02
หัวใจของเราจะพองโตไม่ได้ถ้าไม่มีผู้กระทำ
Song: ฟอง
Song: หายเมายังไอ้น้อง
.ff: หายแล้วครับพี่ซอง
Song: แล้วนี่อยู่ไหนอ่ะ
.ff: อยู่มอครับพี่ นั่งรอแยมครับ
Song: เออ ดีๆ
Song: มีอะไรจะให้ดู
Song: ดูจบแล้วอย่าหนีกลับบ้านล่ะ
Song: (Send video)
คนที่ได้รับวิดีโอจากพี่รหัสกัดริมฝีปากเบาๆ ชั่งใจว่าจะเปิดคลิปที่พี่ซองส่งมาให้ดีมั้ย เพราะพี่รหัสคนนี้เคยส่งคลิปโป๊มาให้แล้วเขาดันเปิดดูด้วยความไม่รู้บนบีทีเอสมาแล้วครั้งหนึ่ง
มันเป็นฟีลที่...ไม่กล้าหันไปมองหน้าคนที่นั่งข้างๆ กับคนที่ยืนโหนราวแล้วก้มหน้ามองเราอยู่อ่ะ
โคตรแย่
ฟองฟางเป่าลมออกปาก รูดซิปกระเป๋าเป้แล้วสอดโทรศัพท์ไว้ในนั้นพร้อมกับกดเปิดคลิปแล้วดูอย่างตั้งใจ มันคือที่ที่ปลอดภัยที่สุดมากกว่าการถือโทรศัพท์ดูโจ่งแจ้งแล้วแหละ ไอ้พี่รหัสคนนี้ไว้ใจได้ที่ไหนล่ะ
แก้มพองๆ ตกอยู่ในสายตาของคนที่เดินผ่านไปมา ฟองฟางไม่สนใจผมสีน้ำตาลธรรมชาติที่ฟูฟ่องปลิวไปตามแรงลมจะฟูจะยุ่งพันกันหรือเปล่าเพราะกำลังจดจ่อกับหน้าจอโทรศัพท์...ในหัวก็นึกไปพลางๆ ว่าใครต่อใครต่างก็บอกว่าตัวเขานุ่มนิ่มน่ากอด หัวกลมๆ ของเขานี่ก็โคตรน่าหอมเลย จนกระทั่ง...
“เฮ้ย!”
รีบยกมือปิดปากตอนที่ร้องเสียงดังเพราะตกใจ ฟองฟางลูบอกตัวเองเบาๆ ตกใจกับคลิปที่พี่รหัสส่งมา มันไม่ใช่คลิปโป๊ที่พี่ซองนำเสนอ แต่มันเป็นคลิปที่เขากำลังปีนขึ้นโต๊ะ พาตัวกับแก้มที่แดงปลั่งคลานไปหาเดือนมหา’ลัยที่นั่งมองเขาอยู่นิ่งๆ
‘คราม’
‘...’‘เราชอบนาย’
!!!
‘...’
‘ชอบตั้งแต่วันแรกที่เจอเลย’ อยากจะเปิดเสียงให้ดังกว่านี้แต่สาบานได้ว่าตอนนี้วิญญาณของฟองฟางหลุดออกจากร่างไปแล้ว ไม่รู้ว่าไปเอาความกล้ามาจากไหนถึงปีนขึ้นโต๊ะแล้วไปพูดใส่หน้าครามแบบนั้น ปลายนิ้วชี้รีบกดลงบนหน้าจอให้คลิปหยุดเล่น ฟองฟางเป่าลมออกปากให้ตัวเองใจเย็นแล้วมุดศีรษะเข้าไปในกระเป๋าที่มีหนังสือเรียนแค่สองเล่มก่อนจะกดดูคลิปอีกครั้ง
“....”
แล้วก็อยากจะเอาหัวกระแทกโต๊ะให้สลบไปเลยรู้แล้วรู้รอด ฟองฟางหน้าร้อนตอนที่เห็นตัวเองยื่นหน้าเข้าไปใกล้เดือนมหา’ลัย ภาพไม่ค่อยชัดเท่าไหร่เพราะคนถ่ายมือสั่นมาก เขาได้ยินเสียงพี่ซองกับพี่อีกหลายๆ คนกรีดร้องอย่างกับผู้หญิง
แล้วก็ต้องจิกมือกับกระเป๋าแน่นเมื่อภาพน่าอายโชว์อยู่บนหน้าไอโฟน ฟองฟางกัดปากกำมือทุบโต๊ะแรงๆ กระทืบเท้าขัดใจกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป
ฮืออออ ไปจูบเขาได้ยังไงเนี่ยไอ้ฟอง : (
จูบนานด้วย ไม่รู้ว่ากี่วินาทีแต่ในคลิปคือโคตรนาน
ฟองฟางไม่ทนดูต่อเพราะไม่รู้ว่ามันจะจบตรงไหน แค่นี้ก็นั่งหน้าร้อนตัวร้อนอยากหนีกลับบ้านจะตายอยู่แล้ว
เช้านี้ต้องเจอกันด้วย ต้องเรียนวิชาเดียวกัน ต้องนั่งใกล้ๆ กัน
“ไอ้ฟอง มานานยังวะ”
ตกใจกับเสียงแหลมๆ จนสะดุ้งยืดตัวนั่งตรง ฟองฟางรีบกดปิดคลิปที่พี่ซองส่งมาให้แล้วทิ้งโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าอย่างนั้น คนตัวขาวหันซ้ายหันขวาเลิ่กลั่กตามเสียงเรียกที่ไม่รู้ว่ามาจากทิศไหน
ฟองฟางยกมือแตะปากตอนที่เห็นแยมเดินมาพร้อมๆ กับครามสมุทรและช็อป (เพื่อนสนิทของครามสมุทร) จู่ๆ ตัวก็สั่นพอๆ กับหัวใจที่เต้นแรง ทั้งๆ ที่ทำเป็นใจเย็นสั่งให้ตัวเองไม่ตื่นเต้นตื่นตูมแล้วแท้ๆ แต่พอเจอหน้าทีไร ฟองฟางก็ไปไม่เป็นทุกทีเลย ยิ่งเมื่อคืนไปสร้างวีรกรรมแสบๆ ไว้ด้วยแล้ว...ยิ่งเก็บอาการไว้ไม่ค่อยจะอยู่
นึกโทษพี่ซองที่เอาคลิปบ้าๆ นั่นมาให้ดู...ถ้าทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นป่านนี้ฟองฟางคงปั้นหน้าฉีกยิ้มกว้างๆ ได้
“อื้อ สักพักแล้ว”
แยมแค่ส่งยิ้มแหยให้แล้วนั่งข้างๆ ฟองฟางที่ห่อไหล่ลู่ลงจนเหลือตัวนิดเดียว มือขาวหยิบสายกระเป๋ามาเขี่ยเล่น ก้มหน้างุดเมื่อคนตัวสูงอีกสองคนขยับตัวนั่งลงตรงข้าม
สูงจริงๆ...ครามสมุทรกับช็อปเป็นคนที่สูงตั้ง 187 เซนติเมตร ในขณะที่ฟองฟางเป็นผู้ชายตัวเล็กๆ ที่สูงแค่ 172 เท่านั้น ก็นั่นแหละ ในกลุ่มนี้ฟองฟางตัวเล็กที่สุดแล้วมั้ง ขนาดแยมที่เป็นผู้หญิงยังดูสูงกว่าทั้งๆ ที่สูง 172 ซนติเมตรเท่ากัน
ครามสมุทรกับช็อปเล่นบาสประจำ เป็นตัวแทนแข่งบาสของคณะวิทยาศาสตร์ด้วย ที่จริงส่วนสูงของฟองฟางมันก็ผ่านเกณฑ์เข้าร่วมทีมแข่งบาสได้อยู่หรอก แต่ฟองฟางไม่เก่ง แถมคนในทีมส่วนใหญ่สูง 180 ขึ้นไปกันหมด...น้อยใจความสูงของตัวเองเลยพาลไม่เข้าร่วมกิจกรรมอะไรอย่างของมหา’ลัย
“นี่มึงยังเมาค้างอยู่หรือเปล่าวะ ความจริงวันนี้ไม่มีวิชาอะไรสำคัญมึงน่าจะโดดไปนอนนะ”
“นิดหน่อยอ่ะ ยังปวดหัวอยู่เลย”
อยากโดดเหมือนกัน แต่ทุกๆ วันที่มีเรียนตรงกับครามสมุทรก็ไม่อยากโดดหรอก อยากมาเจอหน้ามากกว่า แต่โคตรจะผิดกับวันนี้เลยจริงๆ ฟองฟางที่ฝืนขุดตัวเองขึ้นจากเตียงนอนแล้วตั้งใจมาเรียนเพื่อเจอครามสมุทรรู้สึกอยากกลับบ้านไปซะเดี๋ยวนี้ตั้งแต่ได้ดูคลิปอันนั้น
“ฟอง เมื่อคืนโอเคมั้ย” พอถูกถามแบบนั้นคนที่กำลังนั่งเม้มปากอยู่ถึงกับสะดุ้ง ช็อปเท้าคางวางศอกบนโต๊ะแถมยังยื่นหน้าถามฟองฟางที่ขมวดคิ้วยุ่งไปหมด
“โอเคมั้ง หลับสบายเลย” อ้อมแอ้มตอบแต่มือที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋านี่กุมกันแน่นเลย ฟองฟางเลี่ยงที่จะสบตากับทุกคน เพราะรู้ว่าสามคนนี้ที่นั่งอยู่ด้วยต่างก็เห็นภาพเมื่อคืนชัดเจนกันทั้งนั้น
แกล้งไม่รู้ดีกว่า แกล้งไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่าง ยังไงก็เมานี่นา
“ฟอง ถามไรหน่อยดิ”
“...”
“เมื่อคืนอ่ะ”
“...”
“เคลิ้มเลยป่ะ”
“เคลิ้มอะไร...”
“ที่ไอ้ครามมันจูบอ่ะ”
“...”
ก็กล้าถาม...
ฟองฟางกะพริบตาช้าๆ ซ่อนความตกใจไว้ในอกส่วนลึกที่สุดของหัวใจ ดวงตากลมๆ มองผู้ชายตัวสูงที่นั่งอยู่ข้างๆ ช็อป สีหน้าของคนคนนั้นเรียบนิ่ง เหมือนไม่สนใจกับสิ่งที่ช็อปถามและไม่สนใจจะฟังคำตอบของฟองฟางด้วย...
เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนครามสมุทรคงไม่เก็บมาใส่ใจ
หรือจริงๆ แล้วมันแย่มากจนครามรับไม่ได้?
...ก็คิดว่าแย่จริงๆ นั่นแหละ
“จูบอะไรเหรอ” ฟองฟางยิ้มนิดๆ
“...”
“ไม่เห็นรู้เรื่องเลย” รอยยิ้มประหม่าเหมือนเดิมที่มักจะใช้ตอนที่ต้องเข้าไปคุยกับครามสมุทร
“นี่มึงจำอะไรไม่ได้จริงๆ เหรอวะฟอง” แยมหันมาขมวดคิ้วถาม
แวบหนึ่งที่ฟองฟางกลั้นใจหันไปมองครามสมุทรเพื่อดูว่าอีกฝ่ายมีปฏิกิริยาอะไรบ้าง แต่ก็ไม่...แล้วก็ต้องเม้มปากแน่นเมื่ออีกคนหยิบหูฟังมาเสียบเข้ากับโทรศัพท์ ก้มหน้าเล่นไอโฟนเหมือนไม่อยากฟังสิ่งที่แยมกับช็อปกำลังย้ำถาม
ฟองฟางคิดในหัว ถ้ารู้ว่าผลลัพธ์มันออกมาไม่ต่างจากเดิม คราวหลังจะไม่เมาแอ๋แบบนั้นอีกแล้ว
คนตัวขาวจัดส่ายหน้า ไม่ตอบคำถามใครทั้งนั้น แค่นี้ก็จะแย่แล้ว ภาพในคลิปที่พี่ซองส่งมาให้มันลอยวนในหัว ดูก็รู้ว่าครามสมุทรไม่ชอบใจ ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาพูดหยอกล้อกันแบบนี้สักหน่อย
ฟองฟางเลยหยิบไอโฟนออกมาเล่นบ้างปล่อยให้แยมกับช็อปคุยกันเรื่องอื่นๆ เบนความสนใจจากเขาไปสักที แต่เชื่อมั้ย ฟองฟางไม่มีสมาธิเล่นโทรศัพท์เลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะกดเข้าแอพไหนเลยได้แต่เลื่อนหน้าจอไปมา
จนกระทั่ง...
Kram: เรื่องเมื่อคืน
Kram: จำอะไรไม่ได้จริงๆ?
*****
“คืนนี้ไปอีกมั้ยฟอง พวกพี่แจ็คมันชวนอีกละ”
“แต่เขาชวนแค่สาขามึงไม่ใช่เหรอ พี่ๆ กูก็ไม่เห็นมีใครเอ่ยปากสักคน” แยมเอนศีรษะพิงไหล่ฟองฟาง ท่าทางเหนื่อยๆ เพราะเมื่อคืนก็นอนดึกพอสมควร
ฟองฟางส่ายหัวให้ช็อประหว่างที่กำลังเรียนวิชา HUM120 ที่รวมเอานักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งทุกคณะมานั่งบนพื้นรวมกันในหอประชุมใหญ่แล้วเรียนโดยมีอาจารย์ผู้หญิงคนหนึ่งที่ฟองฟางยังจำชื่อไม่ได้มาพูดสอนผ่านไมค์และเปิดโปรเจ็กเตอร์ประกอบการสอนไปด้วย
ฟองฟางนั่งมองแผ่นหลังกว้างๆ ของครามสมุทรที่เคลื่อนไหวตามจังหวะหายใจ
ครามสมุทรนั่งอยู่หน้าเขาตรงแถวซ้ายมือ นั่งใกล้ๆ กันนี่แหละ ส่วนข้างๆ เขาคือเพื่อนอีกคนที่มานั่งขั้นกลางระหว่างครามสมุทรกับช็อป
“ไม่เห็นเป็นไรเลย ฟองกับแยมก็น้องรหัสพี่ซองกับพี่ก้าม พวกนี้ก็เพื่อนกลุ่มเดียวกันทั้งนั้นอ่ะ ไปเหอะ” ช็อปสะกิดเอวฟองฟางยิกๆ เพราะคนบ้าจี้อยู่แล้วเลยดิ้นยุกยิกไปกันใหญ่
“ไม่เอาอ่ะช็อป อยากกลับไปนอนมากกว่า”
“กลัวซ้ำรอยแบบเมื่อคืนเหรอ” ช็อปยิ้ม ผลักไหล่ฟองฟางขณะที่คนถูกถามส่ายหน้ารัว
“จำอะไรไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”
“เมื่อคืนฟองดื่มโคตรหนักอ่ะ”
“จริงๆ นะ...ไม่ค่อยถูกกับเหล้าเบียร์เท่าไหร่”
“แต่ฟองเมาแล้วโคตรน่ารักเลยรู้ตัวเปล่า” ตาหวานเยิ้มกับยิ้มน้อยๆ จากช็อปทำให้คนฟังได้แต่หัวเราะแหะๆ ฟองฟางพยายามเลี่ยงคุยเรื่องเมื่อคืนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็นะ มันคงฝังลึกในสมองทุกคนที่ไปดื่มเมื่อวานแล้วแหละ
“สรุปไปมั้ย เราสัญญาเลย จะไม่ให้ฟองดื่มสักแก้ว เดี๋ยวเราดื่มแทน”
“มึงไม่ต้องมาทำตัวเป็นครามสมุทร” แยมแขวะ เบะปากหน่อยๆ
“ครามทำไมเหรอ” บอกตรงๆ ว่าพอมีชื่อคนคนนั้นในบทสนทนาฟองฟางก็หูผึ่งทันที
เขาหันไปกระซิบกับแยมที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยมต้น สนิทกันมาก ไปไหนมาไหนด้วยกันจนคนอื่นคิดว่าเป็นแฟนกัน
“เมื่อคืนครามมันดื่มแทนมึงอ่ะ” แยมกระซิบกลับเบาๆ
“ครามเนี่ยนะ”
“เออ หัวใจของมึงนั่นแหละ”
บ้าน่ะ
ฟองฟางหลับตาสงบสติตัวเอง ไม่อยากเชื่อว่าครามสมุทรจะดื่มแอลกอฮอล์แทนทั้งๆ ที่ผ่านมาอีกฝ่ายก็ดูไม่หือไม่อืออะไรกับฟองฟางเลยสักนิด ติดจะเย็นชาใส่กันมากกว่า
“ไม่ไปอ่ะช็อป วันนี้ไม่มีใครอยู่บ้านด้วย ต้องรีบกลับไปเฝ้าบ้าน”
“มึงไม่ไปเดี๋ยวกูไปเอง โอเคมั้ยไอ้ช็อป”
“เธอเป็นผู้หญิง ไปกับเรามีแต่ผู้ชายดูไม่ดี”
“เมื่อวานก็มีแต่กูที่เป็นผู้หญิง วันนี้มีแต่กูอีกจะเป็นอะไรไป”
“ฝากจดด้วยแยม เดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำก่อน”
“เอ้า ไอ้นี่...”
ขัดคนที่เถียงกันสองคนด้วยการวางสมุดไว้บนตักของแยมแล้วค่อยๆ ลุกขึ้นย่อตัวขอแทรกเพื่อนคนอื่นๆ เพื่อออกจากแถว ฟองฟางหยิบไอโฟนติดมือไปด้วย เขาไม่ได้อยากไปเข้าห้องน้ำ แต่เขาแค่อยากไปตอบแชตของใครคนหนึ่งที่ส่งมาตั้งแต่เมื่อเช้าเท่านั้นเอง
ฟองฟางฉีกยิ้มให้รุ่นพี่ที่เดินป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ ห้องประชุม ผ่อนลมหายใจออกปากเบาๆ...ไม่รู้ว่าคนอื่นได้ดูคลิปนั้นกันหมดทั่วมหา’ลัยแล้วหรือยัง ไม่รู้ว่าพี่ซองส่งคลิปให้ใครบ้าง
ไม่รู้อะไรแล้ว ไม่อยากรู้อะไรเลย
คนตัวขาวเดินก้มหน้าสาวเท้าฉับๆ ก่อนจะมายืนแอบอยู่ในห้องน้ำ ฟองฟางพิงสะโพกบนอ่างล้างหน้า พลางใช้ปลายนิ้วโป้งกดเข้าหน้าแชตของครามสมุทร ปลายนิ้วกดยิกๆ พิมพ์ข้อความยาวๆ อย่างกับเรียงความสมัยอยู่ประถมที่คุณครูบังคับให้เขียน แต่สุดท้ายเขาก็พิมพ์ๆ ลบๆ อยู่อย่างนั้น เพราะไม่รู้ว่าบอกไปตรงๆ ดีมั้ยว่าเห็นคลิปแล้ว อยากขอโทษถ้าทำให้ครามสมุทรไม่พอใจ...หรือจะบอกว่าอะไรดีก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน
ที่รู้ๆ ตอนนี้ไม่เอาอีกแล้วไอ้แอลกอฮอล์บ้าบอนั่นน่ะ…ทำวุ่นวายไปหมดเลย
ระหว่างที่กำลังยืนพิงกำแพงกัดเล็บอย่างประหม่า ในหัวก็หาคำพูดสวยๆ ไปตอบแชต แต่จู่ๆ ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออกพร้อมกับขายาวๆ ภายใต้กางเกงสีดำของใครบางคนย่างกรายเข้ามา ฟองฟางเหลือบมองเท้าของคนคนนั้นก่อนจะขยับตัวหลีกทางให้เพราะตัวเองยืนขวางทางเข้าออก แต่คนที่เข้ามาใหม่กลับหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขา เงาดำๆ ส่งผลให้ฟองฟางเงยหน้ามอง
“...คราม”
“ไม่เห็นตอบแชต”
“กำลังจะตอบนี่ไง”
ครามสมุทรยืนล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ตรงหน้าเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ฟองฟางเลิ่กลั่กไม่เป็นท่า อยู่ดีๆ ก็ยื่นไอโฟนไปให้อีกคนดูเฉยเลยว่าตัวเองกำลังพิมพ์ข้อความอะไร
“คือ ขอโทษนะคราม”
“...”
“เราเมามาก ไม่รู้อะไรเลย”
ครามสมุทรถอนหายใจ คนที่ตัวสูงหมุนกลับไปที่ประตูห้องน้ำก่อนจะกดปุ่มล็อกไม่ให้ใครเข้ามาได้ หัวใจของฟองฟางเต้นไม่เป็นจังหวะไปแล้ว มันหวั่นๆ กลัว ประหม่า ในหัวนี่คิดไปแล้วว่าครามสมุทรคงไม่ชอบมากๆ และอาจจะปิดห้องน้ำฆ่ายัดส้วมไปเลยก็ได้
ก็ไม่เคยอยู่กับครามสมุทรสองต่อสองในระยะประชิดแบบนี้มาก่อน
แต่ถ้าครามสมุทรอยากจะชำระความจริงๆ แค่ต่อยก็เจ็บจะแย่แล้ว
อือ ต่อยก็พอเหอะ
เนี่ย ยื่นหน้าให้ต่อยเลย
พอคิดแบบนั้นคนที่ตัวสูงแค่ไหล่ของครามสมุทรก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นแล้วหลับตาขมวดคิ้วแน่น สองมือสั่นๆ กำอยู่อย่างนั้นหวังจะให้มันระบายความกลัวไปได้บ้าง แต่ก็ไม่ได้ผลอะไรเลย
“ทำอะไร”
“รอครามต่อยไง”
“...”
“ต่อยกี่ทีก็ได้เตะก็ได้...แต่เราอยากให้รู้ว่าเราไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”
“ไม่ได้ตั้งใจอะไรบ้าง”
ฟองฟางหลงน้ำเสียงทุ้มนุ่มของครามสมุทรมากจริงๆ เสียงที่เขาไม่คิดว่าในชีวิตนี้จะได้ยินใกล้ขนาดนี้ เป็นครั้งแรกเลยนะที่ครามสมุทรคุยกับเขาตั้งหลายประโยค
ฮือ ไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจดี
สถานการณ์แบบนี้มันไม่ใช่เลย
“ฟอง” ครามสมุทรย้ำชื่อเขาด้วยน้ำเสียงนุ่ม จากที่กำลังรอบทลงโทษก็กลายเป็นเคลิ้มไปเลย
ฟองฟางก็เป็นแบบนี้แหละ
เป็นคนที่พ่ายแพ้ให้กับทุกอย่างที่เกิดขึ้นจากครามสมุทร
“ทุกอย่าง”
“อะไรบ้าง”
“คราม...”
“...”
“อย่ากดดันเราได้มั้ย”
“กล้าหน่อย หรือต้องรอให้เหล้าเข้าปากอย่างเดียว?”
“...”
“ก็ เราจำไม่ได้นี่นาว่าเราพูดอะไรไปบ้าง”
“...”
“แต่ เราเห็นคลิปแล้ว” ฟองฟางลืมตามองคนที่สูงกว่าตั้งสิบห้าเซ็นต์ยืนขมวดคิ้วยุ่ง “พี่ซองส่งมาให้”
“อือ”
ฟองฟางกลืนก้อนแข็งๆ ลงคอแล้วยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น...ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมาเพราะอีกฝ่ายก็เงียบเหมือนกัน รู้สึกว่าตัวเองคิดผิดที่เดินออกมาเข้าห้องน้ำทั้งๆ ที่ตอนนั้นก็คว้าไอโฟนออกมาส่งแชตตอบครามสมุทรยังได้
เพราะไม่กล้าตอบแชต นึกคำพูดไม่ออกก็เลยเป็นแบบนี้แหละ
“เราเมาก็จริงแต่...ที่พูดออกไป”
“...”
“พูดออกจากใจจริงๆ”
ต่อจากนี้อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดไปเถอะ
“ขอโทษนะที่ทำให้...”
“เย็นนี้อยู่รอก่อน อย่าเพิ่งหนีกลับ”
“...”
ฟองฟางเหมือนถูกช่วงชิงลมหายใจทันทีตอนที่ฝ่ามือหนาวางลงบนผมนุ่มๆ สีน้ำตาลธรรมชาติของเขา และถ้าตาไม่ฝาด ฟองฟางเห็นชัดเลยว่าครามสมุทรกำลังอมยิ้ม...ถึงแค่จะเล็กๆ น้อยๆ และแวบเดียวแต่เขามั่นใจมากๆ
“ตัวสั่นแล้วฟอง” ครามสมุทรบอกเบาๆ แล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องน้ำ ทิ้งให้คนที่ได้ฟังเสียงทุ้มๆ แทบละลายจมไปกับพื้นเดี๋ยวนั้น
โคตรจะพลิกล็อกเลย
*****
Yammy: ถามจริงเหอะ มึงไว้ใจมันขนาดนั้นเลยวะ
Yammy: แค่มันลูบผมหน่อยมึงก็ใจแตกแล้วว่างั้น
.ff: บอกตรงๆ ว่าใช่ ._.
Yammy: เฮ้อออ มึงนี่น้า
ฟองฟางนั่งแกว่งขาอยู่บนเก้าอี้สตูลบาร์ในร้านกาแฟใต้ตึกเรียนใหม่ของมหา’ลัย ที่มารอที่นี่ก็ไม่ใช่เพราะอะไรเลย เพราะครามสมุทรนั่นแหละ รายนั้นแชตมาดักฟองฟางตั้งแต่ยังไม่เลิกเรียนเลยด้วยซ้ำ เขาบอกให้ฟองฟางมานั่งรอตรงนี้ก่อน
ถึงจะอยู่คณะวิทยาศาสตร์เหมือนกันแต่ก็ยังอยู่คนละสาขาอยู่ดี ครามสมุทรเรียนเคมีส่วนฟองฟางเรียนคณิตศาสตร์ แน่นอนว่าวิชาที่เรียนไม่ตรงกัน แต่เวลาเลิกเรียนบางวันน่ะเหมือนกันเป๊ะๆ เลย
แล้วเท่าที่จำได้ วันนี้ครามสมุทรต้องเลิกเรียนพร้อมเขา...แต่ก็ยังไม่เห็นว่ามีนักศึกษาชั้นปีหนึ่งที่เรียนสาขาเคมีเดินออกจากลิฟต์สักคน
นั่งไปใจก็ตุ้มๆ ต่อมๆ บอกตรงๆ ว่าไม่ชินเลยกับการที่จะต้องเผชิญหน้ากับคนที่แอบชอบแบบนี้
“รอนานมั้ย”
ฟองฟางสะดุ้งโหยงเด้งตัวลงจากเก้าอี้สูงๆ ทันที แทบเซล้มลงพื้นเพราะตกใจตื่นเต้นแต่โชคดีมากที่ครามสมุทรคว้าแขนเขาไว้ก่อน
“ขอบคุณนะ”
“ลนอะไรขนาดนั้น”
“ครามมีอะไรจะคุยกับเราเหรอ”
ไม่ตอบคำถามแต่เปิดประเด็นคาใจไปเลย ครามสมุทรเลิกคิ้วเหมือนแปลกใจอะไรสักอย่าง แต่ถึงอย่างนั้นคนตัวสูงก็ไม่ได้แสดงท่าทีหรือแสดงความรู้สึกอะไรออกมา
“ไม่มี”
อ้าว...
“ฝนตก กลับบ้านยังไง”
ถึงจะงงเพราะอีกฝ่ายบอกว่าไม่มีอะไรทั้งๆ ที่ตอนแรกก็บอกให้รอเหมือนมีเรื่องจะคุยก็ตาม แต่ฟองฟางก็ยังส่งยิ้มแหย เอียงคอเกาหัวก่อนจะงึมงำตอบคำถามครามสมุทร
“ก็กลับรถไฟฟ้าเหมือนเดิม”
“ฝนตกแบบนี้?”
“อื้อ เร็วสุดแล้ว”
“ต้องฝ่าฝนออกไป”
“อื้อ”
“เดี๋ยวกลับด้วยกัน”
“...”
“รอตรงนี้ เดี๋ยววิ่งไปเอารถมารับ”
ไม่รู้ทำไม...
“ด เดี๋ยวคราม”
ครามสมุทรถึงทำให้ฟองฟางแปลกใจได้ขนาดนี้
คนตัวเล็กกว่าขยับเท้าเล็กน้อย เอื้อมมือไปแตะแขนของคนตัวสูงที่ทำท่าจะหมุนตัวเดินออกไป ครามสมุทรชะงักแล้วหันมองเขาที่เม้มปากแน่น คนตัวโตเลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อฟองฟางทำท่าอึกอัก
“ถ้าเราจะขอเดินไปด้วย ได้หรือ...”
“อือ ไปสิ”
“...”
“อาจจะเปียก ไม่มีร่ม”
“ไม่เป็นไรเลย” ยิ้มบางๆ พร้อมส่ายหน้าให้คนตรงหน้า
ไม่เป็นอะไรเลย...ถ้าได้เปียกฝนไปกับครามสมุทร
ฟองฟางก็พร้อมยอมเปียกอยู่แล้ว
*****
ต่างคนต่างวิ่งหนีฝนเพื่อกระโดดขึ้นปอร์เช่สีดำเงาวับเร็วๆ สักที ความจริงครามสมุทรควรจะวิ่งถึงรถของตัวเองตั้งนานแล้ว เพราะอีกฝ่ายมีช่วงขาที่ยาวกว่าฟองฟางตั้งหลายเซ็นต์ แต่คนตัวสูงกลับวิ่งอยู่ข้างๆ คนที่เตี้ยกว่าอย่างเขาอยู่อย่างนั้นจนพวกเขาสองคนถึงปอร์เช่คันหรู
“ขึ้นรถ” เจ้าของรถสั่งก่อนจะเปิดประตูฝั่งข้างคนขับ ฟองฟางเกือบทำอะไรไม่ถูก ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่าครามสมุทรจะเปิดประตูรถให้
ฟองฟางรีบเก็บความประหลาดใจใส่ไว้ในอก เขาก้มตัวขยับขึ้นรถปอร์เช่ที่ด้านในเป็นเพลิงดูร้อนแรง กัดริมฝีปากสีชมพูเบาๆ เมื่อเสียงประตูปิดดังขึ้น และไม่นานประตูรถฝั่งคนขับก็เปิดออก
เจ้าของร่างสูงที่ฟองฟางชอบแอบมองใช้เวลาไม่นานในการพาตัวเองขึ้นประจำที่นั่งฝั่งคนขับ สตาร์ทเครื่องยนต์ เปิดไฟหน้ารถ หรือแม้กระทั่งปรับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศไม่ให้เย็นจนเกินไป ทุกการกระทำที่ดูกระฉับกระเฉงค่อยเป็นค่อยไปของครามสมุทรอยู่ในสายตาฟองฟางตลอด
เป็นอีกครั้งที่ฟองฟองนั่งเงียบไม่ปริปากเมื่อมีครามสมุทรอยู่ด้วยใกล้ๆ ปกติเขาก็เป็นคุยเก่งระดับหนึ่ง แบบว่ามักจะหาเรื่องคุยกับเพื่อนตลอด แต่ถ้าที่ไหนมีเขาคนนั้น ฟองฟางก็ไม่เป็นขึ้นมาทันทีเลย
อะไรไม่รู้...อึดอัดแปลกๆ แต่ก็ชอบแปลกๆ เหมือนกัน
ชอบที่ได้อยู่ใกล้เขา
แต่พออยู่ใกล้กันฟองฟางก็ไม่กล้าหันไปมองบ่อยๆ โชคดีที่ตอนนี้ฝนตก เลยมีจุดให้โฟกัสสายตาก็คือเม็ดฝนที่กลิ้งอยู่บนกระจกด้านหน้ากับด้านข้าง
ในกรุงเทพฯ ฝนตกหนักมาก อากาศมันหนาวๆ ด้วย แต่ฟองฟางกลับรู้สึกอบอุ่น...อุ่นเพราะครามสมุทรเอามืออังแอร์แล้วก็ปรับอุณหภูมิให้ตั้งหลายรอบ
“บ้านเราอยู่หมู่บ้านสิริธารา เข้าไปแล้วเลี้ยวซ้ายสุดซอยเลย”
“อือ”
พอรถวิ่งมาได้สักพักฟองฟางที่นั่งเงียบๆ ก็เป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อน ระหว่างบอกทางไปบ้านของตัวเองหัวใจก็เต้นตุบตับไปด้วย
“จอดตรงนี้ก็ได้...ขอบคุณนะ” ฟองฟางบอกแค่ซอยบ้าน แต่ไม่ได้บอกว่าบ้านหลังไหน โชคดีที่ครามสมุทรค่อยๆ ขับ ไม่งั้นเลยบ้านแน่ๆ
และก็จอดตรงหน้าบ้านพอดีเป๊ะ ฟองฟางรีบรวบกระเป๋าเป้แนบอกแล้วเปิดประตูรถเดินตากฝนออกไปโดยไม่รอฟังว่าคนที่ขับมาส่งจะพูดอะไรหรือเปล่า
“อยู่ไหนเนี่ย” ก้มหน้างุดอยู่หน้าประตูบ้าน หาลูกกุญแจในกระเป๋าเป้ช่องเดิมที่เก็บไว้ประจำ แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ฝนก็ตกลงมาแบบไม่สงสารคนตัวเล็กๆ อย่างฟองฟางเลยสักนิด...กุญแจอยู่ไหนแล้วก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ ตอนนี้เสื้อเขามันเปียกฝนไปหมด
พอเหลือบตามองก็ยังเห็นปอร์เช่คันเดิม
โคตรจะน่าอาย
ฟ้าฝนไม่เป็นใจ ทำไมต้องทำให้ครามเห็นด้านแย่ๆ อยู่เรื่อยก็ไม่รู้
ฟองฟางมองเข้าไปในบ้านเดี่ยวสองชั้นที่ปิดไฟมืดทั้งหลัง นึกขึ้นได้ว่าว่าเมื่อเช้าตอนออกจากบ้านตัวเองไม่ได้เอากุญแจออกมาด้วย แล้วตอนนี้ที่บ้านก็ไม่มีใครอยู่สักคน...ไม่อยู่สักประมาณห้าวันเลยแหละ
คนตัวเล็กยืนคอตกอยู่หน้าบ้านเหมือนลูกหมาเปียกฝน ผมสีน้ำตาลธรรมชาติของฟองฟางลู่แนบไปกับหน้า จะหันหลังกลับไปก็ไม่ได้เพราะปอร์เช่ยังจอดอยู่ ฟองฟางไม่อยากให้ครามสมุทรเห็นว่าตัวเองกำลังร้องไห้
ขอร้องไห้หน่อยเหอะ อะไรก็ไม่เป็นใจสักอย่าง
“เข้าบ้านไม่ได้เหรอ”
จนกระทั่งเสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นในระยะใกล้พร้อมกับฝนที่ตกลงมาแต่ไม่โดนตัวฟองฟางเพราะมีร่มบังอยู่ คนตัวขาวรีบหันหลังกลับไปมอง แล้วก็ต้องผงะถอยหลังออกไปก้าวหนึ่งเมื่อเจอกับแผ่นอกกว้างๆ ของเจ้าของรถปอร์เช่
คราสมุทรขยับเข้ามาหนึ่งก้าวเพื่อให้ฟองฟางอยู่ในร่มคันเดียวกัน
ระยะที่ใกล้กันทำให้เขามีโอกาสได้เพลินไปกับกลิ่นหอมอ่อนๆ จากกายของครามสมุทรไปพร้อมๆ กับกลิ่นของสายฝน ก่อนจะเม้มปากกลั้นหายใจ กลอกตาลุกลี้ลุกลนตอนที่ต้องแหงนหน้ามองอีกฝ่าย รู้อยู่แล้วว่าครามสมุทรสูงมาก แต่ไม่คิดว่าจะสูงขนาดนี้...แบบที่เขาต้องเงยหน้าคุยถ้าไม่อย่างนั้นก็จะเห็นแค่แผ่นอกกับกระดูกคอสุดจะเซ็กซี่ของครามสมุทรที่มันวับๆ แวมๆ อยู่ในเสื้อนักศึกษา
มือไม้สั่นจนต้องยกขึ้นมาเกาหัวให้อีกฝ่ายมองไม่ออกว่าเขาตื่นเต้นและตกใจมากแค่ไหน
“เราน่าจะลืมกุญแจไว้ในบ้าน”
“โทรบอกให้คนในบ้านออกมาเปิดประตู”
ตากลมๆ สบกับตาคมที่มองมาแบบนิ่งๆ ฟองฟางยิ้มแหย ขยับปากอ้อมแอ้มตอบคนตรงหน้า
“พ่อกับแม่เราไปต่างจังหวัด ไม่มีใครอยู่บ้าน”
“...”
“ขอโทษนะ ขอยืมร่มหน่อยได้มั้ย…หน้าปากซอยมีโรงแรมอยู่ เราว่าจะไปเช่านอนก่อน”
ว่าจะไม่ทำให้ลำบาก ว่าจะไม่รบกวนแล้วเชียว
“ที่บ้านจะกลับมาวันไหน”
“ไปห้าวัน...น่าจะกลับอาทิตย์หน้าเลยแหละ”
“อือ”
อือ...
“...”
“ไปอยู่ด้วยกันก่อนมั้ย”
“...”
“ที่บ้านกลับมาเมื่อไหร่ค่อยว่ากันอีกที”
ถ้าเขาเป็นแยม ป่านนี้คงหวีดจนเสียงหลงแล้วบอกว่า ‘ขออยู่ถาวรเลยได้มั้ย’ ‘ชวนแล้วชวนเลยไม่ส่งกลับได้หรือเปล่า’
ก็นั่นแหละ...ตอนนี้โคตรอยากสวมร่างเป็นแยมเลยจริงๆ
#ฟองฟางครามสมุทร
ชอบไม่ชอบไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ คือชวนไปอยู่ด้วย ._.
ฟองแย่แล้วแน่ๆเลย