ชีวิตบัดซบของคุณแดริล :: บทส่งท้าย [27/01/2019]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ชีวิตบัดซบของคุณแดริล :: บทส่งท้าย [27/01/2019]  (อ่าน 52330 ครั้ง)

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
จบเรื่องโจเซฟแล้วสินะ หวังว่าจะไม่มีเรื่องอะไรที่แย่ไปกว่านี้

ออฟไลน์ Quatree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
หวังว่าจะไม่มีโจเซฟอีก555555  :pig4:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ชอบการเล่นประเด็น lgbt กับสังคมมากค่ะ แต่ถึงจะเป็นประเทศทางฝั่งนั้นก็เถอะ คนเหยียดก็คือคนเหยียด  :ling3:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
เดาว่าโจเซฟทำเรื่องแน่ แต่ก็แอบสงสารอยู่เหมือนกัน
ผลพวงจากอดีตใช่ว่าจะเอาชนะกันได้ง่ายๆ

ออฟไลน์ Sillyfoolstupid

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-0
เราไปอ่านจากที่อื่นมาจนจบ แต่อยากมาเม้นในนี้ อิอิ
 
ตอนมีคนแนะนำเรื่องนี้ (น่าจะคุณหมีคุก) เราก็กะจะอ่านเพื่อความบันเทิง

กำลังหาเรื่องประมาณแฟนเก่าแบบนี้อ่านพอดี

แต่พออ่านแล้ว ได้ความรู้เรื่อง start up ด้วย

คือเราอ่ะ เป็นคนที่ได้ยินคำว่า start up บ่อยมากแต่ไม่เข้าใจ

รู้แค่ว่าเป็นธุรกิจใหม่ๆแบบแหวกแนว ที่กำลังนิยมกัน

ต้องขอบคุณมากเลยค่ะ ที่แต่งนิยายสนุกๆมาให้อ่านแถมได้ความรู้อีกด้วย

จะติดตามผลงานต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ Maccagadz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มันดีมากเลยค่ะ แงงง
ไอเริ้ปมากๆ สู้ๆ นะคะคนเขียน
ตัวละครพัฒนาขึ้น
เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สะท้อนสังคมได้ดีเลยค่ะ
ดีใจที่ได้มาอ่านนะคะ /ส่งใจ

ออฟไลน์ oohsg94

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แง้งง เรื่องดีมากๆเลยค่ะ วินซ์ตอนเจอกันใหม่นางน่ารักขึ้นเท่าตัวเลย ฮรื่อออ ขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ QueenPlai

  • twitter - @khunhappymoon gmail - JangPlailiiz@gmail.com
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
น่ารักที่สุดดดด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ MsMin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คุณคะ เราชอบนิยายของคุณมาก สนุกมากเว่อ แทบจะไม่สะดุดอะไรเลย
การกระทำของตัวละคร การตัดสินใจ บทพูดทุกอย่างดีมาก หนังหรือเพลงที่อ้างถึง ในเรื่องคือเราก็ดูอ่ะยิ่งอิน
เวลาแคทพูดกับแดริล ในหัวเราภาษาอังกฤษงี้วิ่งมาเป็นซับไตเติ้ลเลยอ่ะ
ชอบภาษาด้วย เหมือนคนเขียนจะรับแปลรู้เลยเพราะภาษาสวยมาก
แต่ขอตินิดนึงนะคะ ตอนเวลามีบทสนทนาแล้วคนเขียน เขียนให้ลงท้ายด้วยชื่อคนพูดอ่ะค่ะ
คือเรางงมากตอนแรก เพราะไม่เข้าใจว่าหมายความว่าไง
เช่น "เพราะผมหล่อ" วินซ์ <<ตอนแรกคืองงว่าวินซ์อะไร เพราะไม่เคยเจอสำนวนเขียนแบบนี้ค่ะ
นอกนั้นชอบหมดเลยทุกสิ่ง สมูทมากอ่ะทั้งเรื่อง
ชอบความคิดของทั้งสองคนมากด้วย

เราอยากรู้ว่าจะทำ ebook มั้ยคะ พอดีเราอยู่ต่างประเทศ ลำบากกับการสั่งหนังสือมากเลย
แต่ก็อยากอุดหนุน อยากสนับสนุนนิยายดีๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-01-2019 20:41:29 โดย MsMin »

ออฟไลน์ Ta_ii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
สนุกมาก ชอบมากค่ะ อยากให้มีตอนพิเศษ แล้วก็อยากได้เล่มเก็บไว้ด้วย

ออฟไลน์ anonymouslycat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
บทส่งท้าย

   เพราะชีวิตไม่ได้สวยงาม แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียด… โลกเรามีหลายมุม แต่โลกก็คือโลก.. ไม่ว่าจะบอกว่าน้ำในแก้วเหลือตั้งครึ่งหนึ่งหรือเหลืออยู่แค่ครึ่งหนึ่ง ความเป็นจริงก็คือมีน้ำอยู่ครึ่งแก้วอยู่ดี
   คนเราเสียบางอย่าง และคนเราก็ได้บางอย่างคืนมา… แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็ต้องดำเนินต่อไป
   หลังจากนั้นวินเซนต์ ซัมเมอร์ยังคงได้รับเลือกให้เป็นนักกีฬา NFL ในฤดูกาลนั้นโดยไม่ได้ถูกถอดออกจากตำแหน่งกัปตันทีม มีคนภายนอกให้กำลังใจอย่างล้นหลาม ได้ออกรายการทอล์กโชว์กับพิธีกรดัง จัดว่าเป็นกระแสในโลกออนไลน์อยู่ช่วงหนึ่งทีเดียว
   แต่แม้เขาจะได้ลงสนามและทำอย่างเต็มที่แล้ว ก็ไม่อาจทำลายสถิติที่ตนเองทำไว้เมื่อสามปีก่อน การเล่นก็จัดได้ว่าฟอร์มดี และทำได้ในระดับที่น่าพอใจ
   มีกระแสข่าวออกมาว่าเดิมทีผู้จัดการทีมคิดจะถอนรายชื่อวินเซนต์ออกจากการเป็นนักกีฬาในลีกของฤดูกาลนั้น แต่ทางสมาคมติดต่อมาและยืนกรานว่าวินเซนต์ ซัมเมอร์ ต้องได้ลงแข่ง เพราะกลัวข้อกล่าวหาเรื่องการเหยียดเพศจากสาธารณชน
   เรื่องจริงเป็นอย่างไรไม่อาจทราบ ก็ขึ้นกับว่าจะมองให้มันเป็นเรื่องน่าเศร้าหรือน่ายินดี
   ในปีต่อมา ซัมเมอร์ไม่ได้เป็นกัปตันทีม แต่เขาก็ยังได้ลงแข่ง และหลังจบการแข่งขันในปีนั้น เขาก็ประกาศเกษียณจากอาชีพนักอเมริกันฟุตบอล โดยที่ไม่สามารถทำลายสถิติของตนเองแบบที่ตั้งใจเอาไว้
   ส่วนไลน์กีฬาของ fashionistaa.com ที่วินเซนต์เป็นพรีเซนเตอร์ หลังจากการประกาศตัวครั้งนั้น แดริล เชน ผู้ซึ่งเป็น CMO ก็สั่งการให้บริษัทออกประกาศว่าสนับสนุนความแตกต่างทางเพศและไม่ถอดถอนวินเซนต์ออกจากแคมเปญ ทำให้ได้รับคำชมอย่างล้นหลาม ยอดขายโดยรวมในเดือนนั้นเพิ่มขึ้นในเกือบทุกแบรนด์… ยกเว้นแบรนด์กีฬา
   ต่อมาพอมีประเด็นใหม่ให้ผู้คนสนใจ และประเด็นนี้กลายเป็นประเด็นเก่าที่ไม่มีใครอยากพูดถึง ตัวเลขก็กลับสู่ระดับปกติ

   ในปีถัดมาบริษัทไม่ได้ต่อสัญญากับวินเซนต์ ซัมเมอร์ โดยอ้างกับสื่อและทางโซเชียลว่าเป็นการปรับกลยุทธ์ทางการตลาด เมื่อกระแสทั้งหมดมวลซาลงแล้วจึงไม่มีใครเอะใจหรือใส่ใจ ว่าภาพของซัมเมอร์ค่อยๆ โดนถอดถอนออกไ   
   ต่อมา fashionistaa.com กลายเป็นยูนิคอร์น และได้ชื่อว่าเป็นออนไลน์แฟชั่นชอปปิ้งมอลล์อันดับหนึ่งในประเทศ
   คนเพียงไม่กี่คนไม่สามารถเปลี่ยนมุมมองของสังคมโดยรวมที่ถูกฝังรากฐานมาเป็นร้อยเป็นพันปีได้ สุดท้ายก็คงมีแต่ต้องใช้เวลาอีกเป็นร้อยเป็นพันปีเท่านั้นกว่าที่มันจะเปลี่ยน
   แต่ไม่ว่าเรื่องจะจบลงอย่างไร ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไปในแบบของมัน…

   เวลาราวสี่ทุ่ม แดริล เชนไขประตูอพาร์ทเมนต์เข้ามาพร้อมกับถือถุงกระดาษใส่ของชำเต็มแขน ยังไม่ทันได้วางข้าวของลงบนเคานต์เตอร์ครัว จู่ๆ ร่างที่สูงใหญ่กว่าตัวเองก็โถมเข้าใส่จนแอปเปิลแดงสองลูกร่วงลงพื้น
   “ฉันได้บทในหนังซุเปอร์ฮีโร่!”
   ตอนแรกก็ว่าจะดุเสียหน่อย แต่พอวินเซนต์ประกาศออกมาด้วยน้ำเสียงดีใจแบบเด็กๆ แดริลก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
   “ยินดีด้วย”
   พูดแล้วก็ลูบหลังคนตัวโตเบาๆ เขายังจำได้ดีว่าในห้องนอนของวินเซนต์นอกจากจะมีโปสเตอร์นักกีฬาอเมริกันฟุตบอลแล้วก็ยังมีหนังสือการ์ตูนฮีโร่พวกนี้อยู่ด้วย
   ตลอดสามปีที่ผ่านมาวินเซนต์พยายามเข้าสู่วงการบันเทิงตามรอยเทอรี่ ครูวส์ที่เป็นไอดอล ยังดีที่พ่อคนคลั่งกีฬาคนนี้ไม่ได้มีดีแค่แรงเยอะแต่ยังสามารถแสดงตามบทบาทได้ (อาจเพราะเสแสร้งหน้ากล้องเก่ง) จากบทเล็กๆ ในฐานะนักแสดงรับเชิญ ก็ค่อยๆ รับบทใหญ่ขึ้นจนสุดท้ายก็ได้บทสำคัญ และกลายเป็นนักแสดงนำ
   อันที่จริงคนดังในวงการกีฬาที่ผันตัวไปเล่นหนังก็มีให้เห็นมาหลายคนแล้ว เดอะร็อคก็เริ่มต้นจากการเป็นนักกีฬามวยปล้ำ อาร์โนลด์ก็เริ่มต้นมาจากการเป็นนักกีฬาเพาะกาย
   “นายกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” แดริลวางถุงของชำลงบนโต๊ะข้างๆ ก้มลงเก็บลูกแอปเปิลแดงที่ตกพื้น
   “เมื่อเย็น” วินเซนต์ตอบ มือก็รื้อถุงของชำไปพลาง หยิบผลไม้ออกมาแทะกินโดยไม่ขออนุญาต “หลับรอนายไปตื่นนึง”
   ช่วงนี้วินเซนต์เดินทางไปๆ กลับๆ ระหว่างแคลิฟอร์เนียกับนิวยอร์กเพราะงานที่ต้องทำ จนดูจะเหนื่อยไม่น้อย..
   แดริลยังคงทำงานอยู่ที่เดิม ในตำแหน่งเดิม แค่บริษัทใหญ่ขึ้น ตอนนี้บริษัทเกินคำว่าสตาร์ทอัพไปมากแล้ว และเขาก็ต้องคุมคนหลายสิบ มีโครงสร้างที่ซับซ้อนขึ้น ขั้นตอนที่เพิ่มมากขึ้น… จนรู้สึกว่ามันน่าเบื่อ และเริ่มไม่ต่างอะไรกับบริษัทใหญ่บริษัทอื่น… ความรวดเร็วและเสน่ห์ของคำว่า ‘สตาร์ทอัพ’ ไม่หลงเหลืออีกแล้ว
   “นี่… วินซ์” ขณะที่จัดเก็บอาหารใส่ตู้เย็น ชายหนุ่มก็ทักขึ้นมา “ฉันว่าฉันจะไปหางานที่ซิลิคอนแวลีย์ดู นายคิดว่ายังไง”
   ซิลิคอนแวลีย์ตั้งอยู่ในแคลิฟอร์เนีย เป็นแหล่งรวมธุรกิจสตาร์ทอัพและบริษัทเทคมากมาย กระทั่งบริษัทเทคยักษ์ใหญ่อย่างกูเกิ้ลหรือแอปเปิลก็ตั้งอยู่ที่นี่ เป็นศูนย์รวมคนเก่งโปรไฟล์เลิศระดับท็อปของวงการเทคและสตาร์ทอัพเลยทีเดียว
   ปากที่กำลังแทะลูกแอปเปิลของวินเซนต์ชะงักเล็กน้อย
   “ไม่ใช่ว่านายรักบริษัทที่ทำอยู่หรือยังไง”
   “ฉันรักงานที่ทำ ไม่ได้รักบริษัท” ชายหนุ่มผมดำหัวเราะเบา “แล้วฉันรู้สึกว่าวัฒนธรรมองค์กรใหญ่ไม่เหมาะกับตัวเองเท่าไหร่… ฉันมีความสุขกับสมัยที่มันยังเป็นสตาร์ทอัพ เรานั่งช่วยกันทำงานในออฟฟิศห้องเล็กๆ ชั้นเดียวมากกว่า”
   วินเซนต์เดินเข้าใกล้ขณะที่แดริลกำลังปิดประตูตู้เย็น
   “นายไม่จำเป็นต้องทิ้งมันไปเพื่อฉันหรอก ฉันไหว จริงๆ นะ” วินซ์มุ่นคิ้วขณะก้มลงมองคนที่มองตอบเขาซึ่งกำลังยิ้มน้อยๆ
   “นายเริ่มคิดมากแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
   “ตั้งแต่คบกับนาย...”
   ชายหนุ่มฟังแล้วก็หัวเราะออกมาเบาๆ
   “ฉันอยากให้มันสะดวกนาย แต่ฉันก็อยากไปเริ่มทำอะไรใหม่ๆ เองด้วย วินซ์ เราจะได้ซื้อบ้าน แล้วนายจะได้เลี้ยงหมาด้วยไง” แดริลดึงคอเสื้อให้อดีตนักกีฬาโน้มตัวลงมาเล็กน้อย แนบจูบเบาลงบนแก้มสากของคนที่ดูเหมือนจะลืมโกนหนวด… อีกแล้ว
   “ถ้านายว่าอย่างนั้นฉันก็ไม่เกรงใจล่ะนะ” วินซ์ยกยิ้มมุมปาก ท่าทางเหมือนจะอารมณ์ดีขึ้นมาก
   แรกเริ่มในตอนที่เพิ่งเกษียณใหม่ๆ แม้เจ้าตัวจะพยายามไม่แสดงอะไรให้เห็น แต่แดริลก็รู้สึกได้ถึงความเศร้า... หลายครั้งที่วินเซนต์เหม่อมองลูกอเมริกันฟุตบอลอยู่นาน บางครั้งเปิดทีวีเจอแข่งกีฬาก็จะรีบปิดหรือเปลี่ยนช่องหนี แต่ระยะหลังเหมือนจะดีขึ้นมากแล้ว...
   ชายหนุ่มจากวงการมาด้วยดี จนปีสุดท้ายเขาก็ยังพยายามเล่นอย่างดีที่สุด และทีมก็ชนะ แต่ก็ได้ไม่เท่าที่วินซ์หวังเอาไว้
   พอถามว่ามีปัญหาอะไรไหม อีกฝ่ายก็จะตอบว่า
   มีบ้าง… แต่ไม่ใช่ปัญหาที่ฉันรับมือไม่ได้
   ด้วยสีหน้าและรอยยิ้มมั่นใจแบบทุกครั้ง…

   มีทั้งคนที่เข้าใจ… และคนที่ไม่เข้าใจ ซึ่งแดริลช่วยอะไรคนรักของตนเองไม่ได้เลย นอกจากคอยกอดอีกฝ่ายเอาไว้
   มันคุ้มแล้วเหรอ?
   คุ้มสิ…
   แค่คำตอบสั้นๆก็รู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ออกมาแล้ว…
   “แล้วเราจะย้ายเมื่อไหร่กันดี” วินซ์
   “ปีหน้า… น่าจะดี” แดริล
   “ได้ ปีหน้า” วินซ์
   “จะว่าไป… หนังซุเปอร์ฮีโร่ที่ว่า นายได้บทอะไรน่ะ” แดริลถามอย่างสงสัย อีกฝ่ายเลิกคิ้วน้อยๆ แล้วก็มองตอบด้วยแววตาขบขัน ก่อนจะโน้มตัวเข้าใกล้ กระซิบบอกเสียงเบา
   คนฟังเลิกคิ้วสูง หลุดหัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่
   “ฉันรอดูนายในชุดรัดรูปนั่นไม่ไหวแล้ว”
   “ต่อให้เป็นชุดรัดรูป หุ่นอย่างฉันใส่อะไรก็ดูดี ที่รัก” เจ้าของร่างสูงใหญ่ฉีกยิ้มตอบอย่างน่าหมั่นไส้ จนอดกลอกตาสักทีไม่ได้ แต่กลอกตาไปมันก็ไม่สะทกสะท้าน จึงเดินหนีดื้อๆ เสียแบบนั้น แต่วินเซนต์ก็ก้าวยาวตามมาถึงโซฟาอยู่ดี
   “นี่ แดริล… คริสต์มาสนี้กลับดีซีกันไหม”
   คำถามทำให้คนฟังมีสีหน้าเหมือนเห็นผี อย่างที่รู้กันดี บ้านครอบครัวซัมเมอร์อยู่เยื้องกับบ้านของพ่อแม่แดริล และเขาก็ไม่ได้คุยกับทั้งพ่อและแม่มาสามปีแล้ว
พอคิดถึงบุพการีที่จนบัดนี้ก็ยังไม่ยอมรับเรื่องนี้แล้วก็รู้สึกฝาดขมในใจอยู่บ้าง
   “ฉันอยากพานายไปคุยกับที่บ้านสักที แม่บ่นอยากเจอนาย…” พูดไปมือไม้ที่อยู่ไม่สุขก็รวบตัวคนข้างๆ มากอดด้วย
   “... พวกเขาโอเคแล้วจริงๆ ใช่ไหม”
   เมื่อตอนนั้นที่วินเซนต์ประกาศตัว เหมือนเจ้าตัวต้องอธิบายให้พ่อและแม่ฟังยกใหญ่ แรกเริ่มก็เหมือนจะมีปัญหา แต่ต่อมาทั้งสองคนก็เหมือนจะค่อยๆ ยอมรับได้อย่างช้าๆ
   …. ว่าลูกชายคนเดียวของพวกเขามีคนรักเป็นผู้ชาย
   “ก็คิดว่าทำใจได้แล้ว วันก่อนบอกให้คริสต์มาสนี้พานายกลับบ้านด้วย พวกเขาคงเข้าใจแล้วว่าฉันจะไม่เปลี่ยนใจ”
   “....” แดริลเงียบไปเล็กน้อย
   “บางที ‘เวลา’ ก็ทำให้อะไรอะไรดีขึ้น” มือใหญ่ลูบแผ่นหลังของชายหนุ่มอย่างเบามือ “คำตอบของนายล่ะ”
   “...ฉันจะไป” และก็จะกลับไปพบหน้าครอบครัวของตัวเองด้วยหากทำได้… เพราะคงถึงเวลาที่ต้องเผชิญหน้าแล้ว “นายจะอยู่ข้างๆ ฉัน ตอนพ่อเอาปืนมาไล่ยิงฉันใช่ไหม”
   วินซ์ฟังแล้วก็หัวเราะดังอย่างชอบใจ

   “แน่นอน ฉันจะไม่ปล่อยให้นายต้องเผชิญกับอะไรตามลำพังอีกแล้ว” ร่างสูงใหญ่ก้มลงแนบจูบเบาอย่างอ่อนโยน และกระซิบถ้อยคำแผ่ว

“...ฉันสัญญา”


------------

สวัสดีค่า สำหรับตอนสุดท้ายขอโทษด้วยนะคะที่มาลงสายไปหน่อย ช่วงนี้ยุ่งมากๆเลย รู้ตัวอีกทีก็ตีสามตีสี่แล้วเลยไม่ค่อยอยากอัพดึกค่ะฮืออ

ยังไงเดี๋ยวจะลงตอนพิเศษอีกหน่อยนะคะ รบกวนแอดมิรอย่าพึ่งเก็บกระทู้

คำติชมขอน้อมรับไว้นะคะ ตอนนี้เราแก้งานเสร็จไป 90% แล้วค่ะ ตอนพิเศษเฉพาะในเล่มเขียนครบหมดแล้ว (; v ; / จะไม่ทันเดดไลน์แล้ว ฮือออ

สำหรับเรื่องนี้จะมี e-book นะคะ แต่จะมาหลังส่งรูปเล่มออกไปแล้วค่า   :hao5: :hao5: :hao5:

ช่วงนี้ขอเคลียร์หลายๆอย่างก่อนค่ะ ปกก็ใกล้เสร็จแล้วไว้จะอัพเดตทางเฟสบุคกับทวิตเตอร์นะคะ! 

ออฟไลน์ anonymouslycat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
Extra #2 This Christmas

   แดริลก้าวลงจากรถพร้อมกับสารพัดถุงของชำเต็มแขน คุณนายซัมเมอร์(หรือแม่ของวินเซนต์) เดินนำอยู่ด้านหน้า สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
   “สูตรนี้น่ะ แม่ได้มาจากคุณยายอีกที ไว้จะสอนนะจ๊ะ อาหารจานนี้น่ะวินซ์ชอบมากเลย” แดริลยิ้มรับฟังอย่างสุภาพ ขณะวางถุงของทั้งหมดที่จะเอามาทำอาหารไว้เลี้ยงคนในครอบครัวในคืนวันคริสต์มาสบนโต๊ะอาหารในครัว
   “ครับ คุณนายซัมเมอร์”
   “ตายจริง บอกกี่ทีแล้วให้เรียกว่าแม่ เด็กคนนี้นี่ ทำไมดื้อแบบนี้นะ” แดริลเพียงหัวเราะแห้งๆ อันที่จริงตัวเขายังไม่ชิน และไม่คาดหวังว่าจะได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นขนาดนี้ “บอกแล้วไง ว่าเธอก็เป็นเหมือนลูกชายของฉันอีกคน แถมยังน่ารักกว่าลูกชั่วนั่นด้วย”
   “ครับ… คุณแม่” อันที่จริงเรียกแล้วแดริลก็ยังรู้สึกแปลกและขัดแย้งในใจอยู่ดี แต่เขาก็ยอมเรียกเพื่อความสบายใจของเธอ
   หญิงวัยกลางคนยิ้มอย่างอบอุ่น
   “เฮ้อ นี่ถ้าแม่เกิดช้ากว่านี้อีกสักสามสิบปี--”

   จู่ๆก็มีเสียงกระแอมไอดังมาจากหน้าห้องครัว วินเซนต์กลับมาแล้ว พร้อมกับหัวที่เต็มไปด้วยเกล็ดหิมะ
   “ทำไมลูกชั่วคนนี้ถึงหาสามีดีๆ ได้นะ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ” แม่ของวินเซนต์พูดหยอกพลางส่ายหัว
   “เพราะผมหล่อ” วินซ์
   “.......” แดริลเดินหนีไปช่วยหั่นแครอทเงียบๆ จากนั้นเจ้าคนอยู่ไม่สุขก็ตามติด มือที่อยู่ไม่สุขเริ่มกอดเอวและวางคางเกยกับบ่าของคนที่ถือมีดอยู่
   “วินซ์… เกรงใจคุณแม่ด้วย” ตอนอยู่ด้วยกันนี่ก็เป็นสิ่งที่วินเซนต์ทำเป็นประจำ แต่แดริลยังรู้สึกกระดากอายที่อีกฝ่ายทำแบบนี้ต่อหน้า…. แม่ตัวเอง
   “แต่ฉันอยากอวด” วินซ์
   “.....” แดริล
   ท่าทางดึงดันเอาแต่ใจทำให้เขาต้องถอนหายใจออกมา และแม่ของวินเซนต์ก็มองสบตาแดริลอย่างเข้าใจกันดี…..
   “ออกไปดูทีวีกับพ่อเขาได้แล้ววินซ์ เกะกะ แม่จะทำอาหาร” คนเป็นแม่ถึงขั้นเอ่ยปากไล่ แต่เจ้าตัวเกะกะก็ไม่ยอมไปง่ายๆ
   “แม่ได้ลูกชายคนใหม่ก็ลืมคนเก่า?”
   “ใช่ ลูกชายคนใหม่ของแม่เป็นเด็กดีกว่าคนเก่าเยอะ ไป ชิ่วๆ” หลังโดนไล่วินเซนต์ก็ก้มลงจูบหนักลงบนแก้มของคนรักที่พยายามหดหัวหนีหลายที สุดท้ายก็ยอมผละไปนั่งดูทีวีในห้องรับแขกแต่โดยดี…
   หญิงวัยกลางคนดูไม่ได้ถือสา แค่ยกยิ้มขบขันและส่ายหน้า ก่อนจะหยิบผักออกมาหั่นล้างต่อไป
   “... รู้ไหม เธอเป็นคนแรกที่เขาบอกกับที่บ้าน… ว่านี่คือคนรัก” หญิงวัยกลางคนพูดขึ้นมาเหมือนจะชวนคุยระหว่างทำครัว “ตอนแรกพวกเราก็ตกใจมาก… ที่เป็นเธอน่ะจ้ะ”
   “...ผมขอโทษครับ” แดริลรู้สึกติดค้างคำขอโทษแก่คุณและคุณนายซัมเมอร์ เพราะเขา คนคู่นี้ถึงไม่มีโอกาสได้อุ้มหลาน
   “ขอโทษทำไมกัน ไม่ได้หมายความในทางที่ไม่ดีสักหน่อย ก็แค่ประหลาดใจและก็ทำอะไรไม่ถูกน่ะจ้ะ เพราะที่ผ่านมาวินซ์มีแต่ข่าวกับผู้หญิงเต็มไปหมดจนพวกเราปวดหัวเลยล่ะ” หญิงวัยกลางคนหั่นมันฝรั่งเสร็จแล้วก็เริ่มตั้งหม้อต้มน้ำกับเตา “ตอนแรกหากให้บอกว่าไม่กังวลเลยก็คงจะโกหก แต่พอได้คุยกับเธอจริงจังแล้ว บวกกับเรื่องที่วินซ์เล่า แม่ก็วางใจแล้วล่ะ”
   “...ครับ” แดริลยกยิ้มบาง มือยังคงวุ่นกับการช่วยงานทำครัวไม่หยุด
   “อีกอย่าง เด็กเอาแต่ใจระดับจักรวาลหมุนรอบตัวเองคนนั้นน่ะ ก็เคยคิดเหมือนกันว่าใครมันจะไปทนเขาได้” สมเป็นแม่ของวินเซนต์ รู้จักลูกตัวเองดีจริงๆ…… “เป็นพวกบอกว่า ‘ไม่’ แล้วก็ยังจะเอาจนได้อยู่ดี เด็กคนนั้นน่ะ ทำให้กลุ้มใจมาตั้งแต่เล็กยันโตเลย เฮ้อ”
   ….ครับ… ผมเข้าใจดีเลยครับ
   แดริลมองเธออย่างเห็นอกเห็นใจมาก
   “ฉะนั้นได้เธอมาช่วยดู ก็โล่งอกขึ้นมากเลยล่ะจ้ะ”
   “... ขอบคุณนะครับ” คนฟังยกยิ้มให้น้อยๆ อย่างโล่งใจ
   “ส่วนตาแก่นั่นน่ะไม่ต้องไปสนใจหรอก เขาก็แค่ทำตัวไม่ถูกเท่านั้นล่ะ ปล่อยไปสักพักเดี๋ยวก็ดีเอง” พูดแล้วเธอก็เทผักลงน้ำเดือดในหม้อ
แดริลมองชิ้นมันฝรั่งในน้ำที่เดือดปุดแล้ว จากนั้นก็ละสายตามองออกนอกหน้าต่าง ไปยังบ้านฝั่งตรงข้าม ซึ่งก็คือบ้านของเขาเอง
“... คุณไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ ได้เจอแม่ผมบ้างไหมครับ”
“.... เจอจ้ะ” เหมือนคำถามนั้นจะทำให้หญิงวัยกลางคนลำบากใจอยู่ไม่น้อย
“ท่านสบายดีไหมครับ”
 “เท่าที่ดูก็เหมือนจะดีนะ แต่ฉันกับมาร์กาเร็ตน่ะ ไม่คุยกันมาหลายปีแล้วล่ะ” …. ตั้งแต่ปีที่วินเซนต์ประกาศตัวและรูปของพวกเขาทั้งคู่ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์แทบลอยด์นั่นล่ะ
   แดริลผงกหัวรับคำเบาๆ อันที่จริงมันก็ไม่แปลกหรอก ผ่านไปหลายปีแล้วทั้งพ่อและแม่ก็ยังไม่อยากคุยกับเขาอยู่ดี
   แดริลได้ข่าวจากซีมัสว่าเมื่อสองปีก่อนเจ้าตัวก็โทรไปบอกพ่อมาแล้วเหมือนกันว่าตัวเองอยู่กินกับผู้ชาย และไม่คิดจะเลิก… เหมือนว่าก็จะโดนตัดพ่อตัดลูกเหมือนกัน
   บ้านหลังที่ตั้งเยื้องอยู่ฝั่งตรงข้ามหลังนั้นดูเงียบเหงาอย่างประหลาด มีการตกแต่งบ้านเพื่อรับเทศกาลคริสต์มาส แต่ก็ไม่มากนัก… ไม่มากเท่าในความทรงจำวัยเด็กของแดริล
สุดท้ายเขาเห็นประตูบานนั้นเปิดออก ชายวัยกลางคนคนนั้นดูแก่ลงไปมากจากครั้งล่าสุดที่พบกัน ผมจากที่เคยเป็นสีดำแซมขาว ตอนนี้ขาวแทบจะทั้งหัว…
พ่อเดินออกมาทิ้งขยะถุงโตลงถังหน้าบ้าน และเดินกลับเข้าไป ใบหน้าปราศจากรอยยิ้มหรือความยินดี แม้จะเป็นช่วงคริสต์มาสก็ตามที
แดริลยืนมองอยู่นาน… กระทั่งร่างนั้นหายไปหลังบานประตูบานเดิมที่แสนจะคุ้นตา

ก็ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกเท่าใด… หรือไม่ วันนั้นอาจจะไม่มีทางมาถึงเลยก็เป็นได้
…………..

   หลังมื้ออาหารค่ำอันอบอุ่นพวกเขานั่งจิบโกโก้ร้อนอยู่หน้าเตาผิง คู่สามีภรรยาซัมเมอร์หลบขึ้นไปเข้านอนนานแล้ว เหลือเพียงชายหนุ่มสองคนที่นั่งดูหนังโปรแกรมพิเศษในคืนวันคริสต์มาสวันนี้ ซึ่งเป็นหนังรักสุดคลาสสิค ‘Love Actually’
   ปกติแล้ววินเซนต์และแดริลไม่ชอบดูหนังรักกันทั้งคู่ แต่เรื่องนี้เป็นกรณียกเว้น และคริสต์มาสก็เป็นเทศกาลพิเศษ
   ชายหนุ่มผมดำพิงหัววางบนบ่าแข็งของร่างที่สูงกว่า ที่ก็นั่งนิ่งทำตัวเป็นหมอนอิงโซฟาที่ดีอยู่แบบนั้น
   “ฉันชอบบิล แม็คที่สุดแล้วเรื่องนี้” วินเซนต์พึมพำ ขณะมองหน้าจอดูชายแก่วัยพ้นกลางคนไปแล้วที่กำลังพยายามจะเอาชนะวงบอยแบนด์ด้วยการแก้ผ้าร้องเพลงคริสต์มาส แดริลฟังแล้วก็หัวเราะเบาๆ
   “ก็สมเป็นนายดี” แดริล
   “แล้วนายล่ะชอบใคร” วินซ์
   “คนที่ตอนหลังไปเล่นเรื่องวอล์คกิ้งเด้ดน่ะ” แดริล
   “มาร์คน่ะนะ?” วินซ์
   “ใช่ นั่นละ” แดริล
   พวกเขาดูหนังกันต่อไปเงียบๆ จนจบเรื่อง มันไม่ใช่ความเงียบที่น่าอึดอัด แต่เป็นความเงียบที่ชวนให้สบายใจ แดริลประคองถ้วยช็อกโกแลตร้อนไว้ด้วยสองมือแล้วจิบเบา รู้สึกสบายใจอย่างประหลาดแม้พ่อแม่จะอยู่ห่างออกไปเพียงแค่บ้านหลังตรงข้ามเท่านั้น

   เวลาอาจจะช่วย หรืออาจจะไม่ช่วย แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้คนเราปล่อยวางหลายสิ่งลงได้

   อันที่จริงแดริล เชน ไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย จะชีวิตที่หวือหวาหรือนักกีฬาชื่อดัง เขาต้องการแค่ความสบายใจเล็กๆ ณ เช่นที่เกิดขึ้นในตอนนี้เท่านั้นเอง
   ดูหนังในวันคริสต์มาสอย่างเรียบง่าย กับช็อกโกแลตร้อนหนึ่งถ้วย เท่านี้ก็พอแล้ว
   ...นาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืน
   “เมอรี่คริสต์มาส วินเซนต์” แดริลชิงพูดก่อน วินซ์เพียงเลิกคิ้วเล็กน้อย ก้มลงจูบเบาบนริมฝีปากของคนรักตนเอง และกระซิบตอบใกล้ริมฝีปาก
   “เมอรี่คริสต์มาส แดริล”
   “เราควรไปเข้านอนแล้ว” แดริลพูดเบาทั้งรอยยิ้มบาง แต่ขณะที่กำลังจะลุก วินเซนต์กลับดึงรั้งร่างที่บางกว่าให้นั่งลงบนโซฟา
   “อย่าเพิ่ง… ฉันมีอะไรอยากให้นาย”
   คนฟังเลิกคิ้วเล็กน้อย
   “ของขวัญวันคริสต์มาสควรจะเปิดตอนเช้านะ วินซ์”
   “เถอะน่า ตอนเช้าฉันก็มีให้อีกกล่อง” ไม่พูดเปล่า วินเซนต์ยังยัดกล่องขนาดเท่าฝ่ามือใส่มือให้อีกด้วย
   แดริลชะงัก เงยมองคนให้ด้วยสายตาไม่ค่อยอยากเชื่อ เหมือนเขาจะพอเดาได้ว่าของในกล่องคืออะไร
   “เปิดสิ” วินเซนต์พูดจบก็จูบหน้าผากคนข้างๆ “ฉันอยากรู้ว่านายจะชอบไหม”
   แดริลแกะริบบิ้นออก เปิดฝากล่อง ด้านในเป็นกล่องแหวนบุผ้ากำมะหยี่สีแดง…
ชายหนุ่มหยิบมันขึ้นมาทั้งมือสั่น มองของสลับกับวินเซนต์ สักพักอีกฝ่ายก็เหมือนจะใจร้อนจนทนไม่ไหว เจ้าคนรีบฉวยหยิบของในมือไปเปิด หยิบแหวนคู่สีทองสองวงออกมาเอง และจับดึงมือคนรักมาใส่แหวนโดยไม่ถามอะไรสักคำ…
   “แต่งเดือนไหนดี”
   เดี๋ยว เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน นายควรขอก่อน หรือถามก่อนไหม!
   จู่ๆ แดริลก็ไม่แน่ใจว่าควรจะซาบซึ้งหรือจับเจ้าบ้านี่ตีก่อนดี
   “วินซ์… นายข้ามขั้นตอนอะไรไปหรือเปล่า……”
   “อะไร ฉันรอจะให้นายจนพ้นเที่ยงคืนแล้วนะ ยังไงซะฉันก็รู้คำตอบอยู่แล้ว ทำไมต้องถาม” คนพูดเลิกคิ้วใส่หน้าตาเฉย จนแดริลได้แต่ส่ายหัว “นายจะตอบว่าแต่งใช่ไหมล่ะ”
   มันก็ไม่ผิดหรอก…...
“นายต้องรับผิดชอบฉัน ฉันไม่ให้ปฏิเสธอยู่แล้ว” พูดแล้ววินเซนต์ก็ยิ้มกว้าง แต่แดริลจับสังเกตได้ ว่าเหมือนใบหน้าของอีกฝ่ายจะแดงขึ้นเล็กน้อย
โธ่เอ๊ย… เจ้าคนทำอะไรซาบซึ้งกับเขาไม่ค่อยจะเป็นนี่   
   “อืม.. รับผิดชอบ” มือข้างหนึ่งบีบมือหนาเบาๆ พร้อมทั้งคลี่ยิ้มจาง “และก็ไม่ปฏิเสธ”
   หลังจากคบกันได้หลายปี เขาก็พอรู้แล้วว่าที่วินเซนต์ไม่ค่อยยอมบอกรักหรือทำอะไรที่มันซาบซึ้งหวานเลี่ยน… จริงๆ เจ้าตัวก็แค่เขินและไม่ชินกับการต้องทำเท่านั้นเอง

   ก็เลยชอบทำลายบรรยากาศแบบนี้ไงล่ะ…

   วินเซนต์ยังคงฉีกยิ้มสีหน้าเดิม จนคนมองเริ่มไม่วางใจแล้ว ก็หมอนี่น่ะ ไว้ใจได้ซะที่ไหนกัน
   ...จากนั้นร่างเล็กกว่าก็โดนอีกฝ่ายหิ้วตัวลอย ยังไม่ทันจะได้ร้องห้ามเจ้าคนบ้าพลังก็ยกเขาเดินขึ้นบันได มุ่งหน้าไปทางห้องนอนชั้นสอง
   “วินเซนต์! ไม่เอา ฉันเดินเองได้” แดริลร้องห้าม
   “นายไม่อยากโวยวายหรอกที่รัก เดี๋ยวพ่อแม่ฉันตื่นนะ” คำตอบที่จี้จุดอ่อนนั่นทำให้คนถูกกระทำได้แต่มุ่ยหน้าลงเล็กน้อย และยอมเงียบปากแต่โดยดี
พ้นประตูก็โดนจับโยนลงเตียงแทบทันที ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยปากต่อว่า วินเซนต์ก็คร่อมทับ ก้มลงจูบดูดดื่มแบบไม่เว้นเวลาให้พักหายใจ
   ชายหนุ่มต้องทุบบ่าอีกฝ่ายหลายทีกว่าจะยอมถอย พออ้าปากจะดุ ตาก็เหลือบเห็นช่อใบไม้เขียวแซมผลขาวผูกโบว์แดงดูน่าสงสาร ที่ถูกแปะเทปเอาไว้อย่างลวกๆ บนเพดานห้อง
   “เขาว่าอยู่ใต้ต้นมิสเซิลโทต้องจูบไงล่ะ” เจ้าบ้านั่นยังคงยิ้มชั่วร้าย “ให้ดีเราก็ทำกันใต้ช่อมิสเซิลโทเลยก็เข้ากับเทศกาลดีออก”
   แดริลนึกอยากลูบหน้าแรงๆ...
   “พ่อแม่นายอยู่ห่างออกไปไม่กี่ห้องนะ… วินซ์” เขาถอนหายใจออกมา พูดปรามทั้งดันอีกฝ่ายให้พ้นตัว
   “ไม่เป็นไรหรอก ห้องฉันเก็บเสียง” พูดจบก็โดนเคาะหัวไปตามระเบียบ “อะไรกัน วันนี้ฉันขอนายแต่งงานแท้ๆ  รางวัลฉันล่ะ”
   พูดทวงทั้งยังยักคิ้วทำหน้าตาน่าหมั่นไส้อีกต่างหาก…
   “...ไว้กลับแคลิฟอร์เนียก่อนค่อยว่ากัน” แม้จะแสดงสีหน้าไม่ชอบใจ แต่วินเซนต์ก็ไม่ได้ดึงดัน ยอมถอยให้แต่โดยดี
   “ดอกเบี้ยแพงนะ” ยังมีขู่...
   สุดท้ายแดริลก็ทนไม่ไหว อ้าปากงับคออีกฝ่ายสักทีอย่างอดไม่ได้    
“ฉันจ่ายไหว”

   และค่ำคืนวันคริสต์มาสของแดริล เชน ก็ผ่านพ้นไปอย่างสงบสุข ในเมืองที่ทุกอย่างเริ่มต้น และในห้องเดียวกับที่เรื่องทั้งหมดเริ่มต้น
   ชายหนุ่มมองใบหน้ายามหลับของวินเซนต์ ที่ก็ไม่ได้ดูร้ายกาจเสียเท่าไร จากนั้นก็ยิ้มออกมา
   “...ฉันดีใจที่ได้พบนาย” เขากระซิบเบาให้แก่คนที่กำลังหลับสนิท วางมือลงบนหลังมือของอีกฝ่ายที่สวมแหวนบนนิ้วนางข้างซ้ายเช่นเดียวกัน

   โดยที่แดริลตั้งใจว่าจะไม่มีวันปล่อยมือนี้ไปอีกแล้ว

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ดีใจกับคุณแดริล แฮปปี้กับชีวิตนะคะ ขอให้ไม่มีเรื่องยัดซบเข้ามาในชีวิตอีกต่อไปนะคะ  :mew1:

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
โรแมนติกใต้ช่อมิสเทินโซไปเลย ดีใจกับคุณแดริลด้วย ความบัดซบของชีวิตจบลงแล้ว ขอให้วินซ์ทำตัวดีๆนะ :pig4:

ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ เป็นอีกเรื่องที่ประทับใจมาก นักเขียนยกประเด็นLGBTมาเล่นได้จริงมากและยังคงเป็นนิยายไม่ใช่วิจัยแทน ดีใจกับคุณแดริลที่ไม่เป็นคนเศร้าแล้ว มีความสุขสักทีนะคะ ^^

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
ปุ๊บปั๊บจบซะแล้ว
ขอบคุณเรื่องสนุกมากค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Congrats ทั้งสองคนรักกันสักที
แต่ก็สงสารบ้านแดริลนะยอมรับความหลากหลายไม่ได้แต่ก็ถือว่า Mindset ของพวกเขาแล้วละ  :L1:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Quatree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ palipang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ lemonphug

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อ่านรวดเดียวจบสนุกมาก อยากได้ตอนพิเศษเกี่ยวกับความรู้สึกของวินเซนต์หน่อย

ออฟไลน์ jincool

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ชีวิตมันไม่ง่ายจริงๆ
มันบัดซบทุกอย่างแหละ แต่ก็อยู่ที่คนจะมอง
ทำชีวิตให้ง่าย ให้มีความสุขแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ดีกว่าเนอะ

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
ขอบคุณจ้า​ ​เรื่องสนุกดี
ช่วงแรกร้องด้วยอ่ะ​ แต่จบดีค่ะ

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
สนุกมาก ชอบมาก
ขอบคุณที่ลงให้อ่านค่ะ^^

ออฟไลน์ Rsun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขอบคุณ​ค่ะ​ที่​เขียนนิยายดีๆแบบนี้ออกมา​  :L1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด