[end.] ✦✦✦ Cat person: แปลกไหมถ้าจะคิดอะไรกับแมว? ✦✦✦เปิดจองหนังสือแล้ว! 1/05/19
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [end.] ✦✦✦ Cat person: แปลกไหมถ้าจะคิดอะไรกับแมว? ✦✦✦เปิดจองหนังสือแล้ว! 1/05/19  (อ่าน 38093 ครั้ง)

ออฟไลน์ WickedWish

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-5

Meow 11


อุ้งเท้าสีชมพูนุ่มย่างเหยียบไปตามแนวกำแพงรั้วปูนเรื่อยเปื่อยพร้อมเพื่อนชายเจ้าถิ่นสองตัวด้านหลัง วันนี้มิวนิคได้รับสิทธิ์ให้เดินเที่ยวเตร็ดเตร่ได้ตามใจชอบ

อาจเพราะชิโน่เบื่อจะนำเที่ยวแล้ว แต่เขาก็คะยั้นคะยอให้อีกฝ่ายพาออกมา แหม...มาตัวเดียวก็กลัวหมานี่หว่า ถึงร่างคนจะเฟียสขนาดไหน แต่ร่างแมวเขาก็เป็นแค่แมวน้อยน่ารักตัวนึง ไม่กล้าสู้รบปรบมือกับใคร



“โหโน่! แถวหอเรามีสวนสาธารณะด้วยหรอเนี่ย”

“มีสิ”

“แกไม่เห็นเคยบอกเลย” หันมามองแมวขี้กั๊กอย่างไม่พอใจ

“มันไม่มีของกิน ไม่น่ามาหรอก”



จ้า...คำว่าเที่ยวสำหรับชิโน่ต้องมีเรื่องของกินและการนอนมาเกี่ยวข้องเสมอสินะ เอาเถอะ...เริ่มจะจับจุดวิธีการคิดของพี่แกได้ละ แต่จะว่าไป บริเวณรอบหอพักบ้านสุขใจมักมีอะไรเซอร์ไพรส์เสมอเลย อย่างทุ่งดอกเดซี่บนดาดฟ้าก็ทำเอาแมวน้อยอ้าปากค้างมาทีนึงแล้ว



“โน่ๆ ไปเดินเที่ยวกัน”

“ขี้เกียจ คนเยอะ”

“ไรวะ” ทำหน้าแมวเซ็ง อุตส่าห์เดินมาตั้งไกลทั้งทีเขาไม่ยอมปล่อยให้เสียเที่ยวหรอก “ชวนชิลลี่ก็ได้ เนอะชิลลี่ ไปเดินเที่ยวกัน”

“อื้อ ไปสิ!”



พอคะแนนเสียงกลายเป็นสองต่อหนึ่ง จอมเฮี้ยบตัวดำจึงจำต้องปล่อยเลยตามเลยพาน้องชายขี้กลัวกับเหมียวน้อยผู้อยากรู้อยากเห็นเที่ยวชมสวนสาธารณะประจำหมู่บ้าน เขาว่าชิโน่น่ะปากแข็ง ไม่เหมือนชิลลี่ที่อยากได้อะไรก็จะพูดออกมาตรงๆ เลยติดคล้ายจะเป็นแมวไร้เดียงสา

แต่โดยรวมแล้ว...ครอบครัวนี้ก็ยังน่าเอ็นดู

ที่บอกว่าคนเยอะนั้นไม่จริงเลย วันธรรมดาแบบนี้ ผู้คนที่มาเที่ยวสวนสาธารณะก็มีแต่คนว่างงาน ผู้สูงอายุ หรือถ้าเป็นนักศึกษาก็จะเป็นพวกโดดเรียนไม่ก็อาจารย์งดคลาสกะทันหัน

มั่วแล้วไอ้แมวดำ



“อยากถีบเรือเป็ดจัง ชิลลี่เคยถีบเรือเป็ดปะ?”

“เรือเป็ดคือไรอ่ะพี่?”



สิ่งมีชีวิตสีส้มเอียงศีรษะสงสัยทำเอาคนมองอดไม่ได้ที่จะยกเท้าขึ้นไปลูบหัวน้องอย่างเอ็นดู มิวนิคคิดว่าพวกสัตว์ก็เหมือนเด็กเล็ก เป็นเด็กเล็กที่ไม่มีวันเติบโตเพราะถูกสต๊าฟความไร้เดียงสาเอาไว้



“ไว้วันหลังจะพามาถีบทั้งคู่เลยนะ”



วันหลังที่ว่าอาจคงหมายถึงวันที่กลายเป็นมิวนิคอย่างเต็มตัว ไม่ใช่มิวมิวอย่างเช่นตอนนี้ ทว่าอันที่จริง...วันอาทิตย์ก็อีกแค่ไม่กี่วัน แต่เขาอยากพาชิโน่กับชิลลี่มาเที่ยวในร่างมิวนิคแบบไร้ซึ่งคำสาปมากกว่า แย่จัง...

เขาดันอยากชวนตาแว่นมาซะด้วยสิ



“นัทนิสัยไม่ดีว่ะ โดดเรียน”

เป็นตอนนั้นเองที่หูตั้งเผอิญได้ยินเสียงๆ หนึ่งดังมาจากด้านหลัง

“ก็ท็อปไม่มีเรียน เราเลยมากับท็อปงาย”



เป็นชายหนุ่มสองคนในชุดนักศึกษาที่กำลังเดินกอดคอกันผ่านหน้าแก๊งค์แมวเหมียวไป เจ้าของเสียงนั่งลงบนม้านั่งอะลูมีเนียมเบื้องหน้าสระน้ำ



“เกเรนะครับ”



เพิ่งเข้าใจประโยคที่ว่าโดนตบหน้ากลางสี่แยกเป็นยังไง มันพูดไม่ออกซักคำ มันชาไปหมดทั้งตัว เพราะผู้ชายที่เห็น...คือนัท...คนที่เขายอมเปิดใจคุยด้วยมาตลอดสองเดือน กับท็อป...คู่อริที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง

ยอมรับว่าไม่ได้โกรธหรือเกลียดท็อปถึงขนาดนั้น ก็แค่รำคาญวิธีการคิดที่ไม่เป็นมืออาชีพรวมถึงวิธีการทำงานลวกๆ อย่างไม่น่าให้อภัย แต่ก็ไม่เคยต้องการให้อีกฝ่ายเจอเรื่องแย่ๆ อย่างเช่นเดินตกท่อหรือนกอึใส่ ในวันแดดร้อน และก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าท็อปกับนัทจะ...



“มิวมิว เป็นไรวะ” ชิโน่เดินเข้ามาเลียไปตามเนื้อตัวเขา

“ปะ...เปล่า”



กัดฟันตอบว่าไม่เป็นอะไรทั้งๆ ที่ในใจมันโคตรอึดอัด แต่ก็อยากอยู่ฟังคนทั้งสองคุยกันจนจบ เขาไม่ได้เป็นแมวสอดรู้สอดเห็น แค่อยากทำความเข้าใจว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน



“ตกลงนัทไม่ได้คบกับไอ้มิวจริงๆ ใช่ปะ”

“ท็อปถามเราเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย” คนพูดหลุดขำในลำคอ

“เราแค่อยากได้ความมั่นใจ ก็ไม่อยากเป็นมือที่สามใครซักหน่อย”

มิวนิคมองฝ่ามืออันคุ้นเคยที่กำลังลูบไล้ลงบนศีรษะเพื่อนร่วมคณะตัวดี เขารู้ว่านัทจะตอบกลับว่าอะไร

“เราไม่ได้คบกับมิวนิค”



ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องโกหก

ความสัมพันธ์ที่มีชื่อเรียกว่า ‘คนคุย’ สร้างความคลุมเครืออันใหญ่โต หากเราทั้งคู่ก็เลือกที่จะยอมรับความคลุมเครือนั้นตั้งแต่เริ่มต้น แล้วเขาจะมาเสียใจอะไรเอาป่านนี้ล่ะ



“เฮ็งซวย”

“แกพูดเหมือนทาสเลยมิวมิว นี่แม็กซ์เวลก็เป็นคนจีนหรอ”



มิวนิคไม่ตอบเพื่อนชายตัวดำ หันหลังสะบัดก้นเดินออกมาจากตรงนั้น จริงอยู่ที่เขาอาจไม่มีสิทธิ์โกรธนัท แต่นัทแม่งจะไม่รู้สึกอะไรต่อกันบ้างเลยจริงๆ น่ะหรอ สองเดือนที่ไปกินข้าวด้วยกันเกือบทุกวัน สองเดือนที่ไปดูด้วยหนังกันเกือบทุกอาทิตย์ สองเดือนที่คอลกันเกือบทุกคืน

มันไร้ความหมายจริงๆ น่ะหรอ?

มิวนิคเชื่อมาตลอดว่าต่อให้เป็นคนที่เย็นชาที่สุด แต่เมื่อได้ใช้ช่วงเวลาดีๆ แบ่งปันรอยยิ้ม ฟังเพลงโยกหัวอยู่บนรถกับใครซักคน อย่างน้อย...สิ่งที่เกิดขึ้นก็ต้องเป็นความสุข ความสุขอันแสนพิเศษที่เกิดขึ้นเฉพาะใครคนนึงเท่านั้น

หากสิ่งที่เกิดขึ้นก็ได้ทำลายความเชื่อเหล่านั้นไปหมด

เขาคงเป็นเพียงเพอร์เฟ็คชั่นนิสต์ห่วยแตกที่เอาดีด้านความรักไม่ได้เลย



“ที่มาคบเราไม่ใช่เพราะไอ้มิวหายหัวไปหรอกนะ”

“ใครจะทำอย่างนั้นกัน ท็อปอ่ะน่ารัก ไม่งี่เง่าเหมือนมิวนิค”

“ได้ยินแบบนี้คุณมิวนิคคงเสียใจแย่”

เป็นประโยคเห็นอกเห็นใจที่ปลอมสุดๆ ไอ้คนพูดไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลยซักนิด

“ก็อย่าให้เขาได้ยินสิครับ”



ถ้าอยู่ในร่างมนุษย์อย่าหวังเลยว่าฟันของสองคนนี้จะอยู่ครบสามสิบสองซี่ มิวนิคอดกลั้นต่ออารมณ์โทสะร้อนที่กำลังปะทุอยู่ภายในโดยการรีบวิ่งออกมาให้เร็วที่สุด เพื่อนเหมียวอีกสองตัวที่กำลังยืนงงในดงแมวก็รีบวิ่งตามเช่นเดียวกัน

หากดูท่าประโยคที่ว่า ‘เวลาจะเยียวยาทุกอย่าง’ น่าจะเป็นจริง เขาไม่ได้โกรธถึงขั้นอยากระเบิดตัวเอง ก็แค่เจ็บใจ เสียใจ แล้วก็เซ็งเป็ดขั้นสุด เขาทำอะไรไม่ได้ซักอย่าง จะเถียงกลับก็ไม่สามารถ ได้แต่ปล่อยให้คนพวกนั้นพูดจาเหยียดหยามศักดิ์ศรีไปเรื่อยๆ นี่ถ้าอยู่ต่อ...ไม่รู้ว่าจะต้องทนฟังคำพูดร้ายๆ อีกมากมายขนาดไหน



“หงอยอะไรวะมิวมิว ไม่สบายเรอะ”



ชิโน่เดินมาเลียไปตามเนื้อตัวของเขาอีกครั้งทันทีที่ถึงหอพักบ้านสุขใจ เขาว่าพักนี้ชิโน่ชอบทำตัวแปลกๆ อย่างเช่นเล่นแรงๆ หรืออยู่ดีๆ ก็เข้ามาอ้อน บางทีก็วอแวจนเกินเลย แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนักเพราะคิดว่าอาจเป็นนิสัยคลอเคลียของแมว



“เปล่า...จะขึ้นห้องละ ไว้ลงมาใหม่”

“อะไรฟะ”



พูดจบก็เดินอ้อมไปยังฝั่งด้านหลังหอ กระโดดไปตามแนวระเบียงชั้นหนึ่งและสองเหมือนทุกวัน รู้ตัวอีกทีก็เปิดประตูบานเกล็ดเข้ามานอนอยู่บนฟูกเตียงติดหน้าต่าง เหม่อมองแอนโธนี่ที่กำลังขุดเจลสีฟ้าไม่หยุดหย่อนอย่างเคย หัวใจเต้นแผ่วเบาคล้ายหมดแรง สาเหตุหลักน่าจะมาจากเรื่องของท็อปกับนัท



“คิดถึงหมอก คิดถึงคุณพ่อกับคุณแม่...”



เขาพูดราวกับอย่างให้เจ้ามดดำในโหลแก้วตอบกลับมา แต่คงไกลเกินไป แอนโธนี่ไม่ได้ยิน แล้วเขาก็ขี้เกียจเกินกว่าจะลุกขึ้นไปเคาะภาชะบนชั้นไม้ มันเหนื่อยไปหมด

ถ้าหากความเหนื่อยของมนุษย์เวลาเจอเรื่องแย่ๆ นับเป็นสามสิบเปอร์เซ็นจากความเหนื่อยที่มี ให้เอาเลขสามคูณเข้าไปแล้วจะพบกับความเหนื่อยของแมวเหมียวเวลาปกติ และถ้าคูณสามเข้าไปอีกจะได้ความเหนื่อยของแมวเหมียวเวลาท้อใจ

ทฤษฏีนี้เขาคิดขึ้นมาเอง...ไม่ต้องเชื่อเลย



“เสียเวลาชะมัด...”

“บ่นอะไรน่ะหืม?”



ร่างสูงเปิดประตูเข้ามาเพราะเป็นเวลาสี่โมงครึ่งพอดี คนที่ไม่ทันมองจึงขยับแค่เพียงส่วนศีรษะชะโงกกลับหลังคล้ายแมวคอหัก กลิ่นมิ้นท์อันเป็นกลิ่นประจำของห้องลอยปะปนเข้ากับกลิ่นกายประจำตัวของใครบางคนเตะจมูกสีชมพูที่กำลังขยับฟุดฟิด ก่อเกิดความรู้สึกหวิวๆ ในช่วงอก

แม็กซ์เวลตัวหอมจัง

อีกฝ่ายจะหอมมากกว่าปกติเวลากลับมาถึง...หลังจากที่เราไม่ได้เจอกันเกือบทั้งวัน มิวนิคคิดว่าตนเองชักจะเสพติดเจ้านายคนนี้มากเกินไป บางทีสัตว์เลี้ยงกับคนเลี้ยงก็ควรมีระยะห่างให้กันและกันบ้าง



“ไม่สบายรึเปล่า”

“ม๊าว....”



เขาถูกช้อนร่างขึ้นมาวางบนตักเหมือนอย่างเคย มือหนาลูบสางอ่อนโยนไปตามกลุ่มขนสีขาวสะอาด พิงแผ่นหลังกับคุณหมอนใบใหญ่ที่วางทาบไปกับผนังสีเทา

แม็กซ์เวลยังคงหยิบไอแพดขึ้นมาไถเป็นกิจวัตรเหมือนทุกวัน แต่เพราะวันนี้มีแมวหนึ่งตัวกำลังเรียกร้องความสนใจอย่างไม่รู้ตัว เขาจึงละความสนใจมายังดวงตาสีฟ้า



“เป็นอะไรมิวมิว?”



มิวนิคไม่ตอบ ยืดตัวขึ้นไปซุกใบหน้ากับซอกคออันอบอุ่น เขาถูกท่อนแขนอันใหญ่โตโอบรัดนุ่มนวล รู้เลยว่าตาหมอนี่ปลอบคนไม่เป็น มันเก้ๆ กังๆ ไปหมด แต่ความพยายามที่เจ้าตัวกำลังแสดงออกมานั้นกลับทำให้สถานการณ์ไม่ได้ดูแย่

มัน...เด๋อ

แต่เป็นเด๋อแบบที่น่ารัก



“ทำอะไรพังอีกรึเปล่า?” ถามพลางก้มลงจุ๊บหัวน้อง

“ม๊าว... (ไม่ใช่ซะหน่อย)”



เหมียวน้อยยังคงเกยคางอยู่บนบ่าอันเดิม สูดดมกลิ่นกายเฉพาะตัวที่ผสมคละคลุ้งกับกลิ่นมิ้นท์อันเดิม แม้ว่าเรื่องของนัทกับท็อปยังคงวนเวียนรบกวนจิตใจอยู่ แต่แม็กซ์เวลกลับเป็นเหมือนตัวแปรอะไรซักอย่างที่ทำให้เขาลืมเรื่องบ้าๆ แบบนี้ไปได้ชั่วคราว และถ้ายังถูกกอดอยู่แบบนี้...

เขาอาจลืมได้ตลอดไป



“อ๊ะ...อย่ากัดพุงน่ามิวมิว”

“งั่มๆ”

“มิวมิว!”



รวมถึงถ้าได้กัดกล้ามท้องแน่นๆ แบบนี้ด้วย

อ่าห์...เขาชอบกล้ามท้องแม็กซ์เวลที่สุดเลย



























ʕ = •́ .̫ •̀ = ʔ



แปลกไหมครับถ้าจู่ๆ ผมจะคิดอะไรกับแมวตัวเอง...

คือผมรับแมวพันธ์ขาวมณีตัวนึงมาเลี้ยง มันก็น่ารักตามสไตล์แมวไทยทั่วไป ขี้อ้อน ชอบเอาหน้ามาถู เดินมานั่งบนคอม แต่ยิ่งอยู่ด้วยทุกวันผมก็รู้สึกเหมือนตัวเองติดมัน เรียนเสร็จก็รีบกลับห้องทันทีไม่อยู่แฮงค์เอาท์กับเพื่อนๆ ต่อเหมือนแต่ก่อน แถมผมยังชอบอุ้มมันขึ้นมาจูบประจำ และที่แย่กว่านั้นก็คือ..ผมไม่ชอบเวลาที่มันไปคลุกคลีอยู่กับแมวสีดำของเจ้าของหอเลย...

คนเลี้ยงแมวเป็นแบบนี้ทุกคนหรือเปล่า?



แท็กห้อง - แมว / สัตว์เลี้ยง /

484 ถูกใจ สมาชิกหมายเลข 111236



ความคิดเห็นที่ 7

เรื่องปกติค่ะ เราก็ชอบเล่นแบบนี้กับแมวเหมือนกัน ก็แหม น้องน่ารักขนาดนี้ไม่ให้ฟัดจะได้ไงเนอะ

256 ถูกใจ สมาชิกหมายเลข 187695



ความคิดเห็นที่ 25

คิดก็บ้าแล้วครับ งั้นผมที่เลี้ยงงูก็เท่ากับว่าผมคิดอะไรกับน้องงูตัวเองหรอ หยึยย

189 ถูกใจ สมาชิกหมายเลข 456887



ความคิดเห็นที่ 78

เป็นคนติดแมวเฉยๆ มั้ง แต่ถ้าตั้งกระทู้แบบนี้แสดงว่ากำลังคิดมากอยู่ล่ะสิ เอางี้ ถ้าคุณยังหาคำตอบไม่ได้ก็ลองโทรไปปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิตดู 1323 เบอร์นี้เลย เราไม่ได้ว่าคุณเป็นบ้านะ แต่เราว่าถ้ามีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำอาจดีกว่ามาตั้งกระทู้ในโซเชียลแบบนี้

170 ถูกใจ สมาชิกหมายเลข 476129



ความคิดเห็นที่ 146

แมวตัวเมียหรือตัวผู้อ่ะคะ >//<

0 ถูกใจ สมาชิกหมายเลข 746952



ความคิดเห็นที่ 199

กระทู้นี้ตั้งขึ้นเพื่อเรียกกระแสหรอครับ? งงมาก ผมไม่รู้หรอกนะว่าคุณมีจุดประสงค์อะไร เอาเป็นว่าถ้าทั้งหมดที่พิมพ์มาคุณไม่ได้กำลังจะสื่อความหมายว่าตนเองเป็นทาสแมว งั้นผมก็ขอสรุปให้แล้วกัน

คุณชอบแมวตัวเอง

0 ถูกใจ สมาชิกหมายเลข 931725



เขาพับหน้าจอโน้ตบุคลงพร้อมถอนหายใจออกเฮือกใหญ่ เหม่อมองพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวเลือนลางด้านหลังกลีบเมฆบนท้องฟ้าที่กำลังเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีดำมืด สัญญาณของการเข้าสู่ช่วงเวลากลางคืน

เป็นวันศุกร์ที่ถูกงดคลาสตลอดทั้งบ่าย มนุษย์แว่นจึงกลับห้องเพราะไม่มีสถานที่ให้ไป หากอันที่จริง...เป็นเขาเองนั่นแหละที่เลือกไม่ยอมออกไปไหน ไม่ไปแฮงค์เอาท์กับเพื่อน ไม่ไปกินหมูกระทะ ปฏิเสธทุกคำชวน

เพื่อกลับมาตั้งกระทู้ประหลาดในพันทิป

เหตุผลหลักๆ ก็มาจากแมวน้อยผู้แสนร้ายกาจตัวเดียว...



“มิวมิว...ทำอะไร”

“.....”

“มิวมิวออกมา”



ดึงร่างสีขาวออกมาจากตระกร้าใบเล็กที่ดูยังไงจอมซนก็ไม่มีทางยัดตัวเขาไปได้ แต่แมวเป็นของเหลว ไม่ว่าภาชนะจะคับแคบแค่ไหน ถ้าเป็นแมว...น้องเขาไปได้หมด อย่างเช่นมิวมิว

มิวมิวของเหลว



“ม๊าว ม๊าว”



ตัวยุ่งส่งเสียงไม่พอใจที่ถูกอุ้มขึ้นมาวางบนตัก หากเขาไม่สนใจ ล็อคพุงนุ่มๆ ไว้ด้วยท่อนแขนกำยำ เอื้อมมือหยิบรีโมทเปิดโทรทัศน์หารายการใหม่ๆ ดูไปเรื่อยเปื่อย มิวมิวควรรู้ซักทีว่าเจ้าตัวกำลังทำให้คนอื่นหงุดหงิด

ไม่ใช่หงุดหงิดเพียงเวลาที่น้องชอบเข้าไปอยู่ในภาชนะแคบๆ เพราะกลัวน้องจะขาดอากาศหายใจตายซะก่อน แต่ยังหงุดหงิดเรื่องที่น้องชอบไปคลุกคลีกับชิโน่ แมวดำขาโจ๋ประจำหอ

ยอมรับเลยว่าเมื่อก่อนเขาเป็นทาสแมว ชิโน่กับชิลลี่ก็เคยเป็นหนึ่งในลิสต์สิ่งมีชีวิตน่าเอ็นดูประจำหอ ยกเว้นตอนนี้...เขาเป็นแค่ทาสมิวมิว เขาไม่ชอบเวลาที่มิวมิวเข้าไปคลอเคลียกับชิโน่หรือถูกชิโน่คลอเคลีย ทั้งๆ ที่น้องก็เป็นตัวผู้เหมือนกัน แถมยังได้รับวัคซีนเป็นอย่างดีจนไม่ต้องกังวลเรื่องโรคติดต่อ แต่เขาก็ยังไม่ชอบ...

มันแย่ตรงที่เขาดันอยากให้หัวทุยๆ อันนั้นถูคลอเคลียมาที่เขาคนเดียว...



“อาการหนักแล้วแม็กซ์เวล”



มนุษย์แว่นพูดกับตัวเอง ยกมือก่ายหน้าผากหนักใจ เอนหลังพิงกับผนังห้องสีเทา เป็นเวลาเดียวกันที่สิ่งมีชีวิตสีขาวบนตักเขยิบเคลื่อนขึ้นมานอนบนแผ่นอก วินาทีนั้นเขาจ้องมองดวงตาสีฟ้าก่อนจะรับรู้ได้ว่า...

แพ้จริงๆ นั่นแหละ

ขอโทษนะครับ...คุณมิวนิคคงมีคู่แข่งซะแล้ว

ซ่า ซ่า ซ่า

เสียงแมวน้อยตีน้ำป๋อมแป๋มจนกระจัดกระจาย แม็กซ์เวลยกมือขึ้นปัดป่ายฟองสบู่บนใบหน้าตนเองออกครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อถูกจอมซนแกล้ง คิดว่าการอาบน้ำคงเป็นวิธีการดับความฟุ้งซ่านได้ดีที่สุด แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นวิธีการเพิ่มความปวดหัว เพราะเมื่อเขาก้าวเท้าจะเข้าห้องน้ำ มิวมิวก็รีบวิ่งแจ้นตามเข้ามาทันที

ไม่ต้องถามเลยว่าถ้าคุณมิวมิวอยากได้อะไร...ทาสแม็กซ์เวลเคยขัดได้ไหม



“ชอบรึไง”

“ม๊าววว”



จะว่าไปมิวมิวก็เป็นแมวที่แปลก ไม่กลัวน้ำ...มิหนำซ้ำกลับยังชอบเล่นน้ำอีก แค่เปิดน้ำในอ่างไว้ให้ก็สามารถว่ายดุ๊กดิ๊กอย่างมีความสุขได้แล้ว บางทีเจ้าตัวอาจเข้าใจว่าตนเองเป็นแมวน้ำไม่ใช่แมวพันธ์ขาวมณี



“อาบไปนะ..”



ลูบหัวทุยก่อนจะลุกขึ้นจากอ่างฟองสบู่ที่มีเพียงเขากับเหมียวน้อย เดินไปยังบริเวณพื้นที่ยืนอาบใต้ฟักบัว ปลดเปลื้องบ็อกเซอร์ที่เป็นอาภรณ์ชิ้นเดียวบนตัวออกพาดไว้กับราวแขวน

ขืนแช่นานกว่านี้ จากที่จะหายฟุ้งซ่านคงได้ฟุ้งซ่านมากกว่าเดิม

เขาปล่อยให้สายน้ำไหลผ่านใบหน้า ผ่านเส้นผมลามลงมาถึงกกหู ความเย็นอันสม่ำเสมอทำให้ความคิดเริ่มเข้ารูปเป็นระบบระเบียบ เขาอาจไม่ได้ชอบมิวมิวจริงๆ อีกนัยหนึ่ง...เขาอาจหลงใหลน้องในรูปแบบของทาสแมวอย่างทาสแมวปกติ พอเห็นว่าตนเองกำลังจะถูกแมวตัวอื่นแย่งความรักความใส่ใจไปก็เลยฟุ้งซ่าน

ทาสแมวต้องเป็นกันขนาดนี้เลยหรอ

สะบัดศีรษะไล่ความคิดวุ่นวายไม่รู้จบ ก่อนจะรับรู้ได้ถึงดวงตาสีฟ้าเจ้าเดิมที่กำลังจ้องมองมาไม่กระพริบ มิวมิวเกาะขาหน้าทั้งสองข้างตรงขอบอ่างราวกับสมาธิทั้งหมดมีให้เจ้านายตัวโตเพียงคนเดียว



“มะ...มองอะไร”



เขาว่าอย่างตะกุกตะกักพร้อมยกมือปิดกุมความเป็นชายตรงสองหว่างขา ไม่ใช่ว่าไม่เคยแก้ผ้าต่อหน้ามิวมิวหรอก เคยทำเป็นประจำ แต่ก็แค่เคย...เพราะพักหลังๆ เวลาถอดเสื้อหรือแก้ผ้ามิวมิวก็มักชอบจ้องมองแปลกๆ อย่างนี้ ถึงสายตาจะไม่สามารถสื่อสารความหมายได้ชัดเจนเท่าคำพูด แต่สายตาของมิวมิวน่ะ...

หื่นชะมัด



“ม๊าว ม๊าว”

“ของตัวเองก็มี...ก็ดูของตัวเองสิ”



สิ้นประโยคคนขี้อายก็รีบกระโดดลงอ่างฟองสบู่ เป็นวิธีเดียวที่จะหลบซ่อนความเก้อเขินจากสายตาร้ายกาจดวงสีฟ้าได้ ครั้นจะหยิบบ็อกเซอร์ขึ้นมาสวมก็คงปกปิดอะไรไม่ได้มากพอเพราะร่างกายเปียกไปหมด



“จะสระมั้ยขน”

“เมี้ยวว”



มีแต่ช่วงเวลาที่เจ้าเหมียวเป็นต่อเท่านั้นแหละเขาถึงมักฟังภาษาแมวออก บางทีคณะควรเปิดวิชาการสื่อสารภาษาสัตว์ เนื่องด้วยตอนนี้เหมือนมีฝั่งเขาเพียงฝั่งเดียวที่ฟังมิวมิวไม่รู้เรื่อง ในขณะที่มิวมิวกลับตรงกันข้าม เหมือนน้องสามารถฟังเขารู้เรื่องทุกหมดอย่าง จะเรียกว่าเซนส์หรือลางสังหรณ์ก็ได้

เขารู้สึกแบบนั้นจริงๆ!

เสร็จสิ้นกิจกรรมผ่อนคลายอันแสนเหน็ดเหนื่อยต่างคนก็ต่างจับจองมุมทำกิจกรรมในยามดึกของตนเอง เขาเลือกนั่งทำงานตรงโต๊ะญี่ปุ่นข้างเตียง ส่วนเจ้าของห้องตัวสีขาวก็นอนกลิ้งเกลือกเล่นตุ๊กตาน้องหนูอยู่บนฟูก

เขาซื้อให้มิวมิวเองเพราะเห็นว่าน้องอยู่เฉยๆ คงเหงาไม่มีอะไรทำ แอบดีใจเหมือนกันที่เห็นมิวมิวเอาออกมาเล่นบ้าง ก็มิวมิวน่ะแปลก...บางครั้งก็ทำตัวเหมือนกันแมว บางครั้งก็ทำตัวแสนรู้เกินแมว

ดีหน่อยที่ช่วงเวลาก่อนสี่ทุ่มเขาจะไม่ถูกรบกวน คล้ายกับว่ามิวมิวยอมปล่อยให้ทาสคนนี้เคลียร์งานได้ตามสบาย หากเมื่อผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปนั้น เขาจะถูกคุณมิวมิวก่อกวนอย่างหนัก เช่นการขึ้นมานั่งแบะบนคอม มุดเสื้อเข้ามากัดพุง หรือดื้อมากหน่อยก็ปีนขึ้นมาอยู่บนหัว

เวลาของคุณเขาล่ะ



“เมี้ยว เมี้ยว”

“รู้แล้ว เลิกทำแล้ว”



เสียงเงี้ยวง้าวดังขึ้นในตอนที่เข็มนาฬิการชี้เลขสิบ แม็กซ์เวลลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายก่อนจะทิ้งเอนหลังนอนลงบนเตียง ต่อHDMLจากโน๊ตบุคเข้ากับโทรศัพท์เพื่อหาซีรีย์เน็ตฟลิกดูหนึ่งตอน กลายเป็นกิจวัตรประจำวันตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ที่เขาจะต้องนั่งดูซีรี่ย์กับมิวมิว



“ดูรู้เรื่องหรอ”



เหมียวน้อยไม่ตอบ ไม่แม้แต่จะสนใจหน้าจอทีวีเหมือนอย่างทุกวัน ดวงตาสีฟ้าจ้องมองมาทางเขา อุ้งเท้าสีชมพูนุ่มนิ่มยกขึ้นทาบแผ่นอก ก่อนเหตุการณ์ทุกอย่างจะเลยเถิด..

จุ๊บ!

มิวมิวจูบเขา เป็นรางวัลเด็กดีที่เจ้าตัวมักมอบให้เวลาเอาแต่ใจจนเกินพอเหตุ ว่ากันตามจริงมันไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ นักหรอก แต่เขาก็ควรจะเคยชินกับพฤติกรรมสุดประหลาดแบบนี้ของจอมซนเสียที หากว่าไม่ใช่อย่างนั้นแม้แต่น้อยเลย...หัวใจเขาเต้นโครมคราม ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มเหมือนคนบ้า

มิวมิวน่ารักเกินไป ยิ่งอยู่ด้วยกันก็ยิ่งอันตราย เขาเคยคิดว่ามิวนิคตัวนี้สามารถเป็นตัวแทนให้กับคุณมิวนิคตัวจริงได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่เขาคงประเมินมนุษย์มิวนิคต่ำกว่าที่คิด แค่ได้ชื่อว่ามิวนิค ต่อให้จะอยู่ในร่างคนหรือร่างแมว...ก็สามารถทำให้มนุษย์แว่นตกหลุมรักได้ไม่รู้จบ

บางที...การเปลี่ยนชื่ออาจทำให้เขาปลอดภัยขึ้น

หมายถึงหัวใจของเขา...ที่จะปลอดภัยขึ้น









      tbc.

ʕ = •́ .̫ •̀ = ʔ









==============================================

ตกลงว่าเธอจะเอายังไงกับช้านน ไม่รู้เธอมาแบบหนายยย

จะ introvert นิดนึงนะคะ setting ก็จะอยู่แต่ในห้องงี้



ปล.ถ้าชอบก็ขอคนละเม้นเป็นกำลังใจให้เค้าด้วยน้า

หรือจะติดแท็ก #แปลกไหมถ้าจะคิดอะไรกับแมว มาพูดคุยกันก็ได้เน้อออ

ทุกคอมเม้นเป็นกำลังจัยให้เค้าจีงๆๆๆ

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
ยังไม่จุใจเลย

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
จุ๊บๆๆต่อสิอาจจะเป็นคนนะ

ออฟไลน์ AppleA-

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เพิ่งได้อ่าน มีดีย์ต่อใจมากๆเลยค่ะ เฮ้อออออ
มิวมิวน่ารักยกกำลังล้านเลย
นัทนี่นิสัยแย่สุดๆแต่ก็ดี มิวมิวน้อยจะได้คู่กับแม็กซ์ได้อย่างสบายใจอิอิ เลิฟฟฟฟฟ

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
แอบคาดไม่ถึงว่านัทจะกิ๊กกะท็อป 55555
นึกไว้อยู่นะว่านัทต้องกิ๊กกะคนอื่นด้วยแต่ไม่ได้นึกถึงท็อปเลย
แต่ช่างมัน ยิ่งทำให้มิวนิคตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเยอะว่าควรเลือกใครเป็นสามี -^-
แม็กซ์เวลตั้งกระทู้แล้วอ่ะ 5555 มิวมิวลูกก น้องแมวหื่นน แอบมองของพี่เขา เดี๋ยวเหอะะ
รอตอนหน้านะคะ เรื่องนี้น่ารักมากเลย

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

มิวมิว ทะลึ่ง

ออฟไลน์ Nekosama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
มิวมิวน่ารักขึ้นทุกวันเลยค่ะ  :-[

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
เขินอ่ะ รักแมวเฉยยยย ชิโน่นี่คือจะเป็นแมวเบี่ยงเบนใช่ไหม เหมือนแมวที่บ้านเราเลย555

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
 ชิโน่เรารู้นะนายคิดอะไรกับมิวมิว
ทำเอาแม๊กหึงได้นะชิโน่.

ออฟไลน์ AppleA-

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แอบรอเธออยู่นะจ๊ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
รออยู่นะค้า ><

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
น้องอ้อนมากกกกกกกก

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
น้องอ้อนสุดๆไปเลยยยยยย
กับแม้ก คนหึงแมว 55555555

ออฟไลน์ WickedWish

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-5


Meow 12



มิวนิคตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าตรู่เพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ เหมียวน้อยบิดขี้เกียจก่อนจะกระโดดขึ้นนั่งบนขอบระเบียงด้านนอก หลับตาพริ้มสูดอากาศเย็นสบายข้างกระถางดอกเดซี่ แม็กซ์เวลซื้อมาให้เขาเองแหละ ทั้งๆ ที่ฟังภาษาแมวไม่รู้เรื่อง แต่อีกฝ่ายก็ยังหามาให้จนได้ หมอนี่...ชอบทำให้คนอื่นรู้สึกสำคัญตัวอยู่เรื่อย

ใส่ใจไม่เข้าเรื่องจริงๆ เลย

อยากให้ถึงเวลาเที่ยงคืนไวๆ เขาอยากกลับคอนโดมาก มิวนิคตั้งปณิธานเอาไว้ว่าในช่วงที่คืนร่างเป็นมนุษย์...เขาจะต้องไปกินหมูกระทะที่ร้านอาหารเกาหลีให้ได้ สาเหตุก็ไม่ใช่อะไรนอกจากเมื่อคืนที่แม็กซ์เวลเปิดซีรีย์เรื่อง Let’ s eat ให้ดู มันหิวไปหมด ทำไมคนเราถึงต้องกินอาหารได้อร่อยขนาดนั้นด้วยนะ

ไม่รู้ล่ะ...ยังไงพรุ่งนี้เขาก็จะต้องได้กินหมูกระทะเกาหลี และสายหมอกจะต้องเป็นคนพาไป อ่า...หัวใจแมวน้อยวูบโหวง อันที่จริงเขาอยากไปกินกับคนที่เป็นตัวการของเรื่องหิวๆ ทั้งหมดมากกว่า แต่คงยาก... มิวนิคไม่เคยจินตนาการถึงการเจอกันในร่างมนุษย์ของเขากับแม็กซ์เวลมาก่อนเลย

ครั้งล่าสุดก็...นานมากๆ แล้ว



“ตื่นเช้าจังดื้อ”



หันมองเจ้าของนัยน์ตาสีดำ เขาไม่ได้ชื่อดื้อ แต่พักหลังๆ มานี้ตาแว่นมักชอบเรียกเขาว่าดื้อบ้าง จอมซนบ้าง เป็นทุกอย่างที่ไม่ใช่มิวมิว เหมียวน้อยจึงไม่ตอบ หันหน้ากลับไปหลับตาพริ้มรับแสงอาทิตย์อ่อนๆ ตามเดิม

ร่างสูงอมยิ้ม ทาบฝ่ามือใหญ่โตลงบนกลุ่มขนนุ่มนิ่ม มิวนิคคิดว่าตาหมอนี่คงตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกแปลกประหลาดที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตสีขาวนอนอยู่บนอก...ตั้งแต่ตอนไหนแล้วก็ไม่รู้ที่เขาชอบคล้อยหลับไปบนร่างกายแม็กซ์เวล ทำไงได้...

ก็มันอบอุ่น



“กินแซลม่อนไหม”

“เมี้ยววว (กินนนน) ”

“เหมือนฟังภาษาคนออกเชียวล่ะ”



เขามองมนุษย์แว่นที่ตอนนี้อยู่ในสภาพไร้แว่นเพราะเพิ่งตื่นนอนกำลังอมยิ้มเอ็นดู เสื้อยืดตัวย้วยสีฟ้าอ่อนกระเพื่อมตามแรงลมเบาบาง กลิ่นมิ้นท์กับกลิ่นกายคนเฉิ่มลอยเตะจมูกสีชมพู แสงแดดยามเช้าส่องกระทบจากด้านข้าง รูปหน้าอันชัดเจนที่เห็นจนเกือบทุกวันขนาดนี้เขามองพลาดไปได้ยังไง เป็นความรู้สึกที่...

ไม่เลวเลย...

ตาหมอนี่ดูดีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่



“เข้ามาได้แล้วมิวมิว”



รู้ตัวอีกทีเจ้าของเสียงทุ้มลึกก็ค่อยๆ หายลับเข้าไปในครัว เป็นแบบนี้เสมอเวลาจ้องมองอีกฝ่ายนานๆ มันเหมือนวิญญาณหลุดลอยออกจากร่าง ราวกับเวลาเดินอย่างไม่ปะติดปะต่อ

บางทีเขาอาจหิวแซลม่อนมากเกินไป…



“ม๊าว ม๊าว (ขอแซลม่อนเยอะๆ ได้ไหม) ”

“อ้อนอะไรหืม?”



เหมียวน้อยร้องประท้วงด้วยความหิวโหยอยู่บนโต๊ะกินข้าวข้างเจ้านายตัวโต แซลม่อนกลายเป็นมื้ออาหารอันโอชะเมื่อจู่ๆ แม็กซ์เวลก็เสนอว่าจะให้เขากินแซลม่อนอย่างน้อยอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง เอาเข้าจริง...แค่ปลาทูทอดก็ฟินจะแย่ นี่ยังได้แซลม่อนอีก ฟินอีกแค่ไหนให้มันรู้ไป

ปกติแล้วสมัยเป็นมิวนิคเขามักออกไปกินแซลม่อนหรืออาหารหรูๆ จำพวกนี้จนเบื่อ แค่กระดิกนิ้วสายหมอกก็พาไปกิน ชีวิตถูกโรยไปด้วยกลีบกุหลาบ ทุกอย่างง่ายดายโดยปราศจากอุปสรรคขวากหนาม

หากพอเป็นมิวมิว...ช่างตรงกันข้าม ชีวิตเขาไม่ได้ง่ายเหมือนอย่างเคยเลย เขากลายเป็นแค่แมวพันธ์ขาวมณีธรรมดาตัวหนึ่ง ไม่มีความสามารถพิเศษนอกจากร้องเงี้ยวง้าวไปวันๆ อาหารที่กินก็ไม่ได้หลากหลายมากเกินไปกว่าปลาทูทอด และนั่นก็ทำให้เขารู้คุณค่าของอาหารมากขึ้น

นานๆ ได้กินอะไรดีๆ ก็ให้ความรู้สึกพิเศษสุดๆ ไปอีกแบบ



“ขอต้มข้าวต้มก่อนนะ”

“เมี้ยว (จ้า) ”



เหมียวน้อยส่งเสียงตอบรับหลังถูกลูบหัว ดวงตาสีฟ้าจ้องมองแผ่นหลังกว้างที่กำลังขะมักขะเม้นกับการเตรียมมื้ออาหารเช้า มิวนิคคิดว่าถ้าได้กลับคืนร่างไปเป็นมนุษย์เขาคงต้องซื้ออาหารมาชดใช้หมอนี่ชุดใหญ่

หมดไปเท่าไหร่แล้วล่ะกับคำว่ามิวมิว

มนุษย์แว่นใช้เวลาทั้งวันไปกับการเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์อยู่บนโต๊ะญี่ปุ่นข้างเตียง ส่วนเหมียวน้อยก็นอนกลิ้งเกลือกไปมาอย่างไร้จุดหมายข้างๆ กัน มีขึ้นไปก่อกวนบ้างแต่ก็โดนมือหนาอุ้มออกจากบริเวณนั้นทุกที เห็นเฉิ่มๆ แบบนี้ติดเกมส์ใช่ย่อยเชียว นี่เห็นว่าเล่นกับไอ้เด็กชายตัวขาวด้วย น่าจะชื่อยูล่ะมั้ง มิวนิคลอบฟัง

พูดถึงไอ้เด็กชายตัวขาวคนนั้นก็มันเขี้ยวขึ้นมาตะหงิดๆ คนอะไรตัวนิ่มชะมัด แถมยังกลิ่นเหมือนแป้งเด็กอีกต่างหาก เฮ้อ...เขาชอบจัง ชอบกัดแล้วก็ชอบดม ความรู้สึกเวลานอนบนก้อนเมฆคงน่าจะประมาณนี้

อ่า...แต่ถึงกระนั้นเขาก็ชอบไอ้เด็กนั่นรองจากแม็กซ์เวลหรอกนะ ยังไงตาเจ้านายซื่อบื้อก็กัดสนุกกว่า คิดแล้วก็กัดเลยแล้วกัน



“มิวมิวอย่ามุดเสื้อ” คนตัวโตส่งเสียงดุ

“ม๊าว...”

“มิวมิวอย่ากัด...”

“งั่ม งั่ม”



ห้ามได้ที่ไหน มนุษย์เป็นทาสของแมวจำไว้เลย มิวนิคกัดกล้ามแน่นๆ จนผล็อยหลับไปบนตักด้วยความง่วง กล้ามของตานี่ผสมยานอนหลับเข้าไปด้วยหรือยังไงกัน ไหงกัดทีไรเขาดันรู้สึกง่วงนอนทุกที

เหมียวน้อยสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้งในตอนฟ้ามืด เป็นเวลาหนึ่งทุ่มเศษๆ ก่อนจะรับรู้ได้ว่าตนเองกำลังนอนแผ่หลาอยู่บนหมอนใบใหญ่

ดวงตาสีฟ้าเหม่อมองภาพชายหนุ่มเปลือยท่อนบนกับกางเกงกีฬาขาสั้นที่กำลังวิดพื้นไม่หยุด เม็ดเหงื่อสีใสไหลผุดขึ้นตามซอกร่างกายอันกำยำ ฟีโรโมนเฉพาะตัวของใครบางคนลอยฟุ้งผสมกับกลิ่นมิ้นท์ประจำห้องจนคนดมหลับตาฟิน

แซ่บว่ะ...

ทำไมถึงแซ่บได้ขนาดนี้วะแม็กซ์เวล



“มองอะไรมิวมิว”



คนพูดหรี่ตามองจับผิด มิวนิครู้ว่าตาแว่นต้องกำลังเขินเขาอยู่เป็นแน่แท้ สังเกตได้จากอาการกกหูแดงระเรื่อที่ไม่น่าได้มาจากการออกกำลังกาย

คนอะไรเขินแมว

แต่จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ได้ เพราะขนาดเขาที่ได้กลิ่นเหงื่อหอมๆ แบบนี้ทุกวันยังกลับไม่ชินเลย หัวใจมันเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ แปลกๆ ยิ่งตอนโดนอุ้มเข้าไปแนบแผ่นอกทั้งๆ ที่ร่างกายอีกฝ่ายยังเปียกชุ่มเหงื่อแบบนั้นคือเกมส์จริงๆ มันยวบยาบไปหมด แต่เหตุการณ์ที่ว่าคงไม่เกิดขึ้นอีกแล้วแหละ ก็ตาแว่นดันเขินเขานี่หว่า

มันเป็นเวลาสองทุ่มสี่สิบหา มนุษย์แม็กซ์เวลยังคงนั่งไขว่ห้างไถหน้าจอไอแพดไปเรื่อยเปื่อยบนฟูกเตียงโดยมีเหมียวน้อยสีขาวนอนซุกหน้าตักอยู่ วันนี้วันเสาร์...แต่ทำไมถึงยังไม่กลับบ้านไปซักทีล่ะ



“เมี้ยว เมี้ยว (นี่ ไม่กลับบ้านหรอ) ”

“ปลาทูวางอยู่ในชาม”



มิวนิคชะเง้อมองปลาทูตัวทีว่าก่อนจะเริ่มเดินเข้าไปจัดการให้เสร็จสรรพ ทว่าพอกลับมา คุณเจ้านายตัวก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเก็บของกลับบ้านเลย อีกฝ่ายใส่เสื้อผ้าสบายๆ ราวกับพร้อมนอนแล้ว

ไม่ได้นะโว้ย ต้องกลับบ้าน ขืนยังอยู่ที่นี่มีหวังคงได้มีคนเป็นลมหงายหลังล้มตึงตอนเห็นเขาค่อยๆ กลายร่างเป็นคนแน่ๆ เป็นคนยังไม่เท่าไหร่ แต่ดันเป็นมิวนิคผู้ชายที่แกแอบชอบเลยนะโว้ย ทนไหวหรอแม็กซ์เวล

เอ๊ะ...ทำไมถึงกำลังว่ารู้สึกว่าเขาช่างหลงตัวเองขนาดนี้กัน



“เอียงคออะไรมิวมิว”



สงสัยเขาคงเอียงคอเป็นแมวงงมากเกินไป มือหนาถึงอุ้มของเหลวสีขาวขึ้นมาจ้องมอง ขาหลังทั้งสองลอยต่องแต่งไม่แตะพื้น ดวงตาสีฟ้าสบประสานกับนัยน์ตาสีดำด้านหลังกรอบแว่นหนาเตอะ

ยิ้มอะไรของหมอนี่กัน

เขาถูกจับวางลงบนตักตามเดิม มนุษย์แว่นต่อHDMLเข้ากับทีวีจอใหญ่ กิจกรรมดูซีรีย์วันละหนึ่งตอนกับมิวมิวเดอะแคทจึงเริ่มต้นเหมือนอย่างทุกวัน อ่า....Let’ s eat อีกแล้วหรอ กะฆ่ากันให้ตายเพราะความหิวรึไง

ปลาทูมันแทนหมูย่างเกาหลีไม่ได้หรอกนะบอกเลย มิวนิคหันมองเจ้าของตักอบอุ่นอย่างเอาเรื่อง แต่สุดท้ายก็หันกลับไปดูซีรีย์เรียกน้ำย่อยจนท้องร้องตามเดิม สายหมอกเพื่อนรัก...ล้างท้องรอไว้เลยนะ

เวลาสี่ทุ่มสามสิบ มนุษย์แว่นอ้าปากหาวหวอด ไม่มีท่าทีว่าจะเก็บของกลับบ้านเลยซักนิด เดี๋ยวนะ...ขอย้ำอีกที นี่มันวันเสาร์พ่อคุณ ปกติแกจะต้องกลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวตั้งแต่หัวค่ำแล้วไม่ใช่รึไง แล้วนี่อะไร ทำไมยังนั่งบื้ออยู่อีก ตอบมาเดี๋ยวนี้เลยนะแม็กซ์เวล!



“ร้องอะไรมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วมิวมิว”



คนตัวโตขมวดคิ้วสงสัย ยื่นมือลูบหัวเหมียวน้อยจอมโวยวายป้อยๆ ขณะคนถูกลูบกลับเริ่มกระวนกระวายอยู่ไม่ติด อีกไม่กี่นาทีก็เที่ยงคืนแล้ว เขาต้องทำอะไรซักอย่าง

ถ้านายแว่นไม่ออกไปงั้นเขาออกไปเองก็ได้วะ



“จะไปไหนมิวมิว”

“เมี้ยววว! (ปล่อยนะโว้ย) ”



เหมียวน้อยงอแง ประตูมุ้งลวดที่ถูกเปิดครึ่งนึงถูกปิดลงด้วยน้ำมือมนุษย์แว่นทันใด แม็กซ์เวลอุ้มเขากลับไปนอนยังเตียงตามเดิม เปิดซีรีย์ดูตามเดิม โอ้ยยยยย...มันใช่เวลามาเป็นทาสแมวตอนนี้มั้ยตาทึ่ม



“ดื้อ”

“ม๊าว ม๊าว (ดื้ออะไรกันล่ะ แกอยากเจอมิวนิคหรือไงกัน!) ”

“ก็ดื้อน่ะดื้อ”



อื้อหือ...มิวนิคเกลียดอาการคิ้วตกแบบนั้นมากๆ เป็นการดุอันอ่อนละมุน อย่าทำตัวอปป้านักได้มั้ย คิดว่าพอเริ่มหล่อขึ้นมานิดๆ แล้วจะแกล้งกันยังไงก็ได้งั้นหรอ ไหนจะการเรียกเขาว่าดื้ออีก ศัพท์แบบนี้มันเอาไว้ใช้เรียกเฉพาะกับแฟนไม่ใช่รึไงโว้ยย! หน็อย...ร้ายกาจจริงๆ เลยไอ้มนุษย์แว่น

เวลาห้าทุ่มยี่สิบ มันไม่กลับบ้านจริงๆ เว้ยเฮ้ย บ้าเอ๊ย! เสียแผนหมด แล้วเขาจะทำยังไงล่ะเนี่ยยย มิวนิคเพ่งสายตาไปยังประตูมุ้งลวดข้างระเบียง สบโอกาสเขาจะหาจังหวะออกไปจากห้องนี้ให้ได้

อ๊ะ! หาวแล้ว ตอนนี้ล่ะ!

หมับ!



“เผลอไม่ได้เลยนะ”



โดนจับอีกแล้วโว้ยยย หมอนี่มันเป็นนักจับแมวรึยังไงกัน จะกี่ครั้งเขาก็หนีไม่พ้นน้ำมือของอีกฝ่ายได้เลย หรือเขาจะเป็นแมวสุดห่วย เสียใจว่ะ...อย่างน้อยก็ขอความเฟียสแบบในตอนที่เป็นมิวนิคซักครึ่งนึงก็ยังดี



“ติดสาวหรอ?”

“ม๊าว (สาวบ้าอะไรล่ะ) ”



ทั้งวันก็อยู่แต่กับแกไม่ก็ชิโน่ จะเอาเวลาไหนไปหาสาว ถ้าจะปิ๊งใครซักคนก็คงเป็นพวกแมวในหอนี่ล่ะ แต่คงเป็นไปได้ยาก ตกหลุมรักแมวเนี่ยนะ นึกยังไงก็ไม่อิน เขายอมเป็นทาสแมวทั้งๆ ที่ยังเป็นแมวต่อไปดีกว่า

แกร้ก!

ประตูกระจกถูกเลื่อนปิดพร้อมล็อคกลอนเสร็จสรรพ มนุษย์แว่นต้องการหาเรื่องเขาชัดๆ นี่อีกไม่ถึงสิบนาทีก็จะเที่ยงคืนแล้วนะ ตายแน่ๆ มิวนิค เรื่องมันยากกว่าการนอนหนาวข้างถังขยะในวันฝนตกเสียอีก

เขาจะรอดจากแม็กซ์เวลไปได้ยังไงกัน



“เมี้ยวว!! (ปล่อยยย) ”



เหมียวน้อยดิ้นสุดแรงทั้งๆ ที่ยังติดอยู่ในอ้อมกอดแข็งแกร่ง แม็กซ์เวลล็อคเขาแน่นราวกับรู้ว่ามีคนกำลังอยากหนีออกไปจากห้องนี้ โว้ยยย...ที่เขาอยากหนีออกไปก็เพื่อความปลอดภัยแก่ทุกฝ่าย อยากเห็นแมวกลายร่างเป็นคนหรอฟะ มันไม่ตลกเลยนะ!



“มิวมิวเป็นอะไร ใครทำอะไร”



สิ่งมีชีวิตสีขาวไม่สนใจ ยกขาตะกุยตะกายพยายามจะเปิดประตูกระจกออกให้ได้ แต่เพราะมือแมวไม่สามารถขยับได้ดั่งใจเขาถึงเปิดไม่ออกซักที บ้าจริง! กระโดดเอาหัวโหม่งให้กระจกแตกไปซะเลยดีมั้ย



“มิวมิว...กลัวอะไร”



อีกหนึ่งนาที



“เมี้ยวว!”

“เป็นแผลหรอ?”



สามสิบวินาที



“ม๊าว ม๊าว”



เสียงเกาประตูกระดังขึ้นแกร้กกร้าก เข็มนาฬิกาค่อยๆ เคลื่อนขยับอย่างเนิบนาบ ราวกับว่าเขาสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของเข็มนั้นอย่างเชื่องช้า หัวใจเต้นแมวน้อยรุนแรงคล้ายจะระเบิดออกมาเสียเดี๋ยวนี้

สิบวินาที



“มิวมิวหยุดเกา เล็บจะเสีย”

“เมี้ยวววว!”



ห้าวินาที

เขาต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อออกไปจากห้องนี้ให้ได้!! เหมียวน้อยวิ่งวุ่น มันต้องมีซักช่องทาง ประตู หน้าต่าง บ้าชะมัด! นอกจากประตูกับระเบียงแล้ว ห้องของหมอนี่ก็ไม่มีทางออกไหนอีกเลย…

ปุ้งง!

เสียงคล้ายระเบิดเล็กๆ ดังขึ้นช่วงอึดใจ ควันสีขาวลองฟุ้งออกมาตรงหน้าประตูระเบียงที่ปิดสนิท บุรุษในชุดสีเดียวกับควัน พร้อมกางเกงขาสั้นและถุงเท้าสีเดียวกันค่อยๆ โผล่พ้นออกจากม่านควัน

ฝ่ามือเนียนสะอาดยกถูจมูกที่คล้ายกำลังสำลักควันค่อกแค่ก

คงจะไม่ทันแล้วจริงๆ จะฝันดีฝันร้ายคงต้องวัดกันตรงนี้



“คะ...คุณ มะ...มิวนิค!! ”



มนุษย์แว่นเอ่ยอย่างอ้ำๆ อึ้งๆ ส่วนคนถูกทักนั้นตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มจางๆ แหยะๆ ไม่รู้ว่าตอนนี้ควรยิ้มได้เต็มปากหรือเปล่า การเจอกันครั้งแรกอย่างเป็นทางการ...



“...ไง”





//มีต่อจ้า

ออฟไลน์ WickedWish

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-5

ʕ = •́ .̫ •̀ = ʔ


มิวนิคนั่งมองคนตัวโตที่กำลังนอนหลับไร้สติอยู่บนเตียง เป็นเขาที่ลากอีกฝ่ายขึ้นมาเอง ก็ต้นเหตุทั้งหมดที่ทำให้แม็กซ์เวลนอนสลบไสลอยู่ตอนนี้ก็เป็นเพราะเขานี่หว่า

คิดว่ามนุษย์แว่นคงหลับไม่นาน แต่พอเวลาผ่านไปเรื่อยๆ เขากลับเริ่มง่วง สุดท้ายก็ทิ้งตัวนอนลงบนพื้นที่ว่างข้างๆ กันอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก็นะ...อยากอธิบายแทบตายแต่ความง่วงดันมีมากกว่า

เขาตื่นขึ้นมาในตอนเช้าภายในอ้อมอกอบอุ่น ซุกหน้าขยับยุกยิกสูดดมกลิ่นกายเฉพาะตัวอยู่นาน ก่อนจะรับรู้ได้ว่าตนเองกำลังนอนหนุนอกแม็กซ์เวลอยู่ มิวนิครีบผลักร่างออกทันที...ฉวยโอกาสอีกแล้วสินะ

แย่จริงๆ เลยมิวนิค

แต่คงไม่ทัน...เพราะใครบางคนบังเอิญลืมตาตื่นขึ้นมาพอดี



“คะ...คุณมิวนิค!!”



แม็กซ์เวลขยี้ตาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนคนมองต้องยื่นมือไปกุมมืออีกฝ่ายให้หยุด กลัวลูกกะตาของใครบางคนจะหลุดออกมาเสียก่อน อีกฝ่ายทำหน้าเลิ่กลั่กราวกับไก่ตื่น เป็นสีหน้าเฉิ่มเบ๊อะอย่างที่เขาตั้งให้อีกฝ่ายขึ้นมาเองเมื่อนานมาแล้ว คิดว่าจะเลิกเฉิ่ม ที่ไหนได้...ยังเฉิ่มอยู่ตลอดเลย



“ตะโกนทำไม อยู่ใกล้กันแค่นี้” เจ้าของชื่อขมวดคิ้วมุ่น

“คะ...คุณเข้ามา หะ...ห้องผม ดะ...ได้ยังไงครับ!”

“พูดให้รู้เรื่องได้มั้ย”

“คุณ...เอ่อ..เข้ามา ได้..ยะ...ยังไงครับ!”



จะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็เหมือนเดิม มนุษย์แว่นไม่อาจปกปิดอาการกระอักกระอ่วนที่มีออกมาได้ มิวนิคจิ๊ปากขัดใจ เขาอยากให้แม็กซ์เวลเป็นตัวของตัวเองเหมือนอย่างที่อีกฝ่ายเคยเป็น เขาหมายถึง...

เป็นแม็กซ์เวลของมิวมิว

แต่ในเมื่อสาเหตุทุกอย่างมันมาจากเขา ครั้นจะให้คนคนนึงที่แอบชอบคนคนนึงมาทำตัวปกติเวลาเจอคนที่แอบชอบอยู่ตรงหน้าก็คงไม่ใช่ แย่จัง...ทำไมการเป็นมิวนิคถึงกลับยากกว่าทุกทีนะ...



“อยู่ที่นี่ตั้งแต่แรกแล้ว”

“คะ...คุณมิวนิค ผม...ไม่ตลกนะครับ...”

“แล้วเราตลกหรอ”



กอดอกมองหน้าเจ้าของแว่นตาหนาเตอะ ความวูบไหวของลูกนัยน์ตาสีดำทำเอาเขาต้องกัดริมฝีปากสะกดกั้นรอยยิ้ม ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน...ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขากลายมาเป็นรู้สึกเอ็นดูความเด๋อด๋านั่น



“ขะ...ขอร้องล่ะครับ ผม...ผมทำอะไรไม่ถูกแล้ว ยะ...อย่าแกล้งผม”



ฝ่ามือที่เล็กกว่าเอื้อมวางทาบลงบนปีกไหล่แข็งแรง ผลักคนที่กำลังก้มหน้างุดให้แผ่นหลังชนกับกำแพงสีเทา เรียวขายาวก้าวขึ้นคร่อมจนชายใต้ร่างหลุดความเงอะงะไม่ทันได้ตั้งตัว



“คะ....คุณมิวนิค ทะ...ทำอะไรครับ!”



จุ๊บ!



ริมฝีปากสีสดแตะประทับลงบนริมฝีปากชายหนุ่มเด๋อด๋าแทนคำตอบ เพียงแค่ชั่วอึดใจทุกอย่างก็ถูกไถ่ถอนออก ปลายจมูกจิ้มลิ้มพอดิบพอดีหอมฟุดฟิดคลอเคลียลงตามซอกคอกลิ่นเฉพาะตัวอย่างที่เคยทำเป็นประจำ

อย่างที่...เหมียวน้อยบางตัวเคยทำเป็นประจำ



“มะ...ไม่ใช่!!”



แม็กซ์เวลผลักเขาออกทันควันเมื่อเริ่มได้สติ แต่มิวนิครู้ดีว่าเจ้าตัวไม่ได้รู้สึกอย่างที่พูด ความสับสนบนใบหน้าและดวงตาวูบไหวคือหลักฐานชั้นดี ถึงสมองจะสั่งให้ปฏิเสธความเป็นจริงที่กำลังเห็น ทว่าสำหรับหัวใจนั้นไม่มีวัน แม็กซ์เวลต้องรู้สึกได้ว่าเขาคือใคร และเป็นอะไรกับอีกฝ่าย



“ทำไมถึงไม่ใช่…”



มิวนิคเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้จนคนเด๋อหมดทางหนี กลิ่นกายของชายหนุ่มที่ผสมกับกลิ่นมิ้นท์ของเทียนหอมในห้องช่างชวนให้อยากดมไปทั้งวัน ไอ้เทพเจ้าปู่แมวกำลังดูอยู่หรือเปล่า เขากังวลใจเหลือเกิน

กลัวคนอื่นจะรู้ว่ามิวมิวเป็นแมวแรด



“…..”

“เราก็กลายร่างเป็นมิวนิคให้นายเห็นต่อหน้าต่อตาเมื่อคืนแล้วนี่ มันจะไม่ใช่ได้ยังไง”

“ระ...เรื่องแบบนี้ มะ...มันมีแต่ในละคร ทะ...เท่านั้นครับ!” มนุษย์แว่นเบือนหน้าหนี



วินาทีนั้นเขาสังเกตเห็นถึงความเห่อแดงที่ลามไปทั่วกกหู นั่นสินะ...

หมอนี่แอบชอบเขา

ไม่แปลกเลยที่อีกฝ่ายจะเขิน ก็เล่นสกินชิพแถมยังจูบเสียขนาดนั้น เฮ้อ...เขาไม่ได้อ่อย ก็ตาทึ่มตรงหน้าตัวใหญ่อย่างกับหมี น่าอ้อนจนทนไม่ไหว แล้วไม่รู้ว่าเป็นอะไรถึงนดันอยากอ้อนอีกฝ่ายนัก

โรคมิวมิวช่างอันตราย



“แล้วมิวมิวหายไปไหน?”



แม็กซ์เวลเหลือบมองบานประตูระเบียงที่ยังปิดสนิท เม้มปากแน่นก่อนจะค่อยๆ ตอบออกไป “อะ...อาจจะออกไปเล่นข้างนอกครับ”

มิวนิครู้ดีว่านั้นคือคำโกหกอีกแล้ว มิวมิวไม่ได้ออกไปไหน มิวมิวก็ยังคงอยู่ในห้องแห่งนี้ นอนอยู่บนเตียงแห่งนี้ ข้างๆ กับเจ้าของตัวโตคนนี้ เพียงแค่ไอ้เจ้าของซื่อบื้อเลือกที่จะผลักไสเขาออกไปโดยการไม่เชื่อ



“ไม่แปลกใจหน่อยหรือไงที่เรารู้ชื่อแมวนาย”

“!” คนฟังหลบสายตา ซุกซ่อนความประหลาดใจ ก้มหน้าครุ่นคิดถึงประโยคดังกล่าว

“...นายมาซื้อของอะไรซักอย่างที่ร้านเฟอร์นิเจอร์ แล้วนายก็เจอเรานอนข้างถังขยะในซอกตึก”



นัยน์ตาสีดำเบิกโพล่ง เงยมองเจ้าของใบหน้าอันมีเสน่ห์ แน่นอนว่าที่มิวนิคพูดมานั้นไม่มีใครเคยรู้นอกเสียจากมิวมิวและแม็กซ์เวล จะมีก็เฉพาะเพื่อนในกลุ่มที่รู้ว่ามิวมิวถูกเก็บมาจากไหน แต่แม็กซ์เวลก็ไม่เคยเล่ารายละเอียดถึงขั้นเจอมิวมิวนอนข้างถังขยะ



“นายซื้อปลากระป๋องกับน้ำเปล่ามาให้เรา แต่เราไม่ยอมกิน” มิวนิคลอบถอนหายใจ “ก็ใครจะไปกินลงเล่า เย็นก็เย็น ดิบก็ดิบ ถึงเป็นแมวก็เลือกกินนะ”



“……”

“แล้วหลายวันถัดมานายก็มาอีก แต่นายไม่เห็นเรา เลยฝากอาหารที่ซื้อมาไว้กับน้องพนักงานร้านกาแฟ”

“คะ...คุณมิวนิค”

“เป็นวันฝนตก ในมือนายถือถุงเค้ก จ้องมองเราที่นอนหมดแรงอยู่ข้างถังขยะ” ดวงตาของคนทั้งคู่สบประสานกัน “นายเลือกที่จะอุ้มเราขึ้นมาโดยไม่รังเกียจความสกปรก นายรับเรามาเลี้ยงไว้ที่หอแห่งนี้ เป็นสัตว์เลี้ยงของนาย เราอยู่ด้วยกัน อยู่ด้วยกันมาตลอด…”

“เรื่อง...บะ..แบบนี้ มัน”

“ครั้งแรกที่เราจูบนาย นายตกใจชะงักไปซักพัก แต่สุดท้ายก็อมยิ้ม พอครั้งต่อๆ ไปเราก็ชอบแกล้งจูบนายอีก ไม่ใช่แค่จูบนะ...บางทีเราก็ขึ้นไปนอนบนตัวนาย ก็ตัวนายมันหอมนี่หว่าให้ทำไงอ่ะ”



ไม่เพียงใบหู วินาทีนี้คนฟังหน้าร้อนเห่อไปหมด แม็กซ์เวลเหมือนถูกแทะโลมด้วยคำพูดร้ายกาจ และมิวนิคก็รู้ดีว่าตนเองกำลังทำอะไร เขาไม่ได้แกล้ง…

ก็ชอบทำอย่างที่ว่าจริงๆ



“ถ้ายังไม่เชื่องั้นเล่าเรื่องออกกำลังกายก็ได้” มิวนิคขมวดคิ้วเพราะเริ่มเหนื่อย “ทุกวันตอนห้าโมงเย็น นายจะชอบทำบอดี้เวทข้างเตียง นายชอบถอดเสื้อออกจนเหลือแค่บ็อกเซอร์ วิดพื้นประมาณห้าเซ็ต ต่อด้วยซิทอัพอีกห้าเซ็ต วันไหนฟิตๆ ก็จะมีกระโดดเชือกประมาณสามร้อยครั้ง นายชอบเล่นทุกส่วนให้พอดีเสมอกันไม่เยอะจนเกินไป แล้วก็เวลาอาบน้ำ นายจะชอบถอด....”

“พะ...พอแล้วครับ!! เชื่อแล้ว ผม...เชื่อแล้ว”



มันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วแม็กซ์เวล ทุกสิ่งล้วนเป็นความจริงที่นายควรรับรู้มาโดยตลอดในซักวันใดวันหนึ่ง เพียงแค่จะเร็วหรือช้า...แต่ก็เร็วกว่าที่คิดไว้มากโข และเขาดันควบคุมอะไรไม่ได้เลย



“คุณ...เป็นตัวอะไรกันแน่”

เจ้าของชุดเสื้อยืดสีขาวย่นหน้าผาก “…ก็เป็นคนเหมือนอย่างนาย”

“มะ...ไม่ใช่! คุณทำแบบนี้ทำไม คุณแปลงเป็นมิวมิว....มะ มาหลอกผม”



นัยน์ดำสนิทค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความแข็งกร้าว มิวนิคไม่รู้ว่าแม็กซ์เวลกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ที่แน่ๆ อารมณ์ของคนตรงหน้ากำลังถูกหล่อหลอมไปด้วยความไม่พอใจ



“คำสาป”



เขาตอบสั้นๆ คำที่แทนความหมายของเรื่องราววุ่นๆ ทั้งหมด



“คะ...คำสาป?”

“คุณหมอ...ในโลกใบนี้ไม่ใช่ทุกอย่างหรอกที่จะสามารถพิสูจน์ได้ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์” มิวนิคอมยิ้มจางๆ หากแต่เศร้าหม่น “มีหลายเรื่องเลยที่นายยังไม่รู้ ไม่สิ...มีหลายเรื่องที่มนุษย์ยังไม่เคยรู้”



เขาตัดสินใจเราเรื่องทั้งหมดให้แม็กซ์เวลฟังโดยปราศจากความลังเล ทั้งเรื่องของคำสาปที่ถูกทำให้กลายเป็นแมวพันธ์ขาวมณี ทั้งเรื่องเงื่อนไขการค้นพบความหมายของชีวิต อาจเพราะหมอนี่เป็นหนึ่งในบุคคลที่สมควรรู้เรื่องราวทั้งหมด เขาจึงไม่รู้สึกอึดอัดที่จะเล่าไป

แล้วไปเอาความมั่นใจตั้งขนาดนั้นมาจากไหนกันมิวนิค...



“ผะ...ผมว่าเรื่องแบบนี้มัน...”

“มันทำไม?”

“ผมว่า...คุณควรไปหาหมอ อย่างน้อย...ให้ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์...”

“วิเคราะห์ วิเคราะห์อะไร!?”

“กะ...ก็ร่างกายคุณ มันอาจเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่....”



แต่สงสัยเขาคงจะคาดการณ์ผิดมหันต์ โลกนี้ไม่มีความสมบูรณ์แบบจริงๆ หรอก ขนาดคนที่เขาคิดว่าจะไม่มีวันทำร้ายยังกลับผลักไสให้เขาไปหาหมอ ทั้งๆ ที่ก็เห็นมากับตาว่าเขาไม่ได้ป่วย ทุกๆ อย่างเป็นผลจากคำสาป คนที่อยู่ด้วยกันมาตลอด หาข้าวให้กินทุกวัน อาบน้ำให้ทุกครั้งที่งอแง อุ้มเขาขึ้นมากอดในวันที่หวาดกลัว

มิวมิวกับมิวนิคไม่ใช่สิ่งเดียวกันเลย



“คะ...คุณมิว คะ....คุณจะไปไหนครับ!”



คงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ต่อ ที่ผ่านมาเขาไว้ใจแม็กซ์เวลเทียบเท่ากับสายหมอกเสมอ ไว้ใจถึงขนาดที่คิดว่าต่อให้รู้ความจริง แม็กซ์เวลก็จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง แต่เขาดันลืมคิดไปเสียสนิท

ยังไงเราต่างก็เป็นคนแปลกหน้า...



“ปล่อย! มาจับอะไร”



มิวนิคพยายามแข็งขืนข้อมือที่ถูกคนตัวโตปรี่เข้ามากุมไว้เสียแน่น



“คะ คุณ...จะไปไหนครับ”

“กลับบ้านไง นายอยากอยู่กับตัวประหลาดอย่างเรางั้นหรอ”



คนฟังนิ่งชะงักไปครู่หนึ่ง มิวนิครู้ดีว่าจุดอ่อนของแม็กซ์เวลคือการถูกพูดตรงๆ ถึงจะเป็นแค่สัตว์เลี้ยงกับเจ้าของ แต่ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน เขาเข้าใจลักษณะนิสัยของผู้ชายคนนี้ดี เขาถึงเลือกพูดออกไปตรงๆ



“เราไม่อยากไปให้หมอหรือผู้เชี่ยวชาญอะไรพวกนั้นตรวจ!” เขาพยายามสะกดกั้นความรู้สึกแย่ๆ ที่เคยเจอไม่ให้ล้นทะลักกลับออกมา “นายรู้มั้ยว่าวันที่นายไม่เอาอาหารมาให้เรา เราเจอกับอะไร”

“.....”

“เราเจอแก๊งค์จับแมวที่โกหกว่าเป็นนักอนุรักษ์แมว เราโคตรกลัวเลยนายรู้ปะ แล้วนายยังคิดจะให้เราออกไปเจอผู้เชี่ยวชาญหรือหมอวิเคราะห์ร่างกายอีกหรอ ที่เป็นอยู่ตอนนี้มันยังประหลาดไม่พออีกหรอ”

“คุณมิว....”

“ขอร้องล่ะ เห็นแก่เราที่เป็นเพื่อนมนุษย์หรือที่เคยเป็นมิวมิวของนายก็ได้ อย่าตามใครมาจับเราอีกเลย เรายอมกลับไปเป็นแมวจรจัดข้างทางเสียยังดีกว่า พอถึงวันอาทิตย์เดี๋ยวเพื่อนเราก็คงมารับ อีกอย่าง...ไม่นานคำสาปก็คงคลาย”



คำพูดที่ปราศจากหลักฐานรับประกัน ถ้าอย่างน้อยแม็กซ์เวลไม่อยากเลี้ยงเขาแล้วก็ขอให้อย่าทำร้ายกันอีกเลย ขออยู่เงียบๆ เป็นแมวขาวมณีตัวเดียวที่ไม่มีใครเข้ามาวอแว



“ละ...แล้วคุณจะไปอยู่ไหน”

“เป็นแมวมันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดหรอก”

“มะ...ไม่พูดแบบนั้นสิครับ”

“อะไรของนายวะ”

“คือ...” เจ้าของแว่นตาหนาเตอะก้มหน้างุด กัดริมปากใช้ความคิด นิ้วชี้ยาวยกเกาแก้มเก้อๆ เหมือนมีคำพูดมากมายเต็มไปหมด “ถ้าไม่รังเกียจ...กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมเถอะครับ”

“...ก็คนที่รังเกียจมันนายไม่ใช่รึไง”

“ผม...ก็แค่ตกใจ จู่ๆ มิวมิวของผมก็กลายเป็นคุณมิวนิค...”

“เอายังไงกันแน่ ให้อยู่หรือไม่อยู่”

“หะ...ให้ครับ...ให้อยู่”

“ตอบชัดๆ มองหน้าเราด้วย”



มิวนิคเชยปลายคางของคนที่กำลังก้มหน้างุดให้สบประสานสายตา แม็กซ์เวลหูแดงมากๆ ต้องเขินอะไรขนาดนี้กัน แอบชอบเขาขนาดนั้นเลยหรอหมอนี่อ่ะ



“อยู่กับผมนะครับ...คุณมิวนิค”

“ขอเปลี่ยนเป็นตอบคำถามอันก่อนหน้าแล้วกัน”

“.....”

“อื้ม...ไม่เคยรังเกียจเลย”



สุดท้ายแม็กซ์เวลก็คือแม็กซ์เวล แม็กซ์เวลผู้ไม่เคยโกรธหรือรังเกียจไม่ว่าคนตรงหน้าจะเป็นมิวนิคหรือมิวมิว แม็กซ์เวลผู้พร้อมให้อภัยไม่ว่าจะถูกเกเรใส่ซักแค่ไหน ชักจะแย่ซะแล้วสิ...

เขาดันอยากให้หมอนี่ทำตัวแบบนี้กับเขาแค่คนเดียว ; (











      tbc.

ʕ = •́ .̫ •̀ = ʔ








==============================================

หายไปนานมากกกกค่าาาาา ฮืออออ พอดีช่วงนี้งานยุ่งแบบยุ่งสุดๆ เลยไม่ค่อยได้เขียนเท่าไร แต่ยังไงเราจะพยายามบาลานซ์ชีวิตให้ได้นะคะ หมดช่วงมรสุมชีวิตไปก็คงได้กลับมาเขียนแบบติดสปีดเหมือนเดิม ไม่ต้องห่วงเน้อ เค้าจะพยายามเขียนเท่าที่ทำได้ อาจอัพช้าหน่อย แต่ไม่เทแน่นวลลจ้าา

ปล.ถ้าชอบก็ขอคนละเม้นเป็นกำลังใจให้เค้าด้วยน้า

หรือจะติดแท็ก #แปลกไหมถ้าจะคิดอะไรกับแมว มาพูดคุยกันก็ได้เน้อออ

ทุกคอมเม้นเป็นกำลังจัยให้เค้าจีงๆ ๆ ๆ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
งื้ออออออ เขิน

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
แม็กซ์เวล เจ้าทาสที่แท้จริง55

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
อย่ามัวเขินกันค่ะ เดี๋ยวจะไม่ได้กินหมูย่างเกาหลี 555555

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
แม๊กโดนมิวนิคข่มซะหงอเชียว

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
เขินแล้วเขินอีก ขอเขินแทนคุณพระเอก
เจอมิวมิวกลายเป็นมิวนิคแบบนี้ไม่ช็อกก็แปลกแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
โดนอ่อยตายตาแม็ก

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ทาสของจริงคือแม็กเวลจ้า แพ้ทางมิวมิวตลอดไม่ว่าคนหรือแมว
เป็นเรื่องที่น่ารักมากค่ะ จะรอตอนต่อไปจ้า
 :L1:  :pig4:  :L1:

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
ความแตกแบบนี้ คนที่อยู่ยากคือแม็กเวลเลยนะ
เพราะนางคงเขินตลอดเวลา 5555555

ออฟไลน์ AppleA-

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คุยเคลียร์กันแล้วก็พามิวๆไปกินชาบูหมุทะหน่อยสิ สงสาร5555555
ตอนแรกมิวนิคนี่ดูโคตรหยิ่งเลย  แต่พอตอนนี้เป็นมิวมิวขี้อ้อน  น่าร้ากกกกกก

ออฟไลน์ naezapril

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 120
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
มิวมิวหรือมิวนิคก็ป่วนเสมอออ
ขอบคุณ​คนเขียนที่จบตอนได้ดีมาก
รอตอนต่อไปครับ

ออฟไลน์ TheDoungJan

  • ขอบคุณนักเขียนที่คนที่สร้างทุกตัวละครขึ้นมานะคะ(♡˙︶˙♡)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
แม็กเวลล์เป็นทั้งทาสมิวมิวต่อไปก็เป็นทาสคุณมิวนิคแล้ว

 ตอนนี้น่ารักมากๆเลยค่ะ  :katai2-1:

แม็กตกใจจนเป็นลมไปเลยไม่รู้ว่าตกใจที่แมวกลายเป็นคนหรือตกใจที่เป็นคุณมิวนิคกันแน่

 :pig4:

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
กรี๊ดดดด ในที่สุดความจริงก็เปิดเผยยย  :hao7:
แม็กซ์เวลไม่รอดแน่ ต้องโดนมิวนิคอ่อยแหงๆ 555555
ถ้ามิวนิคไม่เอา แม็กซ์เวลมาซบอกแบนๆ ของนี่ได้นะ ฮือ น่าร้าก

ออฟไลน์ meteexp

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ PAtxxkMxxn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1

ออฟไลน์ WickedWish

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-5


Meow 13


อยากให้กลิ่นหมูกระทะตรงหน้าเป็นเพียงแค่ความฝัน ไอควันสีจางที่ลอยผ่านใบหน้าเป็นเพียงห้วงอากาศฟุ้งเฟ้อ ขับกล่อมให้ความฝันที่กำลังรู้สึกเป็นเพียงแค่ความฝันเลือนลาง

เพราะถ้าเป็นความฝัน...ก็เท่ากับว่าเขาถูกขีดเส้นแบ่งเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าความสุขเล็กๆ นี้คงเป็นแค่เรื่องสมมติ ไม่ต้องพะว้าพะวงกับความจริงที่วันนึงอาจหายไป

แต่ไม่เป็นไร จะเป็นความฝันหรือความจริง...ท้ายที่สุดก็คุ้มค่ากับการที่ได้มองคนตรงหน้า

แค่นั้นก็เพียงพอแล้วล่ะ...



“มองอะไรอ่ะ?”

“ปะ...เปล่าครับ”



คุณมิวนิคตัวจริงโคตรน่ารัก

เขาเคยคิดว่าในรูปก็ทำเอาหัวใจเต้นระรัวจนไม่กล้ามองนานๆ แล้ว หากพอเจอตัวจริง...กลับยิ่งทำอะไรไม่ถูกกว่าเดิม คนที่เขาแอบชอบ...เป็นคนเดียวกับแมวน้อยตัวนั้น เป็นคนเดียวกับแมวน้อยมิวมิวจอมขี้อ้อน

งั้นก็หมายความว่าคุณมิวนิคชอบอ้อนเขาอย่างงั้นหรอ



“เขินอะไร?”

“ขะ...เขินอะไรกันล่ะครับ!”

“ก็นายหูแดง ถ้าหูแดงแปลว่าเขิน”

“คุณมิว!” ต้องพูดตรงอะไรขนาดนี้วะคุณ “กะ...กินได้แล้วครับ อยากกินไม่ใช่หรอ”

“อือ...ยืมตังก่อนนะ กระเป๋าตังค์อยู่คอนโด”

“ครับ”



ตอบไปอย่างเต็มใจ ตอนเป็นมิวมิวเขาก็เลี้ยงเจ้าตัวทุกอย่างอยู่แล้ว ตอนเป็นมิวนิคก็คงไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาเหมือนกัน นี่น่ะหรอความสุขเวลาได้เห็นคนที่เราชอบกิน

หลังจากปรับความเข้าใจกันจนรู้เรื่อง คุณมิวนิคก็บ่นไม่หยุดว่าอยากกินหมูกระทะแบบเกาหลี สงสัยคงเป็นผลพวงมาจากการที่เขาพาอีกฝ่ายดูเรื่อง Let’ s eat ทุกคืน นึกแล้วก็ดีใจแปลกๆ มันเหมือนกับว่าคุณมิวนิคอินไปกับทุกกิจกรรมในช่วงชีวิตของเขา

แย่แล้วจริงๆ แม็กซ์เวล



“อะ...อะไรครับคุณมิวนิค” มองชิ้นเบค่อนที่ถูกคีบวางลงบนจาน

“คีบให้ไง เห็นไม่กินซักที เดี๋ยวไม่คุ้มเงินหรอก”

“ผม...คีบเองได้ครับ...”

“ก็จะคีบให้ จะทำไม”



คิ้วยุ่งที่กำลังขมวดอย่างไม่จริงจังนักทำเอาแม็กซ์เวลต้องกัดริมฝีปากกลั้นยิ้ม เหมือนกันทั้งร่างคนร่างแมว หยิ่งแต่จริงๆ แล้วน่ารัก ขนาดเมื่อก่อนที่รู้จักแค่ในนามมิวมิวยังอันตรายต่อหัวใจขนาดนี้ แล้วต่อจากนี้ที่รู้จักในนามคุณมิวนิคเขาจะเอาตัวรอดจากอาการหัวใจวายได้ยังไงกัน



“เอ่อ...ขอโทษนะครับ”

“ขอโทษเรื่อง?” คนที่กำลังเคี้ยวอาหารตุ้ยๆ กระพริบตาสงสัย

“ก็ที่...ผมเอาแต่ปลาให้คุณมิวนิคกิน...”

“เรียกมิวเฉยๆ ดิ ตอนแรกยังเห็นเรียกเลย”

“คือ...ผมว่ามันไม่น่าเหมาะ...”

“ไร้สาระน่า ชื่อเราทั้งคู่มันยาว เพราะงั้นเรียกสั้นๆ นี่แหละ เราก็จะเรียกนายว่าแม็กซ์เหมือนกัน”

“อะ...เอ่อ”

“เรียกได้มั้ย?”



แม็กซ์เวลว่าพร้อมยกนิ้วเกาแก้มเก้อๆ เท่ากับว่าคุณมิวนิคให้ความสนิทสนมกับเข้าขึ้นมาในระดับหนึ่งเลยงั้นสิ คิดแล้วหัวใจก็เต้นตึกตัก บ้าจริงเชียว...แค่ได้อภิสิทธิ์เรียกคุณมิวเฉยๆ ก็ใจเต้นง่ายดาย



“คะ...ครับ คุณมิว”

กระจอกว่ะตัวเขา

“ส่วนเรื่องปลา” มิวนิคพูดพลางคีบชิ้นเนื้อสุกๆ วางลงบนจานเขาอีกครั้ง “แม็กซ์ไม่ผิดซะหน่อย ก็แม็กซ์ไม่รู้นี่ว่าเราเป็นคน ใครจะเลี้ยงแมวด้วยหมูกระทะทุกวันก็ไม่ใช่”



สาบานเลยว่าไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องให้ปลาทู



‘แม็กซ์ไม่ผิดซะหน่อย’ ‘ก็แม็กซ์ไม่รู้…’ อื้ม...ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ เขาหมายถึง...ไม่คิดว่าการที่คุณมิวนิคแทนชื่อเขาด้วยคำว่าแม็กซ์สั้นๆ แบบนี้จะรุนแรงต่อหัวใจขนาดนี้ นี่มันเหมือนกับเป็นแฟนกันเลยไม่ใช่รึไงครับคุณ!

“อะไรวะ หูแดงอีกละ”

“ผะ...ผมเปล่า”

“ก็เห็นอยู่ว่าหูแดง นี่ยังไม่ได้หยอดอะไรเลย อยู่ดีๆ ก็เขิน”

“คุณมิวกินได้แล้วครับ!!” ชายหนุ่มขึ้นเสียงดังกลบเกลื่อน



ที่ยิ่งเขินก็เพราะคุณมิวนิคจับได้ว่าเขินนี่แหละ เป็นเพอร์เฟ็คชั่นนิสต์ด้านศิลปะแล้วจำเป็นจะต้องเป็นเพอร์เฟ็คชั่นนิสต์ด้านการอ่านภาษากายด้วยรึเปล่า พอเถอะคุณ...แค่นี้หัวใจเขาก็ทำงานหนักมากพอจะแย่แล้ว



“แล้วโน่มันก็ชอบพาเราออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก...”



ตลอดช่วงปาร์ตี้หน้าเตา คนที่เคี้ยวหมูย่างจนแก้มตุ่ยก็เอาแต่เล่าเรื่องชีวิตตอนเป็นแมวให้ฟังเจื้อยแจ้ว คงอึดอัดจริงๆ นั่นแหละที่ไม่สามารถเล่าเรื่องนี้กับใครได้ ครั้นจะเล่าให้เพื่อนสนิทที่ชื่อสายหมอกฟัง ฝ่ายนั้นก็คงไม่อินอีกล่ะมั้ง แต่ก็ดีแล้ว...ขอแค่เป็นคุณมิวนิค

ถ้าเป็นคุณมิวนิค...เขาพร้อมฟังทุกเรื่องเลย



“แต่ที่ชอบที่สุดก็คงเป็นทุ่งดอกเดซี่บนดาดฟ้า มันสวยมากๆ เลย”

“หึ”

“ยิ้มไรอ่ะ?”

“ปะ...เปล่าครับ เล่าต่อเถอะ”



คุณมิวนิคเปลี่ยนไปเยอะมาก ไม่เย็นชาเหมือนกับครั้งแรกที่เจอกัน ไม่มีซึ่งท่าทีร้ายกาจราวกับเป็นคนละคนที่โยนช่อกุหลาบทิ้งลงถังขยะอย่างไม่ใยดีในวันนั้น บางทีอาจเป็นเพราะเราสนิทกันรวดเร็วผ่านมิวมิว...ตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่ายจึงถูกเปิดเผยออกมาอย่างง่ายดาย

ถ้าเป็นแบบนั้น...

เขาสามารถเรียกตนเองว่าเป็นความสบายใจของคุณมิวนิคได้หรือเปล่า?



“เดินเที่ยวเป็นเพื่อนหน่อยสิ เป็นแมวไม่ค่อยได้เที่ยวห้างเลย”

“ครับ”



กว่าใครบางคนจะอิ่มก็หมดเนื้อไปหลายชุด ตัวแค่นี้แต่กินเยอะใช่เล่น หากพอลองเทียบดูแล้ว จริงๆ คุณมิวนิคก็ไม่ได้เป็นคนตัวเล็กเลย ส่วนสูง180 ซึ่งก็น้อยกว่าเขาแค่ห้าหกเซ็น ร่างกายสมส่วนเหมือนๆ กับผู้ชายทั่วๆ ไป ทว่าพอยืนข้างกัน...คุณมิวนิคกลับดูตัวเล็กลงแปลกๆ

น่าจะเป็นเรื่องของกล้ามเนื้อ เพราะคุณมิวนิคไม่ได้เล่นหน้าท้องหรือกล้ามอกเหมือนเขา สัดส่วนอีกฝ่ายจึงดูบางกว่าอย่างมาก แขนนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย...เล็กกว่ากันหลายเท่า แต่ก็ดีแล้วแหละ...ตัวบางๆ แบบนี้ก็...

น่ารักดี



“ยิ้มอะไรอีกล่ะ?”



คนที่กำลังหยิบจับกล้องโพราลอยด์ผลิกไปผลิกมาว่าพร้อมขมวดคิ้มมุ่น ทำตัวอย่างกับแมวเชียวล่ะ ติดนิสัยมิวมิวมาหรือยังไงกัน แต่จะเรียกว่าติดไม่ได้เพราะมิวมิวกับมิวนิคคือคนคนเดียวกัน



“ปะ...เปล่าครับ”



แม็กซ์เวลตอบขณะยกแก้วชาไข่มุกที่ถูกใครบางคนคะยั้นคะยอให้ซื้อด้วยกันขึ้นดื่มเก้อๆ



“ชอบเรามากปะ?”

“แค่กๆ ๆ!!”



แทบจะพ่นสิ่งที่กินเข้าไปทั้งหมดออกมาตรงนั้น อยู่ๆ ก็ถามเรื่องนี้ขึ้นมาเฉยเลยโว้ยคุณ แล้วดูทำหน้าเข้า เอียงศีรษะสงสัยสี่สิบห้าองศา กระพริบตาปริบๆ นี่มันมิวมิวในร่างคนชัดๆ ถ้ารู้ว่าการเก็บแมวตัวนึงมาเลี้ยงจะอันตรายต่อหัวใจขนาดนี้เขาจะไม่มีวันเก็บน้องขึ้นมาซะหรอก

เอาเข้าจริงตัวเขาจะทำได้อย่างที่คิดหรือเปล่าล่ะ...



“คุณมิวพูดอะไรครับ!” คนถูกถามแหวเสียงหลง มีอย่างที่ไหน...

“ก็แม็กซ์ชอบเราไม่ใช่หรอ แล้วท่าทางเลิ่กๆ ลั่กๆ แบบนั้นแสดงว่าต้องกำลังคิดอะไรถึงเราอยู่แน่ๆ”



เขาเสหน้าอันร้อนผ่าวหนีในตอนที่เราสองคนเปลี่ยนมาเดินข้างกันไปตามทางเดิน ไม่กล้าแม้แต่จะมองใบหน้าอันอยากรู้อยากเห็นของอีกฝ่าย รับไม่ไหว...ขอมิวนิคผู้แสนเหย่อหยิ่งคนเดิมกลับมาแทนได้ไหม



“คะ...คุณจะถามทำไมล่ะครับ…” เหลือบสายตามอง เม้มริมฝีปากแน่น

“อยากรู้ ก็เห็นติดรูปเราไว้บนกำแพงห้อง”

“!!”

“แบบนี้มันผิดกฎหมายรู้เปล่า ขอนุญาตเจ้าของรึยัง?”

“…ครับ ถูกทั้งหมดนั่นแหละ”



พูดเสร็จก็หน้าร้อนขึ้นมาอีกรอบ จะปฏิเสธก็คงไม่เนียนเพราะโดนต้อนจนมุม พยายามสังเกตุท่าทีว่าคนฟังมีปฏิกิริยารังเกียจหรือเปล่า แต่ไม่เลย...คุณมิวนิคอมยิ้ม หมายความว่ายังไง ไม่รังเกียจหรอ?

แต่ความร้ายกาจของจินตนาการมนุษย์นั้นยากแท้หยั่งถึง

จู่ๆ เขาก็คิดเข้าข้างตัวเองขึ้นมาดื้อๆ ...สมมติว่าปฏิกิริยาอย่างนั้นของคุณมิวนิคแปลได้ว่ากำลังชอบเขาอยู่เหมือนกันล่ะ แย่แล้วไง...เขาหมายถึง ตัวเขาเนี่ยที่คิดเข้าข้างตัวเองจนแย่แล้วไง

ใครจะมาชอบหนุ่มแว่นเฉิ่มเบ๊อะแบบนี้วะ



“อื้อ กลับกันเถอะ”

“ไม่...ดูของแล้วหรอครับ?”

“ขี้เกียจแล้ว...แม็กซ์อยากดูหรอ?”

“ปะ...เปล่าครับ”



เดาใจยากจริงๆ จะร่างคนหรือร่างแมวก็เดาใจอยากไปหมด หรือจะเป็นความแตกต่างระหว่างเด็กสายศิลป์กับเด็กสายวิทย์ที่แนวคิดไม่มีวันมาบรรจบกัน? ตรรกะ vs. ศิลปะงั้นหรอ…?



“คะ...คุณมิว ทำอะไรครับ!”



คนตัวโตกลืนน้ำลายดังเอื้อกเมื่อมือของใครบางคนยื่นมาเกาะกุมให้เดินไปยังลานจอดรถด้วยกัน แต่สิ่งที่ทำให้ก้อนเนื้อในอกด้านซ้ายทำงานอย่างหนักก็คงจะเป็นการที่ศีรษะของใครบางคนทิ้งแหมะลงมาตรงลาดไหล่เขาอย่างไม่ทันตั้งตัว ถูไถไปมาคล้ายกับออดอ้อน จมูกโด่งเข้ารูปดอมดมฟุตฟิตพลางหลับตาพริ้มอีกดุจดั่งมีความสุข คุณมิวมิวเป็นอะไร!

ชักจะเยอะเกินไปแล้วนะคุณ



“ก็ทำทุกวัน”

“ทะ....ทำอะไรครับ!” ว่าด้วยน้ำเสียงขึงขัง พยายามผละอีกฝ่ายออก “ช่วยเอาหัวออกไปด้วยครับ!”

“อะไรวะแม็กซ์ ตอนเป็นมิวมิวยังทำได้เลย”



แม็กซ์เวลย่นหน้าผากใช้ความคิดหลังจากปะติดปะต่อเรื่องราวอยู่ครู่หนึ่ง ทำแบบที่มิวมิวทำของอีกฝ่ายคงหมายถึงการคลอเคลียงั้นหรอ? ให้ตายสิคุณมิวนิค ถึงจะเป็นคนคนเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามิวนิคจะสามารถปฏิบัติกับเขาได้เหมือนกับมิวมิวหมดทุกข้อหรอกนะ!



“ก็...ตอนนั้นผมยังไม่รู้ว่ามิวมิวเป็นคุณ...”

“พูดงี้คือจะไม่ให้ทำใช่มะ?”

คนโดนห้ามขมวดคิ้วยุ่งไม่พอใจ นั่นไง...วิญญาณจอมดื้อเข้าสิ่งร่างแล้ว เอาแต่ใจที่หนึ่งเชียวล่ะ

“คุณมิว...”

“พูดมาเลยดีกว่าว่าจะให้ทำหรือไม่ให้ทำ” จอมดื้อปั้นหน้าดื้อขึ้นไปกันใหญ่



คุณนั่นแหละพูดมาเลยดีกว่าว่าจะเอายังไงกับเขา! จะให้เป็นเจ้านายหรือให้เป็นเพื่อนหรือให้เป็นอะไรกันแน่ เพราะทำแบบนี้มันชัดเจนแล้วไม่ใช่หรอว่ามีแต่แฟนเขาทำกัน ฮึ่มม! แม็กซ์เวลกัดฟันกรอดพลางสบถอยู่ในใจ...เป็นสภาวะกดดันที่อันตรายต่อหัวใจที่สุดในชีวิต



“ดื้อ...”



แต่มีหรอมนุษย์แว่นจะเคยปฏิเสธ ขนาดตอนเป็นมิวมิวยังถูกตามใจจนเสียแมว ยิ่งพอมาเป็นมิวนิคคงไม่ต้องให้พูดถึงเลยว่าเขาจะสปอยล์เจ้าตัวขนาดไหน เฮ้อ...เริ่มเห็นอนาคตอันเลือนลางแล้วของตนเองซะแล้วสิ บางทีเขาอาจไม่ใช่ทาสแมวหรอก

เป็นทาสมิวนิคต่างหาก ; (









//มีต่อจ้า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด