(10)
สมบทบาท
"มึงกูคิดงานไม่ออกว่ะ เครียดจนปวดหัวแล้ว ออกไปข้างนอกกันเหอะ"
เปปเปอร์บอกเพื่อนยามที่ตัวเองรู้สึกปวดตาจากการจ้องคอมพิวเตอร์นานหลายชั่วโมง ณ เวลานี้ เขาต้องการพักผ่อน เดินเล่นหรือไปเที่ยวดูอะไรที่เจริญหู เจริญตาสักหน่อย
และถึงแม้ว่า เปปเปอร์จะมีห้องเป็นของตัวเองแล้วก็ตาม แต่เปปเปอร์ยังมิวายแวะวนเวียนที่ห้องของไทม์เช่นตอนนี้ เพียงเพราะไม่คุ้นชินกับการอยู่คนเดียว เนื่องจากทุกที ไปไหนมาไหนจะมีไทม์อยู่ด้วยเสมอ ๆ
"มึงนี่หาเรื่องเสียตังค์ตลอด" ไทม์บ่นเพื่อน เพราะช่วงนี้ไทม์ต้องการประหยัดเงิน เพื่อจะได้เก็บเงินส่วนหนึ่งพาพี่แป้งไปเที่ยว
"เออกูเลี้ยงหนังมึงก็ได้ แต่มึงเลี้ยงป๊อปคอร์นกูนะ"
"เออตกลง"
สำหรับเพื่อน เปปเปอร์ให้ได้เสมอ เพียงไทม์ตอบรับ เปปเปอร์ยิ้มกว้าง ก่อนจะรีบเซฟงานที่ทำในโปรแกรมกราฟิก และกดปิดเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ้ค ล้างหน้า ล้างตาแล้วไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
.
.
.
.
"โห มึง ทำไมวันนี้คนเยอะจังวะ" เปปเปอร์บ่นทันทีที่เห็นฝูงชนเนืองแน่นเต็มพื้นที่หน้าลานโรงภาพยนตร์
"นั่นดิ"
ตอนนี้ ทั้งสองกำลังเดินไปยังจุดซื้อตั๋วที่ตู้จำหน่ายตั๋วหนัง ยืนต่อแถวพลางกวาดตามองรอบ ๆ บริเวณที่มีคนยืนออกันเป็นจำนวนมาก
กว่าจะได้ตั๋วมาก็เล่นยืนจนขาแข็ง ทันใดนั้น เปปเปอร์รีบลากเพื่อนซี้ไปซื้อป๊อปคอร์น เพื่อเพิ่มอรรถรสระหว่างดูภาพยนตร์
"ช่วงนี้ดูเหมือนว่ามึงจะสดใสขึ้น" เปปเปอร์สังเกตเพื่อนมาได้สักพัก และรู้สึกว่าหลายวันมานี้ เขาเห็นไทม์เอาแต่จ้องมองเครื่องมือสื่อสารพลางยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่เหมือนคนบ้า การกระทำไม่ต่างกับคนอยู่ในห้วงแห่งความรักอย่างไร อย่างนั้น
"จริงหรอวะ ทำไมกูมองตัวเองแล้วก็เหมือนเดิม"
"ไม่รู้ว่ะ กูคนนอกมองว่ามึงดูมีออร่า หน้าผ่องขึ้น ฮั่นแหนะ หรือมึงมีความรักแล้ว บอกกูมาเลย" เปปเปอร์ถามไทม์ ขณะที่เดินมาจับจองที่นั่งตามเลขที่ระบุในตั๋ว
"ถ้ามี กูบอกมึงอยู่แล้ว"
"ก็ลองไม่บอกดิ กูโกรธจริงด้วย" เปปเปอร์บอกเสียงจริงจังยามที่นั่งเอนหลังอย่างสบาย ฟากไทม์ยักไหล่ไม่สนใจ แม้ในใจลึก ๆ จะรู้สึกผิดที่เขาต้องพูดตรงข้ามกับความจริง
'กูแคร์มึงนะ ไอ้เป๊ป แต่ตอนนี้ กูก็แคร์อีกคนเหมือนกัน'
"เออ บอกอยู่แล้วครับ เพื่อนเป๊ป"
เป็นเวลาที่คุ้มค่าจริง ๆ กับสองชั่วโมงเศษรวมเอนเครดิต ทั้งสองยังคงติดพัน เดินออกมาพูดคุยกันถึงภาพยนตร์การ์ตูน แอนิเมชั่นที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับหลังความตายได้อย่างน่าสนใจ โดยเรื่องนี้แฝงทั้งความซึ้ง ความประทับใจที่ปูเรื่องของความรักระหว่างครอบครัว รวมถึงแง่คิดไว้มากมาย
"ตาบวมเลยนะไอ้เป๊ป"
"มึงก็เว่อร์ กูไม่ได้ร้องสักหน่อย" เปปเปอร์รีบบ่ายเบี่ยง เพราะอายที่โดนเพื่อนล้อ
ไทม์เหล่มองคนที่เบนหน้าหนีไปทางอื่น เหมือนไม่พอใจที่เขาแซวก็อมยิ้มระหว่างเดินเพื่อจะลงบันไดเลื่อน แต่ยังไม่ทันถึงมี่หมาย ไทม์เห็นคนคุ้นตาเดินอยู่ข้างหน้าไกล ๆ
"ไอ้เป๊ป นั้นแฟนพี่แป้งนี่หว่า หรือกูจำผิด?"
หลังจากที่ไทม์บอกดังนั้น เปปเปอร์หรี่ตามอง ทั้งยังก้าวเท้าฉับ ๆ เพื่อหวังจะไล่ให้ตามทัน
"เออว่ะ ใช่จริง ๆ ด้วย แต่งงานไม่ทันไร ออกลายแล้วหรอวะ?"
"เฮ้ย! มึงอย่าเพิ่งเดาสุ่มสี่ สุ่มห้า อาจไม่ใช่ก็ได้" ไทม์หันไปมองเพื่อนที่หน้าบึ้งเป็นตูดผิดกับตอนแรกที่สีหน้าระรื่น
"จับมือถือแขนกันขนาดนั้น มึงว่ากูคิดไปเองหรือวะ มึงรอกูอยู่ตรงนี้แหละ อย่าไปไหน"
"เฮ้ย ไอ้เป๊ป อย่าเพิ่ง....ไป....."
ไทม์รั้งเรียกไม่ทัน เพื่อนสนิทก็เดินดุ่ม ๆ ไปด้วยอาการโมโหที่เห็นแฟนพี่สาวนอกใจ เปปเปอร์จะไม่ว่าเลยถ้าพี่ทิมอยู่ในสถานะเรียกว่า แฟนของพี่สาว แต่นี่สถานะ คือสามี เพราะทั้งคู่แต่งงานพร้อมลงหลักปักฐาน สร้างครอบครัวกันแล้ว ทำไมถึงคิดจะมีบ้านเล็ก บ้านน้อย
คนที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนพี่สาวสุดรักเดินไปจนถึงตัวอีกฝ่าย เปปเปอร์รีบไปแตะไหล่ให้หยุด
"อ้าว เปปเปอร์" ทิมที่เดินขนาบข้างกับผู้หญิงตัวเล็ก หันมามองเปปเปอร์ด้วยสีหน้าประหลาดใจ เพราะไม่คิดว่าจะบังเอิญเจอน้องชายของแป้งที่นี่
"สวัสดีครับพี่ทิม พี่มากับใครเหรอ?"
"อ้อ.นี่คือ..." ทิมยังไม่ทันได้แนะนำผู้หญิงหน้าตาน่ารักให้รู้จัก สาวคนนั้นก็เป็นฝ่ายโพล่งออกมาเอง
"แล้วน้องเป็นใครหรอคะ?" เมื่อผู้หญิงคนนั้นถาม
เปปเปอร์โมโห กำมือแน่น เมื่อผู้หญิงคนนั้นถามด้วยหน้าตายิ้มระรื่น มือของเธอก็ยังไม่ปล่อยจากการเกาะแขนสามีของพี่สาวเขา
"แฟนพี่ทิมครับ"
"หาาา!! แฟน? จริงเหรอคะพี่ทิม?" ผู้หญิงข้างกายของทิม เบิกตาโพลง เหมือนไม่อยากเชื่อสายตา
ฟากทิมหน้าตาเหรอหรา ไม่คิดว่าเปปเปอร์จะแนะนำตัวเองด้วยสถานะเช่นนั้น แต่ไม่กี่วินาทีต่อมา ทิมถึงเข้าใจพร้อมผุดรอยยิ้มทรงเสน่ห์ หันไปกระซิบกับหญิงสาว
"ใคร ๆ ก็อ้างได้นะคะว่าแฟนพี่ทิม มีอะไรมาพิสูจน์หรอคะ" หญิงสาวถามกลับด้วยรอยยิ้มมุมปาก
ประโยคนั้น ยิ่งทำให้เปปเปอร์อึ้งมีเห็นอีกฝ่ายเถียงกลับอย่างไม่ลดละ เปปเปอร์นึกเคืองที่พี่ทิมไม่มีแก้ตัวแถมยืนนิ่งงัน ทันใดนั้น เปปเปอร์กระตุกแขนพี่ทิมให้ย่อตัวและโน้มเข้ามาใหล้ ก่อนจะแอบจูบแก้มพี่ทิมไว ๆ แล้วผละ จนทิมและผู้หญิงคนนั้นเบิกตาค้าง
"กาเมสุมิจฉาจารา เวระมณีสิกขาปทัง สมาทิยามิ ท่องศีลข้อสามบ้างนะครับ อย่าให้ผมต้องเหนื่อยมาตามดูว่าพี่นอกใจผมไปแล้วกี่คน" เปปเปอร์แสร้งตีหน้าโกรธ และงัดมุกนี้มาใช้ ด้วยความเข้าใจไปเองว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่คงรับไม่ได้ หากมารู้ทีหลังว่า แฟนของเธอนั้นแอบนอกใจ แถมมีรสนิยมชายรักชาย ทำแบบนี้ ผู้หญิงคนนั้นจะได้หายจากชีวิตพี่ทิมไปในที่สุด และในวินาทีที่ตัวเองทำสำเร็จ เมื่อเห็นผู้หญิงยืนหน้าเหวอ ใบหน้าของเปปเปอร์แต้มยิ้มเชิดหน้าขึ้นแสดงถึงชัยชนะอย่างภาคภูมิใจ
คนที่ยอมเดินตามเกมส์เด็กหนุ่มก็ยิ้มมุมปาก ก่อนวาดแขนไปโอบไหล่เปปเปอร์ กระชับตัวอีกฝ่ายให้เข้ามาใกล้ และทันใดนั้น ทิมก้มลงไปจุมพิตข้างขมับอย่างไม่แคร์สายตาผู้คนที่กำลังเดินขวักไขว่
"หึงพี่เหรอครับ? เปปเปอร์"
เปปเปอร์ยืนใจสั่น หวั่นไหว อารามตกใจ ไฉนเหตุการณ์กลับตาลปัตรไปเสียได้ ทำไมพี่ทิมถึงไม่โกรธแต่กลับมาเล่นละครร่วมด้วย
คนที่ยังยืนงงในการกระทำอีกฝ่าย ถูกขัดด้วยเสียงหัวเราะของหญิงสาวคนนั้น
"ฮ่า ๆ พี่ทิม ไม่เห็นบอกน้องเลยนะว่าแอบคบเด็กน่ะ นี่มันเลี้ยงต้อยเลยนะคะนั่น" เปปเปอร์งง เมื่อเขาเห็นทั้งสองคนคุยกันเหมือนไม่ใช่แฟน
"พี่ทิมไปเคลียร์กับเด็กพี่ก่อนก็ได้ค่ะ ทิพย์รอ"
"รอพี่นะ ทิพย์ พี่ขอไปคุยกับแฟนส่วนตัวก่อน" คนที่ยังตอบรับกลับอย่างหน้าตาเฉย หนำซ้ำยังเลื่อนมือมาจับมือเปปเปอร์ให้เดินไปด้วยกัน และพอสายตาเห็นเพื่อนของเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ไกล ๆ นั้น จึงจูงมือเปปเปอร์ไปหา และไม่นาน เปปเปอร์ก็สะบัดมือ
"พี่ทำบ้าอะไร?"
"หืม ก็เดินมาส่งเปปเปอร์ไง"
"ผมเดินเองได้ ไม่ต้องมาจับมือ"
"อ้าว ก็เปปเปอร์บอกเองไม่ใช่เหรอครับ ว่าเปปเปอร์เป็นแฟนพี่"
คนที่เดินมาส่งเปปเปอร์ตรงที่เพื่อนของเขายืนอยู่ก็เอ่ยออกมา จนไทม์ที่ยืนรอก่อนหน้าตกใจกับการได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย
'นั่นไง เพื่อนของเขาเล่นอะไรไม่รู้เรื่องซะแล้ว'
"พี่ก็รู้นี่ครับ ว่าผมแค่เล่นละคร ยังไงเรื่องนี้ ผมจะฟ้องพี่แป้งว่าพี่นอกใจพี่สาวผม"
"นอกใจตรงไหนกัน? คนที่เปปเปอร์เห็นนั่นน้องสาวแท้ ๆ พี่นะครับ"
เพล้ง
สิ้นคำนั้น เปปเปอร์เหมือนได้ยินเสียงอะไรสักอย่างดังก้องในหัว เปปเปอร์หน้าร้อนฉ่า เขาเก็บกวาดเศษหน้าที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ แทบไม่ทัน
"พี่จะไปไหนก็ไปเถอะครับ ไอ้ไทม์กลับบ้านเหอะ" คนที่อายจัดจนหน้าแดงแปร๊ดเพราะหน้าแตกรีบลากเพื่อนกลับบ้าน
"เดี๋ยวสิ เปปเปอร์ ให้พี่ไปส่งที่หอไหม"
"มะ...ไม่ต้อง"
ยามนี้ เปปเปอร์เดินกึ่งวิ่ง ด้วยความอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี พอพ้นพี่ทิมมาได้ไกลแล้ว
"เป็นไงล่ะมึง"
"ไอ้ไทม์ กูอายว่ะมึง ใครจะคิดว่าเขาเป็นพี่น้องกันวะ เกาะแขนกันอย่างคู่รัก"
"มึงอย่าเอามาตรฐานของมึงไปวัดคนอื่นสิ แต่ละคนพื้นฐานการเลี้ยงดู สังคมอาจไม่เหมือนกันก็ได้ ไปแสดงตัวว่าเป็นแฟนเขา มึงดูละครมากไปหรือเปล่าวะ?"
"ทำไมมึงซ้ำเติมกูล่ะ ฮืออออ กูอายอ่ามึง ฮืออออ ทีนี้ กูจะเอาหน้าไปไว้ไหนวะ"
"หึหึ บอกไม่ถูกเลย เอาเป็นว่าโชคดีแล้วกันมึง แต่แปลกนะที่พี่ทิมก็เล่นด้วย จูบมึงกลางห้างนี่กูว่าไม่ธรรมดาแล้วว่ะ"
ไทม์ตอบอย่างยิ้ม ๆ ปล่อยให้เปปเปอร์เดินขบเม้มริมฝีปากเข้าหากัน ทั้งยังเอามือลูบรอยจูบนั้นที่ยังคงทิ้งสัมผัสจาง ๆ อยู่ข้างขมับ
.
.
.
.
"ว่าไง พี่แป้ง" เสร็จสิ้นธุระ ทั้งไทม์และเปปเปอร์ก็กลับมายังหอของตัวเอง และในขณะที่เปปเปอร์กำลังเดินขึ้นห้องพัก ก็มีเสียงเรียกเข้าของเครื่องมือสื่อสารแผดเสียงดังไม่หยุด จนเขาต้องควักออกมาจากกระเป๋ากางเกงเพื่อกดรับสาย
[ได้ข่าวว่ามีคนไปช่วยรักษาสิทธิ์แทนพี่เหรอ?]
"พี่แป้งรู้? แสดงว่าพี่ทิมเอาไปฟ้องเหรอ?"
[ก็ไม่ได้ฟ้องหรอก พี่ทิมแค่เล่าแบบตกใจมากกว่า ที่จู่ ๆ เปปเปอร์ก็ไปบอกว่าเป็นแฟนเขาน่ะ พี่ทิมเขาไม่ได้โกรธเลย เขาขำและบอกว่าเปปเปอร์น่ะน่ารักและตลกดี แต่พี่อยากเตือนว่าทีหลังเปปเปอร์อย่าทำอย่างนี้อีกนะ]
"ก็ใครจะไปรู้ล่ะพี่แป้ง ว่าเขาไม่ใช่แฟนกันน่ะ แล้วทำไมพี่ต้องห้ามเป๊ปล่ะ ถ้าวันนี้ที่เป๊ปเห็นไม่ใช่น้องสาวเขา แต่เป็นกิ๊กจริง ๆ พี่จะให้เป๊ปปล่อยไปเหรอ?"
[ใช่จ้ะ เปปเปอร์ควรปล่อยไป มันไม่ใช่เรื่องที่สมควร ถึงต่อให้คน ๆ นั้นจะเป็นคนที่พี่ทิมแอบคบจริง ๆ ก็ตามเถอะ เราก็ควรให้เกียรติเขา แล้วค่อยกลับมาคุยมาเคลียร์กันที่บ้าน]
"เป๊ปก็แค่หวังดี ทำไมต้องถูกด่าด้วย อีกอย่าง พี่ทิมก็เออออกับการเล่นบทเป็นแฟนกับเป๊ปนะ ทำไมพี่แป้งไม่ว่าพี่ทิมบ้างล่ะ" เปปเปอร์ยอกย้อนด้วยความน้อยใจที่พี่สาวไม่คิดเข้าข้างกัน จนแป้งเงียบครู่หนึ่ง ก่อนบอกเสียงเรียบ
[ถ้าพี่ทิมไม่ยอมเออออ เปปเปอร์ก็จะหน้าแตก ถูกไหมคะ? พี่ขอโทษนะเปปเปอร์ ถ้าเปปเปอร์เคืองที่พี่พูดแบบนี้ แต่พี่แค่เป็นห่วง พี่ไม่อยากให้คนอื่นว่าเปปเปอร์เอาได้ ที่ทำอะไรไม่รู้จักกาลเทศะ และขอบคุณที่ห่วงพี่นะจ้ะ เพราะวันนี้พี่ทิมฝากชมมาด้วย ว่าเปปเปอร์คงรักพี่น่าดู ถึงหึงหวงซะสมจริงเลย]
เปปเปอร์ชะงัก ตอนที่พี่แป้งบอกมาเช่นนั้น มันยิ่งทำให้เขาหวนมาคิดว่า เขาแสดง
สมบทบาทหรือมันคืออาการข้างในลึก ๆ ของเปปเปอร์กันแน่
[พี่รักและเป็นห่วงเปปเปอร์นะจ้ะ พี่ทิมก็เป็นห่วงเหมือนกัน โอเค พี่ไม่กวนแล้ว ค่อยว่ากันนะ]
"ครับพี่แป้ง"
เมื่อเปปเปอร์เดินด้วยสภาพหน้าหงอย เซื่องซึม ไทม์หันมาถาม
"โดนพี่แป้งว่าเหรอ?"
"อืม พี่ทิมบอกพี่แป้งเรื่องวันนี้แล้วที่กูเล่นละครตบตา และพี่แป้งดุกูว่าทีหลังอย่าทำอีก เพราะมันไม่สมควร"
"ก็มึงใจร้อน กูห้ามแล้วไม่ฟัง มึงมันดื้อ"
"ไอ้ไทม์กูเพื่อนมึงนะ"
"เออเพราะมึงเพื่อนกูไงกูเลยต้องด่า ให้มึงรู้สึก ดื้อแบบนี้ กูว่ามึงควรหาแฟนแก่กว่ามึงนะเผื่อแฟนมึงจะปรามมึงได้ และมึงอาจเชื่อฟังเขาได้บ้าง"
เปปเปอร์เงียบ ฟากไทม์เหล่มองคนขี้น้อยใจจึงล็อคคอและเขย่าตัวเพื่อนเบา ๆ
"เอาน่า ช่างมันเถอะมึง มันผ่านมาแล้ว คิดซะว่าเป็นประสบการณ์ชีวิต ต่อไปจะทำอะไรก็คิดให้มันถี่ถ้วนหน่อย แต่เรื่องพี่ทิม ขนาดกูคนนอกยังมองว่าแปลกเลย เพราะถ้าไม่ติดว่าพี่ทิมเป็นแฟนพี่มึง กูว่าพี่เขาชอบมึงนะ"
เปปเปอร์ชำเลืองมองเพื่อนที่ให้ความเห็นก็แอบใจเต้นรุนแรง มันอาจจะรู้สึกดีที่ได้ยินเช่นนั้น แต่เปปเปอร์ไม่กล้าคิดเตลิดไปไกล ในเมื่อเขาเพิ่งจะหลอกด่าพี่ทิมเรื่องศีลข้อสามไปในวันนี้นี่เอง....
.............................................
:hao7:น้องเป๊ปปปปปปป!!!!!!
[/b]