●✿หลง(อย่าง) สิงห์✿● #ุ15 เวลาของเรา {จบ}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ●✿หลง(อย่าง) สิงห์✿● #ุ15 เวลาของเรา {จบ}  (อ่าน 77064 ครั้ง)

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เขาจะกินกันแล้งเหรอฮะะะะะะ  :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

 o18

หลงตกอยู่ในอันตราย
55 จะขำหรือจะหื่น ทำตัวไม่ถูกเลยพี่สิง

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
โอ้ น้องมังกรแคระที่มีมังกรยักษ์ซุกอยู่อีกที
นายเอกสายมังกรยักษ์เกินมือเกินไม้ก็เข้าท่าดีนะ
เอาไว้ข่มให้ระเอกเสียความมั่นใจ  :laugh:

ออฟไลน์ onetawa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
7
ฤทธิ์ยาดองกับสองเรา


---------------------



แค่ออกแรงเบาๆ จากถูกคร่อมเขาก็ผลักคนตัวบางกลับลงนอนบนเตียง ยึดจับท้ายทอยมัน ฉกลิ้นเข้าไปเลียเล็มริมฝีปากนุ่มฉ่ำชิมรสชาติยาดองในปากมันเหมือนหมาจอมตะกละที่กินเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักอิ่ม



“อื้อ โบ้ พะ...พี่หายใจไม่ออก”



“เจ้านาย ค่อยๆ หายใจ อีกเดี๋ยวก็จะค่อยๆ ชินเอง”



คนใต้ร่างร้องประท้วง ทุบหลังเขาไม่แรงมาก เขาถึงถอนจูบเลื่อนใบหน้าเข้าชิดใบหูแดงก่ำ ทั้งกระซิบทั้งงับไปหลายที ลงโทษที่มันงับเขาก่อนหน้านี้



“พอแล้ว เลิกแกล้งพี่นะ พี่...พี่ไม่ไหวแล้ว”



“นี่มันแค่เริ่มตนเอง เจ้านาย”



เสียงหลงพร่า เสียงเขาที่ถามออกไปกลับพร่ายิ่งกว่า



ในตอนที่เลื่อนลงมางับจุดสีชมพูเล็กๆ กลางอกของมัน มือก็เลื่อนลงต่ำ ปัดผ้าขนหนูที่แทบปิดอะไรไม่มิด แยกขามันออกด้วยขาสองข้างของตัวเอง แล้วกำรอบความอุ่นร้อนเต็มมือของน้องมันไว้



สะกิดเบาๆ ร่างบางก็สะท้านเยือก หอบฮักครางเสียงต่ำในคอ



เสียงของมันเหมือนลูกแมวน้อยครางประท้วงเวลางอแงอยากให้เจ้าของเกาคอกล่อมนอน ได้ยินแล้วทำให้ตัวเขาเครียดเกร็งไปหมด อยากกลายร่างเป็นหมาบ้าฟัดมันให้จมเขี้ยวซะตอนนี้



จนใจที่เลื่อนมือข้างที่วางลงไปลูบคลำปากทางเข้าที่ปิดสนิท บอกชัดว่าไม่เคยมีอะไรผ่านเข้าไปของน้องมันแล้ว ทำให้เขาต้องพยายามอดทนอดกลั้นหนักขึ้น



“อื้อ”



ถูกสัมผัสจุดอ่อนไหวทั้งหน้าและหลัง หลงยิ่งครางหนักส่ายหน้า พยายามจะหุบขาถดตัวหนี เขาโถมตัวใช้ร่างกายที่ยังมีเสื้อผ้าครบส่วนกดทับมันไว้ ก่อนตอบแทนเสียงครางน่าฟัดของมันด้วยจูบพัวพันลึกซึ้ง



จูบจนริมฝีปากหวานฉ่ำของมันบวมเปล่งก็ยังรู้สึกว่าไม่ถูกเติมเต็ม ต้องกัดไปตามผิวขาวของมันจนขึ้นรอยจ้ำ เลียไล้แอ่งสะดือพร้อมกับขยับมือดึงรั้งความปรารถนาของมันขึ้นลงเร็วขึ้น



แต่ในตอนที่ตัวเองอึดอัดแทบระเบิด เขาไม่มีทางยอมให้มันปลดปล่อย หยุดมือลงกลางคั่นจนมันครางฮื่อประท้วง ผวามารั้งเสื้อผมไม่ให้ถอยออกห่าง



“ตะ...ต่อ ทำต่อ” มันอ้อนขอเสียงแหบพร่า ส่งสายตาฉ่ำน้ำเต็มไปด้วยความปรารถนามองมา



“เรียกชื่อฉันก่อน” เขาตั้งข้อแม้แต่ก็เริ่มถอดเสื้อโยนลงจากเตียง



“บะ...โบ้”



“ไม่ใช่หมา เรียกชื่อให้ถูก ไม่งั้น...”



โดนเรียกเป็นหมาซ้ำๆ เขาทั้งฉุนทั้งขำ ไม่ได้บอกว่าถ้ามันเรียกไม่ถูกจะโดนอะไร แต่ลงมือลงโทษมันด้วยการผละถอยออกห่างมากางเกงออกจนเหลือแต่กางเกงชั้นในค่อยโถมตัวลงไปทาบทับเด็กตัวบางไว้ใต้ร่าง



มือหนึางลูบไล้ปลายนิ้ววนเป็นวงกลมอยู่ที่ปากทางเข้าที่ปิดสนิท อีกมือลูบไล้ลูกบอลกลมเกลี้ยงสองลูกใต้ความแข็งขืนอุ่นร้อนของมันที่กระตุกตามสัมผัส



“ต้องเรียก...หลงต้องเรียกว่ายังไง”



“พี่สิงห์ เรียกเร็วเข้า”



“พี่สะ...อึก! ”



คำว่าพี่เพิ่งถูกเรียกออกมาด้วยเสียงแหบพร่า เขาก็เริ่มทนไม่ไหว ส่งปลายนิ้วเข้าไปสัมผัสความอุ่นร้อนภายในตัวมัน



หลงสะดุ้งเฮือกน้ำตาร่วงลงข้างแก้ม ท่าทางน่ารักน่าสงสารจนเขาต้องจูบซึบน้ำตาพรมจูบไปทั่วหน้า ค่อยหยุดคลอเคลียริมฝีปากบวมเปล่งของมันพร้อมกับค่อยๆ เคลื่อนปลายนิ้วช้าๆ



“อึด...อัด”



มันโอดครวญเสียงเครือหลังเขาถอนจูบ ทั้งยังยืนยันคำพูดด้วยนิ้วทั้งห้าที่ขยุ้มลงกลางหลังที่ปลุกเร้าอารมณ์เขาให้พลุ่งพล่าน เริ่มส่งปลายนิ้วเข้าไปในตัวมันเพิ่มขึ้นอีกนิ้ว



“รู้สึกยังไง”



นอกจากเสียงครางเจือสะอื้นของมันแล้ว ตอนเขาขยับนิ้วลึกขึ้นหลงส่ายหน้าไม่พูดอะไรอีก เขาสองเพิ่มนิ้วเข้าไปอีกแล้วถามอย่างระมัดระวัง



“หลงอึดอัด แต่...อึก เร็วขึ้นอีกพี่สิงห์”



เหมือนถูกแตะโดนจุดไวต่อความรู้สึก คนใต้ร่างขยับรัดปลายนิ้วทั้งสามของเขาลึกขึ้น ทั้งยังเป็นฝ่ายโน้มใบหน้าเขาเข้าบดจูบเรียกร้องรุนแรงบ่งบอกให้รู้ว่าพร้อมแล้วสำหรับความใหญ่โตที่ขยายใหญ่ด้วยความปรารถนาถึงขีดสุดของเขา



เขากดท้ายทอยมันจูบแนบแน่นขึ้น หลอกล่อให้ลิ้นมันไล่ตามพัวพันลึกซึ้ง พร้อมกับใช้มือข้างที่เหลือฉีกซองที่ติดอยู่ในกระเป๋าเงินและดึงออกมาเตรียมไว้รอตอนที่ถอดกางเกงสวมใส่ลงบนความปรารถนาของตัวเองเสร็จก็ถอนปลายนิ้วออก แล้วค่อยๆ บดเบียดเข้าไปในความอุ่นร้อนของตัวมัน



“อื้อ...เจ็บ! ” หลงพยายามผละถอยจากจูบลึกซึ้งหอบแฮกร้องประท้วง



“อย่าดิ้น อีกเดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง เชื่อพี่”



เขาหอบฮักไม่ต่างจากกัน เป็นเพราะทรมานที่ต้องพยายามบังคับตัวเองไม่ให้กระแทกทะยานตัวเข้าไป แต่ค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าลึกขึ้น ปากคลอเคลียริมฝีปากล่างบวมเปล่ง มือลูบไล้กดสัมผัสจุดกึ่งกลางอกสีชมพูอ่อนไม่หยุด พยายามล่อลวงให้คนใต้ร่างละความสนใจจากความเจ็บปวดมาสนใจการปลุกเร้าของตัวเอง



“พี่สิงห์ ตะ...ต่อ”



พอเขาเริ่มเคลื่อนไหว มันก็ครางเครือเริ่มขยับตาม พอมันเรียกร้องเขาก็ไม่คิดทนอีกต่อไป จากอ่อนโยนในตอนเริ่มแรกก็เพิ่มความหนักหน่วงร้อนแรง และรวดเร็วขึ้น



เตียงไหวเอนโยกคลอนไม่หยุด เสียงหอบหายใจปะปนกับเสียงครวญสะอื้นดังขึ้นยาวนานต่อเนื่อง เขาถึงยอมให้ทั้งตัวเองและคนใต้ร่างปลดปล่อยออกมา



ถึงอย่างนั้นความต้องการก็ใช้จะจบลงแค่ครั้งเดียว ต่อให้ล้มตัวลงนอนกอดก่ายหลังโยนถุงน้ำขุ่นทิ้งลงกับพื้น เขาก็ตั้งต้นควานหาซองใหม่จากกระเป๋า ตั้งต้นใช้มันกับเด็กหลงอีกครั้ง



ยิ่งมันร้องครางอยู่ใต้ตัวเขา ตอบรับด้วยความเร่าร้อนรัดแน่น เขายิ่งต้องการไม่สิ้นสุด



ถึงจะกลัวมันเจ็บจนพยายามบังคับตัวเองให้หยุดอยู่แค่ครั้งที่สอง แต่ก็อดไม่ได้จะฟัดมันจนเขียวช้ำเป็นจ้ำแดง สัมผัสมันแค่ภายนอกแล้วปลดปล่อยไปพร้อมมันอีกหลายครั้ง ค่อยกอดมันนอนหลับไป





---------------------------------------

เขาได้กันแล้ว คูณผู้โช้มมมม

Nc 18+++ คืออัลไล ไม่รู้จัก >///<

ยังหัดเดินเตาะแตะ แบบระดับอนุบาลไปก่อน

ปาดเลือดกำเดาเบาๆ

ตอนนี้ก็จะสั้นหน่อยๆ เนื่องจากใช้พลังชีวิตกับการจิ้นไปหมดแล้ววววว

ตอนหน้าสัญญาจะมาเยอะเท่าตอนแรกๆ แน่นวน

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
ตื่นเช้ามาจะเกิดสงครามไหม
ฮื่ออออ

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
มาต่อวันนี้อีกตอนป่ะะะะ  :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ fon270640

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
อร้ายย  น้องน่ารักก

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
จากแรมโบ้เลียปากกลายเป็นสิงห์จูบปากแถมถูกกินจนเหลือซากถุงอนามัย
หลงตื่นมาถีบตกเตียงแน่

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9

ออฟไลน์ benicezii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอ้ยยยยย.   ตื่นมาจะเป็นไงหนออออ.  :katai4: :katai4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ onetawa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
Chapter 8
พอสร่างเมาโลกเราก็เปลี่ยน
---------------------------------------------



เคยไหมที่ฝันแล้วรู้สึกเหมือนจริงมาก มากจนตื่นมายังรู้สึกได้!

บางทีอาจเหมือนเมื่อคืนนี้ที่ผมฝันว่าโดนหมาไล่ฟัด ฟัดที่ไหนไม่ฟัดมันฟัดแต่ก้นผมไม่หยุด วิ่งหนีจนเหนื่อยเหมือนจะตายยังไงก็หนีไม่พ้น แต่ที่ทำให้รู้สึกแปลกๆ คือ โดนหมาฟัดแต่ดันจุก…เจ็บ และฟินแปลกๆ

รวมๆ กันแล้วก็ทำเอาผมเหนื่อยมากจนหอบไม่หยุดทั้งที่เพิ่งจะรู้สึกตัวตื่น แต่เหมือนหมาบ้าตัวใหญ่จะตามออกมาจากในฝัน มันกระโจนเข้าหาผมแล้วงับเข้าที่ปาก ทั้งเลียปลุกทั้งนัวเนียอยู่บนตัว แล้วผมจะนอนต่อยังไงไหว

ต้องพยายามบังคับตัวเองที่ปวดหัวเหมือนจะระเบิดด ปวดจนร้าวจากหัวลามไปทั้งตัวจนถึงก้น ลืมตาขึ้นผลักหัวหมาบ้าที่เข้าใจว่าเป็นแรมโบ้ขึ้นมาปลุกผมตื่นเหมือนทุกเช้าออกจากปากที่มันยังเลียไม่หยุด เห็นแต่ขนยาวๆ จี้ตาผมจนแทบลืมไม่ขึ้น

“อื้อ โบ้อย่าเลีย เดี๋ยวพี่ตี...เชรี่ย!”

พอดันหัวที่เข้าใจว่าเป็นหัวแรมโบ้ออกห่างในระดับสายตา ผมนี่ยิ่งกว่าโดนผีหลอก เพราะคนที่เลียปลุกผมอยู่ไม่ใช่แรมโบ้แต่เป็นพี่สิงห์!

แถมที่ทับมาทั้งตัวยังเป็นร่างสูงใหญ่ไม่มีเสื้อผ้าติดตัวสักชิ้น ที่ช็อกยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดคือมือพี่แกวนเวียนอยู่ที่ก้นผมที่โดนแตะแค่นิดเดียวก็เจ็บจนน้ำตาแทบร่วง

“ตกใจมากเหรอ”

พี่มันถามเสียงพร่าแปลกๆ ตามองจ้องเอาๆ อยู่ที่ปากทำผมกลืนน้ำลายลงคอลำบาก กลืนไม่เข้าคายไม่ออกกับสถานการณ์ที่ปวดหัว...จำอะไรไม่ได้ และมีผู้ชายเปลือยทั้งตัวมานอนลูบก้นแบบเนื้อแนบเนื้อขนาดนี้

“สงสัยยังไม่ตื่นดี หลับต่ออีกนิดแล้วกัน”

ทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้คือหลับตาแล้วตายไปเกิดใหม่เลยน่าจะดี หรือไม่ตื่นมาอีกทีภาพประหลาดพวกนี้มันคงหายไปแล้ว

“อ้อ คิดจะหลับหนีความรับผิดชอบ”

“โอ๊ย!”

ไม่ใช่แค่เสียงอึมครึมเหมือนคนถูกขัดใจ มือที่วนทาอะไรเย็นๆ ให้ที่ก้นก็ออกแรงจนนิ้วกดลึก ผมสะดุ้งโหยงเผลอตัวจิกเล็บกับแขนพี่สิงห์ เจ็บจนน้ำตาแทบร่วงลืมตามองหน้าพี่มันเคืองๆ

“ว่าไง จะรับผิดชอบไหม”

“ผม...จำอะไรไม่ได้”

ต่อให้จำได้รางๆ ก็ไม่อยากจะจำ แล้วให้ตายเถอะ พี่อย่าเพิ่งมาทำสีหน้าจริงจังตอนกลับมาลูบก้นผมไม่หยุดแบบนี้ได้ไหม ผมขนลุกไปหมดแล้ว

“ก็นอนอยู่ด้วยกันทั้งคืน จำไม่ได้สักอย่าง?”

“ไม่จำได้ไหมครับ” ไม่อยากจำครับพี่ สภาพตอนนี้นิยามได้คำเดียวว่าวายป่วง ถ้าจะเอาตามจริง คนที่ต้องถามหาความรับผิดชอบมันผมที่พี่กำลังลูบก้นอยู่ไม่ใช่รึไง

“คิดว่าไงล่ะ”

“คิดว่าไม่น่าจะได้”

“ก็รู้หนิ แล้วจะยังไงต่อ...เรื่องของเรา”

พี่สิงห์ถามจริงจังถึงขั้นปล่อยมือที่ลูบก้นออกผละลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิข้างๆ ในสภาพที่เนื้อตัวล่อนจ้อนเห็นไปถึงมัดกล้ามและอะไรๆ ที่มันขยายใหญ่ตอนเช้าตามประสาผู้ชายแบบเย้ยฟ้าท้าดินใหญ่แทบจะพุ่งมาแทงตา

ผมสูดลมหายใจเข้า เสเมินสายตาไปทางอื่น พยายามไม่สนใจเรื่องที่ไม่ควรสนใจ แต่เหมือนนรกกลั่นแกล้งสายตาเจ้ากรรมดันไปเห็นถุงน้ำขุ่นสองถุงใช้แล้วตกอยู่ที่พื้นห้อง ก้นนี่เจ็บจี๊ดขึ้นมาเลย

หมดกัน โดนเบิกเนตรไปแล้วจริงๆ

“ผม...ปวดหัวปวดตัวเหมือนจะไม่สบาย ไว้ค่อยคุยได้ไหมพี่”

ไม่ได้มารยาแต่เป็นจริงตามนั้นหมดเลย ปวดหัวไม่พอยังเหมือนมีเสียงวิ้งๆ ดังขึ้นมาในหัวจนท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด

พี่สิงห์ยื่นมือมาบีบคางหันหน้าผมมองซ้ายมองขวา หน้าผมคงแย่มากจริงๆ พี่มันถึงลุกจากเตียงบ่นงึมงำเป็นหมีกินผึ้งใส่

“นี่ไง คออ่อนแล้วอยากจะกินเหล้า เดี๋ยวให้คนไปชงกาแฟดำมาให้แก้แฮงก็”

เชรี่ย ไม่น่าเหลียวไปมองตามเสียงพูดเลย เมื่อกี้ว่าเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นแล้วนะ ตอนยืนยิ่ง...เต็มตา!

“ชอบไหม” พี่มันเหลียวมาถาม ยังโป๊ทั้งตัวแต่ไม่มีหรอกยางอายบนหน้า ยังอุตส่าห์ก้มตามสายตาผมแล้วผิวปากหวืดถามยิ้มๆ

ชอบพ่อง! ฆ่าหมกเตียงซะดีไหม

หน้าผมคงเหมือนน้ำเลยจุดเดือดไปไกลแล้ว ในหัวยังได้ยินเสียงหวีดๆ เหมือนตอนเตือนน้ำเดือด กัดฟันพูดออกมาได้คำเดียว “ปวด...หัว” แล้วล้มตัวลงนอนคลุมโปงหนีมันซะเลย

ต่อให้เมาเป็นหมายังไง มันก็จำได้รางๆ อยู่ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นระหว่างผมกับพี่สิงห์ แล้วไอ้ฟันที่ว่าโดนหมาไล่ฟัดนั่นก็...กิจกรรมประกอบจังหวะบนเตียงระหว่างผมกับพี่มันทั้งนั้น ถึงจะจำไม่ได้ทั้งหมดก็เถอะว่าท่าไหนเป็นท่าไหน แต่ก็ความเจ็บที่ก้นก็ย้ำเตือนทุกอย่างซะยิ่งกว่าชัด

“ไม่ร้อนรึไง คลุมโปงซะ” เสียงถามเหมือนใกล้เข้ามา...ใกล้มากจนเหมือนแค่มีผ้าห่มกั้นระหว่างหูผมกับปากพี่สิงห์ ห่างกันแบบหายใจรดหูกันเลยทีเดียว

“ขอเวลาผมทำใจก่อน”

“โอเค 1...3 หมดเวลาทำใจแล้ว”

พรึ่บ!

นับหนึ่งแล้วนับสาม พี่สิงห์ก็กระชากผ้าห่มออกไป เปิดเผยเนื้อตัวล่อนจ้อน ผมร้องลั่นรีบยกมือปิดหนอนชาเขียวของตัวเองไว้

“อายอะไร เมื่อคืนเห็นจนหมดแล้ว”

ไม่ตอกย้ำ มันจะตายไหม! 

“ทำไม หรือได้แล้วจะไม่รับผิดชอบ”

“พี่สิงห์!” ผมเหมือนได้ยินเสียงหน้าแดงจนคล้ำของตัวเองระเบิดแตกตัวกับคำพูดน่าไม่อายของพี่สิงห์ จะลนลานคลานไปคว้าผ้าห่มที่ถูกโยนไปอีกฝั่งของเตียงก็ถูกกักตัวไว้กึ่งกลางแขนเต็มไปด้วยมัดกล้ามของพี่มัน

“ตะโกนทำไม อยู่ใกล้แค่นี้ หรือต้องใกล้กว่านี้อีก”

ไม่พูดเปล่า พี่สิงห์ยังจู่โจมใจบางๆ ของผมด้วยการรั้งเอวกระชากผมเข้าไปจ้องหน้าระยะเผาขน ลมหายใจเบาๆ เป่าหน้าผากจนขนลุกไปหมด

“แต่ผม...จำไม่ได้ เราลืมมันไปเถอะเนอะ” ขอไว้ก่อนเผื่อฟลุ๊ค

“ไม่เป็นไร งั้นทบทวนความจำให้ใหม่ได้”

“เดี๋ยวๆ ผมจำได้แล้ว...จำได้หมดเลย”

ก่อนจะโดนผลักลงเตียง ผมรีบยกมือยันปากที่ยื่นมาทำท่าจะเลียปากนาทีนี้เพื่อรักษาถ้ำทองที่น่าจะไม่เหลือแล้ว ไม่อยากจำก็ต้องจำแล้ว

“ดี แล้วจะรับผิดชอบไหม”

“ได้ข่าวว่าพี่เป็นคนแทงผมนะครับ” ผมอดไม่ได้จะบ่นอุบอิบเถียง พี่สิงห์ขึ้งตาใส่ หลุบตาจ้องปากผม ผมทำได้แค่พยักหน้ารัวๆ อยากจะให้หัวหลุดจากบ่าไปเลย จะได้ไม่ต้องรับรู้เรื่องอะไรชวนให้หัวใจวายแบบนี้

“พูด”

“ระ...รับผิดชอบครับ” พยักหน้าไม่พอ ยังเผด็จการให้รับปากซะอีก

“น่ารัก”

ฟอด ชมไม่พอพี่สิงห์ยังหอมแก้มผมไม่ให้ตั้งตัว ไม่เกรงใจตัวที่แข็งค้างของผมสักนิดเลย

“ผมปวดหัว อยากอาบน้ำ”

ข้ออ้างทั้งนั้น ขอแค่หลุดพ้นจากสถานการณ์ตรงนี้ไปได้จะอาบน้ำหรือขุดหลุมเอาตัวซุกหนีหายไปได้ทั้งตัว ผมก็ทำทั้งนั้นล่ะ

“อาบเองไหวเหรอ พี่อาบให้ไหม”

ได้ข่าวไม่สนิทกันขนาดนั้น ตื่นมาเหมือนมีผีมาสิงร่างพี่สิงห์ จะสนิทสนมอะไรขนาดนี้ครับ หัวใจผมบาง รับมือไม่ไหวแล้ว

“อาบเองครับ...อาบได้”

“อืม ไม่ไหวก็เรียกแล้วกัน จะไปถูตัวให้”

ไม่พูดเปล่า ยังยื่นหน้ามาเร็วๆ หอมแก้มผมฟอดใหญ่ นี่มันความสัมพันธ์แบบไหนกานนนนนนนนนนนน

ถ้าผมเป็นสาวน้อยที่ตื่นมาเจอว่าตัวเองถูกสิงห์ตัวใหญ่จับรวบหัวรวบหางกินกลางตลอดตัว ผมคงทำเหมือนในหนังที่ชอบนั่งดูเป็นเพื่อนหม่าม้า นั่งสะอึกสะอื้นร้องไห้ร้องห่มขอให้รับผิดชอบ หรือไม่ก็วิ่งโร่ไปแจ้งตำรวจดูสักครั้ง

จนใจที่ผมเป็นผู้ชาย แล้วยังเป็นผู้ชายที่เมื่อคืนวิ่งโร่ไปคุยกับวงยาดองจนหยิบแก้วผิด ซัดยาดองจนเมาเป็นหมา แล้วจากความจำรางๆ ที่ไม่อยากจะจำได้ก็บอกว่าเป็นตัวเองที่ยั่วพี่สิงห์ก่อน

แต่พี่ยาดองหมดฤทธิ์แล้ว ความหื่นของพี่สิงห์ก็น่าจะลดลงไปมั้ง พอโดนทำเหมือนเป็นผัวเมียกันแบบนี้ หัวใจบางๆ ของผมต้านรับไม่ไหวจริงๆ

พอเถียงสู่ไม่ได้ ทางเดียวคือหมุดลอดวงแขนพี่สิงห์พุ่งลงเตียงคว้าผ้าห่มลากเข้าห้องน้ำ แต่ยังไม่ลืมเรื่องกาแฟดำแก่แฮงก์ “ผมไม่เอากาแฟดำ ขอนมช็อกโกแลตแทนนะ”

“ครับ เจ้านาย”

เสียงตอบรับดังตามหลังก่อนผมจะปิดประตูห้องน้ำ คำเรียก ‘เจ้านาย’ ทำผมหน้าแดงแปร๊ด จะอะไรซะอีก ถ้าไม่ใช้นึกไปถึงเรื่องเมื่อคืน ทำเอาอยากจะพุ่งไปต่อยตีกับเครื่องทำน้ำอุ่น ตัวการที่ร้อนจนแทบจะต้มผมจนต้องถอดเสื้อผ้าออกจนหมดแล้วไปจบที่เตียงกับพี่สิงห์

แต่เกรงใจกลัวมันจะลวกผมแล้วเกิดเห็นวายป่วงขึ้นมาอีกรอบ ก่อนเปิดเลยหมุนปรับให้ความร้อนมันพอดี

ได้น้ำราดหัวมึนๆ จิตใจที่เหมือนโดนเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาตั้งแต่ตื่นมาเจอเรื่องน่าตกใจก็คล้ายจะเริ่มสงบลงไม่น้อย แต่ก็กลับมากระเจิดกระเจิงอีกครั้งเพราะเสียงเคาะประตูที่ทำเอาตกใจสะดุ้งเฮือก

“หลง” พอผมไม่ตอบ พี่สิงห์ที่อยู่ข้างนอกก็ทั้งเคาะทั้งเรียก

“คะ...ครับ”

“เปิดประตู”

“ไม่เปิด” ปากไวกว่าความคิด ร้องบอกไปแล้วก็แอบขยับไปเงี่ยหูแนบประตู

ปัง!

“ว่าอะไรนะ”

สะเทือนไปถึงแก้วหู เสียงสิงห์เดือดตบประตูห้องน้ำดังจนขี้หูผมแทบร่วง แต่ก็รีบร้อนบอกออกไปเสียงอ่อย

“ถามว่ามีอะไรครับ”

ไม่รู้ตื่นมาทำไมกลัวพี่สิงห์หนักกว่าเดิมอีก น่ากลัวตรงที่แววตากับท่าทางเหมือนพี่มันพร้อมจะขย้ำผมเคี้ยวกรุบๆ กลืนลงท้องได้ตลอดเวลา ใครไม่กลัวจนประสาทกินก็บ้าแล้ว

“เปิดประตูมาเอายาเข้าไปทาใหม่อีกรอบ อาบน้ำแบบนี้ยาที่ยาให้เมื่อกี้คงออกหมดแล้ว”

ทาตรงหน่ายยยยย เป็นอีกครั้งที่เหมือนได้ยินเสียงหน้าแดงแปร๊ดของตัวเองระเบิดตัวเป็นโกโก้ครั้นไปแล้ว นานมากกว่าผมจะเปิดประตู ยื่นมือออกไปรับยามาด้วยตัวแข็งทื่อ

ดีที่พี่สิงห์ไม่ได้รบเร้าอะไรอีก ผมเลยใช้เวลาอยู่กับตัวเองในห้องน้ำจนสมองอื้ออึงของตัวเองปลอดโปร่งขึ้น ค่อยแต่งตัวด้วยชุดที่พี่สิงห์ยื่นมาให้พร้อมกระปุกยาออกจากห้องน้ำมาเจอนมช็อกโกแลตอุ่นๆ ตั้งวางไว้พร้อมยาแก้ปวดแปะโพสต์อิน

‘กินนมกินยาแล้วนอนพักสักงีบก่อน พี่เตรียมอาหารเสร็จจะยกมาให้’

งื้อ ถ้าพี่ได้ผมแล้วจะเป็นแม่บ้านแม่เรือนขนาดนี้ พี่เปลี่ยนมาเป็นเมียผมแทนเถอะ อย่างน้อยผมจะได้ไม่ต้องสับสนขนาดนี้

ผมถอนใจยาว ดื่มนมช็อกโกแลตรวดเดียวหมดแก้วแล้วล้มตัวลงนอนตั้งใจหลับไปจริงๆ เผื่อตื่นมาจะคิดหาทางออกกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้

 
-------------------------------




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-11-2018 21:44:05 โดย onetawa »

ออฟไลน์ fon270640

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ความบังคับน้องนี้ 55555

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
สิงห์ น้องสับสนว่าจะเป็นผัว หรือเมีย พี่ต้องช่วย55

ดีใจมาตาอแล้ว :L1: :pig4:

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
คืออะไรค่ะพี่สิงห์ ได้น้องหลงแล้วนิสัยเปลี่ยนเลย แถมบังคับน้องให้รับผิดชอบทั้งที่ตัวเองขุดถ้ำทองน้องจนหมด น้องหลงงงค่ะยาดองเปลี่ยนนิสัยวุ้ย
มาอัพเรื่อยๆนะคะชอบมากเรื่องนี่  :กอด1:   +1

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
สิงห์มีความผัวในบัดดล.  :hao7:

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
น้องงงแย่เลย เยตูทีเดียวเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
การเยหรือน้ำเปลี่ยนนิสัย

ออฟไลน์ onetawa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
9
ความหลั๋วนี้พี่ได้แต่ใดม

หลับไปเกือบชั่วโมงได้ ตื่นมาอีกครั้งเพราะกลิ่นหอมของอาหารโชยมากระแทกจมูก ผมลืมตาตื่นมองไปที่ถาดอาหารใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยอาหารหลายอย่างวางอยู่ที่โต๊ะข้างเตียง ก่อนหยุดสายตาที่แผ่นหลังพี่สิงห์กำลังก้มๆ เงยๆ เก็บกวาดห้องลบร่องรอยศึกใหญ่เมื่อคืน ท่าทางเหมือนกำลังอารมณ์ดีสุดๆ


ผมว่าไม่ใช่แค่ตัวเองแล้วที่แปลกใจตั้งแต่ตื่น พี่สิงห์เองก็ไม่รู้ว่าไปโดนตัวไหนมา ถึงได้แปลกไปขนาดนี้ ผมกะพริบตานอนมองพี่สิงห์เหมือนสมองหยุดทำงานไปแล้ว


ก่อนเรื่องเกิดยังกัดกันแทบตาย ผ่านไปคืนเดียวดันสนิทเนื้อแนบเนื้อ สถานะเปลี่ยนไปเยอะจนตั้งตัวไม่ติดไม่รู้จะทำตัวทำหน้ายังไง


นี่ล่ะมั้งที่เขาว่านั่งคุยกันนอนคุยมันไม่เหมือนกัน ตื่นมาเช้านี้ผมนี่รู้ซึ้งเลย


“ตื่นแล้ว? ทำไมยังไม่กินยา” พี่แกเหลือบมาเห็นเข้าก็เลิกคิ้วถามคำถามแรกออกมาพร้อมกับมองไปที่ยาแก้ปวดบนโต๊ะ


คำถามนี้ทำให้รู้สึกได้เลยว่าคนถามยังดุเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความคุ้มดีคุ้มร้าย ผมแอบคิดไม่ได้ว่าจริงๆ แล้วพี่แกก็น่าจะทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน


เราทั้งคู่อาจกำลังอยู่ในระยะงงในตัวเอง ไม่รู้จะหาทางลงยังไงกับความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนที่เกิดขึ้น


เหมือนคนงงจนทำอะไรไม่ถูก


งงจนแม้แต่พฤติกรรมก็เปลี่ยนไปเองแบบไม่รู้ตัว


งงว่าควรจะเคลียร์เรื่องของเรายังไงดี ทุกอย่างมันก็เลยดูไม่เป็นธรรมชาติ แปลกประหลาดไปหมด


“ผม...ไม่ค่อยปวดเท่าไหร่”


ผมลนลานขยับตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงบอกเสียงเบาอยู่ในคอ


อย่าให้ต้องมาพูดอะไรแบบนี้เลย หน้าคงแดงเหมือนตูดลิงไปแล้ว จะบอกว่าอายมันก็อายอยู่ จะบอกว่าวางหน้าไม่ถูกมันก็ใช่ สรุปรวมๆ คือโคตรไม่เป็นตัวของตัวเอง


“เพราะเมื่อคืนพี่อ่อนโยนไง”


พูดเองดันหน้าแดงไปพร้อมกับผม แถมอาการหนักยิ่งกว่า เพราะพี่สิงห์แดงไปถึงใบหู ไม่รู้เพราะเป็นครั้งแรกที่เรียกตัวเองว่าพี่กับผม หรือเพราะคำพูดชวนให้คิดไปไกลกันแน่


แต่เหมือนสุดท้ายพี่สิงห์ก็ควบคุมตัวเองได้ ยื่นมือมาดึงแก้มผม ยิ้มกระชากใจให้เป็นครั้งแรกตั้งแต่กัดกันมาแล้วหยอดต่อ “หลงเลยไม่เจ็บ”


อ๊ากกกกก ความไม่เป็นตัวของตัวเองของพี่มันดาเมทระดับสิบสิบสิบบวกแล้ว พี่พูดพี่ยิ้มหน้าแดงแบบนี้เอามีดมาแทงผมเลยดีกว่า ถ้าผมเป็นผู้หญิงบอกได้คำเดียว ‘หลงตายชัก’


แต่ต่อให้ไม่ใช่ผู้หญิง ปากก็กระตุกยิกๆ ๆ ๆ รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะตัวลอย เกิดมาสิบเก้าปีไม่เคยคิดว่าจะต้องมานั่งอมยิ้มกับคำพูดของผู้ชายด้วยกันแบบนี้เลย


ตกอยู่ในยิ้มพาเคลิ้มของพี่สิงห์ที่คุ้มดีคุ้มร้ายพอๆ กับหัวใจบางๆ ของตัวเองที่เหมือนโดนเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาตามความคุ้มดีคุ้มร้ายนั้น ผมก็สะบัดหัวแรงๆ เลิกมองตัวปัญหาตรงหน้า หันไปให้ความสนใจกับสารพัดอาหารในถาดไม้ขนาดใหญ่ที่พี่สิงห์ยกเข้าห้องมาให้แทน


“ผมกินได้ไหม”


“ก็ตั้งใจทำมาให้กิน ทำไมจะกินไม่ได้”


พี่สิงห์ว่าแล้วก็หันไปหยิบโต๊ะเล็กมากางบนเตียง เดินไปยกถาดมาเสิร์ฟถึงเตียงตรงหน้ าชนิดที่เหลือแค่ป้อนอย่างเดียวเท่านั้นที่ยังไม่ได้ทำ


“เยอะขนาดนี้ ผมกินไม่หมดหรอก”


ของกินในถาดที่มีทั้งข้าวต้ม โจ๊กคัพ ขนมปังไข่ดาว ข้าวผัด พร้อมน้ำผลไม้ประมาณ 2-3 อย่างกับนมอีกแก้ว ทำให้ต้องเงยหน้ามองพี่สิงห์แบบชักรู้สึกตัวว่าเหมือนคู่ข้าวใหม่ปลามันที่ถูกหลั๋ว สปอยหนักมาก


“ลืมถามว่าเช้าๆ ชอบกินอะไร เลยทำมาหลายอย่าง ชอบอันไหนก็กินอันนั้นแล้วกัน”


อือหือ ความหลั๋วนี้พี่ได้แต่ใดมา สันนิษฐานได้สองอย่างคือยาดองยังไม่หมดฤทธิ์ กับอาจไปแอบล้มหัวฟาดที่ไหนมาสักที่ถึงได้อาการหนักขนาดนี้


ผมถอนใจยาวก้มหลบสายตาวับวาวที่มองมา หยิบขนมปังขึ้นมาเคี้ยวตุ้ยๆ งึมงำถาม


“แล้วของพี่ล่ะ”


“ปกติพี่ไม่กินข้าวเช้า แค่กาแฟแก้วเดียวก็พอแล้ว”


“ได้ไง หม่าม้าบอกผมว่ามื้อเช้าเป็นมื้อสำคัญจะขาดไม่ได้ ยิ่งพี่ทำงานในไร่แดดร้อนๆ ยิ่งต้องกินเลย แบ่งกันกินก็ได้ ผมกินไม่หมดหรอก ถ้าเหลือก็เสียของเปล่าๆ ”


ความเคยชินเป็นสิ่งน่ากลัว เหมือนผมที่ชินกับการอยู่กับครอบครัวที่เช้ามาจะต้องนั่งกินข้าวพร้อมหน้า แถมหม่าม้ายังชอบพูดกรอกหูผมบ่อยๆ ว่ามื้อเช้าสำคัญต้องกินเยอะๆ จะขาดไม่ได้


ตอนนี้ดีเลย ถึงไม่ใช่บ้านตัวเองผมก็สวมวิญญาณหม่าม้าบ่นใส่เจ้าของบ้านที่ทรุดตัวลงนั่งบนเตียงข้างๆ ฟังผมบ่นใส่แบบลืมตัว


“เป็นห่วงเหรอ”


คำเดียวของคนตั้งอกตั้งใจฟังทำผมชะงักเหลือบตามอง ขนมปังปิ้งคำสุดท้ายเหมือนจะติดคอ น้ำส้มก็ถูกพี่สิงห์ยื่นมาให้ ผมรับมาดื่มไปครึ่งแก้วแล้วตัดสินใจว่าต้องเริ่มเคลียร์กันตั้งแต่ตอนนี้เลย ไม่อย่างนั้นเรื่องระหว่างเรามันคงกระอักกระอ่วนทำพวกเราไม่เป็นตัวของตัวเองไปแบบนี้เรื่อยๆ


“พี่สิงห์”


เสียงตอบรับเบาๆ ดังในคอ เหมือนจะรู้ว่ากำลังเข้าสู่โหมดจริงจัง พี่สิงห์หยิบแก้วน้ำส้มที่ผมกินไปได้ครึ่งหนึ่งจากมือผมไปวางบนโต๊ะ แล้วหยิบนมยัดใส่มือผมแทน ก่อนยกถาดจากเตียงไปวางที่ตั่งไม้ข้างหน้าต่างค่อยกลับมาหย่อนก้นนั่งที่เดิม


“ว่ามา” คนหล่อหน้าขรึมพพยักหน้าคล้ายอนุญาต


“ผมว่าเรื่องระหว่างเรา…เราต่างคนต่างลืมมันไปเถอะ”


“ทำไมต้องลืม” เสียงพี่สิงห์ติดกระชากหน่อยๆ สีหน้าก็เหมือนจะเริ่มไม่สบอารมณ์ขึ้นมาแล้ว


“ก็เมื่อคืน เรา...เมาด้วยกันทั้งคู่” ผมอ้อมแอ้มตอบ ไม่กล้ามองหน้าน่ากลัวของพี่สิงห์เลยให้ตายเถอะ


“หลง ถึงฉันจะเมาแต่ก็ไม่ได้มั่ว ถ้าไม่อยากได้ ต่อให้แก้ผ้ายั่วยังไงก็ไม่ขึ้น”


พี่สิงห์ไม่ได้เรียกตัวเองว่าพี่อีกแล้ว เหมือนกลับเข้าโหมดโหดตอนแรกเจอหน้า แต่ความหมายในคำพูดที่ผมได้ยินทำหัวผมมีเสียงวิ๊งๆ มองหน้าพี่แกแบบงงๆ


อะไรคือถ้าไม่อยากได้ ยั่วยังไงก็ไม่ขึ้น!


“พี่หมายความว่ายังไง” ทั้งที่ไม่ควรถาม ทั้งที่ไม่ควรทำความเข้าใจแล้วปล่อยทุกอย่างให้ผ่านไป ปากผมดันเร็วกว่าสมอง ถามออกไปก่อนจะทันได้คิด


“หมายความว่า…อยากได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหน้าเลยไง”


บึ๊ม! แล้วหลงหลง...มังกรรหัส 3209 ก็ระเบิดตัวกลางทุ่งลาเวนเดอร์กลายเป็นโกโก้ครั้นไปอีกครั้งแล้ววววววว


คำพูดของพี่สิงห์ทำเอาผมนั่งอึ้งตะลึงเหมือนสมองหยุดทำงานไปพักหนึ่ง ต้องสูดลมหายใจเข้าระงับสติอารมณ์หลายครั้งถึงพูดสิ่งที่คิดในใจออกมารวดเร็วจบ ไม่กล้าเหลือบมองสีหน้าพี่สิงห์ด้วยซ้ำ

“พี่แน่ใจเหรอ จริงๆ ระหว่างเรามันแทบไม่มีอะไรเลยนะ แค่คนสองคนที่เมาหนักมาก จริงๆ เราก็แค่ทำเหมือนมันไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วกลับไปเหมือนเดิม เหมือนเดิมที่ผมชอบผู้หญิง แล้วพี่ก็น่าจะชอบเหมือนกัน”

จริงๆ เรื่องระหว่างมันควรจบแบบวันไนท์แสตนด์ คืนเดียวแยกย้าย...ไม่ใช่ลากยาวมาจนถึงตอนนี้

“คิดแบบนั้นจริงๆ เหรอ”

พี่สิงห์ถามเสียงขรึมขยับเข้าใกล้ ยื่นหน้ามาจนจมูกแตะจมูก ไม่ทันที่ผมจะผละถอยห่าง ปากอุ่นร้อนก็บดจูบลงมาบนปากผม ความตกใจทำให้ผมอ้าปากร้องห้าม ใครจะคิดว่าสิงห์ตัวนี้จะร้าย ส่งลิ้นเข้ามาล่อลวงให้ผมเคลิ้มตาม

เราจูบกันอยู่นาน...นานจนพอพี่สิงห์ปล่อยมือผละถอยห่าง ผมก็หอบหายใจฮัก รู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

“พี่ทำแบบนี้ทำไม”

“พิสูจน์ไง”

“พิสูจน์บ้าอะไร!” อาจเพราะผมตกใจเลยไม่ได้รีบร้อนหนีออกห่าง แต่เงยหน้าขึ้นตวาดใส่พี่สิงห์

“พี่สูจน์ว่า...”

แทนคำพูด พี่สิงห์ขยับเข้ามายกตัวผมขึ้นนั่งตัก อาศัยช่วงเวลาที่ผมตกใจทำอะไรไม่ถูกดึงมือผมไปจับบางอย่างที่ขยายใหญ่เบียดอยู่ตรงก้นที่เต็มไม้เต็มมือจนผมหน้าแดงแปร๊ด

และเหมือนพี่แกจะกลัวผมวุ่นวายใจไม่พอ ไม่ได้ปล่อยผมจับแค่ฝ่ายเดียว ยังล้วงเข้ามาในกางเกงเลตัวใหญ่ที่ผูกปมไว้หลวมๆ ลูบและจับมังกรน้อยที่ขยายใหญ่เพราะจูบลึกซึ้งระหว่างเราเมื่อกี้ไว้เหมือนกัน

“ทั้งนายทั้งฉัน...ไม่ได้รังเกียจกัน” ไม่กระซิบถามเปล่ายังงับเข้าที่หูจนผมขนลุกซู่ตัวสั่นเป็นลูกนกอยู่บนตัก

น่าแปลกที่ผมไม่ได้รู้สึกรังเกียจจริงๆ แถมยังออกจะมีอารมณ์ร่วมไปด้วยทั้งที่ไม่น่าเป็นไปได้ ตลอดมาผมว่าผมชอบผู้หญิงมาตลอด ไม่เคยรู้สึกอะไรกับผู้ชายที่อยู่รอบตัวมาก่อน

ทำไมแค่คืนเดียวโลกก็เหมือนจะพลิกเปลี่ยนไปหมด...โลกที่มีพี่สิงห์เพิ่มเข้ามา และถึงผมสับสนจนตั้งรับไม่ทัน แต่ก็อย่างที่พี่สิงห์พูด...ผมไม่ได้รังเกียจ

“ผมไม่รู้ ผมว่าผมชอบผู้หญิงนะ”

“แล้วเคยรู้สึกอยาก...” พี่สิงห์ยื่นหน้ามาจูบปากผม ถามเสียงพร่า “แบบนี้กับผู้หญิงไหม”

“หม่าม้าบอกต้องให้เกียรติผู้หญิง ผมเลยไม่น่าจะรู้สึก”

ยิ่งถูกจูบยิ่งรู้สึกแปลกๆ แต่ผมก็คิดตามถึงเพิ่งรู้ว่าจริงๆ แล้วเวลาอยู่กับน้ำรินผมแทบไม่รู้สึกอยากทำอะไรแบบนี้เลย

“แล้วแบบนี้ล่ะ” พี่สิงห์ดึงเสื้อตัวใหญ่ที่ผมใส่อยู่ลงจนร่นถึงไหล่ งับลงที่บ่าจนผมสะดุ้งเฮือก อะไรที่ขยายใหญ่ยิ่งใหญ่อยู่ในมือพี่สิงห์ที่ลูบไล้ไม่หยุด

“มะ...ไม่” ผมตอบเสียงพร่า เหมือนเรี่ยวแรงหายไปซะเฉยๆ

“แล้วตอนนี้อยากทำกับพี่ไหม”

“ผมไม่...รู้ อื้อ” พี่อย่าถามตอนที่เริ่มขยับมือขึ้นลงได้ไหม หัวผมว่างเปล่าไปหมดแล้ว ทำได้แค่ผวาเข้ากอดไว้ กัดฟันแน่นไม่ให้หลุดเสียงอะไรแปลกๆ ออกไป

“แต่พี่อยากทำแล้ว...ทำไงดี”

“ผมไม่รู้” ผมจะจะคิดออกได้ยังไงตอนที่มือพี่ยังขยับขึ้นลงไม่หยุด แถมปากก็คลอเคลียอยู่จุดอ่อนไหวตรงซอกคอ ทั้งงับทั้งเลียอยู่แบบนี้

“หลงชอบผู้หญิงหนิ พี่เป็นผู้ชาย ทำแบบนี้กับหลง ถ้าหลงไม่ชอบก็รีบบอกมา พี่จะได้หยุด”

หยุดของพี่สิงห์คือกระชากเสื้อผมปลิวตกลงเตียง ซุกหน้าเล่นกับเม็ดเล็กๆ สีชมพูกลางอกผม มือยิ่งขยับเร็วขึ้นจนผมแทบกลั้นเสียงไม่อยู่ ร้องครางประท้วงในคออย่างทำอะไรไม่ถูก

รู้สึกดีเหมือนจะตายให้ได้ รู้สึกดีจนพอพี่สิงห์หยุดมือ ผมก็ผวากอดพี่มันไว้แน่น กัดลงบนหัวไหล่พี่มันด้วยความไม่พอใจครางประท้วงไปคำหนึ่ง

“อยากให้ทำต่อหรือหยุดแค่นี้ คราวนี้ต้องตอบมาก่อน ถ้าตอบว่าไม่รู้อีกพี่จะถือว่าหลงไม่ชอบ พี่จะได้เลิกทำ”

น้ำเสียงแหบพร่าให้อารมณ์เหมือนกำลังล่อลวงให้ตกหลุมยังไงก็ไม่รู้ แต่ตอนผู้ชายอย่างเราๆ หื่นขึ้นมา ใครจะไปมีสติแยกแยะออก

เพราะไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้มาก่อน ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่สิงห์ผ่านน้ำตาคลอหน่วย อารมณ์พลุ่งพล่านที่ถูกพาไปไม่ถึงปลายทางทำให้นึกโกรธขึ้นมาจนยื่นหน้าไปงับปลายคางมันแรงๆ ทีหนึ่ง

ผมเกลียดความเจนจัดของพี่มัน แต่ก็เหมือนถูกล่อลวงจนอยากลองไปต่อให้สุด

“พี่ถือเป็นคำตอบได้ไหมว่าหลงก็อยากเหมือนกัน”

พี่สิงห์ตอบแทนแรงงับที่ปลายคางด้วยการผลักผมลงนอนกับเตียง ถอดเสื้อจนเห็นมัดกล้ามสีทองแดงเป็นลอน ก่อนจะถอดกางเกงของทั้งตัวเองและผมโยนลงจากปลายเตียง

จากนั้นไม่บอกก็น่าจะรู้กันว่ามังกรน้อยอย่างผมก็โดนสิงห์นักล่าจับกลืนลงท้องไม่มีเหลือ

คราวนี้ไม่ได้เมาเลยรู้สึกชัดกว่าเดิม แถมรอบนี้พี่มันไม่ได้ใช้ถุงด้วย พอเนื้อแนบเนื้อไร้ช่องว่าง ผมทั้งอึดอัด เจ็บจุก สลับกับรู้สึกดีมาก…มากจนทั้งครางทั้งร้องไห้ออกมาไม่หยุด

กว่าทุกอย่างจะผ่านพ้น ผมก็หมดแรงซบอยู่กับอกพี่สิงห์ที่อุ้มพาไปอาบน้ำ ไม่กล้าเงยหน้าแดงแปร๊ดขึ้นมองหน้าตอนที่พี่มันช่วยล้วงทำความสะอาดให้จนสะอาด แถมทายากระปุกเดิมแต่งตัวอุ้มพากลับมานอนบนเตียง

ก่อนจะเพลียหลับไปยังได้ยินเสียงกระซิบบอกข้างหูกลั้วเสียงหัวเราะชั่วร้ายแปลกๆ “พิสูจน์ชัดขนาดนี้แล้ว ตื่นมาจะปฏิเสธไม่รับผิดชอบอีกไม่ได้แล้วนะ”

แล้วผมก็หลับไปพร้อมกับฝันร้ายที่ตามมาหลอกหลอน...ผมโดนหมาบ้าตัวเดิมนอนทับไว้แน่นจนแทบหายใจไม่ออก แต่ก็อุ่นมาก...มากจนหลับสบายตัวไปจนถึงเย็น
-----------------------
พิสงพิสูจน์อัลไลของเพ่ อยากกินน้องแล้วมาทำตีเนียนนะ
#หลงสิงห์


ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 :hao7:  o13  :hao7: น้องหลง..... เสร็จจนได้...  :hao7:  :hao7:  :hao7:

ออฟไลน์ fon270640

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :o8:

น้องอย่ามัวงง 55
โดนจับกินเลย

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
ที่แท้   สิงห์!!!  แกมันร้าย. 555

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
สิงห์แกล่อลวงน้องงงงงงง

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
นานๆทีเจอที โดนเรียกร้องให้รับผิดชอบ55

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
นี่มันการหลอกจับกินนี่ ว้อทเดอะฟ้ากกกก

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
อิพี่ ร้ายนักนะ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
หลอกเด็กชัดๆอิพี่สิงห์

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ชอบตั้งแต่แรกเจอเลยเหรอพี่สิงห์
อย่างนี้เขาเรียกสิงห์เหนือมังกร...

ออฟไลน์ onetawa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
10
จีบน้อยหน่อยแต่อ่อยหนักมาก
---------------------------------

กว่าจะตื่นมาฟ้าก็มืดแล้ว แต่ที่ข้างเตียงมีโคมไฟดวงหนึ่งเปิดให้แสงสว่างทำให้ห้องไม่มืดจนเกินไป และไม่สว่างจนรบกวนการนอน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคงเป็นฝีมือของคนตัวใหญ่ที่ลุกจากเตียงออกจากห้องไปตอนไหนไม่รู้

ไม่แค่โคมไฟที่อีกฝ่ายเปิดไว้ให้อย่างใส่ใจ ห้องยังถูกเก็บกวาดเปลี่ยนผ้าปูใหม่ตอนที่ผมคงหลับไม่รู้สึกตัว แถมยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ที่ทำให้ผมลุกขึ้นมานั่งยีหัวตัวเองแบบไม่รู้จะทำอะไรได้ดีไปกว่านั้น

แค่ตื่นมาหลังสร่างเมาเหมือนโลกมันหมุนกลับด้านไปหมด ความรู้สึกเสียใจที่อกหักจากน้ำรินยังคงไม่หายไป แต่คล้ายกับถูกเรื่องวุ่นวายที่ตื่นมากลบหายไปจนไม่มีเวลานึกถึง

ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือคนเดียวที่วนเวียนอยู่แต่ในหัว สลัดยังไงก็ไม่หลุดคือพี่สิงห์ที่แม้แต่ในฝันยังตามติด ไม่ให้เวลาผมได้คิดทบทวนอย่างเป็นจริงเป็นจังสักครั้งเดียว

‘พิสูจน์ชัดขนาดนี้แล้ว ตื่นมาจะปฏิเสธไม่รับผิดชอบพี่อีกไม่ได้แล้วนะ’

พอเริ่มลุกมานั่งคิดจริงจัง สมองบ้าบอดันไม่ใช่นึกทบทวนแค่คำพูดแต่ยิ่งนึกไปถึงการกระทำของพี่สิงห์เข้าซะอีก

โอเค ผมคงอกหักจนสมองกับหัวใจเออเร่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นที่ควรทำคือหยุดคิด

ผมลุกจากเตียงเดินไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ ออกมาก็พอดีกับที่ประตูห้องถูกเปิดออก ผมสะดุ้งตัวแข็งเหลียวไปมองอย่างไม่เป็นธรรมชาตินัก พอเห็นว่าคนที่เปิดประตูเข้าห้องมาคือเฮียเสือก็ถึงกับถอนหายใจยาว

“ทำหน้าเหมือนเห็นผีเลยมึง ยังไม่ชินกับห้องใหม่รึไง”

เฮียมันถามเดินมาผลักหัวผมทีหนึ่งแล้วทรุดนั่งบนเตียง ผมเดินไปเปิดไฟในห้อง แล้วเดินกลับมาทิ้งตัวนั่งที่ตั่งข้างหน้าต่าง แก้ตัวเสียงอ่อน

“ผมพึ่งตื่นน่ะเฮีย เลยยังงงๆ ก๊งๆ อยู่”

“ได้ข่าวเมื่อคืนแรดไปกินยาดองกับไอ้พวกคนงานมา เมาเป็นหมาเลยหนิ”

โปรดอย่าตอกย้ำเรื่องที่ชวนให้ใจบางๆ ของผมเต้นรัวเหมือนกลองเพล้ ก็เพราะแบบนี้ไงเมื่อกี้ตอนประตูเปิดถึงคิดว่าเป็นพี่สิงห์ไม่ใช่เฮียเสือ

แล้วพูดมาขนาดนี้ คงไม่ใช่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไปแล้วหรอกนะ ผมพยายามสังเกตสีหน้าเฮียว่ารู้ลึกแค่ไหน พอไม่เห็นว่ามีอะไรมากกว่าหยอกเรื่องเหล้าก็แอบถอนใจ

“อยู่เบื่อๆ ไม่รู้จะทำอะไร คนพามาก็ดันทิ้งไปหาเด็ก ผมก็ต้องหาอะไรทำฆ่าเวลามั้งสิ”

“เด็กเด๊อที่ไหน ใครมาพูดอะไรให้ฟังอย่าไปฟังมาก”

หูย ปฏิเสธเสียงแข็ง หน้านี่ไม่มีพิรุธเลยนะเฮีย

“เด็กปรีย์ไง หรือไม่ใช่?” ยิ่งผมเห็นท่าทางไม่ปกติของเฮียเสือ ผมยิ่งล้อหนักขึ้น

“ปากดี สงสัยพี่สิงห์ดูแลดีเกินไป ผ่านไปวันเดียวท่าทางจะเป็นจะตายเลยหายเกลี้ยงกลับมาปากดีใส่กูได้ แล้วไงยาดองแรงมาก...ปากบวมเชียว”

งานนี้มีสะอึกซิครับ เหมือนโดนเอามีดแหลมๆ มาจิ้มใจดำ

ผมมองดูเฮียอีกที พยายามสังเกตว่าตกลงเฮียเสือรู้หรือไม่รู้เรื่องผมกับพี่สิงห์กันแน่ แต่ไม่รู้ว่าสกิลในการดูคนของผมมันต่ำเตี้ยเรี่ยดินเกินไป หรือเฮียเสือเป็นปกติจนเกินไป ให้ตายก็ดูไม่ออก

“อย่างน้อยก็ดูแลดีกว่าคนบางคนที่ทิ้งผมไว้แล้วกัน” ผมบ่นอุบ

“หราาาาาา” เกลียดความลากเสียงยาวของเฮียมันจริงๆ

“แล้วธุระที่ไร่นั้นเสร็จแล้ว? ถึงกลับมาใส่ใจหลานรหัสหัวเน่าอย่างผมได้” ไม่รู้หรอกว่าเรื่องอะไร แต่ลองเฮียแกที่ปกติใส่ใจน้องกับหลานรหัสทิ้งกันไปได้แบบนี้ คงต้องสำคัญมากนั่นล่ะ

“อืม ทางนั้นมีคนกลับมาดูแลแล้ว เลยกะจะกลับมาเก็บซากเด็กหัวเน่าที่ริอ่านกินเหล้าไม่ดูความไก่อ่อนของตัวเอง เป็นไงความรู้สึกของการกินเหล้าครั้งแรก”

...เจ็บตูด

ผมเผลอนิ่วหน้าตอบกลับ ขมวดคิ้วกับน้ำเสียงแซวของเฮียที่เหมือนจะหัวเราะเยาะผมหน่อยๆ เจือความเจ้าเล่ห์ไว้นิดๆ ฟังไม่เข้าหูจนต้องปัดมือที่ยื่นมายีหัวผมจนกระเซิง

ปัง!

“ไปกินข้าว”

คุยกันอยู่ดีๆ พายุก็พัดถล่มห้อง ประตูที่เปิดอยู่โดนมือหนักๆ ของพี่สิงห์ที่หน้าบึ้งอยู่ปากประตูตบอย่างแรง

พี่แกพูดมาแค่สามคำแต่รังสีอำมหิตแพร่กระจาย แถมส่งสายตาคาดโทษมาให้ผมเหมือนหลั๋วจับได้ว่าเมียมีชู้ยังไงอย่างงั้นเลย

สายตากับท่าทางพี่จะชัดเจนไปไหน ตั้งแต่เปิดตัวว่าอยากได้ผมตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ พี่ก็ชัดเจนซะจนผมไปไม่เป็นเลย

มือเฮียเสือบนหัวผมชะงัก ผมเองก็ผละถอยออกห่างมาโดยอัตโนมัติ ไม่ได้กลัวแต่เกร็งนิดๆ แค่นั้นเอง

พี่สิงห์มาพูดมาส่งสายตาแค่นั้นแล้วก็สะบัดตูดจากไป ทิ้งผมไว้กับเฮียเสือที่หันมามองด้วยสายตาแปลกๆ ผมหน้าเจื่อน ยังไม่ทันจะแก้ตัว เฮียก็พูดลอยๆ ลุกจากที่นอน

“คนอะไรทำตัวเหมือนเป็นผัวเลยเนอะ”

อ๊ากกกกก สาบานได้ว่าเฮียไม่รู้!

ผมเหมือนถูกแช่แข็ง นั่งหน้าตื่นมองเฮียที่หันมายิ้มแล้วชี้ที่คอ แล้วเดินผิวปากออกห้องไป

ไม่ใช่...คงไม่ใช่หรอกมั้ง ถึงจะพยายามไม่คิดถึง แต่ผมก็ตาเหลือกรีบวิ่งกลับไปหน้ากระจก...มันมีจริงๆ รอยดูดดดดดดดดด ไม่ใช่แค่รอยเดียว แต่เต็มคอ!

แผ่นดินเอ๊ย สูบไอ้หลงลงไปที ไม่มีหน้าไปเจอใครแล้ว

แต่ถึงยังไงผมก็ซุกตัวหนีหน้าคนอยู่ในห้องไม่ได้นาน เฮียเสือออกจากห้องไปแล้ว พี่สิงห์ไม่รู้เดินมาจากไหน ลากคอผมเดินออกจากห้องไปที่โต๊ะอาหารที่เก่าเวลาเดิม ไม่สนใจว่าผมจะพยายามดึงมือที่ลากตัวออกแค่ไหน ไม่สนใจสายตาล้อเลียนของเฮียเสือที่น่าจิ้มให้บอดด้วย

“ผมพลาดอะไรไปรึเปล่า”

พอเราสองคนมาถึง เฮียก็ไม่พลาดถามตรงซะจนผมวางหน้าไม่ถูก

“คิดว่าไงล่ะ”

พี่สิงห์ตอบกลับ ยอมปล่อยมือจากออกจากตัวผมจริง แต่กดให้นั่งอยู่ข้างแก ซึ่งก็ฝั่งตรงข้ามกับเฮียเสือนั่นล่ะ

“จริงจังแค่ไหน” อยู่ๆ เฮียก็ปั้นหน้าขึงขังถามพี่สิงห์จนผมที่เพิ่งหย่อนก้นนั่งแทบร่วงตกเก้าอี้

“จำเป็นต้องบอก รู้แค่สองคนก็พอ กินข้าวได้แล้ว”

กินไม่ลงครับ ถ้าพี่สองคนจะปั้นหน้าจริงจังแล้วจบลงที่เสียงหัวเราะชอบอกชอบใจของเฮียเสือแบบนี้ ใครมันจะไปกินข้าวลง

แล้วอะไรที่ว่า ‘รู้แค่สองคนก็พอ’ คุยกันสองคนแล้ว พี่เคยเปิดโอกาสให้ผมตอบอย่างอื่นนอกจากพยายามล่อลวงให้พยักหน้าคล้อยตามที่ไหนกัน

ผมได้แต่ถอนใจ แล้วปล่อยให้ทุกอย่างวนกลับไปเหมือนเดิม คือยอมถูกพี่สิงห์ดูแลเอาใจใส่ตักกับข้าวส่งน้ำให้ยิ่งกว่าเมียแห่งชาติ หน้านี่แดงแล้วแดงอีกกับสายตาเฮียเสือที่ล้อเลียนไปตลอดมื้ออาหารที่ผมแทบกลืนข้าวไม่ลงคอ

ที่หมดจานก็เพราะพี่สิงห์ที่สวมวิญญาณหลั๋วในร่างเมียบังคับกลายๆ ทั้งนั้น

“กินเหล้าไหม”

พอมื้ออาหารจบลงแบบที่อาจมีแค่ผมที่นั่งอึดอัดอยู่คนเดียว ปล่อยให้ป้าคำปันกับเด็กในบ้านยกจานชามกลับเข้าครัวจนโต๊ะว่างโล่ง เฮียเสือก็ชวนผมขึ้น แต่ก็เหมือนเดิม...โดนพี่สิงห์สกัดดาวรุ่งกลับไปอย่างไว

“ไม่อนุญาต”

“ผมชวนหลานรหัส เกี่ยวกับพี่ที่ไหน”

“เสือ ดูปากฉัน...ไม่อนุญาตเว้ย”

“พี่ใช้สิทธิอะไรมาห้ามมัน ถามน้องมันก่อนไหมว่าอยากกินหรือไม่อยาก”

เอิ่ม พี่สองคนถามผมสักคำไหมว่าที่เถียงกันข้ามหัวไปมาแบบนี้ ผมโอเครึเปล่า

ผมกลอกตามองบนให้กับสองพี่น้องที่เห็นผมเป็นหัวหลักหัวตอมาตั้งแต่เริ่มกินข้าวกันแล้ว แต่นาทีนี้เหมือนมีชนักติดหลัง มีปากเสียงมากไม่ได้ เดี๋ยวมันจะย้อนเข้าตัว

“หลง”

ในตอนที่ผมตัดสินใจจะแกล้งทำตัวเป็นอากาศธาตุ ปล่อยให้พี่สองคนมองข้ามหัวต่อไป ระเบิดลูกเล็กก็ถูกโยนมาจากพี่สิงห์ที่เรียกชื่อผมเสียงแข็ง

“คะ...ครับ”

“ได้ยินคำถามไหม”

ชัดเต็มสองหู ผมพยักหน้ารัวๆ เหมือนไก่จิกข้าวเปลือก

“งั้นตอบ”

พี่สิงห์บีบบังคับทั้งน้ำเสียงทั้งแววตาพิฆาตเลย แต่เฮียเสือยังลอยหน้าลอยตายิ้มใส่ตาผม

“ผมอยากคุยกับเฮีย...ตามลำพัง”

ถึงหน้าตาเฮียแกตอนนี้จะดูพึ่งพาไม่ได้ก็เถอะ แต่ขืนยังเก็บๆ อะไรไว้ในใจคนเดียว ผมคงได้เป็นบ้าตายไปก่อนแน่ๆ

ในเมื่อเฮียแกก็ทำท่าเหมือนรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างผมกับพี่สิงห์ ผมก็ควรปรึกษาเฮียแกไปเลยตรงๆ

“เรื่องอะไร” เสียงกดต่ำของพี่สิงห์บอกชัดเลยว่าท่าทางจะไม่ยอม

“เรื่องที่ผมกำลังสับสนอยู่” ถามมาตอบตรง เหลียวกลับไปมองตอบสายตาดุๆ ของพี่สิงห์ รู้สึกว่าไม่คิดอยากจะยอมอีก

ผมก็อยากมีเวลาคิดทบทวนอะไรๆ เหมือนกัน ไม่ใช่พลาดแล้วก็ปล่อยเลยตามเลย ยอมตกอยู่ในสถานะคลุมเครือชวนอึดอัดใจต่อ ทั้งที่ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วตัวเองคิดยังไงหรืออยากให้ให้เรื่องนี้มันจบยังไง

“ถามพี่ไม่ได้?”

“ไม่ได้ เพราะนอกจากคำตอบที่พี่อยากฟังแล้ว พี่ไม่ยอมให้ผมตอบคำอื่น”

เหมือนการมีคนที่สามที่ไว้ใจนั่งอยู่ด้วย จะทำให้ผมมีความกล้ามากขึ้น อยากน้อยก็ไม่ต้องกลัวว่าตอบอะไรไม่เข้าหูพี่สิงห์แล้ว ผมจะโดนแกโมโหใส่จนกระโจนเข้ามาขย้ำจับผมเคี้ยวกรุบๆ กลืนลงท้องล่ะ

“แล้วคิดว่าคุยกับเสือมันแล้ว ตอบคำอื่นแล้วพี่จะฟัง”

“ผมแค่อยากได้เวลาคิดทบทวน แค่นี้พี่ให้ผมไม่ได้?” ดราม่ามาดราม่ากลับไม่โกง แถมจะดราม่าให้มากกว่าด้วย

หน้าพี่สิงห์จริงจัง แต่หน้าผมจริงจังกว่าล้านเท่า

“สิบนาที”

เผด็จการก็ยังเป็นเผด็จการเหมือนเดิม ผมเห็นอยู่ว่าตอนลุกจากโต๊ะไปพี่สิงห์ยังส่งสายตาเหมือนข่มขู่เฮียเสือที่หัวเราะส่ายหน้ามองตามหลังไป

“ยาดองคงแรงน่าดู ทำเอาพี่ชายกูสมองกลับไปเลย”

คนเดินไปไกลแล้ว เฮียแกยังหัวเราะไม่หยุด แถมวกกลับมาแซวผมซะอีก

“คงงั้น...” ไม่ใช่แค่พี่สิงห์เถอะที่สมองกลับ ผมเองก็คงไม่ต่างกัน

“แล้วจะยังไงต่อ”

“มันเกิดขึ้นเร็วเกินไปจนตั้งตัวไม่ติด ผมเลยไม่รู้ว่าตัวเองจะยังไง แต่เฮียไม่คิดว่ามันแปลกมั้งเหรอ ผมกับพี่สิงห์เราเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่นะ ทำไมไม่เมาแล้วก็แล้วกันไป ต้องมานั่งคุยเรื่องรับผิดชอบไม่รับผิดชอบอะไรพวกนี้ด้วยเหรอ”

“แต่มึงก็ไม่ได้รังเกียจ”

เฮียเสือขมวดคิ้วนั่งมองจ้องหน้าผม ฟังจบก็ถามขึ้นมาคำหนึ่ง เป็นคำถามเดียวกับที่พี่สิงห์ถาม ก่อนจะเกินเลยกันไปอีกรอบทั้งที่ฤทธิ์ยาดองหมดไปนานแล้ว

คำตอบสำหรับผมมันเลยชัดเจนมากซะจนหน้าเปลี่ยนสี ถ้ารังเกียจมันจะมีรอบสามเกิดขึ้นได้ยังไง

“กูว่ามึงได้คำตอบแล้วล่ะ แต่ที่มึงกำลังสับสนตอนนี้เพราะเรื่องระหว่างมึงกับพี่สิงห์มันเริ่มต้นมาแบบก้าวกระโดดเกินไป ที่มึงต้องทำตอนนี้คือเคลียร์ความคิดตัวเองให้ได้ก่อน

ถ้ายังเปิดใจไม่ได้ก็ไม่ต้องพยายามฝืน ปล่อยให้มันค่อยเป็นค่อยไป แต่อย่าพยายามใช้ความคิดแบบคนสมัยก่อนกดดันตัวเองว่าผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิงเสมอไป สมัยนี้โลกมันเปิดกว้างแล้ว แค่อยู่กับคนคนหนึ่งแล้วสบายใจก็ไม่ต้องสนแล้วว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิง”

“เฮียนี่ก็พูดมีหลักการเป็นกับเขาเหมือนกันเนอะ” ผมกะพริบตาปริบๆ นั่งฟังเฮียแล้วแอบพยักหน้าคล้อยตาม

“อ้าวไอ้นี่ เป็นเมียคนแล้วพูดให้มันน้อยๆ หน่อย” เฮียไม่พูดเปล่าดีดหน้าผากเอาซะเจ็บเลย

“เมียบ้านเฮียดิ” ผมนิ้วหน้ากุมหน้าผากงึมงำบ่น

“หรือว่าจะเป็นผัว แต่ไก่อ่อนแบบนี้ไม่น่าจะเป็นได้” เกลียดสายตามองหัวจรดเท้า แล้วหยักคิ้วให้แบบนั้นจริงๆ เลย

“ผมก็เป็นผัวได้ เฮียคอยดูแล้วกัน” ผมฮึดฮัดขัดใจ ลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้เฟ้ย

“เออ ก็ดูไม่ได้ไม่ชอบอะไรหนิ” อยู่ๆ เฮียเสือก็ยิ้มกว้างพูดขึ้นมาลอยๆ

“อะไร?”

“เรื่องที่เกิดขึ้นไง คนไม่ชอบจริงๆ เขาไม่มานั่งคิดสับสนแบบที่มึงเป็นหรอก ป่านนี้คงหยิบมีดมาแทงพี่ชายกูไปแล้ว แต่มึงไม่ได้ทำไง แถมยังประกาศว่าจะเป็นผัวให้ดูด้วย หลง มึงลองกลับไปคิดทบทวนดูดีๆ ว่าจะยังไงกับเรื่องนี้”

“อืม” ผมก็ไม่ได้รังเกียจความสัมพันธ์แบบนี้จริงๆ น่ะล่ะ ยิ่งได้คุยกับเฮียยิ่งรู้ตัว เลยรับคำไปเบาๆ

“เห็นแก่ที่มึงเป็นหลานรหัส จะบอกความลับให้อย่าง”

“ว่า...”

“ผู้ชายบ้านกูรักแล้วรักเลย ไม่มีเปลี่ยนใจ”

“เกี่ยวอะไรกับผม” ผมโวย

“อ้าว ก็มึงจะมาเป็นพี่สะใภ้กู กูก็ต้องบอกไว้ก่อนไง”

เฮียยังลอยหน้าลอยตาล้อไม่เลิก ได้...ถ้าจะเล่นผมงี้ ผมก็เล่นเฮียได้เหมือนกัน

“งั้นเฮียพาผมไปไร่นู่นหน่อยดิ”

“ไปทำไม?”

“อ้าว ผมก็จะไปกระซิบบอกเด็กปีย์เหมือนกันว่าผู้ชายบ้านนี้รักแล้วรักเลย ไม่มีเปลี่ยนใจ ต่อให้ปากแข็งว่าไม่ชอบหน้าแค่ไหน พอรู้ว่าเขากลับมาก็รีบวิ่งแรดไปหาทันทีเลย”

เห็นหน้าอึ้งๆ ของเฮียเสือแล้ว ผมสะใจชะมัด ผมยักคิ้วหัวเราะใส่แล้วรีบลุกเดินมาก่อนมันจะรู้สึกตัว

“ไอ้หลง!”

เดินมาไกลจนเกือบถึงห้องตัวเอง ก็ได้ยินเสียงคำรามเรียกชื่อผมของเฮียเสือดังลั่น แต่รู้ตัวตอนนี้ก็ช้าไปแล้ว ผมรีบพุ่งเข้าประตูกะปิดหนีเสือขี้โมโหที่อาจวิ่งตามมาข้างหลัว

เพิ่งพุ่งเข้าไปยังไม่ทันหันมาปิดประตูลงกลอน ก็ชนเข้ากับกำแพงหนาแล้ว กว่าจะรู้ว่าที่ชนถูกไม่ใช่กำแพงแต่เป็นอกหนาของพี่สิงห์ก็โดนกอดไว้ในอ้อมกอดแน่นแล้ว

“พี่สิงห์!”

“นายเสือมันมาเป่าหูอะไรก็อย่าไปฟังมันมาก” คิ้วพี่สิงห์ขมวดเป็นปม สีหน้าเหมือนกับจะกังวลอะไรอยู่

“เฮียบอกให้ผมลองเปิดใจดู”

“อืม คำของผู้ใหญ่ฟังไว้มั้งก็ดี” พี่สิงห์เปลี่ยนสีหน้ากับคำพูดตัวเองอย่างไว

ผมกะพริบตาปริบๆ มองแล้วรู้สึกว่าผู้ชายตัวโตๆ หน้าดุๆ ในตอนแรกเจอก็ ‘น่ารัก’ ดีเหมือนกัน

“ยิ้มเหรอ?”

พี่มันหรี่ตามองจ้องหน้าผมเขม็ง จ้องจนยิ่งยิ้มกว้างถามกลับ พอเลิกสับสนอารมณ์ก็ดีขึ้นมา

“ทำไม ผมยิ้มไม่ได้เหรอ”

“ได้ ยิ้มบ่อยๆ น่ารักดี” มือใหญ่ยื่นมาหยิกแก้มผมเบาๆ อารมณ์มันเขี้ยวแปะอยู่เต็มหน้า

“เวลาพี่ยิ้มก็ดูดีเหมือนกัน ว่าแต่ทำไมเจอหน้ากันตอนแรกพี่ถึงดุผมจังเลย แล้วดูตอนนี้ดิ...ขยันยิ้มเกินไปแล้ว”

ผมอดไม่ได้ เอื้อมมือไปดึงแก้มของพี่สิงห์คืนมั้ง

“เจอเด็กน่ารักไม่รู้จะทำตัวยังไง เลยเก็กหน้าดุไว้ก่อน”

ไม่แค่พูดเปล่า พี่สิงห์ยังยิ้มกว้างดึงมือผมที่จับอยู่ข้างแก้มไปหอม แถมยังส่งมองมาด้วยสายตากรุ้มกริ่มอีก

โอ๊ย ถ้าเป็นผู้หญิงจะตัวเหลวละลายอยู่ในกอดนี้ของพี่สิงห์ให้ดู

“พี่สิงห์นี่ขยันหยอดจนเหมือนกำลังจีบผมเลย”

ก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องเขิน พอเขินแล้วก็อยากจะหนีไปให้พ้นกอดนี้เร็วๆ แต่พี่สิงห์ไม่ยอมปล่อย ผมเลยทำได้แค่เลี่ยงไปมองพื้นมองเพดานแทน

“ระหว่างเรายังต้องจีบอีกเหรอ”

พี่สิงห์จับคางผมให้หันไปสบตาวิบวับที่มองมา นิ้วเกลี่ยอยู่ที่ริมฝีปากล่างทำเอาผมหายใจลำบาก หัวใจเหมือนจะหยุดเต้นยังไงไม่รู้

รู้แค่ว่าถ้ายังไม่หยุดสิงห์จอมหื่น เดี๋ยวเรื่องก็วนไปจบลงที่เตียงอีก ตอนนี้ผมทั้งเจ็บทั้งจุกเกินกว่าจะรับไหวแล้ว

ผมรีบดึงมือพี่สิงห์ออก สูดลมหายใจเรียกกำลังใจให้ตัวเองหลายครั้งถึงเริ่มต้นถามเรื่องที่คิดมาสักพักแล้ว

“จริงๆ มันควรเริ่มจากจีบล่ะ แต่เรื่องของเรามันออกจะแปลกไปเยอะเลย พี่สิงห์บอกผมได้ไหมว่าคิดยังไงกับเรื่องของเรา จริงๆ แล้วเป็นแค่เมา...เผลอตั...”

“ตั้งใจ” คำตอบสั้นๆ สองคำ สีหน้าพี่สิงห์ไม่กรุ้มกริ่มอีกแล้ว แต่ยิ่งกว่าจริงจัง

และเหมือนจะกลัวผมเข้าใจไม่มากพอ ยังอุตส่าห์ขยายความต่อ “เคยบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าอยากได้ตั้งแต่แรก ตอนนี้ได้แล้วยังไงก็ไม่มีทางปล่อยให้หลุดมือไป ต่อให้จะไม่เต็มใจก็จะมัดไว้ข้างตัว ให้ตายยังไงก็ไม่ปล่อย”

เป็นความเผด็จการที่พาให้หัวใจอุ่นร้อนขึ้นมาแปลกๆ ถึงผมจะลงความเห็นว่านั่นเป็นความหวั่นไหว แต่ก็ยังนึกกลัวอยู่

“แต่ผมเพิ่งอกหักมา ยังเจ็บยังสับสนอยู่ เรื่องระหว่างเรามันเกิดขึ้นเร็วจนเกินไป ผมเลยกลัวว่าถ้าปล่อยไปแบบนี้มันจะเริ่มต้นผิดไปทั้งหมด อีกอย่างผมก็ไม่เคยกับ...ผู้ชายด้วย ถึงจะไม่ได้รังเกียจแต่ก็กลัวอยู่ดีว่านั่นอาจจะเพราะเสียใจจนไม่เป็นตัวของตัวเอง ถ้าผมหวั่นไหวให้กับพี่ทั้งที่ยังเคลียร์ความรู้สึกตัวเองไม่ได้ ผมกลัวว่าตัวเองจะเผลอทำให้เรื่องระหว่างเรามันแย่ลง”

“ไม่เป็นไรไม่ต้องรีบ พี่รอได้” ไม่พูดเปล่ายังจับหัวผมซบลงกับไหล่ตัวเองซะอีก

ยอมรับว่าทั้งการกระทำและคำพูดนี้ทำให้หัวใจผมเริ่มเต้นผิดจังหวะไปบ้างเหมือนกัน

ผมเงยหน้ามองพี่สิงห์ที่ยิ้มมองมา แล้วอดไม่ได้จะยิ้มตาม พอเห็นตาพี่สิงห์เป็นประกายขึ้นมาก็ชักรู้ตัวว่าพลาดไปแล้ว

ไม่ทันจะผละถอยหนี จูบดูดดื่มลึกซึ้งก็จู่โจมเข้ามาพัวพันจนตัวผมอ่อนเป็นขึ้ผึ้งลนไฟ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมอยู่ใกล้กันถึงสปาร์คติดกันง่ายขนาดนี้

ถูกจูบจนหายใจไม่ทัน ทุบหลังประท้วงไปเบาๆ พี่สิงห์ก็ถอนจูบออกห่าง ซบตรงซอกคอเริ่มต้นงับผม

“พอแล้ว ผมไม่ไหวแล้ว” ถ้ามีครั้งที่สี่ ผมคงต้องคลานลงจากเตียงจริงๆ

“ใครใช้ให้หลงน่ารักขนาดนี้ล่ะ อยู่ใกล้แล้วห้ามใจลำบากทุกที”

พี่สิงห์ถอนใจยาวยอมซบอยู่ที่ซอกคอผมดีๆ ไม่เลียไม่งับให้สยิวอีกแล้ว

“ตกลงพี่ไม่ได้กำลังสับสนอยู่จริงๆ เหรอ”

“สับสนเรื่อง?”

“ก็ที่ทำแบบนี้กับผมอาจเพราะกำลังหลงไง”

ความหื่นของพี่สิงห์และตัวผมที่โอนอ่อนไปซะทุกครั้งที่เข้าใกล้ ทำให้ผมชักเริ่มสงสัยว่าพวกเราอาจแค่กำลังหลงให้สัมผัสของกันและกัน เลยเข้าใจผิดคิดว่ามันเป็นความหวั่นไหว

“หลง!” ไม่ใช่คำตอบแต่เป็นเสียงเรียกชื่อผมที่ใกล้เคียงกับเสียงคำรามด้วยความไม่พอใจจนผมหัวหด

ถามแค่นี้ต้องโมโหด้วย

“โอเค งั้นเรามาเริ่มกันใหม่ตั้งแต่ต้น หลงจะได้ไม่เข้าใจผิดคิดว่าที่พี่เป็นอยู่ตอนนี้แค่อยากได้ตัว” อยู่ๆ พี่มันก็ถอนใจยาว หน้าตาจริงจังมากจนผมกลัวใจ

“พี่จะทำอะไร”

“พี่จะเริ่มจีบไง”

“จีบ!” เมื่อกี้ไม่ใช่บอกว่าเรื่องระหว่างเรามาไกลเกินกว่าจะจีบกันแล้วหรอกเหรอ

“แล้วจนกว่าจะจีบติด พี่จะไม่แตะตัวหลงอีก หลงจะได้เชื่อซะทีว่าที่พี่อยากได้ไม่ใช่แค่ตัว”

พี่สิงห์พูดจบก็อุ้มตัวผมที่ยังนั่งอยู่บนตักลงบนเตียง มองผมด้วยสายตามุ่งมั่นก่อนจะเดินออกจากห้องไป

ทิ้งให้ผมนั่งกะพริบตาปริบๆ อยู่บนเตียง ให้หัวเหมือนมีเสียงเอคโค่ของพี่สิงห์ดังก้องซ้ำไปซ้ำมา

‘ที่พี่อยากได้ไม่ใช่แค่ตัวๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ’

คนไม่โง่จนเกินไป ฟังความหมายในประโยคนี้ไม่มีทางไม่เข้าใจ และเพราะเข้าใจหน้าเลยเห่อร้อนแดงไปถึงใบหู หัวใจที่เต้นผิดจังหวะนิดเดียวเมื่อกี้กลายเป็นเต้นรัวเหมือนจะกระเด็นกระดอนออกมานอกอกแล้ว

การถูกจีบมันรู้สึกดีแบบนี้นี่เอง!


--------------------------------------------------------
หลงเอ๊ยเมื่อไหร่หนูจะทันเล่ห์เหลี่ยมพี่ๆ เขา
พี่สิงห์บอกว่าจีบแต่อ่อยน้องหนักมว้ากกกกกมานานแล้วไหม - _ -'







 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด