** **
บทที่ 8 บนเตียงไม่ได้มีไว้คุยกัน
“ไปไหนมา!”
“ก็ไปหาเพื่อนไง”
“น้องพี พี่ขอโทษนะ พอดีคุยกันเพลินเลย”
ผมยังคงกอดอกจ้องไอ้พี่กับพี่แพท รุ่นพี่ปี 4 เพื่อนไอ้ พี่อิงที่คุยกระหนุงกระหนิงกันมาสองคน นี่เหรอวะเพื่อนที่ไปหา แม่งไปหาสาวชัดๆ พี่อิงโกหก พี่อิงผิดสัญญา
“พี ทำไมยังไม่หวัดดีแพทอีก”
“โอ๊ย ไม่เป็นไรหรอกอิง คนกันเองทั้งนั้น เราไม่ถือ”
“แต่เราถือ พี!”
ไอ้พี่อิงกดเสียงต่ำทำให้ผมยกมือไหว้พี่แพทอย่างเสียไม่ได้ จริงๆ ผมเป็นคนมีสัมมาคาราวะนะ ไม่ได้แอนตี้โซตัส ผมยินดีไหว้รุ่นพี่ทุกคน แต่วันนี้มันแปลกๆ ผมอารมณ์เสียแปลกๆ ทำไมผมจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองเปลี่ยนไป แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร... ยอมรับแมนๆ เลยครับว่าตอนนี้ผมหวงไอ้พี่อิงโคตรๆ
“เอ่อ อย่าดุน้องเลยอิง เดี๋ยวเราไปก่อนนะ บายจ้ะหนุ่มๆ”
พี่แพทคงเห็นท่าไม่ดีเลยรีบขอตัวไปก่อน ถือว่าดีแล้วครับ เพราะถ้าเกิดพี่เขายังอยู่ ผมคงควบคุมตัวเองไม่ได้ ทำไมพาลแบบนี้วะ งงตัวเอง
“เลิกเรียนรึยัง แล้วนี่กินข้าวยัง”
“เลิกแล้ว แต่ยังไม่ได้กิน”
“อ้าว ทำไมไม่ไปกินกับเพื่อน”
“ก็จะรอกินพร้อมพี่ไงเล่า!”
“แต่พี่กินแล้วอะ ไปเจอเพื่อนตอนกินข้าวพอดี เดี๋ยวกูไปนั่งเป็นเพื่อนมึงก็ดะ...”
“ไม่ต้อง! ไม่หิว! จะกลับบ้าน!”
คอนโด
ผมไม่ยอมให้ไอ้พีมันกลับบ้านครับ โดยใช้ข้ออ้างสารพัดทั้งเรื่องงาน เรื่องเรียน แต่ทุกอย่างนั้นทำภายใต้ความสงบ
ภายนอกผมดูเหมือนจะนิ่ง แต่ความจริงวันนี้เป็นวันที่ผมจับพลังการงอนของไอ้พีได้มากที่สุด แม่งเล่นสะบัดหน้าใส่ทุกห้านาที กูล่ะปวดคอแทน
พอมาถึงคอนโด มันก็เดินฮึดฮัดเข้าห้องนอนปิดประตูดังตึง แบบนี้ผมคงแกล้งตีมึนให้มันหายเองไม่ได้แล้วล่ะครับ ไอ้พีมันนอนหันหลังให้ทันทีที่ผมเปิดเข้าไป ผมเลยไปนั่งบนเตียงฝั่งที่นอนประจำ
“เป็นอะไร ไหนหันมาคุยกันดีๆ ซิ”
“เปล่า”
“มึงแน่ใจนะ”
“เออ”
“พูดเออกับผู้ใหญ่ เดี๋ยวตีปาก”
“หึ”
“สรุปจะไม่พูดใช่มั้ย”
“...”
“เพราะบนเตียงสำหรับกูมันไม่ได้มีไว้คุยกัน”
P Part
แล้วไอ้พีก็แพ้ทางไอ้พี่อิงอย่างทุกที
แค่พี่มันเริ่มหนึ่ง คนที่สานต่อสองสามก็คือตัวเขาเอง อย่างว่าคนมันเคยๆ ร่างกายที่เข้ากันได้ดียิ่งกว่าน้ำมันกับไฟ ขอแค่สะกิดมันก็พร้อมลุกโชนขึ้นอยู่แล้ว
เกลียดไฟร่านในตัวเองจริงๆ เลย
ตอนนี้ผมเลยต้องนอนหอบแฮกๆ อย่างกับหมาหอบแดด ในขณะที่ไอ้ตัวต้นเหตุนอนเล่นผมของผมอย่างชิวๆ
"ทำไมวันนี้เหนื่อยไว รอบเดียวเองนะ"
"ไม่รู้"
ผมตอบติดเสียงจะตึงหน่อย งอนเรื่องเก่า ยังต้องมาเคืองเรื่องใหม่อีก พี่มันไม่เคยถนอมผมเลย (แต่ปกติก็ไม่เคยต้องการความอ่อนโยน) ถ้าผมไม่ดิ้นจนหลุดก็คงมีต่อยกสอง แต่วันนี้รู้สึกเหนื่อยแปลกๆ มันเพลียมากกว่าทุกวัน สงสัยต้องหาเวลาไปฟิตเนสแล้วล่ะมั้ง
"พี งอนอะไรพี่ ไหนบอกพี่สิคะ"
ไอ้พี่อิงมันเกลี่ยผมที่ปกหน้า ก่อนจะจ้องตา จ้องแบบที่ผมไม่สามารถหันหนีได้อีกแล้ว ยิ่งคำพูดคำจายิ่งทำให้ผมแพ้มันเข้าไปอีก ใครจะไม่ชอบคนพูดเพราะล่ะจริงมั้ย เข้าใจฟีลสาวน้อยที่แพ้ผู้ชายพูดคะเลย
เอ๊ะ แล้วทำไมกูต้องเปรียบตัวเองเป็นสาวด้วยวะ
"ก็พี่ทิ้งพีอะ"
"กูไปทิ้งมึงตอนไหนเนี่ย"
"ไม่ต้องมาพูดเลย แถมยังหนีไปกินข้าวก่อนอีก!"
"อ้าว"
"ไม่ต้องมาอ้าว!"
แค่คิดน้ำตาก็พาลจะไหลอีกแล้ว ฮึก ทำไมกูอ่อนไหวง่ายงี้วะ แม่งง
"โอเคๆ พี่ขอโทษ อย่าร้องนะ พี่แค่ไม่อยากให้คนอื่นมองพีว่าเป็นเด็กไม่น่ารักแค่นั้นเอง"
ดีแล้วไอ้พี่ที่มึงยอมแพ้ ไม่งั้นกูได้ร้องไห้จริงๆ แน่ ไม่มีคำพูดอะไรต่อจากนั้น ผมเพียงแต่หลับตาแล้วเขยิบเข้าไปซุกอกพี่มัน ผมชอบไออุ่นจากตัวคนที่รู้สึกได้จากการสัมผัส มันอุ่นกว่าผ้า แล้วมันก็อุ่นที่ใจด้วย
การเฟดตัวออกมาจากการเป็นนักศึกษาธรรมดามาเป็นนักแสดง ทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง อย่างแรกเลยคือสังคมใหม่ เพื่อนใหม่ ด้วยงานทำให้ผมจำเป็นต้องห่างจากกลุ่มเพื่อนสนิท ตอนแรกผมรู้สึกเคว้งคว้างมากครับ เพราะเข้ามาวงการใหม่ๆ เราก็ยังไม่รู้จักใคร โชคดีที่มีพี่อิงที่มาจากที่เดียวกัน ถึงความสัมพันธ์เดิมผมจะหมั่นไส้ความขี้เก๊กของเขาก็เถอะ พี่อิงเลยเป็นที่ยึดเหนี่ยวสำคัญในโลกใบใหม่ของผม
ขณะที่ผมกำลังคิดอะไรเพลินๆ มือไอ้คนข้างๆ ก็วนเวียนมาลูบไล้ที่ต้นขาจนขนอ่อนแถวนั้นมันลุกเกรียว
มันจะเอาอีกแล้วไอ้พี่!
"พี่ อย่าสิ พีเหนื่อยนะ"
"หมดเวลาพักครึ่งแล้ว"
"ฮื่อ พักครึ่งบ้าอะไรล่ะ ไม่เอา เหนื่อยจริงๆ"
ไอ้พี่อิงเป็นคนดื้อเงียบ และถ้าจะเอา มันก็จะดื้อเอาให้ได้
"อะ ...เบาหน่อย"
ไปไงมาไงกลายเป็นมาผมนอนชันเข่าให้พี่มันเข้ามารังแกพีน้อยจนได้ แถมวันนี้ไอ้พี่มันยังแปลงร่างเป็นหมาบ้า กัดช่วงล่างผมจนเจ็บไปหมด
"จะให้เบาจริงเหรอ"
"ฮื่ออ อย่าแกล้งดิวะพี่"
ใครสั่งใครสอนให้ถามแบบนี้ตอนที่ลิ้นแตะตรงนั้นล่ะโว้ย! ผมดิ้นอีกครั้งเมื่อพี่มันเริ่มปฏิบัติการหยอกเย้าพีน้อยต่อ ผมขยำผ้าปูที่นอนแน่นเพราะพี่อิงเริ่มเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ช่องทางฉ่ำน้ำ ผมหอบหายใจเฮือกใหญ่เมื่ออีกคนเริ่มใช้อาวุธของมันถูไถที่ปากทางเข้าก่อนจะค่อยๆ กดแทรกเข้ามา
"เฮือก ยะ...อย่าเพิ่ง"
ผมรู้สึกเหมือนจะควบคุมตัวเองไม่ได้เลย บางอย่างกำลังตีขึ้นมาที่คอหอย พร้อมจะดันออก
"พี..."
"พี่อิงหยุด อุ๊บ!"
เท้าไปไวกว่าความคิด ผมยกเท้าถีบพี่อิงจนตกเตียง ก่อนจะลุกพรวดวิ่งไปโก่งคออ้วกในห้องน้ำ ผมจะไม่ยอมให้ผ้าปูที่นอนเปื้อนอะไรนอกจากคราบคาวโลกีย์เด็ดขาด เพราะกูเป็นคนซัก
"เฮ้ย! พีเป็นอะไรวะ"
"ไม่...รู้...อึก โอ้กกก"