พิมพ์หน้านี้ - *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 12 จบแล้ว [11-12-18] P.3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: rinyriny ที่ 30-08-2018 20:06:06

หัวข้อ: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 12 จบแล้ว [11-12-18] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 30-08-2018 20:06:06
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะ ครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรัก ชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้าม แจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะ ปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของ แต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้าม จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิด เดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การ พูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอม ให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ด นิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยาย ที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยาย เรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้าม แจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใคร จะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

...
...
...

นิยายเก่าของ rinyriny

1. นิยาย ..*ขอผมได้รัก*..
 https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57256.0 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57256.0)

2. นิยาย ||*...สวัสดี▪นายพล▪ คนธรรมดา...*||
 https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60981.0 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60981.0)

3. นิยาย +..▪..+"แสง.สุด.ท้าย"+..▪..+
 https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61787.0 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61787.0)

4. นิยาย  ▪▪▪อมยิ้มสื่อรัก▪▪▪
 https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66461.30 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66461.30)

5 นิยาย *...-+-...-+-เพื่อนพ่อ (อินทัช+คายัค)-+-...-+-...*-
 https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67267.0  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67267.0)





เรื่อง 'คนที่สาม'
by rinyriny
 ...
...
...
...

ยินดีต้อนรับ สู่โลกแห่งความรัก
ของ 'เนม' กันต์ธีร์ กิจจะกำธร


...
...
... 



หัวข้อ: Re: ||*..--+--..*หลง*..--+--..*||บทนำ [2-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 02-09-2018 09:24:03
บทนำ

 

 





"จากนี้ จะไปทำอะไรต่อวะ"

 

 

     เสียงจริงจังจากเพื่อนร่วมงานเรียกสติให้ กันต์ธีร์ หรือ เนม ที่นั่งจมจ่อมกับความคิด หันมาสนใจหาคำตอบให้คนที่ตั้งคำถาม


      นั่นสิเขาจะทำอะไรต่อ...ในเมื่อ เนมเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้ว่าบริษัทที่เนมทำงานมาได้สามปีกว่า ต้องปิดกิจการเพราะทนพิษเศรษฐกิจไม่ไหว ทางบริษัทจึงต้องเลิกจ้างพนักงาน โดยจ่ายค่าชดเชยพิเศษเป็นการตอบแทนให้ แม้ตัวเลขที่ได้รับจะเป็นที่น่าพอใจ แต่คนที่ยังไม่ได้หางานใหม่รองรับไว้ นั่นจึงทำให้เขาไม่ได้ตั้งตัวและรับมือไม่ทันเหมือนกัน

 

      ความรู้สึกเนมตอนนี้ ช่างเหมือนเรือกำลังจะอับปาง ใจหาย สมองมึนเบลอ วิตกกังวล จนไร้สติ เนมคิดหนัก เพราะบัดนี้ ก็อายุยี่สิบเจ็ดเข้าไปแล้ว พอโดนปล่อยไว้กลางทางแยก ก็คงต้องถึงเวลาจริงจังกับอนาคตในชีวิตและเลือกแล้วว่า ระหว่างหางานใหม่ หรือ นำเงินก้อนนี้ไปลงทุนทำธุรกิจอะไรสักอย่างที่เป็นชิ้นเป็นอันไปเลย อย่างไหนจะเหมาะสมที่สุด



     พนักงานบริษัทที่ทำหน้าที่ดูแลเอกสาร ประสานงานต่างๆกับทุกฝ่าย ได้แต่นั่งปลงตก ก่อนตอบเพื่อนร่วมงาน



"ไม่รู้ แต่ตอนนี้ คงต้องหว่านใบสมัครไปตามบริษัทอื่นก่อนมั้ง"

 

"ก็ลองดู ส่วนกูคงเอาเงินก้อนนี้ไปลงทุนขายของแล้วล่ะ พอกันทีกับงานประจำ" เนมมองหน้าคนที่มาระบายความทุกข์คงกลัวและขยาดกับความไม่มั่นคงจากการทำงานประจำไปแล้ว



"เอาน่า หลังจากนี้ก็คิดซะว่าพักผ่อนเว้ย"  ไม่รู้คำพูดนี้จะปลอบใจเพื่อนร่วมงาน หรือปลอบใจตัวเองดี



"อืม ก็จริง กูกลับละ"



   เพื่อนร่วมงานตบบ่าปุๆ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับทางใคร ทางมัน

 

   ยามนี้ ชายหนุ่มเดินเท้ามาจากสถานีรถไฟฟ้ากลับคอนโดของตัวเองที่ไม่ใกล้ไม่ไกล  ร่างสูงเดินมาในสภาพเนือย เซื่องซึมอย่างคนหมดแรง


    ตลอดทางการกลับถึงรังของตัวเอง หัวสมองไม่คิดเรื่องอะไรเลยนอกจากเรื่องงานประจำเพียงอย่างเดียว


     เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้รู้เลยว่าความแน่นอน คือ ความไม่แน่นอนจริงๆ



      หยุดยืนริมถนน ใกล้ถึงทางเข้าคอนโด เนมตัดสินใจส่งข้อความหาพี่สาว เพื่อระบายความเครียดเกี่ยวกับข่าวร้ายที่เพิ่งรู้มาหมาดๆ



    พี่น้ำ เป็นพี่สาวที่เนมรักรองจากพ่อ-แม่ แต่คงจะรักมากกว่าเดิมเพราะตอนนี้ เนมไม่เหลือคนในครอบครัวแล้ว นอกจากพี่น้ำคนเดียว เนื่องจาก พ่อ-แม่ของเนมประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนเสียชีวิตคาที่เมื่อสิบปีก่อน



      แม้ว่าเนมจะมีเพื่อนสนิท แต่เรื่องบางเรื่องก็เหมาะจะคุยกับคนในครอบครัวมากกว่า หลายครั้งที่มีเรื่องไม่สบายใจ พอได้คุย ได้ปรึกษา ปรับทุกข์กับพี่สาว มันได้ช่วยเยียวยาจิตใจและทำให้เนมรู้ว่าเขายังมีที่พึ่งและคนที่รักเขามากๆอีกหนึ่งคน แต่น่าเสียดายที่ความจริงมันโหดร้าย เนมกับพี่น้ำไม่ได้อาศัยอยู่ด้วยกัน เนื่องจากพี่สาวเธอไปทำงานอยู่ต่างประเทศ การได้คุยกันแบบนี้จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด สำหรับหนุ่มโสดที่ต้องนอนเหงาภายในห้องไม่ถึงร้อยตารางเมตร



      คนเครียดต้องการกำลังใจ เพียงได้เห็นข้อความที่พี่สาวตอบกลับมาทันทีที่เนมพิมพ์ไปก่อนหน้าก็นึกอยากจะร้องไห้ ไม่ถึงนาที พี่น้ำก็ไลน์คอลมาหา



[เป็นอะไรเนม เครียดอะไร บอกพี่มาซิ]


"พี่น้ำ เนมกำลังจะตก..."


พลั่ก!


     พูดยังไม่ทันจบ โทรศัพท์ก็ลอย กระเด็นไปไกล ก่อนจะตกลงสู่พื้น จากนั้น ร่างสูงก็ล้มลง เมื่อเนมรู้สึกเหมือนมีของแข็งฟาดเข้ากลางหลังจนความชาและเจ็บปวดแล่นปราดไปทั่วร่าง


     สายตาพลันเหลือบมองเครื่องมือสื่อสารที่อยู่ไกลออกไป  เขาพยายามจะคลานไปเก็บแต่รู้สึกเจ็บร้าวทั่วหลัง



     หนึ่งในคนร้ายที่มีกันอยู่สองคน เหยียบหลังมือของเนมแล้วพูด


"เอาเงินมาให้กู"



"กูไม่มี"
ลำพังจะพูดยังยากลำบาก เสียงที่เปล่งออกไปจึงเบาหวิวแทบไม่ได้ยิน

"มึง อยากตายรึไงวะ เอากระเป๋าสตางค์มา"



เพล้ง!



     ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ต่างได้ยินเสียงเหมือนแก้วแตก
 

"เฮ้ย! พวกมึงทำอะไรน่ะ"



     เนมที่ได้ยินเสียงตะโกนไล่ตามหลังพร้อมเสียงเขวี้ยงขวดแก้วมาจากระยะไกล เนมก้มหน้านอนหมอบพร้อมกุมศรีษะตัวเองอยู่ที่พื้น เขาไม่รู้แล้วว่าหลังจากนี้เกิดอะไรขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เขาต้องเอาชีวิตรอดให้ได้



     ไม่นานนัก...ที่เสียงโวยวายเงียบหายไป


"คุณครับ คุณครับ"



     ลืมตาและกวาดตามองจนทั่วบริเวณก็ไม่พบคนร้ายเมื่อสักครู่ แต่สิ่งที่เนมเห็น คือ ชายหนุ่มนิรนามถือขวดปากฉลาม นั่งยองๆอยู่ข้างๆ
 

"โอ้ย กูไม่มีอะไรให้แล้ว"   



"ไม่ใช่ๆ ผมไม่ใช่โจร ผมมาช่วยคุณ"



      เนมกระพริบตาปริบๆ มองหนุ่มนิรนามที่พยายามประคองเนมให้ลุกขึ้นยืน เนมทำหน้าเหยเก กัดปากจนเจ็บ เขาสะกดอารมณ์ความเจ็บปวดเอาไว้ภายใน



      ทำไมชีวิตถึงซวยซ้ำ ซวยซ้อนได้ขนาดนี้ ไม่เพียงแต่กำลังจะกลายเป็นคนว่างงานยังต้องโดนโจรปล้นอีก



"ไหวไหมครับ?"


"โทรศัพท์ผม"
แม้กระเป๋าสตางค์ยังอยู่ แต่เนมก็เศร้าอยู่ดี เขาบ่นอาลัยอาวรณ์ถึงเครื่องมือสื่อสารที่ถูกโจรชิงทรัพย์ หายวับไปเป็นที่เรียบร้อย


"นี่คุณเกือบตาย ยังจะห่วงโทรศัพท์อีกเหรอ?"




      อยากเถียงใจจะขาด แต่เพราะยังระบมอยู่เลยพูดได้ลำบาก


      สำหรับเนมเครื่องมือสื่อสารแทบจะกลายเป็นอวัยวะส่วนที่สามสิบสามไปแล้ว เพราะมือถือคือสิ่งสำคัญสิ่งเดียวที่ช่วยให้เขาคลายความเหงา ความเศร้า ความคิดถึงยามอยู่ตัวคนเดียวได้ดี


     เนมเสียใจที่นอกจากจะไม่ได้ติดต่อกับพี่สาว ยังเสียดายข้อมูลและรูปภาพในเครื่องด้วย



      คนแปลกหน้าเห็นคนเจ็บไม่ยอมพูดอะไร จึงเป็นฝ่ายพูด


"ผมจะพาคุณไปโรงพยาบาลนะ"


"ไม่ต้องครับ แค่จุก ไม่ถึงกับเลือดตกยางออก ช่างมันเถอะ"
เนมก้มลงปัดฝุ่นที่เปรอะเสื้อและขากางเกง



"คุณนี่ไม่ห่วงตัวเองเอาซะเลย ไปตรวจก่อนเถอะ"

 

      มองหน้าพลเมืองดีที่เจ้ากี้ เจ้าการจนนึกรำคาญ แต่ครั้นจะไปต่อว่าก็ดูจะไร้มารยาทไปสักหน่อย เขาอุตส่าห์มาช่วยแท้ๆ


     เนมยอมทำตัวว่าง่ายเดินไปตามคำสั่งของพลเมืองดี


     ระหว่างการเดินทาง ภายในรถยนต์มีแต่ความเงียบฉี่ เนมพิงศรีษะ เบนหน้าหนีไปทางหน้าต่างรถ เพราะไม่รู้จะคุยอะไร เนื่องจากไม่ได้สนิท หรือรู้จักเป็นการส่วนตัว อีก ทั้ง เนมเจ็บและเครียดเกินกว่าจะเสวนาหรือแสร้งเป็นคนเฟรนด์ลี่ด้วย เขาจึงแกล้งหลับจนกระทั่งถึงโรงพยาบาล


     หลังจากให้หมอทำการตรวจเช็คและเอ็กซเรย์ ก็พบว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมากนัก กระดูกไม่หัก อวัยวะภายในสำคัญอย่าง ตับ ม้าม ไตก็ไม่มีฉีกขาด แต่จะมีรอยฟกช้ำดำเขียวตรงแผ่นหลังเท่านั้น


      พอทราบอาการว่าไม่ได้ร้ายแรงถึงกับช้ำในตายก็ลอบถอนหายใจพลันเหลือบมองคนข้างกายที่ดูแลกันอย่างดีประหนึ่งว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกันก็ไม่ปาน



     เมื่อจัดแจงธุระเสร็จเรียบร้อย


     ก่อนจะเดินตามไป


"บอกแล้วว่าไม่เป็นอะไร ทีนี้เชื่อรึยัง?"


"แต่ฟังจากปากหมออย่างน้อยก็โล่งใจกว่า ฟังจากปากคนเจ็บที่เดาเอาเองนะครับ"

 
"....."



"บ้านคุณอยู่ไหนผมจะไปส่ง"



     ความเจ็บระบมทำให้เนมจะตอบคำถามแต่ละที ต้องใช้เวลาครู่หนึ่งก่อนเอ่ย
 

"ไม่ต้องครับ คุณแค่รอผมหาตู้เอทีเอ็มเพื่อกดเงินแล้วคืนให้คุณก็พอ"



      ผู้หวังดีเป็นคนออกค่ารักษาและค่ายาไปให้ก่อน เนื่องจาก ตอนคิดเงิน เนมมีเงินสดติดตัวไม่พอจ่าย


"ไม่เป็นไรครับ"

 

"ไม่เป็นไรได้ไงครับ เราไม่ได้สนิทสนมขนาดที่คุณต้องยอมจ่ายเงินให้ขนาดนี้"
 

"ช่างมันเถอะครับ มากกว่านี้ผมก็เคยเสียมาแล้ว นี่แค่เงินไม่กี่บาทเอง ไม่ต้องคืนหรอกครับ ผมเต็มใจช่วย"


 

"ชัวร์นะ? ถ้างั้นก็ขอบคุณที่ช่วยผมแล้วกัน คุณ....." เพราะสนใจแต่ตัวเอง จึงลืมถามไถ่ประวัติเพิ่มเติมจากคนข้างกายไปเสียสนิท

 

"แม็คครับ"
 

"ขอบคุณครับ คุณแม็ค"
 

"เลิกเรียกคุณเถอะครับ มันดูทางการไปหน่อย แล้วก็เลิกหยิ่งได้แล้ว..เดี๋ยวผมไปส่ง"


"โห...คนอะไร ปากร้ายชะมัด"


"ขอโทษ ผมแค่ไม่อยากให้เนมดื้อ..กลับกันเถอะ ผมไม่ค่อยชอบกลิ่นโรงพยาบาลเท่าไหร่"

 

      สุดท้ายก็ต้องยอมเป็นผู้ร่วมทางไปโดยปริยาย แต่ขากลับรอบนี้ เนมพยายามถามและชวนคุยกว่าเดิม ถึงรู้ว่า แม็คอายุมากกว่าเนมถึงสองปี แต่เขายืนกรานห้ามเนมเรียกพี่ ส่วนเรื่องอาชีพการงาน แม็คไม่ยอมเปิดเผยว่าทำธุรกิจด้านไหน? ประเภทอะไร เขาแค่บอกว่าทำธุรกิจส่วนตัว



      เดินทางไม่นานนัก ก็ถึงที่พักของผู้บาดเจ็บ ก่อนที่เนมจะลงจากรถ หางตาเห็นคนขับรีบลงจากรถมาก่อนแล้วเดินอ้อมตัวรถมาเปิดประตูและคอยรับร่างสูง



"ผมไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นนะ"



"ก็ถ้าเนมปกติดี ผมก็ไม่ดูแลแบบนี้หรอก"



"....."  เนมเงียบมองหน้าคนยิ้มยียวน กวนกัน

 
"ก็ถ้าปกติดี ผมก็ไม่ทำแบบนี้หรอก"



"....."  เนมเงียบมองหน้าคนยิ้มยียวน กวนกัน



"พักคอนโดแบบนี้ เพราะเนมอยู่คนเดียวเหรอครับ?"


"ใช่ครับ"


"อื้มมมม...แล้วนี่เดินไหวหรือเปล่า? ให้ผมขึ้นไปส่งไหม?"

 

"ไม่ต้อง....ครับ" เนมไม่มีทางให้คนที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่ถึงวันขึ้นคอนโดได้ง่ายๆ


"ถ้างั้น ขอเบอร์คุณหน่อยสิ ผมจะได้โทรมาเช็คอาการภายหลัง เผื่อเกิดเรื่องไม่ดี ผมจะได้มาช่วยหรือโทรเรียกรถพยาบาลได้ทัน"


"ลืมไปหรือเปล่า? ว่าผมโดนปล้น"

 


"เอ่อ...ผมก็ลืมไปเลย แล้วยังนี้เนมจะติดต่อคนอื่นยังไงล่ะครับ เอาโทรศัพท์ผมไปใช้ก่อนไหม? ผมมีสองเครื่อง"



      เอียงศรีษะมองคนตรงหน้าอย่างประหลาดใจ ไม่รู้ว่า จะมาไม้ไหน? เพื่อนก็ไม่ใช่ แฟนก็ไม่ใช่ เป็นแค่คนที่เพิ่งรู้จักไม่กี่ชั่วโมง อะไรจะทำตัวป๋า ใจกว้างดั่งแม่น้ำอะเมซอนขนาดนี้


"ไม่เอาครับ"


"ผมให้ยืม ไม่ได้ให้เลยสักหน่อย เนมเอาไปใช้ก่อน  แล้วถ้าซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่แล้ว ก็ค่อยเอาโทรศัพท์มาคืนผม"



       เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ ยืนนิ่งครุ่นคิด จนได้คำตอบว่าก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยๆ จะได้มีไว้ติดต่อกับคนที่ทำงานระยะนี้ไปก่อน


"ฟู่วว์"


       พ่นลมออกมาจากปากเสียงดัง จนคนข้างๆยังตกใจ เพราะในหัวสมองแอบบ่นน้อยใจในโชคชะตาว่า มีเรื่องให้เสียเงินก้อนใหญ่อีกจนได้


"ก็ได้ ถ้างั้น ผมขอยืมใช้ก่อนนะครับ"


"ได้เลย ไม่มีปัญหา รหัสปลดล็อคหน้าจอ คือ แปด-แปด-หก-เก้า นะครับ"



"แล้วไม่กลัวว่าผมจะแอบดูข้อความส่วนตัวหรอ?" ตอนรับโทรศัพท์มา เนมจึงถามอย่างสงสัย



"เครื่องนี้แค่เอาไว้โทรออก ข้อมูลสำคัญอยู่อีกเครื่องครับ"

    พยักหน้ารับคำตอบ


     ตอนนี้ ทั้งสองเดินมาหยุดตรงประตูกระจกใส ก่อนเข้าส่วนลิฟต์ เนมหันไปหาพลเมืองดีแล้วยิ้มบางๆ


"ขอบคุณที่ช่วยผมทุกอย่างนะครับ พี่แม็ค"


"บอกแล้วว่าไม่ต้องเรียกพี่"

 
"ครับ แม็ค"


"ได้โทรศัพท์ใหม่ก็บอกแล้วกันนะครับ แต่ห้ามชิ่งหนีผมนะ ไม่งั้น ผมไปเคาะหน้าประตูห้องแน่"



     รู้ว่าคนพูดไม่ได้จริงจังอย่างปากว่า สังเกตจากสีหน้าทำนองหยอกเอินเสียมากกว่า เห็นคนที่เพิ่งรู้จักพยายามตีซี้ด้วยการเล่นมุกอย่างคนกันเองก็อดขำไม่ได้ แต่หัวเราะทีก็สะเทือนไปถึงแผ่นหลัง เนมจึงหยุดขำแล้วส่งยิ้มแทน



"ผมก็ไม่ได้เลวขนาดนั้น ขอบคุณที่มาส่ง ดึกแล้ว แม็คกลับบ้านเถอะครับ"


"ครับ"


     เนมมองคนที่หันหลังกลับไปยังรถยนต์ของตัวเองก็รู้สึกแปลกๆ ที่ยามนี้ ความเกร็งและระยะห่างของความแปลกหน้าทั้งคู่ดูจะลดลงกว่าเดิม


     เนมหยิบคีย์การ์ดแตะตรงเซ็นเซอร์ ก่อนจะเดินผ่านประตูกระจกก้าวเท้าอย่างเชื่องช้าเพื่อขึ้นลิฟต์


    ใบหน้าคมอมยิ้ม ความคิดก่อนหน้าได้ถูกแปรเปลี่ยนไป เนมเพิ่งรู้ตอนนี้ว่าชีวิตมันก็ไม่ได้แย่หรือซวยอะไรขนาดนั้นนี่หว่า...




......................................
หัวข้อ: Re:*..--+--..*คนที่สาม*..--+--..*(เปลี่ยนชื่อเรื่อง) ตอนที่ 1 [3-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 03-09-2018 19:02:00
ตอนที่ 1 เพื่อนใหม่






"ดีใจที่เนมมา" หนุ่มหน้าตี๋ ทักหลังจากที่เนมมาตามนัด ณ ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้า


"ผมไม่เคยผิดสัญญา แต่อาจช้าไปหน่อย" เนมยิ้มแห้งๆ ก่อนจะยื่นโทรศัพท์มือถือที่เคยยืมไปก่อนหน้าให้แก่เจ้าของเครื่อง


     เพราะกว่าจะคืนโทรศัพท์มือถือให้แม็คก็ครบหนึ่งเดือนพอดี


   
    แม็คมองคนหน้าหงอก็นึกขำ แต่ยังไม่ทันที่แม็คจะอ้าปากคุยต่อ



"อ้าว ไอ้เนม"


       เสียงหญิงสาวทะลุผ่านโสตประสาท พร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวเดียวกันกับเนมทำให้ทั้งสองต้องนั่งกันเบียดเสียด

       
       เมย์ เป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เมย์ เป็นเพื่อนผู้หญิงคนเดียวของเนม ที่แคร์และเข้าใจเนมมากที่สุด


"เมย์ มาทำอะไร?"


"ฉันมาเดินเล่นบ้างไม่ได้รึไง? แหมๆ...ไม่เจอกันนาน เดี๋ยวนี้มีแฟนไม่บอกเลยน้าาาาา"
มองคนที่สงสัยแล้วไม่ยอมเก็บไว้ในใจ แต่ดันโพล่งซะเสียงดัง ทั้งยังลากเสียงยาวพลางทำหน้าล้อเลียนอย่างกวนประสาท เนมจึงรีบแก้ตัว


"ไม่ใช่แฟน ..นี่แม็คคนที่มาช่วยเราตอนโดนปล้น แม็ค นี่เมย์เพื่อนผม"


         ฟากแม็คส่งยิ้มทักทาย


"อ้อ...จำได้แล้ว ที่แกเคยเล่าให้ฉันฟังตอนโทรมาคราวก่อนนู้นใช่ไหม?"


"อื้ม คนนี้แหละ"


"สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ คุณเป็นคนดีจังเลย ขอบคุณที่ช่วยเพื่อนฉันนะคะ"


"ครับ"


     
      เมย์ส่งยิ้มหวานให้หนุ่มพลเมืองดี ก่อนจะหันมาคุยกับเพื่อนต่อ


"โอเคๆ ถ้างั้น ฉันไม่กวนแล้วไปก่อนนะ อ้อ! ไอ้เนม ฉันยังรอแกไปดริ้งค์ด้วยกันอยู่นะจ้ะ ออกมาจากถ้ำได้แล้ว อย่ามัวแต่หมกตัวอยู่แต่ในห้อง"



"อืมๆ รู้แล้วน่า"


      มองเพื่อนที่บ่นเป็นหมีกินผึ้งกับเรื่องเดิมๆ เนมได้แต่ส่ายหน้าเหนื่อยหน่าย เขาก็รู้หรอกว่าเพื่อนคิดถึงและหวังดีอยากให้เขาออกไปพบเจอผู้คนบ้าง เพียงแต่บางที เนมก็ติดจะชอบอยู่ห้องคนเดียว ทำกิจกรรมอะไรไปเรื่อยเปื่อยมากกว่า



       หลังจากเหลียวมองเพื่อนจนลับตา เขาวกสายตากลับมา ตรงหน้าเห็นแม็คนั่งจ้อง ตาไม่กระพริบ


"มองผมทำไม?"


"ขอโทษนะครับ ผมขอถามเรื่องส่วนตัวหน่อย คุณไม่ได้ชอบหรือมีแฟนเป็นผู้หญิงหรอกเหรอ?"


   เมื่อสังคมเปิดกว้าง เนมเองก็ไม่ปิดกั้นความรู้สึกตัวเอง ชายหนุ่มส่ายหน้า มองคนอมยิ้มแล้วตอบ


"ถ้าอย่างนั้น เราสองคนก็เหมือนกันน่ะสิ"


"แล้วมาบอกผมทำไม?"


"บอกให้รู้ไว้เผื่อใจตรงกัน"


   เนมชะงักกับคำพูดที่เหมือนแฝงความนัย


   หมายความว่าอย่างไร? กับคำว่า 'ใจตรงกัน'



"ผมอยากรู้จักเนมมากกว่านี้"


"....."


"เราเป็นเพื่อนกันได้ไหม?"


      เหตุการณ์ที่ผ่านมา ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การที่แม็คยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือทุกอย่าง ประหนึ่งว่าเป็นญาติสนิท มิตรสหาย ทำให้เนมรู้สึกว่า แม็ค เป็นคนดีคนหนึ่ง แล้วจะมีเหตุผลอะไรที่เนมต้องปฏิเสธในการเพิ่มระดับความสัมพันธ์จากคนแปลกหน้าเปลี่ยนเป็นเพื่อน


"ได้"


       คำหนึ่งคำที่ได้ยิน ช่างส่งผลต่อความรู้สึกของอีกฝ่ายได้ดี แม็คยิ้มกว้าง ยื่นมือออกไปค้างกลางโต๊ะ ฟากเนมเลิกคิ้วก่อนจะยื่นไปจับมืออีกฝ่ายไม่ให้รอเก้อ


"ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการ และได้เป็นเพื่อนใหม่ของเนม"


"อาฮะ"



      ทั้งสองส่งยิ้มให้กัน ก่อนจะลุกจากร้านกาแฟเพื่อไปกินข้าวมื้อกลางวัน สานสัมพันธ์และรู้จักกันให้มากกว่าเดิม









.............





         เวลาผ่านไป...ความสนิทสนมทั้งสองก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่า เคมีและบทสนทนาที่หามาแลกเปลี่ยนมุมมองกัน ทำให้เนมและแม็คเข้ากันเป็นปี่ เป็นขลุ่ย


         คนที่เคยเหงา เอาแต่หมกตัวอยู่ในห้อง ยามนี้ ดูสดใสและเริงร่า เพราะได้เพื่อนใหม่ มาช่วยสร้างสีสันในชีวิต


       แล้วมีหรือ? ที่เรื่องราวของเพื่อนใหม่จะไม่ถูกเล่าให้พี่สาวฟัง พี่น้ำรับรู้ทุกอย่าง เพราะเนมไม่คิดปิดบัง เธอดีใจใหญ่โตที่อย่างน้อยการคุยรอบหลังๆ สัมผัสได้ว่า เนมมีชีวิตชีวาและไม่ค่อยบ่นเหงาเท่าเมื่อก่อน

 
        กลับมายังปัจจุบัน ในเวลายามสาย ทั้งคู่อยู่ด้วยกันในห้องโดยสารรถยนต์ แม็คกำลังจอดรถอยู่ข้างบริษัทที่ทำเกี่ยวกับธุรกิจร้านอาหารกระจายตามห้างสรรพสินค้า เนื่องจาก เนมถูกเรียกสัมภาษณ์งานที่บริษัทนี้


      หลังจาก จอดรถเสร็จเรียบร้อย คนขับหันมาหาคนที่ดูตื่นเต้นและประหม่าเล็กน้อย


"ขอให้ได้ข่าวดีนะ"


"ขอบใจนะแม็ค"


       สามสัปดาห์แล้วที่พอทั้งสองยกระดับความสัมพันธ์เป็นเพื่อนกัน แม็คหาเวลามาเจอเนมแทบจะทุกวัน รวมถึงวันนี้ที่เต็มใจอาสามาเป็นสารถีส่งเนมถึงบริษัทที่อีกฝ่ายต้องมาสัมภาษณ์


"เดี๋ยวผมรอร้านกาแฟข้างบริษัทนะ"
 

"อื้ม แม็คไม่ต้องรอก็ได้นะ เกรงใจ กลับบ้านไปเถอะ"
รอยยิ้มพร้อมน้ำเสียงแผ่วๆเอ่ยออกมา



"อยากอยู่ด้วย ไม่ได้เหรอ?"


"อะอะตามใจ"


"ไม่ว่าผลลัพธ์จะดีหรือไม่ดี ออกมาแล้วผมจะมีรางวัลให้"


"อะไรหรอ? อยากรู้"



"ไม่บอก ให้ออกมาก่อน"


"ลีลา"



       คนขับหลุดหัวเราะ ก่อนจะปล่อยให้เนมไปเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน


       สองชั่วโมงผ่านไป ผู้คนมากมายจากบริษัทเริ่มทะยอยกันออกมา เพราะตรงกับช่วงพักเที่ยงพอดี


      ร้านกาแฟที่เงียบและว่างในตอนแรก ยามนี้ หนาแน่นไปด้วยพนักงานออฟฟิศ ซึ่งแม็คไม่ค่อยชอบความวุ่นวายเท่าไหร่ ขณะที่กำลังจะโทรหาเนมก็เป็นจังหวะเดียวกับที่เนมเดินมาหาแม็คที่ร้านกาแฟพอดี ทั้งสองจึงรีบออกไปให้ไวที่สุด


      เมื่อทั้งคู่ สอดตัวเข้ามาในรถได้เรียบร้อย เนมหิวมากจึงบอกเป็นอันดับแรกว่าไปหาข้าวกินกัน ซึ่งตอนที่แม็คขับผ่าน เนมจำได้ว่าแถวนี้ มีก๋วยเตี๋ยวเรือ น้ำตก จึงขอให้แม็คพาไปกินร้านนั้น


     แม็ครับทราบ สตาร์ทเครื่องยนต์แต่ยังไม่เคลื่อนตัว

     
"เป็นไงบ้าง?"


"ไม่รู้ ดูไม่ออกว่าเขาสนใจเรารึเปล่า เพราะคนสัมภาษณ์หน้านิ่ง แต่มีบอกว่า ถูกชะตา แค่นี้"



"จริงหรอ?"


"อืม"


"อาจจะได้ก็ได้นะ"


"เราก็หวังว่ามันจะเป็นเช่นนั้น แล้วไหนล่ะรางวัล?"
เนมแบมือยื่นไปตรงหน้าแม็ค อีกฝ่ายยิ้มขำพลางส่ายหน้าระอา


"หลับตาก่อน"


"ทำไมต้องหลับตา?"


"นี่จะต้องถามทุกประโยคที่ผมพูดเลยเหรอ?"


"ก็แค่สงสัย อ่าอะ หลับก็ได้"



       เนมหลับตาตามคำสั่ง ไม่ถึงนาที เนมสัมผัสได้ถึงความอุ่นตรงริมฝีปาก จากนั้นมีการเคลื่อนไหว ขยับ งับริมฝีปากล่าง คนถูกเซอร์ไพร์สสะดุ้งเฮือกตกใจและรีบลืมตาขึ้นมามอง





"แม็คจูบเราทำไม?"


"เนม ผมขอโทษ ผมผิดเอง แต่ตอนนี้ผมรู้ตัวเองแล้วว่าผมชอบเนมแบบเพื่อนไม่ได้"


"...."


"ช่วงเวลาก่อนหน้าที่เราได้มีโอกาสเจอกัน คุยกันมากกว่าเดิม เนมเป็นคนที่ผมอยู่ด้วยแล้วสบายใจ เนมไม่มีฟอร์ม เนมเป็นตัวของตัวเอง เนมน่ารัก ทุกอย่างที่เนมแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา มันทำให้รู้ว่าผมชอบเนมแบบไหน?"


"....."


"เนมโกรธผมเหรอ?"


        เนมมองคนหน้าสลดอย่างรู้สึกผิดก็ได้แต่เงียบ


        แม้ระยะเวลาที่เราได้รู้จักจริงๆจะยังไม่ถึงเดือน แต่อาจเป็นเพราะแม็คเข้ามาได้ถูกจังหวะพอดิบ พอดี


        แม็คเข้ามาในยามที่เนมต้องการที่พึ่งทางใจ แม็คเข้ามายามที่เนมตกงานและกำลังเครียด ฟุ้งซ่านอยู่พอสมควร


       แม็คเข้ามาเติมเต็มความอบอุ่น หลังจากที่ผ่านมาเนมรู้สึกเหงา โดดเดี่ยว


       ช่วงเวลาที่เหมาะเจาะเช่นนี้ จึงทำให้เนมตอบกลับด้วยการโน้มตัวไปหอมแก้มอีกฝ่ายไวๆแล้วผละออก




"ก็ชอบเหมือนกัน"


"จริงหรือเปล่า?"
คนที่ไม่คิดว่าจะได้ข่าวดีเช่นนี้ จึงตาโตอย่างตะลึง


"อื้ม"


"ถ้างั้น..."


"ดูใจกันไปก่อน"



"ได้ จากนี้ ผมจะทำทุกอย่างให้เนมรักผมมากจนไม่สามารถมองคนอื่นได้เลย"


"ก็ลองดู"



    รอยยิ้มกว้างที่ทั้งสองคนส่งให้กันมันแสดงออกถึงความสุขที่ต่างฝ่ายต่างมีมันอยู่ในเวลานี้....






****1.1****


สวัสดีค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวกับนิยายเรื่องใหม่ด้วยนะคะ    :impress2: :impress2: :impress2:



หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..*(เปลี่ยนชื่อเรื่อง) ตอนที่ 1.2 [4-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 04-09-2018 22:26:12

ตอนที่ 1 เพื่อนใหม่ (2)












      สามสัปดาห์ผ่านไปแล้วที่เนมยังไม่ได้ทำงานประจำ แม้ว่า เนมจะถูกเรียกสัมภาษณ์จากบริษัทหลายแห่ง แต่บัดนี้ ยังไม่มีทีท่าว่าบริษัทไหนจะเรียกเข้าทำงานแต่อย่างใด


      คนที่รู้เรื่องราวความเคลื่อนไหวในชีวิตเนมอยู่ตลอดอย่างแม็ค จึงพยายามคอยดูแลไม่ห่างเหิน เพราะรู้ดีว่าการไม่มีงานทำหรือ 'ตกงาน' ย่อมส่งผลให้เครียดมากพอแล้ว แม็คจึงหากิจกรรมผ่อนคลายด้วยการพามาดื่มเบียร์ที่ร้านเหล้าคลายเครียด


   
     ทั้งสองเลือกมุมนั่งที่เป็นส่วนตัวหน่อย คือ ตรงบาร์ชิดเสาซึ่งหันหน้าออกไปทางริมถนน รับเมนูเครื่องดื่ม จากพนักงานก็สั่งเบียร์ทันที เนื่องจากมีเมนูอยู่ในใจเรียบร้อยแล้ว ไม่นาน เบียร์ดำกินเนสและเบียร์เบลเยี่ยมเลฟฟ์ บราวน์ถูกวางลงตรงโต๊ะ เนมและแม็คยกแก้วชนกัน ก่อนดื่ม


    เนมตกใจเมื่อแม็คกระดกเบียร์อึก-อึกเหมือนคนกระหายมันอย่างหนัก


    วางแก้วลง ยกหลังมือปาดริมฝีปากก่อนหันไปหา



"มีอะไรครับ?"


"แม็คดื่มเร็วมาก เดี๋ยวก็เมาหรอก"


"ไม่หรอก"


     มองคนหน้ายิ้มอยู่ดีๆก็เปลี่ยนเป็นหน้างจริงจัง


"พอมาที่แบบนี้ทีไร ผมก็รู้สึกแปลกๆทุกที"


"แปลกยังไง?"



"บอกไม่ถูก"


"....."


"เนมครับ ผมขอถามอะไรหน่อย ที่ผ่านมา เนมเคยเสียใจกับเหตุการณ์อะไรมากที่สุด?"


     มองคนที่ตั้งคำถามแบบไม่ได้โยงกับเรื่องก่อนหน้าก็นึกประหลาดใจ ก่อนจะนั่งนึกจริงจังก่อนตอบว่าที่ผ่านมา เนมก็มีเรื่องให้เสียใจเยอะเหมือนกัน แต่ที่ 'มากที่สุด' น่ะเหรอ? ก็คงจะเป็น...


"แม่กับพ่อเราตายพร้อมกันเพราะอุบัติเหตุ"


       แม็คมองหน้าเนมอยู่นาน ก่อนจะตอบ

         
"ผมไม่รู้ว่า พ่อแม่เนมเสียไปแล้ว เพราะเนมไม่เคยพูดถึง มีแต่พูดเรื่องของพี่สาว" คนที่เอ่ยอย่างตรงไปตรงมาทำให้เนมนิ่งไปนิดก่อนตอบ


"ถ้าไม่มีคนถาม เราก็ไม่อยากพูดถึง แล้วแม็คล่ะ เรื่องที่เสียใจมากที่สุดคืออะไร?"


      แม็คแค่นยิ้ม ถอนหายใจ แล้วยกแก้วเบียร์ดื่มหลายอึก ก่อนวางแล้วทอดสายตามองไปยังข้างหน้า


"แม่ผมตายด้วยเหตุที่ไม่สมควรจะตาย"



"เราเสียใจด้วยนะ"


"ครับ รู้ไหมว่าเวลาที่ผมนึกถึงการตายของแม่ทีไรก็เจ็บทุกครั้ง"



"ขอถามสาเหตุการตายได้ไหม?"


"แม่ผมฆ่าตัวตาย และพยายามฆ่าตัวตายมาตลอด เฮอะแล้วสุดท้ายก็ทำสำเร็จ"


"......"


"และวันนี้ก็เป็นวันครบรอบการตายของแม่ผมพอดี"



      มองคนที่ไม่หันหน้ามามองกัน แต่ก็ยังสัมผัสถึงรังสีแห่งความเจ็บ ทุกข์ทรมานได้ไม่ยาก เนมไม่รู้ว่าควรปลอบใจอย่างไร เจอทำได้เแค่ยื่นมือไปบีบบ่าแข็งแรงซ้ำๆ


"ผมขอโทษนะ แทนที่วันนี้จะได้พักผ่อนกลับชวนคุยเรื่องเครียด มาชนแก้วกันเถอะครับ" แม็คบอก พร้อมยกแก้วมาเพื่อจะชนกัน



"ไม่เป็นไร ถ้าพูดออกมาแล้วสบายใจ ก็ระบายออกมาเถอะ"



"แค่พูดไม่ทำให้ผมรู้สึกดีหรอกครับ ขอบคุณที่เนมห่วงผมนะ" หันไปส่งยิ้มให้คนที่วิตกกังวลแทนอย่างไม่อยากให้คิดมาก และแล้ว แก้วเบียร์ แก้วใหม่เริ่มเวียนมาวางแก้วแล้ว แก้วเล่า



     มึนพอประมาณ เนมก็ร้องขอกลับบ้าน แม็คไม่ขัด เรียกพนักงานมาจ่ายเงิน เมื่อจัดการเรื่องสตุ้ง สตางค์ เสร็จเรียบร้อย แม็คขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน โดยบอกเนมให้ยืนรออยู่ด้านนอก


     ราวสิบนาที


พลั่ก!


     คนที่มึนจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พอโดนผลักก็ล้มกันได้ง่ายๆ

 
"มึงแย่งเมียกู" 


     เนมนั่งกองกับพื้น เงยหน้ามองคนที่พูดเป็นตุเป็นตะ เขาไม่เคยมีแฟนเป็นผู้หญิงเลยสักคน เขาจะไปแย่ง เมีย จากคนอื่นมาได้ไง?


"เฮ้ย! จำผิดหรือเปล่า?"



"ไม่ผิดเว้ย มึงนั่นแหละ"



     ทันใดนั้น หนึ่งในเด็กวัยรุ่นสองคนก้มตัวลงมากระชากคอเสื้อเนมอย่างแรงให้ลุกขึ้นแล้วเหวี่ยงหมัดเข้าเบ้าหน้า เนมมึนเบลอ พยายามตั้งสติจะสู้กลับ กลับโดนผลักจนร่างกระเด็น แล้วเป็นแม็คที่แทรกเข้ามาต่อยแทน


     ดั่งเวทีมวยขนาดย่อม เนมวิ่งไปขอความช่วยเหลือกับพนักงานรักษาความปลอดภัยของทางโรงแรมที่อยู่ไม่ไกล


      พนักงานรีบวิ่งมาพร้อมตะโกนเสียงดัง ก่อนจะคว้ากระบองขึ้นมาฟาดลงกลางหลังคู่กรณีแล้วล็อคคอให้ทั้งสองแยกออกจากกัน เด็กวัยรุ่นที่โดนล็อคกลับสะบัดตัวสุดแรงแล้วสลัดหนี รีบวิ่งหนีไป


      เนมขอบคุณพนักงานรักษาความปลอดภัย ก่อนจะปรี่ไปหาแม็คที่ยืนจับหน้าตัวเอง ณ ตอนนี้ใบหน้าแม็คมีแต่รอยฟกช้ำ ดำเขียว

 
       เหตุการณ์ระทึก ทำให้เนมตาสว่าง สร่างในบัดดล


"แม็คกลับบ้านไหวไหม?" แม็คส่ายหน้า

   
"ผมไปทำแผลห้องเนมได้ไหม?"



     จะใจจืด ใจดำไม่ยอมให้นอนค้างที่ห้องก็กระไรอยู่ ในเมื่อ แม็คอุตส่าห์ยอมเจ็บตัวแทนด้วยการเอาตัวเองเข้ามาเสี่ยงแบบนี้ แถมอาการของเนมก็น้อยกว่าของแม็คหลายเท่า เพราะเขามีแค่รอยช้ำตรงโหนกแก้ม ผิดกับแม็ค ที่มีทั้งมุมปาก และแก้มทั้งสองข้าง


"อะเอ่อ..ได้"
     


      ประคองคนเจ็บกว่าไปเรียกแท็กซี่เพื่อเดินทางกลับห้อง


     เพราะการจราจรยามค่ำคืนโล่งและคล่องตัวกว่ากลางวันเป็นไหนๆ จึงใช้เวลาเดินทางไม่นาน รถแท็กซี่ที่แล่นฉิวก็ถึงที่หมาย เนมพยุงคนเจ็บมาถึงห้องจนได้


"ห้องเรารกหน่อยนะ" บอกก่อนเปิดประตู


"ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเข้าใจ"


    เมื่อถึงห้องแล้ว เนมเปิดสวิตซ์ไฟตรงผนัง พาแม็คไปนั่งรอที่โซฟาซึ่งอยู่ตรงข้ามกันเตียงนอนพอดี แล้วรีบก้มเก็บซากเสื้อผ้าที่อยู่ตรงพื้น กระจัดกระจายอยู่นอกตะกร้าผ้า


"รกจริงๆด้วย"


"โธ่ แม็ค อย่าแซวสิ"
ไม่คิดว่าแม็คจะกล้าแซวจึงหันไปจ้องตาแทบถลน

 
      จะขำยังทำได้ยากลำบาก แม็คได้แต่นั่งยิ้มมองคนรีบเก็บข้าวของให้เป็นระเบียบ โดยการยัดๆรวมกันไว้ตรงซอกใดซอกหนึ่ง


"แม็คไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวผมประคบแผลให้" ว่าแล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบผ้าขนหนูสีเทาที่เพิ่งซักสะอาดจนหอมกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่ม


"ขอบคุณนะ วันนี้ ผมขอรบกวนหน่อยนะเนม"


"ไม่เป็นไรครับ"
     


       หลังจากที่ทั้งคู่ใช้เวลาจัดการทำความสะอาดร่างกายจนสะอาดสะอ้าน ก็มานั่งแหมะที่โซฟาหันหน้าเข้าหากัน


       ห้องพักของเนมมีขนาดไม่ถึงร้อยตารางเมตร ไม่มีห้องแยก มีเพียงการจัดสรรปันส่วนแบ่งมุมอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น มุมครัวเล็กๆที่มีเพียงเตาแก็สไฟฟ้า ไมโครเวฟ มุมเครื่องซักผ้า มุมโซฟาขนาดย่อมที่อยู่ตรงข้ามกับเตียงนอน ทั้งหมด ทั้งมวลดูจะเป็นการใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วได้อย่างคุ้มค่า

 
      แม็คนั่งยิ้มเงียบๆ รอคนที่กำลังเตรียมจะประคบแผลให้


"ขอบคุณที่ช่วยเราจนตัวเองเจ็บขนาดนี้" เนมบอกจากใจจริง เพราะถ้ามีเรื่องชกต่อยชวนได้แผล? ใครอยากจะอาสาเจ็บตัวกันเล่า


"ไม่ช่วยได้ไง เนม คือ คนที่ผมชอบ"



     ระยะที่ใกล้กันมันชัดจนเห็นว่าอีกฝ่ายมองมาตาไม่กระพริบพร้อมกันน้ำเสียงอันหนักแน่นมั่นคงชวนใจสั่น


     เขาหลุบตาลงอย่างจนคำพูด ก่อนจะนำเจลประคบเย็นวางลงตรงมุมปากแช่ค้างไว้ และค่อยเปลี่ยนตำแหน่งไปวางตรงรอยช้ำส่วนอื่น


     ความเงียบในตอนนี้ ทำให้เนมมีเวลาได้ใช้ความคิดอยู่กับตัวเอง ซึ่งความคิดที่ว่าก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของเหตุการณ์ชวนตระหนก ตกตื่นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน


    การที่แม็คทำแบบนี้ ยิ่งทำให้เนมซาบซึ้งและอุ่นใจที่รู้ว่าการที่มีแม็คอยู่ข้างๆ มันทำให้เขารู้สึกดีที่มีใครสักคนพร้อมจะปกป้องเพื่อทำให้เนมปลอดภัย


     เมื่อความเงียบกำลังทำให้ทั้งคู่เกร็ง แม็คจึงเอื้อมไปจับมือข้างที่แม็คประคบไว้แล้วบอก


"ที่ผมยอมเจ็บ เพราะผมจริงจังกับเนมนะ"



"อะอื้มม เข้าใจแล้ว" ตอบอย่างยิ้มๆ และไม่คิดถามอะไรต่อ เพราะการที่แม็คพูดแบบนั้น ในความเห็นของเนม ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเร่งรัดให้เนมตอบตกลงคบกันเป็นแฟนเร็วๆ


     แม้ว่ารู้ใจตัวเองว่าก็ชอบแม็ค แต่ลึกๆแล้ว ก็ยังมีความกลัวและไม่มั่นใจในความสัมพันธ์หากขยับขั้นจากคนดูใจ กลายไปเป็นแฟน แล้วที่แม็คทำอยู่แบบนี้ มันจะยังเหมือนเดิมหรือเปล่า?


     จนกระทั่ง จัดการทำแผลให้เสร็จเรียบร้อย ก็เวลานอนของทั้งคู่ เนมมองโซฟาสลับกับเตียงไปมาและยืนนั่ง ฟากแม็คคงเห็นสายตาของเจ้าของห้อง จึงเอ่ย



"ผมนอนโซฟาได้"



"แม็คขายาว นอนทีขาก็เลยโซฟาแล้ว คงลำบาก ถ้างั้น แม็คนอนบนเตียงกับเราก็ได้"


"เนมจะรังเกียจไหม?"



"ทำไมพูดแบบนั้น เราจะรังเกียจคนที่ช่วยเราได้ไงล่ะ เพียงแต่เราจะบอกไว้ก่อนนะว่าเป็นคนนอนดิ้น เรากลัวจะดิ้นโดนแผลแม็คอะสิ"



"ไม่เป็นไรเรื่องแค่นี้ เดี๋ยวผมนอนกอดเนมไม่ให้ดิ้นเอง"



     เนมเงียบมองคนเจ็บตัวแต่ยังมิวายหยอดมุกหวานเสี่ยวให้ชวนเลี่ยนกันเล่นๆ


"ถ้ากอดแล้วเราดิ้นโดนแผล ก็อย่าบ่นว่าเจ็บแล้วกัน"



     คนสวนกลับกำลังปีนขึ้นเตียงด้วยความรู้สึกเก้ๆกังๆ เพราะเนมไม่เคยนอนกับผู้ชายที่พิเศษกว่าเพื่อนมาได้สามปีแล้ว

 
     เนมไม่รู้หรอกว่า แม็คจะรู้สึกอย่างไร แต่สำหรับเนมนั้น ตอนนี้ ใจเต้นอย่างรุนแรง


      และคนที่เพิ่งบอกแขกผู้มาเยือนว่าเป็นคนนอนดิ้น ยามนี้ นอนตัวแข็งทื่อ ไม่กระดิก เมื่อตอนนี้ คนที่เนมนึกว่าจะพูดเล่น กลับกอดรัดเขาซะแน่น...




....................................

นิยายเรื่องนี้ไม่ยาวนะคะ มาติดตามไปด้วยกันน้า :katai3: :katai3: :katai3: :katai3:
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ



   
หัวข้อ: Re: ||*..--+--..*หลง*..--+--..*|| ตอนที่ 1.2 [4-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 05-09-2018 07:35:03
ต้อนรับเรื่องใหม่คร้าบบ :pig2:
หัวข้อ: Re: ||*..--+--..*หลง*..--+--..*|| ตอนที่ 1.2 [4-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 05-09-2018 08:44:58
 :pig4: :pig4: :pig4:

แอบสงสัยว่า แม็คอาจหลบไปจ้างกลุ่มวัยรุ่นมาทำร้ายเนมเพื่อสร้างสถานการณ์ฮีโร่ก็เป็นได้  อิอิ
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* ตอนที่ 2 [6-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 06-09-2018 20:32:31
ตอนที่ 2 รักครั้งใหม่







"ถ้าไม่ติดว่า พ่อมีเรื่องด่วนจะคุย ผมคงไม่กลับ"



     สายของวันถัดมา ทั้งสองอยู่ที่ใต้คอนโดของเนม แม็คบ่นเสียดายที่ต้องกลับบ้านก่อนทั้งๆที่อยากอยู่นานกว่านี้



"แล้วพ่อจะตกใจไหม? หน้าแม็คมีแต่แผล"


"ไม่หรอก ผมมีวิธีบอก"


"ครับ โชคดีนะแม็ค"

"อื้ม"



     หลังจากที่ส่งแม็คเรียบร้อย เนมแวะซื้อข้าวกิน ก่อนจะเดินขึ้นห้องไป ในระหว่างนั้น เครื่องมือสื่อสารที่เนมกำไว้ในมือส่งเสียงร้อง เนมหยิบขึ้นมาดูก็อมยิ้ม


"ว่าไง เมย์"


[อยู่ห้องไหม?]


"อยู่"


[เออเดี๋ยวไปหานะ วันนี้ออกไปพบลูกค้า แต่คุยเสร็จไวแล้วว่าง]


"มาสิ แล้วไม่เข้าออฟฟิศแล้วหรอ?" เมย์ที่ทำงานเป็นเซลล์ขายจำพวกเครื่องมือแพทย์ ก็ว่าอย่างอารมณ์ดี



[ไม่แล้วล่ะ]


"เจอกัน"



       นัดกันเรียบร้อย ในระหว่างที่รอเพื่อน เนมก็นั่งกินข้าวอยู่ที่ห้องไปพลางๆ สักพักใหญ่ๆ เมย์ถึงโทรมา เนมจึงลงไปรับข้างล่าง



"เฮลลลโหลวววว มายแฟรนด์"



      มองหน้าเพื่อนเสียงดัง เล่นใหญ่ ก็ได้แต่ส่ายหน้าหน่ายๆ ก่อนจะเดินนำไปที่ลิฟต์



"เอ้ะ....เดี๋ยว ไอ้เนมหน้าแกไปโดนอะไรมา" เมื่อหยุดอยู่ตรงหน้าลิฟต์ รอกล่องสี่เหลี่ยมเคลื่อนลงจากที่สูง หญิงสาวยืนดักหน้าพลางชี้ไปที่แผล


"ไม่มีไรหรอก เมย์มาก็ดี มีเรื่องอยากปรึกษา"


     หญิงสาวจ้องมองไปยังนัยน์ตาเพื่อนสนิท ยื่นหน้าไปใกล้แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์


"พูดมาแบบนี้ มีไม่กี่เรื่อง ความรักชัวร์...ใช่ไหมล่ะ?"


     มองคนรู้ทัน ก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ พลางถูจมูกแก้เก้อ


"อืม"


"ใครอะ? หรือว่า ผู้ชายคนที่ฉันเห็นวันนั้น"


"อื้ม"



"นั่นไงว่าแล้วเชียว ทำไมฉันซื้อหวยไม่ถูกเนี่ย"


"....."



"ไหนเล่ามาซิ ไอ้เนม"


      เนมยังไม่บอก กะว่าจะให้ออกจากลิฟต์มาก่อน


ตึ้ง!

 
      จนกระทั่ง ประตูลิฟต์ถูกเปิดออก ทั้งสองก้าวออกมาจากกล่องสี่เหลี่ยม แล้วมุ่งหน้าไปยังห้องของชายหนุ่ม


      ขณะสาวเท้ายาวๆไปตามโถงทางเดิน




"แม็คชอบเรา แล้วเราก็รู้สึกดีกับแม็ค คือ ตัังแต่ที่เราเจอเขา เรารู้สึกดีมากอะ แม็คดีกับเราทุกอย่างเลย เรารู้สึกอุ่นใจ มีความสุขเวลาที่มีแม็คอยู่ข้างๆ และหลายครั้งที่ตกอยู่ในอันตราย แม็คก็ปกป้องเราได้ทุกครั้ง"


         ลอบมองคนที่เล่าเรื่องผู้ชายอีกคนเหมือนเป็นซูเปอร์ ฮีโร่ในดวงใจ แถมแววตาเป็นประกายก็ได้เแต่เบะปากพลางกลอกตาไป-มาอย่างนึกหมั่นไส้



"แหม...ไอ้เนมคำพูด-คำจาบวกแววตาหวานเชื่อมขนาดนี้ ท่าทางจะหลงเขาหัวปักหัวปำเลยนะนั่น"




"โธ่ อย่าประชดสิ ก็เราแพ้ความดีเขาอะ แถมเวลาแม็คบอกว่าชอบเราทีไร ใจสั่นทุกครั้งเลย"


"อ้าว...นี่ไงคำตอบ ก็รู้ใจตัวเอง และรู้ว่าเขาดี จะมาปรึกษาฉันเพื่อ?"


"ที่จะขอความเห็น คือ เมย์ว่ามันเร็วไปไหม? ถ้าเราจะเป็นแฟนกับเขา เราชอบคนง่ายไปหรือเปล่า? รู้จักกันไม่กี่เดือนเอง"
 


"ไอ้เนม...แกดูย้อนแย้งอะ ถ้าคิดว่าใช่ก็ลุยเลยค่ะ คุณเพื่อน จะกังวลอะไร? ของแบบนี้ไม่ได้อยู่ที่เวลาหรอก อยู่ที่การคุย ถูกชะตา ไลฟ์สไตล์ ฉันมีเคสของเพื่อนฉันจะเล่าให้ฟัง มันเจอแฟนตอนเล่นฟิตเนส ขอเบอร์-คุยกันแค่หนึ่งเดือนก็คบกัน มีเซ็กซ์กัน จนบัดนี้ ทั้งคู่คบมาเข้าปีที่สามแล้วค่า"


   
     เนมฟังอย่างตั้งใจ สาเหตุอยากขอความเห็นเพื่อนเพราะเนมก็ห่างเหินจากความสัมพันธ์ฉันท์คู่รักมานาน ที่สำคัญเรื่องรักของตัวเองก็อ่อนหัด เพราะปิดประตูหัวใจ ไม่ยอมเปิดรับใครเข้ามาได้สักพัก พอจะอ้าแขนรับคนใหม่ก็ต้องปรับตัวยกใหญ่เหมือนกัน



"......."

 
"ฉันว่าตอนนี้ แกมีคำตอบอยู่ในใจ แต่แกแค่ต้องการคำยืนยันจากใครสักคนว่าคำตอบของแกมันถูกต้อง"



"......."



"ของแบบนี้มันต้องลองเสี่ยงนะเนม ฉันไม่สามารถบอกได้หรอกว่าความรักครั้งนี้ของแกจะดีหรือไม่ดี มันเป็นเรื่องของอนาคต แต่ถ้าไม่ดี แกก็อย่าเสียใจ ให้คิดซะว่า เป็นบทเรียน ถ้าแกจะกลัวและกังวลไปซะทุกเรื่องแบบนี้ แกจะมีแฟนใหม่ได้เมื่อไหร่กัน"



    เนมนึกตามคำที่เมย์บอก มันก็เป็นความจริง ทั้งๆที่เนมเดินมาถึงกลางทางของความสัมพันธ์ เปิดโอกาสให้ทั้งสองได้ดูใจกัน แต่พอจะเปลี่ยนสถานะเป็นแฟน จู่ๆก็กลับกล้าๆกลัวๆขึ้นมาซะอย่างนั้น


"ขอบใจนะเมย์...เราจะลองกลับไปคิดดูแล้วกัน บางทีความสับสนมันอาจทำให้เรามองไม่เห็นความต้องการที่แท้จริง"


"ก็เข้าใจ แกโสดมานานแล้วไง อาจจะกลายเป็นกลัวการเริ่มต้นครั้งใหม่ ลองปล่อยไปตามสบาย อย่ากดดัน แล้วถ้าได้คำตอบที่แน่ชัดแล้ว ก็ลุยเลยเพื่อน"


"อืม"


"ไปๆ ออกไปข้างนอกกันดีกว่า ฉันเมาท์กับแกจนหิวข้าวแล้วนี่ ไปกินเมี่ยงปลาเผากันเดี๋ยวมื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง ต้อนรับคนที่กำลังจะมีสามีในเร็วๆนี้"


"ไอ้เมย์ กวนละ..."



"ฮ่าๆ"



       เนมดุเพื่อน ก่อนจะลุกไปคว้ากระเป๋าสตางค์พร้อมของสำคัญออกจากห้อง ทั้งๆที่ก่อนหน้า เพิ่งจะเข้ามานั่งพักเหนื่อยในห้องได้ไม่ถึงชั่วโมง











................





      สี่ทุ่มครึ่งแล้ว ที่เนมยังไม่นอน เพราะเขาเฝ้ารอใครบางคนโทรมาหา ยามนี้ได้กลายเป็นช่วงเวลาสำคัญที่แม็คและเนมต้องคุยโทรศัพท์กันทุกคืนเป็นกิจวัตร


     และเป็นไปตามคาด ข้างๆบนเตียง ที่เครื่องมือสื่อสารวางไว้ได้แผดเสียงร้องดังขึ้น คนที่นั่งจ้องหน้าจอมาเป็นสิบนาทีมีหรือจะรีรอ ชายหนุ่มรีบกดรับสาย



[สวัสดีครับเนม]



"อยู่ไหนหรอ?"



[ถึงบ้านนานแล้วครับ]


"แล้วแม็คเป็นไงบ้าง ยังเจ็บแผลอยู่ไหม?"


[ก็นิดหน่อย]



"อย่าลืมดูแลตัวเองแล้วประคบแผลด้วยนะ แม็ค"


[เนมเป็นห่วงผมเหรอ?]


"ใช่สิ"


[เนมก็ทำแผลให้ผมสิครับ แผลคงหายเร็วกว่านี้]  เนมยิ้มทั้งๆที่กัดริมฝีปากล่างกับคำคนที่ดูออกว่าอ้อน



"ก็ไม่ว่างเองนี่นา"


[แล้วถ้าไปหาตอนนี้ได้ไหมล่ะครับ?]


"ไม่ต้อง ดึกแล้ว"


[เห็นไหม? เนมก็ไม่ยอมให้ผมไปอยู่ดี กลัวผมจะทำอะไรเหรอ?]


"เปล่าสักหน่อย"


[แล้วคืนนี่เนมนอนหลับได้ด้วยเหรอ?]


   
     เอียงคอ พลางขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่เข้าใจกับคำถามของปลายสาย



"ทำไมจะนอนไม่ได้ล่ะ แม็คถามแปลกๆ"


[ก็คืนนี้ไม่มีคนให้กอดไง]



     ชะงักงันทันทีที่ได้ยินคนป้อนคำหวาน


     แค่คุยโทรศัพท์ยังนั่งอมยิ้ม ฟาดหมอนเล่นอยู่บนเตียงจนถ้าเป็นสิ่งมีชีวิตคงตายคามือไปแล้ว



"...."


[ที่เงียบ เพราะเป็นความจริงที่เถียงไม่ได้ใช่ไหม?]


"หลงตัวเอง"


[ฮ่าๆ ไม่ใช่แค่ผมหลงตัวเองหรอกมั้ง เนมก็หลงผมด้วยใช่ไหมครับ?]



"หยอดเก่ง" ทำทีเป็นว่าเขา แต่ฉีกยิ้มจนถึงใบหู



[ไม่เก่งหรอก แต่เนมแน่ใจนะครับ ว่าไม่ให้ผมไปหา]


"อื้มมมแน่ใจ มันดึกแล้ว"



[สำหรับผมดึกแค่ไหนก็ไปได้ ขอแค่เนมบอกมาว่าให้ไป ผมจะลุกจากเตียงไปหาทันที]


"อย่าเว่อร์น่าแม็ค"


[ไม่เว่อร์นะ พูดจริง เนมไม่รู้เหรอว่าคนที่กำลังมีความรัก ทำได้ทุกอย่าง]



"มุ่งมั่นจังเลยนะ"


[ใช่ ผมเป็นคนมุ่งมั่น ถ้าอยากได้อะไรก็ต้องได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม]


"สุดยอด"


[ถามอีกทีแน่ใจเหรอ? ว่าไม่ให้ผมไป ไม่มีคนกอด คงหนาวแย่] ได้ยินคนย้ำกับคำถามเดิมๆ ก็ยอมรับว่า ใจจะอ่อนปวกเปียกอยู่แล้ว


     อยากให้มาจะตาย แต่ก็ต้องวางฟอร์มสักเล็กน้อยก่อน


"ครับ มีอีกตั้งหลายวันที่เราจะได้เจอกัน"


[ก็ได้ครับ แล้วนี่เรื่องงานเป็นไงบ้าง? มีเอชอาร์โทรมาเรียกบ้างรึยัง?]


"เท่าที่ไปสัมภาษณ์มายังไม่มีที่ไหนเรียกเลย"


[ไม่ต้องกังวลนะ เดี๋ยวก็ได้]


"ขอบคุณนะแม็ค"


[แล้วว่างงานแบบนี้ เนมมีเงินใช้หรือเปล่า?]


"มีครับ"


[ไม่มีบอกผมนะ]


"จะให้เหรอ?" เนมหยอก


[ใช่]


"ใจป๋าจังแม็ค"



[ฮ่าๆ กับคนที่ผมชอบ อะไรก็ยอมหมดแหละ]



    เงียบฉี่ แต่หัวใจพองโตที่อีกฝ่ายพูดย้ำ ซ้ำๆว่าพร้อมทุ่มเทให้เขาแค่ไหน?


    เนมรู้สึกดี เพราะเขากำลังมีความหมายกับใครอีกคน



[เนมครับ ขอโทษนะ พรุ่งนี้ผมมีไปคุยงานกับพ่อแต่เช้า ขอนอนก่อน ฝันดีนะครับเนม]


"ได้ครับ เหมือนกันนะแม็ค"


[เดี๋ยว อย่าเพิ่งวาง]



      ทันใดนั้น


[จุ๊บ...]



     ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินเสียงจุ๊บ ตัวแทนของการจูบ ดังจากปลายสายทำให้คนที่ได้ยินชัดเจนเต็มหูใจสั่นวูบวาบ ขนอ่อนลุกชูชันและหน้าร้อนเห่อราวกับอยู่ห้องซาวน่า


       แม้จะเป็น ...จูบล่องหน...แต่เนมสัมผัสได้



"...."


[เนมได้ยินไหม?]


"อะอ่า...อื้ม"


[ฝากเป็นเสียงไปก่อนนะครับ สัมผัสจริงกำลังจะไปหาเร็วๆนี้]


     แม้จะวางสายแล้ว แต่ปฏิกิริยาดีใจอีกฝ่ายยังไม่หาย เนมคว่ำหน้าลงกับหมอน พร้อมดิ้นพล่านจนทั่วเตียง


"อ๊ากกก! แม็คนะแม็ค"



     ยามนี้ คนที่ร้างลาการมีแฟนมาสามปี กำลังกระดี๊กระด๋ากับห้วงแห่งการ 'ตกหลุม' ความหลงผู้ชายแสนดีคนนี้....



     ผู้ชายที่ทำให้เนมรู้สึกเหมือนตอนสิบสี่อีกครั้ง...







 
****1.1****

   หยอดเก่ง  ^^  :z1: :z1:
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่า
 
หัวข้อ: Re: ||*..--+--..*หลง*..--+--..*|| ตอนที่ 2 [6-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 07-09-2018 01:38:29
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ||*..--+--..*คนที่สาม*..--+--..*|| ตอนที่ 2.2 [8-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 08-09-2018 19:28:03
ตอนที่ 2 รักครั้งใหม่ (2)





"ขอบคุณนะที่มาส่ง"


"ครับ"




        ในเวลาแปดโมงครึ่ง



        เนมนั่งอยู่ในรถของแม็คที่อีกฝ่ายยอมแหกขี้ตาตื่นแต่เช้าเพื่อมาส่งเนมเข้างานกับการเริ่มทำงานที่ใหม่ในวันแรก หลังจากกว่าจะได้งาน ก็ผ่านไปแล้วสองสัปดาห์

   

       และนอกเหนือจากการได้งานใหม่ เนมยังพบกับรักครั้งใหม่ ที่เขาตัดสินใจตกลงคบเป็นแฟนกับแม็คได้ไม่กี่วันมานี้



"ไปแล้วนะ"

 

       บอกขณะจะลงรถ แม็คคว้าแขน

 

"หอมแก้มหน่อย"


 

     เนมยิ้ม โน้มตัวไปหา



ฟอด...

 

     คนได้หอมแก้มแฟนดั่งใจหวัง ผละออกแล้วจับไหล่อีกฝ่าย

 

"มีแฟนแล้ว ห้ามมองใครคนไหนเด็ดขาด"

 

"แต่ถ้าดูดีกว่าแม็คก็ไม่แน่นะ"
หยอกเอินแฟนตัวเองอย่างไม่คิดอะไร แต่ไม่คิดว่า...

 

เพี้ยะ!


"โอ้ย!"  หลุดร้องเสียงดัง เมื่อแม็คตบปากเนมเข้าอย่างจัง และเมื่อคนที่พลั้งมือได้สติรีบดึงเนมมากอด

 

"ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจนะ แค่กะจะเล่นด้วยเฉยๆ"

 


"ไม่เป็นไรแม็ค เราไม่โกรธ เราไปทำงานก่อนนะ" ว่าทั้งๆที่กุมปากตัวเองอยู่ ความแรงมันทำให้เนมแสบปากใช้ได้

 

"เลิกงานผมมารับนะ"
 

"ถ้าไม่สะดวกก็ไม่ต้องมา เรากลับเองได้"

 

"ไม่ได้ ผมต้องดูแลแฟนดีๆสิครับ อ้อ...เนมอย่าลืมทำตัวให้ว่างนะ ที่ผมเคยบอกไปว่าจะพาเนมไปเปิดตัวกับเพื่อน"


 

"อื้ม"

     พยักหน้ารับรู้ทุกคำบอก จากนั้น เนมก็ออกจากตัวรถเดินข้ามถนนเข้าบริษัทใหม่ในวันแรก...

 

 

 





 

...............

 

 

     สองสัปดาห์แล้วที่เนมทำงานที่ใหม่ ซึ่งผ่านไปด้วยดี เนมได้หัวหน้าเป็นรุ่นพี่ผู้หญิงอายุสามสิบกว่า เธอน่ารัก นิสัยดี เต็มใจสอนงานและใจดีมากๆ



    เรื่องการทำงานประจำ พี่ น้ำ เมย์ และแม็ครับรู้ความคืบหน้าอยู่ตลอด แหละเมื่อรู้ว่าเรื่องงานไม่มีอะไรให้น่าเป็นห่วง เนมจึงไปหาเพื่อนของแม็คได้อย่างคลายกังวล


     เมื่อใกล้ถึงที่หมาย เนมตื่นเต้นเหมือนกันเพราะไม่รู้ว่า หากเพื่อนแม็คเห็นเนมจะชอบหรืออยากเป็นมิตรกับเขาหรือเปล่า?

 
      สำหรับการที่แม็คพาเนมมาเปิดตัวกับเพื่อนๆ เขาไม่ได้ชวนไปนั่งร้านเหล้าแต่อย่างใดแต่กลับพามาปาร์ตี้เล็กๆที่บ้านของเพื่อนแม็คก็เท่านั้น




    ไม่นานรถยนต์คันงามก็ขับมาจอดเทียบข้างรั้วบ้าน ก่อนจะโทรหาให้เจ้าของบ้านมาเปิดประตู แม็คจูงมือเนมเดินไปโซนสนามหญ้าที่มีโต๊ะไม้กลมพร้อมเครื่องเคียงแกล้มเหล้าที่เพื่อนนำมาวางเรียงรายเต็มโต๊ะ



    แม็คและเนมนั่งข้างกัน ก้นยังไม่แตะเก้าอี้ ก็โดนเพื่อนเล่นทันที



"ไอ้แม็ค ที่พามาคราวก่อน ไม่ใช่คนนี้นี่"


"กวนตีน เดี๋ยวเนมคิดว่าเป็นเรื่องจริง"
แม็คด่าเพื่อนพลันเหลือบมองเนมที่นั่งยิ้มเจื่อน

 

"กูนึกว่ามึงหลงป่า...ห่า...มาช้ากว่าที่นัดไว้เป็นชั่วโมงเลยนะมึง" เพื่อนอีกคนว่า

 

"ช้านิดช้าหน่อยทำบ่น"

 

"มัวทำอะไรกันอยู่ล่ะ"
แม็คชูนิ้วกลางใส่เพื่อนที่พูดจาลงต่ำได้ตลอด

 

    มัวแต่เพลินกับการต่อปากต่อคำ จนลืมแนะนำให้ต่างฝ่ายได้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ

 

    ทั้งหมดที่นั่งรวมหัวกันอยู่ตอนนี้ คือ เพื่อนของแม็คสมัยเรียนมหาวิทยาลัยทั้งสิ้น


"เนมครับ นี่ไอ้เท็น ไอ้เป๊กแล้วก็ไอ้ตูนหรือเรียกมันว่า 'พี่การ์ตูน' ก็ได้ มันชอบ"



      บอกพร้อมผายมือแนะนำทีละคน แต่แอบแซวเพื่อนรักคนสุดท้ายที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ยามที่แนะนำเพื่อนในกลุ่มให้ผู้มาใหม่ได้รู้จักก็สนุกทุกครั้งที่ได้บอกชื่อเต็มของ ตูน ให้คนแปลกหน้าได้รู้



     ชื่อเล่น ที่แม็คล่วงรู้ความลับนี้มาจากปากแม่เพื่อน

 

"สัด"



      ตูนด่าอย่างไม่เกรงใจสมาชิกใหม่ ฟากเนมยิ้มขำ เพราะดันจินตนาการต่อถึงชื่อเล่นว่าหากใครได้ยิน คงจะนึกถึงคนน่ารักๆ สดใส แต่ความจริงกับสิ่งที่เห็นช่างสวนทาง ภาพลักษณ์ภายนอกของพี่ตูน ดูหล่อแบบผู้ชายเซอร์ เซอร์ หน้าคม คิ้วเข้ม คล้ายพระเอกเอ็มวีลูกรักของรูม 39 วงโปรดของเนมมากกว่า นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เนมหยุดขำไม่ได้ แต่แล้ว เนมต้องหุบปากฉับเมื่อพี่ตูนถลึงตาใส่


"สวัสดีครับพี่ๆ" เนมเรียกพี่ทุกคนเนื่องจากอายุมากกว่า แต่สำหรับแม็ค เจ้าตัวบอกไม่ต้องเรียกพี่ตั้งแต่ทีแรกแล้ว

     

"เนมคิดไงเลือกไอ้แม็คเป็นแฟน?" มาถึงก็พุ่งคำถามแบบตรงๆ จนเนมไม่ทันตั้งตัว เขายิ้มให้ก่อนถึงตอบ



"คิดดีแล้วครับ"


"วู้วววว...หวานเว้ยเฮ้ยยยย"



"รู้จักไอ้แม็คได้ไงครับ?" เท็นถามบ้าง เมื่อรู้ว่า เนมดูไม่หยิ่งเท่าไหร่

 

"แม็คมาช่วยผมตอนโดนโจรปล้นครับ"


"โห...ไอ้ตูนช่วยต่อยกูทีซิ ว่ากูฝันไปหรือเปล่า? กูไม่อยากจะเชื่อ คนอย่างไอ้แม็คเนี่ยนะจะเป็นพระเอกไปช่วยคนอื่น บอกกูมา มึงจ้างคนพวกนั้นเท่าไหร่?"
เป๊กกวนตีนเพื่อน จนแม็คปาถั่วลิสงใส่หน้า

 

"กูจ้างห้าหมื่น สัด...พอเลย...ไอ้เป๊ก พูดแบบนี้ช่วยเกรงใจคุณงาม ความดีในชีวิตกูด้วยครับเพื่อน"

 

"ตั้งแต่คบกันมา มึงมีด้วยหรือวะความดี กูหาแทบไม่เจอ"

 

"มึงจะพอไหมห้ะ? ไอ้เป๊ก"
ยกขวดวิสกี้ขึ้นสูง ทำท่าจะเขวี้ยง เป๊กกลั้นขำ ก่อนที่แม็คจะตอบ



"ทำไมครับ? ยกขวดอย่างนี้ จะรินเหล้าให้กูเหรอ?"


"เออ...จะได้หยุดพูด"






      เหมือนนั่งดูตลกคาเฟ่ที่มีคนส่งมุก-รับมุกอย่างรู้จังหวะ จะโคน ทำให้เนมลดความเกร็งลงได้บ้าง เพราะเพื่อนของแม็คกันเองจนทำให้เนมสบายใจเหมือนนั่งอยู่ในวงเหล้ากับพวกเพื่อนตัวเองอย่างไรอย่างนั้น



     นั่งหัวเราะมองแฟนทะเลาะกับเพื่อนแบบไม่จริงจัง จู่ๆ พี่เท็น ก็โพล่งพร้อมชูแก้ว





"มาๆ...มาฉลองให้ไอ้แม็คกับแฟนใหม่คนที่ร้อยห้าสิบของมันกันดีกว่า"

 

"เฮ้อ...พวกมึง พอเหอะ เดี๋ยวเนมคิดมาก"



"ห่วงจ๊าาางงง... กูจะเงียบต่อเมื่อเนมดื่มออน เดอะ ร็อก ต่อจากแก้วนี้"
เป๊กบอก



       แน่นอนว่า พอมีเด็กใหม่เข้ามาในวงสุรา การรับน้องจึงบังเกิด


"ได้ครับ" เนมตอบทันที



"มันต้องอย่างนี้สิวะ"


    แกร๊ง...!



     เสียงชนแก้วกระทบกันดังดั่งระฆัง จากนั้น ทุกคนยกแก้วขึ้นดื่มจนหมดแก้ว ก่อนที่เท็นจะตบโต๊ะเหมือนนึกอะไรขึ้นได้



"เฮ้ย! ตั้งวงแบบนี้ กูว่าเรามาเล่นเกมส์กันเถอะ"


"มึงนี่ขยันสรรหาเกมส์มาเล่นในวงเหล้าเนอะ ไอ้เท็น"

 

"อ้าวก็มีคนใหม่มา ต้องนำเสนอกันหน่อย เนมรู้ไหม? พวกพี่ชอบเล่นเกมส์กันมากๆ"


 

"น่าสนุกนะครับพี่"


"กติกา คือ ให้ใช้ตัวอักษรแรกของชื่อเล่นตัวเองในการตั้งคำถาม และถ้าคำตอบไหนโดนโหวตว่าถูกใจมากที่สุด คนชนะ คนนั้นเลือกส่งเหล้าออน เดอะ ร็อคให้ใครกินก็ได้"



"โห..."



       เป็นเกมส์ที่ดูน่าสนใจทีเดียว


"เริ่มที่กูเลยละกัน กู เท็น ขึ้นต้นด้วย ทอ.ทหาร คำถาม - ทำอาหารเป็นไหม? ขอถาม เนม"



"ทำเป็นบางอย่างครับ ตาผมถามใช่ไหม? เนม นอ.หนู คำถาม - น้ำตาไหลครั้งล่าสุดเมื่อไหร่? ขอถาม.......พี่ตูนครับ" 



      กำลังคิดอยู่ว่าจะถามใครดี? แต่พอสายตาปะทะเข้ากับพี่ตูนที่จ้องมองมาจึงเอ่ยชื่อคนนั้นทันที



       ฟากคนโดนถามนิ่งอย่างเห็นได้ชัด ก่อนตอบ


"เมื่อวาน"


"เรื่องอะไรหรอครับ?"
เรื่องชาวบ้าน คือ งานของเรา เนมถามกลับอย่างอยากรู้อย่างอยากเห็น

 

"หั่นหัวหอม"


"ฮ่าๆ...ไอ้เชี่ย มึงก็ตอบน้องดีๆหน่อยสิวะ"


"แล้วกูตอบไม่ดีตรงไหน? ก็ตรงกับสิ่งที่ถาม"



"พี่ตูนไม่ผิดหรอก แต่เมื่อวานพี่ตูนหั่นหัวหอมจริงๆหรือเปล่าล่ะครับ?"




   มองคนยอกย้อนก็ถอนหายใจแรง คราวนี้ตูนจึงตอบเรื่องจริง ไม่ใช่ เรื่องแกล้งกวนประสาท


"ห้าปีก่อน แล้วไม่ต้องถามนะว่าเพราะอะไร"
 

"โถ โถ ดราม่าซะพวกกูไม่กล้าเล่นด้วยเลย"

 

     แม็คเห็นเนมทำหน้าสงสัย ใคร่รู้ เหมือนอยากถามต่อ จึงกระซิบข้างหู

 

"ที่ไอ้ตูนพูด มันหมายถึงเรื่องของแฟนมันที่ตายไปเมื่อห้าปีก่อน"


 
     หันขวับไปหาคนกระซิบทันที จากนั้น เนมไม่กล้ามองหน้าพี่ตูนอีกเลย


"ตากูแล้วสิ ตอ.เต่า คำถาม - ตอนนี้ อยากทำอะไรที่ทำให้หัวใจเต้นแรงที่สุด? กูถามมึงอะ ไอ้แม็ค"

 

      ทุกคนทำหน้างงที่จู่ๆ แม็คยิ้มพลางดีดนิ้วดังเป๊าะ ก่อนบอก


"โป้ะเช้ะ!...ขอบใจมึงจริงๆ การ์ตูนที่โยนคำถามนี้มาให้กู คำตอบของกูคือ...."



     วางแขนพาดไหล่คนที่นั่งข้างๆแล้วตอบโดยหันไปมองหน้าแฟนตัวเอง


"อยากจูบเนมต่อหน้าพวกมึง"



กึก...

 

    ชะงัก ขนอ่อนลุกชูชันพร้อมๆกับใบหน้าที่ร้อนเห่อเริ่มลามไล้ไปทั่วลำคอและใบหู 



    การจูบต่อหน้าคนอื่นใครเล่าจะกล้า...

 
"จูบเลย จูบเลย"


      เป๊กชูกำปั้น แล้วตะโกน แรงเชียร์และสายตากดดันจากคนในกลุ่ม ทำให้แม็คหันไปหาเนม



"เพื่อนผมรบเร้าขนาดนี้ จะไม่ทำตามความต้องการมันหน่อยเหรอ?"



"แม็ค...แต่..."


      คนที่ไม่รอคำตอบเนมให้ชัดเจนเสียก่อน ก็จับปลายคางของเนมแล้วโน้มตัวไปประกบจูบริมฝีปากอีกฝ่าย

 

    จูบลึกซึ้งที่ใช้ปลายลิ้นอุ่นสอดเข้าภายในโพรงปากอีกฝ่าย ยังคงจูบจนเสียงดังจ๊วบจ๊าบ มันนานไปจนเนมตีอกแม็คให้หยุด หนุ่มหน้าตี๋ทิ้งท้ายด้วยการกัดริมฝีปากจนเนมหลุดร้องเสียงครางเพราะเจ็บ



    ผละมามองคนหน้าแดง ตัวแดง แล้วยกยิ้มร้ายกาจ ส่วนคนที่นั่งมองหนังสดได้แต่ผิวปากวี้ดวี้วกันยกใหญ่

 


"ไอ้แม็คแม่งซาดิสม์นี่หว่า โอ้ย กูทนดูไม่ได้"
เท็นแสร้งยกมือขึ้นมาปิดตา แต่กางนิ้วออกห่างซะขนาดนั้น


     แล้วจู่ๆ...


"กูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ" ตูนบอกเพื่อนๆ



"ไอ้ตูนถึงกับไปเข้าห้องน้ำเลยว่ะมึง ฮ่าๆ"
เป๊กแซวเพื่อนที่เดินลุกหนีไปแล้ว



"ไม่ต้องเล่นละ พอ กูขอโหวตให้ไอ้แม็คชนะ"

"กูด้วยๆ"



"เดี๋ยวกูมา"  คนที่ไม่ได้สนใจการโหวต แต่สนใจคนที่ลุกหนีไปมากกว่า

 

    ถัดมายังในห้องน้ำ คนที่ทำธุระตัวเองเสร็จเรียบร้อย เปิดประตูก็สะดุ้งเมื่อเห็นแม็คยืนกอดอกอยู่ข้างนอกประตู



"ยืนขวางประตูทำไม?"


"มาคุยกับมึง"


"อะไร?."


"มึงรู้จักเนมมาก่อนรึเปล่า?"

 
"เปล่า"
 

"แน่ใจ?"
 

"เออ...อะไรของมึงอีกวะ?"


 

"มึงนั่งจ้องแฟนกูตาไม่กระพริบ"

 


    คนโดนกล่าวหาชะงักไปนิดแล้วบอก

 
"กูก็มองทุกคน"


"แถ!...กูเห็นเต็มสองตา ถ้ามึงไม่รู้จักเนมมาก่อน มองแบบนี้ แสดงว่ามึงชอบเนม? ใช่ไหม?"

 

"พูดบ้าอะไร นั่นแฟนมึง กูจะชอบได้ไง"

 

"นั่นดิ มึงจะเหี้ยขนาดแย่งแฟนเพื่อนได้ยังไงล่ะ จริงไหม?"

 

"เออ...กูไม่ได้ชอบเนม" ตูนบอกเสียงหนักแน่น

 

"แล้วไป กูไม่มีอะไรคาใจละ" แม็คยิ้ม ตบหลังเพื่อนสองสามที ก่อนจะเข้าห้องน้ำแล้วปล่อยให้ตูนเดินออกไปข้างนอก


      เมื่อทุกคนกลับมานั่งกันจนครบ ก็รีบจับผู้แพ้ในเกมส์ นั่นคือ เนม ดื่มออน เดอะ ร็อก สามแก้วในเวลาไล่เลี่ยกัน

   
        เวลายังคงดำเนินไปเรื่อยๆ ท่ามกลางวงเหล้าที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ และความเฮฮาคละเคล้าไปกับการเผาเพื่อนเมามันส์กันอย่างสนุกปาก แต่น่าเสีย เพราะงานเลี้ยง ย่อมมีวันเลิกรา...



         ได้เวลากลับบ้าน และคนที่โดนรับน้องใหม่ ให้กินแต่เหล้าเพียวๆ มีหรือที่สติจะยังอยู่ครบ ยามนี้ เนมเมาจนนั่งโงนเงนเหมือนร่างไร้กระดูก แม็คเห็นแฟนตัวเองย่ำแย่จึงเตรียมตัวกลับบ้าน


"เฮ้ย...ฝากดูเนมหน่อย กูไปเข้าห้องน้ำก่อน" ไม่ได้ระบุชื่อเพื่อน แต่ดูเหมือนคนที่ต้องดูแลคงเป็น ตูน ไปโดยปริยาย เพราะเท็น กับเป็ก ก็สภาพแทบไม่ต่าง

 

      ตูนลุกจากที่นั่งของตัวเองไปนั่งใกล้เนม เปิดกระติกน้ำข้างๆที่มีผ้าเย็น แกะซองพลาสติกพร้อมดึงไหล่คนที่ฟุบหน้าลงกับโต๊ะให้ลุกขึ้นมานั่งดีๆ แต่ด้วยความเมาทำคนปกติ ไร้เรี่ยวแรงคอพับ คออ่อน เอนศรีษะไปพิงไหล่ตูนโดยอัตโนมัติ

 

"อื้มมมม แม็ค"


"นี่ตูน ไม่ใช่แม็ค"
บอกไปไม่รู้จะรู้เรื่องหรือเปล่า? ตูนใช้ผ้าเย็นเช็ดหน้าคนเมาอย่างเบามือหวังจะให้เนมสร่าง ตาสว่างได้บ้าง


    อาจเป็นเพราะได้รับความเย็นสดชื่นปฏิกิริยาอีกฝ่ายจึงตอบสนองขยับตัว ยุกยิก พลิกตัวแล้วโอบเอวตูนพลางซุกซบหน้าลงตรงซอกคอของคนที่เช็ดหน้า เช็ดคอให้


    ทุกลมหายใจอุ่นๆที่เข้าออกกำลังเป่ารดตรงซอกคอของตูน ทำคนที่นั่งเป็นดั่งเสาหลักให้พัก ลอบกลืนน้ำลายพลางข่มใจ ตูนนั่งตัวแข็งทื่อไม่ขยับ แล้วจู่ๆ มือหนาที่ควรต้องแงะแกะแขนเนมที่กอดเอวไว้ออก กลับวาดแขนหวังจะกอดกระชับกลับ
 

    และวินาทีนั้น....

 

"ไอ้ตูน ขอบใจที่ดูแลแฟนกู"


     ชะงักชักมือกลับ ก้มหน้ามองคนเมาพลางดันไหล่เนมให้ห่างออกจากตัว เพื่อส่งให้แม็ครับช่วงต่อ

 

"อืมไม่เป็นไร กลับบ้านดีๆล่ะมึง" ตูนพูด


"เออ"


 
      มองแผ่นหลังเพื่อนที่หามคนเมาอย่างทุลักทุเลเดินห่างจนไกลออกไปเรื่อยๆ ก็ลอบถอนหายใจออกมา ก่อนจะเรียกเท็นกับเป๊กให้รู้ความต้องการของตัวเองว่าจะขอตัวกลับบ้านบ้าง....




...............................

 
เอ๋!.....พี่ตูนนนนนน?  :hao4: :hao4: :hao4:   ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ...

หัวข้อ: Re: ||*..--+--..*หลง*..--+--..*|| ตอนที่ 2.2 [8-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 09-09-2018 08:26:44
 :pig4: :pig4: :pig4:

ขอวาร์ปอดีตพี่การ์ตูนหน่อยจิ
หัวข้อ: Re: ||*..--+--..*คนที่สาม*..--+--..*|| ตอนที่ 3 [12-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 12-09-2018 19:13:08
 
ตอนที่ 3 ปาฏิหารย์ไม่มีจริง (???)







      หลังจากเมื่อวาน มีคนเมาไม่รู้เรื่องรู้ราว ยามสายของวันถัดมา ชายหนุ่มผู้นั้นจึงต้องมาพำนักที่บ้านแฟนของเขา

 

     คนที่ยังงัวเงียปรือตาขึ้นมามองเพดานด้วยอาการปวดหัวตุ๊บๆ เนมหยัดกายขึ้นมานั่งยกสองมือกุมขมับ ก่อนจะรับรู้ได้ว่าเตียงนอนยวบไปตามน้ำหนักของตัวคนอยู่ข้างๆ



"ไหวไหม?"



"นี่เราอยู่บ้านแม็คหรอ?"


 

"ใช่สิ เมื่อคืนเนมเมามาก"

 

"เราอยากอาบน้ำ ขอผ้าขนหนูหน่อยสิ"
  เสียงแหบแห้งบอกอย่างหมดแรง

 

"ได้ คืนนี้ เนมนอนบ้านผมเลยแล้วกันนะ" คนมัดมือชกลุกขึ้นไปหาเสื้อผ้าพร้อมผ้าเช็ดตัวที่ตู้เสื้อผ้าและเดินกลับมายื่นให้เนม

 

"ได้ครับ"

 

"ผมซื้อโจ๊กไว้ อุ่นเรียบร้อยแล้ว ถ้าแต่งตัวเสร็จลงไปข้างล่างเลยนะ"




"ครับ"





      ยืนนิ่งอยู่ในห้องน้ำอยู่นาน กว่าจะจัดการธุระตัวเองเสร็จ เนมสมองโล่งและร่างกายสดชื่นกว่าเดิมเมื่อได้สายน้ำเย็นๆชะโลมร่างกายพร้อมอาเจียนของเก่าออกมาด้วย



      แต่งตัวเรียบร้อยก็เดินลงไปหาแม็คข้างล่าง เห็นเจ้าของบ้านนั่งรออยู่ที่โซฟา ก่อนจะลุกไปที่โต๊ะอาหาร และชี้ถ้วยโจ๊กที่ครอบอยู่ในฝาชี



       เนมนั่งตักโจ๊กเข้าปากทีละคำ ทีละคำ คนที่นั่งมองเนมตักได้ช้าผิดปกติ จึงอาสาป้อนให้



"ถ้าไม่ไหว ก็ดื่มน้ำเยอะๆ แล้วนอนก่อน"


"ครับ"




       กว่าจะละเลียดโจ๊กได้เล่นกินเวลานานพอสมควร เมื่อกินข้าวเสร็จ เนมดื่มน้ำตามเยอะๆ หวังไล่แอลกอฮอล์ในร่างกายออกไปได้บ้าง



       ทั้งสองเดินไปนั่งที่โซฟาเบด แม็คยื่นยาดมให้เนมได้สูดดม ก่อนจะจับศรีษะของคนข้างๆให้มาเอนพิงไหล่กัน และเปิดโทรทัศน์จอใหญ่ เข้าสู่หมวดภาพยนตร์



"แม็คก็ดูเน็ตฟลิกซ์ด้วยหรอ?"



"ใช่"



"ตอนนี้ แม็คดูเรื่องอะไรอยู่?"

 
"สเตรนเจอร์ ทิงส์ ตอนนี้ดูถึงซีซั่นสองแล้ว"



"เห็นโปรโมตอยู่เหมือนกัน สนุกไหม? ตอนนี้เราติด 13 Reasons Why เพิ่งจะดูซีซั่นแรกจบ ซีซั่นสองกะทิ้งช่วงไปหน่อย ไม่ไหวดูแล้วหน่วงเกิน"

 

"ลองดูสเตรนเจอร์ ทิงส์ซีซั่นแรกก่อนสิ เป็นแนวสยองขวัญก็จริงแต่ผมว่าไม่หน่วงเท่าเรื่องที่เนมดูมากหรอก"



" สงสัยคงต้องลองดู"



"เนมจะนอนก่อนก็ได้นะคะ ผมอยากดูเรื่องนี้ไม่ดูมานานแล้ว"



"เรื่องไรหรอ?"



"ดาวน์ออฟเดอะเดธ"



"อ้อ หนังซอมบี้นี่ เก่าแล้วนะ แต่เราก็ชอบเหมือนกัน"



"อืม...หนังแนวนี้ มีไอ้ตูนที่คลั่งพอกัน ลองถามมันสิ มันดูหมด"



"อื้ม"

     


       เนมเงียบ เมื่อภาพยนตร์เรื่อง Dawn of the Dead เข้าสู่ฉากเริ่มเรื่องที่คุณหมอคุยโทรศัพท์ในโรงพยาบาล


       เวลาผ่านไปจากคนที่นอนพิงไหล่ เลื้อยไถลตัวมานอนหนุนตักแม็คและผล็อยหลับไป



      หลังจากที่นอนเต็มอิ่มลากยาวไปสี่ชั่วโมงรวด ร่างกายก็ดีขึ้นเหมือนได้ชาร์จพลังกลับมากระปรี้กระเปร่าอีกครั้ง 


      เนมกวาดตามองทั่วบริเวณไม่เห็นแม็คจึงลุกขึ้นเดินไปชั้นสองเห็นแม็คนอนคุยโทรศัพท์อยู่บนเตียง พอเห็นเนมเจ้าตัวรีบวางสาย และเอ่บปากชวนเนมออกไปหาข้าวเย็นกินข้างนอก


       เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ แป๊ปๆก็หมดวัน ยามนี้ ก็ปาไปสองทุ่มที่เนมกับแม็คเพิ่งเดินทางกลับถึงบ้านหลังจากตระเวนไปหาข้าวกินข้างนอก


       ทั้งสองกลับมาอาบน้ำ เตรียมนอน เพราะพรุ่งนี้ เนมไปทำงาน ส่วนแม็คก็มีไปคุยงานแต่เช้า


        เสร็จธุระทั้งคู่ ขึ้นเตียงเตรียมเข้าสู่นิทรา แต่ทว่า ไม่นานมากนัก คนเคลิ้มใกล้หลับกลับลืมตาเมื่อพบว่ามือหนาของคนข้างกายลวนลามไล้ไล่มายังแก่นกลางลำตัว



“แม็คทำอะไรอะ?”

 
“เราก็เป็นแฟนกันแล้ว"
สายตาและคำพูดของแม็คบ่งบอกชัดเจน

 

“แม็คหมายความว่า.....”

 

“ได้ไหมเนม?”


 

“คือ....”


“ผมต้องการจริงๆ ผมไม่คิดว่าพอเราได้อยู่กันสองต่อสองแบบนี้ ผมจะทนไม่ไหว ผมรักเนมนะ แต่ถ้าเนมไม่ให้..."


"อืมได้"


 

       เนมรักแม็คจริงๆ ยามนี้ เขาจึงตอบตกลง เพียงเท่านั้น คนที่เพิ่งขอและนอนข้างกันเมื่อสักครู่ กลับกระโดดขึ้นคร่อมร่างเนมอย่างไว แล้วจับแขนเนมทั้งสองข้างตรึงไว้เหนือศรีษะ


        แม็คซุกไซ้ซอกคอเล้าโลมเพื่อกระตุ้นอารมณ์ จนเนมยอมรับว่าอีกฝ่ายปฎิบัติได้ถูกใจ ถูกจุดจนน้องชายของเนมก็ตื่นตัวตามสัมผัส


        ไม่ถึงสิบนาทีที่ช่วงล่างของสองคนไม่เหลือผ้าปกปิด เหลือเสื้อยืดที่สวมใส่เท่านั้น เนมที่นอนหงาย แยกปลายขาทั้งสองข้างออกกว้าง ขณะที่คนคร่อมทับอยู่ด้านบน กำลังใช้ปลายนิ้วยาวสอดเข้า สอดออกจากช่องทางคับแคบเพื่อขยายทางให้ร่วมรักกันได้ไม่ติดขัด


        ยามนี้ เนมรู้สึกแปลกประหลาด เจ็บวูบวาบอย่างบอกไม่ถูกที่นิ้วเสียดสีภายในร่างกายของเขา


        คนเคลิบเคลิ้มสะดุดกึก เมื่อคนด้านบนดึงนิ้วออกแล้วยัดแก่นกายเข้ามาแทนที่พร้อมจับสะโพกเอาไว้แน่น ดวงตาที่เคยอ่อนโยน ยามนี้ เต็มไปด้วยความดิบเถื่อนที่เนมไม่เคยเห็นมาก่อน



       แม็คไม่มีถามเนมก่อนเลยว่าพร้อมไหม? เขาแค่ทำตามใจตัวเองเท่านั้น

 
“อ้ะ...อ้ะแม็ค เราเจ็บ”


        ดูเหมือนว่า การพูดความรู้สึกตัวเองจะไม่ช่วยอะไร เพราะแม็คไม่ฟังกันอยู่ดี ยังคงกระทุ้ง กระแทก กระทั้นอย่างไม่มีออมแรง

 
         เขาเจ็บจนบีบหัวไหล่แม็คอย่างแรง ฟากแม็คครางเสียงต่ำ ใบหน้าชื้นเหงื่อมองเนมด้วยแววตาอ่านไม่ออก จากนั้น แม็คเพิ่มระดับความแรงและเร็วจนคนใต้ร่างเริ่มไม่ไหว



          เนมตีอกและย้ำบอกแม็คหลายที จนแม็คผ่อนความแรง โน้มตัวลงต่ำแล้วกัดเข้าที่ลาดไหล่อย่างแรง


  “โอ้ย...แม็ค”


        เนมร้องดังลั่น เมื่อคนที่ร่วมรักกับเขา ไม่ถนอมกัน ใช้ฟันคมขบกัดตรงหัวไหล่ ลำคอซ้ำๆ

 

        นาทีนี้ เสียงที่ร้องกำลังบ่งบอกความรู้สึกหลายแบบคละเคล้ากัน ทั้ง ความสุข ความเจ็บประสานไปกับเสียงของขาเตียงที่กระแทกพื้นเป็นจังหวะหนักๆ ขณะที่ต่างฝ่ายต่างรับรสราคะผสานอารมณ์วาบหวามของกันและกันอย่างหนักหน่วง ก่อนที่...

 

         พรวด...

 

         ทั้งสองปลดปล่อยความต้องการออกมาก่อนเนม และล้มตัวลงนอนทับอยู่บนตัวเนม ออกมาพร้อมกับเสียงหอบหายใจ

 

“โคตรมันส์ ขอบคุณนะเนม”


“อะอื้ม”
เนมบอกเสียงแผ่วในขณะที่หางตามีหยาดน้ำใสไหลออกมา...

 

         เป็นการมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งที่เจ็บและทรมาน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเนมก็มีความสุขมากเหมือนกันที่ได้ร่วมรักกับคนที่เนมรักที่สุดในตอนนี้....




...................




        และแล้ว การสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนแม็คได้เวียนมาบรรจบพบเจออีกครั้ง เนื่องจากกลุ่มของแม็คตั้งกฏไว้ว่า ต้องหาเวลามาดื่มเพื่อเจอกันเดือนละครั้ง โดยหมุนเวียนไปบ้านเพื่อนของแต่ละคน ซึ่งคราวก่อนไปบ้านพี่เป๊ก คราวนี้จึงมาลงเอยที่บ้านของแม็ค



        ยามนี้ เนมและแม็คเพิ่งกลับมาจากการไปหาซื้อขนม นม เนย กับแกล้มพร้อมเบียร์ที่ซูเปอร์มาร์เก็ต



        พอถึงเวลานัด เพื่อนๆของแม็คทะยอยกันมา


"เดี๋ยวนี้ตัวติดกันเว้ย"


       เท็นแซวคู่ข้าวใหม่ปลามันที่แสดงออกอย่างเห็นได้ชัด แล้วดูท่าน่าจะจริงอย่างที่คนอื่นหยอกล้อ เพราะตอนนี้ เนมหลงแม็คอย่างหนักถึงกับขึ้นหอบผ้า หอบผ่อนมาสิงสถิตย์ที่บ้านแม็คเป็นที่เรียบร้อย

 

"อิจฉาก็บอก" หันหลังไปมองเพื่อนขณะที่มือกอดคอเนมแน่น
 

"เหอะ!"
     

       ก้าวยาวมาถึงตัวบ้าน ตำแหน่งในการตั้งวงเหล้า คือ โซนรับแขกที่มีโซฟาเบดรูปตัวแอลพร้อมโต๊ะกลางไว้วางของ



       ทุกคนทำหน้าที่ตัวเองกันไป แต่ดูเหมือนแม็ค เมื่อเห็นว่าไร้คนอยู่ตรงนี้ รีบรั้งคอเนมมาจูบดูดดื่มอย่างคนกระหาย



"อะแฮ่ม อะแฮ่ม" คนที่เดินไปหยิบน้ำแข็งประเดี๋ยวเดียว จงใจกระแอมไอเสียงดัง เมื่อกลับมาก็เห็นคนที่นัวเนียกันอย่างเปิดเผย



       ทั้งสองรีบผละก็เห็นสายตาล้อเลียนจนแม็คบอกเนม


"ไปช่วยไอ้ตูนในครัวปะ..."


"ครับ"



      รับคำสั่งอย่างว่าง่ายเดินไปที่ห้องครัวและหยุดยืนข้างๆคนที่ง่วนแกะซองถั่ว
 

      ชายผู้มาใหม่วางมือลงบนเคาน์เตอร์ เอียงหน้าถาม

 

"พี่ตูนมีอะไรให้ผมช่วยไหม?"

 
"ช่วยไปซื้อขนมหวานที่เยาวราชให้หน่อยดิ"



"พี่ตูน พูดจริง-พูดเล่นเนี่ย"


"เอ้า!...พูดจริง บอกอยากช่วย..."


"พี่ตูน เอาดีๆสิ ผมเชื่อจริงนะเนี่ย"



"ฮ่าๆ"



     เห็นแฟนเพื่อนทำหน้ามุ่ยก็นึกขำ คนผุดรอยยิ้มก่อนหน้ากลับลดลง เมื่อสายตาดันซุกซนไปเผลอเห็นรอยจ้ำและรอยฟันตรงแถวไหปลาร้าที่ดูจางลง ตูนวกสายตากลับมายังจานใส่ถั่วตรงหน้า

 

"ตอนนี้รู้ละ ช่วยอะไร ช่วยไปไกลๆหน่อย ไม่มีสมาธิแกะซองอัลมอนด์"

 


       มองคนที่ฉีกซองเทอัลมอนด์ได้แต่ฉงน อะไรกัน? ต้องใช้สมาธิขนาดนั้นเลยหรือไง?

 

"โห่ รำคาญผมหรอ? ถึงกับไล่ผมเนี่ย"


"พูดมาก ไปได้แล้วน่า"

 

         หลังดุเบาๆ ได้ยินคนบ่นงึมงำคนเดียวก่อนจะเดินหายไป ทิ้งให้ตูนยืนยิ้มมุมปากลำพัง




         ช่วยกันเสร็จเรียบร้อยก็กลับมานั่งสังสรรค์แบบไม่มีพิธีรีตรอง

 

"วันนี้มีเกมส์มาเล่นอีกแล้วครับ"



      ทุกคนถึงกับส่ายหน้าขำ เมื่อนั่งดื่มเบียร์กันผ่านไปแค่สองขวดเล็ก เท็นก็โพล่งขึ้น


"เท็นเจ้าพ่อเกมส์แห่งวงเหล้ามาแล้ว"

 

"วันนี้ ขอเสนอ เกมส์ต่อเพลง"

 

"กูไม่เล่นนะ ร้องไม่เพราะ"
ตูนบอกทันควัน
 

"เดี๋ยวๆ...แค่ต่อเพลงขำๆไม่ต้องร้องเพลงเพราะก็ได้มั้ง แล้วแหม...ทำเป็นถ่อมตัว ไอ้ตูน ได้ข่าวงานแต่งพี่ชายมึง ไม่ใช่มึงหรอกหรอที่ขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีจนสาวกรี๊ดเกรียวกราวน่ะ"


 
"ถึงไม่ร้อง สาวก็กรี้ดนะ"

"จ้า เอาที่มึงสบายใจเลยจ้า ไอ้การ์ตูน"


 
      ตูนยักไหล่ ไม่สนใจ


"เออๆจะเล่นก็เล่น แล้วบทลงโทษคืออะไรวะ?" แม็คว่า เพราะเป็นเกมส์ที่ทุกคนรู้กติกากันเป็นอย่างดี



"บทลงโทษ คือ คนแพ้ต้องยอมทำอะไรแผลงๆตามคนสั่ง แต่คนที่มีสิทธิ์สั่งนั้น ห้ามสั่งให้กินสัตว์ที่ยังไม่ตาย และอย่าอันตรายถึงชีวิต"


"ทำไมพวกพี่ เถื่อนกันจัง"
การต่อเพลงน่ะเคยเล่นอยู่หรอก แต่การบอกว่ามีบทลงโทษเล่นอะไรแผลงๆ ได้ยินแล้วกลัวใจยังไงชอบกล


"ฮ่าๆ...เนมอยู่ไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็ชิน ไม่นาน เนมอาจจะเถื่อนกว่าพวกพี่ก็ได้นะ"

"เหอะๆ"

 

"ใครเริ่มก่อนดี"

 
"กู เพราะกูไม่ค่อยสันทัดการหาเพลงเท่าไหร่"
แม็คบอก

 
"ถ้างั้นคนต่อไป คือเนม เวียนจากด้านขวาไปเลยละกัน"

 

      ทุกคนเออออ จากนั้น แม็คประเดิมด้วยบทเพลง...

 

"คืนที่ดาวเต็มฟ้า ฉันจินตนาการเป็นภาพเธอ ธอ.ธง"

 


       พอแม็คร้องจบหันมาหา เนมชะงัก เพราะยังนึกไม่ออก จนกระทั่ง...


"เธอ คนที่ดีพร้อม วันนี้เธอยอมทุกอย่างเพื่อฉัน ฉันคนที่ช่างฝัน รู้เพียงว่าฉันโชคดีเหลือใคร คอ.ควายครับ"

 

"ใช้ได้นะเนมอะ"
เนมยิ้มกว้างที่พี่เท็นชม เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก ที่ไม่โดนลงโทษแบบพิเรนทร์ พิเรนทร์



     จากนั้น เป็นเท็นที่ร้องต่อ


"คนขี้เหงาคนหนึ่ง นั้นรอใครสักคนเข้าใจ มาเป็นเพื่อนดูหนัง นอหนู. เฮ้อ!รอดแล้วกู"

 

     ดูเหมือนว่า มันจะเป็นความสนุกปนความกดดันซะแล้ว เพราะถ้าแพ้นั้น การเล่นแผลงๆที่ว่ามันจะน่ากลัวขนาดไหน?

 

     ทุกคนจดจ้องไปที่พี่ตูน เนมก็อยากรู้เหมือนกันว่าที่พวกพี่ๆบอกว่าพี่ตูนร้องเพลงเพราะนั้น...จะเพราะแค่ไหนกันเชียว?


"น่าจะเจอกันมาตั้งนาน ก่อนที่เธอจะเป็นของใคร อยากให้มันมีปาฏิหารย์ให้ตัวฉันย้อนเวลากลับไป จะไม่ยอมให้เราพรากกัน ฉันคงจะพบรักเธอก่อนใคร...."

 

       เสียงทุ้ม นุ่มนวลเป็นธรรมชาติชวนเคลิบเคลิ้ม ราวกับมีเวทมนตร์สะกดให้เนมนั่งฟังอย่างตั้งใจ


       ขณะที่ร้อง พี่ตูนใส่อินเนอร์เต็มที่ทำเหมือนว่าเขาได้เป็นส่วนหนึ่งในบทเพลงนั้นๆ



"...พบกันสายไป มันน่าเสียดาย...ปาฏิหารย์ไม่มีจริง..."



      ยังคงจ้องคนที่ถ่ายทอดและสื่ออารมณ์ออกมาได้ดี จนเนมไม่สามารถละสายตาไปที่อื่นได้เลย และจังหวะที่พี่ตูนร้องจบเขาหันมาทางเนม คนโดนมองอยู่จึงส่งยิ้มให้เป็นการแสดงความชื่นชม


"ขนลุก พี่ตูนร้องเพลงโคตรเพราะอะ"


"ขอบใจ"


     ตอบพร้อมจุดรอยยิ้มมุมปาก แต่ทำไมเนมถึงรู้สึกว่า รอยยิ้มนั้นช่างละมุนละไมเหลือเกิน



****1.1****



เอาใจช่วยใครดีนะ ระหว่างพี่แม็คและพี่การ์ตูนนนนนนน ^^ :mew6: :mew6: :hao4: :hao4:


หัวข้อ: Re: ||*..--+--..*หลง*..--+--..*|| เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 3 [12-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 12-09-2018 22:43:03
 :pig4: :pig4: :pig4:

อ้าวววว  ยังไงเนี่ย   พี่การ์ตูนร้องเพลงปาฏิหาริย์ให้ใครเอ่ย?

ระหว่าง  ร้องให้แม็ค กับร้องให้เนม?
หัวข้อ: Re: ||*..--+--..*หลง*..--+--..*|| เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 3 [12-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 13-09-2018 07:52:43
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2:
หัวข้อ: Re: ||*..--+--..*หลง*..--+--..*|| เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 3 [12-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 13-09-2018 11:25:18
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ||*..--+--..*หลง*..--+--..*|| เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 3 [12-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: สีหราช ที่ 13-09-2018 20:06:53
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..*เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 3.2 [13-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 13-09-2018 22:49:07
ตอนที่ 3 ปาฏิหารย์ไม่มีจริง (???) (2)








"แหม...คนอื่นเขาร้องแค่ประโยค...สองประโยค มึงนี่แม่งร้องซะจบท่อนฮุก คิดว่าร้องคาราโอเกะอยู่รึไง?"



"ทำบ่น กูร้องเพราะอะดิ เลยหมั่นไส้?"

 

"โอโห มั่นหน้ามากมึง"
เป๊กเบะปากใส่เพื่อน ก่อนจะพูดต่อ

 

"พอ...กูจะร้องเพลง..จอ.จานใช่ไหม? กูนึกออกแล้ว จากวันนี้จะมีเรา เราและนาย จดจำไว้ตลอดไปไม่ทิ้งกัน"

 

"เลือกเพลงทิ้งท้ายได้สวยงาม ซึ้งจนกูจะร้องไห้...นึกว่างานเลี้ยงรุ่น"
เท็นกระแนะกระแหน

 

 

    เนมขำที่พวกเพื่อนเแม็ค แขวะกันไป-มา แต่ก็รู้ดีว่า พวกพี่ๆเขาแค่ต้องการสร้างสีสันให้สนุกกันในวงเหล้าเฉยๆ


 

"โหรอบแรกยังไม่มีใครโดนเลยว่ะ ต้องหาคนโดนให้ได้ ตามึงแล้วไอ้แม็ค ต่อเลย กอ.ไก่"



      คนที่ไม่ค่อยรู้จักเพลงมากเท่าไหร่ ก็ขอยอมแพ้

 

"นึกไม่ออกว่ะ กูยอม"
 

"โอเค ใครจะเป็นคนลงโทษไอ้แม็ค"

 
"กู"
ตูนบอก

 

"ให้มึงแดกน้ำปลาผสมซอสพริกห้าช้อนโต๊ะ"


"ไอ้สัด ตูน"



"มึงไม่มีสิทธิ์เรียกร้องนะครับ นี่โคตรเบาเลยเหอะ รึมึงจะกินขี้กู?"


 

"สัด"




    แม็คทำหน้าไม่พอใจ ลุกไปหยิบส่วนผสมมาเรียบร้อย เทน้ำปลาและซอสพริกใส่ถ้วยเล็ก คนไปเรื่อยๆจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกันแล้วตักเข้าปาก

 

"เชี่ยเอ้ย จะอ้วก... อย่าให้มึงแพ้นะไอ้ตูน"
คนว่า ตาแดง หน้าแดง รีบกระดกน้ำเปล่าเกือบหมดขวด ฟากเนมเห็นหน้าแฟนตัวเองแล้วสงสาร จึงยกมือลูบหลัง ลูบไหล่ซ้ำๆ


 

    เมื่อแม็คร้องไม่ได้ ตัวอักษรนั้น จึงต้องตกมาอยู่ที่คนถัดไปซึ่งนั่น ก็คือ เนม


 

"ก่อนท้องฟ้าจะสดใส ก่อนความอบอุ่นของไอแดด ก่อนดอกไม้จะผลิบาน บอ.ใบไม้ครับ"

 

"เฮ้ย...เนมเก่งว่ะ ใช้ได้นะเนี่ย"

 

"ขอบคุณครับพี่"


 

     ถึงตาเท็นนั่งนึกสักพัก ก่อนจะยกยิ้มเหมือนผู้ชนะ

 

"บอกตัวเองว่าเราต้องลืมเรื่องราวที่ผ่าน แม้ความจริงต้องทรมาน มอ.ม้า"

 

"ไอ้เท็นมึงร้องยาวกว่านี้อีกสักท่อนไม่ได้หรอวะ?  'และไม่มีวันไหน ไม่คิดถึงเธอ' เนี่ย ถ้าลงตัว ธอ.ธง กูร้องได้เลยนะ"

 

"อ้าว...ถ้ากูเลือกตัวง่ายจะไปสนุกอะไรล่ะ?"

 


     ตูนลอบถอนหายใจ ก่อนยอมรับความจริง

 

 "ไม่ได้ว่ะ ยอม"

 

      และทันใดนั้น คนที่นึกออกก็อยากช่วย เนมยกมือขึ้น

 

"พี่ตูนครับ ผมนึกออก เอาไปร้องสิ มองเธอสาวเธอสวย ฉันจึงได้มอง"

 

"ขอบใจมากน้องเนม กูเอาเพลงที่เนมร้องนั่นแหละ ตามึงไอ้เป๊ก"

 

"ไม่ได้ เนมนึกเอง ไม่ใช่มึง"

 

"เอ้าอะไรวะแม่ง ยอมก็ยอม"

 

      ขณะที่เท็นกำลังจะอ้าปากถามว่าใครจะเป็นคนสั่งลงโทษ แม็คยกยิ้มร้ายกาจและรีบโพล่ง

 

"กูขอเป็นคนสั่งไอ้ตูน"

 

"มึงจะเอาคืนกู? ได้...จะให้กูแดกอะไร?"

 

"จูบเนม"

 

"...."

 

"จากนั้น กูจะให้เนมลูบของมึงจนมึงมีอารมณ์"

 

"...."

 

    คนแพ้ไม่มีสีหน้าตระหนกตกใจ ยังคงไว้ซึ่งสีหน้าราบเรียบดังเดิม ฟากเท็นกับเป๊กอ้าปากค้างไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน


 

"โห ไอ้แม็คโคตรใจกว้าง ไอ้ตูนไม่เล่น กูเล่นแทนได้นะ"

 

"กูแพ้ คนที่โดนลงโทษควรเป็นกูคนเดียว อย่าเอาคนอื่นมาเอี่ยว"
ตูนตอบหน้านิ่ง

 

"แต่กูเป็นคนคิดการลงโทษ ทำไม? กลัวใจตัวเองรึไง?"

 

"ทำไมต้องกลัว? กูแค่คิดว่ามันทุเรศที่มึงเอาแต่ความต้องการของตัวเอง แล้วไม่แคร์ความรู้สึกคนอื่น อย่างน้อยมึงควรให้เกียรติเนมมากกว่านี้"
ตูนตอบจริงจัง

 

"เอ้ะ เมื่อกี้ใครพูดวะ? ว่าคนแพ้ไม่มีสิทธิ์เรียกร้อง"

 



     มองหน้าเพื่อนอย่างสงสัยว่าแม็คกำลังคิดบ้าอะไรอยู่?

 

    เอาชนะ เอาคืน หรือเอาแค่ความสนุกของตัวเอง

 

    เมื่อตูนยังไม่ตอบ แม็คจึงหันไปถามเนม




"เนม ผมขอนะ ทำให้ผมหน่อย ผมจะไม่หึงและไม่คิดมากด้วย"


"เราไม่เล่นนะ มีบทลงโทษตั้งเยอะแยะ เราคิดให้ก็ได้ ให้พี่ตูนกินมะนาวสิบลูกเลยเป็นไง หรืออาบน้ำทั้งที่เสื้อเปียกแล้วห้ามถอดหนึ่งคืนก็ได้ เจ๋..ง...ด.."

 

    เนมพยายามเสนอไอเดียแปลกๆ แต่ยังพูดไม่จบ

 

แกร๊ง!

 

     เนมตกใจ สะดุ้งเฮือก เมื่อเสียงก้นขวดเบียร์กระแทกลงบนโต๊ะกระจกอย่างแรง เนมมองหน้าคนโมโห

 

"ขอแค่นี้ ทำให้ไม่ได้หรือไง ห้ะ?"

 

"อะ...อื้ม ก็ได้ ก็ได้"

 

"เป็นไง? เนมตกลงแล้ว"
หันไปบอกตูน

 

"มึงจะคิดมากทำไมวะไอ้ตูน คิดซะว่าเล่นละครไง? มึงดูอย่างพระเอก-นางเอกในหนังบางเรื่องดิ ไม่ใช่แฟนกัน ยังจูบจริงได้เลย"

 

"มึงทำแบบนี้ มึงต้องการอะไรวะ? ไอ้แม็ค?"

 

"ต้องการดู กูชอบ รู้สึกดี"

 

"มึงแน่ใจนะ?"

 

"เออ"

 

"ได้ เนมมานั่งนี่"
ตูนเรียกแฟนเพื่อนด้วยเสียงขึงขัง เนมรีบลุกไปนั่งข้างพี่ตูนอย่างเก้ๆกังๆ

 

    ก่อนจูบ ตูนดึงเนมมาใกล้และกระซิบข้างหู

 

"อย่าคิดว่าเป็นพี่ ให้คิดว่าคนที่จูบตอนนี้เป็นคนที่เนมรักแล้วกัน"

 


    เนมขมวดคิ้วมุ่นว่าทำไมพี่ตูนต้องบอกแบบนั้น


    ถ้าคนที่เนมรัก ก็คงต้องจูบแบบตั้งใจและใส่ความรัก ความปรารถนาลงไปเหมือนที่เขาทำกับแม็คน่ะสิ

 

    ต่างฝ่าย ต่างถอนหายใจ ก่อนที่ใบหน้าทั้งสองจะเข้าใกล้กันเรื่อยๆ จนริมฝีปากของทั้งคู่ประกบกัน แค่จูบก็น่าจะพอ เนมรับไม่ได้ หากต้องเล้าโลมคนที่เนมไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย

 

     ในขณะที่เนมจะผละออก แม็คกลับตะโกนลั่นว่าห้ามหยุด เนมจึงต้องใช้มือตัวเองวางลงตรงเป้ากางเกงและเริ่มลูบไล้แก่นกายพี่ตูนผ่านเนื้อผ้าทั้งๆที่มือสั่น



 "โฟร์ดีสัดๆ"



 

       ไม่นานเลยที่ตูนผละและลุกพรวดพร้อมจับมือเนมหวังจะออกไปนอกบ้าน
 

"มึงจะพาแฟนกูไปไหน?"

 

"ทำไม? กลัวเนมจะติดใจกูแล้วรึไง? กูอยากกินไอติมอยากให้เนมเดินไปเป็นเพื่อน ไม่ต้องห่วง ระหว่างทาง กูไม่เอาแฟนมึงหรอก"

 

"เหอะ...ให้จริง"

 

 

       สายตาทุกคนยังจดจ้องเนมและตูนที่เดินออกนอกตัวบ้านด้วยอาการไม่พอใจ

 

      กระทั่ง ตูนพาเนมมาถึงส่วนสนามหญ้าของหมู่บ้าน เขาหย่อนกายลงนั่งตรงเก้าอี้ม้าหิน

 

"พี่พาผมออกมาทำไม?"
 

"อยากให้ไอ้แม็คเห็นรึไงว่าตัวเองร้องไห้"

 


กึก

 

     เนมชะงักก็ไม่คิดว่าพี่ตูนจะสนใจกับเรื่องแค่นี้ด้วย

 

      ใช่...เนมร้องไห้เพราะเสียใจที่แม็คไม่คิดจะหึงหวงกันสักนิดที่เนมจูบคนอื่นต่อหน้าแม็คเองแท้ๆ

 

      ความน้อยใจ เสียใจมันจึงถูกกลั่นออกมาเป็นน้ำตา แล้วจู่ๆ คนที่งอนแฟนตัวเองขึ้นมาต้องตกใจเมื่อพี่ตูนเข้ามาใกล้กว่าเดิมแล้วดึงคอเสื้อยืดของเขามาเช็ดน้ำตาให้ แต่....

 

"โอ้ย พี่ตูน ผมแสบตาไปหมดแล้วเนี่ย"

 

"เช็ดน้ำตาให้ยังโดนด่า"

 

"ก็พี่เช็ดโคตรแรง ตาบอดแล้วมั้ง"

 

"ทำคุณบูชาโทษแท้ๆ"

 

"เฮ้อ...อ่าอ่า...ขอบคุณนะครับ พี่ตูน"

 

"แล้วร้องไห้ทำไม? ตื่นเต้น ดีใจที่ได้จูบพี่จนน้ำตาไหลเลยเหรอ?"

 

     มองคนที่ยังกล้าเล่นมุกใส่ก็ได้แต่ถอนหายใจและหยุดเศร้าในบัดดล



"อืมใช่ พี่ตูนจะรีบผละออกก่อนทำไม นี่ผมยังอยากจูบอยู่เลย"

 

     คนพูดจบผวาและตกใจที่พี่ตูนโน้มใบหน้ามาใกล้จนปลายจมูกของอีกฝ่ายโดนแก้ม เนมรีบถอยออกห่าง



"เฮ้ย พี่ทำอะไรอะ?"

 

"เอ้า...เมื่อกี้ เห็นปากดี"

 

"...." เนมเงียบทันที ใครจะคิดล่ะว่าพี่ตูนจะบ้าจี้ เชื่อคำพูดเขาด้วย



"ไอ้แม็คชอบบังคับแบบนี้บ่อยไหม?"

 
 

       มองคนที่เปลี่ยนเรื่อง เนมนั่งนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนพยักหน้า ตั้งแต่คบเป็นแฟนกัน ไม่ว่าจะเรื่องบนเตียง หรือเรื่องทั่วไป แม็คชอบให้เนมตามใจทุกอย่าง หากเนมขัดขืน ขัดใจเมื่อใด แม็คจะโกรธกระฟัดกระเฟียดทุกครั้ง

 

      แต่เพราะรัก เนมจึงยอมทุกอย่าง

 

       คนได้รับคำตอบ มองหน้าเนมก่อนส่ายหน้าน้อยๆพลางลอบถอนหายใจ



"แล้วทำไมต้องไปเชื่อ ไปตามใจมันทุกอย่าง?"

 

"ก็แม็คเป็นแฟนผม ผมผิดหรอที่ผมจะยอมหรือตามใจแฟน ถ้าเป็นพี่ตูน พี่ก็ต้องทำเหมือนกันนั่นแหละ"

 

"แต่ก็ไม่ทุกเรื่อง"

 

"แล้วจะทำไม? ก็ผมรักแม็คอะ"

 

 "แล้วถ้าไอ้แม็คบอกอยากเห็นเนมโดนสวิงกิ้ง ก็จะยอม?"


    เนมนิ่งนึกตาม ก่อนตอบ

 

"อืมใช่"
 


"แล้วถ้า ไอ้แม็คบอกให้ไปตายล่ะ จะไปไหม?"

 

"ไป"


"เหอะ...อย่างนี้เขาไม่ได้เรียกว่ารักหรอก เขาเรียกว่าโง่"

 


"ทำไมพี่ตูนต้องว่าผมด้วยล่ะ? มันก็เรื่องของผม คนเราไม่ได้มีดีไปหมดทุกอย่างหรอกนะ ถึงแม้แม็คจะชอบบังคับผม สั่งผม แต่แม็คก็มีส่วนดี เขาก็ดูแล เอาใจใส่ผมเหมือนกัน"




"หลงมันเหลือเกินนะ"




"พี่เอาแต่ว่าผม พี่ไม่เป็นผม พี่จะรู้อะไร? วันที่ผมซวย ผมไม่สบายใจ หาทางออกไม่ได้ เครียด ไม่เหลือใคร? ก็มีแม็คเข้ามาพอดี แม็คที่เต็มใจรับฟังผมทุกอย่าง"

 


"......"

 

"ถ้าพี่จะว่าอะไรผมก็ว่ามาเลย ในชีวิตผม ผมเหลือคนที่รักไม่เยอะหรอกนะ พ่อ-แม่ผมก็ตายไปแล้ว มีแค่พี่สาวที่อยู่ต่างประเทศ แต่ก็คุยลำบาก เพราะเวลาไม่ค่อยจะตรงกัน ส่วนเพื่อนสนิทก็มีแค่สองคน ผมก็เข้าใจว่าพวกมันก็ต้องใช้ชีวิตของตัวเอง มีเวลาส่วนตัว ไม่มีใครจะมานั่งฟังเรื่องเราได้ตลอดเวลาหรอก ผมถึงดีใจไงที่มีแม็คเข้ามาในชีวิต คนที่พร้อมใส่ใจเรา รักเรา ผมก็เลยยอมทุ่มความรู้สึกให้เต็มที่ ดังนั้น อะไรที่ผมยอมเพื่อตอบแทนแม็คได้ ผมก็ยอมไง..."




      ก็ไม่คิดหรอกว่า จะแตะต้องอะไรแม็คไม่ได้เลย เพียงต่อว่าไปแค่ประโยคเดียว เนมจะไม่พอใจจนต้องแก้ตัวแทนพร้อมระบายความรู้สึกของตัวเองมาเสียยืดยาว

 

"ขอโทรศัพท์หน่อย"

 

"พี่ตูนจะเอาไปทำไม?"

 

"เอามาเหอะน่า"

 

    ควักโทรศัพท์ของตัวเองวางลงบนมือพี่ตูน พอจะชะโงกหน้าดูอย่างอยากรู้ว่าพี่ตูนจะทำอะไร อีกฝ่ายก็ดึงโทรศัพท์หนี มองคนนั่งกดอะไรยุกยิกยุกยิกก็สงสัย แต่สักพัก พี่ตูนก็คืนเครื่องมือสื่อสารมาให้

 

"พี่แอดไลน์ไปละ ถ้าเครียดหรือไม่สบายใจก็เขียนระบายมาแล้วกัน"




................................................



แหมแต่ละคน...ทั้งพี่แม็คและพี่ตูนของน้อง พี่จะแสดงความป่าเถื่อนใส่เนมตลอดไม่ได้ น้องจิตใจบอบบางนะ  :hao6: :hao6: :hao6:


หัวข้อ: Re: ||*..--+--..*หลง*..--+--..*|| เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 3.2 [13-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 14-09-2018 09:33:31
 :pig4: :pig4: :pig4:

ทำไมรูสึกว่า  ตอนจบจะเป็น  เนมตูน  หว่า?
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 4 [15-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 15-09-2018 20:34:06

ตอนที่ 4 เพื่อนแฟน









"พี่ถามผมรึยัง? ว่าผมอยากได้ไลน์พี่ไหม?" 

 

     ไม่คิดว่าคนหน้าเศร้า สลดเมื่อสักครู่จะกวนประสาทกัน ตูนเลิกคิ้วมองอีกฝ่าย

 

"ก็ไม่เป็นไร ถ้าแอบไปรู้ข่าวมาว่า ไอ้แม็คนอกใจ จะได้ไม่บอก"

 

    หมับ

 

    ทันใดนั้น คนที่กวนประสาทก่อนหน้ารีบจับแขนเขย่าเหวี่ยงไปมาพร้อมส่งสายตาอ้อน

 

"ไม่เอาๆ ถ้าพี่ตูนไปรู้ ไปเห็นอะไรมา พี่ตูนต้องบอกผมด้วยนะ"
ต่อว่าพี่ตูนไปเสียตั้งนาน จนลืมนึกไปว่า การได้สนิทกับเพื่อนแฟนนั่นสิดี เพราะเนมจะได้ล่วงรู้ความลับของแม็คที่เนมอาจไม่รู้มาก่อน





    เมื่อคิดได้ เนมรีบทำดีกับพี่ตูน เพราะอยากได้ข้อมูลเด็ดๆและหวังใจว่าจะดึงพี่ตูนมาเป็นพวกเขาให้ได้


 

"หึ...หึ"

 

"เฮ้ย! พี่อย่าหัวเราะแบบนี้สิ ทำไมอะ? แม็คเจ้าชู้หรอ?"

 

"ไม่บอก"

 

"พี่ตูนอย่าทำให้ผมอยากรู้สิวะ"

 

"ไปเถอะ... เดี๋ยวไอ้แม็คโวยวายที่ขโมยแฟนมันมานาน"
ตูนบ่ายเบี่ยงไม่ยอมบอกเพราะเมื่อรู้ว่าตัวเองเหนือกว่า ก็ชักสนุก

 

"บอกก่อนว่าจากนี้ พี่ตูนต้องเป็นสายสืบให้ผม"
มองคนยื่นนิ้วก้อยมาตรงหน้าส่งสัญญาณกรายๆให้อีกฝ่ายเกี่ยวกัอยกัน

 

"ไม่สัญญา"

 

"โธ่...พี่ตูนอยากเห็นผมเป็นควายโดนสวมเขาจริงๆหรอ?

 

"อืม"

 

"พี่ตูนแม่งใจร้าย"

 

"....."

 

     มองพี่ตูนใจจืดใจดำ ลุกหนีโดยไม่สนใจกันจริงๆ เนมรีบลุกตามแล้วจับต้นแขนพี่ตูนแน่น

 

"พี่ตูน ขอร้องเถอะนะ ได้ข่าวอะไรมาต้องบอกผมนะ"

 

"....."

 

"ก็ได้ๆ ไม่บอกก็ไม่บอก แต่ถ้าเผื่อผมมีเรื่องไม่สบายใจ จากนี้ ผมไลน์ไปคุยกับพี่ได้จริงๆใช่ไหม?"

 

    มองคนถามด้วยสีหน้าจริงจัง จึงตอบกลับ

 

"ได้ แต่จะอ่านและตอบไหม? นั่นอีกเรื่อง?"

 

"ทำไมพี่ชอบกวนตีนผมวะ"

 

"โอ้ย!

 

    หน้ามุ่ยเมื่อพี่ตูนดีดหูอย่างแรง เจ้าตัวลูบถูติ่งหูตัวเองพร้อมมองพี่ตูนด้วยสายตาขุ่นเคือง

 

"ลามปาม พูดคำว่า กวนตีน กับใคร?"

 

"ก็แก่กว่าแค่ไม่กี่ปี"

 

"นิสัยเสียเพราะไอ้แม็คให้ท้าย คุยกับมันก็ไม่ยอมเรียกพี่"

 

 "อะไรล่ะ? แม็คบอกผมเองเหอะ ว่าห้ามเรียกพี่ โว้ะ!...แล้วทำไมต้องดุด้วยเล่า เออ...ขอโทษก็ได้"

 

     เนมนี่นิสัยเหมือนเด็ก เถียงได้ทุกคำจริงๆ คนที่นิ่งในตอนแรกผุดรอยยิ้มมุมปากก่อนบอก



"ไม่สบายใจ ก็ส่งข้อความมาแล้วกัน จะรอ..."

 

"จริงนะพี่ตูน"



"อืม"



"ขอบคุณนะพี่ตูน อ้อ....พี่ตูน ผมถามอะไรหน่อย?"

 

"อะไรอีก?"

 

"ตอนที่แม็คสั่งให้เราสองคนทำแบบนั้นกันอะ คะ...คือ พี่มีอารมณ์ด้วยหรอ? เพราะตอนที่ผมจับของพี่...มัน...เอ่อ..."

 

"ใครสั่ง ใครสอน?"

 

"ห้ะ??"
ถามอีกอย่างตอบอีกอย่าง คนที่สงสัยยืนงงขมวดคิ้ว

 

"ใครสั่ง ใครสอนให้ยุ่งเรื่องคนอื่น รีบเข้าบ้านได้แล้ว ไม่อยากมีเรื่องกับไอ้แม็ค"

 

     มองคนไม่ตอบคำถาม แถมทำหน้าหงุดหงิด จึงต้องจำใจเดินตามหลังเข้าบ้านไปอย่างคาใจ

 

    ส่วนคนที่เดินนำหน้า ก็ยังคงครุ่นคิดถึงเรื่องความสัมพันธ์ของเนมและแม็ค

 

     ทำไมแม็คถึงปล่อยให้แฟนไปจูบกับคนอื่นโดยไม่รู้สึกอะไร?

 

     หรือนี่อาจจะเป็นรสนิยมชมชอบในแบบของมัน ถ้าเป็นอย่างนั้น คงดูแปลกประหลาดไปหน่อย

 

     ใกล้ถึงประตูรั้วบ้านเพื่อน อยู่ดีๆ ก็มีความคิดหนึ่งแวบเข้าหัวกับคำพูดที่เขาเคยได้ยินจากปากเพื่อนเมื่อในอดีต...

 

     ส่ายศรีษะน้อยๆ เมื่อสิ่งที่คิดมันอาจเป็นเพียงแค่การคาดเดาของเขาเอง



      แต่ลึกๆก็พึมพำในใจ...ว่าขออย่าให้สิ่งที่คิดเป็นเรื่องจริงเลย....
 





.............







      เพิ่งผ่านไปได้สองสัปดาห์ที่ร่างกายได้พักและงดแอลกอฮอลล์ แต่ก็ต้องกลับมาดื่มอีกหน เมื่อวันนี้เนมมีนัดกินเลี้ยงที่บริษัท เนื่องจากน้องในทีมลาออก





"คืนนี้มารับเราด้วยนะ"



       คนที่รู้ตัวว่าได้เมาแน่ๆ รีบเอ่ยปากบอกแฟนไว้ ขณะที่แฟนขับรถมาส่งที่ทำงานยามเช้า



"อืม"



จุ๊บ...

 

      คนที่มาเป็นสารถีบอกจบก็รั้งคอเนมมาจูบประทับบนหน้าผาก ก่อนจะเลื่อนลงมาจูบปาก ก่อนผละ



"ตั้งใจทำงานล่ะ"



"แน่นอน ไปก่อนนะแม็ค คืนนี้อย่าลืมนะ"



"รู้แล้วครับ โทรหาผมอีกทีนะ"



"อื้ม"



        ส่งยิ้มให้แฟน ก่อนจะลงจากรถ เดินเข้าบริษัทไปยังโต๊ะทำงานของตัวเอง



      ดูเหมือนว่าความรักของทั้งสองยังคงมีความสุขกันดี ไม่มีทะเลาะรุนแรง มีแค่แม็คเริ่มลดความสนใจลงบ้างบางคราว แต่เนมไม่อยากงี่เง่าให้แม็ครำคาญใจ



       และแล้วก็ผ่านไปอีกหนึ่งวัน จากเช้าจรดเย็น ที่เนมนั่งเคลียร์เอกสารต่างๆ ช่วยหัวหน้าติดต่อเอเจนซี่เกี่ยวกับการจัดงานอีเวนท์ของบริษัท รวมถึงมีการประชุมกับแผนกอื่นๆร่วมสี่ชั่วโมง ก็ได้เวลาเลิกงานพอดี



      หลังสะสางงานเสร็จสิ้น ทุกคนที่ต้องไปงานคืนนี้ ก็แยกย้ายไปยังรถของตัวเอง ใครไม่ได้นำรถมาก็กระจายกันไปนั่งรถคันอื่นๆ



     จนกระทั่ง ถึงร้าน กลุ่มของเนมนั่งโซนเอาท์ดอร์ และคงเป็นเพราะวันนี้ วันศุกร์ ผู้คนถึงแน่นขนัด ทำให้มีตัวเลือกในการหาที่นั่งดีๆได้ไม่มาก เมื่อได้ที่นั่งเรียบร้อยก็สั่งเมนูเบาๆมาสาม-สี่อย่าง และเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์



    เหนื่อยกันมาทั้งสัปดาห์ การดื่มสุรายามนี้จึงเหมือนช่วยลืมเรื่องเครียดได้ชัวขณะ แหละเพราะเป็นงานเลี้ยงส่งน้องที่ลาออกจากบริษัทไป ก็ไม่มีอะไรให้คิดมากมาย



     นอกซะจาก ดื่มและระบาย...

    ดื่มและระบาย...

    ดื่มและระบาย...

    และผลลัพธ์สุดท้ายที่เกิดขึ้น...



"เอาไงดีวะแก ให้เนมนอนบ้านแกได้ไหม?"



     หกคนที่มาสังสรรค์ ยามนี้ มีเพียงหญิงสาวสองคนที่สติดีที่สุด และทั้งคู่กำลังทะยอยจัดการคนเมาให้กลับบ้านได้ไปทีละคน จนมาตกที่เนมเป็นคนสุดท้าย ชายหนุ่มที่เมาหลับเอนศรีษะพิงต้นไม้นั่งอยู่ตรงฟุตบาธริมถนน



"จะบ้าหรอ? ขืนพาเนมไป มีหวังแฟนฉันได้คิดว่าพาชู้เข้าบ้าน โดนกระทืบตายทั้งฉัน ทั้งเนมเนี่ยแหละ"



"บ้านฉันก็ไม่ได้ แม่ด่าแน่"



"ค้นโทรศัพท์เนมดูซิแล้วลองหาเบอร์เพื่อนเนม โทรบอกให้มารับ"



    พยักหน้าและล้วงควานหาเครื่องมือสื่อสารในกระเป๋ากางเกงของเนมจนเจอ หยิบออกมาและกดไปยังหมวดรายชื่อเพื่อหาเบอร์ดทรศัพท์ เลื่อนไปเรื่อยๆก่อนจะชะงักเมื่อเห็นเบอร์โทรที่ถูกบันทึกไว้ว่า ที่รัก



"แฟนชัวร์ บอกให้มารับเลย"



   รีบกดโทรออก และยืนรออย่างร้อนใจให้ปลายสายกดรับเร็วๆ



[สวัสดีครับ]



    คนรอคนรับโทรศัพท์ตาโตตกใจที่ได้ยินเสียงผู้ชาย แทนที่จะเป็นเสียงของผู้หญิง



"อะเอ่อ แฟนน้องเนมรึเปล่าคะ?"



[ใช่ครับ]



"มารับน้องได้ไหมคะ? พอดีว่าน้องเมาไม่รู้เรื่องเลย"



[ผมคงไปไม่ได้ อยู่ต่างจังหวัด ขอโทษที ผมฝากดูแลเนมก่อนนะครับ]



"หาา...อ่าก็ได้ค.."



   พูดยังไม่ทันจบ ปลายสายก็วางไปอย่างไร้เยื่อใย



    หมดหนทาง เมื่อคนสำคัญของเนมไม่ว่างมารับ



"แฟนเนมอยู่ต่างจังหวัดอะแก เอ้ะ!... น้องเขาเป็นเกย์หรอ? เมื่อกี้เป็นผู้ชายนะที่รับสาย"



"แกถามฉันแล้วฉันจะถามใคร? ฉันก็รู้พร้อมแกนี่แหละ เรื่องนั้นอย่าเพิ่งสนใจเลย เอาเรื่องนี้ก่อนว่าเนมจะกลับยังไง? แก ลองเช็คข้อความไลน์ซิ น้องคุยค้างกับใครไว้บ้าง"



    เปลี่ยนไปเข้าแอพพลิเคชั่นไลน์แล้วเลือกดู



"เฮ้ย!มีคนนึงว่ะแก ที่ส่งข้อความมาหา แต่เนมยังไม่กดเข้าไปอ่าน เอาอันนี้แล้วกัน น้องเนมจ๋า พี่ขอโทษที่ละลาบละล้วงนะ"



     สองสาวกดเข้าไปยังข้อความไลน์ที่เนมคุยค้างไว้กับคนหนึ่ง



read

21.45

พี่ตฑนัม้้บหิวขเวามาระบหย้นบ






"นี่เนมพิมพ์อะไรไปหาเขาเนี่ย"



read

21.47

นี่คือ ระบายอยู่? ใช่ไหม?



    หญิงสาวบ่นกับเพื่อน ก่อนจะพิมพ์ข้อความต่อ โดยไม่สนใจข้อความก่อนหน้า



read

00.15

สวัสดีค่ะ นี่มิว เป็นพี่ที่ออฟฟิสของเนมนะคะ วันนี้เรามีกินเลี้ยงกัน และน้องเนมเมามาก ไม่รู้เรื่องแล้วค่ะ ช่วยมารับน้องได้ไหมคะ?



     คนที่พิมพ์ข้อความจบตระหนกตกใจ เมื่อกดส่งข้อความไปยังไม่ถึงนาที ก็ขึ้นว่า 'อ่านแล้ว'



     เร็วขนาดนี้ ราวกับ...นั่งเฝ้าอยู่หน้าจอ...อย่างไรอย่างนั้นล่ะ



     ไม่ได้เขียนข้อความตอบกลับ แต่...Line Call มาในทันที



"เขาโทรมาเลยอะ แก"



"รับสิ"


"สวัสดีค่ะ"



[ตอนนี้ เนมอยู่ที่ไหนครับ?]



"อยู่ร้านเหล้าแถวเกษตร-นวมินทร์ค่ะ"



[โอเค ช่วยรอผมก่อน ผมจะรีบไป]



"เอ่อ...คุณคะ เดี๋ยวนัดเจอที่ปั๊มน้ำมันใกล้ๆร้านก็ได้ค่ะ ตรงนี้วุ่นวายมากค่ะ เดี๋ยวแชร์โลเคชั่นไปให้ในไลน์นี้อีกทีนะคะ"



[ได้ ขอบคุณครับ]



     

    หญิงสาวโล่งใจที่ติดต่อคนให้มารับได้ จากนั้นเธอก็รบกวนพี่ๆการ์ดที่ร้านช่วยแบกร่างคนเมาไปที่รถ ก่อนจะเตรียมมุ่งหน้าไปยังจุดนัดพบ



     ราวสี่สิบนาทีชายหนุ่มที่สองสาวได้ติดต่อไว้ก็เดินทางมาถึงปั๊มน้ำมัน



    เมื่อเห็นผู้ชายยืนสอดส่องเหมือนหาอะไรบางอย่าง หญิงสาวสองคนจึงเร่งฝีเท้าไปหา



"หล่อด้วยอะแก"



"มันใช่เวลามาพูดไหมเนี่ย? ฉันหมดอารมณ์ อยากกลับจะแย่แล้ว ง่วง"



      สองสาวหยุดยืนตรงหน้าชายหนุ่มที่ผมเผ้ายุ่งเหยิง สวมเสื้อยืดสีขาวย้วยๆกับกางเกงยางยืดขาสั้นก็ยังดูดีได้



"สวัสดีค่ะ ใช่เพื่อนเนมหรือเปล่าคะ?"



"อ๋อใช่ครับ ขอโทษนะครับที่ทำให้พวกคุณต้องเสียเวลา"



"ไม่เป็นไรค่ะ จะทิ้งน้องไว้คนเดียวก็อันตราย"



"นี่มันก็ดึกมากแล้ว ผมว่ารีบพาเนมกลับบ้านดีกว่า พวกคุณจะได้ไม่ลำบากด้วย"



"ได้ค่ะ ขอบคุณมากเลยนะคะ ที่มาช่วย จริงๆตอนแรกโทรหาแฟนน้องเนมแล้วแต่เขาไม่ว่างก็เลยไล่หาจนมาเจอคุณค่ะ"



      ตูนยิ้มรับ ก่อนจะเดินไปยังรถยนต์ของหญิงสาวเพื่อย้ายเนมออกมาจากรถคันนั้นมายังรถของตูน



       จัดการธุระเรียบร้อย ก็ร่ำลาหญิงสาวทั้งสอง ก่อนจะสอดตัวเข้ามาในรถยนต์ของตัวเอง

 

     คนที่แวะซื้อผ้าเย็นก่อนขึ้นรถก็โน้มตัว ขยับไปใกล้ เช็ดหน้า เช็ดตา เช็ดแขนให้เนมรู้สึกสบายตัวขึ้น ตูนเสยผมคนเมาไม่ให้ตกลงมาปรกหน้า ก่อนจะกดสายตาลงต่ำมองสภาพเสื้อเชิ้ตของเด็กหนุ่มที่เปรอะ เลอะราวกับไปบุกป่า ลุยฝน



"เฮ้อ...สภาพดูไม่ได้ ทำไมกินไม่รู้ลิมิตตัวเอง"



     บ่นคนเมา ก่อนจะลดกระจกทั้งสองฝั่งลง แล้วขับรถออกจากปั๊มน้ำมันมุ่งไปยังบ้านของตัวเอง...




****1.1****

โธ่ น้องเนมมมมม เมาไม่พอ แฟนไม่มารับอีกตะหากกกก...งื้ออออ ปลอบๆๆๆมาปลอบกัน :man1: :man1: :man1: :man1:

หัวข้อ: Re: *..--+--..*หลง*..--+--..* เนม-ตูน (แม็ค) ตอนที่ 4 [15-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 15-09-2018 21:35:21
 :pig4: :pig4: :pig4:

แม็คอยู่ต่างจังหวัดจริง ๆ เหรอ?

แอบคิดว่าไม่ใช่  และคิดว่าแม็คอยู่กับหนุ่มคนอื่นด้วยอ่ะจิ
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน (แม็ค) ตอนที่ 4.2 [16-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 16-09-2018 18:31:03
 
ตอนที่ 4 เพื่อนแฟน (2)







"เฮ้ย! อะไรเนี่ย"



       สิบเอ็ดโมงของวันถัดมา คนที่รู้สึกปวดและเมื่อยตัวจนลุกไม่ขึ้นกำลังลืมตามามองต้นเหตุชวนหงุดหงิดใจ เมื่อเนมคันแก้มมากเหมือนมีตัวอะไรยุกยิกกัดที่แก้ม



       ตื่นเต็มตาเอียงหน้ามองสิ่งที่ทำให้ตกใจ นั่นคือ เด็กผูายตัวน้อยๆนั่งจิ้มแก้มอยู่ข้างๆ เนมเบิกตาโพลง



      ทำไมมีเด็กตัวน้อยตรงนี้ ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่บ้านแม็คหรอกเหรอ?



      และเพราะรีบลุกเร็วไปหน่อย



"โอ้ย!" ยกมือกุมขมับ เหมือนสมองจะระเบิด



"อะตอม เข้ามาได้ไง? อย่าไปกวนอาเขา" คนที่อาบน้ำเสร็จ และเพิ่งเดินเข้ามาในห้องเพื่อแต่งตัว ตกใจที่เห็นลูกพี่ชายนั่งอยู่บนเตียง ปรี่ไปจะอุ้มตัวเด็กแต่...



      ผ้าขนหนูที่พันเอวไว้หลุดหล่นมากองที่พื้น



     เด็กน้อยแสนซนก่อนหน้าคงไม่น่าสนใจเท่าผู้ชายร่างเปลือย เมื่อสองตาถึงจดจ้องงวงช้างตาไม่กระพริบ



     กว่าจะรู้ตัว เค้นคำพูดออกมาได้...



"พี่ตูน...ผะผ้า..พี่..ผ้า"



    คนที่เบนหน้าหนีไปทางอื่นแล้วชี้นิ้วไปที่พื้น



"เฮ้ย!"



     ก้มมองถึงเห็นว่ากายเปลือยล่อนจ้อน รีบวางเด็กน้อยลงบนเตียง แล้วคว้าผ้าขนหนูมาพันกายให้แน่นกว่าเก่า



"อะตอมอาบอกให้อยู่ห้องพ่ออย่าออกไปไหนไงครับ?"



"อะตอมอยากเล่นเครื่องบินกับอาตุน"



"โอเคๆ...ได้แต่ไปอยู่ที่ห้องพ่ออะตอมก่อน เดี๋ยวให้เล่น"




"อาตุนไม่โกหกน้า"



"ไม่ครับ ไม่โกหก ออกไปกันนะ"
อุ้มเด็กออกจากห้องไปไว้ที่ห้องพี่ชาย ก่อนจะกลับมาหาคนที่ตื่นนอนแล้ว



     สมองคนเรามักจดจำเป็นภาพได้ดีกว่าตัวอักษร และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พอมันเป็นภาพเคลื่อนไหวด้วยแล้วนั้น...



      ด้วยเหตุนั่นเอง ยามนี้คนที่แม้หลับตาก็ยังมีภาพพี่ตูนทำผ้าขนหนูหล่นแล้วเห็นอาวุธลับคู่กายชัดเจนยังติดตาอยู่เลย



"ทำไมหน้าแดง ไม่สบายเหรอ?"



       ลืมตามองคนที่เดินเข้ามาหน้านิ่ง อันที่จริงคนอายต้องเป็นพี่ตูนสิที่เผลอโชว์งวงช้างให้โลกรู้ แต่ทำไมคนที่หน้าแดงกลับต้องเป็นเนมด้วยล่ะ...ไม่เข้าใจเลยจริงๆ



       คนที่ไม่รู้ว่าตัวเองเผลอออกอาการเขินจนหน้าแดง จึงเบี่ยงประเด็น




"ผมมาอยู่ที่บ้านพี่ตูนได้ไง?"



"พี่ที่ออฟฟิสเนมโทรมาบอกว่าเมาให้ไปรับ"



     เรื่องราวที่จำได้ล่าสุดคือ...หัวเราะเฮฮากับกลุ่มพี่ๆที่ออฟฟิสในร้านเหล้า จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีกเลยว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น



"แล้วทำไมถึงเป็นพี่ตูน ทำไมไม่ไม่ใช่แม็คล่ะครับ?"



     บอกเสียงแหบแห้งคล้ายคนหมดแรง และแล้ว ความน้อยใจโผล่ขึ้นมาทันที



"ไม่รู้ แล้วนี่อาการเป็นยังไงบ้าง?"



"ปวดตัวและระบมมากเลยพี่ตูน"
บอกขณะที่ขยับตัวมากึ่งนั่งกึ่งนอนพิงพนักเตียง



"อาบน้ำแล้วกินข้าวคงดีขึ้น"



"เมื่อกี้ลูกพี่เหรอ?"



"เปล่า ลูกพี่ชาย"



"อ่อ"



    ไม่ใช่เรื่องของเนมที่ต้องถามซักไซร้ต่อ เขามองคนที่นุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวเปิดตู้เสื้อผ้าด้วยท่าทีสบายๆ



     จะไล่ให้พี่ตูนไปแต่งตัวที่อื่น ก็คงตลก ในเมื่อเขาไม่ใช่เจ้าของห้อง แต่แล้วคนที่เมาก็นึกอะไรขึ้นได้ รีบก้มดูสภาพตัวเอง



"เมื่อคืนพี่อาบน้ำให้ผมหรอ?"



"อืม"



"ถ้างั้นพี่ตูนก็เห็น....ฮื่อออออ"



     ข้อเสียของการดื่มสุราจนไม่มีสติ ผลคือ ทำให้ไม่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้าง ใคร? ทำอะไร? ที่ไหน? เมื่อไหร่ ไม่รู้เรื่องเลย



     และแล้ว เมื่อคิดได้ตอนนี้ในหัวก็จินตนาการอะไรมั่วซั่วไปหมด คิดเอง เออเองจนเริ่มรู้สึกอาย อาย และอาย...



"อายทำไม? ผู้ชายด้วยกัน"



    พูดง่ายสิ...ก็ถ้าเป็นแม็คเห็น เพื่อนเห็น เนมก็จะเฉยๆอยู่หรอก แต่นี่ พี่ตูนเห็นแถมอาบน้ำให้ทั้งๆที่เราสองคนยังไม่สนิทกันขนาดนั้น จะให้นั่งเฉย ยิ้มหน้าบาน ไม่มีความอายได้อย่างไรกัน



"อายดิ ผู้ชายด้วยกันแต่หลายๆอย่างมันก็ไม่เหมือนกันนะ"



     คนที่นิ่งไปครู่หนึ่ง กลับมาแต้มยิ้มกรุ้มกริ่ม



"ถ้าจะหมายถึง..."
บอกแล้วกดสายตาลงต่ำอย่างจงใจมองไปที่เป้ากางเกงใครบางคน



"ก็สมควรอาย"



"ไอ้พี่ตูน"



"โกรธที่พูดความจริง?"



"ไม่ใช่ความจริงสักหน่อย"
กลืนน้ำลายเอื้อกๆ เมื่อสมองดันนึกนำไปเปรียบเทียบกับของพี่ตูนที่ยังติดตาก็ยอมรับว่า โลกนี้แม่งไม่ยุติธรรม...





"เอาแต่โวยวาย ไม่คิดจะขอบคุณกันหน่อยเหรอ? ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะที่ต้องอาบน้ำคนเมา หมดน้ำไปกี่ลิตรกว่าเนื้อตัวจะสะอาด สกปรกมากเมื่อคืน แถมเหม็นกลิ่นเหล้าอีกต่างหาก"



     โอ้โห! มาเป็นชุด คนที่ควรอับอายขายขี้หน้าที่อีกฝ่ายเห็นทุกอย่างในร่างกายกลับเงียบเพราะเถียงไม่ได้ หลุบตาลงต่ำเมื่อคนที่พูดจบก็แต่งตัวในห้องอย่างไม่อายเลยว่าเนมนั่งอยู่ตรงนี้ทั้งคน



"ขอบคุณก็ได้"



     เบะปากหมั่นไส้ ก่อนจะค่อยๆขยับตัวมาหย่อนปลายเท้าริมเตียง ตั้งสติให้กลับมาอยู่กับร่องกับร่อย ก่อนจะลุกไปหาโทรศัพท์มือถือแล้วกดโทรออกหาใครบางคน เพราะไม่อยากอยู่ที่บ้านพี่ตูนแล้ว



    อับอายชะมัด...




ตื้ดด ตื้ดด



[ว่าไง เนม]



"แม็ค อยู่ไหนหรอ?"



[อยู่ข้างนอก]



"ทำไมเมื่อคืนไม่มารับเราล่ะ?"




[ผมไม่ว่าง]



"แต่เราสัญญากันแล้วนี่ และตอนเย็นเราก็โทรย้ำแล้วนะ แม็คก็บอกว่าว่าง มารับได้"




[อย่างี่เง่าได้ไหมวะ? ก็พอถึงเวลานั้น ผมติดธุระพอดีแล้วจะไปได้ยังไง?]



"แล้ววันนี้ล่ะว่างไหมมารับหน่อย เราอยู่บ้านพี่ตูน"



[ไม่ว่าง ติดงานอยู่ แล้วทำไมไปอยู่บ้านไอ้ตูนได้ล่ะ กลับมาบ้านเดี๋ยวนี้เลยนะ เนม]



"อืม เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จก็กลับ ถ้าแม็คยุ่งก็ไปทำงานเถอะครับ"



     วางสายแล้วนิ่งเงียบทันที



    ทำไมแม็คเป็นแบบนี้ล่ะ พูดจาก็ไม่ดี แถมไม่คิดจะถามไถ่สุขภาพกันสักคำ



     พยายามกลั้นน้ำตา แต่มันไม่ได้จริงๆ



     น้อยใจที่แม็คไม่เหมือนเดิม



     คนที่แต่งตัวเสร็จ เห็นความเป็นไปทุกอย่างได้แต่ถอนหายใจ



     เดินมานั่งริมเตียง มองคนนั่งน้ำตาซึม กำลังเอื้อมมือไปหวังจะเช็ดคราบน้ำตา แต่ทว่า หยุดชะงักก่อนจะลดมือลงเอี้ยวตัวไปคว้ากล่องทิชชูข้างเตียงมาให้เนมแทน

   

"ช่วงนี้ไอ้แม็คคงยุ่ง อาบน้ำเสร็จก็ลงไปกินข้าวนะ พี่ลงไปก่อน"


     บอกปลอบใจแฟนเพื่อนเสร็จ ก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเพราะไม่อยากกวนเผื่อเนมอยากได้เวลาส่วนตัว



    แต่...



หมับ



     ยืนชะงักเท้า เมื่อข้อมือถูกรั้งไว้ด้วยมือของใครอีกคน



"พี่ตูน ผมขอนอนค้างที่นี่ซักคืนได้ไหม?"


"ทำไม? ไอ้แม็ค ไม่อยู่บ้านเหรอ?"


"ผมยังไม่อยากเจอ"



"น้อยใจมัน?"



"...."



"ถ้าจะนอนก็ควรบอกแม็คก่อน มันจะได้ไม่ต้องรอว่าทำไมคืนนี้เนมไม่กลับบ้าน"



"ไม่บอกหรอก บอกไป แม็คก็ไม่สนใจผมอยู่แล้ว"


"ไม่บอก แม็คมันจะรู้ไหม? ไปคุยกันให้รู้เรื่องเนม อย่ามาง้องแง้ง"


"ทำไมพี่ชอบว่าผมวะ พี่ตูน"



     จ้องมองดวงตาคู่นั้นที่แดงก่ำกว่าเดิม



      ก้าวเท้ายาวๆมาใกล้และโน้มตัวลงนิดวางมือลงบนไหล่สั่นๆทั้งสองข้าง ก่อนจะมองหน้าคนที่ขบริมฝีปากเข้าหากันแล้วก้มหน้าร้องไห้



      คงอยู่ในสภาวะเสียความรู้สึกมากสินะ ที่แฟนไม่ใส่ใจ แถมเมื่อคืนก็ไม่ยอมมารับกลับเป็นคนอื่น



"ขอโทษที่พูดแรง แต่ที่พูดเพราะพี่หวังดี.."

 

     เงยหน้ามองคนที่พูดจาด้วยเสียงนุ่มนวลกว่าตอนแรกก็พยักหน้า



"ผมก็ขอโทษเหมือนกันที่โมโหไปหน่อย"



"ไม่เป็นไร"
ยิ้มมุมปาก ก่อนจะเดินออกไปจากห้องนอน



    มองจนแผ่นหลังพี่ตูนลับตาไป ก็ลอบถอนหายใจและยกมือปาดน้ำตาตัวเอง


    ทำไมกันนะ ทำไม?...


    คนที่ควรต้องไปรับเขาเมื่อคืนต้องเป็นแฟนตัวเองสิ แต่ทำไมถึงกลับกลายเป็นเพื่อนแฟนไปซะได้



    สาเหตุที่เสียความรู้สึกและน้อยใจหนักหน่วงขนาดนี้ มันมีเหตุผลอื่นร่วมด้วย นั่นคือ วันนี้ มันเป็นวันสำคัญที่แม็คก็รู้ดี เพราะตอนจีบกันใหม่ๆ แม็คถามเป็นลำดับแรก แต่แล้วทำไม จนบัดนี้แล้วถึงไม่มีข้อความหรือคำอวยพรใดๆเลย



    แม็คลืมได้อย่างไรกัน ในเมื่อวันนี้ มันเป็นวันเกิดของเนม....






.................................

ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆสักคำให้ลึกซึ้งงง ^.^ งื้ออ... :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ






 
หัวข้อ: Re: *..--+--..*หลง*..--+--..* เนม-ตูน (แม็ค) ตอนที่ 4.2 [16-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 16-09-2018 19:16:19
 :pig4: :pig4: :pig4:

ดูจากสถานการณ์   แม็คเป็นคนเบื่อง่าย  ชอบอะไรที่หวือหวาตื่นเต้น  เผลอ ๆ อาจชอบสวิงกิ้ง
หัวข้อ: Re: *..--+--..*หลง*..--+--..* เนม-ตูน (แม็ค) ตอนที่ 4.2 [16-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 16-09-2018 20:23:49
ติดตามจ้า
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..*(เปลี่ยนชื่อนย.)เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 4.2[16-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 18-09-2018 10:41:00
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2: :katai2-1: o13
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 5 [18-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 18-09-2018 20:32:19
ตอนที่ 5 ความหลัง








      เนมจัดการธุระตัวเองเรียบร้อยก็เดินลงมาข้างล่าง ตั้งแต่แม็คแสดงออกเด่นชัดว่าไม่สนใจกัน ชายหนุ่มรู้สึกเนือย เฉื่อยๆ เหมือนไม่อยากทำอะไร ในจังหวะที่เท้าซ้ายแตะลงถึงพื้นกระเบื้อง...





"คิกๆ...อาตุน..คิกๆ..."




      เสียงหัวเราะของเด็กสร้างความประหลาดใจแก่เนม ว่าอา-หลานเล่นอะไรกัน พอเดินพ้นผนังถึงเหลือบเห็นพี่ตูนนอนราบไปกับโซฟา ทำตัวเป็นฐานจับเด็กกางแขน กางขาเหมือนเครื่องบิน เหินเวหากันอย่างสนุกสนาน



      ยิ้มบางเบาก่อนจะกวาดตามองจนทั่วบริเวณก็ไม่พบพี่ชายของพี่ตูน เนมเดินไปใกล้เสียงหัวเราะเหล่านั้นและเอ่ยถาม



"พี่ชายพี่ตูนล่ะครับ?"



"ไปทำงาน เขาถึงฝากลูกไว้"



"บ้านนี้ พี่อยู่กับพี่ชายหรอ?"



"ใช่"



      ตูนหยุดเล่นแล้วกอดประคองเด็กน้อยให้ลงมานอนทับบนตัว



"ข้าวอยู่ที่โต๊ะ พี่คั้นน้ำมะนาวไว้ให้ด้วย เผื่อช่วยให้สดชื่น"



       พี่ตูนบอกแต่ไม่ได้หันมามองเพราะมัวแต่ฟัดพุงเด็กจนอะตอมหัวเราะเอิ้กอ้าก เนมมองพี่ตูนด้วยความรู้สึกละอายที่ต้องเป็นภาระให้คนอื่น ทำไมพี่ตูนดีกับเขามากขนาดนี้


"ขอบคุณนะพี่ตูน"



       ผละจากโซฟาเดินไปหย่อนกายลงนั่งที่เก้าอี้ ตักข้าวต้มทรงเครื่องเข้าปากช้าๆ



       แล้วจู่ๆ ความเสียใจ น้อยใจก็แย่งกันผุดขึ้นให้คนที่อุตส่าห์พยายามไม่นึกถึงก็...


แหมะ แหมะ...



      แบบนี้ใช่ไหม? ที่เรียกว่ากินข้าวทั้งน้ำตา



"อะตอมอย่าไปยุ่งกับอาเนม ให้อาเขากินข้าวก่อนครับ"



      เสียงตะโกนดังมาแต่ไกลก่อนตัวจะเดินถึง เมื่ออะตอมวิ่งไปหาเนม เด็กชายกระตุกชายเสื้อของเนมอยู่อย่างนั้นจนเนมตัดสินใจหันไปหา



"อาตุนฮะ อาตุน...ร้องไห้ ร้องไห้"



       หันไปบอกอาตัวเองพลางชี้นิ้วไปทางเนม ตูนย่อตัวลงนั่งข้างหลังเด็กชายแล้วยิ้ม



"แล้วต้องทำยังไงครับ?"



       เนมอายที่ร้องไห้ต่อหน้าเด็ก รีบปาดน้ำตาลวกๆ



"ปลอบ อะตอมปลอบนะ"
เด็กน้อยดึงชายเสื้อเนมอีกครั้งทั้งยังยืนมองตาปริบๆ


      เนมมองเด็กที่พยายามเขย่งเพื่อจะเช็ดน้ำตาจึงโน้มตัวลงต่ำให้เด็กน้อยเช็ดน้ำตาได้อย่างถนัดถนี่



      สัมผัสถึงความใสซื่อจากเด็กตัวน้อยที่ใช้มือเล็กๆยกขึ้นมาเช็ดน้ำตา มันช่วยให้เนมแต้มยิ้มได้อย่างสบายใจจริงๆ



"อาตุนฮะ  เขายิ้มแล้ว ยิ้มแล้ว"


"ขอบคุณนะครับ น้องอะตอม"



      เนมลูบผมอะตอมด้วยความเอ็นดู ก่อนจะกลับมาจัดการอาหารตรงหน้าต่อ



"มาอยู่กับอาดีกว่าอะตอม"



"ฮะ ฮะ"
อุ้มเด็กวัยห้าขวบขึ้นนั่งบนตักตัวเองก่อนถาม



"ไหวนะ?"


    เนมเงยหน้ามองคนที่นั่งเก้าอี้ตัวข้างๆ



    คำว่า 'ไหว' สำหรับพี่ตูน มันหมายถึงอะไร?


    ไหว...ในเรื่องที่มีปัญหากับแม็ค หรือ ไหว...ในเรื่องของร่างกาย


     ไม่ว่าจะแบบใด ก็ไม่ไหวทั้งนั้น แต่แล้วทำไม เนมต้องตอบความจริง..



"ไหวสิพี่ตูน"



     คนที่ถามในตอนแรก ไม่ถามต่อ มองคนที่นั่งกินข้าวไปอย่างเงียบๆ จนกระทั่ง..



"พี่ตูน ผมกินข้าวเสร็จแล้ว ขอขึ้นไปนอนได้ไหม?"



"ได้ แล้วเรื่องนอนค้าง บอกแม็ครึยัง?"



"เดี๋ยวบอกครับ"



"คุยกันดีๆล่ะ"



"ครับ"



"อะตอมครับ เราไปดูหนังกันดีกว่า"



     ตูนไม่อยากกวนเนมให้หงุดหงิด รำคาญใจ จึงลุกจากที่นั่งแล้วเดินไปนั่งโซฟาตัวเดิม เพื่อหาภาพยนตร์สนุกๆดูกับหลานชาย



     เมื่อเนมกินข้าวเสร็จเรียบร้อย เดินกลับขึ้นไปยังห้องนอนพี่ตูน ปีนขึ้นเตียงนอนก็เอนหลังพิงพนักนั่งกอดเข่าบนเตียง อารมณ์นี้ไม่นึกอยากจะทำอะไรเลยจริงๆ นั่งเงียบๆคนเดียวสายตาพลันเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่วางไว้ข้างตัว



      จนบัดนี้ ก็ยังไร้ข้อความอวยพรใดๆจากแฟน



      ได้แต่พยายามปลอบตัวเองว่า ช่างมันเถอะ...อย่าคิดมากและไม่ควรทำตัวซึมกระทือ มันก็แค่วันหนึ่งวันจะไปคาดหวังอะไรให้คนอื่นต้องทำให้ได้ดั่งใจ แม็คเองคงมีธุระ และไม่ว่างจริงๆ ฉะนั้น เลิกงี่เง่าได้แล้วเนม...



      คำพูดที่บอกปลอบใจตัวเอง ก่อนเจ้าตัวจะก้มหน้าฟุบลงกับเข่าแล้วหลับตา





      จากแค่ต้องการพักสายตาก็ไม่คิดว่า จะหลับลากยาวนานถึงหกชั่วโมง คนที่นอนตะแคงค่อยๆตื่นลืมตามาเห็นตัวเองมีผ้าห่มคลุมอยู่ ซึ่งตอนแรกมันยังไม่มี ถ้าไม่ใช่ คนที่นั่งจ้องเขาอยู่ตอนนี้



"พี่ตูนมาตั้งแต่เมื่อไหร่?"


"ไม่นานนี้เอง"



"แล้วน้องอะตอมล่ะครับ"


"พี่ชายกลับมาและพาอะตอมออกไปข้างนอกแล้ว"



"อ่อ"


"อยากให้ไปส่งที่บ้านแม็คไหม?"



"ผมบอกแล้วไงว่าไม่กลับ หรือพี่ตูนรำคาญผม?"



"เปล่า"



"ผมไม่อยากกลับ"



"ถ้างั้น เดี๋ยวพาไปกินก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆ"



"จริงนะ?"



"จริง"



"ผมขอไปล้างหน้าก่อน"



"เดี๋ยวพี่รอข้างล่าง"



"ได้ครับ"



       คนที่เดินลงมารอเนมข้างล่าง ยังไม่ทันจะหย่อนก้นนั่งลงที่โซฟาก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของตัวเองแผดเสียงร้องจึงควักเครื่องมือสื่อสารจากกระเป๋ากางเกงตัวเองและกดรับ


"ว่าไง?"



[กูอยู่หน้าบ้าน มาเปิดประตูให้หน่อย]



      วางสายพลางขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะเดินออกไปหาแม็ค



"มารับเนมเหรอ?"


"อืม"



"เนมไม่ได้บอกมึง?"



"บอกอะไรวะ?"



    ตูนถอนหายใจที่สุดท้ายเนมก็ดื้อไม่ยอมทำตามที่ตูนบอกจนได้



"เข้ามาก่อนสิ"


     เปิดประตูรั้วบ้านรับเพื่อนเข้ามา ในขณะนั้น แม็คกอดคอตูนและพูด



"สุขสันต์วันเกิดเว้ยไอ้ตูน มีความสุขมากๆ แล้ววันนี้นัดพวกไอ้เท็นรึยัง? กูว่างนะไปฉลองได้"



"ไม่ว่ะ คืนนี้ กูคงไม่ไปกินเลี้ยงที่ไหน อยากอยู่บ้าน"



"อะไรวะ? ไม่น่าเชื่อว่ามึงไม่อยากไปไหน"



"เลิกสนใจเรื่องกู แล้วเคลียร์กับแฟนมึงให้รู้เรื่องเหอะ"



      คนที่ได้ยินดังนั้น ยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งรอที่โซฟาด้วยกันกับตูน สักพักใหญ่ๆที่เนมเดินลงบันไดมาด้วยรอยยิ้ม หลังจากที่มัวแต่เช็คเสื้อผ้าหน้าผมอยู่นาน


"พี่ตูนไปกันครับ" คนยิ้มชะงัก เมื่อพอเงยหน้ากลับเห็นแม็คนั่งข้างๆพี่ตูน


"แม็คมาได้ไง? ไหนบอกไม่ว่าง"



"แล้วถ้าผมไม่ว่างก็ไม่คิดจะกลับบ้าน? จะนอนค้างบ้านคนอื่นอย่างงั้นเหรอ?"



"...."



    เนมนิ่ง



"อย่าเคืองผมเลย ผมขอโทษ"



     ตูนปล่อยให้ทั้งสองได้สะสางปัญหากันจึงเดินหนีเข้าครัว


"แม็คมีอะไรอยากพูดกับเราอีกไหม?"



"ผมขอโทษ ดีกันนะ"



"แค่นี้เองเหรอ?"



"อืม"



"แม็คลืมวันเกิดเรา"



    แม็คชะงัก พอเนมทักถึงนึกออก แม็คจนคำพูด ทำหน้าสลด เมื่อเห็นอีกฝ่ายแสดงออกชัดแจ้งว่าน้อยใจ



     แต่วินาทีนั้น...



"แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทู ยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทู ยู แฮปปี้เบิร์ดดดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดดดดดเดย์  แฮปปี้เบิร์ดดดดดดเดย์ ทูททททู......ยูยยยยยู"



     เจ้าของบ้านถือไอศกรีมเค้กช็อกโกแลต คุกกี้ แอนด์ ครีมพร้อมร้องเพลงอวยพรวันเกิดแก่คนที่ยืนหน้าบึ้ง



    คู่รักที่กำลังงอนกัน ยืนนิ่งงัน หันไปตามเสียง เมื่อเห็นเค้กถูกประดับด้วยเทียนหลายเล่มส่องแสงสว่างไสว



"สุขสันต์วันเกิดนะเนม แม็คฝากพี่ซื้อ มันอยากเซอร์ไพร์สเนมใช่ไหม? ไอ้แม็ค..."



    แม็คยืนอึ้ง กระอึกกระอัก เมื่อเพื่อนโยนคำถามมาทางนี้ แม็คหันไปหาเนมอย่างยิ้มๆก่อนตอบ



"อืม...เป็นไง? เซอร์ไพร์สไหมเนม?"



    ยามนี้ สีหน้าเปลี่ยนทันที คนที่หน้าบูดเป็นตูดหมาในตอนแรกกลับยิ้มแป้นอย่างดีใจ เพราะไม่คิดว่าแม็คจะเซอร์ไพร์สจนเขาคาดไม่ถึง ที่สำคัญ ยังรู้สึกผิดกับเรื่องราวก่อนหน้านี้ที่เอาแต่ต่อว่า น้อยใจและงอนแม็คเกือบทั้งวัน



    ยังยิ้มไม่หุบ หลับตาอธิษฐานและเป่าเทียนจนดับหมด



"ทำไมไม่บอกล่ะว่าแอบทำเซอร์ไพร์ส ขอบคุณนะแม็ค"
ว่าจบก็เข้าไปสวมกอดและหอมแก้มแฟนตัวเองจนลืมความน้อยใจ เสียใจไปหมดสิ้น



"ครับ"


"ถ้างั้นมานั่งกินกันก่อนกลับบ้านเถอะ แม็ค พี่ตูนมากินเค้กวันเกิดกัน"



      มองคนที่สีหน้าสดใสขึ้นก็ยิ้มตาม



"กินกันสองคนเถอะ พี่ลดความอ้วน"



"โห...ไม่เชื่อหรอก นานๆทีจะกินนะพี่ตูน อีกอย่าง นี่วันเกิดผมด้วย"



        ตูนกำลังจะอ้าปากปฏิเสธ แม็คก็โพล่งขึ้น



"วันเกิดเนมคนเดียวที่ไหนกัน วันเกิดไอ้การ์ตูนด้วย"
หันขวับไปมองเพื่อนที่จงใจบอกก็ได้แต่นิ่ง


"จริงดิ? โห...โคตรบังเอิญอะ ถ้างั้นกินด้วยกันเลยพี่ สุขสันต์วันเกิดนะครับพี่ตูน ขอให้ได้ทุกอย่างตามใจปรารถนานะ"



"เดี๋ยวไปหยิบจานแบ่งให้"



         ไม่ได้คิดตอบรับหรือจะสนใจคำพูดเนม ตูนหมุนตัวเดินไปหยิบภาชนะในครัว



          แม้จะเป็นเจ้าของวันเกิดร่วมกัน แต่ตูนกลับให้เนมเป็นคนตัดแบ่งเค้ก ก่อนจะแจกจ่ายความอร่อยครบทั้งสามคน ต่างคนต่างกินเค้กกันอย่างเอร็ดอร่อย แต่คนที่ดูจะมีความสุขมากซะจนแสดงสีหน้าออกมา ก็คือ เนม เพราะตักเข้าปากแต่ละคำก็ยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่ไม่หยุด



          ทั้งสามกินพอเป็นน้ำจิ้ม เพราะแม็คบอกเนมว่าอยากกลับบ้าน ไม่นานมากนักที่เนมและแม็คก็เดินออกมา โดยมีตูนมายืนรอส่งทั้งสองตรงประตูรั้วหน้าบ้าน คนที่อยู่นอกรั้วก็หันไปบอกพี่ตูนด้วยรอยยิ้มของคนมีความสุข



"ขอบคุณที่ไปรับผมเมื่อคืนและคอยดูแลผมอย่างดีเลยนะพี่ตูน"



"อืม"



"เนม ไปรอที่รถก่อน ผมขอคุยกับตูนแป๊ปนึง"



"อ่าห้ะ"



      หลังจากเนมเดินคล้อยหลังไป แม็คก็วกเข้าเรื่อง



"ขอบใจสำหรับเรื่องเค้ก"



"ไม่เป็นไร"



"มึงรู้ได้ไงว่าเนมเกิดวันนี้"



"ไม่รู้ กูแค่ซื้อเค้กจะมากินของกูเอง"



"แน่ใจ?"



"เออ"



"ที่เห็นวันนี้ กูรู้สึกว่ามึงนี่ดูแลเนมดีซะเหมือนเป็นแฟนกันเลยนะ"



       มองคนแขวะ จึงโต้กลับ


"มึงไม่ควรหึง ถ้าจุดเริ่มต้นมึงไปรับเนมเมื่อคืน สถานการณ์จะเปลี่ยน เหตุการณ์วันนี้จะไม่เกิดขึ้น"



"ก็กูไม่ว่าง"



"ความจริงหรือข้ออ้าง?"



"อย่าทำเป็นรู้ดี ไอ้ตูน"



        พอเห็นหน้าแม็ค ก็นึกขึ้นได้ว่ามีอีกเรื่องที่อยากเตือน เรื่องการมีรสนิยมทางเซ็กซ์แบบซาดิสม์ เพราะตอนที่ตูนอาบน้ำให้เนม เขาเห็นรอยช้ำและรอยฟันทั้งเก่าและใหม่เป็นจำนวนมากปรากฏตามส่วนต่างๆในร่มผ้า เรื่องแบบนี้ ถ้ามีความต้องการตรงกันทั้งสองฝ่าย ก็ถือว่าโชคดี แต่ถ้าไม่ล่ะ...



        เพราะห่วงเนมถึงอยากพูด แต่พอกำลังจะอ้าปากเปล่งวาจาก็รู้ว่าตัวเองกำลังยุ่ง ก้าวก่ายเรื่องของคนอื่นมากเกินไป ความจริงแล้ว ตูนจะเข้าไปแส่หาเรื่องทำไม มันไม่ใช่เรื่องของเขาด้วยซ้ำ



        ...อย่าให้ความหวังดีจนเกินไป สร้างภัยให้ตัวเอง...



       ถอยกลับมาอยู่ตำแหน่งเดิมน่ะดีแล้ว...ไอ้ตูน


"เนมรักมึงมาก"
บอกความจริงที่ตูนสัมผัสได้ให้เพื่อนรู้



"ถ้างั้นก็ดี แสดงว่า เนมก็ไม่คิดมองใครนอกจากกู โชคดีนะไอ้ตูน กลับก่อนละ"



     มองเพื่อนที่เดินไปยังรถยนต์ของตัวเอง ก็ได้แต่ถอนหายใจ..หมุนตัวสาวเท้ากลับเข้าบ้านตัวเอง




****1.1****

DrSlump >>> ที่เมนท์มา รู้ได้ไงง่า เก่งจังค่ะ แต่ความจริงแล้ว แม็คก็มีอะไรลึกกว่านั้นอีกนะคะ แต่บอกไม่ได้ :z2: :z2: :z2: :z2:

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ :mew1: :mew1:

หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..*/เปลี่ยนชื่อนย./ เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 5 [18-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 19-09-2018 11:28:01
 :pig4: :pig4: :pig4:

รอดูพฤติกรรมที่ซ่อนไว้ของแม็ค  แต่ที่เผยออกมาอีกหนึ่งคือ  ซาดิสม์  อิอิ
หัวข้อ: Re:*..--+--..*คนที่สาม*..--+--..*/เปลี่ยนชื่อ/ เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่5.2[20-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 20-09-2018 19:29:13
ตอนที่ 5 ความหลัง (2)










"แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทู ยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทู ยู แฮปปี้เบิร์ดดดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดดดดดเดย์  แฮปปี้เบิร์ดดดดดดเดย์ ทูททททู......ยูยยยยยู"



"แม่ขอให้น้องการ์ตูนน่ารักๆและเป็นเด็กดีตลอดไปนะคะ"



"พ่อขอให้การ์ตูนแข็งแรงๆเหมือนซูเปอร์ฮีโร่"



"ขอบคุณครับ"



    เด็กน้อยตัวอ้วนตาโต ตีขาตัวเองอย่างดีใจ ก่อนจะเป่าเทียนบนเค้กก้อนโตที่มีชื่อเขาเขียนไว้



    ณ สนามหญ้าหน้าบ้าน ยามนี้เป็นช่วงเวลาแห่งครอบครัวที่มีพ่อ แม่และพี่ชายของการ์ตูนนั่งยิ้มด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข



   หลังเป่าเทียนดับสนิท แม่ทำหน้าที่ตัดแบ่งเค้กเป็นชิ้น โต๊ะเล็กใกล้กันนั้นมีของขวัญที่พ่อและแม่นำมาให้ลูกชายคนเล็กตั้งวางไว้อยู่



    ตอนนี้ เค้กชิ้นโตถูกแจกจ่ายจนครบทุกคน ในขณะที่ต่างคนต่างกินเค้กกันอย่างเอร็ดอร่อย เด็กชายที่หันหน้าออกไปทางประตูบ้านพลันเหลือบมองเห็นเด็กตัวเล็กเกาะประตูรั้วเหล็กอยู่ด้านนอก



   คนที่ตักเค้กเข้าปากยังไม่ทันเคี้ยวให้ละเอียดก็ชะงักพลางขมวดคิ้ว

   

"แม่ๆ มีเด็กอยู่หน้าบ้านครับ"



    ทุกคนหันไปมองแล้วสงสัยว่าพ่อแม่บ้านไหนปล่อยเด็กออกมาในเวลาค่ำมืดดึกดื่นเช่นนี้





"หืม...ลูกบ้านไหนกัน?"



"เดี๋ยวผมไปดูเองครับ"


     มารดามองลูกคนเล็กวิ่งไปที่รั้วบ้านจึงสั่งให้ลูกคนโตไปดูน้องอย่างเป็นกังวล



"โตโต้ไปดูการ์ตูนซิลูก"



"ครับแม่"



    เด็กอ้วนวัยสิบขวบเลื่อนประตูรั้วบ้านและเดินออกไปถาม



"อยู่บ้านไหน? มาทำอะไรตรงนี้?"



    คนที่มองเด็กชายตัวอ้วน สูง ใหญ่กว่าตัวเอง จึงคิดว่าคนเบื้องหน้าน่าจะมีอายุมากกว่า



"อยู่บ้านข้างๆพี่ พี่กินเค้กกันอยู่หรอ? ผมอยากกินเค้กบ้าง"



      มองเด็กพูดเสียงแผ่วก็ฉงนใจ สงสัยคงได้ยินเสียงเพลงอวยพรวันเกิดดังออกไปถึงมาหยุดตรงนี้



"อยากกินเค้กหรอ?"




"ใครมา? ไอ้หมีน้อย"



"บอกแล้วไงว่าอย่าเรียกแบบนี้ไงเล่า พี่โต"



      ว่าพี่ชายด้วยความขุ่นเคืองและออกอาการฮึดฮัด แม้จะเป็นพี่น้องแท้ๆก็เถอะ แต่รูปร่างช่างสวนทางเสียนี่กระไร พี่โต ตัวสูงผอม ผิดกับการ์ตูนที่หุ่นขยายออกข้างมากไปหน่อย รูปลักษณ์ถึงอ้วน แก้มจวนแตกจนพี่ชายให้ฉายาและเรียกจนติดปากมากกว่าชื่อจริงๆไปเสียแล้ว



"พี่หมีฮะ ผมอยากกินเค้ก"



กึก!...



    หันขวับไปมองเด็กตัวน้อยที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว ดันเรียกสรรพนามตามพี่ชายของการ์ตูน จะต่อว่าก็ทำไม่ลง เมื่อได้ยินเสียงพูดเบาหวิวพร้อมยืนมองตาละห้อย



"รอตรงนี้นะ ห้ามไปไหน"



    การ์ตูนดันหลังพี่ชายให้กลับไปหาแม่ที่โต๊ะด้วยกัน



"แม่ ผมขอเค้กชิ้นหนึ่งนะครับจะให้น้องข้างบ้าน"



"ก็เรียกน้องมากินด้วยกันเลยสิลูก"




"ไม่เอา เดี๋ยวน้องแย่งของผมหมด นี่เค้กของผมนะ"
บอกเสียงเข้ม



"ฮ่าๆ จะให้เขาก็ยังแอบหวงอีกนะ การ์ตูน"



    เด็กชายตัวอ้วนหน้ามุ่ยก่อนจะรับจานกระดาษใส่เค้กช็อกโกแลตชิ้นเบ้อเร่อ เดินถือไปให้เด็กหน้าบ้านทิ้งตัวลงนั่งที่พื้นปูน มองเด็กหนุ่มที่พอเห็นเค้กก็ทำหน้าดีใจราวกับได้ของเล่นชิ้นใหม่





"ขอบคุณฮะ"




"ชื่ออะไร?"



"เนมฮะ"




  มองเด็กกินมูมมามแต่สัมผัสได้ถึงความสุขทุกคำที่ตักเข้าปาก ก็หลุดยิ้มตาม



"โห...เค้กอร่อยมากๆเลย ดีใจจัง ผมได้กินเค้กวันเกิดแล้ว"


     การ์ตูนเบิกตาโพลง ไม่คิดว่าเด็กคนนี้จะเกิดวันเดียวกับเขา


"นายเกิดวันนี้หรอ?"



"ใช่ฮะ แต่พ่อแม่ผมไม่ว่างฉลองด้วย บอกต้องไปทำงาน ตอนนี้ก็ยังไม่กลับเลยฮะ"



"แล้วอยู่บ้านกับใคร?"



"พี่สาวฮะ ส่วนพี่เลี้ยงกลับบ้านไปแล้ว"



      ซีกหน้าที่ซบลงกับเข่าเอียงมองคนที่ยิ้มไป กินไปตลอดการกินเค้ก



     ไม่กี่นาที เด็กตัวน้อยก็ซัดเค้กจนไม่เหลือซาก



"พี่หมีฮะ มีอีกไหม?"



"ห๊ะ?"


"อร่อยฮะ อยากกินอีกอะ"


     สบตาเด็กใสซื่อที่มองมาอย่างร้องขอก็ได้แต่ถอนหายใจ ความจริงยังเหลือเค้กอีกชิ้นที่เป็นของการ์ตูนแต่เขาอยากเก็บไว้กินเอง



     จ้องมองดวงตากลมโตฉายความสดใสอยู่นาน จนกระทั่ง การ์ตูนหลุบตาลงและสุดท้ายก็ใจอ่อน



"รอแป๊ปนึง"



      ลุกขึ้นยืนและก้าวยาวๆไปที่โต๊ะ มองเค้กชิ้นสุดท้ายด้วยแววตาเสียดาย



"การ์ตูนจะเอาไปให้น้องคนนั้นเหรอจ๊ะ?"




"ใช่ครับ"



"ลูกแม่น่ารักจังเลย ดีแล้วลูกเสียสละให้น้อง ไว้พรุ่งนี้แม่จะไปซื้อเค้กรสเดิมมาให้ใหม่"




"เย้ๆ...ขอบคุณครับแม่"



      ใบหน้าที่เศร้าเสียดาย แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มกว้างในฉับพลัน



"อะ"

 

      ยื่นไปให้เด็กตัวน้อยตรงหน้า เนมรับไปถือแล้วตักกินอย่างคนตระกละตระกราม





"ผมชอบพี่หมีจังเลย พี่หมีน่ารัก ใจดีเหมือนคุณลุงซานต้า ตัวก็อ้วนๆใหญ่ๆเหมือนกันด้วย"




      การ์ตูนส่ายหน้าน้อยๆ มองคนที่พูดทั้งๆที่เคี้ยวอยู่ แถมปากก็เลอะคราบช็อกโกแลตจนการ์ตูนต้องใช้แขนเสื้อเช็ดริมฝีปากให้

       

"พูดมากน่า เดี๋ยวแย่งคืนซะเลย นี่มันเค้กของเรานะ อุตส่าห์ให้"



"มันอยู่ในมือเนม มันเป็นของเนมแล้วนะ"






"โอ้ย...หาตั้งนาน อ้าว... เนมกินอะไรอยู่ เอาคืนเขาไปเลยนะ"
เด็กหญิงตัวเล็กรีบวิ่งมาหาอย่างตระหนก ตกใจที่เห็นน้องชายนั่งอยู่กับคนอื่น



     อันที่จริง น้ำตะโกนเรียกน้องชายตั้งแต่อยู่ในบ้านแล้ว พอไม่ได้ยินเสียงขาน จึงลนลานวิ่งตามให้ทั่ว จนออกมาหน้าบ้านถึงพบน้องชายนั่งคุยกับคนข้างบ้าน



     น้ำจับจานกระดาษ ยื้อแย่งมาจากเนมเพื่อคืนเจ้าของ แต่เนมกลับยึดไว้แน่น



"ไม่เป็นไรหรอก เราให้น้องเองแหละ"



"จริงนะ?"



"อืม"



"แล้วเนมขอบคุณเขาหรือยัง?"



"ขอบคุณแล้วน่า พี่หมีอะนะใจดีที่สุดในโลกเลยให้เนมกินเค้กตั้งสองชิ้นแหนะ"



"ห้ะ...สองชิ้น"
สาวน้อยหลับตาพลางขยี้ผมตัวเองจนยุ่งเหยิงที่น้องชายไม่มีมารยาทมาขอกินอาหารกับเพื่อนบ้าน มองด้วยดวงตาดุๆ เนมสร้างเรื่องไว้แบบนี้จะบอกแม่ยังไงดีล่ะ



     น้ำก้มตัวลงไปกระตุกแขนเนมให้ลุกขึ้น ก่อนกลับ



"ถ้างั้นก็กลับบ้านได้แล้ว ขอบใจที่ให้เนมกินเค้กนะ"
ประโยคแรกบอกน้องชาย ประโยคหลังบอกเด็กชายใจดีที่ให้เนมได้กินเค้กอย่างสมหวัง



"ไม่เป็นไร วันเกิดน้องนี่"

   

"ผมไปก่อนนะฮะ พี่หมี"






      มองเด็กตัวเล็กที่ยังมีแก่ใจหันหลังมาแลบลิ้นเลียช้อนโชว์พลางโบกมือบ๊ายบายพร้อมยิ้มกว้างจนฉีกไปถึงใบหู



      ยืนมองจนสองพี่น้องผลุบหายเข้าไปในบ้าน



      ไอ้เด็กคนนี้...ก็น่ารักดีเหมือนกันแฮะ...













       หลังจากเหตุการณ์ที่เนมไปขอเพื่อนบ้านกินเค้กนั้น วันรุ่งขึ้น พ่อ-แม่ของเนมต้องรีบไปขอโทษขอโพยที่ปล่อยปละละเลยจนลูกตัวเองต้องไปรบกวนคนอื่น ในขณะเดียวกันก็ขอบคุณที่แบ่งปันอาหารแก่ลูกของตัวเองด้วย



      และนั่นเองจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้สองครอบครัวได้สร้างมิตรภาพข้ามรั้ว...



"หมี ไอ้หมี"




     คนที่มัวแต่นึกถึงความหลัง ก็หันไปมองพี่ชายตัวเอง




"อ้าวพี่โต"




"เรียกตั้งนานคิดอะไรอยู่?"
พี่ชายจูงอะตอมเดินมานั่งที่โซฟาข้างๆตูน



   

      การ์ตูนยังคงนั่งนิ่ง จุดรอยยิ้มบางเบายามที่นึกถึงเรื่องเนมสมัยเด็ก คนที่จดจำเนมได้ตั้งแต่วันแรกที่เจอ วันที่แม็คพามาแนะนำว่าเนมเป็นใคร?



     จะลืม เด็กที่ดื้อ เอาแต่ใจ และมีขี้แมลงวันใต้หางตาได้อย่างไรกัน





"พี่โต พี่จำเด็กข้างบ้านตอนเรายังเด็กได้ไหม?




     โตนั่งนึกจนคิ้วขมวดกันเป็นปม

     

"จำเรื่องราวอะได้ แต่จำหน้า-จำชื่อไม่ได้"



"ที่ผมบอกพี่ว่าเมื่อคืนมีคนมานอนค้างบ้านเรา ก็คือ น้องคนนี้"



"จริงเหรอ? โลกกลมจัง หมีจำได้ แล้วน้องจำหมีได้ไหม?"



"น่าจะจำไม่ได้"



"แล้วทำไมไม่บอกไปล่ะ"



"ไม่รู้จะบอกทำไม?"



"อ้าว แล้วอย่างนั้นจะมานั่งคิดให้ปวดหัวจนถึงตอนนี้ทำไม?"



"ก็แค่เล่าให้พี่โตฟังเฉยๆว่า ไม่น่าเชื่อจะได้กลับมาเจอกัน"



"แน่ใจนะไอ้หมี? ถ้าไม่สนใจน้อง ก็คงไม่เก็บเอามาคิดหรอกมั้ง ก็แค่เด็กข้างบ้านไม่ใช่เหรอ?"



"อย่ามาจับผิดผมน่าพี่โต ผมออกไปข้างนอกก่อนแล้วกัน"



"จะไปไหน? พี่ซื้อซาซิมิมาฝาก วันนี้วันเกิดหมีนี่ มากินก่อนสิ"



"ขอบคุณพี่ ผมแค่จะไปเซเว่นแป๊ปเดียว"



"ตามใจ ถ้างั้นเดี๋ยวเก็บเข้าตู้เย็นให้ก่อนแล้วกัน"



"ครับ"



      ตูนแยกกับพี่ชายและสาวเท้าเดินออกไปนอกตัวบ้าน



      ยังติดอยู่ในหัวสมองและมองว่าเป็นเรื่องบังเอิญเหมือนกันที่ได้กลับมาเจอะเนมอีกครั้ง แม้มันจะเป็นข่าวดีที่ได้พบเจอคนที่สร้างความทรงจำดีๆในวัยเด็กด้วยกัน แต่พอโตขึ้นอะไรหลายๆอย่างก็เปลี่ยนแปลงไป



     ตูนยังคงเก็บไว้เป็นความลับ และดีใจที่เนมจำเขาไม่ได้ เพราะถ้าเกิดเนมจำได้และกลับมาสร้างความสนิทสนมแน่นแฟ้นเหมือนก่อน ตูนนี่ล่ะที่จะลำบากใจภายหลัง



     เพราะตูนมีความจริงที่รู้อยู่แก่ใจดี ก็คือ ยิ่งสนิทกันมากเท่าไหร่ ตูนก็ต้องระวังใจตัวเองมากเท่านั้น



     กลัวที่จะ...เผลอใจรัก...เนมมากไปกว่านี้...



     บางที การทิ้งระยะห่างของความสัมพันธ์และคงสถานะว่าเป็น...เพื่อนแฟน...แบบนี้ล่ะ เหมาะสมที่สุดแล้ว...






.................................

พี่การ์ตูน ตอนเด็กนี่แบบ...มุมิ ไปเลย

มาเอาใจช่วยทั้งสามกันกับความรักครั้งนี้ด้วยนะคะ  :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้า


หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..*/เปลี่ยนชื่อนย./ เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่5.2[20-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 21-09-2018 00:33:26
รสนิยมแบบนี้ถ้าไม่ชอบทั้งสองฝ่ายอย่าฝืนเลยจริงๆ เป็นห่วงเนม  :katai1:
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..*/เปลี่ยนชื่อนย./ เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่5.2[20-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 21-09-2018 00:53:57
 :pig4: :pig4: :pig4:

อ่อ...มิน่าหล่ะตอนพบกับเนมครั้งแรก  พี่การ์ตูนทำท่าเหมือนกับว่ารู้จักเนมมาก่อน แต่ก็แอ๊บไว้

ยิ่งทำดีกับเนมด้วยทุกสิ่งอย่าง  ก้เพราะมีความหลังฝังใจกับเนมนั่นเอง

แต่...อิคนพี่จำได้ แต่อิคนน้องดันจำไม่ได้ซะงั้นหล่ะ
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..*./ เนม-ตูน(แม็ค)ตอนที่ 6 [21-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 21-09-2018 22:30:12
ตอนที่ 6 คนที่ต้องการที่พึ่ง





     







      ในเวลาเดียวกัน ถัดมายังคู่รักที่ปรับความเข้าใจกันลงตัว ภายในห้องโดยสารรถยนต์ คนไม่ยอมเคลื่อนรถ กลับเอาแต่จ้องเนมเขม็ง



"เป็นอะไร แม็ค"


     แม็คตัดสินใจเปลี่ยนจากการออกรถ เป็นปลดเข็มขัดนิรภัย ไม่พูดไม่จา โถมตัวข้ามไปฝั่งที่นั่งข้างคนขับ วางมือหนึ่งลงบนเบาะรถ ส่วนมือที่ว่างอีกข้างจับหัวไหล่ของเนมแล้วกดจมูกซุกไซ้ซอกคอ ขบเม้มดึงดูดผิวเนื้อหนักๆ จากนั้นก็กัดอย่างแรงจนทิ้งรอยฟันไว้ให้ดูต่างหน้า





"มะ...แม็คเจ็บนะ แล้วนี่คิดจะทำอะไร? เราต้องไปทำงานนะ เดี๋ยวมีคนเห็น"



"ก็ตั้งใจทำให้เห็น"




     ระยะเวลาที่คบกันและได้สานสัมพันธ์ทางเซ็กซ์นั้น เนมรู้ดีว่าแม็คเป็นมีรสนิยมแบบไหน? ทุกครั้งของการร่วมรักกัน แม็คจะบีบ เค้น คลึง ขยำอย่างรุนแรง อีกทั้งยังชอบสร้างรอยรักใหม่ๆ จนร่างกายของเนมมีแต่แผลและรอยช้ำจนทั่ว ดีหน่อยที่แม็คนิยมทำในร่มผ้าเป็นส่วนใหญ่ เพิ่งจะมีคราวนี้ ที่แฟนของตัวเองกลับสร้างรอยรักตำแหน่งใหม่ที่เปิดเผยและมีอาจมีคนเห็นได้ง่ายๆ



"แม็คเป็นอะไร?"



       คนถามลูบลำคอตรงที่แม็คกัด พลางตกใจ เมื่อเห็นแม็คช้อนตามองอย่างคนเลือดเย็น


"ผมเพิ่งสังเกตเห็น ว่าเนมใส่เสื้อผ้าไอ้ตูน"


 "ก็เสื้อผ้าเรามีแต่กลิ่นเหล้า ถ้าเราไม่ใส่เสื้อผ้าพี่ตูนจะให้เราเดินเปลือยออกมาหรือไง?"



"อย่าเถียงผมนะ"



     คนเถียงตกใจ เมื่อแม็คง้างมือมาจับคอไว้หลวมๆ และใช้แรงดันร่างเนมจนกระแทกกับกระจกรถ จากนั้น แม็คพยายามใช้มือล้วงเข้าไปในกางเกงขาสั้น เนมจับข้อมือแม็คให้หยุดชะงัก



"แม็ค ปล่อย! เราไม่มีอารมณ์"



    ไม่ได้ต้องการจะเล่นตัวหรือสะดีดสะดิ้ง เพียงแต่เนมไม่สามารถปรับโหมดอารมณ์ทันได้ ในเมื่อตอนนี้ เราสองคนทะเลาะกันอยู่แล้วใครจะไปมีอารมณ์ร่วมด้วยได้



"อย่าขัดใจผม? อย่าทำให้ผมโกรธไปมากกว่านี้ แค่การที่เนมอยู่กับไอ้ตูนแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่สมควรเลยนะ"



     เนมนิ่งอึ้ง นั่งมองหน้าแฟนตัวเองด้วยแววตาตัดพ้อ เขาผิดอะไร? แค่ยิ้มให้พี่ตูนก็ไม่ได้เลยหรือ?


"แม็คหึงเราหรอ?"


"...."



"พี่ตูนก็เพื่อนแม็คนะ ทำไมต้องหึงด้วย? อีกอย่าง เราไม่ได้ชอบพี่ตูนเลย  เราขอเถอะ แม็ควันนี้วันเกิดเรา อย่าหาเรื่องทะเลาะเลยนะ"



      แม็คมองหน้าเนมก่อนจะกระชากร่างเนมเข้ามากอด



"ขอโทษ"

"แม็ค เราตามอารมณ์แม็คไม่ทันแล้วนะ แม็คเป็นอะไร พูดมาตร...อื้อ"




     คนที่เอ่ยคำขอโทษผละห่างออกมาแล้วประกบจูบ คนอารมณ์รุนแรงบดถูริมฝีปากอย่างหอบหื่น ก่อนจะค่อยจับปลายคางอีกฝ่ายให้เผยอปากและใช้ปลายลิ้นร้อนสอดลึกเข้าสู่ภายใน กวาดไล้โลมเลียทั่วผนังปาก

     

     ดั่งคนคลุ้มคลั่งราวกับสัตว์ป่า เมื่อความรุนแรงเริ่มทวีคูณมากขึ้นเรื่อยๆ แม็คไม่มีถนอม เขาบดจูบดึงดูดริมฝีปากหนักๆจนปากสีสดบวมเจ่อ ก่อนจะใช้ฟันขบกัดที่ริมฝีปากล่างของเนมอย่างแรง


      คนเจ็บผลักอกแม็คออกห่างทันที เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวเลือดคลุ้งในปาก



"โอ้ย!...แม็ค"



      แตะริมฝีปากล่างก็พบว่าเลือดสีแดงสดซึมออกมา มองคนที่ทำตัวเองปากแตกด้วยสายตาขุ่นเคือง



"แม็ค มันแรงไปแล้วนะ"



      ครั้งนี้ เป็นครั้งที่เนมไม่พอใจ เพราะแม็คกำลังใช้อารมณ์ร้ายๆมาลงที่เนม



      คนที่เห็นเนมเลือดออกเอี้ยวตัวคว้ากระดาษทิชชูจากที่นั่งด้านหลัง มาซับริมฝีปาก



     เนมมองหน้าคนที่ซับเลือดให้ด้วยความน้อยใจ...รู้ว่าแม็คมีรสนิยมซาดิสม์เป็นทุนเดิม แต่รอบนี้ แม็คกำลังใช้ความโกรธผสมร่วมลงไปด้วย


      เนมไม่สามารถล่วงรู้ในตอนแรกได้หรอกว่า คนที่เพิ่งเจอนั้น ส่วนลึกแล้วเขามีเซ็กซ์เป็นแบบไหน?



    บางที ภาพลักษณ์ภายนอกกับตัวตนจริงๆจากภายใน อาจแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว



    เมื่อครั้งอดีต ช่วงตอนที่แม็คจีบเนมใหม่ๆ เขาคือผู้ชายทั่วไปที่เนมก็ดูไม่ออกหรอกว่าแม็คจะมีรสนิยมทางเซ็กซ์ดุดันและป่าเถื่อน พอได้คบกัน รักกัน ร่วมรักกัน ทุกอย่างถึงเพิ่งเผยออกมา ว่าความจริง แม็คซาดิสม์และชอบความรุนแรงมากแค่ไหน?



    เรื่องราวทั้งหมด เนมได้แต่เก็บเอาไว้ ยังไม่เคยได้พูดออกไป เพราะคิดว่า หากยอมได้ก็ยอม



   คงเป็นเพราะ...รัก...ที่ทำให้เนมยอมทนความเจ็บปวด ยอมทรมานเพื่อความสุขของอีกฝ่าย เท่านั้นมันก็เพียงพอแล้ว



"ผมอารมณ์ร้อนไปหน่อย ขอโทษ"


"แม็ค ฟังเรานะ เราไม่ได้ชอบพี่ตูน และเราไม่เคยคิดนอกใจ"


 

"โอเค ถ้างั้น ผมขอไถ่โทษพาเนมไปดูหนังนะ"



"ในสภาพนี้นี่นะไม่เอาหรอก" กดสายตาลงต่ำมองสภาพตัวเองทั้ง ริมฝีปากแตก ไหนจะมีร่องรอยสีสดถูกประทับตราตรงลำคอ ใครเห็นก็คงมองออกว่าเพิ่งผ่านศึกอะไรมา



"ทำไมต้องสนใจคนอื่นล่ะ ไปเถอะ ไปผ่อนคลายกันบ้าง"




"...."



     และแล้ว คนที่แม้จะมีสิทธิ์ออกเสียง แต่ก็ไร้ผล เนมทำอะไรไม่ได้ เมื่อคนข้างๆก็ออกคำสั่งให้ทำตามใจอยู่ดี





      ทั้งสองถึงห้างสรรพสินค้าในช่วงใกล้เวลาปิดทำการ แต่ส่วนโรงหนังยังคงสามารถดูได้อยู่ คนที่ดึงดันพาแฟนมาดูหนังรีบปรี่ไปจองตั๋วหนังเรื่องที่เนมอยากดู และระหว่างที่รอ แม็คพาเนมไปซื้อเสื้อผ้าในร้านแบรนด์ดังหวังเอาใจเจ้าของวันเกิดให้อารมณ์ดีขึ้น



     ช็อปจนได้เสื้อผ้าและกางเกงไปหลายตัว ในขณะที่ร้านรวงต่างๆในห้างสรรพสินค้ากำลังจะปิด อีกสักพัก กว่าหนังที่ตัวเองดูจะถึงรอบฉาย แต่เพราะไม่มีที่ไป ทั้งสองจึงต้องไปนั่งรอที่ส่วนรับรองลูกค้าตรงหน้าโรงภาพยนตร์



      ทั้งคู่ตั้งใจขึ้นลิฟต์ไปชั้นโรงหนัง ยืนรอไม่นานเท่าไหร่ แสงไฟของสัญลักษณ์กระพริบบอกว่าลิฟต์ถึงชั้นที่ทั้งสองอยู่เรียบร้อย พอประตูเปิดออก เนมและแม็คเดินเข้าไป ในขณะที่กดปุ่มตัวเลขและกำลังจะกดปุ่มปิด ก็มีคนตะโกนเรียกให้รอ



    เห็นคนที่วิ่งเข้ามาด้านใน เนมเบิกตาโพลงเมื่อพบกลุ่มวัยรุ่นหกถึงเจ็ดคน อัดเข้ามาอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยมอันคับแคบ



     เพียงประตูปิด มือที่ถือถุงกระดาษอยู่เริ่มสั่น คนที่เดินตัวแห้งก่อนหน้า กลับมีเม็ดเหงื่อผุดซึมทั่วใบหน้าและแผ่นหลัง เนมหน้าซีดเผือกขบเม้มริมฝีปากล่างเข้าหากัน รู้สึกอึดอัดและดูเหมือนจะหายใจลำบาก





"เนมเป็นอะไร?"


     จับสังเกตได้ว่าเนมยืนตัวแข็งทื่อ ใบหน้าซีดเหมือนคนเห็นผี จึงเอ่ยถาม


"ระ...เรากลัวที่แคบ" บอกด้วยเสียงเบาหวิว



"หือ? จริงเหรอ?" ย้ำถามให้แน่ใจ เพราะไม่คิดว่า คนใกล้ชิดจะมีโรคกลัวประจำตัว  แม็คยืนมองคนที่พยักหน้าตอบรับด้วยท่าทีเฉยๆ



      ฟากเนม พอรู้ว่าคนที่อยู่ในลิฟต์ทั้งหมดนั้นมีจุดมุ่งหมายไปที่เดียวกัน ก็ได้แต่ภาวนาให้ลิฟต์ส่งถึงชั้นโรงหนังเร็วๆ



ตึ้ง!



      ดั่งเสียงสวรรค์ เพียงเสียงลิฟต์ดัง ประตูลิฟต์เปิด ทุกคนกรูกันออกมา เนมหยุดเท้าพร้อมสูดลมหายใจ โกยอากาศเข้าปอดอย่างคนใกล้ตาย



"ไม่คิดว่าจะเป็นหนัก"



      เนมยืนนิ่ง ตั้งสติอยู่หลายนาทีก่อนจะเดินทางต่อไปยังที่หมาย



     แม็คเลิกคิ้วขึ้นสูง พลันเหลือบมองแฟนตัวเองที่เดินเงียบไม่พูดไม่จา เขายิ้มมุมปาก โดยที่สมองก็กำลังคิดอะไรอยู่...





 
****1.1****

ก็เข้าใจพี่แม็คนะว่ามีรสนิยมเป็นแบบไหน? แต่น้องเนมเอ้ยยย...ควรบอกแฟนไหมง่าาาาา? ^^ :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 6 [21-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 22-09-2018 00:29:19
 :pig4: :pig4: :pig4:

สงสัยอิพี่แม็คมันจะคิดพิเรนกับเซ็กส์รอบหน้าว่าจะใช้ความกลัวที่แคบของเนมมาเป็นเครื่องมือทรมานเนมเพื่อสนองรสนิยมส่วนตัว
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 6 [21-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 22-09-2018 18:38:01
กลัวใจแม็คจริงๆ  :katai1:
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 6.2 [23-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 23-09-2018 21:39:19
ตอนที่ 6 คนที่ต้องการที่พึ่ง (2)












"หรือจริงอย่างที่เขาว่ากัน พอหมดช่วงโปรโมชั่น ความหวานชุ่มฉ่ำในความรักก็มลายหายไป"

 

     เนมนั่งครุ่นคิดขณะกำลังกินข้าว เพราะผ่านมาแล้วห้าวันที่เนมและแม็คขาดการติดต่อ จากจุดเริ่มต้นเพียงแค่แม็คบอกว่า พ่อและแม่ของแม็คจะมาหาที่บ้าน และทางครอบครัวยังไม่รู้เรื่องที่แม็คเป็นเกย์จึงอยากให้เนมกลับไปพักที่คอนโดตัวเองก่อน  ถ้าพ่อแม่ของแม็คกลับไปจะโทรบอกเนมอีกที

 

     เนมไม่ได้งี่เง่า งอแง เพราะเหตุผลก็มีน้ำหนักมากพอ แต่ที่ฉงนใจมากกว่า คือ แม็คส่งมาข้อความเดียวว่า

 

     'ผมยุ่งมาก ไว้จะติดต่อกลับไป

 

     รักนะ แม็ค..'


 

      หลังจากนั้น แม็คก็เงียบหายไป ไม่ส่งข้อความหรือติดต่อมาทางโทรศัพท์อีกเลย

 

      การอยู่ห่างจากแฟนรวมถึงไม่ได้พูดคุยกันตลอดห้าวันติดนั้น มันช่างทรมานเหลือเกิน

 

       เมื่อจู่ๆ แฟนตัวเองเงียบหายไปโดยไม่ได้เกิดจากการทะเลาะหรือผิดใจกันแต่อย่างใด คนที่สับสนกับชีวิตรักของตัวเอง ก็ตั้งคำถามกับตัวเองขึ้นมาว่า

 

       ทำไม มีแฟนก็เหมือนไม่มีแฟน...

 

       ยามนี้ นายกันต์ธีร์จึงเซื่องซึมและรู้สึกเหงาอย่างน่าประหลาด

 

 

"เนมเป็นอะไร ทำไมหน้าเครียดๆ โดนพี่ตาดุมาหรอ?"


 

       พี่มิวหัวหน้าของเนมถามเมื่อเห็นรุ่นน้องดูไม่ยิ้มแย้ม

 

"เปล่าครับพี่ เครียดเรื่องอื่นน่ะ"

 

"แฟนหรอ?"


 

   

     เนมพยักหน้ารับ ฟากมิวก็คันปากอยากรู้ใจจะขาดว่าสรุปแล้วเนมมีแฟนเป็นผู้ชายจริงๆหรือเปล่า?

 

     อยากฟังความจริงจากปากแต่เห็นสีหน้าของเนมแล้ว อย่าเพิ่งสอดรู้ สอดเห็นจะดีกว่า

 

 

"ครับ"

 

"ทะเลาะกันหรอ?"

 

   เนมส่ายหน้า และเงียบไปครู่หนึ่ง แต่เพราะเนมมีเรื่องอึดอัดใจและสงสัยเลยตัดสินใจถามความเห็นจากคนอื่นๆดูบ้างว่า เขามีมุมมองกับเรื่องนี้อย่างไรกันบ้าง

 

"พี่มิวเคยเหงาทั้งๆที่มีแฟนหรือเปล่าครับ?"


 

"บอกไม่ได้อะ ตอนนี้โสดอยู่"

 

    เนมชะงัก มองพี่มิวที่ดูทำหน้าไม่ถูก

 

"ขอโทษครับ ผมไม่รู้"

 

"ไม่เป็นไร แต่ถ้าถามความเห็นของพี่นะ พี่ว่าโสดแล้วเหงา มันเข้าใจได้อยู่ แต่มีแฟนแล้วเหงาพี่ว่าถึงเวลาที่ควรเปิดใจคุยกันแล้วล่ะ คงมีบางอย่างผิดปกติไป ไอ้นัทแกมีแฟน แกลองตอบน้องซิว่าเคยเหงาทั้งๆที่มีแฟนรึเปล่า?"

 

"โอ้ย!..น้องเนม พี่ไม่มีเวลาให้เหงาหรอกค่ะ หาเรื่องทะเลาะกันได้ทุกวี่ทุกวัน"

 

    เนมยิ้มขำที่พี่นัทพูดติดตลก ก่อนจะเอ่ยขอบคุณ

 

"ขอบคุณนะครับพี่ๆ"

 


     หญิงสาวสองคนไม่คิดเซ้าซี้ พอเนมถามจบก็จบกัน ฟากเนมเงียบและก้มหน้าก้มตากินข้าว โดยคิดตามสิ่งที่พี่มิวบอก

 

    ถ้ามีแฟนแล้วยังเหงา? แสดงว่ามีบางอย่างผิดปกติ..

 

     เนมถอนหายใจแล้วคิดว่า คงถึงเวลา ที่เนมต้องเปิดใจคุยกับแม็คและหาเวลามาปรับความเข้าใจกันให้ลงตัวสักที

 

    หลังจบอาหารมื้อกลางวัน เนมเดินเข้าออฟฟิสกับพวกพี่ๆ ในขณะที่ผ่านจุดประชาสัมพันธ์ ก็มีคนเรียกพี่มิว

 

"มิวๆ แผนกมิวน่ะ มีใครชื่อเนมหรือเปล่า? มีคนฝากของมาให้"



"นี่ไง เนม โอ้ยยยย แฟนให้หรอ? น่ารักน่ะเนี่ย"

 


    ใบหน้าแดงจัดทันที เมื่อรุ่นพี่แซวกับของที่มีคนฝากมาเป็นกล่องสีดำผูกโบว์ริบบิ้นสีขาวพร้อมช่อดอกกุหลาบสีแดงสด ที่แนบการ์ดไว้โดยระบุชื่อ ว่า เนม แต่ไม่ได้บอกว่าผู้ส่งเป็นใคร?

 

        เนมรับกล่องมาด้วยรอยยิ้มเขิน

 

 "หรือแม็คจะรู้ว่าน้อยใจ ถึงส่งของมาเซอร์ไพร์ส"

 

      คนที่ยังไม่เปิดกล่องก็คิดเป็นตุเป็นตะในใจว่าแฟนตัวเองซื้อให้แน่ๆ

 

       ในระหว่างเดินขึ้นบันได พี่มิวและพี่นัทแซวมาตลอดจนกระทั่งถึงโต๊ะทำงาน

 


      กลั้นยิ้มไว้เสียตั้งนาน พอหย่อนกายลงนั่ง คนได้รับของขวัญก็ยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่ ก่อนจะก้มหน้าสูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆจากดอกกุหลาบ จากนั้น เนมค่อยๆเปิดกล่องของขวัญ เพียงเปิดฝากล่อง ใบหน้าที่กำลังปลื้มปริ่มกับดอกกุหลาบ และของขวัญก่อนหน้าแทบช็อค เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ด้านใน เนมโยนกล่องของขวัญทิ้งลงพื้นทันที เมื่อเห็นหนูขาวถูกผ่าท้องจนไส้ไหลออกมา ในกล่องนั้นมีกระดาษสีขาวขนาดเอห้าที่เขียนข้อความด้วยประโยคเดียวกันราวกับก๊อปปี้ว่า



มึงต้องตาย...

มึงต้องตาย...

มึงต้องตาย...




      ข้อความข่มขู่ที่ไม่ได้เขียนด้วยปากกาหมึกซึมหรือปากกาลูกลื่น แต่เขียนด้วยเลือด สำหรับใครที่ตั้งใจส่งมาให้เสียขวัญ นั่นถือว่าทำสำเร็จ เมื่อคนรับหายใจหอบถี่ ใจเต้นตึกตัก สองมือกุมขมับด้วยความรู้สึกกลัวจับจิต



     รู้ถึงสัจธรรมว่า มีคนรัก...ย่อมมีคนเกลียด



     แต่ใครกันล่ะที่จะเกลียดเนม เพราะเนมไม่เคยสร้างศัตรูที่ไหน? หรือมีคนเกลียดเนมโดยที่เขาไม่รู้อย่างนั้นหรือ?



     ดวงตาคู่คมกวาดตามองทั่วแผนกว่ามีใครน่าสงสัยหรือมีพิรุธรึเปล่า? เนมไม่รู้เลยว่า ใครกันที่บ้าเล่นพิเรนทร์แบบนี้

   


     คิดจนปวดหัว ก่อนจะตั้งสติรีบคว้ากล่องนั้นไปทิ้งขยะ เมื่อกลิ่นเหม็นเน่าเริ่มโชยมา เนมวิ่งลงบันไดไปชั้นล่าง




"ขอโทษนะครับ ตอนมีคนเอาของขวัญมาให้ได้เห็นหน้ารึเปล่า?"
เนมถามพนักงานต้อนรับทันที



"จำไม่ได้หรอกค่ะ แต่เห็นใส่เสื้อวินมอเตอร์ไซต์มานะคะ"



"อ้อ ขอบคุณครับ"



    หลังจากทิ้งกล่องนั้นลงถังขยะ เนมยังคงตัวสั่นเทา เขาตัดสินใจโทรหาแม็ค



    คนที่ยืนอยู่ด้านหน้าออฟฟิสกำลังร้อนใจ กัดเล็บ เดินวนไปวนมา



"โธ่เอ้ย  แม็ครับสิ"



    กว่าสิบครั้งที่กดโทรไปหาแฟนตัวเองแล้วไม่คิดจะรับสาย เนมเปลี่ยนใจกดโทรหาเพื่อนตัวเองแทน



"เมย์ คุยได้ไหม?"




[ได้นิดนึง ว่าไง?]



   เนมเริ่มเล่าเรื่องให้ฟังที่เกิดขึ้นก่อนหน้าด้วยความกลัวและหวาดระแวง



    คุยได้สักพักจนได้ข้อสรุปว่า เลิกงานแล้ว เมย์จะมาหาเนมที่ออฟฟิส



    ได้แต่เฝ้ารอให้ถึงหกโมงเย็นเร็วๆ เพราะเนมไม่มีกะจิตกะใจจะทำงาน จนได้เวลาเลิกงาน เมย์มาตามนัด และพาเนมไปแจ้งความกับตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้ จากนั้น ทั้งสองก็แวะกินข้าวและกลับคอนโด



    หลังจากที่เนมเล่าให้ฟังจนหมดเปลือก เมย์ก็ปลอบใจเพื่อนตรงโถงทางเดินที่กำลังเดินไปห้องของเนม



"ใจเย็นๆนะเนม"



"จะพยายาม"



    เมื่อเพื่อนสนิททั้งสองคนเข้าห้องพักเป็นที่เรียบร้อย เมย์เหนื่อยและเหนียวตัวจึงขอเนมอาบน้ำก่อน ในระหว่างที่เมย์ผลุบหายเข้าห้องน้ำไปนั้น



    เสียงข้อความจากเครื่องมือสื่อสารของเนมก็ดังขึ้น เนมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เบิกตาโพลงด้วยความตกใจเป็นรอบที่สองของวัน เมื่อตัวอักษรที่ถูกพิมพ์มาจนเป็นรูปประโยคนั้น ส่งมาว่า



   ถ้าคิดแจ้งตำรวจอีกหน กูฆ่ามึงแน่...



     ใจสั่น เนมหายใจหอบถี่ เขากัดริมฝีปากที่สั่นระริก ก่อนจะทำใจกล้าโทรกลับไปยังเบอร์ที่ส่งข้อความมา แต่พอเนมโทรกลับไป ปลายสายกลับเข้าสู่บริการรับฝากข้อความ



    กดย้ำอยู่อย่างนั้น จนสักพักใหญ่ๆ ที่เมย์เดินออกมาเจอะสีหน้าเพื่อนคล้ายคนไม่สบาย จึงปีนไปนั่งบนเตียงข้างเพื่อน



"โอเคไหมแก?"



"เมย์มันส่งข้อความมาด้วย พอโทรกลับ ดันติดต่อไม่ได้"



   เนมยื่นโทรศัพท์ให้เพื่อนดูเป็นหลักฐาน พอเมย์เห็นก็ตกใจไม่ต่างกัน ไอ้โจรโรคจิตนี้ น่าจะเก็บข้อมูลจากตัวเนมมาเยอะพอสมควร เธอลูบหลัง ลูบไหล่เพื่อนให้สงบสติอารมณ์ เพราะตอนนี้ เนมดูลนลานอย่างเห็นได้ชัด



"เนมทำใจดีๆ ไม่มีใครทำอะไรแกได้หรอกนะ เชื่อฉันนะ"



    ในขณะที่หญิงสาวกำลังปลอบใจเพื่อนอยู่ ไม่นานนัก โทรศัพท์ของเมย์ก็ดังขึ้นมาบ้าง เธอลุกจากเตียงไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋า



"ฮัลโหล" ... / ... "โธ่ ตัวเองจะมาหึงอะไรเค้าเนี่ย? เนมมันชอบผู้ชาย มันไม่ชอบผู้หญิงหรอก"... /... โอ้ย! ตัวเอง ไว้ใจได้สิ เนมเป็นเพื่อนกับเค้ามาจะสิบปีแล้ว เนมไม่ทำอะไรเค้าหรอกน่า ตัวเองมานอนด้วยกันไหมล่ะ" ... /... นี่ปอนด์ ถ้าจะมาโกรธเรื่องที่เค้ามานอนกับเพื่อนแค่นี้ ก็ไม่ต้องมาคุยกันเลยนะ จบ.../...




    แต่ละประโยคที่เนมได้ฟังจากปากของเมย์ แม้จะได้ยินแค่เพียงฝั่งเดียว ก็พอคาดเดาได้ว่า เธอและแฟนกำลังทะเลาะกันอยู่



    รู้สึกละอายใจที่เป็นต้นเหตุให้ทั้งสองต้องมีปัญหากัน มองคนที่วางสายกับแฟนและบ่นเป็นหมีกินผึ้ง



"เบื่อปอนด์ว่ะ งอนอะไรไม่เข้าเรื่อง มาว่าฉันว่านอนกับผู้ชายสองคนแบบนี้ได้ไง ไม่น่าไว้ใจ บอกกลัวแกจะทำอะไรฉัน โอ้ยอยากจะบ้า ฉันรู้ดีไงว่า แกไม่สนชะนีอย่างฉันหรอก เฮ้อ..."



      เนมเพิ่งมาคิดได้ว่า เขานั่นแหละที่เห็นแก่ตัว พาเมย์มาลำบากทั้งๆที่มันไม่ใช่เรื่องของเมย์ด้วยซ้ำ

 

"ที่ปอนด์พูดก็ถูก ยังไงเราก็เป็นผู้ชายและเราก็มีทุกอย่างเหมือนที่ผู้ชายคนอื่นๆมี ปอนด์คงไม่ไว้ใจ เมย์กลับไปเถอะ"



"ไม่เอา ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนแก อย่ามาคิดมากเรื่องฉันเลย เรื่องแกก็หนักพออยู่แล้ว"





"ถ้าอยากให้เราสบายใจ เมย์นั้นแหละควรกลับไปหาปอนด์ เดี๋ยวเราไปส่งข้างล่าง"
เนมลุกพรวดแล้วลากแขนเพื่อนที่นั่งอยู่ปลายเตียงให้ลุกตาม



"แล้วแกอยู่คนเดียวได้หรอ?"



"ได้ดิ"



"แต่ฉันเป็นห่วงแกว่ะ"




"ก็แค่ข้อความข่มขู่ เราคงวิตกจริตไปเอง กลับเถอะเมย์ ขอบใจมากที่เป็นห่วง"



"แน่ใจนะ?"




"อืม"



"ถ้างั้นแกไม่ต้องไปส่งหรอกเนม เดี๋ยวฉันรอจังหวะให้คนมาเปิดประตูแล้วเดินออกไปเองแหละ"



"ไม่เป็นไร"



"อย่าให้ฉันโมโหสิ ฟังฉันนะ แกน่ะ อยู่ในห้องนี่แหละ อย่าออกไปไหน? เข้าใจไหม?"



"อื้ม ก็ได้ ขอบใจ"



      เมื่อเพื่อนเดินพ้นลานสายตา คนที่แสร้งทำตัวปกติอยู่นาน ก็หลุดอาการหวาดระแวงออกมา  เนมกำลังสติหลุด เพราะไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน เขากลัวและวิตกกังวล เดินวนไปวนมาอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมโดยที่มือก็กำโทรศัพท์พลางแนบหูเพราะกำลังโทรออกหาแม็คอยู่หลายรอบ



      ยามนี้ คนที่ต้องการที่พึ่งทางใจ กำลังโมโหที่ติดต่อแฟนไม่ได้ เนมร้อนใจ ปาโทรศัพท์ลงกับเตียง ทิ้งตัวลงนั่งปลายเตียงยกสองมือถูหน้าแรงๆ ก่อนจะขยี้ผมจนยุ่งเหยิง



      ยอมรับว่ากลัว ระแวง และเริ่มจะประสาทเสีย เพราะเนมไม่เคยเจอโจรโรคจิตเช่นนี้ เนมพยายามตั้งสติ หลับตาพร้อมสูดลมหายใจเข้า-ออกช้าๆ เขาคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง กดเข้าแอพพลิเคชั่นไลน์ เลื่อนหาชื่อของใครบางคน



    เปิดค้างหน้าต่างข้อความนั้นอยู่เนิ่นนาน ก่อนจะตัดสินใจส่งข้อความไปหา



Read

21.02

พี่ตูน ทำอะไรอยู่หรอ?



Read

21.07

เพิ่งจอดรถ กำลังเข้าบ้าน



Read

21.09

พี่ตูน แม็คอยู่กับพี่ไหม?



Read

21.10

ไม่ได้อยู่ มีอะไรหรือเปล่า?



Read

21.11

โทรหาแม็ค แล้วไม่ยอมรับเลย





Read

21.12

อืม



    เนมอยากระบายเรื่องน่ากลัวนี้ให้พี่ตูนได้รับฟัง เพราะเนมไม่ไหวแล้ว เขาตัดสินใจส่งภาพที่เป็นหลักฐานการโดนข่มขู่ให้พี่ตูนได้ดู





    พี่ตูนอ่านข้อความแล้ว แต่ยังไม่ตอบกลับ..



     นั่งจดจ่อรอข้อความตอบกลับของพี่เนม จนกระทั่ง...





Read

21.14

ให้ไปหาไหม?



     น้ำตาซึมทันทีที่เห็นข้อความ ไม่ได้คาดหวังว่าพี่ตูนจะตอบมาแบบนี้ อย่างมากที่นึกได้ พี่ตูนก็คงถามไถ่อย่างเป็นห่วงหรือตอบพอเป็นมารยาท แต่พอเห็นข้อความที่ส่งว่าจะมาหากัน มันเหนือความคาดหมายจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่



     ยังมีคนสนใจความเป็นไปของเนม มือสั่นๆกำลังกดข้อความไปหาอีกครั้ง



Read

21.16

ไม่ต้องมา แต่เป็นผมไปหาพี่ตอนนี้ได้ไหม?



Read

21.17

อืม จะมาก็มา จะรอ..



   ใบหน้าที่เครียดวิตกกังวลกำลังแต้มยิ้มอย่างคนรอดตาย



   เนมเจอคนที่พึ่งพาได้แล้ว...



   รีบตอบกลับว่าตกลง จากนั้น เนมลุกไปเก็บเสื้อผ้าหลายชุด เพื่อออกไปหาพี่ตูนอย่างไวที่สุด...





 

..........................................



สงสารเนมง่ะ :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 6.2 [23-9-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 23-09-2018 22:13:51
 :pig4: :pig4: :pig4:

ทำไมรู้สึกว่า  คนส่งกล่องนั้นมา  น่าจะเป็นแม็คอ่ะ
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 6.2 [23-9-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 24-09-2018 10:59:54
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2: :katai2-1: o13
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 7 [25-9-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 25-09-2018 21:14:24

ตอนที่ 7 คนของเธอ








 แม้จะเดินทางมาถึงหน้าบ้านของพี่ตูน แต่อาการตระหนกและอาการขวัญเสียยังคงไม่จางหาย เนมลงจากแท็กซี่ก็พบเจ้าของบ้านยืนรอต้อนรับ

 

 

"โอเคไหม?"

 

    มองพี่ตูนด้วยแววตาหม่นๆพลางส่ายหน้า

 

    เนมเริ่มรู้สึกเกรงใจ เพราะพักหลังๆมานี้ ยามใดที่มีปัญหา เนมก็มักพึ่งพาพี่ตูนไปซะทุกครั้ง

 

 

     เป็นความโชคดีของเขาที่นอกจากจะได้แม็คเป็นแฟน ยังพ่วงเพื่อนแฟนที่นิสัยดีและไว้ใจเพิ่มมาอีกด้วย

   

 

     ตูนเบี่ยงตัวหลบให้คนที่แบกกระเป๋าถือใบใหญ่เข้าบ้านไปก่อน

 

 

"ผมขอโทษที่มากวนดึกๆดื่นๆ"

 

"ไม่เป็นไร แล้วอาบน้ำรึยัง?"

 

    เนมส่ายหน้า

 

"ไปอาบน้ำก่อนไป"

 

"ครับ"


 

   เข้ามาในห้องนอนพี่ตูน เนมวางกระเป๋าลงที่พื้นชิดตู้เสื้อผ้า รูดซิปกระเป๋าหยิบเสื้อผ้าออกมา

 

"อ่อ...พี่ตูน เสื้อผ้าที่ผมใส่ของพี่เมื่อคราวก่อน ผมซักแล้วนะแต่ลืมหยิบมา"

 

"ไม่ต้องคืนหรอก เอาไปเหอะ"

 

"อ่อ ขอบคุณครับ"


 

   ได้เสื้อผ้าที่จะใส่นอนคืนนี้และผ้าขนหนูก็ตรงดิ่งไปเข้าห้องน้ำ

 

    สักพักใหญ่ๆ เนมเดินกลับเข้ามาในห้องด้วยสภาพที่ชำระร่างกายจนสะอาดสอ้าน

 

"เมื้อกี้โทรศัพท์ดัง"


 

     เพียงพี่ตูนบอก เนมเปลี่ยนจุดหมายจากเตียงนอน ไปดูเครื่องมือสื่อสารที่วางตรงโต๊ะหน้ากระจก พอรู้ว่าเป็นเบอร์คนรัก เนมรีบโทรกลับไป

 

 

[เนม ผมขอโทษ]  รู้ดีว่าผิดจึงรีบเอ่ยคำขอโทษหวังให้เนมหายโกรธเคืองกัน

 

"ทำไมเงียบหายไป โทรไปเป็นร้อยสายก็ไม่รับ แม็ค เราถามจริงเถอะ เรายังเป็นแฟนกันอยู่ไหม? แม็คยังรักเราอยู่ไหม? ฮืออออ"


 

 

    ความอัดอัดตั้นใจที่เก็บไว้มันระเบิด เนมพรั่งพรูความรู้สึกออกมาจนหมดพร้อมกับหลั่งน้ำตา

 

[ทำไมเนมพูดแบบนั้น ผมรักเนมนะ เนมอย่าเพิ่งโวยวาย ไหนลองเล่าซิเกิดอะไรขึ้น?]


 

     คนกลางอย่างตูนที่นั่งพิงพนักเตียงกำลังทำตัวไม่ถูก เมื่อต้องมาฟังคู่รักที่มีปากเสียงโดยไม่ได้ตั้งใจ ฟังคนพูดตัดพ้อแฟนด้วยเสียงสั่นเครือ คนได้ยินก็สงสารจับใจ

 

 

"ฮึกฮืออออ แม็ค รู้ไหม? วันนี้ เราเจออะไร? เราเจอโรคจิตส่งของมาขู่จะฆ่า ในวันที่เราต้องการแม็ค แม็คอยู่ไหน?..ฮือออ"

 


[เนมใจเย็นๆตอนนี้อยู่ไหน?]

 

"อยู่บ้านพี่..."
เกือบหลุดพูด แต่นึกขึ้นได้ ว่าคราวก่อน ที่เนมและแม็คทะเลาะกันรุนแรง ทั้งหมด ทั้งมวลนั่นมาจาก เรื่องของพี่ตูน เนมจำต้องโกหกคำโต เพราะไม่อยากมีปัญหา

 

"เราอยู่ห้องแล้ว"


 

[พรุ่งนี้ ผมพอมีเวลาช่วงเที่ยง เดี๋ยวแวบไปหา ผมต้องรีบวางแล้ว แค่นี้ก่อน เจอกันพรุ่งนี้] แม็คลดเสียงพูดลงแล้วตัดสายโดยไม่คิดฟังเนมตอบรับ

 

"....."

 

   จบการสนทนา วางโทรศัพท์มือถือไว้ข้างกายและยกมือปิดหน้าร้องไห้ คนที่เฝ้ามองมาตลอด จึงเปลี่ยนตำแหน่ง ขยับตัวไปนั่งใกล้เนมพร้อมวางกล่องทิชชู คนที่ร้องไห้อยู่เงยหน้าหันไปหาพี่ตูนและทันใดนั้น...

 

ฟึ่บ

 

    สองแขนโอบรัดเอวพี่ตูนแน่นพลางซบบ่าร้องไห้  คนที่โดนกอดชะงัก ผลักเนมออกห่าง



     คนที่พยายามบอกตัวเองมาตลอดว่าควรมีระยะห่าง จึงตกใจที่เนมโผกอดอย่างไม่ทันตั้งตัว ฟากคนที่โดนผลักกำลังเข้าใจผิดคิดว่าพี่ตูนคงรังเกียจ โค้มหัวจะขอโทษที่ล้ำเส้นพี่ตูนมากเกินไป แต่ในจังหวะนั้น การ์ตูนดึงร่างเนมมากอดกระชับอีกครั้ง

 

    มือหนาลูบไหล่ ในขณะที่อีกมือก็ลูบเรือนผมแผ่วเบา หวังช่วยให้ความเศร้า ความเสียใจที่แผ่กระจายทั่วบริเวณตอนนี้ได้จางหายไปบ้างไม่มากก็น้อย

 


"ถ้าคิดว่ากอดแล้วสบายใจขึ้น จะกอดนานเท่าไหร่ก็ได้"

 

    ดูเหมือนอีกฝ่ายจะรับรู้ จึงตอบรับ ด้วยการกระชับกอดแน่นขึ้นและแน่นขึ้น

 

     คนที่นั่งเป็นหลักให้คนอ่อนไหวได้พึ่งพิง ยังคงลูบหลัง ลูบหัวปลอบประโลม

 


     ในระหว่างที่ปลอบใจ ใบหน้าหล่อเซอร์กดลงต่ำจนริมฝีปากสัมผัสลงบนเส้นผมของอีกฝ่าย ตูนจุดรอยยิ้มบางเบา กดริมฝีปากให้จมลงกลางกลุ่มผมกว่าเก่า ปลายจมูกก็สูดดมความหอมสดชื่นจากกลิ่นของยาสระผม

 

      แต่แล้วจู่ๆ ตูนผละออก เบนหน้าหนีไปทางอื่น เมื่อรู้ตัวเองว่า กำลังปล่อยให้ปีศาจครอบงำ ทำไม เขาถึงชั่วได้ขนาดนี้ ที่นึกฉวยโอกาสสัมผัสอีกฝ่าย ในขณะที่เนมยังมีเรื่องทุกข์ใจอยู่


 

"พี่ตูน แม็คไม่เหมือนเดิม แม็คมีคนอื่นแล้วใช่ไหม? ฮืออ" 
คนที่ยังเครียดก็ระบายออกมาอย่างเหลืออด

 

     ตูนหยุดการแตะต้องตัวเนม วงแขนที่กระชับกอดกลับก่อนหน้าก็คลายออกแล้วปล่อยวางข้างลำตัว

 

"พี่เชื่อว่าแม็คไม่มีคนอื่น"

 

"ผมจะเชื่อได้จริงๆหรอ?"

 

"พี่ไม่โกหกหรอก"

 

     ผละมามองพี่ตูนที่ตอบด้วยรอยยิ้มละมุน

 

"พี่ตูน ถ้าผมจะรบกวนนอนค้างที่นี่สักสองสามวันได้ไหม?"

 

"จะนอนไปตลอดก็ไม่มีใครว่า
"


 

    แน่นอนว่าคนบอก กับคนได้ยิน ตีความหมายต่างกัน สำหรับตูนแล้ว การพูดแบบนั้น เขาซ่อนความหมายของความต้องการส่วนตัวที่แท้จริงเอาไว้  ซึ่งตูนรู้ดีว่าเนมก็ซื่อจนดูไม่ออกหรอกว่า ตูนหมายถึงอะไร?

 

      ดีแล้วที่เนมไม่รู้ ตูนจะได้ระบายความรู้สึกสอดแทรกออกไปโดยที่ไม่ต้องรู้สึกผิด ใบหน้าคมคาย ค่อยๆผุดรอยยิ้ม เมื่อเห็นดวงตาที่เคลือบความเศร้าสลดตอนแรก แทนที่ด้วยความหวังและความสุข 


 

"จริงนะ"

 

"พูดเล่น"


 

    คนที่รู้ว่าพี่ตูนคงเล่นมุกเพื่อต้องการหยุดความอึมครึม เนมจึงไม่ตอบแต่ส่งยิ้มอ่อน

 

     ตูนยิ้มที่เห็นเนมมีสีหน้าที่ดีขึ้น



"เรื่องแม็ค ก็อย่าคิดให้มันมากนัก ปล่อยวางบ้าง เป็นแฟนกันจะหวังแต่ความสุขอย่างเดียวคงไม่มีทาง มันต้องมีทะเลาะกันบ้าง"

 


"...."

 

"ตอนนี้ เนมยังรักแม็คเหมือนเดิมไม่มีลดลงเลยใช่ไหม?"

 

"ใช่ครับ"

 

    ถามให้เจ็บทำไม? คำตอบที่หนักแน่น ทำตูนชะงักไปนิดก่อนแต้มยิ้ม

 

"ถ้ารักก็ควรเข้าใจและลองให้โอกาสแม็คได้แก้ตัวแล้วกัน นอนเถอะ ง่วง"

 

"เดี๋ยวก่อน เรื่องที่ผมมานอนกับพี่ตูน พี่อย่าบอกแม็คนะ ผมไม่อยากให้แม็คหึงผมเรื่องพี่อีก"

 

    คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน คำพูดที่เนมบอกเช่นนั้น นั่นหมายความว่า เนมกับแม็ค เคยทะเลาะกันเรื่องของเขาแล้วอย่างงั้นหรือ?

 

"อืม"


 

    รับคำ จากนั้นไม่ถึงนาที ไฟในห้องก็ดับลง พร้อมกับร่างของชายหนุ่มสองคนที่นอนอยู่บนเตียงเตรียมเข้าสู่ห้วงนิทรา



 

 

.................

 

 

  และแล้วคนที่บอกว่าจะมา ก็มาตามนัดหมาย...

 

  ถึงช่วงเวลาพักเที่ยง เนมเดินไปหาแม็คที่จอดรถรอเยื้องบริษัทไปไม่ไกล

 

    เพียงสอดตัวเข้ามาในรถ เนมยังไม่มีโอกาสได้พูดต่อว่าอะไร แม็คก็ดึงตัวเนมเข้าไปหอมแก้ม

 

"ผมขอโทษ อย่างอนผมเลยนะ"

 

"....."

 

"เนมมีผมอยู่ไม่ต้องกลัวนะ เพียงแต่ช่วงนี้ ผมยุ่งและมีธุระสำคัญที่ต้องทำกับพ่อ รออีกนิด ผมจะพาเนมกลับมาอยู่ด้วยกัน"

 

"แม็คมีคนอื่นรึเปล่า?"
ดันตัวออกห่างจากแม็ค และถามคำถามจริงจัง

 

     เนมเห็นแม็คเงียบ ก้มหน้า

 

     มองคนที่ไม่ว่าจะทำร้ายเนมรุนแรงแค่ไหน?  เนมก็ยังหลงรักผู้ชายคนนี้

 

     หรือเนมกำลังหลงเสน่ห์ในหน้ากากของผู้ชายขาวตี๋คนนี้ที่มีหลากอารมณ์ ใบหน้าอันน่าดึงดูดให้ตกหลุมรักได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า


     ยามอารมณ์ดี ใบหน้าตี๋ช่างดูน่ารัก เหมือนเด็กขี้เล่น ทะเล้น น่าเอ็นดู ยามมีเซ็กซ์กัน ใบหน้าตี๋ก็ฉายความดิบเถื่อนและแบดบอยออกมา ใบหน้าที่ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้ดีและลึกซึ้งจนรู้สึกว่า ยิ่งได้มอง ก็ยิ่งหลงใหล


     เช่นเดียวกับยามนี้ ใบหน้าหล่อตี๋ตีหน้าเรียบนิ่ง ทั้งยังสบตาเนมด้วยแววตาที่เฉยจนอ่านไม่ออก ยิ่งทำให้เนมอยากค้นหาว่าแม็คกำลังคิดอะไร?

 


"ผมแค่ยุ่งจนไม่มีเวลา แต่ผมไม่มีใคร?"

 


     แม็คไม่ได้แอบคบใครตามที่เนมกล่าวหา เพราะช่วงนี้ แม็คมีอะไรหลายอย่างให้ต้องทำมากกว่าจะไปสนใจหาใครคนอื่น อีกอย่าง แค่มีเนม แม็คว่ามันก็มีอะไรให้เล่นด้วยอีกตั้งเยอะ...

 


"แน่ใจนะ?"

 

"อืมแน่ใจ ไปกินข้าวเถอะ ผมมีเวลาน้อย"

 

 
   หลังจากนั้นแม็คและเนมเดินทางไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันที่ร้านอาหารปักษ์ใต้ไม่ไกลจากที่ทำงาน ทั้งคู่มีเวลาพูดคุยกันไม่มาก ต้องรีบกิน รีบกลับ เนื่องจากแม็คบอกว่า เวลานัดทำธุระกับพ่อต้องบ่าย ถูกเลื่อนมาเร็วกว่าที่นัดไว้ เมื่อจัดการอาหารกันเสร็จ แม็คจึงรีบมาส่งเนม และเคลื่อนรถออกไป โดยทิ้งคำพูดให้แฟนตัวเองได้ชื่นใจว่า...จะดูแลเนมให้ดีที่สุด...

 


    คนที่ได้กำลังใจมาจากการป้อนคำหวานของแฟนก็ยิ้มกว้างเดินเข้ามาในตัวบริษัท ผ่านตรงจุดประชาสัมพันธ์ พนักงานสาวก็เรียกและชี้ไปที่กล่องแบบเดิม สีเดิม พร้อมช่อกุหลาบเหมือนเมื่อวานเป๊ะ

 

    มันต้องการอะไรจากเนมอีก? คราวนี้ เนมไม่คิดจะเปิดอ่าน เขารับกล่องนั้นมาไปทิ้งที่ถังขยะใหญ่หน้าบริษัทและกดโทรหาแม็ค

 


"แม็คมันส่งมาอีกแล้ว"

 

[จริงหรอ? เนมถ่ายรูปทุกอย่างที่มันส่งมารวบรวมและเก็บไว้เป็นหลักฐานก่อนนะ]

 


"แม็ค เราหลอนจนไม่มีกะจิตกะใจจะทำงานแล้ว"

 


[เนมอย่าลน ตั้งสติและพยายามอยู่ในกลุ่มคนพลุกพล่านนะ ผมต้องวางสายแล้ว]
 

"แม็ค เราอยากอยู่กับแม็ค"


 

[ไม่ได้จริงๆ เนมครับ ผมวางก่อนนะ พ่อโทรมา]

 

"อืม"

 

   
     ยังคงหวาดกลัวไม่หาย เพราะไม่เคยเจออะไรแบบนี้ เลยกลายเป็นคนขี้ขลาด ขาดสติไปในทันที เนมพยายามนิ่ง หยุดคิดฟุ้งซ่านและคุยกับตัวเองในใจ ใช้เวลานาน จนได้คำตอบว่า เนมต้องอยู่ด้วยตัวเองให้ได้และไม่ควรเอาแต่พึ่งคนอื่นจนมากเกินไป

 

   ถึงเวลาที่เนมควรกล้ากว่านี้ ถ้าอะไรจะเกิดก็คงต้องปล่อยมันไป...



      ถ้าจะตาย มันก็คงต้องตาย...

 

    ยามนี้ คนที่คิดมากจนปลงตกในชีวิต เดินกลับเข้าออฟฟิสเพื่อไปทำงานต่อกับครึ่งวันที่เหลือ

 


     ผ่านพ้นไปด้วยความไม่ดี เพราะเป็นการทำงานที่แทบไม่มีสติหลงเหลือ เนมนั่งฟังการประชุมของระดับหัวหน้าแทบไม่รู้เรื่องว่าเขาพูดและสรุปถึงเรื่องอะไรกันไปบ้าง

 

    ไม่คิดว่า ข้อความข่มขู่ที่ดูเหมือนไร้สาระ จะกลับส่งผลร้ายให้เนมเกิดอาการหลอนประสาท จนไม่หยุดคิดเรื่องนี้



 

     คนที่กำลังเดินออกจากออฟฟิส พยายามสลัดความคิดนั้นทิ้งไป แล้วกดโทรออกหาพี่ตูน


"พี่ตูน ผมเลิกงานแล้ว พี่ถึงบ้านแล้วใช่ไหม?"
โทรถามเพื่อความชัดเจนจะได้ไม่เสียเวลา หากเนมไปถึงแล้วพี่ตูนยังไม่กลับ เขาคงนั่งรอพี่ตูนจนยุงกัดตายหน้าบ้านแน่ๆ

 

"ยังเลย พี่ก็ลืมให้กุญแจบ้านพี่กับเนมไว้ มาหาพี่ที่ออฟฟิสก่อนได้ไหม? พี่มีประชุมด่วนตอนหนึ่งทุ่ม"

 

"ได้ครับ"

 

 
   ตูนบอกตำแหน่งที่ตั้งของบริษัท จากนั้น เนมโบกแท็กซี่ไปยังเป้าหมายที่พี่ตูนบอกทันที

 

     ใช้เวลานานกว่าปกติกว่าจะเดินทางมาถึงตึกสูงใหญ่ คนที่เดินทางมาถึงกำลังแลกบัตรประชาชนเพื่อเข้าตัวตึก

 

    ถึงชั้นที่หมาย ชายหนุ่มเดินออกมาจากโถงลิฟต์ เลี้ยวซ้ายก็พบชื่อบริษัทตัวใหญ่แปะไว้ตรงทางเข้าประตูกระจกใส ใกล้กัน เนมเห็นปุ่มสีเงินเล็กๆ ใต้ปุ่มนั้นมีสติ๊กเกอร์ติดอยู่ 'สำหรับบุคคลภายนอก กรุณากดกริ่ง'

 

      ทำตามข้อความ ยืนรอไม่นาน  ก็มีหญิงสาวหน้าตาน่ารักเดินมาเปิดประตู

 

"ผมมาหาพี่ตูนครับ"

 

"อ้อ.. นั่งรอสักครู่นะคะ คุณชานนท์ประชุมอยู่ค่ะ"

 

"ขอบคุณครับ"

 

         คนที่กำลังเดินตามพนักงานสาวไปจุดที่รับรองแขกก็สวนกับผู้ชายคนหนึ่งตรงประตูกระจกใสด้านใน เพราะไม่รู้จัก จึงเดินผ่านโดยไม่ได้สนใจ แต่คำที่อีกฝ่ายหลุดออกมานั่นต่างหากที่ทำให้เนมสนใจจนชะงักเท้าและหันไป

 

"เนม?"

 

       มั่นใจว่า เนมไม่เคยเจอผู้ชายคนนี้มาก่อน ชายหนุ่มที่ดูอายุน่าจะราวสามสิบปลายๆใกล้แตะเลขสี่ที่กำลังเรียกชื่อเนมด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่แน่ใจ



      หรือ เขาคนนี้ คือ พี่ชายของพี่ตูน



"ใช่เนม คนเดียวกับที่ไอ้หมีบอกว่าจะมาหาหรือเปล่า?"



         สิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามถามกลับตกเป็นรองทันที เพราะมันมีสิ่งที่เนมสนใจมากกว่านั้น

 

"ใช่ครับ ผมชื่อเนม แต่ทำไมพี่เรียกพี่ตูนแบบนั้นล่ะครับ"

 

"เรียกมาตั้งแต่เด็ก"

 

   เนมยืนนิ่ง แค่คำ ว่า 'หมี' คำเดียว ความทรงจำในวัยเด็กของเขาก็วิ่งแล่น แย่งกันผุดเหตุการณ์ในอดีตราวกับต้องการจะอวดโชว์ความสามารถที่สมองยังคงจดจำสิ่งเหล่านั้นได้ นาทีนี้ หลากเรื่องราวถูกทับซ้อน ตีกันมั่วไปหมด

 

    ยืนนิ่งอยู่นาน จนคัดเรื่องที่พอจะนำมาปะติดปะต่อได้



    พี่ตูนเกิดวันเดียวกันกับเขาและพี่ตูนมีฉายาว่า 'หมี'

 

      ทำไมก่อนหน้านี้ เนมถึงไม่เอะใจ คนที่ยังไม่ชัวร์ในความคิดของตัวเอง จึงถามอีกครั้ง


"พี่ คือ พี่โตหรอครับ?"

 

"อืมใช่"


 

    เบิกตาโพลงอย่างตกใจ ไม่คิดว่า...พี่ตูน...จะเป็นคนเดียวกับ...พี่หมี...พี่ชายที่เนมแสนรัก แสนหวงและเป็นเพื่อนคนเดียวที่ยอมเล่นด้วยกับเนมในวัยเด็ก...

 


****1.1****


เคยมีโอกาสได้พบเจอคนใกล้ตัวที่มีแฟนคนเดียว ไม่นอกใจ ไม่มีใครจริงๆแต่ท่าทางและอาการดูมีพิรุธ และก็เคยเจอคนที่ทำตัวไม่มีพิรุธแต่แอบมีกิ๊กเพียบ ก็แปลกดีเนอะ (ฮ่าๆๆ)..  :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ

     
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 7 [25-9-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 26-09-2018 09:34:20
 :pig4: :pig4: :pig4:

สำหรับแม็ค  เนมคือของเล่นชิ้นใหม่  ของเล่นที่ตอบสนองความสุขทางอารมณ์

แม็คนี่อาจเข้าข่ายโรคจิตหว่ะ
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 7 [25-9-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 26-09-2018 16:48:01
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2: :katai2-1: o13
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 7.2 [30-9-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 30-09-2018 18:43:34
ตอนที่ 7 คนของเธอ (2)







"มาแล้วหรอ?"

 

   คนที่ปล่อยให้ทุกคนพักเบรคระหว่างการประชุมเดินออกมากำลังจะไปเข้าห้องน้ำ กลับชะงักเมื่อเห็นพี่ชายตัวเองยืนคุยกับเนมอยู่

 

    ไม่คิดว่าเนมจะถึงออฟฟิศแล้ว เพราะเห็นเนมไม่โทรหรือส่งข้อความมาบอกก่อน

 

"มาตั้งแต่เมื่อไหร่?"

 

"ทำไมพี่ไม่บอกผม พี่จำได้มานานแล้วใช่ไหมว่าผมคือใคร? พี่หมี"

 

     เรื่องที่มาตอนไหน? มันไม่มีความสำคัญต้องตอบเท่ากับสิ่งที่เนมอยากรู้ในตอนนี้ เพราะการที่ได้รู้ว่าพี่ตูน คือ พี่หมี มันเป็นข่าวดีที่ช่วยกลบความหวาดวิตกจากเรื่องคนโรคจิตที่ส่งของมาข่มขู่และสร้างความปั่นป่วนในจิตใจก่อนหน้าได้

 

     การได้กลับมาโคจรพบกันอีกครั้งกับเพื่อนบ้านสมัยยังเด็ก มันช่วยทำให้เนมลืมเรื่องขนหัวลุกได้เป็นปลิดทิ้ง

 

    หันขวับไปมองพี่ชายตัวเองยักไหล่ ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

 

     รู้ตัวเองว่าอาจมีผลเสียตามมา จึงพยายามเก็บเรื่องนี้ไว้ไม่ให้เนมรู้ แต่ก็ไม่คิดหรอกว่าพี่ชายจะกวนประสาทด้วยการบอกความจริงกับเด็กข้างบ้าน ยืนนิ่งพลันเหลือบเห็นพนักงานในบริษัทที่กำลังเดินผ่านพวกเขาเหล่มอง ตูนคว้าข้อมือเนมเพื่อไปคุยกันข้างนอก

 

     เดินเข้ามาในห้องน้ำและปล่อยข้อมือเนม คนที่เดินนำตกใจ เมื่อเนมพุ่งมากอดจากด้านหลังจนตูนเซถลาไปข้างหน้าเล็กน้อย

 

      อยากอยู่อย่างนี้นานๆ...

 

      คนที่โดนสวมกอดยืนนิ่งรับไออุ่นจากอ้อมแขนของเนม การฉกฉวยโอกาสเล็กๆน้อยๆที่มาพร้อมความรู้สึกละอาย

 

      เมื่อความจริงมันก็ปรากฎทนโท่ว่า เนมเป็นแฟนเพื่อน...

 

     แกะแขนเนมออกแล้วบอก

 

"เดี๋ยวมีคนเห็น"

 

"ผมดีใจมากเลยที่ได้เจอพี่ พี่หมี"

 

"เรียกตูนแบบเดิมเถอะ"

 

"ก็ได้ ผมจำพี่ตูนไม่ได้เลย โตแล้วหล่อขึ้นนะเนี่ย"
บอกแล้วเงยหน้า ดึงแก้มพี่ตูนสองข้างจนยืดไร้รูปทรง

 

"ปล่อยเนม โตแล้ว ไม่ใช่เด็กๆ เล่นอะไร?"

 

"แหม...ทำไมกลัวเจ้านายมาเห็นหรอ?"

 

"กลัวทำไม ก็มันนั่นแหละเจ้านาย"

 

กึก!

 

    ยืนมองอยู่นาน แต่ไม่ทัก เพราะกำลังประเมินสถานการณ์อยู่ว่า น้องชายจะฝืนความรู้สึกที่มีต่อเนมได้มากน้อยแค่ไหน?

 

      ไม่ได้ตกใจในคำพูดของพี่โต สิ่งที่ตกใจ คือ อายที่พี่โตคงเห็นทั้งสองกอดกันเมื่อสักครู่

 

"ผมนึกว่าพี่เป็นพนักงาน พี่เป็นเจ้าของบริษัทหรอ?"

 

     ตูนส่งสายตาพยักเพยิดไปทางพี่ชาย

 

"เปล่า ไม่ใช่ของพี่ ของพี่โต นี่พึ่งใบบุญเขาอยู่"

 

"เหอะ!"

 

    โตยิ้มพลางเลิกคิ้วก่อนจะเดินไปยังโถปัสสาวะเพื่อทำธุระส่วนตัว

 

     ฟากเนมชักไม่แน่ใจว่าพี่น้องกำลังพูดความจริงหรือประชดประชันใส่กัน  จะว่าไป ตั้งแต่รู้จักพี่ตูน เนมก็ไม่ได้ถามเรื่องเกี่ยวกับงานของเขาเลย หรืออีกนัยหนึ่ง เนมไม่เคยคิดจะสนใจเรื่องราวส่วนตัวของพี่ตูนมากไปกว่า การสนใจแต่เรื่องตัวเอง หวังดึงพี่ตูนมาเป็นที่พึ่งและตัวสำรองในระหว่างที่แม็คไม่มีเวลาให้กัน

 

      ช่างเห็นแก่ตัว ที่คิดให้ตัวเองสบายใจอยู่ฝ่ายเดียว

 

"บริษัทของพี่ เกี่ยวกับอะไร?"

 

"ประชุมเสร็จจะบอก"
คนที่แยกจากเนมไปยังโถปัสสาวะบ้าง ปล่อยให้คนที่โดนลากมา ยืนรอตรงหน้ากระจกเงาบานใหญ่

       มองคนที่จัดการธุระเสร็จอย่างเร็วไวก็พากันออกไปข้างนอก

 

"รอที่นี่แล้วห้ามออกไปไหน?"
คนที่เดินตามพี่ตูนต้อยๆเข้าห้องผู้บริหาร รู้สึกเกร็ง เมื่อสายตาของพนักงานบางคนที่ยังทำงานแอบมองเป็นระยะๆ

 

       ยังไม่ทันได้สังเกตออฟฟิศของพี่ตูนอย่างละเอียดถี่ถ้วน แต่ก็พอเห็นคร่าวๆว่าที่ทำงานมีการถูกจัดสรรพื้นที่ด้วยการทำห้องกระจกแบ่งย่อยอยู่หลายส่วน

 

       ยามนี้ ทั้งสองอยู่ในห้องที่ตอนแรกสามารถมองด้านนอกได้ทะลุ ปรุโปร่งกลับทึบเมื่อพี่ตูนดึงม่านม้วนมาปิดจนมิด

 

"ผมไม่ใช่เด็กนะ รู้น่า ไม่ต้องบอก"

 

      เบะปาก เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ แล้วเบนหน้าหนีไปทางอื่น

 

"หึๆ...เชื่อก็ได้ครับ น้องเนม แต่เตือนไว้ก่อนอย่ารื้อของมาเล่นและอย่าฉีกเอกสารของพี่นะ"
คนที่พูดจายียวน ก้มหน้าแล้ววางมือลงบนหัวทุย ฟากเนมปัดมือออก พลางขมุบขมิบปากเมื่อรู้ว่าพี่ตูนกวนประสาทกัน

 

"พี่ตูน แม่ง"

 

      ไม่อยู่ฟังเด็กโวยวาย รีบเดินออกจากห้องของตัวเองไปประชุมต่อด้วยรอยยิ้มกว้างกว่าตอนแรก

 

      ในขณะที่เจ้าของห้องเดินลับตาไป ชายหนุ่มที่นั่งรออย่างไม่รู้จะทำอะไรก็คว้าเครื่องมือสื่อสารมากรอกตัวเลขที่จำได้โดยไม่ต้องเข้าหมวดรายชื่อ

 

[ว่าไงครับ เนม]

 

"นึกว่าจะไม่รับโทรศัพท์กัน"

 

      พูดตัดพ้ออย่างไม่จริงจัง เนมพยายามมองโลกในแง่ดีว่า ไม่ได้เจอหน้า ได้ยินเสียงกันบ้างก็ยังดี

 

[ก็อย่างที่เคยบอก ถ้าไม่ยุ่งก็รับได้]

 

"อยากเจอแม็คจัง"
เมื่อมีแม็คเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการใช้ชีวิต เนมก็กลายเป็นคนติดแฟน จะทำอะไร? เดินซื้อของ? กินข้าวหรือจะไปไหน? ไม่มีวันไหนที่ไม่คิดถึงแม็คเลย

 

[เนมอย่าทำเสียงแบบนั้น มันทำให้ผมรู้สึกผิด]

 

    ไม่เก่งเรื่องการเดาใจคนอื่นเท่าไหร่ แต่น้ำเสียงของแม็คที่เอ่ยออกมาทำให้เนมแปลกใจไม่น้อย ที่วันนี้แม็คดูนุ่มนวลกว่าทุกครั้ง คนที่ห่างจากการอยู่ด้วยกันมานานแอบถาม

 

"แม็คคิดถึงเราบ้างไหม?"

 


    ใจคอไม่ดีที่แม็คเงียบไปนานกว่าที่ควรจะเป็น หรือ แม็คไม่เหลือความรักให้กัน?

 

[คิดถึงสิ แต่ช่วงนี้ ผมสับสน]

 

"แม็คเป็นอะไรหรอ? เราเป็นแฟนแม็ค มีอะไรก็บอกกันสิ"

 


[ผม...ผม...ขอ...โ]

 

      คนฟังก็ลุ้นจะขาดใจ เพราะปกติ แม็คไม่เคยทำเสียงจริงจังแล้วใช้คำพูดคำจาเหมือนมีลับลมคมใน

 

"แม็ค..มีอะไรหรือเปล่า?"

 


[ผมคุยไม่ได้แล้ว แค่นี้ก่อน ไม่กี่วันนี้ ผมจะไปรับเนมนะ]

 

"เดี๋ยวสิแม็ค...แม็ค"

 

    งงใจกับแม็คเหลือเกิน ที่คิดจะวางก็วาง มือที่กำโทรศัพท์กำลังเคาะลงบนโต๊ะทำงานอย่างคนใช้ความคิด

 

กึก กึก กึก กึก...

 

    ดั่งเสียงนาฬิกาติ๊กต๊อก ที่ดังมาจากการเคาะโทรศัพท์ตัวเอง

 

    ยังคงคิดอยู่อย่างนั้นแต่กลับหาคำตอบไม่เจอ อาจกดดัน คาดหวังว่าจะได้รับคำตอบมากเกินไปจนคิดไม่ตก คนนั่งขมวดคิ้วเป็นปมเริ่มปวดหัว จึงหยุดความฟุ้งซ่านฟุบหน้าลงกับโต๊ะทำงาน เพราะอยากพักสมอง หลับก่อนเถอะ เผื่อมันจะดีขึ้น

.

.

.

.

"ทำไมต้องเอาหน้ามาใกล้ด้วยล่ะพี่ ลืมตามาตกใจ นึกว่าผี?"

 

    ไม่รู้หรอกว่าผ่านไปนานเท่าไหร่? รู้ตัวอีกทีก็ลืมตามาตอนที่รู้สึกถึงลมอุ่นๆเป่ารดตรงริมฝีปากและเห็นใบหน้าที่ห่างกันไม่ถึงคืบ คนตัวโตที่นั่งครึ่งก้นบนพนักแขนเก้าอี้ ขยับตัวห่าง ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

 

"มองคนนอนน้ำลายไหลยืด โคตรซกมก"

 


   คนที่นอนฟุบอยู่ รีบเด้งตัวกลับมานั่งตัวตรงใช้หลังมือเช็ดริมฝีปาก

 

"บางเรื่อง ไม่ต้องพูดตรงๆก็ได้ ผมอายเป็นนะ"

 


    สังเกตได้ว่า พอเนมรู้ว่า การ์ตูน คือ ใครในอดีต? เนมแสดงออกถึงความสนิทสนมชัดแจ้งกว่าเดิมหลายเท่า

 

"กลับเหอะ หิว"

 


"แล้วพี่โตล่ะครับ?"

 


    เนมลุกตามพี่ตูนไปติดๆ

 

"กลับไปแล้ว"

 

"อยู่บ้านเดียวกันทำไมไม่มารถคันเดียวกัน ประหยัดตังค์ได้นะพี่"

 

"มันก็เรื่องส่วนตัวนะ"

 

"ไอ้พี่ตูน"

 

"ถ้าพูด 'ไอ้' อีกคำเดียว"


 

"ทำไม? พี่จะลงโทษอะไรผมหรอครับ?"
ยิ้มพลางทำหน้าแป้นแล้น ยักคิ้วยียวน ยั่วโมโหอีกฝ่าย เพราะเนมรู้ดีว่าพี่ตูนใจดีจะตาย...แค่ชอบปากร้ายไปอย่างนั้น

 

      แล้วจู่ๆ ก็หยุดหายใจไปโดยกระทันหัน เมื่อพี่ตูนกระชากแขนจนร่างเนมกระแทกแผงอกและกดหน้าลงต่ำจนริมฝีปากคลอเคลียอยู่ที่ปลายจมูกอีกฝ่าย

 

      มันก็แค่เรื่องบังเอิญ...จะยืนนิ่งอึ้งไปทำไม?

 

     ตั้งสติได้ เนมบิดแขนออกจากการกอบกุม ถอยหลังและหลุบตา จนความเงียบเข้าครอบงำ พี่ตูนก็โพล่งขึ้น

 

"พี่โตไปรับอะตอมบ้านแม่ แล้วนี่หายเครียดแล้วรึไง? มาต่อปากต่อคำ ทำหน้าตาระรื่นแบบนี้"

 

"ก็เครียดแต่ลดลงเมื่อรู้ว่าพี่ตูนคือพี่หมี"

   

"แต่สำหรับพี่พอรู้ว่าเนมคือเด็กข้างบ้าน นี่เครียดกว่าเดิม"

 


    เนมสบตาพี่หมีของเขาในวัยเด็ก

 

"พี่คิดแบบนั้นจริงๆหรอ?"

 


     ประสานสายตากันพอดี จึงเห็นว่าคนที่ถามแบบนั้นกำลังน้อยใจจริงๆ

 

 

"หิวข้าว ไปเหอะ นี่ไม่ใช่เวลามารำลึกความหลัง"

 

"แล้วบอกผมได้รึยัง บริษัทพี่ทำงานเกี่ยวกับอะไร?"

 

"โมบายล์ แอพฯ ชื่อ 'CAB' Click and Build"

 

"แอพฯอะไรหรอ? เปิดให้ดูหน่อยสิ"

 

"จำสมุดหน้าเหลืองได้ไหม?"

 

"จำได้ครับ"

 

"พวกพี่ได้แรงบันดาลใจจากตรงนั้น เปลี่ยนจากสิ่งพิมพ์มาใส่ในรูปแบบแพลตฟอร์ม ออนไลน์ ทำเป็นไดเรคทอรี่รวบรวมรายชื่อธุรกิจ สินค้า และบริการ แต่พี่จะเจาะจงแค่เกี่ยวกับเรื่องบ้าน ทั้ง พวกอุปกรณ์ก่อสร้าง รวมถึงวัสดุการตกแต่งภายใน ผ้าม่าน วอลเปเปอร์ เฟอร์นิเจอร์ต่างๆที่มีอยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล พี่ยังต้องปรับปรุงไปเรื่อยๆ หยุดไม่ได้ อนาคตข้างหน้า พวกพี่วางแพลนจะพัฒนาเพิ่มหมวด ดีไซน์เนอร์ ผู้รับเหมาฯ เข้าไปด้วย จะได้เป็นการเปิดพื้นที่สร้างอาชีพได้อีกช่องทาง ประมาณนั้น...."

 

        เนมลอบมองคนที่อธิบายไปก็เปิดตัวอย่างแอพพลิเคชั่นที่มีไว้ให้ดาวน์โหลดได้ฟรี ทั้งระบบแอนดรอย์ และ ไอโอเอส ที่รวบรวมความสะดวก สบาย สำหรับคนที่ต้องการสร้างบ้านเอง หรืออยากรีโนเวทบ้านใหม่ ก็ใช้แอพพลิเคชั่นนี้สำรวจหาร้านค้าและการบริการในพื้นที่ใกล้เคียงหรือสามารถเทียบราคาโดยไม่ต้องไปหน้าร้านได้

 

        ตอนแรกเนมก็สงสัยนะว่าให้ดาวน์โหลดฟรีแบบนี้ บริษัทพี่ตูนจะได้อะไร เขาถึงมาเข้าใจว่าจะได้ค่าโฆษณาแบนเนอร์บนแอพพลิเคชั่น รวมถึงค่าคอมมิชชั่นรายปีสำหรับร้านค้าไหนที่ได้ลูกค้าจากการสั่งซื้อผ่านทางแอพพลิเคชั่น CAB

 

        อย่าตัดสินใจใครแค่เพียงด้านเดียว ประโยคนี้แวบเข้ามาในหัวของเนม นึกไม่ถึงว่าคนที่กวนประสาท เหมือนไม่จริงจังอะไร แต่กลับมีความสามารถและความคิดสร้างสรรค์จนเนมนึกทึ่ง

 

"เจ๋งอะพี่ตูน ผมมาอยู่บริษัทพี่ได้ไหม? ผมจะได้หนีไอ้โรคจิตด้วย"

 

"ที่นี่เขารับคนมีความสามารถนะ"

 

"โห่!...พี่ตูน ผมก็มีนะ ความสามารถของผมคือ กินง่าย อยู่ง่าย คุยเก่ง ดื้อบ้างบางเวลา รับไหม? ผมจริงจังนะเนี่ย ตำแหน่งอะไรก็ได้?"

 

"แน่ใจ?"

 

"แน่สิครับ"

 

"เจ้าของบริษัทโสดอยู่"

 

"แล้วเกี่ยวอะไรกับตำแหน่งงานที่ผมจะสมัครอะ"

 

"ดี..ดี..ดี...ซื่อแบบนี้ต่อไปนะ"
ตูนยิ้มมุมปากพลางตบไหล่ปุๆ

 

"อะไรวะ พี่ตูน เฉลยซิ"

 

      คนที่หยุดเท้าแล้วหันหลังกลับมามองอย่างรำคาญก็จูงมือเนมเดินออกไป

 

"อย่าถามมาก หิว"

 

       มองแผ่นหลังพี่ตูนที่เดินนำไปไม่กี่ก้าว ก่อนจะก้มลงมองมือที่กำลังถูกกุมไว้

 

      ทำไมอยู่ดีๆก็เกิดใจเต้นแรงขึ้นมาล่ะวะ...

 

     บ้าหรือเปล่า?...ไอ้เนม ก่อนหน้านี้ อยู่ใกล้กับพี่ตูนมาก็หลายวัน ไม่เห็นจะเป็นอะไร? ทำไมแค่เขาจับมือ อยู่ดีๆก็ใจเต้นแรงอย่างน่าประหลาด

 

     บอกตัวเองว่าคงไม่มีอะไร เพราะพี่ตูนก็คือพี่ชายที่น่ารักของเนมก็เท่านั้นเอง

 

 

      หลังจากแวะกิน บะหมี่เกี๊ยวหมูแดงข้างทาง ก่อนเข้าหมู่บ้านพี่ตูน คนขับรถก็รับโทรศัพท์ของตัวเองและอยู่ระหว่างการสนทนา

 

"ว่าไง?..." / "เออ..." / "วันไหน?..." / "...ได้"...."

 

       หันไปสบตาพี่ตูนที่เขามองมาครู่หนึ่งก่อนจะวกสายตากลับไปแล้วคุยกับปลายสายอีกไม่กี่ประโยค

 

"มะรืนนี้ พวกไอ้แม็คจะมากินเหล้าที่บ้านพี่"

 

"ถึงคราวมาบ้านพี่แล้วหรอ?"

 

"อืม"

 

"แม็คมาไหม?"

 

"มา"

 

"ไม่เห็นแม็คบอกผมเลย"

 

"....."

 

"น้อยใจจังพี่ บางทีผมก็งงนะว่าแม็คยังเห็นผมเป็นแฟนอยู่หรือเปล่า?"

 

"ไม่ขอออกความเห็น"

 

     มองพี่ตูนที่ตอบตัดบทก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วเอนศรีษะพิงเบาะก่อนจะหันหน้าออกไปนอกหน้าต่าง

 

 

 

       ถึงบ้าน เนมปล่อยให้เจ้าของบ้านอาบน้ำก่อน ส่วนตัวเองก็คุยโทรศัพท์กับแฟน บทสนทนาสั้นๆที่ได้คุยกัน แม็คไม่พูดถึงเรื่องการสังสรรค์ที่จะเกิดขึ้นที่บ้านพี่ตูนเลย

 

       พยายามเข้าใจ แต่พอเกิดเรื่องชวนสะกิดติ่งความคิดมากและฟุ้งซ่าน ก็อดน้อยใจขึ้นมาอีกไม่ได้...

 

      จากอดีต ที่เคยคุยโทรศัพท์กันเป็นชั่วโมงๆ ระยะเวลามันหดลงเรื่อยๆเหลือเพียงระยะเวลาล่าสุด คือ 2 นาที 43 วินาที...

 

       แม็คไม่ดูแล และใส่ใจเหมือนก่อนจนเนมเริ่มเหมือนคนบ้าที่วิ่งไล่ตามอารมณ์ตัวเองไม่หยุด ดีบ้าง แย่บ้าง กลางวันสนุก กลางคืนเครียด มันสลับสับเปลี่ยนอย่างนี้อยู่เสมอ เสมอ...

 

       คนที่หยุดยืนแหงนมองท้องฟ้าตรงระเบียง กำลังสลัดความคิดออกไป แล้วเดินเข้าห้องนอนที่เห็นพี่ตูนอยู่บนเตียงด้วยสภาพพร้อมนอน เนมจึงไปอาบน้ำบ้าง

 

 

 "พี่ตูนง่วงรึยัง?"

   

"ยัง"

 

       คำถามแรก ถามหลังจากที่เนมอาบน้ำเสร็จก็รู้สึกตัวเองตาสว่าง

 

 

"พี่ตูน ตอนที่พี่ต้องย้ายบ้าน พี่ไปอยู่ที่ไหนหรอ?"
รู้ว่าพี่ตูน คือ พี่ชายแสนรักในวัยเด็ก เนมก็ยังไม่มีโอกาสได้ถามไถ่ถึงเรื่องราวในอดีต เนมจำได้ว่าที่ทั้งสองต้องห่างกัน คือ วันที่ครอบครัวพี่หมีมีความจำเป็นต้องย้ายบ้านเพื่อไปอยู่บ้านหลังใหม่ที่เล็กกว่าเก่า เนื่องจากตอนนั้นครอบครัวของพี่หมีเจอพิษเศรษฐกิจโหมกระหน่ำ

 

"ก็ไกลจากที่เดิม"

 

"พี่คงมีเพื่อนเล่นเยอะแน่ๆ ส่วนผมนะ พอพี่ไป ก็ไม่มีใครเล่นกับผมสักคน ตอนนั้น ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสัตว์ประหลาดที่มีแต่คนไม่อยากเข้าใกล้ ผมเอาแต่นั่งคิดถึงพี่ พี่ตูนรู้ไหม? ผมยังเก็บผ้าเช็ดหน้าของพี่ตูนไว้อยู่เลย ตอนที่ผมหกล้มจนเลือดออก แล้วพี่ให้ผมไว้....."

 

      แม้มันจะเป็นเรื่องอดีตที่ผ่านมานานนม แต่น่าแปลกที่ฟังได้ไม่เบื่อ มองคนเล่าความหลังด้วยแววตามีความสุขอย่างคนอยากระบาย ตูนจึงไม่เถียง ไม่ตัดบท เขาแค่นั่งยิ้มและฟังเนมเล่าไปเรื่อยๆ

 

"ผมจะเล่าทำไมก็ไม่รู้ พอแล้วดีกว่า เดี๋ยวพี่จะรำคาญ ว่าแต่พี่ตูน ร้องเพลงกล่อมหน่อยสิ ผมนอนไม่หลับ ผมอยากฟังพี่ตูนร้องเพลง"
คนที่มองตาใส ไร้อาการง่วงหงาว หาวนอนก็พลิกตัวนอนตะแคง เขี่ยหลังมือพี่ตูนยิกๆ

 

"อยากได้เแบบไหน? เป็นชั่วโมง หรือแบบเหมาทั้งวัน"

 

"เหมาสิ ผมอยากฟังหลายเพลง"
กวนมา กวนกลับ ไม่มียอมกัน

 

"ชั่วโมงละห้าพัน เหมาทั้งวันเหลือสามพันห้า"

 

"โห! หน้าเลือด กะพี่-กะน้อง ยังคิดเงินด้วยเหรอ?"

 

"อืม ช่วงนี้ บริษัทยังไม่ได้กำไร"

 

"ฮ่าๆ...น่าสงสารพ่อหนุ่มสตาร์ทอัพ ตอนนี้ ผมมีอยู่ยี่สิบเอาไปทำทุนก่อน"

 

     แกล้งหันหลังไปควักเงินในกระเป๋าสตางค์ที่วางตรงโต๊ะหัวเตียง ยื่นแบงค์ยี่สิบหนึ่งใบไปให้พี่ตูน แต่ใครเล่าจะคิดว่าพี่ตูนแม่งจะหยิบใส่กระเป๋ากางเกงขาสั้นจริงๆ

 

"เอาจริงดิ?" กระพริบตาปริบๆ

 

"อืม...เอาหมดล่ะเวลานี้"

 

"ฮ่าๆ โถๆๆๆพี่ตูน"

 

     มองคนนั่งหน้านิ่ง ก็เบะปากกลอกตาใส่คนกวนประสาท



"เอ่ เอ๊ ... เอ่เอ๊....... โอละเห่เอย..... โอละเห่....."

 

"เหยยยยยยพี่ตูน ไม่ใช่ร้องกล่อมแบบนั้น อย่ากวนตีนดิ"

 

"พูดดีๆ"
ส่งสายตาดุๆไปทางเนม

 

"อ่าขอโทษ พี่ตูนครับ ได้โปรดร้องเพลงให้ผมฟังสักเพลง ผมอยากได้ยินเสียงพี่ร้องใจจะขาด"
คนที่ไม่พูดเปล่ากลับแนบซีกหน้าลงกับต้นแขนอีกฝ่ายถูไถเบาๆอย่างเอาใจ


 

      เขามองคนอายุน้อยกว่ากำลังทำท่าไม่ต่างกับแมวที่ชอบเดินมาวนแล้วเอาหัวมาถูขา

 

"อยากฟังเพลงอะไร?"

 

"เพลงอะไรก็ได้ที่บ่งบอกถึงความรู้สึกของพี่ตูนตอนนี้"

 

      การ์ตูนมองหน้าเนม ที่พอรู้ว่าจะร้องเพลงให้ฟัง แววตาก็ดูเป็นประกาย ท่าทางก็กระตือ รือร้นอย่างเห็นได้ชัด

 

      เพลงที่สื่อความรู้สึกของเขาตอนนี้น่ะหรอ?..     

 

 

"ไม่ต้องบอกฉันถึงวันที่เลยผ่าน ไม่ต้องบอกฉันว่าเคยมีใครคนไหนยังไง? ถ้าเผื่อฉันเผลอ บังเอิญฉันถามเธอไป เธอก็ไม่ต้องตอบฉันเลย..."



      พี่ตูนร้องเพลงทีไร เนมขนลุกทุกที น้ำเสียงและอารมณ์ที่ถ่ายทอดออกมาทำคนนั่งฟังเคลิบเคลิ้มและอินไปกับบทเพลงที่ซ่อนความรู้สึกของคนเปล่งน้ำเสียงออกมา

 

     แต่...

 

"จบ"

 

"เฮ้ย! อะไรวะ? กำลังซึ้ง ต่อเถอะนะพี่ตูน ผมอยากฟังจริงๆ"

 

"จริง?"

 

"จริงสิ พี่ตูนร้องต่อน้า...นะ นะครับ"
ทำหน้าอ้อนวอนจนคนขี้ใจอ่อนสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ

 
 

"วันวานมันคืนย้อนมาไม่ได้ และวันพรุ่งนี้ยังไม่รู้ ฉันพร้อมจะอยู่ ฉันพร้อมจะตายเพื่อรักคำเดียว ไม่ว่าเธอจะเคยเป็นใคร จะผ่านอะไรมาขอจงอย่าเป็นกังวล นี่คือคนของเธอ ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรต่อจากนี้ไป ฉันจะอยู่ดูแลเธอ ด้วยคำว่ารักด้วยใจ"



      เพลง คนของเธอ คือ เพลงที่ตูนคิดว่า มันสื่อถึงความรู้สึกได้ตรงสุดๆแล้วตอนนี้...

 

     คนที่ร้องไปไม่ได้สนใจเนม กระทั่ง พอถึงท่อนจบ ตูนสบตาเนมด้วยรอยยิ้มอบอุ่นจนเนมคิดว่า ถ้าเนมเป็นแฟนพี่ตูนจริงๆ คงเขินอายที่แฟนทำซึ้งและโรแมนติกแบบนี้

 

"ถ้าใครได้ฟังพี่ร้อง ผมว่ามีหลงอะ พี่ร้องเพลงได้มีเสน่ห์มาก จากคนหน้าตางั้นๆพอร้องปุ๊ป แม่งโคตรหล่อ"

 

"หึหึ"

 

"เออ...ตัวจริงก็หล่อ พอร้องแม่งยิ่งโคตรหล่อไปอีก พอใจรึยัง?"

 

"ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย"

 

"ก็พี่หัวเราะกวนตีนอะ...พี่ตูนร้องอีกได้หรือเปล่า? ผมยังไม่ง่วง"

 

"ไม่ได้ ค่าตัวแพง"

 

"โห่ โคตรเล่นตัว"

 

"แน่นอน"

 

   เนมเบะปาก

 

"ถ้าพี่มีแฟน แล้วแฟนได้ฟังพี่ร้องเพลงทุกคืนแบบนี้ คงมีความสุขน่าดู"

 

"มาเป็นแฟนพี่ไหม?"

 

 

ตึก ตึก ตึก ตึก...

 

    มันก็เป็นแค่มุกตลกที่สร้างเสียงหัวเราะ...มันไม่ควรต้องใจเต้นแรงขนาดนี้ไหม? ไอ้เนม

 

     คนที่มั่นใจว่าไม่ได้หูฝาด กำลังนั่งนิ่งอย่างจนคำพูด

 

"ดีใจจนพูดไม่ออกเลยเหรอ? พี่พูดเล่น คนที่เอาแต่ใจ ดื้อด้านแบบนี้ไม่เอาหรอก"

 

"คำก็ด่า สองคำก็ว่า ทำอะไรไม่เคยถูกใจ พี่ตูนเกลียดผมมากเลยรึไง?"

 

"เหนื่อยจะคุยกับเด็ก ฝันดีนะ พี่ฝากปิดไฟด้วย"

 

"เฮ้ย!...อะไรวะพี่ ตัดบทกันแบบนี้เลยหรอ? หรือพี่เกลียดผมจริงๆ"

 

"เนม พี่จะนอน"

 

     หน้าเหวอเมื่อเห็นพี่ตูนเสียงเข้มและไถลตัวลงนอนกระชากผ้าห่มดึงมาคลุมถึงคอพลิกตัวตะแคงหันหลังให้เนมซะอย่างนั้น...

 

    เนมบ่นขมุบขมิบที่ไม่มีคนให้เถียงกลับก็ต้องจำใจข่มตาหลับทั้งๆที่ยังไม่ง่วงเลยสักนิดเดียว...

 

 

................................

โอ้ย! พี่ตูนคะ สงสารพี่จัง เหนื่อยไหมคะ...หุหุ :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:
     
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 7.2[30-9-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 30-09-2018 19:54:39
 :pig4: :pig4: :pig4:

น่าสงสาร   รักชอบเขานะ  แต่เขาดันมีสถานะเป็นแฟนเพื่อนซะงั้น

ไม่เป็นไร  รอเขาเปลี่ยนสถานะก่อนค่อยว่ากัน  อิอิ
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 7.2[30-9-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 02-10-2018 15:18:07
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ o13
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 8 [2-10-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 02-10-2018 18:29:16
 

ตอนที่ 8 คนแอบรัก


 

 

 "อยากโชว์ฝีมือปลายจวักอวดแฟนเหรอ?"
  คนที่เดินมาเปิดตู้เย็นหยิบน้ำดื่มในครัวก็เอ่ยถาม หลังจากเห็นเนมง่วนกับการตระเตรียมวัตถุดิบทำอาหาร



"ใช่"

 

      มองคนที่ตั้งอกตั้งใจทำกับข้าวให้แฟนก็นึกอิจฉาแม็คเหมือนกัน...

 

      ตูนอยากเป็นคนนั้นบ้าง...

 

      มันมีเหตุผลอะไรกันที่คนเรามักยอมเจ็บเพื่อรัก...ความรักมักไม่เคยหาเหตุผลได้หรอก...เช่นเดียวกับตูนที่ก็หาเหตุผลให้ตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมต้องเฝ้ามอง เฝ้าดู ทำตัวเป็นผู้พิทักษ์ คอยปกป้องเนมให้พ้นจากอันตราย ทั้งๆที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่า เนมมีเจ้าของแล้ว ควรปล่อยให้แฟนเขาได้ทำหน้าที่ ไม่ใช่คนแอบรัก คนนี้ที่ไม่มีสิทธิ์ในตัวเนมด้วยซ้ำ

 

       ชอบเนมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ รู้แค่พอได้สนิทชิดเชื้อกันกับเด็กข้างบ้านยามเยาว์วัย ความผูกพันก็ก่อตัว บ่มเพาะมานาน จนกระทั่ง ห่างกัน ถึงเริ่มเข้าใจว่า การ์ตูนคิดถึงเนมเหลือเกิน



        ห่างกันโดยไร้ช่องทางการติดต่อ เวลาผ่านไป ตูนคิดถึงเนมน้อยลงก็จริง แต่ก็ยังติดในความทรงจำ ไม่เคยลืมไปจากสมอง แม้พอโตเป็นหนุ่ม ตูนจะมีแฟนมาทั้งชายและหญิงมากมาย แต่ยามใดที่คบใคร ในสมองมักมีเนมแวบเข้าหัวโดยอัตโนมัติ ก็ไม่รู้หรอกว่า เด็กข้างบ้านมามีอิทธิพลกับเขามากขนาดนี้ได้ตอนไหน?



         มีคนหนึ่ง คนที่พอจะทำให้ตูนลืมเนมได้ คือ แฟนคนล่าสุดชื่อ...ตะวัน.. เขาน่ารัก นิสัยดี ออดอ้อนเหมือนเนมไม่มีผิดเพี้ยน  เหมือนจะผ่านไปด้วยดี แต่แล้ว ความตายก็มาพรากกระชากลมหายใจของตะวันจนร่างที่เคยมีวิญญาณ สิ้นลมลงด้วยการประสบอุบัติเหตุ

   

       สามปีที่คบกับตะวัน มันกลายเป็นอดีตที่ทำให้ตูนบันทึกไว้ในความทรงจำอันสวยงาม...

 

      ตะวัน เป็นแฟนคนสุดท้ายของตูน หลังจากนั้น เขาเหนื่อยจะต้องไล่ตามหาใครมาเป็นคนรัก จึงปิดประตูหัวใจ จนเวลาผ่านไปห้าปี...

 

      โชคชะตาก็มาเล่นตลกให้เขาได้โคจรมาพบเนมอีกครั้ง

 

      แต่ในสถานะแฟนเพื่อน...

 

 

"อื้ม ผมกับแม็คไม่ได้เจอกันนาน เจอทั้งทีก็อยากทำอะไรให้เขาประทับใจที่สุด"

 


      คนที่บอกแต่ไม่ได้หันมามองยังคงมุ่งมั่นตั้งใจกับการหั่นตะไคร้



"ไม่กวนแล้ว มีอะไรเรียกนะ"


 

"ครับ"


 

      เป็นครั้งแรกที่อยากทำอาหารให้แฟนตัวเองได้กิน เมนูต้มยำไก่น้ำใสจึงเป็นเมนูแรกที่อยากลอง



      คนที่ใส่ส่วนผสมทุกอย่างลงในหม้อ คอยคนจนใกล้เสร็จ ถึงขั้นตอนสุดท้ายที่รอให้น้ำแกงเดือด



       เมื่อเห็นน้ำเดือดปุด ปุด ปิดแก็ส เตรียมยกหม้อเทใส่ถ้วย แต่เพราะความเลินเล่อและประมาทที่จับหูหม้อไม่มั่น....

 

ฉ่าาาา!



"เชี่ย...โอ้ย"


 

        น้ำต้มยำเดือดจัดหกใส่เท้าตัวเอง เนมรีบวางหม้อ เขย่งเท้าพลางเดินกระเผลกๆไปเปิดก๊อกน้ำตรงอ่างล้างมือ



        ไม่คิดว่าตัวเองจะซุ่มซ่ามได้ขนาดนี้ ก้มมองแผลที่เกิดขึ้นสดๆใหม่ๆ เริ่มแดงและบวม เนมร้องซี้ดเพราะแสบ เขาหลับตาพลางสบถในลำคอ

 

"เนมเป็นอะไร? เฮ้ย"

 

          ได้ยินเสียงร้องดังลั่นมาจากในครัว รีบวิ่งมาดูด้วยความตกใจ เมื่อพื้นครัวเลอะไปด้วยน้ำต้มยำเป็นวงกว้าง ตูนเบียดตัวแทรกไปที่อ้างล่างหน้า คว้ากะละมังที่วางอยู่ใต้ซิงค์ ใส่น้ำจนเต็ม ยกกะละมังและย่อตัวลงนั่งที่พื้นจับเท้าเนมแช่ลงในน้ำ

 



         ทุกอย่างมันดูรวดเร็วไปหมด จนคนเจ็บกลับมาตั้งสติมองดูคนอายุมากกว่านั่งจับเท้าที่สกปรก

 

"พี่ตูน เท้าผม..."
คิดว่าเป็นของต่ำที่บางคนอาจถือสาจึงห้าม



"ไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาสนใจตอนนี้ แช่เท้าก่อน"



 

         บอกจบ ช่วงเวลาที่คนเจ็บแช่เท้าในน้ำสะอาด การ์ตูนลุกไปหยิบผ้าถูพื้นตรงส่วนที่น้ำแกงหก จนกระทั่งเรียบร้อย ตูนย่อตัวลงมาใกล้กะละมังแล้วเงยหน้าถามคนที่ยืนกัดปาก ทำหน้าเหยเก



"ยังแสบอยู่ไหม?"



     เนมพยักหน้าแล้วทันใดนั้น...

 

     คนอายุน้อยกว่าเบิกตาโพลงเมื่อได้เห็นคนอายุมากกว่าก้มลงเป่าลมเบาๆรดลงตรงแผลบวมแดงที่เท้า เขาขนลุกเกรียวและใจสั่นที่พี่ตูนกำลังทำให้อย่างอ่อนโยน





    พยายามจะชักเท้ากลับแต่สองมือหนายึดฝ่าเท้าไว้แน่น

 

"ยิ่งเป่า ยิ่งแสบหรอ?"



"ปะ...เปล่าครับ"
หลุบตาลง เลี่ยงการดูกระทำของคนตรงหน้าที่ดูอบอุ่นและทะนุถนอมจนส่งผลต่อหัวใจให้เปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าประหลาด





      ปลายนิ้วลูบไล้แตะเบาๆ ตรงแผล ก่อนจะวางเท้าเนมลงในกะละมังดังเดิม

 



"เดี๋ยวไปเอาผ้าก๊อซมาปิดแผลให้"

 

       ยืนมองทุกขณะที่พี่ตูนทำให้ไม่ละสายตา พี่ตูนห่วงใย ใส่ใจจริงจัง จนอยู่ดีๆก็เกิดคำถามขึ้นมา...



"พี่ตูนชอบกูหรือเปล่าวะ? ..." / "...อย่าหลงตัวเองน่าไอ้เนม พี่ตูนจะชอบมึงได้ไง มึงเป็นแฟนเพื่อนเขา... " / เออก็จริงว่ะ...."



      คนที่คุยกับตัวเองในใจ...กำลังตั้งคำถามกับสิ่งที่พี่ตูนทำดีจนน่าใจหาย รีบสลัดความคิดนี้ทิ้งเมื่อพี่ตูนเดินกลับมา



 

"ดีขึ้นไหม?"

 

"ดีขึ้นครับ ไม่ค่อยแสบแล้ว"


 

 

      พี่ตูนยังคงนั่งบรรจงทำความสะอาดแผล ล้างด้วยน้ำเกลือ ก่อนจะใช้ผ้าก็อซปิดแผล



"พี่ตูน ขอบคุณนะ"

 

"อื้ม ขึ้นไปพักก่อน อย่าเพิ่งเดิน"

 

"เฮ้อ!...ต้มยำของผม"
คนที่มองเศษซากต้มยำอย่างนึกเสียดาย ถ้าทำไม่สำเร็จจะไม่เสียใจขนาดนี้  แต่นี่ทำสำเร็จพร้อมเสิร์ฟแล้วแท้ๆ

 

"ของที่มันเสียไปแล้ว ก็เลิกอาลัย อาวรณ์เถอะ"



"ทำไมล่ะครับ แม้มันจะเสีย แต่บางอย่างเราก็มีโอกาสเอากลับมาซ่อมได้นี่"


"ซ่อมได้อะใช่ แต่ยังไงมันก็ไม่มีวันเหมือนเดิม"

 

       ไม่อยากเถียงให้ทะเลาะกัน เพราะยามนี้พี่ตูนก็มีพระคุณกับเนม จึงตัดบท เดินกระเผลกออกจากครัวไปที่บันได พี่ตูนคงเห็น เนมเดินลำบาก จึงสอดมือเข้าเอวสอบประคองเนมขึ้นบันได ไปจนถึงเตียงของตัวเอง



 

"พักก่อน ถ้าแม็คมาจะเรียก"



"ครับ"


 

     มองคนอายุมากกว่าพ้นลานสายตา เนมลูบช้าๆตรงแผ่นอกตำแหน่งเดียวกับหัวใจ

 

"วันนี้มึงเป็นอะไรวะ ไอ้เนม?"



 

      ต่อปากต่อคำยียวนใส่กันมาได้ก็นานสองนาน กลับไม่รู้สึกแปลกประหลาดเท่าวันสองวันนี้



     นั่งคิดถึงเรื่องพี่ตูนที่นับวัน นับวัน ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดแผก แปลกไปจากเดิม และแล้ว....

     


"อะตอม อย่าซน"


 
     หยุดความคิด เหลียวมองตรงประตูที่อะตอมวิ่งยิ้มเข้ามาหา



"สวัสดีครับพี่โต ให้อะตอมเข้ามาก็ได้ครับ"

 

"เป็นอะไรทำไมมีผ้าพันแผลที่เท้า"




      โตวิ่งตามลูกชายตัวเองเข้ามาในห้องนอนของตูน ก็เห็นเนมนั่งพิงพนักเตียงด้วยใบหน้าเหมือนคนคิดอะไรตลอดเวลา

 

"ผมทำน้ำแกงหกใส่เท้าครับ"

 

"เหรอ? ถ้างั้นอะตอมมาหาพ่อเถอะครับ อย่ากวนอาเนมดีกว่า"
คนที่ก้มตัวลงจับแขนลูกชาย แต่เด็กน้อยเบี่ยงตัว สะบัดแขนไม่ให้จับ

 

"ไม่เป็นไรครับ ผมดูแลได้"

 

"ถ้างั้น พี่ฝากแป๊ปนึงนะ ขอลงไปคุยกับไอ้หมีหน่อย"

 

"ได้ครับ"

 

      พอรู้ความหลังว่าเป็นคนเคยคุ้นมาก่อน ทำให้ทั้งสามสนิทสนมกันได้อย่างรวดเร็ว

 

"อาเนม อะตอมอยากเล่นเครื่องบิน"



      เนมทำหน้านึก และจำได้ถึงคราวก่อน ตอนที่อะตอมเล่นกับพี่ตูน เขาเหลือบมองเท้าตัวเอง ก่อนบอก



"อามีแผล เล่นอย่างอื่นได้ไหม? อ้อ อาว่าเรามาเล่นเกมส์ดูดวิญญาณกันดีกว่า เล่นไหม?"

 

"เล่นฮะๆ"



     เนมดึงข้อมือเด็กมากำและบีบแน่นจนเลือดไม่ไหลเวียนผ่านไปที่มือ กำข้อมือค้างไว้จนฝ่ามือซีดขาวสักพัก จากนั้นเนมค่อยๆคลายมือที่กำไว้ และเป่าลมออกจากปากไปที่ฝ่ามือตัวน้อย

 

"จงดูดวิญญาณณณ"



     มองเด็กตาโต ทำปากจู๋คงดูตื่นตาตื่นใจ



"โว้ววว สนุกฮะ สนุกฮะ"

 

"มามา...เดี๋ยวทำให้อีก"

 

     ขณะที่เนมกำลังจะทำให้อะตอมอีกรอบ พี่โตก็เดินเข้ามาจนประชิดเตียงนอน

 

"อะตอม ไปบ้านคุณย่ากัน"

 

"อะตอมอยากอยู่กับอาเนมฮะ"

 

"ไม่ได้ วันนี้เรามีนัดแล้วครับ"

 

"คราวหน้ามาเล่นก็ได้"

 

"เย้ๆ...จริงนะ สัญญาแล้วนะฮะ ไปกันฮะพ่อ"

 

     พี่โตโน้มตัวมาอุ้มลูกที่นั่งบนเตียง  ก่อนหันหลังไป พี่โตยิ้มกรุ้มกริ่มมองมาอย่างมีเลสนัยจนเนมสงสัย

 

"มีอะไรหรือเปล่าครับพี่โต?"

 

"รู้อะไรหรือเปล่า? ว่าไอ้หมีมีความสุขมากเลยนะที่ได้เจอเนม"

 

"จริงหรอครับ?"

 

"จริง แต่ก็น่าเสียดาย?..."



"เสียดายอะไรครับ?"





    มองคนยิ้มแต่ไม่ตอบ และพาอะตอมเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้คนที่อุตส่าห์หยุดคิดเรื่องพี่ตูนก่อนหน้า เวียนวกกลับมาคิดเรื่องเดิมอีกครั้ง



..'ถ้าพี่ตูนมีความสุขอย่างที่พี่โตว่า แล้วจะต้องเสียดายอะไร?'..








****1.1****


ตอนหน้าดุเดือดค่ะ :z1: :z1: :z1: :z1:

DrSlump >>> เผื่อคิดถึง เพื่อนพ่อ (อาทัช+คายัค) นะคะ มีตอนพิเศษ -ยอม 'รับ' - มาฝากค่ะ
 https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67267.210 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67267.210)
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 8 [2-10-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Keane ที่ 02-10-2018 19:01:47
 :really2:
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 8 [2-10-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 02-10-2018 19:13:59
แม็ค ถ้าจะขอโทษก็เลิกเลย เปิดทางให้เพื่อนที  :ling1:
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 8 [2-10-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 02-10-2018 20:48:08
 :pig4: :pig4: :pig4:

ดุเดือดเนี่ย  ทะเลาะกันดุเดือด หรือสงคราม 18+ ดุเดือด?

ขอบคุณสำหรับอัพเดตตอนพิเศษเรื่อง อินทัชคายัค ครับ

 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 8.2 [5-10-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 05-10-2018 18:14:18
ตอนที่ 8 คนแอบรัก (2)







"เนมตื่น... แม็คมาแล้วนะ"

 

"ห้ะ...ห้ะ" คนที่โดนเขย่าแขนแรงๆ สะดุ้งตื่นทั้งทำหน้าเลิ่กลั่ก

 

"แม็คมาแล้วหรอ?"

 

"ใช่"

 

      ยังไม่ทันได้เตรียมเตี้ยมกับเนมเรื่องที่มานอนค้างบ้านตูนเลยว่าจะบอกแม็คยังไง? คนที่พอรู้ว่าแฟนมารีบกระเด้งตัวลุกด้วยความกระดี้กระด่าดีใจจนลืมไปว่าตัวเองมีแผลที่เท้า



 "เนม เดี๋ยวล้ม"




       ทันใดนั้น คนที่เตือนวิ่งไปคว้าต้นแขนได้ทันแต่เพราะเนมสะดุดจึงเสียหลักล้มลงไปทั้งคู่ สภาพที่เห็น คือ ผู้ชายสองคนนอนทับกันอยู่บนพื้น โดยริมฝีปากของตูนแนบลงไปกับแก้มของอีกฝ่ายอย่างไม่ตั้งใจ

 

      คนทั้งสองรู้ดีว่าทั้งหมดนี้ คือ อุบัติเหตุ แต่ถ้าคนที่มาเห็นผลลัพธ์ตอนนี้ จะบอกว่า ไม่ได้ตั้งใจก็คงทำใจได้ยากลำบาก



"เนม!"


 

       ไม่ใช่พี่ตูนที่เรียก ทันใดนั้น เนมเอี้ยวหน้าไปมองตรงทางเข้าห้องนอน เห็นแฟนตัวเองยืนมองด้วยแววตาวาวโรจน์ ทั้งสองผละออกจากกัน เนมรีบหยัดกายลุกขึ้นนั่งและพยายามจะยืน ยังไม่ทันทรงตัวให้ดี แม็คก็กระชากแขนอย่างแรง จนเนมล้มอีกรอบ

 

"โอ้ย...แม็ค เบาๆ เราเจ็บ"

 

      คนที่ไม่ได้สังเกตแฟนตัวเองเลยว่าเพิ่งได้รับบาดเจ็บมา ยืนโกรธเกรี้ยวแรงอกกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหอบหายใจรุนแรง แม็คไม่พอใจที่เห็นแฟนเล่นเลิฟซีนกับเพื่อนตัวเองอยู่



"เนม อยู่บ้านไอ้ตูนได้ไง?"



"เอ่อเออะ...คือเราโทรหาพี่ตูนจะถามเรื่องงาน แล้วเขาบอกว่าจะมีกินเหล้าวันนี้พอดีเลยมา ทำไมแม็คไม่บอกเราบ้างล่ะว่าจะมา แม็คไม่คิดอยากเจอเราบ้างหรือไง?"



"มาตั้งแต่เมื่อไหร่?"
คนที่นึกอยากเปลี่ยนเรื่องก็เปลี่ยน และถามคำถามที่ทำให้เนมชะงัก เหล่มองพี่ตูนก่อนตอบ


"มะ...มาเมื่อเช้า"



     แสยะยิ้มร้าย เหลือบมองเพื่อนสนิทสลับกับเนม พลางคิดในใจไปเองว่า...แม่งเลวทั้งแฟน-ทั้งเพื่อนกูเลยหรือ?



"เหอะ!...ทำไมต้องโกหก?"

 

"ปะเปล่านะ เราไม่ได้โกหก"

 

"ไอ้ตูน บอกผมว่าเนมเมื่อวาน"
เนมมองหน้าพี่ตูนก่อนจะหลุดเสียงจิ๊ในลำคอ



     เรื่องราวที่เกิดขึ้น พี่ตูนไม่ผิด เนมต่างหากที่ผิดที่เลือกโกหก ปิดบังแฟนตัวเองจนเกิดเรื่อง

 

"มึงไม่ต้องว่าเนมหรอก ทั้งหมดนี่กูผิดเอง"

 

"อย่ามาพระเอก"
ด่าเพื่อนตัวเอง ก่อนจะบีบแขนเนมจนเนมนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ

 

"ทำแบบนี้นานรึยัง?"

 

"ทะ...ทำอะไรแม็ค?...."

 

"แอบเอากับเพื่อนผมนานรึยัง?"



     ก็ยอมรับว่าเรื่องนี้ เนมผิด แต่การที่แม็คมาว่าเนมอย่างเสียๆหายๆแบบนี้ เนมก็รู้สึกโกรธและเสียใจ

 

"เฮ้ย...แม็ค เราเป็นแฟนแม็คนะ เออ...เราผิดเว้ยที่มานอนบ้านพี่ตูน แต่ทำไมต้องพูดดูถูกกันขนาดนี้ แม่งโคตรเสียใจ"



"เหอะ!...แล้วเนมไม่คิดว่าผมจะเสียใจ? การกระทำที่ผมเห็นอยู่ตอนนี้จะเชื่อใจได้ไงว่าไม่ได้แอบเอากันลับหลัง ลองคิดดูดีๆไอ้ตูนมันเพื่อนผม การที่เนมสนิทกับเพื่อนผมจนมานอนค้างได้ขนาดนี้ มันไม่น่าสงสัยหน่อยเหรอ?"



"....." ชะงัก ขมริมฝีปากเข้าหากันแน่นและก้มหน้า แม้เรื่องมีเซ็กซ์กันมันไม่เป็นความจริง แต่เนมเถียงไม่ออก เพราะเขาสนิทกับพี่ตูนจริงๆ เนมไม่คิดว่า การสนิทกับเพื่อนแฟนมากเกินไปจะส่งผลให้ความสัมพันธ์เขาและแม็คกำลังสั่นคลอน



"บอกซิ ได้กันมาแล้วกี่ครั้ง?"



"ไอ้แม็ค กูแม่งไม่เข้าใจ มึงเป็นคนแบบไหนกันวะ? ถึงพูดจาไม่ให้เกียรติแฟนตัวเองแบบนี้ การที่เนมนอนบ้านกู ไม่ได้หมายความว่าเนมต้องมีอะไรกับกู หัดเชื่อใจแฟนมึงบ้าง และกูจะบอกให้ว่าเนมไม่เคยคิดนอกใจมึง"

 

"แต่มึงพยายามทำให้เนมนอกใจกู?...ใช่ไหม?"



"....."

 

       ทำไมวะ ทำไม? ทำไมกูต้องมีใจให้กับคนที่มีเจ้าของด้วยวะ....คนที่อยากแก้ตัวใจจะขาดก็นึกอายปาก



        มันชักจะไปกันใหญ่ ฟากเนมรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้เพื่อนสองคนทะเลาะกัน  เมื่อเนมเป็นคนก่อปัญหา เขาก็ต้องเป็นคนแก้ เนมเอื้อมมือไปบีบมือแม็คแล้วเอ่ย

 

"แม็ค กลับไปคุยกันที่บ้านเถอะ เราจะพูดความจริงให้แม็คฟังทุกอย่าง และถ้ายังไม่สบายใจ ต่อจากนี้ เราจะไม่มาบ้านพี่ตูน ไม่ยุ่งกับพี่ตูนอีกเลย โอเคไหม?"


 

       เนมสวมกอดแม็ค แล้วซบหน้าลงบนบ่า แต่แม็คกลับดันกายออกห่าง ฉุดกระชาก ลากแล้วเหวี่ยงร่างลงกับเตียง



"โอ้ย...แม็ค เราเจ็บ"
คนที่ไม่ถนอมร่างเนมกำลังจ้องมองแฟนตัวเองด้วยแววตาวาวโรจน์ดุจสัตว์ร้ายที่พร้อมขย้ำ เขมือบเหยื่ออย่างไร้ความเมตตาปราณี



    แม็คผุดรอยยิ้มน่ากลัวดั่งปีศาจ เขาขึ้นไปนั่งคร่อมกายเนม ปลดกระดุมกางเกงยีนส์ตัวเองพร้อมรูดซิปแล้วดึงกางเกงให้หลุดออกจากสะโพกอย่างไม่มียางอายว่าเพื่อนตัวเองก็ยืนอยู่ แถมยังใช้ห้องนอนของตูนเตรียมการพลอดรักอีกต่างหาก



"แม็คทำอะไร?"



"ไหนๆก็มาถึงขนาดนี้แล้ว ผมว่ามีอะไรกันสามคนก็น่าสนใจ ไอ้ตูน ยืนนิ่งอยู่ทำไม? อยากได้ไม่ใช่เหรอแฟนกู? มาลองด้วยกันดิ"




     ไม่รู้แล้วว่า เพื่อนเขาต้องการประชดหรือกามวิปริตจริงๆ ตูนมองแม็คที่ซุกหน้าไซ้ซอกคอเนมต่อหน้าต่อตา



     และแล้วคนที่เก็บความอดทนไว้ได้นาน กลับพังทลายลง...


ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!

 

     พุ่งไปกระชากไหล่แม็คให้หันมาและต่อยหน้าหลายหมัด แม็คตั้งสติได้ ถีบตูนจนล้มลงไปกองที่พื้น กระโดดลงไปคร่อมร่างตูนที่พลาดท่า  ทั้งสองยังคงชกต่อยกันหมัดต่อหมัด ซัดกันนัว



      เนมหยัดกายขึ้นมามองเหตุการณ์น่ากลัวด้วยความตระหนกตกใจ ไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลาย เนมขอร้องและบอกห้ามอยู่หลายที กลับไม่มีใครฟัง จนกระทั่ง เนมคว้าขวดน้ำที่มีอยู่ข้างเตียงหมุนฝาออกและสาดใส่ทั้งคู่



"หยุดนะ ก็บอกให้หยุดไงวะ"

 


    ทั้งสองชะงักและแยกออกจากกันเมื่อได้ยินเสียงเนมตวาดพร้อมสาดน้ำใส่



    เท็นและเป๊กที่เพิ่งเข้าบ้านตูนมาได้ยินเสียงตึงตัง เอะอะ...โวยวายด้านบนรีบวิ่งขึ้นบันไดมาก็ตกใจ หน้าเหวอ เมื่อเห็นหน้าเพื่อนสองคนฟกช้ำและบางแผลก็มีเลือดไหล

 

"เชี่ย ไอ้แม็ค-ไอ้ตูนมีเรื่องอะไรกันวะ?"

 


      เนมถลาไปหาแม็ค และผลักพี่ตูนออกห่าง ถ้าพี่ตูนไม่เริ่มก่อน เรื่องก็คงไม่จบแบบนี้




"ทำไมต้องใช้กำลัง? ทำไมพี่ต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วยวะ"




"....."



       ตูนมองคนที่ตวาดใส่ปาว ปาว แล้วจู่ๆก็หันตัวไปคุยกับแม็ค

 

"แม็ค แม็คเป็นอะไรไหม?"
เนมใจหวิว เมื่อเห็นหน้าแฟนตัวเองมีแต่แผล เขากอดแม็ค และในขณะคนที่โดนกอดอยู่นั้น หันหน้าไปทางตูนที่จ้องมองมาพอดีจึงแสยะยิ้มพลางยักคิ้วข้างหนึ่งใส่เพื่อนตัวเอง

 

"ขอบคุณนะที่เป็นห่วงแม็ค"


 

      เน้นคำว่า...แม็ค...เผื่อเรียกสติให้ใครบางคนได้ตระหนักรู้ว่าตอนนี้ เนมเลือกห่วงใคร...



     เนมประคองแม็คให้ลุกขึ้นยืนเพื่อจะพาออกไปจากห้อง การสังสรรค์คืนนี้ ทั้งคู่คงไม่อยู่ร่วมแน่ๆ จังหวะที่เนมพยุงคนเจ็บเดินผ่านพี่ตูน เขาปรายตามองแล้วบอกด้วยคำที่ตูนโคตรเจ็บปวด

 

"ผมเคยมองว่าพี่เป็นคนดีได้ยังไงวะ?"


 

    เมื่อโทสะเกิด อารมณ์ร้ายๆก็ปะทุขึ้น...เนมไม่รู้เลยว่าการพูดไม่คิด นั้นส่งผลต่อจิตใจใครคนหนึ่งขนาดไหน



"กูขอโทษนะไอ้เท็น ไอ้เป๊ก วันนี้กูขอบายว่ะ"
 

"เออๆ รีบไปหาหมอซะไอ้แม็ค"



    ยืนมองทั้งคู่เดินออกไปจากห้องด้วยแววตาหม่นหมอง ไม่ใช่แค่การใช้คำพูดร้ายๆราวหอกทิ่มแทงใจหรอกที่ทำให้ตูนเสียใจ แต่มันยังคือการที่เนมไม่คิดจะถามไถ่กันสักคำว่า พี่ตูนเป็นอะไรมากหรือเปล่า?



     ขณะที่เห็นตูนยืงนิ่งราวกับปูนปั้นมาได้สักพัก เท็นกระซิบกระซาบกับเป๊กถึงสถานการณ์อันน่าฉงน ว่าทำไมสามคนต้อง ทะเลาะกัน ถ้าไม่ใช่เรื่องความสัมพันธ์ที่มาจากความรัก..

 

     เท็นกะหันไปจะบอกเพื่อนอีกคนอย่างเป็นห่วง แต่หุบปากฉับเสียก่อนเมื่อเห็นตูนตาแดงก่ำ  เท็นกับเป๊กมองหน้ากัน ก่อนจะเห็นตูนเดินกลับไปนั่งที่เตียง สองมือประสานกัน ก้มหน้าลงมองพื้น

 

    เท็นบีบแขนเป๊กเหมือนบอกห้าม...เพราะรู้ว่าเพื่อนจะพูดอะไร แต่เป๊กไม่ฟัง

 

"มึงชอบเนมใช่ไหม?"




"....."



    การกระทำของตูนในวันนี้ ฉายชัดถึงอะไรหลายๆอย่าง คนกลางอย่างเท็นและเป๊กก็ไม่ได้คิดจะเลิกคบหรือต่อต้านเพื่อนตัวเองที่แอบรักแฟนเพื่อน เพราะถึงอย่างไร ทั้ง ตูน และแม็คก็คือ เพื่อนของทั้งคู่อยู่ดี เพียงแต่การที่ถามออกไปนั้น เป๊กรู้ดีว่า คงไม่มีใครอยากให้ความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นมาหรอก ความรู้สึกเหมือนผู้พ่ายแพ้อยู่ตลอดเวลา เพราะทำได้แค่แอบรักแฟนเพื่อนตัวเองอย่างรู้ดีว่าไม่มีสิทธิ์ขยับสถานะได้มากกว่านั้น

 

    เท็นกับเป๊กยืนรอคำตอบแต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังก้มหน้านิ่งในท่าเดิม จึงคิดว่า ถามผิดเวลาไปหน่อย...

 

"ถ้ามึงไม่ตอบกูคิดว่าใช่นะ โอเค เรื่องของหัวใจกูคนกลาง ไม่เข้าข้างใคร ถึงยังไงกูก็เพื่อนมึง กูพร้อมฟังเสมอ ถ้าจะไปหาหมอก็บอก พวกกูรออยู่ข้างล่าง"



     ความเงียบก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่เท็นและเป๊กออกจากห้องพร้อมงับประตูให้



   ...ผมเคยมองว่าพี่เป็นคนดีได้ยังไงวะ...

   

     ประโยคที่เนมบอกมันเจ็บจนจำขึ้นใจ...

 

     ไม่น่าเชื่อเหมือนกัน ทำดีหลายครั้ง หลายคราวกลับไร้ค่า เพียงเพราะทำผิดพลาดครั้งเดียว  ยามนี้ เนมคงมองเขาไม่ต่างกับโจรชั่วช้าฆ่าคนมาหลายร้อยคน...



      คนที่เพิ่งได้สติรู้ตัวว่าเจ็บจนชาจากแผลที่หางคิ้ว ก็ตอนก้มหน้าแล้วเห็นเลือดไหลหยดติ๋ง ติ๋ง ลงพื้น ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงลงเดินไปหาเพื่อนเพื่อช่วยพาไปโรงพยาบาล   

 

      ยามนี้ ตูนเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่า...



      ต่อให้ทำดีเท่าไหร่? ถ้าไม่ใช่คนที่รัก ทำไปก็ไร้ค่า ไร้ความหมายในสายตาเขาอยู่ดี...ถึงเวลาที่ตูนควรหยุดความรู้สึกนี้ เพื่อไม่ให้ความสัมพันธ์ของเนมและแม็คสั่นคลอน


       เป็นได้แค่เพื่อน แค่พี่ชาย แค่ได้ชิดใกล้ก็พอแล้ว...



       ทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้ ในเมื่อก็รู้อยู่เต็มอกว่า ความรักที่มีให้เนม มัน ถูกที่ แต่ผิดเวลา...ควรบอกตัวเองว่า พอเถอะและถอยออกมา เยียวยาหัวใจตัวเองสักที....



..................................


1. แม็คเป็นอะไร? บอกเลยว่าแม็คเป็นโรคจิตค่ะ 555+ 

2. เรื่องนี้ไม่มีใครดี  มีแต่คนเลวน้อย เลวมาก  แต่คนที่เลวน้อยที่สุดบอกเลย พี่ตูนนนนนนนนนค่ะ (อวยค่ะอวย)  :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ กอด-กอด
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 8.2 [5-10-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 06-10-2018 01:49:45
 :pig4: :pig4: :pig4:

เกลียดแม็คอ่ะ  เกลียดเนมด้วย  สงสารพี่การ์ตูน
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 9 [8-10-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 08-10-2018 23:25:03
ตอนที่ 9 คนสำคัญ







"ที่พี่เรียกเรามาคุย เพราะพักหลังๆมานี้ เนมทำงานหลุดทั้งพิมพ์วันที่, สถานที่นัดคุยกับซัพพลายเออร์ผิดบ่อยควรปรับปรุงเรื่องการตรวจทานเอกสารบ้าง เนมมีปัญหากับที่บ้านรึเปล่า?"



"เปล่าครับ ผมขอโทษนะครับ ผมคงกดดันตัวเองมากไป ไม่ว่ายังไงจากนี้ผมจะพยายามไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก"




"ดีค่ะ"



      ฝืนยิ้มให้หัวหน้าตัวเอง ทั้งๆที่ใจหดหู่ คนที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มัวแต่คิดเรื่องของใครคนหนึ่ง





      ตั้งแต่มีเรื่องทะเลาะกันวันนั้น เนมพาแม็คไปโรงพยาบาล จากนั้น กลับไปนอนบ้านแฟนดังเดิม เพื่อคอยดูแลแผลฟกช้ำรวมถึงปรับความเข้าใจกันให้เรียบร้อย ผิดกับอีกคนที่เนมไม่ยอมเคลียร์ปัญหาจนระยะเวลาผ่านไปเจ็ดวันถึงเพิ่งมาสำนึกได้ภายหลังว่าไม่ควรพูดกับพี่ตูนเช่นนั้น





       ปล่อยเวลานานไปทำให้ตอนนี้ ขลาดกลัวเกินกว่าจะโทรไปถามไถ่อาการหรือแม้แต่จะขอโทษ



     

"เนมฟังอยู่ไหม?"



"ห้ะ...หาครับ ฟังครับ"



"เนมต้องตั้งใจกว่านี้นะ เพราะประสิทธิภาพการทำงานของเนมส่งผลต่อการประเมินเรื่องปรับเงินเดือนสิ้นปีนี้ด้วย"



"ครับ ขอบคุณที่เตือนกันครับพี่"





    ไม่คิดว่าความรักจะมีอิทธิพลต่อหัวใจเนม จนคนที่เคยทำงานดีกลับแย่ลงเพราะไม่สามารถแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้



     หลังจากได้รับคำเตือน เนมเดินออกมาจากห้องประชุมเล็กที่หัวหน้าเรียกคุยเป็นการส่วนตัว



      ถึงแม้ว่าเรื่องโรคจิตที่ส่งซากสัตว์และข้อความข่มขู่ได้ซาลง แต่เนมก็ยังคงมีเรื่องใหม่ให้คิดมากและหนักใจอยู่ดี

 

      กันต์ธีร์หยิบมือถือขึ้นมาดูแล้วเปิดแอพพลิเคชั่นไลน์เข้าไปยังหน้าต่างของคนที่อยากขอโทษ



      มองโพร์ไฟล์ขนาดเล็กของพี่ตูนเป็นภาพซิลลูเอทของคนยืนหันหลังมองออกไปนอกหน้าต่างพลันเหลือบมองข้อความที่คุยกันล่าสุด

 Read

15.30

เบื่อ 



 

Read

15.32

มานี่มา



       ข้อความที่เคยอ่านเมื่อนานมาแล้ว แต่ทำไมพอได้กลับมาอ่านอีกครั้งความรู้สึกถึงไม่เหมือนเดิม



"ปากหมาใส่เขา แต่ตัวเองมานั่งเศร้ากับผลลัพธ์ที่ทำ น่าสมเพชไหมละมึง?"



       ด่าตัวเองแรงๆให้สำนึก เมื่อเพิ่งมารู้สึกผิดตอนเวลาผ่านไปเป็นสัปดาห์ คนที่นั่งเครียดฟุบหน้าลงกับท่อนแขน มิวที่นั่งข้างๆเอียงคอมองรุ่นน้องที่ไม่ยอมทำงาน ทำการ ก็สะกิดเรียก



"เนมเป็นอะไร? เครียดเรื่องงานหรอ?"


"เอ่อ!"



"ระบายได้นะ"




       คนที่อึดอัดมากพอสมควร มองหน้าคนถามก่อนตัดสินใจเล่า



"พอดี ผมทะเลาะกับรุ่นพี่ที่สนิทกันน่ะครับและดันไปด่าเขาด้วย"


"เรื่องนี้ เนมคิดว่าใครผิด?"


"ผม"


"ถ้ารู้สึกผิดก็ขอโทษ"


"ผมไม่กล้า"




       ถ้าทำง่ายอย่างที่พูดก็คงดีน่ะสิ เนมนั่งกัดปากแรงจนเจ็บ ดวงตาเหม่อลอยแต่ในหัวยังคงนั่งนึกหนทางออก จนคนที่เห็นปฏิกิริยาพูดขึ้นมาอีกครั้ง


"แต่การที่เนมแคร์และกังวลอยู่ตอนนี้ มันก็แสดงให้เห็นว่า พี่คนนั้นสำคัญ"



     มันก็คือความจริง แม้พี่ตูนไม่ใช่แฟน...แต่เป็นคนสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน..



    ถ้ามีคนถามว่าใครคือคนสำคัญในชีวิตคุณ? เนมตอบได้ไม่รีรอว่า คนในครอบครัว เพื่อนสนิท แฟน แต่น่าแปลกเนมดันนึกหน้าพี่ตูนได้ก่อนแม็คเสียอีก


"ขอบคุณนะพี่มิว เดี๋ยวผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ" บอกแล้วลุกจากที่นั่งเดินลงบันไดไปชั้นล่าง เพื่อตัดสินใจโทรหาพี่ตูน



    เนมจะไม่ปล่อยให้ความกลัวมามีผลกระทบจนเสียคนดีๆในชีวิตไปอีกแล้ว




 [....]



"พี่ตูน?"


[มีเรื่องอะไรด่วนไหม?]



"ผะ...ผมขอโทษ"




[ครับ พี่ประชุมก่อน]


"...."



   คนที่รู้สึกไม่ดี เมื่อได้ยินเสียงเย็นชาจากปลายสาย เนมรีบส่งข้อความส่งผ่านไลน์ย้ำไปอีกทีอย่างไม่สบายใจ



Read

14.23

พี่โกรธผมอยู่เหรอ? ผมขอโทษนะ...พี่หมี T.T

.

.

.

.

       ตั้งแต่ส่งข้อความไป พี่ตูนอ่านก็จริงแต่ไม่ยักกะตอบกลับ คนที่นั่งไม่ติด เริ่มกระวนกระวายอย่างไม่สบายใจและกลัวว่าจะสูญเสียคนสำคัญคนนี้ไป จึงเดินทางมาถึงบ้านพี่ตูนในเวลาหนึ่งทุ่มครึ่ง แต่สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าคือบ้านมืดตึ้บ เนมกดโทรหา พี่ตูนอีกครั้งแต่ไม่รับสาย เจ้าตัวจึงจำใจหย่อนกายลงนั่งรอที่พื้นตรงประตูรั้วหน้าบ้าน...



      การง้อที่ดีที่สุด คือ การมาเจอหน้ากัน


แปะ... แปะ... แปะ...



       สามสิบนาทีแล้วที่กันต์ธีร์ยังคงนั่งพิงประตูรั้วเหล็กด้วยแสงสว่างที่สาดส่องลงมาเพียงน้อยนิด เนมนั่งตบแขนแปะ แปะหลังจากโดนยุงรุมกัดอย่างหนักหน่วง



      คนที่เปลี่ยนจากตีแขนเป็นเกาแกร็กๆอย่างรู้สึกรำคาญตัว ไม่นานนัก เสียงโทรศัพท์มือถือแผดเสียงดัง เนมหยุดเกา ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงรีบคว้ามาดู ว่าใครกันที่โทรมา





"ฮัลโหล"



[เนมอยู่ไหน? ผมรอกินข้าวอยู่]



"ขอโทษ เราไม่รู้ว่าแม็ครอ แม็คกินก่อนเลย เรามากินข้าวกับเมย์อะ"



   เนมลุกขึ้นเดินไปเดินมาระหว่างคุยโทรศัพท์กับแม็ค


[ทำไมไม่บอกผมล่ะเนม แล้วจะกลับกี่โมง?]



"น่าจะถึงห้าทุ่ม นี่ยังนั่งคุยกับเมย์อยู่เลย ถ้าแม็คง่วงแม็คนอนก่อนเลยนะ"



[อืม เนมอย่าทำแบบนี้บ่อยๆนะ ผมไม่ชอบ ถ้าจะไปไหนก็บอกกันก่อน ถ้าจะมาก็ไขกุญแจบ้านเองนะ ผมวางกุญแจไว้ที่เดิม]



"ได้ครับ แม็ค"


       เกิดอะไรขึ้นกับหัวใจของเนม? ทำไมถึงรู้สึกว่าเขากำลังให้ความสำคัญพี่ตูนมากกว่าแม็ค?



      คนที่เดินไป เดินมา พลางสะบัดแขน สะบัดขาไล่ยุงไปด้วย ก้มมองนาฬิกาข้อมือดูก็ผ่านไปชั่วโมงหนึ่งแล้วที่ไร้วี่แววพี่ตูนจะมา สงสัยคงต้องยอมถอดใจ เพราะเนมรอไม่ไหว คว้าเครื่องมือสื่อสารจะโทรหา ขณะที่ล้วงไปหยิบโทรศัพท์เตรียมกรอกเบอร์ เนมเห็นแสงไฟหน้ารถสว่างวาบในระยะสายตา ถอยกรูดเมื่อรถยนต์แล่นเข้ามาจอดเทียบหน้าบ้าน



        ฉีกยิ้มกว้าง เมื่อไม่กี่วินาทีต่อมา ได้เห็นใครลงมาจากรถ




"มาทำไม?"



     แม้เสียงเย็นชานั้นจะทำให้เนมใจตกไปที่ตาตุ่ม แต่พอรู้ว่าตัวเองผิดและไม่อยากเสียพี่ชายอันเป็นที่รักไป เขาก็พยายามส่งยิ้มและตอบเสียงหนักแน่น



"มาง้อพี่"



กึก!



    ชะงักจ้องมองแววตาที่ฉายชัดถึงความรู้สึกผิดเหมือนเด็กที่เผลอทำลายข้าวของในบ้านพังเสียหาย คนที่ยืนมองผู้ชายตัวโตแต่ทำท่า ทำทางเหมือนเด็กชายวัยห้าขวบก็ถอนใจ



"ง้อทำไม? พี่ไม่ได้โกรธ"


"แต่ตอนผมโทรมา น้ำเสียงพี่ไม่ดี"



"ตอนเนมโทรมา พี่ประชุมกันเครียด จะให้เสียงลั้ลล้ารึไง?"



"พี่ไม่ได้โกรธผมจริงหรอ?"





"อืม"




"ขอบคุณนะพี่ที่ไม่โกรธ ผมมันปากหมาเอง ผมมันแย่ ผมมัน...."


      คนที่กำลังต่อว่าตัวเองชะงัก เมื่อพี่ตูนยื่นมือมาปิดปาก



"พอได้แล้ว ไม่อยากฟัง"



      เนมอมยิ้มที่ดูรู้ว่าพี่ตูนไม่โกรธกันจริงๆ ทำไมพี่ตูนถึงเป็นคนดีขนาดนี้ คำต่อว่าก่อนหน้า ว่าเคยมองพี่เป็นคนดีได้ยังไง?...ทำเนมรู้สึกละอายใจและอยากตบปากตัวเองที่ปากหมาไม่เข้าเรื่อง

   

      ดึงมือพี่ตูนออกแล้วถาม


"พี่ตูนกินข้าวมารึยัง? เราไปกินข้าวกันไหม?"



"พี่ซื้อมาแล้ว อย่าบอกนะว่ายังไม่ได้กินข้าว?" คนที่เลิกคิ้วขึ้นสูงมองคนอายุน้อยกว่าทำหน้าแหย



โคร่กกกก...

       เสียงดังฟังชัดขนาดนี้ คงไม่ต้องเอาคำตอบ ทันใดนั้น คนที่ถือถุงพลากสติกใสใส่ถุงบะหมี่ต้มยำทะเลน้ำข้นแบบพิเศษก็จับยัดใส่มืออีกฝ่าย



"ไม่เป็นไร เอาของพี่ไปกิน"


"อ้าว แล้วพี่ตูนล่ะครับ?"


"กินมาแล้ว เอาไปเหอะ"


"เหรอ? ถ้างั้นผมขอกินนะ ผมหิว ขอบคุณมากเลยครับ
" คนที่ว่าติดตลกทั้งยังลูบท้ายทอยแก้เขินที่ท้องมันพยศส่งเสียงร้องออกมาต่อหน้าพี่ตูนให้ได้อายจนแก้มแดงราวกับลูกมะเขือเทศ


"อืม"

       เดินเข้าตัวบ้านพร้อมกัน คนที่มาอาศัยบ้านเขาได้ไม่นาน แต่รู้หมดทุกซอก ทุกมุม ก็ขออนุญาตพี่ตูนจัดการหยิบถ้วย ช้อน ส้อม อย่างไม่เกรงใจ ส่วนพี่ตูนก็ไม่ว่าอะไร เขาแค่หนีหายขึ้นไปอาบน้ำเท่านั้นเอง



        คนหิวจัดกำลังนั่งสูดเส้นบะหมี่เข้าปากอย่างไม่กลัวติดคอ ผ่านไปสักพักใหญ่ๆ คนที่อาบน้ำเสร็จลงมาหาเนมก็ตกใจที่เห็นเนมเดินไปล้างภาชนะที่อ่างล้างมือแล้ว



      ...กินไวแบบนี้ ท่าทางคงหิวมากสินะ...


      ถอนใจอีกครั้ง ก่อนเดินไปหย่อนกายนั่งที่โซฟา ไม่นานเนมก็เดินตามมานั่งด้วย


"ทาซะ"



     เนมโคลงศรีษะมองคนที่โยนยาหม่องน้ำขวดเล็กลงบนตักของเขาด้วยความไม่เข้าใจ พอเห็นพี่ตูนไล่สายตามองแขนของเนมถึงรู้ว่าเพราะอะไร



       พี่ตูนแอบสังเกตรายละเอียดเล็กๆน้อยในตัวเนม ผิดกับเนมที่แม่งไม่สนห่าอะไรเลย


      ไม่สน ไม่ใส่ใจ ไม่เคยคิดถามพี่ตูนว่าอาการเป็นอย่างไร? ดีขึ้นหรือยัง?



        มึงนี่แย่จริงๆเลยนะ...

       คนที่เหยาะยาหม่องใส่ปลายนิ้วแล้วทาตามตุ่มแดง พลันเหลือบมองหางคิ้วพี่ตูนที่ยังมีผ้าก็อซปิดไว้ รวมถึงรอยช้ำที่แม้จางลงแต่ก็ดูรู้ว่าผ่านการมีเรื่องชกต่อยมาไม่นาน

       

"พี่ยังเจ็บอยู่ไหม?
" เนมถามพลางมองด้วยแววตาสลด



      ฟากพี่ตูนส่ายหน้า และยังจ้องมองเนมนิ่งๆไม่กะพริบตา



"แล้วพี่กับแม็คหายโกรธกั...."



"เนมอย่ามาที่นี่อีก"


     ... ทำไม?...คือ คำถามแรกที่ผุดขึ้นมาจากสมอง



      เกิดความสงสัยว่าทำไมพี่ตูนไม่ให้มา และเกิดความสงสัยในตัวเองขึ้นมาว่า ทำไมถึงใจหวิว ทำไมถึงเสียใจ?



   


"ทำไมล่ะครับ?"


"ปัญหาที่ผ่านมามันเกิดขึ้นเพราะอะไร? ฉะนั้น อย่ามาให้แม็คมันได้ว่า"



"....."



"มันต้องเป็นอย่างนี้จริงๆเหรอพี่ตูน?"



"ใช่"



        เม้มปากแน่นพลางมองหน้าพี่ตูน


       เนมกำลังสับสน เขารู้ดีว่าถ้าไม่อยากทะเลาะกับแฟน การไม่มาบ้านหลังนี้ ก็น่าจะเป็นทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุด แต่อีกใจหนึ่ง กลับใจหายวาบเมื่อรู้ว่าหลังจากนี้ เนมจะไม่มีโอกาสได้มาพักที่บ้านหลังนี้อีกแล้ว



         คนที่อยากหลอกตัวเองไปก่อน จึงหลับตา เอนศรีษะพิงพนักโซฟา



"ขอผมพักสายตาแป๊ปนะพี่..."

       

        นอนหลับตาเพราะอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก เมื่อสุดท้ายเนมควรให้ความสำคัญกับแม็คเป็นอันดับแรก


       ไม่เคยรู้สึกจิตใจปั่นป่วนเท่าวันนี้มาก่อน คนที่เค้นหาคำตอบว่า จะมีวิธีไหนที่ได้มาเจอพี่ตูนอีก อยู่ดีๆก็เกิดนึกโหยหาความอบอุ่น ความปากร้ายใจดีจากอีกฝ่าย


      นานนับสิบนาทีที่คนหวังจะพักสายตา ทว่า กลับมีหยาดน้ำใสเอ่อล้นขอบตา จนเนมต้องรีบใช้ปลายนิ้วซับน้ำตากันไม่ให้ไหลมากกว่านี้



"โอ้ยแสบ...แสบ...พี่ตูน ผมแสบตา ขอน้ำหน่อย"


       คนที่ลืมว่าใช้มือทายาหม่องก่อนหน้าจึงสะดุ้งเฮือก เพราะแสบตาจนต้องไหว้วานคนตาดีหาน้ำมาให้ ฟากตูนตกใจรีบไปหยิบน้ำดื่ม คว้าหลอดมาหยอดใส่ตาข้างที่เนมแสบ เนมลืมตามาพร้อมกระพริบตาถี่ๆ ทำอยู่อย่างนั้นจนรู้สึกว่าดีขึ้น แม้จะยังมีเคืองตาอยู่บ้างเล็กน้อย เนมจับข้อมือพี่ตูนให้หยุด พอเนมลืมตามาทั้งสองข้าง ถึงเห็นว่า ใบหน้าของเราสองใกล้กันมากเกินไปส่งผลให้หัวใจเต้นกระหน่ำรุนแรง



ตึกตึก ตึกตึก ตึกตึก...


      ใจยังคงเต้นแรงต่อเนื่อง เมื่อแววตาที่จ้องมองมาแฝงความอ่อนโยน ความรัก ความจริงใจแต่จะในรูปแบบไหน? เนมไม่กล้าคิดไปเอง

 

        ราวกับเล่นเกมส์จ้องตา ที่ไม่มีใครลดละเบี่ยงหน้าหนีไปก่อน ยิ่งมองเหมือนยิ่งมีแรงดึงดูด ให้อยากเข้าใกล้กันมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น



        เสี้ยววินาทีนั้น กันต์ธีร์ใจสั่น หวั่นไหว เมื่อพี่ตูนไม่ยอมถอยห่าง แต่กลับเคลื่อนใบหน้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจเป่ารดลงตรงริมฝีปากกัน

        ทว่า....



"อ้าวเนมมาเหรอ?"



        ริมฝีปากของทั้งสองที่แตะกันอย่างผิวๆ ต้องรีบผละห่าง ตูนถอยกลับขยับไปนั่งตัวตรงเกร็ง จนพี่ชายหรี่ตามอง ก่อนจะทำเนียนเป็นไม่รู้ ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น...



        ไอ้หมีคิดจะตีท้ายครัวเพื่อนมันหรือ?...



"สวัสดีครับพี่โต"


"อืม"


"นี่ เกาเหลาหมูพิเศษที่ฝากซื้อ อ้อ....แล้วช่วยออกไปเลื่อนรถหน้าบ้านด้วยไอ้หมี"




กึก!



     คนที่กินข้าวของพี่ตูนไปก่อนหน้าชะงัก



"สรุปพี่ตูนยังไม่ได้กินข้าวหรอครับ?"


     ตูนไม่ยอมตอบ แต่ลุกหนีไปเลื่อนรถตัวเองเพื่อให้พี่ชายได้เข้ามาจอดรถในโรงจอด ฟากเนมพออยู่กับพี่โตสองคน เขามองหน้าอย่างมีคำถาม

"วันนี้ ไอ้หมีประชุมทั้งวัน ยังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เที่ยง"


    เหลือบมองนาฬิกาบนฝาผนังที่บ่งบอกเวลาว่ายามนี้ คือ สี่ทุ่ม



    ได้ยินดังนั้น ความรู้สึกผิดแล่นปราดทั่วร่าง เนมรีบลุกหาที่หลบมุมสงบๆเพื่อโทรหาแฟนตัวเอง



[แยกกับเมย์แล้วเหรอ?]


"..ยังน่ะแม็ค วันนี้ เราขอนอนบ้านเมย์คืนนึงนะ"



[.....]


"แม็คไม่ให้หรอ?"



[ทำไมเพิ่งมาบอก]



"พอดีเมย์ทะเลาะกับแฟนมาเลยอยากขอคำปรึกษา"


[แค่คืนนี้คืนเดียวนะ แต่พรุ่งนี้ เนมต้องกลับมานอนกับผม]


"อ...อื้ม ขอบคุณนะ"



   วางสายแล้วถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะเดินกลับไปในบ้านพี่ตูนเพื่อบอกว่าขอนอนค้างด้วย ถึงต่อให้เจ้าของบ้านขับไล่หรือต่อว่าอย่างไรก็จะไม่สนใจ ขอใช้ความด้านได้ อายอดที่มีเพียงเพราะรู้แล้วว่า เขาจะไม่ยอมเสียคนสำคัญคนนี้ไปแน่นอน...





****1.1****

อย่างที่เคยบอกก่อนหน้า เรื่องนี้ไม่ยาวนะคะ

 ไม่กี่ตอนก็จบแล้วค่า :mew1: :mew1:

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ   
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 9 [8-10-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 09-10-2018 01:04:15
 :pig4: :pig4: :pig4:

เนมทำตัวราวกับนางวันทองนะเธอหน่ะ
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 9.2 [11-10-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 11-10-2018 20:28:20
ตอนที่ 9 คนสำคัญ (2)








แม็ค                                                                             

ข้อดี                 
                                                           

1. ดูแล เอาใจใส่

2. รัก



พี่ตูน

ข้อดี
       

1. ใจเย็น

2. ดูแล เอาใจใส่

3. อยู่ด้วยกันยามมีปัญหาทุกครั้ง

4. เป็นพี่ชายที่คอยปกป้องเนมและรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก

5. สร้างเสียงหัวเราะได้

6. เป็นห่วงอย่างจริงใจและเป็นผู้ฟังที่ดีเสมอ

7. เสียสละ

 

........................                                         

 

แม็ค                                                       

ข้อเสีย


1. ขี้หึงเกินไป

2. มีรสนิยมทางเซ็กซ์ที่สวนทางกัน แม็คมีความต้องการทางเพศที่รุนแรง ซาดิสม์ ดิบเถื่อนเกินไป

3. ไม่สม่ำเสมอเหมือนก่อน

 

พี่ตูน

ข้อเสีย


1. ชอบดุ ชอบกวนประสาท

2. ปากร้าย ใจดี

 

 

"ปากร้ายใจดีมันใช่ข้อเสียหรอวะ?"

 

      คนที่นั่งหน้าเครียดจรดปากกาเขียนแยกย่อยถึงข้อดี-ข้อเสียระหว่างพี่ตูนกับแม็ค เหตุที่ต้องมานั่งจับจด เขียนเป็นข้อๆ เพราะเนมรู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไป มีบางครั้งคราวที่ดันไปคิดถึงพี่ตูน จึงตั้งใจเขียนเพื่อหาข้อสรุป แม้ว่าผลลัพธ์ที่เขียนออกมาปรากฎว่าข้อเสียของสองฝ่าย มีพอๆกัน แต่ข้อดีนั้น พี่ตูนนำโด่ง

 

     ยกกระดาษขึ้นมามองใกล้ๆถึงสิ่งที่เขียน จู่ๆ เนมชะงักพลางบ่นพึมพำลำพัง

 

"แล้วทำไมกูต้องเอาพี่ตูนมาเปรียบเทียบกับแม็ควะ?"

 

    ชักกลัวหัวใจตัวเอง รีบหาความเห็นเพิ่มเติม เผื่อได้มุมมองที่ต่างจากเดิม จึงโทรไลน์หาพี่สาวที่อาศัยอยู่ต่างประเทศ เนมเช็คเวลาดูแล้วว่าที่พี่น้ำอยู่น่าจะราวห้าทุ่มกว่า

 

 

"พี่น้ำคุยได้ไหม?"

 

[ได้ เป็นไงบ้างเนม ช่วงนี้หายเงียบไปเลยนะ ติดแฟนน่าดูนะเรา]

 

       คนที่รู้ว่าเนมมีแฟนก็แซวแหย่ แต่พี่น้ำยังไม่รู้ความคืบหน้าล่าสุดว่า ตอนนี้ ความสัมพันธ์ของทั้งสองกำลังดิ่งลง ตกต่ำแค่ไหน?


 

"พี่น้ำ จำที่เนมเล่าได้ไหม? เรื่องพี่หมี?"




[อืม...จำได้เด็กอ้วนข้างบ้านคนนั้น]
 

         เมื่อรู้ว่าพี่สาวจำได้  เนมจึงเริ่มเล่าเรื่องที่แม็คลและพี่ตูนทะเลาะกันจนถึงขั้นชกต่อยให้พี่สาวฟัง ไม่เว้นแม้กระทั่ง ความรู้สึกของเนมที่ผิดแผก แปลกไปจากเดิม



[พี่ว่าเนมต้องถามใจตัวเองมากกว่าถามพี่]

 

"พี่น้ำหมายความว่ายังไง?"



[เนมอาจยังไม่รู้ตัว พี่ว่า เนมชอบตูนแล้วล่ะ]

 

"......"

 

[สมมติว่า ถ้าพี่เป็นแม็ค แล้วมารู้ว่า แฟนเอาเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่น เมื่อนั้น พี่คงแพ้แล้ว แพ้ที่ปล่อยให้ใครคนนึงเข้ามาจนเกิดการเปรียบเทียบ ความรักนะเนม ถ้ามี 'คนที่สาม' เข้ามา มันจะวุ่นวาย และสุดท้ายก็ต้องจบลง.....]



      เนมอึ้งที่พี่น้ำพูดตรงๆ แต่ก็ไม่นึกโกรธที่พี่น้ำพูดแบบนี้ คนที่ยังมีคำถามมากมายในหัวที่ต้องการถามต่อ แต่ทว่า หัวหน้าเดินมา จึงต้องรีบวาง

 

"พี่น้ำแค่นี้ก่อนนะ เนมต้องทำงานแล้ว"

 


[โอเคเนม มีอะไรก็อัพเดทบอกกันนะ]

 

"ครับ"


 

       นั่งนึกบทสรุปของความสัมพันธ์ที่กำลังพังทลาย...อาจไม่ใช่พี่ตูน ไม่ใช่แม็ค แต่เป็นเนมที่เลวเอง...

 

"นี่กูกำลังนอกใจแฟนเหรอวะ?"
พึมพำเบาๆ แต่แล้วพี่มิวก็ทักขึ้นมา

 

"เนม!"

 

"ครับ?"

 

"บ่ายนี้ พี่ตาบอกให้เนมไปดูพื้นที่กับพี่ ติดงานอะไรอยู่หรือเปล่า?

 


"ไม่ติดครับ"

 

"ถ้างั้นก็ไปกันเลย"


 

"ครับ"

 .

.

.

.

       และแล้วก็มาถึงพื้นที่ที่ทั้งสองมาดูเพื่อเตรียมจัดงานแถลงข่าวเพื่อประชาสัมพันธ์บริษัท พี่มิวกำลังคุยกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลส่วนนี้

 

"วันที่คุณบอกจะจัดงาน เราเช็คให้แล้ว มีลูกค้าท่านอื่นจองห้องประชุมหมดแล้วครับ คงเหลือแค่ลานตรงนี้"
บอกพร้อมผายมือและหมุนตัวเป็นครึ่งวงกลม

 

"อ้อค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ ส่วนเรื่องของต่างๆ เราสามารถใช้อะไรได้บ้างคะ?"

 

"ได้หมดครับ บอกจำนวนที่ต้องการมาได้เลย ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะหน้าขาว เก้าอี้ ชุดโซฟาสีน้ำเงิน เราให้ยืมใช้ในวันงานได้หมดครับ"

 

"พาไปดูชุดโซฟาได้ไหมคะ? พอดีมีผู้บริหารสิบเอ็ดท่านค่ะ อยากรู้ว่าพอรึเปล่า?"



"ได้ครับ"


 

          ตอนนี้ เนมเดินไปพลางจดรายละเอียดที่ทั้งสองกำลังสนทนา เพื่อเตรียมทำสรุปส่งให้พี่มิวในภายหลัง เมื่อได้รู้รายละเอียดทั้งหมดของการเช่าพื้นที่ว่าทางฝั่งเราจะได้รับอะไรบ้าง? ต่อไปก็เป็นเรื่องของการสรุปราคา



"ลดไม่ได้แล้วหรอคะ?"


 

"ลดไม่ได้จริงๆครับ เก้าหมื่นหกนี่ถูกสุดแล้ว ถ้าวันงานมีไฟล์ภาพหรือวีดิโอพรีเซ็นต์ที่ต้องการขึ้นจอโปรเจกเตอร์ เดี๋ยวผมหาเจ้าหน้าที่คุมเรื่องภาพ และไลท์ แอนด์ซาวน์ให้ครับ"

 

"ขอบคุณค่ะ ถ้านั้น มิวรบกวนคุณเชษฐาส่งใบเสนอราคามาให้ด้วยนะคะ มิวจะได้นำไปให้หัวหน้าพิจารณาอีกที"

 

"ครับ"




   คนที่คุยกับเจ้าหน้าที่เสร็จก็หันมาถามเนม



"เนมถ่ายรูปเก็บหมดแล้วใช่ไหม?"

 

"ครับ เรียบร้อยทั้งถ่ายภาพและจดรายละเอียดที่เขาบอกครับพี่"

 

"โอเคจ้ะ ถ้างั้นมิวขอตัวก่อนนะคะ"


 

    หลังจากที่มิวแยกย้ายกับเจ้าหน้าที่ให้เช่าลานทำกิจกรรม มิวลงบันไดเลื่อนกับเนมแล้วบอก

 

"เนมกลับบ้านเลยก็ได้ ไม่ต้องเข้าออฟฟิศแล้ว"


"ครับ"


"ถ้างั้นเราแยกกันเลยนะ พี่มีธุระต่อ"

 
"ครับ สวัสดีครับพี่"


 

      แยกกับพี่มิว เนมต้องการเดินเล่นพักผ่อนสักหน่อย เพราะช่วงนี้ เนมไม่ค่อยได้เดินห้างสักเท่าไหร่ และอาจแวะหาซื้อขนมนมเนย ของใช้ต่างๆไปไว้ที่บ้านแม็คด้วย



      ขณะที่เนมกำลังเดินไปยังบันไดเลื่อนอีกแห่งใกล้กันกับส่วนโรงภาพยนตร์ จังหวะที่เขาเดินผ่าน สายตาปะทะกับแม็คที่กอดคอเด็กนักเรียนมาอย่างกระหนุงกระหนิง
 

       คนที่ไม่รู้เลยว่ากำลังถูกจ้องมองอยู่ ก้มหน้าเข้าไปใกล้เด็กหนุ่มก่อนจะยกมือขยี้ผมอย่างน่ารัก น่าเอ็นดู


       อยู่กับคนอื่น ทำไมแม็คดูเป็นคนอบอุ่นกว่าอยู่กับเรา


      คนที่นึกเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับเด็กนักเรียนมอปลายก็รู้สึกชาวาบ ใจหวิวขึ้นมา เนมถอนหายใจยาว กระพริบตาถี่เมื่อรู้สึกว่าขอบตาเริ่มร้อนผ่าว จากนั้น เขาควักโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าเพื่อโทรหาคนที่กำลังหวานแหววกับคนอื่น


     เนมยืนหลบมุมอยู่หลังเสาต้นใหญ่ ไม่นาน

 

"แม็ค อยู่ไหนหรอ? คุยได้หรือเปล่า?"

 

[ผมไม่สะดวกคุยน่ะเนม ผมอยู่กับพ่อ]

 

     มือสั่นกว่าเก่า เขากำโทรศัพท์แน่น...ถ้าเป็นเยลลี่คงเละคามือไปแล้ว

 

"อยู่กับพ่อ? แม็คคงยุ่ง ถ้างั้นคืนนี้ เราไปนอนค้างบ้านพี่ตูนก็ได้ใช่ไหม?"

 

[เนมอย่ายั่วโมโห ผมกลับไม่ดึก กุญแจบ้านซ่อนไว้ที่เดิม ผมต้องวางสายแล้ว]

 

"เหอะๆ พ่อแม็คนี่ดูเด็กกว่าแม็คอีกนะ ยังใส่ชุดนักเรียนอยู่เลย"

 

[นะเนม เนมอยู่ไหน?]

 

       ดูสุ้มเสียงปลายสายจะตระหนกตกใจจนเห็นได้ชัด เนมทำตัวลีบพลางลอบมองคนเลิกลั่ก ลนลานกวาดสายตาไปทั่ว

 

"แม็คนอกใจเราทำไม?"

 

      บอกแค่นั้น ก็กดวางสาย จากที่ต้องการหาซื้อของใช้ ของกินเข้าบ้านแฟน ยามนี้ นายกันต์ธีร์เปลี่ยนใจไปร้านเหล้าแทน แม้มันจะเพิ่งห้าโมงเย็นเองก็เถอะ...



    เมื่อต่างฝ่าย ต่างไม่เหมือนเดิม คงถึงเวลาที่ทั้งสองควรยุติความสัมพันธ์ฉันท์คู่รักไว้ตรงนี้ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด..



..........................................


อย่างที่เคยบอกก่อนหน้า เรื่องนี้ไม่ยาวนะคะ

 ไม่กี่ตอนก็จบแล้วค่า

 
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 9.2 [11-10-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 11-10-2018 21:37:10
 :pig4: :pig4: :pig4:

เจอคาหนังคาเขาแบบนี้  เลิกไปเลยเหอะ  เพราะเราดูออกตั้งแต่แรกแล้วว่า  แม็คไม่ได้รักจริงหรอก  แม็คต้องการแค่เซ็กส์    ในขณะที่พี่หมีการ์ตูนนั้น  รักจริงหวังแต่งนะเออ
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 9.2 [11-10-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 12-10-2018 06:29:29
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ o13
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 10 [15-10-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 15-10-2018 19:45:51
ตอนที่ 10 คนเลว





"แม็คมีคนอื่น"


   คนที่พอจับจองที่นั่งในบาร์และดื่มเบียร์ได้สักพักก็โทรหาเพื่อนสนิท ด้วยความอยากระบายความในใจถึงความโมโหปนเสียใจที่จับได้ว่าแฟนตัวเองมีคนอื่น



   โดนสวมเขามานานเท่าไหร่แล้ว?



   พระอาทิตย์ยังไม่ทันลาลับขอบฟ้า เนมก็ดื่มเบียร์เป็นแก้วที่สองแล้ว เขาแค่หวังจะให้แอลกอฮอลล์ช่วยลดความเครียดในตอนนี้ไปก่อน 

 


[แกรู้ได้ไง?]


"วันนี้ เราเห็นแม็คควงเด็กไปดูหนัง"


[เฮ้ย จริงอะ?]



    บอกความสัมพันธ์ล่าสุดที่ไปไม่รอดให้เพื่อนฟังทั้งๆที่ขอบตาก็ร้อนผ่าว

 

"อืม"


[แม็คได้โทรง้อรึเปล่า?]

 

"โทรมา แต่ไม่รับ ไม่รู้จะพูดอะไร"


[แล้วจะทำไงต่อไป?]

 

"ไม่รู้ สับสนเหมือนกัน ว่าควรให้โอกาสหรือเลิกดี"

 

[ถ้าเป็นฉันนะเนม ถ้าจะให้โอกาสก็ควรอภัยได้จริงๆ ต้องสามารถลืมเรื่องเก่าๆที่เขาทำผิดพลาดไปได้ แต่ถ้าคิดแล้วว่า ใจมันไม่ไหวที่จะลืมสิ่งที่เขาทำกับเรา ฉันจะเลิกว่ะ]



     ฟังเพื่อนด้วยอาการมึนๆ เขาเริ่มตัวร้อน หน้าร้อนวูบวาบ จนรู้ว่าตัวเองดื่มเร็วไป จึงลดสปีดให้ช้าลงด้วยการพักแล้วนั่งฟังเพื่อนพร้อมระลึกถึงอดีต



     ปล่อยทิ้งไว้นานไม่ดีแน่ๆ...





"เมย์ ถ้าเราเริ่มมีใจให้คนอื่นแล้วล่ะ เราผิดมากไหม?"


[ตอบแบบคนกลางก็ผิดกันทั้งคู่ แต่ถ้าแกกับแม็คต่างฝ่ายต่างปันใจให้คนอื่นแล้ว เลิกเถอะ อย่ารั้งกันไว้อีกเลย มันไม่ใช่ชีวิตคู่ที่จะเดินไปด้วยกันแล้วอะ]



.

.

.

.

[เนมไปหามึงใช่ไหม?]


     เพิ่งจะพักเบรคจากการประชุมกับทีมไอที เดเวล็อปและโปรแกรมเมอร์ เรื่องการมีปัญหาของระบบแอพพลิเคชั่นที่ไม่ค่อยสเถียร ก็ตกใจเมื่อเห็นเบอร์ของคนที่โทรมาปรากฎบนหน้าจอ



     ตั้งแต่ที่มีเรื่องชกต่อยกัน ยอมรับว่าตัวเองผิดแต่ก็ไม่เคยได้หาโอกาสโทรไปขอโทษหรือปรับความเข้าใจกับแม็ค ตูนถึงแปลกใจที่แม็คยอมลดศักดิ์ศรีโทรมาหากันก่อน



"เปล่า ตอนนี้ กูอยู่ออฟฟิศ"



[โกหก กูไม่เชื่อ]



"ไอ้แม็คอย่าพาล กูไม่มีความจำเป็นต้องปิดบัง จะโกหกมึงเพื่ออะไร?"  ตูนพูดด้วยนำเสียงราบเรียบ แต่ลึกๆหัวใจเต้นตึกตักอย่างอยากรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เมื่อฟังจากน้ำเสียงแม็คแล้วดูลนลาน กระวนกระวายไม่น้อย



[กูมีเรื่องที่ทำให้เนมเข้าใจผิด กูโทรไปหาเนมแล้วแต่ไม่รับเลย กูอยากคุยกับเนมให้รู้เรื่อง]



"เนมไม่ได้มาหากู และเนมก็ไม่ได้โทรหากูด้วย"



[ไอ้ตูน ถ้าเนมโทรหรือไปหามึง มึงรีบโทรมาบอกกูนะ กูขอร้อง]



"อืม"

 [โอเค...ขอบใจ]



      แม้ปากอยากถามแม็คว่ามีเรื่องอะไรกัน แต่ตูนรู้ดีว่า เขาถามจากคนที่ทำให้แม็คร้อนรนจนเป็นบ้าดีกว่า



      นาทีแล้ว นาทีเล่า ผ่านไปหลายสาย คนที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาของแม็คและเนม ชักเริ่มกระวนกระวายไม่ต่าง เมื่อเนมไม่รับสายการ์ตูนเช่นกัน ใกล้เวลาที่ต้องเข้าประชุมอีกรอบซึ่งก็ไม่รู้ด้วยว่าจะสรุปข้อมูลจบลงที่เมื่อไหร่ เผลอๆวันนี้ อาจเลทไปถึงสามทุ่มก็เป็นได้



      ใบหน้าหล่อเซอร์ยามนี้ถูกฉาบด้วยความทุกข์ใจ เพราะนอกจาก เรื่องงานที่ทำให้หนักใจแล้วกลับมีเรื่องอื่นสร้างความหนักใจไม่ต่างกัน



"เฮ้อ...ทำไม่เนมชอบทำให้พี่เป็นห่วงแบบนี้นะ"

.

.

.

.

 "ไม่ต้องทอนครับ"
 


       ยื่นเงินให้แท็กซี่ แล้วก้าวเท้าลงมาจากรถ ในเวลาห้าทุ่มครึ่ง คนที่กลับมาจากการดื่มเบียร์ที่แม้จะนั่งในร้านนานหลายชั่วโมง แต่เนมไม่ได้ดื่มเยอะอย่างที่ตั้งใจไว้ในตอนแรก เขาแค่นั่งแช่และคิดได้ว่าไม่ควรเมามาย ความเป็นจริงจึงดื่มไปแค่สามแก้วเท่านั้น เพียงเหลือบเห็นเบอร์โทรโชว์ที่เครื่องเป็นเบอร์ของพี่การ์ตูนที่กระหน่ำโทรมาเป็นสิบสาย มันก็จุดประกายความคิดของเนมได้ว่า คืนนี้ เขาควรนอนที่ไหน? นั่นจึงทำให้เนมรู้จุดประสงค์ว่า ถ้าจะมาหาพี่ตูน เขาไม่ควรเมาจนไร้สติ



      นาทีนี้  พี่ตูนยังไม่รู้ว่าเนมมาหา แต่เนมรู้ดีว่าพี่ตูนเป็นคนปากร้ายใจดี ด่าให้ตายยังไง พี่ตูนไม่มีทางปฏิเสธเนมได้ลงคอ ดังนั้น เนมจึงจะ...





"ฮัลโหล พี่ตูนครับ ลงมารับผมหน่อย ผมอยู่หน้าบ้านพี่"
 

[อะไรของเนม? นี่มันกี่โมงก็ยามแล้ว]

 

"ขอโทษนะครับ ถ้าพี่ตูนไม่สะดวกเดี๋ยวผมเดินออกไปเรียกแท็กซี่ก็ได้ครับ" บอกเสียงสลด



 [เดี๋ยวลงไป]

 

   ยกยิ้มกรุ้มกริ่มทันที ที่พอเนมบอกไปเช่นนั้น อีกฝ่ายก็ไม่รีรอที่จะตอบตกลงกลับมา เนมรอไม่นาน พี่ตูนก็ลงมาเปิดประตูในสภาพเสื้อกล้ามสีขาวตัวย้วยใหญ่กับกางเกงผ้าข้าห้าส่วน




"ทำไมเมามาล่ะเนม? พี่โทรไปก...ไ"





 ฟึ่บ

    การ์ตูนตัวแข็งเป็นแท่งปูน เมื่อเนมถลามาสวมกอดอย่างแรง

 

"แม็คมีคนอื่นพี่ตูน แม็คมีคนอื่น"

 

     อย่างนี้นี่เอง...

    ที่แม็คโทรมาด้วยน้ำเสียงร้อนรน มันเป็นเพราะเนมจับได้ว่าแฟนตัวเองมีคนอื่น คนที่พอปะติดปะต่อเรื่องราวได้แล้ว ก็บอกเนม



"ใจเย็น ขึ้นไปอาบน้ำก่อน ตัวเหม็นมาก"


    ช้อนตามองคนบ่นก่อนริมฝีปากเริ่มสั่นระริก ตูนดันร่างเนมออก แล้วเลื่อนมือไปจับมืออีกฝ่ายเพื่อช่วยประคองคนที่ทรงตัวไม่ดีนักขึ้นห้อง



    โยนผ้าขนหนูผืนใหม่ให้เนมพร้อมไล่ไปอาบน้ำ ก่อนจะเดินมาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงด้วยสมองที่ยังครุ่นคิดถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่


'เนมทะเลาะกับแม็ค แล้วเคลียร์กันรึยัง? แล้วกูควรโทรบอกแม็คไหม?  แล้วเนมมาหากูทำไม?'



      มีคำถามมากมายผุดขึ้นในหัวไม่หยุดหย่อน จนกระทั่ง คนที่นอนหงายก่ายหน้าผากเปลี่ยนเป็นพลิกตัวตะแคงข้าง แล้วบอกตัวเองว่าควรเลิกคิดไปเอง แล้วรอถามเจ้าตัวต้นปัญหาเลยแล้วกัน



"ให้ปิดไฟเลยไหมครับ?"


     กว่าสามสิบนาทีที่เนมหายไปและเดินเข้าห้องมาด้วยผ้าขนหนูหนึ่งผืนที่พันกายไว้หมิ่นเหม่


"อยากเล่าอะไรก่อนไหม?"

 

"ปิดไฟก็เล่าได้ครับ"

 

"ตามใจ"

 


    เมื่อในห้องมืดลง คนที่เว้นที่ไว้ให้เนมนอนด้วยก็รับรู้ถึงน้ำหนักของคนที่ทิ้งลงบนเตียง


"ทำไมถึงรู้ว่าแม็คนอกใจ ไปเจอแม็คอยู่กับคนอื่นเหรอ?"



"...."



      ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก


      เนิ่นนานหลายนาทีที่เนมเงียบฉี่ แต่ตูนไม่เซ้าซี้ด้วยความเข้าใจไปเองว่าไม่แน่เนม อาจกำลังนอนร้องไห้อยู่


      และแล้ว ทันใดนั้น คนที่นอนตะแคงข้างขนอ่อนลุกชูชัน เมื่อมีปลายนิ้วทั้งสามไล่ไต่ตามสะโพก สีข้าง ไปยังเนินไหล่


"เนม จะทำอะไร?"
 

      คนที่พอรู้ว่าเนมจะทำอะไรแทรกขึ้นเสียงดังเพื่อเรียกสติเนมว่าสิ่งที่ทำมันไม่โอเคกับใครทั้งนั้น



     บอกจบ คนที่จรดปลายนิ้วลงบนผิวสัมผัสอีกฝ่ายเลื่อนฝ่ามือช้าๆลูบผ่านท้องน้อยไล่ลงถึงขอบกางเกงและล้วงเข้าไปจับอาวุธอันทรงพลังของพี่การ์ตูน ก่อนจะแนบเสี้ยวหน้าซบตรงแผ่นหลัง

 

"เนมถ้าเมาก็นอน แต่อย่าเล่นแบบนี้!"
ตูนปรามเสียงดัง ใจดีมาตลอดก็ทำให้เด็กมันได้ใจสินะ ถึงเวลาที่เขาควรดุด่าให้เนมได้สำนึกบ้าง



"แล้วถ้าผมบอกว่าไม่เมาล่ะครับ"


"ถ้าจะเอาเพราะประชด ไปเอากับคนอื่น"

 

     กลืนน้ำลายก่อนตอบพร้อมกับจับข้อมือเนมแน่น ยามนี้ แก่นกายของการ์ตูนกำลังอยู่ในอุ้งมือเย็นๆของอีกฝ่าย ที่สำคัญ เนมใช้ปลายนิ้วหยอกเย้า เขี่ยส่วนปลายสีสดเล่นจนตูนเริ่มสะกดอารมณ์หื่นไม่ไหว เขาพยายามดึงมือเนมออก แต่เนมกลับกำมันแน่นกว่าเดิม จนตูนเผลอคำรามในคอ



"ผมไม่ได้ประชด" คนที่บอกเสร็จ ก็ลากปลายลิ้นเลียวนบนหัวไหล่



"เนม! กลับบ้าน"

 

     ใช้แรงบีบข้อมือเนมแน่นกว่าเดิม จนเนมร้องโอย ตูนได้จังหวะ พลิกตัวลุกขึ้นนั่ง แต่เนมยังไม่วายรั้งไหล่พี่การ์ตูนไม่ให้ไปห่างกัน แล้วใช้มืออีกข้างที่ว่างลูบไล้ริมฝีปากพี่ตูนช้าๆ ก่อนจะใช้ริมฝีปากแตะปากพี่ตูนผิวๆและผละ


"ถ้าไม่มีแม็คแล้ว พี่ตูนจะคบกับผมไหม?"



     สมองกลับไม่ได้ประมวลผลหาคำตอบให้แก่คนตรงหน้า ทว่า มันดันไปดึงความจำจากคำพูดของเพื่อนที่เกิดขึ้นในอดีตของวันนี้     



'ไอ้ตูน ถ้าเนมโทรหรือไปหามึง มึงรีบโทรมาบอกกูนะ กูขอร้อง'

 



***1.1***


**โอ้ยยยยยยยยยยยยย!!!...**
 - เนมนี่ มาถามพี่เขาทั้งที่ลูบๆคลำๆไปแล้วด้วยนะ 555
 - ต่ายแล้ววววววว น้องจะไม่รอเคลียร์กับพี่แม็คก่อนหยอออ...
- พี่ตูนเอาไง ว่ามา พี่พระเอกพอเนอะ (หราาาาา) 555   


 
DrSlump >> ทำไมเก่ง? จังคะ แหะๆ (แต่ก็มีบางส่วนที่ยังบอกไม่ได้ด้วยเรื่องเกี่ยวกับแม็ค) ❤❤❤❤
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 10 [15-10-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 15-10-2018 21:27:04
เนมทำแบบนี้ไม่ได้ลูกกกก ใจเย็นก่อน  :katai1:
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 10 [15-10-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 16-10-2018 01:19:15
 :pig4: :pig4: :pig4:

โอ๊ะโอ...วันทองสองใจ 
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 10.2 [17-10-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 17-10-2018 19:20:45
ตอนที่ 10 คนเลว (2)





      มันไม่ใช่แค่เรื่องที่หนึ่งนาทีก็ตัดสินใจได้เลย เรื่องสำคัญแบบนี้มันละเอียดอ่อนและต้องใช้เวลานานกว่านั้น แต่คนที่ยังนิ่งงันพลันครุ่นคิดทั้งเรื่องแม็คและเนมท่ามกลางความมืดมิดในห้องนอน ไม่รู้เลยว่าแค่ช่วงเวลาไม่กี่อึดใจ อีกฝ่ายกำลังคิดทำอะไรอยู่



     เร็วกว่ารถไฟชินคันเซ็น เห็นจะเป็นเนมที่ยามนี้ เจ้าตัวเลื่อนตัวลงไปยังหว่างขาจนใบหน้าอยู่ระดับเดียวกับแก่นกายของอีกฝ่าย เนมอ้าปากรับแท่งร้อนกลืนเข้าไปทีละนิดๆ ดึงดูดรูดราวกับว่าได้ลิ้มชิมรสไอศกรีมที่ถูกใจ เนมขยับโยกศรีษะขึ้นลงจนแก่นกายมีปฏิกิริยาแข็งขืนขึ้นกว่าเดิม



"นะ..เนมหยุด"




      บอกหยุดก็หยุด แต่เพียงปากเท่านั้นแหละที่เนมถอนริมฝีปากออกมาเพื่อพอ เมื่อเนมเปลี่ยนมาใช้มือเรียวกำแท่งร้อนแล้วใช้ปลายนิ้วสะกิดเบาๆตรงส่วนปลายจนตูนกัดปากอย่างระงับความเสียวกระสัน



"แต่พี่เองก็อยากนะครับ"




      ของแบบนี้ มันโกหกกันได้ที่ไหน? ในเมื่อหลักฐานปรากฏอยู่ทนโท่ว่าพี่ตูนตอบสนองต่อสิ่งที่เนมทำจนแก่นกายพี่ตูนแข็งจัด หากนำไปฟาดปากใครคงแตก



"อย่าทำแบบนี้ ขอล่ะ"
ประท้วงขึ้นมาเสียงแผ่ว เขาไม่คิดว่าเนมจะยังดำเนินบทรักต่อ ตูนก็เข้าใจอยู่หรอกว่าเนมจะไปบอกเลิกแม็ค แต่ก็ควรที่จะสะสางปัญหาให้รู้เรื่องก่อนที่จะทำแบบนี้มั้ย?



    กัดฟันกรอด ข่มอารมณ์สุดฤทธิ์ มันยากมากนะ เมื่อคนที่แอบชอบมาตลอดกำลังมาช่วยออรัลและยั่วให้อารมณ์ขึ้น แค่เนมแตะ สัมผัส ลูบไล้ ยังไม่ได้สอดใส่ ตูนแทบคลั่งตายอยู่แล้ว



     'แฟนเพื่อน แฟนเพื่อน'




     ราวกับท่องคาถากันผี ตูนตั้งสติโถมตัวควานหาโทรศัพท์มือถือของตัวเองเพื่อโทรหาแม็ค มือหนาปัดป่ายจนไปแตะโดนสีข้างอีกฝ่ายถึงเพิ่งรู้ว่า เนมเปลือยกายมานอนบนเตียงเหมือนว่าวางแผนมาก่อนแล้ว





    ได้ยินพี่ตูนตอบเช่นนั้น ร่างเขาก็เกร็งตัวแข็งอย่างตั้งใจแสดงออกให้รู้ว่าไม่เล่นด้วย  เนมพอจะเดาได้นะว่าพี่ตูนก็ชอบเขาเหมือนกัน เนมแค่อยากให้พี่ตูนทำตามหัวใจตัวเอง เพราะเนมสามารถจัดการเรื่องความสัมพันธ์กับแม็คได้เองอยู่แล้ว



"รีแลกซ์หน่อยครับพี่ตูน อย่ากังวลเรื่องแม็คเลย เดี๋ยวผมเคลียร์เอง"
ความมืดมันทำให้เห็นเค้าลางๆ แต่ไม่ถึงกับชัดขนาดรู้ว่าเนมกำลังทำสีหน้าแบบไหน?



        ทำไมเนมถึงพูดไม่รู้สึกรู้สา ราวกับว่า สิ่งที่เราทำกัน มันคือการชวนออกไปวิ่งที่สวนสาธารณะยามเช้าอย่างไรอย่างนั้น


"พี่...อ้ะ เนมอย..."




       แค่พี่ตูนอ้าปากจะพูด เนมรีบใช้ปากออรัล ทั้งอม ทั้งดูดดุน ในขณะที่มือก็ช่วยรูดรั้งไปด้วย จนคนใจแข็งหลุดร้องเสียงครางกระเส่า ยิ้มพลันหยัดกายคลานขึ้นไปหาคนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนพิงพนัก ยามนี้ เนมขึ้นไปนั่งทับแก่นกายของพี่ตูน



"อยากเปิดไฟไหมครับ?"


"ไม่"


"กลัวรู้สึกผิดเหรอ?"
โน้มหน้าไปกระซิบบอก ก่อนขบเม้มติ่งหู



"เฮ้ย เนมพี่ไม่โอเค"


"ผมบอกแล้วไงครับ เรื่องนี้ผมจัดการเอง"




       บอกจบ คนที่นั่งอยู่บนตัวของคนอายุมากกว่าเริ่มร่อนสะโพกบดคลึงแก่นกายที่ยังไม่ได้สอดใส่ แก้มก้นถูไถแก่นกายของพี่ตูนที่กระตุกเป็นระยะๆ  ถ้าพี่ตูนยังใจแข็งก็คงต้องยั่วอีกหน่อย



       นับถือใจคนตรงหน้าจริงๆ พี่ตูนอดทน สกัดกลั้นอารมณ์ไม่ให้หวั่นไหวตามสิ่งที่ทำ เขายังคงนั่งนิ่ง จนเนมบีบเจลหล่อลื่นมาป้ายช่องทางรักของตนเองจนชุ่ม ก่อนก้มลงไปซุกซบหน้าลงลาดไหล่



"แฉะแล้วนะ พี่ตูน"



"เนม"



     ฟังคำคนที่เอาแต่เรียกชื่อครั้งแล้ว ครั้งเล่าก็นึกเบื่อ เมื่อไหร่พี่ตูนจะเอาของพี่เข้ามาในตัวผมสักที?



"เนมขอนะพี่ตูน ได้โปรด เอาเข้ามาสักที"



      ตูนกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เขารู้สึกปวดหน่วงหนึบและเริ่มอึดอัดจวนระเบิด ช่างไม่ดีต่อใจ เมื่อเด็กร้องอ้อนพร้อมยกสะโพกลอยขึ้น เอื้อมมือไปด้านหลังจับแท่งร้อนของตูนถูวนตรงร่องรัก เนมบรรจงริเริ่มเองทุกอย่าง แม้กระทั่งตอนนี้ ส่วนหัวแก่นกายเข้าไปในโพรงนุ่มเรียบร้อย ไร้การเปิดทางขยายขนาด เนมแค่ต้องการกระตุ้นไฟราคะในอกใครบางคนเสียก่อน



     ฟิต แน่น รัดรึงเกินไป ไม่ไหวแล้ว ความอึดอัดได้พังทลายลง


    ราคะกำเนิด อารมณ์เตลิด เกิดเป็นกามารมณ์ ตูนผลักร่างเนมนอนราบไปกับเตียงและคร่อมทับ ไซ้คอ ไล้ลามมาพรมจูบทั่วแผ่นอกลงต่ำไปยังหน้าท้อง ขณะเดียวกัน ปลายนิ้วของตูนถูวนเบาๆตรงรูรัก ก่อนจะสอดสองนิ้วเข้าไปจนสุดปลายดึงเข้า-ดึงออกจนคนถูกกระทำแหงนหน้ามองเพดาน ร่างกายบิดเร้าเพราะความซาบซ่าน วาบหวามในอก



"อ้า อ้ะ อ้ะ...เสียวอะ...พี่ตูน จูบเนมหน่อยครับ"



     เสียงแผ่วเอื้อนเอ่ยจนคนตัวโตโน้มตัวลงไปจูบ ขบเม้ม ดึงดูดริมฝีปากล่างเบาๆ ก่อนสอดเรียวลิ้นเข้าไปในโพรงปาก เนมส่งเสียงครางอื้ออึงในคอไม่หยุดหย่อน เพราะแพ้ความช่ำชองของพี่ตูน ไม่คิดว่าจะใช้ลิ้นเก่ง นิ้วเก่งขนาดนี้


จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ


     จากนั้น พี่ตูนทั้งดูด ทั้งขบ ทั้งเลียอย่างกระหาย เขาประทับรอยจูบ ทิ้งรอยจ้ำแดงๆ ไว้ตามเรือนกาย ก่อนจะผละออกมา สวมถุงยางและกดแท่งร้อนของตัวเองเข้าไปจนสุด แม้อากาศในห้องจะเย็นฉ่ำแค่ไหน แต่นาทีนี้ สองคนเนื้อตัวเปียกชุ่มด้วยเหงื่อ สองมือจับต้นขาเนมให้ยกสูงขึ้น ดันกายเข้าหากระแทกกระทั้นอย่างเร่าร้อนรุนแรง จนเนมตัวโยกคลอน ส่วนมือของเนมก็รูดรั้งแก่นกายของตัวเองไปด้วย


พั่บ พั่บ พั่บ


    นาทีนี้ เนมยอมรับว่าตัวเองเป็นคนเลว เมื่อสัมผัสได้ว่า กาาร่วมรักกับพี่ตูนมันอบอุ่นปนความเสียวกระสัน มากกว่ามีเซ็กซ์กับแม็คเป็นไหนๆ

 

     ใครจะว่าแรดร่านก็ช่าง เนมปล่อยเบลอ เขาแค่อยากได้สัมผัสแท่งร้อนที่กดลึกเข้ามาจนวาบหวามรัญจวนใจ ร่างกายกระตุก ปลายเท้าจิกเกร็ง  เนมใช้มือลูบไล้กายหยาบ และพูดจาทะลึ่งตึงตัง ยั่วให้คนข้างบนมีอารมณ์จนถึงขีดสุด


"อ่าาาาห์ อ้ะ..พี่ตูน...อ้ะ โคตรเสียวเลยครับ"



"เจ็บหรือลึกไปบอกนะ พี่จะพอ ซี้ดดอ่าาาห์"
บอกพร้อมคำรามเสียงต่ำ


     เสียงหอบหายใจทั้งสองผสานกันกึกก้อง พร้อมกายสั่นสะท้านด้วยเพลิงสวาท ตูนกัดปากเสียวรับรู้ถึงความอุ่นนิ่มโอบรับทุกขณะ บางจังหวะตอดรัดจนตูนแทบคลั่ง

 

   ความปวดหนึบเสียวซ่านแล่นปราดทั่วร่าง ก่อนเสียงคำรามดังลั่นครั้งสุดท้าย เนมก็ได้รู้ว่า...

พรวด
 

     รับรู้ถึงแรงฉีดพ่นของของเหลวอุ่น เนมรีบเร่งรูดรั้งของตัวเองอย่างเร็วไว  ไม่นาน เนมก็ถึงสวรรค์
           

    ยามนี้ แท่งร้อนจัดที่สวมถุงยางอนามัยค่อยๆดึงออกอย่างเชื่องช้า ต่างฝ่ายต่างจัดการทำความสะอาดให้แก่กันและกัน จากนั้น ร่างเปลือยของสองคนนอนทิ้งตัวลงบนเตียงตระกองกอดกันอย่างเหนื่อยอ่อน...


       จุ๊บ...


       เนมจูบแก้มพี่การ์ตูน ก่อนซุกหน้าลงตรงซอกคอ



"ฝันดีนะครับ พี่ตูน"

 

.

.

.

.

        ย้อนกลับไป ในช่วงที่เนมเข้าห้องน้ำเพื่อไปชำระร่างกายให้สะอาด เขาส่งข้อความไลน์ไปบอกแม็คให้รู้ไว้ก่อนจะเดินทางไปหาพรุ่งนี้



............

Read

00:15

ความสัมพันธ์คู่เราตอนนี้แม่งไม่เวิร์คแล้ว เลิกกันเถอะแม็ค



         

         และหลังจากเสร็จกิจแห่งกามเนมก็ไม่ได้คิดจะเช็คโทรศัพท์มือถือตัวเองอีกเลย





03:45

เนมผมเผลอหลับ สะดุ้งตื่นมาเจอข้อความ เนมอยู่ไหน? อยู่กับใคร? ให้ผมไปรับนะ



04:00

ผมโทรหาตอนนี้ได้ไหม?



04:25

เนมอย่าเป็นแบบนี้ ผมเลว ผมรู้ ผมขอโทษ เด็กคนนั้นผมไม่ได้จริงจังด้วยแค่ลองควงเพื่อพิสูจน์ใจตัวเอง ถ้าเนมมาหาผมพรุ่งนี้ ผมจะเล่าให้ฟังทุกอย่าง แต่เนมกลับมาหาผมนะ...กลับมาหากันก่อน



05:00

ผมนอนไม่หลับ เนมอยู่ไหน? บ้านตูนหรือเปล่า?




05:10

เนม อย่าเลิกกันเลย



............



05:02

ไอ้ตูน เนมไปบ้านมึงไหม?



05:15

เนมบอกเลิกกู




............................................
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 10.2 [17-10-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 17-10-2018 19:39:38
 :pig4: :pig4: :pig4:

เนม...เธอนี่ฝ่ายนึงยังไม่เคลียร์ให้ชัดเจน

ก็ไปยั่วคนดี ๆ ให้ทำชั่วซะงั้น  เธอนี่มัน.......เฮ้อ...
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 10.2 [17-10-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-10-2018 20:40:00
เนม ก็..........สองใจ  :เฮ้อ:

แม็ค ก็....... พิสูจน์ใจตัวเอง  :really2:

ตูน ก็........ยับยั้งใจไม่ได้  o22 o22 o22

แต่ดูตูนจะอ่อนโยน เข้ากับเนม ดีกว่าแม็ค 
ที่เอาแต่ความต้องการของตัวเอง ไม่สนใจคู่ของตัวเอง
สามคนอลเวงแล้ว   3p  ไปเลย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 10.2 [17-10-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 18-10-2018 15:40:21
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ o13
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 11 [18-10-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 18-10-2018 22:30:05
ตอนที่ 11 คนเก่า และคนรักคนใหม่






"ตื่นแล้วเหรอ? พี่ตูน"


 

       ปรือตามาพบพี่ตูนกึ่งนั่งกึ่งนอนพิงนักเตียงด้วยท่อนบนเปลือยเปล่า ช่วงล่างมีผ้าห่มคลุมไว้ เนมเหลือบมองดวงตาคู่คมดูอ่อนล้าราวกับอดนอนมาหลายชั่วโมง



       ตูนไม่ตอบ เขายังคงคิดถึงเรื่องการกระทำที่ผิดพลาดมหันต์


      ความพยายามทั้งหมดของกู....

 
      ช่วงเวลาที่ผ่านมา ความอดทนของตูนไม่ต่างกับการก่อปราสาททราย เขาค่อยๆโกยเม็ดทรายมาปั้นแต่ง บรรจงสร้างปราสาทให้เป็นรูปเป็นร่าง ไม่นานก็แล้วเสร็จ ได้ปราสาทแสนสวยทรงสูงตั้งตระหง่าน ทว่า ความพยายามในการสร้างปราสาทอันยาวนานกลับพังทลายเมื่อโดนคลื่นซัดเข้าฝั่ง ปราสาทนั้นสลายไปกับสายน้ำชั่วพริบตา เฉกเช่น ความอดทนของตูนตอนนี้ไม่เหลืออะไรเลย

 

       ...อดทนมาได้ตั้งนาน แพ้การออน ท็อป เสียอย่างนั้น...

 

"พี่ตูนไม่ได้นอนเหรอ?"
ถามอีกครั้งพลางกระเถิบตัว แนบศรีษะลงบนแผงอกกว้าง จรดปลายนิ้วลากไล้ไต่เล่นตามตัวคนที่เพิ่งผ่านการร่วมรักมาไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง

 

"พี่มันเป็นเพื่อนที่ใช้ไม่ได้"
เมื่อกามราคะได้พัดพาความดีงามให้หายไปยามมีเซ็กซ์กับแฟนคนอื่น พอสำนึกได้ ถึงมาเครียด นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย จนถึงบัดนี้


 

05:02

ไอ้ตูน เนมไปบ้านมึงไหม?

 

05:15

เนมบอกเลิกกู

 

        หวนนึกข้อความไลน์ที่แม็คส่งมา เขาไม่ตอบ เพราะยังตั้งตัวไม่ติด และข้อความเพื่อนทำให้ตูนรู้สึกผิดจับขั้วหัวใจ


        เวลาที่ส่งคงบอกได้ชัดเจน ว่าแม็คคงนอนไม่หลับไม่ต่างกัน   
       

      จะโทษเนมฝ่ายเดียวก็คงไม่ถูก หากตูนมีความหนักแน่นมากพอ เรื่องเหล่านี้ก็คงไม่เกิด

 

"ทำไมพี่ว่าตัวเองแบบนั้นล่ะครับ"
ถามเสียงแผ่ว ช้อนตามองคนที่กดสายตาลงมาจ้องเนมเช่นกัน

 

"เรามีอะไรกันนะเนม ทำไมถึงทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น"

 

      พี่การ์ตูนเป็นคนดีจริงๆ เนมดึงมือพี่ตูนมาวางบนแก้มของตัวเอง

 

"เนมจะเลิกกับแม็คอยู่แล้ว พี่ตูนไม่ต้องรู้สึกผิดและอย่าโทษตัวเองเลยนะ ทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะเนม เนมจะคุยกับแม็คเอง"

 

"...."



     คนที่นอนกอดตูนตอนแรกยันกายขึ้นไปจุ๊บปากพี่ตูนผะแผ่วแล้วบอก

 

"เมื่อคืน เนมมีความสุขมากนะ การที่เนมมีเซ็กซ์กับพี่มันมีอะไรมากกว่าการเอาเพื่อความมันส์หรือปลดปล่อยอารมณ์ พี่ตูนทำให้เนมสัมผัสได้ว่าการที่เรามีเซ็กซ์กัน คือ การบอกรักทางอ้อม"


 

     มองเนมที่ยิ้มทั้งปาก ทั้งแววตาแถมซ่อนความประทับใจในนั้นก็แอบถอนหายใจยาวเขาไม่รู้ว่าอะไรทำให้เนมรู้สึกเช่นนั้น แต่ถ้าถามตูน ตูนก็แค่ให้รักนำพาทุกอย่างไหลไปตามหัวใจในทุกห้วงอารมณ์ของการร่วมรักกันก็เท่านั้น



     การ์ตูนอมยิ้ม ถึงเครียดก็เครียดไม่สุด เพราะคนตรงหน้านี้ล่ะมั้ง



     ตูนยกมือบดคลึงริมฝีปากล่างเนมไปเงียบๆ



"พี่ตูนรักเนมใช่ไหม?"

 

"ไม่นะ แค่หวังฟัน เรื่องเมื่อคืนก็ลืมมันไปซะ"


 

     เล่นมุกได้อย่างนี้ แสดงว่าคงหายเครียดแล้ว เนมยิ้มกว้างจนปากฉีกถึงหู ก่อนจะขึ้นไปนั่งคร่อมตักคนตัวโต เนมคงยั่วได้ไม่มาก เพราะยังเจ็บและแสบตรงช่องทางรักอยู่ไม่น้อยเลยแค่โน้มหน้าไปซบลาดไหล่และเอียงหน้ากระซิบบอก

 

"ถ้าจะหวังฟัน จากนี้ พี่ตูนก็ฟันเนมบ่อยๆนะ"

 

"เนม!"
ตูนปรามด้วยใบหน้าแดงก่ำ ทำไมก่อนหน้า เนมดูไม่ทะลึ่งตึงตังขนาดนี้ หรือเจ้าตัวเพิ่งออกลายให้เห็น

 

"ไปอาบน้ำกัน พี่จะไปบ้านแม็คด้วย"
ตูนรีบตัดบทดันเนมออกห่าง

 

"ไม่ต้องครับ"


 

"เนม เรื่องนี้เราต่างก็ผิด พี่คงไม่ปล่อยให้เนมไปคนเดียวหรอก"

 


   ไหนๆเรื่องก็มาถึงขนาดนี้แล้ว เขาคงไม่ปล่อยให้เนมไปเผชิญชะตากรรมคนเดียวแน่ๆ

.

.

.

.

"ฮัลโหลแม็ค"

 

[เนมครับ ผมกำลังเข้าหมู่บ้านไอ้ตูน เนมอยู่บ้านมันใช่ไหม?]

 

    แปลกใจว่ารู้ได้ยังไง แต่ไม่ว่าจะเคลียร์กัน ณ บ้านหลังไหน? ก็คงได้ผลลัพธ์ไม่ต่างกัน

 

"ใช่"


 

[โอเคครับ ผมใกล้ถึงแล้ว]



      เนมวางสายหันไปบอกพี่ตูน

 

"พี่ตูนไม่ต้องไปแล้ว"




"ทำไม?"

 

"แม็คกำลังมาหา"


.

.

.

.

ฟึ่บ!

 

"ผมขอโทษนะเนม สำหรับเรื่องราวที่ผ่านมา เนมรู้ไหม? เมื่อคืนที่เนมไม่กลับบ้าน ผมจะบ้าตายอยู่แล้ว"
วงแขนที่โอบกอดรัดแน่นทำให้เนมเริ่มอึดอัดและหายใจไม่ออก ทันทีที่เห็นเนมยืนรออยู่หน้าประตูบ้านแม็ควิ่งโผเข้าหา



    วันนี้ พี่โตพาอะตอมไปบ้านแม่ จึงช่วยอำนวยความสะดวกให้ทั้งสามได้สะสางปัญหา รักสามเศร้า เราสามคนนี้ให้จบลงสักที

 

    แม้ใจกระตุกอย่างรู้สึกผิดกับเรื่องเมื่อคืน แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เนมคิดดีแล้ว

 

"สนใจกันด้วยหรอ?"


 

"เนม อย่าประชด ไม่เห็นไลน์ที่ส่งไปรึไง?"
ผละออกมาใช้มือลูบแก้มเนียน

 

"...."



"เนมครับ เรากลับบ้านนะ"



"คุยกันที่นี่แหละแม็ค"



"ก็ได้ เนม ถ้าผมบอกความจริงทุกอย่าง เนมสัญญาได้ไหมว่าจะไม่โกรธ"
ลูบแก้มก่อนเลื่อนมาจับมือเนมทั้งสองข้าง และทั้งคู่ยังคงสนทนากันเหมือนไม่มีตูนยืนอยู่ตรงนี้



       ตอนที่อยู่ในสถานะคนไม่มีสิทธิ์ ตูนไม่มีความขุ่นเคือง หึงหวงแต่อย่างใด แต่พอได้เป็นเจ้าข้าว เจ้าของเขาแล้ว บอกเลยว่าเห็นแบบนี้ หัวใจก็เจ็บนิดหน่อยเหมือนกัน

 

 "ไม่โกรธครับ เราไม่มีทางโกรธแม็คอีกแล้ว เราไปคุยกันบนห้องนะ"
คนที่รู้อนาคตแล้วว่าจะทำเช่นไร จึงหันไปบอกเสียงหนักแน่นกับคนรักที่กำลังกลายเป็นคนเก่า  แล้วหันไปหาคนรักคนใหม่

 

 "พี่ตูนครับ เนมขอใช้ห้องนอนพี่คุยกับแม็คหน่อยนะ"


 

"ได้ แต่พี่ไปด้...."

 

"พี่ตูนรอเนมอยู่ข้างล่างแหละครับ"



"เนม พี่จะไ.."



"เนมขอนะ"



"เฮ้อ ก็ได้"


 

     คนที่มาใหม่อย่างแม็คมองตูนสลับกับเนมด้วยความฉงน สองคนนั้นดูสนิทสนมเกินกว่าทุกทีและแววตาไอ้ตูนทำไมต้องอาลัยอาวรณ์ขนาดนั้น



     ไม่อยากเชื่อเซนส์ตัวเอง แต่ลึกๆใจมันบอกว่า สองคนนี้กุมความลับอะไรบางอย่าง

 

     ถึงห้อง ประตูปิดลง แม็คสวมกอดเนมพลางใช้ริมฝีปากคลอเคลียแก้มอีกฝ่าย เนมดันอกแม็คออกห่าง

 

"แม็คก็ยังไม่วายเห็นเราเป็นแค่คนตอบสนองทางเซ็กซ์เหรอ?"


 

"เปล่า ผมคิดถึงเนม อยากกอด อยากจูบ อยากทำทุกอย่าง เนมที่ผ่านมาผมเหี้ยเอง แต่ตอนนี้ผมรัก.เ.."


 

"พอเหอะแม็ค เราเลิกกันเถอะ เรามีอะไรกับพี่ตูนแล้ว"

 

"เมื่อกี้เนมว่าอะไรนะ?"

 

'เรามีอะไรกับพี่ตูนแล้ว'


 

     ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นมาบีบหัวใจให้จวนแหลก มันอึดอัดและทรมาน ช่างเจ็บปวดแปลบปลาบอะไรเช่นนี้ แม็คทั้งโกรธทั้งเสียใจ และไม่เคยมีใครกล้าหยามกันขนาดนี้มาก่อน โดยเฉพาะยิ่งเป็นเนมด้วยแล้วล่ะก็....
 

เพี้ยะ!


      แม็คตบหน้าเนมสุดแรง เขาโมโหจนมือสั่น ตัวสั่น กระชากคอเสื้อของเนมเหวี่ยงร่างเนมจนแผ่นหลังกระแทกกับบานตู้เสื้อผ้าอย่างจัง

 

"มึงทำแบบนี้กับกูได้ไง?"


 

     มองคนเปลี่ยนสรรพนามทั้งยังส่งสายตามาด้วยความกรุ่นโกรธ ถามว่ากลัวไหม? เนมบอกเลยว่ากลัวมากและยิ่งไปกว่านั้น เนมเจ็บและแสบบนใบหน้าจนฝืนกลั้นน้ำตาแห่งความเจ็บปวดเอาไว้



"ห้ามว่าพี่ตูน เรื่องนี้เราเลวเอง เราเริ่มก่อน เราชอบพี่ตูนแล้ว จากนี้ เราจะคบกับพี่ตูน"

 


      ในตอนแรกแม็คตั้งใจบอกความจริง โดยใช้วิธีปรับความเข้าใจกันอย่างละมุนละม่อม ทว่า นาทีนี้ กลับผิดแผนเมื่อได้ยินสิ่งที่ทำให้บาดลึกทางจิตใจ แม็คโกรธจัดจนอารมณ์โมโหรุนแรงที่ได้ยินว่าคนรักปันใจไปให้ใครคนอื่น

 

ปั่ก

 

       กระชากแขนเนมเหวี่ยงลงบนเตียง จากนั้น เขาปาโทรศัพท์มือถือใส่หน้าอีกฝ่าย
 

"โอ้ย!...แม็คเจ็บนะ เป็นบ้าอะไร? แค่เราบอกเลิกทำไมต้องทำกันแรงขนาดนี้ด้วยวะ"


       เหมือนโดนไฟช๊อต รู้สึกเจ็บแปลบ-ชาวาบทั้งตัว  เนมยกมือกุมโหนกแก้มที่โทรศัพท์กระแทก เนมไม่กล้าใช้กำลังหรือสู้กับคนอารมณ์ร้อนเช่นนี้ เพราะเชื่อว่า ถ้าสู้คงมีแต่แพ้กับแพ้อยู่ดี



      เนมน้ำตาคลอ ตอนที่คบกับแม็คก็รู้ว่า แม็คใจร้อน อารมณ์รุนแรง แต่จะเน้นหนักไปทางเซ็กซ์มากกว่า ส่วนช่วงเวลาคบกัน อย่างมากก็มีปากเสียง ไม่เคยมีทำร้ายร่างกายเหมือนครั้งนี้ ลูบสองบาดแผลใหม่บนใบหน้าของตัวเองด้วยความเจ็บปวดจนพูดได้ยากลำบาก


"กูไม่คิดเลยนะว่ามึงจะทำให้กูเสียใจได้มากขนาดนี้"

 


     เอี้ยวตัวมองเห็นโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าของตัวเองที่เคยโดนโจรปล้นไปเมื่อหลายเดือนก่อนและแม็คมาช่วยไว้ในตอนนั้น มันปรากฎอยู่ตรงหน้า



    นั่นจึงทำให้คนที่เริ่มฉลาดปะติดปะต่อเรื่องราวได้


"เหอะ! ทำหน้าอย่างนั้น คิดว่าไง? คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญที่มีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยมึงได้พอดีเหรอ? มันไม่มีหรอกเว้ย... เรื่องบังเอิญบนโลกใบนี้น่ะ! ทั้งหมดกูตั้งใจให้มันเกิดขึ้น"

 

"ฮึกฮือ แม็คทำแบบนี้ทำไม?"
เนมปล่อยโฮ ใช้หลังมือปาดน้ำตา



      ใบหน้าชาวาบ หัวใจเต้นแรงกว่าเดิม วินาทีต่อจากนี้ เนมไม่รู้แล้วว่าเรื่องไหนมันคือเรื่องจริงหรือเรื่องโกหก...


"แก้แค้น"





***1.1***

:man1: :man1: :man1: :man1:

หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 11 [18-10-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 19-10-2018 02:13:01
 :pig4: :pig4: :pig4:

อุ้ย  เผยปมแก้แค้นออกมา

แก้แค้นอะไร?

เนมไปทำอะไรไว้  ทำไมแม็คจึงต้องแก้แค้น  จึงได้วางแผนเป็นฉาก ๆ เรื่อยมา?
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 11.2 [20-10-18] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 20-10-2018 21:50:59
ตอนที่ 11 คนเก่า และคนรักคนใหม่ (2)






"เราไปทำอะไรให้แม็ค เราไปทำอะไรให้"



       น้ำตาที่หลั่งไหลตอนนี้เกิดจากความเสียใจ ในอดีตที่เนมเคยทุ่มรักให้แม็คไป แม็คมองไม่เห็นคุณค่ากันเลยหรือ? ถึงวางแผนคิดทำร้ายหัวใจกันได้อย่างคนไม่มีหัวใจ ภายใต้ความลังเล สงสัย สับสนนั้น หากแม็คคิดแก้แค้นจริง ยามนี้ จะมาเว้าวอนร้องขอคืนดีเพื่ออะไร?




"พี่สาวมึงทำพี่กูตาย แต่พี่มึงไม่อยู่ไทยให้แก้แค้น ก็เลยใช้มึงแทนไง เจ็บปวดไหม?"





     เนมชะงัก พี่สาวเขาไปทำอะไรให้พี่ชายแม็คตาย แล้วทำไม? แม็คต้องโกรธจนเก็บกดจนถึงขั้นคิดแก้แค้น



     มีคำถาม แต่เนมไม่คิดเอาคำตอบ เขาต้องการเอาตัวเองออกมาให้ห่างจากแม็คก่อน



"ตอนนี้ แม็คแก้แค้นสำเร็จแล้ว ฮือออ ถ้างั้นปล่อยเราไป แม็คไม่ได้รักเราอยู่แล้วนี่ จะมารั้งกันทำไมอีก"

     บอกพร้อมลุกขึ้นยืนวิ่งถลาไปกอดแม็ค ฟากแม็คชะงักเมื่อน้ำตาของเนมแทรกซึมผ่านเสื้อยืดจนแม็คสัมผัสได้ ถ้าเป็นเมื่อก่อน แม็คคงยอมเดินปล่อยมือจากกันง่ายๆ แต่ตอนนี้ไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว...     

.

.

.

.

"ผมจะแก้แค้นเพื่อพี่นะ พี่แมน"

 

     สัญญากับพี่ชายที่กลายเป็นเถ้าธุลีปลิวไปตามสายลมก่อนร่วงลงสู่ท้องทะเลกว้างใหญ่ แม็คเพิ่งลอยอังคารพี่ชายกับพวกญาติเสร็จก็หวนคิดคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้

 

    ใครทำพี่กูตาย คนนั้นต้องได้รับความเจ็บปวด

 

     เหตุที่ทำให้แม็คเดือดดาล มาจากเรื่องของเรื่อง คือ พี่แมนคบผู้หญิงคนหนึ่งมานานหลายปี จนมีช่วงที่แฟนของพี่แมนบินไปทำงานที่ต่างประเทศ ทั้งสองต้องห่างกันไกลจึง ใช้การวีดิโอ คอลล์ คุยกัน เพราะยังมีเรื่องสำคัญที่ทั้งคู่คุยค้างกันไว้  นั้นคือ การแต่งงาน เวลาคงดำเนินไปเรื่อยๆที่ทั้งสองยังคุยกันผ่านเครื่องมือสื่อสารนั้น  พี่ชายแม็คไม่รู้เลยว่า ตลอดเวลาที่ฝ่ายหญิงยังทำตัวปกติ เบื้องหลังเรื่องนี้ เธอได้แอบคบชู้สู่ชายมาได้สักพัก ที่แมนรู้ เพราะเธอยอมบอกความจริงเนื่องจากอีกฝ่ายต้องการให้เธอชัดเจน

     

      แมนเพิ่งรู้สาเหตุของการนอกใจ คือ ผู้ชายคนนั้นรวยกว่า สนับสนุนความหรูหราให้เธอได้มากกว่า และเลี้ยงดูเธอได้เป็นอย่างดี คนที่มีทุนทรัพย์น้อยกว่าจึงแพ้พ่ายไปตามระเบียบ พี่ชายแม็คเศร้าเสียใจอย่างหนัก กินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะทั้งสองวางแผนแต่งงานจนตอนนี้ถึงขั้นเลือกของชำร่วยกันแล้ว แมนเครียดจัด จนสุดท้ายเลือกทางที่คิดว่าใช่ด้วยการกระโดดตึกฆ่าตัวตาย ณ คอนโดของตัวเอง

 

     'ตอนพี่กระโดดลงมาจากชั้นสิบเก้า ระหว่างที่ดิ่งลง พี่แมนเคยคิดเปลี่ยนใจบ้างไหม?'

 

     ตอนที่รู้ข่าวว่าพี่ชายเสียชีวิตจากการคิดสั้น แม็คน้ำตาไหลเป็นทาง แต่ก็บอกตัวเองไว้ว่า นั่นมันจะเป็นครั้งสุดท้าย



     สะสางเรื่องพี่ชายจบลง ก็ได้เวลา พาคนมาชดใช้กรรม แม็คใช้เฟสบุ้คพี่ชายตัวเองเข้าไปส่องเฟสบุ้คของผู้หญิงคนนั้นที่เธอยังไม่ได้ทำการบล็อกเฟสบุ้คกัน เขานั่งไล่ดูข้อความหรือโพสต์ต่างๆที่ผู้หญิงคนนั้นได้อัพเดทชีวิตประจำวัน แม็คทำตัวไม่ต่างกับนักสืบเชอร์ล็อกโฮลม์ ทั้งสอดส่อง ทั้งสืบค้นประวัติไล่ดูเฟสบุ้คของผู้หญิงคนนั้นย้อนกลับไปหลายปีว่าที่ผ่านมา เธอมีชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง ใคร คือ คนใกล้ชิดของเธอมากที่สุด?



      รู้พฤติกรรมของเธอได้พอสมควร ว่าเป็นผู้หญิงที่ทำตัวโอ้อวด ชอบโชว์ อัพรูปพร้อมแท็กสถานที่เป็นเนืองนิจ จึงทำให้แม็คได้ข้อมูลมากมายมาอย่างง่ายดาย แม้น่าเจ็บใจที่ไม่สามารถไปแก้แค้นเธอที่ต่างประเทศได้ แต่ไม่เป็นไร จากข้อมูลส่วนใหญ่ ดูจากการเช็คอินกับผู้ชายคนนี้บ่อยๆแล้ว คนนั้นคงสำคัญ และมันต้องรับชะตากรรมแทน



     'น้องชายของเธอ'
และแม็คได้ที่อยู่คอนโดมาเป็นที่เรียบร้อย



       อีนั่นจะดิ้นไหม? หากรู้ว่าน้องชายมันต้องตาย...

 

       แม้จะได้ที่อยู่ แต่กว่าจะแผนจะสำเร็จลุล่วง เขาใช้เวลาราวสัปดาห์จนได้เวลาเหมาะเจาะ คนที่จ้างให้มาเป็นโจรทำตามแผนเล่นได้สมจริง และแม็คสวมบทฮีโร่เข้าไปช่วยได้ทันเวลา



     หากนี่ คือ ละครฉากหนึ่ง ผู้กำกับคงลุกขึ้นยืนปรบมือ เอ่ยปากชมเกรียวกราวว่าทำไมถึงเล่นละครได้ตีบทแตกขนาดนี้



     แหละนั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทั้งสองได้รู้จักกัน



    แม็คเล่นบทพระเอกทำตัวเป็นฮีโร่อยู่นาน ยอมเจ็บตัว เพื่อให้เนมตกหลุมพราง ทั้ง การมีเรื่องหน้าร้านเหล้า คนที่สร้างภาพเจ็บหนักไปตามระเบียบ การไปรับ-ไปส่งที่ทำงาน การพาไปเจอเพื่อน ได้กินอาหารดีๆ เที่ยว ดูหนัง จนกระทั่ง เนมติดกับ หอบผ้า หอบผ่อนมาอยู่ด้วยกันที่คอนโด

 

    แผนการของแม็คในตอนแรกที่วางไว้ คือ หลอกให้เหยื่อตายใจแล้วฆ่ามันตายอย่างเลือดเย็น

 

    ตลอดเวลาที่คบกัน เนมอยากได้อะไร แม็คหามาให้ทุกอย่าง เพื่อต้องการเอาใจ จนเมื่อได้มีเซ็กซ์กัน แม็คกระทำอย่างป่าเถื่อน ส่วนหนึ่ง มันคือรสนิยมของเขา แต่อีกส่วนคือ การให้เนมเจ็บเจียนตาย เสียงกรีดร้องอันทรมานและใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด แม็คเห็นแล้วสะใจ ยิ่งกระแทก กระทั้นได้แรงเท่าไหร่ ยิ่งเหมือนกับเป็นการแก้แค้นแทนพี่ชายไปในตัว



    แต่ไม่น่าเชื่อ ว่าบางทีความใกล้ชิดกันมันก็อันตราย



     คนที่เคยนึกสะใจ สมน้ำหน้ายามอีกฝ่ายทรมาน กลับแปรเปลี่ยนไปและอะไรหลายๆอย่างทำให้แม็คนึกเปลี่ยนแผนกระทันหัน...



    คงไม่ต้องถึงกับตายหรอก ...หลอกให้รักแล้วหักอกมันก็พอ...



     ช่วงที่คบเนม มีบ้างที่แม็คแอบไปหาเศษหาเลย มีเซ็กซ์กับคนอื่นหวังหลอกตัวเอง แต่จู่ๆ รสชาติที่เคยตื่นตา ตื่นใจ และได้ความหลากหลายกลับไม่โอชะอย่างแต่ก่อน เขากลับโหยหาอาหารจานเดิม ที่แม้มันจะเป็นเมนูบ้านๆ ธรรมดาๆไปบ้าง แต่กลับรู้สึกขึ้นมาว่า มันหวานหอมและกินได้ไม่รู้เบื่อ



     แม็คเลิกมีเซ็กซ์กับคนอื่น และกลับมาหยุดแค่เนมคนเดียวเท่านั้น คนที่แสนน่ารัก เอาอกเอาใจ คนที่ทำให้แม็คขึ้นสวรรค์ได้เหมือนกัน แม็คเริ่มตะหงิดๆ เมื่อรู้ว่าใจตัวเองกำลังไม่เหมือนเดิม แม็คหงุดหงิดและย้ำบอกตัวเองว่าให้เดินตามแผน จนมาวันหนึ่ง เขายังคงดำเนินไปตามแพลน ส่งของไปข่มขู่หวังให้เนมกลัว หวาดผวาและหวาดระแวง แม็คตั้งใจจะส่งแบบนี้เป็นเวลาหนึ่งเดือน หวังให้เนมจิตตก แต่วันที่เจอเนมร้องไห้อย่างขลาดกลัวและดวงตาสั่นระริกคู่นั้น ทำให้แม็คเปลี่ยนใจ



      ตั้งแต่ได้อยู่ใกล้เนม ได้ใช้ชีวิตอยู่กับเนม แม็คเปลี่ยนแผนเป็นว่าเล่น



      ปลายทางของเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะต้องเป็นแบบไหน? กลับไปคนละทิศละทาง



      คนที่รู้สาเหตุแล้วว่าเพราะอะไร แผนที่วางไว้ถึงล้มไม่เป็นท่า



      แม็คมีใจให้เนมเป็นที่เรียบร้อย...



      แม็คชอบสัมผัส ชอบกอด ชอบจูบ ชอบทุกอย่างที่มาจากเนม เขาชอบเห็นเนมออดอ้อน ตามใจกัน เนมทำตัวดีน่ารักไม่ต่างกับทาสในเรือนเบี้ย

 

      และยามใดที่ห่างกัน ยามนั้น แม็คคิดถึง



     นึกถึงช่วงเวลาคบกัน ถ้อยคำจริงใจหวานหูที่ออกมาจากปากพร้อมรอยยิ้มสดใส

 

'ฝันดีนะ'


'เจ็บไหมเจ็บนะ แต่เรายอมเพื่อแม็ค'


'ถ้าแม็คจะเซ็กซ์หมู่เราก็ยอม'


'แค่แม็ค แค่แม็คคนเดียว เราไม่เคยยอมให้ใครมากัดจนเป็นรอยแบบนี้นะ'


'ไม่เป็นไรหรอกแม็ค รอยที่แม็คกัดมันก็อยู่ในร่มผ้า ถึงจะเป็นแผลเป็นก็ยอม เท่ดี เป็นคนมีเรื่องราว ฮ่าๆๆ'


'แม็คอ้ะอ้าาา เอาเข้ามาอีก ลึกอีก อ้ะ อ้า เสียว'


'แม็คจูบกัน'


'อยากจูบอีก ขออีกนะ'


'เราคิดถึงแม็คมากจริงๆนะ แม็คอยู่ไหนเหรอ?'


'ขอบคุณแม็คนะที่ให้เรามาอยู่ด้วย'


'รักแม็คนะ แม็ครักเรามากแค่ไหนน้า'

 

        คนที่เพิ่งเห็นว่าเขามีค่าก็ต่อเมื่อสายไป

 

       พอเนมจะไป ถึงรู้อย่างลึกซึ้งว่าเนมได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันไปแล้ว

        เนมอยู่กับผมเถอะนะ...อย่าไปจากผม ขอร้อง...



 "กูไม่ให้มึงไป มึงต้องอยู่กับกู"

 

"อยู่ทำไม? ในเมื่อแม็คไม่ได้รักเราอยู่แล้วนี่ แม็คคิดแก้แค้นเราไม่ใช่เหรอ? เราเจ็บแล้วแม็ค เจ็บแล้วจริงๆ ปล่อยเราไปเถอะนะ"





       คำที่แม็คก็พูดไม่ออก ได้แต่คิด ...

       ใครบอกไม่รัก ผมรักเนมนะ รักมากด้วย



"ถ้ามึงยังดึงดันจะไปก็ได้"

 
         แม็คบอกและกระชากแขนเนมพร้อมเปิดตู้เสื้อผ้า เนมรู้ว่าแม็คคิดจะทำอะไรจึงดิ้นสะบัดและขืนตัวสุดแรงเกิด


"แม็คจะทำอะไร? อย่านะเว้ย เราไม่เล่น เรากลัวนะ"



      ไม่อยากทำก็ต้องทำ เพราะใจกลัวว่าเนมจะไปจากกันจริงๆจึงประวิงเวลาไว้ให้นานที่สุด แม็คต่อยเข้าตรงโหนกแก้มย้ำแผลที่โดนโทรศัพท์กระแทก


ผัวะ...

 

"มึงอยู่ในนั้นจะได้ไม่ไปร่านใส่ใครอีก"



        อยู่กับผมอีกนิดนะเนม ขอเวลาให้ผมคิดหาทางดึงเนมกลับมาก่อน...

        แต่ไม่... เราจะไม่เลิกกัน....







...............................

สงสารแม็คนะ ทำตัวเองทั้งนั้น งืัอออออ!   

 สับสน / ศักดิ์ศรี / ปากหนัก / ทิฐิ   :กอด1: :กอด1:

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ   
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 11.2 [20-10-18] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 20-10-2018 22:39:25
 :pig4: :pig4: :pig4:

อ้าววววววว   

จำเลยรัก เวอร์ชันดัดแปลงตอนจบ  อิอิ
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค)ตอนที่ 12 จบ [11-12-18] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 11-12-2018 19:08:33
ตอนที่ 12 คนที่สาม (ตอนจบ)










.

"หนึ่ง สอง สาม สี่ เอารึยัง?"


"เอาเลย"


 

    วันที่ไม่มีผู้ปกครองคอยคุมเข้ม เด็กๆจึงเล่นกันอย่างสนุกสนาน ตอนนี้ เนม น้ำ หมี(การ์ตูน) กำลังเล่นซ่อนหา ที่บ้านของการ์ตูน สองพี่น้องหาที่ซ่อน เมื่อได้ก็รีบตะโกนให้คำตอบกับคนที่โดนปิดตาฟุบหน้าลงผนัง

 

      เนมซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้าที่ทำจากไม้เนื้อแข็ง บานตู้เสื้อผ้ามีร่องซี่ถี่ พอให้มีอากาศหายใจและเห็นด้านนอกอยู่บ้าง




      ด้วยความที่ตู้สี่เหลี่ยมคับแคบและอัดแน่นด้วยเสื้อผ้าเริ่มทำให้เด็กซนชักอึดอัด นานเกินไปที่ยังไม่มีใครมาหา เนมเริ่มกลัวและหายใจไม่ออก สองมือน้อยผลักประตูแต่ผลักเท่าไหร่ก็ผลักไม่ออก เนมจึงทุบประตูรัวๆและส่งเสียงร้องตะโกนแต่ก็ยังไร้เสียงฝีเท้าของคนที่จะเข้ามาช่วย

 

      ในขณะเดียวกัน พ่อแม่ของการ์ตูนที่ไปทำธุระด้านนอกเดินทางกลับมาถึงพอดี  การ์ตูนที่โป้งแปะน้ำได้แล้ว จึงวิ่งแจ้นไปหาแม่ข้างล่าง ยามที่แม่ตะโกนเรียกชื่อตนเอง การ์ตูนทำจมูกฟุดฟิดๆ เมื่อได้กินพิซซ่าหอมลอยโชยมาแต่ไกล เด็กน้อยตื่นเต้นดีใจที่ได้เห็นของกินสุดโปรด ยืนรอแม่เปิดกล่องพิซซ่าเพื่อรอตัดแบ่ง จากนั้น เขารีบเทซอสมะเขือเทศลงบนพิซซ่าก่อนจะงับเข้าปาก แม่ที่เห็นน้ำยืนเก้ๆกังๆตรงกรอบประตู จึงเรียกให้มากินด้วยกัน

 

"เนมล่ะ" การ์ตูนถาม


"ฮะ?"


"น้ำยังไม่โป้งเนมเลย เนมอยู่ไหน?"

 

       สาวน้อยลืมไปว่า ถ้าตูนโป้งเธอแล้ว เธอต้องเป็นฝ่ายหาต่อ

 

"ซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้า"

     ทันใดนั้น การ์ตูนปล่อยพิซซ่าจากมือ วิ่งขึ้นบันไดไปหาเนมที่ห้องทันที

 

      เด็กน้อยดึงประตูตู้เสื้อผ้าไม่ออก พอกดสายตามองตรงใต้ที่จับถึงรู้ว่าตู้เสื้อผ้าล็อก รีบบิดลูกกุญแจ เปิดประตูพบเนมนั่งฟุบหน้าลงกับเข่าและเสียงสะอื้น



     ร่างน้อยสั่นระริก ท่อนแขนที่โผล่พ้นแขนเสื้อชื้นเหงื่อจนการ์ตูนรีบดึงเนมออกมา



"ฮืออออ ทุกคนแกล้งเนม ทุกคนเกลียดเนม"


"ไม่ใช่นะ ไม่ใช่อย่างนั้น พี่ขอโทษ
" การ์ตูนลูบผมชื้นเหงื่อ มองเด็กที่เงยหน้ามาตาแดงๆและน้ำตานองหน้า น้ำมูกใสไหลย้อยลงมาถึงขอบปาก

 
"ไหนว่าพี่หมีจะไม่ทิ้งผม พี่หมีทิ้งผม ทิ้งผม"
 

"พี่ขอโทษ จากนี้ พี่จะไม่มีวันทิ้งเนมอีกแล้ว"


     คำสัญญาที่ตูนบอกในวัยเด็ก หารู้ไม่ว่ามันทำให้เนมฝังใจมาโดยตลอด

.

.


"ฮึกฮืออออ พี่หมี พี่หมีช่วยผมด้วย"

 


       กลับมายัง ปัจจุบัน ในตู้เสื้อผ้า เนมนั่งตัวสั่นเทา ทั้งกายชุ่มโชกด้วยเหงื่อ เขากัดปากจนเจ็บและหลับตาอธิษฐานพร้อมนึกใบหน้าพี่ตูนให้มาช่วย เนมทุบประตูเท่าไหร่ แม็คก็ไม่ยอมเปิดให้ อ้างแต่คำเดิมซ้ำๆว่าให้เนมถอนคำพูดว่าเลิกกับแม็คก่อน แล้วจะยอมเปิดประตูให้


       เนมนั่งงอตัวคุดคู้ด้วยสภาพไม่เอื้ออำนวย และเพราะบานประตูที่ทึบแทบไร้ช่องอากาศจะแทรกเข้ามาให้ได้หายใจ เนมพยายามฮุบอากาศเท่าที่มีอันน้อยนิดเข้าปอดให้ได้ และเหมือนจะไม่ไหว


      ได้ยินเสียงโครมครามดังจากด้านนอกและทันใดนั้น

 

ฟึ่บ!

 

      บานตู้เสื้อผ้าถูกเปิดออก ตูนโน้มตัวไปกอดเนม และลากเนมออกมาจากที่คับแคบ ทั้งสองทิ้งตัวลงไปนั่งกองที่พื้นห้อง

 
"ไอ้แม็ค น้องเขากลัวที่แคบ ทำไมมึงถึงทำแบบนี้วะ ห้ะ?"
ตูนตวาดใส่แม็คที่ยืนกุมปากตัวเองหลังจากเพิ่งผ่านสงครามการชกต่อยขนาดย่อม และเป็นตูนที่ตั้งหลักได้ก่อนจึงวิ่งมาเปิดประตูตู้เสื้อผ้า

 

"ได้เอาทีเดียว หลงกันขนาดนี้? มึงแม่งน่าไม่อายสัด ตีท้ายครัวแฟนเพื่อน"

 

"ยอมรับว่ากูรักเนม แต่กูไม่เคยคิดจะเข้าไปเป็น 'มือที่สาม' และกูไม่เคยยุแยงให้เนมเลิกรักมึงด้วยซ้ำ"





"...."

 

"มึงจะต่อยกู กระทืบกูก็ได้ กูจะไม่สู้ ขออย่างเดียว อย่ารั้งเนม ให้เนมได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขสักที" ตูนบอกเพื่อน มิวายลูบหลังลูบไหล่เพื่อปลอบประโลมเนมที่ซุกเข้าหาอ้อมกอด เหมือนลูกนกหลงรัง



"....."

 

     หากถามความรู้สึกของแม็คตอนนี้ ยอมรับว่าโมโหมากจนอยากวิ่งไปซัดหน้าเพื่อน แต่ความเป็นจริง ทำได้แค่ยืนนิ่ง ท่อนขาที่แข็งแรงจู่ๆก็กลับขยับไม่ได้ เหมือนโดนทรายดูด มีคำมากมายอยากพูด อยากด่ามากมายแต่กลับจุกในคอ แม็คกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดขึ้น

 

       ทำไมวะ ทำไม? ทำไมกูไม่พูดความจริงให้เร็วกว่านี้ ทำไมกูพลาดโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ โอกาสที่จะได้เนมอยู่เคียงข้าง

 

       ในเวลาคับขันเช่นนี้ แม็คยากที่จะตอบสิ่งสำคัญได้ในเวลาฉับพลัน เขายืนสับสน มองเนมในอ้อมกอดเพื่อนด้วยความเจ็บใจ แม้สายตาจะจดจ้องมองเนมนานเท่าไหร่ เนมก็ไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากันสักนิดเดียว

 

"ถ้ามึงจะไม่พูดอะไร ก็กลับไปก่อน กูขอ"

 


"....."

 
      แม็คยังยืนนิ่งเหมือนคนโดนค้อนทุบหัว เขาไม่ขยับเขยื้อน จนกระทั่ง ไม่นานนัก โทรศัพท์มือถือของแม็คก็ดังขึ้น เจ้าตัวละสายตาจากเนม ล้วงหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง

 

"ครับพ่อ" / อ้อครับ ได้ครับ"

 

     แม็ควางสายแล้วมองตูนด้วยแววตากรุ่นโกรธ ก่อนบอกเนม

 

"ไม่กี่วันนี้ ผมจะมารับนะ เนม"



"มะ..
." เนมรีบตอบปฏิเสธ แต่ตูนบีบแขนให้เงียบ เพราะถ้าขืนพูดตอนนี้ มีหวัง แม็คได้ระเบิดลงอีกรอบแน่

.

.

.

       หลังจาก แม็คคล้อยหลังไป เนมมองพร้อมลูบรอยฟกช้ำนิดหน่อยบนใบหน้า และลุกขึ้นจะหาอุปกรณ์ทำแผลมาช่วย แต่ตูนไม่อยากให้เนมเป็นห่วง จึงกำชับให้เนมไปนอนพักส่วนตูนดูแลตัวเองได้ จนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง คนที่ทำแผลตัวเองเสร็จก็มานอนเฝ้าพร้อมพักสายตาอยู่บนเตียงก็สะดุ้งเมื่อเนมกระตุกมือที่ตูนจับไว้



"พี่ตูน" คนที่เพิ่งตื่นสะลึมสะลือ ปรือตาบวมตุ่ยมามองพี่ตูนที่นั่งพิงพนักเตียงด้วยอาการเพลียไม่ต่างกัน

 

"เป็นไงบ้าง? โอเคขึ้นไหม?"

"โอเคขึ้นพี่"



"นั่นเราออกไปหาอะไรกินกัน"


"พี่ตูน พี่ว่าผมเลวมากไหม? แทนที่ผมจะบอกเลิกกับแม็คก่อนจะไปมีอะไรกับพี่"



     ในชีวิตคนเรามักทำเรื่องผิดพลาดกันได้ เฉกเช่นเนมที่มานั่งนึกเรื่องก่อนหน้าด้วยความรู้สึกผิด ไม่แปลกที่แม็คจะโกรธจนอาละวาดเมื่อรู้ความจริง หากคืนนั้น เนมคุมสติ ไม่ใช้อารมณ์นำเหตุผล เรื่องก็คงไม่บานปลายขนาดนี้ แม้รู้ว่ามันสายเกินแก้ แต่พอย้อนกลับไปคิด ก็กลายเป็นตราบาปที่ชวนรู้สึกผิดทุกครั้ง


"มันผ่านมาแล้ว ช่างมันเถอะ จากนี้ก็ยอมรับกับสิ่งที่ทำแล้วกัน"

"พี่ตูน พี่โอเคไหม? ที่อดีตผมไม่ดีเท่าไหร่ แถมยังเคยเป็นแฟนเก่าเพื่อน.."





"ทุกคนล้วนมีอดีตทั้งดีและแย่กันทั้งนั้น จะมัวมานั่งวิตกกังวลทำไมในเมื่อเรากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว จากนี้ เนมก็ทำวันนี้ให้ดีที่สุดแล้วกัน"

"ขอบคุณนะที่พี่ตูนเข้าใจและเลือกที่จะคบผม"

 


"อืม ไม่ต้องคิดมากนะเนม อดีตก็คืออดีต มันผ่านมาแล้ว"


"ครับ จากนี้ ผมจะทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่อเราสองคนนะครับ"



.

.

.

      ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องมา แม็คไม่ได้โทรหาเลย มีเพียงข้อความเดียวที่ส่งมาให้เนมและเจ้าตัวก็อ่านทวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
 

      'ผมให้เวลาเนมคิดสักพักแล้วจะกลับไปเอาคำตอบ ขอโทษสำหรับที่ผ่านมา ถ้าเป็นไปได้ ให้อภัยผมสักครั้ง และเรากลับมาเป็นแฟนกันนะ..แม็คคิดถึงเนมนะ"

 
      จุ๊บ

 
       คนที่นั่งเปิดค้างข้อความไว้ สะดุ้งเฮือก เมื่อพี่ตูนกดจูบลงบนกลางกระหม่อม หลังจากเราสองคนเพิ่งผ่านเช้าที่ดุเดือดเป็นพิเศษมาไม่นาน โดยพี่ตูนอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเนมที่ยังเอ้อระเหย ลอยชาย ไม่ยอมอาบน้ำ ใส่เพียงบ็อกเซอร์ตัวเดียวอยู่บ้าน พี่ตูนวางมือบนไหล่เนมพร้อมนั่งลงข้างๆที่ปลายเตียงและเอ่ย
 

"คิดถึงแม็ค?" ถามเพราะสายตาเหล่มองหน้าจอเครื่องมือสื่อสารที่มีข้อความยาวเหยียด ตูนจับใจความไม่ได้ว่าข้อความนั้นเขียนว่าอะไร แต่สิ่งที่เขามองเห็นอย่างชัดเจนก็ตรงท้ายประโยคว่า แม็คคิดถึงเนม ยิ่งทำให้ตูนใจสั่น วูบหวิวอย่างบอกไม่ถูก


      หันไปหาพี่ตูนที่พูดน้ำเสียงปกติ แต่เนมก็รู้นะว่าภายใต้สุ้มเสียงนั้นซ่อนความน้อยใจไว้มากน้อยแค่ไหน...


"ก็ใช่ แต่ไม่ได้คิดถึงแบบนั้น"

"....."
 

      พี่ตูนเงียบกริบ แม้ใบหน้าจะเต็มไปด้วยรอยยิ้มอบอุ่น แต่ดูออกว่าแสร้งยิ้ม เนมจึงโน้มตัวไปหอมแก้ม มือเรียวก็เอื้อมมือไปจับมือพี่ตูน


"พี่น้อยใจเหรอ?"



"....."

 

     จากตอนแรกอยากขอคำปรึกษาเรื่องข้อความที่แม็คส่งมา เนมเปลี่ยนใจ เก็บโทรศัพท์มือถือเข้ากระเป๋า

 
"ผมตัดสินใจแล้วว่าจะคบพี่ก็คือคบ ผมไม่เปลี่ยนใจหรอกครับ"

"ทำไมน้ำเสียงดูไม่มั่นคง"


"พี่ตูนเชื่อผมสิ"

 

"พี่ล้อเล่น ไปทำงานก่อน แล้วเนมจะโดนไล่ออกไหม? หยุดติดกันมาสี่วันแล้วนะ"

 

"ไม่หรอกพี่ ผมใช้วันลาพักร้อนน่ะ"


"เนม มาทำงานบริษัทพี่ไหม?"



     เนมมองคนเปลี่ยนเรื่องปุปปับ แต่สายตาพี่ตูนยังแสดงออกถึงความเป็นห่วง เป็นใย


"ไหนว่าบริษัทพี่ รับคนมีความสามารถไง"
 


"ใช่ แต่ก็เคยบอกไปว่า เจ้าของบริษัทโสด"
 

      เนมถึงบางอ้อ ร้องอ๋อออกมาทันที


"ร้ายว่ะพี่"

"หึหึ...พี่ไปทำงานก่อน มีอะไรโทรมา"


"ครับ ผมนอนรออยู่นี่นะ"

"รออะไร? ช่วยขยายความให้ชัดเจนด้วยครับ"
 
"อยากให้รออะไรก็รออย่างนั้น"


"หึหึ แล้วจะไม่ผิดหวังที่รอ"


      เห็นสายตาหื่นๆที่ชัดแจ้งขนาดนั้นก็เพลียใจ ได้แต่หัวเราะกลบเกลื่อนแล้วตบท้ายด้วยการต่อว่าแก้เขิน


"ทะลึ่งว่ะ
 

     ตูนกลั้วหัวเราะ พร้อมเดินลงบันไดมาด้วยรอยยิ้ม เมื่อนึกถึงใบหน้าแดงๆ เก้อเขินบนเตียง แล้วอยากจับฟัด แต่ก็กลัวจะเสียเวลาไปกันใหญ่ จึงต้องข่มใจเดินลงมาข้างล่างเพื่อเตรียมตัวไปทำงาน สวมรองเท้าอยู่ตรงหน้าบ้าน สองเท้าชะงักงันเมื่อสายตาพลันเหลือบเห็นนอกบ้าน พบเพื่อนของตัวเองยืนกอดอกพิงรถยนต์มองเข้ามาในบ้าน ตูนก้าวไวๆเดินไปหาแม็คที่ใบหน้าดูไม่สู้ดีนัก

"เนมอยู่กับมึงไหม?"

"อยู่"

"กูขอคุยกับเนม"

 


   ตูนให้เกียรติเนมด้วยการไว้ใจและเชื่อมั่นในคำบอกว่า ปัจจุบัน เนมเลือกเขา ในวินาทีนั้น ตูนจึงตัดสินใจเปิดประตู แล้วบอก


"เดี๋ยวกูเรียกให้"


"เนมนอนอยู่ห้องมึงใช่ไหม? ขอกูขึ้นไปหาเนม"

 

     ใจกระตุก คงเพราะความหึงหวง ครั้นจะไม่ให้แม็คขึ้นไป เรื่องราวก็คงไม่จบสิ้นสักที จึงตัดสินใจตอบรับ

"ตามใจ"

.

.

.
    ถึงชั้นสองของบ้าน มือหนาบิดลูกบิดแล้วเปิดประตูห้องนอนของตูนก็พบคนที่นอนสวมกางเกงขาสั้น ท่อนบนเปลือยเปล่า นึกใจสั่นหวิว แม็คเสียใจที่รอยประทับที่เคยฝากไว้บนเรือนกายอีกฝ่าย มันจางหายกลับกลายเป็นรอยของคนอื่นที่เข้ามาทับแทนที่


    รอยสีกุหลาบสดใหม่ถูกประทับทั่วไหล่และแผ่นหลัง จนไม่สามารถละสายตาได้ แม็คเดินเข้าไปใกล้ขึ้นๆ จนกระทั่ง สองเท้าหยุดอยู่ที่ริมเตียง

 
   เนมรู้สึกเหมือนมีคนอยู่ในห้อง และเจ้าตัวคิดเอาเองว่าคงเป็นพี่ตูนที่ขึ้นมาเอาของ


"ลืมของหรอครับ? ที่รัก" เนมตั้งใจแกล้งพูดหวานยั่วแฟนตัวเอง แต่พอหันหลังไปชะงัก เขาเด้งพรวดลุกขึ้นนั่ง


"มะ...แม็ค?"

"น่าอิจฉาไอ้ตูน เนมไม่เคยเรียกผมว่าที่รักสักครั้ง"


    เนมเม้มปากแน่น ก้มหน้า



"....."

 
    แม็คทิ้งตัวลงนั่งข้างๆแต่เนมกลับถอยกรูดจนหลังชิดพนัก


"รังเกียจผมขนาดนั้นเลยหรอ?"


"เปล่าแม็ค...แค่..."

"เนม เกลียดผมมากไหม?"

"เราไม่เคยเกลียดแม็คนะ เพียงแค่...แค่เราเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมา ที่เราโดนหลอก เราเสียแรงที่ไว้ใจแม็ค"

 

"ตอนแรกผมต้องการแก้แค้นเนมก็จริง แต่พอได้ใกล้ชิด ได้รู้จักตัวตนเนม ผมถึงรู้ตัวว่า ผมรักเนมเข้าแล้ว หลายครั้ง ผมสับสนและพยายามฝืนใจไม่ให้รักเนม และบอกตัวเองว่าผมต้องแก้แค้น ผมถึงลองมีคนอื่นดู แต่มันกลับไม่ช่วยอะไร มันกลับยิ่งอยากอยู่กับเนม พอห่างกันก็คิดถึง ผมเกลียดตัวเองที่ผมรู้สึกแบบนี้ แต่ผมรักเนมจริงๆ"

 

"พูดตอนนี้ก็เปล่าประโยชน์ เราคบพี่ตูนแล้ว และไม่อยากทำร้ายใจพี่ตูน เพราะเขาดีกับเรามาก"

 

   เนมพูดความจริง เพราะไม่อยากให้ความหวังแม็ค อีกอย่าง ในหัวใจเนมตอนนี้ ก็แคร์ความรู้สึกของพี่ตูนมากกว่า แต่ก็ไม่คิดไงว่า การบอกความจริงกับคนตรงหน้าจะทำให้แม็คเสียน้ำตาและเป็นครั้งแรกที่เนมได้เห็น ฟากแม็ครีบเงยหน้าขึ้น เม้มปาก ก่อนจะปาดน้ำตาแรงๆ


"ไม่ทันแล้วใช่ไหม?"

"ไม่ทันอะไร?"

 

"เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ทันแล้วใช่ไหม?"

"เราไม่รู้แล้วว่าอะไรคือเรื่องโกหกหรืออะไรคือเรื่องจริง เราไม่อยากคบไป ระแวงไปหรอกนะ แม็ค"

 
   แม็คกลั้นน้ำตาไว้ได้แล้ว เขาใช้ปลายนิ้วไต่ไล่ตามจุดบนเรือนกายของเนมที่เคยทำร่องรอยไว้ในอดีตแต่บัดนี้มันถูกลบเลือนไปจนหมดสิ้น
 

"จากนี้ คงไม่มีรอยของผมแล้วสินะ"


"...."

"ผมอยากจูบเนมเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหม?"

"ไม่ได้หรอก เรามีแฟนแล้ว"


"ถ้ากอดล่ะ"


   เนมพยักหน้า แม็คจึงดึงเนมไปกอด


"แม็ค การแก้แค้น มันไม่ดีกับใครเลยนะ ถ้าแม็คเข้าหาเราโดยไม่แก้แค้นหรือยอมบอกความจริงตั้งแต่แรก ความสัมพันธ์ของเราอาจดีกว่านี้"

"ขอโทษ"


"การใช้ความโกรธแค้นนำทางชีวิตคู่มันไม่โอเคหรอก แต่อย่างน้อย เราก็ดีใจที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นแฟนแม็ค และแม็คก็เคยดูแลเราเป็นอย่างดี"
 

"ผมจะรอเนมนะ"

"อย่ารอเลย เราคงไม่เลิกกับพี่ตูนง่ายๆ"

    เนมดันแม็คออกห่าง จากนั้น ต่างฝ่ายต่างนั่งมองหน้ากันโดยไม่พูดอะไร ฟากเนมคิดว่าแม็คก็คงเสียใจและอึ้งในคำตอบที่ชัดเจนอยู่เหมือนกัน เนมไม่ได้ไล่แม็ค เพราะรู้ดีว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ทั้งสองได้พบหน้า จึงปล่อยให้แม็คใช้เวลาใคร่ครวญ เผื่อต้องการพูดความในใจอะไรออกมาอีก แต่ทว่า เวลาผ่านไปได้สักพักใหญ่ๆ แม็คไม่พูดอะไร นอกจากขอกอดเนมอีกครั้งตรงหน้าประตูห้องนอน ก่อนขอตัวกลับ


    ทั้งสองลงมาถึงชั้นล่าง ผ่านส่วนนั่งเล่นที่พี่ตูนนั่งรออยู่ แม็คปรี่ไปคุยกับพี่ตูนเป็นการส่วนตัว ปล่อยให้เนมยืนมองอยู่ห่างๆ ระหว่างที่แม็คและพี่ตูนพูดคุยกันนั้น แลดูใจเย็น ไม่โวยวาย ไม่เดือดดาลดั่งแต่ก่อน จนกระทั่ง แม็คหายลับไปจากลานสายตาจริงๆนั่นแหละ เนมถึงเดินไปหาคนรักเพื่ออยากถาม แต่ยังไม่ทันจะได้อ้าปากพูด พี่ตูนก็ชิงพูดก่อน เนมเอียงคอมองแฟนตัวเองที่จู่ๆก็โพล่งขึ้นมาไม่มีต้นสายปลายเหตุ


"ร้อนเนอะ?"

"พี่ไม่สบายเหรอ? ไม่เห็นร้อนเลย แอร์ก็เย็นดีออก"


"ถ่านไฟเก่ามันร้อน รอวันรื้อฟื้น แล้วคนมาทีหลัง ต้องทน ต้องฝืน..."

 

"กวนตีน แล้วนี่ไม่รีบไปทำงาน?"

"เวลานี้ ไม่มีอะไรสำคัญเท่าคนรัก"
 
"หืมมมม? ได้ข่าวว่าบริษัทยังไม่ได้กำไร"

"อืม เราก็มากัดก้อนเกลือกินด้วยกันไง รักแท้ เขาให้ดูกันตอนลำบาก"

"โอ้ยยยพี่ตูน...ยังมีแก่ใจจะมาเล่นอีก ไปทำงานเลย เดี๋ยวสาย"

"เนม แน่ใจนะว่าไม่เสียดายที่แม็คมาง้อ"

 

      เริ่มงงกับนิสัยแฟนตัวเองที่ขึ้นๆลงจนปรับตัวตามไม่ทัน บทจะเฮฮาก็เฮฮา บทจะมาดขรึมก็วางตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียว

 
"ไม่เสียดายครับ ว่าแต่เมื่อกี้ พี่คุยอะไรกัน"

"อยากรู้?"

"อืม"


     เนมหน้าแดงก่ำ เมื่อเห็นพี่ตูนยื่นหน้ามาใกล้และกระซิบเสียงแผ่วแต่ฟังแล้วชวนสยิว

"แม็คบอกว่า ถ้าเนมใกล้เสร็จจะชอบจิกหลัง อืมม...ก็จริงอย่างที่มันพูด"

"แม่งพูดอะไรกันวะ ไร้สาระว่ะ ผมไปอาบน้ำก่อนนะ"

 


   มองคนหน้าแดงแล้วเดินไป ก็ได้แต่อมยิ้มแล้วนึกถึงคำเพื่อนที่รอบนี้ ตูนสัมผัสได้ว่าแม็คพูดจากใจ

 
'อย่าเหี้ยเหมือนกู รักและดูแลเนมให้ดีมากกว่าที่กูเคยทำ ถ้าไม่ดี กูจะมาทวงคืน'

 

    ถึงต่อให้แม็คไม่บอก ตูนก็ตั้งใจดูแลเนมให้ดีที่สุดอยู่แล้ว



    ตูนผุดรอยยิ้มก่อนจะเดินตามไปหาเนมหวังขอสักจูบก่อนไปทำงาน

 

    บางครั้งการเป็นคนที่สามหรือมาทีหลังก็ใช่ว่าจะพ่ายแพ้เสมอไป...ทุกอย่างก็คงขึ้นอยู่กับจังหวะ โอกาส และปัจจัย แม้ว่า ความสัมพันธ์ของเนมและตูนจะเกือบเป็นไปไม่ได้ แต่พอเคลียร์ทุกอย่างลงตัว จนตูนได้รับความรักมา ตูนย่อมไม่พลาดที่จะดูแลและรักษาความสัมพันธ์นี้ให้ดีตราบเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้ด้วยหัวใจที่มี...และจะทำวันนี้ให้ดีที่สุด...



.................จบบริบูรณ์ .................

 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

 ขอบคุณที่ช่วยเป็นกำลังใจ เข้ามาติดตามและเข้ามาอ่านกันนะคะ
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะได้พบเจอกันในเรื่องอื่นน้าาาา
ขอบคุณมากมายจ้า
rinyriny
 
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 12 จบแล้ว [11-12-18] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 11-12-2018 19:33:18
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 12 จบแล้ว [11-12-18] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 16-12-2018 01:56:04
 :pig4:
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 12 จบแล้ว [11-12-18] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-12-2018 12:39:33
แม็ค เข้าหาเนมอย่างไม่จริงใจ มีแผนร้าย
และทำแต่เรื่องหลอก หลอกคบ  มีเซ็กส์ที่รุนแรง และนอกใจ
แล้วตัวเองตกในหลุมที่ตัวเองขุดซะเอง
การแก้แค้นก็ทำไม่ถูกคน......... ทำกับคนบริสุทธิ์
......... สมแล้วที่ต่อมาเนมจะไม่เชื่อใจ  :fire: :angry2: :serius2:
อยู่กับความผิดหวังเพราะใจที่ร้ายกับคนดีไปเถอะ  :z6: :z6: :z6:

ตูน  เนม   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: 
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 12 จบแล้ว [11-12-18] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 16-04-2020 14:10:07
 :pig4:
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 12 จบแล้ว [11-12-18] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 03-05-2020 16:51:44
เออก็สนุกดีนะ ทุกคนเทาๆ พอกันทั้งสามคนอะแหล่ะ  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 12 จบแล้ว [11-12-18] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Freezz ที่ 24-05-2021 00:19:02
พอกันทั้งสามคนเลย 5555
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 12 จบแล้ว [11-12-18] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 25-05-2021 02:04:36
ความผูกพันมาแต่เด็ก อบอุ่นจังพี่ตูน
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 12 จบแล้ว [11-12-18] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Maeo ที่ 29-05-2021 05:04:14
 :pig4:
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 12 จบแล้ว [11-12-18] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Eakkadoor ที่ 31-05-2021 00:17:43
มันสนุกเข้มข้น แต่ก็จุกไปในเวลาเดียวกัน
เพราะเริ่มต้นด้วยความแก้แค้น เลยจบแบบไม่สวยงาม
หัวข้อ: Re: ||*..--+--..*คนที่สาม*..--+--..*|| ตอนที่ 3 [12-9-18]
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 10-01-2022 04:28:02

 "ดาวน์ออฟเดอะเดธ" Dawn of the Dead
ดอว์นออฟเดอะเดธ
หัวข้อ: Re: *..--+--..*คนที่สาม*..--+--..* เนม-ตูน(แม็ค) ตอนที่ 12 จบแล้ว [11-12-18] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: PanGii ที่ 10-01-2022 22:49:51
กาแก้แค้นไม่ทำให้จบสวยจริงๆค่ะ