'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End  (อ่าน 177268 ครั้ง)

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ Justccwpo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตอนจบจะเป็นยังไงเนี้ยย

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
งงไปอีก.. มิติซ้อนมิติ
โลกคู่ขนาน.. ยังไงดี.. หืมมมม..
หรือแบบ อินเซปชั่น.. เจ้าโคม่าอยู่ไอซียู แล้ว ดินเข้าฝันไปหาเจ้า..
ซับซ้อนไปอีกกจ้าาาา..  :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ไปเลยไปให้สุด ให้ใจมันพังไปเลย ฮือออออออ คนอ่านไม่ไหวแล้ว เจ็บหัวใจมาก :sad4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
มีสุดกว่านี้อีกไหม คือคนอ่านร้องไห้สุดๆ น้ำตาไหลพรากๆ
คัดจมูกเสมือนเป็นหวัดติดต่อกันมาสามปีเลยเชียว

เหมือนพอรู้จุดจบ ......
จู่ๆ น้ำตา ...มันก็ไหลออกมา   :o12:
ใช้กระดาษทิชชูเป็นกองๆเลย  :mew2:
ปกติมันก็ซึมๆ แต่นี่สะอื้นฮึกๆ เศร้าโศกมากๆ  :z3:
สงสารเจ้า ดิน เอ๋   :mew5:
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ไปให้สุด ไปให้สุด  :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ไม่รู้ว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องจริงเรื่องเท็จแล้ว

อินคำพูดหมอแพร์มากเลยค่ะฮื่ออ เรื่องบางเรื่องก็อยากจดจำจนไม่อยากลืมหรอกนะ   :mew4::mew4:

ออฟไลน์ bowbeauty

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 299
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
เจ้าอย่าไปเลย สงสารดิน สงสารเอ๋

ออฟไลน์ MayLYn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ฮืออออ สงสาร อ่านไปก็จุกหน้าอกไป อะไรจะเกิดก็ต้องให้มันเกิด เราฝืนชะตาไม่ได้หรอกดิน


Sent from my iPhone using Tapatalk

ออฟไลน์ Fuzz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 117
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
อึดอัดมาก ไม่อยากคิดถึงตอนจบ  :hao5: :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
ร้องไห้ทุกตอน,,,

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
มา จะเศร้าแค่ไหนก็มา เตรียมตับ เตรียมเช็ดชู่แล้ว

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
ตอนที่ 21 ท่านเจ้า





-เจ้า จักรพรรดิ-





ผมเป็นคนที่ไม่เชื่อในพระเจ้า ไม่เชื่อในปาฏิหาริย์ ไม่เชื่อเรื่องที่วิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้และไม่เชื่อสิ่งอื่นใดนอกจากตัวของผมเอง ซึ่งโดยพื้นฐานความคิดนี้ทำให้ผมไม่เคยจินตนาการถึงโลกหลังความตายที่อาจจะมีอยู่จริงหรือเป็นเพียงแค่มโนคติ ไม่มีใครเคยกลับมาบอกเล่าได้ว่าเมื่อละสังขารไปแล้วจะเป็นอย่างไรต่อ ทุกคนที่ยังอยู่จึงวนเวียนกับคำถามที่ไร้คำตอบที่แน่ชัด ต่างคนต่างคาดเดากันไปต่างๆ นานา แต่ผมคิดว่ามันอาจจะเป็นเพียงความว่างเปล่าที่เมื่อถึงเวลาอันสมควรก็จะดับสูญไป ความคิดของผมมุ่งเน้นไปทางนั้นในขณะที่หลายๆ คนเชื่อเรื่องนรก สวรรค์หรือเส้นทางที่จะเดินกันต่อหลังจากนี้

แต่...หากไม่เคยตายสักครั้งก็คงไม่รู้

ใช่...ไม่มีใครรู้จนกว่าจะพบเจอด้วยตัวเอง

ผมยกมือขึ้นสัมผัสที่กลางอก ไล้นิ้วไปตามรอยแผลเป็นที่ยังคงสร้างความเจ็บปวด แม้จะชินชากับความรู้สึกนี้แต่ในบางครั้งก็ทุรนทุรายเมื่อมันปวดจนเกินจะรับไหว หากถามว่าผมได้รอยแผลนี้มาอย่างไร ผมก็คงให้คำตอบได้อย่างไม่ชัดเจนนักเพราะเหตุการณ์ในวันนั้นไม่ปรากฏภาพที่แน่ชัดในความทรงจำ ผมจำได้แค่ว่าผมถูกยิง กระสุนนัดนั้นผ่านทะลุกลางอก สร้างบาดแผลสาหัสที่ทำให้เลือดไหลทะลักออกมา ในตอนนั้นแน่ใจแล้วว่าคงจะได้พบคำตอบสักทีว่าโลกหลังความตายเป็นอย่างไร แต่คำตอบกลับไม่มาถึง ความทรงจำในช่วงเวลานั้นหายไป ระยะเวลาอาจจะแค่ชั่วอึดใจหรือยาวนานมากกว่านั้นผมก็บอกไม่ได้ แต่หลังจากนั้นไม่นานผมก็ตื่นขึ้นที่ห้องนอนของตัวเองในเช้าวันรุ่งขึ้นราวกับคนที่เพิ่งผ่านฝันร้ายแล้วสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยสภาพเหงื่อโซมกาย ทว่าผมกลับรับรู้ได้ว่าทุกอย่างเกิดขึ้นจริงไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นในความฝัน รอยแดงช้ำกลางอกก็ยืนยันได้เป็นอย่างดี ถึงจะไม่มีเลือดไหลทะลักออกมาแต่ก็ปวดจนแทบทนไม่ไหว

ผมคิดว่าห้วงเวลาของผมคงเริ่มต้นขึ้นจากตรงนั้น...

ในตอนนั้นผมรับรู้ถึงความผิดปกติได้ในทันทีแม้จะก้ำกึ่งว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือความฝัน ยิ่งเมื่อหันมองรอบห้องนอนก็ยิ่งแน่ใจว่าที่นี่อาจจะเป็นโลกหลังความตายที่หลายๆ คนเฝ้าหาคำตอบก็เป็นได้ เพราะผมไม่มีทางกลับมาที่นี่ สถานที่ที่เป็นทั้งความสุขและความเศร้าใจ ผมปิดตายมันเอาไว้ตั้งแต่ที่เจ้าของอีกคนไม่อยู่ ความทรงจำในที่แห่งนี้มีทั้งที่อยากจำและอยากลืม หลังจากที่ทำใจยอมรับได้แล้วผมก็ลุกขึ้นสำรวจรอบห้อง ทุกสิ่งทุกอย่างภายในห้องยังถูกจัดวางเหมือนเดิม ไม่มีเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งชิ้นใดวางผิดที่ผิดทางเลยสักชิ้นเดียว ความทรงจำที่มีเพียงแค่ผมที่จำได้ก็ยังคงรายล้อมอยู่ในตอนนี้

อืม...โลกหลังความตายก็คงจะเป็นนรกแห่งความทรมานอย่างที่คนส่วนใหญ่พูดเอาไว้

ผมใช้เวลาทั้งสัปดาห์อยู่ในห้องนั้น ห้องที่เป็นดั่งเครื่องทรมานแต่กลับมีชีวิตชีวาเหมือนครั้งหนึ่งที่ผมเคยอยู่กับเขา ไม่เคยรับรู้ถึงความผิดปกติของห้วงเวลา เพราะผมเอาแต่ให้ความสนใจกับภาพถ่าย ไดอารี่และของแทนใจที่เขาเคยให้ไว้ จนเมื่อเสียงกริ่งประตูห้องดังขึ้นติดๆ กันอยู่สามครั้ง บ่งบอกว่ามีผู้มาเยือน

“ท่านเจ้าครับ เจอตัวคุณชายแล้วนะครับ ผมได้ที่อยู่มาแล้ว” ลุงชันคนสนิทคือคนที่ปรากฏตัวอยู่หน้าประตูและนั่นทำให้คำถามผุดขึ้นในใจของผม

หรือมันจะเป็นแค่ความฝัน เรื่องที่ผมถูกยิงอาจจะไม่เคยเกิดขึ้นจริง แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นรอยแผลเป็นนี้มาจากไหน

“ไม่สบายหรือเปล่าครับท่านเจ้า”

“เปล่า ผมไม่เป็นไร เมื่อกี้ลุงพูดว่าไงนะครับ”

“เจอคุณชายแล้วครับ”

ไม่ใช่เพราะเพิ่งเจอ แต่เพิ่งได้รับอนุญาตให้เจอต่างหาก

“แม่ยอมให้ลุงบอกที่อยู่น้องดินแล้วเหรอ”

บทสนทนานี้คล้ายกับเคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้ว ผมจำสีหน้าลำบากใจของลุงชันได้ จำประโยคที่ลุงจะพูดขึ้นต่อจากนี้ได้เช่นกัน

“ครับ นายหญิงท่านยอมแล้ว ท่านบอกว่าเพื่อความสุขของท่านเจ้า ท่านจะไม่ขัดขวาง”

เป็นมุขตลก ผมทราบดี อย่างแม่น่ะหรือจะเห็นแก่ความสุขของผมในเรื่องนี้

“แม่มีแผนอะไร ลุงบอกผมได้มั้ย”

“ขอโทษครับท่านเจ้า”

ผมเข้าใจดีถึงคำขอโทษของลุงชัน การทำตามคำสั่งของแม่อย่างเคร่งครัดก็เป็นเหมือนการต่อชีวิตให้ครอบครัวที่สำคัญของลุง

“ครับ ไม่ต้องบอกผมหรอก ยังไงชีวิตของจี้กับป้าพรต้องมาก่อน ที่จริงผมไม่ควรทำให้ใครต้องเดือดร้อนเลย”

“อย่าพูดอย่างนั้นเลยครับ ทุกคนเต็มใจทำเพื่อท่าน อีกอย่างนายหญิงก็จะให้น้องจี้กลับมาแล้ว คราวนี้นายหญิงใจอ่อนจริงๆ นะครับ ท่านเจ้าไม่ต้องเป็นกังวล ไปหาคุณชายเถอะครับ คงไม่เป็นไรแล้ว”

“แต่ป้าพรยังอยู่กับแม่ ป้าไม่ได้กลับมาด้วยใช่มั้ย”

คำตอบของลุงชันคือความเงียบ ลบคำว่าไม่เป็นไรที่เคยพูดไปจนหมดสิ้น ผมรู้ดีทีเดียวว่าไม่มีสิ่งใดง่าย หากแม่ของผมยังคงไม่เห็นด้วยกับความรักที่ผมมีต่อคนสำคัญคนนั้น คนที่เขาลืมเลือนผมไปแล้ว แต่ผมก็ยังหวังว่าเขาจะจำผมได้

หวังจริงๆ ว่าผมจะได้น้องดินของผมกลับคืนมา

ความปรารถนานี้รุนแรงอยู่ทุกขณะที่หายใจ ก่อเกิดเป็นความเจ็บปวดที่รอยแผลเป็นเมื่อนึกถึง มันเจ็บจนผมหายใจแทบไม่ออก แน่ใจว่าอาจจะตายในอีกไม่วินาทีใดก็วินาทีหนึ่งแต่แล้วความเจ็บปวดก็ทุเลาลง อันตรธานหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ผมหอบหายใจในขณะที่นอนแผ่อยู่กลางห้องหลังจากตัวบิดงอด้วยความทรมาน

ผิดปกติ

ผมรับรู้ได้จากสัญชาตญาณ แม้ในโลกนี้จะไม่มีสิ่งใดผิดเพี้ยนไปเลยจากที่ตาเห็น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะเป็นปกติเหมือนเช่นที่เป็นมา อย่างน้อยก็รอยแผลเป็นที่สร้างความเจ็บปวดให้ผมนี่แหละที่เป็นความผิดปกติหนึ่งอย่างที่สังเกตเห็นได้ง่าย แต่ผมก็อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นหรือฟันธงไปอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ในเมื่อลุงชันที่น่าจะยังคงมีชีวิตอยู่มาอยู่ในโลกนี้ด้วย ถ้าหากเป็นโลกหลังความตายของผมจริงๆ ที่แห่งนี้ต้องมีผมอยู่เพียงลำพัง

หลังจากเกิดข้อสงสัยเหล่านั้นผมก็เฝ้าหาคำตอบ ผมเชื่อว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นมีที่มาที่ไป มีเหตุที่ส่งผลให้มันเกิดขึ้น แล้วผมก็พบคำตอบหลังจากนั้นไม่นาน -- ที่แห่งนี้ไม่ใช่โลกหลังความตายแต่เป็นห้วงเวลาที่เกิดขึ้นก่อนวันเกิดอายุ 23 ปีของผม เป็นเวลาสองปีสองเดือนกับอีกเจ็ดวันนับตั้งแต่วันแรกที่ผมตื่นขึ้นในห้องนี้ ผมแน่ใจก็เมื่อความทรงจำก่อนวันเกิดของผมกลับมาในหนึ่งเดือนให้หลังและพบว่าโลกที่ผมอยู่นี้มีเงื่อนไขและกฎเกณฑ์ของมันอย่างชัดเจน

เงื่อนไขของมันคือเวลาและกฎเกณฑ์ของมันคือการไม่เปลี่ยนแปลง

ในทุกวันความผิดปกติจะเกิดขึ้นหนึ่งเรื่อง ที่เห็นชัดเจนรองจากรอยแผลเป็นที่ปวดเป็นพักๆ ก็คือวันเวลา วันเวลาที่ไม่เคลื่อนขยับ เวลาที่นาฬิกาข้อมือของผมหยุดเดินที่เวลาห้าโมงสิบเจ็ดนาที ในขณะที่วันที่ก็ไม่เคลื่อนเปลี่ยนแม้สักวัน มันหยุดอยู่ที่วันที่ 17 กรกฎาคม แต่ผมกลับรับรู้ได้เป็นอย่างดีว่าในแต่ละวันนั้นคือวันเดือนปีอะไร ภาพเหตุการณ์ในแต่ละวันก็ทำให้รู้สึกเหมือนเกิดเดจาวู รับรู้ว่าเคยเกิดขึ้น รับรู้ผลลัพธ์ แม้เส้นทางที่เกิดจะแตกต่างแต่สุดท้ายผลลัพธ์ก็ไม่เปลี่ยน สุดท้ายแล้วการกระทำหนึ่งที่ส่งผลต่ออีกการกระทำหนึ่งก็ยังคงอยู่ ผมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ เพราะต่อให้หลีกเลี่ยงจะไม่ให้เกิดอย่างไรก็จะได้ผลลัพธ์เท่าเดิม อย่างเช่นหากวันนี้ผมรู้อยู่แล้วว่าจะโดนมีดบาด ผมจึงหลีกเลี่ยงที่จะใช้มีด ทว่าสุดท้ายก็เกิดรอยบาดจากสิ่งอื่นอยู่ดี

ผมใช้เวลาอยู่พอสมควรที่จะทำใจยอมรับกับตัวเองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องจริง มันยากที่จะเชื่อและก็ยากที่จะคิดหาคำตอบให้กับเรื่องนี้ ผมเอาแต่ตั้งคำถามกับตัวเองเพราะคงไม่มีใครสามารถตอบคำถามนี้ได้ ทุกคนในห้วงเวลานี้ไม่ได้รับรู้ถึงความผิดปกติเหมือนกับผม พวกเขาดำเนินชีวิตเหมือนเช่นทุกวันที่เคยเป็นมา

ผมหมกตัวอยู่ในห้องเกือบสองเดือนเพราะไม่มีกะจิตกะใจคิดทำอย่างอื่น ความรู้สึกว่าหากได้ตายไปจริงๆ คงจะดีกว่านี้วนเวียนอยู่ในหัวของผมไม่หยุดหย่อน ความปรารถนาที่อยากเจอคนสำคัญคนนั้นมอดไหม้เมื่อจำได้ว่าความทรงจำก่อนหน้านั้นเป็นอย่างไร ผมปล่อยเวลาให้เลยผ่าน วันแล้ววันเล่าที่ทำได้แค่ดูรูปถ่ายและหวนคิดถึงภาพความสุขที่เคยเกิดขึ้นในห้องนี้ จนเมื่อมีข้อความถูกส่งเข้ามา

ข้อความจากเพื่อนคนสนิทที่เป็นความสบายใจของผม





Gee : ท่านจะปล่อยเวลาให้ผ่านไปอีกนานแค่ไหนท่านเจ้า

Gee : จะนอนแผ่อยู่กลางห้องไปอีกนานแค่ไหน เวลามันไม่คอยท่านหรอกนะ





ผมแน่ใจในทันทีว่านี่อาจจะไม่ใช่จี้ที่ผมรู้จัก แน่ใจโดยไม่ต้องตั้งคำถามใดๆ ขึ้นมาเลย





Jao : อยู่ตรงไหน

Gee : ข้างๆ ท่าน

Jao : นานแค่ไหนแล้ว

Gee : ตลอดเวลานั่นแหละ





ความเศร้าเกิดขึ้นในใจแทบทันที ต่อให้ไม่ถามก็รู้ได้ว่าจี้ที่พูดคุยกับผมในตอนนี้อาจจะไม่มีตัวตนหรืออาจจะมีตัวตนอยู่ที่อื่นที่ไม่ใช่ที่แห่งนี้ ผมรับความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นทั้งหมดจึงไม่ได้แปลกใจหากจะมีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้นอีก แต่ก็ยังอดรู้สึกเศร้าใจไม่ได้เพราะบางเรื่องต่อให้เข้าใจก็ยากที่จะรับไหว





Gee : อย่าทำหน้าเศร้าเลยท่านเจ้า

Gee : ท่านควรจะมีความสุขได้แล้วนะ

Jao : จะหาความสุขมาจากไหนจี้ ในเมื่อคนที่เป็นความสุขของกูเขาหายไปแล้ว

Gee : เพราะแบบนี้ท่านถึงอยากกลับมาไม่ใช่เหรอ

Gee : ท่านปรารถนาให้เขาจดจำท่านได้ ปรารถนาให้เขาเลือกท่าน

Gee : ทั้งที่รู้ดีว่าความรักของท่านเป็นไปไม่ได้ แต่ท่านก็ยังปรารถนา

Jao : แต่กูรู้ว่ามันไม่ได้แล้ว กูทำอะไรไม่ได้เลย ความสุขของกูเขาไปเป็นความสุขของคนอื่นแล้ว





ความทรงจำนี้ทำให้ผมทรมาน กลางอกของผมเจ็บปวดขึ้นอีกครั้งแต่มันไม่ได้ทุรนทุรายเหมือนก่อนหน้า ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นความเจ็บที่ไม่ก่อให้เกิดความสุข กลับนำพาเอาความรู้สึกแย่เข้ามาในจิตใจ





Gee : ณ ที่แห่งนี้ ท่านทำได้

Gee : ห้วงเวลานี้เป็นของท่าน ความปรารถนาจะเป็นจริงหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับท่าน

Gee : ที่แห่งนี้ท่านเป็นเจ้าของ แต่ถึงแม้จะเป็นเจ้าของ ท่านก็คงรู้เงื่อนไขและกฎเกณฑ์ของมันดี

Jao : ก็พอรู้และก็รู้ว่าทำอะไรไม่ได้ไงจี้ กูเคยลองแล้วแต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน กูจะกลับมาทำไมถ้าต้องกลับมาทรมานเหมือนเดิม

Gee : บางอย่างไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้นั่นเพราะเหตุไม่เปลี่ยน หากท่านเปลี่ยนเหตุ ผลที่ตามมาก็จะเปลี่ยนตาม ผลลัพธ์น่ะขึ้นอยู่กับการเลือกกระทำ เพราะฉะนั้นในห้วงเวลานี้ท่านต้องหาเหตุแห่งความทุกข์ของท่านให้เจอ

Jao : แล้วถ้าหาไม่เจอล่ะจี้

Gee : ท่านจะติดอยู่ในห้วงเวลานี้ จะทรมานอยู่ที่นี่ ไปไหนไม่ได้ แม้แต่ความตายก็ไม่ใช่อิสระของท่าน

Jao : แล้วมึงจะอยู่กับกูมั้ย

Gee : :)





ต่อให้ไม่ได้ตอบอย่างชัดเจนแต่นั่นก็เป็นคำยืนยันแล้ว จี้น่ะเป็นแบบนี้เสมอ เป็นเพื่อนที่คอยอยู่เคียงข้างและเสียสละเพื่อความสุขของผมมาโดยตลอด





Jao : ไม่อยากให้มึงติดอยู่ที่นี่กับกูหรอกจี้ อยากให้มึงเป็นอิสระสักที

Jao : กูจะหาให้เจอนะ ความสุขของกูน่ะ กูจะตามกลับมาเอง

Gee : หวังว่าท่านจะเจอกับความสุขและสมปรารถนา

Jao : แต่คงไม่มีอะไรง่ายหรอกใช่ไหม ถ้าเงื่อนไขของที่แห่งนี้คือเวลา กูก็คงมีเวลาจำกัดเหมือนกัน

Gee : ใช่ ท่านมีเวลาจำกัด

Jao : ถ้าตามที่กูเข้าใจ กูต้องทำให้ได้ก่อนวันเกิดของกูใช่ไหม กูมีเวลาสองปี สองเดือนกับอีกเจ็ดวันหรือเปล่า ถ้านับจากวันที่ตื่นขึ้นมาในที่แห่งนี้

Gee : ไม่ใช่

Gee : แค่สองปี

Gee : ตราบใดที่ยังไม่เป็นไปตามที่ท่านปรารถนา ท่านมีเวลาแค่สองปีเท่านั้น อย่าให้เกินกว่านี้

Jao : ทำไม

Gee : เพราะห้วงเวลาของท่านจะหมดลง เวลาจะเริ่มเดินต่อไปจนถึงวันนั้น

Jao : กูก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี

Gee : ท่านต้องไม่เจอกับเหตุที่ชักนำให้เกิดเรื่องในวันนั้นท่านเจ้า เพราะห้วงเวลาของท่านจะถูกหยุดลงแล้วพาท่านไปถึงวันที่ท่านต้องตาย ท่านคงจำได้ว่าหลังจากสองปีที่ท่านพยายามในคราวนั้น ท่านเจอกับใคร

Jao : จันทร์เจ้า

Gee : ใช่ นั่นเป็นเหตุเพียงอย่างเดียวที่ไม่ได้อยู่ในห้วงเวลาของท่านเพราะเป็นเหตุที่ชักนำให้ท่านมาอยู่ตรงนี้ ท่านเปลี่ยนเหตุนี้ไม่ได้ นั่นแหละคือกฎเกณฑ์ที่ไม่เปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง

Gee : ท่านต้องให้สัญญาว่าจะกลับมาก่อนที่จะครบสองปี กลับมาในที่ที่ท่านตื่นขึ้นมาครั้งแรกเพื่อทำความปรารถนาของท่านให้เป็นจริงไม่ว่าจะต้องหมุนวนสักกี่ครั้งก็ตาม

Jao : กี่ครั้งก็ได้เหรอจี้

Gee : กี่ครั้งก็ได้ ถ้าท่านทำตามสัญญา แต่ในแต่ละครั้งมันก็มีสิ่งที่ท่านต้องจ่ายเพื่อแลกเปลี่ยนกับเวลา

Jao : ก็ไม่คิดว่ามันจะง่ายนักหรอก แล้วอะไรที่กูต้องจ่ายเพื่อแลกเปลี่ยน

Gee : ท่านหาคำตอบเอาเองดีกว่าท่านเจ้า บอกไปตอนนี้ท่านก็คงไม่เข้าใจ





ในตอนนั้นผมเก็บงำความสงสัยไว้โดยไม่ตั้งคำถามเซ้าซี้ บางอย่างที่ผมต้องจ่ายเพื่อแลกเปลี่ยนกับเวลาคงไม่ใช่เงินทองของมีค่า แต่คงเป็นบางอย่างที่ผมสามารถจ่ายได้ ผมคิดแค่เท่านั้น

หลังจากที่คุยกับจี้ ในวันรุ่งขึ้นผมก็ไปพบกับคนสำคัญของผมอีกครั้งตามที่อยู่ที่ลุงชันให้ไว้และเหมือนครั้งแรกที่เหตุการณ์นี้เริ่มต้น เขาไม่รู้จักผม น้องดินของผมจำผมไม่ได้อีกเช่นเคยและผมพบว่ามันยากมากจริงๆ ที่จะทำตัวเหมือนคนที่เพิ่งรู้จักกันครั้งแรก มันยากเพราะผมคือคนที่มีความทรงจำร่วมกับเขา ในขณะที่เขาเห็นผมเป็นเพียงคนแปลกหน้า ผมอดทนต่อความเจ็บปวดได้เพียงไม่นานก็ต้องยอมรับว่าผมไม่มีทางทำให้ความปรารถนาของตัวเองเป็นจริงได้

ในครั้งแรกนั้นจบไม่สวยเลยสักนิด ผมจำได้ดีทีเดียวว่าเขาไม่ชายตามองผมเลย ธราคนที่ผมเจอนั้นมีคู่หมั้นอยู่แล้วและเขาก็รักคู่หมั้นของเขามาก เขามั่นคง ไม่ไขว้เขว แม้ผมจะหน้าด้านและพยายามเป็นมือที่สามก็ไม่ได้ช่วยให้ความสัมพันธ์ของผมกับเขาก้าวหน้า เขาเกลียดผมมากเสียด้วยซ้ำที่เข้าไปทำให้เขาและคู่หมั้นผิดใจกัน แม่ดาวเภสัชฯ คนสวยคนนั้นร้องไห้น้ำตานองหน้าทุกทีที่ผมต่อว่าเธอว่าหน้าไม่อายที่มาแย่งแฟนของผม ทั้งที่ในตอนนั้นผมถูกมองว่าเป็นผู้แอบอ้างมากกว่าจะได้เป็นตัวจริง

ตลกดีเหมือนกัน...มันเหมือนเทปที่กรอซ้ำ เนื้อหาเหมือนเดิมแต่ความเจ็บปวดของผมเพิ่มมากขึ้น มันมากกว่าครั้งเดิมหนึ่งเท่าตัว ผมจึงต้องยอมรับความพ่ายแพ้และกลับไปเริ่มใหม่ กลับไปหมุนวนเวลาที่ได้ทำผิดพลาดเพื่อให้ความปรารถนาของผมเข้าใกล้ความจริงอีกครั้ง แต่การหมุนวนในครั้งแรกไม่ได้ทำให้ผมรู้เลยสักนิดว่าผมต้องจ่ายสิ่งใดเพื่อแลกเปลี่ยนกับเวลา ผมกลับเข้าสู่วังวนเดิมแต่ครั้งนี้ธราไม่ได้มีคู่หมั้น เขาเป็นหนุ่มเพลย์บอยที่รักสนุก ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า หลับนอนกับพวกเธอคนแล้วคนเล่า โดยที่ผมทำได้แค่มองอยู่ห่างๆ ถึงอย่างนั้นเขาก็มีคนที่อยู่เคียงข้าง ดาวเภสัชฯ คนสวยคนเดิมที่เป็นแฟนตัวจริงของเขา และผมพบว่าในครั้งนี้ยากกว่าครั้งก่อนเพราะเขาตั้งท่ารังเกียจผมตั้งแต่แรกเห็น แม้จะจำผมไม่ได้ แต่ความรู้สึกเกลียดนั้นฝังอยู่ในใจของเขา ครั้งที่สองจึงเป็นอีกครั้งที่ผมซมซานกลับมายังจุดเริ่มต้น และในครั้งที่สามผมก็เริ่มรู้ตัวว่าสิ่งใดคือสิ่งแลกเปลี่ยน

ความทรงจำของผมเพิ่มมากขึ้นทุกครั้ง ความเจ็บปวดก็เพิ่มมากขึ้นตาม เพราะตัวผมไม่ได้ถูกรีเซ็ตไปพร้อมเวลา สิ่งที่ยังคงค้างนั้นสร้างความทรมานให้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ในขณะที่คนในห้วงเวลากลับไม่เหลือความทรงจำเดิม พวกเขาเริ่มต้นด้วยความทรงจำใหม่ มีชีวิตราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นใครในความสัมพันธ์ที่เคยได้สร้างความทรงจำร่วมกันต่างก็ลืมเลือนผมกันทุกคน มีแค่ความรู้สึกเพียงน้อยนิดเท่านั้นที่ยังคงติดค้างอยู่กับพวกเขา แต่ยกเว้นธรา คนสำคัญของผม ทุกครั้งที่ถูกรีเซ็ตสิ่งที่ยังคงเดิมสำหรับเขาก็คือความรู้สึกเกลียดที่มีต่อผม ไม่ว่าจะเริ่มต้นสักกี่ครั้ง ความปรารถนาของผมก็ไม่เคยเข้าใกล้ความจริง

ในจำนวนการรีเซ็ตทั้งหมดเก้าสิบเก้าครั้ง ไม่มีครั้งไหนที่เขาเลือกผมแม้สักครั้งเดียว ผมไม่เคยมีตัวตนอยู่ในความทรงจำ ไม่มีสิทธิ์แม้จะได้อยู่ในสายตา ธราที่แตกต่างกันในแต่ละครั้งต่างก็เลือกที่จะหันหลังให้ผม





Gee : ท่านเจ้า ยอมรับความจริงได้หรือยังท่าน





จี้มักจะถามคำถามนี้กับผมเมื่อเวลาหมุนย้อนกลับ แต่ผมตอบปฏิเสธทุกครั้ง ความปรารถนาของผมยังไม่เปลี่ยน ผมจึงไม่สามารถยอมรับได้ จะกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง การที่ไม่ใช่คนที่ถูกรักก็เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ยากเหลือเกิน





Jao : กูยังไหวน่า มันไม่เจ็บไปมากกว่านี้แล้วล่ะจี้

Gee : รู้ แต่พอเถอะนะท่าน ยอมรับได้แล้ว อย่าทรมานไปมากกว่านี้เลย

Gee : ท่านไม่ได้ยิ้มมานานเท่าไรแล้วนะท่านเจ้า





ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17

ความเจ็บปวดทรมานน่ะกลายเป็นเพื่อนของผม ทุกการรีเซ็ตนั้นความเจ็บปวดจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ความทรมานจะอยู่กับผมเพราะผมต้องตายในห้วงเวลาถึงจะกลับไปเริ่มใหม่ นั่นคือสิ่งแลกเปลี่ยนที่ผมต้องจ่ายไป

ไม่มีสิ่งใดง่ายดายแต่ผมก็ยอมรับเพราะผมดื้อดึงเอง นอกจากผมที่จะต้องติดอยู่ในวังวนนี้แล้ว จี้ก็คงไม่ต่าง ผมไม่รู้ความปรารถนาของจี้แต่ก็เดาได้ไม่ยากนัก เพราะฉะนั้นผมจึงหยุดไม่ได้จนกว่าที่จะหลุดพ้นแม้จะอยากหยุดมันมากแค่ไหนก็ตาม ลำพังตัวผมน่ะไม่เป็นไรแต่ผมอยากให้จี้เป็นอิสระสักที

แต่นั่นก็เป็นแค่ความคิดในตอนที่รีเซ็ตครั้งที่ห้าสิบเก้า เพราะหลังจากนั้นความคิดของผมก็เปลี่ยน จำนวนครั้งที่มากขึ้นทำให้ตัวตนในฐานะมนุษย์ของผมหายไป ความรู้สึกพื้นฐานที่ทำให้มนุษย์ยังคงเป็นมนุษย์ถูกปิดกั้น ทำให้ในการรีเซ็ตครั้งที่เก้าสิบเก้านั้นจบลงอย่างรวดเร็วด้วยเวลาเพียงไม่นาน ผมพ่ายแพ้โดยที่ไม่ทันได้เริ่มอย่างจริงจังด้วยซ้ำ แต่ก็หนีไปไหนไม่ได้ ผมรู้ว่าต่อให้ผมตายในห้วงเวลานี้ก็ยังต้องเริ่มใหม่ ผมต้องกลับไปยังจุดเดิม กลับไปเป็นคนที่ถูกคนที่ผมผูกพันลืมจนหมดสิ้น ในขณะที่ทุกคนกำลังมีความสุขมีแต่เพียงตัวผมที่เข้าไม่ถึงความรู้สึกนั้น

และในครั้งที่หนึ่งร้อยผมตั้งใจว่าจะไม่หมุนวนเวลาอีก การตัดสินใจนี้ไม่ได้ยาก แต่ผมไม่ได้บอกจี้ถึงเรื่องที่ผมตัดสินใจ ผมยอมรับความพ่ายแพ้ ผมจ่ายสิ่งแลกเปลี่ยนไม่ไหวอีกต่อไป ผมเอาแต่คิดว่ามาจนถึงตอนนี้จะอยู่หรือตายก็คงทรมานไม่ต่างกันนัก เพียงแต่หลังจากที่ความตายมาถึงผมจะกลับไปแก้ไขอะไรอีกไม่ได้แล้ว การยอมรับคงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ต่อให้จะรู้สึกติดค้างก็คงไม่เจ็บปวดไปมากกว่าเดิม

ผมเริ่มครั้งที่หนึ่งร้อยด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง แต่ธราในครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เขาเหมือนธราที่รวมตัวตนในหลายๆ ครั้งเข้าด้วยกัน มีความหลากหลายทางความรู้สึกมากพอที่จะสับสนกับการกระทำของผมที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะทำให้เขาไขว้เขวได้ ธราคนนี้น่ะไม่ใกล้เคียงกับน้องดินของผมเลย อาจจะมีบางส่วนที่คล้ายแต่ก็เพียงน้อยนิด ไม่มากไปกว่านั้น

ที่จริงผมก็ไม่เคยสังเกตเลยสักครั้งว่าแต่ละครั้งที่ผ่านมาธราเป็นอย่างไร เขาอาจจะเปลี่ยนแปลงมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน อาจจะมีความชอบหรือความเกลียดสิ่งใหม่เกิดขึ้น อาจจะมีสิ่งปรุงแต่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากเดิม แต่ผมก็ไม่เคยรู้ เพราะผมเอาแต่คิดถึงแค่ความรู้สึกของตัวเองและเฝ้าแต่ตามหาน้องดินในความทรงจำ ผมไม่เคยยอมรับธราที่สูญเสียความทรงจำเลยสักครั้ง ซึ่งมันทำให้ผมพบเหตุแห่งความทุกข์ของตัวเอง เหตุที่พรากเอาความสุขของผมไป

เหตุนั้นน่ะคือตัวผม ความทุกข์ทั้งหมดเกิดจากความคิดของผม เพราะผมไม่ยอมปล่อย ผมเอาแต่ยึดติดโดยไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลง กฎเกณฑ์ของการไม่เปลี่ยนแปลงที่เคยเข้าใจก็ไม่ได้มีอยู่จริง มันไม่เคยมีอยู่แม้แต่ในห้วงเวลาของผม

ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลา นี่ต่างหากคือกฎเกณฑ์ของมัน

“นั่งคิดอะไรอยู่ คุยด้วยก็ไม่หือไม่อือ” ธราถาม น้ำเสียงของเขาแฝงความหงุดหงิดซึ่งทำให้ผมหลุดจากความคิดแล้วหันไปมองเขาที่กำลังนอนกระดิกเท้าอยู่บนโซฟาอีกตัว

“คิดเรื่อยเปื่อยครับ” ผมให้คำตอบพลางคลี่ยิ้มให้เขา คนขี้หงุดหงิดจึงทำเพียงเลิกคิ้วมองมา ความสงสัยเต็มแน่นอยู่ในแววตาแต่เขากลับไม่ยอมตั้งคำถาม ผมรู้ดีทีเดียวว่าเขารู้ในหลายๆ เรื่องที่เกิดความผิดปกติขึ้น เพราะห้วงเวลาของผมสิ้นสุดลง เวลาไม่หมุนย้อนกลับแต่มันเดินต่อไปยังจุดสิ้นสุด เดินเข้าใกล้ความเป็นจริงที่ผมหลบหนีมา ทำให้คนที่หลุดจากห้วงเวลาต่างต้องกลับไปในเวลาของตัวเอง บางคนไม่รู้และก็ไปทั้งไม่รู้ แต่บางคนที่รู้ ต่อให้อยากอยู่ต่อแต่ก็ต้องไปอยู่ดี ไม่มีใครเป็นข้อยกเว้น แม้แต่ตัวผมก็ไม่อาจอยู่ที่นี่ต่อได้

ทุกคนต้องกลับไปในห้วงเวลาของตัวเอง

“หยุดคิดเรื่องไร้สาระ แล้วมาคิดกันดีกว่าว่าวันนี้จะทำอะไร” เขาว่าแล้วผุดลุกขึ้นนั่ง “ทะเลอยู่ใกล้ๆ อย่างนี้ หาเรื่องโรแมนติกทำกันมั้ย”

แววตาของเขาซุกซน ดูก็รู้ว่าคิดเรื่องอย่างว่า ธราคนนี้น่ะนอกจากจะปากแข็ง ขี้หงุดหงิดและเอาแต่ใจแล้ว เขายังชอบ...อืม นั่นแหละ ดุมากด้วย

“ที่ระเบียงก็พอ อย่าคิดทำในน้ำเลย” ผมดักทางอย่างรู้ความคิด น้ำทะเลน่ะทั้งเค็มทั้งสกปรก ให้ทำเรื่องอย่างว่าในที่แปลกๆ แบบนั้นผมเลือกความแปลกใหม่ที่ระเบียงเสียดีกว่า

“อะไร ทำอะไร” เขาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แถมยังโยนมาให้ผมอีก “ทะลึ่งแล้วเจ้า ใครคิดจะทำเรื่องอย่างว่าในน้ำ”

“คุณไง”

“ก็คือใส่ร้ายกันแบบนี้ โดนสักทีน่าจะดี”

ผมส่ายหน้าระอา รู้สึกว่าการอยู่กับเขาสองคนในที่ลับตาคนนั้นไม่เคยได้อยู่ในสภาพเสื้อผ้าครบถ้วนนานๆ เลย “พอก่อน ขย่มให้ไม่ไหวแล้ว”

“งั้นไปเดินเล่น” เขาเสนอ ก่อนยิ้มร้ายเมื่อพูด “เห็นเตียงเห็นโซฟาแล้วอยากจับมึงกดทุกที”

“แต่แดดร้อนอยู่เลย รอเย็นๆ ดีมั้ย”

“แล้วตอนนี้ให้ทำไร”

“นอน”

“เปลือยปะ”

“พ๊อออ”

“ฮ่าๆ ๆ”

ได้ยินเสียงหัวเราะของเขาแล้ว ผมก็ไม่คิดหรอกว่าจะมีวันนี้ ผมรู้สึกว่าตัวเองต่อสู้มาอย่างยาวนาน ต่อสู้โดยไม่คาดคิดว่าจะได้สิ่งที่ปรารถนามาครอบครอง ถ้าครั้งนี้ผมกลับไปหมุนวนเวลาอีกครั้งผมก็ไม่รู้ว่าจะได้เห็นเขายิ้มในครั้งหน้าไหม ในครั้งต่อไปเราจะได้มีความสุขด้วยกันอย่างนี้หรือเปล่า มันอาจจะล้มเหลวเหมือนแต่ละครั้งที่ผ่านมาก็ได้ ด้วยเหตุนั้นผมจึงไม่รู้สึกเสียใจเลยที่ตัดสินใจแบบนี้ เพราะผมคิดจริงๆ ว่าในครั้งนี้ผมยอมรับได้แม้ว่าเขาจะเลือกหรือไม่เลือกผมก็ตาม

“นอนตักนะ” ไม่ใช่คำขออนุญาตแต่คงเป็นแค่คำบอกเล่า เพราะเมื่อเขาพูด เขาก็ย้ายตัวเองมานอนหนุนตักผมทันที “ว่าแต่ทำไมต้องกลับมาที่นี่ เราไปฉลองวันเกิดมึงที่อื่นก็ได้ ต่างจังหวัดที่อากาศดีๆ หรือต่างประเทศก็เข้าท่า บอกตามตรงว่ากูไม่ค่อยชอบทะเลเท่าไร ไม่อยากกลับมาที่นี่ด้วย”

“อยากฉลองที่ห้องของเราน่ะครับ” ผมให้เหตุผลง่ายๆ เพราะไม่ได้มีเรื่องซับซ้อนอะไร ผมพาเขากลับมาก็เพราะอยากใช้เวลาอยู่กับเขาที่ห้องแห่งความทรงจำของเราจนถึงวินาทีสุดท้าย อย่างน้อยก็อยากจะเปลี่ยนความทรมานที่เคยเกิดขึ้นที่นี่ให้เป็นความสุขเมื่อนึกถึง “อดทนหน่อยนะ อยู่แค่อีกไม่นาน”

“แล้วเราจะฉลองสองคนเหรอ” เขาถามพลางขยับตัวจัดท่านอน คงพยายามหาท่าที่สบายอยู่ แต่เพราะเขาตัวใหญ่ โซฟานี้จึงไม่ค่อยเอื้อต่อการนอนนัก “เพื่อนมึงจะมามั้ย วิน บินแล้วก็...อืม คนนั้นแหละ”

“ไม่เอ่ยชื่อเขาล่ะ” ผมยิ้มอย่างรู้ทันความคิดของเขา ธราน่ะตั้งแง่กับจี้ ทั้งที่ธราคนก่อนสนิทกับจี้มาก แต่ธราคนนี้กลับทำหน้าเหม็นเบื่อทุกครั้งที่เอ่ยถึง

“ไม่ชอบ” เขาบอกหลังจากนั้นแล้วหลับตาลง “มึงก็ห้ามชอบนะ”

“เอาแต่ใจจัง”

“เอาอย่างอื่นก็เก่ง”

“แหนะ”

ได้ยินเขาทำเสียงในลำคอก่อนจะเงียบไป พอก้มมองก็เห็นว่าเขาลืมตาขึ้นจ้องผมอยู่แล้ว เมื่อสบตากันก็เห็นเพียงความเจ้าเล่ห์ที่ไม่เคยได้เห็นจากน้องดิน แต่จากธราคนนี้น่ะผมเห็นบ่อยเหลือเกิน

“ตกลงพวกนั้นมามั้ย”

“ไม่มาครับ แค่เราสองคน”

“อือ ก็ดี แต่มึงโอเคนะ แบบว่าที่จริงควรมีเพื่อนอยู่ด้วยมั้ยวะ วันเกิดทั้งที”

ผมส่ายหน้า “ถ้ามีคุณ เจ้าก็ไม่ต้องการคนอื่นหรอก”

“อย่าให้ชีวิตมึงมีแค่กูสิเจ้า” น้ำเสียงของเขาจริงจัง คิ้วก็ขมวดไปด้วยเมื่อพูด “มึงมีเพื่อน มีครอบครัว มีคนที่เขารักมึงอยู่อีกเยอะ อย่าให้คนคนเดียวกลายเป็นโลกทั้งใบของมึงเลย”

“คุณโตขึ้นมากเลยนะ” ถ้าเป็นธราคนก่อนคงไม่พูดอย่างนี้ “ถ้าไม่มีผมคงอยู่ได้ใช่ไหม”

“ไม่รู้หรอก ใครจะไปรู้อนาคต”

“นั่นสิ คนเราก็รู้แค่เรื่องที่ผ่านมาในอดีตเท่านั้น”

“อืม รู้ทั้งที่ไม่อยากรู้ จำทั้งที่ไม่อยากจำ”

ธราคนนี้มีความน่ากลัวบางอย่างที่ผมก็อธิบายไม่ได้ เป็นความไม่สบายใจลึกๆ ที่ยิ่งชัดเจนขึ้นในความรู้สึก อาจเพราะเขาไม่พูดสิ่งที่อยู่ในใจ เขาทำเหมือนไม่รู้ทั้งที่เขารู้ เขาไม่ตั้งคำถามเพื่อคำตอบที่เขาต้องการ แต่กลับบิดเบือนมันจนทำให้เรื่องโกหกที่เขาสร้างขึ้นกลายเป็นความจริง

“เจ้า” น้ำเสียงของธราเรียบเรื่อย ในขณะที่เขาลืมตาขึ้นมองผม “ตายด้วยกันมั้ย”

ผมเลิกคิ้วเล็กน้อย หัวใจกระตุกวูบไปกับคำถามของเขา “นี่คือเรื่องโรแมนติกที่คุณอยากทำเร้อ”

“แล้วไม่โรแมนติกเหรอวะ” เขาย้อนถามพลางเผยรอยยิ้ม “จะได้อยู่ด้วยกันตลอดไปเลยไง”

“แน่ใจเหรอว่าเราจะได้อยู่ด้วยกัน ถ้าเกิดตายขึ้นมาจริงๆ เราอาจจะไปคนละทิศคนละทางก็ได้”

“แน่ใจสิ” แววตาของเขาจริงจังจนผมนึกหวั่น “ใครก็แยกเราไม่ได้หรอก”

ผมยกมือขึ้นลูบแก้มของเขาเบาๆ ในขณะที่เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วยกมือขึ้นมาทาบบนหลังมือของผมไว้ “อย่าเลยครับ ถ้าจะมีใครตายจริงๆ แค่เจ้าคนเดียวก็พอแล้ว คุณน่ะใช้ชีวิตต่อไปให้มีความสุข จะแต่งงานก็ได้ มีลูกน่ารักๆ เผื่อว่าเจ้าจะได้ไปเกิดเป็นลูกคุณ หรือถ้าจะไม่แต่งงานก็มีความรักดีๆ อยู่กับคนดีๆ ที่เขาเป็นความสุขให้คุณได้”

“สั่งเสียยาวเลยนะ จะตายแล้วหรือไง”

“ก็...เผื่อไว้”

“งั้นกูสั่งเสียบ้างได้มั้ย”

ผมขมวดคิ้วใส่เขา แม้เขาจะไม่เห็นก็ตาม “ไม่ต้องหรอก คุณยังมีเวลาอีกนาน”

“กูรักมึง” แต่เขาไม่ฟังเลย อยู่ๆ ก็พูดขึ้นมา “นั่นแหละคำสั่งเสียของกู”

จู่ๆ ที่กลางอกของผมก็ปวดแปลบอย่างฉับพลัน ผมเผลอดึงมือออกจากการเกาะกุมของเขาแล้วยกขึ้นทาบกลางอก รู้สึกหายใจติดขัดเมื่อมองสบตากับเขาที่ลืมตาขึ้นจ้องมอง

“ไม่ใช่แค่กูที่ลืมหรอกเจ้า”

แววตาของเขาเต็มไปด้วยความทรมาน

“มึงก็ลืมเหมือนกัน”

ริมฝีปากของเขาเผยรอยยิ้มเมื่อพูดจบ

“มึงมีเวลาของมึง”

เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด

“กูก็มีเวลาของกู”

น้ำเสียงของเขาก็ไม่ต่างกัน

“ความปรารถนาของกูคือไม่อยากให้มึงตาย”

เป็นน้ำเสียงที่เอาแต่พูดถึงความปรารถนาที่เหมือนดังก้องอยู่ในหัวของผม

“ขอโทษนะ ที่ทำให้ต้องทรมาน”

นั่นน่ะหมายถึงเรื่องอะไร

“แต่ถ้าความปรารถนาของมึงเป็นจริง เราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน”

แล้วทำไมถึงรู้เรื่องนี้

“เข้าใจมั้ยว่าทำไมกูถึงต้องเกลียดมึงในแต่ละครั้งที่ผ่านมา”

ผมไม่เข้าใจเลย

“ทั้งที่กูรักมึงมาตลอด รักจนยกให้มึงเป็นโลกทั้งใบ”

ผมไม่เคยเข้าใจว่าทำไมตัวผมถึงได้รับอภิสิทธิ์ให้มีทางเลือกก่อนที่ความตายจะเดินทางมาถึง ผมคิดแค่ว่าเป็นเพราะผมยังคงติดค้างกับสิ่งที่ยังปรารถนาให้มันเป็นความจริง ความปรารถนานี้อาจจะรุนแรงจนทำให้เกิดห้วงเวลา ทว่ามันคงไม่เป็นอย่างนั้นเสียทีเดียว คงมีความปรารถนาที่แรงกล้ากว่าความปรารถนาของผมจนทำให้เกิดห้วงเวลาที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี้

“ทำไมทำอย่างนี้น้องดิน”

คำตอบของเขามีเพียงรอยยิ้มและความเงียบ

“จี้รู้เรื่องด้วยหรือเปล่า” แม้จะรู้คำตอบดีแต่ผมก็ยังตั้งคำถาม ทั้งที่ก็คาดเดาความปรารถนาของจี้ได้ตั้งแต่แรก ทว่าไม่เคยคิดว่าจะเป็นแบบนี้

“เรามีความปรารถนาเหมือนกัน แต่เราต่างวิธีการ”

ผมพูดแทบไม่ออก กว่าจะเค้นเสียงออกมาได้ก็ต้องใช้ความพยายามอยู่หลายนาที “รู้มั้ยว่าพี่ทรมาน”

รับรู้หรือเปล่าว่าผมผ่านความเจ็บปวดมามากแค่ไหน ผมอดทนอยู่กับมันมานานเท่าไร กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ผมอยากจะหลุดพ้นแต่ผมกลับไปไหนไม่ได้

“รู้” เขาตอบเสียงหนักแน่น แววตาเต็มไปด้วยคำขอโทษ ทว่าไม่มีแววของความรู้สึกผิด ราวกับเขายืนกรานการกระทำของตัวเองว่าไม่ใช่ความผิดพลาด หากแต่เป็นความตั้งใจที่ผ่านการไตร่ตรองมาอย่างถี่ถ้วน “แต่เราเสียพี่ไปไม่ได้”

“น้องดิน” ผมเค้นเสียง อยากดุเขา อยากจับตัวเขาเขย่าแล้วตะคอกใส่ดังๆ แต่รอยแผลเป็นที่กลางอกปวดมากขึ้นเรื่อยๆ มันปวดแสบปวดร้อนราวกับกระสุนนัดนั้นชำแรกผิวเนื้อเข้ามาทีละนิด

“พี่เป็นเจ้าชีวิตของพวกเราและสำหรับผมพี่เป็นมากกว่านั้น พี่เป็นอีกครึ่งชีวิต ถ้าไม่มีพี่แล้วผมจะอยู่ยังไง”

ผมเจ็บ

“ผมนึกเสียใจมาตลอดว่าถ้าตอนนั้นผมจำพี่ได้ เรื่องเลวร้ายก็คงไม่เกิดขึ้น เราคงมีความสุขด้วยกันไปแล้ว”

ทั้งเจ็บทั้งทรมาน

“แต่ถ้าครั้งนี้มันจะเป็นครั้งสุดท้าย ผมก็ยอมรับเหมือนที่พี่ยอมรับ”

แววตาที่มองสบมาทำให้ผมรู้ว่าธราคนก่อนกับธราคนนี้ แท้จริงแล้ว...ก็เป็นคนคนเดียวกัน

เป็นธราที่แสนเอาแต่ใจ

.

.

D. : โดนเกลียดแล้วแน่นอนว่ะจี้

Gee : ต้องปลอบมั้ยไอ้ห่า

D. : สักนิดก็ดี

Gee : เออ ท่านไม่เกลียดมึงหรอก ถ้าเกลียดมึงได้คงเกลียดไปนานแล้ว

D. : อืม ดีขึ้นเยอะ

D. : จี้

Gee : อะไร

D. : มึงทรมานมั้ยวะ

Gee : ไม่มากเท่าท่านหรอก มึงล่ะ

D. : กูจำอะไรไม่ได้ จะทรมานได้ไง

Gee : อย่าหลอกตัวเอง

D. : :)

Gee : ครั้งสุดท้ายแล้วนะ คงไม่ได้เจอกันแล้วนะมึง

D. : อืม ขอบคุณ

Gee : เหมือนกัน

Gee : แล้วก็ขอโทษนะเว้ย

D. : เออ ไม่เป็นไร



......................TBC.......................



ขอให้มีความสุขในทุกเส้นทางที่ชีวิตเดินไป

ออฟไลน์ เนเน่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
รักนิยายเรื่องนี้มากๆค่ะ ต่อให้จบไม่สมหวังเราก็ทำใจไว้แล้ว ขอบคุณจริงๆค่ะ

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
อะไรอีกจ๊ะเนี่ย
ซ้อนในซ้อน น้องเอ๋พี่ขอกาวหน่อยย

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ตั้งสติก่อนอ่านทวน

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
 :z3: :z3: :z3: ยังไงอ้ะ ไม่เคลียร์น้องดินนน คือที่ผ่านมาละ แกล้งจำไม่ได้มาตลอดหรอ

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
โอ๊ยพีค ไม่เป็นไร ตับพี่ยังไหว น้องๆจัดมาได้เลยพี่พร้อม

ออฟไลน์ Zestful

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คนที่ยิงตัวตายตามเจ้าในโลกจริงคือดินเหรออออ อมกกกกกกกก จะตายคู่เหรอ ฮือออออออ ถ้าจริงก็ขอให้ได้รักกัน อยู่ด้วยกันในที่ใดที่นึงนะ พี่เจ้าน้องดิน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Justccwpo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เศร้าจังงื้ออออ

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
เอาเข้าไป ไปให้สุดใจ เจ็บให้ลึก ปวดใจสุดๆ แต่พี่ยังไหวสู้ไปกับเจ้า :m8: :m8:

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
รับไม่ไหว
ตายไปด้วยกันดีกว่าค่ะ
 :ling3:

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ค้างงงงงงง :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3

ออฟไลน์ Gugii

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อ่านทวนแล้วทวนอีก  :hao5:

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
จะหนีไปตายไปกับเจ้าละเนี๊ยะ. ทรมาน สงสาร,,,

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
นับถือคนเขียนมากค่ะ เขียนได้ซับซ้อนมาก แต่ในความงงนั้นมันมีเสน่ห์ที่ยังต้องให้ติดตามต่ออยู่ มันทิ้งไปไม่ได้จริงๆ   ใกล้แล้วค่ะทุกคน (เราคิดว่างั้นนะ) มารอบทสรุปไปด้วยกัน ฮึบๆๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด