'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End  (อ่าน 177068 ครั้ง)

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อ่านไปงงไปนะ แต่มันก็หยุดไม่ได้เหมือนกัน  :pig4:

ออฟไลน์ มนุษย์สาววาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เราเดาคนที่ตายนะ อาจจะมี เจ้า เอ๋ จี้ ไม่รู้นะเดาก่อน


เราว่าเรื่องที่เกิดขึ้นอะ  ทุกคนยังใช้ชัวิตประจำวันกันปกติ แต่แค่มีเรื่องราวของเจ้าเข้ามาแทรกเวลาในชีวิตประจำวันด้วย (งงกันไหม)(แต่เวลาของเจ้าก็จะเป็นเวลานึงที่ไม่ใช่เวลาปัจจุบัน) เหมือนแบบว่าตัวตนจริงๆอะ ใช้ชีวิตและเวลาทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ แต่พอมีเรื่องของเจ้าแทรกเข้ามา มันเลยเหมือนทำอะไรหรือเจอเหตุการณ์อะไรๆ2อย่างพร้อมกันอะ 

แต่พอวันนึง วันที่เจ้าหายไป ทุกคนก็ยังใช้ชีวิตประจำวันปกติ แต่จำเวลาของเจ้าที่แทรกเข้ามาไม่ได้ แต่จะมีความรู้สึกคุ้นเหมือนเคยทำ หรือเหมือนเคยเจออะไรแบบนี้มาแล้วอะ

ยกตัวอย่างเช่น

สมมุติว่า บีเคยแชตคุยกับเอ๋ (สมมุติเอ๋เป็นช่วงเวลาที่เข้ามาแรกในปัจจุบัน) (แต่พอวันนึงเวลาหรือเหตุกาณ์ที่มาแทรกปัจจบันได้หายไป) บีก็คงใช้ชีวิตปกคิ แต่จะมีความรู้สึกคุ้นว่าเหมือนเคยแชตคุยกับคนชื่อเอ๋ แต่จำไม่ได้ว่าเอ๋คือใคร ทั้งๆที่ในชีวิตประจำวันไม่เคยเจอหรือรู้จักกัน

เราก็ยังเดาว่าอาจจะเจอช่วงเวลาใดเวลานึงเข้ามาแทรก แต่พอหายไป ทุกอย่างก็ดำเนินไปปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ปล.ขอบคุณนะคะคนเขียน สนุกมากค่ะ เสียน้ำตาไปเยอะมาก เราชอบแนวสายดราม่าด้วย เป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ย้อนเวลากลับมาแก้ไขอดีตเหรอ
แบบดึงเอาคนที่เกี่ยวข้องเข้ามาอยู่ในห้วงเวลาเดียวกัน
หรือแบบไหนกันนะ  :ling2:

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
บีจะทักแชทหาหมอแพร์แต่ดันทักผิดมาหาหมอดินซะงั้น ความลับแตกแน่ๆ :a5:

ออฟไลน์ ANIKI.

  • 兄貴
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
โอ๊ยยยย น้องเอ๋ ยิงตัวตายตามพี่เจ้าเหรอ?  แล้วน้องเอ๋อ่ะนะจะยิงพี่เจ้าก่อน เราไม่เชื่ออออ  ม่ายยยย  :hao7:  พี่เจ้าาา พี่ทำให้กาวขาดตลาด ใครกักตุนกาวไว้ ปล่อยมาค่ะ พวกเราต้องการ พวกเราต้องได้ไปถึงบทสรุปพร้อมๆกัน  :hao5:

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
ตอนที่ 20 แล้วพบกันใหม่





Gee : อีกไม่กี่วันแล้วนะท่าน

OMG : รู้

Gee : ท่านกำลังเสียใจใช่มั้ย

OMG : น้อยกว่าที่มีความสุข

Gee : แต่ท่านกำลังร้องไห้

Gee : สุดท้ายแล้วทางที่ท่านเลือกก็ยังทำให้ท่านเจ็บปวดอยู่ดี

OMG : ตอนนี้มันดีที่สุดแล้วจี้ อย่างที่มึงบอกกูเห็นแก่ตัวมามากเกินไปแล้ว

Gee : ท่านยอมรับแค่คำพูด แต่สุดท้ายในใจของท่านก็ยังปรารถนาที่จะให้พวกเขาอยู่กับท่านต่อ

Gee : เพื่อนของท่านคนนั้นต้องกลับไปในที่ของเขาแล้ว กาลเวลาเริ่มหมุนแล้วท่านเจ้า เขาจะลืมท่าน ทุกคนที่เคยอยู่ที่นี่จะลืมว่าเคยรู้จักเจ้า จักรพรรดิในห้วงเวลานี้

OMG : ดินต้องไปเมื่อไหร่

Gee : เขาจะไปเป็นคนสุดท้าย เขาจะอยู่กับท่านจนถึงเที่ยงคืนก่อนวันสุดท้ายของท่านจะมาถึง

OMG : จี้

OMG : ที่ที่มึงอยู่ในตอนนี้ น่ากลัวมากมั้ย

Gee : ไม่มีที่ใดน่ากลัวเท่ากับจิตใจของมนุษย์หรอกท่าน :)

OMG : ดินจะลืมใช่มั้ย

OMG : ต่อให้กูต้องตาย เขาก็จะไม่เจ็บปวดใช่หรือเปล่า

Gee : ใช่ เขาจะกลับไปเป็นดิน ธราคนที่ไม่เหลือความทรงจำเกี่ยวกับท่านเจ้าของเขา

Gee : เขาจะกลับไปเป็นดิน ธราที่เกลียดเจ้า จักรพรรดิที่ตามตื้อเขา

Gee : เขาจะแต่งงานกับคู่หมั้นของเขาและมีความสุขด้วยกัน มีลูกที่น่ารัก มีครอบครัวที่ดีอย่างที่ท่านหวัง

Gee : หรือในอีกทาง เขาจะกลับไปเป็นคนรักของคนที่ท่านเกลียดท่านเจ้า

Gee : ไม่ว่าทางไหนในที่แห่งนั้น ท่านก็ไม่ใช่คนที่เขาเลือก อย่าห่วงไปเลย

OMG : ก็ดีแล้ว

OMG : ขอบคุณนะจี้ที่ให้ความทรงจำสุดท้ายของกูมีแต่ความสุข

OMG : ให้เขาได้กลับมาหากู

OMG : ให้กูได้รู้สึกถึงความรักของเขาก่อนที่จะหายไป

Gee : มันเป็นหน้าที่

Gee : ของคนที่รักท่าน

Gee : และเป็นการขอโทษ

Gee : จากคนที่ทำผิดต่อท่าน

OMG : กูไม่เคยโทษว่าเป็นความผิดของมึงสักครั้ง

OMG : ที่บอกว่ามึงเป็นเรื่องดีๆ ในชีวิตของกู

OMG : จนถึงตอนนี้ก็ยังเป็น

Gee : ขอโทษ อย่าร้องไห้เลยนะท่านเจ้า

Gee : ท่านไม่เหมาะกับความเสียใจหรอก

OMG : จี้ แล้วแม่จะเสียใจมั้ย

Gee : หัวใจของนายหญิงคงแตกสลาย

OMG : งั้นเหรอ แปลกดี

Gee : นายหญิงรักท่านเจ้า ไม่มีความรักของใครจะเทียบเท่าหรอกท่าน

OMG : ไม่หรอกจี้

OMG : ถ้าแม่รักกูก็คงไม่เป็นแบบนี้ แต่กูคงทำให้แม่เสียใจมามากแล้ว

Gee : อย่ามีห่วงอีกเลยท่านเจ้า อย่าคิดกังวลถึงเรื่องใด ถึงเวลาที่ต้องจากจะได้ไม่ติดค้างกัน

OMG : อืม หวังว่ากูจะทำได้นะจี้

.

.

“มาแต่เช้าเลยนายเจ้า” ไอ้เอ๋เพิ่งตื่นนอน มันนั่งหัวฟูอยู่บนเตียงก่อนจะทักทายเพื่อนซี้ที่กำลังถือฝักบัวรดน้ำดอกทานตะวันให้ พอเหลือบมองนาฬิกาก็ตาเหลือก คำว่าเช้าที่คิดอยู่ในหัวหายวับไปกับตาเมื่อนาฬิกาปลุกข้างเตียงบอกเวลาเก้าโมงสิบนาที “ขอโทษที่ผมตื่นสาย เมื่อคืนผมนอนแทบไม่หลับ คิดว่าจะโต้รุ่งแล้วไปเที่ยวกับนายเลย แต่พอได้คุยกับนายแล้วผมง่วงมากๆ ผล็อยหลับไปตอนไหนไม่รู้” แก้ตัวยืดยาวแล้วก็บิดขี้เกียจซ้ายทีขวาที ริมฝีปากก็อ้ากว้าง หาวหวอดด้วยความง่วงงุน

“นายนอนต่ออีกสักนิดเถอะเพื่อน” ไอ้เจ้าวางบัวรดน้ำแล้วหันมอง “ผมอาจจะมาเร็วไปหน่อย”

“ไม่ๆ ผมจะลุกไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้” ท่าทางของไอ้เอ๋กระปี้กระเป่าขึ้นมาทันที “เรานัดกันเก้าโมงแต่ผมกลับสายซะเอง ใช้ไม่ได้ แม่จ๋าจะต้องร้องไห้กับความเหลวไหลของผม”

“ไม่ต้องรีบเอ๋ เดี๋ยวก็ล้ม แม่จ๋าของนายให้อภัยนายเสมอนั่นแหละเพื่อน” ไอ้เจ้าเตือน เห็นไอ้คนซุ่มซ่ามมันผลีผลามแล้วก็อดห่วงไม่ได้ “ผมรอได้ ที่เที่ยวของเราก็รอได้เหมือนกัน”

“เอ้อ จริงด้วย” คนหัวฟูทำท่าคิดออก “นายเป็นคนเลือกสถานที่นี่นา ตกลงเราจะไปไหนกันเรอะ”

“ไปใช้ชีวิตวัยรุ่นกัน” แววตาของไอ้เจ้าเต็มไปด้วยความซุกซน “นายบอกไม่ใช่เหรอว่าไม่เคยได้เที่ยวเล่นเลยเพราะไม่ค่อยมีเพื่อน นี่ไง ผมเป็นเพื่อนคนแรกที่จะไปเที่ยวกับนายเอง”

“เพื่อนรัก” ไอ้เอ๋น้ำตาคลอ ทำหน้าซาบซึ้งใหญ่โต “นายไม่ได้ล้อหลอกผมนะ”

“ไม่หรอก เรื่องเดียวที่ผมจะโกหกคือนายสำคัญมากกว่าธรา”

“คำว่ามิตรภาพของนายนี่ชัดเจนเสมอต้นเสมอปลาย”

ไอ้เจ้าหัวเราะกับสีหน้าบูดบึ้งของไอ้เอ๋ “ผมมันคนมั่นคงต่อความรู้สึก” ว่าแล้วก็โบกมือไล่ไอ้เอ๋ “ไปๆ ไปอาบน้ำ ผมรอ นี่ซื้อน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋มาด้วยนะ ถ้านายช้า ผมกินคนเดียวหมดแน่”

“คำว่าแบ่งปันอะนาย”

“ไม่มีในพจนานุกรมของผมหรอก”

“จำว้ายยย”

“ฮ่าๆ ๆ”

ไอ้เอ๋สะบัดตูดเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว เหลือทิ้งไว้แต่เพียงไอ้เจ้าที่กำลังมองสำรวจรอบห้องพัก ดวงตาเรียวกวาดมองตรงมุมนั้นมุมนี้ โต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กที่ไอ้เอ๋มักจะใช้กินข้าวและนั่งทำงานวางอยู่กลางห้อง ไม่ได้ถูกพับเก็บเป็นที่เป็นทาง ทั้งที่มีมุมทำงานให้อยู่แล้ว โต๊ะและเก้าอี้ครบพร้อมแต่กลับใช้มุมนั้นวางของจิปาถะ เอกสารการเรียน กางเกงที่ใส่แล้วและอะไรก็ตามที่อยากวางจนดูรกรุงรัง บางทีก็มีกระทะไฟฟ้าที่มักจะใช้ต้มมาม่ากินกลางดึกวางอยู่บนนั้นด้วยแต่ตอนนี้เจ้ากระทะนั้นวางอยู่ที่ระเบียง ไม่รู้ว่าไอ้เอ๋เอาออกไปทำอะไรกันแน่ เพราะบางทีเจ้าหมอนั่นก็ชอบทำอะไรแผลงๆ แต่จะว่าอะไรมันได้ในเมื่อไม่ได้ส่งผลกระทบต่อใคร

ใบหน้าคมคายระบายยิ้มเมื่อไม่ว่าจะมองไปมุมไหนก็มีแต่ความทรงจำที่น่าจดจำ มิตรภาพนั้นสวยงามเหมือนดอกไม้สีสวยที่กำลังผลิบาน ทว่าในตอนนี้ดอกไม้ดอกนั้นกำลังร่วงโรยไปตามกาลเวลาของมัน

ผมคงได้มาเป็นครั้งสุดท้ายแล้วสินะ ต้องคิดถึงนายมากๆ แน่เลยเพื่อน

ไอ้เจ้าเดินไปที่ระเบียง เก็บกระทะไฟฟ้าของไอ้เอ๋ให้อยู่เป็นที่เป็นทาง ก่อนจะกลับมาให้ความสนใจกับน้องตะวันของไอ้เอ๋ต่อ ในตอนนี้น้องตะวันกำลังหันกลีบดอกรับแสงแดดยามสาย ดูเบิกบานและไร้พิษภัยเหมือนกับเจ้าของมันที่กำลังเปิดคอนเสิร์ตในห้องน้ำ

ติ๊ง!

เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์มือถือของไอ้เจ้าดังขึ้น มันจึงละความสนใจจากน้องตะวันไปที่เครื่องมือสื่อสารที่กำลังโชว์ข้อความของธราขึ้นบนหน้าจอ





D. : คิดถึงแล้ว





ไอ้เจ้าคลี่ยิ้มเมื่อได้อ่าน วันนี้ธราอยู่ที่ห้อง เขาให้ไอ้เจ้าออกมาเที่ยวกับไอ้เอ๋ แม้จะงอแงเล็กน้อยแต่ก็อยากให้ไอ้เจ้าได้ใช้เวลาอยู่กับเพื่อนบ้าง เขาบอกว่าเขาเข้าใจแต่ก็อ้อนจนไอ้เจ้าเกือบจะมาตามนัดสาย





OMG : คิดถึงเหมือนกันครับ

OMG : คุณทำอะไรอยู่เหรอดิน

D. : ดูยูทูป เย็นนี้จะทำของอร่อยให้มึงกิน

OMG : ว้าว ตั้งตารอเลย แต่เจ้าอาจจะกลับดึกนะ

OMG : เจ้าจะอยู่กับเอ๋จนเอ๋เข้านอน

D. : หึงได้มั้ยวะ

OMG : ได้ แล้วเจ้าจะกลับไปให้ลงโทษ

D. : อือ

D. : ก็รีบกลับมา จะลงโทษแรงๆ เลย

OMG : ให้เอวหัก

D. : จัดเน้นๆ

OMG : สู้ไม่ไหวเด้อ

D. : ไหวอยู่แล้ว ระดับเจ้าอะ

OMG : ก็อวยเก่ง

OMG : แล้วเมื่อเช้าเป็นอะไร คุณหน้าซีดมาก

D. : ฝันร้าย

D. : ฝันแบบนี้หลายครั้งแล้ว แย่ว่ะ

OMG : จะว่าไปคุณไม่เล่าความฝันให้ฟังนานแล้วนะ

D. : ก็เล่าให้ฟังทุกคืน

OMG : หืม?

D. : เล่าผ่านร่างกายไง ในฝันกูมีแต่เรื่องแบบนั้นแหละ

OMG : ฝันเปียกตลอดสิท่า

D. : อืม ก็ทำจนเสร็จทุกครั้ง

OMG : โธ่ เด็กดีของเจ้า

OMG : แล้วฝันอะไรครับเมื่อคืน

D. : ฝัน

D. : ว่ามึงตาย

OMG : 555

D. : ไม่ตลกเลย มันเหมือนจริงจนกูกลัว

OMG : อย่าคิดมาก

D. : ตอนนี้ก็ยังรู้สึกไม่ดี

D. : เจ้า

OMG : หืม

D. : มึงจะไม่ตายใช่มั้ย

OMG : ดินครับ เราทุกคนต้องตายนะ

D. : อยากให้มึงเป็นอมตะ

OMG : งั้นคุณก็ต้องเป็นด้วย เจ้าไม่อยู่คนเดียวหรอก

D. : รักมากเลยดิ

OMG : อือ รักสิครับ

D. : รักมากเหมือนกัน

OMG : แน๊ เป็นอะไรเนี่ย ปกติไม่พูด

D. : ไม่มีอะไร

D. : อยากพูด ไว้กลับมาจะพูดให้ฟังจนมึงหลับเลย

D. : ดูแลตัวเองนะเจ้า

D. : แล้วกลับมาหากูนะ กูรอ

OMG : เนี่ย ก็แค่ออกไปเที่ยวกับเพื่อน คุณเล่นใหญ่มาก

D. : ใจไม่ดี

OMG : จะกลับไปโอ๋นะครับเด็กดี ไหนยิ้มให้เจ้าก่อน

D. : Sent a photo.

OMG : อยู่กับไอ้แพร์เหรอ?

D. : อืม

D. : ไอ้แพร์กับน้องบีมาหา

OMG : อ่า

D. : โกรธหรือเปล่า

OMG : ไม่ครับ คุณมีเพื่อนอยู่ด้วยจะได้ไม่เหงา

D. : หมายถึงน้องบีมา เจ้าโกรธมั้ย

OMG : นิดหน่อยครับ แต่ก็แค่หวง เจ้ารู้ว่าไม่มีอะไร

D. : อือ ไม่มี รักเจ้าคนเดียวนั่นแหละ

OMG : ครับ เจ้าไปก่อนนะ เอ๋อาบน้ำเสร็จแล้ว

D. : tc babe

OMG : :)





“นายนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนคนบ้าเลยนายเจ้า” ไอ้เอ๋ที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วเอ่ยแซว “มันมีอะไรดีๆ เกิดขึ้นรึนาย”

“ธราบอกรักผม” ไอ้เจ้าตอบหลังจากที่เก็บโทรศัพท์มือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงเป็นที่เรียบร้อย “เขาเรียกผมว่าที่รักด้วย”

“ดวงความรักของนายพุ่งแรงมากเลยนะตอนนี้” ไอ้เอ๋ยิ้มยินดีพลางพยายามลูบเส้นผมฟูๆ ของมันให้อยู่ทรง “เห็นนายมีความสุขผมก็ดีใจ แต่นึกไม่ถึงว่านายกับธราจะมีวันนี้ ผมยังจำได้อยู่เลยว่านายเคยโดนเขาต่อยเพราะตามตื้อมากเกินไป”

“ก็คือเป็นอีกโมเมนต์ในชีวิตที่น่าจดจำเลยนะ” สีหน้าของไอ้เจ้ากำลังหวนนึกถึงความหลัง “ตอนนั้นนายช่วยทำแผลให้ผมด้วย ผมจำได้ว่านายจะบุกไปเอาเรื่องธรา แต่พอเห็นขนาดกล้ามของเขาแล้วนายก็วิ่งหน้าตั้งกลับมาหาผม”

“ใจผมน่ะสู้ แต่ร่างกายผมไม่ไหว” ไอ้เอ๋ยิ้มแหย เลิกพยายามที่จะจัดทรงผมแล้วเดินมานั่งลงบนเบาะรองนั่งที่วางล้อมโต๊ะญี่ปุ่นซึ่งมีน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ที่ไอ้เจ้าซื้อมาวางอยู่บนนั้น “มากินนี่ก่อนเถอะเพื่อน เติมพลังก่อนไปใช้ชีวิตวัยรุ่นกัน”

“ได้” ไอ้เจ้านั่งลงบนเบาะรองนั่งที่อยู่ตรงข้ามกับไอ้เอ๋ มันนั่งขัดสมาธิพลางยื่นมือไปหยิบปาท่องโก๋มาหนึ่งตัว ฉีกแบ่งออกเป็นสองส่วนแล้วส่งส่วนหนึ่งเข้าปาก อีกส่วนก็ยื่นไปให้ไอ้เอ๋ที่อ้าปากงับไว้ “ตอนนี้มาแพลนกันมั้ยว่าจะไปที่ไหนก่อน”

“เล่นเกมก่อนแล้วค่อยดูหนังมั้ยนาย จากนั้นเราค่อยไปเดินเล่นกัน” ไอ้เอ๋เสนอด้วยดวงตาเป็นประกาย “มันต้องสนุกมากแน่ๆ”

“ก็ดีนะ แล้วนายอยากทำอะไรอีกมั้ย มีที่ที่อยากไปอีกหรือเปล่า ผมพาไปได้ทุกที่”

“อยาก” ไอ้เอ๋พูดทันที ก่อนจะพูดต่อว่า “แต่ไว้วันอื่น วันนี้ถ้าไปทุกที่ที่ผมอยากไปคงไม่ทันหรอก แค่ดูหนังกับเล่นเกมก็คงกินเวลาหลายชั่วโมงแล้ว นายก็ต้องรีบกลับไปหาธราด้วย ผมยึดตัวนายไว้ทั้งวันไม่ได้นะนายเจ้า ผมเป็นเพื่อนที่ดีที่เข้าใจว่าเพื่อนมีแฟนแล้วก็ต้องให้เวลากับแฟน แม่จ๋าน่ะต้องภูมิใจในตัวลูกคนนี้” พูดจบก็ยิ้มภูมิใจในตัวเองสำทับความเป็นเพื่อนที่ดี โดยไม่ได้สังเกตเลยว่าเพื่อนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกันมีสีหน้าแบบไหน

ไอ้เจ้ารับฟังพลางเผยรอยยิ้มเศร้า แววตาอ้างว้างทอดมองคนที่กำลังพูดจ้อไม่หยุด ไอ้เอ๋เป็นแบบนี้เสมอ มันพูดสิ่งที่มันคิดอย่างน่าเอ็นดู รอยยิ้มของมันสดใส เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของไอ้เจ้าที่ไม่มีพิษไม่มีภัย แต่น่าเสียดายที่จะต้องจากลากัน “วันนี้วันสุดท้ายแล้วเอ๋”

“นาย…”

“เอ๋รู้แล้วใช่มั้ย” น้ำเสียงของไอ้เจ้าเรียบเรื่อยเมื่อเอ่ยถาม แต่กลับทำให้ลมหายใจของไอ้เอ๋สะดุด “เรื่องของผม”

“ผมไม่รู้” ไอ้เอ๋ไม่ยอมรับ มันก้มหน้าซ่อนแววตา “จริงๆ นะนาย ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น”

ไอ้เจ้าคลี่ยิ้มอย่างเอ็นดู รู้ดีทีเดียวว่าในบางครั้งเพื่อนคนนี้ก็ดื้อรั้น “เงยหน้าขึ้นมองผมก่อนได้มั้ย ก่อนที่เอ๋จะลืมเพื่อนรักเพื่อนตายคนนี้ไป”

ไอ้เอ๋ตัวสั่น น้ำตาของมันเริ่มรินไหล ความกังวลตลอดหลายวันมานี้ชัดเจนอยู่ตรงหน้า กังวลว่าเมื่อไหร่การจากลาจะมาถึงและเมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นใบหน้าเศร้าสร้อยของเพื่อนรัก น้ำเสียงของมันจึงสั่นเครือเมื่อตั้งคำถาม “นายน่ะ...เจ็บปวดมากหรือเปล่า”

คำถามของไอ้เอ๋นั้นไม่ใช่คำถามที่ไอ้เจ้าคาดคิดไว้ ไอ้เอ๋ไม่ได้ถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งๆ ที่คงมีคำถามเป็นร้อยเป็นพันอยู่ในหัวและคงมีเรื่องที่ไม่เข้าใจอยู่เต็มไปหมด ทว่ากลับมองเมินเรื่องพวกนั้นไป

“ผมชินแล้วเอ๋” เสียงทุ้มน่าฟังของไอ้เจ้าตอบกลับ “ความเจ็บปวดเป็นเพื่อนของผม”

“มันไม่ควรเป็นเพื่อนของนาย” ไอ้เอ๋แย้งทันที “ผมต่างหาก...ผมคนนี้”

ไอ้เจ้าหัวเราะ “นายดื้อเหมือนกันนะ”

ไอ้เอ๋เม้มริมฝีปาก จุกแน่นอกเพราะความรู้สึกที่ยุ่งเหยิง “นายเจ้า”

“หืม”

“ที่นี่เป็นโลกความฝันเหรอ” ที่สุดแล้วก็มีแต่เพียงคำถามนี้ที่ตรงใจของไอ้เอ๋ ความสงสัยของมันมีมากเกินกว่าจะเรียบเรียงออกเป็นคำพูดได้ แค่กลั่นกรองออกมาได้เท่านี้ก็ดีมากแค่ไหนแล้ว “สองปีที่ผ่านมามันมีอยู่จริงมั้ย มิตรภาพของผมกับนาย ทุกเรื่องที่เราทำด้วยกันมา ช่วงเวลาที่เราผ่านทั้งความสุขและความเศร้ามาด้วยกัน มันเกิดขึ้นจริงๆ หรือเปล่า”

ไอ้เจ้ามองสบตากับไอ้เอ๋ เปิดเผยความจริงใจให้อีกฝ่ายได้เห็น “สำหรับผมแล้วมันเกิดขึ้นจริงๆ นะเอ๋ เราน่ะเป็นเพื่อนกันไม่ว่าเวลาจะหมุนย้อนกลับกี่ครั้ง ต่อให้ทุกครั้งผมจะถูกลืม แต่เมื่อเราทักทายกัน เราก็กลับมาเป็นเพื่อนรักเพื่อนตายกันเหมือนเดิม เอ๋น่ะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเสมอเลย”

ไม่มีใครรู้ถึงความเจ็บปวดของไอ้เจ้า ไม่มีใครเข้าใจถึงความอ้างว้างที่เต็มแน่นอยู่ในดวงตาเรียวคู่นั้น ความรู้สึกของคนที่ถูกลืมเลือนนั้นเป็นอย่างไร จะทรมานมากแค่ไหน ไอ้เอ๋อยากจะเข้าใจให้มากกว่านี้ อยากเข้าใจและปลอบโยนคนที่ตอนนี้เอาแต่เผยรอยยิ้มเศร้าสร้อย

“เหนื่อยใช่มั้ยเพื่อน”

คำถามของไอ้เอ๋เรียกเสียงหัวเราะในลำคอจากไอ้เจ้า ก่อนจะยอมรับ “อืม เหนื่อยมาก แต่อีกไม่นานผมก็จะได้พักแล้ว”

ถ้อยคำที่ได้ยินทำให้ไอ้เอ๋ยิ่งใจเสีย มันละล่ำละลักถาม “ผมช่วยอะไรนายได้บ้างมั้ย ให้ผมทำอะไรก็ได้ ผมสัญญาเลยว่าผมจะไม่ปอดแหก ต่อให้ต้องไปสู้กับใครหรือกับอะไร ผมก็จะช่วยนายให้ได้เลย”

ไอ้เจ้าส่ายหน้า “ไม่ได้หรอก ไม่มีใครหนีความจริงพ้น แค่ผมยังอยู่ตรงนี้ก็ฝืนมากแล้ว”

“ช่วยฝืนอีกหน่อยได้มั้ย” ไอ้เอ๋ถามอย่างสิ้นหวัง “หากธรารู้เขาก็คงจะพูดกับนายอย่างนี้ เขาจะเป็นยังไงถ้ารู้ว่านายกำลังจะทิ้งเขาไป เขารักนายมากเลยนายเจ้า เขาจะอยู่ได้เหรอถ้าไม่มีนายแล้ว เพราะขนาดตัวผม...ผมยังคิดเลยว่าผมต้องแย่แน่ๆ”

“ไม่เป็นไรหรอกเอ๋ ทั้งนายทั้งธรา จะไม่เป็นไรแน่นอน” ไอ้เจ้าบอกเสียงหนักแน่น แววตาสั่นไหวเผยให้เห็นเพียงครู่ ก่อนจะถูกกลบเกลื่อนด้วยความเรียบเฉย “พรุ่งนี้ ถ้านายตื่นขึ้น นายจะลืมเรื่องของผม และเมื่อถึงเวลา ธราก็จะเหมือนกับนาย เขาจะลืมผมคนที่เป็นคนรักของเขาเหมือนกัน”

“งั้นผมจะไม่นอนนายเจ้า” ไอ้เอ๋ดิ้นรน ความดื้อดึงของมันทำให้ไอ้เจ้ามองมันด้วยความเอ็นดู “แค่ไม่นอนก็จะไม่ลืมนายใช่ไหม งั้นเราไปกันเถอะเพื่อน ผมควรจะกินกาแฟแทนน้ำเต้าหู้ เราแวะร้านกาแฟก่อนไปเที่ยวกันเถอะนะ ไปกันๆ ๆ” ว่าแล้วก็ลุกพรวดขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เล่นเอาไอ้เจ้าถึงกับทำหน้าเหวออย่างคนเสียอาการ “มาๆ ตามผมมา ใส่รองเท้าแล้ววิ่งเลยนะ”

“จริงๆ เลย ไอ้หมอแพร์ต้องปวดหัวกับนายอีกนานแน่ๆ” ไอ้เจ้าส่ายหน้าระอาก่อนจะรีบลุกขึ้นแล้วเดินตามเจ้าเพื่อนหัวฟูที่กระตือรือร้นจะออกจากห้องอย่างฉับพลัน มองไอ้เอ๋ใส่รองเท้าอย่างทุลักทุเล ไม่สนใจจะผูกเชือกรองเท้าให้เรียบร้อยด้วยซ้ำจนไอ้เจ้าต้องก้มลงไปผูกให้มัน

“นายเจ้าเร็วๆ ผมต้องการกาแฟเข้มๆ เดี๋ยวนี้เลย ผมจะง่วงไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียวนะ”

“เออๆ รู้แล้ว อย่าวิ่งดิเอ๋ เดี๋ยวก็ล้มหน้าคะมำ”

“อย่ามาดูถูกผม ผมน่ะนักวิ่งงานกีฬาสีโรงเรียนนะ มาเร้ววว”

แม้จะเป็นการดิ้นรนที่ไม่เกิดประโยชน์ แต่ไอ้เอ๋ก็เอาจริงเอาจัง ในขณะที่ไอ้เจ้าก็ไม่ได้ขัดขวาง กลับเอาแต่หัวเราะกับท่าทางตลกๆ ของคนหัวฟู

ผมน่ะ...ดีใจนะที่ได้เป็นเพื่อนกับนาย

จากนี้ก็ขอให้มีชีวิตที่ดีและมีความสุขมากๆ

และถ้าเกิดนายจำผมได้แม้สักเสี้ยวล่ะก็ ไปส่งผมด้วยนะเอ๋

ไม่อยากพูดคำว่า ‘ลาก่อน’ กับนายเลย

เพราะงั้น...พบกันใหม่นะเพื่อนรัก

.

.


ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
“เรื่องที่พูดมาน่ะ” ธราเค้นเสียง เขาพบว่ายากเย็นเหลือเกินที่จะใช้น้ำเสียงตามปกติได้ เขามองไอ้แพร์ที่มีสีหน้าเคร่งเครียด มองน้องบีที่ก็มีสีหน้าไม่ต่างกัน “ไม่ได้โกหกใช่มั้ย ไม่ได้วางแผนกันทำเซอร์ไพรส์อะไรใช่หรือเปล่า คือเจ้ามันก็ชอบเล่นใหญ่ไง อาจจะขอให้พวกมึงมาช่วยหลอกกู ก็มันน่ะเป็นคนอย่างนั้น” พูดเองก็หัวเราะเองแต่อีกสองคนกลับไม่ได้ขำไปกับเขาด้วย ทั้งสองคนยังคงมองมาที่เขาด้วยสายตาที่ยืนยันว่าคำบอกเล่าที่พูดให้เขาฟังทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องจริง ทั้งเรื่องที่เจ้า จักรพรรดิ เดือนแพทย์มอเจเสียชีวิตและเรื่องที่โลกนี้มีบางอย่างผิดเพี้ยนไป

ธรารู้ดีทีเดียว ไม่ใช่ไม่รู้เพราะเขาก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น แต่เขาก็แค่ยังไม่อยากที่จะยอมรับและก็แค่อยากจะใช้วันคืนที่มีความสุขกับคนรัก ให้เรื่องราวที่มีความสุขนี้ดำเนินไปทุกวันอย่างไม่มีจุดสิ้นสุด “นี่...ถ้าเป็นเรื่องจริงแล้วกูควรทำยังไงเหรอ”

“ไม่มีใครรู้” ไอ้แพร์ตอบพลางพรูลมหายใจ “กูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเราจะเป็นยังไงต่อ ห้วงเวลานี้มีเจ้าของและเจ้าของก็คือไอ้เจ้า พวกเราจะหายไปเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลา ทุกสิ่งอย่างที่อยู่ผิดที่ผิดทางต้องกลับไปอยู่ในที่ที่ถูกที่ควร”

“ทั้งหมดเลยเหรอ” ธราย้อนถามเสียงเรียบ “ตลกมั้ยวะมึง”

“เราคิดกันอย่างนั้นนะคะพี่ดิน เพราะตอนนี้เอ๋ก็ติดต่อไม่ได้แล้วค่ะ” ดาวเภสัชฯ คนสวยพูดเสริมขึ้น ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้มเมื่อพูดถึงคนอีกคนที่ร่วมตามหาคำตอบมาด้วยกัน “แชตของเอ๋กลายเป็นห้องว่าง กลุ่มที่สร้างขึ้นก็เหมือนกัน เมื่อคืนบีก็เลยจะทักบอกพี่หมอแพร์ แต่กลายเป็นทักผิด” หล่อนหยุดพูดไปเพียงครู่พลางมองสบตากับธรา “ไม่ได้ตั้งใจเลยจริงๆ ค่ะที่จะให้พี่รู้เรื่องนี้ แชตของพี่หมอแพร์อยู่ถัดจากแชตของพี่ พอดี...บีพินแชตพี่ไว้บนสุด ขอโทษนะคะ”

“พี่ไม่ได้ว่าอะไร ไม่เห็นต้องอธิบายขนาดนี้ก็ได้” ธราพูดเสียงกลั้วหัวเราะ แม้จะรู้ดีว่าสาวเจ้าคิดอย่างไรกับเขา ความรู้สึกที่อีกฝ่ายมีก็รับรู้ได้เป็นอย่างดี แต่ในครั้งนี้ก็ไม่ได้คิดว่าหล่อนโกหกหรือสร้างเรื่องมาหลอกลวง ทว่าเขาก็เลือกที่จะปฏิเสธเรื่องราวด้วยการหลอกตัวเองว่ามันเป็นแค่เรื่องตลกร้าย

“ขอบคุณนะคะที่ไม่ถือสา เมื่อคืนบีกังวลไปหมดเลย นอนก็ไม่หลับมาหลายคืนแล้ว” ดวงตาคู่สวยรื้นไปด้วยน้ำ มือบางจับกันแน่น “ยอมรับว่าตอนนี้กลัวมากค่ะ เพราะไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง เอ๋ก็จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ คำว่าหายไปน่ะคือพวกเราต้องตายมั้ยก็ยังไม่มีใครให้คำตอบได้เลย"

“แล้วตอนนี้ก็ไม่ใช่แค่น้องเอ๋นะไอ้ดินเพราะไอ้จอมกับไอ้คินก็ติดต่อไม่ได้แล้ว” ไอ้แพร์บอกเสียงเครียด คิ้วเข้มของมันขมวดมุ่น นึกอยากจะชกหน้าไอ้คนที่เอาแต่ยิ้มอยู่ตรงหน้านัก ไม่รู้ว่ามันจะหลอกตัวเองไปถึงไหน “แล้วกูก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะถึงทีพวกเราบ้าง ตอนที่รู้ว่าบีทักผิดก็เครียดเหมือนกันเพราะกูก็ลังเลว่าจะพูดกับมึงเรื่องนี้ดีมั้ย แต่สุดท้ายก็นั่นแหละ ถ้าพวกกูหายไปดื้อๆ แล้วปล่อยมึงที่ไม่รู้อะไรเลยไว้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนกูคงรู้สึกผิดแน่ๆ กูก็เลยพาบีมาคุยกับมึงด้วย”

“อ่า…อย่างนั้นเอง” ธราเอนหลังพิงพนักโซฟาแล้วเหม่อมองออกไปที่ระเบียง “แต่มันยอมรับได้ยากมึงเข้าใจใช่ไหม ต่อให้กูจะรู้ว่ามีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นมาสักพักแล้ว ทั้งกับคนรอบข้าง ทั้งกับคนใกล้ตัว แต่แล้วยังไง” เขาแค่นยิ้ม “ไม่ตั้งคำถามแล้วไม่ได้เหรอวะ ไม่ต้องคิดสงสัยอะไรแล้วไม่ได้เหรอ แค่ปล่อยให้มันเป็นไปอย่างนี้ต่อ”

“ไอ้ดิน”

“แค่เชื่อว่ามันเป็นความจริงแค่นั้นก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่ยากตรงไหนเลยนะที่จะเชื่อ”

“มันยากที่จะยอมรับ กูรู้เว้ย” ไอ้แพร์ตบไหล่กว้างของเพื่อนเบาๆ “แต่มึงหลอกตัวเองต่อไม่ได้แล้ว เราหนีความเป็นจริงไม่พ้นนะมึง สุดท้ายทุกคนต่างต้องไปตามวาระของตัวเอง”

หลังจากที่ไอ้แพร์พูดจบ ต่างคนก็ต่างเงียบ เกือบสิบนาทีที่ไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมา แต่ละคนต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเอง คิดหาคำตอบกับคำถามที่ผุดขึ้นเป็นร้อยๆ ข้อ ทว่ากลับไม่มีคำถามใดเลยที่มีคำตอบ

“มึง” ธราเป็นคนแรกที่พูดขึ้นหลังจากปล่อยให้ทั้งห้องมีเพียงเสียงเข็มวินาทีจากนาฬิกาแขวนผนัง “ถ้าเจ้าตายแล้วจริงๆ งั้นกูควรทำยังไงถึงจะได้อยู่กับมันวะ”

แววตายามพูดนั้นไม่มีแววล้อเล่น ความเอาจริงเอาจังทำให้อีกสองคนเผลอมองสบตากันอย่างเป็นกังวล ไม่มีใครรู้ว่าธราหลอกตัวเองมานานแค่ไหน เขาอาจจะเป็นคนเดียวที่รู้เรื่องจริงทั้งหมดก็ได้ แต่เพราะเขาไม่เคยยอมรับ ไม่เคยแม้แต่จะคิดว่าเจ้า จักรพรรดิ ได้ตายจากไปแล้ว เขาจึงกลายเป็นคนที่ตามืดบอดและเชื่อในสิ่งที่ตนเองอยากเชื่อเท่านั้น

“มึงอย่าแม้แต่จะคิดหาวิธี” ไอ้แพร์ห้ามปราม “เพราะไม่มีทางไหนที่จะทำได้ หรือต่อให้มีก็ไม่ใช่ทางที่ควร”

“บีเห็นด้วยกับพี่หมอแพร์นะคะพี่ดิน พวกเราน่ะทำอะไรไม่ได้หรอกค่ะ” เสียงหวานเสริมขึ้นอีกแรง เพราะความปรารถนาในแววตาของธราไม่อ่อนลงแม้แต่น้อย กลับมุ่งมั่นจนน่าหวั่นใจ “อย่าคิดทำอะไรเลยนะคะ”

“ฟังพวกกูหน่อยเถอะไอ้ดิน เชื่อสิว่าไม่ว่าอะไรก็มีเหตุและผล ไม่ว่าที่ไหนก็มีเงื่อนไขและกฎเกณฑ์ของมัน มึงเชื่อกูเถอะว่าต่อให้มึงคิดจะตายที่นี่ มึงก็ไม่ได้อยู่กับไอ้เจ้าหรอก เรามาถึงทางตันแล้วไอ้ดิน สุดท้ายก็ต้องเดินทางกลับทางเดินของตัวเอง”

“ไม่ไอ้แพร์ มันต้องมีทาง” ธราบอกอย่างดื้อดึง “กูเคยบอกมึงใช่มั้ยว่ากูไม่สนเรื่องศีลธรรม กูก้าวข้ามความถูกต้องทั้งหมดเพื่อที่จะรักมัน แล้วมึงจะให้ความตายมาพรากมันไปจากกูเหรอ”

ไม่ได้หรอก...ใครจะไปยอม

“ไอ้ดิน มึงต้องยอมรับ” ไอ้แพร์เอ่ยเสียงเข้ม บีบที่ไหล่ของธราหวังดึงสติที่อาจจะกำลังหลุดลอยไปไกล “ระหว่างมึงกับไอ้เจ้าน่ะ มันเป็นไปไม่ได้แล้ว มันคือคนที่ตายไปแล้วนะเว้ย ตอนนี้ ที่แห่งนี้คืออะไรก็ยังไม่รู้ พวกเรามีแต่คำว่าไม่รู้เต็มไปหมด วันเวลา สถานที่ หรือแม้แต่ความคิดที่ว่าโลกนี้มีอยู่จริงมั้ยก็ไม่มีใครยืนยันได้ เราเป็นตัวอะไรในที่แห่งนี้ มีตัวตนอยู่หรือเปล่า กูยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำ มึงอย่าทำเรื่องบ้าๆ เลย เรายังไม่รู้ความจริงสักอย่าง มีความจริงเพียงแค่อย่างเดียวที่พวกเราแน่ใจในตอนนี้นั่นก็คือไอ้เจ้าตายไปแล้ว”

“พอเถอะไอ้สัด เลิกปั่นได้ละ พักหลังมานี้มึงอาจจะมีเรื่องไม่ชอบใจเจ้า มึงบ่นกูเรื่องที่เจ้าทำให้กูเสียการเรียน แต่ก็ไม่เห็นต้องเล่นแรงขนาดนี้มั้ง”

“มึงคิดได้ไงวะ” อยากจะตะบันหน้ามันสักที จากที่เริ่มคล้อยตามแล้วกลับกลายเป็นค้านหัวชนฝาขึ้นมาเสียอย่างนั้น “กูไม่ได้ปั่นสักนิด ที่กูพูดเป็นความจริงทั้งหมด”

“ใช่ค่ะพี่ดิน พี่เอยืนยันเลยนะคะว่าพี่เจ้าที่เป็นพี่รหัสของพี่เอเสียชีวิตแล้ว เขาโดนยิงเข้าที่กลางอก”

“เจ้ายังไม่ตาย!” ธรามองตาขวาง เขาสะบัดตัวให้มือของเพื่อนหลุดจากไหล่ “กูกอดมันอยู่ทุกวัน ฟังเสียงหัวใจของมันอยู่ตลอด ก็แค่มีบางอย่างผิดปกติไปเท่านั้น โลกมันอาจจะเพี้ยนไปเองก็ได้ แต่เจ้ายังไม่ตายไอ้แพร์ เชื่อความรู้สึกของกูเถอะ”

“แต่ที่นี่มันแปลกนะเว้ย มึงเชื่อกูสิว่ามันไม่ใช่ที่ของเรา” เชื่อเถอะว่าเราไม่ควรติดอยู่ในวังวนนี้อีกต่อไปแล้ว

“กูไม่สนหรอกว่าที่นี่จะเป็นยังไง ไม่อยากเสียเวลาหาคำตอบด้วย” น้ำเสียงของธราแข็งกร้าว เขามองทั้งเพื่อนซี้และคนเคยควงอย่างหงุดหงิดใจ “ถ้ามึงบอกว่าเจ้า จักรพรรดิในโลกความจริงตายไปแล้ว งั้นก็ทิ้งกูไว้ที่นี่ ไม่ต้องห่วงกู ให้กูได้อยู่ในที่ที่กูกับมันยังสามารถอยู่ด้วยกันได้ตลอดไป แค่นั้นก็พอ”

“มันไม่มีคำว่าตลอดไปไอ้ดิน”

“มี”

“มึงดื้อจังวะ” ไอ้แพร์แทบสบถออกมา แต่ก็ควบคุมตัวเองไว้ได้ทัน รอจนใจเย็นลงแล้วถึงได้เริ่มพูดต่อ “เอาเถอะ ต่อให้มึงจะอยากอยู่หรือไม่อยากอยู่ยังไง สุดท้ายแล้วมึงก็อยู่ต่อไม่ได้ อย่างที่กูบอกว่าทุกคนต้องกลับไปในที่ของตัวเอง อาจจะแค่เหมือนตื่นจากฝันที่ยาวนานและจำความฝันของตัวเองไม่ได้อีกเลย มันคงจะเป็นในรูปแบบนั้น เหมือนกับที่พวกเราที่ยังติดอยู่ที่นี่แต่กลับนึกหน้าคนที่หายไปไม่ออก ในทางกลับกันเขาก็คงจำเราไม่ได้ เรื่องราวที่เกิดขึ้นที่นี่ ทั้งความรู้สึก ความผูกพัน ความทรงจำ เมื่อกลับไปแล้วคงไม่เหลือให้นึกถึง”

ธรานิ่งเงียบรับฟัง ในขณะที่ไอ้แพร์ยังคงพูดข้อสันนิษฐานของมันต่อไป “ห้วงเวลานี้คือห้วงเวลาของคนตายไอ้ดิน กูไม่รู้ว่าเราทุกคนมาที่นี่ได้ยังไง เงื่อนไขของเวลาอาจจะเป็นระยะเวลาสองปี กูรู้แค่นี้และไม่รู้มากกว่านั้นเพราะกูทำได้แค่คาดเดา ทุกอย่างมันเริ่มแปลกไปตั้งแต่วันครบรอบสองปีของพวกมึง หรืออาจจะหลังจากนั้นกูก็ไม่รู้อีก คนที่รู้ดีที่สุดก็คือเจ้าของห้วงเวลา คนที่เห็นแก่ตัวพาพวกเรามาติดอยู่ในวังวนของมัน อาจจะเป็นร้อยเป็นพันครั้งแล้วก็ได้”

“มึงเรียนจนเบลอแล้วมั้งไอ้แพร์ กลับไปนอนมั้ย”

“ไอ้ควายเอ๊ย! กูจะพูดยังไงให้มึงเชื่อดีวะ มึงเป็นเหี้ยอะไรของมึงเนี่ย สมองเป็นส้นตีนอะไร มีปัญหาหรือไงถึงดูไม่ออก ไม่ผิดสังเกตเหี้ยอะไรเลย!”

“ใจเย็นๆ กันก่อนนะคะ” หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่มสนทนาเป็นฝ่ายห้ามปรามเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มทั้งสองกำลังเดือดได้ที่ คนหนึ่งมีสีหน้าไม่ทุกข์ร้อน แม้จะกำลังโดนกระชากคอเสื้อก็ไม่มีทีท่าจะปัดป้อง ส่วนอีกคนจ้องมองราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ปากก่นด่ากับความดื้อแพ่งของอีกคนไม่หยุด

“มึงรู้ไว้นะไอ้ดิน รู้ไว้ว่าแฟนมึงเป็นคนโคตรเห็นแก่ตัว” น้ำเสียงเข้มดุดัน กำปั้นที่เงื้อขึ้นนั้นลดลงแล้วแต่ก็ยังสั่นเทิ้มจนแทบควบคุมไม่ได้ “วังวนความเห็นแก่ตัวของมัน ไม่เคยนึกถึงคนอื่นเลย พวกกูก็มีความรู้สึก มีความทรงจำที่ไม่อยากลืม มีความรู้สึกที่อยากจะจดจำไปตลอดชีวิต มันเคยคิดบ้างมั้ยว่าคนอื่นจะเป็นยังไง คนรักของกูหายไปแล้ว แล้วเขาจะจำกูไม่ได้ มึงไม่เข้าใจหรอกว่ากูรู้สึกยังไงที่อยู่ๆ น้องก็ไปโดยที่ไม่ได้ลากันสักคำ”

“อย่ากล่าวหาถ้ามึงยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” ธราเค้นเสียง คราวนี้เขาเป็นฝ่ายกระชากคอเสื้อของเพื่อน จากที่ไม่กี่นาทีก่อนไม่คิดจะโต้กลับ ตอนนี้กลับเป็นฝ่ายจู่โจมแทน “มันเป็นแค่ข้อสันนิษฐานบ้าๆ ของมึง มึงรู้ได้ยังไงว่าคนที่หายไปเขาจะจำไม่ได้ มึงเคยหายไปหรือไง มีใครในพวกนั้นกลับมาบอกมึงเหรอ มันก็แค่การคาดเดาเหมือนมึงถามว่าตายแล้วไปไหน มีแต่คนที่อยู่คาดเดากันไป แต่สุดท้ายมีใครรู้จริงๆ บ้าง มึงไม่รู้เรื่องของเจ้าก็อย่ากล่าวหา มึงไม่รู้หรอกว่าแฟนกูเป็นยังไง”

“ถ้ามึงรู้ก็หยุดหลอกตัวเองไอ้สัด! มึงจะตายอยู่ที่นี่ จะติดอยู่ในวังวนบ้าๆ นี้ก็แล้วแต่มึง อยากจะอยู่กับผีก็เชิญ! แต่กูจะกลับไปหาคนรักของกู!”

ผลัวะ!

กำปั้นหนักๆ ของธราซัดเข้าที่สันกรามของเพื่อนซี้ ในขณะที่ผู้หญิงคนเดียวในเหตุการณ์อุทานลั่น เพราะหลังจากนั้นชายหนุ่มทั้งสองก็เริ่มแลกหมัดกัน เสียงกำปั้นหนักๆ ดังเป็นระยะ สร้างบาดแผลให้คนทั้งคู่ หล่อนทำได้เพียงจ้องมองด้วยความพรั่นพรึง อยากเข้าไปห้ามปรามแต่ก็กลัวโดนลูกหลง แต่จะปล่อยไว้ก็ไม่ได้ ทว่าหล่อนก็พะว้าพะวงอยู่ได้ไม่นานเพราะทั้งสองวิวาทกันไม่ถึงห้านาทีก็เลิกราราวกับว่าแค่ระบายความอัดอั้นใส่กันเสียมากกว่าที่จะทะเลาะวิวาทจริงจัง

“ขอโทษทีนะบี ที่ต้องมาเห็นอะไรแบบนี้” ธราเอ่ยขึ้นพลางเช็ดเลือดออกจากมุมปาก “พาไอ้หมาบ้านี่กลับไปเถอะ แล้วก็ไม่ต้องมาที่นี่อีกแล้ว”

“พี่ดินคะ” ใบหน้าหวานปรากฏความห่วงใย “ไม่อยู่กับพี่เจ้าแล้วได้มั้ยคะ บีไม่รู้เลยว่าพี่เขาจะทำอะไร อยู่ให้ห่างจากพี่เขาจนกว่าจะถึงเวลาที่ต้องไปจากที่นี่ไม่ได้เหรอคะ”

“กลับไปเถอะ” ธราตัดบท เหลือบมองเพื่อนซี้ที่พยายามเช็ดเลือดที่กำลังไหลเข้าตาเงียบๆ ได้ยินเสียงมันซี๊ดปากเบาๆ ด้วยความเจ็บแล้วก็รู้สึกผิด “ขอโทษแทนเจ้าด้วย ถ้าได้ล่วงเกินอะไรไว้หรือทำให้เกิดเรื่องแย่ๆ ขึ้น ยังไงก็ให้อภัยแฟนพี่ด้วยละกันนะบี”

“พี่คะ...”

“กลับกันเถอะบี ปล่อยมันโง่อยู่ที่นี่แหละ ยังไงเราก็ช่วยอะไรมันไม่ได้ รักกันมากก็ตายตามกันไป” ไอ้แพร์ลุกขึ้นพลางทิ้งถ้อยคำเจ็บช้ำน้ำใจไว้กับธรา “แต่กูบอกเลยนะไอ้ดิน พวกมึงไม่ได้อยู่ด้วยกันหรอก ความรักของพวกมึงมันเป็นไปไม่ได้ตั้งแต่แรกแล้ว ยิ่งตอนนี้ยิ่งหมดหวัง แล้วก็ฝากบอกไอ้เจ้าด้วยละกัน กูอโหสิให้”

“เออ โชคดีละกัน แล้วก็ขอบใจที่เคยเป็นเพื่อนกับกู”

ไอ้แพร์หันหลังเดินไปที่ประตู มีร่างเล็กของสาวหน้าหวานเดินตามไปติดๆ ก่อนเสียงปิดประตูจะตามมา มันดังก้องไปทั้งห้องและเงียบลงในฉับพลัน ในห้องนี้จึงเหลือเพียงธราที่ยังคงมีรอยยิ้มเปื้อนใบหน้าแม้บาดแผลที่คิ้วและที่ริมฝีปากจะเริ่มปวดแสบขึ้นมาแล้วก็ตาม

.

.

“ดินครับ...ดิน” มือผอมสะกิดที่ไหล่กว้างของคนที่กำลังนอนขดตัวอยู่บนโซฟา ร่างหนาส่งเสียงในลำคอพลางพลิกตัวหนีสัมผัสแต่เพราะเนื้อที่คับแคบทำให้เกือบพลัดตกไปบนพื้น โชคดีที่มือผอมดันแผ่นหลังไว้ได้ทัน อีกทั้งยังส่งเสียงดุคนขี้เซาที่ไม่ยอมลืมตาตื่นเสียที “ตื่นครับ จะกลิ้งตกแล้วนะ เดี๋ยวก็เจ็บตัวหรอก”

“อือ” น้ำเสียงงัวเงียดังขึ้นเบาๆ โดยที่เปลือกตานั้นยังปิดสนิท “มาแล้วเหรอเจ้า”

“มาแล้วครับ” ไอ้เจ้าตอบแล้วทาบหลังมือลงบนหน้าผากของธรา ดวงตาเรียวสำรวจใบหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อ ที่คิ้ว แก้มและริมฝีปากก็มีรอยช้ำ “นอนตากแอร์นานจนตัวรุมๆ เลยนะ ทำไมก่อนนอนไม่ห่มผ้าล่ะครับ เจ้าบอกหลายครั้งแล้วนะ แอร์นี่ก็เปิดไปเถอะยี่สิบองศา ไม่แข็งตายก็บุญแค่ไหน แล้วแผลนี่อะไร ไปฟัดกับหมาที่ไหนมา”

“ก็ไม่ได้คิดจะนอน” เขาแย้งพลางกอดไอ้เจ้าไว้ ซุกหน้ากับไหล่แคบอย่างออดอ้อน “อย่าดุได้มั้ย เผลอหลับไปแป๊บเดียวเอง”

“ไม่ดุอย่างเดียว เป็นไข้จะซ้ำให้” คนชอบดุคาดโทษ แม้น้ำเสียงจะอ่อนมากก็ตาม ถูกอ้อนขนาดนี้ใครจะดุได้ลงกันเล่า! “แต่ตอบมาก่อนว่าได้แผลมายังไง”

“ทะเลาะกับไอ้แพร์นิดหน่อย แต่มึงนี่พอเป็นเมียแล้วก็ดุอย่างกับหมาเลยนะเจ้า” เขาย่นจมูกใส่พลางงับที่ไหล่ของไอ้เจ้าจนโดนตีที่แขนเข้าให้ ต่อสู้กันอยู่ไม่ถึงนาทีก็ต่างคนต่างหยุด ก่อนเขาจะเป็นฝ่ายตั้งคำถามต่อ “แล้วทำไมกลับเร็ว เพื่อนนอนแล้วเหรอ” พูดแล้วก็ทำหน้าครุ่นคิด “หรือมึงออกไปไหนมานะ กูเพิ่งตื่นก็เลยมึนๆ”

“ไปหาเพื่อนครับ” ไอ้เจ้าคลี่ยิ้มพลางพูด “ชื่อเอ๋ เจ้าบอกคุณแล้ว”

“เออ ใช่...ไอ้น้องเอ๋ ว่าแต่ทำไมมันนอนเร็ว” ว่าแล้วก็เหลือบมองนาฬิกาบนผนัง “เพิ่งสองทุ่มเอง”

“เที่ยวเพลินก็เลยเพลียครับ” ไอ้เจ้าให้คำตอบแล้วนินทาไอ้เอ๋ให้ฟัง “อวดเก่งจะกินกาแฟ บ่นขมแต่ก็ฝืนกิน สุดท้ายก็อ้วกออกหมด บ่นว่าเวียนหัวสารพัด แต่ใจก็สู้ ไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ ยอมใจเลย”

“พากันตะลอนทั้งวันสิท่า”

“ครับ ดูหนัง เล่นเกม เดินเที่ยว ซื้อของ เยอะแยะไปหมด เอ๋ก็พลังงานล้นเหลือ กระตือรือร้นแทบทุกอย่าง ว่าแต่ใครทำแผลให้คุณ ทำเองเหรอครับ”

“ทำเอง เมียหนีเที่ยวไม่อยู่ดูแลก็ต้องทำเองดิ” ธราบอก เห็นไอ้เจ้าพูดจ้อแล้วก็คลี่ยิ้มกว้าง “แล้วเพลียมั้ยเนี่ย เที่ยวทั้งวัน นึกว่าลืมกูไปแล้ว ไม่ทักมาเลย”

“นิดหนึ่ง” ความจริงก็ไม่นิดเท่าไร “ตอนเที่ยวไม่ได้จับโทรศัพท์เลย ขอโทษนะครับที่รัก”

“ไถ่โทษยังไง” ธราถาม หลังจากนั้นก็ได้ริมฝีปากนิ่มๆ มาเป็นของไถ่โทษ “ก็แค่นี้”

“แล้วทะเลาะอะไรกับไอ้แพร์ ปกติมันใจเย็นมาก” ไอ้แพร์น่ะเป็นคนสุดท้ายในโลกเลยก็ว่าได้ที่ไอ้เจ้าคิดว่ามันจะใช้กำลังแก้ไขปัญหา ต่างจากธราตัวดีของมันที่เอะอะอะไรก็ต่อยก็ตี คนใจร้อนกับคนใจเย็นเป็นเพื่อนกันก็เข้าที ทว่าถึงขั้นต่อยตีกันอย่างนี้ ไอ้แพร์ก็คงไม่ได้เย็นเท่าไรนักหรอก

“เรื่องไร้สาระทั้งนั้นแหละ มันพูดไม่เข้าหู”

“นักเลงจัง”

ธรายักไหล่ก่อนจะซุกไซ้ใบหน้าลงกับซอกคอของไอ้เจ้า แต่คนที่เพิ่งเหน็ดเหนื่อยจากการตะลอนเที่ยวทั้งวันเบี่ยงตัวออกอย่างไม่ม่ันใจในกลิ่นของตัวเอง “อยู่นิ่งๆ”

“เจ้ายังไม่ได้อาบน้ำ”

“ยังหอมอยู่” ว่าเสียงงึมงำเพราะริมฝีปากกำลังจูบย้ำบนผิวเนื้ออ่อน ดูดงับจนเกิดรอยสีกุหลาบอีกรอย แต่สังขารก็ไม่อำนวยเท่าไรนัก เพราะยิ่งใช้งานริมฝีปากมากก็ยิ่งเจ็บแผล “ซี๊ดด..ด ไอ้เหี้ยแพร์โคตรแย่ เจ็บอย่างนี้จะจูบเมียได้ไงวะ”

“สงสารอะ” คำพูดสวนทางกับรอยยิ้มระยับบนใบหน้า แต่พอเห็นธราทำหน้าบึ้งก็รีบปลอบโยน “มาครับ เจ้าเป่าเพี๊ยง หายเจ็บแน่นอนเลย”

“ก็คือโตแล้ว ไม่เชื่ออะไรแบบนี้”

“เอ้า โตแล้วเหรอ”

“อือ แต่ถ้าอยากเป่าก็ได้ มานั่งตักสิ” สั่งพลางตบตักตัวเอง “จะได้เป่าถนัด แล้วเดี๋ยวกูนวดตอบแทนให้”

“แหนะ” ยิ้มล้ออย่างรู้ทัน

“มานงมาแหนะอะไร ไม่ได้คิดอกุศลสักนิด” เขาบ่ายเบี่ยงแต่แววตากลับเจ้าเล่ห์ “แค่ตอนนั่งก็บดสะโพกตอบแทนหน่อย”

“นี่ขนาดไม่คิด” ไอ้เจ้าส่ายหน้าระอาแต่ก็ยอมย้ายไปนั่งบนตักแกร่ง จัดท่าทางอยู่นานจนเป็นที่พึงใจของเขาแล้ว มือหนาก็เริ่มลงมือนวดขมับให้ ระหว่างนั้นไอ้เจ้าก็เป่าคาถาไล่ความเจ็บปวดที่บาดแผลของเขาไปด้วย เห็นเขาทำท่ายกมือปิดจมูกราวกับรับกลิ่นไม่ได้ก็อยากจะตีซ้ำให้เจ็บ แต่เพราะความผ่อนคลายที่ได้จากการนวด ไอ้เจ้าจะไม่ถือสาเอาความก็ได้

“เจ้า” ธราร้องเรียกเมื่อสังเกตเห็นใบหน้าของไอ้เจ้าได้ชัดเจนจากระยะใกล้ “ร้องไห้มาเหรอ”

“หืม” เลิกคิ้วเพียงนิดแล้วปฏิเสธ “เปล่านี่ครับ”

“อย่าโกหก ขอบตาช้ำเนี่ย” เสียงดุขึ้นมาทันที “เล่ามา”

“ก็ไม่มีอะไร”

“คาเตียงนะบอกก่อน ถ้ากูได้เค้น”

ไอ้เจ้าหัวเราะกับคำขู่ของธรา อยากบอกใจแทบขาดว่าจัดมาหนักๆ ได้เลย แต่ก็เกรงว่าจะหนักเกินไป วันนี้เพลียมาทั้งวันก็อยากจะพักผ่อนแทนที่ร้องครางอยู่ใต้ร่างเขา “ก็จะบอกยังไงดี พอดีว่าวันนี้เอ๋น่ะ...”

“ช่างมันเถอะ” ธราตัดบทเอาดื้อๆ “ไม่ต้องเล่าแล้ว ขี้เกียจฟัง”

“เอ๊ะ หึงใช่มั้ยนะ” ไอ้เจ้าหยอกเย้า จิ้มแก้มขาวของธราไปหนึ่งที

“มาก”

“ดุดันจนรู้สึกเร้าใจ”

“เป็นเล่นไป ก็รู้ว่ากูเร้าใจได้มากกว่านี้”

ไอ้เจ้ายกมือยอมแพ้ เพราะมือปลาหมึกของธรากำลังจะพิสูจน์ความเร้าใจให้มันได้เห็นจึงต้องชิงยอมแพ้ไว้ก่อน “โอเคครับ เจ้ารู้แล้ว”

“โห ไม่สนุกเลย” ธราทำหน้าเสียดาย แต่ก็ยอมหยุดมือที่กำลังจะเลื้อยผ่านใต้เสื้อไว้แค่นั้น “เออ ก็ลืมถาม มึงกินข้าวมาหรือยัง”

“ยังครับ” ไอ้เจ้าปฏิเสธ เพราะมันตั้งตารอจะมากินอาหารฝีมือของธราที่เขาอวดไว้ว่าจะทำตามที่ดูในยูทูป “เจ้ารอกลับมากินพร้อมคุณ”

“ดีๆ งั้นเดี๋ยวไปอุ่นกับข้าว จะได้กินด้วยกัน” ธราว่าพลางภูมิใจนำเสนอ “กูทำของโปรดมึงไว้เลยนะ ดูในยูทูป เขาบอกวิธีละเอียดยิบ เข้าใจง่ายดี กูกลั้นใจชิมแล้ว แกงเขียวหวานอะไรของมึงเนี่ย มันก็โอเค กินได้แน่นอน”

ไอ้เจ้าคลี่ยิ้มน่ามอง “อยากกินอาหารฝีมือคุณทุกมื้อเลย”

“เออ จะทำให้กินทุกวัน ถ้ากูไม่เรียนจนเป็นบ้าไปซะก่อน”

“ฮ่าๆ ๆ น่าสงสารเด็กดีของเจ้า” เสียงหัวเราะของไอ้เจ้าน่าฟัง แต่ก็แค่ชั่วครู่เท่านั้น เพราะหลังจากนั้นแววตาของมันกลับเศร้าสร้อยจนธราเลือกที่จะเมินไปทางอื่น “ดิน”

“ว่า”

“ถ้าเจ้าไม่อยู่แล้ว ดินจะกินข้าวคนเดียวได้มั้ยนะ”

“หุบปากไอ้สัด มึงจะไปไหน” ธราเสียงดุขึ้นมาทันที เขามองไอ้เจ้าด้วยสีหน้าราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ “อย่าพูดอะไรเป็นลาง ได้กูแล้วจะทิ้งเหรอ อยากโดนดีหรือไง”

“เกรี้ยวกราดเวอร์ คุณอินอะไร” ไอ้เจ้าแสร้งทำหน้าตกใจ ยิ้มกลบเกลื่อน “ก็แค่ถามเอง”

“ถามอะไรที่มันสร้างสรรค์กว่านี้” น้ำเสียงของธราจริงจัง เขาบีบเอวไอ้เจ้าเป็นการลงโทษ “กูไม่ชอบฟัง เป็นอะไรนักถึงชอบพูดแบบนี้”

“คือว่า...”

“ไม่ต้องพูด” ธราตัดบทเสียงเสียบ มองแววตาก็รู้แล้วว่ามันจะพูดอะไร “บอกรักกูหน่อย”

“เปลี่ยนอารมณ์เร็วเกิน” ไอ้เจ้าส่ายหน้าระอากับคนอารมณ์แปรปรวนที่ยังทำหน้าดุ “ตามไม่ทันแล้ว”

ธรายกมือขึ้นบีบจมูกของไอ้เจ้า เห็นสีหน้าของมันแล้วหมั่นไส้ “ต่อไปถ้าจะพูดอะไรแย่ๆ ก็บอกรักกูดีกว่า น่าฟังกว่าเยอะ เข้าใจมั้ย”

“เข้าใจแล้วจ้า” ยอมความอย่างเสียมิได้ ไม่อย่างนั้นคนรูปหล่อของไอ้เจ้าก็คงไม่หายหงุดหงิด ไอ้เจ้าอยากเห็นรอยยิ้มของเขา รอยยิ้มที่ทำให้ตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นมากกว่า “เออนี่ที่รัก พรุ่งนี้ไปชลบุรีกัน ครั้งนี้ไปยาวๆ เลย”

“ไปอีกแล้วเหรอ” บางแห่งในใจตะโกนเป็นสัญญาณเตือน เขารู้สึกไม่ดีเลยสักนิด “ไม่ไปได้มั้ยวะ กูขาดเรียนนานๆ ไม่ได้หรอก”

“แต่ใกล้วันเกิดแล้ว เจ้าอยากกลับไปที่นั่น”

“วันเกิดเหรอ” เขาทวนถามเสียงแผ่ว “อีกกี่วันนะ”

“สามวัน”

“เดือนกรกฎาคมแล้วหรือไง” วันเวลาไม่เคยคอยท่า คงอย่างที่คิดไว้ว่ามันผิดเพี้ยนไปหมด เพราะทั้งที่ล่วงเข้าเดือนกรกฎาคมแล้ว เขาก็ยังเป็นนักศึกษาชั้นปีที่สี่ ยังไม่ได้สอบไฟนอลเลื่อนชั้นปี แต่วันเกิดของไอ้เจ้ากลับใกล้เข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว

ไอ้เจ้ายิ้มกว้าง แม้จะแคลงใจกับสีหน้าไม่เห็นด้วยของธราที่บ่งบอกว่าเขาไม่อยากไป แต่กลับโฟกัสอีกเรื่องที่ทำให้หัวใจเต้นแรง “คุณรู้วันเกิดเจ้าด้วยเหรอดิน”

“ก็จำได้” เขาตอบเสียงนุ่ม แววตาอ่อนโยนทอดมองคนสำคัญ “เคยฉลองวันเกิดให้ทุกปี ทำไมจะจำไม่ได้”

“ตอนนี้ไม่รู้แล้วนะว่าคุณจำอะไรได้บ้าง เราไม่ได้คุยเรื่องนี้กันสักพักแล้วสินะ”

“อืม แต่ไม่ต้องห่วง กูจำได้แต่เรื่องที่อยากจำนั่นแหละ” ธราตอบ ยกมือลูบศีรษะของไอ้เจ้า “ไม่ต้องกังวลหรอก ไม่ว่ามึงจะเคยทำอะไร กูก็รักมึง ไม่เคยเกลียดเลย”

“ดิน…"

“กูรักมึงมากนะเจ้า ไม่เคยคิดสักครั้งว่าวันหนึ่งจะไม่มีมึง”

ผมก็รักคุณ ผมรักคุณมาก ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าจะแยกจากคุณ

“อยู่ด้วยกันตลอดไปเลยได้มั้ย”

แต่ผมจะทำอะไรได้ ในเมื่อคำว่าตลอดไปมันไม่มีจริง ผมอยู่กับคุณไม่ได้อีกแล้ว

“หรือถ้าไม่ได้...ก็ให้กูจำเรื่องของมึงตลอดไปได้หรือเปล่า”

อย่าจดจำผมเลย ให้มีแค่ผมจำเรื่องของคุณก็พอแล้ว

“กูไม่อยากลืมมึงอีกแล้ว”

ลืมผมเถอะ อย่าเจ็บปวดเพราะผมเลย

“ไม่อยากทำให้มึงต้องเจ็บอีกแล้วนะเจ้า มีความสุขสักทีได้ไหม”

ตอนนี้ผมมีความสุขแล้วที่รัก เพราะตอนนี้ผมอยู่ในอ้อมกอดของคุณ

“พระเจ้าของกูนี่ร้องไห้เก่งจริงๆ”

ไม่เคยเลยสักครั้งที่ธราจะเห็นไอ้เจ้าร้องไห้มากขนาดนี้ คนที่เข้มแข็งมาตลอด คนที่ไม่เคยให้ใครได้เห็นด้านที่อ่อนแอกลับปล่อยโฮออกมา น้ำตารินไหลอาบแก้มหยดแล้วหยดเล่า แววตาที่ไม่ค่อยเผยความรู้สึกก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด เป็นความเจ็บปวดที่ไม่คาดคิดว่าคนคนหนึ่งจะทนไหว แต่เขากลับทำอะไรไม่ได้นอกจากเช็ดน้ำตาให้และดึงร่างผอมที่แสนเปราะบางนี้เข้ามากอดไว้

ร้องออกมาเถอะนะ ให้โอกาสคนที่รักได้เช็ดน้ำตาให้บ้าง

ครั้งสุดท้ายก็ยังดี

.

.

D. : จี้ ถ้ากูไม่ยอมปล่อยให้เจ้าไป จะมีเรื่องที่แย่ยิ่่งกว่านี้เกิดขึ้นหรือเปล่า หรือที่เป็นอยู่นี้มันแย่ที่สุดแล้ววะ

-Read-



..............TBC..........



ที่สุดก็ต้องเป็นไป  :กอด1: :กอด1: ขอบคุณทุกคอมเม้นและกำลังใจค่า

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
ไปให้สุดจ้า ไปให้สุด แล้วหยุดอยู่ที่ bad end  :ling1: แงๆๆๆๆ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เรื่องนี้ คนที่น่าสงสารที่สุดจะเป็นใครกันนะ  :hao4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
เอาให้สุดค่ะ  :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ angelninae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกแปลกๆค่ะ หรือว่าคนที่ยิงเจ้า จะเป็นจี้
แล้วถ้าอย่างนั้นทำไมดินถึงเลือกจะลืมเจ้าล่ะ  สงสารเจ้ามาก
ถ้าสุดท้ายจริง ดินมีอนาคตที่มีความสุขโดยลืมเรื่องเจ้าไปหมด
นี่โคตรเศร้าเลย
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วค่ะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
ถึงตรงนี้ เลิกเดาเรื่องแล้วว่าจะเป็นแบบไหน จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปป แค่มีความสุขที่ได้อ่านได้ติดตามความเป็นไปของทุกคน มีความสุขและไม่เครียด

ออฟไลน์ nonlapan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
เดาไม่ถูกแล้วววววววว จบดีมั้ยคะ?  :hao5:

ออฟไลน์ เนเน่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ปวดตาไปหมดแล้ว สงสารเอ๋มากและเจ้าก็รักเอ๋มากเช่นกัน ินเราก็เจ็บปวดไม่น้อยไปกว่าคุณดูแลตัวเองด้วยนะคะ ปล่อยเจ้าไปเถอะค่ะ

ออฟไลน์ คุณซี

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
แง้ก็คืออ่านไปแบบมึนงงว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมเป็นอย่างงี้แต่ก็ร้องไห้หนักมาก

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
ไปตามทางเดินของแต่ละคน  :undecided: :undecided:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
มีสุดกว่านี้อีกไหม คือคนอ่านร้องไห้สุดๆ น้ำตาไหลพรากๆ
คัดจมูกเสมือนเป็นหวัดติดต่อกันมาสามปีเลยเชียว

ออฟไลน์ valenna yy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
เอ๋กับดินคือคนที่รู้มากที่สุด แต่หลอกตัวเองตลอด เพราะไม่อยากให้จากกันอะ
ตอนเอ๋บอกจะไม่นอนคือน้ำตาไหลแล้ว มันเป็นความพยายามที่รู้ว่าไม่ได้ผลอะ   :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 694
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
เราร้องไห้เพราะเอ๋เลย  :ling3: :ling3:

เราจะคิดถึงเอ๋นะ แม้ตอนนี้เอ๋จะหายไปแล้วก็ตาม

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
อ้าว ดินมีแอบแชทกับจี้ไปอี๊กกก  จี้คบซ้อนหรา 55555 #ขำกลบเกลื่อนความงงในงง

ออฟไลน์ kanj1005

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1

สะดุดตรงนี้เหมือนกัน  ดินแชทกับจี้

อ่านบทนี้เหมือนคนที่ตายคือเจ้ากับจี้
น่าจะเพราะดินในอดีตเข้าใจผิดเรื่องเจ้ากับจี้
แต่ก็ยังอธิบายเรื่องที่จันทร์ถูกทำร้ายไม่ได้
และจี้ก็ยังมีตัวตนในมิติที่ชลบุรี

อ่านบทพูดหมอแพร์ นิยายเลยจะกลายเป็นนิยายผีไปซะงั้น  หมอต้องอ่านนิยายมิติคู่ขนานหรือนิยายย้อนอดีตเยอะๆนะหมอ 

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ไม่ไหว ตอนจบจะขนาดไหน T_____________T

ออฟไลน์ mareeyah

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 177
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ขอบคุณของขวัญวันวาเลนไทน์นะคะ ร้องไห้จนจะไม่มีน้ำตาอยู่แล้ว  :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
สงสารทุกคนเลย ร้องไห้ตามเอ๋แล้วก็ร้องไห้ตามเจ้า มันเจ็บปวดมากเลยที่ต้องลืมกันไปแบบนี้

ออฟไลน์ Funnycoco

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เจ้ากับจี้ที่ตาย โลกความจริงมันเป็นยังไงอยากรู้ๆ

ร้องไห้ตาบวม คัดจมูกไปหมดแล้วเรา  :mew6:

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :serius2: ทั้งมึน ทั้งลุ้น

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
จัดไปเอาให้สุด น้ำตาของน้องแด่พี่เจ้านะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด