【 Yaoi 】 Lace of love #ภูมิแพ้ลูกไม้ /บท14.2 (จบแล้ว) 3.06.62
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 【 Yaoi 】 Lace of love #ภูมิแพ้ลูกไม้ /บท14.2 (จบแล้ว) 3.06.62  (อ่าน 73544 ครั้ง)

ออฟไลน์ Papa614

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
            “เจ้านายน้าภัทรนี่ เขาใจดีจังเลยนะฮะ”

“…..”
   “น้าภัทรฮะ….”
   “อือ….ใช่ เขาใจดี”
   “เลี้ยงข้าวเราไม่พอยังซื้อขนมให้โอ๊ตอีก ใจดีมากเลย” หลานชายพูดด้วยน้ำเสียงชื่นชม ขณะที่แขนทั้งสองข้างยังกอดถุงขนมใบใหญ่เอาไว้ด้วย
   สองน้าหลานเพิ่งกลับเข้าบ้านได้เพียงไม่นาน หลังภัทรพาคุณภาสกรไปรับหลานชายที่โรงเรียน เราจึงแวะทานข้าวเย็นข้างนอกบ้านเสียเลย ซึ่งคุณเขาก็อาสาเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหาร ไม่ยอมให้ภัทรออกเงินช่วยสักบาทเดียว
   อยากจะชื่นชมคุณภาสกรอย่างเต็มใจอยู่หรอก แต่ตอนนี้ภัทรไม่มีอารมณ์จะชื่นชมหรือเยินยอใครทั้งนั้น เนื่องด้วยเรื่องส่วนตัวที่ทำให้เขาแทบทานอาหารมื้อเย็นไม่ลง แถมภัทรยังไม่ยิ้มแย้มเหมือนอย่างเคย ทำเอาคนรอบข้าง แม้แต่หลานชายอดถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้
   หลังส่งหลานเข้านอน เช็กประตูบ้าน กลอนหน้าต่างเรียบร้อยแล้ว ภัทรก็กลับเข้ามาในห้องนอน สถานที่ส่วนตัวของตนเองด้วยความหนักอกหนักใจ ทั้งวันมานี้ก็ว่าแย่แล้ว เพราะไหล่ทั้งสองข้างแบกรับความกลัวที่ยังไม่เกิดขึ้นจนเหนื่อยล้าไปหมด แต่ตอนนี้ทุกอย่างยิ่งแย่ลงไปอีก
   หากย้อนเวลากลับไปได้ ธนภัทรจะไม่มีทางเอ่ยถามเรื่องนั้นกับคุณภาสกรเป็นอันขาด เพราะคำตอบของคุณเขา มันทำให้ภัทรรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่ ตอนนี้เหมือนเขาต้องตระหนักไว้เสมอ ห้ามให้คุณเขาผิดหวังเป็นอันขาด หากอยากพัฒนาความสัมพันธ์ให้เป็นมากกว่าเจ้านายและลูกน้อง ซึ่งก็แปลว่าคุณภาสกรจะรู้ความลับของภัทรไม่ได้เด็ดขาด
   ธนภัทรคิดเวลาตัวเองมีสติในการเล่นโซเชียลเสมอ เขาเคยสัญญากับตัวเองไว้ว่า จะเล่นทุกอย่างอย่างมีสติ แต่ครั้งนั้นภัทรเผลอไม่ระวังไปเพียงเสี้ยววิ ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายแล้วตัวเองจะต้องมานั่งหนักใจ นับวันรอว่าเมื่อไรความลับจะแตก
   คุณพีดีกับภัทรก็จริง เราคุยกันมากกว่าใคร แต่ตอนนี้อีกฝ่ายรู้เรื่องส่วนตัวภัทรแล้ว คนเราขนาดรู้หน้ายังไม่รู้ใจ แล้วนี่รู้จักกันแค่ตัวอักษร อีกทั้งภัทรเองก็ไม่เคยเห็นหน้าเขาเลยสักครั้ง ข้อมูลส่วนตัวที่พอจะเป็นหลักประกันว่าจะไม่แพร่งพรายความลับของกันและกันก็ไม่มี มีหรือจะไว้ใจได้
   ในตอนนี้ภัทรอยากขังตัวเองอยู่ในห้องด้วยซ้ำ จะออกไปก็ต่อเมื่อหาทางออกให้กับเรื่องได้แล้ว แต่เขารู้ดีว่าตัวเองทำเช่นนั้นไม่ได้ ภัทรไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว เขามีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ
   พอคนเริ่มจนตรอก ไม่รู้จะทำยังไงให้ตัวเองปลอดภัย ก็เริ่มมีความคิดแปลก ๆ เข้ามาในหัวว่าจะชิ่งลาออกก่อนที่ความลับจะแตกหรือจะให้บริษัทรู้แล้วออกปากไล่ออกเอง เพราะทุกอย่างมันกำลังดีแล้ว ภัทรจึงไม่อยากให้คุณเขาผิดหวัง อีกทั้งวัยอย่างภัทรไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะโยกย้ายหางานใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการ แม้มันจะดูบ้าบิ่นไปเสียหน่อย แต่ภัทรก็จะเก็บความคิดนี้ไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ตัวเอง   
   แทนที่จะพักผ่อนนอนเอาแรงไว้ค่อยหาทางออกอีกครั้ง แต่ตอนนี้แสงอาทิตย์แห่งเช้าวันใหม่ส่องเข้าผ่านหน้าต่างแล้ว เปลือกตาบางกลับไปเคยคิดจะปิดลงเพื่อพักสายตาเลยสักครั้ง ภัทรนอนนิ่ง ๆ อยู่บนเตียง เขายังอยู่ในชุดทำงานของเมื่อวาน บ่งบอกว่าเจ้าตัวไม่ได้ลุกไปอาบน้ำแต่อย่างใด
   ตราบใดที่ยังหาออกให้กับเรื่องนี้ไม่ได้ ภัทรคิดว่าเขาคงไม่สามารถฉีกยิ้มได้อย่างเต็มปากได้แล้ว ความรู้สึกอึน ๆ ไม่มีความสุข กระปรี้กระเปร่าเหมือนอย่างเคย เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อภัทรเดินทางมาถึงบริษัท ตอกบัตรเข้าแผนกก่อนเวลาทำงานด้วยซ้ำ ช่วงนี้ใต้ตาก็ว่าคล้ำกว่าปกติอยู่แล้ว พอไม่ได้นอนเพิ่มอีกสักคืนก็ยิ่งแย่ไปใหญ่
   หลังจากวางกระเป๋าโน้ตบุ๊กและเอกสารไว้โต๊ะทำงานได้แล้ว ภัทรก็ลุกไปชงกาแฟไว้ดื่มต่อ เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองง่วงนอนระหว่างวัน
   สภาพมนุษย์ซอมบี้เป็นยังไงภัทรไม่เคยเห็น จนกระทั่งพี่นัทบอกและเขาได้มีโอกาสมองสภาพตัวเองในกระจกนั่นแหละ เขาก็ถึงบางอ้อ
   เมื่อคืนภัทรได้ลองเข้าไปเช็กทวิตเตอร์อีกครั้ง แต่ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร แค่เข้าไปเช็กกล่องข้อความเผื่อคุณพีจะทักมา อาจจะต่อรองด้วยเงินทองหรือไม่ก็สิ่งที่อีกฝ่ายต้องการ แต่กลับไร้วี่แวว นั่นยิ่งทำให้ภัทรกลัว
    เขาไม่เชื่อหรอกว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนดีขนาดนั้น ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่าภัทรอย่างชัดเจน ภัทรยอมถูกเรียกเงินเพื่อปิดปากยังดีกว่าปล่อยให้อีกฝ่ายส่งเรื่องให้ทางบริษัท แต่ตอนนี้คุณพียังเงียบนั่นก็แปลว่าอีกฝ่ายไม่ต้องการเงินทองหรืออะไรทั้งนั้นและจะถือไพ่เหนือภัทรแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ
   หลังจากทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำเสร็จ ภัทรก็เดินกลับมาที่โต๊ะตั้งใจว่าจะทำงานที่เหลือให้เสร็จแล้วจะได้พักผ่อนเสียที เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเลิกงานแล้ว ภัทรอยากจะกลับบ้านแล้วรีบเข้านอนก่อนหกโมงเย็นด้วยซ้ำ เพราะร่างกายมันเริ่มไม่ไหวแล้วและหากคืนนี้เขาอดนอนอีก คงมาทำงานไม่ไหวแน่
   ขณะที่ธนภัทรกำลังตั้งหน้าตั้งตาทำงานในส่วนของตัวเองให้รีบเสร็จอยู่นั้น จู่ ๆ เสียงแจ้งเตือนของแอปพลิเคชันไลน์ก็ดังขึ้นพอดี มือเรียวรีบคว้าโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาเช็ก ในขณะเดียวกันสายตาก็กำลังไล่ตรวจเอกสารไปด้วย
   ทันทีที่เปิดอ่านข้อความ หัวใจดวงน้อยของภัทรก็ร่วงไปถึงตาตุ่มเมื่อเห็นว่าใครทักมา คุณภาสกรคนที่ภัทรเฝ้าฝันให้เขาทักมาก่อน จู่ ๆ ก็ทักมาหาอย่างไม่ปี่มีขลุ่ย คุณเขาไม่ได้ส่งเป็นข้อความหรือสติกเกอร์มา แต่กลับส่งเป็นรูปภาพพร้อมข้อความแนบท้าย
   “ใช่คุณหรือเปล่าครับ?”
   “…!!”
   อาการตัวชาเป็นยังไงภัทรก็เพิ่งเคยวันนี้ ไม่คิดไม่ฝันว่าความลับจะแตกเร็วขนาดนี้ สมองรีบประมวลผลในทันที อาการลนลานทำตัวไม่ถูกเกิดขึ้นโดยพลัน สงสัยว่าคุณเขาได้รูปเจ้าปัญหานี้มาได้ยังไง ทว่ายังไม่ทันได้เริ่มตามหาความจริง หนึ่งในพี่ประจำแผนกก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาเขาเสียก่อน
   “ภัทร เลขาคุณภาสกรเขามาบอกว่าเจ้านายต้องการเรียกพบนายด่วน”
   เพียงแค่ได้ยินว่าคุณภาสกรเรียกหา ภัทรก็เกิดอาการหูอื้อ ตาลายกะทันหัน รู้ตัวดีว่าคุณเขาเรียกพบด้วยเรื่องอะไร คราวนี้ไม่ใช่เพราะความเสน่หาแต่กลับเป็นเพราะภัทรกำลังทำให้บริษัทเสียชื่อเสียงเป็นแน่ แต่ถึงอย่างนั้นธนภัทรก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมถึงไม่เป็นฝ่ายบุคคลที่เป็นคนเรียกเขาเข้าไปพบ
   ไม่มีผู้บริหารคนไหนเรียกพบอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย อย่างมากก็อาจสั่งเลขาให้ไปจัดการ ประสานงานกับแผนกอื่นเพื่อขอสิ่งที่ต้องการ เป็นไปไม่ได้ที่จะสั่งงานข้ามหน้าข้ามตาคนที่เป็นหัวหน้าแผนก แล้วยิ่งภัทรน้องเล็กสุดในแผนก ทุกคนก็ย่อมสงสัยอยู่แล้วว่าคุณภาสกรมีเหตุอะไรถึงต้องเรียกพบภัทรโดยตรง
   แต่ภัทรเข้าใจเหตุผลที่คุณเขาเรียกพบดี…..
    ภัทรเดินไปยังหน้าห้องทำงานคุณเขาด้วยใบหน้าซีดเซียว ระหว่างทางเขาก็พยายามเค้นสมองเตรียมหาคำตอบที่ดีที่สุดไว้ปกป้องตัวเอง คิดไม่ถึงความลับจะแตกเร็วเช่นนี้ ภัทรเดาผิดเสียที่ไหนกัน คุณพีไม่ใช่คนดีขนาดนั้นหรอก
   เมื่อภัทรมาถึงหน้าห้องทำงาน เขาก็ติดต่อกับเลขา ก่อนที่เธอจะแจ้งผู้เป็นเจ้านายว่าเขามาถึงแล้ว รอเพียงไม่กี่อึดใจ เลขาคนเก่งก็หันมาบอกภัทรว่าคุณภาสกรตอบรับและให้ภัทรเข้าไปในห้องได้เลย
   ก่อนจะเข้าห้องภัทรถึงกับต้องสูดลมหายใจลึก ๆ เพื่อตั้งสติ ทวนคำตอบที่เตรียมเอาไว้ในใจ เคาะประตูห้องทำงานพอเป็นมารยาทแล้วเปิดเข้าไป ในเมื่อความลับมันแตกแล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด คุณภาสกรจะว่ายังไง ภัทรก็คงต้องว่าตามนั้น
   “สวัสดีครับ” คุณภาสกรตอนอยู่ในห้องทำงานแตกต่างจากตอนอยู่ข้างนอกอย่างสิ้นเชิง เหมือนอีกฝ่ายตัวใหญ่เหลือเกิน ภัทรมองคุณเขาที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ยักษ์ด้วยสายตาหวาดหวั่น อีกฝ่ายนั่งหันหลังให้โต๊ะทำงานและกำลังมองทิวทัศน์ของกรุงเทพมหานครอย่างเงียบ ๆ
   ในตอนนี้ภัทรรู้สึกอึดอัดจนแทบไม่กล้าหายใจ อาจเพราะตอนนี้เขามีความผิดติดตัว จึงรู้สึกว่าตัวเองกำลังตัวเล็กลงเรื่อย ๆ ความกลัวเกาะกุมหัวใจภัทรเอาไว้แน่น จนไม่กล้าเอื้อนเอ่ยอะไรเพื่อแก้ตัวให้ตัวเอง
   “รู้ใช่ไหมที่ผมเรียกหาคุณเพราะอะไร” คุณเขาเกริ่นนำทั้ง ๆ ที่ไม่หมุนเก้าอี้มามองหน้ากัน
   “รู้ครับ”
   “คุณมีอะไรจะแก้ตัวหรือเปล่า”
   “ที่ผมทำไป….ผมไม่ได้ตั้งใจ” ภัทรว่าเสียงแผ่ว เขาไม่ได้ตั้งใจให้ทุกอย่างเป็นเช่นนี้
   “ไม่ได้ตั้งใจ? อืม….” คุณภาสกรทวนคำภัทรพูดเบา ๆ ก่อนจะนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วหมุนเก้าอี้กลับมาประจันหน้ากับคนทำผิด ภัทรไม่เคยคิดว่าอีกฝ่ายน่ากลัวจนกระทั่งวันนี้
   ในมือของคุณภาสกรมีไอแพดขนาดสิบสองจุดเก้านิ้ว คุณเขาสบตาภัทรครู่หนึ่ง ก่อนจะกดอะไรบางอย่างในนั้นแล้วโยนมันบนโต๊ะทำงานอย่างไม่ไยดี
   “นี่ไม่ใช่ความตั้งใจใช่ไหม?” คุณภาสกรถามซ้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงปกติ แต่ภัทรกลับรู้สึกว่าคุณเขากำลังโกรธ นั่นทำให้ภัทรใจสั่น ในเวลานี้เขากลัวคุณภาสกรเหลือเกิน ยิ่งอีกฝ่ายเปิดภาพเจ้าปัญหาบนไอแพดขนาดยักษ์ มันยิ่งเห็นชัดทุกอณู ตอกย้ำความผิดที่ภัทรมี
   “คุณอาทิตย์ครับ”
   “อย่ามาเรียกชื่อเล่นผม”
   “…..”
   “เอาล่ะ ธนภัทร….ผมจะให้โอกาสคุณตอบใหม่อีกครั้ง” คุณภาสกรพูดอย่างใจเย็น แสดงออกถึงความห่างเหินอย่างชัดเจน คำตอบที่ว่าภัทรไม่ได้ตั้งใจคงไม่ถูกใจคงฟังอย่างคุณเขาเท่าไรนัก
   “จริง ๆ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว….”
   “ภัทร….คุณจะให้ผมพูดมันจริง ๆ เหรอ?” คุณภาสกรเอ่ยถามเสียงสูง มองหน้าภัทรอย่างไม่อยากเชื่อว่าภัทรจะบอกว่านี่คือเรื่องส่วนตัว
    “มันไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ตั้งแต่คุณถ่ายภาพวาบหวิวทั้ง ๆ ที่ยังสวมเสื้อที่มีตราปักของบริษัทแล้วครับ”
   “……”
   “แล้วไหนจะในใบข้อมูลส่วนตัวที่คุณกรอกมา คุณก็ใส่ข้อมูลไม่ครบ จงใจปกปิดข้อมูลตัวเอง จะมาบอกว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวคงไม่ใช่”
   “ครับ?”
   “ในทวิตเตอร์….แอคเคานต์ลูกไม้ป่าคือคุณใช่ไหมครับ?”
   “…..”
   “ตอบผม” คุณภาสกรเร่งรัดเอาคำตอบ เหมือนคุณเขาจะรู้อยู่แล้ว แต่แค่ถามเพื่อให้เขายอมรับความจริง เขาไม่รู้ว่าคุณเขารู้ได้ยังไง แต่คนระดับคุณภาสกร หากคิดจะสืบหาความจริงคงไม่ใช่เรื่องยากอะไร
   “ใช่ครับ ของผมเอง” ภัทรยอมรับแต่โดยดี ไหล่แคบเคยผึ่งผายเพื่อบุคลิกภาพที่ดีถึงกับตกอย่างยอมแพ้ เมื่อคุณเขารับรู้ความลับทุกอย่างแล้ว
   วันนี้หดหู่มาทั้งวัน ยิ่งพักผ่อนน้อยยิ่งอารมณ์อ่อนไหวง่าย จากที่เคยคิดว่าจะปกป้องตัวเองก็กลายเป็นก้มหน้ายอมรับความผิดทั้งหมดไว้อย่างไม่คิดจะโต้แย้งหรือหาเหตุผลมาพูดให้ตัวเองดูดี ตอนนี้ภัทรรู้สึกแย่ไปหมด เขาคงไม่เหลือความประทับใจไว้ให้คุณภาสกรจดจำแล้ว
   “ผม…ผิดหวังในตัวคุณ” ภัทรรู้ดีว่าคุณภาสกรผิดหวังในตัวเขา แต่ยิ่งอีกฝ่ายพูดออกมา คนฟังก็ยิ่งเจ็บ มันยิ่งตอกย้ำให้ภัทรรู้สึกเจ็บปวดจนขอบตาร้อนผ่าว ทั้ง ๆ ที่ภัทรไม่ใช่คนร้องไห้ง่าย ครั้งล่าสุดน่าจะตอนที่แม่เสีย
   “ผมก็เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นครับ” ภัทรว่า พยายามควบคุมน้ำเสียงอันสั่นเครือของตัวเอง หากคุณเขาจะไล่ออก ภัทรก็คงต้องยอม
   “ผมจะจัดการยังไงกับคุณดี”
   “……”
   “ตอนนี้ฝ่ายบุคคลยังไม่รู้เรื่องนี้ มีแค่ผมที่รู้” เมื่อคุณภาสกรว่าเช่นนั้น ภัทรที่เกือบไม่อยากจะคว้าโอกาสไว้แล้วก็รีบเงยหน้าขึ้น หลังจากหลุบตามองพื้นห้องอยู่นานสองนาน มองหน้าคุณภาสกรราวกับจะตั้งคำถามว่าคุณเขาต้องการจะสื่ออะไรกันแน่
   “เสนอมา….คุณจะทำยังไงเพื่อไม่ให้ผมแจ้งกับทางฝ่ายบุคคลเพื่อไล่คุณออก” คุณภาสกรว่าพร้อมกับเอนหลังพิงเก้าอี้อย่างใจเย็น
   “ผมจะไม่ทำอีกแล้ว”
   “ยังไม่ถูกใจ” คุณเขาตอบกลับมาในทันที
   “……”
   “ผมคิดว่าคุณเสนออะไรได้ดีกว่าการที่บอกส่ง ๆ ว่าจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว อ้อ…ข้อเสนอนั้นผมต้องพอใจด้วย”
   “คุณ….จะแบล็คเมล์ผมเหรอครับ” ภัทรถามเสียงซื่อ
   “เย็นก่อน…ผมไม่ได้จะแบล็คเมล์คุณ
   “งั้นคุณต้องการอะไรครับ” ภัทรไม่เชื่อ เขาไม่เชื่อว่านี่ไม่ใช่การหวังผลประโยชน์ เอาเข้าจริงแล้วคุณภาสกเองรก็ร้ายกาจพอ ๆ กับคุณพีนั่นแหละ
   อดคิดไม่ได้ว่าอีกฝ่ายอาจเป็นคนเดียวกัน….
   “ผมต้องการคุณ”
   “ครับ?”
   “……”
   “หลังเลิกงาน ไปรอผมที่รถ”

   หลังกลับมาถึงแผนกพี่ ๆ ก็ต่างมอง แต่ไม่มีใครกล้าถาม ยกเว้นพี่นัทที่สนิทกับภัทรมากที่สุด แต่ภัทรก็ไม่ได้ตอบอะไรไป เขาบอกแค่เลี่ยง ๆ ว่าคุณภาสกรทำของหายตอนที่เราไปเลี้ยงฉลองกัน เพราะวันนั้นภัทรคลุกคลีกับคุณภาสกรมากที่สุด คุณเขาจึงเรียกเข้าไปสอบถามว่าเห็นของที่หายไปหรือเปล่าก็เท่านั้น
   ในตอนนี้ภัทรเริ่มรู้สึกดีขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะความลับแตกและคุณเขายังให้โอกาส แต่ร่างกายมันไม่ได้ดีขึ้นตาม หลังจากเคลียร์กับคุณเขาเสร็จ ภัทรคงต้องนอนหลายชั่วโมงเพื่อชดเชยการนอนที่หายไป เหลืออีกไม่กี่ชั่วโมงจะเลิกงานแล้ว ภัทรเริ่มเร่งมือจัดการงานที่กำลังคั่งค้างในส่วนของตัวเอง เพื่อที่จะได้เผื่อเวลาไปรอคุณภาสกรที่รถ
   ระหว่างเคลียร์งาน ภัทรก็เดาไปด้วยว่าคุณภาสกรต้องการให้เขาทำอะไรกันแน่  เอาเข้าจริง ถึงเราจะรู้จักกันได้สักระยะแล้ว ภัทรกลับไม่เคยเดาความคิดของคุณภาสกรออกเลยสักครั้ง อาจเพราะคุณเขาโตกว่า ความคิดซับซ้อนกว่าและดูนิ่งกว่าก็ได้
   ภัทรไม่แน่ใจว่าวันนี้เขาจะกลับบ้านช้าแค่ไหน จึงต้องโทรบอกหลานชายก่อน เพื่อที่อีกฝ่ายจะได้ไม่ต้องรอ แล้วรีบกำชับหน้าที่ว่ากลับถึงบ้านแล้วอย่าลืมทำการบ้าน กินอาหารเย็นแล้วเข้านอน
   “ภัทรรรร พี่กลับก่อนนะลูก”
   “ครับ เจอกันพรุ่งนี้นะครับ”
   “จ้า วันนี้อย่าลืมรีบเข้านอนด้วยนะ อย่าให้พรุ่งนี้ยังเห็นใต้ตาคล้ำมาอีก พี่เป็นห่วงสุขภาพเรา” พี่นัทว่า
   “ครับ กลับบ้านไปจะรีบเข้านอนแต่หัววันเลยครับ”
   “จ้า พี่ไปล่ะ” ภัทรโบกมือลาพี่สาวเพื่อนร่วมงานพอเป็นพิธี ก่อนจะเดินแยกลงลิฟต์เพื่อไปยังชั้นใต้ดิน ไปรอที่รถของคุณภาสกรตามคำสั่งของคุณเขา
   ในหลาย ๆ ที่ ไม่ว่าจะเป็นห้างหรือบริษัท หากเป็นคนที่มีตำแหน่งก็มักจะมีที่จอดส่วนตัวเตรียมไว้ให้อยู่เสมอ โดยจะระบุแผ่นป้ายทะเบียนไว้ในที่จอดนั้น ที่บริษัทภัทรเองก็เช่นกัน มีที่จอดไว้สำหรับเหล่าผู้บริหารและพนักงานตำแหน่งสูง จึงไม่ใช่เรื่องยากในการหาที่จอดรถของคุณภาสกร เพราะนอกจากสีรถแล้ว อย่างหนึ่งที่เพิ่มเข้ามาใหม่คือภัทรจำทะเบียนรถคุณเขาได้
   ไม่ใช่แค่เหล่าพนักงานที่ต้องทำตามกฎที่ทางบริษัทตั้งไว้ แต่ผู้บริหารก็ต้องทำตามกฎเพื่อเป็นแบบอย่างให้กับลูกน้องเช่นเดียวกัน
   ในบริษัทของภัทรแต่ละแผนกจะเข้างานและเลิกงานไม่พร้อมกัน เพื่อป้องกันการมายืนรอตอกบัตรหรือการจราจรที่หนาแน่นในช่วงเลิกงาน
   แผนกของภัทรจะเข้าตอนแปดโมง เลิกบ่ายสาม ฝ่ายงบประมาณ อาจเข้าตอนเก้าโมงเลิกบ่ายสี่โมงของวัน ตามนโยบายของรัฐบาลที่ออกกฎหมายว่าลูกจ้างห้ามทำงานเกินแปดชั่วโมง
   ภัทรยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูอีกครั้ง ครั้งตอนที่เจอกันในลิฟต์ เราก็เจอกันด้วยความบังเอิญ เขาไม่รู้ว่าคุณภาสกรเลิกงานตอนไหน ทางฝ่ายบริหารมีเวลาเข้าและออกงานเหมือนแผนกอื่นไหม แต่ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสามยี่สิบนาทีแล้ว ภัทรจึงส่งข้อความทางไลน์ไปแจ้งคุณเขาว่ามาถึงแล้ว
“ผมรอที่รถแล้วนะครับ”
    “ผมกำลังลงไปครับ”
   คุณเขาเปิดอ่านและตอบภัทรในทันทีและก่อนที่ภัทรจะเก็บโทรศัพท์ เขาก็จัดการกดลบรูปภาพที่คุณภาสกรส่งมาก่อนหน้านี้ ภัทรรู้ดีว่ามันเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว แต่เขาไม่อยากเห็นมันอีก
   รอเพียงไม่นานคุณภาสกรก็มาถึงที่จอดรถ เราไม่ได้พูดคุยกันให้มากความ ต่างฝ่ายต่างขึ้นรถฝั่งของตัวเอง ภัทรรู้ว่าเราคงไม่ได้เคลียร์กัน เขาจึงขึ้นไปนั่งข้างคนขับโดยไม่ต้องรอให้คุณเขาออกปาก ทันทีที่ต่างฝ่ายต่างคาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อยแล้ว คุณภาสกรก็ออกรถในทันที
   “เราจะไปที่ไหนกันเหรอครับ” เกือบสิบนาทีที่เราติดอยู่บนท้องถนน ภัทรจึงอดใจถามไม่ได้
   “คอนโดผม”
   “….” คราวนี้ภัทรเงียบ ไม่ได้ถามอะไรอีก ตัวเลือกที่จะไปคอนโดมีอยู่ไม่กี่ตัวเลือกและภัทรเองก็ไม่ได้ซื่อจนไม่รู้ว่าคุณภาสกรพาภัทรไปคอนโดด้วยจุดประสงค์อะไร
   “กลัวหรือเปล่า ไม่ปฏิเสธก็ได้นะ” คุณภาสกรเอ่ยถามพร้อมกับยิ้มมุมปากเล็กน้อย
   “ไม่ครับ ไม่กลัว” ภัทรตอบคุณเขาอย่างเด็ดเดี่ยว
   เราใช้เวลาติดอยู่บนท้องถนนถึงยี่สิบนาทีเต็ม ก่อนจะเลี้ยวเข้าคอนโดหรูตามที่คุณภาสกรบอก โดยมียามรักษาความปลอดภัยคอยตรวจเช็กคนเข้าออกเพื่อความปลอดภัยของคนในคอนโด
   ภัทรได้แต่เดินตามคุณเขาต้อย ๆ จนกระทั่งเข้ามาถึงในคอนโดหรูติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา คุณภาสกรถึงได้พูดกับภัทรอีกครั้ง เขาบอกให้ภัทรทำตัวตามสบาย หากกระหาย….น้ำเปล่าก็อยู่ในตู้เย็น
   “ไม่หิวน้ำเหรอ” คุณเขาเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าภัทรยังยืนนิ่ง
   “ไม่ครับ”
   “ก็ดี จะได้ไม่เสียเวลา…..”
   “…...”
   “งั้นคุณเดินตามผมมาเลย” คุณภาสกรออกคำสั่ง ก่อนจะเดินนำไปยังหน้าห้องหนึ่งซึ่งเหมือนจะเป็นห้องเก็บของ คุณเขาไม่พูดพร่ำทำเพลง ไม่บอกด้วยว่าข้างในห้องคืออะไร แต่ไขกุญแจแล้วให้ภัทรเดินนำเข้าไปก่อน
   “เข้าไปสิ”
   คุณภัทรเดินนำเข้าไปก่อนตามคำสั่งขอคุณภาสกร ก่อนที่เขาจะตกใจเมื่อเห็นชั้นวางและตู้โชว์แบบกระจกใสเต็มไปด้วย เสื้อผ้า รองเท้าและเครื่องประดับต่าง ๆ ที่มีผ้าลูกไม้เป็นส่วนประกอบหนึ่งในงาน ภัทรเกิดอาการตาลายขึ้นมากะทันหัน
   ไม่ต้องรอให้คุณภาสกรสั่งการ เขาก็เดินสำรวจเหล่าเสื้อผ้า ถุงน่อง รองเท้าลายลูกไม้ของแบรนด์ต่าง ๆ ด้วยความตื่นตาตื่นใจทันที เมื่อเห็นทุกอย่างที่จัดเรียงในตู้โชว์ ก็เกิดอาการหูอื้อ ตาลาย ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าตอนนี้ตัวเองง่วงมากแค่ไหน เพราะกำลังตื่นเต้นกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ของบางอย่างมีเพียงแค่ไม่กี่ชิ้นบนโลกด้วยซ้ำ แต่คุณภาสกรเจ้านายของเขากลับได้มันมาครอบครอง
   “นี่มัน….” นี่มันสวรรค์ ภัทรพูดกับตัวเองในใจ มันคือสวรรค์ของเขาชัด ๆ
   “คุณสะสมของพวกนี้เองทั้งหมดเลยเหรอครับ” ธนภัทรหันไปถามผู้เป็นเจ้านายเสียงสั่น
   “ใช่ครับ”
   “……”
   “ต่อจากนี้ไปคุณต้องเป็นหุ่นจำลอง ลองใส่ชุดพวกนี้ให้กับผม เพื่อแลกกับสิ่งที่คุณทำผิด มันจะเป็นความลับตลอดไป….”
   “ครับ?”
   “เสื้อผ้า….ผมอยากเห็นตอนมันอยู่ในบนร่างของมนุษย์ มากกว่าหุ่นโชว์”
   “อ้าว ในตอนแรกผมนึกว่า….” ภัทรละสายตาจากสิ่งสวยงาม หันไปมองหน้าคุณเขาอยู่ครู่หนึ่ง
   ภัทรเว้นวรรคไป ไม่กล้าตอบเต็มประโยคว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่ด้วยซ้ำ ภัทรคิดว่าคุณเขาต้องการเรื่องอย่างว่า ถึงได้พามาที่คอนโดเพื่อที่เราจะได้จัดการอะไรกันง่าย ๆ
   “คิดว่าอะไร”
   “ป—เปล่าครับ แต่คุณภาสกร ผมขอสัมผัสหน้ากากชิ้นนี้ได้ไหมครับ” ภัทรเปลี่ยนเรื่องเป็นขอลองจับหน้ากากที่ถูกแขวนไว้ในตู้โชว์ ซึ่งคุณภาสกรก็ใจดีที่จะหยิบมันออกมาให้ภัทรได้เชยชม คุณเขาไม่ได้ให้แค่ภัทรลองสัมผัสอย่างเดียวแต่ยังใจดีให้ภัทรลองสวมใส่หน้ากากลายลูกไม้ดูอีกด้วย
   “ทำมาจาก…..”
   “Angel Lite Lace” ไม่ต้องรอให้คุณเขาบอกชื่อ เพียงแค่ลองสัมผัสและพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง ภัทรก็รับรู้แล้วว่ามันทำมาจากเส้นใยอะไรและความรอบรู้ของภัทร ทำให้คนที่ชอบในสิ่งเดียวกันถึงกับฉีกยิ้มกว้างอย่างถูกใจ
   “ประกอบด้วย Baby Alpaca 70% Silk 20% Cashmere 10% ใช่ไหมครับ” ภัทรพูดต่อ
   “ใช่ครับ”
   “สวยจัง แต่คุณภาสกรครับ….” ธนภัทรเรียกชื่อเจ้านายอีกครั้ง ความสงสัยของเขาเหมือนจะเจอทางออกแล้ว หลังสมองเริ่มปะติดปะต่อความชอบของคุณภาสกรและคุณพี
   “……”
   “คุณ….ก็คือคุณพีใช่ไหมครับ” ภัทรถาม เขาลืมคิดไปได้ยังไง! คุณพี P Passkon คราวนี้คุณภาสกรยกยิ้มมุมปากราวกับตัวร้ายและภัทรเป็นตัวเอกที่เพิ่งตาสว่าง หลังจากงมอยู่ในความมืดมาตั้งนาน
   “เพิ่งรู้เหรอครับ?”

         


______________________________________

#ภูมิแพ้ลูกไม้

สรุปจะทำมือนะคะ สั่งวาดปกไปแล้ว แต่ถ้าเขียนไม่จบ

ก็อ่านในเว็บเอานะคะ 555555555 มีแบบอีบุ๊กให้ค่ะ แต่วางขายร้านไหมต้องดูก่อน

เพราะเขาคิดค่าวาง40%ของราคาปกเลยค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-11-2018 12:44:46 โดย Papa614 »

ออฟไลน์ Rhapsody-PT

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มาบ่อยๆนะ อยากอ่านต่อแล้ว

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ร้ายนะคะหัวหน้าเนี่ย
แต่รวยและเป็นคนเดียวที่ได้เห็นเนื้อหนังน้อง ให้อภัยก็ได้ อิอิ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
โปะเชะ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
น้องน่าจะลาออกไปเลย อย่าไปหลงกลคนชั่ว ร้ายกาจจจ  :hao7:

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
คุณพีร้ายกาจจจจจ​จ​ จริงๆก็อ้างว่าจะฟ​้​อ​งHR จริงๆก็คืออยากมาอะไรๆกับภัทรใช่มะ :hao3:

ออฟไลน์ whistle

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
โอยยยย......แล้วไงต่อ......เค้าจะได้กันมั้ย.......

ออฟไลน์ Foggy Time

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 900
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-1
คุณพี

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
โรคจิตนิดๆ นะนี่ ทั้งคุณพี ทั้งภัทร

ออฟไลน์ M_Y MILD

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ncต้องมาแล้วพ่ะ กรี๊ดดดดดดดด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Papa614

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1



5
“เพิ่งรู้เหรอครับ?”
   คำพูดของคุณภาสกร คุณอาทิตย์หรือคุณพีที่เป็นคนเดียวกัน ทำเอาภัทรถึงกับชะงักไป ตอนแรกก็ลองถามไปเฉย ๆ เพราะความสงสัย แต่ภัทรไม่ได้เตรียมใจที่จะรู้ว่าคุณเขาคือคนเดียวกันแบบนั้น หลังความจริงปรากฏ ภัทรก็ถึงกับเดินถอยหลังหนึ่งก้าวเพื่อตั้งสติ ในตอนนี้เรื่องผ้าลูกไม้ทั้งหลายเอาไว้ก่อน เพราะความจริงต้องหน้าสำคัญกว่า
   “หมายความว่า ตั้งแต่ต้น…..” ภัทรนึกไปถึงบทสนทนาระหว่างเขาและคุณพีที่เคยคุยกันมา
    จริง ๆ ตอนแรกก็ไม่มีเรื่องน่าอายหรอก เราก็แค่แชร์ความชอบ ข้อมูลผ้าลายลูกไม้ที่รู้มาก็เท่านั้นและเพราะเราไม่ค่อยมุ่งเน้นไปเรื่องเพศ ทำให้ภัทรได้คุยกับคุณพีมากกว่าใคร แต่เขาจะมาอายก็ตอนบทสนทนาช่วงหลัง ๆ นี่แหละ ที่เราเริ่มสนทนามุ่งเน้นไปทางเรื่องเพศมากขึ้น หนักสุดก็คือการพูดแบบ Dirty talk และส่งรูปเรือนร่างของตัวเองให้กันดู “ครับ ตามที่คุณเข้าใจนั่นแหละ” คุณภาสกรว่า
   “งั้น….ก็แปลว่าคุณรู้ตั้งแต่แรกใช่ไหมครับ ว่าผมเป็นเจ้าของแอคลูกไม้ป่า” ภัทรถามในสิ่งที่ตัวเองสงสัย
   “ตอนแรกก็ไม่คิดหรอกครับว่าอะไรจะบังเอิญขนาดนั้น….ตอนนั้นผมก็แค่อยากรู้ว่าคุณชื่ออะไร ทำงานที่แผนกไหนเฉย ๆ ก็เลยให้คุณเลขาเอาข้อมูลที่คุณกรอกไว้ให้กับทางบริษัทมาดู” คุณภาสกรเว้นวรรคไปครู่หนึ่ง สังเกตปฏิกิริยาคนฟัง หลังกำลังจะเฉลยความจริง
   “….กระทั่งตอนที่มาส่งบ้าน ผมยังไม่แน่ใจว่าใช่คุณไหม แค่สงสัยเฉย ๆ ว่ามันเป็นความบังเอิญหรืออะไรกันเลยเริ่มหาความจริงมาเรื่อย ๆ”
   “……”
   “คุณเองเล่นทิ้งไว้หลักฐานไว้ซะเยอะเลย ไม่ว่าจะเป็นทั้งที่อยู่ ข้อมูลส่วนตัว มุมห้องนอนเวลาคุณถ่ายรูปผ้าลูกไม้ที่เพิ่งได้มาใหม่หรือล่าสุดรูปอะไรพรรคนั้นที่มีตราของบริษัทเด่นหราบนภาพ ผมเลยหาหลักฐานมัดตัวคุณได้ไม่ยาก”
   “……”
   “โชคดีนะครับว่าคนที่คุณส่งรูปให้เป็นผม ไม่งั้นคุณอาจได้หมดตัวเพราะเขาเรียกร้องค่าปิดปากแน่”
   ภัทรไม่รู้ว่าควรจะเสียใจหรือดีใจดีที่คุณพีคือคุณภาสกรเจ้านายของตัวเอง แต่ตอนนี้มีเหตุการณ์นั้นที่เพิ่งนึกได้ว่าถ้าหากคุณพีคือคุณภาสกร งั้นก็แปลว่าคืนที่คุณเขามาค้างบ้านภัทร เราคุย Dirty talk ทั้ง ๆ ที่กำลังนอนเอาหลังชนกัน….
   “ผม….” ภัทรถึงกับพูดไม่ออก ตอนนี้เขาอยากร้องไห้กับความจริงที่เพิ่งรู้ให้รู้แล้วรู้รอด
   “มองผมไม่เหมือนเดิม?”
   “……”
   “ผมไม่โกรธหรอกนะ ถ้าคุณจะมองผมไม่เหมือนเดิม เพราะผมเองก็มองคุณไม่เหมือนเดิมตั้งแต่รู้ความจริงว่าคุณคือเจ้าของแอคลูกไม้ป่าแล้ว” คุณภาสกรว่าพร้อมกับยิ้มมุมปากเล็กน้อยตามสไตล์ของคุณเขาแหละ
   “ผม…ผมควรทำยังไงต่อ”
   “ก็ไม่ต้องทำยังไง…..เรื่องนี้จะเป็นความลับ”
   “……”
   “ระหว่างเรา”
   
   “สิ่งที่คุณต้องการคืออยากให้ผมเป็นหุ่นลองชุดพวกนี้ให้ใช่ไหมครับ” ภัทรเอ่ยถาม หลังจากที่เขาเริ่มมีสติขึ้นมาบ้างแล้ว มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะทำตัวปกติ ปฏิบัติกับคุณภาสกรเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้ง ๆ ที่เพิ่งรู้ความจริงไปไม่ถึงวันดี ภัทรคิดว่าเรื่องนี้ เขาต้องขอเวลาสักพักเพื่อทำใจว่าคุณพีคือคุณภาสกรไม่ใช่แค่คนในโลกออนไลน์อีกแล้ว
   “ใช่ครับ ตอนแรกคุณคิดว่าผมจะให้คุณทำอะไร? พอดีผมเห็นคุณทำหน้าตกใจปนผิดหวังนิดหน่อย ตอนที่ผมบอกในสิ่งที่ต้องการจากคุณ” คุณภาสกรถาม
   “เปล่าครับ ผมไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้ผิดหวังด้วย” ภัทรพูดปด
   “พูดความจริงสิครับ”
   “ผม…..ผมคิดว่าตัวเองจะต้องเอาตัวเข้าแลกเพื่อปกปิดความลับของตัวเอง”
   “ละครมากครับ”
   “แต่นี่ก็ไม่ต่างกันเท่าไรไม่ใช่เหรอครับ เพราะปกติผ้าลูกไม้มันบางจนแทบไม่ปกปิดอะไรอยู่แล้ว!” ภัทรแย้ง
   “ก็มันยังดีกว่าไม่ใส่อะไรไม่ใช่เหรอครับ อีกอย่างผมก็คิดว่างานพวกนี้คุณถนัด เพราะก่อนหน้านี้คุณก็ทำมันเป็นประจำอยู่แล้วนี่” คุณเขาแย้งกลับ
   “……”
   “ที่ผมเลือกให้คุณมาลอง เพราะคุณรู้ว่าจะทำยังไงให้มันดูดีตอนอยู่บนร่างคุณ”
   “แล้วคุณภาสกรไม่คิดว่าผมจะอายบ้างเหรอครับ”
   “แต่ก่อนคุณใส่แล้วถ่ายมันลงบนโลกโซเชียล ใครต่อใครก็เห็นเรือนร่างคุณทั้งนั้น ผมก็เห็น…แต่แค่ตอนนี้ผมอยากเห็นด้วยตาของตัวเอง ไม่เห็นว่ามันจะต่างกันตรงไหนเลยนะครับ” สิ่งที่คุณภาสกรว่าเป็นสิ่งที่ภัทรแย้งไม่ได้ เขาอยากจะเถียง แต่ไม่รู้จะเอาเหตุผลไหนเข้าสู้ดี
   “ถ้างั้นผมเลือกได้ไหมครับว่าจะใส่ชุดไหน ชุดบางชุด....ถึงมันจะเป็นผ้าลูกไม้ทั้งชุดก็ใช่ว่าจะเหมาะกับผม” สุดท้ายภัทรจึงเลือกที่จะต่อรองแทน
   “ก็ได้ครับ”
   “......”
   “งั้นสรุปว่าเราดีลกันแล้วนะ”
   “ครับ งั้นผมต้องลองตอนนี้เลยหรือเปล่า” ภัทรถามต่อ
   เขาไม่ได้ถามถึงระยะเวลาว่ามันจะสิ้นสุดตอนไหน เพราะลึก ๆ แล้วภัทรเองก็พอใจที่คุณเขาจะให้ได้ลองชุดพวกนี้ ต้องยอมรับว่าคุณภาสกรมีทุนทรัพย์มาก เพราะของบางชิ้น ภัทรไม่มีปัญญาแตะต้องด้วยซ้ำ มูลค่าของมันเกินเอื้อมที่จะมีไว้ครอบครอง ดีไม่ดีนี่อาจเรียกว่าเป็นการได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย คุณภาสกรได้เห็นชุดพวกนั้นอยู่บนเรือนร่างของเขา ส่วนภัทรเองก็ได้ลองชุดสวย ๆ
   “วันนี้อย่าเพิ่งครับ ผมอยากให้คุณพักผ่อนก่อน รู้หรือว่าตอนนี้ใต้ตาคุณคล้ำมาก” คุณภาสกรว่า ก่อนจะเดินเอาหน้ากากผ้าลูกไม้ที่ภัทรขอดูในตอนแรกไปเก็บในที่ ๆ เคยอยู่
   “ที่ผมเป็นแบบนี้ ก็เพราะคุณนั่นแหละครับ”
   “เพราะผม?”
   “ใช่ เพราะคุณทำให้ผมคิดมาก” ภัทรว่า ที่เขานอนไม่หลับมาหลายคืนติดก็เพราะคุณภาสกรหรือคุณพีนั้นแหละ ภัทรเครียดมากจนผมร่วงด้วยซ้ำ มันไม่ใช่เรื่องตลกเลยแม้แต่นิด
   “ครับ...แต่ผมไม่รู้สึกผิดหรอกนะ นั่นถือว่าเป็นบทเรียนที่คุณไม่รู้จักระมัดระวังตัวเอง” คุณภาสกรหันมาพูดกับภัทร พร้อมกับระบายรอยยิ้มจาง ๆ และทุก ๆ ครั้งที่คุณเขาระบายยิ้มอ่อน ๆ เช่นนั้น ภัทรก็รู้สึกว่าตัวเองใจเต้นแรงเสมอ อาจเพราะถูกอกถูกใจคุณเขาตั้งแต่เห็นในวันที่ประชุมก็ได้ พออีกฝ่ายทำอะไรก็มักจะดูดีในสายตาภัทร
   “......”
   “แต่วันนี้คุณค้างที่นี่ได้ไหม ผมอยากให้คุณนอนค้างที่นี่สักคืน” หลังจากเก็บของเข้าที่เสร็จ คุณเขาก็หันมาถามภัทรต่อ
   “ไม่ได้หรอกครับ หลานผมอยู่บ้านคนเดียว”
   “.......”
   “ขอโทษนะครับ แต่ผมต้องกลับบ้าน” ภัทรเอ่ยปฏิเสธเสียงอ่อน เขาไม่สามารถปล่อยให้หลานชายนอนอยู่บ้านคนเดียวได้ เพราะความเป็นห่วงตามประสาน้าที่มีหลานเพียงคนเดียว ยิ่งช่วงนี้ที่ภัทรกลับบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ บ่อย เขาก็ยิ่งไม่อยากไปนอนค้างที่ไหนให้หลานเป็นห่วง
   “งั้นก็ได้ครับ ตอนนี้เพิ่งห้าโมงเย็น....ยังพอมีเวลางีบสองสามชั่วโมง ผมอยากเห็นคุณหลับ”
   “.......”
   “ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมจะไปส่งเอง” คุณภาสกรว่าต่อ หลังเห็นว่าภัทรยังคงเงียบ ฝั่งภัทรเองที่เงียบไปก็เพราะคิดว่าควรงีบที่นี่สักสองสามชั่วโมงหรือกลับไปพักที่บ้านดี ต้องยอมรับว่าตอนนี้ร่างกายของเขาต้องการพักผ่อน ขณะที่ภัทรกำลังลังเลอยู่นั้น พอเห็นคุณภาสกรทำหน้าตาคล้ายจะคาดหวังในคำตอบ เขาจึงตัดสินใจได้ไม่ยาก
   “เอาแบบนั้นก็ได้ครับ”
   ภัทรตัดสินใจนอนงีบที่คอนโดตามข้อเสนอของคุณเขา ในตอนแรกภัทรจะของีบตรงโซฟา แต่คุณภาสกรกลับให้เขาเข้าไปงีบในห้องนอนของเจ้าตัวแทน
   “คุณภาสกรครับ ผมคิดว่ามันไม่เหมาะเท่าไรนะ”
   “เรียกชื่อเล่นผม”
   “......” ขณะที่ภัทรแย้งว่ามันไม่เหมาะสม คุณภาสกรกลับสนใจสิ่งอื่นมากกว่า นั่นก็คือการเรียกชื่อเล่น
   ภัทรอยากจะเรียกเหมือนอย่างเคยอยู่หรอก แต่เขากลัวว่าคุณภาสกรจะตอกกลับมาว่า อย่ามาถือวิสาสะเรียกชื่อเล่นของคุณเขา
   ตอนที่คุณเขาว่าเช่นนั้นในห้องทำงาน คนฟังอย่างภัทรก็รู้สึกหน้าชาอยู่ไม่น้อย มันเป็นความทรงจำที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก นั่นจึงทำให้เขาพยายามเลี่ยง ๆ เสมอ กลัวว่าเหตุการณ์จะซ้ำรอยอีกครั้ง
   “ครับ....คุณอาทิตย์ ผมคิดว่ามันไม่ค่อยเหมาะสมอะไร”
   “แล้วอะไรที่เรียกว่าไม่เหมาะ” คุณเขาถามกลับบ้าง
   “ก็....การที่ให้ผมใช้เตียงของคุณไงครับ”
   “คอนโดนี้เป็นของผม อันที่ผมคิดว่าผมพอใจก็แปลว่ามันเหมาะสม”
   “......”
   “เข้าไปนอนในห้องดี ๆ เถอะครับ คืนที่ฝนตกเรายังนอนเตียงเดียวกันเลย จำไม่ได้แล้วเหรอครับ”
    จำได้สิ....ทำไมภัทรจะจำไม่ได้ เขาแย้งในใจ เหมือนคุณภาสกรไม่ได้ตั้งใจจะสื่อเรื่องที่เรานอนเตียงเดียวกันด้วยซ้ำ แต่คุณเขาอยากจะสื่อถึงเรื่องอื่นมากกว่า ภัทรสังเกตได้จากสายตาแพรวพราวของคุณเขา ติดตรงแค่ว่าอีกฝ่ายไม่ได้กล่าวถึงอย่างชัดเจนก็เท่านั้น
   “งั้นถ้าคุณอาทิตย์คิดว่ามันเหมาะสมแล้ว เอาตามนั้นก็ได้ครับ” ภัทรเลือกที่จะตัดบท ก่อนที่แก้มของเขาจะร้อนผ่าวไปมากกว่านี้ เขาเดินผ่านหน้าคุณภาสกรไปยังห้องนอนที่คุณเขาบอก รีบเดินเข้าห้องนอนหนีอีกฝ่ายไปเสียดื้อ ๆ
   เพราะเตียงนอนของคุณภาสกรมันนุ่มมาก ไหนจะกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของก้านไม้หอมที่ตลบอบอวลไปทั่วห้องอีก ทำให้คนที่พักผ่อนน้อยมาหลายวันติดต่อกันอย่างภัทร หัวถึงหมอนนุ่มไม่ถึงสิบนาทีก็หลับสนิทได้ไม่ยาก มารู้สึกตัวก็ตอนที่รู้สึกว่าถูกรบกวนตรงบริเวณแถวซอกคอ
   “คุณภัทร....ธนภัทร ได้เวลากลับบ้านคุณแล้ว”
   “อือ….” ภัทรขานรับในลำคอ ทั้ง ๆ ที่เปลือกตายังปิดสนิทอยู่ ตอนนี้เขารับรู้ทุกอย่าง แต่เปลือกตากลับหนักอึ้งเกินกว่าจะลืมตา
   ภัทรรับรู้ได้ถึงลมหายใจร้อนกรุ่นที่กำลังรดต้นคอและข้างแก้มของตัวเอง คุณภาสกรกำลังยุ่มย่ามกับร่างกายภัทร เพราะเขาสัมผัสได้ถึงจมูกและริมฝีปากของอีกฝ่ายที่กำลังสัมผัสแถวซอกคอของภัทรเป็นครั้งคราว ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายขึ้นมาอยู่บนเตียงเดียวกันตั้งแต่ตอนไหน แต่การกระทำของคุณเขา กำลังทำให้ภัทรเริ่มหอบหายใจกระชั้นถี่มากขึ้นเรื่อย ๆ
   “อือ....คุณอาทิตย์”
   “ถ้าไม่ตื่นผมไม่เลิกนะ ไหนบอกว่าไม่อยากให้หลานอยู่คนเดียวไง”
   “ผม....ผมง่วง ปวดหัวด้วย”
   “ตอนนี้ตัวคุณร้อนรุม ๆ ไม่สบายจนได้สินะ”
   “คุณอาทิตย์เอาหน้าออกไปก่อน เดี๋ยวผม....” ในที่สุดภัทรก็ลืมตาขึ้นอย่างเสียไม่ได้ หลังคุณเขายุ่มย่ามบนร่างกายภัทรไม่เลิกจนอารมณ์บางอย่างกำลังถูกปลุกขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่ภัทรกำลังไม่สบาย
   “เดี๋ยวผมอะไรครับ?”
   “เดี๋ยวผมจะมีอารมณ์ไง” ภัทรว่าอย่างตรงไปตรงมาพลางดันหน้าหล่อ ๆ ของคุณเขา แต่คุณภาสกรก็ดื้อ ไม่ยอมรามือง่าย ๆ มิหนำซ้ำยังจะจูบฝ่ามือภัทรอีก
   “แต่ตอนนี้ผมมีอารมณ์แล้วนะ”
   “ล—แล้วจะให้ผมทำยังไง ผมไม่สบายอยู่นะครับ” ภัทรว่า เพราะถ้าเราทำเรื่องอย่างว่ากันตอนนี้ ภัทรจะต้องทั้งปวดหัว ทั้งปวดตัวเป็นแน่
   “งั้นก็ขอเวลาอยู่แบบนี้สักพัก” คุณภาสกรพูดแค่เพียงสั้น ๆ
   อยู่แบบนี้สักพักของคุณเขา หมายความว่าเอาจมูกโด่งมาถูไถตามแก้ม ตามซอกคอภัทรไม่หยุดนั่นแหละ สบายคุณเขา แต่ภัทรน่ะสิจะแย่เอา ไม่คิดว่าการที่ตัวเองทำอย่างนั้น จะทำให้ภัทรมีอารมณ์บ้างหรือไง
   “อะ....คุณอาทิตย์”
   “....หอม”
   “ผ—ผม อ๊ะ” ภัทรพยายามควบคุมตัวเองแล้ว แต่สุดท้ายก็หลุดเสียงครางออกมาอยู่ดี ใบหน้าของเขาห่างจากคุณอาทิตย์หน้าคืบเท่านั้น ดวงตาคมจ้องสบตาภัทรอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเลื่อนสายตามองลงที่ริมฝีปากของภัทรแทน
   “ตรงนี้ใช่ไหมที่ส่งเสียง” คุณเขาถามเสียงพร่า
   “......” ภัทรไม่ได้ตอบอะไร แต่หลับตาลงเมื่อคุณภาสกรจูบลงมา คุณเขาทำให้ภัทรใจเต้นแรงอีกแล้วคราวนี้มันเต้นแรงกว่าทุกครั้งราวกับจะหลุดออกมาจากทรวงอก
   ภัทรปล่อยให้คุณภาสกรย้ำจูบลงมาซ้ำ ๆ เพราะริมฝีปากของคุณเขานุ่มก็เลยอยากให้สัมผัสกันบ่อย ๆ ริมฝีปากของคุณภาสกรอมชมพู ไหนจะลมหายใจที่ไม่มีกลิ่นควันบุหรี่เจือปน บ่งบอกว่าอีกฝ่ายไม่ได้สูบบุหรี่เหมือนผู้ชายทั่วไป เราผลัดกันจูบเย้าแหย่กันนานอยู่หลายนาที จนในที่สุดก็มีคนทนไม่ไหวเสียก่อนและคนนั้นก็คือคุณภาสกร
   “ผมขอเวลาอีกสิบนาที ตอนนี้ผมคิดว่าตัวเองต้องเข้าห้องน้ำ” คุณเขาบอกภัทรอย่างไม่ปิดบัง ก่อนจะลุกขึ้นลงจากเตียง เตรียมไปทำธุระส่วนตัวของตนเองต่อ แต่ทว่าภัทรกลับเรียกชื่อคุณเขาไว้ทันพอดี
   “คุณอาทิตย์ครับ!!”
   “......” คุณเขาหันกลับมาภัทร เลิกคิ้วเชิงถามว่ามีอะไรถึงมาเรียกเอาตอนกำลังหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้
   “ให้ผมช่วย....นะครับ” ในที่สุดภัทรก็รวบรวมความกล้าแล้วพูดมันออกมา
    เขาไม่ว่าเปล่า แต่รีบลงจากเตียงเดินไปหาคุณภาสกรจนเรายืนประจันหน้ากันครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ ลดตัวลง นั่งคุกเข่าลงกับพื้น แสดงออกอย่างชัดเจนว่าอยากจะช่วยเหลือคุณเขาในเรื่องนี้เหลือเกิน
   เมื่อเห็นว่าคุณภาสกรไม่ได้ว่าอะไรแล้ว ภัทรก็ไม่รีรอที่จะค่อย ๆ ยื่นมือไปจับที่หัวเข็มขัดของคุณเขา ภัทรรู้สึกตื่นเต้นจนสังเกตได้ มือของเขาสั่นเทาเล็กน้อย ในขณะที่กำลังปลดเข็มขัดหัวมนออกให้พ้นทาง
   ภัทรรูดซิปกางเกงของคุณเขาลง มีแค่เสียงซิปและเสียงลมหายใจของเราทั้งคู่เท่านั้น เพราะเราต่างคนต่างเงียบ ในเวลานี้คุณภาสกรนิ่งมาก เขายืนมองการกระทำของภัทรโดยไม่พูดจาด้วยซ้ำ นั่นยิ่งทำให้ภัทรรู้สึกประหม่ามากขึ้นกว่าเดิม
   ทุกอย่างดำเนินการไปอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องให้มีคนคอยบอก ภัทรก็รู้ดีว่าควรจะทำยังไงต่อ เขาสัมผัสส่วนนั้นของคุณภาสกรด้วยสายตาใคร่รัก แม้เราจะเพิ่งพบเห็นกันเป็นครั้งแรก มือสวยรูดรั้งให้มันตื่นตัวมากกว่าเดิม ทำเอาคนที่เป็นเจ้าของมันถึงกับหายใจผิดจังหวะ
   “อา....” คุณเขาส่งเสียงร้องออกมาเบา ๆ หลังภัทรพยายามครอบครองส่วนนั้นไว้ให้ได้มากที่สุด อาจเพราะตอนนี้ภัทรมีอาการคล้ายจะเป็นไข้ ทำให้โพรงปากของเขาอุ่นมากกว่าปกติ
   ภัทรพยายามแสดงฝีมือให้คุณเขาเห็นอย่างเต็มความสามารถ อยากให้คุณภาสกรได้รู้ว่าสิ่งที่ทำไป ภัทรทำด้วยความเต็มใจทั้งนั้น ไม่ใช่แค่อยากจะเอาใจคุณเขาเท่านั้น ภัทรแตะลิ้นระรัวที่ส่วนปลายของสิ่งนั้น เพราะเป็นผู้ชายด้วยกันจึงรู้ว่าต้องทำอย่างไร ผู้ชายถึงจะชอบ
   กลีบปากบางพยายามรูดรั้งอย่างเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ไม่ละเลยที่จะลงลิ้นระรัวที่ปลายหัวให้ หลังจากเล็มเลียส่วนหน้าจนพอใจแล้ว ภัทรก็ไม่ลืมที่จะใส่ใจส่วนอื่นของคุณเขาด้วย
   ทุกอย่างดำเนินไปในอย่างที่มันควรจะเป็น คุณภาสกรหลับตา เขาส่งเสียงบ้างในบางครั้ง นั่นทำให้ภัทรรู้สึกมั่นใจว่าสิ่งที่เขาทำมันถูกต้องแล้ว ความเสียวกระสันคงกำลังเล่นงานคุณเขาอยู่เป็นแน่
    ฝั่งของภาสกร..... ขณะที่ความกระสันอยากกำลังเล่นงานจนทำให้เผลอเกร็งหน้าท้องอยู่บ่อยครั้ง ฝ่ามือร้อนที่กำลังจะเอื้อมไปลูบกลุ่มผมนุ่มของธนภัทรตามแรงอารมณ์หยุดชะงักไป เมื่อคิดได้ว่าการกระทำเช่นนั้น อาจเป็นการฝืนบังคับธนภัทร
   เพียงแค่อีกคนพยายามเอาอกเอาใจทั้ง ๆ ที่ตัวเองไม่สบายก็ดีมากโขแล้ว  สุดท้ายจึงทำได้แค่ยืนนิ่งปล่อยให้อีกคนได้ทำ ในขณะเดียวกัน คนนั่งตรงหว่างขาก็พยายามเล้าโลมไม่เลิก
   ภาสกรหลับตาลงและในบางครั้งเขาก็ลืมตาขึ้นมาใหม่ หลุบตามองต่ำ มองภาพสวยงามเป็นระยะ ๆ และลีลาของภัทร ทำเอานักธุรกิจหนุ่มถึงกับต้องขมวดคิ้วอยู่หลายครั้งหลายครา มันเป็นเรื่องยาก หากจะต้องยืนนิ่ง ๆ โดยไม่หลุดเสียงและไม่หาที่ระบายความรู้สึกเสียวซ่านออกมา
   ตัดกลับมาที่ฝั่งภัทรเองก็รู้สึกว่าคุณภาสกรกำลังอึดอัด เขารู้ว่าเวลานี้คุณภาสกรต้องการอะไรกันแน่ สังเกตได้จากมือหนาที่เหมือนจะมาจับกลุ่มผมเขา แต่สุดท้ายก็ไม่ทำ ภัทรจึงรีบผละออกจากสิ่งนั้นชั่วคราว แล้วคว้ามือคุณเขามาวางไว้บนกลุ่มผมตัวเองราวกับยินดีจะให้คุณภาสกรกระทำทุกอย่างที่ต้องการ
   “คุณภัทร.....”
   “เวลานี้ ผมไม่ต้องการความอ่อนโยน” ภัทรว่าเงยหน้าขึ้นเพื่อสบตากันคุณเขา เขาชอบคนอ่อนโยนก็จริง แต่ต้องไม่ใช่ในเวลานี้ อยากเห็นคุณเขาแสดงออกถึงความต้องการของตัวเองออกมา ไม่ใช่มาอ่อนโยนแบบนี้จนตัวเองไม่มีความสุข ทั้ง ๆ ที่เวลานี้ภัทรอยากให้คุณเขามีความสุขมากที่สุด
   คราวนี้การใช้ปากของภัทรเป็นไปเรื่อย ๆ ในขณะเดียวกันมือของคุณภาสกรก็วางอยู่บนศีรษะของภัทร คอยลูบหัวราวกับให้รางวัลของเด็กดีและเผลอกดศีรษะบ้างในบางครั้ง ยามที่รู้สึกว่าภัทรยังทำให้ลึกได้ไม่พอ
   “ภ—ภัทร ผมใกล้เสร็จแล้ว”
   “ครับ...ปล่อยออกมาเลย” ภัทรพูดงึมงำ ตั้งหน้าตั้งตาทำให้คุณเขาอย่างสุดกำลัง
   ตอนนี้ความคิดเห็นเราไม่ตรงกัน คุณเขาไม่อยากให้ภัทรเปื้อน ส่วนภัทรเองกลับเต็มใจที่จะเปื้อน จังหวะที่ใกล้จะถึงโค้งสุดท้ายแล้ว คุณภาสกรก็รีบดึงมันออกในทันที  แต่เหมือนผู้บริหารหนุ่มจะคาดคะเนเวลาผิดไปเล็กน้อย มันจึงกลายเป็นว่าเปื้อนตรงขอบริมฝีปากของภัทรแทน
   “ให้ตายเถอะ....” คุณภาสกรสบถเบา ๆ หลังจากเห็นว่าภัทรกำลังตัวเปื้อนเพราะตัวเอง ชายหนุ่มรีบรูดซิปให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ก่อนจะวิ่งหาทิชชู หวังจะมาความสะอาดให้ภัทร แต่จังหวะที่หันไปคว้าทิชชูและกำลังจะมาเช็ดให้ภัทร ผู้บริหารหนุ่มก็รู้ทันที ตัวเองได้เจอกับตัวแสบเข้าให้แล้ว
   “ไม่เห็นจะต้องวิ่งหาทิชชูเลยครับ.....” ภัทรไม่ว่าเปล่า แต่ยังเล็มเลียนิ้วตัวเองที่มีน้ำของเขาอยู่ โชว์ลีลาการทำความสะอาดตัวเองให้คุณเขาดู
   “นี่ไงสะอาดแล้ว” เขาโชว์มือของตัวเองให้คุณเขาดูพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง
   “เพราะเห็นว่าคุณกำลังไม่สบายเฉย ๆ หรอก ผมเลยไม่อยากให้คุณปวดตัวเพิ่มอีก แต่ครั้งหน้า....คุณไม่รอดแน่” คุณเขากดเสียงเข้ม ธนภัทรนี่ยั่วเก่งไม่เป็นสองรองใครจริง ๆ
   “งั้นก็ช่วยเร็ว ๆ หน่อยนะครับ ผมอยากโดนแล้ว....”

               





สกรีมแท็ก #ภูมิแพ้ลูกไม้

ขอแจกทวิตเตอร์หน่อยนะคะ คนอ่านจะได้ตามข่าวสารในการทำเล่ม งานอาร์ตประกอบเล่ม ของแถมและฉากอื่นๆในเรื่องนี้ค่ะ

ทวิตเตอร์@apaphaty หรือจะทาง fanpage พาพา ก็ไม่ขัดอะไรนะคะ

อิอิอิอิอิอิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-11-2018 12:46:10 โดย Papa614 »

ออฟไลน์ whistle

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
 :hao7: :hao7: :hao7: อยากเห็นภัทรโดนพร้อมใส่ถุงน่องลายลูกไม้ด้วย........

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
น้องคะ!

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
นัดวันมาได้เลยค่ะ อยากเห็นจะแย่แล้ว

ออฟไลน์ M_Y MILD

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พี่คะ น้องจะทนไม่ไหวแร้วววว

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
จะเปงลมค่าาา แค่คิดว่าน้องจะใส่ชุดลายลูกไม้ ฮืดฮาดมาก

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
รู้สึกไม่อยากให้คุณพีเห็นขาอ่อนน้องง่ายๆ  :serius2:

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
ตอนต่อไปมาเลยค่ะ น้องบอกอยากโดน เราก็อยากอ่าน

ออฟไลน์ junlifelove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องงงงงงง  :hao6:
น้องดูเซ็กซี่มากอะ พอร์นเหลือเกิน หนูลูกกกกก

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
น้องอย่าไปท้าทายพี่เขาสิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

ออฟไลน์ Patsz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เพิ่งจะได้อ่านเรื่องนี้ สนุกมาก รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ Papa614

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1

เช้าแห่งการทำงานเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง หลังได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม อาการกระปรี้กระเปร่า ตื่นตัวพร้อมรับในทุกสถานการณ์ตามประสาพนักงานน้องใหม่ไฟแรงก็กลับมาอีกครั้ง หลังได้หลุดพ้นจากความกังวลที่ส่งผลเขานอนไม่หลับมาหลายคืนเป็นเวลาติด ๆ กันเสียที
    ภัทรกอดแฟ้มเอกสารที่อยู่ในความรับผิดชอบของตัวเองเอาไว้แน่น ขณะที่กำลังใช้ลิฟต์ร่วมกับพนักงานคนอื่น ๆ มุ่งหน้าไปยังชั้นที่เขาประจำอยู่
   อาการตัวร้อนรุม ๆ คล้ายจะเป็นไข้ในตอนแรกได้หายไปแล้ว เมื่อคืนหลังจากที่คุณเขามาส่ง ภัทรก็รีบกินยาทันที ทำให้อาการป่วยที่มีท่าทีว่ารุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ถูกยับยั้งไว้ได้ทันเสียก่อน วันนี้เขาจึงสามารถมาทำงานได้ตามปกติ
   “อรุณสวัสดิ์จ้ะ ภัทร”
   “อรุณสวัสดิ์ครับ พี่นัท” ภัทรเอ่ยทักทายรุ่นพี่ประจำแผนกและทำงานอยู่โต๊ะติดกันอย่างเช่นทุกวัน เขาโค้งหัวให้เธอเล็กน้อย ก่อนจะนั่งลงแล้วเอาแฟ้มที่เพิ่งถือมาออกมากาง ดูข้อมูลที่สรุปไว้ในช่วงปีที่แล้ว
   “เป็นไง วันนี้รู้สึกดีขึ้นบ้างหรือยังจ๊ะ”
   “ครับ? อ๋อ….ดีขึ้นแล้วครับ” ภัทรตอบ
   “เออ ดีแล้วล่ะ พี่ก็นึกว่าวันนี้เราจะเป็นซอมบี้มาทำงานอีก พักผ่อนให้เยอะ ๆ นะ ถ้าร่างกายได้ป่วย ระวังจะป่วยยาวจนต้องแอดมิทเข้าโรงพยาบาลเลยนะ”
   “ครับ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะครับ” ภัทรว่าพร้อมทั้งส่งยิ้มตาหยีให้พี่นัท เราถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันอีกนิดหน่อย ก่อนจะแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง ภัทรตั้งหน้าตั้งตาบันทึกข้อมูลใหม่ในปีนี้ลงในแฟ้มเดิม ส่วนพี่นัทก็ออกไปคุยงานกับลูกค้าข้างนอก
   การทำงานของภัทรดำเนินไปอย่างเรื่อย ๆ เมื่อไม่มีความระแวงอะไรอีกต่อไป ทำให้ตลอดทั้งวันมานี้เขาแทบไม่ได้เช็กโทรศัพท์เลยด้วยซ้ำ เพราะถือว่ายังอยู่ในช่วงเวลางานจึงไม่อยากให้ใครเขาว่าได้
   ในช่วงบ่ายของวัน เข็มสั้นของนาฬิกาเวียนมาถึงเลขสามอีกครั้ง ได้เวลาที่ภัทรต้องเลิกงานแล้ว เขาเก็บข้าวของลงกระเป๋าทำงานของตัวเอง ก่อนจะตอกบัตรออกตรงเวลาตามนโยบายของบริษัท
   เพราะแผนกของภัทรเลิกงานตอนบ่ายสาม ทำให้เพื่อนหลายคนที่เรียนคณะเดียวกัน ต่างพากันอิจฉาที่แผนกของภัทรเลิกงานเร็วกว่าบริษัททั่วไป ภัทรเองไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรนักว่าทำไมเพื่อนถึงต้องอิจฉา ทั้ง ๆ ชั่วโมงการทำงานเราก็เท่ากันแท้ ๆ  ภัทรเข้างานเช้าจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะออกเร็ว
   ตลอดทั้งวันมานี้ ภัทรไม่ได้เดินเฉียดกับคุณภาสกรเลยด้วยซ้ำ อันที่จริงก็นับเป็นเรื่องที่ยากที่เราจะบังเอิญเจอกันอีกครั้ง เพราะลิฟต์ในบริษัทถูกแบ่งเป็นสองตัว สำหรับผู้บริหารและสำหรับเหล่าพนักงาน
   ไม่ใช่แค่เราไม่บังเอิญเจอหน้ากัน วันนี้เรายังไม่ได้แช็ตหากันอีกด้วย คุณเขาไม่ได้ทักมา ภัทรเองก็ไม่ได้ทักไปหาเช่นกัน ในเวลางานต่างคนก็ต่างรับผิดชอบหน้าที่ตัวเอง คุณภาสกรเป็นเจ้านายถึงจะอยู่ในตำแหน่งสูง ๆ ก็มีหน้าที่ในแบบของเขา ส่วนภัทรเป็นพนักงานก็มีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบเช่นกัน

   “กินเยอะ ๆ นะ โอ๊ตจะเอาเพิ่มอีกถ้วยเปล่า”
   “ไม่เอาแล้วฮะ”
   “โอเค” ภัทรพยักหน้ารับ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาจัดการอาหารตรงหน้าของตัวเองต่อ หลังเขาพาหลานชายออกมาทานก๋วยจั๊บเครื่องในที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้านเท่าไรนัก
   ชีวิตของภัทรไม่มีอะไรมาก โดยปกติแล้วหลังจากเขาเลิกงานเสร็จ ภัทรก็มักจะกลับบ้านเลย ไม่ค่อยได้ออกไปไหนกับเพื่อนร่วมงานเท่าไรนัก มีสังสรรค์บ้างตามประสาซึ่งนาน ๆ ทีมีหน เขามักจะทำอาหารง่าย ๆ ประเภทเมนูไข่หรือพวกเมนูผัดน้ำมันหอยต่าง ๆ ไว้รอหลานกลับมากินเสมอ เตรียมอาหารไว้รอหลานเสร็จ เขาก็ทำงานบ้านอีกนิดหน่อย ตกค่ำมา ภัทรก็เริ่มตาปรือแล้ว วันไหนที่ยังพอมีแรงเหลือ ถึงค่อยมาอัปเดตพวกผ้าลูกไม้ สิ่งที่เขาหลงใหลลงในทวิตเตอร์ที่ดูแลอยู่
   ในขณะที่ภัทรกำลังนั่งกินข้าวกับหลานชายอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีเสียงเรียกเข้าและสายที่โทรเข้ามาก็คือคุณภาสกร ภัทรจึงไม่รีรอที่จะกดรับสาย
   “สวัสดีครับ”
   [ตอนนี้คุณอยู่บ้านหรือเปล่าครับ?] คุณภาสกรถาม ภัทรขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะน้ำเสียงอีกฝ่ายดูแปลกไปดูเหมือนคนกำลังไม่สบาย แต่เขาก็ตอบอยู่ดี
   “ไม่ครับ ผมพาหลานออกมากินข้าวข้างนอก มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
   [อยู่ร้านไหนเหรอ]
   “ร้านสมโภชโภชนาครับ ถัดจากซอยบ้านผมมาอีกนิดหนึ่งอยู่ติดถนนใหญ่เลย”
   [โอเค เดี๋ยวผมไปหา]
   “ครับ? คุณอาทิตย์” ไม่ทันที่ภัทรจะได้ถามอะไรต่อ คุณเขาก็ดันตัดสายไปเสียก่อน จากตอนแรกที่ตั้งใจว่ารอให้หลานชายกินเสร็จแล้วกลับบ้านเลย ก็กลายเป็นว่าภัทรต้องนั่งรออีกสักพัก เพราะคุณภาสกรจะมาหาที่นี่
   “ไม่สบายเหรอครับ” ธนภัทรเอ่ยถาม หลังเห็นคุณอาทิตย์หันไปสั่งเมนูกับเหล่าพนักงานและเดินตรงมายังโต๊ะที่เขาและหลานชายกำลังนั่งอยู่ วันนี้คุณอาทิตย์แตกต่างไปจากทุกวัน เพราะคุณเขาสวมใส่หน้ากากอนามัยมาด้วย
   “ใช่ครับ…”
   “อา….”
   “ผมคิดว่าตัวเองติดมาจากคุณ” ไม่ทันที่ภัทรจะได้เอ่ยถามว่าไปทำอะไร ถึงปล่อยให้ตัวเองป่วย คุณเขาก็ชิ่งโบ้ยให้เป็นความผิดให้กับเขาเสียดื้อ ๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งลงข้าง ๆ กัน
   “เพราะเมื่อคืนเราจูบกันไง” คุณเขากระซิบบอกให้เราได้ยินกันแค่สองคน
   ภัทรอยากจะเถียง แต่เขาก็เถียงไม่ได้ เพราะมันอาจเป็นจริงอย่างที่คุณเขาว่า เพราะเราจูบกัน คุณเขาเลยป่วยแบบไม่ทันตั้งตัว ภัทรกลับบ้านเขาก็กินยาป้องกันไม่ให้อาการมันรุนแรงขึ้นกว่าเดิม แต่คุณอาทิตย์คงนึกไม่ถึงว่าเมื่อคืนจะติดไข้จากเขาถึงได้ป่วยเอา
   “สวัสดีเจ้าโอ๊ต เจอกันอีกแล้วนะ” หลังจากที่คุณอาทิตย์เย้าแหย่ภัทรได้สำเร็จ คุณเขาก็หันไปทักทายหลานชายวัยกระเตาะของภัทรต่อ อีกฝ่ายทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทิ้งให้ผู้เป็นน้านั่งอยู่หน้าชามก๋วยจั๊บด้วยอาการหน้าแดง
   “สวัสดีฮะ เจ้านายน้าภัทร” เจ้าโอ๊ตเอ่ยทักทายกลับพร้อมกับส่งยิ้มแฉ่งให้อย่างเป็นมิตร จำได้แม่นว่าเจ้านายของน้าภัทรเป็นคนซื้อขนมให้ถุงใหญ่จนถึงตอนนี้ยังกินไม่หมดเลย
   “ทำไมเรียกห่างเหินจัง น้าภัทรสอนให้เรียกแบบนี้เหรอ”
   “เปล่าฮะ แต่โอ๊ตไม่รู้จะเรียกเจ้านายน้าภัทรว่าอะไรนี่ครับ” เด็กชายตอบกลับเสียงซื่อ
   “งั้นเรียกน้าอาทิตย์สิ เหมือนที่เราเรียกน้าภัทรไง ไม่ต้องเรียกว่าเจ้านายหรอก ฟังแล้วดูเป็นทางการยังไงไม่รู้” คุณอาทิตย์เสนอ เขาแสดงความกันเองออกมาเพื่อหวังที่จะลดช่องว่างกับหลานชายตัวน้อยของภัทร
   “ไปสอนให้หลานเรียกอะไรแบบนั้นครับ” เป็นภัทรที่ฝ่ายแย้ง ไม่เห็นด้วยที่คุณเขาบอกให้หลานเรียกเช่นนั้น
   “ก็ถูกแล้วไงครับ คนกันเองจะเรียกให้ห่างเหินไปทำไม อีกอย่างผมก็ไม่อยากให้หลานคุณจดจำว่าผมเป็นแค่เจ้านายของคุณด้วย แต่อยากให้เขารู้สึกว่าตอนนี้ได้น้าเพิ่มมาอีกคน เพราะยังไงหลังจากนี้ผมกับโอ๊ต เราคงต้องเจอกันบ่อย ๆ อยู่แล้วจริงไหม?”
   เมื่อได้ยินเช่นนั้น ภัทรก็ได้แต่ขมวดคิ้วมองหน้าคุณอาทิตย์อย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรอีก เพราะมีหลานนั่งอยู่ด้วย แล้วอาหารก็มาเสิร์ฟพอดี เราจึงคุยหัวข้ออื่นแทน โดยหลัก ๆ แล้วคุณอาทิตย์มักจะเป็นฝ่ายชวนเจ้าโอ๊ตคุย หลานชายของภัทรเองก็ให้ความร่วมมือกับคุณเขาเป็นอย่างดี ส่วนภัทรเองมีหน้าที่นั่งฟังหลานชายและคนที่แต่งตั้งตัวเองว่าเป็นน้าหมาด ๆ สนทนากัน
   จากเท่าที่ภัทรสังเกตมา เขาคิดว่าคุณอาทิตย์ไม่ได้เก่งแค่การบริหารอย่างเดียว แต่อีกฝ่ายรู้จักใช้วาทศิลป์ รู้ว่าต้องทำยังไงเพื่อลดช่องว่างระหว่างกัน อีกฝ่ายชวนเจ้าโอ๊ตคุยอยู่หลายหัวข้อเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นของเล่นสะสมตามประสาเด็กผู้ชาย ไม่ก็พวกการ์ตูนที่ชอบหรือพวกฮีโร่ที่เด็กผู้ชายเขาชอบกัน
   “น้าเคยตามเก็บพวกของที่ระลึกพวกนี้อยู่ช่วงหนึ่งนะ มีเป็นเซ็ตใหญ่เลย”
   “จริงเหรอฮะ! โอ๊ตก็เคยอยากเก็บสะสมเหมือนกันนะฮะ พวกพวงกุญแจหรือโมเดลอะไรแบบนี้ แต่ของแต่ละชิ้นราคามันแรงมากเลย”
   “ถ้าเราชอบ งั้นวันหลังน้าจะเอามาให้ดูดีไหม”
   “จริงนะฮะ! สัญญากันแล้วนะ”
   “แน่นอนสิ น้าเป็นผู้ใหญ่ไม่ผิดสัญญาอยู่แล้ว”
   ภัทรมองไปตามข้างทาง ในขณะเดียวกันหูเขาก็คอยฟังบทสนทนาระหว่างหลานชายกับคุณภาสกรอยู่เสมอ สองคนนี้เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ยิ่งมาชอบฮีโร่ตัวเดียวกันยิ่งคุยกันถูกคอเข้าไปใหญ่ จริง ๆ ภัทรว่าคุณเขาได้ใจเจ้าโอ๊ตไปตั้งแต่ครั้งก่อนที่ลงทุนซื้อขนมถุงใหญ่มาให้แล้ว พอวันนี้มาคุยเรื่องฮีโร่ที่ชอบหรือพวกของสะสมอีก ยิ่งไม่ใช่เรื่องแปลกหากทั้งสองจะสนิทกันเร็ว
   ในที่สุดบทสนทนาเกี่ยวกับฮีโร่ในจักรวาลก็สิ้นสุดลง เมื่อรถคันหรูมาหยุดที่หน้าบ้านภัทรอีกครั้ง เขาปล่อยให้เจ้าโอ๊ตเข้าบ้านไปก่อน จึงเหลือเพียงแค่ภัทรและคุณภาสกรอยู่บนรถเพียงลำพัง ภัทรจึงเอ่ยขอบคุณคุณเขาอย่างในทุกครั้งที่อีกฝ่ายอุตส่าห์เป็นธุระมาส่งให้ 
   “ขอบคุณที่มาส่งนะครับ”
   “เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นไม่ได้เหรอ”
   “ไม่ได้ครับ เดี๋ยวผมติดไข้จากคุณ” ภัทรตอบทั้งหน้ายิ้ม ระหว่างที่กำลังสนทนากันอยู่นั้น คุณเขาปลดผ้ากากอนามัยลงเพื่อที่เราจะได้คุยกันได้สะดวก ๆ ทำให้ภัทรได้มีโอกาสเห็นจมูกแดง ๆ ตามประสาคนไม่สบาย มองแล้วดูน่ารักแปลกตาไปอีกแบบ เพราะปกติคุณเขาหล่ออย่างเดียว
   “ผมก็ติดมาจากคุณนั่นแหละ รังเกียจกันเหรอครับ” คุณภาสกรถาม
   “ไม่ได้รังเกียจครับ แต่ถ้าพรุ่งนี้ผมป่วย ผมอาจไปทำงานไม่ไหวนะ” ภัทรว่าพร้อมกับเอาหลังมือแนบหน้าผากคุณเขาเพื่อเช็กอุณหภูมิของคนป่วย
   “จริง ๆ คุณป่วยน่าจะกินยาแล้วนอนพักที่บ้านนะครับ ไม่เห็นจะต้องมาหากันเลย” หลังรับรู้ว่าตัวคุณเขายังคงร้อน ๆ รุม ๆ ภัทรก็ว่าต่อด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
   “ก็ผมอยากเจอหน้าคุณ”
   “เมื่อวานเราก็เจอหน้ากันแล้วไงครับ” ภัทรตอบกลับทันที
   ยอมรับว่าทุกคำพูดของคุณเขามีอิทธิพลกับภัทรเสมอและประโยคเมื่อกี้ก็กำลังทำให้คนฟังรู้สึกใจเต้นแรงด้วย เราสบตากันอย่างเงียบ ๆ ภัทรชอบมองตาคุณเขา เพราะรู้สึกว่ามันมีเสน่ห์ มองแล้วรู้สึกว่ากำลังถูกดึงดูดอย่างบอกไม่ถูก และก็มักจะเป็นเขาที่เป็นฝ่ายหลบสายตาเสียก่อน เนื่องจากต้านทานแรงดึงดูดนั้นไม่ไหว
   “ภัทรครับ….”
   “ครับ?”
   “ผมอยากจูบคุณอีกแล้ว” คุณภาสกรพูดความต้องการออกมาโดยไม่แม้แต่จะสนใจว่านั่นจะทำให้ภัทรใจเต้นแรงแค่ไหน ความประหม่าที่เคยมีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตอนนี้มันเพิ่มมากขึ้นเมื่อคุณเขาพูดออกมาว่าอยากจูบภัทร ภัทรรู้สึกได้เลยว่าตอนนี้หัวใจเขาเต้นแรงมากราวกับว่ามันจะหลุดออกมา
   “ผม….”
   “จุ๊บกันเบา ๆ ก็ได้ครับ…นะครับ” คุณเขาพูดดักทางไว้ทันที หลังกลัวว่าจะถูกปฏิเสธ ฝั่งภัทรเองก็นิ่งเพื่อคิดไปเกือบนาที ก่อนจะตัดสินใจโน้มหน้าไปจุ๊บริมฝีปากคนป่วยเบา ๆ และไม่มีการรุกล้ำมากกว่านั้น
   “เพราะคุณป่วยผมเลยให้ได้แค่เท่านี้ ไว้คุณหายแล้วเรา…ค่อยว่ากันใหม่นะครับ”
   หลังจากที่ภัทรได้ให้ในสิ่งที่คุณภาสกรต้องการ ก็ได้เวลาที่เราต้องแยกย้ายกันเสียที ภัทรต้องรีบเข้าบ้านเพราะมีพวกงานบ้านที่รอให้เขาไปสะสางอยู่ ส่วนคุณเขาเองก็ควรรีบกลับไปนอนพักผ่อนจะได้หายป่วยเร็ว ๆ ทุกครั้งที่ต้องร่ำลากัน ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ภัทรไม่รู้สึกใจหาย
   ภัทรใจหายทุกครั้งที่ต้องยืนมองรถของคุณภาสกรเคลื่อนห่างออกไปเรื่อย ๆ ในขณะที่เขายังยืนมองอยู่ที่เดิม.…ดวงตาเรียวมองตามรถของผู้เป็นเจ้านายด้วยความคิดที่หลากหลาย เพราะเขามีความสุขอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้มาก ๆ จึงกลัวว่าอนาคตหลังจากนี้ของเรา มันอาจไม่มีความสุขเหมือนตอนเริ่มต้น หลายครั้งที่ภัทรนึกถึงปลายทางความสัมพันธ์ที่เป็นความลับของเขาและเจ้านาย
   มันจะจบลงแบบไหนกันนะ?

________________

สกรีมแท็ก #ภูมิแพ้ลูกไม้

ไม่อยากจะออกมาพูดเลยในนี้ ฮืออ

พาขอความกรุณาไม่ให้รูปอิมเมจศิลปิน ดารา นักร้องและติดแท็กนิยายทุกกรณีนะคะ เพื่อรักษาบรรยากาศส่วนรวมค่ะ พาทวิตลงเพื่อขอความร่วมมือทุกวัน แต่เหมือนจะไม่เป็นผลเท่าที่ควร รบกวนให้ความร่วมมือด้วยนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-11-2018 12:47:10 โดย Papa614 »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ความรู้สึกของคู่นี้เขาพัฒนามานานแล้วเนอะ เพียงแค่เปลี่ยนจากหลบๆเป็นแบบเปิดๆ มีน้าสองคนเขาจีบกันอยู่ค่ะ ความลับเยอะด้วยนะโอ๊ต มัวแต่หลงกลสนใจแต่โมเดล555
ตอนนี้อิมเมจไม่มีเลยค่ะ ว่างเปล่า ชอบนะคะ รอตอนลองชุดอย่างใจจดใจจ่อค่ะ มโนแรงมาก

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
คุณพีเจ้าเล่ห์เหลือเกินนนนนนนนน

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
หมันไส้คุณอาทิตย์ขึ้นทุกตอนนนน

ออฟไลน์ whistle

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
โอย......อ่านแล้วใจละลาย........มีการมาหาตอนตัวเองป่วย......
ไม่อยากให้มีดราม่ามากอ่ะ

ออฟไลน์ M_Y MILD

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ดีจังงง จะร้องหั้ยแร้วว

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
งุ้ยๆ น่ารักมากเว่อ

ออฟไลน์ Patsz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
มาดูคนจีบกัน หวานๆ รอให้คุณเจ้านายหายดี แล้วมาลองชุดกัน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด