'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 'เจ้า' ชีวิต ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต ​P.26 11/03/2019 -- The End  (อ่าน 176589 ครั้ง)

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ลำบากมากมายที่บังคับไม่ให้ตัวเองร้องไห้
เพราะอ่านขณะที่พอกหน้าอยู่
ส่วนที่น้ำตาไหลผ่านคงจะไม่ได้รับการดูและในครั้งนี้

จะบอกว่าสงสารอีกแล้ว

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 687
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ฮืออออ ยังไงดี ใจพังหมดแล้ว  :z3: :sad4: :sad4:

ใครก็ได้เอาจันทร์ออกไปที แงงงงง

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เหนื่อยอ่ะ..

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ใครอ่านตอนนี้จบพร้อมกับถอนหายใจแบบเราบ้าง  :z3:  จะไม่ไหวแล้ว บีบหัวใจมาก ตอนจบคิดไม่ออกเลยจริงๆว่าจะจบแบบไหน ฮึบๆๆๆ ทุกคน สู้ค่ะ!! มะ พร้อม!

ออฟไลน์ kanj1005

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
คือที่จริง  จี้ก็ตายทุกครั้งนะ  ครั้งนี้ก็เช่นกัน
แต่เจ้าที่ถูกยิงก่อนจี้   ยังไม่ตาย....

ออฟไลน์ i.am.wee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เป็นเรื่องที่สุดทุกอย่าง ลุ้นทุกตอนเลย

ออฟไลน์ Funnycoco

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อีจันทน์นี้มันตัวปัญหาชัด น่าจะให้ตายๆไปก่อน :z3:

ออฟไลน์ mareeyah

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
พยายามที่จะไม่ร้องไห้ แต่ก็ทำไม่ได้อยู่ดี  :sad4: :sad4:
กอดจี้ :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
จี้ ฮืออออออ :o12:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
จี้  :hao5:

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :katai1:  :hao5: ทั้งคน และเศร้า

ออฟไลน์ Gugii

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
มันจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีใช่มั๊ย  :a6: :a6:

ออฟไลน์ bowbeauty

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
น้องจี้คนดี

ออฟไลน์ เนเน่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ที่สุดของที่สุดที่นิยายเรื่องหนึ่งได้ให้อะไรมากๆครบทุกรสสุข เศร้า หน่วง ฮา มีในเรื่องนี้ เล่มนี้ต้องมีแล้วนะคะ ขอบคุณไรท์อย่างสุดซึ้งค่ะขอบคุณมากคะขอบุณที่สร้างนิยายดีๆขึ้นมาเรารักทุกตัวละครค่ะครบทุกรสจริงๆ

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
ร้องไห้ทุกตอน,,,

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
ต้องตาย 2 แต่โดนยิง 3 เะราะงั้นต้องมีคนนึงที่รอดสิ ใครจะเป็นผู้ได้ไปต่อ หวังว่าคงเป็นท่านเจ้านะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แม่ของเจ้า  ไม่ได้รักเจ้าจริง  :angry2:
และไม่ได้เป็นหญิงเก่ง แกร่งอย่างที่ใครๆคิด  o22 :fire: :serius2:
ผิดหวังกับแม่ของเจ้า  :เฮ้อ: :m16: :m31:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kanj1005

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
ต้องตาย 2 แต่โดนยิง 3 เะราะงั้นต้องมีคนนึงที่รอดสิ ใครจะเป็นผู้ได้ไปต่อ หวังว่าคงเป็นท่านเจ้านะ

ที่จริงอาจจะตายคนเดียวนะ  ข่าวตายสองเพิ่งมีมาเพิ่มช่วงย้อนอดีตกลับมาก่อนที่บีจะหายไป อาจจะเป็นช่วงสลับเหตุการณ์ ถึงปัจจุบันอาจจะเปลี่ยนเป็นข่าวถูกยิงสองแต่ตาย1บาดเจ็บ1แทนก็ได้

ออฟไลน์ hikkie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ตอนหน้าจะจบแล้วกว่าจะอ่านไม่งงก็ตอนล่าสุด เดาไม่ตรงสักเรื่อง
ต้องขอบคุณนักเขียนมากๆที่ทำให้เราต้องใช้สมองในการวิเคราะห์ตลอดเวลา

ออฟไลน์ mab

  • ชื่อ mab ไม่ได้ชื่อ map
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 710
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
อิจันทร์!!

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:

 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ PAiPEiPEi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 459
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
อ่านมาจนถึงตอน 14 ถ้านี่เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นกับคนๆหนึ่งจริงๆ  เจ้าก็ควรต้องรับการดูแลการรักษาจากจิตแพทย์คนที่เจ็บลึกขนาดนี่  เค้าจะไม่มีทางปรับสมดุลทางคสามคิดความรู้สึกได้ จะใช้ชีวิตอยู่กับกระบวกการคิดที่หัวไม่ได้ปลอดโปร่งจริงๆจนชั่วชีวิตแม้ธราจะเลือกเจ้าอยู่กับเจ้าก็ตาม

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อ่านถึงตอนที่ 24 ก็คือน้ำตากลบตาหมดแล้วววว ฮืออออออรอตอนจบด้วยใจที่หวังเหลือเกินว่าเจ้าจะกลับมา :hao5:

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
ตอนที่ 25 เจ้าชีวิต (End)





“ที่จริงกูน่าจะเป็นคนแรกที่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมตอนที่ติดอยู่ในห้วงเวลาถึงไม่สามารถมองเห็นมึงที่คุยกันผ่านข้อความได้” เสียงทุ้มของเจ้า จักรพรรดิเอ่ยขึ้น ดังก้องสะท้อนไปทั่วบริเวณที่มืดมิด ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าในตอนนี้กำลังลืมตาหรือหลับตา เพราะความมืดนั้นกลืนกินทุกสิ่ง มองไม่เห็นแม้แต่ในตอนที่ก้มมองมือของตนเองที่กำลังประสานกันแน่น ไม่รับรู้แม้กระทั่งว่าสถานที่นี้คือที่ใด เขาได้แต่คาดเดาว่าอาจจะเป็นห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ หรืออาจจะเป็นลานกว้างโล่งไร้สิ่งกีดขวาง แต่ไม่ว่าจะเป็นที่ใด ไม่ว่าจะมองเห็นหรือไม่แต่กลับรับรู้ได้ว่าไม่ได้อยู่ตามลำพัง “ทำไมทำอย่างนี้วะจี้”

ไหล่แคบสัมผัสได้ถึงศีรษะเล็กที่เอนมาซบ ก่อนมือที่กำลังประสานกันจะถูกมืออีกมือวางทับลงมา หากถามว่าทำไมถึงทำเช่นนี้ คำตอบของจี้ก็มีเพียงเหตุผลง่ายๆ “เพราะอยากแก้ไข...อยากแก้ไขในเรื่องที่ทำผิดพลาด”

“มันไม่ใช่ความผิดของมึง” ท่านเจ้าแย้ง “มันเป็นความผิดของกูเองต่างหาก”

จะเป็นความผิดของท่านได้อย่างไร คนที่คิดลงมือก็คือจี้ คนที่อยากกำจัดดิน ธรา ก็คือจี้ ถ้าจี้คนนี้ไม่คิดทำ ก็คงไม่มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น เหตุการณ์ในครั้งนั้นก็คงไม่จบลงที่ท่านจากไป จากไปด้วยน้ำมือของคนที่คิดปกป้องท่านมาโดยตลอด เอาแต่พร่ำพูดว่าเพื่อความสุขของท่าน แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ความรู้สึกเห็นแก่ตัวของตนเอง คิดแค่เพียงว่าหากกำจัดคนที่เป็นความเจ็บปวดของท่านให้หายไปได้ ท่านก็อาจจะมีความสุขมากขึ้น หากกำจัดไปให้พ้นทาง ท่านก็อาจจะมองเห็นจี้คนนี้บ้าง จี้ที่เป็นความสบายใจและอยู่เคียงข้างท่านมาตลอดจะทำให้ท่านมีความสุขเอง แต่เมื่อเห็นบทสรุปแล้วก็รู้ว่าตนเองนั้นคิดผิดมหันต์ เพราะคนที่ยกให้เป็นดั่งเจ้าชีวิตนั้นคงไม่มีวันมองจี้ในฐานะอื่น ในเมื่อท่านเจ้านั้นรักดิน ธราจนสามารถตายแทนได้

“กูผิดเองที่ดันทุรัง ผิดเองที่ฝืน” ท่านเจ้ายังคงพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “ทั้งที่รู้ว่าแม่คงไม่มีวันยอมรับ แต่กูกลับ...”

“นายหญิงรักท่านมากเลยนะ” จี้ขัดขึ้นเสียงแผ่วเบา “นายหญิงไม่เคยต้องการทำร้ายท่าน ไม่เคยคิดทำร้ายคนที่ท่านรัก คิดจริงๆ เหรอว่านายหญิงจะทำร้ายพ่อชันได้ลง ที่ให้แม่พรไปอยู่ด้วยก็เพราะพาไปรักษาตัวเท่านั้น ที่จี้ตามไปก็เพราะจะไปดูแลแม่ แต่นายหญิงแค่ใช้ประโยชน์จากตรงนี้มาขู่ท่านเท่านั้นเอง ท่านน่ะเป็นความหวังนะ เป็นความหวังเดียวที่นายหญิงมี เป็นทายาทเพียงคนเดียวที่นายหญิงรัก นายหญิงให้ทุกอย่างกับท่าน ตามใจท่าน แต่กับความรักของท่าน จี้คิดว่านายหญิงคงพยายามที่สุดแล้วที่จะยอมรับ มันมีหลายเหตุผลที่ทำให้ความรักของท่านเป็นไปไม่ได้” จี้หยุดพูด บีบมือของท่านเจ้าเบาๆ “แล้วอย่างนี้ยังคิดว่าจะไม่ใช่ความผิดของจี้อีกเหรอท่าน คนที่ฉวยโอกาสลงมือในครั้งนั้นคือจี้เอง ทั้งที่รู้ว่าคำขู่ของนายหญิงก็แค่อยากให้ท่านยอมรับความเป็นไปไม่ได้เท่านั้น”

ท่านเจ้าระบายลมหายใจ แม้จะได้ฟังความจากริมฝีปากเล็กแต่ก็ยังไม่รู้สึกกล่าวโทษอีกฝ่าย เพราะเข้าใจดีว่าต้นเหตุที่แท้จริงก็คือตนเอง

“ขอโทษนะท่านที่ต้องเป็นแบบนี้” ขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ขอโทษที่ทำให้ท่านต้องทรมานและขอโทษที่ไม่อาจอยู่เป็นความสบายใจของท่านต่อได้

“กูต่างหากที่ต้องขอโทษที่ทำให้มึงติดอยู่ที่นี่” ความมืดมิดนี้น่ากลัว ไม่เห็นสิ่งอื่น ไม่ได้ยินเสียงใด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองอยู่ตรงจุดไหน “ต้องอยู่ตรงนี้อีกนานแค่ไหน”

“ตลอดไป”

“คำว่าตลอดไปไม่มีจริง”

“มีจริงที่นี่” จี้ยิ้มให้กับตนเอง “ไม่มีเวลา ไม่มีกลางวันกลางคืน ไม่มีสิ่งอื่นนอกจากความมืดมิด นี่เป็นบทลงโทษของคนที่เปลี่ยนแปลงโชคชะตา ต้องอยู่ที่นี่กับความรู้สึกผิดของตัวเอง มีความเหงาเป็นเพื่อนรู้ใจ”

ท่านเจ้าเงียบไปชั่วอึดใจเพราะไม่มีคำใดจะเอื้อนเอ่ย ตอนนี้เขาแค่อยากเห็นใบหน้าของคนที่กำลังพูดด้วยน้ำเสียงไม่ทุกข์ร้อน อยากรู้ว่าความจริงแล้วนั้นกำลังรู้สึกอย่างไร “กูช่วยอะไรไม่ได้เลยใช่มั้ย ไม่ทันแล้วใช่มั้ยจี้”

“ท่านไม่ต้องห่วงหรอก” จี้บอกเบาๆ “ไม่ต้องกังวลอะไรด้วย แค่ท่านมีความสุข ก็ถือว่าช่วยได้มากแล้ว”

“ขอโทษ” ท่านเจ้าพูดขึ้นพลางโอบแขนรั้งคนตัวเล็กเข้าในอ้อมกอด “ขอโทษจริงๆ ไม่อยากให้เป็นอย่างนี้เลย”

“อย่าร้องไห้เลยท่าน ที่เป็นอย่างนี้น่ะมันดีที่สุดแล้ว”

แค่ได้อยู่ในอ้อมกอดของท่าน ก็นับว่าเป็นโชคดีที่สุดในโลก แค่ได้เป็นความสบายใจของท่าน ก็นับว่าเป็นโชคดีที่สุดในชีวิต จี้มีวาสนาเพียงเท่านี้ ได้อยู่กับท่านเพียงเท่านี้ หลังจากนี้ก็หวังว่าท่านจะพบเจอแต่ความสุข แต่หากจะมีความทุกข์ก็ขอให้ความทุกข์นั้นมีคนช่วยแบ่งเบา มีคนคอยอยู่ข้างๆ

“สุขสันต์วันเกิดนะท่านเจ้า จากนี้คงไม่ได้พูดอีกแล้ว แต่ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่ปี ในวันเกิดของท่าน อย่าลืมนะว่าจี้จะอวยพรให้ท่านมีความสุขอยู่เสมอ”

“ไม่ลืม กูไม่มีทางลืมมึงได้หรอก คนที่เป็นความสบายใจเพียงคนเดียวของกู กูจะลืมได้ยังไง”

แค่นี้ก็พอแล้ว

“ลาก่อนนะท่าน”

สุดท้ายแล้วก็ทำได้เพียงบอกลา สุดท้ายแล้วความปรารถนาอีกหนึ่งข้อก็ไม่ได้ทำ ความปรารถนาที่อยากจะบอกรักออกไปสักครั้ง ไม่เคยทำได้จริง

ลาก่อนนะเจ้าชีวิตของผม

.

.

17 July, 00:00 AM

D. : ทำไมมึงถึงมั่นใจนักจี้

Gee : เพราะกูเปลี่ยนมันมาแล้ว

-Read-

Gee : ความปรารถนาของกูคือการแก้ไขเหตุการณ์ กูคือคนที่ทำให้ท่านต้องตาย กระสุนนัดนั้นมาจากปืนที่กูยกขึ้นเล็งไปที่มึง แต่ท่านช่วยมึงไว้ ท่านช่วยมึงแม้ในตอนนั้นมึงจะเกลียดท่าน ทำให้ท่านต้องเจ็บปวดอยู่ทุกวัน แต่ท่านก็รับกระสุนนัดนั้นแทนมึง รู้มั้ยว่าตอนนั้นกูรู้สึกยังไง

Gee : คนที่กูยกให้เป็นเจ้าชีวิตตายเพราะน้ำมือกู มันเหมือนฝันร้ายที่กูพยายามยังไงก็ไม่ตื่นจากฝันสักที

Gee : กูตายหลังจากนั้นไม่กี่นาที ตายทั้งที่ในใจยังทุรนทุรายและยอมรับไม่ได้

Gee : โลกหลังความตายสำหรับคนอื่นจะเป็นอย่างไรกูไม่รู้ แต่สำหรับกูมันคือการติดอยู่กับเหตุการณ์เดิมซ้ำๆ เหตุการณ์ก่อนที่กูจะตายจนถึงวันที่กูระเบิดสมองตัวเอง กูกลับไปอยู่ในเหตุการณ์ที่กูยกปืนขึ้นยิงท่านเป็นพันๆ ครั้ง

Gee : แต่มึงรู้มั้ยว่าเหตุการณ์ในแต่ละครั้งนั้นจะมีจุดแตกต่างเล็กๆ เกิดขึ้นต่างกันไป แม้แต่ตัวมึงเองในเหตุการณ์ก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย

Gee : และมีครั้งหนึ่งในจำนวนเหล่านั้นที่มึงจำท่านได้ มึงจำได้ว่าท่านสำคัญกับมึงแค่ไหน ความสูญเสียที่มึงรู้สึกในครั้งนั้นนำพาให้มึงมาอยู่ตรงนี้ มาอยู่ในห้วงเวลาของกู ห้วงเวลาที่กูขังท่านที่ยังมีชีวิตอยู่เอาไว้

Gee : แล้วครั้งนี้ก็เป็นครั้งเดียวที่กูทำความปรารถนาของตัวเองสำเร็จ

Gee : เป็นครั้งเดียวที่ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องของมัน

Gee : ดิน ในตอนที่มึงได้อ่านข้อความนี้ กูในเวลาปัจจุบันคงตายไปแล้ว

Gee : หลังจากนี้...ช่วยทำให้ท่านมีความสุขด้วยนะ

Gee : แล้วก็ตอนที่มึงถามว่ากูเกลียดมึงใช่มั้ย

Gee : ที่กูตอบว่าเกลียดนั่นน่ะ

Gee : กูโกหกนะ

.

.

ธราถอนหายใจ รู้สึกเหมือนเพิ่งตื่นจากฝันร้ายที่ยาวนาน เขาวางโทรศัพท์มือถือลงข้างกาย ขยับตัวเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมองเพดานห้องสีครีม ก่อนจะเหลือบมองคนที่กำลังทำหน้ายุ่งอยู่ตรงโซฟารับแขก

“อ้าว ตื่นแล้วเหรอวะ” เจ้าของใบหน้าคมเข้มเงยหน้าขึ้นจากหนังสือแล้วมองมาที่เขา “ไอ้ห่า หลับเป็นตายไปสามวันสามคืนอย่างกับโดนยาสลบช้าง เออ แต่ที่จริงหมอให้ยานอนหลับมึงแหละ เพราะอยากให้มึงพักผ่อน มึงโทรมมาก ผอมลง ขาดสารอาหารอย่างกับโดนขังลืมมา”

ก็คงใช่...เพราะธราคนนี้น่ะโดนขังอยู่ในห้องมาเกือบสองเดือนแล้ว

“มันดูโง่ถ้าจะถามว่ากูมาที่นี่ได้ไง” ธรามองไอ้แพร์ที่กำลังย้ายที่นั่งจากโซฟามานั่งข้างเตียงผู้ป่วย “แต่ก็อยากถามว่ะ กูมาอยู่ที่นี่ได้ไงวะ”

“ไม่รู้” ไอ้แพร์ตอบง่ายๆ “มีคนโทรมาบอกว่ามึงอยู่โรงบาลกูก็ดิ่งมาทันที เพราะมึงหายหัวไปนาน ดร็อปเรียนไว้แล้วไม่บอกใคร บอกแต่ว่าสบายดีไม่ต้องห่วงไว้ในกลุ่มเมื่อสามชาติก่อนแต่คำว่าสบายดีไม่ต้องห่วงของมึงคือการโผล่มาอยู่ที่โรงบาลไอ้สัด ไอ้ลูกไม่รักดี”

ไอ้แพร์บ่นเขาต่ออีกยืดยาว สรรหาทุกถ้อยคำบนโลกใบนี้มาด่าเพื่อให้เขารู้สำนึก แต่เขาไม่ได้โต้ตอบ กลับทำแค่หัวเราะเมื่อเห็นว่าไอ้แพร์ในที่แห่งนั้นกับไอ้แพร์ในที่แห่งนี้ไม่ได้แตกต่างกันเลย ความทรงจำสุดท้ายก็คือทะเลาะจนต่อยตีกันเละ คิดว่าคงจะไม่ได้กลับมาเป็นเพื่อนกันอีกแล้ว ทว่าพอมันกำลังบ่นด้วยความเป็นห่วง เขาก็พบว่าดีแล้วจริงๆ ที่มันจำไม่ได้ ไม่อย่างนั้น...

“ล่าสุดกูฝันถึงมึง ฝันว่ามึงต่อยกูจนคิ้วแตก คิดแล้วยังหงุดหงิดไม่หาย คือหายหัวไปไม่ติดต่อกูแต่ยังมาต่อยกูในฝันอีกไอ้ห่า”

“มึงนี่มันควายจริงๆ” ธราว่าเสียงกลั้วหัวเราะก่อนจะโดนคนที่อุปโลกน์ตัวเองขึ้นเป็นพ่อของเขาผลักศีรษะเข้าให้ “ว่าแต่กูทะเลาะอะไรกับมึงวะ”

“ใครจะไปจำได้ไอ้สัด” ไอ้แพร์มองเพื่อนรักของมันด้วยสายตาที่รู้สึกว่าอีกฝ่ายนั้นโง่เง่าเสียเต็มประดา “กูฝันว่าต่อยกับมึงเสร็จก็มีน้องมิ้วเอานมมานวดหน้าเลย จำได้แค่นั้นแหละที่ชัด”

“มิ้วไหนอีกวะ”

“ก็ดาวการจัดการที่มึงควงอยู่สามวันแล้วเทน้องเพราะน้องนมใหญ่เกินไปไง”

คราวนี้ธราหัวเราะเสียงดังลั่น “จำไม่ได้ไอ้เหี้ย ไม่ใช่กูแล้ว”

“เออ กูเองจ้า กูเองที่เทน้อง นมน้องเบียดหน้ากูจนหายใจไม่ออก” ไอ้แพร์ยิ้มแหย รู้สึกได้ถึงความผิดบาปในใจ

“แล้วไอ้จอมกับไอ้คินล่ะ” ธราถามถึงเพื่อนอีกสองคนในกลุ่ม

“แก้แล็ป ที่จริงกูก็ต้องแก้แต่กูคือคนที่เสียสละเพื่อเพื่อนได้เสมอ”

“ไอ้จอมเพิ่งบอกในกลุ่มว่าเวรมึงเฝ้าไอ้ห่า” ธราว่า โชว์หลักฐานบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือให้ไอ้คนแอบอ้างดู “กูไม่ซึ้งเพราะกูรู้ทัน”

“คว๊ายย แม่มึงนี่ปากมาก”

ฟังแล้วรู้สึกอบอุ่นในใจ บทบาทสมมติที่ธราชอบยังคงดำเนินต่อ ทำให้แน่ใจว่าอย่างน้อยในที่แห่งนั้นกับที่แห่งนี้ สิ่งที่เขายังคงมีไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็คือกลุ่มเพื่อนที่เหมือนครอบครัว มีไอ้แพร์เป็นพ่อ มีไอ้จอมเป็นแม่ และมีน้องชายโง่ๆ อย่างไอ้คิน

“เอ้อ...ไอ้แพร์”

“ไรวะ”

“มึง” เขาหยุดครุ่นคิด ลังเลใจว่าจะพูดดีหรือไม่ แต่สุดท้ายก็ไม่เก็บความสงสัยเอาไว้ “มึงรู้จักเจ้า จักรพรรดิ เดือนแพทย์มอเจมั้ยวะ”

“มอเจคือที่ไหนวะ” ไอ้แพร์ย้อนถามด้วยหน้างงๆ “ไม่เคยได้ยินชื่อมอ ไม่คุ้นด้วย แต่ถ้าเป็นไอ้เจ้าเดือนแพทย์มอเราแฟนมึง กูรู้จัก”

มอเจที่ว่าคงไม่เคยมีอยู่จริงตั้งแต่แรก แต่อาจจะเกิดการผิดเพี้ยนทางความทรงจำ เพราะในห้วงเวลานั้นไม่ว่าสิ่งใดก็สามารถเป็นไปได้ สถานที่ที่อยู่ก็ไม่รู้แน่ชัด แม้แต่วันเดือนปีหรือเวลาก็ไม่เคยกระจ่าง ธราจึงไม่แปลกใจนัก ในเมื่อมอเจก็แค่ชื่อเรียกของสถานที่นี้ในอีกห้วงเวลาเท่านั้นเอง

“แฟนกู” เขาทวนเสียงเบา “เหรอวะ”

“เออ จำแฟนตัวเองไม่ได้เหรอไอ้สัด มึงหายไปอยู่กับมันเป็นเดือนๆ” ไอ้แพร์เริ่มบ่นลูกรักของมันที่เสียการเสียงานเพราะติดแฟนจนไม่ยอมมาเรียน รู้อีกทีมันดร็อปเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “นี่ไอ้ลูกรัก ต่อให้มึงจะเพลย์บอย สาวรักสาวหลงก็เถอะนะ แต่ถ้ามีแฟนก็ให้เกียรติเขา รักก็บอกว่ารัก คบก็บอกว่าคบ นี่อะไร บอกว่าแฟนแล้วทำหน้างง ดร็อปเรียนไปอยู่ด้วยกันแล้วถ้ามึงยังบอกว่าไม่ได้เป็นไรกัน กูตบคว่ำจริงนะไอ้ดิน”

“ใจเย็นๆ คือไม่ใช่ว่าจำไม่ได้ แต่แค่แปลกใจเฉยๆ” ธรารีบบอกเมื่อเห็นไอ้แพร์ง้างมือขึ้น

“แล้วมันหายไปไหน ไอ้เจ้าน่ะ ทำไมปล่อยมึงนอนโรงพยาบาลคนเดียว ไม่มาเฝ้า”

ธราอึกอักเล็กน้อยเพราะเขาก็ไม่รู้จะบอกไอ้แพร์อย่างไรดี “ติดธุระ แต่อีกไม่นานคงกลับมา”

คำว่าไม่นานที่บอกไอ้แพร์ แม้แต่ตัวธราเองก็ไม่รู้ว่ามันคือระยะเวลาเท่าไร เจ้า จักรพรรดิคนนั้นเป็นตัวตนที่เป็นความลับ แม้จะถูกยิงจนบาดเจ็บสาหัสก็ยังไม่สามารถอยู่รักษาต่อในโรงพยาบาลได้นาน หลังจากที่พ้นขีดอันตรายและสามารถเคลื่อนย้ายส่งตัวได้ก็ไปในทันที ตัวธราเองเข้าใจดีทีเดียว เพราะก่อนที่จะล้มหมอนนอนเสื่ออย่างนี้ เขาก็ยังอยู่ส่งตัวคนรักจนถึงตอนที่เครื่องขึ้นบินลัดฟ้า

ไอ้แพร์พยักหน้าเข้าใจ ไม่ได้เซ้าซี้ต่อ ก่อนจะเล่าเรื่องสัพเพเหระให้เขาฟัง มันบ่นถึงคนนั้นคนนี้ราวกับว่าตัวเขาเพิ่งกลับจากการติดเกาะร้างและไม่รู้ข่าวสารใดๆ ของโลกภายนอก

“เออ ไอ้ดิน” ไอ้แพร์ทำท่าเหมือนเพิ่งนึกเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ “มึงอาจจะยังไม่รู้นะ”

“รู้ไรวะ”

“มึงรู้จักไอ้จี้ เพื่อนในกลุ่มของไอ้แพงใช่ปะ”

ธราทำท่านึกก่อนถาม แม้จะรู้สึกสะดุดใจกับชื่อที่ไอ้แพร์เอ่ย “ไอ้แพงที่เป็นเพื่อนมอปลายของไอ้คินใช่มั้ย”

“ใช่” ไอ้แพร์ให้คำตอบ “ไอ้แพงคนนั้นแหละ”

“มันทำไมวะ” เขาแสร้งถามแม้จะรู้ดีอยู่แล้ว

“เพื่อนในกลุ่มมันอะ” ไอ้แพร์เกริ่น หยุดพูดไปเล็กน้อย สีหน้าของมันไม่สู้ดีเท่าไรเมื่อพูดถึงการสูญเสีย “ไอ้จี้ โดนยิงเมื่อสัปดาห์ก่อน มันเสียแล้วว่ะ มึงจะไปงานมันมั้ย”

“ไป” เขาตอบโดยไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ “กูอยากไปส่งมัน”

“เออ คิดแล้วว่ามึงต้องไป” ไอ้แพร์พูดขึ้น ประหลาดใจเล็กน้อยกับคำพูดตนเอง มันมองหน้าเพื่อน รู้สึกตะหงิดใจแต่ก็ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ สุดท้ายก็เลือกที่จะเมินแล้วเข้าประเด็นต่อ “แต่ไม่รู้ว่าเรื่องมันเป็นมายังไง ไม่ได้ข่าวเลยว่ามีการยิงกันตาย พวกสื่อทางทีวี หนังสือพิมพ์หรือในเฟซน่ะเงิียบกริบ ทั้งที่น่าจะเป็นข่าวใหญ่ เพราะคนในมอก็พูดกัน แต่มหาลัยเราน่าจะเงินหนา อธิการคงวิ่งเต้นปิดข่าวน่าดู นักศึกษาในมอยิงกันตายคงเสียภาพพจน์”

“แล้วคนที่ยิงมันล่ะ เป็นไง”

“อ่า…” ไอ้แพร์มีสีหน้าลำบากใจ มันทำหน้าคล้ายคนจมน้ำเมื่อสบตามองกับธรา “กิ๊กเก่ามึงอะเป็นคนยิง แต่ไม่รู้ว่าหลังจากนั้นเป็นไงหรือหายไปไหน ไอ้แพงบอกว่าน่าจะตาย แต่ไม่มีใครเจอศพ”

“อืม คงตายแล้วนั่นแหละ” ธราตอบง่ายๆ เขาเห็นกับตาว่าจันทร์เจ้านั้นเสียชีวิตคาที่หลังจากจี้แค่ไม่กี่นาทีด้วยฝีมือคนติดตามของนายหญิง ดวงตากลมโตที่ยังคงเบิกค้างและจ้องมาทางเขายังคงเป็นภาพติดตา ศพของจันทร์เจ้านั้นทางนายหญิงคงเป็นคนจัดการแล้ว เขาไม่รู้รายละเอียดมากนักเพราะมัวแต่ห่วงว่าคนรักของเขาจะเป็นอย่างไร หากถามว่าโกรธไหมเขาก็ยอมรับว่ามีบ้างแต่ก็อโหสิกรรมให้เพราะไม่อยากติดค้างต่อกันไปมากกว่านี้

ที่จริงแล้วจันทร์เจ้านั้นน่าสงสาร หลังเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำและหายไปรักษาตัว ร่างกายก็ไม่ได้ดีดังเดิม อุบัติเหตุรุนแรงขนาดนั้นรอดชีวิตมาได้ก็เหมือนปาฏิหาริย์ แต่อวัยวะบางอย่างก็ไม่ได้ทำงานเหมือนเช่นปกติ ดวงตาข้างซ้ายมองไม่เห็น แก้วหูข้างขวาก็ถูกทำลายจนสูญเสียการได้ยินและจากที่ธราได้พูดคุยกับลุงชันในระหว่างที่เฝ้าคนรักอยู่นั้น เขาก็ได้รู้ว่าจันทร์เจ้าถูกกักขังตัวไว้ตั้งแต่หลังจากเกิดอุบัติเหตุ จันทร์เจ้าใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศในการจับตามองของนายหญิง เมื่อรับรู้ ธราจึงลดความโกรธที่เขามีลงได้

ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าใครก็หลีกหนีผลของการกระทำไม่พ้น

“พวกกูนะ ตอนได้ยินว่ามีคนฆ่ากันตายแล้วเป็นคนที่รู้จักกันก็รู้สึกแย่พออยู่แล้ว พอมีคนโทรบอกให้มาหามึงที่โรงบาล ไอ้จอมร้องไห้นำเลย มันคิดว่าเป็นมึงที่อยู่ในข่าวลือนั่น” ไอ้แพร์บอกพลางจับจ้องที่ใบหน้าของเพื่อน “โล่งใจมากที่มึงไม่ได้ไปเกี่ยวด้วย”

ธราหลุดหัวเราะ “คนดีมีน้ำใจอย่างกูจะไปเกี่ยวกับเรื่องน่ากลัวได้ยังไงวะไอ้ห่า”

“ก็เพราะเป็นคนดีมีน้ำใจไปทั่วนั่นแหละ ถึงได้กลัวว่าเขาจะมาฆ่ามึงเพื่อแก้แค้น ข้อหาให้ความหวังโดยไม่รู้ตัว รักแรงเกลียดแรงงี้”

“ใจเย็นก่อน” ธราปราม “อย่าแช่งไอ้สัด สายน้ำเกลือยังคามือ”

ไอ้แพร์หัวเราะ ดูมันชอบใจที่ได้บ่นได้ด่า แต่ธราก็เข้าใจว่ามันคงเป็นห่วงเขามาก แม้จะรู้จักกันไม่กี่ปี แต่ก็เหมือนรู้จักกันมานาน ผูกพันกันเหมือนได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันจนมีความทรงจำดีๆ มาหลายปีแล้ว

“เออ มึง ถามอีกคำถาม” ธราเอ่ยขึ้นเมื่อเพิ่งนึกขึ้นได้

“อะไรอีกวะ”

“รู้จักไอ้น้องเอ๋มั้ย” ธราแทบกลั้นหายใจเมื่อเห็นสีหน้างงงวยของเพื่อน “ตอนนี้น่าจะเรียนปีสอง ปฐพีวิทยา”

“มอเราเหรอวะ” ไอ้แพร์ย้อนถาม “กูไม่คุ้น”

“อ่า…”

“ตอนมึงล้มหัวกระแทกอะไรมั้ย ทำไมตื่นมาแล้วถามหาคนนั้นคนนี้” ไอ้แพร์มีสีหน้าห่วงใยพลางรีบจับศีรษะของเพื่อนแล้วหันซ้ายทีขวาทีจนโดนมือหนาตบกบาลเข้าให้ “ก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่หว่า แต่กูน่าจะความจำเสื่อมตามมึงไอ้สัด ตบมาได้ ลั่นเลยหัวกู” ว่าแล้วก็ลูบศีรษะตัวเองป้อยๆ

ธราระบายลมหายใจ รู้สึกแย่เล็กน้อย แต่นั่นแหละ...ทุกสิ่งต้องเป็นไป หากวันนี้ไม่่รู้จัก วันหน้าก็ทำความรู้จักกันใหม่ได้ ยังไงก็ต้องยอมรับในจุดนี้แล้วก้าวต่อไปให้ได้

“มึงเคยเชื่อเรื่องการติดอยู่ในห้วงเวลา โลกคู่ขนานหรือการได้เลือกการกระทำก่อนตายมั้ยวะ”

คำถามของธราทำให้ไอ้แพร์ยิ่งทำหน้างงหนัก “ถามทำไมวะ ไปเจอสำนักทรงที่ไหนหลอกมาอีกเรอะ”

“เออน่า” ธราทำหน้าหงุดหงิด “ตอบมาก่อน”

“ไม่เชื่อ” ไอ้แพร์ตอบทันที “กูเชื่อในฟันปลอมเท่านั้น ฟันปลอมให้ชีวิตใหม่ ฟันปลอมสามารถเป็นให้มึงได้ทุกอย่าง ช่วยทำให้มึงยิ้มสวย ช่วยทำให้มึงเคี้ยวข้าว...”

“พอมั้ย” ธราถามตัดบท รู้สึกเหมือนไร้สาระขึ้นทุกทีที่ได้สนทนากับไอ้แพร์ “อีกนิดก็แต่งงานกับฟันปลอมของมึงไปซะ”

“พูดถึงเรื่องแต่งงาน คู่หมั้นมึงล่ะจะเอาไง น้องถามถึงมึงตลอด”

คู่หมั้น...ที่จริงแล้วธราก็ไม่ได้คิดว่าจะมีความรู้สึกพิเศษต่อใครจนถึงขั้นหมั้นหมายและฝันถึงวันแต่งงาน แต่ใครจะรู้ความคิดของตัวเขาก่อนหน้านี้ ความทรงจำ ความรู้สึกหรืออะไรก็แล้วแต่ที่เกิดขึ้นมีผลต่อการตัดสินใจทั้งหมด ซึ่งบางอย่างอธิบายได้ แต่บางอย่างก็อธิบายไม่ได้ เรื่องที่ไร้เหตุผลนั้นมักจะเกิดขึ้นบนโลกนี้เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

“ไว้เคลียร์เอง” ธราบอกเสียงเรียบ ไม่ได้รู้สึกหนักใจที่ต้องทำ เพราะเขาแน่ใจว่าหลังจากนี้คงจะไม่มีเรื่องใดที่ทำให้เขาลังเลใจได้อีก ในเมื่อมีบทเรียนที่ดีมาแล้ว เขารู้ว่าเวลานั้นไม่คอยท่า มันไม่เคยนับต่อไปข้างหน้า เพราะทุกช่วงเวลามีจุดสิ้นสุดของมัน คนทุกคนก็มีบทสรุปของตัวเอง ในตอนที่เข็มวินาทีเคลื่อนไปข้างหน้าก็อาจจะหมายถึงเวลาที่เราจะได้มีความสุขเหลือน้อยลงแล้ว ด้วยเหตุนั้นหากเขายังมัวลังเล ก็คงเสียเวลาแห่งความสุขและเผลอทำเรื่องผิดพลาดลงไปอีก

“ให้ดีล่ะ อย่าให้โดนตบ ขี้เกียจฟังไอ้จอมบ่นว่ามึงไม่ระวังหนังหน้าตัวเอง” ไอ้แพร์ว่าแล้วก็เริ่มนินทา “พูดก็พูดนะ ถ้ามันเป็นแม่ของมึงจริงๆ นี่บาปมาก คนห่าอะไรจ้องจะเคลมลูก มันรักหนังหน้ามึงมากกว่าที่ตัวมึงรักอีกนะไอ้ดิน มันบอกพระเจ้าปั้นดีขนาดนี้อย่าให้เสียของ แต่ดีห่าไร ฟันเหยิน”

“คว๊ายยยย”

“ฮ่าๆ ๆ” ไอ้แพร์หัวเราะเอิ้กอ้ากเสียงดังลั่นห้องผู้ป่วย ในขณะที่ธราอยากจะถอดสายน้ำเกลือทิ้งแล้วลุกเตะมันให้เอวหัก

สองเพื่อนซี้หยอกเล่นกันไปอีกพักใหญ่ ก่อนไอ้คนขี้บ่นจะนึกขึ้นได้ว่าคนป่วยต้องพักผ่อน ด้วยเหตุนั้นมันจึงกำชับให้ธรานอนพักในขณะที่มันกลับไปนั่งอ่านหนังสือตามเดิม

เมื่อถูกปล่อยให้นอนพัก ธราก็กลับมาจมอยู่ในความคิดของตัวเองอีกครั้ง ความเศร้ายังติดค้างอยู่ในใจของเขาแต่ก็ไม่ใช่ความเศร้าที่จะไม่เลือนหาย เขาคิดว่าคงอีกสักพักใหญ่ที่หัวใจจะดีขึ้น ในสักวันมันคงดีมากพอที่เขาจะยิ้มกว้างได้เต็มหน้าอย่างมีความสุขจริงๆ สักที

ให้เวลาได้รักษาและเยียวยาทุกสิ่ง อาจจะไม่ได้หายดีทุกเรื่อง อาจจะยังมีภาพจำแย่ๆ ความทรงจำเลวร้าย แต่ในสักวันมันจะทุเลาลงและหวังว่าใครอีกคนจะหายดีเช่นกัน

เพราะผมหวัง...หวังว่าสักวันจะได้กลับมาอยู่เคียงข้าง

หวังว่าจะกลับมาเป็นคนรักของผม

หวังว่าจะกลับมาเป็นอีกครึ่งชีวิตของผม

แต่ถ้าจะปล่อยให้ความเป็นไปไม่ได้ดำเนินต่อไป

ผมก็เคารพการตัดสินใจ

แค่ให้ทางที่คุณเลือกคือทางที่คุณมีความสุข แค่นั้นก็พอแล้ว

.

.

ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
(กรุ๊ปไลน์) หมอชอบฟัน (4)

J. : รายงานผลหน่อยจ้าลูกรัก ถอนหมั้นเป็นยังไงบ้างฮึ

D. : เรียบร้อยดี

P. : ทะเลาะกับพ่อมั้ย

J. : ลูกจะทะเลาะกับมึงทำไม @P.

P. : พ่อจริงๆ ของมันสิไอ้สัด เขาบินมาไม่ใช่เรอะ

J. : อ๋อๆ โทษทีจ้า มึนไปนิด

K. : ดีดแปลกๆ นะไอ้จอม มึงเป็นไร

P. : จะอะไร ถ้าไม่ใช่ว่าเมาน้ำหอมไอ้สัดมิน แค่มาทำฟันแต่งเต็มใหญ่โต ล่ออาบน้ำหอมมาร้อยขวดแน่กูว่า

J. : หึงเร้อออ

P. : @D. ตกลงทะเลาะมั้ย

K. : มันหึงว่ะ มันเมิน มันเปลี่ยนเรื่อง หึ คู่จิ้นจะเป็นคู่จริงแล้วเหรอวะ กูต้องเรียกพวกมึงว่าพ่อกับแม่จริงๆ ใช่มั้ย

J. : โอ๊ยๆ ๆ ตายแล้วทำไงดี ฮอตละเกินตอนนี้ เดือนบริหารก็มาจีบ สมบัติทันตะฯ ก็อยากเลื่อนสถานะ

P. : มึงไปแบ่งกาวจากห้องข้างๆ กูมาดมเรอะ เมาฉิบหายไอ้สัด

K. : จะว่าไปไอ้เด็กข้างห้องมึงแม่งฮาว่ะ วันก่อนเจอปั่นจักรยานหน้าตั้ง มีหมาวิ่งอยู่ข้างหลัง กูก็นึกว่าหมาไล่น้อง กำลังจะเข้าไปช่วย ที่ไหนได้ แม่งแค่เล่นกับหมา มัดซี่โครงไก่ย่างไว้ท้ายเบาะแล้วให้หมาวิ่งไล่เพราะอยากเล่นไล่จับกัน

J. : น้องแค่เหงา! น้องไม่มีเพื่อนเล่น! มึงอย่าว่าเอเย่นรายใหญ่ของกู ตำแหน่งนักขายกาวในตำนานไม่ได้ซื้อมาด้วยเงิน มึงจำ!

K. : เออ คุยกับดอกทานตะวันอยู่ระเบียงเป็นวรรคเป็นเวรคงไม่ได้ซื้อตำแหน่งมาด้วยเงินหรอกไอ้สัด แต่จริงๆ กูว่าน้องคงเหงามากนะ ย้ายมาอยู่ข้างห้องไอ้แพร์ตั้งหลายปี แต่ไอ้ห่าแพร์ไม่รู้แม้แต่ชื่อแม้แต่หน้า ได้ยินแค่เสียงน้องคุยกับต้นไม้ดอกไม้แต่ก็ไม่เคยคิดพาน้องไปหาหมอ

J. : มันจะพาไปหาหมอได้ไงไอ้คิน วันๆ มันก็คุยกับฟันปลอม สติไม่มีแล้วจ้า ถึงขั้นตั้งชื่อฟันครบสามสิบสองซี่นี่ไม่ธรรมดาแล้ว

D. : ชื่อส้นตีนมากด้วย ตั้งชื่อตามตัวอักษรภาษาอังกฤษ น้อง A-Z

K. : ตัวอักษรไม่ครบก็เรียกซ้ำไป AA BB CC คือแบบ แพร์ มึงต้องรักษาตัวเองแล้วนะเพื่อน ศรีธัญญาคือทางออกของมึง

J. : ฮึก // ปาดน้ำตา ฟังนะลูกๆ แม่จะเลี้ยงพวกหนูตามลำพังเอง ไม่ใช่ว่าพ่อไม่รักพวกหนูนะ ที่ทิ้งไปเพราะต้องไปรักษาสติ #แม่เลี้ยงเดี่ยว #โสดมากอยากเป็นเมียเดือนบริหาร

K. : ดราม่าสตอรี่ก็มาแล้ว แต่แฮชแท็กส้นตีนดี #ครอบครัวไม่อบอุ่นอีกต่อไป

P. : กูไม่รู้จะแทรกตรงไหนเลยไอ้พวกเวร พาออกนอกเรื่องไปนู่น!

J. : มึงไม่ต้องมาพูดเลยนะ อย่าคิดว่ากูไม่รู้ว่ามึงน่ะไปไข่ทิ้งไว้ที่ไหนบ้าง

P. : กูต้องเล่นด้วยใช่มั้ย

D. : ไม่เข็ดกับนมน้องมิ้วอีกเหรอวะ นี่ถึงขั้นไปมีลูกมีเต้ากับเขา

P. : จะร้องไห้แล้วนะ ทำไมต้องรุม #ลูกไม่รักพ่อ

J. : น้องมิ้วที่ไหนอีก! กูหมายถึงน้องอิ๋ง ลูกน้องเอ๋เด็กข้างห้องมันเนี่ย

P. : เดี๋ยว

K. : คือ ยังไงนะ

J. : ก็ไอ้แพร์ไปทำน้องท้องแล้วไม่รับผิดชอบ!

D. : ตอนคุยกับน้องมึงวางกาวลงหรือยังไอ้จอม

J. : สูดเข้าปอดไปสามที ถุ๊ย! พวกกูนั่งจิบน้ำกระเจี๊ยบ

K. : บอกตามตรงว่ากูไม่มั่นใจของอะไรก็ตามที่อยู่ในห้องน้อง น้ำกระเจี๊ยบนั่นน่าสงสัย

P. : สรุปกูจะได้รู้มั้ยว่าไอ้ดินทะเลาะกับพ่อมันรึเปล่า

J. : มึงนี่ก็โง่จริงๆ ถ้ามันทะเลาะมันหงอยเป็นหมาไปแล้ว เป็นพ่อประสาอะไร เลี้ยงลูกมาไม่รู้ใจลูก

P. : พ่อขอโทษ สำนึกผิดไม่ทันแล้ว #พ่อรักดิน

D. : อย่างที่ไอ้จอมว่า ไม่ได้ทะเลาะ พ่อเข้าใจดี เขาก็รู้ว่ายังไงกูก็ต้องถอนหมั้นสักวัน เขาจะเคลียร์กับเพื่อนเขาให้เอง น้องบีก็ไม่ได้มีปัญหา น้องเข้าใจดีแล้ว

P. : ได้ยินแล้วก็โล่งใจ แต่ตอนนี้พ่อมึงกลับไปแล้วใช่มั้ย

D. : อืม มีเรื่องต้องจัดการเยอะน่ะ แม่เลี้ยงกูก็อาการไม่ค่อยดีด้วย เขาเสียลูกแท้ๆ เขาไปทั้งคน คงทำใจไม่ได้

J. : เอาจริงครอบครัวมึงนี่ซับซ้อนดีนะ แต่ยังไงก็เสียใจด้วยเรื่องน้องมึง แต่งานศพอะไรนี่พิธีจัดตอนไหนวะ

D. : ไม่รู้ว่ะ กูไม่ได้ไป ดูใจดำปะวะ

K. : ไม่หรอกว่ะ สำหรับกูนะ ยังไงดี คือมึงก็ไม่ได้สนิทกับเขา เขาก็ปล่อยปะละเลยมึงอยู่แล้ว มึงแทบจะมีแค่พวกกูอะเอาจริงนะ โทษนะเว้ยถ้าทำให้รู้สึกไม่ดี

D. : กูก็คิดเหมือนมึงแหละ ยิ่งตั้งแต่ความจำเสื่อมกูกับพวกเขาก็ยิ่งเหมือนคนแปลกหน้า แต่พอจำอะไรได้หน่อยก็ยังเป็นคนแปลกหน้าอยู่ดี เพราะครอบครัวจริงๆ ของกูมีแค่พี่ชายบุญธรรมมาตลอด

P. : ถึงได้บอกว่าซับซ้อน เอาเถอะนะ มึงก็ทำใจให้สบาย ตอนนี้มีพวกกูแล้ว กูจะเป็นพ่อให้มึงเอง

J. : ส่วนกูเป็นแม่จ้า

K. : อยากเป็นลุงข้างบ้านเพราะไม่อยากอยู่ในครอบครัวประสาทแดกที่มีแม่อย่างไอ้จอม แต่กูเป็นน้องชายให้ก็ได้ กลัวมึงเหงา

D. : เออ ขอบใจมาก

D. : ที่จริงเขาก็บอกกูว่าจะย้ายไปอยู่ที่นั่นถาวรว่ะก็เลยถามว่ากูจะไปด้วยมั้ย ถ้ากูตกลงเขาจะได้อยู่จัดการเรื่องให้แล้วค่อยบินไปพร้อมกัน

J. : แล้วมึงว่าไงวะ คือกูต้องเตรียมดราม่ามั้ย

D. : ดราม่าห่าไร กูไม่ไปไหนทั้งนั้น อยู่คนเดียวจนชินแล้วปะวะ ให้ไปอยู่กับพ่อกับแม่เลี้ยงคงอึดอัดตาย

P. : อย่าชินกับความเหงา #มือเรายังมี

K. : ไปเลี้ยงน้องอิ๋งลูกมึงซะไป๊! จัญไรจริงๆ กำลังซึ้งกัน

P. : บอกแล้วไงว่าไม่ใช่ลูกกู! ห้องน้องกูยังไม่เคยเฉียดไปใกล้แม้แต่ประตู

D. : แล้วมึงเดินผ่านยังไงไม่ให้ใกล้วะ

P. : รักษาระยะห่างของสองเรา

J. : อ๋อ รักษามากมั้ง วันก่อนแทบกินหน้าน้อง

D. : เอ๊ะ

K. : เอ๊ะ

P. : มันเมาน้ำกระเจี๊ยบ! มันตาฝาด! อย่าไปเชื่อมัน!

D. : ตอนกูถามเมื่อเดือนก่อนว่ามึงรู้จักน้องเอ๋มั้ย มึงตอบว่าไม่

K. : มึงโกหกเพื่อนเหรอแพร์

P. : ก็ตอนนั้นไม่รู้จัก! แต่พอไอ้ดินถามแล้วกูคาใจไง กูอยากรู้ว่าทำไมลูกรักถึงถามถึงก็เลยไปตามสืบดู

J. : แต่พรหมลิขิตทำงาน สืบไปสืบมารู้ว่าอยู่ข้างห้อง อีกเดือนต่อมาก็เลยแดกหน้าน้อง #ฟันปลอมหรือจะสู้ฟันน้อง

P. : เออ ยอมรับก็ได้ไอ้ห่า ว่าแต่น้องอิ๋งนี่ใครวะ

J. : ลูกมึงไง! มึงเป็นพ่อประสาอะไร! ตอนทำไม่รู้จักป้องกัน #ตอนทำไม่ร้องตอนท้องไม่รับ

P. : คือกูยังไม่ได้น้องไอ้สัด แค่จูบกันน้องก็จะตายแล้ว

J. : แต่น้องบอกอสุจิมึงเข้าทางปาก

D. : ไอ้เหี้ยแพร์ กูบอกตามตรงนะ กูคิดดีไม่ได้จริงๆ

P. : เออ! กูเดินเข้าคุกเองก็ได้! #น้ำตาไหลพรากต้องจากครอบครัว

K. : ร้องไปเลยไอ้เหี้ย มึงมันภัยสังคม

P. : เอาอย่างนี้ กูจะรับผิดชอบน้องกับลูกเอง

J. : กูจะยอมให้มึงมีบ้านเล็กก็ได้! เพราะมึงกล้าทำกล้ารับ มึงมันลูกผู้ชาย!

K. : เอาจริง นอกจากไอ้แพร์กับน้องเอ๋ต้องไปหาหมอแล้ว มึงก็ไปด้วยอิแม่! ไปตั้งครอบครัวกันในโรงพยาบาลบ้าเลยไป๊!

J. : คนโสดเกรี้ยวกราดว่ะ เหงาเร้อ

K. : ถามไอ้ดินดิว่าเหงามั้ย

P. : เดี๋ยวลูกรักกูร้องไห้ไอ้ห่า

D. : ไร้สาระว่ะพวกมึง

J. : ทุกวันนี้จำศีลอยู่ในห้อง รู้ข่าวอีกทีมันอาจออกบวชแล้ว

D. : กูก็มีแฟนแล้วมั้ย

P. : แฟนที่หายหัวไปไม่ติดต่อมาเลยน่ะนะ

J. : หายหัวอะไรล่ะ มันได้รับจดหมายทุกอาทิตย์

K. : กูถามจริง

D. : เออ ก็ส่งจดหมาย ส่งโปสการ์ด เจ้าใช้มือถือไม่ได้ มันรบกวนเครื่องมือแพทย์

P. : ก็คือยังไงนะ มันแบบ...ยังไง

D. : ยังกลับมาไม่ได้ไง ยังไม่หายดี

P. : สรุปมันป่วยเป็นไร

J. : จะว่าไปกูเคยเห็นหน้าแฟนมึงปะวะไอ้ดิน รู้แต่ชื่อเจ้า แต่ยังไม่เคยเจอตัวจริง

D. : Sent a photo.

J. : กี๊ดดดดดดดดดดดดด

K. : คือแม่กูหาผัวใหม่ได้อีกแล้วแน่ๆ คนนี้เด็ดกว่าไอ้มินเดือนบริหารอี๊กกกก

J. : แห่ก แห่ก แห่ก มินเป็นใคร กูไม่รู้จัก กูรู้จักแต่พี่เจ้า พี่เจ้าคือผัวกู ผู้ชายที่คู่ควรกับคำว่าผัว ไม่ ไม่ใช่ คำว่าผัวต่างหากที่คู่ควรกับพี่ #เจ้าจอมอิสเรียล

P. : จัญไรจริงๆ

D. : @P. ไม่สบายนิดหน่อย

P. : รักษาเป็นเดือนๆ นี่ไม่นิดแล้วนะ ไม่เป็นไรจริงๆ ใช่มั้ย

D. : อืม ไม่เป็นไรหรอก ปลอดภัยแน่นอน

D. : เพราะมีคนคุ้มครองอยู่ เขาไม่ปล่อยให้เจ้าเป็นไรไปหรอก

J. : และคนนั้นคือกูเองจ้า พี่เจ้าจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากเป็นผัวกู!

D. : กูไม่น่าให้มึงเห็นรูปมันเลย ส้นตีน

J. : ไม่เจ็บ!

.

.
20 สิงหาคม

เหรอครับ คุณไปส่งจี้มาเหรอ คิดว่าจี้คงดีใจแน่ๆ แต่เสียดายที่ผมไปไม่ได้ ไว้ผมกลับไปแล้ว พาผมไปหาจี้ด้วยนะครับ จะเอาดอกไม้ที่จี้ชอบไปให้ด้วย นี่...เห็นมั้ยลายมือของผมดีขึ้นแล้วนะ ผมคิดว่าคุณไม่ต้องเสียเวลาแกะคำแล้ว :)

รายงานผลอาการ: แผลของผมไม่เจ็บมากแล้ว แต่ยังไงกระสุนที่ฝังอยู่นี้ก็ต้องเอาออก แม่เครียดมากเพราะยังหาทีมรักษาเก่งๆ ไม่ได้ หรือที่จริงอาจจะเครียดกับงานก็ได้ ผมก็ไม่รู้หรอก ไม่ค่อยได้คุยกัน

ตอบคำถามของคุณ: ที่คุณถามครั้งก่อนว่าแม่ว่ายังไงกับเรื่องของเรา ผมไม่กล้าพูดนะว่ายอมรับได้ แต่การที่จดหมายของผมถึงคุณทุกฉบับก็คิดว่าแม่คงรับได้บ้างแล้ว

คำถามของผม: คิดถึงผมมั้ย เหงาหรือเปล่า จดหมายครั้งหน้า เล่าให้ผมฟังด้วยนะ เรื่องที่ไอ้แพร์ล่วงเกินเอ๋ ผมบอกเลยว่าผมหัวร้อนมาก เอ๋ไม่ปลอดภัย!

ปล. ครั้งหน้าผมจะเขียนให้ยาวกว่านี้เท่ากับความคิดถึงที่ผมมีเลย รักคุณนะครับ

:

28 สิงหาคม

ลายมืออ่านยากเหมือนเดิม แต่แปลกที่อ่านรู้เรื่อง สงสัยชินแล้วละมั้ง ว่าแต่จี้ชอบดอกอะไร ตอนทำบุญครั้งหน้าจะซื้อไปด้วย

ติดตามผล: ไม่เจ็บมากก็ดีแล้ว แต่ระวังด้วย ถ้าได้ทีมผ่าตัดเมื่อไหร่บอกก่อนนะ จะเข้าห้องผ่าตัดโทรมาก่อน ตอนนี้ยังไม่ต้องฝืนทำอะไร กินยาตามที่หมอสั่ง หมอเขาพูดอะไรก็ฟัง ห้ามดื้อ

ตอบคำถาม: ถามว่าคิดถึงมั้ยก็ต้องบอกว่าคิดถึงมาก เรื่องเหงามันก็มีบ้างแต่ไม่มากหรอก แค่ฟังไอ้แพร์บ่นก็เหมือนมีคนอยู่ด้วยเป็นร้อย ไหนจะไอ้จอมที่มาก่อกวนขอรูปของเจ้าทุกวัน ถึงอย่างนั้นก็รีบกลับนะ อยู่กับใครก็ไม่เหมือนอยู่กับเจ้า ส่วนเรื่องของไอ้แพร์กับน้องเอ๋น่ะ ไม่รู้จะเล่ายังไงเลย มันชอบบอกว่าไม่มีอะไร แต่ไอ้จอมมันรู้มันเห็น ล่าสุดมันบอกว่าไอ้แพร์จูบน้อง นั่นแหละผมไม่รู้รายละเอียดมากหรอก ไว้กลับมาเจ้าไปถามไอ้จอมเลย มันพร้อมตอบทุกคำถาม จอมรู้โลกรู้ สโลแกนประจำตัว

คำถามครั้งต่อไป : คำถามนี้ไม่ต้องตอบเร็วๆ นี้ก็ได้ ตอบเมื่อพร้อมและแน่ใจก็พอ

จะกลับมามั้ย แล้วถ้ากลับมาเราจะอยู่ในสถานะไหน

จะเป็นคนรัก เป็นคนที่คบกัน เป็นคู่ชีวิต หรือจะไม่มีสถานะอะไรเลย

ถ้าพร้อมก็ให้คำตอบด้วยนะ เคารพการตัดสินใจเสมอเพราะไม่ว่าเจ้าจะตัดสินใจยังไง ผมก็จะอยู่ที่เดิม

ปล. เขียนสั้นๆ ก็ได้ รู้ว่าเจ็บแผล เป็นห่วงมากๆ นะ รักเหมือนกัน

.

.

31 ธันวาคม

“พี่หมอดิน”

ธรามองไอ้เด็กหัวฟูตัวเล็กที่กำลังยืนทำหน้างงๆ อยู่ตรงหน้า ปากเล็กก็ร้องเรียกชื่อเขาแต่กลับทำคอยืดคอยาวมองไปทางด้านหลัง ไม่โฟกัสเจ้าของชื่อเลยสักนิด

“มีอะไรเรา” ธราถามกลับ แกล้งขยับตัวบังไปในทิศที่ดวงตาโตๆ นั้นกำลังมอง “หรือจะเอาดอกไม้มาขายอีก”

ไอ้เด็กหัวฟูท่าทางอึกอัก มันสบตากับธราเพียงครู่แล้วก็หลุบตาลงต่ำ นิ้วชี้จิ้มเข้าด้วยกันจนคนมองอดที่จะหัวเราะไม่ได้ “คือ...วันนี้ไม่ได้มาขายดอกไม้”

มุขขายดอกไม้ของไอ้เอ๋ เด็กปีสองของคณะเกษตรฯ นั้นเป็นที่โจษจันไปทั่วคณะทันตะฯ เพราะมันเล่นใหญ่สมกับเป็นเอเย่นขายกาวให้ไอ้จอม ธราคิดว่าไอ้น้องเอ๋คนนี้คงตั้งใจเอาดอกทานตะวันที่มันปลูกอยู่เกือบสิบกระถางที่ระเบียงห้องของมันมาให้ไอ้แพร์เพื่อนของเขา แต่คงเพราะเขินหรือเพราะความกาวของน้องถึงได้เอาดอกทานตะวันมาตั้งแผงขายอยู่หน้าป้อมยามฯ ของคณะแทนที่จะเอามาให้ไอ้แพร์โดยตรง แต่พอใครไปถามซื้อมันก็ไม่ขายอีกทั้งยังฝากบอกให้พี่หมอแพร์ปีห้าช่วยมาซื้อดอกไม้ของมันด้วย จำได้ว่าวันนั้นไอ้แพร์ถึงกับวิ่งหน้าตั้งทั้งที่ยังไม่ถอดแมสก์ออกจากห้องทำฟันเพื่อไปเหมาดอกทานตะวันของไอ้น้องเอ๋อย่างเร่งด่วน

“แล้วมีอะไร” ธราถามต่อ

“พี่หมอดินกำลังหงุดหงิดอยู่ปะครับ” ไอ้เอ๋ถามหน้าหงอย “คือผมแค่อยากมาถามว่าวันนี้พี่หมอแพร์จะไปเคาท์ดาวน์ที่ไหน”

“ไม่ได้หงุดหงิด” คนหน้านิ่งรีบบอก “หน้าพี่เวลาไม่ยิ้มมันเป็นอย่างนี้เอง”

“อ๋อ ก็นึกว่าหยิ่ง”

“อ้าว น้อง”

“แหะ” ไอ้เอ๋ยิ้มแห้ง ก่อนจะลดเสียงลงเป็นเสียงกระซิบเมื่อพูดขึ้นอีก “แล้วยังไงครับ พี่หมอแพร์จะไปเคาท์ดาวน์ที่ไหน”

“ทำไมไม่ถามมันเอง เราเป็นแม่ของลูกมันไม่ใช่เหรอ ถามสิ มีสิทธิ์นะ”

ไอ้เอ๋ตาโตทันที “พี่หมอรู้ได้ยังไงว่าผมท้อง เรื่องนี้พ่อของเด็กยังไม่รู้เลยนะ! ผมบอกแค่พี่หมอจอม!”

ธราอยากจะบอกเสียจริงๆ ว่าทุกเรื่องที่ไอ้จอมรู้ คนทั้งโลกต้องรู้ไปกับมันด้วย ไม่งั้นมันอกแตกตาย “ว่าแต่ลูกในท้องเป็นยังไง แข็งแรงดีมั้ยล่ะ”

“ก็ดีครับ” ไอ้เอ๋ตอบพลางยิ้มกว้างเมื่อมีคนใส่ใจน้องอิ๋งของมัน “น้องอิ๋งแข็งแรง ไม่งอแง มีน้องมาหลายเดือนแล้วก็ยังไม่แพ้ท้องเลย กินได้ทุกอย่างที่อยากกิน แม่จ๋าของผมน่ะบอกว่าน้องอิ๋งต้องเป็นเด็กที่น่ารักแน่ ไม่ทำให้แม่ลำบากเลย พูดแล้วก็น้ำตาจะไหล พ่อของน้องยังไม่รู้เลยว่ามีน้อง!”

ธราเกือบตบหน้าผากตัวเองที่เผลอเล่นตาม เพราะกลายเป็นว่าตอนนี้ประเด็นสถานที่เคาท์ดาวน์ของไอ้แพร์เพื่อนซี้ถูกเปลี่ยนเป็นเรื่องลูกที่มันก็ไม่รู้ว่ามีเมื่อไหร่ไปแล้ว

“เอาเถอะๆ แข็งแรงทั้งแม่ทั้งลูกก็ดี” เขารีบตัดบทก่อนที่ไอ้น้องเอ๋จะดราม่าเล่นใหญ่ไปมากกว่านี้ “เดี๋ยวยังไงพี่ถามไอ้แพร์ให้”

“พี่หมอดินต้องเนียนๆ นะ อย่าให้พี่หมอแพร์รู้ว่าผมถาม” ไอ้เอ๋ทำหน้าล่อกแล่ก มันพยายามเขย่งปลายเท้าเพื่อมองให้พ้นไหล่ของธราอีกครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล ไหล่กว้างอย่างกับกำแพงเมืองจีนอย่างนี้เป็นอุปสรรคต่อการแอบมองของมันจริงๆ

“พี่จะบอกว่าคนข้างห้องฝากถามก็แล้วกัน”

เด็กหัวฟูโวยวายทันที “โอ๊ย! อย่างนั้นก็รู้ซี่”

“มันไม่รู้หรอก ขนาดน้องเอ๋อยู่ข้างห้องมันมานานมันยังไม่รู้เลย”

ไอ้เอ๋หน้าหงอย “ก็จริง แต่ถ้าพี่หมอบอกว่าคนข้างห้อง พี่หมอแพร์จะไม่คิดเหรอว่าเป็นเจ๊อ้อยที่อยู่อีกข้าง”

“สรุปอยากให้มันรู้หรือไม่อยาก”

“ก็คือ...แบบ ผมน่ะว่างมากเลยนะวันนี้”

ธราปวดกบาลจริงๆ เขาคิดว่าเขาคงรับมือกับเด็กคนนี้ต่อไม่ไหว ไม่รู้ไอ้แพร์มันทำได้ยังไงถึงจีบกันมาได้หลายเดือน “ไอ้แพร์” เขาตัดสินใจตะโกนเรียก เห็นไอ้น้องเอ๋ตาโต ยกนิ้วชี้ขึ้นแตะปากส่งเสียงชู่ๆ แล้วแต่เขาก็ไม่สนใจ “น้องเอ๋มาถามว่าคืนนี้จะเคาท์ดาวน์ที่ไหน คืนนี้น้องว่างมาก ไม่ได้อยากชวน ไม่ได้อยากรู้อะไรหรอก แค่มาถามเฉยๆ”

ไอ้เอ๋แทบมุดหน้าเข้าหาผนังเมื่อเห็นพี่หมอในดวงใจของมันละจากเครื่องกรอฟันแล้วเดินมาหามันที่ยืนคุยกับพี่หมอดินอยู่หน้าห้องทันตกรรม

“ก็คิดอยู่ว่ามึงยืนคุยกับใครตั้งนานสองนาน” ไอ้แพร์ว่าแล้วก็มองไปทางเด็กขี้เขินที่ตอนนี้หันหน้าเข้าผนังห้องไปแล้ว “ว่าแต่เราเถอะ ไหนบอกพี่ว่ามีคนชวนเคาท์ดาวน์แล้ว”

“ก็แบบอยากให้พี่หมอไปด้วย” ไอ้เอ๋บอกเสียงแผ่ว “อยากแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าผมไม่ได้คิดอะไรกับเขา ต่อให้เขาจะหล่อมาก รวยมาก ไม่มีอะไรที่พี่หมอเทียบติดเลย แต่ผมก็อยากเคาท์ดาวน์กับพี่หมอนะ”

ธราหลุดหัวเราะ เขาขำจนหน้าดำหน้าแดงเพราะเห็นสีหน้าไอ้แพร์เพื่อนรักที่ทำหน้าคล้ายโดนรถสิบล้อเหยียบหน้า

“คือกูควรรู้สึกยังไง” ไอ้แพร์หันมาถามความเห็น “ต้องดีใจหรือร้องไห้ แบบน้องเลือกกูทั้งที่กูไม่มีเหี้ยไรดีสักอย่าง”

“ไม่ๆ ๆ” ไอ้เอ๋รีบพูดปฏิเสธ “พี่หมอมีดีนะครับ แต่แค่ดีไม่เท่าเขาเท่านั้นเอง อย่าน้อยใจไปเลย เพราะผมตกลงกับเขาแล้วว่าจะเป็นเพื่อนกัน สัญญาแล้วว่าจะเป็นบีเอฟเอฟกันตลอดไปเลย”

“ฮ่าๆ ๆ” คราวนี้ธราระเบิดหัวเราะ ไอ้แพร์ยิ้มแห้ง คงจุกแต่พูดอะไรไม่ได้ “แต่อะไรคือบีเอฟเอฟวะน้อง”

“เบสเฟรนด์ฟอเอเวอร์”

“นี่ไงไอ้แพร์ น้องเลือกมึงแล้ว” ธราได้ทีปลอบใจเพื่อน “ต่อให้หล่อให้รวย ให้ดีกว่ามึงทุกอย่าง แต่เขาก็เป็นได้แค่เพื่อนไง ชนะแล้วเนี่ย ทำหน้าจะร้องไห้ทำไม”

“สัด กูแบบเจ็บจนพูดไม่ออก” ไอ้แพร์ว่าแล้วก็ถอนหายใจแรงและเมื่อตั้งสติได้ก็หันไปหาไอ้เด็กหัวฟู “แล้วนี่คือจะให้พี่ไปเคาท์ดาวน์ด้วยจริงๆ เหรอ”

“เราสองสามคนไปเลยไง” ธราตอกย้ำ เห็นหน้าแห้งๆ ของไอ้คนขี้บ่นแล้วยิ่งสะใจ

“ไม่ครับๆ ชวนพี่หมอดินไปด้วย ผมไม่อยากให้เขาเหงา บีเอฟเอฟของผมต้องมีความสุขในวันสิ้นปี”

“เป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้เลยจริงๆ กู” ไอ้แพร์พึมพำ แต่มันก็รับปาก “พี่ไปด้วยก็ได้ ยังไงก็ไม่ให้เอ๋ไปกับมันสองต่อสองหรอก ไอ้ดิน มึงก็ไปด้วยกัน ยังไงมึงก็ว่าง”

“เออ ไปด้วยก็ได้” ธรารับคำเสียมิได้ เพราะยังไงก็อยากตามไปเห็นสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของไอ้แพร์ต่อ นอกจากนมน้องมิ้วที่ทำให้มันขาดอากาศหายใจตายได้แล้ว ไอ้น้องเอ๋ที่นมแบนๆ คนนี้ก็คงทำได้เช่นกัน

หึ เด็กมันแน่

“ดีๆ ๆ นายเจ้าต้องดีใจแน่เลย” ไอ้เอ๋พูดพลางยิ้มออกมาอย่างร่าเริง แต่ธรานิ่งงันกับชื่อที่ได้ยิน

นายเจ้า นายเจ้าคนนั้นน่ะจะใช่คนที่ขาดการติดต่อไปหรือเปล่า จะใช่คนที่ทำให้จดหมายฉบับสุดท้ายของเขาไม่มีการตอบกลับไหม แล้วถ้าใช่...

“เพื่อนชื่อเจ้าเหรอ” ธราถามเสียงแผ่ว ความรู้สึกในตอนนี้ของเขาอธิบายไม่ได้ เพราะมันปะปนกันจนไม่รู้ว่าความรู้สึกไหนชัดเจน แค่ชื่อ...ทั้งที่เป็นแค่ชื่อที่เหมือน อาจจะไม่ใช่คนเดียวกัน คนชื่อเจ้าน่ะคงมีอีกหลายคนบนโลกนี้

“ชื่อเจ้าครับ เป็นรุ่นพี่นะ แต่เราตกลงเป็นบีเอฟเอฟกันแล้ว เราเจอกันที่สนามบินเมื่อวันศุกร์ที่แล้วแหละ ตัวผมไปส่งแม่จ๋าเพราะแม่จ๋าจะไปตามหาลูฟี่ที่ญี่ปุ่นให้ผม แล้วเราเดินสวนกันพอดี จากนั้นเขาก็เข้ามาจีบ เขาขอไลน์บอกว่าอยากจะคุยด้วย เราก็เลยชิตแชตกันมาตั้งแต่นั้น” ไอ้เอ๋เล่าไปด้วยยิ้มกว้างไปด้วยอย่างมีความสุข

“นี่ไง นี่ไงมึงฟังซะ เจอกันศุกร์ที่แล้วแต่เหยียบหน้ากูที่จีบมาหลายเดือน ฟ๊าคคคค” ไอ้แพร์ถึงกับโวยวายขึ้นมา

“เขาอาจจะไม่เข้ามาจีบก็ได้ไง มึงก็รู้ว่าไอ้น้องเอ๋มันไม่เต็ม คนจีบบอกไม่จีบ คนไม่จีบบอกจีบ วุ่นวายไปหมด” ธราเตือนสติเพื่อน ไม่อยากให้คิดไปไกลเพราะเชื่อความคิดของไอ้เด็กกาวคนนี้ได้เสียที่ไหน ทั้งที่ไอ้แพร์ออกหน้าออกตาว่าจีบมันมาหลายเดือนมันยังบอกเลยว่าไอ้แพร์ไม่ชอบมัน เป็นงงกันทุกคน

“เขาจีบผม! ผมก็หล่อเหลาเอาการอยู่พอสมควรนะ นี่วันก่อนแม่ยอดยาหยีดาวเภสัชฯ ที่เคยคบกับพี่หมอน่ะยังมาขอผักไปทำสลัดกิน ทั้งที่หล่อนจะไปขอซื้อกับไอ้คิ้มก็ได้ แต่หล่อนมาขอกับผม เห็นไหมล่ะ หล่อนมีใจ!”

“เออ กูเชื่อมึงละ กูว่ากูไม่ควรโวยวาย” ไอ้แพร์กระซิบให้ธราได้ยินเพียงคนเดียว “หลังจากได้เป็นเมียแล้วกูต้องพาไปรักษาสติ ไม่งั้นลูกคงเป็นบ้าตามแม่”

“มึงก็รักษาสติก่อนมั้ย น้องเป็นผู้ชาย น้องท้องไม่ได้!”

“เออ ก็จริง” ไอ้แพร์หัวเราะ “กูอินกับน้องอิ๋งจนเชื่อไปแล้วเนี่ยว่ามีลูก อีกนิดคือบอกแม่เตรียมรับขวัญหลาน”

“จะหลอกเอาเงินแม่ก็พูดมา”

“มันรู้ใจ”

ธราส่ายหน้าระอา ก่อนจะมองไอ้น้องเอ๋ที่ตอนนี้กำลังสนใจโทรศัพท์มือถือ มือก็พิมพ์ยุกยิก ปล่อยให้บทสนทนาเคว้งอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

“นายเจ้าบอกจะมาหา” มันพิมพ์เสร็จก็เงยหน้าขึ้นบอกธรา “นายเจ้าบอกว่าให้พี่หมอดินรอก่อน ถ้ามีธุระที่ไหนก็ให้ผมล็อกตัวไว้ ห้ามพี่ไปไหน”

“ฮะ?” ธราได้แต่ร้องอุทานเพราะไอ้น้องเอ๋ตั้งท่าจะเข้ามาชาร์ตเขาจริงๆ แต่ไอ้แพร์ยกมือขึ้นห้ามและบอกว่ามันจะจัดการกับเขาเอง ด้วยเหตุนั้นตอนนี้เขาจึงถูกไอ้แพร์ล็อกแขนไว้

“พี่หมอแพร์ทำดีมาก!” ไอ้เอ๋กล่าวชม

“ครับ งานแบบนี้ให้พี่ทำเถอะ ไหล่ไอ้ดินกว้างเป็นกำแพงเมืองจีนอย่างนี้น้องล็อกมันไม่ไหวหรอกครับ”

“นี่แหละคือข้อดีของพี่!” ไอ้เอ๋ชมไม่หยุด

“คือไงนะ” ไอ้แพร์กระซิบถามธรา “ข้อดีของกูคือการใช้กำลังเหรอ”

“จะยังไงก็ช่าง มึงปล่อยกูก่อน กูไม่ได้จะหนีไปไหนไอ้ควาย”

“เออ โทษ อินอีกแล้ว”

ธราถึงกับส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ เขาคิดว่าถ้าปล่อยไอ้แพร์ไว้กับไอ้น้องเอ๋นานกว่านี้ มันคงพากันสร้างยานอวกาศไปทัวร์กาแล็กซี่แน่ๆ

“แล้วนายเจ้าเพื่อนน้องจะมาเมื่อไหร่ อีกสิบนาทีพี่ต้องเข้าเรียนแล้ว”

“งั้นเอาไงดีอะครับ นายเจ้าบอกว่าอีกครึ่งชั่วโมง”

“เจอกันคืนนี้ก็ได้ ยังไงต้องเคาท์ดาวน์ด้วยกันอยู่แล้วนี่”

“จริงด้วย งั้นผมบอกนายเจ้าก่อนนะ” ไอ้เอ๋ว่าแล้วก็หันกลับไปสนใจโทรศัพท์มือถืออีกครั้งและไม่นานมันก็เงยหน้าขึ้น “นายเจ้าบอกว่าโอเค”

“อืม เจอกันที่ไหนก็บอกด้วยแล้วกัน”

“ได้เลยครับ”

ธราหวัง ทั้งที่ไม่อยากหวังแต่ก็อดไม่ได้ เขาหวังจริงๆ นะว่านายเจ้าที่เป็นบีเอฟเอฟของไอ้น้องเอ๋คนนั้น จะเป็นคนคนเดียวกับคนที่ชื่อ เจ้า จักรพรรดิ ที่เขารอคอยให้กลับมาอยู่ทุกวัน

.

.


ออฟไลน์ Snufflehp

  • It feels like nobody ever knew me until you knew me
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +978/-17
สถานที่ที่จะใช้นับถอยหลังสู่ศักราชใหม่ในค่ำคืนนี้คือชั้นดาดฟ้าของหอพักที่ไอ้น้องเอ๋กับไอ้แพร์พักอาศัย ซึ่งคนต้นคิดสถานที่นั้นไม่ได้ให้เหตุผลอื่นใดนอกจากไม่อยากไปไกลกว่านี้ มันบ่นรถติด บ่นคนเยอะ บ่นเสียงประทัด แต่ที่ไหนๆ ในเวลาสิ้นปีก็เป็นแบบนี้กันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่ชั้นดาดฟ้าของหอพักที่ก็ไม่ได้มีแค่พวกเขาที่คิดมาฉลองกัน คนเช่าอาศัยที่นี่บางส่วนก็เลือกที่จะขึ้นมาจับจองพื้นที่ฉลองให้กับกลุ่มตัวเอง โชคดีที่ไอ้น้องเอ๋มันมาจองพื้นที่ตั้งแต่หัวค่ำจึงได้ทำเลดี แต่วิธีจองของมันก็คล้ายกับจองพื้นที่ดูหนังกลางแปง มันปูเสื่อบนพื้นแล้วเขียนชื่อใส่กระดาษเอสี่ก่อนจะใช้ก้อนหินทับกระดาษไว้อีกที ถือเป็นการเสร็จสิ้นการจอง ได้ที่แน่นอนโดยไม่ต้องตบตีกับใคร

“วางน้องๆ ไว้ตรงนี้เลยครับพี่ๆ” ไอ้เอ๋ผู้ชนะเลิศในการจองพื้นที่บอกเสียงใส มันชี้นิ้วไปทางนั้นทางนี้เพื่อให้ธรากับไอ้แพร์วางน้องๆ ของมันลงตามพื้นที่ที่ต้องการ

“เวรกรรมอะไรของกูวะเนี่ย” ธราบ่น เขาไม่แน่ใจเลยว่าควรทำยังไงกับกระถางต้นดอกทานตะวันที่ต้องช่วยไอ้น้องเอ๋ขนขึ้นชั้นดาดฟ้าดี เลือกไม่ถูกเลยระหว่างโยนน้องๆ เหล่านี้ลงกับพื้นหรือโยนใส่หัวเจ้าของมันให้สมองกลับมาปกติ

“น้องๆ ต้องได้เคาท์ดาวน์กับพวกเราด้วยนะครับ นายเจ้าก็บอกว่าเป็นความคิดที่ดีเลยนะ เพราะเราจะปล่อยให้น้องๆ เหงาไม่ได้ น้องๆ ก็มีหัวใจ” ไอ้เอ๋ส่งเสียงแง้วๆ มาจากมุมหนึ่งเมื่อได้ยินเจ้าของไหล่ขนาดกำแพงเมืองจีนบ่น ตัวก็ใหญ่ซะเปล่าแต่เหนื่อยง่ายเสียจริงๆ สู้ไอ้เอ๋ก็ไม่ได้ นั่งจิบน้ำแดงอยู่บนเสื่อนี่ยังไม่เหนื่อยเลย!

“ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่ยอมมาเคาท์ดาวน์กับพวกมึง” ธราปาดเหงื่อที่หน้าผากหลังจากที่ขนกระถางต้นดอกทานตะวันทั้งสิบต้นขึ้นมาได้สำเร็จ “ไอ้คนเห็นดีเห็นงามก็ไม่โผล่หัวมาช่วยขน ไอ้สัด ถ้าจะเออออแล้วไม่ห้ามก็มาช่วยขนเองสิวะ”

“เอาน่ามึง หัวร้อนไปทำไม มาๆ มานั่งก่อน” ไอ้แพร์ทำหน้าที่เป็นพ่อบ้านที่ดี ธรารู้อยู่หรอกว่ามันก็อยากบ่น แต่ช่วงทำคะแนนอย่างนี้มันคงพูดอะไรมากไม่ได้ ในเมื่อบีเอฟเอฟของไอ้น้องเอ๋ก็ยังคลุมเครืออยู่เลยว่าสรุปมันจีบจริงหรือไม่จริง มีคู่แข่งน่ากลัวปรากฏตัวขึ้นมาอย่างนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องระวังไม่ให้เสียคะแนนไว้ก่อน แม้ไอ้น้องเอ๋มันจะชัดเจนแล้วก็ตามว่าสนใจใครมากกว่ากัน

ธรานั่งพักเหนื่อย เขารับเบียร์เย็นๆ หนึ่งกระป๋องมาจากไอ้แพร์ที่บริการเปิดให้เป็นที่เรียบร้อยมายกขึ้นกระดกไปอึกใหญ่ รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาเล็กน้อย ประกอบกับอากาศในยามนี้เป็นใจสำหรับการผ่อนคลาย ความหัวร้อนที่มีจึงลดฮวบลงแทบไม่เหลือ เขาหลับตาพลางเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่สูดอากาศเข้าเต็มปอด ได้ยินเสียงไอ้น้องเอ๋กับเพื่อนของเขาคุยกันแล้วก็น่าปวดหัวดี แต่ไม่ได้รู้สึกรำคาญ

บางทีการอยู่ตรงนี้ก็ไม่ได้แย่และถ้าจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็คงไม่เป็นไร ก็แค่อาจจะเหงาบ้างก็เท่านั้น

เขายกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่มอีกครั้ง รู้สึกดีกับสายลมที่พัดผ่านมา ได้ยินเสียงพูดคุยมาจากกลุ่มที่ฉลองอยู่มุมตรงข้ามกันแต่คงเพราะไม่ได้อยู่ใกล้กันมาก เสียงที่ได้ยินจึงไม่น่ารำคาญแต่กลับช่วยคลายความเหงาลงได้บ้าง กลุ่มนั้นคงเริ่มดื่มกันไปบ้างแล้ว ในขณะที่ทางพวกเขานั้นไม่ได้คิดจะดื่มกันจริงจัง เพราะทั้งเขาและไอ้แพร์ต้องกลับไปแก้แล็ปให้เสร็จสิ้น แม้แต่วันสิ้นปีงานก็ยังกองทับหัวอย่างนี้ก็สมแล้วกับคณะที่เลือกเรียน

เขาปล่อยความคิดไปเรื่อยเปื่อย คิดถึงเรื่องนั้น เรื่องนี้โดยไม่ได้เจาะจงไปในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง กลับแค่คิดขึ้นมาแล้วปล่อยผ่าน ให้เบียร์เย็นๆ กับสายลมอ่อนๆ นี้ช่วยพัดพามันไป แต่ในขณะที่เบียร์ลดลงไปค่อนกระป๋อง ใครบางคนก็นั่งลงเคียงข้าง เขาเพิ่งรู้สึกตัวว่าเสียงพูดคุยของไอ้น้องเอ๋และไอ้แพร์เงียบไปแล้ว ที่ได้ยินตอนนี้มีเพียงเสียงร้องเพลงของกลุ่มที่อยู่ห่างออกไปแทน

“ชนหน่อยสิ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับที่เจ้าของเสียงหันมองธรา มือผอมที่ถือกระป๋องเบียร์นั้นยกขึ้นมาตรงหน้า ส่งรอยยิ้มที่ปรากฏพระจันทร์เสี้ยวดวงสวยมาให้ “ดื่มด้วยนะ”

“อืม” ธราขานรับในลำคอหลังจากนิ่งเงียบอยู่นาน เพราะเขาไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าควรทำยังไงกับคนที่จู่ๆ ก็มาปรากฏตัวตรงหน้า จะบอกว่าไม่ได้คาดหวังไว้ก็ไม่ใช่เสียทีเดียว ในเมื่อเขาก็หวังตั้งแต่ที่ได้ยินไอ้น้องเอ๋เอ่ยชื่อแล้ว แต่ก็ไม่ได้คิดจริงๆ ว่าจะใช่ “กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ศุกร์ที่แล้ว” เสียงทุ้มกล่าวตอบพลางจ้องมองธรา “คุณดูสบายดีนะ”

“ก็ไม่แย่” ธราเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “ไปได้เรื่อยๆ นั่นแหละ”

“อือ ดีแล้ว”

ธราไม่รู้จะพูดอะไร จากที่เคยแน่ใจว่าเมื่อได้เจอกันอีกครั้งคงมีเรื่องมากมายให้ได้พูดคุย คงมีคำถามอีกหลายร้อยคำถามที่อยากจะถาม แต่ในตอนนี้กลับเลือกที่จะนั่งข้างกันเงียบๆ ดื่มเบียร์เย็นๆ ด้วยกันแล้วปล่อยเวลาให้เคลื่อนผ่านเท่านั้น

“ดิน”

“หืม”

“คุณยังอยากให้ความเป็นไปไม่ได้ของเราดำเนินต่อไปมั้ย”

คำถามที่ได้ยินทำให้ธราเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “มันมีความเป็นไปไม่ได้อยู่บนโลกนี้ด้วยเหรอ”

“นั่นสิ” คนตั้งคำถามเห็นด้วยพลางหลุดยิ้ม “หลังจากผ่านเรื่องพวกนั้นมาก็คงพูดไม่ได้แล้วล่ะว่ามี”

“อืม แล้วยังไงต่อ”

“ไม่รู้เหมือนกัน”

ธราแน่ใจว่าถ้าเป็นเขาก็คงให้คำตอบนี้ คำตอบที่บอกแค่เพียงว่าไม่รู้ เพราะไม่รู้จริงๆ ว่าหลังจากนี้จะเป็นยังไง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้จะพูดคำใดต่อกันดี ในเมื่อไม่ว่าจะเป็นถ้อยคำไหนก็ไม่ตรงกับความรู้สึกของเขาเลย

เพราะความรู้สึกที่มีมันเอ่อล้นและมีคำว่ามากกว่าอยู่ทุกๆ ความรู้สึก

คิดถึงไหม มากกว่าคิดถึง

ดีใจไหม มากกว่าดีใจ

รักไหม มากกว่ารัก

ไม่รู้ว่าควรจำกัดความยังไง ไม่รู้ว่าควรกำหนดจุดของความรู้สึกไว้ตรงไหน

“เจ้า”

“ครับ”

“ไม่อยากพูดอะไรมากหรอก”

“หืม”

“แค่อยากถาม”

“ว่า?”

“มีแฟนยัง”

“เดี๋ยว”

“ตอบสิ”

“มีแล้ว”

“ชื่อ”

“ธรา”

“อืม แค่นี้แหละที่อยากรู้”

คนถูกถามถึงกับหน้าเหวอและไม่นานเมื่อตั้งสติได้ก็หัวเราะออกมาเบาๆ ในขณะที่ธราก็ยิ้มกว้างออกมาเช่นกัน

“คุณนี่จริงๆ เลย ขอเป็นแฟนดีๆ ไม่ได้เลยเร้อ”

ธรายกมือขึ้นโยกศีรษะของคนที่พูดตัดพ้อแต่กลับยิ้มจนตาหยีให้เขา “ไว้ขออีกที ตอนนี้พูดไม่ค่อยถูก”

“ก็เหมือนกัน ที่จริงก็ไม่รู้จะเริ่มทักคุณยังไงเลย”

“หายไปนานนี่นะ” ธรากัดเล็กน้อย อยากปล่อยผ่านเรื่องนี้อยู่หรอก แต่ลึกๆ แล้วก็น้อยใจอยู่เหมือนกัน

“เคลียร์ตัวเองอยู่ ไม่อยากกลับมาหาคุณแล้วพาปัญหาตามมาอีก”

“อือ ดีแล้ว เพราะครั้งนี้ไม่ให้หายไปแล้ว ต้องติดแหง็กอยู่ด้วยกันไปจนแก่นี่แหละ”

“ดู๊วว นายคนนี้มันแน่”

ธราหัวเราะ ไม่เคยรู้สึกสบายใจเท่านี้มาก่อน ตอนนี้ความรู้สึกของเขาเหมือนกับท้องฟ้าปลอดโปร่งที่ไร้เมฆสีขมุกขมัว ยิ่งเมื่อเห็นรอยยิ้มของคนสำคัญก็ยิ่งแน่ใจว่าต่อให้หลังจากนี้ท้องฟ้าจะมีเมฆฝน พายุลูกใหญ่จะพัดกระหน่ำเข้ามา เขาก็ไม่กลัว เพราะเชื่อว่าฟ้าหลังฝนนั้นสวยงามเสมอ

“ชื่อเจ้านี่มาจากอะไรนะ” จู่ๆ เขาก็อยากรู้ขึ้นมาและเมื่อเห็นรอยยิ้มร้ายบนใบหน้าคมคายแล้วก็คล้ายกับได้คำตอบ

“นี่ยังไม่รู้จริงๆ เหรอ” คนพูดขยับใบหน้าเข้าหา ก่อนริมฝีปากบางจะกดย้ำลงบนริมฝีปากหนาแล้วผละห่าง “ว่าเจ้าน่ะ...มาจากคำว่าเจ้าชีวิต เพราะเจ้าคนนี้เป็นเจ้าชีวิตของคุณ”

“ไม่ใช่แล้ว” ธราแย้ง ยกมือขึ้นลูบแก้มเนียนของคนตรงหน้าแล้วรั้งให้เข้ามาแนบชิด “เป็นคู่ชีวิตมากกว่า”

“แน๊ ขอแต่งงาน”

“แต่งมั้ยล่ะ”

“ขอเล่นตัวสามปีได้มั้ย”

“ไม่รอ”

“สองปีละกัน”

“สองนาที”

“แต่ง”

“ก็แค่นี้”

.

.

"ผมชื่อเจ้า เจ้าที่ไม่ใช่พระเจ้า แต่เป็นเจ้าที่อยากเป็นทุกอย่างให้คุณ เรียกผมว่าเจ้าชีวิตก็ได้ครับ"





The End



...............Thank You...............



ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นและทุกการติดตาม ทุกกำลังใจและทุกการวิเคราะห์ เราดีใจที่เดินทางมาจนถึงตอนนี้ค่ะ

เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องแรกที่อิงแฟนตาซีนิดๆ มีความเล่นนู่นนี่นิดหน่อย เราเขียนเรื่องนี้ขึ้นเพื่อนำเสนออีกรูปแบบหนึ่งของความรัก ทั้งรักที่น้องจี้มีต่อเจ้าชีวิตของน้อง รักที่พี่เจ้ามีต่อครึ่งชีวิตของพี่ และรักที่ธรามีให้กับคนที่เป็นทุกความรู้สึกของเขา บางคนอาจจะไม่ได้อยู่ในเรื่องมากแต่ก็เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เส้นเรื่องผกผันขึ้นๆ ลงๆ แต่บางคนอยู่เพื่อสร้างสีสันให้มีความเป็นไป ซึ่งก็เหมือนเรื่องที่เราต้องพบเจอ บางเรื่องก็ไม่ได้อยู่เป็นปัญหายาวนาน อาจผ่านเข้ามาแล้วจบไป แต่บางเรื่องก็อยู่เรื้อรังและติดค้างกันมาจนถึงทุกวันนี้

เราหวังว่ามาจนถึงตอนนี้ จะไม่มีอะไรติดค้าง



สำหรับเราแล้วนี่เป็นฉากจบที่เราหวังค่ะ แค่คนทั้งคู่ได้กลับมาเจอกัน เราก็สมหวังสุดๆ แล้ว



รักนักอ่านทุกท่านเลยค่า

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 687
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
กริสส จบแล้ว ฟินตัวแตกช่วงแรก ใจพังสุดๆ ช่วงต่อมา ซับซ้อนช่วงท้าย
จบลงอย่างสวยงามเลยค่ะ ปริ่มมากค่ะ ฮืออออ ดีใจจริงๆ ที่ทั้งสองกลับมาเจอกันได้อีกครั้ง
ขอspecial part ได้ไหมคะ  :mew1: จุ้บบบบบ รอเรื่องต่อไปนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด