...ระบบอุปถัมภ์...ตอนพิเศษ คริสต์มาส...=> หน้าที่ 48 (24/12/2021)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...ระบบอุปถัมภ์...ตอนพิเศษ คริสต์มาส...=> หน้าที่ 48 (24/12/2021)  (อ่าน 305060 ครั้ง)

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
แงงง น่ารักกกกกก ชอบตอนนี้มากเลยค่ะ  :sad4: ตอนหน้าจะเหลือโมเมนต์ไหมนะ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
โอ๊ยยยยยยยยยยย เขาใจตรงกันล่ะ

ออฟไลน์ norimaki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
โอ๊ยยยยยยเขาใจตรงกัน ไม่พอเขาตรงต่อใจกันและกันอีก
ไม่ต้องอ้อมค้อมก็รู้ว่าหมายถึงใคร แล้วปลัดของเราจะทันพี่เขามั้ยน๊าๆ
เห็นนิ่งๆแบบนั้น พอเขาเอาแต่ใจก็ตามเข้าไม่ทันนะ เฮ้ออน่ารัก
แต่ความน่ารักก็มาพร้อมความตื่นเต้น พี่จะช่วยน้องยังไงต่อเนี้ย ลุ้นจัง

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
พี่ทิศๆๆๆ  :กอด1:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ใจบางมากแล้วค่ะ ทำไมเป็นคนแบบนี้กันล่ะ
แทบล้มลงไปกองตรงหน้าแทนจิณแล้วนะ

จิณจะพาซื่อไปถึงไหน เข้าทางพี่เลย
ได้ทั้งกอดทั้งจูบ แถมไปหลายรอบ

เอ็นดูพี่ทิศ ต้องมาง้อน้องถึงที่

ชอบความรู้ทันกัน มองตาก็รู้ใจ
คนที่ใช่ จะยังไงก็ห้ามยากเนาะ
พ่อแม่จิณไม่ทันแล้วค่ะ พี่ทิศไม่ปล่อยแน่นอน

โอ๊ยยยย อยากรู้เลยว่าทองสุกฝากบอกอะไรไว้
ทำไมไพศาลถึงไม่ยอมจบสักที ขนาดโดนเตือนมาแล้ว
ลุงเทียมไม่ธรรมดาจ้า สายตรงสายด่วนขนาดนั้น

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :katai2-1:


จะเป็นใหญ่ ใจต้องนิ่ง

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
งื้อออออ จูบซ้ำๆ  :m25: :m25:

ออฟไลน์ joborcusier

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เขินมากๆ ไม่คิดว่าจะสวิงอารมณ์ไปมามากขนาดนี้ พี่ทิศน้องก่อเรื่องอีกแล้วว :z2: :hao7:

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
น้องจิณโดนแน่ๆ ไปปลุกเสือหลับเข้าให้แล้ว
ตอนนี้แอบหวังว่าน้องจิณจะเป็นคนเยดุ เร่าร้อนทะลุขีด 555555

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3
จูบกันแล้วๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
ระบบอุปถัมภ์
By: Dezair
……………………..
ตอนที่ 9


เพราะถูกหัวหน้าคะยั้นคะยอให้ไปเป็นตัวแทนที่ว่าการ จิณณะย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ พิทักษ์เองก็ไม่ปล่อยให้เขาไปเพียงลำพังเช่นเดียวกัน เที่ยงวันเสาร์ ชายหนุ่ม 2 คนจึงปรากฏตัวขึ้นที่งานเลี้ยงวันเกิดควบกับงานเปิดตัวปั๊มน้ำมันแห่งใหม่ของนายไพศาล


“โอ้ ปลัด คุณพิทักษ์! ขอบคุณมากที่มา ขอบคุณๆ” เจ้าของงานยิ้มแย้มหน้าใหญ่ใจกว้างเหมือนเคย ทักทาย ตบบ่าตบไหล่เหมือนสนิทสนมกับพิทักษ์และจิณณะมานาน


“ยินดีด้วยนะครับ คุณไพศาล” ปลัดหนุ่มเอ่ย “นายอำเภอมาไม่ได้ เลยวานผมให้ถือดอกไม้มาแสดงความยินดี” เขาว่าอย่างนั้น พลางส่งแจกันดอกไม้ให้ลูกน้องของไพศาลที่ยืนอยู่บริเวณนั้นช่วยรับแทน


ไพศาลปรายสายตามองแจกันแวบเดียวแล้วหันมายิ้มให้จิณณะ


“ฝากขอบคุณนายอำเภอด้วยนะครับ” ว่าแล้วก็หันมาทางพิทักษ์


“เห็นคุณเทียมบอกผมว่าติดธุระ ไม่คิดว่าท่านจะส่งคุณพิทักษ์มาแทน”


หลานชายของคุณเทียมยิ้มจาง


“ผมมาเป็นตัวแทนคุณลุง และมาเป็นเพื่อนปลัดจิณณะด้วย” ไม่มีความจำเป็นต้องบอก แต่พิทักษ์อยากย้ำสถานะของเขาและจิณณะให้ไพศาลรับรู้อีกครั้ง


จิณณะเป็นคนของเขา เป็นคนของหลานชายคุณเทียม หากจะมีใครไม่ขึ้นตรงต่อคุณเทียมก็ได้ แต่จะทำอะไรโดยไม่เกรงอกเกรงใจคุณเทียมไม่ได้


   เจ้าของงานชะงักไปเล็กน้อย มองพิทักษ์สลับกับจิณณะ แล้วยิ้ม


   “คุณพิทักษ์พูดแบบนี้ สงสัยเรื่องที่ผมได้ยินมาคงไม่ผิด...” พิทักษ์เพียงยิ้ม ไม่ตอบ แต่เหลือบมองคนข้างกายราวกับจะบอกว่าถ้าเรื่องที่ไพศาลได้ยินมาเกี่ยวข้องกับเขาและจิณณะ ‘เรื่องนั้น’ ไม่ผิดแน่นอน


   “พวกผมเข้าข้างในก่อนดีกว่า คุณไพศาลจะได้รับแขกคนอื่นๆ” ปลัดจิณณะเอ่ยปาก เจ้าของงานเองก็ไม่รั้งเอาไว้ ผายมือเชื้อเชิญสองหนุ่มเข้างาน แต่ไม่วายมองส่งตามหลัง


   เขาเห็นพิทักษ์แตะแขนปลัดหนุ่มเล็กน้อยยามให้เดินเคียงกันไปพบปะแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน ดูราวกับแนะนำจิณณะให้ผู้คนรู้จัก


   ไพศาลได้แต่ขมวดคิ้วมุ่นอย่างคิดไม่ตก


   ...คนของหลานชายคุณเทียม...


   ...เขาจะจัดการอย่างไรดี!!...

……………………….

   ไม่ต้องรอให้งานเลี้ยงเลิก จิณณะและพิทักษ์ก็ขอตัวหลังจากเห็นแขกส่วนหนึ่งเริ่มทยอยกลับ กระทั่งตอนที่เข้าไปลาเจ้าของงาน ก็ยังรู้สึกถึงความอึดอัดลอยคลุ้ง แม้ว่าไพศาลจะยิ้มแย้มแจ่มใสให้พวกเขาตลอดเวลาก็ตามที


   ไพศาลเปลี่ยนเป้าหมายแล้วจริงๆ


   เป้าหมายกลายเป็นจิณณะแล้วจริงๆ


   ทั้งๆที่ควรจะดีใจที่อย่างน้อย คนไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างวรชิตจะพ้นทุกข์พ้นภัยเสียที แต่ความดีใจย่อมไม่มากเท่าความกังวล เพราะทุกข์ภัยที่ว่ากำลังวิ่งตามจิณณะในขณะนี้


ประตูรถยนต์ของพิทักษ์ปิดลง เสียงถอนหายใจก็ดังขึ้น เจ้าของรถหันมอง เพียงเท่านั้นคนที่มักมีท่าทีร่าเริงแจ่มใสอยู่เสมอก็รู้สึกตัวว่าแสดงออกมากเกินไป จึงรีบหันไปเสยิ้ม


“โทษทีพี่ มันเหนื่อยๆ” เจ้าตัวไม่ได้บอกว่าเหนื่อยเรื่องอะไร แต่อีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะเข้าใจ เจ้าของรถไม่พูด เพียงแค่ยกมือขึ้นวางบนศีรษะของคนข้างกาย วินาทีแรกจิณณะสะดุ้ง แต่เมื่อมือยังวางอยู่บนศีรษะของเขาแบบนั้น กระแสอุ่นซ่านก็แผ่ลงมาสู่ขั้วหัวใจ


ไม่มีการขยับตัวหนี ไม่มีการเอียงศีรษะหลบ เขานั่งอยู่อย่างนั้นแล้วปล่อยให้ความอุ่นร้อนจากมือของพิทักษ์ผ่านลงสู่ร่างกายและหัวใจที่เหนื่อยล้าเพราะแบกรับความเครียดและกังวล


ทั้งๆที่รู้สึกว่าเหนื่อยจนแทบหายใจลึกๆไม่ไหวอีกแล้ว ทั้งๆที่คิดว่าการถูกจ้องเขม็งอย่างไม่ประสงค์ดีชวนให้หวั่นใจกลัวตายมากแล้ว แต่...ใครบางคนก็ยังอยู่ข้างๆไม่ไปไหน


“วันนี้มีธุระที่ไหนอีกรึเปล่า” เสียงทุ้มถามเบา


“ไม่มีแล้ว” คำตอบจึงแผ่วเบาพอกัน ทว่าภายในรถนั้นเงียบมากพอที่จะได้ยินเสียงพูดคุยราวกับกระซิบนี้


“ถ้าอย่างนั้นเข้ากรุงเทพฯกัน” คนถูกชวนเลิกคิ้วน้อยๆอย่างสงสัย พิทักษ์มองใบหน้าเหนื่อยล้าของคนข้างกายแล้วลูบศีรษะเบาๆราวกับให้กำลังใจ


“ไปกินข้าวบ้านพ่อแม่ของจิณกัน” 


ในวันที่ทั้งเหนื่อยทั้งล้า โกศลและจรรยาคงเป็นพื้นที่ที่ดีที่สุดสำหรับลูกอย่างจิณณะ

…………………….


จิณณะเคยรู้สึกว่าภายในรั้วอาณาเขตครอบครัววงศ์กีรติที่ห้อมล้อมคฤหาสน์สี่หลัง เป็นสถานที่ที่แสนเย็นชา แต่วันนี้ที่รู้สึกว่าคนข้างนอกกำลังอาฆาตมาดร้ายและหวังปลิดลมหายใจของเขา การเลี้ยวรถเข้ามาในอาณาเขตนี้กลับทำให้อุ่นใจอย่างประหลาด


รถยนต์ของพิทักษ์เคลื่อนตัวไปตามถนนที่มุ่งสู่คฤหาสน์หลังหนึ่ง จิณณะจับจ้องมันไม่วางตา ภาพความทรงจำที่มีทั้งพ่อ แม่ เขาและน้องชายไหลย้อนกลับมาไม่ขาดสาย


ต่อให้ในรั้วนี้จะเย็นเยียบสำหรับเขาแค่ไหน แต่ที่ ‘บ้าน’ หลังนี้...พ่อ แม่และจารีต กลับทำให้มันอุ่นขึ้นมาเสมอ


พิทักษ์และจิณณะลงจากรถ คฤหาสน์ทั้งหลังเงียบราวกับไม่มีคนอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเสียงรถก็ยังทำให้คนรับใช้วิ่งออกมาต้อนรับ


“พ่อกับแม่ล่ะ” ลูกชายคนโตของบ้านหันไปถาม


“คุณยาอยู่ในห้องครัวค่ะ กำลังทำกับข้าว” จิณณะเลิกคิ้วเล็กน้อย แปลกใจที่วันนี้แม่ลงครัวเองทั้งๆที่ปกติมักจะให้แม่บ้านดูแล เขาไม่พูดอะไร แต่หันไปพยักหน้าให้พิทักษ์เดินตามไปยังห้องครัว


กลิ่นหอมลอยออกมาปะทะจมูกตั้งแต่ยังก้าวเท้าไม่ถึงครัว ปลัดหนุ่มเผลอยิ้ม แค่ได้รู้ว่าเขายังได้กลับมาเหยียบที่นี่ ยังมีชีวิตอยู่และรับรู้การมีอยู่ของบิดามารดาในที่แห่งนี้...แค่นี้ก็อุ่นใจแล้ว


“แม่...” เขาส่งเสียงทัก รู้สึกเหมือนเสียงตัวเองสั่นเล็กน้อยจนต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่


จรรยาหันตามเสียง ก่อนจะเบิกตาโตที่เห็นลูกชาย รีบวางมือจากอาหารบนเตา


“จิณ” หล่อนทักแล้วยิ้ม


จิณณะก้าวเท้าเข้าไปหา เอื้อมมืออยากเข้าไปโอบมารดา แต่อะไรบางอย่างกลับฉุดแขนของเขาไว้


...ความกระดาก ความเขินอาย…


...ใช่...เขาไม่เคยทำ…


ลูกชายคนโตที่ก้าวเท้าเดินบนเส้นทางชีวิตของตนเอง ดื้อด้าน หัวแข็ง และมักใช้ความทะเล้นขี้เล่นบังหน้าตลอดเวลา กลับแสดงความรักอย่างเปิดเผยไม่เก่ง


เขาดึงแขนกลับ ฝีเท้าก้าวช้าลงแล้วเบี่ยงปลายเท้าไปชะโงกหน้าดูที่หม้อบนเตาแทน


“แม่ทำแกงส้มเหรอ แกงเองหรือว่าซื้อมาแล้วอุ่นอย่างเดียว” เขาหันมาถามหน้าเป็น จรรยาตีแขนลูกชายคนโตไปทีหนึ่ง


“ทำเองสิ” หล่อนตอบ ก่อนจะเหลือบไปเห็นพิทักษ์ยืนอยู่ที่ประตูครัวด้วย จรรยาทำหน้าไม่ถูกนัก แต่ก็เสยิ้มให้ชายหนุ่มผู้เป็นลูกเลี้ยงของน้องสาว


...พิทักษ์กับจิณณะมาด้วยกันอีกแล้ว...


“ไปไหนกันมา ทำไมมาด้วยกันได้”


จิณณะชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะทำเป็นง่วนหาช้อนมาลองชิมแกงส้มฝีมือมารดา


“ไปงานเลี้ยงมา”


“ไปด้วยกัน?”


“อื้อ” ลูกชายตอบ พลางตักชิมแกงส้มในหม้อที่กำลังได้ที่


“โอ๊ะ ร้อน!”


“ก็ร้อนน่ะสิ หิวรึไง จะทานก่อนไหม แม่จะตักให้ หรือจะรอทานที่บ้านใหญ่” ประโยคหลังทำให้คนเป็นลูกชะงักเล็กน้อย บ้านใหญ่ที่ว่าย่อมไม่ใช่ที่ไหน นอกเสียจากบ้านที่อยู่ข้างหน้าสุดของรั้ว...คฤหาสน์ของคุณกอบกุล


“วันนี้จะไปทานกันที่นั่น?” เขาย้อนถาม


“ตาชุนกลับมาจากอังกฤษ แม่ก็เลยทำแกงส้มไปตั้งโต๊ะด้วย ชุนบอกว่าอยากทาน”


“อ้อ...” ลูกชายคนโตรับคำ แล้วเดินไปวางช้อนที่ใช้ชิมแกงส้มเมื่อครู่ลงในอ่างล้างจาน


ชุน หรือชเยนตร์เป็นลูกชายคนเดียวของกชกรซึ่งเป็นป้าของเขา ตอนนี้เรียนปริญญาเอกอยู่ต่างประเทศ แต่อย่างที่คุณกอบกุลเคยยกมาข่ม ว่าแม้จะเรียนอยู่ต่างประเทศ ชเยนตร์ก็ช่วยเหลืองานของกชกรเสมอ ไม่เหมือน...จิณณะ


แม้พวกเขาลูกพี่ลูกน้องจะไม่มีใครเกลียดใคร หรือใครหมั่นไส้ใคร แต่วันนี้...จิณณะกลับรู้สึกไม่อยากพบหน้าญาติติโกโหติกาที่ไหนทั้งนั้น


เขาแค่อยากเจอหน้าพ่อแม่ แต่...ดูเหมือนจะเป็นวันที่พ่อแม่ไม่ว่างสำหรับเขาเสียแล้ว


“ชุนอยู่ที่บ้านเขาแหน่ะ จิณแวะไปหาสิ” จรรยาไม่เห็นสีหน้าหม่นหมองของลูกชายเพราะเขาหันหลังให้หล่อน และพอเขาหันหน้ามาหา เขากลับยกยิ้ม ทำตาใส


“เดี๋ยวไว้ว่างๆผมแวะไปขอของฝาก วันนี้แค่กลับมาเอาของน่ะ” เหตุผลที่มาคืออยากเห็นหน้าพ่อแม่ แต่ข้ออ้างที่พูดออกไปกลับเป็นเรื่องอื่น


บิดามารดารักเขาแค่ไหน จิณณะรู้ดี หากพูดออกไปว่าวันนี้ต้องทนอยู่ในสายตาของคนที่คาดว่าจะเป็นคนที่คิดร้ายกับเขา ทั้งโกศลและจรรยาจะต้องห่วงหาห่วงใยและพร้อมปลอบประโลม


แต่ในความเป็นจริง นิสัยของจิณณะไม่ใช่คนพูดเรื่องร้ายที่ตนประสบ หนำซ้ำยังแสร้งทำเป็นเข้มแข็งได้อย่างชำนาญ


“อ้าว วันนี้ไม่นอนที่นี่หรือ” คนเป็นแม่ถาม สีหน้าดูผิดหวังเล็กน้อย บุตรชายคนโตเพียงยิ้ม แล้วทำเป็นมองซ้ายขวา


“แล้วพ่อล่ะ อยู่บ้านป้ากชหรือ” คำตอบคือพยักหน้ารับ จิณณะสูดลมหายใจเล็กน้อย เขาไม่เคยเกลียดหรืออิจฉาพี่น้องคนไหน แต่ครั้งนี้...กลับรู้สึกว่าชเยนตร์ฉวยบิดาของเขาไป


และก่อนที่ความรู้สึกในใจจะยิ่งดำดิ่งไปสู่ความอิจฉาและเกลียดชังมากกว่านี้ จิณณะก็เลือกที่จะดึงตัวเองขึ้นมาแล้วพาออกห่างจากที่แห่งนี้เสีย


“แกงส้มจะไหม้แล้วแม่ ผมไปเอาของก่อนล่ะ แล้วเดี๋ยวไปเลยนะ” จรรยาได้แต่พยักหน้าอีกครั้ง จิณณะยกมือไหว้ลาก่อนจะเดินออกจากครัว ไม่ได้เดินเลี้ยวขึ้นบันไดกลับไปเอาของที่ห้องแต่อย่างใด  แต่เดินตรงออกจากบ้าน


พิทักษ์ลาจรรยาโดยไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน เขาเห็นปฏิกิริยาทุกอย่างของสองแม่ลูก จรรยารักลูกชายคนโตแค่ไหนเขาดูออก จิณณะเองก็รักมารดาเช่นกัน เพียงแต่...วันนี้กลับไม่ใช่วันที่ครอบครัวจะได้พร้อมหน้าพร้อมตาเลย


ทั้งๆที่เป็นวันที่จิณณะต้องการพ่อแม่มากที่สุดแท้ๆ แต่กลับไม่ใช่วันของเขา


รถของพิทักษ์เคลื่อนตัวออกจากคฤหาสน์วงศ์กีรติ ในขณะที่จิณณะนั่งเงียบซุกตัวอยู่กับเบาะ ผิดหวัง...แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ตีโพยตีพาย ตัวพิทักษ์เองก็ไม่ใช่คนปลอบโยนเก่ง แต่เขารู้ว่าใครบางคนทำแบบนั้นได้


อย่างน้อย ในช่วงเวลาที่เขายังเด็ก ใครคนนั้นก็เคยปลอบโยนเด็กชายที่ขาดแม่และก้าวร้าว ให้เติบโตขึ้นมาเป็นคนเต็มคนในวันนี้


...จิดาภา...


พิทักษ์ไม่พูดอะไร แต่ตัดสินใจเบี่ยงรถยนต์เข้าสู่ถนนที่มุ่งสู่บ้านของเขาแทน

………………..

ตั้งแต่คราวที่ครอบครัวของพี่สาวยกโขยงกันมาขอความช่วยเหลือ จิดาภาก็ไม่ได้พบหน้าหลานชายอีก จนกระทั่งวันนี้...คนที่พาจิณณะมาที่นี่อีกครั้งกลายเป็นลูกเลี้ยงของหล่อนเอง


หนำซ้ำ วันนี้หลานชายของหล่อนยังดูไม่ปกติอย่างที่เขาเคยเป็น จิณณะดูเหน็ดเหนื่อย ดูนิ่งเฉย และดูไม่ทุกข์ร้อนกับอะไรทั้งสิ้น ตอนเขาพบหน้าหล่อน เขาทำเพียงยกมือไหว้แล้วยิ้มจาง แต่ไม่พูดอะไรอีก


จิดาภาหาข้ออ้างว่าจะมาหาอาหารว่างไปให้ทานแก้หิว ลูกเลี้ยงของหล่อนจึงเดินตามเข้าครัวมาด้วย


“ไปไหนกันมา ทำไมมาด้วยกันได้”


“งานเลี้ยงของคนในจังหวัด จิณ...อาการไม่ค่อยดีเท่าไร ผมเลยพามากรุงเทพฯ”


พิทักษ์เลือกที่จะไม่บอกว่าพวกเขาเพิ่งไปร่วมง่านเลี้ยงของคนที่คาดว่าจะเป็นภัยต่อจิณณะ อีกทั้งไม่อยากบอกเรื่องที่พาจิณณะกลับไปที่บ้านวงศ์กีรติมาแล้ว ก่อนจะมาที่นี่


“อ้าว แล้วไปหาหมอรึยัง”


“รายนั้นแข็งแรง ไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก”


“แข็งแรงก็ใช่ว่าจะไม่เป็นไร เห็นจิณเงียบๆแบบนี้ แม่ใจไม่ค่อยดีเลย ฝากทิศดูๆหน่อยนะ” พิทักษ์มองมารดาเลี้ยงแล้วใจก็คิดถึงเรื่องเมื่อครู่


“แม่ภา บ้านคุณกอบกุล เขาไม่มีปัญหาอะไรกันใช่ไหม”


ตอนที่จรรยาพูดถึงคนที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ เขาเห็นจิณณะสลดลงเล็กน้อย ไม่รู้ว่ามีปัญหารุ่นลูกรุ่นหลานกันหรือไม่


“เท่าที่ได้ยินก็ไม่มีนะ เห็นคุณกอบกุลแกเป็นแบบนั้น แต่แกก็ยุติธรรม แกแบ่งสมบัติให้ลูกหลานไม่มีใครน้อยหน้าใคร ขนาดจิณที่ว่าไม่ใช่หลานรัก ก็ยังได้พอๆกับพี่น้องคนอื่นๆ” พิทักษ์พยักหน้ารับรู้ จิดาภาคิดถึงเรื่องของหลานชายคนนี้แล้วก็ถอนหายใจ


“คนหนึ่งแข็ง อีกคนก็แข็ง ไม่มีใครยอมลงให้กันก็แบบนี้ แต่ยังไงเขาก็ย่าหลานกัน ถึงจะรักไม่เท่าคนอื่น แต่ขึ้นชื่อว่าสายเลือด ยังไงก็ตัดกันไม่ขาดหรอก” ชายหนุ่มรับฟังเงียบๆ ทว่าความเงียบของเขาทำให้แม่เลี้ยงผู้เลี้ยงดูเขามาเป็นยี่สิบปีต้องเหลือบมอง


“ทิศมีอะไรรึเปล่า”


“ครับ?”


“อยู่ดีๆก็ถามเรื่องบ้านคุณกอบกุล”


“ผมแค่อยากรู้ว่ามีปัญหาอะไรในบ้านอีกไหม นอกจากปัญหากับย่าของเขา” จิดาภายิ้มจางอย่างนึกเอ็นดูหลานชาย ถึงแม้ว่า หล่อนจะไม่ได้ใกล้ชิดเขาเหมือนสมัยก่อน แต่เมื่อครั้งที่เขายังเด็ก หล่อนที่เป็นน้าก็คิดว่ารู้จักนิสัยหนึ่งอย่างของหลานคนนี้ดี


“ถ้าจะมีปัญหา ก็เป็นปัญหาที่ตัวจิณ” หล่อนเปรย จัดของว่างแล้วให้ให้คนรับใช้ยกไปให้จิณณะที่ห้องนั่งเล่น ก่อนจะหันมาทางลูกเลี้ยงคนโต


“ปากไม่ตรงกับใจ รู้สึกอย่างหนึ่ง แสดงออกอีกอย่างหนึ่ง” พิทักษ์นิ่งงัน นึกถึงภาพเมื่อครู่ที่เขาเห็นจิณณะยิ้มแย้มแจ่มใสกับจรรยา ทว่าพอพ้นบ้านออกมากลับนิ่งเงียบ


   สองแม่ลูกไม่ทันได้คุยอะไรกันอีก คนรับใช้ที่จิดาภาวานให้ยกของว่างไปให้จิณณะก็กลับเข้ามาในครัว


   “คุณจิณหลับไปแล้วค่ะ”


   ....หลับ...


   สองเจ้าของบ้านก้าวเท้าไปดูทันที ภาพที่พวกเขาเห็นคือชายหนุ่มร่างสูงโปร่งนั่งเอนอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น หลับคอพับราวกับเหน็ดเหนื่อย


   จิณณะเป็นหลานแท้ๆของหล่อนก็จริง แต่การหลับกลางวันในบ้านของน้าสาวก็ดูจะเป็นการทำตัวตามสบายเกินไป แม้เขาจะเป็นคนดูไม่อินังขังขอบกับกฎระเบียบ แต่ก็ไม่ใช่คนที่จู่ๆจะมาหลับกลางวันในบ้านคนอื่นอย่างนี้


   จิดาภามองหลานชายด้วยความเป็นห่วง ทว่า...ดูเหมือนจะมีคนที่ห่วงกว่า


   พิทักษ์ไม่พูดอะไร แต่ก้าวเท้าเข้าไปหาคนที่นั่งหลับคอพับคออ่อน จากนั้นจึงช่วยจัดท่า หยิบหมอนอิงมาสอดรองใต้คอให้นอนได้สบายมากขึ้น


   ...แน่นอน...สิ่งที่เขาทำนั้น เป็นธรรมชาติและไม่รู้ตัว...


   ชายหนุ่มไม่รู้ตัว...ว่าทั้งหมดที่ทำ อยู่ในสายตาของจิดาภา

……………………….

   ชเยนตร์ หรือ ชุน เป็นหลานยายเพียงคนเดียวในบรรดาหลานทั้งหมดของคุณกอบกุล แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของหล่อน ทั้งฉลาดเฉลียว ขยันขันแข็ง และในอนาคตอันใกล้ เขาจะเป็นหลานคนแรกที่มีดีกรีดอกเตอร์ หญิงชราเพ่งพินิจใบหน้าหล่อเหลาที่ผสานเชื้อสายจีน ก่อนจะหันไปทางกชกรผู้เป็นมารดาของชเยนตร์


   “ยัยกช ตักกับข้าวให้ลูกหน่อยสิ”


โต๊ะอาหารวันนี้ นอกจากกับข้าวหลากหลาย คนร่วมโต๊ะยังมีทั้งรุ่นลูกรุ่นหลาน คุณกอบกุลเป็นคนยุติธรรม แต่แขกพิเศษของวันนี้ ให้อย่างไรก็เป็นหลานชายที่เพิ่งกลับมาจากเมืองนอก


   ชายหนุ่มตาเรียวผู้มีสายเลือดจีนครึ่งหนึ่งยิ้มจนตาหยีแทบเป็นเส้น


   “โธ่ คุณยาย ผมไม่ใช่แขกนะครับ วิ่งในบ้านนี้มาตั้งแต่กี่ขวบแล้ว”


   “ก็เห็นไม่กลับมานาน ยายก็นึกว่าเป็นแขกไปแล้ว”


   “ตัดผมออกจากตระกูลซะแล้ว ไปเมืองนอกแค่ไม่กี่ปีเอง” คุณกอบกุลหัวเราะเบาๆ


   “แล้วนี่ว่างหรือ ไหนว่าเรียนหนักสอบหนัก จู่ๆก็กลับมา”


ชเยนตร์ชะงัก ก่อนจะยิ้มจางแล้วตอบตามตรง


   “อาม่าไม่ค่อยสบายน่ะครับ...” เหตุผลของการกลับมาประเทศไทยกะทันหันของชเยนตร์ทำให้คนฟังนิ่งไปเล็กน้อย แม้บิดามารดาจะเลิกรากันไป แต่ชเยนตร์ก็ยังไปมาหาสู่ทั้งสองตระกูลเสมอ นามสกุลที่ใช้ก็ยังคงเป็นแซ่ของฝั่งพ่อ คุณกอบกุลเองก็ไม่ได้มีเรื่องพิพาทอะไรกับอดีตลูกเขย เพียงแต่...ความคิดที่ว่าหล่อนเป็นหนึ่ง มาวันนี้หลานชายกลับมีเหตุผลในการกลับมาเมืองไทยเพราะคนอื่น ทำให้รู้สึกยอกในอก


   แต่...แม้หล่อนจะใจคอคับแคบ ก็ไม่แสดงออกมากนัก


   “แล้วเป็นอะไรมากรึเปล่า”


   “เห็นว่าไม่มาก ตอนค่ำๆ ผมว่าจะไปเยี่ยมสักหน่อย คุณยายไปด้วยกันไหม” ชเยนตร์มีลูกล่อลูกชน เขารู้จักนิสัยของคุณกอบกุลดี ดังนั้นจึงเลือกที่จะเอ่ยปากชวนหล่อนให้ไปด้วยกัน


   หญิงชราส่ายหน้า


   “ไว้อาม่าเขาหายดี ยายค่อยไปจะดีกว่า ชุนไปเถอะ” ชายหนุ่มยิ้มรับ ก่อนจะตักแกงส้มเข้าปากแล้วรีบชมฝีมือคนทำอย่างจรรยาทันที บรรยากาศบนโต๊ะที่เกือบจะอึมครึ้มจึงถูกเขาเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ทว่า...ไม่กี่นาทีต่อมา เลขานุการของคุณกอบกุลก็เข้ามาในห้องรับประทานอาหาร


   “คุณกอบคะ โทรศัพท์จากท่านเสรีค่ะ” ชื่อของปลายสายทำเอาคนทั้งโต๊ะนิ่งงัน โดยเฉพาะจรรยาและโกศลผู้ตระหนักดีว่าชื่อนี้มีความสำคัญอย่างไรต่อคุณกอบกุล


   ท่านเสรี...บิดาของผู้หญิงที่คุณกอบกุลต้องการให้แต่งงานกับจิณณะ


   หญิงชราลุกออกจากห้องรับประทานอาหารไป ทั้งโต๊ะตกอยู่ในความเงียบ ชเยนตร์ที่มาจากต่างประเทศย่อมไม่รู้เรื่องราว เขากวาดตามองลุงป้าและน้าชายน้าสาว จากนั้นจึงมองไปที่ลูกพี่ลูกน้องของเขาอีกสามคน และคนที่แสดงสีหน้ามากที่สุดคือ...จารีต...ลูกชายคนเล็กของจรรยาและโกศล


   “ไอ้จา มีอะไรรึเปล่า” เขาถามข้ามฝั่งโต๊ะไปยังจารีตด้วยเสียงที่เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้


   จารีตกลืนน้ำลาย ไม่รู้จะตอบอย่างไรก็พอดีกับที่หญิงชราก้าวฉับๆกลับเข้ามาในห้อง สีหน้าถมึงทึง ตาปูดโปน แล้วแผดเสียงดังลั่น


   “ตามจิณณะกลับมาหาฉันเดี๋ยวนี้!!”

…………………..


ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8


จิณณะสะดุ้งตื่นก็ถึงได้รู้ว่าเขาหลับบนโซฟาในห้องนั่งเล่นบ้านจิดาภาเสียแล้ว แถมเจ้าของบ้านอย่างพิทักษ์ยังนั่งอยู่ข้างๆอีกต่างหาก


   “เอ่อ...ขอโทษพี่ ผมหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้” เพราะเหนื่อยและล้า อีกทั้งตอนนั้นในห้องยังเงียบสงบ โซฟาเลยกลายร่างเป็นเครื่องดูดสติ ดูดวิญญาณ หลับไม่รู้ตัว


   “ไม่เป็นไร จะขึ้นไปนอนบนห้องไหม จะได้นอนสบาย”


   “ไม่...ไม่ครับ ขอบคุณ” เขาลูบหน้าลูบตา รู้สึกประดักประเดิด ทั้งๆที่อยู่กันเพียงลำพังออกบ่อยไป แต่อาจจะเพราะเป็นช่วงเวลาเพิ่งตื่น จิณณะถึงได้รู้สึกว่าระหว่างพวกเขาคือบรรยากาศชวนใจสั่นอย่างน่าประหลาด ปลัดหนุ่มคิดหาทางเลี่ยงจากสถานการณ์สองต่อสอง มองซ้ายมองขวากำลังจะอ้าปากถามถึงน้าสาว เสียงหัวเราะเบาๆก็ดังขึ้นเสียก่อน


“พี่หัวเราะอะไร” คนเพิ่งตื่นหันมาถาม เจ้าของเสียงหัวเราะที่ปกติมักจะทำหน้านิ่งเฉย แต่คราวนี้กลับมีรอยยิ้มเจือที่มุมปาก


“ถ้าเหนื่อย ก็ขึ้นไปนอน”


“ผมไม่ได้เหนื่อย...” พลั้งปากแก้ตัวอย่างไม่สมเหตุผล เพราะเมื่อครู่นอกจากช่วงเคลิ้มๆที่รู้สึกแค่ว่ามีคนช่วยขยับร่างกายให้นอนสบายก็หลับสนิทไม่ฝันอะไรอีกเลย ยิ่งพอสบตากับคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆที่อ่านใจเขาออกหลายต่อหลายครั้ง จิณณะก็ได้แต่ถอนหายใจเบา


“ก็ได้...ผมเหนื่อยก็ได้...”


ปิดบังไปก็เท่านั้น ต่อให้พิทักษ์ดูไม่ออก แต่ก็อยู่กับเขาทั้งวัน มีหรือจะไม่รู้ไม่เห็นว่าเขาพบเจออะไรบ้าง


แล้วพอสารภาพออกไปตามตรง ก็เหมือนปล่อยหินหนักๆที่ถ่วงในหัวใจออกมา จิณณะรู้สึกสบายขึ้นเล็กน้อยจนเผลอเอนกายพิงพนักตามเดิม ดวงตาเหลือบมองคนข้างกาย พิทักษ์ยังนั่งอยู่ข้างๆ มองเขาอย่างเงียบๆ


เป็นความเงียบที่ทำให้ใจสงบ


เป็นความเงียบที่ทำให้ผ่อนคลาย


ยิ่งไปกว่านั้น แม้จะเงียบ แต่ก็รับรู้ว่าเขาไม่ได้อยู่เพียงลำพัง


ทว่า...ชั่วอึดใจหนึ่ง ความเงียบกลับถูกทำลายด้วยเสียงโทรศัพท์


คนกำลังนั่งเอนสบายขยับตัวล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมาดู จิณณะขมวดคิ้วเล็กน้อยที่เห็นชื่อมารดาปรากฏบนหน้าจอ


   “ครับแม่”


คำพูดจากปลายสายทำให้เขาขมวดคิ้วฉับ แล้วทวนคำ


   “คุณย่าอยากพบผม?” แม้จะเพิ่งตื่น แต่สมองก็ถูกปลุกให้ทำงานอย่างไว


มารดาบอกเหตุผลที่คุณกอบกุลเรียกพบเขาด่วน เพียงเท่านั้นจิณณะก็ถึงกับนวดขมับ


   “ผมจะไปงานไหนกับพี่ทิศก็ไม่เห็นแปลกไม่ใช่หรือ หรือถ้าคุณย่าจำไม่ได้ แม่บอกเขาอีกรอบก็ได้ว่าผมกับพี่ทิศเป็นแฟนกัน การที่เราไปงานไหนด้วยกันเป็นเรื่องปกติ” น้ำเสียงของเขาแข็งกระด้าง ในวันที่เหน็ดเหนื่อยและวิตกกับความปลอดภัยของตนเอง กลับถูกตั้งคำถามด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องว่าทำไมเขาและพิทักษ์ถึงไปงานเลี้ยงของไพศาลด้วยกัน


   “ตอนนี้ผมทำธุระกับพี่ทิศ เอาเป็นว่าถ้าเสร็จ จะไปพบคุณย่าก็แล้วกัน แค่นี้ก่อนนะแม่” ปลัดหนุ่มแบ่งรับแบ่งสู้ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็คุมอารมณ์ได้ไม่ดีนัก ทั้งๆที่รู้ว่ามารดาของเขาเป็นเพียงผู้ส่งสารจากคุณกอบกุลเท่านั้น


   ชายหนุ่มกดตัดสายแล้วถอนหายใจแรง ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ได้อยู่เพียงลำพัง พิทักษ์นั่งอยู่ใกล้ๆ และคงได้ยินทุกประโยคของเขา จิณณะแค่นยิ้มหัวเราะฝืนๆ


   “ดุผมได้นะ ที่ผมพูดไม่ดีกับแม่”


   “รู้ว่าไม่ดีแล้วพูดทำไม” คนที่ตอนแรกออกตัวว่าให้ดุได้ พอถูกดุด้วยน้ำเสียงเรียบๆขึ้นมาจริงๆก็ทำเอาขมวดคิ้วมุ่นได้เหมือนกัน


   “ก็คุณย่าให้ผมไปหา เพราะมีคนไปบอกว่าผมกับพี่ทิศไปงานเลี้ยงด้วยกัน!”


แม้ว่างานเลี้ยงของไพศาลจะไม่ได้จัดในกรุงเทพ แต่ก็เป็นงานใหญ่ของจังหวัดใกล้เคียง คงมีใครสักคนคาบข่าวไปถึงหูคุณกอบกุล หล่อนถึงได้โกรธเป็นฝืนเป็นไฟเรียกพบด่วนขนาดนี้


   “ใครแม่งเสือกนักวะ!” เขาสบถ แม้ครั้งหนึ่งจะอยากให้มีคนหูตาสับปะรดเอาเรื่องของเขาและพิทักษ์ไปกระจายให้รับรู้โดยทั่วกัน แต่วันนี้ที่ในชีวิตมีเรื่องมากพอแล้ว เขากลับไม่อยากให้มันกลายมาเป็นปัญหาสร้างความเหน็ดเหนื่อยมากขึ้นไปอีก


   “พี่ว่าควรไปพบคุณกอบกุล” ในขณะที่คนหนึ่งหงุดหงิดงุ่นง่าน อีกคนกลับพูดด้วยน้ำเสียงเรียบสงบ


   “ไปก็ทะเลาะกัน! ผมเหนื่อย ไม่อยากไป!”


ถ้าเป็นวันอื่น จิณณะก็คงไม่ดื้อดึงหลบหนี แต่วันนี้ที่รู้สึกว่าแต่ละชั่วโมงช่างยาวนาน เขาก็ไม่อยากเอาพลังที่เหลืออยู่น้อยนิดไปรบรากับคนที่ได้ชื่อว่าญาติตัวเองอีก


   “พี่ไปด้วย จะทะเลาะได้อีกหรือ” ทว่าประโยคของคนข้างกายทำเอาคนฟังชะงัก ปลัดหนุ่มหันมองอย่างคาดไม่ถึง


   “พี่จะไปกับผม?”


   “เคยพูดแล้วไม่ใช่หรือ ว่าถ้าเข้าถ้ำเสือ จะไม่ปล่อยให้เข้าคนเดียว”


ในเวลาที่เหน็ดเหนื่อยแสนสาหัส ในเวลาที่ไม่มีแรงแม้แต่จะยิ้ม แต่ถึงอย่างนั้น...สายตาที่จิณณะทอดมองคนพูดกลับมีรอยยิ้มเจือมาด้วย


   “เสืออย่างคุณย่าผม เขี้ยวเล็บแหลมกว่านายไพศาลอีกนะ”


   พิทักษ์ไม่พูดอะไร แต่ยังคงมองอย่างเงียบๆ ราวกับว่าหากอีกฝ่ายบอกว่าจะไปพบเจอเสืออีกสักกี่ตัว เขาก็พร้อมจะไปด้วยกัน


   สุดท้ายจึงกลายเป็นปลัดหนุ่มเสียเองที่ได้แต่ถอนหายใจแล้วส่ายหน้ากับตัวเองไปมา ก่อนจะบ่นพึมพำ


   “ทั้งๆที่ผมดึงพี่มาลงเรือลำเดียวกัน แต่ทำไมถึงรู้สึกว่าตอนนี้พี่พายแรงกว่าผมอีก”


   “พี่เต็มใจ” คำพูดนั้นสั้นง่าย แต่ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อรวมกับน้ำเสียงและสายตาของคนพูดจะช่วยเพิ่มพูนกำลังใจในอกคนอ่อนล้า


   ...มีคนเคียงข้างมันดีอย่างนี้เอง...


   ...มีคนที่พร้อมจะเดินไปข้างๆมันดีอย่างนี้เอง...


   ...มี ‘พี่ทิศ’ ...มันดีอย่างนี้เอง...


   จิณณะคิดไม่ถึงเลย ว่าตัวเลือกเพียงตัวเดียวที่คิดออกในวันนั้น มาวันนี้กลับเป็นตัวเลือกที่มีค่าที่สุดในชีวิตอย่างนี้

……………………….

หลานชายนอกคอกมาถึงคฤหาสน์ของคุณกอบกุลอีกครั้งในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา ทว่าเขาไม่ได้มาเพียงลำพัง คนที่เดินตามหลังจิณณะเข้ามาทำเอาโกศลและจรรยากลืนน้ำลายคนละอึกสองอึก ในขณะที่บรรดาลุงป้าตาเหลือกมองกันราวกับเห็นระเบิดเวลานับถอยหลัง ทุกคนพากันลอบมองคุณกอบกุลที่นั่งอยู่ที่โซฟาตัวใหญ่ แต่ไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมาสักแอะ


ในห้องรับแขกของคฤหาสน์เงียบกริบ แม้กระทั่งตอนที่จิณณะและพิทักษ์ยกมือไหว้ ก็ยังไม่มีเสียงทักทายใดๆ


คุณกอบกุลที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ จ้องเขม็งสองหนุ่มที่เพิ่งมาถึง รัศมีอำนาจบารมีและความโกรธจัดของหล่อนแผ่ซ่านข่มความใหญ่โตของทุกสิ่งในห้องนี้จนหมด!


...โกรธเรื่องอะไรน่ะหรือ ก็เรื่องที่จิณณะกับพิทักษ์ออกงานด้วยกันเป็นครั้งที่เท่าไรก็ไม่รู้น่ะสิ!...


คราวก่อนก็งานแต่งในกรุงเทพฯ คราวนี้ก็งานเลี้ยงในต่างจังหวัด หากเป็นงานเล็กงานน้อยที่มีคนแค่หยิบมือ ไม่ต้องล่วงรู้มาถึงหูหล่อนก็คงไม่เป็นไร แต่นี่! นอกจากรู้มาถึงหู คนที่ส่งข่าวมาบอกยังเป็นท่านเสรีอีกต่างหาก!


...หมดกัน! สิ่งที่หล่อนหวังเอาไว้!!...


“ฉันต้องการพบตาจิณคนเดียว! คุณมาที่นี่ทำไม!” เสียงของคุณกอบกุลแผดลั่น


“ผมเคยเรียนท่านแล้วครั้งหนึ่ง ว่าเรื่องของจิณสำคัญสำหรับผม” เป็นคำตอบเรียบๆ พร้อมด้วยท่าทีสุขุม ไม่ก้าวร้าว พิทักษ์มีวุฒิภาวะมากพอที่จะไม่ให้ความสำคัญกับท่าทีของหญิงชราเบื้องหน้า แม้ว่าหล่อนจะโกรธเคืองจนใบหน้าบิดเบี้ยว มองเขาด้วยสายตาจิกต่ำเพียงไรก็ตาม


“แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องในครอบครัวของฉัน! คุณไม่เกี่ยว!”


พิทักษ์เหลือบมองคนข้างกายเล็กน้อย จิณณะมองตรงไปเบื้องหน้า แต่ดูเหมือนสายตาจะเลยผ่านญาติโกโหติกาและบิดามารดาไปที่ไหนสักแห่งราวกับไม่อยากรับรู้สถานการณ์ในตอนนี้


จิณณะเหนื่อยและไม่มีแรงเหลือจะรับรู้อะไรแล้ว จึงปล่อยให้เสียงของคุณกอบกุลผ่านเข้าหูซ้ายออกหูขวาไปโดยไม่มีปากเสียงเช่นเคย


มันอาจจะเป็นเรื่องดี ที่ไม่พูดจายียวนก่อสงครามกับญาติผู้ใหญ่เหมือนที่แล้วๆมา แต่ท่าทีนิ่งเฉยเช่นนี้ไม่ได้ก่อความสบายใจให้แก่พิทักษ์เลย


เขาแตะแขนอีกฝ่ายเบาๆ ดูเหมือนจะช่วยรั้งสติของคนที่ปล่อยสายตาไปกับความเวิ้งว้างในห้วงความคิดให้หันกลับมาสบตากัน


พวกเขาสบตากันเพียงวินาทีเดียว สายตาที่เลื่อนลอยของจิณณะก็ราวกับมีสติขึ้นมาบ้าง เมื่อนั้นพิทักษ์จึงหันกลับไปมองคุณกอบกุลอีกครั้ง


“จิณเป็นคนในครอบครัวของท่าน ผมทราบดี แต่จิณก็เป็นคนสำคัญของผมเช่นกัน ท่านอยากดูแลเขา ผมเองก็อยากปกป้องเขา จะไม่ดีกว่าหรือครับ หากเราจะช่วยกัน”


“มันโตพอที่จะปกป้องตัวเองได้แล้ว! คุณจะต้องไปปกป้องมันทำไม!!”


“ถ้าอย่างนั้นเขาก็โตพอที่ท่านไม่ต้องดูแลแล้วเช่นกัน แต่ท่านก็ยังอยากดูแลเขาไม่ใช่หรือครับ”


คุณกอบกุลนิ่งงัน อ้าปากพะงาบ จะให้หล่อนพูดต่อหน้าลูกชายและลูกสะใภ้ว่าไม่ได้คิดจะดูแลจิณณะ หล่อนก็ทำไม่ลง ต่อให้ใจคอคับแคบมีลูกรักหลานชัง แต่หล่อนก็ไม่หน้าด้านขนาดที่จะบอกว่าใครเป็นหลานชังของหล่อน แม้จะเป็นที่รู้กันดีก็ตามทีว่าหลานชังของคุณกอบกุลก็มีเพียงแค่จิณณะเท่านั้น


และต่อให้จิณณะเป็นหลานชัง เขาก็ได้ชื่อว่าเป็นหลาน เป็นสายเลือดของหล่อน ความคิดที่จะตัดหางปล่อยวัดแม้ว่าเขาจะทำตัวไม่เข้ารูปเข้ารอยเพียงใด กลับไม่เคยปรากฏขึ้นในหัวของคุณกอบกุลเลยสักครั้ง


ทว่ากิริยาอ้าปากพะงาบพูดไม่ออกเถียงไม่ได้นั้น จิณณะตีความได้อย่างเดียวว่าเขาเป็นหลานนอกคอกที่คุณกอบกุลไม่คิดจะรักใคร่เอ็นดู เพียงแต่พูดต่อหน้าธารกำนัลไม่ได้ก็เท่านั้น ปลัดหนุ่มหลับตาลงอึดใจหนึ่ง สายตาอาฆาตหมายหัวของนายไพศาลยังไม่สู้สายตารังเกียจเดียดฉันท์ที่คุณกอบกุลมีต่อเขามาตั้งแต่เริ่มก้าวไปในเส้นทางที่ขัดกับคตินิยมของผู้เป็นย่า


ความเลวร้ายของคนนอกยังไม่สู้ความร้ายกาจของคนใน


“พี่ทิศ พอเถอะ” จิณณะหมดแรงแล้วจริงๆ เขาไม่อยากได้ยินเสียงอาละวาดโวยวายของใครอีก โดยเฉพาะคุณกอบกุล


หลานชายนอกคอกหันไปมองผู้เป็นย่า ดวงตาที่เคยเต็มไปด้วยความทะเล้นมากเล่ห์ ยามนี้กลับมืดมัวด้วยหมอกหนาที่อ่านความรู้สึกนึกคิดไม่ออก


“ผมกับพี่ทิศคบกัน ถ้าคุณย่าไม่พอใจความสัมพันธ์ของเราสองคน ผมจะไม่กลับมาที่นี่อีก”


คำว่า ‘ไม่กลับมาที่นี่อีก’ ไม่ใช่แค่การพูดลอยๆ เพราะสายตาและน้ำเสียงของจิณณะจริงจังและเยียบเย็น


“จิณ!!” จรรยาผู้เป็นมารดาถึงกับผุดลุกด้วยความตกใจ โกศลเองก็อ้าปากค้าง ในขณะที่ลุงป้าคนอื่นๆพากันนิ่งงันด้วยไม่คิดว่าจิณณะจะเอ่ยปากเช่นนี้ แม้แต่พิทักษ์เองก็ถึงกับต้องดึงแขนเอาไว้ ทว่าพอเห็นสายตาคู่นั้น ก็พลอยให้เตือนสติไม่ออกเช่นกัน


จิณณะไม่ได้พูดเล่น หรือประชดประชัน


เขาพูดจริง และคิดจะทำเช่นนั้นจริงๆ


‘ไม่กลับมาที่นี่อีก’ ก็ไม่ต่างอะไรกับบอกว่าจะออกไปจากตระกูลของคุณกอบกุล


“ผมไม่อยากให้ใครเดือดร้อน...” จิณณะเอ่ยเสียงเบากับคนข้างกาย พิทักษ์รู้ในทันทีว่าความกังวลในเวลานี้ไม่ใช่เพียงแค่ชีวิตตัวเองอีกแล้ว แต่เจ้าตัวห่วงใยมาถึงคนที่บ้านนี้ด้วย สำหรับคนที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง หลานนอกคอกย่อมกลายเป็นหลานเนรคุณ แต่สำหรับพิทักษ์ที่รู้เห็นเรื่องที่เกิดขึ้น และรู้ดีว่าชีวิตของจิณณะกำลังเข้าสู่เฮือกสุดท้ายเข้าไปทุกที ย่อมเข้าใจดีว่าเจ้าตัวทำเช่นนี้ก็เพื่อตัดปัญหาที่จะลุกลามมาถึงที่นี่


‘ไม่อยากให้ใครเดือดร้อน’ ย่อมหมายรวมถึงคุณกอบกุลด้วย


“ถ้าแกคิดว่าแกไปรอด แกไปเลย!! แกไปแล้วไม่ต้องกลับมาเหยียบที่นี่อีก!!” คุณกอบกุลตวาดก้อง


“คุณแม่!” โกศลรีบหันมาปรามมารดา แต่คำพูดที่หลุดออกไปแล้ว อย่างไรก็ไม่อาจเรียกคืน เขาจึงรีบหันกลับไปทางบุตรชายคนโต


“จิณ! มาขอโทษ...” เขาพูดได้เพียงเท่านั้น ปลัดหนุ่มก็ยกมือไหว้คุณกอบกุลพร้อมกับเอ่ยปาก


“ผมลาล่ะครับ” จากนั้นก็หันไปยกมือไหว้บิดามารดาและลุงป้า แล้วจึงหมุนตัวออกจากห้องทันที


คนทั้งห้องได้แต่เลิกลั่กทำอะไรไม่ถูก แม้แต่คุณกอบกุลเองก็ยังได้แต่นิ่งงันเพราะไม่คิดว่าจิณณะจะทำจริงอย่างที่ออกปากไล่ มีเพียงพิทักษ์ที่ยกมือไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่ แล้วรีบก้าวเท้าตามออกไป เขาทันเห็นทางหางตาว่าจรรยาถึงกับเป็นลมบนโซฟา แต่คนเป็นลูกเดินนำลิ่วออกจากบ้านไปแล้ว


ชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจ แล้วก้าวเท้าไวๆตามหลังไป


ในใจทั้งอยากดุ ทั้งสงสาร


...ก่อเรื่องแต่ละที น่าเขกหัว แล้วค่อยลูบหลังจริงๆ...


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)

อ่า...ปลัดจิณไม่ได้ตั้งใจก่อเรื่องนะ แต่คนเรามันก็จะมีวันที่สวรรค์ไม่รักไม่เอ็นดู ทำอะไรก็ติดขัดไปหมดจริงมั้ยคะ ซึ่งวันแบบนั้นก็คือวันนี้ของปลัดเองค่ะ เพราะฉะนั้น กอดปลัดจิณเบาๆเพื่อให้กำลังใจเนาะ หรือถ้าใครจะฝากพี่ทิศเขกหัว ก็ฝากไปแบบเบาๆนะคะ เดี๋ยวปลัดเจ็บ (สปอยปลัดสุดๆ ฮ่าฮ่า)

ส่วนใครที่รู้สึก ‘เอ๊ะ’ กับอาม่าของชเยนตร์ ก็คือไม่ต้องสงสัยแล้ว คนใช้ตัวละครคุ้มอย่างบัว จะใช้อาม่าคนไหนได้อีก ถ้าไม่ใช่อาม่าของโจ๊กและเจ๋งค่ะ ฮ่าฮ่า (เดี๋ยวถ้าว่างๆ จะทำแฟมิลี่ทรีให้ค่ะ จะได้เห็นภาพชัดว่าเขาดองกัน ฮ่าฮ่า)

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตาม และทุกกำลังใจเหมือนเคย ขอบคุณพื้นที่บอร์ดด้วยค่ะ

ป.ล. พฤหัสหน้า บัวจะมาลงอีกตอน แล้วก็จะขอหยุดไปสักสองสัปดาห์นะคะ เพราะว่าบัวอ่านหนังสือสอบไม่ทันอ่ะ แต่ช่วงที่หยุดไป จะมีตอนพิเศษของเรื่องเก่ามาลงคั่นเวลาแทนค่ะ (จริงแล้วมันแทนกันไม่ได้อ่ะนะ ฮ่าฮ่า)

เจอกันพฤหัสหน้าค่ะ 


ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
โอ้ยยยเนาะะะ สะเดาะห์เคราะห์หน่อยไหมลูก

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
จักรวาลของน้องบัว 555 ตอนนี้อ่านแล้วน้ำตาซึม สงสารคุณปลัด :L3:

ออฟไลน์ Gokusan

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
มันจริงมากอ่ะ
ในวันที่เราเหนื่อย มีแค่คนเดียวที่อยู่ข้างเรา เราก็พอใจแล้ว

คุณย่าเป็นคนบั่นทอนจิตใจได้ดีจริงๆ
พี่ทิศใจเย็นมากกกก รับมือได้เยี่ยมมากเช่นกัน
สงสารปลัด...เข้าใจอารมณ์เลย เหนื่อยจนไม่อยากพูด หายใจยังผิด ก็ตัดปัญหาดีกว่า

รอดูว่าพี่ทิศจะปลอบน้องยังไง ^^

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
...มี ‘พี่ทิศ’ ...มันดีอย่างนี้เอง...
พรี่ทิศของน้องจิณ   :sad4:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
อยากจะกอดให้กำลังใจจิณมากเลย ฝากพี่ทิศให้กำลังใจจิณด้วยนะ

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
รู้สึกว่าน้องโชคดีมากที่มีพี่ทิศอยู่ข้างๆ

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ช่วงปัญหารุมเร้า ปลัดจิณก็คงคิดว่าทำดีที่สุดแล้ว
แต่ก็ทำให้คนอื่นอดเป็นห่วงไม่ได้

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
พี่ทิศน่ารัก :sad4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Mitra

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
สงสารจิณอ่ะ

ออฟไลน์ haramoonlight

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พี่ทิศปลอบน้องด้วยยยยยยยยย

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
"พี่เต็มใจ” สั้นๆ ง่ายๆ แต่ได้ใจมาก
แถมองค์ประกอบครบ ทั้งน้ำเสียงและสายตา
สร้างกำลังใจอย่างดี

สรุป
มีคนเคียงข้างมันดีอย่างนี้เอง
มีคนที่พร้อมจะเดินไปข้างๆ มันดีอย่างนี้เอง
ที่สำคัญ มี "พี่ทิศ" มันดีอย่างนี้เอง ... ยิ่งกว่าดี ดีที่สุด

เป็นกำลังใจให้คุณปลัดนะ

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
น่าสงสาร พี่ทิศอย่าเขกหัวน้องงง

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
สงสารจิณ พี่ทิศกอดปลอบแรงๆ

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
พี่ทิศปกป้องน้องได้

ออฟไลน์ G-NaF

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
จับความรู้สึกจิณได้จริงๆ อินน้ำตานองเลย

ออฟไลน์ Josett

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พี่ทิศนี้เข้าใกล้คำว่าโลกทั้งใบของจิณละอะ
แต่มันดีมากๆเลยนะวันที่เหนื่อยแล้วมีคนที่เข้าใจแบบเข้าใจจริงๆไม่ใช่เข้าใจผ่านๆคอยอยู่ข้างๆ

เป็นกำลังใจให้จิณนะ แค่มีพี่ทิศก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว หล่อ รวย เอาใจใส่ ดูแลได้ ใจเย็น ครบ!

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด