นิยายรักผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ - คดีรัก -
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นิยายรักผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ - คดีรัก -  (อ่าน 941071 ครั้ง)

nuttykung

  • บุคคลทั่วไป
มารอเหมือนกัน

บวกให้พี่นายมั่งดีกว่า

ส่นพี่โน๊อา

กบ + หรือ - ดีน้าาาาาาา

อิอิอิ

OhhO16

  • บุคคลทั่วไป

nuttykung

  • บุคคลทั่วไป
คนแต่งหายไปไหน??

โดนใครตีัหัวลากเข้าที่มืดเป่าหว่า??   :oo1:

หรือว่ามะสบาย??   :sad2:

แบบว่าแอบเปนห่วง...

ห่วงสารวัตรอ่ะ  อิอิิ

ออฟไลน์ MIkz_hotaru

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-4
ร่วมด้วยช่วยรอ :laugh:

เราชอบตามกระแส

ก๊ากๆๆ  ฟื้นซักทีสิ สารวัตรอธิคม TT^TT

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
 :z3: วันนี้ไม่มาลงเหรอเนี่ย
มิน่า เมื่อวานลงให้ตั้ง2ตอน
เพราะวันนี้คนโพสต์หนีเที่ยวนี่เอง  :laugh:

ออฟไลน์ Fujitaga

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
พี่นายหายไปไหนอะ  จิ้มซะเลย :z13:
เมื่อวาน ว่าแล้วทำไม ทะแม่ง ๆ เล่นลงให้ตั้งเยอะแยะมากมาย
นั้นแน่...วันนี้ หายไปเลยนะครับพี่

หรือว่า..........ไม่นะ   :a5:

ออฟไลน์ nbee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 849
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1
มารอพี่นาย+คุณคฑาวุธด้วยคน

สงสัยวันนี้จะติดเด็กซะล่ะมั้ง  :z3:


kororo

  • บุคคลทั่วไป
น้องนายหายไป อุตส่าห์รีบกลับมารออ่าน สงสัยเมื่อวานอัพเพลิน เผลออัพของวันนี้ไปด้วย เลยหมดสต๊อก

ไม่เป็นไรครับ ไม่มาวันนี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้มารอใหม่ก็ได้ แต่ต้องมาต่อด้วยนา อย่างหายไปอีกล่ะ  :undecided:

ออฟไลน์ ลูกหมีน้ำแดง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
อรุณสวัสดิ์ครับ
ขอบคุณที่ถามหานะครับ ไม่ได้หาย ก็แอบๆ เข้ามาอ่านล่ะ (ผ่านทางโทรศัพท์ที่ต่อเน็ตได้เร็วกว่าเครื่องออฟฟิส) แต่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่มอง เมื่อวานงานหนักหนาสาหัสครับ เงยหน้าขึ้นจากโต๊ะไม่ได้เลย ช่วงเช้าก็ตะเวนหาทะเบียนรถทั่วกรุงเทพฯ แล้วก็ทะเลาะกับธนาคารแทบจะฆ่ากันตาย ธนาคารนี้แย่จริงๆ สีน้ำเงินอ่ะ ที่เพิ่งตั้งขึ้นมาใหม่ สร้างเนื้อสร้างตัวมาจากการทำธุรกิจแบบไม่ค่อยซื่อต่อคนซื้อรถเท่าไหร่ ไอ้เราก็ไม่หลาบจำ เคยโดนมาแล้วก็***ไปโดนอีก

หยุดบ่นและ ขอโพสตอน 31 แล้วกันครับ ยังไงๆ ก็จะให้จบภายใน 40 ตอนให้ได้ครับ ขอบคุณครับ
(บททนี้ก็กินข้าวอีกและ มีใครบางคนบ่นว่าตั้งแต่อธิคมเข้าโรงพยาบาลทำไมมีแต่เฝ้าและกินข้าว) ต่อจากนี้ไจะไม่กินข้าวแล้วคร้าบบบ

31
อนุภาพมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งที่เอนตัวนอนพักอยู่ที่ระเบียงใกล้ด้านหน้าห้องไอซียู สองขาเหยียดยาว มือกอดอก คอเอนพาดอยู่กับระเบียง ตาหลับพริ้ม ราวกับกำลังนิทราอย่างสุขสบายทั้งๆ ที่นั่งอยู่บนระเบียงปูนอันแข็งกระด้าง
เวลาหลับ คชานนท์ช่างดูเหมือนอธิคมยิ่งนัก อกกว้างของชายหนุ่มสะท้อนขึ้นลงช้าๆ เป็นจังหวะ อนุภาพอยากปล่อยให้คชานนท์หลับต่อเพราะรู้ว่าเขาคงเหนื่อยล้าที่เดินทางมาถึงแพร่แล้วก็ยังไม่ได้พัก ต้องมานั่งเฝ้าพี่ชายอยู่แทบทั้งวัน
"คุณนุ มองอะไรผม" อนุภาพสะดุ้ง จู่ๆ คนที่หลับอยู่ก็ลืมตาขึ้นมาทัก
"นึกว่าหลับ"
"ก็หลับไปพักใหญ่ครับ แต่พอมีคนมายืนจ้อง ผมก็ตื่น" คชานนท์พูดยิ้มๆ ยังไม่ขยับตัว คอยังพาดอยู่กับราวระเบียง
"หลับแบบนี้ไม่สบายนะครับ ปวดคอแย่"
"นั่นสิ ตอนแรกผมจะแอบเข้าไปนอนในห้องผู้ป่วยแล้ว แต่กลัวถูกพยาบาลจับฉีดยา เลยต้องทนนั่งอยู่ตรงนี้ คิดว่าราวระเบียงเป็นหมอน ก็อดทนเอาหน่อย อะไรที่มันแข็งกระด้างก็นึกซะว่าเป็นปุยนุ่น" คชานนท์ล้อเล่น ทว่าแฝงความนัยลึกซึ้ง ชายหนุ่มยิ้มกว้างกว่าเดิม แหงนหน้ามองอนุภาพที่ยืนก้มหน้ามองเขาอยู่แล้วถามเรื่องอาหารกลางวันที่ดั้นด้นไปทานกันไกลนอกเมือง
"เสียดายที่ไม่ได้ไปทานด้วยกัน จะได้ช่วยผมเป็นกรรมการห้ามสารวัตรธงรบกับอาทิตย์ สองคนเถียงกันได้ตลอดเวลา"
"แล้วตอนนี้กลับไปแล้วหรือครับ" คชานนท์ถาม
"กลับไปแล้วครับ เถียงกันมาตลอดทาง สารวัตรธงรบนี่ถนัดยั่วอาทิตย์เหลือเกิน"
คชานนท์เอียงหน้าไปยังห้องไอซียูที่อยู่สุดทางเดิน อมยิ้ม แล้วพูดว่า "พี่ธงรบเหมือนพี่คม ถนัดนักเรื่องกวนอารมณ์คนให้สติแตก แต่มีพี่คมก็ไม่เคยเหงา คนๆ นี้ทำให้โลกมีสีสัน"
...เชียร์พี่ชายอีกแล้ว...
อนุภาพคิดในใจ มองตามสายตาของคชานนท์แล้วตอบเสียงเบา "แต่ตอนนี้คงสงบปากสงบคำไปได้อีกนาน"
คชานนท์หัวเราะ "ขอให้จริงเถอะ ผมกลัวว่าจะหนักกว่าเดิม"
"สารวัตรเป็นยังไงบ้างครับ" อนุภาพถาม
คชานนท์หันหน้ากลับมาแล้วยิ้มกว้าง ศรีษะที่วางอยู่บนราวระเบียงยังอยู่ในท่าเดิม ไม่มีทีท่าว่าจะผงกหัวขึ้น ราวกับกว่าระเบียงเห็นหมอนที่หนุนนอนอย่างสบาย
"ดูดีขึ้นครับ คุณนุเดินไปดูสิ พยาบาลถอดท่ออะไรต่างๆ ออกหมดแล้ว เหลือเข็มน้ำเกลืออย่างเดียว เขาเช็ดตัว เปลี่ยนชุดใหม่ หวีผมเรียบ หล่อเชียว"
อนุภาพยิ้มกว้าง นัยน์ตาฉายวาบจนคชานนท์เลิกคิ้วด้วยความแปลกใจที่เห็นว่ารอยยิ้มของแฟนพี่ชายนั่นสว่างวาบสดใส ขัดกับใบหน้าเรียบๆ เศร้าที่เขาเห็นตั้งแต่เดินทางมาถึง
"แต่พี่คมยังไม่ตื่นนะครับ ยังหลับอยู่ ถามพยาบาลแล้ว พยาบาลบอกว่าพี่คมรู้สึกตัวแล้ว ลืมตาขึ้นมาเพ้ออะไรซักอย่าแล้วก็หลับต่อ"
อนุภาพถอนหายใจเบาๆ ใบหน้าเปลี่ยนเป็นครุ่นคิดคำนึง
...หากอธิคมเอาแต่นอนแบบนี้ จะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะกลายเป็นเจ้าชายนิทรา
...คิดไปแล้วใจหาย!
"คุณนุไม่ต้องห่วงหรอก พี่คมอีกหน่อยก็มีฤทธิ์กวนอารมณ์ได้เหมือนเดิม ไม่ต้อวกลัวว่าจะเป็นเจ้าชายนิทรา หมอบอกว่าไม่หนักใจอะไร" คชานนท์พูดเสียงเบา อนุภาพหันมามองอย่างฉงน เลิกคิ้วเหมือนจะถามว่าคชานนท์รู้ความคิดเขาได้อย่างไร
สองพี่น้องนี้เก่งในการเดาใจคนจริๆ เลย แรกที่เห็นว่าแตกต่างกัน ตอนนี้คงต้องเปลี่ยนความคิดเสียแล้ว
อนุภาพขอตัวไปเยี่ยมอธิคม คชานนท์พยักหน้าเล็กน้อยแล้วหลับตาต่อเหมือนต้องการจะนอนคิดอะไรเล่นๆ แทนที่จะนอนหลับพักผ่อนอย่างจริงจัง
ชายหนุ่มหยุดยืนอยู่หน้าห้อง ลังเล็กน้อยเมื่อมองเข้าไปข้างในห้องไอซียูผ่านกระจกบานใหญ่ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาเยี่ยม แต่หากเขาขอร้องพยาบาลก็คงเข้าไปเยี่ยมถึงเตียงได้ แต่อนุภาพนึกได้ว่าตัวเองออกไปนอกเมือง เจอฝุ่นละออง อาจจะสกปรกไม่เหมาะที่จะเข้าไปเยี่ยมผู้ป่วยในห้องปลอดเชื้อจึงตัดสินใจยืนมองอยู่นอกห้อง
อธิคมนอนนิ่งอยู่บนเตียง ใบหน้าเกลี้ยงเกลาขึ้นเพราะพยาบาลหวีผมให้จนเรียบ แต่หนวดเคราเริ่มขึ้นเป็นแนวครึ้ม ทำให้ใบหน้าที่คมเข้มอยู่แล้วยิ่งคมมากขึ้นกว่าเดิม
เตียงตรงข้ามอธิคมอีกฝั่งเป็นผู้ป่วยที่ท่าทางอาการหนักกว่าคนอื่น พยาบาลสองคนกำลังพยายามกันช่วยพลิกตัวเพื่อเปลี่ยนกางเกงให้ เครื่องช่วยหายใจและสายยางระโยงระยางรอบตัวผู้ป่วยคนนั้นทำให้เขานึกถึงอธิคมตอนแรกๆ ที่อยู่ในห้องผ่าตัด หรือไม่ก็ตอนที่เพิ่งจะนำตัวออกจากห้องผ่าตัดมาอยู่ที่ห้องไอซียู  เขาเสียดายที่ไม่ได้เห็น เสียดายที่ตัวเองเผลอนั่งหลับไป แต่ก็ดีใจที่เห็นอธิคมมีพัฒนาการขึ้น
"อีกหน่อยพี่คมก็คงออกจากไอซียู ไม่แน่นะ เย็นนี้อาจได้ออก" เสียงทุ้มๆ ดังขึ้นใกล้ๆ คชานนท์ยืนอยู่ข้างหลังอนุภาพ มือไขว้หลังยืนมองอธิคมอยู่เช่นกันน
"แล้วคุณพ่อคุณนนท์จะมาถึงเมื่อไหร่ครับ"
"คงค่ำๆ ครับ เมื่อครู่เพิ่งคุยกัน คุณพ่อดีเลย์อยู่ที่นาริตะ จริงๆ ผมไม่อยากให้รีบหรอก อายุมากแล้ว เดินทางข้ามทวีปแบบนี้เหนื่อยมาก เลยบอกให้แวะที่บ้านพักผ่อน พรุ่งนี้เช้าค่อยมาจากกรุงเทพฯ"
"คุณนนท์คงเหนื่อยไม่แพ้กัน" อนุภาพเปรย
"นิดหน่อยครับ" อีกฝ่ายตอบ ใบหน้ายิ้มแย้ม แต่อนุภาพเห็นแววตาอิดโรยเริ่มแดงระเรื่อเหมือนคนอดนอน
"คุณนนท์ดูท่าทางเหนื่อยมาก ผมว่ากลับบ้านไปนอนพักผ่อนก่อนดีกว่า"
"อยู่ต่ออีกหน่อยก็ได้ครับ ถึงหกโมงเวลาเยี่ยม เข้าไปหาพี่คมซะก่อนแล้วค่อยออกไปทานอาหารเย็นทีเดียว"
"อย่าเลย ตอนนี้เราเฝ้าสารวัตรไม่ได้อยู่ดีเพราะอยู่ในห้องไอซียู สารวัตรอาวุธกับสารวัตรธงรบก็บอก" อนุภาพแย้ง หันมามองคชานนท์แล้วหันกลับไปมองอธิคมอีกครั้ง
"พี่วุธไปเชียงรายแล้วตั้งแต่บ่าย"
"เขาโทรบอกผมแล้ว" อนุภาพพึมพำ "อีกคนที่ผมอยากให้พักก็คือสารวัตรอาวุธนั่นล่ะ ตอนนี้ต้องจัดตารางเยี่ยม คนหนึ่งพักคนหนึ่งเยี่ยม ส่วนคนที่ทำงานก็ทำงานไป ว่างแล้วค่อยมา"
"คุณนุเริ่มควบคุมสถานการณ์แล้วหรือเนี่ย" คชานนท์ล้อด้วยใบหน้ายิ้มๆ
"ก็กลัวว่าจะไม่มีใครมีแรงเหลือช่วยดูสารวัตรตอนออกจากห้องไอซียูนะสิครับ"
"ไม่ต้องห่วง มีคนช่วยดูเยอะแยะ ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็จ้างพยาบาลจากเชียงใหม่มาดูแลตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงได้เลย"
"ขนาดนั้นเลยหรือ พยาบาลที่นี่ก็มี"
"โรงพยาบาลอำเภอเล็กๆ ต่างจังหวัดไม่มีจ้างพยาบาลพิเศษหรอกครับ ไม่ใช่โรงพยาบาลเอกชน" คชานนท์ยิ้ม ก่อนจะเติมว่า "แต่ผมว่าพี่คมคงอยากให้คุณนุดูแลคนเดียว"
"โชคดีของผม" อนุภาพประชด
"เวรกรรมต่างหาก" คชานนท์ยักคิ้วแล้วหัวเราะเสียงดังที่ได้ล้อเลียนพี่ชาย
"ไปเถอะครับ ผมจะพาแวะซื้ออาหารเย็นกลับไปทานที่บ้าน คุณนนท์ลองทานอาหารเหนือดูไหมครับ" อนุภาพชวน
"น่าสนใจ" คชานนท์ดูท่าทางกระตือรือร้น "ทานอาหารเย็นเสร็จ ค่ำๆ ค่อยกลับมาแวะดูพี่คมอีกก็ได้ เดี๋ยวผมไปบอกให้คนขับรถไปพักซะก่อน นั่นก็นั่งเฝ้าผมมาทั้งวันเหมือนกัน"
ตลอดทางจากตลาดไปถึงบ้านพักของอนุภาพ คชานนท์ชวนคุยจนเขาไม่มีเวลานั่งเงียบคิดถึงเรื่องอื่นๆ ยิ่งได้ใกล้ชิดน้องชายอธิคมยิ่งมองเห็นความเหมือนกันของพี่น้องคู่นี้ว่าขี้เล่นเหมือนกัน เจ้าคารม มีอารมณ์ขันแปลกๆ ยิ่งรอยยิ้มคชานนท์ถอดแบบออกมาจากนายตำรวจผู้พี่เหมือนดั่งเป็นคนเดียวกัน ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดมีเพียงนัยน์ตา
...นัยน์ตาของอธิคมนั้นพราวระยับ เต้นระริกดูเจ้าเล่ห์ แพรวพราวเหมือนคนเจ้าชู้ทั่วๆ ไป แต่นัยน์ตาของคชานนท์ดูจริงจัง เป็นผู้ใหญ่เกินอายุ ลึกซึ้ง ค่อนข่างอ่านยาก...
อนุภาพอดคิดไม่ได้ว่าคชานนท์คิดอะไรอยู่ บางครั้งคชานนท์มองเขาอย่างครุ่นคิด เหมือนจะถามอะไรซักอย่างแต่ก็ไม่ถาม คล้ายๆ กับที่อาวุธทำ

บ้านไม้ทาสีขาวทั้งหลังตั้งโดดเด่นอยู่บนพื้นที่กว่าหนึ่งไร่บนเนินหญ้าเขียวขจี หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ระเบียงกว้างมีแปลแขวนอยู่ระหว่างเสาสองต้น ถัดไปเป็นเก้าอี้ไม้ตัวใหญ่หนึ่งตัว ราวกับว่าเจ้าของบ้านอยากเอาไว้นั่งเล่นคนเดียว กระถางต้นไม้ตั้งเรียงรายหน้าระเบียงจนถึงลานหินปูนกว้างพอตั้งโต๊ะสนาม ก่อนที่เนินหญ้าจะเทลาดต่ำลงไปราวห้าสิบเมตรจนถึงธารน้ำเล็กๆ ที่ไหลคดเคี้ยวไปตามแนวต้นสน
คชานนท์ยืนมองภาพตรงหน้าอย่างชื่นชม ก่อนจะพูดออกมาว่า "น่าอยู่มากเลยครับ ถ้าคุณนุจะขายต่อ ต้องบอกผมเป็นคนแรกนะครับ ผมจะซื้อ รับรองว่าไม่ต่อราคาซักบาท"
"โชคดีที่ได้ที่สวยๆ ครับ ที่นี่ที่สวยๆ ทั้งนั้น ติดกับผมก็รู้สึกว่ามีคนมาซื้อไปแล้วสามไร่ อีกฟากของลำธารก็สวย เลยโค้งน้ำไปทางโน้นก็สวย แต่ผืนใหญ่มากเกินไป มี ส.ส. คนหนึ่งซื้อไปแล้ว ขายต่อราคาโหดน่าดูเหมือนกัน"
"ราคาไม่โหดก็ไม่ใช่ ส.ส.  สิครับ" คชานนท์เหน็บแนม "แต่ถ้าผมขายต่อก็อาจโหดกว่า ส.ส. เพราะผมเป็นนักธุรกิจ"
พูดเสร็จคชานนท์ก็หัวเราะ อนุภาพหันไปมอง รอยยิ้มกว้างของคชานนท์สะกิดใจเขาให้นึกถึงใบหน้าของอธิคมที่ยิ้มกว้างอยู่เป็นนิจ ชายหนุ่มจึงผายมือไปยังบันไดเตี้ยๆ หน้าระเบียงหน้าบ้าน
"เชิญครับ จะได้อาบน้ำพักผ่อน"
"หนาวจัง ไม่อาบได้ไหมเนี่ย" คชานนท์ห่อไหล่
"ขี้เกียจอาบน้ำเหมือนพี่ชาย" อนุภาพล้อเล่นเบาๆ แล้วเดินนำหน้า "อย่าต้องให้บังคับนะคุณนนท์"
"ผมพูดเล่นเฉยๆ" คชานนท์เดิมตาม เมื่ออนุภาพเปิดประตูบ้าน "ผมเป็นคนชอบอาบน้ำที่สุด ว่าแต่ว่าคุณนุมีน้ำอุ่นใช่ไหมครับ"
"ไม่มี" อนุภาพยักไหล่
"ว๊า ถ้าไม่มี ผมก็ขอถอนคำพูดเมื่อกี้นี้"
อีกครั้งที่อนุภาพได้ยินเสียงหัวเราะอารมณ์ดีของชายหนุ่มที่เดิมตามหลังมาใกล้ๆ ตามด้วยคำถามสารพัดที่คชานนท์ถามเมื่อเดินเข้ามาในบ้าน
ยิ่งรู้จักนานขึ้น อนุภาพก็เห็นว่าคชานนท์เป็นคนช่างพูด พอๆ กับอธิคม  แต่จะช่างยั่วเย้ากวนใจเหมือนนายตำรวจหรือไม่นั้น เขายังบอกไม่ได้
...คิดผิดหรือคิดถูกที่เสนอให้คชานนท์มาพักที่บ้าน ยิ่งคชานนท์เดินไปเดินมาในบ้านหลังนี้ ยิ่งรู้สึกว่าสารวัตรอธิคมกำลังอยู่ใกล้ๆ ทั้งที่ตัวจริงนอนหลับอยู่บนเตียงในห้องไอซียู
...นอนหลับ...อธิคมนอนอยู่เฉยๆ มากว่าสองวันแล้ว เขารู้สึกร้อนรุ่มในใจเหลือเกิน...
อนุภาพหยุดยืนหน้าห้องพักแขก แล้วเปิดประตูรอให้คชานนท์เดินเข้าไป
"แขกคนที่สองที่มาพักที่บ้าน" อนุภาพยิ้มให้คชานนท์
"โอ้โห ใหม่เอี่ยม เรียบร้อยเหมือนไม่เคยมีใครเข้ามาให้ห้องนี้มาก่อน"
"สารวัตรอาวุธเก็บซะเป็นระเบียบเรียบร้อยครับ ตั้งแต่ที่สารวัตรมาพัก ผมยังไม่ได้เข้ามาทำความสะอาดหรืออะไร พอเปิดประตูเข้ามาก็ตกใจ นึกว่าแม่บ้านที่ไหนมาจัดการให้แล้ว"
"พี่วุธเนี้ยบเสมอ ไม่เหมือนพี่คม ตอนที่เราไปเที่ยวกันนะครับ ผมพักห้องเดียวกันกับพี่วุธ พอทำอะไรเสร็จต้องรีบเก็บเพราะกลัวโดนดุว่าทำห้องรก ส่วนพี่คมกับพี่ธงนอนห้องเดียวกัน พี่วุธยังโทรข้ามห้องไปสั่งให้เก็บห้องเลย"
อนุภาพเลิกคิ้วแล้วถามว่า "ขนาดนั้นเลยหรือ"
"เพราะสองคนนั่นหาของไม่เจอ มาขอผ้าเช็ดหน้าที่ห้องเรา พี่วุธก็ฉุน บอกว่าอะไรไม่เจอก็มาวุ่นวายที่ห้องเขา พอเข้ามาก็ถามว่า เฮ่ย ห้องนี้มีคนพักด้วยหรือ ผมก็บอกว่ามีสิ พักด้วย ทำงานเป็นแม่บ้านด้วย รกไม่ได้เลย พี่วุธจะว่าเอา"
อนุภาพอดหัวเราะไม่ได้เมื่อนึกภาพตามคำบอกเล่าของคชานนท์ เพราะหากให้อาวุธพักกับธงรบหรือไม่ก็อธิคม ในห้องพักก็คงวุ่นวายน่าดู ดังนั้น คชานนท์พักกับอาวุธ ห้องก็คงเรียบร้อยและมีแต่ความสงบเงียบ อธิคมพักกับธงรบก็คงเลอะเทอะจนพนักงานโรงแรมไม่อยากเข้ามาทำความสะอาด คู่ที่เหมือนกัน อยู่ด้วยกันก็เหมาะสมกันแล้ว
...แต่เขากับอธิคมแตกต่างกันจนเห็นได้ชัด เขาก็ไม่เห็นจะวุ่นวายอะไรจนทนไม่ได้ พอนานเข้าก็เริ่มชิน กฏเกณฑ์อะไรที่ควรจะเป็นไปตามที่คนพูดๆ กันไว้ก็ไม่เห็นจะสำคัญอะไรนักหนา เขาอีกคอยดูแลให้ทุกอย่างในบ้านให้เรียบร้อย อย่างน้อยก็หาโทรศัพท์กับผ้าเช็ดหน้าให้อธิคมล่ะ...
"คุณนนท์ก็ทำห้องรกเหมือนสารวัตรหรือครับ" อนุภาพถาม
"แต่ไม่เท่าพี่คมหรอกครับ" คชานนท์หันมายิ้มกว้าง "แต่ที่แน่ๆ ไม่ได้ครึ่งพี่ธงรบ รายนั้น งูเลื้อยเข้าห้อง งูยังหลงทาง"
อนุภาพอมยิ้มกับการเปรียบเปรยของคชานนท์ เขารู้ดี ธงรบเป็นอย่างไรอาทิตย์เล่าให้ฟังหมดแล้ว เขายังนึกสงสารอาทิตย์อยู่เลยว่าจะทนไหวหรือเปล่าเพราะอาทิตย์ก็ค่อนข้างเป็นคนเรียบร้อยคล้ายๆ  คชานนท์ แม้ไม่เนี้ยบเท่าอาวุธก็ตาม
..."ผมเห็นกางเกงในอยู่ในอ่างล้างหน้า" อาทิตย์ "ฟ้อง" ขณะนั่งรอพนังานคิดเงินเมื่อทานอาหารกลางวันด้วยกัน ตอนนั้นธงรบขอตัวไปห้องน้ำ อาทิตย์จึงได้ บ่นเรื่องของสารวัตรธงรบให้ฟัง จนอนุภาพต้องพูดขึ้นว่า "อาทิตย์รู้ไหม เอาแต่บ่นเรื่องธงรบ ไม่พูดเรื่องอื่นเลย"
"ก็..." อาทิตย์อ้าปากจะตอบแต่ก็เงียบไป
อนุภาพมองเห็นอะไรบางอย่างในความสัมพันธ์ระหว่างอาทิตย์กับธงรบ สองคนนั้นดูๆ ไปก็เหมือนเป็นเงาสะท้อนความสัมพันธ์ของเขากับอธิคม มีความแตกต่างอยู่มาก แต่ก็เข้ากันได้ดี ทั้งๆ ที่เขาพยายามเปรียบเทียบอธิคมกับอาวุธในช่วงหลังๆ ที่อาศัยอยู่ที่แพร่ แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่า เขาต้องการสีสันในชีวิต ต้องการอะไรที่ทำให้เขาได้มีความรู้สึกว่าอยากจะกระโดดเข้าบีบคออธิคมและจูบอธิคมในเวลาเดียวกันเวลาโดนยั่วจนแทบจะทนไม่ได้
...ความรู้สึกแบบนี้ช่างแปลกนัก ไร้กฎเกณฑ์ ไร้รูปแบบ คาดเดาไม่ได้...นี่ใช่ไหมคือสิ่งที่เขาต้องการ

อนุภาพปล่อยให้คชานนท์ทำธุระส่วนตัว ชายหนุ่มเดินเข้าไปในครัว รินน้ำส้มคั้น แล้วถือแก้วเดินออกมาที่ระเบียง ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ไม้ที่เขามักนั่งอ่านหนังสืออยู่คนเดียวยามเช้า
...เก้าอี้ตัวนี่ที่อาวุธนั่งอยู่เมื่ออธิคมจอดรถหน้าบ้าน แล้วเดินหน้าบึ้งเข้ามา ท่าทางเอาเรื่อง
คืนนั้นที่อธิคมต่อยอาวุธจนปากแตก โหนกแก้มบวมปูด แล้วโวยวายเสียงดังลั่น ทั้งโกรธ ทั้งตัดพ้อ ทั้งน้อยใจ แล้วเฝ้าอ้อนวอนเขาให้ยกโทษให้
...เขาต่างหากที่ต้องขอให้อธิคมยกโทษให้
...ทำไม เพราะเขารู้สึกผิดหรือ หรือเพราะเขาควรจะรู้สึกผิด ผิดที่จากอธิคมมา หรือผิดที่ยังลบธนาภพทิ้งไปจากใจไม่ได้
เขาผิดหรือที่ยังมีเงาของธนาภพอยู่ ผิดหรือที่บางคืนนอนฝันร้าย เห็นธนาภพเดินโซเซเข้ามาหากลางถนนมืดมืด ใบหน้าเละ เลือดท่วมตัว แล้วรำพึงรำพันว่า "นุ อย่าทิ้งภพ ยกโทษให้ภพเถอะ อย่าทิ้งภพไป อย่าทิ้งภพแบบนี้ อย่าตัดภพออกไปจากชีวิต จะจากกันแบบนี้เลยหรือนุ แบบที่ไม่ต้องเจอกันอีกเลยหรือนุ" แล้วจากนั้นธนาภพก็เอาแต่ร้องเรียกชื่อเขา มือไขว่คว้าจะกอดเขาไว้ให้อ้อมแขน
"นุ..."
"คุณนุ" คชานนท์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ "คิดอะไรอยู่หรือครับ"
อนุภาพสะดุ้ง รู้สึกตัวจากการปล่อยใจให้ล่องลอยถึงอดีต หันมามองน้องชายของคนที่เพิ่งอยู่ในห้วงคำนึงของเขาเมื่อครู่ คชานนท์อาบน้ำเสร็จแล้ว กลิ่นสบู่หอมกรุ่น ใบหน้าขาวสะอาด หวีผมเรียบ ใบหน้าคมเข้มเหมือนพี่ชายยิ้มกว้างอยู่ใกล้ๆ
"สบายตัวแล้วใช่ไหมครับ หิวหรือยัง"
คชานนท์พยักหน้า "สบายตัวที่สุด ได้อาบน้ำอุ่น แล้วท้องก็เริ่มหิว ผมว่าเราทานอาหารที่ซื้อมากันเลยดีกว่า อย่ารอให้ถึงเย็นเลย"
"รอเดี๋ยวนะครับ" อนุภาพยิ้ม แล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้
"อ๊ะๆ ไม่ต้องครับ ผมจัดการอง ให้แขกทำให้ดีกว่า เข้าของบ้านนั่งอยู่เฉยๆ ถือซะว่าผมบริการเป็นค่าตอบแทนที่ไม่คิดเงินค่าที่พัก" คชานนท์ยักคิ้ว เหมือนกับที่อธิคมชอบทำบ่อยๆ แล้วยิ้มกว้างจนตาหยี ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน ทิ้งให้อนุภาพมองจนลับตา
...อธิคม..ยักคิ้วแบบนี้มีแต่อธิคมเท่านั้นที่ทำได้...
...อธิคม...ทำไมเขาคิดถึงอธิคมมากนัก ทั้งๆ ที่รู้สึกเสียใจมากเหลือเกินกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทำไมเขารู้สึกพร้อมที่จะให้อภัยอธิคมได้มากขนาดนี้
...เพราะอธิคมถูกยิงบาดเจ็บสาหัสเจียนตายหรือ เลยทำให้เขาใจอ่อน
...หรือเพราะรัก เพราะรักคำเดียวนี่หรือ
...แล้วถ้าเพราะรัก เขาจะให้อภัยตัวเองได้หรือเปล่าหนอ?

ได้ยินเสียงคชานนท์ฮำเพลงดังหงุงหงิงไม่ค่อยเป็นทำนองนัก อนุภาพจึงเดินไปยังห้องครัวเพื่อดูว่าคชานนท์ทำอะไรไปถึงไหน
คชานนท์ท่าทางดูคล่องแคล่ว ไม่เหลือเค้านักธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์ ตอนนี้เหมือนหนุ่มน้อยสดใส ร่าเริง ผู้มีความสุขกับการทำอาหาร หรือถ้าจะเรียกให้ถูก -- "อุ่น" อาหาร
"นี่ถ้าคุณนุไม่มีไมโครเวฟ ผมคงแย่" คชานนท์หันมายิ้มเมื่อเห็นว่าอนุภาพมาหยุดยืนที่ประตูห้องครัว "นี่อะไรบ้างก็ไม่รู้ แต่ท่าทางน่าอร่อยดีเหมือนกัน"
"น้ำพริกอ่องครับ แกงแค แกงโฮ้ะ แล้วก็ยำขนุน" อนุภาพเดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้ใกล้โต๊ะ
"เกิดมาไม่เคยทานเลยซักครั้ง" คชานนท์ห่อไหล่ แบะมือออก ทำท่าทางเหมือนฝรั่ง
"อร่อยนะครับ ลองดู เผื่อจะชอบ"
"คุณนุอยู่เมืองเหนือ จะกลายเป็นคนเหนือไปซะแล้ว"
"เพิ่งจะสามเดือนเองนะครับ"
"สามเดือนเหมือนสามปี" คชานนท์พูดแล้วหันไปยกอาหารออกจากไมโครเวฟ ทำท่าทางร้อนมือ
"อูย ร้อนๆ" คชานนท์วางผ้าลงบนโต๊ะ แล้วหันมายิ้มให้อนุภาพแล้วพูดต่อว่า "สามเดือนของบางคนสั้นนิดเดียว แต่สำหรับบางคน ยาวนานเสียเหลือเกิน"
"ยังไงก็เวลาเท่ากัน สามเดือนก็คือ 90 วัน ไม่ว่าจะยังไง ความเป็นจริงก็คือ 90 วัน" อนุภาพยักไหล่ รู้ว่าคชานนท์จงใจพูดถึงใคร "24 ชั่วโมง คูณกับ 90"
"ใช่ครับ  2,160 ชั่วโมงที่เสียไป" คชานนท์ตอบทันที
อนุภาพเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ ไม่นึกว่าคชานนท์จะคิดเลขในใจได้เร็วขนาดนี้ และอดเปรียบเทียบกับ "สามทหารเสือ" ไม่ได้ อาวุธก็คงคิดได้เร็วพอๆ  กัน อธิคมอาจต้องจับปากกากขีดๆ เขียนๆ บ้าง ส่วนธงรบคงต้องคว้าเครื่องคิดเลขมากดผิดๆ ถูกๆ แล้วบ่นตาม
"แปลกใจหรือครับ ก็แค่ตัวเลขง่ายๆ แค่ 24 x 90 ใครก็น่าจะคิดได้ง่ายๆ ไม่มีดอกเบี้ยมาเกี่ยวด้วยซ้ำ คุณนุไม่รู้ว่าผมคิดเลขเก่ง ยิ่งเป็นตัวเลขบอกจำนวนเงิน ผมยิ่งคิดได้เร็วเป็นทวีคูณ"
"สมเป็นนักธุรกิจ"
คชานนท์ยักไหล่ "ผมถนัดเรื่องกำไรขาดทุน คิดเสมอว่า สิ่งที่ได้มากับสิ่งที่เสียไป หรือสิ่งที่อาจจะเสียใป แบบไหนคุ้มกว่ากัน"
อนุภาพนั่งนิ่ง มองตาคชานนท์เพื่อค้นหาความหมายแฝงที่ชายหนุ่มต้องการสื่อ
...คชานนท์มีอะไรแปลกๆ บางครั้งตรงไปตรงมาจนแปลกใจ แต่บางครั้งก็อ้อมไปอ้อมมา
"ใครจะยอมขาดทุน ใช่ไหมครับ เงินของเรามีค่า กว่าจะหามาได้ก็ยากเย็น จะยอมขาดทุนไปทำไม เพราะฉะนั้นผมเลยคิดเลขเก่ง แต่ว่าผมไม่คิดซับซ้อนหรอกนะครับ ผมคิดง่างๆ  ล่ะ เอาตัวเลขตัวหนึ่งตั้ง แล้วอีกตัวไปคูณไปหารง่ายๆ เลย พ่อกับพี่คมเลยยกให้ผมดูแลเรื่องการเงิน" คชานนท์จัดอาหารบนโต๊ะอย่างคล่องแคล่วพลางพูดต่อว่า "คุณนุรู้ไหม พี่คมไม่เคยสนทรัพย์สินตัวเองเลย นี่ถ้าผมแอบถ่ายเงินออกไปที่อื่นซักร้อยล้าน เขาก็คงไม่รู้ บอกว่า ขอเค้าเดือนละแสนก็พอ แต่ผมไม่เหมือนพี่คม ผมมีความสุขที่ได้เห็นตัวเลขเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คุณนุเป็นอย่างผมไหมครับ"
อนุภาพรู้ว่าคชานนท์ต้องการสื่อความหมายอะไร แต่แกล้งทำไม่เข้าใจ ถามว่า "เห็นตัวเลขเพิ่มขึ้นหรือครับ"
คชานนท์ส่ายหน้าเร็วๆ แล้วตอบว่า "ไม่ใช่ครับ เห็นตัวเองได้กำไร ได้เพิ่มจากสิ่งที่มีอยู่"
"ผมไม่ใช่นักธุรกิจ ไม่ถนัดเรื่องกำไร" อนุภาพยักไหล่ มองคชานนท์ไม่หลบตา
"แต่คุณนุก็คงไม่อยากขาดทุน ไม่อยากให้อะไรๆ ที่มีค่าของตัวเองหายไปใช่ไหมครับ" คชานนท์ยืนนิ่ง ทอดสายตามองอนุภาพอย่างอ่อนโยน ราวกับพยายามโน้มน้าวให้อีกฝ่ายคล้อยตาม
"ใครๆ ก็ไม่อยากให้หายไป"  อนุภาพพูดเสียงเบาราวกับจะปรารถกับตัวเอง
"หิวข้าวแล้ว หอมน่าทาน" อชานนท์ขยับตัว แล้วหันหลังไปหยิบช้อน "คุณนุครับ ทานกันเลยดีกว่า ก่อนจะไม่อร่อย ทิ้งไว้ก็เย็นชืดเสียเฉยๆ อุตส่าห์อุ่นให้ร้อนหอมกรุ่นน่าทาน ต้องรีบๆ ทานให้อร่อย ก่อนจะสายเกินไป"
อนุภาพอมยิ้ม คิดในใจว่า...ดูเอาเถอะ  คชานนท์ยังหาประเด็นมาเปรียบเปรยอีกจนได้
น้องชายอธิคมช่างฉลาดเสียจริง ที่คิดไว้ตอนแรกว่าน่าจะเป็นนักการฑูตแทนที่จะเป็นนักค้าหลักทรัพย์นั้นท่าจะจริง
****************** end of chapter 31 *** revised 3/08/09***



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






katawoot

  • บุคคลทั่วไป
กินข้าวกันต่ออีกบทนะครับ  :เฮ้อ:

32
อนุภาพกับคชานนท์ทานข้าวกันเงียบๆ คชานนท์ทานข้าวเยอะ เห็นตัวไม่ใหญ่แต่น้องชายอธิคมทานข้าวจานที่สองกำลังจะหมด และมีท่าทางจะต่อจานที่สาม
...เหมือนพี่ชาย ดูยังไงคชานนท์ก็เหมือนพี่ชาย ต่างกันอย่างเดียวคือดวงตาและการพูด
...ดวงตาจริงจังกับดวงตากรุ้มกริ่ม
...ฉลาดลึกซึ้งกับเจ้าเล่ห์
อนุภาพเปรียบคชานนท์กับอธิคมอยู่ในใจ พลันนึกต่อไปว่าบางทีทั้งสองคนอาจจะเหมือนกันในจุดนี้ด้วยก็ได้
คชานนท์มีลักษณะเป็นนักการฑูตที่ถนัดเรื่องการต่อรอง โน้มน้าว ชักจูงคนให้ทำตามที่ตัวเองต้องการ ส่วนอธิคมก็ไม่ค่อยต่างกัน เพียงแต่วิธีของทั้งสองไม่เหมือนกัน
คชานนท์ใช้เพียงคำพูด แต่อธิคมทำทุกอย่าง แม้แต่ติดสินบนสิงห์ รปภ. ประจำคอนโดของเขา หรือแม้แต่แม่บ้านประจำตึก สมบัติ อธิป พจนีย์ โดนอธิคม "ใช้งาน" ทั้งสิ้น และแม้กระทั่งน้องชายของธงรบก็ไม่เว้น
ในงานเลี้ยงแต่งงานของพจนีย์ เขาได้มีโอกาสคุยกับร้อยตำรวจโทชัชชัย น้องชายของธงรบ จึงได้รู้ว่า วันที่อธิคมให้ชัชชัยนำรถจากอู่ซ่อมรถมาส่งให้ที่บริษัท อธิคมสั่งให้ชัชชัยวางดอกกุหลาบไว้บนเบาะ แล้วแอบดูจนกว่าเขาเก็บดอกไม้ไว้ในรถ  แล้วจึงรีบโทรไปรายงานให้อธิคมทราบ หลังจากนั้น คนเจ้าแผนการยังมีหน้ามานั่งถามเขาว่าทิ้งดอกไม้ไปหรือยัง
"คุณนุครับ คิดอะไรอยู่" คชานนท์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ "ผมเรียกตั้งนาน ไม่เห็นตอบ นั่งเหม่ออีกแล้ว"
อนุภาพยิ้มบางๆ เอื้อมมือไปตักอาหารให้คชานนท์ "ลองแกงโฮะดูสิครับ เจ้านี้อร่อย ผมซื้อบ่อยๆ"
คชานนท์กล่าวขอบคุณเบาๆ จ้องมองอาหารแปลกตรงหน้าแล้วยิ้มกว้าง "แกงอะไรไม่มีน้ำ" คชานนท์ทำท่าคิดแล้วพูดว่า "เหมือนเย็นตาโฟ ตอนแรกนึกว่าของหวาน ที่ไหนได้..."
อนุภาพหัวเราะเบาๆ เมื่อได้ยินคชานนท์เปรียบเทียบอะไรแปลกประหลาด
"พี่คมเคยหลอกพาผมไปทานของหวานแลกกับการให้ผมเฝ้ารถให้ พอไปถึงที่ร้านขายก๋วยเตี๋ยวผมก็ยังแปลกใจ ถามว่าร้านก๋วยเตี๋ยวมีของหวานด้วยหรือ พี่คมบอกว่ามีสิ เย็นตาโฟไงล่ะ เขามักจะทานหลังก๋วยเตี๋ยว พอแม่ค้าเอามาเสริฟ ผมก็ยังเชื่ออยู่เพราะเห็นเป็นสีแดงๆ พอตักเข้าปากเท่านั้นล่ะ รู้ซึ้งเลย"
อนุภาพหัวเราะ นึกภาพอธิคมแกล้งน้องแล้วก็น่าสงสารคชานนท์
"ตอนเริ่มเป็นหนุ่มพี่คมชอบล้อผมว่าเป็นคุณหนู อยู่บ้านก็มีคนทำอะไรให้ ไปโรงเรียนก็มีคนขับรถไปส่ง ตัวเองแบกกระเป๋าวิ่งขึ้นรถเมล์ มาล้อผมว่าทานอาหารข้างนอกบ้านก็ทานแต่ในร้านอาหาร แต่คุณนุรู้ไหมครับ พี่คมเองนั่นล่ะ ซักผ้าก็ไม่เป็น ทำอาหารก็ไม่ได้ อะไรๆ ก็ให้คนใช้ทำให้ แม้ตอนไปเรียนนายร้อย ยังขนเสื้อผ้าใส่กระเป๋ากลับมาให้คนที่บ้านซักรีดให้เลย แล้วแม่ก็เป็นคนจัดกระเป๋าให้ เย็นวันอาทิตย์แทนที่จะแค่หยิบกระเป๋าเดินไปขึ้นรถ ยังมีคนถือไปใส่ท้ายรถให้อีกต่างหาก"
อนุภาพพยักหน้าเห็นด้วย เพราะเขามีประสบการณ์มาแล้ว ครั้งหนึ่งเขาวานให้อธิคมหุงข้าวให้เพราะต้องรีบวิ่งออกไปซื้อมะนาวกับเห็ดฟางเพื่อมาทำต้มยำ เขาใช้เวลาเพียงสิบห้านาทีออกจากบ้านไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ตเล็กๆ กลางซอย เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ตกใจที่เห็นข้าวสวยกลายเป็นข้าวต้มเละๆ ฟองอากาศเอ่อล้นออกมาจากหม้อหุงข้าวเลอะโต๊ะไปหมด อธิคมให้เหตุผลว่า "ผมอยากให้ข้าวมันนุ่มๆ จะได้กินคล่องคอ"

อนุภาพกับคชานนท์รับประทานอาหารเสร็จก็เป็นเวลาห้าโมงเย็นพอดี อนุภาพเปรยว่าแบบนี้คงไม่ต้องทานอะไรไปอีกหลายมื้อ แต่คชานนท์บอกว่าตัวเองคงต้องทานอีก เพราะอีกสามสี่ชั่วโมงเขาคงหิว
"เลี้ยงไม่ไหว" อนุภาพส่ายหน้า เอื้อมมือไปหยิบผ้ามาเช็ดมือหลังจากล้างจานเสร็จ หันไปมองคชานนท์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หัวโต๊ะทานอาหาร มือถือมีดกำลังปาดแอปเปิ้ลส่งเข้าปาก
"เจริญอาหารดีจัง นี่ถ้าผมอยู่แพร่ต่ออีกซักอาทิตย์สองอาทิตย์ กางเกงคงคับหมด" คชานนท์มองอนุภาพยิ้มๆ
"เพราะเรามีเวลาทาน ไม่เร่งรีบเหมือนอยู่ที่กรุงเทพฯ นี่ครับ"
"มิน่า คุณนุถึงอยากอยู่ที่นี่" คชานนท์พูดเสียงเรียบ แต่คนฟังรู้สึกได้ว่าแอบตัดพ้อแทนพี่ชาย
"คุณนุครับ ทำไมทิ้งพี่คมมาอยู่เสียไกลทั้งๆ ที่ยังรักกันอยู่" จู่ๆ คชานนท์ก็ถามโพล่งออกมา
อนุภาพนึกไว้อยู่แล้ว หนึ่งวันเต็มๆ ที่อยู่กับคชานนท์เขาเริ่มที่จะเรียนรู้ลักษณะของน้องชายอธิคม คชานนท์เป็นคนมีสองบุคลิก ดูขี้เล่น สดใส ร่าเริง แต่ในขณะเดียวกันก็ดูเคร่งขรึม จริงจังและเป็นผู้ใหญ่กว่าอายุมากนัก
"อยากรู้จริงๆ หรือครับ" อนุภาพถาม วางผ้าเช็ดมือ มือสองข้างวางลงบนโต๊ะ ลูบไล้ไปมาเบาๆ ถอนหายใจช้าๆ ก่อนจะตอบคชานนท์ว่า "เพราะตอนนั้นผมเห็นว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด"
อนุภาพตอบเพียงแค่นั้น แล้วนิ่งเงียบ คชานนท์ไม่ถามต่อ หากนั่งมองอนุภาพอย่างคิดคำนึง พยายามนึกปะติดปะต่อเรื่องราวที่เขารู้อยู่บ้างเข้ากับสิ่งที่เขาได้เห็นและได้สัมผัสเมื่อมาถึงแพร่
เขารู้แน่นอนอยู่ว่าอนุภาพยังรักอธิคมอยู่ ส่วนพี่ชายเขาไม่ต้องพูดถึง รักและอาวรณ์อนุภาพจนเหลือที่จะกล่าว อนุภาพนั้นดูเป็นคนมีสองบุคลิก ดูอ่อนแอแต่ก็ดูเข้มแข็ง และก็คงใจแข็งไม่น้อย แต่ในขณะเดียวกันก็มีความสับสันอยู่ในตัว คล้ายจะตัดสินใจไม่ได้
...เขานี้ล่ะ จะช่วยให้อนุภาพตัดสินใจให้ได้ เขาสงสารพี่ชาย สงสารอนุภาพ สงสารอาวุธ
...ความรักมันควรจะทำให้คนมีความสุข ไม่ใช่ทุกข์ แม้เราจะยอมรับอยู่บ้างตามที่เคยได้ยินกันมาว่า...ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ แต่ทุกข์นั้น ไม่ควรจะกัดกร่อนใจจนแหลกสลายไป
อนุภาพจงใจตอบคำถามกำกวมเพราะรู้ดีว่าคชานนท์ฉลาดพอที่จะวิเคราะห์คำตอบนั้นได้เอง
...นี่คือวิธิที่ดีที่สุด...เขาบอกตัวเองว่าอย่างนั้น
...วิธีที่ดีที่สุดสำหรับเขาที่จะตัดสินใจอีกเป็นครั้งสุดท้ายว่าจะทำอย่างไรดีกับชีวิต...
เขายอมรับว่าวิธีนี้โหดร้ายไปหน่อยสำหรับอธิคม แต่ตอนนั้น ไม่เคยคิดเลยว่าอะไรจะออกมาแบบนี้ ไม่เคยคิดเลยว่าจะทำให้อธิคมมานอนอยู่บนเตียงในห้องไอซียู ไม่เคยคิดว่าจะทำให้อธิคมต้องมาผิดใจกับอาวุธ ไม่เคยคิดว่าตัวเองกลับจะต้องมาทุรุนทุรายได้ขนาดนี้
...เย็นวันนั้นที่นายตำรวจหนุ่มบุกมาที่บ้าน ทะเลาะกับอาวุธ ต่อยเพื่อนไปหลายหมัด อ้อนวอนให้เขาเปลี่ยนใจกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง คืนนั้นเขาได้ตระหนักว่าใครคือคนที่มีค่าที่สุดของเขา
...เย็นวันนั้นที่เขาเห็นอธิคมเดินคอตกกลับไปที่รถ รู้ทั้งรู้ว่าสารวัตรมือปราบดื่มเหล้าเข้าไปไม่น้อย อาจจะขับรถประสบอุบัติเหตุ แต่เขาก็ปลอบใจตัวเองว่า อธิคมเป็นคนคอแข็ง ดื่มเหล้าเป็นถังก็ยังไม่เมา เหมือนที่อธิปเพื่อนรุ่นน้องเคยเล่าให้ฟัง คืนนั้นเขาได้ตระหนักว่าใครคือคนที่เขาห่วงใยที่สุด แต่เขาก็ไม่คิดเลยว่า หลังจากอธิคมผิดหวังออกไปจากบ้านของเขาแล้ว จะนำกำลังเจ้าหน้าที่ดักซุ่มและเข้าจับกุมผู้ค้ายาเสพติดตั้งแต่กลางดึก ข้ามคืนจนถึงเกือบเที่ยงวันถัดไป
ในสภาพที่ทั้งร่างกายและจิตใจไม่มั่นคง อธิคมที่เคยเข้มแข็งกลับอ่อนแอจนเพลี่ยงพล้ำต่อโจรผู้ร้าย ถูกยิงจนบาดเจ็บแทบเอาชีวิตไม่รอด
...นี่หรือคือวิธีที่ดีที่สุด ตอนนี้อนุภาพเริ่มไม่แน่ใจว่าความคิดของตัวเองถูกต้อง

คชานนท์ขอเป็นคนขับรถไปโรงพยาบาล อนุภาพคอยบอกทางชายหนุ่มเป็นระยะ ไม่ถึงสิบห้านาทีทั้งสองก็มายืนอยู่หน้าตึกโรงพยาบาล
ขณะนี้เป็นเวลา 18.00 น. รอบข้างมืดสลัว หน้าหนาวความมืดมาเยือนเร็วกว่าปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอำเภอเล็กๆ กลางหุบเขาเช่นนี้
ก่อนจะก้าวขึ้นบันได คชานนท์แตะแขนอนุภาพแล้วกล่าวว่า "คุณนุครับ ถ้าเกิดขึ้นไปแล้วพี่คมรู้สึกตัวแล้ว คุณนุจะว่ายังไง"
อนุภาพชะงัก บอกไปตามตรง "ยังไม่รู้สิครับ ก็คงถามว่าเป็นยังไง เจ็บแผลหรือเปล่า"
"จะยกโทษให้พี่คมไหมครับ" คชานนท์พูดยิ้มๆ ตรงไปตรงมาอีกแล้ว
"ยกโทษให้ตั้งนานแล้ว แต่ที่จริง ผมไม่ได้เกลียดสารวัตรนี่นา จะต้องให้ยกโทษทำไม"
"แล้วทำไมต้องเลิกกับพี่คมล่ะครับ ถ้าไม่ได้เกลียดกัน ทำไมต้องแยกกัน ผมไม่เห็นมันจะมีความสุขที่ไหนเลย หรือว่าคุณนุเลิกกับพี่ชายผมไม่ใช่เหตุผลที่เด็กเก่าพี่คมตามระรานคุณนุ หรือเรื่องเข้าใจผิดที่กระบี่" คชานนท์มองอนุภาพนิ่ง ยังไม่ยอมขยับก้าวขึ้นบันได
อนุภาพถอนหายใจเบาๆ เดินเลี่ยงไปยังใต้ต้นไม้ด้านข้างที่มีมานั่งสีขาวตั้งอยู่ ชายหนุ่มยืนมองอยู่ชั่วครู่และในที่สุดก็ตัดสินใจบอกคชานนท์
"คุณนนท์ครับ ที่ผมเลิกกับสารวัตรไม่ใช่เรื่อง...ไม่ใช่เรื่องกษิดิษฐ์ หรือเรื่องที่กระบี่ ไม่ใช่เพราะสารวัตรเจ้าชู้หรือไม่เลิกเจ้าชู้ แต่เป็นเหตุผลบางอย่างที่ผมยังตอบไม่ได้"
"ผมสงสารพี่ชายผม พี่คมทรมานมากตลอดหลายเดือนที่อยู่คนเดียว ผมแวะไปหาที่บ้าน เห็นสภาพแล้วก็รู้สึกแย่ ไม่นึกว่าพี่จะเป็นเอามากถึงขนาดนี้ เกิดมาไม่เคยพี่คมอ่อนแอแบบนั้น" คชานนท์แทรก "พี่คมไม่ได้ขอให้ผมมาพูดกับคุณนุหรอก ผมพูดเอง เพราะทนเห็นคนสองคนที่รักกัน แต่ต้องมาทุกข์ทรมานกันแบบนี้ คุณนุบอกผมได้ไหมล่ะ ว่าไม่รู้สึกเสียใจที่อยู่คนเดียวโดยไม่มีพี่คม"
อนุภาพนิ่ง คชานนท์พูดได้แทงใจเขาเป็นที่สุด เขารู้ว่าที่คชานนท์พูดนั้นเป็นความจริงทุกอย่าง แต่เขายอมรับว่าตอนที่จากอธิคมมา ตัวเองยังรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างที่มันยังกีดขวางเขากับอธิคมอยู่ เหมือนเส้นบางๆ ที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร รู้แต่เพียงว่า เวลานั้น เมื่อได้ก้าวออกมาแล้ว จะให้ย้อนกลับไปและเผชิญกับอะไรเหมือนๆ เดิม เขาอาจจะรับไม่ได้ เขาอ่อนแอนัก เขารู้ตัวเองดี ทุกทีที่เกิดอะไรขึ้น เขาก็อ่อนไหว เสียใจได้ง่ายๆ แต่ทำไมยังอยากจะเสี่ยงกับอธิคมอีกล่ะ อาวุธต่างหากที่สมบูรณ์แบบ ไม่มีวี่แววอะไรเลยที่จะทำให้หวั่นใจว่าชีวิตรักจะไม่ราบเรียบ
...อยู่กับอธิคมต่างหาก ต้องคอยกังวล หวาดหวั่นว่าเมื่อไหร่อธิคมจะดีแตก เมื่อไหร่จะเห็นภาพบาดตาบาดใจ เมื่อไหร่จะมีคนโผล่ขึ้นมาพยายามแย่งอธิคมไป...เขาเหมาะกับอธิคมหรือ กษิดิษฐ์เคยพูดใส่หน้าเขาตรงๆ ว่า เขาไม่เหมาะกับอธิคม
..."พี่คมเหมาะกับผมต่างหาก อย่างคุณ เอาพี่คมไม่อยู่หรอก"...
...จริงหรือ จะให้เขาตามหึงหวงอธิคมเช่นนั้นหรือ เขาทำไม่ได้หรอก จะให้คอยสู้กับคนที่จ้องจะแย่งนายตำรวจเสน่ห์แรงอย่างอธิคม เขาก็ทำไม่ได้เหมือนกัน แต่จะให้ทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ไม่สนใจว่าใครจะมายุ่งกับสารวัตร และเผลอๆ สารวัตรรูปหล่ออาจจะเผลอตัวเผลอใจ พ่ายแพ้ต่อการยั่วยวน เขาก็ทำไม่ได้...
"คุณนุครับ ให้โอกาสพี่คมอีกครั้งได้ไหม และที่สำคัญ ให้โอกาสตัวเองด้วย พี่วุธก็อาจไม่ต้องเจ็บมากไปกว่านี้" คชานนท์ขอร้อง น้ำเสียงหนักแน่น แววตาจริงจัง ในใจมุ่งมั่นว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาก็จะทำให้ทั้งสองกลับมาอยู่ด้วยกันอีกให้ได้ วิญญาณพ่อสื่อเข้าสิงแล้วนี่ ยังไงต้องทำให้สำเร็จ
...ปัญหาที่สำคัญคือสารวัตรอาวุธ พี่ชายเขาบอกว่าหน้าที่เขาคือกันอาวุธออกไป แต่จะทำอย่างไรกันเล่า จะหลอกล่ออาวุธคงทำได้หรอก รายนั้นฉลาดจะตาย จะใช้ลูกไม้เดิมๆ ที่เขาเป็นพ่อสื่อให้เพื่อนๆ ก็ไม่น่าจะได้ผล แล้วที่สำคัญ จะหาใครที่ไหนมาเบี่ยงเบนความสนใจของอาวุธไปจากอนุภาพ ท่าทางอาวุธคงชอบอนุภาพมาก ไม่เช่นนั้นคงไม่พ่ายแพ้ต่อใจตัวเองจนแทรกเข้ามาในชีวิตคู่ของพี่ชายเขา แม้จะบอกว่าเข้ามาตอนที่อนุภาพกับอธิคมแยกกันอยู่ ยังไงก็เรียกว่าแทรกแซงอยู่ดี
เขารู้จักอาวุธดี เผลอๆ จะรู้จักดีกว่าที่พี่ชายเขากับธงรบรู้จักคนที่ในสมัยเรียนนายร้อยเรียกกันเองว่าเป็นหนึ่งในสามทหารเสือ ซึ่งหากปล่อยไว้อย่างนี้ อธิคมคงเกลียดอาวุธอาวุธจนแทบไม่มองหน้าและไม่พูดถึง
อนุภาพขยับตัว หันหลังกลับกำลังจะก้าวเดินไปที่บันไดทางขึ้นตึก คชานนท์ยิ้มให้อย่างอ่อนโยนแล้วขยับตัวตาม
"คุณนุครับ อย่าโกรธผมนะที่ผมพูดตรงๆ นิสัยผมเป็นแบบนี้ล่ะ แก้ไม่หาย เป็นห่วงคนนั้นคนนี้ไปทั่ว อยากให้แต่ละคู่เขามีความสุข"
"ผมเข้าใจครับ คุณนนท์ก็คงอยากจะเห็นพี่ชายมีความสุข" อนุภาพก้าวขึ้นบันได้ได้สองก้าวจึงหันมาพูดกับคชานนท์ต่อว่า "ผมก็อยากให้ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีเหมือนกัน แต่มันต้องใช้เวลา อย่างน้อยก็ขอให้ผมได้ไปเชียงใหม่เสียก่อน"
...เขาต้องไป...เขาต้องไปที่นั่น เมื่อนั้น เขาจะได้เอาชนะความอ่อนแอของตัวเอง...

พยาบาลขอให้คชานนท์กับอนุภาพรออยู่หน้าห้องไอซียูเพราะกำลังย้ายผู้ป่วยที่อยู่เตียงฝั่งตรงข้ามกับอธิคมออกไป ชายชราคนนั้นเสียชีวิตแล้ว หลังจากที่นำตัวเข้าห้องไอซียูเมื่อเช้าวันนี้
"คุณนนท์" อนุภาพพึมพำเสียงเบา มือแตะทาบอยู่บนกระจกเย็นเฉียบ ตามองชายหนุ่มตัวโตที่นอนอยู่บนเตียงในห้อง อธิคมหายใจเป็นจังหวะ ดูราวกับพักผ่อนธรรมดา ทว่า เป็นการนอนหลับที่ยาวนานเหลือเกิน
"คุณนุครับ พี่คมดูดีขึ้นมาก ไม่ต้องกังวลหรอก" คชานนท์เข้าใจความรู้สึกของอนุภาพดี แต่ก็อดดีใจไม่ได้ด้วยซ้ำที่มาเห็น "ภาพที่ไม่ควรเห็น" ในห้องไอซียู
ชายชราที่เสียชีวิตอาจทำให้อนุภาพตระหนักได้ว่า เวลาของปัจจุบันที่กำลังดำเนินไปนั้นมีค่ายิ่งนัก ทำไมจะปล่อยให้ปัจจุบันกลายเป็นอดีตที่น่าเสียดาย
...เสียดายที่ไม่ได้แก้ไขอะไรๆ ให้ถูกต้อง
คชานนท์เชื่อนักว่า อนุภาพก็คงน่าจะกำลังคิดอะไรคล้ายๆ กันกับเขา ณ เวลานี้
"น่าสงสารคุณลุงคนนั้น ไม่มีญาติซักคนมาอยู่ด้วยตอนสิ้นลม น่าเสียดายเวลาที่หายไป" คชานนท์พูดเบาๆ ตามองผ่านกระจกเข้าไปในห้อง
อนุภาพเข้าใจว่าคชานนท์ต้องการสื่ออะไร หากเป็นเวลาปกติเขาก็อยากจะย้อนชายหนุ่มว่า ช่างรู้จักใช้คำพูดกระทบกระเทียบคนเหลือเกิน แบบนี้ไม่น่าจะเป็นนักธุรกิจ น่าจะไปเป็นอาจารย์สอนปรัชญาด้วยซ้ำ

ในที่สุด อนุภาพและคชานนท์ก็ได้เข้าเยี่ยมอธิคม พยาบาลบอกว่านายตำรวจหนุ่ม "คนป่วยที่รูปหล่อที่สุด" ที่เธอเคยเห็นมา รู้สึกตัวแล้วเมื่อหัวค่ำ เอาแต่เพ้อเพราะมีไข้สูง และท่าทางคงเจ็บแผลมาก แพทย์จึงสั่งเพิ่มยาแก้ปวด
"เพ้อชื่อใครไม่รู้ค่ะ สงสัยเป็นแฟน เอาแต่พูดว่ารักๆ อย่าทิ้งผมไป ทำไมทิ้งผม ใครน๊อ ช่างใจร้ายใส้ระกำกับสารวัตรได้ หล่อเทพขนาดนี้ยังทิ้งได้ลงคอ อาภัพจริงๆ" พยาบาลส่ายหน้าแล้วเดินจากไป ทิ้งให้สองหนุ่มยืนมองคนรูปหล่อผู้อาภัพด้วยสีหน้าแตกต่างกัน อนุภาพใบหน้าเรียบนิ่ง ครุ่นคิด ในขณะที่คชานนท์อมยิ้ม ถูกใจ
"คุณนุ ผมปลุกพี่คมเลยนะ จะได้รู้ว่าคนที่เขาเพ้อถึงมายืนอยู่ข้างๆ แล้ว"
"อย่าเลยครับ" อนุภาพรีบห้าม "ให้สารวัตรพักผ่อนเถอะ"
"อ้าว ไม่อยากคุยด้วยหรือครับ เห็นคุณนุพร่ำอยากให้พี่คมฟื้น" คชานนท์ตีหน้าซื่อ
อนุภาพมองใบหน้าขาวสะอาดของคชานนท์ เงาของอธิคมทาบทับบนใบหน้าน้องชายซึ่งตอนนี้ชักทำหน้าตาเหมือนพี่ชายเข้าไปทุกที เขารู้ทันว่าคชานนท์จงใจยั่วเย้า แต่เขาไม่สนใจ แค่นี้ก็โล่งใจขึ้นเยอะที่รู้ว่าอธิคมรู้สึกตัวแล้ว หลังจากที่กังวลมานาน
"ผมอยากจะรู้เหมือนกันว่าพี่คมเพ้อชื่อใคร ใช่คุณนุหรือเปล่าน๊า ถ้าไม่ใช่จะเอาไม้เรียวฟาดเสียให้เข็ด"
"ลองเป็นชื่อคนอื่นสิ จะดึงน้ำเกลือออกเดี๋ยวนี้" อนุภาพเสียงเข้ม แต่นัยน์ตายิ้มๆ
"ร้ายเหมือนกันแฮะ เหมือนที่พี่คมเล่าให้ฟังเปี๊ยบเลย" คชานนท์เปรย อนุภาพเลิกคิ้วอย่างสงสัย คชานนท์จึงพูดต่อว่า "ตอนแรกผมก็นึกภาพไม่ออก เพราะคุณนุในความคิดของผมเป็นคนเรียบๆ นิ่งๆ ไม่ค่อยพูด"
"สารวัตรว่าผมร้ายหรือครับ" อนุภาพถาม
"เปล่าครับ แต่บอกว่าดุ" คชานนท์ยิ้มกว้าง ก้มลงมองอธิคมแล้วพูดว่า "ดุ แต่น่ารัก อ๊ะๆ อันนี้พี่คมพูดเองนะครับ" คชานนท์เงยหน้าขึ้นมาพูดกับอนุภาพ พยายามทำคะแนนให้พี่ชาย

คชานนท์กับอนุภาพใช้เวลาเยี่ยมสารวัตรผู้หลับไหลกว่าสิบนาทีแล้วจึงเดินออกจากห้องไอซียู กลับลงมาที่ชั้นล่างของโรงพยาบาล พลันได้ยินเสียงชายหนุ่มสองคนกำลังเถียงกันอยู่ อนุภาพหันไปจึงพบว่าเป็นอาทิตย์กับธงรบ
"ผู้กอง ทำตามที่ผมบอกได้ไหม กรุณาอย่าขัดคอผม ขี้เกียจพูดหลายครั้ง" อาทิตย์เสียงเข้ม ท่าทางอ่อนอกอ่อนใจ
"แหม ไอ้คมมันไม่หนีไปไหนหรอกน่า เรากินข้าวกันก่อนแล้วค่อยขึ้นไป"
"เดี๋ยวเขาหมดเวลาเยี่ยม"
"อ๊ะ ถ้างั้นก็เยี่ยมพรุ่งนี้ก็ได้" ธงรบยักไหล่ "มันคงอยู่อีกนาน"
"ก็มาแล้วจะเยี่ยมพรุ่งนี้ทำไมกันล่ะ" อาทิตย์ถอนหายใจแรงๆ ครั้นหันมาเจออนุภาพกับคชานนท์กำลังเดินตรงมาจึงรีบก้าวเข้ามาหา ทิ้งธงรบให้ยืนอยู่คนเดียว
อนุภาพสังเกตว่าธงรบกำลังแอบมองแพทย์หนุ่มคนหนึ่งที่ยืนคุยกับพยาบาลใกล้ๆ กับเคาท์เตอร์หน้าห้องตรวจ
"พี่นุ ขึ้นไปเยี่ยมสารวัตรหรือยังครับ ผมเพิ่งมาถึง กว่าจะออกจากโรงแรมได้ก็เกือบจะทิ้งผู้กองเสาธงไว้ที่โรงแรม" อาทิตย์ฟ้อง
อนุภาพพยักหน้า คชานนท์ยิ้มขันๆ เพราะรู้จักธงรบดี
"สารวัตรรู้สึกตัวแล้ว"
"จริงหรือครับ" อาทิตย์ตื่นเต้น "แล้วคุยได้หรือยังครับ"
"ยังหรอก ที่บอกรู้สึกตัวคือพยาบาลบอกว่ารู้สึกตัวแล้วตั้งแต่หัวค่ำ คงเพ้อเพราะพิษไข้ แต่พอพี่มาถึงสารวัตรก็หลับไปอีกเหมือนเคย"
"งั้นก็เป็นสัญญาณดีว่าสารวัตรไม่เป็นอะไร หายห่วงแล้ว" อาทิตย์ยิ้มให้อนุภาพ ยิ้มใสซื่อบริสุทธิ์ ยิ้มที่ทำให้อนุภาพอดรู้สึกเสียใจไม่ได้
อาทิตย์...ชายหนุ่มที่มั่นคง แม้จะผิดหวังจากเขา แต่อาทิตย์ก็ยังคงรักและห่วงเขาตลอดเวลา แม้แต่รู้ว่าเขากำลังห่วงใยคนที่อาทิตย์เคยพร่ำรำพันว่าแย่งคนที่ตัวเองรักไป แต่อาทิตย์ก็ดีใจกับเขาด้วยที่ "คนที่แย่งของรักของตัวเอง" จะกลับมาทำให้เขามีความสุขอีกครั้ง
อาทิตย์เคยบอกว่า "ถ้าพี่นุมีความสุข ผมก็มีความสุข ถ้าสารวัตรทำให้พี่นุมีความสุข ผมก็อยากให้สารวัตรอยู่เคียงข้างพี่นุตลอดไป"
"ฮึ เดินมาก็ไม่บอก" ธงรบบ่น เดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ อาทิตย์ที่ทำท่าไม่สนใจนายตำรวจเจ้าปัญหา "คุณนุ ทานข้าวหรือยังครับ ไปทานด้วยกันไหม" ธงรบชวน แต่ถูกอาทิตย์พูดขวางทันที
"ผู้กอง อย่ามัวแต่ห่วงกินเลย ขึ้นไปเยี่ยมสารวัตรก่อน" อาทิตย์หันมาหาอนุภาพและคชานนท์ "พี่นุ รออยู่นี่ก่อนนะครับ"
ชายหนุ่มหน้าตี๋เดินจากไป พร้อมส่งเสียงเรียกสารวัตรธงรบ
"ผู้กองตามมาสิครับ เดี๋ยวจะหาว่าไม่บอกอีก"
ธงรบถอนหายใจเบาๆ มองอนุภาพกับคชานนท์ยิ้มๆ ก่อนจะเดินทอดน่องตามอาทิตย์ไปช้าๆ พร้อมบ่นตามหลัง
"ก็มันหลับอยู่ ไม่รู้สึกตัว จะไปเยี่ยมมันทำไม๊ ไปถึงก็ได้แต่ยืนมองหน้า รอให้ฟืนก่อนค่อยมาเยี่ยมก็ไม่ได้"
ธงรบส่ายหน้า ไม่เข้าใจอาทิตย์นัก ทำเหมือนตัวเองเป็นอนุภาพก็ไม่ปาน ทั้งๆ ที่อธิคมแย่งอนุภาพไป ก็ยังอุตส่าห์เป็นห่วงเป็นใยอยู่ได้ แปลกคนจริงๆ อาทิตย์นี่...ธงรบคิดในใจแล้วรีบพยักหน้าเมื่อเห็นอาทิตย์หันกลับมาขมวดคิ้ว เหมือนจะเร่งให้เขารีบเดิน
"ร้ายขึ้นทุกวันนะอาตี๋" ธงรบบ่นต่อ แล้วก้าวเท้ายาวขึ้น เพลิดเพลินกับการมองด้านหลังของอาทิตย์ที่กำลังขึ้นบันได

เีดียะมีต่อ...

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
ต่อ

อนุภาพกับคชานนท์มองตามสองหนุ่มด้วยแววตาขันๆ แล้วเดินไปนั่งที่ม้านั่งใกล้บันไดลงจากตึกผู้ป่วย ลมหนาวพักมาเป็นระยะจนอนุภาพต้องห่อไหล่ กระชับแขนที่กอดอก หันไปมองคชานนท์ก็ไม่ต่างกัน
"น่าสงสาร" คชานนท์เปรย
"น่าสงสารใครครับ อาทิตย์หรือสารวัตรธงรบ" อนุภาพเข้าใจที่คชานนท์พูด แต่ไม่รู้ว่าคชานนท์หมายถึงใคร
"คุณนุคิดว่าใคร"
อนุภาพทำท่านึกชั่วครู่แล้วตอบว่า "อาทิตย์"
คชานนท์หัวเราะในลำคอ เอียงหน้า ยกไหล่ขึ้น ทำหน้าตาแสดงว่าเห็นด้วย
"อาทิตย์พูดมากขึ้นกว่าเดิม บ่นเก่งขึ้นด้วย แล้วก็ดูเจ้าอารมณ์ขึ้นด้วย"
"แหงล่ะ" คชานนท์พยักหน้า "พี่คมยังเคยบ่นเลยว่าปวดหัว ผมก็เคยคิดนะว่าพี่คมกวนประสาทไม่เบา แต่พี่ธงก็ไม่ด้อยไปกว่ากัน เผลอๆ ผมคิดว่าพี่ธงน่ะ ยิ่งกว่าพี่คมด้วยซ้ำ"
"ไม่น่าเชื่อว่าอาทิตย์จะมาคู่กับสารวัตรธงรบ สงสัยอยู่เลยว่าอาทิตย์จะอดทนกับการกวนประสาทของสารวัตรธงรบได้แค่ไหน" อนุภาพเปรย
"คนแบบนี้มีสีสันครับ กวนได้กวนดี แต่ก็ทำให้ชีวิตไม่น่าเบื่อ" คชานนท์ตอบ
"แล้วสารวัตรอาวุธคิดยังไงครับ" อนุภาพถาม อยากจะรู้จริงๆ ว่าอาวุธมองคนนั้นอย่างไร
"พี่วุธก็คอยกำกับครับ แต่บางทีก็ไม่ไหวจริงๆ เคยบ่นว่าปวดหัวเหมือนกัน"
"ผมนึกภาพสามทหารเสือไม่ออกจริงๆ" อนุภาพส่ายหน้ายิ้มๆ
"คนไม่เหมือนกันก็ใช่ว่าจะรักกันไม่ได้นี่ครับ" คชานนท์ตอบเสียงเบา ตั้งใจพูดแฝงนัยอีกแล้ว
อนุภาพหันไปมอง แล้วนิ่งไปครู่ใหญ่ จากนั้นจึงชวนคชานนท์นินทาธงรบกับอธิคมจนอาทิตย์เดินกลับมา แต่ไร้วี่แววสารวัตรธงรบเจ้าคารม
"เราไปกันก่อนเถอะครับ ให้ผู้กองธงรบตามไปที่หลัง ตอนจะขึ้นไปเยี่ยมก็อิดออดท่านั้นท่านี้ พอไปเยี่ยมแล้จะกลับลงมาก็เอ้อระเหยอยู่ได้ พี่นุ ผมปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว เหมือนต้องดูแลน้องชายหัวดื้อคนหนึ่ง" อาทิตย์ทำหน้ามุ่ย ท่าทางจะไม่ไหวจริงๆ
"เถอะน่า อาทิตย์ ถือซะว่าเป็นสีสันชีวิต" อนุภาพปลอบ หากตัวเองกลับรู้สึกเหมือนโดนเข็มแทงใจ เจ็บแปลกเพราะสิ่งที่ตัวเองพูดกระทบตัวเอง คชานนท์เบือนหน้าออกไปซ่อนยิ้มโดยที่อนุภาพกับอาทิตย์ไม่ได้สังเกต
...อธิคมนั่นไงก็เป็นสีสันชีวิตเหมือนกัน...
"อาทิตย์ไปกับคุณคชานนท์ก่อน พี่จะรอสารวัตรธงรบ พี่ว่าไปทานที่ร้านชมจันทร์ที่ริมแม่น้ำดีกว่า เลี้ยวขวาหน้าโรงพยาบาล ตรงไปจนสุดถนน จะเห็นสะพาน เลี้ยวซ้ายก็ถึงเลย มีอยู่ร้านเดียว"
"ไปพร้อมกันทั้งหมดก็ได้ครับ" อาทิตย์ดูยังเป็นห่วงธงรบ
"แยกกันไปดีกว่าครับคุณอาทิตย์" คชานนท์แทรก "เพราะทานเสร็จแล้วจะได้แยกกันกลับเลย ไม่ต้องย้อนมาเอารถที่นี่อีก"
อนุภาพเห็นด้วย บอกให้อาทิตย์ล่วงหน้าไปก่อนกับคชานนท์ ส่วนเขามองเห็นธงรบเดินมา จึงตรงไปหานายตำรวจหนุ่ม ธงรบดูไม่เร่งรีบ ท่าทางสบายใจ หรือท่าทางกำลังสนุกที่ได้ยั่วเย้าอาทิตย์ก็ไม่ทราบได้
สารวัตรคนใหม่ยิ้มกว้างเมื่อเห็นอนุภาพเดินตรงเข้ามาหาเขาจึงพูดขึ้นว่า "ให้ผมเดานะ อาทิตย์บอกให้ทิ้งผมไว้ที่นี่"
อนุภาพเอียงคอมองธงรบแล้วกล่าวว่า "ผมเป็นคนบอกเอง"
ธงรบตาโต "อ้าวคุณนุ ไหงเป็นงั้นเล่า"
"อาทิตย์ล่วงหน้าไปกับคชานนท์แล้วครับ ท่าทางหิวจัด สารวัตรก็เข้าใจยั่วอาทิตย์นะ คนกำลังหิว" อนุภาพตำหนิหน้ายิ้มๆ
"ยั่วแล้วสนุกดี" ธงรบยักไหล่ "ว่าแต่ว่าวันนี้ผมก็ได้ควงคุณนุซะที อยากควงมานานแล้ว"
"ไม่กลัวโดนเตะหรือครับ" อนุภาพขู่
"อยู่ถึงลำปาง มาเตะอะไรผมได้ อีกคนก็นอนพะงาบๆ อยู่บนเตียง ไม่กลัวหรอก" ธงรบยักไหล่
"ผมหมายถึงอาทิตย์ต่างหากล่ะ" อนุภาพแตะแขนธงรบ บอกกลายๆ ว่าให้เดินตาม
"อาทิตย์ไม่กล้าเตะผมหรอก อย่างมากก็ทำเสียงฮึดฮัด ทำหน้างอนๆ ไม่ก็ขมวดคิ้ว พักหลังนี้เจ้าอารมณ์ขึ้นนะ ตี๋น้อยของผม"
"สารวัตรก็ยั่วอาทิตย์อยู่ได้ สนุกมากหรือไง" อนุภาพกำมือหลวมๆ ชกหัวไหล่นายตำรวจช่างยั่ว
"โอ๊ย เจ็บนะ" ธงรบแกล้งร้อง แต่นัยน์ตาพราวระยับ "นี่ถ้าไม่ใช่คุณนุของไอ้คมกะไอ้วุธตี ผมไม่ยอมด้วย"
อนุภาพหยุดเดิน หรี่ตาท่าทางเอาเรื่อง "ผู้กองธงรบ"
"เอาซะแล้วไหมล่ะ เรียกผมว่าผู้กองนี่คงโกรธแล้วละสิ" ธงรบทำท่าหวาดกลัว แต่ความจริงหาได้เป็นเช่นนั้นไม่
"คุณนุ..." ธงรบล้วงกระเป๋ากางเกง ท่าทางสบายๆ แต่นัยน์ตาจริงจัง "เลือกเอาซักคน ผมสงสารเพื่อนผมจะแย่อยู่แล้ว สงสารทั้งสองคนเลยล่ะ"
"มันไม่ได้ง่ายยังงั้น" อนุภาพเสียงเบา บอกธงรบในใจว่า ความจริงไม่ได้เป็นอย่างที่ธงรบพูดหรอก ความจริงมัน "ลึก" กว่านั้น ลึกกว่าที่คชานนท์หรือธงรบกำลังคิด
"ผมรู้ครับ แต่จะให้มันคาใจอยู่แบบนี้หรือ มันไม่ดีต่อทุกฝ่ายนะ ที่บอกว่าสงสารนี่ สงสารจริงๆ ไอ้คมจะเป็นจะตายเสียให้ได้ วุธเองก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก คุณนุก็รู้ วุธไม่มีวันจะแย่งคุณนุมาจากเพื่อนหรอกแต่ในขณะเดียวกันก็จะไม่ออกไปจากชีวิตคุณนุถ้าคุณนุไม่เอ่ยปาก ความคิดไอ้คนนี้มันซับซ้อนจะตายไป ทำเป็นเก่ง กำกับคนโน้นคนนี้ ตัวเองจะจมน้ำก็ว่ายเข้าฝั่งไม่ได้ ผมถึงได้บอกไงว่า ผมสงสารเพื่อนทั้งสองคน ที่สำคัญสงสารตัวเองด้วย ต้องมาเป็นกาวใจให้เพื่อน ถนัดที่ไหน"
"แล้วสงสารผมด้วยไหม" อนุภาพเสียงแผ่ว มองหน้าธงรบ แปลกใจที่จู่ๆ คนที่หน้าระรื่นอยู่ตลอดเวลาจะกลายมาทำท่าจริงจัง
"สงสารสิครับ ถ้าปลอบได้ ผมอยากปลอบด้วยตัวเองด้วยซ้ำ"
"สารวัตร" อนุภาพพึมพำ แวบหนึ่ง มีแววตาแปลกๆ บางอย่างฉายวาบขึ้นในด้วงตาขี้เล่นคู่นั้นของธงรบ "แต่ผมกลัวถูกรุมสหบาทา ผมก็เลยคิดว่าไม่ปลอบดีกว่า"
พูดเสร็จ ธงรบก็หัวเราะชอบใจ แล้วเดินนำหน้าไป ทิ้งให้อนุภาพยืนพ่นลมหายใจด้วยความขุ่นเคือง
"อ้าว ตามมาสิครับคุณนุ ชักช้าอยู่ได้ ไปถึงช้าเดี๋ยวผมโดนคุณชายตะวันแดงเผาผลาญไม่รู้ด้วยนะ สงสารผมเถอะครับ คืนนี้ไม่อยากนอนพื้น"
อนุภาพส่ายหน้า คิดในใจว่า ธงรบนี้จะว่าไปยิ่งหนักกว่าอธิคม ที่ตอนแรกคิดไว้ว่าสงสารอาทิตย์ท่าจะจริง
หากสมมุตว่าเขากับธงรบเป็นแฟนกัน แทนที่จะเป็นอธิคม เขาจะปวดหัวมากกว่านี้อีกกี่เท่า
อนุภาพอดเข้าข้างอธิคมไม่ได้ว่า ดูๆ ไป อธิคมก็ไม่ได้แย่มากมายนักหากเปรียบกับธงรบ
...แต่หากเปรียบกับอาวุธเล่า...
เขาต้องยอมรับว่าอาวุธนั้นมาเป็นอันดับหนึ่ง อธิคมกับธงรบเทียบกับอาวุธไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นความรู้ความสามารถ ความจริงจัง ความมั่นคง ระเบียบวินัยหรือการแก้ปัญหา และที่สำคัญ รูปแบบการดำเนินชีวิตที่คล้ายกับเขาและท่าทางจะเข้ากันได้ดี
แต่ความรักของคนเราจัดให้อยู่ในกรอบ ในรูปแบบตายตัวตามกฏเกณฑ์ได้ละหรือ?
ทั้งๆ ที่พิจารณาตามสภาพและเหตุผลอะไรต่างๆ แล้ว อาวุธเป็นคนที่จะทำให้ชีวิตรักของเขาราบรื่น มีชีวิตที่สงบสุข  มีชีวิตที่มั่นคงมากที่สุด
...แต่ทำไม...ทำไมเขายังรู้สึกว่ามันไม่ใช่...

"คุณนุ ผมขับนะครับ นานๆ ทีได้ขับรถ ตื่นเต้นชะมัด" ธงรบแบมือขอกุญแจ อนุภาพยื่นให้ ธงรบรีบรับมาอย่างความกระตือรือร้น
"คุณนุน่ารักจังเลย ไม่เหมือนอาทิตย์ ดุเอาๆ จะขับรถให้นั่งสบายๆ ไม่ชอบ" ธงรบบ่น ติดเครื่องรถยนต์แล้วกระชากตัวออกไปด้วยความเร็ว จนอนุภาพอดบ่นไม่ได้
"มิน่า อาทิตย์ไม่อยากให้ขับ นี่ไม่นับเรื่องหลงทางอยู่บ่อยๆ นะ"
"โธ่คุณนุ ไม่เอาน่า คนเรามันก็มีผิดพลาดกันได้ ต้องให้อภัยกัน" ธงรบออดอ้อน "รักกันต้องให้อภัยกัน"
อนุภาพนั่งนิ่งเงียบ ไม่ตอบ รู้ในทันทีว่าธงรบจงใจพูดให้เขาได้คิด
ภายใต้ท่าทีขี้เล่นของธงรบ อนุภาพได้เรียนรู้ว่ามีอะไรบางอย่างจริงจังแฝงอยู่ ต้องมองให้ดีๆ ถึงจะเห็นว่าธงรบนั้นเป็นคนที่เข้าใจอะไรได้ลึกซึ้งมากทีเดียว
**********32**********

jokirito

  • บุคคลทั่วไป
ผมเชื่อล่ะว่าของคุณคฑาวุธยาวจริง

เดี๋ยวไปอ่านก่อนน่ะครับ

CocO naTtH mIlK

  • บุคคลทั่วไป
 :mc4:ในที่สุดก็มาต่อซะทีอ่ะนะครับ หลังจากที่รอมานานนนนนน.....

ว่าจะไม่ แสดงความเห็นอะไรแล้วแต่ก็อดไม่ได้อ่ะนะ "คิดมาดีแล้ว" (เลียนแบบอนุภาพซะ)

ถ้ามองกันแบบที่เป็นกลาง ไม่เข้าข้างใครก้ต้องบอกว่า ระยะนี้เป็นการ "ชิงพื้นที่" กันน่าดู แต่ก็เป็นไปตามที่ควรจะเป็นถูกหรือไม่? แต่พอเอาเข้าจริงๆ "ตัวปัญหา" ที่แท้จริงก็คือคนกลางซะเอง อดีตมามีอิทธิพลมากขนาดนั้นเชียวหรือ จะบอกว่าอ่านของวันนี้แล้วตัวเองรู้สึก "สับสน" นะครับ เพราะว่าแรกๆอนุภาพรำพันถึง "ธนาภพ" ว่าเป็นสิ่งที่ทำให้ยังคิดถึงความหลังครั้งเก่าอยู่ แต่ไปๆมาๆ กลับเป็นว่ายัง "เปรียบเทียบ" กับ อาวุธอยู่ว่าใครจะดีกว่ากัน..... o6

...อธิคม...ทำไมเขาคิดถึงอธิคมมากนัก ทั้งๆ ที่รู้สึกเสียใจมากเหลือเกินกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทำไมเขารู้สึกพร้อมที่จะให้อภัยอธิคมได้มากขนาดนี้
...เพราะอธิคมถูกยิงบาดเจ็บสาหัสเจียนตายหรือ เลยทำให้เขาใจอ่อน
...หรือเพราะรัก เพราะรักคำเดียวนี่หรือ
...แล้วถ้าเพราะรัก เขาจะให้อภัยตัวเองได้หรือเปล่าหนอ?

ถามหน่อยเถอะ อนุภาพยังจะคิดเข้าข้างตัวเองได้อีกเหรอว่า "ตนไม่ผิด" และยังจะให้ "อภัย" คนอื่น.....ช่างคิดได้

อนุภาพจงใจตอบคำถามกำกวมเพราะรู้ดีว่าคชานนท์ฉลาดพอที่จะวิเคราะห์คำตอบนั้นได้เอง
...นี่คือวิธิที่ดีที่สุด...เขาบอกตัวเองว่าอย่างนั้น
...วิธีที่ดีที่สุดสำหรับเขาที่จะตัดสินใจอีกเป็นครั้งสุดท้ายว่าจะทำอย่างไรดีกับชีวิต...

มาขนาดนีเล้วสรุปว่ายัง "ตัด" ไม่ขาดซะทีเลยหรือ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร

...เย็นวันนั้นที่เขาเห็นอธิคมเดินคอตกกลับไปที่รถ รู้ทั้งรู้ว่าสารวัตรมือปราบดื่มเหล้าเข้าไปไม่น้อย อาจจะขับรถประสบอุบัติเหตุ แต่เขาก็ปลอบใจตัวเองว่า อธิคมเป็นคนคอแข็ง ดื่มเหล้าเป็นถังก็ยังไม่เมา เหมือนที่อธิปเพื่อนรุ่นน้องเคยเล่าให้ฟัง คืนนั้นเขาได้ตระหนักว่าใครคือคนที่เขาห่วงใยที่สุด แต่เขาก็ไม่คิดเลยว่า หลังจากอธิคมผิดหวังออกไปจากบ้านของเขาแล้ว จะนำกำลังเจ้าหน้าที่ดักซุ่มและเข้าจับกุมผู้ค้ายาเสพติดตั้งแต่กลางดึก ข้ามคืนจนถึงเกือบเที่ยงวันถัดไปในสภาพที่ทั้งร่างกายและจิตใจไม่มั่นคง อธิคมที่เคยเข้มแข็งกลับอ่อนแอจนเพลี่ยงพล้ำต่อโจรผู้ร้าย ถูกยิงจนบาดเจ็บแทบเอาชีวิตไม่รอด
...นี่หรือคือวิธีที่ดีที่สุด ตอนนี้อนุภาพเริ่มไม่แน่ใจว่าความคิดของตัวเองถูกต้อง


แบบนี้ต้องบอกว่า อนุภาพ ไม่เหมาะที่จะเป็นคนรักใครหรอกนะ (ในเหตุการณ์นี้นะ) เพราะว่าคุณยังดำรงตนด้วยความมี "ทิฐิ" สูงมาก คุณยังดำรงตนอยู่บนอัตตาอยู่ ทั้งที่คุณสามารถทิ้งมันไปได้เพราะห้วงคำนึงในความผูกพันธ์ หรืออะไรก็ตาม แต่คุณก็ไม่(ยอม)ทำ

"ผมก็อยากให้ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีเหมือนกัน แต่มันต้องใช้เวลา อย่างน้อยก็ขอให้ผมได้ไปเชียงใหม่เสียก่อน"
...เขาต้องไป...เขาต้องไปที่นั่น เมื่อนั้น เขาจะได้เอาชนะความอ่อนแอของตัวเอง...

แค่นี้ยังไม่สามารถเอาชนะมันได้อีกหรือ เหมือนที่คชานนท์บอกนั่นล่ะ ต้องรอให้เวลามันผ่านไป คนเราถึงจะเห็นว่ามันมีค่าหรืออย่างไร

คุณนุก็รู้ วุธไม่มีวันจะแย่งคุณนุมาจากเพื่อนหรอกแต่ในขณะเดียวกันก็จะไม่ออกไปจากชีวิตคุณนุถ้าคุณนุไม่เอ่ยปาก ความคิดไอ้คนนี้มันซับซ้อนจะตายไป
คสแบบนี้มี "ความคิด" ด้วยหรือครับ สำหรับผมนะ คนแบบนี้ "เอาอารมณ์" เป็นใหญ่มากกว่า สร้างตนเองเป็นฤาษี แต่พอเอาเข้าจริงก็ยิ่งกว่าสมี

อาจจะบอกว่าผมไม่ชอบอาวุธหรือเปล่า คำตอบครับ "ใช่" ผมไม่ชอบที่มีเหตุการณ์แบบนี้กับคนที่เป็น "เพื่อน" กัน ทั้งๆที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ไม่เถียงครับว่า "ความรัก" ห้ามกันไม่ได้ ออกแบบไม่ได้ แต่ถ้าคุณมี "สติ" "ระลึกได้" เหตุการณ์แบบนี้ก็ไม่เกิด

วรุปเลยนะครับ ในความคิดผมเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นทั้งหมด มาจากการ "ขาดสติ" ทั้งสิ้นครับ มีสติกันหน่อยเถอะนะ แม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นนิยายก็เถอะ

 :L2:ให้กำลังใจคนแต่งและคนนำมาฝากครับ ยังไงก็ตามอ่านอยู่ดีล่ะครับ
 :angellaugh2:
เข้าขั้น "จิต" หน่อยๆ วิพากษ์ไปเรื่อยครับ

ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
เย้ เย้ พี่นายมาแล้ว คิดถึงพี่นายน้า  :L1:

jokirito

  • บุคคลทั่วไป
หึหึ ตลกอ่ะ  ยังคงกินข้าวกันอยู่
กินข้าวกันไป กินข้าวกันมา จนไม่รู้มื้อไหนเป็นมื้อไหนแล้ว หึหึ

คุณนุเอ๊ยยยย....พ่อคนสวยเลือกได้
ยังคงคิดเปรียบเทียบ คนโน้น คนนี้ คนนั้น
ไอ้เวลา 2 เดือนกว่าที่ผ่านมานี่เจ้เอาไปทำอะไรไม่ทราบ
เพิ่งจะมาคิดได้เอาวัน 2 วันเนี่ยนะ
เวลาเท่าไหร่ก็ไม่พอแล้วมั้งแบบนี้
ไหนยังต้องไปเชียงใหม่อีก
อย่าบอกนะว่าพออธิคมฟื้น
เจ้แกต้องหนีไปคิดๆๆที่เชียงใหม่อีกอ่ะ
ลึกจริงจริ้ง คุณนุ ลึกจนยาวขนาดไหนก้ทิ่มไม่ถึงปลายสุดทาง :เฮ้อ: :seng2ped:

Black Angel

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2

OhhO16

  • บุคคลทั่วไป

mecon

  • บุคคลทั่วไป
 :sad4: :sad4: จุใจมากๆคะ คุณคฑาวุธ 
:z13: :z13: +1 พร้อม :L2:จะได้มีแรงไปรบนะคะ

คุณนุก็โดนคชานนท์ กล่อม กระทบกระเทียบเปรียบเปรย จิกๆ พูดจี้ใจดำบ้างล่ะ
พูดนิ่งๆราวกับว่าสิ่งที่เอ่ยไม่ได้จงใจจะเชียร์พี่ชายตัวเอง หว่านล้อม สารพัด
ทั้งที่ตัวเองตัวคุณนุเองก็พอคิดและรู้สึกตัวว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะตัวเอง ยังคงสับสนกับอะไรๆที่มันเข้ามาแทรกแซง
แทรกซึม ในค.สัมพันธ์กับสารวัตร แล้วก็ค.รู้สึกผิดกับแฟนเก่า
ภาพและน้ำเสียง หรือการกระทำของธนาภพมันยังติดตา ตามมาหลอกหลอนทั้งในยามหลับและยามตื่น
แต่พอโดนกระตุ้นหนักๆเข้า คงคิดอะไรได้มากกว่าที่เป็นอยู่ขึ้นอีก
เวลาของคุณนุที่ห่างออกไปมันไม่ใช่แค่สามเดือน เท่านั้น แต่มันตั้ง สามเดือนสำหรับคนที่มี
คดีติดตัว รักก็สุดแสนจะรัก แต่พอมาโดนเงื่อนไข และสัญญาเข้าไป ไอ้คั้นจะทำตามสิ่งที่ตัวเอง
ต้องการก็ทำไม่ได้กลัวบทลงโทษจะหนักกว่านี้ แต่จะไม่ทำอะไรเลยก็แทบจะลงแดงตาย
ใจเค้าใจเรานะคุณนุ
ที่บอกว่าจะไปเชียงใหม่นั่นจะไปหาธนาภพรึ ไปเอาตัวตนที่เข้มแข็งของตัวเองกลับมานะคุณนุ ท่านสารวัตรรอเหงือกแห้งแล้วอ่ะ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ลูกหมีน้ำแดง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
มาแล้ว คุณนุ ก็ยังตกอยู่ในวังวนของอดีต พยายามหาทางออกเร็วๆสิค่ะ

 :pig4:คุณคฑาวุธค่ะ ลงยาวเลย

ออฟไลน์ Fujitaga

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ในที่สุดพี่นายก็กลับมา หายไปตั้ง 1 วัน

มาถึงตอนนี้ คุณนุของเราก็เราเรียกว่า สะสมกำลังใจในการต่อสู้ครั้งที่เรียกว่า น่าจะเป็นครั้งทีสำคัญที่สุด
ในชีวิตอีก 1 ครั้งเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อมองถึงเหตุและผลต่าง ๆ (ในมุมที่คุณนุมองและพบเจอ)
รู้สึกว่าจะบอกกับตัวเองได้แล้วว่าใครที่จะเป็น สีสันให้กับชีวิตตัวเอง หรือ ต้องการที่จะเดินเคียงคู่กับใคร

ในส่วนที่กำลังคิดเปรียบเทียบกันระหว่าง สารวัตรธงรบกับอาทิตย์ ย่อมเป็นกระจกที่สามารถสะท้อน
ให้เห็นความเป็นไปมากขึ้น ส่วนสารวัตรอาวุธ ผมว่า คุณนุก็ยังมองว่าเป็นความรักที่สุขุม สงบและเรียบง่าย มั่นคงแต่ก็ยัง
ไม่ใช่สิ่งที่บอกได้ว่า เป็นสิ่งที่ตัวเองต้องการหรืออยากจะเดินเคียงข้าง

จากที่อ่านมาแล้ว หลังจากเกิดเรื่องที่ทำให้คุณ ธนาภพจากไปโดยไม่มีวันกลับ จนถึงปัจจุบับนั้น
จะเห็นได้เลยว่า คุณนุไม่เคยที่จะยกโทษให้กับตัวเอง อาจจะเป็นเพราะ หลังจากบอกเลิกแล้ว เพียงไม่
กี่อึดใจก็ทำให้เกิดเหตุการณ์ขึ้น จึงทำให้คุณนุคิดว่า ตัวเองเป็นคนที่ทำคุณภพต้องจากไป ซึ่งคนที่จากไปนั้น
ก็เป็นคนที่เคยบอกว่ารักหมดหัวใจเสียด้วย จึงน่าจะเป็นเหตุผลให้เกิดการสั่นคลอนความรักได้อย่างไม่น่าเชื่อ

และตอนนี้ ถ้าผมจำไม่ผิด คุณกำลังจะขึ้นไปเผชิญหน้ากับ ความกลัวที่สุดที่อยู่ในรีสอร์ทที่สวยงาม ที่เชียงใหม่
เพื่อจะก้าวเดินต่อไปโดยไม่รู้สึกว่า มีเงาของใครบ้างคนหรือข้อผิดพลาดมายื่อให้ชีวิตปราศจากความสุขอีกแล้ว
เป็นกำลังให้คุณนุแล้วกันนะครับ จะได้เห็นรอยยิ้มที่ปราศจากรอยน้ำตาเสียที
ส่วนสารวัตรอธิคม ฟื้นแล้วก็รีบ ๆ ตื่นเสียที เห็นนอนมาหลายฉากแล้ว (จะอู่อีกนานไหมเนี่ย) :angry2:

ส่วนสารวัตรอาวุธ จะมีความสุขหรือป่าวหรือจะเป็นยังไงต่อไป ข้อนี้ยังเป็นปริศนาที่ต้องตามต่อไป
แล้วคุณนนท์จะช่วยกันให้พี่คมกับคุณนุได้ลงเอยกันรู้แบบไหน ชักอยากอ่านขึ้นมากทุกที  

ป.ล. ลงมากขนาดนี้แปลว่า พรุ่งนี้จะ บ่ ลงอีกแล้วเหรอครับ  :m15:
เป็นกำลังใจให้ตัวละครแล้ว ก็ต้องเป็นกำลังใจให้พี่นายด้วย เพราะ
ต้องทำงานหนักแล้วต้องมาลงเรื่องนี้ คงเหนื่อยแย่แน่ ๆ เลย ต้องทั้ง  :กอด1: และ  :z13: ฮิฮิ
จะรอต่อไปนะครับ

ออฟไลน์ ||WiTHOuT_YoU||

  • ที่รักของใครสักคน
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-6
    • MoSHI
สารวัตรอธิคม รีบๆตื่นเน้อ

คุณนุรอรับขวัญอยู่แล้วนะ

 :กอด1: :กอด1:

katawoot

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 33 ครับ
ไม่รักคฑาวุธก็ให้มันรู้ไป

33
อธิคมลืมตาขึ้นช้าๆ ขมวดคิ้ว มองหลอดไฟเก่าๆ เหนือเพดาน รู้สึกปวดแผลจนอยากร้องออกมาดังๆ แต่หามีเสียงใดเล็ดลอดออกมาจากลำคอได้ไม่ เขารู้สึกเจ็บเหลือเกิน เพลียเหลือเกิน และทั้งที่เพิ่งตื่น แต่เขาก็ง่วงนอนเหลือเกิน
...คุณนุ อยู่ไหน นนท์ล่ะ ธงรบ ตอนนี้ทำไมไม่ยืนอยู่ข้างๆ เตียง...
..แล้วนี่เสียงใคร...
"เบาๆ นะ เอ้า ขยับ หนึ่ง สอง สาม" เสียงผู้ชายดังขึ้น อธิคมกัดฟัน ร้องโอ๊ยอยู่ในใจ เจ็บปวดไปทั่วสรรพางค์กาย ร่างส่วนล่างของเขาถูกดันให้พลิกขึ้นข้างเดียว มือใครบางคนสอดดันแผ่นอะไรบางอย่างเข้ามา แล้วก็เขาก็ถูกจับพลิกอีกข้าง
กว่าจะได้นอนนิ่งเขาก็กัดฟันจนปวด หายใจแรงราวกับวิ่งมาเป็นสิบๆ กิโลเมตร
...ห้องนี้มืดกว่าเดิม ต่างจากห้องที่เขาเพิ่งจากมา แต่ดวงไฟที่อยู่บนเพดานที่เขามองอยู่ ทำให้ปวดตาเหลือเกิน ใครก็ได้ ช่วยปิดไฟที
...ใครก็ได้ ตามคุณนุมาให้หน่อย
...คุณนุ อยู่ที่ไหน คุณนุ อย่าทิ้งผมไป...
อธิคมตะโกนจนสุดเสียง
...ผมรักคุณ...
"เช็ดตัวให้อีกหน่อย ไข้ขึ้นอีกแล้ว" เสียงห้าวๆ  ดังขึ้น
...เสียงคุ้นๆ เสียงนี้เขาได้ยินบ่อยๆ ผู้ชายคนนี้สั่งให้คนนั้นคนนี้ทำอะไรต่างๆ
...สั่งให้ใครไปตามคุณนุมาหาเขาเสียที...
...คุณนุ คุณนุครับ อย่าไปกับวุธเลย มาหาผมเถอะ อย่างทิ้งผมไป...คุณนุ...นนท์...ไปตามคุณนุมาให้พี่...พ่อ...ช่วยผมด้วย...คุณนุ...
อธิคมหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน รู้สึกว่าตัวหนักเหมือนจะจมหายลงไปในเตียงที่กำลับดูดๆ เขาให้หลุดออกไปอีกโลกหนึ่งประดุจดังทะเลลึก รอบข้างดำมืด หนาวเย็น หูเขาอื้อ ไม่ได้ยินสรรพสำเนียงใดๆ ทุกอย่างรอบข้างเริ่มหมุนวน ตัวเขาราวถูกจับเหวี่ยงแรงแและเร็วขึ้นจนอยากจะอาเจียน ตาลาย หัวหมุน
แม้ตาหลับสนิท แต่ก็รู้สึกว่ามองเห็นความมืดมิดรอบข้างที่ดูเหมือนมีมือยักษ์ขนามมหึมากำลังเอื้อมมาดึงตัวเขาให้ดำดิ่งลงไปใต้ผืนน้ำมือสนิท
ร้องเรียกใครก้ไม่มีเสียงตอบ
...หรือทุกคนทิ้งเขาไปหมดแล้ว...
...ไม่เอานะ เขาไม่อยากอยู่คนเดียว เขายังมีคนที่เขารักอยู่ เขาต้องอยู่ต่อไป
...คุณนุ ผมรักคุณ อย่าทิ้งผมไป...
อธิคมพยายามเปิดเปลือกตาอันหนักอึ้งราวกับว่าดวงตาทั้งสองข้างทับด้วยแผ่นศิลาแลง เขาอยากจะมองเห็นแสงสว่าง เขาไม่อยากถูกดึงให้จมลงไปในทะเลลึกหนาวเหน็บ ด้วยกลัวว่าจะไม่มีโอกาสกลับขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
เพียงลืมตาเห็นแสงสว่าง เขาก็อาจจเห็นอนุภาพยืนอยู่ข้างๆ
...แต่ทำไมยังมืดอยู่ เขาลืมตาขึ้นมาแล้ว แต่ทำไมยังมืดอยู่...
...เกิดอะไรขึ้น ดวงไฟนำทางของเขาหายไปไหน...
...เมื่อครู่เขาเห็นหลอดไปบนเพดาน...ใครปิด...
อธิคมพยายามพลิกหน้าหันไปทางขวา เขาเห็นแสงไฟเล็ดลอดเข้ามาเบื้องล่าง เมื่อเพ่งตามองจึงเห็นว่าเป็นแสงไฟที่ส่องผ่านเข้ามาใต้ประดู
ห้องนี้กว้างและเงียบเหงาก่าห้องที่เขาเห็นเมื่อไม่นาน ห้องนั้นสว่างกว่านี้ และมีเสียงดังหึ่งๆ  เหมือนเสียงเครื่องยนต์ แต่ห้องนี้เงียบสนิท มืดกว่า และเย็นกว่า
นายตำรวจหนุ่มผู้บาดเจ็บพยายามรวบรวมสติ พลิกหน้าไปมองอีกด้านหนึ่ง แต่ห้องมืดสลัวทำให้เขามองเห็นอะไรได้ไม่มากนัก ตอนนี้เขารู้แล้วว่าไม่ใช่ที่เดิมที่นอนอยู่
...อาจจะเป็นโรงพยาบาบาล เขาบาดเจ็บ จำได้ว่าถูกยิง แล้วคนก็กรูเข้ามา หลังจากนั้นอะไรก็วูบวาบ หมุนไปหมุนมา เสียเอะอะโวยวาย จำได้ว่าเขาเห็นอาวุธแวบๆ เขาจ้องอาวุธนิ่ง สงสัยอยู่ว่าอาวุธมาทำอะไร จากนั้นเขาก็เห็นแสงไฟสว่างจ้ามากจนแสบตา แล้วเขาก็หมดสติไป
อธิคมยกมือขึ้นด้วยความยากลำบาก รู้สึกเจ็บร้าวไปทั้งตัว ชายหนุ่มเอื้อมมือไปแตะสีข้าง แล้วร้องครางด้วยความเจ็บ หอบหายใจแรงอย่างเหนื่อยอ่อน
...อนุภาพจะรู้หรือเปล่าว่าเขาทรมานยิ่งนัก ทรมานทั้งกายและใจ ตอนนี้อนุภาพอยู่ไหน อยู่กับอาวุธหรือเปล่า แต่คืนนั้น อาวุธขับรถออกไปก่อนแล้วนี่นา...
"คุณนุ มาหาผมเสียที"  อธิคมพึมพำแล้วปิดเปลือกตาลงช้าๆ ก่อนจะพยายามฝืนร่างกายตัวเอง ลืมตาขึ้นมาอีก แต่ไม่นานก็ต้องหลับตาลง สลับไปสลับมา จนท้ายที่สุดเขาก็ทนไม่ไหว หลับสนิท
ค่ำคืนนี้กำลังจะผ่านไป เช้าวันใหม่กำลังจะมาถึง เช้าวันใหม่ที่เป็นอนาคตแต่กำลังจะเป็นปัจจุบัน...
ปัจจุบันที่เขาจะต้องฝืนเผชิญเพื่อจะให้ลืมอดีตอันเจ็บปวด...

คชานนท์เดินนำอนุภาพขึ้นบันไดเพราะชายหนุ่มกำลังโทรศัพท์อยู่กับสมบัติเพื่อนรุ่นพี่ เช้าวันนี้เขาตื่นสายและเสียเวลาแวะซื้อผลไม้และโจ้กที่ตลาดสดจึงมาถึงโรงพยาบาลเอาเวลาแปดโมงครึ่งทั้งๆ ที่เวลาเยี่ยมของห้องไอซียูเริ่ม 11.00 น. แต่อนุภาพบอกว่ารีบมาแต่เช้าเผื่ออธิคมได้ย้ายออก
"พี่บั้ดยังอยู่ที่ออสเตรเลีย พยายามหาไฟลท์มาอยู่ยังไม่ได้ พจนีย์ปวดท้องกระทันหัน ไม่กล้าเดินทางไกลเพราะใกล้คลอด แล้วคุณพ่อคุณนนท์ล่ะครับ"
"เกือบเที่ยงครับ อีกหน่อยคนขับรถผมก็จะไปรอรับที่สนามบิน คราวนี้พี่คมมีคนเยี่ยมเต็มห้อง กี่คนนะ" คชานนท์ทำท่านึก "เจ็ดคนพอดี"
"แปดต่างหาก" อนุภาพแก้ให้ถูก
"อ้อลืมไป เลขกำลังดี เป็นมงคล" คชานนท์หัวเราะ "แต่ผมว่าพี่คมคงอยากให้มีแค่คนเดียว"
อนุภาพส่ายหน้าช้าๆ คชานนท์ไม่วายทำหน้าที่เป็นกาวใจ
ชายหนุ่มทั้งสองเดินมาถึงห้องไอซียู แต่ม่านรูดปิดสนิท จึงมองไม่เห็นข้างในเช่นเคย อนุภาพเดินไปกดกริ่ง ไม่นานพยาบาลก็เดินมาที่ประตู ชายหนุ่มแจ้งขอเข้าเยี่ยมสารวัตรอธิคมแต่หญิงสาวบอกว่าย้ายออกแล้ว
อนุภาพยิ้มกว้างด้วยความดีใจ ขอบคุณพยาบาลแล้วรีบหันหลังกลับ เดินตรงไปยังบันไดด้วยความเร่งรีบจนคชานนท์ต้องร้องบอกให้รอด้วย
ชายหนุ่มทั้งสองเร่งฝีเท้าตรงไปยังตึกผู้ป่วยชายซึ่งเป็นอาคารสองชั้นที่ตั้งอยู่ด้านหลังสุดของโรงพยาบาล
แสงแดดส่องผ่านตามทางเดินของเช้าวันนี้ช่างสดใสเหลือเกิน อนุภาพอยากจะชื่นชมธรรมชาติรอบข้างนัก แต่ตอนนี้เขาอยากเห็นหน้าอธิคมเสียก่อน...อธิคมที่ตื่นจากหลับไหล
พยาบาลประจำวอร์ดบอกว่าอธิคมพักอยู่ที่ห้องหมายเลข 19 ห้องหัวมุมสุดทางเดินของอาคาร เดินตรงไปแล้วเลี้ยวขวา ห้องสุดท้ายซ้ายมือ
เมื่อเลี้ยวหัวมุม อนุภาพชะงัก เห็นอาวุธนั่งเอนอยู่บนระเบียงหน้าห้อง จ้องมองประตูสีเทานิ่ง นายตำรวจรู้สึกตัวเมื่อได้ยินเสียงร้องเท้าสองคู่เดินเข้ามาใกล้
อาวุธลุกขึ้นยืน ทอดสายตามองสองหนุ่มยิ้มๆ แล้วพูดว่า "คมยังไม่ตื่นครับ ยังหลับอยู่ ย้ายออกมาเมื่อเช้านี้ตอนหกโมง"
"สารวัตรเพิ่งมาถึงหรือครับ" อนุภาพถาม
อาวุธส่ายหน้า "มาถึงตั้งแต่ก่อนหกโมงแล้วครับ ก็เลยแวะที่นี่ก่อน กะว่าซักเจ็ดโมงจะออกไปหาอะไรทานแล้วไปโรงแรม แต่พอดีเห็นอธิคมย้ายออกมาจากไอซียูแล้ว เลยมานั่งตรงนี้ล่ะ"
"สารวัตรเป็นยังไงบ้าง" อนุภาพถามเสียงเบา
อาวุธอยากจะเข้าข้างตนเองว่าอนุภาพถามว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง เดินทางเหนื่อยหรือไม แต่เขารู้ว่าอนุภาพหมายถึงอธิคม
...สารวัตรเป็นยังไงบ้าง...สารวัตรคนนั้นคือสารวัตรอธิคม ไม่ใช่สารวัตรอาวุธ...
"ก็ดูดีครับ แต่ผมเข้าไปยืนดูเฉยๆ ท่าทางเพลียมาก ไปยืนดูตั้งนาน ไม่เห็นรู้สึกตัว"
"เขย่าตัวเลยสิครับ พี่คมจะได้พูดกับคุณนุเสียที" คชานนท์โพล่งขึ้นมา ตั้งใจจะพูดเล่นๆ แต่ทำให้อาวุธอดใจแปลบไม่ได้
"ดีเหมือนกัน คมคงอยากจะเจอคุณนุเป็นคนแรกตอนที่รู้สึกตัว เข้าไปสิครับ" อาวุธยิ้ม
"เข้าไปด้วยกันทั้งหมดดีกว่าครับ" อนุภาพยิ้มแหยๆ รู้สึกประหม่าอย่างบอกไม่ถูก
"นนท์ เข้าไปเป็นเพื่อนคุณนุไป" อาวุธยื่นมือไปดันหลังตัวชายหนุ่ม คชานนท์ส่ายหน้า บอกให้อนุภาพคนเดียวก่อน เขาขอนั่งคุยกับอาวุธรออยู่หน้าห้อง

อนุภาพสูดลมหายใจลึกๆ ราวกับเป็นนักเรียนที่ทำความผิดแล้วกำลังจะเข้าไปพบครูใหญ่ มือที่เอื้อมไปแตะลูกบิดประตูชะงักชั่วครู่  แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจหมุนแล้วผลักประตูเข้าไป
ห้องพักผู้ป่วยไม่กว้างมากนัก อธิคมนอนสงบอยู่บนเตียง ห้องค่อนข้างมืดสลัวเพราะม่านหน้าต่างรูดปิดสนิท ในห้องมีเฟอร์นิเจอร์เพียงสามชิ้นคือโต๊ะเก็บของข้างหัวเตียง มีกระติกน้ำร้อนและถาดพลาสติกสีเทาและแก้วน้ำวางอยู่ข้างบน มีเก้าอี้หนึ่งตัวตั้งข้างเตียงคนไข้ ถัดไปติดกับหน้าต่างเป็นโซฟากลางใหม่กลางเก่าสีเขียวเข้ม ประตูสองบานทาสีเทาเข้ม บานหนึ่งคงเป็นประตูห้องน้ำ ส่วนอีกบานน่าจะเป็นประตูที่เปิดออกไปยังระเบียงนอกห้อง
อนุภาพไปหยุดยืนอยู่ข้างเตียงของอธิคม ก้มลงมองนายตำรวจหนุ่ม ตาจับอยู่ที่ใบหน้าคร้ามเข้มของคนที่บาดเจ็บ ก่อนจะละสายตาลงไปมองแผ่นอกที่สะท้อนขึ้นลงเป็นจังหวะ ผ้าห่มสีขาวของโรงพยาบาลคลุมตัวเกือบถึงคอ แขนขวาโผล่ออกมาจากผ้าห่ม เข็มน้ำเกลือปักอยู่บนท่อนแขนกำยำที่วางอยู่บนหมอนเล็กๆ ซึ่งหนุนให้วางอยู่ระดับเดียวกันกับลำตัว
ใบหน้าของอธิคมดูสงบนิ่ง คมเข้มราวแกะสลัก หนวดเคราเริ่มครึ้มเพราะไม่ได้โกนมาหลายวัน อธิคมดูแปลกตาไปเล็กน้อยเพราะอนุภาพไม่เคยเห็นไรหนวดของอธิคมยาวขนาดนี้มาก่อน
อนุภาพยืนมองอธิคมเป็นเวลาหลายนาที นายตำรวจยังหลับอยู่ หายใจสม่ำเสมอ ไม่มีทีท่าว่าจะตื่น ใจหนึ่งเขาอยากปลุกอธิคม แต่ใจหนึ่งก็อยากให้อธิคมนอนพักผ่อน รอให้รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเอง
ชายหนุ่มมองคนรักด้วยสายตาครุ่นคิด บอกตัวเองว่าใกล้เวลาแล้ว อีกไม่นาน ทุกอย่างก็จะคลี่คลาย
...ทุกอย่าง...จะเป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็น...
"คุณนุ..." อนุภาพละสายตาจากท่อนแขนของอธิคมขึ้นไปมองใบหน้าของเจ้าของเสียงอ่อนล้าที่เอ่ยเรียกชื่อเขาอย่างอ่อนโยน
"คุณนุจริงๆ ด้วย"
"สารวัตร" อนุภาพเสียงเบา "เอื้อมมือไปแตะแก้มสากๆ ของคนป่วยที่นอนอยู่บนเตียง "ตื่นแล้วนะครับ ผมมาเยี่ยมแล้ว"
"ผมรู้" อธิคมคราง "รู้แล้ว"
"สารวัตรเจ็บไหม"
"เจ็บ" อธิคมตอบสั้นๆ ราวกับพยายามเปล่งเสียงออกมาอย่างยากเย็น
"สารวัตรไม่เป็นอะไรแล้ว ปลอดภัยแล้ว" อนุภาพเริ่มเสียงสั่น น้ำตาเริ่มไหล
"คุณนุ อย่าร้องให้  ผมยังไม่ตาย" อธิคมยิ้มเศร้าๆ อยากยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้อนุภาพแต่เขาไม่มีแรงแม้จะยกมือขึ้นจากข้างกาย
"สารวัตรต้องอดทนนะ ต้องรีบหาย ได้ยินไหมครับ"
"ฮื่อ" อธิคมทำเสียงรับรู้ในลำคอ หายใจแรงขึ้น อกสะท้อนขึ้นลงเห็นได้ชัดเจน รู้สึกเหนื่อยยิ่งนัก
"ผมคิดถึง"
อนุภาพก้มหน้าลงใกล้ๆ ใบหน้าของอธิคมแล้วกระซิบเบาๆ "รีบหายนะครับ แล้วเรามาคุยกัน"
"อือ" อธิคมขยับหน้าไปมา เหมือนจะพยายามหาจุดที่ศรีษะวางบนหมอนแล้วสบายที่สุด แขนซ้ายขยับช้าๆ พยายามจะยกขึ้นมาแตะอนุภาพ แต่นายตำรวจหนุ่มต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บเพราะเกร็งกล้ามเนื้อ
"โอย..." อธิคมครางเสียงเบา
"อย่าขยับสิครับ" อนุภาพปราม
"คุณนุ" อธิคมเอาแต่เรียกชื่อชายหนุ่ม ในใจอยากจะพร่ำรำพันว่ารักและคิดถึง แต่เวลานี้เขารู้สึกไม่มีเรี่ยวแรงแม้จะลืมตา
อนุภาพมองอธิคมที่ตาปรือ เปลือกตากระพิบถี่ๆ ราวกับพยายามจะฝืนเปิดเปลือกตาให้ตื่น ทั้งที่รู้สึกง่วงงุนเป็นอย่างยิ่ง
"นอนเถอะครับสารวัตร หลับพักผ่อนให้สบาย ผมจะนั่งอยู่ข้างๆ ไม่ไปไหน" อนุภาพกระซิบใกล้หูประหนึ่งจะกล่อมให้อธิคมนอนหลับพักผ่อน มือเลื่อนลงไปวางผมฝ่ามือใหญ่แข็งแรงที่แผ่อยู่ข้างตัว อธิคมบีบมืออนุภาพแน่น พยายามถ่ายทอดความรู้สึกให้คนที่เขารัก ก่อนจะหลับตาลงช้าๆ แล้วนอนนิ่งเงียบไป
อนุภาพซบลงกับไหล่อธิคมเบาๆ ด้วยเกรงว่าอาจจะทำให้นายตำรวจหนุ่มเจ็บ อธิคมครางอืออาแล้วเงียบ หายใจเป็นจังหวะ บ่งบอกให้รู้ว่าหลับไปเสียแล้ว
...ในที่สุดอธิคมก็ฟื้น ตื่นขึ้นมาหาเขา หลังจากที่ทำให้เขากังวลอยู่นานหลายวัน สิ่งที่เขากลัวได้หมดไปแล้ว อธิคมปลอดภัยแล้ว...
...เหลือเพียงอย่างเดียวเท่านั้น อย่างเดียวที่ต้องจัดการให้เรียบร้อย...
อนุภาพนั่งนิ่ง ตาเหม่อมองไปที่ผนังห้อง ในใจนึกภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาในชีวิตเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ภาพ" ที่เกิดขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา ช่วงสองปีที่เขากับอธิคมมีกันและกัน และช่วง "สามเดือน" ที่แสนทรมานนัก

อธิคมหลับสนิท เวลาผ่านไปนานพอสมควรอนุภาพจึงขยับตัวลุกขึ้น เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ประตูเปิดออกและพยาบาลเดินเข้ามาทำแผล
อนุภาพขอยืนดูด้วย พยาบาลยิ้มบางๆ แล้วพูดว่า "ไม่น่าดูนักนะคะ สารวัตรโดนเข้าไปหนักพอสมควร แต่แข็งแรงค่ะ อาการดีขึ้นมากอย่างไม่เชื่อ"
พยาบาลใช้เวลาไม่นานก็ทำแผลเสร็จ  อธิคมสลึมสลือ ครางเป็นบางครั้งสลับกับการหลับตาราวกับว่าครึ่งหลับครึ่งตื่น อนุภาพยืมมองด้วยความรู้สึกบรรยายไม่ถูก เขาเห็นและสัมผัสร่างกายของอธิคมมาแล้วแทบทุกตารางนิ้ว แต่ร่างกายของอธิคมที่มีแผลบาดเจ็บบนตัวและรอยช้ำๆ ที่เป็นผลมาจากการเย็บแผลนั้นทำให้เขาอยากจะลูบไล้อีกสักครั้ง สัมผัสเอาความรู้สึกนี้ไว้ในความทรงจำ
...ครั้งหนึ่งที่เขาคงไม่มีวันลืม...
พยาบาลเดินออกจากห้องไป พร้อมกับที่คชานนท์เดินเข้ามา อนุภาพเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจที่ไม่เห็นอาวุธ
"พี่วุธไปทานอาหารเช้าและขอไปงีบที่โรงแรมซักหน่อย บ่ายๆ จะมาเยี่ยมพี่คมครับ" คชานนท์บอกโดยไม่รอให้อนุภาพถาม
"ตื่นซะทีนะพี่คม ทำเอาคนแถวนี้ใจตุ้มๆ ต่อมๆ ไม่เป็นอันกินอันนอนมาหลายวัน" คชานนท์พูดกับพี่ชายเบาๆ
อนุภาพลอบมองคชานนท์ พยายามสังเกตว่ามีอะไรแปลกไปหรือไม่เพราะคชานนท์นั่งคุยอยู่หน้าห้องกับอาวุธอยู่เป็นนานสองนาน ในใจก็สงสัยว่าทั้งสองนั้นคุยอะไรกัน
คชานนท์ดูท่าทางปกติ บุคลิกอ่อนโยน แววตาสดใส ยิ้มกว้าง อนุภาพเห็นน้องชายของอธิคมนั้นมีเสน่ห์ไม่น้อยกว่าพี่ชาย และตอนนี้น้องชายของอธิคมคงจะรอไม่ไหว กำลังเขย่าตัวปลุกพี่ชาย
"พี่คม ผมมาแล้ว น้องของพี่มาเยี่ยมแล้ว ตื่นมาทักทายกันหน่อยสิ"


mecon

  • บุคคลทั่วไป
 :mc4: :mc4: :mc4:

ตื่นแล้ว เย้ๆๆ สารวัตรอธิคม ตื่นมาครางเรียกชื่อคุณนุ สองสามคำก็ยังดี
พอให้ชื่นใจ ท่านสารวัตรใหญ่คงยังไม่อยากสู้หน้าเพื่อนล่ะซิถึงไม่อยากเข้าไป
ในห้องพร้อมๆกันอ่ะ ไม่เป็นไรนะสารวัตรอาวุธ ไปทำใจก่อนก็ได้แล้วค่อยมาสู้
หน้าเพื่อนเกลอ ความรักไม่มีใครผิดหรอก มันห้ามกันง่ายซะที่ไหนล่ะ

 :กอด1: :กอด1: ท่านสารวัตรอธิคม

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
 :mc4: ฉลองด้วยๆ
ในที่สุด "คนป่วยที่หล่อที่สุด" ก็ฟื้นขึ้นมาซะที
รีบๆหายไวๆนะจ๊ะสารวัตรที่รัก  คุณนุรออยู่นะ
ขอ  :กอด1: คุณคฑาวุธแน่นๆซักที
น่ารักที่ซู๊ด ลงให้อ่านแบบนี้ รักกันตายเลย   :o8:


ปล. ขอหน่อยนะ   ......   ฑ ฑ ฑ ฑ ฑ ฑ ฑ
      กว่าจะหา "ฑ" เจอ หุๆๆ

jokirito

  • บุคคลทั่วไป
Re:
«ตอบ #2696 เมื่อ12-03-2009 16:45:29 »

น้องนนท์ทนไม่ไหวปลุกพี่คมจนได้ น่ารักจริงๆ

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
วันนี้มาค่ำ ๆ ขอ  :z13: คุณken_krub ทีนึง

เพราะว่าได้มุบมิบ แอบฉกกำลังใจคุณken_krub มาเหมือนกัน

ออฟไลน์ ||WiTHOuT_YoU||

  • ที่รักของใครสักคน
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-6
    • MoSHI
สารวัตรอธิคม ทำคนอ่านใจหายใจคว่ำอยู่ตั้งนาน

ตื่นซะที ยังงี้ต้องฉลอง ก่อนเจอการเคลียร์ของคุณนุ

 :mc4: :mc4: :mc4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด