Meow 11
อุ้งเท้าสีชมพูนุ่มย่างเหยียบไปตามแนวกำแพงรั้วปูนเรื่อยเปื่อยพร้อมเพื่อนชายเจ้าถิ่นสองตัวด้านหลัง วันนี้มิวนิคได้รับสิทธิ์ให้เดินเที่ยวเตร็ดเตร่ได้ตามใจชอบ
อาจเพราะชิโน่เบื่อจะนำเที่ยวแล้ว แต่เขาก็คะยั้นคะยอให้อีกฝ่ายพาออกมา แหม...มาตัวเดียวก็กลัวหมานี่หว่า ถึงร่างคนจะเฟียสขนาดไหน แต่ร่างแมวเขาก็เป็นแค่แมวน้อยน่ารักตัวนึง ไม่กล้าสู้รบปรบมือกับใคร
“โหโน่! แถวหอเรามีสวนสาธารณะด้วยหรอเนี่ย”
“มีสิ”
“แกไม่เห็นเคยบอกเลย” หันมามองแมวขี้กั๊กอย่างไม่พอใจ
“มันไม่มีของกิน ไม่น่ามาหรอก”
จ้า...คำว่าเที่ยวสำหรับชิโน่ต้องมีเรื่องของกินและการนอนมาเกี่ยวข้องเสมอสินะ เอาเถอะ...เริ่มจะจับจุดวิธีการคิดของพี่แกได้ละ แต่จะว่าไป บริเวณรอบหอพักบ้านสุขใจมักมีอะไรเซอร์ไพรส์เสมอเลย อย่างทุ่งดอกเดซี่บนดาดฟ้าก็ทำเอาแมวน้อยอ้าปากค้างมาทีนึงแล้ว
“โน่ๆ ไปเดินเที่ยวกัน”
“ขี้เกียจ คนเยอะ”
“ไรวะ” ทำหน้าแมวเซ็ง อุตส่าห์เดินมาตั้งไกลทั้งทีเขาไม่ยอมปล่อยให้เสียเที่ยวหรอก “ชวนชิลลี่ก็ได้ เนอะชิลลี่ ไปเดินเที่ยวกัน”
“อื้อ ไปสิ!”
พอคะแนนเสียงกลายเป็นสองต่อหนึ่ง จอมเฮี้ยบตัวดำจึงจำต้องปล่อยเลยตามเลยพาน้องชายขี้กลัวกับเหมียวน้อยผู้อยากรู้อยากเห็นเที่ยวชมสวนสาธารณะประจำหมู่บ้าน เขาว่าชิโน่น่ะปากแข็ง ไม่เหมือนชิลลี่ที่อยากได้อะไรก็จะพูดออกมาตรงๆ เลยติดคล้ายจะเป็นแมวไร้เดียงสา
แต่โดยรวมแล้ว...ครอบครัวนี้ก็ยังน่าเอ็นดู
ที่บอกว่าคนเยอะนั้นไม่จริงเลย วันธรรมดาแบบนี้ ผู้คนที่มาเที่ยวสวนสาธารณะก็มีแต่คนว่างงาน ผู้สูงอายุ หรือถ้าเป็นนักศึกษาก็จะเป็นพวกโดดเรียนไม่ก็อาจารย์งดคลาสกะทันหัน
มั่วแล้วไอ้แมวดำ
“อยากถีบเรือเป็ดจัง ชิลลี่เคยถีบเรือเป็ดปะ?”
“เรือเป็ดคือไรอ่ะพี่?”
สิ่งมีชีวิตสีส้มเอียงศีรษะสงสัยทำเอาคนมองอดไม่ได้ที่จะยกเท้าขึ้นไปลูบหัวน้องอย่างเอ็นดู มิวนิคคิดว่าพวกสัตว์ก็เหมือนเด็กเล็ก เป็นเด็กเล็กที่ไม่มีวันเติบโตเพราะถูกสต๊าฟความไร้เดียงสาเอาไว้
“ไว้วันหลังจะพามาถีบทั้งคู่เลยนะ”
วันหลังที่ว่าอาจคงหมายถึงวันที่กลายเป็นมิวนิคอย่างเต็มตัว ไม่ใช่มิวมิวอย่างเช่นตอนนี้ ทว่าอันที่จริง...วันอาทิตย์ก็อีกแค่ไม่กี่วัน แต่เขาอยากพาชิโน่กับชิลลี่มาเที่ยวในร่างมิวนิคแบบไร้ซึ่งคำสาปมากกว่า แย่จัง...
เขาดันอยากชวนตาแว่นมาซะด้วยสิ
“นัทนิสัยไม่ดีว่ะ โดดเรียน”
เป็นตอนนั้นเองที่หูตั้งเผอิญได้ยินเสียงๆ หนึ่งดังมาจากด้านหลัง
“ก็ท็อปไม่มีเรียน เราเลยมากับท็อปงาย”
เป็นชายหนุ่มสองคนในชุดนักศึกษาที่กำลังเดินกอดคอกันผ่านหน้าแก๊งค์แมวเหมียวไป เจ้าของเสียงนั่งลงบนม้านั่งอะลูมีเนียมเบื้องหน้าสระน้ำ
“เกเรนะครับ”
เพิ่งเข้าใจประโยคที่ว่าโดนตบหน้ากลางสี่แยกเป็นยังไง มันพูดไม่ออกซักคำ มันชาไปหมดทั้งตัว เพราะผู้ชายที่เห็น...คือนัท...คนที่เขายอมเปิดใจคุยด้วยมาตลอดสองเดือน กับท็อป...คู่อริที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง
ยอมรับว่าไม่ได้โกรธหรือเกลียดท็อปถึงขนาดนั้น ก็แค่รำคาญวิธีการคิดที่ไม่เป็นมืออาชีพรวมถึงวิธีการทำงานลวกๆ อย่างไม่น่าให้อภัย แต่ก็ไม่เคยต้องการให้อีกฝ่ายเจอเรื่องแย่ๆ อย่างเช่นเดินตกท่อหรือนกอึใส่ ในวันแดดร้อน และก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าท็อปกับนัทจะ...
“มิวมิว เป็นไรวะ” ชิโน่เดินเข้ามาเลียไปตามเนื้อตัวเขา
“ปะ...เปล่า”
กัดฟันตอบว่าไม่เป็นอะไรทั้งๆ ที่ในใจมันโคตรอึดอัด แต่ก็อยากอยู่ฟังคนทั้งสองคุยกันจนจบ เขาไม่ได้เป็นแมวสอดรู้สอดเห็น แค่อยากทำความเข้าใจว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน
“ตกลงนัทไม่ได้คบกับไอ้มิวจริงๆ ใช่ปะ”
“ท็อปถามเราเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย” คนพูดหลุดขำในลำคอ
“เราแค่อยากได้ความมั่นใจ ก็ไม่อยากเป็นมือที่สามใครซักหน่อย”
มิวนิคมองฝ่ามืออันคุ้นเคยที่กำลังลูบไล้ลงบนศีรษะเพื่อนร่วมคณะตัวดี เขารู้ว่านัทจะตอบกลับว่าอะไร
“เราไม่ได้คบกับมิวนิค”
ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องโกหก
ความสัมพันธ์ที่มีชื่อเรียกว่า ‘คนคุย’ สร้างความคลุมเครืออันใหญ่โต หากเราทั้งคู่ก็เลือกที่จะยอมรับความคลุมเครือนั้นตั้งแต่เริ่มต้น แล้วเขาจะมาเสียใจอะไรเอาป่านนี้ล่ะ
“เฮ็งซวย”
“แกพูดเหมือนทาสเลยมิวมิว นี่แม็กซ์เวลก็เป็นคนจีนหรอ”
มิวนิคไม่ตอบเพื่อนชายตัวดำ หันหลังสะบัดก้นเดินออกมาจากตรงนั้น จริงอยู่ที่เขาอาจไม่มีสิทธิ์โกรธนัท แต่นัทแม่งจะไม่รู้สึกอะไรต่อกันบ้างเลยจริงๆ น่ะหรอ สองเดือนที่ไปกินข้าวด้วยกันเกือบทุกวัน สองเดือนที่ไปดูด้วยหนังกันเกือบทุกอาทิตย์ สองเดือนที่คอลกันเกือบทุกคืน
มันไร้ความหมายจริงๆ น่ะหรอ?
มิวนิคเชื่อมาตลอดว่าต่อให้เป็นคนที่เย็นชาที่สุด แต่เมื่อได้ใช้ช่วงเวลาดีๆ แบ่งปันรอยยิ้ม ฟังเพลงโยกหัวอยู่บนรถกับใครซักคน อย่างน้อย...สิ่งที่เกิดขึ้นก็ต้องเป็นความสุข ความสุขอันแสนพิเศษที่เกิดขึ้นเฉพาะใครคนนึงเท่านั้น
หากสิ่งที่เกิดขึ้นก็ได้ทำลายความเชื่อเหล่านั้นไปหมด
เขาคงเป็นเพียงเพอร์เฟ็คชั่นนิสต์ห่วยแตกที่เอาดีด้านความรักไม่ได้เลย
“ที่มาคบเราไม่ใช่เพราะไอ้มิวหายหัวไปหรอกนะ”
“ใครจะทำอย่างนั้นกัน ท็อปอ่ะน่ารัก ไม่งี่เง่าเหมือนมิวนิค”
“ได้ยินแบบนี้คุณมิวนิคคงเสียใจแย่”
เป็นประโยคเห็นอกเห็นใจที่ปลอมสุดๆ ไอ้คนพูดไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลยซักนิด
“ก็อย่าให้เขาได้ยินสิครับ”
ถ้าอยู่ในร่างมนุษย์อย่าหวังเลยว่าฟันของสองคนนี้จะอยู่ครบสามสิบสองซี่ มิวนิคอดกลั้นต่ออารมณ์โทสะร้อนที่กำลังปะทุอยู่ภายในโดยการรีบวิ่งออกมาให้เร็วที่สุด เพื่อนเหมียวอีกสองตัวที่กำลังยืนงงในดงแมวก็รีบวิ่งตามเช่นเดียวกัน
หากดูท่าประโยคที่ว่า ‘เวลาจะเยียวยาทุกอย่าง’ น่าจะเป็นจริง เขาไม่ได้โกรธถึงขั้นอยากระเบิดตัวเอง ก็แค่เจ็บใจ เสียใจ แล้วก็เซ็งเป็ดขั้นสุด เขาทำอะไรไม่ได้ซักอย่าง จะเถียงกลับก็ไม่สามารถ ได้แต่ปล่อยให้คนพวกนั้นพูดจาเหยียดหยามศักดิ์ศรีไปเรื่อยๆ นี่ถ้าอยู่ต่อ...ไม่รู้ว่าจะต้องทนฟังคำพูดร้ายๆ อีกมากมายขนาดไหน
“หงอยอะไรวะมิวมิว ไม่สบายเรอะ”
ชิโน่เดินมาเลียไปตามเนื้อตัวของเขาอีกครั้งทันทีที่ถึงหอพักบ้านสุขใจ เขาว่าพักนี้ชิโน่ชอบทำตัวแปลกๆ อย่างเช่นเล่นแรงๆ หรืออยู่ดีๆ ก็เข้ามาอ้อน บางทีก็วอแวจนเกินเลย แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนักเพราะคิดว่าอาจเป็นนิสัยคลอเคลียของแมว
“เปล่า...จะขึ้นห้องละ ไว้ลงมาใหม่”
“อะไรฟะ”
พูดจบก็เดินอ้อมไปยังฝั่งด้านหลังหอ กระโดดไปตามแนวระเบียงชั้นหนึ่งและสองเหมือนทุกวัน รู้ตัวอีกทีก็เปิดประตูบานเกล็ดเข้ามานอนอยู่บนฟูกเตียงติดหน้าต่าง เหม่อมองแอนโธนี่ที่กำลังขุดเจลสีฟ้าไม่หยุดหย่อนอย่างเคย หัวใจเต้นแผ่วเบาคล้ายหมดแรง สาเหตุหลักน่าจะมาจากเรื่องของท็อปกับนัท
“คิดถึงหมอก คิดถึงคุณพ่อกับคุณแม่...”
เขาพูดราวกับอย่างให้เจ้ามดดำในโหลแก้วตอบกลับมา แต่คงไกลเกินไป แอนโธนี่ไม่ได้ยิน แล้วเขาก็ขี้เกียจเกินกว่าจะลุกขึ้นไปเคาะภาชะบนชั้นไม้ มันเหนื่อยไปหมด
ถ้าหากความเหนื่อยของมนุษย์เวลาเจอเรื่องแย่ๆ นับเป็นสามสิบเปอร์เซ็นจากความเหนื่อยที่มี ให้เอาเลขสามคูณเข้าไปแล้วจะพบกับความเหนื่อยของแมวเหมียวเวลาปกติ และถ้าคูณสามเข้าไปอีกจะได้ความเหนื่อยของแมวเหมียวเวลาท้อใจ
ทฤษฏีนี้เขาคิดขึ้นมาเอง...ไม่ต้องเชื่อเลย
“เสียเวลาชะมัด...”
“บ่นอะไรน่ะหืม?”
ร่างสูงเปิดประตูเข้ามาเพราะเป็นเวลาสี่โมงครึ่งพอดี คนที่ไม่ทันมองจึงขยับแค่เพียงส่วนศีรษะชะโงกกลับหลังคล้ายแมวคอหัก กลิ่นมิ้นท์อันเป็นกลิ่นประจำของห้องลอยปะปนเข้ากับกลิ่นกายประจำตัวของใครบางคนเตะจมูกสีชมพูที่กำลังขยับฟุดฟิด ก่อเกิดความรู้สึกหวิวๆ ในช่วงอก
แม็กซ์เวลตัวหอมจัง
อีกฝ่ายจะหอมมากกว่าปกติเวลากลับมาถึง...หลังจากที่เราไม่ได้เจอกันเกือบทั้งวัน มิวนิคคิดว่าตนเองชักจะเสพติดเจ้านายคนนี้มากเกินไป บางทีสัตว์เลี้ยงกับคนเลี้ยงก็ควรมีระยะห่างให้กันและกันบ้าง
“ไม่สบายรึเปล่า”
“ม๊าว....”
เขาถูกช้อนร่างขึ้นมาวางบนตักเหมือนอย่างเคย มือหนาลูบสางอ่อนโยนไปตามกลุ่มขนสีขาวสะอาด พิงแผ่นหลังกับคุณหมอนใบใหญ่ที่วางทาบไปกับผนังสีเทา
แม็กซ์เวลยังคงหยิบไอแพดขึ้นมาไถเป็นกิจวัตรเหมือนทุกวัน แต่เพราะวันนี้มีแมวหนึ่งตัวกำลังเรียกร้องความสนใจอย่างไม่รู้ตัว เขาจึงละความสนใจมายังดวงตาสีฟ้า
“เป็นอะไรมิวมิว?”
มิวนิคไม่ตอบ ยืดตัวขึ้นไปซุกใบหน้ากับซอกคออันอบอุ่น เขาถูกท่อนแขนอันใหญ่โตโอบรัดนุ่มนวล รู้เลยว่าตาหมอนี่ปลอบคนไม่เป็น มันเก้ๆ กังๆ ไปหมด แต่ความพยายามที่เจ้าตัวกำลังแสดงออกมานั้นกลับทำให้สถานการณ์ไม่ได้ดูแย่
มัน...เด๋อ
แต่เป็นเด๋อแบบที่น่ารัก
“ทำอะไรพังอีกรึเปล่า?” ถามพลางก้มลงจุ๊บหัวน้อง
“ม๊าว... (ไม่ใช่ซะหน่อย)”
เหมียวน้อยยังคงเกยคางอยู่บนบ่าอันเดิม สูดดมกลิ่นกายเฉพาะตัวที่ผสมคละคลุ้งกับกลิ่นมิ้นท์อันเดิม แม้ว่าเรื่องของนัทกับท็อปยังคงวนเวียนรบกวนจิตใจอยู่ แต่แม็กซ์เวลกลับเป็นเหมือนตัวแปรอะไรซักอย่างที่ทำให้เขาลืมเรื่องบ้าๆ แบบนี้ไปได้ชั่วคราว และถ้ายังถูกกอดอยู่แบบนี้...
เขาอาจลืมได้ตลอดไป
“อ๊ะ...อย่ากัดพุงน่ามิวมิว”
“งั่มๆ”
“มิวมิว!”
รวมถึงถ้าได้กัดกล้ามท้องแน่นๆ แบบนี้ด้วย
อ่าห์...เขาชอบกล้ามท้องแม็กซ์เวลที่สุดเลย
ʕ = •́ .̫ •̀ = ʔ
แปลกไหมครับถ้าจู่ๆ ผมจะคิดอะไรกับแมวตัวเอง...
คือผมรับแมวพันธ์ขาวมณีตัวนึงมาเลี้ยง มันก็น่ารักตามสไตล์แมวไทยทั่วไป ขี้อ้อน ชอบเอาหน้ามาถู เดินมานั่งบนคอม แต่ยิ่งอยู่ด้วยทุกวันผมก็รู้สึกเหมือนตัวเองติดมัน เรียนเสร็จก็รีบกลับห้องทันทีไม่อยู่แฮงค์เอาท์กับเพื่อนๆ ต่อเหมือนแต่ก่อน แถมผมยังชอบอุ้มมันขึ้นมาจูบประจำ และที่แย่กว่านั้นก็คือ..ผมไม่ชอบเวลาที่มันไปคลุกคลีอยู่กับแมวสีดำของเจ้าของหอเลย...
คนเลี้ยงแมวเป็นแบบนี้ทุกคนหรือเปล่า?
แท็กห้อง - แมว / สัตว์เลี้ยง /
484 ถูกใจ สมาชิกหมายเลข 111236
ความคิดเห็นที่ 7
เรื่องปกติค่ะ เราก็ชอบเล่นแบบนี้กับแมวเหมือนกัน ก็แหม น้องน่ารักขนาดนี้ไม่ให้ฟัดจะได้ไงเนอะ
256 ถูกใจ สมาชิกหมายเลข 187695
ความคิดเห็นที่ 25
คิดก็บ้าแล้วครับ งั้นผมที่เลี้ยงงูก็เท่ากับว่าผมคิดอะไรกับน้องงูตัวเองหรอ หยึยย
189 ถูกใจ สมาชิกหมายเลข 456887
ความคิดเห็นที่ 78
เป็นคนติดแมวเฉยๆ มั้ง แต่ถ้าตั้งกระทู้แบบนี้แสดงว่ากำลังคิดมากอยู่ล่ะสิ เอางี้ ถ้าคุณยังหาคำตอบไม่ได้ก็ลองโทรไปปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิตดู 1323 เบอร์นี้เลย เราไม่ได้ว่าคุณเป็นบ้านะ แต่เราว่าถ้ามีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำอาจดีกว่ามาตั้งกระทู้ในโซเชียลแบบนี้
170 ถูกใจ สมาชิกหมายเลข 476129
ความคิดเห็นที่ 146
แมวตัวเมียหรือตัวผู้อ่ะคะ >//<
0 ถูกใจ สมาชิกหมายเลข 746952
ความคิดเห็นที่ 199
กระทู้นี้ตั้งขึ้นเพื่อเรียกกระแสหรอครับ? งงมาก ผมไม่รู้หรอกนะว่าคุณมีจุดประสงค์อะไร เอาเป็นว่าถ้าทั้งหมดที่พิมพ์มาคุณไม่ได้กำลังจะสื่อความหมายว่าตนเองเป็นทาสแมว งั้นผมก็ขอสรุปให้แล้วกัน
คุณชอบแมวตัวเอง
0 ถูกใจ สมาชิกหมายเลข 931725
เขาพับหน้าจอโน้ตบุคลงพร้อมถอนหายใจออกเฮือกใหญ่ เหม่อมองพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวเลือนลางด้านหลังกลีบเมฆบนท้องฟ้าที่กำลังเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีดำมืด สัญญาณของการเข้าสู่ช่วงเวลากลางคืน
เป็นวันศุกร์ที่ถูกงดคลาสตลอดทั้งบ่าย มนุษย์แว่นจึงกลับห้องเพราะไม่มีสถานที่ให้ไป หากอันที่จริง...เป็นเขาเองนั่นแหละที่เลือกไม่ยอมออกไปไหน ไม่ไปแฮงค์เอาท์กับเพื่อน ไม่ไปกินหมูกระทะ ปฏิเสธทุกคำชวน
เพื่อกลับมาตั้งกระทู้ประหลาดในพันทิป
เหตุผลหลักๆ ก็มาจากแมวน้อยผู้แสนร้ายกาจตัวเดียว...
“มิวมิว...ทำอะไร”
“.....”
“มิวมิวออกมา”
ดึงร่างสีขาวออกมาจากตระกร้าใบเล็กที่ดูยังไงจอมซนก็ไม่มีทางยัดตัวเขาไปได้ แต่แมวเป็นของเหลว ไม่ว่าภาชนะจะคับแคบแค่ไหน ถ้าเป็นแมว...น้องเขาไปได้หมด อย่างเช่นมิวมิว
มิวมิวของเหลว
“ม๊าว ม๊าว”
ตัวยุ่งส่งเสียงไม่พอใจที่ถูกอุ้มขึ้นมาวางบนตัก หากเขาไม่สนใจ ล็อคพุงนุ่มๆ ไว้ด้วยท่อนแขนกำยำ เอื้อมมือหยิบรีโมทเปิดโทรทัศน์หารายการใหม่ๆ ดูไปเรื่อยเปื่อย มิวมิวควรรู้ซักทีว่าเจ้าตัวกำลังทำให้คนอื่นหงุดหงิด
ไม่ใช่หงุดหงิดเพียงเวลาที่น้องชอบเข้าไปอยู่ในภาชนะแคบๆ เพราะกลัวน้องจะขาดอากาศหายใจตายซะก่อน แต่ยังหงุดหงิดเรื่องที่น้องชอบไปคลุกคลีกับชิโน่ แมวดำขาโจ๋ประจำหอ
ยอมรับเลยว่าเมื่อก่อนเขาเป็นทาสแมว ชิโน่กับชิลลี่ก็เคยเป็นหนึ่งในลิสต์สิ่งมีชีวิตน่าเอ็นดูประจำหอ ยกเว้นตอนนี้...เขาเป็นแค่ทาสมิวมิว เขาไม่ชอบเวลาที่มิวมิวเข้าไปคลอเคลียกับชิโน่หรือถูกชิโน่คลอเคลีย ทั้งๆ ที่น้องก็เป็นตัวผู้เหมือนกัน แถมยังได้รับวัคซีนเป็นอย่างดีจนไม่ต้องกังวลเรื่องโรคติดต่อ แต่เขาก็ยังไม่ชอบ...
มันแย่ตรงที่เขาดันอยากให้หัวทุยๆ อันนั้นถูคลอเคลียมาที่เขาคนเดียว...
“อาการหนักแล้วแม็กซ์เวล”
มนุษย์แว่นพูดกับตัวเอง ยกมือก่ายหน้าผากหนักใจ เอนหลังพิงกับผนังห้องสีเทา เป็นเวลาเดียวกันที่สิ่งมีชีวิตสีขาวบนตักเขยิบเคลื่อนขึ้นมานอนบนแผ่นอก วินาทีนั้นเขาจ้องมองดวงตาสีฟ้าก่อนจะรับรู้ได้ว่า...
แพ้จริงๆ นั่นแหละ
ขอโทษนะครับ...คุณมิวนิคคงมีคู่แข่งซะแล้ว
ซ่า ซ่า ซ่า
เสียงแมวน้อยตีน้ำป๋อมแป๋มจนกระจัดกระจาย แม็กซ์เวลยกมือขึ้นปัดป่ายฟองสบู่บนใบหน้าตนเองออกครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อถูกจอมซนแกล้ง คิดว่าการอาบน้ำคงเป็นวิธีการดับความฟุ้งซ่านได้ดีที่สุด แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นวิธีการเพิ่มความปวดหัว เพราะเมื่อเขาก้าวเท้าจะเข้าห้องน้ำ มิวมิวก็รีบวิ่งแจ้นตามเข้ามาทันที
ไม่ต้องถามเลยว่าถ้าคุณมิวมิวอยากได้อะไร...ทาสแม็กซ์เวลเคยขัดได้ไหม
“ชอบรึไง”
“ม๊าววว”
จะว่าไปมิวมิวก็เป็นแมวที่แปลก ไม่กลัวน้ำ...มิหนำซ้ำกลับยังชอบเล่นน้ำอีก แค่เปิดน้ำในอ่างไว้ให้ก็สามารถว่ายดุ๊กดิ๊กอย่างมีความสุขได้แล้ว บางทีเจ้าตัวอาจเข้าใจว่าตนเองเป็นแมวน้ำไม่ใช่แมวพันธ์ขาวมณี
“อาบไปนะ..”
ลูบหัวทุยก่อนจะลุกขึ้นจากอ่างฟองสบู่ที่มีเพียงเขากับเหมียวน้อย เดินไปยังบริเวณพื้นที่ยืนอาบใต้ฟักบัว ปลดเปลื้องบ็อกเซอร์ที่เป็นอาภรณ์ชิ้นเดียวบนตัวออกพาดไว้กับราวแขวน
ขืนแช่นานกว่านี้ จากที่จะหายฟุ้งซ่านคงได้ฟุ้งซ่านมากกว่าเดิม
เขาปล่อยให้สายน้ำไหลผ่านใบหน้า ผ่านเส้นผมลามลงมาถึงกกหู ความเย็นอันสม่ำเสมอทำให้ความคิดเริ่มเข้ารูปเป็นระบบระเบียบ เขาอาจไม่ได้ชอบมิวมิวจริงๆ อีกนัยหนึ่ง...เขาอาจหลงใหลน้องในรูปแบบของทาสแมวอย่างทาสแมวปกติ พอเห็นว่าตนเองกำลังจะถูกแมวตัวอื่นแย่งความรักความใส่ใจไปก็เลยฟุ้งซ่าน
ทาสแมวต้องเป็นกันขนาดนี้เลยหรอ
สะบัดศีรษะไล่ความคิดวุ่นวายไม่รู้จบ ก่อนจะรับรู้ได้ถึงดวงตาสีฟ้าเจ้าเดิมที่กำลังจ้องมองมาไม่กระพริบ มิวมิวเกาะขาหน้าทั้งสองข้างตรงขอบอ่างราวกับสมาธิทั้งหมดมีให้เจ้านายตัวโตเพียงคนเดียว
“มะ...มองอะไร”
เขาว่าอย่างตะกุกตะกักพร้อมยกมือปิดกุมความเป็นชายตรงสองหว่างขา ไม่ใช่ว่าไม่เคยแก้ผ้าต่อหน้ามิวมิวหรอก เคยทำเป็นประจำ แต่ก็แค่เคย...เพราะพักหลังๆ เวลาถอดเสื้อหรือแก้ผ้ามิวมิวก็มักชอบจ้องมองแปลกๆ อย่างนี้ ถึงสายตาจะไม่สามารถสื่อสารความหมายได้ชัดเจนเท่าคำพูด แต่สายตาของมิวมิวน่ะ...
หื่นชะมัด
“ม๊าว ม๊าว”
“ของตัวเองก็มี...ก็ดูของตัวเองสิ”
สิ้นประโยคคนขี้อายก็รีบกระโดดลงอ่างฟองสบู่ เป็นวิธีเดียวที่จะหลบซ่อนความเก้อเขินจากสายตาร้ายกาจดวงสีฟ้าได้ ครั้นจะหยิบบ็อกเซอร์ขึ้นมาสวมก็คงปกปิดอะไรไม่ได้มากพอเพราะร่างกายเปียกไปหมด
“จะสระมั้ยขน”
“เมี้ยวว”
มีแต่ช่วงเวลาที่เจ้าเหมียวเป็นต่อเท่านั้นแหละเขาถึงมักฟังภาษาแมวออก บางทีคณะควรเปิดวิชาการสื่อสารภาษาสัตว์ เนื่องด้วยตอนนี้เหมือนมีฝั่งเขาเพียงฝั่งเดียวที่ฟังมิวมิวไม่รู้เรื่อง ในขณะที่มิวมิวกลับตรงกันข้าม เหมือนน้องสามารถฟังเขารู้เรื่องทุกหมดอย่าง จะเรียกว่าเซนส์หรือลางสังหรณ์ก็ได้
เขารู้สึกแบบนั้นจริงๆ!
เสร็จสิ้นกิจกรรมผ่อนคลายอันแสนเหน็ดเหนื่อยต่างคนก็ต่างจับจองมุมทำกิจกรรมในยามดึกของตนเอง เขาเลือกนั่งทำงานตรงโต๊ะญี่ปุ่นข้างเตียง ส่วนเจ้าของห้องตัวสีขาวก็นอนกลิ้งเกลือกเล่นตุ๊กตาน้องหนูอยู่บนฟูก
เขาซื้อให้มิวมิวเองเพราะเห็นว่าน้องอยู่เฉยๆ คงเหงาไม่มีอะไรทำ แอบดีใจเหมือนกันที่เห็นมิวมิวเอาออกมาเล่นบ้าง ก็มิวมิวน่ะแปลก...บางครั้งก็ทำตัวเหมือนกันแมว บางครั้งก็ทำตัวแสนรู้เกินแมว
ดีหน่อยที่ช่วงเวลาก่อนสี่ทุ่มเขาจะไม่ถูกรบกวน คล้ายกับว่ามิวมิวยอมปล่อยให้ทาสคนนี้เคลียร์งานได้ตามสบาย หากเมื่อผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปนั้น เขาจะถูกคุณมิวมิวก่อกวนอย่างหนัก เช่นการขึ้นมานั่งแบะบนคอม มุดเสื้อเข้ามากัดพุง หรือดื้อมากหน่อยก็ปีนขึ้นมาอยู่บนหัว
เวลาของคุณเขาล่ะ
“เมี้ยว เมี้ยว”
“รู้แล้ว เลิกทำแล้ว”
เสียงเงี้ยวง้าวดังขึ้นในตอนที่เข็มนาฬิการชี้เลขสิบ แม็กซ์เวลลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายก่อนจะทิ้งเอนหลังนอนลงบนเตียง ต่อHDMLจากโน๊ตบุคเข้ากับโทรศัพท์เพื่อหาซีรีย์เน็ตฟลิกดูหนึ่งตอน กลายเป็นกิจวัตรประจำวันตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ที่เขาจะต้องนั่งดูซีรี่ย์กับมิวมิว
“ดูรู้เรื่องหรอ”
เหมียวน้อยไม่ตอบ ไม่แม้แต่จะสนใจหน้าจอทีวีเหมือนอย่างทุกวัน ดวงตาสีฟ้าจ้องมองมาทางเขา อุ้งเท้าสีชมพูนุ่มนิ่มยกขึ้นทาบแผ่นอก ก่อนเหตุการณ์ทุกอย่างจะเลยเถิด..
จุ๊บ!
มิวมิวจูบเขา เป็นรางวัลเด็กดีที่เจ้าตัวมักมอบให้เวลาเอาแต่ใจจนเกินพอเหตุ ว่ากันตามจริงมันไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ นักหรอก แต่เขาก็ควรจะเคยชินกับพฤติกรรมสุดประหลาดแบบนี้ของจอมซนเสียที หากว่าไม่ใช่อย่างนั้นแม้แต่น้อยเลย...หัวใจเขาเต้นโครมคราม ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มเหมือนคนบ้า
มิวมิวน่ารักเกินไป ยิ่งอยู่ด้วยกันก็ยิ่งอันตราย เขาเคยคิดว่ามิวนิคตัวนี้สามารถเป็นตัวแทนให้กับคุณมิวนิคตัวจริงได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่เขาคงประเมินมนุษย์มิวนิคต่ำกว่าที่คิด แค่ได้ชื่อว่ามิวนิค ต่อให้จะอยู่ในร่างคนหรือร่างแมว...ก็สามารถทำให้มนุษย์แว่นตกหลุมรักได้ไม่รู้จบ
บางที...การเปลี่ยนชื่ออาจทำให้เขาปลอดภัยขึ้น
หมายถึงหัวใจของเขา...ที่จะปลอดภัยขึ้น
tbc.
ʕ = •́ .̫ •̀ = ʔ
==============================================
ตกลงว่าเธอจะเอายังไงกับช้านน ไม่รู้เธอมาแบบหนายยย
จะ introvert นิดนึงนะคะ setting ก็จะอยู่แต่ในห้องงี้
ปล.ถ้าชอบก็ขอคนละเม้นเป็นกำลังใจให้เค้าด้วยน้า
หรือจะติดแท็ก #แปลกไหมถ้าจะคิดอะไรกับแมว มาพูดคุยกันก็ได้เน้อออ
ทุกคอมเม้นเป็นกำลังจัยให้เค้าจีงๆๆๆ