✧ ที่รักของน่านฟ้า ✧ : Chapter 12 - The Next Chapter : 07 October 2020
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✧ ที่รักของน่านฟ้า ✧ : Chapter 12 - The Next Chapter : 07 October 2020  (อ่าน 28634 ครั้ง)

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
หวาน........ละมุนละไม   :mew1: :-[ :impress2:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ theindiez

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
น้องหยาชงเข้มมากเลยลู้กกกก ทับจัยน 555

ออฟไลน์ memozy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
 :-[ :-[ มาต่อเร็วๆนั
รอติดตามอยุ่นะ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ใจบางอีกแล้วค่ะ อะไรนิดหน่อย ก็ทำเขิน น่ารักจริงเลย
โมเมนท์วันสบายๆ ทำตัวเรื่อยเปื่อย ดูอบอวลมาก

ไทพร้อมรุกแล้วนะน่าน รอตั้งรับ หรือรอโต้กลับได้เลย

หมอกก็มีมึนบางอารมณ์ หยาคือคนชงเข้มมากค่ะ รู้ทันไปหมด

แหมมม พอได้เริ่มแล้วหยุดไม่อยู่เลยนะ คืออะไรไปจุ๊บส่งหน้าห้องคะ

ออฟไลน์ rotedump

  • รถดั้มพ์ถังซัมจั๋ง
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
งื้อออ

ออฟไลน์ Honeyhoney

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
 :mew1: บอดี้ ไท น่าจะฮอตสุด ๆ

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
มารอน้องน่านฟ้า    :กอด1:

ออฟไลน์ Punmile09

  • '...Cause we were just kids when we fell in love...'
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-4
CHAPTER 10 - After the sunruse

_____________________________





“เจ้าไทไปไหนล่ะ” ป๋าปรีชาถามอย่างสงสัยเพราะตั้งแต่ลงมาทานมื้อเช้าที่บริเวณห้องอาหารของทางโรงแรมก็ไม่เห็นหน้าลูกชายอีกคนทั้งที่ปกติแล้วเจ้าตัวเป็นคนตื่นเช้า ผิดกับเจ้าหมอกที่นั่งหน้าง่วงจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่อยู่บนโต๊ะจนถูกหม่าม้าบิดแก้มไปไหน

“มันออกไปวิ่งตั้งแต่เช้าแล้วป๋า เพิ่งจะกลับมาตอนผมแต่งตัวเสร็จ สงสัยอาบน้ำอยู่มั้ง”

“ฟิตจังเว้ย” แกหัวเราะเพราะไม่คิดว่าฝ่ายนั้นยังคงรักษาวินัยแม้จะมาเที่ยวพักผ่อนก็ตาม

แต่ก็อย่างว่า...เจ้าไทต้องขึ้นชกเดือนหน้านี้แล้ว ก็คงอยากจะฟิตร่างกายเตรียมเอาไว้เพราะห่างจากสังเวียนมาตั้งหลายปี เรียกได้ว่าหลังจากนี้คงต้องซ้อมกันหนักจนแทบไม่ได้หยุดพักหายใจกันเลยทีเดียว

“มันตื่นตั้งแต่ตีห้า” หมอกถอนหายใจอย่างยอมแพ้ ไม่รู้แม่งจะขยันไปไหน...แต่พอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนก็ทำให้รู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาอีกครั้งเพราะมีหมาบางตัวมันยิ้มไม่หุบตั้งแต่เดินเข้ามาในห้อง มิหนำซ้ำหน้ายังแดงลามไปถึงใบหู พอถามเข้าหน่อยมันก็เอาแต่ลูบหน้าลูบตาไปมาไม่ยอมพูดจนเขาต้องยอมแพ้ไป

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครที่ทำให้เพื่อนเขาเสียอาการมากขนาดนี้...พูดถึงปุ๊บมันก็เดินเข้ามาพอดี

...ด้วยชุดขัดใจป๋าเหมือนอย่างเคย...เอาล่ะเว้ยงานนี้ มันต้องมีคนหัวร้อนกันบ้างล่ะว้า

“สาวๆ ลงมากันแล้ว” คุณอิงดาวพูดพร้อมรอยยิ้มเมื่อเห็นว่าเจ้าตัวแสบทั้งสองเดินยิ้มมาแต่ไกล แต่งตัวสวยกันเชียว โดยเฉพาะคนพี่ที่ดูท่าแล้ววันนี้คงทำให้ป๋าเขาความดันขึ้นอีกรอบแน่นอน...เพราะฝ่ายนั้นเองก็มองตามลูกมาตั้งแต่ประตูทางเข้าห้องอาหารแล้ว

จริงๆ เลยนะคุณปรีชาเนี่ย

“น่ารักจังเลยค่ะ คนสวยของแม่เดือน” คำเอ่ยชมทำให้น่านฟ้ารู้สึกเขินจนต้องยกมือขึ้นเกาจมูกแก้เก้อ ทั้งที่ปกติแล้วก็ถูกแม่เดือนชมออกบ่อย แต่ไม่รู้ทำไมครั้งนี้มันถึงอายจนหน้าร้อนก็ไม่รู้...ถ้าถามถึงสาเหตุละก็ แน่นอนเลยว่าลูกชายแม่เดือนมีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน...

“ป๋าจะทำยังไงกับหนูดีเนี่ย” เสียงพึมพำที่อยู่หัวโต๊ะทำให้ต้องอมยิ้ม ก่อนจะเดินเข้าไปกอดและหอมแก้มจนฝ่ายนั้นเลิกตีหน้านิ่งเมื่อถูกลูกอ้อนของเจ้าตัวแสบ “เดี๋ยวเถอะ” คุณปรีชาถอนหายใจออกมาอย่างแพ้ราบคาบตอนที่น้องน่านแนบแก้มลงมาบนบ่า...อ้อนเก่งจริงๆ เลยตัวแค่นี้

“วันหลังเฮียจะสแกนชุดก่อนไปเที่ยวดีไหม” หมอกถอนหายใจยาวเหยียดพร้อมกับมองคนที่นั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ไอ้หมวยมันเบ้ปากใส่ก่อนจะเอื้อมมือมาหยิบขนมปังปิ้งในจานเขาไปกินหน้าตาเฉยพร้อมยักคิ้วท้าทาย

“อะไรเฮีย” น่านฟ้ายังคงอยากจะกวนอารมณ์พี่ตัวเองให้หายหมั่นไส้สักหน่อยข้อหาแอบมองปั้นหยาเกินความจำเป็น...ไม่ใช่ไม่รู้นะว่าเฮียคิดอะไรอยู่ อย่าหวังเลยว่าจะยอมให้เข้าใกล้หยาได้ง่ายๆ น่ะ ไม่มีทาง!

“ชุดโป๊” หมอกเอนหลังพิงพนัก ไล่เช็กชุดน้องตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะรู้สึกตึงที่ขมับขึ้นมากะทันหัน

เสื้อเกาะอกแขนตุ๊กตาสีขาวกับกางเกงยีนเอวสูงขาสั้นกุดที่นั่งทีมันเห็นไปถึงไหนต่อไหน...

โอเค...ชุดน้องก็ไม่ได้น่าเกลียดกลับกันแล้วมันโคตรน่ารัก ถ้าเป็นคนอื่นใส่เขาก็คงมองตามอย่างไม่ต้องสงสัยตามประสาผู้ชายตาไว แต่เพราะแบบนี้มันเลยทำให้รู้สึกขัดแย้งอยู่ในใจจนคันยิบๆ

กับคนอื่นน่ะไม่เคยคิดเยอะ แต่พอน้องตัวเองใส่กลับรู้สึกหวงจนอยากจะบังคับให้มันไปเปลี่ยน...กรรมตามสนองเข้าแล้ว...

“ทีสาวๆ คนอื่นใส่หมอกยังชอบมองเลย ไม่เห็นจะบ่นว่าโป๊” คุณอิงดาวนึกขำลูกชายตัวเองที่นับวันชักจะเดินตามรอยคนเป็นพ่อเข้าไปทุกที

“ก็นั่นคนอื่นไงม้า” หมอกยักไหล่อย่างไม่ยอมแพ้เมื่อเลือดพี่ชายหวงน้องมันพลุ่งพล่าน

“เว่อร์ หนูไม่ใช่ผู้หญิงซะหน่อย ไม่มีใครมองหรอก” ฝ่ายนั้นหัวเราะออกมาพร้อมกับจิ้มสับปะรดบนจานกินจนแก้มตุ่ย

“เอาหัวเฮียเป็นประกันเลยว่าร้อยทั้งร้อยมี...เยอะด้วย หรือจะเถียง” พอโดนน้ำเสียงจริงจังใส่หน่อยไอ้ตัวแสบก็หน้ามุ่ยก่อนจะโคลงศีรษะไปมาเพราะเถียงไม่ออก

เอาตั้งแต่มันเดินเข้ามาในนี้นับจำนวนได้แล้วไม่ต่ำกว่าห้า

อ้อ...คนที่หกกำลังเดินเข้ามานั่นไง…

จ้องไม่วางตาเลยนะมึง...ประกาศความเป็นเจ้าของชัดเจนเกินไปหน่อยมั้ง...

“พี่ไท มานั่งนี่ๆ” ปั้นหยากวักมือเรียกอีกฝ่ายอย่างกระตือรือร้นพร้อมกับลุกเดินไปนั่งข้างหมอกเสร็จสรรพ ปล่อยพื้นที่ว่างข้างตัวอีกคนให้อย่างรู้งานโดยที่มีสายตาจากฝั่งนั้นมองมาอย่างคาดโทษ ส่วนไอ้ตัวพี่ก็หน้านิ่งตามสไตล์ทั้งที่แววตามันแสดงออกไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

ไม่เนียนไปเรียนมาใหม่!

“ฟิตขนาดนี้กะเอาแชมป์เลยใช่ไหม เจ้าไท” ป๋าปรีชาเอ่ยแซวอย่างสนุกปาก ส่วนฝ่ายนั้นก็ได้แต่ยิ้มรับเล็กน้อยตามฉบับ

“มันไม่ได้ฟิตอะไรหรอกป๋า แต่เมื่อคืนได้กำลังใจดีเช้านี้เลยดีดไปหน่อย” หมอกนั่งกอดอกแซวอย่างอารมณ์ดี

“จากสาวคนไหนล่ะ” แกหัวเราะอย่างรู้ทัน เป็นที่รู้กันว่าลูกชายบ้านนี้น่ะแต่ละคนก็ไม่เบากันทั้งนั้นในเรื่องเจ้าชู้ ดีหน่อยที่เจ้าเมฆเป็นฝั่งเป็นฝาไปแล้วจะเหลือแต่ไอ้เสือร้ายสองคนนี่ล่ะที่ยังลอยลม...ได้ข่าวว่าตอนที่อยู่อเมริกาก็เนื้อหอมไม่เบาสาวๆ ติดตรึม

“อู้ยย พูดไปเดี๋ยวจะหาว่าผมใส่ร้ายเพื่อน” หมอกพยายามกลั้นขำเพื่อไม่ให้มีพิรุธโดยมีน้องปั้นหยาเสริมช่วยอีกแรง...ส่วนไอ้หมวยน่ะเหรอดูสายตาก็รู้ว่าอยากจะเข้ามาตะครุบปากเขาแค่ไหน “แถวนี้แหละไม่ใกล้ไม่ไกล”

“หนูขอไปปิ้งขนมปังก่อนนะ” น่านฟ้าลุกขึ้นยืนท่ามกลางบทสนทนาก่อนจะเดินออกไปทันทีโดยไม่รอฟังคำพูดของเฮียอีก

ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ!

“อย่าไปฟังไอ้หมอกมันมาก” ในระหว่างที่กำลังยืนรอขนมปังจากเครื่องปิ้งอยู่นั้นเสียงทุ้มต่ำก็ดังขึ้นอยู่ในระยะประชิด น่านฟ้าเผลอเม้มปากแน่นเมื่อได้กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคย ไออุ่นจากแผ่นอกกว้างแผ่ออกมาเมื่อแผ่นหลังเฉียดสัมผัสเพียงเสี้ยววินาที แต่เพียงเท่านั้นก็มากพอแล้วที่จะทำให้จังหวะชีพจรในกายสะดุดได้โดยง่าย

“อะไรเล่า” เจ้าตัวเอาแต่ก้มหน้างุดโดยที่ลืมสนใจขนมปังปิ้งในเครื่องจนใครอีกคนต้องเอื้อมมือไปคีบมาวางไว้บนจากให้แทน

“มันก็พูดไปเรื่อย” แทนไทยกยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าน้องมองเลยไปที่อื่น “ยิ่งมันเห็นว่าน่านโมโหมันก็ยิ่งอยากแกล้ง”

“ไม่ได้โมโหสักหน่อย” น่านฟ้ายกแขนขึ้นกอดอกก่อนจะเงยหน้ามองอีกฝ่าย พลันสายตาก็เผลอจับจ้องไปที่ริมฝีปากได้รูปก่อนความทรงจำเมื่อวานจะย้อนกลับมาจนต้องเบือนหน้าหนีออกไปอีกทางพร้อมทั้งความรู้สึกที่ร้อนจัดบริเวณสองข้างแก้ม “…ถอยออกไปเลย ยืนใกล้ขนาดนี้เดี๋ยวก็โดนล้ออีกอะ” เจ้าตัวบ่นอุบอิบพร้อมทั้งสลับมองไปที่โต๊ะอาหารเป็นระยะ แต่พอเห็นว่าทุกคนกำลังสนใจกับบทสนทนาอยู่ก็โล่งใจที่อย่างน้อยจะได้ไม่ถูกเฮียหมอกกับน้องหยาจ้องจับผิดอีก

“รอขนมปังอยู่” แทนไทยกยิ้มเมื่อเห็นว่าน้องมองค้อนมา

“กินของน่านก็ได้ น่านกินไม่หมดหรอก” ขนมปังปิ้งที่อยู่ในจานถูกยื่นส่งไปให้เพราะยังรู้สึกไม่ค่อยหิวนัก...เช้าๆ แบบนี้กินอะไรยังไม่ลงซะด้วยสิ

“แค่นั้นไม่อิ่มหรอก” แทนไทรับมาถือเอาไว้ นัยน์ตาคมเข้มก้มลงมองเรียวปากที่ถูกเคลือบเอาไว้ด้วยลิปสติกสีสวยก่อนจะรู้สึกแห้งผากในลำคอเมื่อความต้องการบางอย่างมันตีรวนขึ้นมาอีกครั้ง

“กินเยอะ” น้องแกล้งแซวทั้งที่ใบหน้าเริ่มขึ้นสีคงเพราะรับรู้ได้ถึงความหมายบางอย่างที่เขาต้องการจะสื่อผ่านทางสายตา แทนไทเอื้อมไปหยิบขนมปังปิ้งออกมาจากเตาและยกมือขึ้นแตะบนริมฝีปากนุ่มนิ่มนั่นเพียงแค่เสี้ยววินาที ก่อนจะเดินกลับโต๊ะไปโดยที่ปล่อยให้ใครอีกคนยืนหน้าร้อนเสียยิ่งกว่าขนมปังในเตาปิ้ง

‘...หมายถึงตรงนี้...ไม่ใช่ขนมปัง’













“หนูอยากนั่งกับป๋า” ระหว่างที่กำลังรอขึ้นเรืออยู่ที่ท่าป๋าปรีชาก็ถูกรบเร้าจากลูกคนเล็กเพราะเจ้าตัวตามติดแจ น้องน่านเป็นอย่างนี้เสมอเวลาที่จะขึ้นเรือ เป็นมาตั้งแต่สมัยยังตัวเล็กๆ ถ้าไม่นั่งกับเขาก็ต้องนั่งกับหม่าม้าตลอดเพราะเจ้าตัวให้เหตุผลแค่ว่ารู้สึกปลอดภัยมากกว่าถ้าได้นั่งใกล้ป๋ากับม้า

“โตแล้วยังจะกลัวอยู่อีก” หมอกเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับยกนิ้วขึ้นจิ้มแก้มไอ้หมวยไปทีแต่ก็ถูกมันปัดออกด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความรำคาญ “มานั่งกับเฮียก็ได้ ป๋ากับม้าจะได้สวีทกัน”

“ไม่ได้กลัวสักหน่อย” น่านฟ้าส่ายหน้าปฏิเสธโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด “ถ้าให้นั่งกับเฮียหนูนั่งคนเดียวดีกว่า”

“เรื่องมาก” แกล้งแหย่มันไปอีกทีก่อนจะต้องร้องอู้ออกมาเมื่อถูกตีเข้าที่ต้นแขน

“สองคนนี้นี่จริงๆ เลย” หม่าม้าเข้ามาห้าม “หมอกก็ชอบแกล้งน้อง ไปเลยไปนั่งท้ายเรือนู่นไป”

“ม้าลำเอียงอะ” หมอกบ่นเล็กน้อยก่อนจะปีนเรือขึ้นไปนั่งที่เบาะหลังสุดแล้วชี้นิ้วคาดโทษไปยังไอ้ตัวแสบเมื่อเห็นมันแลบลิ้นมาให้อย่างสะใจที่เขาถูกหม่าม้าด่า

“สรุปหนูจะนั่งกับป๋าใช่ไหม” ป๋าปรีชาหันมาถามย้ำอีกครั้ง พอเห็นว่าเจ้าตัวพยักหน้ายืนยันก็ยิ้มออกมาก่อนจะยกมือขึ้นลูบหัวอย่างรักใคร่...ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ แต่ในฐานะคนเป็นพ่อก็รู้สึกดีใจเสมอที่ยังคงเป็นที่ต้องการของลูกแม้ว่าลูกจะโตขนาดนี้แล้วก็ตาม

แต่ก็แค่กับน้องน่านเท่านั้นล่ะนะ

ลองเป็นเจ้าเมฆกับเจ้าหมอกก็คงถูกด่าเปิดเปิงไปเป็นที่เรียบร้อย...ยอมรับเลยว่าลำเอียงและสองมาตรฐานสุดๆ

“ป๋าดูนี่สิ ป๋าว่าสวยไหมคะ” น่านฟ้ายกโทรศัพท์ขึ้นมาอวดรูปที่เพิ่งไปถ่ายมาเมื่อวานให้คนที่นั่งอยู่ข้างกันดูในระหว่างที่รอเรือออกจากท่า ก่อนสายตาจะลอบมองไปยังใครบางคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกันพอดี แทนไทกำลังคุยกับเด็กคุมเรือด้วยภาษาถิ่นจนฟังตามแทบไม่ทัน

“หมายถึงหนูหรือวิวล่ะ” ป๋าปรีชาถามกลับอย่างรู้ทัน

“หนูซี่~” เจ้าตัวแสบยิ้มแป้นเมื่อถูกหอมแก้มจนหน้ายู่ก่อนจะซบลงที่อกคนเป็นพ่ออย่างออดอ้อน

“สวยครับ ว่าแต่ใครถักเปียให้หนู น้องหยาเหรอ” คำถามนี้ทำเอาน่านฟ้าถึงกับไปไม่เป็น แต่ยังไม่ทันที่จะได้ตอบใครอีกคนที่นั่งอยู่ระหว่างแม่เดือนกับหม่าม้าก็ยิ้มแป้นพร้อมนำเสนอฝีมือพี่ชายตัวเองอย่างภาคภูมิใจ

“พี่ไทค่ะ พี่ไทเป็นคนเปียผมให้พี่น่าน”

…ปั้น...หยา....

“ไม่ยักรู้ว่าเจ้าไททำเป็น” ป๋าปรีชาหัวเราะเสียงต่ำก่อนจะหันไปมองคนที่ตกเป็นหัวข้อในการสนทนา แต่ฝ่ายนั้นก็ทำเพียงแค่นั่งนิ่งไม่หือไม่อือ

“ไทเขาเปียผมสวยกว่าเดือนอีกนะพี่ เจ้าหยาติดมือไปเลย” แม่เดือนช่วยเสริมให้ ทั้งยังยกยิ้มขึ้นมาอย่างเอ็นดูเมื่อเห็นว่าน้องน่านเอนซบลงไปที่ไหล่คนเป็นพ่อจนแก้มบี้แบน

“ขนาดนั้นเชียว” แกพยักหน้ารับก่อนจะยกแขนขึ้นโอบรอบไหล่ลูกคนเล็กเอาไว้พร้อมกับกดจูบลงบนกลุ่มผมนุ่มอย่างหวงแหน “หน้าหนูแดงหมดแล้ว นั่งฝั่งป๋าแดดมันร้อนนะ ไปนั่งกับหม่าม้าเขาดีกว่า”

“ไม่เห็นจะร้อนเลยค่ะ” น่านฟ้าขมวดคิ้วมุ่นอย่างสงสัย แต่สุดท้ายก็ยอมลุกไปนั่งที่หัวเรือข้างหม่าม้าตามที่ป๋าสั่ง

“…โป๊ะแตก” เหตุการณ์ตรงหน้าทำให้หมอกสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะเอียงตัวไปกระซิบกับคนข้างกายให้ได้ยินกันแค่สองคน “ซวยแล้วมึง”

“…”

“ซุบซิบอะไรกันสองคน” เสียงของผู้ที่มีอำนาจที่สุดในบ้านนันพิวัฒน์เอ่ยถามเมื่อเห็นว่าลูกชายสองคนนั่งชิดกันเป็นพิเศษ คุณปรีชายกขาขึ้นนั่งไขว่ห้างด้วยท่าทางที่ผ่อนคลายก่อนจะเลิกคิ้วถามเมื่อเห็นว่าเจ้าหมอกยิ้มแหยออกมา

“ไม่มีอะไรป๋า แหะ วันนี้อากาศดี๊ดีนะป๋าว่าไหม” หมอกยกมือขึ้นลูบท้ายทอยเมื่อรู้สึกเสียววาบที่สันหลัง

เป็นร้อนๆ หนาวๆ แปลกๆ เหมือนจะโดนติดร่างแหไปด้วยยังไงไม่รู้...

“จะไม่ดีก็เพราะเอ็งนี่แหละ” ป๋าปรีชาถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย “ไปนั่งชิดอะไรเจ้าไทขนาดนั้น อากาศร้อนจะตายห่า”

“อะไรป๋า ผมกับไอ้ไทจะรักกันบ้างไม่ได้ไง๊ ทีไอ้หมวยมันนั่งจนแทบจะเกยตักป๋าแล้วยังไม่เห็นป๋าจะบ่น ไหนความยุติธรรมอยู่ไหน ในประเทศนี้มันยังมีอยู่ไหมฮึ” ยิ่งพูดก็เหมือนยิ่งยุนอกจากจะไม่ขยับออกแล้วหมอกยังกอดแขนกอดขาอีกฝ่ายแน่นหนึบ ซึ่งไอ้ไทเองก็ไม่ได้ปฏิเสธหรือผลักไสเขาออกไปแต่อย่างใด

“ก็นั่นลูกกู”

“อะไรวะ ผมไม่น่ารักแบบไอ้หมวย แล้วผมไม่ใช่ลูกป๋าเหรอ!” หมอกแสร้งโวยวายด้วยอินเนอร์ของนักแสดงจากละครชื่อดัง ก่อนจะเปลี่ยนฝั่งไปนั่งข้างคนเป็นพ่อแทนพร้อมกับยกแขนยกขาขึ้นกอดพันเสร็จสรรพ “ไหนมันยังไงนะ มันจะร้อนขนาดไหนกันเชียว วัดใจกันหน่อยซิ”

“กวนตีน” ถึงจะว่าอย่างนั้นแต่สุดท้ายก็ยอมให้ไอ้ลูกคนรองมันนั่งเกาะแกะไปตลอดทาง

“ไม่เจ็บหรอกนะแค่นี้ ซาดิสก์ ชอบโดนเสียดสี” ว่าไว้แค่นั้นก็เอียงหัวซบอกป๋าเลียนแบบไอ้หมวยมันซะเลย แต่สิ่งที่ได้กลับมาแทนที่จะเป็นการลูบหัวอย่างเอ็นดูกลับถูกตบจนมึน “ป๋าอะ! วู้ว ตบหัวทำไม เดี๋ยวผมก็ฉี่ใส่ที่นอนหรอก” หมอกบ่นเสียงเล็กเสียงน้อยก่อนจะเอาหัวมุดอกอีกฝ่ายไปมาจนได้ยินเสียงถอนหายใจยาวเหยียดอย่างเบื่อหน่าย

...นี่ยอมเสียสละขนาดนี้ก็เพื่อเปลี่ยนความสนใจป๋าเลยนะ...กูทำเพื่อมึงขนาดนี้เลยนะเพื่อนไทเห็นใจกูบ้าง...


(ต่อด้านล่าง)

ออฟไลน์ Punmile09

  • '...Cause we were just kids when we fell in love...'
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-4


“สวยจัง” ทันทีที่เท้าเหยียบลงบนผืนทรายสีขาวรอยยิ้มก็ปรากฏกว้าง น่านฟ้ากวักมือเรียกใครอีกคนที่เดินตามกันมาอย่างตื่นเต้น “หยาไปถ่ายรูปกันๆ”

“คนเยอะม้ากก” ปั้นหยาเดินมาจับมืออีกฝ่ายไว้ก่อนจะขอแยกตัวออกไปถ่ายรูปกันแค่สองคน “น่าจะให้พี่ไทมาช่วยถ่ายให้เนอะ”

“พอเลย เมื่อวานตัวเองก็ทิ้งพี่” น่านฟ้าย่นจมูกใส่น้องก่อนจะเอื้อมมือไปดึงแก้มจนยืดอย่างนึกมันเขี้ยว

“ก็นึกว่าอยากได้เวลาส่วนตัวกันแค่สองคนอะไรแบบนี้ โอ๊ยๆ พี่น่าน เล็บๆ” ปั้นหยาแกล้งเจ็บเกินจริงจนคนพี่ตาโตอย่างตกใจก่อนจะรีบเข้ามาดูด้วยความเป็นห่วง

“พี่ขอโทษ” น่านฟ้ามองรอยเล็บบนแก้มน้องด้วยความรู้สึกผิด แต่ยังไม่ทันที่จะได้ยกมือขึ้นแตะก็ถูกเจ้าตัวแสบคว้าคอเข้าไปใกล้ก่อนจะกดชัตเตอร์กล้องรัวๆ จนพอใจ “หยา!”

“อะไรเล่า น่ารักออก” ปั้นหยาชูกล้องขึ้นสุดแขนเมื่อเห็นว่าฝ่ายนั้นยกมือขึ้นแย่ง แต่โทษทีพี่น่านน่ะเตี้ยกว่าหยาเยอะ “หน้าบึ้งเลย โอ๋ๆ”

“หยาอะ”

“โอเคๆ ไม่แกล้งแล้ว” ยกมืออย่างยอมแพ้ก่อนจะส่งกล้องไปให้เพราะกลัวว่าพี่น่านจะงอนขึ้นมาจริงๆ ...ถึงจะแอบเสียดายที่ไม่ได้แกล้งต่อก็เถอะ

ทำไมเป็นที่แกล้งสนุกได้ขนาดนี้ก็ไม่รู้ ยิ่งเวลาที่เห็นว่าแก้มขาวๆ ขยับไปมาเวลาเจ้าตัวบ่นก็ยิ่งอยากจะจับมาฟัดให้หายมันเขี้ยว...นี่พี่ไทอดทนและห้ามใจตัวเองมานานขนาดนี้ได้ยังไงไม่เข้าใจเลยจริงๆ ...

“ทำอะไรกัน” เสียงทุ้มที่ดังขึ้นอยู่เหนือศีรษะทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็ได้เห็นว่าเป็นใครอีกคนที่เดินเข้ามาใกล้จนสามารถบดบังไอร้อนจากแดดในช่วงเกือบจะเที่ยงเอาไว้ได้จนมิด

“หยาแกล้ง” น่านฟ้าถือโอกาสฟ้องก่อนจะต้องหดคอลงเมื่อถูกอีกฝ่ายวางมือลงบนศีรษะพร้อมกับอะไรบางอย่าง พอยกมือขึ้นไปจับดูก็รับรู้ได้ว่าเป็นหมวกแก๊ปที่เจ้าตัวพกติดตัวมาด้วย

“อากาศมันร้อน ใส่เอาไว้” แทนไทเคาะนิ้วลงตรงปีกหมวกเมื่อเห็นว่าน้องเงยหน้าขึ้นมามองอย่างสงสัย

“ทำไมไม่เอาให้น้อง” พอตั้งท่าจะถอดปั้นหยาก็รีบโบกมือปฏิเสธทันที

“แดดแค่นี้เองไม่เป็นไรหรอก พี่น่านใส่เถอะ หยาทนได้” น้องยิ้มกว้างก่อนจะมองเลยไปยังคนที่ยืนอยู่ด้านหลังพี่ชายตัวเอง “พี่หมอกน่าจะใส่หมวกด้วยนะคะ หน้าแดงหมดแล้วเดี๋ยวไม่สบายนะ” เจ้าตัวยกนิ้วขึ้นชี้ที่ข้างแก้มเป็นเชิงบอกก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเมื่อฝ่ายนั้นยกมือขึ้นลูบตาม

“เฮียไม่ป่วยง่ายๆ หรอกหยา หนังหนาขนาดนี้” น่านฟ้าแลบลิ้นใส่พี่ชายก่อนจะร้องกรี๊ดออกมาเมื่อถูกฝ่ายนั้นพุ่งตัวเข้ามาใกล้ แต่นอกจากเฮียจะทำอะไรไม่ได้แล้วยังทำได้แค่ยืนเขม่นตาเขียวปั๊ดเพราะใครอีกคนเบี่ยงตัวมาบังกันเอาไว้จนมิดเลยทำให้รอดจากการถูกเอาคืน

“ไท เฮียแกล้งน่านอะ” น่านฟ้าขยับเข้าไปใกล้จนสัมผัสได้ถึงไอร้อนจากแผ่นอกกว้าง ระยะห่างที่เหลือน้อยนิดทำให้ได้กลิ่นน้ำหอมประจำกายของอีกฝ่าย

“ไอ้ห่าเอ๊ย มึงติดบุญคุณกูตอนอยู่บนเรือนะ!” หมอกพูดอย่างขัดใจซ้ำยังเตะทรายใส่มันไปหนเพื่อเอาคืน

แต่เพราะลมที่พัดวูบมาพอดีเลยทำให้เศษทรายบางส่วนปลิวขึ้นบนอากาศ โชคดีที่ไม่มีนักท่องเที่ยวคนอื่นอยู่ใกล้บริเวณนี้ ไม่อย่างนั้นคงถูกสรรเสริญพ่อแม่อย่างถึงพริกถึงขิงแน่นอน

“อื้อ! เฮียอะ” น่านฟ้ารีบหลับตาลงเมื่อรู้สึกได้ว่ามีเศษของทรายลอยปลิวเข้ามาในตา เจ้าตัวจะยกมือขึ้นขยี้เมื่อเริ่มรู้สึกระคายเคืองแต่ข้อมือกลับถูกใครบางคนดึงรั้งเอาไว้ก่อน

“อย่าขยี้” เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นในระยะประชิดก่อนสัมผัสจากปลายนิ้วใหญ่จะวางลงบนแก้มแผ่วเบา

“ไอ้หมวย เฮียขอโทษ” หมอกเดินเข้ามาใกล้อย่างเป็นห่วงน้อง ที่จริงเข้าตั้งใจเตะทรายใส่ไอ้ตัวนั้นแต่ลมมันเสือกพัดเข้ามาพอดีเลยทำให้น้องพลอยโดนลูกหลงไปด้วย นี่ถ้าป๋ากับม้ารู้คงโดนด่าจนหูชา

“คันอะ แสบด้วย” น่านฟ้าบ่นเมื่อไม่สามารถยกมือขึ้นขยี้ตาได้ตามที่ต้องการ

“หยา มีทิชชูหรือผ้าเช็ดหน้าไหม” แทนไทหันไปถามน้องก่อนจะรับห่อทิชชูมาถือเอาไว้แล้วก้มลงมองคนที่อยู่ตรงหน้า “น่าน ลืมตาขึ้นหน่อย”

“ฮื่อ คัน”

“นิดเดียว...นะครับ” แทนไทยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยเมื่อน้องยอมทำตามอย่างว่าง่าย “กะพริบตาด้วย” กระดาษทิชชูถูกนำมารองเอาไว้ที่ขอบตาล่างเพื่อกันไม่ให้หยดน้ำตาไหลเปื้อนลงมาที่แก้ม

น่านฟ้าทำตามคำสั่งของใครอีกคนก่อนหยดน้ำตาจะร่วงลงมาทีละนิดเพื่อขับสิ่งแปลกปลอมออกมาจากดวงตา ลมหายใจอุ่นร้อนของใครบางคนที่รินรดลงบนผิวแก้มในระยะประชิดทำให้รู้สึกประหม่าจนต้องเม้มปากเอาไว้จนรอยบุ๋มที่ข้างแก้มปรากฏขึ้น

“ออกหรือยัง” แทนไทเอ่ยถามน้องอย่างเป็นห่วงพร้อมกับมองสังเกตอาการไปด้วย

“อื้อ ออกแล้ว” น่านฟ้าพยักหน้ารับ “ขอบคุณนะ”

“เอาไว้กลับโรงแรมค่อยไปล้างอีกรอบ” ร่างสูงใหญ่ยืดกายขึ้นกลับไปยืนเต็มความสูงก่อนจะยื่นกระดาษทิชชูให้อีกฝ่ายซับคราบน้ำตาที่หลงเหลืออยู่ออก “อย่าขยี้ เดี๋ยวตาแดง” เสียงทุ้มเข้มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าน้องกำลังจะยกมือขึ้นขยี้ตา

“รู้แล้วน่า”

“ถ้ารู้สึกระคายเคืองรีบบอกนะ”

“โอเค” น่านฟ้ารับปากก่อนจะย่นคอลงเมื่อถูกวางมือลงบนศีรษะ

“เฮียขอโทษนะ” คนที่ดูไร้บทบาทมานานแทรกเข้ามากอดจากทางด้านหลังแล้ววางคางลงไปบนกลุ่มผมนุ่ม

“เฮีย คนมองหมดแล้ว” เจ้าตัวเล็กพยายามดิ้นขัดขืนออกจากอ้อมแขนแต่ดูท่าแล้วคุณพี่ชายจะยังคงอยากเล่นใหญ่อยู่เลยไม่ยอมปล่อยกันไปง่ายๆ

“หายโกรธยัง” หมอกวางคางบนไหล่น้องก่อนจะแนบแก้มเข้าด้วยกันเหมือนอย่างที่ชอบทำเวลาที่ไอ้หมวยมันงอน...ทริคนี้เจ้าตัวมักจะชอบใช้กับเฮียเมฆเวลาที่ฝ่ายนั้นงอนเขาเลยขอลอกเลียนแบบมาอีกที หนึ่งเพราะอยากง้อน้องและสอง...แค่อยากเยาะเย้ยหมาบางตัวที่ทำได้แค่มอง

ไงล่ะ...อิจฉากูอะเด่ะ อิธ่อว

“ไม่ได้โกรธซะหน่อย เฮียปล่อยนะ หนูอึดอัด” น่านฟ้าพยายามแกะท่อนแขนที่เกาะเกี่ยวอยู่รอบเอวออกก่อนจะต้องหน้ายู่เมื่อถูกหอมแก้มฟอดใหญ่จนแก้มแทบหลุดติดออกไป “โอเคๆ หนูไม่โกรธแล้วๆๆๆ”

“น่ารักที่สุด น้องใครก็ไม่รู้” หมอกยกมือขึ้นบีบแก้มนุ่มนิ่มไปมาอย่างนึกมันเขี้ยวสลับมองไปทางใครอีกคนที่ยืนตีหน้านิ่งอยู่ตรงข้ามด้วยความสะใจ “แก้มนุ้มนุ่ม ตัวก็นิ่มแถมหอมอีกต่างหาก”

“เฮีย...หนูขนลุก” น่านฟ้าและปั้นหยาหลุดขำออกมาอย่างไม่สามารถห้ามเอาไว้ได้ เพราะใครอีกคนเล่นใหญ่เกินไป

“ขนลุกอะไร หยาบคายว่ะหมวย” หมอกคลายอ้อมกอดออกก่อนจะแสร้งตีหน้าเข้ม “รู้ไหมว่าอ้อมกอดเฮียเนี่ยมีแต่คนอยากซบนะจะบอกให้” ก็ยังโม้ต่อไม่หยุด

“ค่า รู้แล้วว่าฮอตปรอทแตก” น่านฟ้าพยักหน้ารับก่อนจะปลีกตัวเดินไปยืนอยู่ข้างปั้นหยา “เราไปกันเถอะ ปล่อยให้คนฮอตๆ เขาบริหารเสน่ห์ต่อไป”

“พี่หมอกคงเจ้าชู้ไม่เบาเลยนะคะเนี่ย” ปั้นหยายิ้มออกมาอย่างนึกขบขันแต่เพียงเท่านั้นก็ทำให้ตัวต้นเหตุรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก พอหันไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่แสนดีมันก็ทำเพียงแค่ยกยิ้มมุมปากขึ้นก่อนจะเดินนำออกไปทิ้งให้เขาต้องเผชิญชะตากรรมอยู่คนเดียว

...แม่ง..

“คือ...”

“โอ๊ย พูดไปเดี๋ยวหาว่าใส่ร้ายพี่ชายตัวเอง” น่านฟ้ายกยิ้มขึ้นอย่างอารมณ์ดีเมื่อได้โอกาสเอาคืนเรื่องเมื่อเช้า “ไปกันดีกว่าหยา อย่าอยู่นี่เลยเดี๋ยวมีคนเรตติ้งตก”

“ไอ้หมวย!” หมอกทำได้แค่ฟึดฟัดอยู่กับตัวเองก่อนจะเดินตามหลังทั้งสองคนไปเงียบๆ

เออ! จำไว้เลย!













กว่าจะเดินทางกลับมาถึงโรงแรมก็ห้าโมงเย็นเข้าไปแล้ว ทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับห้องไปอาบน้ำเพื่อลงมาทานมื้อเย็นที่ห้องอาหารของทางโรงแรมในเวลาหนึ่งทุ่มตรง ก่อนจะกลับไปพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้

“ไม่อยากกลับเลยอะ ขี้เกียจไปเรียน” ปั้นหยาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างเกียจคร้านพร้อมงอแงออกมา “...เดี๋ยวพี่ไทกับพี่น่านก็ต้องกลับแล้วด้วย” เจ้าตัวแสบคว้าหมอนเข้ามากอดเอาไว้เมื่อจู่ๆ ก็รู้สึกวูบโหวงขึ้นมาในอกจนคนพี่ต้องนั่งลงบนเตียงข้างกันแล้วยกมือขึ้นลูบหัวเพื่อปลอบใจ

“เดี๋ยวเดือนหน้าไทก็กลับมาแล้วนี่” น่านฟ้ายิ้มอย่างเอ็นดูเมื่อน้องยกหมอนขึ้นมาปิดหน้าโผล่มาให้เห็นแค่ตา

“แล้วพี่น่านจะมาด้วยไหม” น้องขยับตัวขึ้นมานอนหนุนตักอย่างออดอ้อน

“อืม...ก็คงต้องดูก่อนนะว่าจะเคลียร์งานเสร็จทันหรือเปล่า” ที่ยังไม่กล้ารับปากน้องไปเพราะคิวงานเดือนหน้านั้นค่อนข้างเยอะพอสมควร ถึงจะเป็นฟรีแลนซ์แต่ก็ใช่ว่าจะว่างซะเมื่อไหร่ กลับไปจากกระบี่รอบนี้ยังมีงานอีกหลายชิ้นรอให้เคลียร์เป็นกองภูเขา

“มาเถอะนะ มาหาหยา ไปดูพี่ไทด้วยกัน” น้องคว้ามือไปกอบกุมก่อนจะซุกหน้าเข้ามาที่แผ่นท้องจนต้องหลุดขำเมื่อรู้สึกจั๊กจี้

“พี่ไม่ชอบสนามมวยนี่ หยาก็รู้” น่านฟ้าถือโอกาสจิ้มแก้มน้องเล่นไปเพลินๆ ถึงจะเป็นตัวแสบแต่น้องก็ยังเป็นแค่เด็กมัธยมปลายที่กำลังเริ่มเติบโตขึ้นตามวัย ฉะนั้นแล้วในสายตาของทุกคนปั้นหยาก็ยังคงเป็นน้องสาวตัวเล็กๆ ที่ชอบพูดเจื้อยแจ้วสร้างรอยยิ้มให้คนที่อยู่รอบตัวเสมอ

จะยกเว้นก็แต่ใครบางคนที่เริ่มมองน้องเปลี่ยนไปนั่นล่ะ...วางใจไม่ได้แล้วงานนี้...

“ก็...มาให้กำลังใจพี่ไทไง น้า~ ถ้าพี่น่านมาพี่ไทชนะน็อคแน่ๆ อะหยามั่นใจ” ปั้นหยายังคงรบเร้าไม่เลิก ก่อนจะต้องหลุดยิ้มกว้างออกมาเมื่ออีกฝ่ายพยักหน้าตกลง “เย้! พี่น่านน่ารักที่สุด”

“เว่อร์” น่านฟ้าหยิกแก้มน้องไปทีด้วยความมันเขี้ยวจนเจ้าตัวหน้ายู่

“พี่น่าน” จู่ๆ ปั้นหยาก็เด้งตัวขึ้นมานั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงอย่างกระตือรือร้นจนคนพี่เริ่มตามอารมณ์ไม่ทัน

“ว่าไง”

“ไปเล่นน้ำกัน”

“ห้ะ” น่านฟ้าเลิกคิ้วขึ้นอย่างงุนงง “ตอนนี้เนี่ยนะ?” พอกดเปิดดูหน้าจะโทรศัพท์มือถือก็เห็นว่าอีกเพียงแค่ไม่กี่นาทีก็จะสามทุ่มแล้ว

“อื้อ ทำไมอะ” ปั้นหยาลุกขึ้นยืนก่อนดึงอีกฝ่ายออกมาจากเตียง “สระน้ำของโรงแรมตอนกลางคืนสวยมากเลยนะ คนก็ไม่ค่อยมี”

“เวลานี้ใครเขาจะไปเล่นน้ำกันเล่า” ถึงจะแย้งอย่างนั้นแต่ก็ยอมรับชุดว่ายน้ำมาจากน้องแต่โดยดี

“ไปถ่ายรูปเฉยๆ ก็ได้นะๆๆๆ แสงมันสวยอะ พรุ่งนี้ต้องกลับแล้วน้า” ปั้นหยาอ้อน “อีกอย่างพี่น่านยังไม่ได้ใส่วันพีชชุดนั้นเลย หยาอยากเห็น”

“นี่คือจุดประสงค์หลักใช่ไหมเนี่ย” น่านฟ้าหลุดขำออกมาเมื่อเห็นประกายตาบางอย่างอยู่ในแววตาน้อง

“โดนรู้ทันจนได้” เจ้าตัวอมยิ้มจนแก้มปริก่อนจะดันหลังคนพี่ให้เข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำสลับกับมองนาฬิกาข้อมือ

...ใกล้ถึงเวลาแล้ว

สระว่ายน้ำของทางโรงแรมนั้นค่อนข้างเงียบสงบ จะมีก็เพียงแต่เสียงดนตรีจากบาร์ที่อยู่ติดกับทางร้านอาหารที่ดังคลอแผ่วเบามาเป็นระยะ แสงไฟจากทางเดินบริเวณชานไม้และพุ่มไม้บางจุดช่วยเสริมให้บรรยากาศรอบด้านนั้นดูร่มรื่นและผ่อนคลายท่ามกลางวิวทิวทัศน์จากภูเขาที่ถูกแสงของดวงจันทร์ส่องกระทบ

“สวยจัง เริ่มไม่อยากกลับจริงๆ แล้วนะเนี่ย” ปั้นหยายิ้มกว้างด้วยสีหน้าเจือความสุขในระหว่างที่กำลังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกก่อนจะลอบมองคนที่ยืนอยู่ข้างกัน พี่น่านถอดเสื้อคลุมวางไว้บนเก้าอี้ข้างสระน้ำเป็นที่เรียบร้อย เหลือเพียงแค่กางเกงขาสั้นที่ปกปิดท่อนล่างเอาไว้ เจ้าตัวกำลังมัดรวบผมขึ้นเก็บเป็นหางม้า ผิวขาวสว่างทีตัดกับสีดำของชุดว่ายน้ำทำให้ยากที่จะถอนสายตาออกไปได้

...บิกินี่สีชมพูตัวนั้นก็ว่าน่ารักแล้ว...แต่ชุดนี้มันเซ็กซี่เอามากๆ เลย ขนาดหยาเป็นผู้หญิงยังมองเพลินไปหมด

ชุดวันพีทสีดำแบบผูกที่หลังคอเว้าหลังลึกลงไปถึงช่วงสะโพกเล็ก ยิ่งใส่ผ้าแนบเนื้อแบบนี้เอวพี่น่านก็ยิ่งดูเล็กคอดเข้าไปอีก ช่วงหน้าอกที่มีฟองน้ำเสริมช่วยทำให้เนินเนื้อบริเวณนั้นนูนขึ้นมาเล็กน้อย

นี่ขนาดมีนิดเดียวยังรู้สึกเซ็กซี่มากขนาดนี้...ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าพี่น่านดูมขึ้นมามันจะขนาดไหน...

“มองอะไรเล่า อย่าปล่อยให้พี่ถอดคนเดียวสิ” น่านฟ้าถอดกางเกงขาสั้นออกไปวางทับไว้บนเสื้อ ทำให้เห็นเรียวขาขาวเนียนเกลี้ยงเกลาจนน่าอิจฉา...แม้แต่ขนหน้าแข้งสักเส้นยังไม่มี

“คือ...หยาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าลืมโทรศัพท์ไว้บนห้องอะ” ปั้นหยายิ้มแหยออกมา ก่อนจะมองเลยไปทางด้านหลังพี่น่านเมื่อเห็นว่าใครบางคนกำลังเดินเข้ามาทางสระว่ายน้ำ

..ช้าจริงๆ เลยพี่ไทเนี่ย…

“เดี๋ยวหยาขึ้นไปเอาโทรศัพท์ก่อนนะ แป๊บเดียว” พูดทิ้งท้ายเอาไว้แค่นั้นก็วิ่งแจ้นออกไปทันทีโดยไม่รอฟังเสียงทักท้วงจากคนพี่

“หยา เดี๋ยว-” น่านฟ้าอ้าปากค้างเอาไว้เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวแสบหายเข้าไปทางล็อบบี้ของโรงแรมแล้วเป็นที่เรียบร้อย จะตามไปก็ไม่ทันเพราะตอนนี้สภาพของตัวเองนั้นไม่ค่อยจะเรียบร้อยสักเท่าไหร่นัก

แต่แล้วพอหมุนตัวกลับมาก็ทำให้ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นว่ามีใครบางคนกำลังเดินเข้ามาหา

…ปั้นหยา...นี่เป็นแผนอีกแล้วใช่ไหม...

“น่าน?” ฝ่ายนั้นคิ้วขมวดขึ้นเล็กน้อย “ลงมาทำอะไรตอนนี้” แทนไทถามเสียงเข้มก่อนจะหยุดมองเมื่อเพิ่งสังเกตเห็นว่าชุดว่ายน้ำของน้องนั้นมันเว้าลึกมากขนาดไหน แล้วก็ต้องรีบเบือนสายตาออกไปทางอื่นเมื่อรู้สึกว่าเผลอจับจ้องอีกฝ่ายนานเกินไป

“คือ...หยาชวนลงมาอะ” น่านฟ้าเม้มปากเมื่อรู้สึกประหม่าที่ต้องอยู่ต่อหน้าอีกฝ่ายในสภาพที่ไม่เรียบร้อยสักเท่าไหร่นัก...รอบที่แล้วใส่บิกินี่ก็จริงแต่ก็ยังมีกางเกงขาสั้นใส่ปิดท่อนล่างเอาไว้ แต่รอบนี้...

“แล้วหยาไปไหน”

“น้องขึ้นไปเอาโทรศัพท์” ขยับตัวออกมาเล็กน้อย เมื่อคุณเขาถอดเสื้อยืดออกมาวางลงบนเก้าอี้ตัวเดียวกัน “แล้ว...แล้วไทล่ะ ลงมาทำอะไร”

“ว่ายน้ำ”

“หยาชวนเหรอ” ลองหยั่งเชิงถามดู เผื่อครั้งนี้จะเป็นแผนของเจ้าตัวแสบอีก

“เปล่า”

“แล้วทำไม...”

“สงสัยหยาจะได้ยินตอนกำลังคุยกับไอ้หมอก” แทนไทยืนยืดกล้ามเนื้อแขนและคอ สลับมองคนข้างกายไปด้วย “...น่านคงโดนหลอกอีกแล้ว” เสียงหัวเราะทุ้มต่ำดังขึ้นในลำคอเมื่อเริ่มตามแผนน้องตัวเองทัน เจ้าตัวคงรู้ว่าเขาจะลงมาว่ายน้ำตอนนี้เลยหลอกให้อีกฝ่ายลงมาด้วยกัน

“ตัวแสบ...” น่านฟ้าฟึดฟัดเมื่อรู้ตัวว่าถูกแกล้งเป็นรอบที่สองก่อนจะต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นว่าร่างสูงใหญ่ถอดกางเกงออกไปวางไว้ที่เก้าอี้เหลือเพียงแค่กางเกงว่ายน้ำขาสั้นเพียงตัวเดียว

“จะลงด้วยกันไหม” แทนไทเดินเข้าไปหาแต่ก็เว้นระยะห่างเอาไว้เพื่อไม่ให้น้องรู้สึกประหม่า

“ม...ไม่ลง” น่านฟ้าเบือนหน้าหนีออกไปอีกทางเมื่อรู้สึกร้อนจัดที่ใบหน้า

ไม่เห็น....ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น...สาบานได้...

เพียงไม่นานก็ได้ยินเสียงของน้ำที่ล้นออกมาจากขอบสระ พอหันกลับไปมองก็เห็นว่าฝ่ายนั้นออกว่ายไปที่อีกฝั่งแล้วเป็นที่เรียบร้อย น่านฟ้าถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกก่อนจะเดินไปที่ขอบสระอีกฝั่งแล้วนั่งหย่อนขาลงไปในสระเพื่อแช่น้ำเล่น

เรียวขาเล็กขยับตีไปมาจนผิวน้ำกระเพื่อมออกเป็นวงกว้างพร้อมกับมองบรรยากาศทิวทัศน์ไปเรื่อยเปื่อย นัยน์ตากลมโตทอดมองไปยังบริเวณรอบด้านก่อนจะมองตามใครอีกคนที่กำลังว่ายน้ำไปกลับอีกฝั่งอย่างเพลิดเพลิน รู้ตัวอีกทีฝ่ายนั้นก็หายไปจากระยะสายตาแล้วเป็นที่เรียบร้อย

แต่ในระหว่างที่กำลังชะเง้อหน้ามองหาอยู่นั้นผิวน้ำเบื้องหน้าก็มีการขยับเคลื่อนไหวก่อนใครอีกคนจะโผล่พ้นขึ้นมาเหนือน้ำกะทันหันจนต้องเผลอหลุดกรี๊ดออกมาด้วยความตกใจ

“ไท!” น่านฟ้าตีเข้าที่ช่วงบ่ากว้างอย่างไม่ออมแรง แต่ฝ่ายนั้นก็เอาแต่หัวเราะอย่างอารมณ์ดีที่สามารถแกล้งกันได้สำเร็จ

“เหม่อ” รอยยิ้มบางเบากดลึกข้างมุมปากในตอนที่เสยผมเปียกชื้นปรกใบหน้าไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะถือวิสาสะยึดข้อมือเล็กเอาไว้เมื่อน้องตีเข้ามาที่ต้นแขนอีกข้าง

“กำลังดูวิวอยู่ต่างหาก อื้อ ปล่อยนะ” น่านฟ้าพยายามยื้อมือกลับแต่ก็ไร้ผลเมื่อถูกกอบกุมเอาไว้แน่นก่อนจะโดนดึงเข้าไปใกล้จนหยดน้ำจากตัวอีกฝ่ายตกกระทบลงบนหน้าขา สัมผัสเย็นชืดตัดกับอุณหภูมิภายในร่างกายทำให้จังหวะชีพจรนั้นเต้นถี่ขึ้นเมื่อร่างสูงใหญ่เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้จนแผ่นอกกว้างแนบชิดกับหน้าขาเกลี้ยงเกลา

รอยสักที่อยู่บนผิวกายสีเข้มที่ถูกหยดน้ำเกาะพราวยิ่งเสริมให้อีกฝ่ายดูอันตรายมากยิ่งขึ้น

“น่าน”

“อ...อะไร” น่านฟ้าขานรับเสียงแผ่วก่อนจะก้มหน้างุดเมื่อฝ่ายนั้นวางแขนกักขังไว้ข้างลำตัวทั้งสองด้าน

“ยังเจ็บตาอยู่หรือเปล่า” ฝ่ายนั้นขยับเข้ามาจนลมหายใจอุ่นร้อนรินรดอยู่บริเวณหน้าขา

“ไม่เจ็บแล้ว” ส่ายหน้าปฏิเสธเมื่อแก้มถูกประคองเอาไว้ ก่อนจะเผลอเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อฝ่ายนั้นใช้นิ้วโป้งเกลี่ยไล้ไปมาบริเวณข้างมุมปากราวกับต้องการบอกถึงความต้องการที่กักเก็บมาตั้งแต่เมื่อเช้า “...ขอบใจนะ”

แทนไทยกยิ้มเล็กน้อยเมื่อน้องมองตอบกลับมา “ครับ”

โดยไม่ทันได้ตั้งตัวเรือนกายสูงใหญ่ก็ดันตัวขึ้นจากผิวน้ำก่อนจะยื่นใบหน้าเข้าไปกดจูบแนบแน่นเข้าที่ริมฝีปากสีอ่อนจนทำให้นัยน์ตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจ น่านฟ้านั่งนิ่งไม่กล้าขยับเคลื่อนตัวเมื่อสัมผัสได้ถึงไอร้อนจากแผ่นอกกว้างที่อยู่ในระยะประชิด ก่อนจะค่อยๆ หลับตาลงเพื่อตอบรับสัมผัสจากอีกฝ่าย

รู้ตัวอีกทีก็ถูกอุ้มลงมาในสระแล้วเป็นที่เรียบร้อย สัมผัสเย็นเฉียบของน้ำทำให้ต้องยกมือขึ้นวางลงบนแผ่นอกกว้างเพื่อหาหลักยึดก่อนช่วงเอวจะถูกวงแขนแข็งแรงโอบประคองเอาไว้จนลำตัวแนบชิดไปกับเรือนกายสูงใหญ่

สัมผัสนุ่มนวลที่บริเวณเรียวปากเริ่มลงน้ำหนักมากขึ้นเมื่อใบหน้าคมเข้มปรับองศาเอียงเข้าหากันได้พอเหมาะ สัมผัสชื้นแฉะร้อนระอุทำให้สมองรู้สึกพร่าเบลอจนต้องคล้อยตามในตอนที่ฝ่ายนั้นยกนิ้วขึ้นมาเกลี่ยบริเวณริมฝีปากอย่างอ้อยอิ่ง

“มากกว่านี้...ได้ไหม” เสียงทุ้มพร่าที่เอ่ยประชิดเว้าวอนขอ ก่อนสัมผัสร้อนจัดจะประกบแนบลงมาอีกครั้งเมื่อได้รับการอนุญาต

“อื้อ” น่านฟ้าเผลอผงะถอยในตอนที่เรียวลิ้นร้อนกำลังสอดแทรกเข้ามา ก่อนจะออกแรงจิกลงไปบนบ่ากว้างเมื่อโพรงปากถูกละเลียดกวาดต้อนจนได้ยินเสียงชื้นแฉะคลอขึ้นมาตามจังหวะการเคลื่อนไหว

จากเชื่องช้าเนิบนาบ นุ่มนวล ค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นจนต้องควบคุมจังหวะการหายใจเอาไว้เมื่อถูกรุกล้ำมากขึ้น

น่านฟ้ายกมือขึ้นวางลงบนแผ่นอกกำยำในตอนที่ฝ่ายนั้นกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นจนทำให้อะไรต่อมิอะไรแนบชิดกันจนสัมผัสได้ถึงไอร้อนจากเรือนกายสูงใหญ่ที่โอบล้อมอยู่รอบตัว พยายามลืมตาขึ้นมองเบื้องหน้าไม่ทันไรกลับต้องหลับลงไปใหม่เมื่อถูกอีกฝ่ายขบกัดเข้าที่ริมฝีปากด้านล่างและสอดลิ้นเข้ามากวาดต้อนจนเริ่มรู้สึกไร้เรี่ยวแรงต่อต้าน

“ไท...” เสียงแผ่วเบาเอ่ยเรียกอีกครั้งในตอนที่บริเวณเนินอกแนบชิดกับฝ่ายนั้นจนความรู้สึกวาบหวามแล่นปราดขึ้นมาทำให้รู้สึกร้อนจัดที่ใบหน้า แต่นอกจากจะไม่ถูกปล่อยแล้วแขนทั้งสองข้างยังโดนดึงขึ้นไปโอบกอดรอบลำคอแกร่งเอาไว้จนทำให้ผิวเนื้อที่เกือบจะเปลือยเปล่าแนบชิดกันมากยิ่งขึ้น

“ท...อื้อ หยุด..ก่อน” น่านฟ้าอาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายผละริมฝีปากออกไปเอ่ยบอก

แต่ดูท่าจะไร้ผลเมื่อถูกประกบจูบแนบแน่นลงมาอีกครั้ง ทำให้ต้องบีบเข้าที่กล้ามเนื้อบริเวณแผ่นหลังของอีกฝ่ายจนเกิดรอยเมื่อเรียวลิ้นถูกไล่ตอนจนมุมก่อนจะโดนดูดกลืนจนเกิดเสียงน่าอาย รู้สึกตัวอีกทีแผ่นหลังก็สัมผัสได้ถึงกระเบื้องบริเวณขอบสระ ช่วงตัวถูกวงแขนคู่นั้นกักขังเอาไว้จนแทบกลืนหายลงไปในแผ่นอกกว้าง

จังหวะลมหายใจพลันสะดุดขึ้นมาเมื่อรับรู้ได้ว่าฝ่ามือใหญ่กำลังลากปลายนิ้วผ่านผิวเนื้อเปลือยเปล่าบริเวณแผ่นหลังขึ้นมาตามสีข้างก่อนจะหยุดเอาไว้ที่บริเวณเหนือบั้นเอว น่านฟ้าพยายามดันกายให้มีระยะห่างเมื่อรู้สึกว่าถูกเบียดแนบชิดจนเกินไป

มันก็ไม่ได้รู้สึกแย่...แค่...แค่เขินจนทนไม่ไหวแล้ว

เหมือนจะตายซะให้ได้เลย...

นัยน์ตาสีเข้มก้มลงมองคนในอ้อมกอดก่อนจะยอมถอนริมฝีปากออกมาเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มตั้งรับไม่ทัน แทนไทกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นเมื่อเห็นว่าน้องซบใบหน้าลงมาที่แผ่นอก ใบหน้าคมเข้มเคลื่อนต่ำลงไปคลอเคลียที่ข้างแก้มก่อนจะกดจูบลงบนผิวเนื้อเนียนนุ่มแล้วพึมพำออกมาเสียงพร่า “...แก้มนุ่มเหมือนที่ไอ้หมอกบอกจริงๆ ด้วย”

“ฮื่อ อย่าพูดนะ” น่านฟ้าพยายามดันตัวออกห่างเมื่อรู้สึกว่าหน้าร้อนจนแทบจะสุกอยู่รอมร่อแล้ว พอตั้งท่าจะเบือนหน้าหนีคุณเขาก็ขยับหน้ามองตาม เลยยอมอยู่เฉยๆ ให้อีกฝ่ายกดจมูกลงบนแก้มทั้งสองฝั่งจนพอใจ “แก้มน่านช้ำหมดแล้ว” บ่นงึมงำอย่างไม่จริงจังพร้อมกับยกมือขึ้นปิดเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกจูบแก้มอีก

แต่เหมือนจะลืมไปว่าที่แก้มปลอดภัยแล้ว แต่ที่ปากน่ะ...

“อื้อ” สัมผัสหนักๆ ที่กดย้ำลงมาทำให้ต้องหลับตาแน่นก่อนจะเอ่ยแย้งขึ้นเมื่อถูกจูบจนเริ่มเจ็บบริเวณริมฝีปาก

ไทไม่ได้รุนแรงก็จริง...แต่สัมผัสหนักหน่วงนั้นเป็นตัวบ่งบอกว่าเจ้าตัวคงกำลังอดทนกับความรู้สึกของตัวเองอยู่อย่างสุดความสามารถ น่านฟ้าหอบหายใจหนักเมื่อถูกรุกล้ำจนน้ำตาเริ่มคลอด้วยความรู้สึกวาบหวามที่แล่นปราดเข้ามาเล่นงานจนไร้เรี่ยวแรงขัดขืน ใบหน้าสวยแดงก่ำร้อนจัดเมื่อได้ยินเสียงทุ้มพร่าสบถอยู่ในลำคอ ก่อนวงแขนกว้างที่โอบกอดกันเอาไว้แน่นจะคลายออกกะทันหัน

“น่าน...ขึ้นไปได้แล้ว” แทนไทสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะผละตัวออกห่างจากน้องเมื่อเริ่มควบคุมความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ไม่ได้

ยิ่งได้กอด ยิ่งได้สัมผัส ความอดทนที่มีก็เริ่มเหลือน้อยลงไปเรื่อยๆ ...

...เพราะรู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้น...ถ้าเขาไม่หยุดมันตั้งแต่ตอนนี้...

“ไท..” น่านฟ้ายังคงสับสนในการกระทำของอีกฝ่าย แต่พอจะยกมือขึ้นแตะแขนฝ่ายนั้นกลับขยับตัวออกห่างก่อนจะย้ำให้รีบขึ้นสระไป

“ขึ้นไปรอข้างบน เดี๋ยวเดินไปส่งที่ห้อง”

“อื้อ เข้าใจแล้ว” น้องพยักหน้ารับอย่างเชื่อฟังก่อนจะว่ายไปทางบันไดสระ เมื่อเห็นผิวเนื้อขาวเนียนที่โผล่พ้นขึ้นจากน้ำก็รีบเบือนหน้าหนีออกไปอีกทางก่อนจะรอให้น้องสวมเสื้อคลุมให้เรียบร้อย แล้วอยู่สงบสติอารมณ์ของตัวเองอีกสักพักถึงจะตามขึ้นไป













“ไท...โอเคไหม” น่านฟ้าถามเสียงแผ่วในตอนที่ยืนอยู่ในห้องโดยสารของลิฟต์เพียงแค่สองคน

“อืม” …ถ้าจะบอกว่าไม่...ก็กลัวว่าเจ้าตัวจะคิดไปไกลถึงไหนต่อไหน

“ถ้าอย่างนั้น...พรุ่งนี้เจอกัน ฝันดีนะ” ในตอนที่เดินมาหยุดยืนอยู่บริเวณหน้าห้องแทนไทไม่ได้เข้าไปใกล้อีกฝ่ายเกินความจำเป็น ทำเพียงแค่พยักหน้ารับก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องตัวเองเมื่อเห็นว่าน้องเดินเข้าไปข้างในแล้ว

...ที่หยุดตัวเองเอาไว้และเว้นระยะห่างออกมาเพราะเขารู้ดีว่าตัวเองไม่ได้มีความเป็นสุภาพบุรุษมากพอที่จะหยุดเอาไว้เพียงแค่กอดและจูบ…

...แค่นั้นมันไม่พอ...







____________________________________________







คุนตำหนวดดดดดดด มีคนคิดมิดีมิร้ายกับลูกอิชั้นค่าาาา ฮือออออออ /เซฟหมวยเร้กกกก

แล้วก็ๆ ป๋าเหมือนจะรู้ตัวแล้วว่ามีคนคิดไม่ซื้อกับน้อง คิกค้ากกกก ซวยย บอกเลยว่าซวยย


ห่างหายไปนานเลยค่ะยอมรับจริงๆไม่แก้ตัวอีกแล้ว สารภาพว่าที่ต้องงดอัพหมวยเพราะช่วงที่ผ่านมาต้องไปปั่นต้นฉบับอีกเรื่อง

แต่หลังจากนี้จะไม่ดองนานหลายเดือนแบบนี้แน่นอนฮับบบ :z10:


พันไมล์คงไม่ได้อัพหมวยอีกภายในปีนี้เพราะต้องเร่งปั่นต้นฉบับเรื่องสุดท้ายก่อนสิ้นปี

แต่ถ้ามีเวลาว่างจะเขียนตอนพิเศษมาให้ทุกคนได้อ่านแก้คิดถึงในวันปีใหม่นะคะ

พันไมล์ต้องขออภัยนักอ่านทุกท่านจริงๆที่ทิ้งช่วงไปนานขนาดนี้ อุแง ขอบคุณทุกคนมากนะคะที่ยังรอหมวยอยู่ซาบซึ้งมากจริงๆค่ะ

แวะมาพูดคุยกันได้ที่ #ที่รักของน่านฟ้า ใน Twitter นะคะ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
กี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ฟ้องป๋าดีมั้ยเนี่ย  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
กลับมาแล้วเนอะ   :mc4:

ออฟไลน์ TanyaWikit

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คิดถึงเรื่องนี้ มากมากเลย พอมีแจ้งเตือนจากทางเล้าเป็ด  ดีใจแทบตาย
นึกว่า พี่ไท จะใจกล้าหาญ ขอ น้องน่าน เป็น แฟน เลย หึ หึ แต่ก็ไม่
เดี๋ยวพอ น้องน่าน กลับสู่สังคม ปกติ ของน้องแล้ว จะมาหึง วงแตก วงแตน อะไรก็ไม่ได้แล้ว
ไหนจะปะป๊า ที่เริ่ม ระแคะ ระคาย ละ  พี่ไท เอ๊ยยย  แย่แน่แน่

TALK : จะมารอตอนพิเศษ นะจ๊ะ  แล้วคนเขียนรีบกลับมาต่อไวไวนะจ๊ะ
เนี่ย หมุนกลับไปอ่านตอนเก่า 2 ตอน ก่อนมาอ่านตอนใหม่ที่เพิ่งลง จะได้ต่อติดจ้า

ออฟไลน์ theindiez

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
กลับมาแล้วคิดถึงหมวยยย  555

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แง.......... หายไปนานเลย ฮึกๆ  :hao5: :mew2:
น่าน น่ารัก  :mew1:
ไท น่าน  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
รอไทซีนนั้นนะ  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:     

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ oohsg94

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แจ้งคุนตำหนวดดดดด มีคนลวนลามลูกสาวค่าาา :z3: :hao7:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
น้องน่านถูกรังแกอีกแล้ว ทำไมทุกคนชอบแกล้ง
เอ็นดูจังเลย หนูออกจะเป็นคนสวย น่ารัก 5555

ไทได้กำไรหลายรอบละนะ ทำเนียนๆ แต่ได้เต็มทุกคะแนน

หมอกเป็นคนตลก บ้าบอ แต่ได้ใจ เพราะทันทุกเหตุการณ์

หยาร้ายนะคนเรา แต่ทำดีมากค่ะ


ออฟไลน์ phai

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 406
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
อดทนไว้นะไท 555555

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
เพี๊ยงงงงง ขอให้ป๋ามาเจอ 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Punmile09

  • '...Cause we were just kids when we fell in love...'
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-4
Chapter 11

Just Leave It Behind.

___________________




(น้องน่านจะเข้าร้านเหรอคะวันนี้)
“ใช่ค่ะพี่ฝน ตั้งแต่กลับมาจากกระบี่น่านไม่ได้แวะเข้าไปเสียที วันนี้ช่วงบ่ายนัดพวกเด็ก ๆ ไว้ด้วยว่าจะติวสีน้ำให้” น่านฟ้าตอบกลับปลายสายในขณะที่กำลังเช็กตัวเองอยู่บริเวณหน้ากระจกหลังจากลองใส่มินิเดรสตัวใหม่
เดรสสายเดี่ยวสีแดงลายสก๊อตที่ความยาวปิดถึงแค่บริเวณหน้าขาเท่านั้น ผมยาวดัดลอนอ่อนบริเวณส่วนปลายถูกปล่อยระลงมาถึงช่วงเอว เจ้าตัวยิ้มให้กับภาพสะท้อนในกระจกอีกครั้งเพื่อเรียกความมั่นใจให้ตัวเอง หลังจากที่กลับจากกระบี่ ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นเรียกได้ว่าแทบไม่ได้พักหยุดหายใจเพราะต้องเคลียร์งานที่ค้างอยู่ส่งให้ลูกค้าจนใต้ตาดำปี๋ สภาพโทรมไม่ต่างจากสมัยที่เรียนอยู่เลยสักนิด
แต่เรื่องงานนั้นนับว่าเป็นเรื่องเล็กมากเมื่อเทียบกับปัญหาบางอย่างที่ต้องเผชิญในช่วงนี้
หลังจากที่ชีวิตมันเงียบสงบมาได้สักพักหนึ่งน่ะนะ
(พอน้องน่านไม่เข้ามาที่ร้าน คุณชินก็ไม่ได้มานี่สองวันแล้วล่ะค่ะ)
ฝ่ายนั้นรายงานด้วยน้ำเสียงที่ไม่สู้ดีนัก คงรู้สึกหนักใจอยู่ไม่น้อยที่ต้องมาเป็นคนรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ เพราะหลังจากที่กลับมาจากกระบี่น่านฟ้าก็ได้รู้ว่าแฟนเก่าที่เพิ่งบอกเลิกไปหมาด ๆ นั้นมาหาที่ร้านแทบจะทุกวัน โชคดีที่ไม่ได้เจอกัน ไม่อย่างนั้นคงต้องปวดหัวจนไม่เป็นอันทำการทำงานแน่นอน
“ลำบากพี่ฝนแย่เลย…น่านขอโทษด้วยนะคะ”
(ไม่เป็นไรเลยค่ะ) หญิงสาวตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริงผิดกับก่อนหน้าเพราะไม่อยากให้เจ้านายคนสวยต้องรู้สึกเครียด (ว่าแต่ วันนี้คุณไทจะเข้ามาที่ร้านไหมน้า)
“หา” น่านฟ้าชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อของใครอีกคน ก่อนจะหลุดขำออกมา “คนนี้เขาเกี่ยวอะไรคะเนี่ย”
(ก็แหม พี่ฝนก็แค่ถามดู)
“พอเลย ไม่คุยด้วยแล้วค่ะ” ถึงจะพูดแบบนั้น แต่รอยยิ้มเล็ก ๆ กลับปรากฏขึ้นโดยที่ไม่ทันรู้ตัวเสียด้วยซ้ำ
(ว้าวว เล่ามาเดี๋ยวนี้เลยค่ะน้องน่าน) นอกจากจะไม่ยอมวางสายแล้วฝ่ายนั้นยังพูดกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ดูตื่นเต้นอย่างถึงที่สุด (ทริปกระบี่ต้องมีอะไรดี ๆ เกิดขึ้นแน่นอนเลย พี่ฝนรู้นะคะ!)
“น่านต้องไปแล้วค่ะ หม่าม้าเรียกไปทานข้าวพอดีเลย แค่นี้น้า เจอกันที่ร้านนะคะ”
(น้องน่า-!)
ติ๊ด!
น่านฟ้าถอนหายใจออกมาเมื่อสามารถหลบเลี่ยงคำถามของอีกฝ่ายได้ เจ้าตัวเม้มปากเบา ๆ เพราะเริ่มรู้สึกร้อนผ่าวที่บริเวณสองข้างแก้ม
ตั้งแต่กลับมาจากกระบี่ การกระทำของแทนไทก็ชัดเจนมากขึ้นจนสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงระหว่างทั้งคู่
จะให้แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ก็คงไม่ไหว
เพราะคุณเขาจับทางได้หมดเลย แถมยังรุกแรงมากด้วย…
“น้องน่านมานี่เร็ว”
เมื่อเดินลงมาถึงชั้นล่างจู่ ๆ ป้านิดที่กำลังกวาดพื้นอยู่บริเวณนั้นก็ปรี่เข้ามาหาด้วยสีหน้าที่เป็นกังวลอยู่ไม่น้อย น่านฟ้าเดินตามอีกฝ่ายไปทางห้องรับแขก แล้วก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นใครบางคนนั่งอยู่บนโซฟากับญาติผู้ใหญ่ โดยที่มีป๋ากับหม่าม้านั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“ชิน…” น่านฟ้ามองไปที่ฝ่ายนั้นก่อนจะเผลอเรียกชื่อ ทำให้คนที่นั่งอยู่ทั้งหมดหันมามองพร้อมกัน
“โอ้ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะน้องน่าน” ผู้ชายวัยกลางคนที่มีศักดิ์เป็นลุงแท้ ๆ ของเตชินเอ่ยทักด้วยรอยยิ้มทำให้จำเป็นที่จะต้องเดินเข้าไปหาพร้อมกับยกมือไหว้ไปตามมารยาท น่านฟ้ายิ้มให้อีกฝ่ายและจงใจเมินสายตาของใครบางคนที่มองมา
“สวัสดีค่ะลุงพล”
“น้องน่านมานั่งกับป๋ามา” คุณปรีชากวักมือเรียกพร้อมกับตบลงบนเบาะข้าง ๆ ตัวเอง
“แต่…หนูต้องเข้าร้าน”
“แป๊บเดียว” ป๋าย้ำเสียงเข้ม ในแววตาดูนิ่งสงบไม่ได้ฉายแววใจดีเหมือนปกติ
“มาลูก” หม่าม้าขยับเปิดทางให้ลงไปนั่งแทรกตรงกลางก่อนจะหยิบหมอนมาให้กอดเพื่อบังต้นขาเอาไว้
น่านฟ้าสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่มาคุอยู่ไม่น้อย เจ้าตัวกอดหมอนและเผลอบีบแรงจนมันยับย่น ส่วนอดีตคนรักที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามทำเพียงแค่นั่งเงียบและมองมาเป็นระยะ ในระหว่างที่พวกผู้ใหญ่กำลังคุยกันเกี่ยวกับแมทชกที่จะจัดขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้
ลุงพลเป็นเพื่อนรุ่นพี่ในวงการของป๋าตั้งแต่สมัยที่ทั้งคู่ยังเป็นนักมวยอยู่ มิหนำซ้ำอีกฝ่ายยังเป็นญาติผู้ใหญ่ของเตชินอีกด้วย จึงทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองบ้านนั้นสนิทสนมกันมากยิ่งขึ้นในช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมา
“แล้วรอบนี้ไปกล่อมยังไง ทำไมเจ้าไทมันถึงยอมขึ้นชกล่ะ” ฝ่ายนั้นเอ่ยถาม
“ทางผู้ใหญ่เขาขอมาว่ะพี่ ไม่ได้เห็นมันชกนานแล้ว” คุณปรีชาตอบกลับไปพร้อมกับหัวเราะในลำคอเล็กน้อย “เห็นบอกจะชกเวทีนี้กับงานที่มาเลอีกแค่สองครั้งก็อาจจะพักยาว”
“เสียดายฝีมือตายห่า”
“เจ้าไทมันถูกเพื่อนผมที่เป็นอาจารย์คณะวิทย์กีฬาทาบทามไว้ตั้งแต่ยังไม่กลับมาจากอเมริกา เขาอยากชวนมันไปเป็นอาจารย์สอนพิเศษ”
“อะไรวะ ไปเป็นอาจารย์มหาลัยเนี่ยนะ” ฝ่ายนั้นเลิกคิ้วขึ้นอย่างเหลือเชื่อ อีกทั้งยังนึกเสียดายในความสามารถของแทนไทอยู่ไม่น้อย
“ตัวมันก็คงจะเบื่อ ขึ้นชกมาตั้งแต่สิบห้าสิบหก อีกอย่างผมก็อยากให้เจ้าไทมันมีอาชีพที่มั่นคงกว่านี้ พี่ก็รู้ว่านักมวยอย่างเรา ถึงจะเก่งแค่ไหน แต่สักวันหนึ่งมันก็ต้องตกรุ่น มีเด็กใหม่ ๆ เข้ามาแทนที่” เขาอธิบายอย่างใจเย็น ทุกคำที่พูดออกมานั้นแสดงถึงความรักและห่วงใยอีกฝ่ายไม่ต่างจากลูกแท้ ๆ
ถ้าพ่อมันยังอยู่ ก็คงคิดแบบนี้เหมือนกัน
“อีกอย่างมันเรียนจบตั้งปริญญาโท เก็บความรู้เอาไว้ขึ้นสนิมตายห่ากันหมดพอดี”
“แล้วจะต่อเอกเลยหรือเปล่า”
“เห็นบอกคงอีกสักพักเลย ช่วงนี้กำลังวุ่นน่าดู”
คุณปรีชายักไหล่ด้วยท่าทีผ่อนคลาย ก่อนจะเอนหลังพิงพนักโซฟาพร้อมกับยกแขนขึ้นโอบรอบไหล่ลูกคนเล็กเอาไว้ “ว่าแต่พี่เถอะ ปกติก็มาหาผมคนเดียวตลอด ทำไมวันนี้ถึงพาเจ้าชินมาด้วย”
แม้น้ำเสียงและรอยยิ้มที่มีจะดูสบาย ๆ แต่สายตาที่มองไปยังฝั่งตรงข้ามกลับทำให้เตชินตกประหม่าขึ้นมา
“อ้อ” ลุงพลชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะออกมาแล้วตบลงไปที่บ่าของหลานชาย “มันมาเยี่ยมกูที่บ้านกับพ่อมัน พอมันรู้ว่ากูจะมาหามึงก็ขอตามมาด้วย สงสัยอยากจะมาหาความรู้กับโปรโมเตอร์มือโปรล่ะมั้ง”
“ไม่ยักรู้ว่าชินจะสนใจเรื่องนี้ด้วย ปกติเวลาออกงานก็ไม่ค่อยเห็นหน้า จู่ ๆ ทำไมนึกสนใจมวยขึ้นมาล่ะ” น้ำเสียงทุ้มต่ำที่หัวเราะอยู่ในลำคอทำให้น่านฟ้าต้องเงยหน้าขึ้นไปมองและส่งสายตาบอกทางอ้อมว่าห้ามป๋าก่อเรื่องเด็ดขาด
แต่ก็ดูเหมือนว่าจะช้าไปแล้ว…
“พ่อครับ คือผม-” หลังจากที่นั่งเงียบมานาน ฝ่ายนั้นก็ตั้งท่าจะเปิดบทสนทนาแต่กลับถูกป๋าสกัดจนเสียหลัก
“เรียกอาก็พอ” คุณปรีชายิ้มมุมปากอย่างอารมณ์ดีเมื่อได้ยินสรรพนามที่อีกฝ่ายเคยเรียก แต่ในแววตานั้นกลับเริ่มคุกรุ่นจนหม่าม้าต้องเอื้อมมือมาวางบนตักให้ใจเย็นลง
“ครับ ขอโทษครับอา” เตชินพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะซ่อนความรู้สึกเสียหน้าเอาไว้ใต้รอยยิ้ม
“แล้วชินมีธุระอะไรกับอา?” เขาลองถามหยั่งเชิง ทั้งที่จับทางได้ตั้งแต่เห็นหน้าแล้วว่าคนที่อีกฝ่ายอยากจะเจอคือน้องน่าน “สนใจเรื่องมวยเหรอ อยากจะให้อาเริ่มแนะนำจากตรงไหนก่อนดีล่ะ”
“ผมมีเรื่องที่อยากจะคุยกับฟ้า” ชายหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นพร้อมทั้งสายตาที่มองตรงไปยังอดีตคนรักที่นั่งก้มหน้าอยู่ฝั่งตรงข้าม
“เรื่อง? เรื่องอะไร?” เสียงทุ้มต่ำนิ่งสงบจนไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ของผู้พูดได้ “เกี่ยวอะไรกับน่าน?”
“อาครับ คือผมอยากจะขอ-”
“หมดธุระแล้วใช่ไหม”
“ไอ้ปราบ มึงก็ให้เด็กมันเคลียร์กันหน่อยเถอะ หลายวันมานี้หลานกูสภาพแม่งไม่เป็นผู้เป็นคนแล้ว” ฝ่ายนั้นเอ่ยแทรกขึ้นมาเมื่อรู้สึกสงสารหลานชายของตนเอง
“ก็เรื่องของหลานพี่ เกี่ยวอะไรกับลูกผม” คุณปรีชาเสียงแข็งขึ้นมาจนหม่าม้าต้องปลอบว่าให้ใจเย็นลง
“เจ้าชินมันอยากมาขอโทษน้องน่าน…กูรู้ว่ามันทำตัวไม่ดี มึงก็ให้โอกาสเด็กมันได้ปรับความเข้าใจกันหน่อยเถอะ นะปราบ ถือว่ากูขอ เห็นใจหลานมันหน่อย”
“แสดงว่าพี่รู้แล้วใช่ไหมว่าหลานพี่มันทำอะไรไว้” เขาถามกลับ
“รู้ มันบอกกูหมดแล้วกูถึงยอมพามันมาด้วยนี่ไง ไอ้ปราบ ผู้ชายวัยนี้มันก็ต้องมีหลงผิดกันบ้าง อาจจะนอกลู่นอกทางไปบ้าง แล้วตอนนี้มันก็สำนึกผิดแล้ว มันสัญญากับกูว่าจะไม่ทำอีก ขอให้มันได้คุยกับน้องน่านเถอะ”
น่านฟ้ามองตรงไปที่ฝ่ายตรงข้ามด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจเมื่อได้ยินความคิดที่แสนจะเห็นแก่ตัวของผู้ใหญ่ที่ตนเองนับถือเสมือนญาติ สองมือกำเข้าหากันจนสั่นเทิ้ม แต่ก่อนที่ความอดทนทั้งหมดจะจบลง เสียงปฏิเสธของป๋ากลับทำให้ทุกอย่างในบริเวณนี้เงียบสนิท ไม่เว้นแม้แต่ตัวลุงพลเอง
“ไม่” เสียงทุ้มต่ำยืนยันหนักแน่น
ร่างสูงใหญ่ของหัวหน้าครอบครัวยืนขึ้นเต็มความสูงพร้อมกับดึงมือลูกคนเล็กให้มาหลบที่ด้านหลังเมื่อสังเกตเห็นว่าน้องน่านมีสีหน้าที่ไม่สู้ดี
“ขอโทษด้วยที่ผมต้องพูดตรง ๆ ถ้าพี่จะโกรธ ผมก็ไม่ว่า แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าถ้าผมไม่เกรงใจและไม่ไว้หน้าพี่พล หลานพี่มันคงไม่ได้เข้ามาเหยียบในบ้านตั้งแต่แรกแล้ว”
“…”
“เรื่องนอกใจสำหรับผมแค่ครั้งเดียวคือเกินพอ แต่นี่มันนอกใจลูกผมมาสามครั้งแล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรก” น้ำเสียงทุ้มต่ำมั่นคงไม่ต่างจากอุ้งมือใหญ่ที่กำลังบีบมือลูกเอาไว้ “โชคดีแค่ไหนที่ผมเพิ่งรู้ เพราะน่านไม่เคยบอกไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง แม้แต่เมฆกับหมอกก็ไม่รู้ พี่คิดว่าถ้าผมรู้ผมจะปล่อยให้มันคบกันมาได้นานขนาดนี้เหรอ”
“…”
“นอกลู่นอกทางมันแค่ข้ออ้างของคนมักง่ายที่ไม่รู้จักพอ และการที่พี่พูดถือหางหลานพี่แบบนี้เท่ากับว่าพี่ไม่ไว้หน้าผมเลยว่ะ ไม่ไว้หน้าผมไม่เท่าไหร่ แต่ยังมาดูถูกศักดิ์ศรีลูกผมด้วย ถ้าผมยังยอมและทำเป็นมองข้ามไปเหมือนที่พี่บอก ผมก็คงไม่ใช่พ่อคนแล้วพี่พล”
“ปราบ มึงใจเย็นก่อน กูไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” ฝ่ายนั้นพยักหน้ารับ เมื่อเริ่มคิดได้ว่าตนเองพูดจาไม่สมกับเป็นผู้ใหญ่เอาเสียเลย เพียงเพราะรักหลานชายมากเกินไปจนมองข้ามความผิดของอีกฝ่าย “กูเข้าใจแล้ว เอาเป็นว่าขอโทษด้วยก็แล้วกันที่พูดอะไรไม่คิด”
แม้จะรู้สึกเสียหน้าอยู่ไม่น้อย แต่เขาก็เป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะไม่ปล่อยให้อารมณ์และความรู้สึกมาอยู่เหนือเหตุผล เพราะไม่ว่าอย่างไรแล้วอีกฝ่ายก็เปรียบเสมือนเพื่อนที่เติบโตในวงการด้วยกันมา หากไม่ยอมลดทิฐิและมองข้ามความผิดของตนเองไปก็คงจะเป็นผู้ใหญ่ที่ใช้ไม่ได้
ที่ไอ้ปราบพูดมาก็ถูก…คำพูดที่เขาพูดไปนั้นช่างไม่ให้เกียรติกันเอาเสียเลย
“พี่พล ดาวขอพูดอะไรหน่อยนะคะ” หม่าม้าที่นั่งเงียบอยู่นานเดินเข้ามาสมทบก่อนจะมองตรงไปยังอีกฝ่ายด้วยความแน่วแน่ ผิดกับเวลาปกติที่มักจะอ่อนโยนและใจดีอยู่เสมอ
“ตั้งแต่วันที่ดาวรู้จักกับพี่ปราบและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาเกินครึ่งชีวิต พี่ปราบไม่เคยนอกใจหรือนอกกายดาวเลยสักครั้ง พี่เองก็น่าจะรู้เรื่องนี้ดี ดาวแค่อยากจะบอกพี่ว่าสิ่งที่เตชินทำมันไม่ใช่เรื่องปกติเลยสักนิด”
“…”
“การที่ได้ยินพี่พูดแบบนั้น ดาวรู้สึกผิดหวังมากจริง ๆ ค่ะ เพราะพี่ก็เป็นผู้ใหญ่ที่ดาวให้ความเคารพนับถือ พี่อาจจะไม่พอใจหรือรู้สึกโกรธกับสิ่งที่ดาวและพี่ปราบพูดในวันนี้ แต่ดาวก็อยากจะให้พี่เข้าใจด้วยว่าหัวอกของคนเป็นพ่อเป็นแม่คงไม่สามารถนิ่งเฉยกับเรื่องนี้ได้จริง ๆ ต่อให้เตชินจะเป็นหลานของพี่ก็ตาม”
หลังจากพี่พูดจบในบริเวณนั้นก็ถูกปกคลุมด้วยความเงียบอยู่นาน แม้แต่คุณปรีชาเองก็ยังไม่กล้าเอ่ยแทรกขึ้น
“เอาล่ะ พี่เข้าใจ พี่ไม่โกรธดาวกับไอ้ปราบ ขอบคุณที่ช่วยเตือนสติพี่” ฝ่ายนั้นถอนหายใจออกมาก่อนจะลุกขึ้นมายืนเผชิญหน้า “กูขอโทษด้วยที่พูดแบบนั้นออกไป”
“…”
“น้องน่าน ลุงขอโทษนะลูก ขอโทษแทนเจ้าชินมันด้วย หลังจากนี้ลุงสัญญาว่าจะไม่ให้มันมาวุ่นวายกับหนูอีก”
“ไม่เป็นไรค่ะ” น่านฟ้าขานรับเสียงเบา
“ชิน” คุณปรีชาเอ่ยเรียกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง ไม่มีท่าทียินดียินร้ายกับเหตุการณ์ตรงหน้า
“ครับอา”
“โต ๆ กันแล้ว อาจะพูดแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ เพราะเห็นแก่พี่พล เรื่องนี้ก็ถือว่าเลิกแล้วต่อกันไม่มีอะไรต้องติดค้าง หวังว่าชินจะเข้าใจว่าขอบเขตของตัวเองอยู่ตรงไหน อย่าให้มีอีก”
อีกฝ่ายเข้าใจดีว่าเขาหมายถึงอะไร ไม่ว่าจะเรื่องที่ตามไปเฝ้าน้องน่านที่ร้านหรือเรื่องที่ตามตื๊อขอคืนดี
นี่ถือเป็นสัญญาณเตือนว่าอีกฝ่ายจะต้องหยุดการกระทำทุกอย่าง
“…”
“หรือถ้าชินอยากจะลองดูก็ได้…แต่อาจะไม่เตือนเป็นครั้งที่สอง”
“ครับ ผมเข้าใจ” ฝ่ายนั้นเม้มปากแน่นก่อนจะพยักหน้ารับอย่างเข้าใจในสถานการณ์…เพราะถ้าอีกฝ่ายเอาจริงขึ้นมา แม้แต่ลุงเองก็คงช่วยอะไรเขาไม่ได้ “ผมจะไม่มายุ่งกับฟ้าอีก ขอโทษที่ทำให้อากับน้าดาวต้องเดือดร้อน แต่ที่ผมมาวันนี้เพราะตั้งใจอยากจะมาขอโทษฟ้าจริง ๆ”
น่านฟ้าเงยหน้าขึ้นมองอดีตคนรักด้วยความรู้สึกที่ว่างเปล่า ในตอนนี้ความรักไม่เหลืออยู่แล้ว ที่ค้างคาอยู่ก็คงเป็นความผูกพันเส้นสุดท้ายที่รั้งเอาไว้ให้ยอมรับคำขอโทษจากอีกฝ่าย
และหลังจากนี้ ก็จะถือว่าไม่มีอะไรต้องติดค้างกันอีกต่อไป
“หนูว่าไงครับ?” ป๋าก้มลงมาถามอย่างเป็นห่วงพร้อมกับเพิ่มน้ำหนักมือที่บีบกระชับให้มากขึ้น
“พูดมาสิ” น่านฟ้าสูดลมหายใจเข้าลึก นัยน์แววตาฉายถึงความแน่วแน่ว่ารอรับฟังทุกอย่างโดยที่ไร้ทิฐิมาครอบงำ “วันนี้ฟ้าจะฟังชิน…เป็นครั้งสุดท้าย”
“ครับ” ร่างสูงใหญ่ของอดีตคนรักเดินเข้ามาหาและหยุดยืนอยู่ตรงหน้าโดยที่เว้นระยะห่างเอาไว้พอสมควร ก่อนที่ของบางอย่างจะถูกยื่นส่งมาให้ “สร้อยของฟ้า…ชินเอามาคืนให้”
น่านฟ้ามองไปยังของชิ้นนั้น แม้ว่ามันจะเป็นของที่รักมากขนาดไหน แต่ในเวลานี้กลับไม่ได้รู้สึกว่าอยากจะรับมันคืนมาอีกต่อไปแล้ว
“เอาทิ้งไปเถอะ เฮียเมฆบอกจะซื้อให้ฟ้าใหม่” เจ้าตัวยิ้มบางเบา “มีแค่นี้ใช่ไหม?”
“เดี๋ยว” เตชินตั้งท่าจะเข้ามาใกล้ แต่กลับถูกป๋ายกมือกันไว้อีกฝ่ายเลยทำได้แค่มองมาด้วยสายตาที่เศร้าสร้อย “ชินอยากจะขอโทษฟ้า สำหรับเรื่องทุกอย่างที่เคยทำลงไป หลังจากวันนั้นชินรู้สึกผิดมาตลอดที่พูดจาไม่ดีใส่ฟ้า แต่ชินแค่อยากบอกฟ้าว่าชินไม่ได้ตั้งใจ ชินขอโทษ”
“ไม่เป็นไร” น่านฟ้าพยักหน้ารับ และฝืนยิ้มออกมาอย่างยากลำบาก “เรื่องนั้นมันไม่ได้ทำให้ฟ้าเจ็บมากขึ้นเท่าไหร่หรอก เพราะที่ผ่านมามันมากเกินพอแล้ว…แค่นี้ใช่ไหมที่อยากจะพูด?”
น้ำตาเริ่มเอ่อจนรู้สึกร้อนผ่าว แต่เพราะมีมือป๋ากับหม่าม้าที่กุมอยู่เลยสามารถเรียกความเข้มแข็งให้กลับมาได้
“ฟ้า…ชินขอโทษจริง ๆ ฟ้าอาจจะไม่เชื่อคำนี้ที่ออกมาจากปากชินแล้ว แต่ชินเสียใจและโคตรเกลียดตัวเองที่เกือบลงมือทำร้ายฟ้าในวันนั้น”
“ช่างเถอะ” น่านฟ้าสูดหายใจเข้าลึกเมื่อนึกถึงวันที่เกือบโดนอดีตคนรักขืนใจ และทำร้ายกันด้วยคำพูดที่ร้ายกาจพวกนั้น “ชินไม่ต้องพูดอะไรแล้ว”
ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าวันนั้นไทไม่ไปด้วยจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
“ทำอะไร?” แต่แล้วคนข้างกายที่นิ่งเฉยมาตลอดกลับถามขึ้นเสียงเข้ม ป๋ามองจ้องไปที่อีกฝ่ายด้วยอารมณ์ที่เริ่มคุกรุ่น
“วันนั้นฟ้ากลับมาเอาของที่คอนโดผม” เตชินตัดสินใจสารภาพความผิดของตนเองเพราะมันเป็นเหมือนตราบาปที่ติดตัวจนเขาไม่สามารถข่มตาให้นอนหลับได้ในแต่ละคืนวันที่ผ่านมา เพราะรู้สึกขยะแขยงกับการกระทำของตนเองแทบบ้า “วันนั้นผมดื่มเยอะจนขาดสติ แล้วก็โมโหที่ฟ้าบอกเลิก เลยเกือบที่จะขืนใจ-”
ผั๊วะ!
ยังพูดไม่จบประโยคดีร่างของชายหนุ่มก็ถูกหมัดหนัก ๆ ปะทะเข้าที่ข้างแก้มจนหน้าหัน มีเสียงร้องของคุณอิงดาวดังขึ้นอย่างตื่นตกใจ ก่อนเธอจะปรี่เข้าไปดึงร่างของสามีเอาไว้เมื่อเห็นว่าฝ่ายนั้นกำลังโกรธจนหน้าดำหน้าแดง ทางน่านฟ้าเองก็ยังคงตกใจไม่หาย เพราะไม่เคยเห็นคนเป็นพ่อโมโหจนขาดสติแบบนี้มาก่อน
“ถ้าทำ…มึงไม่ตายดี”
“พี่ปราบ ใจเย็น ๆ อย่าใช้กำลังสิ” คุณอิงดาวพยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบ เพราะเธอรู้ดีว่าเวลาที่สามีตัวเองโกรธนั้นน่ากลัวมากแค่ไหน “พาเตชินกลับไปก่อนนะพี่ ดาวขอร้อง ไม่งั้นหลานแย่แน่”
ฝ่ายนั้นพยักหน้ารับอย่างเข้าใจสถานการณ์เพราะรู้จักดีว่าไอ้ปราบในเวลานี้ใครก็เข้าหน้าไม่ติด อีกอย่างหลานชายตัวเองก็ทำเรื่องงามหน้าเอาไว้ รอดมาได้ขนาดนี้ก็บุญหัวมันมากแล้ว
“กลับบ้านไปมึงมาคุยกับกูให้มันรู้เรื่อง โทรเรียกพ่อมึงมาด้วย” ฝ่ายนั้นปรายตามองหลานชายก่อนจะเดินนำออกไปจากบ้านโดยไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ
ยอมรับว่าที่ผ่านมาเขาเข้าข้างมันมาโดยตลอดเพราะเตชินเป็นหลานชายเพียงคนเดียว แต่เขาไม่เคยรู้เรื่องที่มันจะขืนใจน้องน่านมาก่อน นึกว่าเด็กมันแค่ทะเลาะกันธรรมดาตามประสาวัยรุ่น…ถ้าเขารู้ว่ามันทำเรื่องทุเรศแบบนี้ ก็คงไม่ออกโรงปกป้องให้เสียผู้ใหญ่ตั้งแต่แรก
“ป๋า…หนูขอโทษ” น่านฟ้าเดินเข้าไปใกล้คนเป็นพ่อด้วยความรู้สึกผิดและกลัวว่าจะถูกดุ “หนูขอโทษที่ไม่ระวังตัว”
“มานี่มา” หลังจากที่ฝ่ายนั้นยืนสงบสติอารมณ์อยู่พักใหญ่ ในที่สุดก็อ้าแขนออกเพื่อเตรียมสวมกอด ไม่รอช้าเจ้าตัวเล็กก็โผตัวเข้าสู้อ้อมอกของคนเป็นพ่อโดยที่มีหม่าม้าตามมากอดช่วยอีกแรง “ต่อไปนี้ห้ามปิดบังป๋ากับหม่าม้าอีกนะน้องน่าน หนูไม่จำเป็นต้องเผชิญเรื่องแบบนี้คนเดียว ป๋าไม่ได้เลี้ยงหนูมาเพื่อให้คนอื่นทำร้าย”
เสียงทุ้มพร่าสั่นเล็กน้อยพร้อมกับปลายจมูกโด่งที่กดลงบนกลุ่มผมนุ่มด้วยความรัก เพียงแค่คิดว่าลูกจะถูกทำร้าย หัวใจก็รู้สึกเจ็บปวดจนเกินกว่าที่จะรับไหว
“หนูอยากเล่าให้ป๋าฟังไหมว่าเรื่องมันเป็นยังไง” คนเป็นพ่อเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับกดจูบลงไปบนหน้าผากอย่างทะนุถนอม “หรือถ้าหนูไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร ป๋าจะไม่เซ้าซี้”
น่านฟ้าสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะพยักหน้ารับแล้วเริ่มเล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้พ่อแม่ฟัง “วันนั้นไทไปด้วย หนูอาศัยจังหวะที่ชินหยุดหนีลงมาได้พอดี แล้วสองคนนั้นก็แลกหมัดกันไปยกใหญ่เลย”
“ต่อยกันเหรอ?”
“ค่ะ ป๋ากับม้าน่าจะได้เห็น วันนั้นไทน่ากลัวมาก หนูยังไม่เคยเห็นไทโมโหใครเท่านี้มาก่อนเลย”
“หึ มันไม่เห็นเล่าเรื่องนี้ให้ป๋าฟัง” คุณปรีชาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ในลำคออย่างไม่พอใจ
“ป๋าอย่าว่าไทนะ หนูเองที่ขอไม่ให้ไทเล่า” น่านฟ้าซุกลงไปที่อกคนเป็นพ่ออย่างออดอ้อน ตอนนี้ป๋าเริ่มใจเย็นลงบ้างแล้ว “ที่หนูไม่เล่าเพราะกลัวว่าป๋ากับลุงพลจะมองหน้ากันไม่ติด หนูคิดเอาเองว่าหนูจัดการเรื่องนี้ได้”
“ไม่ติดก็ไม่ติดสิ ช่างหัวมัน ป๋าสนใจที่ไหน วันนี้ไม่ตัดขาดกันก็ดีมากแล้ว”
“ป๋าอะ พูดไม่เพราะเลย” น่านฟ้าบ่นงึมงำก่อนจะยืดตัวขึ้นสุดเพื่อหอมแก้มคนเป็นพ่อ “อารมณ์ดีขึ้นบ้างหรือยังคะ โมโหนานๆ เดี๋ยวล้มป่วยน้า”
ฝ่ายนั้นมองลงมาด้วยหางตาก่อนจะถอนหายใจออกมายาวเหยียดแล้วเอียงใบหน้าอีกข้างเข้าหาแทน
“ยังไม่ดีครับ ถ้าอยากให้ดีต้องอีกข้าง” ท่าทางการออดอ้อนลูกคนเล็กของคุณปรีชาทำให้หม่าม้าและป้านิดที่มองอยู่แอบขำ เพราะคนโหดเมื่อกี้หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ เหลือแต่คนช่างอ้อน
จุ๊บ จุ๊บ
“หายหรือยังคะ” น่านฟ้าแถมให้ด้วยตรงหน้าผากเหมือนที่ชอบทำตอนเด็ก ๆ
“หายดีไหมครับหม่าม้า” ฝ่ายนั้นเอื้อมมือไปโอบเอวภรรยาเข้ามาใกล้เพื่อขอความเห็น “ลูกใครนะ ดื้อเหมือนหม่าม้าตอนสาว ๆ เลย”
“อย่าเล่นตัวให้มันมากนัก” คุณอิงดาวหยิกเข้าไปที่สีข้างของสามีจนอีกฝ่ายร้องโอ๊ย “ระวังเถอะ วันไหนน้องน่านไปอ้อนแฟนแทน กลัวว่าจะต้องมีคนกอดหมอนนอนบ่นงึมงำเป็นหมีกินผึ้ง”
“ไม่ให้มี” ทีอย่างนี้ล่ะเสียงเข้มขึ้นมาเชียว “พอแล้ว ไม่ให้มีแล้ว อยู่กับป๋าไปแบบนี้แหละ”
“ไม่มีใครเขาสนใจหนูหรอก” น่านฟ้าย่นจมูกใส่อมยิ้มแก้มป่องจนถูกหม่าม้าดึงยืดด้วยความมันเขี้ยว
“เหรอ” คนเป็นพ่อก้มลงมามองด้วยสายตาที่มีเลศนัย แม้รอยยิ้มจะดูใจดีแต่กลับทำให้คนมองรู้สึกชาวาบที่ปลายนิ้ว “อย่าคิดว่าไม่รู้นะ”
“ป๋ามั่วแล้ว!”
“หึหึ”
“หม่าม้า ป๋าเหมือนตัวโกงอะ” น่านฟ้าหันไปสะกิดขอความเห็นจากคนเป็นแม่ โดยที่ฝ่ายนั้นกลับทำเพียงแค่อมยิ้มและส่ายหน้าไปมาเท่านั้น
“แล้วนี่ไหนว่าเราจะเข้าร้าน สายแล้วนะ ยังไม่รีบไปอีก” หม่าม้าเอ่ยเตือน
“จริงด้วย ถ้าอย่างนั้นหนูขอ-”
“ป๋าจะไปด้วย”
“ห...หา” น่านฟ้ามองไปที่อีกฝ่ายอย่างคาดไม่ถึง “จะดีเหรอคะ วันนี้ป๋าไม่มีงานเหรอ”
“วันนี้ว่าง” คุณปรีชายิ้มมุมปาก “ป๋าไม่ได้ไปร้านหนูนานแล้วนี่ อยากเห็นหนูทำงาน”
“แต่วันนี้หนูมีสอนนะ เด็ก ๆ มาเรียนเยอะกลัวป๋าจะเบื่อน่ะสิ” เจ้าตัวพยายามบ่ายเบี่ยงสุดชีวิต
ที่ไม่อยากให้ป๋าไป…ก็เพราะใครบางคนส่งข้อความมาเมื่อเช้าว่าตอนบ่ายจะแวะเข้ามาหาที่ร้านต่างหาก
ถ้าเจอกันละก็มีหวังถูกจับได้แหงๆ เลย…
“ป๋าเคยเบื่อหนูด้วยเหรอ?” ฝ่ายนั้นเลิกคิ้วถาม ก่อนจะหันไปบอกให้ป้านิดหยิบกุญแจรถมาให้ “หรือที่ไม่อยากให้ป๋าไปเพรราะว่าแอบนัดใครเอาไว้หรือเปล่า”
“ไม่มีสักหน่อย” น่านฟ้ารีบพูดตัดบทเพราะยิ่งบ่ายเบี่ยงก็จะยิ่งมีพิรุธ
เป็นไงก็เป็นกัน…ก็ไม่ได้คิดจะปิดแบบนี้ไปตลอดสักหน่อย




_____________________




แฮ่ กลับมาแล้วค่า /ปิดหน้าเขิน
หายไปนานอีกแล้ว เพราะช่วงที่ผ่านมายุ่งมากเลยค่ะ แง้ ไม่ขอแก้ตัวละกันรอบนี้ เชิญโบยได้เลยจ้ะ /ผูกตัวเองติดกับเสา

หลังจากที่ปล่อยให้ใครบางคนเขามีซีนมาเยอะ ตอนนี้เลยยึดค่าตัวซะเลย
ส่วนเรื่องของเตชินก็ถือว่าเคลียร์ไปแล้วระดับหนึ่ง ฉะนั้นสบายใจได้ฮะ~ 

ขอบคุณทุกคนที่ยังรอคอยกันเสมอนะคะ พันไมล์ดีใจมากที่ทุกคนแวะมาทักทายและทวงยัยหมวยทุกวัน
เลยอยากจะถือโอกาสนี้ตอบคำถามที่ทุกคนสงสัยไปด้วยเลย
1.เรื่อง ที่รักของน่านฟ้า อยู่ในความดูแลของสำนักพิมพ์Hermit ยังไม่ถูกตีพิมพ์เป็นเล่ม และยังไม่มีEbookนะคะ เพราะยังเขียนไม่จบค่ะ
2.ตอนนี้กำลังเร่งปิดต้นฉบับให้ทันงานหนังสือเดือนตุลาค่ะ
3.เรื่องนี้จะลงให้อ่านจนจบ ไม่มีการปิดตอนค่ะ ยกเว้นแค่ตอนพิเศษในเล่ม
4.ไม่มีการกั๊กตอนเหมือนอย่างที่ใครเข้าใจผิดนะคะ ไม่ได้กั๊กค่ะ แค่ดอง อุแง~

สุดท้ายนี้ฝากคอมเม้น หรือ แท็ก #ที่รักของน่านฟ้า เป็นกำลังใจให้พันไมล์ด้วยนะคะ
ถ้าเม้นเยอะๆรับรองว่าตอนหน้าจะมาในเร็ว ๆนี้ค่ะ <3

ออฟไลน์ psychological

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0

ออฟไลน์ Ritawongishere

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เย้ มาต่อแล้วววว

ออฟไลน์ TanyaWikit

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ดีใจที่ได้กลับมาอ่านเป็นที่แรกเลยนะคะ
น้องน่านฟ้าเป็นที่รักของคนอ่านคนนี้มากมาก น้องนุ่มนิ่มน่ารัก
แต่ก็แอบรักความอบอุ่นของแทนไทนะคะ
ป๋าปราบต้องดีใจที่แทนไท โกรธเตชินจนน่ากลัวอย่างน้องน่านฟ้าเล่านั่นละค่ะ
เสียดายวันนี้ไม่น่าใช้หมัดต่อยเตชินเลย น่าจะตบด้วยฝ่ามือซ้ายขวา เพราะเตชินไม่ใช่ลูกผู้ชาย
ต่อจากนี้ไป น้องน่านฟ้า ก็จะมีผู้ชาย man man อย่างแทนไท ดูแลต่อ
ตอนต่อไปจะได้ดู แทนไท ขึ้นชกมวยแล้ว รึเปล่า

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
จะมีคนโดนจับได้มั้ยนะ  :hao3:

ออฟไลน์ Caramel Syrup

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
เคลียร์นะเตชิน ออกนอกวงโคจรจองน้องน่านไปเลย

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
น้องน่านก็ยังคงเป็นน้องน่าน ทุกอย่างสลายหายไปเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น
ป๋าน่าจะมือไวอีกสักหมัดสองหมัด กับบางคนต้องเจอแบบนี้บ้าง

เอ็นดูมากเลยค่ะ น่านฟ้า มีคนตามไปทำงานด้วย
และมีคนจะแวะมาหาด้วย ฮ็อตนะเรา

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ TanyaWikit

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :katai2-1:  วันนี้แวะมาอ่านน้องน่านกับพี่ไท อีก app. ด้วยความคิดถึง

ยังไม่สะใจเรื่องที่เตชินทำร้ายน้องน่านวันนั้นเลย  :z6:  :z6:  :z6:
อยากให้พี่ไทฝากรอบ ไว้อีกซักหน่อย เสียดาย

โอเค เวรย่อมระงับด้วยการ ตืบซ้ำซ้ำ  เอ๊ย ด้วยการไม่จองเวร :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Pinkmoon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รอน้าาาา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด