✧ ที่รักของน่านฟ้า ✧ : Chapter 12 - The Next Chapter : 07 October 2020
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✧ ที่รักของน่านฟ้า ✧ : Chapter 12 - The Next Chapter : 07 October 2020  (อ่าน 29689 ครั้ง)

ออฟไลน์ Punmile09

  • '...Cause we were just kids when we fell in love...'
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-4
Chapter 8

Lost control

___________________



   ช่วงเวลาเช้ามืดประมาณตีห้ากว่าที่บ้านนันพิวัฒน์นั้นเกิดความเคลื่อนไหวขนาดย่อมขึ้น...เพราะวันนี้เป็นวันที่จะออกเดินทางไปบ้านของแทนไทที่จังหวัดกระบี่ป๋าเลยนัดแนะให้ทุกคนตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดและเผื่อเวลาเอาไว้แวะเที่ยวระหว่างทางด้วยกะให้ไปถึงที่หมายก็ราวๆช่วงเย็นพอดี

   หมอกอาสาขนสัมภาระของทุกคนไปเก็บไว้ในรถส่วนแทนไทก็กำลังวุ่นอยู่กับการตรวจเช็กบริเวณห้องเครื่องรถยนต์

   โตโยต้าอัลพาร์ดคันสีขาวถูกล้างทำความสะอาดและขัดจนขึ้นเงาจากฝีมือของเด็กในค่ายที่อาสาบริการล้างรถให้ป๋าปรีชาด้วยความเต็มใจ

   สองหนุ่มช่วยกันเช็กรอบรถอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ ไว้เดี๋ยวตอนไปแวะปั๊มน้ำมันค่อยไปเช็กลมยางอีกรอบ

   “กาแฟครับหนุ่มๆ” หม่าม้าเดินถือแก้วเก็บความร้อนสองใบตรงเข้ามาหา ใบสีเงินเป็นของเจ้าหมอกกาแฟใส่นมข้นเพียวๆจนหวานมันตามที่เจ้าตัวชอบ ส่วนใบสีดำเป็นของลูกชายอีกคนกาแฟดำเข้มๆไม่ใส่นมไม่ใส่น้ำตาล

   “ขอบคุณครับ” ทั้งสองรับกาแฟขึ้นมาจิบก่อนหมอกจะอาสาแก้วเอาไปเก็บไว้บริเวณที่วางหน้ารถ ในช่วงเช้าไอ้ไทจะรับหน้าที่เป็นคนขับแล้วค่อยเปลี่ยนกันอีกทีตอนแวะพักรถที่เพชรบุรี

   “ไอ้หมวยอะม้า” หมอกถามหาน้อง เพราะตั้งแต่เขาลงมาเช็กรถก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของมัน

   “น้องเก็บของอยู่ ม้าไปเรียกแล้วเมื่อกี้”

   พูดไม่ทันขาดคำเจ้าตัวก็เดินออกมาพร้อมกับกระเป๋าเป้แบ็คแพ็คและกระเป๋าสะพายข้างอีกสองใบ

   ...แม่งจะย้ายบ้านรึไง

   “ไปสี่วันแบกอะไรไปเยอะแยะวะถามจริง” หมอกเดินเข้าไปหาทำหน้าเบื่อหน่ายใส่มัน แต่มือก็ดึงกระเป๋าของน้องทุกใบมาถือไว้ให้แล้วเดินเอาไปเก็บไว้ที่ท้ายรถ “จะไปอยู่บ้านไอ้ไทมันถาวรเลยรึไง”

   “เงียบไปเลย” เฮียไม่เข้าใจหรอก...แค่เสื้อผ้าก็ปาไปหนึ่งกระเป๋าเต็มแล้วไหนจะเครื่องสำอางและพร็อพเสริมต่างๆนี่ยังไม่รวมผ้าห่มประจำตัวที่ม้วนๆไว้ในกระเป๋าอีกใบนะ

   ไปเที่ยวทั้งที ขอหน่อยไม่ได้รึไงล่ะ

   น่านฟ้าลอบมองคนที่สวมเสื้อฮาวายสีขาวและกางเกงขาสามส่วน...สีสันที่นานๆทีจะปรากฏให้ได้เห็นบนร่างกายของอีกฝ่ายนั้นทำให้อดที่จะชื่นชมในใจไม่ได้ แม้ลายเสื้อจะเป็นแค่กราฟิกใบไม้เรียบง่ายแต่มันกลับเสริมให้อีกคนดูคล้ายกับนายแบบในนิตยสารช่วงซัมเมอร์ ยิ่งวันนี้ทรงผมที่ปกติมักเซตเปิดไปข้างหลังถูกปล่อยตามสบายให้ระลงมาข้างใบหน้าก็ยิ่งแปลกตาเข้าไปใหญ่

 “กูรำคาญชุดคู่” หมอกที่ยืนเช็ดแว่นกันแดดอยู่แอบกลอกตาไปมาอยู่หลายหน

   กับไอ้หมวยน่ะเขาไม่แปลกใจหรอกเพราะมันมีชุดใส่หลากหลายแบบอยู่แล้ว อย่างวันนี้ก็อดยอมรับไม่ได้ว่าไอ้เจ้าเสื้อโบฮิเมียนสีขาวตัวใหญ่สั้นเหนือเข่าที่น้องใส่อยู่น่ะมันน่ารักโคตรๆ แต่กับไอ้ไทนี่สิที่แปลกตาเพราะมันเสือกบังเอิญใส่เชิ้ตขาวทั้งๆที่ร้อยวันพันปีแม่งมีแต่สีดำไม่ก็เทา

   เป็นความบังเอิญที่น่าหมั่นไส้จริงๆ

   “อะไรเฮีย” น่านฟ้ายังคงตามไม่ทัน แต่พอมองตามเฮียไปที่ใครอีกคนก็เข้าใจได้ในทันที

   ...ชุดคู่อะไรเล่า ไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย แค่บังเอิญหรอก

   “คุยอะไรกัน” ป๋าเดินเข้ามาได้ทันเวลาพอดีก่อนที่สองพี่น้องจะทำสงครามประสาทใส่กัน

วันนี้คุณปรีชาเขาก็ไม่น้อยหน้าลูกๆ แต่งตัวกระชากไวซะจนเกือบจะจำไม่ได้แน่ะ

   “ป๋าจะแต่งหล่อไปไหนเนี่ย” น่านฟ้าแซวไม่หยุดจนถูกป๋ารวบตัวเข้าไปหอมแก้มฟอดใหญ่

   “ไม่ต้องแต่งก็หล่อครับ ว่าแต่ทำไมวันนี้หนูน่ารักจัง” ถึงชุดกระโปรงมันจะสั้นไปหน่อยแต่วันนี้จะหยวนๆให้ก็แล้วกัน

   “หนูก็น่ารักทุกวันอยู่แล้ว” เจ้าตัวยิ้มแป้นโชว์ลักยิ้ม

   “ครับๆ ป๋าไม่มีอะไรจะเถียงเลย” ป๋าปรีชาหัวเราะร่าก่อนจะเปิดประตูรถให้แม่กับลูกได้เข้าไปนั่ง

   “ไม่มานั่งหน้าเหรอไอ้หมวย” หมอกที่กำลังดึงสายเข็มขัดนิรภัยมาคาดหันมามองน้องอย่างล้อเลียน “มานั่งเป็นเพื่อนไอ้ไทหน่อยไหม” …หรือจะอยากนั่งในฐานะอื่นก็ไม่ว่ากัน เชื่อว่าไอ้คนขับมันเต็มใจสุดๆ

   “ไม่เอา หนูง่วง”

   เจ้าตัวบอกไว้แค่นั้นก็รื้อผ้าห่มออกมาคลุมตักแล้วสวมหมอนรองคอคุมะมงลงไป แถมยังดึงหมวกเจ้าหมีตัวดำขึ้นมาคลุมหัวเอาไว้อีกต่างหาก

   น่านฟ้าที่อยู่เบาะหลังสุดนั่งก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ไปเงียบๆคล้ายกับไม่สนใจบทสนทนารอบข้าง

แต่ทว่าภาพหน้าจอกลับขึ้นเป็นห้องแชทของใครบางคนที่คุยกันค้างไว้ตั้งแต่เมื่อคืน

   สติ๊กเกอร์เจ้าหมีตัวสีน้ำตาลยอดฮิตสวมนวมสีแดงถูกส่งไปให้พร้อมกับข้อความสั้นๆ

‘คนขับรถสู้ๆ’

‘ถ้าเหนื่อยก็เปลี่ยนกับเฮียหมอกนะ’

ข้อความสุดท้ายถูกกดส่งไปพร้อมกับขึ้นเครื่องหมายแสดงว่าฝ่ายนั้นกำลังเปิดอ่านอยู่

พอเงยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นว่าใครบางคนที่นั่งอยู่ตำแหน่งคนขับกำลังก้มลงดูโทรศัพท์

อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมองภาพสะท้อนผ่านกระจกส่องหลัง สองสายตาสอดประสานกันเพียงครู่ก่อนที่รอยยิ้มบางเบาจะปรากฏขึ้นที่ข้างมุมปาก

แทนไทวางเครื่องมือสื่อสารไว้ตรงข้างช่องวางแก้วด้วยท่าทีที่เรียบเฉยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนจะปลดเบรกมือแล้วขับเคลื่อนรถออกไปจากบ้าน

“วันนี้ทำไมไทดูอารมณ์ดีแปลกๆเนอะพ่อ”

หม่าม้าทักขึ้นระหว่างการเดินทางโดยมีคุณสามีพยักหน้าเห็นด้วย

“กำลังใจดีอารมณ์เลยดีม้า” หมอกแสร้งพูดลอยหน้าลอยตา พร้อมกับมองกระจกส่องหลังก็เห็นว่าไอ้ตัวต้นเหตุที่ทำให้เพื่อนเขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่กำลังนอนเอกเขนกดูหนังในไอแพดอย่างสบายอารมณ์

...แม่งอาการน่าเป็นห่วงจริงๆ

หมายถึงไอ้คนขับข้างๆนี่แหละที่อาการน่าเป็นห่วง

...มีแววตกเป็นทาสไอ้หมวยมาแต่ไกล...



กว่าจะเดินทางมาถึงตัวเมืองจังหวัดกระบี่ก็เป็นเวลาหกโมงเย็นพอดีตามแผนการเดินทางที่วางไว้ ตลอดทางหมอกสลับหน้าที่โชว์เฟอร์กับแทนไทเพื่อที่จะไม่ให้รู้สึกเหนื่อยจนเกินไป จากเพชรบุรีมาชุมพรเป็นหน้าที่เขา ส่วนไอ้ไทก็ขับยิงยาวจากชุมพรมาถึงกระบี่ นี่ขนาดสลับกันขับยังรู้สึกเมื่อยไม่น้อยเลย ดีหน่อยที่ป๋ากับหม่าม้าไม่หลับคอยเป็นเพื่อนพูดคุยตลอดทาง

จะมีอยู่คนเดียวนั่นล่ะที่นั่งๆนอนๆสบายใจเฉิบอยู่เบาะหลัง จะได้ยินเสียงก็ต่อเมื่อตอนที่รถจอดพักแล้วเจ้าตัวลงไปหาซื้อของกินเท่านั้น

“แม่เขาว่ายังไงบ้างล่ะเจ้าไท”

หลังจากที่รอฝ่ายนั้นวางสายป๋าปรีชาก็ถามขึ้นในระหว่างที่รอรถติดไฟแดงอยู่

“บอกให้กลับไปรอที่บ้านเลยครับ แม่กำลังจะปิดร้านเดี๋ยวจะแวะซื้อของสดเข้ามาทำกับข้าวให้กินด้วย” ตอนที่โทรไปบอกทางนั้นดีใจใหญ่เมื่อรู้ว่าป๋ากับน้าดาวลงมาเยี่ยม แต่ที่ทำให้แม่ตื่นเต้นสุดๆก็คงเป็นตอนที่รู้ว่าน่านฟ้าเองก็มาด้วย

คนนั้นน่ะลูกรักเขาล่ะ

“โทรกลับไปบอกแม่เขาว่าไม่ต้องหรอก เดี๋ยวออกไปทานข้าวนอกบ้านก็ได้” ป๋าปรีชานึกห่วง...เพราะอีกฝ่ายทำงานมาทั้งวันแล้ว “แม่จะได้ไม่เหนื่อย ป๋ามาทั้งทีก็ขอเลี้ยงข้าวหน่อยสิวะ” แกบอกอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับรับโทรศัพท์ที่แทนไทส่งมาให้เมื่อแม่บอกว่าอยากจะขอคุยกับป๋าหน่อย

คุยกันไปมาผลสรุปก็ออกมาเป็นเอกฉันท์เมื่อฝ่ายนั้นยอมคล้อยตามในที่สุด เครื่องมือสื่อสารถูกส่งคืนเจ้าของอีกครั้งเมื่อทางปลายสายบอกว่ามีธุระต้องคุยกับลูกชาย

“ครับ”

(ไทอยู่แถวไหนลูก)

“ถนนหน้าศาลากลางครับ”

(เมื่อกี้เจ้าหยาโทรมาบอกว่าพึ่งจะซ้อมดรัมเสร็จ แม่วานให้ไทไปรับน้องแทนแม่หน่อยได้ไหมครับ ถ้าต้องขับอ้อมไปแม่กลัวว่ามันจะช้า)

“ได้ครับ…เดี๋ยวผมไปรับน้องเอง”

(ขอบคุณครับ ฝากรบกวนป๋าเขาด้วยนะลูก)

“ครับ”

หลังจากที่วางสายเสร็จยังไม่ทันได้เอ่ยปากขออนุญาตป๋าก็ชิงตอบตกลงมาก่อนแล้ว มิหนำซ้ำยังบอกอีกว่าคิดถึงน้องปั้นหยามากเพราะไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้ว

รถขับวนรอบวงเวียนตรงแยกศาลากลางก่อนจะหักเข้าถนนเส้นหลักประจำเมือง

ใช้เวลาเพียงไม่นานก็ถึงโรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดกระบี่ที่ปั้นหยาเรียนอยู่ แทนไทเลี้ยวรถเข้าไปข้างในพร้อมจอดเทียบไว้บริเวณข้างสนามฟุตบอลก่อนจะขอตัวลงไปรับน้อง

โทรศัพท์ถูกยกขึ้นมาต่อสายตรงไปหารออยู่เพียงไม่นานฝ่ายนั้นก็กดรับ

(พี่ไท?) เสียงน้องดูงุนงงไม่น้อย

“หยาอยู่ไหน” แทนไทเดินเลียบไปกับขอบสนามฟุตบอลก่อนจะสอดส่องสายตามองหาตามบริเวณที่คิดว่าน้องจะนั่งอยู่ เพราะปกติปั้นหยาจะชอบไปนั่งเล่นอยู่ที่ลานอเนกประสงค์ไม่ก็โต๊ะหินอ่อนใต้ต้นหูกวาง

(อยู่โรงเรียนค่ะ)

“รู้แล้ว...พี่หมายถึงตอนนี้หยาอยู่ตรงไหนของโรงเรียน”

(หนูพึ่งซ้อมดรัมเสร็จ นั่งอยู่บนสแตนด์ ทำไมเหรอ)

เสียงที่ดังลอดจากปลายสายมาพร้อมกับเสียงเอะอะจากพวกนักเรียนชายที่กำลังเตะบอลกันอยู่ในสนาม พอหันไปมองก็เห็นว่าน้องกำลังนั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนสนิทที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี

“อืม...เห็นแล้ว เดี๋ยวเดินไปรับ”

(ห้ะ! เดี๋ยวๆ! พี่--) ไม่รอให้น้องได้ถามก็ชิงตัดสายไปก่อน

ใช้เวลาไม่นานแทนไทก็อ้อมสนามฟุตบอลข้ามไปอีกฝั่งก่อนจะเดินตรงไปหาน้อง ปั้นหยาที่ยืนอยู่บนสแตนด์ขั้นแรกยังคงงงไม่หายในมือเจ้าตัวยังคงถือโทรศัพท์เอาไว้อยู่เลยด้วยซ้ำ น้องมองค้างเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของคนพี่ที่ไม่ได้เจอกันมานาน จนเพื่อนสะกิดเข้านั่นล่ะถึงจะรู้ตัว

“พี่ไท?”

“ว่าไง” แทนไทคลี่ยิ้มบางเบาเมื่อเห็นว่าน้องกระโดดลงมาที่พื้นก่อนจะวิ่งเข้ามาหา วงแขนกว้างเปิดรอให้อีกฝ่ายเข้ามาสวมกอดจนตัวเซ

“มาถึงตอนไหนเนี่ย ทำไมหนูไม่รู้เรื่อง” ปั้นหยาเอาคางเกยอกกว้างเอาไว้ก่อนจะจ้องมองอย่างคาดคั้น

“ถึงเมื่อกี้” คนพี่ก้มลงจุ๊บหน้าผากน้องไปสองสามทีให้หายคิดถึง...ไม่ได้เจอกันตั้งนาน สูงขึ้นจนเกือบจะเลยไหล่กันแล้ว...สูงกว่าใครบางคนที่นอนเล่นอยู่บนรถซะอีก “แม่ให้มารับ จะได้ออกไปกินข้าวข้างนอกกัน”

“อ้าว ก็ไหนแม่บอกวันนี้จะทำกินที่บ้าน”

“เปลี่ยนใจแล้ว ป๋าบอกให้ไปกินข้างนอกแทน” ปอยผมบางส่วนที่ตกระข้างใบหน้าถูกพี่ชายทัดเก็บไว้ให้ตามความเคยชิน

การกระทำแสนอ่อนโยนที่ขัดกับภาพลักษณ์แบบนี้มีให้แค่เพียงคนไม่กี่คนเท่านั้น

“ไปเก็บกระเป๋าเร็ว” ดันตัวน้องให้ออกห่างเมื่อเห็นว่าเริ่มเป็นจุดสนใจของเพื่อนๆที่นั่งอยู่บนสแตนด์เชียร์

ปั้นหยารีบวิ่งกลับไปเก็บของยัดลงใส่กระเป๋าเป้พร้อมกับชี้นิ้วมาที่พี่ชายที่กำลังเดินเข้าไปหา น้องพูดอะไรสักอย่างกับเพื่อนก่อนทุกคนจะทำหน้าตกตะลึงพร้อมกับหันมาไหว้กันยกใหญ่

แทนไทรับไหว้เด็กๆพร้อมกับยิ้มตอบรับเมื่อกลุ่มเพื่อนของน้องบ่นออกมานิดหน่อยว่าพี่ไทเปลี่ยนไปจนจำแทบไม่ได้

“โห พี่ไท หล่อขึ้นหรือเปล่าคะเนี่ย” เพื่อนผู้ชายคนเดียวในกลุ่มถามด้วยท่าทางเก้อเขินออกจริตจนปั้นหยาต้องหยิกเข้าที่แขนด้วยความหมั่นไส้

“แม่ห้ามเต๊าะพี่เค้านะ!” แขนข้างหนึ่งถูกน้องคว้าเข้าไปกอดอย่างหวงแหน

“ขอบคุณครับ” แทนไทยิ้มรับอย่างเก้อเขินที่ถูกชมซึ่งๆหน้าก่อนจะดึงกระเป๋าเป้ของน้องมาสะพายไว้ให้ “น้องโยก็น่ารักขึ้นนะ”

   “พี่ไทบ้า!” วาโยหันไปซบแขนเพื่อนผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างกันอย่างขวยเขินเกินงาม

   นี่ขนาดแซวกันไปมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้นจนตอนนี้จะจบม.ปลายแล้วก็ยังไม่ชินสักที

   “พี่ขอพาหยากลับก่อนนะ เด็กๆอย่ากลับบ้านดึกล่ะ”

   ทุกคนขานรับก่อนจะยกมือขึ้นไหว้พี่ชายเพื่อนอีกหน

   “พี่น่านอะ” ปั้นหยาหันมาถามเมื่อเห็นรถคันที่คุ้นเคยจอดอยู่ในระยะสายตา

   “อยู่บนรถนู่น” เจ้าตัวยิ้มกว้างทันทีเมื่อได้ยินคำตอบ...ตอนที่รู้ว่าพี่ไทจะกลับบ้านก็ดีใจมากแล้ว แต่พอรู้ว่าพี่น่านจะมาด้วยยิ่งดีใจมากกว่าเดิม ถึงกับลงทุนเก็บกวาดห้องนอนตัวเองซะจนสะอาดเอี่ยมไว้เพื่อพี่น่านโดยเฉพาะ

   ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วที่ปั้นหยาชอบนอนกอดตัวนุ่มนิ่มๆของพี่น่าน...เพราะว่ามันนิ่มกว่าตุ๊กตาหมีที่พี่ไทซื้อให้อีก

   พอเดินมาใกล้ถึงรถก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของใครบางคนลงมายืนอยู่ฝั่งข้างคนขับ...ทำให้แทนไทต้องเลิกคิ้วขึ้นมองเป็นเชิงถามทางสายตาว่ามันเสนอหน้าลงมาจากรถทำไม

   “พี่หมอก..สวัสดีค่ะ” น้องเอ่ยทักพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ทำให้คนที่มองอยู่ก่อนหน้าต้องยกมือขึ้นรับอย่างเก้กัง

   อวัศย์มองเด็กหญิงตัวน้อยในความทรงจำไม่วางตา

   ..จากเด็กตัวเล็กที่เคยขึ้นขี่หลังเขาในวันนั้นเติบโตเป็นเด็กสาวแบบเต็มตัวแล้ว...น้องโตขึ้นมากจริงๆ

   ..และยังสวยขึ้นมากๆด้วย...

   “มึงมองอะไร” เสียงเข้มห้วนของคนที่ยืนอยู่หลังปั้นหยาเอ่ยถาม

   “ห้ะ..อ้อ..ป..เปล่าๆ แค่สงสัยว่าไม่ได้เจอกันนานน้องหยาตัวสูงขึ้นเยอะจังเลยเนอะ แหะๆ”  หมอกยกมือขึ้นเกาต้นคอแก้เก้อ มือไม้อยู่ไม่สุขเมื่อเห็นว่าน้องยืนขำกับท่าทีของตัวเอง “เอ่อ...ขึ้น..ขึ้นรถเลยไหม”

   ลูกชายคนกลางของคุณอิงดาวที่ปกติมักจะมีท่าทีทะเล้นกลับพูดตะกุกตะกักลิ้นพันกันมั่วไปหมดซ้ำใบหูยังขึ้นสีจนสังเกตได้

   ...อาการเหมือนกันทั้งพี่ทั้งน้อง

   “เชิญครับ” หมอกเลื่อนเปิดประตูฝั่งผู้โดยสารให้น้องขึ้นไปนั่ง พอป๋ากับม้าเห็นก็ร้องทักกันยกใหญ่พร้อมกับคว้าตัวลูกสาวคนเล็กไปกอดไปหอมอย่างแสนคิดถึง

   “หยา!” น่านฟ้าที่โผล่หน้ามาตรงช่องกลางระหว่างเบาะพร้อมกับหมอนรองคอร้องทักน้องอย่างตื่นเต้น “มานั่งนี่ๆๆ” เจ้าตัวรับกระเป๋าเป้ของน้องมาวางไว้พร้อมกับดึงมือให้เข้ามาหาจนหม่าม้าหันมาแซวว่าออกอาการจนเว่อร์

   ระหว่างเดินทางไปร้านอาหารบนรถก็มีเสียงสองสาวคุยจ้อกันไม่หยุดและในบางครั้งก็มีหม่าม้าเข้ามาร่วมวงด้วย

   ขับออกมาจากตัวเมืองเพียงไม่ไกลก็ถึงร้านอาหารขึ้นชื่ออีกหนึ่งร้านในจังหวัดกระบี่ ร้านอาหารกึ่งบ้านสวนขนาดพอเหมาะที่โดยรอบรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ มีซุ้มเรือนไม้ขนาดใหญ่หลายหลังวางกระจายตัวอยู่ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของทางร้าน แสงสลัวจากหลอดไฟที่ตัดกับภาพท้องฟ้ายามโพล้เพล้แบบนี้ยิ่งทำให้บรรยากาศร่มรื่นมากยิ่งขึ้น

   แทนไทจอดรถไว้บริเวณหน้าร้านก่อนจะลงไปเปิดประตูผู้โดยสารให้จนน้าดาวต้องบอกขอบคุณอย่างเกรงใจ

   “คราวหลังไม่ต้องก็ได้นะไท ให้เจ้าหมอกมันทำบ้าง” ป๋าปรีชาเอ่ยท้วงทีเล่นทีจริง ทำเอาไอ้ตี๋ต้องร้องประท้วงว่าโดนไอ้ไทแย่งซีนทำคะแนนอยู่เรื่อย

   “แล้วนี่แม่เขาอยู่ไหนล่ะ ใกล้ถึงหรือยัง”

   “คงอีกราวๆครึ่งชั่วโมงครับ แม่โทรมาบอกว่าในเมืองรถติดนิดหน่อย”

   “อืม งั้นเราก็เข้าไปสั่งอาหารไว้รอก่อนก็แล้วกัน” ป๋าปรีชาเอ่ยสรุปพร้อมกับลงมายืนที่พื้นเพื่อรอรับคุณภรรยาสุดที่รัก “ส่งมือมาสิม้า”

   “เว่อร์จังพ่อเนี่ย เล่นเป็นเด็กไปได้” ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ก็ยิ้มไม่หุบพร้อมกับเอื้อมมือไปจับกับคุณสามีไว้

   “ป๋ากับม้าจะไปเดินเล่นรอบๆหน่อย เด็กๆไปสั่งอาหารได้เลยนะ อยากทานอะไรเอาให้เต็มที่” ว่าไว้แค่นั้นก็เดินโอบเอวภรรยาสุดรักเข้าไปทางสวนของร้าน ทิ้งให้ลูกๆได้แต่มองตามหลังตาปริบๆ

   “อ้าว ทิ้งกันเฉยเลย” น่านฟ้าบ่นอุบ

   “ช้าว่ะหมวย เร็วๆดิ๊ หิวข้าว” หมอกที่กำลังยืดกายบิดขี้เกียจแกล้งทำเป็นบ่นน้อง แต่พอเห็นใครอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆกันกับไอ้หมวยก็แสร้งกระแอมไอแก้เก้อตอนที่เห็นว่าน้องหยามองมาที่ตัวเอง

   “เฮียทำไมหูแดงอะ ไม่สบายเหรอ” น่านฟ้ายกหลังมือขึ้นทาบหน้าผากพี่ชายเมื่อสังเกตเห็นความผิดปกติ

   “เปล่า...แค่ร้อน” ...แม่งอาการมันแสดงออกชัดขนาดนั้นเลยเหรอวะ

   “แน่นะ?” หรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจ...เฮียน่ะเวลาป่วยไม่ชอบบอกใครหรอก คนนี้น่ะดื้อเงียบที่สุดในบ้าน

   “เออ ไปได้แล้ว หิวข้าว” หมอกตัดบทก่อนจะหมุนตัวเดินนำเข้าไปในร้านก่อนใคร...ใจก็อยากจะชวนน้องหยามาด้วยกันแต่ติดที่ตัวพี่มันมองไม่วางตา...เริ่มรู้สึกเสียวสันหลังเหมือนโดนรู้ทันยังไงไม่รู้   

   “งั้นหนูขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ เจอกันที่โต๊ะ” ปั้นหยาหันไปบอกพี่ชายพร้อมกับยิ้มอย่างมีเลศนัย…ก็ไม่อยากจะอยู่เป็นก้างใครเขาน่ะนะ

   “ไทขับรถเหนื่อยไหม” น่านฟ้าเงยหน้าขึ้นถามอีกคนพร้อมกับเอาหนังยางที่สวมไว้ที่ข้อมือมารวบมัดผม

   “นิดหน่อย ไม่เหนื่อยมาก” แทนไทยิ้มตอบก่อนจะใช้นิ้วจิ้มไปที่แก้มน้องเมื่อเห็นว่ามันขึ้นรอยแดง “นอนเยอะจนแก้มเป็นรอยหมด” เจ้าตัวคงเอาหน้าไปพิงกับขอบกระจกหรือไม่ก็เบาะหน้าเลยทำให้มีร่องรอยเล็กๆพาดอยู่บนแก้มนุ่มนิ่ม

   “ฮื่อ ก็ไทขับรถดีน่านเลยหลับไง ตอนเฮียขับนี่ไม่ง่วงเลยนะจริงๆ” ตัวแสบแก้ตัวอย่างแนบเนียน พร้อมกับแอบเขม่นคนพี่ไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าฝ่ายนั้นหลุดขำออกมาไม่เหลือเค้ามาดขรึมเลย...

ฮึ่ย ไม่ชินกับแทนไทลุคนี้จริงๆให้ตาย

   “หัวเราะอะไร คนขี้ลอก” น้องหรี่ตามองพร้อมกับตีเข้าที่หน้าท้องไม่แรงมากนัก

   “ใครขี้ลอก” คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างสงสัย พร้อมกับถือวิสาสะรวบมือน้องมาจับเอาไว้

   “ก็ไทนั่นแหละ ลอกชุดน่าน ปกติใส่แต่สีทึบๆ ทำไมวันนี้ต้องใส่สีขาวด้วยอะ โดนเฮียล้อว่าใส่ชุดคู่เลยเห็นไหม” น้องย่นจมูกใส่ตามนิสัย

   “แล้วมันไม่ดีเหรอ” พยายามกลั้นยิ้มอย่างสุดความสามารถเมื่อเห็นว่าใบหูของเด็กตัวขาวเริ่มแดงระเรื่อ

   “ฮื่อ ไม่ใช่ซะหน่อย” ริมฝีปากสีอ่อนขบเม้มเข้าหากันอย่างตกประหม่า ก่อนจะบ่นอุบอิบออกมาเบาๆ “...เดี๋ยวก็โดนเฮียล้อว่าเหมือนแฟนกันอีกอะ”

   “ว่าไงนะ” แทนไทก้มลงไปหา แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินในสิ่งที่น้องพูด ทั้งๆที่ความจริงน่ะได้ยินชัดเต็มสองหู

   “ไม่ต้องก้มลงมาเลย รู้แล้วว่าตัวเตี้ย!” น้องเอี้ยวตัวหลบพร้อมกับฟาดเข้าที่ต้นแขนหนึ่งป้าบเพื่อแก้เก้อ ก่อนจะเดินนำเข้าไปในร้านโดยไม่รอใครบางคนที่ยืนมองตามแผ่นหลังเล็กด้วยความรู้สึกมากมายจนไม่สามารถเก็บเอาไว้ได้

รอยยิ้มบางเบาปรากฏขึ้นข้างมุมปากตอนที่เดินตามไปโดยทิ้งระยะห่างเอาไว้นิดหน่อย

ยิ่งมองน้องก็ยิ่งนึกเสียดายวันเวลาที่ผ่านมา...อดทนมาถึงขนาดนี้ได้ยังไงกัน



(ต่อด้านล่าง)

ออฟไลน์ Punmile09

  • '...Cause we were just kids when we fell in love...'
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-4
“พี่น่านๆ มานั่งข้างหยา” ปั้นหยากวักมือเรียกเมื่อเห็นว่าพี่เขากำลังเดินเข้ามาในซุ้ม

โต๊ะอาหารสำหรับแปดที่นั่งถูกจัดแยกออกมาบริเวณข้างสระน้ำ บริเวณหัวโต๊ะมีป๋าปรีชากำลังนั่งดูเมนูอาหารกับหม่าม้าพร้อมกับปั้นหยาที่นั่งอยู่ฝั่งซ้าย ส่วนอีกฝั่งมีแค่หมอกที่นั่งโดดเดี่ยวอยู่คนเดียว

น่านฟ้าเดินไปเลื่อนเก้าอี้นั่งลงข้างน้องก่อนจะถูกหม่าม้ายื่นเมนูมาให้สั่งอาหาร

“ม้าสั่งใบเหลียงผัดไข่กับปลาอินทรีทอดซีอิ๊วให้หนูแล้วส่วนน้องหยาก็สั่งแล้วเรียบร้อย หนูอยากทานอะไรเพิ่มก็สั่งเลยนะ” หม่าม้าบอกอย่างรู้ใจเพราะลูกคนเล็กไม่ค่อยจะสันทัดอาหารรสจัดเท่าไรนัก ยิ่งเป็นอาหารใต้ยิ่งแล้วใหญ่

เคยลองกินแค่คำเดียวน้องน่านก็น้ำหูน้ำตาร่วงแล้ว...ลิ้นแมวจริงๆ

“เท่านี้ก็พอแล้วม้า” เจ้าตัวยื่นเมนูไปให้คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามแทน “ไทกับเฮียสั่งเลย”

หมอกรับหน้าที่สั่งอาหารแทนไอ้คนที่กำลังนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ เหมือนได้ยินคร่าวๆว่าน้าเดือนมาถึงแล้ว คงกำลังถามว่านั่งอยู่แถวไหนกัน

หลังจากที่พนักงานทวนรายการอาหารทั้งหมดอีกครั้งก็พอดีกับที่แม่ของแทนไทเดินเข้ามาที่ซุ้ม คุณอิงดาวเป็นคนแรกที่ลุกไปหาอีกฝ่ายพร้อมกับกอดทักทายกันด้วยความคิดถึงตามมาด้วยน่านฟ้าที่ดูดีใจจนเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่

“ไม่ได้เจอกันตั้งนาน แม่จำหนูแทบไม่ได้” เธอจับลูกรักหมุนซ้ายหมุนขวาพร้อมกับหอมแก้มย้ำๆ “ตายละ น้องน่านสวยขนาดนี้ป๋าเขาไม่หวงแย่เลยเหรอ”

เพราะเจอครั้งล่าสุดก็ตอนที่น้องน่านรับปริญญา...ไม่คิดเลยว่าเวลาเพียงไม่กี่ปีลูกคนเล็กของดาวจะสวยขึ้นขนาดนี้

“รายนั้นน่ะ หวงยิ่งกว่าจงอางหวงไข่ซะอีก” หม่าม้าแซวไม่หยุดปาก “พี่เดือนมัวแต่สนใจเจ้าน่าน ดูซิ ไทเขาน้อยใจแล้วนะ”

“โธ่ เห็นหน้ากันแทบทุกวัน เบื่อแล้วคนนั้นน่ะ” เพราะเจ้าหยาวีดีโอคอลกับพี่ชายตลอด แทบจะทุกเวลาหลังอาหารเลยก็ว่าได้

แทนไทลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นว่าแม่เดินเข้ามาหาก่อนจะถูกสวมกอดเอาไว้ด้วยความคิดถึง ใบหน้าคมเข้มของลูกชายตัวโตถูกคุณแม่ประคองไว้แล้วหอมแก้มซ้ายขวาไปมาเหมือนกับตอนเด็กๆ

ถึงจะบอกว่าได้เห็นหน้ากันทุกวันก็เถอะ...แต่การมองผ่านหน้าจอโทรศัพท์ยังไงก็ไม่เท่ากับได้เห็นตัวจริง

แต่สิ่งที่ทำให้เธอต้องตกใจก็คือรอบนี้แทนไทตัวสูงใหญ่ขึ้นมาก เจอกันครั้งล่าสุดยังไม่ล่ำสันเท่านี้เลยเสียด้วยซ้ำ

   “ทำไมเหมือนพ่อเขาขนาดนี้เนี่ย ฮึ” ปลายนิ้วลูบข้างกรอบหน้าคมเข้มของลูกชายอย่างรักใคร่

   นี่ก็คิ้วของพ่อ...นี่ก็ตาของพ่อ

   ยิ่งโตแทนไทก็ยิ่งถอดแบบพ่อเขามาเป๊ะๆ...ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้อยู่เห็นแล้วแต่ก็ยังมีตัวแทนไว้ให้ได้มองแก้คิดถึงเพื่อย้ำเตือนว่าไม่เคยจากไปไหนไกลแม้สักวินาทีเดียว

   “พี่บอกแล้วว่าเจ้าไทน่ะหล่อเหมือนพ่อมัน” ป๋าปรีชาหัวเราะอย่างอารมณ์ดีก่อนจะกวักมือเรียกให้อีกฝ่ายมานั่งเก้าอี้ที่เว้นว่างไว้อีกฝั่ง

   หลังจากนั้นพวกผู้ใหญ่ก็ร่วมวงสนทนากันจนเด็กๆแทบจะไม่ได้มีส่วนร่วมด้วย อาหารที่สั่งค่อยๆทยอยมาเสิร์ฟทีละอย่างจนครบถ้วน น่านฟ้ากับปั้นหยาถูกทั้งหม่าม้าและแม่เดือนตักกับข้าวใส่จานให้จนล้นพร้อมกับสั่งให้กินข้าวให้หมดทั้งคู่

   “แม่ ข้าวเยอะขนาดนี้หนูทานไม่หมด” ปั้นหยาหน้ายู่

“ไม่ต้องเลย อดข้าวเย็นมาหลายมื้อแล้ว” คุณดวงเดือนดุลูกสาวคนเล็กอย่างไม่จริงจังมากนัก เพราะช่วงนี้เจ้าหยาผอมลงจนเธอต้องมานั่งแก้ตะเข็บกระโปรงนักเรียนให้ใหม่อยู่หลายรอบ

“ก็เดือนหน้าก็กีฬาสีแล้วอะ เดี๋ยวใส่ชุดละมีพุง”

“หยาทำอะไรอะ” น่านฟ้าที่นั่งอยู่ข้างกันหันมาถามน้องอย่างตื่นเต้น

“เป็นดรัมน่ะน้องน่าน ตำแหน่งเดิมมาสามปีแล้ว” แม่เดือนหันมาตอบแทน

“หูยย เก่งจัง”

“ก็หยาเขาตัวสูงนี่ หุ่นดีด้วย ไม่เหมือนเด็กแถวนี้  ตัวเล็กไม่พอแถมยังหยุดโตตั้งแต่มอปลาย” คุณอิงดาวที่นั่งอยู่ข้างกันหันมาดึงแก้มลูกคนเล็กจนยืด

“ม้าอะ!” น่านฟ้าเจ็บจี๊ดที่โดนหม่าม้าจี้จุด...หนูก็ตัวเล็กเหมือนม้านั่นแหละ!

“ก็จริงนี่ ดูสิ น้องพึ่งจะมอปลายแท้ๆแต่ตัวสูงกว่าหนูแล้ว” ยิ่งได้เห็นแก้มเจ้าตัวแสบแดงก็ยิ่งได้ใจ

“ตัวเล็กน่ารักออก” แม่เดือนยิ้มเอ็นดูก่อนจะหันไปขอความคิดเห็นกับลูกชายที่นั่งอยู่ข้างกัน “เนอะพี่ไท”

แทนไทชะงักมือที่กำลังจะเอื้อมไปตักกับข้าวไว้ก่อนจะลอบมองไปที่อีกฝ่าย

“..ครับ” เล่นเอาคนที่ถูกจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัวได้แต่นั่งก้มหน้าตักข้าวเข้าปากไปเงียบๆ โผล่มาให้เห็นแค่ใบหูขาวที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ

“ตัวเล็กสเปคเสี่ยไท” หมอกพึมพำล้อเลียนให้ได้ยินกันแค่สองคน “จีบกันกลางโต๊ะไม่ได้น้า อุก! แค่กๆๆ” ทันทีที่ตักแกงเหลืองเข้าปากก็ต้องสำลักออกมาเพราะโดนกำปั้นหนักๆของไอ้โหดมันประเคนเข้าที่กลางหลังดังตุบ

แม่งเอ๊ย! แซวแค่นี้ถึงกับต้องลงไม้ลงมือ! แตะไม่ได้เลยนะ!

“เอ้า กินระวังๆสิเจ้าหมอก” หม่าม้าที่ไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังอะไรเอ่ยเตือนพร้อมกับยื่นกระดาษทิชชู่มาให้เมื่อเห็นว่าลูกชายสำลักน้ำแกงจนหน้าแดง

หมอกหันไปมองค้อนไอ้ตัวต้นเหตุที่นั่งหน้าตาเฉยไร้อาการสำนึกผิด ซ้ำมันยังลอยหน้าลอยตาเอื้อมมือข้ามฝั่งไปตักกุ้งแชบ๊วยในจานข้าวไอ้หมวยมากินต่อได้อย่างหน้าตาเฉยเพราะน้องบ่นว่าอิ่ม

...จะโชว์ว่ากินของต่อกันว่างั้น...อย่าให้ถึงทีกูบ้างก็แล้วกัน!

ฮึดฮัดอยู่ในใจนี่แหละ มันจะได้ไม่รู้! สมน้ำหน้ามึง!



หลังจากจบมื้ออาหารเย็นพวกผู้ใหญ่ก็ได้ข้อสรุปกันว่าวันพรุ่งนี้จะออกเดินทางไปเที่ยวที่อ่าวนางเพราะน่านฟ้าอยากไปดูทะเลแหวก ประจวบเหมาะกับเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ปั้นหยาไม่ได้ไปโรงเรียนทุกอย่างเลยลงล็อกไปหมด

ขากลับแทนไทอาสาขับรถแม่กลับแทนเพราะกลัวว่าแม่จะเหนื่อยหลังจากที่ทำงานมาทั้งวัน ถึงแม้จะยืนยันแล้วว่าไหวแต่ลูกชายคนโตก็ไม่ยอมเลยต้องตามใจ

รถตู้คันใหญ่เทียบจอดหน้าบ้าน ก่อนปั้นหยาจะเป็นคนอาสาลงไปเลื่อนเปิดประตูรั้วไม้ให้ได้นำรถเข้าไปจอด   บ้านไม้สีขาวสองชั้นที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านแถบชานเมืองนั้นเงียบสงบเพราะตอนนี้เป็นเวลาห้าทุ่มกว่า ชาวบ้านแถวนี้เข้านอนกันตั้งแต่หัวค่ำ บริเวณโดยรอบจึงมีเพียงแค่ไฟสาธารณะที่ถูกเปิดไว้ตามทางถนนของหมู่บ้านเท่านั้น

“เดือนทำความสะอาดห้องไว้เรียบร้อยแล้ว พี่ปราบกับดาวไปนอนห้องนั้นได้เลยนะ ห้องเดิมที่เคยนอนนั่นล่ะ” คุณดวงเดือนเดินมาไขกุญแจบ้านพร้อมกับกดเปิดสวิตช์ไฟเพื่อไล่ความมืด “ส่วนหมอกก็ไปนอนห้องเจ้าไทก็แล้วกัน”

“อ้าว แล้วเดือนล่ะนอนไหน” ป๋าปรีชาถามอย่างนึกเป็นห่วงเพราะรู้สึกเกรงใจเจ้าบ้านอยู่ไม่น้อย

“เดี๋ยวไปนอนห้องเจ้าหยาก็ได้พี่ วันนี้น้องน่านก็บอกว่าจะมานอนกับแม่เดือนใช่ไหมคะ” หันไปถามลูกสาวสุดรักที่กำลังช่วยพี่ชายขนของเข้ามาไว้ในข้างในบ้าน

“ใช่ค่ะ” เจ้าตัวยิ้มกว้างโชว์รอยบุ๋มที่ข้างแก้ม

“ไปนอนเบียดแม่เดือนกับน้องทำไม มานอนกับม้านี่” คุณอิงดาวแย้งขึ้นเพราะน้องน่านน่ะนอนดิ้นน้อยซะที่ไหน

“ไม่เป็นไรค่ะน้าดาว ให้พี่น่านนอนกับหนูๆ” ปั้นหยาร้องขอ “อยากนอนกอดตัวนุ่มนิ่มๆ” น้องกอดแขนคนพี่อย่างหวงแหนเรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากพ่อๆแม่ๆได้เป็นอย่างดี

“พรุ่งนี้ออกสายหน่อยนะ” คุณปรีชาเอ่ยย้ำ “สักสิบโมงกำลังดีเจ้าหมอกกับเจ้าไทจะได้พักผ่อนด้วย วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”

หลังจากที่ทุกคนต่างแยกย้ายไปอาบน้ำชำระความอ่อนล้าที่สั่งสมมาทั้งวัน ป๋ากับหม่าม้าก็ลงมานั่งชมวิวตากอากาศที่ชานระเบียงชั้นล่างของบ้านโดยมีคุณดวงเดือนมานั่งร่วมวงสนทนาด้วยพร้อมกับนำมะยงชิดและมังคุดที่แวะซื้อที่ตลาดมาให้ทั้งคู่ได้ทาน





“หยาเก็บเสื้อผ้ารึยัง” น่านฟ้าที่กำลังนั่งเป่าผมอยู่หน้าพัดลมหันไปถามน้อง

“เดี๋ยวเก็บแล้วๆ” ปั้นหยานอนกลิ้งอยู่บนเตียงอย่างเกียจคร้าน “พี่น่านเอาชุดว่ายน้ำไปไหมอะ” น้องถาม

“เอาไปๆ” พูดไม่ทันขาดคำก็ดึงกระเป๋าออกมารื้อชุดขึ้นมาอวด “หยาว่าสวยปะ สองตัวนี้พี่พึ่งซื้อมาเลย”

ชุดว่ายน้ำสองแบบถูกวางแผ่ไว้บนเตียง ตัวนึงเป็นวันพีชสีดำแบบผูกคอเปิดเว้าหลังลึกลงไปเกือบถึงสะโพก ส่วนอีกตัวเป็นบิกินี่เกาะอกสีชมพูนู้ดมีโบผูกตรงกลางเข้าชุดกันกับท่อนล่าง

...แค่เห็นหยาก็ปวดหัวแล้ว...ถ้าพี่น่านใส่จริงพรุ่งนี้มีคนหัวร้อนแน่..

“โห ไซส์เอสปะเนี่ยพี่น่าน ตัวเล็กมากอะ”

“อื้อ ใช่ๆ”

“อยากเห็นพี่น่านใส่จัง” น้องเด้งตัวลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิบนเตียงอย่างกระตือรือร้นพร้อมกับตื๊อให้พี่เขาลองชุดว่ายน้ำให้ดู...ตั้งแต่เล็กจนโตหยาไม่เคยเห็นพี่น่านใส่บิกินี่มาก่อนเลย และครั้งนี้จะต้องได้เห็นเป็นคนแรกให้ได้!

“พรุ่งนี้ก็ได้เห็นแล้ว” น่านฟ้าบอกปัดอย่างขวยเขิน ถึงน้องจะเป็นผู้หญิงก็เถอะ

“หยาอยากเห็นอ่า นะๆลองให้ดูหน่อย แค่ตัวนี้ตัวเดียวก็ได้”

สุดท้ายก็ทนลูกอ้อนไม่ไหวยอมตามใจน้องจนได้ เจ้าหยาให้ความร่วมมือโดยการสัญญาว่าจะไม่แอบดูตอนพี่น่านกำลังเปลี่ยนชุดพร้อมกับนอนหันหลังให้อย่างเสร็จสรรพ ได้ยินแค่เสียงเนื้อผ้าที่เสียดสีกันเบาๆท่ามกลางความเงียบเท่านั้น

“เสร็จแล้วหยา” ปั้นหยารีบหมุนตัวกลับก่อนจะต้องร้องออกมาอย่างตื่นตะลึง

..เพราะพี่น่านน่ะโคตรน่ารักเลย!

ส่วนเว้าโค้งตรงช่วงเอวเล็กที่รับกับสะโพกมนแทบไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงเลยสักนิด ท่อนบนที่เป็นตัวเกาะอกมีฟองน้ำเสริมเลยทำให้ฝ่ายนั้นมีเนินอกเล็กๆขึ้นมา ถึงมันจะไม่ได้มากมายแต่กลับเซ็กซี่อย่างน่าประหลาด ส่วนท่อนล่างนี่ถ้าไม่รู้จักกันมาก่อนละก็พี่น่านก็คือผู้หญิงชัดๆ ซ้ำผิวกายที่ขาวสว่างยังขับสีของบิกินี่จนทำให้อีกฝ่ายดูน่ามองแบบยากที่จะละสายตาออกไปได้

ปั้นหยามองสำรวจคนพี่ทุกซอกทุกมุมจนฝ่ายที่ถูกมองรู้สึกเขินอายขึ้นมา...แม้จะสนิทกันมากแค่ไหนแต่ก็อดที่จะเกร็งไม่ได้เพราะโดนน้องชมไม่ขาดปาก

“โอ๊ย พี่น่านจะสวยกว่าผู้หญิงไม่ได้ป๊ะ ไม่ยุติธรรมเลย ฮืออ หยาอิจฉา” ปั้นหยากลิ้งหน้าไปกับหมอนอย่างงอแง เพราะยิ่งมองก็ยิ่งแพ้ความขาวของพี่เขา

เหมือนมนุษย์น่านฟ้าเกิดมาเพื่อสิ่งนี้โดยเฉพาะ มันเลยขีดจำกัดที่จะไปสนใจแล้วว่าพี่น่านเพศไหน เอาเป็นว่าปั้นหยาสถาปนาแต่งตั้งให้พี่น่านเป็นเพศน่านฟ้าก็แล้วกัน

เพศน่านฟ้าที่มีแค่คนเดียวบนโลกใบนี้!

“เว่อร์” หลุดขำกับท่าทีของน้องก่อนจะหมุนตัวสำรวจอยู่หน้ากระจกอีกครั้ง

เพราะช่วงที่ผ่านมาถูกหม่าม้าขุนหนักจนมีเนื้อมีหนังไม่ผอมกะหร่องเลยทำให้ชุดว่ายน้ำมันไม่หลวม แถมตรงช่วงอกที่ถูกฟองน้ำดันยังขึ้นเนินสวยจนต้องเดินไปหยิบกล้องในกระเป๋ามาถ่ายเก็บไว้อย่างเพลิดเพลิน

ปั้นหยาอาสาเป็นมือกล้องจำเป็นก่อนทั้งสองจะเปลี่ยนห้องนอนให้เป็นสตูดิโอถ่ายรูปขนาดย่อม

“หยา ท่านี้มันโคตรนางเอกเอวีเลยอะ” น่านฟ้าเอ่ยท้วงเพราะท่าทางที่น้องจัดให้ก็คือให้นั่งทับเข่าอยู่บนเตียงพร้อมกับหันข้างให้กล้อง ผมที่ปล่อยยาวระเอวถูกถักเปียหลวมๆไว้โชว์เรียวคอขาว ตรงกลางระหว่างขาอ่อนมีตุ๊กตาหมีวางไว้ปิดบังท่อนล่างได้อย่างพอดิบพอดี

“น่ารักจะตาย” ปั้นหยากดรัวชัตเตอร์กระหน่ำ...รู้สึกสะใจเล็กๆที่พี่ชายตัวเองไม่มีบุญตาที่จะได้เห็นพี่น่านในท่านี้

“พอแล้ว เหนื่อยย” เจ้าตัวงอแงเพราะเริ่มรู้สึกเมื่อยก่อนจะล้มตัวนอนแผ่หลาไปบนเตียงจนเส้นผมกระจายเต็มหมอน

แต่แล้วก็ต้องนิ่งค้างเมื่อเห็นว่ามีอะไรบางอย่างเกาะอยู่บริเวณโคมไฟด้านบน

ยังไม่ทันที่จะได้ลุกหนีมันก็ร่วงตุบลงมาแปะอยู่แถวเนินอกก่อนจะชูคอมองเบาะรองรับอย่างสงสัยใคร่รู้ น่านฟ้านิ่งค้างอยู่อย่างนั้น พอตั้งสติได้ก็ร้องกรี๊ดลั่นก่อนจะดีดตัวออกมาจากเตียงแล้วปัดๆเนื้อตัวอย่างร้อนรนเล่นเอาปั้นหยาที่กำลังนั่งดูรูปอยู่ในกล้องตื่นตกใจไปด้วย

“พี่น่านเป็นอะไร!”

“จิ้งจก!”

ในระหว่างที่กำลังวุ่นวายปัดเนื้อตัวออกช่วยกันอยู่นั้นบานประตูห้องนอนก็ถูกเปิดออกกะทันหันทำให้ทั้งสองต้องหันไปหา

แล้วก็ได้พบว่าเป็นแทนไทที่ยืนคิ้วขมวดมองอยู่

เมื่อกี้นี้เขาพึ่งอาบน้ำเสร็จพอเดินผ่านห้องน้องก็ได้ยินเสียงน่านร้องกรี๊ดเลยทำให้ต้องรีบเปิดประตูเข้ามาดูเพราะกลัวว่าทั้งสองจะเป็นอะไรไป แต่แล้วก็ต้องยืนตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นว่าน่านฟ้าอยู่ในชุดที่ไม่ค่อยจะปกปิดเนื้อหนังสักเท่าไรนัก และน้องเองก็ดูตกใจไม่น้อย เจ้าตัวรีบยกมือขึ้นมาปิดช่วงอกเอาไว้ก่อนจะเบี่ยงตัวเข้าไปหลบข้างหลังปั้นหยา

“พี่ไททำไมไม่เคาะประตูเล่า!” ปั้นหยาร้องบอกเพราะเห็นว่าคนที่หลบอยู่ข้างหลังหน้าแดงเถือกไปหมดแล้ว

“โทษที...พี่ไม่รู้ว่า..” กำลังลองชุดว่ายน้ำกันอยู่...

เสียงทุ้มต่ำไม่มั่นคงเหมือนอย่างเคยเมื่อได้สบเข้ากับดวงตาสีอ่อนที่สั่นไหวเพราะความอาย...ผิวเนื้อขาวเนียนที่มีเพียงชุดน้อยชิ้นเท่านั้นที่ปิดบังเอาไว้ทำเอารู้สึกร้อนวูบไปทั่วทั้งใบหน้า

“ปิดตาเลย! พี่น่านเขินหมดแล้วเนี่ย!” 

พี่น่านกินไม่ได้นะ! ไม่ต้องจ้องขนาดนั้นก็ได้!

แทนไทปิดประตูลงตามคำสั่งของน้องก่อนจะเดินกลับห้องทั้งที่ยังรู้สึกหูอื้อไม่หาย

พอเปิดประตูเข้าไปหมอกก็ร้องทักทันทีเมื่อเห็นว่าเพื่อนตัวเองนั้นหน้าแดงเถือกไปถึงลำคอ

“มึงเป็นไรเนี่ย”

มันไม่ตอบอะไรสักคำ ทำแค่ล้มตัวนอนหงายลงบนอีกฝั่งของเตียงก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมจนมิดหัว

“เอ้า เดี๋ยวก็ขาดอากาศตายห่า” เขาเลิกสนใจมันแล้วหันกลับไปดูหนังในไอแพดต่อ ปล่อยให้ไอ้ไทนอนคลุมโปงต่อไป

ผ่านไปเพียงไม่นานฝ่ายนั้นก็ยอมเปิดหน้าออกมา หนุ่มใต้นอนมองโคมไฟด้านบนนิ่งงันก่อนจะพึมพำออกมา

“หมอก”

“เออ” อวัศย์ขานรับ

น้องมึงแม่ง..” ท่อนแขนข้างซ้ายถูกยกขึ้นมาปิดตาเอาไว้เพื่อปิดบังความรู้สึกที่มากล้น “..ทำไมน่ารักจังวะ

“เมากุ้งเหรอมึง” หมอกตีหน้าปุเลี่ยนเหม็นเบื่อความรัก...ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นท่าทีแบบนี้ของมันหรอกนะ

เพราะแม่งเป็นมาตั้งแต่สมัยอยู่มหาลัยแล้ว...ยิ่งตอนอยู่ที่อเมริกาก็ยิ่งเป็นหนัก มีแค่เขาเท่านั้นแหละที่รู้ว่าไอ้ไทมันหลงไอ้หมวยมากขนาดไหน

อาการเหมือนพวกทาสหมาทาสแมวเห็นแล้วใจเหลวใจอ่อนเป็นน้ำไปหมด

...กูอดทนมานานขนาดนี้ได้ไงวะ

“เพราะมึงมันใจปลาซิวไง ไอ้หอกหัก!” ยุให้จีบตั้งแต่น้องมันขึ้นมหาลัย เป็นไงล่ะ มัวแต่เล่นบทพี่ชายที่แสนดีอยู่ได้ สุดท้ายก็โดนหมาคาบไปแดกตัดหน้า!

ด่าจบก็ถูกถีบเข้าที่บั้นเอวจนเกือบจะตกเตียง นี่วิธีแก้เขินของมึงเรอะ!

“ไอ้ไท...กูน่ะไม่ว่าหรอกนะที่มึงจะจีบไอ้หมวยมัน” น้ำเสียงทีเล่นทีจริงถูกปรับเปลี่ยนมาจริงจังกะทันหัน “แต่มึงอย่าลืมว่าป๋ากับเฮียเมฆยังไม่รู้เรื่องนี้นะเว้ย...ยังไงก็เตรียมใจไว้ด้วยนะมึง”

เพราะป๋ากับเฮียน่ะหวงไอ้หมวยแบบโคตรๆ ขนาดตอนที่น้องเปิดตัวเตชิน กว่าทั้งสองจะยอมเปิดใจรับได้ก็ใช้เวลาเกือบปี เพราะฉะนั้นถ้าไอ้ไทคิดจะจีบน้องเขาจริงๆละก็เห็นทีต้องผ่านด่านนี้ได้ก่อน

..สู้นะเพื่อน

ถึงจะเป็นลูกรักของป๋าก็ใช่ว่ามึงจะเดินสะดวก...

“อืม” เสียงทุ้มต่ำขานรับ “รู้แล้ว”

...ก็เตรียมไว้ตั้งแต่วันที่รู้ใจตัวเองแล้ว



_________________



อาการแพ้ของขาวทั้งพี่ทั้งน้อง 555555555555555555555

ออฟไลน์ NaunaeZaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
พึ่งมาอ่าน พลาดได้ไงเนี่ยยยย ฮืออออ น้องน่ารักมากอ่ะ จะสำลักความเซ็กซี่ของน้องตายแล้ว

ออฟไลน์ bowbeauty

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 299
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
งื้อออออ น้องน่าน

ออฟไลน์ nofsnof

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
แพ้เด็กทั้งเฮียทั้งไทเลย
ส่วนน่านน่าน้วยมากก เป็นเราก็จะนอนกับน้องน่านน
 :man1: :man1:

ออฟไลน์ piiya

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-2
น้องน่านอายอะไรลูกกก อายแบบนี้จะใส่ชุดว่ายน้ำไปทะเลได้ไงคะ

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โถ่ววว พี่ไทแอบหวีดน้องน่านกับเฮียหมอก :o8:


ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
พี่หมอกชอบน้องหยาเหรอ
แต่น้องน่านเขินพี่ไทเหรอ

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เสียอาการหนักเลยแทนไท ถ้าหมอกรู้โดนล้อแน่ 555555555555555

ออฟไลน์ แพรวฐา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
หลงน้องน่านชิบหายยย พี่ไทนี่แบบยอมน้องตลอดด เอาใจใส่เก่งงงง
อยากเห็นน้องน่านใส่ชุดว่ายน้ำบ้างจุงง อยากเห็นคนหวงน้อง รอๆๆๆๆค้าบบบบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
โถถถถ เอ็นดูพี่ไท เห็นภาพเลยทาสหมาทาสแมว...แต่นี่ทาสน้องน่านเนอะ

ออฟไลน์ GevalinW329

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องมึงแม่ง ประโยคนี้ทำเราใจสั่นฮื่อออ
 :katai1: :m25: :angry2: :กอด1: :z13:

ออฟไลน์ sehuniie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :katai2-1: :hao5:
หมวยมาแล้ว พี่คิดถึงหมวย
ถ้าหมวยใส่บิกินนี่เล่นน้ำอิพี่ไทอกแตกตายแน่ 555

ออฟไลน์ sunsatoh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สนุกมากๆเลยค่ะ

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
สนุกมากเลยจ้า

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ชอบพี่หมอกมากเลยค่ะ กากๆดี โดนขู่ก็หงอแล้ว เชียร์น้องตัวเองให้เพื่อน แต่เพื่อนไม่เชียร์ให้เรา ร้องไห้แล้ว 555555555555

ออฟไลน์ SLEEPERINDY

  • I am a normal girl.
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ชอบน้องมา รออออ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
บรรยายน่านฟ้ามาแต่ละอย่างคือ น่าจับฟัดมากเลยค่ะ
คือต้องนุ่มลิ้น นุ่มมือมากแน่นอน

เอ็นดูน่านฟ้า หยอกเก่ง และเขินเก่งมากจ้า
ตอนแรกก็ยังไม่คิดอะไร อยู่ดีๆ มามีใจให้ซะงั้นนะ

แทนไทคือตัวร้ายจ้า ดูแลดี ทำน้องเคยชิน
มีแอบแชทกันด้วยนะ ไม่ธรรมดาเลยคนเรา

ตลกหมอก มัวแต่ว่าแทนไท ตัวเองม้วนต้วนกว่าไปอีก

ชอบครอบครัวน่านฟ้า น่ารักมากเลยค่ะ ชีวิตน่านฟ้าถึงมีความสุข

ออฟไลน์ Punmile09

  • '...Cause we were just kids when we fell in love...'
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-4
CHAPTER 9

Before the sunset

___________________






   “พี่น่าน~ไปถ่ายรูปกันน”

ปั้นหยากระโดดทับร่างคนที่กำลังนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนเตียงจนได้ยินเสียงโวยวายมาจากฝ่ายนั้นว่ากระดูกจะหัก

ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะสี่โมงเย็นเข้าไปแล้ว...หลังจากที่เข้าเช็คอินที่โรงแรมเมื่อตอนบ่ายสองทุกคนก็ต่างลงความเห็นกันว่าพรุ่งนี้ถึงจะเดินทางไปทะเลแหวก เพราะช่วงนี้น้ำจะลดในตอนเช้าถึงสายพอบ่ายน้ำก็ขึ้น วันนี้จึงถือโอกาสปล่อยฟรีสไตล์ให้ได้นอนเล่นชมวิวพักผ่อนกันเต็มที่ นัดหมายอีกทีคือช่วงหัวค่ำเพื่อทานมื้อเย็นที่ห้องอาหารของทางโรงแรม

“แดดยังร้อนอยู่เลยอะหยา” น่านฟ้าบิดขี้เกียจไปมาจนเสื้อครอปสีขาวที่สวมใส่อยู่เปิดขึ้นสูงจนเกือบจะถึงเนินอก

ห้องนี้ก็อยู่กับน้องแค่สองคนอยู่แล้วเลยปล่อยตัวตามสบาย...ประตูห้องก็ล็อกแล้วด้วย มั่นใจได้ว่ารอบนี้ใครบางคนบุกเข้ามาสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้แน่นอน

เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน จู่ๆใบหน้าก็ร้อนวูบขึ้นมาจนต้องยกมือขึ้นมาอังแก้ม ตอนนั้นคงต้องโทษตัวเองที่กรี๊ดซะเสียงดังลั่นบ้านเลยทำให้ใครต่อใครเขาตกใจไปทั่ว น่านฟ้าเม้มปากแน่นเพราะดันคิดถึงใบหน้าของใครบางคนที่ขึ้นสี เพราะก่อนที่ฝ่ายนั้นจะปิดประตูลงก็แอบเห็นนิดหนึ่งด้วยว่าไทหูแดงเหมือนกุ้งที่ถูกต้มจนสุกจัด

คนที่ควรเขินคือทางนี้ต่างหากเล่า! เห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้วเนี่ย...

“แสงมันกำลังสวยอะ นะๆๆพี่น่านไปด้วยกันๆ” ปั้นหยานอนทับลงไปบนต้นขาของอีกฝ่าย...วันนี้พี่น่านใส่กางเกงยีนขาสั้นกุดเลยได้อานิสงส์มองต้นขาขาวๆทั้งวัน ขนาดเป็นผู้หญิงแท้ๆยังมองเพลินตาไปหมด คนอะไรขาเรียวเล็กชะมัดขนหน้าแข้งสักเส้นก็ไม่มี เรียบเนียนลื่นมือไปหมด...ที่รู้เพราะแอบเนียนจับอยู่บ่อยๆ น่าเห็นใจที่ใครบางคนทำได้แค่แอบมองตาละห้อย

แค่พี่น่านใส่บิกินี่ก็ไปไม่เป็นแล้ว นี่ถ้าได้เห็นตอนที่กำลังเปลือยทั้งเนื้อทั้งตัวเหมือนที่หยาเห็นคงกลับบ้านไม่ถูกแน่...พี่ชายใครก็ไม่รู้ ใจปลาซิวจริงๆเลย เพราะแบบนี้ไงเลยไม่ทันใครเขาสักทีน่ะ

“หยารู้ตัวไหมว่าสายตาหยาตอนนี้น่ากลัวมากก” น่านฟ้ายื่นมือไปบิดแก้มน้องจนยืดก่อนจะเบือนหน้าหลบไปอีกทาง

ก็พี่น้องคู่นี้น่ะแววตาเหมือนกันอย่างกับแกะ...ฉะนั้นเวลาที่ถูกปั้นหยาจ้องเอาๆมันเลยทำตัวไม่ค่อยจะถูกสักเท่าไหร่

“จริงอะ...นี่หยาไม่ได้คิดถึงชุดบิกินี่ของพี่น่านเลยนะจริงๆ” น้องยิ้มทะเล้นใส่

“หยา~” น่านฟ้าดึงขาหลบพร้อมกลิ้งหนีออกไปอีกฝั่งของเตียง มีเสียงโวยวายตามหลังมาว่าคอเกือบเคล็ด

“ไปแต่งตัวเลย หรือจะไปชุดนี้ก็ได้นะไม่ว่ากัน” ปั้นหยาทิ้งท้ายเอาไว้แค่นั้นก่อนจะลุกเดินเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนชุด เตรียมพร้อมสำหรับการถ่ายรูปริมทะเลตามที่ได้ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ทั้งที่บ้านอยู่ติดทะเลแท้ๆแต่นานทีถึงจะมีโอกาสได้มาเที่ยว

ใช้เวลาราวๆสิบนาทีก็เดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อเติมลิปกลอสนิดหน่อยก็ถือว่าเป็นอันจบพิธี

แต่ใครบางคนที่ก่อนหน้านี้เพิ่งบ่นว่าร้อนไปหยกๆกลับจัดเต็มเสียยิ่งกว่าจนปั้นหยาอยากจะวิ่งกลับเข้าไปในห้องน้ำใหม่เพื่อหาชุดมาสู้...ว่าก็ว่าเถอะจริงๆแล้วพี่น่านก็ไม่ได้แต่งตัวยุ่งยากอะไรแต่กลับน่ามองจนต้องเหลียวหลัง เจ้าบิกินี่เกาะอกสีชมพูนู๊ดตัวเมื่อวานถูกนำมาใช้ ท่อนล่างยังเป็นกางเกงยีนขาสั้นตัวเดิมที่ใส่ตั้งแต่ออกมาจากบ้าน และปั้นหยาจะไม่มองตาค้างเลยถ้าเจ้าเสื้อคลุมครึ่งตัวที่อีกฝ่ายสวมทับเป็นเนื้อผ้าปกติทั่วไป

...เพราะเสื้อครอปถักสีขาวมันทำให้เห็นไปถึงไหนต่อไหน..แทบจะไม่มีอะไรปกปิดเลยเสียด้วยซ้ำไป..

“ขาวแสบตามาก” ปั้นหยาเอ่ยปากแซวคนที่กำลังนั่งเกลี่ยลิปสติกให้ได้สีตามที่ต้องการ

ปากบอกร้อนนะ...แต่ตอนนี้พร้อมยิ่งกว่าคนชวนอีก

“หยาหยุดแซวได้แล้ว” หมอนรองใบเล็กถูกปาเข้ามาใส่ดีที่กระโดดหลบทันแบบเฉียดฉิว

“ก็พี่น่านขาวจริงๆอะ” ปั้นหยามองต้นขาที่ขาวจนเห็นเส้นเลือด “หยาอยากขาวแบบนี้บ้าง” เจ้าตัวแกล้งทำเป็นงอแงใส่คนพี่

“ผิวหยาก็สวยเหอะ มีเสน่ห์ออก” น่านฟ้าหันไปมองน้องพร้อมกับยิ้มให้อย่างเอ็นดูเมื่อเห็นว่าเจ้าตัวหน้าง้ำงอ

“โหย แต่สมัยนี้ใครๆก็ชอบคนขาวอะ” น้องบ่นอย่างไม่จริงจังไปตามประสาเด็กผู้หญิงที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมและสังคมที่เพื่อนมีอิทธิพลต่อความคิดและความมั่นอกมั่นใจในรูปร่างของตัวเอง

“เพ้อเจ้อ” อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปดึงแก้มเจ้าเด็กคิดมากจนยืด “ทุกคนก็มีความสวยในแบบของตัวเองทั้งนั้นแหละ อย่าให้ใครมากำหนดสิว่าเราเป็นยังไง มั่นใจในตัวเองเข้าไว้ อย่าเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้ใครชอบเลย...เป็นตัวของตัวเองน่ะดีที่แล้ว”

ปั้นหยามองตากะพริบปริบๆเมื่อถูกสอน...อันที่จริงก็ไม่ได้คิดมากเรื่องรูปลักษณ์ของตัวเองขนาดนั้น ที่พูดก็เพราะอยากแซวพี่น่านให้เขินม้วนก็เท่านั้นเอง แต่ยิ่งได้รู้ถึงทัศนคติการใช้ชีวิตของอีกฝ่ายก็ยิ่งประทับใจมากขึ้นไปอีก จากที่เคยปลื้มพี่น่านมากอยู่แล้วมันก็มากขึ้นกว่าเดิม...เติบโตมาเพื่อเป็นพลังงานบวกของคนรอบข้างจริงๆด้วยสินะคนนนี้น่ะ

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใครบางคนถึงตกหลุมจนหาทางขึ้นไม่เจอมาได้นานขนาดนี้

...ก็น่ารักขนาดนี้ไม่ให้รักได้ยังไงไหว นี่ถ้าไม่ติดว่าคุณพี่ชายเขาแอบมองมาตั้งแต่เด็ก ป่านนี้ชิงจีบตัดหน้าไปแล้วนะเนี่ย

“สวย...สวยมาก คำตอบสวยเหมือนกำลังดูเวทีประกวดนางงาม” เจ้าเด็กตัวแสบยืนปรบมือด้วยท่าทางที่ดูยังไงมันก็น่าบิดแก้มให้แดงแจ๋ “ควรค่าแก่การเอามาเป็นพี่สะใภ้ที่สุด”

“พูดไปนั่น” น่านฟ้าส่ายหัวให้อย่างนึกขำขันในความล้นเกินของน้อง

“หยาล้อเล่นน่า” ปั้นหยายิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะพูดพึมพำ “…แต่พี่ไทน่ะคิดจริง”

“หยาพูดว่าอะไรนะ” ถามย้ำอีกครั้งเพราะได้ยินไม่ค่อยชัดนัก

“ไม่มี๊ ไม่มี~” เจ้าตัวยักไหล่อย่างไร้พิรุจ “พี่น่านพร้อมหรือยัง รีบไปกันเถอะเดี๋ยวแสงหมด”

ว่าไว้แค่นั้นก็หันไปคว้ากระเป๋ากล้องมาสะพายเอาไว้พร้อมกับลากคนพี่ออกมาจากห้อง แต่ในระหว่างที่กำลังจะเดินไปที่ลิฟต์จู่ๆก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้เสียก่อน ปั้นหยาเดินย้อนกลับมาทางเดิมก่อนจะหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องพักห้องหนึ่งที่อยู่เยื้องมาเล็กน้อย เคาะเรียกอยู่สองสามหนก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านในเดินเข้ามาใกล้

“หยาลืมของเหรอ” น่านฟ้าเงยหน้าขึ้นถามน้องอย่างนึกสงสัย เพราะก่อนออกจากห้องก็เช็กกันไปแล้วรอบหนึ่งก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรขาด

“เปล่า” น้องยักไหล่ “จะให้พี่ไทไปถ่ายรูปให้”

“เดี๋ยว..” พอกำลังจะอ้าปากทักท้วงก็พอดีกับที่บานประตูเปิดออก ร่างสูงใหญ่ของใครบางคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่ค่อยจะเรียบร้อยสักเท่าไรนักเพราะอีกฝ่ายสวมไว้แค่กางเกงสามส่วนสีดำตัวเดียวเท่านั้น เรือนผมสั้นที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อยทำให้รู้ว่าคุณเขาคงเพิ่งลุกออกมาจากเตียง

น่านฟ้าเผลอจับจ้องลายอักษรที่สลักไว้อยู่บนแผ่นอกข้างซ้ายของอีกฝ่ายอย่างสนอกสนใจ พลันลมหายใจก็สะดุดผิดจังหวะเมื่อได้เห็นข้อความที่ถูกวาดบรรจงสวยงามลงไปบนผิวเนื้อ

...เพราะครั้งก่อนไทเอาผ้าเช็ดตัวพาดบ่าไว้เลยทำให้มองไม่เห็น

แต่รอบนี้กลับกระจ่างชัดเจนทุกตัวอักษร..

‘My Soul is in the sky’

สั้นง่ายได้ใจความ...แต่ยากที่จะตีความหมายที่แน่ชัด

สายตาถูกสั่งให้หลบหนีเมื่อรู้สึกร้อนผะผ่าวที่ใบหน้าจนแทบมอดไหม้ แต่กลับถูกแรงดึงดูดบางอย่างสั่งให้เงยหน้าขึ้นไปสบตากับใครบางคนแทน...ซึ่งดูเหมือนทุกอย่างถูกจัดวางมาอย่างพอเหมาะและดูเหมือนว่าฝ่ายนั้นจะมองมาทางนี้ตั้งนานแล้วเสียด้วยซ้ำไป

ท่าทีนิ่งเฉยไร้ซึ่งอาการที่ต้องการจะปิดบังเหมือนครั้งก่อนกลับจางหาย...เหลือเพียงแค่ความรู้สึกชัดเจนที่ฉายชัดออกมาจากแววตามั่นคงคู่นั้น

ราวกับต้องการบอกให้รู้ทางอ้อมว่าความหมายที่แท้จริงของมันคืออะไร...

...ถ้าไม่ได้คิดมากไปเองละก็นะ

“อะแฮ่ม” ปั้นหยาขัดจังหวะขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่าจู่ๆตัวเองก็กลับกลายเป็นคนนอกไปกะทันหัน

น้องยืนอยู่นี่ทั้งคน ไม่ชายตามองเลยนะพี่ไท!

“จะออกไปไหนกัน” แทนไทยกมือขึ้นมาลูบต้นคอที่รู้สึกร้อนผ่าวแก้เก้อเมื่อพยายามบังคับสายตาไม่ให้มองใครอีกคนจนเสียมารยาทมากเกินไป...แค่เห็นรอยปานบนสะโพกได้รูปที่โผล่พ้นออกมาจากขอบกางเกงขาสั้นก็ทำเอามือไม้เก้กังไปหมดแล้ว

“หนูจะไปถ่ายรูปกับพี่น่าน...เลยอยากมาชวนให้พี่ไทไปถ่ายรูปให้หน่อย” น้องยิ้มจนตาปิด “สะดวกไหมคะ”

“ได้...พี่ขอไปใส่เสื้อก่อน”

ทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก็หมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้องเพื่อหยิบเสื้อยืดสีขาวมาสวมทับเอาไว้ พอดีกับที่บานประตูห้องน้ำถูกเปิดออก ร่างสูงใหญ่ที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวพันรอบท่อนล่างยังคงมีหยดน้ำเกาะพราวเปียกชุ่มไปทั้งตัว หมอกตั้งท่าจะโวยวายใส่ว่าทำไมเพื่อนเขามันเปิดประตูห้องอ้าซ่าขนาดนั้นแต่พอเห็นว่ามีใครบางคนยืนยิ้มอยู่ข้างไอ้หมวยก็ทำได้แค่อ้าปากค้างก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำด้วยความรวดเร็ว

“ชีเปลือย!” น่านฟ้าตะโกนร้องแซวเมื่อได้ยินเสียงเฮียบ่นให้แทนไทอยู่ในห้องน้ำว่าทำไมไม่บอกก่อนว่ามีคนมา

“เงียบน่าไอ้หมวย จะไปไหนก็ไปเลยไป เกะกะ” หมอกเดินออกมาพร้อมกับสวมเสื้อยืดตัวเก่าทับท่อนบนเอาไว้ แต่พอเห็นชุดที่น้องจะใส่ลงไปเล่นทะเลตามันก็ขวางขึ้นมาตามสัญชาตญาณคนหวงน้อง “โป๊” เสียงทุ้มดุเอ่ยเตือน

“ไม่เห็นจะโป๊เลย” ยังจะมาเถียงอีก

“เฮียเมฆคอลมาพอดี จะฟ้อง” โทรศัพท์ที่วางอยู่บนตู้เย็นถูกคว้ามากดรับทันควัน ท่าทางที่ดูสะอกสะใจทำเอาคนที่มองอยู่ได้แต่ส่ายหัวปลงพร้อมกัน จะมีก็แต่ปั้นหยาคนเดียวที่อมยิ้มเหมือนจะเอ็นดูไอ้หมาบ้ามันซะเหลือเกิน

“เฮียโทรมาพอดีเลย มีอะไรให้ดู” หน้าจอถูกเปลี่ยนเป็นรูปแบบวิดีโอคอลแทนก่อนที่กล้องจะหันไปหาคนที่ยืนอยู่หน้าห้อง “มีเด็กโป๊ เฮียจัดการเลย”

(เล่นอะไรของมึงหมอก) คุณหมอเมฆที่อยู่ในชุดเครื่องแบบพร้อมแว่นสายตาขมวดคิ้วมองเมื่อเห็นหน้าน้องชาย แต่พอเห็นน้องคนเล็กใบหน้านิ่งขรึมก็พลันเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างราวกับพลิกเปลี่ยนจากหลังมือเป็นหน้ามือ (เฮียโทรหาหนูทำไมไม่รับสายครับ)

“หนูชาร์จแบตไว้ในห้องอะ ขี้เกียจพก” น่านฟ้าเดินไปคว้าโทรศัพท์มาถือไว้เอง ก่อนจะชี้ให้เฮียดูปั้นหยาที่ยืนอยู่ข้างกัน “เฮียดูสิ หยาตัวสูงขึ้นเยอะเลย”

(เมื่อวานหม่าม้าส่งรูปที่ถ่ายคู่กับน้องมาให้ดูแล้ว) เขาพยักหน้ารับไหว้จากน้องพร้อมเอ่ยปากแซวไอ้ตัวเล็กของตัวเองที่ตัวเตี้ยไม่ยอมโตเสียทีจนน้องหน้างอได้อย่างน่ารักน่าเอ็นดู (จะไปเล่นน้ำเหรอครับ)

“ค่ะ...อยากให้เฮียมาด้วยจังเลย” น่านฟ้าถือโอกาสนี้อ้อนพี่ชายคนโตจนได้ยินเสียงถอนหายใจมาจากคนที่ยืนอยู่ข้างกัน เฮียหมอกกลอกตาไปมาจนต้องเอื้อมมือไปตีแขนด้วยความหมั่นไส้หนึ่งที

(เอาไว้รอบหลังก็ได้) คุณหมอหนุ่มพูดคุยต่ออีกไม่กี่ประโยคก็ขอตัวกลับไปทำงานต่อ ก่อนจะทิ้งท้ายเอาไว้ (อย่าลืมทาครีมกันแดดนะคะ ดูแลตัวเองดีๆด้วยระวังจะเป็นไข้ล่ะ)

“อื้อ หนูรู้แล้วว”

(แล้วก็ชุดนี้...เฮียอนุญาตให้ใส่แค่ตอนไปเที่ยวเท่านั้นนะ) เอ่ยดุอย่างไม่จริงจังมากนัก เพราะน้องก็โตพอที่จะรับผิดชอบตัวเองได้อยู่แล้ว แต่มันก็อดไม่ได้อยู่ดี...น่ารักขนาดนี้ไม่ให้หวงได้ยังไงไหว (ถ้าไอ้หมอกมันไม่สนใจก็ไปอยู่กับไอ้ไทนะ)

คนพูดอาจจะไม่คิดอะไรแต่ทางนี้น่ะหน้าร้อนไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย ยิ่งได้ยินเสียงเฮียหมอกแกล้งไอขึ้นมาขัดจังหวะก็ยิ่งทำตัวไม่ถูก

“วู้ว ฝากปลาย่างไว้กับแมว...โคตรแมวซะด้วย” เอ่ยปากแซวพอดีกับที่สายถูกตัดไป

“เฮียพูดมาก...ไปกันเถอะหยา” น่านฟ้ายัดโทรศัพท์กลับคืนเจ้าของก่อนจะหันไปดึงมือปั้นหยาให้เดินออกมาจากห้องนั้นทันที น้องดูตั้งตัวไม่ทันนิดหน่อยแต่ก็ยอมเดินตามมาแต่โดยดี ก่อนออกมาก็ไม่ลืมหันกลับไปบอกพี่ชายตัวเองด้วยว่าเดี๋ยวจะลงไปรอที่ล็อบบี้ด้านล่าง

ออฟไลน์ Punmile09

  • '...Cause we were just kids when we fell in love...'
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-4
บริเวณหาดอ่าวนางในช่วงเย็นนั้นยังคงครึกครื้นด้วยผู้คนตามถนนทางเท้า บนชายฝั่งมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและคนต่างชาติกระจายอยู่ตามจุดต่างๆเพื่อรอถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกดิน บางส่วนก็ลงไปเล่นน้ำทะเล เสียงคลื่นสาดซัดเข้าฝั่งดังประสานกับสายลมเอื่อยเฉื่อย หาดทรายสีขาวดูกลมกลืนไปกับผืนน้ำใสเมื่อแสงจากดวงอาทิตย์ค่อยๆลดระดับลงไปซ่อนตัวอยู่หลังภูเขา

 “สวยจัง” น่านฟ้าเป็นคนแรกที่เดินแยกออกไปก่อนใครเพื่อน รองเท้าแตะถูกถอดทิ้งเอาไว้ข้างต้นมะพร้าวก่อนเจ้าตัวจะเดินลุยหาดทรายเอาเท้าไปจุ่มน้ำทะเลเล่น ไม่นานหมอกก็ตามน้องไปพร้อมกับใช้เท้าเตะน้ำใส่จนได้ยินเสียงร้องโวยวาย

“ลมแรงจังอะ” ปั้นหยาพึมพำพร้อมทั้งพยายามใช้มือรวบผมให้เป็นทรงอย่างนึกรำคาญ “พี่ไท~เปียผมให้หนูหน่อยสิ” ลองเอ่ยปากออดอ้อนขอพี่ชายที่ยืนอยู่ข้างกันดู

“โตแล้วนะ” ถึงจะพูดแบบนั้นแต่กลับยกมือขึ้นลูบหัวจนถูกอ้อนขอยิ่งกว่าเดิม

“ฮื่อ~ก็พี่ไททำสวยอะ นะๆทำให้หน่อย ตอนพี่ไทไม่อยู่ไม่มีใครทำให้หยาเลย” น้องกอดแขนพร้อมกับใช้หัวถูไถไปมาจนในที่สุดก็ยอมใจอ่อน

“เอายางมา” ยางมัดผมบนข้อมือปั้นหยาถูกยื่นส่งไปให้พร้อมยืนหันหลังเตรียมพร้อมอย่างเสร็จสรรพ

ฝ่ามือใหญ่ค่อยๆสางเส้นผมให้เป็นระเบียบ ก่อนจะเริ่มแบ่งช่อผมอย่างคล่องแคล่วราวกับมืออาชีพโดยไม่ได้รู้สึกขัดเขินเลยสักนิด

สำหรับแทนไทแล้วการที่ได้ทำอะไรเล็กๆน้อยๆให้น้องแบบนี้มันไม่ใช่สิ่งที่แปลกหรือว่าเป็นเรื่องที่น่าอาย กลับกันแล้วเขาเต็มใจที่จะทำมันเสียด้วยซ้ำ เพราะตั้งแต่ที่พ่อเสียไปก็ได้ตั้งใจเอาไว้ว่าจะทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้น้องรู้สึกขาด อะไรที่สามารถทำได้เพื่อทดแทนในส่วนนั้นก็ไม่ลังเลเลยที่จะลงมือ

เริ่มจากการเปียผมให้หยา...เพราะในตอนนั้นแค่อยากช่วยแม่ดูแลน้องเลยขอให้แม่ช่วยสอน แล้วหลังจากนั้นมาหยาก็ไม่ยอมให้แม่ทำให้อีกเลย น้องติดเขาแจซ้ำบอกว่าทำสวยจนเพื่อนที่โรงเรียนถามกันใหญ่ว่าใครทำให้ พอบอกว่าพี่ชายเป็นคนทำทุกคนก็หัวเราะและพร้อมใจกันไม่เชื่อ

‘พี่ไทถักเปียให้หยาได้แค่คนเดียว! ห้ามเอาวิชาแม่ไปจีบสาวเด็ดขาด ไม่งั้นจะงอน!’ เด็กขี้หวงขู่ทิ้งเอาไว้...น้องหวงเขามาก มากจนแม่เคยแซวเอาไว้ว่าคงได้เป็นโสดอยู่ดูแลเจ้าตัวแสบไปทั้งชีวิต

“ยังคล่องเหมือนเดิม...ไปแอบทำให้สาวที่ไหนหรือเปล่า” เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยน้องก็หันกลับมาแกล้งทำท่าจับผิด จนถูกดันหน้าผากไปทีถึงยิ้มออก

“มั่วแล้ว ไม่มีหรอก”

“จริงเร้อ~” ปั้นหยาทำท่าไม่เชื่อ ก่อนจะหันไปมองใครบางคนที่อยู่บนหลังพี่หมอกแล้วรอยยิ้มแฝงความนัยบางอย่างก็ปรากฏขึ้น “ถ้าอย่างนั้นก็...ทำให้พี่น่านบ้างสิ” ข้อเสนอที่ไม่คิดว่าจะได้ยินออกมาจากปากเด็กขี้หวงทำเอาต้องเลิกคิ้วมองอย่างนึกแปลกใจ

“ไหนบอกว่าห้ามทำให้คนอื่นไง” แทนไททวนความจำน้อง

“พี่น่านไม่ใช่คนอื่นซะหน่อย! แล้วอีกอย่าง…”  รอยยิ้มร้ายกาจเผยขึ้น “…คนนี้เป็นข้อยกเว้น”

“ตัวแสบ” แก้มนุ่มถูกดึงยืดจนติดมือ น้องร้องโวยวายก่อนจะตะโกนเรียกใครอีกคนเสียงดังลั่นหาด

“พี่น่าน!” ปั้นหยาป้องปากกวักมือเรียกหยอยๆ “มานี่ๆๆๆๆ”

น่านฟ้าหันมามองตามเสียงก่อนจะสั่งให้พี่ชายพาเดินมาหา หมอกบ่นไม่ขาดปากแต่ก็ยอมทำตามน้อง พอถึงที่เจ้าตัวก็กระโดดลงมายืนบนพื้นก่อนจะก้มลงปัดทรายที่เปื้อนติดอยู่ปลีน่องออก

“มีอะไรเหรอหยา”

“ให้พี่ไทถักเปียให้ๆ เดี๋ยวไปถ่ายรูปคู่กัน” แม่สื่อคนเก่งเริ่มปฏิบัติงานโดยไม่สนใจท่าทีอ้ำอึ้งของพี่ชายที่ยืนอยู่ข้างกัน

ขืนชักช้าแบบพี่ไท มีหวังชาตินี้คงไม่มีอะไรคืบหน้ากันพอดี!

“ห้ะ” น่านฟ้าทำหน้าเหวอพอหันไปมองทางฝ่ายนั้นก็เอาแต่ยืนเงียบ “จะดีเหรอ” ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้ทำให้...แต่ตั้งแต่เช้ามาคุยกับไทแทบนับประโยคได้ เพราะต่างฝ่ายก็ต่างทำตัวไม่ถูก...ยิ่งนึกถึงเรื่องเมื่อคืนแค่จะมองตายังไม่กล้าเลย

“ดี! พี่ไททำสวยมากเลยนะ” น้องดันตัวเข้าไปใกล้ก่อนจะจับหมุนให้ยืนซ้อนอยู่หน้าพี่ชายตัวเอง “ฝากด้วยนะ เสร็จแล้วก็รีบตามมา” ปั้นหยาทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก็ดึงเอากระเป๋ากล้องที่ห้อยอยู่แขนพี่ออกมาถือไว้พร้อมกับหันไปชวนใครอีกคนแทน “พี่หมอกคะ ไปถ่ายรูปกัน”

“อ...อ้อ ครับ” หมอกรับกระเป๋ากล้องมาถือไว้ทั้งที่ยังตามเหตุการณ์ไม่ทัน แต่ก็ยอมเออออตามน้องไป

“หยา..เดี๋ยว..”

รู้ตัวอีกทีสองคนนั้นก็เดินห่างออกไปไกลแล้ว...น่านฟ้าหันกลับมามองคนที่ยืนร่วมชะตากรรมเดียวกันด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย แต่ก่อนที่ความคิดทุกอย่างจะฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้เสียงทุ้มต่ำก็พูดขึ้นอย่างเนิบนาบ

“ขยับเข้ามาสิ”

“คือ...ไม่เป็นไรหรอก..” ปฏิเสธเสียงอ่อนแต่ก็ยอมขยับเข้าไปหาแต่โดยดี

“เดี๋ยวหยางอแง” เอาน้องมาเป็นข้ออ้างไปอย่างนั้นเอง

“ฮื่อ...ผมยุ่งหน่อยนะ โดนลมทะเลอะ” น่านฟ้าพึมพำก่อนจะยืนนิ่งๆให้อีกฝ่ายได้ลงมือ 

ฝ่ามือใหญ่แก้ยางมัดผมออกอย่างเบามือจนเส้นผมสีอ่อนค่อยๆทิ้งตัวลงมาระข้างเอวก่อนจะถูกสางจนเข้าที่ แทนไทไล่มองตามนิ้วตัวเองจนถึงปลายผม ช่วงเอวคอดบางที่ไม่มีอะไรปกปิดทำให้เขารับรู้ว่าน้องตัวเล็กมากแค่ไหน รอยบุ๋มเล็กๆสองจุดบริเวณเหนือสะโพกรับกับร่องส่วนเว้าโค้งของแผ่นหลังเล็กทำเอาต้องหยุดสายตามองอยู่พักใหญ่

ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนฉายชัดขึ้นมาอีกครั้งจนต้องรีบเสมองไปทางอื่นเมื่อรู้สึกว่าตัวเองเริ่มเสียมารยาท

กลุ่มผมถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนก่อนจะถูกถักเป็นเปียเดี่ยวแบบหลวมๆตามที่เจ้าตัวชอบทำ ปลายนิ้วค่อยๆสอดสลับอย่างอ้อยอิ่ง เนิบนาบกว่าปกติ เส้นผมบางส่วนที่ตกระอยู่ข้างซอกคอขาวถูกมือรวบกลับเข้ามา เพียงเสี้ยวเดียวที่ปลายนิ้วได้สัมผัสกับผิวเนื้อเนียนนุ่มบริเวณลาดไหล่เปลือยลมหายใจก็เพี้ยนผิดจังหวะก่อนจะรับรู้ได้ถึงมือไม้ที่เริ่มเก้กังซ้ำยังชุ่มเหงื่อ

เสียงดังกึกก้องในอกซ้ายเต้นรัวเร็วจนแทบทะลุเมื่อเห็นว่าใบหูของคนตรงหน้าเริ่มขึ้นสี...ริ้วเลือดฝาดที่พาดผ่านบนแก้มขาวสลักตราตรึงลงไปแนบแน่น

“เจ็บหรือเปล่า” แทนไทถามเมื่อถักเปียมาได้ถึงกลางทาง พอเงยหน้าขึ้นมองก็สังเกตเห็นว่ามีผู้คนบางส่วนที่เดินผ่านไปผ่านมาทั้งเป็นคู่และเป็นกลุ่มแอบอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อมองมาที่พวกเขาสองคน

“ไม่ๆ ไม่เจ็บ” น้องเผลอส่ายหัวแรงนิดหน่อยเลยทำให้ปมมันคลาย จากที่ใกล้จะเสร็จก็ต้องยืนแก้อยู่สักพักจนเข้าที่เรียบร้อยดี

ชายหนุ่มมัดยางตรงส่วนปลายก่อนจะจับพาดเปียไว้บนไหล่ข้างขวาให้อย่างเสร็จสรรพ “เรียบร้อย”

“ไม่เห็นรู้มาก่อนเลยว่าไททำอะไรแบบนี้เป็นด้วย” น่านฟ้ายกมือขึ้นจับผมตัวเองด้วยสีหน้าที่เหลือเชื่อพร้อมกับชมไม่ขาดปากว่าไททำสวยกว่าที่ตัวเองทำเสียอีก

เทียบกับคนที่ต่อยเตชินจนหน้าคว่ำในวันนั้น...ราวกับคนละคนเลย

“ก็ทำให้หยามาตั้งแต่เด็กแล้ว”

“หูยย งี้ก็แสดงว่าทำให้สาวบ่อยอะดิ” ใบหน้าน่ารักยิ้มทะเล้นพร้อมกับกระชับเสื้อคลุมขึ้นมาเมื่อถูกลมพัดจนมันร่วงหล่นลงมากองที่บริเวณข้อพับแขน

“ไม่มีหรอก หยาขู่ไว้ว่าห้ามเอาไปทำจีบใคร” รอยยิ้มบางเบาปรากฏขึ้นที่ข้างมุมปากเมื่อเห็นว่าทางนั้นเริ่มมือไม้เกะกะจนผิดสังเกต

“น่านได้รับสิทธิพิเศษสินะเนี่ย” น่านฟ้ากระแอมไอแก้เก้อพร้อมกับยกมือขึ้นกอดอกเชิดหน้าอย่างมีอำนาจเหนือกว่า

“อืม” ปอยผมบางส่วนถูกสายลมพัดตกระลงมาข้างแก้ม...แต่ไม่ทันที่จะได้ปัดออกก็ถูกมือของใครบางคนเกี่ยวเก็บขึ้นทัดหูให้ก่อน “...น้องบอกว่ายอมให้น่านแค่คนเดียว”

ดวงตากลมโตเบิกกว้างก่อนริ้วแดงระเรื่อจะพาดผ่านขึ้นมาบนใบหน้าจนเห็นได้ชัด เจ้าตัวตั้งท่าจะพูดตอบกลับแต่ก็ทำได้แค่เม้มปากเอาไว้แน่นจนเห็นรอยบุ๋มที่ข้างแก้มเหมือนอย่างเคยเมื่อถูกจู่โจมด้วยวิธีการร้ายกาจ

เอาน้องมาเป็นตัวช่วยเหรอ!

“ไม่คุยด้วยแล้ว” น่านฟ้าเดินหมุนตัวกลับไปทางชายหาดโดยมีเสียงหัวเราะทุ้มต่ำดังตามหลังมาด้วย “เดินตามมาทำไมเล่า”

“ก็ไม่รู้จะไปไหน...สองคนนั้นหายไปแล้ว” ฝ่ายนั้นยืนล้วงกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทางผ่อนคลายก่อนจะหันไปมองรอบบริเวณเพื่อย้ำอีกครั้งว่าปั้นหยากับเฮียหมอกหายไปแล้วจริงๆ “ให้ถ่ายรูปให้ไหม” แทนไทเสนอตัวช่วย

“จะถ่ายให้จริงอะ” น่านฟ้าลองหยั่งเชิง แต่พอเห็นว่าฝ่ายนั้นพยักหน้ารับด้วยความเต็มใจก็ไม่รอช้าที่จะตอบรับ “’ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เกรงใจแล้วนะ”

“ครับ...เต็มที่เลย”

หลังจากนั้นเสียงรัวชัตเตอร์กล้องจากโทรศัพท์มือถือของแทนไทก็ดังขึ้นต่อเนื่องจนแทบจะไม่ได้พยุดพัก ส่วนอีกฝ่ายก็สนุกสนานหัวเราะร่าเริงเมื่อเห็นว่าเขาเริ่มจับภาพไม่ทัน ได้รูปดีบ้างหลุดบ้างแต่ไม่มีแม้แต่รูปเดียวที่จะถูกลบออกไป น่านฟ้าโวยวายใหญ่เมื่อเห็นว่ามีรูปหนึ่งที่ตัวเองหลับตาเพราะแสงแดดส่อง

“ไม่เอารูปนี้ ลบๆ” น้องยื่นหน้าเข้ามาดูรูปที่จอก่อนจะตีหน้ายุ่งพร้อมบ่นว่าตัวเองไม่สวย

“สวยแล้ว” ดึงโทรศัพท์หลบเมื่อเห็นว่าเจ้าของรูปตั้งท่าจะแย่งไปกดลบ “ไปถ่ายต่อเร็ว เดี๋ยวแสงหมด”

“ไม่เอาแล้วแสบตา” เจ้าตัวส่ายหน้าปฏิเสธ แม้จะรู้สึกเสียดายแต่รูปที่ถ่ายไปไม่รู้อาทิตย์นี้จะลงหมดหรือเปล่า “น่านอยากเล่นน้ำ” อุตส่าห์ใส่ชุดมาเต็มที่แต่กลับโดนคนชวนเทซะงั้น

ทีแรกก็ตั้งใจจะให้หยามาถ่ายรูปชุดบิกินี่ให้...แต่ตอนนี้คงต้องพับโครงการเก็บลงไปก่อนเพราะคุณแทนไทดันมาเป็นตากล้องให้แทน

ก็...ใครจะไปกล้าเล่า...แค่นี้ก็เขินจะตายอยู่แล้ว..

“เอาสิ เดี๋ยวลงเป็นเพื่อน” แทนไทพยักหน้ารับคำก่อนเสื้อยืดสีขาวที่สวมใส่อยู่จะถูกถอดออก เจ้าตัวเดินเอาไปวางไว้ให้พ้นรอยคลื่นพร้อมทั้งโทรศัพท์เพื่อเตรียมตัวลงน้ำ...นี่ก็เริ่มเย็นแล้วผู้คนเลยบางตาลงไปพอสมควรบริเวณชายหาดจึงค่อนข้างสงบ ไม่พลุกพล่านเหมือนชั่วโมงก่อนหน้า

“ทำไมต้องอวดพุงอะ” ย่นจมูกใส่อย่างนึกหมั่นไส้คนขี้อวด

พุงเพิงอะไรมีที่ไหนกัน...วีเชฟขึ้นชัดซะขนาดนั้น

น่านฟ้าไล่มองอีกฝ่ายตั้งแต่บริเวณช่วงบ่ากว้างที่มีมัดกล้ามได้รูป แผ่นอกแข็งแกร่งแผ่ไอร้อนออกมาจากตัว รอยสักบริเวณแขนขวาและอกซ้ายช่วยดึงเสน่ห์ดิบของผู้ชายออกมาได้เป็นอย่างดี ผิวสีเข้มที่ถูกแสงอาทิตย์ช่วงเย็นส่องกระทบยิ่งเสริมให้ฝ่ายนั้นดูดีและน่ามองมากขึ้นไปอีก

...อันตรายเกินไปแล้วนะ

“มองอะไร” แก้มข้างหนึ่งถูกดึงจนยืดเพื่อเรียกสติ

“งก!” น่านฟ้าเบี่ยงประเด็นเหมือนเด็กถูกโดนจับได้ว่าทำความผิด ก่อนจะใช้เท้าไล่เหยียบฝ่าเท้าของคนพี่แก้เก้อเมื่อเห็นว่าถูกแกล้ง ส่วนคนที่โดนน้องทำร้ายร่างกายกลับหัวเราะอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับดึงเท้าหลบเป็นพัลวัน พอเริ่มรู้สึกว่าถูกจี้ไม่ยอมถอยก็ตัดสินใจเบี่ยงตัวออกมาด้านข้างก่อนจะช้อนเข้าที่ใต้ขาของอีกฝ่ายแล้วอุ้มจนตัวลอย อารามตกใจทำใจน่านฟ้าต้องรีบยกแขนขึ้นมาโอบรอบคอเอาไว้ตามสัญชาตญาณพร้อมกับร้องประท้วงเมื่อเห็นว่ากำลังถูกอุ้มลงทะเล

“ไทคนมองหมดแล้ว!” ทั้งอายทั้งตกใจ ซ้ำยังตั้งตัวไม่ทันเมื่อจู่ๆก็เนื้อตัวแนบชิดกันจนแทบไม่มีช่องว่าง

ไอร้อนระอุจากแผ่นอกกว้างแผ่กระจายโอบล้อมเอาไว้ทั้งตัว...เพิ่งจะรู้ว่าไทตัวสูงมากก็ตอนที่โดนอุ้มเอาไว้แบบนี้

“ไทอย่าแกล้ง!” เจ้าตัวร้องโวยวายขึ้นอีกครั้งเมื่อจะถูกโยนลงน้ำ แต่โชคดีที่กอดคอเอาไว้แน่นพอสมควรเลยรอดตัวไป

“ก็ไหนบอกอยากเล่นน้ำ” เสียงหัวเราะทุ้มต่ำในลำคอดังขึ้นอย่างอารมณ์ดี

แทนไทหยุดเดินเมื่อระดับน้ำสูงเกือบเท่าอกก่อนจะกระชับวงแขนให้แน่นขึ้นเพื่อไม่ให้คนในอ้อมกอดเปียกน้ำ

...พอได้กอดเอาไว้แบบนี้...ก็ได้รู้ว่าน่านตัวเล็กมากแค่ไหน

“ฮื่อ ก็ปล่อยสิ”

“โอเค”

“ปล่อยดีๆสิ ไม่ใช่โยน!” น้องเกาะแน่นยิ่งกว่าเดิมเมื่อรู้ตัวว่าจะถูกแกล้งอีก “ไทขี้แกล้งอะ”

“ไม่แกล้งแล้วครับ” แม้จะรู้สึกเสียดายที่ต้องปล่อยแต่ก็ยอมจำนนแต่โดยดีเมื่อเห็นว่าน่านเริ่มมองค้อนใส่

ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะผละออกจากอ้อมกอดจู่ๆร่างสูงใหญ่ก็ทิ้งตัวลงไปในน้ำส่งผลให้ใครอีกคนจมลงไปตามกันติดๆ แต่เพียงไม่นานทั้งคู่ก็โผล่พ้นขึ้นมาเหนือผิวน้ำ น่านฟ้าสำลักน้ำทะเลเข้าไปอึกใหญ่เพราะไม่ทันได้ตั้งตัวก่อนจะไอจนใบหน้าแดงก่ำเดือดร้อนคนพี่ต้องเข้ามาช่วยลูบหลังให้

“ไทอะ!” น้องหน้างอลงนิดหน่อยก่อนจะฟาดมือเข้ามาที่ต้นแขนจนขึ้นรอยแดง

“โอ้ย” ท่าทีแกล้งเจ็บเกินจริงทำให้นึกหมั่นไส้จนต้องวักน้ำใส่หน้าเพื่อเอาคืน

น่านฟ้าดันน้ำจนเป็นคลื่นลูกเล็กผลักใส่หน้าคนขี้แกล้งเพื่อเป็นการแก้แค้น แต่นอกจากฝ่ายนั้นจะไม่หลบแล้วยังยืนนิ่งให้เอาคืนอย่างไม่สะทกสะท้าน เส้นผมสีเข้มที่เปียกลู่ลงมาแนบกับใบหน้าถูกเสยขึ้นเก็บไว้อย่างลวกๆ หยดน้ำที่เกาะอยู่ปลายผมหยดลงมาผสานตัวบนแผ่นอกกว้าง ท่าทางที่เป็นไปตามธรรมชาติไร้การปรุงแต่งทำเอาหัวใจคนมองเต้นผิดจังหวะ

แล้วข้อมือน่านฟ้าก็ถูกรวบจับเอาไว้เพราะฝ่ายนั้นบอกว่าแสบตา ให้หยุดสาดน้ำใส่ก่อน

“แค่นี้อย่ามาบ่น” เจ้าตัวฮึดฮัด แต่พอจะดึงมือออกมาจากการจับกุมกลับถูกฝ่ามือใหญ่โอบกระชับให้แน่นขึ้นเสียงยิ่งกว่าเดิมซ้ำฝ่ายนั้นยังดึงตัวให้เข้าไปใกล้ด้วย “ฮื่อ ปล่อยซี่” น่านฟ้าหลบสายตามองไปที่อื่นอย่างไร้ช่องทางการหลบหนี ระดับน้ำที่ลึกถึงช่วงบ่ากลับสูงเพียงอกของไทเท่านั้น

“ตัวเตี้ย” รอยยิ้มล้อเลียนปรากฏขึ้นพร้อมกับแขนข้างหนึ่งที่โอบเข้ามารอบเอว

“ไทตัวสูงเกินไปต่างหาก!” น้องขึ้นมายืนเหยียบบนหลังเท้าก่อนจะพยายามเขย่งให้ใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกัน

แทนไทมองคนตรงหน้าไม่วางตา...มองอยู่อย่างนั้น...เนิ่นนานจนไร้ซึ่งบทสนทนาระหว่างกัน

“มองอะไรเล่า” น่านฟ้าเบือนหน้าหลบไปอีกทางแต่ก็ถูกตามไปก่อกวนจนไร้ทางหลบหนี“ฮื่อ ปล่อยเลย น่านหนาว อยากกลับแล้ว”

“น่าน”

“อื้อ” ใบหูขาวที่เริ่มขึ้นสีอีกครั้งทำเอาความยับยั้งชั่งใจเริ่มลดต่ำ

“…ทำไมน่ารักจัง” คำถามที่ถูกส่งไปทำเอาอีกฝ่ายหน้าแดงก่ำ หลังจากนั้นน้องก็ยกมือขึ้นมาปิดตาเขาเอาไว้

“ไทเมาคลื่นปะเนี่ย” น้ำเสียงบ่นอุบอิบแผ่วเบา แต่สามารถแสดงอารมณ์ความรู้สึกของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี

“เปล่า” แทนไทยกมือขึ้นมากุมทับมือน้องก่อนจะดึงลงมาจับเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ปลายนิ้วเกลี่ยลงไปบนหลังมืออย่างเพลิดเพลิน ฝ่ามือเรียวเล็กเมื่อวางทาบกันแล้วมีขนาดเพียงแค่ครึ่งฝ่ามือเขาเท่านั้น “...พูดจริง”

แสงแดดอบอุ่นที่เริ่มจางหายไปตามเวลาฉาบไล้ลงข้างใบหน้าได้รูป แก้มน้องขึ้นสีแดงระเรื่อเพราะถูกไอแดดเล่นงาน ประกายวูบไหวที่ส่องสะท้อนอยู่ในแววตาคู่นั้นยากที่จะสามารถถอดถอนสายตาออกไปได้ สายลมแผ่วเบาที่พัดพาคลื่นลมทะเลดังเคล้าเบาบางล่องลอยคล้ายติดอยู่ในห้วงความฝัน สองสายตาสอดประสานกันเนิ่นนานไร้ซึ่งบทสนทนาอื่นใด มีเพียงแค่ความรู้สึกบางอย่างที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านประกายวูบไหวในแววตา...อ่อนไหวคล้ายกับเกลียวคลื่นที่สาดซัดลงบนผืนทรายขาว ทิ้งไว้เพียงร่องรอยเปียกชื้น ก่อนจะกลืนหายกลับลงไปในท้องทะเลสีคราม

ใบหน้าคมเข้มเคลื่อนต่ำลงมาใกล้ทำให้ระยะห่างของทั้งคู่ลดน้อยลงจนสัมผัสได้ถึงปลายจมูกที่แตะลงบนผิวแก้มเย็นชืด ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดอยู่ในระยะประชิดรับรู้ได้ถึงจังหวะการเต้นของชีพจรที่รัวเร็วขึ้นกว่าเดิม เสียงอึกทึกที่เต้นรัวอยู่ในอกขยายอิทธิพลมากขึ้นจนไม่สามารถรับรู้ได้ถึงสิ่งรอบตัว

น่านฟ้ามองต่ำไม่ยอมสบตาเอาเสียดื้อๆ รู้ตัวอีกทีปลายคางก็ถูกช้อนขึ้นก่อนภาพทั้งหมดจะถูกบดบังด้วยใบหน้าของใครอีกคนแทน ริมฝีปากที่เม้มแน่นถูกปลายนิ้วใหญ่เกลี่ยไปมาอย่างอ้อยอิ่ง พอรวบรวมความกล้าสบตาโดยตรงกลับต้องลมหายใจสะดุดอีกครั้งเมื่อเห็นแววตาอ้อนวอนขออนุญาตจากฝ่ายนั้น

จนในที่สุดเปลือกตาก็ค่อยๆปิดลงแทนคำตอบทั้งหมด

สัมผัสอุ่นร้อนนุ่มนวลคล้ายปุยนุ่นถูกประทับลงมาบนเรียวปากแผ่วเบาก่อนจะจางหายไปคล้ายกับหยดน้ำที่ทิ้งตัวลงบนแผ่นหินร้อนจัดแล้วระเหยกลายเป็นไอ เพียงไม่นานความอบอุ่นนั้นก็กดลงมาซ้ำเป็นรอบที่สองด้วยน้ำหนักที่มากขึ้นก่อนจะกดแช่เนิ่นนานอยู่อย่างนั้น ไร้ซึ่งท่าทีคุกคามและเร่งเร้า นุ่มนวลและอ่อนโยนราวกับเกรงว่าทุกอย่างจะแตกสลายเป็นเพียงภาพลวงตา

“..เรา...กลับกันเถอะ” หลังจากที่ใบหน้าของอีกฝ่ายถอยห่างออกไป น่านฟ้าก็เอาแต่พิงศีรษะเข้ากับแผ่นอกกว้างไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตากัน โผล่มาให้เห็นแค่ใบหูที่ขึ้นสีแดงจัด

“ครับ” เสียงทุ้มนุ่มกระซิบบอก พร้อมกับวงแขนที่โอบกระชับแน่นขึ้น

หลังจากที่ขึ้นมาบนชายหาดแทนไทก็บอกให้น้องยืนรอยู่กับที่ก่อนจะเดินกลับไปเอาเสื้อและโทรศัพท์ที่วางทิ้งไว้รวมถึงรองเท้าแตะของน่านที่ถอดทิ้งเอาไว้ด้วย

“ใส่ซะ” เสื้อยืดสีขาวถูกยื่นส่งไปตรงหน้าเมื่อเห็นว่าใครอีกคนยืนตัวสั่นเพราะถูกลมทะเล

“ม...ไม่เป็นไร” น่านฟ้าปฏิเสธ ก่อนจะหลบตาให้วุ่นเมื่อเผลอไปมองริมฝีปากของอีกฝ่าย

“น่าน...เดี๋ยวไม่สบาย” เสียงเข้มดุขึ้นมาเล็กน้อยอย่างไม่ยอมแพ้ จนในที่สุดเสื้อคลุมถักที่แทบจะไม่ปกปิดอะไรเลยก็ถูกถอดออกจนเหลือเพียงแค่เกาะอกสีชมพูตัวเดียว เนื้อผ้าสีอ่อนแนบไปกับผิวขาวนวลจนเห็นสัดส่วนชัดเจน เนินเนื้อขนาดพอเหมาะถูกมือของเจ้าตัวยกขึ้นมาปิดเอาไว้เพราะรู้สึกเขินกับสายตาของใครบางคนจนแทบอยากจะจมหายลงไปในทะเล

แทนไทเบือนหน้าหนีออกไปอีกทางเพื่อไม่ให้น้องรู้สึกอึดอัดก่อนฝ่ายนั้นจะรับเสื้อยืดของเขาไปสวมทับเอาไว้อย่างว่าง่าย และเพราะขนาดตัวที่ต่างจึงทำให้ชายเสื้อคลุมยาวจนปิดต้นขาขาวเอาไว้ได้อย่างพอดิบพอดี

...นับว่าเป็นที่น่าพอใจ



ระยะทางจากตัวโรงแรมไปหาดอ่าวนางนั้นใช้เวลาเดินเท้าประมาณห้านาทีเท่านั้น ร่างสูงใหญ่ที่เปลือยท่อนบนตกเป็นเป้าสายตาอยู่ไม่น้อยตอนที่เดินผ่านบริเวณล็อบบี้ แต่เจ้าตัวกลับมีท่าทีนิ่งเฉยอย่างไม่สะทกสะท้าน

ในระหว่างที่ลิฟต์กำลังไต่ระดับขึ้นไปบนชั้นของห้องพักก็ไร้ซึ่งบทสนทนาระหว่างกันจนกระทั่งสัญญาณเตือนว่าถึงที่หมาย แทนไทเดินตามหลังอีกฝ่ายไปโดยทิ้งระยะห่างเล็กน้อย น้องหันมามองอยู่บ่อยครั้งแต่ก็ไม่ได้พูดทักท้วงอะไรออกมาเพราะคงรู้ว่าเขาต้องการจะมาส่ง

“รีบไปอาบน้ำเลย เดี๋ยวเป็นหวัดนะ” พอหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องน้องก็ออกปากไล่ทันทีก่อนจะเคาะประตูเรียกให้ปั้นหยามาเปิดให้ “ไอ้แสบ แอบกลับมาไม่บอกกันเลยนะ” บ่นพึมพำกับบานประตูไปเรื่อยเปื่อยเพื่อดึงความสนใจของตัวเองไม่ให้ไปอยู่ที่ใครอีกคนมากจนเกินไป

แต่แล้วแผ่นหลังกลับสัมผัสได้ถึงไอร้อนระอุที่แผ่กระจายออกมาโอบล้อมรอบตัวเอาไว้ พอตั้งท่าจะขยับหนีกลับถูกแขนข้างหนึ่งยกขึ้นมากั้นเอาไว้จนเห็นรอยสักที่ต้นแขนข้างซ้ายในระยะประชิด...ถูกกักขังอยู่ในอ้อมแขนอย่างสมบูรณ์แบบพอดีกับที่ได้ยินเสียงฝีเท้าในห้องกำลังเดินเข้ามาใกล้บานประตู

“น่าน” เพราะถูกเรียกเลยทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง แต่โดยไม่ทันตั้งตัวริมฝีปากก็ถูกฝ่ายนั้นก้มลงมาประทับจูบด้วยความรวดเร็ว พอดีกับที่บานประตูถูกเปิดออกแทนไทก็ยืดตัวกลับขึ้นไปยืนเต็มความสูงก่อนจะตีสีหน้านิ่งเฉยตามปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น...ผิดกับใครอีกคนที่ยืนหน้าร้อนหูดับไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย...

ยิ่งเห็นสายตาล้อเลียนของปั้นหยาที่มองมาก็ยิ่งทำตัวไม่ถูกไปกันใหญ่ กว่าจะรู้ตัวว่าถูกขโมยจูบฝ่ายนั้นก็เดินกลับเข้าห้องไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย..เหลือทิ้งไว้แค่ความอุ่นชื้นที่ยังคงเจือจางอยู่บนริมฝีปากตอนที่ยกปลายนิ้วขึ้นมาแตะ




_______________

ยัยเด็กหยานี่มีบทบาทกว่าพระเอกอีกนะลู้กกก5555555555555


ต้องขออภัยมากเลยนะคะที่ทิ้งช่วงไปนาน ไม่มีอะไรจะแก้ตัวเลยค่ะ แง้  :z13:
ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่คอยส่งกำลังใจมาให้ตลอดนะคะ
ขอบคุณที่ยังอุตส่าห์รอไปทิ้งพันไมล์ไปไหน<3 :L2: :กอด1:

แวะมาพูดคุยกันได้ที่ #ที่รักของน่านฟ้า นะคะ <3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โอ่ยๆๆๆ เขินแทนยัยน่าน :o8:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
หืมมมมมม บทจะรุกนี่รุกเร็วรุกแรงจริงนะพ่อคุณ นี่เขินเป็นเพื่อนน้องน่านแล้ว

ออฟไลน์ Gimlongdeep

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
พี่นักเขียนกินข้าวรึยังคะ แงงๆๆเราเราตามอยุ่เน้ออออ สู้ๆนะคะเด้วก้หายเหนื่อยนน

ออฟไลน์ เปลว แว๊บแว๊บ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ซึนมาหลายตอน รุกน้องเป็นแล้วนะ

ออฟไลน์ แพรวฐา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
เขินพี่ไทอะแงง มาอัพแล้วคิดถึงมากๆเลยค่ะะะ :mew1:

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
พี่แทนนนนนเสียอาการแล้วกล้าๆหน่อย..ขอบคุณนักเขียนนะคะเราจะรอวันที่พี่แทนไปบอกเฮียว่าชอบยัยหมวย

ออฟไลน์ ดาวลูกไก่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
เหมือนจับคนขี้เขินมาเจอกัน แข่งกันแก้มแดงหูแดง น่ารักมากๆเลยค่ะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ Kookkiex

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พี่ไทพอได้รุกแล้วรุกเก่งจังเลยนะ น้องน่านสู้ๆลูก5555

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
รุกน้องซักที  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Moonoii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
งุ้ยย เขินพี่แทนไท น่านฟ้าก็น่ารักก :o8:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด