✧ ที่รักของน่านฟ้า ✧ : Chapter 12 - The Next Chapter : 07 October 2020
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✧ ที่รักของน่านฟ้า ✧ : Chapter 12 - The Next Chapter : 07 October 2020  (อ่าน 29674 ครั้ง)

ออฟไลน์ Punmile09

  • '...Cause we were just kids when we fell in love...'
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-4
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************



✧ ที่รักของน่านฟ้า ✧






_______________________________________________


คำเตือน
นิยายเรื่องนี้น้องนายเอกเป็นสาวประเภทสองนะคะ
น้องเป็นเหมือนผู้หญิงคนหนึ่งเลย
แต่แค่ไม่ถึงขั้นT-girl (หรือยังไม่แปลงเพศนั่นเอง)

เพิ่มเติม

1. น้องยังไม่ผ่าตัดแปลงเพศนะคะ
2.น้องยังไม่เสริมหน้าอกค่ะ(แต่ในอนาคตเสริมค่ะ แค่ไม่แปลงเพศ)
3. น้องพูดจาคะขา แทนตัวเองว่าหนูค่ะ


ฝากเอ็นดูยัยน้องน่านกันด้วยนะคะ <3

รัก

พันไมล์

#ที่รักของน่านฟ้า

facebook : Punmile

twitter : pppunmile
_________________________________
_____________

นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้นมาจากจินตนาการของผู้เขียนเท่านั้น
 บุคคลหรือสถานที่ที่กล่าวถึงล้วนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจริงแต่อย่างใด


________________________________________________

Prologue

___________________

I love all the things you hate.


…อะไรก็ตามที่เป็นคุณ

ผมก็รักมันหมดนั่นแหละ..

 
..เสียงแหบห้าวเวลาตื่นนอนที่มักจะมาพร้อมกับหน้าตาที่ไร้เครื่องสำอางแต่งแต้ม

หรือแม้กระทั่งเส้นผมดัดลอนที่ยุ่งเหยิงจากการเกลือกกลิ้งบนหมอนใบเดียวกัน

..คุณมักจะงอแงบอกว่าตัวเองน่ะน่าเกลียด

...แต่สำหรับผม


“หน้าสดไม่โอเคเลย อย่ามองๆ”

“...”

“จ้องทำไมเล่า” หมอนใบนั้นถูกยกมาปิดหน้าไว้เพื่อปกป้องคนขี้เขิน

มั่นใจในตัวเองหน่อยครับคุณน่ะ..

..โคตรจะน่ารักเลย

 

..สีหน้าบูดบึ้งเวลาที่คุณโดนผมขัดใจ

อย่างเช่นการจะลงรูปในโลกโซเชียลส่วนตัวของคุณ..

“มันก็ไม่ได้โป๊ขนาดนั้นซะหน่อย”...คุณเถียง

..สุดท้ายก็โดนงอนไปหลายวันเพราะความงี่เง่าของผมเอง

...แต่ทำไงได้ ก็คนมันหวง

 

..แม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ

อย่างเช่นกางเกงยีนส์ตัวเก่งของคุณที่มันเริ่มสวมยากไปนิด

เสียงบ่นในยามเช้าของทุกๆวันเกี่ยวกับรูปร่างที่ไม่ค่อยจะเพอร์เฟค

“กินเยอะเกินไปแล้วอะ” คุณงอแงอีกครั้ง พร้อมกับรบเร้าให้ผมพาออกกำลังกาย

แต่หลังจากนั้นก็ชวนกินไม่หยุด…แล้วคิดว่าผมจะใจแข็งกับคุณได้มากขนาดไหนกัน

..จุดจบก็คือ..น้ำหนักมันดันเพิ่มขึ้นเป็นเพื่อนคุณซะนี่

สุดท้ายถึงจะโดนเทรนเนอร์ดุยกใหญ่...แถมพ่อคุณก็ชอบบ่นว่าผมตามใจคุณมากไป

...ถึงอย่างนั้นมันก็เลิกตามใจคุณไม่ได้อยู่ดี

 

บ่อยครั้งที่คุณมักไม่ค่อยพอใจกับสิ่งที่คุณเป็น

...บางครั้งก็กังวล และคิดมากจนเกินไป

อย่างเช่น..

“น่านไม่ใช่ผู้หญิง...ผู้ชายก็ไม่ใช่” คุณร้องไห้เพราะน้อยใจที่ตัวเองเป็นแบบนี้ คุณเกลียดตัวเอง เพราะกลัวว่าผมจะอายใครต่อใครเขา

อยากจะดุอยู่หลายครั้งกับความคิดเพ้อเจ้อแบบนั้น แต่พอเห็นตาที่บวมช้ำของคุณแล้วทำได้มากสุดก็คือกอดคุณเอาไว้แน่นๆ

ตัวก็แค่นี้ ทำไมขี้กังวลนักนะ

...คิดเยอะไปได้ จะกลัวอะไรนักหนาก็ไม่รู้

ต่อให้คุณจะเป็นอะไรก็ตาม..

ผมก็รักทั้งหมดที่เป็นคุณอยู่ดี..




_____________________________________________________




Talk

สวัสดีค่ะแอบมาเปิดนิยายเรื่องใหม่ไว้สนองนี๊ดตัวเอง
เพราะพันไมล์อยากลองแต่งแนวนี้มานานแล้ว5555
ฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะค้าา


แวะมาพูดคุยกันได้ที่ #ที่รักของน่านฟ้า นะค้าบบ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-10-2020 11:46:05 โดย Punmile09 »

ออฟไลน์ Punmile09

  • '...Cause we were just kids when we fell in love...'
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-4
Chapter 1


Nanfah

___________________


      ตึง!



               แก้วเหล้าถูกวางกระแทกลงบนโต๊ะไม้อย่างแรงท่ามกลางเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มในย่านเริงรมย์ยอดฮิตของเหล่าวัยรุ่นและคนวัยทำงาน รอบตัวต่างรายล้อมไปด้วยผู้คนมากมายที่กำลังสนุกสนานกับเสียงเพลงและเสียงหัวเราะที่ล่องลอยอยู่ในห้วงความสุขของใครของของมัน



               ทุกๆคนในที่แห่งนี้ล้วนมีจุดประสงค์เดียวกันก็คือมาดื่มเพื่อผ่อนคลายจากเรื่องราวชีวิตที่มันหนักหนา



น่านฟ้าเองก็ไม่ต่างกัน



เพราะหลังจากที่เกิดเรื่องเฮงซวยที่สุดในชีวิตก็ซึมเศร้าอยู่หลายวัน ร้องไห้จนตาบวมเป่ง สุดท้ายพวกเพื่อนๆคงทนเห็นสภาพทุเรศแบบนี้ไม่ไหวเลยต้องลากออกมาเปิดหูเปิดตาให้เห็นแสงสีบ้าง



“ฟ้า ใจเย็นนะ”



ผิง...เพื่อนผู้หญิงที่สนิทที่สุดในกลุ่มลูบหลังปลอบ ระหว่างนั้นก็พยายามดึงแก้วเหล้าให้ออกห่างจากมือ ก่อนจะรับเสื้อคลุมจากเพื่อนอีกคนมาปิดหน้าขาไว้ให้เมื่อเห็นว่ากระโปรงหนังตัวสั้นมันรั้งขึ้นสูงจนเห็นต้นขาขาวๆ



..อือ ใช่ กระโปรง



ไหนจะเสื้อสีขาวรัดรูปแหวกเว้าด้านหลังลึกจนเกือบถึงเอวอีก..ผู้ชายดีๆที่ไหนเขาจะใส่มันล่ะว่าไหม



นอกเสียจากว่าเป็นประเภทที่ผู้หญิงก็ไม่ใช่ผู้ชายก็ไม่เชิงแบบนี้ไง..แบบที่ใครต่อใครเขาเรียกกันว่า ‘สาวประเภทสอง’ ให้หยาบๆหน่อยก็ ‘กะเทย’ ‘ตุ๊ด’ ประมาณนั้น



ตั้งแต่เล็กจนโต น่านฟ้าไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายเลยเสียด้วยซ้ำไป



..ไม่เคยอยากเป็นเลยสักนิด…แต่มันก็ช่วยไม่ได้



อาจจะเป็นเพราะการเลี้ยงดูแบบประคบประหงมจากครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก โดนพ่อกับแม่และพี่ชายอีกสองคนเลี้ยงมาแบบสปอยชนิดที่ว่าน่านฟ้าเกือบจะลืมไปเสียด้วยซ้ำไปว่าโลกภายนอกนั้นมันไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดเอาไว้



เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะยอมรับในตัวตนของเราได้



..และไม่ใช่ทุกคนที่จะพร้อมเปิดใจและเข้าใจในสิ่งที่เราเป็น



มันเลยทำให้คนอย่างพวกเราต้องปิดใจและปิดกั้นเพื่อปกป้องตัวเองเอาไว้



..แต่พอลองเสี่ยงที่จะเปิดใจรับใครสักคนเข้ามา เพราะภาพในหัวมันวาดฝันเอาไว้ซะสวยหรู และแอบหวังว่าความรักที่ดีๆจะมีอยู่จริง



แต่สุดท้ายก็พังไม่เป็นท่า...



มันก็เลยต้องเก็บเอามาให้ช้ำใจบ่อยๆเวลาที่โดนตราหน้าว่าผิดเพศบ้างล่ะ เสียชาติเกิดบ้างล่ะ หรือถ้าหนักหน่อยก็คงเป็นการที่โดนสงสัยว่ามีอาการผิดปกติทางจิตหรือเปล่า



..โคตรน่าสมเพชเลย..ให้ตาย



“ฟ้า พอแล้ว ไม่กินแล้ว” ผิงออกแรงดึงแก้วออกมาจนหลุดมือเมื่อเจ้าคนหัวรั้นยังฝืนที่จะกินต่อ ทั้งๆที่ตัวเองคออ่อนยังกับอะไร



ตอนนี้แทบไม่ได้ยินอะไรแล้วนอกจากเสียงวิ๊งๆที่ข้างหู สติที่มีเริ่มหลุดลอยไปไกลจนเผลอแจกยิ้มให้ใครต่อใครเขาไปทั่ว รู้ตัวอีกทีผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่โต๊ะตรงข้ามก็เดินถือขวดเบียร์เข้ามาหาพร้อมนั่งลงข้างๆอย่างถือวิสาสะ



“คนสวยชื่ออะไรคะ”



หนุ่มหล่อท่าทางเจ้าชู้เอาเรื่องโอบแขนเข้ากับพนักพิงเก้าอี้อย่างใกล้ชิดพร้อมกับเบียดตัวเข้าหาอย่างแนบเนียน รอยยิ้มพราวเสน่ห์ดูเปล่งประกายเวลาที่เห็นเขี้ยวน้อยๆอยู่ที่มุมปาก



ผิงที่คอยดูแลอยู่ใกล้ๆพอเห็นว่าเพื่อนคงต้องการเวลาส่วนตัวและฝ่ายนั้นไม่ได้มีท่าทีที่จะล่วงเกินอะไร เลยได้โอกาสขอลุกออกไปเข้าห้องน้ำทิ้งให้ทั้งสองได้ทำความรู้จักกันตามสะดวก



“..ฟ้า” ภาพผู้ชายตรงหน้าพร่าเบลอจนซ้อนทับกับคนในความทรงจำ เมื่อสติการรับรู้ถูกฤทธิ์ของมึนเมากลืนหายไปหมดสิ้น



“ฟ้าเหรอ? ชื่อน่ารักจังค่ะ” เสียงทุ้มต่ำหว่านล้อมอย่างอารมณ์ดี ช่วงตัวก็เขยิบเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงกลิ่นน้ำหอมราคาแพงผสมกับบุหรี่นอก มันร้อนระอุจนพาลทำให้ใจที่อ่อนแอสั่นไหวคล้อยตามได้อย่างไม่ยากเย็น “พี่ชื่อเจตนะ” ไม่ว่าเปล่ามือซุกซนก็โอบกระชับลงบนช่วงเอวแล้วเป็นที่เรียบร้อย “พี่แอบมองฟ้ามาตั้งแต่เข้าร้านแล้วรู้ไหมคะ”



ระยะที่ใกล้จนเกินพอดีทำให้เริ่มอึดอัด ถ้าเป็นเวลาปกติก็คงพอปฏิเสธไปได้บ้างแต่ตอนที่สติการรับรู้มันขาดๆหายๆแบบนี้ทำได้แค่เพียงดันแผ่นอกกว้างเอาไว้ แต่สายตาของคนภายนอกดูยังไงก็เหมือนเป็นการจับยึดชายเสื้ออีกฝ่ายไว้เพื่อทรงตัวมากกว่า



ได้ยินเสียงเชียร์จากกลุ่มเพื่อนๆทั้งจากโต๊ะตัวเองและโต๊ะผู้ชายคนนั้นอยู่ไม่ขาดสาย



เชียร์ให้จูบบ้างล่ะ...กอดบ้างล่ะ



“แต่ฟ้าไม่ใช่ผู้หญิงนะคะพี่..” เพราะอะไรไม่รู้ทำให้เผลอหลุดปากบอกอีกฝ่ายออกไป คงเป็นเพราะยังติดอยู่ในห้วงความทรงจำอันแสนเจ็บปวดเลยพยายามตอกย้ำตัวเองว่าอยู่ในสถานะแบบไหน



..สถานะที่ไม่มีทางเป็นในแบบที่คนๆนั้นต้องการได้...



“จริงดิ” ผู้ชายคนนั้นดูตกใจนิดหน่อยแต่สุดท้ายก็หัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี ราวกับเรื่องที่บอกไปนั้นเป็นเพียงเรื่องตลกเบาสมอง “ไม่เป็นไร พี่ไม่ถือ หนูน่ารักพี่ชอบ” พอเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มมีท่าทีโอนอ่อนหนุ่มนักรักก็คิดเข้าข้างตัวเองว่าแผนการเริ่มพัฒนาขึ้นมาบ้างแล้ว



...บุหรี่ยี่ห้อโปรดสามคอตตอนที่ถูกวางพนันไว้คงไม่ไกลเกินเอื้อม..



..ได้คนสวยๆไปนอนกอดทั้งคืนซ้ำยังได้ของรางวัลเป็นของชอบเซ็ตใหญ่ขนาดนั้น แม้อีกฝ่ายจะเป็นแบบที่เขาไม่เคยลองมาก่อน แต่นั่นก็ถือว่าไม่ได้แย่เท่าไหร่



...คนประเภทอย่างน้องคนสวยในอ้อมกอดควรจะดีใจมากกว่าที่โดนผู้ชายเสนอตัวมาให้ถึงที่ แถมอีกฝ่ายก็ไม่ได้มีท่าทีขัดขืนอะไรด้วย



..งานนี้ไม่มีอะไรเสียหาย มีแต่ได้กับได้ทั้งนั้น



“ทำ..อะไร” เสียงเริ่มขาดหายไปในลำคอ เมื่อรู้สึกได้ถึงมือหยาบที่ล้วงเข้ามาในเสื้อ



ยิ่งดึกเพลงก็ยิ่งดังกระหึ่ม ทุกคนในร้านต่างลุกออกไปแสวงหาความสนุกที่ฟลอร์กลางร้านรวมถึงกลุ่มเพื่อนทุกคนที่ตอนนี้ปล่อยให้โต๊ะว่างเปล่า ทิ้งน่านฟ้าไว้ให้อยู่กับคนแปลกหน้าสองต่อสองโดยที่ไม่มีใครสนใจ ราวกับมันเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับสถานที่แบบนี้



การรุกรานที่เกินขอบเขตทำให้คนตัวเล็กเริ่มดิ้นขัดขืน กลิ่นกายร้อนแรงของผู้ชายตรงหน้ากลับดูคุกคามอย่างน่าอันตราย



เชื่อเถอะว่าถ้าเป็นผู้ชายด้วยกันคงยังพอเอาตัวรอดได้



แต่ตอนนี้ร่างกายมันไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนหนึ่ง ผลมาจากการกระทำของตัวเองทั้งนั้น ทั้งแขนทั้งขามันเลยเรียวเล็กแบบนี้



...นึกโมโหตัวเองชะมัด



“คืนนี้หนูไปกับพี่นะคะ” ผู้ชายคนนั้นอาศัยจังหวะที่กำลังพลาดท่ารวบเอวเข้ามาหาจนตัวชิดเกยขึ้นไปบนตัก “นะคะ คนสวย”



“ไม่..ปล่อย”



“อย่าดื้อน่า” เขาหัวเราะขบขันอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะถือวิสาสะซุกลงข้างซอกคอเรียวขาวอย่างหยาบคาย



...ตัวหอมฉิบหาย ให้นอนกอดทั้งคืนก็ยังไหว



ถึงจะไม่ใช่ผู้หญิงแท้ก็ไม่สนมันแล้ว



“ปล่อย!”



สติรับรู้ที่ยังเหลือปลุกสัญชาตญาณการเอาตัวรอดให้ทำงาน



น่านฟ้ารวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายอาศัยความชิดใกล้กระแทกศอกเข้าช่วงตัวสูงใหญ่ของผู้ชายคนนั้นอย่างแรงจนมันเผลอปล่อยอ้อมแขนพร้อมกับอาศัยจังหวะนี้ลุกหนีออกมา แต่ยังไม่ทันที่จะก้าวพ้นกลับโดนแรงมหาศาลกระชากแขนกลับไปจนราวสะโพกกระแทกเข้ากับขอบโต๊ะอย่างจัง



“มึง!”



ผู้ชายคนนั้นโกรธจัดจนรับรู้ได้ ตาแดงก่ำเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จดจ้องกันไม่วางตา ทันใดนั้นซีกหน้าสวยก็ถูกแรงกระแทกจนชาไปทั้งแถบ รู้ตัวอีกทีก็ได้รสเค็มปร่าของเลือดที่ผุดซึมออกมาข้างมุมปากแล้ว..



“เห้ยไอ้เจต!มึงทำอะไรวะ!”



พอมันตั้งท่าจะเข้ามาทำร้ายอีกรอบก็โดนเพื่อนที่วิ่งกรูกันเข้ามาห้ามเอาไว้ก่อน



ความสนุกสนานถูกหยุดกะทันหันเมื่อเห็นว่าแขกในร้านเริ่มมีปากเสียงกัน การ์ดตั้งท่าจะเข้ามาชาร์จเมื่อเห็นว่ามีคนใช้กำลัง



เพื่อนๆคนอื่นที่ไปเต้นกลางฟลอร์รีบเดินเข้ามาหาเมื่อเห็นว่าน่านฟ้าถูกทำร้าย ผิงที่พึ่งกลับออกมาจากห้องน้ำเป็นคนแรกที่เข้ามากอดเพื่อนตัวเล็กเอาไว้แน่น



ห้องน้ำต้องรอต่อคิวค่อนข้างนานก็จริง แต่ไม่คิดว่าระยะเวลาที่เธอเดินออกไปจะทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตได้ขนาดนี้



ไม่ต้องบอกก็รู้ ว่าไอ้หน้าม่อนั่นมันแผลงฤทธิ์เข้าให้แล้ว



เป็นความผิดของเธอเองที่เผลอวางใจทิ้งเพื่อนให้อยู่คนเดียว



“ฟ้า เกิดอะไรขึ้น” ผิงตกใจมากกว่าเดิมเมื่อสังเกตเห็นมุมปากของเพื่อนมีเลือดซึมออกมา คงเป็นฝีมือไอ้หน้าตัวเมียนั่นแน่นอน “มึงทำอะไรเพื่อนกู!” เธอหันไปตวาดผู้ชายคนนั้นอย่างเอาเรื่อง



“เพื่อนมึงมันทำกูก่อน” มันตอบกลับอย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะถุยน้ำลายลงพื้นอย่างท้าทาย “ถุย! กูจับนิดจับหน่อย ทำเป็นเล่นตัว คิดว่ามึงสวยนักรึไงวะ อีตุ๊ด!” คำหยาบคายที่ถูกพ่นออกมาทำให้คนรับฟังได้แต่กำมือแน่นจนมันสั่นเทิ้มไปทั้งตัว



เพี๊ยะ!



เสียงฝ่ามือตวัดฟาดลงบนเสี้ยวหน้าคนปากดีจนมันหน้าหัน



ผิงปรี่เข้าไปตบสั่งสอนปากพล่อยๆที่เอาแต่พ่นคำหยาบคายทำร้ายจิตใจเพื่อนของเธอ ฝ่ายผู้ชายตั้งท่าจะเข้ามาทำร้ายกลับบ้างแต่ก็โดนเพื่อนตัวเองและการ์ดยื้อห้ามเอาไว้ เพียงเสี้ยววินาทีน่านฟ้าก็ดึงเพื่อนไปหลบไว้ข้างหลังแทน



ผิงเป็นผู้หญิง คงไม่ดีนักที่จะถูกทำร้าย



“ฟ้า!หลบ! ให้กูสั่งสอนมันที ผู้ชายห่าอะไรปากโคตรหมา” ถึงจะเป็นผู้หญิงแต่ผิงก็สูงตั้งร้อยเจ็ดสิบกว่า สูงกว่าน่านฟ้าเป็นไหนๆ



...ไอ้ตัวเล็กนี่ไม่ต่างอะไรกับน้องสาวของเธอเลยสักนิด



“พอแล้วผิง”



“ตุ๊ดประเภทไหนวะให้ผู้หญิงปกป้อง—!!! โอ๊ย—!!”



ยังพูดไม่จบดีรองเท้าผ้าใบยี่ห้อดังก็ลอยละลิ่วกระแทกเข้าที่ปากพอดิบพอดี โดยที่เจ้าของมันยืนเท้าเอวมองหน้าอย่างเอาเรื่อง



ผิงจ้องไอ้ผู้ชายปากมอมคนนั้นไม่วางตา ไม่สนแม้กระทั่งแรงดึงอย่างห้ามปรามของเพื่อนตัวเล็ก



บอกเลยว่าตอนนี้อารมณ์มันโคตรขึ้น ถ้าไม่ได้ถอนหมาออกจากปากมันคืนนี้มีหวังนอนไม่หลับแน่



“ไอ้ฟ้ามันเพื่อนกู กูจะปกป้องมันก็ไม่ผิด” เธอขึ้นเสียงท่ามกลางสายตาคนทั้งร้านที่จดจ้องมองมาเป็นตาเดียว “ถึงมันจะเป็นแบบนี้ แต่มันก็ไม่เคยไประรานใครมั่วซั่ว...เว้นก็แต่ว่าจะโดนทำก่อน!”



ผู้ชายคนนั้นออกอาการฟึดฟัดอย่างหัวเสียเมื่อเสียทีให้กับฝ่ายตรงข้าม ตอนนี้สายตาของคนทั้งร้านมองเขาอย่างนึกประณามด้วยเพราะทุกคนต่างเห็นเหตุการณ์มาตั้งแต่ต้น



ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ใช่ผู้หญิงแต่ก็ถือว่าตัวเล็กอยู่มากเมื่อเทียบกับเขา...พอดูจากสถานการณ์ตอนนี้มันก็เลยไม่ต่างอะไรกับการที่ใช้กำลังรังแกผู้หญิงคนหนึ่งเลยสักนิด



“ถ้าเรื่องแค่นี้ยังคิดไม่ได้ ก็ภาคภูมิใจกับอีโก้โง่ๆของมึงต่อไปเถอะ! ไอ้เฮงซวย!” ผิงทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะฉวยเอากระเป๋าสะพายและเสื้อคลุมมาถือไว้พร้อมกับหันไปลากลุ่มเพื่อน แล้วลากไอ้ตัวเล็กให้ออกมาจากร้านทันที



ระหว่างที่กำลังยืนรอแท็กซี่อยู่ฟุตบาทหน้าร้าน เสื้อแจ็คเก็ตยีนส์สีซีดก็ถูกคลุมลงบนไหล่เล็กจนเจ้าตัวต้องเงยหน้าขึ้นมามอง



“ใส่ไว้เหอะ เสื้อแกโคตรบาง มันเห็นไปถึงไหนต่อไหน”



ผิงยกมือขึ้นขยี้กลุ่มผมนุ่มจนยุ่งเหยิง



..น่านฟ้าน่ะมันตัวเล็กกว่าเธอที่เป็นผู้หญิงแท้ๆซะอีก ซ้ำยังมีออร่าอะไรก็ไม่รู้ที่เห็นแล้ว...โคตรอยากปกป้อง



ยิ่งมันพึ่งอกหักมาอะไรๆก็ดูอ่อนไหวไปหมด ไม่ต่างกับเด็กตัวเล็กๆที่กำลังหลงทางเลยสักนิด



บนรถโดยสารมีเพียงเสียงวิทยุที่โชเฟอร์เปิดคลอเบาๆไปกับหยาดฝนปรอยปรายที่ตกกระทบกับกระจกไปตลอดทาง ทั้งสองต่างหลุดจมเข้าไปในห้วงความคิดของใครของมัน



เมื่อถึงที่หมายก็ต้องประคองกันขึ้นห้องอย่างทุลักทุเลเพราะต่างคนก็ต่างดื่มไปไม่น้อย



และไอ้ความบ้าดีเดือดของผิงแท้ๆเลยที่ไปแจกรองเท้าใส่ปากชาวบ้านเขาจนต้องเดินเท้าเปล่าข้างนึง ซ้ำยังโดนพนักงานที่คอนโดทักถามตั้งแต่บริเวณเลานจ์ด้านล่าง



...ได้เรื่องน่าอายในชีวิตเพิ่มมาอีกหนึ่ง..

 

“แกไปอาบน้ำก่อนเหอะ เดี๋ยวฉันโทรบอกพี่เมฆให้ว่าวันนี้แกจะค้างด้วย” ผิงดันหลังอีกคนเข้าไปในห้องน้ำ พร้อมกับยัดผ้าขนหนูและชุดนอนใส่มือให้เรียบร้อยเสร็จสรรพ แต่เจ้าตัวกลับมีท่าทีเซื่องซึมยืนนิ่งอยู่หน้าห้องน้ำจนผิดสังเกต



“ฟ้า..แกโอเคปะวะ” เพียงเท่านั้นกำแพงความเข้มแข็งที่แตกร้าวก็พังทลายลงมาอย่างไม่มีชิ้นดี



น่านฟ้าปล่อยโฮจนผิงต้องเข้าไปสวมกอดไว้แน่นพร้อมกับปลอบให้ร้องเบาๆเดี๋ยวข้างห้องจะตกใจเอา



“ร้องออกมาเลยแก” โยกตัวปลอบคนในอ้อมกอดเหมือนตอนปลอบน้องสาววัยสิบขวบ...ตอนน้องสะดุดล้ม เธอก็ปลอบน้องแบบนี้



...มันคงใช้กับไอ้ฟ้าได้ผลแหละ...มั้ง



“แกไม่ผิดนะฟ้า...แต่คนอื่นมันเฮงซวยเองว่ะ” จะให้ปลอบแบบซึ้งๆผิงทำเป็นเสียที่ไหนล่ะ “ร้องเลยแก ตาจะได้บวม แกจะได้ขี้เหร่กว่าฉันซะที” อันนี้ทีเล่นทีจริง เพราะนึกหมั่นเขี้ยว



...คนอะไรทำไมมันน่ารักบ้าบอขนาดนี้วะ



 “ไอ้บ้า” สุดท้ายมุขสุดเห่ยก็เรียกรอยยิ้มบางเบาให้มาประทับที่ใบหน้าได้



“เฮ้ออ” ผิงถอนหายใจอย่างปลงตก “ขนาดแกร้องไห้จนตาบวมขนาดนี้ ยังสวยเลยว่ะ อ่ะๆๆยอมก็ได้ ให้สวยกว่าวันนึง” กอดปลอบกันได้สักพักอีกฝ่ายก็มีท่าทีดีขึ้น เธอเลยไล่ให้มันไปอาบน้ำอาบท่าซะ เพราะกลิ่นบุหรี่และน้ำหอมของไอ้ผู้ชายคนนั้นที่อบอวลอยู่รอบตัวมันทำให้นึกคลื่นไส้



เสียงสายน้ำกระทบกับพื้นกระเบื้องอย่างต่อเนื่องทำให้มั่นใจว่าอีกฝ่ายปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเชื่อฟัง ผิงหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมากดโทรหาใครบางคนที่เธอเมมชื่อไว้ในรายการโปรด



‘คุณเมฆมืด’



..พี่ชายคนโตของไอ้ตัวน่ารักที่กำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำนั่นแหละ



รอเพียงไม่นานฝ่ายนั้นก็กดรับ



(ครับ) ฟังจากน้ำเสียง ทางนั้นท่าทางอารมณ์ดีทีเดียวที่ผิงเป็นฝ่ายโทรหา



“คืนนี้ฟ้าจะค้างด้วย ไม่ต้องห่วง ไล่ไปอาบน้ำแล้วเดี๋ยวจะกล่อมนอนต่อ” พูดรัวยิงยาวอย่างไม่เว้นจังหวะให้อีกฝ่ายได้ถามอะไรอีก



...ตอนนี้คงอ้าปากค้างพร้อมกับทำหน้าหมางงอยู่แน่นอน



...นานๆทีได้แหย่คุณหมอเขาเล่นบ้างก็สนุกดีเหมือนกัน..



(น่านโอเคใช่ไหม) ทางนั้นเสียงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด คงเป็นห่วงน้องมาก



“โอเค” ผิงไม่อยากให้ฝ่ายนั้นกังวลมากนัก เพราะแค่เข้าเวรก็เหนื่อยจะแย่  “ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวดูแลเอง”



(ขอบคุณครับ) เสียงในสายดูโล่งอกขึ้นมาหน่อย (บอกน่านว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ไปรับ)



“อื้ม” ผิงพยักหน้ารับอย่างเคยชิน ก่อนจะทำท่าวางสายเมื่อเห็นว่าใครอีกคนกำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ “แค่นี้นะคุณ”



(ครับ...ผิง)



“...”



(คิดถึงนะ)



“อื้อ” อ่า...เล่นเสียงอ้อนขนาดนั้น...ปลายจมูกมันก็เริ่มร้อนขึ้นมาหน่อยๆ “เหมือนกัน”



เสียงตัดของสัญญาณดังชัดเจนแข่งขับเสียงหัวใจที่มันเต้นรัว



..อยู่ไกลกันขนาดนี้ยังขยันทำให้มันทำงานหนักอยู่ได้...

 

เสียงนาฬิกาปลุกดังลั่นห้องในช่วงสายของเช้าวันเสาร์ ผิงเป็นคนแรกที่ขุดตัวออกมาจากกองผ้าห่มผืนหนา ผมประบ่ายุ่งเหยิงไม่เป็นทรงจากการเกลือกกลิ้งไปกับหมอน พอหันไปมองข้างตัวก็ได้พบเจ้าผ้าห่มก้อนกลมนอนขดม้วนตัวกลมดิกโผล่ออกมาให้เห็นแค่เสี้ยวหน้าโชว์แพขนตายาว



เห็นแบบนั้นมันก็อดไม่ได้ที่จะโถมตัวลงไปนอนทับเพื่อก่อกวนตัวขี้เซา



“ตื่นนนนนน”



ตุ้บ!



“โอ๊ย!”



และแล้วก็โดนหมอนข้างฟาดกลับมาอย่างจัง ทั้งๆที่คนที่ลงมือยังคงหลับตาอยู่ มีเพียงคิ้วเรียวสวยเท่านั้นที่ขมวดมุ่นอย่างหงุดหงิด



คุณน่านฟ้าตอนกำลังง่วงนี่อย่าได้ไปกวนเชียว อารมณ์ดุร้ายซะยิ่งกว่าผู้หญิงตอนเป็นเมนส์!



“ฟ้า ตื่นน ไปกินข้าวกันน”



คราวนี้เจ้าตัวนิ่งไปสักพักก่อนจะลุกขึ้นมานั่งสะลึมสะลืออยู่ข้างกัน



เสื้อยืดสีขาวขนาดพอดีตัวเปิดรั้งขึ้นมาจนถึงช่วงเอวอวดผิวกายขาวเนียน แต่ที่ทำให้คนมองต้องตกใจก็คือรอยจ้ำสีม่วงคล้ำที่ปรากฏอยู่บริเวณบั้นเอวต่างหาก



“ไอ้ฟ้า! ไปทำอะไรมา” ผิงจับตัวเพื่อนมาพลิกตรวจสอบอย่างร้อนรน นี่ยังไม่นับรอยช้ำข้างมุมปากนั่นอีกนะ



...ถ้าคุณหมอเขารู้ มีหวังคงโดนดุกันยกใหญ่แน่



...แต่คนที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือป๊ะป๋าของเจ้าน่านฟ้านี่แหละ



เชื่อได้เลยว่าถ้ารู้ล่ะก็อาละวาดบ้านแตกแหงๆ..



“หือ” เจ้าตัวเองก็ขมวดคิ้วสงสัยไม่ต่าง ก่อนจะก้มลงมองตาม “อ้อ คงเป็นตอนที่กระแทกเข้ากับขอบโต๊ะล่ะมั้ง” มิน่า ทำไมตอนนอนมันรู้สึกไม่สบายตัวยังไงก็ไม่รู้



“ไอ้หน้าหมานั่นใช่ไหม” คนที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างนึกโมโหย้อนหลัง “ถ้าเจออีกนะแม่จะฟาดให้มันดั้งหักเลยคอยดู!”



               “พอเลย เมื่อคืนไปก่อวีรกรรมอะไรไว้เยอะนะ” น่านฟ้าเริ่มดุเพื่อนกลับบ้าง มีอย่างที่ไหนเป็นผู้หญิงแท้ๆแต่ไม่ห่วงตัวเองบ้างเลย “เดี๋ยวถ้ามีอีกจะฟ้องพี่เมฆ”



               …โห กลัวจะแย่ ขู่เก่งจังวะตัวแค่เนี้ย



               “กลัวแล้วจ้า” ผิงแสร้งทำท่าขนลุกขนชันเกินเบอร์ไปมากจนทำให้ต้องหลุดขำอย่างช่วยไม่ได้



               ...ต้องได้พี่สะใภ้ที่บ้าๆบวมๆงี้จริงดิ



               “แกไปอาบน้ำเลย เดี๋ยวไปหาไรกินกัน เมฆฝากบอกว่าจะเข้ามารับช่วงบ่ายๆ”



               “จะอวดว่าโทรหากันว่างั้น?” ไอ้ตัวน่ารักทำหน้าทะเล้นใส่จนโดนตีตูดไปหนึ่งป้าบ



               “เร็วๆ! ช้าเป็นคนเลี้ยงนะเว้ย!”



               เพียงเท่านั้นต่างคนก็ต่างวิ่งจี๋แย่งกันเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตาแทบไม่ทัน เหตุการณ์วุ่นวายเล็กๆเกิดขึ้นภายในห้องน้ำขนาดย่อม เสียงทะเลาะกันดังออกมาอย่างไม่ขาดสาย เป็นความวุ่นวายในยามเช้าที่ช่วยเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำของน่านฟ้าลงไปได้มากทีเดียว



               ..ไม่อยากจะนึกถึงเรื่องนั้นอีกต่อไปแล้ว..

   

___________________

มาอัพด้วยความรวดเร็ว

ฝากเอ็นดูยัยน้องด้วยนะค้าาาา  :mew1:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-12-2018 00:12:00 โดย Punmile09 »

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ติดตามค่า
ฟ้าน่ารักกก

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ตาม   :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ fanhy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบแนวนี้จัง รอนะคะ :monkeysad:

ออฟไลน์ MmBb

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 180
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ยังไม่เคยอ่านนายเอกที่เป็นแบบนี่เลยค่ะอันนี้เป็นเรื่องแรกเนื้อหาน่าติดตามมากมาอัพบ่อยๆนะคะ

ออฟไลน์ BloodyBlue

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ตามหาแนวนี้อ่านนานมากแล้วค่ะ หายากมากกกกก มาต่อไวๆนะคะ ฮือออออ :กอด1:

ออฟไลน์ ป่ามป๊ามป่ามปาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ออฟไลน์ Emmaline

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น่านฟ้าน่ารักจัง ขอให้เจอคนที่รักที่เราเป้นเราไวไวนะ  :L2:

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :katai3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BloodyBlue

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ Punmile09

  • '...Cause we were just kids when we fell in love...'
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-4
Chapter 2

Tanthai


___________________

   “ไอ้ฟ้า กินข้าวให้หมดเลยนะ”

ผิงหรี่ตามองอย่างคาดโทษ เมื่อเห็นว่าข้าวผัดในจานคนตรงหน้าเหลือเกินกว่าครึ่ง

เพราะอย่างนี้ไง มันถึงตัวเล็กเหมือนเด็กไม่ยอมโต

“อิ่มแล้ว” เจ้าตัวยืนยันโดยการลูบหน้าท้องให้ดู

โห แบนราบแบบนั้นกินแล้วเอาไปไว้ไหน

“ตลอดอะ กินข้าวนิดเดียว แล้วก็ชอบไปหนักที่ขนม”

“ยุ่งน่า” น่านฟ้าส่ายหัวอย่างเอือมระอาไอ้คนที่เป็นห่วงจนเว่อร์

ขนาดป๋ากับหม่าม้ายังไม่บังคับเท่าไอ้ผิงเลย…ให้ตาย

...สงสัยเป็นแฟนคุณหมอแล้วติดนิสัยดุแบบนี้มาชัวร์

 

หลังจากที่ออกมาจากร้านอาหารเจ้าประจำ ทั้งสองก็เดินทอดน่องเล่นไปเรื่อยเปื่อย ก่อนจะแวะเข้าร้านสะดวกซื้อข้างคอนโดเพื่อซื้อของใช้ที่จำเป็น

แล้วก็เป็นอย่างที่คิดพอก้าวเข้ามาในร้านไม่ทันไรน้องของคุณเมฆก็ปลีกตัวหยิบตะกร้าออกไปขนขนมนมเนยใส่จนแทบล้น ที่เยอะที่สุดก็คงเป็นพวกเยลลี่และซูกัสรสผลไม้ที่เจ้าตัวติดงอมแงมมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย ในแต่ละวันต้องมีติดกระเป๋าไว้ตลอด

โคตรอยากจะตีเลยจริงๆ ฟันไม่ผุให้มันรู้ไป

แต่ไม่ทันที่จะได้เอ่ยปากท้วงเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ก็ดึงความสนใจเอาไว้ซะก่อน เบอร์ที่โชว์อยู่หน้าจอนั้นเป็นเบอร์แปลกที่ไม่คุ้นเคย ให้ทายก็คงเป็นพวกพนักงานขายประกันไม่ก็คอลล์เซ็นเตอร์อีกตามเคย

“สวัสดีค่า” ลองหยั่งเชิงดูก่อน กะว่าถ้าปลายสายโทรมาขายตรงล่ะก็จะด่าให้ยับ โทษฐานทำให้เสียเวลา

(ครับ) …เดี๋ยวนะ พนักงานขายตรงสมัยนี้เสียงมันหล่อได้ขนาดนี้เลยเหรอวะ

“อ่าค่ะ...ใครคะเนี่ย” ผิงยกเครื่องมือสื่อสารออกมาดูหน้าจออีกครั้ง เพราะไม่มั่นใจว่าตัวเองเคยรู้จักคนหล่อขนาดนี้ด้วยเหรอ

เอาดิ แค่ได้ยินเสียงก็คิดไปเองแล้วว่าฝ่ายนั้นหล่อ

แต่เชื่อในสัญชาตญาณตัวเองว่ะ มีร้อยให้ร้อยเต็ม

(ผมแทนไทครับ เป็นคนจากค่ายป๋าปรีชา...คุณคือเพื่อนของน่านฟ้าใช่ไหม)

“ใช่ค่ะ คุณมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ”

(ผมมารับน้องแทนคุณเมฆ พอดีโทรไปหาน่านแล้วไม่ติด ผมเลยโทรมาหาคุณแทน)

“อ้อ...”

(อีกประมาณครึ่งชั่วโมงน่าจะถึง ถ้ายังไงรบกวนฝากบอกน่านด้วยนะครับ)

“อ่า..ค่ะ”

พอวางสายไปผิงถึงฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าไม่ควรไว้ใจใครสุ่มสี่สุ่มห้า เลยต้องรีบต่อสายตรงหาคุณหมอเขาทันที

(ครับผิง)

“คุณให้ใครมารับฟ้า”

(อ้าว เมื่อเช้าพี่ส่งไลน์ไปบอกน่านแล้วนะ ไม่อยากโทรไปรบกวนเพราะพวกเราคงยังไม่ตื่นกัน)

“โทรศัพท์ฟ้าแบตหมด มันคงยังไม่ชาร์จ” ผิงเบนสายตามองหาเพื่อนที่หายตัวไปจากเชลฟ์ขนม ก่อนจะเห็นว่ามันเปลี่ยนเป้าหมายไปอยู่ที่โซนครีมบำรุงผิวแล้ว ไอ้ตัวเล็กนั่งยองๆคู้เข่าเลือกโลชั่นอยู่สองยี่ห้ออย่างจริงจังจนไม่อยากจะรบกวน

(พี่ให้ไอ้ไทมันไปรับเอง พอดีมีเคสฉุกเฉินเข้ามาน่ะ เลยไปรับน่านไม่ได้)

“ไท? ใช่แทนไทเด็กในค่ายคุณหรือเปล่า” …ทำไมไม่เห็นรู้จักมาก่อนเลย

(อื้ม จำมันไม่ได้หรือไง)

“ใครจะไปจำได้เล่า นักมวยในค่ายคุณมีเป็นร้อย”

(ผิงคงลืมมันแน่ๆ ไว้จะแนะนำให้รู้จักอีกก็แล้วกัน..แค่นี้ก่อนนะพี่ต้องไปทำงานแล้ว ฝากบอกน่านด้วยว่าเย็นนี้จะเข้าไปหา)

“อื้อ” ผิงรับปากอย่างมั่นเหมาะ

พอดีกับที่น่านฟ้าเดินเข้ามาหา เลยได้โอกาสมองสำรวจลงไปที่ตะกร้า สุดท้ายไอ้โลชั่นสองขวดที่เจ้าตัวนั่งเลือกอย่างสองจิตสองใจก็มานอนแอ้งแม้งแพ็คคู่อยู่ข้างกันเป็นที่เรียบร้อย

แล้วมันจะเลือกทำไมตั้งนาน..

“คุยกับใครเหรอ” มาถึงก็อยากรู้อยากเห็นเลย เจ้าหนูจำไมเอ๊ย

“เมฆ” ยังไม่ทันพูดจบก็โดนมันยิ้มล้อเข้าให้แล้ว “บอกว่ามารับแกไม่ได้เพราะติดเคสฉุกเฉินที่โรงพยาบาล เลยจะให้เด็กในค่ายมารับแทน”

“อ้อ” น่านฟ้าพยักหน้ารับอย่างไม่นึกสงสัยอะไรอีก ก่อนจะชักชวนให้ไปคิดเงินที่เคาน์เตอร์

เรื่องตลกอีกอย่างของมนุษย์น่านฟ้าคือเจ้าตัวบ้าสะสมแสตมป์เซเว่นขั้นสุด

แล้วไม่ได้เอาไปแลกของพรีเมี่ยมอะไรทั้งนั้นด้วยนะ แต่เอาไว้ใช้แทนเงินสด มันตลกก็ตรงที่ว่าพอได้ใช้แสตมป์เป็นส่วนลดแล้วจะโคตรดีใจประหนึ่งว่าได้ของฟรี ทั้งๆ ที่มองยังไงมันก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบเองแท้ๆ

เป็นคนประเภทไหนกันนะ ที่ดีใจกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้

เพราะแบบนี้ไง คนรอบตัวถึงโคตรจะหวงมันเลย

เหมือนมีเจ้าก้อนนุ่มๆ มาลอยวนเวียนอยู่รอบๆ ตัวจนทำให้อยากจะจับฟัดวันละหลายหน

เชื่อเลยว่าถ้าน่านฟ้ายังเป็นผู้ชายมันก็คงดูนุ่มนิ่มน่ากอดไม่ต่างกับตอนนี้เลยสักนิด เหมือนที่เขาฮิตๆ กันช่วงนี้ไง มนุษย์ไทป์น้อง จะทำอะไรมันก็ดูน่าเอ็นดูไปหมดเลย..ให้ตาย

 

หลังจากที่ขึ้นมาเอาสัมภาระบนห้องเรียบร้อยผิงก็อาสาลงมารอเป็นเพื่อน ถึงแม้เจ้าตัวจะปฏิเสธเพราะเกรงใจก็เถอะ

เพียงไม่นานรถแลนด์โรเวอร์รุ่น Discovery sport HSE ก็วิ่งแล่นเข้ามาจอดเทียบบริเวณดรอปออฟของคอนโด เรียกความสนใจจากน่านฟ้าให้หันไปมองได้เป็นอย่างดี

จะไม่ให้สนใจได้ไง…ก็รถคันนั้นเป็นรถคันโปรดของป๋าเลย

อย่าบอกนะว่าป๋าเป็นคนมารับด้วยตัวเอง!

เพราะปกติแล้วรถคันนี้น่ะป๋าหวงสุดๆ แล้วยิ่งเฮียเมฆบอกว่าจะให้เด็กในค่ายมารับด้วยแล้ว มันเลยเป็นไปไม่ได้แน่ๆ ที่ป๋าจะให้เอารถสุดรักสุดหวงออกมาใช้ อย่างมาก็แค่รถเก๋งญี่ปุ่นธรรมดาเท่านั้นแหละ

แต่แล้วความฟุ้งซ่านก็จางหาย เมื่อประตูฝั่งคนขับถูกเปิดออก

ร่างสูงใหญ่ของผู้ชายคนหนึ่งก้าวลงมาจากรถ ท่าทีผึ่งผายแข็งแรงแบบผู้ชายเต็มตัวทำให้ผู้คนบริเวณนั้นหันมามองอย่างสนอกสนใจ

ฝ่ายนั้นยกมือข้างหนึ่งขึ้นเพื่อถอดแว่นกันแดดเหน็บเข้ากับคอเสื้อยืดสีเทาขนาดพอดีตัว ช่วงขายาวในกางเกงยีนสีเข้มก้าวตรงมาหาเมื่อเห็นว่าคนที่จะมารับยืนรออยู่ก่อนแล้ว

น่านฟ้ามองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่ยากที่จะอธิบาย จู่ๆหัวใจมันก็พลันสั่นไหวขึ้นมาเสียอย่างนั้น

ความรู้สึกคุ้นเคยที่ห่างเหินไปนานแผ่กระจายออกมาจนทำให้รู้สึกเก้ๆ กังๆ ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

…ก็ไม่ได้เจอกันมาหลายปีเลยนี่..

ใครมันจะไปทำตัวถูกกันเล่า

ใบหน้าคมเข้มต้องก้มลงมามองกันเพราะความสูงของพวกเขานั้นมันค่อนข้างห่างกันพอสมควร

ตัวสูงขึ้นอีกแล้วหรือเปล่าเนี่ย

“ไท..กลับมาแล้วเหรอ” เสียงเต้นตึกตักในอกมันดังรุนแรงขึ้นจนน่าหวั่นเมื่อเห็นว่าฝ่ายนั้นกระตุกยิ้มตอบรับเพียงนิด

..ไม่เจอกันมาเกือบสามปีแล้วนะ..

               “อืม” แทนไทพยักหน้ารับ ก่อนจะหันไปรับไหว้จากหญิงสาวที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ข้างๆ “พึ่งถึงเมื่อตอนสายๆนี่เอง”

ผู้ชายตรงหน้ายังคงเป็นพวกถามคำตอบคำเหมือนเดิม จะมีก็แต่มือที่ยื่นมาดึงเอาถุงพลาสติกของร้านสะดวกซื้อไปถือเอาไว้เอง

...เหมือนกับที่เคยทำมาตลอด

ผิงที่ยืนสังเกตการณ์อยู่เงียบๆ สัมผัสได้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่มันก่อตัวขึ้นระหว่างคนทั้งสอง

มันแปลกๆ...บอกไม่ถูกเหมือนกัน แต่ตอนนี้ยังดูเหมือนว่าต่างคนก็ต่างมีกำแพงในใจด้วยกันทั้งคู่ มันเลยยากที่จะอธิบายว่าไอ้ความรู้สึกแบบนั้นมันคืออะไรกันแน่

แต่เชื่อเถอะ เซ้นส์ผู้หญิงมันแรงและโคตรน่ากลัว

เหมือนไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้นที่น่านฟ้าพึ่งบอกเลิกไปมันเป็นแค่ตัวคั่นเวลายังไงไม่รู้

..แต่ผู้ชายหน้านิ่งที่ยืนถือถุงขนมไร้สาระของไอ้ตัวเล็กด้วยท่าทีที่ดูยังไงก็โคตรจะเต็มใจ กลับทำให้ผิงรู้สึกเลยว่า..

...คนนี้ของจริงว่ะ

 

บรรยากาศภายในรถนั้นไร้ซึ่งบทสนทนาระหว่างคนทั้งคู่ มีเพียงเสียงของดนตรีบรรเลงเพลงคลาสสิกเท่านั้นที่ถูกเปิดดังคลอระหว่างทาง ยานพาหนะเคลื่อนตัวไปได้ทีละนิดเพราะการจราจรที่ติดขัด

อากาศภายนอกเริ่มขมุกขมัวมืดครึ้มลงถนัดตาทั้งๆที่เมื่อครู่ท้องฟ้ายังโปร่งอยู่แท้ๆ

หยาดฝนเม็ดเล็กเริ่มร่วงหล่นลงมาตกกระทบบนกระจกผสานกับเสียงเพลง น่านฟ้าเลิกสนใจวิวทิวทัศน์ของเมืองกรุงเมื่อรู้สึกหนาวจนตัวเริ่มสั่น แต่ก็อดทนไว้เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายนั้นขี้ร้อนขนาดไหน

ไม่รู้ว่าอยู่หนาวขนาดนี้เป็นหมีหรือคน

รู้อย่างนี้ขอยืมกางเกงขายาวของผิงใส่กลับมาซะก็ดี เพราะตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวมันมีแค่เสื้อยืดใส่นอนย้วยๆ กับกางเกงขาสั้นเท่านั้น

แต่จู่ๆ ระหว่างที่กำลังนั่งกอดอกมองเม็ดฝนเพลินๆ อะไรบางอย่างก็ถูกโยนมากองไว้ตรงหน้าขา

กว่าจะรู้ตัวฝ่ายนั้นก็หันกลับไปมองถนนต่อแล้ว

“ใส่ไว้” ไม่ว่าเปล่ายังเอื้อมมือไปเพิ่มอุณหภูมิของแอร์ให้อุ่นขึ้นอีก “คราวหลังถ้าหนาวก็บอก”

น่านฟ้าไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ทำเพียงแค่คลี่แจ็คเก็ตหนังสีดำตัวใหญ่ห่มตัวท่อนบนเอาไว้ พร้อมกับขดขาขึ้นมานั่งขัดสมาธิ

คงเพราะอากาศเย็นชื้นและความอุ่นจากเสื้อนั้นมันพอเหมาะ ซ้ำกลิ่นโคโลญจน์หอมอ่อนๆที่ติดมาจากเจ้าของเสื้อมันให้ความรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก หนังตามันเลยพาลหนักอึ้งขึ้นอีกหน

สติการรับรู้เริ่มเลือนลางเข้าไปทุกที

ตากลมโตทอดมองไปเบื้องหน้า ก่อนจะเบนสายตากลับมามองฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งที่คอยประคองพวงมาลัยเอาไว้ ข้อนิ้วแข็งเคาะลงบนหนังหุ้มตามจังหวะเสียงเพลง ส่วนอีกข้างเจ้าตัวก็วางไว้บนที่เท้าแขนข้างกาย

ท่อนแขนแข็งแรงนั้นมีกล้ามเนื้อหนั่นแน่นตามประสานักกีฬาที่ออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ แต่พอสังเกตดูดีๆ แล้วอีกฝ่ายดูตัวหนาและสูงใหญ่ขึ้นจากเดิมจนรู้สึกได้

ก็แน่ล่ะ ไปอยู่อเมริกามาตั้งหลายปี อาหารการกินที่นั่นก็หนักหน่วงทั้งนั้น

..ถูกอัพเกรดเป็นหมีกริซลี่อย่างเต็มตัวเลยทีนี้...

“ไทไม่เห็นติดต่อกันมาบ้างเลย มีแต่เฮียหมอกโทรมาหา” ตาจะปิดอยู่รอมร่อ แต่ปากมันดันถามออกไปซะงั้น อาการคงคล้ายละเมอมากกว่า “โคตรใจร้าย..”

พอทิ้งบอมบ์ลูกใหญ่เอาไว้เจ้าตัวก็ชิ่งหนีไปเฝ้าพระอินทร์แล้วเป็นที่เรียบร้อย...ปล่อยให้ใครอีกคนนั่งนิ่งเงียบจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองท่ามกลางสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ขาดสาย

 

ในระหว่างที่กำลังรอสัญญาณไฟเขียวตรงสี่แยกอยู่นั้น เสื้อแจ็คเก็ตที่อีกคนใช้ห่มก็ดันร่วงลงมากองไว้ที่หน้าขาขาว ทำให้คนที่กำลังเหม่อมองออกไปนอกรถต้องหันกลับมาสนใจอย่างช่วยไม่ได้

แขนเรียวเล็กที่โผล่พ้นออกมาจากแขนเสื้อแสดงให้เห็นว่าหลายปีมานี้เจ้าตัวนั้นเปลี่ยนไปมากแค่ไหน ที่เห็นได้ชัดก็คือสรีระร่างกายที่เพรียวบางเหมือนผู้หญิงมากขึ้นนั่นล่ะ

...ทั้งช่วงเอวคอดเล็กลงรับกับเรียวขากลมกลึงที่โผล่ออกมาจากกางเกงขาสั้น

และบริเวณหน้าอกตอนนี้กลับมีส่วนเว้าโค้งเล็กๆ ออกมาให้เห็น ถึงจะไม่ได้มีเยอะมากเหมือนอย่างพวกผู้หญิงแต่ก็ถือว่าไม่ได้แบนราบเหมือนแต่ก่อน

..น่านฟ้าเปลี่ยนไปมากจริงๆ ..

แทนไทเบือนหน้ากลับไปมองที่ปัดน้ำฝนทันทีเมื่อรู้สึกว่าตัวเองนั้นเสียมารยาท

เขาตั้งสมาธิอยู่นานก่อนจะหันกลับไปหาคนข้างกายอีกครั้งพร้อมกับหยิบแจ็คเก็ตขึ้นมาห่มให้อย่างเบามือ หลังจากนั้นก็เข้าเกียร์ขับเคลื่อนรถออกไปเมื่อสัญญาณจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว

น่านฟ้าขดตัวเข้าหาความอบอุ่นที่ล่องลอยอยู่ในความฝัน สัมผัสนุ่มนวลบางอย่างประทับลงมาที่ข้างมุมปาก รู้สึกเจ็บเล็กน้อยบริเวณที่เป็นแผลฟกช้ำ แต่หลังจากนั้นเพียงไม่นานสัมผัสเย็นๆ ก็ถูกปาดลงมาอย่างแผ่วเบาตามมาด้วยการนวดคลึงที่แสนนุ่มนวล

เพราะรู้สึกสบายตัวเลยทำให้เผลอเอนกายเข้าหาความอบอุ่นนั้นอย่างโหยหา

เป็นความคิดถึงอะไรบางอย่างที่มันขาดหายไปนานแสนนาน..

จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนกับทั้งร่างโดนโอบกอดเอาไว้ในวงแขนของใครบางคน ก่อนจะรับรู้ถึงสัมผัสอุ่นๆ ที่ประทับลงมากลางศีรษะ

เหมือนตอนเด็กๆ ที่โดนป๊ะป๋าอุ้ม วงแขนใหญ่และแข็งแรงทำให้รู้สึกปลอดภัยจนอดไม่ได้ที่จะซุกตัวเข้าหาราวกับเด็กตัวเล็กๆ

มันต่างกันก็ตรงที่ว่าในความฝัน..ป๋าของน่านฟ้าดูเสียงทุ้มต่ำแปลกๆ

..หรือจะเป็นป๋าตอนหนุ่มๆ กันนะ..

‘โตขนาดนี้แล้วยังให้พี่เขาอุ้มอยู่อีก’ ..นั่นเสียงหม่าม้านี่ ‘ตายแล้ว! ทำไมน้องมีแผลล่ะ’

‘ผมก็ไม่รู้ครับ’

‘ไทพาน้องขึ้นห้องไปก่อนเลยนะ ป๋าเขาคุยงานอยู่ ถ้าเห็นตอนนี้ล่ะโวยวายแน่’

‘ครับ’

ไทเหรอ..?

สัมผัสสุดท้ายที่ทิ้งเอาไว้ก็คือความนุ่มนวลที่แนบลงมาบนหน้าผาก มันส่งกระแสความอุ่นวาบไปทั้งใจ จนรู้สึกว่าเท่านี้มันไม่เพียงพอ

..อยากเรียกร้อง...มากกว่านี้

แต่สุดท้ายก็เหลือทิ้งไว้แค่เพียงความว่างเปล่าในห้วงนิทราอันแสนเหงา..

 

น่านฟ้ารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เข็มของนาฬิกาพรายน้ำข้างเตียงชี้ไปที่เลขหก

สงสัยเมื่อตอนกลางวันคงยังแฮงก์ค้าง พอเจอแอร์เย็นๆ บนรถบวกกับอากาศชื้นๆ เลยทำให้หลับยาวถึงเย็น เพราะสภาพตอนนี้ยังอยู่ในชุดของไอ้ผิงอยู่เลย

บรรยากาศภายในห้องมืดสนิทจนต้องยอมขุดตัวเองออกจากเตียงนุ่มไปเปิดสวิตช์ไฟ ร่างเล็กบิดตัวไปมาอย่างเกียจคร้านก่อนจะเดินนวยนาดเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา ใบหน้าเกลี้ยงเกลาที่ไร้เครื่องสำอางแต่งแต้มนั้นซีดเซียวมากกว่าเคย

เจ้าตัวขมวดคิ้วมุ่นเมื่อรู้สึกว่าภายในหัวมันเริ่มหนักแปลกๆ ซ้ำกระบอกตายังร้อนผ่าวจนต้องหยิบเอาผ้าชุบน้ำมาประคบไว้

อา..ไข้คงจะถามหาแล้วสิ..

แน่ล่ะ..เมื่อคืนดื่มไปซะขนาดนั้น ซ้ำยังต้องมาเผชิญกับอากาศที่เปลี่ยนแปลงอีก ไม่ป่วยยังไงไหว

น่านฟ้าเดินกลับออกมาที่โต๊ะเครื่องแป้งก่อนจะหยิบทิ้นท์สีโปรดมาทาแตะลงบนเรียวปากด้วยความเคยชิน

ป่วยได้ แต่ปากจะซีดไม่ได้เด็ดขาด

ทันใดนั้นสายตาก็เห็นภาพสะท้อนอะไรบางอย่างจากกระจก มันคือเสื้อแจ็คเก็ตหนังสีดำของผู้ชายกำลังนอนแอ้งแม้งอยู่ข้างๆ หมอน

คิ้วเรียวขมวดเข้ามากันอย่างนึกสงสัยก่อนจะเดินกลับไปหยิบขึ้นมาดู เมื่อคลี่ออกความทรงจำเมื่อช่วงบ่ายก็ไหลเวียนกลับเข้ามาจนทำให้ใจมันกระตุกวูบ

จำได้ว่าไทเป็นคนมารับที่คอนโดผิงแทนเฮียเมฆ พออยู่บนรถก็โยนเสื้อตัวนี้มาให้ห่ม แล้วหลังจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้แล้ว

แต่รู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าเหมือนโดนอุ้มด้วยนะ...

เพียงเท่านั้นใบหน้าสวยก็ร้อนวูบเมื่อนึกถึงสัมผัสอบอุ่นที่โอบประคองร่างของตัวเองไว้

..ถ้าเป็นไปตามที่เข้าใจจริง ก็แสดงว่าไทเป็นคนอุ้มขึ้นมาบนห้องน่ะสิ

เจ้าตัวสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปจากหัวเมื่อเริ่มโดนความมึนจู่โจม

จะตื่นเต้นทำไมก็ไม่รู้ ทำอย่างกับไม่คุ้นเคยไปได้

...อีกฝ่ายเขาก็คงทำไปเพราะหน้าที่เท่านั้นแหละ

 

ลูกคนเล็กของบ้านนันพิวัฒน์เดินลงมาด้านล่างด้วยชุดที่ทำให้ทุกคนที่เห็นเข้าใจผิดคิดว่าเข้าสู่ฤดูหนาวซะแล้ว เจ้าตัวสวมกางเกงวอร์มขาจั๊มสีเทาและเสื้อเขนยาวเข้าชุดกัน

แต่ที่เด่นที่สุดก็คงเป็นสลิปเปอร์เท้าไดโนเสาร์สีเขียวอื๋อ แถมด้วยแมสปิดปากจนแทบมองไม่เห็นใบหน้านั่นล่ะ

“ไอ้หมวย!” อวัศย์หรือหมอกที่กำลังเข้าคู่ฝึกกับเด็กในค่ายอยู่บนเวทีมวย กระโดดลงมาพื้นด้านล่างทันทีเมื่อเห็นว่าน้องตัวเองเดินผ่านมา

ตอนแรกก็นึกว่าโจรบุกค่าย ที่ไหนได้เป็นไอ้ตัวเล็กนี่เอง

ก็แต่งตัวซะมิดชิดขนาดนี้ใครมันจะไปจำได้กันเล่า ปกติเจ้าตัวมันแต่งตัวรัดกุมขนาดนี้ซะที่ไหนกันล่ะ

ไม่ใส่ขาสั้นสูงลิ่ว ก็แหวกนู่น โชว์นี่จนโดนป๋าดุเอาบ่อยๆ

ตอนอยู่อเมริกาหม่าม้าโทรมาเล่าให้ฟังประจำ ว่าป๋าหวงไอ้หมวยจนความดันขึ้นอยู่หลายหน ลำบากม้าต้องคอยชงยาหอมให้จิบอยู่ตลอด

หมอกรวบกอดน้องจนตัวลอยหวือ ตอนแรกมันก็ดิ้นขัดขืนพอเป็นพิธีแต่ผ่านไปสักพักก็กลายร่างเป็นลูกลิงยังไม่หย่านมเกาะตัวเขาหนึบแน่นซะยิ่งกว่าตังเม

“เฮียกลับมาทำไมไม่บอกบ้างอะ” เสียงแหบๆ พูดอู้อี้ผ่านผ้าปิดปาก จนพี่ชายต้องเอื้อมมือไปดึงออกให้

เห็นแล้วหายใจไม่ออกแทน

“มั่ว ในไลน์กลุ่มเขานัดกันกินข้าวเรียบร้อยหมดละ เฮียเมฆก็ออกเวรพอดีด้วย...มีแต่หนูอะแหละไม่รู้เรื่อง” หมอกดุอย่างไม่จริงจังนัก เมื่อเห็นสภาพของคนป่วย แต่แล้วคิ้วเข้มก็ขมวดมุ่นเมื่อเห็นรอยช้ำเป็นจ้ำที่ข้างมุมปากจิ้มลิ้ม “ไปทำอะไรมา ไอ้หมวย” เจ้าตัวดูตกใจเล็กน้อยเมื่อโดนยิงคำถามใส่ตรงๆ ก่อนจะกระโดดลงมาจากอ้อมกอดของพี่ชาย พร้อมกับพยายามแย่งผ้าปิดปากกลับมาอย่างไม่ยอมแพ้

“เปล่า…เล่นกับไอ้ผิงแรงไปหน่อย” ….ใครเชื่อก็บ้าแล้ว

“คิดว่าเฮียเชื่อปะ?” คุณพี่ชายตัวโตเท้าเอวมองอย่างเอาเรื่อง น้ำเสียงก็เริ่มจริงจังขึ้น

“...”

ในระหว่างที่กำลังก้ำกึ่งว่าจะบอกหรือไม่บอกความจริงอยู่นั้น ร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่งก็เดินผ่านมาซะก่อนเฮียเลยเปลี่ยนไปสนใจฝ่ายนั้นแทน

“ฝึกเด็กมันเสร็จแล้วเหรอวะไอ้ไท” หมอกหันไปถามอีกฝ่ายเมื่อมองกลับไปที่ยิมเห็นพวกเด็กๆ มันล้มตัวลงนอนอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง

...ยังคงโหดเหมือนเดิม

“อืม” แทนไทตอบกลับอย่างประหยัดถ้อยคำ พร้อมกับยกมือขึ้นเสยเส้นผมที่ตกลงมาปรกใบหน้าขึ้นเก็บอย่างลวกๆ

ภาพตรงหน้าทำให้น่านฟ้าหน้าร้อนวูบอีกครั้ง เมื่อรู้สึกแปลกใจว่าอีกฝ่าย..

...ทำไมโคตรฮอตขนาดนี้ก็ไม่รู้

แทนไทในความทรงจำล่าสุดก็คือเด็กหนุ่มวัยรุ่นธรรมดาที่มีกล้ามเนื้อสมส่วน ไม่ได้น่าสะดุดตาอะไรมากกว่าเด็กในค่ายคนอื่นๆเลยด้วยซ้ำไป

เจ้าตัวเป็นคนใต้หน้าเลยคมดุไปนิดไม่ได้ดูหล่อเว่อร์วังแบบพิมพ์นิยมของสมัยนี้เท่าไหร่นัก

โอเค ก็เป็นคนที่จัดได้ว่าหน้าตาดีคนหนึ่งเลยแหละ แต่ก็ไม่ได้ดูโดนเด่นเมื่ออยู่ท่ามกลางผู้คนทั่วไป

แต่แทนไทตอนนี้เหมือนเป็นเวอร์ชั่นฉบับอัพเกรดแบบพรีเมี่ยม

หน้าตาก็ยังคมดุเหมือนเดิมตามสไตล์ผู้ชายไทยหน้าเข้ม คงเพราะอายุที่เพิ่มขึ้นเลยทำให้ไทดูสุขุมและมีกลิ่นอายความเป็นผู้ใหญ่แบบเต็มตัวด้วยกล้ามเนื้อหนั่นแน่นใต้เสื้อยืดแขนกุดสีดำรับกับช่วงขายาวดูแข็งแรงที่โผล่พ้นจากกางเกงมวยขาสั้น

แต่มีสิ่งหนึ่งที่สังเกตเห็นได้ชัดเลยคือบริเวณต้นแขนด้านขวามีรอยสักกราฟิกสีดำประทับอยู่เด่นหรา ลวดลายสวยงามนั้นลามเข้าไปในเสื้อที่เปียกชุ่มด้วยอีกต่างหาก

ไทสักตั้งแต่เมื่อไหร่?

เมื่อช่วงบ่ายไม่ทันได้สังเกตก็คงเพราะอีกฝ่ายนั้นสวมเสื้อยืดอยู่

 “เอ้าๆ ตัวไอ้ไทมันจะสึกแล้วมั้งนั่น” หมอกโยกหัวน้องจนผมยุ่งเหยิง ก่อนจะโม้ต่ออย่างอารมณ์ดี “มันหล่อขึ้นอ่ะดิมองตาค้างเลย ไอ้หมวย จะบอกให้ตอนอยู่นู่นนะแม่งโคตรฮอต ที่ยิมนี่ผู้หญิงมาสมัครเรียนกันให้พรึ่บ ทั้งฝรั่งทั้งสาวเอเชีย โอยยยย อาหารตาอย่างเยอะ ไม่เป็นอันเรียนกันก็เพราะมัวแต่นั่งมองสาวๆ ที่มาเรียนกับคุณไทเขานี่แหละ ”

หมอกยังคงเม้าท์อย่างสนุกปาก สาธยายความเนื้อหอมของเทรนเนอร์แทนไทจนไฟลุก

ความจริงมีสิบ แต่เล่าไปร้อยแล้ว

“มึงเว่อร์” คนที่ถูกตกเป็นเป้าในวงสนทนาส่ายหัวอย่างเอือมระอากับความโม้เกินจริง

ไอ้มีผู้หญิงเข้าหามันก็ใช่ แต่ไม่ได้เยอะแยะแบบที่มันพูดซะหน่อย

แค่บางคนเท่านั้นแหละที่จะเข้ามาหากันตรงๆ เพื่อบอกจุดประสงค์ที่แท้จริง

...เป็นผู้ชายแถมยังโสดด้วย มันก็ต้องมีเรื่องแบบนั้นกันบ้างเป็นธรรมดา

“ล่าสุดนี่ใครนะ ลูกครึ่งญี่ปุ่นป่ะ ที่เขาตามมาเฝ้ามึงที่ยิมอะไอ้ไท— เอ้า หมวย! จะไปไหน ไอ้หมวยย!”

รู้ตัวอีกทีเจ้าตัวก็เดินลิ่วๆ ลากสลิปเปอร์ไดโนเสาร์ไปทางห้องครัวเป็นที่เรียบร้อยโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามองพี่มันเลยด้วยซ้ำไป

เป็นอะไรของมันล่ะนั่น เมนส์ไม่มาก็ไม่น่าใช่เพราะมันก็ไม่มีให้มาอยู่แล้ว

นี่ฮอร์โมนมันเปลี่ยนขนาดนี้เลยเรอะ นอกจากจะรูปร่างหน้าตาเหมือนผู้หญิงแล้วอารมณ์ยังเหมือนอีก

“หมวยมันเป็นไรของมันวะไท— ไอ้ไท!”

ไอ้นี่ก็อีกคนเดินหนีกันไปตอนไหนก็ไม่บอกไม่กล่าว

คนหล่อเซ็งโว้ย!

 

“ม้า ทำไรกินอะ”

น่านฟ้าเดินเข้ามาถึงห้องครัวก็เห็นว่าหม่าม้ากำลังยืนคนหม้อแกงอะไรสักอย่างอยู่ เลยตรงดิ่งเข้าไปกอดเอววางคางไว้บนไหล่อย่างออดอ้อน แล้วก็ได้เห็นว่าสิ่งที่อยู่ในหม้อคือของโปรดตัวเอง

แกงจืดเต้าหู้หมูสับใส่สาหร่ายเยอะๆ ...ฝีมือหม่าม้าอร่อยที่สุดในโลก!

“ตื่นแล้วเหรอ ม้ากำลังจะขึ้นไปปลุกเลย” หม่าม้าปิดแก๊สให้เรียบร้อยแล้วหันตัวมากอดตอบ ก่อนจะหันไปสนใจใครบางคนที่พึ่งก้าวเข้ามาในห้องครัวแทน “เอ้า ไท ฝึกเสร็จแล้วเหรอลูก”

“ครับ น้าดาว” แทนไทตอบรับคำผู้อาวุธโสก่อนจะเลื่อนไปมองอีกคนที่กำลังป้วนเปี้ยนอยู่กับหม้อแกงโดยไม่ได้หันมาสนใจเขาเลยสักนิด

“ไทไปอาบน้ำก่อนก็ได้นะลูก จะได้มากินข้าวด้วยกัน เจ้าเมฆพึ่งมาถึงตะกี้เอง” หม่าม้าบอกเพราะเห็นว่าอีกคนนั้นตัวเปียกชุ่ม ก่อนจะหันมาฝากให้น่านฟ้าช่วยคุณป้าแม่บ้านจัดเตรียมอาหารขึ้นโต๊ะแทน “เดี๋ยวม้าไปเรียกป๋ากับพวกเฮียเขาก่อนนะคะ หนูอยู่ช่วยป้านิดนะ” ก่อนออกไปก็ยังไม่วายจับใบหน้าลูกคนเล็กมาหอมแก้มซ้ายขวาฟอดใหญ่จนเจ้าตัวยิ้มกว้าง

น่านฟ้ากำลังสาละวนกับการหาผ้ามาพันหูหม้อเพื่อยกหม้อแกงจืดลงจากเตา หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ พอจะขอความช่วยเหลือจากป้านิดอีกฝ่ายก็หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ เจ้าตัวเลยตัดสินใจใช้มือเปล่าๆ จับเพื่อลองหยั่งเชิงความร้อนดู

“ร้อนๆ ๆ ” สุดท้ายก็ได้กลับมาแค่นิ้วแดงๆ เลยต้องรีบจับใบหูเพื่อระบายความร้อน

คราวนี้ลองดึงแขนเสื้อลงมากะจะใช้แทนผ้าจับ แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไรใครบางคนก็แทรกตัวเข้ามาหน้าเตาแล้วจัดการยกหม้อแกงจืดไปวางไว้บนเคาน์เตอร์หินอ่อนให้เป็นที่เรียบร้อย

น่านฟ้ายืนมองแผ่นหลังกว้างพร้อมกับเม้มปากเข้าหากันตามนิสัยของเจ้าตัว

เมื่อกี้ที่เดินหนีออกมาจากเฮียหมอกก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร

ไม่มั่นใจว่าไม่อยากฟังเฮียโม้

...หรือไม่อยากฟังเรื่องของใครบางคนกันแน่..

“ไม่ไปอาบน้ำล่ะ” ตอนแรกก็นึกว่าออกไปแล้วซะอีก ใครจะรู้ว่ายังอยู่ในนี้

“ใครทำ” นอกจากจะไม่ตอบแล้วคุณแทนไทเขายังยกมือชี้ข้างมุมปากตัวเองเป็นการส่งคำถามกลับ ซ้ำยังเดินเข้ามาใกล้จนรับรู้ได้ถึงไอร้อนระอุจากคนตัวสูง

“…”

เพราะรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องบอก น่านฟ้าเลยหมุนตัวกลับเดินไปหยิบจานชามออกมาจากชั้นวางอย่างไม่สนใจคู่สนทนา ทิ้งให้อีกคนต้องขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นักที่โดนเมิน

“น่าน” เสียงที่เข้มขึ้นทำให้ต้องยอมหันกลับมามองจนได้

“มาถามอะไรตอนนี้เล่า” ตั้งท่าจะแหย่เล่นแต่พอเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายว่าไม่มีท่าทีเล่นด้วยเลยต้องอ่อนเสียงลง “ไม่มีอะไรหรอกน่า ไปอาบน้ำเลยไป๊ๆ ” นอกจากจะไม่ตอบแล้วยังเดินไปดันแผ่นหลังกว้างให้ออกไปจากครัวอีก

แต่แรงเท่านี้เหรอจะสามารถเคลื่อนยักษ์ปักหลั่นได้ มากสุดก็แค่เขยิบไปก้าวสองก้าวเท่านั้นแหละ

แทนไทมองอีกฝ่ายอยู่สักพัก ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างยอมแพ้แล้วหมุนตัวเดินออกไปโดยไม่รอให้น้องไล่เป็นรอบที่สอง

ทิ้งไว้ให้ไอ้ตัวดื้องุนงงอยู่ข้างหลังเพียงคนเดียว

เป็นอะไรของเขา จู่ๆ ก็หน้าบึ้ง

...ไปกินรังแตนที่ไหนมาเนี่ย!

________________________________________



แนบรูปสลิปเปอร์คู่โปรดของยัยหมวยค่ะ 555


(Credit:aliexpress.com)

ปล. พันไมล์ขอตัวลาไปสอบไฟนอลก่อนนะคะ คงยาวไปถึงหลังวันที่ 20 ธันวาเลย :hao5:
แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าค่า
ฝากคอมเม้นต์เป็นกำลังใจให้เค้าด้วยน้าา หรือจะแวะมาพูดคุยในแท็ค #ที่รักของน่านฟ้า ทางทวิตเตอร์ก็ได้ค้าบบบ <3  :กอด1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-12-2018 21:54:56 โดย Punmile09 »

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
คนในใจน่านฟ้าเหรอนี่
แต่แยกกันไปตั้งสามปีทำไมถึงไปนะ

ออฟไลน์ Opolniscute

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :katai2-1: :katai2-1:   น่ารักดีค่ะ ชอบนิยายที่นายเอกเป็นสาวสอง

ออฟไลน์ BloodyBlue

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โอเอ็มจี วันที่20 ลงแดงแร้วววว แต่ก็รอค่าาา ชอบน่านมากน่ารักถูกจริตนิยายแบบนี้สุดๆ ดีใจมากๆที่แต่งขึ้นมานะคะ :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ fanhy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ยัยหมวยน่ารัก  :hao7:

ออฟไลน์ เปลว แว๊บแว๊บ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
แง้้้้้้้ หมวยน่ารัก

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
น่าน กับแทนไท  .............  o18
ต่างฝ่ายต่างชอบกัน แต่ไม่บอกกันใช่ไหม  :serius2:

แทนไท  น่านฟ้า   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
      :L1: :L1: :L1:
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ GevalinW329

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :mew1: :katai3: :katai2-1:
ยัยหมวยเอ้ยยย
น่ารักจัง

ออฟไลน์ GevalinW329

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :mew3: :pig4: :L1:
ยัยหมวยของเเม่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ BloodyBlue

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
มาอ่านตอนเดิมซ้ำรอสันที่20 :ling1:

ออฟไลน์ arissara

  • ดาดาเดเด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
โอ้ยยยยย ชอบ มานะคะๆๆๆ มาต่อเร็วๆ

ออฟไลน์ Punmile09

  • '...Cause we were just kids when we fell in love...'
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-4
Chapter 3

Curfews

___________________



             ช่วงเวลาเช้าตรู่ทำให้คนที่นอนสะสมมาพอสมควรต้องขุดตัวเองออกมาจากเตียงอย่างช่วยไม่ได้

               หลังจากมื้อเย็นเมื่อวานนี้ก็ยังสามารถซ่อนรอยแผลจากป๊ะป๋าได้อยู่ เพราะฝ่ายนั้นมัวแต่คุยกับเฮียหมอกและแทนไทที่พึ่งกลับมาถึงซะยืดยาว อีกอย่างพอจัดการแกงจืดฝีมือหม่าม้าจนเรียบ ก็รีบชิ่งหนีกลับขึ้นมาก่อนโดยอ้างเหตุผลไปว่าปวดหัวนิดหน่อย

               ...แต่เอาจริงๆก็มึนไม่น้อยเหมือนกัน หม่าม้าเลยให้กินยาลดไข้ดักไว้สองเม็ด ผลก็คือสลบไปตั้งแต่หัวค่ำ วันนี้มันเลยตื่นเช้ากว่าทุกวันนี่แหละ

               หลังจากอาบน้ำเสร็จเสื้อยืดสีขาวโอเวอร์ไซส์และกางเกงขาสั้นก็ถูกหยิบออกมาจากตู้ก่อนจะโดนโยนไปพักไว้บนเตียง กายขาวเนียนที่สวมทับไว้เพียงแค่ชั้นในลูกไม้สีดำปล่อยเปลือยอกช่วงบนกำลังยืนหมุนส่องกระจกอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งอย่างที่เคยทำในทุกๆเช้า

               หน้าอกที่มีส่วนเว้านูนออกมาตามฮอร์โมนที่ถูกปรับเปลี่ยนนั้นทำให้เจ้าตัวนึกพอใจอยู่ไม่น้อย

ไม่เสียแรงที่อดทนมาหลายปี

               ตอนนี้ถ้ามองเผินๆน่านฟ้าก็ไม่ต่างกับผู้หญิงทั่วไปเลยสักนิด

ไหนจะเรียวแขนเรียวขาที่ไร้มัดกล้ามแบบเมื่อก่อนอีก เพราะปกติเจ้าตัวก็เป็นคนที่มีโครงร่างเล็กอยู่แล้ว ก็ไม่แปลกใจเลยที่ใครต่อใครมักจะเข้าใจผิดอยู่บ่อยๆ

..สิ่งเดียวที่แสดงถึงความเป็นเพศชายในตัวตอนนี้ก็คือบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ใต้ชั้นในลูกไม้นี่แหละ..

พอหมุนตัวไปดูอีกทางรอยช้ำที่บั้นเอวก็ยังคงอยู่ ซ้ำวันนี้มันยังขึ้นสีม่วงช้ำเลือดได้อย่างน่ากลัว

นึกแล้วก็โคตรเจ็บใจผู้ชายปากมอมคนนั้น พลาดท่าให้มันลวนลามยังไม่พอกลับโดนตบแถมมาฉาดหนึ่งซะนี่

..เรื่องเฮงซวยมันรุมเร้าจริงๆช่วงนี้

น่านฟ้าหยิบเสื้อตัวโคร่งขึ้นมาสวมทับไว้ก่อนจะทิ้งตัวนอนลงบนเตียงนุ่มอย่างเกียจคร้านพร้อมกับคว้าเอาตุ๊กตาตัวโปรดเข้ามากอด มือก็ควานหาโทรศัพท์มือถือที่ตัวเองโยนทิ้งไว้แบบสุ่มๆไปด้วย

เฟซบุ๊กที่นานๆทีจะเข้าไปเช็คความเคลื่อนไหวขึ้นแถบแจ้งเตือนเป็นสิบๆ ส่วนมากก็คือคำขอเป็นเพื่อนที่รอการอนุมัติ เลื่อนดูผ่านๆก็มีแต่พวกผู้ชายที่ไม่รู้จักทั้งนั้นนอกจากจะไม่กดรับแล้วน่านฟ้ายังปิดการแจ้งเตือนไปอย่างไม่ใส่ใจอีก

..แต่แล้วคำขอเป็นเพื่อนจากใครคนหนึ่งก็ต้องทำให้หยุดชะงัก

...ดูจากเวลาแล้วคงพึ่งแอดกันมาเมื่อไม่นานมานี้



Tanthai Jiranon



รูปโปรไฟล์สีขาวดำเห็นแค่แผ่นหลังกว้างครึ่งตัวยืนอยู่บริเวณยอดผาสถานที่ท่องเที่ยวสักที่ในประเทศอเมริกา เจ้าตัวสวมหมวกแก๊ปและสะพายเป้แบ็คแพ็คใบใหญ่

ดูเผินๆแล้วก็คล้ายกับหนุ่มแบ็คแพ็คเกอร์ที่โด่งดังในแชนแนลยูทูปเหมือนกันแฮะ

พอเข้าไปส่องดูหน้าฟีดก็เห็นว่าแทนไทมีเพื่อนอยู่ราวๆสองสามร้อยคนเท่านั้น ส่วนมากก็คงจะเป็นคนสนิทกันจริงๆมีทั้งบรรดาเทรนเนอร์ที่เป็นคนไทยและต่างชาติ กลุ่มเพื่อนของไทที่คบกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม เฮียเมฆ เฮียหมอก กับพวกเด็กๆในค่าย

เจ้าตัวคงไม่ค่อยได้สนใจโลกโซเชียลมากนักเหมือนเอาไว้คอยติดตามข่าวสารและมีไว้ให้เพื่อนได้ติดต่อซะมากกว่า

แต่ยังไม่ทันที่จะได้กดตอบรับคำขอนั้นจู่ๆหน้าจอก็ปรากฏสายเรียกเข้าจากใครบางคน

จะใครซะอีก..

ถ้าไม่ใช่คนที่ทำให้เจ้าตัวต้องโดนลากออกไปสังสรรค์เพียงเพราะอาการซึมเศร้าบ้าบอที่เกิดจากเขา..

..เตชิน

 “...”

(ฟ้า)

“อืม..ว่าไง”

(ออกมาเจอกันหน่อยได้ไหม) ทางฝ่ายนั้นพูดอย่างถนอมถ้อยคำ (ชินมีเรื่องจะคุยด้วย)

“ยังมีอะไรต้องคุยอีก” เสียงแข็งจนตัวเองยังนึกแปลกใจ

(ฟ้า…ขอร้อง ชินไม่อยากเลิกกับฟ้า) ทางนั้นดูร้อนรนขึ้นมา เมื่อรู้ว่าคราวนี้คงไม่ได้รับการให้อภัยอีก

...ความผิดนับครั้งไม่ถ้วน..

“…”

(ชินขอโทษที่ทำให้ฟ้าต้องเสียใจ...ชินจะไม่ทำอีกแล้ว)

…ครั้งที่แล้วก็พูดแบบนี้...ครั้งก่อนหน้าก็พูดแบบนี้

 …คิดว่าคนๆนึงจะมีความอดทนมากแค่ไหนกัน?

เจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่า...

จากแผลที่เคยช้ำเลือดมันตกสะเก็ดกลายเป็นแผลเป็นนานแล้วจนแทบไม่ต้องการการรักษา

..จะมานึกห่วงอะไรตอนนี้...

“เก็บคำนี้ไว้ใช้กับผู้หญิงคนใหม่เถอะ” กำมือแน่นจนเล็บจิกลงไปในอุ้งมือ

…โมโหจนแทบบ้า เสียดายเวลาที่โง่งมงายมาสองปีกว่ากับผู้ชายพรรค์นี้

(ฟ้า...) คนปลายสายครางออกมาอย่างเว้าวอน

คงคิดว่าทำแบบนี้แล้วจะได้รับโอกาสอีก..โอกาสแก้ตัวที่เคยใช้ไปแล้วไม่รู้กี่ครั้ง

“หวังว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีก…ขอให้โชคดี”

(เดี๋ยว--!)

ตัดสายไปอย่างไม่รีรอพร้อมกับโยนโทรศัพท์ทิ้งลงในกองผ้าห่มอย่างไม่คิดจะสนใจ

เมินแม้กระทั่งสายเรียกเข้าที่กระหน่ำโทรมาอย่างไม่ยอมแพ้ แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหวต้องจัดการบล็อกเบอร์และทุกช่องทางการติดต่อที่เตชินจะสามารถติดต่อมาได้

สำหรับความรู้สึกที่มีให้คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนเก่า มันไม่ใช่ความเสียใจหรือน้อยใจ

...เพราะตลอดเวลาเกือบสองปีที่คบกัน คนๆนี้ได้หยิบยื่นความรู้สึกเหล่านั้นมาให้จนมันชินชาไปหมดแล้ว

คงเหลือแค่ความว่างเปล่าที่อึดอัดจนแทบบ้า

...อยากจะหลุดพ้นมันไปสักที..

 



วันนั้น...

หลังจากที่ฉลองงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มเสร็จ ก่อนที่จะกลับไปค้างคอนโดกับผิง น่านฟ้าเลยตัดสินใจที่จะแวะซื้อของกินเข้าไปให้เตชินซะก่อน เพราะอีกฝ่ายชอบทำงานจนดึกดื่นและมักจะลืมกินข้าวเป็นประจำ

ถึงจะเป็นแฟนกันมาสองปีแล้วก็เถอะแต่ก็ใช่ว่าจะอยู่กินด้วยกันเหมือนคู่อื่นๆเพราะแน่นอนว่าป๋ากับพวกเฮียค้านหัวชนฝาแบบสุดๆ และส่วนตัวน่านฟ้าเองก็ยังไงก็ได้อยู่แล้ว ไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ไม่ใช่ปัญหา คนเป็นแฟนกันไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลาซะหน่อย

แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เคยไปนอนค้างกับเตชินเลย มันเป็นเรื่องปกติของคู่รักทุกคู่นั่นแหละที่ต้องการมีเวลาส่วนตัวร่วมกันบ้าง และแน่นอนว่าแต่ละครั้งที่น่านฟ้าไปค้างที่คอนโดของเตชิน ป๋าและพวกเฮียไม่เคยรู้เพราะมีผิงคอยให้ความร่วมมือปกปิดช่วยกันอยู่ตลอด

หวิดจะโดนจับได้ก็หลายหน แต่ก็ยังรอดมาได้จนถึงทุกวันนี้

คีย์การ์ดสำรองถูกแตะเพื่อเปิดบานประตู ภายในห้องนั้นเงียบสนิทไร้วี่แววของคนรักที่ปกติมักจะนั่งทำงานอยู่บริเวณโต๊ะหน้าทีวีเป็นประจำ น่านฟ้าเดินไปเปิดสวิตซ์ไฟด้วยความเคยชิน แต่แล้วเสียงแว่วของบางอย่างที่ดังออกมาจากภายในห้องนอนก็ทำให้ตัวแข็งทื่อ

มือจรดเท้าเหมือนโดนน้ำเย็นเฉียบสาดซัดเข้าใส่จนหน้าชาไปทั้งแถบ

..เสียงครวญครางอย่างมีจริตของผู้หญิงดังคลอไปกับเสียงสปริงของเตียงชั้นดี

รูปวาดสีน้ำที่น่านฟ้าตั้งใจทำให้เป็นของขวัญวันเกิดเจ้าของห้องตกอยู่บนพื้นบริเวณหน้าโซฟารับแขก ราวกับเจ้าของมันไม่คิดจะใส่ใจเท่าไหร่นัก

..ถึงแม้ว่ากระจกของกรอบรูปมันจะแตกอย่างไม่มีชิ้นดีเลยก็ตาม

ก่อนที่จะย้ายไปห้องนอนคงเริงรักกันแบบสุดเหวี่ยงที่ตรงนี้มาก่อน...เพราะบราลูกไม้สีแดงยังคงวางพาดเด่นหราอยู่บนพนักพิงอยู่เลย

‘ไอ้เหี้ยชิน!’ ผิงที่เดินตามเข้ามาทีหลังถึงกับโมโหจนฟิวส์ขาด แต่คนที่โดนนอกใจกลับนิ่งเฉยกว่าที่คิด

น่านฟ้าก้าวไปเปิดประตูห้องนอนออกอย่างถือวิสาสะ โดยไม่สนเลยด้วยซ้ำว่าชายหญิงคู่นั้นจะเล่นบทร้อนแรงกันขนาดไหนบนเตียงหลังใหญ่

...เตียงที่เราเคยนอนด้วยกัน..

‘ฟ้า!’ เตชินตกใจสุดขีดก่อนจะผลักคู่ขาให้ลุกออกจากตัว

ส่วนฝ่ายผู้หญิงก็ไม่มีท่าทีที่จะตกใจหรือเขินอายเลยสักนิด เธอทำเพียงแค่หยิบเสื้อคลุมอาบน้ำมาสวมไว้ลวกๆแล้วยืนมองเหตุการณ์อยู่ไม่ห่าง

ถ้าจำไม่ผิดเธอคือพนักงานที่อยู่แผนกเดียวกันกับเตชิน เคยเห็นหน้าค่าตามาบ้างแล้ว ซ้ำฝ่ายนั้นยังเป็นคนที่มักจะชวนคุยอย่างเป็นกันเองเสมอตอนที่พบเจอกัน

แต่ในวันนี้..สายตาที่เธอใช้มองกันทำไมจะตีความไม่ออก

...โดนมาจนชินแล้ว

ทุกครั้งที่เตชินทำผิดก็มักจะอ้อนวอนขอความเห็นใจจากกัน

เขาบอกว่าผู้ชายมันก็แบบนี้ ผู้หญิงมาเสนอให้ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องตอบรับ ไม่ได้คิดจะจริงจังอะไร และไม่ว่าจะมีใคร เขาก็ยังคงรักกันมากที่สุด

...ก็แค่เหตุผลของพวกมักง่ายและเห็นแก่ตัว

ตอนนั้นหลงโง่งมงายก็เพราะรักมาก เพราะกลัวเสียเขาไปเลยต้องยอมมองข้าม ยอมแม้กระทั่งต้องปลอบใจตัวเองว่าอย่างน้อยเขาก็แค่นอกกาย

ไม่ได้นอกใจกัน...

‘ไว้วันหลังจะเข้ามาเก็บของนะ’ น่านฟ้าเพียงแค่เดินเลยผ่านอีกฝ่ายไปก่อนจะถอดนาฬิกาข้อมือที่อีกคนซื้อให้วางไว้บนโต๊ะหัวเตียง

ไม่มีการโวยวาย หรือสาดอารมณ์ใส่กันเหมือนอย่างทุกครั้งที่ผ่านมา

ครั้งนี้อารมณ์มันสงบนิ่งจนน่าแปลก

..บางทีเป็นแบบนี้ก็คงดีแล้ว..

            ‘หมายความว่าไง?’

            ‘ต้องให้แปลภาษาเหรอ มันกลวงมากใช่ไหมสมอง’ ผิงที่ยืนมองอยู่นานสุดจะทนกับพฤติกรรมของฝ่ายชาย

 ไอ้ฟ้าทนมามากพอแล้ว...เพื่อนของเธอควรหลุดพ้นจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้ซะที

            ‘ชินไม่เลิก!’ ผู้ชายคนนั้นเอื้อมมือมาจะคว้าตัว แต่ครั้งนี้มันขยะแขยงซะจนต้องเอี้ยวตัวหลบอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ‘ฟ้า..’

            น่านฟ้ายืนมองคนทรยศด้วยแววตาที่ว่างเปล่าเป็นครั้งสุดท้าย มันไม่ได้เสียใจหรือโมโหจนอยากจะทุบตีหรือฟูมฟายตัดพ้อว่าทำไมต้องทำร้ายกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า

            ...บอกแล้วไงว่าเตชินทำให้ผ่านจุดนั้นมาแล้ว

            พอถึงจุดๆหนึ่งกลับพบว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่จะต้องโวยวายและแย่งชิง นอกจากตัวเราจะดูไร้ค่าแล้วยังรู้สึกผิดกับตัวเองจนแทบแย่

            ‘..เราขาดกัน’

            พูดไว้เพียงแค่นั้นก็หมุนตัวเดินออกมาจากห้องโดยไม่หันกลับไปมองอีก ไม่ว่าอีกฝ่ายจะตะโกนเรียกเสียงดังขนาดไหนก็ตาม

            มันจบแล้ว..พอแล้ว

...ครั้งนี้มันจบแล้วจริงๆ..


 



               พอนึกถึงอดีตที่ไม่น่าจดจำเช้าที่แสนสดใสกลับดูหม่นหมองไปหมด

นอนแบะอยู่บนเตียงไปสักพักมือก็ปัดไปเจอเสื้อแจ็คเก็ตของใครบางคนที่ตอนนี้มันแทบหล่นลงเตียงอยู่รอมร่อเลยต้องคว้ากลับมาไว้ เสื้อตัวใหญ่กว่ากันเกือบครึ่งเพราะเป็นไซส์ฝรั่ง ถ้าลองนึกภาพว่าแทนไทใส่ก็คงจะพอดีกับเจ้าตัวนั่นแหละ

               ใช้เวลานอนเล่นอยู่เพียงไม่นานน้องคนเล็กของบ้านก็เดินลงมาด้านล่าง เจ้าตัวอยู่ในชุดลำลองสบายๆมากกว่าทุกวัน ใบหน้าที่ไร้เครื่องสำอางแต่งแต้มมีเพียงแค่ลิปมันสีเบาบางประดับบนเรียวปากจิ้มลิ้มเพื่อไม่ให้หน้าซีดจนเกินไป

               ..วันนี้ไม่มีโปรแกรมออกไปนอกบ้านก็ขอหน้าสดมันสักวันก็แล้วกัน

               น่านฟ้าเดินลากเจ้าเท้าไดโนเสาร์คู่ใจไปทางโถงกลางของบ้าน พอเห็นว่าป๊ะป๋ากำลังนั่งสไลด์ไอแพดอัพเดทข่าวอยู่เจ้าตัวเล็กก็ย่องเข้าไปด้านหลัง ก่อนจะโถมตัวกอดรัดอย่างแรงจนอีกฝ่ายตกใจเกือบทำไอแพดหล่น

               “ตื่นเช้าจังเลยวันนี้” ป๋าปรีชาคว้าตัวลูกคนเล็กมาหอมแก้มอย่างคิดถึง ก่อนจะเอียงหน้าให้ลูกหอมคืนเป็นการแลกเปลี่ยนกันอย่างเคยชิน

               ...ถ้าพวกลูกน้องในค่ายมาเห็นภาพนี้คงฮากันน่าดู

               “เมื่อคืนหนูกินยาเลยหลับเร็ว” เจ้าตัวยิ้มตอบก่อนจะหยิบขนมปังปิ้งในจานป๋าขึ้นมากินแล้วค่อยเดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างๆกัน

               “เห็นม้าเขาบอกว่าหนูไม่สบาย” เจ้าของค่ายมวยใหญ่เลิกสนใจข่าวสารในวงการทันที เพราะตอนนี้เป็นห่วงลูกมากกว่า “ดีขึ้นหรือยังลูก ให้เฮียเมฆเขาดูให้หน่อยไหม”

               “ไม่เป็นไรป๋า หนูดีขึ้นแล้ว” เจ้าตัวยิ้มกว้างเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ

เพราะกินยาของม้าดักไปเมื่อคืน วันนี้อาการปวดหัวมันเลยหายเป็นปลิดทิ้ง จะห่วงอยู่อย่างเดียวก็คือรอยช้ำข้างมุมปากนี่แหละ ไม่รู้ว่าป๋าจะสังเกตเห็นไหม อุตส่าห์ใช้คอนซีลเลอร์ทับไว้ซ้ำยังลงทุนปล่อยผมท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าวแบบนี้อีก

               ป๋าปรีชาพยักหน้ารับอย่างตามใจก่อนจะนั่งมองลูกคนเล็กกินข้าวเช้าที่แม่เขาหามาให้อย่างเพลินตา

               ..เจ้าน่านฟ้าดูซูบลงไปเยอะ สงสัยหลังจากนี้คงจะต้องขุนกันจริงๆจังๆซะแล้ว

               “น้องน่านกินข้าวต้มให้หมดเลยนะ ถ้ากินถ้วยนี้ไม่หมดม้าจะบังคับให้กินน้ำมะเขือเทศปั่น” …โห อย่างกับยาขมเลยนะนั่น

               “หนูอิ่มแล้วอ่า” …ข้าวต้มยังไม่พร่องถึงครึ่งเลยเสียด้วยซ้ำไป มันน่าจับตีจริงๆ

               “อย่าดื้อ ม้าไม่ยอมแล้วนะ ผอมเกินไปแล้ว” หม่าม้าตีหน้าเครียดอย่างจริงจัง นานๆทีจะได้เห็น “เร็วๆ”

               เมื่อเห็นว่ายังมีท่าทีอิดออดเลยนั่งเฝ้าซะเลย เจ้าตัวงอแงนิดหน่อยแต่ก็ยอมตักข้าวต้มหมูขึ้นมากินต่อจนหมดแถมดื่มน้ำส้มคั้นแก้วโตจนเกลี้ยงทำเอาหม่าม้ายิ้มกว้างอย่างพออกพอใจ

               ..ต้องให้บังคับกินเหมือนเด็กๆเลย

               “เอ้า มากินข้าวเร็ว ม้าเขาทำไว้รอตั้งหลายอย่าง”

               เมฆกับหมอกที่พึ่งกลับมาจากยิมเดินเข้ามาที่โต๊ะอย่างหิวโหยเมื่อได้กลิ่นอาหารเช้าฝีมือหม่าหม้า

หมอกเดินอ้อมไปอีกฝั่งก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งใกล้น้องคนเล็กที่กำลังนั่งดูคลิปรีวิวเครื่องสำอางในไอแพดอย่างตั้งอกตั้งใจ

               “ไงเรา ดีขึ้นหรือยัง”

               เมฆเดินอ้อมมาหาบ้าง พร้อมกับใช้ฝ่ามือวัดไข้ให้น้อง พอเห็นว่าปกติดีก็หายห่วง

               แต่ก่อนที่จะกลับไปนั่งประจำที่ก็ไม่ลืมที่จะก้มลงหอมแก้มน้องไปหนึ่งฟอดใหญ่ๆ

“อ้าว แล้วเจ้าไทไปไหนล่ะ” ป๋าปรีชามองหาลูกชายคนโปรดอีกคน เพราะปกติไทจะมากินข้าวเช้าด้วยตลอด

               “อยู่ยิมนู่นป๋า” หมอกบุ้ยหน้าบอก “เรียกแล้วแต่มันไม่มา คงยังไม่หิว”

               “เรอะ ไอ้เจ้านี่มันฟิตอะไรของมัน”

               “ผมก็ไม่รู้ ตั้งแต่กลับมามันดูอารมณ์ไม่ดีแปลกๆด้วยนะ”

               “หักโหมเยอะไปไม่ดีนะ พึ่งกลับมาถึงด้วย ม้ากลัวไทจะป่วย” ผู้หญิงคนเดียวของบ้านเริ่มนึกเป็นห่วง “น้องน่านไปเรียกพี่เขามากินข้าวหน่อยสิลูก”

               “เดี๋ยวหิวเขาก็มาเองแหละม้า” ชะงักมือที่กำลังสไลด์หาคลิปใหม่ไปนิดหน่อย ก่อนจะก้มลงมองหน้าจออย่างไม่สนใจ

               “น้องน่าน” หม่าม้าเสียงเริ่มดุ จนต้องจำใจวางไอแพดไว้ ก่อนจะลุกออกไปตามคำสั่งผู้มีอำนาจที่แท้จริงในบ้าน

               ป๋าที่ว่าแน่ยังแพ้คุณอิงดาวเขาล่ะ


(ต่อด้านล่าง)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-12-2018 12:22:29 โดย Punmile09 »

ออฟไลน์ Punmile09

  • '...Cause we were just kids when we fell in love...'
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-4
 

ยิมมวยอยู่ไม่ห่างจากบ้านเท่าไหร่นักบริเวณข้างบ้านจะมีพื้นเฉลียงไม้เชื่อมกับหลังออฟฟิศเพื่อความสะดวกสบายในการเดิน

น่านฟ้าเลยอาศัยทางลัดตรงนี้แทนเพราะขี้เกียจอ้อมไปเข้าทางด้านหน้า

วันนี้ทั้งโรงยิมเงียบกว่าปกติเพราะเป็นวันหยุดของทางค่าย อีกอย่างเมื่อวันก่อนป๋าพึ่งพาเด็กๆไปแข่งมาเลยหยุดให้ได้พักผ่อน บางคนก็เลยได้โอกาสกลับบ้านไปเยี่ยมครอบครัว บางคนก็นอนพักอยู่ที่ห้องพักข้างหลัง

ในวงการมวยที่ค่ายนันพิวัฒน์นี้ก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าใคร

มีนักมวยที่มีชื่อเสียงอยู่หลายคนที่เป็นลูกศิษย์ของที่นี่ ทั้งคนไทยและต่างชาติ จนถึงขั้นที่ทางบ้านต้องขยายกิจการไปไกลถึงอเมริกา และแน่นอนว่ามันได้รับผลตอบรับที่ดีเกินคาด

ป๋าเลยให้เฮียหมอกไปดูแลยิมที่นั่นโดยที่ไม่ลืมส่งตัวนักมวยเบอร์หนึ่งของทางค่ายไปช่วยด้วยอีกแรง ในตอนนั้นแทนไทที่กำลังจะเริ่มเป็นที่รู้จักในวงการกลับต้องพักเรื่องการแข่งขันเอาไว้ก่อนโดยป๋าให้เหตุผลที่ว่าอยากให้ไปช่วยควบคุมเฮียหมอกไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง

และป๋าเองก็รักและไว้ใจอีกฝ่ายไม่ต่างกับลูกแท้ๆคนหนึ่งเลยด้วยซ้ำไป

..ที่จริงแล้วแทนไทนั้นเป็นลูกชายของเพื่อนรักที่จากไปเพราะอุบัติเหตุเมื่อสิบสามปีก่อน..

วันนั้นที่งานศพเด็กชายในวัยสิบห้าปีคนนั้นดูนิ่งสงบจนน่านฟ้าเองยังแปลกใจ

เขาไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟายแสดงความเสียใจให้ใครเห็นสักนิด แต่ลับหลังทุกคนกลับไปนั่งหลบมุมร้องไห้เสียอย่างนั้น

น่านฟ้าเป็นคนที่เดินไปเจอเพราะตอนนั้นกำลังตามหาหม่าม้าให้วุ่น ฝ่ายนั้นดูตกใจนิดหน่อยแต่พอเห็นว่าเป็นใครก็ทำเพียงแค่ปาดน้ำตาทิ้งก่อนจะอาสาพาเดินตามหาหม่าม้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่เดิมทีทางครอบครัวของแทนไทมีฐานะไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นัก ยิ่งเสาหลักของครอบครัวจากไปเลยเหลือเพียงแค่แม่คนเดียวที่ต้องแบกรับภาระทั้งหมด

ตอนนั้นจำได้ว่าไทที่เป็นพี่ชายคนโตต้องลาออกจากโรงเรียนเพื่อมาทำงานหาเงินช่วยแม่และเสียสละให้น้องได้เรียนหนังสือแทน พอป๋ารู้เรื่องเลยตัดสินใจรับไทมาเลี้ยงเองซะเลยพร้อมกับเสนอตัวว่าจะส่งเสียให้เรียนจนจบ

ตอนแรกแม่ของไทก็ไม่ยอมเพราะเกรงใจและไม่อยากเป็นภาระ ป๋ากับหม่าม้าหว่านล้อมยังไงก็ไม่ได้ผล จนสุดท้ายก็ยื่นข้อเสนอว่าจะรับเลี้ยงไปเป็นเด็กในค่ายให้คอยช่วยงาน ทางแม่ฝ่ายนั้นเลยยอมในที่สุด

แต่ถึงจะพูดแบบนั้นสุดท้ายป๋าก็ไม่ได้ให้ไทไปฝึกหรือไปแข่งตามที่พูดหรอก ก็ส่งเสียเลี้ยงดูเหมือนลูกคนหนึ่งเลย กินข้าวด้วยกัน เรียนโรงเรียนเดียวกัน ไปเที่ยวด้วยกัน เหมือนเป็นลูกคนที่สี่ของบ้านนันพิวัฒน์เลยก็ว่าได้ อีกอย่างฝ่ายนั้นก็เข้ากับคนที่บ้านได้ดีมากด้วย ไม่ได้มีปัญหาเหมือนในละครไทยที่เห็นกันดาษดื่นสักนิด

แทนไทเป็นคนขยันและอดทนมากๆ เรียนได้ท็อปของห้องตลอดตีคู่ไปกับเฮียเมฆ เป็นดูโอ้หัวกะทิของบ้านมีหน้าที่ต้องมาคุมติวเข้มให้เฮียหมอกและน่านฟ้าในช่วงสอบเป็นประจำ

ถึงป๋าจะไม่ได้บังคับให้ทำงานอะไร แต่ฝ่ายนั้นก็ไม่ยอมอยู่เฉย ไทมักชอบเข้ายิมไปดูพวกครูฝึกสอนเด็กในค่ายจนในที่สุดก็โดนลากให้ไปลองฝึกดูเพราะเห็นว่าหน่วยก้านดี

แล้วก็เป็นอย่างที่คิด

แทนไทเรียนรู้ได้เร็วเกิดคาด

วันนั้นทางค่ายจัดงานเลี้ยงฉลองหลังจากที่ไปลุยแข่งกันมาหลายเวที และสิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องตื่นตะลึงก็คือแทนไทสามารถชนะน็อคแชมป์เบอร์หนึ่งของค่ายได้อย่างง่ายดาย ขนาดป๋ายังต้องอ้าปากค้างเพราะเป็นคนลงพนันเองว่ายังไงฝ่ายนั้นก็ต้องแพ้แน่นอน

หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ผันตัวมาชกมวยอย่างจริงจัง ฝีมือของแทนไทขึ้นเป็นตัวท็อปของค่ายได้ในเวลาไม่กี่ปีแถมยังมีค่าตัวการขึ้นชกสูงที่สุดอีกด้วย

แต่ถึงอย่างนั้นป๋าเองก็ไม่เห็นดีเห็นงามด้วยเท่าไหร่เพราะอาชีพนักมวยเป็นอาชีพที่ไม่มีความมั่นคง เลยไม่ค่อยได้ส่งตัวแทนไทไปขึ้นชกแบบมั่วซั่ว ส่วนใหญ่จะเน้นให้ฝึกสอนนักมวยและควบคุมดูแลยิมเสียมากกว่า

ว่าก็ว่าเถอะแต่ละแมทที่คุณเขาไปชกน่ะเวทีดังๆทั้งนั้น ที่ป๋ายอมให้ไปแต่ละทีก็เพราะมีทางผู้ใหญ่เขาขอมานั่นล่ะ ได้ยินมาว่าล่าสุดถูกเลือกให้ไปชกที่ต่างประเทศด้วยแต่เจ้าตัวก็ยังไม่ได้ตอบตกลงไป

..ก็คือโกอินเตอร์สุดอะไรสุด

น่านฟ้ายืนกอดอกมองคนที่กำลังเตะกระสอบทรายอยู่ตรงมุมหนึ่ง เสียงกระทบของลำแข้งที่ฟาดเข้ากับกระสอบนั้นหนักแน่นจนอดคิดไม่ได้เลยว่าถ้าเป็นคนล่ะก็คงต้องตัวหักครึ่งแน่ๆ

ร่างสูงใหญ่อยู่ในชุดฝึกซ้อมทั่วไป เสื้อแขนกุดกับกางเกงมวยแบบง่ายๆ

แต่โคตรจะดูดีเลยเวลาที่มันอยู่บนตัวคุณเขา

“น่าน?” ฝ่ายนั้นหยุดเตะไปตอนไหนไม่รู้

รู้ตัวอีกทีก็ถอดนวมออกแล้วเดินเข้ามาหากันแล้ว

เหงื่อที่เปียกชุ่มทำให้เสื้อสีเข้มแนบเข้ากับกล้ามเนื้อหนั่นแน่นบริเวณแผ่นอก เส้นผมชื้นเหงื่อถูกเสยขึ้นเก็บแบบลวกๆเมื่อหยดเหงื่อกำลังจะเข้าตา

 “มีอะไรหรือเปล่า”

“หม่าม้าให้มาตามไปกินข้าว” ตัวสูงจนต้องเงยหน้าคุยด้วยจนปวดคอไปหมดเลย...ให้ตาย “บังคับด้วย ห้ามปฏิเสธ” เพราะถ้าลากไปด้วยไม่ได้คนโดนดุก็คือตัวเองนี่แหละ

แทนไทพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายหลังจากนั้นก็เดินไปเก็บอุปกรณ์ฝึกซ้อมให้เข้าที่แล้วหยิบเสื้อวอร์มขึ้นมาสวมทับไว้ก่อนจะเดินตามออกมา

 



“ไทมากินข้าวเร็วลูกน้าทำของโปรดไทให้ด้วยนะ” คุณอิงดาวเข้าไปลากลูกชายคนโปรดมาที่โต๊ะ พร้อมกับตักข้าวใส่จานให้อย่างเสร็จสรรพ “กินเยอะๆนะ อยู่นู่นคงคิดถึงอาหารไทยแย่”

“โอ๊ยม้า ไม่ต้องห่วงมันหรอก อยู่นั่นไม่เคยขาด” หมอกหันมาฟ้องยิกๆ “ใช่ไหมวะไอ้ไท”

               “จริงเหรอเนี่ย” หม่าม้าดูตื่นเต้นมาก “ทำกินเองรึไงเรา”

               “ใช่ที่ไหนกันเล่า ผู้หญิงที่มาเรียนกับมันคนนึงเขาเป็นเจ้าของร้านอาหารไทยเลยนะม้า โหยยย เช้าถึงเย็นถึง”

               “เสน่ห์แรงช่วยไม่ได้ สมัยนี้เขาฮิตคมเข้มเว้ย ขาวๆจืดๆแบบมึง หมดสิทธิ์” เฮียเมฆที่กำลังนั่งดูข่าวอยู่กับป๋าหันมาเยาะเย้ยอย่างสะใจ

               ...ก็มันจริง ในบรรดาพี่น้องมีไอ้หมอกนี่แหละที่ดูตี๋สุดแล้ว เพราะถึงม้าจะมีเชื้อสายจีนแต่ป๋าน่ะไทยแท้ๆเลยมีแค่มันนี่แหละที่แหกคอกมาคนเดียว

               “มันหล่อได้พ่อมัน” ป๋าปรีชาตบหลังลูกของเพื่อนรักอย่างเอ็นดู

               ยิ่งโตมันก็ยิ่งเหมือนพ่อเว้ยไอ้นี่

               “เนี่ยน้องน่าน ม้าอยากได้ลูกเขยแบบพี่ไทจัง” คุณอิงดาวพูดแหย่ทีเล่นทีจริงจนคนที่ตกเป็นเป้าหมายต้องชะงักช้อนกินข้าวขึ้นมามอง

               “ม้าก็ พูดงี้ไอ้ชินมันเสียใจแย่ ใช่ไหมไอ้หมวย” หมอกที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรแซวออกมาอย่างสนุกปาก

               “แหม ม้าก็หยอกเล่น เจ้าชินก็หล่อไปอีกแบบไง ไทก็หล่ออีกแบบ”

               ทุกคนหัวเราะกันอย่างสนุกสนานเพราะยังรู้ว่าความจริงนั้นน่านฟ้าได้บอกเลิกอีกฝ่ายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

               เมฆเป็นคนแรกที่รับรู้ได้ถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของน้อง ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่ายังมีเรื่องที่ต้องคุยกัน อันที่จริงก็ตั้งใจว่าจะเคลียร์ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่พอเห็นว่าน้องอาการไม่ค่อยดีเลยปล่อยไปก่อน

               “น่าน..มีอะไรจะบอกทุกคนไหม” เสียงทุ้มต่ำเรียกคนที่กำลังนั่งก้มหน้าให้ขึ้นมามอง “เรื่องของเตชิน”

               พี่ใหญ่ของบ้านมีสีหน้าเครียดขึ้นมาทันทีจนทุกคนต้องหันมาสนใจ เพราะนานๆทีคุณหมอเมฆเขาจะใช้น้ำเสียงจริงจังกับน้องคนเล็ก

               “บอกเรื่องอะไรเฮีย” เจ้าตัวยังคงดูงุนงงอยู่ แต่เมื่อเห็นสีหน้าของพี่ชายเลยทำให้เข้าใจได้เลยว่าไปรู้เรื่องอะไรมาแน่นอน จะรู้มาจากใครล่ะ ถ้าไม่ใช่... “ไอ้ผิงมันบอกอะไร”

               “เฮียถาม..หนูจะบอกป๋ากับม้าเองหรือจะให้เฮียบอก”

               หม่าม้ามองมาอย่างเป็นห่วง จนในที่สุดก็ต้องยอมรับออกไป

               ..เอาเถอะ ไม่ได้คิดจะปิดเป็นความลับไปตลอดซะหน่อย

               “..หนูเลิกกับชินแล้วนะ”

               ป๋าหยิบรีโมทมากดปิดทีวีทันทีก่อนจะหันกลับมานั่งฟังอย่างตั้งใจ ในแววตาก็มองลูกคนเล็กด้วยความเป็นห่วง         “เลิกกันเพราะอะไร...บอกป๋าไปน่าน”

               “...”

               “ก็...อยากเลิก”

               “ได้...เฮียบอกเอง” ไม่รอให้น้องได้ตั้งตัว คนเป็นพี่ก็หันไปเล่าให้ป๋ากับม้าฟังแทนจนเจ้าตัวต้องหันหน้าหนีออกไปอีกทางเพราะไม่อยากจะได้ยิน “ไอ้ชินมันนอกใจน่าน”

               หม่าม้าตกใจจนตาโต ก่อนจะเดินเข้าไปกอดเจ้าตัวเล็กเอาไว้เมื่อเห็นว่าน้องเริ่มมีสีหน้าไม่ค่อยจะดี

               เฮียเมฆอาจจะดูใจร้ายที่ทำแบบนี้ แต่เชื่อเถอะ เพราะเขารักน้องเขามากนั่นล่ะฟิวส์มันเลยขาดอย่างที่เห็น

               “มันพาผู้หญิงขึ้นมานอนบนคอนโด คืนที่น่านไปงานวันเพื่อน” คุณหมอโกรธจนขบกรามกรอด “มันทำมาหลายครั้งแล้ว แต่น่านก็ให้อภัยมาตลอด”

               ป๋าดูอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมาถามกับเจ้าตัวเอง บรรยากาศภายในโต๊ะอาหารเลยเริ่มมาคุขึ้นมาเล็กน้อย

               “จริงเหรอน่าน” พยายามกลั้นอารมณ์โมโหไว้เพราะไม่อยากจะดุ “..ทำไมหนูไม่บอกป๋าล่ะลูก ไปทนมันทำไม”

               “แม่ง..” หมอกที่มีสีหน้าตึงเครียดไม่ต่างกันกำหมัดแน่น ใจก็อยากจะบุกไปเอาเรื่องไอ้สันดานนั่นแม่งให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ทุกคนในบ้านไม่ได้เลี้ยงไอ้หมวยมาเพื่อให้ใครมาทำร้าย มันคิดว่ามันเป็นใครกัน “ทำไมหมวยไม่บอกเฮีย”

“ก็..” ตอนแรกมันก็เฉยๆแหละไม่ได้สะเทือนใจอะไรด้วยซ้ำ แต่พอเจอสายตาดุๆจากป๋ากับพวกเฮียจมูกมันก็ร้อนแปลกๆ ความรู้สึกผิดและความกดดันที่กักเก็บมาตลอดมันเลยพังทลายไม่เป็นท่า จนหม่าม้าต้องเข้ามากอดปลอบกันยกใหญ่

“อีกเรื่องนะ” คุณหมอเมฆยังคงใจแข็งไม่เข้าไปโอ๋เพราะต้องการที่จะสั่งสอนให้น้องรู้ซะบ้างว่าเวลามีเรื่องอะไรไม่ควรเก็บไว้ฟุ้งซ่านอยู่คนเดียว

น้องไม่รู้รึไงว่าทุกคนเป็นห่วงแค่ไหน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าช่วงนี้มันซูบโทรมลงก็เพราะไอ้เรื่องพวกนี้นี่แหละ “เมื่อวานผมสังเกตเห็นว่าน้องมีแผลที่มุมปาก พอโทรไปถามผิง เลยรู้มาว่าเมื่อคืนก่อน ที่น้องขอไปเที่ยว โดนผู้ชายตบหน้ามา” พูดถึงตรงนี้ก็ต้องหยุดผ่อนลมหายใจให้เป็นปกติ เพราะเรื่องนี้ทำเขาสติแทบแตก..

ให้ตายเถอะ ใจเย็นกับทุกเรื่องยกเว้นเรื่องของน้องแค่เรื่องเดียวนี่แหละ “..มันจะลวนลาม แต่น้องป้องกันตัวเลยโดนตบ”

หม่าม้าถึงกับปล่อยโฮออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ส่วนป๋าตอนนี้สีหน้าเคร่งเครียดเสียยิ่งกว่าตอนที่รู้เรื่องของเตชินอีก

“มันเป็นใคร” เสียงทุ้มต่ำที่ถามขึ้นกลางวงนั้นน่ากลัวจนคนฟังยังแอบขนลุกเกรียว

ตอนนี้เจ้าตัวเล็กของบ้านไม่มีสติที่จะตอบคำถามแล้ว น่านฟ้าเอาแต่กอดหม่าม้าแน่น

หมอกมองน้องอย่างสงสาร แต่สิ่งที่ทำให้ต้องสะดุดตาก็คือสายตาของใครบางคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม มันมองน้องของเขาไม่วางตา...ตั้งแต่เรื่องของเตชินแล้ว

ไม่ใช่ไม่รู้ไม่เห็นหรอกนะว่ามันคิดอะไร

แต่แค่อยากรอดูเฉยๆว่าจะทำยังไงต่อก็แค่นั้น

อยากรู้ว่ามันจะเก็บอาการไปได้อีกนานแค่ไหนกัน

เพราะน่านฟ้าเอาแต่ร้องไห้ป๋าเลยต้องยอมเลิกคาดคั้นเพราะทนไม่ได้ที่เห็นน้ำตาของน้อง เฮียเมฆก็ไม่ต่าง พอดุชุดใหญ่ไปสุดท้ายก็เข้าไปดึงเจ้าตัวมากอดปลอบยกใหญ่ ท่ามกลางเสียงประกาศิตที่ดังขึ้นกลางบ้านอย่างจริงจัง

“ป๋าขอสั่งห้ามให้หนูออกไปเที่ยวกลางคืนและไปไหนมาไหนคนเดียว” น้ำเสียงดุที่ปกติมักใช้เวลาด่าลูกน้องถูกนำมาใช้ “ป๋าจะให้เฮียหมอกกับพี่ไทเขาคอยไปรับไปส่งแทน เข้าใจไหม” เพราะรู้ดีว่าเจ้าเมฆคงคอยตามดูแลน้องไม่ได้ตลอด...น่านฟ้าน่ะดื้อกับทุกคนยกเว้นพี่คนโตของเขานั่นล่ะ

เจ้าตัวเล็กยังคงซบหน้าอยู่ในอกเฮียเมฆนิ่ง เพราะร้องไห้จนหูอื้อตาลายไปหมด

การที่ป๋าประกาศเคอร์ฟิวกะทันหันแบบนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะเป็นห่วง อีกส่วนก็ต้องการที่จะสั่งสอนเจ้าตัวดื้อมันซะบ้าง

“หนูได้ยินที่ป๋าพูดไหมคะ” คุณหมอที่ใจอ่อนยวบใช้น้ำเสียงนุ่มนวลถามคนในอ้อมกอดพร้อมกับกดจูบลงไปบนหน้าผากที่เริ่มอุ่นๆของน้องเป็นการไถ่โทษทางอ้อมที่เผลอดุไป

เจ้าน่านฟ้าของทุกคนพยักหน้ากับอกพี่อย่างว่าง่าย

..ปกติแล้วน้องไม่ใช่คนขี้แงอะไรหรอก ที่ร้องหนักขนาดนี้ก็คงเพราะเก็บมานานจนมันทนไม่ไหว พอไปสะกิดเข้าหน่อยเลยพังทลายไม่เป็นท่าแบบนี้แหละ

“มานี่มา” ป๋ากวักมือเรียกให้เข้าไปหา ไม่ทันไรเจ้าตัวก็พุ่งเข้าไปกอดแน่นจนหม่าม้าต้องตามเข้าไปกอดอีกคน “น่านเข้าใจป๋าใช่ไหม...ป๋าห่วงหนูที่สุด อย่าทำแบบนี้อีกนะ ถ้ามีเรื่องอะไรห้ามเก็บไว้คนเดียว” น่านฟ้าพยักหน้ารัวอย่างว่าง่ายก่อนจะกอดป๋ากับม้าจนตัวกลม จนหมอกอดไม่ได้ที่จะยกมือถือขึ้นมาถ่ายวีดีโอไว้เพราะกะจะเอาไว้เปิดล้อน้องทีหลัง

น่านฟ้าเป็นหัวใจของคนทั้งบ้าน ไม่ว่าเจ้าตัวจะเป็นอะไร ไม่ว่าน้องจะเป็นเพศไหนก็ตามที่คนภายนอกมองว่ามันแปลกแยกกับคนอื่น

แต่ทุกคนในที่นี้ก็รักเจ้าน่านฟ้าตัวน้อยที่สุด..



______________________________________________



ยัยหมวยโดนกักบริเวณแล้วววว

แหะๆ ตอนแรกตั้งใจจะมาลงหลังวันที่20 แต่พอดีพันไมล์เคลียร์งานเสร็จก่อนเวลาเลยแวะมาอัพให้ค่าา :hao7:

ขอบคุณทุกๆคนที่เอ็นดูน้องน่านนะคะ <3



ปล.ปีใหม่นี้พันไมล์จะทำสคส.แจกค่ะ แอบสปอยว่ามียัยน่านตัวอ้วนป้วนเปี้ยนรอบขนมด้วยน้าา > <

เผื่อใครสนใจอย่าลืมมารับน้าา :กอด1:

ติดตามข่าวสารได้ที่ทางทวิตเตอร์เลยนะคะ จะอัพเดทข่าวสารในนั้นมากกว่าในเพจ

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ติดตามจ้า  สนุกมาก

ออฟไลน์ GevalinW329

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :mew1:
รักหนูนะลูกกกก

ออฟไลน์ GevalinW329

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :mew1:
รักหนูนะลูกกกก
 :L3: :katai2-1:

ออฟไลน์ BloodyBlue

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
รอไทมีบทบาทททททท :ling1: :mew1:

ออฟไลน์ bowbeauty

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 299
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
ชอบนิยายที่เป็นฟิวนี้ ชอบนายเองแบบนี้ งื้ออ.  น่ารัก

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
จะมีคนดื้ออีกมั้ยน้าา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด