[Omegaverse] ++Ai Adore You. #ขอรักแค่คุณ ++เปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้-30เมษา p49
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Omegaverse] ++Ai Adore You. #ขอรักแค่คุณ ++เปิดพรีออเดอร์แล้ววันนี้-30เมษา p49  (อ่าน 267065 ครั้ง)

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
สะใจอิตาพิษร้องไห้  :laugh: :laugh:
น้องอัยย์น่ารักเต็มสิบเลยรูกกก
เรื่องต่อมาต้องเป็นแผนคุณพ่อหรือป่าวว หรือเรื่องพรรค
โอยย พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกจิงๆ  :mew5:

ออฟไลน์ Morgen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สงสารน้องอัยย์ แต่ชอบเรื่องนี้มากๆค่ะคุณนักเขียนมาแต่งต่ออีกน้า. อยาก้ว่าเรื่องจะเป็นยังไงต่อ  น้องจะยังเ็นหมากอยู่มั้ย

ออฟไลน์ mickeyz.min

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
รอตอนต่อไป :ling1:

ออฟไลน์ เขมกันต์

  • nothing’s else I can say
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +164/-9
    • Twitter
พระเอกเราอ่อนลงเยอะเลย พอได้รักแล้วอะไรก็ใจอ่อนไปหมดเลยใช่มั้ย รอน้องทำรังใหญ่ๆ ค่า

ออฟไลน์ ตุยชิคชิค

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
น้องอ้อนมากแงงง  :katai1: :katai2-1: :hao5:

ออฟไลน์ Kimmoominn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เพิ่งมาอ่านเจอเรื่องนี้ คือแบบว่ามันดีมากกกกก น้องน่ารักมุมิมาก กินเก่งกินจุ แถมดื้ออีกด้วย จริงๆ สงสารทั้งตัวน้องเอง เข้าใจความรู้สึกนะที่น้องคิดว่าตัวเองเป็นหมากให้คนนู้นคนนี้ เพราะไม่มีใครพูดความห่วงใยที่มีกับเจ้าตัวแบบตรงๆ ไง ทั้งที่บ้านและตอนที่มาอยู่กับคุณพิชช์ด้วย ก็เลยระแวงไปหมด อยากจะหนีไปมีอิสระจนเกือบเอาตัวไม่รอดแล้วลูกเอ้ย ขวัญเอ๊ยขวัญมา ต่อไปนี้ก็ขอให้เชื่อใจกันนะ ไม่ว่าจะเจออะไร แค่เชื่อใจกัน รับฟัง แล้วทุกอย่างมันจะคลี่คลายไปเองนะลูก แง คุณนักเขียนก็สู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ จะรออ่านตอนถัดไปด้วยใจจดจ่อเลย

ออฟไลน์ nkl31

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ต้องโดดจากตอน23 มาอ่าน 26 ก่อน กลัวน้องไม่ปลอดภัย เดี๋ยวย้อนกลับอ่าน สนุกมากๆเลยค่าา คงไม่มีดราม่าอีกแล้วใช่มั้ยคะ ทำใจไม่ได้ 5555555555

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
ปรับความเข้าใจกันได้ก็ดี

ออฟไลน์ beindependence

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
เจ้าบู้บี้สู้ๆ เค้าค่ะลูกกกกก  ต้องเป็นโอเมก้าหมายเลขหนึ่งให้ได้นะคร๊าาาา  :mew1:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ pe-ar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
 o18ลุ้นมากชอยบมากกก เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ สนุกมากกก เอาใจช่วยเจ้าบู้บี้กับคุณพิษนะคะ หลังจากนี้จะมีอะอีกมั้ยนะ กำลังท้องด้วย ลำบากแย่เลย แต่อยากเห็นฉากแบบคุพิษ แพ้ท้องหนักๆป่วยๆเพลียๆแต่ยัยน้องร่าเริงสนุกสนาน แต่สุดท้ายก็กลับมาคอยดูแลคุณพิษที่นอนซมเพราะแพ้ท้องแทนตัวเอง

ออฟไลน์ cinpetals

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
คดีเก่าเพิ่งจบ จะมาใหม่อีกแล้วเหรออออ :ling3:

ออฟไลน์ JaikOrn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สนุกมากค่ะ กว่าจะมาถึงเข้าใจกันได้ อ่านลุ้นมาตลอดทาง เอ็นดูเจ้าบู้บี้จังค่ะ // อยากเห็นบู้บี้เป็นคุณแม่แล้วค่ะ ส่วนคุณพิษนั้นเตรียมเข้าสมาคมพ่อบ้านใจกล้าไว้เลยมั้ยคะ :impress2:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
สงสารอัยย์

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
อ่านรวดเดียวถึงตอนปจบ.เลยค่ะ อ่านเพลินมาก สนุกมาก
แรกๆคือโอ๋น้องอัยย์หนักมาก คุณพิษคือโดนเพ่งเล็งมาก
จะทำอะไรน้อง! นี่จะเอาน้องไปเป็นเหยื่อล่อหรอ! หลอกน้องอีกแล้ว!
แต่จะสังเกตได้เลนว่าต่อให้จะหลอกหรืออะไร แต่ทุกอย่างที่มีน้องไปเกี่ยวข้อง คุณเค้าวางแผนละเอียด รอบครอบ และรัดกุมมากๆแบบที่ไม่ไว้ใจให้คนอื่นทำแทนเลยอะ ไม่รู้ว่าด้วยสถานะน้องที่เป็นเหมือน เชลยศักดิ์ มากกว่าเป็นตัวประกันด้วยหรือป่าว
แต่คือมองออกเลยค่ะว่าแพ้ทางน้องกันหมดเลยทั้งบ้าน ไม่เว้นแม้แต่คนเดียว

จนมาถึงช่วงที่น้องเริ่มดื้อ นี่คือกำไม้เรียวแน่นมาก แบบน้องอัยย์คะ กลับบ้านเดี๋ยวนี้นะคะ!
แต่อีกใจคือรู้แหละว่าถ้าไม่ไปเจอ’โลกจริงๆ’บ้าง น้องก้จะไม่โต
และความใสซื่อขนาดนั้นจะยืนอยู่ข้างคุณพิษก้จะลำบาก ไม่มีใครมาคิยดูน้องได้ตลอดอะ
ต่อให้คุณเค้ายอมทุกอย่างแม้แต่ออกจากวงการเมือง แต่ของแบบนี้ก้รู้กันอยู้ว่าออกไปก้ไม่พ้นอะ
เพราะฉะนั้นยังไงน้องก้ต้องโตขึ้น ต้องทันโลก ทันคนมากขึ้น ถึงจะยืนอยู่ตรงนี้ได้ด้วยตนเอง

ส่วนเรื่องพ่อน้อง บางทีก้สงสัยว่ารักน้องจริงๆบ้างมั้ยนะ
แต่พอมาคิดดี จะพบว่า รัก อาจจะไม่ได้มาก แต่รักในแบบของเค้า แบบที่น้องจะปลอดภัยมากที่สุด
นี่ว่าการที่ไม่ยอมบอกคนอื่นว่ามีน้องอัยย์ที่เป็นโอเมก้าเป็นลูกนอกจากรักษาชื่อเสียงตระกูล ก้ถือว่าโปรเทคน้องได้ระดับนึงเลยนะ ลองคิดว่า ตระกูลผู้ดีอัลฟาเลือดบริสุทธิ์เก่า+พ่อเป็นนายกที่มีอำนาจในปจบ+พี่คนโตทำงานในสภา+พี่สาวคนรองแต่งกับครอบครัวที่เป็นแหล่งเงินชั้นเยี่ยม+พี่ชายฝาแฝดมีชื่อเสียงและพื้นที่สื่อมากพอสมควร+น้องเป็นโอเมก้าซึ่งท้องได้
คนที่เข้าหาน้องตลอดทั้งชีวิตถ้ารับรู้การมีอยู่นี้คือ = ผลประโยชน์ที่จะเกี่ยวดองกับตระกูลนี้อะ
บางทีการที่น้องมีชีวิตสงบๆ อยากเรียนอะไรก้มีคนมาสอน อยากได้อะไรก้มีคนหามาให้แบบนี้
อาจจะดีกว่าการต้องตกอยู่ในวงผลประโยชน์ตั้งแต่แรกเลยก้ได้ แบบกันน้องออกมาให้ไกลที่สุดอะ
แต่ก้อย่างว่าว่ารัก แต่อาจจะไม่ได้มากขนาดนั้น ถึงได้ให้น้องแต่งงานเพื่อเป็นหมากของตัวเอง
แต่ก้คงไว้ใจ+เชื่อใจลูกตัวเองพอสมควรเลยนะ ถึงได้ยอมให้น้องไปอยู่กลางดงศัตรูแบบนั้นอะ
นี่ก้ไม่รู้ว่าผิดหรือถูกที่เดาๆมา แต่ขอคิดในแง่ดีว่าพ่อยังรักน้องอยู่บ้างละกันค่ะ 5555
รอตอนต่อไปนะคะะ

ออฟไลน์ มนุษย์บิน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
เข้าใจอัยย์เลยนะใครว่าอัยย์นี่ต้องคิดนะว่าทำไมอัยย์ทำแบบนั้นกล้าหนีแบบนั้น ลองคิดสภาพคนที่โดนขังในบ้านเด็กจนโตเป็นยี่สิบปีเลยนะเฟ้ยยยยยย ไม่รู้แบบจริงๆด้วยซ้ำสภาพภายนอกโลกความจริงเป็นไง ถูกตีกรอบไว้หมดทุกด้าน แถมมืดแปดด้านตอนนั้นดันมาเจอสามีตัวเองกับชะนีอื่นอีกเอาจริงใครไม่สติแตกวะ ขนาดคนปกติยังสติแตกนี่นับประสาอะไรกับลูกนกในกรงทองอยู่ในกรงมาตลอด แต่หวังว่าหลังจากเหตุการณ์นี้อัยย์จะโตขึ้นนะ จริงๆอัยย์เป็นคน)ลาดมีดีเยอะเลยหวังว่าถ้านายพิษฌานได้ขึ้นเป็นนายกอัยย์จะได้ทำอะไรเพื่อสังคมโอเมก้าเปลี่ยนประเทศขึ้นมาจริงๆ แต่ที่อยากรู้มากกว่านั้นคือความรู้สึกพ่อของอัยย์อยากอ่านพาร์ทนางบางนี่ว่านางรักลูกมากนะดีไม่ดีคนที่นางรักและห่วงสุดก็คืออัยย์เนี่ยแหละ มาลุ้นกันว่ารักนางจะจอมปลอมไหม

ออฟไลน์ AkiraRyusuke

  • Don't judge people by their looks
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
    • -
แม่น่ารักขนาดนี้เบบี๋จะขนาดไหนนะ  รอต่อไปค่ะ สนุกมากๆๆ

ออฟไลน์ zeit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
สนุก น่าติดตาม
ในเรื่องการเมืองน่าลุ้นจะเป็นยังไง
อัยย์ฉลาดขากเพียงประสบการณ์การเจอผู้คน การทันคน
แล้วมาอยู่หมู่อัลฟ่าที่มองเป็นเกมการเมืองด้วยแล้ว
เข้าใจว่ามันยากจะเข้าใจ
แต่อย่างน้อยความเลือมล้ำมันมีอยู่จริง
ความโชคดีในความโชคร้าย ที่เกิดในตระกูลดี ทำให้ไม่ลำบาก แต่ขาดอิสระ
ได้อย่างเสียอย่าง

ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk
Ai Adore You.

#ขอรักแค่คุณ

ตอนที่ 27



 

 

 

 

 

 

            “ผูกคอตายเองงั้นหรือ”  พิชช์ฌานพูดอย่างครุ่นคิด  เหลือบตามองเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยที่มีร่างโปร่งบางของอาคิราห์นอนหลับสนิทอยู่  “ฉันว่าคนอย่างมันไม่น่าจะฆ่าตัวตายได้นะ  น่าจะโดนฆ่าตัดตอนมากกว่า”

            “ผมก็คิดว่าอย่างนั้นครับคุณฌาน”  เจนภพรับคำ  “ภาพจากกล้องวงจรปิดก็ไม่เจออะไรเลย  คนลงมือน่าจะเป็นพวกมืออาชีพ”

            “เรื่องนี้ชักจะน่าสงสัยมากกว่าเดิมแล้วนะเจนภพ  ตอนแรกฉันก็ยังไม่แน่ใจเท่าไหร่  แต่ว่าตอนนี้เริ่มชัดแล้วล่ะ ..นายจักรกฤตคงเป็นเพียงแค่หมากตัวเล็กๆในเกมนี้ไปแล้ว  ประเด็นก็คือเรายังไม่รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังที่แท้จริงกันแน่”  พิชช์ฌานถอนหายใจยาว  “ลองไปค้นบ้านของจักรกฤตดูมั้ย  น่าจะเจออะไรเพิ่มเติมนะ”

            “ผมกำลังจะรายงานเลยครับ  เราสืบพบว่าโอเมก้าที่ชื่อนิล  คนที่เข้าไปช่วยคุณอาคิราห์  คุณฌานจำได้ไหมครับ   เขาเคยอยู่ในบ้านของนายจักรกฤตมาก่อนครับ”  เจนภพส่งแฟ้มที่มีภาพใบหน้าของโอเมก้าคนนั้นมาให้  “ชื่อจริงของเขาคือนิลลา  เคยทำงานอยู่ในบ่อนของนายจักรกฤตด้วย”

            พิชช์ฌานดีดนิ้วเปาะ

            “งั้นให้นิลลาช่วยหาหลักฐานให้เราสิ”

            “ผมพยายามเกลี้ยกล่อมอยู่ครับ  แต่ว่าโอเมก้าคนนี้ดูจะไม่ให้ความร่วมมือกับเราเลย  อาจจะต้องให้คุณอาคิราห์ช่วย”

            “นิลลาคนนี้ไว้ใจได้มากแค่ไหน  ฉันไม่อยากให้เข้าใกล้อาคิราห์มากเกินไปถ้ายังไม่แน่ใจ  ไม่รู้ว่าที่เข้ามาช่วยอาคิราห์ตอนนั้นอาจจะหวังผลอะไรหรือเปล่า”  นักการเมืองหนุ่มพูดช้าๆ  “เอาอย่างนี้ดีกว่า  ฉันขอพบนิลลาก่อน”

            “ได้ครับคุณฌาน  เป็นวันพรุ่งนี้ก่อนที่จะกลับดีไหมครับ”

            “อย่าลืมนัดของธีรดลกับท่านผู้ว่าฯด้วย  ฉันต้องแวะไปขอบคุณเค้าก่อนกลับ”

            “ครับคุณฌาน”

            “หมดเรื่องที่จะรายงานแล้วใช่มั้ย”  คนพูดอยากกลับเข้าไปในห้องเต็มที  คิดถึงเนื้อตัวนุ่มนิ่มของเจ้าโอเมก้าจะแย่อยู่แล้ว

            มือขวาคนสนิทอึกอัก  คนเป็นนายดูออกทันที

            “มีเรื่องอะไรอีก  รีบบอกมาเร็ว”

            “คือ...คุณนายฝากบอกมาว่าอยากพบคุณฌานครับ”  เจนภพกลืนน้ำลายลงคอ  “น่าจะเรื่องที่ข่าวออกไปว่าคุณอัยย์ตั้งท้อง”

            “กะแล้วเชียว”  พิชช์ฌานพึมพำ  โบกมือให้มือขวาอย่างไม่ใส่ใจนัก  “ไม่เป็นไร  เรื่องนั้นฉันจัดการเอง  นายไปหาหลักฐานของนายจักรกฤตเพิ่มเติมเถอะ”

            พิชช์ฌานกลับเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย  เจ้าโอเมก้าดึงตัวลุกขึ้นมานั่งขยี้ตาบนเตียง

            “นอนต่อสิ  ลุกขึ้นมาทำไม”

            “คุณไปไหนมา”

            “ถามเหมือนภรรยาระแวงสามีเลยนะ”  ชายหนุ่มพูดกลั้วหัวเราะ  “ฉันออกไปคุยกับเจนภพมา  เรื่องการเดินทางกลับพรุ่งนี้”  เขาบอกความจริงเพียงครึ่งเดียว  อีกฝ่ายพยักหน้าเนิบๆแล้วล้มตัวลงนอนต่อ  พิชช์ฌานช่วยดึงผ้าห่มคลุมให้เหมือนเดิมแล้ววางมือลงบนศีรษะทุยสวยนั้น  “นอนได้แล้ว”

            “เหลือที่ว่างบนนี้อีกนะ”  อาคิราห์พูดลอยๆ  สบตาคมกริบในความมืดสลัวแวบหนึ่งแล้วก็พลิกตัวหันหลังให้  ได้ยินเสียงหัวเราะห้าวๆดังขึ้นเบาๆตามด้วยเสียงเอียดอาดและเตียงยวบลงตามน้ำหนักตัวของคนที่ขยับขึ้นมานอนด้วยจนได้

            “เดี๋ยวก็ตกเตียงหรอก  ขยับเข้ามาอีกสิ”  เสียงอู้อี้ดังขึ้นอีก

            อัลฟ่ายิ้มกว้าง  เอื้อมมือไปรั้งร่างโปร่งบางในชุดคนไข้มาสวมกอดเอาไว้ทั้งตัว  ฝังจมูกเข้ากับซอกคอหอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นหอมหวานที่คุ้นเคย  เจ้าโอเมก้าขยับตัวยุกยิกจนได้ท่าที่สบายก็หลับตาพริ้ม  ผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว  ทิ้งให้อัลฟ่าอย่างเขานอนลืมตาโพลงคิดเรื่องนู้นเรื่องนี้ต่ออยู่คนเดียว

            เช้าวันรุ่งขึ้นพิชช์ฌานปล่อยให้อาคิราห์เก็บของเตรียมตัวออกจากโรงพยาบาล  ส่วนตัวเขาแวบออกไปพบกับนิลลา  โอเมก้าที่เข้าไปช่วยอาคิราห์เอาไว้  นิลลาเป็นโอเมก้าตัวเล็กๆแกนๆเหมือนขาดสารอาหาร  หน้าตาซูบตอบจนเห็นโหนกแก้มขึ้นชัด  ผิวพรรณก็ซีดเซียวไม่สดใสเหมือนคนในวัยเดียวกัน

            “คุณคือพิชช์ฌาน  สามีของอาคิราห์”  ฝ่ายนั้นพูดขึ้นหลังจากที่ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้าไปในห้องพักเล็กๆของโรงพยาบาลอีกแห่งที่อยู่ไม่ห่างไปนัก

            “ยินดีที่ได้รู้จักเธอ  นิลลา  ฉันอยากจะมาขอบคุณที่ช่วยอาคิราห์เอาไว้”  พิชช์ฌานพูดขึ้น  สังเกตเห็นว่านัยน์ตาเรียวยาวของอีกฝ่ายดูสนใจขึ้นเล็กน้อย  “ถ้าไม่ได้เธอกับแทมมี่  ก็ไม่รู้ว่าอาคิราห์จะเป็นอย่างไรบ้าง”

            “อาคิราห์เป็นไงบ้าง  เค้าไม่ได้มาด้วยเหรอ”

            “ไม่ได้มาด้วย”

            “เค้าเป็นโอเมก้าที่โชคดี”  อีกฝ่ายตอบ  “ฉันดีใจที่เค้าไม่เป็นอะไร”

            “เธอช่วยอาคิราห์จากนายจักรกฤตสินะ”

            เจ้าโอเมก้าขยับตัว  เมินหน้าไม่สบตาเขา

            “..เธอ...รู้จักจักรกฤตใช่มั้ย”  พิชช์ฌานถามต่อมาอีกด้วยเสียงนุ่มๆ พยายามไม่กดดันอีกฝ่ายมากเกินไป  “ฉันแค่อยากบอก  ว่าจักรกฤตตายแล้วเมื่อคืน”

            “จริงหรอ”  แววดีใจปรากฏขึ้นวูบหนึ่งในดวงตาของโอเมก้า  พิชช์ฌานซ่อนยิ้มอย่างพอใจ

            “ใช่  เขาผูกคอตายในห้องขัง”

            “สาสมแล้ว”  นิลลาพูดขึ้นหลังจากเงียบไปนาน  “คนอย่างมันควรจะตกนรกไม่ได้ผุดได้เกิดอีก”

            “เธอเคยอยู่บ้านของนายจักรกฤตมาก่อนใช่มั้ย”  พิชช์ฌานถามต่ออย่างระมัดระวัง  รู้สึกได้ว่าท่าทางของอีกฝ่ายดูหวาดระแวงขึ้นมาทันที

            “คุณถามทำไม”  นิลถามเสียงห้วน

            “ฉันไม่ได้จะทำอะไรเธอนะนิลลา  ฉันถามเพราะรู้มาว่านายจักรกฤตทารุณโอเมก้ามานานแล้ว  เขากับพวกควรจะถูกลงโทษ  เธอคงรู้ว่าฉันไม่สนับสนุนความทารุณที่มีต่อโอเมก้า  พวกเราทุกคนเป็นคนเหมือนกัน  ควรได้รับการปฏิบัติเหมือนกัน”

            “คุณต้องการอะไรไม่ทราบ”

            “ฉันอยากให้เธอช่วย”  นักการเมืองหนุ่มตอบกลับไปตรงๆ  “พอจักรกฤตตาย  ฉันก็จนปัญญา  ไม่รู้ว่าจะต้องสืบไปทางไหนต่ออีกถึงจะสาวถึงตัวการสำคัญในขบวนการค้ามนุษย์นี้ได้   ฉันไม่อยากให้เรื่องมันจบลงแค่นี้”

            “คุณไม่ควรจะยุ่งเกี่ยวเรื่องนี้หรอกคุณพิชช์ฌาน”  นิลลาพูดขึ้น  “มันจะทำให้คุณยุ่งยากกว่าที่คิด”

            ท่าทางของนิลลาทำให้พิชช์ฌานรู้สึกแปลกใจ  ถึงจะดูทรุดโทรมแค่ไหนทว่าร่างผอมบางนั้นกลับนั่งตัวตรงประสานมือเอาไว้อย่างเรียบร้อย  วิธีพูดแม้จะห้วนสั้นในตอนแรกแต่ว่าไม่กระโชกโฮกฮาก  ดูมีจังหวะจะโคนอยู่มากทีเดียว

            “ฉันก้าวลงมาแล้ว  ฉันต้องจัดการให้จบ”  พิชช์ฌานพูดเรียบๆ  “อาคิราห์เล่าเรื่องเธอและเพื่อนๆให้ฉันฟัง  ฉันรู้สึกว่านี่น่าจะเป็นโอกาสที่จะเปลี่ยนโลกใบนี้ให้น่าอยู่ขึ้นสำหรับโอเมก้านะ”

            “แค่เรื่องจักรกฤตเนี่ยนะ  นักการเมืองอย่างคุณชอบขายฝันเสียจริงๆ”  นิลลาหัวเราะแค่นๆ  “ฉันไม่อยากยุ่งเกี่ยวอะไรกับมันอีกแล้ว  แค่ฉันหนีลงเรือมาแล้วดันมาเจอมันอีกก็มากเกินพอแล้วสำหรับฉัน”

            “ทุกอย่างก็เริ่มต้นจากจุดเล็กๆทั้งนั้นแหละนิลลา  ฉันเชื่อว่าจักรกฤตและพรรคพวกของมันจะสาวไปถึงตัวการใหญ่ได้  แต่ถ้าเราจบเรื่องทุกอย่างตรงนี้  มันก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยนอกจากแค่ไอ้จักรกฤตตายไป”

            “ฉันพอใจแค่นั้น”  นิลลาว่า

            “เธอมีความฝันไม่ใช่เหรอ”  พิชช์ฌานพูดต่อหน้าตาเฉย  “โอเมก้ามีความฝันแต่ไม่เคยได้ทำมัน  เพราะอะไรล่ะ”  เขายืมคำพูดของอาคิราห์มาใช้  รู้สึกว่าน่าจะได้ผลทีเดียวเพราะคนฟังหันกลับมามองหน้าเขานิ่งๆ  “โอเมก้าถูกขังอยู่แต่ในบ้านเพราะว่าอะไร  ถ้าโอเมก้าไม่ช่วยกันแล้วใครจะช่วย  ...นิลลา  ความช่วยเหลือของเธอในครั้งนี้อาจจะช่วยเหลือพี่น้องโอเมก้าได้อีกนับร้อยนับพันชีวิตนะ  ลองนึกถึงโอเมก้าที่กำลังจะลงเรือไปเสี่ยงโชคอย่างที่เธอทำสิ”

            “...........”

            “เอาเถอะ  ถ้าเธอยังไม่พร้อมก็ไม่เป็นไร  ฉันเข้าใจว่าสิ่งที่เธอเจอมันมาโหดร้ายเกินกว่าจะไปแตะต้องอีก  ฉันเตรียมที่พักของเธอและแทมมี่เอาไว้ให้ชั่วคราวหลังจากออกจากโรงพยาบาล  จะได้พักฟื้นระหว่างที่เธอกำลังคิดหาหนทางต่อ  ถ้ามีอะไรที่ฉันพอจะช่วยได้  ฉันยินดีช่วยพวกเธอเต็มที่”  พิชช์ฌานลุกขึ้นยืน  เหลือบมองนาฬิกาแวบหนึ่ง  ใกล้จะถึงเวลาที่เขาจะต้องไปพบท่านผู้ว่าฯก่อนกลับแล้ว

            “อาคิราห์บอกว่าคุณดีกับเขามาก”  คนที่นั่งเงียบพูดขึ้น

            “......”  พิชช์ฌานไม่พูดเพียงแต่ยักไหล่เท่านั้น

            “คุณเป็นคนพูดเก่งคุณพิชช์ฌาน”  นิลลาว่า  “ฉันอยากรู้เหมือนกันว่าคุณจะเก่งแต่พูดหรือเปล่า  ...ฉันตกลงจะร่วมมือกับคุณ  แต่ว่าฉันคงช่วยอะไรไม่ได้มากเท่าไหร่นัก”

            พิชช์ฌานยิ้ม

            “ฉันเป็นหนี้บุญคุณของเธอนิลลา  เพราะเธอช่วยอาคิราห์เอาไว้  และถ้าเธอร่วมมือกับฉันเพื่อจัดการเรื่องนี้  โอเมก้าในประเทศนี้ก็จะเป็นหนี้บุญคุณของเธอ”

            “ฉันไม่มีสิทธิเลือกตั้ง  คุณไม่ต้องหาเสียงกับฉันมากนักก็ได้”  นิลลาพูดหน้าตาย  “คุณอยากทราบอะไรงั้นหรือ  ฉันจะบอกเท่าที่นึกออก”

            เจนภพก้าวเข้ามาในห้องอย่างรู้งาน

            พิชช์ฌานกลับออกมาทันเวลาที่จะไปพบท่านผู้ว่าฯ  ชายหนุ่มพาอาคิราห์ไปขอบคุณท่านด้วยที่ช่วยส่งคนออกตามหาเป็นการใหญ่  ท่านผู้ว่าฯแอบกระซิบกับเขาลับหลังตอนที่กำลังจะแยกกันกลับว่า

            “มิน่าล่ะหลานฉันถึงได้กระวนกระวายใจนัก  หนูอัยย์น่าเอ็นดูอย่างนี้นี่เอง” 

            “ขอบคุณครับคุณลุง”  ชายหนุ่มรับคำอ้อมแอ้ม

            “ขอบคุณทำไม  ฉันชมหนูอัยย์ไม่ใช่เราเสียหน่อยเจ้าฌาน”  ผู้ว่าฯหัวเราะลงลูกคอ  “ไว้คลอดลูกเมื่อไหร่อย่าลืมส่งข่าวมาบอกกันบ้างนะ  ฉันจะได้ไปเยี่ยม”

            “ครับคุณลุง”

            ขากลับพิชช์ฌานให้อาคิราห์ไปรอในรถก่อนตอนที่เขาไปพูดคุยกับธีรดลเป็นอันดับสุดท้าย  อาคิราห์ก็ไม่ได้ว่าอะไร  เขาพอจะเดาอะไรได้ลางๆ

            “คุณธีรดลหายเคืองคุณฌานแล้วครับที่สั่งให้ปิดหาด”  เจนภพกระซิบ  เล่าเรื่องพิชช์ฌานสั่งปิดหาดให้อาคิราห์ฟังคร่าวๆ  “ตอนแรกโกรธหน้าเขียว  แต่พอข่าวออกว่าจับพวกขบวนการค้ามนุษย์สำเร็จก็หน้าบาน  รีบให้สัมภาษณ์ว่าร่วมมือกับทางตำรวจตั้งแต่แรก  กลับตัวเก่งจริงๆผมล่ะนับถือ”

            “คุณพิชช์ฌานของคุณก็กลับตัวเก่งพอกันนั่นล่ะ  เผลอๆเก่งกว่าอีก  พูดจากขาวเป็นดำยังได้”  อาคิราห์ค่อนแคะ  เจนภพหัวเราะแห้งๆ

            “คุณฌานจำเป็นต้องทำต่างหากล่ะครับ  ก็เพื่อตัวคุณอัยย์เองนะครับ”

            “ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่  เมื่อกี้ผมชมคุณพิชช์ฌานไง”  อาคิราห์พูดหน้าตาย

            เจนภพหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วก็รีบวางหน้านิ่งเมื่อเจ้านายเดินกลับมาที่รถ

            “คุยอะไรกัน  รีบขึ้นรถสิ”

            “แล้วนิลกับแทมมี่ล่ะครับ คุณบอกผมว่าจะพาพวกเขาไปด้วยไม่ใช่หรอ”  อาคิราห์ท้วง  เขาคุยกับพิชช์ฌานเมื่อคืนนี่เองว่าจะขอพาเพื่อนโอเมก้าทั้งสองคนไปด้วยกัน

            “พวกเขาต้องอยู่ให้ปากคำกับตำรวจเพิ่มเติมก่อน  ...แต่ไม่ต้องห่วง  ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยแล้วฉันจะให้คนมารับพวกเค้าไปหาเราที่บ้านแน่นอน”  นักการเมืองหนุ่มตอบเนิบๆ

            “งั้นให้ผมพบพวกเขาก่อน  ผมอยากขอบคุณเค้า”  อาคิราห์ยืนยัน  “เค้าช่วยชีวิตผมเอาไว้นะคุณ”

            “ก็ได้  รีบขึ้นรถได้แล้ว  ชักช้าฉันจะทิ้งเอาไว้ที่นี่เลยนะ”

            “ลองทิ้งผมดูจริงๆสิ”  อาคิราห์พูดอุบอิบในลำคอรีบผลุบขึ้นไปนั่งบนรถคนแรก   คนที่ก้าวตามขึ้นมานั่งข้างๆซ่อนยิ้มเอียงหน้าเข้ามาใกล้

            “จะทำไมฉัน”

            “ก็ไม่ทำไม...เห็นสภาพนายจักรกฤตไหมล่ะ”  เจ้าโอเมก้าลอยหน้าตอบพลางยักไหล่  “เละยิ่งกว่าสับให้เป็ดกินอีก”

            พิชช์ฌานผิวปากยาว  ดีดนิ้วใส่หน้าผากเนียนไปทีหนึ่งจนอีกฝ่ายสะดุ้งโหยง

            “นี่แน่ะ  คิดว่าฉันกลัวเหรอ”

            “โอ๊ย!”  อาคิราห์ร้อง  กุมหน้าผากไว้มั่น  “คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ  มันกระเทือนท้องผม”  เขาพูดเสียงจริงจังแล้วลดมือลงมาชี้ที่หน้าท้องตัวเอง  “ดูดิ  ลูกร้องใหญ่เลย”

            “เดี๋ยวนะเจ้าบู้บี้  หน้าผากกับท้องเธอมันเชื่อมกันงั้นเหรอ”  พิชช์ฌานหัวเราะ  “แล้วรู้ได้ไงว่าลูกร้อง  ชักจะแอดวานซ์เกินไปหน่อยแล้ว”

            “จริงๆนะ  ลองฟังดูสิ  ไม่ได้ยินหรอ”  อาคิราห์พูดขึงขังจนอีกฝ่ายสงสัย  ก้มลงไปแนบหูฟังกับหน้าท้องที่คลุมด้วยเสื้อบางๆ

            “ฉันได้ยินแต่เสียงท้องเธอร้องโครกคราก  เพิ่งกินไปเมื่อกี้  หิวอีกแล้วเหรอ”

            “ผมไม่ได้หิว  นี่ไม่ใช่เสียงท้องผมแต่เป็นเสียงลูกร้อง”  อาคิราห์ยืนยัน  “ลูกบอกว่าอยากกินวาฟเฟิลกับไอศกรีมวนิลาราดช็อกโกแลตก่อนกลับ”

            “ลูกบอกเมนูได้เลยเหรอ”  พิชช์ฌานเลิกคิ้ว ทั้งฉุนทั้งขันกับท่าทางลูบพุงไปมาของเจ้าโอเมก้า  “ฉันจำได้ว่าลูกเรายังตัวกระเปี๊ยกเดียวเองนะ  ยาวไม่ถึงสิบเซนด้วยซ้ำ”

            “ลูกฉลาด”  อัยย์พูดหน้าตาย  “ฉลาดเหมือนพ่อเค้าไง”

            คราวนี้คนฟังชะงัก  นิ่งคิดแล้วก็พยักหน้าหงึกหงักตาม

            “ถ้าอย่างนั้นก็เป็นไปได้   เจนภพ...แวะซื้อขนมที่ลูกฉันอยากกินเมื่อกี้ขึ้นไปกินบนเครื่องด้วยก็แล้วกันนะ”

            มือขวาคนสนิทเกือบจะยกมือขึ้นมากุมขมับแต่ก็กลัวว่าเจ้านายจะด่าเอา  เลยได้แต่รับคำในลำคอแล้วทำเป็นไม่เห็นภาพในกระจกหลังเสีย

            พวกเขาแวะที่โรงพยาบาลที่โอเมก้าอีกสองคนพักรักษาตัวอยู่  นิลดูดีใจที่ได้เห็นหน้าอาคิราห์อีก  ส่วนแทมมี่ก็ถามไถ่ถึงเรื่องลูกในท้องไม่หยุดปาก

            “ฉันอยากให้นิลกับแทมมี่ไปอยู่ด้วยกันจัง”  อาคิราห์ปรารภ  มองหน้าเพื่อนทั้งสองคนที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้  นิลเหลือบมองพิชช์ฌานที่ยืนรออยู่อย่างสงบข้างหลังแล้วลอบถอนหายใจ

            “เอาไว้จัดการธุระเสร็จแล้วฉันจะไปหา”  นิลพูดเสียงเบา  “อย่าลืมฉันล่ะ”

            “ฉันไม่มีทางลืมนิลกับแทมมี่หรอก  แล้วก็เพื่อนคนอื่นๆด้วย ...ฉันจำได้ตลอดชีวิตแน่ๆ”  อัยย์ว่า  บีบมือผอมบางของนิลเอาไว้  แอบมองร่างสูงใหญ่ที่ยืนตระหง่านอยู่ข้างหลังด้วยหางตาแล้วล้วงกระเป๋าหยิบธนบัตรปึกหนึ่งออกมาส่งให้นิลกับแทมมี่รับเอาไว้  “ฉันให้...”

            “ไม่ต้อง  เราไม่เอา”  นิลส่งคืน  แต่อาคิราห์ดันกลับไป

            “รับเอาไว้เถอะ”

            “เงินไม่มีค่ากับเรา อาคิราห์”  นิลพูดเสียงห้วน  “ถ้าอยากตอบแทน..  ก็ช่วยให้พวกเราได้ทำตามฝันเหมือนที่เธอบอกตอนอยู่ในนั้นเถอะ”

            อาคิราห์ยิ้มกว้าง

            “ฉันทำแน่แต่นั่นมันเป็นเป้าหมายระยะยาว  ตอนนี้ฉันอยากตอบแทนพวกเธอก่อน  พวกเธอคงไม่ใจร้ายปฏิเสธน้ำใจของฉัน”  ชายหนุ่มพูดเสียงอ่อน  “รับเอาไว้เถอะนะ  ...ไว้กลับมาเจอกันเมื่อไหร่  พวกเธอค่อยเอามาคืนฉันก็ได้”

            “ตกลง  ไว้พบกันใหม่อาคิราห์”  นิลพูด  บีบมือเขาตอบ  ส่วนแทมมี่เข้ามากอดเขาเอาไว้แน่น  อาคิราห์หันกลับไปมองเพื่อนทั้งสองผ่านกระจกรถยนต์  รู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลย

            เหมือนเราจะไม่ได้เจอกันอีก...

            “เดี๋ยวก็ได้เจอกันน่า  เลิกทำหน้าจ๋อยได้แล้ว  แวะซื้อขนมหน่อยดีมั้ย  บ่นหิวไม่ใช่เหรอ”  พิชช์ฌานพูดขึ้น  เบี่ยงเบนความสนใจของเจ้าโอเมก้าไปได้

            พวกเขานั่งเครื่องบินส่วนตัวกลับมายังเมืองหลวง  อาคิราห์แทบจะถอนหายใจเฮือกตอนที่รถเลี้ยวเข้าไปในอาณาเขตบ้านหลังใหญ่ของพิชช์ฌานอีกครั้ง  หลายวันที่ผ่านมาทำให้เขารู้ว่าคิดถึงบ้านหลังนี้มากแค่ไหน ...มากพอๆกับบ้านของตัวเองเลยทีเดียว

            “คุณอัยย์ของป้ากลับมาแล้ว  ป้านิ่มเป็นห่วงมากเลยรู้มั้ยคะ  ทำไมต้องไปทำอะไรเสี่ยงๆด้วย  คุณฌานก็เหลือเกินปล่อยคุณอัยย์ไปแบบนั้นได้ยังไงคะ  เกิดผิดพลาดขึ้นมาจะทำยังไง  ดีนะคะที่คุณอัยย์ไม่เป็นอะไรมาก”  ป้านิ่มพูดรัวเป็นชุดจนแทรกไม่ทัน  เข้ามาจับมือของอาคิราห์เอาไว้แน่นพลางมองสำรวจทั่วตัว  “ผอมลงไปเยอะเลย  ทำไมคุณฌานไม่ดูแลคุณอัยย์เลยคะ  กำลังท้องกำลังไส้  อยากกินอะไรคุณอัยย์บอกป้ามา”

            “ผอมตรงไหนป้านิ่ม  ตัวแน่นขนาดนี้  กินๆนอนๆในโรงพยาบาลไปตั้งเยอะ  แถมยังซัดขนมมาตลอดทางอีก  ไม่ต้องมามองหน้าเลยอาคิราห์  เธอบอกจะกินนิดเดียวแต่ไม่ยอมแบ่งใครเลย”

            “ก็คุณเอาแต่อ้วก  ขืนกินเข้าไปก็อ้วกออกมาเสียของน่ะสิ”  อาคิราห์ย่นจมูกใส่แล้วหันไปหาแม่บ้าน  “ป้านิ่มครับ   ผมคิดถึงอาหารฝีมือป้านิ่มที่สุดในโลกเลย  ผมพูดจริงๆนะ”  คิดถึงรสชาติของขนมปังเก่าๆขึ้นมาแล้วก็น้ำตาคลอ  พูดเสียงเครือ  “ผมกลัวมากเลยว่าจะไม่ได้กลับมากินฝีมือของป้าอีก”

            “คุณอัยย์พูดขนาดนี้ ป้าทำตายเลยค่ะ  อยากกินอะไรป้าจะบุกบั่นหามาให้กินจนได้”  นิ่มนวลหัวเราะเบาๆ  “ไปค่ะ  เข้าบ้านกันดีกว่า  ป้าเตรียมของว่างรองท้องเอาไว้ให้...”

            พิชช์ฌานมองตามหลังร่างโปร่งบางที่เดินกอดเอวแม่บ้านอาวุโสอย่างประจบไปตลอดทางแล้วก็ได้แต่ร้องฮึในลำคอ   หมั่นไส้เด็กบางคนจริงๆ

            “คุณฌานจะพักก่อนหรือว่าจะเข้าไปที่ทำการพรรควันนี้ครับ”  เจนภพถามขึ้นอย่างเกรงใจ  หัวหน้าพรรคละสายตาจากประตูบ้านแล้วหันมาขมวดคิ้วใส่

            “พักอะไรล่ะเจนภพ  ฉันร้อนใจจะแย่อยู่แล้ว  เราเสียเวลาที่เกาะนั่นไปหลายวันไม่รู้ป่านนี้แผนการเลือกตั้งเป็นอย่างไรบ้าง   เดี๋ยวฉันเข้าไปเปลี่ยนชุดก่อนแล้วเราก็ไปกันเลย”

            “ได้ครับคุณฌาน”

            พิชช์ฌานใช้เวลาที่เหลือไปกับการประชุมภายในพรรค  เวลาเริ่มงวดเข้ามาทุกทีก่อนการประกาศการเลือกตั้ง  เขาจำเป็นต้องวางแผนอย่างรัดกุมและใช้เวลาให้มีค่ามากที่สุด  ข่าวการเคลื่อนไหวจากพรรครัฐบาลเปลี่ยนแปลงแทบจะตลอดเวลาจนชายหนุ่มปวดหัว  ไหนจะการเมืองภายในพรรคที่ยังไม่สงบดีนัก

            การเข้าร่วมจับกุมพวกค้ามนุษย์ทำให้คะแนนเสียงเพิ่มขึ้นก็จริง  แต่มันก็เป็นเหมือนดาบสองคมเช่นกัน  คนในพรรคของเขาส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยเลยที่เขาไปยุ่งกับเรื่องนี้

            “หลังจากข่าวจักรกฤตก็ทำให้คนในพรรคบางคนไม่ไว้ใจเราครับ”  เจนภพกระซิบตอนที่กลับออกมาจากห้องประชุมด้วยกัน  “พวกเค้าคิดว่าเราหักหลังจักรกฤต”

            “หักหลังอะไรของมัน  ไอ้จักรกฤตทำธุรกิจสีดำก็เห็นๆอยู่  หลักฐานคาหนังคาเขา  ทำไมยังคิดว่าหักหลังอีก  หรือว่าเป็นเพราะเรื่องเดิม”

            “ครับคุณฌาน”  เจนภพหลบตาเจ้านายที่วาวโรจน์ขึ้น  “บางส่วนเป็นผลจากเรื่องตอนคุณพ่อของคุณครับ”

            “พวกเค้ายังคิดว่าฉันหักหลังพ่อตัวเองอีกเหรอ”  พิชช์ฌานหัวเราะแค่นๆ  “ทำไมไม่คิดบ้างว่าพ่อเห็นว่าฉันเก่งพอที่จะรับช่วงต่อได้แล้วก็เลยวางมือ”

            “บางคนก็เชื่อข่าวลือมากกว่าความจริงครับ”

            “ถ้างั้นก็ปล่อยให้มันเชื่อต่อไป  เหมือนที่มันเชื่อมาแล้ว”  พิชช์ฌานพูดเสียงเหี้ยม  “ให้มันเชื่อด้วยว่าฉันกุมความลับของทุกคนในพรรคเอาไว้  ใครที่คิดหักหลังหรือลองดี  ก็จะจบลงแบบนายจักรกฤต”

            “ได้ครับคุณฌาน”  เจนภพก้มศีรษะรับคำ

            “ฉันจะแวะไปหาคุณแม่เสียหน่อยก่อนกลับ”  พิชช์ฌานพูด  เหลือบมองนาฬิกาข้อมือ  “คงยังไม่นอนหรอกมั้ง”

            พิชช์ฌานพบว่ามารดาไม่ได้อยู่ที่บ้าน  ชายหนุ่มเม้มปากแล้วสั่งให้โทรกลับที่ไปบ้านของตนเองในเวลานี้  นิ่มนวลรับสาย...เป็นไปตามคาด  แม่ของเขาไปอยู่ที่บ้านนู้นเรียบร้อยแล้ว

            นึกเป็นห่วงเจ้าโอเมก้าขึ้นมาจับใจ  แม่เขาเป็นคนยังไงพิชช์ฌานรู้ดี

            .....................................................................



ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk






            คนที่เขากำลังเป็นห่วงนั่งประสานมืออยู่บนตักตรงข้ามกับมารดาของพิชช์ฌานอย่างสงบเสงี่ยม  อาคิราห์ตกใจไม่น้อยตอนที่ลงบันไดมาแล้วพบว่าคนที่มาใหม่ไม่ใช่สามีอย่างที่คิดแต่กลับเป็นมารดาอัลฟ่าผู้สูงศักดิ์ของเขาแทน

            คุณนายอัศวลักษณ์นั่งนิ่งพลางลอบสำรวจลูกสะใภ้โอเมก้าด้วยสายตา  บรรยากาศอึดอัดที่เธอจงใจสร้างมันขึ้นมาทำให้อีกฝ่ายนั่งเงียบกริบ  นัยน์ตากลมโตเหลือบมองซ้ายขวาเหมือนหาทางรอด  พอแม่บ้านเข้ามาเสิร์ฟน้ำก็แทบจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก

            “น้ำครับ”  อาคิราห์เลื่อนแก้วไปให้แม่สามี  อีกฝ่ายไม่ได้เอื้อมมือมารับราวกับเกรงว่าจะปนเปื้อนงั้นแหละ  ชายหนุ่มเม้มปาก

            “พิชช์ฌานยังไม่กลับมาอีกเหรอ”

            “ยังครับ”

            “เขาไปไหน”

            “ไม่ทราบครับ”

            “ไม่ทราบ?”  คิ้วเรียวสวยคนพูดเลิกขึ้น  จากนั้นรอยยิ้มก็ปรากฏบางๆทำให้ใบหน้าที่ยังสวยสมวัยนั้นดูใจดี  ตรงข้ามกับแววตาที่นิ่งสนิทไม่ได้ยิ้มตามไปด้วย  “ฉันเข้าใจล่ะ  เขาคงไม่ได้บอกเธอสินะ”

            “......”  อาคิราห์ไม่รู้จะพูดว่าอะไร  ก็เลยเงียบแทน

            “ฉันเห็นในข่าวแล้ว  ที่เธออาสาเข้าไปแฝงตัวนำจับพวกค้ามนุษย์อะไรนั่น....ไม่ได้น่าชื่นชมเลย”  หญิงสูงวัยพูดเรียบๆ  “เธอกำลังทำให้ลูกชายของฉันเดือดร้อน  รู้ตัวหรือเปล่า  ....รวมถึงลูกในท้องของเธอด้วย”

            “ขอโทษครับ”  อาคิราห์พูด  “ผมคิดว่าคุณพิชช์ฌานเองก็ได้ประโยชน์จากข่าวเรื่องนี้  เท่าที่ทราบมา  เขาได้คะแนนนิยมเพิ่มขึ้นเยอะเลย”

            “คะแนนนิยมแลกมากับอะไรล่ะ  โอเมก้าอย่างเธอคงไม่รู้”  อีกฝ่ายยิ้มให้  “เอาไว้ฉันมีเวลามากกว่านี้จะลองอธิบายให้เธอฟังนะ”

            “ขอบคุณครับ”  อาคิราห์ก้มหน้าลง

            “อายุครรภ์เท่าไหร่แล้วล่ะ  ถึงสองเดือนมั้ย...หรือว่าเกิน?”

            “ยังไม่ถึงครับ”  ชายหนุ่มบอกอายุครรภ์ไป  อีกฝ่ายพยักหน้า

            “ค่อยยังชั่ว  ฉันยังเคยเล่นๆว่าเธอท้องก่อนที่จะมาเจอลูกชายฉันหรือเปล่า  พ่อของเธอถึงได้รีบให้เธอแต่งงาน  โชคดีนะที่ไม่เป็นความจริง   เธอคงไม่โกรธฉันนะที่คิดแบบนั้น”

            คนฟังร้อนวูบไปทั้งตัว อาคิราห์เงยหน้าขึ้นสบตาคมกริบที่พิชช์ฌานถอดแบบมาคู่นั้น

            “ผมไม่ถือครับ”  ชายหนุ่มตอบ  นับหนึ่งถึงสิบในใจ 

            “ตระกูลทั้งฝั่งฉันและพ่อของนายฌานล้วนเป็นสายเลือดอัลฟ่าบริสุทธิ์มาตลอด  จู่ๆจะมีหลานเป็นลูกเสี้ยวโอเมก้าก็อดกังวลใจกันไม่ได้  พี่ป้าน้าอาถามกันให้วุ่นไปหมด  ฉันก็ไม่รู้จะตอบยังไงเพราะไม่เคยมีโอเมก้าในบ้านเหมือนกัน”  ฝ่ายนั้นพูดเสียงเย็น

            “.............”

            “แต่ว่าที่บ้านของเธอคงชินแล้วกระมัง  เลี้ยงเธอมาได้เป็นสิบๆปีนี่นะ”

            “ตระกูลพ่อแม่ของผมก็สืบสายเลือดอัลฟ่าบริสุทธิ์มาเหมือนกันครับ  มีแค่ผมคนเดียวนี่แหละที่ผ่าเหล่าผ่ากอออกมาเป็นโอเมก้า  แต่ที่บ้านผมก็ไม่ได้วุ่นวายอะไรเพราะทุกคนเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยกันได้ครับ”

            “เหรอ?  เรียนรู้ที่จะขังเธอเอาไว้ในบ้านใช่มั้ย”

            “ครอบครัวของผมมีเหตุผลที่จะให้ผมอยู่ในบ้านครับ  ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกลัวว่าจะออกมาเจอกับอัลฟ่าหัวโบราณที่เอาแต่เชิดชูสายเลือดบริสุทธิ์ของตนเองและมองไม่เห็นหัวชนชั้นอื่นครับ”  ชายหนุ่มพูดหน้าตาย

            คนฟังหัวเราะเบาๆ  มองหน้าเขา

            “เธอกำลังว่าฉัน”

            “ผมหมายถึงอัลฟ่าผู้ชุมนุมอนุรักษ์ไม่เอาโอเมก้าที่ออกมาประท้วงเมื่อเดือนก่อนครับ”  อาคิราห์ตอบอย่างสงบ

            “ยิ่งฉันได้คุยกับเธอแบบนี้  ฉันก็ยิ่งมั่นใจว่าคำทำนายเป็นจริง”  อีกฝ่ายพูดขึ้น

            “เรื่องที่บอกว่าผมจะพาหายนะมาสู่ตระกูลของคุณใช่ไหมครับ”  อาคิราห์ถาม  “ผมได้ยินคุณพูดเรื่องนี้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน”

            “รู้ก็ดีแล้ว  ฉันจะได้ไม่ต้องเสียเวลาบอกเธออีก”

            “ผมจะไม่ไปไหนครับ”  โอเมก้าพูดเสียงเรียบ  แอบกำเสื้อของตัวเองเอาไว้แน่น  สูดลมหายใจเข้าปอดลึกเรียกกำลังใจ  “ผมจะอยู่กับคุณพิชช์ฌานต่อไปอีกนาน  แล้วก็มีลูกกับเขาด้วย”

            “ถ้าเธอรักพิชช์ฌานจริง  เธอจะไม่พูดแบบนี้”  เธอพูดเสียงห้วน  “รู้ทั้งรู้ว่าจะพาลูกชายฉันไปสู่หายนะก็ยัง....ดันทุรังอีก  เธอนี่มัน...”

            “ความจริงแล้ว  ก่อนหน้านี้คนที่อยากหนีก็คือผม  ผมพยายามหนีแล้วแต่คุณพิชช์ฌานเองต่างหากที่เป็นคนตามกลับมาทุกครั้ง”  อาคิราห์ยักไหล่  เหลือบมองไปเห็นร่างสูงใหญ่ที่ก้าวเข้ามาในบ้านพอดี  เขาลุกขึ้นยืน  “ถ้าคุณไม่เชื่อ  ก็ลองถามลูกชายของคุณดู  ว่าเขาอ้อนวอนผมอย่างไรบ้างเพื่อให้อยู่กับเขา”

            เจ้าโอเมก้าพูดจบก็ก้มศีรษะให้มารดาของสามีแล้วก้าวออกมาจากห้องรับแขกเงียบๆ  เขาไม่รู้ว่าพิชช์ฌานพูดอะไรกับแม่ของตัวเองอีก  รู้แค่ว่าเขารู้สึกผิดเหมือนกันที่พูดแบบนั้นกับอีกฝ่ายไป  ทั้งที่พยายามอดทนแล้วแท้ๆ

            ป่านนี้มารดาของพิชช์ฌานคงเกลียดเขาเข้ากระดูกดำยิ่งกว่าเดิม

            พยายามตัดความกังวลใจออกเสีย  อาคิราห์จัดการธุระส่วนตัวเสร็จแล้วก็มากดโทรหาฝาแฝดอคินทร์  ผู้จัดการของฝ่ายนั้นเป็นคนรับสาย  บอกว่าศิลปินหนุ่มกำลังเตรียมตัวขึ้นคอนเสิร์ตอยู่  อาคิราห์เลยฝากความคิดถึงไปให้แล้วกดวางสายลง

            ฝาแฝดก็มีหนทางเป็นของตัวเองแล้ว  เขาเองก็ควรจะมุ่งมั่นกับทางของตัวเองบ้าง  ชายหนุ่มเดินไปหยิบสมุดมานั่งเขียนรายการที่ต้องทำในวันรุ่งขึ้น  พิชช์ฌานบอกว่าเขาควรจะต้องเรียนรู้กฎหมายของโอเมก้าเสียก่อน  อาคิราห์ก็เห็นด้วย  เขาควรเรียนอย่างจริงจัง

            นึกถึงสีหน้าแกมดูถูกของแม่พิชช์ฌานแล้วก็ยิ่งฮึกเหิม

            พิชช์ฌานกลับขึ้นบันไดมาอย่างเหนื่อยอ่อน  เขาถูกมารดาต่อว่าเอายกใหญ่หลังจากที่ถูกเจ้าโอเมก้าทิ้งทุ่นระเบิดเอาไว้  แถมยังโกรธที่เขาปล่อยให้โอเมก้าตั้งครรภ์อีก  สุดท้ายเขาต้องยื่นคำขาดให้มารดากลับออกไปก่อนที่เขาจะหมดความอดทน

            ไม่เข้าใจว่ามารดาคนเดิมที่อ่อนโยนและอ่อนหวานหายไปไหน  ปกติแม่เขาเป็นคนอัธยาศัยดี  เข้ากับคนง่ายด้วยซ้ำ  แต่แม่ปักอกปักใจเชื่อเรื่องคำทำนายเสียจริงๆจังๆจนดูเหมือนฝังใจไปแล้วว่าอาคิราห์จะพาหายนะมาสู่เขา

            ถ้าพาหายนะมาจริง ก็คงมาในรูปแบบของการไม่มีที่นอนมากกว่า

            “อะไรเนี่ย  ทำไมมันรกแบบนี้ล่ะ”  ชายหนุ่มอุทานหลังจากเปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วพบว่าเตียงใหญ่ของเขาเต็มไปด้วยผ้าผ่อนทั้งม้วนทั้งพับวางเรียงล้อมรอบเต็มเตียงไปหมด  “เละไปหมดแล้ว”

            อาคิราห์สะดุ้ง  หันกลับมาจากการก้มหน้าก้มตาเรียงหมอนให้ซ้อนกันไว้รองหลังอย่างพอเหมาะพอเจาะ  กวาดตามองรอบตัวแล้วก็ตกใจ  ตอนแรกก็ว่ามันไม่เยอะขนาดนี้เลยนะ รู้ตัวอีกทีก็ไม่เหลือที่ว่างให้เจ้าของเตียงนอนเสียแล้ว

            “เอ่อ...”  ดวงตากลมโตมองซ้ายขวาเลิ่กลั่ก  กองผ้าห่มผสมหมอนวางโค้งเป็นวงสวยน่าทิ้งตัวลงนอนที่สุดในสายตาของเขา  ครั้นจะเอาส่วนใดส่วนหนึ่งออกเพื่อเว้นที่ให้พิชช์ฌานนอน  อัยย์ก็ตัดใจเลือกไม่ถูกว่าจะเอาตรงไหนออกดี

            “ถามจริง  รังของโอเมก้าคนอื่นเค้าเละแบบนี้มั้ยเนี่ยฮึ”  พิชช์ฌานยกมือขึ้นเท้าสะเอว  “ขนาดพับผ้ายังไม่เท่ากันเลย  เธอไปดูงานของโอเมก้าคนอื่นเขาบ้างดีมั้ย”

            “ผมตั้งใจให้มันเบี้ยวๆ  กองๆ กันแบบนี้แหละนุ่มดี”  พูดจบก็ทิ้งตัวลงกับกองผ้าห่มโชว์ให้ดูเสียเลยว่านุ่มน่านอนขนาดไหน  สูดกลิ่นหอมๆของเครื่องนอนเข้าปอด  ความไม่สบายใจที่เก็บเอาไว้ก็ผ่อนคลายลงเหมือนเคย  “คุณไม่มีที่นอนก็ไปนอนข้างนอกสิ”

            คนฟังคิ้วกระตุก

            “มันจะมากไปแล้วนะเจ้าโอเมก้า  ห้องก็ห้องฉัน  เครื่องนอนเสื้อผ้าพวกนี้ก็ของฉัน  เตียงก็เตียงฉัน  ยังจะไล่ฉันออกไปอีกเรอะ”

            “............”  อีกฝ่ายไม่ตอบ  แต่นอนคว่ำหน้านิ่งอยู่กับที่นอนตามเดิม  พิชช์ฌานถอนหายใจเฮือก  ทิ้งตัวลงนั่งบนกองผ้าห่มแรงๆจนคนที่นอนนิ่งอยู่เด้งผึงลุกขึ้นมานั่งตาขวาง  เอื้อมมือมาฟาดเขาดังเผี๊ยะ   “คุณทำมันเละ”  อาคิราห์จัดผ้าห่มใหม่ให้เข้าที่

            “โกรธที่แม่ฉันมาใช่มั้ย”  พิชช์ฌานถาม  คว้ามือบางมากุมเอาไว้  “แม่ฉันพูดอะไรกับเธอบ้าง”

            อัยย์เม้มปาก  ส่ายหน้าไปมา

            “ไม่ได้พูดอะไรสำคัญ”

            “ถ้าไม่ได้พูดจริงๆ  เธอจะรีบขึ้นมาก่อนทำไมล่ะ”

            “แล้วแม่คุณว่ายังไงบ้าง”

            “แม่ด่าฉันยับเลย”  พิชช์ฌานหัวเราะเบาๆ  “โดนใครบางคนทิ้งระเบิดเอาไว้”

            คนฟังยิ้มแล้วยกมือขึ้นไหว้เขาอย่างรู้สึกผิด  พิชช์ฌานนิ่งไป...อีกฝ่ายไม่เคยทำท่าทางแบบนี้มาก่อน

            “ผมขอโทษ  ผมพยายามอดกลั้นนับหนึ่งถึงร้อยแล้วนะ  แต่นับได้ถึงสามสิบเองก็....”  อาคิราห์ยิ้มแหย  ถอนหายใจเฮือก  “แม่คุณคงโกรธมาก  ผมจะไปขอโทษท่านทีหลัง”

            “แม่ฉันงมงายเรื่องคำทำนายอะไรนั่น”  พิชช์ฌานพึมพำ  ใช้ปลายนิ้วปัดเส้นผมที่ตกระหน้าผากของอีกคนออกให้  “แม่คิดว่าเธอจะนำหายนะมาให้ตระกูล  อะไรทำนองนั้น”

            “แล้วคุณเชื่อคำทำนายนี้มั้ย”  อาคิราห์ถามเนิบๆ  “สมมุตว่า  ถ้าวันนึงคุณเจอเรื่องร้ายๆขึ้นมา  คุณจะโทษไหมว่าเป็นเพราะผม”

            “คำทำนายอะไรก็ไม่สามารถกำหนดชีวิตได้หรอก  ถ้าฉันเจอเรื่องร้ายๆขึ้นมา  มันก็เป็นเพราะการกระทำของฉันเอง  ฉันเชื่อกฎแห่งกรรมมากกว่าคำทำนาย”

            “คุณพูดไม่เหมือนพิชช์ฌานเลย”  คนฟังเบ้ปาก  “คนอย่างคุณพิชช์ฌานต้องพูดว่า  คำทำนายอะไรก็ไม่มีผลกับฉัน  เพราะหายนะก็สู้ฉันไม่ได้  คนอย่างฉันเอาชนะหายนะได้อยู่แล้ว  อะไรประมาณนี้”

            พิชช์ฌานหัวเราะออกมา

            “ใครเขาจะพูดอวดดีขนาดนั้น”

            “นั่นสิ  ใครกันนะ”

            “ชื่ออาคิราห์แน่ๆ”  พิชช์ฌานยิ้มกริ่ม  “พูดอวดขนาดว่าจะอยู่กับฉันอีกนาน  แล้วก็มีลูกกับฉันสิบคน”

            “ผมไม่ได้พูดว่าสิบคนนะ”  คิ้วเรียวขมวดมุ่น  พอเห็นหน้าอีกฝ่ายก็อุทาน  “นี่คุณแอบฟังผมพูดก่อนจะเข้ามาหรอ”

            “บังเอิญได้ยินเอง  เล่นพูดดังลั่นขนาดนั้น”  คนพูดนัยน์ตาเป็นประกายด้วยความยินดีอย่างลึกซึ้ง  ประคองใบหน้าเรียวหวานเอาไว้ในสองมือ  “ฉันน่าจะอัดเสียงเธอเอาไว้เมื่อกี้”

            “ผม...”  อาคิราห์รู้สึกสองข้างแก้มร้อนผ่าวลามลงมายันลำคอ  เขารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก่อนที่พิชช์ฌานจะก้มลงมาหาเสียอีก  ริมฝีปากของพวกเขาสัมผัสกัน  แผ่วเบาเนิบนาบก่อนจะเปลี่ยนเป็นดูดดื่มยาวนานจนเขาเกือบลืมวิธีหายใจตอนที่อีกฝ่ายปล่อยให้เป็นอิสระ

            หัวใจยังเต้นแรงอยู่เลย  อาคิราห์ฝังใบหน้าลงกับหมอนใบโต  ปลายลิ้นร้ายกาจยังทิ้งสัมผัสเอาไว้ให้รู้สึกวาบหวามในใจเล่น  นัยน์ตาคมกริบคู่นั้นเป็นประกายแพรวพราวจนเขาไม่กล้ามองสบด้วยอีก

            เขาแกล้งทำเป็นหลับตอนที่ร่างสูงใหญ่กลับออกมาจากห้องน้ำ  แอบหรี่ตามองฝ่ายนั้นแต่งตัวอยู่ปลายเตียงพร้อมกับฮัมเพลงไปด้วย  ทำเป็นไม่รู้สึกตัวเมื่อพิชช์ฌานปีนขึ้นมานอนบนเตียงด้วยกัน

            พิชช์ฌานเกือบจะหัวเราะออกมาที่เห็นหน้าคนหลับแดงซ่าน  เสียงกรนผิดธรรมชาตินั้นก็ฟังดูเหมือนปลาสำลักน้ำ  แขนขาเรียวบางแสร้งทำเป็นยกขึ้นเปะปะเหมือนคนนอนดิ้นแล้วก็พลิกตัวเข้ามากอดเขาเอาไว้แน่น  ซุกใบหน้าเข้ากับต้นแขนล่ำสัน

            นักการเมืองหนุ่มแกล้งล็อคคอเจ้าโอเมก้า กึ่งบังคับให้หันหน้าเข้ามาซุกรักแร้ของเขาแทน  อาคิราห์ส่งเสียงขลุกขลักเหมือนหายใจไม่ออกแล้วก็ยกมือขึ้นฟาดตุ้บเข้าที่หน้าอกกว้างอย่างแรงจนพิชช์ฌานต้องยอมปล่อย  เจ้าโอเมก้าพลิกตัวไปนอนหงายพร้อมกับส่งเสียงกรนไม่รู้ไม่ชี้

            พิชช์ฌานซ่อนยิ้ม  ขยับเข้าไปโอบกอดร่างแบบบางเอาไว้  คนหลับนอนนิ่งพร้อมส่งเสียงกรนอย่างต่อเนื่อง  ไม่ได้ขยับหนีไปไหน  อัลฟ่าหนุ่มแตะริมฝีปากเข้าที่หน้าผากอีกฝ่ายเบาๆตำแหน่งเดียวกับที่ดีดนิ้วใส่เมื่อเช้า  เปลือกตาคนหลับขยับยุกยิกแล้วปรือขึ้นแอบมองนิดนึง  พอเห็นว่าถูกมองอยู่ก็รีบหลับตาปี๋ตามเดิม

            ชายหนุ่มยิ้มกว้างในความมืด  ...คงมีใครบางคนกลัวเสียหน้าที่ยอมให้เขานอนในรังด้วยคืนนี้

            ..............................................................................................

                       

            มาอัพแล้วจร้า

            ใครรอเรื่องนี้อยู่บ้างคะ

            ตอนนี้เบาๆ พักผ่อนหลังพายุเนอะ555555

            เจอกันตอนหน้า

            ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ ทุกโหวต  ทุกการแนะนำ/บอกต่อ นิยายเรื่องนี้  ดีใจมากๆค่ะ  ขอฝากโอเมก้าเวิร์สฉบับบู้บี้เอาไว้ด้วย

            #ขอรักแค่คุณ

           

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
น้องอัยย์ยืนหนึ่งเรื่องดื้อตาใส คนอะไรน่าฟัดจริงๆ  :hao7:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :pig4: เก่งกาจถึงขนาดไล่เจ้าของบ้่นแล้วนะบู้บี้

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ sweetie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
นิลกับแทมมี่จะเป็นอะไรมั้ยเนี่ย  :hao4:

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
 หวังว่าหลังจากนี้จะเป็นฟ้าหลังฝนของอัยย์จริงๆ ซะที

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
มีความสุข แค่ช่วงสั้นๆ อบอุ่นหัวใจวูบวาบ

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
นุ้งอัยย์ จะน่ารักทุกตอนม่ายด้ายยยย...
พี่ใจบางงง..
งื้อออ..  :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด