◕‿◕。 เทพบุตรกับหนูอ้วน ◕‿◕。 #ปั้นเกลือ ▹ ▹ ตอนที่ 22 (29.1.62)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ◕‿◕。 เทพบุตรกับหนูอ้วน ◕‿◕。 #ปั้นเกลือ ▹ ▹ ตอนที่ 22 (29.1.62)  (อ่าน 21887 ครั้ง)

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ปั้นจ้างเพื่อนเป็นสายสืบหรือเปล่านะ รู้เรื่องเกลือดีจังเลย  o18

ออฟไลน์ merizel-rada

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-0
ตอนที่ 11


   “กินข้าวหรือยัง”
   “กินขนมปังแล้ว”
   “ทำไมไม่กินข้าว”
   “อ่า...” ผมมองคนถามที่มองมา ก่อนจะตัดสินใจว่าจะกินข้าวอีกคงไม่เป็นไร เพราะแค่ขนมปังก็ไม่ได้ทำให้ผมอิ่มเท่าไหร่นัก “งั้นเดี๋ยวกินข้าวก็ได้”
   ดูเหมือนปั้นใจจะพอใจกับคำพูดของผม เขาจึงลุกขึ้นทำให้ผมลุกตาม และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมกับเขากินข้าวเช้าพร้อมกันอีกแล้ว
   “จะไปด้วยเหรอ”
   “ก็จะไปซื้อข้าว...”
   “ซื้อให้มั้ย”
   “มะ...ไม่เป็นไรดีกว่า เราไปเลือกเอง...” ผมว่าพลางมองคนตรงหน้าที่อาสาขึ้น โชคดีที่ปั้นใจเองก็ยอมง่ายๆ ก่อนจะเดินนำผมออกไป ผมเองก็เดินตามเขาไปเงียบๆ ก่อนที่เราจะมาถึงที่ร้านข้าวแกง ซึ่งวันนี้คนเยอะเลยทำให้คิวยาว แต่สุดท้ายทั้งผมและเขาก็ได้ข้าวมาคนละหนึ่งจาน “คิดถึงข้าวร้านนี้...”
   “อืม”
   “ปั้นสั่งอะไรมาอ่ะ...”
   “ผัดผัก”
   “อ่า...” ผมมองของในจานของปั้นใจแล้วก็แอบถอยออกมาเพราะตัวเองไม่ชอบผักนัก เลือกกินแค่บางชนิด “สุขภาพดีสุดๆ”
   “แล้วเลือกอะไรมา”
   “หมูทอดอ่ะ” ผมว่าพลางโชว์ของในจานบ้าง ทำให้ปั้นใจหลุดยิ้มออกมา ก่อนจะแวะซื้อน้ำแล้วเดินนำไปที่โต๊ะ แต่ดูเหมือนเราทั้งคู่จะเดินกันยังไม่ได้ครึ่งทางก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีเพื่อนต่างคณะเดินเข้ามาทักทาย
   “ไงปั้น”
   ทักทายปั้นใจล่ะ...
   “ไง”
   “สวัสดีเพื่อนของปั้น”
   อ่า เขาทักทายผมด้วย !
   “สวัสดีครับ” ผมยิ้มให้กับกลุ่มผู้หญิงตรงหน้า ซึ่งพวกเธอก็ยิ้มกลับมาก่อนจะหันไปมองทางปั้นใจที่ยืนอยู่ข้างๆ ผมเลยหันไปมองเขาที่ดูท่าว่าน่าจะมีธุระกับกลุ่มนี้เข้าให้แล้ว “ปั้น งั้นเดี๋ยวเราถือจานข้าวไปที่โต๊ะให้ก่อนมั้ย”
   “ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะเดินไปด้วย...”
   “เดี๋ยวสิปั้น เราขอเวลาแป๊บเดียว นะ แป๊บเดียวจริงๆ”
   “จะกินข้าว”
   “รับรองว่าไม่เกินห้านาที !”
   “นะๆๆๆๆ” ผมมองกลุ่มผู้หญิงที่ตอนนี้กำลังมองทางปั้นใจอย่างอ้อนๆ ก่อนจะมองมาทางผมราวกับขอความช่วยเหลือ ทำให้ผมที่ไม่รู้จะทำยังไงดีก็ได้แต่ถอยออกมาเล็กน้อย ก่อนที่หนึ่งในกลุ่มผู้หญิงจะเข้ามาดึงแขนผมให้ออกจากตรงนั้น พลางทำท่ากระซิบ
   “พวกเราขอคุยกับปั้นใจแป๊บนึง นายไปก่อนได้มั้ย”
   “อ่า...”
   “ไว้พบกันใหม่นะ”
   ผมมองคนที่ถอยตัวออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเห็นว่าปั้นใจมองมาทางผมเช่นกันแล้วขมวดคิ้ว และทำท่าว่าจะเดินเข้ามาหา แต่กลับโดนหนึ่งในนั้นฉุดแขนไว้
   “ปล่อย !”
   สะ...เสียงดุแล้ว
   ผมรีบหลบสายตาหงุดหงิดของเขาก่อนจะจ้ำอ้าวเดินกลับมาที่โต๊ะทันที ซึ่งพอมาถึงก็ต้องถอนหายใจเมื่อสามารถหนีความวุ่นวายตรงนั้นได้
   ว่าแต่ผมควรรอปั้นใจใช่มั้ย เขาจะกลับมาที่โต๊ะในอีกไม่นานสินะ...
   ผมมองไปทางนั้นอย่างห่วงๆ และดูเหมือนปั้นใจจะไม่สามารถออกมาจากกลุ่มนั้นได้ง่ายๆ พอหันกลับมาทางเดิมก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่ามีพี่ผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงที่ปั้นใจ
   เอ๊ะ...หรือว่าผมมานั่งผิดโต๊ะ...
   ผมรีบหันมองข้างตัว แต่ก็พบกับกระเป๋าของตัวเองอยู่เหมือนเดิม ตรงข้ามก็มีของปั้นใจด้วย เพราะฉะนั้นผมคิดว่าผมไม่มีทางนั่งผิด
   “เอ่อ...มาหาปั้นใจเหรอครับ”
   “มาหาเกลือ”
   “มะ...มาหาผม...” ผมเบิกตากว้างทันที เพราะผมไม่รู้จักคนตรงหน้าแน่ๆ แต่เขากลับเรียกชื่อของผมถูกด้วย
   “อ่า...พี่ลืมแนะนำตัวสินะ พี่ชื่อเพชรอยู่ปีสองสายรหัสสี่สิบสาม”
   “สี่สิบสาม...”
   “อืม” คนตรงหน้ายิ้มให้ผมจนตาหยี ส่วนตัวเองก็ได้แต่ขมวดคิ้วก่อนจะนึกขึ้นได้แล้วก็ต้องเบิกตากว้างอีกครั้ง
   “ผมก็สี่สิบสาม !”
   “ใช่ๆ น้องสี่สิบสาม พี่ก็สี่สิบสาม”
   “พะ...พี่เป็นพี่รหัส...”
   “ใช่ครับ ขอโทษนะ พอดีก่อนหน้านี้พี่ไปต่างประเทศมา น้องคงหาพี่ไม่เจอ...”
   “อ่า...ผมคิดว่าผมไม่มีแล้ว...” ผมพูดออกไป จะว่าดีใจก็ใช่ แต่ก่อนหน้านี้พาฝันเคยช่วยผมตามหาอยู่ แต่ก็หาไม่เจอจนผมท้อและเลิกหาไปเพราะคิดว่าเขาคงไม่อยากรับผมเป็นน้องหรือเปล่า
   “น้องเกลืออย่าทำหน้าเศร้าสิ พี่มาแล้วเนี่ย ซื้อของมาฝากด้วย ไถ่โทษๆ” พี่เพชรว่าก่อนจะยกถุงหิ้วที่มีทั้งพลาสติกและกระดาษขึ้นมาวางบนโต๊ะจนผมต้องเอาจานข้าวหลบ ก่อนที่เขาจะยื่นทั้งหมดมาให้ “ของฝาก ของขวัญรับน้อง หนังสือปีหนึ่งที่จำเป็น พี่เอามาให้หมดเลย”
   “เอ่อ...”
   “มีขนมด้วยนะ”
   พี่เพชรว่าพลางยิ้มจนตาปิดอีกครั้ง ทำให้ผมได้แต่มองเขาพลางยิ้มกลับไป ซึ่งเขาดูเป็นคนอัธยาศัยดี ถ้าตามความเป็นจริงผมก็คงอายุเท่าเขานั่นล่ะ
   “ขอบคุณนะครับ” ผมว่าพลางเอื้อมมือไปรับของพวกนั้นมา ซึ่งมันเยอะมาก เยอะจนผมไม่รู้ว่าเขาเก็บไว้ให้ตั้งแต่ตอนไหน แต่เห็นบอกว่ามีของขวัญตั้งแต่รับน้องแล้วด้วย
   แสดงว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะเมินผมสินะ...
   “ยินดีที่ได้รู้จักนะน้องรหัส”
   “ครับ”
   ผมหลุดยิ้มออกมาเพราะอย่างน้อยพี่รหัสของผมก็ยังยินดีที่จะรับผมเป็นน้องอยู่ ซึ่งผมเคยคิดว่ารุ่นพี่หลายๆ คนใจร้าย แต่คนบางคนก็มักจะพูดว่ามีไม่น้อยที่พี่รหัสนั้นจะไม่สนใจน้องนัก แต่ผมยังโชคดีอยู่ใช่มั้ย
   เพราะได้อยู่กับปั้นใจแน่ๆ
   “มาแล้ว”
   เสียงที่ดังขึ้นบนหัวทำให้ผมสะดุ้ง ก่อนจะต้องเงยหน้าขึ้นไปมองก็พบว่าปั้นใจถือจานข้าวมองมาทางผมกับพี่เพชรสลับกัน และแน่นอนว่าที่เดิมของปั้นนั้นโดนพี่เพชรแย่งไปแล้ว และข้างๆ ตัวผมก็มีของที่ถูกเอามาฝากมากมายจนตอนนี้เต็มโต๊ะไปหมด ก่อนที่พี่รหัสผมจะดูสถานการณ์ออกเขาเลยรีบลุกขึ้นแล้วคืนที่ให้กับเจ้าของเดิมทันที
   “โทดทีๆ มาๆ มานั่งนี่มาน้องเดือนมหา’ลัย” พี่เพชรว่าพลางยิ้มให้ปั้นใจ แต่คนข้างๆ ผมไม่ขยับสักนิด เขาได้แต่มองด้วยความแปลกใจและคิดว่าคงมีเรื่องที่อยากถามแน่ๆ ผมเลยเลือกที่จะพูดขึ้นมา
   “ปั้น นั่นพี่เพชรพี่รหัสเรา พี่เพชรนี่ปั้นใจเพื่อนของผมครับ” ผมพูดทำให้พี่เพชรยิ้มรับทันที แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายน่าจะรู้จักปั้นใจอยู่แล้ว
   “สวัสดีครับ”
   “ดีๆ น้องชาย” พี่เพชรว่าอย่างเป็นมิตร ก่อนจะหันมายิ้มให้ผม ผมเลยได้แต่ยิ้มกลับไป “เสียดายจัง ว่าจะนั่งคุยกับน้องรหัสสักหน่อย ที่ดันเต็มซะละ”
   “เอ่อ...มานั่งกับผมมั้ยครับ เดี๋ยวผมขยับให้” ผมว่าก่อนจะจับกระเป๋าขึ้นตัก แล้วเตรียมขยับไปชิดริม ซึ่งพี่เพชรที่ดูจะเห็นด้วยก็เตรียมจะเดินมาหาผม แต่คนที่ยืนอยู่ข้างๆ ผมกลับดันถุงของฝากทั้งหมดไปอีกฝั่งแล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ผมทันทีที่ผมขยับชิดริม “เอ่อ...”
   “พี่นั่งตรงข้ามนั่นล่ะ เดี๋ยวผมนั่งนี่เอง...ครับ”
   “อ่า...ได้ๆ” พี่เพชรพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ก่อนจะจับถุงที่กองอยู่บนโต๊ะไปไว้ตรงที่นั่งข้างตัวเหมือนเดิม จนตอนนี้โต๊ะก็โล่งแล้ว ส่วนปั้นใจนั้นก็ช่วยเอากระเป๋าบนตักของผมไปวางไว้ฝั่งเขาที่มีที่ว่างเหลืออยู่ จนตอนนี้คงได้เวลากินข้าวแล้วจริงๆ
   “เอาผัดผักหน่อยมั้ย”
   “หืม...” ผมหันไปมองคนข้างๆ ที่มองมา ซึ่งผมก็เพิ่งจะสังเกตว่าผัดผักในจานของปั้นใจนั้นเยอะมาก จนผมคิดว่าเขาน่าจะเลือกสั่งแบบพิเศษสำหรับกับอย่างเดียวมา แต่พอมองหน้าปั้นใจผมก็เข้าใจทันทีว่าเขาคงสั่งมาเผื่อผมแน่ๆ ซึ่งตอนแรกผมที่ตั้งใจว่าจะปฏิเสธเพราะไม่ชอบกินผักก็ต้องพยักหน้ารับ “อือ...”
   “ดีมาก” ปั้นใจเอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆ ก่อนที่เขาจะเริ่มแบ่งผัดผักมาให้ผมส่วนหนึ่ง ซึ่งมันไม่เยอะมาก ผมคิดว่าผมสามารถกินมันหมดได้แน่ๆ ก่อนที่ผมจะหันไปถามเขาบ้าง
   “ปั้นเอาหมูทอดมั้ย”
   อยากแบ่งให้ ถึงผมจะไม่ได้สั่งมาเผื่อเขาก็เถอะ...
   “ไม่เป็นไร” ปั้นใจว่า ก่อนจะเริ่มหันไปกินของตัวเอง ส่วนผมเองนั้นก็พยักหน้ารับก่อนจะกินของในจานบ้าง ซึ่งผัดผักกับหมูทอดเป็นอะไรที่เข้ากันได้ดสุดๆ เลยล่ะ
   คราวหน้าผมจะสั่งเผื่อปั้นใจด้วยแล้วกัน !
   “สองคนนี่สนิทกันดีเนอะ...” เสียงที่สามที่ดังขึ้นทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ามีพี่รหัสของผมนั่งอยู่ด้วย
   แอบลืมพี่เพชรไปช่วงหนึ่งแหน่ะ !
   “สนิทครับ” ปั้นใจที่เป็นคนตอบแทนโดยที่เงยหน้ามองคนถามครู่หนึ่ง ก่อนจะก้มหน้ากินข้าวต่อ ซึ่งผมเองก็ได้แต่ยิ้มรับเพราะไม่รู้จะพูดอะไร และก็แอบดีใจด้วยที่ปั้นใจบอกว่าเราสนิทกัน
   สงสัยคงได้สร้างกลุ่มแชทเพื่อนขึ้นจริงๆ แล้ว
   “อ๋อ ~” พี่เพชรขานรับคำของปั้นใจแล้วหันมายิ้มให้ผม ก่อนจะเริ่มคุยกับผมบ้าง “นี่เกลือ เดี๋ยวว่างๆ พี่พาไปหาคนอื่นในสายรหัสมั้ย”
   “อ่า...ต้องไปด้วยเหรอครับ...”
   “ต้องสิ รู้จักกันไว้ก็ดีนะ”
   “งั้นแล้วแต่พี่เพชรเลย ถ้าพี่คิดว่าดีผมก็ว่าดี...” ผมพูดเพราะไม่รู้จะปฏิเสธยังไง ผมไม่รู้ว่าในรั้วมหาวิทยาลัยต้องทำอะไรบ้าง มีรูปแบบการอยู่ร่วมกับรุ่นพี่เป็นยังไง ขนาดพี่รหัสผมยังเพิ่งได้เจอครั้งแรกเลย
   “อืม...งั้นไว้ถ้านัดพวกพี่ๆ เขาได้จะมาบอกเกลือนะ”
   “ครับ”
   “เกลือมีไลน์มั้ย พี่ขอบ้างสิ” พี่เพชรว่าพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “เผื่อไว้นัดไปเลี้ยงอะไรอร่อยๆ พาไปติวบ้างก็ดี...”
   “ได้ครับ” ผมพยักหน้าก่อนจะรับโทรศัพท์ของพี่เพชรที่เขายื่นมากรอกไอดีไลน์ให้ แล้วยื่นกลับคืนไป
   “ไว้จะทักมาคุยเล่นด้วย จะได้สนิทกัน”
   “ครับ...” ผมพยักหน้ารับ ยอมรับว่าเกร็งบ้างเพราะยังไม่ชินกับพี่เขานัก แต่เชื่อว่าต่อไปผมคงสนิทกับเขาได้กว่านี้แน่ๆ
   เสียงวางช้อนเบาๆ จากคนข้างๆ ทำให้ผมหันไปมอง ก่อนจะต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าปั้นใจกินข้าวหมดแล้ว ในขณะที่ของผมนั้นเหลืออยู่มากกว่าครึ่งจาน ก่อนที่เขาจะหันมามองทางผมแล้วพูดเสียงเบา
   “รีบกินสิ เดี๋ยวก็ไม่ทันเข้าเรียน”
   “อะ...อื้อ...”
   “ตอนกินห้ามคุย”
   “อ่า...”
   “ถ้าพี่รหัสมึงเหงา เดี๋ยวกูคุยแทนเอง”
   ปั้นใจมองมาและมันก็ทำให้ผมแอบกลัวกับสายตาที่เหมือนจะดุแต่ก็ไม่ใช่ของเขาด้วย ก่อนที่คนข้างๆ ผมจะเลื่อนจานข้าวออกแล้วมองไปทางพี่เพชร ซึ่งพี่เพชรเองตอนนี้ก็กำลังมองทางปั้นใจเช่นกัน ส่วนผมนั้นก็ทำได้แค่นั่งกินข้าวเงียบๆ และไม่กล้าส่งเสียงออกมาอีกเลย
   ละ...แล้วทำไมบรรยากาศมันถึงได้แปลกๆ ไปแบบนี้ล่ะเนี่ย !

   “พี่รหัสมึงคือพี่เพชรเหรอ !”
   “อือ”
   “โหยยยยย โชคดีไปอี๊กกกกกก” พาฝันที่พูดขึ้นหลังจากที่ทำตาโตไปแล้วทำให้ผมต้องหันไปมองแบบงงๆ โดยตอนนี้เราทั้งคู่กำลังเดินออกจากมหาวิทยาลัยกัน ซึ่งหลังเลิกเรียนผมก็พาเธอไปพบพี่รหัส ผมเลยเล่าเรื่องพี่ของผมให้พาฝันฟังบ้าง แล้วสถานการณ์ก็เป็นอย่างตอนนี้นี่ล่ะ
   “ทำไมเหรอ”
   “ก็พี่เพชรเป็นหนึ่งในผู้ชายที่กูรวมสต็อกไว้ และแน่นอนว่าสต็อกของกูนั้นคือผู้ชายที่หน้าตาดี เพราะฉะนั้นไอ้เกลือ ทอดสะพานให้กูเดี๋ยวนี้ !”
   “แล้วฟางล่ะ”
   “อันนั้นเก็บไว้ก่อน ดูใจ ดูได้หลายคน”
   “อ๋อ...เข้าใจแล้ว”
   พาฝันยักคิ้วให้ผมทำให้ผมพยักหน้ารับ ซึ่งผมพอจะรู้มาบ้างว่าช่วงก่อนหน้านี้พาฝันกับฟางเพื่อนของปั้นใจนั้นค่อนข้างจะสนิทกันเป็นพิเศษ และที่เห็นฟางที่คณะผมได้ก็เพราะมาหาพาฝันนั่นล่ะ
   ไปสนิทกันตอนไหนนะ...
   “ว่าแต่มึงเถอะไอ้เกลือ กับปั้นใจเป็นยังไงบ้าง เล่าบ้างสิๆๆ”
   “ไม่มีอะไรนี่”
   “ไม่จริง !”
   “จริงๆ นะ” ผมว่าเพราะรู้สึกว่าผมกับปั้นใจก็ไม่ได้มีอะไรจริงๆ แค่เคยไปบ้าน แล้วก็กินข้าวด้วยกัน
   “ได้ไงวะ มันต้องมีสิ !”
   “มีอะไรอ่ะ...”
   “ก็ปั้นใจไปบ้านมึงเลยไม่ใช่เหรอ !”
   “แม่ชวนให้ไปกินขนมเฉยๆ”
   “...”
   “แล้วปั้นใจก็มีธุระพอดี วันต่อมาก็เลยมาอีก...” ผมพูดออกไปทำเอาพาฝันขมวดคิ้วหยุดเดินทันที ส่วนผมก็ได้แต่มองเธองงๆ เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเริ่มทำหน้าเซ็งๆ แล้ว “มีอะไรหรือเปล่า”
   “มี”
   “อะไรอ่ะ...”
   “มึงนี่นะ ไอ้หมูอ้วน ทำไมซื่อบื้อแบบนี้ !” พาฝันเอื้อมมือมาดึงแก้มผมแรงๆ จนตัวเองร้องโอดโอย แล้วรีบจับแก้มตัวเองไว้หลังจากที่โดนกระทำไป “ก็เพราะไปบ้านไง มันเลยมี !”
   “มีอะไร...”
   “นั่นคำถามกูเว้ย กูถามมึงเนี่ย !”
   “ไม่เข้าใจเลยพาฝัน” ผมขมวดคิ้ว ทำให้คนตรงหน้ายกมือตบหน้าผากตัวเองดังป๊าบ ก่อนจะดึงผมให้ไปข้างทางเพื่อหลบคนที่เดินผ่านไปผ่านมา แล้วหันมองซ้ายขวาก่อนจะขยับใบหน้าเข้ามาใกล้แล้วกระซิบ
   “ไอ้เกลือ”
   “หืม...”
   “ปั้นใจได้ ‘อะไรๆ’ กับมึงมั้ย...”   
   “อะไรนี่คืออะไร...”
   “ก็แบบ...โอ๊ยยยย ถ้ากูพูดจะหาว่ากูสปอยมั้ย !” พาฝันเริ่มโวยวายอีกครั้งทำให้ผมได้แต่ทำหน้าสงสัยแล้วมองคนตรงหน้าที่ทำหน้าเซ็งไม่เลิก “เอาล่ะไอ้เกลือ !”
   “อือ”
   “ปั้นใจได้ทำดีกับมึงมั้ยแบบดี๊ดี...”
   “อือ ปั้นใจก็ดีกับทุกคนนะ” ผมตอบกลับ ทำเอาพาฝันส่ายหัวเบาๆ ราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูดนัก ก่อนที่เธอจะหันมองรอบๆ ตัวอีกครั้งแล้วขยับเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นจนจมูกแทบจะชิดกับแก้มผมแล้ว
   ถะ...ถ้าผมเขินพาฝันนี่จะผิดมั้ยนะ...
   “นี่ไอ้เกลือ กูจะถามแบบตรงๆ เลยนะ”
   “อือ เอาสิ”
   “ปั้นใจได้จะ...”
   “ทำอะไรกัน” เสียงคุ้นหูที่ดังขึ้นทำเอาพาฝันสะดุ้งก่อนจะรีบหันหลังกลับไปและเลิกพูดสิ่งที่ค้างไว้ทันที
   “ไงปั้น ไม่เจอกัน...”
   “เพิ่งเจอกันในห้องเรียนไง” ปั้นใจพูดแทรกทำให้พาฝันอ้าปากค้างทันที โดยตอนนี้คนที่มายืนอยู่ตรงหน้าเราตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ก็ได้แต่มองมาทางพาฝันทำให้เธอต้องค่อยๆ ขยับตัวออกห่างจากผมทีละน้อย “ไอ้ฟางรออยู่”
   “เอ่อ...ฝากบอกฟางได้มั้ย วันนี้เราว่าจะกลับกับเกลือน่ะ !” พาฝันขยับมาชิดผมอีกครั้งแล้วคล้องแขนผมไว้ทันที และนั่นก็ทำให้ปั้นใจมองคนข้างๆ ไม่วางตา ผมเลยได้แต่มองทางพาฝันที่ตอนนี้ทำหน้าไม่สู้ดีนัก “ใช่มั้ยเกลือ กูกลับด้วยนะๆๆ”
   “อือ ได้”
   “งั้นเราไป...”
   “ไอ้ฟางขอเบอร์ผู้หญิงอยู่”
   “ว่าไงนะ !” ผมสะดุ้งทันทีที่พาฝันขึ้นเสียง และปล่อยแขนผมออกทันทีโดยตอนนี้สีหน้าของพาฝันก็ดูจะไม่สบอารมณ์ของปั้นใจมากๆ “พูดจริงเหรอ !”
   “หน้ามอ”
   “ให้ตายสิ !”
   พาฝันพูดเพียงแค่นั้น ก่อนจะรีบเดินออกไปทำให้ผมที่ตอนแรกคิดว่ามีเพื่อนกลับด้วยวันนี้ต้องมองตามแบบงงๆ รวมถึงปั้นใจด้วย ก่อนที่ผมจะหันไปยิ้มให้คนตรงหน้าแบบไม่เข้าใจกับสถานการณ์นัก ซึ่งเขาก็มองผมกลับมาเช่นกัน
   “ไปรอแม่มึงกัน...”
   คนตรงหน้าผมพูดเพียงแค่นั้นก่อนจะเริ่มออกเดินนำไป ส่วนผมเองที่ตอนแรกเหมือนจะ ‘ไม่เข้าใจ’ ก็ได้แต่พยักหน้ากับตัวเองแล้วก้มหน้าลงแล้วเดินตามปั้นใจไปโดยที่ปากก็ยิ้มออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ และไม่รู้วิธีที่จะเลิกยิ้มกับสถานการณ์นี้ยังไงด้วย
   วันนี้แม่จะมาเร็วมั้ยนะ...
   แต่ถ้ามาช้า...ก็คงจะดี

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ฝันเนี่ย เรื่องฟางไม่ได้เลยนะ  :hao3:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Mynun

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
อย่าว่ากันเลยนะ เราจะไม่อ่านเรื่องนี้เพราะการรับน้องทุเรศแบบนี้ละ
 :z3:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
หนูเกลือลูกกกกกกกก

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ปั้นฉลาดสุดๆ รู้วิธีกำจัดก้างแบบเนียนๆ

ออฟไลน์ merizel-rada

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-0

ตอนที่ 12


   “ปั้นใจ ทำไมนายถึงได้นิสัยแบบนี้ !”
   “...”
   “ไอ้เกลือมึงดูปั้นใจสิ เมื่อวานเขาหลอกกูอ่ะ !”
   พาฝันที่ตอนนี้หน้าบึ้งดูท่าจะอารมณ์ไม่ดีสุดๆ ก็กำลังกระทืบเท้าอยู่กับพื้นหลังจากที่เข้ามาหาผมกับปั้นใจที่นั่งประจำที่พร้อมเรียนแล้ว
   “มีอะไรเหรอ” ผมถามพาฝันออกไปพลางมองแบบงงๆ
   “ก็เมื่อวาน...!”
   “เกลือ”
   “หืม...” ผมที่ตอนแรกตั้งใจฟังพาฝันก็ต้องหันไปทางปั้นใจที่เรียกขึ้นมา
   “น่ากิน” คนข้างๆ ผมพูดพลางยื่นโทรศัพท์ที่ตอนนี้กำลังแสดงหน้าจอของรายการบน Youtube เป็นการทำขนมแพนเค้กที่ดูน่ากินสุดๆ
   “อือ น่ากินมากเลย”
   “ว่างๆ ลองทำกันมั้ย”
   “ได้สิ”
   “โอ๊ยยยยยย ~” เสียงของพาฝันทำให้ผมสะดุ้งก่อนจะหันไปมองเธออีกครั้ง ส่วนปั้นใจเองก็ถอยตัวออกไปแล้วสนใจกับของในโทรศัพท์ต่อ “ถามจริง ไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ ดิ”
   “ยัง” ปั้นใจที่ตอบขึ้นมาทันทีทำให้ผมกับพาฝันหันไปมอง ซึ่งผมเองก็ไม่ได้เอะใจอะไรกับคำตอบของเขานัก มีแต่พาฝันเท่านั้นล่ะ ที่ตอนนี้ขมวดคิ้วไปแล้ว
   “ปั้นใจ นายมันร้าย !”
   “ยังไง”
   “หน็อย อย่าคิดว่าพาฝันคนนี้ไม่รู้นะ คนคิดไม่ซื่อ !”
   “รู้แล้วจะบอกเหรอ”
   “ก็เปล่า...”
   “ดี”
   ผมมองคนสองคนที่สนทนากันไปมาก็ได้แต่หยิบลูกอมใส่ปากพลางทำหน้างงๆ แต่ก็คิดว่าคงไม่เกี่ยวอะไรกับผมเท่าไหร่นักเลยเลิกสงสัยไป
   “เฮ้อ ทำไมรู้สึกเหนื่อยๆ ยังไงไม่รู้” อยู่ๆ พาฝันก็เข้ามาทิ้งตัวลงนั่งที่นั่งข้างๆ ผมแล้วเอนหัวเข้ามาซบไหล่ ทำให้ตัวเองต้องหันไปทางอีกฝ่ายแล้วยื่นลูกอมไปให้หนึ่งเม็ด ซึ่งพาฝันก็รับไปแต่โดยดี “ถ้ามึงคิดให้มากกว่านี้ก็คงดีเนอะเกลือ”
   “หือ”
   “เฮ้ออออออ ~!”
   เสียงถอนหายใจยาวๆ ทำให้ผมมองเส้นผมสีน้ำตาลเกือบแดงบนไหล่อย่างงงๆ ก่อนที่เธอจะยกหัวออกไปแล้วทำหน้าคิ้วขมวด และฟาดมือลงด้านหลังผมเต็มๆ
   แต่เชื่อมั้ยว่าผมไม่เจ็บ...
   เพราะสิ่งที่พาฝันตีคือมือของปั้นใจนั่นเอง
   “หาเรื่องกันเหรอ !”
   “เห็นๆ อยู่ว่าใครหาเรื่องก่อน”
   “เอ๊ะ ไอ้เกลือ มึงดูปั้นใจสิ !”
   “หะ...” ผมที่ตอนนี้ทำตัวไม่ถูกเพราะคนที่อยู่ข้างกายทั้งสองฝั่งกำลังทำท่าจะตีกัน ซึ่งท่าทีแบบนี้ของพาฝันกับปั้นใจนั้นผมไม่เคยเห็นมาก่อน ก่อนที่คนข้างๆ ทั้งสองคนจะหยุดตีกันแล้วหันไปคนละทาง ซึ่งตอนนี้กลายเป็นผมเองที่ไม่รู้จะหันไปทางไหนดี
   เอ่อ...ระหว่างปั้นใจกับพาฝันนี่...
   มีอะไรเกิดขึ้นแล้วผมไม่รู้เหรอ
   ติ๊ง ~
   เสียงแจ้งเตือนของแอพพลิเคชั่นสีเขียวทำให้ผมต้องหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า เพราะเสียงแชทแบบนี้ไม่ได้ดังขึ้นบ่อยนัก ขนาดคนส่งเกมเขายังไม่เลือกส่งมาแชทผมเลย
   “หืม...” เสียงใกล้ๆ หูทำให้ผมหันไปมองพาฝันที่ขยับเข้ามาใกล้ ก่อนจะเพิ่งสังเกตว่าปั้นใจเองก็หันมามองทางผมเช่นเดียวกัน
   เอ่อ...
   “เสียงโทรศัพท์เราดังเกินไปเหรอ...”
   “เปล๊า แค่คิดว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับแชทไลน์ของมึง คนส่งเกมมาเหรอ”
   “อ่า...” ผมส่ายหัวให้พาฝันก่อนจะก้มมองแชทไลน์ตรงหน้าอีกครั้ง ก็เห็นว่าเป็นข้อความจากพี่รหัสผมนั่นเอง “พี่เพชรทักมา...”
   
   P. : อาจารย์มาหรือยัง
   
   ผมอ่านข้อความบนหน้าจอก็ได้แต่ขมวดคิ้วไม่เข้าใจในคำถามของเขา

   เกลือ ._. : พี่เพชรทักผิดหรือเปล่าครับ
   P. : ไม่ผิดๆ พี่ถามเกลือแหละ พอดีเอาขนมมาฝาก
   เกลือ ._. : ยังไม่เข้าครับ
   P. : พี่อยู่หน้าประตู
   
   ผมเบิกตากว้างก่อนจะรีบเงยหน้าขึ้น แล้วก็เป็นอย่างที่พี่เพชรว่าเมื่อตอนนี้อีกฝ่ายยืนชูถุงขนมสีหวานอยู่หน้าประตูห้อง ทำให้ผมต้องลุกขึ้นจนทั้งสองคนข้างตัวหันมามอง
   “หือ...”
   “ดะ...เดี๋ยวเรามานะ...”
   ผมมองคนสองคนที่ทำหน้าแปลกใจ ก่อนจะเดินออกจากที่นั่งเพื่อไปหาพี่เพชรที่รออยู่ พอออกมาก็ได้รับรอยยิ้มกว้างของพี่รหัสทำให้ผมได้แต่ยิ้มกลับไปแม้จะยังประหม่าอยู่ก็ตาม
   กะ...ก็ปกติยกเว้นปั้นใจกับพาฝันแล้วก็ไม่เคยมีใครหิ้วขนมมาฝากถึงที่แบบนี้นี่ !
   “ไง” พี่เพชรที่ทักทายขึ้นทำให้ผมไม่รู้จะทำตัวยังไงดีเลยได้แต่ยกมือไหว้อีกฝ่าย ก่อนที่เขาจะทำท่าชะเง้อเข้ามามองในห้อง “เด็กปีหนึ่งนี่คึกคักดีจริงๆ”
   “อ่า...” ผมได้แต่หันไปมองตามพี่เพชร ซึ่งภายในห้องตอนนี้ก็ดูคึกคักจริงๆ ก่อนจะหันมายิ้มให้กับพี่รหัสตรงหน้าเพราะไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี
   “นี่ขนม” พี่เพชรไม่ได้ว่ากับอาการพูดน้อยของผม เขาแค่ยื่นถุงขนมสีชมพูมาให้ ทำให้ผมต้องยกมือไหว้อีกครั้งแล้วรับ ซึ่งคนตรงหน้าก็ยกมือขึ้นยีหัวผมเบาๆ “ตั้งใจเรียนล่ะเรา”
   “ครับ ขอบคุณพี่เพชรมากๆ”
   “ไม่เป็นไร งั้นเดี๋ยวพี่ไปหาเพื่อนละ ไว้เจอกันใหม่ คราวหน้าจะพาไปเลี้ยงของอร่อย”
   “ครับ ยังไงไว้เจอกันใหม่นะครับ” ผมยิ้มกว้างให้คนตรงหน้า ก่อนจะโดนอีกฝ่ายหยิกแก้มมาแรงๆ หนึ่งที “อ๋อย...”
   “แก้มนี่น่าหมั่นเขี้ยวจริงๆ”
   “พี่เพชรอ่า...เจ็บนะครับ”
   “ขอโทษๆ เผลอไปนิด งั้นพี่ไปละ ฝากทักทายเพื่อนๆ ด้วย”
   “ครับ”
   ผมพยักหน้าแล้วยืนมองคนที่เดินออกไปพลางลูบแก้มของตัวเองเบาๆ โดยที่ความเจ็บยังมีอยู่ ก่อนจะเดินถือถุงกระดาษเข้ามาในห้อง และเมื่อเข้ามาด้านในก็ต้องแปลกใจเมื่อตอนนี้ทั้งพาฝันแล้วปั้นใจตอนนี้นั่งตัวติดกันแล้วมองมาทางผมเป็นทางเดียว
   เอ่อ...
   “พี่เพชรซื้อขนมมาฝากอ่ะ...” ผมว่าก่อนจะชูถุงขนมมาให้ ดูเหมือนจะเรียกความสนใจจากพาฝันได้คนเดียว ก่อนที่เธอจะย้ายกลับที่ทำให้ผมสามารถเข้าไปนั่งที่ตัวเองได้ “เขาฝากมาทักทายด้วย”
   “จริงเหรอๆๆ อยากรู้จักกับพี่เพชรบ้างอ่ะ !” พาฝันพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น ทำให้ผมยิ้มกับท่าทีของเธอ ก่อนที่พวกเราทั้งสามคนก็ต้องเข้าสู่ความสงบกันทันทีที่อาจารย์ประจำวิชาเข้ามา “เฮ้อ...เรียนอีกละ น่าเบื่อออออ ~”
   พาฝันเริ่มฟุบหัวลงกับโต๊ะ ทำให้ตอนนี้คนที่ดูเหมือนจะยังมีตัวตนอยู่อย่างปั้นใจที่นั่งข้างๆ ผมอีกฝั่ง ทำให้ตัวเองต้องหันไปหาเขาแทน แต่คนข้างๆ ตอนนี้นั้นกลับไม่หันมาสนใจผมแม้แต่น้อย ได้แต่จ้องไปด้านหน้าทั้งๆ ที่มันไม่มีอะไร
   ชวนคุยดีมั้ย...
   หรือควรตั้งใจเรียนก่อนดี
   “ยืมปากกาบ้างสิ” เสียงของคนข้างๆ ทำเอาผมที่กำลังคิดกับตัวเองอยู่ต้องสะดุ้งก่อนจะพยักหน้ารัวๆ
   “ได้ๆ”
   “อ่ะปั้น” ผมที่ตอนแรกหยิบปากกาแท่งสีเหลืองจากในกระเป๋าออกมาก็ต้องทำท่าว่าจะต้องเก็บมันลงกระเป๋าเมื่อผู้หญิงข้างๆ ปั้นใจนั้นหยิบของที่ปั้นใจต้องการได้ก่อนผม
   “ยืมเพื่อนแล้ว ขอบใจนะ” คำตอบของคนข้างๆ ผมนั้นทำให้เธอได้แต่หน้าแดง และดึงปากกากลับไป ก่อนที่เขาจะหันมาแบมือตรงหน้าผม ทำให้ตัวเองต้องเอาปากกาด้ามสีเหลืองลายเป็ดวางลงบนมือของอีกฝ่าย “ขอบใจ”
   “อื้อ”
   ผมหันกลับมาสนใจกับสมุดตรงหน้าตัวเอง ทั้งๆ ที่มันไม่ได้มีอะไรน่าสนใจนัก ส่วนปั้นใจนั้นก็เงียบไปอีกครั้ง ก่อนที่ตัวเองจะต้องแปลกใจเมื่ออยู่ๆ คนข้างๆ ผมก็ยื่นกระดาษที่พับเป็นแผ่นเล็กๆ มาให้ ทำให้ผมต้องเงยหน้ามอง แต่ยังไม่ทันที่ผมจะอ้าปากถาม อีกฝ่ายก็ส่ง ‘ชู่ว์’ เบาๆ ซะก่อน
   อ่า...งั้นไม่พูด...
   ผมพยักหน้าก่อนจะก่อนจะหยิบกระดาษแผ่นเล็กๆ มา และพอพลิกอีกด้านก่อนจะคลี่มันก็ต้องเบิกตากว้างแล้วขยับเอี้ยวตัวไปทางปั้นใจทันที
   ‘ห้ามให้พาฝันเห็น’
   สองคนนี้มีปัญหากันงั้นเหรอ
   ผมคลี่กระดาษออก ก่อนจะเห็นตัวอักษรเล็กที่ปั้นใจเขียนไว้ด้านใน
   ‘ตอนเที่ยงออกไปกินข้าวที่หน้า ม. กัน’
   ผมอ่านข้อความในกระดาษก็ได้แต่เงยหน้ามองอีกคน พลางหันไปมองทางพาฝันที่ตอนนี้กำลังบ่นว่า ‘เบื่อ’ ไม่หยุด จนไม่ได้หันมาสนใจผมกับปั้นใจนัก ก่อนที่ตัวเองจะมองหน้าคนที่เขียนข้อความในกระดาษอีกครั้ง โดยตอนนี้ปั้นใจเองก็มองมาทางผมราวกับรอคำตอบ สุดท้ายผมก็ได้แต่พยักหน้าแล้วพับกระดาษแผ่นนี้เก็บไว้ให้พ้นสายตาของพาฝันมากที่สุด ซึ่งคนที่โดนตอบรับก็ยิ้มออกมาเพื่อแสดงว่าพอใจในคำตอบของผมไม่น้อย
   ว่าแต่แบบนี้มัน...
   เหมือนแอบหนีผู้ปกครองไปทำอะไรไม่ดีเลย !

   “มาแล้ว !”
   ผมที่ตอนนี้วิ่งมาหาปั้นใจที่กำลังรออยู่หน้ามหาวิทยาลัยก็ต้องหอบแฮ่ก เมื่อวิ่งจากด้านในโรงอาหารมาตรงนี้ไม่ใกล้นัก ที่สำคัญกว่าฟางจะมาเบี่ยงความสนใจพาฝันจากผมได้ก็เล่นใช้เวลาไปนานเลยทีเดียว
   “วิ่งมาเหรอ”
   “อะ...อือ ขอโทษที่ช้านะ”
   “ทีหลังไม่ต้องวิ่งก็ได้” ปั้นใจว่าเมื่อเห็นผมยกแขนปาดเหงื่อ ก่อนที่ตัวเองจะต้องสะดุ้งเมื่อมือใหญ่ๆ ของคนตรงหน้าลูบมาที่ขมับและแก้มของผมเบาๆ
   “ขอบใจนะ...”
   “เรื่องอะไร”
   “ก็...” ผมที่กำลังจะตอบว่าเรื่องที่ช่วยเช็ดเหงื่อให้ก็ต้องหุบปากทันที เมื่อนึกขึ้นได้ว่ามันแปลกๆ ที่สำคัญปั้นใจไม่ได้ใช้ผ้าด้วย เขาใช้มือของเขา...
   หัวใจเต้นแรงมาก ฮื้อ...
   “ไปกินข้าวกัน” คนที่ตอนแรกรอคำตอบจากผมก็เปลี่ยนเรื่องทันทีก่อนจะชักมือกลับไป ผมเลยได้แต่พยักหน้าแล้วก้มหน้างุดเดินตามคนตัวสูงเงียบๆ ซึ่งตอนแรกก็เดินตามหลังเขา แต่สักพักปั้นใจก็ยอมชะลอการเดินเพื่อให้ผมได้เดินคู่ไปกับเขาได้
   มื้อเที่ยงของวันนี้ตอนแรกพาฝันก็ชวนผมไปที่โรงอาหารตามปกติ ซึ่งปั้นใจหลังจากเรียนเสร็จเราก็แยกกันทันที ผมที่ไม่รู้จะแยกไปจากพาฝันยังไงก็ได้แต่นั่งอยู่กับอีกคน จนกระทั่งฟางโทรหาพาฝันเลยทำให้ผมสามารถแยกตัวออกมาได้ และผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมปั้นใจถึงไม่ยอมให้บอกพาฝันด้วย
   หรือสองคนนี้ไม่ถูกกัน...
   “ปั้น” ผมเรียกคนข้างๆ เพราะรู้สึกข้องใจกับสิ่งที่คิดมากๆ เพราะอย่างน้อยผมก็ไม่อยากให้เพื่อนไม่ถูกกันล่ะนะ “ปั้นไม่ชอบฝันเหรอ”
   “เปล่านี่”
   “งั้นฝันไม่ชอบปั้น”
   “ไม่รู้”
   “อ่า...สองคนไม่ถูกกันเหรอ”
   “เปล่า”
   ผมที่คิดตามคำตอบของอีกฝ่ายก็ได้แต่ขมวดคิ้วเมื่อปั้นใจนั้นปฏิเสธทุกคำพูดของผม ก่อนที่ตัวเองจะเงยหน้ามองเขาด้วยความสงสัย
   “แล้วทำไมถึงบอกฝันไม่ได้ล่ะ”
   “ไม่อยากให้มาด้วย”
   “นั่นไง ปั้นใจไม่ถูกกับฝันแน่ๆ เลย...” ผมพูดโดยตอนนี้ในใจก็รู้สึกไม่ดีสุดๆ ไม่อยากให้พาฝันกับปั้นใจไม่ถูกกัน เพราะถ้าให้เลือกสองคนนี้ผมคงเลือกไม่ได้แน่ๆ “ดีกันเถอะนะ”
   “ไม่ได้ไม่ถูกกัน แค่ไม่อยากให้มาด้วยเฉยๆ ไม่ได้มีอะไร มึงคิดมาก” คนข้างๆ ผมเอื้อมมือมาโยกหัวผมเบาๆ ขณะที่เดินไปที่ร้านข้าว ซึ่งผมก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี จนสุดท้ายคนที่ผมมองอยู่ก็ถอนหายใจออกมาแล้วยอมตอบ ‘ความจริง’ “อยากมากินข้าวกับมึง...”
   “...”
   “แค่สองคน”
   “อ๋อ...” ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะใจเต้นแรงขึ้นมาเมื่อตีความความหมายของคำพูดของปั้นใจได้ สุดท้ายเลยได้แต่หลบสายตาอีกฝ่ายเท่านั้น “จริงๆ ถ้าบอกฝัน...”
   “ตามมาแน่ๆ ไอ้ฟางด้วย”
   คนตรงหน้าผมทำหน้าเซ็ง ก่อนจะดึงผมเข้าไปในร้านอาหารเล็กๆ ที่อยู่ไม่ห่างจากเขตมหาวิทยาลัยนัก ซึ่งแน่นอนว่าทั้งร้านก็เป็นเด็กจากมหาวิทยาลัยนั่นล่ะ ด้วยความที่ร้านแต่งได้ดูน่ารัก และบรรยากาศดีสุดๆ เลยทำให้เป็นที่นิยม และเมื่อปั้นใจเข้ามาด้านในอีกคนก็หยุดชะงักกึกทันทีจนทำให้ผมที่เดินตามต้องหยุดแล้วมองไปด้านในบ้าง
   โอ้โห...คนเยอะ
   ที่สำคัญหลายๆ คนมองมาทางปั้นใจทั้งนั้นเลย
   ผมที่ตื่นเต้นทั้งกับบรรยากาศร้านและคนด้านในก็ได้แต่มองไปรอบๆ แต่ดูเหมือนคนข้างๆ ผมตอนนี้หน้าตาจะขมวดคิ้วหนักไปแล้ว
   “คนเยอะมาก...”
   “อ่า...”
   “ไปหาที่นั่งกัน” ปั้นใจที่ดูเหมือนจะไม่ชอบใจกับความคนเยอะ แต่สุดท้ายก็เดินนำผมเข้าไปด้านในจนได้ ก่อนที่อีกฝ่ายจะมองไปรอบๆ ร้านและชี้ไปทางมุมสุดที่มีโต๊ะว่างอยู่หนึ่งที่พอดี แต่ดูเหมือนจะยังไม่ทันเดินไปชื่อของผมก็ดังขึ้นมาจากที่ใดที่หนึ่งของร้านซะก่อน
   “เกลือ !”
   หือ...
   ผมหันขวับไปทางต้นเสียงทันที ก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าพี่เพชรที่ตอนนี้กำลังนั่งอยู่ที่กลุ่มเพื่อนของเขากำลังโบกมือมาทางผมกับปั้นใจ
   นะ...นั่นมันพี่ในคณะเราทั้งนั้นเลยนี่
   บังเอิญสุดๆ !
   “ซวยฉิบ...” เสียงพึมพำเบาๆ จากปั้นใจทำให้ผมหันไปมองเขาที่ตอนนี้ดูสีหน้าไม่รับแขกสุดๆ ก่อนที่เสียงจากโต๊ะพี่เพชรจะทำให้เราทั้งคู่ไม่สามารถละสายตาไปจากตรงนั้นได้ เพราะทางนั้นชี้เป้ามาที่พวกเราสองคนเต็ม
   “น้องปั้นใจจจ มานั่งกับพวกพี่เร็ววววว ~”
   อ่า...อาจจะเป็นปั้นใจคนเดียวก็ได้
   พี่ผู้หญิงคนหนึ่งที่โบกมือมาทางพวกเราทำเอาคนข้างๆ ถึงกับกุมขมับ ก่อนที่ปั้นใจจะกลับหลังหันเพื่อเดินไปทางโต๊ะที่เราเล็งไว้ตอนแรกทันที
   “แกล้งทำเป็นไม่เห็นแล้วกัน” ผมมองคนข้างๆ ที่พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์นัก
   เอ่อ...ปั้น ดูเหมือนจะแกล้งไม่เห็นไม่ทันแล้วล่ะ...
   “น้องปั้นใจจจจจ ~”
   เสียงที่ยังคงดังขึ้นทำเอาคนอื่นๆ ในร้านเริ่มหันไปมอง ผมเองก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน ได้แต่มองไปทางพี่ที่ตะโกนอีกครั้ง โดยที่ยังโบกมือให้ปั้นใจไม่เลิก ก่อนที่คนข้างๆ ผมจะยอมหยุดเดินแล้วหันไปมองบ้าง สุดท้ายก็ถอนหายใจออกมาแล้วยอมเดินไปหาพี่ๆ ที่ตะโกนเรียกเราไว้
   “สวัสดีครับ” ผมกับปั้นใจยกมือไหว้กลุ่มพี่ปีสองสี่ห้าคนที่ตอนนี้กำลังครองโต๊ะใหญ่สุดของร้าน ก่อนที่พี่เพชรพี่รหัสของผมจะพูดขึ้นมา
   “พวกมึง นี่เกลือน้องรหัสกู”
   “เอ่อ...สวัสดีครับ”
   “ใช่น้องที่เป็นโรคหอบวันวิ่งป้ะ”
   “อ่า...”
   “อีกคนนี่ก็...น้องปั้นใจที่วิ่งแทนนี่ จำได้ละ โห นี่มันคนดังชัดๆ ฮ่าๆๆๆ” พี่ผู้ชายคนหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้น ทำให้ผมทำหน้าไม่ถูก เพราะไม่คิดว่าจะยังมีคนพูดเรื่องวันแรกของการรับน้องขึ้นมาอีก “แปลกแฮะ มากินข้าวด้วยกัน พี่นึกว่าหลังจากวันนั้นจะไม่ถูกกันแล้วซะอีก โดนเล่นงานไปซะหนัก ทำเพื่อนซวยนะเรา”
   “...”
   “ดีๆ เป็นเพื่อนกันได้ก็ดี”
   “ไอ้เปรม อย่าปากหมา” พี่เพชรที่นั่งอยู่พูดเตือนเพื่อนตัวเอง แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่ใส่ใจนัก ได้แต่ยักไหล่แล้วหันไปสนใจพี่ผู้หญิงข้างๆ แทน ทำให้ผมที่ตอนนี้ทำหน้าไม่ถูกตั้งแต่โดนว่าว่า ‘ทำเพื่อนซวย’ ไปแล้ว
   “พวกพี่มีอะไรหรือเปล่าครับ ผมกับเพื่อนมากินข้าว ถ้าไม่มีขอตัว ใกล้เวลาเรียนแล้ว” ปั้นใจพูดขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศตรงหน้า
   “เฮ้ย สรุปนี่เพื่อนกันจริงดิ คิดว่าบังเอิญมาร้านเดียวกันซะอีก”
   “ไอ้เปรม”
   “อ่ะๆ กูไม่พูดแล้วก็ได้ ก็มันแปลกจริงๆ นี่หว่า ดูไม่เข้ากันเลยเนอะ น้องสองคนเนี่ย” พี่ที่ชื่อเปรมยังคงพูดไม่หยุดทำให้ผมได้แต่ก้มหน้าลงเพราะรู้สึกไม่อยากมองหน้าพี่คนนี้นัก และทั้งกลุ่มก็เงียบกริบไปแล้วด้วย
   “ขอโทษแทนเพื่อนพี่ด้วยนะ...”
   “เฮ้ย ไอ้เพชรมึงไปขอโทษทำไม กูแค่พูดความจริงเอง ถามหน่อยดิ ทั้งโต๊ะเนี่ย มีใครคิดบ้างว่าน้องสองคนนี้จะเป็นเพื่อนกัน เวลาว่างทำอะไรกันเหรอ เตะบอลป้ะ อีกคนเตะส่วนอีกคนกลิ้งเป็นลูกบอล น่ารักๆ ฮ่าๆๆๆๆ”
   “ไอ้เปรม !”
   “ปากดี...” เสียงข้างๆ ตัวทำให้ผมสะดุ้งเฮือก ก่อนจะหันไปมองปั้นใจที่ตอนนี้แสดงสีหน้าน่ากลัวออกมาแล้ว โดยตอนนี้ทั้งกลุ่มรุ่นพี่เงียบกริบยิ่งกว่าเดิม ขนาดคนที่เพิ่งหัวเราะไปยังหุบปากทันที “เวลาว่างไม่เคยเตะบอล แต่เวลาก่อนกินข้าวเที่ยงวันนี้นี่ล่ะจะได้เตะปากคน”
   “ปะ...ปั้น...” ผมรีบเรียกคนข้างๆ ทันทีที่เขาพูดขึ้น ก่อนจะจับแขนอีกฝ่ายไว้
   “ฮะ...เฮ้ย อะไรวะ กูแค่แซวเล่นเอง แล้วอีกอย่างมึงเป็นรุ่นน้องกล้าพูด...”
   “ไม่ใช่แค่กล้าพูด แต่กล้าทำอย่างที่พูดด้วย”
   “มึง...!”
   “เฮ้ย พวกมึงสองคนใจเย็นกันก่อน !” พี่เพชรที่รีบพูดขึ้นทำให้เพื่อนของเขาต้องหุบปากลง ก่อนจะหันไปมองเพื่อนตัวเอง “ไอ้เปรมกูเตือนมึงแล้วนะ ว่าอย่าปากหมา ที่มึงว่านั่นน้องรหัสกู !”
   “แต่ไอ้น้องเหี้ยนี่มันก็ลามปามเกินมั้ยวะ ถ้าน้องอ้วนด่ากูกูยังไม่อะไรเลย อันนี้กูไม่ได้ว่ามัน...!”
   “ตอแหล” ดูเหมือนคำพูดของปั้นใจจะทำเอาทั้งกลุ่มสะดุ้งเฮือก
   “เอ่อ...น้องปั้นใจเย็นๆ เด้อ” พี่ผู้หญิงที่เป็นคนโบกมือเรียกปั้นใจเข้ามาหาต้องลุกขึ้นแล้วห้ามทัพ ซึ่งคนอื่นๆ ในร้านก็เริ่มหันมามองทางเราแล้ว “พี่ขอโทษแทนเพื่อนพี่ด้วยนะน้องปั้น”
   “พี่พริ๊ง พี่รู้ใช่มั้ยว่าผมเคารพพี่ ทั้งโต๊ะ ทั้งพี่ปีสองปีสามปีสี่ที่อยู่ที่นี่ผมเคารพหมด ทั้งรู้จักและยังไม่รู้จัก แต่ถ้ารู้แล้วว่ามันไม่น่าเคารพนักผมเองก็ไม่เกรงใจเหมือนกัน”
   “พี่รู้ๆ พี่รู้ว่าปั้นเป็นเด็กดี...”
   “ไอ้พริ๊ง ทำไมมึงเข้าข้างผู้ชายแบบนี้วะ !”
   “ไอ้ห่าเปรม มึงผิดนะเว้ย กูไม่ได้เข้าข้างน้อง แต่มึงผิด !”
   “เพื่อนเหี้ย !”
   “ไอ้เปรม !”
   เสียงของพี่พริ๊งที่ดังลั่นหลังจากที่โดนว่าไป ก่อนที่พี่เปรมจะลุกขึ้นแล้วเดินออกจากร้านไปทันที ปั้นใจที่ทำท่าว่าจะตามไปทำให้ผมรีบคว้าแขนของอีกฝ่ายไว้
   “ปะ...ปั้น พอแล้ว...”
   “เพื่อนพวกพี่ยังไม่ขอโทษเพื่อนผม”
   “ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร...”
   “เกลือ !” ปั้นใจที่หันมามองดุใส่ผมทำให้ตัวเองรีบหุบปากก่อนจะก้มหน้าลงเพื่อหลบสายตาตรงหน้า
   “ขะ...ขอโทษ” ผมรีบพูดขึ้นเมื่อตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นสาเหตุของความวุ่นวายเข้าให้แล้ว และคำว่า ‘ทำเพื่อนซวย’ ของผมนั้นดูเหมือนจะใช้ได้ดี เพราะเรื่องนี้จริงๆ ไม่ได้เกี่ยวกับปั้นใจสักนิด พี่เปรมเขาว่าผม ว่าผมคนเดียว ไม่ได้ว่าปั้นใจเลย “ขอโทษนะปั้น ทำปั้นซวยอีกแล้ว...”
   เสียงของผมสั่นอย่างห้ามไม่ได้ ซึ่งพี่ๆ ที่อยู่ในสถานการณ์นั้นก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรขึ้นมา แม้แต่พี่เพชรเองก็ตาม ก่อนที่แขนของผมจะโดนคนข้างๆ ฉุดแล้วพาเดินออกไปจากร้านทันที ซึ่งวันนี้ดูเหมือนว่ามื้อเที่ยงจะไม่ได้ตกถึงท้องซะแล้ว
   “ให้ตายสิ มึงมันน่าหงุดหงิด”
   เสียงสบถเบาๆ ของปั้นใจ ทำให้ผมยิ่งไม่กล้าพูดเข้าไปใหญ่ ได้แต่ก้าวเท้าเร็วๆ ตามเขามาเท่านั้น ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าปั้นใจพาผมเดินมาที่ไหน และเราอยู่ไหนกันแล้ว รู้แค่ว่าดวงตาของผมพร่ามัวเพราะน้ำตาไปเรียบร้อย
   จะโดนปั้นใจเกลียดมั้ย
   ขอล่ะ ใครเกลียดก็ได้ แต่ปั้นใจอย่าเกลียดกันเลย
   คนที่ดึงผมออกจากร้านอาหารมาหยุดเดิน ก่อนที่มือของอีกฝ่ายจะจับไหล่ทั้งสองข้างของผมไว้ ทำให้ตอนนี้รู้แล้วว่าเรากำลังหันหน้าเข้าหากันอยู่
   “เกลือ” เสียงเรียกที่ดังขึ้ง ทำให้ผมได้แต่ก้มหน้าอยู่แบบนั้น เพราะถ้าเงยหน้าไปอีกฝ่ายต้องรู้แน่ๆ ว่าผมร้องไห้เข้าให้แล้ว “เกลือ เงยหน้าขึ้น”
   “ขอโทษนะ”
   “เรื่องอะไร”
   “ทำปั้นซวย...”
   “ไม่ได้ทำ แล้วก็ไม่ได้ซวย”
   “...”
   “เลิกให้คนอื่นว่าอย่างสนุกปากสักที” คำพูดของปั้นใจทำให้ได้แต่กำมือแน่น เพราะพอจะรู้ตัวว่าเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมตัวเองต้องไปเข้าอยู่ในบทสนทนาของคนอื่นๆ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไร หรือโดนแซวในเรื่องที่มันไม่ลื่นหูนัก
    มันอาจจะเรื่องเล็ก แต่เชื่อเถอะว่าผมก็ไม่ชอบแบบนี้เหมือนกัน...
   “ขอโทษนะ...”
   “ขอโทษทำไมอีก ไม่ได้ผิดอะไร จะขอโทษทำไม” ปั้นใจพูดขึ้นมา คราวนี้เสียงของเขาแสดงออกว่าหงุดหงิดเต็มขั้น ก่อนที่ใบหน้าของผมจะโดนอีกคนจับให้เงยขึ้น โดยตอนนี้น้ำตาที่ตั้งใจจะกลั้นไว้ตอนแรกกลับไหลออกมาอย่างง่ายดายแล้ว “อย่าร้องไห้สิวะ...!”
   “ฮึก...”
   ไม่ชอบแบบนี้เลย ไม่ได้ชอบให้ใครมาว่า ไม่อยากเป็นตัวตลกในสายตาคนอื่น
   ผมทำผิดอะไรเหรอ...
   “เกลือ อย่าร้อง” เสียงปลอบโยนของปั้นใจทำให้ผมต้องพยายามเช็ดคราบน้ำตาของตัวเองอย่างเชื่อฟัง “ดีมาก เด็กดี”
   “ระ...เราอายุเยอะกว่าปั้นนะ ไม่เด็ก...ฮึก...” ผมพูดขึ้นเมื่อโดนอีกคนโยกหัวเบาๆ ในขณะที่กำลังเช็ดคราบน้ำตาอยู่ หลังจากที่สามารถไล่หยาดน้ำออกจากดวงตาได้แล้วก็ทำให้ผมเห็นหน้าปั้นใจได้ชัดขึ้น และสีหน้าของเขาตอนนี้ก็เต็มไปด้วยความสงสัย
   “หะ...”
   “หืม...มีอะไรเหรอ” ผมถามขึ้นพลางเริ่มมองไปรอบๆ โดยตอนนี้ปั้นใจพาผมมาที่ไหนสักที่ที่ไม่ค่อยมีคนนัก
   “อืม ลืมไป กูเข้าก่อนเกณฑ์...” ปั้นใจพยักหน้าพลางทำหน้าเซ็งๆ ดูเหมือนเขาจะไม่ชอบนักกับการรู้ว่าตัวเองเด็กกว่า “ก็แค่ปีเดียว...”
   “สองปี”
   “...”
   “ปั้นเด็กกว่าเราสองปี” ผมพูดขึ้นพลางชูสองนิ้วไปให้ ทำให้คนตรงหน้ายิ่งคิ้วขมวด ส่วนผมเองหลังจากที่โดนปลอบไปตอนนี้ก็เริ่มรู้สึกดีขึ้นมา แต่กลับต้องมาเอ็นดูกับปั้นใจที่กำลังทำหน้าไม่เข้าใจเมื่อได้รู้อะไรใหม่ๆ แทน “เราเรียนซ้ำปีนึงอ่ะ...”
   เอ่อ...ขอโทษนะฝัน...
   “หมายความว่าไง”
   “จริงๆ แล้วถ้าตามปกติ ตอนนี้เราต้องอยู่ปีสอง” ผมพูดเสียงเบาหลังจากที่ความลับที่ปิดมานานถูกเปิดเผยให้ปั้นใจฟังคนแรก “ปั้นอย่าไปบอกใครนะ ฝันบอกว่าเราต้องกลมกลืนกับรุ่นเดียวกัน เราบอกปั้นคนแรกเลย”
   “นี่แก่กว่าสองปีเหรอ”
   “อะ...อือ แต่เราก็อยากเป็นเพื่อนกับปั้นนะ” ผมรีบพูดขึ้นเมื่อปั้นใจดูเหมือนจะอึ้งกับเรื่องของผมเอามากๆ
   “นี่กู...เอ่อ ผมเด็ก...” ปั้นใจที่ตอนนี้พูดไม่เป็นภาษาไปแล้ว ทำให้ผมหลุดยิ้มออกมากับท่าทางตั้งตัวไม่ทันแบบนั้น “ยิ้มอะไร ไม่ขำนะ”
   “ขอโทษๆ ปั้นใช้มึงกูเหมือนเดิมก็ได้ เราไม่ถือ”
   “ทำไมต้องทำตัวเหมือนเด็ก...ไม่สิ ทำไมต้องทำให้รู้สึกว่าเกลือเป็นเด็กด้วย ไม่สิ...ทำไมกูต้องรู้สึกว่ามึงเด็กด้วย...!”
   “หือ เราทำเหรอ...เอ่อ...เราก็เป็นแบบนี้ ขอโทษนะ” ผมพูดขึ้นเมื่อเห็นอีกคนบ่นในเรื่องที่ผมไม่เข้าใจนัก ก่อนที่ตัวเองจะก้มหน้าลงอีกครั้ง
   “ไม่ต้องขอโทษแล้ว !” ปั้นใจพูดขึ้นทำให้ผมสะดุ้งก่อนจะเงยหน้ามองเขาอีกครั้ง โดยตอนนี้คนตรงหน้าผมกุมขมับตัวเองเรียบร้อยแล้ว ซึ่งท่าทางแบบนี้ของเขาผมไม่ค่อยได้เห็นนัก เรียกว่าครั้งแรกเลยดีกว่าที่ได้เห็นมุมอื่นๆ ของปั้นใจ
   ซึ่งผมมองว่ามันน่ารักมากๆ
   “งั้นขอบใจก็ได้” ถ้าพูดอย่างอื่นแทนขอโทษน่าจะไม่ทำให้หงุดหงิดแล้วเนอะ
   “...”
   “ขอบใจที่ปกป้องเรานะ แล้วก็ยอมซวย...”
   “บอกว่าไม่ได้ซวยไง !”
   “อือ ไม่ซวย...” ผมรีบพยักหน้า ก่อนจะมองใบหน้าของปั้นใจที่ตอนนี้ขึ้นสีแดงเรื่อ จนผมไม่รู้ว่าเขาไม่สบายหรือมีเรื่องอะไรให้ไม่พอใจหรือเปล่า และตอนนี้คนที่เคยมีแค่ท่าทางนิ่งๆ สยบทุกอย่างกลับดูเหมือนเด็กเอาแต่ใจไปแล้ว
   “เต็มใจทุกอย่างแหละ...”
   “หืม...” เสียงเบาๆ ของคนตรงหน้า ที่ตอนนี้ยกมือข้างหนึ่งปิดใบหน้าตัวเองไปกว่าครึ่งแล้ว
   เมื่อกี๊ปั้นใจพูดว่าอะไร...
   “บอกว่า...”
   “...”
   “ปั้นเต็มใจทุกเรื่องเกี่ยวกับเกลือนั่นล่ะ...”

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :-[ :-[

นุ้งปั้นกล้าๆหน่อย

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
น้องปั้นน่าจะจัดให้พี่เค้าซักทีนะ จะได้เงียบปากไม่พูดแบบนี้อีก

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เด็กกว่าแล้วไง ใจเสียเลยหรอ ปั้น  :hao4:

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
นุ้งปั้นของพี่เกลือ น่าย๊ากกก  :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Mafiaziip

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
เข้าใจเลยอ่ะเวลาที่คนอื่นบอกว่าแซวเล่น ไม่ได้คิดจริง แต่ก็ทำให้เราเสียความรู้สึกไปแล้วป่ะ ไม่ชอบเลย อยากกอดปลอบเกลือเลย แต่ก็กลัวน้องปั้นจะมองแรงใส่ 555555 เอ็นดูปั้นใจตอนรู้อายุ อิอิ น้องปั้นนนนนนนนน :mew1:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ merizel-rada

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-0
ตอนที่ 13


   “นั่งก่อน”
   “อะ...อือ”
   ผมที่ตอนนี้เดินเก้ๆ กังๆ เข้ามาในห้องของปั้นใจก็ได้แต่มองไปรอบๆ ซึ่งด้านในมีเตียงสองชั้นตั้งอยู่มุมห้อง ห้องก็ขนาดไม่ใหญ่มาก ข้าวของด้านในมีไม่เยอะนัก ตามปกติของเด็กผู้ชายทั่วๆ ไป ส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือการ์ตูนมากกว่า แต่ก็สะอาดใช้ได้
   “ขอโทษที่พาโดดเรียน”
   “อือ ไม่เป็นไร เราเองก็ไม่อยากกลับไปแล้วอ่ะ โดนฝันถามแน่ๆ ว่าร้องไห้ทำไม”
   “แล้วร้องไห้ทำไม”
   “...”
   “ไม่ต้องตอบก็ได้” ปั้นใจไม่ได้ว่าอะไร เขาเดินไปเปิดตู้เย็นก่อนจะกลับมาพร้อมกับน้ำดื่มหนึ่งขวดและแก้วหนึ่งใบ “นั่งพักอยู่นี่ล่ะ เดี๋ยวลงไปซื้อข้าวให้”
   “อ่า...”
   “อยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า”
   “ไข่เจียวก็พอ”
   “อืม” ปั้นใจพยักหน้าก่อนจะเดินไปสวมรองเท้าแล้วออกจากห้องไปอีกครั้ง โดยปล่อยให้ผมนั่งตากพัดลมตัวเล็กภายในห้องอยู่แบบนั้น ซึ่งขามาเขาก็ไม่ได้พูดถึงมื้อเที่ยง แค่ชวนมานั่งพักที่ห้องรอแม่มารับ ตอนแรกปั้นใจตั้งใจจะไปส่งผมที่บ้าน แต่ผมเกรงใจที่ต้องให้เขาไปๆ กลับๆ
   จริงๆ ผมก็กลับเองได้นั่นล่ะ แต่ก็อยากอยู่กับปั้นใจให้นานกว่านี้เหมือนกัน เลยไม่ได้ปฏิเสธที่เขาชวนมาห้อง
   ละ...แล้วทำไมต้องรู้สึกเขินกับเรื่องนี้ด้วยล่ะเนี่ย...!
   ฮื้อ...แม่ เหมือนเกลือเป็นเด็กไม่ดีเลย...
   Rrrrrrr ~
   เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้ผมสะดุ้ง ก่อนจะรีบล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋านักเรียน และก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าสายที่โทรเข้ามานั้นเป็นพาฝันนั่นเอง
   ทะ...ทำยังไงดี ถ้ารับพาฝันจะต้องรู้ว่าผมโดดเรียนมากับปั้นใจแน่ๆ
   แต่ถ้าไม่รับ พาฝันก็จะเป็นห่วง...
   ผมที่ตอนแรกลังเลอยู่สุดท้ายก็ยอมกดรับโทรศัพท์ ก่อนจะต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงตะโกนจากคนในสาย
   {ไอ้เกลือ มึงอยู่ไหน !!}
   “ฝะ...ฝัน”
   {ตอบมาเดี๋ยวนี้เลยไอ้หมูอ้วน !}
   “ระ...เราอยู่ห้องปั้นใจ ขอโทษที่โดดเรียนนะ พอดีมีปัญหา...”
   {รู้แล้วว่ามีเรื่อง แต่ไม่รู้เรื่องอะไร พี่เพชรมาตามหามึงอยู่เนี่ย !}
   “เอ่อ...ขอโทษนะที่ทำให้เป็นห่วง เราไม่เป็นอะไร ฝากบอกพี่เพชรด้วย...” ผมพูดออกไปเพียงแค่นั้น และรู้สึกผิดมากๆ ที่ทำให้คนอื่นเป็นห่วง ซึ่งพี่เพชรเองก็คงจะรู้สึกไม่ดีกับเรื่องที่เกิดขึ้นเหมือนกัน
   ผมหวังว่าเขาจะไม่ทะเลาะกับเพื่อนนะ...
   {ให้ตายสิ มึงนี่นะ มีเรื่องอะไรไม่บอกกูห๊ะ เดี๋ยวกูออกหน้าให้เอง !} คำพูดร้อนรนของพาฝันทำให้ผมหลุดยิ้มออกมา
   “ไม่มีอะไรแล้ว ขอบใจนะฝัน”
   {คราวหน้าห้ามเงียบหายไปแบบนี้นะ ฝากบอกปั้นใจด้วยว่าเดี๋ยวจะโดน บังอาจจมากที่ลักพาตัวมึงไปกกที่ห้อง !}
   “กะ...กกอะไร เราแค่มานั่งพัก...”
   {ชิส์ คิดให้เยอะไอ้เกลือ อย่าไปหลงกลไอ้เด็กปั้น !} พาฝันที่พูดขึ้นทำให้ผมได้แต่เขี่ยพื้นไปมา ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าทำผิดอะไรสักเรื่องไป {งั้นกูไปเรียนละ ยังไงก็กลับบ้านดีๆ ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ}
   “อือ ไว้เจอกันนะ”
   ผมพูดเสียงเบา ก่อนจะเก็บเรื่องที่ตัวเองเผลอบอกความจริงเรื่องอายุกับปั้นใจไว้ เพราะถ้าพาฝันรู้คงบ่นผมยาวแน่นอน
   ว่าแต่เรื่องที่ผมแก่กว่าปั้นใจสองปีนี่ทำให้ปั้นใจตกใจขนาดนั้นเลยเหรอ...
   ทำไมถึงตกใจนะ
   ผมที่นั่งคิดอยู่ก็ได้แต่ขมวดคิ้วกับตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถหาเหตุผลได้ ก่อนจะกดเข้าดูข้อความไลน์ที่มีคนส่งเข้ามา เมื่อเปิดก็เห็นว่าเป็นพี่เพชรนั่นเองที่ส่งเข้ามามากกว่าสิบข้อความ แต่ที่ผมจับใจความได้ก็คงเป็นข้อความขอโทษแทนเพื่อนเขานี่ล่ะ

   P. : เกลือ พี่ขอโทษแทนไอ้เปรมด้วยนะ ขอโทษจริงๆ พวกพี่ไม่น่าเรียกเกลือกับเพื่อนมาที่โต๊ะเลย
   เกลือ ._. : ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ขอบคุณพี่เพชรที่เป็นห่วงนะครับ

   ผมพิมพ์ตอบไปเพียงแค่นั้น ซึ่งพี่เพชรก็อ่านอย่างรวดเร็วและตอบกลับมาเพียงสติ๊กเกอร์เศร้าเท่านั้น ทำให้ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไปอีกและเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าเหมือนเดิมโดยที่ตอนนี้ก็กำลังสำรวจห้องของปั้นใจอยู่
   อ่า...เตียงล่างหรือเตียงบนนะที่เป็นของปั้นใจ ถ้าด้านล่างนี่ค่อนข้างเป็นระเบียบทีเดียว แต่ถ้าด้านบน...
   ทะ...ทำไมมันถึงได้รกแบบนั้นล่ะเนี่ย !
   ไหนจะโต๊ะหนังสือสองตัวนี่อีก มีโต๊ะหนึ่งที่ไม่เป็นระเบียบ ส่วนอีกตัวไม่ค่อยมีอะไร แต่ก็สะอาดไร้ฝุ่น
   ปั้นใจกับฟางน่าจะต่างกันสุดๆ เลยนะ...
   แกร่ก...
   ผมที่กำลังมองโต๊ะเขียนหนังสือสองตัวอย่างพินิจก็ต้องหันไปทางประตูก็เห็นว่าปั้นใจกลับมาพร้อมข้าวกล่องสองกล่อง
   “มาแล้ว”
   “อะ...อือ” ผมพยักหน้าพลางมองคนที่กำลังถอดรองเท้า ซึ่งการกระทำเพียงแค่นั้นก็ทำให้ผมมองได้อย่างไม่คิดเบื่อ ปั้นใจทำอะไรก็น่ามองไปหมด จนผมรู้แล้วว่าทำไมเขาถึงเป็นที่สนใจขนาดนี้ และก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร
   “ท้องร้องหรือยัง”
   “ยังอ่ะ กินลมตอนเดินมานี่ก็อิ่มแล้ว” ผมว่ายิ้มๆ พลางมองคนที่เข้ามานั่งใกล้ๆ ปั้นใจวางกล่องข้าวลงกับพื้นก่อนจะเดินไปหาโต๊ะเขียนหนังสือขนาดเล็กมาตั้ง และเดินไปหยิบจานและน้ำจากตู้เย็นแล้วกลับมาทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามผมพร้อมกับยื่นขวดชาเขียวเล็กๆ ที่หาได้ตามเซเว่นมาให้ “หืม...”
   “ไม่มีวิปครีมนะ”
   “ขอบใจนะ” ผมว่าก่อนจะรับขวดชาเขียวเย็นๆ มาโดยที่กลั้นยิ้มไปด้วย ก่อนที่ปั้นใจจะเป็นคนเอาข้าวใส่จานแล้วส่งมาหาผม ซึ่งก็คือข้าวไข่เจียวหมูสับ พอผมมองเมนูของอีกคนก็เห็นว่าเป็นแบบเดียวกับผมเช่นกัน
   “คิดถึงไข่เจียว”
   “อือ...”
   “คิดถึงคนทำไข่เจียว”
   อยู่ๆ คำพูดของปั้นใจก็ทำให้ผมชะงักในขณะที่แกะถุงซอสแล้วเงยหน้ามองอีกคนที่ตอนนี้กำลังจัดการกับกล่องข้าวของตัวเองอยู่ พอเขาเงยหน้าขึ้นมาแล้วมองมาทางผมด้วยใบหน้านิ่งๆ ทำให้ผมได้แต่ก้มหน้าลงเหมือนเดิมแล้วเริ่มตักข้าวไข่เจียวคำแรกเข้าปาก
   ‘คิดถึงคนทำไข่เจียว’
   คงไม่ใช่...
   “ลืมไปว่าคนทำไข่เจียวนั่งอยู่นี่” คนตรงข้ามที่พูดขึ้นเบาๆ ทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมองเขาอีกครั้ง และตัวเองก็แอบหน้าร้อนผ่าวไปแล้ว
   ปะ...ปั้นใจทำผมเกร็งอีกแล้ว
   ใจเต้นแรงด้วย !
   “วะ...ไว้คราวหน้าจะทำให้กินอีกนะ...”
   “อืม”
   ปั้นใจพยักหน้ารับ ก่อนจะหันไปสนใจกับข้าวของตัวเองต่อ ส่วนผมเองก็ได้แต่นั่งกินเงียบๆ ไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียง ขนาดแค่ยกชาเขียวมาดื่มยังไม่กล้า ไม่นานข้าวกล่องของผมก็หมดลงพร้อมกับท้องที่ตอนแรกเบาหวิวตอนนี้ก็แน่นและรู้สึกดีสุดๆ
   “อร่อยมากเลย”
   ผมพูดออกไปโดยเจ้าของห้องอย่างปั้นใจก็จัดการเก็บของที่เหลือจากมื้อกลางวันนี้ให้ ทำให้ผมได้แต่นั่งมองเขาเงียบๆ เพราะไม่รู้จะทำอะไรที่ห้องที่ไม่ใช่ของตัวเองดี
   Rrrrrr ~
   เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้ปั้นใจชะงัก ก่อนจะล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วขมวดคิ้ว ทำให้ผมมองเขางงๆ แต่ก็ไม่กล้าถามนักว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า ก่อนที่อีกคนจะตัดสายแล้วเอาโทรศัพท์มาโยนไว้ที่เตียง แล้วเดินไปจัดการกับจานข้าวที่ใช้แล้วต่อ
   Rrrrrrr ~
   แต่สายที่โทรเข้ามาก็ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
   “ให้ตายสิ...” ผมฟังคนที่จัดการกับของในอ่างก็ทำตัวไม่ถูก เพราะไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรสำคัญหรือเปล่า และก็ไม่กล้าหันไปมองโทรศัพท์ของปั้นใจที่อยู่ใกล้ตัวด้วยว่าใครโทรมาแม้จะสงสัยก็ตาม “เกลือรับให้หน่อย”
   “หะ...หื๊อ !”
   “บอกว่าไม่อยู่ ไม่ว่าง ไม่ต้องโทรมาอีก”
   ปั้นใจหันมาพูดกับผมโดยที่มือก็ถือจานที่เต็มไปด้วยฟอง ทำให้ผมได้แต่มองเขาอย่างลังเล แต่สุดท้ายก็ได้แต่พยักหน้า เพราะคิดว่าปั้นใจก็แค่วานอะไรนิดๆ หน่อยๆ เอง
   คะ...แค่บอกคนที่โทรมาว่าปั้นไม่ว่าง...
   ผมเอื้อมมือป้อมๆ ไปหยิบโทรศัพท์ของปั้นใจมา ก่อนจะมองต้นเหตุที่ทำให้ปั้นใจอารมณ์เสีย
   ‘ฟาง’
   ผมที่มองดูหน้าจอครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจกดรับสายให้คนที่ล้างจานอยู่ และเมื่อผมเอาโทรศัพท์แนบหูก็ยังไม่ทันได้พูดอะไร คนที่โทรมาก็พูดขึ้นซะก่อน
   {ไอ้ห่าปั้นนน มึงมันร้าย กูจะฟ้องแม่มึงว่ามึงเอาลูกคนอื่นมากกที่ห้อง โทษฐานที่มึงแกล้งแฟนกูเมื่อวาน !!}
   “เอ่อ...ฟาง...”
   {หื้ม...ไม่ใช่ไอ้ปั้นเหรอ...}
   “อะ...อื้อ ปั้นไม่ว่าง...”
   {อ๋ออออออ คร้าบๆ งั้นแค่นี้นะครับ}
   ฟางที่ขานรับด้วยน้ำเสียงที่แอบแฝงด้วยเสียงหัวเราะก็ตัดสายไปทันที ทำให้ผมต้องเอาโทรศัพท์ออกจากข้างหูแล้วมองที่หน้าจอที่ดับไปอย่างงงๆ แล้วหันไปรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นให้เจ้าของโทรศัพท์ทราบ
   “วางไปแล้วนะ”
   “อืม ดี”
   “เอ่อ...ปั้น”
   “ว่าไง”
   “ฟางขู่จะฟ้องแม่ปั้นเรื่องที่ปั้นเอาลูกคนอื่นมา...”
   ผมที่ตอนนี้พูดไม่ออกนักก็ได้แต่นึกภาพที่ปั้นใจพาใครสักคนมาที่ห้องก็รู้สึกหน้าร้อนผ่าวๆ ขึ้นมา และสายตาที่ปั้นใจมองกลับมานั้นก็ทำให้ผมแทบสะอึก
   นี่ผมเผลอพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า หรือการเอาสาวเข้าห้องมันไม่ใช่เรื่องที่สมควรพูดกัน
   นะ...นั่นสินะ ก็ฟางเพื่อนสนิท แต่ผมไม่ได้สนิทขนาดนั้น ทำผิดเข้าให้อีกแล้วไอ้เกลือ !
   “ไอ้ฟางมันพูดว่าไงนะ”
   “ฟะ...ฟางบอกว่าจะฟ้องแม่ปั้นเรื่องที่ปั้นพาสาวมากกที่ห้อง...”
   “สาว ?”
   “อือ ก็ลูกคนอื่น...”
   “มันบ้า มีที่ไหนล่ะสาว แต่ลูกคนอื่นน่ะมีอยู่” ปั้นใจขมวดคิ้วก่อนจะหันไปล้างมือหลังจากที่ล้างจานในอ่างเรียบร้อยแล้ว ผมเลยได้แต่นั่งสงบเสงี่ยมอยู่กับที่จนเจ้าของห้องเดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ แล้วเอนหลังพิงเตียงด้วยท่าทีสบายๆ ทำให้ผมต้องมองท่าทางที่เป็นกันเองของเขาด้วยความตื่นเต้น เพราะไม่เคยได้เห็นมาก่อน “มองทำไม”
   และปั้นใจก็มองผมกลับมาเร็วมาก...
   “ไม่เคยเห็นปั้นใจแสดงท่าทีสบายๆ แบบนี้อ่ะ...”
   “ปกติกู...อ่า...นี่ทำตัวแปลกๆ เหรอ”
   “ไม่ๆ ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น แล้วก็กลับมาใช้มึงกูได้นะ เราไม่ถือ”
   “ไม่เป็นไร ไม่อยากใช้แล้วเหมือนกัน” ปั้นใจว่าก่อนจะหันไปหยิบโทรศัพท์ที่เคยวางอยู่บนเตียงมาดู โดยที่คิ้วก็ยังขมวดมุ่นอยู่ ก่อนที่เขาจะหันมามองผมทำให้ตัวเองต้องมองกลับไป เมื่อคิดว่าเขามีเรื่องจะคุยหรือเปล่า “ทำอะไรดี”
   “ไม่รู้สิ ปั้นอยากทำอะไรล่ะ”
   “ไม่รู้เหมือนกัน” ปั้นใจตอบพลางหันไปอีกทาง ทำให้ผมมองตามก็เห็นว่าเขามองไปที่นาฬิกาห้องที่ตอนนี้บ่งบอกว่าเวลาเพิ่งจะบ่ายโมงกว่า และเหลือเวลาอีกเกือบสามชั่วโมงที่ผมจะออกไปรอแม่ ก่อนที่เราทั้งคู่จะหันมามองหน้ากันอีกครั้ง “หลับมั้ย”
   “เราไม่ง่วงอ่ะ ปั้นหลับก็ได้”
   “ไม่ง่วงเหมือนกัน”
   “อือ” ผมว่าก่อนจะหลบสายตาของอีกฝ่าย ซึ่งผมไม่รู้ว่าการมาบ้านเพื่อนจะทำให้เกร็งขนาดนี้ ขนาดปั้นใจเองยังดูไม่เป็นตัวเอง ทั้งๆ ที่ตอนกินข้าวเขายังดูสบายๆ อยู่เลย พอจะเข้าใจปั้นใจที่ไปบ้านผมครั้งนั้นแล้วสิน...
   “ดูหนังกันดีกว่า”
   อยู่ๆ เจ้าของห้องก็พูดขึ้นมาทำให้ผมพยักหน้าตามรัวๆ ก่อนที่ปั้นใจจะลุกขึ้นเดินไปหยิบโน้ตบุ๊กมาเปิด ทำให้ผมที่มองตามทุกการกระทำของเขาก็ได้แต่นั่งเงียบอีกครั้ง จนปั้นใจวางโน้ตบุ๊กลงบนโต๊ะเล็กๆ ที่เราเพิ่งใช้กินข้าว แล้วมาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ผมเหมือนเดิม ผมที่มองเขาหาหนังที่จะเปิดก็ได้แต่ชะโงกหน้าเข้าไปมองบ้าง คนข้างๆ เองก็ขยับให้ผมได้เห็นหน้าจอมากขึ้น และรายชื่อหนังมากมายบนเว็บก็ทำให้เลือกไม่ถูกว่าจะดูเรื่องอะไรดี ซึ่งปั้นใจก็ไม่ได้หันมาถามผม แต่เขาเลือกที่จะเปิดการ์ตูนอนิเมชั่นเรื่องหนึ่งขึ้นมา และมันก็ทำให้ผมสนใจของตรงหน้าได้ทันที
   ผมกับปั้นใจขยับตัวถอยกลับมานั่งชิดกับขอบเตียงอีกครั้ง โดยเป็นผมที่ตอนนี้สนใจกับของตรงหน้าไปแล้วเลยได้แต่นั่งเงียบ เพราะคิดว่าปั้นใจเองก็คงจะตั้งใจดูเหมือนกัน แต่ไม่ทันไร คนข้างตัวผมก็ส่งเสียงขึ้นมา
   “นี่...”
   “หืม...”
   “ชอบกินอะไรที่สุด” ปั้นใจถามขึ้น ทำให้ผมหันไปมองทางเขา ก่อนจะทำท่าคิด
   อ่า...ถ้าเป็นของที่ชอบ...
   “ชอบขนมปังครัวซองต์”
   “ของคาวล่ะ”
   “ถ้ากับข้าวชอบต้มจืดกับไข่เจียว” ผมตอบออกไป ก่อนจะหันกลับมาสนใจกับการ์ตูนอีกครั้ง ซึ่งปั้นใจก็พยักหน้าแล้วพูดต่อ
   “ชอบสีเหลืองใช่มั้ย”
   “อื้อ”
   “ชอบดูอนิเมชั่นด้วย”
   “ช่ายยย เราชอบดูนะ ชอบดูกว่าหนัง” ผมว่าแล้วหันไปยิ้มกว้างให้ปั้นใจ ซึ่งผมไม่ได้รู้สึกรำคาญเขาที่ชวนคุยในระหว่างดู แต่กลับรู้สึกดีมากกว่าที่ได้คุยกับเขามากขึ้น “แล้วปั้นชอบดูอนิเมชั่นเหมือนกันใช่มั้ย”
   “เปล่า ไม่ได้ชอบ”
   “อ้าว...” คำตอบของปั้นใจทำให้ผมทำหน้างงทันที ก่อนจะมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ ซึ่งอีกฝ่ายเองที่มองผมมาตั้งแต่แรกก็ไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ ออกมา มีแค่ผมที่แสดงออกว่าไม่เข้าใจในคำพูดของเขา “แล้วทำไมถึงเลือกดูอนิเมชั่นล่ะ”
   “ที่เลือกเพราะไม่ชอบไง”
   “หืม...” ผมยิ่งแสดงออกว่าไม่เข้าใจไปเขาเข้าไปใหญ่ โดยที่ตอนนี้ปั้นใจไม่ได้หันหน้าหนีผมไปไหน ไม่เหมือนผมที่หันไปดูภาพบนหน้าจอโน้ตบุ๊กที หันมาหาเขาที และครั้งนี้มันก็ทำให้ผมรู้สึกแตกต่างจากเดิมที่ไม่ใช่แค่การสงสัยเพราะหัวใจที่เริ่มเต้นแรงขึ้นมาประกอบบทสนทนา
   “ถ้ามีของที่ชอบสองอย่างอยู่ใกล้ๆ ตัว คงลำบากใจถ้าจะต้องเลือกมองอย่างใดอย่างหนึ่ง และถ้าไม่ชอบก็จะได้ไม่มอง...”
   “...”
   “เพื่อที่จะดูสิ่งที่ชอบแค่เพียงอย่างเดียว”
   คำพูดของปั้นใจจะไม่ทำให้ผมรู้สึกได้มากขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่ว่าตอนนี้เขากำลังมองผมอยู่ และมันก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ภาพบนจอตรงหน้าเริ่มเคลื่อนไหว
   ‘สิ่งที่ชอบเพียงอย่างเดียว’
   เชื่อเถอะว่าตอนนี้ผมเองก็ไม่กล้าละสายตาไปจากเขาเหมือนกัน

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อ่านเองยังระทวยเพียงนี้ เกลือได้ยินข้างหูตัวเองจะ.....  :jul1:

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ปั้นใจค่อยๆกระชับความสัมพันธ์

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เข้าใจเลยอ่ะเวลาที่คนอื่นบอกว่าแซวเล่น ไม่ได้คิดจริง แต่ก็ทำให้เราเสียความรู้สึกไปแล้วป่ะ ไม่ชอบเลย อยากกอดปลอบเกลือเลย แต่ก็กลัวน้องปั้นจะมองแรงใส่ 555555 เอ็นดูปั้นใจตอนรู้อายุ อิอิ น้องปั้นนนนนนนนน :mew1:

คนแบบเปรม ปากหมา ใจร้าย    :fire: :angry2: :m31:
มีความสุขกับการพูดแซว ทำร้ายจิตใจคนให้เสียความมั่นใจ
พอถูกว่าบ้างก็โกรธ ไม่คิดถึงจิตใจคนที่ตัวเองว่าเขา  เลวววววววววววว   :m16:

ปั้นใจ  เกลือ   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด