายตาจ้องมองมายังขนุนกันเป็นตาเดียว แถมมองตานิ่งเป็นศพปลากันเลยก็ว่าได้

   “ขะขอโทษครับ กินต่อเลย”

   “กูอายฉิบหายเลยว่ะ”นิวเอามือตบหน้าผากตัวเองแล้วลุกขึ้นเก็บจานทันที ตามมาด้ายขนุนและต้าที่ลุกตามหลังกันไปติดๆ ผงกให้ผู้ที่เสียหูเพราะเรื่องบ้าบอเหล่านี้










ติดตามตอนต่อไป >>>

ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ ^^
 :กอด1: :กอด1:
   
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 8 อัปเดตแล้ว 4/03/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 04-03-2019 18:52:02
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 8 อัปเดตแล้ว 4/03/2562
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 07-03-2019 23:06:04
ขนุน น่ารักกับแรดต่างกันนิดเดียว  :laugh:
แต่ว่าอย่าพยายามไปกดพี่เค้าเลยนะ ให้พี่เค้ากดเถอะขอร้อง
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 9 อัปเดตแล้ว 9/03/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 09-03-2019 13:51:59


ขนุนลูกที่ 9




   กลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่ทยอยกลับออกมาจากตึกสูงสีขาวสถานที่ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตึกคณะทันตะ  ภายในไม่กี่นาทีผู้คนก็ค่อยๆ สลายตัวกันไปคนละทิศคนละทาง เวลาเย็นย่ำแสงแดดอ่อนลงพร้อมกลับอากาศที่อุ่นร้อนมากกว่าจะเย็นไปตามช่วงเวลา กลุ่มนักศึกษาทันตะที่ค่อนข้างโดดเด่นในชั้นปีอย่างคณินและเพื่อนเกลอก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่โบกมือร่ำลาเพื่อนในชั้นปีแล้วเดินแตกกลุ่มออกมา

   ถึงจะเป็นช่วงเวลาที่จะได้พักสมองหลังจากเรียนหนักหน่วงมาตลอดทั้งวัน แต่ดูเหมือนสีหน้าเหนื่อยหน่ายยังคงไม่จางไปสักเท่าไหร่โดยเฉพาะคณิน เขาไม่ได้มีปัญหาเรื่องการเรียน แต่ปัญหามันอยู่ที่ตัวแปรอื่นมากกว่า

   “มึงไม่ต้องไปเครียดมาก เดี๋ยวพวกกูช่วยหาคนไข้ใหม่ให้”

   คณินพยักหน้ารับรู้ เพราะเขาเพิ่งถูกคนไข้ที่เป็นแม่บ้านยกเลิกเคสไม่มารีเช็กหรือรักษาต่อแล้ว บอกจะย้ายไปอยู่กับลูกที่ต่างจังหวัดคงจะไม่ได้มาตามนัดอีก ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับนักศึกษาทันตะ แต่มันคือเรื่องเจ็บปวดระทมใจของการคงไว้ซึ่งคนไข้ให้ได้ หลายคนต้องจ่ายเพื่อที่จะได้เก็บเคสได้ครบ นั่นอาจไม่ใช่หนทางที่ดีแต่ก็ต้องฉีกกระเป๋ากันหน่อยถ้าหากอยากจะจบครบตามสเต็ป ทั้งที่เพิ่งจะเริ่มต้นก็ต้องมาปวดหัวซะแล้ว

   “อือ”คณินพยักหน้ายิ้มน้อยๆ ตอบเพื่อนไป

   “ไหนๆ วันนี้ก็เป็นวันศุกร์แห่งชาติแล้ว ไปหาอะไรกระแทกปากกันที่ตลาดกลางคืนหน่อยดีกว่ามะ”โจมดันแผ่นหลังคณินเบาๆ ให้เดินไปข้างหน้า

   ระหว่างที่เดินอยู่นั้นเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าของคณินก็ดังขึ้น คนตัวสูงหยุดเดินล้วงโทรศัพท์ขึ้นมา ยิ้มบางให้กับชื่อที่ขึ้นเด่นอยู่ตรงหน้าจอที่สว่างขึ้น

   “จะมองอีกนานไหม น้องมันโทรมาก็รับดิ ยิ้มอยู่ได้”อนาวินเหลือบตามองเห็นว่าคณินเอาแต่จ้องไม่ยอมกดรับสักทีเลยแซวออกไปพอหอมปากหอมคอ เพราะรู้เพราะเห็นอยู่กับตาว่าคณินมักจะอารมณ์ดีทุกครั้งที่พูดถึงขนุน

   “ฮัลโหลครับ.....พี่กำลังจะไปตลาดกับเพื่อน.....”

   “ชวนน้องไปด้วยดิ”โจมพูดขึ้น เพราะเดาทางออกว่าคณินกับขนุนกำลังคุยเรื่องอะไรกัน คณินพยักหน้ารับรู้ เลยพูดชวนออกไป อีกปลายสายดูจะดีใจฟังจากน้ำเสียงที่ตอบรับออกมาอย่างไม่ลังเล

   “โอเคงั้นเจอกันครับ”คณินกดวางสายเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า ยังคงทิ้งรอยยิ้มจางๆ ไว้บนใบหน้า

   “มึงรู้ตัวป่ะว่าเดี๋ยวนี้มึงยิ้มง่ายขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย”

   “ปกติ”

   “ไม่ปกติ ก็ตั้งแต่มึงเลิกกับลูกตาลมึงก็กลายเป็นเสือยิ้มยากอ่ะ.....”

   “ไอ้วิน! ”เสียงเตือนจากโจมยั้งปากอนาวินเอาไว้ เพราะกลัวคนใจบางอย่างคณินจะคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องเก่าๆ อีก เพราะทุกครั้งที่พูดถึงชื่อแฟนเก่าทีไรคณินก็ทำหน้าเหมือนคนอมทุกข์อยู่เป็นอาทิตย์

   “เอ่อ.....กูขอโทษ มันพลั้งปากไปว่ะ”อนาวินยกมือไหว้ท่วมหัวอย่างรู้สึกผิด เขารู้ว่าการที่ผู้ชายคนหนึ่งที่ซื่อสัตย์ต่อความรักเอามากๆ อย่างคณินจู่ๆ ต้องถูกบอกเลิกเพราะอีกฝ่ายคบซ้อน ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ผิดต่อคนที่รักเลย มันดูไม่ยุติธรรมเท่าไหร่นัก แต่จะรั้งอีกฝ่ายไว้ได้ยังไงในเมื่อใจเขาไม่ได้อยู่กับคณินแล้ว

   “ไม่ต้องขอโทษกูขนาดนั้น จะไปไหมตลาดอ่ะ”คณินส่ายหน้ายักคิ้วให้กับอนาวินเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรแล้ว

   “ไอ้โจม มึงเห็นมั้ยเมื่อกี้ ปกติมันต้องฟาดฟันกูด้วยสายตาแล้วไม่พูดเพราะโกรธมะ แต่มึงดูเมื่อกี้ดิ แม่งมันดูไม่แคร์แล้วอ่ะ”

   “ก็ดีแล้วไม่ใช่รึไง”

   “อืมดี”อนาวินพยักหน้าเหมือนครุ่นคิดอะไร ก่อนจะแอบเอามือป้องปากกระซิบไปที่หูของโจมเหมือนไม่ต้องการให้คณินได้ยินเรื่องที่ตัวเองพูด

   “มึงสองคนจะไปไหม ช้าวะ”

   “อะเออๆ ไปดิวะ”





   ท่ากลางผู้คนมากมายมหาศาล ขนุนมองหาคนที่นัดกันไว้ตรงจุดมองเห็นง่ายด้วยความรีบร้อน เพราะมหามวลชนที่เบียดเสียดกันเดินทางด้วย MRT ในเวลาเร่งด่วนนั้นทำให้ขนุนต้องต่อคิวยาวเพื่อที่จะซื้อบัตรโดยสาร กระทั่งมาถึงที่หมายก็พยายาวิ่งเพื่อไปเจอคณิน โดยวันนี้ทั้งนิวและต้าก็ขอบายเพราะมีธุระส่วนตัว อย่างต้าก็ไปกินข้าวกับจ๊ะเอ๋ ส่วนนิวก็มีนัดกับช้างกับแจ๊กไปร้านเกมหลังมอ

   “ขนุนทางนี้!”อนาวินมองเห็นขนุนที่กำลังชะเง้อมองไปหาจึงกวักมือและตะโกนเรียก

   “ขอโทษครับที่มาช้า ผมรีบสุดๆ แล้วจริงๆ นะ”ขนุนปาดเหงื่อที่อยู่บนหน้าผากออกแล้วหันไปยิ้มให้คณิน ตัวยังหอบโยนลมหายใจยังไม่สม่ำเสมอ

   “พี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเราสักหน่อย ดูซิวิ่งมาจนเหงื่อท่วม เอ่อ แล้วเพื่อนเราไม่มาด้วยเหรอวันนี้”

   “ไม่ครับ ทั้งสองคนมีธุระเลยมาด้วยไม่ได้”

   “อืม งั้นไม่เป็นไรเราไปข้างในกันเถอะ”

   “ครับ”ขนุนยิ้มกว้าง รับมือหนาที่เอื้อมมาโยกหัวตัวเองเบาๆ แล้วขนุนก็เดินตามคณิน อนาวินและโจมไปในตลาด ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางพอดู แบ่งโซนต่างๆ ไว้สำหรับนักเที่ยว ทั้งส่วนที่เป็นของขายพวกเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า งานแฮนด์เมคที่ไม่ได้ราคาสูงนัก ส่วนใหญ่นักศึกษาและคนวัยทำงานจะชอบมาเดินชิว อีกส่วนก็คงจะไม่มีไม่ได้ นั่นคือของกินสารพัดอย่างที่ตาลายจนเลือกกินไม่ไหว ถึงแม้คนจะเยอะแต่ใครๆ ก็ชอบที่จะมาเดินด้วยบรรยากาศพลุกพล่านมันทำให้ไม่เหงา

   ยิ่งติดวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์แล้ว ตลาดแทบจะไม่พอให้คนเดิน

   ตอนนี้ขนุนเดินตามคณินที่นำหน้าไปเล็กน้อย หันมาพูดกันบ้างเวลาเจอของอะไรที่น่าสนใจ ส่วนโจมกับอนาวินก็เดินตามหลังกันไปกระทั่งหยุดลงตรงแผงขายของเล่นเก่า จนลืมเป้าหมายไปว่าจะมาหาของกิน

   “คณิน มึงพาน้องไปเดินเล่นก่อนเลย กูกับไอ้โจมขอแวะตรงนี้สักเดี๋ยว”อนาวินที่ก้มๆ เงยๆ ดูรถจำลองของเล่นแบบต่างๆ เงยหน้าขึ้นมาบอกคณิน

   “ไปครับ เราไปเดินเล่นรอสองคนนี้กันก่อน”

   “ครับ”

   “ปกติขนุนมาเที่ยวที่นี่บ่อยรึเปล่า”

   “อะไรนะครับ? ”ขนุนขมวดคิ้วพยายามฟังสิ่งที่คณินพูด เพราะเสียงที่ดังจากร้านเหล้าและเสียงเพลงที่อยู่ใกล้ๆ กลบเสียงพูดไปซะหมด

   “พี่ถามว่าเรามาที่นี่บ่อยไหม? ”คนตัวสูงกว่าเอียงตัวมาใกล้ๆ ขนุนแล้วพูดใกล้ๆ หู

   ขนุนพยักหน้า “อ๋อ ก็ไม่บ่อยมากครับ นานๆ ครั้ง ก็พอรู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง ที่ชอบเดินสุดก็ตรงโซนของกินนั่นแหละครับ หรือไม่ก็ตรงร้านเหล้าโน่นเลย”ขนุนเล่าเรื่องไม่ปิดบัง เพราะส่วนใหญ่ก็ไปที่แบบนั้นจริงๆ

   “ขาดื่มเหมือนกันนะเรา”

   “ก็พอประมาณครับ แต่ก็เพลาๆ ลงบ้างแล้ว แม่ขอร้องไว้”ขนุนหัวเราะหงึกๆ

   “พี่ว่าเราเปลี่ยนไปเดินซอยโน้นดีกว่าคนไม่เยอะมาก”มวลชนที่เดินสวนกันไปมาไหลเชี่ยวกรากอย่างกับน้ำตก

   “ก็ดีครับ ผมว่าคนมันเริ่มจะแน่นแล้ว”ขนุนหันมาพูดกับคณินที่เดินอยู่ข้างๆ ตัวแทบจะถูกกระชากไปกับฝูงคน และไม่ทันไรขนุนก็ถูกเดินชนจนเซถลาโชคดีที่คณินกลับรับแผ่นหลังเล็กเอาไว้ทันไม่ให้หงายหลังหกล้มซะก่อน

   “พี่ว่าเรามาเดินใกล้ๆ พี่ดีกว่า”มือของคณินเกี่ยวเอวขนุนเข้าหาตัวเบาๆ เป็นเชิงให้ขนุนระวัง แต่ทว่าสัมผัสที่แตะลงตรงแผ่นหลังนั้นทำเอาขนุนใจสั่นไปหมด มือเล็กแอบกำแน่นเก็บกลั้นความรู้สึกสุดๆ ยิ่งเห็นว่าคณินเอาใจใส่ขนาดนี้ จะไม่ให้คนแอบหวังดีใจได้ยังไงกัน

   “คนเยอะมากเลยนะครับ”พูดไปขนุนก็เริ่มเบียดใกล้คณินเข้าไปอีกนิดอย่างเนียนๆ แอบเหลือบตามองเจ้าของร่างสูงแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ รู้สึกร้อนผะผ่าวอยู่ข้างในขึ้นมา

   “ต้องทำใจล่ะนะถ้าอยากจะมาที่นี่ คนไทยก็เยอะอยู่แล้วแถมยังมีนักท่องเที่ยวอีก จีนอย่างเยอะ”

   “พี่คณินครับ”เสียงใส่เอ่ยขึ้นพร้อมกับมือเล็กที่ยื่นมากระตุกแขนเสื้อเบาๆ และพยายามเดินตามก้าวของคณินให้ทัน

   “มีอะไรเหรอ? ”

   “ผมกลัวจะหลงกับพี่ ขอผมจับไว้หน่อยนะครับ”ขนุนแตะมือไปจับที่ศอกของคณินเบาๆ อีกฝ่ายหัวเราะขึ้น ก่อนจะเลื่อนมือขนุนมาจับไว้ในมือตัวเองอย่างไม่ลังเล

   “แบบนั้นเดี๋ยวก็หลุดมือ จับแบบนี้ไม่ดีกว่าเหรอ”

   “อ่าครับ”ตากลมใสพยักหน้ายิ้มๆ แสดงความขอบคุณอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ทว่าในใจกลับกระโดดโลดเต้น เพราะรู้ว่าคณินใจดี จะให้เขาจับแค่ศอกเหมือนกรวดน้ำคว่ำขันได้ยังไง และมันก็เป็นไปตามที่ขนุนคิดไม่มีผิด

   “กำมือพี่ซะแน่น แถมยังมือเย็นๆ ด้วย เป็นอะไรรึเปล่า? จะเป็นลมบอกพี่ได้นะ”คณินดึงมือขนุนขึ้นมาดู เมื่อรู้สึกได้ถึงความเย็นที่ฝ่ามือและปลายนิ้วเรียวที่สัมผัสกัน ขนุนจะบอกได้ยังไงว่าตัวเองกำลังตื่นเต้นสุดๆ ไอ้ที่กำแน่นเพราะมันเผลอใจไปเท่านั้นเอง

   “ปะเปล่าครับ ผมสบายดี เอ่อพี่คณินครับ โน่นใช่พี่โจมกับพี่วินรึเปล่าครับ เห็นกระโดดกวักมือเรียกอยู่กลางซอย”   

   “ใช่ๆ สงสัยคงซื้อของเสร็จแล้ว ไปหาอะไรกินกัน”

   “ครับ”

   เจ้าของแก้มขาวที่แอบแดงเรื่อหลุบตาลงมองปลายเท้า ปล่อยให้คณินเดินจูงมืออย่างว่าง่าย จะไปซ้ายก็ไป จะไปขวาก็ยอม แต่ขอแค่ให้ได้กุมมือคนที่ชอบให้นานกว่านี้อีกหน่อยก็ยังดี

   และไม่รู้เพราะท่าทางตลกๆ ที่ดูน่ารักของขนุนหรือว่าเพราะอะไร ถึงทำให้คณินเผลอยิ้มพร้อมกับจูงมือข้างที่เย็นเยียบเอาไว้ไม่ปล่อย บางทีก็แอบหันไปมองเจ้าของผมสีบลอนด์สว่างที่ใช้มือข้างที่เหลือปัดปลายจมูกไปมาจนมันเริ่มแดง บ้างก็เอามาลูบแก้มใส่ๆ ที่มีเม็ดเหงื่อขึ้นประปรายด้วยความรู้สึกน่าเอ็นดู

   ทั้งยังแอบหัวเราะเวลาที่อีกฝ่ายต้องเดินหลบคนที่ตัวโตกว่าและพยายามเบี่ยงตัวแอบอยู่ด้านหลังเหมือนต้องการกำแพงปกป้อง

   คณินทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไร แต่ก็คอยกุมมือเล็กไม่ให้หลุดจากกันง่ายๆ และไม่สนด้วยว่าคนอื่นจะมองการกระทำแบบนี้ด้วยสายตายังไง คณินแค่พอใจในสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ก็เท่านั้น

   คนตัวโตกว่าหน้าที่ปกป้องมันก็เหมาะแล้ว





มอM

   “มึงมองมือตัวเองจนกูชักจะหมั่นไส้แล้วว่ะ”คนที่ง้างกรรไกรในมือขยับปากกรรไกรไปมา อยากจะตัดมือคนข้างๆ ทิ้ง

   “พี่คณินจับมือเชียวนะ นิวไม่ยินดีกับความสำเร็จเราหน่อยเหรอ”

   “กูก็จับมือมึงได้ เห็นมะ”นิวคว้ามือขนุนเข้ามาจับแถมยังสอดนิ้วประสานให้มันดูเป็นเรื่องปกติ แต่ถูกเจ้าของมือโวยใส่

   “โหยนิว ก็เราไม่ได้อยากได้มือนิวอ่ะ มันไม่ได้พิเศษแบบนั้น”ขนุนสะบัดมือเพื่อนทิ้งแล้วปาดเช็ดไปมากับท่อนแขน ก่อนจะไปจับดินสอแทนแล้วลงมือทำงาน แสดงเจตนาโดยบริสุทธิ์ว่าอะไรที่มันพิเศษอย่าคิดมาเทียบชั้น

   “น้ำได้แล้ว แดกดีๆ อย่าให้หกสักหยดกูอุตส่าห์เดินไกลออกไปซื้อจนจะเป็นลมอยู่แล้ว”

   “นี่เลี้ยงด้วยป่ะ? ”ขนุนคว้าน้ำแตงโมปั่นมาดูด แสดงสีหน้าสดชื่นสุดๆ

   “สัด! กูเหนื่อยแล้วยังต้องออกเองอีกเหรอ เอามาคนละ 25 บาท ขาดกูต่อย เกินกูไม่คืน”

   “งกอ่ะต้า”

   “บาทเดียวก็ตังค์มะ อย่าลีลา ส่งเงินมาซะดีๆ ครับ”

   “มาอยู่ที่นี่กันเองพี่ตามหาซะทั่ว”

   กิจกรรมที่กำลังชุลมุนเรื่องตังค์ค่าน้ำหยุดลงกะทันหัน เมื่อเสียงคุ้นหูที่ทำเอาขนลุกชันดังมาจากด้านหลังของทั้งสาม ขนุนกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะหมุนตัวไปยังที่มาของเสียง กระทั่งเจอกับเจ้าของทรงผมที่ดูแปลกตาเพราะถูกตัดสั้นขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าไม่ได้ดูน่าเกลียด แต่ค่อนข้างเปลี่ยนให้ดูกร้าวขึ้นมาเล็กน้อย จะบอกว่าเท่เอาการก็ได้อยู่ดูเป็นเบดกายนิดๆ จนสาวๆ ที่ชอบสายนี้มีตาวาวกันบ้าง

   ขนุนยิ้มบางให้กับเจ้าของส่วนสูง 185 ปลายๆ ก่อนจะหันกลับมามองหน้าต้าและนิว พร้อมขมุบขมิบปากพูด

   “พี่ไม้เอกมาแล้วอ่ะ”

   “ว่าไง มาทำอะไรกันตรงนี้ครับ? ”

   “สวัสดีครับพี่ไม้เอก”ทั้งสามยกมือไหว้เป็นมารยาทต่อรุ่นพี่ที่มาหาถึงใต้ถุนคณะ

   คนที่รูปร่างค่อนข้างสูงหูทั้งสองข้างเจาะและใส่จิวสีดำเม็ดเล็กกำลังยิ้มให้กับขนุน และหันไปสบตากับต้าและนิวที่หลบตาลงต่ำไปมองงานตรงหน้าของตัวเองซะแทน ก็รู้อยู่ว่าถึงหน้ายิ้มแต่เขาก็ไม่ได้ปลื้มไม้เอกสักเท่าไหร่ ปมนิว 1 นิ้วมันฝังหัวซะขนาดนั้น

   “เมื่อวานพี่ชวนเราไปกินข้าวไม่สำเร็จวันนี้ก็เลยจะมาชวนด้วยตัวเองอีกรอบ ว่าไง เย็นนี้โอเคมั้ย มีเพื่อนเราไปกันหลายคนด้วย ช้างกับแจ็กก็บอกว่าว่าง”

   “แต่งานผมยังไม่เสร็จเลยครับพี่ไม้เอก แล้วแถมตอนเย็นผมก็มีนัดแล้วด้วย”

   ขนุนพยายามปฏิเสธ ก็รู้ว่าตั้งใจมาชวนแต่ก็ไม่ชอบที่ไม้เอกเอาแจ็กกับช้างมาอ้าง

   “นัดที่ไหน ให้พี่ไปส่งไหม? ”ไม้เอกเดินเข้ามาใกล้วางมือทั้งสองข้างลงบนโต๊ะ ค้ำตัวเอาไว้แล้วก้มลงคุยกับขนุนที่ยิ้มแห้งไปแล้วสามรอบ ความอัธยาศัยดีของไม้เอกมันก็ดีอยู่หรอก แต่พอรู้จุดประสงค์แล้วก็อดที่จะระแวงไม่ได้ นิวเห็นท่าทีแบบนั้นก็เหมือนจะพูดอะไรออกมา แต่ต้ากับเหยียบเท้าเอาไว้ซะก่อน

   “ไม่ดีกว่าครับผมไปเองได้ ว่าแต่พี่ไม้เอกเถอะครับ ตอนนี้สบายดีแล้วเหรอครับ ผมได้ข่าวว่าเกิดอุบัติเหตุ”ขนุนแสร้งพูดเรื่องอื่นขึ้นนัยน์ตาอยากรู้ อีกฝ่ายคิดว่าขนุนใส่ใจเลยยิ้มออกมาแล้วตอบ

   “พี่โอเคแล้ว หายดีทุกอย่าง ยกเว้น.....”ไม้เอกเว้นประโยคไว้ แล้วจ้องขนุนที่นั่งหลังตรงเพราะอึดอัด ไม่ต่างจากต้าที่พยายามสงบปากสงบคำปล่อยให้ขนุนแก้ปัญหาไป และต้าพยายามส่งสายตาหานิวให้อยู่เงียบๆ

   “ยกเว้นอะไรครับ? ”

   “ยกเว้นว่าขนุนจะให้โอกาสพี่บ้าง”

   ขนุนถึงกับอ้าปากเหวอ ไม่คิดว่าวันแรกของการเจอกันในรอบครึ่งเดือนจะถูกหยอดจนจุกแบบนี้ซะแล้ว

   “คือผมไม่ว่างจริงๆ เอาแบบนี้ไหมครับ ไว้ครั้งหน้าผมจะไปแน่นอน นะครับพี่ไม้เอก ถือว่าสงสารคนที่งานไม่เสร็จนะครับ พี่ก็รู้ว่าอาจารย์เพ็ญพักตร์เขาเข้มเรื่องเวลาส่งงานจะตาย”

   ไม้เอกนิ่งคิดเหมือนชั่งใจอะไรบางอย่าง

   “.....”

   “นะนะนะครับ”ดวงตาเป็นประกายแสดงสีหน้าวอนขอจนคนถูกสบตาถึงกับใจอ่อนยวบขึ้นมาซะอย่างนั้น

   “ก็ได้ครับ เอาที่ขนุนสบายใจแล้วกัน ไว้พี่มาชวนใหม่ครั้นหน้าห้ามเบี้ยวพี่นะ” ไม้เอกมองงานบนโต๊ะของรุ่นน้องอย่างช่วยไม่ได้

   “…..”

   “ถ้าเรื่องเรียนมีปัญหา ก็มาปรึกษาพี่ได้นะพี่ให้คำแนะนำได้”

   “ครับ”

   เพราะต้องใช้ลูกอ้อนร้อยกระบวนท่าอีกฝ่ายจึงยอมล่าถอยไปแต่โดยดี ขนุนถอนหายใจหลุดโล่งที่รอดตัวไปได้ อย่างน้อยก็ยื้อเวลาไปได้อีกสักพัก และพอหันไปมองต้ากับนิวอีกครั้งก็เห็นสองคนนั้นจ้องขนุนตาเขม่นอย่างตั้งใจจนสะดุ้งซะเอง

   “ทำไมมองเราอย่างนั้นอ่ะ หรืออะไรติดหน้า? ”

   “ไอ้ขนุน! มึงนี่ก็ร้ายไม่เบา กูแม่งชักกลัวหน้าใสๆ ตาซื่อๆ ของมึงแล้วจริงๆ ”ต้าตบขาตัวเองดังฉาด

   “กูกลัวใจเหลือเกินว่าคนที่มึงชอบ จะตามเล่ห์เหลี่ยมมึงทันรึเปล่า”

   “ต้ากับนิวพูดจนเราดูเหมือนตัวโกงอ่ะ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”

   “นี่มึงยังไม่รู้ตัวอีก? ”

   “ไม่ช่วยเราแล้วยังหาว่าเราร้าย การหาทางเอาตัวรอดเราผิด? ”ขนุนหน้ายู่เพราะถูกเหน็บแนม จนปากเล็กแทบจะย่นชิดกับจมูก ขมวดคิ้วหมุนก้มหน้าก้มตาทำงานไม่พูดจา

   หากจะให้ปฏิเสธแบบใช้ไม้แข็งขนุนก็ไม่ชำนาญพอจะทำแบบนั้น หากใช้ไม่อ่อนแล้วทุกอย่างมันดูประนีประนอม ไม่ลำบากใจกันทั้งสองฝ่ายมันก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะหากจะให้ไปโผงผางหยาบคายใส่เรื่องมันก็จะไม่จบง่ายๆ แน่นอน

   “อาๆ พวกกูขอโทษ ก็ดีแล้วที่มึงเอาตัวรอดได้ พวกกูจะได้ไม่ต้องห่วงมึงมาก อย่างอนดิวะ กูจ่ายตังค์ค่าน้ำให้เองก็ได้”นิวไถ่โทษโดยการควักตังค์ให้ต้า แล้วยื่นมือไปบีบแก้มขาวที่นิ่มมือโยกไปมาหยอกล้อเบาๆ

   “คิดว่าเราง่ายขนาดนั้นเลย? ”

   “ได้ข่าวว่าจะไปหาพี่คณินไม่ใช่เหรอ กูเคลียงานที่เหลือให้หายงอนมะ”นิววางมือลงบนกระดาษแผ่นที่ขนุนขยุบมือขยุกขยิกเขียนแล้วจ้องตาอย่างมีความหมาย

   “เดี๋ยวขนุน! มึงลุกไปไหน? ”

   “ไปหาพี่คณิน”ยิ้มกว้างระบายขึ้นบนใบหน้า ท่าทางอารมณ์ดีเก็บโกยข้าวของอย่างไว ก่อนจะตบไหล่เพื่อนทั้งสองเบาๆ

   “ฝากงานที่เหลือด้วยนะ เราไม่โกรธแล้ว เรารู้ว่านิวกับต้าไม่ได้ใจร้ายกะเราจริงหรอก”

   “สัด! กูว่าแล้วไงโกรธได้ไม่ถึง 5 นาที” ต้าเท้าคางมองดูขนุนที่เดินจากไปเท้าแทบไม่ติดพื้นแล้วบ่นพึมพำ มองดูท้องฟ้าที่ครึ้มๆ แล้วตะโกนไปว่า “มึงทำอะไรพี่คณินฟ้าผ่ามึงแน่ไอ้ขนุน! ”

   แล้วเสียงเล็กก็ตะโกนกลับมาทำหน้า “ยอมฟ้าผ่าเหอะ! ” คนที่มองดูอยู่ทางนี้ถึงกับหลุดขำหัวเราะส่ายหน้าให้กับความระริกระรี้ของขนุนเหลือเกิน

   “ไอ้ต้า มึงว่าขนุนมันไหวเหรอวะ กูกลัวซะเหลือเกินว่าหากไม่ได้เป็นอย่างที่มันคิดเรื่องมันจะไม่แฮปปี้นะเว้ย”

   “ไม่รู้ว่ะ กูเดาใจพี่คณินไม่ออก แต่เท่าที่เห็น พี่เค้าก็ดูแทคแคร์ไอ้ขนุนในระดับนึงเหมือนกัน”

   “กูกลัวว่ะ”

   “มึงจะกลัวอะไรไอ้นิว”

   “กูกลัวไอ้ขนุนเสียใจ ถ้าสุดท้ายแล้วมัน.....”

   “หยุด! หยุด หยุด หยุด กูรู้ว่ามึงห่วงมัน กูก็ห่วง แต่! เอาตรงๆ นะ ตอนนี้ไอ้ขนุนมันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น ขนุนไม่ใช่ผลไม้นะเว้ยแต่มันเป็นสัตว์กินเนื้อดีๆ นี่เอง จิตใจมันคิดบวกมึงก็รู้ 18+ 20+ 25+ มึงอย่ากลุ้มอะไรไม่เข้าท่า”

   “กูก็หวังว่าอย่างนั้น.....ถ้ามันไม่จับพี่เขารวบหัวรวบหาง กูรู้ว่าไอ้ขนุนมันคิดบวก กูหนักใจตั้งแต่มันเปิดเว็ปโป๊แล้วชวนกูศึกษา แถมยังถามลึกไปถึงลำไส้”

   “แล้วมึงตอบ? ”

   “สัด! กูจะเอาอะไรมาตอบ กูไม่เคยเว้ย!”

   “โชคดีนะที่กูไม่เจออะไรแบบมึง”คนที่คิดว่ารอดลูบอกตัวเองถอนหายใจโล่ง

   “มึงไม่เจอตอนนี้ไง แต่อีกเดี๋วยมึงเสร็จไอ้ขนุนแน่ กูบอกเลย ห้องอยู่ข้างๆ ไม่ใช่ไง เดี๋ยวมันก็เดินไปหาเชื่อกูดิ”

   “มึงอย่าพูดให้กูกลัวดิ”

   “กู พูด จริง!”







ติดตามตอนต่อไป >>>



ฝากน้องหนุนในตอนต่อไปด้วยนะคะ
 :o8: :o8:


โดย หลานฮวา
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 9 อัปเดตแล้ว 9/03/2562
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 09-03-2019 16:44:28
ตอนที่น้องหนุนวิ่งมาแล้วยิ้มให้พี่คณินทันที่ทั้งที่ยังหอบอยู่เนี่ยมันแอทแทคใจพี่มากๆเลย พี่คณินไม่คิดจะเกินเลยกับน้องจริงๆเหรอ :z1:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 9 อัปเดตแล้ว 9/03/2562
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 09-03-2019 22:41:39
สู้ๆ นะลูกขนุน
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 9 อัปเดตแล้ว 9/03/2562
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 17-03-2019 11:07:29
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 9 อัปเดตแล้ว 9/03/2562
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 17-03-2019 12:05:34
 :pig4:
 o13
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 10 อัปเดตแล้ว 17/03/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 17-03-2019 19:51:17



ขนุนลูกที่ 10




   เป็นเวลาเดิมที่เหล่านักศึกษาทันตะเลิกเรียน ขนุนตั้งใจจะมาเจอคณินแบบเซอร์ไพรส์ แต่กลับเซอร์ไพรส์ยิ่งกว่าเพราะมาแล้วดันไม่เจอ แต่เจอเพื่อนของคณินอย่างโจมแทนแถมอนาวินก็หายตัวไปอีกคน

   “นี่ไม่ได้บอกล่วงหน้าใช่มะเรา”

   “ครับ ผมกะจะเอาเสื้อผ้าที่พี่คณินให้ยืมมาคืน นึกว่าจะทันซะอีก”ขนุนหน้าจ๋อยเดินไปคุยไปกับโจม

   “วันนี้คณินมันรีบกลับเพราะจะไปเอาของให้แม่มัน พี่ก็ไม่รู้รายละเอียดมาก แต่ก็เพิ่งออกไปไม่ถึง 15 นาที”

   “แล้วพี่วินล่ะครับ ผมก็ไม่เห็นเหมือนกัน”

   “มันถูกทำโทษให้ล้างโบวล์อยู่ข้างบนตึกน่ะ”โจมไหวไหล่ในแววตามีรอยยิ้ม “ของจะฝากพี่ไว้ไหม หรือยังไง?”

   “ไม่เป็นไรครับ ผมเอาไปให้เองดีกว่า”ขนุนแอบยิ้มเหวี่ยงถุงที่ใส่ของไปไว้ข้างหลัง คนช่างสังเกตอย่างโจมทำไมจะไม่รู้ว่ารุ่นน้องที่หน้าตาน่ารักอย่างขนุนกำลังคิดอะไร เพียงแต่แอบยิ้มขบขันเล็กน้อยไม่ให้น้องมันเขินมากก็เท่านั้น

   “ขนุน”จู่ๆ โจมที่เดินอยู่เงียบๆ ข้างขนุนก็เรียกคนตัวเล็กกว่าขึ้นมาลอยๆ

   “ครับพี่โจม”ดวงตากลมใสเงยหน้าขึ้นมองคนตัวสูงกว่าที่เดินอยู่ใกล้ๆ แล้วขานรับ

   “เรา.....ชอบเพื่อนพี่เหรอ? ”

   กึก!

   คำถามที่ออกมาจากปากของโจม ทำเอาขนุนหยุดเท้ากะทันหัน แอบตกใจเล็กน้อยที่เพื่อนของคณินถามออกมาแบบนั้น ขนุนขมวดคิ้วคิดอยู่ในใจว่าจะตอบออกไปอย่างไรดี มีความกังวลหลายอย่างที่จู่ๆ ก็เกิดขึ้นทั้งๆ ที่ไม่ได้คิดมาก่อน เขาควรจะพูดออกไปแบบไหน เพราะโจมเป็นเพื่อนของคณินไม่ใช่เพื่อนของขนุนที่จะได้ไม่ต้องแคร์เวลาจะพูดอะไรออกไป และถ้าพูดออกไปแล้วทำให้คณินต้องถูกเพื่อนมองแปลกๆ ขนุนจะทำยังไง

   “.....เอ่อ”

   “เฮ้ย! ไม่ต้องเครียด ที่พี่พูดไม่ได้ต้องการจะกดดันหรืออะไรเลย”โจมหันไปมองขนุนที่หน้าแดงก่ำดวงตาเลิกลักอาการเหมือนคนจะขาดอากาศซะอย่างนั้น

   “ไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร พี่แค่ถามเพราะสงสัยแค่นั้นเองไม่ได้จะแอนตี้หรือกีดกันอะไรทำนองนั้น ยิ้มหน่อยเร็ว”คนรู้สึกผิดที่ทำเอาน้องตรงหน้าอย่างขนุนนิ่งค้าง ปลอบใจโดยการยืนมือไปขยี้หัวเจ้าของผมสีบลอนด์อยากให้ผ่อนคลาย เสริมด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเบาๆ ให้มั่นใจว่าที่พูดออกไปไม่ได้คิดอะไรมาก

   “พี่โจม.....”ขนุนค่อยๆ ผ่อนคลายแล้วเหลือบตาขึ้นมองโจมที่พยักหน้ารับคำเรียกขาน

   “ครับ”

   “จริงๆ แล้วผมไม่บริสุทธิ์ใจกับเพื่อนพี่ พี่โอเคมั้ย? ”   

   “ขนุน ถ้าพี่จะบอกว่า.....”โจมทิ้งช่วงคำพูดแล้วเปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย มองดูเด็กผู้ชายที่หน้าตาน่ารัก แม้จะเข้าสู่โหมดจริงจังก็ยังน่าแกล้ง “ตั้งแต่ครั้งแรกที่พวกพี่เจอเรา พี่ก็ดูออกแล้วล่ะครับว่าในสายตาน้องคิดยังไงกับเพื่อนพี่ ก็มีแต่เพื่อนของพี่เท่านั้นแหละที่ความรู้สึกช้าน่ะ”

   “หมายความว่า.....ดูออกเหรอครับ”

   “ออก”โจมพยักหน้ายิ้มๆ ให้กับท่าทางตกใจของขนุน
 
   “สารภาพครับ.....ว่าผมชอบพี่คณินจริงๆ ”ขนุนเงยหน้ายืดอกพกความจริงพูดให้โจมฟัง ทว่าจังหวะนั้นกลับไม่ได้มีแค่ 1 คนที่รับรู้

   “มาทันได้ยินช็อตเด็ดพอดีเลย”

   “พะพี่วิน!”

   “โอ๊ย น้องขนุนครับ ไม่ต้องตกใจยังไงพี่ก็เชียร์น้องอยู่แล้ว”อนาวินที่เข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียงแตะบ่าจากทางด้านหลังของขนุน

   “ครับ? ”

   “พี่ไม่สนหรอกว่าจะหญิงหรือชาย ขอแค่คนที่เข้ามาไม่ทำให้เพื่อนพี่เสียใจเป็นครั้งที่สองก็เป็นพอ”

   “หมายความว่าไงเหรอครับ”

   “อ้าวไม่รู้มาก่อนเหรอว่าคณินเพื่อนพี่มันเพิ่งอกหักน่ะ”

   “เอ๊ะ? ”ขนุนตาเบิกโพลงทันทีที่ได้ยินเรื่องความรักของคณินออกจากปากของอนาวิน

   “หึ! ไม่รู้ล่ะสิ พี่จะบอกให้นะว่า.....”คนที่กำลังจะเล่าทุกอย่างกลับถูกโจมแบรกไว้หัวแทบทิ่มพื้น

   “ไอ้วิน! พอได้แล้ว เรื่องมันก็ผ่านมาจะไปพูดถึงทำไม น้องขนุนครับ ลืมๆ เรื่องที่เพื่อนปากหมาของพี่พูดไปเถอะนะครับ แล้วเหยียบให้จมดินเลยนะว่าพวกพี่พูดอะไรในวันนี้ เดี๋ยวศพของพี่ทั้งสองจะออกมาไม่สวย”

   “ครับ ผมจะเงียบปากไว้ รู้แล้วแต่จะไม่พูด”

   “ดีมากครับ ยังไงพี่ก็ฝากเพื่อนพี่ด้วยนะ ตั้งแต่มีน้องเข้ามามันก็ดูสดใสขึ้นเยอะเลย เรื่องบางเรื่องพวกพี่ก็ทำให้มันรู้สึกดีไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่อง.....”โจมกำมือหลวมๆ ทุบเบาๆ ไปที่อกด้านซ้ายของตัวเองเป็นอันรู้กัน

   “ผมไม่รู้หรอกครับว่าหากรับปากแล้วทำได้ไหม เอาเป็นว่าผมจะทำให้พี่คณินมีความสุขเท่าที่ผมจะทำได้ก็แล้วกันครับ”

   “ดีมากน้องหนุน! ”อนาวินเข้ามากอดคอขนุนหนีบหัวไว้ใต้รักแร้อย่างเอาใจช่วย

   “พี่ว่าเราค่อยคุยกันวันหลังดีกว่านะ รู้สึกฟ้าครึ้มๆ เหมือนฝนจะตก น้องขนุนจะให้พวกพี่ไปส่งบ้านไหม? ”

   “ไม่รบกวนดีกว่าครับ พอดีผมมีธุระไปทำต่อนิดหน่อย”

   “ให้ทายไหมว่าที่ไหน”อนาวินยักคิ้วแซวไปอีก

   “อย่าดีกว่าครับ เดี๋ยวจะทายถูก”

   “อืม งั้นกลับดีๆ พวกพี่ไปก่อน”

   “ครับ สวัสดีครับ”ขนุนยกมือไหว้ ก่อนจะมองอนาวินและโจมที่โบกมือลาห่างไกลออกไป และกลับมาสู่ความคิดของตัวเองอีกครั้ง

   เรื่องที่เพิ่งจะรู้ว่าคณินเพิ่งจะเลิกกับแฟนไป ถึงจะเป็นเรื่องน่าเสียใจแต่ขนุนกลับไม่รู้สึกอย่างนั้นแม้แต่นิด ทั้งหมดขนุนมองเป็นเรื่องน่ายินดีเสียด้วยซ้ำ ถ้าจะให้ขนุนร้องไห้คงจะเป็นเรื่องที่คณินมีแฟนแล้วซะมากกว่า

   ‘ผมขอโทษนะครับพี่คณิน ที่ผมคิดดีกับพี่อย่างน้องชายคนหนึ่งไม่ได้จริงๆ ผมยอมเป็นน้องชายในสายตาคนทั้งโลก.....แต่กับพี่คณินคนเดียวที่เท่านั้นที่ผมไม่ต้องการ’   




   “ลุงๆ จอดบ้านหลังข้างหน้าเลย”

   “มีร่มรึเปล่า ระวังเปียกนะไอ้หนู”

   “ไม่เป็นไรครับผมมีกุญแจเปิดเข้าบ้าน วิ่งไปเปิดประตูแป๊บเดียวไม่เปียกหรอก”

   เป็นไปตามที่กรมอุตุฯ พยากรณ์อากาศบอกไว้ไม่มีผิด ถึงจะไม่บอกแต่จากสภาพอากาศจากช่วงกลางวันและตอนเย็นก็รู้แล้วว่าฝนจะต้องตกลงมาอย่างแน่นอน ขนุนเลยเลือกที่จะนั่งแท็กซี่เพื่อมาลงที่หน้าบ้านของคณิน พยายามทำเวลาไม่ให้ทันฝนตก แต่ทว่าขณะนั่งรถแท็กซี่ไม่ทันจะถึงครึ่งทางฝนก็เทลงมาซะอย่างนั้น แถมยังหนักเอาการซะด้วย

   ก่อนหน้าจะมาขนุนติดต่อกับคณินไปแล้ว และไม่ถือวิสาสะเข้าบ้านคณินโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่เพราะคณินรับรู้แล้วขนุนเลยไม่ต้องรอ อีกเดี๋ยวคณินก็จะมาถึงบ้านแล้วเหมือนกัน

   หลงจากขนุนจัดการจ่ายค่าแท็กซี่และวิ่งลงมาจากรถแล้ว มั่นใจว่ากุญแจบ้านสำรองที่คณินให้ไว้อยู่ในกระเป๋าเป้ แต่ทันทีที่ล้วงหาปรากฏว่ากลับไม่เจอแม้แต่เสี้ยวเดียว กระทั่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเปลี่ยนกระเป๋าเป้ใบใหม่เพราะนำไปซัก กุญแจบ้านของคณินเลยไม่ได้ติดกระเป๋ามา

   “โอ๊ยยยย! ซวยแล้วขนุน!”คนขี้ลืมเบียดตัวไปยืนชิดกับกำแพง พยายามให้ตัวโดนฝนน้อยที่สุด และกอดถุงเสื้อผ้าของคณินไว้แน่น แต่ดูเหมือนความพยายามจะไม่เป็นผลดีเท่าไหร่นัก เจ้าของร่างเล็กถึงได้เปียกโชกไปทั้งตัวแบบนี้

   ปากบ่นพึมพำถึงเจ้าของบ้านที่ยังไม่โผล่มา จนขนุนเปียกจนไม่รู้ว่าจะต้องหลบฝนไปอีกทำไม พลันความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้น ริมฝีปากเล็กที่เม้มสนิทอย่างหงุดหงิดก็ค่อยๆ คลายออก แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มจางๆ แก้มขาวที่ขยับขึ้นด้วยรอยยิ้มค่อยๆ จับตัวกันเป็นก้อนจนน่าบีบ แถมดวงตาก็ค่อยๆ หรี่เล็กแล้วยื่นปลายเท้าออกไปรับสายฝนทีละก้าว

   “ไหนๆ ก็เปียกแล้ว ก็ตกลงมาเลยยยย!”ท่ามกลางหมู่บ้านที่ปิดรั้วรอบขอบชิด ทว่าหน้าบ้านหลังหนึ่งกลับปรากฏบุคคลที่กระโดดใส่แอ่งน้ำบนถนนอยู่กลางสายฝนซะอย่างนั้น จะเป็นใครไปได้นอกจากขนุนที่เอาตัวเข้าตากฝนอย่างเต็มที่

   กระทั่งแสงไฟหน้าจากรถที่กำลังขับมาขนุนถึงได้รีบเข้าไปยืนชิดริมรัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ลูบหน้าที่เปียกชื้นขยี้เส้นผมสะบัดน้ำยืนคอยท่า ไม่นานเจ้าของรถคันคุ้นตาก็จอดลงและเปิดประตูออกมาพร้อมร่มในมือแล้วรีบเดินหน้าตื่นมาทางขนุน

   “ขนุน ทำไมไม่เข้าบ้าน นี่เรายืนตากฝนนานแค่ไหนแล้วเนี้ย? ”เจ้าของร่างสูงที่ยืนร่มมาทางขนุนสีหน้าดูเป็นห่วง ยื่นมือเข้าจับแก้มเย็นๆ จับตัวที่เปียกมะล่อกมะแล่ก
 
   “คือ....ผมลืมหยิบกุญแจสำรองมา เลยลงแท็กซี่แล้วก็เข้าบ้านไม่ได้”

   “ทำไมถึงไม่รีบโทรหาพี่ มาเข้าบ้านก่อนเร็ว”คณินยื่นมือไปดันแผ่นหลังของขนุนให้อยู่ในร่มด้วยกันแล้วรีบเดินเข้าบ้านไปหลังจากกดสวิตช์เปิดประตูรั้วแล้ว

   “ยืนรอตรงนี้เดี๋ยวพี่เอารถไปเก็บ”

   “ครับ”แผ่นหลังที่วิ่งออกไปพร้อมกับร่มในมือทำให้ขนุนถึงกับยิ้มแก้มแทบแตก

   “รู้สึกดีจังที่มีคนเป็นห่วง”เสียงพึมพำเบาๆ ถูกดับฝันไปทันทีเมื่อจู่ๆ ก็มีเสียงแทรกขึ้นมา

   “โฮ่ง โฮ่ง!”

   “ไข่ดาว ตกใจหมด”ขนุนหันไปมองเจ้าไข่ดาวที่อยู่ในคอกกั้นพื้นที่สำหรับวิ่งเล่นซึ่งอยู่ภายใต้หลังคาที่สร้างเสริมออกมาจากตัวบ้าน ก่อนขนุนจะรีบเดินไปหาเจ้าหมาที่ชอบเรียกร้องความสนใจ และทันทีที่ขนุนเข้าไปใกล้เจ้าตัวหน้าขนพุงกลมๆ ก็ทำเสียงหงิงๆ งึดๆ ออดอ้อนขนุนซะอย่างนั้น

   “อย่าเพิ่งเล่นกับไข่ดาวเลย เข้าข้างในกันก่อนดีกว่า”

   น้ำเสียงที่เดินมาจากทางด้านหลังทำให้ขนุนหันไป อย่างอื่นอาจจะดูไม่สะดุดใจเท่ากับเสือนักศึกษาที่โดนฝนจนเปียกชื้นกำลังดีกำลังแนบลู่ไปกับผิวเนื้อด้านหน้าของคณินจนมองเห็นสัดส่วนกล้ามเนื้อที่พอดี ขนุนกะพริบตาปริบๆ แอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ จนใบหน้าและพวงแก้มเผลอร้อนผ่าวขึ้นมา

   “ก็ได้ครับ”ขนุนพยักหน้าพร้อมกับฝ่ามือใหญ่ที่ขยี้ลงมาบนหัวแสดงถึงความเอ็นดู

   “หงิงๆ หงิงๆ ”

   “เอ่อพี่คณินครับ.....ข้างนอกอาจจะหนาว ผมเอาไข่ดาวเข้าบ้านด้วยได้มั้ย”จะให้ขนุนทนเสียงร้องหงิงๆ นั้นคงเป็นไปไม่ได้ เล่นทำสีหน้าอ้อนวอนขนาดนั้นคนสบตากับเจ้าไข่ดาวอย่างขนุนเลยปล่อยไว้ไม่ได้

   “ก็ได้ครับ”คณินพยักหน้าหลังจากหันไปมองเจ้าไข่ดาวที่ร้องหงิงๆ จนแทบขาดใจ แถมยังยกมือขึ้นตะกุยคอกกั้นซะขนาดนั้นก็ต้องยอมเขาแล้วล่ะ

   ไข่ดาวเหมือนรู้งาน ทันทีที่ประตูคอกกั้นเปิดออก พี่คณินคว้าสายจูงแล้วนำไข่ดาวออกมา เจ้าหมาแสนรู้ก็รีบเดินเร็วรี่ไปยังประตูทางเข้าด้านในของบ้านแทบจะทันที ขนุนสบตากับคณินที่หัวเราะออกมากับท่าทางดีอกดีใจของไข่ดาว จนขนุนรู้สึกว่าภาพตรงหน้าโดนใจขนุนเข้าอย่างจัง โดยเฉพาะรอยยิ้มละมุนที่มองมาแบบนั้น
 
   ไม่อยากเชื่อ.....ผมตกหลุมรักคนคนเดียวเป็นครั้งที่รอย

   ทำไงดี ผมอยากได้คนคนนี้ใจจะขาดแล้วอ่า

   หลังจากเข้าไปด้านในคณินก็ยอมปลดสายเชือกจูง และให้อิสระกับไข่ดาวได้วิ่งไปมาในบ้าน ไข่ดาวกลายเป็นหมาคลุ้มคลั่งไปภายในไม่ถึงหนึ่งนาที ทั้งวิ่งไปมาเข้าออกซอกนั้นมุมนี้จนมองตามตาลายไม่ใช่เล่น

   “อย่ามัวแต่มองเพลินเลย พี่ว่าไปเปลี่ยนชุดอาบน้ำอาบท่าเลยดีกว่า เดี๋ยวจะไม่สบาย”

   “ผมขอโทษนะครับที่รบกวนพี่คณินอีกแล้ว ชุดวันก่อนไม่ทันจะคืนก็เปลี่ยนไปอีกรอบแล้ว แถมยังมาเอาชุดใหม่อีก”

   “ไม่ต้องเกรงใจหรอก ชุดพี่มีเป็นสิบ ขนุนจะยืมใส่กี่ชุดพี่ก็มีใส่ ไม่เป็นชีเปลือยหรอก”คณินมองดูขนุนที่ดึงเสื้อตัวเองออกจากถุงซึ่งเปียกเป็นไม่ถูพื้นแถมยังมีหยดน้ำหยดติ๋งๆ ลงมาอีก

   “ไว้ครั้งหน้าผมจะไม่ทำให้เปียกก็แล้วกันนะครับ”

   “ครับ”คณินมอบยิ้มไปให้เจ้าของดวงตากลมใส่ที่เงยหน้าขึ้นสบตาอย่างมีความหมาย คนตัวสูงกว่ามองดูร่างเล็กที่ขยับตัวไปมาปลดกระเป๋าเป้ที่สะพายไว้ออกเพราะมันเปียก

   “พี่ช่วยถือครับ”

   “ขอบคุณครับ แต่ไม่เป็นไรผมถือเองดีกว่า มาใช้งานเจ้าของบ้านแบบนี้ผมเกรงใจ”ขนุนเบี่ยงเป้หลบ อันที่จริงขนุนยังไม่ได้สารภาพเลยว่าแอบไปตากฝนเรียกร้องความสนใจ

   “โอเค.....งั้นขึ้นไปข้างบนให้ไข่ดาวอยู่ข้างล่างไป”

   “ครับ.....ผมจะขึ้นข้างบน”ขนุนแอบบิดตัวเขินขบริมฝีปากตัวเองเลือดแทบไหลซิบเพราะคิดไกล

   “ตัวเปียกขนาดนี้พี่คิดว่าเราไปเล่นน้ำฝนมาซะอีก”

   “ปะเปล่า ก็ฝนมัน....”คนร้อนตัวโบกมือปฏิเสธ

   “พี่รู้ ไปเถอะ”

   “ครับ”

   พรืดดดด!

   เพียงก้าวแรกที่ขนุนขยับตัวฝ่าเท้าก็เผลอไปเหยียบหยดน้ำที่แฉะนองอยู่บนพื้นจนร่างกายเสียการทรงตัวลื่นสไลด์หงายหลังในทันทีเหมือนกรรมตามสนอง แต่ทว่าโชคดีที่คณินยืนไม่ไกลจากขนุน จึงขยับตัวเข้าไปรับขนุนจากทางด้านหลัง ทว่าคณินเองก็เหยียบลงไปตรงจุดเดิมที่น้ำหยดนองพื้นซึ่งมองไม่เห็น กลับกลายเป็นอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ภาพของอีกคนที่เข้าไปรับทับด้วยอีกคนที่หงายหลังลงมาท่าอึ่งไชโยโยนของในมือลอยละลิ่วขึ้นกลางอากาศ ปรากฏว่าไม่รอดทั้งสอง แถมคนตัวโตกว่าดันกลายเป็นเบาะหนังมนุษย์ชั้นดีที่รองตัวขนุนเอาไว้

   โครม!!!

   “พะพี่คณิน! เป็นอะไรมากรึเปล่าครับ”เพราะความตกใจ ขนุนที่นอนหงายทับร่างคณินทันทีที่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นก็รีบม้วนตัวลงมาจากตัวของผู้รับกรรมในทันที หันไปมองคนที่ถูกตัวเองทับอย่างอกสั่นขวัญเขว เรียกได้ว่านอนนิ่งแผ่หลาอยู่กลางบ้านเลยทีเดียว

   “พี่ไม่เป็นไร แต่เจ็บเข่านิดหน่อย”โชคดีที่อีกฝ่ายหัวไม่ฟาด จึงตอบคำถามของขนุนที่นั่งพับอยู่ข้างๆ ได้

   “ตรงไหนครับ ข้างซ้ายข้างขวา? ”

   “ขวา”

   “จะหักรึเปล่าเนี้ย! ”ขนุนมองเข่าของคณินอย่างตกใจไม่รู้จะจับจะแตะตรงไหนดูลุกลนจนคณินต้องดันตัวลุกขึ้นนั่งเจ็บหลังมากกว่าเข่าซะอีก แต่ก็แอบหัวเราะกับความลนลานของขนุนไม่ให้อีกฝ่ายเห็น จนต้องมาแปลกใจกับท่าทางของคนตัวเล็ก

   “ขนุน ทำอะไร? ”

   “พี่คณินขึ้นหลังผมมา! เดี๋ยวผมพาไปหาหมอ”ขนุนย่อตัวหันหลังให้พยายามดึงแขนคณินให้พาดมาที่ไหล่เล็ก เตรียมจะแบบคนที่ตัวโตกว่า

   “เอ่อ”คณินมองขนุนทึ่งๆ ไม่คิดว่าคนตัวเล็กเท่าลูกหมาคิดจะแบกเขาขึ้นหลังจริงๆ เห็นแล้วก็อดขำไม่ได้

   “ขึ้นมาเลยผมแบกเอง!”

   “ขนุนฟังพี่ก่อน พี่ไม่ได้เจ็บเยอะอะไรขนาดนั้น ไม่ต้องแบกพี่เดินได้สบายมาก”

   “เอ๊ะ! มะไม่หักเหรอ? ”

   “แค่เจ็บนิดเดียวเหมือนมดกัดนั่นแหละ”

   “แน่ใจนะครับ”ขนุนมองเข่าคณินที่ขยับให้ดู

   “อย่าทำหน้าเหมือนจะร้องไห้สิ”

   “กะก็ผมตกใจนี่ครับ”

   ถ้าผมไม่พิเรนทร์ไปตากฝนตัวก็คงไม่เปียกเข้าบ้านจนลื่นล้มไม่เป็นท่า เดือดร้อนพี่คณินแบบนี้แน่ๆ คิดบ้าอะไรเนี้ยขนุน! อยากตีตัวเอง!

   “พี่ไม่เป็นไรแล้ว”ขนุนพยักหน้ารับรู้ แต่แววตากลับยังตื่นตกใจไม่หาย

   “ขอโทษครับ ผมเกือบทำให้พี่คณินเจ็บตัวจริงๆ ซะแล้ว คราวหลังผมจะระวังให้มากขึ้น”

   “ระวังน่ะดี พี่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงเราด้วย”

   “ครับ”คณินดันตัวเองลุกขึ้นยืนโดยที่ขนุนพยายามช่วย แต่เพราะไม่ได้เจ็บอะไรมากคณินจึงยืนได้ด้วยตัวเองสบายๆ แต่จะเจ็บแปล็บๆ เล็กน้อยตรงข้างในเข่าเท่านั้น

   “ให้ผมช่วยพยุงนะครับ ขอทำดีไถ่โทษจะได้มั้ย? ”คณินตั้งใจจะเดินด้วยตัวเองอยู่แล้ว แต่เพราะด้วยสายตาออดอ้อนแบบนั้นใครจะไปปฏิเสธลง

   “พี่ไม่ได้เจ็บจนเดินไม่ได้นะ แต่เอาเถอะอยากช่วยก็ช่วย”

   คนตัวสูงเปิดโอกาสพยักหน้ายินดีเสียขนาดนั้นทำไมขนุนจะไม่ดีใจ ได้ทีเจ้าของร่างเล็กกว่าคณินก็ปราดเข้าไปยืนใกล้ แล้วสอดมือโอบไปทางด้านแผ่นหลังของคณิน ตวัดแขนแข็งแรงของอีกฝ่ายให้พาดลงบนบ่าของตัวเอง พยายามเบียดตัวเข้าใกล้รวมถึงใบหน้าของตัวเองก็ด้วย เรียกว่าขนุนเล่นใหญ่รัชดาลัยเธียเตอร์ก็ว่าได้จนคณินอึ้ง ไม่คิดว่าขนุนจะทำถึงขนาดนี้

   เห็นแบบนั้นคณินก็ถึงกับเม้มปากพยายามไม่ขำแล้วแต่ก็อดไม่ไหว คิดในใจว่าขนุนประหลาดคนจริงๆ

   “พี่คณินหัวเราะอะไรครับ”ขนุนที่ตีเนียนด้วยจงใจใกล้ชิดเงยหน้าที่อยู่ระดับไหล่ของคณินถามออกไป

   “ถามจริง นี่เราดูละครมากไปใช่มั้ยถึงได้ลอกเลียนแบบมาซะเป๊ะแบบนี้”

   “เลียนแบบเรื่องอะไรครับ? ”ขนุนตีมึน

   “ก็ไอ้การโอบประคองแบบนี้ไง”คณินแกล้งใช้มือที่พาดไหล่ขนุนอยู่ขยับโอบไหล่ให้ชิดเข้าหาตัวเหมือนอยากจะล้อเลียน แต่ใครจะไปรู้ว่าสายตาที่สบเข้าหากันจะหยุดนิ่งทุกการกระทำได้อย่างน่ามหัศจรรย์ใจ

   คนอยากกอดอย่างขนุนที่ถูกกอดด้วยแขนแข็งแรงแทบจะหยุดหายใจ ก่อนจะกลับมากลืนน้ำลายอึกใหญ่

   ขนุนสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นผ่านเนื้อผ้าที่เปียกชื่อซึ่งมันส่งผลให้หัวใจของขนุนจู่ๆ ก็เต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง จนแทบจะห้ามใจไม่ไหว ในขณะที่คณินกลับนิ่งค้างจ้องมองไปที่ใบหน้าผ่านดวงตากลมใสที่เบิกโพลงเล็กน้อยราวกับมีบางอย่างดึงดูด และแรงโน้มถ่วงบางอย่างที่ทำให้สองร่างไม่อาจผละออกจากกันกระทั่ง

   ขอนิดนึงก็ยังดี

   คนภาวนาในใจอย่างขนุนค่อยๆ เลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้แทบจะทำท่าปากจู๋เข้าหาคณินอยู่แล้วเชียวแต่ทว่า...

   “โฮ่ง โฮ่ง!”

   เสียงเห่าเป็นชุดมาพร้อมกับสองขาหน้าที่เข้าปีนป่ายทั้งคู่อย่างสนุก แถมยังวิ่งวนไปรอบๆ วิ่งหยอกซ้ายขวาเหมือนกำลังเรียกร้องความสนใจ

   โอ๊ยยยย! ไข่ดาว! เราเกือบจะได้สัมผัสปากของพี่คณินอยู่แล้วเชียวจะมาเล่นอะไรด้วยตอนนี้เล่า!

   คนโอดครวญในใจมองไข่ดาวงอนๆ แต่มือกลับยังไม่ปล่อยโอกาส ความเหนียวแน่นยังคงแปะหนึบอยู่ที่แผ่นหลังของคณินไม่ปล่อย

   “พี่คณินไปกันเถอะครับ ผมงอนหมาแถวๆ นี้ซะแล้ว”

   “งอนไข่ดาว? ”

   “อือ”ขนุนพยักหน้ารีบดันแผ่นหลังคณินเดินขึ้นบันไดสู่ชั้นสองของบ้าน และหันไปแลบลิ้นใส่ไข่ดาว ที่นอนเกลือกกลิ้งหงายท้องอยู่บนพื้นอย่างไม่มีใครสนใจ

   ถ้าเมื่อกี้ไข่ดาวไม่มาขัดนะ ป่านนี้พี่คณินเสร็จเราแล้ว

   บุญมี แต่กรรมบังชัดๆ!

   ‘งื้ออออออ ฮึบไว้ขนุน ไม่ร้อง!’







ติดตามตอนต่อไป >>>


ขอบคุณนักอ่านทุกท่านค่ะที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ ^^

แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ


โดย หลานฮวา
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 10 อัปเดตแล้ว 17/03/2562
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 17-03-2019 21:49:19
ขนุนใสๆไม่มีจริงใช่มะ แอบร้ายนะเราเนี่ยะ แต่เกรงว่าอิพี่ก็น่าจะรุ้ทันแต่ยอมๆไปใช่ป่าว
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 10 อัปเดตแล้ว 17/03/2562
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 17-03-2019 21:57:42
ขนุนลูกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 10 อัปเดตแล้ว 17/03/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 17-03-2019 22:22:30
 :z1:



 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 10 อัปเดตแล้ว 17/03/2562
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 18-03-2019 07:38:34
สติลูก สติ

หนูจะตอดเล็กตอดน้อยพี่เขาแบบโจ่งแจ้งไม่ได้นะลูก

พี่เขาดูออก

หนูต้องเนียนกว่านี้ลูก

ความพยายามคะแนนเกินร้อย

แต่ความเนียนยังติดลบนะลูก

ทุกคนมองหนูออกหมด

หนูต้องแอ๊ปใสกว่านี้ลูก
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 11 อัปเดตแล้ว 24/03/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 24-03-2019 13:07:26



ขนุนลูกที่ 11




   ภายในห้องสี่เหลี่ยมที่ดูเรียบง่ายสะอาดตา ข้าวของทุกอย่างถูกจัดวางไว้อย่างเหมาะสมและเป็นระเบียบ ไม่ต่างจากครั้งแรกที่ขนุนเคยเข้ามา สิ่งของน้อยชิ้นแต่ทุกอย่างล้วนถูกใช้งานตั้งแต่โคมไฟตัวเล็กตรงโต๊ะข้างเตียงนอน ตลอดจนคลิปหนีบกระดาษและโพสต์อิทหลากสี แต่สิ่งที่ดูเหมือนจะถูกใช้งานมากที่สุดน่าจะเป็นโต๊ะอ่านหนังสือตรงมุมห้อง ที่อยู่ติดกับบานหน้าต่าง บนโต๊ะส่วนใหญ่จะวางหนังสือซ้อนทับกันไว้หลายเล่ม ตามสันหนังสือสอดโพสต์อิทสีต่างๆ คั่นไว้ในหน้าต่างๆ โพล่ออกมาสลับสีชวนสังเกต

   ขนุนแอบใช้โอกาสที่คณินอยู่ให้ห้องน้ำสำรวจห้องอย่างอยากรู้ แอบเปิดลิ้นชักข้างเตียงที่ไม่ได้ล็อกออก อยากรู้ว่าจะมีอะไรซ่อนไว้เหมือนห้องของผู้ชายทั่วๆ ไปหรือเปล่า อย่างตอนไปเที่ยวห้องแจ็กเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน ขนุนยังเคยเห็นถุงยางชนิดบางที่แจ็กสอดไว้ใต้หนังสือเลย

   “พี่คณินจะมีบ้างไหม.....”แง้มไปก็พึมพำอยู่คนเดียว จนได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิดออกขนุนผละจากลิ้นชักกระโดดขึ้นนั่งบนเตียงทำเหมือนนั่งรอคณินเป็นเด็กดีไม่ซุกไม่ซน

   “ตัวพี่คณินหอมจังครับ ใช้อะไรมาเหรอครับ”

   คณินชะงักมือที่ขยี้ผมตัวเองมองดูเจ้าของดวงตากลมใสเป็นประกาย แล้วหัวเราะออกมาเบาๆ “ก็เพิ่งอาบน้ำเสร็จ จะให้พี่ตัวเหม็นก็แปลกแล้ว กลิ่นเหมือนเรานั่นแหละ ถามแปลกคน”

   “นั่นสินะครับ”ขนุนยกแขนตัวเองขึ้นทำทีเป็นดมกลิ่นเพราะก่อนหน้าก็แซงคิวเจ้าของบ้านอาบน้ำก่อนแล้ว

   “ว่าแต่ขนุนเถอะหิวรึเปล่า เดี๋ยวลงไปหาอะไรกินในครัวข้างล่างกัน”

   ขนุนนั่งมองคณินที่เดินเปลือยท่อนบนอย่างไม่คิดอะไร ผิวขาวตั้งแต่แผ่นหลังกว้างยันสะโพกเนื้อแน่นจนน่าขย้ำยิ่งมองยิ่งหายใจฮึดฮัดจนแทบทำขนุนกลายร่าง แอบกลืนน้ำลายลงคอไปไม่รู้กี่ลิตรแล้ว เจ้าของห้องเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วคว้าเอาเสื้อยืดเข้ามาสวม ขนุนยังคงมองคณินที่เดินไปมาไม่วางตา เรียกได้ว่าเก็บทุกอิริยาบถของคนตรงหน้าก็ว่าได้

   “ว่าแต่ตอนนี้เข่าพี่คณินยังเจ็บอยู่อีกรึเปล่าครับ? ”

   “ไม่เจ็บเท่าไหร่แล้ว”

   “แน่ใจนะครับ พี่คณินมีน้ำมันนวดหรือพวกยาทาลดปวดเมื่อยรึเปล่าครับ? ”

   “มี ถามทำไมครับ หรือเราเจ็บตรงไหนด้วย”คณินเดินเข้ามาหาขนุนที่ขยับตัวลงจากเตียงแล้วนั่งห้องขา ในจุดที่เคยนั่งครั้งก่อนตอนที่คณินเป่าผมให้

   “ผมเป็นคนทับพี่จะเจ็บได้ไง ผมจะนวดให้พี่คณินมากกว่า มือผมอย่างเทพนะครับ ถึงจะไม่ได้เรียนกายภาพและเรื่องบีบๆ นวดๆ ผมก็ถนัด”ขนุนกระโดดมายืนทำมือยุบยับจนน่าสยองซะมากกว่าน่าเชื่อถือ

   “พี่ว่า อย่าลำบากเราเลย”คณินคลี่ยิ้มส่ายหน้า เอื้อมมือมาขยี้เจ้าของเส้นผมสีบลอนด์ที่ทำหน้ายู่ ก่อนจะไปยืนซ้อนหลังดันไหล่ขนุนให้ลุกและพากันเดินลงไปข้างล่าง

   “ไม่ต้องได้ไงครับ ขนาดตอนเล่นบอลผมจำได้ว่าล้มนิดเดียวไม่ทันจะเจ็บ แต่พอตื่นเช้ามาอย่างปวด ยังไงป้องกันไว้ก่อนดีกว่า เผื่อเจ็บขึ้นมาเดี๋ยวจะส่งผลต่อเรื่องเรียนของพี่คณินผมไม่รู้ด้วยนะ”

   “โอเคพี่ยอมละ เอางั้นก็ได้ครับ”จนแล้วจนรอดคณินก็เอ่ยยินยอมจนได้ “แต่หลังจากหาอะไรรองท้องให้เรียบร้อยแล้วเท่านั้นนะครับ พี่หิวจนไส้กิ่วแล้ว”คนตัวโตทำท่างอแงกะพริบตาปริบๆ ใส่ขนุน

   เล่นงี้พี่เอามีดมาแทงผมดีกว่า ก่อนที่จะเกิดอาชญากรรมพรากผู้ใหญ่

   “ก็ได้ครับ”

   “ยิ้มอะไรจนแก้มตึงขนาดนั้น”

   “เปล่าครับ ไม่มีอะไร”

   หลังจากลงไปขลุกอยู่ในครัว เมนูยามฝนตกก็คงจะหนีไม่พ้นมาม่า โชคดีที่ในตู้เย็นพอจะมีไข่อยู่บ้าง จึงพอจะทำให้มื้อนี้อิ่มท้องแบบไม่ขาดสารอาหารเกินไป คนที่ลงมือต้มมาม่าเห็นจะเป็นเจ้าของบ้านอย่างคณิน โดยมีขนุนคอยเอาใจช่วยอยู่ใกล้ๆ กับเจ้าไข่ดาวที่เล่นอยู่ข้างๆ

   หลังจากกินเสร็จคนที่อาสาเก็บกวาดคือขนุน ท่าทางคล่องแคล่วในระดับหนึ่งจนดูถูกไม่ได้เลย คณินมองขนุนที่จัดการล้างถ้วยล้างจานให้ก่อนจะไปยืนอยู่ข้างๆ ส่งผ้าสะอาดให้อีกฝ่ายเช็ดมือให้เรียบร้อย

   “ขอบคุณครับ”

   ขนุนเอ่ยขอบคุณเช็ดมือเลยเนื้อผ้าไปจนถึงมือคนยื่นให้อย่างเนียนๆ คณินแอบยิ้มขำก่อนจะเดินนำไปยังห้องรับแขก กดรีโมตเปิดโทรทัศน์ขึ้นเพื่อให้บ้านทั้งหลังไม่เงียบเกินไป ไข่ดาวที่เดินเตาะแตะตามมากระโดดขึ้นโซฟานั่งเทียบเสมอเจ้าของบ้านอย่างคุ้นเคย ก่อนจะล้มตัวลงนอนเอาหัวเกยคณินเล็กน้อย ขนุนมองไข่ดาวรู้สึกอิจฉาหมาในใจ

   “พี่คณินยาอยู่ไหนครับ? ”

   “อ้อ เกือบลืม เดี๋ยวพี่ไปหยิบให้”

   “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมหยิบให้เอง”

   “งั้นรบกวนทีนะ มันอยู่ในตู้ไม้ด้านล่างโทรทัศน์ตรงซ้ายมือ”

   “โอเคครับ พี่คณินนั่งรอแป๊บนะครับ”

   คนที่ถูกสั่งมองขนุนเดินไปเอายาตามตำแหน่งที่บอก ไม่นานก็กลับมาพร้อมกับยาหลอดบีบที่ใช้นวดบรรเทาอาการปวดเมื่อยในมือ พลิกบรรจุภัณฑ์หน้าหลังขมวดคิ้วหรี่ตาอ่านสรรพคุณตัวเล็กจางอย่างตั้งใจ ก่อนจะนั่งลงกับพื้นด้านล่างตรงหน้าคณินในทันที

   “ขนุนนั่งข้างบน”

   “ไม่เป็นไรครับตรงนี้สะดวกกว่า ขอขาหน่อยครับ”

   “จะทำให้ได้เลยสินะ”คณินส่ายหน้า มองคนรั้นจับขาตัวเองล็อกไว้แล้วถลกขากางเกงขายาวขึ้นเลยเข่าไปเล็กน้อย

   “ไหนบอกไม่เจ็บครับ ผมเห็นตรงนี้มันแดงนิดๆ ด้วย”ขนุนก้มลงไปมองตรงเข่าคณินจิ้มเบาๆ ไปตรงที่เป็นรอยแดงขึ้นมา เพราะผิวของคนตรงหน้าค่อนข้างขาวเลยเห็นได้ชัด

   “ก็แค่แดง”คณินพิงหลังกอดอกยอมให้ขนุนจัดการทายาแล้วนวดเบาๆ ให้ มองหัวทุยๆ ที่ก้มๆ เงยๆ อยู่ตรงหน้า แกล้งขยับขาไปมาให้ขนุนเงยหน้าขึ้นมาทำตาดุ
 
   “นิ่งหน่อยสิครับ”

   “ครับๆ ”คนถูกดุอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว และยังคงใช้เวลามองขนุนที่ตั้งใจนวดให้เบามือ

   การนั่งนิ่งๆ และมองคนตัวเล็กกว่าตรงหน้า มันเหมือนการนั่งมองความรู้สึกของตัวเองที่สะท้อนกลับมา ขนุนไม่ต่างจากกระจกที่ส่องสะท้อนอารมณ์ของคณิน น่าแปลกที่เขาแสดงความรู้สุกได้มากมายขนาดนี้เพียงเพราะคนๆ เดียว

   เพราะตั้งแต่คณินรู้จักกับขนุน ทุกครั้งที่เจอและได้พูดคุย คงนับครั้งไม่ถ้วนที่คณินสามารถยิ้มและหัวเราะออกมาโดยธรรมชาติ ไม่ต้องพยายามแค่มองแววตาที่สดใส ซื่อตรงต่อความรู้สึกตัวเองทำทุกอย่างด้วยความพยายาม

   จนคณินรู้สึกว่า…..เหมือนเจอโอเอซิสกลางทะเลทราย

   ช่วยชีวิตไว้ไม่ให้แห้งเฉาเหมือนไม้แล้งน้ำ โอเอซิสที่ทำให้ทุกอย่างดูสดชื่นไปหมด

   “ถ้าเจ็บบอกผมนะครับ”

   “เก่งพอตัวนะเรา”

   “จะให้นวดที่อื่นก็บอกนะครับ พร้อมมาก”

   “แต่พี่ไม่พร้อม กลัวเส้นยึด”

   “ผมแบกพี่ได้ บอกเลย”

   “หึ ตัวเท่าไข่ดาวจะมาแบกพี่ไหวได้ไง”

   “ขนาดไม่สำคัญ มดยังแบกของที่หนักกว่าตัวเองหลายเท่าได้เลย นับประสาอะไรกับผมแบกพี่”

   “ตกลงจะเป็นมดหรือเป็นขนุน”

   “แล้วพี่คณินชอบอย่างไหนครับ มดหรือขนุน ผมจะเป็นอย่างนั้น”คนถามทำสายตากรุ้มกริ่มอย่างมีความหวัง

   “พี่ชอบไข่ดาว น่ารักจะตายใช่มั้ยครับ”คณินแสร้งหันไปพูดกับเจ้าไข่ดาวที่ชันตัวลุกขึ้นนั่ง

   นั่นปะไร แถเก่งกว่าใครก็คนตัวโตๆ ข้างหน้าขนุนนี่แหละ

   “โห่ คนละเรื่องกับที่ถามมั้ยเนี้ย”ขนุนทำหน้างอนปากจมูกแทบจะติดกัน บีบๆ นวดๆ ไปเรื่อยเริ่มสะเปะสะปะ ไข่ดาวที่นั่งเอียงคอซ้ายขวามองขนุนทำเรื่องที่ไม่ค่อยเข้าใจ ก่อนเจ้าหมาจอมสงสัยจะกระโดดลงจากโซฟาแล้วมุดใต้แขนขนุนเข้าไปนั่งในตักซะอย่างนั้น

   กลายเป็นเราสองและหนึ่งตัวที่มาแทรกกลาง

   “ไข่ดาวทำไรเนี้ย”ขนุนโวยพยายามดันเจ้าไข่ดาวออก แต่ก็ไม่ยอมย้ายก้นออกไป คณินเห็นแบบนั้นเลยเก็บอาการขำไม่อยู่ ปกติไข่ดาวไม่ค่อยชอบไปนั่งตักใครหรือมากสุดก็แค่เอาคางหรือวางอุ้งมือสัมผัสก็เท่านั้น แต่กับขนุนดูเหมือนมันจะไม่แคร์เท่าไหร่ แถมยังไว้ใจสงสัยจะคิดว่าเป็นเพื่อนหมาเหมือนกัน

   “ไข่ดาวไมทำงั้นฮะเรา มานั่งตรงนี้มา”คณินตบมือลงไปที่โซฟาข้างๆ ตัวเอง แต่เจ้าไข่ดาวก็ยังไม่ขยับ

   “อ้อนผิดคนป่ะเนี้ย คนซื้ออาหารให้อยู่ทางโน้น”ขนุนใช้สองมือบีบไปที่แก้มไข่ดาวดึงเนื้อย้วยๆ ตรงแก้มอย่างหมั่นไส้ คณินมองขนุนที่เล่นกับไข่ดาวเหมือนนั่งมองสารคดีสัตว์โลกแสนรัก

   “พี่คณิน ผมจะลุกแล้วเอาไข่ดาวออกหน่อย”ขนุนจิ้มนิ้วไปที่ตัวกลมๆ ของเจ้าไข่ดาวที่เล่นทับขาขนุนเสียจริงจัง ยิ่งขนุนขยับเจ้าไข่ดาวก็เหมือนแสนรู้ ดันขยับก้นตามเหมือนจะแกล้ง

   “ไข่ดาวไม่กวนพี่เค้า มาตรงนี้”ไข่ดาวหันหน้าหลบ ทำเหมือนไม่ฟังแต่หูกระดิก คณินเลยจนปัญญาเพราะสงสารขนุนที่หน้ามุ่ยอยากจะลุกเต็มทน เลยตัดสินใจก้มตัวลงไปด้านล่างเพื่อจะดึงเจ้าไข่ดาวออก

   ทว่าขนุนเองก็ขยับยึกยัก จึงเป็นจังหวะเดียวที่อีกฝ่ายโน้มตัวมาข้างหน้าเช่นกัน หากคณินชะงักหรือหยุดไม่ทันอีกหัวคงได้ชนโป๊กกับขนุนแน่ๆ แต่ที่เป็นปัญหาใหญ่กว่าคือการหยุด และหยุดโดยที่ใบหน้าของทั้งสองฝ่ายอยู่ห่างกันเพียงฝ่ามือลอด แถมปลายจมูกก็ดันชนกันไปเล็กน้อย

   ขนุนหลับตาปี๋เป็นปฏิกิริยารีเฟล็กซ์ พอลืมตาโพล่งออกมาใบหน้าของคณินก็อยู่ซะใกล้ จนคนตัวเล็กกว่าใจเต้นโครมครามขึ้นมาอีกครั้ง รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่คณินผละออกไปแล้วส่งมือมาจิ้มแก้มกลมๆ ที่แดงเป็นลูกมะเขือเทศของขนุนเบาๆ คล้ายสะกิด ซึ่งตอนนั้นเจ้าไข่ดาวดันลุกออกไปตั้งแต่คณินเตรียมจะดึงตัวเจ้าหมาแสบออกไปแล้ว

   “เมื่อกี้เจ็บรึเปล่า”

   “เอ๊ะ? เอ่อไม่ครับ”ขนุนจับจมูกตัวเองเบาๆ เหมือนสติเพิ่งเข้าร่าง
   
   “แน่ใจนะ แต่ดูแดงนิดหน่อย”

   “เหรอครับ แหะๆ ”คนหัวเราะแห้งๆ เหลือบตามองไปทั่ว จนไปสะดุดกับเวลาที่อยู่บนหน้าปัดนาฬิกาเรือนใหญ่ตรงผนังบ้าน “เอ่อ.....ดูเหมือนว่าได้เวลาที่ผมต้องกลับแล้ว ดึกแล้วพี่คณินจะได้มีเวลาส่วนตัว อยู่จนลืมเวลาไปเลยแฮะ”

   “นี่มันก็ 3 ทุ่มกว่าๆ แล้ว ฝนก็เพิ่งจะหยุดตกหากพรุ่งนี้ไม่รีบคืนนี้นอนที่นี่ก่อนไหม พี่ว่ามันดึกแล้วจะออกไปเดี๋ยวอันตราย”

   จริงๆ ขนุนอยากจะบอกความจริงออกไปว่า ปกติตี 2 ก็ไม่หวั่น เวลาเที่ยวกลับตี 3 ก็เคยมาแล้ว แต่จะพูดแบบนั้นก็ดูจะประจานตัวเองไปหน่อย แถมอีฝ่ายยังเป็นคนเอ่ยปากชวนอีก มีหรือขนุนจะไม่ดีใจจนตาพร่า

   “ผมเกรงใจพี่จังเลยครับ”

   “ไม่เป็นไร พรุ่งนี้เช้าค่อยออกไปพร้อมพี่ก็ได้ พี่มีเรียนเช้า”

   “เอ่อคือ.....”

   ไม่ได้จะปฏิเสธหรอกครับ ผมแค่เล่นตัวตื๊อผมอีกนิดเถอะพี่

   “ถ้าคิดว่าไม่สะดวกงั้นพี่ขับรถไปส่ง.....”

   “นอนครับ! ห้องพี่คณินใช่มั้ย ผมขึ้นไปรอนะ”

   เกือบกลับห้องไปนอนปากแห้งอยู่คนเดียวแล้วไหมล่ะไอ้ขนุน!

   คณินหัวเราะคนตัวเล็กกว่าที่ผุดลุกขึ้นแล้วรีบร้อนขึ้นไปข้างบนโดยไม่รีรอ แถมยังระบุเจตจำนงที่ชัดเจนออกมาว่าไม่ขอนอนที่อื่นต้องที่ห้องของคณินเท่านั้น เจ้าของบ้านเพียงมองแผ่นหลังเล็กที่เดินออกไปด้วยแววตาอ่อนโยน พร้อมกับลุกขึ้นกดปิดโทรทัศน์ด้วยรีโมทแล้วเดินตามไปบอกให้ไข่ดาวนอนเฝ้าอยู่ด้านล่าง และย้ำเรื่องสำคัญ

   “วันนี้มีแขก ห้ามเห่าก่อกวน เดี๋ยวขนุนจะนอนไม่หลับเข้าใจมั้ย? ”คณินหันไปเตือนไข่ดาว ที่ปกติเวลามีใครมาบ้านเจ้าตัวแสบจะต้องเห่าขึ้นมากลางดึกกลางดื่นพร่ำเพรื่อทุกที ขนาดโจมกับอนาวินที่เคยมาค้างติวหนังสือเตรียมสอบก็ยังเคยโดนก่อกวน

   “โฮ่ง! ”เสียงเห่าตอบรับที่เบาลงเหมือนจะรับรู้ก่อนจะวิ่งเตาะแตะกระโดดขึ้นไปนอนบนโซฟา และปล่อยที่นอนสำหรับหมาให้ว่างลงไม่คิดจะไปเหยียบซะด้วยซ้ำ

   ในเวลาไม่ถึง 5 นาทีคณินขึ้นห้องตามขนุนมา ก็เห็นอีกฝ่ายยืนทำท่าเก้ๆ กังๆ อยู่ข้างเตียง ทันทีที่ได้ยินเสียงคณินเปิดประตูเข้ามาขนุนก็เอี้ยวตัวหันไปมองอีกฝ่ายแล้วถามออกไป

   “เอ่อ ปกติพี่คณินถนัดนอนด้านไหนของเตียงครับ ซ้ายหรือขวา หรือว่านอนตรงกลาง? ”เจ้าของตากลมใสหันมาถาม คณินถึงได้รู้สาเหตุว่าทำไมขนุนถึงยังยืนอยู่แทนที่จะกระโดดขึ้นเตียงไปนอน

   “ขนุนอยากนอนตรงไหนเป็นพิเศษพี่ให้เลือกเลยตามสบาย”ได้ยินแบบนั้นขนุนถึงกับเม้มปากเก็บรอยยิ้มที่เกือบขยายกว้างเต็มหน้าเอาไว้

   “ก็.....ผมอยากจะนอนข้างๆ พี่นั่นแหละครับ”ขนุนพูดออกมา แม้จะเสียงเบาๆ เหมือนชั่งใจอีกฝ่าย แต่เพราะห้องมันเงียบคณินเลยได้ยินหมดทุกคำพูด

   “แล้วใครบอกว่าพี่จะไม่ให้ขนุนนอนบนเตียง”

   นั่นปะไร! ขนุนถึงกับถอนหายใจเพราะหยอดมุกใส่คณินไม่สำเร็จ

   โถ่! หรือต้องให้พูดว่าอยากไปนอนกลิ้งอยู่ในใจพี่นั่นแหละ! แบบนั้นจะดีกว่าไหม! เมื่อไหร่จะมองว่าผมประสงค์ร้ายซะที

   อยากเป็นโจรให้รู้แล้วรู้รอด คืนนี้จะได้ปล้นทั้งตัวทั้งใจคนซะเลยทีเดียว หึ!

   คณินแอบเหลือบมองขนุนที่คลานขึ้นเตียงไปนอนฝั่งซ้ายแล้วมุดเข้าไปอยู่ใต้ผ้าห่มหน้าจ๋อยๆ ก่อนจะกระตุกยิ้มขึ้นมาซะอย่างนั้น เก็บกลั้นความรู้สึกบางอย่างเอาไว้และกลบเกลื่อนท่าทีด้วยการเดินไปปิดไฟกลางห้อง และคว้าไอแพดที่วางอยู่ตรงโต๊ะใกล้ๆ นั่งลงขอบเตียงแล้วสอดขาและลำตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน โดยมีสายตาของขนุนคอยมองไม่วางตาในความสลัว

   ไม่ใช่ไม่รู้สึกตัว แต่แค่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น สายตาอย่างกับลูกหมาของคนข้างๆ มันรบกวนจิตใจของคณินซะขนาดนั้น

   “พี่ขออ่านชีทแป็บนึง ขนุนนอนก่อนได้เลยนะ แต่พี่ขอเปิดโคมไฟข้างเตียงดวงนึง เรานอนได้ใช่มั้ยครับ? ”

   “ครับ พี่คณินก็อย่านอนดึกนะ ผมเป็นห่วง”

   ครู่นึงที่เกิดความเงียบ เสี้ยวหน้าของคณินหันไปสบตากับขนุนแล้วระบายยิ้มเล็กๆ นัยน์ตาอ่อนโยน

   “อื้ม ฝันดีครับ”คณินเอื้อมมือที่ลังเลว่าควรจะยื่นออกไปไหม แต่เพราะความคุ้นชินหรืออะไรบางอย่างทำให้คณินยื่นมือของตัวเองออกไปวางลงบนหัวของขนุนแล้วแทรกปลายนิ้วเข้าสัมผัสกลุ่มผมนุ่มคล้ายกับเสพติดความนิ่มละเอียดของเส้นผมที่สว่างดูอบอุ่นของขนุนซะแล้ว

   “ฝันดีครับพี่คณิน”

   เสียงงัวเงียดังขึ้นเบาๆ หลังจากที่เงียบไป เป็นประโยคสุดท้ายที่คณินได้ยินในคำคืนนี้

   ขนุนขยับตัวเล็กน้อยใต้ผ้าห่ม เหมือนพยายามกล่อมตัวเองให้หลับหาท่าที่นอนสบายที่สุด ก่อนจะเอียงตัวทับแก้มกลมๆ จนจมไปกับหมอน ไม่ถึง 10 นาทีขนุนก็นิ่งไปและมีเสียงหายใจเบาๆ สม่ำเสมอดังขึ้น

   คนที่จดจ่ออยู่กับหน้าจอที่สว่างหันหน้าไปมองเจ้าของใบหน้าที่หลับพริ้มสบายสุดๆ เพราะการจ้องมองที่เนิ่นนาน คณินไม่เคยสังเกตเลยว่าขนุนจะมีขนตาที่เรียงยาวได้หนาขนาดนั้น อีกทั้งปลายจมูกที่เจ้าตัวมักจะชอบขยี้บ่อยๆ กลับโด่งรั้นรับกับเรียวปากได้อย่างน่าชวนมอง

   แบบนี้เขาเรียกว่าหน้าตาจิ้มลิ้มหรือเปล่า

   ใบหน้าที่มีความสุขของขนุนยามหลับ ชวนมองเสียจนคนที่ยังไม่หลับยอมตัดใจวางไอแพดในมือแล้วขยับตัวเข้าไปใกล้ ค้ำศีรษะลงกับฝ่ามือเอียงตัวนอนมองคนที่หลับลึกอยู่ข้างๆ ราวกับที่นี่เป็นบ้านของตัวเอง บางคนผิดที่ผิดทางก็จะนอนไม่หลับ แต่สำหรับขนุนดูเหมือนจะเป็นกรณียกเว้นหรือเปล่า หลับลึกหลับเป็นตายซะขนาดนั้น

   “ไปนอนบ้านคนอื่นง่ายๆ แบบนี้บ่อยรึเปล่าฮะเรา ไม่ระวังตัวเอาซะเลย”เสียงพูดแผ่ว ถามออกไปพร้อมกับแตะนิ้วเรียวไปที่ปลายจมูกรั้น แต่เพราะเจ้าของเสียงกรนเบาๆ อย่างขนุนหลับไปแล้ว เลยไม่ได้ลุกขึ้นมาตอบ

   การหลับที่ดูจริงจังแบบนั้น ขนุนถึงไม่รู้ว่าตัวเองกำลังถูกคนที่ชอบมองใกล้ขนาดไหน แถมยังมีลำแขนเอื้อมไปพาดวางเบาๆ ไปบนผ้าห่มเหนือตัวขนุน เคาะปลายนิ้วเป็นจังหวะเบาๆ จ้องมองไปที่คนตรงหน้าและครุ่นคิดบางอย่างไปด้วย


    
มอM

   “ว่าไงขนุน เป็นไงบ้างช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นหน้าเห็นตา หายหัวและตัวตลอดเลยว่ะ”คนที่เดินมาจากทางด้านหลังส่งเสียงโวยวายจนเด็กปี 1 ที่นั่งอยู่ใต้ถุนคณะหันมามอง กลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 4 คนกับขนุนที่ไม่เข้าพวกกำลังจับกลุ่มคุยกันระหว่างทาง

   “เราก็มาเรียนปกติ ไม่ได้โดดสักวิชา”ขนุนปัดมือใหญ่ที่ยื่นมาแกล้งทำให้ผมขนุนเสียทรง โชคดีที่ที่ผมขนุนมันจัดทรงง่าย

   “ก็กูเห็นเย็นปุ๊บเดี๋ยวหาย สารภาพเดี๋ยวนี้ไปไหนคนเดียวบ่อยๆ ห๊ะ”ช้างยังคงคาดคั้น

   “มึงยังต้องถามอีกเหรอวะ ก็เห็นความกระดี๊กระด๊าของมันอยู่”นิวส่ายหน้าอยากจะดีดมะเหงกใส่ขนุนสักโป๊ะตรงหน้าผาก เพราะเมื่อวานสายรายงานมาว่าขนุนไม่กลับห้อง

   “อ้อ พวกกูลืมไปว่าขนุนกำลังมีความรัก”แจ็กพยักหน้านึกขึ้นมาได้ แล้วหันไปเหลือบตามองคนต่ำเตี้ยที่สุดในกลุ่มอย่างหมั่นไส้นิดๆ

   “เออเกือบลืม กูมีเรื่องจะถามพวกมึงสองคน”ต้าที่หยุดเดินกะทันหันขณะที่ตัวเองเดินนำหน้า แล้วหันไปหาแจ็กกับช้างที่เดินกอดคอกันอยู่ข้างหลังก่อนจะกวักมือเรียกแล้วเบาเสียงลงขณะพูด

   “เรื่อง? ”

   “เมื่อวานพี่ไม้เอกชวนพวกมึงไปร้านเหล้าด้วยรึเปล่าวะ”

   “อ้อชวน แต่ไม่ได้มีแค่พวกกูนะก็มีคนอื่นไปด้วย แต่ไม่ได้อยู่กันดึกมากหรอก 5 ทุ่มก็แยกย้ายกันกลับแล้ว”ช้างไหวไหล่

   “มึงถามเรื่องนี้ทำไม? ”แจ็กขมวดคิ้วเอามือล้วงกระเป๋า

   “ก็แค่อยากยืนยัน พอดีพี่ไม้มาชวนไอ้ขนุนไปกินข้าวไปกินเหล้านั้นและ แต่มันชิ่งหนีได้ซะก่อน”ต้าอธิบายความช้างกับแจ็กเลยเข้าใจ

   “ถึงว่าทำไมบรรยากาศงานกร่อยๆ แม่งตัวหลักไม่มานี่เอง”

   “เกี่ยวอะไรกับเราด้วย”ขนุนหลบตาไม่รู้ไม่เห็น

   “เลิกพูดถึงคนที่ไม่อยากจะเจอได้แล้ว เดี๋ยวแม่งก็มาหรอก”นิวเข้าไปทลายวงเล่า ก่อนจะลากขนุนให้เดินตามไปด้วย

   “มึงกลัวอ่ะดิ กลัวโดนล้ออีกรึไง”แจ็กแซวคนที่เดินก้าวฉับๆ ไม่สนคำพูด

   “ไม่ได้กลัวเว้ย! ”

   “เอาเรื่องจริงมาล้อเล่นแบบนี้กูเข้าใจว่ะว่ามันเจ็บ นิว 1 นิ้ว”คนปลอบวางมือลงบนไหล่เจ้าของฉายาเป็นเชิงหยอกล้อ

   “ไอ้ช้าง! ปากเสียเดี๋ยวกูถีบหน้าแม่ง! ”คนอื่นพากันหัวเราะกับความร้อนตัวของนิว

   แต่ใครจะไปรู้ว่าวงแตกที่แท้จริงคือหลังจากนี้มากกว่า เพราะระหว่างที่ต่างคนต่างกำลังฮาครืนมองดูความวุ่นวายของสองชายฉกรรจ์ที่ไล่เตะไล่กวดกันอยู่นั้นคนที่เดินเลี้ยวมาตรงหัวมุมตึกดันเป็นหัวข้อสนทนาที่เพิ่งพูดถึงไปหยกๆ นี่เอง

   “มึงไม่โดนล้ออย่างกูบ้างมึงไม่รู้หรอก! ”

   “โถ่อย่าหัวร้อนดิ”

   “มานี่เลย ถ้าจะให้กูสงบใจได้มาให้เพ่นกะโหลกหนาๆ ของมึงสักสองที”นิวกระดิกนิ้ว แต่คนอื่นขยิบตา เป็นนิวคนเดียวที่ไม่เห็นว่าใครเดินมาข้างหลัง กระทั่งคนหัวร้อน 2019 ง้างแขนข่มขู่ช้าง แต่จังหวะโคตรดีที่สันแขนเกือบฟาดหน้าคนที่เดินมาข้างหลัง

   หมับ!

   แต่กลายเป็นว่าอีกฝ่ายป้องกันตัวเองได้โดยการรับด้วยฝ่ามือจนนิวหันขวับไปหาด้วยปฏิกิริยาเหมือนไฟลนตูดในทันที

   “เหี้ย! พี่ไม้เอก”

   “โตแล้วนะครับ เล่นเป็นเด็ก”เสียงเหมือนสุภาพ แต่ใครฟังก็รู้ว่ากำลังดุชัดๆ คนถูกดุถึงกลับดึงมือตัวเองกลับ และกำลังจะอ้าปากพ่นหมาออกมาล้านตัว

   “ก็พี่มึงแม่งเดินไม่......!”แต่โชคดีที่แจ็กไหวตัวทันเข้าไปอุดปากแล้วลากนิวออกมาก่อน ไม่งั้นไม่รอดเงื้อมมือพี่ไม้เอกก็คราวนี้ เผลอๆ อาจสะเทือนไปถึงเฮดว๊ากและเฮดสันทนาการที่ยืนหัวโด่ตรงนี้ทั้งแจ็กและช้าง

   “อย่าไปสนใจนิวเลยครับ พี่ไม้มีอะไรกับพวกผมรึเปล่า? ”ขนุนออกหน้าถามไถ่ เพราะไม้เอกไม่ได้เดินมาคนเดียวแต่มีรุ่นพี่ที่สนิทเดินมาด้วยอีกสองคน

   “ลืมแล้วรึยังว่าสัญญาอะไรกับพี่ไว้ วันนี้เราปฏิเสธไม่ได้แล้วนะ”

   “สัญญา....”ขนุนขมวดคิ้วผูกเป็นปมรำลึกความหลัง ก่อนจะหัวเราะขึ้นมาเมื่อนึกได้ “อ้อ! เรื่องไปกินข้าวใช่มั้ยครับ? ”

   “ใช่ครับ”ไม้เอกยิ้มพอใจที่อีกฝ่ายไม่ได้ลืม สองมือที่ยืนล้วงกระเป๋าก็ดูเป็นท่ายืนธรรมดาอยู่หรอก แต่ก็เท่ไม่หยอกเพราะพวกสาวๆ ใต้ถุนคณะก็มองกันแบบจริงจัง เหมือนมีการรวมกลุ่มคนหน้าตาดีมาสุมหัวกันตรงนี้อย่างมิได้นัดหมาย อาจจะมีของแปลกอย่างช่างโผล่มาหนึ่งคน ถือว่าเป็นที่นิยมของคนสายหมียักษ์

   “กะก็ได้ครับ แต่ผมพาเพื่อนไปด้วยนะครับ พอดีช่วงนี้ผมติดเพื่อนมาก”ขนุนถอยหลังไปสองก้าวเข้าไปคล้องแขนคนที่อยู่ใกล้สุดยิ้มจนตาหยี่ ผู้ที่ติดบ่วงไปด้วยเป็นนิวกับแจ็ก จนคนหัวร้อนอย่างนิวถึงกับสบถเสียงลอดไรฟันออกมาด่า

   “แน่ใจว่ามึงติดเพื่อน ไม่ใช่ติดสัด! เอากูไปเอี่ยวทำไมไอ้ขนุน! ”

   “เอาเหอะนา ไปเป็นเพื่อนเราหน่อย”ขนุนยิ้มสู้พูดเสียงแผ่วพยักหน้าให้ไม้เอกที่มองตัวเองตาเชื่อม แต่กลับมองตาแข็งๆ ใส่นิวที่ทำตัวไม่น่ารักเท่าไหร่นักกับพี่ไม้เอก

   “ก็ดีนะ ไปกันหมดนี่สนุกดี เจอกัน 1 ทุ่มที่ร้านป๋าชุบใกล้ๆ ที่ขนุนชอบไปก็แล้วกัน เดี๋ยวพี่ไปเรียนก่อนไว้เจอกันที่ร้านครับ อ้อ.....ถ้าเพื่อนน้องไม่อยากมาก็ไม่ต้องบังคับก็ได้ นอนอยู่บ้านดูการ์ตูนคงจะอินกว่า”

   ทุกคนอ้าปากเหวอกับประโยคทิ้งท้ายของพี่ไม้เอกสุดๆ พูดถึงใครก็คงไม่ต้องถาม เรื่องกินข้าวนั้น แน่นอนว่ามันคือยอดข้าวหมักที่เต็มไปด้วยแอลกอฮอล์

   “ไอ้ขนุนกูไปด้วย ไปที่แบบนั้นจะขาดกูได้ไง! กูพร้อมเป็นหมากันไม้ว่ะ”อยู่ดีๆ นิวก็จงใจพูดกับขนุนเสียงดังให้ใครบางคนได้ยิน

   “หมากันไม้? ”ต้าทวนประโยคที่นิวพูดขึ้นเหมือนมีอะไรผิดไป

   “อ้อ! กูพูดผิด ไม้กันหมาน่ะ ก็มึงชอบเมาเรื้อนเดี๋ยวมีพวกไม่หวังดีมาวอแวทำเรื่องปวดหัว กูจะเอาหน้าที่ไหนไปบอกแม่มึง”

   “พี่ว่าก็ไม่จำเป็นนะ พี่ดูแลขนุนได้ ขนุนเป็นรุ่นน้องที่น่ารัก ไม่เหมือนน้องบางคน”ไม้เอกทำเหมือนไม่แคร์เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายอคติต่อตัวเอง หรือง่ายๆ ว่าไม่ชอบขี้หน้าแต่ก็ไม่อยากถือสาเพราะแน่นอนว่าไม่ได้มีแค่นิวคนเดียวที่คิดแบบนั้น แค่คนคนนี้กล้าแสดงออกโต้งๆ ก็เท่านั้นถึงมองออกง่าย

   ไม้เอกยิ้มบางให้ขนุนเลิกสนใจคนหัวร้อน แล้วเอื้อมมือมาแตะไหล่ขนุนเอ่ยลาอีกครั้ง “งั้นพี่ไปก่อนนะ”

   “อ่า.....โอเคครับ”ขนุนโบกมือหย็อยๆ ให้กับไม้เอกที่เดินจากไปพร้อมกับเพื่อนที่เดินมาด้วยกัน

   “หยุดยิ้มได้แล้ว จะยิ้มให้เค้าทำไมนักหนาเดี๋ยวกูต่อยปากเลย”

   “นิวพาลอ่ะ เมื่อกี้ยังดูปกป้องเราอยู่เลย”ขนุนเอี้ยวตัวไปหลบหลังช้างหรี่ตามอง เมื่อเห็นความเกรี้ยวกราดเป็นประกายในดวงตาของนิว

   “โธ่เพื่อนใจเย็นดิวะ ถ้ามึงไม่อยากให้เค้ามาวอแวขนุนคืนนี้ก็จัดการมอมเหล้าพี่มันแล้วสมอ้างยัดเยียดความเป็นผัวให้ แล้วใช้โอกาสนี้ดึงพี่มันออกจากวงโคจรของขนุนไง”ช้างเสนอไอเดียละครหลังข่าว

   “โคตร!”

   “โคตรเจ๋งใช่มะ!”
   
   “โคตรเหี้ย! ”เสียงหัวเราะดังครืนขึ้นมาอีกครั้งอย่างไม่สนสายตากับคำตอบของนิว คนที่พูดหยอกก็ช่างไม่กลัวตายเสียเหลือเกิน โชคดีที่นิวก็แค่ส่ายหน้าเอือมๆ เพราะรู้สันดานกันดีเลยไม่อยากถือสาให้มาก แต่กลับต้องมากลุ้มเรื่องที่พลั้งปากพล่อยออกไป จะเรื่องอะไรหากไม่ใช่ประกาศตนไปว่าจะไปเป็นหมากันไม้ให้ขนุนนี่สิ

   สัดเอ๊ย! ทำไมกูต้องพูดอะไรแบบนั้นไปด้วยวะ!

   คนที่หน้าหดเหลือสองนิ้วขมวดคิ้วคิดหนักจนเป็นโบ ยกมือขึ้นนวดขมับตัวเองแก้เครียด แถมยังพรูลมหายใจฟึดฟัดออกมาซะหลายรอบ

   “นิว”ขนุนถือโอกาสที่ทุกคนกำลังเดินสะกิดคนที่เดินอยู่ข้างๆ

   “อะไร? ”

   “แม่เราบอกว่า เกลียดอะไร ได้อย่างนั้นนะ”แล้วขนุนก็ทิ้งรอยยิ้มกว้างเป็นนายสยามไว้ให้นิวก่อนจะไปรวมกลุ่มกับแก๊งข้างหน้า ปล่อยให้นิวอ้าปากพะงาบๆ จะด่าแต่คิดคำพูดไม่ทัน

   “ไอ้! ไอ้ขนุน! ”

   !!!









ติดตามตอนต่อไป >>>
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 11 อัปเดตแล้ว 24/03/2562
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 24-03-2019 15:25:19
น้องหนุนหยอดเก่งมากลูก
น้องจะว่ายังไง ถ้ารู้ว่าพี่คณินมองน้องเป็นสายพันธ์เดียวกับไข่ดาว ฮา

 :pig4:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 11 อัปเดตแล้ว 24/03/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 24-03-2019 20:15:56
 :z1:

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 11 อัปเดตแล้ว 24/03/2562
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-03-2019 01:32:55
เอ็นดูขนุนไปอี๊กกกกกก ทำไมหนูน่ารักงี้ล่ะ 5555
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 11 อัปเดตแล้ว 24/03/2562
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 26-03-2019 19:23:38
เอ็นดูวววววว  :m1:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 12 อัปเดตแล้ว 03/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 03-04-2019 20:42:51

ขนุนลูกที่ 12




มอP

   “เมื่อวานเจอขนุน เอาของมาให้ ไม่อยากจะถามแต่กูอยากรู้ว่าอะไรยังไง นี่ตกลงเปลี่ยนใจแล้ว? ”คนอยากรู้ใช้ตะเกียบคีบช้อนอีกฝ่ายที่กำลังจะซดน้ำก๋วยเตี๋ยวเข้าปากให้ชะงักไว้

   “เปลี่ยนใจอะไรของมึง พูดฟังไม่รู้เรื่องว่ะ”

   “ก็เปลี่ยนใจจากอกหักมารักน้องไง หรือจริงๆ ลับหลัง.....กินกลางตลอดตัวไปแล้ว”

   โป๊ก!

   “โอ๊ย!”

   คณินคว้าหนังสือที่วางอยู่ใกล้ๆ โขกเข้าไปกลางหัวอนาวินให้สติตื่น คณินรู้หรอกว่าเพื่อนปากเสียอย่างอยาวินกำลังคิดอะไร คณินไม่ได้โง่ถึงขนาดว่าไม่รู้ในสิ่งที่คนตรงหน้ากำลังสื่อความหมาย เพียงแต่ตอนนี้เขายังไม่อยากจะพูดอะไรให้มากความ ยิ่งอะไรที่มันไม่ชัดเจนก็รั้นแต่จะทำให้เรื่องราวมันยุ่งเหยิงซะเปล่า

   โดยเฉพาะเรื่องของขนุน ก็จริงที่คณินสนิทสนมกับขนุนในเวลาเพียงไม่นาน สนิทจนคณินยังแปลกใจว่าทำไม่เวลาที่อยู่กับขนุนนั้นมันผ่านไปเร็วเหลือเกิน

   “ปากยังอยากจะกินก๋วยเตี๋ยวอีกมั้ยห๊ะ พูดแต่ละอย่างมึงนึกถึงใจน้องเค้าบ้าง ได้ยินมึงพูดแบบนี้น้องเค้าจะมองมึงยังไง”คณินพูดสีหน้าจริงจัง จนโจมที่เคี้ยวลูกชิ้นกับอนาวินที่เพิ่งโดนสันหนังสือกระแทกหัวยิ้มขำออกอาการ

   “ขำอะไร มีอะไรน่าขำ”เจ้าของกรอบหน้าที่มองทางไหนก็ดึงดูดใจกำลังเหลือบตามองความกวนบาทาของเพื่อนทั้งสองด้วยแววตาหงุดหงิด

   “ไม่มี๊ กูขำเส้นในถ้วย ดูดิอืดใหญ่เลย”อนาวินเลี่ยงประเด็นไม่ให้อีกฝ่ายซักมากไปกว่านี้ เพราะคณินยังไม่รู้ว่าเมื่อวานพวกเขาได้ยินอะไรจากปากของขนุนบ้าง อีกฝ่ายสารภาพซะจนหมดใส้ แถมพวกเขายังจงใจเชียร์ให้ขนุนคว้าใจคณินอีก เพื่อนที่นั่งปากดีอยู่ตรงหน้าถึงได้กล้าแหย่กล้าแซวให้คณินใจเขวไปหาขนุน

   “แล้วตกลงเมื่อวานเจอรึเปล่า กูห่วงว่าขนุนจะไปเสียเที่ยว อุตส่าห์มาหาถึงมหาลัยแต่ไม่เจอมึง ขากลับฝนดันตกซะด้วย”

   “ขนุนมาที่มหาลัยด้วย? ”คณินเงยหน้าจากถ้วยก๋วยเตี๋ยวหันไปสนใจโจมที่พูดขึ้นมาเหมือนล่อให้อีกฝ่ายอยากรู้ เพราะขนุนไม่ได้บอกว่ามาดักรอที่มหาลัยก่อนจะไปยืนตากฝนอยู่หน้าบ้าน

   “อือ มาตอนที่มึงออกไปแล้ว”

   “คณิน กูถามอะไรอย่างดิมึงไม่รู้สึกอะไรกับน้องขนุนเลย? สักนิดก็ไม่มี แบบว่าใจมันวูบวาบเต้นระรัวอะไรทำนองนั้น”อนาวินพูดขึ้นจ้องสีหน้าคณินเขม้น

   “ถามจะเอาคำตอบแบบไหน? ”

   “ก็ไม่ใช่คำตอบดาราปฏิเสธข่าวฉาวก็แล้วกัน กูไม่ได้จะชี้โพรงให้กระรอกนะเว้ย แค่ถามเพราะอยากรู้ ดูเหมือนช่วงนี้มึงสนิทกับน้องเขา บางที.....อาจจะคิดอะไรแบบที่มากกว่าคนปกติเขาคิดกันอะไรแบบนั้น”

   “ไอ้วิน มึงก็อย่าไปซักไซ้ คนเขาไม่ได้คิดแบบมึงไปซะทุกคนหรอกนะเว้ย ขนุนน้องมันก็ออกจะน่ารัก อาจมีคนต่อแถวจีบยาวเป็นขบวนใครจะไปรู้ เห็นได้ข่าวว่าเป็นที่นิยมของสายเอ็นดูน้องของมอM อยู่ คนตามig ก็เยอะ”

   “จริงเหรอวะ หรือกูจะเปลี่ยนใจไปชอบสายน้องดี ขนุนมันก็น่ารักจริงๆ ตัวนี่ขาวจั๊วะปากแดงสุขภาพดี ตาอย่างกลม แก้มอย่างใสจนน่าหยิก อยู่ด้วยสนุกดี มองตรงไหนก็น่ารักไปหมด”ปากพูดท่าทางเพ้อฝันแต่สายตาก็เหลือบไปมองคณินที่ชะงักมองถ้วยก๋วยเตี๋ยวของตัวเอง เหมือนจะไม่สนใจแต่หูกลับเก็บทุกรายละเอียดคำพูด

   “สีหน้ามึงหื่นไปมั้ยไอ้วิน เก็บอาการหน่อยเพื่อน”โจมสมรู้ร่วมคิดเร่งกันปั่นคณินให้ถ่านลุกเป็นไฟให้ได้

   “กูอิ่มแล้ว”

“เฮ้ย! เพิ่งกินไปได้สองสามคำ พูดถึงขนุนนี่อิ่มรอเลยเหรอวะ”

   “อิ่มเพราะใครบางคนพูดมาก รำคาญว่ะ”คณินเหลือบตามองอนาวินบอกทางสายตาว่าให้เลิกพูดมากได้แล้ว และดูเหมือนท่าทางหงุดหงิดนั่นจะถูกใจอนาวินไม่น้อย

   “โถ่คุณคณิน อย่าขู่ด้วยสายตาดิครับ ผมนี่ขนลุก”

   “มึงกลัว? ”โจมถาม

   “กูปวดขี้!”
   




ร้านป๋าชุบ

   เวลาประมาณ 4 ทุ่ม บรรยากาศกำลังครึกครื้นเสียงเพลงสนุกๆ ที่ดังขึ้นให้บรรยากาศครื้นเครงไปพร้อมกับกลุ่มคนที่โยกตัวไปตามจังหวะ ทำนองหนักเบาเร้าใจจนชวนให้ลุกขึ้นเต้น มีเพียงโต๊ะต่อสามตัวติดด้านในสุดที่บรรยากาศไม่ค่อยรื่นเริงสักเท่าไหร่นัก เอาแต่ดื่มหนักๆ เหมือนเจอมรสุมชีวิตถาโถม
   
   “เอ้าโช้นนนน!”

   กิ้ง กิ้ง!

   เสียงแก้วเหล้าที่ยกขึ้นชนกันเป็นรอบที่สิบ พอๆ กับจำนวนรอบที่ขนุนยกแก้วเข้าปากกระดกจนเหลือแต่น้ำแข็งแรกๆ ก็ถูกไม้และรุ่นพี่ในเอกคะยั้นคะยอ แต่พอหลังๆ ก็แทบห้ามกันไม่อยู่ซดลื่นคอเสมือนกรอกน้ำใส่ขวด ถึงจะกินแบบเกร็งๆ เพราะไม่มีอะไรจะพูดก็ยิ่งต้องดื่มหนักเป็นพิเศษให้เหมือนปากไม่ได้ว่างคุยตลอดเวลา

   อีกอย่างก็เกรงใจรุ่นพี่ที่เสือกเกิดปีชงกันทั้งโต๊ะ ขยันเติมให้รุ่นน้องอย่างขนุนไม่ขาด

   “น้องขนุน หมดแล้วพี่ชงให้ส่งแก้วมา”

   “อย่าขยันชงให้ผมนักเลยพี่ตั้ม โผมมมม....ท้องจะแตกอยู่แล้ว”ขนุนตีท้องตัวเองตุบๆ เบาๆ ตาปรือๆ แต่ยังพูดรู้เรื่อง

   “ก็เห็นเรากินเก่ง ครั้งที่แล้วได้ข่าวเมาจนได้เรื่อง”เพื่อนในกลุ่มของไม้เอกชวนคุยตามปกติ

   “ยังอุตส่าห์จำนะครับ ผมแกล้งลืมไปแล้วนะเนี้ย”ขนุนกุมขมับเหมือนอยากจะเอาหัววางไว้บนโต๊ะ

   “แฮชแท็กแสกหน้าทวิตขนาดนั้นพวกพี่ไม่เห็นก็ตาบอดแล้ว”

   “จุ๊ๆ ครับ”ขนุนยกนิ้วขึ้นแนบปากที่ยู่เป็นปากหมึกส่งเสียงเหมือนจิ้งจก บอกพวกพี่ๆ ให้เงียบเอาไว้ “แม่ผมยังไม่รู้เรื่องนี้ อย่าพูดไปนะครับ เดี๋ยวผมจะโดนแม่หยิกก้น”คนในกลุ่มถึงกับหัวเราะในคำขอที่กลัวอย่างกับเด็กประถม ก่อนจะยื่นแก้วให้ด้วยความถูกใจ ขนุนคงลืมไปแล้วว่าตัวเองเพิ่งจะปฏิเสธแต่ก็เผลอรับแก้มมาจนได้

   “ไอ้ขนุนมึงกินเบาๆ หน่อย เดี๋ยวก็เมาปลิ้น”คนที่เดินมานั่งจับแก้วของขนุนวางลงกับโต๊ะ แล้วบีบปากข่มขวัญด้วยสายตา

   “อือเอาอันอ๊กเอ้าปากเอง(มือเรามันยกเข้าปากเอง)”คนถูกบีบปากแก้ตัว

   “ตอนกูไปห้องน้ำมึงชนไปกี่แก้วแล้วห๊ะ! ”

   “ขอเรานับนิ้วก่อน”ขนุนยกมือตัวเองขึ้นมานับเลขขาดๆ เกินๆ อยู่หลายรอบและดูเหมือนนับไม่ถึงสิบซะด้วยซ้ำ

   “กูว่าพาขนุนกลับเหอะ แม่งไม่ไหวแล้ว”ต้าพูดขึ้นขณะที่ลุกไปคุยโทรศัพท์และเพิ่งกลับมา ก่อนจะยื่นมะนาวผ่าเป็นแว่นบางๆ ยัดใส่ปากขนุนให้ตาสว่าง อีกฝ่ายแลบลิ้นคายออกมาเพราะความเปรี้ยว
 
   “ขนุนกลับเหอะ เดี๋ยวกูไปบอกพี่ไม้เอกให้ เห็นเดินไปสั่งเหล้ามาเพิ่มอยู่ตรงโน้น”แจ็กอาสาออกหน้า

   “กูก็ว่าอย่างนั้น มึงเมามันคงไม่ดี วีรกรรมมึงก็เยอะอยู่แล้ว”ช้างเห็นด้วย

   “งั้น.....เดี๋ยวเราไปบอกเอง เดี๋ยวพี่ไม้จะหาว่าไปไม่ลา”ขนุนยืนขึ้นโงนเงนเล็กน้อย แต่ไม่ทันไรคนที่พูดถึงก็กลับมาที่โต๊ะ

   “ขนุนจะเอาอะไรเพิ่มไหม? ”

   “ป่าวครับ ไม่เอาอะไรแล้ว คือ....ผมจะเดินไปบอกพี่น่ะ”

   “บอก? ”คนถามเอื้อมมือมาจับไหล่ขนุน แล้วเลื่อนไปที่ต้นคอเกลี่ยนิ้วโป้งเบาๆ ข้างกรอบหน้า คลี่ยิ้มให้กับดวงตาปรือๆ ที่กำลังนึกคำพูด โดยไม่ได้สนว่าสิ่งที่ไม้เอกกำลังทำมันคือการเต๊ะอั๋ง

   “ขนุนจะกลับแล้ว มันไม่ไหว พวกเราก็จะกลับด้วย”คนที่พูดขึ้นเป็นนิว

   “พี่ถามขนุน ไม่ใช่น้องนะ”

   “มันก็จะตอบแบบนั้น ผมแค่พูดให้ฟังเข้าใจมากขึ้นแค่นั้นเอง”นิวเอาตัวไปแทรกจนมือของไม้เอกหลุดออกจากขนุน สบตากับไม้เอกที่เก็บมือเข้าล้วงกระเป๋าสีหน้าเริ่มตึงๆ

   “พี่ไม้เอกครับ อย่าดุนิวน๊า ผมจะกลับแล้วจริงๆ แต่ว่าตอนนี้.....ผมอยากเข้าห้องน้ำ”

   “เดี๋ยวกูพามันไปเอง”ต้าอาสาดึงขนุนออกมาทำงานกันอย่างเป็นทีม ส่วนแจ็กกับช้างก็กันตัวไม้เอกเอาไว้ ดึงให้เข้าวงเหล้าอีกรอบ เลยทำให้ไม้เอกไปตอแยอีกฝ่ายได้ยาก

   “กลับก็ไป ถ้ายืนอยู่ต่อพี่ไม่ให้กลับนะ”ไม้เอกที่ถูกลากกลับไปนั่งหันไปมองนิวที่ยืนจ้องตัวเองเขม้น แต่พอขู่ออกไปแบบนั้นอีกฝ่ายก็รีบเคลื่อนตัวออกไปแบบเนียนๆ ทันที

   กว่าจะดึงตัวขนุนกลับออกมาจากวงเหล้าของไม้เอกก็ว่ายากแล้ว แต่ที่ยากยิ่งกว่าคือการควบคุมขนุนตอนเมา อาการเดิมเริ่มออก ทั้งๆ ที่ห่างหายไปนาน ดูเหมือนต้าและนิ้วจะได้งานดูแลขนุนอีกครั้ง ไหนจะต้องคอยห้าม คอยมองไม่ให้ขนุนเผลอหยิบเอาของโน่นนี่ออกมาจากร้าน โชคดีที่ก่อนหน้าต้าเฝ้าขนุนอยู่หน้าห้องน้ำ เลยสามารถสกัดการเอาฝาชักโครกที่น็อตมันหลุดแบบชำรุดออกจากห้องน้ำได้ ภาพการยื้อแย่งฝาชักโครกเอาไปคืนห้องน้ำมันไม่เท่เอาซะเลย แถมยังชวนขายหน้าคนอื่นอีก เด็กมหาลัยเดียวกันทั้งนั้นที่เห็น

   แต่ก็โชคดีอยู่บ้างที่แม่บ้านทำความสะอาดห้องน้ำไม่มาเห็น ไม่อย่างนั้นโดนทุบด้วยฝาชักโครกไปแล้ว

   “สัดเอ๊ย! ไอ้ขนุน กูว่าว่างๆ มึงน่าจะไปหาหมอ แม่งพฤติกรรมตอนเมาพวกกูต้องปวดหัวกับมึงมาก ตั้งแต่คบกับมึงมาพวกกูก็ไม่เคยได้กินเหล้าจนเมาเท่าที่อยากเมาได้เลย เพราะห่วงมึงนี่แหละ”

   “อย่าพูดอย่างนั้นดิโกรธเราเหรอ เราไม่เมาก็ได้ จะเดินเองให้ดู”ขนุนสลัดมือของต้ากับนิวออกเดินเองอย่างที่ปากพูด ถึงจะเดินได้แต่ความโงนเงนเหมือนจะล้มก็ทำให้เพื่อนเป็นห่วงอยู่ดี

   “ทำปากดี เดี๋ยวปากก็ได้กินคอนกรีดหรอกมึงอ่ะ”นิวส่ายหน้าถอนหายใจซะเกลี้ยงปอด เท้าสะเอวมองดูขนุนที่เดินไปข้างหน้าไม่ค่อยจะตรงทางมากนักกระทุ้งศอกให้ต้าช่วยกันมองความมึนของขนุน คนข้างหลังก็ได้แต่มองหน้ากันแล้วส่ายหน้าไปมาอย่างช่วยไม่ได้

   “ขอเราพักหน่อย 1 นาที”เดินได้ไม่ถึงสิบกก้าว ขนุนก็หย่อนก้นลงนั่งตรงขอบฟุตบาทซะอย่างนั้น ทั้งยังกวักมือเรียกเพื่อนให้มานั่งข้างๆ อีก

   “มีอะไรจะพูดก็พูด”ต้ามองขนุนที่นั่งเงยหน้ามองท้องฟ้า ซึ่งมืดมากพระจันทร์ก็ไม่มี ไม่รู้ว่ามองอะไร

   “ถ้าเราไม่มีต้ากับนิว เราไม่รู้เลยว่าเวลาเราเมาตื่นมาจะไปนอนอยู่ที่ไหน”

   “ถามแปลกๆ ไม่บ้านคนอื่นก็สถานีตำรวจดิ มีที่อื่นสำหรับมึงอีกรึไง ไอ้ขี้เมามือปลาหมึก!” คนพูดผลักหัวขนุนเบาๆ ส่ายหน้ายิ้มๆ อย่างทุกที ไม่หัวร้อนเหมือนที่เป็นก่อนหน้า

   “ทำมาเป็นพูดดี ตอนนี้พวกกูยังมีค่า แต่ต่อไปข้างหน้ามึงก็อาจจะไม่เห็นค่าพวกกูแล้วก็ได้ หายใจเข้าออกเป็นพี่คณินขนาดนั้น มึงยังมีที่ว่างคิดถึงพวกกูอีกเหรอ”

   “อย่างอนดิ ยังไงต้ากับนิวก็เพื่อนเรา ไม่เกี่ยวว่าเราจะชอบใครรักใคร แต่ยังไงเพื่อนก็คือเพื่อนเสมอ เรารักต้ากับนิวจะตายไม่รู้เหรอ ให้เราร้องเพลงสร้างบรรยากาศมั้ย?.....จากวันเน้ จะมีเรา เราแล้วนายยยย....”

   “หยุด! เสียงแม่งโคตรเพี้ยน พวกกูจะเลิกคบมึงเพราะแบบนี้นี่แหละ”

   “งั้นไม่ร้องเพลงแล้ว หึๆ”ขนุนยิ้มกว้างตาปรือหัวเราะหงึกๆ เอนตัวเอาหัวไปซบไหล่เพื่อนซ้ายขวา แต่กลับถูกดันหัวออก

   “อย่ามาอ้อน กูเบื่อลูกอ้อนมึงเต็มทน”

   “นิวใจร้ายอ่ะ ต้ากลับหอกันเหอะ”คนทำทีน้อยใจลุกขึ้นยืนปัดก้นจนฝุ่นฟุ้งกลบหน้าเพื่อนก็ไม่สน

   “เดี๋ยวขนุน อะไรตุงๆ ในกระเป๋ากางเกงมึงด้านหลัง”แสงจากเสาไฟข้างริมฟุตบาททำให้นิวเห็นบางอย่างผิดปกติเลยเอ่ยถาม ถ้าตุงข้างหน้าจะไม่สงสัย แต่นี่มันข้างหลัง

   “ให้กูดูหน่อย หันหลังดิ๊”ต้าจับขนุนหมุนตัวขมวดคิ้วสงสัย ก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงด้านหลังของขนุน จากนั้นก็ดึงของบางอย่างออกมาจนกระเป๋ากางเกงแฟบ

   “เหี้ย!”คนล้วงถึงกับปล่อยสิ่งที่หยิบได้จากกระเป๋ากางเกงของขนุนตกพื้นสีหน้าสะพรึง ถูเช็ดฝ่ามือของตัวเองไปมากับขากางเกงคล้ายขยะแขยงสิ่งที่จับ

   “ตกใจอะไรกันอ่ะ”

   “ไอ้ขนุน! ไอ้บ้าเอ๊ย! กูไม่รู้จะด่ามึงยังไงดี นี่มึงไปเอากางเกงในใครใส่กระเป๋ามา! ตอบ!”

   คนโดนดุก้มหน้าตาใสมองไปยังของที่ต้าทำตกพื้นแล้วก้มลงไปหยิบมาสะบัดปัดฝุ่น พร้อมกับส่ายหน้าปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

   “เราไม่ได้หยิบของใครมา สาบาน”ขนุนยกสี่นิ้วขึ้นฟ้า

   “สาบานมึงยังยกนิ้วผิด! สารภาพมาดีๆ ไอ้ขนุน! ”

   “ของเราเอง”

   “ห๊ะ? ”

   “กางเกงในตัวนี้ของเรา เราถอดตอนเข้าห้องน้ำแล้วลืมใส่ เลยเก็บใส่กระเป๋ามาแทน ของเราเราไม่ทิ้งหรอก แม่บอกต้องรักษาของ”ขนุนพูดพร้อมกับยัดกางเกงในตัวสีขาวใส่ไว้ในกระเป๋า จนกระเป๋าด้านหน้าโคตรตุงจนคนมองต้องเบือนหน้าหนีอาย กุมขมับเส้นประสาทเต้นตุบๆ

   “มึงอย่าบอกนะว่าตอนนี้มึง.....มึงไม่ได้ใส่”

   “อือ”ขนุนพยักหน้ายอมรับดูไม่เดือดร้อน “สบายใจได้ คืนนี้เราจะไม่หยิบของใครอีก”ขนุนยิ้มกว้างกอดอกเห็บมือเรียบ แล้วออกตัวเดินไปตามทางเท้าเพื่อกลับหอ ปล่อยให้เพื่อนทั้งสองยืนกุมขมับหาเสาคนละต้นโขกหัวระบายความเครียด

   “เวรเอ๊ย! กูเจอเพื่อนดีๆ แบบนี้ได้ยังไงวะ!”




   ตรงหน้าร้านชาไข่มุกในห้างสรรพสินค้า สามหนุ่มที่ยืนดูดน้ำจากแก้วให้หายชื่นใจด้วยอากาศจากข้างนอกที่ค่อนข้างร้อนอบอ้าว ทั้งสามพากันเดินไปยังเก้าอี้สาธารณะที่ตั้งไว้เป็นจุดภายในห้างให้ผู้คนได้นั่งพัก ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งยืดขาสูดอากาศเย็นจากแอร์ภายนห้างเข้าปอด ก็มีแต่ขนุนที่ยังคงยืนชะเง้อหน้าตั้งไม่ยอมนั่ง

   “นั่งลงขนุน บรรพบุรุษมึงเป็นเมียแคทรึไงชอบชะเง้อนัก พี่เขามาก็เห็นเองแหละ วุ้! ”ต้ากระตุกชายเสื้อแขนยาวสีชมพูอ่อนทรงโอเวอร์ไซซ์ที่ขนุนใส่อยู่ให้นั่งลง

   “เรากลัวพี่เค้าจะไม่เห็น”

   “มานั่งรอดักทางเข้าออกซะขนาดนี้ไม่เห็นก็ตาบอดแล้วมะ”

   “ก็เราตื่นเต้นอ่ะต้า”

   นิวดูดน้ำในแก้วเป็นอึกสุดท้าย แล้วหันไปแยกเขี้ยวใส่ขนุน “ทำเหมือนมึงไม่เคย ไปหาเค้ามากี่ครั้งแล้วทำเป็นตื่นเต้น! เดี๋ยวปั๊ดตบ”

   “แต่ครั้งนี้เป็นการนัดจริงจังไง ครั้งก่อนๆ เหมือนไม่ค่อยตั้งใจ”

   “เหรออออ! ครั้งนี้ตั้งใจสินะถึงกับกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ปกติก็ขี้เกียจอาบน้ำตัวเป็นขน และไอ้ที่ทำลืมของไว้บ้านเค้าให้เค้าเอามาให้อีกแล้วหาเรื่องนัดกินข้าวเนี้ย กูบอกเลยว่ามึงมันร้าย!”

   นิวใช้นิ้วหนีบไปบนแก้มขาวดึงไปมาอย่างเหลือทนนับวันขนุนชักเอาใหญ่เอาโต

   “โอ๊ย! เจ็บๆ ”คนถูกบีบแก้มเบี่ยงหน้าหนีเอามืออังแก้มตัวเองหน้ายู่ “ขี้บ่นนา ก็แค่ลืมนาฬิกาเอาไว้ ไหนๆ พี่คณินอาสาจะเอามาให้เราก็อยากจะนัดมากินข้าวด้วยเลยจะได้ไม่เสียเที่ยว แถมพรุ่งนี้เราต้องกลับบ้านไปหาแม่คงไม่ได้เจอหน้าพี่คณินอีกหลายวัน”

   “สามวันมึงจะตายเชียว? ”

   “สามวันจากบุรุษ เป็นอื่น....ไม่เคยได้ยินเหรอ ถ้าเราไปนานใจพี่คณินอาจเขวไปหาคนอื่นทำไง ผูกใจไว้ก่อนเพื่อความสบายใจ”

   “มีแต่สามวันจากนารีเป็นอื่น มึงเอาบุรุษเป็นอื่นมาจากไหนห๊ะ!”

   “โห่นิว อย่าขัดเราดิ”

   “เตรียมใจไว้บ้างก็ดีนะขนุน เผื่อพี่เค้าไม่สนใจมึงจะได้ไม่เฟล”

   “ต้าอ่ะ”ขนุนไหล่ตกเมื่อถูกเพื่อนรุมจิก แทบจะลงไปดิ้นกลางพื้นประชด แต่เพราะสายตาดันเหลือบไปเห็นคณินกับโจมที่เดินมาด้วยกันเลยหันเหความสนใจไปอีกทางในทันที

   “ทางนี้ครับ”ขนุนยกมือขึ้นกลางอาการเป็นเชิงบอกตำแหน่งที่รออยู่ ยิ้มกว้างๆ ระบายบนใบหน้า ส่งสายตาเป็นประกายยิ่งกว่าหมาเจอเจ้าของ

   “โห่ นี่มึงดีดเป็นสปริงทันทีที่เห็นผู้ชาย”นิวส่ายหน้าแต่ก็ขยับตัวลุกเมื่ออีกฝ่ายมาถึง ก่อนจะยกมือไหว้ทักทายเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องตามมารยาท ส่วนขนุนก็ยิ้มแล้วยิ้มอีก แถมยังมองคนตรงหน้าเหมือนไม่เจอกันมาชาตินึง

   “อ่ะนี่ของเรา”มาถึงคณินก็ยื่นนาฬิกาให้ มองดูมือเล็กที่รับนาฬิกาไปพร้อมกับโยกหัวขนุนเบาๆ แอบสำรวจมองคนตรงหน้าที่แต่งตัวได้เข้ากับบุคลิกจนมองเพลิน

   “ขอบคุณครับ”ขนุนรับไปแล้วใส่ทันที แต่เพราะในมือดันถือแก้วน้ำชาไข่มุกเลยใส่ไม่ถนัดนัก คณินเลยอาสาช่วย

   “มาพี่ใส่ให้”คณินยื่นมือไปช่วยใส่นาฬิกาให้กับขนุนอย่างคล่องแคล่ว พูดคุยกันอยู่สองคนจนเหมือนตัดขาดจากโลกภายนอก จนโจมต้องกระแอมกระไอให้รู้ว่าเพื่อนและน้องๆ รออยู่ข้างหลัง

   “เอ่อ แล้วพี่วินไม่มาเหรอครับ”ขนุนชะเง้อมองด้านหลังของโจมแต่ก็ไม่มีใครจริงๆ

   “วันนี้รายนั้นติดธุระน่ะ เลยขอแยกตัวออกไปก่อน”คณินเป็นคนตอบก่อนจะยิ้มบางให้ แต่สายตากลับดูหม่นๆ จนขนุนสังเกตเห็น

   “วันนี้ดูพี่คณินไม่สดชื่นเลย เป็นอะไรหรือเปล่าครับ? ”

   โจมที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เอื้อมมือไปตบไหล่คณินเบาๆ แล้วตอบข้อสงสัยของขนุน

   “พอดีคนไข้หนีน่ะ ไม่มาตามนัด เทอมสองพวกพี่ต้องเรียนวิชาพรีคลินิกและต้องมีทำเคสบ้างพวกอุดฟัน ขูดหินปูนอะไรทำนองนั้น แต่โชคร้ายของคณินนิดหน่อยที่คนไข้ดันเบี้ยว”โจมไหวไหล่เพราะไม่เป็นไปตามแผนที่คณินวางไว้ ทุกอย่างเลยรวนเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับลำบาก ก็ต้องยอมรับว่านั่นคือปัญหาจริงๆ ที่ต้องหาวิธีแก้กันไป

   “แย่เลยสินะครับ ผมเคยได้ยินมาบ้างว่ามีกรณีแบบนี้จนหลายๆ คนต้องลำบาก”ต้าพูดขึ้นอย่างเห็นใจ

   “ยังไงก็ต้องผ่านไปให้ได้ มันเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงแต่ก็เหมือนบททดสอบของเราล่ะมั้ง”คนตัวสูงเจ้าของหน้าไม่สดชื่นพูดขึ้นแต่ก็ไม่ได้ทำให้ใบหน้าชวนมองนั้นดร๊อปความหล่อลงไป ขนุนเห็นท่าทีแบบนั้นของคณินก็อดที่จะนิ่งเฉยไม่ได้

   “งั้นผมพอจะเป็นคนไข้ให้พี่คณินได้รึเปล่าครับ”

   “คนไข้? ”คณินถามย้ำเหมือนไม่เข้าใจ

   “เอาจริงเหรอขนุน? ”โจมหันไปยิ้มกับขนุนที่ดูกระตือรือร้น

   “เอาจริงครับ ผมไม่รู้ว่าพี่คณินต้องเก็บเคสอะไรบ้าง แต่ลองเอาผมไปตรวจดูก่อนไหมครับ อาจจะพอช่วยได้”

   “เอางั้นเหรอ? ”คณินเลิกคิ้วเหมือนใช้ความคิด

   “ครับ”

   “งั้นก็ได้ ไว้พี่จะติดต่อรายละเอียดเราไปอีกที”

   “ขอบคุณครับ”

   “มึงจะดีใจอะไรวะ ไม่เห็นมีเรื่องน่าดีใจเลย”นิวที่กลัวเรื่องการทำฟันที่สุดหน้าสยองแอบกระซิบขนุน เห็นเพื่อนรักดีอกดีใจที่จะได้ไปให้หมอแหกปาก แล้วยังต้องเจอเครื่องมือประหลาดอย่างกับเครื่องจักรเอเลี่ยนอีก แค่คิดนิวก็ขอยอมแพ้แล้ว

   “ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ฟัน มึงก็น่าจะรู้”ต้าแอบประกบด้านหลังนิวแล้วกระซิบบอก เห็นตาเป็นประกายของขนุนแล้วยังไงมันก็ต้องมีอะไรแอบแฝง

   “เอ้างี้ วันนี้พี่ขอเลี้ยงขอบคุณเราล่วงหน้าก่อนแล้วกัน ต้ากับนิวก็ไปด้วยกันนะไม่ต้องเกรงใจ”

   “พี่คณินหล่อแล้วยังใจดีอีกนะครับ ผมโคตรชอบเลย”คนตัวเล็กกว่าเงยหน้ามองคณินตาแบ๊ว

   “ชมตรงๆ แบบนี้ไม่คิดว่าพี่จะเขินบ้างเหรอฮะ”

   “ก็ผมพูดจริงนี่ครับ”

   “อย่ามัวแต่คุยเล่นเลย พี่ว่าตอนนี้ไปหาอะไรกินกันก่อนเถอะ”

   “ให้ผมเลือกร้านนะครับ”

   “ตามใจ”

   “พี่โจมรีเควสได้นะครับ อำนาจอยู่ในมือผมแล้ว”ขนุนหันไปยิ้มให้โจมที่ขมวดคิ้วเหมือนคิด

   “ตามใจขนุนดีกว่า พี่กินได้ทั้งนั้น ยกเว้นกินมังสวิรัติ”

   “พวกผมก็ด้วยครับ”แนวร่วมเข้าไปยืนในรัศมีของโจมราวกับเลือกแล้วว่าจะอยู่ข้างไหน แถมเพื่อนรักทั้งสองก็มองขนุนราวกับต่อต้านความอยุติธรรม

   “โห่ นี่กดดันกันชัดๆ เลยนะครับ”ขนุนขยี้ผมตัวเองอย่างคิดหนัก ก่อนจะหันไปเพื่อจะถามความเห็นของคณิน ทว่าขณะที่ก้าวเดินตามหลังคนตัวสูงกว่านั้น เพราะการหยุดเดินอย่างกะทันหันถึงกับทำให้ขนุนที่ไม่ทันตั้งตัว เดินชนเข้าให้กับคณิน หน้าแทบจะจมเข้าไปในแผ่นหลังคนตัวสูงที่ยืนไม่ขยับ

   เหมือนมีบางอย่างมาขวางหน้า คณินจึงหยุดเดินไม่เคลื่อนไหว เพราะความสงสัยขนุนเลยชะเง้อโผล่หน้าออกไปมองว่าเกิดอะไรขึ้น และตอนนั้นเองขนุนถึงได้ยิ้มออกและรู้สึกแปลกใจจนต้องทักทายคนที่เจอกันโดยบังเอิญอีกครั้งอย่างตื่นเต้น

   “เอ๊ะ! พี่ลูกตาล เจอกันอีกแล้วนะครับ บังเอิญมากเลย”

   “ใช่บังเอิญ”เสียงทุ้มต่ำของคนตัวสูงที่ยืนข้างขนุนพูดขึ้น พร้อมกับแววตาที่นิ่งเรียบเสียจนขนุนแปลกใจ รวมไปถึงบรรยากาศบางอย่างที่ไม่ปกติซะแล้ว






ติดตามตอนต่อไป >>>


ขอบคุณที่ติดตามค่ะ แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 12 อัปเดตแล้ว 03/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 03-04-2019 21:00:08
จะดราม่าไหมๆ
ไม่อยากเห็นน้องขนุนหงอยเลย น้องหนุนสู้เขานะ!
 :pig4:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 12 อัปเดตแล้ว 03/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 03-04-2019 22:38:22
บรรยากาศมาคุซะละ น้องขนุนจะหงอยรึจะหงายละนี่
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 12 อัปเดตแล้ว 03/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 03-04-2019 22:40:56
 :z1:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 13 อัปเดตแล้ว!! 11/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 11-04-2019 10:28:47


ขนุนลูกที่ 13



   ท่ามกลางความเงียบในหนึ่งอึดใจหญิงสาวตรงหน้าและผู้เป็นเจ้าของใบหน้าหวานหุ่นเพรียวก็ขยับปากพูด

   “ขนุน? ”หญิงสาวตรงหน้าตาเบิกโพลงไม่นึกว่าโลกจะกลมได้ถึงขนาดนี้ ตรงหน้าคือแฟนเก่า ส่วนอีกคนก็เป็นน้องที่รู้จักเมื่อไม่นาน ถึงจะไม่ได้สนิทกันแต่ก็เคยพูดคุยกัน

   “สองคนรู้จักกัน? ”โจมถามขึ้นดูลุกลี้ลุกลนชี้นิ้วไปหาขนุนสลับกับลูกตาลแบบงงๆ

   “จำพวกผมได้ไหมครับ”อีกสองหนุ่มที่ออกมาแสดงตัวเป็นต้ากับนิวที่ได้โอกาสเจอลูกตาลเป็นครั้งที่สอง

   “จำได้ เพื่อนของขนุนสินะ”

   “ครับ”

   “แล้วพี่คณินกับพี่โจมรู้จักพี่ลูกตาลด้วยเหรอครับ”ขนุนหันไปมองคณินที่ยืนนิ่งสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

   นั่นเพราะตั้งแต่คณินเลิกกับลูกตาล ทั้งสองก็ไม่เคยเจอหน้ากันตรงๆ เลยสักครั้ง เพราะแค่พูดถึงเหตุการณ์เลิกราของทั้งสองคณินก็ไม่เป็นอันทำอะไร ความรู้สึก อารมณ์ดาวน์ลงเป็นดาวตกพุ่งชนโลก ฉะนั้นหลายเดือนที่ผ่านมาก็เห็นจะเป็นครั้งนี้ครั้งแรกที่เจอกันซึ่งหน้า

   “อือ พวกพี่รู้จักกัน”ลูกตาลเป็นคนตอบ เธอยิ้มบางให้กับขนุนเหมือนกับการพูดคุยทั่วไป แต่สายตากลับไม่กล้ามองคณินตรงๆ อีกทั้งรอยยิ้มของลูกตาลก็ดูจางลงเมื่อคนตัวสูงมองเธอเหมือนต่อว่าอยู่ในใจ รอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าของลูกตาลแทบจะกลายเป็นการฝืนยิ้ม

   เธอเองก็รู้ตัวดีว่าสาเหตุที่ต้องเลิกกันเพราะใคร แน่นอนว่าทุกคนมีสิทธิ์เลือกเดินทางของตัวเอง เธอไม่ต่อว่าที่คณินมองเธอด้วยสายตาเย็นชาแบบนั้น เพราะคนที่ผลักไสคณินออกไปและเลือกที่จะคบอีกฝ่ายเป็นเธอเอง อาจจะดูโง่ที่เอาเรื่องเวลามาอ้าง แต่นั่นก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอรู้สึกผิดน้อยลงที่บอกเลิกคณินก็เท่านั้น 

   “เหรอครับ ผมเพิ่งจะรู้ว่าโลกมันแคบขนาดนี้ พี่สองคนเป็นเพื่อนกันเหรอครับผมไม่ยักรู้”

   “เปล่า ลูกตาลเป็นแฟนเก่าของพี่ แต่ตอนนี้แค่คนรู้จัก”คนที่ตอบไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นคนที่ยืนเงียบอยู่นาน คำตอบนั้นราวกับหยุดทุกอย่างที่เคลื่อนไหวอยู่รอบตัวของขนุนในทันที มันเหมือนกับมีใครเอาไม้มาเสียบกลางอกของขนุนจนรู้สึกเจ็บ ต้าและนิวที่ได้ยินก็ถึงกับเบิกตาโพลงเหลือบตามองขนุนที่หน้าสลดไปอย่างเห็นได้ชัด

   “เหรอครับ? ”ปลายเสียงของขนุนแผ่วลง รอยยิ้มที่เคยปรากฏอยู่บนใบหน้าค่อยๆ หดหาย ใจของขนุนราวกับลูกโป่งที่ถูกเจาะรูจนแฟบในชั่วพริบตา ไม่คิดว่าจะมีเรื่องให้ประหลาดใจขนาดนี้

   แม้จะทราบสถานะของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า แต่ขนุนกลับรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาซะอย่างนั้น ทั้งที่ทั้งสองไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วแต่เพราะไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกเหมือนตัวเองถูกเตะออกมาจากวงโคจรของคนที่ชอบ

   ระหว่างที่ขนุนนิ่งตกใจกับความสัมพันธ์ของคนตรงหน้า ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรออกไปเพราะสิ้นคำพูดในหัว แต่จู่ๆ ก็มีมือของใครบางคนก็ยื่นเข้ามาจับมือที่เย็นเยียบเอาไว้กะทันหันจนแน่นอย่างไม่มีคำอธิบาย ขนุนตกใจเล็กน้อยและมองไปตามท่อนแขนยาวที่คว้ามือตัวเองไปอย่างประหลาดใจ ปากจึงได้แต่อ้าค้างหน้ามึน อึนในความคิดจนทำอะไรไม่ถูก

   ขนุนได้แต่งับอากาศ มองคณินโดยที่อ่านความคิดคนตรงหน้าไม่ออก
 
   “ผมต้องพาขนุนกับเพื่อนไปกินข้าวแล้ว ขอโทษที่อยู่คุยด้วยได้ไม่นาน ถ้าไม่รบกวน.....ช่วยหลีกทางให้หน่อยได้มั้ย? ”
   
   “.....”

   ลูกตาลมองคณินที่หยักยิ้มขึ้นมาตรงมุมปากบางๆ พูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบแทบจะเป็นปกติกับเธอ ราวกับไม่เคยมีอดีตต่อกัน ไม่ใช่เพียงลูกตาลที่แปลกใจกับท่าทีเฉยเมยของคณินแบบนั้น แต่รวมถึงโจมผู้ซึ่งเห็นความรู้สึกของคณินมาตลอด ไม่คาดคิดว่าคณินจะสามารถยิ้มให้กับสิ่งที่เคยเสียใจที่สุดตรงหน้าได้โดยไม่รู้สึกอะไรแม้แต่น้อย

   ปกติต้องเดินหนี หรือตีหน้าบึ้งไม่พูดจากับใครไปแล้ว

   ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้คณินกำลังคิดอะไร แต่ภายนอกนั้นมองเห็นได้ว่าคณินกำลังก้าวผ่านบางอย่างด้วยตัวเองโดยที่ไม่หันกลับไปเสียเวลากับความรู้สึกเดิมๆ อีกแล้ว ความรู้สึกโกรธ อยากต่อว่าคนตรงหน้าไม่ใช่ว่าไม่มี แต่ทำแล้วได้อะไร? นั่นคือสิ่งที่คณินคิดมากกว่า
 
   เขาไม่ควรย่ำอยู่กับความรู้สึกเดิมๆ เพราะคนรอบตัวก็พร้อมที่จะทำให้เขามีความสุขตั้งมากมาย

   การเดินออกมาจากจุดนั้นได้โดยไม่รู้สึกเจ็บอาจเป็นสิ่งที่น่ายินดี แต่การเทความรู้สึกกังวลไปแคร์หน้าหงอยๆ ของคนที่เดินอยู่ข้างๆ ก็น่าคิดคิดเหมือนกัน
 
   “พะพี่คณินครับ”ขนุนเหมือนต้องการจะบอกบางอย่าง และมองไปยังมือของตัวเองที่ถูกอีกฝ่ายกุมไว้ไม่ปล่อยแถมยังลากเดินออกมาไม่รู้ว่าคิดอะไร
 
   “ครับ? ”

   “เอ่อ.....”เป็นครั้งแรกที่ขนุนกระอักกระอ่วนที่จะพูดกับคณิน เหมือนความมั่นใจลดไปเกินครึ่งทันทีหลังจากที่เจอแจ็กพ็อตแตกต่อหน้า

   สะเทือนใจไม่น้อยที่รู้ว่าลูกตาลเป็นแฟนเก่าคณิน และดูเหมือนเรื่องที่โจมกับอนาวินเคยเล่าให้ฟังก่อนหน้าจะย้อนกลับมาอยู่ในหัวอีกครั้ง คำถามจึงเกิดขึ้นมาในใจของขนุนให้ต้องกังวล

   พี่คณินยังชอบพี่ลูกตาลอยู่อีกรึเปล่า?

   แล้วมีโอกาสมั้ยที่ทั้งสองจะกลับมาคืนดีกัน?

   ขนุนจะเป็นผลไม่หรือเป็นหมาก็คราวนี้แหละ!

   “มีอะไรครับ?”

   “คือมือ เดี๋ยวคนจะมองเอานะครับ”

   “ไม่ชอบที่พี่จับมือเหรอ? ”

   ขนุนส่ายหน้าจนคอแทบหลุด หัวใจที่ว่าลีบแบนมันกำลังถูกเติมให้พองโตทีละนิดด้วยคำพูดที่ทำเอาขนุนคาดไม่ถึง “ไม่ใช่แบบนั้นครับ ผมชอบ! เอ่อ...ผมหมายถึงไม่ได้รังเกียจแต่กลัวคนจะมองพี่คณินแปลกๆ ”

   “เราสนสายตาคนอื่นรึเปล่า? ”สีหน้าที่ดูจริงจังถึงกับสะกดสายตาของขนุนเอาไว้

   “ปะเปล่าครับ”ขนุนไม่รู้ว่าคณินคิดอะไร แต่สิ่งที่อีกฝ่ายพูดออกมามันทำให้ขนุนมึนงงไปหมด
 
   “งั้นพี่ก็ไม่”

   “เอ่อพี่คณินครับ”ขนุนเรียกคณินเป็นครั้งที่สอง ครั้งนี้ขนุนหยุดเดินกะทันหันจนทำให้คณินต้องหยุดเดินไปด้วย

   “มีอะไรอีกครับ? ”

   ขนุนอึกอักก่อนตอบ“ไม่รู้ว่าพี่คณินจะรู้ตัวไหม แต่ว่าตอนนี้.....เพื่อนผมและเพื่อนพี่ เอ่อ หายหัวกันไปหมดแล้วนะครับ”ขนุนชี้นิ้วไปด้านหลังที่มีเพียงความว่างเปล่า ทุกอย่างหยุดนิ่งไปชั่วครู่เหมือนถูกแช่แข็ง คิ้วสีอ่อนของขนุนขมวดย่นเพราะปั้นสีหน้าลำบาก ก่อนทุกอย่างจะเคลื่อนไหวอีกครั้งเมื่อมีเสียงหลุดหัวเราะออกมาจากคนตัวสูง ใบหน้าที่ดูถมึงทึงค่อยๆ คลายออกเป็นใบหน้าที่ผ่อนคลายขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่มองมายังขนุน

   ตอนนี้ขนุนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคณินหัวเราะเรื่องอะไร ดีใจที่เมื่อกี้เจอพี่ลูกตาล? เพื่อนหาย? หรือหัวเราะหน้าตาประหลาดของเขากันแน่

   ก็แน่ละขนุนไม่รู้ว่าตัวเองต้องยิ้ม ต้องหัวเราะ หรือต้องแสดงสีหน้าเศร้าสลดใจดี เหตุการณ์มันหลากหลายอารมณ์จนตัวเองก็ปรับสีหน้าไม่ถูก จะให้หัวเราะไปด้วยเศร้าไปด้วยก็ดูจะไม่ปกตินักคนเขาจะมองยังไง

   “ให้ผมโทรหาดีมั้ยครับ บางทีเราอาจจะเดินเร็วเกินไป”ขนุนดึงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า แต่คณินกลับถือวิสาสะหยิบมันมาจากมือขนุน สั่นศีรษะก่อนกดปลายนิ้วไปยังปุ่มเล็กค้างไว้ทำการปิดเครื่อง แล้วส่งคืนขนุนทันที คนอึนมึนมองพฤติกรรมของคณินอย่างไม่เข้าใจนัก

   “ขนุน พี่ขอช่วยอะไรเราอย่างหนึ่งได้มั้ย? ”

   “ครับ? ”

   “ช่วยอยู่กับพี่จนกว่าพวกเพื่อนๆ จะหาเราเจอได้รึเปล่า”

   “เอ๊ะ? ”

   “ไปกันเถอะ”

   รู้ตัวอีกทีขนุนก็ถูกรอยยิ้มบางของคณินชักจูงไปซะแล้ว
 
   ไปโดยไม่ต้องฝืนบังคับ
 
   ไปโดยที่ไม่ต้องกลั่นกรองหรือชั่งใจคิด

   เท้าของขนุนมันทำงานและก้าวไปข้างหน้าด้วยตัวของมันเอง แค่เห็นรอยยิ้มที่เหมือนเดิม เหมือนทุกครั้งที่คณินมอบให้ และไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร ความรู้สึกหดหู่และขาดความมั่นใจกำลังถูกเติมเต็มให้เหมือนเดิมอีกครั้ง แม้จะเป็นรอยยิ้มที่ยังไม่ได้เปลี่ยนความรู้สึกไปจากเดิมของคนตรงหน้า แต่ขนุนก็รู้สึกโล่งใจที่ได้เห็นมันอีกครั้ง

   ใจที่ว่าหดเล็กเท่าเม็ดทราย ตอนนี้กำลังพองโตขึ้นมาอีกครั้งอย่างกับบอลลูน เรียกได้ว่าฟื้นตัวเร็วยิ่งกว่าใช้ยาผีบอก ขนุนมองดูคณินที่เดินนำไปหลายก้าว มองไปยังข้างกายของคนตัวสูงอีกครั้ง แล้วบอกกับตัวเองว่ามันยังว่างเปล่า หากอยากจะได้ทำเลที่ดีต่อใจตรงนั้น ก็เลิกคิดหยุมหยิมแล้วเดินหน้าต่อไปได้แล้ว

   จะกลัวอะไรขนุน! ที่ยืนข้างพึ่คณินยังว่าง กะอีแค่เจอเจ้าของที่คนเก่าจะมาหวั่นทำไม!

   มีอะไรต้องกลัว? ยังไม่ถูกเตะโด่งออกมาก็แสดงว่ายังมีสิทธิ์ไม่ใช่รึไง!

   ขนุนปลุกระดมความคิดตัวเองให้ฮึดสู้ขึ้นมา เดินหน้าไม่สนว่าผลจะเป็นอย่างไร ไม่ไปให้สุดทางแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าทางตันหรือต้องไปต่อ จะมายอมแพ้หมดโอกาสเพราะความกลัวได้ยังไง

   ขอโทษด้วยนะครับพี่ลูกตาล ผมชอบพี่คณินจริงๆ และหากจะให้ผมเป็นผู้ชายใจดีเหมือนหน้าตาผมยอมถูกด่าว่าผมมันตัวร้ายก็ยอม!

   “พี่คณินครับ!”เสียงตะโกนเรียกรั้งคนตรงหน้าให้เอี้ยวตัวหันมา

   “.....”

   “พี่คณินแน่ใจรึเปล่าว่าต้องการให้ผมอยู่ใกล้ๆ ตอนนี้จริงๆ ”ขนุนมองแววตาคณินที่มองมา เหมือนใช้ความคิด คณินเองก็มองเจ้าของผิวขาวที่ยืนห่างเป็นวา ไล่มองไปจนถึงมือเล็กที่กำแน่นอยู่ข้างลำตัว ไม่ยอมจะก้าวตามหากไม่ได้คำตอบ

   แน่นอนคณินไม่มีอะไรจะตอบคนที่กำลังคาดหวังคำตอบจากเขา ทว่าคณินก็ไม่ได้ใจร้ายกับคนตรงหน้านัก

   “ใกล้แค่นี้พอจะเป็นคำตอบของพี่ได้รึเปล่าครับ”

   สิ่งที่คณินใช้แทนคำพูดคือการกระทำ การยอมเดินย้อนกลับมาและมายืนอยู่ใกล้คนตรงหน้า “แบบนี้พอจะมั่นใจได้รึยัง”

   “ครับ”ขนุนครางรับเงยหน้าขึ้นสบตากับคณินที่อยู่ตรงหน้าห่างเพียงฝ่ามือลอด เล่นเอาขนุนไม่อยากได้คำตอบเป็นอย่างอื่นอีกเลย

   มันดีต่อใจจนคนตัวเล็กกว่าแทบคลั่ง นั่นไม่ต่างจากการเปิดทางให้ขนุนวิ่งเข้าสู่ใจกลางความรู้สึกของคณินเลย

   “ถ้าอย่างนั้น ก็เลิกทำหน้างุ้มหน้างอได้แล้วครับ”การเด็ดจมูกที่กร๊าวใจที่สุดคงต้องยกให้คณิน สัมผัสหยอกเย้าที่แสนอ่อนโยนมัดใจขนุนไปเต็มๆ จนแทบจะอดทนอดกลั้นไม่ไหว

   อยาก...อยากจับคนตรงหน้าทุ่มลงบนพื้นแล้วจู่โจมซะตรงนี้เลย

   “พี่คณิน.....”

   “อะไรอีกครับ เรียกพี่อย่างกับคนละเมอ”

   “ผม.....ผมขอ”

   “หืม ขอ? ”

   “ผมขอกอดพี่ตรงนี้ได้มั้ยครับ”

   “กอด? ”

   หมับ!

   ขนุนไม่รู้หรอกว่าคนตรงหน้าจะอนุญาตหรือเปล่า แต่ทันทีที่เอ่ยขอออกไปเจ้าตัวก็อ้าแขนกว้างกอดคณินเต็มกอด กอดแน่นซะจนใบหน้าที่แดงเรื่อลามไปจนถึงใบหูจมอยู่ระหว่างอกของคณินด้วยความดีใจ โดยไม่สนว่าคนที่เดินผ่านไปมาจะมองหรือคิดยังไงในตอนนั้น

   “ดูสิๆ น่าอิจฉาจัง ฉันก็อยากมีพี่ชายให้อ้อนแบบนั้นบ้างเหมือนกัน”

   “พี่ชายท่าทางใจดี น่าอิจมากอ่ะแก กี๊สสสส!”

   สองสาวที่เดินผ่านมาเห็นเหตุการณ์ซุบซิบนินทาในระยะผ่านไหล่ ขนุนถึงกับกระอักเลือดในใจเหมือนมีลูกศรขนาดใหญ่พุ่งมาปักด้านหลังและกำกับตัวอักษรโตๆ ว่า ‘น้องชาย’
 
   ขนุนแทบอยากจะปราดเข้าไปกระกาศกร้าวด้วยคำสบถด่าที่หยาบคายที่สุดในชีวิตกับพวกเธอ

   ‘ตาถั่วรึไง! ไม่มีน้องชายคนไหนอยากเอาพี่ตัวเองหรอกโว้ยยย! ’




บ้านขนุน

   “อา.....ไม่มีคนอยู่บ้าน ขโมยขออนุญาตยกทีวีไปแล้วนะครับ!”

   “หนุนลูก!”

   “ผมกลับมาแล้วครับแม่”หญิงสาววัยกลางคนที่หน้าตาตื่นกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมาจากห้องครัวถลาเข้ากอดลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างคิดถึงจนน้ำตาแทบปริ่ม ก่อนจะหอมแก้มฟอดใหญ่ซ้ายขวาอย่างคิดถึงนัก ใบหน้าที่ยังดูสวยสะพรั่งเป็นคุณแม่ยังสาวยิ้มกว้างสองมือเข้าโอบใบหน้าลูกชาย
 
   “กลับมาทำไมไม่บอก ไหนหนุนบอกแม่ว่าจะมาช่วงเย็นๆ ตอนนี้เพิ่งเที่ยงเองนะ หากโทรมาแม่จะได้ขับรถไปรับที่ท่ารถตู้”

   “บอกก็ไม่เซอร์ไพรส์สิครับ”ไม่ต้องบอกว่าขนุนได้รอยยิ้มที่สดใสแบบนั้นมาจากใคร

   “จะต้องเซอร์ไพรส์อะไรอีก แม้ไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ มาไม่บอกเวลาเนี้ยแสบจริงๆ แบบนี้แม่ก็เป็นห่วงน่ะสิ”คนเป็นแม่ส่ายหน้าฟาดมือเบาๆ ไปที่แขนลูกชายที่ชอบทำให้เป็นห่วง

   “โถ่แม่ครับ หนุนโตแล้วอย่าเป็นห่วงเลย แล้วนี่ทำอะไรอยู่ครับ? ”คนโดนบ่นหักเหประเด็นได้อย่างแนบเนียน

   “เก็บของเข้าตู้เย็นครับ แม่เพิ่งกลับมาจากซื้อของข้างนอกน่ะ”

   “ให้ผมช่วยนะครับ”ขนุนคล้องแขนแม่เอียงหัวเข้าซบไหล่อย่างออดอ้อน เธอมองลูกชายที่นับวันจะตัวโตกว่าเธอด้วยแววตาอ่อนโยน คนเป็นแม่ถึงกับยิ้มกว้าง ไม่มีความสุขไหนดีที่สุดเท่ากับลูกชายคนเดียวที่อยู่ตรงหน้าแล้ว
 
   “ไม่ต้องหรอก จะเสร็จแล้ว หนุนเอาของไปเก็บที่ห้องก่อนดีกว่าแล้วลงมากินข้าวเที่ยงพร้อมกัน ยังไม่กินอะไรมาใช่มั้ย? ”

   “ก็แน่สิครับ หิวมากเลย งั้นหนุนเอากระเป๋าไปเก็บแล้วจะรีบลงมานะครับ”ขนุนไม่ลืมที่จะกอดแม่แน่นๆ อีกครั้งให้หายคิดถึงโดยมีสองมือที่โอบตอบกลับมาเช่นกัน ขนุนจะผละออกจากออกแม่แล้วเข้าหอมแก้มซ้ายขวาเหมือนเด็กไม่ยอมโต

   นั่นล่ะชีวิตปกติของสองแม่ลูกที่มีให้ดูแลกันอยู่แค่สองคน

   ขนุนไม่เคยเขินอายที่จะแสดงความรักต่อแม่โดยการกอดการหอม มันคือความอบอุ่นและความรักที่ไม่ต้องปกปิด เพราะไม่มีใครรู้ว่าสุดท้ายเราจะได้แสดงความรักต่อคนที่เรารักที่สุดครั้งสุดท้ายคือเมื่อไหร่ การพรากจากคือฝันร้ายที่เป็นจริงอย่างหลีกหนีไม่ได้

   ขนุนเคยผ่านความเจ็บปวดมาแล้ว แม่ของขนุนก็เช่นกัน

   ความเจ็บปวดในวันที่สูญเสียเสาหลักของครอบครัวไปก็มากพอที่จะย้ำเตือนให้แม่ลูกกอดกุมมือกันให้แน่นยิ่งกว่าวันไหนๆ มันนานมากแล้วตั้งแต่ขนุนยังเด็กแต่ก็จำเรื่องราวได้ทุกอย่าง เหตุการณ์เลวร้ายที่ไม่มีใครลืมเลือน แต่ก็ไม่อยากนึกถึงมัน จดจำไว้เพียงความรู้สึกผูกพันที่ตราตรึงอยู่ในใจของกันและกันมากกว่า

   “หนุนอย่าวิ่งขึ้นบันได!”

   “คร้าบบบบ!”

   “จริงๆ เลยลูกคนนี้”ผู้เป็นแม่มองแผ่นหลังที่เคยเล็กจ้อยแต่บัดนี้กลับกว้างขึ้นพร้อมกับส่วนสูงที่ไม่ใช่เด็กน้อยอีกต่อไปด้วยรอยยิ้ม ละสายตาจากขนุนที่วิ่งตึงตังหายขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านไปยังภาพถ่ายสีซีดจางแต่กรอบภาพยังคงเหมือนใหม่เพราะถูกดูแลทำความสะอาดทุกวัน รอยยิ้มหวานและดวงตาที่อ่อนแสงลงพึมพำกับรูปภาพที่วางอยู่ในตู้แก้วทรงสูงราวกับคนในภาพยังมีชีวิต

   “ดูลูกเราสิคะ โตแต่ตัวจริงๆ เลย”

   เสียงถอนหายใจดังขึ้นเบาๆ ก่อนจะส่ายหน้ายิ้มและเข้าครัวไปจัดโต๊ะทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาสองคนแม่ลูก ซึ่งปกติที่บ้านจะมีป้าขิมผู้ที่แม่ของขนุนจ้างมาเป็นทั้งแม่บ้านและเพื่อนคุยด้วย แต่เพราะวันนี้เป็นวันพระเธอจึงให้ป้าขิมกลับไปกินข้าวกับลูกๆ ที่บ้าน หลังจากที่ตอนเช้ามาช่วยทำกับข้าวใส่บาตรพระแล้ว

   “อดเจอป้าขิมเลย กะจะแซวสักหน่อยว่าสาวสวยขึ้นเยอะ”

   “ก็เราไม่บอกล่วงหน้าว่าจะมาเร็ว แม่ก็บอกป้าแกไว้ว่าให้มาอีกทีตอนเย็น แล้วให้ชวนเจ้าโด่งมากินข้าวแล้วกินขนมด้วย”วันนี้เป็นวันดีอีกวัน เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันเกิดของประภัสสรผู้เป็นแม่ของขนุน เธอเลยชักชวนคนใกล้ชิดมากินข้าวด้วยเป็นมื้อพิเศษๆ

   “เจ้าโด่งตัวซนตัวแสบน่ะเหรอครับ”ขนุนนึกถึงเจ้าเด็กแสบที่แก่แดดเป็นที่หนึ่ง อายุคือเด็กประถมแต่ใจนี่ไปมหาลัยแล้วก็ว่าได้

   “ใช่ ว่างๆ ก็มาเล่นที่บ้านบ่อย แล้วกลับพร้อมป้าขิมตอนเย็น”คนเป็นแม่พูดพร้อมกับตักของที่ขนุนชอบอย่างหมูทอดใส่จานให้ รู้ว่าขนุนไม่ชอบมะระยัดไส้แต่กินไก่สับข้างในได้ก็ตักเอาแต่ไส้แล้วใส่จานให้อย่างรู้ใจ

   “ไม่ได้เจอตั้งหลายเดือน สงสัยจะแสบขึ้นกว่าเดิมน่าดู”ขนุนหัวเราะรินน้ำเย็นๆ ใส่แก้วแล้วเลื่อนให้แม่

   “เสมอต้นเสมอปลายล่ะเจ้าโด่งน่ะ ว่าแต่หนุนเถอะ.....เป็นยังไงบ้างครับ แม่อยากคุยต่อจากโทรศัพท์เมื่อหลายวันก่อน”จู่ๆ คนเป็นแม่ก็วางช้อนประสานมือรองคางมองลูกชายตรงหน้าที่กลืนข้าวคำโตตามด้วยยกแก้วขึ้นดื่มน้ำอึกใหญ่ สายตาเลิ่กลั่กเขินอายผสมปนเปไปหมด

   “เรื่องอะไรครับ”

   “อย่าทำเป็นไม่รู้ คนที่หนุนชอบ ตอนนี้เรื่องเป็นยังไงบ้างแล้ว”

   “แม่ก็ถามไม่อ้อม”

   “อ้อมแล้วแม่จะรู้เรื่องเมื่อไหร่ล่ะ”ขนุนชั่งใจอยู่ว่าจะบอกเรื่องคณินให้แม่ฟังดีหรือเปล่า แต่ส่วนหนึ่งก็ยังไม่มั่นใจเพราะอีกฝ่ายก็ไม่ได้ยกธงเขียวให้เห็นกันซึ่งๆ หน้าว่าขนุนมีสิทธิ์เข้าไปครอบครองใจได้หรือไม่ ที่แล้วมามีแต่เรื่องกำกวมไม่ชัดเจน
 
   แม้ขนุนพยายามจะทำให้มันชัดเจนแต่ก็ยังคงเลือนรางกับคนที่มองมาอยู่ดี แต่ถึงอย่างนั้นขนุนก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะต้องยอมแพ้ เข้าใจว่าคณินเป็นผู้ชายที่ชอบผู้หญิง ความใจดีที่คณินมอบให้ก็ใช่ว่าจะต้องมองว่าอีกฝ่ายมีใจต่อตัวเอง คณินปฏิบัติต่อขนุนเหมือนคนพิเศษแต่ความเป็นจริงแล้วก็อาจจะแค่เอ็นดู แต่แค่นี้ขนุนก็พอใจแล้ว

   “ว่าไง เงียบคืออะไรครับ? ”

   “โถ่แม่ครับ ตอนนี้ยังบอกไม่ได้หรอก ขอหนุนคิดอีกสักหน่อย โม้ออกไปกลัวขายขี้หน้าเพราะเขาไม่รัก”

   “ใครกันจะไม่ชอบลูกแม่ ออกจะน่ารักน่าตีขนาดนี้”คนเป็นแม่เอื้อมมือไปบีบแก้มลูกชายตัวเองเบาๆ ย้ายไปมาอย่างมันเขี้ยว

   “แม่อ่า! ไม่เคลมว่าน่าตีได้มั้ย สรรพคุณไม่ชวนซื้อเลย”ขนุนทำปากแบนกะพริบตาใสเหมือนงอนคนตรงหน้า

   “เอ้า ก็มันจริงนี่ จะให้แม่เคลมว่าหนุนลูกแม่เรียบร้อย พูดน้อย ขี้อายเหรอ”คนเป็นแม่เย้าหยอก

   “โกหกสักนิดก็ได้ครับ”

   “เจ้าลูกคนนี้!”

   ระหว่างที่สองแม่ลูกกำลังพูดคุยกัน โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะของผู้เป็นแม่ก็สว่างขึ้น การแจ้งเตือนของไลน์เด้งขึ้นมา เจ้าของโทรศัพท์จึงคว้าเข้าเปิดอ่าน อมยิ้มให้กับข้อความที่พิมพ์มาค่อนข้างยาว ก่อนจะพิมพ์ตอบแล้ววางโทรศัพท์

   “ใครเหรอครับ เอ๊ะ! หรือว่ากิ๊กกับใครอยู่เห็นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่”

   “พูดเพ้อเจ้อน่ะหนุน เพื่อนแม่ที่รู้จักต่างหาก หนุนคงจะจำไม่ได้เพราะตอนนั้นหนุนเด็กมากคุณรีเขาใจดีกับลูกมากๆ เลยด้วย เคยซื้อของเล่นให้ตั้งหลายอย่างตอนเด็กๆ แต่สุดท้ายก็ยอมทิ้งของเล่นไปเล่นกับคุณพี่เขาอยู่ดี วันนี้คุณรีส่งข้อความมาอวยพรวันเกิด และบอกว่าจะส่งของขวัญมาให้ เข้าใจรึยังครับ”

   “หว้า อดแซวต่อเลย”ขนุนถอนหายใจแรง จนผู้เป็นแม่ต้องง้างมือขึ้นกลางอากาศอยากจะฟาดสักที แต่ก็นั่นแหละแค่คิด พออีกฝ่ายส่งสายตาอ้อนหวานๆ มาก็ลดมือลงแทบไม่ทัน

   ประภัสสรรู้ว่าขนุนชอบพูดแบบนั้นเพราะไม่อยากให้เธอรู้สึกว่าการมีขนุนอยู่จะเป็นภาระชีวิตให้เธอไมมีความสุขในความรัก ประภัสสรรู้ว่าขนุนไม่ใช่เด็กใจแคบและหวังให้แม่ของตัวเองมีความสุข ไม่ต้องอยู่แบบเหงาๆ โดดเดี่ยวไปวันๆ แต่เธอเองกลับคิดว่าตัวเองพอแล้ว ในใจไม่มีอะไรต้องให้เติมอีก เธอได้รับความรักจนล้นแม้กระทั่งจากสามีที่จากไปแล้วและจากลูกของตัวเอง
 
   มีแต่ขนุนมากกว่าที่เธออยากจะให้มีความสุขไม่แพ้ตัวเธอเอง ไม่อยากให้ต้องคิดว่าต้องคอยเติมให้คนอื่นมีความสุขจนลืมนึกถึงหัวใจตัวเอง ขนุนมักจะเป็นแบบนั้น ร่าเริง สดใส แต่ข้างในกลับมีรูเล็กๆ ที่มองไม่เห็น บางครั้งประภัสสรก็ไม่อาจเติมรูรั่วเหล่านั้นให้เต็มได้ เธอทำหน้าที่แม่และพ่อในคนคนเดียวกันย่อมรู้ว่ามันไม่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนอย่างที่ใจคิด

   “ว่าแต่.....คุณพี่ที่แม่หมายถึงนี่ใครเหรอครับ ไม่ยักรู้ว่าผมรู้จักคนชื่อแบบนั้นด้วย”

   “อาจจะนานมาก หนุนคงจำไม่ได้.....ก็ตอนนั้น”

   กิ๊งก่อง!

   ไม่ทันที่ประภัสสรจะพูดอะไรมากไปกว่านั้น เสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน

   “สงสัยจะเป็นไปรษณีย์ หนุนเก็บโต๊ะด้วยนะครับ แม่อิ่มแล้ว เดี๋ยวแม่ออกไปเอาของแป๊บนึงล้างจานด้วยล่ะ”แม่ของขนุนเอื้อมมือมาแตะหลังมือลูกชายของตัวเองเบาๆ เป็นการบอก ก่อนจะรีบร้อนลุกออกไปในทันที

   “อ่าครับ.....”ขนุนพยักหน้าลุกขึ้นเก็บถ้วยเก็บจานบนโต๊ะตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด จัดการกวาดเก็บกระทั่งล้างจานคว่ำไว้เรียบร้อย เมื่อเห็นว่าผู้เป็นแม่ออกไปนานเลยเดินตามออกไป แต่ดูเหมือนคนเป็นแม่จะเดินเข้าบ้านมาซะก่อนพร้อมกับหิ้วถุงกระดาษใบหน้าสีดำเข้ามาหน้าตายิ้มแย้ม

   “ไม่ใช่พี่ไปรฯ หรอกเหรอครับ? ”ขนุนสงสัยเพราะดูยังไงของที่หิ้วมาก็ไม่น่าจะใช่พัสดุที่ทางไปรษณีย์นำมาส่ง

   “อืม พอดีมีคนเอาของมาให้จากคุณรีที่แม่บอกเมื่อกี้จำได้ไหม”

   “อ๋อครับ แล้วแม่คุยกับใครอยู่ตั้งนานจนผมจะออกมาตามแล้วเนี้ย”ขนุนยื่นมือเข้าไปช่วยถือถุงกระดาษจากมือแม่ทำท่าชะเง้อมองออกไปข้างนอกก็ไม่เห็นใคร

   “จริงสิ คนที่แม่เจอเมื่อกี้คือคนที่หนุนถามถึงนั่นแหละ แต่น่าเสียดายที่แม่พยายามชวนเค้าเข้าบ้านเราแล้วแต่อีกฝ่ายดันมีธุระด่วนซะอย่างนั้น ตอนนี้ดูเหมือนจะโตขึ้นเยอะเลยจนแม่แทบจำไม่ได้ เค้าสูงกว่าลูกอีกนะรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาเชียว”

   “คุณพี่ที่แม่พูดถึงน่ะเหรอครับ? ”ขนุนขมวดคิ้วถามเอียงหน้าครุ่นคิด

   “อื้ม”

   “หนุนไปไหนลูก! ”จู่ๆ ขนุนก็วิ่งออกไปคล้ายอยากรู้อยากเห็นอย่างกะทันหัน วิ่งออกไปรองเท้าก็ไม่ใส่เพื่อที่จะดูหน้าว่าคุณพี่ที่ว่าเป็นใคร ขนุนออกไปก็เห็นแผ่นหลังที่สวมเสื้อเชิตสีขาวผ่านซี่ประตูรั้วแว็บๆ ซึ่งอีกฝ่ายกำลังเดินข้ามไปอีกฝั่งถนนแคบๆ ในซอยหมู่บ้านไปยังรถที่น่าจะจอดอยู่ ขนุนมองไม่ชัดเจนพยายามชะเง้อสุดความสูงแต่ดันมีรถดูดส้วมคันใหญ่ของเทศบาลผ่านมาบังซะก่อน จนคนที่ต้องการเห็นหน้าก็ดันขับรถสวนกลับออกไปพอดีจนไม่ได้เจอ

   “ออกมาดูพี่เขาเหรอหนุน? ”

   “ครับ”

   “ทันเจอมั้ย? ”

   ขนุนส่ายหน้าไหวไหล่“ไม่ครับ”

   “ไม่เป็นไร ไว้ครั้งหน้าอีก เข้าบ้านเถอะ”

   ‘ตอนเด็กๆ มีคนที่เราจำไม่ได้ด้วยเหรอ แปลกจัง?’






ติดตามตอนต่อไป >>>



ขอบคุณนักอ่านที่แวะมาอีกครั้งค่า  :กอด1:

โดย หลานฮวา

หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 13 อัปเดตแล้ว!! 11/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 11-04-2019 14:06:02
 :L2: :pig4:

หรือว่าโลกจะกลม
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 13 อัปเดตแล้ว!! 11/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 11-04-2019 14:20:35
 :hao4:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 13 อัปเดตแล้ว!! 11/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 11-04-2019 23:35:47
สงสัยจะใช่แน่ๆ
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 13 อัปเดตแล้ว!! 11/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 12-04-2019 08:10:37
ขอเชียร์ให้คุณพี่คนนั้นคือพี่ไม้เอกได้ไหม  :m23:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 14 อัปเดตแล้ว!! 12/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 12-04-2019 14:28:35



ขนุนลูกที่ 14




   ขนุน : พี่คณินอยากได้ของฝากอะไรบ้างครับ พรุ่งนี้ผมจะกลับแล้ว
   
   Kanin : ไม่ครับ ขนุนกลับมาปลอดภัยก็พอ

   ขนุน : ผมกลับมาบ้านนะครับ ไม่ได้ลาไปรบ 

   Kanin : พี่อวยพรเรื่องเดินทางครับ

   ขนุน : แหะๆ ชอบคุณครับ

   Kanin : ชอบ? จะอ้างว่านิ้วเบียดอีก?

   ขนุน : มุกเก่าเอามาเล่นใหม่ไม่ได้เหรอครับ

   ขนุน : (สติ๊กเกอร์ส่งสายตาอ้อนวอน)

   Kanin : มัน out แล้วคับ

   ขนุน : ก็.....ผมบอกหลายรอบแล้วว่าชอบพี่

   Kanin : ครับคุณน้องขนุน

   ขนุน : ฮือออออ

   Kanin : ฮือ? อะไรครับ

   ขนุน : เปล่าครับ ผมครางเฉยๆ

   Kanin : อย่าครางครับ พี่ไม่ถนัดคุย Dirty Talk

   ขนุน : (สติ๊กเกอร์เขิน)

   ขนุน : ผมไม่ได้สื่อแบบนั้น โถ่ พี่คณินทำผมเสียหาย รับผิดชอบเลย T^T

   Kanin : โอ๋ พี่ล้อเล่นครับ

   ขนุน : ล้อเล่นแต่ทำให้ผมคิดจริงนะครับ รับผิดชอบไหวมั้ยล่ะครับ

   Kanin : ได้ครับ

   ขนุน : Yessss

   Kanin : xx/xx/2019 13.00 น.

   ขนุน : คืออะไรครับ???

   Kanin : วันเวลานัด พี่จะรับผิดชอบดูแลช่องปากให้ฟรีไม่คิดเงินเลยก็แล้วกัน มาเป็นคนไข้ตามที่สัญญากับพี่ด้วยนะครับ

   ขนุน : พี่คณินครับ ผมดีใจจนน้ำตาจะไหลเลย

   ใครจะไปรู้ว่าขนุนแทบอยากจะวิ่งเอาหัวไปจุมชักโครกกับคำตอบที่ได้

   Kanin : รู้นะว่าประชดพี่น่ะ เอาเถอะดึกแล้วนอนได้แล้วนะครับ แล้วเจอกัน

   ขนุน : ครับ

   Kanin : (สติ๊กเกอร์จุ๊บหน้าผาก)

   “พี่ทำอย่างนี้ฆ่าผมเถอะ อยากกลับไปเจอหน้าไวๆ แล้ว”

   คนที่วางโทรศัพท์แนบอกแดดิ้นอยู่บนเตียงของตัวเองไปมา หัวใจเต้นระรัวกับสติ๊กเกอร์ตัวเดียวที่ทำเอาเจ้าของแก้มขาวเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ บรรยากาศชวนฟินจนขนุนต้องควานหาหูฟังเพื่อใส่ดนตรีลงไปในหัวใจที่เต้นระรัวของตัวเอง แต่เพราะของที่อยากได้อย่างหูฟังขนุนดันไม่ได้หยิบมาด้วยจากหอ เลยต้องเปิดลิ้นชักใกล้เตียงใช้อันเก่าที่สำรองไว้ที่บ้าน นานครั้งถึงจะเปิดลิ้นชักดูสักที สายตาของขนุนก็สะดุดเข้ากับกล่องเหล็กที่อดีตเคยเป็นกล่องช็อกโกแลตใบเล็ก มันค่อนข้างเก่าแล้วแต่ยังมีสภาพดีอยู่

   บางอย่างทำให้ขนุนต้องเปิดมันดูอีกครั้งด้วยอารมณ์ระลึกความหลังที่จำได้รางๆ

   กึก!

   ฝากล่องถูกเปิดออกค่อนข้างยาก แต่ข้างในดูเหมือนจะไม่ได้มีอะไรสำคัญไปกว่าลูกอมลูกกวาด บ้างก็มีห่อลูกอมที่กินแล้วแต่ขนุนก็เลือกที่จะเก็บไว้ ความทรงจำบางๆ วัยเด็กจึงย้อนกลับมา

   ขนุนจำได้ว่ามีคนใจดีให้ ทุกครั้งที่เขาร้องไห้ก็ได้ค่าจ้างปิดปากเป็นลูกอมพวกนี้แหละ แต่เพราะช่วงนั้นขนุนฟันผุถูกแม่สั่งห้ามพวกของหวานน้ำตาล ขนุนเลยจำต้องแอบเอามาเก็บไว้และร้องไห้หนักเพราะแอบกินลูกอมที่เก็บไว้จนปวดฟัน กระทั่งเลือกที่จะเก็บไว้แทนที่จะกินให้หมด เก็บจนมันมีจำนวนเยอะเท่ากับจำนวนครั้งที่ขนุนได้รับจากพี่ชายใจดีในตอนนั้น

   แต่น่าเสียดายที่ขนุนจำหน้าคนคนนั้นไม่ได้ซะแล้ว นึกยังไงก็จำได้เพียงมือที่หยิบยื่นลูกอมพวกนี้ให้เขาก็เท่านั้น

   “กินสักเม็ดมันคงยังไม่หมดอายุหรอกมั้ง”

   ลูกอมรสหวานติดลิ้นถูกแกะออกจากห่อพลาสติกที่เหนียวหนืดก่อนโยนใส่ปาก ขนุนล้มตัวลงนอนจัดการเปิดเพลงที่ตัวเองชอบแล้วนอนแผ่หลาไปบนเตียงยิ้มให้กับเพดานห้อง ทำนองเพลง และรสชาติหวานปะแล่มๆ ในปาก

   สีหน้าพาฝันช่างมีความสุขจนดวงตาระยิบระยับไปหมด



   
   “ต้าฝากบอกนิวด้วยนะว่าวันนี้เลื่อนนัดกินข้าวกันไปก่อน เราจะเอาขนมไปฝากพี่คณิน”

   [ไม่คิดจะกลับหอก่อนรึไง มาถึงก็วิ่งปรู๊ดไปอีกบ้านทันที เดี๋ยวนี้เป็นผู้ชายหลายบ้านนะมึง ]

   “โถ่ต้าแค่แป๊บเดียวเอง แต่อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกนิวนะ เดี๋ยวก็บ่นเราอีก”

   [ก็สมควรมั้ย แล้วนี่จะกลับหอกี่โมง ไอ้ที่บอกแป็บนึงเนี้ยเช้าป่ะ? ]

   “ไม่เช้านาเดี๋ยวก็กลับ แต่อาจดึกหน่อย เอ๊ะ? ต้าเหงาเหรอ”

   [เออดิ]

   “ดูเสียงไม่ค่อยดี หรือทะเลาะกับจ๊ะเอ๋? ”

   [งอนๆ กันนิดหน่อย เอาเป็นว่ากลับเมื่อไหร่โทรมาละกัน]

   “อือ เดี๋ยวเราเอาขนมไปฝาก ให้ต้าเอาไปง้อจ๊ะเอ๋ อย่าเพิ่งทะเลาะกันหนักนะ”

   [เออ ไม่ต้องห่วง ห่วงตัวเองก่อนเหอะ]

   “หึ! งั้นแค่นี้นะต้า”

   ขนุนเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า ก่อนจะคว้ากุญแจสำรองในกระเป๋าที่คณินให้และไขเข้าบ้านไปพร้อมเสียงที่ตะโกนนำส่งสัญญาณให้เจ้าของบ้านลำดับที่ 2 รับรู้

   “ไข่ดาว! หนุนมาแล้วววว!”

   “โฮ่ง! โฮ่ง!”เสียงเห่าขานรับวิ่งไปมาภายในคอกกั้น ท่าทางดีอกดีใจเสียงรองหงิงๆ และหางที่กระดิกจนแทบจะหลุดเป็นอันรู้กัน

   “ฮันแน่! คิดถึงเราอ่ะดิ”ขนุนเข้าไปเปิดคอกกั้น ปล่อยไข่ดาวให้ได้วิ่งออกมา ขนุนเข้าใจดีว่าทำไมถึงไม่ยอมปล่อยให้ไข่ดาวได้วิ่งไปรอบๆ บ้านเวลาที่คณินไม่อยู่ เพราะจากที่คณินบอกเรื่องที่ไข่ดาวชอบแอบปีนรั้วหนีไปเที่ยวเลยต้องใส่คอกกั้นสูงๆ เอาไว้
 
   เจ้าหมาตัวแสบวิ่งกระโจนเข้าหาขนุนอย่างดีใจ จนคนร่างเล็กล้มลงนั่งจนถูกอีกฝ่ายเข้าเลียหน้าเลียตากว่าจะได้เข้าบ้านก็แทบหมดเรี่ยวแรง ทันทีที่เข้าไปบรรยากาศคุ้นเคยก็ทำเอาขนุนยิ้มแก้มปริ สูดหายใจเอากลิ่นบรรยากาศที่แสนคิดถึงและทิ้งตัวลงบนโซฟา ก่อนที่เจ้าไข่ดาวจะกระโดดขึ้นมานั่งข้างๆ แล้วจ้องหน้าขนุนเอียงคอเหมือนมีคำถาม

   “เราไม่อยู่หลายวันมีใครมาบ้านพี่คณินนอกจากเราป่ะ....”

   “ชิ่ว!”

   “เฮ้ย! อย่ามาจามใส่เราดิ เราตัวเหม็นขนาดนั้นรึไง นี่อาบน้ำแล้วนะ”คนคุยเก่งหันไปดุไข่ดาวก่อนจะได้ยินเสียงรถที่ขับเข้ามาจอดในบ้าน ไม่บอกก็รู้ว่าเป็นใคร เล่นเอาทั้งคนทั้งหมาดีดตัวลุกและแข่งขันกันไปยืนรอรับเจ้าของบ้านหน้าสลอน ไข่ดาวเองก็คงไม่อยากน้อยหน้าเข้าไปรับคณินถึงประตูรถฝั่งคนขับที่หอบเอาของลงจากรถหลายอย่างจนขนุนต้องอาสาเข้าไปช่วยถือและช่วยนำของไปเก็บ คณินเข้าครัวไปเทอาหารเม็ดให้ไข่ดาวเต็มถ้วย และพากันออกมาพูดคุยกันที่ห้องรับแขกของบ้าน
 
   ตั้งแต่ลงรถมาขนุนก็สังเกตเห็นว่าคณินดูเหนื่อยๆ เลยเลือกที่จะเป็นเพื่อนคุยและเล่าถึงกิจกรรมที่บ้านของตัวเอง ก่อนจะหยิบเอาของฝากมาให้

   “บอกแล้วไงว่า คนกลับมาปลอดภัยไม่ต้องเอาอะไรมาฝาก”

   “มันเป็นธรรมเนียมครับ ไปไหนมาไหนก็ต้องมีของฝากถึงจะถูก”

   “เยอะขนาดนี้พี่ขอแบ่งไปให้เพื่อนช่วยกินนะ”

   “ตามสบายเลยครับ ผมก็เอามาเผื่อพี่วินพี่โจมนั่นแหละครับ เอ่อ.....พี่คณินครับ”

   “ครับ? ”คนถูกเรียกหันไปตามเสียง มองขนุนที่จู่ๆ ก็นิ่งลง คณินจับสายตาได้ว่าอีกฝ่ายดูเหมือนมีบางอย่างในใจ เลยเลือกที่จะรอให้ขนุนพร้อมที่จะพูดออกมาเอง ตามความสบายใจ

   “หลังจากวันนั้นเหตุการณ์ที่ห้าง พี่คณินโอเคแล้วใช่มั้ยครับ ผมแค่ถามเพราะดูสีหน้าพี่คณินเหนื่อยๆ เหมือนมีเรื่องกลุ้มใจ”ขนุนก็ลังเลไม่น้อยว่าควรจะพูดเรื่องแบบนี้ออกไปหรือเปล่า แต่ถ้าไม่พูดก็คงไม่รู้

   “พี่ไม่เป็นไรแล้ว ก็เสียขวัญนิดหน่อยเหมือนกัน”คนตรงหน้ายิ้ม แอบถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดต่อ “หลังจากวันนั้นพี่รู้สึกโล่งขึ้น ต่อให้เจอลูกตาลพี่คงไม่รู้สึกอะไรแล้ว อาจจะแค่.....”คิ้วได้รูปขมวดเหมือนคิดบางอย่าง แต่สายตากลับมองไปที่ขนุนที่นั่งฟังคณินตาแบ๊ว เหมือนกำลังลุ้นตอนจบของละครสักเรื่อง

   “ยังไงต่อครับ”

   “ก็อาจจะแค่คิดว่า พี่เสียเวลาไปกับเรื่องแบบนั้นนานไปหน่อย เจ็บนานไปหน่อย คิดมากนานไปหน่อยเท่านั้นเอง”

   “นั่นเค้าไม่เรียกว่านิดหน่อยแล้วนะครับ”เจ้าของแขนเล็กกอดหมอนอิงแน่น ท่าที่ฟึดฟัดเล็กน้อยเหมือนเคืองคนตรงหน้าอยู่ลึกๆ 

   “ก็ไม่รู้สิ แต่บางทีพี่อาจจะไม่ฉลาดในเรื่องพวกนี้ก็ได้”

   “พี่คณินครับ”สีหน้าหงอยๆ เขยิบเข้ามาใกล้ เอื้อมมือเล็กมาแตะตรงลำแขนที่โผล่พ้นแขนเสื้อแล้วพูดขึ้น “ไม่มีใครฉลาดในเรื่องพวกนี้หรอกนะครับ ทั้งพี่ ทั้งผมต่างก็สามารถผิดพลาดกับเรื่องพวกนี้ได้ทั้งนั้น ความรักคือการกล้าได้กล้าเสียครับ ถ้าเราไม่ยอมทำอะไรสักอย่างกับความรู้สึกข้างใน ก็ไม่มีทางหรอกครับที่จะรู้ว่าผลมันจะออกมาเป็นยังไง อย่าไปกังวลเรื่องที่แล้วๆ มาเลยนะครับ เริ่มต้นใหม่ได้เสมอถ้าพี่คณินพร้อม”

   “ถามจริง.....ใครสอนให้พูดอะไรแบบนี้”คนถูกปลอบขยับตัวมาใกล้ ยื่นหน้าเข้าไปมองตาใสๆ ที่กลอกกลิ้งไปมา

   “ก็....ได้ยินมาจากคนอื่นบ้างน่ะครับ แต่ที่บอกว่าให้พี่คณินเริ่มต้นใหม่ อันนี้ผมพูดจากใจนะครับ”

   “ใจเราน่ะเหรอ? ”สายตาของคณินที่จ้องมองขนุนผ่านแววตากลมใสเอ่ยถามขึ้น คล้ายอยากดูปฏิกิริยาของขนุนว่าจะตอบออกมาอย่างไร คณินเองก็ชักไม่แน่ใจว่าทุกครั้งที่เขาจงใจหลีกเลี่ยงและถอยห่างความรู้สึกของขนุนนั้นมันใจร้ายมากเกินไปไหม

   ตอนแรกก็แค่คิด.....คิดว่าขนุนเป็นคนนี่น่ารัก อยู่ด้วยแล้วสบายใจไม่ได้มีความรู้สึกแอบแฝงไปมากกว่าความเป็นพี่เป็นน้อง แต่ช่วงหลังๆ คณินกลับไม่แน่ใจแล้วว่าตัวเองคิดยังไงกับคนตรงหน้ากันแน่ ทุกครั้งที่ขนุนเข้าหาเขาด้วยความรู้สึกตรงๆ ก็ทำเอาคณินไขว้เขวไปเหมือนกัน

   บางทีอาจเป็นเพราะความรักที่จบไม่สวยจึงทำให้คณินรู้สึกว่าเขายังไม่พร้อมที่จะมองใครหรือชอบใครได้ในตอนนี้ก็เท่านั้น

   “ถ้าผมจะตอบตรงๆ ว่าใช่ล่ะครับ พี่คณินจะบ่ายเบี่ยงคำตอบผมไหม”สายตาจริงจังมองเข้าไปในแววตาของคนตรงหน้า ขนุนได้ต้องการบีบบังคับจิตใจคณินให้ยอมรับเขา แต่แค่อยากให้เอาความรู้สึกที่ให้ไปพิจารณาดูอย่างจริงจังบ้างก็เท่านั้น

   “พี่ขอโทษ”

   “ขอโทษเรื่องอะไรครับผมงงนะเนี้ย ผมว่าคุยเรื่องนี้มันดูเครียดๆ เลิกพูดเรื่องนี้ดีกว่านะครับ ผมไม่ถนัดรับมือ เอิ่ม....เอาเป็นว่าผมกลับก่อนดีกว่าครับ พี่คณินจะได้พักผ่อน”ขนุนยิ้มฝืดดันตัวลุกขึ้นตั้งใจจะให้คนตรงหน้าใช้เวลาส่วนตัวคิดบางอย่าง แต่ทว่ากลับโดนดึงมือกลับมาให้นั่งลงที่เดิม จนขนุนต้องหันไปมองคณินตาเบิกโพลง

   “อย่าเพิ่งกลับสิ รอกินข้าวกับพี่ก่อน แต่ตอนนี้พี่ของีบ 10 นาที เหนื่อยมาก ตกลงนะครับ”

   ไม่ทันที่ขนุนจะได้พูดอะไรออกไปคนตัวสูงจู่ๆ ก็ล้มตัวลงนอนเอาตักขนุนแทนหมอนแล้วจัดการปิดสวิตช์ตัวเองในทันที

   พี่คณินขี้โกง!

   “คะคือ...ผม”

   “ถ้ารังเกียจขนุนจะลุกไปเลยก็ได้นะ พี่โอเค”เสียงพึมพำขยับปากพูดขึ้นในขณะที่ดวงตาทั้งสองข้างปิดอยู่ คนถูกใช้ตักเป็นหมอนแทบจะจับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวเสียด้วยซ้ำ ยิ่งเห็นคนที่ชอบหนุนตักอยู่ตรงหน้า ใครบ้างจะผลักไสได้ลง มีแต่จะทำให้ในใจมันล้นปรี่ไปด้วยความรู้สึกมีความสุขมากกว่า.....สุขแบบเจ็บๆ
 
   “ก็ได้ครับ”เสียงแผ่วงับคำรับอย่างสดุดี

   ขนุนไม่รู้หรอกว่าในความคิดของคณินมองเขาในสถานะไหน แต่สำหรับขนุนแล้ว ไม่เคยมองคณินเปลี่ยนไปจากวันแรกที่เจอ ชอบยังไงก็ยังชอบอยู่แบบนั้น แล้วอย่างนี้ขนุนจะปฏิเสธแล้วลุกไปได้ยังไง

   จนแล้วจนรอดขนุนก็ยอมให้คณินใช้ตักตัวเองต่างหมอนหนุนนอนยืดตัวเหยียดยาวอยู่บนโซฟา ไข่ดาวก็มานอนฟุบหลับอยู่ที่พื้นด้านล่างไม่ห่างเจ้าของเลย ตอนนี้เวลาก็ผ่านมาจนครบ 10 นาทีแล้ว แต่ขนุนกลับยังไม่กล้าปลุกคณินให้ตื่นขึ้น ได้แต่จ้องมองใบหน้าที่หลับสนิทตลอดหลายนาทีที่ผ่านมาด้วยแววตานิ่งเรียบ ซ่อนความรู้สึกบางอย่างไว้ในแววตาอ่อนแสงที่หรี่ลง

   “ถ้าผมบอกว่าชอบพี่อีกครั้ง.....พี่จะยังคิดว่ามันเป็นมุกอีกรึเปล่า”เสียงแผ่วพึมพำมองใบหน้าของคณินที่ยื้อขนุนไว้โดยไม่รู้สถานะ แต่สำหรับขนุนแล้วความรู้สึกของเขาชัดเจนเสมอ ตอนนี้ถึงได้รู้สึกเจ็บที่อกซ้ายแปลกๆ เวลาคิดไปว่าคนตรงหน้าไม่ได้ชอบตอบ

   เอาจริงๆ ก็เหมือนจะหมดแรงวิ่งตาม แต่เพราะคิดว่ายังมีความหวังอยู่บ้างเลยต้องวิ่งต่อไป

   “.....”

   “พี่รู้มั้ย ตั้งแต่ผมเจอพี่จนถึงตอนนี้ควมรู้สึกของผมมันไม่เคยเปลี่ยนเลย นิวก็มักจะเตือนผมอยู่บ่อยๆ ว่าให้ผมเตรียมใจไว้บ้าง แต่ผมคงดื้อแหละเพราะใจของผมมันรั้นกว่าที่ใครๆ คิดเยอะ แต่ไม่ว่ายังไง.....ผมอยากให้พี่รับรู้ไว้ด้วยว่าขนุนคนนี้ชอบพี่จริงๆ นะครับ และคำว่าชอบของผมไม่ใช่ในฐานะพี่ชายแม้แต่น้อย ผมเป็นน้องชายให้พี่ไม่ได้หรอกครับ”

   แววตาที่เคยกลมใสไม่ได้ดูน่ารักอย่างที่เคย แต่มันกลับกร้าวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเหมือนผู้ชายทั่วไป ความวูบไหวที่ซ่อนอยู่ในแววตาราวกับฉายชัดออกมาในเสี้ยวนาทีหนึ่ง

   และตอนนั้นขนุนเลือกที่จะทำบางอย่าง โดยโน้มใบหน้าของตัวเองลงและกดริมฝีปากของตัวเองทาบไปบนเรียวปากของคณินที่ยังคงหลับตานิ่งแล้วขยับเบาๆ ราวกับให้รู้สึกถึงลมหายใจแผ่วๆ จูบที่ไม่ได้เนิ่นนานแต่เขย่าหัวใจของขนุนให้เต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง

   ทันทีที่รู้ตัวว่าใจกล้าทำอะไรลงไป ขนุนก็แทบคำรามให้ลั่นบ้าน

   จูบ จูบพี่คณินไปแล้ว!!!

   มือใหม่ขโมยจูบอย่างขนุนถึงกับลนลาน แอบสับเปลี่ยนต้นขาตัวเองกับหมอนอิงให้คณินหนุนแทน และรีบย่องกลับออกไป

   “ชู้วววว….ห้ามบอกพี่คณินเข้าใจมั้ยไข่ดาว”คนหน้าแดงเป็นกุ้งต้มเก็บคว้าข้าวของสัมภาระของตัวเองได้แล้วก็รีบออกไปในทัน ไข่ดาวทำหน้าที่วิ่งตามไปส่งไม่เห่าใส่สักคำเดียว ก่อนจะวิ่งเหยาะๆ กลับมาหาคณิน ไข่ดาวส่งสี่หน้าสงสัยกับท่าทีของคนทั้งสอง

   พลันเสียงประตูรั้วของบ้านปิดลง คนที่แสร้งนอนหลับก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ ยกนิ้วขึ้นสัมผัสริมฝีปากตัวเองก่อนจะลุกขึ้นนั่งแล้วหันหน้ามองไปยังด้านนอกของบ้านผ่านกระจกใสบานกว้าง จากมุมปากที่แทบไม่ขยับกลับคลี่ยิ้มขึ้นมา ย้ายสายตาไปมองยังปลายนิ้วที่เพิ่งแตะไปยังริมฝีปากตัวเอง

   “ชอบพี่ขนาดนั้นเชียว”





   ปัง!

   เสียงประตูที่ปิดลงพร้อมแผ่นหลังเล็กที่คล้ายหอบโยนดันชิดหลังประตู ใบหน้าเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อและแก้มขาวที่แดงเรื่อมองยังไงก็ปิดไม่มิดด้วยสีหน้าแววตาเป็นประกายขนาดนั้น ทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายไปแอบจูบเขาก่อนแท้ๆ แต่กลับเขินเสียเองจนลนลานไปหมด

   ขนุนอยากจะถลาโยนตัวเองลงไปบนเตียงนุ่มๆ อยู่แล้วเชียวหากไม่มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาซะก่อนชุดใหญ่ไฟกะพริบแทบไม่ทัน

   ก๊อก! ก๊อก!

   ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

   แค่จังหวะขนุนก็รู้แล้วว่าใคร

   “ปะเปิดแล้ว”

   “เคาะไม่เปิด กูเห็นนะเมื่อกี้มึงรีบวิ่งเข้าห้อง ดีนะกูตามมาทัน”คนที่แทบจะพังประตูเข้ามาเป็นนิว ที่มาพร้อมสายตาดุๆ เหมือนจับได้ว่าลูกหนีเที่ยว ส่วนต้าเจ้าของฐานลับห้องข้างๆ ก็ตบไหล่ให้อีกฝ่ายใจเย็นๆ

   “นิว ต้า”

   “ตกใจอะไรขนาดนั้นไอ้ขนุน ดูเหงื่อ ดูหน้า แดงจนจะระเบิด นี่มึงเป็นไรวะ”ต้าชี้นิ้วนิ้ว

   “คือว่า.....”ขนุนไม่พูดต่อแต่เลือกที่จะเดินเข้าไปข้างในห้องโยนสัมพาระต่างๆ ลงบนเตียงนอนแล้วเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตา โดยมีต้าและนิวเดินตามเป็นเงา

   “ถามไม่ตอบ กูมารอมึงตั้งแต่หกโมงเย็นแล้วนะเว้ย ผิดนัดไปหาคนอื่นคิดว่ากูยอมรึไงไอ้ขนุน”

   “ต้าบอกนิว? ”คนตาใสหันไปมองต้า ที่หลบสายตาอย่างไม่รู้ไม่ชี้

   “ก็ ก็มึงไม่หลับหอ...กูรอนานเลยบอกเรื่องมึงไปหาพี่คณินกับไอ้นิว”

   “ขี้ฟ้องอ่ะต้า”

   “ไม่ต้องทำตาค้อนใส่ไอ้ต้ามันเลย ตกลงนี่มึงเป็นอะไร หน้ายังแดงไม่หายเป็นเหี้ยไรเนี้ย ไหนกูดู? ”นิวยื่นมือไปเชยหน้าขนุนที่กะพริบตาปริบเหมือนมีลับลมคมใน

   “เรา ไม่มีอะไร”

   “ไม่มีทำไมต้องหลบตาวะ ท่าทางมีพิรุจ! แบบนี้มึงต้องมีอะไรแน่ๆ ”ต้าขมวดคิ้วจ้องเขม้นยื่นหน้ามาใกล้ขนุน สังเกตความผิดปกติของเพื่อนรักที่ลุกลี้ลุกลนเป็นพิเศษแบบใส่ไข่สองฟอง

   “เอ่อ”ขนุนลุกจากเก้าอี้ที่นั่งตรงโต๊ะอ่านหนังสือ ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดีกับเรื่องที่เกิดขึ้น

   “เอ่อ อ่า อะไรของมึง เดี๋ยวนี้มีอะไรไม่บอก ปิดบังพวกกูสินะ ใช่ซี่! พวกกูมันไม่มีค่ากับมึงแล้วสินะ หึ”

   “เห้ยต้า เราไม่ได้คิดแบบนั้น”

   “งั้นก็บอกมา! ”สองสายตาจ้องมองไปยังขนุนสูดหายใจเข้าลึกทะลุปอดก่อนจะพรูลมออกมาแทบตัวลีบ แล้วตัดสินใจพูด เพราะยังไงก็ไม่มีทางปิดเรื่องนี้กับสองเพื่อนเกลอเป็นแน่

   “เรา.....”คนตั้งใจแทบไม่ไหวติ่งขณะที่ขนุนพูด

   “ว่า? ”

   “เราเผลอไปจูบพี่คณินเข้าอ่ะ”

   “อ๋อ จูบ....”นิวต้าพยักหน้าเข้าใจเหมือนฟังเรื่องทั่วไป แต่ทันทีที่รู้สึกตัวก็แทบพุ่งถลาเข้าโถมใส่ขนุน

   “จูบ!!! ”

   “อือ จูบ ปากกับปาก”อธิบายไปขนุนก็เขินจนตัวแดงแทบเป็นกุ้งต้ม แต่คนฟังถึงกับเหงื่อแตกพลักๆ

   “ขนุน มึง.....”

   “ไม่ต้องห่วง เราทำอย่างละมุนละม่อม พี่คณินไม่รู้ด้วยซ้ำ”ขนุนกระแอมกระไอกำมือป้องปากอธิบาย

   “ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นเว้ย! ”นิวทิ้งตัวลงนั่งบนที่นอนหมดแรง ขยี้หัวตัวเองอย่างไม่ได้ดั่งใจ

   “แล้วต่อไปมึงจะทำยังไง.....”อีกคนที่ตกใจไม่แพ้กันเอามือลูบหน้าอย่างกลัดกลุ้ม กลุ้มแทนคณินที่ไม่รู้ชะตากรรม

   “เราควรจะไปให้ได้มากกว่าจูบสินะ”

   “โว้ยยยย! กูไม่ได้หมายถึงอะไรแบบนั้น”

   “อ้าว”

   “หึ! กูหมายถึงกับพี่คณินเว้ย มึงจูบเค้าโดยที่เค้าไม่รู้ มึงคิดว่าทุกอย่างคอมพลีสแล้วรึไง สติครับสติ! ถ้าเรื่องนี้แดงขึ้นมาแล้วพี่คณินเค้าไม่โอ มึง.....แน่ไอ้ขนุน”นิวปาดปลายนิ้วไปที่ลำคอแล้วจิ๊ปาก

   “ถ้าอย่างนั้น เราก็ต้องรีบทำให้พี่คณินเป็นของเราให้ไวกว่านี้ ขอบใจต้ากับนิวมากที่เป็นกำลังใจให้เรา คืนนี้เราคงฝันดีตลอดคืน ราตรีสวัสดิ์”ขนุนจัดการส่งทั้งสองคนออกจากห้องเสียทันที ก่อนจะมีเสียงตะโกนมาจากอีกฝั่งของประตูห้องเข้ามาอย่างเดือดดาล

   “อย่าให้กูรู้นะว่าตอนเช้ามึงลุกมาซักกางเกงในนะไอ้ขนุน! กูจะฟ้องแม่มึง! ”

   คนที่ทำหูทวนลมได้แต่ยิ้มร่าแล้วกระโดดขึ้นเตียง ไม่สนใจเพื่อนสองคน ที่กลัวว่าขนุนจะทำเรื่องไม่เข้าท่า




   “มึงอยู่ห้องใกล้มันที่สุดแล้วก็ดูมันหน่อยดิวะไอ้ต้า”

   “มึงก็รู้ไอ้ขนุนมันฟังกูซะที่ไหน ดื้อเงียบอ่ะมึงก็รู้สันดานมัน ทำตาใสๆ อ้อนๆ งี้ กูแพ้ว่ะ”

   “กูไม่ได้จะกีดกันหรือทำลายความสุขของมันหรอกนะ แต่เพราะกูไม่อยากให้มันทุ่มสุดตัวเกินไป พอเจ็บแล้วมันลุกยาก”

   “เออ จริงของมึง”

   “กูพยายามไม่หัวร้อนแล้วนะเว้ย แต่มันไม่ได้มึงเข้าใจป่ะ กูดูเป็นเพื่อนใจแคบป่ะวะ”

   “ไอ้นิว กูเข้าใจ กูก็ห่วงมัน แต่อันไหนเป็นความสุขของเพื่อนเราก็ต้องยินดีไม่ใช่เหรอวะ”

   “แต่กูกับมึงจะยินดีให้ขนุนไปทำอนาจารคนอื่นไม่ได้”นิวกัดฟันกรอดข่มใจสุดๆ

   “งั้นมีทางเดียวที่จะทำให้ทุกอย่างถูกต้อง”เสียงดีดนิ้วราวกับมีความคิดดีๆ ผุดออกมา

   “อะไร”

   “ก็รีบๆ ทำพี่คณินรู้ตัวเร็วๆ ยังไงล่ะ”

   “กูกับมึงจะไปทำงั้นได้ไง”

   “ลืมไปแล้วเหรอว่าเราขอใครให้ช่วยได้”

   “พี่โจมกับพี่วิน? ”

   “เออ จะได้ออกหัวออกก้อยกันซักที ส่วนมึงก็กันพี่ไม้เอกดีๆ วันนี้โทรมาหากูถามถึงขนุนเป็นสิบๆ สายจนกูต้องปิดเครื่องหนี”

   “มึงทำดีแล้ว”นิวตบไหล่เพื่อนเบาๆ หยักยิ้มตบท้าย

   “แต่.....”ต้าเม้มปากแห้งๆ แล้วเหลือบไปมองนิวที่ยืนเท้าสะเอวเสยผมอยู่หน้าประตูห้องของตัวเอง

   “แต่อะไรของมึง”

   “แต่กูให้เบอร์มึงไปแทน”

   “.....”ความเงียบครอบงำ สายตาของนิวตวัดไปหาเพื่อนสนิทนิ่งๆ ก่อนคิ้วได้รูปจะขมวดชนเข้าหาแล้วสายตาก็เปลี่ยนไป

   “ไอ้ต้ามึง!”

   “กูง่วงแล้ว ปะไปนอนก่อนนะ”

   “มึงตาย!!!” เสียงแหกปากร้องดังลั่นทันทีที่อีกฝ่ายเข้าจู่โจมล็อกคอแล้วหนีบไว้ใต้รักแร้ ต้าตะเกียกตะกายจนหลุดรอดไปได้ก่อนจะรีบเปิดประตูห้องแล้วหนีไปหลบภัย ทิ้งให้นิวโวยวายอยู่ด้านนอกจนเพื่อนร่วมหอเปิดประตูออกมาชะโงกหน้าด่ากราดถึงบรรพบุรุษเป็นแถบ

   “โถ่เว้ย!”

   “ถือว่าช่วยๆ กันดิวะเห็นมะพี่ไม้แม่งไม่โทรหามึงเลยเลยใช่ป่ะ กลับบ้านมึงไปได้แล้ว เจอกันพรุ่งนี้เว้ย! ”ต้าตะโกนผ่านประตูแล้วปล่อยให้เพื่อนรักหัวร้อนอยู่ข้างนอก

   “ไอ้! ไอ้เพื่อนทรยศ!”







ติดตามตอนต่อไป >>>>


ขอบคุณนักอ่านทุกท่านช่นเคยค่ะ เอามาอัปแบบถี่ๆ แบบต่อเนื่อง :hao3:
ฝากน้องหนุนในตอนต่อไปด้วยน้าาาา  :กอด1:
 :bye2: :bye2:


โดย หลานฮวา


หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 14 อัปเดตแล้ว!! 12/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 12-04-2019 15:51:49
 :L2: :pig4:

ขยับไปอีกก้าว
ขนุนสู้ๆ
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 14 อัปเดตแล้ว!! 12/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 12-04-2019 23:53:34
 :z1:

 :L2: :pig4: :L2:

 o13
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 14 อัปเดตแล้ว!! 12/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 16-04-2019 08:41:15
ขนุน เกือบจะเห็นใจอยุ่ละ แต่ความมั่นของหนูนี่ไม่มีใครเกินจริงๆ
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 15 อัปเดตแล้ว!! 16/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 16-04-2019 15:43:18

ขนุนลูกที่ 15


   

   “อะไรนะไอ้ขนุน มึงบอกเรื่องนี้กับแม่มึงแล้ว? ”คนฟังถึงกับวางแก้วน้ำลงโต๊ะอย่างแรงจนกระฉ่อนออกมาเลอะเทอะ

   “เบาๆ ดิต้า รบกวนคนในร้านกาแฟหมดแล้ว”ขนุนเหลือบไปมองโต๊ะข้างๆ ที่หันมาให้ความสนใจด้วยสีหน้าตึงๆ กับโต๊ะผู้ชายกลุ่มใหญ่ที่คุยกันเสมือนจองร้านทั้งร้านเอาไว้

   “อ้อ ที่ทำผมตั้งๆ แต่งหล่อตั้งแต่เช้าเนี้ย เพราะอารมณ์ดีเปิดตัวว่าที่ลูกเขยกับแม่แล้วว่างั้น”คนเขินจิ้มนิ้วไปบนหยดน้ำบนโต๊ะเผลอลากวนเป็นรูปหัวใจ จนช้างทนไม่ไหวกับอาการหวานเลี่ยนของขนุน

   “ช้าง! อย่าเอามือมาขยี้ผม เดี๋ยวเรามีนัดไปทำฟันอีก”ขนุนโยกหัวหลบมือหนาของช้างที่ ก่อนจะปัดเส้นผมให้เข้าทรงอีกรอบแต่ก็ทำไม่ได้แล้ว กลับไปเป็นทรงเดิมเหมือนไม่ได้รับการจัดแต่งใดๆ ทำเอาขนุนหน้างองุ้มแก้มป่องงอนคนทำ จนหลายๆ มือต้องผลัดกันมาบีบแก้มคนละทีสองทีในความสำออย

   “ไม่ต้องบอกก็รู้มึงจะไปหาใคร พี่คณินอ่ะดิ”แจ็กพูดไปก็เอาหลอดมาชี้หน้าหรี่ตามองยิ้มเล่ห์ใส่ขนุนอย่างรู้ทัน

   “อืม ก็นัดไว้แล้วสัญญากันไว้แล้วด้วย”

   “ถึงเจ็บมึงก็ยอมว่างั้น”ต้าเท้าคางมองขนุนแล้วทำใจ

   “เรายอมเจ็บเรื่องทำฟัน แต่เรื่องอื่น.....เราไม่ยอมหรอก”

   “เดี๋ยว! มึงกำลังสื่ออะไรไอ้ขนุน!”ขณะที่นิวพูดเสียงดังขึ้น อีกคนที่เบี่ยงหน้าหลบตากลับไม่ใช่ขนุนแต่เป็นแจ็ก “แล้วไอ้แจ็ก มึงจะหลบสายตากูทำเหี้ยอะไร หรือมึงกับไอ้ขนุนมีเรื่องอะไรกัน? ”

   “เปล่าเพื่อน”คนมีความลับเสียงสูง หัวเราะกลบเกลื่อนประหนึ่งมีเรื่องน่าขำ “ฮ่าๆ กูเหรอจะมีอะไร”

   แจ็กก็แค่เป็นแหล่งส่งข้อมูลอย่างว่าให้ใครบางคนที่มาทำเสียงเว้าวอนให้ก็เท่านั้น จะเป็นใครไปได้ถ้าไม่ใช่...

   “อย่าดุแจ็กดินิว แจ็กแค่ส่งเว็ปที่เราขอให้เอง”คนบาปสารภาพ

   “เว็ปไรวะ!”ทั้งช้างและต้าประสานเสียงกันถามอยากรู้ขึ้นมา คนที่มือไว้อย่างต้ารีบคว้าโทรศัพท์ของขนุนที่วางอยู่บนโต๊ะไปหาคำตอบ

   “เหี้ย! ”

   “อะไร เอามาให้กูดูบ้าง”

   “เราแนะนำปิดเสียง.....”

   เจ้าของโทรศัพท์เกาแก้มขาวเอ่ยเตือน แต่ดูเหมือนจะไม่ทัน เพราะทันทีที่นิวคว้าแย่งโทรศัพท์ไปจากมือของต้าได้เสียงไม่พึงประสงค์ก็ดังขึ้นจนคนทั้งร้านหันมามองตาเดียว
 
   “อ้า....ซี๊ดดดด! ฮือ....”

   “ไอ้นิวมึงปิด! เร็วๆ คนหันมามองทั้งร้านแล้วเว้ย!”

   “ฉิบหาย! ปิดไงวะเนี้ย! ทำไมพวกมึงไม่บอกว่านี่มัน....!”นิวตาเท่าไข่ห่านหาปุ่มปิดมือลนลาน หันไปกราดด่าต้ากับนิวใบหน้าแดงก่ำด้วยความอาย ทำเอาเพื่อนคนอื่นๆ หัวเราะขำกันจนท้องแข็ง เป็นจังหวะเดียวกับที่เสียงประตูร้านเปิดออกและลูกค้ารายใหม่มาเยือน
   
   ด้วยเหตุนี้ทุกคนเลยสะกิด กระทุ้งศอก และชะงักงันหยุดหัวเราะไปในบัดดล

   “ถ้าอยากขนาดนั้นไม่รอกลับบ้านก่อนล่ะครับ” เงาสูงที่ทอดทับลงมาจากเบื้องหลังของนิวทำเอาขนุนกลืนน้ำลายอึกใหญ่

   “พี่ไม้เอกสวัสดีครับ”ทุกคนรีบยกมือไหว้ตามมารยาท อีกฝ่ายรับมือไหว้ ก่อนหันไปพยักหน้าให้เพื่อนที่เดินไปสั่งน้ำที่บาร์เครื่องดื่มของร้าน

   “มันไม่ใช่ของผม”

   “ยอมรับก็ไม่มีใครว่าอะไรหรอกนะ แต่ช่วยมีมารยาทหน่อยนะครับน้องนิว”น้ำเสียงสุภาพฟังก็รู้ว่าอีกฝ่ายประชดใส่ ยิ้มร้ายๆ กับทรงผมตัดสั้นมันดูดุดันขึ้นมากกว่าแต่ก่อนเยอะเลย แบบนี้คนอื่นๆ ถึงไม่กล้าต่อปากด้วย

   “ก็ผมบอกแล้วว่าไม่ใช่ของผม ของไอ้ขนุน!”คนถูกเข้าใจผิดยัดโทรศัพท์กลับให้เจ้าของที่ยิ้มแห้งๆ อีกสามคนก็นั่งมองตากันนิ่งๆ เหมือนเล่มเกมใครหายใจก่อนคนนั้นแพ้

   “โทรศัพท์ของผมเองครับพี่ไม้เอก พอดีนิวอยากดู แต่บังเอิญผมเปิดระดับเสียงดังค้างไว้ มันก็เลย....”

   “ไอ้ขนุน ถ้ามึงจะอธิบายแบบนั้นสู้มึงเงียบไปเลย คนอื่นมองกูผิดหมด”

   “พี่ไม่รู้หรอกนะว่าใครถูกใครผิด แต่เอาเถอะ.....คนอยากดู พี่จะถือว่าไม่ได้ตั้งใจ”ไม้เอกไหวไหล่แอบเหลือบตามองนิว แล้วหันไปยิ้มให้กับขนุน “แล้วนี่ขนุนมานั่งนานรึยัง ถ้าพี่รู้คงได้เลี้ยงน้ำเราแล้ว”

   “ขอบคุณครับ ผมไม่รบกวนพี่อ่ะดีแล้ว ขอบคุณสำหรับครั้งก่อนด้วยนะครับ ที่เลี้ยงเหล้าพวกผม”

   “สบายมาก ว่างๆ ก็ไปกันอีกนะ แต่ขอเป็นพี่กับขนุนสองคนนะครับ”

   “เอาแล้วไง.....พี่ไม้เอกเริ่มเกมแล้ว มึงว่าจะจบยังไงวะ”ช้างกระซิบแจ็กที่นั่งอยู่ใกล้ๆ

   “มึงจะไปเดาทำไม เดี๋ยวก็รู้”

   “เอ่อ....ครับ ไว้โอกาสหน้านะครับ พี่ไม้เอกเป็นรุ่นพี่ที่ดีนะครับ ดูแลรุ่นน้องดีขนาดนี้ ผมนับถือพี่จริงๆ ”ขนุนเน้นย้ำความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อไม้เอก จนอีกฝ่ายยิ้มเจื่อนไปเล็กน้อยและกลับมายิ้มทิ้งท้ายให้ขนุนอีกครั้ง ก่อนจะวางมือหนักๆ ลงบนกลุ่มผมสีบลอนด์สว่างแล้วโยกไปมา เมื่อมองเห็นว่าเพื่อนเดินกลับมาพร้อมกาแฟในมือแล้ว

   “ครับ พี่ต้องไปแล้ว ไว้เจอกันอีกนะครับ แล้วอย่าลืมดูแลเพื่อนน้องด้วย ดูเหมือนจะชอบทำอะไรแปลกๆ ในที่สาธารณะตลอด”

   “พี่หมายความว่าไง อะไรแปลก!”

   “ลดเสียงเบาๆ หน่อยสิครับ พี่เพิ่งจะเตือนเรื่องมารยาทไป ไม่เข้าใจ? ”ทุกคนมองกันตาเบิกกว้าง เมื่อไม้เอกเคลื่อนตัวไปทางนิวอย่างไม่สะทกสะท้าน แล้วใช้แขนค้ำพนักพิงเก้าอี้โน้มตัวลงมาพูดเสียงเบา แต่สีหน้าโคตรสยอง ทำเอาทุกคนนั่งตัวตรงเป็นเสาไฟฟ้ากันเลยทีเดียว

   “ไอ้ไม้ไปกันได้แล้ว มึงขู่จนน้องเขากลัวแล้วมั้งเนี้ย”คนที่ถือกาแฟมาสะกิดหลังพี่ไม้คือพี่ยิป

   “กูแค่พูดธรรมดา ไปก็ไป”พี่ไม้หันไปพยักหน้ากับเพื่อน ก่อนจะหันมาพยักหน้ารับไหว้อีกครั้งแล้วเดินออกไป เล่นเอาทุกคนหายใจไม่ทั่วท้อง ถึงใครๆ จะบอกว่าไม้เอกนิสัยไม่ได้ดุร้าย แต่ด้วยบุคลิกมันก็น่าหวั่นๆ ไม่ใช่น้อย ท่าทีถึงจะดูเป็นมิตรแทคแคร์รุ่นน้องดี ใส่ใจทุกคน แต่เวลาที่ดุใครก็น่ากลัวเหมือนกัน

   “เป็นเพราะพวกมึงนั่นแหละ กูซวยไปด้วยเลย!” คนหงุดหงิดลุกขึ้นพรวดแล้วเดินออกไป จนทำให้คนที่เหลือต้องทยอยกันวิ่งกรูออกไปจากร้านกาแฟด้วย





คณะทันตะ

   ใบหน้ายิ้มแย้มที่เดินเข้ามายังตึกคณะทันตะฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีในมือถือของฝากมาด้วย ก่อนจะเข้าไปด้านในตามห้องที่คณินได้บอกไว้ ขนุนกวาดสายตามองสำรวจไปรอบๆ อย่างตื่นเต้น ก่อนมาก็แปรงฟันไปถึงสามรอบจนเหงือกแทบร่นเพื่องานนี้โดยเฉพาะ

   แต่ขณะที่ขนุนกำลังเดินไปตามทางเดินทอดยาวสู่สถานที่นัดหมายสายตาของคนช่างสังเกตอย่างขนุนก็พบกับใครบางคนที่คุ้นสายตา แผ่นหลังบางเล็กกำลังหันหลังให้ เบื้องหน้าคือคณินที่ยืนคุยอยู่ด้วยกับพี่ลูกตาล นั่นถึงกับทำให้ขนุนต้องเผลอหลบตัวไปอยู่หลังกล่องกระดาษที่วางซ้อนกันสูงหน้าห้องห้องหนึ่ง

   ไม่รู้ทำไมต้องหลบ แต่บางอย่างในใจมันร้องเตือนขนุนว่าไม่ควรเข้าไปตอนนี้

   แกร็บ...

   เสียงถุงพลาสติกที่อยู่ในมือถูกกำจนแน่น บ่งบอกได้ว่าเจ้าของใบหน้าร่าเริงกำลังกังวลใจบางอย่าง แต่อีกใจหนึ่งก็อยากรู้ว่าทั้งพี่คณิน กับพี่ลูกตาลทั้งสองคนกำลังคุยอะไรกัน แต่สีหน้าของพี่คณินกำลังยิ้มบรรยากาศดูผ่อนคลาย เหมือนคนตรงหน้ายังสำคัญอยู่จนขนุนรู้สึกเหมือนตัวเองไม่ควรมายืนอยู่ตรงนี้

   “อ้าวขนุนมายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ ไม่เข้าไปในห้อง หรือกำลังหลง? ”เสียงทักทายมาจากข้างหลังทำเอาขนุนสะดุ้ง เป็นอนาวินที่เดินมาหน้าตายิ้มแย้ม

   “ใช่ ใช่ครับผมหลง ไม่รู้ว่าจะต้องไปห้องไหน”

   “งั้นตามพี่มาครับ พี่พาไปเอง”

   “เอ่อ พี่วิน คือ.....”

   “มาเหอะ ไม่ต้องกลัว”อนาวินยักคิ้วให้ขนุนแล้วจัดการคว้ามือลากดึงไปด้วยกัน และรู้ทั้งรู้ว่าใครที่ขนุนกำลังหลบหรือชะงักไม่ยอมเดินไปทางนั้น

   “ไอ้คณิน คนไข้มาแล้วดูแลหน่อยดิ ปล่อยให้หลงอยู่ตรงโน้นได้ไงวะ”ขนุนหยุดอยู่ตรงด้านหลังของอนาวินที่พูดออกมาเสียงดัง คนที่หันมาให้ความสนใจไม่ใช่เพียงแค่คณินแต่รวมถึงลูกตาลด้วย

   “มาแล้วเหรอ ถ้าหลงทำไมเราไม่โทรหาพี่ครับ”คนตัวสูงที่อยู่ในชุดกาวน์สีขาวก้าวมาหยุดตรงหน้าขนุน ทำเอาหัวใจของขนุนสั่นไหวไปหมด ยิ่งสายตาไปหยุดอยู่ตรงริมฝีปากที่เพิ่งชิมรสไปเมื่อคืนก็ยิ่งทำเอาในอกมันลนลานไปหมดเหมือนคนเพิ่งทำผิด

   ดูจากท่าทีปกติของพี่คณินแล้ว.....คงไม่รู้เรื่องจูบสินะ

   “ผมกลัวจะรบกวนน่ะครับ อยากเดินหาด้วยตัวเอง”ขนุนพูดขึ้น ฉีกยิ้มให้กับลูกตาลที่หันมามองขนุนส่งยิ้มบางๆ มาอย่างเป็นมิตร “พี่ลูกตาลมาเป็นคนไข้เหมือนกันเหรอครับ? ”

   “เปล่าหรอก พี่แค่มาคุยอะไรนิดหน่อยกับคณินก็เท่านั้นน่ะ”

   “เหรอครับ”ลูกตาลในชุดนักศึกษามหาลัยเดียวกับคณิน แต่อยู่กันคนละคณะ พอทำให้ขนุนคิดได้ว่า อยู่ใกล้กันขนาดนี้ก็คงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะแวะมาคุยกันบ้าง ในฐานะเพื่อน.....ล่ะมั้ง

   “กูเข้าห้องก่อนนะ บังเอิญต้องไปช่วยไอ้โจมเก็บเครื่องมือข้างใน”

   “อือ เดี๋ยวตามไป”คณินพยักหน้ารับ

   “เดี๋ยวเจอกันข้างในครับน้องขนุน”อนาวินตบบ่าเล็กของขนุนเบาๆ ก่อนจะผลักประตูเข้าไปด้านใน แอร์เย็นเล็ดลอดออกมาจนเหมือนด้านในกับข้างนอกเป็นคนละโลก

   “ขนุนรอพี่แป็บนึงนะพอดีพี่ต้องรอคิวเก้าอี้ทำฟัน ไปนั่งรอด้านในก่อนไหม”

   “คณิน เราอยากคุยกับน้องหน่อย ได้ใช่มั้ยขนุน? ”ลูกตาลหันมาสบตากับขนุนยิ้มๆ แต่คณินกลับแสดงสีหน้าแปลกใจ เหมือนลังเลที่จะตอบ คณินมองขนุนที่ยิ้มบางด้วยความรู้สึกไม่สบายใจและไม่มีความคิดที่จะให้ขนุนต้องมาคุยกับลูกตาลด้วยเหตุผลบางอย่าง

   “พอดีก่อนหน้านี้ผมกับพี่ลูกตาลเคยเจอกันมาก่อน เรื่องมันยาวน่ะครับ เอาเป็นว่าพี่คณินเข้าด้านในก่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมจะตามไป”

   คณินนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบออกไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้“อืม อย่านาน โอเคมั้ย? ”มือยาวเอื้อมผ่านหน้าของลูกตาลเข้าขยี้กลุ่มผมของขนุนอย่างเอ็นดูแววตากังวลเล็กน้อยโดยไม่สนสายตาว่าใครจะคิดยังไง ปลายนิ้วที่สัมผัสกับเส้นผมดูจะอบอุ่นไปทุกการเคลื่อนไหวจนขนุนเผลอยิ้มออกมาสบนัยน์ตาอ่อนโยนของคณินไม่หลบสายตา

   “ครับ”

   “พี่แปลกใจนะที่เรากับคณินรู้จักกัน”เสียงเล็กพูดขึ้นน้ำเสียงระดับปกติที่ดูสบายๆ เดินนำขนุนไปนั่งตรงเก้าอี้ การได้เจอขนุนในห้างพร้อมกับคณินยังคงเป็นภาพติดตาและคลางแคลงใจ

   “ครับ มันเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่าครับ เหมือนผมกับพี่ลูกตาลเจอกัน”

   “ถ้าขนุนกับคณินสนิทกัน คงรู้สินะว่าพี่กับคณินเคยเป็นอะไรกัน”อีกฝ่ายถามขึ้น ขนุนหันไปมองแววตาหม่นๆ แต่บนใบหน้ามีกลับรอยยิ้มบางๆ มอบให้แก่คู่สนทนา

   “ครับ ผมรู้”

   “คณินเขาดูเอ็นดูขนุนนะ พี่เพิ่งจะเคยเห็นเขามองใครด้วยสายตาแบบนั้น.....นอกจากพี่เป็นครั้งแรก”

   คนฟังอย่างขนุนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ “พี่คณินเป็นคนที่ใจดีครับ ไม่แปลกหรอกครับที่จะชอบแสดงออกแบบนั้น”

   “นั่นสินะ พี่คงมองผิด”ลูกตาลเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ถอนหายใจแล้วหันมาสบตากับขนุน “เพราะคณินคงไม่มีทางมองใครด้วยสายตาแบบนั้นเหมือนที่พี่รู้สึก คิดแล้วพี่มันก็แย่เนอะ ทำเรื่องให้คณินต้องเสียใจแบบนั้น ทั้งๆ ที่คณินรักพี่มากแท้ๆ ”

   “.....”

   “เอ่อ พี่ขอโทษที่เผลอระบายเรื่องไม่สบายใจให้ขนุนฟัง คงไม่เป็นไรใช่มั้ย? ”

   “ไม่เป็นไรครับ”

   “จริงๆ พี่อยากขอโทษคณินเขา แต่หลายเดือนที่ผ่านมาคณินไม่เคยเปิดโอกาสให้พี่เลย แต่ครั้งล่าสุดที่เราเจอกันที่ห้าง การเผชิญหน้ามันทำให้พี่รู้ว่าคณินเองยังมีช่องว่างให้พี่ได้กลับมาพูดคุยกับเขาอีก จริงๆ ตอนนี้พี่รู้สึกตัวแล้วล่ะว่า ไม่มีใครดีกับพี่อย่างคณินจริงๆ ”

   “พี่ลูกตาลหมายความว่าไงครับ”มือที่เย็นเยียบไม่ได้เกิดจากอากาศ เหงื่อที่ซึมในมือจนชื้นก็เช่นกัน ขนุนแปลกใจอยู่ว่าลูกตาลเธอมาพูดเรื่องนี้กับเขาทำไม แต่ตอนนี้เหมือนจะเข้าใจแล้ว

   “พี่เลิกกับแฟนพี่ไปเมื่อหลายวันก่อน เพราะพี่รู้สึกว่ามันไม่ใช่ และเข้าใจว่าอะไรที่เหมาะกับพี่”

   “.....”

   “ขนุน.....”

   “ครับ”

   “พี่อยากจะกลับมาคบกับคณิน ขนุนช่วยพี่หน่อยสิ พี่ไม่กล้าไปขอช่วยโจมกับวิน”

   ประโยคที่คนตรงหน้ากล่าวถึงกับทำขนุนสะอึก ดวงตากลมใสสั่นไหวเมื่อมองไปที่ใบหน้าของผู้หญิงตรงหน้าที่ร้องขอความช่วยเหลือจากเขา และยื่นมาแตะตรงท่อนแขนเบาๆ เหมือนต้องการที่พึ่ง

   ตอนนี้ขนุนรู้สึกแน่นในอกไปหมด เหมือนใครกดมันเอาไว้ไม่ให้เขาพยายามหายใจได้สะดวก

   “พี่ลูกตาลครับ”ขนุนเรียกชื่อผู้หญิงตรงหน้าด้วยน้ำเสียงสุภาพแล้วหยุดคำพูดไว้ ก่อนสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วพูดขึ้นอีกครั้งให้คนตรงหน้าเข้าใจ “ผมขอโทษนะครับ แต่ผมไม่สามารถเป็นสะพานให้พี่ข้ามไปหาพี่คณินได้”คนพูดจบลุกขึ้นยกข้อมือดูนาฬิกา

   “.....”

   “แต่ถ้าพี่ลูกตาลมั่นใจว่ารักพี่คณินจริงๆ ไม่ใช่แค่กลับมาเพราะไม่มีใคร ผมอยากให้พี่ลูกตาลนึกถึงความรู้สึกพี่คณินให้มากนะครับ เพราะผมเองก็แคร์ความรู้สึกของพี่คณินมากเหมือนกัน”

   “.....”

   “หากไม่มีธุระอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ”

   คนฟังถึงกับนั่งนิ่ง มองรุ่นน้องที่ผงกหัวให้ก่อนจะหมุนตัวจากไปอย่างรวดเร็ว พร้อมทิ้งคำพูดเอาไว้ให้เธอกลับไปคิดเป็นการบ้านในคืนนี้



   
   “หิวน้ำขนาดนั้นเลย? ”

   “ครับ ขวดนั้นหากพี่คณินไม่ดื่มผมขอนะครับ”

   “อืม”มือหนายื่นขวดน้ำที่เปิดแล้วแต่ยังไม่ถูกดื่มส่งให้คนที่กระหายน้ำได้ดื่มเป็นขวดที่สอง คณินมองลำคอขาวที่กระดกน้ำหลายอึกอย่างไม่พักพลางขมวดคิ้ว ก่อนจะยื่นมือไปจับขวดน้ำที่ขนุนกระดกยกขวดออกกลางคัน

   “ผมยังกินไม่หมด.....”

   “เยอะไปแล้ว เดี๋ยวท้องก็แตกหรอก”

   “ก็ผมเสียน้ำลายไปเยอะนี่ครับ”ขนุนยกหลังมือขาวปาดมุมปากตัวเองที่ก่อนหน้านี้นอนอ้าปากกว้างจนเมื่อยกรามไปหมด

   “ครั้งนี้แค่ขูดหินปูนนิดหน่อยเอง”คณินยิ้มขบขันก่อนจะกระดกน้ำขวดของตัวเองที่เพิ่งจะยื่นให้ขนุนกินต่ออย่างไม่ถือสา แต่ทว่าคนที่จ้องตาเป็นมันเห็นจะเป็นเจ้าของดวงตาใสที่ไม่กะพริบตามากกว่า

   จนอีกฝ่ายรู้สึกได้เพราะสายตาแรงกล้าของขนุน

   “จ้องพี่ขนาดนั้น กินเลยไหม? ”

   “กินครับ เอ่อ...ผมหมายถึงน้ำในขวดที่เหลือ ผมขอนะ”คำแก้ตัวก็พอถูไถ แต่อาการแก้มขาวที่แดงเรื่อดูเหมือนจะปิดไม่มิด “ว่าแต่พี่คณินไม่กลับขึ้นตึกไปเหรอครับ ผมว่าจะกลับแล้วเหมือนกัน”

   “เดี๋ยว”ขนุนลุกขึ้นจากเก้าอี้ไม้ตัวยาว ตั้งใจจะกลับไม่รบกวนเวลาของคณิน แต่อีกฝ่ายกลับยื่นแขนมาคว้ามือไว้ไม่ลังเล สีหน้าคล้ายมีบางอย่างต้องการพูด แล้วร่างสูงก็ดันตัวลุกขึ้นตาม ก่อนดึงมือขนุนให้ขยับเข้ามาใกล้ทั้งตัว ด้วยระยะประชิดเพียง 1 ก้าวสั้นๆ

   คนถูกรั้งกะพริบตาปริบๆ มองดวงตาที่จ้องมายังริมฝีปากไม่ละสายตา คนใจกล้าเมื่อคืนกระโดดหลบหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ รู้เพียงแต่ว่า ร่างสูงตรงหน้ากำลังทำบางอย่างที่ขนุนแทบลืมหายใจ

   “กลับไป อย่าลืมดูแลฟันตามที่พี่บอกนะครับ”

   ไม่พูดเปล่าปลายนิ้วโป้งยกขึ้นเกลี่ยไล่หยดน้ำบนริมฝีปากของขนุนให้ เล่นเอาหัวใจดวงเล็กเต้นไม่เป็นจังหวะ

   “ค...ครับ”

   “กลับบ้านดีๆ นะ เดี๋ยวพี่โทรไปเช็ก”

   ขนุนพยักหน้าหงึก และหมุนตัวจากไป ทว่าก้าวไปได้ไม่ถึงสามก้าวก็รีบหันมาหาคณินอีกครั้ง แล้วยื่นของที่ตั้งใจจะซื้อมาฝากแต่ก็ไม่มีจังหวะจะให้ซะที พร้อมเสียงแผ่วที่ถามออกไปว่า

   “พี่คณินชอบกินขนุนไหม ผมซื้อมาฝากครับ”

   คณินมองดูถุงพลาสติกตรงหน้าที่มีขนุนสุกงอมสีเหลืองน่าอร่อยในแพ็ก ไล่สายตาไปจนกระทั่งใบหน้าของขนุนที่ไม่ใช่ผลไม้ แล้วตอบออกไป

   “ชอบครับ”











ติดตามตอนต่อไป >>>

ขอบคุณนักอ่านที่เข้ามา หรือแม้กระทั่งหลงทางมาก็ตาม ฮ่าๆๆ
อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่าไม่ได้แต่งเองอ่านเองอยู่คนเดียว 5555+
แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ




character Talk
me : ขนุนยังไหวอยู่ใช่ป่ะ
หนุน : ไหวดิ เราพลังงานเกินร้อย  :m19:
me : แล้วทำไมน้ำตาซึม :hao4: (ยื่นทิชชู่ให้)
หนุน : เปล่า(เสียงสูง) ไม่เห็นรึไง พี่คณินเพิ่งจะบอกชอบเราอยู่เลย :m3:
me : ไม่ใช่ว่าชอบขนุนที่เป็นของฝากเหรอ?
หนุน :  :m15:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 15 อัปเดตแล้ว!! 16/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 16-04-2019 18:10:46
 :hao4:

 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 15 อัปเดตแล้ว!! 16/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 17-04-2019 22:21:00
ชอบโหมดเป็นการเป็นงานของขนุนจริงๆ ทำมากกว่าจูบให้ได้นะลูก 55555
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 16 อัปเดตแล้ว!! 23/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 23-04-2019 14:33:04


ขนุนลูกที่ 16
   



   เพี๊ยะ

   “ไอ้งก! ขอกินนิดกินหน่อยไม่ได้รึไงวะ”คนถูกตีหลังมือชักมือกลับมองหน้าเจ้าของผลไม้สีเหลืองอร่ามที่ไม่ยอมให้ใครแตะ

   “ถ้ามึงอยากกินไปซื้อเอง”คณินบุ้ยหน้าออกไปทางด้านนอกร้านข้าวแกง อนาวินถึงกับแบะปากกอดอกมองเพื่อนตัวเองอย่างหมั่นไส้ แล้วเปลี่ยนเป็นหยักยิ้มเจ้าเล่ห์

   “กินคาวไม่กินหวาน สันดานไพร่เว้ย!” แล้วอนาวินก็จัดการจกขนุนจากแพ็กของคณินที่วางไว้ไปหนึ่งชิ้นกัดเข้าปากหัวเราะชอบใจที่ได้ยียวนกวนประสาทเพื่อนสำเร็จ

   “งั้นกูกินมั่งดิ กินข้าวเสร็จพอดี”อีกมือของโจมเอื้อมมาหยิบขณะที่อนาวินหันไปคว้าของที่ถูกฉกคืน

   “พวกมึงมัน! กูยังไม่ทันจะกิน”

   “ก็เหลือให้ตั้งสามสี่ชิ้นอย่าบ่นดิ หรือมันพิเศษขนาดที่พวกกูแตะไม่ได้เลยจริงๆ ขนุนเนี้ย? ”อนาวินเลิกคิ้วถาม ดึงเก้าอี้มานั่งชิดกับคณินที่รวบช้อนกินข้าวคว้าแก้วน้ำขึ้นมาดูดน้ำไปหลายอึกดับกระหายสีหน้าบึ้งตึง

   “กูเป็นเจ้าของ กูควรกินก่อนมั้ย”

   “ไม่อ่ะ เพราะมึงไม่เคยหวงของกินอะไรขนาดนั้น”โจมดันจานข้าวออกจากตรงหน้าตัวเองแล้วงับขนุนในมือเคี้ยวเล่นสบายใจ “แต่ถ้าเป็นไอ้วินก็ว่าไปอย่าง”

   “กูไม่ได้งกขนาดนั้นมะ มึงก็พูดเกินไป! ”คนโดนถากถางโยนเม็ดขนุนที่เหลือใส่โจม ก่อนจะหันไปพูดกับคณินต่อเพื่อไม่ให้ขาดตอน “เอ้อ.....เมื่อตอนบ่ายกูเห็นลูกตาลคุยกับขนุน ตกลงคุยอะไรกัน มึงรู้ป่ะ? ”

   “ไม่รู้ กูไม่ได้ถามใครทั้งนั้น”

   “แล้วขนุนไม่ได้เล่ามึงเหรอ”

   “เปล่า ไม่ได้เล่าอะไร แล้วทำไมมึงต้องซักกูซะขนาดนี้ห๊ะ”

   “เอ้า ก็มันน่าสงสัย แล้วมึงก็รู้ใช่มั้ยว่าลูกตาลเค้ามาคุยกับมึงเพราะอะไร กูได้ข่าวมาว่าลูกตาลเลิกกับแฟนแล้ว” มือที่คว้าแก้วน้ำตั้งใจจะยกขึ้นมาดื่มเป็นอันต้องวางลงบนโต๊ะ สีหน้าของคณินดูไม่ได้ตกใจเท่าไหร่นัก

   “แล้วเมื่อตอนเย็นก่อนกลับ กูเจอลูกตาลที่ลานจอดรถอีกรอบ”โจมหันไปมองคณินที่มองตอบ “มึงรู้มั้ยว่าลูกตาลมาขอร้องให้กูช่วยอะไร? ”

   คณินรู้ว่าลูกตาลเลิกกับแฟนเก่าแล้ว แต่ไม่ยักรู้ว่าลูกตาลไปคุยอะไรกับโจมไว้

   “ช่วยอะไร”

   “ช่วยให้มึงกับเค้ากลับไปเป็นเหมือนเดิมอีก”ทันทีที่โจมเอ่ยขึ้น คณินถึงกับนิ่งงันรวมถึงอนาวินด้วย

   คณินรู้ดีว่าหากเป็นช่วง 2 ถึง 3 เดือนก่อนหน้า สิ่งที่ได้ยินคงจะเป็นข่าวดีที่สุด แน่นอนว่าคณินคงจะนั่งไม่ติดเก้าอี้ เพราะต้องรีบบึ่งรถไปหาเธอแน่ๆ ทว่าตอนนี้ทุกอย่างไม่เป็นเหมือนเก่าอีกแล้ว รวมถึงความรู้สึกด้วย

   “กูไม่ได้รับปากกับลูกตาลเรื่องนี้ และไม่ได้รับปากว่าจะไม่เล่าให้มึงฟัง เพราะกูไม่อยากปิดบังเรื่องนี้กับมึง กูไม่รู้หรอกว่าตอนนี้มึงกำลังคิดอะไร ตัดสินใจยังไง ในฐานะเพื่อนกูทำได้ดีที่สุดแค่ยอมรับการตัดสินใจของมึง เพราะหากจะให้กูออกความเห็น.....แน่นอนว่ากูคงไม่ชี้ให้มึงเดินกลับไปจุดๆ นั้นแน่”ปลายนิ้วหนาจิ้มลงบนโต๊ะอย่างมีอุดมการณ์ชัดเจน

   ปับ!

   อนาวินยื่นมือไปตบไหล่โจมอย่างเห็นด้วย

   “ปกติกูก็ไม่ได้ชอบเสือกเป็นกิจวัตรหรอกนะ”

   “มึงอ่ะตัวพ่อ! ”ทั้งโจมและอนาวินพูดออกมาเสียงดังพร้อมกัน

   “ละไว้ในฐานที่เข้าใจได้มะ เอาเป็นว่าไอ้คณิน.....ความเห็นกูตรงกับไอ้โจม และอยากให้มึงคิดดีๆ หากจะกลับไป ตรงนั้นมันโอเคกับมึงแน่รึเปล่า หากอะไรที่มันดีๆ รอมึงอยู่กูแนะนำหยิบแล้วไปจ่ายตังค์รอฟินไม่ดีกว่ารึไง”

“อะไรของมึง”

   “อย่าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หน่อยเลย มึงก็รู้กูหมายถึงอะไร คนอย่างมึงไม่ได้โง่กูรู้ แค่ไม่ยอมรับความจริงว่ะ”อนาวินยื่นแขนออกไปพาดไหล่คนข้างๆ แล้วหยิบขนุนที่คณินเอาแต่มองแถมยังหวงนักหนา ซึ่งไม่แม้แต่จะหยิบมากัดสักคำจนน่าหงุดหงิดใจ

   “พวกมึงอิ่มแล้วใช่มั้ย กูจะได้เรียกให้เขามาเก็บตังค์”คนตัวสูงดันเก้าอี้ลุกขึ้น เตรียมจะกวักมือเรียกคนในร้านข้าว  แต่โจมที่นั่งมองสถานการณ์ก็เดินมาซ้อนด้านหลังจับเพื่อนตัวดีกดไหล่ลงนั่งแล้วคุมอยู่ใกล้ๆ

   ทั้งโจมและอนาวินไม่ได้อะไรจากเรื่องนี้ ถึงแม้เพื่อนของขนุนอย่างนิวกับต้าจะกระซิบมาให้ทำอะไรสักอย่าง ถ้าหากไม่เห็นด้วยจริงๆ ก็คงไม่ต้องจับเข่าล็อกตัวคุยกันแบบนี้แน่

   “ถามจริงไอ้คณิน ที่มึงทำตัวสนิทมึงคิดซื่อกับน้องขนุนจริงป่ะว่ะ กูเทหมดหน้าตักอ่ะว่ามึงรู้ทุกอย่างแต่แค่แกล้งไม่รู้ แกล้งโง่ แกล้งมึน แกล้งบื้อ”สายตาของคณินสบกับดวงตานิ่งขรึมของอนาวินอย่างไม่หลบหลีก

   “มึงจะด่ากูก็เอาตรงๆ ”

   “เออ กูด่ามึง ด่าเพราะอยากให้มึงรู้ว่าคนอื่นเขามองและคิดยังไง ไหนปากมึงอมอะไรอยู่อ้าให้หมอดูสิครับ อ้า...”อนาวินหรี่ตายื่นมือไปง้างปากคณินที่เบี่ยงหน้าหลบแล้วสวนกลับด้วยการตบกบาลเพื่อนตัวดีอย่างหมั่นไส้

   “เจ็บเว้ย!”

   “พวกมึงจะอยากรู้เรื่องของกูกับขนุนไปทำไม”

   “เพราะพวกกูสงสารขนุน กูเห็นหน้าน้องเขาแล้วมันรู้สึกเศร้าว่ะ มึงไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆ เหรอวะคณิน”โจมพูดขึ้นยกแขนขึ้นกอดอกมองเพื่อนตรงหน้าแววตาจริงจังสุดๆ

   ประโยคนั้นทำให้คณินพ่นพรูลมหายใจออกมาอย่างอึดอัดใจ ก้มหน้าลงมือของตัวเองที่ประสานอยู่ตรงหน้าตัก คิดทุกอย่างทุกรายละเอียด ก่อนจะขยับปากพูดเปิดใจต่อเพื่อน

   ไม่ใช่คณินไม่มีหัวใจ ไม่รู้สึกแต่เพราะกำแพงบางอย่างในใจของคณินมันยังไม่ทลายลง ถึงมันจะไม่ใช่เรื่องยากที่จะยอมรับรักใหม่เข้ามา แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตัดสินใจ และอีกอย่างคณินก็ไม่ได้มั่นใจนักว่าความรู้สึกที่มีต่อขนุนมันเป็นความรักแบบนั้นจริงๆ หรือเปล่า คณินไม่ได้ต้องการความรู้สึกฉาบฉวยที่พิสูจน์ไม่ได้ เพราะหากวันหนึ่งทั้งสองคบกันและมันไม่ใช่ ใครกันที่ต้องเสียใจและเสียน้ำตา
   
   “อืม.....กูรู้ว่าใครคิดอะไรยังไง แต่เพราะความกลัวกูเลยไม่กล้าที่จะเปิดใจตัวเอง พวกมึงก็รู้ว่ากูเจ็บเรื่องความรักมาก่อน มันอาจจะดูงี่เง่าและอยากด่ากูว่าจะจำฝังใจอะไรนักหนากูก็ไม่ว่าหรอกนะ แต่ถ้าลองมาเป็นกูดูพวกมึงจะรู้ว่าอะไรที่รักมากพอมันผิดหวังล่ะก็ เจ็บจนแทบจะบ้าเลยว่ะ”คนพูดพยายามยิ้มฝืนนัยน์ตาสั่นเครือมองหน้าของโจมกับอนาวินสลับกัน

   “.....”

   “เพราะอย่างนี้ กูเลยไม่มั่นใจที่จะยอมให้ความรู้สึกตัวเองมันหลงใหลได้ปลื้มกับอะไรง่ายๆ อีกแล้ว และอีกอย่างถ้าหากกูเองยังไม่มั่นใจ กูก็ไม่อยากทำให้ใครต้องมาเจ็บแบบกู”

   “แต้น้องมันชอบมึง มึงจะไม่เปิดโอกาสเลยจริงๆ เหรอวะ”

   “ถ้ามึงจะปิดตัวเอง มึงสู้บอกน้องมันตรงๆ ไปเลยดิ เพราะหากนานไปมากกว่านี้ น้องมันก็จะเจ็บแบบที่ลูกตาลเคยทำมึงเจ็บนั่นแหละ เลิกคิดไปเลยว่ามึงจะถนอมความรู้สึกขนุนได้ มึงลองชั่งใจตัวเองดูแล้วกันว่าถ้าวันนึงขนุนหายไปมึงจะยังกลับมายิ้มหัวเราะได้อีกครั้งรึเปล่า”มือหนักๆ ของอนาวินบีบเบาๆ ไปที่ไหล่ของคณินอย่างให้กำลังใจ

   “ถ้ามึงยังลังเลเรื่องที่ขนุนเป็นผู้ชาย กูบอกเลยว่าเพศมันเอามาชี้วัดความสุขของคนเราไม่ได้หรอกว่ะ”

   “อย่างที่ไอ้โจมพูด มีโอกาสก็ไม่คว้า ระวังหมาจะคาบไปแดกแล้วมานั่งเสียใจทีหลังไม่รู้ด้วยนะ!”

   “ใครจะคาบอะไรไปแดกวะ”คนทำงานเป็นทีมถามตอบกันอย่างลงจังหวะ

   “ก็ไอ้นิวกับไอ้ต้าเพื่อนขนุนมันเล่าให้กูฟังว่า มีรุ่นพี่ที่คณะชื่อไม้ไม้อะไรสักอย่างเนี้ยแหละตามจีบขนุนอยู่ วันก่อนก็เห็นลงทุนปิดร้านเหล้าเลี้ยงโชว์ป๋า”คนเล่าใส่สีตีไข่ไปประมาณ 1 แผง

   “จริงดิ! ”โจมทำตาโตแอบเหลือบมองปฏิกิริยาของคณินที่ดูจะสนใจฟังแต่ไม่แสดงอาการทางสีหน้า

   “เออ แถมยังตามใจขนุนจะตายชัก อยากได้อะไรขอให้บอก เอาใจกันสุดๆ ถ้าเป็นกูแทคแคร์กันปานจะอุ้มส่งถึงเตียงขนาดนั้น ไม่หวั่นไหวก็ไม่ใช่คนแล้วมะ”

   “ฝากจ่ายตังค์ให้ด้วย กูกลับแล้ว! ”จู่ๆ คณินก็ลุกขึ้นพรึบ ทำเอาอนาวินกับโจมที่หันมาคุยกันข้ามหน้าคณินสะดุ้งโหยงมองดูคนตัวสูงที่ตีหน้าบึ้งตึง ปั้นปึ่งออกจากร้านไม่สนสายตาสาวๆ โต๊ะตรงข้างประตูที่ส่งให้ซะเลย

   “เฮ้ย! ไอ้คณินพวกกูยังพูดไม่จบเลยนะเว้ย กลับมาก่อน!!! ”อนาวินป้องปากเรียกแต่ดูเหมือนคณินจะโดนพายุหอบหายไปซะแล้ว

   “หึหึ! ”เสียงหัวเราะลับหลังดังขึ้นทันทีที่คณินลุกหนีไป

   “มึงก็พูดเกินจริงไปป่ะไอ้วิน”

   “เอ้า! ธรรมดามันไม่จำหรอกเว้ย กูต้องทำให้มันร้อนรุ่มกลุ้มใจเหมือนซ้อมไปอยู่นรก จะได้เอามันสมองที่เก่งแต่เรียนแบ่งไปคิดเรื่องอื่นบ้าง เทอมนี้เกรดกูจะได้งดงามดั่งดอกไม้บาน”

   “นี่มึงเลวแล้วมะไอ้วิน!”

   “โถ่ กูล้อเล่น”

   “สัด! ”

   “ไอ้โจม มึงว่าไอ้คณินจะเอาไงกับขนุนวะ เหมือนมันจะมีใจ แต่มันก็ไม่เปิดใจสักที ทำตัวเป็นมดแดงแฝงพวงมะม่วงไปได้”

   “มันคงรอให้คนมาปลิดมะม่วงก่อนมั้งถึงจะรู้สึก”

   “แถมยังเรื่องลูกตาลอีก กูกลัวถ่านไฟเก่ามันลุกพรึบขึ้นมาว่ะ กูว่าลูกตาลคงไม่หยุดแค่นี้หรอก”

   “กูกับมึงจะไปทำอะไรได้ อยู่ที่ตัวไอ้คณินล้วนๆ แต่ดูท่าทางแล้วตอนนี้ก็ไม่น่าห่วงเท่าไหร่ หึงออกอาการซะขนาดนั้น หึ!”



   
   เสียงวิทยุคลื่นฮิตที่กำลังเล่นเพลงเร้าใจไม่ได้เข้าหูเจ้าของรถเลยสักนิด แต่กลับยื่นมือไปกดปิดด้วยความงุ่นง่านในใจ มือที่ประคองพวงมาลัยเผลอกำแน่นเป็นช่วงๆ ในหัวเผลอคิดเรื่องของใครบางคน คิวคมเข้มได้รูปเอาแต่ขมวดแล้วคลายสลับกับการดุนลิ้นชนกระพุ้งแก้มครุ่นคิด ช่วงจังหวะรถติดก็กลับเอาแต่ถอนหายใจ

   “ก็ไอ้นิวกับไอ้ต้าเพื่อนขนุนมันเล่าให้กูฟังว่า มีรุ่นพี่ที่คณะชื่อไม้ไม้อะไรสักอย่างเนี้ยแหละตามจีบขนุนอยู่ วันก่อนก็เห็นลงทุนปิดร้านเหล้าเลี้ยงโชว์ป๋า”

   “แถมยังตามใจขนุนจะตายชัก อยากได้อะไรขอให้บอก เอาใจกันสุดๆ ถ้าเป็นกูแทคแคร์กันปานจะอุ้มส่งถึงเตียงขนาดนั้น ไม่หวั่นไหวก็ไม่ใช่คนแล้วมะ”


   ประโยคที่สะท้อนก้องอยู่ในหัวซ้ำๆ ทำเอาคณินหงุดหงิดตัวเองขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก สายตาที่จ้องมองไปยังโทรศัพท์เหมือนชั่งใจก็ตัดสินใจโทรหาใครบางคนในเวลา 2 ทุ่มครึ่ง ต่อสายอยู่ประมาณ 2 ครั้งอีกฝ่ายถึงจะกดรับน้ำเสียงคุ้นเคย แถมยังสดใสจนทำให้คนฟังคลายอารมณ์เทาๆ ไปได้หลายระดับ

   [ฮัลโหลครับพี่คณิน]

   “ขนุน สะดวกคุยรึเปล่า” เหมือนมีเสียงดังเอะอะประกอบกับเสียงเพลงแทรกเข้ามาคณินจึงถามออกไป

   [ดะได้สิครับ พี่คณินมีอะไรรึเปล่าครับ] เหมือนเสียงรบกวนจะถูกตัดออกไปบ้างแล้ว

   “เปล่าหรอกพอดีพี่บังเอิญแวะซื้อขนม เลยอยากเอาไปฝากขนุนตอบแทนที่มาเป็นคนไข้ให้วันนี้น่ะ ขนุนอยู่หอรึเปล่าเดี๋ยวพี่จะแวะเอาไปให้”

   [เอ่อ.....]เสียงอึกอักเงียบไปครู่หนึ่งคนถือสายรอคำตอบเริ่มขมวดคิ้วมุ่น

   “ว่าไงครับ ถ้าขนุนไม่สะดวกงั้นพี่.....”

   [สะดวกสิครับ เดี๋ยวผมจะรอหน้าหอนะครับ ตอนนี้พี่คณินอยู่แถวไหนครับมาถูกใช่มั้ยครับ]

   “จากที่ขนุนเคยบอก พี่ว่าอีก 15 นาทีพี่น่าจะถึง”

   [งั้นเหรอครับ แล้วผมจะรอนะครับพี่คณิน]

   “ครับ แล้วเจอกัน”หลังวางสายเจ้าของใบหน้านิ่งขรึมก็กลับมาคลี่ยิ้มบางมองหน้าจอโทรศัพท์ที่กดวางไปเมื่อครู่อย่างอารมณ์ดี ก่อนจะหักเลี้ยวรถแวะร้านสะดวกซื้อเพื่อหาขนมติดไม้ติดมืออย่างที่ปากพูดออกไปก่อนหน้านี้

   หลังจากออกมาจากร้านสะดวกซื้อคณินก็กลับขึ้นรถและขับตรงไปยังย่านหอพักที่ขนุนอยู่อย่างระมัดระวังเพราะกลัวจะหลงซอย สายตาที่กวาดมองไปโดยรอบมองหาป้ายหอที่ขนุนบอกก็พลันเจอกับคนที่คุ้นตา และแน่นอนว่าเจ้าของเส้นผมสีบลอนด์สว่างกำลังสะบัดผมให้เข้าทรงหลังจากมีใครอีกคนที่คร่อมมอเตอร์ไซต์ช่วยถอดหมวกกันน๊อคให้รูปร่างไม่คุ้นตา ขนุนยกมือไหว้ก่อนจะโบกมือลาฉีกยิ้มกว้างให้กับเจ้าของมอเตอร์ไซต์คันโตที่ขับออกไป

   ไม่นานหน้าจอโทรศัพท์ของคณินก็สว่างวาบขึ้น เป็นขนุนที่ยืนอยู่หน้าหอโทรเข้ามา คณินกดรับสายและบอกขนุนว่ากำลังจะถึงอีก 3 นาที และตามนั้นเมื่อถึงเวลาคณินก็เคลื่อนรถจากซอยใกล้ๆ ไปจอดตรงหน้าขนุนที่ยืนคอยอยู่ในชุดนักศึกษา ชุดเดียวกับตอนที่เจอกันเมื่อตอนกลางวันไม่มีผิด

   “พี่คณิน!”

   “พอจะมีที่ให้พี่จอดรถหน่อยมั้ย”คณินโผล่หน้าจากกระจกรถออกมาถามเจ้าของยิ้มกว้างที่ตาหวานเป็นประกายซึ่งกำลังนิ่งค้างเหมือนตกใจบางอย่าง

   “ละเลี้ยวเข้าไปจอดด้านในเลยครับเดี๋ยวผมวิ่งไปบอกพี่สุภาพให้”ขนุนชี้ไปตรงทางเข้าสำหรับจอดรถและวิ่งไปหา รปภ.ที่ชื่อสุภาพ ก่อนจะวิ่งเข้าไปรับคณินถึงรถ

   มันคงไม่แปลกหากขนุนจะตกใจที่แค่เตรียมใจมาเพื่อยืนรอรับของหน้าหอ และลงทุนรีบกลับมาจากร้านเหล้าทิ้งเพื่อนฝูงไว้ยอมให้ไม้เอกที่เจอกันหน้าร้านเหล้ามาส่งเพราะรีบร้อน แต่นึกไม่ถึงว่าคณินจะขอแวะด้วย การถามหาที่จอดรถจึงเป็นเรื่องที่ทำให้ขนุนอึ้งไปเหมือนกัน

   สองมือที่ถือถุงขนมมาดูเหมือนว่าจะหนักเอาการ แต่เพราะเป็นของฝากขนุนเลยตั้งใจจะถือเองโดยไม่ต้องให้คณินช่วย ในเมื่ออีกฝ่ายมาถึงขนุนจึงจำต้อนรับแขก โดยเป็นครั้งแรกที่คณินบุกมาถึงห้องขนาดนี้ แต่มันก็คงแฟร์เพราะขนุนก็เข้าไปกินไปนอนถึงบ้านคณินมาก็หลายครั้งแล้วเหมือนกัน

   




50%
ต่อด้านล่าง
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 16 อัปเดตแล้ว!! 23/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 23-04-2019 14:36:52
ต่อ 50%




“ขอโทษนะครับผมไม่รู้ว่าพี่คณินจะมาเลยไม่ได้เก็บกวาดห้อง มันเลยรกนิดหน่อย”

   “พี่มากะทันหันเอง ไม่เป็นไรหรอก”ขนุนเอาของไปวางไว้บนโต๊ะก่อนจะกางโต๊ะญี่ปุ่นเพื่อรับแขก และแอบเขี่ยกางเกงบ๊อกเซอร์ที่ไว้ผิดที่ผิดทางลงตะกร้า

   “นั่งก่อนสิครับ ห้องผมก็จะแคบนิดหน่อย”ขนุนย้ายถุงขนมมาวางไว้ตรงโต๊ะญี่ปุ่นที่เพิ่งกางออกแล้วแหวกดูของข้างในอย่างสนใจจนไม่รู้สึกตัวว่ามีสายตาของคณินจ้องมองอยู่ครู่ใหญ่ไม่วางตา

   จับจ้องท่าทางและการเคลื่อนไหวที่เป็นไปตามธรรมชาติ รวมถึงสีหน้าและแววตาสดใสคู่นั้น มันเข้ากับรูปหน้าที่ชวนมองจนเพลิดเพลิน จมูกไม่เล็กไม่ใหญ่ที่โด่งรั้นกำลังดี มีริมฝีปากได้รูปสุขภาพดี คณินก็เพิ่งจะสำรวจและสัมผัสจนรู้วันนี้ว่ามันนุ่มแค่ไหน คิดไปภาพคืนนั้นก็โผล่เข้ามาในหัว แม้จะรู้สึกเพียงสัมผัสแต่มันก็น่าตกใจที่ขนุนจูบเขาตรงๆ แบบนั้น

   “มีเบียร์ด้วย นี่ตั้งใจหรือเผลอหยิบมาครับ”

   “เห็นอย่างนี้พี่ก็ดื่มนะ สักกระป๋องไหม? ”คณินเลิกคิ้วสูงเอื้อมมือเข้าไปเปิดกระป๋องเบียร์ที่ส่งเสียงซ่าวางให้ตรงหน้าของขนุน แต่เมื่ออีกฝ่ายจะหยิบคณินกลับจับมือที่ซ้อนอยู่บนกระป๋องเบียร์เย็นฉ่ำค้างไว้และยื่นหน้ามาใกล้ขยับปลายจมูกเล็กน้อย

   “ก่อนหน้านี้เราก็ดื่มมาใช่มั้ย? ”คณินโน้มหน้าไปด้านหน้าเล็กน้อยจับกลิ่น

   “แหะๆ ครับ ผมไปดื่มกับเพื่อนมานิดหน่อย”

   “งั้นพี่ให้โควตาแค่ 1 กระป๋อง”

   “3 ได้ไหมครับ กระป๋องเล็กนิดเดียวเอง”คนอ้อนส่งสายตาเว้าวอน แน่นอนว่ากินติดลมแล้วหยุดที่ 1 กระป๋องมันก็คงจะโหดร้ายเกินไปจริงๆ

   “ให้สุดแค่ 2 ครับ”

   “โอเคครับ”คณินยิ้ม ยอมปล่อยมือจากกระป๋องเบียร์มองขนุนที่ยกขึ้นกระดกอย่างกับกระหายจนน่ากลัว

   “มองผมแบบนั้นผมก็เขินแย่สิครับ”ขนุนพูดทั้งๆ ที่กระป๋องเบียร์ยังจ่อปาก ส่วนคณินก็แกะถุงขนมที่ซื้อมาบริการให้เต็มที่

   “ไม่ให้พี่มองหน้าเราและจะให้พี่มองอะไรครับ หรือมองกองเสื้อผ้าที่เราถอดทิ้งไว้ตรงนั้น”คณินบุ้ยหน้าไปที่ด้านหลังของขนุนตรงทางเข้าห้องน้ำ แน่นอนว่ามันน่าอายจนขนุนต้องวิ่งไปโกยเก็บให้เรียบร้อยแล้วกลับมานั่งต่อ

   “ห้องผู้ชายก็แบบนี้แหละครับ ก็ต้องมีรกบ้างธรรมดา อย่างห้องต้าก็แบบนี้เลย”

   “เอาเพื่อนมาอ้างป่ะเรา”

   “เปล่านะครับ”ขนุนหลบตา

   “พี่เห็นเมื่อกี้....”คณินเอ่ยขึ้นและลอบมองสีหน้าขนุนถึงปฏิกิริยาของคนตรงหน้า “มีคนมาส่งขนุนหน้าหอรึเปล่า พอดีพี่ขับรถเข้ามาเจอตอนคนคนนั้นกำลังขี่รถออกไป”

   มือขาวก็ยกขึ้นเกาแก้มตัวเองที่เริ่มแดงเบาๆ ก่อนจะตอบออกไป“อ๋อ พี่ไม้เอกน่ะครับ อาสามาส่งผมจากร้านเหล้าใกล้ๆ ”

   แค่ได้ยินชื่อ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรในใจของคณินถึงได้ไม่พอใจเท่าไหร่นัก

   “เค้าเป็นใครเหรอพี่ไม่ยักเคยได้ยินชื่อ”

   “เป็นรุ่นพี่ในคณะน่ะครับ”ขนุนตอบสั้นๆ เหมือนหลีกเลี่ยงอะไรบางอย่าง คณินมองแววตาที่เลิกลักของขนุนแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

   “อืม แล้วตอนนี้ฟันเป็นยังไงบ้าง กินของเย็นๆ แบบนี้ไม่มีอาการเสียวแล้ว? แบบนี้พี่ก็ไม่ต้องห่วงแล้วสินะ”

   “กะก็.....”ขนุนมองเบียร์กระป๋องที่เย็นฉ่ำจนหยดน้ำเกาะหัวเราะแห้งๆ ยื่นนิ้วทำท่ามินิฮาร์ทแล้งตอบออกไป “นิดหน่อยครับ”

   “งั้นพี่ว่ากระป๋องเดียวก็พอแล้ว”

   “โถ่พี่คณิน”

   “เด็กดื้อ กินเยอะก็ไม่ดีต่อสุขภาพเหอะ เพราะงั้นขอลด 1 กระป๋อง”คณินเก็บเบียร์ที่ตัวเองซื้อมากวาดลงวางด้านล่างตรงพื้นข้างโต๊ะ แอบขำสายตาละห้อยที่มองตามถุงอย่างน่าสงสาร

   “งั้นเสร็จจากนี่ผมไปต่อกับพวกเพื่อนก็ได้”

   หมับ!

   “ถ้าพี่ไม่ให้ไปล่ะครับ ยังจะดื้อไปรึเปล่า”มือหนาของคณินเข้ามาจับหลังมือของขนุนไว้แน่น มองด้วยสายตานิ่งเรียบจนขนุนเองก็เพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรกก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้เหมือนกัน แค่คณินมาถึงหอก็นับว่าน่าตกใจแล้วและนี่ยังเรื่องที่ส่งสายตาดุๆ กับขนุนเป็นครั้งแรกอีก

   “เอ่อ.....ผมไม่ไปก็ได้ครับ ถ้าพี่คณินไม่เชื่อก็อยู่เฝ้าผมทั้งคืนก็ได้นะ”

   “พี่ก็ชักจะไม่ไว้ใจเราแล้วเหมือนกันนี่สิ”จากมือที่กุมไว้แน่นก็ปล่อยมายีหัวขนุนและค่อยๆ คลี่ยิ้มส่งเสียงหัวเราะหงึกในลำคอขึ้นมา

   “เสื้อผ้าพี่คณินที่ผมยืมมายังมีอยู่นะครับ ค้างเลยก็ได้ เตียงผมกว้าง”

   “เชิญชวนกันสุดฤทธิ์”คณินยกเบียร์ขึ้นกระดกจนขนุนมองตามอ้าปากเผยอ

   คนอะไรตอนกินเบียร์โคตรคูล!

   “ก็มันดึกแล้ว เดี๋ยวโดนด่าน ถูกเป่าแอลกอฮอล์ทำไงล่ะครับ พี่คณินก็ดื่มไปสองกระป๋องแล้วนะ”ขนุนเหลือบตามองกระป๋องที่สองที่อยู่ในมือคณิน

   “เป็นห่วง? ”

   “ก็แน่สิครับ”ขนุนถูแก้มแดงๆ ของตัวเองไปมาเม้มปากเสียแน่นราวกับพยายามเก็บอาการ

   “ขนุน”

   “พี่ขอถามอะไรขนุนหน่อยสิ”เบียร์สองกระป๋องก็เหมือนยาย้อมใจที่คณินตั้งใจให้มันไหลเข้าไปอยู่ในร่างกายเพื่อเรียกความกล้าก็เท่านั้น

   “อะไรครับ? ”

   “เมื่อตอนกลางวันลูกตาลคุยอะไรกับขนุนรึเปล่า”

   คำถามที่ทำเอาขนุนเงียบกริบ เอาแต่เงยหน้ามองคณินด้วยความรู้สึกที่ไม่มั่นคง และวันนี้ที่ยอมไปนั่งดื่มกับเพื่อนเพราะไม่สบายใจเรื่องของคณิน ขนุนเองแม้จะเต็มร้อยกับความรู้สึกของตนเอง แต่กลับรู้สึกไม่มั่นใจซะแล้วว่าการกลับมาของลูกตาลจะทำให้คณินหวั่นไหวหรือเปล่า แค่ความรู้สึกที่คณินมองตัวเองเป็นน้องชายมันก็หินมากพอที่จะพิสูจน์ความรู้สึกแล้ว แต่พอมีลูกตาลกลับมาขนุนกลับยิ่งรู้สึกว่าทุกอย่างค่อยๆ หนักขึ้น

“เปล่าครับไม่มีอะไร พูดคุยกันธรรมดา”

   “งั้นเหรอ”คณินได้แต่ยิ้มบางแล้วมองขนุนที่กำกระป๋องเบียร์แน่น ไม่คะยั้นคะยออีกฝ่ายให้พูดอะไรมากไปกว่านั้น การนั่งมองคนที่ฝืนยิ้มตรงหน้าไม่สนุกเลยสักนิด คณินรู้ว่าตัวเองควรจะทำอะไรสักอย่างกับใจตัวเองสักที

   “เอ่อ ผมว่าเดี๋ยวผมไปหยิบผลไม้ในตู้เย็นมาเพิ่มดีกว่าครับ”

   ทั้งที่หน้าต่างกระจกบานใหญ่ก็เปิดโล่งไว้ แต่ขนุนกลับรู้สึกว่าอากาศในห้องมันอึดอัดเป็นบ้า ทั้งสายตาของคณินที่จ้องมองตรงๆ มาแบบนั้นอีก ตอนนี้ขนุนยังไม่เมา แต่จะเมาเป็นสองเท่าเพราะวิธีการมองที่ผิดปกติของคณินนั่นแหละ

   ผมข่มใจอยู่นะพี่ อย่ามองผมแบบนั้นดิ!

   หมับ!

   “เดี๋ยวขนุน”คนลุกหนีกำลังเดินไปตรงโซนครัวเล็กๆ ภายในห้องที่ห่างจากเตียงไม่ถึงสองเมตร แต่จู่ๆ คณินที่ลุกตามไปก็เข้าดึงรั้งแขนคนที่ตัวเล็กกว่าราวกับมีเรื่องร้อนใจ ถึงกับทำให้กระป๋องเบียร์ที่อยู่ในมือของขนุนหล่นลงพื้นจนของเหลวสีเหลืองฟองฟอดในกระป๋องไหลออกมา

   แต่ใครมันจะไปสนใจเท่ากับร่างสูงที่อยู่ตรงหน้าที่กระชากคนตัวเล็กกว่าจนกระแทกเข้าอกกว้าง ร่างกายเบียดชิด ชนิดที่ที่หน้าของขนุนเผลอจมติดเสื้อไปกับอกของคณิน แถมคนจมูกดีอย่างขนุนยังได้กลิ่นอ่อนๆ เหมือนยาฆ่าเชื้อ สูดเข้าปอดแทบจะล้างเผ่าพันธุ์เชื้อโรคในตัวได้

   “พะ พี่คณินมีอะไรเหรอครับ”ขนุนหน้าเหวอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ใบหน้าแดงก่ำ แดงไปจนถึงปลายจมูกที่ถูกบี้ไปกับตัวคนตรงหน้า ทั้งความตื่นเต้นและแอลกอฮอล์ที่ไหลเวียนในร่างกายทำงานกันอย่างหนัก

   “.....”คณินไม่พูด เอาแต่มองขนุนนัยน์ตาปลือ แถมยังมีเม็ดเหงื่อบางๆ ผุดขึ้นตรงหน้าผาก จนขนุนต้องเขย่งปลายเท้าเล็กน้อยยกข้อมือขึ้นซับให้

   “พี่คณินคงร้อนใช่มั้ยครับ งั้นเดี๋ยวผมไปปิดหน้าต่างเปิดแอร์ให้ดีกว่านะครับ”

   “พี่มีเรื่องอยากจะพูด”คณินไม่ได้ปล่อยขนุนแต่กลับกำแขนแน่นขนัดขึ้นอีก

   “อะไรเหรอครับ”

   “ขนุนชอบพี่จริงๆ เหรอ? ”คำถามที่ทำเอาขนุนถึงกับนิ่ง ไม่ใช่เพราะตกใจที่คณินรู้ เพราะเรื่องนี้ขนุนไม่เคยปิด แต่ตกใจที่จู่ๆ คณินก็ถามด้วยท่าทีจริงจังแบบนั้น มันเหมือนไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่นักในความรู้สึกของขนุน

   “.....ผม”

   “ขนุน”

   “ครับ ผมชอบพี่คณินจริงๆ ชอบมากๆ ด้วย”ดวงตากลมใสเงยหน้ายอมรับ “ชอบที่มากกว่าเป็นพี่เป็นน้อง” ทั้งที่พูดความรู้สึกจริงๆ ออกไปแต่ใบหน้าที่เคยสดใสกลับไม่ได้ปรากฏให้เห็นเลยสักนิด

   สิ้นคำพูดของขนุน คณินถึงกับนิ่งงั้น ความรู้สึกวูบไหวในอกมันตีรวนไปหมด เจ็บปวดที่เห็นสายตาของขนุนหม่นลงและพยายามเดินถอยห่างออกไป แม้แต่เพียงครึ่งก้าวคณินกลับรู้สึกเหมือนอีกฝ่ายกำลังหายไปต่อหน้า

   ทุกอย่างมันสับสนไปหมด ไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไง หรือทำอย่างไรดี นอกจากปล่อยมือที่กุมไว้

   ปล่อยให้แขนของขนุนเป็นอิสระ แล้วจับคว้าร่างเล็กที่ยิ้มเจื่อนจนริมฝีปากสั่นเหมือนพยายามเก็บกลั้นอารมณ์ของตัวเองไว้เข้ากอดจนจมอกกว้างของตัวเองอีกครั้ง

   ขนุนได้เพียงอ้าปากค้างงับอากาศกับการจู่โจมที่ไม่คาดคิด 

   “พะพี่คณิน ทำไม....”

   เสียงหัวใจของขนุนเต้นแรงไม่ต่างจากเสียงก้อนเนื้อในอกของคนตรงหน้าแม้แต่น้อย

   “ตอนนี้พี่ยังสับสน พี่ขอโทษที่ยังตอบความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ ขนุนเข้าใจพี่ใช่มั้ย”

   มือเล็กที่กำลังเย็นเยียบยกขึ้นโอบตอบและขยับไล่ตามแผ่นหลังกว้าง วางฝ่ามือลงกับแผ่นหลังที่นิ่งไปตบปลอบเบาๆ นิ่งจนขนุนรู้สึกถึงความหนักของร่างสูงที่โถมลงมาเหมือนคนไร้กระดูก กระทั่งว่าคณินไหลลงคุกเข่ากับพื้นโดยมีขนุนประคอง

   “เอ๊ะ! พะพี่คณิน พี่คณินครับ!”

   คนตกใจเขย่าร่างจนไม่มั่นใจ ยื่นนิ้วเข้าแตะตรงปลายจมูก

   “ยะยังหายใจ! ”

   ขณะที่ขนุนกำลังลนลานกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน จนเสียงผ่อนลมหายใจเบาๆ กับลูกกระเดือกที่กลืนน้ำลายขอ

คณินจึงทำให้ขนุนได้สติ และรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น และควรจัดการยังไง

   ปัง ปัง ปัง!

   “ไอ้ขนุน! ยังอยู่ดีมีสุขมั้ยวะ ปวดท้องหายยังมึงงงง! ”

   “ไม่ตอบกูเปิดเข้าไปนะเว้ย! ”เพราะออกจากร้านเหล้ามาขนุนดันโกหกไปว่าปวดท้องเลยขอกลับมาก่อน และเสียงที่เคาะประตูโครมครามจวนจะพังประตูอยู่ด้านนอกก็เป็นเสียงของต้ากับนิว

   เพราะขนุนไม่ได้ล๊อกประตู สองหนุ่มหน้ามึนเลยเปิดเข้ามาอย่างเป็นห่วงเพื่อน

   ผาง!

   ภาพที่เห็นคือขนุนกำลังแบกคณินให้นอนล้มลงกับเตียง เป็นภาพการขึ้นคร่อมที่เพื่อนทั้งสองจินตนาการพรั่งพรู

   “เหี้ย! แม่มึงหกตกร่องมะม่วง!”

   “ไม่ใช่นะต้า คือเรา.....”

   “มะมึง!”

   “ฟังก่อนนิว พี่คณินเค้าแค่”

   “มึงถึงขนาดรวบหัวรวบหางพี่เค้าแบบนี้เลยเหรอ มึงจะใจบาปเกินไปแล้วนะไอ้ขนุน! ”ต้าถึงกับยกมือสองข้างขยุ้มหัวตัวเองอย่างไม่เชื่อสายตา

   “กะกู จะบอกแม่มึง!”มือที่สั่นระริกของต้าล้วงลงไปในกระเป๋าควานหาโทรศัพท์

   “กูบอกให้ฟังเว้ยยยย! พูดอยู่ได้เมื่อไหร่จะได้อธิบาย! ”

   เป็นปรากฏการณ์ที่ขนุนถึงกับหัวร้อนแล้วโวยลั่นเพราะเพื่อนสองคนแทบไม่ฟังอะไรเลย
 
   ครั้งนี้คือเงียบ เงียบจนป่าช้าเรียกพี่ ไม่มีใครกล้ากระดิกตัว นอกจากคนใต้ร่างที่ขนุนพยายามลากให้มานอนเพราะเมาจนหลับและมีอาการนอนน้อยร่วมด้วย แต่คนตัวโตดันเป็นมือปลาหมึกคว้าต้นคอของขนุนแล้วดึงลงมากอดแนบอก จนคนตัวเล็กกว่าเผลอเคลิ้ม กระทั่งเสียงกระแอมกระไอของเพื่อนดังขึ้น ขนุนเลยจำใจดันตัวเองออก

   “พี่คณินเค้าเมาเฉยๆ เราไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”

   “กูจะไปเชื่อได้ไง ลักหลับเค้ามึงยังทำเลย ล่อล่วงมาขื่นใจทำไมกูจะไม่เชื่อ”

   “จะคิดไงก็ช่าง” ขนุนหน้าตึง “ไหนๆ ก็มาแล้ว ฝากพี่คณินหน่อยแล้วกัน เราขอเวลาออกไปสูดอากาศข้างนอกเดี๋ยวกลับมา”

   “เดี๋ยวไอ้ขนุน”เจ้าของห้องเดินตัวปลิวออกไป รองเท้าก็ไม่ใส่ออกไปด้วย เหมือนมีอะไรให้คิดมากมายไปหมด

   “มันเป็นอะไรวะ ปกติมันไม่ได้ดูนอยด์ขนาดนี้นะ หรือมีอะไรเกิดขึ้น” ต้ามองรุ่นพี่ที่ขนาดหลับยังหล่อสลับกับมองกระป๋องเบียร์ที่วางกองอยู่กลางห้อง และส่วนที่ตกอยู่จนล้มเบียร์ไหลนองเป็นทุ่งผักบุ้ง

“.....”นิวได้แต่ส่ายหน้าถอนหายใจ

   “กลับมาแล้ว”

   “เชี่ย! กูตดไม่ทันหายเหม็นมึงกลับมาแล้ว ไวสัด! ”ต้าสะดุ้งที่จู่ๆ ขนุนก็โผล่เข้ามา ไวจนหายใจเข้าออกไม่ถึงสองรอบ

   “เราดูแลพี่คณินเอง ขอบใจที่เป็นห่วง กลับบ้านดีๆ นะนิว ส่วนต้าจ๊ะเอ๋มาหายืนรออยู่หน้าห้องน่ะ”

   ขนุนจัดการกวาดเพื่อนตัวเองออกจากห้องแล้วปิดประตูลงสูดหายใจเข้าปอดเต็มกำลัง เดินหน้าไปหาคนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงตัวเอง แล้วกลื่นน้ำลายอึกใหญ่ไล่สายตามองใบหน้าได้รูปจรดปลายเท้าแล้วพึมพำออกมานัยน์ตามุ่งมั่น

   “อย่างน้อย พี่ก็ยังไม่ปฏิเสธผม แค่นี้ก็ดีมากแล้วครับ”

   ขนุนทรุดตัวลงนั่งขอบเตียง กุมมือหนาของคณินเอาไว้ขยับปลายนิ้วเกลี่ยบนหลังมือนุ่มนวลราวถนอม คลียิ้มบาง มองใบหน้าที่อยากจะครอบครองสุดหัวใจแต่ทำได้เพียงลูบไรผมที่ปรกลงมาตรงหน้าผากของคณินให้ แล้วค่อยๆ โน้มตัวลงมาอย่างระมัดระวังกดริมฝีปากของตัวเองเบาๆ ลงไปบนเนินหน้าผากขาวเป็นการส่งนอน

   “ฝันดีครับพี่คณิน”











ติดตามตอนต่อไป >>>


เนื่องจากตอนนี้มันยาวมากกกก เลยต้องตัดครึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วน

ยังไงก็ฝากตอนต่อไปด้วยนะคะ :กอด1:

โดย  หลานฮวา
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 16 อัปเดตแล้ว!! 23/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 23-04-2019 16:57:37
 :z1:

 :กอด1: :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 16 อัปเดตแล้ว!! 23/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 25-04-2019 22:34:38
ขยับตัวมานิดนึงนะพี่คนิน
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 16 อัปเดตแล้ว!! 23/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 26-04-2019 16:41:49
 :katai2-1: รอพี่คณินมั่นใจจ้า  :pig4:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 16 อัปเดตแล้ว!! 23/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 27-04-2019 11:16:56
น้องขนุนจะไหวไหมครับ? หน้ายิ้ม หรือ(อาจจะ)ดูมีความสุขก็จริง แต่ข้างในใจน้องล่ะครับ เข้มแข็งพอไหม? พี่คณิน รีบรู้ใจตัวเองได้แล้วนะครับ ไม่อยากให้น้องเสียใจไปมากกว่านี้เลย T^T
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 17 ++ อัปเดตแล้ว++ 29/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 29-04-2019 13:15:43
ขนุนลูกที่ 17



      
   การตื่นส่ายก็คงไม่แปลก หากจะแปลกคงเป็นการตื่นในห้องของคนอื่นซะมากกว่า

   คณินสะบัดหัวและยีผมตัวเองไปมาพยายามลืมตามองหาเจ้าของห้องบวกกับอาการเบลอตาพร่าเล็กน้อย เหตุการณ์เมื่อคืนคณินพอจะจำไม่ได้ เบียร์แค่สองกระป๋องปกติคงทำอะไรคนดื่มเป็นไม่ได้ แต่เพราะสองสามคืนมานี้คณินก็อดหลับอดนอนสะสมมาเยอะ เมื่อเจอเรื่องให้ต้องคิด บวกกับการดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปในช่วงร่างกายที่ใกล้ชัตดาวน์ อาการวูบหลับกลางอากาศจึงเกิดขึ้นเป็นธรรมดา มันเหนือการควบคุมจริงๆ

   ก่อนหลับก็ไม่มั่นใจซะด้วยว่าพูดอะไรเพ้อเจ้อไปกับขนุนบ้าง หรือทำให้ขนุนรู้สึกแย่รึเปล่า แต่เรื่องที่บอกขนุนถึงความสับสนในความรู้สึกคณินเชื่อว่า...ขนุนคงเข้าใจ

   พลันสายตาที่กวาดมองไปทั่วอย่างสำรวจก็เจอเข้ากับกระดาษโน้ตที่แปะไว้ตรงผนังข้างเตียง คณินจึงหยิบมาอ่านเพราะมันจั่วหัวถึงชื่อเขา

   ‘ถึงพี่คณิน. ผมมีนัดทำโปรเจคกับเพื่อนเลยต้องออกเช้ามากมากกก พี่คณินตื่นแล้วกินอะไรก่อนไปด้วยนะครับ ผมซื้อปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้มาฝาก มีโจ๊กอีก 1 ถุงเข้าเวฟทานร้อนๆ ได้เลยครับ ปล.ถ้าไม่ทานผมเสียใจนะ T^T ’

   คณินหัวเราะให้กับอีโมติคอนแสดงอารมณ์ก่อนจะเหวี่ยงเท้าลงจากเตียง และต้องแปลกใจเพราะถุงเท้าถูกถอดออกจากเท้าไปแล้ว ส่วนนาฬิกากับโทรศัพท์มือถือก็ถูกวางไว้ให้ตรงโต๊ะข้างเตียงไม่หล่นหาย

   คนตัวสูงคลี่ยิ้ม ขยับตัวลุกก้มลงหยิบกรอบรูปของเจ้าของห้องที่ฉีกยิ้มกว้างขึ้นมาดูและวางกลับที่เดิมเบาใจ ลุกขึ้นบิดขี้เกียจซ้ายขวา ความหนักอึ้งในอกมันเบาโหวงจนรู้สึกดี แล้วพาตัวเองไปทำภารกิจที่ขนุนวางไว้

   กลัวว่าอีกฝ่ายจะเสียใจจริงๆ ถ้าคณินไม่เลือกกินอะไรสักอย่าง

   คณินดื่มน้ำเต้าหู้ไปแค่ 1 ถุงก่อนจะเตรียมตัวกลับ และแอบสำรวจรอบๆ ห้องมองข้าวของโดยทั่วไปกับความเป็นอยู่ของขนุน ความเรียบร้อยเนรมิตได้ในชั่วข้ามคืนจนคณินอดหัวเราะไม่ได้ ก่อนออกจากห้องของขนุนไป คนตัวสูงชะงักไปเพียงครู่เหมือนครุ่นคิดบางอย่าง ชั่งใจอยู่นานก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปด้านในปลดนาฬิกาเรือนโปรดราคาแพงของตัวเองที่ใส่อยู่ออก วางไว้บนโต๊ะข้างเตียงอย่างเปิดเผย และกลับออกไปในที่สุด

   คณินหวังแค่เพียงว่า หากมีใครเข้ามาหลังจากนี้ที่นอกเหนือจากเพื่อนของขนุน เขาก็อยากให้คนคนนั้นเห็นของสิ่งนี้



   
   คงเป็นเรื่องโชคดีที่วันนี้เป็นวันหยุด หลังจากกลับมาจากหอของขนุนคณินเลยถือโอกาสดึงสายยางเพื่อล้างรถเป็นงานแก้เครียด มีผู้ช่วยที่แสนยุ่งเป็นไข่ดาวที่อยู่ห่างเป็นวาไม่กล้าเข้าใกล้เพราะเจ้าหมาแสบของเขานั้นขึ้นชื่อเรื่องขยาดน้ำ

   ไข่ดาวทำได้เพียงวิ่งงับสายน้ำที่คณินลากไปฉีดที่รถอย่างก่อกวน อนึ่งก็ทำให้คณินหัวเราะอารมณ์ดีได้

   “ไม่เลิกจะฉีดน้ำใสนะ”เจ้าของร่างสูงที่สวมเสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นหันไปชี้นิ้วดุตัวยุ่ง ในขณะที่กำลังง่วนอยู่กับการล้างรถโทรศัพท์ที่วางทิ้งไว้ในบ้านก็สว่างวาบขึ้นปรากฏหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่ได้เมมชื่อเอาไว้ อดีตมันเคยมีทั้งชื่อและรูปที่ขึ้นโชว์เวลาที่เจ้าของเบอร์โทรเข้านั่นคือลูกตาล

   เธอพยายามโทรหาคณินมาทั้งคืน และอีกฝ่ายก็ไม่โทรกลับ เธอจึงโทรมาอีกครั้งแต่ก็ถูกเมินเฉย
   
   ฟองสีขาวจากน้ำยาล้างรถถูกถูขัดไปบนรถได้เกือบครึ่งคัน เพื่อนข้างบ้านที่เป็นสาวแก่ สาวม่าย หรือแม้กระทั่งสาวน้อยก็ชั่งบังเอิญแวะเวียนมาทักทายเจ้าของบ้านผ่านประตูรั้วที่เปิดทิ้งไว้ด้านเดียวอย่างขยันขันแข็ง บ้างก็ทำทีปั่นจักรยานกดกริ่งทักทายแล้วโฉบผ่านไป หากแต่สายตากลับมองไปบนหุ่นขาวน่าเจี๊ยะครบเครื่องจนน่าฝังเขียวไปที่แขนแข็งแรง

   โชคดีที่มีหมาแสบแกล้งดุเห่าขึ้นมาบ้างจนทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้าเหยียบเข้ามาในอาณาเขตบ้าน จะว่าทำให้คณินขาดมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้านเพราะเจ้าไข่ดาวก็คงจะไม่แปลก เล่นหวงเจ้าของซะขนาดนั้น แทบจะแยกฟันฝังเขี้ยวใส่น่องของคนที่เดินผ่าน

   แต่เอาจริงๆ ไข่ดาวก็ไม่เคยกัดใครให้คณินต้องเสียค่าพยาบาล มีแต่เสียค่าน้ำมันรถตามหาเวลาหนีเที่ยวนี่แหละ

   “เจ้าแสบเอ้ย! ”ด้วยความหมั่นไส้คณินเลยแกล้งฉีดน้ำไปทางไข่ดาวจนเจ้าหมาแสบสะดุ้งวิ่งไปหลบหลังพุ่มไม้ เรื่องเอาตัวรอดนี่เก่งนักแล

   แต่ก็ไม่ทันไร จากที่หลบเก่งอยู่หลังพุ่มไม้จู่ๆ เจ้าไข่ดาวก็วิ่งออกมาหูลู่พุ่งไปที่ประตูรั้วหน้าบ้านที่เปิดไว้ เพราะกลัวว่าไข่ดาวจะฉวยโอกาสหนีเที่ยวหรือไปกัดใครเข้าคณินเลยวิ่งตามไปและหยุดตรงหน้าบ้าน ปรากฏว่าเจ้าหมาหน้าซื่อ แต่ไม่ใช่กับเขากำลังกระดิกหางอย่างศิโรราบเดินตามใครคนหนึ่งมาจนน่าจับตีก้น

   “พี่คณินล้างรถอยู่เหรอครับ”

   เสียงใสเดินเข้ามาพร้อมกับชุดไพรเวทด้วยเสื้อเทรนฮาวายสีเหลืองลายสัปปะรสสดใส กับกางเกงขาสั้นรองเท้ากีฬาสีขาวเข้ากับกระเป๋าสะพายหลังจนชวนมองสุดๆ อีกทั้งในมือยังมีถุงหิ้วใบใหญ่ติดไม้ติดมือมาอีกชุดใหญ่

   คณินมองคนมาเยือนเหมือนประหลาดใจยืนนิ่งค้างไปครู่หนึ่งก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาจนได้ แค่มองคนตรงหน้าก็ทำให้คณินรู้สึกว่าอุ่นไปถึงข้างในแล้ว

   “มาไง ทำไมเราไม่บอกพี่ล่วงหน้า ไหนบอกไปทำโปรเจคกับเพื่อน เสร็จแล้วเหรอเรา? ”   

   “ครับ เรียบร้อยแล้ว หมูๆ ”พูดไปก็เดินตามหลังคณินต้อยๆ เข้ามา

   “โฮ่ง! ”เผลอคุยนานเจ้าไข่ดาวก็เรียกร้องความสนใจซะแล้ว

   “เอ่อพี่คณินครับ ผมขอเข้าบ้านเอาของไปเก็บก่อนนะครับ วันนี้วันหยุดผมกะมาทำสุกี้กับพี่คณิน ไม่ไปไหนใช่มั้ยครับ”

   “อืม”

   “Yes!”คนดีใจแสดงอาการจนคณินแอบขำ “อ้อ เดี๋ยวผมออกมาช่วยล้างรถนะครับ จะได้เสร็จไวๆ ป่ะไข่ดาว เราซื้อขนมมาฝากนายด้วยนะ”เสียงแจ้วๆ หายลับเข้าไปในบ้าน คณินมองตามแผ่นหลังเล็กที่ไม่ทันจะห้ามปรามเรื่องช่วยล้างรถ ขนุนก็รีบไปก่อนซะแล้ว

   ส่วนคนที่เสนอตัวและหัวใจให้เจ้าของรถ ก็ออกมาพร้อมกับกางเกงตัวเดิม แต่ถอดเสื้อเหลือเพียงเสื้อยืดสีขาวด้านในวิ่งหน้าตาสดใสออกมาออร่าเปล่งประกายเหลือเกิน

   “ผมพร้อมแล้วครับ มาผมช่วย”

   “ไม่ต้อง เดี๋ยวเสื้อผ้าก็เปียกหมด”

   “งั้นผมถอดออกก็ได้”ขนุนจับชายเสื้อดึงขึ้นจนแทบจะพ้นหัวจนคณินต้องยอมจนได้

   “โอเคๆ ไม่ต้องถอดแล้วครับ เดี๋ยวนี้เป็นเด็กดื้อนะเรา”

   “ก็ผมทำตามที่พี่คณินบอก ไม่ให้เสื้อผ้าเปียกไงครับ ตอนเด็กยังเคยแก้ผ้าเล่นน้ำฝนเลย”

   “แต่ตอนนี้...”คณินกอดอกมองขนุนเลิกคิ้วสูง “เราไม่เด็กแล้วนะ” แล้วตามด้วยขนุนที่ถูกดีดมะกอกที่หน้าผากเต็มๆ

   น่าแปลกที่อยู่ดีๆ ก็หวงพุงขาวๆ ของอีกฝ่ายจนงงใจตัวเอง ความหงุดหงิดก็เข้ามาสะกิดใจซะงั้น

   ขนุนได้แต่ยิ้มสบตาคณินที่มองมาแบบอ่อนใจ ในตอนนี้ถึงแม้คณินจะไม่มั่นใจในความรู้สึกที่มีให้ขนุนเต็มร้อย แต่ครึ่งหนึ่งก็คือความหวัง ขนุนเองก็เปิดเผยตรงๆ ไปแล้วไม่มีอะไรต้องเศร้าเสียใจ หัวใจของขนุนก็ไม่ได้เปราะบางขนาดกระดาษช้อนปลาในงานวัด สิ่งใดๆ ไม่น่าเสียใจเท่ากับเขาไม่พยายามทำอะไรให้คนตรงหน้าหันมาเลยต่างหาก นั่นถึงจะเรียกว่าน่าเศร้ามากกว่า

   “สุดท้ายก็เปียกจนได้”

   “แต่รถก็สะอาดเงางามนะครับ”ขนุนผายมือไปที่รถของคณินเสยผมที่เปียกชื้นขึ้นราวกับถ่ายแบบปกนิตยสาร พิงหลังไปกับด้านข้างของรถ แต่คณินกลับเดินผ่านไป ตามเสียงกระดิ่งไปที่หน้าบ้านเหมือนมีสิ่งอื่นน่าสนใจกว่า จนขนุนเข่าแทบทรุด

   “คนเขาอ่อยแล้วเมินอีก เห้อ”ขนุนพึมพำตามองบน

   คนเฟลจนไหล่ห่อก้มๆ เงยๆ เก็บถังอุปกรณ์ล้างรถอย่างหมดแรง กลับถูกสะกิดมาทางด้านหลังพร้อมกับไอศกรีมโคนอันละ 10 บาทยื่นมาให้

   “ร้อนๆ กินนี่หน่อยมั้ย อร่อยนะ ลุงแกปั่นสามล้อขายในหมู่บ้านมาหลายปีแล้ว”

   “.....”ขนุนถึงกับส่งสายตาวิบวับเป็นประกาย

   “ไม่กินพี่ให้ไข่ดาวนะ”

   “กินสิครับ! ”

   กลายเป็นว่าการพักเหนื่อยที่ชุ่มชื่นใจที่สุดเห็นจะเป็นการละเลียดชิมไอศกรีมรสกะทิเจ้าโปรดของคณินอยู่ตรงสวนหน้าบ้านในวันที่อากาศร้อน โดยมีสองคนกับหนึ่งตัวที่แทรกกลางเลียปากแผล็บๆ มองคณินกับขนุนซ้ายขวา

   “รสรวมมิตรอร่อยหวานมันชื่นใจมากครับ ของพี่คณินรสอะไร เหมือนของผมรึเปล่า”ขนุนเหล่ตามอง

   “ของพี่รสกะทิ จะชิมมั้ย”

   “ได้เหรอ”

   “ทำหน้าดีใจอะไรขนาดนั้น”คณินยิ้มขำ ยื่นไอศกรีมรถถั่วแดงให้ขนุนไปชิมรส ทว่าเจ้าหมาจอมแสบอย่างไข่ดาวก็ชั่งหิวโหยซะเหลือเกินดันฉกงับไปแล้ววิ่งแจ้นไปในทันที คณินหน้าเหวอมองเจ้าไข่ดาวจอมแสบอย่างอึ้งๆ

   “สงสัยไข่ดาวก็อยากกินด้วย อย่าไปโกรธเลยนะครับ กินของผมก็ได้”ขนุนยื่นไอศกรีมของตัวเองไปตรงหน้าคณินยอมเสียสละ นัยน์ตาเป็นประกายแอบขยับเข้าไปใกล้

   “เดี๋ยวเราไม่อิ่ม พี่ไม่แย่งหรอก”

   “ผมเต็มใจแบ่งครับ”คนให้จะไม่รับก็คงจะเสียน้ำใจ คนตัวโตกว่าจึงก้มหน้าลงไปใกล้ไอศกรีมตั้งใจจะงับคำเล็กๆ แต่ไหงดันโดนขนุนแกล้งขยับไอศกรีมเข้าหาหน้าจนจมูกคณินจุ่มลงไปในก้อนไอศกรีมรสกะทิหวานมันซะจนเปื้อน

   คนโดนแกล้งกลอกตานิ่งไปหาคนที่นั่งข้างๆ หรี่ตามองขนุนที่ฉีกยิ้มค้าง

   “แกล้งพี่รึไง”

   “เปล่านะครับ มือผมมันสั่น จมูกเลอะเลยแฮะ”

   อาการเม้มปากพยายามกลั้นขำขนาดนั้นหากเชื่อก็บ้าแล้ว

   “อยากโดนแกล้งกลับใช่มั้ยเรา หึ! ”คนรู้ตัวลุกขึ้นเตรียมวิ่ง แต่ถูกคณินล็อกตัวเอาไว้แล้วจัดการป้อนไอศกรีมคำโตให้จนหนำใจ เสียงโวยวายผสมเสียงหัวเราะดูสนุกเรียกเจ้าหมาแสบจอมขโมยที่เลียปากแผล็บๆ วิ่งออกมาผสมโรงด้วยจนชุลมุน แน่นอนว่าหมาแสบแล้วยังเป็นหมาทรยศต่อผู้มีพระคุณอย่างคณินโดยการงับกางเกงเจ้านายตัวเองจนเขี้ยวเจาะเป็นรู้อีกด้วย

   ความเพลียใจกับหมาที่แปรพรรคมันอยู่ตรงนี้นี่แหละ

   “แฮ่กๆ พะพอแล้วครับ ผมยอมแพ้ เหนื่อยมาก” ขนุนก้มลงค้ำมือทั้งสองข้างกับเข่าตัวเองหอยหายใจถี่ เงยหน้าที่เปื้อนไปด้วยไอศกรีมที่กินไปได้ไม่ถึงสามคำ เพราะที่เหลือละเลงอยู่บนหน้าจนเหนียวเหนอะ

   “แกล้งผิดคนซะแล้วครับ”คนตัวสูงก้าวมายืนตรงหน้าขนุนไหวไหล่อย่างผู้ชนะ ก่อนจะดึงขอบเสื้อของตัวเองที่ยังเปียกชื้นขึ้นเช็ดหน้าให้กับขนุน คนถูกดูแลตาแทบถลนเพราะดันไปมองตรงหน้าท้องขาวมีกล้ามเนื้อนิดๆ จนกำเดาแทบไหลในยามบ่ายแก่ๆ ที่อากาศแสนอบอ้าว

   คนเช็ดไม่เท่าไหร่ แต่คนถูกเช็ดให้จะขาดอากาศหายใจอยู่รอมร่อแล้ว

   “พี่ว่าเราเข้าบ้านกันเถอะ จะทำสุกี้เป็นมื้อเย็นไม่ใช่รึไง พี่หิวแล้ว”

   “ครับ”ขนุนกลืนน้ำลายมองไปที่หน้าท้องแน่นๆ แนบเนื้อผ้า ที่อีกฝ่ายเผลอเปิดให้มองก่อนตอบออกไป “ผมก็หิวเหมือนกัน”

   ขอโทษครับพี่คณิน ที่ผมเจตนาดีต่อพี่ไม่ได้เลย!

   อดทนไว้ขนุนเอ้ย!



   
   “กินแล้วนะครับ”

   โครงการสุกี้เราสอง แต่ตอนนี้กลับมี 4 คนคงไม่แปลก เพราะอนาวินกับโจมที่โผล่มาด้วยความบังเอิญก็ถูกเชิญมาร่วมมื้อเย็นด้วย คณินมองหน้าเพื่อนที่จ้วงเอาจ้วงเอาไม่ถงไม่ถามเจ้าของบ้านสักคำ ส่วนขนุนก็เหมือนจะลืมไปแล้วว่าตั้งใจจะมากินกัน 2 คน แต่กลับหัวเราะเฮฮาจนเหมือนว่าเป็นปาร์ตี้เล็กๆ ไปแล้ว

   “กินได้เต็มที่เลยนะครับ ผมซื้อของมาเยอะ”

   “พี่รอดตายมื้อเย็นแล้วขอบคุณขนุนมาก”อนาวินคาบวุ้นเส้นดูดเข้าปากจนน้ำซุปกระเซ็นไปบนหน้าคณิน

   “อดอยากมาจากไหนกันวะ”คณินบ่น

   “ก็วันนี้วิ่งวุ่นทั้งวันเรื่องธุระที่บ้าน แถมยังนัดเจอกับไอ้โจมตอนบ่ายไปซื้อของแล้วเอาชีทมาให้มึง เลยไม่มีเวลากิน”

   “พวกพี่ขยันกันมากเลยนะครับ ส่วนใหญ่เวลาว่างของพวกผมคือนัดไปกินเหล้า แล้วมาปั่นงานกันตอนใกล้ส่ง”

   “พวกพี่ก็อยากทำแบบนั้นนะ อัดอั้นอยู่เหมือนกัน แต่เพราะพวกพี่มันไม่มีทางเลือกว่ะขนุน”

   “ขนุนก็กินบ้าง เดี๋ยวกินหมดไม่รู้ด้วยนะ”โจมคีบลูกชิ้นปลาใส่ถ้วยให้ขนุนอย่างเอ็นดู

   “ขอบคุณครับ พี่โจมก็กินเยอะๆ นะครับจะได้มีแรงกลับไปอ่านหนังสือ”คนตัวเล็กตักหมูนุ่มในหม้อให้บริการอย่างดี คนรับพยักหน้ากินต่อไม่รอให้หายร้อน

   ในขณะที่คนอื่นกิน คณินกลับนั่งมองรอยยิ้มของขนุนที่แจกไปทั่ว

   เขาไม่เคยคิดว่าจะต้องมาหวงเรื่องอะไรแบบนี้ แต่ก็รู้สึกหงุดหงิดอยู่ดีที่ในถ้วยตัวเองว่างเปล่า

   “ตักให้พี่บ้าง”คนตัวโตยื่นถ้วยไปข้างหน้าท่าทีนิ่งๆ

   “ได้ครับ”

   “แฮ่มๆ มือเป็นง่อยไง ตักเองไม่เป็น”

   ปึก!

   “กินให้อิ่มแล้วกลับไปได้แล้ว เดี๋ยวกูให้ไข่ดาวเดินไปส่ง”ศอกหนากระทุ้งเข้าสีข้างของอนาวินจนเจ้าตัวหน้าเบ้

   “โห่ เพื่อนกู! ”อนาวินไม่กล้าแซวหนักเพราะยังคาดเดาสถานการณ์ของทั้งสองไม่ออก ขนุนทำตัวเหมือนทุกวัน ยิ้มสดใส พูดเก่ง หัวเราะง่าย และเข้ากับพวกเขาได้ดีเหมือนเคย แถมยังปรนนิบัติพัดวีคุณคณิน ดิเรกราชรังสรรค์ ราวกับเทพเจ้าอวตาร

   จนตอนนี้ในหม้อบรรดาเนื้อโปรตีน และของอร่อยทั้งหมดทั้งมวลลงไปอยู่ในถ้วยคณินหมดแล้ว ทุกอย่างเหมือนแดจาวู ตอนที่ไปกินชาบูกันครั้งแรก มังสวิรัติคงเป็นทางเลือกสุดท้ายเพราะขนุนโกยหมูให้คณินซะหมดหม้อ

   “ขอบคุณขนุนนะ มื้อนี่พวกพี่โคตรอิ่ม”อนาวินลูบท้องตัวเอง ก่อนกระดกน้ำเข้าไปอึกใหญ่

   “ผมดีใจที่พวกพี่กินได้ ไว้วันหลังเป็นเมนูอื่นนะครับ แต่ขอแบบง่ายๆ ผมก็ไม่ใช่คนที่คุ้นครัว ทำเป็นแต่ของเอาตัวรอดแบบเบสิกๆ ”

   “เสียดายที่มึงไม่ชอบจัดงานวันเกิด ไม่งั้นพรุ่งนี้กูรีเควสให้ขนุนทำของอร่อยๆ ให้กินแล้ว”โจมว่าพลางยื่นถุงกระดาษสีขาวยัดใส่อกคณิน “ของขวัญวันเกิดล่วงหน้าของกูกับไอ้วิน”

   ขนุนมองแบบงงๆ ก่อนจะพูดแทรกขึ้น

   “ดะเดี๋ยวนะครับ พรุ่งนี้เป็นวันเกิดพี่คณินเหรอครับ”

   “ใช่ แต่ต้องทำใจนะว่ามันไม่จัดงานปาร์ตี้ พวกพี่เลยได้แต่ซื้อของขวัญเฉยๆ ”

   “ผมไม่รู้เลย เป็นวันสำคัญแท้ๆ ”ขนุนหน้าเหวอออกอาการจนคณินต้องพูดบ้าง

   “ไม่เป็นไร พี่ไม่ซีเรียสวันพวกนี้อยู่แล้ว”

   “พวกกูจะกลับแล้วว่ะ เดี๋ยวต้องแวะส่งไอ้โจมอีก ไม่อยากถึงบ้านดึก”

   “อืม กลับดีๆ กูไม่เดินไปส่งนะ”

   “พวกพี่ไปก่อนนะขนุน ฝากล้างจานด้วยนะครับ”อนาวินขยิบตาให้ ก่อนจะพากันกลับ บ้านทั้งหลังเงียบลงมาระดับหนึ่ง เสียงเห่าของไข่ดาวและเสียงรถที่เคลื่อนออกไปก็พอจะรู้แล้วว่าโจมกับอนาวินกลับแล้ว

   ขนุนจัดการเก็บกวาดโดยมีคณินช่วย ขนุนล้างจาน ส่วนคณินก็เช็ดทำความสะอาดพวกเคาน์เตอร์เรียบร้อย เสร็จงานของตัวเองคณินก็ยืนมองขนุนจากทางด้านหลัง มองแผ่นหลังเล็กที่ขยับตัวไปมาวุ่นอยู่กับจานในอ่างและเครื่องครัวที่ต้องทำความสะอาด คณินเลยอาสาเป็นลูกมือหยิบจานสะเด็ดน้ำให้

   เพราะท่าทีแปลกๆ ที่ขนุนสะบัดหน้ายิกๆ คณินเลยถามขึ้น

   “เป็นอะไร”

   “เส้นผมมันทิ่มตาอ่ะ” ขนุนพยายามใช้ข้อมือที่มีฟองน้ำยาล้างจานปัดผม

   “หันมา พี่จัดการให้”คนตัวสูงหยักยิ้มจับไหล่เล็กให้ขนุนหันมาตรงหน้า เอื้อมมือข้างหนึ่งหยิบหนังยางมัดถุงแกงที่อยู่ใกล้ๆ แล้วจัดการรวบผมตรงส่วนหน้าของขนุนขึ้น แล้วมัดให้เก้ๆ กังๆ

   ขนุนทำได้เพียงเหลือบตามองคนตรงหน้าที่พยายามมัดผมให้อย่างนุ่มนวล พานเอาหัวใจของขนุนต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง จนแอบกลั้นหายใจเม้มปากบางเสียแน่น

   “เสร็จแล้วครับ”

   “ขอบคุณครับ สบายหน้าขึ้นเยอะเลย”

   “หึ หึ”

   “พี่คณินหัวเราะอะไรครับ”ขนุนถึงกับหน้าร้อนผ่าวที่เห็นปฏิกิริยาชวนเขินของคนตรงหน้า

   มองกันด้วยสายตากรุ้มกริ่มแบบนั้นใครบ้างจะไม่เขิน โดยเฉพาะขนุนที่ยิ่งตกหลุมรักคนตรงหน้าซ้ำๆ จนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว

   “ก็มองเราไง มัดผมแล้วน่ารักดี”ปลายนิ้วของคณินแตะลงบนปลายผมของขนุนยิ้มให้ ก่อนซุกมือหนาลงกระเป๋ากางเกง เพราะกลัวจะเผลอไปจับแก้มขาวน่าบีบที่อยู่ตรงหน้าเวลาเผลอไผล

   “น่ารักแล้วรักรึเปล่าครับ”คนเถรตรงไม่ห่วงจังหวะหัวใจของคนตรงหน้าถามออกมาด้วยแววตากลมโต ถึงกับทำให้คณินต้องแก้เก้อยกมือขึ้นลูบต้นคอตัวเอง เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่รู้สึกว่า.....

   กำลังเขิน

   เขินให้กับคนตัวเล็กกว่าที่กล้าถามเขาแบบนั้น จริงๆ ขนุนไม่ได้เพิ่งจะมาแซวอะไรแบบนี้ แต่หลังๆ มาคณินกลับรู้สึกว่ามันเริ่มซึมเข้าไปในความรู้สึกของเขาทีละนิด

   “ชักจะเอาใหญ่นะเรา”

   “ไม่ตอบก็ตามใจครับ ผมแมนๆ อยู่แล้ว”ขนุนไหวไหล่ยิ้มเม้มปากจนแก้มกลม หันไปล้างถ้วยล้างจานต่อ แล้วหยิบถ้วยใบใหญ่ขึ้นวางบนชั้นลอยเหนือหัว แต่เพราะช่วงแขนมันสั้น เจ้าของบ้านจึงเข้าไปช่วย

   ร่างหนากว่าที่ซ้อนเข้ามาทางด้านหลัง สัมผัสอุ่นๆ จากอีกร่างกายหนึ่งเล่นเอาขนุนอยากจะยื้อเวลาช่วงนี้เอาไว้นานๆ ซะเหลือเกิน

   “โฮ่ง! โฮ่ง!”

   พอรู้ตัว คณินเลยรีบผละออกจากขนุนทันที 

   “พี่ไปดูไข่ดาวก่อนนะ ไม่รู้ว่าเห่าอะไร”

   “ครับ ที่เหลือผมจัดการเอง”

   “อืม”

   “เอ่อพี่คณินครับ! ”

   “หืม”

   ขนุนปาดนิ้วที่เปียกน้ำลงบนเสื้อตัวเองเพื่อเช็ดให้แห้ง แล้วก็ชี้ไปที่ใบหน้าตัวเองก่อนพูดขึ้น “หน้าพี่คณิน แดงหมดแล้วนะครับ”

   “อาการคงจะร้อน”

   คนแก้ตัวพูดจบก็เดินออกจากครัวไป ขนุนที่มองถ้วยจานในอ่าง อยากจะหยิบขึ้นมาแทะเล่นด้วยอาการเคอะเขินเสียแทน

   “พี่คณินน่ารักแบบนี้ผมจะไปไหนรอด บ้าจริง!”











ติดตามตอนต่อไป >>>

ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ
แล้วเจอกันตอนหน้าจ้าาาา
 :กอด1: :-[ :bye2:

โดย หลานฮวา


หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 17 ++ อัปเดตแล้ว++ 29/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 29-04-2019 14:52:39
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 17 ++ อัปเดตแล้ว++ 29/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 29-04-2019 15:07:11
พี่คนินจะทนไหวแค่ไหนกันนะขนุนน่ารักขนาดนี้
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 17 ++ อัปเดตแล้ว++ 29/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 29-04-2019 20:27:14
เขินถึงขนาดจะแทะจานแล้วเหรอเนี่ย ดาเมจนี้รุนแรงยิ่งนัก 5555
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 17 ++ อัปเดตแล้ว++ 29/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 30-04-2019 00:23:38
บ้าจริงงงงง เขินนนนน
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 18 ** อัปเดตแล้ว** 30/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 30-04-2019 19:14:01



ขนุนลูกที่ 18





   “ตกลงเมื่อกี้ไข่ดาวเห่าอะไรครับ”

   “อ้อ เห่ากะละมังน่ะ”

   “ห๊ะ!”

   “อืม พอดีพี่เอาไปวางไว้บนพุ่มไม้ สงสัยหันไปเจอแล้วตกใจ”

   “ฮ่าๆ ผมว่าพี่พาไข่ดาวไปพบหมอบ้างนะครับ”ขนุนหัวเราะหันไปมองเจ้าหมาขี้ตกใจกับสิ่งแปลกตา ขณะที่เดินออกมากำลังจะกลับหอ

   “นี่แน่ใจนะว่าไม่ให้พี่ขับรถไปส่ง”

   “ไม่ต้องหรอกครับ ผมเรียกแกร็บแล้ว เดี๋ยวคงมา”คณินยืนส่งขนุนอยู่หน้าประตูบ้าน เหมือนรอส่งเด็กน้อยขึ้นรถบัสประจำทางไปโรงเรียน

   “ขอบคุณมากนะที่มาอยู่เป็นเพื่อนพี่ทั้งวัน”

   “ผมมาสนองneedตัวเองมากกว่าครับ”ขนุนพึมพำ

   “หืม? ”

   “เปล่าครับผมแค่....ฮัชชิ่ว! ”พูดไม่ทันจบประโยคขนุนก็จามออกมาจนหัวสั่นไปหมด เจ้าตัวยกหลังมือมาขยี้ปลายจมูกจนแดง คณินก้มหน้าลงไปมองเอามือจับหัวทุยๆ บนกลุ่มผมนุ่มแล้วจับให้ขนุนเงยหน้าขึ้นมา แล้วยื่นหน้าสังเกตมองซะจนใกล้

   “นี่เราจะไม่สบายรึเปล่า วันนี้ก็ตัวเปียกไปครึ่งวันด้วย”

   “อาจมีใครบ่นถึงก็ได้มั้งครับ”

   “ยังจะมายิ้มอีก รอพี่แป็บนึงเดี๋ยวพี่มา”แล้วจู่ๆ คณินก็เดินเข้าบ้านท่าทางรีบร้อน ก่อนจะกลับออกมาไม่ถึง 3 นาที

   “สวมไว้จะได้ไม่หนาว เผื่อไม่สบายขึ้นมาจะแย่ อย่าลืมกลับไปกินยาด้วยนะเข้าใจมั้ย? ”เสื้อแจ็กเกตตัวใหญ่ที่คลุมทับมาให้ทำเอาขนุนนิ่ง มองคนตรงหน้าที่ใส่ใจซะจน...

   กลัว…

   กลัวใจตัวเองว่าจะไม่อาจตัดคนคนนี้ไปได้ ถ้าหากทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คิด

   “จ้องพี่ตาแป๋วแบบนั้นมีอะไรรึเปล่า”

   “ไม่มีครับ   ”ขนุนส่ายหน้า “อ่า แกร็บมาแล้ว ผมไปก่อนนะครับ”

   คณินเดินมาส่งขนุนขึ้นรถ แล้วปิดประตูให้ ขนุนลดกระจกรถแล้วโบกมือลา

   “ไว้เจอกันครับ”

   คณินส่งยิ้มโบกมือลาเช่นกัน และมองรถที่วิ่งไกลออกไปจนรถเลี้ยวสุดทางกระทั่งหายไปจากสายตา แต่ร่างสูงกลับยังคงยืนอยู่ตรงนั้นอยู่นานเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

   คณินเงยหน้ามองท้องฟ้าที่คืนนี้มีดาวให้เห็นเป็นบางส่วน มีเมฆบดบังเงาจันทร์อยู่บ้างเล็กน้อยผิดกับบรรยากาศฟ้าโปร่งในตอนกลางวัน ก่อนจะตัดสินใจปิดประตูเดินเข้าบ้านไปพร้อมกับไข่ดาวที่มาส่งขนุนหน้าบ้านเช่นกัน

   ร่างสูงเดินก้าวเร็วทิ้งตัวลงนั่งตรงโต๊ะอ่านหนังสือ มีชีทอีกหลายชุดกับเปเปอร์อีกหลายฉบับที่เขาต้องอ่านในคืนนี้ แต่เพราะหน้าจอโทรศัพท์ที่สว่างขึ้นคณินจึงคว้าขึ้นมาดู มีสายเรียกเข้าที่คณินไม่ได้รับถึงยี่สิบสาย และเขาจงใจจะทำเป็นไม่เห็นด้วยซ้ำ แต่จู่ๆ สายที่ยี่สิบเอ็ดก็โทรเข้ามา เจ้าของโทรศัพท์มองหน้าจอที่สว่างขึ้น ครุ่นคิดบางอย่างอยู่ในหัวแต่ท้ายที่สุดแล้วคณินก็ตัดสินใจกดรับสายในที่สุด

   “ฮัลโหล”

   [คณิน...]เสียงสั่นเครือจากอีกปลายสายช่างแผ่วเบา

   “ตาลมีอะไรรึเปล่า”คณินกลอกเสียงถามออกไป ดีดตัวนั่งหลังตรงเมื่อรู้สึกถึงความไม่ปกติของอีกฝ่าย ลูกตาลไม่ใช่คนที่อ่อนแอกับอะไรง่ายๆ แต่ถึงกับเสียงสั่นจนชัดเจนแบบนี้มันไม่เหมือนที่คุ้นเคย

   [ยังโกรธเราเหรอ คณินไม่รับสายเราเลย]

   “สถานะตอนนี้...ผมไม่มีสิทธิ์ไปโกรธเคืองตาลแล้วนะ”คณินพูดกับอีกฝ่ายเสียงเรียบ เขาไม่อยากแสดงท่าทีก้าวร้าวออกไปเหมือนยังมีความรู้สึกให้กับเธอ
 
   [แต่ตอนนี้เราเหงามากเลยนะ เราไม่มีใครแล้วอ่ะคณิน ฮึก] เสียงเล็กนั้นสั่นเครือไปหมด เหมือนอีกฝ่ายกำลังร้องไห้

   “ผมว่าตาลอย่าเสียเวลาเลย คงมีใครอีกหลายคนพร้อมที่จะดูแลตาล คนดีๆ อีกเยอะที่เข้าใจตาล ถึงยังไงเราก็คงกลับไปเป็นแบบเก่าไม่ได้แล้ว”

   [คณิน....ฮือๆ เราขอโทษนะ]

   “อย่าร้องไห้เลยและไม่ต้องขอโทษอะไรทั้งนั้นเรื่องมันผ่านมานานแล้ว ตาลควรจะได้เริ่มรักใหม่ กับคนที่เข้าใจตาล มีเวลาให้ตาล ทำทุกอย่างให้ตาลมีความสุข อย่าคิดวกวนแต่เรื่องเดิมๆ เลย”

   [ฮึกๆ เรากลับมาคบกันเหมือนเดิมไม่ได้แล้วจริงๆ เหรอคณิน ใจของคณินไม่มีตาลอยู่ในนั้นแล้วจริงๆ เหรอ]

   สายตาของคณินจ้องมองไปยังขวดนาฬิกาทรายบนโต๊ะ ฟังน้ำเสียงที่เขาอยากจะปลอบให้อีกฝ่ายเลิกเสียใจเลิกร้องไห้ แต่ไม่ใช่ในฐานะแฟน มันก็แค่ความรู้สึกหวังดีที่อยากให้กัน

   “อือ.....เวลาของเรามันหยุดไปตั้งนานแล้วตาล ตอนนี้เราก็แค่ต่างคนต่างเดินในทางของตัวเอง”

   [ถ้าคณินยืนยันแบบนั้น.....] น้ำเสียงที่ขาดห้วงของอีกปลายสายกลับมาตั้งสติใหม่อีกครั้ง [เราขออะไรเป็นครั้งสุดท้ายสิ จากนี้เราจะไม่วุ่นวายกับคณินอีก ได้ไหม? ]

   “…..”

   คณินฟังสิ่งที่ลูกตาลร้องขอ หลังจากวางสายไปแล้วสายตาของคณินก็ยังคงจ้องมองโทรศัพท์ที่กำแน่นอยู่ในมือ กระทั่งเวลาผ่านไปถึงครึ่งชั่วโมง จึงจะลุกขึ้นเข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำและจมอยู่กับหนังสือ และเปเปอร์ต่างๆ จนกระทั่งผ่านไปถึงสองชั่วโมง ก่อนที่เจ้าของร่างสูงจะคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง และกดส่งข้อความไปหาใครบางคน จากนั้นจึงปิดไฟและล้มตัวลงนอนในเวลา 02.35 น.

   ตกลง พรุ่งนี้ตอนเย็น ผมจะไปรอที่ร้าน





มอM

   เสียงกีตาร์โปร่งที่ถูกจับคอร์ดดีดเพลงดังมาจากใต้ต้นหูกวางต้นใหญ่ กลุ่มนักศึกษาชาย 5 คนที่หลังเลิกเรียนยังไม่กลับบ้านก็เอาเวลาว่างเล็กๆ น้อยๆ มาสังสรรค์ กลุ่มแก๊งเล็กๆ ที่มักจะเห็นอยู่ด้วยกันจนชินตาไปแล้วก็มีนิว ต้า ขนุน ช้างและแจ็กที่เป็นคนเล่นกี่ต้าโปร่งเสียงเพราะและร้องเพลงให้เพื่อนฟัง

   จนกระทั่งนักร้องอย่างช้างร้องเพลงประกอบอีกแรง

   “โหช้าง มีใครเคยบอกมั้ยว่ามึงร้องเพลงเพราะ”ต้าถาม ยกมือขึ้นเป็นปางห้ามญาติให้แจ็กหยุดดีดกีตาร์

   “เพราะ? ”นิวเลิกคิ้วสูงปากที่คาบหลอดอยู่อ้าขึ้น

   “ก็เพราะอะไรมึงถึงร้องเพลง แม่ง เสียงโคตรเหี้ยเลยอ่ะ ไปอยู่เซตเดียวกับไอ้ขนุนเลย”

   “สัด! กูขาดpassionในการร้องหมด”ช้างคำราม กระโดดลงมาจากโต๊ะที่นั่งแทนเก้าอี้

   “แล้วนี้ไอ้ขนุนไปไหนวะ เลิกคลาสแล้วกูเห็นมันแยกตัวออกไปยังไม่กลับมาเลย”ช้างถาม

   “ไปหาจ๊ะเอ๋ที่ตึกอักษร เห็นบอกว่าจะให้ช่วยห่อของขวัญ”ต้าบอกโยนตัวลิลงเข้าปากเคียว

   “ของขวัญ ให้ใคร? ”แจ๊กวางกีตาร์ตัวโปรดหันไปหยิบห่อขนมมาแกะ

   “กูให้ทาย”นิวพูด

   “เดือนนี้ไม่มีใครเกิดนี่หว่า อ้อ! วันเกิดแม่มันเหรอ”

   “แม่บ้านพ่องมึงสิไอ้ช้าง”แจ็กม้วนกระดาษฟาดไปที่หัวของช้าง “คนสำคัญของมันต่างหาก”

   “สำคัญมากไหม? ”

   “ไม่มาก มีไหมอยู่ไม่กี่ตัวที่เหลือแม่งแดกกัญชาแทนใบหม่อนเลยตายเกลี้ยง ผ่ามผ้ามมมม!”

   เพี๊ยะ!!!

   “เล่นมุขเหี้ยไรของมึงเนี่ย” ช้างโดนไปอีกหนึ่งดอก

   “สมองกูสะเทือนหมด”

   “กูไม่เคยเห็นมึงมีสมองนะไอ้ช้าง”แจ็กเคี้ยวขนมกรุบกรับแล้วด่าเพื่อนไปด้วย

   “เพราะมึงกูเลยไม่จำเป็นต้องใช้สมอง”

   “ทำไมวะ”แจ็กงง

   “...หากฉันใช้สมองจดจำเรื่องราว ก็ยังพอจะลืมเธอได้แต่ฉันใช้หัวใจ เก็บความทรงจำเรื่องของเรา.....ไม่ขำ?”

   “มึงพอยัง ถ้าไม่พอกูทุบแม่งด้วยกีตาร์! ”

   “หยาบคายว่ะแจ็ก”ช้างยกมือประสานอกปกป้องตัวเอง ที่บึกบึนยิ่งกว่าแจ็กซะอีก

   “มุกมึงแถมฟรีกูก็ไม่เอาจริงๆ กากสัด”ต้าส่ายหน้า หันไปสนใจกับถั่วต่อ

   “ไอ้ขนุนมาโน่นแล้ว”

   ทั้งกลุ่มหันไปมองผู้ชายตัวไม่สูงไม่เตี้ยกึ่งวิ่งกึ่งเดินหิ้วถุงกระดาษโบกมือมาให้ ทั้งฉีกยิ้มเห็นฟันซี่ขาวมาแต่ไกล

   “ได้ข่าวว่าไปห่อของขวัญ ให้ใครวะ? ”ช้างถาม

   “อ๋อ วันนี้วันเกิดพี่คณิน เลยอยากให้อะไรบ้างน่ะพี่โจมบอกว่าพี่คณินไม่จัดปาร์ตี้ เลยอยากจะให้เป็นของแทน”

   “รักกันดีว่างั้น”แจ็กแซว

   ขนุนหัวเราะแต่ไม่ได้ตอบอะไร

   “ฮันแน่! เร็วๆ นี้จะมีข่าวดีใช่ป่ะ”ช้างแซวแอบใช้แขนกอดคอขนุนไว้ใต้รักแร้ แต่พอสัมผัสเข้ากับผิวของขนุน คนหยอกล้อก็เปลี่ยนสีหน้าในทันที “เดี๋ยว! ขนุนตัวมันรุมๆ ป่ะวะ” ช้างเปิดประเด็นคนอื่นๆ ก็กรูกันมาอังหน้าผาก บ้างก็จับต้นคอง้างปากดูเพื่อพิสูจน์

   “ขนุน มึงไม่สบายรึเปล่าวะตัวมึงอุ่นๆ ”นิวจับไหล่สองข้างของขนุนประจันหน้า ก้มหน้าถามไถ่คิ้วขมวดด้วยความเป็นห่วง

   “ไม่สบายอะไรกัน อาการร้อนขนาดนี้ เราเดินตากแดดมาผิวมันเลยร้อนมากกว่า”

   “แน่ใจนะ”นิ้วคาดคั้น

   “ถ้าเราไม่สบายเรานอนหลับอยู่หอไม่มาเรียนแล้ว”

   “อือ”นิวพยักหน้ายืนล้วงกระเป๋าจ้องขนุนตาเขม้น

   “แล้วมึงจะเอาของขวัญไปให้พี่คณินตอนไหนยังไง เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน”ต้าถาม

   “เอารถกูไปป่ะล่ะ”แจ็กเสนอ

   “ไม่ดีกว่า ขนส่งมวลชนง่ายกว่า”

   “ตามใจ”

   “งั้นก่อนไปมึงไปกินข้าวกับพวกกูก่อน ไม่รีบใช่มั้ยล่ะ”นิวชวน คนอื่นๆ ก็เริ่มทยอยเก็บของบนโต๊ะใส่กระเป๋า

   “ได้ กินเสร็จเราค่อยไป”ขนุนก้มดูนาฬิกาตอบรับเพื่อนไป แล้วทุกคนก็เฮโลพากันเดินห้อมล้อม ถึงกลุ่มนี้จะไม่ได้มีดีตรงหน้าตา แต่คงบอกได้ว่ามีดีที่เสียงดัง




   “คณิน มึงแน่ใจแล้วเหรอวะ”

   “อืม ถ้าไม่ทำแบบนี้ ตาลคงจะไม่หยุดและทุกอย่างมันก็จะกลับมายุ่งเหยิง และมันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่กูจะเจอกับเค้า”

   “กูก็หวังว่ามึงจะเคลียร์ให้อีกฝ่ายเข้าใจได้จริงๆ ”

   “อย่าเรียกว่าเคลียร์เลย เพราะกูกับลูกตาลมันจบไปแล้ว แต่ครั้งนี้ที่ยอมมาเพราะอยากไปบอกบางอย่างกับตาลมากกว่า”

   “บอกอะไรวะ? ”

   “ไว้กูจะบอกทีหลัง ขอบใจที่มาส่ง”คณินเปิดประตูรถของโจมออกไปอย่างไม่รู้สึกกระอักกระอ่วนที่ต้องเจอลูกตาล แต่คนที่ดูเป็นห่วงเป็นใยที่รีบวิ่งลงมาจากรถเข้ามาขวางคณินมากกว่าที่ดูร้อนรน

   “เดี๋ยวไอ้คณิน”

   “อะไรอีกไอ้วิน? ”

   “ถ้ามึงจะใจอ่อน.....”

   “ไม่มีทาง”คณินตอบออกไปอย่างมั่นใจไม่ต้องรอให้อนาวินพูดจบประโยค เพราะอย่างไร ใจของคณินมันไม่ได้รู้สึกอะไรกับผู้หญิงคนนั้นแล้วจริงๆ

   “ถ้ามึงมั่นใจขนาดนั้น...โชคดีว่ะเพื่อน”

   “อือ”คณินหยักยิ้ม ยกมือลาก่อนจะก้าวเท้าไปยังร้านอาหารอิตาเลียนที่นัดกับลูกตาลไว้ วันนี้รถของคณินงอแง เหมือนมันไม่อยากให้เขาออกไปไหน คณินเลยจำต้องให้โจมเป็นธุระมาส่งหลังจากออกไปทำงานกลุ่มเสร็จที่บ้านของโจมแล้ว

   ทันทีที่คณินก้าวเท้าเข้าไปยังภายในร้าน บรรยากาศกลิ่นหอมของชีส และขนมปังก็อบอวลไปทั่ว สายตาของคณินมองหาลูกตาล ก็เจอกับเธอที่มานั่งรออยู่ก่อนแล้ว เธอลุกขึ้นยกมือให้เขาเห็น สีหน้ายิ้มบางท่าทางไม่สดชื่น แม้เครื่องสำอางที่บรรจงแต่งแต้มมาจะทำให้ใบหน้าของเธอดูสวยจนชวนเหลียวมอง แต่ก็ปกปิดนัยน์ตาหม่นหมองไว้ไม่ได้

   เมื่อร่างสูงที่ดูโดดเด่นในชุดธรรมดาเดินมาถึงโต๊ะ เธอเองที่เป็นคนเริ่มทักทายเขาก่อน

   “ดีใจที่ได้เจอ นั่งก่อนสิ คณินจะสั่งอะไรทานหน่อยมั้ย”ใบหน้าเล็กชะเง้อมองหาพนักงาน

   “ไม่ต้องหรอก มาคุยเรื่องผมกับตาลกันเลยดีกว่า”ประโยคที่หลีกเลี่ยงคำว่า ‘เรา’ มันแบ่งแยกอย่างชัดเจนว่าคณินรู้สึกอย่างไร

   “ดื่มน้ำก็ยังดี เดี๋ยวเราสั่งให้”เธอยิ้มกวักมือเรียกพนักงานแล้วสั่งน้ำเปล่ามาให้กับอีกฝ่าย ที่รู้ว่าแม้แต่น้ำอึกเดียวคณินก็อาจจะไม่แตะต้องเลย

   “.....”

   “ก็ได้ มาพูดเรื่องที่ควรจะพูดกันดีกว่า”มันเหมือนการเดินเข้าหาหน้าผาสูง แต่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคณินกลับยังเชื่ออยู่ว่า อีกฝ่ายจะห้ามไม่ให้เธอกระโดดลงไป

   “ผมชัดเจนแล้ว ตาลพูดเรื่องของตาลมาเถอะ”

   “เรา.....เราคิดว่าคณินคงรู้แล้วว่าเราต้องการอะไร วันก่อนเราบอกเรื่องนี้ให้กับเพื่อนของคณินให้ช่วยเรา คณินคงรู้แล้ว”

   “ผมรู้แล้ว”คณินเน้นย้ำ และยิ้มให้เธออย่างไม่คิดอะไร

   “ตาลคงเป็นผู้หญิงหน้าไม่อายในสายตาคณินไปแล้วแน่ๆ เลยว่ามั้ย” น้ำเสียงที่พยายามพูดให้มันเป็นเรื่องตลกแต่เธอกลับทำมันไม่ได้ ดวงตาใสๆ เริ่มสั่นเครือไม่แพ้กับน้ำเสียง ทั้งที่บางทีก็อยากตัดใจแต่กลับรู้สึกโหยหาคนที่ทำให้เธอมีความสุขที่สุดในช่วงหนึ่ง เธอรู้ว่ามันเห็นแก่ตัว แต่หากไม่ทำอะไรสักอย่างก็คงรู้สึกเสียดายโอกาส แม้จะริบหรี่ก็เถอะ

   “ตาล อย่าทำให้ตัวเองรู้สึกเจ็บไปมากกว่านี้เลย เราเลิกกันไปนานแล้วและผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับตาลอีก มันไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้.....ตาลเข้าใจใช่มั้ย”

   “แต่ตอนเราเลิกกัน คณินก็ไม่มีใครตลอดมา นั่นไม่ได้หมายถึงคณินยังมีตาลในใจอยู่เหรอ”
   
   “ตอนนั้นใช่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว”คณินส่ายหน้า ส่งยิ้มบางให้เธอมีความหมายว่าเค้ารู้สึกอย่างไรในตอนนี้ที่ไม่มีเธอ

   คณินไม่ได้ทุกข์ แต่เขากลับมีความสุขในแบบที่เป็นอยู่ ตั้งแต่เจอกับคนคนหนึ่ง คณินก็รู้ว่าเขาโง่มากที่ปล่อยให้ตัวเองอยู่กับความเจ็บบ้าๆ พวกนั้นซะนาน

   “งั้นเหรอ หรือว่าเพราะคณินมีใครในใจแล้ว”น้ำเสียงแผ่วเอ่ยถามคณิน ที่เพียงขยับตัวเลื่อนแก้วน้ำออกจากตรงหน้า เจ้าของดวงตาคมมองลูกตาลปราศจากความรู้สึกอื่นใดและพร้อมจะลุกเดินออกไปทุกเมื่อ

   “ถ้าผมตอบทุกความสงสัยแล้ว จากนี้ผมกับตาลไม่ควรจะมาคุยเรื่องนี้เป็นครั้งที่สองอีก”

   เธอหลับตาลงเพียงครู่ไม่กล้าสู้แววตาที่แน่วแน่ เธอสูดหายใจเหมือนเติมอากาศที่ขาดหายไปให้ตัวเองมั่นคงอีกครั้ง และผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ

   “ได้สิ ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ตาลสัญญา”

   เธอยิ้มให้กับความสัมพันธ์ที่จะไม่มีวันเดินหน้า และยอมรับกับความผิดหวังในครั้งนี้




   
   “ทำไมพี่คณินถึงยังไม่กลับอ่ะไข่ดาว เรารอนานแล้ว”ขนุนนอนยืดตัวยาวบิดตัวไปมาบนโซฟาถอนหายใจถี่ มีไข่ดาวที่นั่งอยู่ข้างๆ ฟังเขาบ่นมาร่วมชั่วโมงจนต้องลงไปนอนแบะขาหงายท้องโชว์พุง
 
   โชคดีที่วันนี้ขนุนไม่ลืมกุญแจบ้านสำรองของคณินเลยได้เข้ามารอด้านใน เพราะโทรไปคณินก็ไม่ได้รับสาย

   “.....”

   “รถก็อยู่ แต่คนหายไปไหนนะ”ขนุนผุดลุกขึ้นกะทันหันแอบปวดหัวจี๊ดๆ แต่ก็ทำเมินอาการของตัวเอง เอื้อมมือไปหยิบกล่องของขวัญที่ตัวเองตั้งใจจะเอามาเซอร์ไพรส์คณิน บวกกับนาฬิกาที่คณินลืมเอาไว้มาคืน

   “ไข่ดาวคิดพี่คณินจะชอบของขวัญที่เราซื้อให้มั้ยอ่ะ”ขนุนเหลือบตาไปมองไข่ดาวที่สะบัดหน้าไปมา “เห้ย! ต้องชอบดิ ตัดกำลังใจกันเห็นๆ ”

   “โฮ่ง!”

   จู่ๆ ตัวแสบของบ้านลุกขึ้นเห่า ทำท่าทางแปลกๆ โดยการกระโดดอยู่กับที่แล้ววิ่งไปในครัว กลับออกมา พร้อมกับเอาขาหน้ามาตะกุยที่ขาของขนุน

   “เป็นอะไรไข่ดาว”

   ขนุนไม่เข้าใจ และไม่ยอมลุกออกจากโซฟาคอยแต่ชะเง้อมองประตูทางเข้าบ้านกับนาฬิกาบนผนังตาละห้อย จนไข่ดาวหงุดหงิดกระโดดขึ้นไปบนโซฟาแล้ววิ่งลงสลับอยู่แบบนั้นสองสามรอบอย่างกับหมาคลั่ง

   “โฮ่ง! โฮ่ง!”

   “ไข่ดาวอย่าเห่า เราปวดหัวกับท่าทางของนายมาก พูดภาษาคนเป็นป่ะ”ขนุนยกมือขึ้นอุดหู

   เหมือนเจ้าหมาแสบจะทำทุกอย่างให้ขนุนเข้าใจว่ามันต้องการอะไร อีกครั้งที่เจ้าไข่ดาววิ่งอุตลุดเข้าไปในครัว แล้ววิ่งกลับออกมาพร้อมกับถ้วยอาหาร จนขนุนเข้าใจแล้วว่ามันคงหิว

   “คาบถ้วยมาตั้งแต่แรกก็เข้าใจแล้ว”ขนุนหัวเราะให้กับเจ้าสี่ขาที่จมหน้าลงไปในถ้วยอาหาร ในขณะที่ขนุนเอาแต่นั่งกอดเข่ามองไข่ดาวแล้วเอามือลูบขนหนาๆ อย่างเอ็นดู

   พอกินเสร็จเจ้าไข่ดาวก็ยังไม่หยุดใช้งานเขา วิ่งปรู๊ดไปคาบบอลของเล่นมาโยนลงตรงหน้าขนุน จนบอลลูกกลมๆ กลิ้งไปไกล ขนุนต้องเดินไปเก็บด้วยตัวเอง พอโยนให้ไข่ดาวเจ้าหมาแสบก็คาบรับกลางอากาศจนขนุนทึ่ง แล้วเป็นอีกครั้งที่ไข่ดาวไม่เคยส่งบอลให้เขาดีๆ มักจะคาบมาแล้วโยนเหวี่ยงไปให้บอลมันกลิ้งแล้วขนุนก็วิ่งเหยาะๆ ไปรับ จนเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นเต็มหน้าผาก ร่างกายของขนุนชักไม่ไหว เดิมทีเขารู้สึกมึนศีรษะอยู่แล้ว

   “เดี๋ยวนะไข่ดาว! หลอกเราวิ่งไปเก็บบอลป่ะเนี้ย เราคนนะไม่ใช่หมาอ่ะ”ขนุนตัดสินทิ้งก้นลงนั่งกับพื้นเย็นๆ เมื่อรู้ว่าเสียท่าไข่ดาวเข้าให้ เพราะความเหนื่อยขนุนจึงล้มตัวลงนอนแผ่บนพื้นซะงั้น

   “.....”

   “เหนื่อยอ่ะ”ขนุนพึมพำตามองเพดานและโคมไฟระย้ากลางบ้าน เอามือเกยหน้าผากที่อุณภูมิสูงผิดปกติอย่างไม่สนใจ จนไข่ดาวที่เห็นเพื่อนเล่นอย่างขนุนนอนนิ่งไปก็เดินเข้ามาล้มตัวลงนอนใกล้ๆ แล้วเอาปลายจมูกวางไว้บนหน้าขาของขนุนแต่ไม่พยายามเบียดชิดเพราะสัมผัสได้ถึงอุณภูมิร่างกายของขนุนที่ร้อนขึ้น

   เขาว่ากันว่าอุณหภูมิของสุนัขจะสูงกว่าร่างกายมนุษย์ นั่นคงเป็นสาเหตุที่ไข่ดาวไม่ขยับเข้าใกล้ขนุนมากกว่านั้น

   นอกจากนี้ ไข่ดาวยังนอนกลอกตามองดูความเคลื่อนไหวของขนุน และหูกระดิกฟังเสียงตลอดเวลา

   “วันนี้วันเกิดพี่คณิน พี่เค้าจะไปฉลองกับใครเป็นพิเศษรึเปล่าไข่ดาว เราโทรไปถามพี่วินก็ไม่เห็นจะบอกอะไรเราเลยนอกจากไม่รู้.....คงจะไม่รู้จริงๆ ล่ะมั้ง หรือพี่คณินกลับไปหาพ่อกับแม่อ่ะ เรามาเสียเที่ยวรึเปล่า? ”

   คนที่คุยกับหมาต้องเหงาเบอร์ไหนถึงจะพูดกันได้เป็นชั่วโมง ไข่ดาวก็ทำได้ดีเพียงเล่นเป็นเพื่อนขนุนซะมากกว่าให้ขนุนเป็นเพื่อนเล่น

   ไข่ดาวปล่อยให้ขนุนเพ้ออยู่ไม่นานก็ได้ยินเสียงบางอย่างจากหน้าบ้าน เจ้าสี่ขาหน้าขนที่ดูกระตือรือร้นก็พลันดีดตัวลุกขึ้น แล้ววิ่งไปทางประตูรั้วบ้าน ขนุนเห็นท่าทีของไข่ดาวแบบนั้นก็รีบลุกตามไปดูไข่ดาวในทันที

   “พี่คณินกลับมาแล้วเหรอครับ”

   ขนุนวิ่งตามออกมาเมื่อได้ยินเสียงคณินแว่วๆ และทันทีที่เปิดประตูรั้วออกไปต้อนรับเจ้าของบ้าน พร้อมไข่ดาวที่ตะกุยประตูจนจะพังเพราะรู้ว่าคณินกลับมาแล้ว

   ทว่าทันทีที่ขนุนโผล่หน้าออกไปด้วยท่าทางสดใสร่าเริงกลับเหือดหาย หยุดท่าทางกระตือรือร้นดีอกดีใจในฉับพลัน เมื่อสายตามองเห็นหญิงสาวคุ้นหน้าที่ยืนอยู่ข้างคณิน ด้านหลังเป็นรถเก๊งคันสีขาวที่ขนุนจำได้ดีตั้งแต่วันที่เกือบโดนรถคันนี้เฉี่ยวว่าเป็นของลูกตาล

   คณินหันไปมองขนุนที่เปิดประตูรั้วเล็กออกมา และไม่รู้ว่าขนุนมารออยู่ที่บ้าน

   “ขนุนอยู่นี่เหรอ”เสียงลูกตาลเอ่ยทักรุ่นน้อง ขนุนนิ่งไปครู่หนึ่งหันไปมองคณินด้วยความรู้สึกจุกแน่นในอกจนน้ำตาแทบร่วง แม้ยังไม่รู้เหตุผลว่าทั้งสองคนมาด้วยกันได้ยังไง แต่ขนุนรู้สึกเพียงว่า ตัวเองกำลังเป็นส่วนเกินหรือเปล่า

   เวลานี้ขนุนก้าวขาแทบไม่ออก แม้แต่จะยิ้มให้คนตรงหน้ายังยากลำบาก ความรู้สึกแปลกๆ ในใจขนุนมันตีรวนไปหมด

   เกิดคำถามขึ้นมาจนไม่รู้ว่าต้องถามกับใคร

   คนที่ไม่ควรมายืนตรงนี้วันนี้ เป็นเรารึเปล่า?











ติดตามตอนต่อไป >>>


-------------------------------------------

ตอนนี้อาจจะหน่วงใจนิดๆ คงไม่ถึงกับมาม่ามากไป  มันหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ :m17:

ยังไงก็มาเอาใจช่วยขนุนกันด้วยนะคะ  o7

ด้วยรักและปรารถนาดีต่อน้องหนุน โปรดฝากกำลังใจ  :impress:



แล้วพบกันตอนหน้าค่ะ
อาจมาช้าสักหน่อยเพราะไปธุระต่างจังหวัดหลายวันเลย


ขอบคุณค่ะ
โดย หลานฮวา


หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 18 ** อัปเดตแล้ว** 30/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 30-04-2019 21:05:17
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 18 ** อัปเดตแล้ว** 30/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 30-04-2019 22:00:54
น้องขนุน ... จะร้องตามน้องแล้วครับ T^T หน่วงใจไปอีกครับ
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 18 ** อัปเดตแล้ว** 30/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 01-05-2019 08:25:51
โอ๋เลย
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 18 ** อัปเดตแล้ว** 30/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 01-05-2019 22:52:02
โถ่เอ้ย ไม่สบายแล้วยังจะเจอเรื่องสะเทือนใจอีก
คณินพากลับบ้านมาทำม้ายยยยยยย
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 18 ** อัปเดตแล้ว** 30/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 12-05-2019 10:57:31
มารอขนุน พี่คณินปากหนักนักก็แกล้งซะให้เข็ดซะบ้าง
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 18 ** อัปเดตแล้ว** 30/04/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 12-05-2019 11:00:13
 :mew2:
รอออออ
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 19 {อัปเดตแล้ว} 12/05/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 12-05-2019 18:32:53



ขนุนลูกที่ 19


      


   “สวัสดีครับพี่ลูกตาล”

   เมื่อไม่สามารถวิ่งหนี ขนุนก็ต้องเผชิญหน้าแม้ในใจจะรู้สึกอึดอัดเสียจนอยากหายไปจากตรงนี้ก็ตาม

   ลูกตาลเพียงมองขนุน เธอยิ้ม และขนุนก็รู้ว่าเป็นยิ้มเพียงมารยาท

   “นั่น.....ไข่ดาวป่ะ? ”ลูกตาลหลบสายตาจากขนุนหันไปมองเจ้าสี่ขาที่เข้ามาดมตัวเองอย่างอยากรู้ แต่พอเธอตั้งใจจะยื่นมือเข้าไปสัมผัส เจ้าไข่ดาวก็ถอยหลังกรูดหลบหลีกแสดงท่าทีไม่คุ้นเคย ก่อนจะวิ่งไปแอบอยู่หลังขนุนส่งเสียงเห่าขึ้นมา

   แม้แต่ไข่ดาวตอนนี้กลับไม่สนใจลูกตาลเลยสักนิด เพราะสัตว์เลี้ยงมันสนแค่ว่า ใครคือคนที่รักมัน ให้อาหารมัน เป็นมิตรและจริงใจกับมันเท่านั้น

   “ไข่ดาวกลับเข้าบ้านไปก่อน”เป็นขนุนที่หันไปดุ ไข่ดาวกระดิกหูฟังแต่ไม่ได้ทำตามเช่นเคย

   “.....”

   “เอ่อ.....ผมเองแค่แวะเอาของมาให้พี่คณินน่ะครับ ผมว่าผมกลับก่อนดีกว่า”

   ขนุนมองคณินด้วยความรู้สึกเกรงใจ ตั้งท่าจะเดินกลับเข้าไปในบ้านเพื่อหยิบกระเป๋าใส่รองเท้ากลับหอ ทว่าคนที่ยืนเงียบมาตลอดก็กลับคว้าแขนขนุนไว้

   “พี่คณิน...”

   คณินรู้ว่าขนุนไม่ใช่แค่แวะมา และรู้ว่าอีกฝ่ายตั้งใจรอมากแค่ไหน เพราะอย่างนั้นคงไม่รีบร้อนวิ่งออกมาเท้าเปล่าแบบนี้

   และอีกอย่าง.....คณินก็ไม่อยากให้ขนุนเข้าใจผิดระหว่างเขากับลูกตาลด้วย

   “ขนุนอยู่ก่อนพี่มีเรื่องจะคุยด้วย”ร่างสูงหันไปสบตากับขนุน มือจับแน่นไม่มีทีท่าจะปล่อย “ส่วนตาล...ขอบคุณที่มาส่ง เจอไข่ดาวคงเห็นแล้วสินะว่าตาลคงเอามันกลับไปเลี้ยงได้ยาก มันไม่ผูกพันกับตาลแล้วด้วยซ้ำ เพราะอย่างนั้นตาลกลับไปเถอะ อย่างที่บอกไว้”

   ลูกตาลหน้าเสีย มองคณินที่พูดกับเธอตรงๆ ไข่ดาวก็แค่ข้ออ้างที่อยากจะยื้อเวลาอยู่กับคณินแค่นั้น

   “อืม งั้นเรากลับก่อนนะ”เธอพยักหน้ายิ้มฝืดไม้แม้แต่สบตาใคร ก่อนจะตัดสินใจเดินกลับขึ้นรถและขับออกไป สายตาของขนุนยังจับจ้องไปที่รถเก๊งคันขาว แต่สายตาของคณินกลับมองไปที่ขนุน

   “เข้าข้างในเถอะ”

   ขนุนเดินตามเจ้าของบ้านด้วยความรู้สึกหนักอึ้งไปหมด    

   ขนุนไม่ได้พูดอะไรต่อหลังจากที่เข้าบ้านมาแล้ว เพียงแต่มองแผ่นหลังกว้างที่เดินเข้าไปดื่มน้ำในครัวแล้วเดินกลับออกมาเพื่อหาจังหวะพูด

   “มองพี่แบบนั้น มีอะไรจะพูดก่อนรึเปล่า”

   “ผมว่าจะขอตัวกลับแล้วครับ ผมแวะเอาของขวัญมาให้ สุขสันต์วันเกิดนะครับพี่คณิน”ขนุนหยิบถุงของขวัญของตัวเองยื่นให้สีหน้าที่ฝืนยิ้ม ทำไมคณินจะไม่รู้

   “ขอบคุณมากสำหรับของขวัญ คือพี่....”

   “ไว้เจอกันครับ”ขนุนหยิบกระเป๋าเป้ของตัวเองขึ้นมาสะพายไม่พูดจาอีก ดวงตากลมใสพยายามจะซ่อนความรู้สึกหนักอึ้งบางอย่างไว้สุดความสามารถ ขนุนไม่อยากอยู่ตรงนี้แม้แต่วินาทีเดียว เพราะกลัวว่าตัวเองจะแสดงด้านที่มันไม่น่าดูให้กับคนตรงหน้าเห็น

   ความน้อยเนื้อต่ำใจมันน่ากลัวกว่าที่คิด เพราะแค่รู้สึก ก็แย่เอามากๆ แล้ว

   บางที่การกลับไปตั้งหลักใหม่มันคงจะดีกว่าขนุนคิดแบบนั้น

   เพราะจะบอกว่าดีใจที่เห็นคณินกับลูกตาลอยู่ด้วยกันนั่นคงเป็นคำตอบที่ลวงโลกที่สุด

   ไม่มีใครหรอก ที่ทนเห็นคนที่ตัวเองชอบอยู่กับคนอื่น แม้จะเป็นแค่ความเสียใจที่ไม่ระบุสถานะก็ตาม แบบนี้มันยิ่งเจ็บเป็นสิบเท่ามากกว่า

   เสียใจซ้ำซ้อนจะเรียกแบบนั้นก็ได้

   “เดี๋ยวขนุน พี่กลับบ้านมากับลูกตาลเพราะพี่กับตาลมีเรื่องต้องคุยกัน เค้าแค่อาสามาส่งเพราะอยากมาดูไข่ดาว แต่พี่กับเค้าเราไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น และหลังจากนี้...”

   “พี่คณินไม่ต้องอธิบายให้ผมฟังหรอกครับ เพราะผมไม่มีสิทธิ์ไปต่อว่าพี่...ขอร้องล่ะครับ อย่าทำเหมือนแคร์ผมมากเพราะผมจะรู้สึกแย่ไปกว่านี้”

   เสียงที่เปล่งออกมาสั่นเครือจนขาดห้วงไปบางตอน สิ่งที่ขนุนพูดออกมาเหมือนความในใจที่อัดอั้น ขนุนไม่รู้ว่าตัวเองควรยืนอยู่ตรงจุดไหนในตอนนี้ รู้ทั้งรู้ว่าควรจะให้เวลาคณิน แต่พอมาเจอเหตุการณ์แบบนี้มันทำให้ขนุนรู้สึกเหมือนตัวเองงี่เง่าขึ้นมาได้อย่างไร้เหตุผล ความคิดเริ่มติดลบไปหมด เหมือนไม่ใช่ตัวเองที่ต้องมาโวยวายอะไรแบบนี้

   “พี่แค่ไม่อยากให้ขนุนเข้าใจผิดว่าพี่กับลูกตาลเรากลับไปคบกัน”

   “ทำไมพี่คณินต้องกลัวผมเข้าใจผิดล่ะครับ”ขนุนหันมาถามกับคณิน สีหน้าไม่สู้ดีนัก เหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายขึ้นบนใบหน้าที่ซีดขาว “ผมอยู่ในสถานะไหนสำหรับพี่กันแน่”จากน้ำเสียงปกติขนุนเริ่มพูดเสียงดังอย่างไม่รู้ตัว

   ฟังดูปวดใจไม่น้อยสำหรับคณิน แน่นอนว่าที่ขนุนพูดมันถูกต้องทั้งหมด เขากับขนุนไม่ได้อยู่ในสถานะที่ชัดเจนเลยแม้แต่น้อย ไม่นึกโทษคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าสักนิด

   เขายอมให้คนตรงหน้าโกรธและด่า และไม่คิดจะแก้ต่างใดๆ เพราะมันคือสิ่งที่คณินคิดว่าตัวเองควรได้รับ กับความสับสนที่เค้าไม่สามารถจัดการมันได้เด็ดขาดเสียที กระทั่งวันนี้คณินอยากจะให้คำตอบแก่ขนุน กับสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจแล้ว


ร้านอาหารอิตาเลียน

   “ถ้าผมตอบทุกความสงสัยแล้ว จากนี้ผมกับตาลไม่ควรจะมาคุยเรื่องนี้เป็นครั้งที่สองอีก”

   “ได้สิ ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ตาลสัญญา”

   “ตอนนี้ผมมีคนที่ชอบจริงๆ แล้ว เพราะฉะนั้นผมไม่อยากให้คนที่ผมชอบต้องมาเข้าใจผิดกับเรื่องนี้อีก”

   “คนนั้นเป็นใคร? ”

   “หากตาลต้องการความแน่ใจ ผมจะบอกอีกครั้งว่าผมชอบขนุน”

   ทั้งหมดคือสิ่งที่คณินพูดไว้กับอดีตคนรักอย่างลูกตาล



   “ขนุน พี่ไม่ได้อยากให้ขนุนรู้สึกแย่”คณินเดินเข้ามาใกล้เอามือสัมผัสส่วนไหล่คนตัวเล็กกว่าที่กำลังสั่นไหว ใบหน้าเล็กก้มหน้างุดแทบไม่อยากสบตา “พี่ขอโทษ.....”

   “ถ้าพี่รู้สึกผิด.....อย่าพูดคำว่าขอโทษเลยครับ”ดวงตาที่เคยสดใสตัดสินใจเงยหน้าขึ้นสบตาคณินทั้งน้ำตา ใบหน้าขาวแดงก่ำและดูร้อนผ่าว ทั้งหัวใจและร่างกายของขนุนมันอ่อนแอไปหมดในเวลานี้   

   “ผมขอแค่...พี่ชอบผมบ้างสักนิดก็ยังดี”

   คำพูดนั้น เหมือนมีใครเอาค้อนมาทุบที่อกซ้ายของคณินอย่างจัง

   คณินมองดูขนุนที่เขยิบเข้ามาใกล้ในใจหน่วงหนัก น้ำตาของคนตรงหน้าหยดเผาะไปบนแก้มขาวสีหน้าอึดอัดใจเกินทน มันเป็นภาพที่เจ็บปวดในใจอย่างบอกไม่ถูก เขาไม่ได้อยากจะเห็นน้ำตาของขนุนเลย

   “ขนุนฟังพี่ก่อน จริงๆ แล้วพี่ชอ....”

   “ผมมันเอาแต่ใจ นั่นแหละข้อเสียของผม!”คณินไม่ทันจะพูดจบประโยค คนตัวเล็กก็โพล่งขึ้นน้ำตากระเซ็น

   ผลัก!

   ก่อนจะรู้ตัว คณินกลับถูกขนุนดันตัวและผลักลงให้ล้มกับพื้นพร้อมกับพาร่างกายของตัวเองคร่อมไปบนตัวของคณินเร็วกว่าความคิดภายในพริบตา
 
   เรี่ยวแรงจากร่างเล็กและเทคนิคล้มคู่ต่อสู้ไม่ใช่เล่นๆ อีกทั้งแขนสองข้างยื่นเข้ากดไหล่หนาไว้อย่างรวดเร็ว ใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาจ้องมองคณินเหมือนจนหนทาง น้ำตาหยดเล็กหล่นเผาะลงบนใบหน้าของคนที่อยู่ใต้ร่าง

   มันช่างร้อนผ่าว...ไม่ต่างจากสัมผัสที่คณินรู้สึกเลย

   “เรามาคุยกัน พี่มีเรื่องจะบอกขนุน อย่าทำแบบนี้เลย...”

   “ผมไม่ชอบเลยที่เห็นพี่คณินอยู่กับพี่ลูกตาล มันเหมือนพี่กำลังจะไปจากผม ผมต้องการพี่จริงๆ นะ ไม่อยากเห็นพี่ไปอยู่กับคนอื่นด้วย! ”จู่ๆ ขนุนก็โพล่งขึ้นในขณะที่คณินพยายามกล่อมอีกฝ่าย

   ไม่รอรีใดๆ เพียงเสี้ยววินาทีใบหน้าขึงขังของคนที่จิตใจร้อนรุ่มได้โน้มใบหน้าลงมาแล้วกดริมฝีปากตนเองลงไปบนเรียวปากของคณินอย่างเปิดเผย เป็นจูบที่เต็มไปด้วยความรู้สึกปวดร้าวหนักหน่วงในใจ อีกทั้งมือบางพยายามสอดเข้าใต้เสื้อเชิตสีครีม ไล่ลูบไปตามสัดส่วนอกกว้างอย่างไม่ยั้งคิด มือไม้สะเปะสะปะอย่างไร้ทิศทาง

   “ขะ...นุน....เดี๋ยว!”คนถูกกระทำพยายามหักห้ามริมฝีปากร้อนที่พยายามรุกล้ำและมือเล็กที่เข้าลอดสอดใต้เสื้อของเขา คณินรู้ว่าตอนนี้ขนุนกำลังทำไปด้วยอารมณ์ เขาไม่อยากให้คนตรงหน้ารู้สึกเสียใจไปมากกว่านี้กับการกระทำที่หุนหันด้วยความโกรธ คณินจึงพยายามดันไหล่เล็กให้เลิกจู่โจมตัวเองโดยการจับข้อมือที่เทียบกับเขาแล้วมันบางเหลือเกิน

   ห้าม...ไม่ใช่เพราะรังเกียจ

   ห้ามเพราะอยากให้ขนุนได้สติมากกว่า ถึงอย่างไรคณินก็รู้ใจตัวเองแล้วว่า อะไรที่สำคัญที่สุดสำหรับคณินในตอนนี้ แต่ทว่าตอนนี้ขนุนไม่ให้ช่องว่างให้คนตัวโตกว่าได้พูดบ้างเลย

   “ผมชอบพี่ ชอบพี่จริงๆ นะ”

   “ขนุน!”

   “พี่ไม่ชอบผม รังเกียจผมสินะ!”

   “ไม่ใช่อย่างที่ขนุนคิด แต่ตอนนี้เรารู้ตัวมั้ยว่าตัวเองน่ะ.....”คนตัวโตกว่าจับคว้าข้อมือของขนุนที่พยายามสะบัดให้หลุดจากมือของคณินทั้งน้ำตา ก่อนใช้สองมือคว้าจับคนที่โวยวายอยู่เหนือร่างรั้งเข้ามากอดแน่นจนชิดอกกว้างไม่ปล่อยไปง่ายๆ สัมผัสจากขนุนถึงกับทำให้คณินเลิกคิ้วสูงเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ

   “ตัวร้อน! ”

   อ้อมกอดที่รับรู้ได้ถึงอุณหภูมิร่างกายของขนุนที่แตะถึง 39 องศามันไม่ใช่น้อยๆ แล้ว

   “ปะปล่อยผม...”

   “ไม่ใช่เวลามาทำตัวดื้อแล้วนะขนุน เรื่องนี้เอาไว้เราค่อยคุยทีหลังแต่ตอนนี้เราเป็นไข้ไม่รู้ตัวเองบ้างเลยรึไงกัน! ”คนตกใจเผลอดุหน้าถมึงทึง

   “ไม่เอาผมจะพูดตอนนี้ ผมรู้ว่าพี่ยังไม่เข้าใจความรู้สึกผมจริงๆ”เสียงอู้อี้ดิ้นพรากพยายามให้ตัวเองเป็นอิสระ

   “ขนุนมีเหตุผลหน่อย! ”

   คนโวยวายไม่สนใจฟัง “ผมก็แค่อยากให้พี่สนใจ....ผมบ้าง” เสียงแผ่วเอ่ยขึ้นเหมือนไร้แรงต่อต้าน คนเลือดร้อนด้วยอารมณ์อย่างขนุนค่อยๆ สงบลงด้วยพิษไข้ เจ้าของผิวร้อนเริ่มเหนื่อยหอบ เริ่มอ่อนแรง ตอนนี้ร่างกายของคนตรงหน้าคณินกำลังไม่ไหวอย่างเห็นได้ชัด เหมือนเลยขีดจำกัดของร่างกายไปแล้ว กระทั่งขนุนจู่ๆ ก็นิ่งไปโดนที่ยังทับร่างของคณินอยู่อย่างนั้น

   ร่างกายที่ไม่ขยับทำให้คนที่ตัวโตกว่าเขย่าร่างเล็กที่ร้อนผ่าวให้มีสติ ทั้งที่ก่อนหน้าคณินเพิ่งจะโดนคนป่วยที่น็อตหลุดกดจูบเอาจริงไปหมาดๆ แท้ๆ

   “ขนุน! ขนุน!”





   หลังจากที่เกิดเรื่องชวนตกใจเกิดขึ้นฉับพลัน คณินตัดสินใจช้อนอุ้มขนุนขึ้นไปด้านบนห้องนอน รีบหาผ้าชุบน้ำไล่เช็ดใบหน้าตลอดลำตัวเพื่อลดอุณหภูมิร่างกายของขนุนให้เย็นลงโดยเร็ว หนึ่งชั่วโมงผ่านไปจากการวัดอุณหภูมิด้วยปรอทวัดไข้ ดูเหมือนอุณหภูมิของคนป่วยจะลดลงเป็นที่น่าพอใจ คณินพยายามปลุกให้ขนุนตื่นเพื่อกินยาลดไข้ถึงแม้อีกฝ่ายจะดูสะลึมสะลือก็ตาม

   เมื่อฤทธิ์ยาเริ่มออกเม็ดเหงื่อจำนวนไม่น้อยค่อยๆ ผุดขึ้นให้เห็น เสื้อที่สวมใส่ก็เริ่มเปียกชื้นจนคณินต้องจัดการเปลี่ยนเสื้อให้พร้อมกับเช็ดเหงื่อ ว่าที่คุณหมอฟันวันนี้ก็กลับกลายเป็นพยาบาลหนุ่มจำเป็นในชั่วข้ามคืน

   วิกฤติไข้ผ่านไปก็เล่นเอาคณินวุ่นวายไม่น้อย ร่วมสองชั่วโมงกว่าๆ เจ้าของบ้านจึงจะได้หย่อนตัวลงพักแต่ก็ไม่อยากห่างคนป่วยไปไหนเพียงย้ายตัวเองไปนั่งตรงขอบเตียงมองขนุนอย่างรู้สึกผิด

   ไม่ชอบเลยที่ต้องนั่งมองขนุนที่ป่วยซะดื้อๆ แบบนี้   

   คนใจฝ่อนั่งกุมขมับตัวเองมองใบหน้าขาวซีดเป็นกระดาษที่หลับสนิทเพราะพิษไข้ครุ่นคิด หลังจากนี้คงต้องจับเข่าคุยกันแล้ว

   “พี่ขอโทษ...”

   “.....”

   “พี่ไม่ได้ตั้งใจทำให้เรารู้สึกแย่แบบนี้เลย พี่รู้ว่าเราพยายามแค่ไหน มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะอดทนทำอะไรหลายๆ อย่างให้ใครสักคนมีความสุข แต่ขนุนรู้มั้ย...พี่มีความสุขจริงๆ นะเวลาที่ขนุนอยู่ใกล้”น้ำเสียงทุ้มและแผ่วเบาเอ่ยขึ้นให้กับคนตรงหน้า ยื่นแขนเข้ากำฝ่ามือขนุนบีบเบาๆ แล้วใช้ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยบนหลังมือขาวอย่างอ่อนโยน จ้องมองคนที่นอนซมเพราะพิษไข้ด้วยความเป็นห่วง

   “ถ้าขนุนอยากรู้คำตอบของพี่ไวๆ ก็รีบหายป่วยนะครับคนเก่ง”น้ำเสียงเบาแต่ชัดเจนก้มลงกระซิบใกล้ๆ กับใบหูเล็ก รอยยิ้มที่ไม่จางไปจากใบหน้าเลื่อนกรอบหน้ามาใกล้ปลายจมูกรั้นที่มักแดงเสมอเวลาอยู่ต่อหน้าเขา คณินจ้องมองริมฝีปากที่เป็นนักฉกจูบจากเขาไปถึงสองครั้งอย่างไม่น่าเชื่อ

   “ครั้งหน้า พี่ไม่อนุญาตให้เราป่วยแบบนี้แล้วนะ รู้มั้ยพี่เป็นห่วงแทบแย่”

   เสียงแผ่วพร่ำบอกคนที่นอนหลับตาพริ้ม ใช้ก้านนิ้วเกลี่ยเส้นผมที่ปรกหน้า ไล่ปลายนิ้วไปตามโครงคิ้วหนาผ่านกรอบหน้าที่ดูเล็กแม้จะมองใกล้ๆ

   คณินเพิ่งจะรู้สึกจริงๆ ว่า คนตรงหน้าของเขา...น่ารักได้ขนาดนี้เชียวเหรอ

   สายตาที่มุ่งมองคนตรงหน้าอยู่เนิ่นนานสิ้นสุดลง เมื่อคณินตัดสินใจจรดริมฝีปากของตัวเองลงบนเรียวปากที่อุ่นร้อน ประทับอยู่เนิ่นนานก่อนจะผละออกพร้อมคลี่ยิ้มบางนัยน์ตาละมุนแทบไม่อยากละสายตาไปจากคนตรงหน้าแม้แต่วินาทีเดียว

   “เราเจ๊ากันแล้วนะ”

   มันคงเป็นการเอาคืนที่เจ้าตัวแทบไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยจริงๆ 



   
   “ร้อน...”

   คนที่ถูกผ้าห่มคลุมทับถึงอกกำลังขยับตัวอย่างหนืดหนาดด้วยร่างกายที่ชุ่มเหงื่ออยู่ไม่น้อยเพราะฤทธิ์ยาดี แต่ไม่ถึงกับหายเป็นปลิดทิ้งขนุนแค่รู้สึกร่างกายเบาขึ้น ไม่ปวดหัวตาพร่าเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว

   และทันทีที่ขนุนขยับตัวลุกขึ้นนั่งแสงไฟที่สว่างเพียงจุดเดียวจากภายในห้องคือโคมไฟตรงโต๊ะอ่านหนังสือ แน่นอนว่าสติที่หล่นหายกลับคือสู่ร่างขนุนแทบไม่ทัน เหตุการณ์รีรันเหมือนละครฉายซ้ำเกิดขึ้นในหัว อายซะจนขนุนแทบไม่กล้าขยับตัว

   คนที่ขนุนเผลอทำเรื่องบ้าๆ ไปและคนที่นอนเฝ้าเพราะขนุนดันป่วยก็เป็นคณินอีก

   ขนุนแทบอยากจะตะโกนลั่นบ้าน นั่งทุบอกชกหัวตัวเองอย่างไม่อยากให้อภัย

   นี่เราหึงหน้ามืดขนาดนี้ได้ไงเนี้ยขนุน! พี่คณินจะมองเรายังไง ต้องถูกเกลียดแล้วแน่ๆ เลย
   
   พร่ำเพ้อในอกอย่างรู้สึกผิดขนุนก็แทบไม่กล้ามองหน้าคณินที่ฟุบหลับข้างเตียง ทำได้เพียงแอบย่องออกมาไม่กล้าทำให้คณินตื่นเพราะไม่อยากสู้หน้าตอนนี้

   สำรวจมองตัวเองอีกทีเสื้อก็ถูกเปลี่ยนให้ แต่เวลานี้ขนุนไม่สามารถงมหาเสื้อผ้าตัวเองได้ สิ่งสำคัญในหัวคือการพาตัวเองออกจากบ้านพี่คณินให้เร็วที่สุดเพื่อหนีความอับอาย สับเท้ารวดเร็วเสียจนขาพันกันแทบร่วงลงมาจากบันไดในเวลาตี 5 กว่าๆ เสียงกุกกักอีกทั้งเงามือที่ไหวๆ ก็ทำให้ไข่ดาวที่ถูกปล่อยให้นอนในบ้านขยับตัวลุกขึ้นและส่งเสียงเห่า

   “โฮ่ง!”

   “ชู้วววว! ไข่ดาวเราไหว้ล่ะ อย่าเสียงดังตอนนี้ได้ป่ะ” คนรีบร้อนตาลีตาเหลือกพยายามงมความมืดสลัวออกจากบ้านหน้าตาตระหนก ทำทุกอย่างเหมือนโจรขโมยที่เผลอฆ่าเจ้าของบ้าน ปล้นทรัพย์สินที่ติดมือมาได้เพียงเสื้อผ้า   

   เสียงหงิงๆ ของไข่ดาวดูกังวลเหมือนไม่เข้าใจพฤติกรรมของขนุนสักเท่าไหร่นัก ตาของมันจ้องมองขนุนเหมือนอยากจะรั้งตัวถามด้วยความเป็นห่วง แต่สุดท้ายก็ยอมว่าง่ายไม่เห่าเรียกเจ้าของบ้านในเวลานี้

   “ขอบใจมากไข่ดาว”ขนุนยื่นมือไปขยี้หัวไข่ดาวบอกลาก่อนจะพาสารร่างของตัวเองออกมาจากที่นั่น กลับไปยังหอคอยงาช้างของตัวเองในที่สุด



   

วันต่อมา

   “เมื่อคืนมึงหายไม่หลับหอ โทรศัพท์ก็ไม่รับ วันนี้มึงไม่ไปเรียนอีก เป็นอะไรวะไอ้ขนุน”

   “.....”

   “เพื่อนๆ เค้าเป็นห่วงมึงนะเว้ย เย็นวานยังหน้าระรื่นอยู่เลย แล้วตอนนี้ดูมึงดิ ห่อตัวเป็นโรตีสายไหมเลยนะมึง ออกมาคุยกับพวกกูก่อน! ”นิวพยายามดึงผ้าห่มที่ขนุนคลุมตัวอยู่เป็นก้อนบนเตียง

   “.....”

   “มีอะไรบอกพวกกูดิวะ ไอ้ขนุน!”

   “หรือที่หายไปเมื่อคืน...แล้วกลับมาอาการแบบนี้ อย่าบอกนะว่ามึงเสร็จพี่คณินไปแล้ว!”ต้ากระโดดลงไปคลุกอยู่บนเตียงของขนุน ก่อนจะพยายามดึงผ้าห่มออก จนเผยร่างตัวอ่อนที่หน้าโทรมผมเผ้ายุ่งเหยิงอยู่ใต้ผ้าห่ม แถมตาคล้ำๆ นั่นอีก

   “ต้า นิวววว”เสียงเนือยๆ ครางชื่อเพื่อนทั้งสอง ปากบางแบะแบนส่งแววตาเหมือนหมาเศร้า

   “กะเกิดอะไรขึ้น เป็นอย่างที่ไอ้ต้าพูดเหรอวะ! ”

   “ฮืออออ...ไม่ใช่”ขนุนส่ายหน้าทำท่าอย่างกับคนจะร้องไห้โฮ

   “แล้วมันเกิดอะไร ทำไมมึงถึงอยู่ในสภาพนี้วะ”นิวเข้าจับหน้าขนุนสำรวจไปตลอดทั้งตัว

   “พี่คณินต้องเกลียดเราแล้วแน่ๆ เลยอ่ะ ฮือๆ ทำไงดี”คนตัวเล็กโผเข้าอกเพื่อนสูดน้ำมูกน้ำตาขยี้ใบหน้าลงกับเสื้อนักศึกษาของนิวจนยับยู่

   “เกลียด? เกลียดเรื่องอะไรของมึงวะ”ต้าเอื้อมมือไปถูแผ่นหลังของขนุนอย่างปลอบใจหน้างงๆ ไม่รู้ว่าเพื่อนเป็นอะไรกันแน่

   “อ้อมือมานงืมงัมงือๆ เงาอูโงมอืองึม....”ขนุนว่า

   “เชี่ย!”ต้าอุทาน

   “มึงเข้าใจมันพูด? ”

   “ไม่เลยเพื่อน”ต้าส่ายหน้าตาเบิกโพลงก่อนจะดึงขนุนที่เอาแต่ซุกหน้ากับอกเพื่อนให้หันมาพูดให้รู้เรื่อง

   “มึงหันมาเล่าให้จริงจัง กูกับไอ้นิวฟังมึงพูดภาษางึมงำไม่รู้เรื่องเว้ย! เรื่องราวเป็นยังไงพวกกูจะได้ช่วย”ขนุนมองเพื่อนตาปริบๆ พยายามตั้งสติลูบหน้าตัวเองขึ้นลงในสภาพดูไม่จืด

   “ค่อยๆ เล่า”มือของนิวตบไหล่ขนุนเบาๆ

   ตอนนี้กลางเตียงของขนุนเสมือวงไฮโลเล็กๆ ที่มีสมาชิกสามคนนั่งหันหน้าเข้าหากัน สายตาลุ้นระทึกของเพื่อนทั้งสองจ้องมองไปที่ขนุนเป็นตาเดียว รออีกฝ่ายเปิดปากเล่าความจริงให้รู้ดำรู้แดง

   “ก็เพราะเมื่อวานเป็นวันเกิดพี่คณินใช่ป่ะ....”

   “อือ”เพื่อนสองคนขานรับ

   ขนุนสูดน้ำมูกใส่ๆ ที่กำลังไหลออกมาเพราะมีไข้ก่อนจะเล่าต่อ “เราตั้งใจไปรอที่บ้านเพื่อเอาของขวัญไปให้ เรารออยู่นานเลยอ่ะ”

   “แล้วยังไง? ”

   ขนุนเหลือบมองหน้าเพื่อนเลียปากที่แห้งผากพร้อมกลืนน้ำลายลงคอ

   “จากนั้นพี่คณินก็กลับมา แต่...กลับมาพร้อมกับพี่ลูกตาล ไม่นานหลังจากนั้นพี่ลูกตาลก็กลับไป แต่เพราะตอนนั้นเรารู้สึกเฟลมากๆ หัวมันร้อนไปหมด เหมือนอารมณ์มันอยู่เหนือการควบคุม”

   “เกิดอะไรขึ้น? ”ต้าโน้มหน้าเข้ามาใกล้ราวกับฟังเรื่องระทึก สยองขวัญ

   “เราทะเลาะกับพี่คณินเพราะความงี่เง่าของตัวเอง แต่เพราะเรามันหวงจนหน้ามืดตาลายไปหมด สุดท้าย...”

   “.....”

   คนเล่าถึงกับต้องยกหมอนมาซุกหน้า ก่อนจะโผล่ตาออกมาแล้วบอกออกไป“สุดท้ายเราเลยจับพี่คณินกด”

   “เหี้ย!!!”ต้าถึงกับขยุ้มหัวตัวเองแสงสีหน้าสยอง ส่วนนิวถึงกับทาบมือทั้งสองข้างไปที่อกของตัวเองอย่างนิ่งงัน

   “มึง...มึงขืนใจพี่เค้าเหรอ? ”ต้าถามเสียงแผ่วเหมือนเพื่อนไปฆ่าใครมา

   “มันไม่ถึงที่สุด เราแค่จูบไปอ่ะ”ขนุนหน้าจ๋อยยกมือขึ้นไปสัมผัสริมฝีปากตัวเองดวงตาเหม่อลอย มันน่าเสียดายที่เค้าโกรธจนไม่รู้รส “แต่พอจูบไปได้ไม่นานมันเหมือนภาพทุกอย่างตัดไป”

   “หมายความว่าไง มึงเล่า!”คนอยากรู้เข้ามาเขย่าร่างกายขนุนอย่างบ้าคลั่ง

   “เราว่าตอนนั้นคงเพราะไข้ขึ้นแหละ ตอนแรกก็คิดว่าไหว พี่คณินต้องเสร็จเราแน่ แต่ไปๆ มาๆ หัวเรามันร้อนจนเบลอไปหมด สุดท้ายก็เลยวูบคาอกพี่คณินไปเลย”

   “ไม่ต้องมาทำตาเศร้า ที่กูฟังมามึงทำตัวเองชัดๆ ”

   “นิวอ่า ก็เราไม่รู้ว่าตอนนั้นเราคิดอะไรอยู่ รู้แค่ว่าไม่อยากเสียพี่คณินให้ใคร มันมาเองตามสัญชาตญาณ”

   “แล้วจากนี้มึงจะเอาไง ทำงามหน้าไว้กับพี่เขาซะขนาดนั้น กูไม่โทษพี่เค้าถ้าจะเกลียดมึงขึ้นมาจริงๆ ”นิวขยุ้มเส้นผมสีบลอนด์ของขนุนให้หันมาประจันหน้า อีกฝ่ายได้แต่ขมวดคิ้วชนตาละห้อย

   “อย่าพูดให้เรากลัวดิ แค่นี้เราก็กลุ้มมากพอแล้ว”

   “งั้นตัดใจไปเลยมั้ยล่ะ ถ้าอะไรๆ ยิงเดินยิ่งแย่ กูว่ามึงก็พยายามพอแล้วนะ”คนพูดสีหน้าขึงขัง ไม่เจือความหยอกล้อไว้ในแววตาแม้แต่น้อย

   “นิวว่าไงนะ.....ให้เราตัดใจเหรอ”

   “เออ ถ้าพี่เขาไม่ได้สนใจมึง แล้วมึงก็มีแต่หวังลมๆ แล้งๆ อย่างไรจุดหมาย มันมีเรื่องดีสักอย่างมั้ยลองคิดดู”

   ขนุนถึงกับหน้าเหวอ มองต้าที่ไม่รู้ว่าต้องออกความคิดไปในทางไหน สลับกับมองนิวที่ยอมปล่อยมือแล้วนั่งกอดอกมองขนุนให้คิดเรื่องนี้อย่างจริงจัง

   “ใช้สมองอ๊องๆ ของมึงตอนนี้ใคร่ครวญดูแล้วกัน”นิวส่ายหน้าถอนหายใจก่อนจะลุกเดินออกไปจากห้อง

   เรื่องนี้มีแต่ต้องให้ตัดสินใจเอง

   “ขนุน...มึงกำลังไม่สบาย กูว่าพักก่อนก็ได้ เดี๋ยวกูออกไปซื้อข้าวกับยามาให้”มือหนาตบลงบ่นไหล่เล็กปับๆ ก่อนจะทิ้งให้เจ้าของห้องล้มตัวลงนอนอย่างกับหมาหงอย ปล่อยให้ห้องทั้งห้องมีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศปลอบใจ

   “ตัดใจเหรอ.....แต่เรายังชอบพี่คณินอยู่นะ”

   ขนุนพึมพำราวกับคนเสียสติ กลิ้งไปมาจนแทบตกเตียง









ติดตามตอนต่อไป >>>

-------------------------------

แวบมาอัปแล้วววว หายไปก็ราวๆ 10 วัน ฮ่าๆ

ขอบคุณนักอ่านที่ยังรอนะคะ ไม่รู้จะขอบคุณยังไง :hao5:

อย่างไรก็ฝากน้อนหนุนมาเจอกันตอนหน้าอีกน๊าาาา



   
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 19 {อัปเดตแล้ว} 12/05/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 12-05-2019 19:12:11
น้องหนุนเกือบแล้วอย่าเพิ่งตัดใจ

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 19 {อัปเดตแล้ว} 12/05/2562
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 12-05-2019 20:19:30
ความหนุนนี่มัน ความหนุนจริงๆ อ๊องยังไงก็เกรงใจกันบ้าง สงสารพี่คณิณ 5555
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 19 {อัปเดตแล้ว} 12/05/2562
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 12-05-2019 21:40:04
ไม่ทันได้อธิบาย ดันหนีออกมาอี๊ก กว่าจะได่เคลียร์กัน จะหมดน้ำตากี่ปี๊บฮะขนุน
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 19 {อัปเดตแล้ว} 12/05/2562
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 13-05-2019 00:25:12
โถ่ ... น้องขนุน ทนอีกนิดได้ไหมครับ ให้พี่คณิณได้บอกความในใจบ้างนะครับ T^T
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 20 {อัปเดตแล้ว} 20/05/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 20-05-2019 20:46:03

ขนุนลูกที่ 20




   ครืดดด! ครืดดด!

“…..”

   “ขนุนมึงจะนั่งมองโทรศัพท์ไถตัวเองบนโต๊ะอีกนานแค่ไหนวะ ไม่รับกูรับให้นะเว้ย! ”ช้างที่จ้องโทรศัพท์ของขนุนเขม้นพูดขึ้น

   “ไม่เอา ไม่ต้อง! ”ขนุนรีบคว้าโทรศัพท์ของตัวเองแล้วยัดใส่กระเป๋ากางเกงปล่อยให้มันสั่นอยู่ทั้งอย่างนั้นโดยไม่คิดจะกดรับสาย และตั้งใจกินข้าวในจานของตัวเองเป็นพิเศษ

   “อย่าบอกนะว่ามึงตั้งใจจะหลบหน้า หลบตัว หลบหัว หลบหางพี่คณินจริงๆ ”แจ็กวางช้อน ประสานมือรองคางมองเจ้าของเส้นผมสีบลอนด์สว่างก้มหน้าก้มตากินข้าว ซึ่งเรื่องระหว่างขนุนกับคณินเพื่อนที่สนิทก็รู้เรื่องราวกันหมดแล้ว เพราะขนุนปิดเรื่องไม่เก่ง จนเผลอพูดออกไปซื่อๆ ซะอย่างนั้น

   ตอนนี้ก็ผ่านมาสองวันแล้วที่ขนุนแข็งใจไม่ยอมรับโทรศัพท์คณิน หรืออ่านไลน์ แม้กระทั่งข้อความใดๆ ทั้งสิ้น

   “ให้กูไปคุยให้มะว่ามึงขอไม่ยุ่ง ไม่เกี่ยวข้องกับพี่เค้าแล้ว”นิวแสดงความเห็นจนขนุนเงยหน้าขึ้นมามองตาวาวฉับพลัน ทั้งๆ ที่ในปากแน่นไปด้วยข้าวคำโต นิวก็แค่อยากให้ขนุนเข้าใจตัวเองในตอนนี้ให้มากที่สุด บางทีก็หงุดหงิดกับความโลเลใจในบางครั้งของขนุน ความขี้ขลาดในเรื่องที่คนอื่นเขาไม่กลัวกัน แต่กลับกล้าในสิ่งที่คนอื่นเขาไม่ทำ

   “ไอ้เอา! ”

   “กลืนข้าวแล้วพูดให้รู้เรื่อง”ต้าดันแก้วน้ำให้ ขนุนดื่มน้ำล้างคอไปอึกใหญ่ยกหลังมือขึ้นเช็ดปาก

   “ข้อร้องนะนิว อย่าไปเจอพี่คณินหรือพูดอะไรตอนนี้ได้มั้ย เราขอทำใจก่อน”

   “ถุย! ทำใจอะไรของมึง”นิวผลักหัวขนุนอย่างหมั่นไส้ “ฝ่ายโน้นป่ะที่ต้องทำใจ”

   “พวกกูไม่รู้จะช่วยมึงยังไงจริงๆ ว่ะ”ช้างกับแจ็กเกาหัวยิกๆ กับปัญญาโลกแตกของขนุน

   “เรากำลังทบทวนตัวเองอยู่ จริงๆ เราก็อยากรู้เหมือนกันว่าหากเราเลิกวุ่นวายกับพี่คณินแล้วเราจะอยู่ได้มั้ย เพราะถ้าวันนึงเรากับพี่คณินไปด้วยกันไม่ได้ เราก็อยากรู้ใจตัวเองเหมือนกัน”

   “โอ๋ๆ ขนุนคนดี อย่าทำหน้ามู่ทู่สิครับ”มือสากหนาของช้างยื่นมาบีบแก้มขาวของขนุนย้ายไปมาเป็นก้นเด็กแรกเกิด จนโต๊ะข้างๆ หันมามองแล้วอดขำไม่ได้กับท่าทางมุ้งมิ้งเกินหน้า “เอาอย่างนี้ไหม มึงก็ลองเปิดใจพบคนใหม่ดูสักครั้ง ดูสิว่าเอาเข้าจริงๆ แล้วข้างในของมึงมันสามารถตัดพี่คณินไปจากชีวิตได้จริงๆ รึเปล่า”

   “โว้ววว! เป็นงานเป็นการว่ะคุณช้าง”

   “แฮ่มๆ ผมมันคมในฝักคร้าบ”คนถูกเยินยอยืดอกซะกว้างขวาง

   “ลองเปิดใจ”ขนุนได้แต่พึมพำสิ่งที่ช้างพูด ตากลมๆ เหม่อมองไปที่พัดลมของโรงอาหารครุ่นคิด

   “หน้าตาเอ๋อๆ มึงโอเคมั้ยเนี้ย”ต้ารวบหน้าบีบปากขนุนจนยู่ให้สบตา

   “เราคิดว่าพอจะมีทางออกแล้ว”

   “ปากมึงก็ดูยิ้ม แต่ตามึงแม่งสวนทางกับรอยยิ้มฉิบหายว่ะ อ่ะกินฮอลใจจะได้เย็นลง”ลูกอมรสมินต์คูลถูกแกะแล้วยัดใส่ปากขนุน “ถ้าอร่อยจับมือ” ขนุนหยักหน้ายื่นมือไปให้ต้าจับ “แสนรู้หูตูบบบบบ”

   “ไม่ใช่หมา! ”

   “หยอกๆ ”

   “ฮันแน่ ยิ้มออกแล้วจริงๆ ใช่ป่ะ”

   “ต้าอ่ะ”



   ตึง!

   หลังกลับจากมหาลัยขนุนก็รีบตรงกลับหอซะทันที ทิ้งสัมภาระทุกอย่างที่แบกจนหนักลงพื้นแล้วโยนตัวเองลงไปบนที่นอน สายตามองเพดานอย่างใช้ความคิด มือล้วงโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าขึ้นมาดู แน่นอนสายที่ไม่ได้รับมีชื่อพี่คณินอยู่ด้วย จ้องมองไปสักพักสติของขนุนเหมือนคนเลื่อนลอย แต่จู่ๆ กลับมีสายเรียกเข้าทำเอาขนุนตกใจเผลอปล่อยโทรศัพท์จนมันร่วงกระแทกสันจมูก

   “โอ๊ยยยย! ”

   น้ำหูน้ำตาแทบไหลพราก แต่ก็หยิบหน้าจอมาดูถึงคนที่โทรเข้ามา ขนุนมองชื่อที่เมมไว้ขึ้นอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์อย่างฉงนใจ ว่าคนที่โทรมามีเบอร์ตัวเองได้ยังไง แต่ก็ตัดสินใจกดรับ

   ปกติเมมชื่อเจ้าของเบอร์ไว้เพื่อกันตัวเอง หากโทรมาจะได้รู้ว่าเป็นใคร

   “สวัสดีครับ”

   [พี่คิดว่าขนุนจะไม่รับสายพี่อีกแล้วซะอีก] เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นระคนน้ำเสียงหัวเราะอารมณ์ดี

   “เอ่อ...พี่ไม้เอกได้เบอร์ผมมายังไงครับ”

   [ขอโทษที่พี่ละลาบละล้วง เราโกรธพี่รึเปล่า]

   “ไม่หรอกครับ แล้วพี่ไม้เอกมีธุระอะไรกับผมรึเปล่าครับ”

   [เสาร์นี้ขนุนว่างไหม พอดีเพื่อนพี่มันทำวงดนตรีแล้วมีแสดงในงานเปิดตัวเครื่องใช้ไฟฟ้าของบริษัทนึงน่ะ พี่มีตั๋วสองใบอยากชวนขนุนไปด้วย]

   “เหรอครับ”

   [ว่าไง...เราอยากไปรึเปล่า พี่คิดว่าเพื่อนพี่มันคงไม่เล่นห่วยแตกจนขนุนไม่อยากไปดูหรอกนะ] อีกฝ่ายใช้น้ำเสียงสุภาพถามความเห็น แต่ฉลาดที่จะพูดไม่ให้อีกฝ่ายปฏิเสธได้

   เอาไงดีวะขนุน!

   คนตัดสินใจกัดเล็บครุ่นคิด กลอกตาไปมาเหมือนหาคำตอบจากกำแพงตรงหน้า

   “เอาอย่างนี้ไหม มึงก็ลองเปิดใจพบคนใหม่ดูสักครั้ง ดูสิว่าเอาเข้าจริงๆ แล้วข้างในของมึงมันสามารถตัดพี่คณินไปจากชีวิตได้จริงๆ รึเปล่า”

   จู่ๆ ในหัวของขนุนก็มีประโยคหนึ่งของช้างที่โผล่แว็บเข้ามาในหัว แน่นอนว่าตอนนี้ขนุนคิดได้แล้ว

   “ตกลงครับ กี่โมงว่ามาเลย”

   [ขอบคุณนะที่ยอมไปกับพี่น่ะ คิดว่าจะบ่ายเบี่ยงซะอีก]

   “ผมว่าง ก็เลยไปได้น่ะครับ”ขนุนยิ้มจืด

   [โอเค งั้น 10 โมงเช้าพี่จะไปรับหน้าหอ]

   “ครับ ตกลง”

   ขนุนวางสายจากไม้เอกไป โยนโทรศัพท์ให้ห่างตัวก่อนจะล้มตัวลงนอนกลิ้งไปมาอยู่หลายสิบตลก ฟัดหน้าลงกับหมอนไปหลายรอบ จนหน้าแดงก่ำเหมือนโดนป้ายสี ก่อนจะดีดตัวลุกขึ้นนั่งพึมพำกับตัวเอง

   “ลองไปเปิดหูเปิดตากับคนอื่นดูบ้างก็ดีเหมือนกัน บางทีเราอาจจะค้นพบตัวเองมากขึ้นกว่านี้ก็ได้”

   พูดไปปากเล็กก็เม้มแน่นแบะแบนแล้วฝังหน้าลงกับฝ่ามือตัวเอง ยอมรับการตัดสินใจที่อาจเปลี่ยนแปลงความรู้สึกบางอย่างในหัวใจตัวเองได้

   “เรา.....จะสามารถชอบคนอื่นที่ไม่ใช่พี่คณินได้มั้ยนะ? ”



   “ถ้ามึงเสือกลง skip นะกูทุบมึงแน่! ”

   “มึงจะแค้นอะไรกูนักหนา ในมือกูอย่างกะรำพัด จะรีบอูโน่ไปไหนวะ” ช้างแหล่ตามองการ์ดในมือของนิวที่กำไว้แน่น รู้อยู่แล้วว่าถ้าไม่ให้นิว skip งานนี้คนข้างๆ ชนะแน่”

   “รีบๆ ลงกูลุ้นจนหำหดหมดแล้วคร้าบบบบ”ต้าทุบตักตัวเองรัวๆ อย่างร้อนใจแนบการ์ดในมือแนบอกพึมพำภาวนาอย่างลุ้นระทึก มีจ๊ะเอ๋ให้กำลังใจอยู่ด้านหลัง ที่ลุ้นตัวโก่งด้วยทุกครั้งที่ฉิวเฉียดจะชนะ

   “ลงอะไรก็ลง กูรอแพ้อยู่เนี้ย”แจ็กที่อยู่ข้างต้านั่งหน้าเซ็งปลงไปแล้ว เพราะในมือไม่มีการ์ดแอคชั่นช่วยชีวิตสักใบ

   “หึ! แต่เสียใจด้วยนะครับเพื่อนๆ ผมของลงใบนี้”เสียงหล่อที่ถูกเค้นออกมาจากปากของช้างโยนการ์ดหนึ่งในการ์ดแอคชั่น คือ รีเวิร์ส ที่กลับทิศทางผู้เล่น งานนี้คนวางการ์ดจึงเป็นหน้าที่ของขนุนซึ่งเป็นผู้เล่นอยู่ก่อนช้าง

   คนมีโอกาสได้ลงการ์ดตาวาวหันไปมองช้างสายตาเป็นประกายวิบวับ

   “หะให้เราลงจริงอ่ะ ขอบคุณนะช้าง! ”ขนุนเอี้ยวตัวไปกอดคนข้างๆ แน่นก่อนจะฟาดการ์ดในมือใบสุดท้ายสีเหลืองเลข 1 ลงบนกองการ์ดทั้งหมดอย่างสวยงาม แล้วตะโกนขึ้นมาสุดเสียง “อูโน่!!!”

   “เวรเอ้ยยยย!”ต้ายีหัวตัวเองลงนอนดิ้นในตักแฟนสาว

   “คือกูแพ้? ”นิวนั่งนิ่งมองการ์ดสีเหลืองใบสุดท้ายในมือเช่นกัน ที่ไม่มีโอกาสได้ลง

   “อามิตตาพุทธ”ส่วนแจ็กพนมมือข้างเดียวเข้าทางธรรมไปแล้ว

   “นี่ขนุน กูเป็นคนเลือกให้มึงชนะ” ช้างหันไปเอาใจ “งั้นรอบนี้...กูไม่ต้องเดินลงไปซื้อเบียร์ที่หน้าปากซอยใช่มั้ยครับ”

   “คนสันดานหยาบพูดจาดี กูขนลุกว่ะ”นิวเหลือบตามองอย่างก้าวร้าว

   “งั้นรอบนี้เราให้.....นิวไปซื้อกับแจ็ก”

   “YaHoo!!! กูรอดว่ะ ฮ่าๆ ฮ่าๆ! ”เสียงหัวเราะลั่นมาจากต้าที่ลุกขึ้นกระโดดตัวปลิว

   สุดท้าย คนที่แพ้เกมก็ต้องไป จนตอนนี้ภายในห้องของขนุนจึงมีต้า จ๊ะเอ๋และช้างที่นั่งเก็บการ์ด สีหน้าสบายใจ พูดคุยกันสนุกสนาน มันทำให้บรรยากาศภายในห้องของขนุนดูครึกครื้นไปในทันที ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าเจ้าของห้องแทบจะขดตัวม้วนติดอยู่กับผ้าห่มผื่นใหญ่ไม่กระดิกตัวทำอะไรแล้วแท้ๆ
 
   เหมือนฟ้ารู้ ดินรู้ จึงส่งเพื่อนผู้ชอบโหวกแหวกเสียงดังมาเยือนขนุนถึงห้องจนห้องใกล้เรือนเคียงทุบประตูด่าเตือนไปหลายรอบ

   ทำไมขนุนจะไม่รู้ล่ะว่าพวกเพื่อนทั้งหลายคิดอะไรถึงมาห้องเขาโดยไม่บอกล่วงหน้า ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นห่วง

   “ขอบใจมากนะ”อยู่ดีๆ ขนุนก็พูดขึ้น

   “ขอบใจอะไรของมึง หรือเรื่องที่กูมาเสียงดังให้มึงถูกด่า? ”ต้าพูด พร้อมกับโยนแผ่นมันฝรั่งทอดใส่ขนุน ที่โยกตัวไปงับรับได้อีก

   “แสนรู้ว่ะ”ช้างหัวเราะลุกขึ้นไปทิ้งตัวลงนั่งแล้วล้มนอนบนเตียงซึ่งเจ้าของนั่งกอดเข่าอยู่ที่พื้น

   “พรุ่งนี้เราไปเที่ยวกับพี่ไม้เอกนะ”

   “เอ่อ เที่ยวซะบ้างจะได้ไม่หดหู่”เกือบจะเออออคล้อยตามไปแล้วถ้าคนฟังไม่เอะใจถึงชื่อๆ หนึ่ง “เดี๋ยว! มึงไปกับพี่ไม้เอก? ”ต้าตาแทบถลนออกนอกเบ้า

   “ไม่จริงอ่ะ นิวรู้มันต้องขึ้นแน่ๆ ”จ๊ะเอ๋ที่เดินไปรินน้ำหันมาให้ความสนใจ

   “แต่พี่เค้าโทรมาชวนเราเมื่อเย็นนี้”

   “แล้วพี่ไม้เอกรู้เบอร์มึงได้ไงวะ กูไม่เคยบอกนะเว้ย แล้วได้นิวก็ยิ่งไม่มีทางใหญ่ ห่วงมึงจะตายเยี่ยงลูกในไส้! ”

   “เออ...กูขัดนิดนึง”ช้างเด้งตัวลุกขึ้นมานั่งยิ้ม แล้วยกมือขึ้นระดับข้างหู

   “อะไร? ”

   “กูเองแหละ”

   “ห๊ะ! มึงบอกเบอร์ไอ้ขนุนกับพี่ไม้เอกเหรอวะ ทรยศ!”

   “ก็ ก็กูคิดว่ามันไม่เสียหาย ให้ขนุนมันไปได้เปิดรับคนอื่นบ้าง ไอ้พี่ไม้เอกก็ไม่ได้แย่ไปหมดซะทุกเรื่องป่ะว่ะ ทั้งหล่อเท่ สูงยาว เข่าดี บ้านมีฐานะ ติดตรงด่าแรงเฉพาะคนเท่านั้นเอง”ช้างไหวไหล่ ขนุนมองตากลม

   “ช้างใจร้ายป่ะวะ ขายเพื่อนรึไง”จ๊ะเอ๋หันไปเหวใส่อีกคน

   “มึงไม่คิดจะโกรธหน่อยรึไง? นี่กูเกรี้ยวกราดแทนมึงไปหลายเว่ลแล้วนะเว้ย! ”ต้าหันไปมองเพื่อน

   “ก็ดี อย่างช้างว่า อะไรที่ควรเปลี่ยนแปลงถ้าไม่เริ่มต้นก็คงไม่รู้ บางทีเราอาจจะค้นพบว่าจริงๆ แล้วเราแค่ปลื้มพี่คณินมากๆ ก็เท่านั้น อาจไม่ใช่รักจริงๆ ก็ได้”

   “แล้วทำไมมึงต้องแบะปากเหมือนจะร้องไห้วะถ้าแน่จริง”

   “เราม่ายได้ล้องห้ายยยย”

   “กูว่าแล้ว”ช้างยกมือแปะหน้าผากมองขนุนที่เหมือนอยากจะปล่อยโฮแต่กลั้นสุดใจจนหน้าเบี้ยวไปหมด แก้มขาวๆ เกร็งจนเป็นก้อนแก้มกลมๆ “เอานา...ลองสักตั้งเพื่อตัวมึงก็ได้ มันก็คงไม่ได้แย่”

   “อือ”คนพยักหน้าหน้าสูดน้ำมูกจมูกบานคว้ากระป๋องเบียร์ขึ้นกระดกยกใหญ่ฮึดสู้

   “เดี๋ยว! ”

   “ต้าอย่าห้าม เราขอเมาหลับอ่ะคืนนี้”

   “กูจะบอกว่านั่นมันกระป๋องกู ของมึงอยู่โน่น สัส! ”

   “ง่ะ! ขอโทษ”



มอP

   “ฮัลโหลวววว สติยังอยู่มั้ยครับคุณคณิน”

   “มึงจะดัดลวดออโธหรือประกวดตัดลวดต้นบอนไทรครับ แบบนั้นมันใส่ฟันคนได้ไงวะใหญ่บ๊ะเทิ่มขนาดนั้น กูว่าวันนี้พอก่อนเหอะมึงดูไม่ไหวละ”

   “อืม”คนตอบถามคำตอบคำวางเครื่องมือแล้วจัดการเก็บไม่พูดพร่ำทำเพลง อนาวินเดินเข้าไปประกบด้านหลังวางมือไปบนไหล่คนตัวสูงที่หน้าหุบเป็นบัวตูมมาสองวันแล้ว

   “เรื่องขนุนใช่มั้ย? ”อนาวินถอนหายใจมองเพื่อนที่แสดงอาการออกทางสีหน้า

   “มึงยังไม่ได้คุยกับน้องเค้า? ”

   “กูพยายามโทรไปแล้วแต่ขนุนไม่รับ”

   “ส่งข้อความล่ะ? ”

   “ส่งแล้วเหมือนไม่อ่าน”

   “พรุ่งนี้ไปหาเป็นไง วันหยุดพอดี เรื่องทำรีเสิร์ชเดี๋ยวกูกับไอ้โจมจะช่วยทำกันไปก่อน”

   “ขอบใจพวกมึงมาก”คณินหันไปขอบคุณเพื่อนจากใจจริง มองสภาพใบหน้าหล่อเหลาของเพื่อนทั้งสองที่มีขอบตาดำคล้ำ สิวผุดขึ้นประประปรายเพราะความเหนื่อยล้าและความเครียดไม่ได้ต่างไปจากคณินเอง งานที่กองท่วมหัวเป็นภูเขา ไหนจะงานแก้แลปที่ทำวนซ้ำเพราะสมาธิหดหาย

   เพราะแบบนี้จึงมีเวลาไม่มากที่จะแก้ปัญหาส่วนตัวให้ถึงที่สุด คณินทำดีที่สุดคือการพยายามติดต่อขนุน ไม่ได้อยากนิ่งเฉยเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายต้องเข้าใจอะไรบางอย่างที่ผิดพลาดไปอย่างแน่นอน และที่สำคัญเขายังไม่ได้บอกความรู้สึกของตัวเองให้ขนุนเข้าใจเลยด้วยซ้ำ อีกฝ่ายก็เตลิดป่าราบไปเองแล้ว

   “พวกกูรอฟังข่าวดี”

   “อือ”

   คณินยิ้มรับคำอวยพรจากสองเพื่อนเกลอ แล้วย้ายสายตาไปมองสร้อยข้อมือที่ทำจากเงิน ของขวัญที่คณินได้รับจากขนุน เขายังไม่ได้อวดมันกับขนุนเลยว่าเขาชอบมันมาก แต่น้อยกว่าเจ้าของนิดหน่อย



   เช้าสายของวันเสาร์ตามเวลานัดพบขนุนยืนรอใครบางคนอยู่หน้าหอ ระหว่างนั้นขนุนก็คุยเล่นฆ่าเวลากับพี่สุภาพยามประจำหอ ภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที จู่ๆ ก็มีรถคันหรูสัญชาติอเมริกันสีแดงสะท้อนแสงแทบทะลุตาก็มาหยุดกึกอยู่ตรงหน้าขนุน ความไม่คุ้นตาจึงทำให้ขนุนได้เพียงแต่มองไม่กล้าขยับตัว ไล่มองความเท่ของรถตรงหน้าด้วยความสนใจเท่านั้น

   “ขนุนขึ้นมาครับ”

   กระจกไฟฟ้าด้านข้างคนขับลดลง เสียงเรียกทำให้ขนุนต้องก้มตัวมองลอดผ่านกระจกก็เจอกับเจ้าของรถคันโก้

   “พี่ไม้เอก? ”

   “เร็ว เดี๋ยวไม่ทัน”เจ้าของรถเอื้อมมาเปิดประตูและผลักออกให้ขนุนขึ้นมา

   “ผมคิดว่าเราจะไปกับมอเตอร์ไซต์ซะอีก”ขนุนจำได้ถึงวันที่เขาซ้อนท้ายไม้เอกกลับหอในคืนที่คณินมาหา

   “พี่อยากให้ขนุนนั่งสบายๆ มากกว่า”คนที่นั่งข้างๆ เอื้อมมือมาดึงเข็มขัดใส่ให้ขนุนก่อนจะแตะคันเร่งเบาๆ รถก็แทบบินได้ แถมตัวเครื่องยังเงียบความสั่นของเครื่องยนต์แทบเป็นศูนย์

   “ขอบคุณครับ งานคอนฯ เริ่มกี่โมงครับ”

   “บ่ายๆ น่ะ”ไม้เอกหันมายิ้มให้ขนุน วันนี้อีกฝ่ายแต่งตัวได้สะดุดตาแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน อาจจะเพราะขนุนเคยชินที่จะเห็นรุ่นพี่อย่างไม้เอกในชุดนักศึกษาซะมากกว่า แต่วันนี้ดูพิเศษกว่าปกติ

   “วันนี้พี่ไม้เอกแต่งตัวหล่อมากเลยครับ ผมดูจืดไปเลย”คนมองคิดอย่างไหนพูดไปอย่างนั้นตามที่เห็น แต่คนฟังกลับรู้สึกแฮชแท็กใจอย่างแรง

   “ขนุนก็แต่งตัวน่ารักแล้ว”

   “ผมก็อยากหล่อบ้างนะครับ”ขนุนก้มมองตัวเองที่แต่งตัวสบายๆ ด้วยเสื้อยืดสีเท่าลายยอดมนุษย์สวมทัพด้วยเสื้อแขนยาวมีฮู้ดสีขาวกับกางยีนสีดำรองเท้ากีฬาสีขาวคู่โปรดที่ใส่ซ้ำทุกโอกาสก็เท่านั้น หากเทียบแล้วขนุนมองตัวเองเป็นเด็กน้อยในพริบตา

   ดูไม่เท่เอาซะเลย

   “อย่าทำหน้างอแบบนั้นสิ เดี๋ยวพี่พากินข้าวปลอบใจ”ขนุนหันไปมองไม้เอกที่ให้ความรู้สึกต่างไปจากเวลาเจอที่มหาลัย ดูเป็นกันเองและเอาใจใส่คนอื่นไม่น้อย

   “ปกติเป็นอย่างนี้เหรอครับ”

   “ขนุนหมายถึง? ”

   “อ้อ เปล่าครับ”ขนุนส่ายหน้ามองไปยังเส้นถนนที่ยังคงคับเคลื่อนไปได้อย่างไม่ติดขัด

   หรือบางทีเราไม่เคยมองพี่ไม้เอก ถึงได้ไม่รู้ว่าปกติของพี่เขาเป็นคนยังไง



   



(ต่อด้านล่าง)
   
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 20 {อัปเดตแล้ว} 20/05/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 20-05-2019 20:47:45


สถานที่ที่ไม้เอกพาขนุนมานั้นเป็นห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองที่ใครๆ ก็ต่างคุ้นเคยกันดี เพราะถึงก่อนเวลาไม้เอกจึงพาขนุนไปเลี้ยงข้าวเป็นมื้อเที่ยง ก็ดูรู้ว่าตั้งใจให้เป็นอย่างนั้นตั้งแต่แรกแต่ขนุนก็ไม่ได้ติดขัดอะไร สถานที่จัดงานเปิดตัวเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นลานกิจกรรมหน้าห้างที่กั้นโซนเอาไว้สำหรับแขกที่มันบัตร VIP ซึ่งไม้เอกก็มีมันอยู่ในมือ

   ภายในงานมีบริการเครื่องดื่มโดยมีบริกรคอยดูแล แต่ขนุนก็ถูกดูแลอีกทีจากไม้เอกจนรู้สึกว่าตัวเองอย่างกับราชา หรือไม่ก็คุณหนูจากคฤหาสน์เศรษฐีที่มีพ่อบ้านคอยปรนนิบัติ

   แน่นอนว่าไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง แต่ข้างในของขนุนกลับรู้สึกว่าอะไรที่มันมากเกินไปก็ทำให้ตัวเองรู้สึกอึดอัดเหมือนกัน

   “อยากได้อะไรอีกมั้ยเดี๋ยวพี่ไปหยิบให้”แน่นอนว่านอกจากเครื่องดื่มยังมีพวกอาหารจำพวกชิ้นเล็กชิ้นน้อยให้แขกในงานได้ละเลียดชิม

   “พะพอแล้วครับ ผมอิ่มจนพุงยื่นแล้ว เอ่อพี่ไม้เอกครับ เพื่อนพี่ที่จะขึ้นเวทีเล่นดนตรีใครเหรอ? ”

   “ไอ้ยิปน่ะ”ไม้เอกไหวไหล่เหมือนเรื่องธรรมดา

   “พี่ยิปเหรอ ไม่ยักรู้นะครับว่าสายดนตรี เคยเห็นแต่ตอนตีกลองวันรับน้อง จากนั้นผมก็ไม่เห็นว่าพี่ยิปเคยขึ้นเวทีในมหาลัยเลย”

   “มันซุ่มน่ะ งานในไม่รับงานนอกเงินดีกว่า แถมไม่ถูกนินทาว่าห่วยจากพวกปากไม่สร้างสรรค์ที่ชอบอิจฉา”

   “มันก็จริงครับ”ขนุนพยักหน้าเห็นด้วย การคุยกันดำเนินไปเรื่อยๆ ระหว่างรองานเริ่มในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ผมเห็นพี่ยิปและเพื่อนพ้องในวงขึ้นมาเซตเครื่องดนตรีต่างๆ อยู่บนเวที ไม้เอกโบกมือให้คนที่อยู่บนเวทีเป็นอันรู้ว่ามาให้เห็นหัวแล้ว

   ขนุนที่นั่งมองบรรยากาศรอบงานก็เหมือนต้องสะดุ้ง กลายเป็นพวกตกใจง่ายกับสายเรียกเข้า อาการหลบหลีกการเผชิญหน้ากับใครบางคนยังฝังหัวอยู่ตอนนี้ แต่ปรากฏว่าไม่ใช่ขนุนเลยโล่งใจ

   “พี่ไม้เอกครับ ขอผมไปคุยโทรศัพท์แป็บนึงนะครับเดี๋ยวมา”

   ไม้เอกเลิกคิ้วสูงเป็นเชิงครุ่นคิด แต่ก็พยักหน้าตอบ

   “ว่าไงนิว มีอะไร? ”

   [พวกกูโทรมาเพราะเป็นห่วง นั่นมึงอยู่ไหนวะไอ้ขนุน! ]เสียงก้องจากอีกปลายสายแน่นอนว่าอีกฝ่ายคงกำลังเปิดลำโพง เดาได้ว่าไม่ได้มีนิวคนเดียวที่เอียงหูฟังเรื่องของเขาอยู่

   “อยู่ห้างที่ลานกิจกรรมเดี๋ยวงานกำลังจะเริ่มแล้ว”

   [แล้วพี่ไม้เอกเป็นไงบ้างวะ?....นิวกูขอพูดบ้าง.....ขนุนมึงโอเคใช่มั้ยวะ...ไอ้ช้างกระแทกกูทำเหี้ยอะไร ให้กูพูดจบก่อนดิวะสัด! มึงจะกลับกี่โมงฝากซื้อของหน่อยดิไหนๆ ก็ไปข้างนอกแล้ว….มันใช่เวลามั้ยไอ้แจ็ก!]

   เสียงตีกันนัวทำเอาขนุนถึงกับต้องยกหูให้ห่างจนต้องถอนหายใจ

   “เหอะนา เราออกมาเดี๋ยวก็กลับ งานน่าจะเลิกประมาณ 6 โมงตอนเย็น พี่ไม้เอกก็ดูโอเคกับเราดี เอาเป็นว่าจะกลับไปเล่าให้ฟัง” ขนุนหันไปมองคนที่เดินตามมา “แค่นี้ก่อนนะพี่ไม้เอกมาตามแล้ว สงสัยงานเริ่มแล้ว”

   [พี่ไม้เอกทำอะไรมึงกดฉุกเฉินมาเลยนะเว้ย! ]

   “เราอาจจะสมยอมก็ได้ใครจะไปรู้ พี่ไม้เอกก็ดูไม่เลว” ขนุนตอบเสียงเนือยๆ ไปอย่างนั้น ก่อนจะกดวางแล้วเดินตามคนที่มารอเข้างานไป จนเวลานี้เหล่าเพื่อนฝูงที่มารวมตัวกันที่ห้องของต้าราวกับคืนนี้มีแมตช์บอลคู่เดือดต่างนิ่งงันกันไปเป็นแถบๆ

   หลังจากจบงานคอนเสิร์ตแล้ว ขนุนแวะไปเจอพี่ยิปที่หลังเวทีกับไม้เอกก่อนจะทักทายและร่ำลากันหลังงาน ขนุนเพิ่งจะรู้ว่าออแกไนซ์รับจัดงานในครั้งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับไม้เอก นั่นคือเป็นธุรกิจของครอบครัว ถึงว่าบัตร VIP ที่มีแต่คนระดับหรูๆ มาอยู่ในมือไม้เอกได้

   หลังจากปลีกตัวออกมาจากการพูดคุยที่ทำให้ขนุนรู้สึกตัวลีบเล็กได้ บรรยากาศธรรมดาๆ ด้านนอกยังจะทำให้ขนุนรู้สึกสบายใจกว่าที่ต้องเจอกับคนอีกระดับหนึ่งพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องไกลตัวที่ขนุนไม่เข้าใจ ไม้เอกดูเป็นการเป็นงานนั่นคงเพราะหน้าตาของครอบครัว ขนุนก็พอรู้มาบ้างว่าไม้เอกบ้านรวยแต่ก็คิดไม่ถึงว่าจะดูยิ่งใหญ่อะไรขนาดนั้น

   คนตัวเล็กหย่อนตัวลงนั่งใกล้ๆ กับลานน้ำพุ แกว่งขาที่ลอยจากพื้นก้มหน้ามองรองเท้ารอไม้เอก

   ถึงจะมีผู้คนพลุกพล่านมากหน้าหลายตา ทว่าข้างในของขนุนกลับรู้สึกเหงาอยู่ดี ความสนุกของเสียงดนตรีมันไม่ได้คั่งค้างอยู่ในใจขนุนแม้แต่น้อย มันยิ่งกลับทำให้ขนุนคิดถึงบรรยากาศสงบๆ ที่มีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะมากกว่า ห้างตรงหน้าที่หรูหราก็เทียบไม่ได้กับการเดินตลาดยามค่ำคืนกับคนที่คุยด้วยถูกคอถูกใจ

   กลิ่นน้ำหอมยิ่งสู้ไม่ได้กับกลิ่นไหม้จากของปิ้งย่างและจากกลิ่นเหงื่อของผู้คนที่ปะปนเบียดไหล่เต็มไปด้วยคำวิจารณ์ร้านค้าตั้งพื้น

   แค่คิดก็ทำให้ขนุนเผลอยิ้มออกมาเมื่อย้อนถึงวันวานที่มีคณินอยู่ในนั้น

   ผมคิดถึงพี่จังเลย

   ตอนนี้พี่คณินกำลังทำอะไรอยู่?

   กินข้าวแล้วรึเปล่า หรืออ่านหนังสือจนลืมเวลา?

   ไข่ดาวจะถูกทิ้งให้เหงาไหม?

   ได้กินของอร่อยๆ นอกจากอาหารเม็ดหรือเปล่า?

   แล้ว.....พี่คณินจะยังนึกถึงผมที่ทำตัวงี่เง่าไม่รับสายไม่ติดต่อพี่มั้ย?

   ในความคิดวกวนที่ตัดขาดจากสิ่งรอบกายภายนอก ขนุนรู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียว ทั้งๆ ที่มีผู้คนเดินผ่านไปมา ขอบตาเริ่มรู้สึกร้อนผ่าวเมื่อคิดเรื่องเหล่านั้น จมูกเริ่มรู้สึกหายใจไม่สะดวก ในใจยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ามันกำลังบีบรัดให้ขนุนรู้สึกเจ็บแค่ไหน

   มันยากจริงๆ ที่จะพยายามไม่คิดถึงใครอีกคน

   “ทำไมถึงมานั่งอยู่ตรงนี้คนเดียว”

   ใบหน้าที่ก้มงุดกำลังเก็บกลั้นอารมณ์ พลันมีเสียงทุ้มนุ่มหูที่ขนุนชอบฟังดังขึ้นตรงหน้า สายตาที่ก้มมองลงต่ำย้ายไปมองปลายเท้าปริศนาที่มายืนอยู่ตรงหน้า เวลานั้นหัวใจของขนุนแทบหยุดเต้นเหมือนภาพทุกอย่างรอบตัวหยุดนิ่งกะทันหัน ทันทีที่ขนุนค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไล่สายตากลมใสที่เบิกโพลงไปตามขายาวย้อนขึ้นด้านบนกระทั่งหยุดและจ้องมองใบหน้าอบอุ่นที่คุ้นเคย มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำให้ขนุนเชื่อได้

   “พะพี่คณิน? ”

   “ทำไมมองพี่แบบนั้น ไม่เคยเห็นหมอที่ไหนหน้าตาดีตัวเป็นๆ เหรอครับ”น้ำเสียงนุ่มเอ่ยหยอกเย้าใบหน้าที่ดูอิดโรยเล็กน้อยกำลังยิ้ม มองขนุนที่ชะงักค้างอ้าปากเล็กน้อยราวกับตกใจ

   “มา...มาได้ยังไง”คล้ายเสียงละเมอที่เอ่ยถาม

   “เพราะใครกันที่หนีพี่ แบบนี้จะไม่ให้ตามได้ยังไงล่ะครับ”

   รอยยิ้มที่ขนุนแสนคิดถึงราวกับกำลังเบ่งบานอยู่ตรงหน้า ขนุนรู้สึกเหมือนว่ามีเทวดามาโปรดอภัยบาปให้ทั้งชีวิต

   “ขนุน กลับกับพี่นะแล้วเราไปคุย...”

   “ขนุน! นั่นใครครับ”ทว่าระหว่างที่ขนุนกำลังฟังในสิ่งที่คนตรงหน้าพูด ไม้เอกที่เดินเข้ามารีบขัดจังหวะ พร้อมกับก้าวไปยืนอยู่ข้างๆ ขนุนชิดใกล้ อ้อมแขนจากทางด้านหลังไปกอดไหล่ขนุนแสดงความเป็นเจ้าของ

   คณินที่ยืนอยู่ตรงหน้าเลื่อนสายตาไปมองมือที่วางอยู่บนไหล่เล็กนิ่งเรียบ รอยยิ้มเมื่อครู่เลือนหายไปพริบตานัยน์ตาที่อ่อนโยนครู่หนึ่งดูขึงขังแต่ก็มลายหายไปในพริบตาราวกับซ่อนไว้ พร้อมกับกลับมายิ้มให้กับคนที่เคยรู้จักแต่ชื่อ และพอจะบอกได้ว่าคนตรงหน้าคือใครจากคำบอกเล่าของเหล่าเพื่อนขนุนที่บอกพิกัดให้คณินมาตามขนุนในวันนี้

   “ผมชื่อคณิน เป็นรุ่นพี่มอP ที่รู้จักกับขนุนครับ ถ้าให้ผมเดาคุณคงชื่อไม้เอก เป็นรุ่นพี่ของขนุนในมหาลัย”ไม่ต้องรอให้ใครแนะนำตัวให้ คณินแนะนำตัวเองและกล่าวถึงคนตรงหน้าอย่างฉะฉานแววตาดูกร้าวขึ้นเล็กน้อยผิดกับเวลาปกติไปมาก

   “คุณดูเหมือนจะรู้จักผมดีทีเดียว”เจ้าของร่างสูงที่ไม่แพ้คณินเอ่ยขึ้นสีหน้ายิ้มรับแต่ดวงตาดูเอาเรื่อง แสดงท่าทีเหมือนไม่สนใจคณินนัก ทว่ามองจากสายตาก็คงจะอ่านได้ว่าไม่คิดอยากจะเจอหน้ากันเป็นครั้งที่สอง

   “ครับ ได้ยินมาจากเพื่อนของขนุนมาบ้าง”

   “ตอนนี้ผมคงต้องพาขนุนไปแล้ว ไว้คุยกันใหม่ครั้งหน้าจะดีกว่า” ไม้เอกหันไปสบตาขนุนที่จ้องมองคณินอย่างรู้สึกได้ “ไปกันเถอะขนุน” ละจากไหล่เล็ก มือของไม้เอกก็คว้าเข้าจับมือของขนุน ยิ้มทิ้งท้ายให้คนที่เพิ่งเจอก่อนจะดึงรังคนกลางให้เดินตามไป

   ขนุนมองมือตัวเองที่ถูกกุมไว้แน่นจากไม้เอก ไม่ทันพูดอะไรก็จำต้องเดินตามไปทั้งอย่างนั้น

   มันก็ถูกแล้ว...วันนี้เรามากับพี่ไม้เอกก็ต้องไปกับพี่เขาสิ

   หมับ!

   เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดสำหรับขนุน เมื่อมีอีกมือที่ยื่นมารั้งแขนไว้เป็นคณิน ผู้เป็นเจ้าของฝ่ามือที่ทั้งอุ่นและเย็นเยือกในความรู้สึกเดียว เพราะแรงรั้งจากคณินที่คว้าแขนขนุนไว้ฉับพลัน ทุกอย่างจึงชะงักลง ขนุนสบเข้ากับนัยน์ตาที่เคยอ่อนโยน ทว่าบัดนี้มันไม่ได้เป็นอย่างที่เคย ทั้งความกร้าวและดูดุดันแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากำลังต้องการอะไรจากไม้เอกที่กำลังประจันหน้าอยู่ตรงนี้

   สถานการณ์ทุกอย่างราวกับแบ่งโลกออกเป็นสองใบ ในขณะที่ขนุนอยู่ตรงกลาง

   แน่นอนว่าเหตุเกิดท่ามกลางคนจำนวนมากที่เดินผ่านไปมา มันแน่อยู่แล้วที่จะมีสายตานับสิบๆ คู่มองมาด้วยความอยากรู้

   “คุณกำลังจะทำอะไรไม่ทราบ”

   “ผมต้องการพาขนุนกลับ โปรดปล่อยมือขนุนด้วย”

   “หึ! ” คนถูกสั่งหัวเราะไม่พอใจ “วันนี้ผมเป็นคนพาขนุนมาเพราะฉะนั้นผมจะพาขนุนกลับไปส่งเอง ปล่อยมือคุณได้แล้วมันน่ารำคาญนะถ้าจะทำอย่างนั้น มันดูเหมือนโจรขี้ขโมย! ”

   “ขอโทษนะ ผมจะกลับก็ต่อเมื่อขนุนกลับกับผม”

   ฝึบ!

   ใครจะไปคิดว่าจู่ๆ คณินจะเล่นไม้นี้ โดยการที่เข้าไปปลดมือขนุนจากอีกฝ่ายอย่างซึ่งๆ หน้า แล้วดึงเจ้าของใบหน้าเหลอหลากึ่งเดินกึ่งวิ่งให้ตามไป ท่าทีราวกับเด็กเอาแต่ใจดื้อดึงไม่มีผิด ขนุนได้แต่อ้าปากเหวอไม่คิดว่าคณินจะทำแบบนั้น

   ขโมยขนุนมาต่อหน้าพี่ไม้เอก จนอีกฝ่ายถึงกับนิ่งอึ้งให้กับการกระทำที่โผงผางแบบนั้น

   ขนุนได้แต่เดินตามคณินที่เอาแต่ลากขนุนไปจนไกลและลับสายตาของไม้เอกด้วยความเร็ว กระทั่งก้าวช้าลงเพราะขนุนพยายามรั้งไว้

   “ดะเดี๋ยวครับ พี่คณิน!”

   “.....”

   “พี่จะพาผมไปไหน”

   “กลับบ้าน”ร่างสูงที่เอาแต่เดินตอบมาสั่นๆ

   “บ้านใครครับ”

   “บ้านพี่”

   ได้ยินแค่นั้นขนุนถึงกับขนลุกซู่ แทบอยากสะบัดมือคณินทิ้งแล้ววิ่งหางจุกตูด ภาพคืนนั้นยังตามมาหลอกหลอน มันทั้งอายทั้งเจ็บใจที่ทำเรื่องเอาไว้เยอะจนไม่อยากเผชิญหน้า เขาไม่รักแล้วยังจะไปฝืนใจ แถมยังใส่อารมณ์ซะจนทะลุเพดานแตก

   “มะไม่เอาครับ ผมไม่อยากไป ให้ผมกลับหอเถอะครับ เราแยกกันตรงนี้เลยก็ได้”ขนุนมองลานจอดรถที่เดินมาไกลอย่างกังวล

   คณินได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกไม่ดี คิดไปว่าขนุนคงจะหน่ายตัวเขา แต่ถึงยังไงมือของคณินก็ไม่อยากปล่อยขนุนไปตอนนี้แน่ๆ ร่างสูงชะงักเดินหันมาประจันหน้ากับขนุนที่ส่งสายตาลนลานไปหมด ร่างเล็กราวกับลูกนกผวาที่ตกจากรัง ความรู้สึกอยากเข้าไปกอดและพูดทุกอย่างในใจมันอัดแน่นไปหมดจนไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน

   “ไข่ดาวน่ะ.....”จู่ๆ คณินก็โพล่งออกไปสีหน้าตึงเครียด

   “เอ๊ะ? ไข่ดาวทำไมเหรอครับ? ”ดูเหมือนจะได้ผล ขนุนนิ่งขึ้นเมื่อคณินพูดถึงเรื่องนี้ เรื่องที่ไม่เกี่ยวโยงกับตัวเองสักนิดแต่กลับคิดและพูดมันออกไปซะอย่างนั้น

   คำว่าประหม่าไม่เข้าใครออกใครจริงๆ รวมถึงความกลัวก็ด้วย

   “ไม่กินอะไรมาสองวันแล้ว เหมือนจะป่วย มันไม่ยอมขยับตัวไปไหนเลยด้วยซ้ำ”น้ำเสียงที่อ่อนลงประกอบกับสายตาเศร้าและดูกังวลดึงความสนใจของขนุนเอามากๆ

   “ไข่ดาวไม่สบายมากเหรอครับ”ขนุนเบิกตาโพลงจ้องหน้าคณินที่หลบสายตาแล้วพูดออกไป

   “อือ....เพราะแบบนี้พี่เลยมาตามเรา มันคงคิดถึงใครสักคน”

   นั่นคงเป็นเจ้าของหมามากกว่าจะเป็นไข่ดาว

   “ไข่ดาว...”ขนุนครวญ “งั้นรีบไปเถอะครับ รถพี่คณินจอดตรงไหน”

   “ข้างหน้าซ้ายมือ”

   คนตัวเล็กกว่าชะเง้อมองหาและเหมือนจะเจอป้ายทะเบียนรถที่จำได้ จึงรีบก้าวเดินไปไม่รอรี คณินที่เดินตามอยู่ด้านหลังถึงกับยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองแรงๆ ที่เผลอไปแช่งเจ้าหมาแสบที่วันๆ กินอย่างอิ่มหนำสำราญวันนึงไม่ต่ำกว่าสามมื้อ ไม่นับรวมขนมขบเคี้ยวอีก มีความสุขไม่ทุกข์ร้อนเสียยิ่งกว่าเขาของซะอีก

   คงบ้าไปแล้วที่พูดโกหกไปแบบนั้น!

   “พี่คณินเร็วครับ!”ขนุนตะโกนมาตรงข้างประตูรถ

   “อื้อ!”คนถูกเร่งวิ่งเหยาะๆ ไปที่รถ

   เอาวะ! แก้ปัญหาไปทีละเปราะก็แล้วกัน






ติดตามตอนต่อไป >>>


 -----------------------------


ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 20 {อัปเดตแล้ว} 20/05/2562
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 20-05-2019 21:07:38
ร่าสงสารไข่ดาวจะแกล้งป่วยเป็นมั้ยนะ :laugh:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 20 {อัปเดตแล้ว} 20/05/2562
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 20-05-2019 21:26:18
ที่ป่วยน่ะ คณินหรอก ไม่ใช่ไข่ดาว
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 20 {อัปเดตแล้ว} 20/05/2562
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 20-05-2019 21:31:35
พี่คณินเตี้ยมกับไข่ดาวยัง
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 20 {อัปเดตแล้ว} 20/05/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 20-05-2019 21:55:58
 :L2: :pig4:

มีน้องหมาช่วย
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 20 {อัปเดตแล้ว} 20/05/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 21-05-2019 18:40:13
 :z1:

 :กอด1: :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 20 {อัปเดตแล้ว} 20/05/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Mayana ที่ 28-05-2019 13:31:33
 o13
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 20 {อัปเดตแล้ว} 20/05/2562
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 14-06-2019 09:39:56
ขนุนโดนลักพาตัวไปไหน หายไปนานละนะ คิดถึงๆๆๆ
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 21 {อัปเดตแล้ว} 21/06/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 21-06-2019 20:27:06


ขนุนลูกที่ 21




   ทันทีที่เปิดประตูบ้านเข้าไปเจ้าหมาหูตั้งอย่างไข่ดาวที่นอนแผ่พุงตากพัดล้มที่คณินเปิดทิ้งไว้ให้ก็รีบดีดตัวลุกขึ้นวิ่งไปตรงประตูทางเข้าบ้านท่าทางระริกระรี้ ขนุนที่โผล่หน้าเข้ามาแปลกใจไม่น้อยทิ้งกระเป๋าลงข้างตัวจับไข่ดาวที่พยายามจะกระโจนเลียหน้าตัวเองสำรวจดูแล้วขมวดคิ้วมุ่น

   คณินที่เดินตามเข้ามาเม้มปากแห้งเกาท้ายทอยตัวเองแทบถลอก

   “มันป่วยจริงเหรอครับ ผมว่าไข่ดาวดูอ้วนขึ้น”

   “ท้องมันอืด น่าจะเป็นอย่างนั้นพอดีพี่พามันไปหาหมอมาแล้ว แต่นึกไม่ถึงว่ามันจะหายป่วยเร็วขนาดนี้ ใช่มั้ยไข่ดาว”

   “โฮ่ง!”การตอบรับที่เข้าขาอดทำให้คณินคิดว่าเจ้าหมาแสบรู้งานเสียจริง

   “ผมอุ้มมันไปข้างในนะครับ”

   “เอาสิ”คณินพยักหน้ามองดูคนตัวเท่าลูกหมาพยายามอุ้มไข่ดาวที่น้ำหนักขึ้นไปประมาณ 2 กิโลอย่างทุลักทุเล

   คนโกหกรู้สึกผิดในใจอย่างบอกไม่ถูก อนึ่งก็อยากถูกแคร์เหมือนไข่ดาวด้วย

   เจ้าของบ้านได้แต่เดินตามขนุนเข้าบ้านหน้าจ๋อง มองดูเจ้าของร่างเล็กกว่าทิ้งตัวลงนั่งด้านล่างโซฟาอย่างทุกที แล้วลูบหัวลูบหางไข่ดาวที่เป็นงานอ้อนขนุนซะจนคนมองอิจฉาอยากจะเข้าไปคลุกคลีในตักด้วย

   “เอ่อ เดี๋ยวพี่ไปหยิบน้ำมาให้ รอพี่ตรงนี้อย่าเพิ่งไปไหนนะ”มือหนาสัมผัสเบาๆ บนกลุ่มผมนุ่ม อยากจะแตะต้องมากกว่านั้นแต่คงไม่ใช่ตอนนี้

   “ครับ”ขนุนพยักหน้าตอบโดยไม่ได้มองหน้าคณิน เพราะยังง่วงอยู่กับไข่ดาวที่อยู่ในตัก สับสนอยู่ว่าการป่วยเป็นแค่เรื่องที่คณินเข้าใจผิดคิดไปเองหรือเปล่า

   เพียงไม่นานเจ้าของบ้านกลับมาพร้อมกับน้ำดื่มเย็นๆ 1 แก้วและคุกกี้เป็นของทานเล่น วางทั้งหมดลงบนโต๊ะตัวเตี้ยใกล้ๆ ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งมองขนุนจากทางด้านหลัง มองแผ่นหลังเล็กที่ขยับไปมาและอดทำให้คณินนึกไปถึงเรื่องวุ่นวายในคืนนั้นไปว่า ถ้าเป็นตอนนี้ใครกันแน่ที่จะยั้งตัวเองไม่ไหว

   นานพอตัวที่คณินไม่ได้พูดอะไรออกมาเอาแต่มองลำคอขาวที่ก้มงุดเล่นกับไข่ดาวท่าเดียว กระทั่งบางอย่างมันสะกิดให้คณินรู้ตัวว่าเขาควรจะพูดจริงจังกับขนุนได้แล้ว

   “ขนุน ขึ้นมานั่งข้างบนได้มั้ย พี่มีเรื่องจะพูดกับเรา”

   “ผมนั่งตรงนี้ได้ครับ พี่คณินพูดมาเถอะ”มันแปลกที่ขนุนไม่ยอมหันมาสบตากัน

   “พี่อยากมองหน้าเรา”คณินไม่พูดเปล่าแต่กลับผุดลุกขึ้นแล้วไปดึงขนุนให้มานั่งด้วยกัน กระทั่งเห็นสีหน้าของขนุนในตอนนี้ว่าอีกฝ่ายดูเกร็งๆ กับคณินไปหมด ไม่สดใสเหมือนเดิม

   “นั่งลงก่อน พี่อยากพูดหลายๆ เรื่องกับเรา รวมถึง...”คณินจับมือขนุนไว้แน่น เขากลัวว่าคนตรงหน้าจะลุกหนีออกไป เหมือนคืนนั้นที่ขนุนแอบกลับไปโดยที่ไม่บอกเขาสักคำ “รวมถึงเรื่องคืนนั้นด้วย”

   ขนุนถึงกับสะดุ้งที่คณินพูดสิ่งที่ตัวเองไม่อยากเผชิญหน้าออกมาตรงๆ แบบนั้น คนตัวเล็กห่อไหล่หายใจลุ่มๆ ดอนๆ เม้มปากเสียแน่นจนปากเล็กแทบเห่อช้ำ ความตึงเครียดเกาะกุมหัวใจไหลลงไปอยู่ที่ท้องจนรู้สึกปวดนัวอยู่เนืองๆ กลัวเหลือเกินว่าเขาจะถูกเกลียดและต่อว่าที่ทำเรื่องบ้าบอแบบนั้น คงไม่มีใครมาขอบคุณทั้งที่ตัวเองหวิดจะถูกขืนใจหรอก

   แต่คงโชคดีที่คืนนั้นขนุนดันป่วยและไม่เชี่ยวพ่อที่จะทำอะไรแบบนั้นด้วยลำแข้งตัวเอง

   เอาวะ! ในเมื่อเป็นผู้กระทำ ยังไงก็ต้องรับกรรมไปตามระเบียบ ขนุนคิดเช่นนั้นในใจ

   คนตัวเล็กหายใจลึกสุดปอด“ครับ พูดมาเลย”

   “งั้นเงยหน้าครับ หรือต้องให้พี่ดุจริงๆ ”ขนุนถูกคณินจับช้อนหน้าล็อกเอาไว้ด้วยฝ่ามือที่ประกบอยู่ข้างแก้มขาว ขนุนเบิกตาโพลงกะพริบตาปริบๆ รู้ตัวเลยว่าคนตรงหน้าทำหัวใจดวงน้อยของขนุนสั่นไหวแค่ไหน แต่ขนุนสัญญากับตัวเองไว้ในใจแล้วว่าจะไม่บ้าบอ เอาแต่ใจตัวเองเหมือนคืนนั้นอีก จะพยายามมองความเป็นจริงให้มากที่สุด

   ใจเขาใจเรา มันบังคับกันไม่ได้หรอก

   “ครับ ผมจะฟังดีๆ ”เจ้าของดวงตากลมใสพยักหน้ารับจนเส้นผมกระเพื่อมตามแรง

   เมื่อเห็นว่าขนุนยอมคุยแต่โดยดีคณินจึงปล่อยมือออก ยิ้มบางพอใจให้คนตรงหน้าผ่อนคลาย

   “อยากแรกเลยที่พี่อยากจะบอกขนุนคือพี่ขอโทษ ขอโทษที่มองข้ามความรู้สึกขนุนไปหลายครั้งจนเผลอทำให้เรารู้สึกไม่ดี พี่ยอมรับว่าตั้งแต่เจอขนุนตอนแรก พี่ไม่เคยคิดอะไรไปมากกว่าความรู้สึกเอ็นดูเหมือนขนุนเป็นน้องชายคนนึง มันยากนะที่จะแยกความรู้สึกแบบนั้นออกจากความสัมพันธ์ทที่เริ่มต้นด้วยความรู้สึกราวกับเป็นพี่น้อง”

   “ผมรู้ พี่คณินเป็นผู้ชายปกติจู่ๆ จะให้มาชอบผมมันก็...”

   “มันไม่เกี่ยวว่าปกติหรือไม่ปกติ แต่มันอยู่ที่ความรู้สึกของคนเรามากกว่า พี่ไม่อยากให้ขนุนคิดอะไรแบบนั้นที่เหมือนเป็นการต่อว่าตัวเองนะ”

   “แต่ผม...อยู่ดีๆ ก็ชอบผู้ชาย”มือขาวที่วางลงบนหน้าขากำกางเกงแน่นในมือ ย้ายสายตาไปมองแค่ปกเสื้อของคณิน

   “แล้วคนอื่นที่เป็นผู้ชายขนุนชอบใครอีก หรือผู้ชายที่พาขนุนเที่ยววันนี้? ”

   ขนุนหยุดพูด ครุ่นคิดถึงไม้เอกที่ถึงแม้อีกฝ่ายจะแสนดีต่อเขา แต่มันก็ยังไม่ใช่ความรู้สึกพิเศษ “ไม่รู้สิครับ” แต่กลับเลี่ยงที่จะบอกออกไป จึงทำให้คณินรู้สึกหงุดหงิดในใจขึ้นมาเมื่อนึกถึงหน้าไม้เอก

   “พี่อยากให้ขนุนอยู่ห่างผู้ชายคนนั้น”

   “ผมทำไม่ได้หรอกครับ เพราะเค้าเป็นรุ่นพี่ในคณะของผม เรายังมีงานมีกิจกรรมทำร่วมกันอีกเยอะ”

   “แต่พี่รู้สึกว่าเค้าอันตรายกับขนุน”

   “ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ถึงพี่ไม้เอกจะดูไม่น่าไว้ใจ แต่พี่เค้าก็ใจดีกับผมมาก”

   “แล้วพี่ไม่ใจดีกับขนุนเหรอ”

   “ครับ? ”

   “พี่ไม่ใจดีเหมือนไม้เอกเหรอครับ ขนุนถึงทำตัวเหมือนไม่อยากจะคุยกับพี่แล้ว”ขนุนนิ่งค้างไม่คิดว่าคณินจะต้องการคำตอบขนาดนั้น ประโยคสุภาพที่เขาฟังจนคุ้นหูบวกกับสีหน้าที่ดูตัดพ้อเขาแล้ว ขนุนถึงกับหน้าร้อนผ่าวใจสั่นไปหมด สายตาที่เหมือนแคร์กันแบบนั้นเอาเข้าจริงๆ ขนุนแทบสู้ไม่ไหว

   ใจมันสั่นไปหมด

   “เลิกพูดเรื่องพวกนี้เถอะครับ พูดเรื่องสำคัญของพี่คณินเถอะ”ขนุนแสร้งยิ้มให้คนตรงหน้าอีกครั้ง เพราะตอนนี้ใจขนุนแทบพังเพราะมันเต้นเร็วจนจะระเบิดอยู่แล้ว ไม่มีใครรู้หรอกว่าการที่สบตาคนที่ชอบ และอีกฝ่ายพยายามมองมาด้วยสายตาจริงจังราวกับอยากรู้ความคิด และสนใจเราไปหมดทุกการเคลื่อนไหวมันหวามหวั่นในใจของคนคาดหวังจนแทบบ้า

   เพราะอย่างนี้ขนุนเลยเลือกที่จะขยับถอยห่างออกไป แต่นั่นเหมือนไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาเพราะคนตรงหน้าไม่ลดละขยับตามมาด้วย

   เหมือนกับว่า...มีบางอย่างเปลี่ยนไปแล้ว

   “พี่คิดว่าสิ่งที่พี่พูดมาสำคัญทุกอย่าง รู้ใช่มั้ยว่าหากคนคนหนึ่งมองใครสำคัญแล้วนั่นหมายความว่ายังไง”

   “ผมรู้ครับ”

   มันก็คือความใจดีที่เจือไปด้วยความเอ็นดูอย่างที่เคยเป็นหรือเปล่า ขนุนกำลังชั่งใจคิด

   “พี่ชอบขนุน”

   “.....”

   “พี่ ชอบ เราน่ะ ได้ยินใช่มั้ยครับ”คนถูกสารภาพทำหน้าเหวอราวกับกลายเป็นพวกหูดับที่ไม่รู้เสียงใดๆ บนโลกนี้แล้ว

   สิ่งที่คณินพูดออกมาด้วยใบหน้าจริงจัง อีกทั้งน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำมันย้ำอยู่ในหัวใจของขนุนจนจมอยู่ในนั้น หัวใจของเขาพองโต แต่กลับค่อยๆ แพบลงเพราะรูรั่วเล็กๆ ข้างใน

   ทว่า.....ขนุนก็ไม่อยากให้ตัวเองหลงระเริงกับความดีใจไปมากกว่านี้แล้ว ความดันทุรังก็ไม่ได้แปลว่าจะดี

   “ขอบคุณครับ ผมดีใจที่ได้ยินแบบนั้น” ขนุนยิ้มกำมือตัวเองเข้าด้วยกันจนแน่น “ผมรู้ว่าพี่กำลังทำดีที่สุดเพื่อไม่ให้ผมรู้สึกแย่สำหรับเรื่องในคืนนั้น พี่ไม่ดุไม่เกลียดผมเพราะเรื่องนั้นก็ดีมากแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมไม่อยากให้พี่คณินฝืนความรู้สึกตัวเอง ผมไม่อยากให้พี่คิดมากเพราะการกระทำที่ไม่คิดของผม ผมผิดเอง”

   “เดี๋ยว เรากำลังพูดเรื่องอะไร”

   “ก็เรื่องของผมกับพี่คณินไงครับ ผมโคตรมีความสุขเลยเวลาอยู่กับพี่ เพราะฉะนั้นไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกนะครับที่จะต้องปฏิเสธผม ผมน่ะยังไงก็อยากอยู่กับพี่คณินด้วยความรู้สึกสบายใจมากกว่า ผมอยากให้พี่ลืมๆ เรื่องที่ผมคิดยังไงกับพี่ไป บางทีการเป็นน้องชายมันอาจไม่ได้แย่”

   “ขนุนกำลังเข้าใจพี่ผิดไปนะ”

   “อ่าจริงสิครับ พรุ่งนี้ผมมีนัดที่มหาลัยกับพี่คณินทำฟันครั้งที่ 2 ผมยังต้องอุดฟันใช่มั้ยครับ ไว้เจอกันพรุ่งนี้ ผมจะยอมรับโทรศัพท์พี่ดีๆ แล้วก็ได้ ผมกลับก่อนนะครับ”

   “ขนุน เดี๋ยวสิ!”

   บทจะไปก็ไปเสียอย่างนั้น การพูดไฟแลบแล้วส่งตัวเองกลับบ้านมันทำให้คณินทึ่งในความคิดที่พูดเองเออเองของขนุนไม่หาย กลายเป็นว่าความรู้สึกจริงๆ ของคณิน ขนุนกลับมองว่ามันเป็นแค่ความสงสารไปซะได้

   ทำเอาคณินตั้งหลักแทบไม่ทันคว้างไปในอากาศทันที เหมือนโดนถีบทิ้งกลางทาง

   “พี่ไม่เคยคิดว่ามันคือความสงสารสักนิด”

   คณินได้แต่หลับตาปลงเอามือลูบหน้าให้กับปัญหาที่เขาต้องตามแก้ให้ถึงที่สุด

   มันคงเหมือนกรรมตามสนองตัวเองยังไงก็ไม่รู้ ปล่อยให้อีกฝ่ายมารักอยู่ตั้งนานไม่สนใจ แต่พอรู้ตัวและหัวใจขึ้นมาอีกฝ่ายก็เดินหนีไปซะแล้ว

   “จะทดสอบความอดทนพี่หรือยังไง”

   “โฮ่ง! โฮ่ง!”ระหว่างที่คณินพึมพำอยู่คนเดียวเจ้าหมาแสบก็เห่าขึ้นซะจนสั่นบ้าน

      “จะเย้ยกันรึไง ไม่ช่วยยื้อกันบ้างเลย หนุนตักขนุนจนหนำใจแล้วคือพอ? แกมันเห็นแก่ตัวนะไข่ดาวแล้วฉันล่ะ”

   คนอารมณ์หงุดหงิดจ้องไข่ดาวเขม้นอย่างหมั่นไส้ พิงหลังไปกับโซฟาอย่างหมดเรี่ยวแรง

   ถ้าจะนอยด์กันขาดนี้ ยอมให้กินตั้งแต่แรกซะก็ดี

   “เห้อออ...”




มอM

   “ไอ้ขนุนมึงแน่ใจนะว่าไหว”สามชายชาตรีที่เดินอยู่ท่ามกลางนักศึกษามอP เดินกอดคอคุยกัน

   “ไม่ไหว”ขนุนที่ยืนอยู่ระหว่างกลางเพื่อนทั้งสองสอบหน้าตาย

   “อ้าว! งั้นมึงจะมาทำไมวะ ก็ยกเลิกนัดไปดิ”

   “ไม่ได้ เราอยากพิสูจน์ให้พี่คณินเห็นว่าเราทำใจได้ ไม่ได้อ่อนแอเลยสักนิด อย่างน้อยก็ขอเป็นคนรักในฐานะน้องชายก็ได้”

   “โธ่ เพื่อนกู นี่เค้าไม่เรียกว่าตัดใจสักนิดเลยเว้ย! จะทำตัวใสเป็นสมองไอ้ช้างไปถึงไหน”ต้าส่ายหน้าให้กับตรรกะความคิดของขนุน

   “แล้วที่มึงไปขอโทษพี่ไม้เอกเค้าว่าไงวะ”นิวหันไปหาขนุนที่ขมวดคิ้วมุ่น เพราะได้ข่าวว่าพี่คณินตามไปฉกตัวเพื่อนรักจากมือไม้เอกถึงข้างนอก นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญแต่ที่สำคัญคงจะเป็นความชอบใจของนิวลึกๆ มากกว่า

   “เราก็พูดขอโทษไป พี่ไม้เอกเข้าใจแต่แลกกับนัดครั้งหน้า เราก็เลยตอบตกลงไปน่ะ”

   “มึงชอบเหรอวะ กูหมายถึงไปกับพี่ไม้เอก”

   “ก็ไม่ได้แย่ พี่เค้าก็ดูแคร์เรามาก ดูแลเราทุกอย่าง”

   “มึงมีความสุข? ”

   “ก็ได้กินของอร่อยฟรีๆ มีความสุขจะตาย”

   “เขาขุนมึงหวังแดกมากกว่าไม่รู้รึไง นังโง่!”ต้าจรดนิ้วไปที่ขมับขนุนและไสเต็มแรงด้วยความหมั่นไส้ในจริตนางร้าย

   “เราไม่ได้โง่ แค่รู้จักวางตัว”

   “มึงจะวางตัวลงตรงนี้เลยไหม เดี๋ยวกูเหยียบย่ำมึงให้สาแก่ใจเอง ทำเป็นมาพูด โธ่! เจอหน้าพี่คณินเค้าอย่ามาร้องไห้ขี้มูกโป่งซบอกกูอีกล่ะ”นิวเด็ดจมูกคาดโทษเพื่อนตัวดีที่เดี๋ยวนี้อารมณ์เซนซิทีฟเป็นบ้าเป็นบอ เดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวก็สะอื้นเหมือนจะร้องไห้ อย่าให้นั่งดูละครดราม่าเชียว น้ำตามีไหลเป็นเขื่อนแตก

   หลังจากที่ต้าและนิวส่งขนุนขึ้นตึกไป สถานการณ์ที่ขนุนต้องเผชิญอย่างโดดเดี่ยวนั่นก็คือการเจอหน้าคณิน เนิ่นนานกว่าจะทำใจผลักประตูกระจกที่มีกลิ่นคุ้นเคยก็ทำเอากินเวลาไปเกือบนาที และทันทีที่ขนุนลักบานประตูเข้าไปอีกฝ่ายที่ง้างประตูกระจกสีขาวขุ่นให้เปิดออกกลับเป็นร่างสูงที่อยู่ในชุดปฏิบัติงานทันตะสีขาวที่ดูผึ่งผายจนขนุนเผลอจดจ้องจนลืมละสายตาไปในช่วงหนึ่ง

   “พี่กำลังจะออกไปโทร.ตามเราพอดี เข้ามาสิ”

   “พอดีรถติดนิดหน่อยครับ”

   “อืม”ขนุนเดินตามคณินเข้าไปด้านใน กระทั่งส่งถึงเก้าอี้ทำฟันอย่างกระอักกระอ่วนใจไม่รู้จะพูดเรื่องอะไรดี ทำได้แค่ทักทายและเสียงก็หายไปเหมือนฟองคลื่น

   ปกติแล้วครั้งก่อนขนุนต้องรอคิวแต่ดูเหมือนตอนนี้เก้าอี้จะว่างแล้ว และเครื่องมือที่ตระเตรียมก็เช่นเดียวกัน คงร่นเวลาอยู่ด้วยกันได้มากขึ้นขนุนคิดอย่างนั้น

   “ผมขึ้นไปนั่งได้เลยใช่มั้ยครับ? ”

   “อื้ม”คณินมองขนุนที่ดูเกร็งกับเขาอีกครั้งอย่างหงุดหงิดในใจ ก่อนจะปรับเก้าอี้ทำฟันให้กับขนุน และขยับเก้าอี้ของตัวเองเข้าไปใกล้

   “ผมต้องทำยังไงต่อครับ”

   “ขอพี่ตรวจฟันเราก่อนก็แล้วกัน”

   “ครับ”

   “อ้าปากกว้างๆ ครับ”คณินคาดเมสปิดปากใส่ถุงมือไม่ได้พูดอะไรต่อ และจัดการกับเจ้าของฟันซี่เล็กที่ได้รับการดูแลถือว่าค่อนข้างดี แต่อาจจะมีบางจุดเล็กๆ ที่ต้องอุดไว้เพื่อรักษาไม่ให้ฟันผุลุกลาม

   “ถ้าเจ็บก็บอกพี่นะ”ขนุนผงกหัวน้อยๆ กะพริบตาปริบมองว่าที่คุณหมอหนุ่มตรงหน้า บ้างก็เผลอหลบสายตาไปมองเพดาน คณินก็พูดน้อยกว่าปกติแต่ไม่ได้หมายความว่าไม่อยากพูด แต่ด้วยหน้าที่ตอนนี้ก็ไม่สามารถพูดเรื่องส่วนตัวออกมาเสียมากมายได้

   “เดี๋ยวทำฟันเสร็จแล้วรอพี่ข้างนอก อย่าเพิ่งกลับเข้าใจมั้ย”ขนุนได้แต่กะพริบตาปริบๆ เขาจะพูดอะไรได้ในเมื่อเครื่องมือเต็มปากซะขนาดนั้น

   คนถูกสั่งให้รอนั่งเหม่อมองออกไปนอกตึก เหมือนทิ้งความคิดปล่อยให้สมองมันหลุดโล่ง วันนี้ก็เหมือนเป็นการซ้อมลองใจของขนุนเป็นครั้งแรก ว่าจะทนได้ไหมถ้าจะสนิทกันในฐานะพี่น้อง ผลปรากฏว่ามันก็ไม่ได้แย่แต่ก็ไม่ดี คงต้องพยายามอีกเยอะ

   “ขนุน...ขนุน”

   “ครับ! ”คนถูกเรียกหันมาสะดุ้งเพราะมัวเหม่อ คณินที่เดินมาก่อนหน้านี้ยืนมองดูท่าทีของขนุนอยู่ครู่ใหญ่ ก็เห็นว่าอีกฝ่ายนั่งเหม่อจนต้องเข้ามาเรียก

   “เป็นไงบ้างเจ็บฟันมากไหม พี่พยายามเบามือแล้วจริงๆ ”คนตัวสูงเดินมานั่งข้างๆ ขนุนซึ่งเป็นที่นั่งตัวยาวติดทางเดิน มีท่าทีไม่ได้ต่างไปจากครั้งก่อนๆ

   “สบายมากครับ แค่นี้จิ๊บๆ โอ๊ย!”

   “ไหนบอกจิ๊บๆ อย่าลืมที่สั่ง ห้ามใช้ฟันซี่ที่อุดเคี้ยวอาหารภายใน 24 ชั่วโมงเด็ดขาด”   

      “โหดอ่ะ ไม่งั้นผมไม่หิวไส้ขาดเลยรึไง ตอนเที่ยงก็กินข้าวมาน้อยด้วย”

   “กินได้ ไม่ได้บอกว่าให้อด แค่เลือกกินหลีกเลี่ยงอะไรที่มันแข็งๆ หรือเหนี่ยวๆ ก็พอ”คณินส่ายหน้าให้กับท่าทีงอแงของขนุน

   “ครับ งั้นผมก็กิน.....”ขนุนตั้งใจจะพูดต่อ แต่สายตากลับสบเข้ากับเครื่องประดับบางชิ้นที่อยู่บนข้อมือของคณิน ขนุนจำได้แม่นว่ามันเป็นสร้อยข้อมือที่ตัวเองตั้งใจมอบให้เป็นของขวัญแก่คนตรงหน้า
 
   คณินสังเกตเห็นว่าขนุนกำลังมอง และนั่นเขาก็จงใจให้ขนุนเห็น ถึงกับยอมเดินกลับไปที่ล็อกเกอร์เพื่อสวมมันอีกครั้งหลังจากต้องถอดออกระหว่างทำคลินิก

   “พี่ชอบมาก ขอบคุณนะ”

   “ผมก็ดีใจครับที่พี่คณินชอบ เอ่อ ผมว่าผมกลับเลยดีกว่าไม่อยู่รบกวนแล้ว”คณินมองขนุนที่จู่ๆ ก็ลุกขึ้นเบี่ยงหน้าที่ยิ้มเจื่อนไปด้านอื่น ตั้งท่าจะกลับเสียทันที แบบนั้นดูก็รู้ว่ากำลังจะหลบหน้าอีกแล้ว

   “มากับพี่หน่อย”

   “ดะเดี๋ยวครับ พี่จะพาผมไปไหน”

   “ไปหาที่คุยเงียบๆ กว่านี้”

   คนตัวสูงไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะยินยอมเดินมาด้วยหรือไม่ แต่ก็ดึงมือให้เดินตามมาแล้ว กระทั่งสุดทางเดินตรงบันไดหนีไฟ ที่เงียบสงบจนแทบจะวังเวงเพราะไม่มีใครผ่านไปมา เบื้องหลังบานประตูหนาจึงเป็นที่ส่วนตัวลับตาผู้คน คณินไม่ได้ตั้งใจให้ขนุนรู้สึกอึดอัด แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกเพราะมองจากสายตาก็รู้ว่าขนุนกำลังจะถอยห่างจากเขา และเริ่มปิดกั้นกันอย่างไม่ยุติธรรม

   คณินเพิ่งจะเริ่ม ขนุนจะจบเกมไปแบบนั้นใครมันจะยอม

   “พี่อาจมีเวลาไม่มากและอยากจะพูดกับขนุนตรงๆ อีกครั้ง ห้ามเถียง ห้ามดื้อ ห้ามไม่ตั้งใจฟัง เข้าใจรึเปล่า”คนถูกสั่งเม้มปากเสียแน่นสนิทจนแทบไม่กล้าหายใจ คณินวันนี้ดุจนออกทางสีหน้า ขนุนจะไปกล้าได้ยังไง ถึงจะเริ่มเห็นท่าทีนอกจากความสุภาพแล้ว ใครว่าคณินไม่มีมุมขึงขังก็ลองดู

   “อือ”

   “และที่สำคัญ.....”น้ำเสียงเน้นย้ำต้อนให้ขนุนผู้เคยใจกล้าจนมุม ดวงตากลมใสถึงกับเบิกโพลงถอยหลังกรูดจนชิดกำแพง

   “อะ อะไรครับ?”

   “ห้ามหนี เพราะพี่จะไม่ยอมเราอีก”จากนั้นก็ตามด้วยแขนแข็งแรงสองข้างที่กักตัวคนตรงหน้าไว้ เล่นเอาขนุนหัวใจเต้นโครมครามจนไขข้อเข่าแทบเหลวจนไม่อาจหยัดยืน

   กระทั่งตระหนักได้ว่าการถูกรุกรานมันน่ากลัวแค่ไหน ภัยต่อหัวใจเหมือนเอเลี่ยนบุกโลกชัดๆ

   “มะมีอะไรครับ พี่คณินดูแปลกๆ ”ขนุนเบี่ยงใบหน้าหนีสายตาที่จดจ้องเข้ามาใกล้  กระทั่งใบหน้าของคณินอยู่ใกล้แค่คืบ

   “พี่ไม่ได้แปลก แต่ที่แปลกน่ะตัวเรามากกว่า หลบหน้าพี่แบบนี้แสดงว่ายังไม่เข้าใจ”

   “เข้าใจ? เรื่องอะไรครับ”คนพูดแทบก้มหน้างุด ไม่รู้จะเรียกว่าเขินหรือประหม่า แต่ดูเหมือนว่าหน้าทั้งหน้าของขนุนแทบไม่ไหวแล้ว มันคงแดงจนแทบระเบิดไปตามหัวใจของเขาที่บีบรัดแทบคลั่ง

   “ถ้าอยากรู้ ก็ดูหลอดไฟด้านบนเป็นคำตอบ”

   “เอ๊ะ? ”

   เพราะความสงสัยไม่เก็ตหรือไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ขนุนเลยเงยหน้าขึ้นไปมองหลอดไฟด้านบนตามที่คณินบอก แต่ใครจะไปรู้ว่าความงงงวยในระดับสิบจะยิ่งเข้าควบคุมสมองของขนุนได้เกือบทั้งหมด ทันทีที่เงยหน้าใครจะไปรู้ว่าคณินจะใช้ไม้นี้หลอกคนอย่างขนุน

   เพราะทันทีที่ขนุนเปิดช่องโหว่   เงยหน้าขึ้นอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์คณินก็จัดการกดริมฝีปากของตัวลงบนเรียวปากของขนุนแทบจะทันทีโดยไม่มีการให้สัญญาณใดๆ ก่อนจะใช่มือสองข้างประคองต้นคอเล็กกดแน่นเข้าไปอีกจนขนุนแทบลืมหายใจ ดวงตาคู่กลมใสเบิกโพลงราวกับมองเห็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

   กระทั่งคณินละริมฝีปากออกมา แล้วจัดการปาดเรียวนิ้วไปบนริมฝีปากของขนุนจนถึงมุมปาก สายตาไม่มีความลังเลใจใดๆ มีแต่ขนุนที่ยืนทื่อกลายเป็นต่อไม้ตายนิ่งงั้นอยู่ตรงหน้าคณินไปแล้ว

   แต่มีสิ่งเดียวที่ยังคงขยับ คงเป็นเปลือกตาที่กะพริบถี่ราวกับเมมโมรี่ในสมองเกิดการเออเร่อ มองริมฝีปากที่ยังฉ่ำและแดงเรื่องของคนตรงหน้าตอกย้ำความจริง

   “พี่ชอบเราแบบนี้ คราวนี้เข้าใจพี่รึยังครับ”














ติดตามตอนต่อไป >>>

หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 21 {อัปเดตแล้ว} 21/06/2562
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 21-06-2019 22:30:11
กว่าจะขยับตัวได้ ขนุนเกือบหรีไปไหนๆแล้วเนี่ยะพี่เอ้ยยยย
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 21 {อัปเดตแล้ว} 21/06/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 21-06-2019 23:06:39
 :กอด1: :mc4: :กอด1:


 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 22 {อัปเดตแล้ว} 22/06/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 22-06-2019 14:13:54
ขนุนลูกที่ 22





   “เกิดอะไรขึ้นวะขนุน ทำไมจู่ๆ มึงจะกลับบ้าน”

   “รีบร้อนอย่างกับไปทำอะไรผิดมา”

   “เห้ย! เราเปล่า”

   “ถ้าไม่บอก กู ไม่ ให้ ไป เว้ย!”ต้ากระโดดไปขวางประตูยืนกอดอกเอาจริงเอาจัง ขนุนที่เคลื่อนไหวร่างกายอย่างหนัก หยิบโน่นยัดนี่ใส่กระเป๋าแบบลวกๆ ถูมือทั้งสองข้างเข้าด้วยกันเป็นการพนมมืออ้อนวอน

   “พอมึงกลับมาจากไปเจอพี่คณินมึงก็เป็นงี้ จะให้พวกกูปล่อยมึงไปง่ายๆ ได้ไง บอกมาเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น หรือพี่คณินทำอะไรมึงวะ ให้กูไปเคลียร์ให้มะ”นิวท่าทางของขึ้นอัดกำปั้นลงกับฝ่ามือตัวเองดวงตาคมกริบลองใจเพื่อน มองขนุนที่ยิ่งตาถลนเมื่อเพื่อนจอมหัวร้อนพูดออกไปแบบนั้น

   “ไม่ใช่อย่างที่นิวคิด มันไม่ได้มีอะไรแย่เลยสักนิด! ”

   “แล้วมันเกิดอะไร? ที่มึงกระวีกระวาดจะกลับบ้านเอาตอนนี้ รออีกหน่อยพรุ่งนี้ก็วันหยุดแล้วมะ? ”

   ขนุนกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องตัวเองเม้มริมฝีปากเข้าหากัน ก้อนแก้มทั้งสองข้างแดงเรื่อขึ้นมาท่าทางราวกับเหนียมอาย

   มือขาวยกขึ้นปัดปลายจมูกรั้นไปมาก่อนจะพูดออกมาอึกอัก

   “คือว่าพี่คณิน....เค้าบอกว่า...”

   “ว่า? ”

   “พี่คณินชอบเรา”ความเงียบเกิดขึ้นภายในพริบตา ต้าที่ยืนกอดอกถึงกับทิ้งแขนลงแนบตัวแล้วเดินเหมือนวิญญาณหลุดจากร่างมาหาขนุน

   “ที่มึงพูดจริงเหรอวะขนุน”ต้าอ้าปากเหวอตกใจไม่หาย นิวที่ได้ยินเพียงถอนหายใจแรงแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนขอบเตียง เอาจริงๆ ก็พอจะรู้อยู่หรอกว่าอีกฝ่ายเอ็นดูขนุนเกินน้องนุ่งไปเบอร์ไหน เรื่องที่ควรตกใจคือคณินเพิ่งรู้ตัวมากกว่า

   คนนึงก็หัวช้า อีกคนก็เครื่องแรงจนเลยแยก มันมีอะไรที่พอดีกันบ้างวะ!

   “จริงดิ เราได้ยินกับหู รู้กับ....ปากเลย”

   สิ่งที่ขนุนเล่ามานั้นแค่ส่วนหนึ่ง


   
   “คราวนี้เข้าใจพี่รึยังครับ”

   “เข้า ใจ”น้ำเสียงยืดยานเหมือนสงสัยมองคณินนัยน์ตาเบิกโพลง สมองยังคงขาวโพลนเหมือนมีเพียงฟองสบู่ที่ลอยฟ่องอยู่ในนั้น

   “ให้พี่พูดอีกรอบมั้ย เผื่อเราลืม”

   “ผม ผมได้ยินแล้วครับ”

   “เห้อ”คณินถึงกับถอนหายใจออกมาซะหมดปอด ท่าทีราวกับหมดเรี่ยวแรงจึงซบหน้าลงกับไหล่เล็กที่ต่ำกว่าตัวเองอยู่หลายเซนติเมตร แล้วพูดขึ้น “การชอบใครสักคนโดยเฉพาะเราพี่ต้องเหนื่อยขนาดนี้เลยเหรอ ถามจริง?” คนตัวสูงถึงกับบ่นพึมพำออกมา ขนุนยังคงยืนนิ่งเป็นที่พักหน้าของคณินต่อไป

   “.....”

   ในใจอย่าได้ถามว่าขนุนรู้สึกดีแค่ไหน มันมากเสียจนทุกอย่างที่คิดกลับตาลปัตรไปซะหมด วาดฝันไว้ว่าจะเข้าไปกระโดดกอด กอดรัดให้แน่นที่สุด แล้วอาจจะตามด้วยการส่งจูบที่นุ่มลึก แต่ความเป็นจริงน่ะเหรอ มันดีใจจนเหวอไปหมด

   ที่นิ่งไม่ใช่เพราะเฉยชา แต่เพราะว่าอีกฝ่ายแทบทำให้ขนุนเหลวเป็นเทียนลนไฟไปกองอยู่กับพื้นมากกว่า ยิ่งจูบเมื่อครู่ยังไงก็สลักใจเป็นที่สุด ปริ่มจนใบ้รับประทานก็ว่าได้

   ขนุนแทบไม่รู้ว่าตัวเองต้องระบายความสุขที่อัดแน่นอยู่ในอกนี้ยังไงดี มันแทบจะระเบิดอยู่แล้ว

   “เป็นอะไรรึเปล่า พี่ทำให้ตกใจเหรอ”คนตัวสูงเงยหน้าขึ้นมาสบตา แอบเกลี่ยแก้มที่ค่อยๆ ร้อนผ่าวขึ้น ผิวใสๆ แทบจะกลายเป็นผลมะเขือเทศ ยิ่งสายตาดูเป็นกังวลต่อเขา ขนุนก็แทบไม่อยากเชื่อสายตา

   พี่คณินชอบเราแล้วจริงๆ!

   “ปะเปล่า ผมแค่รู้สึก...ไม่รู้สิ มันบอกไม่ถูก ดีใจสุดๆ คงเป็นอย่างนั้นครับ”

   คนมองถึงกับเผยยิ้มที่นุ่มนวลที่สุดเท่าที่ขนุนจะเคยเห็น เป็นยิ้มที่ระคนไปด้วยความขวยเขินเล็กๆ ผ่านดวงตา แต่ทว่าเหมือนเวลาความสุขถูกหยุดลง เสียงโทรศัพท์มือถือของคณินดังขึ้น และมันคงจำเป็นเขาถึงได้กดรับแทบจะทันที

   “เออว่าไงไอ้โจม.....มาแล้วเหรอ เออได้เดี๋ยวจะรีบไปเดี๋ยวนี้ เตรียมชาร์ตไว้เดี๋ยวไปจดให้.....”

   ขนุนเงยหน้ามองคณินที่คุยโทรศัพท์อยู่ตรงหน้า รู้สึกหัวใจสั่นไหวซะเหลือเกินกับแค่เห็นลูกกระเดือกที่ขยับขึ้นลงของคนตรงหน้า ตอนนี้จิตใจขนุนแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขนุนเลยถือโอกาสนั้นบอกใบ้ผ่านท่าทางว่าตัวเองขอกลับก่อน คณินไม่ทันจะพูดอะไรตอบกลับไป ขนุนก็แฉลบตัวเองออกมา

   แต่แล้วก็ต้องตัดสินใจเดินเข้าไปหาคนตัวสูงกว่าที่กำลังคุยโทรศัพท์และดูเหมือนกำลังพยายามจะพูดอะไรบางอย่างกับขนุนอีกรอบ ทว่าขนุนกลับตัดสินใจเขย่งปลายเท้าดันตัวเองขึ้นหอมแก้มฟอดใหญ่ทั้งสองข้างแก้มของคณินอย่างรวดเร็วแล้วรีบออกมาราวกับแมวขโมย



   !!!

   “เดี๋ยว! แต่กูไม่เข้าใจอย่างนึง พี่คณินก็บอกชอบมึงแล้ว ทำไมมึงถึงต้องรีบเก็บของกลับบ้านวะ ยังมีปัญหาอะไรอีก”ต้าถามขึ้นสีหน้าเหมือนคนยืนงงในดงกล้วย

“ก็มันดีใจ เราจะไปบอกแม่”

   “บอกแม่มึง! ”

   “อือ”คนตอบยกมือปิดหน้าพยักหน้าหงึกๆ แถมท้าย

   “โทรศัพท์ก็มีทำไมไม่โทรไปวะ กูงงตรรกะมึงมาก”นิวขมวดคิ้วจนแทบจะผูกโบ

   “ไม่อ่ะ จะบอกด้วยตัวเอง สัญญาไว้แล้วว่าจะเล่าทุกอย่างให้ฟัง อยากให้แม่รู้ด้วยปากของเราเองมากกว่าบางอย่างมันเป็นเรื่องอ่อนไหว คุยโทรศัพท์เดี๋ยวไม่รู้เรื่องและที่สำคัญ...เรามีกันอยู่สองคนแม่ลูกไม่บอกแม่แล้วจะให้เราไปบอกใครล่ะ”ดวงตาใสที่เปี่ยมไปด้วยความสุขพูดถึงคนที่บ้านอย่างเห็นคุณค่า “แล้วบ้านก็ไม่ได้ไกล 2 ถึง 3 ชั่วโมงนั่งรถตู้ก็ถึงแล้ว ไปกลับก็ยังไหว”

   “เออๆ ไปก็ไป เดี๋ยวกูยืมรถมอไซต์ไอ้แจ็กขับไปส่งที่ท่ารถตู้”ต้าเสนอขึ้นพยายามเข้าใจ

   “ขอบใจมาก เดี๋ยวเรารีบกลับ”

   ขนุนวิ่งไล่กอดเพื่อนทีละคนอย่างดีใจ ถึงจะเป็นเรื่องที่ยากจะเข้าใจว่าทำไมมันต้องซับซ้อน แต่ขนุนก็คือขนุนอยู่วันยังค่ำ

   “อย่าลีลาเยอะ จะไปก็รีบไปเดี๋ยวจะมืดค่ำ”นิวดันหน้าขนุนออกส่งต่อให้กับต้าจัดการไปส่ง






   นิ้วเรียวพรมลงบนหน้าจอโทรศัพท์กำลังส่งข้อความบางอย่างผ่านแอปไลน์ ในขณะที่โทรไปอีกฝ่ายกลับไม่รับซะอย่างนั้น

   Kanin : เราอยู่ไหน พี่โทร.ไปไม่รับ? เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า

   ...

   Kanin : อย่าหายไปแบบนี้ได้ไหมครับพี่เป็นห่วง แน่ใจนะว่าเราเข้าใจที่พี่พูดทุกอย่างแล้วจริงๆ ????

   ...

   หลายต่อหลายข้อความที่ถูกส่งไปแต่กลับไม่มีการเปิดอ่าน มันยิ่งทำให้คณินชักหวั่นใจ ว่าสิ่งที่เขาพยายามสื่อความรู้สึกไปขนุนเข้าใจดีแล้วหรือเปล่า เพราะจู่ๆ หลังจากช่วงบ่ายวานนี้ ที่คณินกับขนุนแยกกัน หลังจากที่คณินเสร็จจากเรียนแล้วก็เหมือนจะติดต่อขนุนไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ตกดึกเพราะความเหนื่อยล้าก็เลยเผลอหลับคาโทรศัพท์ไปถึงเช้า จนตื่นมากลุ้มอีกรอบ

   ร้อนใจจนคณินก็ต้องหาตัวช่วยอย่างเพื่อนของขนุนที่น่าจะรู้ดีที่สุดแล้ว เขาอยากรู้ว่าจู่ๆ ขนุนเงียบหายไปไหน ทำอะไรอยู่ ความกระวนกระวายใจมันเล่นงานคณินจนตั้งสติให้นิ่งไม่ได้เลย

   ไอ้ความรู้สึกทั้งหวงทั้งห่วง มันแย่กว่าตอนคบกับลูกตาลซะอีก ทั้งที่ก่อนหน้าเขาแทบจะไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดตัวเองแบบนี้มาก่อน แต่พอกับขนุนแล้ว มันทำให้คณินเสียอาการไปหลายขุมเลยทีเดียว จนโจมกับอนาวินออกปากแซวว่าทำตัวเป็นคนเสพติดขนุนไปได้

   “ฮัลโหลต้า พี่เอง”

   [ครับว่าไงพี่? ]

   “เอ่อ...ต้าอยู่กับขนุนรึเปล่า พี่โทรหาขนุนไม่ติด”

   [อ้าว ขนุนไม่ได้บอกเหรอครับว่ามันหนีกลับบ้านไปแล้วน่ะ]

   “บ้าน? ”คณินเสียงเบาไปครู่หนึ่ง เขาคิดไม่ออกถึงเหตุผลที่ขนุนทำแบบนั้น

   [ครับพี่ แต่ว่าขนุนมันแค่...]

   “ต้าพอจะบอกที่อยู่บ้านของขนุนให้พี่หน่อยได้มั้ย”

   [ก็ได้นะครับ] ดูเหมือนอีกปลายสายจะแปลกใจกับน้ำเสียงร้อนรนของคณินเหลือเกิน แต่ก็ยอมบอกที่อยู่ของขนุนแต่โดยดี   

   “ขอบใจมากนะ”

   [คะครับ]

   สายถูกวางไปต้าถึงกับขมวดคิ้วใส่โทรศัพท์มือถือตัวเองยกใหญ่ งงใจว่าทำไมคณินต้องรู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนกับแค่ขนุนกลับบ้านไปหาแม่ก็เท่านั้น และที่โทรไม่ติดอาจเพราะเจ้าเครื่องมือสื่อสารที่ว่าถูกลืมทิ้งไว้ที่หอซะมากกว่า เพราะหลังจากที่ต้ากลับมาจากส่งขนุนขึ้นรถ นิวก็บอกเรื่องที่ขนุนทิ้งโทรศัพท์ที่แบตใกล้หมดเอาไว้ในห้อง




   ใครจะคิดอย่างไรคณินไม่รู้ ทันทีที่ได้ที่อยู่บ้านของขนุนมา ความเอะใจบางอย่างมันเริ่มทำให้คณินฉงนใจ กระทั่งคณินตัดสินใจขับรถไปตามพิกัดที่อยู่ซึ่งได้มาจากรุ่นน้องอย่างต้า เส้นทางที่คุ้นตา ซอกซอยที่เหมือนเคยผ่าน และต้องมาชะงักนิ่งมองที่อยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ที่ต้าส่งมาให้ สลับกับรั้วสีข้าวและเจ้าของบ้านที่คุ้นเคย

   คณินก้าวลงจากรถมากดกริ่ง เพียงไม่นานหญิงสาววัยทำงานคนหนึ่งก็เดินออกมาส่งยิ้มให้เขาท่าทางดีใจและเปิดประตูรับทักทาย
   
   “อ้าวคณิน! มาไงเนี้ยเข้าบ้านมาก่อนสิลูก”

   “สวัสดีครับคุณน้า”คณินพนมมือไหว้เจ้าของบ้านที่เข้ามาลูบแผ่นหลังของเขาอย่างยินดี

   “ครั้งนี้คุณอารีมาด้วยรึเปล่า”หญิงสาวที่ท่าทางสดใสดวงตาเป็นประกายมีเสน่ห์ไม่ต่างจากดวงตาของคนที่คณินรู้จักเลยแม้แต่นิด

   “เปล่าครับ ผมมาคนเดียว”เดินไปคุยไปกระทั่งถึงในตัวบ้านที่ดูสะอาดอบอุ่นน่าอยู่ ครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งแรกที่คณินได้เข้ามาถึงข้างในบ้าน เพราะปกติก็ส่งของให้ตามคำสั่งมารดาบังเกิดเกล้าเพียงหน้าประตูรั้ว ไม่กล้ารบกวนเจ้าของบ้าน เพราะมันคงไม่ดีถ้าเขาเข้ามานั่ง มาเที่ยวเล่นอยู่นานเกินไป

   “ป้าขิมขอน้ำให้แขกหน่อยจ้ะ”

   “ขอโทษที่มารบกวนนะครับคุณน้า”ผู้หญิงที่คณินเรียกขาน หากจะกล่าวชื่อเต็มๆ แล้วเธอคือประภัสสร อดีตนางเอกจอแก้วแม่หม้ายเลี้ยงเดี่ยวที่ยังสาวยังสวย

   “คณินมาทำไมไม่โทรบอกน้าก่อน ก่อนหน้านี้ลูกชายของน้าก็เพิ่งจะกลับไปเอง จะได้เจอหน้าเจอตากันสักที มันก็หลายปีแล้วตั้งแต่เจ้าขนุนอยู่ปอหนึ่งได้แล้วล่ะมั้ง”คนพูดยิ้มอบอุ่น

   “คุณน้าบอกว่าลูกของคุณน้าชื่ออะไรนะครับ? ”

   “ก็ขนุนไง คณินลืมน้องแล้วเหรอ แต่ก็ไม่แน่หรอกไม่เจอกันนานเป็นสิบปีได้แล้วเนอะ ตอนนั้นน้าก็ย้ายบ้านมาอยู่ที่นี่ แถมย้ายขนุนตามมาด้วยหลังจากพ่อขนุนเสีย คงจะลืมๆ กันไปบ้าง”ประภัสสรยิ้มไม่ถือสา ก่อนน้ำเย็นๆ ชื่นใจกับขนมไทยน่ากินอย่างลูกชุบจะมาเสิร์ฟ

   “หล่อจังเลยค่ะ ใครเหรอคะคุณสร”แม้บ้านอย่างป้าขิมถึงกับเอ่ยถามที่เห็นหนุ่มหล่อนั่งอยู่ในบ้าน

   “ลูกชายเพื่อนสรเองค่ะป้า หล่อใช่มั้ยล่ะคะ”รอยยิ้มสดใสม่าทางใจดีแนะนำ

   “ใช่คนที่คุณขนุนอยากรู้ว่าเป็นใครรึเปล่าคะ”

   “ก็คุณเขานั่นแหละ”ประภัสสรหัวเราะเมื่อนึกถึงบุตรชายตัวเองที่โผล่มาเซอร์ไพรส์เรื่องรักๆ ใครๆ แล้วก็หายไปในอีกวัน ตอนแรกเธอแทบจะหัวใจวายเพราะจู่ๆ เจ้าลูกชายก็โผล่มากลางดึก คิดไปว่าเกิดเรื่องไม่ดีอะไรหรือเปล่า

   อะไรที่ไหนได้...ที่แท้ก็มาสารภาพเรื่องที่เจ้าลูกชายตัวดีมีแฟนแล้ว แน่นอนว่าเธอทั้งตกใจและแปลกใจที่จู่ๆ คนที่ใช่ของขนุนเป็นผู้ชาย แต่จะทำอย่างไรได้เธอจะไปขวางความสุขของลูกอย่างนั้นเหรอ? ก็คงจะไม่มีทาง

   เธอหวังแต่เพียงว่า...คนคนนั้นจะรักขนุนให้เท่ากับที่เธอรักก็พอ นั่นคือความกังวลเพียงสิ่งเดียว
 
   “เสียดายจังเลยนะคะที่ไม่ทันจะเจอกัน”

   “นั่นสิคะป้า วัยไล่เลี่ยกันน่าจะคุยกันถูกคอ จะได้ช่วยดูๆ กันด้วย”

   “เป็นห่วงเรื่องนั้นเหรอคะคุณสร”

   “ก็แน่สิคะ สรชักจะเป็นห่วงขึ้นมาแล้วสิเนี่ย”

   คณินฟังบทสนทนาของเจ้าของบ้านกับป้าขิมดูเข้าขากันดี มีคณินเพียงคนเดียวที่นั่งคิ้วชนพยายามปรับสีหน้าให้ยิ้มรับ แม้ทุกอย่างจะดูบังเอิญไปหมด

   เขาไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะเคยเจอขนุนมาก่อน นั่นแหละที่มันแดจาวูขั้นสุด ถ้าจะให้ระลึกไปถึงสมัยประถม คณินก็จำหน้าใครไม่ได้มากนักแม้กระทั่งเพื่อนในห้อง แล้วเขาจะรู้ได้ยังไงว่าเจอขนุนตอนไหน

   “แล้วตกลงคณินมาหาน้าถึงนี่มีเรื่องอะไรให้น้าช่วยรึเปล่า”

   “คุณน้าครับพอจะมีรูปลูกชายของคุณน้ารึเปล่าครับ”

   “คณินอยากดูเหรอ ได้สิเดี๋ยวน้าหยิบมาให้”เจ้าของบ้านรีบลุกขึ้นไปหยิบของที่คณินอยากได้ในทันทีไม่ลังเล ก่อนจะคว้ากรอบรูปในชั้นที่ล้มหงายหลังอยู่ตอนไหนไม่รู้ออกมา แล้วส่งยื่นให้คณินไป

   “ขอบคุณครับ”คณินยิ้มรับก่อนจะใช้สายตามองภาพอย่างละเอียด และไม่ผิดแน่คนในภาพคือขนุนตัวจริง

   “เป็นไงน้องน่ารักไหม แต่น้าชอบตอนผมสีดำมากกว่าไม่น่าไปย้อมเลยเจ้าเด็กคนนี้”ประภัสสรส่ายหน้าให้กับคนในภาพที่ทำสีหน้าทะเล้น ก่อนจะหันไปสังเกตสีหน้าของคณินที่ตอนนี้กำลังคลี่ยิ้มแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ   

   “ถ้าหากคณินมาเร็วกว่านี้คงได้เจอกันแล้ว เสียดายจริงๆ ”เธอยังคงบ่นเรื่องเดิมอีกครั้ง

   “คงไม่ต้องหรอกครับ”

   “เอ๊ะ? ทำไมเหรอ”ประภัสสรดูตกใจที่คณินปฏิเสธเธอเสียอย่างนั้น

   “ก็เพราะผมรู้จักขนุนดีเลยล่ะครับ”






   ภายในรถที่เปิดเพลงคลอเบาๆ พร้อมกับคนขับที่ดูอารมณ์ดีขึ้นมาหลายส่วน อย่างน้อยคณินก็รู้ว่าขนุนกลับบ้านมาด้วยท่าทีสดใส ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร และที่ไม่รับสายก็ดูเหมือนว่าจะลืมโทรศัพท์ไว้ที่หอ ซึ่งประภัสสรเป็นคนบอกคณิน เพราะเธอก็งอนๆ ขนุนเรื่องที่รีบกลับเพราะห่างโทรศัพท์ไม่ได้นี่แหละ   

   ก่อนกลับคณินใช้เวลาพักใหญ่พูดคุยกับแม่ของขนุน ยิ่งคณินบอกว่าได้เจอขนุนที่เรียนอยู่ต่างมหาลัยโดยบังเอิญอีกฝ่ายก็ดีใจใหญ่ เพราะหวังฝากลูกชายไว้ให้ดูแลและยิ่งคณินเป็นลูกชายของเพื่อนรักอย่างอารีก็วางใจต่อคณินเป็นนักหนา ถึงขั้นถามไถ่ความเป็นอยู่ของขนุนในตอนที่ไม่มีตัวเองคอยดูแลจากคณิน

   และคณินก็เล่าเรื่องของขนุนให้ฟังพอสมควรถึงนิสัยที่เขาสัมผัสได้ จนคนเป็นแม่ฟังแล้วได้แต่ส่ายหน้าและถอนหายใจแต่ก็ไม่ได้เก็บมาคิด กระทั่งคณินเผลอถามถึงเรื่องนิสัยแปลกๆ ของขนุน อย่างเมาแล้วชอบหยิบจับสิ่งของหรืออะไรที่ใกล้ตัว นั่นเป็นนิสัยหรือเพราะอะไรกันแน่ แล้วทำไมถึงเป็นเช่นนั้น คณินเองอยากรู้เพราะเป็นห่วงจึงได้ฟังเรื่องราวจากประภัสสรมามากพอสมควร

   “ตอนเด็กๆ หลังจากพ่อของขนุนเสียไป น้าจะนอนกอดเขาทุกคืน กอดจนหลับเลยล่ะ แต่พอขนุนโตขึ้นเป็นวัยรุ่น ก็แยกห้องนอนไป เขามีเอเรียส่วนตัวจนน้าไม่ได้สังเกตหรอกว่าขนุนแปลกไปหรือเปล่า เพราะทุกๆ วันที่เราอยู่ด้วยกันขนุนเป็นเด็กที่สดใส ทำให้น้าหัวเราะ มีความสุข”

   “ครับ ขนุนเป็นเด็กแบบนั้น”คณินเห็นด้วย

   “ใช่มั้ยล่ะ...เอาจริงๆ ขนุนไม่เคยร้องไห้ให้น้าเห็นอีกเลยนะตั้งแต่พ่อขนุนจากไป ครั้งสุดท้ายที่น้าเห็นน้ำตาของขนุนก็วันที่พ่อเขาเสีย”คนเล่ายิ้มบางมองคณินแววตาอ่อนโยน แม้จะเป็นความหลังที่ไม่น่าพูดถึงแต่กลับพูดออกมาด้วยแววตาคิดถึงมากกว่าเสียใจ

   “.....”

   “แต่คณินรู้มั้ย...วันนึงช่วงที่ขนุนจบมอปลายเขาขอไปฉลองกับเพื่อน และตอนนั้นน้าก็รู้ว่าขนุนดื่ม คนเป็นแม่จะทำไงล่ะ นอกจากโกรธขนุนซะยกใหญ่ เมาถึงขนาดเพื่อนต้องประคองกันมาส่งบ้านและยังต้องช่วยกันส่งให้ถึงห้องนอน”คนเล่ากุมขมับสีหน้าเปลี่ยนไปเมื่อพูดถึงเรื่องชวนหงุดหงิดในตอนนั้น

   “คุณน้าตีขนุนรึเปล่าครับ? ”

   “เปล่า ไม่ได้ตี แต่ก็ดุจนลั่นซอยเลยล่ะ”เธอส่ายหน้าแต่ก็ยิ้มบางออกมาแววตาเปลี่ยนไป

   “ทำไมไม่ตีล่ะครับ แม่ผมยังเคยตีผมเลย”

   “ก็เล่นทำหน้าเป็นลูกหมา โกรธยังไงก็ลงมือไม่ลง”

   “ครับ อย่างนี้เอง”

   “แต่วันนั้น น้ากลับขอบคุณตัวเองที่ไม่ได้ตีขนุน เพราะอะไรรู้ไหม? ”ประภัสสรมองคณินราวกับมีคำตอบในคำถามของคณินก่อนหน้า

   “ทำไมเหรอครับ? ”

   “เพราะเช้าอีกวัน น้าเดินลงมาข้างล่างและก็เห็นขนุนนอนอยู่ตรงนั้น”เธอชี้ไปที่มุมมุมหนึ่งของบ้าน ซึ่งตอนนี้เป็นที่วางตู้ไปแล้ว

   “นอนหลับเหรอครับ?”

   “ใช่จ้ะ นอนซุกอยู่ตรงมุมนั้น แล้วในแขนก็นอนกอดกรอบรูปถ่าย ซึ่งในภาพมีขนุนและพ่อของเขาถ่ายรูปด้วยกันเป็นรูปสุดท้าย เห็นแบบนั้นน้าแทบจะทรุดลงทั้งยืน ในตอนนั้นน้ากลับรู้สึกว่าตัวเองไม่รู้อะไรเกี่ยวกับความรู้สึกขนุนเลย เพราะเขาเผลอทำเรื่องแบบนั้นโดยไม่รู้ตัว น้าจึงได้รู้ว่าเขายังคิดถึงพ่อสุดหัวใจ”


   “ด้วยความกังวล น้าจึงแอบหยิบรูปนั้นไปเก็บไว้ หลังจากที่ขนุนตื่น เขาก็จำเรื่องที่ตัวเองมานอนอยู่ข้างล่างไม่ได้ จำไม่ได้แม้กระทั่งนอนกอดกรอบรูปด้วยซ้ำ”

   “ขอโทษครับ ที่ผมทำให้นึกถึงเรื่องไม่สบายใจ...”

   “ไม่หรอก มันนานมากแล้วไม่มีอะไรต้องเศร้าเสียใจอีก น้าอยากเล่าให้คณินฟังเพราะอย่างน้อย คณินจะได้ช่วยดูแลน้องแทนน้าด้วย”

   นับเป็นเรื่องชวนตกใจและสะเทือนความรู้สึกอยู่ไม่น้อย เมื่อเหตุผลนั้นเกิดจากการที่ขนุนเสียพ่อไปอย่างกะทันหันในวัยเด็ก ลึกๆ แล้วคงมีความรู้สึกโดดเดี่ยว บางอย่างขาดหายไปในชีวิต สิ่งที่อยู่ใต้จิตสำนึกจึงแสดงออกในเวลาที่ขนุนไม่สามารถควบคุมสติ หรือจิตใจตัวเองได้

   แต่เวลาปกติขนุนก็คือขนุน ที่สดใส แข็งแรง และเป็นเด็กร่าเริงอย่างที่คนเป็นแม่ภูมิใจ




   ในขณะที่คณินกำลังนึกถึงเรื่องราวของขนุนอยู่นั้น พลันเสียงเรียกสายจากโทรศัพท์ก็ดังขึ้น และชื่อเจ้าของหมายเลขที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอทำให้คณินรีบกดรับสายแทบทันทีผ่านบลูธูทเพราะเขากำลังขับรถเพื่อเดินทางกลับบ้านซึ่งต้องใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงอย่างต่ำเพราะสภาพการจราจรไม่คล่องตัวในบางเส้นทาง

    แต่ก่อนที่คณินจะพูดตบกลับไป ปลายสายดันพูดแทรกขึ้นมาซะก่อน

   [พี่คณินผมขอโทษ พอดีผมลืมโทรศัพท์ไว้ที่หอก่อนกลับบ้านอ่ะ เห็นพี่ติดต่อมาหลายสายผมโคตรรู้สึกแย่เลย พี่ไม่โกรธผมใช่มั้ย] คนรู้สึกผิดออดอ้อนแฟนป้ายแดง

   “ให้พี่ตีสักทีดีมั้ย พี่เป็นห่วงเราแทบแย่เลยรู้บ้างรึเปล่า”คณินคุยไป แต่เลือกที่จะไม่พูดถึงการไปเจอแม่ของขนุน หากต้ายังไม่ได้บอกอะไร คณินอยากจะไปเล่าให้ขนุนประหลาดใจเองมากกว่า

   [ผมรู้ แต่ก็ชอบครับที่พี่เป็นห่วงผมขนาดนี้] ดูเหมือนขนุนเขินจนแทบจะแทะโทรศัพท์ตัวเอง

   “ตอนนี้เราอยู่ไหน? พี่ได้ยินเสียงดังลอดผ่านโทรศัพท์เข้ามา”คนห่วงขมวดคิ้ว เผลอกำพวงมาลัยรถซะแน่นขณะจอดรถติดไฟแดง

   [เอ่อ...ผมอยู่ร้านป๋าชุบครับ] ขนุนสารภาพ ไม่อยากโกหก

   “ทำไมไปอยู่ที่นั่น แล้วอยู่กับใคร? ”เสียงเรียบถามออกไป มองดูนาฬิกาเป็นเวลา 5 โมงเย็นกว่าๆ แล้ว

   [ผมอยู่กับพวกนิวกับต้า แล้วก็...] ขนุนอึกอัก มองไปเบื้องหลังที่มีรุ่นพี่อย่างไม้เอกนั่งอยู่พร้อมพี่ยิปและเพื่อนอีกสองสามคน ขนุนไม่ได้อยากมาแต่เพราะเจอไม้เอกโดยบังเอิญด้านล่างหอขณะที่ขนุนกำลังจะไปหาคณินที่บ้าน อีกฝ่ายเอาแต่พูดถึงสัญญาแทนคำขอโทษครั้งก่อนที่ขนุนเคยให้ไว้ รุ่นน้องอย่างขนุนไม่อยากมีปัญหากับไม้เอกและไม่อยากให้ไม้เอกเพ่งเล็กไปที่คณิน อนึ่งก็เป็นห่วงสวัสดิภาพของคณินด้วย เลยปฏิเสธคำชวนไม่ได้ แต่ก็ลากสองเพื่อนซี้อย่างต้ากับนิวมาเป็นก้างแล้ว

   “อยู่กับใครอีกครับบอกพี่ได้มั้ย? ”

   [กับพวกรุ่นพี่ในคณะน่ะครับ] ขนุนพยายามพูดเสียงสดใส ให้อีกฝ่ายวางใจ เพราะไม่อยากให้คณินกังวล

   “.....”คณินเงียบไป

   [เอ่อ...พี่คณินครับ]

   “โอเคครับ ขนุนดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ พี่รู้ว่าเราจะดื่มแต่ก็อย่าเยอะเข้าใจรึเปล่า”

   [ไม่เยอะหรอกครับจริงๆ ก็ไม่อยากมา อีกเดี๋ยวผมจะกลับแล้วครับ]

   “ครับ แล้วพี่จะโทรหาเราอีกที”

   [หากไม่รบกวนอะไร พรุ่งนี้ผมกับพี่ เราไปเที่ยวด้วยกันได้มั้ยครับ]

   “เอาสิ แล้วเจอกันพรุ่งนี้ครับ”

   น้ำเสียงที่นิ่มนวล ถ้อยคำสุภาพใจเย็น ตัดภาพไปยังเจ้าของเสียงบัดนี้ช่างย้อนแย้งนัก ดวงตาที่อ่อนโยนนั้นคล้ายปลิวหายไปกับความเร็วของรถที่เร็วขึ้นทุกๆ นาที แทนที่ด้วยใบหน้าเรียบนิ่งทว่านัยน์ตาดูหงุดหงิดประหนึ่งใครมายั่วยุอารมณ์ให้ขุ่นมัว หลังวางสายจากขนุนคณินก็รีบต่อสายโทรหาใครคนนึงในทันที

   “ฮัลโหลไอ้วิน กูขอช่วยอะไรมึงหน่อย”

   [มาอารมณ์ไหนวะ เสียงมึงดูน่ากลัวว่ะกูบอกเลย มีเรื่องซีเหรอ? ]

   “...เออ กูซี! ”

   [มึงจะวานให้กูไปฆ่าใครป่ะไอ้คณิน? ยากนะที่กูจะได้ฟังน้ำเสียงเย็นบาดหูของมึงแบบนี้]

   “มึงไปที่ที่นึงตอนนี้และเดี๋ยวนี้ให้กูหน่อย”

   [ห๊ะ! ไปไหนวะ? ]

   “เดี๋ยวกูส่งพิกัดไปให้ แค่ไปและทำตามที่กูบอกก็พอ เดี๋ยวกูตอบแทนมึงถึงที่สุดแล้วกัน”

   [แน่นะเว้ย! จัดไปครับอย่าให้เสีย! ]











ติดตามตอนต่อไป >>>

 :กอด1:
   
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 22 {อัปเดตแล้ว} 22/06/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 22-06-2019 18:14:08
แหมพี่คณิน แอบร้ายนะคะ



หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 22 {อัปเดตแล้ว} 22/06/2562
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 22-06-2019 18:38:15
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 22 {อัปเดตแล้ว} 22/06/2562
เริ่มหัวข้อโดย: rainiefonnie ที่ 22-06-2019 21:33:48
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 23 {อัปเดตแล้ว} 10/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 10-07-2019 19:58:48



ขนุนลูกที่ 23





   “นี่มึงลากกูมาร้านเหล้าตั้งแต่หัววันเนี้ยนะไอ้วิน”

   “หัววันบ้านมึงสินี่เย็นแล้วโว้ย นอนขึ้นอืดอยู่ล่ะสิไม่ว่า”

   “เวลาพักผ่อนกูควรนอนมั้ย? แม่งกว่าจะเร่งทีเสิร์ซให้เสร็จก็จะเช้าอยู่แล้ว”คนเพิ่งตื่นขยี้ผมตัวเองยุ่ง มองอนาวินที่ยิ้มร่าเมื่อได้โลดแล่นอยู่ในชีวิตคนอื่น หรือง่ายๆ คือเสือก

   “เอานา เพื่อไอ้คณินมัน กูก็จำใจเนี้ย แต่ทำไงได้”อนาวินไหวไหล่

   “หน้ามึงไม่ได้เป็นอย่างที่ปากมึงพูด”ความหมั่นไส้ถึงกับต้องยื่นมือไปบีบปากของเพื่อนแสนรู้หูตูบอย่างอนาวิน

   “อูอับอ๊ดอู่ (กูขับรถอยู่)”

   “ก็ขับไปดิ”

   ภารกิจที่อนาวินได้รับจากคณินนั้นก็คือการแอบไปส่องคุณแฟนที่แสนน่ารัก ว่าทำตัวหน้ารักสมชื่อหรือเปล่า เอาจริงๆ มันคือการหวงที่เริ่มแสดงอิทธิฤทธิ์ของคณิน ทั้งอนาวินและโจมต่างรู้ลาย เห็นนิ่งๆ สุภาพหล่อหัวจรดตีนแบบนั้น แต่พอรักอะไรก็แทบทุ่มไปทั้งใจไม่เผื่อความเจ็บ นั่นแหละคือคุณคณิน

   และสถานที่ที่อนาวินลากโจมมาส่องเป็นตาแมวให้กับคณินนั้นก็เป็นร้านเหล้าเล็กๆ ใกล้กับมหาลัยของขนุน มาดื่มมาเที่ยวกับเพื่อนจริงคณินมันคงไม่หวงขนาดทำให้เพื่อนสองคนอย่างอนาวินกับโจมเดือดร้อน และมันคงมีอะไรมากกว่านั้นแน่นอน

   ตอนนี้โจมกับอนาวินก็ก้าวเข้ามาในร้าน แอบเดินเข้ามาเหมือนไม้ต้องการให้ใครรู้ตัว แต่พอผ่านโต๊ะกลุ่มสาวๆ มหาลัยวัยดื่มพวกเขาก็ไม่เป็นส่วนตัวอีกต่อไป เพราะดันมีเสียงกรีดร้องจิกเล็บซี๊ดปากให้กับหนุ่มหล่อหน้าแซะที่ไม่เคยมาแถวนี้มาก่อน

   และอนาวินกับโจมก็เพียงพยักหน้าขนับหมวดแคปปิดใบหน้าลงส่งยิ้มเขินๆ ไปให้ ก่อนจะเดินตรงรี่เข้าด้านในของร้าน แล้วเลือกมุมที่เป็นส่วนตัวแต่สามารถเสือกโต๊ะอื่นๆ ได้โดยรอบ

   “ใจกูเต้นแรงเลยว่ะ มึงเห็นรึเปล่าสาวๆ กลุ่มนั้นโคตรดีต่อใจ”

   “มึงอัดอั้น? กูถามจริง”

   “อนาโตมี่ของผูชายมึงก็รู้”

   “ตกลงมึงมาทำอะไร ส่องสาวหรือส่องน้องขนุน”

   “กูทำสองอย่างได้นา”อนาวินยักคิ้ว ก่อนจะมองซ้ายขวาสังเกตไปรอบๆ ร้าน ตั้งแต่เขาเดินเข้ามาก็ยังไม่เห็นขนุนเลยสักเส้นขน ก่อนจะก้มมองดูนาฬิกาข้อมือเรือนเท่ที่บ่งบอกเวลาประมาณเกือบ 1 ทุ่ม ท้องฟ้าด้านนอกเริ่มมืดลงแต่ยังคงไม่สนิท แม้ดวงอาทิตย์จะตกดินไปแล้วก็ตาม

   ระหว่างกวาดตามองสำรวจรู้ตัวอีกทีโจมก็กวักมือสั่งเบียร์ไปกับพนักงานเพื่อมานั่งดื่มแล้ว

   “ไหนอาการเหมือนไม่อยากมา กูถาม!”อนาวินย้อนคืน

   “กู คอ แห้ง สั่งเผื่อมึงด้วย จะแดกไม่แดก?”

   “แดกดิ...”

   “ว่าแต่นี่มึงพามาถูกที่ใช่มั้ย กูยังไม่เห็นขนุนสักลูกเลย ไอ้คณินมันมั่วรึเปล่า มึงลองโทรไปเช็กดิ”โจมหันซ้ายมองขวา สำรวจสายตาที่ดีเยี่ยมไปรอบๆ ร้าน แม้แสงไฟจะเริ่มสลัวขึ้นแต่ภายในร้านโดยรอบก็ไม่มืดจนมองใครไม่เห็น

   “เฮ้ยๆ กูเจอนั่น”อนาวินดึงแก้วเบียร์ออกจากปากโจมที่กำลังจะกระดกเข้าปากให้วางลงแล้วตีโต๊ะชี้นิ้วไปที่ใครคนหนึ่งตื่นเต้น ซึ่งคนคนนั้นเดินออกมาจากอีกโซนของร้านที่พวกเขาไม่ทันสังเกต

   “นั่นมันน้องต้าเพื่อนขนุนไม่ใช่เหรอ แสดงว่าขนุนก็ต้องอยู่นี่จริงๆ ดิ”

   “กูว่างั้น”

   “กูรายงานไอ้คณินก่อน”อนาวินพิมพ์ข้อความยิกๆ ลงในโทรศัพท์มือถือส่งถึงคณินที่กำลังขับรถตรงมายังที่ร้านป๋าชุป

   “ไปทักน้องมันมั้ย?”

   “เออ ไปดิรออะไร”




   “พี่ไม้เอกมีเพื่อนเยอะแล้ว ผมว่าผมกลับก่อนดีกว่านะครับ”

   “ขนุนสัญญากับพี่ไว้ ลืมแล้วหรือเปล่า”

   “ผมไม่ได้ลืมนะพี่ แต่ว่าผมมีนัด คงอยู่ดื่มเยอะๆ กับพวกพี่ไม่ได้ เอาไว้ครั้งหน้าอีกได้มั้ยอ่ะพี่”ขนุนเอานัดเข้าอ้างหวังว่าจะได้กลับเร็วไว

   “พี่จะให้กลับก็ได้ แต่ขนุนต้องดื่มกับพี่อีกนิดนะครับ”ขนุนหน้ายู่ มองไม้เอกที่ยื่นแก้วเหล้าให้พร้อมรอยยิ้ม นี่เป็นแก้วที่สองแล้วที่ขนุนดื่มไป มันไม่ได้มากมายขนาดที่จะทำให้ขนุนขาดสติ แต่ความเข้มต่อปริมาณโซดาต่างหากที่ชวนสะพรึง

   “ผมชงให้มันเองดีกว่า”

   “อย่ายุ่งได้ไหมครับ พี่ชงแล้วมันมีปัญหาเหรอ? ”นิวยื่นมือจะไปรับแก้วเหล้าแทนขนุน แต่กลับถูกไม้เอกปฏิเสธแล้วมองขวาง ขนุนที่เห็นสีหน้าของนิวที่เริ่มเดือด บวกกับไม้เอกที่หน้าตึงไปถึงคิวเริ่มรู้สึกถึงหายนะ

   “นิวๆ ไม่เป็นไร”ขนุนหันไปส่ายหน้า แล้วยื่นมือไปรับแก้ว ขนุนรู้ดีว่าไม้เอกกำลังคิดอะไร อนึ่งก็เคืองเรื่องที่ตนเองกลับกับพี่คณินครั้งก่อนทำไมจะไม่รู้

   “ขนุนน่ารัก...ไม่เห็นเหมือนเพื่อนของขนุนบางคนเลย”แม้มุมปากจะยิ้มแต่สายตากลับมองเหี้ยมไปนังนิวที่นั่งใกล้ขนุนไม่ห่าง

   “ไม่หรอกครับ เพื่อนผมดีกับผมทุกคน”

   “ดีเกินไปจนน่ารำคาญรึเปล่าครับ พี่ว่าถ้าขนุนรู้สึกแบบนั้นก็บอกเพื่อนบ้างก็ได้นะ เขาอาจไม่รู้ตัว”

   “พี่จะว่าผมก็พูดตรงๆ ก็ได้ อย่าอ้อมดิ”

   “เฮ้ย! ไอ้ไม้ มึงก็พูดปากหมาไป”พี่ยิปที่นั่งใกล้ๆ ไม้เอกกระทุ้งศอกเตือนสติ แม้จะพอรู้ว่าไม้เอกไม่ชอบให้ใครหักหน้าเหมือนท่าทีที่นิวกำลังทำ

   “เรามาดื่มกันดีกว่าครับ ใช่มั้ยพี่ยิป”ขนุนส่งสายตามองไปยังรุ่นพี่อีกคนที่พอจะพึ่งได้

   “เออๆ น้องกลัวแล้วเนี้ยไอ้ไม้ รึให้กูส่งน้องกลับถ้ามึงจะมาอารมณ์เสียเหมือนกินรังแตนอยู่แบบนี้ เรามาสนุกกันนะเว้ย”

   “กูก็ไม่ได้จะอะไร พี่ขอโทษนะขนุน”

   “อือ” ขนุนส่ายหน้าฝืนยิ้ม “ไม่เป็นไรครับ”

   “ในแก้วหมดแล้ว พี่เติมให้นะ”

   “ห๊ะ? ”ขนุนหน้าเหวอ เหลือบตาลงไปมองแก้วในมือตัวเองที่เผลอกระดกจนหมดไปโดยไม่รู้ตัว
 
   ไอ้ขนุนเอ้ย! เอ็งจะมากระดกฮวบเหมือนดื่มปกติไม่ได้!

   “ส่งแก้วมาครับ”

   “อ่า...ครับ ขอเบาๆ นะพี่ ผมมีนัดต่อ”ขนุนย้ำนัดของตนเอง แต่ก็ยื่นแก้วไปให้ แอบผ่อนลมหายใจเหมือนอึดอัดน่าดู ทั้งแอบเหลือบไปมองนิวที่นั่งวนปลายนิ้วไปบนปากแก้วของตัวเอง ไม่มีแม้แต่จะมองหน้าใคร มันทำให้ขนุนรู้ว่าตอนนี้นิวกำลังข่มอารมณ์ตัวเองสุดๆ เพื่อเขา

   “แล้วตกลงเราไม่ได้บอกเลยว่านัดอะไรกับใคร”ไม้เอกมองคนตัวเล็กที่นั่งซุกมือไว้หว่างขายิ้มแห้งๆ ให้กับเขา ไหล่เล็กห่อจนแทบจะชิดกัน มันเป็นท่าทางธรรมชาติของคนที่กำลังประหม่าและหาคำตอบ แต่นั่นก็ทำให้ไม้เอกมองว่ามันดูน่ารักในสายตาเขา

   “เอ่อ...”ขนุนเม้มปากเล็กเบาๆ กลอกตาไปมาก่อนจะไปหยุดที่ผู้ชายตรงหน้าที่กำลังชงเหล้าให้

   “เพื่อนผมมีนัดกับ แฟน ของ มัน พี่ไม้เอกไม่รู้เหรอครับ”

   คนที่พูดขึ้นเงยหน้าสบตาไม้เอกนิ่ง ทว่ากลับปรากฏรอยยิ้มเย้ยหยันได้กวนตีนสุดๆ ก็เห็นจะเป็นของเพื่อนรักอย่างนิว

   “นิว ไปบอกพี่ไม้เอกทำไม”ขนุนหันขวับไปพูดลอดทางไรฟันตากลมถึงกับต้องถลึงตาใส่ แล้วกลับไปยิ้มหวานให้คนตรงหน้าแล้วรับแก้วเหล้าที่ส่งมาอย่างว่าง่าย ขนุนไม่ได้อยากจะปิดบังแต่ก็ไม่ต้องการจะบอกไม้เอกตอนนี้ สถานการณ์มันดูหน้าสิ่วหน้าขวานเกินไป

   อีกอย่างขนุนคิดว่ามันไม่ได้เป็นผลดีกับใครในที่นี้เลยที่จะบอกความสัมพันธ์ของตัวเองกับคนตรงหน้า และแน่นอนว่าคนที่ได้ยินอย่างไม้เอกถึงนิ่งงัน สีหน้าที่เคยเปลี่ยนได้ตามอารมณ์เริ่มดูน่ากลัวขึ้น ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบขึ้นมาทันที มีเพียงเสียงอึกทึกของโต๊ะข้างเคียงเท่านั้นที่ดังไปทั่ว แม้แต่เสียงเพลงที่ฟังดูเบาสบายหูก็เริ่มไม่เข้ากับบรรยากาศ

   ขนุนกลอกตามองไปรอบๆ มองหาต้าที่ออกไปโทรหาไอ้แจ็กกับไอ้ช้างให้มาช่วยเป็นทัพหลัง อย่างน้อยมีอะไรพลั้งพลาดก็คงจะพอช่วยกันได้

   ผมสาบานว่านี้ไม่ใช่การนัดหมายรวมกลุ่มเพื่อมาต่อยตี ผมแค่อยากมีใครหลายคนไว้ให้อุ่นใจ

   “ที่เพื่อนพูด จริงเหรอขนุน”

   “เอ่อ...”อีกครั้งที่ริมฝีปากของขนุนมันแห้งจนต้องเลียและขบเบาๆ อย่างครุ่นคิด “ครับ...ผมมีแฟนแล้วจริงๆ ”

   “ใคร? ”

   “ครับ?”

   “พี่อยากรู้ว่าใคร? ”เสียงนิ่งถามออกมาเย็นเยือก พี่ยิปยื่นมือไปแตะแผ่นหลังของไม้เอกเบาๆ ให้ใจเย็นๆ เพื่อนอีกสองสามคนไม่สามารถพูดแทรกเข้ามาในบรรยากาศตอนนี้ได้

   “มันเป็นเรื่องธรรมดาใช่มั้ยล่ะครับที่ผมจะมีแฟน พี่ไม้เอกเองก็มีคนชอบตั้งเยอะนะครับ สาวๆ ในคณะยังพูดถึงพี่อยู่บ่อยๆ เลย”

   “ขนุน พี่ไม่ได้อยากรู้เรื่องนั้นครับ”

   ขนุนยกแก้วในมือขึ้นดื่ม ก่อนจะวางลงไปบนโต๊ะแล้วตัดสินใจพูดออกไป เพราะอย่างไรก็ปิดไม่ได้ “ผมกับพี่คณินเราเป็นแฟนกันครับ”

   ความเงียบเกิดขึ้นอีกครั้ง ขนุนมองมือไม้เอกที่กำแน่นด้วยสีหน้าราวกับอยากจะต่อยหน้าใครสักคน อย่างแรกที่ขนุนทำก็คือวางมือไปที่ท่อนแขนของนิว ไม่ใช่เพราะกลัวแต่เพราะไม่รู้ว่าใครจะเป็นเครื่องรองรับอารมณ์พี่ไม้เอกรึเปล่า ยิ่งเพื่อนของเขาชอบแกว่งเท้าหาปากพี่ไม้เอกอยู่เรื่อย

   ตึกตัก ตึกตัก!

   ช่างเป็นสถานการณ์ที่บีบรัดจิตใจของขนุนอย่างมาก มากเสียจนแอลกอฮอล์และแก๊สในท้องมันตีรวนกันไปหมด

   “เอิ๊กกก! อุ๊บ!”

   ผะผม...ผมไม่ได้ตั้งใจจู่ๆ แก๊สมันก็ย้อนขึ้นมาแล้วอยากจะอ้วก

   ขวับ!

   คงไม่มีใครดุผมเรื่องมารยาทบนโต๊ะอาหารหรอกนะ เพราะนี่มันวงเหล้าที่โคตรน่าอึดอัดเลย

   “ขอโทษครับ กระเพาะผมมันบีบตัว”ขนุนตีท้องตัวเองปุ๊กๆ หัวเราะแห้งๆ หน้าจะร้องไห้ แถมยังอายจนแก้มขาวแดงก่ำ ลืมไปซะสนิทว่าเมื่อครู่บรรยากาศมาคุขนาดไหน แต่ก็ไม่พ้นความเงียบที่เอาแต่จับจ้องสายตามายังขนุนที่แทบอยากจะมุดตัวแทรกแผ่นดินหนีออกไป เจ้าตัวทำได้เพียงแก้เก้อโดยการคว้าแก้วของนิวที่อยู่ใกล้ๆ ขึ้นดื่มดับอาการไปไม่ถูกทางอึกใหญ่ จนไม่สนรสชาติของความขมติดลิ้น

   อึก อึก!

   “ไอ้ขนุน นั่นมันแก้วกู!”นิวหันไปเหวใส่คนตัวเล็กที่หน้าเหวอจนเสียอาการ เพราะแก้วของนิวไม้เอกก็เป็นคงชงให้ แน่นอนว่ามันเข้มจนแทบมองไม่เห็นเปอร์เซ็นต์ของโซดาเลยด้วยซ้ำ

   “พี่ยินดีด้วยนะขนุน ที่เรามีแฟน”ความกังวลความตึงเครียดใดๆ เป็นอันต้องชะงัก เมื่อจู่ๆ คนที่เงียบมาจนถึงเมื่อครู่อย่างไม้เอกดันพูดสิ่งนั้นออกมา

   “ยินดี?” ขนุนถึงกับตาวาวแต่แอบเก็บอาการตกใจ “...ขอบคุณครับพี่ไม้เอก”

   “งั้นแบบนี้ก็ต้องฉลองสินะ”

   “ไม่ครับ ไม่ต้องฉลอง”

   แบบนี้มันน่ากลัวกว่าอีก

   “ไอ้ยิปเอาแก้วมาเปลี่ยนใบนึงให้น้องนิว สั่งเหล้ามาเพิ่มด้วย กูอยากจะดื่มแบบเข้มๆ ว่ะ”

   “เอาแล้ววววว”ขนุนพึมพำนั่งตัวแข็งมองดูของที่มาเติมเหมือนมันจะไม่มีทางหมดไปจากแก้ว แม้ขนุนพยายามจะขอปลีกตัวออกมา แต่ไม้เอกกลับรั้งไว้ตั้งหลายครั้ง

   กระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงเกือบหนึ่งชั่วโมง ต้าเข้ามาตอนที่สถานการณ์ดูแปลกๆ ขนุนถูกประเคนแก้วให้แทบจะไม่ได้วางมือ แอบกระซิบถามนิวที่นั่งหน้าบึ้งเป็นมะกรูดก็ไม่ได้คำตอบรายละเอียดใดๆ มากนัก แล้วรายงานเรื่องที่ไปชวนแจ็กกับช้างว่าสองคนนั้นกลับบ้านต่างจังหวัดยังมาไม่ถึงหอ และแอบกระซิบนิวไปว่าเจอใครข้างนอกนั่น แต่ก็ไม่ได้บอกขนุนเพราะอนาวินกับโจมสั่งห้ามไว้

   “นี่มันเยอะไปแล้วรึเปล่าวะ”ต้าสะกิดนิวที่เริ่มมีแอลกอฮอล์ในเลือดไหวเวียนอยู่ไม่น้อย เพราะทุกครั้งที่นิวปฏิเสธอีกฝ่ายก็จะเอาเรื่องในคณะมาขู่อย่างพวกกิจกรรมสันที่จะไม่ให้พวกรุ่นพี่ให้ความร่วมมือด้วย ยิ่งนิวเป็นพวกไม่ยอมใคร ท้าทายนิดหน่อยก็กระดกไม่ยั้งเหมือนกัน

   “กูไหว”

   “พี่ไม้เอกครับ ผมว่าผมขอพาเพื่อนกลับก่อนดีกว่า พวกแม่งถ้าเมาสองคนแล้วผมจะเอากลับไงล่ะพี่”

   “เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง”ไม้เอกยิ้มมุมปากเลื่อนสายตาไปมองขนุนที่นั่งสูดน้ำมูกกับขยี้ตาเป็นรอบที่ร้อย แก้มกลมขาวมันแดงเถือกด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่เผาได้รวดเร็วปานจรวด จนต้าต้องกดเบอร์ฉุกเฉินอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะแบบนี้ไม่ไหวแน่ๆ ไม้เอกเล่นมอมขนุนซึ่งๆ หน้าขนาดนี้

   “พี่ไม้เอกครับ”

   “ว่าไงขนุน เราโอเคใช่มั้ย?”

   “อือ ก็ไหวนะครับ แต่ก็เริ่มไม่ไหวแล้ว อึก!”แม้จะโต้ตอบออกไปได้ แต่ประสิทธิภาพของการรับรู้นั้นเริ่มต่ำ ลิ้นก็เริ่มหนักจนพูดแพ้เด็กสามขวบ

   “มึงไม่ต้องแดกแล้วไอ้ขนุน กลับ! กูทนให้ไอ้บ้านี่เอาเปรียบต่อไปไม่ไหวแล้ว! ดูก็รู้ว่าตั้งใจยื้อเวลา”นิวที่นั่งอยู่ข้างๆ ลุกขึ้นยืนแล้วปัดแก้วที่ไม้เอกขยันส่งให้ขนุนทิ้งอย่างเหลือทน

   กิจกรรมต่างๆ ไม่ร่วมไม่สนับสนุนก็ช่างแม่ง!

   เคร้ง!

   “ฉิบหายแล้ว!”

   ต้ามองแก้วเหล้าที่หล่นลงแตกอย่างตกใจเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่สติครบครั้นที่สุด

   “นิวววว...ใจเย็นดิ พี่ไม้เอกขอโทษนะครับ”ขนุนยืนโซเซเข้าเกาะเพื่อน ตอนนี้ไม่มีใครอยากจะนั่งอีกต่อไปแล้วรวมถึงไม้เอกก็ด้วย ส่วนพี่ยิปก็รีบเข้าไปดึงแขนพี่ไม้เอกเอาไว้ส่ายหน้าห้ามไม่อยากให้เกิดเรื่อง

   “กูว่าวันนี้พอแค่นี้เหอะไอ้ไม้ ถ้าเริ่มเมาก็กลับไปนอนกูขับรถให้เอง”

   “ไอ้ยิปมึงปล่อย! กูไม่ทำอะไรเด็กหรอก มึงไม่ต้องกลัว”

   “ใครเด็กวะ!”

   “อย่านิว พี่ไม้เอก อย่ามีเรื่องเลยครับผมไหว...พี่ยิปผมพาเพื่อนกลับก่อนนะครับ ไปเหอะต้า นิว”ขนุนเข้าดึงแขนของนิวให้เดินออกไป ขืนยังอยู่ต่อไม่มีอะไรดีแน่ ทว่าระหว่างที่ขนุนกำลังจะเดินออกไปกับเพื่อน ไม้เอกก็ดันเดินดุ่มๆ เข้ามาทางด้านหลังแล้วคว้าแขนของขนุนเอาไว้สีหน้าไม่พอใจเท่าไหร่นัก

   “จะรีบอะไรนักหนา จะไปหาแฟนงั้นสิ”น้ำเสียงที่ค่อนไปทางไม่พอใจส่อออกมาทางสายตาดูน่ากลัว

   “ผมบอกพี่ไปแล้ว ว่ามีนัด ปล่อยนะครับ!”ขนุนสะบัดแขนตัวเอง เริ่มมีสีหน้าบึ้งตึงไปด้วย

   “พี่ไม่ให้ไป พี่รู้จักเราก่อน แคร์เราก่อนทำไมจะต้องเป็นคนอื่นวะ!”

   “เมาแล้วก็กลับไปนอนอย่างที่พี่ยิปว่าเหอะครับ”ขนุนอยากจะพูดดี หากแต่อารมณ์ตอนนี้เป็นไปไม่ได้ แล้วยิ่งคนตรงหน้าเริ่มคุกคาม ขนุนก็รู้สึกว่าตนเองไม่จำเป็นต้องแคร์อีก

   “ขนุน!”

   “ผมถนอมน้ำใจพี่มาเยอะแล้วนะครับ อย่าให้เรื่องแบบนี้มาพังความสัมพันธ์ดีๆ จะดีกว่า ผมรู้...พี่ดีกับผมมาตลอด เลี้ยงข้าว เลี้ยงเหล้า เลี้ยงน้ำ ช่วยงานหลายๆ เรื่อง แต่ผมไม่คิดว่าต้องให้ทุกอย่างกับพี่หรอกนะครับ และที่สำคัญ...ผมไม่ได้ชอบพี่ไม้เอกแบบนั้น”

   “.....”

   “ผม....”ขนุนชี้นิ้วจิ้มไปที่อกตัวเองมองไม้เอกตาปลือ “ผมจะไม่ใจดีกับพี่อีกเหมือนกันถ้าพี่จะทำงี้กับผมอ่ะ! ไปเหอะต้า นิว”

   หมับ!

   “ก็บอกว่าไม่ให้ไปไง!”

   “ปล่อยมือพี่จากเพื่อนผม”มือของนิวจับไปที่แขนของไม้เอก

   “พี่ไม้เอก ไอ้นิว ใจเย็นๆ ”ต้าลนลานชะเง้อมองคนที่โทรเรียก และตอนนี้ก็เห็นแล้วว่าเดินเข้ามา จึงกวักมือเรียกสุดกำลัง

   “พวกมึงไม่ต้องเสือก! กลับไปให้หมดเลยกูจะคุยกับขนุน!”ไม้เอกสะบัดมือนิวออกอย่างรำคาญแล้วจัดการดึงแขนขนุนให้เดินตามไปอย่างไม่แยแส จนทุกคนตกใจตามๆ กัน ไม่คิดว่าไม้เอกจะทำแบบนั้นได้

   “พี่…ปล่อยโผมมมม”ขนุนเองก็เบลอจนขัดขืนอะไรไม่มากนักนอกจากเกี่ยวแขนกับพนักเก้าอี้แล้วลากไปด้วย เล่นเอาคนมองไปเกือบครึ่งโซนร้าน

   และยิ่งมองกันไปใหญ่เมื่อจู่ๆ เจ้าของร่างสูงแปลกหน้าเดินมาขวางหน้าไม้เอกไว้แล้วจัดการดึงขนุนเข้าไปหลบด้านหลัง งานนี้เลยกลายเป็นเรื่องฮือฮาไปทั้งร้าน

   โดยเฉพาะขนุนที่เบิกตาโพลงมองคนตรงหน้าเจ้าของแผ่นหลังกว้างและกลิ่นหอมคุ้นจมูก

   “พี่คณิน! มะมาได้ไงครับ”

   “ไว้ค่อยคุยกัน”

   “อ๋อ แฟนตามมาหวงถึงนี่เชียว หึ!”

   “ถ้ารู้ว่าคนที่คุณยุ่มย่ามเป็นแฟนคนอื่น ก็ถอยไปให้ห่างเถอะครับ ผมเตือนคุณแล้วนะ”

   “แต่ขนุนเป็นรุ่นน้องผม ผมรู้จักก่อนคุณด้วยซ้ำ อย่ามาทำกร่างแถวนี้ที่ไม่ใช่ที่ของคุณ!”

   “ท่าทางเราจะคุยกันไม่รู้เรื่อง ผมจะพาขนุน...แฟน ผม กลับ”น้ำเสียงที่พูดออกมาประกาศให้ไม้เอกรู้อย่างชัดเจน ก่อนจะจับมือขนุนเดินออกไปสีหน้าถมึงทึงไม่อยากต่อความ

   แต่ใครจะไปคาดคิดว่าจู่ๆ ขณะที่คณินกำลังหันหลังให้ เท่าหนักๆ ของใครบางคนก็ลอยมาปะทะเข้ากับแผ่นหลังอย่างจัง จนทำให้ร่างสูงแทบคะมำไปข้างหน้า

   “พี่คณิน เป็นอะไรมากมั้ยครับ!”

   คนถูกถีบเอื้อมมือไปปัดเสื้อสีขาวตัวโปรดด้านหลังส่ายหน้าให้ขนุนที่แทบเข่าทรุด คณินเอี้ยวหน้ามองคราบสกปรกแววตานิ่ง ก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังเจ้าของรอยยิ้มเหยียดและเจ้าของรอยรองเท้าอย่างคาดเดาความคิดไม่ออก แววตาที่นิ่งเรียบทว่าดูเดือดดาลขึ้นมาบ้างแล้ว

   “เหี้ย! แม่งเด็กสินกำเล่นแรงว่ะ!”อนาวินอุทานอ้าปากเหวอหน้าซีด

   “กูว่างานเข้าแล้วว่ะ ดูหน้าไอ้คณินดิ”

   “ซวยแล้วไอ้คณิน”

   “กูไม่รู้ว่าใครซวยงานนี้ แต่มึงลืมไปป่ะว่าไอ้คณินมันแชมป์เทควันโดสายดำมาก่อนนะเว้ย”

   “.....”

   “ผมไม่อยากใช่กำลังหรือมีเรื่อง แต่เมื่อคุณเริ่มผมก็ถือว่างานนี้คุณเป็นคนรนหาที่เอง”

   ผั๊วะ!

   “กรี๊ดดดด! เหี้ย!”

   เสียงกรีดร้องโวยวายก็พลันเกิดขึ้นทันทีที่คณินโถมตัวเข้าไปหาไม้เอกก่อนจะซัดหมัดกลับสวนไปอย่างเหลือทน  ขนุนถึงกับอ้าปากเหวอตัวแข็งทื่อมองเหตุการณ์ชุลมุนอีนุงตุงนังตรงหน้าอย่างช็อก

   คนอื่นๆ ที่มีสติก็รีบเข้าไปห้าม ทั้งอนาวินและโจมรวมถึงเพื่อนของไม้เอกก็เข้าช่วยจับสองคนแยกท่ามกลางความโกลาหล

   “พะพี่คณิน!”เหมือนเพิ่งจะรู้สึกตัว ขนุนถึงได้เข้าไปช่วยแยกคนทั้งสองที่ต่อยกันนัว เล่นเอาข้าวของรวมถึงโต๊ะใกล้ๆ วงแตกแหกกระเจิงกันไปตามๆ กัน

   กว่าจะหยุดทุกอย่างได้ก็เล่นเอาเหนื่อยหอบ เจ้าของร้านที่ลูกน้องเพิ่งโทรตามมาถึงในวินาที่ร้านเละเป็นข้าวต้มแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าแค่คนสองคนที่ต่อยกันในร้านจะนำความเสียหายได้ค่อนข้างเยอะขนาดนี้ แรงแต่ละคนเกินคาดหมายไปเยอะมาก โชคดีที่เจ้าของร้านอะลุ่มอล่วยไม่โทรแจ้งความ แต่ให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแล้วแยกย้ายกลับ

   นับว่าค่ำคืนนี้มีสีสันยันใบหน้า โดยเฉพาะคนที่ขนุนไม่คาดคิดว่าจะบู๊แหลกได้ถึงขนาดนี้

   หากย้อนคิดกลับไปอีกทีเรื่องบ้าๆ เหล่านี้กลับทำให้หัวใจขนุนพองโตเป็นบ้า แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นก็ตาม





   ตึ้งตึง....

   เสียงบานประตูเลื่อนของร้านสะดวกซื้อดังขึ้นด้านหลังของร่างสูงที่นั่งรอใครบางคนอยู่ที่ตรงขั้นบันได เสียงก๊อปแก๊ปของถุงที่ใส่อุปกรณ์ทำแผลวางลงข้างๆ พร้อมกับขนุนที่หย่อยตัวลงนั่งผ่อนลมหายใจเบาๆ หลังจากแยกย้ายกับเพื่อนๆ ขนุนจึงอาสาอยู่เป็นเพื่อนคณินหลังเกิดเกิดเรื่องวิวาทก่อนหน้านี้

   ขนุนมองใบหน้าของคณินที่ตรงริมฝีปากมีรอยแตกเลือกซึม มองรอยข่วนเล็กๆ ตรงโหนกแก้มด้านขวา มองใต้ขอบตาที่แดงช้ำ คาดการณ์ได้ว่าอีกวันสองวันคงจะเขียวอย่างแน่นอน
 
   “มองพี่แบบนั้นหมายความว่ายังไงครับ”

   “เปล่า แค่มองที่พี่เจ็บ ผมอ่ะเจ็บตามเลย เพราะผมแท้ๆ พี่คณินถึงได้มาเจ็บตัวแบบนี้”

   “โทษตัวเองทำไม มันเกิดขึ้นเพราะพี่ใจร้อนเองต่างหาก อย่าคิดมากนา”คนตัวสูงวางมือหนักๆ สอดปลายนิ้วเข้าใต้เส้นผมสีบลอนด์นุ่มมือแล้วโยกหัวทุยไปมา แอบบีบแก้มแดงๆ หนึ่งครั้งไม่อยากให้ขนุนคิดมาก แต่เป็นคณินเองมากกว่าที่คิดซะวุ่นวายไปหมดตอนนี้ เพราะนี่แค่เขาไม่อยู่ใกล้ๆ ยังมีคนมาวอแวขนาดนี้ ถ้าเขาไม่สอดส่องสายตาเลยจะขนาดไหน

   คิดแล้วก็หวงจนของขึ้นอยู่ในใจ

   “ผมทำแผลให้ดีกว่านะครับ เดี๋ยวมันจะอักเสบเอา”

   “อือ”คณินหันตัวมาหาขนุนยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ มองเข้าไปในดวงตากลมใสที่กำลังใช้เจลบางๆ แตะไปที่ริมฝีปากตัวเอง มือเล็กนั้นนุ่มกว่าที่คณินคิดเสียอีก มันทำให้คณินอดคิดไม่ได้ว่าคนตรงหน้าอยู่ใกล้แค่เอื้อมมาตลอด ทำไมเขาถึงเพิ่งจะรักคนตรงหน้าเอาตอนนี้ มันน่าขำตรงที่คณินกับขนุนเคยเจอกันมาก่อนเมื่อตอนเด็กนี่สิ

   ทำไมพี่รู้สึกเสียดายเวลาในช่วงที่ไม่มีขนุนอยู่กันนะ ถ้าตอนนั้นเราอยู่ใกล้กันกว่านี้ พี่อาจจะชอบเราเร็วขึ้นก็ได้

   “มองผมขนาดนี้มีอะไรรึเปล่าครับ จ้องกันนานๆ แบบนี้ผมเขิน”

   “ก็อยากให้เขิน จะได้แน่ใจว่าเราจะไม่ไปเขินกับคนอื่นมากกว่าพี่”คนพูดสีหน้าจริงจังและหึงจริง

   “ผมรักเดียวใจเดียวนะครับ”ขนุนพูดพร้อมกับแปะพลาสเตอร์ยาตรงรอยข่วนที่โหนกแก้มให้คณิน แอบอมยิ้มนัยน์ตาเป็นประกาย การได้มาอยู่ ณ จุดนี้ขนุนแทบไม่อยากจะเชื่อตัวเอง

   เพราะการชอบใครสักคนแล้วคนคนนั้นชอบเราตอบ มันไม่มีอะไรสุขใจไปกว่านี้แล้ว

   “รักเดียวใจเดียวแล้วไง แต่พี่จะไว้ใจคนอื่นได้เหรอ ก็แฟนพี่น่ารักขนาดนี้ต้องหวงเป็นธรรมดา”คณินพยักหน้าให้กับความคิดตัวเอง

   “พูดแบบนี้ไม่จั๊กจี้รึไงครับ ผมขนลุกเลย”ขนุนหลุดขำ เขามีชีวิตในรั้วมหาลัยอยู่ได้ตั้งนานไม่เห็นจะเป็นอย่างคณินคิด

   “มันก็รู้สึกจั๊กจี้นะ มากด้วย”

   “ตรงไหนครับ ผมเกาให้มั้ยอ่ะ”ขนุนพูดหยอกล้อ มือก็หยิบเอาผ้าเย็นที่ซื้อมาประคบใต้ตาให้คณิน

   “ตรงนี้ครับ” นิ้วชี้จิ้มไปที่อกข้างซ้าย “เกาให้พี่หน่อย ไม่งั้นคงจั๊กจี้จนนอนไม่หลับ” คณินจับมือขนุนไว้ เลื่อนไปแตะตรงอกซ้ายตัวเองมองตาซะหวานเชื่อม

   อย่างอื่นขนุนไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ คำพูดและการกระทำของคณินมันแฮชแท็กใจขนุนซะจนแทบใจระเบิด อ้อนมาซะขนาดนี้ใครจะไปนิ่งไหว ขนุนอดทนมาตั้งเท่าไหร่แล้วกับผู้ชายตรงหน้า ที่ทำใจของขนุนละลายมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

   “พี่คณินครับ”

   “หืม? ”

   “ผมมีบางอย่างจะบอกพี่”

   “อะไร จริงจังหรือเปล่า?”

   “ครับ”คนพูดกลืนน้ำลายอึกใหญ่ขยับเข้าไปใกล้จนชิด แล้วยื่นแขนไปกุมมือหนาบีบแน่นส่งสายตาปริบๆ ไปให้

   “ครับพูดมาได้เลย พี่ฟังเราอยู่”คณินดูตั้งใจถึงได้มองใบหน้ากรุ้มกริ่มนั้นไม่วางตา

   “คือว่า.....คืนนี้ไปดูหลอดไฟที่ห้องให้หน่อยได้มั้ยครับ”








ติดตามตอนต่อไป >>>




ขอบคุณค่ะ :impress:

หลานฮวา
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 23 {อัปเดตแล้ว} 10/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 10-07-2019 20:37:33
 :pig4:
 :L2: :L1:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 23 {อัปเดตแล้ว} 10/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 10-07-2019 23:33:35
ขนุน.....แก่แดดไปแล้วววววว
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 23 {อัปเดตแล้ว} 10/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 11-07-2019 00:08:58
น้องหนุนลูก ร้ายมาก
ชวนพี่คณินไปดูหลอดไฟหรือดูอะไรกันแน่จ๊ะ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 23 {อัปเดตแล้ว} 10/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 11-07-2019 09:54:58
น้องงงง จะชวนพี่ไปดูหลอดไฟหรือไปทำอะไรจ๊ะ 5555
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 23 {อัปเดตแล้ว} 10/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 11-07-2019 20:49:19
 :z1:

 :L2: :pig4: :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 24 **อัปเดตแล้ว**11/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 11-07-2019 20:59:49


ขนุนลูกที่ 24





   “ดันเข้าให้สุดเลยครับ นั่นแหละครับพี่คณิน”

   “แบบนี้เหรอ”

   “ครับ อีกนิดครับ”

   “แต่มันแน่นแล้วนะขนุน”

   “เชื่อผมเถอะครับ ยังได้อยู่”

   “จับดีๆ นี่เรากำลังสั่นอยู่รึเปล่า ไหวแน่นะ”

   “ไหวสิครับ พี่คณินเถอะไหวรึเปล่าถ้ากลัวให้ผมขึ้นข้างบนแทนมั้ย?”

   “ขนุนอยู่ล่างดีแล้ว ให้พี่ทำจะดีกว่า”

   “จะเสร็จรึยังครับ ผมเมื่อยจะแย่แล้ว”

   “พี่จะเสร็จแล้วอีกนิด....โอเค เราปล่อยได้เลย”

   “ให้ผมปล่อยแน่นะ”

   “อืม ปล่อยบันไดแล้วไปเปิดสวิตช์ไฟดู พี่ว่ามันน่าจะโอเคแล้วนะ หลอดเก่าไฟมันคงจะขาด ทนเดินห้องมืดๆ ได้ไงฮะเรา”

   “ก็มันเพิ่งจะดับตอนผมกลับจากบ้านนี่ครับ”

   แป๊ก!

   “โอ้! ไฟสว่างแล้ว ขอบคุณนะครับคิดว่าต้องเดินมืดๆ จนถึงพรุ่งนี้เช้าซะอีก เดี๋ยวพี่คณินรอผมที่นี่ก่อนนะครับ ผมเอาบันไดไปคืนพี่สุภาพข้างล่าง...”

   “ไม่ต้องๆ เดี๋ยวตอนกลับพี่เอาลงไปให้ มันหนัก”

   “.....”

   “แน่ะ! เป็นห่วงเหรอครับ รู้สึกบอบบางขึ้นมาเลย โอ๊ย...บันไดโคตรหนักผมถือไม่ไหวจริงๆ นั่นแหละ”

   “ถามจริงใครหิ้วบันไดมาตั้งไว้ในห้องคนเดียว”

   “แหะๆ ผมเองแหละ”ขนุนหัวเราะขำ ยกบันไดพับได้ไปพิงผนังห้องแบบสบายๆ

   “เนี่ยอยู่บ้านแม่คงปวดหัวกะเราแย่”

   “แม่อ่ะชินแล้วล่ะครับ เจอมาทุกรูปแบบ”

   “สงสารน้าสรจับใจ....”

   “พี่คณินว่าไงนะครับ”ขนุนที่ก้มลงไปห่อหลอดไฟดวงเก่าที่ไส้ขาดหันหน้ามาถามเพราะไม่ทันจะตั้งใจฟัง

   “เปล่าครับ ไม่มีอะไร”คณินไหวไหล่ยิ้มตอบ

   “ขอโทษนะครับที่ต้องให้มาช่วยเอาตอนนี้ พี่คณินเจ็บตัวอยู่แท้ๆ พรุ่งนี้ระบบแย่เลย”ขนุนถลาเข้าไปเกาะแขนแล้วซบหัวลงกับท่อนแขนของคณินตามด้วยลูกอ้อนชนิดที่น่าบีบจมูกนัก “ผมว่า ผมเลี้ยงน้ำพี่ตอบแทนดีกว่า นั่งก่อนครับ ห้องผมอาจจะรกไปหน่อยแต่ผมก็ถูพื้นแล้วนะ”

   คณินถูกขนุนลากให้นั่งลงตรงพื้นด้านข้างของเตียง ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เย็นแล้วหยิบบางอย่างออกมาหอบเต็มมือ แล้ววางมันลงตรงหน้าคณินเกือบครึ่งโหล

   “เบียร์?”

   “ก็ของพี่คณินนั่นแหละครับ มันเหลืออยู่ผมยังไม่ได้ดื่มสักกระป๋อง”

   “แต่เราเพิ่งดื่มเหล้ามา กินน้ำเปล่าจะดีกว่า”คณินส่งเสียงดุหรี่ตามองอย่างห้ามปราม

   “แต่ว่า.....”ขนุนกำกระป๋องเบียร์เย็นๆ จนจะเป็นวุ้นในมือแน่นน้ำลายสอ แล้วอ้อมไปซ่อนไว้ข้างหลังกะพริบตาปริบๆ รอคำอนุญาต “ผมไหวนะ สร่างเมาไปตั้งนานแล้วด้วย ให้ผมดื่มนะครับอยู่กับพี่คณินไม่เป็นไรหรอก”

   “แล้วจะรู้ได้ไงว่าไม่เป็นไร ไม่กลัวพี่จะทำอะไรเรารึไง”ขนุนถึงกับตาวาว

   “.....”

   “เดี๋ยว! เราจะไปไหน?”

   “เอ้า! ก็ไปอาบน้ำรอไงครับ? ”ไม่พูดอย่างเดียวแต่คนช่างอ่อยไม่เนียนอย่างขนุนแกล้งถลกคอเสื้อให้กว้างจนเปิดเห็นไหล่ขาวๆ

   โป๊ก!

   “โอ๊ย! ผมเจ็บ”

   “เดี๋ยวเถอะทะลึ่ง”คณินส่ายหน้ามองขนุนที่หัวเราะหงึกอารมณ์ดีตีเนียนเปิดกระป๋องเบียร์แล้วกระดกเข้าปากจนได้ แถมยังทำสีหน้าชื่นใจซะขนาดนั้นจะยื้อมาจากมือก็เห็นจะทำไม่ลง ก็คงมีแต่ต้องปล่อยให้ดื่มไปก่อนเท่าที่อยากจะกิน ดื่มไปคุยไปจนเผลอแป๊บเดียวกระป๋องเบียร์ตรงหน้าก็เหลือแต่กระป๋องเปล่า

   “ไม่อยากเชื่อเลยนะครับว่าพี่ลูกตาลจะหักหลังพี่คณินไปมีคนอื่นแบบนั้น ผมเข้าใจพี่นะครับ ถ้าพี่ไม่มีเวลามาเจอผม มารับผมไปกินข้าว มาชวนผมไปเที่ยว สัญญาว่าผมจะไม่ดื้อไม่งอแงเลย ผมรู้ว่าพี่อ่ะเหนื่อย ซืดดด...”คนพูดเพ้อซื้ดน้ำมูก

   “ขอบคุณที่ขนุนเข้าใจพี่ แต่เลิกคุยเรื่องนี้ไม่ดีกว่าเหรอ ตาแดงหมดแล้วเนี้ย”คณินส่ายหน้าที่ขนุนพาเขาวกคุยเรื่องพวกนี้ แถมคนที่มาตีโพยตีพายกลับไม่ใช่คณินแต่เป็นขนุนซะแทน

   เพราะตอนนี้ ต่อให้พูดชื่อคนรักเก่าเป็นร้อยๆ ครั้ง คณินก็ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว เพราะใจของเขามันเต็มไปด้วยผลไม้เมืองร้อนผลสุกสีเหลืองที่หวานชื่นใจคนนี้ จะมีที่เหลือเผื่อไปคิดถึงใครก็ ไม่มีทาง

   “เปล่า ผมแค่แสบตา...เป่าให้หน่อยสิครับ”

   “เป่าเปิ่วอะไรกัน ตาปลือขนาดนี้ง่วงก็ไปนอนเถอะ อย่าฝืนเข้าใจมั้ยครับ”คณินส่ายหน้าคว้ากระป๋องเบียร์เปล่า ออกจากมือขนุนที่เอนหัวซบไหล่ของเขาเป็นที่พักหัวแล้วถูไถไปมาเหมือนกับไข่ดาวที่ชอบอ้อนเขาแบบนี้เวลาต้องการอะไร

   แต่พอคณินพูดขึ้นให้ไปนอน ขนุนก็รีบดีดตัวนั่งตรงในความคิด แต่แท้จริงแล้วโคตรจะคอเอียง

   “ผมยังไม่ง่วง ผมอยากคุยกับพี่ไปนานๆ จริงๆ นะ.....ผมกลัว กลัวว่าถ้าผมหลับทุกอย่างจะหายไป ตื่นมาอีกครั้งพี่อาจจะกลายเป็นแค่ความฝันของผม แบบนั้นผมคงเจ็บแย่”

   “คิดมาก พี่ไม่หายไปไหนหรอกรู้มั้ย”คณินยิ้มบางมองขนุนที่พูดออกมาแบบนั้นราวกับไม่รู้ตัวว่าเผยด้านอ่อนแอออกมา

   ขนุนส่ายหน้าหันไปมองคณินด้วยแววตาหวั่นๆ “ผมไม่เชื่อหรอก”

   “พี่ไม่โกหกอยู่แล้ว เพราะอะไรรู้มั้ย? ”

   “ทำไมครับ”คนอยากรู้จ้องคณินตาใส แก้มขาวๆ กำลังแดงก่ำไปจนถึงใบหูเล็ก พนันได้เลยว่าสติของขนุนเหลือไม่ถึงครึ่ง อีกครึ่งคือความพยายามที่จะตื่นเพื่ออยู่กับคนตรงหน้าที่ไม่อยากให้ห่างไปไหน

   “ก็ถ้าหากโกหก จมูกพี่ก็จะยื่นยาวเป็นเมตรเลย”

   “อ้อ เหมือนไข่ดาว...”

   “ก็คงงั้นมั้ง”คณินหัวเราะกับคำตอบของขนุน “ยังไงขนุนก็ไม่ต้องกลัว ถึงจะหลับแล้วตื่นมา พี่ก็จะยังอยู่ข้างๆ เราไม่ไปไหนอยู่ดี”

   “ผมเชื่อพี่ได้ใช่มั้ย? ”ความรู้สึกของขนุนตอนนี้มันกำลังค่อยๆ อุ่นขึ้นในอก เขามองแววตาอบอุ่นของคณินที่บอกให้ขนุนมั่นใจ

   “เชื่อได้สิเพราะพี่รักขนุน เรื่องอะไรพี่ต้องหายไปจากเราด้วย”

   “อือ...ผมเข้าใจแล้ว”ขนุนพยักหน้าเอ่ยตอบเอนหัวซบลงไปที่อกกว้างแถมยิ้มซะจนแก้มแทบแตกเป็นฟองสบู่ คณินมองขนุนที่ซุกหน้าอยู่กับอกของตัวเองโคตรจะอ้อน ก่อนจะก้มลงไปหอมหัวเจ้าของเส้นผมสีบลอนด์สว่าง จนขนุนต้องเงยหน้าขึ้นมองตาปริบๆ

   “พี่คณินอ่ะ ผมยังไม่ได้สระผมเลย หัวเหม็นแน่ๆ ”ขนุนยกมือขึ้นจับหัวตัวเองเสียความมั่นใจ

   “ก็ไม่นิ พี่ดมแล้วยังหอมอยู่เลย”

   “ไม่จริง”

   “แล้วจะให้พี่ทำไงเราถึงเชื่อ”

   “ง้านนน...เดี๋ยวผมไปอาบน้ำแล้วให้พี่มาหอมใหม่ เอาตั้งแต่หัวตลอดตัวเลย”

   คณินหลุดหัวเราะกับสีหน้าจริงจังที่บอกจะไปอาบน้ำของขนุน แถมเจ้าตัวยังลุกขึ้นลนลานอีก ท่าทางจะไปอาบน้ำจริงๆ ตามที่พูด แต่ขืนคณินปล่อยให้ไปตอนนี้คงได้ไปนอนแน่นิ่งหัวฟาดชักโครกแน่ๆ

   คณินเลยรีบเดินตามแล้วดึงตัวเอาไว้ จูงมือเจ้าของร่างเล็กแล้วพาไปที่เตียง กดไหล่ให้ขนุนนั่งลง แล้วจัดการยกปลายเท้าขึ้นเตียงให้ทั้งสองข้าง

   “พรุ่งนี้ค่อยอาบ”

   “อาบพรุ่งนี้พี่ก็ไม่ได้หอมผมน่ะสิ”คนเซ้าซี้ดีดตัวลุกนั่ง มองคณินไม่วางตา

   ฟอด!

   “หอมแล้ว”จู่ๆ แก้มขาวๆ กลับถูกขโมยหอมไปฟอดใหญ่ ขนุนที่นั่งนิ่งตาโตเท่าไข่ห่านแทบปรับจูนคลื่นหัวใจตัวเองไม่ทัน ใจมันสั่นไปหมด

   “.....”

   “อีกข้างมั้ย เผื่อเราไม่แน่ใจ”คณินยิ้มกริ่มมองเจ้าของร่างเล็กที่นั่งแข็งทื่อมองเขาตาไม่กะพริบมาเกือบนาที

   “พี่ทำแบบนี้ ผมจะไม่ทนแล้วนะครับ”

   “แล้วพี่ต้องทำไงเราถึงจะไม่ต้องทน”คนตัวสูงขยับตัวโน้มไปข้างหน้า ก้มลงมองตาแล้วยิ้มมุมปากด้วยสายตากรุ้มกริ่ม นึกสนุกที่เห็นคนตรงหน้าดูเก็บกดแปลกๆ

   “ไม่ครับ ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นแค่นี้ผมก็หมดความอดทนแล้ว”

   สายตาหวานเชื่อมจ้องมองไปตรงหน้า ก่อนโผเข้ากดร่างสูงที่อยู่แค่เอื้อมลงกับเตียงแทบจะทันที แล้วเบี่ยงตัวเองขึ้นคร่อมค้ำแขนทั้งสองข้างไว้เหนือไหล่ของคณินอย่างห้าวหาญไม่สมกับตัว ทั้งปากเล็กที่เม้มสนิทเข้าหากันแล้วใช้ปลายลิ้นเลียไปที่ริมฝีปากที่แห้งผากของตนเอง พร้อมกับโน้มใบหน้าลงวางริมฝีปากทาบทับไปกับเรียวปากของคนตรงหน้าแช่นิ่งอยู่เพียงครู่ จึงผละออกมาในขณะที่ปลายจมูกรั้นคลอเคลียอยู่บนปลายจมูกของคณินไม่ห่าง

   “ผมรักพี่มากนะครับ มากจนไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำยังไงหรือหาเหตุผลอื่นใดมาประกอบ ถ้าพี่คณินรังเกียจที่ผมทำแบบนี้ก็บอกผมนะครับ”

   คณินส่ายหน้า ส่งสายตามองไปที่ใบหน้าเล็กของขนุนที่ดูเป็นกังวล แต่กลับไม่ได้พูดอะไรออกไป มีเพียงความรู้สึกที่ต้องการจะบอกคนตรงหน้าอีกครั้ง ว่าเขาคนนี้ก็รู้สึกดีไม่น้อยไปกว่ากันเลย

   ดีใจที่ได้ชอบคนตรงหน้า

   ดีใจที่ไม่ปฏิเสธความรู้สึกตัวเอง

   ดีใจที่ไม่ปล่อยให้โอกาสที่ได้รักใครสักคนหลุดลอย

   “จะปฏิเสธได้ยังไงในเมื่อหัวใจของพี่มันเต้นแรงเพราะเราซะขนาดนี้”

   พูดจบคนที่นิ่งไปกับทุกสิ่งยอมแม้กระทั่งให้อีกฝ่ายทำตามใจ ครั้งนี้กลับไม่ยอมให้ จึงดันตัวเองขึ้นนั่งดันร่างขนุนให้นั่งคร่อมตัก แล้วจัดการเข้าโอบประคองกรอบหน้าอย่างมีความหมาย สัมผัสเบาๆ ด้วยปลายนิ้วตรงริมฝีปาก ก่อนจะโน้มหน้าเข้าจูบริมฝีปากเล็กที่เย็นเยียบแนบสนิทลมหายใจสอดประสาน แล้วค่อยๆ ผละออกอย่างอ้อยอิ่ง

   เป็นคณินที่เอ่ยขึ้นเสียงแผ่วใกล้ใบหูที่แดงเรื่อจนขนุนหัวใจพองโตเป็นบอลลูนที่พร้อมออกท่องโลก

   “ทำตัวน่ากินสมชื่อขนาดนี้ รับผิดชอบความรู้สึกพี่มาซะดีๆ เลย”

   “กินเลยสิครับ ถ้าไม่อยากให้ผมกลายร่างเป็นผลไม้กินคนตรงหน้าแทน”

   “แน่ใจ”

   “อื้อ”

   ขนุนพยักหน้ารัวๆ ก่อนถูกอีกฝ่ายช่วงชิงจังหวะหายใจ จูบเบาๆ ที่แสนอ่อนโยนที่หลอมละลายให้ขนุนกลายเป็นเทียนเหลว ขณะเดียวกันความรู้สึกนุ่มละมุนจากริมฝีปากของคณินก็เริ่มกลายเป็นความรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมา เพียงไม่นานจูบที่หวานฉ่ำกลับดูเร่าร้อนขึ้น ไม่เพียงริมฝีปากที่ขยับขบเม้มไปบนริมฝีปากขนุนเบาๆ แต่ทุกอย่างกำลังก้าวขั้นไปมากกว่าที่ขนุนจินตนาการ เมื่อลิ้นอุ่นกำลังแทรกผ่านเข้ามาเกี้ยวกระหวัดลิ้นของเขาราวทักทาย ขนุนก็ช่างเรียนรู้ได้ไวเพราะทฤษฎีเต็มสมองจึงลองตอบรับในแบบที่ต้องการ จากจูบรสหวานก็แทบซาบซ่านจนไม่อยากจะผละออก

   มิหนำซ้ำ มือที่เอื้อมไปโอบกอดคณินก็หล่นเลื่อนไปตามแผ่นหลังกว้าง ก่อนจะแทรกปลายนิ้วเข้าใต้ร่มเสื้อสัมผัสกับร่างกายอุ่นๆ ของคนตรงหน้า แต่ดูเหมือนว่าคณินคงไม่อยากปล่อยให้ขนุนเป็นเด็กแก่แดด เขาเลยจัดการเก็บมือของขนุนมาไว้ด้านหน้ารวบแขนทั้งสองข้างไว้ในมือเดียว ก่อนจะผลักเจ้าของห้องจมลงกับเตียง แทรกตัวไประหว่างร่างเล็กจ้องมองแววตาเป็นประกายที่คล้ายตื่นเต้นจนออกทางสีหน้า

   “หยุดซนสักห้านาทีนะครับ”คณินก้มหน้าลงกระซิบบอกขนุนราวกับทุกอย่างเป็นความลับ จากนั้นจึงเลื่อนมือเข้าปลดกระดุมเสื้อของขนุนทีละเม็ดจนถึงเม็ดสุดท้าย ผิวกายที่อุ่นร้อนสัมผัสกับอากาศหนาวด้วยเครื่องปรับอากาศในทันทีรูขุมขนหดไปทั่วร่างกาย ผิวขาวๆ ขนลุกชันไปหมด

   มันเป็นวินาทีที่ขนุนแทบอยากจะเป็นบ้า หัวใจของเขามันสั่นระรัวไปหมด บางทีขนุนเพิ่งจะรู้สึกเขินคณินเป็นครั้งแรก เพราะแววตาที่เอาจริงเอาจังดูเป็นผู้ใหญ่นั้นทำขนุนแพ้ราบคาบ ปกติคณินไม่เคยแสดงออกแบบนั้น แต่เวลานี้มันต่างชั้นเกินไปแล้ว

   “กลัวมั้ย? ”

   “มะไม่กลัวครับ ผมรู้ว่าผู้ชายเขาทำกันแบบใช้ทาง....”

   จุ๊บ

   ขนุนไม่ทันจะพูดจบก็ถูกจูบปิดปากไปซะดื้อๆ และได้ผลมันทำให้คนพูดมากนิ่งเงียบไปได้เกือบนาที

   “ทฤษฎีเก็บไว้ ตอนนี้ถึงคราวสอบปฏิบัติแล้วครับ ผ่านรึเปล่าค่อยมารีเช็กกัน”

   “ใจผมโคตรเต้นแรงเลยตอนนี้...”ดวงตากลมใสกะพริบตาปริบๆ มองคณินเว้าวอนเหลือเกิน

   คณินถึงกับหัวเราะ เคาะปลายนิ้วเบาๆ ไปที่ปลายจมูกของขนุนแล้วพูดขึ้น “ต่อจากนี้ของจริงต่างหาก”

   ไม่พูดเปล่า คณินก็จัดการปิดปากของขนุนอีกครั้งด้วยจูบหนักๆ ค่อยๆ วางมือลงบนลำคอขาวแล้วไล่ไปตามลาดไหล่เล็กที่ไม่กว้างนัก สัมผัสผิวนุ่มขาวสะอาดแล้วค่อยๆ ลากผ่านอกราบและหยุดมือตรงยอดอกชมพูแล้วเกลี่ยปลายนิ้วเข้าสัมผัสหยอกล้ออยู่ตรงอกเล็กนั้นจนร่างขาวห่อไหล่ครางขึ้นในลำคอพร้อมกับตุ่มเม็ดเล็กตรงยอดอดสองข้างแข็งขึ้น

   มือหนาของคณินจึงเลื่อนไปสัมผัสอีกข้างพร้อมลากริมฝีปากอุ่นพรมจูบไปตามลำคอและไหล่เล็กจนขนุนวาบหวาม ตื่นเต้นไปหมดทุกการสัมผัสจากคนตรงหน้า เพราะความรู้สึกตื่นเต้นแขนขาวจึงโอบกอดไปรอบลำคอของคณิน หายใจเข้าออกเร็วขึ้นต่างจากปกติ

   การเห็นปกติกิริยาน่ารักแบบนั้นใครจะยั้งมือไหว ถึงร้องบอกให้คณินหยุดตอนนี้ก็คงเป็นไปไม่ได้ มือหนาจึงค่อยๆ เลื่อนผ่านเอวคอดเล็ก ที่ไม่หนาไม่บางจนดูอ้อนแอ้น แต่มันช่างรับกับมือคณินได้ดีไปทุกสัดส่วน กระทั่งมือหนาลากต่ำลงมาก่อนจะค่อยๆ เข้าปลดกระดุมซิปกางเกงของหนุนและดึงออกโยนกองไปที่พื้น คนตรงหน้าเหลือเพียงบ็อกเซอร์สีขาวติดตัวที่ชวนให้คณินอยากถอดมันออกซะทีเดียวตอนนี้

   
“ผมอยากถอดบ้าง...”จู่ๆ เสียงความคิดก็ดังขึ้น แน่นอนว่ามันมาจากคนตรงหน้าที่ยันตัวลุกทำมือหนุบหนับ

   “หืม?”

   “ผมอยากเป็นคนถอดเสื้อให้พี่อ่ะ ให้ผม...ถอด นะ”ถึงหน้าจะบอกว่าเขินสุดๆ ที่ตัวเองพูดออกมา แต่การกระทำล้ำหน้านั้นคณินต้องยอม

   เพียงยิ้มแล้วพยักหน้า ขนุนถึงกับปรี่เข้ามาเบียดตัวขาวๆ ที่เปล่าเปลือยเข้าใกล้ ยื่นมือจับสาบเสื้อของคณินแล้วซุกหน้าลงกับอกกว้างสูดหายใจเข้าเต็มปอดหน้าตาปริ่มเปรมเหลือเกิน

   “พี่คณินตัวหอม”

   “เป็นหมารึไง ดมเก่ง”

   “โฮ่งๆ เหมือนป่าว ทำดีแล้วขอรางวัลด้วยนะครับ”

   “อ้อนเก่งอีก”

   “ผมอ้อนพี่คนเดียวนะครับ พิเศษกว่าใคร”พูดไปมือก็ไล่ปลดกระดุมคนตรงหน้าไปทีละเม็ด ทันทีที่เสื้อสีขาวสะอาดตัวเก่งถูกถอดออกก็ถือเป็นอันสิ้นสุดคำร้องขอ คณินถึงได้จับคนตรงหน้าทุ่มลงแล้วจ้องเขม้นสายตาอยากจะฟัดแก้มขาวๆ เต็มที

   “ครั้งนี้ถึงตาพี่บ้างแล้ว”ปลายจมูกที่โน้มชนจมูกของขนุนเริ่มลากผ่านลกคอขาวก่อนจะขบเม้มเบาๆ แล้วจูบซับ ก่อนจะไล่ลงมาตรงอกขาวแล้วใช้ปลายลิ้นอุ่นตวัดเลียตุ่มไตที่แข็งขึ้นทั้งสองข้าง ขนุนถึงกับเม้มปากไม่สามารถพูดโต้ตอบอะไรได้ สมองกลับมีแต่ความว่างเปล่าจนขาวโพลน แทนที่ด้วยความรู้วูบไหวเต็มไปหมด

   แม้ปลายลิ้นจะเย้าหยอกส่วนอ่อนไหวตรงเนินอกราบสลับไปมา ทว่ามือของคณินกลับเลื่อนไปบนเนื้อผ้ากางเกงบ๊อกเซอร์พร้อมกับสัมผัสส่วนอ่อนไหวกลางลำตัวของขนุน ลูบขึ้นไปมาตามรูปร่างสัดส่วนของขนุนน้อยที่ค่อยๆ ตื่นตัวขึ้นจนคับแน่นผ่านเนื้อผ้า จนรู้สึกได้ว่าตัวเองก็ไม่ได้ต่างไปจากเจ้าของผิวขาว

   เพราะความอึดอัดคณินจึงสลัดกางเกงของเขาออก สายตาของขนุนจับจ้องร่างกายที่เคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกตื่นตัว หัวใจดวงเล็กเต้นแรงจนแทบนับจังหวะไม่ได้
 
   แล้วมือหนาก็เข้าสัมผัสส่วนกลางลำตัวของขนุนอย่างระมัดระวัง หากแต่การกระทำเช่นนั้นมันเสียววาบไปถึงช่องท้อง และยิ่งต้องขบริมฝีปากแน่นมืออุ่นที่กำรอบแท่งร้อนกำลังรูดรั้งนวดเฟ้นขึ้นลง ความซาบซ่านเกิดขึ้นตรงปลายเนื้อร้อนบัดนี้กำลังชื้นแฉะด้วยมือหนาที่รูดขึ้นลง เจ้าของกายขาวถึงกับหุบขาเรียวกระตุกเสียวจนไม่รู้จะทำยังไง

   ปากเล็กจึงต้องเผยอออก ครวญครางในลำคอหายใจทางปาก ขนุนไม่เคยรู้สึกดีเท่านี้มาก่อน มันดีเสียจนคนพูดจ้ออย่างเขาไม่มีเวลามาเพ้อรำพัน
 
   ลำคอขาวที่เงยขึ้นปล่อยช่องว่างให้คนหมั่นเขียวฝังจูบหนักๆ ไปอีกหนึ่งครั้ง พร้อมลมหายใจอุ่นที่เป่ารดรับรู้ถึงความสะท้านของคนตรงหน้า คณินก็เช่นกันที่ตกบ่วงขนุนอย่างจังจนปีนขึ้นมาแทบไม่ไหว คนตรงหน้านั้นน่ารักจนคณินอดใจไม่กอดไม่ได้ เลือดลมในกายมันสูบฉีดพลุ่งพล่านไปหมด แม้กระทั่งส่วนกลางลำตัวก็แข็งขึ้นจนอยากแนบชิดกับคนตรงหน้าแทบคลั่ง

   ส่วนนั้นของเขาจึงเข้าไปบดเบียดเสียดสีกับของขนุน ทักทายร่างกายตรงหน้าด้วยการรูดรั้งมันเข้าด้วยกันผ่านมือที่กอบกุมรวบไว้ สร้างความสะท้านจนไม่อาจหยุดเพียงเท่านี้

   “อือ....อ้า..”

   “ขนุน ตอบตามความจริง เราพร้อมที่จะมีอะไรกับพี่หรือเปล่า”เสียงหอบถามขึ้นดวงตาคมจ้องมองใบหน้าที่แดงเรื่อนัยน์ตาฉ่ำ

   ขนุนพยักหน้าเอื้อมมือกอดร่างตรงหน้าแน่น“ผมอยากมีอะไรกับพี่ จริงๆ นะ หยุดกลางคันแบบนี้ไม่เอา”

   “ใครบอกว่าพี่จะหยุดล่ะ”

   “ถ้าพี่หยุด ผมจะขอแข็ง...ไปแบบนี้จนเช้าเลย”

   “ใจกล้าเหลือเกินพ่อคนเก่ง”

   คนถามหัวเราะหงึก ก่อนจะกอดกายคนตรงหน้าอีกครั้ง ทว่าสิ่งที่ชวนหงุดหงิดใจหลังจากนี้นั้นคือการที่คณินต้องการถุงยางและขนุนก็มีมันให้เขาโดยที่ไม่ต้องรื้อหาแถมเจลมาให้อีก 1 ขวด คุ้มโปรโมชั่นจนน่าจับตีให้ก้นลายด้วยไม้มะยม

   “เรื่องถุงยางจากนี้เรามีเคลียร์กันนะครับ แต่ตอนนี้ขอลงทัณฑ์บนไว้ก่อน”

   “เดี๋ยวครับ! ผมขอออนท็อป”ขนุนดันตัวคนตรงหน้าไว้ เมื่ออะไรๆ มันเริ่มไม่ใช่อย่างที่คิด

   “ก็ลองล้มพี่ให้ได้ก่อนสิ”คณินไหวไหล่ ยอมนั่งให้ขนุนเข้ามากดเพื่อความเท่าเทียม

   “ถ้าผมทำได้...ผมจะเป็นฝ่ายกินพี่”ท่าทางน่ารักพยายามเหี้ยมขึ้นจนคณินแอบขำ และยิ่งขนุนโผเข้ามาจะกดคณินให้ล้มแต่ใครมันจะให้กันง่ายๆ ขนาดนั้น และขนุนเองที่ถูกล็อกตัวเอาไว้ กลายเป็นขนุนถูกจับให้อยู่ในท่าควบตักหันหน้าเข้าหาคนที่ตัวโตกว่า

   “ต่อให้บ้างก็ไม่ได้ เป็นพี่ต้องเสียสละมั้ย?”ขนุนหน้ามุ่ย

   “เรื่องนี้ไม่จำเป็นครับ”คณินกระตุกยิ้ม

   “แต่ผมทำได้”ขนุนพยายามจะเป็นฝ่ายนำ แต่แค่พยายามดันคนตรงหน้าก็ยากแล้ว มันเลยดูเก้ๆ กังๆ ไปหมดจนถูกติ

   “ไม่เชี่ยวพอไปเรียนมาใหม่ครับ”คนตัวโตกว่ายักคิ้วเย้ย ก่อนจะจัดการกินคนตรงหน้าเป็นลำดับถัดไป โดยยึดลำตัวของขนุนไว้ แล้วค่อยๆ เลื่อนมือหนาผ่านแผ่นหลังขาวลงต่ำเข้ากอบกุมสะโพก แล้วค่อยๆ เลื่อนนิ้วเรียวผ่านรอยแยก ใช้เจลชโลมเล็กน้อยจนขนุนรู้สึกได้ถึงความเย็นวาบที่ค่อยๆ แทรกผ่านลึกไปตามจีบแน่นที่ขมิบรัดเพราะความไม่คุ้นเคย สองมือกอดกระหวัดลำคอคณินแน่น เผลอส่งเสียงครางต่ำสุดกลั้นหมดท่าจะต่อต้านด้วยบรรยากาศนำพา

   คณินเองพยายามทำให้นุ่มนวลที่สุด หากแต่ช้าไปกว่านี้บางส่วนของเขาก็ทนรอไม่ไหวเช่นกัน จากปลายนิ้วที่ควานนวดไปรอบๆ จีบเล็ก ค่อยๆ ขยับเข้าออกช้าๆ เพื่อให้อีกฝ่ายคุ้นชินกระทั่งจุดสัมผัสบางอย่างที่ก้านนิ้วเน้นหนักกดโดน ความซาบซ่านก็พลันทำขนุนกระตุกเกร็งไปทั่วตัว แม้แต่ขนุนน้อยๆ ก็แข็งขืนจนบดเบียดหน้าท้องของคณินไปมา

   คณินเองก็แทบจะทนไม่ไหว ยิ่งเห็นกายขาวตรงหน้าสั่นสะท้านก็ยิ่งอยากรุนแรงใส่มากขึ้นเท่านั้น คนตัวโตที่เริ่มหมดความอดทนจึงกดร่างขาวให้จมลงกับเตียงอีกครั้งแทรกตัวตัวเข้าหากลางตัวขนุน และแยกเรียวขาให้เปิดกว้างออกดันเข่าให้ยกสูงขึ้น ก้มลงจูบซับเบาๆ ไปที่หน้าผากขนุน ไล่ลงมาตรงเปลือกตา ปลายจมูก ริมฝีปากที่จูบอย่างดูดดื่ม ก่อนจะจูบซับมาตามลำคอ แผ่นอกราบและหยุดหยอกล้อยอดอกชมพูดที่แข็งขึ้น ในขณะที่เบื้องล่างกำลังจดจ่อและค่อยๆ กดแท่งร้อนส่วนปลายไปยังจีบเล็กที่ผ่อนคลายขึ้น คณินเข้าไปทีละน้อยจนกระทั่งแกนกายจมหายไป แม้ไม่ได้ทั้งหมดเพราะคนตรงหน้าตอดรัดเขาแรงมากจนน่าตกใจ

   “ผ่อนคลายนะครับ พี่จะค่อยๆ ทำเบาๆ”

   “อือ....อ๊ะ อ้า.....ครับ”

   แม้จะตอบหากแต่สีหน้าของขนุนราวกับจะไม่ไหว และเมื่อคณินเริ่มขยับ ความเสียวซ่านก็แล่นพล่านไปทั่วร่างกายของทั้งสองอย่างไม่อาจหยุดได้ความรุนแรงเริ่มและเร่าร้อนเริ่มเผาให้ทั้งสองแทบหลอมรวมกัน เนื้อกระทบเนื้อสร้างเสียงหยาบโลนดังขึ้นภายในห้อง สอดประสานกับเสียงหอบหายใจถี่กระชั้นไปตามแรงสาวสะโพกควบหนักของอีกฝ่าย

   “ผมจะไม่ไหวแล้ว ผมอยากปล่อย ฮึก!”

   “พี่ยังกอดเราไม่อื่มเลย ไม่อนุญาตครับ”

   “ฮึก อ้า!”

   “เปลี่ยนท่าหน่อยมั้ย เผื่อจะดีขึ้น”

   ขนุนถูกกล่อม และเหมือนถูกหลอกไปด้วย เมื่อตัวเองยอมคว่ำหน้าแอ่นสะโพกให้อีกฝ่ายขนุนกลับพบว่ามันเสียวสุดๆ จนเขาแทบจะกัดหมอนขาดเป็นรูอยู่แล้ว และมิหนำซ้ำมือหนาที่กอดขนุนอยู่ด้านหลังกลับเลื่อนลงมาเย้าหยอกแกนกายของเขาที่ทรมานจนแทบอยากจะปล่อยซะเดี๋ยวนี้ แต่ก็กลับถูกบังคับให้แข็งไว้จนปวดหนึบไปหมด

   “พี่คณิน…..ใจร้ายอ่ะ”

   “อยากปล่อยเหรอ?”

   ขนุนพยักหน้ารัวๆ ทั้งๆ ที่หน้าแดงๆ ฝังอยู่บนหมอน จนคณินอยากจะแกล้งถึงได้รีบสาวสะโพกเข้าหาก้นขาวอีกครั้ง

   “อื้อ...อ้า อ้า!”

   “ขออีกนิดนะครับ แล้วเสร็จพร้อมกัน”

   คนพูดก้มลงงับใบหูเล็กเบาๆ แล้วจูบไปทั่วแผ่นหลังเล็กที่สั่นเกร็งไปหมด ก่อนจะขยับแท่งอุ่นร้อนที่พร้อมจะปลดปล่อยกระแทกถี่กระชั้น พร้อมเอื้อมมือหนาเข้ารูดรั้งให้อีกฝ่าย ในที่สุดสองร่างก็ขับหลั่งทุกหยาดหยดแห่งความสุขออกมาพร้อมกัน ก่อนจะทิ้งร่างให้นอนกอดตระกองแนบชิดไม่ห่าง

   แต่นั่นก็ไม่ได้ถึงความสุขทุกอย่างจะจบลง หากแต่มันเพิ่งเริ่มต้นกับพวกเขาต่างหาก

   “ผมรู้สึกเหมือนเพิ่งจะเมาเลย”เสียงหอบหายใจหนักๆ ของขนุนเอ่ยขึ้น แล้วพลิกตัวหันหน้าเข้าหาอกกว้าง ช้อนหน้าแดงๆ ขึ้นมองคณินสายตาเขินๆ แต่โคตรมีความสุขไปให้ แต่ดูยังไงคณินก็ยังดูสดชื่นต่างจากขนุนลิบลับ

   “ให้เมาตรงนี้ได้ แต่ที่อื่นห้ามพี่หวง ตอนนี้ตัวเราพี่แสดงความเป็นเจ้าของไปแล้ว”

   ขนุนหัวเราะ“แบบนั้นก็อดไปดื่มกับเพื่อนสิ”

   “ดื่มได้ แต่พี่ไปด้วย”

   “จะให้ตามไปเฝ้าทุกที่เลย”พูดไปขนุนก็กอดใหญ่ๆ ไปยังคนตรงหน้า ตาปลือๆ แวววาวซะจนฉ่ำแล้วฉ่ำอีก แถมยังชอบซุกหน้าลงกับอกกว้างไม่ปล่อยคลอเคลียยิ่งกว่าแมวอ้อนขออาหาร   

   “กอดแน่นแบบนี้พี่หายใจไม่ออกพอดี”

   “กอดแปลว่ารัก รักมากก็กอดมาก...”เสียงพึมพำยิ้มหวานอยู่คนเดียว อาการเหมือนคนที่กำลังจะเข้าสู่ห้วงนิทราเต็มที “พี่คณิน?”

   “หืม จู่ๆ ก็เรียก มีอะไรครับ? ”

   “ผมอยากบอกว่า วันนี้ผมมีความสุขมากเลย แม้จะเป็นวันที่พี่ต้องเจ็บตัว”

   คณินหัวเราะ อดหมั่นไส้เลยต้องกอดตอบไปแน่นๆ แล้วหอมลงกลางหัวขนุนไปหนึ่งฟอด “พี่ก็มีความสุขมากเหมือนกันครับ ขอบคุณนะขนุน สำหรับความรักความเชื่อใจที่มอบให้กัน”

   “ผมคงเกิดมาเพื่อรักพี่แน่ๆ ”

   “เว่อร์ไป”

   “.....”

   “แต่มันก็อาจจะใช่ก็ได้”คณินตอบออกไปเสียงแผ่ว ทำให้เขานึกถึงเรื่องบังเอิญที่มีจริงระหว่างเขากับขนุน

   “พี่คณินครับ”เสียงเรียกตาปลือ ยกมือขึ้นขยี้ตาตัวเองที่กำลังจะปิดให้ฝืนอีกนิด

   “ว่า? ”

   “ครั้งหน้า...ให้ผมเป็นฝ่ายทำบ้าง”

   คำพูดที่เหมือนเลื่อนลอยออกมาจากปากของขนุนฟังดูอ้อนวอน ทำเอาคนฟังชะงัก

   ตัวเท่าลูกหมาแต่ใจราชสีห์ไปอีก

   “ก็ลองดูครับ ถ้าทำได้ล่ะก็”ประโยคที่คล้ายจะยินยอมแต่ก็คงจะเป็นแค่คำตอบปลอบใจ และเขาไม่ควรดับความฝันขนุน อยากคิดอะไรตามใจทุกอย่าง แต่จะทำได้มั้ยมันก็อีกเรื่อง และแน่นอนว่าใครจะไปยอมกันง่ายๆ

   “.....”

   “ขนุน.....ง่วงแล้วเหรอครับ”จู่ๆ เสียงจ้อก็ขาดหายไป คนเป็นห่วงเลยถามขึ้น

   “อือ...”

   “งั้นนอนเถอะ พี่ไม่กวนเราแล้ว”

   “นอนด้วยกัน อย่าไปไหนนะครับ.....”เสียงพึมพำงึมงำอีกหลายๆ คำที่คณินแทบไม่ได้ยิน เพราะดูเหมือนขนุนจะง่วงจริง หลับจริงใส่เขาได้ทุกเมื่อ เพราะแบบนั้นคณินเลยเอื้อมมือดึงผ้าห่มคลุมตัวให้ขนุน อีกฝ่ายขยับตัวไปมาเล็กน้อย แต่ดูเหมือนมือที่กอดรั้งคณินเอาไว้คงจะไม่มีทางปล่อยง่ายๆ ไปแน่สำหรับคืนนี้

   “ฝันดีครับ”

   คนตัวโตทำได้เพียงราตรีสวัสดิ์แล้วรับกอดแน่นๆ จากขนุน คืนนี้แน่นอนว่าคณินคงต้องยอมเป็นตะคริวครึ่งซีกเพราะโดนกอดจนขยับตัวไปไหนไม่ได้อย่างแน่นอน








ติดตามตอนต่อไป >>>


----------------------------------------

ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ เดี๋ยวจะอัปจนจบ ชัวร์ๆ ฝากน้องหนุนด้วยนะคะ :impress:

หลานฮวา

หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 24 **อัปเดตแล้ว**11/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 11-07-2019 21:10:00
ทีแรกก็นึกว่าพลิกล็อค ใสๆ
ที่ไหนได้ ....
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 25 **อัปเดตแล้ว**13/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 13-07-2019 13:29:34


ขนุนลูกที่ 25





   แปะ

   แขนขาวที่ซุกอยู่ใต้ผ้าห่มโผล่ออกมาแล้วยืดเส้นยืดสาย วางมือลงไปอย่างคุนชิ้นราวกับกอดหมอนข้าง หากแต่สัมผัสที่เย็นนุ่มเด้งมือมันทำให้คนที่ตื่นก่อนเวลาอย่างขนุนย่นคิ้วยู่ จากนั้นจึงค่อยๆ ลืมตากะพริบถี่ๆ ปรับแสงที่ส่องผ่านม่านหน้าต่างผื่นใหญ่เข้ามา คนตัวเปลือยที่ขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มอย่างขนุนถึงอ้าปากเหวอเมื่อเงยหน้ามองขึ้นไปยังองศาชัดเจน เขาพบว่าคนที่นอนอยู่ข้างๆ ไม่ได้กระโดดออกมาจากความฝัน แต่มันคือเรื่องจริง

   ถึงแม้กิจกรรมในค่ำคืนก่อนหน้าในร่างกายของขนุนจะไหลเวียนไปด้วยแอลกอฮอล์ ตื่นมามีอาการแฮงค์นิดหน่อย แต่ความมีสติรับรู้นั้นแจ่มแจ้งในทุกการกระทำ เพียงแต่แอลกอฮอล์นั่นทำให้ขนุนใจกล้ามากกว่าเดินสิบเท่า

   นี่คงเป็นเรื่องที่ชวนดีใจขนขนุนแทบสำลักความสุข จนแก้มเย็นร้อนผะผ่าวแดงเรื่อขึ้นตาเป็นประกาย ยืนยันได้ดีจากเสียงหัวใจที่เต้นโครมครามในอก บวกกับสัมผัสที่ขนุนกอดแน่นอยู่ในตอนนี้ว่าจริงทุกสิ่งอย่าง

   จริงๆ ขนุนก็แอบคิดอยู่ว่าจุดเริ่มต้นของความรักมันเกิดขึ้นง่ายดายขนาดนี้เชียวเหรอ มันออกจะน่าหัวเราะไปหน่อยที่ความรักของเขามันเริ่มต้นจากหมาตัวหนึ่ง จากกอดหมาของเขา ก็กลายเป็นอยากจะกอดเจ้าของหมาจนสุดท้ายก็ได้กอดจริงๆ

   “โคตรจริง ไม่ฝันไปเองแน่ๆ ”

   คนดีใจรีบดันตัวลุกขึ้น คล้ายไม่อยากเสียงดังให้อีกฝ่ายตื่น อยากจะนั่งมองใบหน้าของคนรักที่พูดได้เต็มปากว่าแฟนจนกว่าจะตื่น แต่เมื่อขยับร่างกายความไม่ชอบใจบางอย่างก็ทำให้ขนุนนิ่วหน้า อาการเหมือนผ่านการเล่นกีฬามาอย่างหนักโดยไม่วอร์ม นั่นคือเรื่องของกล้ามเนื้อที่ตึงจนเจ็บ แต่มันก็ไม่ได้มากมายจนลุกไม่ไหว แต่ก็รู้สึกเฟลในใจที่ทำไมตัวเองไม่ได้เป็นฝ่ายรุก ทั้งๆ ที่อยากจะจับคนตรงหน้ากินตั้งแต่สบตาแรกพบด้วยซ้ำ

   ความคับข้องใจชวนให้สีหน้าเพิ่งตื่นในยามเช้าดูยุ่งเหยิงไม่ต่างจากผมเผ้าที่ชี้กระดกจนน่าขำ หัวใจที่เต้นตึกตักนำพาเจ้าของร่างเล็กค่อยๆ โผล่ตัวออกมานอกผ้าห่มจนแผ่นหลังขาวตลอดจนสะโพกขาวนวลเนียนสัมผัสกับความเย็นของเครื่องปรับอาการทำเอาขนลุกชันแข่งกับความตื่นตัวบางอย่างในยามเช้า

   ทันใดความคิดก็แล่นขึ้นในหัว ดวงตากลมใสแต่ยังคงบวมตุ่ยจากอาการเพิ่งตื่นดูเป็นประกายขึ้น ขนุนจะค่อยๆ ดึงผ้าห่มที่คณินห่มตัวอยู่ครึ่งท่อนออกช้าๆ แล้วพยายามพาตัวเองขึ้นคร่อมสวมบทเจ้าชายจูบรับรุ่งอรุณให้แก่คนตรงหน้า ดวงตาสดใสเกินเบอร์และรอยยิ้มสุดมุมปากที่กำลังคิดไม่ดีค่อยๆ เอนตัวลงวางริมฝีปากไปที่ท่อนไหล่ของคณิน แล้วไล่ไปยังซอกคอของอีกฝ่าย ก่อนจะถอยลงต่ำจูบซับไปบนอกกว้าง เสียงจ๊วบเล็บๆ จากริมฝีปากปากลากไปตามผิวของคนตรงหน้าจนต่ำลงมาจนถึงหน้าท้องจวนจะถึงไรขนอ่อน และเป้าหมายต่อไปของขนุนก็อยู่ไม่ไกลเกินปากเล็กจะเอื้อมถึง

   ทว่าคนที่แสร้งหลับและรู้สึกตัวตั้งแต่โดนคร่อมกลับดีดตัวลุกแล้วจัดการดันร่างของขนุนแสนซนที่คงเป็นญาติกับกล้วยหอมจอมซนลงกับเตียงในทันที พลิกเกมก่อนจบสกอร์ได้อย่างหักมุม

   “พี่คณิน!”

   “ซนแต่เช่าแบบนี้อันตรายรู้มั้ย”คณินส่ายหน้ายิ้ม มองขนุนที่หน้าหงอยเหมือนผิดหวังบางอย่าง

   “จะแกล้งหลับต่ออีกนิดผมก็ไม่ว่าหรอกนะ”

   “จะให้แกล้งหลับต่อได้ไงเล่นขึ้นคร่อมกันแบบนี้แต่เช้า”

   “ผมความจำดีนะ เมื่อคืนพี่บอกว่าให้ผมเป็นฝ่ายทำครั้งหน้า”

   “พี่พูดเหรอ? ”คณินทำหน้างง

   “รับปากแล้วด้วย”

   “เวลาเรียน จริงจังแบบนี้มั้ยครับพี่ถามจริง? ”

   “ถามแบบนี้เอาไม้เรียวมาตีผมเถอะ”

   คณินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะคนตรงหน้ากับความเอาแต่ใจนั้น ก่อนจะก้มหน้าลงไปปลอบด้วยจูบเบาๆ ตั้งแต่หน้าผาก เปลือกตา ปลายจมูก และริมฝีปาก จนอีกฝ่ายยิ้มได้ขึ้นมา

   “อยู่ให้พี่กอดแบบนี้ไปก่อน อย่าเพิ่งโตไปกว่านี้เลยนะ เดี๋ยวพี่จะรับไม่ไหว”

   “ผมมากกว่าครับที่จะรับไม่ไหวอ่ะ” สายตาทะลึ่งมองไปข้างล่างของอีกฝ่าย ก่อนจะเสนอไอเดียดีๆ ขึ้น แล้วยิ้มมุมปาก “ตอนเช้าแบบนี้...ให้ผมช่วยมั้ยครับ”

   “ใครสอนให้ยั่วกันแบบนี้ครับ”สายตาคมจ้องขนุนเขม้น

   ขนุนส่ายหน้าเอื้อมมือคล้องคอคนตรงหน้าแล้วกอดไว้แน่น “ผมแค่แสดงออก ใครบอกว่ายั่วกันครับ เปล่าสักหน่อย”

   “ให้ตายสิ พี่ล่ะยอมแพ้เราเลย”คณินถึงกับนวดขมับ

   “งั้น.....ให้พี่ยอมให้ผมกอดแล้วใช่มั้ย? ”

   “เก่งเมื่อไหร่ไว้มาคุยเรื่องนี้ครับ ตอนนี้ไปอาบน้ำ”คนพูดผละออกมาจนขนุนต้องกอดเข่าตัวเองหน้างอปากคว่ำ ถอนหายใจด้วยความเสียดาย มองร่างสูงที่ดูมีกล้ามเนื้อสมส่วนสะโพกแน่นๆ จนน่าตะปบ กำลังคว้าผ้าเช็ดตัวของขนุนที่พาดอยู่ตรงพนักเก้าอี้ขึ้นพันท่อนล่างหลวมๆ ดูยังไงส่วนกลางลำตัวมันก็ตื่นขึ้นจนดันผ้าเช็ดตัวจนนูนโป่ง คนเสียดายมองด้วยสายตาละห้อย

   “.....”

   “หืม? ทำไมไม่ลุกครับ ไม่อยากอาบน้ำเหรอ”คณินหันมาเท้าสะเอวเลิกคิ้วถามมุมปากจุดยิ้ม

   “อาบน้ำ? ”ขนุนทวนคำถาม จากหูที่งอลงอย่างกับหมาหงอยจู่ๆ ก็ตั้งตรงขึ้นสายตาเป็นประกาย มองคณินที่ยืนรอตรงหน้าแล้วรีบลุกจากเตียงลนลานทันที “อาบครับ ผมอาบด้วย!”



   “ใครไลน์อะไรมาเยอะแยะตั้งแต่เช้า”

   คนที่นั่งก้มหน้ามองหน้าจอมือถืออยู่ๆ ข้างๆ คนขับรถเงยหน้าขึ้นตอบ ก่อนกดปิดหน้าจอแล้วยัดใส่กระเป๋าเป้ที่นั่งกอดอยู่ “ไลน์กลุ่มเพื่อนน่ะครับ มันถามเรื่องผมกับพี่ เพราะต้าเห็นเราออกมาจากหอด้วยกันเมื่อกี้เลยเอามาแซวผม”

   คณินหัวเราะเอื้อมมือไปโยกหัวขนุนหยอกล้อ กลิ่นแชมพูหอมๆ ฟุ้งอยู่ในรถเป็นกลิ่นเดียวกัน “เพื่อนแซวอะไรถึงหน้างอขนาดนั้น”

   “ไม่มีอะไรหรอกครับ พวกนั้นก็กวนผมไปเรื่อย”ขนุนจะบอกได้ยังไงว่าเขาเสียหน้าให้กับเพื่อนเพราะลั่นปากไปว่าจะเป็นฝ่ายกดคณิน แต่เกิดความผิดพลาดทางเทคนิคทุกอย่างพลิกตาลปัตรไปหมด

   “แล้วโกรธมั้ย? ”

   “เปล่าครับ ผมโกรธพวกนั้นเป็นซะที่ไหน”

   “กินนี่หน่อยมั้ย เผื่อจะได้สดชื่นขึ้น”ระหว่างขับรถคณินก็ค้นเอาลูกอมขึ้นมาจากข้างประตูรถแล้วยื่นให้ขนุน มองขนุนที่รับลูกอมไปแต่ก็ไม่ได้แกะกิน “ไม่กินเหรอ เม็ดเดียวฟันไม่ผุหรอก หมออนุญาต”

   “ผมชอบเก็บมันไว้มากกว่ากินน่ะครับ คงเป็นนิสัยแปลกๆ ถ้าพี่คณินไปที่บ้านผมนะ ผมน่ะมีลูกอมที่เมื่อก่อนเคยมีคนให้เก็บใส่กล่องใส่โหลไว้เยอะเลยล่ะครับ”คนคุยเก็บลูกอมใส่กระเป๋าแล้วพูดขึ้น คณินแอบยิ้มแล้วตอบกลับไป และยังคงเก็บความลับบางอย่างเอาไว้

   “จริงเหรอ? งั้นเสาร์หน้าพี่ไปบ้านขนุนบ้างดีกว่า”

   “เอ๊ะ? ไปจริงหรือล้อเล่นครับ”

   “หรือเราไม่อยากให้พี่ไป กลัวคนที่บ้านไม่ยอมรับเหรอ ถ้างั้นพี่.....”ไม่พูดเปล่าแต่การทำหน้าสลดก็เป็นหนึ่งในการแสดง

   “ไม่ใช่ครับ ผมแค่ดีใจที่พี่อยากไปที่บ้านของผม ผมก็อยากแนะนำพี่ให้แม่รู้จักด้วย”เจ้าของใบหน้าแป้นแล้นหันมายิ้ม จนคนมองแทบจะหรี่ตาเพราะความเป็นประกายของรอยยิ้มกว้าง

   ยิ่งมองยิ่งน่ารักซะจนอยากจะจับมาหอมให้ช้ำไปทั้งตัว ติดอยู่ตรงที่คณินต้องประคองรถให้แล่นไปบนถนนอย่างปลอดภัยนี่สิ

   “ถ้าอยากให้ไปจริงๆ งั้นพี่ขอรางวัลเสริมแรงหน่อย”คนพูดเอียงแก้มและตัวไปด้านข้าง เคาะปลายนิ้วไปที่กรอบหน้า

   ฟอด!

   “พอมั้ยครับ”

   “อื้ม ค่อยมีเรี่ยวมีแรงขึ้นมาหน่อย”

   “พูดอย่างกับคนแก่อายุหกสิบแน่ะ”ขนุนหัวเราะ และสายตาก็เหลือบมองเห็นป้ายร้านบางอย่างข้างหน้าไกลๆ พอดี “พี่คณินครับ ช่วยแวะร้าน Love Pets ตรงป้ายสีเหลืองข้างหน้าให้หน่อยสิครับ”

   “เราจะซื้อเหรอ? ”

   “ครับ ผมว่าเราควรจะมีของติดไม้ติดมือกลับไปนะครับ”ขนุนหันไปมองคณินสีหน้าจริงจัง อีกฝ่ายพยักหน้ารับเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะป่านนี้ไข่ดาวคงจะคอยเจ้าของบ้านที่หายตัวไปข้ามวันข้ามคืนแย่แล้ว และเขาควรจะซื้อขนมขบเคี้ยวไปเอาใจเสียหน่อยเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายน้อยใจ

   และหลังจากทั้งสองแวะเข้าร้านขายของสัตว์ สิ่งที่ได้ก็แทบจะหิ้วกลับไปไม่หมด แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกขนมกินเล่นของสุนัขซะมากกว่า เพราะอาหารกระป๋องหรืออาหารเม็ดคณินซื้อตุนไว้ค่อนข้างเยอะแล้ว ติดไม้ติดมือมาอีกนิดก็เป็นพวกของเล่นโยนคาบ ไข่ดาวน่าจะทำได้ดีเพราะขนุนเคยเห็นอิทธิฤทธิ์คาบชามข้าวโยนใส่เขามาแล้ว

   ใครว่าหมาประชดไม่เป็น ก็ไข่ดาวนี่ไงจะหมาตัวไหนอีก

   และทันทีที่คณินมาถึงบ้าน หลังจากนำรถเข้าไปจอด ความเงียบที่ผิดปกติก็ทำให้เจ้าของบ้านถึงกับกุมขมับ แม้ขนุนจะพยายามช่วยเรียกหาเผื่อว่าเจ้าตัวแสบจะแอบไปฟุบหลับตรงไหนของบ้านบ้าง แต่ก็เปล่าเลย

   ไม่มีเสียงตอบรับจากการเรียกขานเลยแม้แต่น้อย

   “ผมว่าเราลองเดินออกไปตามหาในหมู่บ้านดูดีกว่านะครับ”

   “อื้มลองดู”

   “ไม่เป็นไรนะครับ เดี๋ยวก็เจอ”

   “ถึงพี่จะรู้ว่าไข่ดาวชอบแอบมุดหนีไปเที่ยว แต่ก็ไม่ชินที่จะรู้สึกกังวลใจแบบนี้ พี่ไม่น่าปล่อยให้ออกจากคอกกั้นก่อนไปข้างนอกเลย”

   “ไปเถอะครับ ผมช่วยตามหาเอง และที่สำคัญเจ้าไข่ดาวมันก็รักเจ้าของมาก มันไม่ทิ้งพี่คณินไปไหนไกลหรอกครับ”

   “แต่ก็เคยหนีไปไกลถึงแถวหอขนุนแล้วนะ เราลืมไปแล้วเหรอ”ขนุนอ้าปากเหวอ

   “จะจริงด้วย”

   “เดี๋ยวพี่ไปเอาจักรยาน จะลองปั่นหาดูแถวนี้ ขนุนรอพี่หน้าบ้านก่อนเผื่อไข่ดาวจะกลับมา”

   “ครับ”ขนุนพยักหน้า มองคณินที่รีบร้อนเดินอ้อมเข้าไปตรงโรงจอดรถข้างๆ แต่ในขณะที่ขนุนกำลังเปิดประตูรั่วเพื่อให้คณินนำจักรยานออกไปตามหาไข่ดาว จู่ๆ เสียงเห่าที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมาจากด้านนอก ขนุนรีบเดินออกไปดูก็พบว่าเป็นเจ้าไข่ดาวจริงๆ แต่ก็มาพร้อมกับใครบางคนที่เดินถือสายจูงมาด้วย

   และทันทีที่ขนุนโผล่หน้าออกไป เจ้าหมาสุดแสบก็วิ่งโร่ลากสายจูงเข้าหาขนุนอย่างดีอกดีใจ หางกวัดแกว่งจนจะเป็นใบพัดเรือ ปีนป่ายดูระริกระรี้วุ่นวายไปหมด ดูแล้วไร้ซึ่งความสำนึกผิดจริงๆ

   “ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าเป็นสุนัขของบ้านนี้หรือเปล่าคะ พอดีตอนเช้าเจอมันเดินอยู่แถวๆ หน้าบ้าน คุ้นๆ ว่าเคยเห็นอยู่ที่บ้านหลังนี้ด้วย เลยเดินมาส่ง”

   หญิงสาวที่อยู่ในวัยมัธยมปลายหน้าตาน่ารักถักเปียสองข้างตัดหน้าม้าดูสดใสถามขึ้น พร้อมกับยื่นเชือกจูงไปให้ขนุน และคงไม่ต้องพิสูจน์อะไรมากถึงสัมพันธภาพระหว่างเจ้าไข่ดาวกับขนุนที่ดูสนิทกันจนแทบจะเลียปาก

   “ใช่แล้วครับ ขอโทษจริงๆครับ คงรบกวนแย่เลย”ขนุนตอบกลับไป ย่อตัวลงขยี้หัวเจ้าหมาแสบที่แอบหนีเที่ยวอย่างหมั่นไส้แรงๆ จนหัวโยกหัวคลอน หญิงสาวที่จูงไข่ดาวมาส่งมองขนุนที่ลงโทษไข่ดาวด้วยความน่ารักจนอดยิ้มด้วยไม่ได้

   “ชื่อไข่ดาวรึเปล่าคะ พอดีเห็นที่ป้ายปลอกคอ”ท่าทางเคอะเขินเล็กน้อยพยายามชวนคุยถามขึ้น

   “ครับชื่อไข่ดาว ชอบหนีเที่ยวเป็นที่หนึ่งเลย”

   “เหรอคะ สงสัยจะชอบเที่ยวมากๆ ”

   “แต่ผมไม่ใช่เจ้าของไข่ดาวตัวจริงหรอกนะครับ แต่ก็ขอบคุณนะครับน้อง? ”

   “หนูชื่อข้าวค่ะ”

   “ครับน้องข้าว”

   และระหว่างที่เสียงคุยดังขึ้น คณินที่เข็นจักรยานออกมาก็ต้องแปลกใจ เมื่อเห็นว่าเจ้าไข่ดาวที่เขากำลังจะไปตามหากลับมาง่ายดายนัก แถมยังมีเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักมายืนยิ้มหวานอยู่ตรงหน้าบ้านเขาอีก

   “พี่คณินมาพอดีเลย พอดีน้องข้าวเขาเจอขนุนเลยพามาส่งน่ะครับ”

   “สวัสดีค่ะ”

   “อ่า ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ ขอโทษที่สุนัขไปรบกวนด้วย”

   “อื้อ ไม่เป็นไรค่ะ ที่บ้านก็ชอบสุนัขไม่ได้รบกวนอะไรเลย”

   “แล้วบ้านน้องข้าวอยู่ไหนครับ”ขนุนถามขึ้นและพยายามควบคุมไข่ดาวไม่ให้รบกวนไปด้วย

   “อยู่ลึกเข้าไปในท้ายซอยหมู่บ้านน่ะค่ะ”คนตอบมองขนุนยิ้มเขินๆ

   “งั้น...เพื่อเป็นการขอโทษ ให้พี่ไปส่งมั้ยครับ”คณินเสนอแล้วขึ้นคร่อมจักรยานรอ ขนุนมองคนเสนอตัวชะงักค้างไปเล็กน้อย ก่อนจะกลับมายิ้ม

   “ไปเถอะครับ ให้พี่คณินไปส่งจะได้ไม่ต้องเดินกลับไปอีก”

   “เอ่อ ก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”

   “ซ้อนจักรยานได้ใช่มั้ยครับ? ”คณินถามขึ้น

   “ได้ค่ะ”คนตอบพยักหน้าหงึก ท่าทางเคอะเขินพยายามขึ้นซ้อนด้านหลังตรงที่นั่งสำหรับคนซ้อน ใช้มือจับชายเสื้อด้านหลังคณินเล็กน้อยกันตก “ไปก่อนนะคะ” มือเล็กโบกลาขนุนก่อนที่คณินจะออกแรงปั่นจนไกลออกไป

   คนยืนมองส่งสายตาละห้อย ถอนหายใจเล็กน้อยแล้วเหลือบไปมองเจ้าหมาแสบที่เลียเท้าเขาจนน้ำลายเปื้อนเหนียวไปหมด

   “หิวหรืออะไร แอบหนีเที่ยวน่าจับตีก้นมั้ยไข่ดาว เราว่านายชักจะมากไปแล้วนะ ทำหน้าระรื่นแบบนั้นต่อหน้าเด็กผู้หญิงที่อ่อนต่อโลกได้ไง!”คนดุทำหน้าเข้มก่อนจะรั้งเชือกจูงบอกว่าให้เข้าบ้าน ไข่ดาวจึงรีบวิ่งนำหน้าทันทีที่ขนุนออกตัวเดิน ร่างเล็กแทบคะมำเพราะแรงดึงสายจูง

   หลังจากเข้าบ้านไปแล้วขนุนก็จัดการแกะห่อของกินเล่นสำหรับสุนัขป้อนให้ไข่ดาวเป็นอกไก่พันครั้นชี่ ดูเหมือนจะถูกใจในรสชาติซะจนขนุนป้อนให้ไม่ทัน

   “พอแล้ว กินเยอะเดี๋ยวก็อ้วก เก็บท้องไว้กินเมื่ออื่นบ้าง”ขนุนปิดปากถุงและเดินนำห่อขนมไปเก็บในครัว ไข่ดาวก็ยังคงวนเวียนเดินตามขนุนไม่ไปไหนส่งสายตาวิงวอนเหมือนอยากจะกินอีกให้หมดห่อ
 
   กระทั่งเสียงเปิดประตูรั้วหน้าบ้านเข้ามาขนุนถึงรู้ว่าเจ้าของบ้านกลับมาแล้ว
 
   “ไปซะนานจนผมคิดว่าพี่จะไม่กลับมาแล้วซะอีก”

   “ก็น้องเขาน่ารัก อัธยาศัยดี ที่ส่งนานเพราะมัวแต่คุยกันก่อนกลับ”คณินเดินเข้าไปเปิดตู้เย็นในครัว รินน้ำเย็นๆ ใส่แก้วแล้วกระโดดขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์ดื่มน้ำดับกระหาย แอบเหลือบตามองปฏิกิริยาของแฟนหนุ่มป้ายแดงอย่างขนุนแล้วอมยิ้ม

   “คงสนุกสินะครับ”ขนุนเริ่มหน้างอ แล้วเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าคณินกอดอกแน่นจ้องคนตรงหน้าเขม้น

   “ก็สนุกดี”คณินหัวเราะก่อนจะวางแก้วน้ำไว้ข้างตัวแล้วลงมายืนตรงหน้าขนุนไหวไหล่

   “พูดแบบนี้ไม่กลัวผมน้อยใจรึไงครับ ผมเป็นแฟนพี่นะหรือลืมไปแล้ว”

   “ก็เราถามพี่ พี่ก็ตอบตามความจริงไงครับ”

   “ตอบมาแบบนี้ ระวังผมงอแงใส่เข้าจริงๆ แล้วจะหนาวนะครับ”ขนุนสาวเท้าเข้าหาคนตัวสูงกว่าแล้วเงยหน้าสบตาคณินยักคิ้วข้างเดียวใส่อย่างเอาเรื่อง เพราะจับไต๋ได้ว่ากำลังถูกคณินแกล้ง

   “งอแงได้เลย แค่ขนุนคนเดียวพี่โอ๋ได้อยู่แล้ว”

   “จะโอ๋แน่นะครับ”ขนุนอมยิ้มจนแก้มกลมแดงเรื่อ คำพูดของคณินทำให้คนใจกล้าอย่างขนุนเขินได้อีกครั้ง

   “แน่นอนครับ”คณินส่งมือหนาเข้าบีบแก้มขาวเบาๆ ก่อนจะกอดแผ่นหลังเล็กแล้วพากันเดินออกมาด้านนอกโดยมีไข่ดาววิ่งเหยาะๆ ตามหลังเป็นเงาอย่างแนบเนียน และเมื่อขนุนทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา คณินตั้งท่าจะหย่อนตัวลงนั่งใกล้ๆ ทว่าไข่ดาวกลับตัดหน้ากระโดดขึ้นนั่งขั้นกลางเหมือนอยากมีส่วนร่วม จนต้องยอมให้อย่างเลี่ยงไม่ได้จนคณินต้องเปลี่ยนไปนั่งอีกด้านซะแทน

   และเมื่อคณินตั้งใจจะเอนตัวหนุนตักขนุนเหยียดตัวยาวตามแนวโซฟา เจ้าหมาแสบก็เหมือนรู้ทันความคิดรีบเอาหัวเกยตักขนุนตัดหน้า พอคณินจะจับมือขนุนไข่ดาวก็เลียหลังมือขนุนซะจนน้ำลายเยิ้มอีก

   ท่าทางวันนี้ไข่ดาวคงมีความในใจบางอย่างจะบอกคณินหลายอย่าง อาจจะเคืองเรื่องที่หายตัวไปตลอดคืนก็เป็นได้

   แต่ว่าการฟาดฟันนั้นผลสุดท้ายก็จบลงที่...ไข่ดาวโดนโยนใส่คอกด้านนอกของตัวบ้าน

   แกร็ก!

   “วันนี้อยู่ในคอกไปทั้งวันก็แล้วกัน”

   นั่นคือคำประกาศิตที่คณินประกาศกร้าวออกมาต่อหน้าไข่ดาวทันทีที่ล็อกประตูคอกได้สำเร็จ ขนุนถึงกับหัวเราะออกมา ไม่รู้ว่าจะสงสารฝ่ายไหนดีเลยทีเดียว

   “โหดไปมั้ยครับพี่คณิน ถึงกับต้องขังกันแบบนี้”ขนุนแซว

   “ใครขัดขวางความรักพี่ พี่จะสั่งขัง เราก็เหมือนกันอย่าตามใจไข่ดาวเกินไป หรือกับคนอื่นก็ห้ามแจกยิ้มให้ไปทั่ว คนเขาหลงเราทั้งหมู่บ้านแล้วพี่จะอยู่ยังไง”

   “เดี๋ยวครับ! พี่คณินกำลังหมายถึงอะไร? ”ขนุนถึงกับหุบยิ้มและเปลี่ยนสีหน้าเป็นงงงวยแทน เพราะนี่ไมใช่แค่เรื่องไข่ดาวแล้วแน่ๆ

   “ไม่รู้จริงๆ เหรอว่าน้องข้าวที่เอาไข่ดาวมาส่งเค้ามองเรา”

   “ห๊ะ? ผมเนี้ยนะ”

   “พี่ไปส่งน้องเขา แล้วเขาก็ถามชื่อขนุนจากพี่แถมยังอยากรู้อีกว่าเราอ่ะมีแฟนหรือยัง แบบนี้จะให้พี่รู้สึกยังไงครับ”

   “ไปส่งนานเพราะแบบนี้เหรอ”ขนุนถึงกับขำพรืดออกมากุมท้องหัวเราะคนที่หึงคนยันหมา

   “ก็ใช่”

   “แล้วพี่คณินตอบน้องข้าวว่าไงครับ”ขนุนถามอย่างอยากรู้ เดินตามเจ้าของบ้านเข้าด้านใน ก่อนจะวิ่งไปดักหน้ารอคำตอบ

   “พี่ก็ตอบว่า ขนุนมีแฟนแล้ว และแฟนก็หวงมากด้วย”

   “เหรอครับ”

   “และที่สำคัญ....แฟนขนุนเค้าชื่อคณิน เป็นผู้ชายที่ปั่นจักรยานมาส่งน้องไง”การส่งยิ้มที่ดูเหมือนอ่อนโยนทว่าระคนความสะใจในคำพูดนั้น

   ตอนนี้ขนุนเห็นแล้วล่ะว่า คนตรงหน้าไม่ใช่แค่หวงเขา แต่เอาตรงๆ คือหึงขึ้นตายิ่งกว่าเบาหวานซะอีก

   “ขนุน”

   “ครับ”

   “พี่ว่าบ่ายนี้เราไปบ้านขนุนกัน”

   “ดะเดี๋ยวครับ ใจเย็นๆ อะไรจะปุบปับขนาดนั้น ยังไงผมก็ไม่หนีไปไหนหรอกครับ”ขนุนยกมือขึ้นเป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ จนอีกฝ่ายถึงกับต้องเซตัวมาวางคางไว้ที่ไหล่ของขนุน ยกมือขึ้นกอดแผ่นหลังเล็กแล้วพูดพึมพำ

   “ก็หากมีใครมาวุ่นวาย พี่ก็จะได้ออกตัวเต็มที่ ว่าขนุนเป็นของพี่ห้ามใครมาวอแว”

   “ผมคิดนะครับ...ว่าผมน่ะหวงพี่คณินเป็นที่หนึ่ง แต่ตอนนี้ผมคงต้องยกตำแหน่งสามีแห่งชาติให้พี่ไปเลยดีกว่า”

   “แบบนี้พี่จะมีกะจิตกะใจอ่านหนังสือรึเปล่าเนี้ย”คณินผละตัวออกมาใช้สองมือโอบแก้มขาวที่ส่งสายตากลมโตดูเป็นประกายให้เขา

   “ก็อ่านสิครับ ผมจะอยู่เป็นเพื่อนทั้งวันเลย ยังไงตอนนี้ผมก็สนับสนุนให้ว่าที่คุณหมอเรียนจบนะครับ ผมอยากจะเป็นแฟนหมอที่หล่อและเก่งที่สุด”

   “เอางั้น? ”

   “แน่สิครับ ไปครับไปอ่าหนังสือ”

   ครืดดดด! ครืดดดด!

   “เดี๋ยวครับ เหมือนมีใครโทรมา”ขนุนชะงักเท้าขณะที่กำลังเดินตามหลังคณินไป เมื่อโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงมันสั่น ก่อนจะกดรับ โดยมีคณินกอดอกรั้งรออยู่ตรงหน้า เหมือนมองอย่างอยากรู้ว่าใครโทรเข้ามาตอนนี้

   “ว่าไงต้ามีอะไร...อื้ออยู่กับพี่คณิน”ขนุนมองตาคณินที่ยืนรออยู่ “ห๊ะ! ระเรื่องจริงรึเปล่า? ไม่ได้อำกันเล่นนะ”สีหน้าขนุนค่อยๆ ถอดสี มือกำโทรศัพท์จนแน่นอย่างตกใจจนตาเบิกโพลง มองคณินสลับกับพื้นบ้านท่าทางกังวลหนัก จนอีกฝ่ายสงสัย “อะอืม....เดี๋ยวเราพูดกับพี่คณินก่อนแล้วจะโทรกลับ โอเค”

   “มีเรื่องอะไรรึเปล่าขนุนดูหน้าไม่ค่อยดี”

   “คือพี่คณินครับ”ขนุนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ มองริมฝีปากสีช้ำที่ยังไม่หายดี กับรอยขีดเล็กๆ ตรงโหนกแก้มจากเหตุการณ์เมื่อคืนอย่างใจไม่ดี แต่ก็ต้องพูดออกไป “คือว่า.....”

   “หืม? ”คนตัวสูงเอื้อมมือมาวางไว้บนหัวของขนุนพยายามให้อีกฝ่ายเงยหน้ามองตาเขา

   “ต้าโทรมา แล้วก็บอกว่า.....เมื่อคืนนี้หลังจากที่เกิดเรื่อง และทุกคนแยกย้ายไปแล้วพี่ไม้เอก...เกิดอุบัติเหตุรถเสียหลักชนต้นไม้ครับ แล้วตอนนี้พักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล ต้าเพิ่งจะรู้เรื่องจากนิวแล้วก็โทรมาบอกผม คือว่าผมอยากจะไปดู.....”

   “โรงพยาบาลอะไร? ”

   “ครับ? ”ขนุนดูตกใจที่คณินไม่ได้คัดค้านเรื่องที่อยากจะไปเยี่ยมคนเจ็บและคู่กรณีเก่าอย่างไม้เอก

   “ไม่ห้ามเหรอครับ? ”

   “อยากห้าม แต่เรื่องมันเป็นแบบนี้พี่ก็ต้องแยกแยะ ยังไงหมอนั่นก็เป็นรุ่นพี่ที่ขนุนรู้จัก จะมาห้ามไม่ให้ไปเยี่ยมก็เกินไปหน่อย นอกเสียจากขนุนไม่อยากจะไป”

   “ขอบคุณมากนะครับที่เข้าใจ”

   “รีบไปกันเถอะ แต่พี่ไม่รับรองนะว่าอีกฝ่ายจะช็อกหรือเปล่าถ้าเห็นหน้าพี่ขึ้นมา”

   “พูดเรื่องน่ากลัวแบบนั้นไม่ดีนะครับพี่คณิน”

   “ขอโทษครับ แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ หากอาการไม่ร้ายแรงพี่ก็อยากจะเคลียร์เรื่องเมื่อคืนให้จบๆ ไปด้วย จะได้ไม่คาราคาซัง”คณินหันไปมองขนุนที่มีสีหน้ากังวลจนคิ้วผูกเป็นโบ “แต่พี่สัญญาว่าจะละมุนละม่อมครับ พี่ก็มีจรรยาบรรณของตัวเองหรอกนา มองพี่เป็นคนร้ายไปได้”

   “ก็ผมชักไม่แน่ใจแล้วนี่ครับ ตั้งแต่เห็นพี่คณินไปบวกกับพี่ไม้เอกเมื่อคืนอ่ะ”

   “ใครมันจะทนมองคนที่ตัวเองชอบถูกคนอื่นทำรุ่มร่าม เพราะคนนี้ พี่ หวง”คณินเน้นย้ำคำที่ทำเอาขนุนใจสั่น ตอนแรกก็เป็นห่วงรุ่นพี่อย่างไม้เอกดีอยู่หรอก ทว่าความรู้สึกนั้นเหมือนกับโดนคลื่นยักษ์ที่ชื่อว่าคณินซัดลงทะเลไปหมดแล้ว

   ทำเอาขนุนมองใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าตาละห้อย และอยากจะเข้าไปทำรุ่มร่ามคณินเหลือเกิน แต่ตอนนี้ต้องกัดฟันทน งานดูใจคนต้องมาก่อน










ติดตามตอนต่อไป >>>



------------------------------------------------


เหลืออีกนิดก็จะจบแล้ว ความใสๆ ของขนุนก็อาจไม่มีจริง 5555+
มี นอ. มอบฉายาให้ว่า อิเด็กหลงผัว บ่งบอกถึงความในใจของใครหลายคนได้ดีเลย  :laugh3:
ก็เขารักของเขา มันจะหลงก็คงไม่แปลกเนอะ ฮ่าๆๆ
ทวต.สกีมแท็ก #ขนุนอุ้มหมา   ตามแต่จะบันเทิงได้ค่ะ :man1:

ปล.ขอบคุณมากที่ติดตามอ่านค่าค่ะ

หลานฮวา
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 25 **อัปเดตแล้ว**13/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 13-07-2019 18:29:15
 :pig4:
 :L2: :3123: :L1:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 25 **อัปเดตแล้ว**13/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 13-07-2019 20:26:01
 :mc4: o13 :mc4:



 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 25 **อัปเดตแล้ว**13/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 13-07-2019 21:59:32
ขนุนขี้อ่อยอ่ะ
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 25 **อัปเดตแล้ว**13/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: WaterProof ที่ 13-07-2019 23:11:24
 :ling1: มาต่อไวๆนะค้า สนุกมากชอบน้องหนุน
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 26 **อัปเดตแล้ว**14/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 14-07-2019 19:26:41


ขนุนลูกที่ 26





   เตียงผู้ป่วยไฟฟ้าที่สามารถปรับพนักพิงได้ตั้งอยู่ใจกลางห้องสี่เหลี่ยมสีขาว คนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยก้มมองสายน้ำเกลือที่ห้อยระโยงระยางจากหลังมือตนเองนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง รอบศีรษะมีผ้าพันแผล แต่ไม่มีส่วนอื่นได้รับบาดเจ็บไปมากกว่ารอยฟกช้ำ ทุกอย่างเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากความมึนเมาและความคุกรุ่นของอารมณ์ โชคดีที่ไม่ได้มีใครอื่นรับเคราะห์ไปด้วย

   ผู้ป่วยที่นั่งหน้านิ่งอย่างไม้เอกทำได้เพียงถอนหายใจก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนที่เรียกได้ว่าไม่ชอบเพราะเป็นเสี้ยนหนามตำใจอย่างคณิน ซึ่งตอนนี้ภายในห้องพักผู้ป่วยมีเพียงไม้เอกและคณินที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในการพูดคุย

   “ผมโคตรไม่ชอบหน้าคุณเลย”นั่นคือประโยคแรกที่ไม้เอกพูดขึ้น มันเหมือนความในใจที่อยากบอกและไม่ต้องการเสแสร้งปิดบังใดๆ

   “เรื่องนั้นคงไม่ต้องบอก” คณินหัวเราะในลำคอและพูดขึ้น “สำหรับเรื่องเมื่อคืนนี้คงไม่มีใครเห็นด้วยถ้าจะบอกว่าผมกับคุณญาติดีกัน”

   “ก็คงเป็นอย่างนั้น”เสียงแข็งตอบกลับไป

   “ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในห้องแล้ว อยากจะพูดอะไรก็พูดมาเลยดีกว่า คนอื่นคงรอเยี่ยมคุณอีกเยอะ”คณินดึงเก้าอี้ที่วางอยู่เข้ามานั่งอย่างใจเย็น ไขว่ห้างกอดอกเงยหน้ามองไม้เอกที่สบตากันนิ่ง ดูเหมือนอีกฝ่ายจะหายบ้า แต่มองจากสีหน้ากลับมีความกังวลอยู่ในแววตา

   “เมื่อคืน...ขนุนเป็นยังไงบ้าง”คำพูดที่มีสติบ่งบอกว่าคนก่อเรื่องรู้สึกแย่กับเหตุการณ์เมื่อคืนไม่น้อย

   “หมายถึง? ”

   “โกรธ หรือด่าผมให้คุณฟัง”ไม้เอกประสานมือกำแน่นจนเลือดไหลย้อนขึ้นผ่านสายน้ำเกลืออย่างเห็นได้ชัด ความกังวลใจทำให้คณินรับรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้แค่พูดลอยๆ

   “ถ้ารู้จักขนุนดีคุณก็ไม่ควรถาม แน่นอนว่าขนุนไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้นเพื่อบอกว่าคุณไม่ดียังไง และพอรู้ข่าวเรื่องอุบัติเหตุขนุนก็อยากมาเยี่ยมคุณอีก ถ้าผมเป็นขนุนอาจจะไม่อยากเจอหน้ารุ่นพี่อย่างคุณ แต่เพราะผมไม่ใช่ขนุนเรื่องราวมันถึงไม่ได้แย่แบบนั้น”

   “งั้นเหรอ ก็ดี”

   “มีอะไรจะพูดอีกรึเปล่า ถ้าจบแค่นี้ผมก็อยากจะพูดบ้าง”น้ำเสียงที่ไม่ได้กระโชกโฮกฮากแม้จะฟังรื่นหูแต่ก็ไม่นับว่าเป็นมิตรร้อยเปอร์เซ็นต์

   “เชิญ”

   “เรื่องขนุน”คณินผุดลุกขึ้นซุกมือสองข้างไว้ในกระเป๋ากางเกงท่าทางจริงจัง

   “.....”คนฟังหันไปมอง ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ กระทั่งไม้เอกพยักหน้าเบาๆ รู้ว่าคณินต้องการพูดอะไร จึงเป็นฝ่ายแทรกพูดขึ้นมาซะก่อน “เรื่องที่จะให้เลิกยุ่งกับขนุนใช่มั้ย? ”

   “ใช่ ผมไม่อยากต้องมาระแวงคนที่ขนุนยังให้ความเคารพว่าเป็นรุ่นพี่อย่างคุณ ถ้าจะคิดสักนิดผมยังพอเข้าใจหากจะให้คุณเป็นเพียงรุ่นพี่ร่วมคณะ ร่วมสถาบันที่ดี ผมพูดเรื่องนี้เพราะคิดว่าคุณคงโตพอที่จะมีเหตุผล”

   ไม้เอกหลับตาลงนิ่ง หัวของเขามันปวดตุบขึ้น ไม่ต่างจากอกซ้ายที่ปวดร้าวจนหายใจลำบาก เมื่อนึกถึงความสัมพันธ์ที่ไม่มีทางจะเดินไปข้างหน้า ระหว่างตนเองและรุ่นน้องอย่างขนุนที่เขาแทคแคร์อยู่นับปี ทุกอย่างไปได้สุดทางแค่รุ่นพี่กับรุ่นน้อง

   “ถึงคุณไม่พูดผมก็จะบอก ผมเสียใจที่ทำอะไรไม่คิดแบบนั้น นั่นเพราะขนุนเป็นรุ่นน้องที่ผมชอบมาตั้งแต่เข้าปี 1 แล้วจู่ๆ ความพยายามที่ทำกลับสูญเปล่าเพราะมีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มาตัดหน้า คุณเข้าใจความรู้สึกผมไหม เหมือนเลี้ยงดูมาอย่างดี แต่จู่ๆ ก็มีหมาคาบไปแดก”ไม้เอกฉีกยิ้มหน้านิ่งเชือดกันนิ่มๆ ด้วยคำพูด

   “หลอดด่ากันได้แนบเนียนดี”คณินไหวไหล่ เขาไม่ได้รู้สึกโกรธคนตรงหน้าเท่าเมื่อคืน ถึงจะจุกไปเล็กน้อยก็เถอะ

   “เพราะแบบนั้นผมถึงไม่พอใจ และไม่เข้าใจว่าทำไมขนุนถึงไม่คิดมองผมบ้าง หึ! น่าหัวเราะสินะ”

   “ไม่เลย ผมก็เคยผ่านจุดเสียใจในเรื่องความรักมาก่อน พูดเหมือนแก่ แต่ผมก็อายุมากกว่าคุณ 1 ปี ก็คงพอจะพูดได้ว่ามันไม่ได้แย่เพราะมันไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต”

   “คุณพูดเพราะคุณคือผู้ชนะ”

   “แต่ผมก็เคยแพ้มาก่อน”

   “มันก็แฟร์ดี”

   “ถ้าเข้าใจเรื่องนี้ ผมกับคุณก็คงจะลดความเกลียดขี้หน้ากันน้อยลงว่ามั้ย? ”การตอบโต้ไปมาเหมือนพาให้บรรยากาศตึงเครียดหย่อนลง น่าแปลกที่มันกลับแทนที่ด้วยคนสองคนที่แทบจะไม่กินเส้นกันมานั่งยิ้มให้กับบทสนทนาที่จบลงแบบนั้น

   “ก็คงอย่างนั้น แต่ขอโทษนะตอนนี้มันเลยเวลาทานยาแล้วมามากแล้ว”

   “ยาที่วางตรงนี้ใช่มั้ย? ”คณินอาสาลุกจากเก้าอี้เพื่อหยิบยากับแก้วน้ำดื่มให้อีกฝ่ายอย่างไม่ถือสาเรื่องก่อนหน้า และเหลือบตามองผนังห้องสีขาวที่มีนาฬิกาแขวนผนังบ่งบอกว่าตอนนี้เกือบจะบ่ายโมงแล้ว

   “ขอบคุณ”ไม้เอกรับแก้วน้ำไปและถ้วยยาใบเล็ก หลังดื่มน้ำเสร็จก็ยื่นส่งให้คณิน แต่ดูเหมือนมือของจะไม่ค่อยมีแรงถึงได้พลาดทำแก้วตกลงพื้นแตกเสียงดัง จนคนที่รอลุ้นอยู่หน้าประตูนอกห้องทั้งขนุน ต้า นิว และเพื่อนไม้เอกอย่างยิปถึงกับวิ่งพรวดเข้ามาแทบพังประตู ดูก็รู้ว่าเอาหูแนบประตูตลอดเวลาที่คณินพูดคุยกับไม้เอก ไม่อย่างนั้นคงไม่วิ่งตาเหลือกกันเข้ามา

   “ใจเย็นๆ นะครับ เกิดอะไรขึ้น!”คนตัวเล็กเข้ารั้งแขนคณินจนตัวเซ สีหน้าตาซีดจินตนาการถึงเหตุการณ์ขวัญผวา

    “เชี่ย! ขว้างแก้วกันด้วย ถ้าเข้ามาช้าไม่เสียบกันด้วยมีดรึไง”ต้าเกาะไหล่ขนุนมองเศษแก้วบนพื้นสลับกับมองคณินและไม้เอกที่หันมามองพวกเขาเป็นตาเดียว

   “เกิดอะไรขึ้นวะไอ้ไม้ มึงเป็นไรมากป่าว? ”ยิปเข้ามาสำรวจไม้เอกวุ่นวาย

   และมีเพียงหนุ่มหน้ามนอย่างนิวที่มองเหตุการณ์เงียบๆ สลับกับสังเกตบรรยากาศ ดูแล้วคงจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกระทั่งเสียงหัวเราะเบาๆ จากไม้เอกและคณินดังขึ้นเหมือนนัดจังหวะกันขำ   

   “ตกลงเกิดอะไรขึ้น นี่หัวเราะกลบเกลื่อนหรืออำกันเล่น”ขนุนมองคนทั้งสองสลับกันหน้าเอ๋อๆ

   คณินจัดการรวบหน้าขนุน ดันคางให้ปากที่อ้าอยู่ปิดลง “แค่แก้วตกแตก คิดว่าพี่จะก่อวิวาทกลางโรงพยาบาลรึไง”

   “ไม่มีอะไรจริงๆ เชื่อเถอะ”ไม้เอกช่วยยืนยันก่อนจะเอนตัวลงนอน ถอนหายใจสีหน้าผ่อนคลายขึ้น แต่ลึกๆ แล้วก็ยังคงเจ็บอยู่ข้างใน ทั้งร่างกายและความรู้สึก

   “แล้วตกลงเมื่อกี้คุยอะไรกันครับ”ขนุนโพล่งถามและคงไม่ใช่แค่ขนุนคนเดียวที่อยากรู้

   “เปล่า/เปล่า” แต่กลับได้คำตอบที่ปฏิเสธออกมาพร้อมเพรียงกันขนาดนั้นใครไม่สงสัยก็บ้าแล้ว แต่ด้วยถึงเวลาที่ต้องกลับ คณินจึงพาขนุนออกมาซะก่อน เรียกได้ว่ากึ่งบังคับให้ออกมาแล้วอ้างว่าให้คนป่วยพักผ่อนจึงจะยอม ทุกคนทยอยเดินออกไป กระทั่งคนสุดท้ายที่กำลังจะหันหลังก้าวออกจากห้อง กลับถูกเรียกเอาไว้ด้วยมีเรื่องบางอย่างจะพูด และตอนนี้โอกาสก็เหมาะแล้ว

   “เดี๋ยวนิว รอก่อน”

   “.....”คนถูกเรียกชะงักเท้า

   “ขอบคุณที่ช่วยพี่ไว้”สายตาจริงจังไม่มีความยียวนหรือหยอกล้อ มองรุ่นน้องที่หันหน้ามามองตัวเองก่อนจะเป็นฝ่ายขยับปากพูดขึ้นไม่ใส่ใจ

   “ผิดแล้ว ไปขอบคุณรถพยาบาลเถอะ ไม่ใช่ผม”

   “แต่คนที่เรียกรถพยาบาลให้ และยอมขึ้นรถมาส่งพี่ถึงโรงพยาบาลเป็นนิว”

   ได้ยินอย่างนั้น คนที่ไม่อยากสนใจกลับต้องนิ่งงัน สายตากลอกมองซ้ายขวาเหมือนหาคำตอบดีๆ “คนอื่นเขาก็ทำกัน เพราะผมเป็นคนเห็นเหตุการณ์ก็ต้องช่วยมั้ย?.....เมาแล้วยังจะขับบ้ารึเปล่าวะ!”เสียงบ่นพึมพำหลบสายตาของไม้เอกที่จ้องมองมาพร้อมมุมปากที่จุดยิ้มราวกับจับผิดใครบางคน

   “ยังไงก็เถอะ จะรับหรือไม่รับพี่ก็จะขอบคุณเรา ดูแล้วก็เป็นเด็กดีกว่าที่คิด”คนป่วยฉีกยิ้มมองรุ่นน้องที่ดูจะไม่อยากเห็นหน้าเขาสักเท่าไหร่ แต่กลับช่วยเขาไว้ในคืนเกิดเหตุ อาจจะเพราะความบังเอิญที่กลับทางเดียวกัน หรือเพราะเหตุผลอื่นๆ ก็ตาม

   “อย่ามาทำเป็นพูดดี ฟังแล้วขนลุก”

   “พี่ก็พูดดีกับนิวตลอดไม่ใช่รึไง มีแต่นิวที่หวงเพื่อนเหม็นขี้หน้าพี่แล้วชอบพูดกระแทกแดกดันกัน”

   “สาบานว่าพี่พูดดีกับผมตลอด ถึงพูดดีแล้วไง แต่พี่แม่งปากไม่ดี! ”คนเถียงหูแดงด้วยอารมณ์ร้อน

   “ปากไม่ดี นี่เคยชิม? ”

   “กวน! คิดว่าผมจะลืมรึไงว่าพี่ล้ออะไรผมไว้บ้าง”

   “ล้อ? ”ไม้เอกเหมือนครุ่นคิด ก่อนจะตอบขึ้นมาหน้านิ่ง “นิวหนึ่งนิ้ว...ฉายานั่นน่ะเหรอ? ”

   “เออ! นึกว่าหัวกระแทกพวงมาลัยรถจนความจำเสื่อม ก็ยังดีอยู่นี่ แบบนี้คงไม่ตายง่ายๆ ”พูดจบคนใจนักเลงก็เดินออกไปไม่กล่าวลา แถมยังทำหน้าไม่รับแขก

   “นิว!”อยู่ๆ คนป่วยก็ตะโกนเรียก

   “เรียกเพื่อ! ”

   “พรุ่งนี้มาเยี่ยมเอาโจ๊กมาฝากด้วย”

   “ใครมา!”

   “อยากกินน้ำเต้าหู้อ่ะ”คนป่วยทำเสียงอ้อน

   “ไม่ซื้อเว้ย!”

   “พี่จะรอนะ ”

   “ผม ไม่ มา จบมั้ย!”พูดจบก็ยกนิ้วกลางแสกหน้าแทนการโบกมือลาก่อนจะเดินออกไป

   ไม้เอกจึงอดที่จะยิ้มขำออกมาไม่ได้กับท่าทางฟึดฟัดนั่น

   เมื่อนึกถึงรุ่นน้องผู้ไม่เป็นมิตร ขึ้นชื่อเรื่องอารมณ์แสนร้อน ไม้เอกก็เพิ่งจะรู้ว่านอกจากนิสัยด้านลบแล้ว รุ่นน้องอย่างนิวกลับมีบางอย่างที่เขาไม่เคยรู้ โดยเฉพาะนิสัยลึกๆ ของนิว ที่เรียกความสนใจให้ไม้เอกหันไปมองอย่างไม่คิดฝัน

   จากเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา รุ่นน้องผู้ที่ไม่เคยทำตัวน่ารัก มองเขาเป็นอริตลอดเวลา วันหนึ่งกลับกลายมาเป็นคนที่กุมมือเขาแน่นในวันที่แย่สุดๆ ทั้งเสียงตื่นตกใจที่เรียกชื่อตลอดทางระหว่างรถพยาบาลวิ่งบนถนน ถึงจะมีถ้อยคำหยาบคายด่าทอเพื่อให้เขามีสติ แต่มันกลับกลายเป็นสิ่งที่ลืมได้ยากสุดๆ ไปแล้วในตอนนี้






   
   “ไอ้คณิน ขับรถให้มันนิ่มกว่านี้ได้มั้ยวะ กูมึนหัว!”อนาวินพูด

   “เปิดแอร์หน่อย ข้างหลังร้อนว่ะ เหงื่อกูออกไหลลงร่องตูดแล้ว”โจมขยับตัวโบกมือเรียกลม


   2 นาทีต่อมา

   “น้องขนุน เปลี่ยนเพลงให้พี่หน่อย เบื่อเพลงนี้แล้วอ่ะ”อนาวินสั่ง


   3 นาทีต่อมา

   “ไอ้คณิน กูหิวว่ะ แวะเซเว่นหน่อยดิ”อนาวินต้องการ

   “ถึงปั๊มยัง กูก็อยากเข้าห้องน้ำ”โจมเร่งเร้า


   10 นาทีต่อมา

   “ไอ้คณินกูอยาก.....”

   “พอ! ถ้าพวกมึงจะมาเรื่องมากขนาดนี้ กูยอมวนรถกลับกรุงเทพฯ แล้วไปส่งพวกมึงถึงหน้าบ้าน จะมาอยากอะไรนักหนาวะกูเวียนหัว”

   ในที่สุดคนขับก็บ่นออกมาอย่างรำคาญเพื่อนสองคนที่ถูกขนุนชวนให้มาเที่ยวบ้าน และเพื่อนเจ้ากรรมของคณินดันติดตามมาด้วยในที่สุด จนถูกคณิตแซะไปว่าแยกไม่ออกหรือว่าอันไหนชวนจริงหรือชวนตามมารยาท และในเมื่อตามกันสุดฤทธิ์สุดเดชขนาดนี้แล้ว คณินเลยให้ขนุนชวนเพื่อนอย่างนิวกับต้าเกทับไปด้วยกันเสียเลย ถือซะว่าไปเที่ยวบ้านเพื่อนช่วงวันหยุด

   “พวกกูผิดที่อยากโน่นนี่ หรือผิดที่มาด้วยกันแน่”อนาวินรู้ทันความคิด แค่เห็นแววตาเพื่อนสนิทก็รู้ใจ จึงแซวออกไปโต้งๆ

   “น้องๆ เขาไม่เห็นทำตัววุ่นวายเท่ามึงเลยไอ้วิน”

   “น้องขนุนครับ พี่วุ่นวายขนาดนั้นเลยเหรอ”อนาวินชะโงกหน้าไปถามขนุนที่นั่งข้างคนขับกำลังเปลี่ยนเพลงตามคำขอ และด้านหลังอนาวินก็ยังมีนิวและต้าอยู่ภายในรถคันโตที่มีถึง 7 ที่นั่ง

   “ก็นิดหน่อยครับ”

   “หึๆ ”เป็นคณินที่หัวเราะออกมา แล้วเอื้อมมือไปลูบหัวขนุนอย่างชื่นชม “ทำดีมากครับ คิดอะไรก็พูดไปเถอะ พี่รับประกันเอง”

   “เดี๋ยวนี้เข้าข้างกันใหญ่”

   “ผิดแล้วพี่ ไอ้ขนุนมันไม่เคยเข้าข้างพี่หรือพวกผมมาตั้งแต่ต้นแล้วต่างหาก”เสียงตะโกนของต้าดังมาจากด้านหลังแสดงความเห็น

   “เรายุติธรรมเสมอ”ขนุนถึงกับต้องปีนเบาะหันไปแย้งคนข้างหลัง

   “บ้านมึงสิ ลำเอียงตั้งแต่ต้นเหอะ ให้พี่คณินกินเนื้อ ส่วนพวกกูกินแต่ผักบุ้ง เห็นพวกกูเป็นเต่ารึไง? งี้เรียกว่ายุติธรรม มึงพูดไอ้ขนุน!”นิวเงยหน้าจากหน้าจอโทรศัพท์คัดค้าน ทำเอาทุกคนหัวเราะครืน อนาวินถึงกับแท็กมือกับรุ่นน้องอย่างนิว ส่วนโจมก็ยกมือกดไลก์ไปให้

   “เรื่องมันก็ผ่านไปแล้วนา เดี๋ยววันนี้ชดเชยให้ จะกินอะไรบอก”

   “มึงเลี้ยง? ”ต้าถาม ทุกคนก็รอฟังความใจใหญ่ของคนตัวเล็ก

   “เปล่า แม่จ่าย”

   “โห่! นึกว่าแน่”

   รถที่แล่นไปบนถนนท่ามกลางความครื้นเครงในที่สุดก็ถึงเป้าหมาย บ้านหลังน้อยตั้งอยู่กลางซอยที่ทุกคนกำลังมาเยือน ขนุนบอกเรื่องที่จะพาทุกคนมาเที่ยวที่บ้านล่วงหน้าแล้ว จึงไม่แปลกใจที่ในทันทีหลังจากรถมาถึง ประตูรั้วบ้านบานใหญ่ก็ถูกเปิดออกต้อนรับผู้มาเยือน และคนที่มารอเปิดประตูให้เป็นป้าขิม ที่ยิ้มหน้าชื่นตาบานกับเหล่าบรรดาหนุ่มๆ ทั้งหลาย

   “ป้าขิมสวัสดีครับ คิดถึงป้าจัง”ขนุนเดินเข้าไปกอดป้าขิมอย่างทุกที จนคนที่เพิ่งลงจากรถอย่างอนาวินและโจมเข้าใจผิดว่าเป็นแม่ของขนุน แต่ต้ากับนิวที่เคยมาแล้วจึงรู้ว่าใครเป็นใคร ส่วนคณินที่เดินมาจากรถเข้ายืนด้านหลังขนุน ยกมือไหว้คนตรงหน้าอย่างคุ้นเคย
 
   “เอ้า! สวัสดีค่ะคุณ....”สีหน้าประหลาดใจที่เห็นคณินกำลังจะทักทายอย่างคนรู้จัก ทว่าเสียงสดใสของเจ้าของบ้านตัวจริงอย่างประภัสสรก็เรียกหาขึ้นมาได้จังหวะ คณินจึงเพียงยิ้มให้ป้าขิมแล้วทำท่าจุ๊ปากขยิบตาให้ ทำเอาหัวใจคนแก่สั่นไหวเป็นเครื่องสลายไขมัน

   “มากันแล้วเหรอ”

   “ครับ”ขนุนวิ่งไปรับกอดจากผู้เป็นแม่ เล่นเอาอนาวินกับโจมมองตากันเลิกลัก เพราะตะลึงในความยังสาวยังสวยของคนตรงหน้า และแอบกระซิบกระซาบกันเสียยกใหญ่

   “กูว่าแม่ขนุนดูหน้าคุ้นๆ ว่ะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน”อนาวินพยายามนึก

   “เดี๋ยวนะ ถ้าจำไม่ผิด กูว่า...เคยเห็นในโทรทัศน์ว่ะ แต่เหมือนนานมาแล้ว”

   อนาวินคิดหัวแทบแตกกับความคาใจ “หน้าเหมือนดาราคนนึงสมัยก่อนที่แม่กูชอบดู ชื่อ...ชื่อ....”

   “ประภัสสร”นั่นเป็นคำตอบที่คณินเป็นคนเฉลย

   “เออใช่! ประภัสสร ที่แสดงละครภาคค่ำเมื่อก่อน จำได้แล้ว!”ดูเหมือนอนาวินจะภูมิใจที่ระลึกได้

   “งั้น.....แม่ขนุนก็เป็นดาราดิวะ”โจมตาลุกวาว หันไปมองสองแม่ลูกที่หน้าตาคล้ายคลึงกันจนลุกเกรียว ถึงว่าความน่ารักผิดมนุษย์มนานั้นมาจากใคร “ทำไมกูไม่รู้ให้เร็วกว่านี้วะ”

   “แม่กูถูกใจสิ่งนี้” อนาวินหันมาสบตากับโจมตาตื่น “อยากขอลายเซ็นไปให้แม่เลยว่ะ เดือนนี้ค่าขนมกูขึ้นฮวบแน่! ”

   “สวัสดีครับ/สวัสดีครับน้าสร”ต้ากับนิ้วยกมือไหว้ทักทาย มือเรียวของเธอยกขึ้นลูบหัวทั้งสองอย่างเอ็นดู ดีใจที่บ้านของเธอครึกครื้นขึ้นมาอีกครั้ง

   “สวัสดีค่ะหนุ่มๆ แล้วข้างหลังนั่นใครบ้างล่ะเนี้ย”ประภัสสรหรี่ตามอง อนาวินกับโจมเดินเข้ามาใกล้ท่าทีเกรงอกเกรงใจ ก่อนจะยกมือไหว้ทักทายโดยมีขนุนแนะนำให้รู้จัก ส่วนคณินเดินมาพร้อมกับป้าขิมที่ยังดูมึนงง

   “สวัสดีครับ”

   “ตายแล้ว! มาด้วยกันได้ยังไงเนี้ย”ประภัสสรถึงกับเบิกตากว้างพร้อมรอยยิ้มสดใส เดินเข้าไปสวมกอดร่างสูงอย่างดีใจ แม้จะเพิ่งเจอกันไปเมื่ออาทิตย์ก่อนหยกๆ การกระทำเช่นนั้นนำพาสายตาของหลายคนมองไปยังจุดเดียวกัน

   “ขอโทษที่มารบกวนอีกนะครับ”

   เธอส่ายหน้า จับไหล่จับแขนคณินบีบเบาๆ ราวกับไม่ได้เจอกันนมนาน “รบกวนอะไรกัน”

   “แม่! รู้จักรึไงถึงได้ไปคุยกันสนิทสนมขนาดนั้น”ขนุนเดินเข้ามาถามมองคณินสลับกับของตัวเองงงๆ เพราะจำได้ว่าไม่เคยบอกถึงเรื่องราวคนตรงหน้าให้แม่ฟัง หรือพามาให้รู้จักเลยสักครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกด้วยซ้ำที่ขนุนพาคณินมาบ้าน

   “พูดอะไรแปลกๆ แล้วนี่เจอกันแล้วทำไมไม่รีบบอกแม่บ้าง”

   “เจอกันแล้ว? เดี๋ยวแม่ พูดอะไรเกรงใจรอยหยักในสมองผมหน่อยเถอะครับ”ต่างคนก็ต่างงุนงงๆ ขนุนไม่เข้าใจในสิ่งที่ประภัสสรสื่อ ประภัสสรไม่เข้าใจที่ขนุนถามเธอแบบนั้นเช่นกัน เพราะเห็นชัดๆ ว่าขนุนกับคณินรู้จักกัน แล้วทำไมต้องมาสงสัยว่าเธอรู้จักคณินได้ยังไง ก็ในเมื่อเธอกับคณินเป็นคนคุ้นเคย

   “เอ๊ะ? ”คิ้วสวยขมวดมุ่น มองไปยังลูกชายของเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่ตรงหน้า ก่อนจะพูดขึ้น “คณิน? ”เธอเรียกชื่อเขาเบาๆ

   “ครับ”

   “นี่คณินบอกน้องยังว่าเราสองคนรู้จักกัน”

   คณินหุบยิ้มเล็กน้อย “ผมยังไม่ได้บอกครับน้าสร ก็กะว่าจะบอก”

   “แล้วนี่เพิ่งเจอกันหรือว่ายังไง”

   “ก็...เจอกันมาระยะหนึ่งแล้วล่ะครับ แต่ก็เพิ่งเอะใจในหลายๆ อย่าง”

   “นั่นไง ไปอธิบายกันเอาเองนะ”ประภัสสรส่ายหน้า แต่ก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไร “เอาล่ะหนุ่มๆ เข้าบ้านกันก่อนดีกว่าน้าเตรียมของทานเล่นกับน้ำเย็นๆ ไว้รอแล้ว ไปกันเถอะ ส่วนข้างนอกให้อยู่เคลียร์กันก่อน”เจ้าของบ้านกางแขนต้อนหนุ่มๆ ทั้งหลายเข้าบ้าน และหันไปสั่งความกับคณินให้คุยกันให้เรียบร้อย เพราะเธอขี้เกียจมาฟังเสียงโวยวายของลูกชายเจ้าปัญหา

   “พี่คณิน อธิบายเลย พี่ไปรู้จักแม่ของผมได้ยังไง แถมเหมือนพี่ยังรู้มาก่อนหน้าด้วยว่าแม่ของผมเป็นใคร? ”ขนุนกอดอกมองคณินตานิ่ง ชักกลัวๆ เบื้องหน้าเบื้องหลังของคณินขึ้นมา

   “อย่าทำหน้าดุสิ แบบนี้พี่กลัวแย่”

   “ผมไม่ได้ดุ แต่พี่คณินต่างหากทำตัวน่าสงสัย รีบคายความลับมา ไม่งั้นคืนนี้ผมนอนไม่หลับแน่ๆ ”ขนุนยกมือทั้งสองข้างขึ้นทึ้งหัวตัวเอง อยากรู้ใจจะขาด

   “เดี๋ยวหัวล้านนา” คณินคว้ามือเจ้าของคิ้วมุ่นให้ห่างจากเส้นผมสีบลอนด์ที่เขาชื่นชอบ แล้วกุมเอาไว้ไม่ปล่อย ร่างสูงมองตากลมใส และจมูกรั้นที่รับกับปากเล็กนั่นจนเขาอยากจะเข้าไปทำรุ่มร่าม แต่ก็เห็นแก่สถานที่และบุคคลจึงทำเพียงกุมมืออุ่นๆ ของขนุนให้แน่นเสียแทนแล้วพูดขึ้น

   “…..”

   “ขนุนจำได้มั้ยว่าตอนเด็กๆ ขนุนเคยเจอกับเด็กผู้ชายหน้าตาหล่อๆ ใจดีๆ แล้วก็ชอบให้ลูกอมกับขนุนทุกวัน”

   “เด็กผู้ชาย...ชอบให้ลูกอม? ก็พอจะจำได้รางๆ นะครับ แต่ผมจำลูกอมได้มากกว่าคนให้ซะอีก”

   “แล้วถ้าพี่จะบอกว่า คนที่ให้ลูกอมขนุนตอนนั้นเป็นพี่เอง เราจะเชื่อมั้ย? ”

   ได้ยินประโยคนั้นขนุนถึงกับเงยหน้าขึ้นมองคณินดวงตาเบิกโพลง ปากเล็กเผยอออกราวกับจะกินไข่ต้มได้ทั้งฟอง หัวใจของขนุนมันเต้นเร็วราวกับขึ้นจรวดพุ่งไปในชั้นบรรยากาศฉับพลัน มองหน้าคณินที่ฉีกยิ้มอยู่ตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ

   “ดะเดี๋ยวนะครับ! พี่คณินจะบอกว่าพี่เป็นเด็กคนนั้น ที่ชอบให้ลูกอมผม? ”

   “อืม.....โลกมันกลมจริงๆ นะว่ามั้ย พี่รู้จักแม่เราเพราะแม่ของพี่กับขนุนรู้จักกันมานานแล้ว คงสมัยที่ขนุนยังไม่ย้ายบ้านมาที่นี่ล่ะมั้ง”

   “ช่วยมากับผมตอนนี้เลยครับ!” แล้วคนที่ยืนเหวอกับเรื่องชวนตกใจพลันตั้งสติได้จึงรีบดึงมือคณินให้เร่งเดินตามตัวเองเข้าบ้านไป ลากขึ้นไปยังชั้นสองตรงไปยังห้องนอน ไม่ตอบคำถามใดต่อสหายที่เรียกถามไถ่เรื่องราว และทันทีที่ขนุนลากคณินไปถึงห้องนอน ก็รีบพุ่งไปที่ลิ้นชักเก็บของ หยิบเอากล่องที่บรรจุลูกอมคับแน่นออกมาแล้วเทลงไปบนเตียงนอนลนลาน และอีกขวดโหลใส่ๆ ที่เก็บไว้ในตู้ก็เอามาเทรวมกันอีก จนมองเห็นลูกอมรุ่นเก่าเก็บและเปลือกสีซีดที่ขนุนเก็บไว้กองทั่วเตียง

   “พี่บอกผมอีกทีได้มั้ย.....ว่าเจ้าของลูกอมทั้งหมดนี้เป็นของพี่จริงๆ น่ะ”ขนุนมองคณินและชี้ไปยังลูกอมที่กระจายอยู่บนเตียงนอนนัยน์ตาเป็นประกาย หัวใจเต้นระรัวไปหมดจนตัวสั่น

   คณินหัวเราะ พร้อมกับเดินไปหยิบลูกอมมาหนึ่งเม็ด เขาแกะเปลือกมันออกแล้วโยนเข้าปาก ความหวานยังคงเป็นอมตะและค่อยๆ ละลายไปทั่วปากเมื่อสัมผัสกับลิ้น “รสสตอเบอร์รี่ที่มีแค่รสหวานของน้ำตาล จำได้ว่าขายดีสุดๆ ตอนนั้นลำบากแทบแย่กว่าจะซื้อมาได้”

   “เป็นพี่คณินจริงๆ ด้วย”ขนุนถึงกับตัวแข็งทื่อ ประหลาดใจที่สุดในชีวิตกับการกลับมาพบกัน เขาเลือกที่จะไม่จดจำรายละเอียดของช่วงเวลานั้นเพราะมีเหตุการณ์การจากไปของพ่อที่ทำให้ขนุนลืมเลือนใบหน้าของคนคนนี้ไป กลับกันตอนนี้ขนุนรู้สึกราวกับย้อนไปในวัยเด็กอีกครั้ง ช่วงเวลาที่เขาอบอุ่นหัวใจที่สุด จนพานให้ความรู้สึกทั้งหมดมันเอ่อขึ้นมาตรงขอบตาจนร้อนผะผ่าวไปหมด

   “ไม่ร้องนะครับ เดี๋ยวคุณน้าจะหาว่าพี่รังแกน้อง”คณินฉีกยิ้ม ประคองกรอบหน้าที่กลั้นน้ำตาสุดกำลังจนดูน่าขบขัน แต่เหมือนขนุนจะกลั้นมันไว้ไม่อยู่ เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่คนตัวเล็กแสนเข้มแข็งจะอ่อนแอเพราะแพ้หัวใจของคนตรงหน้าแบบนี้ จนต้องปล่อยสะอื้นออกมาด้วยความรู้สึกยินดีท่วมท้น

   “ฮึกๆ ฮือๆ ผมกลั้นไม่อยู่ หยุดร้องไห้ไม่ได้ด้วย ไม่เท่เลยอ่ะ”พูดไปก็ร้องไห้ขี้มูกโป่งไปด้วย

   “อยากหยุดร้องมั้ย? ”

   “ฮึกๆ อยาก....”คนร้องสะอื้นซุกหน้าเอากลางอกร่างสูงผงกหัวหงึกๆ แล้วเงยหน้ามองคณินที่จับกรอบหน้าที่มีน้ำตาไหลเปื้อนแก้มเข้าจ้องมอง ก่อนปากน้ำตานั้นด้วยนิ้วหัวแม่มือเบาๆ แล้วส่งยิ้มบางไปให้ ตามด้วยลมหายใจที่เคลื่อนเข้าใกล้แล้วจึงกดริมฝีปากเข้าแนบชิดกับเรียวปากเล็กที่เค็มไปด้วยน้ำตา แล้วผละออกมาห่างเพียงเล็กน้อย

   “พี่โอ๋แล้วนะ อย่าร้องนะครับ”คนเป็นพี่พูดกระซิบใกล้หู ก่อนจะเลื่อนมือไปเชยคางและกดริมฝีปากเล็กให้เผยอออกเล็กน้อย แล้วค่อยๆ ส่งจูบรสหวานแทนที่ด้วยน้ำตาลจากลูกอมผ่านเรียวลิ้นชื้น ที่ดุนดันสัมผัสไปทั่วริมฝีปากเล็ก จนเสียงอื้ออึงดังในลำคอ

   มือเล็กที่เกาะกุมไหล่กว้าง ค่อยๆ เคลื่อนไปคล้องต้นคอของคนตรงหน้า ประสานมือเข้าด้วยกันกอดแน่นไม่ให้หลุด เสียงหายใจถี่ที่หอบประสานบ่งบอกถึงความเร่าร้อนของรสจูบที่ดูดดื่มยิ่งขึ้นจากปลายลิ้นที่เคลือบน้ำตาล กระทั่งสองร่างที่พากันโยนไปบนเตียงกว้างท่ามกลางลูกอมหลากสีที่กระจายไปทั่ว

   จนตอนนี้ขนุนลืมไปซะสนิทว่าตัวเองเพิ่งจะร้องไห้ แต่กลับกลายเป็นอยากร้องไห้ด้วยเหตุผลอื่นมากกว่า จากโพสิชั่นที่อยู่ข้างล่าง เมื่อทุกอย่างมันติดพรึบราวกับไฟลามทุ่ง ขนุนจึงไม่รอช้าปรับตำแหน่งของตัวเองให้อยู่เหนือร่างสูงในท่านั่งคร่อม แม้เสื้อผ้าดูยับยู่แต่นั่นก็ไม่ได้ใส่ใจในตอนนี้ ขนุนอยากจะจัดการกินหัวกินหางคนตรงหน้าที่มากระตุ้นเขาเสียมากกว่า

   คนที่รู้เท่าทันก็ไม่ยักนิ่งเฉย จึงดันตัวลุกนั่งให้ขนุนนั่งในตักหันหน้าเข้าหาซะแทน จัดการส่งจูบรสหวานที่ยังละลายอยู่ในปาก แล้วเข้าบดเบียดเรียวปากที่ฉ่ำวาวนุ่มนิ่ม เสียงหอบหายใจหืดหาดผ่านลำคอขาวที่เชิดรั้งขึ้นด้วยสีหน้าแดงก่ำเต็มไปด้วยอารมณ์ สถานการณ์ตอนนี้ทำคณินสติกระเจิงจนควบคุมตัวเองไม่อยู่

   ทว่ากลับมีเสียงโพล่งขึ้นมาขัดจังหวะเรียกสติของทั้งสองให้หันไปทางประตูใบหน้าหลอหลาตาเบิกกว้าง

   “ทั้งสองคน ทำอะไรกัน! ”












ติดตามตอนต่อไป >>>

-----------------------------------------------


เรียนว่า ตอนหน้าจบแล้วค่ะ

ฝากอุปการะคุณน้องหนุนด้วยนะคะ

แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ



ขอบคุณค่ะ
โดย หลานฮวา




หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 26 **อัปเดตแล้ว**14/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 15-07-2019 07:55:44
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 26 **อัปเดตแล้ว**14/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 15-07-2019 10:09:50
 :L1:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 26 **อัปเดตแล้ว**14/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 15-07-2019 20:47:48
กว่าน้องจะรู้ความจริงเนาะ
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 26 **อัปเดตแล้ว**14/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 15-07-2019 22:11:19
ตัดด
ฉับใครกันนะมาขัดจังหวะ  :ling1:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 16-07-2019 20:57:49





ขนุนลูกที่ 27





   ก๊อก ก็อก!

   “ได้ยินรึเปล่า แม่ถามว่าทำอะไรกัน สองคนไม่ได้ทะเลาะอะไรกันใช่มั้ยแม่เป็นห่วง”เพราะมีเสียงเตียงที่ขยับ และเสียงกล่องลูกอมที่หล่นกระแทกลงพื้นไม้ปาร์เกต์ คนที่มาตามอย่าประภัสสรถึงเข้าใจอะไรไปในทำนองนั้น และท่าทีของขนุนก็ดูแปลกๆ เหมือนไม่เข้าใจกันเธอจึงอดเป็นห่วงสองหนุ่มไม่ได้เลยขึ้นมาตาม

   “เปล่าครับน้าสร เดี๋ยวผมกับขนุนตามลงไปนะครับ ขอเวลาคุยกันอีกนิดนะครับ”

   “หนุนขอเวลาห้านาที เดี๋ยวตามลงไปครับแม่”

   “อื้ม ถ้ายืนยันอย่างนั้น...งั้นแม่ลงไปรอข้างล่าง รีบตามลงมาล่ะ”

   “ครับ / ครับน้าสร”

   เสียงฝีเท้าที่เดินจากไปทำเอาขนุนถึงกับซบหน้าลงกับไหล่กว้างร่างอ่อนระทวย แถมยังบ่นพึมพำอย่างเอาแต่ใจอีก “ถ้าไม่ใช่ที่บ้าน ผมไม่พลาดแน่”

   “ลุกได้แล้วเดี๋ยวทุกคนจะรอ”คณินบีบจมูกเล็กที่งองุ้มทำท่าทีอิดออดที่จะลงจากตัก คณินส่ายหน้าหัวเราะให้กับท่าทีแบบนั้นอย่างช่วยไม่ได้

   “แต่ว่าผม.....”

   “ทำไมอีก”คณินถามอย่างสงสัยที่ขนุนเอาแต่อ้อนเขาไม่ลงจากตักง่ายๆ

   “มันแข็งแล้วอ่ะ.....” ขนุนก้มลงไปมองขนุนน้อยที่ดันตื่นตัวขึ้นมาอย่างกดไม่ลง “ผมต้องไปเอาออกในห้องน้ำ พี่คณินลงไปแล้วบอกแม่ให้หน่อยว่าผมขออาบน้ำก่อน”

   “โกหกผู้ใหญ่มันบาป”

   “ก็ไปทั้งแบบนี้ไม่ได้”ขนุนหรี่ตาหน้าแดงก่ำ จนคณินถึงกับหัวเราะออกมา และจัดการดันเจ้าของห้องให้เข้าห้องน้ำไป แล้วลงมาด้านล่าง โดยมีเหล่าเพื่อนพ้องที่มองคณินตาเขม้น และคาดคั้นถึงเหตุการณ์ชวนสงสัยเพื่อเอาคำตอบให้ได้ คณินเลยเล่าให้ฟังแค่เรื่องที่รู้จักกับแม่ขนุนมาก่อนให้ฟังเท่านั้น

   ตอนนี้เป็นช่วงเวลาของความหิว ทุกคนจึงใช้เวลาช่วงนี้วุ่นอยู่กับการเตรียมอาหารและปาร์ตี้เล็กๆ ที่สวนหน้าบ้านของขนุน โดยมีเมนูปิ้งย่างและบาร์บีคิวเป็นเมนูหลัก ทุกคนแสนขยันช่วยกันเพื่อให้ได้กินไวๆ ถ่านไฟที่คอยประคบประหงมเกือบได้ที่แล้ว บาร์บีคิวเสียบไม้รสเด็ดของแม่ขนุนก็ตระเตรียมไว้พร้อมพรั่ง ปริมาณเพียงพอที่จะรับมือท้องของหนุ่มๆ ที่กำลังหิวได้เป็นอย่างดีที่สุด

   “คิดยังไงถึงอาบน้ำแล้วมากินปิ้งย่าง เดี๋ยวหัวเหม็นยังไงก็ต้องอาบน้ำอีกรอบอยู่ดี”

   “โถ่แม่ ก็คนมันร้อนนี่ครับ”ขนุนเกาคอแก้เก้อปลายหูเผลอแดงออกสื่อ ก่อนรับถาดจากมือแม่มาวางไว้   

   “น้าสรครับให้ผมช่วยทางนี้ดีกว่า ไปนั่งให้สบายเถอะครับ น้าสรเหนื่อยเยอะแล้ว”คณินเอ่ยอาสา ท่าทางเอาจริงเอาจังถึงกับต้องพับแขนเสื้อตัวยาวขึ้น เผยท่อนแขนที่ดูแข็งแรงอย่างคาดไม่ถึงแล้วตรงข้อมือยังมีสร้อยข้อมือที่ดูคุ้นตาซึ่งเป็นของสำคัญที่ใครบางคนให้คณินไว้ในวันเกิด

   เขาใส่มันตลอด ยกเว้นวันที่ต้องทำคลินิก แต่นั่นก็มากเพียงพอที่จะทำให้เจ้าของสร้อยมองแล้วมองอีกจนเขินคนเดียวหน้าร้อนไปหมด

   “ขอบใจนะคณิน”ประภัสสรหันไปพูดกับคณินวางมือไปแตะที่ท่อนแขนขอบคุณ ทว่าสายตาก็เหลือบไปมองลูกชายของตัวเองที่สงสายตากรุ้มกริ่มยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้ใครบางคนจนอยากจะดีดมะกอกใส่ เธอส่ายหน้ายิ้มแล้วกลับไปนั่งให้หนุ่มๆ บริการเครื่องดื่มให้

   “เสียดายจังเลยนะครับ เราไม่ได้พาไข่ดาวมาด้วย ผมว่าไข่ดาวคงสนุก”ขนุนพูดไปก็ช่วยคณินพลิกไม้บาร์บีคิว แอบดูดนิ้วที่โดนซอสแล้วเลียปากชิมรส

   “ไข่ดาวน่ะสนุก ส่วนพี่อ่ะเป็นทุกข์แน่ๆ คิดภาพหมาแสบที่เตลิดจนต้องเรียกคนทั้งบ้านไปช่วยตามหาดูสิ พี่ว่าฝากเลี้ยงอ่ะดีแล้ว”แค่คิดไม่แกรนก็จะกินสมอง

   “เดี๋ยวไข่ดาวก็งอน...นั่นผู้มีพระคุณของผมเลยนะที่ทำให้ได้เจอพี่อ่ะ”ขนุนกางปีกปกป้องไข่ดาวประหนึ่งพ่อสื่อ

   “หึ! เพราะแบบนี้ไง เดี๋ยวนี้เจ้าแสบถึงได้ใจนัก เราอ่ะทำหมาเสียหมา”คนตัวสูงหรี่ตามองคนข้างๆ ที่ตามใจจนไข่ดาวอย่างคาดโทษ

   “ผมเปล่าทำ” พูดไปก็เมินหน้าไปด้านอื่น มือก็หมุนไม้บาร์บีคิวไปจนไม่ได้ดูปลายนิ้วที่เผลอไปจิ้มตรงตะแกรงร้อน “โอ๊ย! ซี๊ดดด!”
   
   “ร้อนเหรอ! ระวังหน่อยสิ”คนเป็นพี่ที่มีสถานะเป็นแฟนรีบหันมาจับมือที่สะบัดไปมาด้วยความร้อนเข้าเป่าทันที

   “ฟู่วๆ เจ็บมากมั้ย พี่ว่าไปทายาก่อนดีกว่า”

   ขนุนมองคนตรงหน้าที่ดูลนลานแล้วเผลอหลุดหัวเราะออกมา “ไกลหัวใจครับ นิดเดียวผมไม่เป็นไรหรอก”

   “แน่ใจนะ? ”

   “ครับ ไม่เป็นไรจริงๆ โดนเป่านิ้วแบบนี้ผมก็หายเจ็บแล้ว แปลกจังเนอะ”พูดแล้วก็ยิ้มจนแก้มปริกับความเป็นห่วงของคนตรงหน้า

   “แฮ่ม! เกรงใจกันบ้าง...”เสียงแผ่วเหมือนพรายกระซิบดังอยู่ด้านหลัง

   “พี่คณินเหนื่อยไหมครับ ผมซับเหงื่อให้”ขนุนถามเตรียมดึงชายเสื้อขึ้นจนเห็นพุงขาวๆ จะซับเหงื่อให้

   “พุงโผล่ ปิดครับพี่หวง”

   “ขอโทษนะครับ! ต้องให้ขากถุยมะถึงจะสนใจกัน! กูยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้นะเว้ย”โจมประท้วงพร้อมแทรกไประหว่างกลางแล้วยื่นจานเปล่าไปตรงหน้าเร่งจะเอาของกิน คณินกับขนุนแอบหัวเราะเพราะก็เห็นอยู่แล้วแต่แกล้งเมินใส่

   “อ้อ เห็นแล้วครับ”ขนุนพูดไปก็หยิบไม้ที่สุกได้ที่ใส่จานให้แต่โดยดี ก่อนจะมีเสียงแหวกอากาศมาเสมือนบ้านตัวเอง

   “รีบๆ เอามาเร็วดิไอ้โจม ทางนี้หิ้ววววว!”เสียงเคาะซ่อมลงกับขอบแก้วน้ำโวยขึ้น และเจ้าของเสียงก็เป็นอนาวินที่นั่งรอเขมือบอย่างจริงจัง

   “พี่วินไม่กินมากไปเหรอ”นิวมองจานเปล่า ทั้งๆ ที่เพิ่งจะเดินไปเติมแท้ๆ

   “สุกแล้ว”คณินเอามาเติมให้อีกหลายไม้ ต้าที่ถือจานรอรีบถลาไปรับทันที พริบตาเดียวหมดไม่มีเหลือ

   ประภัสสรมองเหล่าหนุ่มๆ ที่กินกันอย่างสนุกสนานหยอกล้อหัวเราะครื้นเครง ก็ทำให้เธออดยิ้มออกมาไม่ได้ เสียงครึกครื้นแบบนี้ไม่ค่อยเกิดขึ้นในบ้าน และนานมากแล้วที่เธอไม่ได้เห็นขนุนสนุกเวลาอยู่กับเพื่อนคนอื่นๆ คนเป็นแม่อย่างประภัสสรทำไมจะไม่รู้ว่าอะไรที่เป็นความสุขที่สุดของลูก

   และในที่สุดงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เมื่อถึงเวลากินอิ่มก็ต้องนอนหลับ แน่นอนว่าคืนนี้ทุกคนค้างบ้านขนุนก่อนจะเดินทางกลับในรุ่งเช้า และบ้านของขนุนก็มีห้องพอสำหรับแขกที่มาเยือนเหลือแหล่
 
   โดยแยกให้ต้ากับนิวพักห้องเดียวกัน และห้องที่เหลือก็เป็นของอนาวินและโจมที่จัดแจงไว้ให้ ส่วนคณินแน่นอนว่าขนุนเสนอให้นอนด้วยกัน หลังจากเก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็ทยอยกันกลับห้องไปอาบน้ำนอน มีเพียงสองแม่ลูกที่ยังคงนั่งมองดาวนอกลานหน้าบ้านสองคน มืออุ่นๆ จากคนเป็นแม่วางลงไปบนหัวทุยๆ ที่เอนลงซบไหล่ของเธอ บรรยากาศผ่อนคลายตามประสาอยู่ด้วยกันสองแม่ลูก

   “พรุ่งนี้กลับแล้วใช่มั้ย”

   “ครับ”

   “หนุนเอาพวกของกินเล่นที่แม่เตรียมให้กลับไปด้วยนะครับ เวลาขี้เกียจออกไปข้างนอกก็เปิดเอามากินกับข้าวได้”

   “ที่ห้องหนุนยังมีเหลืออีกเยอะเลยอ่ะแม่ ปลากรอบเอย น้ำพริกเอย”

   “เอาไปเถอะ แบ่งต้ากับนิวด้วยก็ได้ ไหนจะเพื่อนพี่เค้าอีก จะเก็บไว้กินคนเดียวหมดทำไมกันล่ะ”

   “ก็ของอร่อยอย่าบอกใครไง หึ!”

   เธอหัวเราะบีบแก้มขาวๆ อย่างหมั่นไส้ “งกอะไรปานนั้นพ่อคุณ” เธอบนกระปอดกระแปดด้วยรอยยิ้ม

   “แม่ครับ”ท่ามกลางความเงียบจู่ๆ ขนุนก็เอ่ยเรียกขึ้นมา แล้วนั่งตัวตรงเหมือนต้องการจะพูดอะไรบางอย่างที่ดูจริงจัง

   สายตาที่มองมาประภัสสรดูก็รู้ว่าเจ้าลูกชายกำลังจะพูดเรื่องอะไร

   “.....”คนถูกเรียกไม่ได้ขานรับ หากแต่กลับหันหน้ารอฟังสิ่งที่ขนุนจะบอกอย่างตั้งใจ

   “เรื่องที่หนุนบอกแม่ก่อนหน้านี้ว่า.....มีคนที่ชอบจริงๆ จังๆ แล้ว แม่ยังไม่ลืมใช่มั้ย”

   “เรื่องสำคัญแม่จะลืมได้ไง ถามแปลกคน” เธอสบตาขนุนโดยไม่หลบตาแม้แต่น้อย อีกทั้งยังฉีกยิ้มบางรอให้อีกฝ่ายพูดต่อ ไม่ตัดโอกาสหรือกำลังใจใดๆ

   ขนุนกลืนน้ำลายอึกใหญ่สูดหายใจเข้าตัวกลมเป็นลูกโป่งแล้วพูดขึ้น “คือว่า.....แม่จะว่าอะไรไหมถ้าหนุนจะบอกว่าจริงๆ แล้วคนที่หนุนกำลังคบด้วยเป็น...”

   “เป็นผมเองครับ”

   เสียงที่ไม่ได้เล็ดลอดออกมาจากปากของขนุนดังลอยมาจากทางด้านหลัง และคนคนนั้นกำลังเดินมายังโต๊ะรับลบกลางสวนพร้อมกับในมือที่ถือเครื่องดื่มอุ่นๆ มาสองแก้ว แล้ววางไว้ตรงหน้าของประภัสสรและขนุน ก่อนจะนั่งลงในชุดใหม่ที่อาบน้ำเสร็จแล้ว

   “พี่คณิน...”ขนุนอ้าปากเหวอ

   “ผมกับขนุนเราสองคนกำลังคบกันครับน้าสร”

   ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบชั่วครู่ แล้วคณินก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง

   “ผมขอโทษที่ต้องบอกตรงๆ แบบนั้น และหวังว่าน้าสรจะเข้าใจเราสองคนนะครับ” สีหน้าที่พูดออกมาอย่างเถรตรงไม่ปิดบังมองประภัสสรที่นิ่งเงียบ มีเพียงสายตาของเธอที่จ้องมองคณินราวกับเป็นคนแปลกหน้า

   “แม่ ไม่โกรธหนุนใช่มั้ย”หัวใจขนุนแทบเหลวเป็นน้ำเมื่อเห็นท่าทีนิ่งเงียบของผู้เป็นแม่ที่ไม่แม้แต่จะเอ่ยคำใด สีหน้าและแววตาดูเปลี่ยนไปจากเดิมสิ้นเชิงจนในอกของขนุนวูบหวั่นไปหมด

   “คณิน...”ในที่สุดประภัสสรก็เอ่ยชื่อคนที่ต้องการพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังจนเย็นวาบไปหมด

   “ครับ”คณินขานรับอย่างไม่อิดออด เพราะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเขาก็ยังคงยืนยันว่าจะไม่ปล่อยมือจากขนุนแน่นอน

   “รู้ใช่มั้ยว่าน้ามีขนุนเป็นครอบครัวเพียงแค่คนเดียวที่น้ารักมากที่สุด”

   “แม่.....”

   “ผมรู้ครับน้าสร”เสียงหนักแน่นตอบออกไปไม่หลบสายตา

   “ถ้าคณินรู้แล้ว.....ก็ช่วยสัญญากับน้าว่าจะดูแลน้องให้สมกับที่น้ารักของน้าสุดหัวใจได้หรือเปล่า”พลันรอยยิ้มบางๆ ของประภัสสรกลับคลี่ออกแทนสีหน้าเย็นเยียบ ขนุนแปลกใจที่จู่ๆ ท่าทีของแม่เปลี่ยนไป ไม่ต่อว่าเขาสักคำอย่างที่คิดไว้

   “แม่...แม่ไม่โกรธ? ไม่ตกใจเหรอ? ”

   “เด็กโง่ แม่จะโกรธทำไม แล้วเรื่องตกใจก็มีบ้างแต่ก็พอรู้แล้วล่ะตั้งแต่ที่แม่เห็นทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน แม่เป็นแม่น่ะทำไมจะไม่รู้ว่าลูกของแม่คิดอะไร และรู้สึกยังไง หนุนลืมไปแล้วเหรอว่าเราอยู่ด้วยกันมาตลอดทั้งชีวิตไม่เคยห่าง ถ้าแม่จะมาโกรธเพราะหนุนต้องการจะมีความสุขแม่คงเป็นแม่ที่แย่มาก แล้วแม่ก็เคยบอกหนุนแล้วว่าอะไรที่ถูกที่ควร หนุนทำแล้วมีความสุขแม่ก็มีความสุขด้วย”

   คนฟังถึงกับน้ำตาคลอ ขนุนเองก็ไม่ได้เป็นเด็กที่ดีที่เก่งไปซะทุกอย่าง ไม่ได้โชคดีไปซะทุกเรื่อง แต่มีอย่างหนึ่งที่ขนุนไม่เคยอิจฉาใครคือการที่เขามีคนที่รักและห่วงใยที่สุดในโลกอยู่ตรงหน้า

   “ขอบคุณครับแม่”

   และอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุดก็ไม่เคยทอดทิ้งเขาไปไหนเช่นกัน

   “ผมสัญญาครับว่าจะดูแลขนุนให้มีความสุขอย่างที่น้าสรทำ”

   “น้ารู้ว่าคณินทำอย่างที่น้าบอกได้.....แต่! ก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้ตามใจน้องไปซะทุกอย่างหรอกนะ”

   “อ้าวแม่! ไหงจบด้วยการปลั๊ฟลูกตัวเองงี้ล่ะ”ขนุนโวยขึ้นผละออกจากอกคนเป็นแม่หน้าหดเล็ก

   “ก็เรามันดื้อ บางครั้งก็เอาแต่ใจ แถมทำตัวหุนหันพลันแล่น ด่วนตัดสินใจก่อนจะใช้สมองซะอีก จะไม่ให้ห่วงได้ยังไง”

   “โถ่แม่.....แม่ก็รู้ว่าหนุนเชื่องจะตาย”

   “เหรอ? งั้นก็ทำให้ได้อย่างปากบอก เอาเถอะตอนนี้ก็ดึกมากแล้วแม่จะไปนอนแล้วล่ะ”ประภัสสรอ้าปากหาวทำทีง่วงนอนสุดๆ และก่อนที่จะลุกเดินออกไปก็ไม่ลืมหันมาพูดกับใครอีกคน “ขอบใจนะคณินสำหรับนมอุ่นๆ ”

   “ครับน้าสร”คณินยิ้มรับ มองเจ้าของบ้านที่เดินเข้าบ้านไป จากนั้นจึงทิ้งตัวลงนั่งข้างกายขนุนแล้วกอดอกมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่ถอนหายใจราวกับคนหมดเรี่ยวหมดแรงพร้อมกระตุกยิ้มขึ้นพอใจ

   “ทำไมยิ้มกับผมแบบนั้นครับ”

   “พี่รู้สึกเหมือนได้อำนาจสืบทอดอะไรทำนองนั้น”

   “ทั้งตัวและหัวใจผมก็ให้พี่หมดแล้ว เรื่องอื่นก็ทำเป็นมองไม่เห็นบ้างก็ได้นะครับ”คนตาใสเลื่อนก้นเข้าชิดกับคณินแล้วแอบกระแซะๆ ไหล่เข้าไปใกล้อย่างกับลูกหมาขาดความอบอุ่น

   “พี่ง่วงแล้วไปนอนดีกว่า”คณินทำเป็นไม่รับรู้ ลุกขึ้นทันทีหลังจากพูดจบแล้วเดินเข้าบ้านไปในทันที ขนุนมองร่างสูงที่เดินหายเข้าบ้านไปหน้าเหวอ เมื่อได้สติจึงได้รีบลุกและวิ่งตามเข้าบ้านไป

   “พี่คณินอ่ะ รอด้วยสิครับบบบ!”




   “ใครบอกว่าจะนอนไหงเดินสำรวจห้องผมไปทั่วแบบนั้นล่ะครับ”ขนุนที่นั่งมองร่างสูงจากบนเตียงที่เดินเหินไปทั่วห้องของตัวเองอย่างไม่เข้าใจ แถมยังสอดส่องสายตาไปทั่ว

   “ก็พี่อยากรู้ว่าตลอดมาเราอยู่ที่นี่แบบไหน”

   “เดินตรวจอย่างกับคนคุมหอใน”

   “บ่นเหรอ? ”

   “เปล่าครับ มานอนเถอะผมง่วงแล้ว”เจ้าของยิ้มกว้างเอนตัวลงนอนพร้อมกับตบเบาๆ ไปที่หมอนอีกใบ คณินหันไปมองส่ายหน้าหัวเราะให้กับท่าทีแบบนั้น

   “ก็ได้ครับ”คณินใจอ่อน แต่ขณะที่กำลังจะเดินไปปิดสวิตช์ไฟใกล้ประตูห้อง สายตาก็ดันเหลือบหันไปมองเห็นขวดผลิตภัณฑ์บางอย่างที่ตั้งอยู่ตรงโต๊ะกระจกหลังขวดโลชั่นที่ดูเหมือนคุ้นตาจึงเดินไปหยิบมาพลิกดู

   “มีอะไรเหรอครับ? ”

   “นี่มัน? ”

   “อ๋อ เป็นเอสเซ้นส์โลชั่นน่ะครับ สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่ายอ่อนโยนสุดๆ เป็นสินค้าตัวใหม่ของแม่เลย ผมเคยบอกรึยังครับว่าแม่ทำเกี่ยวกับพวกผลิตภัณฑ์พวกนี้ ใช้ดีนะครับบอกต่อเลย”ลูกกตัญญูช่วยพรีเซนท์งานของครอบครัวอย่างภาคภูมิใจ แถมยังลุกเดินมาเปิดลิ้นชักแล้วหยิบหากล่องใหม่ที่ยังไม่เปิดออกมาใช้ยื่นให้คณิน

   “.....”คนรับขมวดคิ้ว แล้วมองหน้าขนุนหยิบขวดที่เปิดใช้แล้วจากมือคณินมาเหยาะลงบนหลังมือของตัวเอง หยดน้ำสีใสแต่มีความหนืดเล็กน้อยลงบนหลังมือขาว ใช้นิ้วชี้วนจนแห้งแต่ทิ้งกลิ่นหอมสดชื่นเอาไว้

   “อันนี้มีกลิ่นอ่อนๆ ของดอกคามิลเลียด้วยนะครับ ใช้แล้วผิวนุ่มมาก”ขนุนยังคงบรรยายต่อไปท่ามกลางความนิ่งงันของคณิน

   แต่จู่ๆ คณินก็คว้ามือของขนุนแล้วยกขึ้นใช้ปลายจมูกสูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆ คณินจำกลิ่นนี้ได้ไม่ลืม ก่อนจะดึงขนุนที่พรีเซ้นส์ผลิตภัณฑ์ได้อย่างยอดเยี่ยมเข้ากอดจมอกโอบเอวขังไว้ในวงแขนแข็งแรง

   “อะไรครับ จู่ๆ ก็...”ขนุนตาวาวกับความดิบเล็กๆ ที่เพิ่งเจอกับตัวเองอย่างไม่เข้าใจ ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเพราะอะไรคณินถึงมองเขาขนาดนั้น แถมยังจ้องซะจนใกล้ใบหน้าขาวเนียนที่ทาแป้งเด็กบางๆ ไม่วางตาอีก

   “ขนุน พี่ถามตรงๆ เราตอบพี่ตรงๆ ”

   “อะ...อะไรครับ”

   “คืนแรกที่เรามีอะไรกัน เจลที่ใช้เราซื้อมารึเปล่า? ”

   “เปล่าครับ”คนตอบเขินแก้มร้อนแอบเกาท้ายทอยแก้เก้อ

   “ถ้าไม่ได้ซื้อ.....งั้นอันนี้ใช่ตัวเดียวกับ.....”

   ขนุนหัวเราะแห้งฉีกยิ้มหน้าตื่นสุดๆ “ก็ชะใช่ครับ” คำตอบที่ได้ทำเอาคณินถึงกับสะอึก

   “ไม่ใช่เจล แต่เป็นเอสเซ้นส์ของน้าสรเหรอ? ”คณินไม่เคยรู้สึกผิดกับใครเท่านี้มาก่อน เขาไม่ทันได้เอะใจว่าสิ่งที่ใช้ในตอนนั้นใช่เจลอย่างที่ขนุนบอกหรือเปล่า อารมณ์มันพาไปคว้าอะไรก็ใช้จนไม่ได้สังเกต

   เขาโดนขนุนต้มจนเปื่อย

   “มันก็แทนกันได้นี่ครับ ลื่นๆ เหมือนกันแถมยังชุ่มชื้นอีก ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรนี่ครับ”ขนุนมองตาใส

   “พี่รู้แต่ว่ามัน.....”ภาพของแม่ขนุนลอยเข้ามาในหัวจนคณินถึงกับกุมขมับ ไม่คิดไม่ฝันว่าต้องมาใช้ผลิตภัณฑ์ผิดประเภทได้ถึงขนาดนี้

   “มัน.....รู้สึกดีมากไม่ใช่เหรอครับ แล้วผมก็เจ็บน้อยด้วยสำหรับครั้งแรกอ่ะ ตอนที่พี่คณินใส่เข้ามาก็ไม่เจ็บมากอย่างที่คิด ผมยังรู้สึกกลัวแต่อันนี้ก็ช่วยชีวิตผมไว้เยอะเลย.....!”คนเล่าเป็นฉากๆ พูดชักแม่น้ำทั้งห้าจนคณินต้องรีบเอามือหยุดปากขนุนไว้ ใบหน้าของคณินเพิ่งเคยร้อนผ่าวยิ่งกว่าอยู่หน้าเตาปิ้งย่างก็คราวนี้

   จะบอกว่ามันจั๊กจี้ที่ฟังเรื่องแบบนี้จากปากของขนุนก็คงจะใช่ ยิ่งดวงตากลมใสนัยน์ตาเหมือนไม่ได้คิดอะไรมันทำให้คณินแพ้.....แพ้อย่างราบคาบเลยทีเดียว มันคือความน่ารักที่สอดไส้ความลามกได้อย่างแนบเนียนจนน่ากลัว

   “เราน่ะ...จะพูดตรงไปไหน แคร์ใจพี่หน่อยเถอะ”คณินเลื่อนมือออกประคองไปที่แก้มขาวแอบหยิกเบาๆ วางสายตาไปที่รอยยิ้มทะเล้นที่ช่วงนี้เขามักเห็นมันบ่อยจนใจจะละลายหมดแล้ว แม้จะรู้อุปนิสัยเถรตรงต่อความรู้สึกของขนุน แต่ก็อดทำใจให้ชิ้นซะทีเดียวเลยก็ไม่ได้

   “ทำไมครับ พี่คณินเขินเหรอ”

   “ให้ตายเหอะ เรานี่มันร้าย”

   “นั่นไง เขินอยู่จริงๆ ด้วย แบบนี้ก็เข้าทางผมน่ะสิ”

   “ไม่ต้องเปลี่ยนประเด็น พี่ควรจะฟ้องน้าสรเรื่องนี้ดีมั้ย”คณินได้ทีเอาคืน

   “อย่านะครับ นะนะนะน้า....”มือขาวเข้ากระตุกเสื้อ ทั้งส่งสายตาวิงวอนพร้อมกับถูแก้มกับอกกว้างอ้อนขั้นสุด เพราะหากแม่รู้ขนุนโดนตีก้นลายแน่

   “งั้นก็จ่ายค่าปิดปาก”คณินเดินไปเลื่อนเก้าอี้ตรงโต๊ะอ่านหนังสือที่กลายเป็นที่สุ่มของสารพันออกมานั่งพิพากษาคดี

   “แน่ใจนะครับว่าจะเอาค่าปิดปาก”ขนุนเลิกคิ้วมองร่างสูงที่นั่งกอดอกไหวไหล่ให้ขนุนแก้ปัญหา
 
   “แน่สิ อย่างน้อยก็เป็นความลับที่เรารู้กันแค่สองคน”คณินหวังว่าเขาจะได้รู้อะไรบางอย่างที่มันพิเศษกว่าคนอื่น

   ขนุนขมวดคิ้วคิด เคาะปลายนิ้วไปที่ริมฝีปากแดงที่เม้มเข้าหากันราวกับเป็นเรื่องยากจนคิ้วยุ่ง ทว่าความคิดหนึ่งก็จุดประกายขึ้น สองเท้าก้าวเร็วไปหยุดอยู่ตรงหน้าคณิน แล้ววาดเท้าขึ้นคร่อมในตักใช้แขนสองข้างเกี่ยวคลองลำคอ ส่งสายตากรุ้มกริ่มเลื่อนใบหน้าเข้ากระซิบใกล้หู

   “งั้นผมกับพี่มาทำเรื่องที่เป็นความลับระหว่างเราสองคนกันดีไหมครับ น่าตื่นเต้นดีออก”

   “นี่คือค่าปิดปาก? ”คณินเผลอหลุดขำ

   “ผมจะปิดปากพี่ให้แน่นเลย”พูดจบขนุนก็จัดการกดริมฝีปากของตัวเองเข้าจูบคนตรงหน้าแนบสนิท มุมปากที่หยักยิ้มกำลังขยับและพยายามชิมรสชาติความหวานของอีกฝ่าย ในเมื่อคนตรงหน้าช่างยั่วเขานัก คณินก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนจะต้านทานขนุนได้ยังไง ไอ้เรื่องเกรงใจเจ้าบ้านมันขาดผึ่งนานไปแล้วตั้งแต่โดนนั่งตัก

   จูบปิดปากที่ดูร้อนแรงบดเบียดริมฝีปากซึ่งกันและกันไม่ห่าง ทั้งลิ้นอุ่นร้อนที่เข้าดุนดันตวัดหยอกล้อเกิดเสียงดูดเม้มริมฝีปากเป็นระยะจนยากจะผละออกจากกัน น้ำใสๆ ไหลซึมตรงมุมปากแต่ก็ถูกละเลียดเช็ดด้วยริมฝีปากนุ่มนิ่มของอีกฝ่าย

   เสียงครางต่ำในลำคอราวกับทั้งสองกำลังอดทนอดกลั้น สะโพกเล็กที่คร่อมเหนือตักเริ่มขยับส่ายไปมาเสียดสีบางอย่างที่กำลังแข็งขืนเข้าหากัน สองมือหนาที่ไม่คิดจะยุ่มย่ามไปมากกว่านี้แต่กลับวางอยู่ที่แผ่นหลังแคบ และเลื่อนไปที่สะโพกกลมราวผลพีชสุกนิ่มลูกใหญ่เต็มมือพร้อมขยำนวดเฟ้นแรงขึ้น

   กระทั่งเสียงหอบหายใจถี่ที่ปลุกเร้าร่างกายให้ร้อนรุ่มก็ข่มไว้ในลำคอ ก่อนจะพากันย้ายไปยังเตียงนอน และจัดการถอดกางเกงตัวบางของขนุนโยนทิ้งไม่ใส่ใจ อะไรจะไปน่ามองกว่าคนตัวขาวที่รอให้เขากินตรงหน้า และดูเหมือนว่าเครื่องของเขามันเริ่มจะร้อนแล้วเหมือนกัน ท้ายที่สุดแล้วความหน้ามืดก็ทำให้คณินต้องหยิบคว้าของบางอย่างเพื่อนำมาใช้แทนเจลหล่อลื่นอีกครั้ง

   ความรู้สึกผิดเก่าไม่ทันหายความรู้สึกผิดใหม่ก็เข้ามาแทน

   ขอโทษครับน้าสร มันฉุกละหุกจริงๆ

   “คราวนี้.....ผมได้ผู้สมรู้ร่วมคิดแล้ว พี่จะไปฟ้องแม่ไม่ได้แล้วนะครับ”เสียงแหบพร่าสั่นเครือในอกเอ่ยขึ้น ปากเล็กขบเม้มริมฝีปากตนเองหนักๆ เมื่อคณินกำลังส่งปลายนิ้วเพียงหนึ่งข้อเข้าชำแรกจีบสวยที่ตอดรัดเขาแน่นไม่คลาย

   “ยังไงก็เจ้าเล่ห์อยู่ดีนะเรา”คณินจัดการปิดปากเล็กที่ช่างเจรจาได้น่ากัด ก่อนจะดันปลายนิ้วเข้าลึกจนกายขาวกระตุกเกร็งสั่นสะท้านเสียวซ่านยกสะโพกลอยไม่ติดเตียง ตามนิ้วหนาที่ดันเข้าวนไปมาและคว้านหาจุดกระสั่นที่อยู่ลึกเข้าไป ทุกอย่างมันลื่นและง่ายขึ้นเมื่อมีเอสเซ้นส์โลชั่น

   “อื้อ...อึก!”

   “เจ็บรึเปล่า”คณินผละจูบจากริมฝีปาก แล้วเข้าขบเม้มเบาๆ ที่ลำคอขาว ไล่มาจนถึงไหล่เล็กผ่านเนื้อผ้า ใช้มือร้อนอีกข้างสอดเข้าใต้เสื้อตัวเก่งลูบขึ้นผ่านสีข้างลำตัวร่างเล็กเข้าสัมผัสสะกิดหยอกเย้ายอดอกเม็ดเล็กที่กำลังแข็งเป็นไตเพราะความเสียวซ่าน อีกครั้งที่ขนุนบิดเร่าด้วยความวาบหวามเอื้อมมือคว้าลำคอของคณินแน่นเข้ากอดแล้วกระซิบ

   “ผะผมรู้สึกดีมาก รีบๆ เถอะครับ...ผมไม่ไหวแล้ว”

   “ก็ลองทำตัวให้น่ากอดกว่านี่สิครับ จะเร่งให้”

   “ทำยังไงให้น่ากอดกว่านี้...แค่นี้ไม่พอเหรอครับ”คนพูดขบเม้มริมฝีปากส่งสายตาหวานเชื่อมอ้อนวอนร่นเสื้อขึ้นเปิดอก จนใจคนมองเต้นระส่ำทำเอาใจคณินแทบกระดอนออกนอนอก

   “พี่ขอห้ามเลยนะ อย่าไปทำสีหน้าท่าทางและส่งสายตาแบบนี้ให้ใครเห็นเด็ดขาด!”

   “ทำไมเหรอครับ”

   “รู้แล้วยังจะถาม”พูดแล้วก็ก้มหน้าไปกัดปลายจมูกของขนุนเบาๆ อย่างหมั่นไส้ คนถูกกัดหัวเราะชอบใจ ก่อนจะใช้จังหวะเย้าหยอกของอีกฝ่ายตะกายขึ้นไปอยู่บนตัวของคณิน สะโพกขาวเปลือยเปล่าที่โด่งรับอยู่กลางอากาศโน้มตัวลงต่ำกำลังจะจัดการส่วนล่างของคนตรงหน้าที่อยากจะหาโอกาสมานานแล้วแต่ถูกหยุดซะทุกที

   แต่ใครจะไปรู้ ว่าจู่ๆ สิบนาทีให้หลังกลับต้องชะงักค้าง เพราะเสียงเคาะประตูรัวๆ หน้าห้องของขนุนชุดใหญ่ไม่เกรงใจเจ้าบ้านแม้แต่เสี้ยวความคิดก็ว่าได้

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก!

   จนทั้งสองต้องผละออกจากกันด้วยจำใจทั้งที่ทุกอย่างกำลังไปได้สวย แม้จะอยากหลับหูหลับตาเดินหน้าต่อแต่ไอ้เสียงเร่งเร้าให้เปิดประตูอยู่หน้าห้องคงไม่สามารถทำอะไรต่อมิอะไรได้อย่างมีความสุขแน่ๆ






   
ต่อด้านล่างค่ะ
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 16-07-2019 21:00:13
ต่อ



ผาง!

   คนที่เดินไปเปิดประตูเป็นคณิน ส่วนขนุนก็นั่งหายใจหืดหาดปรับอารมณ์แทบไม่ทันกับความพังของอารมณ์ที่ถูกขัดจังหวะ ส่วนผู้ที่ยืนอยู่หน้าห้องจะเป็นใครไปไม่ได้หากไม่ใช่เพื่อนพ้องของขนุนและคณิน ที่มีแกนนำหลักอย่างอนาวินยืนโบกกล่องเกมเศรษฐีไปมา

   “ทำอะไรวะกว่าจะมาเปิดประตูโครตรนาน กูเคาะจนมือเจ็บหมดแล้ว”อนาวินนำทีมเดินเข้าไปในห้องขนุนตามด้วยลูกทีมที่เดินพรวดพราดเข้ามาและจับจองหาที่นั่งตรงกลางห้องอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลงใดๆ

   “เดี๋ยว! มึงมาทำอะไรในห้องขนุน”คณินมองเหวอเข้าไปยืนกลางวง

   “เอ้า ก็มาชวนเล่นเกมเศรษฐีไง กูนอนไม่หลับและบังเอิญเจอมันอยู่ในห้องที่กูนอนเลยชวนนิวกับต้ามาเล่นที่ห้องนี้”

   คณินถึงกับคิ้วกระตุกยิ้มสยองไปให้อนาวิน สบถผ่านไรฟันอย่างอาฆาตและอนาวินก็เห็นและรับรู้ แต่อีกฝ่ายกลับยกคิ้วแล้วกระตุกยิ้มร้ายพร้อมกับเขยิบเข้ามาใกล้ มองขนุนที่นั่งแก้มแดงปลั่งสภาพดูไม่น่าจะตื่นจากนอน แล้วมาหยุดสายตาที่เพื่อนสนิทอย่างคณินแล้วพูดขึ้น พร้อมฮัมซาวด์แทร็คท่อนยอดฮิตของภาพยนตร์เรื่อง star wars ช่วงเปิดตัวตัวร้ายอย่าง Darth Vader

   “ดา ดา ดา ด่า ด้า ดา…..หึ! จะทำอะไรหัดเกรงใจเพื่อนฝูงบ้างเว้ย บ้านมันเงียบ และห้องกูก็อยู่ใกล้ห้องขนุนนะครับ”

   “แล้วเวลานี้ใช่เวลามาเล่นเกมเศรษฐีรึไง!”คนรักเพื่อนอย่างคณินถึงกับวางส้นลงบนหลังเท้าเพื่อนตัวดีที่ขวางคอเขาเสียเหลือเกิน

   “ไอ้ขนุน นั่งหนีบขาหนีบแข้งอยู่ทำไม ลงมานั่งเล่นด้วยกันดิวะ”ต้าแหล่ตามองไปยังขนุนที่นั่งห้อยขาอยู่บนเตียง ท่าทางดูยับๆ เยินๆ เหมือนเพิ่งกลิ้งเกลือกบนเตียงไปสิบรอบ

   “เล่นไปเลย เราไม่สะดวก”ขนุนพยายามปรับระดับเสียง ยิ้มให้ดูปกติ

   “หืม? มึงดูหน้าแดงๆ ป่วยไข้ไม่สบายเปล่าวะ”นิวช่างสังเกตมาแต่ไหนแต่ไรหรี่ตามอง ลุกไปอังหน้าผากขนุนดู มันเป็นความคุ้นชินที่จะต้องเป็นห่วง “ตัวมึงก็ไม่ได้ร้อน”

   “ก็เปล่า”

   “เอ๊ะ! อันนี้ขวดเอสเซ้นส์โลชั่นของใครวะ? ”โจมคว้าขวดที่กลิ้งอยู่ตรงพื้นใกล้ๆ เข้าสำรวจมอง ขนุนถึงกับตาเบิกกว้างกลืนน้ำลายอึกใหญ่

   “ของผมเองครับ”

   “พอดีเลย งั้นพี่ขอนิดนะเพิ่งอาบน้ำหน้าแห้งๆ อยู่พอดี”อนาวินคว้าหมับไปจากมือโจมก่อนจะเหยาะน้ำสีใสหนืดลงบนฝ่ามือแล้วลูบไปทั่วหน้า

   “ดะเดี๋ยวครับขวดนั้น.....”ขนุนเหมือนต้องการจะออกปากห้าม แต่ดูจะไม่ทันซะแล้ว

   “สดชื่นดีว่ะ ผิวนุ่มขึ้นมาเลย ลองดูๆ ”แล้วอนาวินก็เริ่มให้ทุกคนได้ลองกันถ้วนหน้า คณินยืนตัวเอียงจนต้องค้ำโต๊ะกลืนน้ำลายไม่รู้จะบอกกล่าวไปอย่างไรดีว่าเอสเซ้นส์ขวดนั้นเข้าเพิ่งจะใช้มันชโลมบางอย่างที่ไม่ใช่หน้าไป

   “ตามสบายเลยพวกมึง อยากจะทำอะไรก็เชิญ”

   จะปฏิเสธอนาวินก็จะดราม่าใส่ เลยต้องจำใจเป็น 1 ใน 5 ผู้เล่น ยกเว้นขนุนที่เลือกนั่งมองอย่างสงบๆ อยู่ข้างหลังของคณินเกยคางอย่างลูกหมาไปที่ไหล่กว้างมองเกมตรงหน้าอย่างเศร้าใจ

   เล่นไปได้ประมาณ 5 นาที ผู้เล่น 1 คนซึ่งก็คือนิวจำต้องออกจากเกมเพราะเริ่มโวยวายหน้างอกับปลายสายที่กดวางไปแล้วประมาณ 3 รอบแต่ก็ยังโทรเข้ามาหาอีกจนขนุนอดแซวไม่ได้ว่าแฟนโทรตาม คนร้อนตัวเลยขอดีดตัวออกจากเกมแล้วกลับห้องไปเคลียร์เรื่องส่วนตัว กระทั่งต้าก็เริ่มง่วงงุนจัดการขายหุ่นเพื่อจบเกม เหลืออนาวินและโจมที่ขาดผู้เล่นเลยตัดสินใจเลิกอย่างยอมแพ้

   “จะตี 1 แล้วกลับๆ ห้องไปนอนได้แล้ว ขนุนก็หลับแล้วเห็นมะ”คณินบุ้ยหน้าไปทางขนุนที่ตอนนี้นอนหนุนตักเขาหลับไปบนพื้น

   “เออๆ เก็บของแปบ”

   “กูช่วยเก็บ”

   “มีน้ำใจ? ”

   “พวกมึงจะได้ออกไปไวๆ ”อนาวินขำ มองคณินที่มีขนุนหนุนหัวอยู่ในตัก และพยายามเอื้อมมือยาวๆ ช่วยเก็บของ ดูระวังกลัวขนุนตื่น เหมือนพ่อลูกอ่อนไม่มีผิด

   “คณิน...พวกกูดีใจกับมึงด้วย”คนก้มหน้าก้มตาเก็บของเงยหน้าขึ้นมอง เพื่อนที่จู่ๆ ก็พูดขึ้น

   “ดีใจ? อะไรวะ”

   “ก็รู้ๆ กัน ยังไงพวกกูก็เป็นเพื่อนที่....ไม่ดีไม่เลว ที่อยากเห็นเพื่อนมีความสุขอีกครั้ง กูชอบสีหน้าอารมณ์ของมึงในตอนนี้มากกว่าแต่ก่อนเยอะ”โจมปิดฝากล่องเกม

   “กูเชียร์ไม่ผิดคนจริงๆ ” อนาวินมองขนุนที่นอนหลับอยู่ “ยังไงก็อย่าลืมบุญคุณกูด้วยล่ะ”

   “กลับไปได้แล้วพวกมึงอ่ะ”

   “แม่งไล่จัง ไปแล้ว”

   “ไอ้วิน ไอ้โจม...ขอบใจพวกมึง”



   ภายหลังจากที่ทุกคนออกไปหมดแล้ว คณินเลยจัดการปลุกขนุนให้ลุกขึ้นไปนอนดีๆ ที่เตียง แต่กลับงัวเงียพลิกตัวเอาหัวไปหนุนแขนตัวเองแทน

   “บนพื้นมันหนาว ปวดหลังด้วย ไปนอนดีๆ บนเตียงครับ”แม้จะตั้งใจส่งเสียงหวานกระซิบข้างหู แต่อีกฝ่ายท่าทางจะรักการนอนมากกว่าอื่นใดในตอนนี้

   “.....”

   “ขนุน.....”แม้จะเรียกชื่อ เขย่าตัวเบาๆ แล้วก็ยังคงไม่มีท่าทีจะลุกไปนอนเอง คณินเลยจัดการสอดมือเข้าให้ร่างเล็กแล้วช้อนอุ้มขึ้นเหมือนเด็กๆ พาไปวางที่เตียงดึงผ้าห่มคลุมตัวให้ถึงอก คณินเดินไปปิดไฟแล้วขึ้นเตียงสอดขาใต้ผ้าห่มเบาๆ และค่อยๆ สอดแขนใต้หัวของขนุนให้ใช้แขนตัวเองต่างหมอน อีกมือก็เข้าโอบเอาคนตัวเล็กเข้าอ้อมกอด กดปลายจมูกหอมหัวสูดกลิ่นแชมพูอ่อนๆ จากกลุ่มผมนุ่ม ขนุนขยับตัวเล็กน้อยเข้าซุกใบหน้าราวกับหาความอุ่น คณินคลี่ยิ้มขยับท่อนแขนกอดความสุขของเขาที่กำลังนอนหลับอย่างถนอม

   จากความคิดที่ไม่เคยรู้สึกกับขนุนไปมากกว่าพี่น้อง แต่วันหนึ่งเขากลับต้องมาหลงขนุนหัวปักหัวปำแบบนี้มันโคตรน่าตลก แต่นั่นแหละคือความจริงที่เป็นไปแล้ว

   โชคชะตามันน่ากลัวจริงๆ 

   เราไม่มีทางรู้ใจตนเองกระทั่งกำลังจะเสียมันไป และนั่นก็จริงอีก คณินเกือบจะเสียขนุนให้ไม้เอก ถึงตอนนั้นเขาเพิ่งจะมารู้ใจตัวเองว่าหากเสียคนคนนี้ความสุขของเขาจะหายไปถึง 99.99 เปอร์เซ็นต์ และคณินก็คิดถูกที่เปิดใจรับขนุนอย่างไม่ตั้งข้อแม้ใดๆ

   “ขอบคุณนะที่ขนุนให้โอกาสพี่ได้มีความรักอีกครั้ง พี่อาจไม่ได้เก่งพอจะปกป้องขนุนทุกเรื่อง แต่พี่สัญญาว่าจะดูแลขนุนให้เหมือนกับดูแลฟันแท้ที่มีแค่ชุดเดียวในชีวิตให้ดีที่สุด”คณินพึมพำกับคนที่หลับ เขาไม่รู้จะเปรียบเทียบความสำคัญของคนตรงหน้ายังไงให้มากพอกับความรู้สึกทั้งหมดของตัวเอง ‘ฟันแท้’ ที่เหมือนรักแท้มีเพียง 1 เดียว คงตอบโจทย์มากที่สุดในตอนนี้

   แต่ใครจะไปรู้ว่าคนที่หลับกลับตื่นขึ้นมาซะอย่างนั้น

   “ถ้าผมเป็นฟันแท้ พี่คณินคงต้องเป็นเหงือกให้ผมแล้วล่ะ เพราะเราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป”พูดจบขนุนก็หัวเราะไหล่สั่น

   “นี่ตื่นเพราะพี่ หรือเพราะไม่ได้หลับ? ”

   “ผมหลับจริงนะ แต่ก็ตื่นตั้งแต่โดนอุ้มแล้วล่ะ”คนสารภาพผงกหัวขึ้น มองใบหน้าคณินผ่านแสงไฟจากโคมไฟดวงเล็กตรงมุมห้องด้วยความสุขใจ

   “เจ้าเล่ห์นะ”

   “ก็อยากรู้ว่าพี่จะทำยังไง ดูแลดีขนาดนี้ผมใจเต้นแรงเลย จับดูสิครับ”

   “แล้วอยากใจเต้นแรงกว่านี้มั้ย”คณินพลิกตัวตะแคงข้างยันศีรษะขึ้นสบตาขนุนโต้ตอบไม่ลดให้ นับวันจะแสบไม่แพ้ไข่ดาว

   “หืมมมม....พูดแบบนี้อย่าให้ผมทายนะครับ ต้านิวบอกว่าผมเป็นพวกคิดบวกเสมอ”

   คณินหัวเราะยื่นปลายนิ้วไปจิ้มจมูกขนุนเบาๆ เป็นการเอ็นดู จะทำแรงก็กลัวจมูกน้อยๆ จะช้ำ “งั้นพี่เฉลย? ”

   “อือ พูดมาเลยครับ อยากรู้เหมือนกันว่าพี่จะทำอะไรให้ผมใจเต้นแรงกว่านี้”

   “วันหยุดครั้งหน้า...ไปภูเก็ตกัน”

   “ห๊ะ! ไปไกลจัง ไปทำไมครับ”ขนุนดีดตัวลุกขึ้นนั่งตาวาว คณินลุกขึ้นเดินไปเปิดไฟแล้วมานั่งประจันหน้ากับขนุนต่อ มองดูสายตาขี้สงสัยแบบขำๆ แล้วเขยิบเข้ากระซิบใกล้ใบหูเล็ก กระตุกยิ้มบางตรงมุมปาก

   มันคือสิ่งที่คณินคิดไว้ก่อนแล้ว แต่ไม่มีโอกาสจะบอกคนตรงหน้า และดูท่าวันนี้ก็เหมาะที่สุด

   “พี่จะพาไปเจอพ่อกับแม่”

   “เจอ?...เหรอครับ!”
   
   “อื้ม...ในฐานะคนสำคัญของครอบครัวพี่ เราอยากจะไปกับพี่รึเปล่า”น้ำเสียงนุ่มทุ้มอยู่ในใจ อบอุ่นจนทำให้ความประหม่าจางหายไปเป็นปลิดทิ้ง

   “พูดแบบนี้ไม่ขอแต่งงานเลยล่ะครับ”

   “งั้นซ้อมแต่งกันตอนนี้เลยมั้ย”คณินตอบกลับพร้อมดึงผ้าห่มขึ้นคลุมครึ่งหัวของขนุน โผล่เพียงกรอบหน้าได้รูปและรอยยิ้มเคอะเขินที่ซ่อนอยู่ภายใต้ดวงตาระยิบระยับซึ่งกำลังจับจ้องใบหน้าหล่อเหลาที่จุดยิ้มกระชากใจขนุน จนก้อนเนื้อในอกเต้นแรงแทบระเบิด
 
   “พี่คณิน ผมเขิน”ขนุนสารภาพจำนนด้วยหลักฐาน ที่แก้มกลมสองข้างแดงระเรื่อไปถึงใบหู

   “ขนุน คุณจะรับคณินเป็นสามีของคุณไหม คุณสัญญาว่าจะซื่อสัตย์ต่อเขา ทั้งในยามสุขและยามยาก ในยามไข้และสบายดี จะรักเขาและให้เกียรติเขาชั่วชีวิตของคุณหรือไม่? ”

   “เดี๋ยวครับ….ละเล่นงี้เลยเหรอครับ”ขนุนมองงงในความเล่นใหญ่ของคนตรงหน้าท่าทีจริงจังจนขนลุก ทว่าคนฟังก็เขินหนักจนหน้าร้อนฉ่าแทบจะมุดเข้าไปใต้ผ้าห่มอยู่แล้ว

   “ว่าไง? ”ปลายนิ้วโป้งแกล้งเกลี่ยขอบตาขนุนเบาๆ กระตุ้นให้เร่งตอบ

   “ให้ผมตอบ...จริงเหรอ ถ้าตกลงงั้นผมก็ไม่ได้เป็นสามีพี่ใช่มั้ย? ” อีกหนึ่งจิตหนึ่งใจก็กลัวลั่นปากไปแล้วไม่สามารถกลับลำได้    

   เป็นสามีก็ไม่ได้เป็นฝ่ายรุกน่ะสิ! ขนุนกังวลในใจไปหลายขุมจนแอบกัดฟันคิดหนัก

   “คำตอบพี่ล่ะ”อีกคนก็เร่งเร้า แต่เพราะกลัวปลาใหญ่หลุดมือมีหรือขนุนจะไม่คว้าไว้ซะก่อน

   “ครับ แต่ว่าผมน่ะอยากรุ.....อุบ”ประโยคเพียงครึ่งถูกกลืนหายเข้าลำคอเพราะจูบปิดปากกะทันหัน

   “พูดมากนา เวลานี้เป็นของพี่ต่างหาก”

   “จะทำเรื่องตื่นเต้นเหรอครับ”

   “ขัดขืน? ”

   “เปล่า สมยอมครับ”

   จนแล้วจนรอด ความรักย่อมชนะทุกสิ่ง แม้ใจจริงจะอยากมีวันทำแต้มปิดเกมด้วยการเป็นฝ่ายนำก็ตาม แต่แค่นี้ขนุนใจกว้างอยู่แล้ว ไม่ได้อยากโวยวายเอาชนะความรักของเขาเพราะเอาเข้าจริงๆ ขนุนก็สมยอมให้คนตรงหน้าไม่อิดออดอยู่แล้ว ทุ่มเทแค่ไหนไม่รักสุดหัวใจคงไม่ยอมกันถึงขนาดนี้

   แต่ถึงอย่างไร...ขนุนก็ยังมีหวังอยู่ว่า

   รับวันนี้ รุกอีกทีวันหน้าก็ไม่สาย!

   คนตัวเล็กใจใหญ่ วาดหวังไว้เช่นนั้น






- E N D -






------------------------------
คงไม่ทิ้งคำว่าติดตามตอนต่อไปไว้แล้วนะคะ เพราะในที่สุดก็จบแล้ว :hao5:

ขอบคุณนักอ่านที่เอ็นดูขนุนตัวละครที่ไม่ถึงกับโดดเด่น แต่ไม่ได้มาเล่นๆ ในเรื่องรักๆ นะคะ ฮ่าๆๆ

ใครอยากพูดคุยควันหลง ใน ทวต.ติด #ขนุนอุ้มหมา มาเมาท์กันได้ค่ะ

หรือตาม ทวต.ได้ที่ @LAANHAWA ได้เลยค่ะ ^^



ขอบคุณอีกครั้งค่t //ไหว้ย่อ.......ละลุกไม่ขึ้น ---เข่าไม่ดี ฮ่าๆๆ

โดย หลานฮวา
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: perzear ที่ 16-07-2019 21:26:59
 :mew1: :mew1:

น้อนนนนนนนนน  น่ารักซะจนอยากอุ้มกลับบ้าน 
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 16-07-2019 21:31:41
 :m20: หื่นไม่ดูเวลากะสถานที่ ต้องมานั่งเล่นเกมเศรษฐีดีมั่ยล่ะ
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 16-07-2019 21:40:29
ขนุนยังคงเป็นขนุน ความขนุนนี่มัน ...>"<
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 16-07-2019 22:14:01
ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ
น้องขนุนน่ารักน่าเอ็นดูปนน่าหมั่นเขี้ยวมาก อยากหยิกแก้มน้อง
พี่คณินก็ดี๊ดี

 :pig4:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Toey0810 ที่ 17-07-2019 00:54:10
น้องขนุนนนนทำไมน่ารักแบบนี้....ขอบคุณสำหรับเรื่องที่สุก และน่ารักแบบนีนะค่ะ อ่านไปอมยิ้มไป อารมณ์ดีก่อนนอนเลย  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 17-07-2019 09:41:35
หนุนลูกกกกกกก
หนูจะอ่อยพี่เค้าแบบนั้นไม่ได้
แม่ใจไม่ดีเลยยยย  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 17-07-2019 10:14:11
ขนุนน่ารักมากกกกกกกก
ความหวานนี้ไม่เกรงใจคนโสดเลยอ่ะ

ปล. ขอบคุณคนเขียนมากนะคะ นิยายสนุกมากกก  :pig4:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 17-07-2019 11:08:01
 :katai2-1: o13 :katai2-1:


 :กอด1: :L2: :pig4: :pig4: :pig4: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Quatree ที่ 19-07-2019 21:28:57
 :pig4: ขนุนน่ารักมาก
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 20-07-2019 06:17:02
ขนุนเจ้าเด็กน่าฟัดดดดดดตั้งแต่ตอนแรกจนจบน่าฟัดไปหมดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 20-07-2019 23:45:48
ขนุนน่ารักมากกกกก
พี่คณินก้ดีมากกอะ ตอนแรกนีกว่าจะนิ่งๆคูลๆ
สรุปก้คือขี้หึงมาก ขี้หวงมาก งอแงด้วยบางที
แต่ก้ลงตัวกันที่สุดแลัว 55555555
ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารักๆแบบนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 21-07-2019 08:58:49
 :pig4:
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: miwmiwzaa ที่ 21-07-2019 16:13:24
ขนุนน่ารัก
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Cappello ที่ 21-07-2019 17:32:46
สนุกค่าาา
อยากอ่านคู่เจ้านิวมากเลย 55555
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Natti ที่ 21-07-2019 20:49:59
ขนุนนี่มันขนุนจริงๆเลย

น้องหนุนน่ารัก น่าหยิก ชอบความพูดเพราะเหมือนหลอกด่าของน้องหนุนอ่ะ เจ็บกว่าใช้คำฟยาบอีก
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 21-07-2019 21:56:17
คนขโมยหมาน่ารักมาก นึกถึงแก้มย้วยๆนั่นได้เลย เจ้าไข่ดาวก็แสบซนไม่เบามีศักดิ์เป็นถึงผู้มีพระคุณของขนุน คณินอบอุ่นดีมากพอยอมรับใจตัวเองก็ออกอาการหึงหนักมาก ไม้เอกกับนิวนี่เชียร์ตั้งแต่เห็นครั้งแรกเลย คู่กัดมันต้องมีอะไรแน่ๆ เพื่อนก็น่ารักกันมากทั้งสองฝั่งเลย ขอบคุณคนเขียนที่ทำให้เราอ่านอย่างมีความสุขเป็นเรื่องที่ฟีลกู้ดมาก
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 21-07-2019 22:11:05
 o13
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: หมูอ้วน_เผด็จเกิร์ล ที่ 23-07-2019 12:50:16
อ่า......คือไม่มีภาคต่อของพี่ไม้เอกกับนิวหรอคะ?  :monkeysad: :mew2:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: heaven13 ที่ 23-07-2019 20:24:50
รักขนุน น่ารักกกก
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: sugarcane_aoi ที่ 26-07-2019 21:41:41
ขนุนน่ารัก น่ากิน อ่านเพลินเลย :pig4:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: tangtey59 ที่ 27-07-2019 08:09:23
ขนุนน่ารักที่สุด ลูกกกก
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 28-07-2019 15:48:36
 o13
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 31-07-2019 00:32:19
ขนุนน่ารัก รุกแรง จีบแรง อ่อยแรงแบบ อ่อยใสใส
อ่าน2รอบละ รอเล่มน้า ชอบที่แต่งทุกเรื่องเลย
รอคู่นั้นนะจะมีมั้ยน้อ
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: ทามากิบ๊อง ที่ 01-08-2019 21:41:20
ขนุนน่ารัก รุกแรง จีบแรง อ่อยแรงแบบ อ่อยใสใส
อ่าน2รอบละ รอเล่มน้า ชอบที่แต่งทุกเรื่องเลย
รอคู่นั้นนะจะมีมั้ยน้อ


ขอบคุณที่เอ็นดูขนุนค่ะ  :-[

หยอดกระปุกรอไว้ได้เลยค่ะ วันละ 1 บาทก็ถือเป็นการวางแผนชีวิต ฮ่าๆๆ

คู่กัดอย่างไม้เอก นิวอาจจะไปโผล่ในตอนพิเศษในเล่มนะคะ แหะๆ  :katai3:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Yumitun ที่ 03-08-2019 21:02:42
ชอบนิสัยแบบขนุนมากค่ะ น่ารักดี มีทั้งความน้อง ความแสบ และความตรงไปตรงมา พี่คณิน แม้ตอนแรกจะยังไม่แน่ใจ แต่พอรักแลวก็เต็มที่เหมือนกัน ผองเพื่อนก็น่ารักดี เป็นนิยายน่ารักอ่านเพลินมากเลยค่ะ

แต่สิ่งที่เราติดใจมีเรื่องเดียว คือเรื่องลูกอม ปกติแล้วเก็บไว้นานๆเป็นปีๆ ถ้าไม่ได้แช่ตู้เย็น มันจะหายไปเหลือแต่ห่อ อาจโดนมดกิน มีโอกาสน้อยมากที่จะเหลือไว้ให้กินได้นะคะ








หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Mayana ที่ 12-08-2019 20:04:06
 o13 o13 o13 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: mhaparn ที่ 26-08-2019 22:53:12
ขนุนลู๊กกกกกกกกก เจ้าเล่ห์แต่น่ารักว๊อย :hao6:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 30-08-2019 06:55:19
ขนุน หวังจะรุกอีกหรอลูก  :hao3:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 01-09-2019 16:12:45
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: samsui ที่ 04-09-2019 19:30:20
 :hao3: :hao3: อ่านรวดเดียวจบเลย สนุกมากๆ
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: sk_bunggi ที่ 09-09-2019 13:27:39
ฮื่อออออออ น้องน่ารัก น้องขี้อ่อย น้องชอบทำตัวร้ายแต่แอ๊บแบ๊ว #ขนุนอุ้มหมา ส่วนพี่คณิณก็ขี้อ่อยไม่แพ้น้องเลยยยย  :hao7:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 15-10-2019 23:06:07
 :pig4: :pig4: :pig4: ขนุนน่ารัก
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: mizzmizz ที่ 23-10-2019 19:36:43
โอ๊ยขนุนลูกกก~ น่าฟัดจริงๆ
ส่วนคนพี่ก็ขี้หึงขี้หวงใช่เล่นเด้
เป็นคู่ที่น่ารักมากๆ เลย
ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารักๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 16-11-2019 20:04:52
อ่านจบแล้วจ้าาา   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: BM_CBC ที่ 04-01-2020 23:30:29
 :pig4:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 15-04-2020 14:30:00
 :pig4:
หัวข้อ: Re: รับขนุนสักลูกไหมครับ ll ขนุนลูกที่ 27 (END) 16/07/2562
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 17-04-2020 05:16:04
 o13