ตอนที่ 15
“ฮึ่ม...”
“...”
“สองคนนี้นี่...”
“หือ...”
“นั่งตัวติดกันไปป้ะ”
พาฝันที่เพิ่งเดินเข้ามาในโรงอาหารก็หรี่ตามองผมกับปั้นใจ ก่อนที่ตัวเองที่กำลังกัดขนมปังครัวซองต์เข้าปากต้องหันไปมองคนข้างๆ ที่นั่งไหล่ชนกัน โดยที่เขากำลังกินข้าวอยู่ ก่อนที่ตัวเองจะขยับออกเล็กน้อย แล้วก้มหน้ากินของในมือต่อ
ผมกับปั้นนั่งติดกันไปงั้นเหรอ...
“แหม กูแค่แซวเล่น นั่งๆ ไปเถอะ ติดๆ กันก็ได้”
“มะ...ไม่เป็นไร กลัวปั้นอึดอัด” ผมว่าก่อนจะเงยหน้ามองพาฝันที่ตอนนี้วางกระเป๋าลงโดยเธอก็ส่ายหัวเบาๆ ก่อนจะคว้ากระเป๋าเงินเดินออกไปจากโต๊ะทันที ทำให้ตอนนี้เหลือแค่ผมกับปั้นใจเท่านั้นที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม
วันนี้ผมมาเจอปั้นใจที่ป้ายรถเมล์หลังจากที่แม่ขับมาส่งในตอนเช้า แน่นอนว่าเขาก็ได้ไหว้แม่ผมและรับของฝากอย่างบราวนี่มาแล้ว ซึ่งวันนี้ดูเหมือนเขาจะยังมีความอารมณ์เสียอยู่นิดๆ เพราะตั้งแต่เช้ามาผมยังไม่เห็นเขายิ้มเลย
อ่า...จะว่าไปปกติเขาก็ยิ้มแทบนับครั้งได้ล่ะนะ
งั้นก็เรื่องปกติสินะ...
“เอาขนมไปกินมั้ย”
“หะ...หืม...”
“ก็บอกว่าถ้ามามอแล้วจะเอาบราวนี่ไปกินแทนไม่ใช่เหรอ”
“จะให้เรากินเหรอ”
“อืม”
ผมที่เงยหน้ามองเขาที่พยักหน้ารับ ก่อนจะรับถุงพลาสติกใสที่มีกล่องเค้กสีน้ำตาลเข้มมา ผมที่มองมันด้วยความรู้สึกดีใจก็อดยิ้มไม่ได้ เพราะไม่คิดว่าเขาจะให้ผมกินจริงๆ
แม่รู้ต้องบ่นแน่ๆ !
“รู้สึกเหมือนแย่งความอ้วนมาจากปั้นเลยอ่ะ” ผมพูดพลางหัวเราะเบาๆ เมื่อตอนนี้ครัวซองต์ก็ยังคาปาก แต่ก็ได้ของกินใหม่เพิ่มมาอีกแล้ว
“พรุ่งนี้ว่างหรือเปล่า”
“หืม...”
“วันหยุด ว่าจะชวนออกไปข้างนอก”
“ปกติเราก็ว่างทุกวันนะ”
“งั้นพรุ่งนี้ออกมาเจอกันได้มั้ย”
“ได้สิ ถ้าบอกแม่ว่าไปกับปั้น แม่ต้องให้แน่นอน” ผมยิ้มกว้างพลางมองอีกคนที่อยู่ข้างๆ ก่อนจะต้องหันหน้าหนีมาอีกทางเมื่อเห็นว่าพาฝันเดินกลับมาที่โต๊ะ ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องหลีกเหลี่ยงที่จะให้พาฝันเห็นว่าผมคุยกับปั้นใจด้วย
อ่า...คงเพราะไม่อยากรับมือถ้าต้องโดนพูดอะไรแปลกๆ แน่ๆ
“ฝากซื้อน้ำหน่อย”
“ห๊า”
“ก็จะไปซื้อน้ำไม่ใช่เหรอ” ผมที่ตอนแรกหลบตาปั้นใจมาอีกทางก็ต้องเงยหน้ามองคนที่ตอนนี้ยืนเท้าเอวมองคนข้างๆ ผมที่ยื่นเงินไปให้ “ฝากซื้อน้ำหน่อยครับ”
“...”
“พี่ฝัน”
“ปะ...ปั้น...”
“เดี๋ยวนะ !” พาฝันที่ตอนแรกยืนเท้าเอวมองหน้าปั้นใจอย่างเอาเรื่องอยู่ก็เบิกตากว้างแล้วพุ่งเข้ามาปิดปากปั้นใจทันที แต่ก็โดนปั้นใจปัดออก “นายพูดอะไรเนี่ย มาเรียกพงเรียกพี่ !”
“ก็ผมเข้าก่อนเกณฑ์”
“ไม่ต้องเรียกพี่เว้ย !”
“พี่ฝันไปซื้อน้ำสิ”
“เอ๊ะ !”
“ฝากซื้อน้ำด้วย”
“นี่กวนกันใช่มั้ยห๊ะ”
“พี่ฝัน”
ผมที่มองคนสองคนสนทนากันโดยตอนนี้ปั้นใจก็จ้องไปทางพาฝัน โดยใบหน้าของเขาไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมาเลย เหมือนแค่พูดตามปกติ แต่ก็เรียกความอารมณ์เสียจากพาฝันได้เป็นอย่างดี
“โอ๊ย ไอ้เด็กบ้านี่ เอาเงินมา จะเอาน้ำอะไรยะ !”
“ชาเขียว”
“ค่ะๆๆ น้องปั้น เดี๋ยวพี่มานะคะ”
“ครับ พี่ฝัน”
ผมมองพาฝันที่ตอนนี้ขบเคี้ยวเขี้ยวฟันจากชี้หน้าปั้นใจอย่างเอาเรื่อง ก่อนจะเดินออกไปจากโต๊ะ ทำให้ผมต้องหันไปมองปั้นใจที่ตอนนี้ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรนัก
ตะ...แต่ถ้าฝันรู้ว่าผมบอกปั้นคงโดนบ่นแน่ๆ
“ปะ...ปั้นเรียกฝันว่าพี่...”
“ทำไม อยากโดนเรียกบ้างเหรอ”
“...”
“พี่เกลือ”
ผมที่ตอนนี้หน้าร้อนผ่าวอย่างไม่รู้สาเหตุหลังจากที่ปั้นใจหันมามองหน้าผมแล้วพูดออกมาอย่างนั้น และการแค่เรียก ‘พี่’ ของปั้นใจก็ทำให้ผมใจเต้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วผมไม่ชอบให้ใครมาเรียกแบบนี้นัก
“ไม่เอาสิ มะ...ไม่ต้องเรียกหรอก...”
“ไม่เรียกก็ได้” ปั้นใจพูดเพียงแค่นั้น ก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทาง
“อือ แล้วก็อย่าแกล้งฝันด้วย”
“สั่งเหรอ”
“ปะ...เปล่านะ !” ผมรีบพูดขึ้นมาเมื่อโดนปั้นใจถามแบบนั้น
ผมจะไปกล้าสั่งเขาได้ยังไงกันเล่า...
“ไม่ได้แกล้ง แค่จะฝากซื้อน้ำเลยต้องพูดเพราะๆ”
“อือ...เข้าใจแล้ว” ผมที่ตอนนี้ได้แต่พยักหน้ารับเพราะไม่รู้จะพูดอะไรกับเขาดี คงจะได้แต่ปล่อยให้ปั้นใจกับพาฝันตีกันต่อไป ก่อนที่ตัวเองจะถามคนข้างๆ ขึ้นอีกครั้ง “ว่าแต่พรุ่งนี้จะไปไหนเหรอ”
“จะพาไปซื้อชุดว่ายน้ำ”
“หะ...หืม...”
“เดี๋ยวมานะ”
ปั้นใจที่อยู่ๆ ก็ลุกขึ้นจากโต๊ะทำให้ผมมองตามเขา จากที่ตั้งใจจะถามต่อก็ต้องเก็บคำถามไว้แล้วมองอีกคนเดินออกจากโต๊ะไป พร้อมกับพาฝันที่เดินกลับมาโดยในมือก็มือแก้วชานมกับชาเขียวอยู่ด้วย พอมาถึงอีกฝ่ายก็มองหาอีกคนทันที
“อ้าว แล้วคนฝากซื้อไปไหนแล้วล่ะ”
“เห็นว่าเดี๋ยวมา”
“ให้ตายสิ ไอ้เด็กนี่ อยู่ๆ มาเรียกพี่เฉยเลย...”
พาฝันที่ขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้นทำเอาผมสะดุ้ง ก่อนจะยิ้มเหยๆ ไปให้คนตรงข้ามที่ทิ้งตัวลงนั่งแล้วกินข้าวเงียบๆ โดยที่มือก็เลื่อนแก้วชาเขียวมาให้ผม
“หืม”
“กินแทนเลย ยังไงเจ้าตัวก็ไม่อยู่ละ”
“ไม่ดีมั้ง...”
“ดี”
พาฝันพูดย้ำทำให้ผมได้แต่ส่ายหัว ส่วนคนตรงข้ามก็ไม่ได้สนใจนักหลังจากที่ยื่นแก้วให้ผมเสร็จ ส่วนตัวเองที่มองแก้วชาเขียวก็ได้แต่นึกถึงเจ้าของที่สั่งมันมาที่ไม่รู้ว่าตอนนี้ไปไหนแล้ว และจะกลับมาที่โต๊ะหรือเปล่าด้วย
อ่า...
ปวดฉี่...
ผมที่ตอนแรกนั่งคิดเรื่องอื่นอยู่ก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมา จึงลุกขึ้น ทำให้คนตรงข้ามมองมาเป็นเชิงถาม
“เราไปเข้าห้องน้ำแป๊บนะ”
“เคๆ รีบไปรีบมาล่ะ จะเข้าเรียนละ”
“อือ”
ผมพยักหน้าก่อนจะเดินออกจากโรงอาหารแล้วไปที่ห้องน้ำชายที่อยู่ไม่ห่างจากที่นี่นัก จริงๆ ใกล้ๆ โรงอาหารก็มีแต่ผมคิดว่าคนต้องเยอะแน่ๆ และผมคิดว่าคงจะดีกว่าถ้าผมหลีกเหลี่ยงคนเยอะๆ ที่ว่า...
“เกลือ !”
เสียงเรียกที่ดังขึ้นทำให้ผมหันไปมองทันที ก่อนจะเห็นว่าเป็นพี่เพชรที่เดินเข้ามาหา โดยที่เขาหันไปโบกมือให้เพื่อนๆ เป็นเชิงให้ไปก่อนแล้วหันมาทักทายผมอีกครั้ง
เอ่อ...อยากเข้าห้องน้ำจัง...
“สวัสดีครับพี่เพชร”
“เป็นไงบ้างเรา”
“ก็...ปกติดีครับ ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว”
“ขอโทษด้วยนะ”
“มะ...ไม่เป็นไรจริงๆ ครับ พี่เพชรไม่ต้องคิดมาก” ผมรีบพูดออกไป เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะยังรู้สึกผิดอยู่ แต่จริงๆ เรื่องนี้พี่เพชรก็ไม่ได้ผิดสักหน่อย
คนตรงหน้าผมยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าผมไม่ได้แสดงท่าทีโกรธเขาก่อนจะพยักหน้ายอม
“แล้วเพื่อนไปไหน”
“ฝันนั่งกินข้าวอยู่ที่โต๊ะครับ ส่วนปั้น...”
“อ๋อ คนนั้นพี่เห็นอยู่ ช่วยมิลค์ยกของอยู่ที่จอดรถนู่น” ผมพยักหน้าตามเพราะผมไม่รู้จริงๆ ว่าปั้นใจไปไหน “ว่าแต่เราจะไปไหนเนี่ย”
“ไปเข้าห้องน้ำครับ”
“อ้าวกรรม พี่ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจมาขวางไว้ ไปๆ พี่ก็จะไปเหมือนกัน” พี่เพชรว่าพลางเกาหัวแกรกๆ ซึ่งผมเองก็ได้ส่งยิ้มให้เขาเพราะไม่ได้โกรธเคืองอะไร แม้จะอยากเข้าห้องน้ำสุดๆ แล้วก็ตาม ก่อนจะเดินตามพี่รหัสมาที่ห้องน้ำที่คนน้อยและอยู่ไม่ไกลมาก และเมื่อมาถึงทั้งผมและเขาก็ต่างแยกย้ายกันทำธุระส่วนตัว แม้ผมจะแอบรู้สึกแปลกๆ บ้างเมื่อมีคนมาห้องน้ำด้วยพร้อมๆ กันแบบนี้
ก็ไม่เคยมีเพื่อนผู้ชายนี่นา...
ผมที่เดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าพี่เพชรยังยืนรออยู่ข้างนอก ทำให้ผมต้องเดินไปหาเขา ซึ่งคิดว่าอีกฝ่ายเองก็คงจะมีเรื่องพูดกับผมด้วย ถึงได้ยังไม่ไปไหน
“เย็นนี้ว่างหรือเปล่า จะพาไปเปิดหูเปิดตา”
“เปิดหูเปิดตา...”
“จะพาไปเลี้ยงหมูกระทะร้านเด็ดแถวนี้”
คำตอบของพี่เพชรทำให้ผมอดตื่นเต้นไม่ได้ แต่ไม่ใช่เพราะคำว่า ‘หมูกระทะ’ หรอกนะ
มะ...ไม่ใช่จริงๆ !
“จริงๆ ก็ว่างทุกวันครับ แต่ต้องขอแม่ก่อน”
“หืม ขอสิ ถ้าดึกเดี๋ยวพี่แวะไปส่งที่บ้านก็ได้”
“ไปกับเพื่อนๆ พี่เพชรเหรอครับ”
“เปล่าๆ ไปกับพี่สาว ย่ารหัสของเกลือน่ะ”
“ย่ารหัส...”
“สายรหัสเราไง ปีสี่ จริงๆ มีป้ารหัสด้วย แต่เขาซิ่วไปนานแล้ว ฮ่าๆ” พี่เพชรพูดขึ้นพลางทำท่านึกถึงป้ารหัส ซึ่งผมเองก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องนี้เหมือนกัน เรื่องย่ารหัสด้วย “จริงๆ ตอนแรกพี่คิดว่าสายรหัสเราจะมีแต่ผู้หญิงแล้วพี่เป็นผู้ชายคนเดียวซะแล้ว รู้สึกโชคดีที่เกลือเป็นผู้ชายเลย”
“อ่า...ย่ารหัสจะชอบผมมั้ยครับ”
“แน่นอนสิ พี่เอารูปเกลือให้เขาดูแล้ว พี่เขาบอกเกลือน่ารัก พี่เลยเสริมไปว่านิสัยดีด้วย”
“ขอบคุณมากๆ ครับพี่เพชร” ผมที่ฟังคำพูดที่เหมือนจะเกินจริงของเขาก็ได้แต่ยิ้มออกมา แม้จะรู้สึกเขินบ้างที่โดนชม และเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าจะต้องโทรไปขอแม่เรื่องที่จะไปร้านหมูกระทะวันนี้ด้วย “งั้นเดี๋ยวถ้าผมโทรบอกแม่แล้วจะทักไปบอกพี่เพชรนะครับว่าไปได้มั้ย”
“ได้เลย พี่จะรอนะ”
คนตรงหน้าเอื้อมมือมายีหัวผมเบาๆ ส่วนผมเองก็ได้แต่ยิ้มให้เขา ก่อนที่สัมผัสบนหัวจะหายไปเมื่ออยู่ๆ ก็มีเงาสูงๆ ของใครบางคนที่ข้างกายผม พอหันไปมองก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าเป็นปั้นใจที่ตอนนี้กำลังจับข้อมือของพี่เพชรอยู่
“ปั้น...”
“ไงครับ เพื่อนน้องเกลือ” พี่เพชรที่ทักขึ้น ก่อนจะชักมือตัวเองออกมาจากการจับของคนที่เข้ามาใหม่ ทำให้ผมต้องมองคนสองคนอย่างงงๆ ก่อนที่ปั้นใจจะหันมามองผมแล้วถามขึ้น
“มาทำอะไรแถวนี้”
“เรามาเข้าห้องน้ำ”
“ตรงใกล้ๆ โรงอาหารก็มี”
“คนเยอะอ่ะ ตรงนี้คนน้อยดี...”
“คราวหน้าเข้าใกล้ๆ นั่นล่ะ”
“อะ...อือ...” ผมพยักหน้าตามคำพูดของปั้นใจอย่างว่าง่าย
“หรือไม่ก็เรียกสิ เดี๋ยวมาเป็นเพื่อน...”
คำพูดเบาๆ ของคนข้างๆ ผมทำให้ตัวเองต้องหลบตาเขาลง ซึ่งอีกฝ่ายเองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ จนเป็นพี่เพชรที่เป็นคนทำลายความเงียบขึ้นมา
“งั้นพี่ไปเรียนก่อนนะ เกลือก็อย่าลืมไลน์มาบอกพี่ด้วยว่าได้มั้ย”
“ครับ”
“หวังว่าเย็นนี้เราจะได้เจอกันนะ”
“อ่า...ครับ...”
ผมพยักหน้าโดยที่คนตรงหน้าก็ยิ้มมาให้ผมแล้วเดินออกไปทันที ผมที่มองตามก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา ก่อนจะต้องคิดว่าจะโทรไปขอแม่ยังไงดี เพราะปกติผมไม่เคยออกไปเที่ยวตอนดึกๆ ด้วย
“เย็นนี้ทำไม”
ผมสะดุ้งกับเสียงของคนข้างๆ จนลืมไปว่ายังมีปั้นใจอยู่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่ตอนนี้ขมวดคิ้วแล้วมองตามหลังพี่เพชรไป ก่อนที่สายตานั้นจะหันมาทางผม ผมเลยต้องตอบคำถามเขาไปอย่างไม่ปิดบัง
“เย็นนี้พี่เพชรจะพาไปกินหมูกระทะกับย่ารหัสอ่ะ”
“...”
“อยากชวนฝันกับปั้นไปด้วย แต่ไม่รู้เขาจะให้ไปหรือเปล่า”
“สรุปจะไป ?”
“อะ...อื้อ...ไปเจอป้ารหัสด้วย”
“อืม ดีแล้ว” คำพูดของเขาทำให้ผมได้แต่มองไปอย่างสงสัย “จะได้รู้จักคนอื่นบ้าง”
“นั่นสิ...”
“ร้านหมูกระทะใกล้ๆ นี่ใช่มั้ย”
“น่าจะใช่นะ พี่เพชรบอกอยู่ใกล้ๆ นี่ล่ะ”
“อยู่ใกล้กับหอพอดี”
“หืม...”
“กินเสร็จแล้วโทรมานะ”
“...”
“เดี๋ยวออกไปรับ”
ช่วงเย็นผมที่ขอแม่มาร้านหมูกระทะกับพี่เพชรได้แล้ว ตอนนี้ก็นั่งอยู่หน้าเตาปิ้งย่างที่รอบข้างมีเสียงดังจากหลายๆ คนภายในร้านก็อดตื่นเต้นไม่ได้ เพราะผมไม่ได้มาร้านแบบนี้บ่อยนัก นานๆ จะมากับแม่สักที ซึ่งตรงข้ามผมก็เป็นพี่เพชรกับพี่อ้นปีสี่ที่บอกว่าดีใจที่ได้เจอผม เพราะเขาเห็นผมจากรูปแล้วรู้สึกอยากจะหยิกแก้มมากๆ
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมแก้มตัวเองถึงได้ไปคันไม้คันมือเขาได้...
“พี่ชื่ออ้นอยู่ปีสี่ หวังว่าปีหน้าเราคงจะไม่ได้เจอกัน เพราะพี่ไม่คิดที่จะเรียนซ้ำ ยังไงมีเรื่องอะไรให้ช่วยบอกพี่ได้เสมอนะหลานรหัส”
ถุงกระดาษสีครีมถูกยื่นมาให้ ทำให้ผมรับมาก่อนจะก้มหัวขอบคุณ
“ขอบคุณมากๆ ครับ”
“น่ารักอย่างที่เพชรว่าเลย”
“ใช่มั้ยพี่อ้น ดีนะผมยังอยู่ดูน้องไปได้อีกสองปี” พี่เพชรว่าพลางยิ้มกว้างแล้วเอื้อมมือมาโยกหัวผมเบาๆ ซึ่งผมเองก็ได้แต่ยิ้มรับเท่านั้น
ดูเหมือนพี่อ้นกับพี่เพชรจะสนิทกันพอสมควร เพราะดูเขาจะไม่แสดงท่าทีเขินต่อกันสักนิด คงจะมีแต่ผมนี่ล่ะ ที่นั่งคีบเบค่อนใส่ปากอย่างเดียวเพราะไม่รู้จะร่วมบทสนทนากับทั้งคู่ยังไง
“ว่าแต่เกลือโดนใครแกล้งบ้างมั้ย ถ้าโดนมาฟ้องพี่ได้นะ เดี๋ยวพี่จัดการให้”
“เจ้านี้ไม่โดนหรอกพี่อ้น มีบอดี้การ์ดส่วนตัวอยู่”
“จริงดิ !”
“เพื่อนเกลือน่ะ ปกป้องเพื่อนมาก หายห่วงเลย”
อยู่ๆ เรื่องของผมก็เข้าไปอยู่ในการสนทนาของพี่ๆ เขาซะอย่างนั้น ทำให้ตัวเองได้แต่พยักหน้ารับเมื่อพี่อ้นมองมาเป็นเชิงถามว่า ‘จริงเหรอ’ และถ้าบอดี้การ์ดที่พี่เพชรว่าหมายถึงปั้น ผมไม่รู้ว่าจะเรียกบอดี้การ์ดได้มั้ย แต่เขาก็ปกป้องผมจากหลายๆ เรื่อง แถมยังรับเรื่องซวยๆ ไปแทนด้วย...
ควรเรียกปั้นว่าอะไรดี...
โชคดีของผมละมั้ง
“กินเต็มที่เลยนะ” เสียงเบาๆ ข้างตัวทำให้ผมที่ตอนแรกยิ้มอยู่กับตัวเองก็หันไปมองทางพี่เพชรที่คีบเบค่อนมาให้
“ขอบคุณมากๆ นะครับ”
“แล้วนี่กลับกี่โมง”
“เดี๋ยวสักพักผมคงต้องไปแล้ว ขอโทษด้วยนะครับที่อยู่นานไม่ได้ ปกติแม่เป็นคนนอนไว แต่วันนี้ต้องอยู่รอเปิดประตูให้ผมด้วย...”
“ไม่เป็นไรๆ แค่เกลือมาด้วยก็ดีใจแล้ว”
“ไม่เป็นไรจ้าน้องเกลือ ไม่ใช่ว่าเราจะเจอกันแค่วันนี้สักหน่อย”
“เดี๋ยวพี่ไปส่งมั้ย”
พี่เพชรที่เป็นคนอาสาขึ้นทำให้ผมส่ายหัว เพราะเกรงใจเขาจริงๆ ถึงเขาจะมีรถก็เถอะ และผมคิดว่าแค่นั่งแท็กซี่กลับเองคงไม่ยากนัก ที่สำคัญดูแล้วพวกพี่เขาคงไม่อยากเช็คบิลเร็วๆ นี้หรอก
“ผมนั่งแท็กซี่กลับแค่แป๊บเดียวก็ถึงแล้ว ขอบคุณพี่เพชรมากๆ ครับ”
“งั้นก็ได้”
คนที่อาสาไปส่งผมพยักหน้าอย่างจำยอม ก่อนจะลุกขึ้นไปตักของกินมาเพิ่ม ส่วนผมเองก็ลุกบ้างแต่ไม่บ่อยนัก ส่วนใหญ่ผมกินแค่เบค่อน แล้วเนื้อหมู เนื่องจากเป็นคนแพ้อาหารทะเลอยู่แล้วเลยได้แต่ดูคนร่วมโต๊ะอีกสองคนกินกุ้งย่างกันอย่างเอร็ดอร่อย
ผมนี่ซวยจริงๆ ของอร่อยอย่างกุ้งก็กินไม่ได้...
ผมที่นั่งกินไปได้อีกสักพักก็คิดว่าคงต้องกลับแล้วจริงๆ แม้จะเสียดายอยู่บ้าง พี่เพชรกับพี่อ้นไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัดเวลาอยู่กับพวกเขา ค่อนข้างจะเป็นกันเองด้วย เมื่อคนทั้งสองคนที่ผลัดกันลุกไปตักอาหารกลับมาที่โต๊ะ ผมจึงรีบพูดขึ้นทันที
“พี่อ้นพี่เพชร เดี๋ยวผมกลับแล้วนะครับ”
“จ้า กลับบ้านดีๆ นะเกลือ”
“ครับ”
“เดี๋ยวพี่เดินไปส่งขึ้นรถ”
“ไม่เป็นไรครับพี่เพชร พี่กินต่อเลย เดี๋ยวผมเดินไปเอง” ผมยิ้มให้กับความหวังดีของคนตรงหน้า ซึ่งพี่เพชรก็ไม่ได้คะยั้นคะยอจะมาส่งผม ก่อนที่ผมจะยกมือไหว้พี่ๆ ทั้งคู่แล้วขอตัวออกมา โดยที่มือก็ล้วงโทรศัพท์ขึ้นมากดส่งข้อความหาคนที่ย้ำแล้วย้ำอีกเรื่องให้ผมโทรหาหลังจากกินเสร็จ แต่ผมเองก็เกรงใจเขาเหมือนกันถ้าจะต้องให้ปั้นใจออกมาจากหอตอนดึกๆ แล้วไปส่งผม
เกลือ ._. : เรานั่งแท็กซี่กลับบ้านแล้วนะ ไม่ต้องห่วง ถ้าถึงแล้วจะบอกอีกที
เมื่อส่งเสร็จผมก็เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า ซึ่งก็เดินมาถึงหน้าร้านพอดี แต่ดูเหมือนว่าคนที่หน้าร้านจะเยอะกว่าปกติจนผมตกใจว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า แต่หูกลับไปได้ยินประโยคหนึ่งที่ฟังดูแล้วมันน่าจะไม่ใช่เรื่องไม่ดีอะไร
“หล่ออ่ะ เด็กมอไหนเนี่ย...”
“หน้ายังเด็กอยู่เลย เด็ก ม.ปลายหรือเปล่า”
“มึง นั่นมันปั้นใจนี่ !!”
หะ...หือ...
ชื่อที่ดังอยู่ในบทสนทนาทำให้ผมเบิกตากว้าง ก่อนจะหาทางแทรกกลุ่มผู้หญิงที่เป็นทั้งพนักงานในร้าน และลูกค้า เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นเด็กมหาวิทยาลัยผมเลยค่อนข้างจะตกใจเมื่ออยู่ๆ ชื่อของปั้นใจก็ดังขึ้นมา
คงไม่ใช่...
ผมที่ตอนแรกกำลังคิดไม่ตกกับเรื่องที่ได้ยินก็ต้องหยุดชะงักการเดินเมื่อสายตาปะทะเข้ากับร่างผู้ชายที่เป็นจุดสนใจของสายตาอื่นๆ เช่นกัน โดยตอนนี้คนที่สวมเสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนส์ธรรมดาๆ แต่สภาพออกมากลับดูดีสุดๆ กำลังยืนก้มหน้ากดโทรศัพท์อยู่ ก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นมาแล้วมองไปรอบๆ และสายตาก็มาหยุดอยู่ที่ผมที่ยืนอยู่หน้าร้านรวมกับคนอื่นๆ พอดี
ปะ...ปั้นใจจริงๆ ด้วย...
ผมที่ตอนนี้ยืนอึ้งอยู่กับที่ก็เห็นว่าคนที่ยืนห่างออกไปเดินเข้ามาหา และมันก็ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเขามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผม
ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่...
“ก็บอกแล้วไง...”
“...”
“ว่าจะมารับ”