[แจ็ค/เท็น] ตอนพิเศษ | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/7/62)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [แจ็ค/เท็น] ตอนพิเศษ | เรื่องของเราไม่เกี่ยวกับวงไพ่ #ญอผู้หญิงโศกา (12/7/62)  (อ่าน 65261 ครั้ง)

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
อ่ะเพื่อนก็เพื่อนจ้าาาา  :hao7:

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
อยากให้เค้ามีความสุขกันสักที :hao5:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
สกิลความเนียน

หนาแน่นมากค่ะคู่เพื่อน

อย่าลืมนัดต้มมาม่าเมนูเด็ดอีกนะ

อย่าลืมซักผ้ากันด้วย

ออฟไลน์ gibari

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ใคร!!!!!!
ฝีมือใครสาดเหล้าคะ!!!!!!!
อย่าให้เจอ เดี๋ยวจะเอาตรงแง่งของทีคีบน้ำแข็งตีมือให้ โทษฐานเล่นไรไม่รู้เรื่อง แง่งงงงงงง

ทั้งๆที่ดูเหมือนว่าใจตรงกันแล้ว แต่การก้าวข้ามเฟรนด์โซนของทั้งคู่ โดยที่ต่างฝ่ายต่างก็ไม่รู้ ว่าตัวเองอยากขยับสถานะจากที่เป็นอยู่แค่ไหน ถ้าได้รู้ ได้ใครซักคนมากระตุ้นให้เกิดความกล้า เรื่องมันก็อาจจะแฮปปี้ได้ง่ายขึ้นล่ะนะ!

แต่ก็เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดยังไง มันเลยอยู่สถานะที่กระอักกระอ่วนแบบนี้... แบบมันจะเป็นยังไงก็ได้ แค่ขอให้ไม่เสียอีกฝ่ายไป ยอมเก็บความรู้สึกบางอย่างไว้ เพื่อให้สถานะที่ได้รับอยู่ตอนนี้ ไม่ถูกลดลงไปกว่าที่เป็นอยู่

โง้ยยยย สงสารน้องเท็น ยอมให้คนทั้งโลกด่ายังไงก็ได้ แค่ไม่เสียแจ็คไปปปปป ทำไมมันปวดหน่วงในใจจังเลยล่ะคะ แง้~~~~~~~ T.T

ขอโบกแท็กซี่ไปแม็คโครก่อน ว่าจะเหมามาม่าให้แจ็คกับเท็นก่อนที่ตอนต่อไปจะมานะคะ!!

ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0



#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 19
โคม่า (PART 2/2)



แจ็คไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้ตัวเองเมาเพราะเขามักจะเป็นคนเก็บศพคนอื่นอยู่เสมอเมื่อตั้งวงเหล้า แต่ก็ต้องยกเว้นตอนไปเที่ยวกับพวกขี้ซุยฯ ที่มีบอสไปด้วยครั้งแรก ตอนนั้นละเอาไว้ในฐานที่เข้าใจ ก็ถ้าอยู่ในจุดที่คิดว่าโอเค ทุกคนจะปลอดภัยโดยไม่โดนดักตีหัวข้างทางเขาก็พร้อมจะเมาได้ แต่โอกาสนั้นก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง

แต่วันนี้ก็เป็นอีกครั้งที่แจ็คได้ปล่อยตัวเองนอนมองท้องฟ้ามืดที่มีลมอ่อน ๆ ยามดึกซึ่งช่วยให้บรรยากาศตอนดื่มเหล้าดียิ่งขึ้นไปอีก ไอ้คนรักสัตว์หันไปเล่นกับหมาแมว แต่ก็ยังมีใจหันมาเติมเหล้าให้เขาอยู่เป็นระยะ

ไม่มีใครพูดถึงเรื่องจูบอีก ทั้งคู่แกล้งตายกันหน้าด้าน ๆ ทำเหมือนไม่เคยมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น หลัก ๆ ก็เป็นเพราะการกระอักกระอ่วนเวลาอยู่ด้วยกันมันไม่ใช่เรื่องที่ใครต้องการ

การจูบเพื่อนคือหายนะใหญ่ชนิดเทียบเท่ากับภัยธรรมชาติ ถึงจะแกล้งทำเป็นเฉยเหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่แจ็คพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำเลยว่าการมองปากไอ้เท็นหลังจากนี้ไปคงไม่เหมือนเดิมแล้ว

“ไอ้ธีร์ว่าไงบ้าง?”

“ไลน์มาบ่นชุดใหญ่ว่าปวดไข่ โดนล้วงจนช้ำ” ทันทีที่พูดจบทั้งคู่ก็หลุดหัวเราะออกมาพร้อมกัน

“แล้วมันบ่นเรื่องอยู่กับกูไหม?”

แจ็คส่ายหน้าเป็นคำตอบ “ไอ้โซ่ไม่สบาย วันนี้กูเลยรอดตัว”

“ถ้าไม่พลัดหลงกันมึงคิดว่าวันนี้จะจบยังไง?” เท็นอยากรู้ว่าเพื่อนจะคาดเดาไปทางไหน ส่วนเขาคิดว่าคงเป็นฝ่ายหนีกลับบ้านมากินมาม่าคนเดียวเพราะไอ้แจ็คคงโดนฝั่งนั้นโทรตามไปกินเหล้าด้วย

“จบที่ตรงนี้เหมือนเดิม”

“ไหงงั้น?”

“เพราะต่อให้ไม่หลงกันไอ้โซ่ก็ป่วยอยู่ดี แล้วไอ้ธีร์ก็คงไม่มีใจไปนั่งแดกอะไรทั้งนั้น เพราะมันจะนอนโอ๋กันจนกว่าเด็กจะหลับคาอก”

“เลี่ยนฉิบ คนอย่างมันมีโมเมนท์แบบนั้นด้วยหรือไง ก็พอจำได้หรอกว่ามันเทคแคร์สาวเก่ง แต่กับคนที่อยู่กันมาเป็นปีแล้วแถมยังเป็นผู้ชายอีก...?”

“เด็กผู้ชายอย่างไอ้โซ่มันทำไม?” แจ็คเลิกคิ้วถามเพื่อนที่กำลังสงสัยในความสัมพันธ์ ซึ่งเขาเองก็เคยคิดอย่างนั้นในช่วงแรกเริ่มเพราะกลัวว่าเพื่อนกับน้องจะไปกันไม่รอด

“ก็ไม่ยังไง กูแค่สงสัย”

“พูดมาเถอะ กูไม่ฟ้องไอ้ธีร์หรอก”

“ฟ้องก็ไม่กลัว เรียกมาสักร้อยธีร์ก็ยังได้”

“โอ้โห ร้อยธีร์เลยนะ?”

“ต่อยปากมึงด้วยร้อยที” เท็นกำหมัดโชว์ ไอ้คนยิ้มยากถึงเอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “กูแค่สงสัยว่าเด็กคนนั้นมีอะไรถึงหยุดคนอย่างไอ้ธีร์ได้ มึงก็รู้ว่ามันเคยเป็นยังไง”

“ก็ถูก แต่ตอนมึงหายไปมันก็คบแฟนคนเดียวมาตลอดนะ กลับกันแล้วที่ทำให้แฟนเก่ามันโกรธก็มีแค่เรื่องเกม ไม่ใช่เรื่องผู้หญิง” ไอ้แจ็คหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ “แล้วน้องกูก็แสนดีขนาดนั้น ถ้าไอ้ธีร์คิดว่ามีใครที่ทำให้มันสบายใจกว่า หรือทำให้มีความสุขกว่ามันคงไปแล้ว”

“พวกมึงไม่ช็อกเหรอที่อยู่ ๆ มันหันไปคบผู้ชายด้วยกัน?”

“ตอนแรกน่ะใช่ แต่รับได้” ไอ้แจ็คพ่นควันบุหรี่ แล้วปล่อยให้ความเงียบทำงานเหมือนอยากให้เขาใช้เวลานี้คิดไปด้วย “เราก็แค่ไม่ชินเวลาเห็นผู้ชายรักกับผู้ชาย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นตัวประหลาดนี่”

“แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะคิดแบบนี้ โลกเราหมุนด้วยสังคม โดยเฉพาะโลกที่มีอินเทอร์เน็ตขับเคลื่อนเร็วเหมือนลม”

“แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเก็บมาใส่ใจขนาดนั้นหรอก” ไอ้แจ็คยิ้มพลางยกเหล้าขึ้นดื่ม “ห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้ก็ห้ามความคิดตัวเองก่อน ห้ามไม่ให้ไปสนใจ ห้ามไม่ให้คิดมาก ห้ามทุกอย่างที่จะทำให้ความสุขหายไปจากตัวเรา”

“ที่พูดมามึงทำได้ไหม?”

“ก็ทำอยู่ ได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็ยังดีกว่าไหลไปตามสิ่งแวดล้อมจนหาจุดยืนให้ตัวเองไม่ได้” เท็นมองรอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้าเพื่อน “ถ้ามัวแต่สนใจว่าคนอื่นจะคิดยังไงหันกลับไปมองนาฬิกาอีกทีก็เสียเวลาไปเยอะแล้ว มึงคิดว่าไงล่ะ จะเสียเวลาไปกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ หรือจะใช้มันอย่างมีค่ากับคนสำคัญข้างตัว?”

“ใครที่ว่าสำคัญ มึงหรือไง?”

“ถ้าตอบคนอื่นมึงก็ตอแหลแล้วเท็น”

“โอ๊ย ๆ น้ำเข้าหู” เขาล้อเลียนอีกฝ่ายด้วยการทำท่าเขย่าศีรษะ ซึ่งไอ้แจ็คก็อมยิ้มพร้อมเอื้อมมือมายีผมเขาก่อนจะดึงหูจนต้องร้องโอดครวญ “โอ๊ย เจ็บ ๆ”

“ตัวมึงรุม ๆ นะ ไข้แดกอีกคนแล้วมั้งเนี่ย”

“เปล่า ร้อนเพราะเหล้า ไม่ต้องห่วงหรอก กูระดับคนเหล็ก”

“งั้นกินแก้วสุดท้ายแล้วไปนอน”

“สั่งเป็นพ่อเลย ยังเหลืออีกตั้งเยอะ ไม่จัดก่อนเหรอ?” เท็นมองเหล้าที่ยังเหลือเกือบครึ่งกลม

“เก็บไว้แดกวันหน้าสิวะ ทำเหมือนโลกจะแตกพรุ่งนี้”

“แต่พรุ่งนี้มึงไม่อยู่กับกูอะ”

“อยู่ โอเคไหม?” เขาตอกหน้ากลับไป ไอ้คนได้ยินก็ดูท่าจะพยายามกลั้นยิ้มอย่างสุดความสามารถแล้วแต่สุดท้ายมันก็ยิ้มกว้างอยู่ดี

“เบี้ยวนัดขอให้เจี๊ยวเล็ก”

“แช่งอีกร้อยครั้งขนาดมันก็เท่าเดิมอยู่ดี” แจ็คส่ายหน้าหน่าย ๆ

“หมายถึงเล็กอยู่แล้วนั่นเอง”

“ทำคนจุกได้แล้วกัน”

“เอาเรื่องว่ะ” เท็นจิ๊ปากพร้อมปรบมือรัวประทับใจ “อยากให้มึงพูดแบบนี้ตอนสตรีมบ้าง คาดว่าสาว ๆ คงตายเพราะความแบด”

“ใครจะไปพูดแบบนั้น กูมันคนวางตัวดี”

“พูดก็พูดเถอะ มึงลองคิดดูดิว่าถ้ากูคบกับผู้ชาย ตอนเปิดตัวจะมีคนตั้งกระทู้ด่ากูกับแฟนสักกี่ล้านกระทู้?” เป็นคำถามที่สร้างสรรค์ พอคิดดูว่าถ้าตนเองตกอยู่ในสภาพนั้นคำด่านับแสนก็ผุดขึ้นมาในหัวเลย บางคนคงเหยียดเพศ บางคนคงด่าไปเรื่อยเพราะเหตุผลเดียวคือเกลียดเขา

“เราจะไม่โดนใครด่าถ้าเราไม่เข้ากระทู้ ไอ้ธีร์เคยพูดไว้แบบนี้”

“ก็เพื่อนมึงสุดตีนไง เคยสนใจอะไรที่ไหนกัน?”

“ก็เพราะมันไม่สนใจไอ้อีหน้าไหน มันถึงได้มีความสุขโคตร ๆ จนถึงตอนนี้ไงล่ะ” ไอ้แจ็คยิ้ม “แล้วการรักกันมันไม่จำเป็นต้องบอกให้โลกรู้ก็ได้”

“มึงไม่คิดว่ามันน่าใจหายเหรอ ถ้ามึงบอกว่าไม่จำเป็นต้องไปสนใจสายตาคนอื่น แต่พอรักกันแล้วแต่กลับต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ”

“เรื่องนี้กูว่าแล้วแต่คนจะคิดนะ มันก็ดูเหมือนหลบ ๆ ซ่อน ๆ แต่ถ้ามองอีกแง่ เราก็แค่พาตัวเองออกมาในจุดที่จะทำให้ไม่สบายใจ มันก็แค่นั้น”

“แต่ไอ้ธีร์ก็โชคดีตรงที่สร้างเครดิตเรื่องผู้หญิงไว้เยอะ พอคบกับโซ่คนก็เลยมองว่าเป็นพี่น้องที่สนิทกัน”

“สองคนนั้นมันเข้าใจกัน ขอแค่มีกันและกันทุกวัน เป็นกำลังใจให้กันแค่นั้นก็พอ มันไม่ได้อยากลงรูปจับมือ ลงรูปวันครบรอบเพื่อให้ใครมาอิจฉา”

“หงุดหงิดว่ะ ทำไมคนอย่างมันถึงได้รับสิ่งดี ๆ มากกว่ากู”

“ตรงไหน ตรงที่มีไอ้โซ่น่ะนะ?”

“เออไง ตอนน้องปฏิเสธเข้าทีมกูก็โคตรหนักแน่น ถ้าเป็นเรื่องความรักก็คงไม่แพ้กันอะกูว่า”

“ก็ถูกของมึง”

“ใช่ไหมล่ะ ทีนี้กูอิจฉาเพื่อนรักมึงหรือยัง?” เท็นเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้ม มองคนข้างตัวระหว่างนึกไปถึงหน้ากวนส้นตีนของไอ้ธีร์ นึกอยากแช่งให้มันเลิกกันแต่ก็กลัวว่าเวรกรรมจะเข้าตัวสักวันหนึ่ง เพราะคนอย่างเขาคงไม่สามารถแช่งใครจนส่งผลได้

“ไม่” พูดจบก็ยกเหล้าขึ้นดื่มหมดแก้ว อยู่ ๆ ไอ้แจ็คก็ดูเลิ่กลั่กเติมเหล้าใหม่แล้วก็ยกดื่มจนหมดอีก

“ถ้าอ้วกแตกกูยันคว่ำนะบอกก่อน เบา ๆ สิวะ ไหนบอกให้กูแดกแก้วสุดท้าย” เท็นคว้าข้อมืออีกคนที่กำลังจะเติมใหม่ มันถึงยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตากัน

“กูไม่อิจฉาไอ้ธีร์น่ะไม่แปลกหรอก แต่แปลกตรงที่มึงมีกูอยู่ตรงนี้แล้วยังเสือกอิจฉามัน”

“...” เอาแล้วไง สตันท์ไปสักห้าชั่วโมงเลยดีไหมล่ะทีนี้ รู้สึกเหมือนโดนฮุคควบโดนงอนอย่างบอกไม่ถูก ไม่ได้สิวะ จะมาคิดเองเออเองแบบนี้มันถูกต้องที่ไหน

ไอ้แจ็คก็แค่เมามันเลยพูดงี่เง่าออกมา เพราะถ้ามันปกติเต็มร้อยคิดว่าชาติหน้าก็คงไม่ได้ยิน เท็นกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ รู้สึกวูบวาบอยากจะร้อนหน้าอยู่ตลอดเวลา ก็เล่นพูดแบบนี้จะให้ตอบอย่างไรว่าไม่เหมือนกัน

นั่นแฟน ส่วนไอ้นี่ก็...

“กูไปนอนละ”

รีบตัดบทก่อนจะปัญญานิ่มใส่ไอ้เท็นมากไปกว่านี้ ให้ตายเถอะว่ะ เขาพูดแบบนั้นออกไปได้อย่างไร แฟนกันหรือก็ไม่ใช่ สุดท้ายเขาก็สร้างความอึดอัดให้ไอ้เท็นอยู่ดี

“นอนด้วยดิ”

เท็นรีบเข้ามาด้านในพร้อมปิดประตูระเบียงก่อนจะวิ่งไปหยิบรีโมทแอร์มากดเปิดเร่งความเย็น เขาเห็นว่าไอ้แจ็คยืนมองอยู่ตรงปลายเตียงเหมือนอยากรู้ว่าเขาจะทำอะไรต่อ ซึ่งคนโง่ที่ดีแต่วิ่งหนีความรู้สึกตัวเองรอบโลกก็ทำอะไรได้ไม่ดีเท่าการเดินไปนอนก่อนพร้อมก่ายขากับหมอนข้าง

“เมาโว้ย” เหมือนไม่มีคำพูดดี ๆ ออกจากปากแล้ว ถึงได้กลบความเงียบด้วยประโยคนี้ เท็นหลับตาพร้อมด่าตัวเองในใจซ้ำ ๆ เป็นอีกครั้งที่เขาอยากย้อนเวลากลับไปเพื่อแก้ไขคำพูด


‘มึงสำคัญที่สุดในโลกแล้ว รู้บ้างไหม?’


นั่นคือสิ่งที่อยากพูดออกไป แต่ลึก ๆ ก็กลัวว่าเพื่อนจะตีความหมายผิดจนกลายเป็นว่าแทนที่จะรู้สึกดีก็เป็นรู้สึกแย่

“เท็น”

ทำไมกลายเป็นแบบนี้ได้ จากบรรยากาศผ่อนคลายสบายใจอยู่ ๆ ก็อึมครึมไปด้วยเมฆสีเทา ชายหนุ่มเจ้าของชื่อนิ่งไปราว ๆ ห้าวินาที ก่อนจะหันหลังกลับไปเพื่อเห็นว่าตอนนี้หน้าไอ้แจ็คตอนโดนไฟสลัว ๆ มันน่ามองมากแค่ไหน

“คิดยังไงกับจูบนั้น?”

เอางี้เหลยเหรอวะ... เขานึกว่าไอ้แจ็คอยากลืมเรื่องนี้ไปจนกว่าจะตายลงโลงเสียอีก เท็นกลืนน้ำลายอีกครั้ง จู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนคอจะแห้งเป็นผงอย่างบอกไม่ถูก

“กูต้องคิดอะไรด้วยเหรอ?” ประโยคนี้แผ่วลงเหมือนคนกล้า ๆ กลัว ๆ เท็นวางหมอนข้างพลางประสานมือไว้กลางอกแล้วนอนมองเพดานเหมือนอีกคน “หรือมึงคิด?”

“อืม”


เหี้ย ก็รีบตอบไป


“ถึงเราจะเป็นเพื่อนกัน แต่การจูบผู้ชายด้วยกันคงไม่ใช่เรื่องที่มึงจะประทับใจ บางทีมึงอาจจะขยะแขยง” ไม่รู้ว่าไอ้แจ็คกำลังมีสีหน้าแบบไหน แต่สิ่งหนึ่งที่เท็นได้รู้ก็คือเขาไม่ได้กังวลเรื่องจูบนั้นอยู่ฝ่ายเดียว “กูใจหายมากตอนมึงเลือกนั่งแท็กซี่กลับ เพราะถ้าเป็นมึงคนที่ไม่ได้จูบกับกู มึงคงรั้งกูไว้แล้วชวนกลับมานั่งกินมาม่าด้วยกัน”

“มึงคิดมากเหรอวะ?”

“แล้วมึงคิดไหม หรือคิดว่ามันก็แค่เรื่องขำ ๆ ที่จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้?”

“ขำก็เหี้ยแล้ว” เท็นหายใจเข้าลึก ๆ เขาต้องพยายามรวบรวมความกล้าเป็นอย่างมากเพื่อที่จะเปิดใจพูดเรื่องนี้กับคนข้างตัว “กูต้องเป็นคนแบบไหนถึงจะจูบกับใครก็ได้โดยไม่คิดอะไร โดยเฉพาะมึง”

“งั้นแสดงว่าเสมอกัน คิดมากทั้งคู่”

“...”

“เอาไงดีล่ะ ทำให้มันเคลียร์เลยดีไหมว่าควรลืม ๆ ไปแล้วก็ทำให้ทุกอย่างเหมือนปกติ” ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอยากรู้ปฏิกิริยาไอ้เท็นเหมือนกัน แจ็คอยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะแสดงออกแบบไหน ถ้ามันตอบตกลงเขาก็จะตัดใจให้ได้และพยายามประคับประคองความเป็นเพื่อนต่อไป

เท็นนิ่งงันกับคำถามเมื่อครู่ มันควรเป็นอย่างที่พูดอยู่แล้วไม่ว่าไอ้แจ็คจะพูดหรือไม่ แต่เขากลับใจหายอย่างบอกไม่ถูกกับประโยคเมื่อครู่เหมือนว่าจูบนั่นไม่มีอะไรน่าจดจำจนต้องลืม ๆ ไป

“ก็ถ้ามึงอยากทำ”

“หมายความว่ายังไง?”

“เรากินเหล้าจนเมาก็จริง แล้วกูเป็นฝ่ายเริ่มเล่นพิเรนทร์ก่อน แต่กูจำเรื่องนั้นได้จนถึงวินาทีนี้แล้วกูก็ไม่รู้ด้วยว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะลืม”

เท็นกำลังสู้กับความกลัว เขาอยากจับมือนี้ไว้เพื่อขอความกล้าแต่มันคงยากสำหรับสถานการณ์ที่ไอ้แจ็คกลับกลายเป็นความกลัวนั้นเสียเอง ต้องพูดออกไปจริง ๆ เหรอไอ้ความรู้สึกที่ซ่อนเอาไว้ในใจ เก็บเอาไว้ไม่ได้แล้วใช่ไหม?

“กูไม่ได้ขยะแขยงมึง ไม่เคยรู้สึกอย่างนั้นเลย”

“...”

“...”

คำตอบนี้ชัดเจนพอหรือยัง มันมากพอที่จะทำให้ไอ้แจ็คยิ้มได้อีกครั้งหรือไม่ เด็กสองคนที่อยู่ในโรงเรียนสอนดนตรีในวันนั้นเดินทางมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร เท็นไม่เคยคิดมาก่อนเลย

“แล้ว...”

เสียงไอ้แจ็คเบาลง แต่ก็ได้ยินชัดเมื่ออยู่ในห้องสี่เหลี่ยมที่มีเพียงเขาทั้งคู่บนเตียงขนาดหกฟุต มือที่เคยร้อนจนโดนทักว่าเหมือนคนมีไข้นั้นเย็นเฉียบขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มันก็คงไม่แย่นักเมื่อมืออีกฝ่ายค่อย ๆ ขยับมาเกี่ยวกันทีละนิ้วนั้น ซึ่งนั่นก็เย็นเหมือนน้ำแข็งไม่ต่างกัน

“...มึงโอเคหรือเปล่า?”

ไม่เคยเห็นไอ้แจ็คประหม่าขนาดนี้ แต่ก่อนจะสังเกตคนอื่นเขาควรดูสภาพตัวเองก่อนว่าไม่ได้ต่างกันเลย ทั้งประหม่า กังวลเพราะไม่รู้ว่าต้องวางตัวหรือพูดอะไรเพื่อให้อีกคนไม่รู้สึกแย่

“หมายถึงจูบหรือที่มึงจับมือกูอยู่ตอนนี้ล่ะ?”

สิ้นสุดคำถามนิ้วเรียวที่เกี่ยวกันก็เปลี่ยนเป็นสอดประสานจนแทบไม่เหลือช่องว่าง จะบ้าตายอยู่แล้ว เขาเหมือนเด็กประถมที่เพิ่งชอบใครสักคนเป็นครั้งแรก หัวใจถึงได้เต้นแรงและมีความสุขท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดอย่างนี้

“ทั้งสองเลย”

ฝ่ามือและซอกคอชื้นไปด้วยเหงื่อ เท็นรู้สึกเหมือนยืนอยู่บนเชือกซึ่งหากมองลงไปก็จะพบกับเหวลึกที่ตกลงไปคงตายไม่เหลือซาก ความรู้สึกที่คาบเกี่ยวอยู่กับคำว่าความกลัวและความสุขนั้น... เขาไม่อยากเสียไอ้แจ็คไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร

“ไม่รู้ว่ะ”

ใจหายวาบกับคำตอบ แจ็คค่อย ๆ หันไปมองเจ้าของคำพูดก่อนจะสบตากันในที่สุด เขารู้สึกอยากได้ยานอนหลับสักสองเม็ดแล้วนอนไปยาว ๆ ...ไม่เคยเป็นแบบนี้กับใคร ไม่เคยกลัวการมีความรักขนาดนี้จนกระทั่งรู้ตัวว่าความรู้สึกดี ๆ เหล่านั้นมันมีให้ไอ้เท็นไปแล้ว

“งั้นกู... ขอลองดูอีกทีได้ไหมวะ?” 

สั่นทั้งคนถามและคนถูกถาม ชายหนุ่มสองคนสบตากันท่ามกลางความเงียบโดยมีไฟสลัวสีซีเปียที่ทำให้มองเห็นใบหน้ากันและกันได้ แจ็คกับเท็นต่างก็ขยับตัวเข้าหาอีกฝ่าย สุดท้ายคำว่าเพื่อนก็ตายลงอย่างเป็นทางการด้วยจูบนี้

“โอเคไหม?”

“ยังไม่รู้ ขอลองอีกทีก่อน...”

ลมหายใจร้อนสอดประสานหลังจากถอนจูบออกมาเพื่อใช้เวลาเพียงเสี้ยววิยับยั้งชั่งใจว่าการพิสูจน์ครั้งนี้ควรจบลงได้แล้วหรือไม่ แต่สุดท้ายคำขอของฝ่ายก็ทำให้ทุกอย่างเลยเถิดไปเรื่อย ๆ

มือข้างนั้นยังคงจับแน่นเหมือนในทีแรก จูบรสบุหรี่เคล้ากลิ่นเหล้ายังคงคละคลุ้งในปากเมื่อลิ้นไล่กวาดอย่างเอาแต่ใจ ทั้งคู่กอดฟัดนัวเนียไซ้คอจนได้เรียนรู้ความรู้สึกแปลกใหม่จากตอหนวดที่ไม่เคยเจอกับผู้หญิง พวกเขาทิ้งความกังวลทุกอย่างเอาไว้ข้างหลังเพื่อให้ความสำคัญกับคนตรงหน้ามากที่สุด


พอกันทีกับความกลัวที่คิดเอาเองอยู่ฝ่ายเดียว


“ได้คำตอบหรือยัง?”

ทั้งคู่ซบหน้าผากกันกับคำตอบที่รู้แล้ว แจ็คเสยผมสีเทาขึ้นเพื่อให้มองหน้าหล่อ ๆ ของไอ้เท็นได้ชัด ๆ และรอยยิ้มของมันที่มาพร้อมจูบครั้งใหม่ก็ทำให้หัวใจที่เหี่ยวเฉาดวงนี้สดใสขึ้นมาได้อีกครั้ง

“กู... ต้องพูดอะไรไหมวะ?”

“ไม่ดีกว่า ไม่ว่ากูหรือมึง ถ้ามีใครต้องเขินคงพิลึกพิลั่น”

“เออ... จริง”

ถึงไอ้แจ็คจะพูดอย่างนั้น แต่เขาก็ห้ามอาการร้อนตรงแก้มไม่ได้เลยไอ้ฉิบหาย เขินจะตายห่าแล้วมีใครเข้าใจไหม เขาเพิ่งจูบไอ้แจ็คไป แล้วที่แย่กว่านั้นคือเขาอยากทำแบบนั้นซ้ำ ๆ เหมือนคนเห่อแฟนทั้งที่ยังไม่ได้คำว่าแฟนมานอนกอด

“มึงไม่กลัวพังเหรอถ้าวันนึงกูหรือมึงอาจจะไม่รู้สึกแบบนี้แล้ว”

“กลัว แต่ตอนนี้กูห้ามตัวเองไม่ค่อยได้มึงก็เห็น” แจ็คตอบอย่างขลาดอาย บอกตามตรงว่าเขาไม่เคยเสียฟอร์มขนาดนี้ มีแค่ไอ้เท็นคนเดียวเท่านั้นที่จะได้เห็น

“งั้นเอาไงดี กูไม่อยากพัง แล้วก็ไม่อยากให้มึงพังด้วย”

“ไม่ต้องทำอะไรก็ได้ แค่เป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ มึงโอเคไหม แบบที่กูกับมึงเข้าใจกันสองคน” หลังจากไอ้แจ็คพูดเขาก็พยักหน้าอย่างว่าง่าย อยู่ ๆ ก็เชื่องเป็นพี่ซัน

“ก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมไง”

“เออ เพื่อนกัน” ไอ้แจ็คยักคิ้วหน้านิ่งเขาจึงเลียนแบบมัน แล้วบรรยากาศที่เคยกดดันก็ผ่อนคลายลงจนฟุ้งไปด้วยความสุข “ขยับมานี่”

“จะแดกปากอีกเหรอ?” เท็นถาม ก่อนไอ้คนที่ใคร ๆ ว่าเย็นชาจะขยับเข้ามากอดเขาพร้อมยิ้มแบบที่ไม่ชินเอาเสียเลย

ต่อให้จะรู้จักกันมานานแค่ไหน ต่อให้จะห่างหายไปเป็นสิบปี แต่เท็นพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำเลยว่าเขาไม่เคยเห็นไอ้แจ็คมุมนี้มาก่อน

“อึดอัดหน่อยนะ ขอกอดสักแปดชั่วโมง ตื่นแล้วจะปล่อย”

“มึงเริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลยเหรอวะ?” พอใจตรงกันไอ้นรกก็ฮุคเลยว่ะ ไม่ได้หมายถึงคำพูดนะ หมายถึงสีหน้ากับแววตาตอนนี้ต่างหาก มันจะอ้อนไปไหน?

“เพื่อนกอดเพื่อนไม่เป็นไรหรอก มึงก็คิดมาก”

“พูดงี้สงสัยอยากโดนแดกปาก”

“ก็มาดิครับ” อืมนะ ถึงขั้นทำเสียงหล่อใส่แล้ว

ฉิบหายเอ๊ย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเมาอยู่หรือเปล่าถึงได้เรื้อนใส่กันขนาดนี้ เท็นไม่รู้ว่าตัวเองหน้าตาตลกแค่ไหนตอนกำลังยิ้มให้อีกฝ่าย เพราะสิ่งเดียวที่รู้ตอนนี้คือรอยยิ้มไอ้แจ็คมันดีกว่าสิ่งไหน ๆ และเขาอยากเป็นคนทำให้มันยิ้มได้แบบนี้ทุก ๆ วัน

“เท็น”

“ว่า...?”

“เลิกบุหรี่กันไหม?”

“ทำไมวะ?”

“เปล่า กูแค่อยากรู้ว่าจูบมึงแบบไม่มีรสบุหรี่จะเป็นยังไงก็แค่นั้น”

“งั้นเดี๋ยวไปแปรงฟัน”

“ไปด้วย”

สองเพื่อนซี้ลุกขึ้นกอดคอกันเดินไปเข้าห้องน้ำ จัดการแปรงฟันแล้วมองหน้ากันผ่านกระจกบานใหญ่ แม้ว่าจะขลาดอายกับความชัดเจนที่เพิ่งเกิดขึ้นแต่ก็ยังหยอกล้อด้วยการพ่นฟองยาสีฟันใส่กันได้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะทั้งคู่คิดว่าสถานะยังคงเหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร

นอกจากกับความเป็นเพื่อนที่เลเวลอัปขึ้นไปอีกระดับหนึ่งก็เท่านั้น






TBC


 



//นั่งพันยาเส้นสูบแล้วมองขึ้นไปบนระเบียงบ้านหลังนั้น//





ออฟไลน์ Ashita

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ขอซื้อคำว่า "เพื่อน" ได้ไหม เอาจริงๆ เพื่อนที่ไหนจูบกันฮะ!  :katai4:

ออฟไลน์ anythinginitt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ไม่ใช่แจ็ค เท็นนะที่โคม่า คนอ่านนี่แหละ ไม่ไหวแล้ววสส

ออฟไลน์ mijimaria

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ยังใช้คำว่าเพื่อนกันอีกหรออ  :katai5: แต่ก็โอเค้ สองหนุ่มใจตรงกันแล้ว จุดพลุ  :katai2-1: ฮือชอบพี่แจ็คมุมขี้อ้อนแบบนี้ จะละลายพ่อคนชาเย็น แต่เสียฟอร์มให้เท็นคนเดียว

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
คุณสองคนไม่ใช่เพื่อน ไม่ใช่ ๆ เพราะคนเขียนบอกแล้วว่า สุดท้ายคำว่าเพื่อนก็ตายลงอย่างเป็นทางการด้วยจูบนี้
คุณสองคนเป็นแฟนกัน ย้ำเป็นแฟนกัน แล้วอีกหน่อยก็เป็น ผ.กับม.เข้าใจไหม

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
จ้าาาาา​ เพื่อนกันจ้าาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เนเน่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เพิ่งรู้ว่าการได้ขึ้นสวรรค์โดยไม่ต้องทำความดีเพียงแค่เน่ได้อ่านนิยายเรื่องนี้ แม่จ๋าเน่มีความสุขเหลือเกินน้องทั้งสองคนเค้าเปิดใจให้กันและกันแล้ว

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
โอ้ยยยย หวานยาวๆ นะ ได้โปรดดด  :hao7:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
แอบเอากล้อง

วงจรปิดไปติดในห้อง

พ่อพี่ซันอิมูน

คนอะไรพาผู้ชายมากัดปาก

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เขาว่าเพื่อนก็คงต้องตามนั้นอ่ะนะ  :hao7:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ 05th_of_06th

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เหมือนกลั้นหายใจอ่านจนจบแล้วมีแต่คำว่า โอ้ยเขิลลลจัง อหหห ที่ไม่ใช่โอ้โห  :o8:

ออฟไลน์ jaja-jj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 548
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-3
กรี้ดดดดดดดดดด ชอบความอ้อนของพรี่แจ็ค เค้าเลื่อนสถานะกันแล้วค่าาาาาาา  เขินนนนนนนตัวบิดเป็นเลข 8
ถ้าอิพี่ธีร์รู้นะ ต้องบ้านแตก 5555555

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
เพื่อนที่ไหนมันจูบแลกลิ้นกันเล่า

ไอ้พวกบ้าาาา

ออฟไลน์ ตุยชิคชิค

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
"วันนี้เขามีเรื่องเล่าให้พี่ซันกับน้องมูนฟังเยอะแยะเต็มไปหมด
" แงงงประโยคนี้คือทัชมากเท็นเหงามากมั้ย

ออฟไลน์ ตุยชิคชิค

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
รักพาร์ทอดีตมากถึงจะหน่วงๆก็เถอะแต่มันดีมากเลยเป็นคนพิเศษของกันและกันจริงๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ตุยชิคชิค

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1

ออฟไลน์ ตุยชิคชิค

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
แจ็คโดนมาหนักจริงๆแต่โชคดีที่มีครอบครัวเพื่อนและทีมที่ดี

ออฟไลน์ ตุยชิคชิค

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
เพื่อนที่ไหนเขาหวงกันอะแบบนึกออกป้ะ พี่ซันกับอีมูนเกียมมีพ่อเพิ่มได้เลย บอสคือปั่นเก่งติดบักแหลมมาแน่ๆ

ออฟไลน์ ตุยชิคชิค

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
คู่นี้เขาปั่นเก่งกันจริงๆ บักแหลมเอ้ยยย555555

ออฟไลน์ ตุยชิคชิค

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
 :katai1: เขาจูบกันแล้วอะแม่ ใครสาดน้ำมาจะตามไปตี!!

ออฟไลน์ ตุยชิคชิค

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
เพนเพื่อนกันแดกปากกันขำๆจ้่า  :katai1: :sad4:

ออฟไลน์ gibari

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ทำยังไงดีคะ หยุดอมยิ้มไม่ได้เลย แง้~~~~~

มันดจีย์กับใจมากกกกกก
เพราะว่าเค้ากินปากกันแบบ... ต่างฝ่ายต่างก็ชัดเจนในความรู้สึกแล้วอ่ะ กินปากกันก็เพราะอยากกิน ฮือออออ ฟิน ~

อันความสถานะไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่ท่าทีที่แสดงออกและความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น หลังจากนี้ก็ขอให้มีอะไรฟินๆ ชวนยิ้มแก้มแตกเยอะๆ นะคะ ฮืออออออ คราวนี้ก็รอวันเค้าได้กันล่ะนะคะ อิ

ออฟไลน์ nisaday

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โพที่เราชิปจะพลิกไม๊
แจ็คเท็น นะๆๆๆๆ

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 889
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0


#ญอผู้หญิงโศกา
ตอนที่ 20
ไปข้างนอกไม่ได้เรียกเดท (PART 1/2)





เท็นสะดุ้งตื่นหลังจากจิตใต้สำนึกมันทะลุเข้ามาแม้ว่าจะเป็นตอนนอน ชายหนุ่มตัวสูงเบิกตากว้างรีบหันไปมองข้างตัวก่อนความว่างเปล่าจะทำให้เขาหลอนจนต้องนั่งระลึกชาติว่าไอ้ที่ทำให้มีความสุขล้นใจเมื่อคืนนี้นั้นเกิดขึ้นเพียงในฝันหรือว่าเป็นเรื่องจริง

เขากลืนน้ำลายเอื้อก พอตั้งสติได้ก็ลุกลี้ลุกลนวิ่งลงไปด้านล่างจนหมากับแมวสะดุ้งมองเจ้านายเป็นตาเดียวกัน ผู้ชายคนนั้นกำลังกวาดสายตามองหาใครสักคนหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ที่นี่ และสีหน้าหล่อ ๆ เริ่มดูจะไม่ดีแล้วกระทั่งเสียงเปิดประตูดังขึ้น

“อะไร?”

“หะ?” คนเพิ่งตื่นอ้าปากค้างมองเพื่อนสนิทที่เข้ามาในบ้านพร้อมถุงพลาสติกใสที่ทำให้มองเห็นวัตถุดิบทำอาหารพร้อมซันกับมูนที่ตรงเข้าไปออดอ้อนราวกับว่าไอ้แจ็คเป็นพ่อที่แท้จริงอย่างไรอย่างนั้น

“เป็นอะไร ท้องเสียหรือไง?”

“หะ... เปล่า”

“หิวไหม?” ปากบอกไม่ได้รักสัตว์แต่ลงทุนวางข้าวของเพื่อนั่งยอง ๆ ไปลูบหัวพี่ซันกับอีมูน พอเห็นว่าเขาไม่ตอบ ไอ้แจ็คจึงเงยหน้าขึ้นเป็นเชิงย้ำว่าเมื่อครู่นี้ไม่ได้ถามหมากับแมว

“หิว” อยู่ ๆ ก็กลายเป็นคนใบ้ เท็นเอาแต่มองไอ้คนผมยาวที่กำลังยิ้มบาง ๆ ขณะสบตากับเขาเหมือนอยากยืนยันอีกครั้งว่ามันอยู่ที่นี่จริง ๆ

“กินน้ำเต้าหู้รองท้องก่อน ขอครึ่งชั่วโมง”

เห็นเป็นเด็กห้าขวบหรือไงไอ้แจ็คถึงตรงเข้ามายีผมเขาเบา ๆ ก่อนจะเข้าไปในครัวเหมือนทุกอย่างเป็นเรื่องปกติ บ้าไปแล้ว... จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่อยากเชื่อว่าที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันเป็นเรื่องจริง ทั้งเรื่องจูบ เรื่องการสารภาพความในใจแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ซึ่งค่อนไปทางอ้อมโลกนั่น แต่เขากลับรับรู้และเข้าใจมันได้ง่าย ๆ

บอกตามตรงว่ากว่าจะหลับได้ก็ฟาดไปไม่รู้ตีไหน หลับ ๆ ตื่น ๆ เพราะตื่นเต้น ทำตัวไม่ถูกตอนถูกกอดนาน ๆ มันไม่เหมือนคืนที่เขาโกหกว่าหมอนเลอะน้ำลายเลยสักนิดแม้ว่าจะเขินเหมือนกันแต่ก็แตกต่าง

พอไอ้แจ็คหลับเขาถึงได้มีโอกาสได้หายใจหายคอได้กอดคืนบ้าง ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ใช่ว่าจะมีเมียให้กอดบ่อย ๆ เสียที่ไหน หลังจากนี้ไอ้แจ็คต้องเป็นหมอนข้างมีชีวิตซึ่งเขาก็แพลนแล้วว่าจะเอาหมอนข้างไปเผาทิ้ง และมันต้องรับผิดชอบด้วย

“วันนี้จะไม่ไปหาพวกไอ้ธีร์จริง ๆ เหรอ เผื่อมึงอยากไปเยี่ยมโซ่” เท็นเกาะวงกบทางเข้าครัวพลางโผล่หน้าออกไปเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เคยเกรงใจใครเป็นที่ไหน ไอ้แจ็คจะรู้บ้างไหมว่าเขาเสียหลักเพราะมันฉิบหายเลย

พ่อครัวของบ้านหันมาเลิกคิ้วมองเหมือนอยากถามว่า ‘ถามเชี่ยไรนัก เมื่อคืนก็ตอบไปแล้วไงโว้ย’

“กูมั่นใจว่าไอ้ธีร์คงดูแลไอ้โซ่ดีอยู่แล้ว”

“มึงกับไอ้ธีร์ไม่เหมือนกันเปล่า เอาจริงกูกลัวมึงเซ็งถ้าต้องอยู่กับกูทั้งวัน” คนเพิ่งตื่นผมเผ้าชี้โด่เด่ทำเก๊กยืนกอดอกพิงกับวงกบทางเข้าครัว

“ถ้าเซ็งเมื่อไหร่เดี๋ยวบอก แต่ตอนนี้ไม่ สบายใจยัง?”

“ไม่สบายดิวะ ใครเขาจะรับได้ถ้ามีคนเดินมาบอกว่า ‘กูเซ็งมึงนะ’”

“อีหรอบนี้แสดงว่าอยากได้ยินอะไรที่ทำให้กูต้องอายตัวเองหลังจากพูดจบ”

“ไม่อายหรอก ลองก่อน” พอรู้ตัวว่าไม่ได้ฝันอยู่ก็เริ่มได้ใจ เท็นอมยิ้มขณะมองกดดันอีกคนที่ดูจะเลิ่กลั่กเสียอาการ ก่อนจะหันไปทำกับข้าวต่อ “แจ็ค”

“กูอยากอยู่กับมึงทั้งวันทั้งคืนเลยไอ้เหี้ย ไม่ต้องถามลงลึกกว่านี้แล้วนะ โอเค?”

“โดนไปดิครับ” คนฟังหัวใจพองโต เบ่งบานแข่งกับดอกไม้ไปแล้ว เท็นอมยิ้มชอบใจ เดินเข้าไปสวมกอดเพื่อนสนิทจากด้านหลังแล้วจุ๊บท้ายทอยที่ชอบมองนักหนาก่อนมันจะสะดุ้งจนเขาหลุดขำ

“...”

“ไม่แกล้งละ ๆ”

เท็นหัวเราะร่าอย่างพอใจขณะเดินถอยหลังเตรียมไปแปรงฟัน เขาอยากทำให้ไอ้แจ็คหลุดมาดเยอะ ๆ จะได้รู้สึกว่าไม่ใช่มีแค่ผู้ชายคนนี้คนเดียวที่ใจเต้นแรงอยู่ตลอดเวลา

ขณะคิดอะไรไปเพลิน ๆ นั้นเท็นไม่รู้เลยว่าเพราะจูบท้ายทอยเมื่อครู่ทำให้แจ็คต้องก้มลงมองเป้ากางเกงตนเองที่อยู่ ๆ มันพองตัวขึ้นอย่างน่าอาย



*



ตอนแรกคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับไอ้แจ็คก็คงไม่ต่างไปจากเดิม เพราะเพิ่มเติมแค่ความรู้สึกที่เหมือนกัน แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นเมื่อได้เห็นความแปลกใหม่หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการบีบยาสีฟันใส่แปรงให้ ไหนจะพับผ้าห่ม กวาดบ้าน ถูบ้าน หรืออะไรก็ตามที่ทำให้เท็นรู้สึกว่าถ้ามีเมียสักคนก็คงตื่นมาเจออะไรแบบนี้

วันนี้เป็นวันที่เท็นมีความสุขที่สุดอีกวันหนึ่ง เขารีบล้างหน้า-แปรงฟันให้ไว ก่อนจะออกไปหาเรื่องเป็นลูกมือให้พ่อครัวที่คงถนัดการทำคนเดียวมากกว่า แต่อีกฝ่ายกลับยอมให้เขาช่วยหยิบจับอุปกรณ์ให้กระทั่งทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย

มื้อเช้าตอนเก้าโมงอร่อยไปกว่าทุกวัน แต่กินไปได้สักพักก็เริ่มเคี้ยวยานคางเพราะทั้งคู่เอาแต่ผลัดกันจ้องชนิดว่าพออีกฝ่ายรู้ตัวก็เนียนก้มหน้าลงไปกินข้าวต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ทำสีผมไหม?”

ไอ้แจ็คถามอย่างนั้น และคนที่รักการมีสีผมจัดจ้านก็พยักหน้าอย่างว่าง่าย เหมือนว่าถ้าไอ้เวรนี่อยากให้ทำอะไรเขาก็พร้อมที่จะคล้อยตามโดยไม่ขัดใจสักคำ

ขณะที่ใครหลายคนกำลังเล่นน้ำปะแป้งกันอย่างสนุกสนาน ชายหนุ่มสองคนได้อาบน้ำแต่งตัวออกไปข้างนอกเพื่อเลือกสีย้อมผมให้เข้ากับหน้าหล่อ ๆ ของ TEN1O ซึ่งเชื่อว่าถ้าอัปโหลดรูปลงโซเชียลคงมีใครหลายคนฮือฮา เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาทำแต่สีเทา แดง บลอนด์ทองมากกว่าจะทำสีเข้ม และสุดท้ายเท็นก็เลือกสีน้ำตาลที่เพื่อนสนิทบอกว่าถ้าเขาทำคงดูโอเคดี

ระหว่างเดินทอดน่องก็เจอร้านตัดผม ไอ้แจ็คหันมาถามความเห็นว่า ‘กูตัดผมสั้นดีไหมวะ?’ ตอนนั้นคิดว่าอีกฝ่ายคงมีคำตอบในใจอยู่แล้วแต่แค่ถามเพราะอยากยืนยันให้มั่นใจ


‘ถ้ากูบอกว่าไม่มึงก็จะไม่ตัด?’
‘อืม ถ้ามึงพูดว่าชอบกูก็จะไว้ต่อไปเรื่อย ๆ’


ไอ้ห่า พักกันบ้างเถอะไอ้ฉิบหาย ใจคอก็จะทำให้รู้สึกดีไปจนชาติหน้าเลยไหมคำพูดคำจาเนี่ย


‘งั้นตัดอันเดอร์คัทเลยเป็นไง กูอยากเห็น’


มันมองหน้าเขาแค่ครู่เดียว ก่อนจะเดินเข้าไปในร้านแล้วคุยกับช่างเหมือนเอาจริงซึ่งก็ใช่ เท็นมองผมยาว ๆ ที่ถูกตัดไปกองบนพื้น ไม่นานนักไอ้แจ็คก็เดินลูบหัวตัวเองออกมาเหมือนคนยังไม่ชินกับผมทรงใหม่

‘ปะ กลับไปย้อมสีผมกัน’

ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันผ่านไปอย่างรวดเร็ว เหมือนลืมตาอีกครั้งเวลาก็วาร์ปไปตอนบ่ายแก่ ๆ เสียแล้ว  เท็นไม่เคยรู้ตัวว่าใจเต้นแรงกับความหล่อไอ้แจ็คได้ กระทั่งตอนทำสีเสร็จเข้าขั้นตอนล้างผม ทั้งคู่สบตากันขณะสีน้ำตาลไหลลงไปตามกระแสน้ำ และเขาก็เป็นฝ่ายทนไม่ไหวโน้มตัวไปจูบไอ้แจ็คเพื่อบอกโดยไม่ต้องพูดว่าเขารู้สึกอย่างไร

ซึ่งไอ้แจ็คก็จูบตอบเหมือนอยากย้ำอีกครั้งว่าคิดเหมือนกัน



*



“เป็นห่วงพี่แจ็คใช่ไหมครับ?”

ธีร์หันไปหาเจ้าของคำพูด คงเป็นเพราะเขาเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาเล่นเกมแบบ Speedrun เพื่อให้ความสนใจอยู่กับตรงนี้ทุกวินาทีมากกว่าจะเอาเวลาไปคิดเรื่องอื่นล่ะมั้งโซ่ถึงได้ถามอย่างนั้น

“เป็นเพราะอาการพี่ชัดหรือเพราะเรารักพี่มากก็เลยสังเกตความเป็นไปทุกอย่าง?”

“ข้อหลังก็ได้ครับพี่ธีร์จะได้ฟิน”

“แหม่ เขินก็บอก”

“ต้องได้ World Record แน่เลยครับ โซ่เห็นพี่ธีร์เล่นจบเกือบยี่สิบรอบแล้ว” หลังจากโซ่พูดจบธีร์ก็เอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้พร้อมถอนหายใจจนอีกฝ่ายคงได้ยินชัดเจน

“จะให้ทำไง พี่เก็บอาการไม่เก่งเราก็รู้”

“หลังจากเห็นรูปพี่แจ็คในเฟซพี่ธีร์ก็ดูหัวเสียแปลก ๆ ไม่ชอบพี่แจ็คตอนผมสั้นเหรอครับ?”

“ไม่ใช่ไม่ชอบเพราะเรื่องนั้น แต่ไม่ชอบเพราะมันไปตัดอะไรเอาตอนที่อยู่กับไอ้เท็น”

“เนี่ย มาแล้ว”

“อะไร?”

“อาการหวงเพื่อนไงครับ”

“หวง? พี่เนี่ยนะหวง? เลอะเทอะน่าเด็กน้อย แฟนเราเป็นคนใจกว้างดุจแม่น้ำขนาดนี้ให้คิดอย่างนั้นก็แย่แล้ว” ธีร์หมุนเก้าอี้หันเข้าหาแฟนเด็กที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ไม่ห่างจากตรงนี้มากนัก

“พี่ธีร์กำลังสะกดจิตตัวเองว่าไม่ได้หวงเพื่อนอยู่นะครับ พี่ธีร์คิดว่าตัวเองต้องใจกว้าง ซึ่งมันก็จริงส่วนนึง แต่เป็นเพราะพี่เท็นคือคนที่พี่ธีร์ไม่ชอบ ระบบความรู้สึกก็เลยขัดแย้งไม่อยากให้พี่แจ็คไปอยู่กับพี่เท็นนาน ๆ”

“แล้วมันผิดเหรอที่พี่จะขัดแย้งกับคนที่เคยชัดเจนว่าเคยทำเรื่องแย่ ๆ อะไรไว้ พี่เป็นห่วงไอ้แจ็ค กลัวมันเจ็บซ้ำร้อยอีกรอบ”

“ไม่ผิดเลยครับ ที่พูดไปทั้งหมดก็เพราะว่าโซ่เป็นห่วงพี่ธีร์คนเดียวเลย -- แถมพี่แจ็คนิดนึงด้วยก็ได้” เด็กเด๋อจีบนิ้วมือขึ้นมา ทำหน้าทำตาน่ารักเป็นท่าประกอบ “ถ้าโซ่เป็นพี่ธีร์โซ่ก็คงกลัวเพื่อนเจ็บเหมือนกัน แต่โซ่ไม่อยากให้พี่ธีร์ลืมคำพูดนึงของพี่แจ็คเลย”

“...”

“จำคืนที่เราเครียดตอนซ้อมจนพี่ธีร์เผลอพาลใส่ทุกคนได้ไหมครับ ก่อนที่เราจะแข่งรอบชิงครั้งแรกนู่นน่ะ ตอนนั้นพี่แจ็คพูดกับพี่ธีร์ว่ายังไง?”

“บอกว่าอย่าหลงไปกับชัยชนะจนลืมความสนุกเหมือนไอ้เท็น”

“ไม่ใช่อันนั้นสิครับปัดโธ่” เด็กเด๋อส่ายหน้าหน่าย ๆ

เออก็รู้ว่าไอ้ส้นตีนนั่นมันไม่หลงระเริงเหมือนตอนนั้นแล้ว แต่ขอตอดสักนิดก็ไม่ได้เลยหรา

“พี่แจ็คพูดว่ายังไงอีก ติ๊กต่อก ๆ” 


‘ถ้าตอนนี้ข้างหน้ามีกำแพงสูงขวางอยู่แล้วเราต้องข้ามมันไป ทีมอื่นจะทำไงไม่รู้ แต่กูจะเป็นฐานอยู่ด้านล่างให้มึงปีนขึ้นไปก่อน พอขึ้นไปได้แล้วค่อยก้มลงมาดึงพวกกูนะ’


“พี่แจ็คก็คงอยากให้พี่ธีร์อยู่เป็นฐานที่มั่นคงเหมือนกันถ้าวันหนึ่งพี่แจ็คจะตกลงมาจากกำแพงนั้นอีกครั้ง”

“ไม่รู้ว่ะโซ่ พี่ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว พี่รู้ว่าพี่นิสัยแม่งโคตรเด็ก แต่พี่ต้องเป็นผู้ใหญ่ไม่ว่าจะกับเรื่องอะไรก็ตาม พี่พยายามใจกว้างแล้วว่าโอเค ไอ้แจ็คกับไอ้เท็นสนิทกันมานาน มันเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน ถึงจะหายไปสิบปีแต่กลับมาอีกครั้งมันยังไปไหนมาไหนด้วยกันได้โดยไม่มีท่าทีว่าจะมีช่องว่างให้กันนั่นน่ะ” ธีร์ถอนหายใจ “ไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่าไอ้เท็นจะไม่ทำร้ายไอ้แจ็คอีก”

“พี่ธีร์พยายามแล้วแต่เรื่องความกลัวมันห้ามกันยากใช่ไหมล่ะครับ?” โซ่เฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ มาตลอดแม้ว่าจะไม่ได้พูด ทุกคนมีเหตุผลของตัวเองซึ่งโซ่คงเข้าไปยุ่งไม่ได้ มันเป็นเรื่องที่พี่ ๆ ทั้งสามคนต้องหาทางออกให้เรื่องนี้เอง และเขาหวังว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี

“เคยเห็นไอ้แจ็คติดใครขนาดนี้ไหม เคยเห็นมันปล่อยออร่าความสุขออกมาบ่อยขนาดนี้หรือเปล่า?”

“ไม่เคยครับ โซ่ก็เลยทึ่งมาก เพราะคนที่ทำให้พี่แจ็คสดใสขึ้นก็คือคนที่เคยทำให้พี่แจ็คเสียใจมาก่อน แต่โซ่ก็อยากเลือกมองข้อดีมากกว่านะ”

“นั่นแหละที่น่ากลัว” พี่ธีร์เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้ากระจกประตูระเบียงพร้อมทอดสายตาออกไปด้านนอก “เพราะตอนนี้ไอ้แจ็คมีความสุขแล้วก็คงพร้อมจะเสียใจได้เพราะมันคนเดียว”

“พี่ธีร์ครับ”

“...” เจ้าของชื่อถอนหายใจ เขาห้ามความประสาทแดกที่เป็นอยู่ไม่ได้ แต่การไม่ขัดขวางเพื่อนหรือแสดงออกทางสีหน้าว่าไม่พอใจนั่นก็เป็นเรื่องที่เขาทำให้ไอ้แจ็คสุด ๆ แล้ว

ธีร์รักเพื่อนคนนี้มากแค่ไหนไอ้เท็นจะรู้บ้างหรือเปล่า เขาขอสาบานเลยว่าถ้ามันคิดจะทำเรื่องโง่ ๆ อีกคราวนี้จะต้องมีคนต้องเจ็บตัว

“ถึงจะผ่านไปนานแล้วแต่โซ่ก็ยังรู้สึกดีทุกครั้งที่นึกถึงตอนที่พี่ธีร์เล่าให้ฟังว่าเริ่มโดนด่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมใครหลายคนถึงเกลียดธีร์เกมเมอร์ทั้งที่ผู้ชายคนนั้นก็แค่เล่นเกมไปวัน ๆ ไม่ได้ไปทำร้ายใคร อาจมีบางครั้งที่พูดจาไม่น่ารักไม่เข้าหูคน แต่พี่ธีร์ก็รู้ข้อเสียของตัวเองแล้วก็เอามาปรับปรุง ซึ่งมันทำให้ใครหลายคนยอมเปิดใจแล้วพี่ธีร์ก็ได้แฟนคลับเพิ่ม โซ่รู้สึกดีมากเลยครับที่พี่ธีร์ผ่านตรงนั้นมาได้”

เขามองรอยยิ้มของเด็กเด๋อที่ยังคงเต็มไปด้วยความจริงใจ โซ่ยังคงเป็นโซ่ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่น้องก็อยู่กับเขาด้วยความเข้าใจ และพร้อมจะทำให้หมาบ้าสงบได้ทุกเมื่อด้วยเหตุผล

“ตอนนี้พี่เท็นอาจจะเป็นเหมือนพี่ธีร์ตอนนั้นก็ได้นะครับ แต่คงหนักหน่อยตรงที่เขาทำตัวไม่น่ารักมานานคนก็เลยฝังใจ พอจะเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้นก็ไม่รู้ว่ามีใครพร้อมจะให้โอกาสเขาไหม?”

เรื่องนี้ธีร์พร้อมจะเข้าใจคนทั้งโลก แต่พอเป็นไอ้เท็นแล้วการหาตรงกลางก็แทบไม่มี ใจมันพาลแต่จะเอนข้างไปที่ ‘เดี๋ยวสันดานมันก็ออก’ เพียงเพราะความฝังใจในอดีต ของแบบนี้ไม่เจอกับตัวคงเข้าใจยาก

“ค่อยเป็นค่อยไปนะครับ ถ้าวันนี้พี่ธีร์ไม่โอเคก็ไม่เป็นไร แต่โซ่คิดว่าพี่แจ็คคงดีใจถ้าพี่ธีร์จะยินดีกับการที่เขาได้เพื่อนเก่าคืนมา”

“บทเรียนมันจะได้ผลกับทุกคนไหม นั่นคือสิ่งที่พี่คิด”

“จริงด้วยครับ น่าคิดเลย” เด็กเด๋ออมยิ้มพร้อมตบเบาะเบา ๆ เป็นเชิงบอกให้เขาไปนั่งตรงนั้นด้วยกัน “พี่ธีร์อยากมารอดูพี่เท็นกับโซ่ไหมครับ ตรงนี้เลยตรงนี้”

ธีร์หันไปมองแฟนเด็กอย่างอ่อนใจ อ้อนแบบนี้ใครจะเป็นหมาบ้าต่อไหว การเล่นเกมแบบสปีดรันคงไม่ใช่เรื่องน่าสนอีกต่อไปแล้วเมื่อตอนนี้การตรงเข้าไปนอนตักน้องเด๋อแล้วง้องแง้งขอความรักนั่นคือสิ่งเดียวที่ฮีลเขาได้ดียิ่งกว่าอะไร

ธีร์ยังเป็นห่วงไอ้แจ็คและหงุดหงิดความเป็นไอ้เท็น แต่ถ้าเพื่อนมีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้ เขาจะยอมกำหมัดกัดฟันเงียบ ๆ แล้วรอรับตัวเพื่อนตอนตกลงมาจากกำแพงก็ได้วะ



*



“วันนี้ทำไรกินแม่?”

“แม่เพิ่งกลับจากวัดยังไม่ได้ทำอะไรเลย เท็นหิวหรือยังล่ะ เดี๋ยวแม่ทำให้เอาไหม?”

“เดี๋ยวเท็นขึ้นไปถามไอ้แจ็คก่อนว่ามันอยากกินอะไร” พูดจบก็หลุดยิ้มเมื่อแม่เอาน้ำมนต์จากวัดมาพรมตัวกับศีรษะเขาพร้อมพึมพำเหมือนกำลังให้พร

“ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีนะลูกนะ เล่นเกมก็ชนะทุกตา”

“เดี๋ยว ๆ นี่แม่เล่นไศยศาสตร์เลยเหรอ?” อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ต่อให้เล่นเกมแพ้ก็ต้องบอกว่าชนะแล้วล่ะอย่างนี้

“ฝีมือเท็นดีอยู่แล้ว ได้พรแม่เพิ่มไปด้วยนี่แหละขลัง”

“งมงาย”

“เอ้าคิง ไปขัดแม่” เขาหันไปเลิกคิ้วมองน้องเล็กของบ้านที่นอนเล่นโทรศัพท์ทำหน้าตาเฉย ไอ้เด็กนั่นถอดแบบไอ้แจ็คตอนมอต้นมาชัด ๆ ต่างกันแค่ไม่ได้ตัดผมสกินเฮด

ขายาวเดินขึ้นไปบนห้องคุ้นเคยด้วยความรู้สึกที่ต่างไปจากเดิมเพราะเพิ่มเติมความตื่นเต้นมาด้วย ก่อนหน้าเคยเป็นธรรมชาติอย่างไรวันนี้ติดลบไปอีกร้อย ไม่เจอหน้ากันแค่สามวันเองทำไมคิดถึงมากขนาดนี้ พูดแบบเอาแต่ใจเลยก็ได้ว่าเขาอยากตื่นมาเจอหน้าไอ้แจ็คทุกวันไม่เว้นนักขัตฤกษ์

“หยุด นี่คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ!”

“อะไรครับคุณตำหนวด เก๋าเหรอ?”

อยู่ในจุดที่ได้ยินเสียงก็มีความสุขแล้วว่ะ อาการหนักแล้ว

“ทำอะไรอยู่วะ กินข้าวกัน” เท็นปิดประตูแล้วตรงเข้าไปหาเพื่อนสนิทที่กำลังเก็บของใส่ลังกระดาษอย่างเป็นระเบียบพร้อมเขียนกำกับว่าข้างในนั้นมีอะไร จากห้องที่มีของเยอะอยู่ ๆ ก็โล่งจนชวนให้สงสัย และคำตอบของไอ้แจ็คก็ทำให้เขาอยากจับมันมาฟัดแรง ๆ
 
“เคลียร์ของให้ลูกมึงอยู่” ไอ้แจ็คนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากัน “วันไหนมาค้างที่นี่หมากับแมวจะได้ไม่เหงา”

คนเราสามารถน่ารักได้แม้กระทั่งตอนทำหน้านิ่งเหรอวะ?

“เอาหมาแมวเข้าบ้านได้เหรอ?”

“ข้างล่างไม่ได้เดี๋ยวขนติดเสื้อผ้าลูกค้า ถ้ามาถึงก็อุ้มลูกขึ้นห้องกูเลย ตรงนี้ให้พี่ซันนอน ส่วนมูนน่าจะชอบหลังตู้เสื้อผ้าไม่ก็ชั้นเก็บหนังสือ”

“แจ็ค”

“อืม?”

“เมื่อกี้มึงเรียกซันกับมูนว่าลูก”

คนถูกท้วงถึงกับสตันท์ไปหลายวิ และทันทีที่ตั้งสติได้แจ็คก็หันไปชี้โบ้จี้เบ๊ก่อนจะลูบท้ายทอยแก้เขิน และการเนียนก้มลงไปจัดของเหมือนในทีแรกก็เป็นทางออกเดียวที่จะช่วยกู้หน้าได้ในเวลานี้

“พ่อหมายเลขสองใจดีกับพี่ซันน้องมูนจังเลยอะครับ” ทนไม่ไหวแล้ว เท็นสวมกอดอีกฝ่ายที่ก้มโก้งโค้งพร้อมแนบหน้ากับแผ่นหลังพลางหลับตาพริ้มโดยไม่สนว่าจะมีใครเขินหรือไม่

“ก็ไม่อยากเป็นพ่อใจร้ายที่ชอบหอบข้าวของมานอนบ้านคนอื่นอะครับ”

“ก็กูคิดถึงมึงนี่หว่า คืนนี้ก็อยากนอนด้วย เอาไงดีวะ โทรเรียกแม่บ้านเข้าไปให้อาหารลูกหรือว่าจะขับรถไปรับลูกเป็นเพื่อนกู”

“ย้ายมาอยู่ด้วยกันเลยไหมล่ะจะได้จบ ๆ”

“อย่าท้า มึงก็รู้ว่ากูทำได้ถ้ากูอยากทำ” เท็นกระชับกอด ก่อนไอ้แจ็คจะยืนขึ้นพร้อมหันมามองเขา

“รอกูมีบ้านใหม่ก่อน”

“หะ?”

“อืม ตามนั้นแหละ” ไอ้คนหน้านิ่งกระแอมไอแก้เขินหลังจากพูดให้เขาช็อก ยังไงวะ หมายความว่าจะให้เขาไปอยู่ด้วยถ้ามันซื้อบ้านใหม่งี้เหรอ?

“แจ็ค ลูก!”

“ว่าไงแม่?!” เสียงสวรรค์ทำให้ต้องคลายมือออกจากอ้อมกอด เท็นเนียนกระโดดขึ้นเตียงพร้อมควานเอามือถือมากดเล่นก่อนเสียงเคาะประตูตามมารยาทจะดังตามด้วยแม่ที่หมุนลูกบิดเข้ามา

“พาเพื่อนออกไปกินข้าวไปลูกมันสายแล้ว เดี๋ยวแม่จะพาคิงไปส่งบ้านเพื่อน”

“เดี๋ยวแจ็คทำกินเองก็ได้”

“ตู้เย็นโล่งเหลือแต่ไข่แจ็คจะทำอะไรให้เพื่อนกินล่ะ ไปลูก ชาบูหมูกระทะอะไรก็กินไปเถอะ กินของอร่อยบ้าง” นอกจากจะพรมน้ำมนต์ให้เขาแล้วแม่ยังลามมาถึงไอ้แจ็คด้วย ทั้งพรมทั้งคุยเรื่องปากท้อง เห็นแล้วก็เอ็นดู

“แม่จะเอาอะไรไหมเดี๋ยวเท็นซื้อมาให้”

“ไม่ต้องห่วงแม่หรอกลูก เราสองคนไปกินกันเถอะ”

“...”

เดี๋ยว แม่พูดถึงข้าวแต่ทำไมเขากับไอ้แจ็คถึงสตันท์แดกกลางอากาศแบบนี้วะ?

“โอเค งั้นถ้ามีอะไรก็โทรมานะ”

“ยำปูม้าก็ได้”

“นั่นไงแม่คุณ พอไอ้เท็นถามก็ไม่บอกไม่เอา” สองแม่ลูกหยอกล้อจี้เอวกันจนคนมองยิ้มขำตามไปด้วย

แม่ลงไปแล้วไอ้แจ็คจึงหันมามองเขาที่นั่งอยู่บนเตียง ก่อนจะยื่นมือมาให้จับพร้อมรอยยิ้มที่ทำให้รู้ว่าวันนี้คงมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นตามคำอวยพรของแม่แน่ ๆ




*


“ประเทศกรุงเทพ ชีวิตดี ๆ ที่ลงตัว”

“ไม่มีร้านไหนว่างเลยว่ะ ร้านอร่อย ๆ ไม่คิวยาวก็หาที่จอดรถยาก กินอะไรดีวะ?” เท็นมองข้อมูลร้านอาหารในมือถือแล้วก็อยากถอนหายใจแรง ๆ พอเงยหน้าขึ้นก็เจอถนนที่แออัดไปด้วยรถอีก

ทั้งที่คิดว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดีตามคำอวยพรแต่ไหงมาติดแหงกกลางถนนได้ โคตรเซ็ง เสียเวลาทิ้งไปเปล่า ๆ เลย

“งั้นกินอย่างอื่นได้ไหม หรือว่าอยากกินแซลมอนกับปิ้งย่าง?”

“กูกินอะไรก็ได้ เตี๋ยวข้างทางยังได้เลย ขอแค่หลุดออกจากตรงนี้ได้ก็พอ” เท็นรีบตอบ เขาไม่ได้อยากเป็นคนเรื่องเยอะต้องกินของแพง ตอนแรกที่ชวนก็เพราะอยากพาไอ้แจ็คไปกินของดี ๆ บ้างก็เท่านั้น

“โอเค งั้นก๋วยเตี๋ยวนะ”

นาน ๆ ทีถึงจะได้เป็นคนนั่ง ที่จะพูดก็คือปกติขับเองตลอดเพราะไม่มีเพื่อนคอยขับให้ แต่ก็แปลกใจดีที่วันนี้ไอ้แจ็คยอมทิ้งมอเตอร์ไซค์ไว้ที่บ้านแล้วเลือกขับรถเขา พอคิดอย่างนั้นแล้วก็ไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องหงุดหงิดหัวเสียเพราะเสียงบ่นฟ้าบ่นอากาศ เท็นหันซ้ายทีขวาที ก่อนจะเจออูคูเลเล่ตรงเบาะหลังซึ่งตั้งใจเอามาด้วย

“...”

แจ็คมองคนข้างตัวซึ่งกำลังเกาอูคูเลเล่เพลงคุ้นหู อีกทั้งยังทำหน้าทะเล้นแต่ต่างจากไอ้แหลมตรงที่รายนั้นเห็นแล้วอยากลงไม้ลงมือ ไอ้เท็นทำให้การรถติดบนถนนเส้นนี้ไม่น่าเบื่ออีกต่อไปด้วยเสียงดนตรีจากปลายนิ้วของมัน

“When your legs don’t work like they used to before... And I can’t sweep you off of your feet...”

อย่างที่รู้ว่าเท็นมักจะเล่นกีต้าร์มากกว่าร้องเพลง เขายอมให้อีกฝ่ายแซวว่าเสียงเหมือนหมาหอนตอนเดือนเก้าก็ได้ถ้ามันทำให้บรรยากาศดีขึ้น ไอ้แจ็คเคาะปลายนิ้วชี้กับพวงมาลัย ก่อนจะทำให้เขาพลาดเล่นเสียงเพี้ยนไปเพราะท่อนร้องจากเสียงทุ้มนุ่มของมัน

“Will your mouth still remember the taste of my love?”

เลือกเพลงได้ดีมากเท็น เลือกได้ดี

คิดว่าคงโดนฮุคตายคาที่แล้ว กระทั่งไอ้แจ็คกำมือป้องปากตนเองเพื่อกลบอาการขลาดอายเขาถึงรู้สึกว่าไม่มีใครเสียเปรียบให้กับหมัดนี้ที่เขาเป็นคนเริ่ม

กระอักกระอ่วนเหมือนเด็กเพิ่งเป็นหนุ่ม เสียงดนตรีเงียบหายไปกลางอากาศและเท็นคิดว่าเขาควรจะทำอะไรสักอย่างเพื่อไม่ให้ใครสักคนต้องตายเพราะไม่ชินกับความเขิน

“มึงทาครีมไรเนี่ย แก้มสากโคตร ๆ” เขาเอาหลังมือถูกับแก้มไอ้แจ็ค ก่อนมันจะจับแก้มตัวเองเหมือนไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน

“ก็ For Men ธรรมดา”

“เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ผู้หญิงที่ทาครีมดี ๆ ได้ เราผู้ชายก็ต้องดูแลตัวเองเหมือนกันเข้าใจเปล่า?” ไอ้เท็นดูไม่ทัน มันขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะเอาหลังมือทาบแก้มเขาบ้าง ซึ่งเอาจริง ๆ เรียกว่าตบหน้าอาจจะเข้ากว่า หัวนี่โยกเชียว

“...”

“ไงล่ะ เห็นความต่างยังว่าหล่อแบบธรรมชาติลงโทษอย่างคุณมันสู้หล่ออย่างคนดูแลตัวเองแบบผมไม่ได้”

เท็นยกยิ้มพอใจขณะที่อีกฝ่ายนั่งนิ่งไปเหมือนกำลังประมวลผลว่าแก้มมันกับแก้มเขาแตกต่างกันมากแค่ไหน

“อะไร?” เขาเลิกคิ้วถามเพื่อนที่เอาแต่จ้องมองมาเหมือนอยากพูดอะไร แล้วไอ้แจ็คก็ให้คำตอบเป็นหลังมือที่พลิกลงพร้อมนิ้วที่หยิกแก้มเขาเบา ๆ

“...”

ข้างนอกอาจจะร้อนทะลุสามสิบหกองศา แต่เท็นคิดว่านั่นอาจจะน้อยกว่าอุณหภูมิบนหน้าเขากับไอ้ซื่อบื้อที่เพิ่งทำสิ่งที่ชวนให้เขินกว่าการกอดกันแล้ว หยิกแก้มงั้นเหรอ เท็นไม่เคยทำกับใครแล้วก็ไม่เคยคิดว่าจะมีใครทำแบบนี้กับเขาด้วย ความรู้สึกมันเหมือนถูกสั่งให้กลั้นหายใจนาน ๆ ก่อนจะได้รับการอนุญาตให้หายใจอีกครั้งตอนมันชักมือกลับ

ไอ้แจ็คเหงื่อออกแล้ว และเท็นก็เพิ่งรู้ตัวว่าไม่ต่างกัน แต่มันก็บ้าเหลือเกินตรงที่เขายังอยากดำดิ่งลงไปอีกเหมือนจะเอาให้ตัวเองสำลักความสุขนี้ตาย ๆ ไปเสีย

“แจ็ค”

“อืม...”

“รถยังไม่ขยับ” หัวใจยังคงเต้นแรงและหน้าเขาเองก็คงแดงไม่แพ้กับคนข้างตัว แต่เท็นก็ยังอยากทำอย่างนี้ในช่วงเวลาที่มีเพียงเขาสองคนเท่านั้นที่อยู่ด้วยกันในรถ “...อยากจับมือ”

“...”

เขาแบมือออกมาก่อน ถ้าไอ้แจ็คเหนื่อยกับเรื่องเขิน ๆ แล้วมันคงหักหน้าเขาด้วยการจับพวงมาลัยรถแล้วทอดสายตาออกไปด้านหน้า แต่ใครจะสนวะ ถ้ามันไม่ยอมจับก็จะจับเอง เขามันคนเอาแต่ใจอยู่แล้ว

แต่ไอ้คนหน้านิ่งคงไม่ได้คิดอย่างนั้น เพราะสุดท้ายมันก็วางมือลงมาก่อนจะสอดประสานนิ้วกันจนได้

“มือกูสากกว่าแก้มอีกนะ จับได้เหรอ?”

“ไม่เป็นไร แค่ปากนุ่มก็พอแล้ว”

“อ้อ... อืม”

“เหี้ยเอ๊ย... กูนี่ก็หาเรื่องไม่หยุด”

เท็นตบหน้าผากตัวเองทั้งที่มืออีกข้างยังคงสอดประสานกับมืออีกคน เมื่อก่อนเคยคิดว่าคงมีแค่พวกเด็กมอต้นเท่านั้นที่จะเขินตอนหันไปสบตากันกระทั่งเจอกรณีไอ้แจ็ค ทั้งคู่เดี๋ยวมองเดี๋ยวหลบสายตาไป ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมากับสิ่งที่อีกฝ่ายเป็น

ไม่มีใครร้องเพลง Thinking Out Loud ต่อ
เมื่อเขาทั้งคู่ต่างก็คิดออกมาดัง ๆ ผ่านทางสายตาและเรียวนิ้วที่สอดประสานกันแล้ว






(จบครึ่งแรก)






ครึ่งหลังก็ยังไม่ได้กลับบ้าน หนูบอกแค่นี้

ช่วงนี้พายุเข้าเปล่าวะพี่ หนูว่าฝนใกล้จะตกแล้ว ใครตากผ้าไว้ก็เตรียมเก็บผ้าด้วยนะ

#ใส่ถุงมือล้างจานแล้วดีดนิ้วท่าเดียวกับธานอส





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-04-2019 23:07:24 โดย หน่วยกล้าวาย »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด