*..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 12 จบแล้ว [11-12-18] P.3
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 12 จบแล้ว [11-12-18] P.3  (อ่าน 12550 ครั้ง)

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะ ครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรัก ชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้าม แจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะ ปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของ แต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้าม จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิด เดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การ พูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอม ให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ด นิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยาย ที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยาย เรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้าม แจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใคร จะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

...
...
...

นิยายเก่าของ rinyriny

1. นิยาย ..*ขอผมได้รัก*..
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57256.0

2. นิยาย ||*...สวัสดี▪นายพล▪ คนธรรมดา...*||
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60981.0

3. นิยาย +..▪..+"แสง.สุด.ท้าย"+..▪..+

https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61787.0

4. นิยาย  ▪▪▪อมยิ้มสื่อรัก▪▪▪

https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66461.30

5 นิยาย *...-+-...-+-เพื่อนพ่อ (อินทัช+คายัค)-+-...-+-...*-
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67267.0





เรื่อง 'คนที่สาม'
by rinyriny
...
...
...
...

ยินดีต้อนรับ สู่โลกแห่งความรัก
ของ 'เนม' กันต์ธีร์ กิจจะกำธร


...
...
... 



Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-12-2018 19:09:22 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
Re: ||*..--+--..*หลง*..--+--..*||บทนำ [2-9-18]
«ตอบ #1 เมื่อ02-09-2018 09:24:03 »

บทนำ

 

 





"จากนี้ จะไปทำอะไรต่อวะ"

 

 

     เสียงจริงจังจากเพื่อนร่วมงานเรียกสติให้ กันต์ธีร์ หรือ เนม ที่นั่งจมจ่อมกับความคิด หันมาสนใจหาคำตอบให้คนที่ตั้งคำถาม


      นั่นสิเขาจะทำอะไรต่อ...ในเมื่อ เนมเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้ว่าบริษัทที่เนมทำงานมาได้สามปีกว่า ต้องปิดกิจการเพราะทนพิษเศรษฐกิจไม่ไหว ทางบริษัทจึงต้องเลิกจ้างพนักงาน โดยจ่ายค่าชดเชยพิเศษเป็นการตอบแทนให้ แม้ตัวเลขที่ได้รับจะเป็นที่น่าพอใจ แต่คนที่ยังไม่ได้หางานใหม่รองรับไว้ นั่นจึงทำให้เขาไม่ได้ตั้งตัวและรับมือไม่ทันเหมือนกัน

 

      ความรู้สึกเนมตอนนี้ ช่างเหมือนเรือกำลังจะอับปาง ใจหาย สมองมึนเบลอ วิตกกังวล จนไร้สติ เนมคิดหนัก เพราะบัดนี้ ก็อายุยี่สิบเจ็ดเข้าไปแล้ว พอโดนปล่อยไว้กลางทางแยก ก็คงต้องถึงเวลาจริงจังกับอนาคตในชีวิตและเลือกแล้วว่า ระหว่างหางานใหม่ หรือ นำเงินก้อนนี้ไปลงทุนทำธุรกิจอะไรสักอย่างที่เป็นชิ้นเป็นอันไปเลย อย่างไหนจะเหมาะสมที่สุด



     พนักงานบริษัทที่ทำหน้าที่ดูแลเอกสาร ประสานงานต่างๆกับทุกฝ่าย ได้แต่นั่งปลงตก ก่อนตอบเพื่อนร่วมงาน



"ไม่รู้ แต่ตอนนี้ คงต้องหว่านใบสมัครไปตามบริษัทอื่นก่อนมั้ง"

 

"ก็ลองดู ส่วนกูคงเอาเงินก้อนนี้ไปลงทุนขายของแล้วล่ะ พอกันทีกับงานประจำ" เนมมองหน้าคนที่มาระบายความทุกข์คงกลัวและขยาดกับความไม่มั่นคงจากการทำงานประจำไปแล้ว



"เอาน่า หลังจากนี้ก็คิดซะว่าพักผ่อนเว้ย"  ไม่รู้คำพูดนี้จะปลอบใจเพื่อนร่วมงาน หรือปลอบใจตัวเองดี



"อืม ก็จริง กูกลับละ"



   เพื่อนร่วมงานตบบ่าปุๆ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับทางใคร ทางมัน

 

   ยามนี้ ชายหนุ่มเดินเท้ามาจากสถานีรถไฟฟ้ากลับคอนโดของตัวเองที่ไม่ใกล้ไม่ไกล  ร่างสูงเดินมาในสภาพเนือย เซื่องซึมอย่างคนหมดแรง


    ตลอดทางการกลับถึงรังของตัวเอง หัวสมองไม่คิดเรื่องอะไรเลยนอกจากเรื่องงานประจำเพียงอย่างเดียว


     เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้รู้เลยว่าความแน่นอน คือ ความไม่แน่นอนจริงๆ



      หยุดยืนริมถนน ใกล้ถึงทางเข้าคอนโด เนมตัดสินใจส่งข้อความหาพี่สาว เพื่อระบายความเครียดเกี่ยวกับข่าวร้ายที่เพิ่งรู้มาหมาดๆ



    พี่น้ำ เป็นพี่สาวที่เนมรักรองจากพ่อ-แม่ แต่คงจะรักมากกว่าเดิมเพราะตอนนี้ เนมไม่เหลือคนในครอบครัวแล้ว นอกจากพี่น้ำคนเดียว เนื่องจาก พ่อ-แม่ของเนมประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนเสียชีวิตคาที่เมื่อสิบปีก่อน



      แม้ว่าเนมจะมีเพื่อนสนิท แต่เรื่องบางเรื่องก็เหมาะจะคุยกับคนในครอบครัวมากกว่า หลายครั้งที่มีเรื่องไม่สบายใจ พอได้คุย ได้ปรึกษา ปรับทุกข์กับพี่สาว มันได้ช่วยเยียวยาจิตใจและทำให้เนมรู้ว่าเขายังมีที่พึ่งและคนที่รักเขามากๆอีกหนึ่งคน แต่น่าเสียดายที่ความจริงมันโหดร้าย เนมกับพี่น้ำไม่ได้อาศัยอยู่ด้วยกัน เนื่องจากพี่สาวเธอไปทำงานอยู่ต่างประเทศ การได้คุยกันแบบนี้จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด สำหรับหนุ่มโสดที่ต้องนอนเหงาภายในห้องไม่ถึงร้อยตารางเมตร



      คนเครียดต้องการกำลังใจ เพียงได้เห็นข้อความที่พี่สาวตอบกลับมาทันทีที่เนมพิมพ์ไปก่อนหน้าก็นึกอยากจะร้องไห้ ไม่ถึงนาที พี่น้ำก็ไลน์คอลมาหา



[เป็นอะไรเนม เครียดอะไร บอกพี่มาซิ]


"พี่น้ำ เนมกำลังจะตก..."


พลั่ก!


     พูดยังไม่ทันจบ โทรศัพท์ก็ลอย กระเด็นไปไกล ก่อนจะตกลงสู่พื้น จากนั้น ร่างสูงก็ล้มลง เมื่อเนมรู้สึกเหมือนมีของแข็งฟาดเข้ากลางหลังจนความชาและเจ็บปวดแล่นปราดไปทั่วร่าง


     สายตาพลันเหลือบมองเครื่องมือสื่อสารที่อยู่ไกลออกไป  เขาพยายามจะคลานไปเก็บแต่รู้สึกเจ็บร้าวทั่วหลัง



     หนึ่งในคนร้ายที่มีกันอยู่สองคน เหยียบหลังมือของเนมแล้วพูด


"เอาเงินมาให้กู"



"กูไม่มี"
ลำพังจะพูดยังยากลำบาก เสียงที่เปล่งออกไปจึงเบาหวิวแทบไม่ได้ยิน

"มึง อยากตายรึไงวะ เอากระเป๋าสตางค์มา"



เพล้ง!



     ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ต่างได้ยินเสียงเหมือนแก้วแตก
 

"เฮ้ย! พวกมึงทำอะไรน่ะ"



     เนมที่ได้ยินเสียงตะโกนไล่ตามหลังพร้อมเสียงเขวี้ยงขวดแก้วมาจากระยะไกล เนมก้มหน้านอนหมอบพร้อมกุมศรีษะตัวเองอยู่ที่พื้น เขาไม่รู้แล้วว่าหลังจากนี้เกิดอะไรขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เขาต้องเอาชีวิตรอดให้ได้



     ไม่นานนัก...ที่เสียงโวยวายเงียบหายไป


"คุณครับ คุณครับ"



     ลืมตาและกวาดตามองจนทั่วบริเวณก็ไม่พบคนร้ายเมื่อสักครู่ แต่สิ่งที่เนมเห็น คือ ชายหนุ่มนิรนามถือขวดปากฉลาม นั่งยองๆอยู่ข้างๆ
 

"โอ้ย กูไม่มีอะไรให้แล้ว"   



"ไม่ใช่ๆ ผมไม่ใช่โจร ผมมาช่วยคุณ"



      เนมกระพริบตาปริบๆ มองหนุ่มนิรนามที่พยายามประคองเนมให้ลุกขึ้นยืน เนมทำหน้าเหยเก กัดปากจนเจ็บ เขาสะกดอารมณ์ความเจ็บปวดเอาไว้ภายใน



      ทำไมชีวิตถึงซวยซ้ำ ซวยซ้อนได้ขนาดนี้ ไม่เพียงแต่กำลังจะกลายเป็นคนว่างงานยังต้องโดนโจรปล้นอีก



"ไหวไหมครับ?"


"โทรศัพท์ผม"
แม้กระเป๋าสตางค์ยังอยู่ แต่เนมก็เศร้าอยู่ดี เขาบ่นอาลัยอาวรณ์ถึงเครื่องมือสื่อสารที่ถูกโจรชิงทรัพย์ หายวับไปเป็นที่เรียบร้อย


"นี่คุณเกือบตาย ยังจะห่วงโทรศัพท์อีกเหรอ?"




      อยากเถียงใจจะขาด แต่เพราะยังระบมอยู่เลยพูดได้ลำบาก


      สำหรับเนมเครื่องมือสื่อสารแทบจะกลายเป็นอวัยวะส่วนที่สามสิบสามไปแล้ว เพราะมือถือคือสิ่งสำคัญสิ่งเดียวที่ช่วยให้เขาคลายความเหงา ความเศร้า ความคิดถึงยามอยู่ตัวคนเดียวได้ดี


     เนมเสียใจที่นอกจากจะไม่ได้ติดต่อกับพี่สาว ยังเสียดายข้อมูลและรูปภาพในเครื่องด้วย



      คนแปลกหน้าเห็นคนเจ็บไม่ยอมพูดอะไร จึงเป็นฝ่ายพูด


"ผมจะพาคุณไปโรงพยาบาลนะ"


"ไม่ต้องครับ แค่จุก ไม่ถึงกับเลือดตกยางออก ช่างมันเถอะ"
เนมก้มลงปัดฝุ่นที่เปรอะเสื้อและขากางเกง



"คุณนี่ไม่ห่วงตัวเองเอาซะเลย ไปตรวจก่อนเถอะ"

 

      มองหน้าพลเมืองดีที่เจ้ากี้ เจ้าการจนนึกรำคาญ แต่ครั้นจะไปต่อว่าก็ดูจะไร้มารยาทไปสักหน่อย เขาอุตส่าห์มาช่วยแท้ๆ


     เนมยอมทำตัวว่าง่ายเดินไปตามคำสั่งของพลเมืองดี


     ระหว่างการเดินทาง ภายในรถยนต์มีแต่ความเงียบฉี่ เนมพิงศรีษะ เบนหน้าหนีไปทางหน้าต่างรถ เพราะไม่รู้จะคุยอะไร เนื่องจากไม่ได้สนิท หรือรู้จักเป็นการส่วนตัว อีก ทั้ง เนมเจ็บและเครียดเกินกว่าจะเสวนาหรือแสร้งเป็นคนเฟรนด์ลี่ด้วย เขาจึงแกล้งหลับจนกระทั่งถึงโรงพยาบาล


     หลังจากให้หมอทำการตรวจเช็คและเอ็กซเรย์ ก็พบว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมากนัก กระดูกไม่หัก อวัยวะภายในสำคัญอย่าง ตับ ม้าม ไตก็ไม่มีฉีกขาด แต่จะมีรอยฟกช้ำดำเขียวตรงแผ่นหลังเท่านั้น


      พอทราบอาการว่าไม่ได้ร้ายแรงถึงกับช้ำในตายก็ลอบถอนหายใจพลันเหลือบมองคนข้างกายที่ดูแลกันอย่างดีประหนึ่งว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกันก็ไม่ปาน



     เมื่อจัดแจงธุระเสร็จเรียบร้อย


     ก่อนจะเดินตามไป


"บอกแล้วว่าไม่เป็นอะไร ทีนี้เชื่อรึยัง?"


"แต่ฟังจากปากหมออย่างน้อยก็โล่งใจกว่า ฟังจากปากคนเจ็บที่เดาเอาเองนะครับ"

 
"....."



"บ้านคุณอยู่ไหนผมจะไปส่ง"



     ความเจ็บระบมทำให้เนมจะตอบคำถามแต่ละที ต้องใช้เวลาครู่หนึ่งก่อนเอ่ย
 

"ไม่ต้องครับ คุณแค่รอผมหาตู้เอทีเอ็มเพื่อกดเงินแล้วคืนให้คุณก็พอ"



      ผู้หวังดีเป็นคนออกค่ารักษาและค่ายาไปให้ก่อน เนื่องจาก ตอนคิดเงิน เนมมีเงินสดติดตัวไม่พอจ่าย


"ไม่เป็นไรครับ"

 

"ไม่เป็นไรได้ไงครับ เราไม่ได้สนิทสนมขนาดที่คุณต้องยอมจ่ายเงินให้ขนาดนี้"
 

"ช่างมันเถอะครับ มากกว่านี้ผมก็เคยเสียมาแล้ว นี่แค่เงินไม่กี่บาทเอง ไม่ต้องคืนหรอกครับ ผมเต็มใจช่วย"


 

"ชัวร์นะ? ถ้างั้นก็ขอบคุณที่ช่วยผมแล้วกัน คุณ....." เพราะสนใจแต่ตัวเอง จึงลืมถามไถ่ประวัติเพิ่มเติมจากคนข้างกายไปเสียสนิท

 

"แม็คครับ"
 

"ขอบคุณครับ คุณแม็ค"
 

"เลิกเรียกคุณเถอะครับ มันดูทางการไปหน่อย แล้วก็เลิกหยิ่งได้แล้ว..เดี๋ยวผมไปส่ง"


"โห...คนอะไร ปากร้ายชะมัด"


"ขอโทษ ผมแค่ไม่อยากให้เนมดื้อ..กลับกันเถอะ ผมไม่ค่อยชอบกลิ่นโรงพยาบาลเท่าไหร่"

 

      สุดท้ายก็ต้องยอมเป็นผู้ร่วมทางไปโดยปริยาย แต่ขากลับรอบนี้ เนมพยายามถามและชวนคุยกว่าเดิม ถึงรู้ว่า แม็คอายุมากกว่าเนมถึงสองปี แต่เขายืนกรานห้ามเนมเรียกพี่ ส่วนเรื่องอาชีพการงาน แม็คไม่ยอมเปิดเผยว่าทำธุรกิจด้านไหน? ประเภทอะไร เขาแค่บอกว่าทำธุรกิจส่วนตัว



      เดินทางไม่นานนัก ก็ถึงที่พักของผู้บาดเจ็บ ก่อนที่เนมจะลงจากรถ หางตาเห็นคนขับรีบลงจากรถมาก่อนแล้วเดินอ้อมตัวรถมาเปิดประตูและคอยรับร่างสูง



"ผมไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นนะ"



"ก็ถ้าเนมปกติดี ผมก็ไม่ดูแลแบบนี้หรอก"



"....."  เนมเงียบมองหน้าคนยิ้มยียวน กวนกัน

 
"ก็ถ้าปกติดี ผมก็ไม่ทำแบบนี้หรอก"



"....."  เนมเงียบมองหน้าคนยิ้มยียวน กวนกัน



"พักคอนโดแบบนี้ เพราะเนมอยู่คนเดียวเหรอครับ?"


"ใช่ครับ"


"อื้มมมม...แล้วนี่เดินไหวหรือเปล่า? ให้ผมขึ้นไปส่งไหม?"

 

"ไม่ต้อง....ครับ" เนมไม่มีทางให้คนที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่ถึงวันขึ้นคอนโดได้ง่ายๆ


"ถ้างั้น ขอเบอร์คุณหน่อยสิ ผมจะได้โทรมาเช็คอาการภายหลัง เผื่อเกิดเรื่องไม่ดี ผมจะได้มาช่วยหรือโทรเรียกรถพยาบาลได้ทัน"


"ลืมไปหรือเปล่า? ว่าผมโดนปล้น"

 


"เอ่อ...ผมก็ลืมไปเลย แล้วยังนี้เนมจะติดต่อคนอื่นยังไงล่ะครับ เอาโทรศัพท์ผมไปใช้ก่อนไหม? ผมมีสองเครื่อง"



      เอียงศรีษะมองคนตรงหน้าอย่างประหลาดใจ ไม่รู้ว่า จะมาไม้ไหน? เพื่อนก็ไม่ใช่ แฟนก็ไม่ใช่ เป็นแค่คนที่เพิ่งรู้จักไม่กี่ชั่วโมง อะไรจะทำตัวป๋า ใจกว้างดั่งแม่น้ำอะเมซอนขนาดนี้


"ไม่เอาครับ"


"ผมให้ยืม ไม่ได้ให้เลยสักหน่อย เนมเอาไปใช้ก่อน  แล้วถ้าซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่แล้ว ก็ค่อยเอาโทรศัพท์มาคืนผม"



       เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ ยืนนิ่งครุ่นคิด จนได้คำตอบว่าก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยๆ จะได้มีไว้ติดต่อกับคนที่ทำงานระยะนี้ไปก่อน


"ฟู่วว์"


       พ่นลมออกมาจากปากเสียงดัง จนคนข้างๆยังตกใจ เพราะในหัวสมองแอบบ่นน้อยใจในโชคชะตาว่า มีเรื่องให้เสียเงินก้อนใหญ่อีกจนได้


"ก็ได้ ถ้างั้น ผมขอยืมใช้ก่อนนะครับ"


"ได้เลย ไม่มีปัญหา รหัสปลดล็อคหน้าจอ คือ แปด-แปด-หก-เก้า นะครับ"



"แล้วไม่กลัวว่าผมจะแอบดูข้อความส่วนตัวหรอ?" ตอนรับโทรศัพท์มา เนมจึงถามอย่างสงสัย



"เครื่องนี้แค่เอาไว้โทรออก ข้อมูลสำคัญอยู่อีกเครื่องครับ"

    พยักหน้ารับคำตอบ


     ตอนนี้ ทั้งสองเดินมาหยุดตรงประตูกระจกใส ก่อนเข้าส่วนลิฟต์ เนมหันไปหาพลเมืองดีแล้วยิ้มบางๆ


"ขอบคุณที่ช่วยผมทุกอย่างนะครับ พี่แม็ค"


"บอกแล้วว่าไม่ต้องเรียกพี่"

 
"ครับ แม็ค"


"ได้โทรศัพท์ใหม่ก็บอกแล้วกันนะครับ แต่ห้ามชิ่งหนีผมนะ ไม่งั้น ผมไปเคาะหน้าประตูห้องแน่"



     รู้ว่าคนพูดไม่ได้จริงจังอย่างปากว่า สังเกตจากสีหน้าทำนองหยอกเอินเสียมากกว่า เห็นคนที่เพิ่งรู้จักพยายามตีซี้ด้วยการเล่นมุกอย่างคนกันเองก็อดขำไม่ได้ แต่หัวเราะทีก็สะเทือนไปถึงแผ่นหลัง เนมจึงหยุดขำแล้วส่งยิ้มแทน



"ผมก็ไม่ได้เลวขนาดนั้น ขอบคุณที่มาส่ง ดึกแล้ว แม็คกลับบ้านเถอะครับ"


"ครับ"


     เนมมองคนที่หันหลังกลับไปยังรถยนต์ของตัวเองก็รู้สึกแปลกๆ ที่ยามนี้ ความเกร็งและระยะห่างของความแปลกหน้าทั้งคู่ดูจะลดลงกว่าเดิม


     เนมหยิบคีย์การ์ดแตะตรงเซ็นเซอร์ ก่อนจะเดินผ่านประตูกระจกก้าวเท้าอย่างเชื่องช้าเพื่อขึ้นลิฟต์


    ใบหน้าคมอมยิ้ม ความคิดก่อนหน้าได้ถูกแปรเปลี่ยนไป เนมเพิ่งรู้ตอนนี้ว่าชีวิตมันก็ไม่ได้แย่หรือซวยอะไรขนาดนั้นนี่หว่า...




......................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-09-2018 10:00:42 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
ตอนที่ 1 เพื่อนใหม่






"ดีใจที่เนมมา" หนุ่มหน้าตี๋ ทักหลังจากที่เนมมาตามนัด ณ ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้า


"ผมไม่เคยผิดสัญญา แต่อาจช้าไปหน่อย" เนมยิ้มแห้งๆ ก่อนจะยื่นโทรศัพท์มือถือที่เคยยืมไปก่อนหน้าให้แก่เจ้าของเครื่อง


     เพราะกว่าจะคืนโทรศัพท์มือถือให้แม็คก็ครบหนึ่งเดือนพอดี


   
    แม็คมองคนหน้าหงอก็นึกขำ แต่ยังไม่ทันที่แม็คจะอ้าปากคุยต่อ



"อ้าว ไอ้เนม"


       เสียงหญิงสาวทะลุผ่านโสตประสาท พร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวเดียวกันกับเนมทำให้ทั้งสองต้องนั่งกันเบียดเสียด

       
       เมย์ เป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เมย์ เป็นเพื่อนผู้หญิงคนเดียวของเนม ที่แคร์และเข้าใจเนมมากที่สุด


"เมย์ มาทำอะไร?"


"ฉันมาเดินเล่นบ้างไม่ได้รึไง? แหมๆ...ไม่เจอกันนาน เดี๋ยวนี้มีแฟนไม่บอกเลยน้าาาาา"
มองคนที่สงสัยแล้วไม่ยอมเก็บไว้ในใจ แต่ดันโพล่งซะเสียงดัง ทั้งยังลากเสียงยาวพลางทำหน้าล้อเลียนอย่างกวนประสาท เนมจึงรีบแก้ตัว


"ไม่ใช่แฟน ..นี่แม็คคนที่มาช่วยเราตอนโดนปล้น แม็ค นี่เมย์เพื่อนผม"


         ฟากแม็คส่งยิ้มทักทาย


"อ้อ...จำได้แล้ว ที่แกเคยเล่าให้ฉันฟังตอนโทรมาคราวก่อนนู้นใช่ไหม?"


"อื้ม คนนี้แหละ"


"สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ คุณเป็นคนดีจังเลย ขอบคุณที่ช่วยเพื่อนฉันนะคะ"


"ครับ"


     
      เมย์ส่งยิ้มหวานให้หนุ่มพลเมืองดี ก่อนจะหันมาคุยกับเพื่อนต่อ


"โอเคๆ ถ้างั้น ฉันไม่กวนแล้วไปก่อนนะ อ้อ! ไอ้เนม ฉันยังรอแกไปดริ้งค์ด้วยกันอยู่นะจ้ะ ออกมาจากถ้ำได้แล้ว อย่ามัวแต่หมกตัวอยู่แต่ในห้อง"



"อืมๆ รู้แล้วน่า"


      มองเพื่อนที่บ่นเป็นหมีกินผึ้งกับเรื่องเดิมๆ เนมได้แต่ส่ายหน้าเหนื่อยหน่าย เขาก็รู้หรอกว่าเพื่อนคิดถึงและหวังดีอยากให้เขาออกไปพบเจอผู้คนบ้าง เพียงแต่บางที เนมก็ติดจะชอบอยู่ห้องคนเดียว ทำกิจกรรมอะไรไปเรื่อยเปื่อยมากกว่า



       หลังจากเหลียวมองเพื่อนจนลับตา เขาวกสายตากลับมา ตรงหน้าเห็นแม็คนั่งจ้อง ตาไม่กระพริบ


"มองผมทำไม?"


"ขอโทษนะครับ ผมขอถามเรื่องส่วนตัวหน่อย คุณไม่ได้ชอบหรือมีแฟนเป็นผู้หญิงหรอกเหรอ?"


   เมื่อสังคมเปิดกว้าง เนมเองก็ไม่ปิดกั้นความรู้สึกตัวเอง ชายหนุ่มส่ายหน้า มองคนอมยิ้มแล้วตอบ


"ถ้าอย่างนั้น เราสองคนก็เหมือนกันน่ะสิ"


"แล้วมาบอกผมทำไม?"


"บอกให้รู้ไว้เผื่อใจตรงกัน"


   เนมชะงักกับคำพูดที่เหมือนแฝงความนัย


   หมายความว่าอย่างไร? กับคำว่า 'ใจตรงกัน'



"ผมอยากรู้จักเนมมากกว่านี้"


"....."


"เราเป็นเพื่อนกันได้ไหม?"


      เหตุการณ์ที่ผ่านมา ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การที่แม็คยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือทุกอย่าง ประหนึ่งว่าเป็นญาติสนิท มิตรสหาย ทำให้เนมรู้สึกว่า แม็ค เป็นคนดีคนหนึ่ง แล้วจะมีเหตุผลอะไรที่เนมต้องปฏิเสธในการเพิ่มระดับความสัมพันธ์จากคนแปลกหน้าเปลี่ยนเป็นเพื่อน


"ได้"


       คำหนึ่งคำที่ได้ยิน ช่างส่งผลต่อความรู้สึกของอีกฝ่ายได้ดี แม็คยิ้มกว้าง ยื่นมือออกไปค้างกลางโต๊ะ ฟากเนมเลิกคิ้วก่อนจะยื่นไปจับมืออีกฝ่ายไม่ให้รอเก้อ


"ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการ และได้เป็นเพื่อนใหม่ของเนม"


"อาฮะ"



      ทั้งสองส่งยิ้มให้กัน ก่อนจะลุกจากร้านกาแฟเพื่อไปกินข้าวมื้อกลางวัน สานสัมพันธ์และรู้จักกันให้มากกว่าเดิม









.............





         เวลาผ่านไป...ความสนิทสนมทั้งสองก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่า เคมีและบทสนทนาที่หามาแลกเปลี่ยนมุมมองกัน ทำให้เนมและแม็คเข้ากันเป็นปี่ เป็นขลุ่ย


         คนที่เคยเหงา เอาแต่หมกตัวอยู่ในห้อง ยามนี้ ดูสดใสและเริงร่า เพราะได้เพื่อนใหม่ มาช่วยสร้างสีสันในชีวิต


       แล้วมีหรือ? ที่เรื่องราวของเพื่อนใหม่จะไม่ถูกเล่าให้พี่สาวฟัง พี่น้ำรับรู้ทุกอย่าง เพราะเนมไม่คิดปิดบัง เธอดีใจใหญ่โตที่อย่างน้อยการคุยรอบหลังๆ สัมผัสได้ว่า เนมมีชีวิตชีวาและไม่ค่อยบ่นเหงาเท่าเมื่อก่อน

 
        กลับมายังปัจจุบัน ในเวลายามสาย ทั้งคู่อยู่ด้วยกันในห้องโดยสารรถยนต์ แม็คกำลังจอดรถอยู่ข้างบริษัทที่ทำเกี่ยวกับธุรกิจร้านอาหารกระจายตามห้างสรรพสินค้า เนื่องจาก เนมถูกเรียกสัมภาษณ์งานที่บริษัทนี้


      หลังจาก จอดรถเสร็จเรียบร้อย คนขับหันมาหาคนที่ดูตื่นเต้นและประหม่าเล็กน้อย


"ขอให้ได้ข่าวดีนะ"


"ขอบใจนะแม็ค"


       สามสัปดาห์แล้วที่พอทั้งสองยกระดับความสัมพันธ์เป็นเพื่อนกัน แม็คหาเวลามาเจอเนมแทบจะทุกวัน รวมถึงวันนี้ที่เต็มใจอาสามาเป็นสารถีส่งเนมถึงบริษัทที่อีกฝ่ายต้องมาสัมภาษณ์


"เดี๋ยวผมรอร้านกาแฟข้างบริษัทนะ"
 

"อื้ม แม็คไม่ต้องรอก็ได้นะ เกรงใจ กลับบ้านไปเถอะ"
รอยยิ้มพร้อมน้ำเสียงแผ่วๆเอ่ยออกมา



"อยากอยู่ด้วย ไม่ได้เหรอ?"


"อะอะตามใจ"


"ไม่ว่าผลลัพธ์จะดีหรือไม่ดี ออกมาแล้วผมจะมีรางวัลให้"


"อะไรหรอ? อยากรู้"



"ไม่บอก ให้ออกมาก่อน"


"ลีลา"



       คนขับหลุดหัวเราะ ก่อนจะปล่อยให้เนมไปเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน


       สองชั่วโมงผ่านไป ผู้คนมากมายจากบริษัทเริ่มทะยอยกันออกมา เพราะตรงกับช่วงพักเที่ยงพอดี


      ร้านกาแฟที่เงียบและว่างในตอนแรก ยามนี้ หนาแน่นไปด้วยพนักงานออฟฟิศ ซึ่งแม็คไม่ค่อยชอบความวุ่นวายเท่าไหร่ ขณะที่กำลังจะโทรหาเนมก็เป็นจังหวะเดียวกับที่เนมเดินมาหาแม็คที่ร้านกาแฟพอดี ทั้งสองจึงรีบออกไปให้ไวที่สุด


      เมื่อทั้งคู่ สอดตัวเข้ามาในรถได้เรียบร้อย เนมหิวมากจึงบอกเป็นอันดับแรกว่าไปหาข้าวกินกัน ซึ่งตอนที่แม็คขับผ่าน เนมจำได้ว่าแถวนี้ มีก๋วยเตี๋ยวเรือ น้ำตก จึงขอให้แม็คพาไปกินร้านนั้น


     แม็ครับทราบ สตาร์ทเครื่องยนต์แต่ยังไม่เคลื่อนตัว

     
"เป็นไงบ้าง?"


"ไม่รู้ ดูไม่ออกว่าเขาสนใจเรารึเปล่า เพราะคนสัมภาษณ์หน้านิ่ง แต่มีบอกว่า ถูกชะตา แค่นี้"



"จริงหรอ?"


"อืม"


"อาจจะได้ก็ได้นะ"


"เราก็หวังว่ามันจะเป็นเช่นนั้น แล้วไหนล่ะรางวัล?"
เนมแบมือยื่นไปตรงหน้าแม็ค อีกฝ่ายยิ้มขำพลางส่ายหน้าระอา


"หลับตาก่อน"


"ทำไมต้องหลับตา?"


"นี่จะต้องถามทุกประโยคที่ผมพูดเลยเหรอ?"


"ก็แค่สงสัย อ่าอะ หลับก็ได้"



       เนมหลับตาตามคำสั่ง ไม่ถึงนาที เนมสัมผัสได้ถึงความอุ่นตรงริมฝีปาก จากนั้นมีการเคลื่อนไหว ขยับ งับริมฝีปากล่าง คนถูกเซอร์ไพร์สสะดุ้งเฮือกตกใจและรีบลืมตาขึ้นมามอง





"แม็คจูบเราทำไม?"


"เนม ผมขอโทษ ผมผิดเอง แต่ตอนนี้ผมรู้ตัวเองแล้วว่าผมชอบเนมแบบเพื่อนไม่ได้"


"...."


"ช่วงเวลาก่อนหน้าที่เราได้มีโอกาสเจอกัน คุยกันมากกว่าเดิม เนมเป็นคนที่ผมอยู่ด้วยแล้วสบายใจ เนมไม่มีฟอร์ม เนมเป็นตัวของตัวเอง เนมน่ารัก ทุกอย่างที่เนมแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา มันทำให้รู้ว่าผมชอบเนมแบบไหน?"


"....."


"เนมโกรธผมเหรอ?"


        เนมมองคนหน้าสลดอย่างรู้สึกผิดก็ได้แต่เงียบ


        แม้ระยะเวลาที่เราได้รู้จักจริงๆจะยังไม่ถึงเดือน แต่อาจเป็นเพราะแม็คเข้ามาได้ถูกจังหวะพอดิบ พอดี


        แม็คเข้ามาในยามที่เนมต้องการที่พึ่งทางใจ แม็คเข้ามายามที่เนมตกงานและกำลังเครียด ฟุ้งซ่านอยู่พอสมควร


       แม็คเข้ามาเติมเต็มความอบอุ่น หลังจากที่ผ่านมาเนมรู้สึกเหงา โดดเดี่ยว


       ช่วงเวลาที่เหมาะเจาะเช่นนี้ จึงทำให้เนมตอบกลับด้วยการโน้มตัวไปหอมแก้มอีกฝ่ายไวๆแล้วผละออก




"ก็ชอบเหมือนกัน"


"จริงหรือเปล่า?"
คนที่ไม่คิดว่าจะได้ข่าวดีเช่นนี้ จึงตาโตอย่างตะลึง


"อื้ม"


"ถ้างั้น..."


"ดูใจกันไปก่อน"



"ได้ จากนี้ ผมจะทำทุกอย่างให้เนมรักผมมากจนไม่สามารถมองคนอื่นได้เลย"


"ก็ลองดู"



    รอยยิ้มกว้างที่ทั้งสองคนส่งให้กันมันแสดงออกถึงความสุขที่ต่างฝ่ายต่างมีมันอยู่ในเวลานี้....






****1.1****


สวัสดีค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวกับนิยายเรื่องใหม่ด้วยนะคะ 
  :impress2: :impress2: :impress2:



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-09-2018 20:09:26 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1

ตอนที่ 1 เพื่อนใหม่ (2)












      สามสัปดาห์ผ่านไปแล้วที่เนมยังไม่ได้ทำงานประจำ แม้ว่า เนมจะถูกเรียกสัมภาษณ์จากบริษัทหลายแห่ง แต่บัดนี้ ยังไม่มีทีท่าว่าบริษัทไหนจะเรียกเข้าทำงานแต่อย่างใด


      คนที่รู้เรื่องราวความเคลื่อนไหวในชีวิตเนมอยู่ตลอดอย่างแม็ค จึงพยายามคอยดูแลไม่ห่างเหิน เพราะรู้ดีว่าการไม่มีงานทำหรือ 'ตกงาน' ย่อมส่งผลให้เครียดมากพอแล้ว แม็คจึงหากิจกรรมผ่อนคลายด้วยการพามาดื่มเบียร์ที่ร้านเหล้าคลายเครียด


   
     ทั้งสองเลือกมุมนั่งที่เป็นส่วนตัวหน่อย คือ ตรงบาร์ชิดเสาซึ่งหันหน้าออกไปทางริมถนน รับเมนูเครื่องดื่ม จากพนักงานก็สั่งเบียร์ทันที เนื่องจากมีเมนูอยู่ในใจเรียบร้อยแล้ว ไม่นาน เบียร์ดำกินเนสและเบียร์เบลเยี่ยมเลฟฟ์ บราวน์ถูกวางลงตรงโต๊ะ เนมและแม็คยกแก้วชนกัน ก่อนดื่ม


    เนมตกใจเมื่อแม็คกระดกเบียร์อึก-อึกเหมือนคนกระหายมันอย่างหนัก


    วางแก้วลง ยกหลังมือปาดริมฝีปากก่อนหันไปหา



"มีอะไรครับ?"


"แม็คดื่มเร็วมาก เดี๋ยวก็เมาหรอก"


"ไม่หรอก"


     มองคนหน้ายิ้มอยู่ดีๆก็เปลี่ยนเป็นหน้างจริงจัง


"พอมาที่แบบนี้ทีไร ผมก็รู้สึกแปลกๆทุกที"


"แปลกยังไง?"



"บอกไม่ถูก"


"....."


"เนมครับ ผมขอถามอะไรหน่อย ที่ผ่านมา เนมเคยเสียใจกับเหตุการณ์อะไรมากที่สุด?"


     มองคนที่ตั้งคำถามแบบไม่ได้โยงกับเรื่องก่อนหน้าก็นึกประหลาดใจ ก่อนจะนั่งนึกจริงจังก่อนตอบว่าที่ผ่านมา เนมก็มีเรื่องให้เสียใจเยอะเหมือนกัน แต่ที่ 'มากที่สุด' น่ะเหรอ? ก็คงจะเป็น...


"แม่กับพ่อเราตายพร้อมกันเพราะอุบัติเหตุ"


       แม็คมองหน้าเนมอยู่นาน ก่อนจะตอบ

         
"ผมไม่รู้ว่า พ่อแม่เนมเสียไปแล้ว เพราะเนมไม่เคยพูดถึง มีแต่พูดเรื่องของพี่สาว" คนที่เอ่ยอย่างตรงไปตรงมาทำให้เนมนิ่งไปนิดก่อนตอบ


"ถ้าไม่มีคนถาม เราก็ไม่อยากพูดถึง แล้วแม็คล่ะ เรื่องที่เสียใจมากที่สุดคืออะไร?"


      แม็คแค่นยิ้ม ถอนหายใจ แล้วยกแก้วเบียร์ดื่มหลายอึก ก่อนวางแล้วทอดสายตามองไปยังข้างหน้า


"แม่ผมตายด้วยเหตุที่ไม่สมควรจะตาย"



"เราเสียใจด้วยนะ"


"ครับ รู้ไหมว่าเวลาที่ผมนึกถึงการตายของแม่ทีไรก็เจ็บทุกครั้ง"



"ขอถามสาเหตุการตายได้ไหม?"


"แม่ผมฆ่าตัวตาย และพยายามฆ่าตัวตายมาตลอด เฮอะแล้วสุดท้ายก็ทำสำเร็จ"


"......"


"และวันนี้ก็เป็นวันครบรอบการตายของแม่ผมพอดี"



      มองคนที่ไม่หันหน้ามามองกัน แต่ก็ยังสัมผัสถึงรังสีแห่งความเจ็บ ทุกข์ทรมานได้ไม่ยาก เนมไม่รู้ว่าควรปลอบใจอย่างไร เจอทำได้เแค่ยื่นมือไปบีบบ่าแข็งแรงซ้ำๆ


"ผมขอโทษนะ แทนที่วันนี้จะได้พักผ่อนกลับชวนคุยเรื่องเครียด มาชนแก้วกันเถอะครับ" แม็คบอก พร้อมยกแก้วมาเพื่อจะชนกัน



"ไม่เป็นไร ถ้าพูดออกมาแล้วสบายใจ ก็ระบายออกมาเถอะ"



"แค่พูดไม่ทำให้ผมรู้สึกดีหรอกครับ ขอบคุณที่เนมห่วงผมนะ" หันไปส่งยิ้มให้คนที่วิตกกังวลแทนอย่างไม่อยากให้คิดมาก และแล้ว แก้วเบียร์ แก้วใหม่เริ่มเวียนมาวางแก้วแล้ว แก้วเล่า



     มึนพอประมาณ เนมก็ร้องขอกลับบ้าน แม็คไม่ขัด เรียกพนักงานมาจ่ายเงิน เมื่อจัดการเรื่องสตุ้ง สตางค์ เสร็จเรียบร้อย แม็คขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน โดยบอกเนมให้ยืนรออยู่ด้านนอก


     ราวสิบนาที


พลั่ก!


     คนที่มึนจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พอโดนผลักก็ล้มกันได้ง่ายๆ

 
"มึงแย่งเมียกู" 


     เนมนั่งกองกับพื้น เงยหน้ามองคนที่พูดเป็นตุเป็นตะ เขาไม่เคยมีแฟนเป็นผู้หญิงเลยสักคน เขาจะไปแย่ง เมีย จากคนอื่นมาได้ไง?


"เฮ้ย! จำผิดหรือเปล่า?"



"ไม่ผิดเว้ย มึงนั่นแหละ"



     ทันใดนั้น หนึ่งในเด็กวัยรุ่นสองคนก้มตัวลงมากระชากคอเสื้อเนมอย่างแรงให้ลุกขึ้นแล้วเหวี่ยงหมัดเข้าเบ้าหน้า เนมมึนเบลอ พยายามตั้งสติจะสู้กลับ กลับโดนผลักจนร่างกระเด็น แล้วเป็นแม็คที่แทรกเข้ามาต่อยแทน


     ดั่งเวทีมวยขนาดย่อม เนมวิ่งไปขอความช่วยเหลือกับพนักงานรักษาความปลอดภัยของทางโรงแรมที่อยู่ไม่ไกล


      พนักงานรีบวิ่งมาพร้อมตะโกนเสียงดัง ก่อนจะคว้ากระบองขึ้นมาฟาดลงกลางหลังคู่กรณีแล้วล็อคคอให้ทั้งสองแยกออกจากกัน เด็กวัยรุ่นที่โดนล็อคกลับสะบัดตัวสุดแรงแล้วสลัดหนี รีบวิ่งหนีไป


      เนมขอบคุณพนักงานรักษาความปลอดภัย ก่อนจะปรี่ไปหาแม็คที่ยืนจับหน้าตัวเอง ณ ตอนนี้ใบหน้าแม็คมีแต่รอยฟกช้ำ ดำเขียว

 
       เหตุการณ์ระทึก ทำให้เนมตาสว่าง สร่างในบัดดล


"แม็คกลับบ้านไหวไหม?" แม็คส่ายหน้า

   
"ผมไปทำแผลห้องเนมได้ไหม?"



     จะใจจืด ใจดำไม่ยอมให้นอนค้างที่ห้องก็กระไรอยู่ ในเมื่อ แม็คอุตส่าห์ยอมเจ็บตัวแทนด้วยการเอาตัวเองเข้ามาเสี่ยงแบบนี้ แถมอาการของเนมก็น้อยกว่าของแม็คหลายเท่า เพราะเขามีแค่รอยช้ำตรงโหนกแก้ม ผิดกับแม็ค ที่มีทั้งมุมปาก และแก้มทั้งสองข้าง


"อะเอ่อ..ได้"
     


      ประคองคนเจ็บกว่าไปเรียกแท็กซี่เพื่อเดินทางกลับห้อง


     เพราะการจราจรยามค่ำคืนโล่งและคล่องตัวกว่ากลางวันเป็นไหนๆ จึงใช้เวลาเดินทางไม่นาน รถแท็กซี่ที่แล่นฉิวก็ถึงที่หมาย เนมพยุงคนเจ็บมาถึงห้องจนได้


"ห้องเรารกหน่อยนะ" บอกก่อนเปิดประตู


"ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเข้าใจ"


    เมื่อถึงห้องแล้ว เนมเปิดสวิตซ์ไฟตรงผนัง พาแม็คไปนั่งรอที่โซฟาซึ่งอยู่ตรงข้ามกันเตียงนอนพอดี แล้วรีบก้มเก็บซากเสื้อผ้าที่อยู่ตรงพื้น กระจัดกระจายอยู่นอกตะกร้าผ้า


"รกจริงๆด้วย"


"โธ่ แม็ค อย่าแซวสิ"
ไม่คิดว่าแม็คจะกล้าแซวจึงหันไปจ้องตาแทบถลน

 
      จะขำยังทำได้ยากลำบาก แม็คได้แต่นั่งยิ้มมองคนรีบเก็บข้าวของให้เป็นระเบียบ โดยการยัดๆรวมกันไว้ตรงซอกใดซอกหนึ่ง


"แม็คไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวผมประคบแผลให้" ว่าแล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบผ้าขนหนูสีเทาที่เพิ่งซักสะอาดจนหอมกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่ม


"ขอบคุณนะ วันนี้ ผมขอรบกวนหน่อยนะเนม"


"ไม่เป็นไรครับ"
     


       หลังจากที่ทั้งคู่ใช้เวลาจัดการทำความสะอาดร่างกายจนสะอาดสะอ้าน ก็มานั่งแหมะที่โซฟาหันหน้าเข้าหากัน


       ห้องพักของเนมมีขนาดไม่ถึงร้อยตารางเมตร ไม่มีห้องแยก มีเพียงการจัดสรรปันส่วนแบ่งมุมอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น มุมครัวเล็กๆที่มีเพียงเตาแก็สไฟฟ้า ไมโครเวฟ มุมเครื่องซักผ้า มุมโซฟาขนาดย่อมที่อยู่ตรงข้ามกับเตียงนอน ทั้งหมด ทั้งมวลดูจะเป็นการใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วได้อย่างคุ้มค่า

 
      แม็คนั่งยิ้มเงียบๆ รอคนที่กำลังเตรียมจะประคบแผลให้


"ขอบคุณที่ช่วยเราจนตัวเองเจ็บขนาดนี้" เนมบอกจากใจจริง เพราะถ้ามีเรื่องชกต่อยชวนได้แผล? ใครอยากจะอาสาเจ็บตัวกันเล่า


"ไม่ช่วยได้ไง เนม คือ คนที่ผมชอบ"



     ระยะที่ใกล้กันมันชัดจนเห็นว่าอีกฝ่ายมองมาตาไม่กระพริบพร้อมกันน้ำเสียงอันหนักแน่นมั่นคงชวนใจสั่น


     เขาหลุบตาลงอย่างจนคำพูด ก่อนจะนำเจลประคบเย็นวางลงตรงมุมปากแช่ค้างไว้ และค่อยเปลี่ยนตำแหน่งไปวางตรงรอยช้ำส่วนอื่น


     ความเงียบในตอนนี้ ทำให้เนมมีเวลาได้ใช้ความคิดอยู่กับตัวเอง ซึ่งความคิดที่ว่าก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของเหตุการณ์ชวนตระหนก ตกตื่นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน


    การที่แม็คทำแบบนี้ ยิ่งทำให้เนมซาบซึ้งและอุ่นใจที่รู้ว่าการที่มีแม็คอยู่ข้างๆ มันทำให้เขารู้สึกดีที่มีใครสักคนพร้อมจะปกป้องเพื่อทำให้เนมปลอดภัย


     เมื่อความเงียบกำลังทำให้ทั้งคู่เกร็ง แม็คจึงเอื้อมไปจับมือข้างที่แม็คประคบไว้แล้วบอก


"ที่ผมยอมเจ็บ เพราะผมจริงจังกับเนมนะ"



"อะอื้มม เข้าใจแล้ว" ตอบอย่างยิ้มๆ และไม่คิดถามอะไรต่อ เพราะการที่แม็คพูดแบบนั้น ในความเห็นของเนม ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเร่งรัดให้เนมตอบตกลงคบกันเป็นแฟนเร็วๆ


     แม้ว่ารู้ใจตัวเองว่าก็ชอบแม็ค แต่ลึกๆแล้ว ก็ยังมีความกลัวและไม่มั่นใจในความสัมพันธ์หากขยับขั้นจากคนดูใจ กลายไปเป็นแฟน แล้วที่แม็คทำอยู่แบบนี้ มันจะยังเหมือนเดิมหรือเปล่า?


     จนกระทั่ง จัดการทำแผลให้เสร็จเรียบร้อย ก็เวลานอนของทั้งคู่ เนมมองโซฟาสลับกับเตียงไปมาและยืนนั่ง ฟากแม็คคงเห็นสายตาของเจ้าของห้อง จึงเอ่ย



"ผมนอนโซฟาได้"



"แม็คขายาว นอนทีขาก็เลยโซฟาแล้ว คงลำบาก ถ้างั้น แม็คนอนบนเตียงกับเราก็ได้"


"เนมจะรังเกียจไหม?"



"ทำไมพูดแบบนั้น เราจะรังเกียจคนที่ช่วยเราได้ไงล่ะ เพียงแต่เราจะบอกไว้ก่อนนะว่าเป็นคนนอนดิ้น เรากลัวจะดิ้นโดนแผลแม็คอะสิ"



"ไม่เป็นไรเรื่องแค่นี้ เดี๋ยวผมนอนกอดเนมไม่ให้ดิ้นเอง"



     เนมเงียบมองคนเจ็บตัวแต่ยังมิวายหยอดมุกหวานเสี่ยวให้ชวนเลี่ยนกันเล่นๆ


"ถ้ากอดแล้วเราดิ้นโดนแผล ก็อย่าบ่นว่าเจ็บแล้วกัน"



     คนสวนกลับกำลังปีนขึ้นเตียงด้วยความรู้สึกเก้ๆกังๆ เพราะเนมไม่เคยนอนกับผู้ชายที่พิเศษกว่าเพื่อนมาได้สามปีแล้ว

 
     เนมไม่รู้หรอกว่า แม็คจะรู้สึกอย่างไร แต่สำหรับเนมนั้น ตอนนี้ ใจเต้นอย่างรุนแรง


      และคนที่เพิ่งบอกแขกผู้มาเยือนว่าเป็นคนนอนดิ้น ยามนี้ นอนตัวแข็งทื่อ ไม่กระดิก เมื่อตอนนี้ คนที่เนมนึกว่าจะพูดเล่น กลับกอดรัดเขาซะแน่น...




....................................

นิยายเรื่องนี้ไม่ยาวนะคะ มาติดตามไปด้วยกันน้า :katai3: :katai3: :katai3: :katai3:
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ



   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-09-2018 20:10:05 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
Re: ||*..--+--..*หลง*..--+--..*|| ตอนที่ 1.2 [4-9-18]
«ตอบ #4 เมื่อ05-09-2018 07:35:03 »

ต้อนรับเรื่องใหม่คร้าบบ :pig2:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: ||*..--+--..*หลง*..--+--..*|| ตอนที่ 1.2 [4-9-18]
«ตอบ #5 เมื่อ05-09-2018 08:44:58 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

แอบสงสัยว่า แม็คอาจหลบไปจ้างกลุ่มวัยรุ่นมาทำร้ายเนมเพื่อสร้างสถานการณ์ฮีโร่ก็เป็นได้  อิอิ

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* ตอนที่ 2 [6-9-18]
«ตอบ #6 เมื่อ06-09-2018 20:32:31 »

ตอนที่ 2 รักครั้งใหม่







"ถ้าไม่ติดว่า พ่อมีเรื่องด่วนจะคุย ผมคงไม่กลับ"



     สายของวันถัดมา ทั้งสองอยู่ที่ใต้คอนโดของเนม แม็คบ่นเสียดายที่ต้องกลับบ้านก่อนทั้งๆที่อยากอยู่นานกว่านี้



"แล้วพ่อจะตกใจไหม? หน้าแม็คมีแต่แผล"


"ไม่หรอก ผมมีวิธีบอก"


"ครับ โชคดีนะแม็ค"

"อื้ม"



     หลังจากที่ส่งแม็คเรียบร้อย เนมแวะซื้อข้าวกิน ก่อนจะเดินขึ้นห้องไป ในระหว่างนั้น เครื่องมือสื่อสารที่เนมกำไว้ในมือส่งเสียงร้อง เนมหยิบขึ้นมาดูก็อมยิ้ม


"ว่าไง เมย์"


[อยู่ห้องไหม?]


"อยู่"


[เออเดี๋ยวไปหานะ วันนี้ออกไปพบลูกค้า แต่คุยเสร็จไวแล้วว่าง]


"มาสิ แล้วไม่เข้าออฟฟิศแล้วหรอ?" เมย์ที่ทำงานเป็นเซลล์ขายจำพวกเครื่องมือแพทย์ ก็ว่าอย่างอารมณ์ดี



[ไม่แล้วล่ะ]


"เจอกัน"



       นัดกันเรียบร้อย ในระหว่างที่รอเพื่อน เนมก็นั่งกินข้าวอยู่ที่ห้องไปพลางๆ สักพักใหญ่ๆ เมย์ถึงโทรมา เนมจึงลงไปรับข้างล่าง



"เฮลลลโหลวววว มายแฟรนด์"



      มองหน้าเพื่อนเสียงดัง เล่นใหญ่ ก็ได้แต่ส่ายหน้าหน่ายๆ ก่อนจะเดินนำไปที่ลิฟต์



"เอ้ะ....เดี๋ยว ไอ้เนมหน้าแกไปโดนอะไรมา" เมื่อหยุดอยู่ตรงหน้าลิฟต์ รอกล่องสี่เหลี่ยมเคลื่อนลงจากที่สูง หญิงสาวยืนดักหน้าพลางชี้ไปที่แผล


"ไม่มีไรหรอก เมย์มาก็ดี มีเรื่องอยากปรึกษา"


     หญิงสาวจ้องมองไปยังนัยน์ตาเพื่อนสนิท ยื่นหน้าไปใกล้แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์


"พูดมาแบบนี้ มีไม่กี่เรื่อง ความรักชัวร์...ใช่ไหมล่ะ?"


     มองคนรู้ทัน ก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ พลางถูจมูกแก้เก้อ


"อืม"


"ใครอะ? หรือว่า ผู้ชายคนที่ฉันเห็นวันนั้น"


"อื้ม"



"นั่นไงว่าแล้วเชียว ทำไมฉันซื้อหวยไม่ถูกเนี่ย"


"....."



"ไหนเล่ามาซิ ไอ้เนม"


      เนมยังไม่บอก กะว่าจะให้ออกจากลิฟต์มาก่อน


ตึ้ง!

 
      จนกระทั่ง ประตูลิฟต์ถูกเปิดออก ทั้งสองก้าวออกมาจากกล่องสี่เหลี่ยม แล้วมุ่งหน้าไปยังห้องของชายหนุ่ม


      ขณะสาวเท้ายาวๆไปตามโถงทางเดิน




"แม็คชอบเรา แล้วเราก็รู้สึกดีกับแม็ค คือ ตัังแต่ที่เราเจอเขา เรารู้สึกดีมากอะ แม็คดีกับเราทุกอย่างเลย เรารู้สึกอุ่นใจ มีความสุขเวลาที่มีแม็คอยู่ข้างๆ และหลายครั้งที่ตกอยู่ในอันตราย แม็คก็ปกป้องเราได้ทุกครั้ง"


         ลอบมองคนที่เล่าเรื่องผู้ชายอีกคนเหมือนเป็นซูเปอร์ ฮีโร่ในดวงใจ แถมแววตาเป็นประกายก็ได้เแต่เบะปากพลางกลอกตาไป-มาอย่างนึกหมั่นไส้



"แหม...ไอ้เนมคำพูด-คำจาบวกแววตาหวานเชื่อมขนาดนี้ ท่าทางจะหลงเขาหัวปักหัวปำเลยนะนั่น"




"โธ่ อย่าประชดสิ ก็เราแพ้ความดีเขาอะ แถมเวลาแม็คบอกว่าชอบเราทีไร ใจสั่นทุกครั้งเลย"


"อ้าว...นี่ไงคำตอบ ก็รู้ใจตัวเอง และรู้ว่าเขาดี จะมาปรึกษาฉันเพื่อ?"


"ที่จะขอความเห็น คือ เมย์ว่ามันเร็วไปไหม? ถ้าเราจะเป็นแฟนกับเขา เราชอบคนง่ายไปหรือเปล่า? รู้จักกันไม่กี่เดือนเอง"
 


"ไอ้เนม...แกดูย้อนแย้งอะ ถ้าคิดว่าใช่ก็ลุยเลยค่ะ คุณเพื่อน จะกังวลอะไร? ของแบบนี้ไม่ได้อยู่ที่เวลาหรอก อยู่ที่การคุย ถูกชะตา ไลฟ์สไตล์ ฉันมีเคสของเพื่อนฉันจะเล่าให้ฟัง มันเจอแฟนตอนเล่นฟิตเนส ขอเบอร์-คุยกันแค่หนึ่งเดือนก็คบกัน มีเซ็กซ์กัน จนบัดนี้ ทั้งคู่คบมาเข้าปีที่สามแล้วค่า"


   
     เนมฟังอย่างตั้งใจ สาเหตุอยากขอความเห็นเพื่อนเพราะเนมก็ห่างเหินจากความสัมพันธ์ฉันท์คู่รักมานาน ที่สำคัญเรื่องรักของตัวเองก็อ่อนหัด เพราะปิดประตูหัวใจ ไม่ยอมเปิดรับใครเข้ามาได้สักพัก พอจะอ้าแขนรับคนใหม่ก็ต้องปรับตัวยกใหญ่เหมือนกัน



"......."

 
"ฉันว่าตอนนี้ แกมีคำตอบอยู่ในใจ แต่แกแค่ต้องการคำยืนยันจากใครสักคนว่าคำตอบของแกมันถูกต้อง"



"......."



"ของแบบนี้มันต้องลองเสี่ยงนะเนม ฉันไม่สามารถบอกได้หรอกว่าความรักครั้งนี้ของแกจะดีหรือไม่ดี มันเป็นเรื่องของอนาคต แต่ถ้าไม่ดี แกก็อย่าเสียใจ ให้คิดซะว่า เป็นบทเรียน ถ้าแกจะกลัวและกังวลไปซะทุกเรื่องแบบนี้ แกจะมีแฟนใหม่ได้เมื่อไหร่กัน"



    เนมนึกตามคำที่เมย์บอก มันก็เป็นความจริง ทั้งๆที่เนมเดินมาถึงกลางทางของความสัมพันธ์ เปิดโอกาสให้ทั้งสองได้ดูใจกัน แต่พอจะเปลี่ยนสถานะเป็นแฟน จู่ๆก็กลับกล้าๆกลัวๆขึ้นมาซะอย่างนั้น


"ขอบใจนะเมย์...เราจะลองกลับไปคิดดูแล้วกัน บางทีความสับสนมันอาจทำให้เรามองไม่เห็นความต้องการที่แท้จริง"


"ก็เข้าใจ แกโสดมานานแล้วไง อาจจะกลายเป็นกลัวการเริ่มต้นครั้งใหม่ ลองปล่อยไปตามสบาย อย่ากดดัน แล้วถ้าได้คำตอบที่แน่ชัดแล้ว ก็ลุยเลยเพื่อน"


"อืม"


"ไปๆ ออกไปข้างนอกกันดีกว่า ฉันเมาท์กับแกจนหิวข้าวแล้วนี่ ไปกินเมี่ยงปลาเผากันเดี๋ยวมื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง ต้อนรับคนที่กำลังจะมีสามีในเร็วๆนี้"


"ไอ้เมย์ กวนละ..."



"ฮ่าๆ"



       เนมดุเพื่อน ก่อนจะลุกไปคว้ากระเป๋าสตางค์พร้อมของสำคัญออกจากห้อง ทั้งๆที่ก่อนหน้า เพิ่งจะเข้ามานั่งพักเหนื่อยในห้องได้ไม่ถึงชั่วโมง











................





      สี่ทุ่มครึ่งแล้ว ที่เนมยังไม่นอน เพราะเขาเฝ้ารอใครบางคนโทรมาหา ยามนี้ได้กลายเป็นช่วงเวลาสำคัญที่แม็คและเนมต้องคุยโทรศัพท์กันทุกคืนเป็นกิจวัตร


     และเป็นไปตามคาด ข้างๆบนเตียง ที่เครื่องมือสื่อสารวางไว้ได้แผดเสียงร้องดังขึ้น คนที่นั่งจ้องหน้าจอมาเป็นสิบนาทีมีหรือจะรีรอ ชายหนุ่มรีบกดรับสาย



[สวัสดีครับเนม]



"อยู่ไหนหรอ?"



[ถึงบ้านนานแล้วครับ]


"แล้วแม็คเป็นไงบ้าง ยังเจ็บแผลอยู่ไหม?"


[ก็นิดหน่อย]



"อย่าลืมดูแลตัวเองแล้วประคบแผลด้วยนะ แม็ค"


[เนมเป็นห่วงผมเหรอ?]


"ใช่สิ"


[เนมก็ทำแผลให้ผมสิครับ แผลคงหายเร็วกว่านี้]  เนมยิ้มทั้งๆที่กัดริมฝีปากล่างกับคำคนที่ดูออกว่าอ้อน



"ก็ไม่ว่างเองนี่นา"


[แล้วถ้าไปหาตอนนี้ได้ไหมล่ะครับ?]


"ไม่ต้อง ดึกแล้ว"


[เห็นไหม? เนมก็ไม่ยอมให้ผมไปอยู่ดี กลัวผมจะทำอะไรเหรอ?]


"เปล่าสักหน่อย"


[แล้วคืนนี่เนมนอนหลับได้ด้วยเหรอ?]


   
     เอียงคอ พลางขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่เข้าใจกับคำถามของปลายสาย



"ทำไมจะนอนไม่ได้ล่ะ แม็คถามแปลกๆ"


[ก็คืนนี้ไม่มีคนให้กอดไง]



     ชะงักงันทันทีที่ได้ยินคนป้อนคำหวาน


     แค่คุยโทรศัพท์ยังนั่งอมยิ้ม ฟาดหมอนเล่นอยู่บนเตียงจนถ้าเป็นสิ่งมีชีวิตคงตายคามือไปแล้ว



"...."


[ที่เงียบ เพราะเป็นความจริงที่เถียงไม่ได้ใช่ไหม?]


"หลงตัวเอง"


[ฮ่าๆ ไม่ใช่แค่ผมหลงตัวเองหรอกมั้ง เนมก็หลงผมด้วยใช่ไหมครับ?]



"หยอดเก่ง" ทำทีเป็นว่าเขา แต่ฉีกยิ้มจนถึงใบหู



[ไม่เก่งหรอก แต่เนมแน่ใจนะครับ ว่าไม่ให้ผมไปหา]


"อื้มมมแน่ใจ มันดึกแล้ว"



[สำหรับผมดึกแค่ไหนก็ไปได้ ขอแค่เนมบอกมาว่าให้ไป ผมจะลุกจากเตียงไปหาทันที]


"อย่าเว่อร์น่าแม็ค"


[ไม่เว่อร์นะ พูดจริง เนมไม่รู้เหรอว่าคนที่กำลังมีความรัก ทำได้ทุกอย่าง]



"มุ่งมั่นจังเลยนะ"


[ใช่ ผมเป็นคนมุ่งมั่น ถ้าอยากได้อะไรก็ต้องได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม]


"สุดยอด"


[ถามอีกทีแน่ใจเหรอ? ว่าไม่ให้ผมไป ไม่มีคนกอด คงหนาวแย่] ได้ยินคนย้ำกับคำถามเดิมๆ ก็ยอมรับว่า ใจจะอ่อนปวกเปียกอยู่แล้ว


     อยากให้มาจะตาย แต่ก็ต้องวางฟอร์มสักเล็กน้อยก่อน


"ครับ มีอีกตั้งหลายวันที่เราจะได้เจอกัน"


[ก็ได้ครับ แล้วนี่เรื่องงานเป็นไงบ้าง? มีเอชอาร์โทรมาเรียกบ้างรึยัง?]


"เท่าที่ไปสัมภาษณ์มายังไม่มีที่ไหนเรียกเลย"


[ไม่ต้องกังวลนะ เดี๋ยวก็ได้]


"ขอบคุณนะแม็ค"


[แล้วว่างงานแบบนี้ เนมมีเงินใช้หรือเปล่า?]


"มีครับ"


[ไม่มีบอกผมนะ]


"จะให้เหรอ?" เนมหยอก


[ใช่]


"ใจป๋าจังแม็ค"



[ฮ่าๆ กับคนที่ผมชอบ อะไรก็ยอมหมดแหละ]



    เงียบฉี่ แต่หัวใจพองโตที่อีกฝ่ายพูดย้ำ ซ้ำๆว่าพร้อมทุ่มเทให้เขาแค่ไหน?


    เนมรู้สึกดี เพราะเขากำลังมีความหมายกับใครอีกคน



[เนมครับ ขอโทษนะ พรุ่งนี้ผมมีไปคุยงานกับพ่อแต่เช้า ขอนอนก่อน ฝันดีนะครับเนม]


"ได้ครับ เหมือนกันนะแม็ค"


[เดี๋ยว อย่าเพิ่งวาง]



      ทันใดนั้น


[จุ๊บ...]



     ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินเสียงจุ๊บ ตัวแทนของการจูบ ดังจากปลายสายทำให้คนที่ได้ยินชัดเจนเต็มหูใจสั่นวูบวาบ ขนอ่อนลุกชูชันและหน้าร้อนเห่อราวกับอยู่ห้องซาวน่า


       แม้จะเป็น ...จูบล่องหน...แต่เนมสัมผัสได้



"...."


[เนมได้ยินไหม?]


"อะอ่า...อื้ม"


[ฝากเป็นเสียงไปก่อนนะครับ สัมผัสจริงกำลังจะไปหาเร็วๆนี้]


     แม้จะวางสายแล้ว แต่ปฏิกิริยาดีใจอีกฝ่ายยังไม่หาย เนมคว่ำหน้าลงกับหมอน พร้อมดิ้นพล่านจนทั่วเตียง


"อ๊ากกก! แม็คนะแม็ค"



     ยามนี้ คนที่ร้างลาการมีแฟนมาสามปี กำลังกระดี๊กระด๋ากับห้วงแห่งการ 'ตกหลุม' ความหลงผู้ชายแสนดีคนนี้....



     ผู้ชายที่ทำให้เนมรู้สึกเหมือนตอนสิบสี่อีกครั้ง...







 
****1.1****

   หยอดเก่ง  ^^  :z1: :z1:
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่า
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-09-2018 20:10:39 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: ||*..--+--..*หลง*..--+--..*|| ตอนที่ 2 [6-9-18]
«ตอบ #7 เมื่อ07-09-2018 01:38:29 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
ตอนที่ 2 รักครั้งใหม่ (2)





"ขอบคุณนะที่มาส่ง"


"ครับ"




        ในเวลาแปดโมงครึ่ง



        เนมนั่งอยู่ในรถของแม็คที่อีกฝ่ายยอมแหกขี้ตาตื่นแต่เช้าเพื่อมาส่งเนมเข้างานกับการเริ่มทำงานที่ใหม่ในวันแรก หลังจากกว่าจะได้งาน ก็ผ่านไปแล้วสองสัปดาห์

   

       และนอกเหนือจากการได้งานใหม่ เนมยังพบกับรักครั้งใหม่ ที่เขาตัดสินใจตกลงคบเป็นแฟนกับแม็คได้ไม่กี่วันมานี้



"ไปแล้วนะ"

 

       บอกขณะจะลงรถ แม็คคว้าแขน

 

"หอมแก้มหน่อย"


 

     เนมยิ้ม โน้มตัวไปหา



ฟอด...

 

     คนได้หอมแก้มแฟนดั่งใจหวัง ผละออกแล้วจับไหล่อีกฝ่าย

 

"มีแฟนแล้ว ห้ามมองใครคนไหนเด็ดขาด"

 

"แต่ถ้าดูดีกว่าแม็คก็ไม่แน่นะ"
หยอกเอินแฟนตัวเองอย่างไม่คิดอะไร แต่ไม่คิดว่า...

 

เพี้ยะ!


"โอ้ย!"  หลุดร้องเสียงดัง เมื่อแม็คตบปากเนมเข้าอย่างจัง และเมื่อคนที่พลั้งมือได้สติรีบดึงเนมมากอด

 

"ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจนะ แค่กะจะเล่นด้วยเฉยๆ"

 


"ไม่เป็นไรแม็ค เราไม่โกรธ เราไปทำงานก่อนนะ" ว่าทั้งๆที่กุมปากตัวเองอยู่ ความแรงมันทำให้เนมแสบปากใช้ได้

 

"เลิกงานผมมารับนะ"
 

"ถ้าไม่สะดวกก็ไม่ต้องมา เรากลับเองได้"

 

"ไม่ได้ ผมต้องดูแลแฟนดีๆสิครับ อ้อ...เนมอย่าลืมทำตัวให้ว่างนะ ที่ผมเคยบอกไปว่าจะพาเนมไปเปิดตัวกับเพื่อน"


 

"อื้ม"

     พยักหน้ารับรู้ทุกคำบอก จากนั้น เนมก็ออกจากตัวรถเดินข้ามถนนเข้าบริษัทใหม่ในวันแรก...

 

 

 





 

...............

 

 

     สองสัปดาห์แล้วที่เนมทำงานที่ใหม่ ซึ่งผ่านไปด้วยดี เนมได้หัวหน้าเป็นรุ่นพี่ผู้หญิงอายุสามสิบกว่า เธอน่ารัก นิสัยดี เต็มใจสอนงานและใจดีมากๆ



    เรื่องการทำงานประจำ พี่ น้ำ เมย์ และแม็ครับรู้ความคืบหน้าอยู่ตลอด แหละเมื่อรู้ว่าเรื่องงานไม่มีอะไรให้น่าเป็นห่วง เนมจึงไปหาเพื่อนของแม็คได้อย่างคลายกังวล


     เมื่อใกล้ถึงที่หมาย เนมตื่นเต้นเหมือนกันเพราะไม่รู้ว่า หากเพื่อนแม็คเห็นเนมจะชอบหรืออยากเป็นมิตรกับเขาหรือเปล่า?

 
      สำหรับการที่แม็คพาเนมมาเปิดตัวกับเพื่อนๆ เขาไม่ได้ชวนไปนั่งร้านเหล้าแต่อย่างใดแต่กลับพามาปาร์ตี้เล็กๆที่บ้านของเพื่อนแม็คก็เท่านั้น




    ไม่นานรถยนต์คันงามก็ขับมาจอดเทียบข้างรั้วบ้าน ก่อนจะโทรหาให้เจ้าของบ้านมาเปิดประตู แม็คจูงมือเนมเดินไปโซนสนามหญ้าที่มีโต๊ะไม้กลมพร้อมเครื่องเคียงแกล้มเหล้าที่เพื่อนนำมาวางเรียงรายเต็มโต๊ะ



    แม็คและเนมนั่งข้างกัน ก้นยังไม่แตะเก้าอี้ ก็โดนเพื่อนเล่นทันที



"ไอ้แม็ค ที่พามาคราวก่อน ไม่ใช่คนนี้นี่"


"กวนตีน เดี๋ยวเนมคิดว่าเป็นเรื่องจริง"
แม็คด่าเพื่อนพลันเหลือบมองเนมที่นั่งยิ้มเจื่อน

 

"กูนึกว่ามึงหลงป่า...ห่า...มาช้ากว่าที่นัดไว้เป็นชั่วโมงเลยนะมึง" เพื่อนอีกคนว่า

 

"ช้านิดช้าหน่อยทำบ่น"

 

"มัวทำอะไรกันอยู่ล่ะ"
แม็คชูนิ้วกลางใส่เพื่อนที่พูดจาลงต่ำได้ตลอด

 

    มัวแต่เพลินกับการต่อปากต่อคำ จนลืมแนะนำให้ต่างฝ่ายได้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ

 

    ทั้งหมดที่นั่งรวมหัวกันอยู่ตอนนี้ คือ เพื่อนของแม็คสมัยเรียนมหาวิทยาลัยทั้งสิ้น


"เนมครับ นี่ไอ้เท็น ไอ้เป๊กแล้วก็ไอ้ตูนหรือเรียกมันว่า 'พี่การ์ตูน' ก็ได้ มันชอบ"



      บอกพร้อมผายมือแนะนำทีละคน แต่แอบแซวเพื่อนรักคนสุดท้ายที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ยามที่แนะนำเพื่อนในกลุ่มให้ผู้มาใหม่ได้รู้จักก็สนุกทุกครั้งที่ได้บอกชื่อเต็มของ ตูน ให้คนแปลกหน้าได้รู้



     ชื่อเล่น ที่แม็คล่วงรู้ความลับนี้มาจากปากแม่เพื่อน

 

"สัด"



      ตูนด่าอย่างไม่เกรงใจสมาชิกใหม่ ฟากเนมยิ้มขำ เพราะดันจินตนาการต่อถึงชื่อเล่นว่าหากใครได้ยิน คงจะนึกถึงคนน่ารักๆ สดใส แต่ความจริงกับสิ่งที่เห็นช่างสวนทาง ภาพลักษณ์ภายนอกของพี่ตูน ดูหล่อแบบผู้ชายเซอร์ เซอร์ หน้าคม คิ้วเข้ม คล้ายพระเอกเอ็มวีลูกรักของรูม 39 วงโปรดของเนมมากกว่า นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เนมหยุดขำไม่ได้ แต่แล้ว เนมต้องหุบปากฉับเมื่อพี่ตูนถลึงตาใส่


"สวัสดีครับพี่ๆ" เนมเรียกพี่ทุกคนเนื่องจากอายุมากกว่า แต่สำหรับแม็ค เจ้าตัวบอกไม่ต้องเรียกพี่ตั้งแต่ทีแรกแล้ว

     

"เนมคิดไงเลือกไอ้แม็คเป็นแฟน?" มาถึงก็พุ่งคำถามแบบตรงๆ จนเนมไม่ทันตั้งตัว เขายิ้มให้ก่อนถึงตอบ



"คิดดีแล้วครับ"


"วู้วววว...หวานเว้ยเฮ้ยยยย"



"รู้จักไอ้แม็คได้ไงครับ?" เท็นถามบ้าง เมื่อรู้ว่า เนมดูไม่หยิ่งเท่าไหร่

 

"แม็คมาช่วยผมตอนโดนโจรปล้นครับ"


"โห...ไอ้ตูนช่วยต่อยกูทีซิ ว่ากูฝันไปหรือเปล่า? กูไม่อยากจะเชื่อ คนอย่างไอ้แม็คเนี่ยนะจะเป็นพระเอกไปช่วยคนอื่น บอกกูมา มึงจ้างคนพวกนั้นเท่าไหร่?"
เป๊กกวนตีนเพื่อน จนแม็คปาถั่วลิสงใส่หน้า

 

"กูจ้างห้าหมื่น สัด...พอเลย...ไอ้เป๊ก พูดแบบนี้ช่วยเกรงใจคุณงาม ความดีในชีวิตกูด้วยครับเพื่อน"

 

"ตั้งแต่คบกันมา มึงมีด้วยหรือวะความดี กูหาแทบไม่เจอ"

 

"มึงจะพอไหมห้ะ? ไอ้เป๊ก"
ยกขวดวิสกี้ขึ้นสูง ทำท่าจะเขวี้ยง เป๊กกลั้นขำ ก่อนที่แม็คจะตอบ



"ทำไมครับ? ยกขวดอย่างนี้ จะรินเหล้าให้กูเหรอ?"


"เออ...จะได้หยุดพูด"






      เหมือนนั่งดูตลกคาเฟ่ที่มีคนส่งมุก-รับมุกอย่างรู้จังหวะ จะโคน ทำให้เนมลดความเกร็งลงได้บ้าง เพราะเพื่อนของแม็คกันเองจนทำให้เนมสบายใจเหมือนนั่งอยู่ในวงเหล้ากับพวกเพื่อนตัวเองอย่างไรอย่างนั้น



     นั่งหัวเราะมองแฟนทะเลาะกับเพื่อนแบบไม่จริงจัง จู่ๆ พี่เท็น ก็โพล่งพร้อมชูแก้ว





"มาๆ...มาฉลองให้ไอ้แม็คกับแฟนใหม่คนที่ร้อยห้าสิบของมันกันดีกว่า"

 

"เฮ้อ...พวกมึง พอเหอะ เดี๋ยวเนมคิดมาก"



"ห่วงจ๊าาางงง... กูจะเงียบต่อเมื่อเนมดื่มออน เดอะ ร็อก ต่อจากแก้วนี้"
เป๊กบอก



       แน่นอนว่า พอมีเด็กใหม่เข้ามาในวงสุรา การรับน้องจึงบังเกิด


"ได้ครับ" เนมตอบทันที



"มันต้องอย่างนี้สิวะ"


    แกร๊ง...!



     เสียงชนแก้วกระทบกันดังดั่งระฆัง จากนั้น ทุกคนยกแก้วขึ้นดื่มจนหมดแก้ว ก่อนที่เท็นจะตบโต๊ะเหมือนนึกอะไรขึ้นได้



"เฮ้ย! ตั้งวงแบบนี้ กูว่าเรามาเล่นเกมส์กันเถอะ"


"มึงนี่ขยันสรรหาเกมส์มาเล่นในวงเหล้าเนอะ ไอ้เท็น"

 

"อ้าวก็มีคนใหม่มา ต้องนำเสนอกันหน่อย เนมรู้ไหม? พวกพี่ชอบเล่นเกมส์กันมากๆ"


 

"น่าสนุกนะครับพี่"


"กติกา คือ ให้ใช้ตัวอักษรแรกของชื่อเล่นตัวเองในการตั้งคำถาม และถ้าคำตอบไหนโดนโหวตว่าถูกใจมากที่สุด คนชนะ คนนั้นเลือกส่งเหล้าออน เดอะ ร็อคให้ใครกินก็ได้"



"โห..."



       เป็นเกมส์ที่ดูน่าสนใจทีเดียว


"เริ่มที่กูเลยละกัน กู เท็น ขึ้นต้นด้วย ทอ.ทหาร คำถาม - ทำอาหารเป็นไหม? ขอถาม เนม"



"ทำเป็นบางอย่างครับ ตาผมถามใช่ไหม? เนม นอ.หนู คำถาม - น้ำตาไหลครั้งล่าสุดเมื่อไหร่? ขอถาม.......พี่ตูนครับ" 



      กำลังคิดอยู่ว่าจะถามใครดี? แต่พอสายตาปะทะเข้ากับพี่ตูนที่จ้องมองมาจึงเอ่ยชื่อคนนั้นทันที



       ฟากคนโดนถามนิ่งอย่างเห็นได้ชัด ก่อนตอบ


"เมื่อวาน"


"เรื่องอะไรหรอครับ?"
เรื่องชาวบ้าน คือ งานของเรา เนมถามกลับอย่างอยากรู้อย่างอยากเห็น

 

"หั่นหัวหอม"


"ฮ่าๆ...ไอ้เชี่ย มึงก็ตอบน้องดีๆหน่อยสิวะ"


"แล้วกูตอบไม่ดีตรงไหน? ก็ตรงกับสิ่งที่ถาม"



"พี่ตูนไม่ผิดหรอก แต่เมื่อวานพี่ตูนหั่นหัวหอมจริงๆหรือเปล่าล่ะครับ?"




   มองคนยอกย้อนก็ถอนหายใจแรง คราวนี้ตูนจึงตอบเรื่องจริง ไม่ใช่ เรื่องแกล้งกวนประสาท


"ห้าปีก่อน แล้วไม่ต้องถามนะว่าเพราะอะไร"
 

"โถ โถ ดราม่าซะพวกกูไม่กล้าเล่นด้วยเลย"

 

     แม็คเห็นเนมทำหน้าสงสัย ใคร่รู้ เหมือนอยากถามต่อ จึงกระซิบข้างหู

 

"ที่ไอ้ตูนพูด มันหมายถึงเรื่องของแฟนมันที่ตายไปเมื่อห้าปีก่อน"


 
     หันขวับไปหาคนกระซิบทันที จากนั้น เนมไม่กล้ามองหน้าพี่ตูนอีกเลย


"ตากูแล้วสิ ตอ.เต่า คำถาม - ตอนนี้ อยากทำอะไรที่ทำให้หัวใจเต้นแรงที่สุด? กูถามมึงอะ ไอ้แม็ค"

 

      ทุกคนทำหน้างงที่จู่ๆ แม็คยิ้มพลางดีดนิ้วดังเป๊าะ ก่อนบอก


"โป้ะเช้ะ!...ขอบใจมึงจริงๆ การ์ตูนที่โยนคำถามนี้มาให้กู คำตอบของกูคือ...."



     วางแขนพาดไหล่คนที่นั่งข้างๆแล้วตอบโดยหันไปมองหน้าแฟนตัวเอง


"อยากจูบเนมต่อหน้าพวกมึง"



กึก...

 

    ชะงัก ขนอ่อนลุกชูชันพร้อมๆกับใบหน้าที่ร้อนเห่อเริ่มลามไล้ไปทั่วลำคอและใบหู 



    การจูบต่อหน้าคนอื่นใครเล่าจะกล้า...

 
"จูบเลย จูบเลย"


      เป๊กชูกำปั้น แล้วตะโกน แรงเชียร์และสายตากดดันจากคนในกลุ่ม ทำให้แม็คหันไปหาเนม



"เพื่อนผมรบเร้าขนาดนี้ จะไม่ทำตามความต้องการมันหน่อยเหรอ?"



"แม็ค...แต่..."


      คนที่ไม่รอคำตอบเนมให้ชัดเจนเสียก่อน ก็จับปลายคางของเนมแล้วโน้มตัวไปประกบจูบริมฝีปากอีกฝ่าย

 

    จูบลึกซึ้งที่ใช้ปลายลิ้นอุ่นสอดเข้าภายในโพรงปากอีกฝ่าย ยังคงจูบจนเสียงดังจ๊วบจ๊าบ มันนานไปจนเนมตีอกแม็คให้หยุด หนุ่มหน้าตี๋ทิ้งท้ายด้วยการกัดริมฝีปากจนเนมหลุดร้องเสียงครางเพราะเจ็บ



    ผละมามองคนหน้าแดง ตัวแดง แล้วยกยิ้มร้ายกาจ ส่วนคนที่นั่งมองหนังสดได้แต่ผิวปากวี้ดวี้วกันยกใหญ่

 


"ไอ้แม็คแม่งซาดิสม์นี่หว่า โอ้ย กูทนดูไม่ได้"
เท็นแสร้งยกมือขึ้นมาปิดตา แต่กางนิ้วออกห่างซะขนาดนั้น


     แล้วจู่ๆ...


"กูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ" ตูนบอกเพื่อนๆ



"ไอ้ตูนถึงกับไปเข้าห้องน้ำเลยว่ะมึง ฮ่าๆ"
เป๊กแซวเพื่อนที่เดินลุกหนีไปแล้ว



"ไม่ต้องเล่นละ พอ กูขอโหวตให้ไอ้แม็คชนะ"

"กูด้วยๆ"



"เดี๋ยวกูมา"  คนที่ไม่ได้สนใจการโหวต แต่สนใจคนที่ลุกหนีไปมากกว่า

 

    ถัดมายังในห้องน้ำ คนที่ทำธุระตัวเองเสร็จเรียบร้อย เปิดประตูก็สะดุ้งเมื่อเห็นแม็คยืนกอดอกอยู่ข้างนอกประตู



"ยืนขวางประตูทำไม?"


"มาคุยกับมึง"


"อะไร?."


"มึงรู้จักเนมมาก่อนรึเปล่า?"

 
"เปล่า"
 

"แน่ใจ?"
 

"เออ...อะไรของมึงอีกวะ?"


 

"มึงนั่งจ้องแฟนกูตาไม่กระพริบ"

 


    คนโดนกล่าวหาชะงักไปนิดแล้วบอก

 
"กูก็มองทุกคน"


"แถ!...กูเห็นเต็มสองตา ถ้ามึงไม่รู้จักเนมมาก่อน มองแบบนี้ แสดงว่ามึงชอบเนม? ใช่ไหม?"

 

"พูดบ้าอะไร นั่นแฟนมึง กูจะชอบได้ไง"

 

"นั่นดิ มึงจะเหี้ยขนาดแย่งแฟนเพื่อนได้ยังไงล่ะ จริงไหม?"

 

"เออ...กูไม่ได้ชอบเนม" ตูนบอกเสียงหนักแน่น

 

"แล้วไป กูไม่มีอะไรคาใจละ" แม็คยิ้ม ตบหลังเพื่อนสองสามที ก่อนจะเข้าห้องน้ำแล้วปล่อยให้ตูนเดินออกไปข้างนอก


      เมื่อทุกคนกลับมานั่งกันจนครบ ก็รีบจับผู้แพ้ในเกมส์ นั่นคือ เนม ดื่มออน เดอะ ร็อก สามแก้วในเวลาไล่เลี่ยกัน

   
        เวลายังคงดำเนินไปเรื่อยๆ ท่ามกลางวงเหล้าที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ และความเฮฮาคละเคล้าไปกับการเผาเพื่อนเมามันส์กันอย่างสนุกปาก แต่น่าเสีย เพราะงานเลี้ยง ย่อมมีวันเลิกรา...



         ได้เวลากลับบ้าน และคนที่โดนรับน้องใหม่ ให้กินแต่เหล้าเพียวๆ มีหรือที่สติจะยังอยู่ครบ ยามนี้ เนมเมาจนนั่งโงนเงนเหมือนร่างไร้กระดูก แม็คเห็นแฟนตัวเองย่ำแย่จึงเตรียมตัวกลับบ้าน


"เฮ้ย...ฝากดูเนมหน่อย กูไปเข้าห้องน้ำก่อน" ไม่ได้ระบุชื่อเพื่อน แต่ดูเหมือนคนที่ต้องดูแลคงเป็น ตูน ไปโดยปริยาย เพราะเท็น กับเป็ก ก็สภาพแทบไม่ต่าง

 

      ตูนลุกจากที่นั่งของตัวเองไปนั่งใกล้เนม เปิดกระติกน้ำข้างๆที่มีผ้าเย็น แกะซองพลาสติกพร้อมดึงไหล่คนที่ฟุบหน้าลงกับโต๊ะให้ลุกขึ้นมานั่งดีๆ แต่ด้วยความเมาทำคนปกติ ไร้เรี่ยวแรงคอพับ คออ่อน เอนศรีษะไปพิงไหล่ตูนโดยอัตโนมัติ

 

"อื้มมมม แม็ค"


"นี่ตูน ไม่ใช่แม็ค"
บอกไปไม่รู้จะรู้เรื่องหรือเปล่า? ตูนใช้ผ้าเย็นเช็ดหน้าคนเมาอย่างเบามือหวังจะให้เนมสร่าง ตาสว่างได้บ้าง


    อาจเป็นเพราะได้รับความเย็นสดชื่นปฏิกิริยาอีกฝ่ายจึงตอบสนองขยับตัว ยุกยิก พลิกตัวแล้วโอบเอวตูนพลางซุกซบหน้าลงตรงซอกคอของคนที่เช็ดหน้า เช็ดคอให้


    ทุกลมหายใจอุ่นๆที่เข้าออกกำลังเป่ารดตรงซอกคอของตูน ทำคนที่นั่งเป็นดั่งเสาหลักให้พัก ลอบกลืนน้ำลายพลางข่มใจ ตูนนั่งตัวแข็งทื่อไม่ขยับ แล้วจู่ๆ มือหนาที่ควรต้องแงะแกะแขนเนมที่กอดเอวไว้ออก กลับวาดแขนหวังจะกอดกระชับกลับ
 

    และวินาทีนั้น....

 

"ไอ้ตูน ขอบใจที่ดูแลแฟนกู"


     ชะงักชักมือกลับ ก้มหน้ามองคนเมาพลางดันไหล่เนมให้ห่างออกจากตัว เพื่อส่งให้แม็ครับช่วงต่อ

 

"อืมไม่เป็นไร กลับบ้านดีๆล่ะมึง" ตูนพูด


"เออ"


 
      มองแผ่นหลังเพื่อนที่หามคนเมาอย่างทุลักทุเลเดินห่างจนไกลออกไปเรื่อยๆ ก็ลอบถอนหายใจออกมา ก่อนจะเรียกเท็นกับเป๊กให้รู้ความต้องการของตัวเองว่าจะขอตัวกลับบ้านบ้าง....




...............................

 
เอ๋!.....พี่ตูนนนนนน?  :hao4: :hao4: :hao4:   ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ...


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-09-2018 20:11:10 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: ||*..--+--..*หลง*..--+--..*|| ตอนที่ 2.2 [8-9-18]
«ตอบ #9 เมื่อ09-09-2018 08:26:44 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ขอวาร์ปอดีตพี่การ์ตูนหน่อยจิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ||*..--+--..*หลง*..--+--..*|| ตอนที่ 2.2 [8-9-18]
« ตอบ #9 เมื่อ: 09-09-2018 08:26:44 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
 
ตอนที่ 3 ปาฏิหารย์ไม่มีจริง (???)







      หลังจากเมื่อวาน มีคนเมาไม่รู้เรื่องรู้ราว ยามสายของวันถัดมา ชายหนุ่มผู้นั้นจึงต้องมาพำนักที่บ้านแฟนของเขา

 

     คนที่ยังงัวเงียปรือตาขึ้นมามองเพดานด้วยอาการปวดหัวตุ๊บๆ เนมหยัดกายขึ้นมานั่งยกสองมือกุมขมับ ก่อนจะรับรู้ได้ว่าเตียงนอนยวบไปตามน้ำหนักของตัวคนอยู่ข้างๆ



"ไหวไหม?"



"นี่เราอยู่บ้านแม็คหรอ?"


 

"ใช่สิ เมื่อคืนเนมเมามาก"

 

"เราอยากอาบน้ำ ขอผ้าขนหนูหน่อยสิ"
  เสียงแหบแห้งบอกอย่างหมดแรง

 

"ได้ คืนนี้ เนมนอนบ้านผมเลยแล้วกันนะ" คนมัดมือชกลุกขึ้นไปหาเสื้อผ้าพร้อมผ้าเช็ดตัวที่ตู้เสื้อผ้าและเดินกลับมายื่นให้เนม

 

"ได้ครับ"

 

"ผมซื้อโจ๊กไว้ อุ่นเรียบร้อยแล้ว ถ้าแต่งตัวเสร็จลงไปข้างล่างเลยนะ"




"ครับ"





      ยืนนิ่งอยู่ในห้องน้ำอยู่นาน กว่าจะจัดการธุระตัวเองเสร็จ เนมสมองโล่งและร่างกายสดชื่นกว่าเดิมเมื่อได้สายน้ำเย็นๆชะโลมร่างกายพร้อมอาเจียนของเก่าออกมาด้วย



      แต่งตัวเรียบร้อยก็เดินลงไปหาแม็คข้างล่าง เห็นเจ้าของบ้านนั่งรออยู่ที่โซฟา ก่อนจะลุกไปที่โต๊ะอาหาร และชี้ถ้วยโจ๊กที่ครอบอยู่ในฝาชี



       เนมนั่งตักโจ๊กเข้าปากทีละคำ ทีละคำ คนที่นั่งมองเนมตักได้ช้าผิดปกติ จึงอาสาป้อนให้



"ถ้าไม่ไหว ก็ดื่มน้ำเยอะๆ แล้วนอนก่อน"


"ครับ"




       กว่าจะละเลียดโจ๊กได้เล่นกินเวลานานพอสมควร เมื่อกินข้าวเสร็จ เนมดื่มน้ำตามเยอะๆ หวังไล่แอลกอฮอล์ในร่างกายออกไปได้บ้าง



       ทั้งสองเดินไปนั่งที่โซฟาเบด แม็คยื่นยาดมให้เนมได้สูดดม ก่อนจะจับศรีษะของคนข้างๆให้มาเอนพิงไหล่กัน และเปิดโทรทัศน์จอใหญ่ เข้าสู่หมวดภาพยนตร์



"แม็คก็ดูเน็ตฟลิกซ์ด้วยหรอ?"



"ใช่"



"ตอนนี้ แม็คดูเรื่องอะไรอยู่?"

 
"สเตรนเจอร์ ทิงส์ ตอนนี้ดูถึงซีซั่นสองแล้ว"



"เห็นโปรโมตอยู่เหมือนกัน สนุกไหม? ตอนนี้เราติด 13 Reasons Why เพิ่งจะดูซีซั่นแรกจบ ซีซั่นสองกะทิ้งช่วงไปหน่อย ไม่ไหวดูแล้วหน่วงเกิน"

 

"ลองดูสเตรนเจอร์ ทิงส์ซีซั่นแรกก่อนสิ เป็นแนวสยองขวัญก็จริงแต่ผมว่าไม่หน่วงเท่าเรื่องที่เนมดูมากหรอก"



" สงสัยคงต้องลองดู"



"เนมจะนอนก่อนก็ได้นะคะ ผมอยากดูเรื่องนี้ไม่ดูมานานแล้ว"



"เรื่องไรหรอ?"



"ดาวน์ออฟเดอะเดธ"



"อ้อ หนังซอมบี้นี่ เก่าแล้วนะ แต่เราก็ชอบเหมือนกัน"



"อืม...หนังแนวนี้ มีไอ้ตูนที่คลั่งพอกัน ลองถามมันสิ มันดูหมด"



"อื้ม"

     


       เนมเงียบ เมื่อภาพยนตร์เรื่อง Dawn of the Dead เข้าสู่ฉากเริ่มเรื่องที่คุณหมอคุยโทรศัพท์ในโรงพยาบาล


       เวลาผ่านไปจากคนที่นอนพิงไหล่ เลื้อยไถลตัวมานอนหนุนตักแม็คและผล็อยหลับไป



      หลังจากที่นอนเต็มอิ่มลากยาวไปสี่ชั่วโมงรวด ร่างกายก็ดีขึ้นเหมือนได้ชาร์จพลังกลับมากระปรี้กระเปร่าอีกครั้ง 


      เนมกวาดตามองทั่วบริเวณไม่เห็นแม็คจึงลุกขึ้นเดินไปชั้นสองเห็นแม็คนอนคุยโทรศัพท์อยู่บนเตียง พอเห็นเนมเจ้าตัวรีบวางสาย และเอ่บปากชวนเนมออกไปหาข้าวเย็นกินข้างนอก


       เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ แป๊ปๆก็หมดวัน ยามนี้ ก็ปาไปสองทุ่มที่เนมกับแม็คเพิ่งเดินทางกลับถึงบ้านหลังจากตระเวนไปหาข้าวกินข้างนอก


       ทั้งสองกลับมาอาบน้ำ เตรียมนอน เพราะพรุ่งนี้ เนมไปทำงาน ส่วนแม็คก็มีไปคุยงานแต่เช้า


        เสร็จธุระทั้งคู่ ขึ้นเตียงเตรียมเข้าสู่นิทรา แต่ทว่า ไม่นานมากนัก คนเคลิ้มใกล้หลับกลับลืมตาเมื่อพบว่ามือหนาของคนข้างกายลวนลามไล้ไล่มายังแก่นกลางลำตัว



“แม็คทำอะไรอะ?”

 
“เราก็เป็นแฟนกันแล้ว"
สายตาและคำพูดของแม็คบ่งบอกชัดเจน

 

“แม็คหมายความว่า.....”

 

“ได้ไหมเนม?”


 

“คือ....”


“ผมต้องการจริงๆ ผมไม่คิดว่าพอเราได้อยู่กันสองต่อสองแบบนี้ ผมจะทนไม่ไหว ผมรักเนมนะ แต่ถ้าเนมไม่ให้..."


"อืมได้"


 

       เนมรักแม็คจริงๆ ยามนี้ เขาจึงตอบตกลง เพียงเท่านั้น คนที่เพิ่งขอและนอนข้างกันเมื่อสักครู่ กลับกระโดดขึ้นคร่อมร่างเนมอย่างไว แล้วจับแขนเนมทั้งสองข้างตรึงไว้เหนือศรีษะ


        แม็คซุกไซ้ซอกคอเล้าโลมเพื่อกระตุ้นอารมณ์ จนเนมยอมรับว่าอีกฝ่ายปฎิบัติได้ถูกใจ ถูกจุดจนน้องชายของเนมก็ตื่นตัวตามสัมผัส


        ไม่ถึงสิบนาทีที่ช่วงล่างของสองคนไม่เหลือผ้าปกปิด เหลือเสื้อยืดที่สวมใส่เท่านั้น เนมที่นอนหงาย แยกปลายขาทั้งสองข้างออกกว้าง ขณะที่คนคร่อมทับอยู่ด้านบน กำลังใช้ปลายนิ้วยาวสอดเข้า สอดออกจากช่องทางคับแคบเพื่อขยายทางให้ร่วมรักกันได้ไม่ติดขัด


        ยามนี้ เนมรู้สึกแปลกประหลาด เจ็บวูบวาบอย่างบอกไม่ถูกที่นิ้วเสียดสีภายในร่างกายของเขา


        คนเคลิบเคลิ้มสะดุดกึก เมื่อคนด้านบนดึงนิ้วออกแล้วยัดแก่นกายเข้ามาแทนที่พร้อมจับสะโพกเอาไว้แน่น ดวงตาที่เคยอ่อนโยน ยามนี้ เต็มไปด้วยความดิบเถื่อนที่เนมไม่เคยเห็นมาก่อน



       แม็คไม่มีถามเนมก่อนเลยว่าพร้อมไหม? เขาแค่ทำตามใจตัวเองเท่านั้น

 
“อ้ะ...อ้ะแม็ค เราเจ็บ”


        ดูเหมือนว่า การพูดความรู้สึกตัวเองจะไม่ช่วยอะไร เพราะแม็คไม่ฟังกันอยู่ดี ยังคงกระทุ้ง กระแทก กระทั้นอย่างไม่มีออมแรง

 
         เขาเจ็บจนบีบหัวไหล่แม็คอย่างแรง ฟากแม็คครางเสียงต่ำ ใบหน้าชื้นเหงื่อมองเนมด้วยแววตาอ่านไม่ออก จากนั้น แม็คเพิ่มระดับความแรงและเร็วจนคนใต้ร่างเริ่มไม่ไหว



          เนมตีอกและย้ำบอกแม็คหลายที จนแม็คผ่อนความแรง โน้มตัวลงต่ำแล้วกัดเข้าที่ลาดไหล่อย่างแรง


  “โอ้ย...แม็ค”


        เนมร้องดังลั่น เมื่อคนที่ร่วมรักกับเขา ไม่ถนอมกัน ใช้ฟันคมขบกัดตรงหัวไหล่ ลำคอซ้ำๆ

 

        นาทีนี้ เสียงที่ร้องกำลังบ่งบอกความรู้สึกหลายแบบคละเคล้ากัน ทั้ง ความสุข ความเจ็บประสานไปกับเสียงของขาเตียงที่กระแทกพื้นเป็นจังหวะหนักๆ ขณะที่ต่างฝ่ายต่างรับรสราคะผสานอารมณ์วาบหวามของกันและกันอย่างหนักหน่วง ก่อนที่...

 

         พรวด...

 

         ทั้งสองปลดปล่อยความต้องการออกมาก่อนเนม และล้มตัวลงนอนทับอยู่บนตัวเนม ออกมาพร้อมกับเสียงหอบหายใจ

 

“โคตรมันส์ ขอบคุณนะเนม”


“อะอื้ม”
เนมบอกเสียงแผ่วในขณะที่หางตามีหยาดน้ำใสไหลออกมา...

 

         เป็นการมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งที่เจ็บและทรมาน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเนมก็มีความสุขมากเหมือนกันที่ได้ร่วมรักกับคนที่เนมรักที่สุดในตอนนี้....




...................




        และแล้ว การสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนแม็คได้เวียนมาบรรจบพบเจออีกครั้ง เนื่องจากกลุ่มของแม็คตั้งกฏไว้ว่า ต้องหาเวลามาดื่มเพื่อเจอกันเดือนละครั้ง โดยหมุนเวียนไปบ้านเพื่อนของแต่ละคน ซึ่งคราวก่อนไปบ้านพี่เป๊ก คราวนี้จึงมาลงเอยที่บ้านของแม็ค



        ยามนี้ เนมและแม็คเพิ่งกลับมาจากการไปหาซื้อขนม นม เนย กับแกล้มพร้อมเบียร์ที่ซูเปอร์มาร์เก็ต



        พอถึงเวลานัด เพื่อนๆของแม็คทะยอยกันมา


"เดี๋ยวนี้ตัวติดกันเว้ย"


       เท็นแซวคู่ข้าวใหม่ปลามันที่แสดงออกอย่างเห็นได้ชัด แล้วดูท่าน่าจะจริงอย่างที่คนอื่นหยอกล้อ เพราะตอนนี้ เนมหลงแม็คอย่างหนักถึงกับขึ้นหอบผ้า หอบผ่อนมาสิงสถิตย์ที่บ้านแม็คเป็นที่เรียบร้อย

 

"อิจฉาก็บอก" หันหลังไปมองเพื่อนขณะที่มือกอดคอเนมแน่น
 

"เหอะ!"
     

       ก้าวยาวมาถึงตัวบ้าน ตำแหน่งในการตั้งวงเหล้า คือ โซนรับแขกที่มีโซฟาเบดรูปตัวแอลพร้อมโต๊ะกลางไว้วางของ



       ทุกคนทำหน้าที่ตัวเองกันไป แต่ดูเหมือนแม็ค เมื่อเห็นว่าไร้คนอยู่ตรงนี้ รีบรั้งคอเนมมาจูบดูดดื่มอย่างคนกระหาย



"อะแฮ่ม อะแฮ่ม" คนที่เดินไปหยิบน้ำแข็งประเดี๋ยวเดียว จงใจกระแอมไอเสียงดัง เมื่อกลับมาก็เห็นคนที่นัวเนียกันอย่างเปิดเผย



       ทั้งสองรีบผละก็เห็นสายตาล้อเลียนจนแม็คบอกเนม


"ไปช่วยไอ้ตูนในครัวปะ..."


"ครับ"



      รับคำสั่งอย่างว่าง่ายเดินไปที่ห้องครัวและหยุดยืนข้างๆคนที่ง่วนแกะซองถั่ว
 

      ชายผู้มาใหม่วางมือลงบนเคาน์เตอร์ เอียงหน้าถาม

 

"พี่ตูนมีอะไรให้ผมช่วยไหม?"

 
"ช่วยไปซื้อขนมหวานที่เยาวราชให้หน่อยดิ"



"พี่ตูน พูดจริง-พูดเล่นเนี่ย"


"เอ้า!...พูดจริง บอกอยากช่วย..."


"พี่ตูน เอาดีๆสิ ผมเชื่อจริงนะเนี่ย"



"ฮ่าๆ"



     เห็นแฟนเพื่อนทำหน้ามุ่ยก็นึกขำ คนผุดรอยยิ้มก่อนหน้ากลับลดลง เมื่อสายตาดันซุกซนไปเผลอเห็นรอยจ้ำและรอยฟันตรงแถวไหปลาร้าที่ดูจางลง ตูนวกสายตากลับมายังจานใส่ถั่วตรงหน้า

 

"ตอนนี้รู้ละ ช่วยอะไร ช่วยไปไกลๆหน่อย ไม่มีสมาธิแกะซองอัลมอนด์"

 


       มองคนที่ฉีกซองเทอัลมอนด์ได้แต่ฉงน อะไรกัน? ต้องใช้สมาธิขนาดนั้นเลยหรือไง?

 

"โห่ รำคาญผมหรอ? ถึงกับไล่ผมเนี่ย"


"พูดมาก ไปได้แล้วน่า"

 

         หลังดุเบาๆ ได้ยินคนบ่นงึมงำคนเดียวก่อนจะเดินหายไป ทิ้งให้ตูนยืนยิ้มมุมปากลำพัง




         ช่วยกันเสร็จเรียบร้อยก็กลับมานั่งสังสรรค์แบบไม่มีพิธีรีตรอง

 

"วันนี้มีเกมส์มาเล่นอีกแล้วครับ"



      ทุกคนถึงกับส่ายหน้าขำ เมื่อนั่งดื่มเบียร์กันผ่านไปแค่สองขวดเล็ก เท็นก็โพล่งขึ้น


"เท็นเจ้าพ่อเกมส์แห่งวงเหล้ามาแล้ว"

 

"วันนี้ ขอเสนอ เกมส์ต่อเพลง"

 

"กูไม่เล่นนะ ร้องไม่เพราะ"
ตูนบอกทันควัน
 

"เดี๋ยวๆ...แค่ต่อเพลงขำๆไม่ต้องร้องเพลงเพราะก็ได้มั้ง แล้วแหม...ทำเป็นถ่อมตัว ไอ้ตูน ได้ข่าวงานแต่งพี่ชายมึง ไม่ใช่มึงหรอกหรอที่ขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีจนสาวกรี๊ดเกรียวกราวน่ะ"


 
"ถึงไม่ร้อง สาวก็กรี้ดนะ"

"จ้า เอาที่มึงสบายใจเลยจ้า ไอ้การ์ตูน"


 
      ตูนยักไหล่ ไม่สนใจ


"เออๆจะเล่นก็เล่น แล้วบทลงโทษคืออะไรวะ?" แม็คว่า เพราะเป็นเกมส์ที่ทุกคนรู้กติกากันเป็นอย่างดี



"บทลงโทษ คือ คนแพ้ต้องยอมทำอะไรแผลงๆตามคนสั่ง แต่คนที่มีสิทธิ์สั่งนั้น ห้ามสั่งให้กินสัตว์ที่ยังไม่ตาย และอย่าอันตรายถึงชีวิต"


"ทำไมพวกพี่ เถื่อนกันจัง"
การต่อเพลงน่ะเคยเล่นอยู่หรอก แต่การบอกว่ามีบทลงโทษเล่นอะไรแผลงๆ ได้ยินแล้วกลัวใจยังไงชอบกล


"ฮ่าๆ...เนมอยู่ไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็ชิน ไม่นาน เนมอาจจะเถื่อนกว่าพวกพี่ก็ได้นะ"

"เหอะๆ"

 

"ใครเริ่มก่อนดี"

 
"กู เพราะกูไม่ค่อยสันทัดการหาเพลงเท่าไหร่"
แม็คบอก

 
"ถ้างั้นคนต่อไป คือเนม เวียนจากด้านขวาไปเลยละกัน"

 

      ทุกคนเออออ จากนั้น แม็คประเดิมด้วยบทเพลง...

 

"คืนที่ดาวเต็มฟ้า ฉันจินตนาการเป็นภาพเธอ ธอ.ธง"

 


       พอแม็คร้องจบหันมาหา เนมชะงัก เพราะยังนึกไม่ออก จนกระทั่ง...


"เธอ คนที่ดีพร้อม วันนี้เธอยอมทุกอย่างเพื่อฉัน ฉันคนที่ช่างฝัน รู้เพียงว่าฉันโชคดีเหลือใคร คอ.ควายครับ"

 

"ใช้ได้นะเนมอะ"
เนมยิ้มกว้างที่พี่เท็นชม เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก ที่ไม่โดนลงโทษแบบพิเรนทร์ พิเรนทร์



     จากนั้น เป็นเท็นที่ร้องต่อ


"คนขี้เหงาคนหนึ่ง นั้นรอใครสักคนเข้าใจ มาเป็นเพื่อนดูหนัง นอหนู. เฮ้อ!รอดแล้วกู"

 

     ดูเหมือนว่า มันจะเป็นความสนุกปนความกดดันซะแล้ว เพราะถ้าแพ้นั้น การเล่นแผลงๆที่ว่ามันจะน่ากลัวขนาดไหน?

 

     ทุกคนจดจ้องไปที่พี่ตูน เนมก็อยากรู้เหมือนกันว่าที่พวกพี่ๆบอกว่าพี่ตูนร้องเพลงเพราะนั้น...จะเพราะแค่ไหนกันเชียว?


"น่าจะเจอกันมาตั้งนาน ก่อนที่เธอจะเป็นของใคร อยากให้มันมีปาฏิหารย์ให้ตัวฉันย้อนเวลากลับไป จะไม่ยอมให้เราพรากกัน ฉันคงจะพบรักเธอก่อนใคร...."

 

       เสียงทุ้ม นุ่มนวลเป็นธรรมชาติชวนเคลิบเคลิ้ม ราวกับมีเวทมนตร์สะกดให้เนมนั่งฟังอย่างตั้งใจ


       ขณะที่ร้อง พี่ตูนใส่อินเนอร์เต็มที่ทำเหมือนว่าเขาได้เป็นส่วนหนึ่งในบทเพลงนั้นๆ



"...พบกันสายไป มันน่าเสียดาย...ปาฏิหารย์ไม่มีจริง..."



      ยังคงจ้องคนที่ถ่ายทอดและสื่ออารมณ์ออกมาได้ดี จนเนมไม่สามารถละสายตาไปที่อื่นได้เลย และจังหวะที่พี่ตูนร้องจบเขาหันมาทางเนม คนโดนมองอยู่จึงส่งยิ้มให้เป็นการแสดงความชื่นชม


"ขนลุก พี่ตูนร้องเพลงโคตรเพราะอะ"


"ขอบใจ"


     ตอบพร้อมจุดรอยยิ้มมุมปาก แต่ทำไมเนมถึงรู้สึกว่า รอยยิ้มนั้นช่างละมุนละไมเหลือเกิน



****1.1****



เอาใจช่วยใครดีนะ ระหว่างพี่แม็คและพี่การ์ตูนนนนนนน ^^ :mew6: :mew6: :hao4: :hao4:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-09-2018 20:11:37 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

อ้าวววว  ยังไงเนี่ย   พี่การ์ตูนร้องเพลงปาฏิหาริย์ให้ใครเอ่ย?

ระหว่าง  ร้องให้แม็ค กับร้องให้เนม?

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ สีหราช

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
ตอนที่ 3 ปาฏิหารย์ไม่มีจริง (???) (2)








"แหม...คนอื่นเขาร้องแค่ประโยค...สองประโยค มึงนี่แม่งร้องซะจบท่อนฮุก คิดว่าร้องคาราโอเกะอยู่รึไง?"



"ทำบ่น กูร้องเพราะอะดิ เลยหมั่นไส้?"

 

"โอโห มั่นหน้ามากมึง"
เป๊กเบะปากใส่เพื่อน ก่อนจะพูดต่อ

 

"พอ...กูจะร้องเพลง..จอ.จานใช่ไหม? กูนึกออกแล้ว จากวันนี้จะมีเรา เราและนาย จดจำไว้ตลอดไปไม่ทิ้งกัน"

 

"เลือกเพลงทิ้งท้ายได้สวยงาม ซึ้งจนกูจะร้องไห้...นึกว่างานเลี้ยงรุ่น"
เท็นกระแนะกระแหน

 

 

    เนมขำที่พวกเพื่อนเแม็ค แขวะกันไป-มา แต่ก็รู้ดีว่า พวกพี่ๆเขาแค่ต้องการสร้างสีสันให้สนุกกันในวงเหล้าเฉยๆ


 

"โหรอบแรกยังไม่มีใครโดนเลยว่ะ ต้องหาคนโดนให้ได้ ตามึงแล้วไอ้แม็ค ต่อเลย กอ.ไก่"



      คนที่ไม่ค่อยรู้จักเพลงมากเท่าไหร่ ก็ขอยอมแพ้

 

"นึกไม่ออกว่ะ กูยอม"
 

"โอเค ใครจะเป็นคนลงโทษไอ้แม็ค"

 
"กู"
ตูนบอก

 

"ให้มึงแดกน้ำปลาผสมซอสพริกห้าช้อนโต๊ะ"


"ไอ้สัด ตูน"



"มึงไม่มีสิทธิ์เรียกร้องนะครับ นี่โคตรเบาเลยเหอะ รึมึงจะกินขี้กู?"


 

"สัด"




    แม็คทำหน้าไม่พอใจ ลุกไปหยิบส่วนผสมมาเรียบร้อย เทน้ำปลาและซอสพริกใส่ถ้วยเล็ก คนไปเรื่อยๆจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกันแล้วตักเข้าปาก

 

"เชี่ยเอ้ย จะอ้วก... อย่าให้มึงแพ้นะไอ้ตูน"
คนว่า ตาแดง หน้าแดง รีบกระดกน้ำเปล่าเกือบหมดขวด ฟากเนมเห็นหน้าแฟนตัวเองแล้วสงสาร จึงยกมือลูบหลัง ลูบไหล่ซ้ำๆ


 

    เมื่อแม็คร้องไม่ได้ ตัวอักษรนั้น จึงต้องตกมาอยู่ที่คนถัดไปซึ่งนั่น ก็คือ เนม


 

"ก่อนท้องฟ้าจะสดใส ก่อนความอบอุ่นของไอแดด ก่อนดอกไม้จะผลิบาน บอ.ใบไม้ครับ"

 

"เฮ้ย...เนมเก่งว่ะ ใช้ได้นะเนี่ย"

 

"ขอบคุณครับพี่"


 

     ถึงตาเท็นนั่งนึกสักพัก ก่อนจะยกยิ้มเหมือนผู้ชนะ

 

"บอกตัวเองว่าเราต้องลืมเรื่องราวที่ผ่าน แม้ความจริงต้องทรมาน มอ.ม้า"

 

"ไอ้เท็นมึงร้องยาวกว่านี้อีกสักท่อนไม่ได้หรอวะ?  'และไม่มีวันไหน ไม่คิดถึงเธอ' เนี่ย ถ้าลงตัว ธอ.ธง กูร้องได้เลยนะ"

 

"อ้าว...ถ้ากูเลือกตัวง่ายจะไปสนุกอะไรล่ะ?"

 


     ตูนลอบถอนหายใจ ก่อนยอมรับความจริง

 

 "ไม่ได้ว่ะ ยอม"

 

      และทันใดนั้น คนที่นึกออกก็อยากช่วย เนมยกมือขึ้น

 

"พี่ตูนครับ ผมนึกออก เอาไปร้องสิ มองเธอสาวเธอสวย ฉันจึงได้มอง"

 

"ขอบใจมากน้องเนม กูเอาเพลงที่เนมร้องนั่นแหละ ตามึงไอ้เป๊ก"

 

"ไม่ได้ เนมนึกเอง ไม่ใช่มึง"

 

"เอ้าอะไรวะแม่ง ยอมก็ยอม"

 

      ขณะที่เท็นกำลังจะอ้าปากถามว่าใครจะเป็นคนสั่งลงโทษ แม็คยกยิ้มร้ายกาจและรีบโพล่ง

 

"กูขอเป็นคนสั่งไอ้ตูน"

 

"มึงจะเอาคืนกู? ได้...จะให้กูแดกอะไร?"

 

"จูบเนม"

 

"...."

 

"จากนั้น กูจะให้เนมลูบของมึงจนมึงมีอารมณ์"

 

"...."

 

    คนแพ้ไม่มีสีหน้าตระหนกตกใจ ยังคงไว้ซึ่งสีหน้าราบเรียบดังเดิม ฟากเท็นกับเป๊กอ้าปากค้างไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน


 

"โห ไอ้แม็คโคตรใจกว้าง ไอ้ตูนไม่เล่น กูเล่นแทนได้นะ"

 

"กูแพ้ คนที่โดนลงโทษควรเป็นกูคนเดียว อย่าเอาคนอื่นมาเอี่ยว"
ตูนตอบหน้านิ่ง

 

"แต่กูเป็นคนคิดการลงโทษ ทำไม? กลัวใจตัวเองรึไง?"

 

"ทำไมต้องกลัว? กูแค่คิดว่ามันทุเรศที่มึงเอาแต่ความต้องการของตัวเอง แล้วไม่แคร์ความรู้สึกคนอื่น อย่างน้อยมึงควรให้เกียรติเนมมากกว่านี้"
ตูนตอบจริงจัง

 

"เอ้ะ เมื่อกี้ใครพูดวะ? ว่าคนแพ้ไม่มีสิทธิ์เรียกร้อง"

 



     มองหน้าเพื่อนอย่างสงสัยว่าแม็คกำลังคิดบ้าอะไรอยู่?

 

    เอาชนะ เอาคืน หรือเอาแค่ความสนุกของตัวเอง

 

    เมื่อตูนยังไม่ตอบ แม็คจึงหันไปถามเนม




"เนม ผมขอนะ ทำให้ผมหน่อย ผมจะไม่หึงและไม่คิดมากด้วย"


"เราไม่เล่นนะ มีบทลงโทษตั้งเยอะแยะ เราคิดให้ก็ได้ ให้พี่ตูนกินมะนาวสิบลูกเลยเป็นไง หรืออาบน้ำทั้งที่เสื้อเปียกแล้วห้ามถอดหนึ่งคืนก็ได้ เจ๋..ง...ด.."

 

    เนมพยายามเสนอไอเดียแปลกๆ แต่ยังพูดไม่จบ

 

แกร๊ง!

 

     เนมตกใจ สะดุ้งเฮือก เมื่อเสียงก้นขวดเบียร์กระแทกลงบนโต๊ะกระจกอย่างแรง เนมมองหน้าคนโมโห

 

"ขอแค่นี้ ทำให้ไม่ได้หรือไง ห้ะ?"

 

"อะ...อื้ม ก็ได้ ก็ได้"

 

"เป็นไง? เนมตกลงแล้ว"
หันไปบอกตูน

 

"มึงจะคิดมากทำไมวะไอ้ตูน คิดซะว่าเล่นละครไง? มึงดูอย่างพระเอก-นางเอกในหนังบางเรื่องดิ ไม่ใช่แฟนกัน ยังจูบจริงได้เลย"

 

"มึงทำแบบนี้ มึงต้องการอะไรวะ? ไอ้แม็ค?"

 

"ต้องการดู กูชอบ รู้สึกดี"

 

"มึงแน่ใจนะ?"

 

"เออ"

 

"ได้ เนมมานั่งนี่"
ตูนเรียกแฟนเพื่อนด้วยเสียงขึงขัง เนมรีบลุกไปนั่งข้างพี่ตูนอย่างเก้ๆกังๆ

 

    ก่อนจูบ ตูนดึงเนมมาใกล้และกระซิบข้างหู

 

"อย่าคิดว่าเป็นพี่ ให้คิดว่าคนที่จูบตอนนี้เป็นคนที่เนมรักแล้วกัน"

 


    เนมขมวดคิ้วมุ่นว่าทำไมพี่ตูนต้องบอกแบบนั้น


    ถ้าคนที่เนมรัก ก็คงต้องจูบแบบตั้งใจและใส่ความรัก ความปรารถนาลงไปเหมือนที่เขาทำกับแม็คน่ะสิ

 

    ต่างฝ่าย ต่างถอนหายใจ ก่อนที่ใบหน้าทั้งสองจะเข้าใกล้กันเรื่อยๆ จนริมฝีปากของทั้งคู่ประกบกัน แค่จูบก็น่าจะพอ เนมรับไม่ได้ หากต้องเล้าโลมคนที่เนมไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย

 

     ในขณะที่เนมจะผละออก แม็คกลับตะโกนลั่นว่าห้ามหยุด เนมจึงต้องใช้มือตัวเองวางลงตรงเป้ากางเกงและเริ่มลูบไล้แก่นกายพี่ตูนผ่านเนื้อผ้าทั้งๆที่มือสั่น



 "โฟร์ดีสัดๆ"



 

       ไม่นานเลยที่ตูนผละและลุกพรวดพร้อมจับมือเนมหวังจะออกไปนอกบ้าน
 

"มึงจะพาแฟนกูไปไหน?"

 

"ทำไม? กลัวเนมจะติดใจกูแล้วรึไง? กูอยากกินไอติมอยากให้เนมเดินไปเป็นเพื่อน ไม่ต้องห่วง ระหว่างทาง กูไม่เอาแฟนมึงหรอก"

 

"เหอะ...ให้จริง"

 

 

       สายตาทุกคนยังจดจ้องเนมและตูนที่เดินออกนอกตัวบ้านด้วยอาการไม่พอใจ

 

      กระทั่ง ตูนพาเนมมาถึงส่วนสนามหญ้าของหมู่บ้าน เขาหย่อนกายลงนั่งตรงเก้าอี้ม้าหิน

 

"พี่พาผมออกมาทำไม?"
 

"อยากให้ไอ้แม็คเห็นรึไงว่าตัวเองร้องไห้"

 


กึก

 

     เนมชะงักก็ไม่คิดว่าพี่ตูนจะสนใจกับเรื่องแค่นี้ด้วย

 

      ใช่...เนมร้องไห้เพราะเสียใจที่แม็คไม่คิดจะหึงหวงกันสักนิดที่เนมจูบคนอื่นต่อหน้าแม็คเองแท้ๆ

 

      ความน้อยใจ เสียใจมันจึงถูกกลั่นออกมาเป็นน้ำตา แล้วจู่ๆ คนที่งอนแฟนตัวเองขึ้นมาต้องตกใจเมื่อพี่ตูนเข้ามาใกล้กว่าเดิมแล้วดึงคอเสื้อยืดของเขามาเช็ดน้ำตาให้ แต่....

 

"โอ้ย พี่ตูน ผมแสบตาไปหมดแล้วเนี่ย"

 

"เช็ดน้ำตาให้ยังโดนด่า"

 

"ก็พี่เช็ดโคตรแรง ตาบอดแล้วมั้ง"

 

"ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ"

 

"เฮ้อ...อ่าอ่า...ขอบคุณนะครับ พี่ตูน"

 

"แล้วร้องไห้ทำไม? ตื่นเต้น ดีใจที่ได้จูบพี่จนน้ำตาไหลเลยเหรอ?"

 

     มองคนที่ยังกล้าเล่นมุกใส่ก็ได้แต่ถอนหายใจและหยุดเศร้าในบัดดล



"อืมใช่ พี่ตูนจะรีบผละออกก่อนทำไม นี่ผมยังอยากจูบอยู่เลย"

 

     คนพูดจบผวาและตกใจที่พี่ตูนโน้มใบหน้ามาใกล้จนปลายจมูกของอีกฝ่ายโดนแก้ม เนมรีบถอยออกห่าง



"เฮ้ย พี่ทำอะไรอะ?"

 

"เอ้า...เมื่อกี้ เห็นปากดี"

 

"...." เนมเงียบทันที ใครจะคิดล่ะว่าพี่ตูนจะบ้าจี้ เชื่อคำพูดเขาด้วย



"ไอ้แม็คชอบบังคับแบบนี้บ่อยไหม?"

 
 

       มองคนที่เปลี่ยนเรื่อง เนมนั่งนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนพยักหน้า ตั้งแต่คบเป็นแฟนกัน ไม่ว่าจะเรื่องบนเตียง หรือเรื่องทั่วไป แม็คชอบให้เนมตามใจทุกอย่าง หากเนมขัดขืน ขัดใจเมื่อใด แม็คจะโกรธกระฟัดกระเฟียดทุกครั้ง

 

      แต่เพราะรัก เนมจึงยอมทุกอย่าง

 

       คนได้รับคำตอบ มองหน้าเนมก่อนส่ายหน้าน้อยๆพลางลอบถอนหายใจ



"แล้วทำไมต้องไปเชื่อ ไปตามใจมันทุกอย่าง?"

 

"ก็แม็คเป็นแฟนผม ผมผิดหรอที่ผมจะยอมหรือตามใจแฟน ถ้าเป็นพี่ตูน พี่ก็ต้องทำเหมือนกันนั่นแหละ"

 

"แต่ก็ไม่ทุกเรื่อง"

 

"แล้วจะทำไม? ก็ผมรักแม็คอะ"

 

 "แล้วถ้าไอ้แม็คบอกอยากเห็นเนมโดนสวิงกิ้ง ก็จะยอม?"


    เนมนิ่งนึกตาม ก่อนตอบ

 

"อืมใช่"
 


"แล้วถ้า ไอ้แม็คบอกให้ไปตายล่ะ จะไปไหม?"

 

"ไป"


"เหอะ...อย่างนี้เขาไม่ได้เรียกว่ารักหรอก เขาเรียกว่าโง่"

 


"ทำไมพี่ตูนต้องว่าผมด้วยล่ะ? มันก็เรื่องของผม คนเราไม่ได้มีดีไปหมดทุกอย่างหรอกนะ ถึงแม้แม็คจะชอบบังคับผม สั่งผม แต่แม็คก็มีส่วนดี เขาก็ดูแล เอาใจใส่ผมเหมือนกัน"




"หลงมันเหลือเกินนะ"




"พี่เอาแต่ว่าผม พี่ไม่เป็นผม พี่จะรู้อะไร? วันที่ผมซวย ผมไม่สบายใจ หาทางออกไม่ได้ เครียด ไม่เหลือใคร? ก็มีแม็คเข้ามาพอดี แม็คที่เต็มใจรับฟังผมทุกอย่าง"

 


"......"

 

"ถ้าพี่จะว่าอะไรผมก็ว่ามาเลย ในชีวิตผม ผมเหลือคนที่รักไม่เยอะหรอกนะ พ่อ-แม่ผมก็ตายไปแล้ว มีแค่พี่สาวที่อยู่ต่างประเทศ แต่ก็คุยลำบาก เพราะเวลาไม่ค่อยจะตรงกัน ส่วนเพื่อนสนิทก็มีแค่สองคน ผมก็เข้าใจว่าพวกมันก็ต้องใช้ชีวิตของตัวเอง มีเวลาส่วนตัว ไม่มีใครจะมานั่งฟังเรื่องเราได้ตลอดเวลาหรอก ผมถึงดีใจไงที่มีแม็คเข้ามาในชีวิต คนที่พร้อมใส่ใจเรา รักเรา ผมก็เลยยอมทุ่มความรู้สึกให้เต็มที่ ดังนั้น อะไรที่ผมยอมเพื่อตอบแทนแม็คได้ ผมก็ยอมไง..."




      ก็ไม่คิดหรอกว่า จะแตะต้องอะไรแม็คไม่ได้เลย เพียงต่อว่าไปแค่ประโยคเดียว เนมจะไม่พอใจจนต้องแก้ตัวแทนพร้อมระบายความรู้สึกของตัวเองมาเสียยืดยาว

 

"ขอโทรศัพท์หน่อย"

 

"พี่ตูนจะเอาไปทำไม?"

 

"เอามาเหอะน่า"

 

    ควักโทรศัพท์ของตัวเองวางลงบนมือพี่ตูน พอจะชะโงกหน้าดูอย่างอยากรู้ว่าพี่ตูนจะทำอะไร อีกฝ่ายก็ดึงโทรศัพท์หนี มองคนนั่งกดอะไรยุกยิกยุกยิกก็สงสัย แต่สักพัก พี่ตูนก็คืนเครื่องมือสื่อสารมาให้

 

"พี่แอดไลน์ไปละ ถ้าเครียดหรือไม่สบายใจก็เขียนระบายมาแล้วกัน"




................................................



แหมแต่ละคน...ทั้งพี่แม็คและพี่ตูนของน้อง พี่จะแสดงความป่าเถื่อนใส่เนมตลอดไม่ได้ น้องจิตใจบอบบางนะ :hao6: :hao6: :hao6:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-09-2018 20:12:11 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ทำไมรูสึกว่า  ตอนจบจะเป็น  เนมตูน  หว่า?

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1

ตอนที่ 4 เพื่อนแฟน









"พี่ถามผมรึยัง? ว่าผมอยากได้ไลน์พี่ไหม?" 

 

     ไม่คิดว่าคนหน้าเศร้า สลดเมื่อสักครู่จะกวนประสาทกัน ตูนเลิกคิ้วมองอีกฝ่าย

 

"ก็ไม่เป็นไร ถ้าแอบไปรู้ข่าวมาว่า ไอ้แม็คนอกใจ จะได้ไม่บอก"

 

    หมับ

 

    ทันใดนั้น คนที่กวนประสาทก่อนหน้ารีบจับแขนเขย่าเหวี่ยงไปมาพร้อมส่งสายตาอ้อน

 

"ไม่เอาๆ ถ้าพี่ตูนไปรู้ ไปเห็นอะไรมา พี่ตูนต้องบอกผมด้วยนะ"
ต่อว่าพี่ตูนไปเสียตั้งนาน จนลืมนึกไปว่า การได้สนิทกับเพื่อนแฟนนั่นสิดี เพราะเนมจะได้ล่วงรู้ความลับของแม็คที่เนมอาจไม่รู้มาก่อน





    เมื่อคิดได้ เนมรีบทำดีกับพี่ตูน เพราะอยากได้ข้อมูลเด็ดๆและหวังใจว่าจะดึงพี่ตูนมาเป็นพวกเขาให้ได้


 

"หึ...หึ"

 

"เฮ้ย! พี่อย่าหัวเราะแบบนี้สิ ทำไมอะ? แม็คเจ้าชู้หรอ?"

 

"ไม่บอก"

 

"พี่ตูนอย่าทำให้ผมอยากรู้สิวะ"

 

"ไปเถอะ... เดี๋ยวไอ้แม็คโวยวายที่ขโมยแฟนมันมานาน"
ตูนบ่ายเบี่ยงไม่ยอมบอกเพราะเมื่อรู้ว่าตัวเองเหนือกว่า ก็ชักสนุก

 

"บอกก่อนว่าจากนี้ พี่ตูนต้องเป็นสายสืบให้ผม"
มองคนยื่นนิ้วก้อยมาตรงหน้าส่งสัญญาณกรายๆให้อีกฝ่ายเกี่ยวกัอยกัน

 

"ไม่สัญญา"

 

"โธ่...พี่ตูนอยากเห็นผมเป็นควายโดนสวมเขาจริงๆหรอ?

 

"อืม"

 

"พี่ตูนแม่งใจร้าย"

 

"....."

 

     มองพี่ตูนใจจืดใจดำ ลุกหนีโดยไม่สนใจกันจริงๆ เนมรีบลุกตามแล้วจับต้นแขนพี่ตูนแน่น

 

"พี่ตูน ขอร้องเถอะนะ ได้ข่าวอะไรมาต้องบอกผมนะ"

 

"....."

 

"ก็ได้ๆ ไม่บอกก็ไม่บอก แต่ถ้าเผื่อผมมีเรื่องไม่สบายใจ จากนี้ ผมไลน์ไปคุยกับพี่ได้จริงๆใช่ไหม?"

 

    มองคนถามด้วยสีหน้าจริงจัง จึงตอบกลับ

 

"ได้ แต่จะอ่านและตอบไหม? นั่นอีกเรื่อง?"

 

"ทำไมพี่ชอบกวนตีนผมวะ"

 

"โอ้ย!

 

    หน้ามุ่ยเมื่อพี่ตูนดีดหูอย่างแรง เจ้าตัวลูบถูติ่งหูตัวเองพร้อมมองพี่ตูนด้วยสายตาขุ่นเคือง

 

"ลามปาม พูดคำว่า กวนตีน กับใคร?"

 

"ก็แก่กว่าแค่ไม่กี่ปี"

 

"นิสัยเสียเพราะไอ้แม็คให้ท้าย คุยกับมันก็ไม่ยอมเรียกพี่"

 

 "อะไรล่ะ? แม็คบอกผมเองเหอะ ว่าห้ามเรียกพี่ โว้ะ!...แล้วทำไมต้องดุด้วยเล่า เออ...ขอโทษก็ได้"

 

     เนมนี่นิสัยเหมือนเด็ก เถียงได้ทุกคำจริงๆ คนที่นิ่งในตอนแรกผุดรอยยิ้มมุมปากก่อนบอก



"ไม่สบายใจ ก็ส่งข้อความมาแล้วกัน จะรอ..."

 

"จริงนะพี่ตูน"



"อืม"



"ขอบคุณนะพี่ตูน อ้อ....พี่ตูน ผมถามอะไรหน่อย?"

 

"อะไรอีก?"

 

"ตอนที่แม็คสั่งให้เราสองคนทำแบบนั้นกันอะ คะ...คือ พี่มีอารมณ์ด้วยหรอ? เพราะตอนที่ผมจับของพี่...มัน...เอ่อ..."

 

"ใครสั่ง ใครสอน?"

 

"ห้ะ??"
ถามอีกอย่างตอบอีกอย่าง คนที่สงสัยยืนงงขมวดคิ้ว

 

"ใครสั่ง ใครสอนให้ยุ่งเรื่องคนอื่น รีบเข้าบ้านได้แล้ว ไม่อยากมีเรื่องกับไอ้แม็ค"

 

     มองคนไม่ตอบคำถาม แถมทำหน้าหงุดหงิด จึงต้องจำใจเดินตามหลังเข้าบ้านไปอย่างคาใจ

 

    ส่วนคนที่เดินนำหน้า ก็ยังคงครุ่นคิดถึงเรื่องความสัมพันธ์ของเนมและแม็ค

 

     ทำไมแม็คถึงปล่อยให้แฟนไปจูบกับคนอื่นโดยไม่รู้สึกอะไร?

 

     หรือนี่อาจจะเป็นรสนิยมชมชอบในแบบของมัน ถ้าเป็นอย่างนั้น คงดูแปลกประหลาดไปหน่อย

 

     ใกล้ถึงประตูรั้วบ้านเพื่อน อยู่ดีๆ ก็มีความคิดหนึ่งแวบเข้าหัวกับคำพูดที่เขาเคยได้ยินจากปากเพื่อนเมื่อในอดีต...

 

     ส่ายศรีษะน้อยๆ เมื่อสิ่งที่คิดมันอาจเป็นเพียงแค่การคาดเดาของเขาเอง



      แต่ลึกๆก็พึมพำในใจ...ว่าขออย่าให้สิ่งที่คิดเป็นเรื่องจริงเลย....
 





.............







      เพิ่งผ่านไปได้สองสัปดาห์ที่ร่างกายได้พักและงดแอลกอฮอลล์ แต่ก็ต้องกลับมาดื่มอีกหน เมื่อวันนี้เนมมีนัดกินเลี้ยงที่บริษัท เนื่องจากน้องในทีมลาออก





"คืนนี้มารับเราด้วยนะ"



       คนที่รู้ตัวว่าได้เมาแน่ๆ รีบเอ่ยปากบอกแฟนไว้ ขณะที่แฟนขับรถมาส่งที่ทำงานยามเช้า



"อืม"



จุ๊บ...

 

      คนที่มาเป็นสารถีบอกจบก็รั้งคอเนมมาจูบประทับบนหน้าผาก ก่อนจะเลื่อนลงมาจูบปาก ก่อนผละ



"ตั้งใจทำงานล่ะ"



"แน่นอน ไปก่อนนะแม็ค คืนนี้อย่าลืมนะ"



"รู้แล้วครับ โทรหาผมอีกทีนะ"



"อื้ม"



        ส่งยิ้มให้แฟน ก่อนจะลงจากรถ เดินเข้าบริษัทไปยังโต๊ะทำงานของตัวเอง



      ดูเหมือนว่าความรักของทั้งสองยังคงมีความสุขกันดี ไม่มีทะเลาะรุนแรง มีแค่แม็คเริ่มลดความสนใจลงบ้างบางคราว แต่เนมไม่อยากงี่เง่าให้แม็ครำคาญใจ



       และแล้วก็ผ่านไปอีกหนึ่งวัน จากเช้าจรดเย็น ที่เนมนั่งเคลียร์เอกสารต่างๆ ช่วยหัวหน้าติดต่อเอเจนซี่เกี่ยวกับการจัดงานอีเวนท์ของบริษัท รวมถึงมีการประชุมกับแผนกอื่นๆร่วมสี่ชั่วโมง ก็ได้เวลาเลิกงานพอดี



      หลังสะสางงานเสร็จสิ้น ทุกคนที่ต้องไปงานคืนนี้ ก็แยกย้ายไปยังรถของตัวเอง ใครไม่ได้นำรถมาก็กระจายกันไปนั่งรถคันอื่นๆ



     จนกระทั่ง ถึงร้าน กลุ่มของเนมนั่งโซนเอาท์ดอร์ และคงเป็นเพราะวันนี้ วันศุกร์ ผู้คนถึงแน่นขนัด ทำให้มีตัวเลือกในการหาที่นั่งดีๆได้ไม่มาก เมื่อได้ที่นั่งเรียบร้อยก็สั่งเมนูเบาๆมาสาม-สี่อย่าง และเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์



    เหนื่อยกันมาทั้งสัปดาห์ การดื่มสุรายามนี้จึงเหมือนช่วยลืมเรื่องเครียดได้ชัวขณะ แหละเพราะเป็นงานเลี้ยงส่งน้องที่ลาออกจากบริษัทไป ก็ไม่มีอะไรให้คิดมากมาย



     นอกซะจาก ดื่มและระบาย...

    ดื่มและระบาย...

    ดื่มและระบาย...

    และผลลัพธ์สุดท้ายที่เกิดขึ้น...



"เอาไงดีวะแก ให้เนมนอนบ้านแกได้ไหม?"



     หกคนที่มาสังสรรค์ ยามนี้ มีเพียงหญิงสาวสองคนที่สติดีที่สุด และทั้งคู่กำลังทะยอยจัดการคนเมาให้กลับบ้านได้ไปทีละคน จนมาตกที่เนมเป็นคนสุดท้าย ชายหนุ่มที่เมาหลับเอนศรีษะพิงต้นไม้นั่งอยู่ตรงฟุตบาธริมถนน



"จะบ้าหรอ? ขืนพาเนมไป มีหวังแฟนฉันได้คิดว่าพาชู้เข้าบ้าน โดนกระทืบตายทั้งฉัน ทั้งเนมเนี่ยแหละ"



"บ้านฉันก็ไม่ได้ แม่ด่าแน่"



"ค้นโทรศัพท์เนมดูซิแล้วลองหาเบอร์เพื่อนเนม โทรบอกให้มารับ"



    พยักหน้าและล้วงควานหาเครื่องมือสื่อสารในกระเป๋ากางเกงของเนมจนเจอ หยิบออกมาและกดไปยังหมวดรายชื่อเพื่อหาเบอร์ดทรศัพท์ เลื่อนไปเรื่อยๆก่อนจะชะงักเมื่อเห็นเบอร์โทรที่ถูกบันทึกไว้ว่า ที่รัก



"แฟนชัวร์ บอกให้มารับเลย"



   รีบกดโทรออก และยืนรออย่างร้อนใจให้ปลายสายกดรับเร็วๆ



[สวัสดีครับ]



    คนรอคนรับโทรศัพท์ตาโตตกใจที่ได้ยินเสียงผู้ชาย แทนที่จะเป็นเสียงของผู้หญิง



"อะเอ่อ แฟนน้องเนมรึเปล่าคะ?"



[ใช่ครับ]



"มารับน้องได้ไหมคะ? พอดีว่าน้องเมาไม่รู้เรื่องเลย"



[ผมคงไปไม่ได้ อยู่ต่างจังหวัด ขอโทษที ผมฝากดูแลเนมก่อนนะครับ]



"หาา...อ่าก็ได้ค.."



   พูดยังไม่ทันจบ ปลายสายก็วางไปอย่างไร้เยื่อใย



    หมดหนทาง เมื่อคนสำคัญของเนมไม่ว่างมารับ



"แฟนเนมอยู่ต่างจังหวัดอะแก เอ้ะ!... น้องเขาเป็นเกย์หรอ? เมื่อกี้เป็นผู้ชายนะที่รับสาย"



"แกถามฉันแล้วฉันจะถามใคร? ฉันก็รู้พร้อมแกนี่แหละ เรื่องนั้นอย่าเพิ่งสนใจเลย เอาเรื่องนี้ก่อนว่าเนมจะกลับยังไง? แก ลองเช็คข้อความไลน์ซิ น้องคุยค้างกับใครไว้บ้าง"



    เปลี่ยนไปเข้าแอพพลิเคชั่นไลน์แล้วเลือกดู



"เฮ้ย!มีคนนึงว่ะแก ที่ส่งข้อความมาหา แต่เนมยังไม่กดเข้าไปอ่าน เอาอันนี้แล้วกัน น้องเนมจ๋า พี่ขอโทษที่ละลาบละล้วงนะ"



     สองสาวกดเข้าไปยังข้อความไลน์ที่เนมคุยค้างไว้กับคนหนึ่ง



read

21.45

พี่ตฑนัม้้บหิวขเวามาระบหย้นบ






"นี่เนมพิมพ์อะไรไปหาเขาเนี่ย"



read

21.47

นี่คือ ระบายอยู่? ใช่ไหม?



    หญิงสาวบ่นกับเพื่อน ก่อนจะพิมพ์ข้อความต่อ โดยไม่สนใจข้อความก่อนหน้า



read

00.15

สวัสดีค่ะ นี่มิว เป็นพี่ที่ออฟฟิสของเนมนะคะ วันนี้เรามีกินเลี้ยงกัน และน้องเนมเมามาก ไม่รู้เรื่องแล้วค่ะ ช่วยมารับน้องได้ไหมคะ?



     คนที่พิมพ์ข้อความจบตระหนกตกใจ เมื่อกดส่งข้อความไปยังไม่ถึงนาที ก็ขึ้นว่า 'อ่านแล้ว'



     เร็วขนาดนี้ ราวกับ...นั่งเฝ้าอยู่หน้าจอ...อย่างไรอย่างนั้นล่ะ



     ไม่ได้เขียนข้อความตอบกลับ แต่...Line Call มาในทันที



"เขาโทรมาเลยอะ แก"



"รับสิ"


"สวัสดีค่ะ"



[ตอนนี้ เนมอยู่ที่ไหนครับ?]



"อยู่ร้านเหล้าแถวเกษตร-นวมินทร์ค่ะ"



[โอเค ช่วยรอผมก่อน ผมจะรีบไป]



"เอ่อ...คุณคะ เดี๋ยวนัดเจอที่ปั๊มน้ำมันใกล้ๆร้านก็ได้ค่ะ ตรงนี้วุ่นวายมากค่ะ เดี๋ยวแชร์โลเคชั่นไปให้ในไลน์นี้อีกทีนะคะ"



[ได้ ขอบคุณครับ]



     

    หญิงสาวโล่งใจที่ติดต่อคนให้มารับได้ จากนั้นเธอก็รบกวนพี่ๆการ์ดที่ร้านช่วยแบกร่างคนเมาไปที่รถ ก่อนจะเตรียมมุ่งหน้าไปยังจุดนัดพบ



     ราวสี่สิบนาทีชายหนุ่มที่สองสาวได้ติดต่อไว้ก็เดินทางมาถึงปั๊มน้ำมัน



    เมื่อเห็นผู้ชายยืนสอดส่องเหมือนหาอะไรบางอย่าง หญิงสาวสองคนจึงเร่งฝีเท้าไปหา



"หล่อด้วยอะแก"



"มันใช่เวลามาพูดไหมเนี่ย? ฉันหมดอารมณ์ อยากกลับจะแย่แล้ว ง่วง"



      สองสาวหยุดยืนตรงหน้าชายหนุ่มที่ผมเผ้ายุ่งเหยิง สวมเสื้อยืดสีขาวย้วยๆกับกางเกงยางยืดขาสั้นก็ยังดูดีได้



"สวัสดีค่ะ ใช่เพื่อนเนมหรือเปล่าคะ?"



"อ๋อใช่ครับ ขอโทษนะครับที่ทำให้พวกคุณต้องเสียเวลา"



"ไม่เป็นไรค่ะ จะทิ้งน้องไว้คนเดียวก็อันตราย"



"นี่มันก็ดึกมากแล้ว ผมว่ารีบพาเนมกลับบ้านดีกว่า พวกคุณจะได้ไม่ลำบากด้วย"



"ได้ค่ะ ขอบคุณมากเลยนะคะ ที่มาช่วย จริงๆตอนแรกโทรหาแฟนน้องเนมแล้วแต่เขาไม่ว่างก็เลยไล่หาจนมาเจอคุณค่ะ"



      ตูนยิ้มรับ ก่อนจะเดินไปยังรถยนต์ของหญิงสาวเพื่อย้ายเนมออกมาจากรถคันนั้นมายังรถของตูน



       จัดการธุระเรียบร้อย ก็ร่ำลาหญิงสาวทั้งสอง ก่อนจะสอดตัวเข้ามาในรถยนต์ของตัวเอง

 

     คนที่แวะซื้อผ้าเย็นก่อนขึ้นรถก็โน้มตัว ขยับไปใกล้ เช็ดหน้า เช็ดตา เช็ดแขนให้เนมรู้สึกสบายตัวขึ้น ตูนเสยผมคนเมาไม่ให้ตกลงมาปรกหน้า ก่อนจะกดสายตาลงต่ำมองสภาพเสื้อเชิ้ตของเด็กหนุ่มที่เปรอะ เลอะราวกับไปบุกป่า ลุยฝน



"เฮ้อ...สภาพดูไม่ได้ ทำไมกินไม่รู้ลิมิตตัวเอง"



     บ่นคนเมา ก่อนจะลดกระจกทั้งสองฝั่งลง แล้วขับรถออกจากปั๊มน้ำมันมุ่งไปยังบ้านของตัวเอง...




****1.1****

โธ่ น้องเนมมมมม เมาไม่พอ แฟนไม่มารับอีกตะหากกกก...งื้ออออ ปลอบๆๆๆมาปลอบกัน :man1: :man1: :man1: :man1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-09-2018 20:12:35 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

แม็คอยู่ต่างจังหวัดจริง ๆ เหรอ?

แอบคิดว่าไม่ใช่  และคิดว่าแม็คอยู่กับหนุ่มคนอื่นด้วยอ่ะจิ

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
 
ตอนที่ 4 เพื่อนแฟน (2)







"เฮ้ย! อะไรเนี่ย"



       สิบเอ็ดโมงของวันถัดมา คนที่รู้สึกปวดและเมื่อยตัวจนลุกไม่ขึ้นกำลังลืมตามามองต้นเหตุชวนหงุดหงิดใจ เมื่อเนมคันแก้มมากเหมือนมีตัวอะไรยุกยิกกัดที่แก้ม



       ตื่นเต็มตาเอียงหน้ามองสิ่งที่ทำให้ตกใจ นั่นคือ เด็กผูายตัวน้อยๆนั่งจิ้มแก้มอยู่ข้างๆ เนมเบิกตาโพลง



      ทำไมมีเด็กตัวน้อยตรงนี้ ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่บ้านแม็คหรอกเหรอ?



      และเพราะรีบลุกเร็วไปหน่อย



"โอ้ย!" ยกมือกุมขมับ เหมือนสมองจะระเบิด



"อะตอม เข้ามาได้ไง? อย่าไปกวนอาเขา" คนที่อาบน้ำเสร็จ และเพิ่งเดินเข้ามาในห้องเพื่อแต่งตัว ตกใจที่เห็นลูกพี่ชายนั่งอยู่บนเตียง ปรี่ไปจะอุ้มตัวเด็กแต่...



      ผ้าขนหนูที่พันเอวไว้หลุดหล่นมากองที่พื้น



     เด็กน้อยแสนซนก่อนหน้าคงไม่น่าสนใจเท่าผู้ชายร่างเปลือย เมื่อสองตาถึงจดจ้องงวงช้างตาไม่กระพริบ



     กว่าจะรู้ตัว เค้นคำพูดออกมาได้...



"พี่ตูน...ผะผ้า..พี่..ผ้า"



    คนที่เบนหน้าหนีไปทางอื่นแล้วชี้นิ้วไปที่พื้น



"เฮ้ย!"



     ก้มมองถึงเห็นว่ากายเปลือยล่อนจ้อน รีบวางเด็กน้อยลงบนเตียง แล้วคว้าผ้าขนหนูมาพันกายให้แน่นกว่าเก่า



"อะตอมอาบอกให้อยู่ห้องพ่ออย่าออกไปไหนไงครับ?"



"อะตอมอยากเล่นเครื่องบินกับอาตุน"



"โอเคๆ...ได้แต่ไปอยู่ที่ห้องพ่ออะตอมก่อน เดี๋ยวให้เล่น"




"อาตุนไม่โกหกน้า"



"ไม่ครับ ไม่โกหก ออกไปกันนะ"
อุ้มเด็กออกจากห้องไปไว้ที่ห้องพี่ชาย ก่อนจะกลับมาหาคนที่ตื่นนอนแล้ว



     สมองคนเรามักจดจำเป็นภาพได้ดีกว่าตัวอักษร และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พอมันเป็นภาพเคลื่อนไหวด้วยแล้วนั้น...



      ด้วยเหตุนั่นเอง ยามนี้คนที่แม้หลับตาก็ยังมีภาพพี่ตูนทำผ้าขนหนูหล่นแล้วเห็นอาวุธลับคู่กายชัดเจนยังติดตาอยู่เลย



"ทำไมหน้าแดง ไม่สบายเหรอ?"



       ลืมตามองคนที่เดินเข้ามาหน้านิ่ง อันที่จริงคนอายต้องเป็นพี่ตูนสิที่เผลอโชว์งวงช้างให้โลกรู้ แต่ทำไมคนที่หน้าแดงกลับต้องเป็นเนมด้วยล่ะ...ไม่เข้าใจเลยจริงๆ



       คนที่ไม่รู้ว่าตัวเองเผลอออกอาการเขินจนหน้าแดง จึงเบี่ยงประเด็น




"ผมมาอยู่ที่บ้านพี่ตูนได้ไง?"



"พี่ที่ออฟฟิสเนมโทรมาบอกว่าเมาให้ไปรับ"



     เรื่องราวที่จำได้ล่าสุดคือ...หัวเราะเฮฮากับกลุ่มพี่ๆที่ออฟฟิสในร้านเหล้า จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีกเลยว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น



"แล้วทำไมถึงเป็นพี่ตูน ทำไมไม่ไม่ใช่แม็คล่ะครับ?"



     บอกเสียงแหบแห้งคล้ายคนหมดแรง และแล้ว ความน้อยใจโผล่ขึ้นมาทันที



"ไม่รู้ แล้วนี่อาการเป็นยังไงบ้าง?"



"ปวดตัวและระบมมากเลยพี่ตูน"
บอกขณะที่ขยับตัวมากึ่งนั่งกึ่งนอนพิงพนักเตียง



"อาบน้ำแล้วกินข้าวคงดีขึ้น"



"เมื่อกี้ลูกพี่เหรอ?"



"เปล่า ลูกพี่ชาย"



"อ่อ"



    ไม่ใช่เรื่องของเนมที่ต้องถามซักไซร้ต่อ เขามองคนที่นุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวเปิดตู้เสื้อผ้าด้วยท่าทีสบายๆ



     จะไล่ให้พี่ตูนไปแต่งตัวที่อื่น ก็คงตลก ในเมื่อเขาไม่ใช่เจ้าของห้อง แต่แล้วคนที่เมาก็นึกอะไรขึ้นได้ รีบก้มดูสภาพตัวเอง



"เมื่อคืนพี่อาบน้ำให้ผมหรอ?"



"อืม"



"ถ้างั้นพี่ตูนก็เห็น....ฮื่อออออ"



     ข้อเสียของการดื่มสุราจนไม่มีสติ ผลคือ ทำให้ไม่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้าง ใคร? ทำอะไร? ที่ไหน? เมื่อไหร่ ไม่รู้เรื่องเลย



     และแล้ว เมื่อคิดได้ตอนนี้ในหัวก็จินตนาการอะไรมั่วซั่วไปหมด คิดเอง เออเองจนเริ่มรู้สึกอาย อาย และอาย...



"อายทำไม? ผู้ชายด้วยกัน"



    พูดง่ายสิ...ก็ถ้าเป็นแม็คเห็น เพื่อนเห็น เนมก็จะเฉยๆอยู่หรอก แต่นี่ พี่ตูนเห็นแถมอาบน้ำให้ทั้งๆที่เราสองคนยังไม่สนิทกันขนาดนั้น จะให้นั่งเฉย ยิ้มหน้าบาน ไม่มีความอายได้อย่างไรกัน



"อายดิ ผู้ชายด้วยกันแต่หลายๆอย่างมันก็ไม่เหมือนกันนะ"



     คนที่นิ่งไปครู่หนึ่ง กลับมาแต้มยิ้มกรุ้มกริ่ม



"ถ้าจะหมายถึง..."
บอกแล้วกดสายตาลงต่ำอย่างจงใจมองไปที่เป้ากางเกงใครบางคน



"ก็สมควรอาย"



"ไอ้พี่ตูน"



"โกรธที่พูดความจริง?"



"ไม่ใช่ความจริงสักหน่อย"
กลืนน้ำลายเอื้อกๆ เมื่อสมองดันนึกนำไปเปรียบเทียบกับของพี่ตูนที่ยังติดตาก็ยอมรับว่า โลกนี้แม่งไม่ยุติธรรม...





"เอาแต่โวยวาย ไม่คิดจะขอบคุณกันหน่อยเหรอ? ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะที่ต้องอาบน้ำคนเมา หมดน้ำไปกี่ลิตรกว่าเนื้อตัวจะสะอาด สกปรกมากเมื่อคืน แถมเหม็นกลิ่นเหล้าอีกต่างหาก"



     โอ้โห! มาเป็นชุด คนที่ควรอับอายขายขี้หน้าที่อีกฝ่ายเห็นทุกอย่างในร่างกายกลับเงียบเพราะเถียงไม่ได้ หลุบตาลงต่ำเมื่อคนที่พูดจบก็แต่งตัวในห้องอย่างไม่อายเลยว่าเนมนั่งอยู่ตรงนี้ทั้งคน



"ขอบคุณก็ได้"



     เบะปากหมั่นไส้ ก่อนจะค่อยๆขยับตัวมาหย่อนปลายเท้าริมเตียง ตั้งสติให้กลับมาอยู่กับร่องกับร่อย ก่อนจะลุกไปหาโทรศัพท์มือถือแล้วกดโทรออกหาใครบางคน เพราะไม่อยากอยู่ที่บ้านพี่ตูนแล้ว



    อับอายชะมัด...




ตื้ดด ตื้ดด



[ว่าไง เนม]



"แม็ค อยู่ไหนหรอ?"



[อยู่ข้างนอก]



"ทำไมเมื่อคืนไม่มารับเราล่ะ?"




[ผมไม่ว่าง]



"แต่เราสัญญากันแล้วนี่ และตอนเย็นเราก็โทรย้ำแล้วนะ แม็คก็บอกว่าว่าง มารับได้"




[อย่างี่เง่าได้ไหมวะ? ก็พอถึงเวลานั้น ผมติดธุระพอดีแล้วจะไปได้ยังไง?]



"แล้ววันนี้ล่ะว่างไหมมารับหน่อย เราอยู่บ้านพี่ตูน"



[ไม่ว่าง ติดงานอยู่ แล้วทำไมไปอยู่บ้านไอ้ตูนได้ล่ะ กลับมาบ้านเดี๋ยวนี้เลยนะ เนม]



"อืม เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จก็กลับ ถ้าแม็คยุ่งก็ไปทำงานเถอะครับ"



     วางสายแล้วนิ่งเงียบทันที



    ทำไมแม็คเป็นแบบนี้ล่ะ พูดจาก็ไม่ดี แถมไม่คิดจะถามไถ่สุขภาพกันสักคำ



     พยายามกลั้นน้ำตา แต่มันไม่ได้จริงๆ



     น้อยใจที่แม็คไม่เหมือนเดิม



     คนที่แต่งตัวเสร็จ เห็นความเป็นไปทุกอย่างได้แต่ถอนหายใจ



     เดินมานั่งริมเตียง มองคนนั่งน้ำตาซึม กำลังเอื้อมมือไปหวังจะเช็ดคราบน้ำตา แต่ทว่า หยุดชะงักก่อนจะลดมือลงเอี้ยวตัวไปคว้ากล่องทิชชูข้างเตียงมาให้เนมแทน

   

"ช่วงนี้ไอ้แม็คคงยุ่ง อาบน้ำเสร็จก็ลงไปกินข้าวนะ พี่ลงไปก่อน"


     บอกปลอบใจแฟนเพื่อนเสร็จ ก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเพราะไม่อยากกวนเผื่อเนมอยากได้เวลาส่วนตัว



    แต่...



หมับ



     ยืนชะงักเท้า เมื่อข้อมือถูกรั้งไว้ด้วยมือของใครอีกคน



"พี่ตูน ผมขอนอนค้างที่นี่ซักคืนได้ไหม?"


"ทำไม? ไอ้แม็ค ไม่อยู่บ้านเหรอ?"


"ผมยังไม่อยากเจอ"



"น้อยใจมัน?"



"...."



"ถ้าจะนอนก็ควรบอกแม็คก่อน มันจะได้ไม่ต้องรอว่าทำไมคืนนี้เนมไม่กลับบ้าน"



"ไม่บอกหรอก บอกไป แม็คก็ไม่สนใจผมอยู่แล้ว"


"ไม่บอก แม็คมันจะรู้ไหม? ไปคุยกันให้รู้เรื่องเนม อย่ามาง้องแง้ง"


"ทำไมพี่ชอบว่าผมวะ พี่ตูน"



     จ้องมองดวงตาคู่นั้นที่แดงก่ำกว่าเดิม



      ก้าวเท้ายาวๆมาใกล้และโน้มตัวลงนิดวางมือลงบนไหล่สั่นๆทั้งสองข้าง ก่อนจะมองหน้าคนที่ขบริมฝีปากเข้าหากันแล้วก้มหน้าร้องไห้



      คงอยู่ในสภาวะเสียความรู้สึกมากสินะ ที่แฟนไม่ใส่ใจ แถมเมื่อคืนก็ไม่ยอมมารับกลับเป็นคนอื่น



"ขอโทษที่พูดแรง แต่ที่พูดเพราะพี่หวังดี.."

 

     เงยหน้ามองคนที่พูดจาด้วยเสียงนุ่มนวลกว่าตอนแรกก็พยักหน้า



"ผมก็ขอโทษเหมือนกันที่โมโหไปหน่อย"



"ไม่เป็นไร"
ยิ้มมุมปาก ก่อนจะเดินออกไปจากห้องนอน



    มองจนแผ่นหลังพี่ตูนลับตาไป ก็ลอบถอนหายใจและยกมือปาดน้ำตาตัวเอง


    ทำไมกันนะ ทำไม?...


    คนที่ควรต้องไปรับเขาเมื่อคืนต้องเป็นแฟนตัวเองสิ แต่ทำไมถึงกลับกลายเป็นเพื่อนแฟนไปซะได้



    สาเหตุที่เสียความรู้สึกและน้อยใจหนักหน่วงขนาดนี้ มันมีเหตุผลอื่นร่วมด้วย นั่นคือ วันนี้ มันเป็นวันสำคัญที่แม็คก็รู้ดี เพราะตอนจีบกันใหม่ๆ แม็คถามเป็นลำดับแรก แต่แล้วทำไม จนบัดนี้แล้วถึงไม่มีข้อความหรือคำอวยพรใดๆเลย



    แม็คลืมได้อย่างไรกัน ในเมื่อวันนี้ มันเป็นวันเกิดของเนม....






.................................

ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆสักคำให้ลึกซึ้งงง ^.^ งื้ออ... :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ






 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-09-2018 20:12:58 โดย rinyriny »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ดูจากสถานการณ์   แม็คเป็นคนเบื่อง่าย  ชอบอะไรที่หวือหวาตื่นเต้น  เผลอ ๆ อาจชอบสวิงกิ้ง

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ติดตามจ้า

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2: :katai2-1: o13

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
ตอนที่ 5 ความหลัง








      เนมจัดการธุระตัวเองเรียบร้อยก็เดินลงมาข้างล่าง ตั้งแต่แม็คแสดงออกเด่นชัดว่าไม่สนใจกัน ชายหนุ่มรู้สึกเนือย เฉื่อยๆ เหมือนไม่อยากทำอะไร ในจังหวะที่เท้าซ้ายแตะลงถึงพื้นกระเบื้อง...





"คิกๆ...อาตุน..คิกๆ..."




      เสียงหัวเราะของเด็กสร้างความประหลาดใจแก่เนม ว่าอา-หลานเล่นอะไรกัน พอเดินพ้นผนังถึงเหลือบเห็นพี่ตูนนอนราบไปกับโซฟา ทำตัวเป็นฐานจับเด็กกางแขน กางขาเหมือนเครื่องบิน เหินเวหากันอย่างสนุกสนาน



      ยิ้มบางเบาก่อนจะกวาดตามองจนทั่วบริเวณก็ไม่พบพี่ชายของพี่ตูน เนมเดินไปใกล้เสียงหัวเราะเหล่านั้นและเอ่ยถาม



"พี่ชายพี่ตูนล่ะครับ?"



"ไปทำงาน เขาถึงฝากลูกไว้"



"บ้านนี้ พี่อยู่กับพี่ชายหรอ?"



"ใช่"



      ตูนหยุดเล่นแล้วกอดประคองเด็กน้อยให้ลงมานอนทับบนตัว



"ข้าวอยู่ที่โต๊ะ พี่คั้นน้ำมะนาวไว้ให้ด้วย เผื่อช่วยให้สดชื่น"



       พี่ตูนบอกแต่ไม่ได้หันมามองเพราะมัวแต่ฟัดพุงเด็กจนอะตอมหัวเราะเอิ้กอ้าก เนมมองพี่ตูนด้วยความรู้สึกละอายที่ต้องเป็นภาระให้คนอื่น ทำไมพี่ตูนดีกับเขามากขนาดนี้


"ขอบคุณนะพี่ตูน"



       ผละจากโซฟาเดินไปหย่อนกายลงนั่งที่เก้าอี้ ตักข้าวต้มทรงเครื่องเข้าปากช้าๆ



       แล้วจู่ๆ ความเสียใจ น้อยใจก็แย่งกันผุดขึ้นให้คนที่อุตส่าห์พยายามไม่นึกถึงก็...


แหมะ แหมะ...



      แบบนี้ใช่ไหม? ที่เรียกว่ากินข้าวทั้งน้ำตา



"อะตอมอย่าไปยุ่งกับอาเนม ให้อาเขากินข้าวก่อนครับ"



      เสียงตะโกนดังมาแต่ไกลก่อนตัวจะเดินถึง เมื่ออะตอมวิ่งไปหาเนม เด็กชายกระตุกชายเสื้อของเนมอยู่อย่างนั้นจนเนมตัดสินใจหันไปหา



"อาตุนฮะ อาตุน...ร้องไห้ ร้องไห้"



       หันไปบอกอาตัวเองพลางชี้นิ้วไปทางเนม ตูนย่อตัวลงนั่งข้างหลังเด็กชายแล้วยิ้ม



"แล้วต้องทำยังไงครับ?"



       เนมอายที่ร้องไห้ต่อหน้าเด็ก รีบปาดน้ำตาลวกๆ



"ปลอบ อะตอมปลอบนะ"
เด็กน้อยดึงชายเสื้อเนมอีกครั้งทั้งยังยืนมองตาปริบๆ


      เนมมองเด็กที่พยายามเขย่งเพื่อจะเช็ดน้ำตาจึงโน้มตัวลงต่ำให้เด็กน้อยเช็ดน้ำตาได้อย่างถนัดถนี่



      สัมผัสถึงความใสซื่อจากเด็กตัวน้อยที่ใช้มือเล็กๆยกขึ้นมาเช็ดน้ำตา มันช่วยให้เนมแต้มยิ้มได้อย่างสบายใจจริงๆ



"อาตุนฮะ  เขายิ้มแล้ว ยิ้มแล้ว"


"ขอบคุณนะครับ น้องอะตอม"



      เนมลูบผมอะตอมด้วยความเอ็นดู ก่อนจะกลับมาจัดการอาหารตรงหน้าต่อ



"มาอยู่กับอาดีกว่าอะตอม"



"ฮะ ฮะ"
อุ้มเด็กวัยห้าขวบขึ้นนั่งบนตักตัวเองก่อนถาม



"ไหวนะ?"


    เนมเงยหน้ามองคนที่นั่งเก้าอี้ตัวข้างๆ



    คำว่า 'ไหว' สำหรับพี่ตูน มันหมายถึงอะไร?


    ไหว...ในเรื่องที่มีปัญหากับแม็ค หรือ ไหว...ในเรื่องของร่างกาย


     ไม่ว่าจะแบบใด ก็ไม่ไหวทั้งนั้น แต่แล้วทำไม เนมต้องตอบความจริง..



"ไหวสิพี่ตูน"



     คนที่ถามในตอนแรก ไม่ถามต่อ มองคนที่นั่งกินข้าวไปอย่างเงียบๆ จนกระทั่ง..



"พี่ตูน ผมกินข้าวเสร็จแล้ว ขอขึ้นไปนอนได้ไหม?"



"ได้ แล้วเรื่องนอนค้าง บอกแม็ครึยัง?"



"เดี๋ยวบอกครับ"



"คุยกันดีๆล่ะ"



"ครับ"



"อะตอมครับ เราไปดูหนังกันดีกว่า"



     ตูนไม่อยากกวนเนมให้หงุดหงิด รำคาญใจ จึงลุกจากที่นั่งแล้วเดินไปนั่งโซฟาตัวเดิม เพื่อหาภาพยนตร์สนุกๆดูกับหลานชาย



     เมื่อเนมกินข้าวเสร็จเรียบร้อย เดินกลับขึ้นไปยังห้องนอนพี่ตูน ปีนขึ้นเตียงนอนก็เอนหลังพิงพนักนั่งกอดเข่าบนเตียง อารมณ์นี้ไม่นึกอยากจะทำอะไรเลยจริงๆ นั่งเงียบๆคนเดียวสายตาพลันเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่วางไว้ข้างตัว



      จนบัดนี้ ก็ยังไร้ข้อความอวยพรใดๆจากแฟน



      ได้แต่พยายามปลอบตัวเองว่า ช่างมันเถอะ...อย่าคิดมากและไม่ควรทำตัวซึมกระทือ มันก็แค่วันหนึ่งวันจะไปคาดหวังอะไรให้คนอื่นต้องทำให้ได้ดั่งใจ แม็คเองคงมีธุระ และไม่ว่างจริงๆ ฉะนั้น เลิกงี่เง่าได้แล้วเนม...



      คำพูดที่บอกปลอบใจตัวเอง ก่อนเจ้าตัวจะก้มหน้าฟุบลงกับเข่าแล้วหลับตา





      จากแค่ต้องการพักสายตาก็ไม่คิดว่า จะหลับลากยาวนานถึงหกชั่วโมง คนที่นอนตะแคงค่อยๆตื่นลืมตามาเห็นตัวเองมีผ้าห่มคลุมอยู่ ซึ่งตอนแรกมันยังไม่มี ถ้าไม่ใช่ คนที่นั่งจ้องเขาอยู่ตอนนี้



"พี่ตูนมาตั้งแต่เมื่อไหร่?"


"ไม่นานนี้เอง"



"แล้วน้องอะตอมล่ะครับ"


"พี่ชายกลับมาและพาอะตอมออกไปข้างนอกแล้ว"



"อ่อ"


"อยากให้ไปส่งที่บ้านแม็คไหม?"



"ผมบอกแล้วไงว่าไม่กลับ หรือพี่ตูนรำคาญผม?"



"เปล่า"



"ผมไม่อยากกลับ"



"ถ้างั้น เดี๋ยวพาไปกินก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆ"



"จริงนะ?"



"จริง"



"ผมขอไปล้างหน้าก่อน"



"เดี๋ยวพี่รอข้างล่าง"



"ได้ครับ"



       คนที่เดินลงมารอเนมข้างล่าง ยังไม่ทันจะหย่อนก้นนั่งลงที่โซฟาก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของตัวเองแผดเสียงร้องจึงควักเครื่องมือสื่อสารจากกระเป๋ากางเกงตัวเองและกดรับ


"ว่าไง?"



[กูอยู่หน้าบ้าน มาเปิดประตูให้หน่อย]



      วางสายพลางขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะเดินออกไปหาแม็ค



"มารับเนมเหรอ?"


"อืม"



"เนมไม่ได้บอกมึง?"



"บอกอะไรวะ?"



    ตูนถอนหายใจที่สุดท้ายเนมก็ดื้อไม่ยอมทำตามที่ตูนบอกจนได้



"เข้ามาก่อนสิ"


     เปิดประตูรั้วบ้านรับเพื่อนเข้ามา ในขณะนั้น แม็คกอดคอตูนและพูด



"สุขสันต์วันเกิดเว้ยไอ้ตูน มีความสุขมากๆ แล้ววันนี้นัดพวกไอ้เท็นรึยัง? กูว่างนะไปฉลองได้"



"ไม่ว่ะ คืนนี้ กูคงไม่ไปกินเลี้ยงที่ไหน อยากอยู่บ้าน"



"อะไรวะ? ไม่น่าเชื่อว่ามึงไม่อยากไปไหน"



"เลิกสนใจเรื่องกู แล้วเคลียร์กับแฟนมึงให้รู้เรื่องเหอะ"



      คนที่ได้ยินดังนั้น ยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งรอที่โซฟาด้วยกันกับตูน สักพักใหญ่ๆที่เนมเดินลงบันไดมาด้วยรอยยิ้ม หลังจากที่มัวแต่เช็คเสื้อผ้าหน้าผมอยู่นาน


"พี่ตูนไปกันครับ" คนยิ้มชะงัก เมื่อพอเงยหน้ากลับเห็นแม็คนั่งข้างๆพี่ตูน


"แม็คมาได้ไง? ไหนบอกไม่ว่าง"



"แล้วถ้าผมไม่ว่างก็ไม่คิดจะกลับบ้าน? จะนอนค้างบ้านคนอื่นอย่างงั้นเหรอ?"



"...."



    เนมนิ่ง



"อย่าเคืองผมเลย ผมขอโทษ"



     ตูนปล่อยให้ทั้งสองได้สะสางปัญหากันจึงเดินหนีเข้าครัว


"แม็คมีอะไรอยากพูดกับเราอีกไหม?"



"ผมขอโทษ ดีกันนะ"



"แค่นี้เองเหรอ?"



"อืม"



"แม็คลืมวันเกิดเรา"



    แม็คชะงัก พอเนมทักถึงนึกออก แม็คจนคำพูด ทำหน้าสลด เมื่อเห็นอีกฝ่ายแสดงออกชัดแจ้งว่าน้อยใจ



     แต่วินาทีนั้น...



"แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทู ยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทู ยู แฮปปี้เบิร์ดดดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดดดดดเดย์  แฮปปี้เบิร์ดดดดดดเดย์ ทูททททู......ยูยยยยยู"



     เจ้าของบ้านถือไอศกรีมเค้กช็อกโกแลต คุกกี้ แอนด์ ครีมพร้อมร้องเพลงอวยพรวันเกิดแก่คนที่ยืนหน้าบึ้ง



    คู่รักที่กำลังงอนกัน ยืนนิ่งงัน หันไปตามเสียง เมื่อเห็นเค้กถูกประดับด้วยเทียนหลายเล่มส่องแสงสว่างไสว



"สุขสันต์วันเกิดนะเนม แม็คฝากพี่ซื้อ มันอยากเซอร์ไพร์สเนมใช่ไหม? ไอ้แม็ค..."



    แม็คยืนอึ้ง กระอึกกระอัก เมื่อเพื่อนโยนคำถามมาทางนี้ แม็คหันไปหาเนมอย่างยิ้มๆก่อนตอบ



"อืม...เป็นไง? เซอร์ไพร์สไหมเนม?"



    ยามนี้ สีหน้าเปลี่ยนทันที คนที่หน้าบูดเป็นตูดหมาในตอนแรกกลับยิ้มแป้นอย่างดีใจ เพราะไม่คิดว่าแม็คจะเซอร์ไพร์สจนเขาคาดไม่ถึง ที่สำคัญ ยังรู้สึกผิดกับเรื่องราวก่อนหน้านี้ที่เอาแต่ต่อว่า น้อยใจและงอนแม็คเกือบทั้งวัน



    ยังยิ้มไม่หุบ หลับตาอธิษฐานและเป่าเทียนจนดับหมด



"ทำไมไม่บอกล่ะว่าแอบทำเซอร์ไพร์ส ขอบคุณนะแม็ค"
ว่าจบก็เข้าไปสวมกอดและหอมแก้มแฟนตัวเองจนลืมความน้อยใจ เสียใจไปหมดสิ้น



"ครับ"


"ถ้างั้นมานั่งกินกันก่อนกลับบ้านเถอะ แม็ค พี่ตูนมากินเค้กวันเกิดกัน"



      มองคนที่สีหน้าสดใสขึ้นก็ยิ้มตาม



"กินกันสองคนเถอะ พี่ลดความอ้วน"



"โห...ไม่เชื่อหรอก นานๆทีจะกินนะพี่ตูน อีกอย่าง นี่วันเกิดผมด้วย"



        ตูนกำลังจะอ้าปากปฏิเสธ แม็คก็โพล่งขึ้น



"วันเกิดเนมคนเดียวที่ไหนกัน วันเกิดไอ้การ์ตูนด้วย"
หันขวับไปมองเพื่อนที่จงใจบอกก็ได้แต่นิ่ง


"จริงดิ? โห...โคตรบังเอิญอะ ถ้างั้นกินด้วยกันเลยพี่ สุขสันต์วันเกิดนะครับพี่ตูน ขอให้ได้ทุกอย่างตามใจปรารถนานะ"



"เดี๋ยวไปหยิบจานแบ่งให้"



         ไม่ได้คิดตอบรับหรือจะสนใจคำพูดเนม ตูนหมุนตัวเดินไปหยิบภาชนะในครัว



          แม้จะเป็นเจ้าของวันเกิดร่วมกัน แต่ตูนกลับให้เนมเป็นคนตัดแบ่งเค้ก ก่อนจะแจกจ่ายความอร่อยครบทั้งสามคน ต่างคนต่างกินเค้กกันอย่างเอร็ดอร่อย แต่คนที่ดูจะมีความสุขมากซะจนแสดงสีหน้าออกมา ก็คือ เนม เพราะตักเข้าปากแต่ละคำก็ยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่ไม่หยุด



          ทั้งสามกินพอเป็นน้ำจิ้ม เพราะแม็คบอกเนมว่าอยากกลับบ้าน ไม่นานมากนักที่เนมและแม็คก็เดินออกมา โดยมีตูนมายืนรอส่งทั้งสองตรงประตูรั้วหน้าบ้าน คนที่อยู่นอกรั้วก็หันไปบอกพี่ตูนด้วยรอยยิ้มของคนมีความสุข



"ขอบคุณที่ไปรับผมเมื่อคืนและคอยดูแลผมอย่างดีเลยนะพี่ตูน"



"อืม"



"เนม ไปรอที่รถก่อน ผมขอคุยกับตูนแป๊ปนึง"



"อ่าห้ะ"



      หลังจากเนมเดินคล้อยหลังไป แม็คก็วกเข้าเรื่อง



"ขอบใจสำหรับเรื่องเค้ก"



"ไม่เป็นไร"



"มึงรู้ได้ไงว่าเนมเกิดวันนี้"



"ไม่รู้ กูแค่ซื้อเค้กจะมากินของกูเอง"



"แน่ใจ?"



"เออ"



"ที่เห็นวันนี้ กูรู้สึกว่ามึงนี่ดูแลเนมดีซะเหมือนเป็นแฟนกันเลยนะ"



       มองคนแขวะ จึงโต้กลับ


"มึงไม่ควรหึง ถ้าจุดเริ่มต้นมึงไปรับเนมเมื่อคืน สถานการณ์จะเปลี่ยน เหตุการณ์วันนี้จะไม่เกิดขึ้น"



"ก็กูไม่ว่าง"



"ความจริงหรือข้ออ้าง?"



"อย่าทำเป็นรู้ดี ไอ้ตูน"



        พอเห็นหน้าแม็ค ก็นึกขึ้นได้ว่ามีอีกเรื่องที่อยากเตือน เรื่องการมีรสนิยมทางเซ็กซ์แบบซาดิสม์ เพราะตอนที่ตูนอาบน้ำให้เนม เขาเห็นรอยช้ำและรอยฟันทั้งเก่าและใหม่เป็นจำนวนมากปรากฏตามส่วนต่างๆในร่มผ้า เรื่องแบบนี้ ถ้ามีความต้องการตรงกันทั้งสองฝ่าย ก็ถือว่าโชคดี แต่ถ้าไม่ล่ะ...



        เพราะห่วงเนมถึงอยากพูด แต่พอกำลังจะอ้าปากเปล่งวาจาก็รู้ว่าตัวเองกำลังยุ่ง ก้าวก่ายเรื่องของคนอื่นมากเกินไป ความจริงแล้ว ตูนจะเข้าไปแส่หาเรื่องทำไม มันไม่ใช่เรื่องของเขาด้วยซ้ำ



        ...อย่าให้ความหวังดีจนเกินไป สร้างภัยให้ตัวเอง...



       ถอยกลับมาอยู่ตำแหน่งเดิมน่ะดีแล้ว...ไอ้ตูน


"เนมรักมึงมาก"
บอกความจริงที่ตูนสัมผัสได้ให้เพื่อนรู้



"ถ้างั้นก็ดี แสดงว่า เนมก็ไม่คิดมองใครนอกจากกู โชคดีนะไอ้ตูน กลับก่อนละ"



     มองเพื่อนที่เดินไปยังรถยนต์ของตัวเอง ก็ได้แต่ถอนหายใจ..หมุนตัวสาวเท้ากลับเข้าบ้านตัวเอง




****1.1****

DrSlump >>> ที่เมนท์มา รู้ได้ไงง่า เก่งจังค่ะ แต่ความจริงแล้ว แม็คก็มีอะไรลึกกว่านั้นอีกนะคะ แต่บอกไม่ได้ :z2: :z2: :z2: :z2:

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ :mew1: :mew1:


ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

รอดูพฤติกรรมที่ซ่อนไว้ของแม็ค  แต่ที่เผยออกมาอีกหนึ่งคือ  ซาดิสม์  อิอิ

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
ตอนที่ 5 ความหลัง (2)










"แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทู ยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทู ยู แฮปปี้เบิร์ดดดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดดดดดเดย์  แฮปปี้เบิร์ดดดดดดเดย์ ทูททททู......ยูยยยยยู"



"แม่ขอให้น้องการ์ตูนน่ารักๆและเป็นเด็กดีตลอดไปนะคะ"



"พ่อขอให้การ์ตูนแข็งแรงๆเหมือนซูเปอร์ฮีโร่"



"ขอบคุณครับ"



    เด็กน้อยตัวอ้วนตาโต ตีขาตัวเองอย่างดีใจ ก่อนจะเป่าเทียนบนเค้กก้อนโตที่มีชื่อเขาเขียนไว้



    ณ สนามหญ้าหน้าบ้าน ยามนี้เป็นช่วงเวลาแห่งครอบครัวที่มีพ่อ แม่และพี่ชายของการ์ตูนนั่งยิ้มด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข



   หลังเป่าเทียนดับสนิท แม่ทำหน้าที่ตัดแบ่งเค้กเป็นชิ้น โต๊ะเล็กใกล้กันนั้นมีของขวัญที่พ่อและแม่นำมาให้ลูกชายคนเล็กตั้งวางไว้อยู่



    ตอนนี้ เค้กชิ้นโตถูกแจกจ่ายจนครบทุกคน ในขณะที่ต่างคนต่างกินเค้กกันอย่างเอร็ดอร่อย เด็กชายที่หันหน้าออกไปทางประตูบ้านพลันเหลือบมองเห็นเด็กตัวเล็กเกาะประตูรั้วเหล็กอยู่ด้านนอก



   คนที่ตักเค้กเข้าปากยังไม่ทันเคี้ยวให้ละเอียดก็ชะงักพลางขมวดคิ้ว

   

"แม่ๆ มีเด็กอยู่หน้าบ้านครับ"



    ทุกคนหันไปมองแล้วสงสัยว่าพ่อแม่บ้านไหนปล่อยเด็กออกมาในเวลาค่ำมืดดึกดื่นเช่นนี้





"หืม...ลูกบ้านไหนกัน?"



"เดี๋ยวผมไปดูเองครับ"


     มารดามองลูกคนเล็กวิ่งไปที่รั้วบ้านจึงสั่งให้ลูกคนโตไปดูน้องอย่างเป็นกังวล



"โตโต้ไปดูการ์ตูนซิลูก"



"ครับแม่"



    เด็กอ้วนวัยสิบขวบเลื่อนประตูรั้วบ้านและเดินออกไปถาม



"อยู่บ้านไหน? มาทำอะไรตรงนี้?"



    คนที่มองเด็กชายตัวอ้วน สูง ใหญ่กว่าตัวเอง จึงคิดว่าคนเบื้องหน้าน่าจะมีอายุมากกว่า



"อยู่บ้านข้างๆพี่ พี่กินเค้กกันอยู่หรอ? ผมอยากกินเค้กบ้าง"



      มองเด็กพูดเสียงแผ่วก็ฉงนใจ สงสัยคงได้ยินเสียงเพลงอวยพรวันเกิดดังออกไปถึงมาหยุดตรงนี้



"อยากกินเค้กหรอ?"




"ใครมา? ไอ้หมีน้อย"



"บอกแล้วไงว่าอย่าเรียกแบบนี้ไงเล่า พี่โต"



      ว่าพี่ชายด้วยความขุ่นเคืองและออกอาการฮึดฮัด แม้จะเป็นพี่น้องแท้ๆก็เถอะ แต่รูปร่างช่างสวนทางเสียนี่กระไร พี่โต ตัวสูงผอม ผิดกับการ์ตูนที่หุ่นขยายออกข้างมากไปหน่อย รูปลักษณ์ถึงอ้วน แก้มจวนแตกจนพี่ชายให้ฉายาและเรียกจนติดปากมากกว่าชื่อจริงๆไปเสียแล้ว



"พี่หมีฮะ ผมอยากกินเค้ก"



กึก!...



    หันขวับไปมองเด็กตัวน้อยที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว ดันเรียกสรรพนามตามพี่ชายของการ์ตูน จะต่อว่าก็ทำไม่ลง เมื่อได้ยินเสียงพูดเบาหวิวพร้อมยืนมองตาละห้อย



"รอตรงนี้นะ ห้ามไปไหน"



    การ์ตูนดันหลังพี่ชายให้กลับไปหาแม่ที่โต๊ะด้วยกัน



"แม่ ผมขอเค้กชิ้นหนึ่งนะครับจะให้น้องข้างบ้าน"



"ก็เรียกน้องมากินด้วยกันเลยสิลูก"




"ไม่เอา เดี๋ยวน้องแย่งของผมหมด นี่เค้กของผมนะ"
บอกเสียงเข้ม



"ฮ่าๆ จะให้เขาก็ยังแอบหวงอีกนะ การ์ตูน"



    เด็กชายตัวอ้วนหน้ามุ่ยก่อนจะรับจานกระดาษใส่เค้กช็อกโกแลตชิ้นเบ้อเร่อ เดินถือไปให้เด็กหน้าบ้านทิ้งตัวลงนั่งที่พื้นปูน มองเด็กหนุ่มที่พอเห็นเค้กก็ทำหน้าดีใจราวกับได้ของเล่นชิ้นใหม่





"ขอบคุณฮะ"




"ชื่ออะไร?"



"เนมฮะ"




  มองเด็กกินมูมมามแต่สัมผัสได้ถึงความสุขทุกคำที่ตักเข้าปาก ก็หลุดยิ้มตาม



"โห...เค้กอร่อยมากๆเลย ดีใจจัง ผมได้กินเค้กวันเกิดแล้ว"


     การ์ตูนเบิกตาโพลง ไม่คิดว่าเด็กคนนี้จะเกิดวันเดียวกับเขา


"นายเกิดวันนี้หรอ?"



"ใช่ฮะ แต่พ่อแม่ผมไม่ว่างฉลองด้วย บอกต้องไปทำงาน ตอนนี้ก็ยังไม่กลับเลยฮะ"



"แล้วอยู่บ้านกับใคร?"



"พี่สาวฮะ ส่วนพี่เลี้ยงกลับบ้านไปแล้ว"



      ซีกหน้าที่ซบลงกับเข่าเอียงมองคนที่ยิ้มไป กินไปตลอดการกินเค้ก



     ไม่กี่นาที เด็กตัวน้อยก็ซัดเค้กจนไม่เหลือซาก



"พี่หมีฮะ มีอีกไหม?"



"ห๊ะ?"


"อร่อยฮะ อยากกินอีกอะ"


     สบตาเด็กใสซื่อที่มองมาอย่างร้องขอก็ได้แต่ถอนหายใจ ความจริงยังเหลือเค้กอีกชิ้นที่เป็นของการ์ตูนแต่เขาอยากเก็บไว้กินเอง



     จ้องมองดวงตากลมโตฉายความสดใสอยู่นาน จนกระทั่ง การ์ตูนหลุบตาลงและสุดท้ายก็ใจอ่อน



"รอแป๊ปนึง"



      ลุกขึ้นยืนและก้าวยาวๆไปที่โต๊ะ มองเค้กชิ้นสุดท้ายด้วยแววตาเสียดาย



"การ์ตูนจะเอาไปให้น้องคนนั้นเหรอจ๊ะ?"




"ใช่ครับ"



"ลูกแม่น่ารักจังเลย ดีแล้วลูกเสียสละให้น้อง ไว้พรุ่งนี้แม่จะไปซื้อเค้กรสเดิมมาให้ใหม่"




"เย้ๆ...ขอบคุณครับแม่"



      ใบหน้าที่เศร้าเสียดาย แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มกว้างในฉับพลัน



"อะ"

 

      ยื่นไปให้เด็กตัวน้อยตรงหน้า เนมรับไปถือแล้วตักกินอย่างคนตระกละตระกราม





"ผมชอบพี่หมีจังเลย พี่หมีน่ารัก ใจดีเหมือนคุณลุงซานต้า ตัวก็อ้วนๆใหญ่ๆเหมือนกันด้วย"




      การ์ตูนส่ายหน้าน้อยๆ มองคนที่พูดทั้งๆที่เคี้ยวอยู่ แถมปากก็เลอะคราบช็อกโกแลตจนการ์ตูนต้องใช้แขนเสื้อเช็ดริมฝีปากให้

       

"พูดมากน่า เดี๋ยวแย่งคืนซะเลย นี่มันเค้กของเรานะ อุตส่าห์ให้"



"มันอยู่ในมือเนม มันเป็นของเนมแล้วนะ"






"โอ้ย...หาตั้งนาน อ้าว... เนมกินอะไรอยู่ เอาคืนเขาไปเลยนะ"
เด็กหญิงตัวเล็กรีบวิ่งมาหาอย่างตระหนก ตกใจที่เห็นน้องชายนั่งอยู่กับคนอื่น



     อันที่จริง น้ำตะโกนเรียกน้องชายตั้งแต่อยู่ในบ้านแล้ว พอไม่ได้ยินเสียงขาน จึงลนลานวิ่งตามให้ทั่ว จนออกมาหน้าบ้านถึงพบน้องชายนั่งคุยกับคนข้างบ้าน



     น้ำจับจานกระดาษ ยื้อแย่งมาจากเนมเพื่อคืนเจ้าของ แต่เนมกลับยึดไว้แน่น



"ไม่เป็นไรหรอก เราให้น้องเองแหละ"



"จริงนะ?"



"อืม"



"แล้วเนมขอบคุณเขาหรือยัง?"



"ขอบคุณแล้วน่า พี่หมีอะนะใจดีที่สุดในโลกเลยให้เนมกินเค้กตั้งสองชิ้นแหนะ"



"ห้ะ...สองชิ้น"
สาวน้อยหลับตาพลางขยี้ผมตัวเองจนยุ่งเหยิงที่น้องชายไม่มีมารยาทมาขอกินอาหารกับเพื่อนบ้าน มองด้วยดวงตาดุๆ เนมสร้างเรื่องไว้แบบนี้จะบอกแม่ยังไงดีล่ะ



     น้ำก้มตัวลงไปกระตุกแขนเนมให้ลุกขึ้น ก่อนกลับ



"ถ้างั้นก็กลับบ้านได้แล้ว ขอบใจที่ให้เนมกินเค้กนะ"
ประโยคแรกบอกน้องชาย ประโยคหลังบอกเด็กชายใจดีที่ให้เนมได้กินเค้กอย่างสมหวัง



"ไม่เป็นไร วันเกิดน้องนี่"

   

"ผมไปก่อนนะฮะ พี่หมี"






      มองเด็กตัวเล็กที่ยังมีแก่ใจหันหลังมาแลบลิ้นเลียช้อนโชว์พลางโบกมือบ๊ายบายพร้อมยิ้มกว้างจนฉีกไปถึงใบหู



      ยืนมองจนสองพี่น้องผลุบหายเข้าไปในบ้าน



      ไอ้เด็กคนนี้...ก็น่ารักดีเหมือนกันแฮะ...













       หลังจากเหตุการณ์ที่เนมไปขอเพื่อนบ้านกินเค้กนั้น วันรุ่งขึ้น พ่อ-แม่ของเนมต้องรีบไปขอโทษขอโพยที่ปล่อยปละละเลยจนลูกตัวเองต้องไปรบกวนคนอื่น ในขณะเดียวกันก็ขอบคุณที่แบ่งปันอาหารแก่ลูกของตัวเองด้วย



      และนั่นเองจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้สองครอบครัวได้สร้างมิตรภาพข้ามรั้ว...



"หมี ไอ้หมี"




     คนที่มัวแต่นึกถึงความหลัง ก็หันไปมองพี่ชายตัวเอง




"อ้าวพี่โต"




"เรียกตั้งนานคิดอะไรอยู่?"
พี่ชายจูงอะตอมเดินมานั่งที่โซฟาข้างๆตูน



   

      การ์ตูนยังคงนั่งนิ่ง จุดรอยยิ้มบางเบายามที่นึกถึงเรื่องเนมสมัยเด็ก คนที่จดจำเนมได้ตั้งแต่วันแรกที่เจอ วันที่แม็คพามาแนะนำว่าเนมเป็นใคร?



     จะลืม เด็กที่ดื้อ เอาแต่ใจ และมีขี้แมลงวันใต้หางตาได้อย่างไรกัน





"พี่โต พี่จำเด็กข้างบ้านตอนเรายังเด็กได้ไหม?




     โตนั่งนึกจนคิ้วขมวดกันเป็นปม

     

"จำเรื่องราวอะได้ แต่จำหน้า-จำชื่อไม่ได้"



"ที่ผมบอกพี่ว่าเมื่อคืนมีคนมานอนค้างบ้านเรา ก็คือ น้องคนนี้"



"จริงเหรอ? โลกกลมจัง หมีจำได้ แล้วน้องจำหมีได้ไหม?"



"น่าจะจำไม่ได้"



"แล้วทำไมไม่บอกไปล่ะ"



"ไม่รู้จะบอกทำไม?"



"อ้าว แล้วอย่างนั้นจะมานั่งคิดให้ปวดหัวจนถึงตอนนี้ทำไม?"



"ก็แค่เล่าให้พี่โตฟังเฉยๆว่า ไม่น่าเชื่อจะได้กลับมาเจอกัน"



"แน่ใจนะไอ้หมี? ถ้าไม่สนใจน้อง ก็คงไม่เก็บเอามาคิดหรอกมั้ง ก็แค่เด็กข้างบ้านไม่ใช่เหรอ?"



"อย่ามาจับผิดผมน่าพี่โต ผมออกไปข้างนอกก่อนแล้วกัน"



"จะไปไหน? พี่ซื้อซาซิมิมาฝาก วันนี้วันเกิดหมีนี่ มากินก่อนสิ"



"ขอบคุณพี่ ผมแค่จะไปเซเว่นแป๊ปเดียว"



"ตามใจ ถ้างั้นเดี๋ยวเก็บเข้าตู้เย็นให้ก่อนแล้วกัน"



"ครับ"



      ตูนแยกกับพี่ชายและสาวเท้าเดินออกไปนอกตัวบ้าน



      ยังติดอยู่ในหัวสมองและมองว่าเป็นเรื่องบังเอิญเหมือนกันที่ได้กลับมาเจอะเนมอีกครั้ง แม้มันจะเป็นข่าวดีที่ได้พบเจอคนที่สร้างความทรงจำดีๆในวัยเด็กด้วยกัน แต่พอโตขึ้นอะไรหลายๆอย่างก็เปลี่ยนแปลงไป



     ตูนยังคงเก็บไว้เป็นความลับ และดีใจที่เนมจำเขาไม่ได้ เพราะถ้าเกิดเนมจำได้และกลับมาสร้างความสนิทสนมแน่นแฟ้นเหมือนก่อน ตูนนี่ล่ะที่จะลำบากใจภายหลัง



     เพราะตูนมีความจริงที่รู้อยู่แก่ใจดี ก็คือ ยิ่งสนิทกันมากเท่าไหร่ ตูนก็ต้องระวังใจตัวเองมากเท่านั้น



     กลัวที่จะ...เผลอใจรัก...เนมมากไปกว่านี้...



     บางที การทิ้งระยะห่างของความสัมพันธ์และคงสถานะว่าเป็น...เพื่อนแฟน...แบบนี้ล่ะ เหมาะสมที่สุดแล้ว...






.................................

พี่การ์ตูน ตอนเด็กนี่แบบ...มุมิ ไปเลย

มาเอาใจช่วยทั้งสามกันกับความรักครั้งนี้ด้วยนะคะ
:hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้า


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-09-2018 20:02:23 โดย rinyriny »

ออฟไลน์ 19th

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รสนิยมแบบนี้ถ้าไม่ชอบทั้งสองฝ่ายอย่าฝืนเลยจริงๆ เป็นห่วงเนม  :katai1:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

อ่อ...มิน่าหล่ะตอนพบกับเนมครั้งแรก  พี่การ์ตูนทำท่าเหมือนกับว่ารู้จักเนมมาก่อน แต่ก็แอ๊บไว้

ยิ่งทำดีกับเนมด้วยทุกสิ่งอย่าง  ก้เพราะมีความหลังฝังใจกับเนมนั่นเอง

แต่...อิคนพี่จำได้ แต่อิคนน้องดันจำไม่ได้ซะงั้นหล่ะ

ออฟไลน์ rinyriny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-1
ตอนที่ 6 คนที่ต้องการที่พึ่ง





     







      ในเวลาเดียวกัน ถัดมายังคู่รักที่ปรับความเข้าใจกันลงตัว ภายในห้องโดยสารรถยนต์ คนไม่ยอมเคลื่อนรถ กลับเอาแต่จ้องเนมเขม็ง



"เป็นอะไร แม็ค"


     แม็คตัดสินใจเปลี่ยนจากการออกรถ เป็นปลดเข็มขัดนิรภัย ไม่พูดไม่จา โถมตัวข้ามไปฝั่งที่นั่งข้างคนขับ วางมือหนึ่งลงบนเบาะรถ ส่วนมือที่ว่างอีกข้างจับหัวไหล่ของเนมแล้วกดจมูกซุกไซ้ซอกคอ ขบเม้มดึงดูดผิวเนื้อหนักๆ จากนั้นก็กัดอย่างแรงจนทิ้งรอยฟันไว้ให้ดูต่างหน้า





"มะ...แม็คเจ็บนะ แล้วนี่คิดจะทำอะไร? เราต้องไปทำงานนะ เดี๋ยวมีคนเห็น"



"ก็ตั้งใจทำให้เห็น"




     ระยะเวลาที่คบกันและได้สานสัมพันธ์ทางเซ็กซ์นั้น เนมรู้ดีว่าแม็คเป็นมีรสนิยมแบบไหน? ทุกครั้งของการร่วมรักกัน แม็คจะบีบ เค้น คลึง ขยำอย่างรุนแรง อีกทั้งยังชอบสร้างรอยรักใหม่ๆ จนร่างกายของเนมมีแต่แผลและรอยช้ำจนทั่ว ดีหน่อยที่แม็คนิยมทำในร่มผ้าเป็นส่วนใหญ่ เพิ่งจะมีคราวนี้ ที่แฟนของตัวเองกลับสร้างรอยรักตำแหน่งใหม่ที่เปิดเผยและมีอาจมีคนเห็นได้ง่ายๆ



"แม็คเป็นอะไร?"



       คนถามลูบลำคอตรงที่แม็คกัด พลางตกใจ เมื่อเห็นแม็คช้อนตามองอย่างคนเลือดเย็น


"ผมเพิ่งสังเกตเห็น ว่าเนมใส่เสื้อผ้าไอ้ตูน"


 "ก็เสื้อผ้าเรามีแต่กลิ่นเหล้า ถ้าเราไม่ใส่เสื้อผ้าพี่ตูนจะให้เราเดินเปลือยออกมาหรือไง?"



"อย่าเถียงผมนะ"



     คนเถียงตกใจ เมื่อแม็คง้างมือมาจับคอไว้หลวมๆ และใช้แรงดันร่างเนมจนกระแทกกับกระจกรถ จากนั้น แม็คพยายามใช้มือล้วงเข้าไปในกางเกงขาสั้น เนมจับข้อมือแม็คให้หยุดชะงัก



"แม็ค ปล่อย! เราไม่มีอารมณ์"



    ไม่ได้ต้องการจะเล่นตัวหรือสะดีดสะดิ้ง เพียงแต่เนมไม่สามารถปรับโหมดอารมณ์ทันได้ ในเมื่อตอนนี้ เราสองคนทะเลาะกันอยู่แล้วใครจะไปมีอารมณ์ร่วมด้วยได้



"อย่าขัดใจผม? อย่าทำให้ผมโกรธไปมากกว่านี้ แค่การที่เนมอยู่กับไอ้ตูนแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่สมควรเลยนะ"



     เนมนิ่งอึ้ง นั่งมองหน้าแฟนตัวเองด้วยแววตาตัดพ้อ เขาผิดอะไร? แค่ยิ้มให้พี่ตูนก็ไม่ได้เลยหรือ?


"แม็คหึงเราหรอ?"


"...."



"พี่ตูนก็เพื่อนแม็คนะ ทำไมต้องหึงด้วย? อีกอย่าง เราไม่ได้ชอบพี่ตูนเลย  เราขอเถอะ แม็ควันนี้วันเกิดเรา อย่าหาเรื่องทะเลาะเลยนะ"



      แม็คมองหน้าเนมก่อนจะกระชากร่างเนมเข้ามากอด



"ขอโทษ"

"แม็ค เราตามอารมณ์แม็คไม่ทันแล้วนะ แม็คเป็นอะไร พูดมาตร...อื้อ"




     คนที่เอ่ยคำขอโทษผละห่างออกมาแล้วประกบจูบ คนอารมณ์รุนแรงบดถูริมฝีปากอย่างหอบหื่น ก่อนจะค่อยจับปลายคางอีกฝ่ายให้เผยอปากและใช้ปลายลิ้นร้อนสอดลึกเข้าสู่ภายใน กวาดไล้โลมเลียทั่วผนังปาก

     

     ดั่งคนคลุ้มคลั่งราวกับสัตว์ป่า เมื่อความรุนแรงเริ่มทวีคูณมากขึ้นเรื่อยๆ แม็คไม่มีถนอม เขาบดจูบดึงดูดริมฝีปากหนักๆจนปากสีสดบวมเจ่อ ก่อนจะใช้ฟันขบกัดที่ริมฝีปากล่างของเนมอย่างแรง


      คนเจ็บผลักอกแม็คออกห่างทันที เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวเลือดคลุ้งในปาก



"โอ้ย!...แม็ค"



      แตะริมฝีปากล่างก็พบว่าเลือดสีแดงสดซึมออกมา มองคนที่ทำตัวเองปากแตกด้วยสายตาขุ่นเคือง



"แม็ค มันแรงไปแล้วนะ"



      ครั้งนี้ เป็นครั้งที่เนมไม่พอใจ เพราะแม็คกำลังใช้อารมณ์ร้ายๆมาลงที่เนม



      คนที่เห็นเนมเลือดออกเอี้ยวตัวคว้ากระดาษทิชชูจากที่นั่งด้านหลัง มาซับริมฝีปาก



     เนมมองหน้าคนที่ซับเลือดให้ด้วยความน้อยใจ...รู้ว่าแม็คมีรสนิยมซาดิสม์เป็นทุนเดิม แต่รอบนี้ แม็คกำลังใช้ความโกรธผสมร่วมลงไปด้วย


      เนมไม่สามารถล่วงรู้ในตอนแรกได้หรอกว่า คนที่เพิ่งเจอนั้น ส่วนลึกแล้วเขามีเซ็กซ์เป็นแบบไหน?



    บางที ภาพลักษณ์ภายนอกกับตัวตนจริงๆจากภายใน อาจแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว



    เมื่อครั้งอดีต ช่วงตอนที่แม็คจีบเนมใหม่ๆ เขาคือผู้ชายทั่วไปที่เนมก็ดูไม่ออกหรอกว่าแม็คจะมีรสนิยมทางเซ็กซ์ดุดันและป่าเถื่อน พอได้คบกัน รักกัน ร่วมรักกัน ทุกอย่างถึงเพิ่งเผยออกมา ว่าความจริง แม็คซาดิสม์และชอบความรุนแรงมากแค่ไหน?



    เรื่องราวทั้งหมด เนมได้แต่เก็บเอาไว้ ยังไม่เคยได้พูดออกไป เพราะคิดว่า หากยอมได้ก็ยอม



   คงเป็นเพราะ...รัก...ที่ทำให้เนมยอมทนความเจ็บปวด ยอมทรมานเพื่อความสุขของอีกฝ่าย เท่านั้นมันก็เพียงพอแล้ว



"ผมอารมณ์ร้อนไปหน่อย ขอโทษ"


"แม็ค ฟังเรานะ เราไม่ได้ชอบพี่ตูน และเราไม่เคยคิดนอกใจ"


 

"โอเค ถ้างั้น ผมขอไถ่โทษพาเนมไปดูหนังนะ"



"ในสภาพนี้นี่นะไม่เอาหรอก" กดสายตาลงต่ำมองสภาพตัวเองทั้ง ริมฝีปากแตก ไหนจะมีร่องรอยสีสดถูกประทับตราตรงลำคอ ใครเห็นก็คงมองออกว่าเพิ่งผ่านศึกอะไรมา



"ทำไมต้องสนใจคนอื่นล่ะ ไปเถอะ ไปผ่อนคลายกันบ้าง"




"...."



     และแล้ว คนที่แม้จะมีสิทธิ์ออกเสียง แต่ก็ไร้ผล เนมทำอะไรไม่ได้ เมื่อคนข้างๆก็ออกคำสั่งให้ทำตามใจอยู่ดี





      ทั้งสองถึงห้างสรรพสินค้าในช่วงใกล้เวลาปิดทำการ แต่ส่วนโรงหนังยังคงสามารถดูได้อยู่ คนที่ดึงดันพาแฟนมาดูหนังรีบปรี่ไปจองตั๋วหนังเรื่องที่เนมอยากดู และระหว่างที่รอ แม็คพาเนมไปซื้อเสื้อผ้าในร้านแบรนด์ดังหวังเอาใจเจ้าของวันเกิดให้อารมณ์ดีขึ้น



     ช็อปจนได้เสื้อผ้าและกางเกงไปหลายตัว ในขณะที่ร้านรวงต่างๆในห้างสรรพสินค้ากำลังจะปิด อีกสักพัก กว่าหนังที่ตัวเองดูจะถึงรอบฉาย แต่เพราะไม่มีที่ไป ทั้งสองจึงต้องไปนั่งรอที่ส่วนรับรองลูกค้าตรงหน้าโรงภาพยนตร์



      ทั้งคู่ตั้งใจขึ้นลิฟต์ไปชั้นโรงหนัง ยืนรอไม่นานเท่าไหร่ แสงไฟของสัญลักษณ์กระพริบบอกว่าลิฟต์ถึงชั้นที่ทั้งสองอยู่เรียบร้อย พอประตูเปิดออก เนมและแม็คเดินเข้าไป ในขณะที่กดปุ่มตัวเลขและกำลังจะกดปุ่มปิด ก็มีคนตะโกนเรียกให้รอ



    เห็นคนที่วิ่งเข้ามาด้านใน เนมเบิกตาโพลงเมื่อพบกลุ่มวัยรุ่นหกถึงเจ็ดคน อัดเข้ามาอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยมอันคับแคบ



     เพียงประตูปิด มือที่ถือถุงกระดาษอยู่เริ่มสั่น คนที่เดินตัวแห้งก่อนหน้า กลับมีเม็ดเหงื่อผุดซึมทั่วใบหน้าและแผ่นหลัง เนมหน้าซีดเผือกขบเม้มริมฝีปากล่างเข้าหากัน รู้สึกอึดอัดและดูเหมือนจะหายใจลำบาก





"เนมเป็นอะไร?"


     จับสังเกตได้ว่าเนมยืนตัวแข็งทื่อ ใบหน้าซีดเหมือนคนเห็นผี จึงเอ่ยถาม


"ระ...เรากลัวที่แคบ" บอกด้วยเสียงเบาหวิว



"หือ? จริงเหรอ?" ย้ำถามให้แน่ใจ เพราะไม่คิดว่า คนใกล้ชิดจะมีโรคกลัวประจำตัว  แม็คยืนมองคนที่พยักหน้าตอบรับด้วยท่าทีเฉยๆ



      ฟากเนม พอรู้ว่าคนที่อยู่ในลิฟต์ทั้งหมดนั้นมีจุดมุ่งหมายไปที่เดียวกัน ก็ได้แต่ภาวนาให้ลิฟต์ส่งถึงชั้นโรงหนังเร็วๆ



ตึ้ง!



      ดั่งเสียงสวรรค์ เพียงเสียงลิฟต์ดัง ประตูลิฟต์เปิด ทุกคนกรูกันออกมา เนมหยุดเท้าพร้อมสูดลมหายใจ โกยอากาศเข้าปอดอย่างคนใกล้ตาย



"ไม่คิดว่าจะเป็นหนัก"



      เนมยืนนิ่ง ตั้งสติอยู่หลายนาทีก่อนจะเดินทางต่อไปยังที่หมาย



     แม็คเลิกคิ้วขึ้นสูง พลันเหลือบมองแฟนตัวเองที่เดินเงียบไม่พูดไม่จา เขายิ้มมุมปาก โดยที่สมองก็กำลังคิดอะไรอยู่...





 
****1.1****

ก็เข้าใจพี่แม็คนะว่ามีรสนิยมเป็นแบบไหน? แต่น้องเนมเอ้ยยย...ควรบอกแฟนไหมง่าาาาา? ^^
:hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

สงสัยอิพี่แม็คมันจะคิดพิเรนกับเซ็กส์รอบหน้าว่าจะใช้ความกลัวที่แคบของเนมมาเป็นเครื่องมือทรมานเนมเพื่อสนองรสนิยมส่วนตัว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด