OMG: คนใหม่เหรอ
D. : อะไร
OMG: ดาวอักษรฯ นั่นคนใหม่เหรอ
D. : อืม
OMG: เจ็บจัง
D. : เรื่องของมึง
OMG: เรื่องของเราครับ
D. : เลิกบ้าแล้วไปตายซะไป
OMG: ต้องเกลียดกันขนาดไหนถึงไล่กันไปตายอย่างนี้ครับที่รัก
D. : ให้กูบรรยายความเกลียดที่มีต่อมึง ห้าสิบปีก็ไม่หมด
OMG: จะอยู่เกลียดผมไปอีกห้าสิบปีเลยเหรอ
OMG: ดีจัง มีตัวตนในสายตาคุณแล้ว อิ๊
D. : เวรกรรม
OMG: เลิกกับหล่อนครับ คนนี้สเปคคุณด้วย ผมให้ครึ่งชั่วโมง นานกว่านี้คุณต้องตกหลุมหล่อนแน่ๆ
D. : กูไม่เลิก! กูบอกกี่ครั้งว่าอย่ามาก้าวก่าย ทำไมตำรวจจัดการคนอย่างมึงไม่ได้วะ
OMG: ตำรวจจะจัดการคนดีอย่างผมทำไม รีบทำตามที่ผมบอกครับ อย่าให้โมโห
D. : มึงมันหมาบ้า
OMG: งั้นก็ระวังหมาบ้ากัด
OMG: ผมเตือนแล้วนะดิน
D. : แต่กูชอบเขาแล้ว
OMG: แต่ผมชอบคุณ
D. : กูไม่ชอบมึง กูเกลียดมึงไงไอ้เหี้ย ต้องให้พูดอีกกี่ครั้ง
OMG: สามครั้ง แต่ขอเป็นบนเตียงนะ ขอเจ็บๆ แรงๆ อิ๊
D. : คนนี้ขอเถอะ กูจริงจัง
OMG: ผมจะเริ่มนับ...
D. : คนชอบกันเขาทำแบบนี้เหรอวะ
OMG: ผมไม่ได้ชอบกัน ผมชอบดิน
D. : กูเหนื่อยกับมึงแล้วนะ
OMG: งั้นก็นอนเฉยๆ ผมโยกเอง
D. : ไอ้สัด!
OMG: ผมนับหนึ่ง...
OMG คือศูนย์รวมแห่งความเกลียดมากที่สุดเท่าที่ธราเคยมี หากไม่ใช่คนที่ชอบใช้กำลังแก้ไขปัญหา แต่เจอคนอย่างมันก็ต้องใช้ ถึงอย่างนั้นก็ทำอะไรมันไม่ได้อีกเช่นเคย ต่อให้จะถูกต่อยจนเลือดกลบปาก แก้มบวมช้ำ คนอย่างมันก็ไม่คิดถอย มันตัวผอมบาง แต่ก็คงไม่ใช่คนที่จะยอมอยู่เฉยให้ใครรังแก ทว่าเมื่อถูกธราต่อยกลับไม่ตอบโต้ ต่อยกี่ทีมันก็ยังยิ้มแล้วบอกแต่ว่า ‘ชอบคุณครับ’
สุดท้ายก็แพ้มันอีกจนได้...
OMG: มาที่ประตูครับ
D. : มึงไม่เคยเข็ดจริงๆ
OMG: ให้เข็ดอะไร แค่ถูกต่อย ไม่ได้โดนยิง แต่ต่อให้โดนคุณยิง ใกล้ตายยังไง ผมก็จะคลานมาหาคุณ
D. : หน้ามึงทำด้วยอะไร หนาได้ใจมาก
OMG: ชมอีกแล้ว สดชื่นจัง
D. : โว๊ะ! ไปไกลๆ ตีน
OMG: ไม่ครับ แล้วก็มาที่หน้าประตู ผมซื้อข้าวมาให้
D. : กูไม่กิน
OMG: เร็ว อย่าให้ผมโมโห
D. : มึงโมโหแล้วจะทำอะไรกูได้
OMG: ทำได้ แต่ผมไม่ทำครับ นอกจากใช้ปากให้คุณร้องครางชื่อผมแล้ว ผมจะไม่ใช้อย่างอื่น
D. : โรคจิต!
OMG: ออกมา!
D. : เออ! รู้แล้ว
เห็นหน้าบวมๆ ของมันก็รู้สึกผิดขึ้นมานิดหน่อย แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มของมันแล้วความรู้สึกผิดก็หายวับไปกับตา แน่ใจแล้วว่าแผลแค่นี้คงทำอะไรคนอย่างมันไม่ได้
'กินข้าวซะ' มันบอกแล้วยื่นถุงจากร้านสเต็กเจ้าอร่อยแต่ราคาแพงกระเป๋าฉีกมาให้ 'ของโปรดคุณ ผมรู้'
'มันไม่ใช่ข้าว'
'ก็จริง' ตอบแล้วยักไหล่ 'แล้วไง อิ่มเหมือนกัน'
'แต่มึงบอกข้าว'
'เรียนหมอ โง่ได้ไง ข้าวสำหรับผมตอนนี้ก็คือมื้ออาหาร'
คนฟังเม้มริมฝีปาก ความหงุดหงิดคืบคลานเข้ามา เกือบยกมือขึ้นชกหน้าคนยียวนอีกสักแผล
'ไปละ กินด้วยล่ะ'
'กูจะเอาไปทิ้ง'
'เรื่องของคุณ'
มันก็เป็นซะแบบนี้ บางทีมันก็เย็นชา ยิ่งตอนที่มันทำหน้านิ่งๆ ก็ยิ่งอยากถอยห่าง มันคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้ คนโรคจิตอย่างมันจะทำอะไรที่เกินขอบเขตไหมก็ยากจะเดาใจ อยากหนีไปให้ไกล อยากซ่อนตัวจากมัน แต่กลับทำไม่ได้ มันตามเขาเจอ มันรู้ทุกความเคลื่อนไหวราวกับเขาอยู่ในสายตาของมันตลอดเวลา แต่บางที...การได้อยู่ในสายตาของมันก็มีเรื่องที่ดีอยู่บ้างเหมือนกัน
OMG: ธรา
เวลามันเรียกชื่อจริง จะรู้ได้ทันทีว่ามันกำลังโกรธอย่างจริงจัง นับครั้งได้และก็เป็นเรื่องเดิมๆ
OMG: ใครอนุญาตให้คุณป่วย!
OMG: เรียนหมอได้ไงถ้าจะโง่ขนาดนี้
OMG: ผมโมโหคุณจริงๆ รอก่อนเถอะ ผมจะไปลากคอหมอมาตรวจอาการคุณ
ทำไมกันนะ...ทำไมคนบ้าแบบมันกลับเป็นคนเดียวที่เดือดร้อนกับอาการป่วยเล็กๆ น้อยๆ ของเขา เป็นไข้และไอนิดหน่อย กินยาแล้วนอนพักผ่อนไม่นานก็หาย แต่ OMG กลับทำเหมือนเป็นเรื่องใหญ่ มันบุกเข้ามาในห้อง ยืนยันได้ว่ามันรู้รหัสห้องของเขาจริงๆ ไม่ได้แค่พูดไปอย่างนั้น มันเข้ามาพร้อมกับนายแพทย์วัยกลางคนที่หน้าซีดเหงื่อท่วมตัว ดูก็รู้ว่าถูกพาวิ่งมาด้วยความรีบร้อน
'ถ้าเขาไม่หาย หมออาจจะต้องหายไปเอง'
คนบ้าเต็มขั้น...คงมีแค่มันคนเดียว
‘มองทำไม นอนไป ไม่มีอารมณ์ยัดเยียดความเป็นเมียให้ ฉิบ! หงุดหงิดโว้ย!’
เพราะมันบ้า...มันบ้าเอามากๆ มันบ้าจนทำให้ธราก็เกือบจะบ้าตามมันไปด้วย
บ้า...ที่เผลอยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าเป็นห่วงของมัน
บ้า...ที่เผลอใจเต้นแรงเมื่อมันยื่นหน้าเข้ามาใกล้แค่เพราะอยากวัดไข้เหมือนกับในซีรีย์เกาหลี
ธราเกลียดมัน แต่บางครั้งก็เหมือนกับว่าความเกลียดนั้นพิเศษขึ้นมา...
‘เกลียดว่ะ’
‘ชอบครับ ชอบมาก แล้วก็รักมากด้วย’
OMG เป็นคนที่ธราเกลียดที่สุดในชีวิตและคงไม่มีใครสามารถล้มตำแหน่งของมันได้
“ไอ้เจ้า ผมว่านายอาการหนัก” ไอ้เอ๋มองเพื่อนรักด้วยสายตาหวาดผวา “บอกผมหน่อยว่าสูตรเคมีที่กำลังแก้มีเสน่ห์ตรงไหน ผมจะได้ชอบมันบ้าง หรือผมต้องคิดต่าง เช่นว่าโอ้ แม่ยอดยาหยี เฮชทูโอนี่ใช่สมการรักของเธอไหม”
“นายไม่เข้าใจคนกำลังมีความรักอย่างผมเอ๋ หัวใจของผมเต้นไม่เป็นส่ำ ตึกตัก ตึกตัก รุนแรงยิ่งกว่ากลองยาวหน้าขบวนแห่นาค” ไอ้เจ้าทำตาเชื่อม “คำว่าเกลียดที่ดังออกจากปากธราเหมือนคำว่ารักที่จู่โจมหัวใจของผมให้สิ้นท่า ผมแทบล้มเมื่อเขาพูดว่า เกลียดว่ะ สายตาชิงชังของเขาตราตรึงในใจของผม”
“ผมไม่เข้าใจเลยเพื่อนรัก นายใจเต้นกับคำว่าเกลียดได้ยังไง” ไอ้เอ๋ว่าพลางยกมือขึ้นนวดขมับตัวเอง มันไม่เข้าใจความรักของไอ้เจ้าที่มีต่อคนที่แอบหลงรักจริงๆ
“ธราบอกรักผม”
“เขาบอกว่าเกลียดนาย”
“เขาน่ะคนปากแข็ง”
“นายแค่ไม่ยอมรับความจริง”
“อย่าเถียงดิเอ๋!”
ไอ้เจ้าแทบล้มโต๊ะ ตาหวานเชื่อมหายวับ ไอ้เอ๋จึงได้แต่ถอนหายใจ ไม่รู้จากคำว่าเกลียดถูกตีความไปเป็นคำว่ารักได้อย่างไร ฟังจากที่ไอ้เพื่อนตัวดีเล่าแล้วก็ไม่มีถ้อยคำไหนที่สื่อความหมายว่ารักเลยแม้แต่คำเดียว
“หนึ่งปี สิบเดือนกับอีกสามวัน” ไอ้เอ๋เกริ่นเตือนสติ “นั่นเป็นเวลาที่นายยัดเยียดคำว่าเกลียดให้ธรา เขาเกลียดนายจากอินเนอร์ เกลียดที่แปลว่าเกลียดอย่างจริงจัง ผมรู้ว่ามันเจ็บ แต่นายควรยอมรับ”
“คำว่ารักเอ๋ คำว่ารัก! ผมยอมรับแค่คำว่ารักเท่านั้น”
“แต่ธราเกลียดนายไอ้สัด เขามองนายเหมือนกับเห็บหมาที่ไร้ประโยชน์ เขาแจ้งความจับนายสิบครั้ง เขาต่อยหน้านายสิบครั้ง และตอนนี้เขาก็กำลังจะมีแฟนคนที่สิบที่ไม่ใช่นาย”
ไอ้เจ้าปิดสมุดที่มันใช้เลคเชอร์ สูดหายใจเข้าลึกแล้วยกมือขึ้นนวดขมับของตัวเอง “ผมรู้เอ๋ ผมรู้! และผมกำลังคิดหาวิธี ครั้งนี้แฟนคนที่สิบของธราทำให้ผมปวดหัว”
“หล่อนคือตัวจริง”
“ไม่เอ๋ หล่อนนมใหญ่ ผมไม่ชอบทำร้ายแม่พันธุ์ชั้นดี”
ไอ้เอ๋กลอกตาไปมา รู้จักไอ้เจ้ามาตั้งแต่รับน้องจนตอนนี้ขึ้นปีสองก็ยังไม่เคยเข้าใจความคิดของมัน มันเป็นเด็กซิ่วซึ่งไอ้เอ๋ก็ไม่เคยถามว่าซิ่วมาจากไหน เคยเรียนคณะอะไรมา อายุมันก็มากกว่า แต่ก็พูดคุยเข้าคู่กันดี และไอ้เจ้าแอบชอบรุ่นพี่คนหนึ่ง รุ่นพี่ที่มีชื่อว่าธรา รูปหล่อ ฐานะดี มีรถหรูขับ โทรศัพท์ถ่ายรูปชัดยิ่งกว่ากล้องโปร พี่ธราคนนั้นที่อยู่สูงเกินไอ้เจ้าเอื้อมถึง ใครที่มองสภาพของไอ้เจ้าก็พอจะรู้ได้ว่าคนอย่างมันไม่มีทางสมหวังกับพี่ธรา ไอ้เจ้าบอกว่าเพราะชอบพี่ธราถึงได้ซิ่วมาเรียนที่นี่ แม้จะไม่ค่อยเข้าใจมันเท่าไร ไอ้เอ๋ก็ยังช่วยมันเต็มที่ อะไรที่ถูกขอให้ทำก็ทำให้อย่างไม่อิดออด
ไอ้เจ้าน่ะเป็นคนประหลาด มันเหมือนคนที่มีหลายบุคลิกในตัวเอง นิสัยเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศ แปรปรวนยิ่งกว่าช่วงที่มีพายุเข้า แต่ไม่ว่านิสัยมันจะขึ้นๆ ลงๆ อย่างไร ความมั่นคงที่มันมีต่อพี่ธรา แรร์ไอเทมของคณะทันตะฯ ก็เป็นของจริง
ไอ้เจ้าชอบพี่ธรา ชอบมากจนไม่อาจบรรยายความชอบของมันได้ หากเปรียบกับจักรวาลแล้วจักรวาลก็คงดูเล็กน้อยไป ทั้งที่พี่ธราไม่เคยมีท่าทีจะชอบมันเลยสักนิด เขาก็บอกว่าเกลียดมันอยู่ทุกวัน แต่มันกลับเลือกจะอยู่กับจินตนาการ ไม่เคยยอมรับความจริงเลยว่าพี่ธราคิดอย่างไรกับมัน
“เรียนถามหน่อยเพื่อนรัก” ไอ้เอ๋เริ่มบทสนทนาอีกครั้งหลังจากที่ปล่อยให้ไอ้เจ้าจมอยู่กับความคิดของตัวเองอยู่นาน
“กล่าวมา” ไอ้เจ้าเอ่ยอนุญาต สบตามองกับคู่สนทนาที่มีแววตาจริงจัง
“สมมติว่าธราเขารักดาวเภสัชฯ คนนี้จริง นายจะทำอย่างไรเล่า”
ไอ้เจ้ามีสีหน้าครุ่นคิด ไม่มีความวูบไหวในแววตา สีหน้าของมันก็ยังเป็นปกติราวกับมันไม่เคยกลัวเกรงว่าหัวใจของธราจะตกไปอยู่ในมือใคร
“ธราชอบที่จะประชดประชันผม เขาเป็นคนร้ายๆ ที่ชอบเรียกร้องให้ผมสนใจ ไม่มีทางที่เขาจะไปเป็นของใครจริงๆ นายรู้ ผมรู้ และธรารู้ ว่าผมจะไม่มีวันยอม อิ๊”
“นายตอบไม่ตรงคำถาม” ไอ้เอ๋ว่าอย่างอ่อนใจ ไม่รู้จะสรรหาคำใดมาเจาะกะโหลกหนาๆ ของไอ้เจ้าดี
“คำถามของนายต่างหากที่ไม่ตรงคำตอบของผม แล้วนายว่าอย่างไรเอ๋ ดาวเภสัชฯ ที่ธราควง มีดีบ้างไหม”
“จากที่ผมสืบมาได้ หล่อนเป็นผู้หญิงที่ดี เรียบร้อย น่าทะนุถนอม ฐานะทางบ้านจัดอยู่ในขั้นดีมาก เบ้าหน้าไม่ต้องพูดถึง บรรยายความสวยน่ารักของหล่อนสองวันก็ไม่จบไม่สิ้น เส้นผมยาวตรงของหล่อนสีดำเงางาม ผิวขาวใสเป็นธรรมชาติไม่มีการเสริมแต่ง หลายคนบอกว่าหล่อนเหมาะสมกับธราราวกับกิ่งทองใบหยก ซึ่งตอนที่เห็นพวกเขาเดินด้วยกันผมก็คิดเห็นเช่นนั้น ขอโทษนะเพื่อนรักที่ผมไม่เห็นความไม่เหมาะสมของพวกเขาเลย นายต้องทำใจ”
“ทำไมผมรู้สึกเจ็บ เหมือนนายทุบหัวใจผมด้วยค้อนเหล็กเลยเอ๋ แต่ไม่เป็นไร ผมทนไหว แล้วอย่างไรต่อ”
“วงในบอกมาว่าธราไปจีบหล่อนเอง ไม่เหมือนคนก่อนๆ ที่เข้าหาธรา พวกเขาเจอกันที่ค่ายอาสา เภสัชกับหมอฟันผมว่าก็เข้ากันดี หรือได้เข้าไปแล้วเรื่องนี้ผมยังสืบอยู่ แต่ดูท่าว่าเลขสิบจะไม่สมพงษ์กับนายแล้ว แฟนคนที่สิบของธราอาจทำให้เขาสลัดนายทิ้งได้อย่างถาวร”
ไอ้เจ้าพยักหน้ารับรู้ คงจะจริงอย่างที่ไอ้เอ๋มันพูดไว้ นับถึงสิบทีไรเป็นเรื่องทุกที แต่คนอย่างไอ้เจ้าไม่เคยยอมแพ้ ความรักจะเอาชนะทุกอย่างได้เสมอ
“นายกำลังคิดอะไรเพื่อนรัก”
“กำลังคิดว่าหน้าตาอย่างนายจีบดาวเภสัชฯ แล้วจะติดไหม”
ส่งไอ้เอ๋ไปทำการใหญ่คงเป็นทางเลือกสุดท้ายที่อยากจะเลือก แต่ก็คิดหาวิธีดีๆ ไม่ออก เพราะไอ้เจ้าแพ้ทางผู้หญิงเรียบร้อย การรังแกหล่อนก็เหมือนกับเอาหมอนไปปิดหน้าคนที่กำลังนอนหลับฝันดีให้ตายไปอย่างทุรนทุราย
ทำไม่ได้...ใจเหี้ยมไม่พอ
“ห้าห้าห้า ความหล่อของผมไม่เข้าตานายเลยหรือไอ้เพื่อนเวร”
“มันแยงตาแทบบอดเลยไอ้สัด แต่เดี๋ยวก่อนเอ๋ ความหล่อของนายช่วยอะไรไม่ได้ เพราะนายยังเทียบเศษเล็บของธราไม่ติด ธราหล่อกว่านายหลายขุมนัก หากผมเป็นดาวเภสัชฯ ผมก็จะเลือกธรา นายมันกระจอก”
“เฮ้เฮ้เฮ้”
“แต่เอาอย่างนี้ มาว่ากันตามตรง นายไปฉุดหล่อน ย่ำยีให้หล่อนเป็นของนาย ตั้งท้องลูกของนายเลยยิ่งดี ดีลไหมเพื่อนรัก”
แผนชั่วก็คงจะมีแต่คนชั่วที่คิดขึ้นมาได้ แล้วจะมีคนบ้าที่ไหนยอมทำตาม นอกจากไอ้เอ๋แล้วคงไม่มีคนอื่นรับฟังความคิดของไอ้เจ้าได้อีก
เพราะมันสองคนนั้นไทป์เดียวกัน แปลกและประหลาดเหมือนกัน
“ดีลตีนผมนี่สิครับ อยู่ดีไม่ว่าดีหาคุกหาตะรางมาให้กัน”
“นายต้องช่วยผมนายเอ๋”
“ผมควรปฏิเสธอย่างไร”
“แค่พูดคำว่าไม่”
“งั้นไม่”
“ไม่เอาดิเอ๋ นอกจากผมแล้วก็ไม่มีใครคบนาย”
“เพื่อนรักเพื่อนตายของผม”
“ดีลไหม”
“ผมไม่ย่ำยีใคร แต่จะกันออกมาให้ แล้วนายก็จัดการธราซะ”
“มิตรภาพของเราจะยาวนานไปอีกร้อยปี”
“แต่ผมคิดว่าอีกสิบนาทีจะตัดเพื่อนกับนายแล้วไอ้สัด! หาแต่เรื่องเดือดร้อนมาให้”
“รองเท้าที่นายอยากได้ แค่ส่งยี่ห้อ รุ่นและเบอร์รองเท้ามาให้ผม”
“เค ดีล”
ไอ้เจ้าไม่เคยพูดว่าชื่อมันถูกตั้งมาได้อย่างไร แต่สำหรับไอ้เอ๋แล้วคิดว่าเจ้าคงมาจากคำว่าพระเจ้า เพราะไอ้เจ้าเสกของได้ บันดาลได้แทบทุกสิ่ง มันไม่เคยพูดว่ามันร่ำรวย แต่มันเปย์ได้ทุกอย่างตามที่มันต้องการ ไม่เคยเห็นมันขับรถหรู ไม่เคยเห็นมันแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแบรนด์เนม อยู่ที่คณะมันเป็นแค่ไอ้เจ้าคนประหลาด วันๆ จับแต่จอบแต่เสียม ก้มหน้างกๆ อยู่กับตัวอย่างดิน เนื้อตัวมอมแมมบ้างตามแต่การลงวิชาภาคปฏิบัติในวันนั้นๆ แต่คิดว่ามันก็ไม่ใช่คนธรรมดา ไอ้เจ้ามีบรรยากาศบางอย่างที่แผ่ออกมาจากตัว มันทำให้คนเงียบได้แค่ปรายตามอง มันทำให้คนเกรงใจมันได้แค่มันทำหน้านิ่งๆ ทั้งที่รู้จักมันมาปีกว่าแล้วแต่ก็เหมือนไม่เคยรู้จักมันเลย บทสนทนากับมันจะมีเรื่องของพี่ธราเป็นส่วนใหญ่ราวกับว่าทั้งชีวิตของมันไม่มีเรื่องอื่นที่น่าสนใจอีกแล้ว
“ธราพักเที่ยงแล้ว ผมไปส่งข้าวก่อน แล้วเจอกันที่อาคารเรียนรวม” ไอ้เจ้าลุกขึ้นพลางร่ำลา มันไม่เคยท้อเลยจริงๆ กับการตามตื้อคนที่มันชอบ กลับเป็นไอ้เอ๋ซะเองที่เห็นแล้วเหนื่อยแทน
“โชคดีเพื่อนเอ๋ย หวังว่าครั้งนี้ธราจะมอบรอยยิ้มเป็นการตอบแทน และไม่เอาข้าวที่แสนอร่อยของนายไปทิ้งอีก”
“เป็นคำอวยพรที่ฟังแล้วสดชื่นหัวใจยิ่งนักเพื่อนรัก แล้วเจอกันเอ๋ ขอตัวก่อน”
ไอ้เจ้าเดินอย่างรีบเร่งจากไปแล้ว ระยะทางจากคณะเกษตรฯ ไปคณะทันตะฯ นั้นหากให้บอกถึงความห่างก็เอาเป็นว่าหากไม่มียานพาหนะก็ลำบากพอดู แต่นี่ไม่ใช่อุปสรรคของไอ้เจ้า มันวิ่งของมันอยู่แทบทุกวัน เหงื่อท่วมตัวทุกครั้งที่ไปถึงกลับไม่เคยย่อท้อ หวังแค่ว่าพี่ธราจะได้กินข้าวที่มันซื้อให้เป็นมื้อเที่ยงก็แค่นั้น
OMG: อยู่ไหนครับ
D. : ออกมากินข้าว
OMG: ผมซื้อข้าวมาให้
D. : ทิ้งไปสิ กูออกมากินข้าวแล้ว
OMG: อยู่ไหน
D. : กูกำลังกิน
OMG: อยู่ไหน
D. : ไอ้สัด มึงจะอะไรกับกูนักหนา
OMG: ผมจะถามอีกที อยู่ไหน
D. : โรงอาหารกลาง
OMG: ไปกินไกล
D. : นัดคนไว้
OMG: ดาวเภสัชฯ เหรอ
D. : เออ
OMG: ผมกำลังไปหา
D. : ไม่ต้อง!
OMG: ผมกำลังไป
D. : กูบอกว่าอย่ามา!
OMG: ห้ามผมได้เหรอ
OMG: งั้นผมให้เลือก จะเจอผมตอนนี้หรือคืนนี้ที่ห้องคุณ
D. : กูไม่เลือก!
OMG: ห้องคุณดีกว่านะ
D. : ไอ้เวรเอ้ย!
OMG: ผมจะรอที่ห้อง รีบกลับด้วยนะครับ ทุ่มครึ่งผมต้องเห็นคุณ
D. : มากไปแล้วนะ
OMG: ธรา ผมจะพูดอีกแค่ครั้งเดียว
D. : เออๆ แล้วแต่มึงละกัน
OMG: ดีครับ
D. : เกลียดว่ะ ไอ้เหี้ยเอ้ย กูเกลียดมึงชิบหาย!
OMG: แต่ผมรักคุณครับที่รัก รีบกลับนะ ผมรอ
ความรักอาจเป็นเรื่องของโชคชะตาไม่ใช่เรื่องของความพยายาม แต่การได้พยายามก็ยังทำให้ได้พูดคุย ได้เห็นหน้า แม้น้อยครั้งที่จะได้เห็นรอยยิ้ม ทว่ามันก็ดีกว่าที่ไม่ได้ทำอะไรเลย
........................TBC........................
เปิดเรื่องใหม่ ฝากด้วยนะคะ
